อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ก หน้าปก งานอายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ข | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ค อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ง | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล ค าน า ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นภาควิชาเก่าแก่ที่ได้ผลิตบัณฑิตออกไป รับใช้สังคมเป็นจ านวนมาก อันเป็นผลจากการทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจของบูรพาจารย์ในการประสิทธิ์ประสาท ความรู้ จริยธรรมและคุณธรรมแก่นิสิต ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล เป็นหนึ่งในบูรพาจารย์ ของภาควิชาชีววิทยา ผู้ซึ่งวางรากฐานการเรียนการสอนในสาขากายวิภาคศาสตร์เปรียบเทียบ (Comparative anatomy) ให้แก่ภาควิชาชีววิทยา และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนื่องในโอกาสที่ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล มีอายุครบ ๙๙ ปี และก้าวเข้าสู่ช่วงอายุ วัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ในวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์พ.ศ. ๒๕๖๒ ภาควิชาชีววิทยา จึงจัดท าหนังสือ อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล “ชีวิตและผลงาน” ซึ่งได้แสดงประวัติภาพถ่ายและ ผลงานของศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล โดยบางส่วนมีการจัดพิมพ์ขึ้นใหม่และบางส่วนได้ น าเสนอในรูปแบบต้นฉบับ ในส่วนของการจัดพิมพ์ขึ้นใหม่นั้น ได้พิจารณาบทความจากวารสารและหนังสือต่าง ๆ ประกอบด้วยบทความทางวิทยาศาสตร์ การบรรยายทางชีววิทยา ข้อคิดเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ บทความด้านสัตวแพทยศาสตร์ และบทความเชิงประวัติศาสตร์ ส าหรับบทความที่น าเสนอในรูปแบบต้นฉบับนั้น เป็นการส าเนาจากเอกสารหลายชิ้น ทั้งที่มีอายุมากและปัจจุบัน ด้วยเจตนาที่ต้องการรวบรวมข้อเขียนที่มีคุณค่า เข้าไว้ด้วยกัน บทความต่าง ๆ เหล่านี้มีความหลากหลายทางด้านเนื้อหาและสาระทางวิชาการ สะท้อนถึง อัจฉริยภาพของศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล อย่างแท้จริง หนังสือเล่มนี้ จึงเป็นสื่อในการเฉลิมฉลองโอกาสอันเป็นมงคลและเป็นสื่อส าหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างคณาจารย์ คณาจารย์อาวุโส บุคลากร บุคลากรอาวุโส นิสิตปัจจุบัน และนิสิตเก่า เกี่ยวกับหลักคิดและการ ท างานของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล ในการอุทิศตนท างานเพื่อความเจริญก้าวหน้าของ หน่วยงาน ด้วยความอุตสาหะ ขวนขวาย แสวงหาความรู้ในศาสตร์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเป็นสื่อ แสดงความกตัญญูและระลึกถึงคุณงามความดีต่อศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล ที่ได้ปฏิบัติ ราชการที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสร้างบัณฑิตที่มีคุณภาพออกไปรับใช้สังคมด้วยความเข้มแข็งตลอดมา นับเป็นเกียรติประวัติที่มีคุณค่าและเป็นแบบอย่างที่น่าชื่นชมให้แก่คณาจารย์ บุคลากร และนิสิตปัจจุบันสืบไป อนึ่ง ภาควิชาชีววิทยา ขออภัยที่ได้น าบทความบางส่วนมาท าซ้ า และภาควิชาฯ ไม่สามารถติดต่อขอ อนุญาตอย่างเป็นทางการในการท าซ้ าเพื่อเผยแพร่ได้ในเวลาอันจ ากัด ณ ปัจจุบัน หากเจ้าของวารสารใดทราบ ขอความกรุณาติดต่อมายังภาควิชาชีววิทยา เพื่อจะได้ขออนุญาตให้ถูกต้องเหมาะสมต่อไป ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๑ สารบัญ หน้า ค าน า................................................................................................ง ค าประกาศเกียรติคุณ...............................................................................๓ ประวัติ............................................................................................. ๗ วันเดือนปีเกิด....................................................................................... ๘ การศึกษา .......................................................................................... ๘ เหรียญและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทาน....................................................๙ การท างาน..........................................................................................๙ ต าแหน่งหน้าที่อื่น.................................................................................. ๑๐ ผลงานวิชาการ ................................................................................... ๑๓ ผลงานเขียน ...................................................................................... ๑๔ อาจารย์ที่ปรึกษา ..................................................................................๑๗ สมุดประวัติประจ าตัวข้าราชการ.................................................................. ๑๙ บทความในหนังสือ (จัดพิมพ์ขึ้นใหม่ คงรูปแบบอักษรเดิม) ....................................๒๘ พุทธศักราช ๒๕๑๕ วิทยาศาสตร์ในความคิดเห็นของข้าพเจ้า............................................................๒๙ พุทธศักราช ๒๕๑๖ สภาวะและบทบาทสัตวแพทย์อเมริกันต่อสังคม ..................................................... ๓๕ พุทธศักราช ๒๕๑๗ วิวัฒนาการ..................................................................................... ๔๑ พุทธศักราช ๒๕๑๙ อนิจจา (ความไม่แน่นอน) เป็นสัจจะ (ความแน่นอนเป็นจริง) .......................................... ๕๕
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๒ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล หน้า พุทธศักราช ๒๕๒๘ ข้อคิดเกี่ยวกับต านานสัตวแพทย์ไทย จากพระเพทราชา ถึง เริ่มตั้งแผนกสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย........................................................................ ๕๗ พุทธศักราช ๒๕๕๑ แด่ศาสตราจารย์ศุภชัย วานิชวัฒนา ปูชนียบุคคลที่ข้าพเจ้าไม่มีวันลืม...................................๖๕ บทความในวารสาร (จากต้นฉบับ) ..............................................................๙๕ พุทธศักราช ๒๔๙๐ สมุนไพรไทยชนิดใหม่แก้มาเลเรียพบในเมืองไทย ...................................................๙๖ พุทธศักราช ๒๔๙๑ Strobilanthes flaccidifolius (Nees) พฤกษชาติที่คล้าย Dichroa febrifuga (Lourerio) สมุนไพรแก้มาเลเรีย...........................................................................๑๑๒ พุทธศักราช ๒๔๙๔ การศึกษาสภาพวิการภายในเซลล์ถุงน้ าดีและท่อน้ าดี เพื่อช่วยในการชันสูตรโรคไข้สุกร.................๑๑๘ พุทธศักราช ๒๔๙๔ บันทึกเรื่อง Avian Pneumomycosis.............................................................๑๒๔ พุทธศักราช ๒๔๙๔ ปฏิชีวนะ......................................................................................๑๒๘ พุทธศักราช ๒๕๒๕ วิวัฒนาการของมนุษย์ที่สัมพันธ์กับขนาดสมอง.....................................................๑๓๘ พุทธศักราช ๒๕๔๖ ความไม่แน่นอนและความแน่นอนทางชีววิทยา .....................................................๑๔๕
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๓ ค าประกาศเกียรติคุณ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (คัดลอกจากหนังสือพิธีพระราชทาน ประจ าปีการศึกษา ๒๕๕๐)
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๔ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล ค ำประกำศเกียรติคุณ ด้วยสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการประชุมครั้งที่ ๖๙๙ เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้พิจารณาเห็นว่า ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้าน วิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านชีววิทยา ได้ทุ่มเทอุทิศตนเพื่อการเรียนการสอน และพัฒนาวง การศึกษาชีววิทยาให้มีความเจริญก้าวหน้ามาโดยตลอด ก่อให้เกิดประโยชน์เป็นที่ประจักษ์ นับเป็นบุคคลผู้ กอปรด้วยคุณลักษณะของความเป็นครูและผู้มีคุณธรรมและจริยธรรม สมควรได้รับการยกย่องเพื่อเป็น เกียรติและแบบอย่างอันดีงามสืบไป ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล ส าเร็จการศึกษาสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะ สัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๘๕ ส าเร็จการศึกษาสาธารณสุขศาสตร มหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมินเนโซตา สหรัฐอเมริกา เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๙๕ และส าเร็จการศึกษา ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการสอนวิทยาแบคทีเรีย จากมหาวิทยาลัยอินเดียนา สหรัฐอเมริกา เมื่อปี พุทธศักราช ๒๕๐๑ เข้ารับราชการในต าแหน่งสัตวแพทย์โท กองสัตวรักษ์ กรมเกษตรและการประมง กระทรวงเกษตราธิการ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๘๕ ต่อมาได้โอนมาเป็นอาจารย์ในคณะสัตวแพทยศาสตร์ซึ่ง เปิดสอนอยู่ในมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ในขณะนั้น ในปีพุทธศักราช ๒๔๙๗ ได้โอนไปเป็นอาจารย์ในคณะ สัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนกระทั่งปีพุทธศักราช ๒๔๙๙ จึงได้โอนมาเป็นอาจารย์ใน แผนกชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งผู้ช่วย ศาสตราจารย์ และรองศาสตราจารย์ในปีพุทธศักราช ๒๕๐๕ และ ๒๕๐๘ ตามล าดับ และได้รับพระมหา กรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ด ารงต าแหน่งศาสตราจารย์ในปีพุทธศักราช ๒๕๑๑ ภายหลังเกษียณอายุ ราชการได้รับแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์กิตติคุณในปีพุทธศักราช ๒๕๓๙ ในด้านการบริหาร ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล ได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง หัวหน้าแผนกวิชาชีววิทยาในระหว่างปีพุทธศักราช ๒๕๑๔-๒๕๑๘ และเกษียณอายุราชการเมื่อปี พุทธศักราช ๒๕๒๓ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล เป็นอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากลูก ศิษย์และนักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพว่าเป็นผู้มีความทันสมัยทางด้านวิชาการอยู่เสมอ เป็นผู้น า ความรู้เกี่ยวกับดีเอ็นเอซึ่งจัดเป็นองค์ความรู้ใหม่ในขณะนั้นมาสอนเป็นครั้งแรกในคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๒ เป็นผู้ริเริ่มสอนชีววิทยาแผนใหม่ ซึ่งเป็นพื้นฐานของ การเรียนการสอนชีววิทยาในปัจจุบัน เป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เล็งเห็นความส าคัญของการบูรณการ ศาสตร์ต่าง ๆ ทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ เพื่อการเรียนการสอน ท าให้ผู้เรียนมีความรู้ความ เข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล เป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในสาขาวิชา กายวิภาคศาสตร์เปรียบเทียบ จุลชีววิทยา พันธุศาสตร์และวิวัฒนาการ ซึ่งล้วนเป็นพื้นฐานส าคัญส าหรับ
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๕ การศึกษาและการวิจัยทั้งด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐานและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ เป็นผู้มีความมุ่งมั่น ทุ่มเท ถ่ายทอดความรู้ตลอดจนแนวคิดและวิธีแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกศิษย์ มีวิธีการสอนที่ท าให้ผู้เรียนเกิดความ สนใจ จึงได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาหลายแห่ง รวมทั้งได้รับเชิญ ให้แสดงปาฐกถาในวาระส าคัญต่าง ๆ หลายครั้ง ในระหว่างที่ด ารงต าแหน่งหัวหน้าแผนกชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มก าลังความสามารถด้วยการเป็นผู้น า ที่มีความรับผิดชอบสูง ยึดมั่นในกฎระเบียบและความถูกต้อง น าความเจริญก้าวหน้ามาสู่แผนกชีววิทยา หรือปัจจุบันคือภาควิชาชีววิทยาเป็นอันมาก อีกทั้งยังเป็นผู้ที่มีบทบาทส าคัญในการส่งเสริมสนับสนุนลูก ศิษย์ให้สนใจรับราชการเป็นอาจารย์ในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทั่วประเทศ ด้วยความรู้ความสามารถดังกล่าวข้างต้น ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล ได้รับเชิญ ให้ท าหน้าที่กรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ อันเป็นการท าคุณประโยชน์ให้แก่มหาวิทยาลัยและ ประเทศชาติอาทิ ได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ กรรมการผู้ พิจารณาผู้ได้รับพระราชทานทุนมูลนิธิอานันทมหิดล สาขาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ กรรมการ สอบชิงทุนการศึกษาต่างประเทศของรัฐบาล และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในการพิจารณาก าหนดต าแหน่ง ทางวิชาการ ทั้งภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษาอื่น ๆ อีกหลายแห่ง เมื่อเกษียณอายุ ราชการแล้ว ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล ยังคงท าหน้าที่เป็นอาจารย์พิเศษให้แก่ภาควิชา ต่าง ๆ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศ ในปีพุทธศักราช ๒๕๔๖ ได้รับรางวัลปาฐกถาสุด แสงวิเชียร และได้รับคัดเลือกเป็นนักวิทยาศาสตร์อาวุโสดีเด่น จากคณะ วิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล เป็นอาจารย์ในสาขาชีววิทยา ที่มีความรู้และความ เชี่ยวชาญ เพียบพร้อมด้วยคุณธรรมและจริยธรรม เป็นครูผู้ให้ทั้งการศึกษาและการอบรมแก่ศิษย์ เป็นผู้มี วิสัยทัศน์กว้างไกล เป็นผู้อุทิศตนเพื่อความเจริญก้าวหน้าของวงการวิทยาศาสตร์ของประเทศ ก่อให้เกิด ประโยชน์ต่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและประเทศชาติ สมควรได้รับการยกย่องเพื่อเป็นแบบอย่างผู้อื่น เจริญรอยตาม สภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ได้รับพระราชทานปริญญาวิทยาศาสตร ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เพื่อเป็นเกียรติสืบไป
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๖ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล รับพระราชทานปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๕๑
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๗ ประวัติ (รวบรวมจากเอกสารปาฐกถาสุด แสงวิเชียร พ.ศ.๒๕๔๖ สมุดประวัติประจ าตัวข้าราชการ และเอกสารอื่น ๆ)
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๘ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล ศาสตราจารย์กิตติคุณคุณ ม.ร.ว. ชนาญวัต เทวกุล เป็นศาสตราจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาวิชาชีววิทยา และเป็นอาจารย์คนแรกที่เสนอดีเอ็นเอชีวโมเลกุลที่มีความส าคัญทางชีววิทยา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๒ ในมหาวิทยาลัย และระบุในห้องปาฐกถา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า คณะผู้วิจัย ประกอบด้วย James Watson, Francis Crick และ Maurice Wilkins จะได้รับรางวัลโนเบลในไม่ช้า ซึ่งก็เป็นไปตามคาดหมายใน พ.ศ. ๒๕๐๕ ส าหรับประวัติการรับราชการและผลงานทางวิชาการของ ศาสตราจารย์กิตติคุณคุณ ม.ร.ว. ชนาญวัต เทวกุล มีรายละเอียดดังนี้ วันเดือนปีเกิด ศาสตราจารย์กิตติคุณคุณ ม.ร.ว. ชนาญวัต เทวกุล เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๒ (พ.ศ.๒๔๖๓ ตามปฏิทินปัจจุบัน) ที่วังเทวะเวสม์ ต าบลบางขุนพรหม อ าเภอพระนคร จังหวัดพระนคร กำรศึกษำ พ.ศ. ระดับการศึกษา สถานที่ศึกษา ๒๔๗๐ ประถม ๑ โรงเรียนราชินี ๒๔๗๓ ประถม ๓ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ๒๔๗๙ มัธยม ๘ โรงเรียนเทพศิรินทร์ ๒๔๘๕ สัตวแพทยศาสตรบัณฑิต (สต.บ.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๒๔๙๕ สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต Master of Public Health (M.P.H.) University of Minnesota, USA ๒๕๐๑ Master of Arts for Teacher (M.A.T.) in Bacteriology Indiana University, USA
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๙ เหรียญและเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ที่ได้รับพระรำชทำน ๕ ธันวาคม ๒๔๙๑ จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๙ ๕ ธันวาคม ๒๔๙๗ จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก ๕ ธันวาคม ๒๕๐๗ ตริตาภรณ์มงกุฎไทย ๕ ธันวาคม ๒๕๑๑ ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ๕ พฤษภาคม ๒๕๑๓ ตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ๒ ตุลาคม ๒๕๑๔ เหรียญรัตนาภรณ์ชั้น ๓ ๕ ธันวาคม ๒๕๑๔ ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ๕ ธันวาคม ๒๕๑๘ ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ๕ พฤษภาคม ๒๕๑๙ ทุติยจุลจอมเกล้า ๕ ธันวาคม ๒๕๒๑ ประถมาภรณ์ช้างเผือก กำรท ำงำน พ.ศ. ๒๔๘๕ ข้าราชการพลเรือนวิสามัญชั่วคราว (ชั้นโท) ต าแหน่งนายสัตวแพทย์โท กองสัตวรักษ์ กรมเกษตร กระทรวงเกษตราธิการ ข้าราชการพลเรือนสามัญชั้นโท อ.๑ ต าแหน่งนายสัตวแพทย์โท กองสัตวรักษ์ กรมปศุสัตว์และสัตว์พาหนะ ข้าราชการพลเรือนสามัญชั้นโท ต าแหน่งอาจารย์โท คณะสัตวแพทยศาสตร์ กรมมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ พ.ศ. ๒๔๘๗ หัวหน้าแผนกเภสัชวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ กรมมหาวิทยาลัย แพทยศาสตร์ พ.ศ. ๒๔๙๗ ข้าราชการพลเรือนสามัญชั้นโท ต าแหน่งอาจารย์โท คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๑๐ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล พ.ศ. ๒๔๙๙ ข้าราชการพลเรือนสามัญชั้นโท ต าแหน่งอาจารย์โท แผนกชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๐๒ เลื่อนต าแหน่งเป็น อาจารย์เอก พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้รับแต่งตั้งเป็น “ผู้ช่วยศาสตราจารย์” พ.ศ. ๒๕๐๘ ได้รับแต่งตั้งเป็น “รองศาสตราจารย์” พ.ศ. ๒๕๑๑ ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น “ศาสตราจารย์” พ.ศ. ๒๕๑๔ หัวหน้าแผนกวิชาชีววิทยา พ.ศ. ๒๕๒๓ เกษียณอายุราชการ พ.ศ. ๒๕๒๔ ได้รับแต่งตั้งเป็น “ศาสตราจารย์กิตติคุณ” พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้รับพระราชทานรางวัล "นักวิทยาศาสตร์อาวุโสดีเด่น" สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้รับรางวัลปาฐกถาสุด แสงวิเชียร พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้รับพระราชทานปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต ำแหน่งหน้ำที่อื่น - กรรมการผู้พิจารณาผู้ได้รับพระราชทานทุนมูลนิธิอานันทมหิดล แผนกวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์(พ.ศ. ๒๕๑๙) - กรรมการแผนกวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์มูลนิธิอานันทมหิดล (พ.ศ. ๒๕๒๒) - กรรมการพิจารณาผลงานอาจารย์ เพื่อด ารงต าแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ ของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - กรรมการสอบวิทยานิพนธ์ ระดับวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาชีววิทยา และสัตววิทยา ของบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - กรรมการสอบไล่ชิงทุนการศึกษาต่างประเทศของรัฐบาล สาขาชีววิทยา จุลชีววิทยา และสัตวแพทย์สาธารณสุขศาสตร์
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๑๑ - อาจารย์พิเศษ บัณฑิตวิทยาลัย วิศวกรรมศาสตร์ สปอ. (SEATO Graduate School of Engineering: South – East Asian Treaty Organization, สนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออก เฉียงใต้, ปัจจุบัน Asian Institute of Technology (AIT) สาขาวิชา Sanitary Microbiology) - กรรมการสภามหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ - กรรมการสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย - กรรมการสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย - กรรมการสมาคมจุลชีววิทยาแห่งประเทศไทย - กรรมการสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - ผู้บรรยายวิชากายวิภาคเปรียบเทียบของสัตว์มีกระดูกสันหลัง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ - ผู้บรรยาย คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร - ผู้บรรยาย คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ - ผู้บรรยาย คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ - ผู้บรรยาย คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล - ผู้บรรยาย คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ วิทยาเขตสาขาปทุมวัน - ผู้บรรยายสัตวแพทย์สาธารณสุข คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - ผู้บรรยายชีววิทยา คณะสถิติ สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) - กรรมการและสัตวแพทย์ องค์การสวนสัตว์ดุสิต (ถึง พ.ศ. ๒๕๑๓) - กรรมการคณะวิทยาศาสตร์ (ถึง พ.ศ. ๒๕๒๑) - รองประธานสภาคณาจารย์ (พ.ศ. ๒๕๑๗-๒๕๑๘) - กรรมการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาในขั้นอุดมศึกษา (ถึง พ.ศ. ๒๕๑๘) - อนุสาสกหอพักนิสิตชาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (พ.ศ. ๒๕๐๘ – ๒๕๒๐) - สมาชิก American Veterinary Medical Association - สมาชิก American Society for Microbiology
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๑๒ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล กิติบัตรศาสตราจารย์กิติคุณ พุทธศักราช ๒๕๒๔ - อนุกรรมการโครงการวิจัยพัฒนาการด้านวิชาการแต่ละสาขาในรอบ ๒๐๐ ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๕๒๔ - ปัจจุบัน - สมาชิกกิตติมศักดิ์ สภากาชาดไทย - - Honorary diplomate, American Veterinary Epidemiology Society - สมาชิกตลอดชีพ American Public Health Association สาขา Epidemiology - สมาชิกตลอดชีพสมาคมจุลชีววิทยาแห่งประเทศไทย - สมาชิกตลอดชีพสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ - สมาชิกตลอดชีพ Minnesota Alumni Association - สมาชิกตลอดชีพสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - สมาชิกตลอดชีพสโมสรอาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - กรรมการที่ปรึกษาชมรมพันธุศาสตร์แห่งประเทศไทย - อนุกรรมการปฏิบัติภารกิจโครงการวิจัย “พัฒนาการด้านวิชาการแต่ละสาขาในรอบ ๒๐๐ ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์” - ที่ปรึกษากองบรรณาธิการ วารสารวิทยาศาสตร์ของสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๑๓ ผลงานวิชาการ (รวบรวมจากเอกสารปาฐกถาสุด แสงวิเชียร พ.ศ.๒๕๔๖ และสืบค้นเพิ่มเติมจากแหล่งต่าง ๆ)
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๑๔ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล ผลงำนเขียน บทควำมในวำรสำรวิชำกำร ๒๔๙๐. ชนาญวัต เทวกุล. สมุนไพรไทยชนิดใหม่แก้มาเลเรียพบในเมืองไทย. หนังสือพิมพ์เภสัชกรรม สมัยสาม (Journal of Pharmaceutical Association of Siam, Third Series). ๑, ๒ (ธ.ค.): ๒๐-๓๓. ๒๔๙๑. ชนาญวัต เทวกุล. Strobilanthes flaccidifolius (Nees) พฤกษชาติที่คล้าย Dichroa febrifuga (Lourerio) สมุนไพรแก้มาเลเรีย. หนังสือพิมพ์เภสัชกรรม สมัยสาม. ๑, ๕ (มิ.ย.): ๓๐-๓๒. ๒๔๙๓. ชนาญวัต เทวกุล. Rabies in the spotted deer. วารสารของสัตวแพทย์สมาคมแห่งประเทศ ไทย ๑-๕ ธันวาคม ๒๔๙๓. ๒๔๙๓. ชนาญวัต เทวกุล และสุพิศ ถมังรักษ์สัตว์. การตายเนื่องจากพิษโล่ติ้นในสุนัข. วารสาร ของสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย กุมภาพันธ์ ๒๔๙๓: ๖๘-๖๙. ๒๔๙๓. ชนาญวัต เทวกุล และ อายุส พิชัยชาญณรงค์. วารสารของสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย กุมภาพันธ์: ๗๐. ๒๔๙๓. ชนาญวัต เทวกุล และอายุส พิชัยชาญณรงค์. บันทึกเกี่ยวกับการพบพยาธิหัวใจในที่ที่ไม่ค่อยพบ. วารสารของสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย มีนาคม: ๗๔-๘๐. ๒๔๙๓. ชนาญวัต เทวกุล อายุส พิชัยชาญณรงค์ พจน์ พุฒรังษี และร าพึง ติสสะมาน. บันทึกขั้นต้น เกี่ยวกับวิชาโรคผิวหนังและที่สงสัยว่าเป็น Contagious pustule dermatitis วารสาร ของสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย เมษายน: ๗๖-๘๓. ๒๔๙๓. ชนาญวัต เทวกุล. Report on 2 cases of neuro paralysis in dogs after anti-rabies vaccination. วารสารของสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ตุลาคม: ๖๗-๗๖. ๒๔๙๔. ชนาญวัต เทวกุล. Avian Ieucosis complex Osteopetrotic Iymphomatosis. วารสาร ของสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย เมษายน: ๓๒. ๒๔๙๔. ชนาญวัต เทวกุล. การศึกษาสภาพวิการภายในเซลล์ถุงน้้าดีและท่อน้้าดีเพื่อช่วยในการชันสูตร โรคไข้สุกร. วิทยาศาสตร์๕, ๑ (ม.ค.): ๑๕-๑๘. ๒๔๙๔. ชนาญวัต เทวกุล. บันทึกเรื่อง Avian Pneumomycosis. วิทยาศาสตร์๕, ๙ (ก.ย.): ๕๒๙-๕๓๑. ๒๔๙๔. ชนาญวัต เทวกุล. ปฏิชีวนะ. วิทยาศาสตร์๕, ๑๐ (ต.ค.): ๕๘๙-๕๙๖. ๒๕๐๔. ชนาญวัต เทวกุล. เวรกรรมที่ก้าลังจะเกิดขึ้นกับมนุษย์. วารสารของสัตวแพทยสมาคม แห่งประเทศไทย กุมภาพันธ์: ๙๓-๙๗.
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๑๕ ๒๕๐๕. ชนาญวัต เทวกุล. นิวเคลียส. วารสารของสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย มกราคม ๒๕๐๗ หน้า ๑๒๐-๑๓๒. ๒๕๐๗. ชนาญวัต เทวกุล ไมโครโซม. วารสารของสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย พฤษภาคม ๒๕๐๗ หน้า ๒๘๓-๒๙๖. ๒๕๑๕. ชนาญวัต เทวกุล. วิทยาศาสตร์ในความคิดเห็นของข้าพเจ้า. กาลิเลโอ ๗, ๓ (ส.ค.), ๑๘-๒๐. ชุมนุมวิทยาศาสตร์ ร.ร.พิษณุโลกพิทยาคม, ภาคีชุมนุมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์. ๒๕๑๕. ชนาญวัต เทวกุล. วิทยาศาสตร์ในความคิดเห็นของข้าพเจ้า (ต่อ). กาลิเลโอ ๗, ๔ (ก.ย.), ๓-๕, ๒๑-๒๒. ชุมนุมวิทยาศาสตร์ ร.ร.พิษณุโลกพิทยาคม, ภาคีชุมนุมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์. ๒๕๑๗. ชนาญวัต เทวกุล. สัตว์ป่าที่ก้าลังใกล้จะสูญพันธุ์. รามาธิบดีกรกฎาคม-สิงหาคม ๒๕๑๗ หน้า ๒๔-๒๖. ๒๕๒๓. ชนาญวัต เทวกุล. มนุษย์และสังคม. วารสารของสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย มีนาคม ๒๕๒๓ หน้า ๑๘๒-๒๐๓. ๒๕๒๕. ชนาญวัต เทวกุล. วิวัฒนาการของมนุษย์ที่สัมพันธ์กับขนาดสมอง. วิทยาศาสตร์๓๖, ๘ (ส.ค.): ๕๔๒-๕๔๖. บทควำมและบทคัดย่อในกำรประชุมวิชำกำร ๒๕๐๔. ชนาญวัต เทวกุล, จิต อนุกูล และประกาย จิตรกร. การท้า Biopsy และ Differential Leucocytes Count ช่วยในการตรวจท้านายโรค Habronemiasis ในม้า. รายงาน การประชุมทางวิชาการ สาขาวิชาสัตวบาลและโรคสัตว์ ครั้งที่ ๑, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน, ๗-๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๔. ๒๕๐๘. ชนาญวัต เทวกุล และศรีสรร เรืองโอภาส. สมมุติฐานเพื่ออธิบายการแพร่โรคทริคิโนซีส. รายงานการประชุมทางวิชาการเกษตรศาสตร์และชีววิทยา ครั้งที่ ๔ สาขาพืชและชีววิทยา กับสาขาสัตว์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ๒๗-๒๙ มกราคม ๒๕๐๘. ๒๕๑๑. ทวีศักดิ์ ปิยะกาญจน์, ศรีสุมนต์ จันทนชาติและชนาญวัต เทวกุล. รายงานชั้นต้นเกี่ยวกับ การศึกษาสภาพการเปลี่ยนแปลงบางประการของน้้าในอ่างเก็บน้้า เขื่อนอุบลรัตน์ ภายหลัง ปิดเขื่อนกั้นน้้าแล้ว. รายงานการประชุมทางวิชาการเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ ๗ สาขาพืชและ ชีววิทยา, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ๒๙ มกราคม - ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๑. ๒๕๒๑. ชนาญวัต เทวกุล. ฝ้าสีแดงในน้้านาเกลือที่เกิดจาก Halobacterium spp. การประชุมวิชาการ สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ๒๒-๒๔ ธันวาคม ๒๕๒๑.
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๑๖ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล ๒๕๒๓. อายุส พิชัยชาญณรงค์, ประภา ลอยเพ็ชร, ณรงค์ศักดิ์ ชัยบุตร, วีวงศ์ โกมลเมนะ,วิภา บุญน าศิริ และชนาญวัต เทวกุล. The Thyroid Activities of Asiatic Elephants in Thailand. International Congress of Physiological Science ครั้งที่ ๒๘, Budapest, Hungary, ๔–๙ กรกฎาคม ๒๕๒๓ (ค.ศ. ๑๙๘๐). บทควำมในหนังสือต่ำง ๆ ๒๕๑๖. ชนาญวัต เทวกุล. สภาวะและบทบาทสัตวแพทย์อเมริกันต่อสังคม โดยเฉพาะทางด้าน สาธารณสุขซึ่งน่าจะเป็นแนวโน้มกับวิชาชีพสัตวแพทย์ในอนาคต แก่ประเทศที่ก้าลังพัฒนา. ฟ้าหม่น. คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ไม่ปรากฏเลขหน้า. ๒๕๑๙. ชนาญวัต เทวกุล. อนิจจา (ความไม่แน่นอน) เป็นสัจจะ (ความแน่นอนเป็นจริง). ฟ้าหม่น. คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ไม่ปรากฏเลขหน้า. ๒๕๒๘. ชนาญวัต เทวกุล. ข้อคิดเกี่ยวกับต้านานสัตวแพทย์ไทย จากพระเพทราชา ถึง เริ่มตั้งแผนก สัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ๕๐ ปี สัตวแพทยศาสตร์บัณฑิต ๒๔๗๘-๒๕๒๘. คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. หน้า ๑๓๖-๑๔๑. ๒๕๕๑. ชนาญวัต เทวกุล. แด่ศาสตราจารย์ศุภชัย วานิชวัฒนา ปูชนียบุคคลที่ข้าพเจ้าไม่มีวันลืม. อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพศาสตราจารย์ศุภชัย วานิชวัฒนา ม.ว.ม., ป.ช., ท.จ. ราชบัณฑิต. หน้า ๒๖-๕๓. ปำฐกถำ ๒๕๑๗. ชนาญวัต เทวกุล. วิวัฒนาการ. การบรรยายทางวิชาการในการประชุมปฏิบัติการวิชาชีววิทยา, แผนกชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๑๖ – ๒๐ เมษายน ๒๕๑๗. ๒๕๔๖. ชนาญวัต เทวกุล. ความไม่แน่นอนและความแน่นอนทางชีววิทยา (Uncertainty and certainty in Biology). ปาฐกถา สุด แสงวิเชียร, ห้องประชุมสุขุม ภัทราคม ตึกจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๖. สำรำนุกรม ๒๕๒๑. ชนาญวัต เทวกุล. ไวรัส. สารานุกรมไทยส าหรับเยาวชนฯ เล่ม ๔. โดยพระราชประสงค์ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. ออนไลน์ http://kanchanapisek.or.th/kp๖/ sub/Ebook/Ebook.php?book=๔ ๒๕๓๗. ชนาญวัต เทวกุล. เวชกรรม. โลกวิทยาศาสตร์. สารานุกรม. พิมพ์ครั้งที่ ๕. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช.
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๑๗ ผลงำนเพิ่มเติมที่ข้อมูลไม่สมบูรณ์ (ข้อมูลจาก เอกสารปาฐกถาสุด แสงวิเชียร พ.ศ. ๒๕๔๖) ๒๔๙๓. ชนาญวัต เทวกุล. Studies on canine paradistemper. ประมวลค าบรรยายเสนอในที่ ประชุมทางวิทยาศาสตร์ของสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย, ๑-๕ ธันวาคม ๒๔๙๓. ๒๕๐๕. ชนาญวัต เทวกุล และนลิน พงศ์พิพัฒน์. Effect of D2O on Escherichia coli. รายงาน เสนอสภาวิจัยแห่งชาติ๒๕๐๕. ๒๕๐๙. ชนาญวัต เทวกุล. ตรีระหัส กุญแจไขชีววิทยาระดับอณู. วิทยาศาสตร์๒๕๐๙ อำจำรย์ที่ปรึกษำ อำจำรย์ที่ปรึกษำวิทยำนิพนธ์ ๒๕๑๙. ชลีรัตน์ พยอมแย้ม. การศึกษาการกระจายของ ดีดีที และ พีซีบี ในบริเวณแม่น้ าเจ้าพระยา ตอนล่าง. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต. แผนกชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ๒๕๒๐. ประภาศรี เอี่ยมโสภณา. การศึกษาถึงความอุดมสมบูรณ์สูงสุดของสาหร่ายในคูน้ า. วิทยานิพนธ์ ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต. แผนกชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ๒๕๒๕. อาจอง ประทัตสุนทรสาร. อิทธิพลของดินตะกอนต่อการกระจายและความหนาแน่นประชากร หอยหลอด (Solen regularis Dunker) ที่บริเวณปากแม่น้ าแม่กลอง. แผนกชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. อำจำรย์ที่ปรึกษำโครงกำรกำรเรียนกำรสอนเพื่อเสริมประสบกำรณ์ ๒๕๒๕. ภารดี ภิญโญโสภณ, ปราณี พาณิชย์พงษ์และสมศักดิ์ กิจมังสา. การศึกษาเบื้องต้นการคุมก าเนิด นกพิราบโดยให้กินเมล็ดข้าวโพดที่เคลือบด้วยเมตรอกซีโปรเจสเตอโรนอซิเตต. โครงการการเรียน การสอนเพื่อเสริมประสบการณ์ปี ๒๕๒๕. อำจำรย์ที่ปรึกษำวิชำสัมมนำ ๒๕๑๔. รัชนี ศิริยงค์. Problem of hereditary diseases. รายงานประกอบการสัมมนา ปริญญาโท. ๒๕๑๘. มณี วิทิตหิรัญกุล. ประโยชน์ของวิตามินซีในการช่วยลดพิษของสารเคมีจากโรงงานอุตสาหกรรม. รายงานประกอบการสัมมนาปริญญาโท. ๒๕๑๘. สัมฤทธิ์ สิงห์อาษา. Reproduction in ticks. รายงานประกอบการสัมมนาปริญญาโท. ๒๕๒๘. สมชาย เสริจกิจ. กระเทย. รายงานประกอบการสัมมนาปริญญาโท.
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๑๘ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล อำจำรย์ที่ปรึกษำรำยวิชำต่ำง ๆ ๒๕๑๙. เชษฐ์ธนะสังข์. ท าอย่างไรการเพิ่มประชากรจึงไม่กระทบกระเทือนต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ. รายงานรายวิชามนุษย์และสิ่งแวดล้อม. ๒๕๒๐. ชวนิต ศิวะเกื้อ. ทรัพยากรดิน. รายงานรายวิชามนุษย์และสิ่งแวดล้อม. ๒๕๒๒. สงกรานต์ ทะแกล้วพันธุ์. อุปสงค์ต่อพลังงานไฟฟ้าในเขตจ าหน่ายของการไฟฟ้านครหลวง ในช่วงเวลาของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ และ ๔ (๒๕๑๕ - ๒๕๒๔). รายงานรายวิชามนุษย์และสิ่งแวดล้อม. ๒๕๒๓. บุษกร อารยางกูร. Phylogenetic principles. รายงานรายวิชาวิวัฒนาการ.
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๑๙ สมุดประวัติ ประจ าตัวข้าราชการ
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๒๐ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๒๑
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๒๒ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๒๓
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๒๔ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๒๕
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๒๖ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๒๗
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๒๘ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล บทความในหนังสือ (จัดพิมพ์ขึ้นใหม่ คงรูปแบบอักษรเดิม)
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๒๙ พุทธศักรำช ๒๕๑๕ วิทยาศาสตร์ในความคิดเห็นของข้าพเจ้า ที่มา: วารสารกาลิเลโอ ปีที่ ๗ ฉบับที่ ๓ และ ๔ เมื่อเราประสพปัญหา (problem) ขึ้นแล้วใช้ปัญญา (wisdom) คิด (think) ย้อนตั้งค าถามถึงปัญหา ดังกล่าว โดยใช้วิจารณญาณว่าปัญหานั้นเป็นอะไร (what)? เกิดขึ้นที่ไหน (where)? เราก็จะรู้ได้ว่า ปัญญา สามารถให้เหตุผล (reason) เป็นค าตอบได้ตามความสามารถที่เราเข้าใจปัญหาดังกล่าวดีมากน้อยเพียงใด ทั้งในด้านวิทยาศาสตร์และมิใช่วิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นวิธีของปุถุชนธรรมดา ปุถุชนธรรมดาศึกษาข้อเท็จจริง (fact) เพื่อหาสิ่งที่คิดว่าจริง (truth) และอธิบายความสัมพันธ์ของ สาเหตุ (cause) และผล (effect) ตามเหตุที่ได้จากประสพการณ์ตามศรัทธาและความเชื่อถือที่ยอมรับว่า เป็นจริง ปุถุชนธรรมดายอมรับว่าดวงอาทิตย์ขึ้นตอนใกล้รุ่งทางทิศตะวันออก ดวงอาทิตย์ตกตอนพลบค่ า ทางทิศตะวันตก ตามประสบการณ์ที่พบเห็นเป็นประจ าและยอมรับว่าเป็นความจริง ฉะนั้น หากเมื่อ เดินทางไปต่างถิ่น สังเกตพบว่าตอนใกล้รุ่งดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศใด ทิศนั้นต้องเป็นทิศตะวันออก ตอนพลบ ค่ าดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าทางทิศใด ทิศนั้นต้องเป็นทิศตะวันตก การใช้เหตุผลแบบนี้ เรียกว่าเป็นการน้า ออกจากหลัก (deductive reasoning) หรือตรรกวิทยาแบบนีรนัย อริสโตเติล (Aristotle) นักปราชญ์ ชาวกรีก (๓๘๔-๓๒๒ ก่อนคริสตกาล) เป็นผู้น ามาใช้คนแรก ต่อมามนุษย์ฉลาดขึ้นมักพิจารณาข้อเท็จจริง ก่อนที่จะยอมรับยึดมั่นว่าเป็นจริงเสียก่อน ยกตัวอย่างมนุษย์เราที่รู้จักความสว่างในเวลากลางวัน ความมืด ในเวลากลางคืนสลับกันตลอดไป โดยมีดวงอาทิตย์ปรากฎขึ้นที่ขอบฟ้าด้านหนึ่งเมื่อใกล้รุ่ง ลับหายจากขอบ ฟ้าตรงข้ามก่อนพลบค่ า เป็นประจ าไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อมนุษย์ก าหนดทิศทางที่ดวงอาทิตย์ขึ้นว่าทิศ ตะวันออก ทิศทางที่ดวงอาทิตย์ลับว่าทิศตะวันตก ก็เท่ากับรวบรวมข้อเท็จจริงและหากฎเกณฑ์ที่ค่อนข้าง แน่นอนได้ว่าดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกตกทางทิศตะวันตก การประมวลข้อเท็จจริงเข้ามาประกอบ เป็นหลักเป็นเกณฑ์เพื่อยึดถือว่าเป็นจริง เรียกว่าเป็นการน้าเข้าหาหลัก (inductive reasoning) หรือ ตรรกวิทยาแบบอุปมัย ซึ่งฟรานซีส เบคอน (Francis Bacon ค.ศ. ๑๖๒๐) เป็นผู้ริเริ่มขึ้น เรื่องของดวงอาทิตย์ขึ้นและตก นักวิทยาศาสตร์อธิบายได้ตามแนวธรรมชาติทางระบบสุริยะในดารา ศาสตร์ แต่ปุถุชนธรรมดาอธิบายได้ตามศรัทธาและเชื่อถือของแต่ละท้องถิ่น อาทิ เช่น มีเทพเจ้าบนสวรรค์ ขี่รถเทียมม้าถือคบเพลิงมาโปรดมนุษย์และสัตว์บนโลกทุกวันทางทิศตะวันออก และลับหายไปทางทิศ ตะวันตก เป็นต้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีตัวตน ปุถุชนธรรมดายอมรับความเชื่อถือว่า ประกอบด้วย ดิน น้ า ลม ไฟ แต่นักวิทยาศาสตร์ยึดมั่นในหลักของธรรมชาติทางฟิสิกส์ว่าประกอบด้วย สถานะของแข็ง ของเหลว แกส และพลาสมา (plasma)
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๓๐ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องธรรมชาติ (nature) จะต้องเป็นไปตามกฎ (law) และหลักเกณฑ์ (principles) ทางธรรมชาติ มิได้มีอนุภาพลึกลับดลบันดาลให้เป็นไป นักวิทยาศาสตร์จึงอาศัยตา หู จมูก ลิ้น กาย สังเกต (observe) ประดิษฐ์เครื่องมือเป็นเครื่องวัดปัญหาที่ขบคิด และใช้สมองคิดพิจารณาหาเหตุผลสร้างและ รวบรวมความรู้ทางธรรมชาติที่เป็นจริงตามสัจคติ หรือ นิจคติ (realism) เท่านั้น การที่นักวิทยาศาสตร์มีลักษณะช่างสังเกต ช่างคิดพินิจพิจารณาด้วยเหตุผลประกอบหลักฐานต่าง ๆ ที่ได้ทางธรรมชาติ เพื่อแสวงหาความรู้ทางธรรมชาติอย่างแท้จริงนั้น นักวิทยาศาสตร์ต้องยอมรับว่าการพึ่ง สัมผัสทั้งห้าอย่างเดียวนั้นมีความไม่แน่นอน เที่ยงตรง สู้เครื่องมือที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างดีแล้วไม่ได้ท าให้ทัศนะ ของนักวิทยาศาสตร์ตรงข้ามกับทัศนะของสามัญชนธรรมดาในกรณีที่ถกปัญหาเดียวกัน อาทิ เช่น นักวิทยาศาสตร์สามารถหยั่งรู้ได้ว่าโลกนั้นกลม ทั้ง ๆ ที่ปุถุชนธรรมดาเห็นว่าโลกนี้แบน โดยเหตุผลตาม ธรรมชาติของแสง ย่อมให้ความสว่าง หากมีวัตถุมาบังแสง ก็จะเกิดเงาที่มีภาพเสมือนวัตถุนั้น โดยที่ สุริยุปราคาเป็นการที่เราเห็นดวงจันทร์เคลื่อนไปกั้นบังดวงอาทิตย์ และจันทรุปราคาเป็นการที่โลกบังแสง จากดวงอาทิตย์ไปยังดวงจันทร์ ภาพเงาของโลกที่ปรากฎบนดวงจันทร์ก็คือความกลมของโลกนั้นเอง นักวิทยาศาสตร์สามารถหยั่งรู้ได้ว่าโลกนี้โคจรรอบดวงอาทิตย์ทั้ง ๆ ที่ปุถุชนธรรมดาเห็นว่าดวงอาทิตย์โคจร รอบโลก ปุถุชนธรรมดายอมรับว่าชีวิตมีวิญญาณหรือเจตะภูติ (soul, spirit) แต่นักวิทยาศาสตร์ไม่ยอมรับ ความส าคัญของวิญาณหรือเจตะภูติ เพราะยึดมั่นในหลักว่าชีวิตเป็นเรื่องธรรมชาติ จะต้องด าเนินไปตาม กฎและหลักเกณฑ์ทางธรรมชาติอย่างนี้เป็นต้น แก่นของวิทยาศาสตร์นั้นจะต้องประกอบด้วย ๑. สัจคติหรือ นิจคติซึ่งเป็นจริงตามธรรมชาติ และมิได้อยู่ใต้อ านาจอันลึกลับที่ดลบันดาลให้ เป็นจริง เป็นอมตะ แต่ทดลองพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นจริงได้ หากทดลองไม่ได้ก็คาดคะเนล่วงหน้าได้ โดย โอกาสที่ถูกต้องนั้นมิใช่เป็นเรื่องบังเอิญ นักวิทยาศาสตร์ถือเอกภพหรือจักรวาล (universe) มีจริง แต่ ปุถุชนธรรมดาถือว่าเป็นสิ่งที่สมมติขึ้นว่ามีตามความนึกคิดเท่านั้น หรือ ปัญหาที่เป็นอุดมคติ (idealism) เช่น ความดี ความชั่ว หรือ วิญญาณหรือเจตะภูติซึ่งเกิดขึ้นตามความนึกคิดและสมมติว่ามีจริงนั้น มิใช่เป็น เรื่องของวิทยาศาสตร์ เพราะยังมิอาจสร้างหน่วย (unit) และมาตรฐานที่จะวัดด้วยเครื่องมือได้ ๒. ต้องยึดมั่นในหลักการสัจคติหรือนิจคติว่า ผลของการสังเกตด้วยดุลยพินิจพิจารณาหรือ การทดลองนั้น ย่อมเป็นหลักในการตัดสินปัญหา มิใช่ยอมรับเพราะมีอคติแฝงให้เป็นตามที่ตั้งใจไว้ หาก มีความคิดว่าเป็นเช่นนั้นจริง ก็ยังจะต้องมีความสงสัยอยู่ตลอดเวลาว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือ แล้วพยายามขจัด ข้อสงสัยนั้นด้วยผลของการทดลอง ถ้าสามารถทดลองได้ หากไม่สามารถทดลองได้ เช่น ดาราศาสตร์ ธรณีวิทยา สมุทรศาสตร์ อุตุนิยมวิทยา ฯลฯ ก็ต้องอาศัยความแน่นอนจากผลของการคาดคะเนท านาย ล่วงหน้า เป็นหลักที่จะยอมรับว่าเป็นจริงแค่ไหน อันตรงข้ามกับปุถุชนธรรมดาที่พยายามจะหาเหตุผลมา ประกอบให้เห็นจริง โดยมิได้มีการทดลองพิสูจน์ให้เห็นอย่างโต้แย้งไม่ได้
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๓๑ ๓. ต้องยึดมั่นว่า เรื่องของวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องของธรรมชาติที่มีระเบียบมีหลักเกณฑ์ที่เป็น จริงเสมอ หากสภาวะที่ท าให้เกิดขึ้นนั้นคงสถานการณ์เดิม ไม่ว่าในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต กฎ และ หลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ดีย่อมถูกต้องมากที่ เป็นจริงมากที่สุด เมื่อนักวิทยาศาสตร์น ามาใช้ก็ย่อม สามารถคาดคะเนท านายผลล่วงหน้าได้แม่นย าที่สุด ๔. ต้องยึดมั่นว่า เรื่องของวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องของนักวิชาการ ที่ต้องการอิสระเสรีทาง ความคิดเห็น ปราศจากก าแพงอิทธิพลทางศาสนา เพราะเรื่องของวิทยาศาสตร์อาจจะค้านกับค าสอนทาง ศาสนา ปราศจากก าแพงอิทธิพลทางการเมือง เพราะเรื่องของการเมืองเป็นเรื่องที่ยึดมั่นในนโยบาย (policy) ที่จะต้องด าเนินปฏิบัติตามเป้าหมายและเงื่อนไขเพื่อปกป้องผลประโยชน์ระดับชาติ ตามหลักการ ของนโยบายเหนือเหตุผลที่เกี่ยวกับปัญหา ปราศจากก าแพงอิทธิพลทางสังคม เพราะเรื่องของวิทยาศาสตร์ เป็นเรื่องปัญญาที่แสวงหาความจริงมิใช่เป็นเรื่องผู้ใหญ่กับผู้น้อยที่มีระเบียบวินัยเป็นพันธะ หรือเป็นเรื่อง เฉพาะของนักวิชาการระดับใดระดับหนึ่งเท่านั้น การที่ผลการทดลองปัญหาอย่างเดียวกัน ค้านกัน ไม่ สอดคล้องต้องกัน หากมีการถ่ายทอดแลกเปลี่ยนอย่างเสรีทางความคิดเห็นด้านวิชาการ และเทคนิคในการ ด าเนินการทดลอง มักจะท าให้เกิดแนวความคิด และวิธีการน าไปสู่การทดลองอันสามารถยังผลให้พบ ความรู้ใหม่ได้ นักวิทยาศาสตร์ต่างกับปุถุชนธรรมดาโดยมีวิธีการทางวิทยาศาสตร์(scientific methods) ศึกษา ปัญหาอย่างเดียวกัน โดยใช้ข้อเท็จจริงเป็น ข้อมูล (data) เพื่อสร้างทฤษฎี (theory) กฎ (law) และ หลักเกณฑ์ (principle) ด้วยวิธีการน าเข้าหาหลัก (inductive reasoning) และอธิบายความสัมพันธ์ของ สาเหตุ (cause) และ ผล (effect) โดยสร้างสมมติฐาน (hypothesis) ขึ้นเพื่อขบปัญหานั้น ๆ โดยพยายาม พิสูจน์ว่า สมมติฐานที่ตั้งไว้นั้น เป็นจริงแค่ไหนหรือไม่ ด้วยวิธีการน าออกจากหลัก (deductive reasoning) วิธีการทางวิทยาศาสตร์อาจจะแบ่งเป็นคั่นๆ ได้ดังนี้ ๑. การสังเกต (observation) ซึ่งเป็นการมองด้วยความพินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ๒. การจ ากัดขอบข่ายของปัญหา (definition of the problem) ๓. การรวบรวมจ าแนกล าดับข้อมูล (data collection and organisation) ๔. การสร้างสมมติฐาน (formulation of hypothesis) เพื่อขจัดข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหา โดย อาศัยความสัมพันธ์ของสาเหตุและผลเป็นหลัก ๕. การทดลอง (controlled experimentation) ที่ถูกต้องที่สามารถทราบข้อบกพร่อง โดยสร้าง มาตรฐานไว้เปรียบเทียบเพื่อมิให้โต้แย้งได้ ๖. ผลการทดลอง (results or data) การแปลผล (interpretation) โดยอาศัยหลักทางสถิติ สนับสนุนว่าแน่นอนแค่ใด การวิจารณ์ผล (discussion) การทดลองว่าแผนการทดลอง เครื่องมือที่ใช้และข้อมูลมีคุณภาพเข้ามาตรฐานและสมบูรณ์ (complete) หรือไม่มีความ แน่นอน ความเชื่อถือว่าถูกต้อง ความแนบเนียนโดยโต้แย้งไม่ได้เพียงใด จากการทดลอง
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๓๒ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล ดังกล่าวมีผล ข้อมูลอันที่ส่อให้ทราบแนวความรู้ใหม่ อาทิ เช่น ทฤษฎีใหม่ กฎใหม่ และทัศนจิต หรือทัศนภาพ (concept) ใหม่ หรือไม่ ๗. การเฉลยผล (conclusion) ซึ่งจะยืนยันว่าสมมติฐานที่เสนอนั้นถูกหรือผิด ๘. การสรุปผล (summary) วิทยาศาสตร์ในความคิดเห็นของข้าพเจ้า / ต่อจากฉบับที่แล้ว จากวิธีดังกล่าว นักวิทยาศาสตร์สามารถตั้งต้นจากความไม่รู้(ignorance) ไต่เต้าบรรลุถึงความรู้ (knowledge) โดยอาศัยการสังเกตพินิจพิจารณาเกี่ยวกับปัญหา พยายามหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุผล อันเดียวกับปัญหา รวบรวมสร้างสมมติฐานที่สามารถขจัดข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหา วางแผนการทดลองเพื่อ พิสูจน์ว่าสมมติฐานที่ตั้งไว้นั้นถูกต้องหรือไม่ โดยอาศัยการรวบรวมผลการแปลผลและพิจารณาผลของการ ทดลองว่าแน่นอน เป็นจริงและถูกต้องแค่ใดเป็นข้อเฉลยแล้วจึงสรุปผลการทดลองตามที่เป็นจริง หาก สมมติฐานนั้นทดลองว่าเป็นจริงเสมอก็จะเป็นทางที่น าไปสร้างทฤษฎี หากสามารถพิสูจน์ด้วยการทดลองว่า ทฤษฎีนั้นต้องเสมอก็จะเป็นทางที่น าไปสร้างกฎ หรือถ้าไม่สามารถทดลองพิสูจน์ทฤษฎีนั้นได้ ก็จะต้อง อาศัยความแน่นอนจากผลการคาดคะเนท านายล่วงหน้าได้แม่นย าเป็นเกณฑ์ก่อนที่จะยอมรับว่าถูกต้อง กฎต่าง ๆ ที่ ถูกต้องก็จะเป็นทางที่น าไปสร้างหลักเกณฑ์ หลักเกณฑ์ที่ถูกต้องก็จะเป็นทางที่น าให้ นักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างทัศนจิต หรือทัศนภาพ (concept) เกี่ยวกับปัญหานั้น ๆ ฉะนั้น นักวิทยาศาสตร์มักต้องตรวจสอบความแน่นอน ความถูกต้องว่าตรงกับข้อมูลเพียงใดอยู่ตลอดเวลาหาก พบว่าผิดหรือบกพร่องก็ต้องดัดแปลงแก้ไข แก้ไขให้ถูกต้องไม่ได้ ก็เลิกหันมาสร้างทฤษฎีและกฎที่เหมาะสม ที่สุด พร้อมกับสร้างทัศนจิตหรือทัศนภาพใหม่ได้ การใช้ความคิด แบบทั้งน้าเข้าหาหลักและออกจากหลัก แม้จะมิอาจทดลองได้หากใช้ความสังเกต พินิจพิจารณาอย่างรอบคอบดี ก็ท าให้นักวิทยาศาสตร์ทราบเรื่องราวของธรรมชาติได้อย่างดี อาทิเช่น การ สังเกตเห็นดาวและดวงจันทร์ในตอนค่ าคืน เคลื่อนที่ไปทางแนวทิศตะวันตกย่อยแสดงว่าโลกหมุนรอบตัวเอง จากทิศตะวันตกไปตะวันออก จาการสังเกตฤดูกาลต่าง ๆ ท าให้มนุษย์ทราบว่าฤดูหนึ่ง ๆ จะเริ่มตั้งต้นใหม่ ประมาณทุกสามร้อยว่าวันด้วยการสังเกตกลุ่มดาวบนท้องฟ้า ก าหนดกลุ่มดาวให้เป็นสัญลักษณ์ประจ าราษี พร้อมทั้งใช้เครื่องมือวัด มนุษย์ก็ทราบได้ว่าโลกเคลื่อนกลับมาต าแหน่งเดิมใน ๓๖๕ ๑ ๔ วัน จากการสังเกต ต าแหน่งที่ดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกอยู่เป็นประจ า โดยไม่ย้ายเคลื่อนต าแหน่งที่สังเกต ตลอดไปหลายปี จะพบว่าต าแหน่งที่ดวงอาทิตย์ขึ้นเบนไปทางขวาสุดและซ้ายสุดนั้นคงที่ การเคลื่อนที่จาก ปลายขวาสุดไปทางซ้ายสุด และจะกลับมายังต าแหน่งเดิมปลายขวาสุดนั้นจะครบรอบในหนึ่งปี ทั้งนี้เพราะ แกนโลกเบนเบี่ยงไปอันเป็นสาเหตุเดียวกัน ที่ช่วงกลางวันยาวในฤดูร้อน ช่วงกลางคืนยาวในฤดูหนาว
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๓๓ กฎทางวิทยาศาสตร์ทุกกฎจะเป็นจริงถูกต้องแค่ใดนั้น ย่อมมีขอบเขต (limit) หากพ้นขอบเขตก็ไม่ จริง อาทิ เช่น กฎของแกส (gas law) ซึ่งกล่าวถึงความสัมพันธ์ของปริมาตรความดัน และอุณหภูมิ ย่อมเป็น จริงในช่วงอุณหภูมิหนึ่ง หากทดลองในอุณหภูมิพ้นช่วงดังกล่าวซึ่งท าให้คุณสมบัติทางฟิสิกส์ของแกสนั้น เปลี่ยนไป ปริมาตร ความดัน ก็จะไม่มีความสัมพันธ์กันตามกฎดังกล่าว แม้ทัศนจิตหรือทัศภาพที่เกี่ยวกับ อนุภาคมูลฐาน (elementary particles) ว่าเป็นอนุภาคที่มีมวล หรือพลังงานที่ไม่มีมวล นักวิทยาศาสตร์ก็ ยังไม่สามารถบ่งชัดเจนแน่นอนได้ เพราะจากการทดลองบางครั้งต้องยอมรับว่าเป็นอนุภาคจึงอธิบายได้ สมจริงตามกฎ แต่บางครั้งต้องยอมรับว่าเป็นพลังงาน จึงจะอธิบายได้สมจริงตามอีกกฎหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ยอมรับ ว่าเป็นพลังงาน จึงจะอธิบายอีกกฎหนึ่งทั้ง ๆ ที่ยอมรับว่าเป็นอนุภาคก็ย่อมมีตัวตนอันตรงข้ามกับพลังงาน ซึ่งไม่มีตัวตน ในที่สุดก็ต้องยอมรับว่าอนุภาคมูลฐานอาจจะมีสถานะของอนุภาคหรือพลังงาน ซึ่งเปลี่ยน กลับไปกลับมาได้โดยอาศัย กฎของไอยสไตน์ (Einstein) ที่กล่าวถึง ความสัมพันธ์ของมวลกับพลังงาน สนับสนุน นักวิทยาศาสตร์ อาจจะสร้างจินตนาการ สมมติสิ่งที่ไม่ปรากฎมีจริงตามธรรมชาติให้มีสัญลักษณ์ เสมือนว่ามีจริง เพื่อน ามาศึกษาประกอบข้อมูล ยังส่งผลให้เกิดประโยชน์ในการขบปัญหาก็ได้ อาทิ เช่น สมมติให้มีเส้นรุ้ง เส้นแวง สามารถระบุต าแหน่งต่าง ๆ บนผิวโลก ได้ตามที่ก าหนดอย่างแน่นอนแม่นย าทาง ภูมิศาสตร์ อันเป็นประโยชน์มหาศาลทางคมนาคม สมมติให้มีจีน (gene) เป็นหน่วยที่ควบคุมการถ่ายทอด ลักษณะทางกรรมพันธุ์ทางชีววิทยา อันเป็นประโยชน์อย่างส าคัญทางพันธุ์ศาสตร์ แม้ปัญหาเรื่องจานบิน ซึ่ง ยอมรับว่ามีจริงนั้น โดยผู้ตั้งสมมติฐานว่า อาจจะเป็นภาพลวงตาที่ปรากฎทางธรรมชาติ หรือเป็นยาน อวกาศมาจากนอกพิภพ วิธีการทางวิทยาศาสตร์เท่านั้นที่จะเป็นเครื่องมือที่จะชี้ว่าเป็นอะไรแน่ นอกจากมี ข้อมูลเพียงพอแล้ว ประการส าคัญต้องมีหลักฐานยืนยันที่ค้านไม่ได้ด้วย ปัจจุบันได้มีการน าเอาวิธีการทางวิทยาศาสตร์เข้าไปในการขบปัญหาทางสังคมวิทยา เช่น ปัญหา ทางประชากร ทางเศรษฐศาสตร์ เช่น ปัญหาค่าครองชีพ ปัญหาตลาด ปัญหาการคลัง ทางรัฐศาสตร์ เช่น ปัญหาทางปกครอง บริหารธุรกิจ ตามแนวเดียวกับวิทยาศาสตร์ทางธรรมชาติวิทยา ในสนาม (field) อาทิ เช่น โรคระบาดวิทยา (epidemiology) ทางแพทย์ศาสตร์ นิเวศนวิทยา (ecology) ทางชีววิทยา ฯลฯ เป็น ต้น การศึกษาดังกล่าวเป็นหัวใจส าคัญในการวิจัยวางแผนด้านบริหารธุรกิจในวงการค้า การธนาคาร อุตสาหกรรม รวมทั้งรัฐบาลในด้านการทหารการเมือง ความมั่นคงปลอดภัย การเศรษฐกิจและพัฒนา ประเทศ ฯลฯ เพราะจะเป็นการประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ ที่ช่วยในการตัดสินปัญหาหรือเปลี่ยนแปลง นโยบาย โดยปราศจากความโน้มน้าวของอคติส่วนบุคคลด้วยการใช้สมองกล (computer ) ช่วย โดยเฉพาะ ในเมื่อก าหนดเป้าหมาย (goal) วางแนวทางที่บรรลุถึงเป้าหมาย (objectives) เพื่อขบแก้ปัญหา (problems) และการประเมินผล (evaluation) ในการบริหาร เพื่อตัดสินว่าการบริหารงานตามแผนนั้น ลุล่วงได้ผลดีเพียงใด สมควรที่จะด าเนินต่อไป หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขแผนเพื่อให้ได้ผลตรงตามเป้าหมายได้ ดีที่สุดอย่างไร
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๓๔ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๓๕ พุทธศักรำช ๒๕๑๖ สภาวะและบทบาทสัตวแพทย์อเมริกันต่อสังคม โดยเฉพาะทางด้านสาธารณสุข ซึ่งน่าจะเป็นแนวโน้ม กับวิชาชีพสัตวแพทย์ในอนาคต แก่ประเทศที่ก้าลังพัฒนา ที่มา: หนังสือฟ้าหม่น, คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. J.H.Steele D.V.M., M.P.M. ศาสตราจารย์ และผู้อ านวยการสถาบัน Environmental Health คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัย Texas เมือง Houston มลรัฐ Texas สหรัฐอเมริกา ได้วิจารณ์ เอกสาร เรื่องบทบาทอาชีพและความรับผิดชอบของสัตวแพทย์ที่เกี่ยวกับการสาธารณสุข (veterinary medicine, Its requirements and Responsibilities in Relation to the Public Health) ประมวลโดย คณะกรรมการร่วมจาก ฝ่ายศึกษาสมาคมสัตวแพทย์อเมริกัน และสมาคมวิทยาลัยสัตวแพทย์อเมริกัน เมื่อ เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. ๑๙๗๑ บทบาทดังกล่าว ได้ท้าวความถึงความสัมพันธ์ของแพทย์และสัตวแพทย์ต่อสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะบทบาทของสัตวแพทย์ต่อสันติสุข (welfare) ของประเทศ รวมทั้งวิกฤต (crisis) ทางผลิตสัตว แพทย์ ปัจจุบันมีก าลังสัตวแพทย์เพียง ๒๖,๔๐๐ คน ในขณะที่มีความต้องการถึง ๓๕,๗๐๐ คน ท าให้ขาด ก าลังถึง ๙,๓๐๐ คนคาดคะเนว่า ในอนาคตราว ค.ศ. ๑๙๘๕ ตามก าลังที่ผลิตสัตวแพทย์ในระดับแนวโน้ม ขณะนี้จะขาดเพิ่มขึ้นถึง ๑๑,๗๐๐ คน การขาดก าลังสัตวแพทย์นี้เนื่องจาก สถานศึกษามีสถานที่จ ากัดไม่ สามารถที่จะขยายเพิ่มจ านวนนักศึกษาได้ ทั้ง ๆ ที่มีวิทยาลัยสัตวแพทย์ถึง ๑๙ แห่งใน ๑๘ มลรัฐ สามารถ ผลิตบัณฑิตได้ประมาณ ๑,๓๐๐ คนแต่ละปี หลายมลรัฐได้ส ารวจสภาวะเพื่อจัดตั้งวิทยาลัยสัตวแพทย์ แต่ก็ ต้องประสพอุปสรรคเนื่องจากการลงทุนและค่าใช้จ่ายมหาศาล ซึ่งเป็นภาระของมลรัฐ ทั้งจะต้องใช้เงิน อุดหนุนจากรัฐบาลกลางสนับสนุนจึงจะบรรลุเป้าหมาย ผลของการประเมินค่าใช้จ่ายปรากฎว่าต้องใช้เงิน $ ๕๐๐ ล้าน เพื่อที่จะรักษาสถานการณ์ปัจจุบันเป็นระยะ ๑๐ ปี โดยมีสัตวแพทย์ ๑๓ คน ต่อประชากร ๑๐๐,๐๐๐ คน และถ้าจะขยายให้ก าลังผลิตบรรลุตามเป้าหมาย โดยมีสัตวแพทย์ ๑๒ คนต่อประชากร ๑๐๐,๐๐๐ คน ก็ต้องใช้เงิน $ ๑,๐๐๐ ล้าน เพราะทุกวันนี้แต่ละคนที่มีวุฒิและคุณสมบัติสมัครเข้าเรียน สัตวแพทย์วิทยาลัยสัตวแพทย์จะต้องคัดออกแล้ว ๔ คน นอกจากนี้ปัญหาส าคัญ คือ นักศึกษาส่วนใหญ่ จะต้องมีภาระลงทุนเสียค่าเล่าเรียนและใช้จ่ายถึง ๘ ปี มลรัฐที่ไม่ร่ ารวยและมีงบประมาณจ ากัดจึงมี ทุนการศึกษาและทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาแก่นักเรียนที่เก่งจ ากัดจ านวน จึงเป็นปัญหารีบด่วนที่รัฐบาล จะต้องสนับสนุนขยายวิทยาลัยสัตวแพทย์และจัดสรรทุนเป็นกรณีพิเศษ
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๓๖ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล บทบาทของอาชีพสัตวแพทย์ต่อสังคมนั้น รวมถึงการควบคุมโรคสัตว์ที่ติดต่อคน การวิจัยทางสัตว แพทยศาสตร์ และเวชศาสตร์เปรียบเทียบ (Comparative medicine) วิชาการฉะเพาะแขนงใหม่ อาทิ สัตวแพทย์ทางเวชศาสตร์สัตว์ทดลอง (Laboratory animal medicine), ชีววิทยาทางรังสี(Radiation biology), งานวิจัยทางอวกาศ (Aerospace Program), สัตวแพทย์ทางสัตว์น้ า (Aquatic veterinary medicine) ควบกับชีววิทยาทางทะเล (Marine biology) และการป้องกันคุณภาพของสภาวะสิ่งแวดล้อม (Protection of the quality of the environment) ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกก็คือ ประชากรของโลก ขาดโปรตีนจากสัตว์ บางคนคิดว่าโปรตีนจากพืชจะแก้ปัญหานี้ได้ โดยมิได้ค านึงว่าเกือบ ๖๐% ของพื้น แผ่นดินที่สามารถท าเกษตรกรรมได้นั้นเหมาะสมแก่การเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงปศุสัตว์ (forage) มากกว่าการ กสิกรรมผลิตผลให้อาหาร สัตวแพทย์อเมริกันปัจจุบันที่ท างานร่วมกับสาธารณสุข ๑,๕๖๗ คน ควบคุม ตรวจผลิตภัณฑ์ ๒,๔๔๖ คน ควบคุมอนามัยของสัตว์ ๑,๔๑๐ คน สัตวแพทย์ทางสัตว์ทดสอบ และเวช ศาสตร์เปรียบเทียบ ๘๕๐ คน สอนและวิจัย ๒,๑๕๘ คน รวม ๘,๔๓๑ คน ประมาณ ๒/๓ ของสัตวแพทย์ ทั่วประเทศท างานส่วนตัว บทความที่น่าสนใจที่สุด ได้แก่ ภยันตรายจากโรคสัตว์นอกประเทศ อันจะมีผลทางเศรษฐกิจ มหาศาลด้วยการท าลายชีวิตปศุสัตว์ และลดผลิตผลของปศุกรรม ในสหรัฐอเมริกาได้แก่ โรคปากเท้าเปื่อย (foot and mouth disease), โรคลงแดง (rinderpest), bovine pleura-pneumonia, African swine fever และ hemoprotozoal diseases บทบาทของสัตวแพทย์ทางด้านสาธารณสุขในสหรัฐอเมริกานั้น หากทบทวนดูจากหลักฐานทาง เอกสารแล้ว ก็ปรากฏว่า W.D.Miles M.D. ได้เสนอให้รัฐสภาออกกฎหมายครั้งแรก เพื่อควบคุมโรคสัตว์ใน ค.ศ. ๑๘๖๕ โดยเฉพาะในปัญหาที่จะควบคุมวัณโรคของคนและสัตว์ (สมาคมสาธารณสุขอเมริกันเริ่มตั้ง ค.ศ. ๑๘๗๒ ซึ่งมีแผนกสัตวแพทย์ ค.ศ. ๑๘๘๑ Bureau of Animal Industry เริ่มตั้ง ค.ศ. ๑๘๘๑ โดยอยู่ ได้ Board of Health & Agriculture ซึ่งต่อมาค.ศ. ๑๘๘๔ จึงได้ด าเนินงานอย่างได้ผล โดยมีสัตวแพทย์ แพทย์และนักกีฏวิทยา ปัจจุบันอยู่ใต้ Board of Agriculture) ค.ศ. ๑๘๗๙ J.Law M.R.C.V.S. แห่ง Cornell University ก็ได้เสนอว่าการสุขาภิบาล (sanitation) ของคนและสัตว์ควรจะอยู่ใต้อ านาจ health board หน่วยเดียวกัน ค.ศ. ๑๘๘๑ G.B. White M.D. ได้รายงานเกี่ยวกับการตรวจเนื้อจากสหรัฐอเมริกา เนื่องจาก Trichinosis และตืด (tape worms) ในคนติดจากเนื้อสัตว์ อันเป็นผลให้มีการตรวจเนื้อตาม กฎหมายเริ่มต้นเมื่อ ค.ศ. ๑๘๙๑ การตรวจเนื้อโดยรัฐบาลกลาง (federal meat inspection) เพื่อการค้า ระหว่างประเทศ ค.ศ. ๑๙๐๖ การตรวจเนื้อโดยรัฐบาลกลาง (federal meat inspection) เพื่อการค้า ระหว่างรัฐ ค.ศ. ๑๙๓๐ การตรวจเนื้อสัตว์ปีกโดยใจสมัคร (Poultry inspection on voluntary basis) ค.ศ. ๑๙๖๐ การตรวจเนื่องสัตว์ปีกโดยกฎหมายของมลรัฐ (Poultry inspection on compulsory) ค.ศ. ๑๙๖๗ การตรวจเนื้อสัตว์และสัตว์ปีกโดยรัฐบาลกลาง (federal meat & poultry inspection) ปัญหาเกี่ยวแก่สุขาภิบาลทางนมนั้น หน้าที่และบทบาทของสัตวแพทย์จ ากัดอยู่ในปัญหาอนามัยของ วัวนมและความสะอาดในการรีดนม บางมลรัฐเริ่มออกกฎหมายควบคุมตั้งแต่ ค.ศ. ๑๘๗๐ เพราะนมท าให้
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๓๗ เกิดโรคภัยไข้เจ็บให้แก่คนได้ แม้จะมีสถานปฏิบัติการตรวจนม เนย และเนยแข็งทางเคมี และจุลชีพตั้งแต่ ค.ศ. ๑๘๘๗ ก็ดี แต่สาธารณสุขอเมริกัน (U.S.P.H.S) เริ่มควบคุมนมระดับชาติ (National milk sanitation program) หลัง ค.ศ. ๑๙๒๐ โดย L.Frank วิศวกรและสัตวแพทย์ W.H.Haskell, F.Clark, G.E.Smith และ R.D.Bushong ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง สัตวแพทย์ทหาร และสัตวแพทย์สาธารณสุข ได้ปฏิบัติงาน อย่างมีประสิทธิภาพในการควบคุมให้ความปลอดภัยแก่การบริโภค เนื้อ นม และผลิตภัณฑ์อาหารจากเนื้อ และนมในกองทัพ ค.ศ. ๑๙๗๐ ผู้เชี่ยวชาญ FAO และ WHO ซึ่งเป็นคณะกรรมการเกี่ยวกับอนามัยของ น้ านม ได้เสนอเอกสารเกี่ยวกับมาตรฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับนมนับตั้งแต่การผลิต การบรรจุ ล าเลียง ผลิตภัณฑ์นม รวมทั้งปัญหานมในประเทศเขตร้อนและข้อแนะน าปัญหาที่ควรวิจัย ราว ๆ สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สาธารณสุขอเมริกันได้เริ่มเสาะแสวงหาสัตวแพทย์เพื่อใช้แก้ไขปัญหา โรคในสัตว์อาทิ J.J.Essex ผู้เชี่ยวชาญทางหนูและโรคที่เกิดจากหนู M.Hall และ W.H.Wright ซึ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญทาง parasitology หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ค.ศ. ๑๙๕๑ ผู้เชี่ยวชาญของ FAO และ WHO ซึ่งเป็นคณะกรรมการเกี่ยวกับโรคสัตว์ติดคน (Zoonoses) ซึ่งหมายถึงเฉพาะโรคสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง ติดต่อทางธรรมชาติให้คนเป็นโรคได้ โดยรวบรวมจากรายงานต่าง ๆ ทั่วโลกได้ประมาณ ๘๐ กว่าโรค (ปัจจุบันเพิ่มขึ้นอีกมากมายหลายร้อย) WHO ได้แนะน าว่าโรคสัตว์ติดคนที่ส าคัญสมควรควบคุมในระดับ นานาชาติ ๑๒ โรค คือ anthrax, brucellosis, arborvirus encephalitis, hydatidosis, leptospirosis, Q fever, rabies, salmonellosis, trichinosis, bovine tuberculosis, phague และ tularemia ทุกโรค มีในเมืองไทย ยกเว้นโรคสุดท้ายซึ่งเป็นโรคเมืองหนาว นอกจากนี้ยังได้แนะน าว่า โรคสัตว์ติดคนที่ส าคัญ สมควรควบคุมในระดับแต่ละท้องที่อีก ๑๒ โรค ได้แก่ Ectoparasites, fungus infection, melioidosis, psittacosis, human schistosomiasis, taeniasis, tsetse fly trypanosomiasis, leishmaniasis, rift valley fever และ yellow fever ซึ่งทุกโรคมีในเมืองไทยยกเว้นสี่โรคสุดท้าย เฉพาะเมืองไทยจะเพิ่มเติม scrub typhus, gnathostomiasis, angisotrongylosis หรือโรคอื่น ๆ อีกได้ตามแต่จะเห็นสมควร โดยทั่วไป โรคสัตว์ติดคนนั้นย่อมจะติดต่อได้ ๓ กรณี คือ ๑. จากการสัมผัสโดยตรงหรือทางอ้อมกับ อวัยวะหรือสัตว์ที่เป็นโรค ๒. จากการกินอวัยวะสัตว์ที่เป็นโรค ๓. จากการกินผลิตภัณฑ์ของสัตว์หรือ อาหารที่เป็นเชื้อโรคสัตว์ติดคนปนผสมอยู่ กิจการสัตวแพทย์สาธารณสุข (Veterinary Public Health) ปัจจุบันจึงมีความหมายถึงหน่วยงาน ของสังคมที่วางแผนและบริการต้องให้สัตวแพทย์ร่วมกันใช้พลังทางวิชาการและศิลป เพื่อที่จะมีผลให้โรค สัตว์ติดคนลดน้อยลงเพื่อป้องกันชีวิตอันมีค่าของมนุษย์ และส่งเสริมสวัสดิภาพของประชากรให้มี ประสิทธิภาพสูงที่สุด สัตวแพทย์ทุกคน ไม่ว่าในอดีตและปัจจุบัน ตามวิชาชีพย่อมมีส่วนร่วมในกิจการสัตวแพทย์ สาธารณสุขไม่มากน้อย แต่กิจการสัตวแพทย์สาธารณสุขปัจจุบันนั้นต้องมีวิวัฒนาการมากมาย เพื่อให้ทัน กับความก้าวหน้าของการสาธารณสุข ฉะนั้นสัตวแพทย์ที่ได้ศึกษาและฝึกฝนเพิ่มเติมในโรงเรียนสาธารณสุข ก็ย่อมจะได้ศึกษาหลักสูตร และเทคนิคต่าง ๆ ที่สอนกันในหลักสูตรการสาธารณสุข โดยเฉพาะทางโรค
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๓๘ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล ระบาดวิทยา (Epidemiology) สถิติหลักการบริหารและ Operation Research ให้ด าเนินงานสาธารณสุข ร่วมกับฝ่ายแพทย์ วิศวกร นักสถิติ ฯลฯ มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด เพราะจะสามารถวิจัยหาความรู้ใหม่ เพิ่มเติมจากสภาวะธรรมชาติที่อุบัติขึ้นของแต่ละท้องถิ่น ซึ่งอาจจะไม่ตรงตามที่ต าราระบุไว้ได้ สัตวแพทย์อาจจะหาความรู้เพิ่มเติม ทางด้านโรคสัตว์ติดคนได้จากต าราที่ควรเป็นคู่มือคือ:- Mark Verterinary Mammal (3 rd ed) Merck & Co.Inc., Rahway, New Jersey U.S.A. 1967 Control of Communicable Diseases in man (11th ed) A.S.Benenson (Ed). APHA. Washington D.C. U.S.A. 1970 Veterinary medicine and Human health (2 nd ed) C.W.Scewabe. Williams & Wilkins, Baltimore U.S.A. 1969 WHO Technical Report FAO. Technical Report Advances in Veterinary Science vol 1 – 15 C.A.Brandly & C.E. Cornelius (Eds) Academic Press U.S.A. Zoonosis with particular reference to parasites of veterinary importance P.C.Beaver (in Biology of Parasites) Soulsby Academies Press U.S.A. 1966.) ส าหรับกิจการสัตวแพทย์เมืองไทยเรา เท่าที่เคยทราบกันมาว่า พลตรี ม.จ. ทองทีฆายุ ทองใหญ่ เมื่อ เสด็จไปเรียนทหารม้าประเทศรัสเซียสมัยซาร์ ก็จ าเป็นต้องเรียนวิชาสัตวแพทย์ควบมาด้วย หลังจากนั้นก็ ทรงก่อตั้งโรงเรียนอัศวรักษ์ของทหารมีผลให้ผู้ที่ได้ไปเรียนสัตวแพทย์ต่างประเทศอีก เช่น พ.อ.หลวงสนิท รักษ์สัตว์ (สนิท โรหิตเสถียร) Dr.med, vet (alfort) ประเทศฝรั่งเศส โดยทุนสภากาชาด และ พ.ท.หลวง ชัยอัศวรักษ์ (ชัย แสงชูโต) M.R.C.V.S. (London) ประเทศอังกฤษ โดนทุนกลาโหม วงการสัตวแพทย์ไทย ปัจจุบันจึงนับว่าเป็นสัตวแพทย์ไทยสมัยรุ่นบุกเบิกก่อตั้งวิชาชีพนี้ แต่จากบันทึกพระราชกิจรายวันของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ระหว่าง ๓ ๑ (วันอังคารขึ้น ๕ ค่ า เดือนอ้าย) ปีมะแม เบญจ ศก จ.ศ. ๑๒๔๕ (ตรงกับ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๒๖ หรือ ค.ศ. ๑๘๘๓) ได้โปรดเกล้าฯ ให้ ม.ร.ว. ไฉน (นามสกุลมิได้ระบุ สันนิษฐานว่าไปอังกฤษสมัย พ.ศ. ๒๔๐๑) Veterinary surgeon (M.R.C.V.S.) เข้าเฝ้า จึงควรเป็นที่น่ายินดีแก่วงการสัตวแพทย์ไทยที่ได้รู้จักสัตวแพทย์ไทยคนแรก โดยมิได้ทราบประวัติของท่าน ผู้นี้เพิ่มเติมอีกเลยจนบัดนี้ (วิทยาลัยสัตวแพทย์แห่งแรกของโลกตั้งที่เมือง Lyon ฝรั่งเศส ค.ศ. ๑๗๖๒) หาก เรียนจากอังกฤษก็นับว่าเป็นคนไทยซึ่งเรียนรุ่นใกล้ ๆ กับ Janes Law M.R.C.V.S. สัตวแพทย์อเมริกันคน แรก โดยที่การศึกษา เศรษฐกิจ การเมือง และสังคมอเมริกันกับไทยต่างกันมาก จึงไม่เป็นของแปลก ประหลาดที่บทบาทสัตวแพทย์ไทยที่มีต่อสังคมจึงไม่รุดล้ าหน้าทัดเทียมเขา (การตรวจเนื้อตามกฎหมายใน เมืองไทย อยู่ใต้กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ การตรวจนม อาหาร และ ผลิตภัณฑ์กระป๋อง เท่าที่ทราบยังไม่มี) ทั้งนี้เพราะระบบการศึกษาทางสัตวแพทย์และแพทย์ปัจจุบัน แม้จะมีวิชาพื้นฐานแทบ เหมือนกันแบบ Sir William Oster ว่ามีแพทย์ชนิดเดียวเท่านั้น (There is one Medicine) ซึ่งต่างกันที่ species ที่ใช้ศึกษาแต่ระบบการศึกษาในอดีตนั้นได้แตกต่างกันมากมาย ๕ ฯ
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๓๙ โดยที่โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) ของบ้านเราเป็นปัญหาที่น่าจะอยู่ในระดับชาติและระดับของโลก เนื่องจากอัตราคนตายด้วยโรคนี้ของประเทศไทย ดูเหมือนจะเป็นสถิติสูงสุดของโลกในปัจจุบัน และโรคนี้ ทั้งวงการสาธารณสุขและสัตวแพทย์ก็รู้ดีว่า เป็นโรคที่ด าเนินการควบคุมอย่างได้ผลดีมาแล้วในอดีตหลาย ประเทศ หากได้มีการวางแผนและด าเนินงานอย่างรัดกุม ด้วยการประสานงานร่วมมือจากหน่วยงาน สาธารณสุขสัตวแพทย์ และประชาชนในประเทศไทยได้มีกฎหมายควบคุมโรคนี้เมื่อ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ และในวันที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๓ ก็ได้เริ่มโครงการปราบเฉพาะในกรุงเทพฯ มีศูนย์ของ เทศบาลกรุงเทพฯ ราวกุมภาพันธ์ศกเดียวกัน นับเวลาร่วมสิบกว่าปี สถิติของโรคนี้ก็ยังเป็นปัญหาที่ท้าทาย ประสิทธิภาพของวงการสาธารณสุข และสัตวแพทย์อยู่ตลอดมา จึงใคร่ขอเสนอสถิติของโรคเดียวกันใน สหรัฐอเมริกาเปรียบเทียบกับบ้านเรา ทั้ง ๆ ที่ประชาชนและจ านวนสัตว์ในสหรัฐอเมริกามากมายสูงกว่า ของบ้านเราหลายสิบเท่า ยอดจ้านวนคนตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า สหรัฐอเมริกา ประเทศไทย ค.ศ.๑๙๕๐ หรือ พ.ศ.๒๔๙๓ ๑๘ ๑๑๗ ๕๑ ๙๔ ๑๔ ๑๘๗ ๕๒ ๙๕ ๒๑ ๒๑๖ ๕๓ ๙๖ ๑๔ ๒๒๗ ๕๔ ๙๗ ๘ ๒๗๘ ๕๕ ๙๘ ๕ ๒๗๑ ๕๖ ๙๙ ๑๐ ๒๓๙ ๕๗ ๒๕๐๐ ๖ ๒๙๓ ๕๘ ๒๕๐๑ ๖ ๒๓๓ ๕๙ ๒๕๐๒ ๖ ๑๘๑ ๖๐ ๒๕๐๓ ๒ ๒๕๖ ๖๑ ๒๕๐๔ ๓ ๒๐๘ ๖๒ ๒๕๐๕ ๒ ๒๔๔ ๖๓ ๒๕๐๖ ๑ ๒๘๒ ๖๔ ๒๕๐๗ ๑ ๒๕๑ ๖๕ ๒๕๐๘ ๑ ๒๖๗ ๖๖ ๒๕๐๙ ๑ ๒๖๕ ๖๗ ๒๕๑๐ ๒ ๒๕๗ ๖๘ ๒๕๑๑ ๑ ๒๗๗ ๖๙ ๒๕๑๒ ๑ ๓๑๑ ๗๐ ๒๕๑๓ ๓ ๒๗๘ ๗๑ ๒๕๑๔ ๒ ๒๙๘ ๗๒ ๒๕๑๕ ๒ ยังไม่ได้รับรายงาน
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๔๐ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล ทั้งนี้อาจเป็นได้ว่า ปัญหาของโรคพิษสุนัขบ้า แม้จะได้มีเป้าหมาย (objective) ที่แน่นอนแต่มิได้มี การวางแผน (planning) ด าเนินตามแผน (programming) จัดงบประมาณ (budgeting) บริหาร (administrating) และประเมินผล (evaluation) โดยมีหัวหน้าสายงานที่เหมาะสมด้วยคุณวุฒิใช้พลังจาก วิทยากรและบุคลากรทุกฝ่ายร่วมประสานงาน และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนร่วมปฏิบัติการจนบรรลุถึง เป้าหมายเพื่อประโยชน์ส่วนร่วมของสังคม เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าคนไทยแต่ละคนที่ฝรั่งยอมรับว่าเก่งมี สามารถกว่านั้น หากเอาคนไทยเหล่านั้นมาร่วมกันท างานแบบฝรั่งร่วมกันท างานแล้ว ผลงานของคนไทย กลับแพ้ฝรั่ง เมื่อสามปีที่แล้วมา J.H.Steele ได้แวะกรุงเทพฯ นัดพบกับผู้เขียนในฐานะที่คุ้นเคยสนิทกันมากได้ ถกถึงปัญหาโรคพิษสุนัขบ้าในเมืองไทย เราลงความเห็นกันว่า สักวันหนึ่งสถานะการณ์คงจะได้ด าเนินดีขึ้น อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าผู้รับผิดชอบทางการสาธารณสุขและการสัตวแพทย์ระดับชาติเห็นว่า ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องด าเนินการ อย่างไรก็ดีเขาได้คุยกันเลยไปถึงสถานะของโรคนี้จนผืนแผ่นดินใหญ่ของจีนแดง J.H.Steele ได้บอกกับผู้เขียนทราบอย่างประหลาดใจว่า เชื่อไหม ? โรคพิษสุนัขบ้าในผืนแผ่นดินใหญ่ของ จีนแดงไม่เกิดปัญหา เพราะไม่มีผู้ใดตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้าเลยสักคนในปัจจุบัน เพราะอะไร ? เพราะคน ในผืนแผ่นดินใหญ่ของจีนแดงอดอยากขาดแคลนเนื้อสัตว์ จับสุนัขกินไม่เหลือ ผู้เขียนจึงได้คิดและอุทาน ออกมาว่า สักวันหนึ่งไทยเราอาจจะต้องใช้แผนปราบโรคพิษสุนัขบ้าของจีนแดงอย่างได้ผลก็เป็นได้
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๔๑ พุทธศักรำช ๒๕๑๗ วิวัฒนาการ ที่มา: เอกสารอัดส าเนา ถ้อยค าปาฐกถา ในการบรรยายทางวิชาการ การประชุมปฏิบัติการวิชาชีววิทยา ขอขอบพระคุณ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เจ้าหน้าที่และบรรดาครูที่ได้ให้ เกียรติเชิญมาเป็นวิทยากร เรื่อง “วิวัฒนาการของชีววิทยาในวันนี้” ความจริงผมมิได้เคยร่ าเรียนและมีวุฒิ สูงแม้แต่เพียงปริญญาตรีทางวิทยาศาสตร์ สาขาชีววิทยา หรือแม้ปริญญาเอก แผนกชีววิทยา คณะ วิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็เพียงแต่เสมือน “ชฎาใส่หัวลิงตัวหนึ่งเท่านั้น” วุฒิที่เคยร่ าเรียน ชีววิทยาก็แต่เพียง หลักสูตรปีที่ ๒ คณะวิทยาศาสตร์ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๑ การที่ เป็นหัวหน้าคณาจารย์ชีววิทยาอาจเป็นด้วยคณาจารย์ในแผนกชีววิทยายึดคติว่า “การมีผู้อาวุโสที่ด้อยทั้ง ปัญญาและความสามารถเป็นหัวหน้าย่อมจะต้องเห็นความส าคัญของผู้ใต้บังคับบัญชา ที่มีวุฒิและ ความสามารถสูงกว่า ทั้งจะบังเกิดความราบรื่นสุขกายสบายใจที่มีผู้บังคับบัญชาที่โง่กว่าก็ได้” จาก ประสบการณ์ของชีวิตครูที่เร่ร่อนไปหลายสถาบันในระยะสามสิบกว่าปีนั้น ได้ถือหลักว่า “ความรู้อาจเรียน ทันกันหมด” การศึกษาจากต าราต่าง ๆ ด้วยตนเองก็เป็นแนวหนึ่งที่จ าเป็นในชีวิตครูทุกคนที่ใฝ่ใจทาง วิชาการต าราทุกต าราแม้แต่งเรียบเรียงใหม่ ๆ โดยศาสตราจารย์ที่มีวุฒิสูงสุด มีประสบการณ์มากจนชื่อ ก้องระบือทั่วโลก แทบทุกมหาวิทยาลัยนิยมใช้เป็นต าราคู่วิชา ก็พบอยู่เสมอว่าไม่สมบูรณ์ มีโอกาสพบ ข้อบกพร่องอยู่เสมอ เรื่องราวในต าราย่อมไม่ทันความก้าวหน้าทางวิชาการ เพราะกว่าจะพิมพ์ออกมาก็ล้า หลังความก้าวหน้าในการพบหลักฐานใหม่ ความรู้ใหม่ โดยส่วนใหญ่อย่างน้อยสองถึงห้าปี ถ้าได้ติดตาม เทียบเคียงเรื่องที่สนใจจากวารสารวิชาการทางวิทยาศาสตร์ แม้ต าราเรียนและคู่มือครูของสถาบันนี้ มีกลุ่ม นักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศแนะน าควบคุมอย่างใกล้ชิด เท่าที่เปิดพลิกดู อย่างเคร่า ๆ ก็พบข้อบกพร่อง ผิดพลาดอย่างไม่ต้องเพ่งเสาะหาให้สิ้นสงสัยจึงได้กล้าตกลงใจ กล้าผยอง ยอมรับเชิญมาเป็นวิทยากรด้วยความแน่ใจสามประการ คือ ๑. หากจะปล่อยความเชย ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และความโง่เขลาเบาปัญญา ก็คงจะได้รับอภัยใน ฐานะที่พื้นความรู้ทางวิชาการนั้นมิได้สูงอย่างที่ใคร ๆ คาดและหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าคงจะ ได้รับความเห็นใจจากครูทั้งหลายด้านด้วยกัน เพราะหลายท่านที่มีวุฒิกว่า ทั้งในและ ต่างประเทศก็ยังมิได้มีผู้ใดปราศจากข้อบกพร่อง ผู้ที่ไม่ท าอะไรเลยเท่านั้น จึงไม่มีโอกาสท าผิด ๒. งานของสถาบันนี้ แม้เป็นงานที่มิได้มีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วย แต่โดยส่วนตัวก็ได้พยายาม ส่งเสริม สนับสนุน ในสภาพของคนนอกวงด้วยความสนใจจากใจจริง เพราะงานนี้มีผลสะท้อน
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๔๒ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล ที่จะเปลี่ยนแปลงหลักสูตร และแนวการสอนชีววิทยา ที่มีส่วนรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ โดยเฉพาะทางด้านการสอนในระดับมหาวิทยาลัยในอนาคต ๓. การขบปัญหาแบบแสวงหาความจริง (inquiry) หรือแก้ปัญหา (problem solving) นี้เป็น วิธีการทางวิชาการที่เป็นอมตะ เหมาะสมเป็นที่รู้จักกันมานานในอดีตแล้วเป็นวิธีที่น่าสนใจเป็น การส่วนตัว โดยเห็นพ้องว่าการสอนวิทยาศาสตร์ในบ้านเราปัจจุบัน ทั้งทางภาคทฤษฎีและ ปฏิบัติ มักมิได้เน้นหรือเร้าใจให้นักเรียนเห็นความส าคัญของการใช้ปัญญาวินิจฉัยข้อมูลตาม เหตุและผลให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ทางวิชาการ มากกว่าท่องจ าข้อเท็จจริงทาง วิทยาศาสตร์จากต าราที่ส่วนใหญ่ใช้เพียงเล่มเดียว เนื่องจากครูทุกท่านก็ได้เคยทั้งศึกษาและมีประสบการณ์ทางการสอนบทวิวัฒนาการของชีวิตแก่ นักเรียนมาแล้ว จึงขอบรรยายตามแบบ “มวยวัด” ที่ตนเองเข้าใจจากต าราหลาย ๆ เล่ม มากกว่าที่จะ บรรยายตามบทของวิวัฒนาการจากต าราเล่มหนึ่งเล่มใดของปรมาจารย์เท่านั้น ขอย้ าให้ทุกท่านทราบว่า ยินดีตอบปัญหาทุกข้อด้วยความเต็มใจ ตามความรู้และความสามารถ โปรดกรุณาขัดคอ หรือตั้งค าถามให้ ตอบได้อย่างมิต้องเกรงใจ หากเกิดความสงสัยข้องใจ ปัญหาใดที่ยากเย็นเหลือความสามารถนั้นได้เตรียม ตัวสารภาพเพื่อตอบปัญหาได้อย่างง่ายที่สุดว่า “ตอบไม่ได้แล้ว” การเรียนชีววิทยา เพียงแต่รู้ว่าสัตว์ตัวใดเป็นแมลง ตัวใดเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ฯลฯ ก็ใช้ได้แล้วนั้น เป็นการเรียนแบบคนธรรมดาหรือชาวบ้านเรียนกัน การเรียนโดยหลักการดังกล่าวมิใช่การเรียนแบบ นักวิชาการทางวิทยาศาตร์ เรื่องของชีวิต ชาวบ้านรู้กันมานานนับหมื่นแสนปีก่อนประวัติศาสตร์ว่า มนุษย์ เป็นคนมิใช่ลิง คนต้องออกลูกเป็นคน ลิงออกลูกเป็นลิง ชาวบ้านสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่มีปัญญาฉลาด กว่าคนธรรมดา เช่น ในภารตะทวีป (อินเดีย) จึงอุปโลกน์ว่า สิ่งที่มีชีวิตทั้งปวงสร้างโดยอิทธิฤทธิ์ของเทพ เจ้า (พระพรหม) การศึกษาชีววิทยาตามหลักวิทยาศาสตร์นั้นไม่เคยยอมรับอย่างวิสัยชาวบ้านว่า ชีวิตมี วิญญาณ และการก าเนิดของสังขารและวิญญาณเป็นชีวิตนั้นอยู่ภายใต้อ านาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วิทยาศาสตร์ ยอมยึดในหลักการว่าทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตนั้นเป็นไปเองตามหลักของธรรมชาติ นักวิชาการทาง วิทยาศาสตร์จึงเสาะแสวงหากฎเกณฑ์ทางธรรมชาติ ตรวจสอบหลักเกณฑ์ที่มีความหนาแน่นแม่นย า เพื่อที่จะน าหลักเกณฑ์ดังกล่าวไปประยุกต์เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่มนุษยชาติ ฉะนั้นวิทยาศาสตร์สมัย ปัจจุบัน จึงแตกต่างกับการเรียนแบบชาวบ้าน จ าเป็นต้องยึดหลักแห่งความจริงที่แน่นอนเป็นอมตะเป็น จริงตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใดในโลก เนื่องจากเรื่องของชีวิต เป็นเรื่องที่มีความจริงที่แน่นอนได้หลายๆ กรณี เช่น มีความแน่นอนของความไม่เปลี่ยนแปลง มีความแน่นอนในทิศทาง “บวก” เท่ากับความแน่นอน ในทิศทาง “ลบ” ซึ่งขัดแย้งตรงข้ามกัน วิชาการนี้จึงเสมือนเป็นวิชาที่สอนโดยบุคคลที่ปัญญาอ่อน และท า ให้ผู้ที่เรียนปัญญาดีๆ เป็นคนปัญญาเสื่อมโทรมเพราะนักเรียนที่มีสติปัญญาดีที่ได้เคยพบนั้น เมื่อได้มา ศึกษาวิชานี้แล้วมักจะแสดงสุขภาพจิตเสื่อมโทรม
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๔๓ ปกติ ค านิยาม (definition) ทางวิทยาศาสตร์ มีความส าคัญมาก เพราะให้ความหมายที่แท้จริงของ สิ่งที่เราศึกษา เข้าใจค านิยามได้ถูกต้อง ก็ย่อมจะต้องเห็นและสร้างวิทยทัศน์ (concept) ได้ วิทยทัศน์คือ สิ่งที่เข้าใจแล้ว หลับตาก็ยิ่งนึกเห็นภาพนั้น นักวิชาการที่พบสิ่งใหม่หรือกฎเกณฑ์ใหม่ ก็เพราะว่ามีวิทย ทัศน์ในเรื่องนั้นดี มองเห็นปัญหาหรือหลักเกณฑ์ที่จะอธิบายปัญหาต่าง ๆ ที่ก าลังศึกษาว่า มีอะไรขาดไป หรือมีอะไรควรเสริมเพิ่มเติมขึ้น จึงจะถูกต้องกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับที่เคยทราบหรือรู้มาก่อน เปรียบ ประดุจคนเรา เมื่อวิทยทัศน์ของรูปร่างคนแน่นอนแล้ว เพียงแต่เห็นเงาของคนก็ทราบว่าเป็นภาพของคน ถ้าเห็นมีเงาของคนมีอะไรเสริมที่หัว ก็น่าจะแน่ใจว่า ภาพที่หัวไม่เหมือนธรรมดา หากเกิดเป็นปัญหาเร้าใจ ให้ขบคิดว่า ภาพที่หัวนั้นมีอะไรเสริม และน่าจะเป็นอะไร ก็จะต้องสร้างสมมุติฐานเพื่ออธิบาย และ วางแผนการทดลองเพื่อพิสูจน์สมมุติฐานที่สร้างขึ้น ตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์จึงต้องสร้างวิทยทัศน์ พร้อมกับหลักเกณฑ์ของวิชาดังกล่าว เพื่อเป็นแนวการทดลองวิทยาศาสตร์ให้กับนักเรียนได้ การเรียนรู้ แบบ แสวงหาความจริง (inquiry) หรือแบบแก้ปัญหา (problem solving) ก็จะประสบความส าเร็จ ตาม หลักพุทธธรรม เพราะ “พุทธ” หมายถึง “ผู้ที่ตื่นด้วยเหตุและผล” มิได้ยึดความเชื่อถือด้วยแรงศรัทธาและ ความงมงาย ชีววิทยาเป็นวิชาที่ว่าด้วยชีวิต มีความเจริญก้าวหน้าทางวิชาการอยู่ตลอดเวลา การศึกษาทางด้าน รูปร่างของชีวิต ก็เพิ่มพูนสอดคล้องกับความก้าวหน้าของกล้องจุลทัศน์แบบต่าง ๆ การศึกษาทางด้านหน้าที่ ของชีวิต ก็สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางวิชาการทางเคมี และชีวเคมี ปัจจุบันมีชีวิตจึงศึกษากัน นับตั้งแต่ระดับอณู (molecule), ออกาเนล (organelle), เซล (cell), เนื้อเยื่อ (tissue), อวัยวะ (organ), ร ะ บบ (organ system), ทั้ง ตั ว (organism ห รื อ individual), ป ร ะ ช า ก ร (population), สัง ค ม (community), ไบโอม (biome), โลก (biosphere), และขอเพิ่มเติมเติมในระดับเอกภพ (biocosmos) ซึ่งยังมิได้มีต าราเล่มใดระบุกล่าวไว้ เพราะชีวิตไม่จ ากัดจะต้องมีแต่โลกของเราเท่านั้น ระดับของชีวิต ทางด้ านอนุกรมวิธาน (taxonomy) และนิเวศนวิทยา (ecology) สาม ารถจัดกลุ่ม race หรือ subspecies, deme, cline, species, genus, family, order, class, phylum ในสัตว์ หรือ division ใน พืชและจนถึง Kingdom ชีวิตทุกระดับจะต้องมีความเป็นเอกลักษณ์ (unity) แนวหนึ่งและความเป็นอเนก ลักษณ์ (diversity) อีกแนวหนึ่งในทิศทางตรงข้าม ทั้งต้องมีสายสัมพันธ์สืบเนื่อง (continuity) เพื่อด ารง เผ่าพันธุ์ (phylogeny) มิให้สูญสิ้น ความเป็นเอกลักษณ์นั้นย่อมจะมีหลักเกณฑ์ (principles) แน่นอนและ เป็นจริง เพื่อให้เข้าใจทุกชีวิตเหมือนกันหมด ส่วนความเป็นอเนกลักษณ์นั้น จะมีหลักเกณฑ์ค่อนข้าง แน่นอนเพื่อจะให้เข้าใจความแตกต่างระหว่างชีวิตแต่ละชีวิต ปัจจุบัน เป็นที่ยอมรับกันว่า ชีวิตย่อมมาจากชีวิตเดียวกัน จากการศึกษาสิ่งมีชีวิตที่เรารู้จักกัน บูฟอง (Buffon) ในปี ค.ศ. ๑๗๕๐ จึงได้วางแนวเป็นหลักความคิดว่า ชีวิตที่มีรูปร่างคล้ายกันน่าจะมี บรรพบุรุษเดียวกัน (ancestor) เช่น คนกับชะนี แมวกับเสือ คูเวียร์ (Cuvier) ค.ศ. ๑๗๖๙ - ๑๘๓๒ นัก กายวิภาคเปรียบเทียบได้เสนอแนวความคิดในการเปรียบเทียบอวัยวะต่าง ๆ ที่ศึกษาเช่น ขาขวาแมวกับขา ขวาสุนัข โอเวน (Owen) ใน ค.ศ. ๑๘๔๓ ได้เสนอหลักเกณฑ์ของสหัตต (homology) และ อนัตต
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๔๔ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล (analogy) ตามทัศนะของกายวิภาคเปรียบเทียบ ฟอน แบร์ (Von Baer) ค.ศ. ๑๗๙๒ – ๑๘๗๖ ได้เสนอ ความเห็นว่า ทารกในครรภ์ระยะแรกคล้ายตัวอ่อนของลูกปลา มากกว่าคล้ายปลาซึ่งเป็นแนว biogenetic concept ต่อมา เฮคเกล (Haeckel) ค.ศ. ๑๘๓๔ – ๑๙๑๙ ได้เสนอความเห็นว่า ตัวอ่อนที่เติบโตมักคล้าย แนววิวัฒนาการจากบรรพบุรุษมาปัจจุบันซึ่งเป็นแนว recapitulation theory ปัจจุบันทฤษฎีนี้ไม่ยอมรับ ว่าถูกต้องเพราะถือว่า เรื่องของการเติบโตระดับอ่อน (ontogeny) กับสายเผ่าพันธุ์ (phylogeny) เป็นคน ละเรื่องอย่างไรก็ดี ออร์ตัน (Orton) ใน ค.ศ. ๑๙๓๕ เดอ เบีย (de Bae) ใน ค.ศ. ๑๙๘๕ ได้เสนอให้คิดว่า ตัวอ่อนที่เติบโต แม้จะมิได้แสดงสายเผ่าพันธุ์ก็จริง แต่สายเผ่าพันธุ์นั้นก็ คืออันดับของตัวอ่อนที่เติบโตสืบ ต่อเนื่องกัน โดยมีการเปลี่ยนมาเป็นขั้น ๆคัพภะวิทยา (Embryology) จึงให้ข้อมูลส าคัญในแง่ วิวัฒนาการ ทางอนุกรมวิธาน (Evolutionary taxonomy) ซึ่งอาศัยหลัก laleogenesis เช่นตัวอ่อนเพรียงหัวหอม มีโน โตคอร์ด (notochord) ตัวแก่ไม่มี ก็ถือว่าบรรพบุรุษของเพรียงหัวหอม มีโนโตคอร์ดซึ่งจัดว่าเป็นสัตว์ จ าพวกไฟลัม (phylum) “chordate” อวัยวะที่คล้ายกันอาจมิได้มีก าเนิดจากแหล่งเดียวกัน หรืออวัยวะที่ เป็นอนัตตะ (analogous structures) เป็นอวัยวะที่มีก าเนิดจากแหล่งเนื้อเยื่อต่างกัน แต่มีหน้าที่คล้ายกัน เช่น ขนนกกับขนสัตว์ วิวัฒนาการท าให้เกิดอเนกลักษณ์ยังผลให้เกิดความสับสนเรื่องสกัตตะ (homology) และอนัตตะ (analogy) ได้ง่ายมาก หากมีพื้นฐานทางวิชาการไม่ดีพอ เช่น ปีกแมลงกับปีกนก สภาวะที่ คล้ายกันอาจจะเป็นผลของสหกรรม (Homoplasy) ท าให้เกิดวิวัฒนาการหลายสายขนานกัน (parallelism) เช่น คนกับลิง หรือวิวัฒนาการหลายสายกระจายจนแต่ละแขนงมาฟ้องกัน (convergence) เช่นหมีกับหมีโคล่า หรือเกิดการพรางกาย (Mimicry) เช่นแมลงกิ่งไม้ กับกิ่งไม้ หรือเกิดเหมือนกันโดย บังเอิญ (chance similarity) ฉะนั้น ความเป็นอเนกลักษณ์ของชีวิต ย่อมท าให้เกิดมี พืช สัตว์ จุลชีพ หลาย species, หลาย subspecies ได้นั้น ก็เป็นผลเนื่องจาก “วิวัฒนาการ” ของชีวิตแต่ละระดับ ถ้ายึดหลักว่าสายวิวัฒนาการนั้น มาจากต้นบรรพบุรษแรกเริ่มอันเดียวกัน อนุกรมวิธาน (Taxonomy) ปัจจุบันต้องยึดหลักวิวัฒนาการของ สายเผ่าพันธุ์ (phylogeny) “วิวัฒนาการของชีวิต” จึงนิยามได้ว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงทีละน้อย (gradual changes) ทั้ง รูปร่าง (form หรือ morphology) และหน้าที่ (function หรือ physiology) ของชีวิตแต่ละระดับ ในชั่ว ระยะเวลานานพอสมควร (eon of time) นับจากบรรพบุรุษมาถึงปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงรูปร่างนั้น อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระดับอณูที่ท าให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ระดับ ยีน (gene), โครโมโซม (chromosome), เซล ฯลฯ จนกระทั่งถึง species และ subspecies การเปลี่ยนแปลงหน้าที่นั้น อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับ การสังเคราะห์โปรตีนเอนไซม์ (enzyme) ระบบการถ่ายทอดอีเลคตรอน (electron transfer system) ฯลฯ จนกระทั่งถึงพฤติกรรม ต่าง ๆ เพื่อด ารงชีวิตให้อยู่รอด ส่วนความหมาย “ระยะนานพอสมควร” นั้น ดิ้นได้แล้วแต่ชนิดของชีวิต หากกล่าวถึงต้นก าเนิดชีวิต แรกเริ่ม จนถึงปัจจุบัน ระยะเวลาก็หลายพันล้านปี (ไม่น้อยกว่า ๓,๕๐๐ ล้านปี) หากเป็นเรื่องของ สัตว์ไม่มี
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล | ๔๕ กระดูกสันหลัง ปลา กบ สัตว์เลื้อยคลาน นก สัตว์ดูดนม ต้นไม้ ก็หลายร้อยล้านปี ถ้าเป็นม้า ลิง ก็หลายสิบ ล้านปี ถ้าเป็นคนก็นับล้านปี ถ้าเป็นเผ่าพันธุ์ของมนุษย์สมัยปัจจุบันก็นับแสนปี ปกติแต่ละชั่วอายุคน (generation) นับระหว่างพ่อกับลูก และลูกกับหลานนั้นประมาณ ๒๕ ปี ฉะนั้นภายในระยะเวลาหนึ่งล้านปี มนุษย์ก็สืบต่อกันประมาณ ๔๐,๐๐๐ ชั่วอายุคนบรรพบุรุษ เมื่อหนึ่ง ล้านปี จึงแตกต่างจากมนุษย์ปัจจุบัน หากเป็นจุลชีพที่มีชั่วอายุของมันราว ๑๕ นาที ๔๐,๐๐๐ ชั่วอายุ ก็ราว ปีเศษ ๆ เท่านั้น ความจริงเพียงประมาณหนึ่งสัปดาห์จุลชีพบางชนิดก็แสดงการเปลี่ยนแปลงแล้ว ทั้งนี้ เพราะอัตราการแสดงให้เห็นว่าเกิดการผันแปรจนเกิดต่างชนิด อันเป็นผลของวิวัฒนาการของแต่ละชีวิต ต่างกันในช่วงระยะเวลาที่ก าหนด เรื่องของวิวัฒนาการของชีวิต เท่าที่รู้กันนั้นยังเป็นส่วนน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งยังไม่ทราบ วิวัฒนาการของชีวิต จึงเป็นปัญหาที่ต้องศึกษากันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะทุกระดับของชีวิตต้องมี วิวัฒนาการมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หากยังคงสืบพันธุ์มิให้สูญสิ้นในอนาคต ก็ต้องมีวิวัฒนาการต่อไป วิทยทัศน์ของวิวัฒนาการของชีวิต จึงเป็นเครื่องชี้ให้เห็นความสัมพันธุ์ทางสายโลหิต และเผ่าพันธุ์ โดยอาศัย ลักษณะที่เหมือนกัน และที่แตกต่างกันเป็นหลัก วิวัฒนาการในแบบเรียนหน้า ๓๑/๓ ระบุชัดเจนว่า “Precambrian ไม่มี fossil” นั้นขอเสริม เพิ่มเติมเป็นความเห็นส่วนตัวว่า “ไม่เหมาะ” ควรแก้ไขดัดแปลงจากต าราที่ลอกมาให้แน่ชัดว่าเป็น “macrofossil และโอกาสที่จะพบแทบจะไม่มี” ปัจจุบันก าหนดได้ว่าเปลือกโลกเกิดขึ้นราว ๔,๖๐๐ ล้านปี หินชั้นตะกอน (sedimentary rock) ที่มีอายุ ๓,๕๐๐ ล้านปี ก็พบ “microfossil” ในสภาพของสาหร่าย และบักเตรี ปัจจุบันต าราเรียนที่พิมพ์นั้นจะล้าหลังทางด้านวิชาการอย่างน้อย ๒ – ๕ ปี เป็นหน้าที่ของครูที่ จะต้องติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการให้ดีที่สุดที่จะกระท าได้ ความก้าวหน้าทางวิชาการในปัจจุบัน แม้แต่เพียงสาขาย่อยในแขนงหนึ่งของชีววิทยา ก็เหลือความสามารถของนักวิชากร ผู้ส าเร็จปริญญาเอกใหม่ สด ๆ ร้อน ๆ ที่จะติดตามได้ทุกแง่ทุกมุม แบบรู้มาก ยากนาน รู้น้อย พลอยร าคาญ นักวิชาการได้ยอมรับหลักการของวิวัฒนาการมานานแล้ว การจัดหมวดหมู่ และชนิดต่าง ๆ ของ สิ่งมีชีวิตปัจจุบันตามระบบของ ลินเนียส (Linnaeus) ระหว่าง ค.ศ. ๑๗๕๓ – ๑๗๕๘ จึงยึดในหลักเกณฑ์ อันนี้ ลามารค (Lamarck) ใน ค.ศ. ๑๘๐๑ จึงเป็นนักวิชาการคนแรกที่ได้พยายามอธิบายกลไกในการเกิด วิวัฒนาการของชีวิต โดยอาศัยจากผลของการศึกษาทราบสัตว์ดึกด าบรรพ์ในอดีต อาทิเช่น เปลือกหอย นอ ติลอยด์ (Nautiloid) ซึ่งเป็นพวกปลาหมึก (cephalopod) ลักษณะของเปลือกหอยที่ยาวยืดตรงแบบพวก orthocone จะพบตั้งแต่ในยุค cambrian ถึง triassic ลักษณะที่เริ่มม้วนก้นหอยพวก cyrtocone จะพบ ตั้งแต่ในยุค ordovician ถึง devonian แต่ลักษณะที่ม้วนก้นหอยอย่างปัจจุบันแบบพวกจะพบตั้งแต่ในยุค ordovician ถึงปัจจุบัน สามารถจึงเสนอแนวความคิดว่า แต่ละสิ่งมีชีวิตที่จะด ารงเผ่าพันธุ์ได้นั้น ต้องมีวิทย ทัศน์ทางความสัมพันธ์ของประโยชน์ที่จะอ านวย (utility) กับจุดประสงค์ (purpose) วิวัฒนาการของชีวิต จึงต้องมีจุดประสงค์ที่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ท าให้มีความจ าเป็นต้องการใช้อวัยวะของร่างกายมากน้อย ต่าง ๆ กัน ถ้ามีความจ าเป็นมาก, ใช้มาก, อวัยวะนั้นก็จะเจริญเติบโตดี ถ้ามีความจ าเป็นน้อย ไม่ใช้อวัยวะ
อายุวัฒนมงคล ๑๐๐ ปี ๔๖ | ศาสตราจารย์กิตติคุณ ม.ร.ว.ชนาญวัต เทวกุล นั้นก็ลีบเล็กลงไป ลามารคเน้นว่า ผลของการฝึกฝนในการใช้หรือไม่ใช้อวัยวะ มีผลที่จะถ่ายทอดลักษณะ ทางกรรมพันธุ์ของอวัยวะนั้น (theory of acquired inheritance) ทั้งนี้อาศัยหลักฐานเทียบเคียงจาก ต้น ตระกูลยีราฟนั้นคอสั้น แต่ยีราฟปัจจุบันคอยาวกว่า ลามารคจึงอธิบายว่า ยีราฟปัจจุบันคอยาวได้นั้น เกิด จากการพยายามฝึกฝนยืดคอ เพื่อจะกินใบไม้ที่อยู่สูง ๆ เป็นเวลานาน ๆ หลายชั่วอายุยีราฟ จึงท าให้ยีราฟ ปัจจุบันคอยาวได้ต าราชีววิทยาหลัง ค.ศ. ๑๙๓๐ จะละเว้นไม่กล่าวทฤษฎีของลามารคเลย เพราะเห็นว่า ผิดหลักเกณฑ์ของการถ่ายทอดลักษณะทางกรรมพันธุ์สมัยปัจจุบันตามทฤษฎีของเมนเดล (Mendel) แต่ถ้า จะสอนก็ควรสอนให้เห็นว่า ลามารค เป็นอัจฉริยะ มีความสามารถในการสังเกตสูง ที่สามารถน าเอาทราก สัตว์ดึกด าบรรพ์แต่ละยุคมาเปรียบเทียบกับปัจจุบัน และวิเคราะห์ให้เห็นแนวทางวิวัฒนาการ แต่ควรจะ เน้นและชี้ให้เห็นว่า ลามารค มิสามารถอธิบายกลไกของวิวัฒนาการได้ถูกต้องตามที่ควรเป็นจริง ต่อมา ดาร์วิน (Darwin) ใน ค.ศ. ๑๘๕๙ เป็นนักวิชาการคนแรกที่ได้พยายามอธิบายกลไกของวิวัฒนาการของชีวิต ได้อย่างเข้าหลักเข้าเกณฑ์ที่ถูกต้อง โดยอาศัยแนวความคิดว่า แมลงวันไข่ครั้งละหลายร้อยฟอง เมื่อเป็นตัว ก็เป็นตัวผู้ ตัวเมียอย่างละครึ่ง ตัวผู้ตัวเมียผสมกันก็จะมีประชากรแมลงวันเพิ่มแบบอนุกรมเรขาคณิต (geometric progression) เพียงไม่กี่เดือนก็จะค านวณได้ว่า มีแมลงวันมากมายจนล้นโลก แต่ความจริงไม่ เคยเป็นเช่นนั้น ทั้งนี้เพราะอาจจะเปรียบได้กับหลักเกณฑ์ของมัลธัส (Malthus) ที่กล่าวว่า ประชากรของ คนถูกจ ากัดด้วยอาหาร (food) ส าหรับในแง่ชีวิตอื่น ๆ นอกจากจะถูกก าจัดด้วยอาหารแล้ว ยังมีของเสีย (waste products) ที่สิ่งมีชีวิตขับออกมา และอื่น ๆ ฯลฯ อีกด้วย ดาร์วินคิดว่าในกลุ่มประชากรของชีวิต ย่อมจะมีทั้งพวกที่แตกต่างกันทางรูปร่าง หน้าที่และพฤติกรรม โดยเฉพาะระหว่างพวกแข็งแรง และพวก อ่อนแอ เมื่ออาหารมีจ ากัด ก็จะเกิดการแก่งแย่งอาหารกัน ตัวที่แข็งแรงที่สุดก็จะแย่งอาหารได้มาก พวกที่ แข็งแรงจึงมีโอกาสอยู่รอดและสืบพันธุ์มากกว่าพวกที่อ่อนแอ ดาร์วินจึงเน้นความส าคัญของการคัดเลือก ทางธรรมชาติ (natural selection) โดยสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งอื่น ๆ อีกได้นอกจากอาหาร เช่น ศัตรู, ดินฟ้าอากาศ, เชื้อโรค, ภูมิประเทศ ฯลฯ ปัญหาเรื่องยีราฟปัจจุบันคอยาวกว่าต้นตระกูลยีราฟ ดาร์ วิน อธิบายว่า ต้นตระกูลยีราฟซึ่งคอสั้นนั้นมิได้คอสั้นเท่ากันทุกตัว จะมีทั้งพวกคอสั้นน้อย คอสั้นมาก พวก คอสั้นมากจะมีโอกาสกินยอดใบไม้น้อยกว่าพวกคอสั้นน้อยหรือพวกที่คอยาวกว่า พวกคอยาวกว่าจึงมี โอกาสหาอาหารได้มากกว่า แข็งแรงกว่าและโอกาสผสมขยายพันธุ์มากขึ้นกว่าพวกคอสั้นกว่า นาน ๆ หลาย ชั่วอายุ จึงท าให้เกิดยีราฟคอยาวมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า ดาร์วินมิได้ละทิ้งความส าคัญ ของชีวิตน้อยไปกว่าสิ่งแวดล้อมเลย ดาร์วินก็ได้เคยทดลองผสมข้ามพันธุ์ระหว่างถั่วต้นสูง และต้นเตี้ย เพื่อ หาหลักเกณฑ์ของการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ แต่ดาร์วินทั้ง ๆ ที่ได้ผลใกล้เคียงแบบเดียวกันกับรายงาน ของเมนเดล ดาร์วินก็ไม่สามารถวิเคราะห์และแปลผลการทดลองจนบรรลุถึงกฎเกณฑ์การถ่ายทอดลักษณะ ทางกรรมพันธุ์แบบแมนเดลได้ใน ค.ศ. ๑๘๖๖ เมนเดล จึงได้เป็นวางกฎเกณฑ์การถ่ายทอดลักษณะทาง กรรมพันธุ์ของชีวิตให้ลูกหลาน ซึ่งลักษณะดังกล่าวย่อมถ่ายทอดจากเซลสืบพันธุ์จากพ่อและแม่เท่านั้น สตราสเบอรเกอร์ (Strasburger) ใน ค.ศ. ๑๘๗๕ เป็นบุคคลแรกที่ได้ศึกษาโครโมโซมแบ่งตัวตามแนวแกน ยาว แวน บินิเดน (Van Beneden) ใน ค.ศ. ๑๘๘๓ ได้ระบุว่าโครโมโซมเป็นหน่วยที่สืบเนื่องทางกรรมพันธุ์