ใบกิจกรรมวิทยาศาสตร์

โรงเรียนบ้านซองกาเรีย สาขาบ้านพระเจดีย์สามองค์ ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต ๓

ใบกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ อวัยวะภายนอกของสัตว์บริเวณโรงเรียน ขั้นตอน 1. นักเรียนใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ศึกษาอวัยวะภายนอกของ สัตว์บริเวณโรงเรียน 1 ชนิด 2. บันทึกขั้นตอนที่ใช้ในการศึกษาและข้อมูลที่ศึกษาได้ในรูปแบบของแผนภาพ การดึงถุงทรายในแนวราบ คำถามประกอบกิจกรรม 1. นักเรียนเลือกศึกษาอวัยวะภายนอกของสัตว์ชนิดใด เพราะอะไร 2. ขั้นตอนวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่นักเรียนใช้ในการศึกษาอวัยวะภายนอกของสัตว์มีอะไรบ้าง ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การใช้จำนวน 3. การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล อุปกรณ์ 1. สีไม้/สีเทียน 1 กล่อง 2. กระดาษแข็ง 1 แผ่น 2. ถุงทราย 1 ถุง

3. แผนภาพอวัยวะภายนอกของสัตว์ที่นักเรียนศึกษาคืออะไร 4. จากการทำกิจกรรมนักเรียนใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ อะไรบ้าง

ใบกิจกรรม สังเกตปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโตของมนุษย์ ปัญหา ขั้นตอน 1. อ่านข้อมูลน้ำหนักและส่วนสูงของตนเองในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 2 จากสมุดรายงานสุขภาพ ประจำปี บันทึกผล 2. ชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงของตนเอง บันทึกผล แล้วเปรียบเทียบว่าน้ำหนักและส่วนสูงของนักเรียนตั้งแต่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนถึงปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร การสังเกตปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโตของมนุษย์ ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การวัด 3. การใช้จำนวน 4. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. สมุดรายงานสุขภาพประจำปี 1 เล่ม 2. ที่วัดส่วนสูง 1 ที่ 3. เครื่องชั่งน้ำหนัก 1 เครื่อง 4. หนังสือ วารสารวิทยาศาสตร์ สารานุกรมวิทยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน และเว็บไซต์ที่ เกี่ยวข้องทางอินเทอร์เน็ต

2. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโตของมนุษย์ บันทึกผล ชั้น น้ำหนัก (กิโลกรัม) ส่วนสูง (เซนติเมตร) ป. 1 ป. 2 ป. 3 ปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และการเจริญเติบโตของมนุษย์ ประโยชน์ สรุป คำถามประกอบกิจกรรม 1. ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนถึงปัจจุบันน้ำหนักของนักเรียนมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร 2. ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนถึงปัจจุบันส่วนสูงของนักเรียนมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร 3. ร่างกายของนักเรียนมีการเจริญเติบโตหรือไม่ สังเกตจากสิ่งใด 4. มนุษย์ต้องการสิ่งใดเพื่อใช้ในการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโต

ใบกิจกรรม สังเกตอาหารที่ชอบรับประทาน ปัญหา ขั้นตอน 1. สังเกตรายการอาหารที่นักเรียนชอบว่ามีอะไรบ้าง 2. จำแนกว่าอาหารที่นักเรียนชอบรับประทานแต่ละชนิดมีส่วนประกอบอะไรบ้าง และมีประโยชน์อย่างไร 3. บันทึกข้อมูล อภิปราย และสรุปผล บันทึกผล อาหารที่ชอบ ส่วนประกอบของอาหาร ประโยชน์ต่อร่างกาย สรุป ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การจำแนกประเภท 3. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. ดินสอ/ปากกา 1 แท่ง/ด้าม 2. สมุด 1 เล่ม

คำถามประกอบกิจกรรม 1. อาหารที่นักเรียนชอบแต่ละชนิดมีส่วนประกอบแตกต่างกันหรือไม่ 2. อาหารที่นักเรียนชอบมากที่สุดคืออะไร และมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร 3. ในแต่ละวันเราควรรับประทานอาหารอย่างไร

ใบกิจกรรม สังเกตปริมาณน้ำในผลส้ม ปัญหา ขั้นตอน 1. นำผลส้มจำนวน 10 ผล ชั่งหาน้ำหนัก แล้วบันทึกผล 2. ผ่าผลส้ม คั้นเอาน้ำออกให้หมด 3. นำน้ำส้มที่คั้นได้และกากส้มที่เหลือไปชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบกัน บันทึกผล การสังเกตปริมาณน้ำในผลส้ม บันทึกผล จำนวนส้ม (ผล) น้ำหนัก (กรัม) ผลส้ม น้ำส้ม กากส้ม 10 สรุป ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. ส้ม 10 ผล 2. เครื่องชั่งน้ำหนัก 1 เครื่อง 3. มีด 1 เล่ม 4. แก้ว 1 ใบ 5. เขียง 1 อัน

คำถามประกอบกิจกรรม 1. ในผลส้มมีน้ำปริมาณเท่าใด 2. ถ้านักเรียนกระหายน้ำแล้วไม่มีน้ำดื่ม จะเลือกรับประทานผลไม้ชนิดใด เพราะเหตุใด 3. นักเรียนได้ประโยชน์อะไรจากการปฏิบัติกิจกรรมนี้

ใบกิจกรรม สังเกตแก๊สที่ออกมากับลมหายใจออก ปัญหา ขั้นตอน 1. นำสารละลายน้ำปูนใสที่ เตรียมไว้เทลงในถุงพลาสติก 2. ใส่หลอดกาแฟลงในถุงพลาสติก ให้ปลายข้างหนึ่งโผล่พ้นปากถุงและปลายอีกข้างหนึ่งอยู่เหนือ สารละลายน้ำปูนใส ปิดปากถุงให้แน่นพอประมาณ 3. เป่าลมหายใจออกลงในถุงพลาสติก จนถุงโป่งพองแล้วรัดปากถุงด้วยยางรัด 4. เขย่าถุงพลาสติกแล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลง บันทึกผล การสังเกตแก๊สที่ออกมากับลมหายใจออก บันทึกผล สารละลาย ก่อนเป่าลมหายใจออกลงในถุง หลังเป่าลมหายใจออกลงในถุง สรุป ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. ถุงพลาสติกขนาด 8 × 10 นิ้ว 1 ใบ 2. สารละลายน้ำปูนใส 1 ถ้วย 3. หลอดกาแฟ 1 หลอด 4. ยางรัด 1 เส้น

คำถามประกอบกิจกรรม 1. สารละลายน้ำปูนใสก่อนเป่าลมหายใจออกลงในถุงพลาสติกมีลักษณะอย่างไร 2. เมื่อเป่าลมหายใจออกลงในถุงพลาสติกแล้วเขย่าถุง สารละลายน้ำปูนใสเกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะใด 3. แก๊สที่ออกมากับลมหายใจออกคืออะไร

ใบกิจกรรม สืบค้นข้อมูลชนิดอาหารที่สัตว์กิน ปัญหา ขั้นตอน 1. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ตามชนิดอาหารที่กิน ดังนี้ – สัตว์กินพืช – สัตว์กินสัตว์อื่น – สัตว์กินทั้งพืชและสัตว์ 2. จำแนกประเภทของสัตว์ชนิดนั้น แล้วบันทึกลักษณะทั่วไปและอาหารที่กิน บันทึกผล ชื่อสัตว์ ประเภทของสัตว์ ลักษณะทั่วไป อาหารที่กิน สรุป ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การจำแนกประเภท 3. การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล อุปกรณ์ หนังสือ วารสารวิทยาศาสตร์ สารานุกรมวิทยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน และเว็บไซต์ที่ เกี่ยวข้องทางอินเทอร์เน็ต

คำถามประกอบกิจกรรม 1. นักเรียนใช้เกณฑ์ใดในการจำแนกประเภทของสัตว์ในกิจกรรมนี้ 2. สัตว์กินพืช สัตว์กินสัตว์อื่น และสัตว์กินทั้งพืชและสัตว์ในกิจกรรมนี้กินอะไรเป็นอาหาร 3. สัตว์กินสัตว์อื่นเป็นอาหารในกิจกรรมนี้มีลักษณะทั่วไปอย่างไร 4. นักเรียนได้ประโยชน์อะไรจากการทำกิจกรรมนี้

ใบกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ สังเกตปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโตของสัตว์ ขั้นตอน 1. ออกแบบและจัดอ่างเลี้ยงลูกปลาหางนกยูงเพื่อใช้เป็นแหล่งที่อยู่ของลูกปลา แล้ววางแผนการเลี้ยงเป็น เวลา 2 สัปดาห์ 2. เลี้ยงลูกปลาหางนกยูงตามแผนที่วางไว้ และตักลูกปลาขึ้นมาวัดการเจริญเติบโตสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดย ใช้กระชอนตักลูกปลามาวางบนสำลีแผ่นที่เปียกและพับสำลีแผ่นปิดหัวลูกปลาไว้ แล้ววัดความยาวตั้งแต่ส่วนหัว จนถึงปลายหางของลูกปลา บันทึกผล บันทึกผล สัปดาห์ที่ ความยาวของลูกปลา หางนกยูง (เซนติเมตร) พฤติกรรมของลูกปลาหางนกยูง 1 2 ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การวัด 3. การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล 4. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. ลูกปลาหางนกยูง 3 ตัว 2. อ่าง 1 ใบ 3. น้ำ 1 อ่าง 4. สาหร่ายหางกระรอก 2 ต้น 5. ก้อนหิน 6 ก้อน 6. อาหารปลา 1 ถุง 7. กระชอน 1 อัน 8. สำลีแผ่น 1 ถุง 9. ไม้บรรทัด 1 อัน

สรุป 1. ก่อนสอดผ้าใต้ขาโต๊ะและหลังสอดผ้าใต้ขาโต๊ะแบบใดเคลื่อนย้ายโต๊ะได้ง่ายกว่า คำถามประกอบกิจกรรม 1. นักเรียนออกแบบและจัดอ่างเลี้ยงลูกปลาหางนกยูงอย่างไร 2. นักเรียนมีวิธีการเลี้ยงลูกปลาหางนกยูงอย่างไร 3. ลูกปลาหางนกยูงมีการเจริญเติบโตหรือไม่ สังเกตจากสิ่งใด

ใบกิจกรรม สังเกตวัฏจักรชีวิตของผีเสื้อ ปัญหา ขั้นตอน 1. นำหนอนผีเสื้อวางบนกระดาษทิชชู แล้วใช้แว่นขยายสังเกตสิ่งที่มองเห็นและวาดรูปสิ่งที่สังเกตได้ 2. นำใบพุดใส่ลงในแก้วพลาสติกใส แล้วใช้ช้อนพลาสติกตักหนอนผีเสื้อวางบนใบพุดอย่างระมัดระวัง 3. ใช้ผ้าขาวบางปิดปากแก้วพลาสติกใส ยึดให้แน่นด้วยเทปกาว ดังรูป แล้ววางไว้ในบริเวณที่ไม่โดน แสงแดดโดยตรง การเคาะส้อมเสียง 4. สังเกตหนอนผีเสื้อทุกวัน และเติมใบพุดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล 3. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. หนอนผีเสื้อ 1 ตัว 2. กระดาษทิชชู 4–5 แผ่น 3. แว่นขยาย 1 อัน 4. ช้อนพลาสติก 1 คัน 5. ใบพุด 1 ถุง 6. แก้วพลาสติกใส 1 ใบ 7. ผ้าขาวบาง 1 ผืน 8. เทปกาว 1 ม้วน 9. กรรไกร 1 เล่ม ผ้าขาวบาง การสังเกตวัฏจักรชีวิตของผีเสื้อ หนอนผีเสื้อ ใบพุด เทปกาว

5. เมื่อเวลาผ่านไป 3 สัปดาห์ จะเห็นหนอนผีเสื้อกลายเป็นดักแด้ ใช้แว่นขยายสังเกตสิ่งที่มองเห็นและวาด รูปสิ่งที่สังเกตได้ 6. เมื่อเวลาผ่านไปอีก 2 สัปดาห์ จะเห็นตัวเต็มวัยของผีเสื้อในแก้วพลาสติกใส ใช้แว่นขยายสังเกตสิ่งที่ มองเห็นและวาดรูปสิ่งที่สังเกตได้ หมายเหตุ : เมื่อปฏิบัติกิจกรรมสังเกตวัฏจักรชีวิตของผีเสื้อเสร็จแล้ว นักเรียนควรนำผีเสื้อไปปล่อยกลับสู่ธรรมชาติ บันทึกผล ระยะ วัน/เดือน/ปีที่สังเกต ผลการสังเกต หนอน ดักแด้ ตัวเต็มวัย สรุป คำถามประกอบกิจกรรม 1. หนอนมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างในระยะต่างๆ ของวัฏจักรชีวิตนานเท่าใด 2. รูปร่างของผีเสื้อแต่ละระยะของวัฏจักรชีวิตเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร 3. ระยะใดในวัฏจักรชีวิตของผีเสื้อที่นักเรียนไม่ได้ศึกษา เพราะอะไร

ใบกิจกรรม สร้างแบบจำลองวัฏจักรชีวิตของสัตว์ ปัญหา ขั้นตอน 1. แต่ละกลุ่มเลือกวัฏจักรชีวิตของสัตว์ที่สนใจมา 1 ชนิด 2. จัดทำแผนภาพวัฏจักรชีวิตของสัตว์ โดยการวาดรูปสัตว์ในแต่ละระยะของวัฏจักรชีวิต 3. เขียนบรรยายลักษณะและระยะเวลาในการเจริญเติบโตของสัตว์ในแต่ละระยะของวัฏจักรชีวิต 4. แต่ละกลุ่มนำแผนภาพที่สร้างขึ้นไปนำเสนอหน้าห้องเรียน การสร้างแบบจำลองวัฏจักรชีวิตของสัตว์ ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การสร้างแบบจำลอง 3. การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล อุปกรณ์ 1. กระดาษแข็ง 1 แผ่น 2. สีไม้/สีเทียน 1 กล่อง

บันทึกผล ผลการสร้างแบบจำลอง สรุป คำถามประกอบกิจกรรม 1. นักเรียนเลือกสัตว์ชนิดใด เพราะอะไร 2. สัตว์ที่นักเรียนเลือกมีวัฏจักรชีวิตกี่ระยะ อะไรบ้าง 3. วัฏจักรชีวิตของสัตว์ที่นักเรียนเลือกเหมือนกับสัตว์ชนิดใดที่เพื่อนเลือก

ใบกิจกรรม สำรวจวัตถุที่เกิดจากการนำชิ้นส่วนย่อยๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน ปัญหา ขั้นตอน 1. ดูวัตถุต่างๆ ในบริเวณชุมชนว่าวัตถุใดได้มาจากการนำชิ้นส่วนย่อยๆ ที่มีลักษณะเหมือนกันมาประกอบ เข้าด้วยกัน พร้อมทั้งระบุว่าวัตถุดังกล่าวทำมาจากวัสดุใดและวัสดุนั้นสามารถนำไปทำวัตถุใดได้อีก บันทึกผล 2. นำเสนอผลการสำรวจหน้าห้องเรียน การสำรวจวัตถุที่เกิดจากการนำชิ้นส่วนย่อยๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน บันทึกผล วัตถุที่พบ ทำมาจาก วัตถุชนิดใหม่ สรุป ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. ดินสอ 1 แท่ง 2. กระดาษ 1 แผ่น

คำถามประกอบกิจกรรม 1. วัตถุใดในชุมชนทำมาจากการนำชิ้นส่วนย่อยๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน 2. วัตถุเหล่านั้นทำมาจากชิ้นส่วนย่อยๆ ของวัสดุชนิดใด 3. ชิ้นส่วนย่อยๆ ของวัตถุเหล่านั้นสามารถนำไปทำวัตถุชนิดใดได้บ้าง

ใบกิจกรรม สังเกตการเปลี่ยนแปลงของลูกชิ้นเมื่อได้รับความร้อน ปัญหา ขั้นตอน 1. นำลูกชิ้นไปล้างน้ำให้สะอาด สังเกตลักษณะของลูกชิ้น บันทึกผล 2. นำลูกชิ้นมาเสียบไม้แล้วปิ้งบนตะแกรงที่ตั้งอยู่บนเตา สังเกตลักษณะของลูกชิ้น บันทึกผล 3. ผสมน้ำจิ้ม โดยนำน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ เกลือ มะเขือเทศ และพริกป่นใส่ลงในหม้อ สังเกตลักษณะ ของน้ำจิ้ม บันทึกผล 4. นำส่วนผสมของน้ำจิ้มในข้อ 3 ตั้งบนเตาและคนให้เข้ากัน สังเกตลักษณะของน้ำจิ้ม บันทึกผล หมายเหตุ: 1. ห้ามสัมผัสตะแกรง หม้อ และเตาขณะที่ยังร้อนอยู่ เพราะอาจได้รับอันตรายจากความร้อน 2. ห้ามใช้มือสัมผัสพริกป่นโดยตรง เพราะพริกป่นจะทำให้ผิวหนังแสบร้อน 3. ขณะเทพริกป่นลงในหม้อ ไม่ควรเทในระยะที่สูงเกินไป เพราะพริกป่นอาจปลิวเข้าตา ทำให้แสบตาได้ ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. ลูกชิ้น 1 ถุง 2. ไม้เสียบลูกชิ้น 1 มัด 3. อ่างพร้อมน้ำ 1 ใบ 4. ตะแกรง 1 ใบ 5. หม้อ 1 ใบ 6. ทัพพี 1 คัน 7. เตาพร้อมถ่านติดไฟ 1 ใบ 8. น้ำมะขามเปียก 1 ถ้วย 9. น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย 10. เกลือ 2 ช้อนชา 11. มะเขือเทศ 1 ผล 12. พริกป่น 3 ช้อนโต๊ะ 13. ถาด 1 ใบ

บันทึกผล วัสดุ ลักษณะของวัสดุ ก่อนให้ความร้อน หลังให้ความร้อน ลูกชิ้น ส่วนผสมของ น้ำจิ้ม สรุป คำถามประกอบกิจกรรม 1. ลูกชิ้นก่อนให้ความร้อนและหลังให้ความร้อนแตกต่างกันอย่างไร 2. อะไรทำให้ลูกชิ้นและส่วนผสมของน้ำจิ้มเกิดการเปลี่ยนแปลง

ใบกิจกรรม ทดลองอุณหภูมิกับการหลอมเหลวของน้ำแข็ง ขั้นตอนการทดลอง ปัญหา คาดคะเนคำตอบ ทดลอง 1. นำน้ำแข็งที่มีขนาดเท่ากัน 3 ก้อน ใส่ลงในถุงพลาสติกใบละ 1 ก้อน 3 ใบ แล้วมัดปากถุงให้สนิท 2. ถุงพลาสติกใบที่ 1 วางกลางแดด ถุงพลาสติกใบที่ 2 วางที่อุณหภูมิห้อง และถุงพลาสติกใบที่ 3 วางใน ช่องแช่แข็งของตู้เย็น 3. ตั้งทิ้งไว้ 5 นาที วัดอุณหภูมิของแต่ละสถานที่ สังเกตและบันทึกผล จากนั้นวิเคราะห์ อภิปรายและ สรุปผลการทดลอง วางกลางแดด วางที่อุณหภูมิห้อง วางในช่องแช่แข็งของตู้เย็น การทดลองอุณหภูมิกับการหลอมเหลวของน้ำแข็ง รวบรวมข้อมูล รวบรวมข้อมูลโดยบันทึกการเปลี่ยนแปลงที่นักเรียนสังเกตได้ลงในตารางบันทึกผล ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การตั้งสมมุติฐาน 3. การทดลอง 4. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. น้ำแข็ง 3 ก้อน 2. ถุงพลาสติก 3 ใบ 3. ยางรัด 3 เส้น 4. ตู้เย็น 1 เครื่อง 5. นาฬิกาจับเวลา 1 เรือน 6. จาน 1 ใบ 7. เทอร์มอมิเตอร์ 1 อัน

บันทึกผล สถานที่ อุณหภูมิ (องศาเซลเซียส) การเปลี่ยนแปลง กลางแดด อุณหภูมิห้อง ช่องแช่แข็งของตู้เย็น แปลความหมายข้อมูล สรุป คำถามประกอบกิจกรรม ก่อนการทดลอง 1. ในการปฏิบัติกิจกรรมนักเรียนต้องวางถุงพลาสติกไว้สถานที่ใดบ้าง ระหว่างการทดลอง 2. ในระหว่างการทดลองมีอุปสรรคหรือไม่ และแก้ไขด้วยวิธีใด หลังการทดลอง 3. การทำให้ความร้อนเพิ่มขึ้นและลดลงมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของวัสดุในลักษณะใด

ใบกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ การใช้ประโยชน์จากการทำให้วัสดุร้อนขึ้นหรือทำให้เย็นลง ขั้นตอน 1. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากการทำให้วัสดุร้อนขึ้นหรือทำให้เย็นลงของวัสดุชนิดต่างๆ ได้แก่ โลหะ แก้ว และพลาสติก 2. เขียนสรุปเป็นรูปพร้อมข้อความสั้นๆ แล้วนำเสนอหน้าห้องเรียน คำถามประกอบกิจกรรม ก่อนการทดลอง 1. วัสดุที่เปลี่ยนสถานะเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนไปมีประโยชน์ลักษณะใด 2. ยกตัวอย่างของเล่นและของใช้ที่ใช้การเพิ่มและลดอุณหภูมิเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปทรง ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล อุปกรณ์ 1. ปากกาเมจิก 1 แท่ง 2. กระดาษชาร์จ 1 แผ่น

ใบกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ สังเกตแรงดึงและแรงผลัก ขั้นตอน 1. นักเรียนทำกิจกรรมต่างๆ ดังนี้ – ลากโต๊ะ – ผลักโต๊ะ – โยนลูกบอล – ดึงเชือก – ถูพื้น 2. เขียนชื่อกิจกรรมและลักษณะการออกแรงว่าเป็นแรงดึงหรือแรงผลัก บันทึกผล และสรุปผล บันทึกผล กิจกรรม ลักษณะการออกแรง แรงดึง แรงผลัก สรุป คำถามประกอบกิจกรรม 1. การลากโต๊ะและการผลักโต๊ะมีลักษณะการออกแรงเหมือนกันหรือไม่ อย่างไร ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การจำแนกประเภท 3. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. โต๊ะ 1 ตัว 2. ลูกบอล 1 ลูก 3. เชือก 1 เส้น 4. ไม้ถูพื้น 1 อัน

2. กิจกรรมใดมีการออกแรงผลักเพียงอย่างเดียว 3. กิจกรรมใดมีการออกแรงดึงเพียงอย่างเดียว 4. กิจกรรมใดมีการออกแรงทั้งแรงดึงและแรงผลัก

ใบกิจกรรม สังเกตการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ (1) 2. ตลับเมตร 1 อัน ปัญหา ขั้นตอน 1. นักเรียนจับคู่กัน แล้วยืนหันหน้าเข้าหากัน โดยยืนห่างกันประมาณ 2 เมตร 2. นักเรียนทั้ง 2 คน ผลัดกันโยนและรับลูกบอล สังเกตการออกแรงกระทำต่อลูกบอลขณะโยนและรับลูก บอล พร้อมทั้งสังเกตผลของแรงที่มีต่อลูกบอล บันทึกผล และสรุปผล บันทึกผล กิจกรรม การออกแรงกระทำต่อลูกบอล ผลของแรงที่มีต่อลูกบอล ไม่ออกแรง ออกแรง โยนลูกบอล รับลูกบอล สรุป คำถามประกอบกิจกรรม 1. ขณะโยนลูกบอลให้เพื่อนต้องออกแรงกระทำต่อลูกบอลหรือไม่ อย่างไร ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป แหล่งการเรียนรู้ 1. ลูกบอล 1 ลูก

2.ขณะโยนลูกบอลให้เพื่อน ลูกบอลที่หยุดนิ่งอยู่ในมือมีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะใด 3. ขณะรับลูกบอลจากเพื่อนต้องออกแรงกระทำต่อลูกบอลหรือไม่ อย่างไร 4. ขณะรับลูกบอลจากเพื่อน ลูกบอลที่กำลังเคลื่อนที่มีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะใด

ใบกิจกรรม สังเกตการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ (2) ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. ลูกบอล 1 ลูก ปัญหา ขั้นตอน 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์ อภิปราย และหาวิธีการออกแรงกระทำต่อลูกบอลที่กำลังเคลื่อนที่ เพื่อให้ลูกบอลเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ ดังนี้ – เคลื่อนที่เร็วขึ้น – เคลื่อนที่ช้าลง – เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ 2. ลงมือทำกิจกรรมตามวิธีการที่คิดไว้ บันทึกผล และสรุปผล จากนั้นนำเสนอผลการสังเกตหน้าห้องเรียน บันทึกผล การเปลี่ยนแปลง การเคลื่อนที่ของลูกบอล วิธีการออกแรงกระทำต่อลูกบอลที่กำลังเคลื่อนที่ เคลื่อนที่เร็วขึ้น เคลื่อนที่ช้าลง เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ สรุป คำถามประกอบกิจกรรม 1. การออกแรงกระทำต่อลูกบอลที่กำลังเคลื่อนที่เพื่อให้ลูกบอลเคลื่อนที่เร็วขึ้น ทำได้โดยวิธีใด

2. การออกแรงกระทำต่อลูกบอลที่กำลังเคลื่อนที่เพื่อให้ลูกบอลเคลื่อนที่ช้าลง ทำได้โดยวิธีใด 3. การออกแรงกระทำต่อลูกบอลที่กำลังเคลื่อนที่เพื่อให้ลูกบอลเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ ทำได้โดยวิธีใด

ใบกิจกรรม สังเกตขั้วแม่เหล็ก ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. แม่เหล็ก 1 แท่ง 2. เข็มทิศ 1 อัน 3. ไม้เมตร 1 อัน 4. โต๊ะ 2 ตัว 5. เชือกยาว 50 ซม. 1 เส้น ปัญหา ขั้นตอน 1. นำเข็มทิศมาใช้ในการหาทิศเหนือ โดยวางเข็มทิศไว้บนโต๊ะ แล้วรอจนเข็มชี้ของเข็มทิศหยุดนิ่ง จากนั้น หมุนเข็มทิศให้ตัวอักษร N บนเข็มทิศอยู่บริเวณปลายของเข็มชี้ (ด้านที่มีสี) ของเข็มทิศพอดี จะได้ทิศเหนือของ บริเวณนั้น 2. จัดโต๊ะทั้ง 2 ตัวให้ห่างกันประมาณ 60 เซนติเมตร แล้วนำไม้เมตรไปวางพาดระหว่างโต๊ะทั้ง 2 ตัว การจัดอุปกรณ์สังเกตขั้วแม่เหล็ก 3. นำปลายเชือกด้านหนึ่งมาผูกบริเวณกึ่งกลางแม่เหล็ก และผูกปลายเชือกอีกด้านหนึ่งเข้ากับไม้เมตร ดังรูป เพื่อให้แม่เหล็กหมุนได้อย่างอิสระ 4. ใช้มือปัดให้แม่เหล็กหมุนอย่างอิสระ แล้วรอจนแม่เหล็กหยุดหมุน สังเกตการวางตัวของขั้วเหนือและขั้วใต้ของ แม่เหล็ก บันทึกผลจากนั้นทำซ้ำอีก 2 ครั้งและสรุปผล บันทึกผล ครั้งที่ ผลการสังเกต 1 2 3

สรุป คำถามประกอบกิจกรรม 1. แม่เหล็กมีกี่ขั้ว อะไรบ้าง 2.การวางตัวของขั้วเหนือและขั้วใต้ของแม่เหล็กมีลักษณะแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร

ใบกิจกรรม สังเกตแรงแม่เหล็ก ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การพยากรณ์ 3. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. แม่เหล็ก 2 แท่ง 2. โต๊ะที่มีพื้นผิวเรียบ 1 ตัว ปัญหา ขั้นตอน 1. คาดคะเนว่าเมื่อนำแม่เหล็ก 2 แท่งเข้าใกล้กัน โดยให้ขั้วแม่เหล็กที่เหมือนกันเข้าใกล้กันและขั้วแม่เหล็กที่ ต่างกันเข้าใกล้กันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะใด 2. วางแม่เหล็กแท่งที่ 1 บนโต๊ะ นำขั้วเหนือของแม่เหล็กแท่งที่ 2 เข้าใกล้ขั้วเหนือของแม่เหล็กแท่งที่ 1 สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น บันทึกผล 3. นำขั้วใต้ของแม่เหล็กแท่งที่ 2 เข้าใกล้ขั้วใต้ของแม่เหล็กแท่งที่ 1 สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น บันทึกผล 4. เปลี่ยนเป็นวางแม่เหล็กแท่งที่ 2 บนโต๊ะ นำขั้วใต้ของแม่เหล็กแท่งที่ 1 เข้าใกล้ขั้วเหนือของแม่เหล็กแท่ง ที่ 2 และนำขั้วเหนือของแม่เหล็กแท่งที่ 1 เข้าใกล้ขั้วใต้ของแม่เหล็กแท่งที่ 2 ตามลำดับ สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น บันทึก ผล และสรุปผล บันทึกผล สิ่งที่สังเกต ผลการสังเกต ขั้วเหนือเข้าใกล้ขั้วเหนือ ขั้วใต้เข้าใกล้ขั้วใต้ ขั้วใต้เข้าใกล้ขั้วเหนือ ขั้วเหนือเข้าใกล้ขั้วใต้ สรุป

คำถามประกอบกิจกรรม 1. เมื่อนำแม่เหล็กขั้วเหมือนกันและขั้วต่างกันเข้าใกล้กันจะเกิดสิ่งใดขึ้น 2. เมื่อนำแม่เหล็ก 2 แท่งเข้าใกล้กัน มีแรงกระทำต่อแม่เหล็กทั้งสองหรือไม่ สังเกตจากอะไร

ใบกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ แรงรอบๆ แม่เหล็ก ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล 3. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. แม่เหล็ก 1 แท่ง 2. ลวดเสียบกระดาษ 1 กล่อง 3. เชือกยาว 50 ซม. 1 เส้น ขั้นตอน 1. นำเชือกมาผูกบริเวณกึ่งกลางของแม่เหล็ก 2. นำปลายแม่เหล็กเข้าใกล้กับลวดเสียบกระดาษ แล้วสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น 3. นำแม่เหล็กด้านอื่น ๆ เข้าใกล้กับลวดเสียบกระดาษ แล้วสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น การทดสอบแรงรอบๆ แม่เหล็ก คำถามประกอบกิจกรรม 1. เมื่อนำปลายแม่เหล็กเข้าใกล้กับลวดเสียบกระดาษจะเกิดสิ่งใดขึ้น 2. เมื่อนำแม่เหล็กด้านอื่นๆ เข้าใกล้กับลวดเสียบกระดาษจะเกิดสิ่งใดขึ้น

ใบกิจกรรม สังเกตแรงแม่เหล็กที่กระทำต่อวัตถุต่างๆ ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การจำแนกประเภท 3. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. แม่เหล็ก 1 แท่ง 2. วัตถุ 10 ชนิด ปัญหา ขั้นตอน 1. สำรวจวัตถุไม่ซ้ำกันมา 10 ชนิด เขียนชื่อวัตถุที่สำรวจพบและวัสดุที่ใช้ทำวัตถุชนิดนั้น 2. นำแม่เหล็กมาสัมผัสวัตถุแต่ละชนิด แล้วสังเกตว่ามีแรงดึงดูดหรือไม่ 3. จำแนกประเภทของวัตถุต่างๆ โดยใช้การดึงดูดของแม่เหล็กเป็นเกณฑ์ บันทึกผล และสรุปผล บันทึกผล ครั้งที่ วัตถุ วัสดุ ดึงดูด ไม่ดึงดูด สรุป

คำถามประกอบกิจกรรม 1. วัสดุที่แม่เหล็กสามารถดึงดูดได้มีอะไรบ้าง 2. วัสดุที่แม่เหล็กไม่สามารถดึงดูดได้มีอะไรบ้าง 3. แม่เหล็กสามารถดึงดูดวัตถุได้ทุกชนิดหรือไม่ อย่างไร

ใบกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ พลังงานในชีวิตประจำวัน ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การจำแนกประเภท 3. การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล อุปกรณ์ 1. ปากกาเมจิก 1 แท่ง 2. กระดาษชาร์ต 1 แผ่น ขั้นตอน 1. ให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลความหมายของพลังงานแต่ละแบบ 2. สำรวจพลังงานที่พบในชีวิตประจำวันว่ามีอะไรบ้าง พร้อมนับจำนวน บันทึกผล 3. จำแนกชนิดของพลังงานตามที่สืบค้นข้อมูลได้ แล้วนำเสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิรูปภาพ คำถามประกอบกิจกรรม 1. พลังงานที่นักเรียนพบในชีวิตประจำวันคือพลังงานแบบใด 2. พลังงานแบบใดที่นักเรียนพบมากที่สุด 3. นักเรียนใช้ประโยชน์จากพลังงานแบบใดมากที่สุด และใช้ทำอะไร

ใบกิจกรรม สำรวจการเปลี่ยนแปลงพลังงาน ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. ดินสอ/ปากกา 1 แท่ง/ด้าม 2. สมุด 1 เล่ม ปัญหา ขั้นตอน 1. สำรวจกิจกรรมที่เกิดการเปลี่ยนแปลงพลังงานบริเวณโรงเรียน บันทึกผล 2. ร่วมกันอภิปรายกิจกรรมที่สำรวจว่าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพลังงานลักษณะใด และสรุปผล บันทึกผล กิจกรรม การเปลี่ยนแปลงพลังงาน สรุป คำถามประกอบกิจกรรม 1. พลังงานเริ่มต้นที่เกิดการเปลี่ยนแปลงคือพลังงานแบบใด

2. พลังงานแบบหนึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอีกแบบหนึ่งได้หรือไม่ สังเกตจากอะไร 3. พลังงานเริ่มต้นที่เกิดการเปลี่ยนแปลงได้หลากหลายที่สุดคืออะไร

ใบกิจกรรม สังเหตการเปลี่ยนแปลงพลังงานไฟฟ้า ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การพยากรณ์ 3. การตีความหมายข้อมูล อุปกรณ์ 1. ไฟฉาย 1 กระบอก 2. ถ่านไฟฉาย 2 ก้อน 3. วิทยุ 1 เครื่อง 4. โคมไฟ 1 ดวง ขั้นตอน 1. สังเกตไฟฉาย ถ่านไฟฉาย วิทยุ และโคมไฟ 2. คาดคะเนว่าเมื่อใส่ถ่านไฟฉายในไฟฉาย และเสียบเต้าเสียบวิทยุ และโคมไฟ แล้วเปิดสวิตช์จะเกิดการ เปลี่ยนแปลงลักษณะใด บันทึกผล 3. เปิดสวิตช์แล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น บันทึกผล 4. ร่วมกันอภิปรายข้อมูล และ สรุปผล บันทึกผลการทดลอง อุปกรณ์ คาดคะเน เปิดสวิตช์ ไฟฉาย วิทยุ โคมไฟ สรุป คำถามประกอบกิจกรรม 1. เครื่องใช้ไฟฟ้าในกิจกรรมมีอะไรบ้าง

2. นักเรียนสังเกตจากสิ่งใดจึงสรุปได้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงาน 3. ไฟฟ้าเป็นพลังงานหรือไม่ เพราะอะไร 4. จากกิจกรรมสรุปได้ว่าอะไร

ใบกิจกรรม สำรวจเครื่องใช้ไฟฟ้าในโรงเรียน ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การลงความคิดเห็นข้อมูล 3. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดต่างๆ ปัญหา ขั้นตอน 1. สำรวจภายในโรงเรียนว่ามีเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรบ้าง บันทึกผล 2. ร่วมกันอภิปรายว่า เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานแบบใด บันทึกผล และสรุปผล บันทึกผล เครื่องใช้ไฟฟ้า พลังงานที่เกิดขึ้น สรุป คำถามประกอบกิจกรรม 1. พลังงานไฟฟ้าที่สำรวจเปลี่ยนเป็นพลังงานแบบใด 2. เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำรวจเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานแบบใดมากที่สุด

3. เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดใดเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานแบบอื่นได้มากกว่า 1 แบบ 4. จากกิจกรรมสรุปได้ว่าอะไร

ใบกิจกรรม ทดลองการผลิตไฟฟ้า ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การสังเกต 2. การทดลอง 3. การพยากรณ์ 4. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ 1. ชุดสาธิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 1 ชุด 2. ลวดเสียบกระดาษ 1 อัน ปัญหา คาดคะเนคำตอบ ทดลอง 1. สังเกตส่วนประกอบของชุดสาธิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จากนั้นใช้ลวดเสียบกระดาษแตะที่ไดนาโม บันทึก ผล 2. หมุนแขนของชุดสาธิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้าช้าๆ สังเกตการเปลี่ยนแปลงของแกนไดนาโมและหลอดไฟฟ้า บันทึกผล ชุดสาธิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 3. คาดคะเนว่าถ้าหมุนแขนของชุดสาธิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเร็วขึ้น ผลการทดลองจะเป็นอย่างไร จากนั้นทำ กิจกรรมเพื่อทดสอบการคาดคะเน บันทึกผล 4. ร่วมกันอภิปรายข้อมูลและสรุปผล รวบรวมข้อมูล รวบรวมข้อมูลโดยบันทึกการเปลี่ยนแปลงที่นักเรียนสังเกตได้ลงในตารางบันทึกผล แขนของชุดสาธิต เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ไดนาโม หลอดไฟฟ้า

บันทึกผล แตะลวดเสียบกระดาษที่ไดนาโม ลักษณะการหมุน ผลการสังเกตหลอดไฟฟ้า หมุนช้าๆ หมุนเร็วขึ้น แปลความหมายข้อมูล สรุป คำถามประกอบกิจกรรม คำถามก่อนการทดลอง 1. ถ้านำลวดเสียบกระดาษแตะที่ไดนาโมจะเกิดอะไรขึ้น 2. ถ้าหมุนแขนของชุดสาธิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะส่งผลต่อไดนาโมอย่างไร คำถามระหว่างการทดลอง 3. ในระหว่างการทดลองมีอุปสรรคหรือไม่ และแก้ไขด้วยวิธีใด

คำถามหลังการทดลอง 4.ชุดสาธิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสามารถผลิตไฟฟ้าได้หรือไม่ สังเกตจากอะไร 5. การหมุนแขนของชุดสาธิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้าด้วยความเร็วแตกต่างกัน มีผลต่อความสว่างของหลอดไฟฟ้าหรือไม่ อย่างไร

ใบกิจกรรม สืบค้นข้อมูลแหล่งพลังงานที่ใช้ผลิตไฟฟ้า ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจที่คงทน 1. การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล 2. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป อุปกรณ์ หนังสือ วารสารวิทยาศาสตร์ สารานุกรมวิทยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน และเว็บไซต์ที่ เกี่ยวข้องทางอินเทอร์เน็ต ปัญหา ขั้นตอน 1. แต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งพลังงานที่ใช้ผลิตไฟฟ้า 2. จำแนกแหล่งพลังงานที่ใช้ผลิตไฟฟ้าว่าเป็นแหล่งพลังงานธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไปหรือเป็นแหล่ง พลังงานธรรมชาติที่หมุนเวียนมาใช้ใหม่ได้ บันทึกผล บันทึกผล แหล่งพลังงานที่ใช้ผลิตไฟฟ้า ประเภทของแหล่งพลังงาน สรุป คำถามประกอบกิจกรรม 1. แหล่งพลังงานธรรมชาติทั้ง 2 ประเภท แตกต่างกันอย่างไร