๑๙ จ ำนวนดำวเทียมขนำดเล็กที่ส่งทั้งหมดในปี ๒๕๖๐ เพิ่มขึ้นประมำณร้อยละ ๑๕๗ จำกปี ๒๕๕๙ สำเหตุหลักของกำรเติบโต คือ กำรให้บริกำรด้วยกลุ่มดำวเทียมขนำดเล็กแบบ constellation ที่ต้องท ำงำนร่วมกันหลำย ๆ ดวงอย่ำงสอดคล้องกัน จึงท ำให้มี ควำมต้องกำรใช้บริกำรกำรส่งดำวเทียมที่สูงขึ้น นอกจำกนี้ ยังมีกลุ่มดำวเทียม constellation กว่ำ ๓๑ กลุ่ม ที่มีจ ำนวนดำวเทียม รวมแล้วทั้งสิ้นมำกกว่ำ ๗,๐๐๐ ดวง อยู่ระหว่ำงกำรพัฒนำฮำร์ดแวร์และ วำงแผนกำรท ำงำน ซึ่งคำดว่ำจะส่งไปปฏิบัติกำรในช่วงปี ๒๕๖๑ – ๒๕๗๓ ควำมต้องกำรส่งดำวเทียมด้วยบริกำรที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอที่จะตอบสนอง ควำมต้องกำรส่งดำวเทียว constellation ดังกล่ำว ถึงแม้ว่ำ จะมีผู้ส่งรำยใหม่ เพิ่มขึ้นมำกกว่ำ ๔๐ แห่งทั่วโลก ภาพที่ ๑๔ Small-satellite Launch Demand [๑๐] ๒.๑.๑.๓ Rideshare and Dedicated Services ธุรกิจกำรให้บริกำรรับส่งดำวเทียมในปัจจุบัน ประกอบไปด้วย ๒ รูปแบบ ด้วยกัน คือ Rideshare คือ กำรรับส่งดำวเทียมขนำดเล็กหรือ Small Satellite ในลักษณะ Secondary Payload หรือ เรียกได้อีกอย่ำงว่ำ กำรฝำกส่ง ซึ่งโดยมำกจะไม่เป็นดำวเทียม
๒๐ ที่ท ำเพื่อธุรกิจอวกำศที่ต้องกำรควำมชัดเจนในวันเวลำ ที่จะเริ่มต้นด ำเนินกิจกำรดำวเทียม เพรำะจะต้องรอส่งไปพร้อม ๆ กับ Main Payload หรือดำวเทียมหลัก ทั้งนี้ ธุรกิจประเภท Rideshare จะเติบโตอยู่ที่ร้อยละ ๕ ในแต่ละปี Dedicated Services คือ กำรบริกำรส่งดำวเทียมขนำดเล็กให้แบบพิเศษ โดยที่ไม่ต้องรอดำวเทียมหลักใด ๆ ซึ่งเหมำะกับกำรท ำธุรกิจดำวเทียมขนำดเล็กในปัจจุบัน โดยมีอัตรำกำรเติบโตประมำณร้อยละ ๕ เช่นกัน แต่จำกข้อมูลจะพบว่ำ มีอัตรำควำมต้องกำร ในกำรส่งดำวเทียมในแต่ละปี ดังนี้ ปี ๒๕๖๒ บริษัท Rocket Lab ส่งดำวเทียมขนำดเล็กขึ้นสู่วงโคจร จ ำนวน ๖๕ ดวง ปี ๒๕๖๓ US Spaceport และ ISRO ส่งดำวเทียมขึ้นสู่วงโคจรอีก จ ำนวน ๑๒๐ ดวง (อเมริกำ ๔๘ ดวง, อินเดีย ๗๒ ดวง) ปี ๒๕๖๔ US Spaceport และ UK Spaceport จะส่งดำวเทียมขึ้นสู่วงโคจร อีก จ ำนวน ๑๔๒ ดวง (US-๔๖, UK-๙๖) ปี ๒๕๖๕ US Spaceport & Sweden/Norway Spaceport มีแผนจะส่ง ดำวเทียมขึ้นสู่วงโคจรอีก จ ำนวน ๑๐๐ ดวง ภาพที่ ๑๕ Total Small-satellite Launch Forecast [๑๐]
๒๑ ภาพที่ ๑๖ Number of Satellites by Weight Class [๑๐] ภาพที่ ๑๗ Rideshare vs. Dedicated Services Forecast [๑๐] จำกภำพกำรศึกษำข้อมูลทำงสถิติข้ำงต้น จะพบว่ำ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ จนถึง พ.ศ. ๒๕๗๓ (ระยะเวลำอีก ๑๐ ปีข้ำงหน้ำ) จะมีควำมต้องกำรส่งดำวเทียมขึ้นสู่วงโคจรสูงขึ้น เรื่อย ๆ เริ่มตั้งแต่ประมำณ ๓๐๐ ดวง จนถึง ๑,๒๐๐ ดวง ซึ่งอัตรำควำมต้องกำรส่งแบบ Dedicated Services มีจ ำนวนเพิ่มมำกขึ้นเรื่อย ๆ จนมำกกว่ำแบบ Rideshare Services ในที่สุด แสดงว่ำธุรกิจดำวเทียมจะเติบโตมำกขึ้นในอนำคต
๒๒ ภาพที่ ๑๘ Global Launch Services Revenues [๑๐] ภำพที่ ๑๘ แสดงข้อมูลกำรประเมินรำยได้ที่จะเกิดขึ้นจำกธุรกิจ Launching services ในอนำคต ซึ่งในปี พ.ศ. ๒๕๖๗ จะท ำรำยได้ประมำณ ๑๐,๐๐๐ ล้ำนดอลลำร์สหรัฐ/ปี หรือประมำณ ๓๐๐,๐๐๐ ล้ำนบำท/ปีทั่วโลก โดยประเมินค่ำใช้จ่ำยในกำรส่งดำวเทียมตำมน้ ำหนักของดำวเทียม ดังแสดงในตำรำงที่ ๑ ตารางที่ ๑ Price per Kg Assumptions ๒.๑.๑.๔ Outer Space Launching Service Plan ตัวอย่ำงกรอบแนวคิดเพื่อใช้อ้ำงอิงในกำรลงทุนส ำหรับกำรท ำธุรกิจ Outer Space Launching Service และธุรกิจ Outer Space Launching Infrastructure แสดงให้เห็น ถึงควำมเชื่อมโยงกันระหว่ำงค่ำใช้จ่ำยในรูปแบบกำรลงทุนหรือต้นทุนประกอบด้วย ๑) ส่วนหลัก เช่น Planning และ ๒) ส่วนย่อย คือ Financing Studies (TIF's, etc.) เป็นต้น ๓) ส่วนของรำยได้ (Revenues) ได้แก่ กำรให้บริกำรธุรกิจหลัก เช่น Satellite Launching Service และ Space
๒๓ Tourism โดยมีส่วนย่อย คือ Commercial Space Markets เป็นต้น ทั้งนี้ มีกำรแบ่งระยะเวลำ เป็น ๓ ช่วง ได้แก่ ระยะสั้น (๑ - ๕ ปี) ระยะกลำง (๕ - ๑๐ ปี) และระยะยำว (๑๐ ปีขึ้นไป) ๒.๑.๒ การแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบัน ธุรกิจน ำส่งดำวเทียมและวัตถุอวกำศ Launching Service จะน ำไปสู่กำรเติบโต ของอุตสำหกรรมอวกำศที่เป็นอุตสำหกรรมด้ำนเทคโนโลยีอวกำศขั้นสูงและมีควำมต้องกำร เฉพำะอย่ำงของลูกค้ำแต่ละกลุ่ม เช่น กำรน ำส่งดำวเทียม (Satellite Launching Services) กำรพัฒนำโปรแกรมประยุกต์ใช้ประโยชน์จำกดำวเทียม (Space/Satellite Applications) กำรผลิตดำวเทียม (Satellite Manufacturing) และกำรพัฒนำโครงสร้ำงภำคพื้นดิน (Ground Supports) เป็นต้น โดยอุตสำหกรรมอวกำศส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีควำมก้ำวหน้ำ ด้ำนเทคโนโลยีอวกำศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกำ และสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้เล่นส ำคัญในกำรน ำโลก เข้ำสู่ยุคเศรษฐกิจอวกำศใหม่ หรือ New Space Economy ไม่ว่ำจะเป็นกำรส ำรวจดวงจันทร์ หรือกำรพัฒนำนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดจำกกำรทดลองงำนวิจัยบนสถำนีอวกำศรวมไปถึงประเทศอื่น ๆ ที่เริ่มมีบทบำทส ำคัญในกำรส่งเสริมให้เกิด New Space Economy ได้แก่ สำธำรณรัฐประชำชนจีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกำหลีใต้และนิวซีแลนด์เป็นต้น ซึ่งข้อมูลจำก ASD Euro Space พบว่ำมูลค่ำ กำรขำยในอุตสำหกรรมอวกำศของยุโรปในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ มีมูลค่ำสูงกว่ำ ๖,๕๐๐ ล้ำนเหรียญยูโร หรือประมำณ ๒๐๐,๐๐๐ ล้ำนบำท โดยมูลค่ำกำรขำยส่วนใหญ่กว่ำร้อยละ ๙๕ จะอยู่กับภำคพลเรือน (Civil Customer Sector) และมีกำรจ้ำงงำนในสำขำนี้มำกกว่ำ ๓๕,๐๐๐ คน ควำมต้องกำรทำงเศรษฐกิจอวกำศใหม่ หรือ New Space Economy จะเป็น กลไกขับเคลื่อนให้ธุรกิจและอุตสำหกรรมอวกำศเติบโตได้อย่ำงยั่งยืนและมีประสิทธิภำพ ซึ่งในปัจจุบันประเทศสหรัฐอเมริกำและประเทศชั้นแนวหน้ำอื่น ๆ ได้ร่วมกันด ำเนินกำรพัฒนำ เทคโนโลยีเพื่อส ำรวจอวกำศ (Space Exploration) อำทิ กำรส ำรวจดวงจันทร์ กำรส ำรวจ ดำวอังคำร หรือกำรขุดแร่ในอวกำศ (Space Mining) ซึ่งเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นจำกควำมพยำยำม ในกำรส ำรวจอวกำศ คือ เป้ำหมำยของ New Space Economy ที่ทั่วโลกจับตำมอง ได้แก่ ธุ รกิ จด้ ำน Satellite Launch, Satellite Internet, Deep Space Exploration, Lunar Landing, Asteroid Mining, Space Debris, Earth Observation, Space Research, Space Launching Infrastructure, Space-Grade Manufacturing และ Space Tourism (ธุรกิจกำรท่องเที่ยวในอวกำศ) ประเทศไทยในขณะนี้ยังไม่มีส่วนร่วมในเศรษฐกิจอวกำศใหม่ในระดับโลก แต่ New S-Curve 10 อุตสำหกรรมแห่งอนำคตของประเทศก็สำมำรถปรับเพื่อรองรับได้ อย่ำงเหมำะสมทั้งธุรกิจและอุตสำหกรรมภำยในประเทศและกำรน ำเข้ำ New Space Economy
๒๔ จำกต่ำงประเทศ ยิ่งไปกว่ำนั้น ประเทศไทยได้เตรียมตั้งรับสถำนกำรณ์ดังกล่ำวด้วยแผนกำรพัฒนำ โครงสร้ำงพื้นฐำนที่ส ำคัญส ำหรับกำรขับเคลื่อนอุตสำหกรรมอวกำศไว้ด้วย ยกตัวอย่ำงเช่น นโยบำย ในกำรจัดตั้งท่ำอวกำศยำน (Spaceport) ในประเทศไทยของกระทรวงกำรอุดมศึกษำ วิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดอุตสำหกรรมกำรผลิตจรวดและชิ้นส่วน อุตสำหกรรมกำรผลิตดำวเทียม อุตสำหกรรมพลังงำน ปิโตรเคมี อุตสำหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และระบบไฟฟ้ำ อุตสำหกรรมกำรผลิตเหล็กและโลหะ อุตสำหกรรมวัสดุทนควำมร้อน อุตสำหกรรม เครื่องนุ่งห่มอวกำศ และอุตสำหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดไปจนธุรกิจอวกำศ ที่น่ำสนใจ อำทิ กำรท่องเที่ยวในอวกำศ (Space Tourism) ได้ ทั้งนี้ กำรพัฒนำเศรษฐกิจอวกำศในประเทศยังมีส่วนเกี่ยวข้องเฉพำะอุตสำหกรรม ปลำยน้ ำที่เกิดจำกกำรใช้ประโยชน์จำกดำวเทียมสื่อสำรเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ ธุรกิจอุตสำหกรรม ด้ำนโทรศัพท์ ธุรกิจด้ำนสื่อโทรทัศน์และวิทยุ กลุ่มธุรกิจด้ำนอินเทอร์เน็ตและสื่อสำร แต่ส ำหรับ อุตสำหกรรมที่เป็นต้นน้ ำ ได้แก่ ด้ำนกำรพัฒนำดำวเทียม กำรพัฒนำชิ้นส่วนดำวเทียม กำรพัฒนำ ระบบภำคพื้นดิน กำรพัฒนำระบบน ำส่ง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงนั้น ประเทศไทยยังไม่มีศักยภำพ และโครงสร้ำงพื้นฐำนที่เข้มแข็งเพียงพอที่จะด ำเนินกำรพัฒนำและผลิต ดังนั้น จึงจ ำเป็นต้องเร่ง พัฒนำโครงสร้ำงพื้นฐำนเพื่อส่งเสริมภำคเอกชนให้เข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรใช้งำนและพัฒนำ อุตสำหกรรมและพำณิชยกรรมด้ำนอวกำศ และพัฒนำห่วงโซ่คุณค่ำอุตสำหกรรมอวกำศและเพิ่มขีด ควำมสำมำรถกำรแข่งขันให้กับประเทศอย่ำงเร่งด่วน หำกจะกล่ำวถึงประเทศที่มีศักยภำพในกำรพัฒนำท่ำอวกำศยำน Spaceport แล้ว สหรัฐอเมริกำเป็นตัวอย่ำงที่ดีในกำรเรียนรู้เพื่อกำรพัฒนำท่ำอวกำศยำนประเทศไทย หรือ Spaceport Thailand โดยในปัจจุบัน สหรัฐอเมริกำมีท่ำอวกำศยำนทั้งหมด จ ำนวน ๑๕ แห่ง (แสดงในภำพที่ ๑๙ ด้ำนล่ำงนี้) โดยเป็น Launch Site หรือ Spaceport ของภำครัฐจ ำนวน ๑๑ แห่ง และเป็นของภำคเอกชน จ ำนวน ๔ แห่ง ได้แก่ บริษัท บูล ออริจิน จ ำนวน ๑ แห่ง บริษัท สเปซ เอ็กซ์ จ ำนวน ๒ แห่ง และของ บริษัท เวอจิน กรุ๊ป จ ำนวน ๑ แห่ง สหรัฐอเมริกำเริ่มต้นส่งดำวเทียมดวงแรก Explorer 1 ในปี ค.ศ. ๑๙๘๕ และในเวลำต่อมำประธำนำธิบดีสหรัฐ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ก็ได้ประกำศว่ำจะส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ ในปี ค.ศ. ๑๙๖๒ ด้วยโครงกำรอะพอลโล (Project Apollo) และ Apollo 11 ก็ท ำส ำเร็จ ในปี ค.ศ. ๑๙๖๙ โดยหลังจำกนั้น โครงกำรอะพอลโลได้ยุติไปในปีค.ศ. ๑๙๗๒ กับกำรเดินทำงไป ดวงจันทร์ครั้งสุดท้ำยของสหรัฐอเมริกำด้วย Apollo 17 และได้เริ่มต้นส่งดำวเทียม GPS อย่ำงต่อเนื่องในปี ค.ศ. ๑๙๗๘ เป็นต้นมำ
๒๕ จึงเห็นได้ว่ำ สหรัฐอเมริกำมีประสบกำรณ์ในกำรพัฒนำ Spaceport มำอย่ำง ยำวนำน โดยภำครัฐได้ลงทุนในโครงสร้ำงพื้นฐำนด้ำนอวกำศมำกว่ำ ๖๐ ปี ท ำให้ประเทศ มีควำมก้ำวหน้ำในเทคโนโลยีอวกำศเป็นอย่ำงมำก และเป็นที่ทรำบกันดีว่ำ เทคโนโลยีไม่ว่ำจะเป็น ด้ำนอวกำศหรืออื่น ๆ ของประเทศไทยก็ได้รับอิทธิผลมำจำกสหรัฐอเมริกำเป็นส่วนใหญ่ แม้กำรเริ่มต้นในเทคโนโลยีอวกำศของสหรัฐอเมริกำในช่วงแรก ๆ จะเป็นไปเพื่อกำรแข่งขันกัน เป็นผู้น ำด้ำนอวกำศกับสหภำพโซเวียตหรือรัสเซีย แต่ผลของกำรพัฒนำเทคโนโลยีท ำให้ในปัจจุบัน เป็นทั้งผู้ผลิตและผู้จ ำหน่ำยรำยใหญ่ของโลก และประเทศมั่งคั่งมำกมำจนทุกวันนี้ ภาพที่ ๑๙ U.S. Spaceports: Commercial/Government/Private Active ในปัจจุบัน ประเทศไทยต้องอำศัยกำรจ้ำงส่งหรือกำรฝำกส่งวัตถุอวกำศ เช่น ดำวเทียม หรืองำนวิจัยไทยไปกับบริกำรของต่ำงประเทศที่มีอัตรำค่ำส่งสูงมำก โดยคิดเป็นน้ ำหนักรวม ค่ำบริกำรต่ำง ๆ ประมำณ กิโลกรัมละ ๕๕,๐๐๐ - ๖๕,๐๐๐ เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยประมำณ ๑.๗ – ๒.๐ ล้ำนบำท/กิโลกรัม เทียบค่ำส่งดำวเทียมขนำดเล็ก เช่น ดำวเทียมคิวบ์แซท 3U CubeSat น้ ำหนักประมำณ ๔ กิโลกรัม ค่ำส่งประมำณ ๑๐ ล้ำนบำท (ยกตัวอย่ำง ดำวเทียม มจพ. 1U CubeSat น้ ำหนักประมำณ ๑ - ๒ กิโลกรัม ค่ำส่งประมำณ ๓ - ๔ ล้ำนบำท) ซึ่งหำกเป็น ดำวเทียมดวงใหญ่ เช่น น้ ำหนักประมำณ ๑๐๐ กิโลกรัม ค่ำส่งจะอยู่ที่ประมำณ ๒๐๐ ล้ำนบำท โดยประมำณ
๒๖ กำรพัฒนำอำคำรหรือสถำนที่ส ำหรับท ำ Spaceport เป็นสิ่งที่ประเทศไทย สำมำรถเริ่มต้นท ำได้ทันทีหลังจำกกำรจัดท ำกำรศึกษำควำมเป็นไปได้ Feasibility Study (FS) อย่ำงครบถ้วนแล้ว ยกตัวอย่ำง สนำมบินสุวรรณภูมิที่หลังจำกเริ่มต้นด ำเนินกำรก็จัดให้มีกำรเวนคืน ที่ดินโดยจ่ำยเป็นเงินให้ครอบครัวละ ๘๐๐,๐๐๐ บำท เพื่อพัฒนำท่ำอำกำศยำนแห่งชำติสนำมบิน สุวรรณภูมิด้วยพื้นที่ ๒๐,๐๐๐ ไร่ ในกรอบวงเงินประมำณ ๑๒๐,๐๐๐ ล้ำนบำท ทั้งนี้ ท่ำอวกำศ ยำนแห่งชำติสหรัฐอเมริกำ Spaceport America ใช้งบประมำณทั้งสิ้น ๒๐๙ ล้ำนเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยประมำณ ๖,๕๖๐ ล้ำนบำท ซึ่งมีควำมเป็นไปได้ส ำหรับกำรพัฒนำท่ำอวกำศยำน แห่งชำติด้วยงบประมำณที่ต่ ำกว่ำกำรสร้ำงสนำมบินสุวรรณภูมิ ท่ำอวกำศยำนประเทศไทย หรือ Spaceport Thailand จะเป็นสัญลักษณ์ที่สร้ำง ควำมมั่นคงทำงทหำรให้กับประเทศไทย โดยที่เรำสำมำรถที่จะพัฒนำดำวเทียมเฝ้ำระวังประเภท ต่ำง ๆ และด ำเนินกำรส่งเองภำยในประเทศโดยไม่ต้องขออนุญำตหรือผ่ำนกำรตรวจสอบใด ๆ จำกภำยนอก นั่นคือสำมำรถด ำเนินกำรเบ็ดเสร็จภำยในประเทศ อำทิ กำรส่งดำวเทียมเฝ้ำระวัง กำรคุกคำมจำกอวกำศ ประเภทดำวเทียมจำรกรรม หรือ ดำวเทียมเฝ้ำสังเกตกำรณ์กำรตกใส่ ของอุกกำบำตหรือวัตถุอวกำศ ตลอดจนกำรพัฒนำดำวเทียมระบุพิกัดต ำแหน่งควำมละเอียดสูง ใช้เองภำยในประเทศ เป็นต้น ทวีปเอเชีย - แปซิฟิก เป็นฐำนที่ตั้งของหลำยหน่วยงำนอวกำศรวมอยู่ด้วยกัน ในแต่ละประเทศ อำทิเช่น MYSA (Malaysian Space Agency), SSTA (Singapore Space Agency), LAPAN (Indonesia Space Agency) ห รือ PSA (Philippine Space Agency) เป็นต้น โด ยที่ แต่ละประเทศต่ำงก ำลังแข่งขันกันในเรื่องของเทคโนโลยีอวกำศ ยกตัวอย่ำงเช่น กำรพัฒนำ ดำวเทียมทั้งแบบ คิวบ์แซท (เช่น ประเทศสิงคโปร์) และไมโครแซท (ของประเทศฟิลิปปินส์) เป็นต้น โดยที่ในปัจจุบัน ประเทศอินโดนีเซียมีแนวโน้มในกำรพัฒนำท่ำอวกำศยำนโดยควำมร่วมมือ กับบริษัท SpaceX ของ อีลอน มักส์ ซึ่งต ำแหน่งของประเทศอินโดนีเซียมีหลำยจุดที่เหมำะสมกว่ำ ประเทศไทยมำก แต่ยังเป็นประเทศที่มีควำมเสี่ยงในเรื่องของสึนำมิและแผ่นดินไหว จึงท ำให้ ประเทศอินโดนีเซียยังต้องท ำกำรพิจำรณำอีกหลำยอย่ำงส ำหรับกำรจัดตั้งท่ำอวกำศยำน ของประเทศ ตำมที่กล่ำวไว้ในบทก่อนหน้ำนี้ ดังนั้น มีควำมเป็นไปได้ที่กำรพัฒนำธุรกิจน ำส่งหรือกำรจัดตั้งท่ำอวกำศยำน เชิงพำณิชย์จะมีกำรแข่งขันเกิดขึ้นในแถบเอเชีย - แปซิฟิก ทั้งนี้ ประเทศไทยก็สำมำรถ ดึงควำมร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้ำนมำช่วยในกำรพัฒนำได้โดยประเทศไทยสำมำรถเจรจำ
๒๗ กำรพัฒนำท่ำอวกำศยำนร่วมกับประเทศอินโดนีเซียหรือประเทศอื่น ๆ เพื่อกำรพัฒนำท่ำอวกำศ ยำนแห่งภูมิภำคเอเชีย-แปซิฟิก Spaceport of Asia - Pacific Region ได้ต่อไป ทั่วโลกก ำลังให้ควำมสนใจในกำรวิจัย ทดลอง และทดสอบงำนวิจัยด้ำนต่ำง ๆ บนสถำนีอวกำศนำนำชำติISS เพื่อกำรพัฒนำคุณภำพชีวิตของมนุษย์ และกำรสร้ำงนวัตกรรม จำกอวกำศ ตลอดจนกำรวำงรำกฐำนสู่กำรใช้ชีวิตในอวกำศ รวมทั้งเป็นกำรเตรียมควำมพร้อม ส ำหรับกำรเดินทำงในอวกำศเพื่อศึกษำ วิจัย หรือค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ในอวกำศ สุขภำพและ ควำมเป็นอยู่ของมนุษย์ในอวกำศ จึงเป็นเรื่องส ำคัญ อำทิ มนุษย์ที่อำศัยอยู่ในอวกำศ เป็นระยะเวลำ ช่วงหนึ่ง จะท ำให้มีมวลกระดูกที่ลดน้อยลง เนื่องกำรสภำวะไร้น้ ำหนักท ำให้กล้ำมเนื้อหลำยส่วน ไม่ได้ใช้งำนนั่นเอง กำรพัฒนำยำรักษำโรคหรือกำรค้นคว้ำวิจัยตัวยำใหม่ ๆ ก็ถือก ำเนิดในอวกำศ เช่นกัน อำทิ กำรตกผลึกโปรตีนในอวกำศเพื่อพัฒนำยำต้ำนมำลำเรียของไบโอเทค สวทช. เป็นต้น ภาพที่ ๒๐ กำรทดลองปลูกผลึกโปรตีนไทยบนสถำนีอวกำศนำนำชำติ ISS (ที่มำ: สทอภ.) ดังนั้น หำกประเทศสำมำรถก ำหนดกำรส่งจรวดเพื่อส่งงำนวิจัยไทยออกไปทดลองวิจัย ในอวกำศได้เองและบ่อยครั้ง ด้วยกำรพัฒนำท่ำอวกำศยำนประเทศไทย หรือ Spaceport Thailand แล้ว นอกจำกจะเป็นกำรประหยัดงบประมำณในกำรฝำกส่งกับต่ำงประเทศ ยังจะเป็น กำรสร้ำงให้ประเทศมีองค์ควำมรู้ใหม่ ๆ และสำมำรถพัฒนำไปเป็นนวัตกรรมอวกำศที่สำมำรถ น ำกลับมำใช้ภำยในประเทศได้จ ำหน่ำยได้ ส่งออกได้ ตลอดจนสำมำรถเพิ่มเป็นสำขำวิชำ
๒๘ วิทยำศำสตร์อวกำศบรรจุลงไปในหลักสูตรกำรศึกษำของไทยได้ในอนำคต เพื่อผลิตทั้งก ำลังคน ที่จะเป็นนักวิจัยและวิศวกรเฉพำะทำงด้ำนนี้ให้กับประเทศต่อไปในอนำคต ๒.๑.๒.๑ อัตราการเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีอวกาศ ในปัจจุบันมีหลำยหน่วยงำนในประเทศที่ก ำลังให้ควำมสนใจในกำรพัฒนำ ดำวเทียม เช่น CubeSat Microsatellite หรือ Small Satellite และกำรทดลองงำนวิจัยในอวกำศ (Space Experiment) ด้ำนอำหำร ยำ หรือกำรเพำะปลูกต้นไม้ในอวกำศ เป็นต้น ดังนั้น ในปัจจุบัน หน่วยงำนในประเทศจึงมีควำมต้องกำรที่จะส่งชิ้นงำนต่ำง ๆ ไปอวกำศและจรวดน ำส่งจึงเป็นสิ่ง ส ำคัญตำมมำ ซึ่งหำกประเทศสำมำรถส่งดำวเทียมหรือวัตถุไปอวกำศได้เอง จะท ำให้เกิด Demand ควำมต้องกำรในกำรใช้ประโยชน์ท่ำอวกำศยำนเพื่อกำรทดลอง เพื่อกำรวิจัยหรือเพื่อกำรท ำธุรกิจอื่น ๆ กำรท่องเที่ยวในอวกำศเป็นกิจกรรมใหม่ ๆ ที่ก ำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ด้วยกำรแข่งขันของบริษัทอวกำศต่ำงประเทศหลำย ๆ ที่ท ำให้ค่ำบริกำรในกำรเดินทำงไปดูขอบ อวกำศที่มีรำคำสูง และก ำลังมีทิศทำงต่ ำลงเรื่อย ๆ ยกตัวอย่ำง บริษัท Blue Origin ที่ขำยตั๋วไปชม ขอบอวกำศ โดยใช้เวลำประมำณ ๔ – ๕ นำทีในอวกำศ รำคำตั๋วเที่ยวละประมำณ ๔๕๐,๐๐๐ เหรียญสหรัฐ โดยธุรกิจประเภทนี้เป็นที่นิยมมำกในสหรัฐอเมริกำ ซึ่งหำกประเทศไทยมีกำรอนุญำต ให้ภำคเอกชนสำมำรถท ำธุรกิจน ำส่งดำวเทียมและวัตถุอวกำศรวมทั้งอนุญำตให้จัดตั้งท่ำอวกำศยำน แห่งชำติ หรือ สำมำรถจัดสถำนที่ท ำในลักษณะให้เช่ำพื้นที่เพื่อลงจอดของจรวดได้เช่นเดียวกับ กำรใช้บริกำรของท่ำอำกำศยำนนำนำชำติของประเทศไทยที่จัดเก็บค่ำเช่ำกับสำยกำรบิน ต่ำงประเทศในกำรใช้บริกำรจะท ำให้เศรษฐกิจอวกำศภำยในประเทศเติบโตและสำมำรถรองรับ เทคโนโลยีอวกำศที่ก ำลังจะเพิ่มมำกขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในประเทศไทยและจำกทั่วโลก รวมทั้งเพื่อไม่ให้ ประเทศตกเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีล้ำหลัง กำรพัฒนำท่ำอวกำศยำนในประเทศไทยจึงเป็น อีกวิธีกำรพัฒนำประเทศอย่ำงก้ำวกระโดด พร้อมทั้งพัฒนำธุรกิจน ำส่ง Launching Service และอุตสำหกรรมอวกำศภำยในประเทศให้เติบโตขึ้นด้วย
๒๙ ภาพที่ ๒๑ กำรให้บริกำรท่องเที่ยวในอวกำศของบริษัท Orion Span (ที่มำ: https://spacetourismguide.com/) ในกำรพัฒนำธุรกิจน ำส่ง Launching Service คือกำรอนุญำตให้มีกำรจัดตั้งท่ำอวกำศยำน หรือ Spaceport ในประเทศ ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่ำมีควำมต้องกำรผลิตเทคโนโลยีหลำย ๆ อย่ำง เป็นอย่ำงมำก และภำคเอกชนหรืออุตสำหกรรมภำยในประเทศไทยสำมำรถด ำเนินกำรผลิตชิ้นส่วน บำงรำยกำรของท่ำอวกำศยำนได้ทันที ไม่ว่ำจะเป็นอุตสำหกรรมกำรก่อสร้ำงที่เรำมีศักยภำพ เพียงพอ หรือ กำรสร้ำงตึกอำคำรที่มีควำมคงทนแข็งแรงนั้นไม่ใช่เรื่องยำกส ำหรับอุตสำหกรรม ในประเทศ ถึงแม้ว่ำในปัจจุบัน ประเทศไทยยังไม่มีบริษัทหรืออุตสำหกรรมที่ชัดเจนส ำหรับ กำรพัฒนำจรวดหรือระบบน ำวิถีต่ำง ๆ แต่ประเทศไทยมีอุตสำหกรรมกำรบินและอวกำศที่มี ควำมมั่นคงในกำรเป็น Supply Chain ส ำหรับผลิตชิ้นส่วนอำกำศยำนจ ำนวนมำก แสดงตัวอย่ำงได้ ตำมภำพต่อไปนี้
๓๐ ภาพที่ ๒๒ Aerospace Industry ในประเทศไทย รวมทั้ง ภำคเอกชนที่มีควำมสำมำรถในกำรพัฒนำเทคโนโลยีอวกำศได้ เช่น ดำวเทียม โดรน หรือ จรวดขนำดเล็ก Sounding Rocket เป็นต้น ยกตัวอย่ำงบริษัทเอกชนที่มีควำมสำมำรถต่ำง ๆ ดังภำพต่อไปนี้ ภาพที่ ๒๓ Space Technology Company ในประเทศไทย ธุรกิจและอุตสำหกรรมต่ำง ๆ เหล่ำนี้ มีควำมพร้อมในกำรพัฒนำเทคโนโลยีอวกำศและสำมำรถตอบรับ ควำมต้องกำรในกำรพัฒนำท่ำอวกำศยำนของภำครัฐได้ทันที ซึ่งจะต้องมีกำรน ำเข้ำหรือพัฒนำวัสดุ อุปกรณ์ต่ำง ๆ อีกมำกมำย อันจะน ำมำซึ่งกำรขยับโครงสร้ำงธุรกิจและเตรียมควำมพร้อม
๓๑ ในกำรให้บริกำรต่ำง ๆ ดังนั้น จึงท ำให้เกิดกำรแข่งขันและกำรขยำยตัวของอุตสำหกรรมอวกำศ ได้อย่ำงมั่นคง ๒.๑.๓ รูปแบบการให้บริการที่เป็นไปได้ในประเทศไทย กำรพัฒนำธุรกิจน ำส่งดำวเทียมและวัตถุอวกำศขึ้นสู่วงโคจร (Outer Space Launching Service) จะต้องค ำนึงถึงกำรต ำแหน่งกำรจัดตั้งท่ำอวกำศยำนประเทศไทย Spaceport Thailand ในส่วนของกำรหำจุดต ำแหน่งที่เหมำะสมในกำรตั้งฐำนปล่อยจรวด (Launch Pad) หรือ กระสวยอวกำศ (Space Shuttle) มีปัจจัยหลำยด้ำนที่ต้องพิจำรณำ ซึ่งหนึ่งปัจจัยที่ส ำคัญ คือ สถำนที่ตั้งพื้นที่บนพื้นโลกแต่ละแห่งจะมีควำมแตกต่ำงกันทำงกำยภำพ ไม่ว่ำจะเป็นภูมิประเทศ หรือภูมิอำกำศ โดยควำมเหมำะสมแล้ว ต ำแหน่งที่ตั้งควรอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร (equator) ประมำณ ละติจูด ๐ -๓๐ เพรำะค่ำแรงโน้มถ่วงเฉลี่ยในบริเวณ equator จะอยู่ที่ ๙.๗๘๐๓๓ m/s๒ หรือ G๐ ซึ่งถ้ำจุดปล่อยจรวดขึ้นไปทำงเหนือหรือลงไปทำงใต้เกิน ±๓๐ แล้ว จะท ำให้ค่ำแรงดึงดูด เพิ่มมำกขึ้น และจรวดจะต้องมีแรงขับดันที่ควำมเร็ว ๑๑.๒ กิโลเมตร/วินำที (Rocket Escape Velocity) เพื่อให้หลุดพ้นต่อแรงดึงดูด ซึ่งถ้ำแรงดึงดูดมำกขึ้นแต่ต้องรักษำควำมเร็วหลุดพ้น ให้เท่ำเดิมก็จะต้องเพิ่มแรงขับหรือเชื้อเพลิงให้มำกยิ่งขึ้น นั่นคือกำรสิ้นเปลืองเพิ่มมำกขึ้นนั้นเอง ดังนั้น ประเทศที่มีฐำนปล่อยจรวดหรือกระสวยอวกำศส่วนมำกจะอยู่ในต ำแหน่งใกล้ Equator และมีพื้นที่ติดทะเลเปิดโล่งหันไปทำงทิศตะวันออกเพื่อให้แรงหมุนของโลกช่วยเสริมอีก และชิ้นส่วน ของจรวดจะตกลงในทะเล ๒.๑.๓.๑ ข้อเสนอการให้บริการในประเทศ ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน ที่มีกำรน ำเอำจรวดที่ยิงไปแล้วติดตั้ง ด้วยระบบควบคุมและคอนโทรลให้กลับมำยังพื้นที่ก ำหนดได้ โดยไม่ต้องปล่อยตกทะเล เรียกว่ำ Reusable Launch Space System หรือ Reusable Rocket ซึ่งในปัจจุบันมี ๒ บริษัทเอกชน ด ำเนินกำรด้วยจรวดประเภทนี้อยู่ ได้แก่ สเปซ เอ็กซ์ และ บูล ออริจิน โดยที่หลำย ๆ ประเทศ มีควำมสนใจในเทคโนโลยีดังกล่ำว และเริ่มต้นพัฒนำขึ้น เช่น องค์กรอวกำศแห่งสำธำรณรัฐ ประชำชนจีน (CNSA) หรืออินเดีย (ISRO) เป็นต้น จึงท ำให้ฐำนปล่อยจรวดในปัจจุบันไม่จ ำเป็น ต้องติดทะเลอีกต่อไป ทั้งนี้ โลกมีแนวโน้มที่จะหันมำใช้เทคโนโลยี Reusable Rocket มำกขึ้น เนื่องจำกประหยัดงบประมำณในกำรพัฒนำจรวดได้หลำยเท่ำตัว แต่ยังสำมำรถน ำกลับมำใช้งำน ได้มำกกว่ำ ๑๐๐ ครั้ง (อ้ำงอิง: https://en.wikipedia.org)
๓๒ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีที่ตั้งบริเวณกลำงทวีปเอเชียและอยู่ใกล้ Equator รวมทั้งมีภูมิประเทศ ที่หลำกหลำย สภำพอำกำศที่ไม่รุนแรง มีอำณำเขตที่ติดกับทะเลเปิด ไม่ประสบปัญหำภัยพิบัติ รุนแรง และเป็นศูนย์กลำงกำรขนส่งและโลจิสติกส์ของอำเซียนที่ส ำคัญในแถบอินโดจีนหรือจีน แผ่นดินใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเชื่อมต่อกับแหล่งอุตสำหกรรมต่ำง ๆ จำกทั่วโลก ประเทศไทยจึงมีควำมเหมำะสมที่จะพัฒนำสร้ำงท่ำอวกำศยำน เพื่อประกอบกิจกำรต่ำง ๆ ตำมที่กล่ำวมำในบทก่อนหน้ำ รวมถึงได้แสดงถึงจังหวัดที่มีควำมเป็นไปได้ในกำรพัฒนำ Spaceport ไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนี้ “จำกกำรศึกษำลักษณะต่ำง ๆ ของกำรท ำธุรกิจด้ำน Spaceport ในปัจจุบัน พร้อมกับทิศทำงควำมเหมำะสมของประเทศไทย โอกำสกำรเกิดธุรกิจอวกำศ กำรลงทุน และกำรเติบโตของอุตสำหกรรมต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้องภำยในประเทศแล้ว พบว่ำ กำรพัฒนำท่ำอวกำศ ยำนประเทศไทย Spaceport Thailand ควรจะเป็นไปเพื่อ ธุรกิจการน าส่งดาวเทียมที่รัฐควรท า ร่วมกับเอกชน และธุรกิจการท่องเที่ยวในอวกาศที่เอกชนต้องดูแลกิจการ ทั้งนี้ จังหวัดที่มี ควำมเหมำะสมขึ้นอยู่กับควำมสะดวกของกำรขนส่งและโลจิสติกส์ในเรื่องของกำรประกอบจรวด และกำรเคลื่อนย้ำย ซึ่งจะต้องศึกษำให้ชัดเจนต่อไปในกำรจัดท ำ FS ในอนำคต” ภาพที่ ๒๔ Spaceport Thailand Concept ธุรกิจการท่องเที่ยวในอวกาศ Space Tourism คำดว่ำจะท ำรำยได้ รำว ๖๐๐ – ๑,๐๐๐ ลบ./ปี จำกกำรประเมินข้อมูล ของ OEDE Invalid source specified. Spaceport ประเภทขึ้น-ลงแนวนอน ธุรกิจน าส่งดาวเทียม Satellite Launching Services คำดว่ำจะท ำรำยได้ รำว ๑,๐๐๐ – ๓,๐๐๐ ลบ./ปีจำกกำรประเมิน ข้อมูลของ UK Spaceport (Frost & Sullivan, 2018) Spaceport ประเภทขึ้น-ลงแนวตั้ง
๓๓ โดยเนื้อแท้ของกำรพัฒนำธุรกิจ Launching Service และธุรกิจ Launching Infrastructure คือ กำรพัฒนำท่ำอวกำศยำน Space-port ประเทศไทย และควรจัดท ำ ในลักษณะกำรส่งดำวเทียม หรือ Launch Site ด้วยกำรส่งจรวดและดำวเทียมที่ภำครัฐต้อง มีอ ำนำจควบคุม จึงไม่สำมำรถปล่อยให้ภำคเอกชนดูแลทั้งหมดได้แต่กำรดูแลในส่วน Commercial และกำรให้บริกำรแบบกำรท่องเที่ยวในอวกำศ Space Tourism สำมำรถจัดท ำไปพร้อมกันกับ กำรจัดตั้งท่ำอำกำศยำนแห่งชำติที่รัฐจะเป็นผู้ดูแลได้ซึ่งอำจมีลักษณะคล้ำยที่รัฐวิสำหกิจด ำเนินกำร ปล่อยให้สำยกำรบินเอกชนเช่ำใช้พื้นที่สนำมบินเพื่อท ำธุรกิจกำรบิน เป็นต้น ๒.๑.๓.๒ แผนพัฒนาระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ตารางที่ ๒ แผนกำรพัฒนำท่ำอวกำศยำนประเทศไทย ระยะสั้น ระยะกลำง และระยะยำว Term Investments Recommendations ระยะสั้น ๕ ปี o Information Systems o Sensors and Instrumentation o Command and Control Systems Integrated and Process Based: Implementing broad end-to-end understanding or organizational processes, functions and interfaces. Macro-level solutions that begin and end with process definition and improvement are required. Isolated upgrades without broad architectural insight into protocols, standards, interoperability and long-term needs are unlikely to yield measurable benefit over the long term. ระยะกลาง ๑๐ ปี o Payloads o Traffic Management o Safety Range Particularly, for payloads: oPayload test, checkout and servicing systems, including the facility and ground support equipment infrastructures - Spaceport and operations organizations must work
๓๔ Term Investments Recommendations more closely with payload, cargo, and upper stage developers and stakeholders to create new, more standardized, automated and operationally streamlined processes. This includes the entire process from manifesting to receiving, test, checkout, servicing and integration into a vehicle. oCarriers and containers, with standardized interfaces between a payload and its carrier, and reduced or eliminated interfaces to the vehicle - Such direction requires new government and industry collaboration crosscutting companies, scientific and transportation organizations, future planners and new entrants into the field wishing to develop satellites, carriers or technology for enabling this. Particularly, for the traffic management and the safety range systems infrastructure: oClose and continuing collaboration and research between the Federal Aviation Administration (FAA), NASA, the Department of Defense (DoD), industry and academia is required.
๓๕ Term Investments Recommendations oNational Range investments to date by the Air Force / Space Command that will modernize systems (advancing capabilities from circa ๑๙๖๐’s to circa ๑๙๘๐’s) should not be confused with needed investments to reach far term goals such as multiple flights per day out of a single Spaceport at costs of about $๑๐๐ per pound. Range costs would scale, within this goal, toward amounts more in line with Airplane landing fees at airports. Investments here will accrue high benefits over the mid-term, the next ๕ to ๑๐ years. ระยะกลาง ๒๐ ปี o Propellants and Propulsion System o Launch Systems Specifically, propellants: oPropellants technology must be developed with a view toward total servicing costs, and responsiveness, up to the flight vehicle interface. Current ground systems infrastructure approaches and technology for providing commodities such as liquid oxygen (LOX), liquid-hydrogen (LH๒), inert commodities, such as gaseous helium and nitrogen, and host of other services (such as control,
๓๖ Term Investments Recommendations monitoring, etc.) are far removed from the systems, approaches, technology, reliabilities and margins of safety that will be required to enable servicing systems on a daily basis at fractions of current costs. Current systems are to tomorrows needs as far removed as the servicing systems of the German V-๒ rocket are from today’s Shuttle servicing systems. Generational investment is required. oThe assumption that industry technology for energy and commodity production can address future infrastructure and operations needs should reusable vehicles be developed that can fly every day addresses only a small portion of the actual space transportation challenge at a Spaceport. Specifically, the Launch Systems: oContinued development and study of this area is required to make the case for ground-based launch assist systems such as those using Magnetic Levitation and Propulsion. This area is ripe for near term government investment transitioning into mid-term public and private
๓๗ Term Investments Recommendations partnerships as data and understanding in this area develop. The area is too promising not to invest in considering the potential benefits to vehicle design, margin and operability should new engines and designs evolve that can take advantage of such a system. ๒.๑.๓.๓ การประมาณค่าใช้จ่าย กำรพัฒนำธุรกิจน ำส่งต้องมีฐำนกำรประกอบธุรกิจซึ่งได้แก่กำรจัดท ำ ท่ำอวกำศยำน Spaceport ในแต่ละประเทศอำจมีลักษณะที่แตกต่ำงกันไป และไม่ปรำกฏ รูปแบบตำยตัวหรือมำตรฐำนสำกลใด ๆ (นอกจำกในสหรัฐอเมริกำที่ FAA มีกำรก ำหนดมำตรฐำน และกำรออกใบอนุญำตไว้รองรับ) โดยส่วนใหญ่แต่ละประเทศจะพัฒนำขึ้นตำมวัตถุประสงค์ ที่ต่ำงก ำหนดไว้ (Mission Requirements) ว่ำต้องกำรจะท ำอะไร แล้วควำมต้องกำรนั้น ต้องอำศัย กำรพัฒนำสร้ำง Spaceport เป็นส่วนประกอบเพื่อควำมส ำเร็จในสิ่งที่ต้องกำรนั้น โดยไม่ได้เอำ Spaceport เป็นเป้ำหมำย แต่ใช้เป็นเครื่องมือสู่ควำมส ำเร็จ (Spaceport is by product) ยกตั วอย่ ำงเช่น Spaceport America ของบ ริษัท Virgin Group ใน New Mexico ถูกสร้ำงขึ้นมำเพื่อท ำธุรกิจกำรท่องเที่ยวในอวกำศเท่ำนั้น โดยได้สร้ำงเฉพำะ Spaceship Landing Facility Hangar และ Terminal เท่ำนั้น หรือ ท่ำอวกำศยำนของประเทศ ญี่ปุ่น Spaceport Tanegashima ที่สร้ำงเฉพำะ Launch Pad เท่ำนั้นเช่นกัน แสดงตั วอย่ ำง ร ำค ำที่ใช้ในก ำ รก่ อส ร้ ำง (Construction Cost) ท่ำอวกำศยำนในแต่ละประเทศ ตำมตำรำงต่อไปนี้
๓๘ ตารางที่ ๓ Construction Cost for Spaceport around the World Name Main Facility (MTHB) Remarks Shuttle Landing Launch Pad Spaceport America 6,497 - Including one Hangar and one Terminal Tanegashima Space Center - 14,816 Kennedy Space Center 24,872 3 Active Launchpads including other facilities Guiana Space Center - 11,779 Baikonur Cosmodrome 233,000 2 Launchpads, 1 Underground Launchpad and other facilities Odyssey Launch Pad - 18,125 SeaLaunch Wenchang Space Launch Centre - 22,695 2 Launchpads Satish Dhawan Space Centre - 2,006 Satish Dhawan Space Centre II - 2,660 Satish Dhawan Space Centre III - 2,533
๓๙ วิทยำนิพนธ์ของ นำยพัทธนันท์ บุญกล่ ำ คณะสถำปัตยกรรมศำสตร์ มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีรำชมงคลธัญบุรี เรื่อง โครงกำรท่ำอวกำศยำนประเทศไทย กำรออกแบบ อำคำรผู้โดยสำรเพื่อกำรเดินทำงในอวกำศ ได้ท ำกำรศึกษำเบื้องต้นถึงรำยละเอียดค่ำใช้จ่ำย ในกำรพัฒนำท่ำอวกำศยำนที่ถูกพัฒนำขึ้นเพื่อธุรกิจกำรท่องเที่ยวในอวกำศ (Space Tourism) แสดงรำยละเอียดค่ำใช้จ่ำยในกำรพัฒนำท่ำอวกำศยำนแบบ Space Tourism ดังต่อไปนี้ ตารางที่ ๔ ตัวอย่ำงกำรประมำณค่ำใช้จ่ำยในกำรพัฒนำท่ำอวกำศยำนแบบ Space Tourism รายละเอียด งบประมาณ (บาท) ที่ดินโครงการ ๒๗๔,๕๖๐,๐๐๐ ๑.๑ ที่ดิน ๙๖๐ ไร่ (เงื่อนไข รำคำประเมินที่ดิน ๖๕๐ บำท/ตร.ว. ค่ำปรับปรุงที่ดิน ร้อยละ ๑๐) ๒๗๔,๕๖๐,๐๐๐ ๒๗๔,๕๖๐,๐๐๐ การก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร ๑,๕๑๔,๓๔๑,๔๐๐ ๒.๑ ค่ำก่อสร้ำงเฉลี่ย เงื่อนไข ๖๕,๐๐๐ บ./ตร.ม. พื้นที่ก่อสร้ำง ๑๖,๒๙๒ ตรม ๑,๐๕๘,๙๘๐,๐๐๐ ๑,๐๕๘,๙๘๐,๐๐๐ ๒.๒ สิ่งอ ำนวยควำมสะดวกร้อยละ ๒๐ ๒๑๑,๗๙๖,๐๐๐ ๒๑๑,๗๙๖,๐๐๐ ๒.๓ ค่ำสำธำรณูปโภคร้อยละ ๑๐ ๑๐๕,๘๙๘,๐๐๐ ๑๐๕,๘๙๘,๐๐๐ ๒.๔ ค่ำที่ปรึกษำโครงกำร ร้อยละ ๖ ๖๓,๕๓๘,๘๐๐ ๖๓,๕๓๘,๘๐๐ ๒.๕ ค่ำควำมคำดเคลื่อน ร้อยละ ๗ ๗๔,๑๒๘,๖๐๐ ๗๔,๑๒๘,๖๐๐ สิ่งก่อสร้างในโครงการ ๒,๖๑๙,๒๕๘,๕๐๐ ๓.๑ อำคำรโรงเก็บ (Hangar) ๑๑๘,๕๐๐,๐๐๐ ๑๑๘,๕๐๐,๐๐๐ ๓.๒ ฐำนปล่อย ๒ แห่ง (Launch Pads) ๒,๕๖๐,๐๐๐,๐๐๐ ๒,๕๖๐,๐๐๐,๐๐๐ ๓.๓ ฐำนลงจอด ๒ แห่ง (Rocket Landing/Reentry) ๕๔,๔๐๐,๐๐๐ ๕๔,๔๐๐,๐๐๐
๔๐ รายละเอียด งบประมาณ (บาท) ที่ดินโครงการ ๒๗๔,๕๖๐,๐๐๐ ๓.๔ อำคำรควบคุมฐำนปล่อย (Mission Control Building) ๔,๗๔๐,๐๐๐ ๔,๗๔๐,๐๐๐ ๓.๕ โรงเก็บเชื้อเพลง/ ถนนภำยในโครงกำร (Fuel Handling/Road site) ๑๑๘,๒๘๑,๑๐๐ ๑๑๘,๒๘๑,๑๐๐ รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ๔,๕๒๖,๕๔๑,๐๐๐ (-สี่พันห้ำร้อยยี่สิบหกล้ำนห้ำแสนสี่หมื่นหนึ่งพันบำทถ้วน-) ตำรำงที่ ๔ ใช้เป็นตัวอย่ำงในกำรพิจำรณำค่ำใช้จ่ำยในกำรก่อสร้ำงท่ำ อวกำศยำนบำงส่วนเบื้องต้นเท่ำนั้น ยังไม่สำมำรถใช้เป็นข้อมูลด้ำนงบประมำณในกำรพัฒนำท่ำอวกำศ ยำนทั้งหมดได้ เนื่องจำกยังมีอีกหลำยส่วนประกอบที่ต้องค ำนึงถึง อำทิ Service Structure, Mobile Service Structure, Weather Tower, Water Tower, Flame Trench, Propulsion Testing Building, Rocket Manufacturing Estate, Expropriation of Land, and etc. งบประมำณในกำรก่อสร้ำงขึ้นอยู่กับหลำยปัจจัย ไม่ว่ำจะเป็นเรื่องของ ขนำด จ ำนวน สิ่งอ ำนวยควำมสะดวกที่ต้องกำร กำรปรับพื้นที่ อัตรำเวนคืนพื้นที่ หรือควำมเชี่ยวชำญ ในกำรพัฒนำท่ำอวกำศยำนจะผู้ก่อสร้ำง และอัตรำเงินบำทในช่วงเวลำดังกล่ำว เป็นต้น ๒.๑.๔ แนวทางการก าหนดพื้นที่การให้บริการในประเทศไทย รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรอุดมศึกษำ วิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ศำสตรำจำรย์พิเศษ ดร. เอนก เหล่ำธรรมทัศน์ ได้กล่ำวไว้ว่ำ “หลายประเทศเขาขึ้นไปศึกษาบนดวงจันทร์บนดาวอังคาร เราไม่จ าเป็นต้องไปแข่ง อะไรที่เกินตัว แต่โอกาสของเรายังมี เพราะประเทศไทยเป็น ๑ ใน ๗ สถานที่ของโลกที่เหมาะกับการ เป็น Spaceport หรือ สถานียิงจรวดและส่งดาวเทียม โดยเฉพาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เส้น ศูนย์สูตรและอยู่ติดกับทะเลนี่คือจุดแข็งของประเทศไทย” โด ย ว ำ รส ำ ร Space of The World ของ CSIS (Center for Strategics & International Studies) (T. G. Roberts, 2019) ได้ให้นิยำมกำรพิจำรณำที่ตั้งของกำรพัฒนำท่ำอวกำศ ยำน Spaceport ไว้ดังต่อไปนี้
๔๑ ๒.๑.๔.๑ ข้อพิจารณาการจัดตั้งท่าอวกาศยานในประเทศ ๑)การพิจารณาทางภูมิศาสตร์(Geographic Considerations) ต ำแหน่งละติจูด (latitude) ของที่ตั้งท่ำอวกำศยำน หรือ Spaceport มีควำมสัมพันธ์อย่ำงยิ่งต่อควำมเร็วของจรวดที่ท ำกำรส่งไปอวกำศ โดยต ำแหน่งละติจูดของท่ำ อวกำศยำน (Spaceport) ที่อยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตร หรือ equator จะส่งผลให้เกิดแรงเหวี่ยงจำก กำรหมุนของโลกช่วยในกำรเคลื่อนที่ของจรวด ท ำให้จรวดมีควำมเร็วเพิ่มมำกขึ้นโดยที่ไม่จ ำเป็นต้อง สิ้นเปลืองพลังงำนเชื้อเพลิงที่ใช้ในกำรส่งจรวด ดังนั้น ต ำแหน่งที่ตั้งท่ำอวกำศยำน (Spaceport) ที่อยู่ ใกล้เส้นศูนย์สูตร จะท ำให้กำรพัฒนำจรวดด้ำนพลังงำนเชื้อเพลิงมีต้นทุนต่ ำกว่ำในแถบโซนอื่น ๆ ที่อยู่ ไกลเส้นศูนย์สูตรออกไป แสดงกรำฟเปรียบเทียบควำมสัมพันธ์ระหว่ำงต ำแหน่งละติจูดที่ตั้งของท่ำ อวกำศยำนและควำมเร็วที่เกิดขึ้นจริงจำกกำรส่งจรวด ณ ศูนย์อวกำศยุโรป Guiana Space Center, ศูนย์อวกำศเคนเนดี้ Cape Canaveral, ศูนย์อวกำศฐำนทัพอำกำศ Vanden- berg, ท่ำอวกำศยำน Baikonur และ Plesetsk สหพันธรัฐรัสเซีย ดังต่อไปนี้ ภาพที่ ๒๕ Velocity at Earth’s Surface by Latitude ๒) การพิจารณามุมยิง (Azimuth Limitations) นอกจำกต ำแหน่งที่เหมำะสมในทำงฟิสิกส์แล้ว ข้อจ ำกัดรัศมีมุมยิง ในแนวกวำด หรือ Azimuth Limitation คือสิ่งส ำคัญในกำรพิจำรณำ Launch Windows ให้กับ จรวด ซึ่งนอกจำกจะส่งผลถึงพื้นที่ตกของชิ้นส่วนจรวด (Drop Zone หรือ Rocket Stages Fall Back) และมลพิษที่จะเกิดขึ้นในชั้นบรรยำกำศอันเนื่องมำจำกน้ ำมันเชื้อเพลิงหรือกำรเผำไหม้ จำกกำรจุดระเบิดแล้วมุมยิงจะมีควำมสัมพันธ์อย่ำงยิ่งต่อกำรขึ้นสู่วงโคจรของดำวเทียม
๔๒ ซึ่งหำกส่งไปผิดวงโคจรจะท ำให้สูญเสียพลังงำนเชื้อเพลิงอย่ำงมำกในกำรปรับแก้ไขวงโคจร หรืออำจจะสูญเสียดำวเทียมไปทั้งดวงเนื่องจำกไม่สำมำรถใช้งำนเพย์โหลดได้ตำมวัตถุประสงค์ ตั้งต้น (Mission Requirement) ที่ก ำหนดไว้ได้ ภาพที่ ๒๖ ตัวอย่ำง Azimuth Limitations ณ แหลมคำนำเวอรัล และเวนเดนเบิร์ก
๔๓ ๓) การพิจารณาโอกาสการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ(Disaster) ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติต่ำง ๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยในแต่ละพื้นที่ เป็นอีกเรื่องส ำคัญที่ต้องค ำนึงถึงในกำรจัดตั้งท่ำอวกำศยำน (Spaceport) ยกตัวอย่ำงเช่น สึนำมิ แผ่นดินไหว หรือ พำยุรุนแรง เป็นต้น กำรเลือกต ำแหน่งที่ดีที่ปรำศจำกประวัติทำงภัยพิบัติ หรือกำรเลือกพื้นที่ยกสูงให้พ้นจำกโอกำสฝนตกหนัก น้ ำท่วมขัง หรือใช้วิธีก่อสร้ำงให้สถำนี ท่ำอวกำศยำนมีควำมแข็งแรงมำกเป็นพิเศษจะสำมำรถช่วยบรรเทำภัยพิบัติทำงธรรมชำติ ที่ไม่สำมำรถหลีกเลี่ยงได้ และกำรวำงแผนป้องกันในกรณีภัยพิบัติที่อำจเกิดขึ้นโดยคำดไม่ถึง เป็นเรื่องที่ควรกระท ำในกำรก่อสร้ำงท่ำอวกำศยำน เช่น แผ่นดินไหวรุนแรง เป็นต้น ๔) การพิจารณาด้านอื่น ๆ กำรพิจำรณำประเด็นต่ำง ๆ ในกำรจัดตั้งท่ำอวกำศยำน (Spaceport) ดังที่กล่ำวมำข้ำงต้น เป็นกำรค ำนึงถึงต ำแหน่งและควำมเหมำะสมในกำรคัดเลือกสถำนที่จัดตั้ง นอกจำกนี้ ยังมีประเด็นในด้ำนต่ำง ๆ ที่ต้องค ำนึงถึงตำมกฎสำกลทั่ว ๆ ไป ดังต่อไปนี้ Accessibility การเข้าถึง : ผู้จัดตั้งจะต้องค ำนึงถึงกำรเข้ำถึง บริเวณพื้นที่ของท่ำอวกำศยำน (Spaceport) ซึ่งจะต้องถูกก ำหนดและป้องกันกำรเข้ำออก ทั้งผู้ได้รับอนุญำตและผู้ไม่ได้รับอนุญำตเช่นเดียวกับกฎระเบียบของสนำมบิน และอำจจะต้อง เข้มงวดกว่ำมำก ดังนั้น กำรพิจำรณำสร้ำงทำงเข้ำออกปกติ หรือ ทำงเข้ำออกพิเศษ กำรติดบัตร แสดงตน หรือกำรลักลอบเข้ำมำเป็นสิ่งที่ผู้จัดตั้งต้องค ำนึงถึง เป็นต้น ทั้งนี้รวมไปถึงระบบโลจิสติกส์ ในกำรขนส่งจรวดหรือดำวเทียม และกำรเคลื่อนย้ำยต่ำง ๆ ของจรวดขนำดใหญ่จำกสถำนที่ ประกอบและทดสอบ เช่น จำกโรงงำนประกอบจรวดเดินทำงมำยังท่ำอวกำศยำนที่จะต้องรำบรื่น สะดวก และปลอดภัย Neighboring Airspace พื้นที่อากาศใกล้ข้างเคียง : กำรส่งจรวด ไปอวกำศในแต่ละครั้ง ผู้ก่อตั้งจ ำเป็นต้องค ำนึงถึงกำรเคลื่อนที่ผ่ำนพื้นที่ต่ำง ๆ ของจรวดด้วย เป็นส ำคัญ อำทิ น่ำนฟ้ำประเทศเพื่อนบ้ำน หรือ เที่ยวบินในประเทศต่ำง ๆ ดังนั้น กำรจัดท ำ ข้อตกลงในกำรใช้น่ำนฟ้ำหรือพื้นที่ผ่ำนต่ำง ๆ ระหว่ำงประเทศ เป็นสิ่งที่ควรประสำนขออนุญำต หรือควำมร่วมมือแต่ต้น ยกตัวอย่ำงเช่น กำรปล่อยชิ้นส่วนของจรวดที่ใช้เชื้อเพลิงหมดแล้วนั้น ควรจะมีวิธีดูแลอย่ำงไร หรือตกลงในพื้นที่ใด ทั้งนี้ หำกประเทศไทยสำมำรถใช้จรวดชนิดกลับคืนได้ หรือ Reusable Rocket จะท ำให้ไม่มีปัญหำในเรื่องกำรขอใช้พื้นที่ตกของชิ้นส่วน เนื่องจำก ทุกชิ้นส่วนของจรวดจะสำมำรถเคลื่อนกลับยังที่หมำยที่ก ำหนดไว้ได้เองอัตโนมัติ ทั้งนี้ หำกมี
๔๔ ควำมจ ำเป็นจะต้องจัดตั้งท่ำอวกำศยำน (Spaceport) ในพื้นที่ประเทศพื้นบ้ำนหรือเพื่อติดตำม กำรส่งจรวดในประเทศเพื่อนบ้ำนผู้ก่อตั้งควรด ำเนินกำรประสำนจัดท ำควำมร่วมมือและข้อตกลง ไว้แต่เนิ่น Political Stability ความมั่นคงทางการเมือง : ประเทศจะต้องมี ควำมมั่นคงทำงกำรเมืองในระดับหนึ่ง โดยที่ท่ำอวกำศยำน (Spaceport) จะไม่ตกเป็นเป้ำหมำย ในกำรใช้เพื่อกำรต่อรอง หรือ ไม่ถูกสั่งยกเลิกกำรก่อสร้ำงในรัฐบำลถัดไป ตลอดจนกำรลอบเข้ำมำ ในพื้นที่เพื่อสร้ำงสถำนกำรณ์ทำงกำรเมืองใด ๆ เป็นต้น Public Awarenessการประกาศแจ้งเตือนสู่สาธารณะ :กำรประกำศ และแจ้งเตือนที่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มก่อสร้ำง ระหว่ำงด ำเนินกำรก่อสร้ำง จนกระทั่งก่อสร้ำงเสร็จ และกำรก ำหนดกำรใช้งำนต่ำง ๆ ผู้ก่อตั้งจะต้องด ำเนินกำรประกำศและแจ้งอย่ำงชัดเจนสู่สำธำรณะ โดยเฉพำะประชำชนที่อำศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์หลำย ๆ อย่ำง เช่น กำรวำงแผนทำงธุรกิจทั้งขนำดเล็กและขนำดย่อมของประชำชน กำรป้องกันเบื้องต้นของประชำชน หรือเปิดให้สำมำรถเข้ำเยี่ยมชมหรือเพื่อกำรท่องเที่ยวในพื้นที่นั้น ๆ เป็นต้น ๒.๑.๔.๒ พื้นที่ที่มีความเป็นไปได้ในประเทศไทย ประเทศไทยตั้งอยู่ในต ำแหน่งละติจูด (latitude) ช่วงประมำณ ๕°N - ๒๐°N ซึ่งยิ่งใกล้เส้นศูนย์สูตรจะยิ่งส่งผลดีต่อกำรส่งจรวดตำมที่บรรยำยไปข้ำงต้น แสดงต ำแหน่ง ละติจูดและลองจิจูดของโลกในภำพด้ำนล่ำงดังต่อไปนี้ ภาพที่ ๒๗ World Map
๔๕ ภำพที่ ๒๗ ระบุต ำแหน่งของประเทศไทยใกล้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งนับเป็น ต ำแหน่งที่ดีส ำหรับกำรยิงจรวดไปในทิศหมุนตำมโลก เนื่องจำกแรงหมุนของโลกจะช่วยให้เกิด ควำมเร็วในกำรส่งเพิ่มมำกขึ้น ภาคใต้ เนื่องด้วยภำคใต้ของประเทศไทยจะอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรมำกที่สุด จึงมีควำมเหมำะสมเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ รวมทั้งยังสำมำรถเลือกใช้ประเภทของจรวด ได้ทั้งแบบธรรมดำและแบบกลับคืนได้ (Reusable Rocket) นอกจำกนี้ ยังมีพื้นที่ติดทะเลที่สำมำรถ ทิ้งชิ้นส่วนของจรวดลงในทะเลได้ แต่ทั้งนี้ ต้องระวังในเรื่องของเรือขนสินค้ำที่เดินทำงไปมำ ในอ่ำวไทย แสดงตัวอย่ำงจังหวัดนรำธิวำสและจังหวัดพังงำ ที่มีท ำเลเหมำะสมแก่กำรจัดตั้ง ท่ำอวกำศยำนประเทศไทย Spaceport Thailand ปรำกฏตำมภำพที่ ๒๘ และภำพที่ ๒๙ ดังนี้ ภาพที่ ๒๘ ภำพถ่ำยดำวเทียมไทยโชต: ชำยหำดสะปอม อ ำเภอตำกใบ และพื้นที่บริเวณ อ ำเภอระแงะ จังหวัดนรำธิวำส
๔๖ ภาพที่ ๒๙ แหลมหัวกรังใหญ่ อ ำเภอตะกั่วป่ำ จังหวัดพังงำ หำกท ำกำรพิจำรณำพื้นที่ย่ำนอุตสำหกรรม เศรษฐกิจและกำรท่องเที่ยวครบวงจร เช่น เขตพัฒนำ พิเศษภำคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) กำรจัดตั้งท่ำอวกำศยำน (Spaceport) ในพื้นที่ดังกล่ำว สำมำรถเลือกท่ำอวกำศยำนแบบส่งจำกกลำงทะเลอ่ำวไทยได้ เรียกว่ำ SeaLaunch เป็นต้น ภาพที่ ๓๐ อ่ำวไทย
๔๗ กำรจัดตั้งท่ำอวกำศยำนแบบแท่นส่งจรวดกลำงทะเลอ่ำวไทยจะมีควำมจ ำเพำะเจำะจงเป็นอย่ำงมำก เช่นอำจจะไม่สำมำรถพัฒนำลำนลงจอดยำนอวกำศ หรือ Shuttle Landing Facility ได้ แต่แท่นส่งจรวดกลำงทะเลจะสำมำรถส่งดำวเทียมได้ทุกวงโคจรโดยไม่สูญเสียพลังงำน หรือระยะเวลำในกำรปรับวงโคจรมำก ทั้งนี้ ปัญหำกำรกีดขวำงกำรเดินเรือสินค้ำในอ่ำวไทย ยังเป็นเรื่องที่ต้องได้รับกำรพิจำรณำอย่ำงละเอียดถี่ถ้วนต่อไป ภาคกลางตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตำมที่กล่ำวมำข้ำงต้น หำกท่ำอวกำศยำน (Spaceport) เลือกใช้เฉพำะ จรวดที่สำมำรถกลับคืนที่ตั้งได้โดยไม่ตกลงพื้นที่ใด ๆ ให้ได้รับควำมเสียหำย หรือจรวดประเภท Reusable Rocket หรือกำรพัฒนำจัดตั้งท่ำอวกำศยำนมุ่งเน้นเฉพำะกำรท่องเที่ยวในอวกำศ โดยไม่มีกำรส่งดำวเทียมด้วยจรวดขนำดใหญ่ ดังนั้น กำรคัดเลือกพื้นที่จัดตั้งก็สำมำรถใช้พื้นที่รำบ ในภำคกลำงตอนบนและภำคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยได้ ยกตัวอย่ำงดังต่อไปนี้ ภาพที่ ๓๑ จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดยโสธร จำกกำรพิจำรณำพื้นที่ในภำคต่ำง ๆ ของประเทศไทย พบว่ำยังมีอีกหลำยจังหวัดในประเทศที่มี ควำมเหมำะสม ในกำรจัดตั้งท่ำอวกำศยำนประเทศไทย หรือ Spaceport Thailand ทั้งนี้ กำรพิจำรณำในรำยงำนฉบับนี้เป็นเพียงกำรพิจำรณำควำมเป็นไปได้และควำมเหมำะสมเบื้องต้น เท่ำนั้น ซึ่งยังมีรำยละเอียดอีกมำกที่จะต้องด ำเนินกำรวิเครำะห์อย่ำงละเอียดถี่ถ้วน และจังหวัด
๔๘ ที่ยกตัวอย่ำงมำข้ำงต้นอำจจะไม่มีควำมเหมำะสมเลยก็เป็นได้ จึงจ ำเป็นต้องจัดท ำกำรศึกษำควำม เป็นไปได้ Feasibility Study (FS) อย่ำงละเอียดต่อไป แสดงพื้นที่ที่เป็นไปได้ในกำรจัดตั้งท่ำอวกำศยำนประเทศไทย Spaceport Thailand ดังต่อไปนี้ ภาพที่ ๓๒ จังหวัดที่เป็นไปได้ในกำรพัฒนำธุรกิจกำรน ำส่งดำวเทียมขึ้นสู่วงโคจร
๔๙ จำกกำรวิเครำะห์ต ำแหน่งที่เหมำะสมในกำรพัฒนำท่ำอวกำศยำนในแต่ละจังหวัดของประเทศไทย โดยพิจำรณำเบื้องต้นที่รำยละเอียดต ำแหน่งและควำมเหมำะสม ยกตัวอย่ำงเช่น มีพื้นที่ติดทะเล มี พื้นที่รำบขนำดใหญ่ (รัศมีประมำณ ๕ – ๑๐ กม. โดยประมำณ) ซึ่งเป็นระยะเฉลี่ยที่ปลอดภัยจำก แรงระเบิดของจรวดน ำส่ง และไม่ติดกับภูเขำ หรือไม่เกิดภัยพิบัติ เป็นต้น สำมำรถน ำเสนอจังหวัดที่ มีควำมเป็นไปได้ในกำรพัฒนำท่ำอวกำศยำนประเทศไทย Spaceport Thailand ได้ดังต่อไปนี้ ตารางที่ ๕ กำรพิจำรณำ Spaceport Thailand ในแต่ละจังหวัดตำมภำพที่ ๒๘ จังหวัด Enough Space Normal Rocket Reusable Rocket Sunsynchronous orbit Industry Estate Resource (metal, propellant) Culture supports ภาคกลางตอนบน นครสวรรค์ ลพบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยโสธร ร้อยเอ็ด กำฬสินธุ์ ภาคใต้ ประจวบคีรีขันธ์ พังงำ นครศรีธรรมรำช ปัตตำนี นรำธิวำส อ่ำวไทย
๕๐ ๒.๑.๕ ความแตกต่างการส่งจรวดในแนวเส้นศูนย์สูตรและแนวสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์ กำรส่งดำวเทียมขึ้นสู่วงโคจรในปัจจุบันมีแนวนิยมอยู่หลัก ๆ ด้วยกัน ๒ ลักษณะ ได้แก่ ๑) วงโคจรในแนวเส้นศูนย์สูตร (Equatorial Orbit) และ ๒) วงโคจรในแนวสัมพันธ์กับ ดวงอำทิตย์ (Sun-synchronous) ดังมีรำยละเอียดเบื้องต้นดังต่อไปนี้ ๒.๑.๕.๑ การส่งดาวเทียมวงโคจรเส้นศูนย์สูตร (Equatorial Orbit) กำรส่งดำวเทียมในแนวนี้และส่งในทิศทำงเดียวกับที่โลกหมุน คือ จำกตะวันตกไปตะวันออก (West-to-East) จะเป็นกำรส่งจรวดที่ประหยัดพลังงำนมำกที่สุด เนื่องจำก จะได้แรงกำรเหวี่ยงของโลกช่วยในกำรส่ง แต่ดำวเทียมที่ส่งในแนว equator จะเป็นดำวเทียมสื่อสำร ที่ต้องส่งไกลถึงวงโคจรแบบค้ำงฟ้ำ หรือ Geostationary Orbit แสดงภำพตัวอย่ำงกำรส่งดำวเทียมในแนว Equatorial Orbit จำกอ่ำวไทย ภาพที่ ๓๓ กำรส่งดำวเทียมขึ้นสู่วงโคจรในแนวเส้นศูนย์สูตร (Equatorial Orbit) ๒.๑.๕.๒ การส่งดาวเทียมวงโคจรสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์ (Sun –Synchronous) กำรส่งดำวเทียมในแนวนี้ จะท ำให้ดำวเทียมโคจรกลับมำในใกล้เคียงกับ เวลำที่ดำวเทียมส่งขึ้นสู่วงโคจรมำกที่สุด (Local Solar Time) ซึ่งเป็นวงโคจรที่นิยมมำกส ำหรับ กำรใช้งำนในลักษณะที่ต้องกำรต ำแหน่งเดิม หรือดำวเทียม revisit กลับมำที่เดิมเพิ่มท ำกำร เปรียบเทียบหรือเพื่อกำรท ำงำนประจ ำที่เวลำคงที่ในแต่ละวัน ทั้งนี้ หำกจ ำเป็นจะต้องส่งดำวเทียม ในแนว Sun-synchronous orbit ณ ประเทศไทย จ ำเป็นต้องส่งไปทำงทิศตะวันตกเฉียงใต้ ของประเทศไทยตำมกำรค ำนวณแบบ Astrodynamics
๕๑ แสดงภำพตัวอย่ำงกำรส่งดำวเทียมในแนว Sun-synchronous orbit จำก จังหวัดชุมพร ภาพที่ ๓๔ กำรส่งดำวเทียมขึ้นสู่วงโคจรในแนวสัมพันธ์กับดวงอำทิตย์ (Sun-synchronous Orbit) ๒.๑.๖ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บทบำทและหน้ำที่ของภำครัฐต่อกำรก ำหนดระเบียบและกำรควบคุมดูแล ท่ำอวกำศยำนประเทศไทย จะต้องได้รับกำรพิจำรณำใหม่อย่ำงละเอียดถี่ถ้วน เนื่องจำกในปัจจุบัน ยังไม่มีหน่วยงำนใดมีอ ำนำจหน้ำที่โดยตรงในกำรควบคุมดูแล Spaceport Thailand รวมทั้ง ประเทศยังต้องจัดตั้งองค์กรที่เกี่ยวข้อง อำทิ ส ำนักงำนกับก ำกิจกำรอวกำศแห่งชำติ หรือ องค์กำร อวกำศแห่งชำติ (National Space Agency) เพื่อควบคุมดูแล และก ำหนดบทบำทหน้ำที่ในแต่ละ ส่วนอย่ำงชัดเจนต่อไป ทั้งนี้ ในเบื้องต้นหน่วยงำนที่คำดว่ำจะมีบทบำทและอ ำนำจหน้ำที่เกี่ยวข้อง แสดงในตำรำงด้ำนล่ำงต่อไปนี้
๕๒ ตารางที่ ๖ บทบำทและอ ำนำจหน้ำที่ของหน่วยงำนรัฐที่เกี่ยวข้อง ล าดับที่ หน่วยงาน บทบาทที่เกี่ยวข้อง ๑ ส ำนักงำนพัฒนำเทคโนโลยีอวกำศ และภูมิสำรสนเทศ (องค์กำรมหำชน) (ที่มำ: https://www.gistda.or.th) ๑. พัฒนำเทคโนโลยีอวกำศและภูมิสำรสนเทศให้เป็น ควำมรู้ที่ไร้พรมแดนและเกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม ๒. ให้บริกำรข้อมูลที่ได้จำกเทคโนโลยีอวกำศและ ภูมิสำรสนเทศ ซึ่งรวมทั้งกำรจัดท ำแผนที่และ บริกำรอื่นที่เกี่ยวข้อง ๓. ให้บริกำรจัดหำเครื่องมือ ออกแบบ หรือบริกำร ใด ๆ โดยใช้ควำมรู้ด้ำนเทคโนโลยีอวกำศและ ภูมิสำรสนเทศให้แก่หน่วยงำนของรัฐ ๔. ให้บริกำรให้ค ำปรึกษำและพัฒนำบุคลำกร ในด้ำนเทคโนโลยีอวกำศและภูมิสำรสนเทศ ๕. ศึกษำ ค้นคว้ำ วิจัย พัฒนำและด ำเนินกำรอื่น ที่เกี่ยวข้องหรือต่อเนื่องกับเทคโนโลยีอวกำศและ ภูมิสำรสนเทศ ซึ่งรวมทั้งกำรจัดหำ กำรพัฒนำ และกำรสร้ำงระบบดำวเทียม ๖. ส่งเสริมควำมร่วมมือและให้บริกำรด้ำนเทคโนโลยี อวกำศและภูมิสำรสนเทศทั้งในประเทศ และต่ำงประเทศ ๒ กองกิจกำรอวกำศแห่งชำติ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรดิจิทัลเพื่อ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ (ที่มำ:https://www.onde.go.th) ๑. เสนอแนะนโยบำย และจัดท ำแผนแม่บทกำรพัฒนำ กิจกำรอวกำศของประเทศให้สอดคล้องกับ แผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำตินโยบำย รัฐบำลและนโยบำยของกระทรวง ๒. ประสำนแผนปฏิบัติงำน ส่งเสริมสนับสนุน กำรน ำเทคโนโลยีอวกำศมำใช้เพื่อประโยชน์
๕๓ ล าดับที่ หน่วยงาน บทบาทที่เกี่ยวข้อง ของหน่วยงำนองค์กร และเอกชนในประเทศ ให้สอดคล้องกับแผนแม่บทกำรพัฒนำกิจกำร อวกำศของ ประเทศรวมถึงประสำนควำมร่วมมือ กับรัฐบำลและองค์กำรระหว่ำงประเทศด้ำนกิจกำร อวกำศ ๓. เป็นศูนย์กลำงข้อมูลกำรศึกษำและประสำน ด้ำนกิจกำรอวกำศและกำรน ำมำใช้ประโยชน์ กับหน่วยงำนที่เกี่ยวข้องภำยในประเทศ และต่ำงประเทศเพื่อควำมเป็นเอกภำพ ๔. ศึกษำ วิจัย และติดตำมควำมก้ำวหน้ำทำง เทคโนโลยีอวกำศ เพื่อกำรประยุกต์ใช้ประโยชน์ที่ เหมำะสม ของประเทศ ๕. ปฏิบัติงำนร่วมกับหรือสนับสนุนกำรปฏิบัติงำน ของหน่วยงำนอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมำย ๓ กรมเทคโนโลยีสำรสนเทศและอวกำศ กลำโหม (ที่มำ: https://dist.mod.go.th/ Recommend/Responsibility.aspx) ๑.พิจำรณำเสนอควำมเห็น วำงแผน อ ำนวยกำร ประสำนงำนและก ำกับดูแลเกี่ยวกับเทคโนโลยี สำรสนเทศ กำรสื่อสำร เทคโนโลยีดิจิทัลไซเบอร์ คลื่นควำมถี่ กิจกำรอวกำศและภำพถ่ำยดำวเทียม เพื่อควำมมั่นคงรวมทั้งนโยบำยด้ำนกำรฝึก กำรศึกษำ กำรดูงำน กำรอบรม และ กำรประชุมสัมมนำ เพื่อติดตำมควำมก้ำวหน้ำ ทำงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องของกระทรวงกลำโหม
๕๔ ล าดับที่ หน่วยงาน บทบาทที่เกี่ยวข้อง ๒. พิจำรณำเสนอควำมเห็น วำงแผน อ ำนวยกำร ประสำนงำน ก ำกับดูแล และด ำเนินกำรเกี่ยวกับ เทคโนโลยีสำรสนเทศ กำรสื่อสำรโทรคมนำคม เทคโนโลยีดิจิทัลไซเบอร์ คลื่นควำมถี่ กำรรักษำ ควำมปลอดภัยเครือข่ำย และภูมิสำรสนเทศ ของส ำนักงำนปลัดกระทรวงกลำโหม ๓.ด ำเนินกำรเกี่ยวกับกิจกำรอวกำศและภำพถ่ำย ดำวเทียมเพื่อควำมมั่นคงของกระทรวงกลำโหม ๔.ด ำเนินกำรและก ำกับดูแลด้ำนเทคโนโลยีสำรสนเทศ กำรสื่อสำร เทคโนโลยีดิจิทัล ไซเบอร์ ของ ส ำนักงำนปลัดกระทรวงกลำโหม ระบบฐำนข้อมูล ของกระทรวงกลำโหม ตลอดจนระบบกำรเชื่อมโยง ข่ำยงำนข้อมูลสำรสนเทศภำยในส ำนักงำน ปลัดกระทรวงกลำโหม และหน่วยขึ้นตรง กระทรวงกลำโหม รวมทั้งส่วนรำชกำร อื่นที่เกี่ยวข้อง ๕.ด ำเนินกำรตรวจสอบและพิจำรณำรับรองด้ำน เทคโนโลยีสำรสนเทศ กำรสื่อสำร เทคโนโลยีดิจิทัล ให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์ ระเบียบปฏิบัติ และ มำตรฐำนทำงวิศวกรรม ๖.ศึกษำ ติดตำม และเผยแพร่ควำมก้ำวหน้ำของ เทคโนโลยีอวกำศ สำรสนเทศ กำรสื่อสำร เทคโนโลยีดิจิทัล ไซเบอร์ จำกสถำบัน องค์กร และ
๕๕ ล าดับที่ หน่วยงาน บทบาทที่เกี่ยวข้อง หน่วยงำนที่เกี่ยวข้องทั้งภำยในและภำยนอก ประเทศ ๔ บริษัท วิทยุกำรบินแห่งประเทศไทย จ ำกัด (บวท.) (ที่มำ: https://www.aerothai.co.th/ th/ about/management) ๑. กำรบริหำรจรำจรทำงอำกำศ (Air Traffic Management) ภำยในเขตแถลงข่ำวกำรบิน กรุงเทพฯ (Bangkok Flight Information Region: Bangkok FIR) เพื่อควำมปลอดภัยและ ประสิทธิภำพทำงกำรบินของผู้ใช้ห้วงอำกำศใน ประเทศไทย ๒. กำรบริกำรระบบสื่อสำร ระบบช่วยกำรเดินอำกำศ และระบบติดตำมอำกำศยำน (Aeronautical Communications, Navigation and Surveillance System/Services) ๓. กำรบริกำรข่ำวสำรกำรเดินอำกำศและงำนแผนที่ เดินอำกำศ (Aeronautical Information Services and Aeronautical Charts) ๕ กรมเจ้ำท่ำ (ที่มำ: https://md.go.th/authority-andmission/) ๑.ด ำเนินกำรตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรเดินเรือ ในน่ำนน้ ำไทย กฎหมำยว่ำด้วยเรือไทยกฎหมำย ว่ำด้วยกำรป้องกันเรือโดนกัน กฎหมำยว่ำด้วยกำร ส่งเสริมกำรพำณิชยนำวี กฎหมำยว่ำด้วยกำรขนส่ง ต่อเนื่องหลำยรูปแบบ และกฎหมำยอื่นที่เกี่ยวข้อง ๒. ด ำเนินกำรจัดระเบียบกำรขนส่งทำงน้ ำและ กิจกำรพำณิชยนำวี ๓. ร่วมมือและประสำนงำนกับองค์กำรและหน่วยงำน ที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่ำงประเทศในด้ำน
๕๖ ล าดับที่ หน่วยงาน บทบาทที่เกี่ยวข้อง กำรขนส่งทำงน้ ำกำรพำณิชยนำวี และในส่วนที่ เกี่ยวกับอนุสัญญำและควำมตกลงระหว่ำงประเทศ ๖ ส ำนักกิจกำรดำวเทียมสื่อสำร ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกิจกำร กระจำยเสียง กิจกำรโทรทัศน์ และ กิจกำรโทรคมนำคมแห่งชำติ (ที่มำ: www.nbtc.go.th) ๑. กำรจัดท ำแผนกำรบริหำรสิทธิในกำรเข้ำใช้วงโคจร ดำวเทียม และด ำเนินกำรให้เป็นไปตำมแผน ก ำหนดหลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไขกำรอนุญำต ให้มีกำรใช้สิทธิในกำรเข้ำใช้วงโคจรดำวเทียม กำรประกอบกิจกำรโดยใช้ช่องสัญญำณดำวเทียม ต่ำงชำติ และกำรจัดสรรช่องสัญญำณดำวเทียม สื่อสำรให้หน่วยงำนของรัฐ พิจำรณำอนุญำต ในกำรเข้ำใช้วงโคจรดำวเทียมและกำรใช้ ช่องสัญญำณดำวเทียมต่ำงชำติ ติดตำม ตรวจสอบ และก ำกับดูแลเกี่ยวกับกำรด ำเนินกำรในกิจกำร ดำวเทียม สนับสนุนกำรด ำเนินกำรของรัฐ เพื่อให้มีดำวเทียมหรือให้ได้มำซึ่งสิทธิในกำร เข้ำใช้วงโคจรดำวเทียม รวมทั้งร่วมประสำนงำน เกี่ยวกับกำรบริหำรคลื่นควำมถี่ในกิจกำรดำวเทียม กับหน่วยงำนภำยในประเทศและองค์กรระหว่ำง ประเทศ ตลอดจนปฏิบัติงำนอื่น ๆ ตำมที่ ได้รับมอบหมำย
๕๗ ๒.๒ ธุรกิจ Outer Space Launching Infrastructure ๒.๒.๑ โครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจน าส่ง แม้นิยำมของธุรกิจจะมีควำมแตกต่ำงกันในแต่ละประเทศ แต่ส่วนประกอบโครงสร้ำง พื้นฐำนของธุรกิจน ำส่ง Space Launching Services ในแต่ละที่ก็มี Common Facilities ที่เหมือนกัน คือ ส่วนประกอบบำงสิ่งบำงอย่ำงจ ำเป็นต้องมีเหมือนกันในทุกประเทศ และบำงอย่ำงก็อำจจะถูกเพิ่ม เข้ำมำเป็น Option เสริมเพื่อรองรับเทคโนโลยีในอนำคตได้เช่นกัน ๒.๒.๑.๑ Runway Facility Runway หรือ Landing Facility เป็นส่วนประกอบหลักส ำหรับ Spaceport ที่มีกำรส่งดำวเทียมหรือวัตถุไปอวกำศด้วยเครื่องบิน ยำนอวกำศ หรือ Spacecraft ที่ขึ้นบิน ในลักษณะแนวนอน โดยจะเตรียมไว้ส ำหรับรองรับกำรขึ้นบินหรือลงจอด (Takeoff-Landing) ในแนวนอนของพำหนะนั้น ๆ ลักษณะภำยนอกมีควำมคล้ำยคลึงกับรันเวย์ของสนำมบินทั่วไป แต่มีควำมยำว และควำมแข็งแรงกว่ำ เพรำะต้องรองรับพำหนะที่กลับมำจำกอวกำศที่มีควำมเร็ว และขนำดใหญ่ เช่น ยำนอวกำศดิสคัฟเวอรี่ของ NASA เป็นต้น แสดงภำพ Shuttle Landing Facility ดังต่อไปนี้ ภาพที่ ๓๕ Runway Facility (ที่มำ: https://www.deseret.com/) จำกภำพเป็น Landing Facility ของ Space Florida, NASA ที่มีควำมยำวประมำณ ๔.๕๗๒ กิโลเมตร ใช้ส ำหรับกำรลงจอดยำนอวกำศ Space Shuttle ของ NASA ซึ่งปัจจุบัน NASA ได้ยกเลิกกำรเดินทำงไปอวกำศในลักษณะนี้แล้ว เนื่องจำกต้องใช้งบประมำณมำกกว่ำกำรส่งจรวด
๕๘ ในแนวตั้งหลำยเท่ำ แต่ปัจจุบัน กำรขึ้นลงอวกำศในแนวนอนถูกประยุกต์ใช้ส ำหรับธุรกิจกำร ท่องเที่ยวในอวกำศ (Space Tourism) ที่จะอำศัยเครื่องบินล ำเลียงบรรทุกยำนอวกำศขนำดเล็ก Small Spacecraft บรรจุคนได้ ๔-๖ คน เดินทำงไปยังขอบอวกำศที่ควำมสูงประมำณ ๘๐–๑๐๐ กิโลเมตร โดยประมำณ ๒.๒.๑.๒ Launch Pad Facility Rocket Launchpad (Launch Pad) หรือ ฐำนส่งจรวด เป็นส่วนประกอบ ที่ส ำคัญส ำหรับกำรส่งดำวเทียมขึ้นสู่วงโคจร ซึ่งต้องอำศัยจรวดน ำส่งที่มีแรงขับสูงเพื่อให้พ้นแรง ดึงดูดของโลกไปได้ โดยทั่วไปกำรตั้ง Launch Pad จะอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรหรือตอนใต้ของประเทศ เพื่อที่จะสำมำรถอำศัยแรงหมุนของโลกช่วยในกำรส่งจรวดไปสู่อวกำศได้ จึงท ำให้ยิ่งใกล้เส้น ศูนย์สูตรได้มำกเท่ำไร งบประมำณในกำรพัฒนำจรวดยิ่งน้อยลงเท่ำนั้นแสดงภำพตัวอย่ำง Launch Pad ดังต่อไปนี้ ภาพที่ ๓๖ Launch Pad Facility (ที่มำ: https://spaceflightnow.com/) โดยทั่วไป จรวดจะถูกเคลื่อนที่ไปยังฐำนปล่อยจรวดทั้งแบบนอนไป หรือ ตั้งไป ซึ่งกำรล ำเลียงจรวด ไปแบบนอน จะต้องมีระบบไฮดรอลิค หรือ Service Structure ที่มีประสิทธิภำพสูงในกำรยกจรวด ตั้งขึ้น ณ ฐำนปล่อยจรวด ส ำหรับกำรล ำเลียงจรวดแบบตั้งไป จะไม่ต้องใช้ระบบไฮดรอลิคในกำร
๕๙ ยกที่ปลำยทำงแต่จะต้องเคลื่อนที่อย่ำงช้ำๆ (Mobile Service Structure) และเส้นทำง (Crawlerway) ที่เคลื่อนที่ไปจะต้องรำบเรียบ เพื่อไม่ให้จรวดล้มระหว่ำงทำงนั่นเอง ๒.๒.๑.๓ Payload Assembly Building Facility อำคำรประกอบจรวด หรือ Rocket Assembly หรือ Payload Assembly Building นับเป็นส่วนประกอบที่ส ำคัญอย่ำงหนึ่ง เนื่องจำก โรงงำนผลิตจรวดโดยมำกจะไม่ประกอบ จรวดจนเสร็จแล้วถึงจะน ำมำส่งที่ไซต์ (Launch site) แต่จะแยกมำส่งและประกอบที่อำคำร ประกอบจรวดภำยในไซต์ ซึ่งหลังจำกประกอบเสร็จก็จะถูกขนส่งไปยัง Launch Pad ด้วย Mobile Service Structure (MSS) เคลื่อนที่ไปตำมเส้นทำงหรือรำงเลื่อนที่เตรียมไว้ (Crawlerway) ทั้งนี้ ระยะห่ำงระหว่ำงอำคำรประกอบดำวเทียมและฐำนปล่อยจรวด เป็นไปได้ตั้งแต่ระยะ ๑–๕ กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับลักษณะและขนำดของจรวดที่ใช้ในกำรส่งไปอวกำศ แสดงตัวอย่ำงอำคำร ประกอบจรวดของ บริษัท SpaceX ตำมภำพด้ำนล่ำงต่อไปนี้ ภาพที่ ๓๗ Payload Assembly Building Facility (ที่มำ: https://slovenia.si/excellence/launching-the-first-two-slovenian-satellites/)
๖๐ ๒.๒.๑.๔ Rocket Engine Test Facility โรงทดสอบระบบขับดันจรวด Propulsion System หรือ Rocket and Propulsion Test Facility เป็นส่วนประกอบที่ส ำคัญส ำหรับกำรทดสอบระบบขับดันของจรวด ซึ่งส่วนนี้ สำมำรถท ำกำรทดสอบในโรงงำนผลิตจรวดได้เลย หรือ สถำนที่โล่งห่ำงไกลชุมชน โดยจะต้องมีระบบดับเพลิงที่มีประสิทธิภำพควบคู่กันไปด้วย เช่น Water Tower เป็นต้น ภาพที่ ๓๘ Rocket Engine Test Facility (ที่มำ: https://www.nasa.gov/) ๒.๒.๑.๕ Rocket Hangar Facilities โรงเก็บจรวด เครื่องบิน หรือ ยำนอวกำศ Hangar คือ สถำนที่บ ำรุงรักษำ จรวดและอำกำศยำนหรือยำนอวกำศที่ท ำมำเพื่อกำรบินขึ้นสู่อวกำศ ปัจจุบันมีเฉพำะในส่วน ของธุรกิจกำรท่องเที่ยวในอวกำศเท่ำนั้น ซึ่งกำรบินไต่ระดับขึ้นไปลักษณะนี้ จะท ำให้ผู้โดยสำร ไม่ต้องฝึกสมรรถภำพร่ำงกำยให้แข็งแรงมำกเช่นกำรไปอวกำศด้วยจรวดที่ต้องสู้กับแรงดึงดูดโลก ดังนั้น ผู้สูงวัย คนชรำ ก็สำมำรถเดินทำงไปอวกำศได้ด้วยวิธีนี้
๖๑ จำกภำพด้ำนล่ำง จะเป็นเครื่องบิน ๔ เครื่องยนต์ ของ บริษัท The Spaceship Company (TSC) ที่บรรทุกยำนอวกำศขนำดเล็ก Virgin Galactic ไว้ตรงกลำง เมื่อบินไต่ระดับได้ที่ควำมสูงประมำณ ๓๐ – ๕๐ กิโลเมตร ก็จะจุดจรวดให้ Virgin Galactic บินไปยังขอบอวกำศที่ควำมสูงตั้งแต่ ๘๐–๑๐๐ กิโลเมตร โดยประมำณ ผู้โดยสำรจึงไม่จ ำเป็น ต้องสู้กับแรงดึงดูดของโลกมำกเช่นกำรโดยสำรไปกับจรวดในแนวตั้ง ภาพที่ ๓๙ Rocket Hangar Facility (ที่มำ: https://www.space.com/spacex-falcon-heavy-rocket-arabsat-๖a-assemblyvideo.html/) ๒.๒.๑.๖ Propellant handling Facility คลังเติมน้ ำมันเชื้อเพลิงจรวด โดยมำกจะอยู่ห่ำงจำกฐำนส่งจรวด หรือ Launch Pad ประมำณ ๑ กิโลเมตร เพื่อควำมปลอดภัย แล้วต่อท่อเข้ำมำที่ Launch Pad เพื่อท ำกำรเติมน้ ำมันเชื้อเพลิงให้จรวดก่อนท ำกำรส่งไปอวกำศไม่กี่ชั่วโมง น้ ำมันเชื้อเพลิงจรวดในปัจจุบัน มีทั้งเชื้อเพลิงแข็ง (Solid Propellant) และเชื้อเพลิงเหลว (Liquid Propellant) ซึ่งน้ ำมันเชื้อเพลิงเหลวเป็นที่นิยมใช้ในจรวดทั่ว ๆ ไป ได้แก่ ไนโตรเจนเหลว ไฮโดรเจนเหลว และ ออกซิเจนเหลว แต่เชื้อเพลิงแข็งประเภทดินปืน ก็ยังใช้อยู่ในส่วนของ Booster ตัวน ำส่งที่ต้องกำรแรงส่งขับดันสูงช่วยส่งจรวดไประยะไกล ๆ ในอวกำศ เช่น กำรส่งดำวเทียม Geostationary Orbit (GEO) เป็นต้น
๖๒ ภาพที่ ๔๐ RocketPropellant Facility (ที่มำ: https://www.nasa.gov/) ๒.๒.๑.๗ Launch Control Building อำคำรควบคุม ติดต่อ ติดตำม และกำรรับ-ส่งสัญญำณ เป็นสิ่งส ำคัญ ที่ต้องมีเพื่อมอนิเตอร์กำรส่งจรวดและดำวเทียมว่ำด ำเนินกำรส ำเร็จลุล่วงดีหรือไหม พร้อมทั้ง ประสำนงำน เฝ้ำระวัง และตรวจสอบในกรณีฉุกเฉินต่ำง ๆ ทั้งนี้ ศูนย์ควบคุม ไม่ควรอยู่ใกล้ กับฐำนปล่อยจรวดมำกเพรำะอำจได้รับควำมเสียหำยจำกแรงดันอำกำศที่เกิดขึ้นได้ ภาพที่ ๔๑ RocketPropellant Facility (ที่มำ: https://www.nasa.gov/)
๖๓ ๒.๒.๑.๘ Spaceport Terminal อำคำรผู้โดยสำร หรือ Terminal จะมีลักษณะเช่นเดียวกับสนำมบิน เพียงแต่เที่ยวบินที่จะไป ไม่ใช่เครื่องบินแบบทั่ว ๆ ไป แต่เป็นเที่ยวบินที่จะไปอวกำศด้วยยำนอวกำศ หรือจรวดควำมเร็วเสียง ดังนั้น ขั้นตอนต่ำง ๆ ในกำรเช็คอิน หรือตรวจสอบสัมภำระจะแตกต่ำงกัน รวมทั้งชุดที่ใช้ในกำรเดินทำงด้วย ซึ่งจะต้องมีกำรระบุให้ผู้โดยสำรทรำบอย่ำงชัดเจน เนื่องจำก เมื่อขึ้นไปในอวกำศแล้วจะพบกับสภำวะไร้แรงโน้มถ่วง (Microgravity) เสื้อผ้ำที่มีเครื่องประดับมำก หรือหมวกอำจจะไม่ได้รับอนุญำตให้สวมใส่ขณะท ำกำรบิน เป็นต้น ทั้งนี้ Space Gateway Center หรือ Space Terminal เหมำะส ำหรับ กำรพัฒนำ Spaceport ในรูปแบบธุรกิจกำรท่องเที่ยวในอวกำศเท่ำนั้น จำกภำพเป็นโมเดล ท่ำอวกำศยำนญี่ปุ่นที่เกิดจำกกำรลงทุนของนักธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นร่วมกันลงขันท ำธุรกิจกำร เดินทำงในอวกำศเพื่อรองรับอนำคตของโลกในอีก ๓๐ ปี ข้ำงหน้ำ (ค.ศ. ๒๐๕๐) ภาพที่ ๔๒ Spaceport Terminal (ที่มำ: https://www.thespacereview.com/)
๖๔ ๒.๒.๒ ความสามารถในการพัฒนาภายในประเทศ ๒.๒.๒.๑ ปัจจัยแห่งความส าเร็จในการจัดตั้งท่าอวกาศยาน ควำมส ำเร็จในกำรจัดตั้งท่ำอวกำศยำนประเทศไทย Spaceport Thailand ไม่ว่ำจะเป็นในแง่ของกำรลงทุนควำมร่วมมือหรืองบประมำณที่ใช้แล้ว จะต้องค ำนึงไปถึง ควำมส ำเร็จของประเทศและควำมพึงพอใจของประชำชนด้วย ซึ่งทุก ๆ อย่ำงรอบตัวจะต้องมีกำร บริหำรควำมเสี่ยงเพื่อน ำไปสู่ควำมส ำเร็จในกำรจัดตั้ง Spaceport Thailand ได้ในที่สุด UK Space Agency ได้กล่ำวไว้ว่ำ ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จที่ส ำคัญ Critical Success Factors ของ UK Space Agency ได้แก่ ก. Capability (๑) Proof of concept (๒) Increased automation leading to reduced operational cost ข. Reliability (๑) International marketing and customer acquisition thorough demonstration of reliability and safety (๒ ) Reduced insurance premiums leading to reduction in launch cost ค. Availability (๑) Demand generation through demonstration of reliability (๒) Increasing availability translates into reduced launch cost through lower manufacturing, operating costs, and overheads
๖๕ ภาพที่ ๔๓ Critical Success Factors, UK Space Agency แต่ประเทศไทยเป็นประเทศที่ก ำลังเริ่มต้นในเทคโนโลยีอวกำศ รวมทั้งก ำลังอยู่ระหว่ำงกำรจัดตั้ง พระรำชบัญญัติกิจกำรอวกำศและกำรขออนุมัติใช้แผนแม่บทอวกำศแห่งชำติ ๒๐ ปี จึงท ำให้ ไม่สำมำรถยึดเอำแนวทำงของ UK Space Agency มำใช้ได้ในเวลำนี้ได้ ดังนั้น ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ ในกำรจัดตั้งท่ำอวกำศยำนประเทศไทยหลัก ๆ ณ เวลำนี้ จะเป็นกำรจัดท ำกรอบแนวคิด ในกำรพัฒนำ Spaceport Thailand ฉบับนี้ และกำรจัดท ำ Feasibility Study (FS)อย่ำงละเอียดต่อไป ๒.๒.๒.๒ ความพร้อมของบุคลากรในประเทศ ในกำรพัฒนำดำวเทียม Satellite Sub-systems คือ ส่วนประกอบต่ำง ๆ ของดำวเทียมที่มีควำมส ำคัญมำก มีควำมซับซ้อนในระบบมีควำมละเอียดที่ต้องใส่ใจในกำรพัฒนำ แต่ก็ยังมีขนำดเล็กและสำมำรถด ำเนินกำรพัฒนำทั้งหมดภำยในอำคำรหรือห้องปฏิบัติกำรได้
๖๖ แต่กำรพัฒนำท่ำอวกำศยำน หรือ Spaceport นั้น เป็นเทคโนโลยีอวกำศขั้นสูงที่สูงกว่ำกำรพัฒนำ ดำวเทียม นอกจำกจะมีขนำดใหญ่และรำคำสูงกว่ำหลำยเท่ำแล้ว ยังมีส่วนประกอบส ำคัญ ขนำดใหญ่หลำยอย่ำงที่จ ำเป็นต้องใช้กำรพิจำรณำอย่ำงสูงในกำรพัฒนำแต่ละส่วน ๆ ดังนั้น กำรพัฒนำ Spaceport จึงมีหลำยสิ่งที่ต้องค ำนึงถึงมำกกว่ำกำรพัฒนำดำวเทียมหลำยเท่ำตัว เช่น กำรสร้ำงฐำนปล่อยจรวด ว่ำจะต้องอยู่จุดไหนในประเทศ กำรพัฒนำเสำหรือแท่นยึดจรวด (Umbilical Tower และ Service Structure) จะมีลักษณะอย่ำงไร รองรับจรวดประเภทไหน ได้บ้ำง รวมทั้งระบบแยกตัวและกำรค ำนวณเส้นทำง กำรบินของจรวด และอื่น ๆ อำทิ รูปแบบ กำรบริหำรกำรลงทุน ควำมคุ้มค่ำ ควำมเสี่ยง กำรหำลูกค้ำ หรือแม้แต่วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ที่จะเปลี่ยนไป ควำมพึงพอใจของประชำชนหรือท่ำทีของประเทศเพื่อนบ้ำน เป็นต้น ประเทศไทยในปัจจุบันนับว่ำมีควำมก้ำวหน้ำทำงวิทยำศำสตร์และ เทคโนโลยีเป็นอย่ำงมำก ไม่ว่ำจะเป็นทำงด้ำนกำรแพทย์ หรือกำรพัฒนำงำนวิจัยด้ำนคุณภำพ อำหำร สิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม ระบบอัจฉริยะ กำรผลิตชิ้นส่วนยำนยนต์ อำกำศยำนและชิ้นส่วน หรือกำรพัฒนำระบบหุ่นยนต์ในอุตสำหกรรม เป็นต้น และ ส ำนักงำนพัฒนำเทคโนโลยีอวกำศ และภูมิสำรสนเทศ (องค์กำรมหำชน) หรือ สทอภ. ได้ด ำเนินกำรพัฒนำงำนวิจัยและเทคโนโลยี ด้ำนอวกำศมำอย่ำงต่อเนื่อง อำทิ กำรพัฒนำดำวเทียมขนำดเล็ก กำรพัฒนำระบบรับ-ส่งสัญญำณ ดำวเทียม กำรพัฒนำห้องปฏิบัติกำรเพื่อกำรทดสอบระบบดำวเทียมในรูปแบบต่ำง ๆ รวมไปถึง กำรพัฒนำบุคลำกรให้เกิดควำมช ำนำญในกำรพัฒนำดำวเทียม เช่น กำรส่งคนไทยไปเรียนรู้ กำรพัฒนำดำวเทียมขนำดเล็กในต่ำงประเทศในโครงกำร THEOS-2 ของ สทอภ. เป็นต้น แสดงภำพกำรส่งคนไทยไปร่วมพัฒนำดำวเทียมขนำดเล็ก ณ สหรำชอำณำจักรหรือประเทศอังกฤษ ด้ำนล่ำงต่อไปนี้
๖๗ ภาพที่ ๔๔ กำรพัฒนำดำวเทียมโดยวิศวกรไทย ณ ประเทศอังกฤษ (โครงกำร THEOS-2) ด้วยหัวใจของกำรพัฒนำเทคโนโลยีอวกำศ คือ กำรพัฒนำคนให้มีควำมรู้ควำมเชี่ยวชำญในเรื่องนั้น ๆ สทอภ.จึงมีแผนและแนวทำงในกำรพัฒนำและเสริมสร้ำงศักยภำพบุคลำกรมำโดยตลอด ทั้งระดับ เยำวชน วิศวกรและนักวิจัย ร่วมทั้งส่งเสริมภำคเอกชนให้มีควำมรู้ในเรื่องต่ำง ๆ ด้วยกำรเปิดอบรม หลักสูตรทำงด้ำนกำรใช้งำนเทคโนโลยีอวกำศและระบบภูมิสำรสนเทศอยู่อย่ำงสม่ ำเสมอ แสดงแนวทำงกำรพัฒนำบุคลำกรของ สทอภ. ในภำพด้ำนล่ำงต่อไปนี้
๖๘ ภาพที่ ๔๕ แนวทำงในกำรพัฒนำและเสริมสร้ำงศักยภำพบุคลำกรของประเทศ แม้ว่ำที่ผ่ำน ประเทศไทยยังไม่มีกำรพัฒนำบุคลำกรในประเทศด้ำนกำรพัฒนำท่ำอวกำศยำน และส่วนประกอบต่ำง ๆ (Spaceport Environment) แต่ด้วยพื้นฐำนกำรพัฒนำดำวเทียมของ สทอภ. และกำรพัฒนำจรวดของสถำบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) ท ำให้สำมำรถเรียนรู้ และท ำควำมเข้ำใจในกำรพัฒนำท่ำอวกำศยำนประเทศไทย Spaceport Thailand จำกผู้เชี่ยวชำญ จำกต่ำงประเทศได้ เฉกเช่นเดียวกับกำรเริ่มพัฒนำเทคโนโลยีดำวเทียมและเทคโนโลยีจรวดที่ผ่ำน ของหน่วยงำนรัฐในประเทศไทย นอกจำกนี้ ยังสำมำรถอำศัยควำมสำมำรถของภำคเอกชน ในประเทศที่มีบุคลำกรที่มีเชี่ยวชำญในเทคโนโลยีอวกำศเข้ำร่วมในกำรเรียนรู้ต่ำง ๆ กับภำครัฐได้ อย่ำงมีประสิทธิภำพ ๒.๒.๒.๓ ความพร้อมของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ๑) การพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในปัจจุบัน นอกจำกกำรพัฒนำเทคโนโลยีอวกำศด้ำนกำรพัฒนำดำวเทียม และระบบรับ - ส่งสัญญำณของ สทอภ. แล้ว กำรพัฒนำจรวดและกำรผลิตชิ้นส่วนจรวดต่ำง ๆ ได้ถูกด ำเนินกำรในประเทศไทยมำอย่ำงต่อเนื่องโดยกำรด ำเนินงำนของสถำบันเทคโนโลยี ป้องกันประเทศ หรือ สทป. ซึ่งได้ด ำเนินกำรศึกษำ วิจัย และพัฒนำกำรพัฒนำ กำรผลิต