วิจัยชั้นเรียนฝึกสอนวราพร อัคราช สมบูรณ์

91

92

93 กิจกรรมที่3 ฉายเดี่ยว

94

95 แผนจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ส13101) สาระที่ 3 รายวิชาเศรษฐศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เศรษฐศาตร์ใกล้ตัว ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่3 โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี นางสาววราพร อัคราช ตำแหน่งนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา2566 โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต 1

96 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 54 กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สาระการเรียนรู้ที่ 3 เศรษฐศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่3 เศรษฐศาสตร์ใกล้ตัว เวลา 6 ชั่วโมง เรื่อง การผลิตและการบริโภคสินค้าและบริการ1 เวลา 1 ชั่วโมง วันที่……..เดือน…………………..พ.ศ……………. 1.มาตรฐานการเรียนรู้ ส3.1เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ารวมทั้งเข้าใจ หลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ ตัวชี้วัด ป.3/3อธิบายได้ว่าทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดมีผลต่อการผลิตและการบริโภคสิน ค้นและบริการ 2.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของผู้ผลิตได้ (K) 2. นักเรียนสามารถยกตัวอย่างการของผู้ผลิตได้ (P) 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการศึกษาหาความรู้ (A) 3.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย รับผิดชอบ 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 4.สาระสำคัญ ทรัพยากรที่เรานำมาใช้ในการผลิตสินค้าและบริการมีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งมีผลต่อการผลิตและ บริโภคสินค้าและบริการ 5.สาระการเรียนรู้ ความหมายของผู้ผลิตและผู้บริโภค ความหมายของสินค้าและบริการ

97 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูให้นักเรียนดู PowerPoint เกี่ยวกับการจัดซื้อสินค้าทางออนไลน์ เช่น ซื้อสบู่สมุนไพรจาก กลุ่มแม่บ้าน แล้วให้จัดส่งทางไปรษณีย์ 2. นักเรียนตอบคำถามจากการดู PowerPoint - สินค้าที่มีการซื้อขายคืออะไร - ใครคือผู้ผลิต - ใครคือผู้ให้บริการ 3. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้เห็นถึง ความหมายของการผลิตและการบริโภคสินค้าและบริการ ขั้นสอน 1. ครูให้นักเรียนค้นคว้าหาคำตอบจากหนังสือเรียน สังคมศึกษาฯ ป.3 หรือ PowerPoint ตาม ประเด็นต่อไปนี้ 1.1 การผลิต - ความหมายของการผลิต - ความหมายของผู้ผลิต - ยกตัวอย่างผู้ผลิตในจังหวัดอุดร 2.ครูซักถามความเข้าใจของนักเรียนแล้วสุ่มถาม - ยกตัวอย่างการผลิต - ผู้ผลิตคือใคร 3. นักเรียนทำแบบฝึกทักษะที่ ขั้นสรุป ครูและนักเรียนทบทวนความเข้าใจเรื่องผู้ผลิตแล้วตรวจความถูกต้องใบงาน 7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 7.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาสังคม ป.3 2. สื่อ PowerPoint

98 8.กระบวนการวัดและประเมินผล 8.1 การประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รายการวัด ชิ้นงาน/ ภาระงาน เครื่องมือวัด วิธีการวัด เกณฑ์การวัด และประเมินผล 1. นักเรีย สามารถอธิบาย ความหมายของ ผู้ผลิตได้ (K) แบบฝึกทักษะ 1.ประเมินการ ตอบคำถาม 2. แบบฝึกทักษะ 1. ประเมินการ ตอบ คำถาม 2. ตรวจแบบฝึก ทักษะ ร้อยละ60 ผ่านเกณฑ์ 2. นักเรียนสา มารยกตัวอย่าง การของผู้ผลิตได้ (P) แบบสังเกต แบบสังเกต พฤติกรรมการ ทำงานรายบุคคล การประเมิน สังเกตพฤติกรรม รายบุคคล ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.นักเรียนมีความ กระตือรือร้นใน การศึกษาหา ความรู้ (A) การตอบคำถาม แบบประเมิน สังเกตพฤติกรรม รายบุคคล การประเมิน สังเกตพฤติกรรม รายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์

99 9. บันทึกหลังการสอน 1) ปัญหาที่เกิด ………………………………………………….………………………………………………….……………………………………… ………….………………………………………………….………………………………………………….…………………………… 2) วิธีการแก้ไขปัญหา ………………………………………………….………………………………………………….……………………………………… ………….………………………………………………….………………………………………………….…………………………… 3) ผลการแก้ไขปัญหา ………………………………………………….………………………………………………….……………………………………… ………….………………………………………………….………………………………………………….…………………………… 10. ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ………………………………………………….………………………………………………….……………………………………… ………….………………………………………………….………………………………………………….…………………………… (ลงชื่อ)……………………………………………. (นางสาวจิดาภา พันชะโก) ครูพี่เลี้ยง ………../…….…./……….. (ลงชื่อ)……………………………………………. (นางสาววราพร อัคราช) ครูผู้สอน ………../…….…./………..

100 11. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ………………………………………………….………………………………………………….……………………………………… ………….………………………………………………….………………………………………………….…………………………… (ลงชื่อ)……………………………………………. (นายจีรศักดิ์ แสงสวัสดิ์) รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลอุดรธานี ………../…….…./………..

101 การทำงานรายบุคคล คำชี้แจง: ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการทำงานรายบุคคล แล้วขีด ลงในช่องว่างที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งหรือน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 -15 ดี 8 – 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง ลำดับ ที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการประเมิน ความ มีวินัย ความมี น้ำใจ เอื้อเฟื้อ เสียสละ การแสดง ความ คิดเห็น การรับฟัง ความ คิดเห็น การ ร่วมมือ ทำงาน ส่วนรวม รวม 15 คะแน น 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1

102 ชื่อ ชั้น เลขที่

103 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สาระเศรษฐศาสตร์ ส13101 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การผลิตและการแข่งขันทางการค้า 1.ผู้ผลิตผลิตสินค้ามาเพื่อตอบสนองความต้องการของใคร ก.ผู้บริโภค ข. นักธุรกิจ ค. ข้าราชการ ง. นักลงทุน 2.ผู้ผลิตหมายความว่าอย่างไร ก. ผู้ซื้อสินค้าและบริการ ก. ผู้ดำเนินการใช้เกิดสินค้า ข. ผู้ไปใช้บริการ ค. ผู้ที่ได้รับการบริการ 3.ข้อใดมีทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ก. น้อยซื้อผลไม้ ข. นิดเป็นชาวสวน ค. หน่อยปลูกกล้วยไม้ ง. นงซื้อข้าวจากชาวนา 4.ผู้ผลิตต้องตัดสินใจในเรื่องใดก่อนลงทุนผลิตสินค้าและบริการ ก. ผลิตสินค้าชนิดใด ผลิตเท่าใด และผลิตที่ไหน ข. ผลิตสินค้าที่ไหน ผลิตเพื่อใคร และผลิตเท่าใด ค. ผลิตสินค้าชนิดใด ผลิตอย่างไร และผลิตเพื่อใคร ง. ผลิตสินค้าชนิดใด ผลิตเมื่อใด และผลิตเพื่ออะไร 5.ใครเป็นผู้ผลิตในระบบเศรษฐกิจ ก. ผู้ป่วยในโรงพยาบาล ข. ลูกค้าในร้านสะดวกซื้อ ค. เจ้าของร้านอาหารตามสั่ง ง. ผู้โดยสารบนรถประจำทาง

104 6.หากราคาไข่ไก่ปรับราคาสูงผู้ผลิตสินค้าในข้อใดจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ก. ไอศกรีม ข.น้ำมันพืช ค. นมสด ง.ทองหยอด 7.สิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกก่อนการผลิตสินค้าคืออะไร ก. จะผลิตอะไร ข. จะผลิตเพื่อใคร ค. จะผลิตสินค้าอย่างไร ง. จะตั้งราคาสินค้าเท่าใด 8. ข้อใดคือความหมายของคำว่าสินค้า ก. สิ่งของที่เป็นสาธารณะ ข. สิ่งของที่นำมาแลกเปลี่ยนซื้อขายกันได้ ค. สิ่งของที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ ง. สิ่งของส่วนตัว 9. ข้อใดไม่ใช่ทรัพยากรในการผลิต ก. ที่ดิน ข. ทุน ค. ผู้บริโภค ง. แรงงาน 10.สิ่งที่ได้จากทรัพยากรการผลิต ก. ผู้ผลิต ข. การผลิต ค. แรงงาน ง. ผลผลิต 11.ถ้าสินค้ามีราคาลดลงจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคอย่างไร ก. ซื้อสินค้าได้ในราคาถูกและได้จำนวนน้อยลง ข. ซื้อสินค้าในราคาถูกและได้จำนวนมากขึ้น ค. ซื้อสินค้าราคาแพงและได้สินค้าจำนวนน้อยลง ง. ซื้อสินค้าในราคาแพงและได้สินค้าจำนวนมากขึ้น

105 12.ข้อใดเป็นการดึงดูดผู้บริโภคด้วยการเพิ่มมูลค่า ก. นมA ราคา10บาท นมB เพิ่มงาดำ ราคา 10บาท ข. ร้าน ค ขายสมุดเล่มละ10บาท ร้านง ขายสมุดเล่มละ3เล่ม 25บาท ค. ร้าน ก ขายถุงผ้าใบละ 60บาท ร้าน ข ขายถุงผ้าใบละ 49 บาท ง. น้ำตาลทราย Cปริมาณ1กิโลกรัมราคา 30บาท น้ำตาลทราย b ปริมาณ 1.5 กิโลกรัม ราคา 30 บาท 13.ผู้บริโภคหมายความว่าอย่างไร ก. ผู้ผลิตสินค้าและบริการ ข. ผู้ซื้อสินค้าและบริการ ค. ผู้ลงทุน ง. ผู้ดำเนินการให้เกิดสินค้า 14.ใครเป็นผู้บริโภคในระบบเศรษฐกิจ ก. แก้วทำขนมเค้กขาย ข. ตุ๊กเปิดร้านเสริมสวย ค. หน่อยปลูกทุเรียนขาย ง. แตงซื้อก๋วยเตี๋ยวมารับประทาน 15.ผู้บริโภคได้รับประโยชน์อย่างไรจากการแข่งขันการค้า ก. ช่วยให้มีฐานะดีขึ้น ข. ช่วยลดค่าใช้จ่ายรายเดือน ค. มีสินค้าหลากหลายให้เลือก ง. ช่วยให้สินค้าได้อย่างไม่จำกัด 16.ก่อนซื้อสินค้าเราควรคำนึงถึงข้อใด ก. ดูราคา ข. เลือกร้านหรูๆ ค. ตรวจสอบคุณภาพสินค้า ง. เลือกตามโฆษณา

106 17.ข้อใดสอดคล้องกับคำว่าบริการ ก. ยึดถือเอาเป็นเจ้าของเป็นประโยชน์ของตน ข. ขอให้รับใช้เพื่อให้ประสบความสำเร็จ ค. การใช้ความสะดวก และความช่วยเหลือ ง. การขอความช่วยเหลือให้สำเร็จ 18.ผู้บริโภคที่ฉลาดควรปฏิบัติตามข้อใด ก. ต่อรองราคาสินค้าให้ถูกที่สุด ข. ผูกไมตรีกับพ่อค้าแม่ค้า ค. เปรียบเทียบคุณภาพและราคาหลายยี่ห่อก่อนซื้อ ง. ซื้อสินค้าที่ราคาแพงที่สุดเพราะคิดว่าแพงจะดี 19.ข้อใดคือปัญหาทางเศรษฐกิจ ก. ความต้องการของมนุษย์มีจำกัด ข. ทรัพยากรมีน้อยกว่าความต้องการของมนุษย์ ค. ทรัพยากรมีพอดีกับความต้องการของมนุษย์ ง. ทรัพยากรมีมากกว่าความต้องการของมนุษย์ 20.เมื่อทรัพยากรมีอย่างจำกัด แต่ความต้องการใช้สินค้าและบริการมีอย่างไม่จำกัด จะทำให้เกิดอะไร ขึ้น ก. เกิดผู้ผลิตรายใหม่ขึ้น ข. เกิดการขาดแคลนสินค้า ค. เกิดการผลิตที่หลากหลายชนิด ง. เกิดการขาดแคลนเงินทุนในการผลิต

107 เฉลย ก= 1,7,12 ข = 2,3, 8,11,13,17,19,20 ค = 4,5,9,15,16,18 ง = 6,10,14

108 ภาผนวก ค ผลการหาคุณภาพของเครื่องมือที่ใช้ในวิจัย

109 ตารางค.1 ผลวิเคราะห์ค่าดัชนีความสอดคล่อง (IOC) ของชุดการสอนสาระเศรษฐศาสตร์ เรื่องการ ผลิตและการแข่งขันสินค้า ชุดที่ ชื่อชุดการสอน ความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญ ∑ IOC สรุปผล คนที่1 คนที่2 คนที่3 1 การผลิตและการบริโภค สินค้าและบริการ1 1 1 1 3 1 ใช้ได้ 2 การผลิตและการบริโภค สินค้าและบริการ2 1 1 1 3 1 ใช้ได้ 3 ปัญหาพื้นฐานทาง เศรษฐกิจ และทรัพยากรที่มีอยู่ อย่างจำกัด1 1 1 1 3 1 ใช้ได้ 4 ปัญหาพื้นฐานทาง เศรษฐกิจ และทรัพยากรที่มีอยู่ อย่างจำกัด2 1 1 1 3 1 ใช้ได้ 5 การแข่งขันทางการค้า1 1 1 1 3 1 ใช้ได้ 6 การแข่งขันทางการค้า2 1 1 1 3 1 ใช้ได้ ตารางที่ ค.2 ผลการประเมินคุณภาพชุดการสอนสาระเศรษฐศาสตร์ เรื่องการผลิตและการแข่งขัน สินค้า ชุด ที่ ชื่อชุดการสอน ความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญ รวม เฉลี่ย แปลผล คนที่1 คนที่2 คนที่3 1 เนื้อหาสอดคล้องกับ จุดประสงค์การเรียนรู้ 5 5 5 15 5.00 มากที่สุด 2 เนื้อหามีความยากง่าย เหมาะสมกับระดับของ ผู้เรียน 4 5 5 14 4.67 มากที่สุด

110 ชุด ที่ ชื่อชุดการสอน ความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญ รวม เฉลี่ย แปลผล คนที่1 คนที่2 คนที่3 3 เนื้อหามีความชัดเจน น่าสนใจ 4 4 5 9 4.33 มาก 4 การนำเสนอเนื้อหา เหมาะสม ตามลำดับ ขั้นตอน 5 5 5 15 5.00 มากที่สุด 5 การใช้ตัวอักษรมีขนาด และสีที่ชัดเจน อ่านง่าย 4 4 4 5 4.33 มาก ด้านแบบฝึกทักษะ 6 คำชี้แจงมีความเหมาะสม สอดคล้อง กับชุดการ สอน 4 5 5 14 4.67 มากที่สุด 7 ใบความรู้ส่งเสริมการ เรียนรู้ให้กับผู้เรียน 5 5 5 15 5.00 มากที่สุด 8 บทปฏิบัติงานเหมาะสม ส่งเสริมการเรียนรู้ 5 4 5 14 4.67 มากที่สุด 9 สื่อมีความเหมาะสม สอดคล้องกับเนื้อหา และ หน่วยการเรียนรู้ 5 5 5 15 5.00 มากที่สุด 10 แบบทดสอบมีความ สอดคล้องกับเนื้อหา และ จุดประสงค์การเรียนรู้ 5 5 5 15 5.00 มากที่สุด 11 ชุดการสอนช่วยให้ผู้เรียน สนใจเรียน 5 5 5 15 5.00 มากที่สุด 12 ชุดการสอนช่วยส่งเสริม การเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน 5 5 5 14 4.67 มากที่สุด 15 ชุดการสอนช่วยให้ผู้เรียน เชื่อมโยงความรู้ 4 5 5 14 4.67 มากที่สุด

111 ข้อ ที่ ชื่อชุดการสอน ความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญ รวม เฉลี่ย แปลผล คนที่1 คนที่2 คนที่3 16 ชุดการสอนมีประโยชน์ ต่อการจัดกิจกรรม การ เรียนการสอน 4 5 5 14 4.67 มากที่สุด 17 ชุดการสอนสามารถ นำไปใช้เป็นแนวทาง ใน การจัดกิจกรรมการเรียน การสอน ในรายวิชาอื่น 4 4 5 9 4.33 มาก ตารางที่ ค.3 ผลวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นคุณภาพการสอนสาระเศรษฐศาสตร์ เรื่องการผลิตและการ แข่งขันสินค้า ข้อ รายการประเมิน คะแนนประเมิน คนที่1 คนที่2 คนที่3 1 การนำเสนอเนื้อหาเหมาะสม 5 5 5 0 2 เนื้อหามีความชัดเจน น่าสนใจ 5 4 5 0.22 3 เนื้อหามีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับ ของผู้เรียน 4 4 5 0.22 4 เนื้อหาสอดคล้องกับจุดประสงค์การ เรียนรู้ตามลำดับขั้นตอน 5 5 5 0 5 การใช้ตัวอักษรมีขนาดและสีที่ชัดเจน อ่านง่าย 5 4 4 0.02 ด้านสื่อแบบฝึกทักษะ 6 คำชี้แจงมีความเหมาะสมสอดคล้อง กับชุดการสอน 4 5 5 0.22

112 ตารางที่ ค.3 ผลวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นคุณภาพการสอนสาระเศรษฐศาสตร์ เรื่องการผลิตและ การแข่งขันสินค้า (ต่อ) ข้อ รายการประเมิน คะแนนประเมิน คนที่1 คนที่2 คนที่3 7 ใบความรู้ส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับ ผู้เรียน 5 5 0 0 8 บทปฏิบัติงานเหมาะสม ส่งเสริมการ เรียนรู้ 5 4 4 0.22 9 สื่อมีความเหมาะสมสอดคล้องกับ เนื้อหา และหน่วยการเรียนรู้ 5 5 4 0.22 10 แบบทดสอบมีความสอดคล้องกับ เนื้อหา และจุดประสงค์การเรียนรู้ 5 5 4 0.22 ด้านแบบฝึกทักษะ 11 แบบฝึกทักษะช่วยให้ผู้เรียนสนใจ เรียน 4 5 5 0.22 12 แบบฝึกทักษะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ ให้แก่ผู้เรียน 4 5 5 0.22 13 แบบฝึกทักษะช่วยให้ผู้เรียนเชื่อมโยง ความรู้หรือประสบการณ์เดิมของ นักเรียนได้ 4 5 5 0.22 14 แบบฝึกทักษะมีประโยชน์ต่อการจัด กิจกรรม การเรียนการสอน 5 4 4 0.22 15 แบบฝึกทักษะสามารถนำไปใช้เป็น แนวทาง ในการจัดกิจกรรมการเรียน การสอน ในรายวิชาอื่น 4 4 5 0.22 รวม 69 St 2 =16.89 α=0.902 68 71 Σⅈ 2 2.64

113 จากสูตร = ( − 1 ) ( 1 − 2 2 ) = ( 15 15 − 1 ) ( 1 − 2.64 16.89 ) = ( 15 1 ) (1 − 0.27) = (1.11) (0.82) = 0.91 จากการหาค่าความเชื่อมั่นของชุดการสอน โดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟา (α - coefficient) ของครอนบัค (Cornbach) พบว่า แบบฝึกทักษะเรื่องการผลิตและการแข่งขันสินค้า ของนักเรียน ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.91 ตารางที่ ค.4 ผลการวิเคราะห์ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ของแผนการจัดการเรียนรู้สาระวิชา เศรษฐศาสตร์ เรื่องการผลิตและการแข่งขันสินค้า ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แผน ชื่อแผนจัดการเรียนรู้ ความคิดเห็นจาก ผู้เชี่ยวชาญ ∑ R IOC สรุปผล คนที่1 คนที่2 คนที่3 1 แบบทดสอบก่อนเรียน +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 2 การผลิตและการบริโภคสินค้า และบริการ1 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 3 การผลิตและการบริโภคสินค้า และบริการ2 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 4 ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจและ ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด1 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 5 ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจและ ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด2 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 6 เรื่องการแข่งขันทางการค้า1 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 7 เรื่องการแข่งขันทางการค้า2 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 8 แบบทดสอบหลังเรียน +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ สรุปค่าดัชนีความสอดคล้อง(IOC) ของแผนจัดการเรียนรู้ มีค่าเท่ากับ 1.00

114 ผลการประเมินความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้สาระวิชาเศรษฐศาสตร์ เรื่องการ ผลิตและการแข่งขันสินค้าชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 8 แผนการจัดการเรียนรู้ พบว่า แผนการ จัดการเรียนรู้จำนวน 8 แผน มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) 1.00 ทุกข้อ ดังนั้น แผนการจัดการ เรียนรู้สามารถใช้ได้ ตารางที่ 5 ผลการวิเคราะห์ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน สาระเศรษฐศาสตร์ เรื่องการผลิตและการแข่งขันสินค้า ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แบบทดสอบ ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ∑ R IOC สรุปผล คนที่1 คนที่2 คนที่3 ข้อที่1 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่2 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่3 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่4 +1 +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ข้อที่5 +1 +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ข้อที่6 +1 +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ข้อที่7 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่8 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่9 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่10 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่11 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่12 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่13 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่14 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่15 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่16 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้

115 ตารางที่ 5 ผลการวิเคราะห์ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน สาระเศรษฐศาสตร์ เรื่องการผลิตและการแข่งขันสินค้า ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (ต่อ) แบบทดสอบ ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ∑ R IOC สรุปผล คนที่1 คนที่2 คนที่3 ข้อที่17 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่18 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่19 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่20 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่21 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่22 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่23 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่24 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่25 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่27 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่28 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่29 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ข้อที่30 +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ คำนวณโดยใช้สูตร IOC = (∑R)/N IOC หมายถึง ดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ∑R หมายถึง ผลรวมของคะแนนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ N หมายถึง จำนวนผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด ข้อสอบมีคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 0.50–1.00 ซึ่งแสดงว่า วัตถุประสงค์นั้นวัดได้ครอบคลุมเนื้อหา ถ้าข้อใดได้คะแนนเฉลี่ยต่ำกว่า 0.50 ต้องนำไปปรับปรุงเพราะว่ามีความสอดคล้องกันต่ำ จากตารางที่ ค.5 ผลการประเมินความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ พบว่า แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ มีค่าดัชนีความ สอดคล้อง (IOC) 0.67ขึ้นไป

116 ดังนั้น แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทั้ง 30 ข้อ สามารถใช้ได้จากนั้นผู้วิจัยคัดเลือก ข้อคำถามข้อสอบ จำนวน 20 ข้อ ตารางที่ ค.6 ผลการวิเคราะห์ค่าความยากง่าย (p) และค่าอำนาจจำแนก (r) ของแบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการผลิตและการแข่งขันสินค้าชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ข้อที่ ความยากง่าย (p) แปลผล ค่าอำนาจจำแนก (r) แปลผล แปลผล 1 0.73 ใช้ได้ 0.35 ใช้ได้ ใช้ได้ 2 0.95 ใช้ได้ 0.10 ใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้ 3 0.73 ใช้ได้ 0.25 ใช้ได้ ใช้ได้ 4 0.50 ใช้ได้ -0.10 ใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้ 5 0.75 ใช้ได้ 0.30 ใช้ได้ ใช้ได้ 6 0.88 ใช้ได้ -0.20 ใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้ 7 0.68 ใช้ได้ 0.25 ใช้ได้ ใช้ได้ 8 0.65 ใช้ได้ 0.40 ใช้ได้ ใช้ได้ 9 0.60 ใช้ได้ 0.20 ใช้ได้ ใช้ได้ 10 0.83 ใช้ได้ 0.35 ใช้ได้ ใช้ได้ 11 0.60 ใช้ได้ 0.20 ใช้ได้ ใช้ได้ 12 0.50 ใช้ได้ -0.20 ใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้ 13 0.75 ใช้ได้ 0.20 ใช้ได้ ใช้ได้ 14 0.68 ใช้ได้ -0.10 ใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้ 15 0.43 ใช้ได้ 0.45 ใช้ได้ ใช้ได้ 16 0.55 ใช้ได้ 0.50 ใช้ได้ ใช้ได้ 17 0.75 ใช้ได้ 0 ใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้ 18 0.78 ใช้ได้ 0.25 ใช้ได้ ใช้ได้ 19 0.55 ใช้ได้ 0.30 ใช้ได้ ใช้ได้ 20 0.78 ใช้ได้ 0.25 ใช้ได้ ใช้ได้ 21 0.45 ใช้ได้ 0.05 ใช้ได้ ใช้ได้ 22 0.63 ใช้ได้ -0.10 ใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้ 23 0.80 ใช้ได้ 0.20 ใช้ได้ ใช้ได้ 24 0.48 ใช้ได้ 0.25 ใช้ได้ ใช้ได้

117 ตารางที่ ค.6 ผลการวิเคราะห์ค่าความยากง่าย (p) และค่าอำนาจจำแนก (r) ของแบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการผลิตและการแข่งขันสินค้าชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (ต่อ) ข้อที่ ความยากง่าย (p) แปลผล ค่าอำนาจจำแนก (r) แปลผล สรุปผล 25 0.83 ใช้ได้ 0.25 ใช้ได้ ใช้ได้ 26 0.58 ใช้ได้ 0.15 ใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้ 27 0.93 ใช้ได้ -0.10 ใช้ได้ ใช้ได้ 28 0.78 ใช้ได้ 0.25 ใช้ได้ ใช้ได้ 29 0.70 ใช้ได้ 0.40 ใช้ได้ ใช้ได้ 30 0.45 ใช้ได้ -0.10 ใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้ สรุป ค่าความยากง่าย (p) มีค่าอยู่ระหว่าง 0.43 - 0.93 ค่าอำนาจจำแนก (r) มีค่าอยู่ระหว่าง -0.10 - 0.50 จากตารางที่ ค.6 ผลการวิเคราะห์หาค่าความยากง่ายและค่าอำนาจจำแนกแบบทดสอบ วัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ มีค่าความ ยากง่าย อยู่ระหว่าง 0.43 ถึง 0.75 และค่าอำนาจจำแนก อยู่ระหว่าง -0.10 ถึง 0.50 ดังนั้น แบบทดสอบวัด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทั้ง 20 ข้อ สามารถใช้ได้ ตารางที่ ค.7 แสดงคะแนนที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างทำถูกในการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการผลิตและการแข่งขันสินค้าชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 คนที่ 1 29 841 2 26 676 3 26 676 4 26 676 5 24 576 6 22 484 7 17 289 8 17 289 9 27 729

118 ตารางที่ ค.7 แสดงคะแนนที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างทำถูกในการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน เรื่องการผลิตและการแข่งขันสินค้าชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (ต่อ) คนที่ x 2 10 17 289 11 22 484 12 22 484 13 23 529 14 25 625 15 13 169 16 18 324 17 18 324 18 16 256 19 27 729 20 25 625 21 27 729 22 26 676 23 26 676 24 17 289 25 13 169 26 14 196 27 21 441 28 18 324 29 17 289 30 19 361 31 18 324 32 24 576 33 23 529 34 19 361 35 17 289 36 16 256

119 ตารางที่ ค.7 แสดงคะแนนที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างทำถูกในการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน เรื่องการผลิตและการแข่งขันสินค้าชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (ต่อ) คนที่ x 2 37 21 441 38 14 196 39 10 100 40 9 81 ∑ =809 2 =17377 ตารางที่ ค.8 ผลวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการผลิต และการแข่งขันสินค้าชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้คัดเลือกมาแล้ว จำนวน 20ข้อ โดยใช้สูตร KR-20 ข้อที่ P q pq 1 0.50 0.60 0.20 2 0.50 0.50 0.30 3 0.40 0.60 0.20 4 0.20 0.80 0.20 5 0.50 0.60 0.20 6 0.40 0.60 0.20 7 0.40 0.60 0.20 8 0.40 0.60 0.20 9 0.40 0.70 0.20 10 0.50 0.60 0.20 11 0.40 0.70 0.20 12 0.20 0.80 0.20 13 0.43 0.58 0.24 14 0.30 0.70 0.20 15 0.30 0.70 0.20 16 0.40 0.60 0.20 17 0.40 0.60 0.20

120 ตารางที่ ค.8 ผลวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการผลิต และการแข่งขันสินค้าชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้คัดเลือกมาแล้ว จำนวน 20ข้อ โดยใช้สูตร KR-20 (ต่อ) ข้อ p q pq 18 0.40 0.60 0.20 19 0.40 0.70 0.20 20 0.50 0.60 0.20 21 0.40 0.70 0.20 22 0.30 0.70 0.20 23 0.50 0.60 0.20 24 0.30 0.80 0.20 25 0.50 0.60 0.20 26 0.30 0.70 0.20 27 0.50 0.60 0.20 28 0.40 0.60 0.20 29 0.50 0.60 0.20 30 0.20 0.80 0.20 รวม ∑ pq=6.90 สูตรการหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้สูตร KR-20 ของคูเดอร์-ริชาร์ดสัน หาค่าความแปรปรวน จากสูตร s 2 = 40(17377−8092) 40(40−1) s 2 = 695080−654481 40(39) s 2 = 40599 1560 s 2 = 26.02 s 2 = ∑ 2−(∑) 2 (−1)

121 หาค่าความเชื่อมั่นโดยวิธีการแบบ KR20 จากสูตร KR20 = k k−1 [1 − Σpq s 2 ] KR20 = 20 20 − 1 [1 − 6.90 26.02] KR20 = 20 19 [1 − 0.26] จากการหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ตามวิธีของคูเดอร์ ริชาร์ดสัน (KR20) พบว่า แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการผลิตและการแข่งขันสินค้า ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ทั้งฉบับ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.77 ตารางที่ ค.9 การคัดเลือกข้อสอบ ข้อที่ ค่าที่ใช้พิจารณา ข้อที่เข้าเกณฑ์ ข้อที่ถูก คัดเลือก 20 ข้อ ค่า IOC ค่าความยาก จำแนก (P) ค่าอำนาจ จำแนก (R) 1 1 0.73 0.35 ✓ ✓ 2 1 0.95 0.10 3 1 0.73 0.25 ✓ ✓ 4 1 0.50 -0.10 5 1 0.75 0.30 ✓ ✓ 6 1 0.88 -0.20 7 1 0.65 0.25 ✓ ✓ KR20 = 0.77 KR20 = 20 19 [0.74]

122 ตารางที่ ค.9 การคัดเลือกข้อสอบ (ต่อ) ข้อที่ ค่าที่ใช้พิจารณา ข้อที่เข้าเกณฑ์ ข้อที่ถูก คัดเลือก 20 ข้อ ค่า IOC ค่าความยาก จำแนก (P) ค่าอำนาจ จำแนก (R) 8 1 0.65 0.40 ✓ ✓ 9 1 0.60 0.20 ✓ ✓ 10 1 0.83 0.35 ✓ ✓ 11 1 0.60 0.20 ✓ ✓ 12 1 0.50 -0.20 13 1 0.75 0.20 ✓ ✓ 14 1 0.68 -0.10 15 1 0.43 0.45 ✓ ✓ 16 1 0.55 0.50 ✓ ✓ 17 1 0.75 0 18 1 0.78 0.25 ✓ ✓ 19 1 0.55 0.30 ✓ ✓ 20 1 0.78 0.25 ✓ ✓ 21 1 0.45 0.20 ✓ ✓ 22 1 0.63 -0.10 23 1 0.80 0.20 ✓ ✓ 24 1 0.48 0.25 ✓ ✓

123 ตารางที่ ค.9 การคัดเลือกข้อสอบ (ต่อ) ข้อที่ ค่าที่ใช้พิจารณา ข้อที่เข้าเกณฑ์ ข้อที่ถูก คัดเลือก 20 ข้อ ค่า IOC ค่าความยาก จำแนก (P) ค่าอำนาจ จำแนก (R) 25 1 0.83 0.25 ✓ ✓ 26 1 0.58 0.15 27 1 0.93 -0.10 28 1 0.78 0.25 ✓ ✓ 29 1 0.70 0.40 ✓ ✓ 30 1 0.45 -0.10

124 ภาคผนวก ง ภาพบรรยากาศการเรียนการสอน

125 ภาพที่ 1 ภาพบรรยากาศการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะ ภาพที่ 2 ภาพบรรยากาศการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะ

126 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542และที่แก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553.กรุงเทพฯ :โรงพิมพ์องค์การรับส่ง สินค้า และพัสดุภัณฑ์. กิตติยา คุ่มเครายม และอารีย์ วุฒิจันทร์.(2564).การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิซาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระภูมิศาสตร์เรื่อง ลักษณะและการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ของนักเรียนขั้นประถมศึกษาปีที่ 4.ไม่ปรากฏโรงพิมพ์. กาญจนา วัฒายุ. (2545). การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา. กรุงเทพฯ : ธนพรการพิมพ์. ขวัญจิตร วิรัตน์จันทร์.(2562).การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษาศาสนาและ วัฒนธรรม สาระภูมิศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3/3 โรงเรียนวัดมณีจักร.ไม่ ปรากฏโรงพิมพ์. ใขรี่ยะ ม่าเหร็ม.การใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอัลกุรอานเบื้อตเนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของผู้เรียนวิชาอิสลามศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่5.ไม่ปรากฏโรงพิมพ์.2564. ฆนัท ธาตุทอง. (2551). การออกแบบการสอนแบบย้อนกลับ Backward Design. กรุงเทพฯ :เพชร เกษมการพิมพ์. ชนิษฎา อินนวล. (2554). แนวทางพัฒนาการบริหารงานวิชาการของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในอำเภอชายแดน จังหวัดตาก.วิทยานิพนธ์ ค.ม.(การบริหาร การศึกษา). กำแพงเพชร : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. ชลิดา กรชนกธนรงค์.การใช้แบบฝึกทักษะเรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา(พระรัตนตรัย) กลุ่ม สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม(สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5.ไม่ปรากฏโรงพิมพ์.2564. ชวลิต ชูกำแพง (2551).การประเมินหลักสูตร.มหาสารคาม:มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ชัชวาล รัตนสวนจิก. (2550). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจต่อการ เรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เวกเตอร์ ระหว่างการสอนแบบร่วมมือ (STAD) การสอน 4 MATและการสอนแบบปกติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. (หลักสูตรและการสอน). มหาสารคาม : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ณัฐชา อักษรเดช. (2554). การสร้างแบบฝึกการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2.วิทยานิพนธ์ กศ.ม. (หลักสูตรและการสอน). ชลบุรี : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา.

127 บรรณานุกรม(ต่อ)(ต่อ) ณิชกมล ร่มโพธิ์.(2561).การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษาของนักเรียนขั้น ประถมศึกษาปีที่ 5.ไม่ปรากฏโรงพิมพ์. ดวงมณี กันทะยอม (2551).การใช้แบบบคิดสร้างสรรค์ในการสอนเขียนความเรียงเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนระดับประกาศณียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 1 โรงเรียนพาณิชยการเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ ศษ.ม (การบริหารการศึกษา).เชียงใหม่:บัณฑิตวิทยามหาลัยเชียงใหม่. ถวัลย์ มาศจรัส และคณะ (2550).แบบฝึกหัดแบบึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ผู้เรียนและการ จัดทำผลงานวิชาการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา.พิมพ์ครั้งที่2.กรุงเทพฯ: ธารอักษร. ธีราภรณ์ ทรงประศาสน์. (2551). การใช้แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการแต่งประโยคสำหรับนักเรียน ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแพร่ปัญญานุกูล. วิทยานิพนธ์ ศษ.ม. (การบริหารการศึกษา). เชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่. นิกร ไชยบุตร.การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสัคมศึกษาขอนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่โดย ใช้แบบฝึกทักษะการเรียนรู้สาระเศรษศาสตร์.ไม่ปรากฏโรงพิมพ์.2563. นิ่มน้อย แพงปัสสา. (2551). ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฎจักรการเรียนรู้ 4 MATและการ ประยุกต์ใช้ทฤษฎีพหปัญญา เรื่อง การบวกและการลบจานวนที่มีผลลัพธ์ และตัวตั้งไม่ เกิน 100 ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความคิดสร้างสรรค์ และความพึงพอใจของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ กศ.ม.(หลักสูตรและการสอน)มหาสารคาม : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. บุญชม ศรีสะอาด และคณะ. (2553). พื้นฐานการวิจัยการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 6. กาพสินธุ์ :ประสาน การพิมพ์. บุญชม ศรีสะอาด. (2553). วิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 8. บุญชม ศรีสะอาด. 2540. การวิจัยทางการวัดผลและประเมินผล. กรุงเทพ ฯ : สุวีริยาสาส์น. บุญเชิค ภิญโญอนันตพงษ์. (2540). การทดสอบแบบอิงเกณฑ์ : แนวคิดและวิธีการ. กรุงเทพฯ : ภาควิชาพื้นฐานการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร. ถ่ายเอกสาร.

128 บรรณานุกรม(ต่อ) บุญเพ็ง ศิริกาล.การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง ศีลธรรมจริยธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านสงเปือยเหนือ.ไม่ ปรากฏโรงพิมพ์. เบญจวรรณ วิเชียรครุฑ. (2552). การพัฒนาแบบฝึกทักษะการแต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนราชประชาสมาสัย ฝ่ายมัธยมรัชดาภิเษกใน พระบรมราชูปถัมภ์. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. (สาขาวิชาการมัธยมศึกษา). กรุงเทพฯ:บัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ประกิจ รัตนสุวรรณ. 2525. การวัดและการประเมินผลทางการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : คณะ ศึกษาศาสตรมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร. ปราณี กองจินดา. (2549). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์และทักษะการคิด เลขในใจของนักเรียนที่ได้รับการสอนตามรูปแบบซิปป่าโดยใช้แบบฝึกหัดที่เน้นทักษะการ คิดเลขในใจกับนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้คู่มือครู. วิทยานิพนธ์ ค.ม. (หลักสูตร และการ สอน). พระนครศรีอยุธยา : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏ พระนครศรีอยุธยาเยาวดี วิบูลย์ศรี . (2549). การวัดและการสร้างแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอุทุมพร. พระมหาภาคภมิ ฐานิสฺสฺโร.การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์โดยใช้แบบฝึกทักษะนิทานชาดก รายวิชาพระพุทธศาสนา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่4 โรงเรียนวัดดอกไม้ ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดยานนาว.ไม่ปรากฏโรงพิมพ์.2561. พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2545). การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้: ปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียน, พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : ครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร. ไพบูลย์ เทวรักษ์. (2540). จิตวิทยาการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: เอส ดี เพรส การพิมพ์. ภพ เลาหไพบูลย์. (2552). แนวการสอนวิทยาศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. มะลิ ชีถนอม.(2559)การใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่องพุทธ ประวัติ ของนักเรียนชันประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนอนุบาล เบตงสุภาพอนุสรณ์.ไม่ปรากฏโรงพิมพ์. ล้วน สายยศและอังคณา สายยศ. 2543. เทคนิคการวิจัยทางการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: สุวี ริยาสาส์น.

129 บรรณานุกรม(ต่อ) วิมลรัตน์ สุนทรโรจน์. (2549). นวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้. ภาควิชาหลักสูตรและการสอนคณะ ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. วิไลลักษณ์ มีทิศ. (2551). การสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการคิดคำนวณด้านการ คูณของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการฟิสิกส์ เล่ม 1. กรุงเทพฯ : สกสด. ลาดพร้าว. ศศิพิมพ์ ศรกิจ. (2551). การพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกทักษะจากการเขียน แบบควบคุมไปสู่การเขียนแบบอิสระสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6.วิทยานิพนธ์ ศษ.ม. (ประถมศึกษา). เชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. ศุภรณ์ ภูวัด. (2553). การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณสำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร.สาร นิพนธ์ กศ.ม. (การมัธยมศึกษา). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย. สมนึก ภัททิยธนี. 2544. การวัดผลการศึกษา. กาฬสินธุ์ : ประสานการพิมพ์. สมพร เชื้อพันธ์. (2547). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนแบบสร้างองค์ ความรู้ด้วยตนเองกับ การจัดการเรียนการสอนตามปกติ. วิทยานิพนธ์ ค.ม. (หลักสูตรและการสอน). พระนครศรีอยุธยา : บัณฑิตวิทยาลัย สถาบันราชภัฎพระนครศรีอยุธยา. พิมพันธ์ เคชะคุปต์ และพเยาว์ ยินดีสุข. (2548). วิธีวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ทั่วไป.กรุงเทพฯ: บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ(พ.ว.)จำกัด. สําลี รักสุทธี. (2553). การจัดทําสื่อนวัตกรรมและแผนประกอบสื่อนวัตกรรม. นนทบุรี : เพิ่มทรัพย์ การพิมพ์. สำลี รักสุทธี. (2553). คู่มือแก้ปัญหาการสอน การอ่าน และการเขียนให้ได้ผลดี. กรุงเทพฯ :พัฒนา ศึกษา. สมพร เชื้อพันธ์. (2547). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนแบบสร้างองค์ ความรู้ด้วยตนเองกับ การจัดการเรียนการสอนตามปกติ. วิทยานิพนธ์ ค.ม. (หลักสูตรและการสอน). พระนครศรีอยุธยา : บัณฑิตวิทยาลัย สถาบันราชภัฎพระนครศรีอยุธยา. สุวิทย์มูลคำ และคณะ. (2551). การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการคิด. กรุงเทพฯ :อี เคบุ๊คส์.

130 บรรณานุกรม(ต่อ) หยาดนภา ยัพราษฎร. (2552). ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานและเปรียบเทียบความพึงพอใจใน การปฏิบัติงานของครูผู้สอน ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาญจนบุรี. วิทยานิพนธ์กศ. ม. (หลักสูตรและการสอน). ชลบุรี : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา. อนงพันธุ์ ใบสุขันธ์. (2551). การใช้แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนชั้นอนุบาล. วิทยานิพนธ์ ศ.ม. (ประถมศึกษา). เชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. อรนุช ลิมตศิริ.(2546).นวัตกรรมและเทคโนโลนีการเรียนการสอน(พิมพ์ครั้งที่3).พิษณุโลก:มหาลัย นเรศวร.

131 ประวัติผู้วิจัย ชื่อ – สกุล นางสาววราพร อัคราช วัน เดือน ปีเกิด 7 มิถุนายน 2544 ที่อยู่ปัจจุบัน บ้านเลขที่ 237 หมู่ 2 ตำบลวังสามหมอ อำเภอวัง สามหมอ จังหวัดอุดรธานี เบอร์โทร 084 – 032 -9392 ประวัติการศึกษา ปีการศึกษา 2566 สำเร็จการศึกษาประถมศึกษา โรงเรียนอนุบาลวังสามหมอ อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี ปีการศึกษา สำเร็จระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนวังสามหมอวิทยาคาร อำเภอวังสาม หมอ จังหวัดอุดรธานี ปีการศึกษา 2563 - ปัจจุบัน กำลังศึกษาระดับอุดมศึกษา สาขาวิชาสังคมศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาลัยราชภัฏอุดรธานี อำเภอเมือง จังหวัด อุดรธานี