The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jarwan41, 2021-12-04 00:42:43

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์5

ผู้จัดทำ นางจารุวรรณ คงกระจง

101

ลาดับ ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก
ท่ี (ชว่ั โมง) คะแนน
ขอ้ ท่ี 5 หลักภาษาจนี
8 你真会开玩 ขอ้ ที่ 6 -การใช้ 个、上、接、 4 6
笑。คณุ ลอ้ เลน่ ขอ้ ที่ 8
เก่งจรงิ ๆ ขอ้ ที่ 9 嘛、的话 4 5
-ฝกึ การอา่ นออกเสียงภาษาจีนที่
9 今天我为你 ข้อท่ี 1 ถกู ต้องตามหลักภาษา 4 6
接风洗尘。 ขอ้ ท่ี 2 -เรียนรูค้ าํ ศพั ท์ ประโยค บทสนทนา
วันนฉี้ ันขอเล้ยี ง ขอ้ ท่ี 3 ทเี่ กย่ี วกับบทเรยี น
ตอ้ นรับคุณ ขอ้ ท่ี 4 -ประโยคบทกรรมควบตาํ แหนง่ บท
ขอ้ ที่ 5 ประธาน
10 去颐和园的 ขอ้ ท่ี 7 -วิธีการใช้ 的
路上。 ขอ้ ที่ 8
ระหวา่ งไปสวนอเ๋ี ห ขอ้ ที่ 9 -การใชค้ ํากริยาวิเศษณ์ 反正 เน้น
อหยวน ขอ้ ท่ี 10 ความหมายวา่ ไมว่ า่ สถานการณจ์ ะ
ข้อท่ี 12 เป็นอย่างไร ผลจะออกมาไม่ต่างกัน
-การใช้ไวยากรณ์ 不仅 และ 而
ข้อท่ี 1 且
ข้อที่ 2
ข้อที่ 3 -การใช้ 连。。。都
ข้อท่ี 4
ขอ้ ท่ี 5 -บทกลอนจีน 李白
ขอ้ ที่ 7 -ฝกึ การอ่านออกเสยี งภาษาจีนที่
ขอ้ ที่ 8 ถูกต้องตามหลักภาษา
ข้อท่ี 9 -เรียนรคู้ าํ ศพั ท์ ประโยค บทสนทนา
ข้อท่ี 10 ท่เี กย่ี วกบั บทเรียน
-สรุปการใช้ลกั ษณนาม
ขอ้ ที่ 2 -การใชค้ าํ 着呢、根本、
ข้อที่ 3
ขอ้ ท่ี 4 等等、关系拿。。来
ขอ้ ท่ี 5
ขอ้ ที่ 6 说
ข้อท่ี 7
-การใช้ไวยากรณ์ 还是
-ฝึกการอ่านภาษาจีนท่ีถูกต้องตาม
หลกั ภาษาจนี
-เรียนรูค้ าํ ศพั ท์ ประโยค บทสนทนา
ท่เี ก่ียวกบั บทเรียน
-วธิ ีการใช้ 正、在、正在

-การเปรยี บเทียบการใช้ 象。。

一样

-บทเสริมประเภทบอกผล 下来

102

ลาดับ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั
ที่
ขอ้ ที่ 8 (ช่วั โมง) คะแนน
ขอ้ ที่ 9
ข้อที่ 10 -การใชค้ ํา 专门、影响、
ข้อที่ 11
得、只要、总是

-สถานทท่ี อ่ งเที่ยวของจนี ที่สาํ คัญ

-ฝกึ การอา่ นภาษาจีนที่ถูกต้องตาม

หลกั ภาษาจีน

รวมทุกหนว่ ย 38 50

สอบกลางภาค 1 20

สอบปลายภาค 1 30

รวมตลอดภาคเรียน 40 100

103

สอ่ื /แหล่งเรียนรู้
ในการจดั การเรียนรู้ทุกรายวชิ าของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ(ภาษาจนี ) ศกึ ษาหา
ความรหู้ รือเรยี นร้จู ากแหล่งเรียนรูด้ ังนี้
1. ห้องสมดุ โรงเรียนเบญจมราชรงั สฤษฎิ์ 5 และหอ้ งสมุดหนว่ ยงานอนื่ ๆ
2. แหลง่ วทิ ยาการท้งั ภาครัฐและเอกชน ซงึ่ ให้บริการความรู้ในเร่ืองตา่ ง ๆ
3. ห้องเรยี นภาษา
4. ส่ือประกอบการสอน เช่น เกม บตั รคํา ใบความรตู้ ่างๆ เมอื งจาํ ลอง แผน่ ป้าย สือ่ PPT หนงั สือ
เรียน หนงั สอื เพ่มิ เติมตา่ งๆท่ีเกีย่ วกับภาษาจนี สื่อบนอนิ เทอรเ์ นต็ youtube เพจ
5. ส่ือส่ิงพิมพต์ า่ ง ๆ เช่น เอกสารประกอบการสอน แผ่นพับ วารสาร หนังสอื อา้ งอิง หนังสอื พิมพ์
6. ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม เชน่ สวนพฤกษศาสตร์
7. สอ่ื อเี ลค็ ทรอนกิ ส์ เช่น อินเทอรเ์ น็ต ซีดี–รอม วซี ีดี วดี ีทัศน์ ฯลฯ

การวัดผลประเมินผลการเรยี นรู้
การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ผูเ้ รยี นเป็นรายวชิ าตามตวั ชีว้ ัดในรายวชิ าพื้นฐานและตามผลการ
เรียนรู้ในรายวชิ าเพ่มิ เติมตามทก่ี าํ หนดในหน่วยการเรียนรู้ ใชว้ ธิ ีการทีห่ ลากหลายจากแหล่งข้อมลู หลาย ๆ
แหลง่ เพื่อให้ได้ผลการประเมินทสี่ ะท้อนความรู้ความสามารถท่ีแทจ้ ริงของผ้เู รียน โดยทําการวัดและประเมนิ
การเรียนรู้อยา่ งต่อเน่ืองไปพร้อมกบั การจัดการเรียนการสอน โดยสังเกตพฒั นาการและความประพฤติของ
ผู้เรยี น สงั เกตพฤติกรรมการเรยี น การร่วมกิจกรรม เนน้ การประเมนิ ตามสภาพจริง เชน่ การประเมนิ การ
ปฏบิ ตั งิ าน การประเมนิ จากโครงงาน หรอื การประเมนิ จากแฟ้มสะสมผลงาน ฯลฯ ควบคูไ่ ปกับการใช้การ
ทดสอบแบบต่างๆอย่างสมดุล ให้ความสําคญั กับการประเมินระหว่างเรยี น มากกวา่ การประเมนิ ปลายปี/
ปลายภาคและใช้เป็นข้อมูลเพื่อประเมนิ การเลื่อนช้นั เรยี นและการจบการศกึ ษาระดบั ต่างๆการประเมนิ ผล
การเรียนรตู้ ามกลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารประเมินผลการเรียนรู้ตามกลมุ่ สาระการเรียนรทู้ ั้ง 8 กลุ่มสาระ เปน็
การประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ ามตวั ชว้ี ดั ในหลกั สูตร ซึง่ จะนําไปสูก่ ารสรุปผลการเรยี นรู้ของผเู้ รียนตามมาตรฐาน
การเรยี นรตู้ ่อไป ในการดาํ เนินการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ตามกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ มีรายละเอยี ดดังน้ี
1. กําหนดสดั สว่ นคะแนนระหว่างเรยี นกับคะแนนปลายป/ี ปลายภาค โดยใหค้ วามสาํ คญั ของคะแนน
ระหวา่ งเรยี นมากกวา่ คะแนนปลายป/ี ปลายภาค เทา่ กบั 70 : 30
2. กําหนดเกณฑก์ ารตัดสินผลการเรยี น กาํ หนดเปน็ ระดบั ผลการเรียน 8 ระดับ และสําหรับ
มธั ยมศึกษากําหนดเงื่อนไขต่างๆ ของผลการเรียน เชน่ การประเมินที่ยังไมส่ มบรู ณ์ (ร) การไมม่ ีสิทธเิ ขา้ รบั
การสอบ (มส) เป็นต้น
3. กําหนดใหม้ กี ารสอนซ่อมเสรมิ ระหวา่ งเรยี น กรณผี ูเ้ รียนมผี ลการประเมินตัวช้ีวดั / มาตรฐานไม่
ผา่ นตามเกณฑท์ ส่ี ถานศึกษากําหนด
4. กําหนดให้มีการสอนซ่อมเสริม การสอบแก้ตัวกรณีผเู้ รียนมรี ะดบั ผลการเรียน “0” หรือมรี ะดับ
คณุ ภาพตํ่ากวา่ เกณฑ์ และดําเนินการกรณีผูเ้ รยี นมีผลการเรียนท่มี เี งือ่ นไข คือ “ร” หรือ “มส”
5. การอนุมัตผิ ลการเรยี นระดับประถมศกึ ษาอนุมตั เิ มื่อสิน้ ปีการศกึ ษา ระดับมธั ยมศึกษาอนมุ ัติเม่ือ
สิน้ ภาคเรยี น

104

เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้

ระดับมัธยมศึกษา

1. การตัดสินผลการเรียน

หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กาํ หนดหลกั เกณฑ์การวดั และ

ประเมินผลการเรยี นรู้ เพื่อตดั สินผลการเรยี นของผูเ้ รยี น ดังน้ี

1) ตัดสินผลการเรยี นเป็นรายวชิ า ผเู้ รียนต้องมเี วลาเรียนตลอดภาคเรียนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80ของ

เวลาเรียนท้ังหมดในรายวิชาน้นั ๆ

2) ผู้เรียนต้องได้รบั การประเมินทกุ ตวั ชว้ี ัดและผา่ นตามเกณฑท์ สี่ ถานศึกษากาํ หนด

3) ผเู้ รียนต้องได้รับการตดั สินผลการเรียนทุกรายวชิ า และต้องผา่ นทุกรายวิชาพ้นื ฐาน

2. การใหร้ ะดับผลการเรยี น

การตัดสนิ เพื่อใหร้ ะดับผลการเรียนรายวชิ าของกลุม่ สาระการเรยี นรู้ ใหร้ ะดบั ผลการเรยี น 8 ระดบั

แนวการให้ระดบั ผลการเรียน 8 ระดบั และความหมายของแตล่ ะระดบั ดังแสดงในตาราง ดังน้ี

ระดบั ผลการเรียน ความหมาย ช่วงคะแนนเปน็ ร้อยละ

4 ดเี ยีย่ ม 80-100

3.5 ดมี าก 75-79

3 ดี 70-74

2.5 ค่อนข้างดี 65-69

2 ปานกลาง 60-64

1.5 พอใช้ 55-59

1 ผ่านเกณฑ์ข้ันตาํ่ 50-54

0 ตาํ่ กว่าเกณฑ์ 0-49

การนบั หน่วยกติ จะต้องเป็นรายวชิ าทไี่ ด้ระดบั ผลการเรยี นตัง้ แต่ 1 ข้นึ ไปในกรณที ่ีไมส่ ามารถให้
ระดบั ผลการเรยี นเป็น 8 ระดับไดใ้ หใ้ ช้ตัวอักษรระบเุ งื่อนไขแสดงผลการเรยี น ดังนี้

“มส” หมายถึง ผ้เู รยี นไม่มีสิทธิเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน เนือ่ งจากผู้เรยี นมีเวลาเรยี นไม่ถงึ
ร้อยละ 80 ของเวลาเรียนในแตล่ ะรายวิชาและไมไ่ ด้รับการผ่อนผันใหเ้ ข้ารบั การวัดผลปลายภาคเรยี น

“ร” หมายถึง รอการตัดสินและยงั ตดั สนิ ผลการเรียนไมไ่ ด้ เนอื่ งจากผเู้ รยี นไม่มีข้อมลู ผลการเรียน
รายวชิ านน้ั ครบถว้ น เชน่ ไม่ไดว้ ัดผลกลางภาคเรยี น/ปลายภาคเรียน ไมไ่ ดส้ ่งงานที่มอบหมายให้ทาํ ซ่งึ งานนน้ั
เป็นส่วนหน่งึ ของการตดั สินผลการเรียน หรือมเี หตสุ ดุ วสิ ยั ทีท่ าํ ใหป้ ระเมินผลการเรยี นไม่ได้
3. การเปลี่ยนผลการเรียน

3.1 การเปลี่ยนผลการเรียน “0”
สถานศึกษาจัดใหม้ ีการสอนซ่อมเสริมในตวั ชวี้ ดั ท่ีผู้เรียนสอบไมผ่ ่านก่อน แลว้ จงึ สอบแก้ตวั ได้2 ครง้ั
ถ้าผเู้ รยี นไม่ดาํ เนินการสอบแกต้ ัวตามระยะเวลาที่สถานศกึ ษากําหนด ให้อย่ใู นดุลยพนิ จิ ของสถานศึกษาที่จะ
พจิ ารณาขยายเวลาออกไปอีกไมเ่ กนิ 1 ภาคเรียน ทง้ั นีต้ ้องดาํ เนินการให้เสรจ็ ส้ินภายในปกี ารศกึ ษานั้น ถ้า
สอบแก้ตัว 2 ครั้งแล้ว ยังไดร้ ะดบั ผลการเรียน “0” อีก ให้สถานศกึ ษาแตง่ ตง้ั คณะกรรมการดําเนินการ
เกี่ยวกับการแกผ้ ลการเรยี นของผู้เรียนโดยปฏิบตั ิ ดังน้ี

105

1) ถา้ เป็นรายวชิ าพื้นฐานใหเ้ รียนซํา้ รายวิชานั้น
2) ถ้าเปน็ รายวชิ าเพ่ิมเติมให้เรยี นซา้ํ หรือเปลี่ยนรายวิชาเรยี นใหม่ ท้งั นีใ้ ห้อยู่ในดลุ ยพินิจของ
สถานศึกษา
ในกรณีท่ีเปล่ียนรายวชิ าเรียนใหม่ ใหห้ มายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนวา่ เรยี นแทนรายวชิ าใด
3.2 การเปลย่ี นผลการเรยี น “ร”
การเปลย่ี นผลการเรยี น “ร” ให้ดําเนินการดังน้ี
ใหผ้ ู้เรยี นดําเนินการแก้ไข “ร” ตามสาเหตุ เมื่อผู้เรยี นได้แก้ไขปัญหาเสร็จแลว้ ใหไ้ ดร้ ะดับผลการเรยี น
ตามปกติ (ต้ังแต่ 0 - 4) ถา้ ผ้เู รยี นไมด่ าํ เนินการแก้ไข “ร” ใหผ้ ู้สอนนําขอ้ มูลที่มีอยูต่ ัดสนิ ผลการเรยี นยกเวน้ มี
เหตสุ ุดวสิ ยั ใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของสถานศึกษาทีจ่ ะขยายเวลาการแก้ “ร” ออกไปอกี ไมเ่ กิน 1 ภาคเรียน
สําหรับภาคเรียนท่ี 2 ตอ้ งดําเนนิ การใหเ้ สรจ็ สน้ิ ภายในปกี ารศกึ ษานั้น เม่อื พ้นกาํ หนดนี้
แลว้ ใหเ้ รียนซ้าํ หากผลการเรียนเป็น “0”ให้ดาํ เนนิ การแกไ้ ขตามหลกั เกณฑ์
3.3 การเปลีย่ นผลการเรยี น “มส”
การเปลย่ี นผลการเรียน “มส” มี 2 กรณี ดงั น้ี

1) กรณีผู้เรียนได้ผลการเรยี น “มส” เพราะมเี วลาเรยี นไมถ่ งึ ร้อยละ 80แตม่ เี วลาเรยี นไม่
นอ้ ยกว่าร้อยละ 60 ของเวลาเรียนในรายวชิ านน้ั ให้สถานศึกษาจัดใหเ้ รยี นเพมิ่ เติมโดยใช้ช่วั โมงสอนซอ่ ม
เสรมิ หรือใชเ้ วลาวา่ ง หรือใช้วนั หยุด หรือมอบหมายงานให้ทาํ จนมีเวลาเรยี นครบตามท่ีกาํ หนดไวส้ ําหรบั
รายวิชานัน้ แล้วจึงให้วัดผลปลายภาคเปน็ กรณีพิเศษ ผลการแก้ “มส” ให้ได้ระดับผลการเรียนไม่เกนิ
“1”การแก้ “มส” กรณนี ีใ้ ห้กระทาํ ให้เสร็จสิ้น ภายในปกี ารศึกษานั้น ถ้าผู้เรยี นไม่มาดาํ เนินการแก้ “มส”
ตามระยะเวลาท่กี าํ หนดไวน้ ใ้ี ห้เรียนซาํ้ ยกเว้น มีเหตสุ ดุ วิสยั ใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของสถานศกึ ษาทจ่ี ะขยายเวลา
การแก้ “มส”ออกไปอกี ไม่เกิน 1ภาคเรยี น แต่เม่ือพน้ กําหนดนแี้ ลว้ ให้ปฏิบัติดงั น้ี

(1) ถา้ เปน็ รายวิชาพ้ืนฐานใหเ้ รยี นซาํ้ รายวิชานัน้
(2) ถา้ เป็นรายวชิ าเพม่ิ เติมให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาให้เรียนซ้ําหรือเปล่ียน
รายวิชาเรียนใหม่

2) กรณีผู้เรยี นไดผ้ ลการเรยี น “มส” เพราะมเี วลาเรยี นนอ้ ยกวา่ ร้อยละ 60 ของเวลาเรียน
ท้ังหมด ใหส้ ถานศึกษาดาํ เนินการดงั นี้

(1) ถ้าเป็นรายวชิ าพื้นฐาน ให้เรียนซ้าํ รายวิชาน้นั
(2) ถา้ เปน็ รายวชิ าเพม่ิ เติม ให้อยู่ในดลุ ยพินิจของสถานศกึ ษา ใหเ้ รียนซ้ําหรือ
เปลย่ี นรายวชิ าเรียนใหม่ ในกรณที เ่ี ปลย่ี นรายวชิ าเรยี นใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนวา่
เรยี นแทนรายวชิ าใด การเรียนซํ้ารายวิชา ผู้เรียนที่ได้รับการสอนซ่อมเสริมและสอบ แก้ตัว 2 คร้ังแล้วไม่ผ่าน
เกณฑ์การประเมิน ให้เรียนซํ้ารายวิชานั้น ทั้งนี้ ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาในการจัดให้เรียนซํ้าในช่วง
ใดช่วงหนง่ึ ท่สี ถานศึกษาเหน็ ว่าเหมาะสม เชน่ พกั กลางวัน วันหยุด ช่ัวโมงว่างหลังเลิกเรียน ภาคฤดูร้อน เป็น

ตน้ ในกรณีภาคเรยี นท่ี 2 หากผ้เู รียนยังมผี ลการเรียน “0” “ร” “มส” ให้ดําเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนเปิด
เรียนปกี ารศึกษาถัดไป สถานศึกษาอาจเปิดการเรียนการสอนในภาคฤดูร้อน เพื่อแก้ไขผลการเรียนของผู้เรียน
ได้ ทั้งนี้หากสถานศึกษาใดไม่สามารถดําเนินการเปิดสอนภาคฤดูร้อนได้ให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา/ต้น
สังกัดเป็นผู้พิจารณาประสานงานให้มีการดําเนินการเรียนการสอนในภาคฤดูร้อนเพ่ือแก้ไขผลการเรียนของ
ผูเ้ รียน

106

3.4 การเปลย่ี นผล “มผ”
กรณีท่ีผู้เรียนได้ผล “มผ” สถานศึกษาต้องจัดซ่อมเสริมให้ผู้เรียนทํากิจกรรมในส่วนที่ผู้เรียนไม่ได้
เข้าร่วมหรือไม่ได้ทําจนครบถ้วน แล้วจึงเปลี่ยนผลจาก “มผ” เป็น “ผ” ได้ทั้งน้ี ดําเนินการให้เสร็จส้ิน
ภายในภาคเรียนน้ัน ๆ ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัยให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะพิจารณาขยายเวลาออกไป
อีกไม่เกนิ 1 ภาคเรียน สาํ หรบั ภาคเรียนท่ี 2 ต้องดําเนนิ การใหเ้ สร็จสน้ิ ภายในปีการศึกษานัน้

107

ภาคผนวก

- อภธิ านศพั ท์
- เอกสารอ้างอิง

108

อภิธานศัพท์

การเดาความหมายจากบริบท (context clue)
การเดาความหมายของคําศัพทห์ รือข้อความทไ่ี ม่ทราบความหมายโดยไมต่ ้องเปิดพจนานุกรม เป็น
การเดาความหมายน้ันโดยอาศยั การชี้แนะจากคําศัพท์หรือขอ้ ความท่ีแวดลอ้ มคาํ ศัพทห์ รือข้อความที่อา่ น เพ่อื
ชว่ ยในการทําความเขา้ ใจหรือตคี วามหมายของคํา ศัพทห์ รือข้อความท่ีไมเ่ ขา้ ใจความหมาย
การถ่ายโอนข้อมูล
การแปลงข้อมูลท่ผี ูส้ ง่ สารต้องการจะสอื่ สารให้ผรู้ ับสารเข้าใจความหมายในรปู แบบทตี่ ้องการ เชน่
การถา่ ยโอนขอ้ มูลทเี่ ปน็ คาํ ประโยค หรอื ข้อความไปเปน็ ข้อมลู ท่เี ป็นกราฟ สญั ลักษณ์ รูปภาพ แผนผัง
แผนภูมิ ตาราง ฯลฯ หรอื การถ่ายโอนข้อมลู ทเี่ ปน็ กราฟ สญั ลักษณ์ รูปภาพ แผนผัง แผนภูมิ ตาราง ฯลฯ ไป
เปน็ ขอ้ มลู ท่ีเปน็ คํา ประโยค หรอื ขอ้ ความ
ทักษะการส่ือสาร
ทักษะการฟงั การพูด การอา่ น และการเขียน ซึ่งเป็นเคร่ืองมือในการรับสารและสง่ สารดว้ ยภาษา
น้นั ๆ ไดอ้ ย่างสือ่ ความหมาย คลอ่ งแคลว่ ถูกต้อง เขา้ ถงึ สารได้อย่างชัดเจน
บทกลอน (nursery rhyme)
บทรอ้ ยกรองสาํ หรบั เด็ก ท่มี ีคําคลอ้ งจองและมคี วามไพเราะ เพอ่ื ชว่ ยใหจ้ ดจาํ ได้ง่าย
บทละครส้นั (skit)
งานเขียนหรอื บทละครสั้นที่มีการแสดงออกด้วยทา่ ทางและคําพดู ทําให้เกิดความสนกุ สนาน
อาจเปน็ เรอ่ื งทม่ี าจากนทิ าน นยิ าย ชีวติ ของคน สตั ว์ สิ่งของ หรอื ตัดตอนมาจากงานเขยี น
ภาษาท่าทาง
การสอื่ สารโดยการแสดงทา่ ทางแทนคาํ พดู หรือการแสดงท่าทางประกอบคําพูด เพ่ือให้ความหมายมี
ความชัดเจนยงิ่ ขึ้น การแสดงท่าทางต่างๆ อาจแสดงได้ลักษณะ เชน่ การแสดงออกทางสีหน้า การสบตา การ
เคลือ่ นไหวศีรษะ มอื การยกมือ การพยกั หน้า การเลิกควิ้ เป็นต้น
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
วิถกี ารดําเนินชวี ติ ของคนในสังคมที่ใชภ้ าษานน้ั นบั ตัง้ แต่วิธีการกนิ อยู่ การแต่งกาย การทํางาน การ
พกั ผอ่ น การแสดงอารมณ์ การส่อื ความ ค่านิยม ความคดิ ความเชือ่ ทัศนคติ ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี
เทศกาล งานฉลอง และมารยาท เปน็ ตน้
สือ่ ที่ไม่ใชค่ วามเรียง (non-text information)
สงิ่ ทีใ่ ช้สือ่ สารแทนคาํ วลี ประโยค และข้อความ เชน่ กราฟ สัญลกั ษณ์ รูปภาพ สิ่งของ แผนผงั
แผนภมู ิ ตาราง เปน็ ตน้

109

เอกสารอ้างองิ

วิชัย วงษใ์ หญ่. (2523). พัฒนาหลกั สูตรและการสอน. กรุงเทพมหานคร :โรงพมิ พร์ ุ่งเรอื งธรรม.
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, สาํ นักงาน. กระทรวงศึกษาธกิ าร.ตวั ชว้ี ัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ. กรงุ เทพ.โรงพิมพ์ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตร
แหง่ ประเทศไทยจํากัด. พ.ศ. 2551.
คณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน,สาํ นกั งาน. กระทรวงศึกษาธกิ าร.(รา่ ง) หลักสตู รแกนกลางการศึกษา
ข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรงุ เทพ. โรงพิมพ์ชุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตร
แห่งประเทศไทยจํากดั พ.ศ. 2551.

ผ้จู ัดทา 110

นางสาวจารวุ รรณ คงกระจง ครูโรงเรยี นเบญจมราชรังสฤษฎ์ิ 5


Click to View FlipBook Version