รายงานการวิจัย รายวิชาเวชศาสตร์ครอบครัวและเวชศาสตร์ชุมชน การศึกษาเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตระหว่างแพทย์เพิ่มพูนทักษะกับนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่6 มหาวิทยาลัยสยาม ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า Comparison of Quality of Life between First Year Postgraduate Physicians and Sixth Year Medical Students of Siam University at Phranangklao Hospital โดย นางสาวสาวปาลิตา ศรีสุข รหัสนักศึกษา 6006300033 นางสาวณที่รัก หริณวรรณ รหัสนักศึกษา 6006300022 นางสาวพรรษกรศมณ โตศุภฤกษ์มงคล รหัสนักศึกษา 6006300007 เสนอ ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์เฉลิม วราวิทย์ แพทย์หญิงสิริรัตน์ ลิมกุล แพทย์หญิงธนิสร พรประสิทธิ์ อาจารย์ยุพา สุทธิมนัส ปี การศึกษา 2565 ศูนย์แพทยศาสตร์ชั้นคลินิก โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม การศึกษาเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตระหว่างแพทย์เพิ่มพูนทักษะกับนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่6 มหาวิทยาลัยสยาม ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า Comparisonof Quality of Life between First Year Postgraduate Physicians and Sixth Year Medical Students of Siam University at Phranangklao Hospital โดย นางสาวสาวปาลิตา ศรีสุข รหัสนักศึกษา 6006300033 นางสาวณที่รัก หริณวรรณ รหัสนักศึกษา 6006300022 นางสาวพรรษกรศมณ โตศุภฤกษ์มงคล รหัสนักศึกษา 6006300007 ปี การศึกษา 2565 ศูนย์แพทยศาสตร์ชั้นคลินิก โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
ก หัวข้อวิจัย การศึกษาเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตระหว่างแพทย์เพิ่ มพูนทักษะกับนักศึกษาแพทย์ชั้น ปี ที่6 มหาวิทยาลัยสยาม ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลพระนังเกล้า ่ ผ้ด ำเนินกำรวิจัยูนางสาวสาวปาลิตา ศรีสุข รหัสนักศึกษา 6006300033 นางสาวณที่รัก หริณวรรณ รหัสนักศึกษา 6006300022 นางสาวพรรษกรศมณ โตศุภฤกษ์มงคล รหัสนักศึกษา 6006300007 หน่วยงำน คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยสยาม ศูนย์แพทยศาสตร์ชั้ นคลินิกโรงพยาบาลพระนังเกล้ ่า ค ำส ำคัญ คุณภาพชีวิต, แพทย์เพิ่ มพูนทักษะ, นักศึกษาแพทย์ชั้ นปี ที่ 6 ปี พ.ศ. 2565 บทคัดย่อ ภูมิหลัง การบริบาลทางการแพทย์นั้นบุคลากรในโรงพยาบาลจะต้องประสบกับความกดดันและต้องรับมือ กับความเครียดต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็ นการรับมือกับโรคต่าง ๆ ที่ผู้ป่ วยเป็ น ต้องเตรียมพร้อมและรับมือ กับการสื่อสารกับผู้ป่ วยและญาติเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด รวมถึงต้องวางแผนการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง รัดกุมเพื่อให้ผู้ป่ วยหายจากอาการเจ็บป่ วย หรือบรรเทาอาการเจ็บป่ วยให้ได้มากที่สุด เพื่อผลลัพธ์ที่ต้องการ คือ ผู้ป่ วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ในภาวะที่ต้องเผชิญความกดดันต่างๆในแต่ละวันเหล่านี้บางครั้งอาจท าให้แพทย์ ผู้รักษาลืมที่จะค านึงถึงคุณภาพชีวิตของตนเองได้ ซึ่งบางครั้งอาจน ามาซึ่งเหตุผลของการลาออกจากงาน หรือเลิกปฏิบัติงานไปกลางคัน มีการศึกษาเรื่องคุณภาพชีวิตของแพทย์ที่ท างานในโรงพยาบาลและนักศึกษา แพทย์ที่ต้องฝึ กปฏิบัติงานในโรงพยาบาลว่ามีคุณภาพชีวิตเป็ นอย่างไร แต่ยังไม่มีการศึกษาเปรียบเทียบทั้ง สองกลุ่มระหว่างนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 และแพทย์เพิ่ มพูนทักษะที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลเดียวกันว่ามี ระดับคุณภาพชีวิตที่แตกต่างกันหรือไม่อย่างไร ซึ่งเป็ นที่น่าสนใจเพราะทั้งสองกลุ่มนี้ต้องมีตารางในการ ปฏิบัติงานในแต่ละแผนกใกล้เคียงกัน แต่มีปัจจัยบางอย่างที่แตกต่างกัน เช่น รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ระยะเวลา ในการท างานในโรงพยาบาล เป็ นต้น ซึ่งอาจท าให้ทั้ งสองกลุ่มมีระดับคุณภาพชีวิตที่ต่างกันได้ วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาเปรี ยบเทียบคุณภาพชีวิตของแพทย์เพิ่มพูนทักษะและนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหาวิทยาลัยสยามที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลพระนังเกล้า ่ วิธีด ำเนินกำรวิจัย เป็ นการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามคุณภาพชีวิตของกรมสุขภาพจิต โดยคุณลักษณะของ อาสาสมัครคือแพทย์เพิ่มพูนทักษะและนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหาวิทยาลัยสยามที่ปฏิบัติงานใน โรงพยาบาลพระนังเกล้า ่ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 การศึกษานี้ได้ใช้โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลทาง สถิติSPSS version 26.0 ในการค านวณค่าเฉลี่ยและเปรียบเทียบระดับคุณภาพชีวิตของแพทย์เพิ่ มพูนทักษะ และนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหาวิทยาลัยสยามที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลพระนังเกล้า ่ ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
ข ผลกำรศึกษำ ผลการศึกษาพบว่าระดับคุณภาพชีวิตโดยรวมทุกด้านของแพทย์เพิ่ มพูนทักษะอยู่ในระดับปานกลาง (x̄= 81.88 คะแนน จัดอยู่ในช่วงเกณฑ์61-95คะแนน) ระดับคุณภาพชีวิตโดยรวมทุกด้านของนักศึกษา แพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหาวิทยาลัยสยาม อยู่ในระดับปานกลาง (x̄= 86.31 คะแนน ซึ่งอยู่ในช่วงเกณฑ์61-95 คะแนน) และระดับคุณภาพชีวิตในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านความสัมพันธ์ทางสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม ของแพทย์เพิ่ มพูนทักษะกับนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหาวิทยาลัยสยาม ที่ปฏิบัติงานใน โรงพยาบาลพระนั่ งเกล้านั้นอยู่ในระดับปานกลางเช่นเดียวกัน ดังนั้นระดับคุณภาพชีวิตแต่ละด้านและ โดยรวมของทั้ งสองกลุ่มไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ (p-value >0.05) สรุปผลกำรวิจัย ระดับคุณภาพชีวิตของแพทย์เพิ่มพูนทักษะและนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหาวิทยาลัยสยามที่ ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลพระนั่ งเกล้าไม่แตกต่างกันโดยภาพรวมทุกด้าน รวมถึงแต่ละด้าน (ด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านความสัมพันธ์ทางสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม) แต่ระดับคุณภาพชีวิตแต่ละด้านและระดับ คุณภาพชีวิตโดยรวมของแพทย์เพิ่ มพูนทักษะและนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหาวิทยาลัยสยามอยู่ในระดับ เกณฑ์ปานกลางทั้งสองกลุ่ม ดังนั้นอาจจะสามารถน าผลการศึกษางานวิจัยนี้ไปเป็ นแนวทางต่อไปในการ ติดตามระดับคุณภาพชีวิตของแพทย์เพิ่ มพูนทักษะและนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหาวิทยาลัยสยาม และอาจ น ามาพัฒนาเป็ นนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อเป็ นประโยชน์ในการพัฒนาระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิงขึ ่ ้นต่อไปได้ ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
ค Research Title Comparison of Quality of Life between First Year Postgraduate Physicians and Sixth Year Medical Students of Siam University at Phranangklao Hospital Researcher Palita Srisuk No.6006300033 Nateeluck Harinwan No.6006300022 Passakornsamon Tosuparoekmongkol No.6006300007 Organization Faculty of Medicine, Siam University, Pranangklao Hospital Keyword Quality of Life, Interns, Externs Year 2022 Abstract Background Physicians, like many other medical professionals in hospitals, work under various stressful conditions. These can include but are not limited to stress from various contagious diseases, illnesses of the patient, communication with relatives, family members and planning courses of treatment. With each factor collectively affecting physicians, physicians may not properly manage their own well-being resulting in resignations. It may be of interest to find that there have been no previous studies comparing post-graduate physicians and sixth year medical students’ quality of life. Only studies of each individual group have been performed, even though both groups have similar schedules and tasks differing only in other factors such as income and time spent working. Objective Comparison of Quality of Life between First Year Postgraduate Physicians and Sixth Year Medical Students of Siam University at Phranangklao Hospital. Method Analysis and interpretation of data collected from questionnaires, developed by the Ministry of Public Health, Department of Mental Health in order to discover the factors which affect quality of life in First Year Postgraduate Physicians and Sixth Year Medical Students. Data was collected in February 2023 and processed by IBM SPSS version 26.0. Results From the analysis of the data, the overall aspects of life of first year postgraduate physicians were found to be moderate (x̄ = 81.88 points, 61-95 point group), over all aspects of life for medical students were moderate (x̄ = 86.31, 65-95 point group). In the measurements of different aspects including, the body and mind, interpersonal relationships and the environment of both physicians and students, was found that the aforementioned were moderate. These results show that overall aspects of life in both groups were similar. (P value > 0.05) ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
ง Conclusion Overall aspects of life in both groups were similar. Evaluation of the overall quality of life was moderate, with this information, further studies may be performed and improve the various aspects of life. ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
จ กิตติกรรมประกำศ โครงการวิจัยฉบับนี้สามารถส าเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีด้วยการสนับสนุนของบุคคลที่เกี่ยวข้องหลาย ฝ่ าย ซึ่งผู้วิจัยขอกล่าวนามเพื่อแสดงความขอบคุณทุกท่านเป็ นอย่างสูงไว้ณ ที่นี้ ผู้วิจัยขอกราบขอบพระคุณ อาจารย์แพทย์หญิงธนิสร พรประสิทธิ์อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการวิจัย ที่ ได้สละเวลาให้ความรู้ค าปรึกษา ค าแนะน า แนวทางในการด าเนินงาน ช่วยสนับสนุนในการเก็บข้อมูล แบบสอบถาม และผลักดันให้โครงการวิจัยส าเร็จลุล่วงด้วยดี ขอกราบขอบพระคุณ ความกรุณาจาก อาจารย์ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์เฉลิม วราวิทย์และ อาจารย์ยุพา สุทธิมนัส อาจารย์ผู้สอนวิชาเวชศาสตร์ครอบครัวและเวชศาสตร์ชุมชน ที่อนุมัติในการจัดท า งานวิจัยตลอดจนให้ความรู้ข้อมูลในการท างาน และให้ค าปรึกษาในการจัดท าโครงการวิจัย รวมถึงให้ ข้อเสนอแนะ และช่วยแก้ไขข้อบกพร่องในการท างาน จนส าเร็จสมบูรณ์ได้ด้วยดี ขอบคุณแพทย์เพิ่ มพูนทักษะ โรงพยาบาลพระนั่ งเกล้าและนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหาวิทยาลัย สยามทุกท่าน ที่ให้ความร่วมมือในตอบแบบสอบถามเป็ นอย่างดี ปำลิตำ ศรีสุข ณที่รัก หริณวรรณ พรรษกรศมณ โตศุภฤกษ์มงคล 2565 ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
ฉ สำรบัญ หน้า บทคัดย่อภาษาไทย ก บทคัดย่อภาษาอังกฤษ ค กิตติกรรมประกาศ จ สารบัญ ฉ สารบัญตาราง ซ สารบัญภาพ ฌ บทที่ 1 บทน ำ 1 1.1 ความเป็ นมาและความส าคัญของปัญหา 1 1.2 ค าถามการวิจัย 3 1.3 วัตถุประสงค์ของการวิจัย 4 1.4 สมมติฐานการวิจัย 4 1.5 ขอบเขตของการวิจัย 4 1.6 นิยามศัพท์เฉพาะ 4 1.7 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 5 บทที่ 2 เอกสำร และงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง 6 2.1 ความรู้ทัวไปเกี่ยวกับคุณภาพชีวิต ่6 2.2 ข้อมูลพื้นฐานโรงพยาบาลพระนังเกล้า ่8 2.3 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 10 2.4 กรอบแนวคิดการวิจัย 13 บทที่ 3 วิธีด ำเนินกำรวิจัย 14 3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 16 3.2 เครื่องมือในการวิจัย 16 3.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล 18 3.4 การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ 18 3.5การเก็บรวบรวมข้อมูล 19 3.6 การวิเคราะห์ข้อมูล 19 ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
ช สำรบัญ (ต่อ) หน้า บทที่ 4 ผลกำรวิจัยและวิเครำะห์ข้อมูล 21 บทที่ 5 สรุปผลกำรวิจัย อภิปรำยผล และข้อเสนอแนะ 47 5.1 สรุปผลการวิจัย 47 5.2 อภิปรายผล 48 5.3 ข้อเสนอแนะ 49 บรรณำนุกรม 51 ภำคผนวก 53 ภาคผนวก ก แบบสอบถามงานวิจัย 54 ภาคผนวก ข ประวัติอาจารย์ที่ปรึกษา 59 ประวัติผ้วิจัยู 63 ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
ซ สำรบัญตำรำง ตารางที่ หน้า 3.1 แสดงระดับคะแนนคุณภาพชีวิตแต่ละองค์ประกอบต่างๆ และระดับคะแนน คุณภาพชีวิตโดยรวม 17 3.2 แสดงระดับเกณฑ์คะแนนคะแนนคุณภาพชีวิตโดยรวมและการแปลผลคะแนน รวม 18 4.1 แสดงจ านวน ร้อยละ จ าแนกตามข้อมูลทัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ผู้เป็ น ่ extern 22 4.2 4.3 แสดงจ านวน ร้อยละ จ าแนกตามข้อมูลทัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ผู้เป็ น ่ intern แสดงค่าเฉลี่ยในแต่ละค าถามในหมวดคุณภาพชีวิตและสุขภาพโดยรวมในกลุ่ม นักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 23 25 4.4 4.5 4.6 4.7 4.8 4.9 4.10 4.11 4.12 4.13 แสดงค่าเฉลี่ยในแต่ละค าถามในหมวดสุขภาพกายในกลุ่มนักศึกษาแพทย์ชั้ นปี ที่ 6 แสดงค่าเฉลี่ยในแต่ละค าถามในหมวดจิตใจในกลุ่มนักศึกษาแพทย์ชั้ นปี ที่ 6 แสดงค่าเฉลี่ยในแต่ละค าถามในหมวดสังคมในกลุ่มนักศึกษาแพทย์ชั้ นปี ที่ 6 แสดงค่าเฉลี่ยในแต่ละค าถามในหมวดสิ่งแวดล้อมในกลุ่มนักศึกษาแพทย์ ชั้นปี ที่ 6 แสดงค่าเฉลี่ยในแต่ละค าถามในหมวดสุขภาพกายในกลุ่มแพทย์ใช้ทุนชั้นปี ที่ 1 แสดงค่าเฉลี่ยในแต่ละค าถามในหมวดคุณภาพชีวิตและสุขภาพโดยรวมในกลุ่ม แพทย์ใช้ทุนชั้นปี ที่ 1 แสดงค่าเฉลี่ยในแต่ละค าถามในหมวดจิตใจในกลุ่มแพทย์แพทย์ใช้ทุนชั้ นปี ที่ 1 แสดงค่าเฉลี่ยในแต่ละค าถามในหมวดสังคมในกลุ่มแพทย์แพทย์ใช้ทุนชั้นปี ที่ 1 แสดงค่าเฉลี่ยในแต่ละค าถามในหมวดสิ่งแวดล้อมในกลุ่มแพทย์แพทย์ใช้ทุน ชั้นปี ที่ 1 แสดงสรุปค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตราฐานในแต่ละหมวดคุณภาพชีวิตระหว่าง กลุ่มนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 กับ แพทย์เพิ่ มพูนทักษะ 26 28 31 32 35 36 38 40 42 45 ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
ฌ ตารางที่ 4.14 สำรบัญตำรำง (ต่อ) หน้า แสดงการเปรียบเทียบระดับคุณภาพชีวิตในแต่ละด้านระหว่างแพทย์เพิ่ มพูน ทักษะ และ นักศึกษาแพทย์ชั้ นีที่ 6 ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลพระนังเกล้า ได้ผล ่ ดังนี้ หน้า 45 ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
ญ สำรบัญภำพ ภาพที่ หน้า 2.1 3.1 กรอบแนวคิดการวิจัย แสดงถึงการคัดเลือกคนเข้ามาท าแบบทดสอบงานวิจัย 13 16 ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
1 บทที่ 1 บทน ำ 1.1 ควำมเป็ นมำและควำมส ำคัญของปัญหำ สังคมไทยในปัจจุบันนี้ก ำลังจะพัฒนำประเทศไปสู่ยุค“ประเทศไทย 4.0” ซึ่งเป็ นวิสัยทัศน์เชิงนโยบำย กำรพัฒนำเศรษฐกิจประเทศ ภำยใต้กำรน ำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชำ นำยกรัฐมนตรีและหัวหน้ำคณะ รักษำควำมสงบแห่งชำติ (คสช.) โดยมีก ำหนดแนวทำงพัฒนำประเทศให้เป็ นประเทศเศรษฐกิจใหม่ (New Engines of Growth) และเป็ นประเทศที่ประชำกรมีรำยได้สูง นำยกรัฐมนตรี มีควำมมุ่งมั่ นต้องกำรเปลี่ยน โครงสร้ำงทำงเศรษฐกิจประเทศ จำกเดิมที่เป็ นยุคอุตสำหกรรมหนักและกำรส่งออก หรือ “ประเทศไทย 3.0” ไปสู่ประเทศเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ประเทศไทย 4.0 นี้จะต้องมีกำรพัฒนำวิทยำกำร นวัตกรรม วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยีควำมคิดสร้ำงสรรค์ และำรวิจัยพัฒนำ โดยมีกลุ่มเทคโนโลยีและอุตสำหกรรมเหล่ำนี้ เป็ นเป้ำหมำย ได้แก่1.กลุ่มอำหำร เกษตร และเทคโนโลยีชีวภำพ เช่น เทคโนโลยีกำรเกษตร 2.กลุ่มเครื่องมือ และระบบเครื่องกลที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม เช่น หุ่นยนต์ รถยนต์ไฟฟ้ำ 3.กลุ่มดิจิตอล เทคโนโลยี อินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อและบังคับอุปกรณ์ต่ำงๆ ปัญญำประดิษฐ์ต่ำง ๆ 4.กลุ่มอุตสำหกรรมสร้ำงสรรค์ วัฒนธรรม และบริกำรที่มีมูลค่ำสูง เช่น เทคโนโลยีกำรท่องเที่ยว 5.กลุ่มสำธำรณสุข สุขภำพ และเทคโนโลยีทำงกำรแพทย์ เป็ นต้น และเป้ำหมำยของ “ประเทศไทย 4.0” นั้น ก็มีควำมสอดรับกับเป้ำหมำยกำรพัฒนำที่ยังยืน ( ่ Sustainable Development Goals: SDGs) นั่ นคือ กำรมุ่งมันพัฒนำประเทศไปสู่ควำมยังยืน โดยเป้ำหมำยของ ่ SDG นั้นมี ทั้ งหมด 17 ข้อ นอกจำกมีเรื่องของเศรษฐกิจเข้ำมำเกี่ยวข้องแล้วนั้น หนึ่งในเป้ำหมำยของ SDG อีกเรื่องหนึ่งที่ ส ำคัญก็คือ เป้ำหมำยที่3 กำรสร้ำงหลักประกันว่ำคนมีชีวิตที่มีสุขภำพดีและส่งเสริมสวัสดิภำพส ำหรับทุกคนใน ทุกวัย จำกกำรจัดอันดับจำก ‘World Happiness Report’ หรื อ ‘รำยงำนควำมสุขโลกประจ ำปี ค.ศ.2022’ ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 61 เป็ นประเทศที่มีควำมสุขที่สุดในโลกเป็ นอันดับสำมในภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียง ใต้ซึ่งแสดงถึงรูปแบบของกำรมีชีวิตที่มีควำมสุขของคนในแต่ละประเทศ ทำง SDG เห็นว่ำข้อมูลนี้จะสำมำรถ ช่วยให้ประเทศต่ำง ๆ สำมำรถก ำหนดนโยบำยที่มุ่งเป้ำไปที่กำรสร้ำงสังคมที่มีควำมสุขมำกขึ้นได้ และหนึ่งใน ปัจจัยที่ท ำให้คนในประเทศมีควำมสุขได้นั้น มีเรื่องของคุณภำพชีวิตเข้ำมำเกี่ยวข้องด้วย ค ำว่ำ “คุณภำพชีวิต” ตำมนิยำมขององค์กำรอนำมัยโลก (World Health Organization, 2540) ได้ให้ ควำมหมำยไว้ว่ำ เป็ นกำรรับรู้ของแต่ละบุคคล ขึ้นกับบริบททำงวัฒนธรรมและคุณค่ำที่แต่ละบุคคลนั้นอำศัยอยู่ โดยมีควำมสัมพันธ์กับจุดมุ่งหมำย ควำมคำดหวัง มำตรฐำน และควำมตระหนักที่บุคคลนั้นก ำหนดขึ้น ซึ่ ง ประกอบไปด้วยกำรรับรู้ 6 ด้ำน ได้แก่ ด้ำนร่ำงกำย ด้ำนจิตใจ ด้ำนระดับควำมเป็ นอิสระของบุคคล ด้ำนควำม ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
2 สัมพนธ์ทำงสังคม ด้ำนสิ่งแวดล้อม และด้ำนควำมเชื่อส่วนบุคคล แต่องค์ประกอบของคุณภำพชีวิตของกรม สุขภำพจิตที่ประยุกต์มำจำกของทำงองค์กำรอนำมัยโลกอีกทีนั้นแบ่งเป็ น 4 ด้ำนดังนี้ 1. ด้ำนร่ำงกำย (physical domain) คือ กำรรับรู้สภำพร่ำงกำยของบุคคลที่ส่งผลต่อชีวิตประจ ำวัน เช่น รับรู้สภำพควำมสมบูรณแข็งแรงของร่ำงกำย รับรู้ควำมรู้สึกสุขสบำย ไม่เจ็บปวด รับรู้ถึงควำมสำมำรถที่จะ จัดกำรควำมเจ็บปวดทำงร่ำงกำยได้กำรรับรู้ถึงควำมไม่ต้องพึ่งพำผู้อื่น รับรู้ว่ำไม่ต้องพึ่งพำยำหรือกำรรักษำทำง กำรแพทย์ต่ำงๆ รับรู้ถึงควำมสำมำรถในกำรท ำงำน เป็ นต้น 2. ด้ำนจิตใจ (psychological domain) คือ กำรรับรู้สภำพจิตใจของตนเอง เช่น รับรู้ถึงควำมรู้สึ ก ภำคภูมิใจในตนเอง รับรู้ถึงควำมมันใจในตนเอง รับรู้ถึงควำมสำมำรถในกำรเรียนรู้สิ ่ ่งต่ำงๆของตนเอง รับรู้ถึง ควำมสำมำรถในกำรจัดกำรกับควำมเศร้ำ ควำมกังวลของตนเอง รับรู้เกี่ยวกับควำมเชื่อต่ำงๆที่มีผลต่อกำรด ำเนิน ชีวิตของตน เป็ นต้น 3. ด้ำนควำมสัมพันธัทำงสังคม (social relationships) คือ กำรรับรู้เรื่องควำมสัมพันธ์ของตนกับบุคคล อื่น รับรู้ถึงกำรได้รับควำมช่วยเหลือจำกบุคคลอื่นและได้เป็ นผู้ให้ควำมช่วยเหลือบุคคลอื่นด้วย รวมถึงกำรรับรู้ ในเรื่องอำรมณ์ทำงเพศหรือกำรมีเพศสัมพันธุ์ 4. ด้ำนสิ่งแวดล้อม (environment) คือ กำรรับรู้ถึงสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่มีผลต่อกำรด ำเนินชีวิต เช่น รับรู้ ว่ำได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมทำงกำยภำพที่ดีรับรู้ว่ำตนเองมีชีวิตอย่ำงอิสระ มีควำมปลอดภัยมันคงในชีวิต รับรู้ว่ำตน ่ ได้มีกิจกรรมในเวลำว่ำงเป็ นของตนเอง เป็ นต้น นอกจำกควำมหมำยของคุณภำพชีวิตจะขึ้นกับบริบทของแต่ละคนในสภำพแวดล้อมที่อำศัยอยู่ตำมที่ กล่ำวไปเบื้องต้นแล้ว ก็ยังมีควำมหมำยต่ำงกันขึ้นกับบริบทของผู้ศึกษำด้วยเช่นกัน (ปิ ยะวัฒน์ ตรีวิทยำ, 2559) ยกตัวอย่ำงเช่น มุมมองของรัฐบำลที่ให้ควำมหมำยของคุณภำพชีวิตในด้ำนหลักประกันแก่ประชำชน ในด้ำนกำร บริกำรหรือกำรสงเครำะห์ทำงสังคมด้ำนต่ำงๆ ในมุมของนักเศรษฐศำสตร์ คุณภำพชีวิตหมำยถึงรำยได้มวลรวม ของประเทศ อัตรำเงินเฟ้อ หรือดัชนีผู้บริโภค รำยได้เฉลี่ยประชำกร ในทำงกำรแพทย์คุณภำพชีวิตอำจหมำยถึง กำรเปลี่ยนแปลงทำงบวกของกำรรักษำหรือกำรฟื้นฟูสมรรถภำพที่ผู้ใช้บริกำรได้รับ แต่หำกมองในบริบทของผู้ที่คอยให้กำรบริบำลทำงกำรแพทย์ ไม่ว่ำจะเป็ นแพทย์ พยำบำล บุคลำกรที่ ท ำงำนในโรงพยำบำลทั้งหลำย ควำมหมำยของค ำว่ำคุณภำพชีวิตของตนต่อกำรท ำงำนในโรงพยำบำล อำจ หมำยถึง สมดุลระหว่ำงกำรท ำงำนในโรงพยำบำลและชีวิตส่วนตัว ผู้ให้กำรบริบำลทำงกำรแพทย์ต้องกำรให้กำร บริบำลเป็ นไปในทำงที่ดี แต่ในขณะเดียวกันภำระงำนต่ำงๆ ที่เริ่มมีปริมำณมำกเกินไป ก็อำจส่งผลต่อควำมพึง พอใจในคุณภำพชีวิตด้ำนต่ำงๆ ของตนเอง มีกำรศึกษำเรื่องคุณภำพชีวิตของแพทย์และนักศึกษำแพทย์เป็ นอย่ำงมำก ยกตัวอย่ำงเช่น สวิส ใจมัน ่ (2563) ศึกษำเรื่องควำมสมดุลในชีวิตและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อกำรลำออกจำกงำนของแพทย์ที่จบเฉพำะทำงสำขำ ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
3 เวชศำสตร์ครอบครัวในประเทศไทย ส่วนใหญ่มีระดับคุณภำพชีวิตโดยรวมระดับที่ดี แต่มีควำมพึงพอใจในงำน และควำมสมดุลระหว่ำงชีวิตและกำรท ำงำนอยู่ในระดับต้องปรับปรุง มีควำมคิดที่จะย้ำยจำกงำนที่ท ำอยู่เป็ น บำงครั้ง แต่ไม่เคยคิดที่จะลำออกจำกงำน ปัจจัยที่ส่งผลต่อควำมคิดโอนย้ำยหรือลำออกจำกอำชีพปัจจุบันอย่ำงมี นัยส ำคัญคือ โอกำสเรียนต่อปริญญำโทหรือเฉพำะทำงอื่น ๆ ส่วนสำเหตุที่คำดว่ำท ำให้ต้องลำออกอำจเป็ นเพรำะ ผู้บริหำรหน่วยงำนหรือผู้บังคับบัญชำและหน้ำที่รับผิดชอบที่หนักเกินไป วศิน คัมภีระ (2561) ได้ศึกษำคุณภำพ ชีวิตแพทย์โรงพยำบำลชุมชนในจังหวัดสงขลำ พบว่ำคุณภำพชีวิตโดยรวมจัดอยู่ในระดับกลำง และปัจจัยที่มี ควำมสัมพันธ์กับระดับคุณภำพชีวิตอย่ำงมีนัยส ำคัญคือก็คือ กำรที่มีอำยุมำกกว่ำหรือเท่ำกับ 30 ปี นอกจำกจะมี กำรศึกษำเรื่องนี้ในแพทย์ที่ท ำงำนแล้ว ยังมีกำรศึกษำคุณภำพชีวิตของนักศึกษำแพทย์ในระดับชั้นคลินิกแต่ละ ชั้นปี (วิรงรอง สิตไทย และ ณิสำ แจ้งบุญ, 2562) ผลกำรวิจัยพบว่ำนักศึกษำแพทย์ในระดับชั้นคลินิกมีคุณภำพ ชีวิตโดยรวมอยู่ในระดับดี จำกกำรศึกษำคุณภำพชีวิตของตั้ งแต่นักศึกษำแพทย์ไปจนถึงแพทย์ที่เรียนต่อเฉพำะทำงจนจบมำท ำงำน แล้วนั้น พบว่ำแต่ละกลุ่มมีคุณภำพชีวิตอยู่ในระดับที่หลำกหลำยแตกต่ำงกัน จึงท ำให้ผู้วิจัยสนใจที่ต้องกำรศึกษำ คุณภำพชีวิตของนักศึกษำแพทย์ระดับชั้นคลินิกและแพทย์เพิ่ มพูนทักษะที่ท ำงำนอยู่ในโรงพยำบำลพระนังเกล้ำ ่ โดยกลุ่มที่สนใจเป็ นพิเศษคือนักศึกษำแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหำวิทยำลัยสยำมที่ท ำงำนอยู่ในโรงพยำบำลพระนังเกล้ำ ่ และแพทย์เพิ่ มพูนทักษะที่กล่ำวไปเบื้องต้น เพรำะนักศึกษำแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มีตำรำงเวลำที่ต้องปฏิบัติงำนตำมที่ ได้รับมอบหมำย ไม่มีกำรเรียนภำคทฤษฎีสลับกับภำคปฏิบัติเหมือนกับนักศึกษำแพทย์ชั้นปี ที่ 4 และ 5 อีกต่อไป แล้ว และเป็ นช่วงชั้นปี ที่ก ำลังจะจบและใกล้จะได้เริ่มปฏิบัติงำนเป็ นแพทย์เพิ่ มพูนทักษะจริง ๆ ดังนั้นตำรำงกำร ปฏิบัติงำนจึงมีควำมใกล้เคียงกับแพทย์เพิ่ มพูนทักษะมำกที่สุด ด้วยเหตุที่กล่ำวมำนี้จึงท ำให้ผู้วิจัยต้องกำร เปรี ยบเทียบคุณภำพชีวิตของแพทย์เพิ่มพูนทักษะโรงพยำบำลพระนั่ งเกล้ำกับนักศึกษำแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหำวิทยำลัยสยำมซึ่งปฏิบัติงำนอยู่ที่โรงพยำบำลพระนังเกล้ำเช่นเดียวกันว่ำมีคุณภำพชีวิตอยู่ในระดับใด ่และมี ปัจจัยใดที่มีควำมสัมพันธ์กับคุณภำพชีวิตของสองกลุ่มเป้ำหมำยนี้ 1.2 ค ำถำมกำรวิจัย 1. ระดับคุณภำพชีวิตของแพทย์เพิ่ มพูนทักษะกับนักศึกษำแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหำวิทยำลัยสยำมที่ปฏิบัติงำน อยู่ในโรงพยำบำลพระนังเกล้ำอยู่ในระดับใด ่ 2. คุณภำพชีวิตของแพทย์เพิ่ มพูนทักษะกับนักศึกษำแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหำวิทยำลัยสยำมที่ปฏิบัติงำนอยู่ใน โรงพยำบำลพระนังเกล้ำมีควำมแตกต่ำงกันหรือไม่ ่ ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
4 1.3 วัตถุประสงค์ของกำรวิจัย 1. ศึกษำระดับคุณภำพชีวิตของแพทย์เพิ่ มพูนทักษะกับนักศึกษำแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหำวิทยำลัยสยำมที่ ปฏิบัติงำนอยู่ในโรงพยำบำลพระนังเกล้ำ ่ 2. เปรียบเทียบคุณภำพชีวิตของแพทย์เพิ่ มพูนทักษะโรงพยำบำลพระนังเกล้ำกับนักศึกษำแพทย์ชั ่ ้นปี ที่ 6 มหำวิทยำลัยสยำม 1.4 สมมติฐำนกำรวิจัย แพทย์เพิ่ มพูนทักษะกับนักศึกษำแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหำวิทยำลัยสยำมที่ปฏิบัติงำนอยู่ในโรงพยำบำลพระ นังเกล้ำมีระดับคุณภำพชีวิตไม่แตกต่ำงกัน ่ 1.5 ขอบเขตของกำรวิจัย 1.5.1 ขอบเขตประชำกร แพทย์เพิ่มพูนทักษะที่มำเพิ่มพูนทักษะที่โรงพยำบำลพระนั่ งเกล้ำในปี งบประมำณพ.ศ.2565 และ นักศึกษำแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหำวิทยำลัยสยำมที่ปฏิบัติงำนอยู่ในโรงพยำบำลพระนังเกล้ำในปี กำรศึกษำ พ.ศ. ่ 2565 จ ำนวนทั้ งหมด 40 คน 1.5.2 ขอบเขตด้ำนเนื้อหำ กำรศึกษำครั้งนี้เป็ นกำรศึกษำเปรียบเทียบคุณภำพชีวิตของแพทย์เพิ่ มพูนทักษะโรงพยำบำลพระนังเกล้ำ ่ กับนักศึกษำแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหำวิทยำลัยสยำม ที่ปฏิบัติงำนอยู่ในโรงพยำบำลพระนังเกล้ำเดือนกุมภำพันธ์ พ.ศ. ่ 2566 1.6 นิยำมศัพท์เฉพำะ 1. คุณภำพชีวิต หมำยถึง กำรรับรู้ควำมรู้สึกถึงควำมอยู่ดีมีสุข ประกอบด้วยองค์ประกอบ 4 ด้ำน ได้แก่ ด้ำนร่ำงกำย ด้ำนจิตใจ ด้ำนควำมสัมพันธ์ทำงสังคม และด้ำนสิ่งแวดล้อม 2. แพทย์เพิ่มพูนทักษะ หมำยถึง แพทย์ผู้ที่ส ำเร็จกำรศึกษำหลักสูตรแพทยศำสตรบัณฑิต ได้รับใบอนุญำต ประกอบวิชำชีพเวชกรรมตำมข้อบังคับของแพทยสภำ และแพทยสภำประกำศรับเข้ำโครงกำรแพทย์ เพิ่ มพูนทักษะ 3. นักศึกษำแพทย์ชั้นปี ที่ 6 หมำยถึง นักศึกษำแพทย์ชั้นปี สุดท้ำยของกำรศึกษำในระดับแพทยศำสตร์ บัณฑิต ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
5 1.7 ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ 1. ท ำให้ทรำบระดับคุณภำพชีวิตของแพทย์เพิ่ มพูนทักษะและนักศึกษำแพทย์ชั้ นปี ที่ 6 มหำวิทยำลัยสยำม ที่ปฏิบัติงำนอยู่ที่โรงพยำบำลพระนังเกล้ำ เพื่อเป็ นข้อมูลและแนวทำงในกำรจัดกำรดูแลแพทย์เพิ ่ ่ มพูน ทักษะและนักศึกษำแพทย์ที่ปฏิบัติงำนในโรงพยำบำลพระนังเกล้ำ ่ 2. ท ำให้แพทย์เพิ่ มพูนทักษะและนักศึกษำแพทย์เห็นแนวทำงในกำรบริหำรจัดกำรคุณภำพชีวิตในแต่ละ ด้ำนของตนเอง ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
6 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง คณะวิจัยได้ท ำกำรศึกษำคุณภำพชีวิตเปรียบเทียบแพทย์เพิ่มพูนทักษะโรงพยำบำลพระนั่ งเกล้ำกับ นักศึกษำแพทย์ชั้ นปี ที่ 6 มหำวิทยำลัยสยำม ทำงคณะผู้จัดท ำจึงได้ ได้ศึกษำเอกสำรที่เกี่ยวข้อง มีรำยละเอียดดังนี้ 2.1 ควำมรู้ทัวไปเกี่ยวกับคุณภำพชีวิต ่ 2.1.1 ควำมหมำยของคุณภำพชีวิต 2.1.2 องค์ประกอบของคุณภำพชีวิต 2.2 ข้อมูลพื้ นฐำนโรงพยำบำลพระนังเกล้ำ ่ 2.3 งำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.3.1 งำนวิจัยในประเทศไทย 2.3.2 งำนวิจัยในต่ำงประเทศ 2.4 กรอบแนวคิดกำรวิจัย 2.1 ความร้ทั่วไปเูกี่ยวกับคุณภาพชีวิต 2.1.1ควำมหมำยของคุณภำพชีวิต คุณภำพชีวิต (Quality of life , QoL) มีหลำกหลำยตำมแนวคิดและกำรประเมินตำมบริบทของผู้ศึกษำ ตำมค ำนิยำมขององค์กรอนำมัยโลกหมำยถึง กำร “ รับรู้ ”ของปัจเจกเกี่ยวกับต ำแหน่งในชีวิตต่อบริบทของ วัฒนธรรมและระบบคุณค่ำในที่ ๆอำศัยอยู่ สัมพันธ์กับเป้ำหมำย ควำมคำดหวัง มำตรฐำน และควำมกังวล พื้นฐำนของบุคคลเหล่ำนั้น ซึ่งมีควำมสัมพันธ์อันซับซ้อนต่อสุขภำพ จิตใจ ควำมสัมพันธ์ในสังคม ควำมเชื่อ ส่วนบุคคล ตลอดจนสิ่งแวดล้อมแต่ในบทควำมนี้จะใช้กรอบควำมคิด “ Normal ” lifeซึ่งมองคุณภำพชีวิตเป็ น องค์รวม (holistic perspective) คือมองมำตรำฐำนคุณภำพชีวิตที่รวมทั้งด้ำนกำรมีสุขภำพทำงกำยและจิตใจปกติ ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
7 เทียบกับมำตรำฐำนของประชำกร กำรที่ปัจเจกบุคคลนั้นมีข้อจ ำกัดด้ำนใดก็ตำมที่ต ่ำกว่ำมำตรำฐำนเท่ำใดก็ แสดงถึงคุณภำพชีวิตที่ต ่ำกว่ำเท่ำนั้น 2.1.2 องค์ประกอบของคุณภำพชีวิต องค์กรอนำมัยโลก(WHO) ได้จัดท ำเครื่องมือวัดระดับคุณภำพชีวิต (The WHOQOL Group, 1995) เพื่อ แสดงจำกกำรรับรู้ของปัจเจกบุคคลต่อปัจจัย 6 ด้ำนอันได้แก่ ด้ำนร่ำงกำย ด้ำนจิตใจ ด้ำนควำมสำมำรถในกำร พึ่งพำตนเอง ด้ำนควำมสัมพันธ์ในสังคม ด้ำนสิ่งแวดล้อม และด้ำนจิตวิญญำณ/ศำสนำ/ควำมเชื่อส่วนบุคคล องค์ประกอบของคุณภำพชีวิตตำมค ำนิยำมกรมสุขภำพชีวิต ประเทศไทยน ำโดยกรมสุขภำพจิตได้มีกำรประยุกต์แบบทดสอบนี้และย่อให้มีควำมกระชับขึ้นเรียก เครื่องมือนี้ว่ำเครื่ องมือวัดคุณภำพชีวิต WHOQOL – BREF –THAI ประกอบด้วยข้อค ำถำม 2 ชนิด คือ แบบ ภำวะวิสัย (Perceived objective) และอัตวิสัย (self-report subjective) ซึ่ งจะประกอบด้วยองค์ประกอบของ คุณภำพชีวิต 4 ด้ำน ดังนี้ 1. ด้ำนร่ำงกำย (physical domain) คือ กำรรับรู้สภำพทำงด้ำนร่ำงกำยของบุคคล ซึ่งมีผลต่อชีวิตประจ ำวัน เช่น กำรรับรู้สภำพควำมสมบูรณ์แข็งแรงของร่ำงกำย กำรรับรู้ถึงควำมรู้สึกสุขสบำย ไม่มีควำมเจ็บปวด กำรรับรู้ ถึงควำมสำมำรถที่จะจัดกำรกับควำมเจ็บปวดทำงร่ำงกำยได้ กำรรับรู้ถึงพละก ำลังในกำรด ำเนินชีวิตประจ ำวัน กำรรับรู้ถึงควำมเป็ นอิสระที่ไม่ต้องพึ่งพำผู้อื่น กำรรับรู้ถึงควำมสำมำรถในกำรเคลื่อนไหวขอ งตน กำรรับรู้ถึง ควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติกิจวัตรประจ ำวันของตน กำรรับรู้ถึงควำมสำมำรถในกำรท ำงำน กำรรับรู้ว่ำตนไม่ ต้องพึ่งพำยำต่ำง ๆ หรือกำรรักษำทำงกำรแพทย์ อื่น ๆ เป็ นต้น 2. ด้ำนจิตใจ (psychological domain) คือ กำรรับรู้สภำพทำงจิตใจของตนเอง เช่น กำรรับรู้ควำมรู้สึก ทำงบวกที่บุคคลมีต่อตนเอง กำรรับรู้ภำพลักษณ์ของตนเอง กำรรับรู้ถึงควำมรู้สึกภำคภูมิใจในตนเอง กำรรับรู้ถึง ควำมมันใจในตนเอง กำรรับรู้ถึงควำ ่ มคิด ควำมจ ำ สมำธิ กำรตัดสินใจ และควำมสำมำรถในกำรเรียนรู้เรื่องรำว ต่ำง ๆ ของตน กำรรับรู้ถึงควำมสำมำรถในกำรจัดกำรกับควำมเศร้ำ หรือกังวล กำรรับรู้เกี่ยวกับควำมเชื่อต่ำง ๆ ของตน ที่มีผลต่อกำรด ำเนินชีวิต เช่น กำรรับรู้ถึงควำมเชื่อด้ำนวิญญำณ ศำสนำ กำรให้ควำมหมำยของชีวิต และ ควำมเชื่ออื่น ๆ ที่มีผลในทำงที่ดีต่อกำรด ำเนินชีวิต มีผลต่อกำรเอำชนะอุปสรรค เป็ นต้น 3. ด้ำนควำมสัมพันธ์ทำงสังคม (social relationships) คือ กำรรับรู้เรื่องควำมสัมพันธ์ของตนกับบุคคล อื่น กำรรับรู้ถึงกำรที่ได้รับควำมช่วยเหลือจำกบุคคลอื่นในสังคม กำรรับรู้ว่ำตนได้เป็ นผู้ให้ควำมช่วยเหลือบุคคล อื่นในสังคมด้วย รวมทั้ งกำรรับรู้ในเรื่องอำรมณ์ทำงเพศ หรือกำรมีเพศสัมพันธ์ ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
8 4. ด้ำนสิ่งแวดล้อม (environment) คือ กำรรับรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ที่มีผลต่อกำรด ำเนินชีวิต เช่น กำร รับรู้ว่ำตนมีชีวิตอยู่อย่ำงอิสระ ไม่ถูกกักขัง มีควำมปลอดภัยและมันคงในชีวิต กำรรับรู้ว่ำได้อยู่ในสิ ่ ่งแวดล้อม ทำงกำยภำพที่ดี ปรำศจำกมลพิษต่ำง ๆ กำรคมนำคมสะดวก มีแหล่งประโยชน์ด้ำนกำรเงิน สถำนบริกำรทำง สุขภำพและสังคมสงเครำะห์ กำรรับรู้ว่ำตนมีโอกำสที่จะ ได้รับข่ำวสำร หรือฝึ กฝนทักษะต่ำง ๆ กำรรับรู้ว่ำตน ได้มีกิจกรรมสันทนำกำร และมีกิจกรรมใน เวลำว่ำง เป็ นต้น 2.2 ข้อมูลทั่วไปโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยำบำลพระนั่ งเกล้ำ เดิมชื่อว่ำโรงพยำบำลนนทบุรี สังกัดส ำนักงำนปลัดกระทรวงสำธำรณสุข ตั้งอยู่เลขที่ 91 ถนนนนทบุรี ต ำบลบำงกระสอ อ ำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี มีเนื้อที่ทั้งหมด 24 ไร่ 1 งำน 2.6 ตำรำงวำ เปิ ดให้บริ กำรวันที่ 24 มิถุนำยน 2500 เป็ นโรงพยำบำลประจ ำจังหวัดในปี พ.ศ. 2532 ได้รับ พระรำชทำนพระบรมรำชำนุญำติให้เปลี่ยนชื่อเป็ น “โรงพยำบำลพระนั่ งเกล้ำ” เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่ พระบำทสมเด็จพระนั่ งเกล้ำเจ้ำอยู่หัว รัชกำลที่ 3 ที่พระรำชชนนี กรมหลวง พระศรีสุลำลัย เป็ นชำวจังหวัด นนทบุรีเดิมจังหวัดนนทบุรี ไม่มีโรงพยำบำลส ำหรับช่วยเหลือในกำรบ ำบัดและรักษำประชำชนเมื่อเกิดกำร เจ็บป่ วยขึ้น จ ำเป็ นต้องน ำผู้ป่ วยเดินทำงไปรับกำรรักษำยังโรงพยำบำลต่ำง ๆ ในจังหวัดพระนครและธนบุรี ซึ่ง ท ำให้ผู้ป่ วยบำงรำยต้องเสียชีวิตระหว่ำงกำรเดินทำง จังหวัดจึงพิจำรณำเห็นว่ำ สมควรจัดให้มีกำรจัดตั้ง โรงพยำบำลในจังหวัดขึ้น ซึ่งขณะนั้นขุนบุรี ภิรมย์กิจ ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด ได้เป็ นผู้ริเริ่มด ำเนินกำร โดยติดต่อกับ กรมกำรแพทย์ กระทรวงสำธำรณสุข ขอตั้งงบประมำณเพื่อด ำเนินกำรก่อสร้ำง และได้รับควำมเห็นชอบจำก อธิบดีกรมกำรแพทย์ โดยสั่ งกำรให้จังหวัดจัดหำที่ดินเตรียมไว้เมื่อได้งบประมำณให้ด ำเนินกำรก่อสร้ำง แต่ เนื่องจำกมีปัญหำเรื่องที่ดินในกำรก่อสร้ำง ซึ่งจำกกำรเจรจำกับเจ้ำของที่ดินไม่ประสบผลส ำเร็จ ขณะเดียวกันขุน บุรีภิรมย์กิจ ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดในขณะนั้นก็ได้ออกจำกรำชกำรเสียก่อน ต่อมำเมื่อปี พ.ศ. 2499 นำยประกอบ ทรัพย์มณี ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดนนทบุรีคนต่อมำ ได้บริหำรงำนต่อ โดยด ำเนินกำรจัดหำที่ดิน เพื่อท ำกำรก่อสร้ำงโรงพยำบำลใหม่ และเห็นว่ำที่ดินของวัดเทพอุรุมพัง (ที่ตั้ง โรงพยำบำลปัจจุบัน) มีเนื้อที่ประมำณ 16 ไร่เศษ ซึ่ งตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 6 ต ำบลบำงกระสอ อ ำเภอเมือง จังหวัด นนทบุรี ห่ำงจำกศำลำกลำงจังหวัดนนทบุรีประมำณ 3 กิโลเมตร เป็ นวัดร้ำงและอยู่ใกล้กับที่ดินเดิมที่เคยเจรจำ ไว้ เห็นว่ำเหมำะสมจะก่อสร้ำงโรงพยำบำล จึงได้ด ำเนินกำรก่อสร้ำงโรงพยำบำลแห่งนี้ขึ้นต่อมำในปี พ.ศ.2532 โรงพยำบำลนนทบุรีได้เปลี่ยนชื่อเป็ นโรงพยำบำลพระนังเกล้ำ ขณะนั ่ ้นโรงพยำบำลพระนังเกล้ำ มีจ ำนวนเพียง ่ 217 เตียง เจ้ำหน้ำที่ 530 คน ผู้ป่ วยนอกเฉลี่ยวันละ 530 คน ตั้ งแต่ พ.ศ.2538 โรงพยำบำลพระนังเกล้ำเริ ่ ่มมีกำร เปลี่ยนแปลงทำงกำยภำพอย่ำงมำก มีหอผู้ป่ วยพิเศษ “เฉลิมพระเกียรติ” 4 ชั้ น อำคำรปฏิบัติกำร 5 ชั้น เพื่อรองรับ จ ำนวนผู้รับบริกำรที่เพิ่ มมำกขึ้น ท ำให้พื้นที่ในโรงพยำบำลที่มีเพียง 24 ไร่ 1 งำน 2.6 ตำรำงวำ และเต็มไปด้วย ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
9 อำคำรมีที่ว่ำงน้อยมำก เมื่อประชำชนมำรับบริกำรมำกขึ้น และกระทรวงสำธำรณสุขให้งบประมำณในกำร ก่อสร้ำงเพิ่ มเติม โรงพยำบำลพระนั่ งเกล้ำซึ่งไม่สำมำรถขยำยพื้นที่ออกไปได้อีก (ด้ำนหน้ำติดถนนนนทบุรี ด้ำนหลังติดแม่น ้ ำเจ้ำพระยำ และด้ำนข้ำงถูกขนำบด้วยชุมชนมัสยิดบำงกระสอและชุมชนบ้ำนศำลเจ้ำ) ต้องรื้อ เรือนไม้และตึกอ ำนวยกำรหลังแรก ตึกอ ำนวยกำรหลังที่ 2 เพื่อสร้ำงอำหำรเวชศำสตร์ฟื้นฟู หอผู้ป่ วย 8 ชั้ น และ อำคำรเจษฎำบดินทร์ 9 ชั้น ปัจจุบัน โรงพยำบำลพระนังเกล้ำมีแพทย์สหสำขำที่มีศักยภำพ มีควำมพร้อมในกำรขยำยกำรให้บริก ่ำร ในสำขำต่ำง ๆ ตำมระบบบริกำรสุขภำพ (Service Plan) ของเขตสุขภำพที่ 4 โดยปัจจุบันถือเป็ นโรงพยำบำลหลัก ในกำรดูแลสุขภำพประชำชนจังหวัดนนทบุรี จังหวัดในเขตปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียงอื่น ๆ ที่อยู่ในฐำนะ โรงพยำบำลศูนย์ ขนำด 708 เตียง ปัจจุบันโรงพยำบำลพระนั่ งเกล้ำเป็นโรงพยำบำลระดับตติยภูมิหรือระดับเชี่ยวชำญเฉพำะโรค อยู่ใน เครื อข่ำยบริ กำรของเขตสุ ขภำพที่ 4 ประกอบด้วย 8 จังหวัดได้แก่ สระบุรี สิ งห์บุรี ลพบุรี อ่ำงทอง พระนครศรีอยุธยำ นครนำยก ปทุมธำนี นนทบุรี ซึ่งเป็ นเขตปริมณฑลมีประชำกรรวม 5 ล้ำนคน เฉพำะที่จ.นนท บุรีมีประชำกรเกือบ 2 ล้ำนคน เนื่องจำกมีกำรเติบโตของเมืองอย่ำงรวดเร็ว ปัญหำสุขภำพมีควำมซับซ้อน กระทรวงสำธำรณสุขได้วำงระบบบริกำรพิเศษในจังหวัดคือ 1 จังหวัด 1 โรงพยำบำล โดยจัดบริกำรดูแลร่วมกัน ทั้งโรงพยำบำลชุมชน สถำบันโรคทรวงอก สถำบันบ ำรำศนรำดูร ศูนย์กำรแพทย์ปัญญำนันทภิกขุหรื อรพ. ชลประทำน รพ.ศรีธัญญำ มีระบบกำรส่งต่อผู้ป่ วยที่รวดเร็วเหมือนเป็ นหอผู้ป่ วยในโรงพยำบำลเดียวกัน และ แลกเปลี่ยนแพทย์เฉพำะทำงเชี่ยวชำญเช่นโรคหัวใจ สมอง จิตเวช อุบัติเหตุ ลดควำมแออัดผู้ป่ วยในโรงพยำบำล แต่ละแห่งได้ดีขึ้นและได้จัดบริกำรกำรแพทย์ทำงเลือกในโรงพยำบำลควบคู่กำรแพทย์แผนปัจจุบัน โดยเฉพำะ กำรฝังเข็ม ให้บริกำรผู้ป่ วยโรคเรื้อรังเช่น ปวดหลัง โรคกระดูกและข้อ อัมพฤกษ์ อัมพำต ได้รับควำมนิยม มี ผู้ใช้บริกำรร้อยละ 10 ของผู้ป่ วยนอก ขณะนี้ได้จัดคลินิกหมุนเวียนออกให้บริกำรที่โรงพยำบำลส่งเสริมสุขภำพ ต ำบล นอกเหนือจำกนี้ยังมีระบบส่งยำด่วนทำงไปรษณีย์ให้ผู้ป่ วยโรคเรื้อรังที่ต้องกินยำต่อเนื่องเช่น เบำหวำน ควำมดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ครั้งละ 100 บำท ช่วยผู้ป่ วยลดค่ำใช้จ่ำยเดินทำงลงได้ 190 บำท จัดแพทย์ไป ตรวจที่โรงพยำบำลส่งเสริมสุขภำพต ำบล และจัดแพทย์เฉพำะทำงโรคกระดูกและข้อ ไปตรวจที่รพ.ปำกเกร็ด สัปดำห์ละ 1 วัน กรณีที่ต้องผ่ำตัดจะนัดมำผ่ำตัดที่รพ.พระนั่ งเกล้ำ และส่งนอนพักฟื้นที่รพ.ปำกเกร็ด เพื่อให้ ผู้ป่ วยเข้ำถึงบริกำรได้เร็วขึ้น ซึ่งพบว่ำประชำชนพอใจมำก ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
10 2.3 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.3.1 งำนวิจัยจำกต่ำงประเทศ Kenneth E Covinsky, Gary E Rosenthal, Mary-Margaret Chren, Amy C Justice, Richard H Fortinsky, Robert M Palmer, et al. (2541) ได้ศึกษำควำมสัมพันธ์ต่อสถำนะทำงสุขภำพที่เปลี่ยนแปลงไปและควำมพึง พอใจของผู้ป่ วย ได้ท ำกำรเก็บข้อมูลแบบ prospective cohort study แสดงถึงปัจจัยด้ำนสถำนะก่อนและหลังออก จำกโรงพยำบำลต่อควำมพึงพอใจของผู้ป่ วย พบว่ำผู้ป่ วยหลังจำกออกจำกโรงพยำบำลที่มีสุขภำพดีขึ้นจะมี ควำมสัมพันธ์กับควำมพึงพอใจที่มำก ดังนั้นปัจจัยด้ำนสถำนะหลังออกจำกโรงพยำบำลของผู้ป่ วยสำมำรถใช้ใน กำรประเมินคุณภำพของโรงพยำบำลได้ Eva Lena Strandberg, Ingvar Ovhed, Lars Borgquist, Susan Wilhelmsson (2550)ได้ศึกษำเพื่อหำค ำ นิยำมของกำรดูแลแบบองค์รวมเนื่องจำกค ำว่ำ ,กำรดูแลแบบองค์รวม. ซึ่งเป็ นค ำที่สร้ำงบนพื้นฐำนของมุมมอง ทำงปรัชญำทำงด้ำนคุณภำพ, กำรเข้ำถึง, กำรดูแลแบบต่อเนื่อง,กำรท ำงำนร่วมกันของสหวิชำชีพซึ่งในแตกต่ำง กันในแต่ละสถำนที่ โดยเก็บแบบสัมภำษณ์จำกแพทย์และพยำบำล 22 และ 20 คนตำมล ำดับ ที่ท ำงำนใน สถำนพยำบำลแบบปฐมภูมิประเทศสวีเดน บทสัมภำษณ์ถูกแปลงและวิเครำะห์โดยใช้เนื้อหำเชิงคุณภำพ ผลของ กำรศึกษำแบ่งออกเป็ นด้ำนทัศนคติ , ควำมรู้, สถำนกำรณ์ ผลลัพธ์ได้ว่ำในด้ำนทัศนคติต้องมีกำรมองทั้งบุคคล ด้ำนควำมรู้ แบ่งออกเป็ นหนึ่งควำมรู้ข้อเท็จจริงซึ่งจะได้รับจำกกำรอบรมและจำกประสบกำรณ์ สองควำมรู้ที่ ซ่อนเร้นจะเกี่ยวกับด้ำนอำรมณ์และควำมสำมำรถทำงสังคม ด้ำนสถำนกำรณ์สำมำรถเป็ นได้ทั้งอุปสรรค์หรือ วิทยำกรผู้อ ำนวยควำมสะดวก Alfredo Córdova, Daniel Pérez-Valdecantos, Alberto Caballero-García, Hugo J. Bello (2563) ได้ศึกษำ คุณภำพชีวิตของบุคลำกรทำงสำธำรณสุขที่ท ำงำนในแผนกฉุกเฉิน โรงพยำบำลในประเทศสเปน 2 แห่งพบว่ำ กำรที่ไม่มีควำมเครียดควำมกังวลในที่ท ำงำน ควำมรู้สึกกำรมีประสิทธิภำพสูงสุดในตนเองและกำรได้นอน พักผ่อนที่เพียงพอมีผลกับคุณภำพชีวิต งำนวิจัยได้ท ำกำรเก็บผลเชิงพรรณนำด้วยแบบสอบถำมQPL-35ใน ผู้เข้ำร่วม 97 คน ช่วงก่อนที่มีกำรระบำดเดือนกรกฎำคมและสิงหำคมปี 2019 กลุ่มผู้ท ำแบบทดสอบประกอบด้วย พยำบำล (n = 59)และแพทย์(n = 38) ผลกำรเก็บส ำรวจพบว่ำบุคำกรมีมุมมองที่ดีต่อคุณภำพชีวิตสะท้อนถึง ค ำถำม 3 ด้ำนในบททดสอบ ได้แก่กำรสนับสนุนด้ำนกำรจัดกำร ปริมำณงำน และแรงจูงใจที่แท้จริง ผลพบว่ำ บุคลำกรสำมำรถจัดกำรกับควำมเครียดได้ ระดับกำรนอนหลับและกำรจัดกำรกับคุณภำพชีวิตที่สอดคล้องกับวิถี ชีวิตที่ควบคุมได้สัมพันธ์กับกำรปฏิบัติงำนในช่วงกำรระบำดโควิด-19 ส ำหรับบุคลำกรในกำรจัดกำรงำน ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
11 Johanna de Almeida Mello, Hao Luo, Alice Hirdes, Jyrki Heikkilä, Benoite Umubyeyi, Darius Gishoma, et al. (2564) ได้ท ำกำรศึกษำเพื่อประเมินและเปรี ยบเทียบปัจจัยที่มีผลต่อคุณภำพชีวิต โดยใช้ แบบทดสอบ interRAI SQoL-MHA จ ำนวน 46 ค ำถำม ข้อมูลถูกเก็บในประเทศเบลเยี่ยม, ฟิ นแลนด์, รัสเซีย, บรำซิล, รันดำ, แคนนำดำ, ฮ่องกง จ ำนวน 2,474คน พบว่ำกำรมีโอกำสด้ำนงำนและกำรศึกษำกับควำมพึงพอใจ ในกำรบริกำรสัมพันธ์ในทำงบวก ตรงข้ำมกับปัญหำด้ำนเศรษฐกิจ Luke Sy-Cherng Woon, Nor Shuhada Mansor, Mohd Afifuddin Mohamad,Soo Huat Teoh, Mohammad Farris Iman Leong Bin Abdullah (2564)ได้ศึกษำคุณภำพชีวิตและปัจจัยท ำนำยในกลุ่มบุคลำกรทำงกำรแพทย์ หลังจบระยะล็อคดำวน์: บทบำทเด่น COVID-19 ตัวสร้ำงควำมเครียด,ประสบกำรณ์ทำงจิตวิทยำและบทบำท ทำงสังคมในช่วงโควิด-19กำรศึกษำนี้ศึกษำผลกระทบจำกโควิด-19 ต่อคุณภำพชีวิตของบุคลำกรทำงสำธำรณะ สุขประเทศมำเลเซีย แบบทดสอบออนไลน์ถูกตอบโดยเจ้ำหน้ำที่ทำงสำธำรณธสุขมหำวิทยำลัย 389ข้อว่ำด้วย ข้อมูลประชำกร ลักษณะทำงคลินิก ควำมเครียดที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 ประสบกำรณ์ทำงจิตใจ และกำรรับรู้ กำรสนับสนุนทำงสังคมหลังจำกยกเลิกกำรล็อคดำวน์กำรเคลื่อนไหวคุณภำพชีวิตทุกด้ำนอยู่ในระดับปกติ ยกเว้นด้ำนควำมสัมพันธ์ทำงสังคมที่ต ่ำกว่ำปกติกำรถดถอยเชิงเส้นพหุคูณได้วิเครำะห์และชี้ให้เห็นว่ำปัจจัย กระตุ้นควำมเครียดที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 (เช่น เครียดจำกหยุดพักผ่อนประจ ำปี สูญเสียกิจวัตรประจ ำวัน และ สัมผัสกับผู้ป่ วย COVID-19 บ่อยครั้งและผลกระทบจำกควำมเครียด(เช่นภำวะซึมเศร้ำรุนแรง ควำมกังวลและ ควำมเครียด) ท ำนำยถึงคุณภำพชีวิตที่ต ่ำลง ในทำงตรงกันข้ำมกำรมีกำรสนับสนุนทำงสังคมจำกเพื่อนและบุคคล ที่ส ำคัญจะเพิ่ มคุณภำพชีวิต ลักษณะทำงคลินิกและประชำกรที่ท ำนำยคุณภำพชีวิตในระดับที่น้อยกว่ำ: ประวัติ โรคประจ ำตัวสัมพันธ์กับคุณภำพชีวิตด้ำนร่ำงกำยที่ต ่ำลง ในขณะที่กำรมีอำยุขัยที่มำกและสถำนะทำงสมรสโสด ,หย่ำร้ำง,เลิกรำท ำนำยถึงคุณภำพชีวิตที่ดีขึ้นในด้ำนสิ่งแวดล้อม 2.3.2 งำนวิจัยประเทศไทย วิภำ หวันแหละ (2558) ได้ท ำกำรวิจัยในหัวข้อคุณภำพชีวิตกำรท ำงำนของบุคคลำกรในโรงพยำบำล หำดใหญ่อ ำเภอหำดใหญ่ จัดหวัดสงขลำ ได้ศึกษำสร้ำงและเก็บแบบส ำรวจด้วยแบบสอบถำมค่ำควำมเชื่อมัน่ ของเครื่องมือคือ 0.887 โดยศึกษำปัจจัยส่วนบุคคล และดูคุณภำพในกำรท ำงำนชีวิตของบุคคลำกรทุกสำยงำน จ ำนวน 320 คนในโรงพยำบำลหำดใหญ่ 8 ด้ำนประกอบด้วยด้ำน ค่ำตอบแทนที่เป็ นธรรมและเพียงพอ, สิ่งแว ล้อมที่ถูกลักษณะและปลอดภัย, เปิ ดโอกำสให้ผู้ปฏิบัติงำนได้พัฒนำควำมรู้ควำมสำมำรถ, ลักษณะงำนที่ส่งเสริม ควำมเจริญเติบโตและควำมมันคงให้แก ่่ผู้ปฏิบัติงำน, ลักษณะงำนมีส่วนส่งเสริมด้ำนบูรณำกำรทำงสังคมของ ผู้ปฏิบัติงำน, ประชำธิปไตยในองค์กรหรือกระบวนกำรยุติธรรม, สมดุลระหว่ำงชีวิตกับกำรท ำงำนส่วนรวม, ลักษณะงำนมีควำมส่วยเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับสังคมโดยตรง แล้วน ำมำวิเครำะห์ข้อมูลโดยหำค่ำไคสแควร์ ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
12 พบว่ำบุคคลำกรโรงพยำบำลหำดใหญ่มีคุณภำพชีวิตโดยภำพรวมอยู่ในระดับสูง เมื่อน ำมำแบ่งตำม 8 ด้ำนพบว่ำ ด้ำนที่มีค่ำเฉลี่ยสูงสุดคือลักษณะงำนมีควำมส่วยเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับสังคมโดยตรงตรงข้ำมกับด้ำนเปิ ด โอกำสให้ผู้ปฏิบัติงำนได้พัฒนำควำมรู้ควำมสำมำรถที่มีค่ำเฉลี่ยต ่ำสุด ปัจจัยส่วนบุคคลพบว่ำเพศ ระดับ กำรศึกษำ สถำนภำพสมรส รำยได้และรำยได้พิเศษต่อเดือนมีควำมสัมพันธ์กับคุณภำพชีวิต ในขณะที่อำยุ สำย งำนที่ปฏิบัติและระยะเวลำปฏิบัติงำนไม่มีควำมสัมพันธ์กับคุณภำพชีวิตของงำน วิรัช สงวนวงศ์วำน, ณัฐณิชำ ปิ ยปัญญำ (2560) ได้ศึกษำคุณภำพชีวิตกำรท ำงำนของพยำบำลใน โรงพยำบำลเอกชนกรุงเทพมหำนคร ใช้เครื่องมือเป็ นแบบสอบถำมที่ผู้วิจัยสร้ำงขึ้นเพื่อถำมข้อมูลส่วนบุคคล และควำมเห็นเกี่ยวกับคุณภำพชีวิตในกำรท ำงำนแล้วน ำมำวิเครำะห์ใช้ค่ำควำมถี่, ร้อยละ, ค่ำเฉลี่ย, ส่วนเบี่ยงเบน มำตรฐำน โดยศึกษำปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อำยุอำยุกำรท ำงำน วุฒิกำรศึกษำสูงสุด สถำนภำพ รำยได้เฉลี่ย ต่อเดือน และศึกษำคุณภำพชีวิตในกำรท ำงำน 8 ด้ำน ได้แก่ กำรได้รับ ผลตอบแทนที่ยุติธรรมและเพียงพอ สภำพ กำรท ำงำนที่มีควำมปลอดภัยและส่งเสริมสุขภำพ กำร พัฒนำศักยภำพของพนักงำน ควำมก้ำวหน้ำและควำม มันคงในงำน ่กำรบูรณำกำรทำงสังคม สิทธิของ พนักงำน ควำมสมดุลระหว่ำงชีวิตกำรท ำงำนกับชีวิตส่วนตัว และลักษณะงำนมีส่วนเกี่ยวข้องและ สัมพันธ์กับสังคม โดยผู้วิจัยได้สร้ำงเครื่องมือแบบสอบถำมขึ้น ผลศึกษำ พบว่ำคุณภำพชีวิตในกำรท ำงำนโดยรวมอยู่ในระดับปำนกลำง เมื่อพิจำรณำรำยด้ำนพบว่ำ ด้ำนลักษณะงำนมี ส่วนเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับสังคมสูงเป็ นอันดับแรก รองลงมำคือด้ำนกำรบูรณำกำรทำงสังคม และด้ำนสภำพ กำรท ำงำนที่มี ควำมปลอดภัยและส่งเสริมสุขภำพ ส่วนด้ำนที่มีคุณภำพชีวิตปำนกลำงและ เป็ นอันดับท้ำยสุดคือ ด้ำนกำรได้รับผลตอบแทนที่ยุติธรรมและเพียงพอ ดนูทัศน์ ตันดี (2561) ได้ท ำกำรศึกษำคุณภำพชีวิตกำรท ำงำนกับคุณภำพชีวิตกำรท ำงำนของบุคลำกร ทำงกำรแพทย์โรงพยำบำลในเขตภำคเหนือตอนบนโดยเก็บข้อมูลแบบสถิติจำกแบบสอบถำมควำมเชื่อมั่ น 0.937 ศึกษำจ ำแนกตำมปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อำยุ สถำนภำพ กำรศึกษำ ประสบกำรณ์ในกำรปฏิบัติงำน และ รำยได้ต่อเดือน ผลเมื่อพิจำรณำเป็ นรำยด้ำนพบว่ำอยู่ในระดับมำก 7 ด้ำน ปำนกลำง 1 ปัจจัยด้ำนเพศ ไม่มี ควำมแตกต่ำงอย่ำงมีนัยส ำคัญทำงสถิติ ในขณะที่กำรศึกษำ สถำนภำพ ประสบกำรณ์ในกำร ปฏิบัติงำน รำยได้ ต่อเดือน แตกต่ำงกันอย่ำงมีนัยส ำคัญทำงสถิติที่ระดับ .05 พรรณี วัตรำเศรษฐ์(2561)ได้ศึกษำงำนวิจัยหัวข้อเรื่องคุณภำพชีวิตกำรท ำงำนของบุคลำกรโรงพยำบำล ส่งเสริมสุขภำพต ำบล จังหวัดสมุทรสงครำม ได้ท ำวิจัยเชิงวิเครำะห์ข้อมูลเชิงปริมำณด้วยสถิติเชิงพรรณนำ และ สถิติเชิงอนุมำน เพื่อศึกษำปัจจัยทำงด้ำนบริหำร สิ่งแวดล้อม และคุณภำพชีวิตของบุคคลำกรรพ.สต.เปรียบเทียบ ปัจจัยส่วนบุคคลของบุคคลำกรรพ.สต.พบว่ำปัจจัยด้ำนกำรบริหำร กำรจัดกำร ลักษณะงำน อยู่ในระดับปำน กลำงต่อควำมคุณภำพชีวิต ในด้ำนสิ่งแวดลอมด้ำนสถำนที่ ด้ำนคน ด้ำนระบบกำรท ำงำน และด้ำนวัฒนธรรม ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
13 องค์กรมีควำมอย่ำงมำกกับคุณภำพชีวิตในขณะที่ด้ำนปัจจัยส่วนบุคคล เช่น เพศ อำยุ สถำนภำพสมรส ระดับ กำรศึกษำ รำยได้ ต ำแหน่ง และประสบกำรณ์กำรท ำงำน ณ รพ.สต.ปัจจุบัน ไม่มีควำมแตกต่ำงกันทำงสถิติต่อ คุณภำพชีวิต ขจรศักดิ์ สุขเปรม (2565) ได้ศึกษำเรื่องคุณภำพชีวิต ควำมสุขในกำรท ำงำนต่อควำมผูกพันองค์กรของ บุคลำกรกรมอนำมัย โดยศึกษำในข้ำรำชกำรสังกัดกรมอนำมัย ทั้งส่วนกลำงและส่วนภูมิภำค จ ำนวนทั้งสิ้ น 1,495 คน คิดเป็ นร้อยละ 72.43 ของข้ำรำชกำรกรมอนำมัย อำศัยเครื่องมือ คือ แบบสอบถำมออนไลน์ (Google Form) โดยท ำกำรศึกษำในช่วงเดือนมกรำคม - เดือนเมษำยน 2565 ทั้งนี้สถิติที่ใช้ คือ สถิติเชิงพรรณนำ (Descriptive Statistic) และสถิติเชิงอนุมำน (Inferential Statistic) เพื่อวิเครำะห์ปัจจัยที่มีผลต่อควำมผูกพัน องค์กรของบุคลำกรกรมอนำมัย คือ กำรวิเครำะห์กำรถดถอยพหุ (Multiple regression analysis) ผลกำรศึกษำ พบว่ำ ระดับคุณภำพชีวิตในกำรท ำงำนของบุคลำกรกรมอนำมัย ภำพรวมอยู่ใน ระดับมำก มีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 3.48 ระดับควำมสุขในกำรท ำงำนของบุคลำกรกรมอนำมัย ภำพรวม อยู่ในระดับ มำก มีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 3.88 ระดับ ควำมผูกพันต่อองค์กรของบุคลำกรกรมอนำมัย ภำพรวม อยู่ในระดับมำก มีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 3.97 และผลกำรศึกษำ ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อควำมผูกพันองค์กรของบุคลำกรมอนำมัย ที่สำมำรถร่วมท ำนำยควำมผูกพันขององค์กร พบว่ำตัวแปร 1) ช่วงอำยุตัว 23 – 27 ปี 2) ช่วงอำยุรำชกำร 16 – 20 ปี และช่วงอำยุรำชกำรตั้งแต่ 31 ปี ขึ้นไป 3) คุณภำพในกำรท ำงำนด้ำนควำมภูมิใจในองค์กรที่มี คุณค่ำทำงสังคม ด้ำนลักษณะกำรบริหำร ด้ำนควำมสมดุล ระหว่ำงชีวิต และ4) ควำมสุขในกำรท ำงำน ด้ำนควำม รักในงำนด้ำนควำมส ำเร็จในงำน ด้ำนกำรเป็ นที่ยอมรับ และด้ำนกำรติดต่อสัมพันธ์ ที่ร่วมท ำนำยควำมผูกพัน องค์กรได้อย่ำงมีนัยส ำคัญทำงสถิติ 2.4 กรอบแนวคิดการวิจัย กรอบแนวคิดกำรวิจัยเรื่องศึกษำเปรียบเทียบคุณภำพชีวิตระหว่ำงแพทย์เพิ่มพูนทักษะกับนักศึกษำ แพทย์ชั้นปี ที่ 6 โรงพยำบำลพระนังเกล้ำ ผู้วิจัยได้ก ำหนดกรอบแน ่วคิดกำรวิจัยดังนี้ ภาพที่2.1กรอบแนวคิดกำรวิจัย • ระดับคุณภำพชีวิตของแพทย์เพิ่ มพูนทักษะ โรงพยำบำลพระนังเกล้ำ ่ • ระดับคุณภำพชีวิตของนักศึกษำแพทย์ชั้ นปี ที่ 6 โรงพยำบำลพระนังเกล้ำ ่ ควำมแตกต่ำงของระดับคุณภำพชีวิต ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
14 บทที่ 3 วิธีด ำเนินกำรวิจัย การศึกษาครั้งนี้ เป็ นการศึกษาภาคตัดขวางเชิงพรรณนา (Cross-sectional descriptive study) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตระหว่างแพทย์เพิ่ มพูนทักษะกับนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มหาวิทยาลัยสยาม ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลพระนังเกล้า ่ 3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 3.2 ตัวแปรที่ใช้ในการวิจัย 3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 3.4การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ 3.5การเก็บรวบรวมข้อมูล 3.6การวิเคราะห์ข้อมูล 3.1 ประชำกรและกล่มตัวอย่ำง ุ ประชากรในการศึกษา คือกลุ่มนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่6 มหาวิทยาลัยสยาม และแพทย์เพิ่ มพูนทักษะ ที่ท างานโรงพยาบาลพระนั่ งเกล้า จังหวัดนนทบุรีใน ปี พ.ศ. 2566จ านวน 74คน แบ่งเป็ นนักศึกษาแพทย์ ชั้นปี ที่6 จ านวน 42 คน และแพทย์เพิ่ มพูนทักษะจ านวน 32คน กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่6 มหาวิทยาลัยสยาม และแพทย์เพิ่ มพูนทักษะที่ก าลังปฏิบัติงานในโรงพยาบาลพระนังเกล้า ่จังหวัดนนทบุรี ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เป็ นระยะเวลา 2 สัปดาห์ 3.1.1 เกณ์คัดเลือกกล่มตัวอย่ำงุ (Inclusion criteria) 1) เป็ นนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 2) เป็ นแพทย์เพิ่ มพูนทักษะชั้นปี ที่ 1 3) ก าลังศึกษา/ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลพระนังเกล้า จังหวัดนนทบุรี ่ 4) ยินยอมเข้าร่วมงานวิจัย 5) ผู้ท าแบบสอบถามสามารถสื่อสารด้วยภาษาไทยและให้ข้อมูลได้ ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
15 3.1.2 เกณ์คัดออกกล่มตัวอย่ำง( ุ Exclusion criteria) 1) เกิดการเจ็บป่ วยหรือมีเหตุอันไม่คาดคิดอันส่งผลให้ไม่สามารถเข้าร่วมงานวิจัยได้ 2) กลุ่มตัวอย่างมีคุณลักษณะบางประการที่ไม่สามารถเข้าร่วมงานวิจัยได้ เช่น มีความผิดปกติ ทางจิต 3) ปฏิเสธการยินยอมเข้าร่วมงานวิจัย 4) ไม่ได้ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลพระนัง่ เกล้าในช่วง 2 สัปดาห์ของการเก็บแบบสอบถาม 3.1.3 ขนำดกล่มตัวอย่ำงุ จากข้อมูลประชากรนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 และแพทย์เพิ่ มพูนทักษะในโรงพยาบาลพระนังเกล้า ่ จังหวัด นนทบุรีอ้างอิงจากทะเบียนโรงพยาบาลพระนังเกล้าและศูนย์แพทยศาสตร์โรงพยาบาลพระนั ่ งเกล้า ่ จังหวัดนนทบุรีพบว่าในปี พ.ศ. 2566 มีผู้นักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 และแพทย์เพิ่ มพูนทักษะจ านวนรวม 74 คน แบ่งเป็ นนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่6 จ านวน 42 คน และแพทย์เพิ่ มพูนทักษะจ านวน 32คน แต่มีเพียง 40 คน ที่ก าลังปฏิบัติงานในโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าในช่วง ระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ได้เก็บข้อมูล ได้แก่ นักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 จ านวน 15 คน และแพทย์เพิ่ มพูนทักษะจ านวน 25 คน ผู้วิจัยได้ก าหนดขนาดของ กลุ่มตัวอย่างวิจัยโดยใช้สูตรของทาโร่ ยามาเน่ (Yamane,2516) ก าหนดให้ระดับความคาดเคลื่อนเท่ากับ 0.05โดยมีสูตรการค านวณดังนี้ เมื่อ n =จ านวนกลุ่มตัวอย่าง = 1+2 e =ความคลาดเคลื่อนของกลุ่มตัวอย่าง (0.05) = 40 1+40(0.052) N =ขนาดของประชากร = 36.363636 ดังนั้นในการศึกษาครั้งนี้ขนาดตัวอย่างที่เป็ นตัวแทนของกลุ่มประชากรนี้คิดเป็ น จ านวน 37 คน เพื่อป้องกันความไม่ครบถ้วนของข้อมูลทางคณะผู้จัดท าได้ท าการเก็บจ านวนเต็มทั้งหมด 40 คน แต่เก็บได้จริงเพียง 39 คน ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
16 รูปที่3.1แสดงถึงการคัดเลือกคนเข้ามาท าแบบทดสอบงานวิจัย 3.2 ตัวแปรที่ใช้ในกำรวิจัย ในการวิจัยนี้ไม่มีตัวแปรต้นตัวแปรตาม หากแต่เป็ นการเปรี ยบเทียบระหว่างนักศึกษาแพทย์ ชั้นปี ที่ 6 และแพทย์เพิ่ มพูนทักษะในหัวข้อคุณภาพชีวิตทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้าน ความสัมพันธ์ทางสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม และมุมมองภาพรวมต่อคุณภาพชีวิต 3.3 เครื่องมือกำรวิจัย เครื่องมือในการวิจัยครั้งนี้ เป็ นแบบสอบถามที่ใช้สัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง โดยได้น ามาจาก กรมสุขภาพจิต ชื่ออุปกรณ์เครื่องชี้วัดคุณภาพชีวิตขององค์การอนามัยโลกชุดย่อ ฉบับภาษาไทย (WHOQOL–BREF–THAI) 3.3.1แบบสอบถำมข้อมูลทั่วไป ได้แก่ข้อมูลส่วนบุคคล (เพศ อายุ แผนกที่ก าลังปฏิบัติงานรายได้ ระยะเวลาที่ปฏิบัติงานรวมต่อสัปดาห์และระยะเวลาที่เคยปฏิบัติงานในโรงพยาบาลพระนังเกล้า) จ านวน 5 ่ ข้อลักษณะค าถามเป็ นแบบให้เลือกตอบ 3.3.2 เครื่องชี้วัดคุณภำพชีวิตขององค์กำรอนำมัยโลกชุดย่อ ฉบับภำษำไทย (WHOQOL–BREF– THAI)จากกรมสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย มีค าถามจ านวน 26 ข้อ แต่ละข้อมี 5 ตัวเลือกคือไม่เลย, เล็กน้อย, ปานกลาง, มาก, มากที่สุดโดยแบ่งเป็ นค าถามเชิงบวก และค าถามเชิงลบ ดังนี้ ค าถามเชิงบวก (positive question) จ านวน 23 ข้อ โดยเกณฑ์การให้คะแนนดังนี้ ไม่เลย ให้คะแนน 1 คะแนน ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
17 เล็กน้อย ให้คะแนน 2 คะแนน ปานกลาง ให้คะแนน 3 คะแนน มาก ให้คะแนน 4 คะแนน มากที่สุด ให้คะแนน 5 คะแนน ค าถามเชิงลบ (negative question) จ านวน 3 ข้อได้แก่ข้อ 2, 9, 11โดยเกณฑ์การให้คะแนนดังนี้ ไม่เลย ให้คะแนน 5 คะแนน เล็กน้อย ให้คะแนน 4 คะแนน ปานกลาง ให้คะแนน 3 คะแนน มาก ให้คะแนน 2 คะแนน มากที่สุด ให้คะแนน 1 คะแนน แบ่งระดับคะแนนคุณภาพชีวิต แยกออกเป็ นองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ดังนี้ ตำรำงที่3.1แสดงระดับคะแนนคุณภาพชีวิตแต่ละด้านต่าง ๆ และระดับคะแนนคุณภาพชีวิตโดยรวม องค์ประกอบ การมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดี คุณภาพชีวิตกลาง ๆ คุณภาพชีวิตที่ดี 1. ด้านสุขภาพกาย 7 – 16 17 – 26 27 - 35 2. ด้านจิตใจ 6 – 14 15 – 22 23 - 30 3. ด้านสัมพันธภาพทางสังคม 3 – 7 8 – 11 12 - 15 4. ด้านสิ่งแวดล้อม 8 – 18 19 – 29 30 – 40 คุณภาพชีวิตโดยรวม 26 – 60 61 – 95 96 - 130 ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
18 องค์ประกอบด้านสุขภาพกาย ได้แก่ ข้อ 2,3,4,10,11,12,24 องค์ประกอบด้านจิตใจ ได้แก่ ข้อ 5,6,7,8,9,23 องค์ประกอบด้านสัมพันธภาพทางสังคม ได้แก่ ข้อ 13,14,25 องค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ข้อ 15,16,17,18,19,20,21,22 ส่วนข้อ 1 ข้อ 26 เป็ นตัวชี้วัดที่อยู่ในหมวดคุณภาพชีวิตและสุขภาพโดยรวม จะไม่รวมอยู่ในองค์ประกอบทั้ ง 4 ด้านนี้ การแปลผล คะแนนคุณภาพชีวิตมีคะแนน ตั้งแต่ 26 – 130 คะแนน โดยเมื่อผู้ตอบรวมคะแนนทุกข้อได้คะแนนเท่าไร สามารถเปรียบเทียบกับเกณฑ์ปกติที่ก าหนดดังนี้ ตำรำงที่3.2แสดงระดับเกณฑ์คะแนนคุณภาพชีวิตโดยรวมและการแปลผลคะแนนรวม คะแนน 26 – 60 คะแนน แสดงถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดี คะแนน 61 – 95 คะแนน แสดงถึงการมีคุณภาพชีวิตกลาง ๆ คะแนน 96 – 130 คะแนน แสดงถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดี 3.4 กำรตรวจสอบคุณภำพเครื่องมือ เป็ นเครื่ องชี้วัดที่พัฒนามาจากเครื่ องชี้วัดคุณภาพชี วิตขององค์การอนามัยโลก 100 ข้อ โดยท าการเลือกค าถามมาเพียง 1 ข้อ จากแต่ละหมวดใน 24 หมวด และรวมกับหมวดที่เป็ นคุณภาพชีวิต และสุขภาพทัวไปโดยรวมอีก 2 ข้อค าถาม หลังจากนั ่ ้นคณะท างานพัฒนาเครื่ องชี้วัดคุณภาพชีวิตของ องค์การอนามัยโลกชุดย่อ ฉบับภาษาไทย ได้ทบทวนและปรับปรุงภาษาในเครื่องมือ WHOQOL-BREF โดยผู้เชี่ยวชาญทางภาษาแล้วน าไปทดสอบความเข้าใจภาษากับคนที่มีพื้นฐานแตกต่างกัน น ามาปรับปรุง ข้อที่เป็ นปัญหาแล้วทดสอบซ ้ า ท าเช่นนี้อยู่ 3 รอบ ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
19 3.4.1 น าแบบสอบถามที่ไปทดลองใช้ (Try out) มาวิเคราะห์หาค่าความเชื่อมั่ น (Reliability) แบบทดสอบนี้กรมสุขภาพจิตได้ศึกษาค่าความเชื่อมันของเครื่องมือแล้ว โดยมีค่าความเชื่อมั ่น ่Cronbach’s alpha coefficient เท่ากับ 0.8406 ค่าความเที่ยงตรง เท่ากับ 0.6515 เทียบกับแบบวัด WHOQOL – 100 ฉบับภาษาไทยที่ WHO ยอมรับอย่างเป็ นทางการ 3.4.2 จัดท าแบบสอบถามรูปแบบออนไลน์ฉบับสมบูรณ์เพื่อน าไปเก็บข้อมูลกับกลุ่มตัวอย่างจริง (เอกสารตาม ภาคผนวก ก) 3.5 กำรเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้ศึกษาเป็ นผู้ด าเนินการรวบรวมข้อมูลด้วยตนเองตามขั้ นตอนการด าเนินงาน ดังนี้ 3.5.1) ประสานความร่ วมมือแพทย์เพิ่มพูนทักษะโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า อ าเภอเมื อง จังหวัดนนทบุรี และนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่6 มหาวิทยาลัยสยาม จากนั้นจึงแนะน ากับกลุ่มตัวอย่าง พร้อมชี้แจงวัตถุประสงค์และรายละเอียดในการเข้าร่วมโครงการวิจัย ตลอดจนสิทธิ์ ในการตอบรับ หรือปฏิเสธหรือการยุติเข้าร่วมวิจัย ซึ่งกลุ่มตัวอย่างมีสิทธิ์ ที่จะปฏิเสธการเข้าร่วมในโครงการวิจัย เมื่อไรก็ได้ โดยไม่จ าเป็ นต้องแจ้งเหตุผล ข้อมูลที่ได้จะบันทึกไว้เป็ นความลับ โดยไม่มีการระบุชื่อสกุล และจะน าเสนอโดยภาพรวมเท่านั้น จากทั้งหมด 40 คนมีเพียง 1 คนที่ปฏิเสธการเข้าร่วมตอบแบบสอบถาม ในการวิจัย 3.5.2) หลังจากที่ได้ประสานแจ้งให้ทราบเพื่อขอความยินยอม ทีมผู้วิจัยจึงด าเนินการเก็บข้อมูล ด้วยตนเอง โดยน าแบบสอบถามในรูปแบบออนไลน์ไปให้กลุ่มเป้าหมายท า ทีมผู้วิจัยได้อธิบายวิธีการตอบ แบบสอบถามอย่างละเอียด และให้ค าแนะน าในข้อค าถามที่กลุ่มเป้าหมายไม่เข้าใจ 3.5.3) ผู้ศึกษาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของข้อมูลในแบบสอบถาม 3.6 กำรวิเครำะห์ข้อมูล การวิจัยครั้งนี้ ท าการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เครื่ องคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลข้อมูล และใช้เครื่องมือสถิติส าเร็จรูปในการประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ 3.6.1วิเคราะห์ปัจจัยส่วนบุคคล โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ (percentage) 3.6.2 วิเคราะห์ผลลัพธ์ของแบบสอบถามด้านคุณภาพชีวิตในแต่ละด้าน โดยใช้ค่าเฉลี่ย ของคะแนนทั้ งหมด และคะแนนของแต่ละองค์ประกอบเทียบกับตารางการแปลผลของแบบสอบถาม ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
20 3.6.3 วิเคราะห์ความแตกต่างทางสถิ ติ ระหว่างกลุ่มประชากรนักศึ กษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 และแพทย์เพิ่ มพูนทักษะโดยใช้โปรแกรมส าเร็จรูปการค านวนค่าทางสถิติ IBM SPSS Statistic Data editor 26.0 แ ล ะ วิ เ ค ร า ะ ห์ ค ว า ม แ ต ก ต่ า ง ใ น แ ต่ ล ะ ด้า น คุ ณ ภ า พ ชี วิ ต เ ที ย บ นั ก ศึ ก ษ า แ พ ท ย์ชั้น ปี ที่ 6 กับแพทย์เพิ่ มพูนทักษะด้วยค่าเฉลี่ย (mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) และการทดสอบ สมมติฐานของกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มที่สัมพันธ์กัน (Pairedsamples t-test (Dependent samples t-test)) ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
21 บทที่ 4 ผลการวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล การวิจัยเรื่อง ศึกษาเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตของแพทย์เพิ่ มพูนทักษะ โรงพยาบาลพระนังเกล้ากับนักศึกษาแพทย์ ่ ชั้นปี ที่ 6 มหาวิทยาลัยสยาม โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. ศึกษาระดับคุณภาพชีวิตของแพทย์เพิ่มพูนทักษะ (Intern) กับนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 (Extern) มหาวิทยาลัยสยาม ที่ปฏิบัติงานอยู่ในโรงพยาบาลพระนังเกล้า ่ 2. เปรียบเทียบคุณภาพชีวิตของแพทย์เพิ่ มพูนทักษะโรงพยาบาลพระนังเกล้ากับนักศึกษาแพทย์ชั ่ ้นปี ที่ 6 มหาวิทยาลัยสยาม โดยเป็ นแพทย์เพิ่ มพูนทักษะ(Intern) ในโรงพยาบาลพระนั่ งเกล้า ปี งบประมาณ พ.ศ.2565 และเป็ นนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 (Extern) มหาวิทยาลัยสยาม ที่ปฏิบัติงานยู่ในโรงพยาบาล พระนั่ งเกล้า ในปี การศึกษา พ.ศ.2565 ที่ตอบแบบสอบถามมาจ านวนทั้งหมด 39 คน ซึ่ งน าข้อมูล มาวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมส าเร็จรูป ผลการวิเคราะห์ข้อมูล น าเสนอดังต่อไปนี้ ส่วนที่ 1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลทัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ่ ส่วนที่ 2 เครื่องชี้วัดคุณภาพชีวิตขององค์การอนามัยโลกชุดย่อ ฉบับภาษาไทย (WHOQOL–BREF– THAI) ส่วนที่3 ผลการวิเคราะห์การเปรียบเทียบระดับคุณภาพชีวิตแพทย์เพิ่ มพูนทักษะกับนักศึกษาแพทย์ ชั้ นปี ที่ 6 มหาวิทยาลัยสยามที่ปฏิบัติงานอยู่ในโรงพยาบาลพระนังเกล้าช่วงปี งบประมาณ 2565 ่ ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
22 ผลการวิจัยจากแบบสอบถาม ส่วนที่ 1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล มีรายละเอียดดังแสดงในตาราง ตารางที่ 4.1 แสดงจ านวน ร้อยละ จ าแนกตามข้อมูลทัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ่ผ้เป็ น ูextern ข้อมูลทัวไป ่ N (%) เพศ หญิง 11 (73.33%) ชาย 4 (26.66%) อายุ 20-24 6 (40%) 25-29 8 (53.33%) มากกว่า 30 ปี 1 (6.6%) รายได้เฉลี่ยต่อเดือน (จากงานหลัก, รอง, ผู้ปกครองให้) 5,001 - 10,000 บาท 5 (33.33%) 10,000 - 15,000 บาท 3 (20%) 15,001 - 20,000 บาท 5 (33.33%) 20,001 - 30,000 บาท 2 (13.3%) มากกว่า 30,000 บาท 0 (0%) ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
23 ในแผนกที่ท่านก าลังวนอยู่ในช่วงนี้ท่านมีชัวโมงการท างานเฉลี่ย (X = 126.93) ่ 56 -112 ชัวโมง/สัปดาห์ (ท างาน8-16 ชั ่วโมง/วัน) ่ 11 (73.33%) 113 - 168 ชัวโมง/สัปดาห์ (ท างาน24 ชั ่วโมง/วัน)่ 4 (26.66%) ระยะเวลาท างานในโรงพยาบาลพระนังเกล้า ่ 1-3 ปี 15 (100%) ตารางที่ 4.2 แสดงจ านวน ร้อยละ จ าแนกตามข้อมูลทัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ่ผ้เป็ น ูintern ข้อมูลทัวไป ่ N (%) เพศ หญิง 17 (70.83%) ชาย 7 (29.16%) อายุ 20-24 6 (25%) 25-29 18 (75%) มากกว่า 30 ปี 0 (0%) รายได้เฉลี่ยต่อเดือน (จากงานหลัก, รอง, ผู้ปกครองให้) 5,001 - 10,000 บาท 0 (0%) 10,000 - 15,000 บาท 0 (0%) 15,001 - 20,000 บาท 0 (0%) ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
24 20,001 - 30,000 บาท 0 (0%) มากกว่า 30,000 บาท 24 (100%) ในแผนกที่ท่านก าลังวนอยู่ในช่วงนี้ท่านมีชัวโมงการท างานเฉลี่ย ่ 56 -112 ชัวโมง/สัปดาห์ (ท างาน8-16 ชั ่วโมง/วัน) ่ 0 (0%) 113 - 168 ชัวโมง/สัปดาห์ (ท างาน24 ชั ่วโมง/วัน)่ 24 (100%) ระยะเวลาท างานในโรงพยาบาลพระนังเกล้า ่ น้อยกว่า 1 ปี 21 (87.5%) 1-3 ปี 0 (0%) มากกว่า 3 ปี 3 (8.33%) จากการเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างทั้ง 2 กลุ่ม ทั้งนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 และแพทย์ใช้ทุนโรงพยาบาล พระนังเกล้า จ านวน 15 คน และ 24 คนตามล าดับ แสดงผลตามตารางที่ 4.1 และ 4.2 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม ่ ส่วนใหญ่เป็ นเพศหญิง ซึ่งคิดเป็ นจ านวน 11 คน (73.33%) ในกลุ่มตัวอย่างนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 และ 17 คน (70.83%) ในแพทย์ใช้ทุน ทั้ง 2 กลุ่มตัวอย่าง มีช่วงอายุเฉลี่ยพอกัน คือ 25-29 ปี คือในนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 คิดเป็ นจ านวน 8 คน (53.33%) และในแพทย์ใช้ทุนชั้นปี ที่ 1 จ านวน 18 คน (75%) ในส่วนของรายได้เฉลี่ยต่อเดือนพบว่า กลุ่มตัวอย่างนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 จะมีระดับรายได้ แตกต่างกันไป ไม่มีกลุ่มรายได้ที่โดดเด่นชัดเจน ในขณะที่แพทย์ใช้ทุนชั้นปี ที่ 1 จ านวน 24 คน (100% ) มีรายได้มากกว่า 30,000 บาท ต่อเดือน ส าหรับนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 พบว่า 5 คน (33.33%) มีรายได้ 5,001 - 10,000 บาท อีก 5 คน (33.33%) มีรายได้ในช่วง 15,001 - 20,000 บาท แต่ไม่มีนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 คนไหนที่มีรายรับเกิน 30,000 บาทต่อเดือน ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
25 ด้านจ านวนชั่ วโมงในการท างาน พบว่า 73.33% ของนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 คิดเป็ นจ านวน 11 คน ท างาน 56 -112 ชัวโมง/สัปดาห์ (ท างาน8 ่-16 ชัวโมง/วัน) ในแผนกที่ได้รับมอบหมาย และมีอีก 4 (26.66%) ่ ที่ท างาน 113 - 168 ชัวโมง/สัปดาห์ (ท างาน24 ชั ่ วโมง/วัน) เปรียบเทียบกับแพทย์ใช้ทุนชั ่ ้ นปี ที่ 1 ทุกคน (100%) ที่มีช่วงเวลาการท างานอยู่ที่ 113 - 168 ชัวโมง/สัปดาห์ (ท างาน24 ชั ่วโมง/วัน) ่ ส าหรับระยะเวลาในการท างานที่โรงพยาบาลพระนั่ งเกล้า พบว่า 15 คน (100%) ของนักศึกษาแพทย์ ชั้นปี ที่ 6 เคยปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลพระนั่ งเกล้าเป็ นเวลา 1-3 ปี ในขณะที่แพทย์ใช้ทุนปฏิบัติงาน ที่โรงพยาบาลเดียวกันน้อยกว่า 1 ปี จ านวน 21 คน (87.5%) และมากกว่า 3 ปี เป็ นจ านวน 3 คน (8.33%) ส่ วนที่ 2 เครื่ องชี้วัดคุณภาพชีวิตขององค์การอนามัยโลกชุดย่อ ฉบับภาษาไทย มีรายละเอียด ดังแสดงในตาราง ตารางที่ 4.3 แสดงข้อมูลเครื่องชี้วัดคุณภาพชีวิตของนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หมวดคุณภาพชีวิตและสุขภาพโดยรวม ท่านพอใจกับสุขภาพของท่านในตอนนี้เพียงใด X = 2.66 SD = 0.82 ไม่เลย 2 (13.33%) เล็กน้อย 2 (13.33%) ปานกลาง 10 (66.66%) มาก 1 (6.66%) มากที่สุด 0 (0%) ท่านคิดว่าท่านมีคุณภาพชีวิต (ชีวิตความเป็ นอยู่)อยู่ในระดับใด X = 3.46 SD = 0.83 ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
26 ไม่เลย 0 (0%) เล็กน้อย 2 (13.33%) ปานกลาง 5 (33.33%) มาก 7 (46.66%) มากที่สุด 1 (6.66%) หมวดสุขภาพกาย ตารางที่ 4.4 แสดงค่าเฉลี่ยในแต่ละค าถามในหมวดสุขภาพกายในกลุ่มนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 การเจ็บปวดตามร่างกาย เช่น ปวดหัว ปวดท้อง ปวดตามตัว ท าให้ท่านไม่สามารถท าในสิ่งที่ต้องการ มากน้อยเพียงใด X =3.6 SD = 0.98 ไม่เลย 5 4 (26.66%) เล็กน้อย 4 2 (13.33%) ปานกลาง 3 8 (53.33%) มาก 2 1 (6.66%) มากที่สุด 1 0 (0%) ท่านมีก าลังเพียงพอที่จะท าสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวันไหม ทั้ งเรื่องงาน หรือการด าเนินชีวิตประจ าวัน X = 3.26 SD = 0.70 ไม่เลย 0 (0%) เล็กน้อย 2 (13.33%) ปานกลาง 7 (46.66%) ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
27 มาก 6 (40%) มากที่สุด 0 (0%) ท่านพอใจกับการนอนหลับของท่านมากน้อยเพียงใด X = 2.2 SD = 0.94 ไม่เลย 3 (20%) เล็กน้อย 8 (53.33%) ปานกลาง 2 (13.33%) มาก 2 (13.33%) มากที่สุด 0 (0%) ท่านรู้สึกพอใจมากน้อยแค่ไหนที่สามารถท าอะไร ๆผ่านไปได้ในแต่ละวัน X 3.73 SD 0.88 ไม่เลย 0 (0%) เล็กน้อย 1 (6.66%) ปานกลาง 5 (33.33%) มาก 6(40%) มากที่สุด 3 (20%) ท่านจ าเป็ นต้องได้รับการรักษาพยาบาลมากน้อยเพียงใดเพื่อที่จะท างานหรือมีชีวิตอยู่ไปได้ในแต่ละวัน X = 3.86 SD = 1.24 ไม่เลย5 6 (40%) เล็กน้อย4 4 (26.66%) ปานกลาง3 3 (20%) มาก2 1 (6.66%) ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
28 มากที่สุด1 1 (6.66%) ท่านพอใจกับความสามารถในการท างานได้อย่างที่เคยท ามามากน้อยเพียงใด X = 3.26 SD = 0.59 ไม่เลย 0 (0%) เล็กน้อย 1 (6.66%) ปานกลาง 9 (60%) มาก 5 (33.33%) มากที่สุด 0 (0%) ส าหรับหมวดสุขภาพกายของนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 พบว่าหากน าค่าเฉลี่ยในแต่ละหัวข้อมารวมกัน ได้คะแนนรวมเป็ น 19.91 คะแนน แสดงถึงการมีคุณภาพชีวิตด้านร่างกายอยู่ในระดับกลาง โดยเกณฑ์คือ 17 – 26คะแนน หมวดจิตใจ ตารางที่ 4.5 แสดงค่าเฉลี่ยในแต่ละค าถามในหมวดจิตใจในกลุ่มนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 ท่านรู้สึกพึงพอใจในชีวิต (เช่น มีความสุข ความสงบมีความหวัง) มากน้อยเพียงใด X 3.13 SD 1.06 ไม่เลย 0 (0%) เล็กน้อย 5 (33.33%) ปานกลาง 5 (33.33%) มาก 3 (20%) มากที่สุด 2 (13.33%) ท่านมีสมาธิในการท างานต่าง ๆ ดีเพียงใด X 2.8 SD 1.01 ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
29 ไม่เลย 1 (6.66%) เล็กน้อย 6 (40%) ปานกลาง 3 (20%) มาก 5 (33.33%) มากที่สุด 0 (0%) ท่านรู้สึกพอใจในตนเองมากน้อยแค่ไหน X 3.26 SD 0.70 ไม่เลย 0 (0%) เล็กน้อย 2 (13.33%) ปานกลาง 7 (46.66%) มาก 6 (40%) มากที่สุด 0 (0%) ท่านยอมรับรูปร่างหน้าตาของตัวเองได้ไหม X 3.46 SD 0.91 ไม่เลย 1 (6.66%) เล็กน้อย 0 (0%) ปานกลาง 6 (40%) มาก 7 (46.66%) มากที่สุด 1 (6.66%) ท่านมีความรู้สึกไม่ดี เช่น รู้สึกเหงา เศร้า หดหู่ สิ้ นหวังวิตกกังวล บ่อยแค่ไหน X 3.46 SD 1.18 ไม่เลย5 4 (26.66%) ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
30 เล็กน้อย4 2 (13.33%) ปานกลาง3 5 (33.33%) มาก2 4 (26.66%) มากที่สุด1 0 (0%) ท่านรู้สึกว่าชีวิตท่านมีความหมายมากน้อยแค่ไหน x = 3.87 SD = 1.13 ไม่เลย 1 (6.66%) เล็กน้อย 0 (0%) ปานกลาง 4 (26.66%) มาก 5 (33.33%) มากที่สุด 5 (33.33%) ท่านสามารถไปไหนมาไหนด้วยตนเองได้ดีเพียงใด X = 4 SD = 0.84 ไม่เลย 0 (0%) เล็กน้อย 1 (6.66%) ปานกลาง 2 (13.33%) มาก 8 (53.33%) มากที่สุด 4 (26.66%) ด้านจิตใจ พบว่า ค่าเฉลี่ยผลคะแนนรวมของนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 อยู่ที่ 20.52 คะแนน กล่าวคือ มีคุณภาพชีวิตระดับปานกลาง โดยมีเกณฑ์คือ 15 – 22คะแนน ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
31 หมวดสังคม ตารางที่ 4.6 แสดงค่าเฉลี่ยในแต่ละค าถามในหมวดสังคมในกลุ่มนักศึกษาแพทย์ชั้ นปี ที่ 6 ท่านพอใจต่อการผูกมิตรหรือเข้ากับคนอื่น อย่างที่ผ่านมาแค่ไหน X = 3.6 SD = 0.82 ไม่เลย 0 (0%) เล็กน้อย 1 (6.66%) ปานกลาง 6 (40%) มาก 6 (40%) มากที่สุด 2 (13.33%) ท่านพอใจกับการช่วยเหลือที่เคยได้รับจากเพื่อน ๆ แค่ไหน X = 3.66 SD = 1.04 ไม่เลย 1 (6.66%) เล็กน้อย 0 (0%) ปานกลาง 4 (26.66%) มาก 6 (40%) มากที่สุด 4 (26.66%) ท่านพอใจในชีวิตทางเพศของท่านแค่ไหน? (ชีวิตทางเพศ หมายถึง เมื่อเกิดความรู้สึกทางเพศขึ้น แล้วท่านมีวิธีจัดการท าให้ผ่อนคลายลงได้ รวมถึง การช่วยตัวเองหรือการมีเพศสัมพันธ์ x = 3.2 SD = 0.86 ไม่เลย 0 (0%) เล็กน้อย 3 (20%) ปานกลาง 7 (46.66%) ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
32 มาก 4 (26.66%) มากที่สุด 1 (6.66%) คุณภาพชีวิตด้านสังคม ในนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มีค่าเฉลี่ยคะแนนรวมอยู่ที่ 10.46 คะแนนกล่าวคือ มีคุณภาพชีวิตระดับปานกลาง โดยมีเกณฑ์คือ 8-11คะแนน หมวดสิ่งแวดล้อม ตารางที่ 4.7 แสดงค่าเฉลี่ยในแต่ละค าถามในหมวดสิ่งแวดล้อมในกลุ่มนักศึกษาแพทย์ชั้ นปี ที่ 6 ท่านรู้สึกว่าชีวิตมีความมันคงปลอดภัยดีไหมในแต่ละวัน X = 3.46 SD = 0.74 ่ ไม่เลย 0 (0%) เล็กน้อย 2 (13.33%) ปานกลาง 4 (26.66%) มาก 9 (60%) มากที่สุด 0 (0%) ท่านพอใจกับสภาพบ้านเรือนที่อยู่ตอนนี้มากน้อยเพียงใด X = 3.6 SD = 0.73 ไม่เลย 0 (0%) เล็กน้อย 1 (6.66%) ปานกลาง 5 (33.33%) มาก 8 (53.33%) มากที่สุด 1 (6.66%) ท่านมีเงินพอใช้จ่ายตามความจ าเป็ นมากน้อยเพียงใด X = 3.2 SD = 1.32 ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
33 ไม่เลย 1 (6.66%) เล็กน้อย 5 (33.33%) ปานกลาง 2 (13.33%) มาก 4 (26.66%) มากที่สุด 3 (20%) ท่านพอใจที่จะสามารถไปใช้บริการสาธารณสุขได้ตามความจ าเป็ นเพียงใด X = 3.06 SD = 0.70 ไม่เลย 0 (0%) เล็กน้อย 3 (20%) ปานกลาง 8 (53.33%) มาก 4 (26.66%) มากที่สุด 0 (0%) ท่านได้รู้เรื่องราวข่าวสารที่จ าเป็ นในชีวิตแต่ละวันมากน้อยเพียงใด X = 3.2 SD = 1.01 ไม่เลย 1 (6.66%) เล็กน้อย 3 (20%) ปานกลาง 3 (20%) มาก 8 (53.33%) มากที่สุด 0 (0%) ท่านมีโอกาสได้พักผ่อนคลายเครียดมากน้อยเพียงใด X = 2.46 SD = 0.91 ไม่เลย 2 (13.33%) ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
34 เล็กน้อย 6 (40%) ปานกลาง 5 (33.33%) มาก 2 (13.33%) มากที่สุด 0 (0%) สภาพแวดล้อมดีต่อสุขภาพของท่านมากน้อยเพียงใด X = 3.06 SD = 0.70 ไม่เลย 1 (6.66%) เล็กน้อย 0 (0%) ปานกลาง 11 (73.33%) มาก 3 (20%) มากที่สุด 0 (0%) ท่านพอใจกับการเดินทางคมนาคมของท่านมากน้อยเพียงใด X = 3.8 SD = 0.86 ไม่เลย 0 (0%) เล็กน้อย 0 (0%) ปานกลาง 7 (46.66%) มาก 4 (26.66%) มากที่สุด 4 (26.66%) คุณภาพชีวิตด้านสิ่งแวดล้อม ในนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 มีค่าเฉลี่ยคะแนนรวมอยู่ที่ 25.84 คะแนน กล่าวคือ มีคุณภาพชีวิตระดับปานกลาง โดยมีเกณฑ์คือ 19-29คะแนน ส าหรับคะแนนรวมทุกด้านของนักศึกษาแพทย์ปี ที่ 6 โรงพยาบาลพระนั่ งเกล้า ได้อยู่ที่ 86.31 คะแนน จัดอยู่ในเกณฑ์ 61-95 คะแนน แสดงถึงการมีคุณภาพชีวิตในระดับกลาง ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
35 ตารางที่ 4.8 แสดงข้อมูลเครื่องชี้วัดคุณภาพชีวิตของแพทย์ใช้ทุนชั้ นปี ที่ 1 ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หมวดคุณภาพชีวิตและสุขภาพโดยรวม ท่านพอใจกับสุขภาพของท่านในตอนนี้เพียงใด X = 2.63 SD = 0.97 ไม่เลย 4 (16.66%) เล็กน้อย 4 (16.66%) ปานกลาง 14 (58.33%) มาก 1 (4.16%) มากที่สุด 1 (4.16%) ท่านคิดว่าท่านมีคุณภาพชีวิต (ชีวิตความเป็ นอยู่)อยู่ในระดับใด X = 3.38 SD + 0.82 ไม่เลย 0 (0%) เล็กน้อย 2 (8.33%) ปานกลาง 14 (58.33%) มาก 5 (20.83%) มากที่สุด 3 (12.5%) ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
36 หมวดสุขภาพกาย ตารางที่ 4.9 แสดงค่าเฉลี่ยในแต่ละค าถามในหมวดสุขภาพกายในกลุ่มแพทย์ใช้ทุนชั้ นปี ที่ 1 การเจ็บปวดตามร่างกาย เช่น ปวดหัว ปวดท้อง ปวดตามตัว ท าให้ท่านไม่สามารถท าในสิ่งที่ต้องการ มากน้อยเพียงใด X = 3.46 SD = 1.06 ไม่เลย 5 (20.83%) เล็กน้อย 5 (20.83%) ปานกลาง 11 (45.83%) มาก 2 (8.33%) มากที่สุด 1 (4.16%) ท่านมีก าลังเพียงพอที่จะท าสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวันไหม ทั้ งเรื่องงาน หรือการด าเนินชีวิตประจ าวัน X = 3 SD = 0.98 ไม่เลย 1 (4.16%) เล็กน้อย 6 (25%) ปานกลาง 11 (45.83%) มาก 4 (16.66%) มากที่สุด 2 (8.33%) ท่านพอใจกับการนอนหลับของท่านมากน้อยเพียงใด X = 2.16 SD = 1.05 ไม่เลย 6 (25%) เล็กน้อย 12 (50%) ปานกลาง 3 (12.5%) ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
37 มาก 2 (8.33%) มากที่สุด 1 (4.16%) ท่านรู้สึกพอใจมากน้อยแค่ไหนที่สามารถท าอะไร ๆผ่านไปได้ในแต่ละวัน X = 3.25 SD = 0.94 ไม่เลย 1 (4.16%) เล็กน้อย 2 (8.33%) ปานกลาง 14 (58.33%) มาก 4 (16.66%) มากที่สุด 3 (12.5%) ท่านจ าเป็ นต้องได้รับการรักษาพยาบาลมากน้อยเพียงใดเพื่อที่จะท างานหรือมีชีวิตอยู่ไปได้ในแต่ละวัน X = 4 SD = 0.93 ไม่เลย 9 (37.5%) เล็กน้อย 7 (29.76%) ปานกลาง 7 (29.76%) มาก 1 (4.16%) มากที่สุด 0 (0%) ท่านพอใจกับความสามารถในการท างานได้อย่างที่เคยท ามามากน้อยเพียงใด X = 3 SD = 0.66 ไม่เลย 0 (0%) เล็กน้อย 4 (16.66%) ปานกลาง 17 (70.83%) มาก 2 (8.33%) ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม
38 มากที่สุด 1 (4.16%) คุณภาพชีวิตด้านสุขภาพกาย ในแพทย์ใช้ทุนชั้ นปี ที่ 1 มีค่าเฉลี่ยคะแนนรวมอยู่ที่ 18.87คะแนน กล่าวคือ มีคุณภาพชีวิตระดับปานกลาง โดยมีเกณฑ์คือ 17-26คะแนน หมวดจิตใจ ตารางที่ 4.10 แสดงค่าเฉลี่ยในแต่ละค าถามในหมวดจิตใจในกลุ่มแพทย์แพทย์ใช้ทุนชั้ นปี ที่ 1 ท่านรู้สึกพึงพอใจในชีวิต (เช่น มีความสุข ความสงบมีความหวัง) มากน้อยเพียงใด X = 2.59 SD = 0.72 ไม่เลย 2 (8.33%) เล็กน้อย 7 (29.76%) ปานกลาง 14 (58.33%) มาก 1 (4.16%) มากที่สุด 0 (0%) ท่านมีสมาธิในการท างานต่าง ๆ ดีเพียงใด X = 2.96 SD = 0.81 ไม่เลย 0 (0%) เล็กน้อย 8 (33.33%) ปานกลาง 9 (37.5%) มาก 7 (29.76%) มากที่สุด 0 (0%) ท่านรู้สึกพอใจในตนเองมากน้อยแค่ไหน X = 3.33 SD = 0.76 ไม่เลย 0 (0%) ศ ู นย ์ แพทยศาสตรช ์ ั น ้ คล ิ น ิ ก โรงพยาบาลพระน ั ่ งเกล ้ า คณะแพทยศาสตร ์ มหาวท ิ ยาล ั ยสยาม