ถอดบทเรียน โครงการเรยี น-รู้-รกั ษน์ ก
เพื่อการพฒั นากจิ กรรมเสริมการเรียนรู้
ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
โดย ภาควชิ าชวี วิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั
ศนู ย์เครือข่ายการเรียนรูเ้ พ่อื ภูมภิ าค จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั
สนบั สนนุ โดย ธนาคารกสกิ รไทย จากัด (มหาชน)
หนังสอื ถอดบทเรียน โครงการเรยี น-รู้-รักษ์นก เพ่ือการพฒั นากจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้
ดา้ นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
เผยแพร่ พฤษภาคม พ.ศ. 2562 (สงิ่ พิมพ์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์)
จัดทาโดย โครงการเรยี น-รู้-รักษ์นก
ภาควชิ าชวี วทิ ยา คณะวิทยาศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย
ศนู ยเ์ ครอื ขา่ ยการเรยี นรู้เพื่อภมู ภิ าค จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย
254 ถนนพญาไท ปทมุ วัน กรุงเทพมหานคร 10330
ISBN xxx-xxx-xxx-xxx-x
คณะผจู้ ดั ทา ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พงชัย หาญยทุ ธนากร
บรรณาธกิ าร ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กิตนะ
(เน้อื หาและเรียบเรยี ง) ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พงษช์ ัย ดารงโรจนว์ ฒั นา
นางสาวมกุ เรขา เช่ยี วชาญชยั
ภาพถา่ ย นายวุฒวิ งศ์ วิมลศกั ดิเ์ จริญ
อักษรธรรมล้านนา วิทยากร และ ผูจ้ ัดกิจกรรม โครงการเรยี น-รู้-รักษน์ ก
ออกแบบรูปเล่ม ครู สามเณร และ นักเรียน โครงการ เรยี น-รู้-รกั ษน์ ก
พระมหาธนพล ธมมฺ พโล วดั แสงดาว อ.ภเู พียง จ.นา่ น
นายศักรินทร์ แสนสุข
คานา
โครงการ “เรียน-รู้-รักษ์นก” เป็นโครงการท่ีดาเนินการเพื่อสนองพระราชดาริ
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
โดยความร่วมมือระหว่าง ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพ่ือภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้การสนับสนุน
ของธนาคารกสิกรไทย จากัด (มหาชน) โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการเป็น พระสงฆ์ สามเณร
คณะครู และนักเรียน จากโรงเรียนพระปริยัติธรรม 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนพระปริยัติ
ธรรมวัดนิโครธาราม โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดพระธาตุแช่แห้ง และโรงเรียนพระปริยัติ
ศาสนาพิพัฒน์วัดเมืองราม โรงเรียนมัธยมศึกษา 4 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนเชียงกลาง
“ประชาพัฒนา” โรงเรยี นท่าวงั ผาพิทยาคม โรงเรยี นพระธาตพุ ิทยาคม และโรงเรยี นสา
โครงการฯ ประกอบด้วย การ“เรียน”เกี่ยวกับบทบาทของนกในธรรมชาติ
การสารวจและจาแนกชนิดนก ปฏิสัมพันธร์ ะหวา่ งนกกบั ส่ิงมชี ีวติ ในป่าไม้ ฯลฯ เพอ่ื นาไปสู่
การแสวงหาความ“รู้”ผ่านการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ และนาเสนอแนวทางการ
“อนรุ ักษ”์ และพฒั นาส่ิงแวดล้อมให้มนุษยส์ ามารถอยู่รว่ มกบั “นก”ไดอ้ ยา่ งสมดุลและยั่งยนื
การดาเนินงานโครงการเรียน-รู้-รักษ์นก นับต้ังแต่ปี พ.ศ. 2556 จนถึงปัจจุบัน
มีรูปแบบการดาเนินงานเสมือนชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพท่ีทางานร่วมกันอย่างใกล้ชิด
ระหว่างครูในโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียน ชุมชนท้องถ่ิน และผู้ทรงคุณวุฒิจากมหาวิทยาลยั
ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของผู้จัดทาโครงการฯ ท้ังคณาจารย์ นิสิต และบุคลากรของ
จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัยท่ีได้มสี ่วนร่วมในการพัฒนา โครงการ “เรียน-รู้-รกั ษ์นก”
นอกจากผลงานรูปธรรมจากการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียนใน
แต่ละปแี ล้ว โครงการเรียน-รู้-รักษ์นก ยงั ไดส้ รา้ งแนวปฏิบัติทดี่ ีเก่ียวกับการพัฒนากิจกรรม
เสริมการเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติท่ีเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละโรงเรียน
จากความรว่ มแรงร่วมใจของ พระภิกษุ สามเณร นกั เรยี น และคณะครูในโครงการฯ สมควร
จะไดร้ ับการเผยแพรใ่ นวงกว้าง
คณะบรรณาธิการหวังเป็นอย่างย่ิงว่า หนังสือฉบับน้ีจะมีส่วนช่วยจุดประกาย
เป็นแรงบันดาลใจให้คณะครู ผู้บริหารโรงเรียน ชุมชนท้องถิ่น สร้างสรรค์กิจกรรม
เพ่ือเสริมสร้างจิตสานึกในการรักและภาคภูมิใจในทรัพยากรท้องถิ่นให้กับเยาวชนและ
ประชาชนชาวน่านทุกคน เพ่ือช่วยกันสืบสานและผลักดันการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
เหลา่ น้ไี วต้ ลอดไป
สารบญั หนา้
เร่ือง 1
13
โครงการ “เรยี น-รู้-รักษน์ ก” 17
แนวปฏิบัติท่ดี เี พ่ือการพัฒนากิจกรรม 29
32
การสอนโดยใช้เกม 35
การสอนโดยใชโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ 37
การบูรณาการกบั กจิ กรรมวิชาการในโรงเรียน 39
การเรียนจากการถา่ ยทอดความรู้ 42
การจดั การเรยี นรใู้ ห้เหมาะสมกบั ผูเ้ รียน 45
การนาองค์ความรู้ไปบริการสงั คม 47
การสร้างเครือข่ายทางวิชาการ 51
โรงเรียนนารอ่ ง 56
โรงเรียนสา 62
โรงเรยี นท่าวงั ผาพิทยาคม 66
โรงเรยี นเชยี งกลาง “ประชาพัฒนา” 70
โรงเรียนพระธาตุพิทยาคม 74
โรงเรยี นพระปรยิ ัตธิ รรมวัดพระธาตุแชแ่ ห้ง 79
โรงเรียนพระปรยิ ัติธรรมวัดนิโครธาราม 80
โรงเรยี นพระปรยิ ตั ิศาสนาพิพัฒนว์ ดั เมืองราม
บรรณานุกรม
คณะผดู้ าเนินงาน
1
เรยี น ลักษณ์รปู เรง่ รู้ ร้อยพัน
รู้ เหลา่ ธรรมชาตสิ รร แต่งไว้
รักษ์ หลากปา่ มากพรรณ ผืนถน่ิ อาศัย
นก นา่ นคงคู่ให้ แหลง่ นงี้ ดงาม
ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พงชยั หาญยุทธนากร
2
3
โครงการ “เรียน-รู้-รกั ษ์นก”
ในช่วง 50 ปี ท่ีผ่านมา พื้นที่ป่าในประเทศไทยมีการลดลงอย่างต่อเนื่อง
จนเหลือเพียงร้อยละ 50 ของพื้นท่ีเดิม แม้ว่าสถานการณ์พ้ืนท่ีป่ามีแนวโน้มเพ่ิมข้ึนต้ังแต่
ปีพ.ศ. 2549 แต่มีบางจังหวัดทีพ่ น้ื ทป่ี ่าลดลงมากกวา่ รอ้ ยละ 5 ของพื้นท่ีจังหวัด โดยเฉพาะ
อย่างย่ิง จังหวัดน่าน (มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร, 2555) ซึ่งการที่พ้ืนท่ีธรรมชาติมีความอุดม
สมบูรณ์กลายเป็นพ้ืนท่ีเส่ือมโทรมอย่างรวดเร็วน้ีอาจนาไปสู่ปัญหาสิ่งแวดล้อมท้ังใน
ระยะส้นั และระยะยาว
อันเน่ืองมาจากพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ-
พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อทรงเสด็จพระราชดาเนินเพื่อทรงปฏิบัติ
พระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนในพื้นท่ีจังหวดั นา่ น ได้ทอดพระเนตรเห็น
การเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ป่าจากในอดีตเป็นพื้นท่ีท่ีมีความอุดมสมบูรณ์และมีความ
หลากหลายทางธรรมชาติกลายเปน็ พ้ืนท่เี ส่ือมโทรม ทรงหว่ งใยและทรงเห็นถึงความจาเป็น
อย่างย่ิงท่ีจะต้องเร่งฟ้ืนฟูและอนุรักษ์ป่าไม้ เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาความเส่ือมโทรมของ
พ้ืนท่ีป่าไม้ในจังหวัดน่านอย่างยั่งยืน จึงมีพระราชดาริให้หน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันจัดทา
“โครงการรักษ์ป่าน่าน” โดยมุ่งเน้นการปลกู ฝังจิตสานึกและความรับผิดชอบใหแ้ ก่เด็กและ
เยาวชน และบูรณาการความร่วมมือของชุมชนจังหวัดน่านและภาคส่วนต่าง ๆ ท้ังน้ี
ทรงเหน็ วา่ เด็กและเยาวชนเป็นพลังสาคัญทีจ่ ะช่วยในการฟน้ื ฟูและรักษาความสมบูรณ์ของ
ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ซ่ึงถือเป็นรากฐานของประเทศให้ม่ันคงและยั่งยืน
ตอ่ ไปได้
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ตระหนักถึงปัญหา และมุ่งหวังเป็นส่วนหน่ึงในการ
แก้ปัญหาพื้นที่ป่าไม้ในจังหวัดน่านอย่างยั่งยืน โดยน้อมนาแนวพระราชดาริของสมเด็จ-
พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการสอน
และอบรมให้เยาวชนมีจิตสานึกในการอนุรักษ์ โดยปลูกฝังให้เห็นความงดงาม
ความน่าสนใจ และเกิดความปิติท่ีจะศึกษาและอนุรักษ์ (สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี, 2553)
4
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นหน่วยวิชาการท่ีดาเนินกิจกรรมต่อเน่ืองใน
จงั หวัดน่าน โดยอาศยั การดาเนินงานของศนู ย์เครือข่ายการเรียนรูเ้ พื่อภูมภิ าค จฬุ าลงกรณ์
มหาวิทยาลัย ในการเช่ือมโยงองค์ความรู้ของคณะและหน่วยงานต่าง ๆ จากจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัยไปสู่ท้องถ่ินจังหวัดน่าน ผ่านกิจกรรมการวิจัยและการบริการวิชาการ
โดยมีคณะวิทยาศาสตร์ดาเนินงานวิจัยด้านความหลากหลายทางชีวภาพและธรรมชาติ
วิทยาพ้ืนฐานในพ้ืนที่จังหวัดน่านมาอย่างต่อเน่ือง และนาความรู้ดงั กลา่ วมาใช้ในการอบรม
ผู้นาชุมชนและเยาวชนตามโครงการวิทยาเพ่ือพื้นถ่ินซึ่งเป็นโครงการตามแผนพัฒนา
วิชาการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 และนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556
เป็นต้นมา ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ และศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพ่ือภูมิภาค
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมกันจัดทาโครงการ “เรียน-รู้-รักษ์นก” เพื่ออบรมเยาวชน
ในจังหวัดน่านให้มีความรเู้ กี่ยวกับนกเพ่อื ปลูกฝงั แนวความคดิ ในการอนุรักษ์ธรรมชาติให้แก่
เยาวชน
โครงการ “เรียน-รู้-รักษ์นก” เป็นโครงการท่ีเปิดโอกาสให้นักเรียนระดับ
มัธยมศึกษาได้เรียนรู้ธรรมชาติโดยใช้ “นก” เป็นตัวแทนของส่ิงมีชีวิตท่ีมีบทบาทใน
ธรรมชาติอย่างหลากหลายทั้งในฐานะผู้ล่าท่ีช่วยกาจัดศัตรูพืชหรือศัตรูของเกษตรกร
ผู้กระจายพันธุ์ไม้ (วีณา เมฆวิชัย, 2551) ดังน้ัน ความหลากหลายของนกชนิดต่าง ๆ ใน
จังหวัดน่านจึงสามารถใช้เป็นดัชนีแสดงความสมบูรณ์ของพ้ืนท่ี และเป็นส่ิงย้าเตือนถึง
ความอุดมสมบูรณ์รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติให้กับเยาวชนที่เข้าร่วม
โครงการฯ ได้ นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ด้านการให้ความรู้เร่ืองการจาแนกนก บทบาท
ของนกในธรรมชาติ และการใช้อุปกรณ์ในการดูนกอย่างถูกวิธี ตลอดจนการให้ความรู้และ
พัฒนาแนวทางการศึกษานกในธรรมชาติแล้ว โครงการ “เรียน-รู้-รักษ์นก” ยังใช้รูปแบบ
การเรียนการสอนแบบโครงการ (โครงการ อพ.สธ., 2554) เพ่ือฝึกเยาวชนให้สามารถทา
โครงงานวิทยาศาสตร์ และนาเสนอผลงานเก่ียวกับการศึกษานกเพ่ือการอนุรักษ์และพัฒนา
อกี ด้วย
การดาเนินโครงการในปีแรก (พ.ศ. 2556-2557) ได้เน้นให้ “นก” เป็นศูนย์กลาง
การศึกษา ท้ังด้านการศึกษาชีววิทยาของนกจนถึงการศึกษาความหลากหลายของนก
เพ่ือเป็นจุดเร่ิมต้นในการสร้างความสนใจนกในธรรมชาติ ซึ่งมีบทบาทสาคัญแต่มัก
5
ถูกมองข้ามไปในสังคมมนุษย์ และเมื่อเยาวชนและครูได้พัฒนาทักษะในการศึกษานกแล้ว
การดาเนินโครงการในปีที่สอง (พ.ศ. 2557-2558) จึงได้เพิ่มน้าหนักให้เนื้อหาด้าน
ความสัมพันธ์ระหว่างนกกับป่าไม้ เพ่ือให้เยาวชนได้ตระหนักถึงปฏิสัมพันธ์และการพ่ึงพา
อาศัยกันระหว่างนกกับป่าไม้ ต่อมาในการดาเนินโครงการในปีที่ 3-4 (พ.ศ. 2558-2560)
จึ ง ไ ด้ เ พิ่ ม เ ติ ม ก า ร ติ ด ต า ม ต ร ว จ ส อ บ พ ล วั ต ข อ ง ช นิ ด แ ล ะ ป ร ะ ช า ก ร น ก ใ น พื้ น ที่ ศึ ก ษ า
ในระยะยาว และการดาเนินโครงการในปีที่ 5-6 (พ.ศ. 2560-2562) ได้เปิดโอกาสให้
โรงเรียนร่วมเสนอแนวทางการเพิ่มพ้ืนท่ีสีเขียวและประเมินผลจาก พลวัตของชนิ ดแล ะ
ประชากรนกในพื้นท่ีศึกษา อันจะนาไปสู่การพัฒนาแนวทางการอนุรักษ์“ป่าไม้”
ผ่านมุมมองของการอนุรักษ์“นก” ซ่ึงสามารถนาไปใช้ได้จริงในพ้ืนท่ีจังหวัดน่าน
อันจะนาไปสู่การพัฒนาแนวทางการอนุรักษ์“ป่าไม้” ผ่านมุมมองของการอนุรักษ์“นก”
ซ่ึงสามารถนาไปใชไ้ ดจ้ รงิ ในพน้ื ท่ีจังหวดั น่าน
ในระหว่างปี พ.ศ. 2556-2562 โครงการ “เรียน-รู้-รักษ์นก” ดาเนินงานใน
โรงเรียนนารอ่ ง 7 โรงเรยี น จาก 4 อาเภอในจังหวัดนา่ น ไดแ้ ก่ อาเภอเวียงสา (โรงเรยี นสา
และ โรงเรียนพระปรยิ ัตศิ าสนาพพิ ฒั น์วดั เมืองราม) อาเภอท่าวงั ผา (โรงเรยี นท่าวงั ผาพทิ ยา
คม และ โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดนิโครธาราม) อาเภอภูเพียง (โรงเรียนพระปริยัติธรรม
วัดพระธาตุแช่แห้ง) และอาเภอเชียงกลาง (โรงเรียนเชียงกลาง “ประชาพัฒนา” และ
โรงเรียนพระธาตุพิทยาคม) โดยในแต่ละปีได้รับสมัครนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น
60 คน และเชิญครูที่จะทาหน้าที่เป็นท่ีปรึกษาในโรงเรียนเข้าร่วม การอบรมและ
การนาเสนอผลงานโรงเรียนละ 1-2 คนทุกคร้ัง เพื่อใหง้ านในโรงเรียนดาเนินการไปได้อย่าง
ต่อเน่อื ง
6
โรงเรียนนาร่องในโครงการ “เรียน-รู้-รกั ษ์นก” ปี พ.ศ. 2556-2562
กจิ กรรม “เรยี น-รู้-รกั ษน์ ก” แบง่ ออกเป็น 3 สว่ น คอื
“การเรียน” เป็นช่วงของการส่ังสมประสบการณ์ในการจาแนกชนิดนกและต้นไม้
การตรวจสอบพลวัตของนกตลอดจนปฏิสัมพันธ์กับต้นไม้ จากการออกภาคสนามใน
แหลง่ ทอ่ี ยู่อาศัยแบบตา่ ง ๆ ในจงั หวัดนา่ น โดยมีวทิ ยากรทเ่ี ชย่ี วชาญให้คาแนะนา
“การหาความรู้” เป็นช่วงของการแสวงหาความรู้ด้วยตัวเองจากแหล่งความรู้ต่าง ๆ
เช่น หนังสือ อินเทอร์เน็ต แล้วเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนคิดโครงงานฯ เกี่ยวกับการสารวจ
นกและปฏิสัมพันธ์กับต้นไม้ท่ีนักเรียนสนใจศึกษา เพื่อสะสมองค์ความรู้เกี่ยวกับนก
ทีพ่ บได้ในจังหวัดนา่ นในแงม่ ุมตา่ ง ๆ
“การหาแนวทางการอนุรักษ์และพัฒนา” เป็นการนาความรู้ต่าง ๆ เก่ียวกับพลวัตของ
นกและปฏิสัมพันธ์กับต้นไม้ท่ีได้จากการศึกษาในส่วนท่ี 1 และ 2 มาใช้ในการนาเสนอ
ปัญหารวมท้ังแนวทางการแก้ปัญหา และสร้างกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์และ
พัฒนาสิง่ แวดล้อมทีจ่ ะชว่ ยให้มนุษย์สามารถอยู่รว่ มกบั “นก” ไดอ้ ย่างสมดลุ และยั่งยนื
ในช่วง “การเรียน” โครงการฯ ได้จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้แก่นักเรียนและครู
ผู้รับผิดชอบ ปีละ 1-2 คร้ัง โดยให้ความรู้เกี่ยวกับบทบาทนกในป่าไม้ การจาแนกชนิดของ
นกในแหล่งที่อยู่อาศัยแบบต่าง ๆ ในจังหวัดน่าน (จารุจินต์ นภีตะภัฏ และคณะ, 2555)
7
ตลอดจนการใช้และดูแลรักษาอุปกรณ์ท่ีใช้ในการดูนก รวมทั้งพ้ืนฐานการทาโครงงานฯ
ณ ศูนย์การเรียนรู้และบริการวิชาการ เครือข่ายแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จังหวัดน่าน
และพื้นท่ีธรรมชาติ เชน่ อทุ ยานแหง่ ชาตดิ อยภคู า ศนู ย์ภฟู า้ พฒั นา และ ปา่ ห้วยมะหลอด
ในช่วง “การหาความรู้” นักเรียนจากแต่ละโรงเรียนได้ถูกมอบหมายให้ทา
โครงงานวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ “นกและปฏิสัมพันธ์กับต้นไม้” เป็นระยะเวลาประมาณ
6 เดือนต่อรุ่น โดยมีครูจากโรงเรียนและคณาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมให้
คาปรึกษา นักเรียนแต่ละโรงเรยี นจะได้รับวัสดุและอุปกรณ์จากโครงการฯ ได้แก่ คู่มือดูนก
กล้องส่องนกแบบสองตา กล้อง spotting scope และขาต้ังกล้อง เป็นอุปกรณ์ประกอบ
การศึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์ และในระหว่างที่โรงเรียนกาลังดาเนินโครงงาน
วิทยาศาสตร์ คณาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดกิจกรรมนิเทศโครงงาน
วทิ ยาศาสตร์ โดยเยีย่ มชมการดาเนนิ งานของแตล่ ะโรงเรียน เพอ่ื ตดิ ตามความกา้ วหนา้ และ
ช่วยใหค้ าปรกึ ษาในพืน้ ท่ีปฏิบตั งิ านของแตล่ ะโรงเรียน
เมื่อนักเรียนทาโครงงานวิทยาศาสตร์เสร็จสิ้น โครงการ “เรียน-รู้-รักษ์นก” ได้จัด
ให้มีการนาเสนอผลงานในรูปแบบการบรรยายประกอบโปสเตอร์และผลงานเป็นส่วนของ
“การหาแนวทางการอนุรักษ์และพัฒนา” ซึ่งนอกจากข้อมูลชนิด ความชุกชุม และ
ความหลากหลายของนกตลอดจนปฏิสัมพันธ์กับต้นไม้และส่ิงมีชีวิตอ่ืนในพ้ืนท่ีศึกษา
ท่ีสามารถนาไปใช้ในการติดตามความสมบูรณ์และการเปล่ียนแปลงของพื้นท่ีแล้ว นักเรียน
ทเี่ ข้าร่วมโครงการฯ ยงั ไดน้ าข้อมลู เก่ียวกบั นิเวศวทิ ยาของป่าไม้และนกที่อยูใ่ นป่า เผยแพร่
สู่ชุมชนเพ่ือเสริมสร้างจิตสานึกอนุรักษ์ป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติในรูปแบบต่าง ๆ
ทั้งผ่านส่ือออนไลน์ แผ่นพับ หนังสือเล่มเล็ก ค่ายเยาวชนสาหรับนักเรียนประถมศึกษา
จนถึงมธั ยมศกึ ษา ไปจนถึงการบอกเลา่ สอดแทรกในการเทศน์ธรรมในวนั พระ
การดาเนินงานโครงการ “เรียน-รู้-รักษ์นก” ที่เริ่มจากการให้ความรู้ และจัดสรร
ทรัพยากรพื้นฐานที่จาเป็นให้กับเยาวชนและครูในท้องถิ่นนาไปต่อยอด ขวนขวาย เรียนรู้
ได้ก่อให้เกิดผลผลิตและผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม สามารถนาเสนอปัญหารวมท้ังแนวทางใน
การแกป้ ัญหาและสรา้ งกิจกรรมท่ีเกี่ยวข้องกับการอนรุ ักษ์และพัฒนาส่ิงแวดล้อมท่ีอาจช่วย
ให้มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกับ “นก” ได้อย่างสมดุลและยั่งยืน และยังขยายผลต่อเน่ืองไปยัง
8
โรงเรียนประถมศึกษาในพื้นที่บริการตลอดจนชุมชนโดยรอบของโรงเรียนนาร่อง จึงนับได้
ว่าเป็นการสร้างแนวร่วมที่เป็นเยาวชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ซ่ึงจะเป็นกาลัง
สาคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นท่ีจังหวัดน่าน และเผยแพร่ความรู้ด้าน
การอนรุ กั ษธ์ รรมชาติต่อไปในอนาคต
วิทยากร ผจู้ ดั กิจกรรม และผู้เข้ารว่ มโครงการ “เรียน-รู้-รกั ษน์ ก” ปี พ.ศ. 2556-2557
9
วิทยากร ผู้จดั กิจกรรม และผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ “เรยี น-รู้-รักษ์นก” ปี พ.ศ. 2557-2558
วิทยากร ผู้จัดกิจกรรม และผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการ “เรยี น-รู้-รักษ์นก” ปี พ.ศ. 2558-2559
10
วิทยากร ผู้จัดกิจกรรม และผูเ้ ข้าร่วมโครงการ “เรยี น-รู้-รกั ษ์นก” ปี พ.ศ. 2559-2560
วทิ ยากร ผจู้ ดั กิจกรรม และผู้เขา้ รว่ มโครงการ “เรยี น-รู้-รักษ์นก” ปี พ.ศ. 2560-2562
11
อุปกรณพ์ ื้นฐานสาหรับการดูนก
นอกจากการอบรมให้ความรู้แก่นักเรียนและครูแล้ว โครงการ "เรียน-รู้-รักษ์นก"
ยงั ได้ฝกึ ให้นักเรยี นมีทักษะและประสบการณ์ดูนกในภาคสนาม และเลง็ เห็นวา่ การได้ฝึกฝน
อย่างต่อเนื่องท่ีโรงเรียนจะช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากข้ึน
โครงการฯ จึงได้มอบอุปกรณ์พ้ืนฐานสาหรับการดูนก (ดังรายการด้านล่าง) ให้แต่ละ
โรงเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวให้เป็นประโยชน์ในช่วงการทาโครงงาน
วทิ ยาศาสตร์ตอ่ ไป
2 5
1
3
4
1. กลอ้ งส่องนกแบบสองตา สาหรับนกั เรียน 2 คน/กลอ้ ง
2. คูม่ อื ดนู ก (คมู่ ือศกึ ษาธรรมชาติหมอบุญสง่ เลขะกลุ นกเมืองไทย)
3. กล้อง spotting scope
4. ขาตัง้ กล้อง spotting scope
5. กล่องเก็บอปุ กรณ์ วสั ดุสาหรับดดู ความชืน้ และ ชุดทาความสะอาดอปุ กรณ์
12
โครงการฯ ยังได้บรรจุเรื่องการใช้และดูแลรักษาอุปกรณ์ดูนกเป็นส่วนหน่ึงของ
การอบรม เพื่อให้นักเรียนฝึกทักษะรอบด้าน สามารถรับผิดชอบดูแลรักษาอุปกรณ์ของ
โรงเรียนได้พอสมควร และทุกคร้ังท่ีมีการอบรม โครงการฯ จะขอให้โรงเรียนนาอุปกรณ์
เหล่านี้มาด้วย เพ่ือใช้เป็นอุปกรณ์ส่วนกลาง และมอบให้คณาจารย์ และ นิสิต ช่วยกัน
ตรวจสอบความเรียบร้อยและทาความสะอาดแบบละเอียด เพ่ือยืดอายุการใช้งานของวัสดุ
อุปกรณเ์ หลา่ นี้
“ …..if you give a man a fish he is hungry again in an hour. If you teach him to catch a
fish you do him a good turn.” (Anne Isabella Thackeray Ritchie, 1885)
13
แนวปฏบิ ตั ทิ ี่ดเี พอ่ื การพัฒนากิจกรรมเสรมิ
การเรยี นรู้ดา้ นการอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
14
15
แนวปฏิบัติท่ีดเี พ่อื การพัฒนากิจกรรมเสรมิ
การเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ
การดาเนินงานโครงการเรียน-รู้-รักษ์นก นับต้ังแต่ปี พ.ศ. 2556 จนถึงปัจจุบัน
มีรูปแบบการดาเนินงานเสมือนชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพท่ีทางานร่วมกันอย่างใกล้ชิด
ระหว่างครูในโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียน ชุมชนท้องถ่ิน และผู้ทรงคุณวุฒิจากจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย ซึ่งนอกจากผลงานรูปธรรมจากการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียน
ในแต่ละปีแล้ว ยังได้สร้างแนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการพัฒนากิจกรรมเสริมการเรียนรู้ด้าน
การอนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติทเี่ ปน็ อตั ลักษณ์ของแต่ละโรงเรยี น อาทิเช่น
การสอนโดยใช้เกม เพ่ือกระตุ้นความสนใจของผ้เู รยี น ผ่านการจาลองสถานการณ์
การเปล่ียนแปลงทางนิเวศวิทยาให้ปรากฏในระยะเวลาอันสั้น โดยผู้เรียนสามารถ
ติดตามและมีส่วนร่วมในการกาหนดทิศทางการเปลี่ยนแปลงโดยผ่านบทบาท
สมมตใิ นเกมนน้ั
การสอนโดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพ่ือฝึกเยาวชนให้ใช้ทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ศึกษาค้นคว้าและแสวงหาความรู้ผ่านการ ทาโครงงาน
วิทยาศาสตร์ โดยใช้ “นกและการอนุรักษ์” เป็นหัวข้อซ่ึงสามารถนาไปขยายผล
เพอื่ จัดการเรยี นการสอนกล่มุ วชิ าการค้นคว้าอิสระ (Independent Study: IS)
การบูรณาการกับกิจกรรมวิชาการภายในโรงเรียน เพื่อขยายผลให้นักเรียน
ในโรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
โดยบูรณาการกับกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ชุมนุม
นกั วทิ ยาศาสตรร์ ่นุ เยาว์ ตลอดจนคาบเรียนทกั ษะชีวติ ของโรงเรียน
การเรียนจากการถ่ายทอดความรู้ เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้และพัฒนา
ศักยภาพด้วยการนาองค์ความรู้ไปเผยแพร่ นับต้ังแต่การจัดบอร์ดนิทรรศการ
ในสัปดาห์วิชาการ การจัดทาแฟ้มความรู้ประจาโรงเรียน การจัดทาหนังสือนก
16
ในโรงเรียน การเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ การเผยแพร่ผ่านเสียงตามสาย
ตลอดจนการจัดค่ายอบรมในโรงเรยี นหรอื อบรมให้นักเรียนในโรงเรยี นเครือข่าย
การจัดการเรียนรใู้ ห้เหมาะสมกับผู้เรียน เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้เรียนท่ีอาจมี
ความบกพร่องในการเรียนรู้ (learning deficit) แต่มีความสนใจธรรมชาติรอบตัว
โดยพบว่าช่วยพัฒนาการเรียนรู้ ทาให้มีสมาธิจดจ่ออ่านหนังสือและจดจาเน้ือหา
รายละเอียดได้แม่นยา และหากนาเร่ือง “นก” ไปแทรกในเนื้อหารายวิชาอ่ืน ๆ
พบวา่ สามารถกระตุน้ จนมีพฒั นาการเรยี นรใู้ นภาพรวมดีขนึ้ เปน็ อยา่ งมาก
การนาองค์ความรู้ไปบริการสังคม โดยการเผยแพร่ข้อมูลเพื่อความตระหนักรู้ของ
ชุมชน ผ่านกิจกรรมการเผยแพร่ต่าง ๆ ตลอดจนการจัดค่ายอบรมให้เยาวชน
ในชุมชน เพ่ือสร้างแนวร่วมด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยได้รับความ
ร่วมมือจากปราชญ์ชาวบ้านและกลุ่มป่าชุมชน จนได้รับการยอมรับและสนับสนุน
งบประมาณจากองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น
การสรา้ งเครือข่ายทางวชิ าการ เพ่ือแลกเปลยี่ นความร้รู ะหว่างครภู ายในโรงเรยี น
ครใู นกลุ่มโรงเรยี นทีเ่ ข้าร่วมโครงการ ตลอดจนกบั คณาจารย์ในสถาบนั อุดมศึกษา
“…..มองให้เห็นความงดงามแหง่ พงไพร
มองให้เห็นประโยชน์อนั ยิ่งใหญใ่ นไพรสัณฑ์
มองให้เหน็ เป็นบ่อเกดิ ของชีวัน
มองให้เห็นป่าไม้นัน้ เหมือนบ้านของเรา..…”
พระคงศิลป์ ภททฺ ราวุโธ
โรงเรียนพระปรยิ ัติธรรมวัดนิโครธาราม
17
1. การสอนโดยใช้เกม:
กรณศี ึกษา เกมบา้ นนกในปา่ ใหญ่
โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงษช์ ยั ดารงโรจนว์ ฒั นา
ท่มี าและแนวคดิ ในการออกแบบ (design concept)
ปัจจุบันระบบนิเวศหลายแห่งถูกทาลายโดยภัยธรรมชาติและกิจกรรมของมนุษย์
พื้นท่ีหลายแห่งเร่ิมเกิดความเสื่อมโทรม ส่งผลกระทบต่อโครงสร้าง (structure) และ
การทางาน (function) ของระบบนิเวศ การเรียนรู้ถึงปฏิสัมพันธ์ (interactions) ระหว่าง
ปัจจัยต่าง ๆ ในระบบนเิ วศที่มมี นุษย์เข้ามาทากจิ กรรมหลากหลายและซับซ้อน (complex
social-ecological system) ท่ีส่งผลให้เกิดการเปล่ียนแปลงของระบบนิเวศจึงเป็น
สิ่งจาเป็น นอกจากน้ี การแสดงภาพแนวโน้มในอนาคตของระบบนิเวศอันเกิดจากพลวัต
ทางธรรมชาติ (ecological dynamics) และกิจกรรมของมนุษย์ในเชิงสังคมและเศรษฐกิจ
(socio-economic dynamics) จะนาไปสู่การสร้างความตระหนักถึงความสาคัญของ
ทรพั ยากรธรรมชาติและชว่ ยกันวางแผนการจดั การระบบนิเวศได้อย่างเหมาะสม
“เกมบ้านนกในป่าใหญ่” เป็นการเรียนรู้ผา่ นเกมและสถานการณ์จาลอง (gaming
and simulation) ออกแบบภายใต้แนวคิดการบูรณาการองค์ความรู้สหศาสตร์
(วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์และมนษุ ย์ศาสตร์) ได้แก่
นิเวศวิทยา ด้านปฏิสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตกับส่ิงแวดล้อม ซึ่งเน้น “ป่า” และ
“นก” และพลวตั ในระบบนเิ วศ
ชีววิทยา ด้านการอยู่รอดและการคดั เลอื กตามธรรมชาติ
อนุรักษ์วิทยา ด้านการหาแนวทางการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างย่ังยืน
โดยเนน้ การใช้ประโยชน์ท่ดี ิน
เศรษฐศาสตร์ ด้านการสรา้ งรายไดจ้ ากกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของมนุษย์
สังคมศาสตร์และศิลปศาสตร์ ด้านการมีส่วนร่วมและสุนทรียภาพของมนุษย์
เม่อื ได้อย่กู บั ธรรมชาติ
18
เกมนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ผู้ใช้ได้เรียนรู้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่าง ๆ
ในระบบ อันก่อให้เกิดความซับซ้อนของระบบนิเวศและปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากกิจกรรม
ของมนุษย์เป็นตัวขับเคล่ือน และเรียนรู้เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในการหาแนวทางในการ
อนุรกั ษ์ระบบนเิ วศ
กิจกรรมเกมบา้ นนกในป่าใหญ่
“…..การบูรณาการสื่อการสอนท่ีดัดแปลงเนื้อหาเป็นเกมหรือกิจกรรม ช่วยให้
นักเรียนและสามเณรสามารถเข้าใจเน้ือหาและองค์ความรู้ได้ดียงิ่ ข้ึน เช่น เกมบ้านนกใน
ปา่ ใหญ่ กิจกรรมบอรด์ เกม…..”
ครกู ฤษฎี กาสโอสถ
โรงเรยี นพระปริยตั ิธรรมวดั พระธาตุแช่แหง้
อุปกรณ์ 19
1. บอรด์ พลาสตกิ พรอ้ มเขม็ หมดุ 25 อัน จานวน
1 ชดุ
2. กระดาษแสดงพนื้ ท่ปี ระเภทตา่ ง ๆ อยา่ งละ 10 ชน้ิ ไดแ้ ก่ 1 ชดุ
- ปา่ ดบิ - ข้าวโพด 10 แผ่น
- ป่าเต็งรงั - ยางพารา
- แหลง่ น้า - พนื้ ทช่ี ุมชน 80 ชน้ิ
- นาขา้ ว - ดินถลม่ 80 ช้ิน
80 ช้ิน
3. กระดาษขาว 80 ช้นิ
4. อาหารประเภทตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ 10 อนั
- ธัญพชื (เมล็ดข้าวโพดและขา้ วเปลือก) 5 อัน
- ผลไม/้ ลูกไม้ (ลูกปดั ) 15 คู่
- หนอนและแมลง (ตัดยางวงเปน็ ชนิ้ ) 10 คู่
- ปลา (หลอดกาแฟ) 1 แผน่ /คน
1 แผ่น
5. นกกลุ่มตา่ ง ๆ มลี ักษณะปากทตี่ ่างกัน ได้แก่
- นกกนิ ธัญพชื ผลไม้ และแมลง (ไม้หนีบผา้ ขนาดเลก็ )
- นกกินผลไม้/ลูกไม้ (ไม้หนบี ผา้ ขนาดใหญ)่
- นกกนิ แมลง (ไมเ้ สียบลูกชิ้น)
- นกกินปลา (ตะเกยี บ)
6. เอกสารประกอบการเลน่ เกม
7. กระดาษบันทึกข้อมูลรายบุคคล และรายกลุ่ม
20
ข้นั ตอนการเลน่ เกม
1. เลือกผเู้ ล่น 1 คน ให้เปน็ ผ้คู วบคมุ เกมและบนั ทึกข้อมลู ในภาพรวม
2. ผู้เล่นที่เหลือสวมบทบาทเป็นนกกลุ่มต่าง ๆ และรับอุปกรณ์ซึ่งเป็นตัวแทน “ปากนก”
ทั้ง 4 ประเภท (ดงั รายละเอยี ดในเอกสารประกอบการเลน่ เกม) ได้แก่
- นกกนิ ธญั พชื ผลไม้ และแมลง ใช้ไมห้ นีบผา้ ขนาดเล็ก
- นกกนิ ผลไม้/ลกู ไม้ ใช้ไมห้ นีบผา้ ขนาดใหญ่
- นกกินแมลง ใช้ไม้เสยี บลูกช้ิน
- นกกินปลา ใช้ตะเกยี บ
3. จัดเตรียมสภาพป่าต้ังต้น และจัดเตรียมอาหารลงในพ้ืนที่แต่ละประเภท (ดัง
รายละเอยี ดในเอกสารประกอบการเลน่ เกม)
4. เร่ิมเล่นเกมตามสถานการณ์ที่กาหนด โดยให้เวลานกกินอาหารพร้อมกัน 15 วินาที
(ตามชนิดอาหารท่ีนกแต่ละชนิดกินได้เท่าน้ัน) แล้วเอาอาหารใส่มือตัวเองไว้ จากนั้น
นับจานวนอาหารท่ีนกแต่ละตัวกินได้ และพิจารณาการรอดหรือตายและการสืบพันธุ์
ดังนี้
ก. ถา้ กนิ อาหารไดม้ ากกว่าหรือเทา่ กบั 15 ชน้ิ ถอื ว่านกตัวน้ันอยูร่ อด และสามารถ
สบื พันธุ์มีลกู ได้ 1-2 ตัว (ดูข้อ ข. เพม่ิ เติม)
ข. ถ้ากินอาหารได้น้อยกว่า 15 ช้ิน ถือว่า นกตัวน้ัน “ตาย” และไปเกิดใหม่เป็น
ลูกของนกในข้อ ก. (ตกลงกันเองในกลุ่มว่าใครจะไปเกิดเป็นลูกนกอะไร
แตต่ อ้ งไม่เกนิ จานวน 1-2 ตัว ต่อนกขอ้ ก. หนึ่งตัว) พร้อมเปลย่ี นลกั ษณะปาก
5. บนั ทกึ ข้อมลู ทั้งในระดับบคุ คลและระดับกล่มุ
6. เริ่มสถานการณ์ใหม่ ตามท่ีกาหนดในเอกสารประกอบการเล่นเกม โดยปรับ
สภาพพนื้ ทีแ่ ละชนิดอาหารจนครบทกุ ชอ่ ง และทาซา้ ข้อ 5-6 จนครบทกุ สถานการณ์
7. นาข้อมูลท่ไี ด้มาวิเคราะหแ์ ละอภิปรายรว่ มกัน ในประเดน็ ต่าง ๆ ดงั น้ี
7.1 การเปล่ียนแปลงของระบบนเิ วศและประชากรนก
7.2 ผลกระทบของมนษุ ย์ต่อระบบนเิ วศ (ป่าและนก)
7.3 แนวทางในการอนรุ ักษแ์ ละจัดการระบบนเิ วศ
7.4 ประเดน็ อืน่ ๆ ตามสถานการณ์ปัญหาสง่ิ แวดลอ้ ม
21
คาถามหลงั เล่นเกม
(สว่ นสาคัญท่ีทาให้ผู้เล่นไดส้ รา้ งองค์ความรู้ด้านตา่ ง ๆ ร่วมกับผ้เู ลน่ คนอืน่ ๆ)
1. สถานการณ์จาลองในเกมบ้านนกในป่าใหญ่ มีส่วนใดท่ีเหมือนกับความเป็นจริงหรือ
สถานการณ์ปัจจุบัน และส่วนใดท่ีแตกต่างจากความเป็นจริงหรือสถานการณ์ปัจจุบัน
ยกตวั อย่างแตล่ ะส่วนอยา่ งน้อย 3 ขอ้ (รวม 6 ข้อ)
2. หากมีการเล่นเกมต่อไปและต้องการให้นกมีความหลากหลายเพิ่มขึ้น จะมีวิธีการ
อยา่ งไรบา้ ง (นอกเหนอื จากวิธีทีไ่ ดเ้ ล่นไปแลว้ )
3. ทาไมเราจึงต้องอนรุ ักษท์ รัพยากรป่าไม้และสง่ิ มชี ีวติ ต่าง ๆ ในธรรมชาติ
4. ผู้เล่นสามารถชว่ ยอนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาติได้อยา่ งไรบ้าง
22
เอกสารประกอบการเลน่ เกม
อาหารและตัวแทนอาหาร
อาหาร ตวั แทนอาหาร
ธัญพชื เมลด็ ธญั พชื คละชนดิ
ผลไม/้ ลกู ไม้ ลกู ปัด
หนอน/แมลง ยางวงตัดเปน็ ชิน้
ปลา หลอดดดู ตดั เปน็ ช้ิน
กลุ่มนกและตัวแทน (ลักษณะปาก) ตวั แทนนก (ลกั ษณะปาก)
ไมห้ นบี ผา้ ขนาดเลก็
นก ไมห้ นีบผา้ ขนาดใหญ่
นกกนิ ธัญพืช ผลไม้ และแมลง (generalist) ไม้เสยี บลูกช้นิ
นกกนิ ผลไม้/ลูกไม้ (frugivorous bird) ตะเกยี บ
นกกนิ แมลง (insectivorous bird)
นกกินปลา (piscivorous bird)
23
ชนิดอาหารและจานวนในแตล่ ะพ้ืนที่
พ้ืนท่ี อาหาร นกทีเ่ ขา้ มาใชป้ ระโยชนไ์ ด้
ทุกชนดิ (ยกเวน้ นกกินปลา)
ปา่ ดบิ /ปา่ เต็งรงั ทุกชนดิ (ยกเวน้ ปลา) ชนดิ ละ 5 ชิ้น/ชอ่ ง นกกินธัญพืช ผลไม้ และแมลง +
นกกนิ แมลง
นาข้าว/ข้าวโพด ธัญพชื 5 ชน้ิ /ชอ่ ง และหนอน/แมลง นกกนิ ธัญพชื ผลไม้ และแมลง
5 ชนิ้ /ชอ่ ง นกกินแมลง
ชุมชน ธัญพชื 5 ชนิ้ /ชอ่ ง นกกนิ ปลา
สวนยางพารา หนอน/แมลง 5 ชน้ิ /ชอ่ ง -
บอ่ นา้ /แมน่ า้ ปลา 10 ช้ิน/ชอ่ ง
ดนิ ถล่ม ไม่มอี าหาร
สัญลักษณต์ ่าง ๆ และพื้นทตี่ ้ังต้น 25 ชอ่ ง
24
สถานการณจ์ าลอง (สาหรับข้อ 4 และข้อ 6)
ผูค้ มุ เกมของแตล่ ะกลุ่มเป็นคนนา/ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
รอบ (ป)ี สถานการณจ์ าลอง การปฏิบตั ิในเกมบอรด์
และตารางบนั ทึกข้อมูลภาพรวม
ทดลอง ทดลองเลน่ เติมชนิดอาหารตามสภาพพนื้ ที่ (ตามตารางดา้ นบน)
รอบที่ 1 นกกลมุ่ ต่าง ๆ หากนิ 1. เตมิ ชนดิ อาหารตามสภาพพ้ืนที่ (ตามตาราง
ตามปกติ ตามพ้ืนทต่ี ัง้ ต้น ดา้ นบน)
2. บนั ทกึ ข้อมูลต้ังต้น ทงั้ จานวนพน้ื ทแ่ี ต่ละประเภท
และจานวนนกแต่ละชนิด
รอบที่ 2 จานวนคนเพิม่ ข้ึน 1. เปลย่ี นพ้ืนทีป่ า่ ใกลช้ ุมชนเปน็ นาข้าว 1 ชอ่ ง และ
ตอ้ งการอาหารและเงนิ ขา้ วโพด 2 ช่อง
เพิ่ม 2. เติมอาหารตามสภาพพื้นที่ทเ่ี ปลยี่ นไป
(ตามตารางด้านบน)
3. บนั ทกึ ข้อมลู ตงั้ ต้น ท้ังจานวนพ้ืนท่แี ต่ละประเภท
และจานวนนกแตล่ ะชนิด
รอบท่ี 3 คนเพม่ิ ข้นึ ต้องขยาย 1. เปล่ียนพนื้ ท่ีป่าใกลช้ ุมชน เปน็ พื้นทชี่ ุมชน 1 ชอ่ ง
พืน้ ที่ชุมชน และเกดิ การ 2. เปล่ยี นพ้นื ท่ีป่าใกลช้ มุ ชน เป็นพ้นื ทป่ี ลูกขา้ ว
เลยี นแบบปลูกข้าวโพด 1 ชอ่ ง
และมีนโยบายส่งเสริม 3. เปลี่ยนพนื้ ทป่ี า่ ใกลช้ มุ ชน เป็นพื้นท่ปี ลกู ขา้ วโพด
การปลกู ยางพาราจาก 6 ช่อง
รฐั บาล 4. เปลี่ยนพื้นทป่ี ่าใกล้ชมุ ชน เป็นพืน้ ทป่ี ลกู
ยางพารา 3 ชอ่ ง
5. เตมิ อาหารตามสภาพพน้ื ที่ทเี่ ปลี่ยนไป
(ตามตารางด้านบน)
6. บนั ทกึ ข้อมูลตง้ั ต้น ท้ังจานวนพืน้ ที่แต่ละประเภท
และจานวนนกแต่ละชนดิ
25
รอบ (ป)ี สถานการณ์จาลอง การปฏบิ ัติในเกมบอร์ด
รอบที่ 4 และตารางบันทึกข้อมูลภาพรวม
เกิดการเปลีย่ นแปลง 1. เปลย่ี นพนื้ ที่ป่าไม้ เปน็ ดนิ ถล่ม 2 ช่อง
รอบท่ี 5 สภาพภูมอิ ากาศ 2. เปลย่ี นพนื้ ที่บ่อน้า เป็น ดนิ ถล่ม
(ถา้ มี) (climate change) 3. เปลย่ี นพน้ื ทแ่ี มน่ ้า เป็น ดินถล่ม 2 ชอ่ ง
ทาให้ฝนตกหนัก เกิดดิน 4. เติมอาหารตามสภาพพน้ื ที่ที่เปลยี่ นไป (ตาม
ถลม่ มาทบั ถมบ่อน้าและ ตารางดา้ นบน)
แม่น้า พื้นท่ีป่าเสียหาย 5. บนั ทึกข้อมลู ต้ังตน้ ทั้งจานวนพน้ื ที่แตล่ ะประเภท
และจานวนนกแต่ละชนดิ
รอบท่ี 6
(ถา้ มี)
รอบท่ี 7
(ถา้ มี)
26
ตารางบันทึกข้อมูลรายบคุ คล
ช่อื -สกลุ .................................................................. เลขประจาตัว ……………...……........
กลุ่ม .................
รอบที่ ประเภท อาหารท่ีกินได้ สถานภาพ (รอด/ ถา้ รอด ถา้ ตาย
ได้เกิดเป็น
นก* (ช้ิน) ตาย)** มลี กู กต่ี ัว นกอะไร
ทดลอง
1
2
3
4
5
6
7
* นกกินธญั พืช ผลไม้ และแมลง นกกนิ ผลไม/้ ลูกไม้ นกกินหนอน/แมลง นกกนิ ปลา
** จานวนช้ินอาหารมากกว่าหรือเท่ากับ 15 ช้ิน = “อยู่รอด” น้อยกว่า 15 ชิ้น = “ตาย”
และต้องไปเกิดใหม่เป็นลูกของนกท่ีอยูร่ อด (นกท่ีอยู่รอด มีลกู ได้ 1-2 ตัวเท่านนั้ ตกลงกันเอง
ในกลุ่มว่าใครจะไปเกิดเป็นนกอะไร ถ้านกตายมากกว่าโอกาสท่ีจะเกิด จะมีผู้เล่นบางคนท่ี
ไมไ่ ดเ้ ลน่ เกม)
27
ตารางบันทึกขอ้ มูลภาพรวม (กลุม่ ................)
ผนู้ าเกมเปน็ คนบันทกึ ประกอบด้วย ตารางย่อย 2 ตาราง
พ้ืนท่เี ร่มิ ตน้ (ช่อง)
รอบท่ี ปา่ ปา่ นา ขา้ ว ยาง ชมุ ชน แม่นา้ บ่อนา้ ดนิ รวม
ดิบ เตง็ รัง ข้าว โพด พารา ถลม่
ทดลอง
1
2
3
4
5
6
7
จานวนนกแต่ละกลมุ่ (ตวั )
รอบที่ นกกนิ ธัญพชื นกกนิ นกกนิ นกกนิ รวม
ผลไม้ และ ผลไม/้ หนอน/ ปลา
แมลง ลูกไม้ แมลง
ทดลอง เริ่มตน้
สิ้นสุดรอบ
1 เริ่มตน้
(ขอ้ มลู เหมอื นรอบทดลอง)
สนิ้ สุดรอบ
2 เรม่ิ ตน้
(หลงั จากอยู่รอดและเกิดใหม่)
สน้ิ สุดรอบ
3 เรมิ่ ต้น
(หลงั จากอยู่รอดและเกดิ ใหม)่
สน้ิ สดุ รอบ
28
จานวนนกแตล่ ะกลมุ่ (ตวั )
รอบที่ นกกนิ ธญั พชื นกกนิ นกกนิ นกกนิ รวม
ผลไม้ และ ผลไม/้ หนอน/ ปลา
แมลง ลกู ไม้ แมลง
4 เรม่ิ ตน้
(หลังจากอยู่รอดและเกดิ ใหม่)
สิ้นสุดรอบ
5 เริ่มต้น
(หลังจากอยรู่ อดและเกิดใหม)่
ส้ินสุดรอบ
6 เริ่มตน้
(หลังจากอยู่รอดและเกดิ ใหม)่
สิน้ สดุ รอบ
7 เรม่ิ ต้น
(หลงั จากอยู่รอดและเกิดใหม)่
ส้ินสดุ รอบ
29
2. การสอนโดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์
โครงการ “เรียน-รู้-รักษ์นก” ใชร้ ปู แบบการเรียนการสอนแบบโครงการ (โครงการ
อนรุ ักษ์พนั ธุกรรมพืชอนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม
ราชกุมารี, 2554) เพื่อฝึกเยาวชนให้ใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ศึกษาค้นคว้า
และแสวงหาความรู้ผ่านการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ โดยใช้ “นกและการอนุรักษ์” เป็น
หัวขอ้ งานหลัก
นักเรียนจากแต่ละโรงเรียนได้ถูกมอบหมายให้ทาโครงงานวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ
“นกและปฏิสัมพันธ์กับต้นไม้” เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือนต่อรุ่น โดยมีครูจาก
โรงเรียนและคณาจารยจ์ ากจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัยร่วมให้คาปรึกษา (หัวข้อและขอบเขต
การศึกษาแสดงในส่วนข้อมูลโรงเรียนนาร่อง โครงการเรียน-รู้-รักษ์นก) นักเรียนแต่ละ
โรงเรยี นจะได้รับวัสดุและอุปกรณ์จากโครงการฯ ไดแ้ ก่ คู่มอื ดนู ก กล้องส่องนกแบบสองตา
กล้อง spotting scope และขาตั้งกล้อง เป็นอุปกรณ์ประกอบการศึกษาโครงงาน
วิทยาศาสตร์ และในระหว่างที่โรงเรียนกาลังดาเนินโครงงานวิทยาศาสตร์ คณาจารย์จาก
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดกิจกรรมนิเทศโครงงานวิทยาศาสตร์ โดยไปเยี่ยมชมการ
ดาเนินงานของแต่ละโรงเรียน เพ่ือติดตามความก้าวหน้า และช่วยให้คาปรึกษาในพื้นที่
ปฏบิ ตั งิ านของแต่ละโรงเรยี น
การทาโครงงานวิทยาศาสตร์ เป็นกระบวนการฝึกทักษะที่เนน้ การลงมือปฏบิ ัติจริง
และเพ่ิมผลสัมฤทธ์ิในการเรียนรู้ ซ่ึงอาจเป็นเร่ืองใหม่สาหรับนักเรียนจากโรงเรียน
มธั ยมศึกษา และสามเณรจากโรงเรียนพระปริยัติธรรม แตเ่ มอ่ื ผ่านกระบวนการทางานและ
ได้นาเสนอผลการศึกษาแล้ว นักเรียนล้วนมีความภาคภูมิใจกับผลการศึกษาและเต็มใจ
เผยแพรผ่ ลงานในเวทีวิชาการระดบั ต่าง ๆ
นอกจากการทาโครงงานของนกั เรยี นทีเ่ ข้าร่วมกจิ กรรมโครงการฯ แลว้ ยังสามารถ
นาไปขยายผลเพื่อจัดการเรียนการสอนกลุ่มวิชาการค้นคว้าอิสระ (Independent Study)
เช่น รายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge
Formation: IS1) รายวิช าการส่ือสารและก ารนา เสน อ ( Communication and
30
Presentation: IS2) กิจกรรมการนาองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม (Social Service
Activity: IS3) โดยมที ิศทางในรูปแบบคลา้ ยคลึงกนั ในหลายโรงเรียน คือ
โรงเรียนสา ได้จัดให้นักเรียนท่ีเข้าร่วมโครงการเรียน-รู้-รักษ์นก เป็นนักเรียน
ในห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ ซ่ึงบรรจุการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ในหลักสูตรอยู่แล้ว
การได้มาเข้าร่วมโครงการและได้สารวจนกในภาคสนามนอกห้องเรียน ทาให้นักเรียน
สามารถเก็บประเด็นสาหรับศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองในรายวิชา IS ได้อย่างคล่องแคล่ว
มากขนึ้
โรงเรียนทา่ วังผาพิทยาคม ได้มอบหมายให้นักเรยี นในห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์
เข้าร่วมกิจกรรมโครงการเรียน-รู้-รักษ์นก และบูรณาการร่วมกับรายวิชา IS ซึ่งนักเรียน
ทเ่ี ขา้ ร่วมโครงการ 12 คนน้ี จะเป็นแกนนาในการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ แยกไปตามกลุ่ม
ตา่ ง ๆ เพื่อทาการศึกษาโดยใช้ “นก” เป็นหัวขอ้ หลกั ในการเรยี นรู้ โดยผลสัมฤทธทิ์ ป่ี รากฏ
คือ นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ มีการเรียนรู้เป็นลาดับขั้นตอนสามารถสอบ O-NET
ไดค้ ะแนนสูงสุดท้งั วิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์
โรงเรียนเชียงกลาง “ประชาพัฒนา” ได้นาเสนอข้ันตอนกิจกรรมและผลงานจาก
การทาโครงงานวิทยาศาสตร์ ในการประเมินโรงเรียนในโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล
เพ่ือรับรางวัลคุณภาพแห่งสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ScQA และจะ
บรรจุรายวิชา IS ในหลักสูตรของโรงเรียนตั้งแตป่ ีการศึกษา 2563 เป็นต้นไป เพื่อยกระดับ
โรงเรยี นสู่มาตรฐานสากล
โรงเรียนพระธาตุพิทยาคม สังเกตเห็นพัฒนาการด้านความสามารถในการเรียนรู้
ด้วยตนเองของนักเรียนตามหลักวิชาท่ีได้เรียนมา มีทักษะการเรียนรู้ ความพยายามและ
ความอดทนมากข้ึน มีทักษะที่โดดเด่น สามารถช่วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้จาแนกชนิดนกได้
โดยไม่ต้องเปิดคู่มือศึกษาธรรมชาติวิทยา และสามารถนาเสนอผลงานของโครงงาน
วิทยาศาสตรเ์ ป็นภาษาอังกฤษใหก้ บั ชาวตา่ งประเทศที่มาดูงานทีโ่ รงเรยี นได้
โรงเรียนพระปริยัติธรรม ได้เห็นพัฒนาการของสามเณรจากการทาโครงงานวิทยา
ศาสตร์ โดยสามารถเชอ่ื มโยงการเรียนร้จู ากธรรมชาติเข้ากับเน้อื หาในห้องเรียน และแสดง
31
ฝีมือในด้านอ่ืนซึ่งไม่เคยแสดงมาก่อน เช่น การวาดภาพ การจัดทาแผนท่ี ท้ังยังสร้างความ
มั่นใจใหก้ บั สามเณรในการเผยแพร่ความรู้ส่ชู มุ ชนโดยอาศัยขอ้ มลู จากการลงมือปฏิบตั จิ ริง
การเผยแพร่ผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์
ผลงานศลิ ปะของสามเณร
“…..ในอดีตกิจกรรมยามว่าง คือ การล่านกเล่นเพื่อความบันเทิง หลังจากเข้าร่วม
โครงการฯ ทาให้ทัศนคติเปล่ียนไป สนใจศึกษาเรื่องนก หลงรักการดูนกตามสถานที่ใน
ธรรมชาติตา่ ง ๆ และเลิกลา่ นกหรือกินนกอยา่ งถาวร…..”
นายสวุ ชั ชัย เทใหม่
นกั เรียนในโครงการฯ ปีท่ี 3 (พ.ศ. 2558)
ปจั จุบันศึกษาอยู่ ช้นั ปีที่ 1 สาขาชวี วทิ ยา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั อตุ รดิตถ์
32
3. การบูรณาการกบั กิจกรรมวชิ าการในโรงเรียน
คณะครูจากโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการเรียน-รู้-รักษ์นก ได้นาความรู้ท่ีได้รับจาก
การอบรมไปต่อยอดขยายผลให้กับนักเรียนที่ไม่ไดเ้ ขา้ รว่ มอบรมโดยตรง ใหม้ ีโอกาสเข้าร่วม
กิจกรรมเสริมการเรียนรูด้ า้ นการอนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยบูรณาการร่วมกับกจิ กรรม
ต่าง ๆ อาทิ งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจาก
พระราชดาริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ชุมนุม
นักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ (ชุมนุมนักปักษีวิทยารุ่นเยาว์) สมาคมวิทยาศาสตร์แห่ง
ประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือจัดต้ังเป็นกลุ่มชุมนุมวิทยาศาสตร์ใหม่ เช่น ชุมนุม
ปักษีวิทยา ชุมนุมเรียน-รู้-รักษ์นก ตลอดจนบูรณาการเป็นส่วนหน่ึงของคาบเรียนทักษะ
ชวี ติ ของโรงเรยี น
โรงเรียนสา ได้นากิจกรรมเก่ียวกับการศึกษานกมาบูรณาการร่วมกับกิจกรรม
ภายในโรงเรียน เช่น กิจกรรมนอกเวลาเรียน ชุมนุมเรียน-รู้-รักษ์นก และบรรจุกิจกรรม
ดูนกในเนื้อหาค่ายวิทยาศาสตร์ของโรงเรียน นอกจากนี้ได้นาเน้ือหา เกม และกิจกรรมท่ี
ได้รับจากการอบรมไปใช้เสริมบูรณาการกับรายวิชาที่สอน เช่น เน้ือหาเรื่องระบบนิเวศ
และ ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงจัดทาหลักสูตร “รักษ์ป่าน่าน” ของโรงเรียน
ซึ่งเปน็ การบรู ณาการร่วมกันระหวา่ ง 8 สาขาวชิ า โดยแตล่ ะระดบั ชนั้ ปีจะสอนในหวั ข้อหรือ
เนื้อหาท่ีเก่ียวข้องกันและมีชอ่ื คล้องจองกัน เช่น ในช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5 สอนเรื่อง “มูลค่า
จากผืนป่า” ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 6 เรื่อง “มวลพฤกษาสคู่ วามงาม” และใหจ้ ดั ทาผลงานหรือ
ชิ้นงานบรู ณาการมา 1 ช้ิน
โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม ได้ปรับกิจกรรมชุมนุมวิทยาศาสตร์ เป็นชุมนุมเรียน-รู้-
รักษ์นก และนาผลงานจากการทากิจกรรมเข้าร่วมประกวดชุมนุมนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์
(ชุมนุมนักปักษีวิทยารุ่นเยาว์) สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
และบูรณาการเปน็ ส่วนหนง่ึ ของรายวิชาการคน้ ควา้ อสิ ระ (Independent Study)
โรงเรียนเชียงกลาง “ประชาพัฒนา” บูรณาการเรื่องการศึกษานกเข้ากับ
งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดาริ
33
สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ในประเด็น “สรรพสิง่ ล้วนพัน
เกี่ยว” และจัดต้ังชมรมดูนก ปักษีวิทยา ตลอดจนบูรณาการเข้ากับการสอนในคาบทักษะ
ชีวิต (มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1-6)
โรงเรียนพระธาตพุ ทิ ยาคม จัดต้ังชุมนมุ เรยี น-รู้-รักษ์นก จัดเตรยี มอุปกรณก์ ารดูนก
เพ่ือให้นักเรียนที่สนใจได้ใช้สารวจชนิดนกในโรงเรียน โดยมีครูและนักเรียนแกนนาเป็น
ผู้ให้คาแนะนา และนาเนื้อหามาบูรณาการกับการสอนด้านอนุกรมวิธาน โดยอาศัยการทา
Dichotomous Key อย่างง่ายเพ่ือจัดจาแนกชนดิ นก
โรงเรียนพระปริยัติธรรมท้ังสามโรงเรียนได้นากิจกรรมไปเผยแพร่ในโรงเรียน
ในรูปแบบชุมนุม เพ่ือขยายผลจากสามเณร 4 รูปที่เข้าร่วมกิจกรรมไปยังสามเณรกลุ่มอ่ืน
เช่น โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดพระธาตุแช่แห้งจัดกิจกรรมชุมนุมภายในโรงเรียน
โดยมีสามเณรเข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 10 รูป โรงเรียนพระปริยัติศาสนาพิพัฒน์
วัดเมืองรามจัดตั้งชุมนุมรักนก เพ่ือให้สามเณรได้ต่อยอดและเรียนรู้เพ่ิมเติม และ โรงเรียน
พระปริยัติธรรมวัดนิโครธารามจัดกิจกรรมดูนก โดยมีครูรับผิดชอบพาสามเณรไปสารวจ
และเกบ็ ข้อมูลนกในสถานที่ตา่ ง ๆ และกาลงั จะร้ือฟ้ืนการจัดกจิ กรรมโดยใหส้ ามเณรท่ีผ่าน
การอบรมมาเปน็ แกนนาในการอบรมให้สามเณรรุ่นน้อง
กจิ กรรมชุมนุมเรียน-รู้-รกั ษน์ กภายในโรงเรยี น
34
การนาเสนอผลงานบรู ณาการการศกึ ษาเร่ืองนกรว่ มกับงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
“…..การเข้าร่วมโครงการฯ เป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจในการเข้าศึกษาต่อใน
ระดับอดุ มศึกษา สาขาท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั ชีววทิ ยา และร่วมกิจกรรมที่เกย่ี วขอ้ งกับเร่อื งนกตลอดมา
รวมถึงในอนาคตวางแผนจะทา senior project เพ่ือจบการศึกษาด้วยหัวข้อการสารวจความ
หลากหลายของนก…..”
นายพิริยกร วงั แสง
นกั เรยี นในโครงการฯ ปที ่ี 1 (พ.ศ. 2556)
ปจั จบุ นั ศึกษาอยู่ ชนั้ ปที ี่ 3 สาขาสตั ววทิ ยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่
35
4. การเรียนจากการถ่ายทอดความรู้
โรงเรียนท่ีเข้าร่วมกิจกรรมโครงการเรียน-รู้-รักษ์นก ได้พัฒนากลยุทธในการให้
เยาวชนได้เรียนรู้และพัฒนาศักยภาพด้วยการนาองค์ความรู้ไปเผยแพร่ให้สังคม นับต้ังแต่
การจัดบอร์ดนิทรรศการในสัปดาห์วิชาการของโรงเรียน การจัดทาแฟ้มความรู้ประจา
โรงเรียน การจัดทาหนังสือนกในโรงเรียน การเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ การเผยแพร่
ผา่ นเสยี งตามสาย ไปจนถงึ การจดั เปน็ ค่ายอบรมให้กับนักเรียนในโรงเรียน เช่น “ค่ายเรยี น-
รู้-รักษ์นก จากพ่ีสู่น้อง” หรือ อบรมให้นักเรียนในโรงเรียนเครือข่าย เช่น “กิจกรรมค่าย
ละอ่อนน่าน สู่นอ้ งประถม” ใหก้ บั โรงเรยี นประถมศกึ ษาเครอื ขา่ ย
โรงเรียนสา ได้เผยแพร่ผลงานการจัดกิจกรรมในงานวิชาการของโรงเรียน จัดทา
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เผยแพร่ในเว็บไซต์ของโรงเรียนสา ตลอดจนจัดทา
Facebook Page เรียน-รู้-รักษ์นก โรงเรียนสา เพือ่ แสดงขอ้ มลู เก่ยี วกับนกที่พบในโรงเรยี น
โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม นาเสนอผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับนกใน
งานท่าวังผาวิชาการ สืบสานภูมิปัญญาท้องถ่ิน และจัดค่าย เรียน-รู้-รักษ์นก ในช่วงปี
พ.ศ. 2558-2559 ให้กับนักเรียนภายในโรงเรียน ทั้งยังกระตุ้นความสนใจของนักเรียนและ
ครใู นโรงเรยี นดว้ ยการจัดทา QR Code เกี่ยวกบั นกในโรงเรียนไว้ตามสถานท่ีตา่ ง ๆ
โรงเรยี นเชียงกลาง “ประชาพัฒนา” มอบหมายใหน้ กั เรยี นทเ่ี ข้าร่วมโครงการฯ ได้
เรียนรู้จากการถ่ายทอดโดยให้พ่ีสอนน้องในคาบทักษะชีวิต จัดทาป้ายนิทรรศการเผยแพร่
ความรเู้ กีย่ วกับนก โดยแทรกเสริมในสวนพฤกษศาสตร์ของโรงเรียน และจัดทาค่าย B-Bird
(1 วัน) ให้กับนักเรียนภายในโรงเรียนจานวน 40 คน โดยมีนักเรียนแกนนา 12 คนจัดฐาน
สอนการใช้อุปกรณ์ และให้ครูช่วยบรรยายเร่ืองนกและป่าไม้ โดยใช้งบประมาณอย่าง
ประหยดั เพยี ง 500 บาท ด้วยการให้ผเู้ ข้ารว่ มค่ายนาอาหารและนา้ ด่ืมมารับประทานเอง
โรงเรียนพระธาตุพิทยาคม มอบหมายให้นักเรียนท่ีเข้าร่วมโครงการ และนักเรียน
ในชุมนุมเรียน-รู้-รักษ์นก จัดนิทรรศการป้ายนกน่ารู้ในโรงเรียน และนิทรรศการในงาน
เปิดบ้านวิชาการของโรงเรียนประถมศึกษาในอาเภอเชียงกลาง เพ่ือฝึกทักษะการถ่ายทอด
36
ข้อมูลในรูปนิทรรศการ ท้ังยังได้จัดกิจกรรมค่ายเรียน-รู้-รักษ์นก สู่น้องประถมเพ่ืออบรม
นกั เรยี นระดับประถมศกึ ษาในเครือขา่ ย
โรงเรียนพระปริยัติธรรมทั้งสามโรงเรียน ได้นาเสนอผลงานการเข้าร่วมกิจกรรม
โครงการเรียน-รู้-รักษ์นก ในนิทรรศการของกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรมจังหวัดน่าน และ
เปดิ โอกาสให้สามเณรนาเสนอผลงานให้แขกท่มี าเยี่ยมชมกจิ การโรงเรียนอย่างสม่าเสมอ
การถา่ ยทอดความรู้จากนักเรียนโครงการฯ สูน่ อ้ งประถมในโรงเรยี นเครือขา่ ย
การเผยแพร่ความรผู้ ่านการจัดทา QR Code
37
5. การจัดการเรียนรู้ใหเ้ หมาะสมกบั ผ้เู รียน
กิจกรรมโครงการเรียน-รู้-รักษ์นก มีทั้งการอบรมในห้องเรียน การฝึกทักษะ
ในภาคสนาม การใช้ชีวิตร่วมกับผอู้ ื่น ซึ่งนอกจากผลด้านการกระตุ้นความสนใจของผู้เรยี น
แล้ว ยังเปิดโอกาสให้ผู้สอนได้สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน เพื่อนาไปปรับ
การเรียนการสอนให้เหมาะสมมากขึ้น
กรณีศึกษาท่ีสาคัญ คือ สามเณรบางรูปจากโรงเรียนพระปริยัติธรรมที่เข้าร่วม
กิจกรรม เม่ือประเมินด้วยเกณฑ์มาตรฐานการเรียนรู้แล้วพบว่ามีความบกพร่องในการ
เรียนรู้ (learning deficit) แต่ครูในโรงเรียนสังเกตว่า สามเณรมีความสนใจในธรรมชาติ
รอบตัว จึงได้ส่งมาเข้าร่วมกิจกรรมโครงการเรียน-รู้-รักษ์นก ซึ่งเม่ือผ่านการอบรมแล้ว
พบว่าสามเณรมีพัฒนาการด้านการเรียนรู้ในหัวข้อท่ีสนใจเป็นอย่างมาก สามารถมีสมาธิ
จดจ่ออ่านหนังสือ “ค่มู อื ศกึ ษาธรรมชาติหมอบุญส่ง เลขะกุล นกเมอื งไทย” ซ่งึ เป็นหนังสือ
เฉพาะทางเกี่ยวกับนก ได้เป็นเวลานาน ๆ และจดจาเนื้อหารายละเอียดได้อย่างแม่นยา
สามารถให้คาตอบเก่ียวกับเรื่องนกได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องเปิดหนังสือ จนในท่ีสุด
โรงเรียนได้นาเร่ือง “นก” ไปแทรกในเนื้อหารายวิชาอ่ืน ๆ เพ่ือกระตุ้นการเรียนรู้ของ
สามเณรจนมพี ฒั นาการเรยี นรใู้ นภาพรวมดีขึ้นเป็นอยา่ งมาก
“.....นกั เรียนได้ลงมือปฏบิ ตั ิ ศึกษานอกสถานที่ เกิดกระบวนการเรียนรู้ดา้ นวิทยาศาสตร์
มากข้ึน รู้จักเพ่ือนต่างโรงเรียนทาให้เกิดการสร้างเครือข่ายอย่างกว้างขวาง และมี
คณาจารย์จากจฬุ าฯ มาใหค้ วามรู้ท่ถี ูกตอ้ งและชดั เจน…..”
ครกู าญจนา ธนะขว้าง
โรงเรยี นทา่ วงั ผาพทิ ยาคม
38
คู่มอื ศกึ ษาธรรมชาติหมอบญุ สง่ เลขะกลุ นกเมืองไทย
กรณีศึกษาท่ีคล้ายคลึงกันยังมีปรากฏในนักเรียนบางคนที่มีความบกพร่องในการ
เรียนรู้ หรือมีพฤติกรรมเส่ียงอื่น ๆ ซ่ึงครูสามารถใช้กลยุทธวางแผน ปรับการทางานใน
หลากหลายรูปแบบเพื่อใหง้ านสาเร็จ
กิจกรรมของโครงการฯ ท่ีเกี่ยวข้องกับการนาเสนอผลงานในที่สาธารณะ ยังช่วย
ปรับพัฒนาการของนักเรียนที่ไม่กล้าแสดงออก ไม่ค่อยกล้าพูดแสดงความคิดเห็น ให้เป็น
คนกล้ามากขึ้น โดยอาศัยการฝึกฝนพูดแสดงความคิดเห็นในวงประชุมขนาดเล็กจนมั่นใจ
และเมือ่ ประกอบกับการนาเสนอในเรอ่ื งทีส่ นใจและมผี ลการศึกษาทน่ี ักเรยี นได้ลงมือปฏิบัติ
ด้วยตนเองแล้ว ทาให้นักเรียนมีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดสามารถพูดได้ถูกต้อง
ตรงประเด็น มีความแมน่ ยาของขอ้ มลู สงู
39
6. การนาองคค์ วามรูไ้ ปบรกิ ารสงั คม
โรงเรียนท่ีเข้าร่วมกิจกรรมโครงการเรียน-รู้-รักษ์นก เล็งเห็นความสาคัญของการ
มีส่วนร่วมของชุมชนในการร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จึงได้จัดให้มีการเผยแพร่
ข้อมูลเพื่อความตระหนักรู้ของชุมชน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การเผยแพร่ข้อมูลผ่าน
เสยี งตามสาย การจดั บอรด์ นิทรรศการ การเผยแพรผ่ ่านสือ่ สังคมออนไลน์ ตลอดจนการจัด
ค่ายอบรมระยะส้ันให้เยาวชนในชุมชน เพ่ือสร้างแนวร่วมด้านการอนุรักษ์ทรัพยากร
ธ รรมช าติ โ ดยได้รับคว ามร่ว มมือจากปราช ญ์ช าว บ้าน และกลุ่มป่าชุมช น
จนได้รบั การยอมรบั และสนบั สนนุ งบประมาณจากองคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ เชน่ อบต.
โรงเรียนสา เผยแพร่หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ในเว็บไซต์ของโรงเรียนสา
และจัดทา Facebook Page เรียน-รู้-รักษ์นก โรงเรียนสา เพื่อแสดงข้อมูลเก่ียวกับนก
ท่ีพบในโรงเรียน และนากิจกรรมโครงการเรียน-รู้-รักษ์นก บรรจุเป็นส่วนหน่ึงในโครงการ
ตามพระราชดาริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม-
บรมราชกมุ ารี ที่โรงเรยี นได้รวบรวมไว้
โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม เผยแพร่ผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับนกใน
งานท่าวงั ผาวิชาการ สืบสานภมู ิปญั ญาทอ้ งถน่ิ ซง่ึ เปิดให้ประชาชนทัว่ ไปเขา้ ชมได้
โรงเรียนเชียงกลาง “ประชาพัฒนา” บูรณาการเร่ืองการศึกษานกเข้ากับงาน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดาริ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) และเผยแพร่ให้ชุมชน
ตลอดจนผู้เข้าเย่ียมชมโรงเรียนได้รับทราบ โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีย่ิงจากปราชญ์
ชาวบ้านและผู้ดูแลป่าชุมชน จนสามารถบูรณาการการดูนกและการรักษาป่าชุมชนไว้
ด้วยกัน ทั้งยังได้บูรณาการเข้ากับภารกิจของโรงเรียนในฐานะศูนย์การเรียนรู้ตามหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา จนได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศใน
ปี พ.ศ. 2559-2560
โรงเรียนพระธาตุพิทยาคม มอบหมายให้นักเรียนท่ีเข้าร่วมโครงการ และนักเรียน
ในชุมนุมเรียน-รู้-รักษ์นก จัดนิทรรศการเผยแพร่ความรู้สู่ชุมชน จัดกิจกรรมค่ายเรียน-รู้-
40
รักษ์นก สู่น้องประถมเพื่ออบรมนักเรียนระดับประถมศึกษา ตลอดจนการดาเนินงาน
ร่วมกับเจ้าหน้าท่ีป่าไม้จัดการอบรมโดยมีภาคปฏิบัติเกี่ยวกับการดูนก และให้นักเรี ยน
แกนนาเสนอผลงานจากโครงการฯ จนได้รับการยอมรับและสนับสนุนงบประมาณจาก
องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ เชน่ องค์การบริหารสว่ นตาบล มาอยา่ งสมา่ เสมอ
โรงเรียนพระปริยัติธรรมท้ังสามโรงเรียน ได้นาเสนอผลงานการเข้าร่วมกิจกรรม
ใหก้ ับแขกทีม่ าเยีย่ มชมกิจการโรงเรยี นอย่างสมา่ เสมอ
การเผยแพร่ความรใู้ หแ้ กน่ กั เรียนระดับประถมศกึ ษา
41
การเผยแพร่ความรู้และผลงานโครงงานวิทยาศาสตรแ์ ก่ชมุ ชนและประชาชนทว่ั ไป
“.....การได้รับความร่วมมือจากคณะครูในสาระฯ ช่วยเหลือดูแลนักเรียน รวมถึงการ
สร้างความเช่ือมั่นและความเข้าใจต่อผู้ปกครองของนักเรียนช่วยให้การดาเนินกิจกรรม
เป็นไปได้ด้วยดี…..”
ครแู สงรวี รณุ วฒุ ิ
โรงเรียนสา
42
7. การสรา้ งเครอื ข่ายทางวิชาการ
การดาเนินงานโครงการเรียน-รู้-รักษ์นก นับต้ังแต่ปี พ.ศ. 2556 จนถึงปัจจุบัน
มีรูปแบบการดาเนินงานเสมือนชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพท่ีทางานร่วมกันอย่างใกล้ชิด
เปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างครูในโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียน ชุมชน
ทอ้ งถ่นิ และผทู้ รงคณุ วุฒิจากจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย
โรงเรียนสา จัดให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เนื้อหาจากการอบรมให้ครูคนอื่น
ในหมวดสาระการเรียนรู้เดียวกัน และระหว่างสาขาวิชา โดยมีผลงานเป็นรูปธรรมจากการ
จัดทาหลักสูตร “รักษ์ป่าน่าน” ร่วมกันระหว่าง 8 สาขาวิชา โดยได้จัดทารายงาน
ส่งผู้บริหารโรงเรียนให้รับทราบข้อมูลการอบรมหรือประโยชน์จากการอบรม และได้รับ
ความไว้วางใจให้จัดทานิทรรศการเผยแพร่ผลงานในการประเมินต่าง ๆ เช่น การประเมิน
QA ภายในสถาบันและภายในเขต ตลอดจนการประเมินของพื้นที่การศึกษา ท้ังยังเปิด
โอกาสใหค้ รอบครวั ของนกั เรียนได้รบั รผู้ ่านการประชาสมั พนั ธ์ให้ครอบครวั ทราบทุกครั้งท่ีมี
การจัดกจิ กรรม และชแี้ จงในช่วงวันปฐมนเิ ทศห้องเรยี น
โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม ถ่ายทอดความรู้ให้ผู้ปกครองของนักเรียนในโรงเรียน
ผา่ นการจดั นิทรรศการในงานเผยแพร่ท่าวังผาวชิ าการ สบื สานภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ
โรงเรียนเชยี งกลาง “ประชาพัฒนา” แลกเปลี่ยนเรียนรผู้ า่ นการประชุมกับหัวหน้า
กลุ่มสาระการเรียนรู้ของโรงเรียน ซ่ึงจะนาข้อมูลไปเผยแพร่ต่อในการประชุมกลุ่มสาระฯ
ทาใหค้ รทู ุกคนในโรงเรยี นทราบข้อมลู เกยี่ วกบั โครงการเรยี น-รู้-รักษ์นก
โรงเรียนพระธาตุพทิ ยาคม พัฒนาเครือขา่ ยในทุกระดับ ตั้งแตน่ ักเรียนในโครงการ-
นักเรียนในโรงเรียน-นักเรียนระดับประถมศึกษา ครูผู้รับผิดชอบโครงการ-ครูในสาขาวิชา
อ่ืน-ผู้บริหารโรงเรียน จนถึง ครูกับองค์การบริหารส่วนท้องถ่ินและปราชญ์ชาวบ้าน ซ่ึง
นอกจากเน้ือหาวิชาการแล้ว ยังสามารถในไปสู่แนวทางการสร้างอาชีพ เช่น การทางาน
ศลิ ปะ paper mache รปู นก เพ่ือวางขายในตลาดธงฟา้ ประชารัฐ