คำนำ
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้แบบเชิงรกุ (Active Learning) วิชาวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การแยก
สาร ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ผู้จัดทำได้ทำขึ้นตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 ที่
กำหนดให้สถานศึกษาจัดทำหลักสูตรสำหรับสถานศึกษาขึ้นมาใช้เอง ให้เป็นไปตามศักยภาพของนักเรียน
เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนต้องมีความหลากหลายน่าสนใจ
ตลอดจนสื่อการเรียนการสอนประกอบจงึ จะส่งผลให้นกั เรยี นเกิดการเรียนรไู้ ดด้ ีมีผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นสูงขึ้น
เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การแยกสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผูจ้ ัดทำได้ทำขนึ้ แยกเนื้อหาสาระการเรยี นรู้ ตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ เพอ่ื ความสะดวกในการฝึกทักษะ และ
อำนวยความสะดวกให้กับครผู ้สู อน
หวังว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) วิชาวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
การแยกสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ชุดนี้จะเป็นประโยชน์ช่วยให้นักเรียนเรียนวิชาวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่ง่าย
ตอ่ การทำความเข้าใจมากย่ิงขน้ึ และมีทักษะการคดิ แก้ปญั หารว่ มทง้ั ทักษะกระบวนการวทิ ยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น
ชุดกิจกรรมการเรียนรแู้ บบเชิงรกุ (Active Learning) | การแยกสาร
คำชี้แจง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) วิชาวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง
การแยกสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ชุดนี้ เป็นเอกสารที่ใช้ประกอบการเรียน ที่นักเรียนสามารถศึกษาได้ด้วย
ตนเอง ให้นักเรียนอ่านคำแนะนำ ทำตามคำชี้แจงแต่ละขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนจะได้รับความรู้อย่าง
ครบถว้ นโดยปฏิบตั ิตามข้นั ตอนดงั ตอ่ ไปน้ี
1. ศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ เพื่อให้ทราบว่าเมื่อจบชุดการเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตร์ แต่ละชุดแล้ว
นกั เรยี นสามารถเรยี นรู้อะไรได้บา้ ง
2. ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เพื่อให้รวู้ ่ามีความรพู้ นื้ ฐานเกี่ยวกับเร่ืองที่จะศกึ ษา มากนอ้ ยเพยี งใด
3. ศึกษาใบความรู้ ตัวอย่างโจทย์ ใบกจิ กรรม และฝกึ ทักษะชุดการเรยี นวิชาวทิ ยาศาสตร์ตามท่ีกำหนดไว้
ซึ่งจะเปน็ แนวทางนำไปสกู่ ารเรียนและเข้าใจเนอื้ หาไดด้ ขี นึ้
4. ทำแบบทดสอบหลงั เรียน เพื่อวัดความร้คู วามเขา้ ใจอีกครงั้
5. นักเรียนแต่ละคนต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองไม่เปิดดูคำตอบก่อนเรียน – หลังเรียน เฉลยแบบฝึก
ทกั ษะชดุ การเรยี นวิชาวิทยาศาสตร์ กอ่ นที่จะปฏบิ ตั ิตามขนั้ ตอน
6. ถ้านักเรียนและผู้สนใจต้องการข้อมูลหรือเนื้อหาเพิ่มเติมจากชุดการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ทั้งหมด
สามารถคน้ คว้าได้จากเอกสารอ้างองิ ที่ใหไ้ ว้
7. นกั เรยี นจะผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้เมื่อนักเรียนสามารถตอบแบบทดสอบหลังเรยี นชดุ การเรียน ได้
ร้อยละ 70 ข้นึ ไป
ชดุ กิจกรรมการเรียนรูแ้ บบเชิงรุก (Active Learning) | การแยกสาร
สำรบญั หน้า
ก
มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชี้วัดชนั้ ปี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ข
ลำดบั เนอ้ื หาและกจิ กรรมในชดุ การเรยี น
1
แบบทดสอบก่อนเรียน
3
ใบความรูท้ ี่ 1 การระเหยแห้ง 4
กจิ กรรมท่ี 1 การแยกสารโดยการระเหยแห้ง 8
แบบฝกึ หัดที่ 1
9
ใบความรู้ท่ี 2 การตกผลกึ 10
กจิ กรรมท่ี 2 การแยกสารโดยการตกผลกึ 14
แบบฝึกหดั ที่ 2
15
ใบความรู้ที่ 3 การกล่นั 19
กิจกรรมที่ 3 การแยกสารโดยการกลั่นอย่างงา่ ย 22
แบบฝกึ หดั ท่ี 3
23
ใบความรู้ที่ 4 โครมาโทกราฟีแบบกระดาษ 26
กิจกรรมที่ 4 การแยกสารโดยโครมาโทกราฟี 30
แบบฝึกหัดท่ี 4
31
ใบความรทู้ ่ี 5 การสกัดดว้ ยตวั ทำละลาย 33
กจิ กรรมท่ี 5 การสกดั ดว้ ยตวั ทำละลาย 37
แบบฝกึ หดั ท่ี 5 38
แบบทดสอบหลงั เรียน
41
ภาคผนวก 49
เฉลยแบบบันทกึ ผลการทำกจิ กรรม 50
เฉลยแบบฝกึ หัดท่ี 1 51
เฉลยแบบฝกึ หดั ที่ 2
เฉลยแบบฝกึ หัดท่ี 3
ชดุ กิจกรรมการเรียนรแู้ บบเชงิ รุก (Active Learning) | การแยกสาร
เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี 4 หนา้
เฉลยแบบฝกึ หัดที่ 5 52
เฉลยแบบทดสอบก่อน-หลังเรียน 53
54
เอกสารอา้ งองิ
ท่ีมาของภาพและข้อมลู 55
56
ชดุ กิจกรรมการเรียนร้แู บบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร
มำตรฐำนกำรเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธ์ระหว่างสมบัติของสสาร
กับโครงสรา้ งและแรงยึดเหน่ียวระหวา่ งอนภุ าค หลักและธรรมชาตขิ องการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การ
เกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี
ตวั ชี้วดั ชนั้ ปี
ว 2.1 ม. 2/1 อธบิ ายการแยกสารผสมโดยการระเหยแห้ง การตกผลกึ การกลนั่ อยา่ งงา่ ย โครมาโทกราฟีแบบ
กระดาษ การสกัดดว้ ยตวั ทำละลาย โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์
ว 2.1 ม. 2/2 แยกสารโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกลั่นอย่างง่าย โครมาโทกราฟีแบบกระดาษ การ
สกัดดว้ ยตวั ทำละลาย
ว 2.1 ม. 2/3 นำวิธีการแยกสารไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน โดยบูรณาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์
เทคโนโลยี และวศิ วกรรมศาสตร์
จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
1. อธิบายการแยกสารผสมโดยการระเหยแหง้ การตกผลึก การกลน่ั อย่างง่าย การสกัด โครมาโทกราฟไี ด้ (K)
2. แยกสารผสมโดยการระเหยแหง้ การตกผลึก การกล่ันอย่างงา่ ย การสกัด โครมาโทกราฟีได้ (K)
3. อธิบายความหมายและประโยชน์ทีไ่ ดร้ ับจากกิจกรรมสะเตม็ ศึกษาได้ (K)
4. อธิบายและปฏิบตั ติ ามข้นั ตอนของกระบวนการสะเตม็ ศึกษาได้ (K)
5. มคี วามสนใจใฝ่รู้หรืออยากรอู้ ยากเห็น (A)
6. พอใจในประสบการณก์ ารเรยี นรู้ท่ีเก่ยี วกบั วิทยาศาสตร์ (A)
7. ทำงานรว่ มกับผูอ้ ่นื อยา่ งสร้างสรรค์ (A)
8. ส่ือสารและนำความรเู้ ร่ืองการระเหยแหง้ การตกผลึก การกลนั่ อยา่ งง่าย การสกัด โครมาโทกราฟีไปใชใ้ น
ชีวิตประจำวันได้ (P)
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบเชิงรุก (Active Learning) | การแยกสาร ก
ลำดบั เนื้อหำและกิจกรรมในชุดกำรเรยี น
คำนำ
คำช้ีแจงการใช้ชุดการเรยี น
สารบัญ
มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชว้ี ดั ชัน้ ปี จุดประสงค์การเรียนรู้
แบบทดสอบก่อนเรยี น
ใบความรู้/ใบกิจกรรม/แบบตรวจสอบความเข้าใจ
แบบทดสอบหลงั เรยี น
เฉลย ใบกจิ กรรม/แบบตรวจสอบความเข้าใจ
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้แบบเชงิ รุก (Active Learning) | การแยกสาร ข
แบบทดสอบก่อนเรยี น กำรแยกสำร
ช่ือ .................................................................................................................... ชัน้ .................................... เลขที่ ..................................
คำชแี้ จง 1. แบบทดสอบปรนัย 4 ตัวเลือก มีทั้งหมด 10 ขอ้ 10 คะแนน
2. ในแต่ละข้อ ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถกู ต้องทส่ี ดุ เพียงคำตอบเดียว
แล้วทำเครือ่ งหมาย ลงในกระดาษคำตอบ
1. การระเหยแห้งเหมาะกับสารละลายทีม่ ลี กั ษณะใด
1. ตวั ละลายมีสี ตัวทำละลายไม่มีสี
2. ตัวละลายและตวั ทำละลายมีสถานะเดยี วกัน
3. ตวั ละลายเปน็ แก๊ส ตัวทำละลายเปน็ ของเหลว
4. ตัวละลายเปน็ ของแข็ง ตวั ทำละลายเปน็ ของเหลว
2.หลกั การของการระเหยแห้งคืออะไร
1. ให้ความรอ้ นกับสารละลายจนตวั ละลายระเหยไปจนหมด
2. ใหค้ วามรอ้ นกับสารละลายจนตวั ทำละลายระเหยไปจนหมด
3. ให้ความรอ้ นกับสารละลายเล็กน้อยจนเกิดของแข็งท่ีก้นภาชนะ
4. ใหค้ วามร้อนกับสารละลายแล้วจงึ ทำให้ตัวทำละลายควบแน่นอกี คร้ัง
3. สารที่ตกผลกึ ไดด้ มี ลี กั ษณะใด 2. ผลกึ ที่เกิดมีลกั ษณะเฉพาะตวั
1. ผลึกทีเ่ กดิ มีความบริสทุ ธ์ิ 4. สภาพละลายได้เพิ่มข้นึ เม่ืออุณหภูมลิ ดลง
3. สภาพละลายไดล้ ดลงเมื่ออุณหภมู ลิ ดลง
4. การกลน่ั อย่างงา่ ยต้องคำนงึ ถึงสมบัติใดของสารเป็นหลัก
1. สี 2. จดุ เดอื ด 3. ปรมิ าตร 4. จดุ หลอมเหลว
5. การกลั่นอย่างงา่ ยเหมาะกบั การแยกสารในข้อใด 2. ตอ้ งการนำ้ จืดจากน้ำทะเล
1. ตอ้ งการสีเขยี วจากใบเตย 4. ต้องการนำ้ ตาลจากนำ้ เลี้ยงดอกไม้
3. หาสารสีในน้ำหมกึ
6. การแยกสารโดยโครมาโทกราฟีอาศยั ความแตกต่างของอะไร
1. สขี องสาร 2. จุดเดอื ดของสาร
3. ความเขม้ ขน้ ของสาร 4. การถกู ดดู ซับบนตวั ดดู ซบั
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบเชงิ รุก (Active Learning) | การแยกสาร 1
7. การแยกสารโดยโครมาโทกราฟีควรใช้ตวั ทำละลายท่ีมีสมบัตใิ ด
1. มสี แี ตกต่างกบั สารละลาย 2. ถกู ดูดซบั บนตวั ดูดซับได้ดี
3. แยกออกจากสารทต่ี ้องการไดง้ า่ ย 4. เกิดปฏิกิริยาเคมีได้ดีกับสารทต่ี อ้ งการ
8. การแยกนำ้ มนั หอมระเหยจากพชื ใช้วิธีใด
1. การกลนั่ 2. การสกดั 3. การระเหยแหง้ 4. โครมาโทกราฟี
9. ถ้าตอ้ งการสีจากดอกกระเจยี๊ บไปใชใ้ นการปรุงอาหาร วิธีที่งา่ ยและสะดวกที่สุดท่ีควรใชค้ ือวธิ ใี ด
1. การกรอง 2. การระเหยแห้ง 3. การสกัดดว้ ยน้ำ 4. การสกดั ด้วยไอนำ้
10. วทิ ยาศาสตร์ชว่ ยแกป้ ัญหาการแยกสารในขน้ั ตอนใดมากที่สุด
1. ระบปุ ัญหาที่ต้องการแก้ไข 2. เลือกวธิ ที เ่ี หมาะสมในการแยกสาร
3. ออกแบบช้ินงานทีใ่ ชใ้ นการแยกสาร 4. กำหนดค่าใช้จา่ ยที่ใชใ้ นการแยกสาร
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้แบบเชงิ รุก (Active Learning) | การแยกสาร 2
ใบควำมร้ทู ่ี 1
กำรระเหยแห้ง
สารละลายบางชนิดเกิดจากสารที่เป็นของแข็งละลายอยู่ในเป็นของเหลว จนมีลักษณะเป็นเนื้อ
เดียวกัน เช่น น้ำเกลือเกิดจากโซเดียมคลอไรด์ละลายอยูใ่ นนำ้ เป็นตัน ซึ่งสามารถแยกสารท่ีเป็นของแขง็ ออก
จากของเหลวได้ โดยอาศัยสมบัตกิ ารระเหยกลายเปน็ ไอของสาร
การระเหย (evaporation) หมายถึง การเปลี่ยนสถานะของสารจากของเหลวกลายเป็นไออย่างช้า
ๆ ซึง่ จะเกดิ ข้นึ เฉพาะผิวหน้าของของเหลวเท่าน้ัน โดยการระเหยสามารถเกิดข้ึนได้ทุกอุณหภูมิท่ียังมีของเหลว
อยู่ เชน่ น้ำสามารถระเหยไดท้ อ่ี ุณหภมู ิต้ังแต่ 0-100 องศาเซลเซียส ที่ความดนั 1 บรรยากาศ
การระเหยแห้ง (dry evaporation) เป็นการแยกสารละลายซึ่งประกอบด้วยตัวละลายที่เป็น
ของแข็งในตัวทำละลายที่เป็นของเหลวโดยใช้ความร้อน ซึ่งจะทำให้ของเหลวระเหยอย่างช้า ๆ จนหมด แล้ว
เหลอื แต่ของแข็ง
การระเหยแห้งมหี ลักการ คือ สารท่ีมจี ดุ เดือดต่ำกว่าจะระเหยกลายเป็นไอได้ดีกว่าสารที่มีจุดเดือดสูง
กว่า ดังนั้น สารที่ระเหยออกมาก่อนจึงเป็นของเหลว ส่วนสารที่เหลืออยู่จะเป็นของแข็งเช่น เมื่อให้ความร้อน
แก่สารละลายโดยการต้ม ของเหลวที่มีจุดเดือดต่ำกว่าจะระเหยกลายเป็นไอ ส่วนของแข็งซึ่งมีจุดเดือดสูงกวา่
จะเหลืออยูใ่ นภาชนะ สารท่ีมจี ดุ เดือดตำ่ จะระเหยกลายเปน็ ไอ
สารละลาย ของแข็งท่ีเหลอื อยู่
ใหค้ วามร้อน
ภาพท่ี 1.1 การระเหยแหง้ ของสารละลาย
ชุดกิจกรรมการเรียนร้แู บบเชิงรกุ (Active Learning) | การแยกสาร 3
กิจกรรมท่ี 1
การแยกสารโดยการระเหยแห้ง
จุดประสงค์ของกจิ กรรม
1. อธบิ ายวธิ ีการแยกสารโดยการระเหยแห้งได้
2. แยกสารโดยการระเหยแหง้ ได้
วสั ดุและอุปกรณ์ 10 ลบ.ซม 4. ไมข้ ดี ไฟ 1 กลกั
1. สารละลายโซเดียมคลอไรด์ 1 หลอด 5. ตะเกียงแอลกอฮอล์พร้อม 1 ชดุ
2. หลอดหยด
ทกี่ น้ั ลมและตะแกรงลวด
3. จานหลมุ โลหะ 1 ใบ
วิธีดำเนินกจิ กรรม
1. นำสารละลายโซเดียมคลอไรด์ร้อยละ 5 กรัม/ลกู บาศก์เซนติเมตรทเี่ ตรยี มไว้มาสังเกตลกั ษณะของเน้อื
สารและสมบัตขิ องสาร แล้วบันทกึ ผล
2. ใช้หลอดหยดดูดสารละลายโซเดยี มคลอไรดแ์ ลว้ หยดลงในจานหลมุ โลหะ จากนนั้ นำไประเหยตวั ทำ
ละลายจนแหง้ ดว้ ยอปุ กรณ์ทเี่ ตรียมไว้ สงั เกตการเปลยี่ นแปลงที่เกิดข้นึ พรอ้ มท้งั บันทึกผล
หมายเหตุ : เตรยี มสารละลายโซเดยี มคลอไรด์ร้อยละ 5 กรมั /ลกู บาศก์เซนติเมตรโดยใช้โซเดยี มคลอไรด์ 5
กรัม ละลายในน้ำกล่ันจนได้สารละลาย 100 ลกู บาศก์เซนติเมตร คนจนสารละลายหมดแลว้ กรอง
เอาแต่ส่วนทใ่ี สไว้
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้แบบเชิงรกุ (Active Learning) | การแยกสาร 4
แบบบนั ทึกผลการทำกจิ กรรมที่ 1
ปัญหา ............................................................................................................................. ...........................
1. ผลการทำกิจกรรม
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................. ...................................................................
2. คำถามทา้ ยกิจกรรม
2.1 สารที่ใชใ้ นการทดลองจดั เป็นสารละลายหรอื ไม่ สงั เกตจากอะไร
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.2 ตัวละลายและตัวทำละลายของสารละลายโซเดียมคลอไรดค์ อื อะไร
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.3 การระเหยแหง้ แยกองคป์ ระกอบของสารละลายโซเดียมคลอไรดไ์ ด้อยา่ งไร
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................... .
............................................................................................................................. ...................................
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรูแ้ บบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร 5
3. สรปุ ผลการทำกิจกรรม
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
ชดุ กิจกรรมการเรียนรแู้ บบเชงิ รุก (Active Learning) | การแยกสาร 6
การแยกสารโดยการระเหยแหง้ ถูกใช้ในการผลิตเกลือสมุทร หรือเกลือทะเล เน่อื งจากในนำ้ ทะเลมี
โซเดยี มคลอไรด์ (sodium chloride; NaCl) ซง่ึ เปน็ สารประกอบทางเคมีของเกลือ ละลายอยู่ในรูปของไอออน
ในน้ำทะเล ไดแ้ ก่ โซเดยี มไอออน (Na+) และคลอไรด์ไอออน (Cl-)
การผลิตเกลือสมุทรโดยการแยก ภาพท่ี 1.2 การระเหยแห้งใชใ้ นการผลติ เกลือสมทุ ร
โซเดียมคลอไรด์ออกจากน้ำทะเลทำได้โดยการ
ให้ความร้อนกับน้ำทะเลเป็นเวลานาน เช่น
ความร้อนจากดวงอาทิตย์ เปน็ ต้น ซ่ึงความร้อน
จะทำให้น้ำที่มีจุดเดือดต่ำกว่า (จุดเดือด 100
องศาเซลเซียส) ระเหยกลายเป็นไอออกไปจน
หมด จึงเหลอื เฉพาะโซเดยี มคลอไรด์ท่ีมีจุดเดือด
สูงกว่า (จุดเดือด 1,413 องศาเซลเซียส) อยู่ใน
รูปผลึกของแข็ง ซึ่งเป็นผลึกของเกลือสมุทร
นำ้ ทะเล
ความรอ้ นจากแสงอาทิตย์
สบู นำ้ เขา้ นา เกลือสมทุ ร
นำ้ ระเหยกลายเปน็ ไอ
ภาพท่ี 1.3 กระบวนการผลติ เกลอื สมทุ ร
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) | การแยกสาร 7
แบบฝึ กหดั ที่ 1
คำชแี้ จง จงตอบคำถามต่อไปน้ี
1. การระเหยแหง้ ใช้แยกสารท่ีมีลกั ษณะอยา่ งไร
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................ ................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
..................................................................................................................................... ...................................
2. การแยกสารโดยวิธีการระเหยแห้งมีหลักการอย่างไร
........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................................................................
3. การระเหยแห้งนำมาใชป้ ระโยชนไ์ ดอ้ ย่างไร
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................... ..................
.......................................................................................................................................................................
ชุดกจิ กรรมการเรียนร้แู บบเชงิ รุก (Active Learning) | การแยกสาร 8
ใบควำมร้ทู ี่ 2
กำรตกผลึก
สารละลายอิ่มตัวเกิดจากสารละลายที่ตัวละลายไม่สามารถละลายในตัวทำละลายเพิ่มได้อีก แต่เม่ือ
เปล่ยี นสภาวะ เช่น เพมิ่ อณุ หภูมิ หรือเพิ่มความดนั ทำใหต้ วั ละลายสามารถละลายเพ่มิ ขึ้นได้อย่างไรกต็ าม เมื่อ
สารละลายกลับสู่สภาวะเดมิ จะทำใหต้ ัวละลายเกิดการตกผลกึ อยู่ในตัวทำละลาย
การตกผลึก (crystallization) เป็นการแยกตัวละลายที่เป็นของแข็งออกจากตัวทำละลายที่เป็น
ของเหลวในสภาพของสารละลายอิ่มตัว โดยอาศัยความสามารถในการละลายในตัวทำละลายของสารที่
ตอ้ งการใหต้ กผลึก ซึ่งสารทตี่ ้องการตกผลกึ จะละลายได้น้อยในตวั ทำละลายที่อุณหภูมิปกติ แต่จะละลายได้ดีที่
อุณหภมู ิสูง
การตกผลึกสามารถใช้แยกสารที่มีสิ่งเจือปนให้ ภาพที่ 2.1 การตกผลกึ ของสาร
บริสุทธิ์ได้ โดยนำสารประกอบที่อยู่ในสถานะของแข็งมา
ละลายในตัวทำละลายจนกลายเป็นสารละลายอิ่มตัวท่ี
อุณหภูมิสูง แล้วกรองสารละลายอิ่มตัวในขณะที่ยังร้อน
เพื่อกำจัดสิ่งเจือปนที่ไม่ละลายออกเมื่อสารละลายอิ่มตัว
เย็นลง หรือมีอุณหภูมิลดลง ตัวละลายที่เป็นของแข็งจะ
ตกผลึกแยกออกจากสารละลาย ทำให้สามารถแยกตัว
ละลายออกจากสารละลายอม่ิ ตวั ได้
ภาพที่ 2.2 การทำสารใหบ้ รสิ ทุ ธโิ์ ดยวิธกี ารตกผลกึ
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรูแ้ บบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร 9
กิจกรรมที่ 2
การแยกสารโดยการตกผลึก
จดุ ประสงค์ของกิจกรรม
1. อธบิ ายวิธกี ารแยกสารโดยการตกผลึกได้
2. แยกสารโดยการตกผลกึ ได้
วสั ดแุ ละอุปกรณ์
1. สารส้มปริมาณ 1 กอ้ น 4. ดา้ ย 1 เส้น
2. บีกเกอรข์ นาด 500 ลบ.ซม. 1 ใบ 5. ตะเกียงแอลกอฮอล์พร้อม 1 ชดุ
ท่กี ัน้ ลม
3. แทง่ แกว้ คนสาร 1 อัน 8. ไม้ 1 ชิน้
4. โกรงบดสาร 1 ใบ 9. นำ้ 250 ลบ.ซม.
5. ปากคบี ปลายแหลม 1 อัน
วธิ ดี ำเนนิ กิจกรรม
1. บดสารส้มใหเ้ ปน็ ก้อนขนาดเล็กลงโดยใชโ้ กรง่ บดสาร
2. ใสน่ ้ำปริมาตร 250 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร ลงในบีกเกอร์ขนาด 500 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร แลว้ นำไปต้ม
บนตะเกยี งแอลกอฮอล์
3. ใส่สารส้มที่บดไวล้ งไปในบีกเกอรใ์ นข้อท่ีแลว้ ใช้แท่งแก้วคนใหล้ ะลาย แล้วเพิ่มปริมาณสารส้ม
จนกระทงั่ สารส้มไม่สามารถละลายได้อีก
4. นำบกี เกอร์ลงจากตะเกียงแอลกอฮอล์ ต้ังทิ้งไว้ประมาณ 1-2 วนั จนเกดิ ผนึกขนาดเล็ก
5. ใชป้ ากคีบปลายแหลมคบี ผลกึ ออกมาผกู ด้วยเสน้ ด้าย แล้วหอ้ ยไวใ้ นสารละลายเดิม ทิ้งไวป้ ระมาณ 1
สปั ดาห์ สังเกตผลกึ ที่ได้ แล้วบันทกึ ผล
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) | การแยกสาร 10
แบบบนั ทึกผลการทำกิจกรรมท่ี 2
ปญั หา ............................................................................................................................. ...........................
1. ผลการทำกจิ กรรม
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................. ...................................................................
2. คำถามท้ายกจิ กรรม
2.1 เพราะเหตุใดเมื่อนำสารละลายสารส้มในบีกเกอร์ลงจากตะเกียงแอลกอฮอล์ แลว้ จงึ เกิดการตก
ผลึก
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.2 เพราะเหตุใดจงึ ต้องเส้นด้ายผูกผลกึ สารสม้ ท่มี ีขนาดเล็ก แลว้ นำไปหอ้ ยไวใ้ นสารละลายเดิม
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.3 ผลึกทเี่ กิดจากสารละลายสารสม้ ทท่ี ้ิงไว้ 1 สปั ดาห์ มลี กั ษณะอยา่ งไร
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้แบบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร 11
3. สรปุ ผลการทำกจิ กรรม
.................................................................................................................................. ..............................
..................................................................................................... ...........................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ชดุ กิจกรรมการเรียนรแู้ บบเชงิ รุก (Active Learning) | การแยกสาร 12
ขนาดของผลกึ ท่ีได้หลังการตกผลกึ จะแตกต่างกัน โดยผลกึ ท่เี กดิ จากการตกผลึกอย่างรวดเรว็ จะมี
ขนาดเล็กกว่าผลกึ ท่ีเกดิ จากการตกผลกึ อย่างช้า ๆ อีกทง้ั ลักษณะของผลึกของสารแตล่ ะชนิดกจ็ ะแตกต่างกัน
ดว้ ย เชน่ รูปทรงเรขาคณิต เหลีย่ ม มมุ เปน็ ต้น
ภาพที่ 2.3 ลักษณะผลกึ ของสารต่าง ๆ ทไี่ ดจ้ ากการตกผลึก
การตกผลึกที่เกิดจากการลดอุณหภูมขิ องสารละลายอิ่มตัวถูกนำมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
เช่น การผลิตน้ำตาลซูโครส หรือน้ำตาลทราย โดยการสกัดน้ำอ้อยและแยกสิ่งเจือปนต่าง ๆ ออกแล้วนำมา
เดี่ยวเพื่อแยกน้ำออก ซึ่งจะได้น้ำอ้อยเข้มขันจากนั้นนำมาทำให้เกิดการตกผลึกออกมาเป็นน้ำตาล ทราย เป็น
ตน้
นอกจากนั้น การตกผลึกยังสามารถเกิดจากสาเหตุอืน่ ๆ ไดเ้ ชน่ กัน ดังน้ี
▪ การตกผลึกจากการแช่แขง็ เช่น การเกดิ ผลึกนำ้ แข็งระหวา่ งการแชแ่ ข็งอาหาร เป็นตน้
▪ การตกผลกึ สารละลายจากการระเหยแห้ง เช่น การตกผลึกของเกลือสมุทรทีเ่ กิดจากการ
ระเหยของนำ้ ทะเล ทำใหเ้ กดิ ผลกึ เกลอื สมุทร หรือผลึกโซเดียมคลอไรด์ เป็นต้น
ภาพที่ 2.4 น้ำตาลเกิดจากการตกผลึกของน้ำออ้ ยเข้มข้น
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้แบบเชงิ รุก (Active Learning) | การแยกสาร 13
แบบฝึ กหดั ที่ 2
คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. การตกผลึกใช้แยกสารท่ีมีลักษณะอยา่ งไร
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................ ................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
..................................................................................................................................... ...................................
2. การแยกสารโดยวธิ ีการตกผลกึ มหี ลกั การอยา่ งไร
........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................................................................
3. การตกผลกึ นำมาใชป้ ระโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งไร
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................... ....................
.......................................................................................................................................................................
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นร้แู บบเชิงรุก (Active Learning) | การแยกสาร 14
ใบควำมรทู้ ี่ 3
กำรกลนั ่
สารเน้อื เดยี วเปน็ สารที่มีลกั ษณะของเนื้อสารผสมรวมกันเปน็ เน้ือเดียว โดยสารเนื้อเดียวบางชนิดเป็น
สารละลายที่ประกอบด้วยของแข็งละลายในของเหลว และบางชนิดประกอบด้วยของเหลว 2 ชนิด หรือ
มากกว่า 2 ชนิด ละลายอยู่รวมกัน ซึ่งการแยกสารละลายที่ประกอบด้วยของเหลวผสมกันอยู่สามารถแยกได้
โดยวธิ ีการกลัน่
การกลั่น (distillation) เป็นการแยกสารละลายที่ประกอบด้วยของเหลว 2 ชนิด หรือมากกว่า 2
ชนิด ท่มี จี ดุ เดอื ดแตกต่างกนั ออกจากกนั โดยการใชค้ วามร้อน
การกลั่นมีหลักการ คือ ของเหลวแต่ละชนิดจะระเหยกลายเป็นไอที่อุณหภูมแิ ตกตา่ งกัน ซึ่งของเหลว
ทีม่ จี ุดเดือดต่ำกว่าจะระเหยกลายเปน็ ไอออกมาก่อนแล้วจงึ ทำให้ไอเกดิ การควบแน่นกลบั เป็นของเหลวอีกครั้ง
ส่วนของเหลวที่มีจุดเดือดสูงกว่าจะระเหยออกมาทีหลัง จึงทำให้สามารถแยกสารละลายที่ประกอบด้วย
ของเหลวหลายชนดิ ออกจากกัน หรอื ทำให้ของเหลวมีความบรสิ ุทธิเ์ พม่ิ ขน้ึ ได้ นอกจากน้นั การกล่นั ยังสามารถ
ใช้แยกสารผสมทม่ี ขี องแขง็ ละลายอย่ใู นของเหลว โดยการแยกของเหลวทมี่ จี ุดเดือดตำ่ กวา่ ให้ระเหยกลายเปน็
ไอออกมาก่อน ส่วนของแข็งที่มีจุดเดือดสูงกว่าจะเหลืออยู่ในขวดกลั่น การกลั่นแบ่งออกเป็นหลายประเภท
เช่น การกลั่นแบบธรรมดา การกลั่นแบบไอน้ำ การกลั่นลำดับส่วน เป็นต้น ซึ่งแต่ละประเภทจะมีลักษณะ
แตกต่างกัน
1 การกลน่ั แบบธรรมดา
การกลั่นแบบธรรมดา (simple distillation) ใช้แยกสารละลายที่ประกอบด้วยตัวทำละลายที่เป็น
สารระเหยง่ายและมีจุดเดือดต่ำออกจากตัวละลายที่เป็นสารระเหยยากและมีจดุ เดือดสูง ซึ่งตัวละลายและตวั
ทำละลายควรมีจุดเดือดต่างกันตั้งแต่ 30 องศาเซลเซียสขึ้นไป โดยการกลั่นแบบธรรมดาจะอาศัยการระเหย
และการควบแน่นของตัวทำละลายเพียงคร้งั เดยี ว ทำใหส้ ามารถแยกตัวทำละลายออกจากสารละลายได้
ตัวอย่างเช่น การกลั่นน้ำเกลือ ซึ่งน้ำเป็นตัวทำละลาย มีจุดเดือด 100 องศาเซลเซียส และเกลือเป็น
ตวั ละลายมีจดุ เดือด 1,413 องศาเซลเซยี ส เมือ่ น้ำเกลอื ได้รับความร้อนจะมีแตน่ ้ำบรสิ ทุ ธ์ิท่ีกลายเป็นไอออกมา
และควบแน่นกลับเป็นของเหลวอีกครั้ง ในขณะที่เกลือยังคงอยู่ภายในขวดกลั่น จึงทำให้สามารถแยกน้ำและ
เกลอื ออกจากกนั ได้
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้แบบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร 15
ภาพท่ี 3.1 การแยกนำ้ ออกจากน้ำเหลอื โดยการกลน่ั แบบธรรมดา
2 การกลั่นแบบไอน้ำ
การกลั่นแบบไอน้ำ (steam distillation) ใช้แยกสารที่มีจุดเดือดต่ำ ระเหยง่าย และไม่ละลายน้ำ
ออกจากสารที่ระเหยยาก โดยอาศัยความดันจากไอน้ำเป็นตัวทำให้สารเดือดจนกลายเป็นไอ และถูกกลั่น
ออกมาพร้อมกับไอน้ำแล้วควบแน่นกลับเป็นของเหลวอีกครั้ง
ตัวอย่างเช่น การกลั่นน้ำมันหอมระเหยจากส่วนต่าง ๆ ของพืช เมื่อให้ความร้อนกับน้ำจนระเหย
กลายเป็นไอ ไอจะผ่านไปยังพชื และสกัดน้ำมันหอมระเหยท่ีต้องการออกมา แล้วผ่านไปยังเครื่องควบแน่นและ
กลั่นตัวกลายเป็นของเหลวออกมา ซึ่งของเหลวจะแบ่งเป็น 2 ชั้น โดยชั้นล่างจะเป็นน้ำ ส่วนชั้นบนเป็นน้ำมัน
หอมระเหย
ทางนำ้ ออก
น้ำ สารประกอบ
ทีจ่ ะกลนั่
ทางนำ้ เข้า
น้ำ
นำ้ มันหอมระเหย
ภาพที่ 3.2 การแยกนำ้ มนั หอมระเหยจากส่วนต่าง ๆ ของพชื โดยการกลั่นแบบไอนำ้
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้แบบเชงิ รุก (Active Learning) | การแยกสาร 16
3 การกลั่นลำดับส่วน
การกลั่นลำดับส่วน (fraction distillation) ใช้แยกสารละลายที่ประกอบด้วยสารที่มีจุดเดือด
ใกล้เคียงกนั หรือ ใช้แยกสารละลายท่ีมีตวั ทำละลายและตัวละลายเป็นสารที่ระเหยง่ายทั้งคู่ ซึ่งถ้าทำการกลัน่
แบบธรรมดาจะได้สารที่ไม่บรสิ ุทธิ์
ตัวอย่างเช่น การแยกเอทิลแอลกอฮอล์ออกจากน้ำ ซึ่งเป็นสารที่มีจุดเดือดใกล้เคียงกัน โดยน้ำมีจุด
เดอื ด 100 องศาเซลเซียส ส่วนเอทิลแอลกอฮอล์มีจดุ เดือด 78 องศาเซลเซียส จึงตอ้ งผ่านการกล่ันซ้ำหลาย ๆ
คร้ัง ในหอกลนั่ เพ่อื ใหส้ ามารถแยกเอทิลแอลกอฮอลท์ บ่ี ริสทุ ธ์ิออกมาได้
ภาพท่ี 3.3 การแยกเอทิลแอลกอฮอล์ออกจากนำ้ โดยใช้การกลั่นลำดับสว่ น
การกลนั่ ลำดบั ส่วนนำมาใช้กลั่นนำ้ มันดบิ เพ่อื แยกน้ำมันออกเป็นชนดิ ตา่ ง ๆ ซง่ึ เมอื่ ผ่านน้ำมนั ดิบเข้าสู่
หอกลั่นนำ้ มันจะระเหยกลายเป็นไอ โดยไอของสารท่ีมีจุดเดือดต่ำจะควบแน่นและกล่ันตัวออกมาก่อน ส่วนไอ
ของสารท่มี จี ุดเดอื ดสงู กวา่ จะควบแน่นและกล่ันตวั ออกมาทีหลงั
ภาพที่ 3.4 การกลน่ั นำ้ มันดบิ โดยใช้การกล่นั ลำดับส่วน
ชุดกิจกรรมการเรียนรแู้ บบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร 17
น้ำมันดิบเป็นสารผสมที่มีสารองค์ประกอบหลายชนิดซึ่งมีจุดเดือดของสารใกล้เคียงกัน การแยก
ในทาง อุตสาหกรรมปิโตรเคมีจะใช้การกลั่นลำดับส่วนโดยใช้หอกลั่นลำดับส่วนที่มีความสูงหลายสิบเมตร
น้ำมันดิบที่ ขุดเจาะขึ้นมานั้นจะถูกส่งเข้าเตาเผาที่มีการให้ความร้อนประมาณ 450 - 500 ํC ซึ่งจะทำให้สาร
องค์ประกอบ ตา่ ง ๆ กลายเปน็ ไอแลว้ สง่ ผ่านเขา้ ไปในหอกลน่ั ลำดบั ส่วน สารใดท่ีมีจดุ เดือดต่ำกวา่ จะกลายเป็น
ไอและควบแน่น ออกทางด้านบนของหอกลั่น ส่วนสารที่มีจุดเดือดสูงกว่าจะควบแน่นแยกออกที่ชั้นถัดลงไป
เรื่อย ๆ ตามความสงู ของหอกล่นั แตล่ ะในช่วงอณุ หภูมิ
ตารางที่ 1.1 ผลติ ภัณฑ์ทไี่ ด้จากการกลนั่ น้ำมนั ดิบและการใชป้ ระโยชน์
ผลิตภัณฑ์ท่ีได้ จุดเดอื ด ( ํC) สถานะ การใช้ประโยชน์
แก๊สปโิ ตรเลียม < 30 แก๊ส เช้ือเพลงิ แก๊สหงุ ตม้
แนฟทาเบา 30-110 ของเหลว ตัวทำละลาย
ในอตุ สาหกรรม
แนฟทาหนัก 65-170 ของเหลว นำ้ มนั เบนซนิ
นำ้ มันก๊าด 170-250 ของเหลว น้ำมนั เครื่องบินไอพน่
นำ้ มนั จดุ ตะเกียง
น้ำมันดีเซล 250-340 ของเหลว น้ำมนั ดเี ซล
นำ้ มันหล่อล่ืน > 350 ของเหลวขน้ นำ้ มนั หล่อลืน่
นำ้ มันเครื่อง
น้ำมนั เตา > 500 ของเหลวหนดื เชือ้ เพลงิ เครื่องจักร
เชือ้ เพลงิ เรือเดนิ สมุทร
ไข > 500 กึ่งเหลวก่งึ แข็ง ทำเทียนไข เคร่ืองสำอาง
ยาขดั มนั
บทิ เู มน > 500 กง่ึ เหลวกึง่ แข็ง ยางมะตอยราดถนน
ชุดกิจกรรมการเรยี นร้แู บบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร 18
กิจกรรมที่ 3
การแยกสารโดยการกลั่นอย่างงา่ ย
จดุ ประสงค์ของกิจกรรม
1. อธิบายวธิ กี ารแยกสารโดยการกลน่ั อย่างงา่ ยได้
2. แยกสารโดยการกลัน่ อยา่ งงา่ ยได้
วัสดแุ ละอุปกรณ์
1. สารละลายโซเดยี มคลอไรด์ 10 ลบ.ซม 8. นำ้ เยน็ 1 แกว้
1 กลกั
2. หลอดทดลองขนาดใหญ่ 1 หลอด 9. ไม้ขดี ไฟ 1 ชุด
3. หลอดทดลองขนาดกลาง 1 หลอด 10. ตะเกียงแอลกอฮอล์พรอ้ มที่ 1 ชุด
1 อนั
ก้ันลม 1 ผืน
4. จุกยาง 1 อัน 11. ขาต้ังพร้อมทจ่ี บั
5. หลอดนำแกส๊ 1 หลอด 12. เทอรม์ อมิเตอร์
6. สายยางขนาดเลก็ 1 เสน้ 13. ผา้
7. บีกเกอร์ขนาด 250 ลบ.ซม. 1 ใบ
วธิ ดี ำเนินกิจกรรม การจัดอปุ กรณ์การกลั่นอยา่ งง่าย
1. ใสส่ ารละลายโซเดียมคลอไรด์ทมี่ คี วามเขม้ ข้นร้อย
ละ 5 กรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร จำนวน 10
ลกู บาศกเ์ ซนติเมตรลงในหลอดทดลองขนาดใหญ่
ปิดด้วยจกุ ยางท่เี สียบเทอร์มอมิเตอร์และหลอด
นำแกส๊ ทตี่ ่อสายยางขนาดเลก็ ไปยงั หลอดทดลอง
ขนาดกลางที่แช่ในน้ำเย็น ดงั รปู
2. ต้มสารละลายในหลอดทดลองขนาดใหญ่จนเกือบแห้ง
สังเกตการเปลย่ี นแปลงและบนั ทกึ ผล
หมายเหตุ : เตรยี มสารละลายโซเดียมคลอไรดร์ อ้ ยละ 5 กรัม/ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร โดยใชโ้ ซเดยี มคลอไรด์ 5
กรัม ละลายในนำ้ กลนั่ จนได้สารละลาย 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร แล้วกรองเอาแต่สว่ นท่ีใสไว้
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้แบบเชงิ รุก (Active Learning) | การแยกสาร 19
แบบบนั ทกึ ผลการทำกจิ กรรมท่ี 3
ปัญหา ............................................................................................................................. ...........................
1. ผลการทำกิจกรรม
........................................................................................ ........................................................................
............................................................................................................................. ...................................
..................................................................................................................................................... ...........
....................................................................................................................... .........................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
...................................................................................... ..........................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2. คำถามทา้ ยกิจกรรม
2.1 เม่อื ให้ความร้อนกับสารละลายโซเดยี มคลอไรด์เกดิ การเปลีย่ นแปลงลกั ษณะใด
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.2 การกลัน่ อย่างงา่ ยมีการเปลยี่ นสถานะของสารละลายลกั ษณะใด
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.3 ปจั จัยท่ีมีผลต่อการกล่นั อยา่ งง่ายคืออะไร
............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................................ ........
.......................................................................................................................... ......................................
2.4 การกลัน่ อย่างงา่ ยแยกองคป์ ระกอบของสารละลายโซเดยี มคลอไรด์ไดอ้ ย่างไร
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................. ..............................................................................
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรกุ (Active Learning) | การแยกสาร 20
3. สรุปผลการทำกจิ กรรม
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ชุดกิจกรรมการเรียนรแู้ บบเชงิ รุก (Active Learning) | การแยกสาร 21
แบบฝึ กหดั ท่ี 3
คำชีแ้ จง จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. การแยกสารโดยวธิ กี ารกล่ันมีหลกั การอย่างไร
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................ ................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
..................................................................................................................................... ...................................
2. การกล่ันแบบธรรมดามลี ักษณะแตกต่างจากการกลัน่ ลำดบั สว่ นอยา่ งไร
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................................................ ............
....................................................................................................................... .................................................
............................................................................................................................. ...........................................
3. การกลน่ั นำมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้อยา่ งไร
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................... ...................................
4. หากต้องการแยกสารที่ไม่ละลายนำ้ ออกจากพชื ควรเลอื กใช้การกลั่นประเภทใด และสารท่ีไดจ้ ากการกลน่ั
จะมีลักษณะอย่างไร
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
ชุดกิจกรรมการเรียนรแู้ บบเชิงรกุ (Active Learning) | การแยกสาร 22
ใบควำมรทู้ ี่ 4
โครมำโทกรำฟี แบบกระดำษ
ของเหลวใสบางชนิดอาจประกอบด้วยสารมากกว่า 1 ชนิด ที่ละลายอยู่จนเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่ง
สามารถแยกสารต่าง ๆ ออกจากกันได้ โดยการระเหยแห้ง การตกผลึก หรือการกลั่น แต่หากของเหลวใสมี
ปริมาณนอ้ ยมากจะไม่สามารถแยกโดยวธิ ีเหล่านน้ั ได้
โครมาโทกราแบบกระดาษ (paper chromatography) เป็นการแยกสารละลายที่ประกอบด้วย
สารมากกวา่ 1 ชนดิ ออกจากกนั โดยอาศยั ความสามารถในการละลายของสารในตัวทำละลาย และการถูกดูด
ซับบนตัวดูดซับที่แตกต่างกัน เนื่องจากสารแต่ละชนิดมีความสามารถในการละลายและเคลื่อนที่บนตวั ดูดซับ
ไดแ้ ตกตา่ งกัน
โครมโทกราฟีแบบกระดาษประกอบดว้ ย
สว่ นประกอบสำคัญ 2 ส่วน ดังน้ี
- ตัวทำละลาย ทำหน้าที่ละลายและพา ภาพท่ี 4.1 การแยกสาร โดยวิธโี ครมาโทกราฟีแบบกระดาษ
สารใหเ้ คลอื่ นท่ี โดยสารทีล่ ะลายในตัวทำละลายได้
ดีกว่าจะเคลื่อนที่แยกออกมาก่อน ส่วนสารท่ี
ละลายในตัวทำละลายได้น้อยกว่าจะแยกตัว
ออกมาทีหลัง ตัวทำละลาย ที่นิยมใช้มักเป็น
ของเหลวใส เช่น น้ำ แอลกอฮอล์ เฮกเซน อีเทอร์
สารละลายโซเดียมคลอไรด์ เป็นต้น
- ตวั ดูดซับ ทำหนา้ ท่ีดดู ซบั สารและเป็นตัวกลางให้สารเคล่อื นท่ีผา่ น โดยสารทีถ่ กู ดูดซบั ด้วยตวั ดูดซับ
ไดด้ ีจะเคลอื่ นท่ชี า้ สว่ นสารที่ถูกดูดซบั ดว้ ยตัวดดู ซับได้ไม่ดจี ะเคล่ือนท่ไี ด้เรว็ ตวั ดดู ซับท่นี ิยมใช้ เชน่ กระดาษ
โครมาโทกรา กระดาษกรอง เป็นต้น
การแยกสารโดยวิธนี ี้ทำได้โดยการหยดสารละลายตัวอยา่ งลงบนตวั ดดู ซับ แล้วนำไปวางลงในภาชนะ
ที่บรรจุตัวทำละลายอยู่ โดยให้ระดับของตัวทำละลายต่ำกว่าระดับของสารละลายตัวอย่างที่หยดลงบนตัวดูด
ซับ จากนั้นตัวทำละลายจะเคลื่อนที่ผ่านตัวดูดซับอย่างช้า ๆ ซึ่งจะพาสารที่เป็นองค์ประกอบของสารละลาย
ตัวอย่างเคล่ือนที่ไปด้วย ซึ่งหากในสารละลายตัวอยา่ งมีสารองค์ประกอบมากกว่า 1 ชนิด จะสังเกตเห็นแถบสี
ตา่ ง ๆ กระจายตวั แยกออกมาตามระยะทางท่ตี วั ทำละลายเคลือ่ นทผ่ี ่าน
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร 23
ภาพท่ี 4.2 การแยกสารสีในพืช โดยวิธกี ารโครมาโทรกราฟีแบบกระดาษ
ระยะทางท่ีสารแตล่ ะชนดิ เคล่ือนท่ีจะแตกต่างกนั ซงึ่ สามารถนำระยะทางท่สี ารเคล่ือนท่ีมาคำนวณหา
อัตราการเคลื่อนที่ของสาร (retention factor ; Rf) ซึ่งเป็นเฉพาะตัวของสารแต่ละชนิด โดยขึ้นอยู่กับ
ความสามารถในการละลายของสารในตัวทำละลาย และการถูกดูดซับด้วยตัวดูดซับของสารนั้น ๆ โดยมีสูตร
ดังน้ี
Rf = ระยะทางที่สารเคลือ่ นท่ี (ซม.)
ระยะทางทต่ี วั ทำละลายเคล่ือนท่ี (ซม.)
สารต่างชนดิ กันจะมีอตั ราการเคลื่อนทีข่ องสารแตกตา่ งกัน โดยสารทีม่ ีความสามารถในการละลายสงู
และถกู ดดู ซับจากตวั ดดู ซับนอ้ ย จะมีคา่ อัตราการเคลอื่ นที่ของสารสูง
ตวั อย่างท่ี 4.1 การแยกสารสีในพืชชนิดหนึ่งโดยใช้วิธีโครมาโทกราฟีแบบกระดาษ พบว่า
ประกอบด้วยสารสี 4 ชนิด คือ คลอโรฟิลล์เอ คลอโรฟิลลบ์ ี แคโรทีนอยด์ และแซน
โทฟิลล์ จงคำนวณหาอัตราการเคลื่อนที่ของสารสีทั้ง 4 ในเอทิลแอลกอฮอล์ พร้อม
เรยี งลำดับความสามารถในการละลายจากสูงไปตำ่
ชุดกจิ กรรมการเรียนร้แู บบเชิงรุก (Active Learning) | การแยกสาร 24
วธิ ีทำ จากสูตร Rf = ระยะทางที่สารเคลอ่ื นท่ี (ซม.)
คลอโรฟิลลเ์ อ ระยะทางทต่ี ัวทำละลายเคล่ือนที่ (ซม.)
คลอโรฟลิ ล์บี = 2.4 = 0.25
แคโรทนี อยด์ 9.5
แซนโทฟิลล์ = 1.5 = 0.16
9.5
= 8.2 = 0.86
9.5
= 3.8 = 0.40
9.5
ดงั นั้น แคโรทีนอยด์มีความสามารถในการละลายในเอทิลแอลกอฮอล์สูงที่สุด มีอัตราการเคลื่อนที่เท่ากับ
0.86 รองลงมา คือ แซนโทฟิลล์ คลอโรฟิลล์เอ และคลอโรฟิลล์บี อัตราการเคลื่อนที่เท่ากับ 0.40 0.25 และ
0.16 ตามลำดบั
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบเชงิ รุก (Active Learning) | การแยกสาร 25
กิจกรรมท่ี 4
การแยกสารโดยโครมาโทกราฟี
จดุ ประสงค์ของกิจกรรม
1. อธบิ ายการแยกสารโดยโครมาโทกราฟีได้
2. แยกองค์ประกอบของสีทส่ี กัดไดจ้ ากสว่ นต่าง ๆ ของพชื โดยโครมาโทกราฟีได้
วัสดแุ ละอุปกรณ์
1. สารละลายโซเดียมคลอไรด์ 10 ลบ.ซม. 7. บีกเกอรข์ นาด 50 ลบ.ซม. 3 ใบ
เขม้ ข้น 1% หรอื กลอ่ งพลาสติกเบอร์ 2 3 หลอด
1 มว้ น
2. เอทานอล 10 ลบ.ซม. 8. หลอดรูเล็กปลายตบี 1 เล่ม
3 แผ่น
3. นำ้ กล่นั 10 ลบ.ซม. 9. เทปใส
4. ไมบ้ รรทดั 1 เลม่ 10. กรรไกร
5. กระดาษกรอง (หรือกระดาษ 1 กลอ่ ง 11. กระดาษแขง็ ขนาด 5 5
โครมาโทกราฟี) ซม.
6. สที ่สี กัดไดจ้ ากกิจกรรมสงั เกต 5 ลบ.ซม.
การสกดั ดว้ ยตัวทำละลาย
(หรอื นำ้ หมึกหรือนำ้ สผี สม
อาหาร) ชนิดละ 5 ลบ.ซม.
วิธดี ำเนินกิจกรรม
1. ตดั กระดาษกรองให้ได้ขนาด 2 6 เซนติเมตร จำนวน 3 แผน่ จากนนั้ ใช้หลอดรูเลก็ (capillary tube)
ปลายตีบจุ่มสีท่ีสกัดได้จากพืช 1 ชนิดในกิจกรรมสังเกตการสกดั ด้วยตัวทำละลาย มาแตะท่ีกระดาษแต่ละ
แผ่นตรงก่งึ กลาง และหา่ งจากปลายกระดาษดา้ นหน่ึงประมาณ 1 เซนตเิ มตร รอจนแหง้ แลว้ จ่มุ สีทจ่ี ะ
ทดสอบมาแตะซ้ำ ทำซำ้ จนได้จุดสีท่เี ขม้ ขึน้
2. นำกระดาษกรองตดิ เข้ากบั กระดาษแข็งด้วยเทปใส ดังรปู (ก) โดยเมือ่ คว่ำกระดาษแขง็ ลงแล้วบรเิ วณท่ีเป็น
จุดของเหลวบนกระดาษกรองจะอยทู่ ี่ดา้ นล่าง
3. เติมน้ำกลั่น เอทานอล และสารละลายโซเดียมคลอไรด์ลงในบีกเกอร์ขนาด 50 ลูกบาศก์เซนติเมตรหรือ
กล่องพลาสติกเบอร์ 2 ชนิดละใบ โดยให้มีระดับความสูงของของเหลวประมาณ 0.5 เซนติเมตร (ไม่ให้
ท่วมจุดของสารท่ีต้องการแยก) จากนั้นวางกระดาษแข็งลงบนปากบีกเกอร์แต่ละใบ จดั ระยะของกระดาษ
กรองใหป้ ลายของกระดาษกรองอย่ใู นของเหลวแต่ไมใ่ ห้แตะกบั ก้นบีกเกอร์ ดังรูป (ข)
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้แบบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร 26
4. ตั้งชุดการทดลองทิ้งไว้จนกระทั่งของเหลวแพร่ขึ้นมาเกอื บถึงปลายด้านบน จึงยกกระดาษกรองออกมาผึ่ง
ให้แห้ง สังเกตการณ์เปลย่ี นแปลงและบนั ทกึ ผล
5. ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 1–4 แต่ใช้สารที่สกัดได้จากกิจกรรมสังเกตการสกัดด้วยตัวทำละลาย อีก 2
ชนดิ
2 ซม. จดุ สี
1 ซม. จดุ สี น้ำกลั่น
กระดาษกรอง (ข) การวางกระดาษแขง็ ลงบนปากบีกเกอร์
0.7 ซม.
กระดาษแขง็
(ก) การตดิ กระดาษกรองกับกระดาษแข็ง
การแยกสารโดยโครมาโทกราฟกี ระดาษ
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้แบบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร 27
แบบบนั ทกึ ผลการทำกจิ กรรมท่ี 4
ปญั หา ............................................................................................................................. ...........................
1. ผลการทำกจิ กรรม
........................................................................................ ........................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................................... .....
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
....................................................................................... .........................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2. คำถามทา้ ยกิจกรรม
2.1 สที ่ีสกดั ไดจ้ ากพชื ทน่ี ำมาทดสอบประกอบดว้ ยสารเพียงชนิดเดยี วหรอื ไม่ สงั เกตจากอะไร
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. ...................................
2.2 ตัวทำละลายมีผลต่อการแยกสารดว้ ยวธิ ีโครมาโทกราฟีหรือไม่ สังเกตจากอะไร
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ชุดกจิ กรรมการเรียนร้แู บบเชิงรกุ (Active Learning) | การแยกสาร 28
2.3 ถา้ องคป์ ระกอบในสารเน้อื เดียวเคลือ่ นท่ีบนตวั ดดู ซบั ดว้ ยอัตราเร็วใกลเ้ คียงกันมาก นักเรียนจะ
แกป้ ญั หาด้วยวิธกี ารใด
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
3. สรปุ ผลการทำกจิ กรรม
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ชุดกิจกรรมการเรียนรแู้ บบเชงิ รุก (Active Learning) | การแยกสาร 29
แบบฝึ กหดั ท่ี 4
คำช้แี จง จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. การแยกสารโดยวิธกี ารโครมาโทกราฟีแบบกระดาษมีหลกั การอย่างไร
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................ ................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
..................................................................................................................................... ...................................
2. ตัวทำละลายและตวั ดดู ซับมหี นา้ ทีอ่ ย่างไร
........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................................................................
3. หากตัวทำละลายเคลอ่ื นทบ่ี นตวั ดดู ซับเป็นระยะทาง 7.5 เซนติเมตร และสามารถพาสาร A และสาร B
เคล่อื นที่ไปบนตวั ดดู ซับเป็นระยะทาง 2.8 และ 5.7 เซนติเมตร ตามลำดบั จงหาอตั ราการเคล่อื นที่ (Rf)
ของสาร A และ B
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................... ..................................
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................. ...........................
.......................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................... ...................
........................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................. ...........
........................................................................................................................................................................
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบเชงิ รุก (Active Learning) | การแยกสาร 30
ใบควำมร้ทู ี่ 5
กำรสกดั ดว้ ยตวั ทำละลำย
สารแต่ละชนิดจะละลายในตัวทำละลายได้แตกต่างกัน ซึ่งสารบางชนิดอาจละลายได้ในตัวทำละลาย
เพียงชนดิ เดยี ว แตส่ ารบางชนิดจะละลายไดใ้ นตวั ทำละลายหลายชนิด ซ่ึงสมบัตกิ ารละลายในตวั ทำละลายของ
สารถูกนำมาใชแ้ ยกสารโดยการสกัดด้วยตวั ทำละลาย
สกัดด้วยตัวทำละลาย (solvent extraction) เป็นวิธีการแยกสารออกจากสารผสม ทั้งสารที่เป็น
ของเหลวปนกับของเหลว หรือของแข็งปนกับของแข็ง โดยอาศัยสมบัติการละลายของสารในตัวทำละลาย ซึ่ง
สารแต่ละชนิดจะสามารถละลายในตวั ทำละลายแต่ละชนิดไดแ้ ตกต่างกัน และละลายไดใ้ นปริมาณทต่ี ่างกนั
การสกัดด้วยตัวทำละลายมีหลักการ คือ เลือกตัวทำละลายที่เหมาะสมในการสกัดสารที่ตอ้ งการแยก
ออกมาให้ได้ปรมิ าณมากทสี่ ดุ ซงึ่ ตวั ทำละลายที่เหมาะสมในการสกัดควรมีลักษณะ ดังน้ี
▪ ตอ้ งละลายสารที่ตอ้ งการแยก
▪ ไม่ละลายสารอื่นที่ไม่ต้องการ หรือ
ละลาย
ได้น้อยมาก
▪ ไมท่ ำปฏิกริ ิยากบั สารที่ตอ้ งการแยก
▪ มจี ดุ เดอื ดตำ่ และระเหยง่าย
▪ ไม่มีความเปน็ พษิ ภาพท่ี 5.1 สารจากชาถกู สกดั ออกมาละลายอยู่ในน้ำ
▪ แยกออกจากสารละลายได้ง่าย
▪ สามารถทำให้บริสทุ ธเิ์ พ่ือนำกลบั ไปใช้ใหม่ได้
▪ มรี าคาถูก
ตัวทำละลายที่นิยมใช้ในการสกัดสารมีหลายชนิด เช่น น้ำ เบนซีน เอทิลแอลกอฮอล์ อีเทอร์ โทลูอีน
เฮกเซน เป็นต้น
การสกัดสารด้วยตวั ทำละลายทำไดโ้ ดยใส่ทำละลายทีเ่ หมาะสมลงในวตั ถุดิบที่ต้องการสกัด เช่น ส่วน
ต่าง ๆ ของพืช แล้วเขยา่ แรง ๆ หรือนำไปต้ม เพื่อให้สารท่ีต้องการสกัดละลายออกมา ซึ่งจะละลายอยู่รวมกับ
ตวั ทำละลาย แล้วจึงนำสารสกัดไปแยกออกจากตัวทำละลายโดยการกลั่น
การสกัดด้วยตัวทำละลายอาจสกัดด้วยเครื่องมือ ที่เรียกว่า ซอกห์เลต (soxhlet) ซึ่งเป็นเครื่องมือ
สกัดที่ใช้ตัวทำละลายปริมาณน้อย เนื่องจากตัวทำละลายจะหมุนเวียนผ่านสารที่ต้องการสกัดหลาย ๆ คร้ัง
ต่อเนอ่ื งกนั จนกระทัง่ สกดั สารออกมาได้ในปริมาณทเี่ พยี งพอ
ชุดกิจกรรมการเรียนรแู้ บบเชิงรุก (Active Learning) | การแยกสาร 31
การสกัดสารด้วยตัวทำละลายโดยใช้ซอกหเ์ ลตจะใส่ตวั ทำละลายไว้ในขวดกันกลมด้านลา่ ง และมีการ
ให้ความร้อนกับตัวทำละลาย ซึ่งตัวทำละลายจะแทรกเข้าไปสกัดสารที่ต้องการแยกออกมา และไหลกลับมา
รวมดา้ นลา่ งกบั ตัวทำละลาย จากนน้ั จงึ นำสารสกัดไปแยกสารทีต่ ้องการออกจากตวั ทำละลายโดยการกลนั่
ภาพที่ 5.2 การสกัดสารจากดอกอัญชนั ดว้ ยตัวทำละลาย
การสกัดด้วยตัวทำตัวละลายยังสามารถใช้สกัดสี น้ำมันหอมระเหย และยาสมุนไพรจากพืชบางชนิด
โดยตวั ทำละลายต่าง ๆ ดงั ตารางท่ี 1.2
ตารางที่ 1.2 ตัวทำละลายท่ใี ชส้ กดั สารจากพชื ในทอ้ งถ่นิ
ตวั ทำละลาย ชนดิ ของพชื
น้ำท่อี ุณหภูมหิ ้อง ใบเตย ดอกมะลิ ตะไคร้หอม ดอกกระเจ๊ยี บ กระชายดำ ข่า ขิง แกน่ ขนุน ใบหู
กวาง ใบสะระแหน่ ไพล พรกิ
นำ้ เยน็ สีจากฺใบเตย สจี ากดฺ อกอัญชัน กล่นิ จากดอกมะลิ
นำ้ รอ้ น สจี ากดฺ อกกระเจย๊ี บ สจี ากแก่นขนุน สจี ากใบหกู วาง กลน่ิ จากตระไคร้หอม
เอทลิ แอลกอฮอล์ ยาดองเหล้าสมนุ ไพร ไวน์กระชายดำ
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร 32
กิจกรรมที่ 5
การสกดั ด้วยตัวทำละลาย
จุดประสงค์ของกจิ กรรม
1. อธบิ ายการแยกสารโดยการสกดั ด้วยตวั ทำละลายได้
แยกสารองค์ประกอบท่ีอยู่ในสว่ นตา่ ง ๆ ของพืชด้วย
2. แยกองคป์ ระกอบที่อยู่ในสว่ นต่าง ๆ ของพชื ด้วยวธิ ีการสกัดดว้ ยตัวทำละลายได้
วัสดแุ ละอุปกรณ์
1. ขม้ินและพืชในท้องถ่นิ 2 10 กรมั 6. ขวดรปู กรวยขนาด 100 ลบ.ซม 6 ชดุ
ชนิด ชนิดละ พรอ้ มจุกยาง (หรือหลอด 2 อนั
1 กลอ่ ง
ทดลองขนาดใหญ่พร้อมจุกยาง) 1 อัน
1 เครอื่ ง
2. เอทานอล 15 ลบ.ซม. 7. กรวยแก้วหรือกรวยพลาสติก
3. น้ำกลั่น 15 ลบ.ซม. 8. กระดาษกรอง
4. มีดและเขียง 1 ชดุ 9. กระบอกตวงขนาด 10 ลบ.ซม.
5. บกี เกอร์ขนาด 50 ลบ.ซม. 6 ใบ 10. เครือ่ งชั่งสาร
วธิ ดี ำเนนิ กิจกรรม
1. หั่นขมิ้นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในขวดรูปกรวยขนาด 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร 2 ใบ ใบละประมาณ 5
กรัม จากนั้นเติมน้ำกลั่น 5 ลูกบาศก์เซนติเมตรลงในขวดใบที่ 1 และเติมเอทานอล 5 ลูกบาศก์
เซนติเมตรลงในขวดใบที่ 2 ปิดขวดด้วยจุกยางให้แน่นแล้วเขย่าแรงๆ ประมาณ 5 นาที สังเกตและ
บนั ทึกผลทไ่ี ด้
2. เลือกพืชในท้องถิ่นที่มีกลิ่นหอมหรือมีสีสวยงามมา 2 ชนิด แล้วศึกษาข้อมูลและวางแผน ออกแบบ
วธิ ีการสกัดนำ้ มันหอมระเหยหรือสอี อกจากสว่ นตา่ ง ๆ ของพืช
3. ลงมือปฏิบัติตามวิธีการท่เี ลอื ก สังเกต บนั ทกึ และนำเสนอผลการทำกิจกรรมในรปู แบบทีน่ า่ สนใจ
หมายเหตุ สีทส่ี กัดได้ให้เกบ็ ไวใ้ ชใ้ นกิจกรรมสังเกตการแยกสารโดยโครมาโทกราฟี
ชุดกิจกรรมการเรียนรูแ้ บบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร 33
ขมน้ิ + นำ้ กลั่น ขม้นิ + เอทานอล
ขวดใบที่ 1 ขวดใบที่ 2
การศึกษาเรอื่ งการสกัดสารด้วยตัวทำละลายชนดิ ตา่ ง ๆ
ชดุ กิจกรรมการเรียนร้แู บบเชิงรุก (Active Learning) | การแยกสาร 34
แบบบันทึกผลการทำกจิ กรรมท่ี 5
ปญั หา ............................................................................................................................. ...........................
1. ผลการทำกจิ กรรม
........................................................................................ ........................................................................
............................................................................................................................. ...................................
..................................................................................................................................................... ...........
....................................................................................................................... .........................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
2. คำถามท้ายกิจกรรม
2.1 สง่ิ ท่ีสกดั ได้จากขมนิ้ และพืชในท้องถนิ่ คืออะไร
........................................................................................ ........................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................................................................................... ............
2.2 ตวั ทำละลายตา่ งชนดิ กันสามารถสกัดสารจากพืชไดเ้ หมอื นกนั หรือไม่ อย่างไร
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.3 ขนาดของขมน้ิ และพืชในท้องถิน่ มีผลต่อการสกดั ดว้ ยตัวทำละลายหรอื ไม่ อยา่ งไร
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
2.4 ยกตวั อย่างการนำสารสกดั ที่ไดไ้ ปใช้ประโยชน์
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร 35
3. สรุปผลการทำกจิ กรรม
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ชุดกิจกรรมการเรียนรแู้ บบเชงิ รุก (Active Learning) | การแยกสาร 36
แบบตรวจสอบควำมเขำ้ ใจที่ 5
คำช้แี จง จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. การสกัดด้วยตวั ทำละลายมีอย่างไร
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................ ................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
..................................................................................................................................... ...................................
............................................................................................... .........................................................................
2. ตวั ทำละลายทนี่ ำมาใชส้ กัดควรมีลักษณะอยา่ งไร
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
3. การสกดั ด้วยตัวทำละลายนำมาใชป้ ระโยชน์ได้อยา่ งไร
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................ ................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
..................................................................................................................................... ...................................
................................................................................................ ........................................................................
ชดุ กิจกรรมการเรียนรูแ้ บบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร 37
แบบทดสอบหลงั เรียน กำรแยกสำร
ชือ่ .................................................................................................................... ชนั้ .................................... เลขท่ี ..................................
คำช้ีแจง 1. แบบทดสอบปรนัย 4 ตัวเลอื ก มีทั้งหมด 10 ข้อ 10 คะแนน
2. ในแต่ละข้อ ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพยี งคำตอบเดยี ว
แลว้ ทำเคร่อื งหมาย ลงในกระดาษคำตอบ
1. การระเหยแห้งเหมาะกบั การแยกสารในขอ้ ใด 2. ตอ้ งการเกลอื จากนำ้ ทะเล
1. ต้องการกลนิ่ จากขมิ้น 4. ต้องการนำ้ มันหอมระเหยจากมะกรูด
3. ตอ้ งการน้ำบรสิ ทุ ธจ์ิ ากนำ้ คลอง
2. การระเหยแห้งต้องใชค้ วามรอ้ นเพราะอะไร
1. ทำใหต้ ัวทำละลายระเหยไปจนหมด
2. ให้ตัวละลายเป็นของแข็งบริสุทธิ์
3. ทำให้ตัวทำละลายเกดิ ปฏิกิริยาเคมีกบั ตัวละลาย
4. ทำให้ตัวละลายกลายเป็นไอแล้วทำให้ควบแน่นอีกครงั้
3. การแยกสารด้วยวธิ กี ารตกผลึกต้องใส่ของแข็งลงในตัวทำละลายอย่างไร
1. ใสป่ รมิ าณพอดี 2. ใส่ปรมิ าณมาก ๆ
3. ใสจ่ นถงึ จุดอิ่มตวั 4. ใสจ่ นถงึ จดุ อ่ิมตัวที่อุณหภูมิสงู
4. “ฟิลม์ แยกน้ำออกจากสารละลายด่างทับทิมดว้ ยการกลัน่ ” นกั เรยี นเหน็ ดว้ ยกบั วิธขี องฟิล์มหรอื ไม่
เพราะอะไร
1. เหน็ ด้วย เพราะนำ้ และด่างทับทมิ มสี แี ตกตา่ งกัน
2. เหน็ ดว้ ย เพราะนำ้ มจี ุดเดือดแตกตา่ งจากดา่ งทับทิมมาก
3. ไม่เห็นด้วย เพราะสารละลายดา่ งทับทิมมีสีควรใช้โครมาโทกราฟี
4. ไม่เห็นด้วย เพราะเม่ือดา่ งทบั ทมิ ละลายเปน็ เนอื้ เดยี วกับน้ำแลว้ จะไม่สามารถแยกออกจากกนั ได้
5. สารกลุ่มใดเมื่อใช้วิธีการกลั่นอย่างง่ายสามารถแยกสารบริสุทธิ์ได้มากที่สุดเมื่อสารแต่ละชนิดมีจุด
เดอื ด ดังนี้
A = 50 oC B = 80 oC C = 87 oC D = 95 oC
1. A + D 2. B + C 3. A + C + D 4. A + B + C + D
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นร้แู บบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร 38
6. สาร A เป็นของเหลวสเี หลอื ง ปรมิ าตร 1 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร ถา้ ต้องการทราบวา่ สาร A เป็นสาร
บรสิ ุทธ์ิหรือสารละลาย ควรใช้วิธีใด
1. การกล่ัน 2. การกรอง 3. การตกผลึก 4. โครมาโทกราฟี
7. สารทม่ี คี า่ Rf สงู แสดงว่ามีสมบตั ิใด
1. เปน็ สารทีม่ ีสี
2. เคล่ือนท่บี นตัวดูดซบั ไดด้ ี
3. ละลายในตวั ทำละลายได้น้อย
4. เปน็ สารทีเ่ กดิ ปฏิกิรยิ าเคมีกับตัวทำละลายไดด้ ี
8. หลกั การของการสกดั ดว้ ยตัวทำละลายข้อใดถกู ตอ้ ง
1. ใช้ความร้อนเพ่ือให้เกดิ ไอน้ำ
2. ใช้ตวั ทำละลายที่ไม่เกิดปฏิกริ ยิ าเคมีกับสาร
3. ให้ความรอ้ นจนเหลือสารที่ต้องการในสถานะของแข็ง
4. ใชต้ วั ดูดซบั ที่มีรูพรุนเพ่อื ให้สารเคลื่อนท่ีบนตัวดูดซบั ได้
9. การสกดั โดยการกลั่นดว้ ยไอน้ำเหมาะกับการสกดั สารใด
1. สจี ากขม้ิน 2. กลิน่ จากขงิ
3. นำ้ ตาลจากนำ้ เล้ียงดอกไม้ 4. นำ้ มันหอมระเหยจากเปลือกสม้ โอ
10. ขอ้ ใดไม่ได้ใช้วชิ าคณิตศาสตร์ชว่ ยในการแยกสาร
1. การคำนวณค่า Rf ของสาร
2. การสืบค้นสภาพละลายได้ของสาร
3. การทำกราฟเปรยี บเทียบปริมาณตวั ละลายที่ได้จากการระเหยแห้ง
4. การคำนวณความแตกต่างของอณุ หภมู ิของสารผสมเพอ่ื ใช้ในการกลัน่ อย่างง่าย
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) | การแยกสาร 39
ภาคผนวก
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรกุ (Active Learning) | การแยกสาร 40
เฉลยแบบบนั ทกึ ผลการทำกิจกรรมที่ 1
ปญั หา ..........ก..า..ร..ร..ะ..เ.ห...ย..แ...ห..้ง..ใ..ช..แ้..ย...ก..ส..า..ร..ช...น..ิด...ใ.ด...ไ.ด...้ ........................................................... ...........................
1. ผลการทำกจิ กรรม
สารละลาย กอ่ นตม้ ผลการสังเกต
หลังต้ม
น้ำกล่นั ระเหยไป
สารละลายโซเดยี มคลอไรด์ ของเหลวใส ไม่มสี ี เหลอื ของแข็งสีขาว
อยใู่ นจานหลุมโลหะ
2. คำถามท้ายกจิ กรรม
2.1 สารที่ใชใ้ นการทดลองจดั เปน็ สารละลายหรอื ไม่ สังเกตจากอะไร
...................จ...ัด..เ..ป..็น...ส...า..ร..ล..ะ..ล...า..ย....โ.ด...ย..ส...ัง..เ.ก...ต..จ...า..ก..ล..ั.ก..ษ...ณ...ะ...ข..อ..ง..ส...า..ร..ล..ะ...ล..า..ย...ก..่อ...น..ต...้ม. ...พ..บ...ว..่า..เ..ป...็น..ส...า..ร..เ.น...้ือ.....
.....เ..ด..ีย..ว..แ...ต..่เ.ม...อ่ื..น...ำ..ส..า..ร..ล...ะ..ล..า..ย..ไ..ป...ต..้ม..จ...น..แ...ห..้ง..พ...บ..ว...่า...น...ำ้ ..ก..ล..นั่...ร..ะ..เ.ห...ย..ไ..ป...จ..น..ห...ม...ด..เ.ห...ล..อื..แ..ต...่ข..อ..ง..แ...ข..็ง..ส..ีข..า..ว....ค..ื.อ....
.....โ..ซ..เ.ด...ยี..ม...ค..ล..อ...ไ.ร..ด...์ .................................................................................................................................
2.2 ตัวละลายและตวั ทำละลายของสารละลายโซเดียมคลอไรด์คืออะไร
...................ต...วั ..ล..ะ..ล...า..ย...ค...ือ....โ.ซ..เ..ด..ยี..ม...ค..ล...อ..ไ..ร..ด..์.แ...ล..ะ..ต...วั ..ท..ำ..ล...ะ..ล..า..ย....ค..ือ....น...้ำ..ก..ล..น่ั............ ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.3 การระเหยแหง้ แยกองค์ประกอบของสารละลายโซเดยี มคลอไรดไ์ ด้อย่างไร
...................ก...า..ร..ร..ะ..เ.ห...ย..แ...ห..้.ง.เ..ป..็น...ก...า..ร..ใ.ห...้ค..ว...า..ม..ร..้อ...น..ก...ับ..ส...า..ร..ล..ะ...ล..า..ย..โ..ซ..เ..ด..ีย...ม..ค...ล..อ...ไ.ร..ด. .์..ท..ำ..ใ..ห...้ต..ัว..ท...ำ..ล..ะ...ล..า..ย.....
.....ค...ือ......น...้ำ..ก..ล...ั่น...ร..ะ..เ.ห...ย..ไ..ป..เ.ห...ล...ือ..เ.พ...ยี..ง..ต...ัว..ล..ะ..ล...า..ย...ค...ือ....โ.ซ...เ.ด..ีย...ม..ค...ล..อ...ไ.ร..ด...์ .ท..ี.่เ.ป...็น..ข...อ..ง..แ..ข...ง็ .ส...ีข..า..ว..บ...น...จ..น...ห..ล...มุ ....
.....โ..ล..ห...ะ................................................................................................................. ...................................
3. สรปุ ผลการทำกจิ กรรม
...............ก..่อ...น..ต...้ม..ส...า..ร..ล..ะ...ล..า..ย..โ..ซ..เ..ด..ีย...ม..ค...ล..อ...ไ.ร..ด...์ส..ัง..เ..ก..ต..เ..ห...็น..เ..ป..็น...ข..อ...ง..เ.ห...ล..ว..ใ..ส....ไ.ม...่ม...ีส. ี..เ.ม...ื่อ..น...ำ..ส..า..ร..ล...ะ..ล...า..ย......
....โ..ซ..เ.ด...ีย..ม...ค..ล...อ..ไ..ร..ด..์ไ..ป..ต...้ม..จ...น..แ...ห..้ง..พ...บ...ว..่า...น...้ำ..ก..ล...ั่น..ร..ะ...เ.ห..ย...ไ.ป...จ..น...ห..ม...ด..เ..ห..ล...ือ..แ...ต..่ข..อ...ง..แ..ข. .็ง..ส..ีข..า..ว....ค..ือ....โ.ซ...เ.ด...ีย..ม......
....ค..ล...อ..ไ.ร..ด...์ .แ...ส..ด..ง..ว..่า..ส...า..ร..ล..ะ..ล...า..ย..โ..ซ..เ.ด...ีย..ม...ค..ล...อ..ไ..ร..ด..์เ.ป...็น..ส...า..ร..ล..ะ...ล..า..ย..ข...อ..ง..ข..อ...ง..แ..ข...็ง.ส...ีข..า..ว....ค...ือ...โ..ซ..เ..ด..ีย..ม...ค..ล...อ......
....ไ.ร..ด...์ .ใ..น..ข...อ..ง..เ.ห...ล..ว....ค..ือ....น..้ำ..ก...ล..่นั.............................................................................. ...................................
........................................................................................................................................... .....................
ชุดกิจกรรมการเรียนรแู้ บบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร 41
เฉลยแบบบันทึกผลการทำกิจกรรมที่ 2
ปญั หา ...เ..ร..า..ส..า..ม..า..ร..ถ...แ..ย..ก...ส..า..ร..ล..ะ...ล..า..ย..ส...า..ร..ส..ม้..โ..ด..ย...ก..า..ร..ต..ก...ผ..ล...กึ ..ไ.ด...อ้..ย...า่ ..ง.ไ..ร............................. ...........................
1. ผลการทำกิจกรรม
การทดลอง ผลการสงั เกตลักษณะของผลึก
กอ่ นให้ความรอ้ น ของแขง็ เป็นผงละเอียด สขี าว
หลังให้ความร้อน ของเหลว สีใส หลังจากตั้งสารละลายทิ้งไว้ 1
สัปดาห์ พบวา่ มีของแข็งสีขาวเป็นผลึกมีลักษณะ
เป็นพีระมิดคู่ฐานสี่เหลี่ยมอยู่รอบ ๆ ผลึกขนาด
เลก็ ทหี่ อยไว้
2. คำถามทา้ ยกจิ กรรม
2.1 เพราะเหตุใดเมื่อนำสารละลายสารส้มในบีกเกอร์ลงจากตะเกียงแอลกอฮอล์ แลว้ จงึ เกิดการตก
ผลึก
..................ใ.น...ต..อ...น...ท..ี่.อ..ย..ู่.บ..น...ต..ะ...เ.ก...ีย..ง..แ..อ...ล..ก...อ..ฮ...อ..ล...์ .จ...ะ..ท...ำ..ใ.ห...้เ.ก...ิด..ส...า..ร..ล..ะ...ล..า..ย...ส..า..ร..ส...้ม..อ..ิ่ม...ต...ัว..ท...ี่อ..ุณ....ห..ภ...ูม...ิส..ูง....
....เ.ม..่ือ...น..ำ..ล...ง..จ..า..ก..ต...ะ..เ.ก..ีย...ง..แ..อ..ล...ก..อ...ฮ..อ..ล...์ .ท...ำ..ใ.ห...ส้..า..ร..ล...ะ..ล..า..ย..ส...า..ร..ส..้ม..อ...่ิม..ต..วั..ม...ีอ..ุณ....ห..ภ...ูม...ลิ ..ด..ล...ง...จ..งึ..ท...ำ..ใ.ห...้ส..า..ร..ส...้ม..ท...ี่..
....เ.ป...็น..ต...วั ..ล..ะ..ล...า..ย..ต..ก...ผ..ล..ึก...แ..ย...ก..อ..อ...ก..จ..า..ก...ส..า..ร..ล..ะ...ล..า..ย................................................... ...................................
......................................................................................................................................................... .......
2.2 เพราะเหตุใดจงึ ต้องเส้นด้ายผกู ผลึกสารส้มท่มี ีขนาดเล็ก แลว้ นำไปหอ้ ยไว้ในสารละลายเดิม
..................เ.พ...่อื ..ใ..ห..ส้...า.ร..ส...ม้ ..ท...กี่..ำ..ล...งั ..แ..ย..ก...อ..อ..ก...จ..า..ก..ส...า..ร..ล..ะ..ล...า.ย...ม..า..เ..ก..า..ะ..ท...ผี่ ..ล..ึก...ท...ีผ่ ..กู ..ไ..ว..้ก..บั. .เ..ส..้น..ด...า..ย.......................
............................................................................................................................................... .................
2.3 ผลึกท่ีเกิดจากสารละลายสารสม้ ทีท่ ิง้ ไว้ 1 สปั ดาห์ มลี ักษณะอยา่ งไร
..................ม..ลี...ัก..ษ...ณ...ะ..เ..ป..น็...ก..้อ...น..ข...น..า..ด...ใ.ห...ญ...่.โ..ด..ย...ผ..ล..กึ...เ.ป...็น..ร..ปู...พ...รี ..ะ..ม..ิด...ส..่เี.ห...ล..่ีย...ม..ฐ..า..น...ค..ู่. ...................................
............................................................................................................................................................ ....
3. สรปุ ผลการทำกจิ กรรม
..................ก..า..ร..แ...ย..ก..ส...า..ร..ส..้ม..บ...ร..ิส..ทุ...ธ..ิ์อ...อ..ก..จ...า..ก..ส...า.ร..ล...ะ..ล..า..ย...ส..า..ร..ส...้ม....ซ..่งึ ..ป..ร..ะ...ก..อ..บ...ไ..ป..ด...้ว.ย...ข..อ..ง..แ..ข...็ง..ล..ะ..ล...า..ย..ใ..น......
....ข..อ...ง..เ.ห...ล..ว..ส...า..ม..า...ร..ถ..ท...ำ..ไ.ด...้โ..ด..ย..ก...า..ร..ต...ก..ผ..ล...ึก....โ..ด..ย..ล...ะ..ล...า..ย..ผ...ง.ส...า..ร..ส..้ม...ใ.น...น...้ำ..จ..น...อ...ิ่ม..ต...ัว...แ...ล..้ว...ใ.ห...้ค...ว..า..ม..ร..้อ...น......
....แ..ล...ะ..เ.ต..ิม...ผ..ง..ส...า.ร..ส...ม้ ..เ..พ..่มิ....จ...า..ก..น...้ัน..ป...ล..่อ...ย..ใ.ห...อ้..ุณ....ห..ภ...ูม...ิข..อ..ง..ส...า..ร..ล..ะ..ล...า..ย..ล..ด...ล..ง...ส...า..ร..ส..ม้..จ..ะ..ค...อ่ ..ย....ๆ....แ..ย...ก..อ...อ..ก......
....จ..า..ก...ส..า..ร..ล..ะ..ล...า..ย...เ..น..ือ่..ง..จ...า..ก..ส..ภ...า..พ...ล..ะ..ล...า.ย...ไ.ด...้ข..อ..ง..ส...า..ร..ส..้ม..ล...ด..ล...ง.เ..ม..อื่..อ...ุณ...ห...ภ..ูม...ลิ..ด...ล..ง...ไ..ด..ผ้...ล..กึ..ส...า..ร..ส..ม้...ท..่ีเ..ป..็น.. ....
....ร..ปู...ท..ร..ง..เ.ร..ข...า..ค..ณ...ติ...ท..แี่...น..น่...อ..น...เ.ฉ...พ..า..ะ..ต...ัว.................................................................. ...................................
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรแู้ บบเชงิ รกุ (Active Learning) | การแยกสาร 42
เฉลยแบบบนั ทึกผลการทำกิจกรรมท่ี 3
ปญั หา .....เ.ร..า..ส...า..ม..า..ร..ถ..แ...ย..ก...โ.ซ..เ..ด..ยี..ม...ค..ล...อ..ไ..ร..ด..ร์..อ้..ย...ล..ะ....5...ก...ร..ัม../..ล..ูก...บ..า..ศ...ก..เ์.ซ...น..ต...ิเ.ม..ต...ร...โ..ด..ย..ก...า..ร.ก..ล...ัน่ ..อ...ย..่า..ง..ง..่า..ย..ไ..ด..้.
1. ผลหกรือารไมท่ ำกิจกรรม
สารละลาย กอ่ นกลนั่ ผลการสงั เกต
หลังกลนั่
น้ำกลั่นระเหยออกจากหลอดทดลอง
ของเหลวใส ไม่มสี ี ขนาดใหญ่และควบแน่นเป็นหยดน้ำที่
ปลายสายยางขนาดเล็ก และเหลือ
สารละลายโซเดียมคลอไรด์ ของแข็งสีขาวอยู่ในหลอดทดลองขนาด
ใหญ่
2. คำถามท้ายกจิ กรรม
2.1 เม่อื ให้ความร้อนกับสารละลายโซเดียมคลอไรดเ์ กิดการเปล่ียนแปลงลกั ษณะใด
...................ส...า..ร..ล..ะ..ล...า..ย..โ..ซ..เ.ด...ีย..ม...ค..ล..อ...ไ.ร..ด...์เ.ด...ือ..ด....ไ..อ..น...้ำ..ล..อ..ย...เ.ข..้า...ส..ู่ห...ล..อ..ด...น...ำ..แ..ก..๊ส...ไ.ป...ต..า..ม...ส..า..ย...ย..า..ง..ข..น...า..ด..เ.ล..็ก.....
.....แ...ล..ะ..ค...ว..บ..แ...น..่น...เ.ป...น็ ..ห...ย..ด...น...ำ้ .เ..ม..ื่อ...อ..อ..ก...จ..า..ก...ป..ล...า..ย..ส..า..ย...ย..า..ง...แ...ล..ว้..ห...ย..ด..ล...ง..ใ.น...ห..ล...อ..ด..ท...ด..ล..อ...ง..ข..น...า..ด..ก..ล...า..ง..แ..ล...ะ....
.....เ..ห..ล...อื ..ข..อ...ง..แ..ข..็ง..ส..ขี...า..ว..อ..ย..ู่ใ..น...ห..ล...อ..ด..ท...ด..ล...อ..ง..ข..น...า..ด..ใ..ห..ญ....่ .......................................... ...................................
2.2 การกล่นั อย่างง่ายมีการเปลีย่ นสถานะของสารละลายลกั ษณะใด
................เ..ม..ื่อ...ส..า...ร..ล..ะ...ล..า..ย...ไ.ด...้ร..ับ...ค...ว..า..ม..ร...้อ..น...จ..น...ถ...ึง..จ..ุด...เ.ด...ือ..ด.....ต..ัว..ท...ำ..ล...ะ..ล...า..ย..ท...ี่เ..ป..็.น..ข...อ..ง..เ.ห...ล..ว...จ..ะ..เ..ป..ล...ี่ย...น.....
.....ส...ถ..า..น...ะ...เ.ป...็น...แ..ก...๊ส....แ...ล..ะ..เ..ม..ื.่อ..แ...ก..๊.ส..ผ...่า..น...บ...ร..ิเ.ว...ณ...ท...ี่ม...ีอ...ุณ...ห...ภ...ูม...ิต...่ำ..ก..ว..่า..จ...ุด...ค..ว..บ...แ...น...่น....ต..ั.ว..ท...ำ..ล..ะ...ล..า..ย...จ..ะ.....
.....ค...ว..บ..แ...น..่น...เ.ป...น็ ..ข...อ..ง..เ.ห...ล..ว..แ...ย..ก..อ...อ..ก...จ..า..ก..ส..า..ร..ล...ะ..ล..า..ย................................................ ...................................
2.3 ปัจจัยท่ีมีผลต่อการกล่ันอย่างงา่ ยคืออะไร
................อ...ุณ...ห...ภ..มู...ิ............................................................................................... ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.4 การกล่นั อย่างงา่ ยแยกองคป์ ระกอบของสารละลายโซเดียมคลอไรด์ได้อย่างไร
...................ก...า..ร..ก..ล..น่ั...อ..ย...่า..ง..ง.่า..ย...เ.ป...็น..ก...า..ร..ใ.ห...ค้ ..ว..า..ม...ร..้อ..น...ก..บั...ส..า..ร..ล...ะ..ล..า..ย...โ.ซ...เ.ด..ีย...ม..ค..ล..อ...ไ.ร..ด...์จ..น...ถ..ึง..จ..ุด...เ.ด..ื.อ..ด....ท...ำ....
.....ใ..ห...้ ..ต...ัว..ท...ำ..ล..ะ..ล...า..ย....ค..ือ....น...้ำ..ก..ล...ั่น....เ.ป...ล..ี่ย...น..ส...ถ..า..น...ะ..เ.ป...็น...แ..ก..๊ส....จ...า..ก..น...ั้น...จ..ึง..ใ.ห...้ต..ัว...ท..ำ..ล..ะ..ล...า..ย..ใ..น..ส...ถ..า..น...ะ..แ...ก..๊ส.....
.....ผ...่า..น..บ...ร..ิเ..ว..ณ...ท...ี่ม..ีอ...ุณ...ห...ภ...ูม..ิต...่ำ..ก..ว..่า..จ...ุด..ค...ว..บ..แ...น..่.น..เ..พ..ื่อ...ใ.ห...้ต...ัว..ท..ำ...ล..ะ..ล...า..ย..ค..ว...บ..แ...น..่น...เ.ป...็น...ข..อ...ง..เ.ห...ล..ว..แ..ย...ก..อ...อ..ก.....
.....จ...า..ก..ส..า..ร..ล...ะ..ล..า..ย..เ..ห..ล...อื ..เ.พ...ีย..ง..ต...ัว..ล..ะ..ล...า..ย...ค...อื ....โ.ซ..เ..ด..ยี..ม...ค..ล...อ..ไ..ร..ด..์ท...เ่ี .ป...็น..ข...อ..ง..แ..ข..ง็..ใ..น..ภ...า.ช...น..ะ..............................
ชุดกิจกรรมการเรยี นรแู้ บบเชิงรกุ (Active Learning) | การแยกสาร 43