The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by stabundamrong KM, 2021-10-01 01:57:35

วารสารดำรงราชานุภาพ : ฉบับที่ 63

นักวางแผนมืออาชีพ

วารสารดำ�รงราชานุภาพ 93

12 เดือน โดยวันเริ่มต้นปีงบประมาณ คือวันท่ี เป็นประเทศท่ีพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนา
1 ตุลาคม ของทุกปี ตัวอย่างเช่นปฏิทิน ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง” ซ่ึงสอดคล้องกับ
งบประมาณรายจ่ายประจ�ำปีงบประมาณ ยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
พ.ศ. 2565 คณะรฐั มนตรีมมี ตใิ ห้ความเหน็ ชอบ ด้านความมั่นคง ด้านการสร้างความสามารถ
เมอื่ วนั ที่ 12 ตลุ าคม พ.ศ. 2563 เพอื่ ใหห้ นว่ ยงาน ในการแข่งขัน ด้านการพัฒนาและเสริมสร้าง
รับงบประมาณเริ่มกระบวนการจัดท�ำค�ำขอ ศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ด้านการสร้างโอกาส
ป ร ะ ม า ณ ร า ย จ ่ า ย ป ร ะ จ� ำ ป ี ง บ ป ร ะ ม า ณ และความเสมอภาคทางสังคม ด้านการสร้าง
พ.ศ. 2565 ซึ่งเริ่มใช้งบประมาณ ในวันที่ การเตบิ โตบนคณุ ภาพชวี ติ ทเ่ี ปน็ มติ รตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม
1 ตุลาคม 2564 ต้ังแต่การทบทวนเป้าหมาย และด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบ
ผลผลิต/โครงการ จัดท�ำรายละเอียดโครงการ การบริหารจัดการภาครัฐ ตลอดจนสอดคล้อง
ตลอดจนบันทึกข้อมูลในระบบงบประมาณ กบั แผนแมบ่ ทภายใตย้ ทุ ธศาสตรช์ าติ แผนพฒั นา
ของส�ำนักงบประมาณ (E - Budgeting) เศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ  แผนการปฏริ ปู ประเทศ
และเสนอรา่ งพระราชบญั ญตั งิ บประมาณรายจา่ ย แผนความม่ันคงแห่งชาติ รวมท้ังยุทธศาสตร์
ป ร ะ จ� ำ ป ี ต ่ อ รั ฐ ส ภ า ต า ม รั ฐ ธ ร ร ม นู ญ แ ห ่ ง การจัดสรรงบประมาณ เป็นกรอบแนวคิด
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยมี ในการขับเคลอื่ นแผนงาน ผลผลติ / โครงการ
แนวทาง และกระบวนการขั้นตอนการจัดท�ำ 1.1.3 น้อมน�ำหลักปรัชญา
คำ� ของบประมาณรายจา่ ยประจำ� ปขี องหนว่ ยรบั ของเศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ กรอบแนวคดิ
งบประมาณ ดังน้ี 1.1.4 ใ ห ้ ค ว า ม ส� ำ คั ญ กั บ
1.1 แนวทางการจัดท�ำค�ำขอ กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน และ
งบประมาณรายจ่ายประจ�ำปีของหน่วยงาน ความต้องการของประชาชน ต้องค�ำนึงถึง
ภาครฐั การบูรณาการระหว่างหน่วยงาน โครงการ/
ส�ำนักงบประมาณจะก�ำหนด กจิ กรรมตอ้ งไมซ่ ำ�้ ซอ้ น ใหค้ ำ� นงึ ถงึ ความเสมอภาค
ใ ห ้ ห น ่ ว ย ง า น รั บ ง บ ป ร ะ ม า ณ จั ด ท� ำ ค� ำ ข อ มิติหญิงชาย และให้สนับสนุนและส่งเสริม
งบประมาณรายจ่ายประจ�ำปี โดยมีแนวทาง การใช้ผลิตภัณฑแ์ ละบริการนวัตกรรมตามบัญชี
ทสี่ ำ� คัญ ดงั น้ี นวตั กรรมไทย
1.1.1 เปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยเพอ่ื ดำ� เนนิ การ 1.2 กระบวนการขนั้ ตอนการจดั ท�ำ
ตามภารกิจอ�ำนาจหน้าท่ีที่กฎหมายก�ำหนด งบประมาณรายจ่ายประจ�ำปี
และเปน็ รายการทม่ี คี วามพรอ้ มในการดำ� เนนิ งาน ส�ำนักงบประมาณจะก�ำหนด
1.1.2 เพอ่ื ขบั เคลอ่ื นการพฒั นา กระบวนการขั้นตอนในการจัดท�ำงบประมาณ
ประเทศให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ รายจ่ายประจ�ำปี ให้หน่วยรับงบประมาณ
“ประเทศไทยมีความม่ันคง ม่ังคั่ง ย่ังยืน ดำ� เนินการโดยมขี น้ั ตอนท่สี ำ� คัญ ดงั นี้

94 วารสารด�ำ รงราชานุภาพ

1.2.1 ให้ทบทวนวิสัยทัศน์ 1.2.5 ในการบันทึกข้อมูล
พันธกิจ เป้าหมายการให้บริการ ผลผลิต/ งบประมาณในระบบงบประมาณของส�ำนัก
โครงการ กิจกรรม ตัวช้ีวัด โดยให้สะท้อนถึง งบประมาณ (E - Budgeting) ต้องแยกประเภท
ผลสมั ฤทธข์ิ องหนว่ ยรบั งบประมาณทส่ี อดคลอ้ ง งบรายจ่าย ได้แก่ งบบคุ ลากร (เงินเดือน คา่ จา้ ง
กับยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาต่าง ๆ ประจำ� คา่ ตอบแทนพนกั งานราชการ) งบดำ� เนนิ งาน
ที่เก่ียวข้อง และเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ (ค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าสาธารณูปโภค)
การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจ�ำปี งบลงทุน (ค่าที่ดินและส่ิงก่อสร้าง ค่าครุภัณฑ์)
และโครงสร้างแผนงานตามท่ีส�ำนักงบประมาณ งบเงนิ อดุ หนนุ (อดุ หนนุ ทว่ั ไป อดุ หนนุ เฉพาะกจิ )
กำ� หนด และงบรายจ่ายอ่ืน (งบด�ำเนินงาน งบลงทุน
1.2.2 ใ น ก า ร จั ด ท� ำ ค� ำ ข อ งบรายจา่ ยอนื่ ) ใหช้ ัดเจน
งบประมาณรายจา่ ยประจำ� ปี ใหแ้ สดงวตั ถปุ ระสงค์ 1.2.6 เมื่อพระราชบัญญัติ
ความจ�ำเป็น ผลสัมฤทธิ์ประโยชน์ท่ีคาดว่า งบประมาณรายจา่ ยประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ....
จะไดร้ บั แผนการปฏบิ ตั งิ าน และแผนการใชจ้ า่ ย ประกาศใช้ หน่วยรับงบประมาณจะต้องจัดท�ำ
งบประมาณ กรอบประมาณการรายจา่ ยลว่ งหนา้ แ ผ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น แ ล ะ แ ผ น ก า ร ใ ช ้ จ ่ า ย
ระยะปานกลาง (MTEF) รายงานเกย่ี วกบั สถานะ งบประมาณรายจา่ ยประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ....
และแผนการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ เพอ่ื เปน็ กรอบแนวทางในการใชจ้ า่ ยงบประมาณ
ตามแบบท่สี ำ� นกั งบประมาณก�ำหนด และส่งให้ส�ำนักงบประมาณ และเม่ือส�ำนัก
1.2.3 กรณีรายการผูกพันใหม่ งบประมาณอนมุ ตั แิ ผนการปฏบิ ตั งิ านฯ หนว่ ยรบั
ท่ีมีวงเงินต้ังแต่หน่ึงพันล้านบาทขึ้นไป ให้ยื่น งบประมาณต้องแจ้งรัฐมนตรีเจ้าสังกัด เพื่อใช้
ค�ำขอตั้งงบประมาณ รายจ่ายเฉพาะรายการ ในการก�ำกับดูแลและติดตามการปฏิบัติงาน
ท่ีคณะรฐั มนตรีอนุมตั หิ ลักการ และการใช้จ่ายงบประมาณหรือก่อหนี้ผูกพัน
1.2.4 หน่วยรับงบประมาณ งบประมาณ
ท่ีสามารถน�ำเงินนอกงบประมาณมาใช้จ่ายได้
ให้พิจารณาน�ำเงินนอกงบประมาณที่มีอยู่น้ัน  การใช้จ่ายและบริหารงบประมาณ
มาสมทบตามความเหมาะสม และงบประมาณ รายจ่ายประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ ....
รายจ่ายเก่ียวกับบุคลากรของรัฐและสวัสดิการ ในการใช้จ่ายและบริหารงบประมาณ
ของบุคลากรของรัฐ ให้ขอตั้งเท่าที่จ�ำเป็นตาม รายจ่ายประจ�ำปี หน่วยรับงบประมาณต้องยึด
ภารกิจ และเป็นไปตามแผนการปฏิรูปประเทศ ระเบยี บวา่ ดว้ ยการบรหิ ารงบประมาณ พ.ศ. 2562
ทต่ี อ้ งการลดขนาดกำ� ลังคน เป็นแนวทางปฏิบตั ิ ซึ่งมีสาระส�ำคญั ดงั น้ี

วารสารด�ำ รงราชานุภาพ 95

2.1 หนว่ ยรบั งบประมาณตอ้ งดำ� เนนิ การ เอกชนหรือกิจการอันเป็นสาธารณประโยชน์
ให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการ รวมถึงเงินอุดหนุนสถาบันพระมหากษัตริย์
ใช้จ่ายงบประมาณท่ีส�ำนักงบประมาณให้ และการศาสนา ตลอดจนงบประมาณรายจ่าย
ความเห็นชอบ ของหน่วยงานของรัฐที่กฎหมายก�ำหนดให้เป็น
2.2 ส� ำ นั ก ง บ ป ร ะ ม า ณ จ ะ อ นุ มั ติ เงินอดุ หนนุ
เงนิ จดั สรรในวงเงนิ ทก่ี ำ� หนดไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิ 2.3.5 งบรายจ่ายอื่น หมายถึง
งบประมาณรายจ่ายประจ�ำปีให้สอดคล้องกับ รายจ่ายที่ไม่เข้าลักษณะประเภทงบรายจ่ายใด
แผนการปฏิบัติงานฯ งบรายจา่ ยหน่งึ
2.3 ในการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่าย ทั้งนี้ กรณีหน่วยรับงบประมาณ
ประจำ� ปี หนว่ ยรบั งบประมาณตอ้ งยดึ ตามหลกั เกณฑ์ มีความจ�ำเป็นต้องปรับแผนการปฏิบัติงานฯ
วา่ ดว้ ยการใชจ้ า่ ยงบประมาณ การโอนเงนิ จดั สรร ตอ้ งขอความเหน็ ชอบจากรัฐมนตรีเจา้ สังกัด และ
หรือการเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร พ.ศ. 2562 สง่ ใหส้ ำ� นกั งบประมาณพจิ ารณาใหค้ วามเหน็ ชอบ
ซ่ึงส�ำนักงบประมาณจะจัดสรรเงินงบประมาณ 2.4 กรณหี นว่ ยงานมคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งมี
ใหห้ น่วยงานตามประเภทรายจ่าย ได้แก่ การปรับแผนการปฏิบัติงานฯ ต้องด�ำเนินการ
2.3.1 ง บ บุ ค ล า ก ร ห ม า ย ถึ ง ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ
รายจ่ายท่ีก�ำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงาน พ.ศ. 2562 โดยการปรับแผนการปฏิบัติงาน
บคุ ลากรภาครัฐ ได้แก่ รายจา่ ยที่จ่ายในลักษณะ จะกระทำ� ไดใ้ น 3 กรณี 1) กรณมี คี วามจำ� เปน็ ตอ้ ง
เงินเดือน ค่าจ้างประจ�ำ ค่าจ้างช่ัวคราว เปล่ียนแปลงเป้าหมายหรือตัวช้ีวัดของแผนงาน
และค่าตอบแทนพนักงานราชการ ผลผลิต หรือโครงการให้แตกต่างไปจากที่
2.3.2 งบด�ำเนินงาน หมายถึง ส�ำนักงบประมาณได้ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว
ร า ย จ ่ า ย ท่ี ก� ำ ห น ด ใ ห ้ จ ่ า ย เ พ่ื อ ก า ร บ ริ ห า ร 2) เม่ือมีการโอนงบประมาณรายจ่ายไปให้
งานประจ�ำ ได้แก่ รายจ่ายท่ีจ่ายในลักษณะ หน่วยรับงบประมาณอื่นตามวิธีการที่กฎหมาย
ค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ และ ก�ำหนด 3) เม่ือคณะรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี
ค่าสาธารณูปโภค เจ้าสังกัดมีนโยบายใหม่และมีความจ�ำเป็นต้อง
2.3.3 งบลงทุน หมายถงึ รายจ่าย ปรับปรุงเป้าหมายของแผนงาน ผลผลิตหรือ
ที่ก�ำหนดให้จ่ายเพื่อการลงทุน ได้แก่ รายจ่าย โครงการให้สอดคล้องกับนโยบายท่ีก�ำหนด
ท่ีจ่ายในลักษณะค่าครุภัณฑ์ ค่าท่ีดินและ ขึ้นใหมน่ ั้น
ส่งิ กอ่ สรา้ ง กรณีหน่วยงานมีความจ�ำเป็นต้อง
2.3.4 งบเงินอุดหนุน หมายถึง โอนเงินจัดสรรหรือเปล่ียนแปลงเงินจัดสรร
รายจา่ ยทกี่ ำ� หนดใหเ้ ปน็ คา่ บำ� รงุ หรอื เพอ่ื ชว่ ยเหลอื ภายใต้แผนงาน ผลผลิตหรือโครงการเดียวกัน
ส นั บ ส นุ น ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น ข อ ง รั ฐ วิ ส า ห กิ จ ตอ้ งดำ� เนนิ การตามหลกั เกณฑว์ า่ ดว้ ยการใชจ้ า่ ย

96 วารสารด�ำ รงราชานุภาพ

งบประมาณการโอนเงนิ จดั สรรหรอื การเปลย่ี นแปลง  ก ารติ ดตาม ผลกา รใช ้จ่ าย
เงินจัดสรร พ.ศ. 2562 ท้ังน้ี ต้องไม่เป็น งบประมาณ และประเมนิ ผลการใชจ้ า่ ย
การโอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงจาก งบประมาณรายจ่ายประจ�ำปี
1) งบบคุ ลากร 2) รายการคา่ ครภุ ณั ฑท์ ี่มวี งเงิน ในการตดิ ตามและรายงานผลการดำ� เนนิ การ
ต่อหน่วยต้ังแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป 3) รายการ ตามแผนการปฏิบัติงานฯ ส�ำนักงบประมาณ
ค่าท่ีดินสิ่งก่อสร้างที่มีวงเงินต่อหน่วยตั้งแต่ จะก�ำหนดให้หน่วยรับงบประมาณรายงานผล
10 ล้านบาทข้ึนไปและต้องไม่น�ำไปก�ำหนดเป็น การปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณ
(1) อตั ราบุคลากรตัง้ ใหม่ (2) ค่าจัดหาครภุ ณั ฑ์ ดงั นี้
ยานพาหนะ (3) รายการค่าครุภัณฑ์ที่มีวงเงิน 3.1 หน่วยรับงบประมาณต้องใช้จ่าย
ต่อหน่วยต้ังแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป (4) รายการ งบประมาณให้บรรลุตามแผนการปฏิบัติงาน
ค่าที่ดินส่ิงก่อสร้างท่ีมีวงเงินต่อหน่วยต้ังแต่ และแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยให้เป็นไป
10 ลา้ นบาทข้นึ ไป (5) ค่าใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทาง ตามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายหรอื ตวั ชวี้ ดั ตามที่
ไปราชการตา่ งประเทศชวั่ คราวทไี่ มไ่ ดก้ ำ� หนดไว้ ส�ำนักงบประมาณเหน็ ชอบ
ในแผนการปฏิบตั ิงานฯ และ (6) ไม่เปน็ รายการ 3.2 หน่วยรับงบประมาณต้องแสดง
กอ่ หนี้ผกู พัน ใ ห ้ เ ห็ น ถึ ง ค ว า ม ส� ำ เ ร็ จ ใ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น
ในกรณีมีเงินจัดสรรเหลือจ่าย และการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายท่ีเช่ือมโยง
จากการด�ำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์ หรือ กบั เปา้ หมายการใหบ้ รกิ ารกระทรวง ยทุ ธศาสตรช์ าติ
จากการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว หัวหน้าหน่วยรับ แผนแมบ่ ทภายใตย้ ทุ ธศาสตรช์ าติ และแผนปฏริ ปู
งบประมาณอาจโอนเงนิ จดั สรรหรอื เปลยี่ นแปลง ประเทศ โดยใหจ้ ดั สง่ ใหส้ ำ� นกั งบประมาณภายใน
เงินจัดสรรดังกล่าว ไปใช้จ่ายเป็นรายจ่ายใด ๆ 45 วนั นบั แต่วันส้นิ ปีงบประมาณ
ภายในแผนงานผลผลิตหรือโครงการเดียวกันได้ 3.3 หน่วยรับงบประมาณต้องรายงาน
ภายใต้เง่ือนไขข้างต้น โดยไม่ต้องขออนุมัติ การปรับแผนการปฏบิ ัตงิ าน การใชง้ บประมาณ
จากส�ำนักงบประมาณ รายจ่ายและการโอนเปล่ียนแปลงเงินจัดสรร
ทั้งนี้ หากหน่วยงานจำ� เปน็ ตอ้ งปรับ เพอื่ เปน็ ขอ้ มลู ในการจดั สรรงบประมาณในปตี อ่ ไป
แผนการปฏิบัติงานฯ ท่ีไม่เป็นไปตามระเบียบ ทั้งน้ี ส�ำนักงบประมาณจะใช้ผล
ว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2562 การปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณ
ต้องขอความเห็นชอบกับรัฐมนตรีเจ้าสังกัด ประกอบการพจิ ารณาจดั สรรงบประมาณรายจา่ ย
และขอท�ำความตกลงกับส�ำนักงบประมาณก่อน ของหน่วยรับงบประมาณในปถี ัดไป
และเมอ่ื ส�ำนักงบประมาณใหค้ วามเหน็ ชอบแล้ว
หนว่ ยงานจงึ จะสามารถด�ำเนินการได้

วารสารด�ำ รงราชานุภาพ 97

 ข้อสังเกตในการเสนอขอรับ 4.1.3 การเสนอขอรบั งบประมาณ
การจัดสรรงบประมาณ การบริหาร ต้องถูกต้องตามหลักจ�ำแนกประเภทรายจ่าย
งบประมาณ และการรายงานผล ซึ่งแยกเป็น งบบุคลากร งบด�ำเนนิ งาน งบลงทนุ
การด�ำเนินการตามแผนการปฏิบัติงาน งบเงนิ อดุ หนนุ และงบรายจ่ายอ่ืน ใหช้ ัดเจน
และแผนการใชจ้ า่ ยงบประมาณรายจา่ ย 4.1.4 ใ น ก า ร ก� ำ ห น ด ตั ว ช้ี วั ด
ประจ�ำปี ของผลผลิต/โครงการ ตามค�ำของบประมาณ
ในการปฏิบัติเก่ียวกับการบริหาร รายจ่ายประจ�ำปี ควรก�ำหนดให้สะท้อนถึง
งบประมาณรายจ่ายประจ�ำปี ตั้งแต่การจัดท�ำ ความสำ� เรจ็ ของเปา้ หมายการใหบ้ รกิ ารหนว่ ยงาน
เสนอขอรบั งบประมาณ การบริหารงบประมาณ และเป้าหมายการให้บริการกระทรวง เพื่อเป็น
ต ล อ ด จ น ก า ร ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น ประโยชน์ในการรายงานผลการปฏิบัติงาน
และการเบกิ จา่ ยงบประมาณ มขี อ้ สงั เกตทส่ี ำ� คญั และการใช้จา่ ยงบประมาณ
ดงั น้ี 4.2 การบริหารงบประมาณรายจ่าย
4.1 การเสนอขอรับการจัดสรร ประจ�ำปี
งบประมาณรายจา่ ยประจ�ำปี 4.2.1 หน่วยงานต้องใช้จ่าย
4.1.1 เ นื่ อ ง จ า ก ใ น ก า ร เ ส น อ งบประมาณตามที่ได้รับจัดสรรตามแผนการ
ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจ�ำปี ปฏิบัติงานฯ จากส�ำนักงบประมาณ ได้แก่
ต้องเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณล่วงหน้า รายการงบประมาณ และวงเงินงบประมาณ
ประมาณ 2 ปีงบประมาณ ดังนั้น หน่วยงาน โ ด ย จั ด ท� ำ ร า ย ล ะ เ อี ย ด ผ ล ผ ลิ ต / โ ค ร ง ก า ร
ภ า ค รั ฐ ค ว ร จั ด ท� ำ ผ ล ผ ลิ ต / โ ค ร ง ก า ร ใ ห ม ่ ประกอบด้วย รายการ วงเงิน และระยะเวลา
จ า ก ก า ร ค า ด ก า ร ณ ์ ถึ ง ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ทต่ี อ้ งเบกิ จา่ ยงบประมาณเปน็ รายเดอื นไวช้ ดั เจน
ของสถานการณ์ในอนาคตที่เก่ียวข้อง ซึ่งส่ง เพ่อื ใช้ประโยชนใ์ นการบรหิ ารงบประมาณ
ผลกระทบต่อภารกิจหน้าท่ีของหน่วยงาน 4.2.2 กรณีหน่วยงานจ�ำเป็นต้อง
และเสนอขอรับงบประมาณรายจ่าย เพ่ือเป็น เปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณท่ีได้รับจัดสรร
ค่าใชจ่ ่ายในการดำ� เนนิ การ ต้องด�ำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการบริหาร
4.1.2 ส� ำ ห รั บ ก ร ณี ผ ล ผ ลิ ต / งบประมาณ พ.ศ. 2562 ตามที่กล่าวมาแล้ว
โครงการ ซ่ึงเป็นงานประจ�ำของหน่วยงาน ข้างต้น รวมท้ังกรณีมีเงินเหลือจ่ายจาก
ค ว ร เ ส น อ ว ง เ งิ น ง บ ป ร ะ ม า ณ ใ ห ้ ค ร บ ถ ้ ว น การด�ำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์ตามค�ำขอ
ครอบคลุมทุกรายการ โดยเฉพาะรายการ งบประมาณ
ทเี่ ปน็ รายการผกู พนั งบประมาณขา้ มปซี งึ่ กำ� หนดให้ 4.2.3 ควรติดตามการก�ำหนด
หน่วยงานจะต้องเสนอของบประมาณต่อเนื่อง เป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่าย
ตามระยะเวลาของโครงการ ประจ�ำของคณะรัฐมนตรี เพ่ือเป็นแนวทาง

98 วารสารด�ำ รงราชานภุ าพ

ในการเร่งรัดการด�ำเนินงานและการเบิกจ่าย ทุกเดือน เพื่อรับทราบปัญหาอุปสรรค และ
งบประมาณของหน่วยงาน หาแนวทางแก้ไขปัญหาอปุ สรรคดังกล่าว
4.3 การรายงานผลการใช้จ่าย 4.3.2 ควรก�ำหนดแบบรายงาน
งบประมาณตามแผนการปฏิบัติงานและ ให้หน่วยด�ำเนินการรายงานผลการด�ำเนินการ
แผนการใชจ้ ่ายงบประมาณรายจา่ ยประจ�ำปี และการเบิกจ่ายงบประมาณ แยกเป็นรายจ่าย
4.3.1 ควรมกี ารแตง่ ตง้ั คณะกรรมการ/ ในแตล่ ะเดือนให้ชัดเจน
คณะท�ำงาน ซ่ึงประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงาน 4.3.3 ควรแสดงผลการปฏิบัติงาน
ในสงั กดั ทไ่ี ดร้ บั จดั สรรงบประมาณ เพอื่ ทำ� หนา้ ที่ ตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย
เรง่ รดั การดำ� เนนิ งานและการเบกิ จา่ ยงบประมาณ ง บ ป ร ะ ม า ณ ใ ห ้ ส ะ ท ้ อ น ถึ ง ผ ล สั ม ฤ ท ธ์ิ
ของหนว่ ยงานไดร้ บั จดั สรรงบประมาณเปน็ ประจำ� ต า ม เ ป ้ า ห ม า ย ก า ร ใ ห ้ บ ริ ก า ร ห น ่ ว ย ง า น
และเปา้ หมายการใหบ้ ริการกระทรวง

ระบบตดิ ตามและประเมินผลแห่งชาติ (eMENSCR) :
บทบาทและการดำ� เนนิ การของกระทรวงมหาดไทย

กล่มุ ขบั เคลือ่ นการปฏิรปู ประเทศ ยทุ ธศาสตร์ชาติ
และการสร้างความสามคั คีปรองดอง กระทรวงมหาดไทย (ป.ย.ป.มท.)

ระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ ระดบั ที่ 3 วา่ “แผนปฏบิ ัตกิ ารด้าน ... ระยะท่ี...
(eMENSCR) เป็นระบบติดตามและประเมินผล (พ.ศ. .... - ....)” เว้นแต่ได้มีการระบุชือ่ แผนไว้ใน
การขบั เคลอ่ื นการดำ� เนนิ การตามแผนการปฏริ ปู กฎหมายก่อนท่ีจะมีมติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันที่
ประเทศและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2560
แบบอิเล็กทรอนิกส์ มีชื่อเต็มว่า Electronic ระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ
Monitoring and Evaluation System of ถูกออกแบบโดยส�ำนักงานสภาพัฒนาการ
National Strategy and Country Reform เศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาตริ ว่ มกบั ศนู ยเ์ ทคโนโลยี
ซึ่งจัดท�ำขึ้นรองรับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันท่ี อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส ์ แ ล ะ ค อ ม พิ ว เ ต อ ร ์ แ ห ่ ง ช า ติ
4 ธนั วาคม พ.ศ. 2560 และกฎหมายฉบับอ่นื ๆ (NECTEC) โดยคณะรัฐมนตรีได้ออกระเบียบ
ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง โดยมตคิ ณะรฐั มนตรเี มอ่ื วนั ท่ี 4 ธนั วาคม ว่าด้วยการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล
พ.ศ. 2560 กำ� หนดใหม้ ีแผน 3 ระดบั ซ่ึงแผน การด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ และแผน
ระดบั ท่ี 3 คอื แผนทจ่ี ดั ทำ� ขนึ้ โดยหนว่ ยงานของรฐั การปฏิรปู ประเทศ พ.ศ. 2562 โดยอาศยั อ�ำนาจ
สว่ นราชการ และหนว่ ยงานอื่น ๆ เพื่อสนับสนนุ ตามพระราชบัญญัติการจัดท�ำยุทธศาสตร์ชาติ
การดำ� เนนิ งานของแผนระดบั ที่ 1 (ยทุ ธศาสตรช์ าต)ิ พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติแผนและข้ันตอน
และแผนระดบั ท่ี 2 (อนั ประกอบดว้ ย แผนแมบ่ ท การดำ� เนนิ การปฏริ ปู ประเทศ พ.ศ. 2560 ตามการเสนอ
ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูประเทศ ของส�ำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ สงั คมแหง่ ชาตเิ พอ่ื เปน็ เครอ่ื งมอื ในการดำ� เนนิ การ
นโยบายและแผนระดบั ชาตวิ า่ ดว้ ยความมนั่ คงแหง่ ชาต)ิ การด�ำเนินงานของระบบติดตาม
สู่การปฏิบัติให้บรรลุเป้าหมายที่ก�ำหนดไว้ หรือ และประเมินผลแห่งชาติได้พิจารณาถึงขอบเขต
จัดท�ำขึ้นตามที่กฎหมายก�ำหนดหรือจัดท�ำขึ้น และกระบวนการ ในการด�ำเนินการติดตาม
ตามพันธกรณี หรืออนุสัญญาระหว่างประเทศ ตรวจสอบ และประเมินผลตามกฎหมายต่าง ๆ
ซง่ึ มตคิ ณะรฐั มนตรดี งั กลา่ ว กำ� หนดใหใ้ ชช้ อื่ แผน ในรายละเอยี ด ดงั น้ี

100 วารสารด�ำ รงราชานภุ าพ

 กฎหมายและระเบยี บท่เี กี่ยวขอ้ ง มาตรา 10 วรรคสาม หนว่ ยงานของรฐั
จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามแผนแม่บทท่ี
 รั ฐ ธ ร ร ม นู ญ แ ห ่ ง ร า ช อ า ณ า จั ก ร ไ ท ย คณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบและประกาศ
พทุ ธศักราช 2560 ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว รวมท้ังการจัดท�ำ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย งบประมาณรายจ่ายประจ�ำปีงบประมาณต้อง
พทุ ธศกั ราช 2560 มาตรา 270 บญั ญตั ใิ หว้ ฒุ สิ ภา สอดคล้องกับแผนแม่บทดว้ ย
มหี นา้ ทแ่ี ละอำ� นาจตดิ ตาม เสนอแนะ และเรง่ รดั มาตรา 22 (3) หนว่ ยงานของรฐั มหี นา้ ท่ี
การปฏิรูปประเทศ เพ่ือให้บรรลุเป้าหมาย ให้ความร่วมมือส�ำนักงานสภาพัฒนาการ
ตามหมวด 16 การปฏริ ปู ประเทศ และการจดั ทำ� เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะเลขานุการ
และด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ และให้ คณะกรรมการยทุ ธศาสตรช์ าติ และคณะกรรมการ
คณะรฐั มนตรแี จง้ ความคบื หนา้ ในการดำ� เนนิ การ ปฏิรูปประเทศในการประสานงานเกี่ยวกับ
ตามแผนการปฏิรปู ประเทศต่อรัฐสภาเพ่ือทราบ การด�ำเนินการตามพระราชบัญญัติการจัดท�ำ
ทุกสามเดอื น ยุทธศาสตรช์ าติ
มาตรา 24 ใหห้ นว่ ยงานของรฐั รายงาน
  พ ร ะราชบญั ญตั กิ ารจดั ท�ำยทุ ธศาสตรช์ าติ ผลการด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติต่อ
พ.ศ. 2560 ส�ำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
พระราชบญั ญตั กิ ารจดั ทำ� ยทุ ธศาสตรช์ าติ แหง่ ชาตภิ ายในเวลา และตามรายการทสี่ ำ� นกั งาน
พ.ศ. 2560 ไดบ้ ญั ญตั ใิ หส้ ำ� นกั งานสภาพฒั นาการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติปฏิบัติหน้าท่ี กำ� หนด
เป็นส�ำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการ มาตรา 26 หนว่ ยงานของรฐั ตอ้ งดำ� เนนิ การ
ยทุ ธศาสตรช์ าติ คณะกรรมการจดั ทำ� ยทุ ธศาสตรช์ าติ แกไ้ ขกรณที คี่ วามปรากฏวา่ การดำ� เนนิ การใดของ
และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ แล้วแต่กรณี หนว่ ยงานของรฐั ไมส่ อดคลอ้ งกบั ยทุ ธศาสตรช์ าติ
คณะรฐั มนตรจี งึ ไดอ้ อกระเบยี บวา่ ดว้ ยการตดิ ตาม หรือแผนแม่บท
ตรวจสอบ และประเมินผลการด�ำเนินการ
ตามยทุ ธศาสตรช์ าติ และแผนการปฏริ ปู ประเทศ การตดิ ตาม ตรวจสอบ และ
พ.ศ. 2562 เพอ่ื เปน็ หลกั ปฏบิ ตั ใิ นการดำ� เนนิ การ การประเมนิ ผลตามพระราชบญั ญตั ิ
ดังกลา่ ว การจดั ท�ำยทุ ธศาสตรช์ าติ พ.ศ. 2560
มาตรา 5 วรรคสาม บัญญัติให้
การจดั ทำ� งบประมาณรายจา่ ยประจำ� ปงี บประมาณ การรายงานผลการด�ำเนินการตาม
ข อ ง ห น ่ ว ย ง า น ข อ ง รั ฐ ต ้ อ ง ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ ยุทธศาสตร์ชาติแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ
ยุทธศาสตร์ชาติ คือ เป็นการรายงานผลการด�ำเนินการประจ�ำปี

วารสารดำ�รงราชานุภาพ 101

ตามมาตรา 24 และการรายงานเฉพาะเรื่อง รฐั สภาทราบ เปน็ การเฉพาะเรอื่ งตอ่ คณะกรรมการ
ก า ร ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ป ร ะ จ� ำ ป ี จัดท�ำยุทธศาสตร์ชาติ จากน้ันรายงานต่อให้
ตามมาตรา 24 เป็นการรายงานความก้าวหน้า คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และรัฐสภา
ในการด�ำเนินโครงการภายในระยะเวลาที่ ตามลำ� ดบั คณะกรรมการปฏริ ปู ประเทศจะหารอื
ส�ำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม ผลจากการตรวจสอบกับรัฐมนตรีเจ้าสังกัด
แหง่ ชาตกิ ำ� หนด ซงึ่ จะไดก้ ลา่ วถงึ ตอ่ ไป สำ� นกั งาน หรอื หารอื กบั หวั หนา้ หนว่ ยงานเพอื่ ปรบั ปรงุ แกไ้ ข
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรณีที่เป็นหัวหน้าหน่วยงาน หากไม่สามารถ
ไดก้ �ำหนดให้รายงานภายใน 30 วัน หลงั สิ้นสดุ หาข้อยุติได้ ก็ให้น�ำเรียนคณะกรรมการ
แต่ละไตรมาสของปีงบประมาณโดยส�ำนักงาน ยทุ ธศาสตรช์ าติ คณะรฐั มนตรี หวั หนา้ หนว่ ยงาน
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรอื รฐั สภา แลว้ แตก่ รณี กรณที มี่ ปี ญั หาอปุ สรรค
จะประมวลผลขอ้ มลู และรายงานคณะกรรมการ ทไี่ มอ่ าจดำ� เนนิ การตามแผนการปฏริ ปู ประเทศได้
ยทุ ธศาสตรช์ าติ คณะรฐั มนตรี หวั หนา้ หนว่ ยงาน และเป็นเรื่องเร่งด่วน ส�ำนักงานสภาพัฒนาการ
(ซง่ึ รวมถงึ หนว่ ยงานฝา่ ยนติ บิ ญั ญตั ิ ตลุ าการ และ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจะรายงานปัญหา
องคก์ รอสิ ระ และองคก์ รอยั การ) และรฐั สภาตอ่ ไป อปุ สรรคและขอ้ เสนอแนะการแกไ้ ขปญั หา โดยไดร้ บั
    เป็นการสรา่วยนงกาานรกรราณยีทงาี่มนีเหเปต็ุนอันกคารวเรฉรพายางะาเนร่ือใหง้ ความเหน็ ชอบของคณะกรรมการปฏริ ปู ประเทศ
ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง

  1 ค1ณคะณกะรกรมรรกมากรายรุทยธุทศธาศสาตสรต์ชรา์ชตาิ ติ
รายรางยานงาในหใ้ทหร้ทาบราภบาภยาในยใ9น09ว0ันวจันาจกาวกันวทันหี่ ทน่หี ่วนย่วงยานงารนายรางยานงาตนาตมากมํากหํานหดนสดศสชศ. ช.
2 ค2ณคะณระัฐรมัฐนมตนรตี รี
รายงาหนนใหห่วนย้ท่วงรายานงบานภายใน 90 วันระจบราะบกบวeบันMทeEีห่MNนES่วNCยSRงCาRนรายงานตามกสําศหสชนศ.ดช.สศช. อ34132งหรคคหอ34คฐัณณัวงัว์กหรสคหหรัฐะะัวภก์อนนกรสหารัยัฐ้า้ารภอนกหมหราัย้ามานนนกหรก่ตว่วา)นายยรรร่วีงง)ยยาาุทงนนาธ(น(ศนนา(ิติตสนบิบิ ติตัญัญริบ์ชญญั าัตตัตญิิิ ตตั ุลุลิ ตาาุลกกาากรราออรงงอคคง์ก์กครร์กออริสิสอรริสะะระ
องค์กรอยั การ)
หน่วยงาน ระบบ eMENSCR สศช.
4 รฐั สภา

รายรางยานงาในใกนรกณรที ณ่ีมีทีเห่ีมตีเหุอตันุอคันวครใวหรใร้ หาย้รางยานงาในหใ้รหัฐ้รสัฐภสาภทารทาบราเปบ็นเปก็นากรเาฉรพเฉาพะาเระ่ือเรง่อื ง

รายงคาณยนคะุทใณกยนธะุทรศกกรธารมรศสณรกาตมาีทสรกรตี่ม์ชจาราีเรัดห์ชตจทตาิ ัดําตอุ ทิันําควรให้รายงายนคุทณใยธหคุทะศณ้รกธาัฐะรศสรสสกราตรตภมรสมรรรากต์ชก์ชมทาราาการร์ชตรตาาาิ รบิตเิ ป็นการเฉพาะเรรฐั อ่ื สรงฐัภสาภา

คณะกรรมการจัดทํา คณะกรรมการ รัฐสภา
ยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์ชาติ

ท่มี ทา่มี :าส:าํ สนําักนงกัานงาสนภสาภพาัฒพนัฒานกากรเาศรรเศษรฐษกฐจิ กแจิลแะลสะังสคังมคแมหแ่งหชง่าชตาิ ติ

ทมี่ า : สํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ

กากราตรรตวรจวสจอสบอกบากราดรําดเํานเินกินากราตราตมายมุทยธุทศธาศสาตสรต์ชรา์ชตาิ ตซิ ่ึงซแึ่งบแ่งบอ่งอกอเกปเ็นป็น2 2ปรปะรเะภเทภทไดไ้แดก้แ่ กก่ ากราตรรตวรจวสจอสบอบ
ขอขงอสงภสาภผาู้แผทู้แนทรนารษาฎษรฎหรรหือรวือุฒวุฒิสภิสาภาตาตมามามตารตารา2525แลแะลกะากราตรรตวรจวสจอสบอขบอขงอคงณคณะกะรกรรมรกมากราจรัดจทัดําทยําุทยธุทศธาศสาตสรต์ชรา์ชตาิ ติ

คณะกรรมการจดั ทํา คณะกรรมการ รฐั สภา

ยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์ชาติ
102 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ

การตรวจสอบทม่ี า : สํานกั งานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ หวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั และหาก ป.ป.ช. มมี ตวิ า่
ข้อกล่าวหามีมูล ก็ให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูก
การตรวจสอบการด�ำเนินการตาม กล่าวหานั้น ส่ังให้ผู้นั้นพักราชการหรือพักงาน
ตพโวขหคไยดดุฒณาุขตวปพทขอหย.รศ้แมุฒอุยทอาิรรืจงอธิสะ.กมมงือะงพาธไิสศก2ภวสผร่มจศาสมภรร5ุาฒภาณู้ถตกําั่าางร่6ะาสมาูปใตสกรามิาส0ตหรผตกีาเตแีกรรตดกภาาู้้แหพาารตลกรลาําามชทร2์้ชนา์้ชมเ่วราตรร2ตน5มบนาณวแจจวมาุ6อรินตหราตัาแญดจัตากวีัหนาิตกตกข่ากตทสลิจาษญาาานอตรรสรอรำสซ�้วรมกฎําั้งาณนาัยตตอมบึ่กงมแพพรแทรุิีบกแ2ับ2หขคสาหตรบสวธ5กาตบ5ห่ัรงอะนจวาว่ศกใรือารัวรมง่สงห่าง่รหารแาจรวหาสตอหอาสาด้ผุฒชลณัดนร่ภ2อบกอนตําู้สนบะถิส6ท้าไพเาจีวกร่ ้ันปภนักสญหภชผ�์ยาำบสหเพ่ิงนานาากาปยญงู้แสวาเาัรกกต่าวรผรุท่ทต่วก็านัตมตนยราาื่อิูหนา้ตปแินธกยรางราไงมกนารชตาศมา2ทงรใวรมมาาหน่ราวกาดา่จาถนากรมนจยม้ขคษาำสปส� ตตฏสัดางปรรยอณเฎตอรรรนาตวหทุ่ทงงาราวบะะนรร่ารรนิะรํเาธษจกห์ัชาฐ2เรไืขอยจกศกภสมรฎ5่ือารุ2พำทอ�าาาแอ่รดทปือต6สรรรงังธกแลมบําดีติศลงะเกอําารนาะหาีกเน์ชสกินนารลาตาอจยไคหหแหกปกินหักตมรรทัดุลีรรณก้าาอกรปิตษ์ช่สออืืระทธซกงาือลร.ะณาอสสกศป่ึไรง�ำปวสโักตกมแขัดงงน่ัด่ัาะ.จย่ังิชรใษใบรอแ่สหยสคแใพทุหห.าหร่งงตกอไลณนล.พมธอก้้หอมศม้อรบไ้ะึ่ง้อศีมอน้ฏ่อมนขะ.แ์อกนปขงตากกจี2่เปจวกหว้ัอานรกหสิวจยเา5ง้จ่ารงารคปนั่บาตตกโาง6คบายบั ืดขอ็นาก่ึุองตยร0กณปกุท้อปกนยรันน์ชุทํร2ระาากกาไไาธรแาาสั้นามธมกรรชลรงุศชปหตมมศต่มสร่ณด่ตากการนิสคกรรอวาเีค�าำาีะาสกหมงวา่าวหสดรมเรืเอตาตรจกมรตนภาหคตหทรทอ่สารมาอุทลิรนสรตรรไค่ีุอจ์กรชีมนัอ้อืือ์ชปภรจกรบถไณูลาาอคงวอัาดดาิตาสขสกตรจอวตอผทะ้แกแรวอั่บ่งิสตตรู้กกแิแกํกา็ใหขนเงยอหยาจจทรร่คลรค่งอกุกทบุท้มผาา่ือวรนชณะณางากธกู้บธจมมงจารแรรหศะะศงงาใัตงากาตสตผาหากากกคานิษตารรนนนสอส(รรรับ้ ป่ฎรวววรปตไตรรไาแบบจจจวย.วรามมยรรป.มั้ญกสขสกดัปห้ ง์ช์ชกงก.่บ่ออออ่ชา2ทารอาาช.าาชบืนนตนอทตบน.ร6ารำ�ง).ิิ
ใหแล้คะณแผะนกแมร่บรทมแกลาะรไมป่แ้กอ้ไงขกปัรนับแปลรุงะตปามรทาี่คบณปะกรรารมมการจทัดรทาําบยุทแธลศะาพสจิตารร์แณจ้งาโดตยาไมมอ่มำ�ีเหนตาุอจันหคนวา้ รทคี่ รณาะยกลระรเมอกยี าดร
กาจรัดททจุํารยติุทแธหศาง่ สชตาตร์ชิ (าปต.ปิสา.ชม.า)รพถจิ สา่งรเรณ่ือางดใหำ� ้เนป.นิ ปก.ชา.รทกรบั าบแลปะรพาิจการฏณตาาตมาแมผอนํานภาาจพหทนี่้า2ที่ รายละเอียดปรากฏตาม

แผนภาพท่ี 2

พจิ ารณารายงานประจําปี เห็นว่า ไม่มีเหตุ
อันสมควรท่ีหน่วยงาน
• ไม่แก้ไขปรับปรุง
  • ไม่แจ้งผลการดําเนินการ
• ไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี

ดาํ เนินการตามแจ้ง
ไม่ดําเนนิ การ

ดาํ เนนิ การ
ไม่ดําเนินการ

ที่มา : สาํ นักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ

หน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติแผนและข้ันตอนการดําเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2560
ซ่ึงรวมถึงส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือในรูปแบบอื่นใด และไม่ว่าจะเป็นองค์กรในฝ่ายบริหาร

วารสารด�ำ รงราชานุภาพ 103

พระราชบญั ญตั แิ ผนและขน้ั ตอนการ ระยะเวลาที่ส�ำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ
ด�ำเนนิ การปฏริ ปู ประเทศ พ.ศ. 2560 และสงั คมแห่งชาตใิ นฐานะสำ� นักงานเลขานกุ าร
กำ� หนด
หน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติ
แผนและขั้นตอนการด�ำเนินการปฏิรูปประเทศ การรายงานผลตามพระราชบัญญัติ
พ.ศ  . 2560 ซ่ึงรวมถึงส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ แผนและขั้นตอนการด�ำเนินการ
องค ์การมหาชน หรือในรูปแบบอื่นใด และไมว่ า่ ปฏิรปู ประเทศ พ.ศ. 2560
จะเป็นองค์กรในฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ
ฝ่ายตุลาการ หรือเป็นองค์กรอิสระหรือองค์กร การรายงานผลตามพระราชบญั ญตั แิ ผน
อยั การ มหี นา้ ที่ด�ำเนินการ ดังน้ี ดาํ เนนิ การตามแจ้ง และขน้ั ตอนการดำ� เนนิ การปฏริ ปู ประเทศ พ.ศ. 2560
 มาตรา 6 วรรคสาม หน่วยงานไมด่ดาํําเเนนินนิ กกาารรตามแจ้ง แบ่งออกเป็น 3 กรณี ได้แก่ (1) กรณีปกติ
การรายงานผลการด�ำเนินการประจ�ำปีตาม
ไม่ดําเนนิ การ หมานตว่ รยางา2น5ขอ(2ง)รฐั กไรมณส่ อีทดี่พคบลวอ้ไดา่มาํได่ดงเมกาํนาํ่ดเกเนินํานากเนิินนบัารกกนิราาดแกรรา�ำรผเนนกนิ างราปนฏขริอปู ง
ประเทศตามมาตรา 26 และ (3) กรณที ี่มปี ัญหา
ของรัฐมีหน้าท่ีด�ำเนินการให้เป็นไปตามแผน อุปสรรคไม่อาจด�ำเนินการตามแผนการปฏิรูป
การปฏริ ปู ประเทศ เพอ่ื ใหก้ ารปฏริ ปู ประเทศบรรลุ ประเทศได้ และเป็นเร่ืองเร่งดว่ นตามมาตรา 27
ผลสัมฤทธิ์ตามระยะเวลาท่ีก�ำหนดไว้ในแผน รายละเอียดปรากฏตามแผนภาพที่ 3
การปฏริ ูปประเทศ
 มาตรา 25 วรรคแรก หน่วยงาน
ขอทง่มี รา ั:ฐสตาํ น้อกั งงานรสาภายพงัฒานานกาผรลการด�ำเนินการภายใน

ที่มา : สาํ นักงานสภาพัฒนาการ

รายงานให้ทราบภายใน 90 วัน จากวันท่ีหน่วยงานรายงานตามกําหนด สศช. มาตรา 33 ครม.
รายงานให้ทราบภายใน 90 วัน จากวันท่ีหนว่ ยงานรายงานตามกําหนด สศช.
รามยางตานราทุก333คเดรมือ.น
มาตรา 28 วรรค 2 โดรยาเยสงนาอนไทมชุ่ก้า3กวเด่าือน
แจ้งการดมําาเนตินรากา2ร8ท่ีไวมร่สรคอด2คล้อง 10โดวยันเสกนอ่ อนไคมร่ชบ้ากว่า
กํา1ห0นวดัน กอ่ นครบ
แจ้งการดําเนินการท่ีไม่สอดคล้อง
กําหนด

หารือเพ่อื ปรับปรุงแก้ไข เพื่อทราบ/สั่งการ
หารือเพือ่ ปรับปรุงแก้ไข เพื่อทราบ/ส่ังการ

กรณที ่ีไม่สามารถหาขอ้ ยุติได้
กรณีท่ีไมส่ ามารถหาข้อยุติได้
เพ่ือทราบ
เพ่ือทราบ

รา(โรยดา(งโยยาดคงนยาวปคนาัญวมปาเหัญมหาเห็นหอาช็นุปออชสบุปอรขสบรอรขคงรอคคแงณลคแะะณลขกะะอ้ รขกรเอ้สรมรเนกสมอานกแรอาปนแรฏะปนกิรฏะูปากิรรทูปาแเ่ี รทกกแ้ไีเ่ี่ยกกขว้ไ่ียปขขวัญ้อปขงหัญ้อ)างห)า

ที่มทาีม่ า: ส: าํสนาํ กันงักางนาสนภสาภพาพัฒัฒนานกาากราเรศเรศษรษฐกฐจิกแจิ ลแะลสะังสคังมคแมหแง่หช่งาชตาิติ

104 วารสารด�ำ รงราชานภุ าพ

ระเบยี บวา่ ดว้ ยการตดิ ตาม ตรวจสอบ ระเบียบ ส�ำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ
และประเมินผลการด�ำเนินการตาม และสงั คมแหง่ ชาติจึงไดร้ ่วมกับ ศนู ยเ์ ทคโนโลยี
ยุทธศาสตรช์ าติ และแผนการปฏริ ปู อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
ประเทศ พ.ศ. 2562 (NECTEC) ออกแบบและจดั ทำ� ระบบเทคโนโลยี
สารสนเทศเพอื่ ดำ� เนนิ การใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บ
พระราชบญั ญตั กิ ารจดั ทำ� ยทุ ธศาสตรช์ าติ ฉบบั นี้ โดยมชี ่อื ว่า “ระบบติดตามและประเมิน
พ.ศ. 2560 และพระราชบญั ญตั แิ ผนและขน้ั ตอน ผลแหง่ ชาติ (Electronic Monitoring and
การดำ� เนนิ การปฏริ ปู ประเทศ พ.ศ. 2560 กำ� หนดให้ Evaluation System of National Strategy
คณะรัฐมนตรีวางระเบียบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ and Country Reform : eMENSCR)”
และวธิ กี าร ตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมินผล ขอ้ 4 ก� ำ ห น ด ใ ห ้ ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร
การด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ และแผน ยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูป
การปฏริ ปู ประเทศตามขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมการ ประเทศ ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล
ยุทธศาสตร์ชาติ โดยอาศัยอ�ำนาจตามความใน ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ต า ม ยุ ท ธ ศ า ส ต ร ์ ช า ติ แ ล ะ
มาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติการจัดท�ำ แผนการปฏิรูปประเทศผ่านระบบเทคโนโลยี
ยทุ ธศาสตรช์ าติ พ.ศ. 2560 และมาตรา 24 แหง่ สารสนเทศเป็นหลัก และจะใช้วิธีอื่นตามที่
พระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการด�ำเนินการ เห็นสมควรร่วมดว้ ยก็ได้ แตต่ อ้ งไม่เปน็ การสรา้ ง
ปฏริ ปู ประเทศ พ.ศ. 2560 คณะรฐั มนตรจี งึ ไดว้ าง ภาระแกห่ นว่ ยงานของรฐั เกนิ สมควร คณะกรรมการ
ระเบียบว่าด้วยการติดตาม ตรวจสอบ และ ยุทธศาสตร์ชาติ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ
ประเมินผลการด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ รวมทงั้ วฒุ สิ มาชกิ จงึ ไดร้ บั บญั ชผี ใู้ ชแ้ ละรหสั ผา่ น
และแผนการปฏริ ปู ประเทศ พ.ศ. 2562 เพอ่ื เปน็ ส�ำหรับการเข้าสู่ระบบติดตามและประเมินผล
เครอื่ งมอื ในการดำ� เนนิ การตดิ ตามและประเมนิ ผล แหง่ ชาตเิ พอ่ื ตดิ ตามและตรวจสอบการดำ� เนนิ การ
การด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ และแผน ตามยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ
การปฏิรูปประเทศ ของส่วนราชการและหน่วยงานภาครฐั
ระเบียบว่าด้วยการติดตาม ตรวจสอบ ขอ้ 5 ก�ำหนดให้จัดให้มีระบบเพ่ือใช้
และประเมนิ ผลการดำ� เนนิ การตามยทุ ธศาสตรช์ าติ ในการประมวลและวเิ คราะหข์ อ้ มลู เพอ่ื ประกอบ
และแผนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2562 การติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล
ก�ำหนดสาระส�ำคัญในการติดตาม ตรวจสอบ ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ต า ม ยุ ท ธ ศ า ส ต ร ์ ช า ติ แ ล ะ
และประเมนิ ผล การดำ� เนนิ การตามยทุ ธศาสตรช์ าติ แผนการปฏิรูปประเทศ และต้องจัดท�ำช่องทาง
และแผนการปฏิรปู ประเทศไว้ ดังนี้ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น
ขอ้ 3 กำ� หนดใหส้ ำ� นกั งานสภาพฒั นาการ และขอ้ เสนอแนะอนั เปน็ ประโยชนต์ อ่ การตดิ ตาม
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจัดให้มีระบบ ตรวจสอบ และประเมินผลการด�ำเนินการตาม
เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือด�ำเนินการตาม ยทุ ธศาสตรช์ าตแิ ละแผนการปฏริ ปู ประเทศดว้ ย

วารสารด�ำ รงราชานุภาพ 105

ข้อ 6 ก�ำหนดให้หัวหน้าหน่วยงาน ว่าด้วยการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล
ของรัฐทุกแห่งด�ำเนินการให้มีการรายงาน การด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผน
ผลการด�ำเนินการ ตามยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2562 ประกอบด้วย
และแผนการปฏริ ปู ประเทศในระบบ ตามรายการ (1) M1 ความเชื่อมโยงกับแผนในระดับต่าง ๆ
และภายในระยะเวลาทสี่ ำ� นกั งานสภาพฒั นาการ (2)  M2 ขอ้ มลู ทวั่ ไป (3) M3 รายละเอยี ดแผนงาน/
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก�ำหนด โดย โครงการ/การด�ำเนินการ (4) M4 แนวทาง
ส�ำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม การด�ำเนินการ (5) M5 งบประมาณ (6) M6
แห่งชาติ จะก�ำหนดรายการที่หน่วยงาน ผลการดำ� เนนิ งาน ปญั หา อปุ สรรค ขอ้ เสนอแนะ
ของรัฐแต่ละแห่งจะต้องรายงาน ซ่ึงอย่างน้อย และ (7) M7 การอนมุ ตั ติ ามลำ� ดบั การบงั คบั บญั ชา
ตอ้ งประกอบดว้ ย (1) ขอ้ มลู เกยี่ วกบั รายละเอยี ด มรี ายละเอยี ด ดังน้ี
แผนงาน/โครงการ หรือการด�ำเนินงาน M1  ค  วามเชอื่ มโยงกบั แผนในระดบั ตา่ ง ๆ
(2) ความสอดคล้องกับการด�ำเนินการตาม ไดแ้ ก่ แผนระดบั ท ี่1 (ยทุ ธศาสตรช์ าต)ิ แผนระดบั ที่ 2
ยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ประกอบดว้ ย แผนแมบ่ ทภายใตย้ ทุ ธศาสตรช์ าติ
(3) ความกา้ วหนา้ และผลสมั ฤทธข์ิ องการดำ� เนนิ การ แผนการปฏิรูประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ
(4) ปัญหาหรอื อปุ สรรค และ (5) ข้อเสนอแนะ และสงั คมแหง่ ชาติ และนโยบายและแผนระดบั ชาติ
หรือแนวทางแก้ไขในการด�ำเนินงาน ในการน้ี วา่ ดว้ ยความมนั่ คงแหง่ ชาติ แผนระดบั ท่ี 3 ไดแ้ ก่
ส�ำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แผนปฏบิ ตั ริ าชการของหนว่ ยงาน แผนปฏบิ ตั กิ าร
แห่งชาติได้อาศัยอ�ำนาจตามข้อ 6 ก�ำหนดให้ ด้านต่าง ๆ นอกจากน้ี M1 ยังประกอบด้วย
รายงานผลการด�ำเนินแผนงาน/โครงการผ่าน นโยบายรัฐบาล กฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง และ
ร ะ บ บ ติ ด ต า ม แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล แ ห ่ ง ช า ติ มติคณะรฐั มนตรที ่ีเก่ียวขอ้ ง (หากม)ี
เป็นรายไตรมาส โดยให้รายงานภายใน 30 วัน M2 ข้อมูลท่ัวไป ประกอบด้วย
นั บ ถั ด จ า ก วั น ส้ิ น สุ ด แ ต ่ ล ะ ไ ต ร ม า ส ต า ม ช่ือโครงการ/การด�ำเนินงาน ลักษณะ
ปงี บประมาณ ของโครงการ (ทั้งท่ีใช้และไม่ใช้งบประมาณ)
วิธีการด�ำเนินการ (ท้ังท่ีด�ำเนินการเองหรือ
โดยการจดั ซอื้ จดั จา้ ง) สถานะการดำ� เนนิ โครงการ
 โครงสร้างของระบบตดิ ตาม M3  รายละเอียดแผนงาน/โครงการ/
และประเมินผลแหง่ ชาติ การด�ำเนินการ ประกอบด้วย หลักการ
และเหตุผล วัตถุประสงค์ เปา้ หมายเชิงผลผลิต
ร ะ บ บ ติ ด ต า ม แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล และผลลัพธ์ ตัวชวี้ ัด ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะไดร้ ับ
แห่งชาติประกอบด้วย Module (M) ต่าง ๆ กลุม่ เปา้ หมาย
ท่กี ำ� หนดขึน้ ใหส้ อดคลอ้ งกบั ขอ้ 6 แห่งระเบียบ

นนออกกจจาากกนนี้ ี้MM11ยยงั ังปปรระะกกออบบดด้ว้วยยนนโโยยบบาายยรรัฐัฐบบาาลลกกฎฎหหมมาายยททเี่ เ่ีกก่ีย่ียววขขอ้ อ้ งงแแลละะมมตติคิคณณะะรรฐั ัฐมมนนตตรรีทีท่เี เ่ีกก่ีย่ียววขข้ออ้ งง((หหาากกมม)ี )ี
MM22ขข้อ้อมมูลูลททั่วั่วไไปปปปรระะกกออบบดด้ว้วยยชชื่อื่อโโคครรงงกกาารร//กกาารรดดําําเเนนินินงงาานนลลักักษษณณะะขขอองงโโคครรงงกกาารร((ทท้ังั้งทท่ีใ่ีใชช้แ้แลละะไไมม่ใ่ใชช้ ้

ง1งบบ0ป6ปรระะมมวาาาณรณส))าวรวธิดธิ ีกำ�กี ราางรรรดดาําชําเเานนนินนิุภกากพาารร((ททงั้ ัง้ ททด่ี ดี่ าํ าํ เเนนินนิ กกาารรเเอองงหหรรือือโโดดยยกกาารรจจัดัดซซือ้ ือ้ จจดั ดั จจ้า้างง))สสถถาานนะะกกาารรดดาํ ําเเนนินินโโคครรงงกกาารร
MM33รราายยลละะเเออียียดดแแผผนนงงาานน//โโคครรงงกกาารร//กกาารรดดําําเเนนินินกกาารรปปรระะกกออบบดด้ว้วยยหหลลักักกกาารรแแลละะเเหหตตุผุผลลววัตัตถถุปุปรระะสสงงคค์ ์

เ เปปา้ า้ หหมมาายย เเชชิงิงผMผลล4ผผ ลลแิตติ แนแลลวะะผทผลลาลลงัพพั กธธ์ ์าตตวัรัวชชด้ีวีว้ �ดั ดัำ เปปนรริะนะโโยกยชชานนร์ท์ทคี่ ี่คาาดด วว่า่าจจะ ะไไดดร้ ้รับับกMกลล6ุม่ ุ่มเ เปปผา้ า้ ลหหมกมาายยรด�ำเนินงาน ปัญหา
ป ร ะ ก อ บ ดMM้ ว44ยแแนกนวิวจททกาารงงกรกามารร/ดดวําําิ ธเเนีนกินินากกราาดรร� ำปปเรนระะิ นกกอกอบาบดรด้ว้วยย กกอิจิจกุ ปกรรสรรมมร//รววิธคิธีกีกาารขรดด้ําอําเเนเนสินินกนกาาอรรแ((รระนะบบะุรุราายปยไไตรตระรมมกาาสอส))บรระดะยย้ วะะเยเววลลาา
ก(กราาระรดบดําําุรเเนานินยินกไกตาารรขขมออางงสแแ)ตต่ล่ลระะกกยิจิจะกกเรรวรรลมมาการด�ำเนินการ การด�ำเนินงานรายไตรมาส (การเบิกจ่าย
ของแตล่ ะกMMจิ 5ก5รงงรบบมปปรระะมมาาณณปปรระะกกออบบดด้ว้วยยววงงเเงงินินงงบบปปรรงะะบมมาปาณณระ((วมวงงาเเงณงินินแงงบลบปะปรผระะลมมกาาาณณรททด้ังั้ง�ำหหเมนมดดินแแงลลาะะนแแ)หหลลป่ง่งัเญเงงินหิน))าแ/แลละะ
แ แผผนนกก าารรใใชชจ้ ้จ่า่าMยยง5งบบ ปปงรรบะะมปมาารณณะรรมาายายไณไตตรรมมปาาสรสะกอบด้วย อุปสรรคในการดำ� เนินงาน และข้อเสนอแนะ
วงเงินงบปMรMะ66มผาผลณลกกาา(รวรดงดําเํางเเนิ นินงินบงงาปานนระปปมัญัญาหณหาาทออ้ังุปหุปสสมรรดรรคคขข้อ ้อเเสสนน ออแแนนะะปMปรร7ะะ กกกออาบบรดดอ้ว้วนยยมุ กกตั าาติ รราดดมําําเลเนน�ินำินดงงบัาานกนรารารายบยไงไัตตครรบัมมาาสส
(แ(กกลาาระรเแเบบหิกิกลจจา่่งา่ ยเยงงงินบบ)ปปรแระะลมมะาาแณณผแแนลลกะะาผผรลลใกกชาา้จรร่าดดยําํางเเนบนินิปนงงราาะนนม))าปปณญั ญั หหาา//อบอปุ ัปุญสสรชรรราคคใในคนกกือาากรรดาดํารําเเนอนินนินงุงมาาันตนิขแแอลละงะขผข้อู้อ้อเเสนสนนุมออัตแแินตนะาะมสาย
รายไตรมาสMM77กกาารรออนนมุ มุ ตั ัตติ ติ าามมลลาํ าํ ดดับับกกาารรบบังังคคบั บั บบญั ญั ชชาาคกคือาือกรกาบารรังออคนนับุมุมบตั ัตัญขิ ิขอชองงาผผู้อูอ้ นนุมุมตั ัติติตาามมสสาายยกกาารรบบังงั คคับับบบัญัญชชาา

  

ทมี่ ทาีม่ :าส:ํานสํากั นงากั นงาสนภสาภพาฒั พนัฒานการกเาศรรเศษรฐษกฐิจกแิจลแะลสะงั คสมงั คแมหแ่งหชา่งตชิาติ

ออนนุมุมตั ัติ ิ ออนนุมมุ ตั ัติ ิ
แแลละะสสง่ ง่
ออนนุมุมตั ตั ิ ิ รรอองงปปลลดั ัดกกรระะททรรววงง ขข้อ้อมมูลูล ปปลลัดัดกกรระะททรรววงง แแลละะสส่ง่ง สสําํานนักักงงาานนสสภภาา
แแลละะสส่ง่ง ทท่ไี ด่ีได้ร้รับับมมออบบหหมมาายย (อ(อนนุมมุ ัตตั ขิ ขิ อ้ ้อมมูลูลจจาากก ขข้อ้อมมลู ลู พพฒั ฒั นนาากกาารรเศเศรรษษฐฐกกิจิจ
ขข้อ้อมมลู ูล รรอองงปปลลัดดั กกรระะททรรววงง)) แแลละะสสังังคคมมแแหห่ง่งชชาาตติ ิ
  ผผ้อู ู้อําํานนววยยกกาารรกกอองง ออธธิบิบดดีหีหรรอื ือเทเทียียบบเทเท่า่า (อ(อนนมุ ุมัตัตขิ ขิ ้ออ้ มมูลลู
(อ(อนนมุ มุ ัตัตขิ ิขอ้ อ้ มมูลูลจจาากก
(ผ(ผกู้ ู้กรรออกกขขอ้ อ้ มมูลูล)) จจาากกรระะดดบั บั กกรรมม)) รรับับขขอ้ อ้ มมูลลู ทที่ไดไ่ี ด้ร้รับับกกาารรออนนุมุมัตัติ ิ
รระะดดับับกกอองง))

เพเพื่อ่ือจจดั ัดททาํ ํารราายยงงาานน

ทีม่ า : สาํ นกั งานสภาพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ

อนมุ อัตนิ มุ ัติ อนมุ อัตนิ มุ ัติ

เฉพาเฉะพการะณกีทร่มีณีกีทามี่รมีกอารบมหอมบาหยมภายภในากยรในะกทระวทง รวง

สง่ ข้อสม่งขลู ้อมลู อนุมอตั นิแมุ ลตั ะิแสล่งขะ้สอง่มขูล้อมูล อนุมอัตนิแมุ ลัตะิแสลง่ ขะ้อสมง่ ขลู ้อมลู สํานสักาํ งนาักนงสาภนาสภา
พัฒพนัฒากนาารการ
หัวหหนัว้าหน้า หัวหหนัว้าหสนํา้านสักํางนาักนงาน รองรผอู้วง่าผรู้วา่าชรกาาชรการ ผู้ว่าผรู้วา่าชรกาาชรกจาังรหจวังัดหวัด ปลดั ปกลรดั ะกทรระวทงรวง อนุมอัตนิ มุ ตั ิ เศรเษศฐรกษิจฐแกลิจะและ
ส่วนสร่วานชรกาชรการ จงั หจวงั ดั หวดั จังหจวงั ัดหวดั มหามดหไาทดยไทย สงั คสมังแคหม่งแชหาง่ ตชิ าติ
ในจใังนหจวงัดหวัด
อนุมอัตนิแมุ ลัตะิแสล่งขะ้สอง่มขูล้อมูล
ผกู้ รผอู้กกรขออ้ กมขลู อ้ แมลลู ะแเลอืะเกลอื ก
เส้นเทสา้นงทเอากงเสอากรสาร อนมุ ัติ อนุมัติ รับขรอ้ ับมขลู ้อทม่ไี ลูดทร้ ับไี่ ดก้ราับรกอานรุมอัตนิ ุมัติ
เพื่อเจพัด่ือทจาํ ดั รทายํารงาายนงาน

ผอู้ ําผนูอ้ วํายนกวายรกกาลรุ่มกงลาุ่มนงาน อนมุ อัตนิ มุ ตั ิ ผู้ว่าผรู้วา่าชรกาาชรกจาังรหจวังัดหวัด อนมุ อัตนิ ุมตั ิ ปลดั ปกลรดั ะกทรระวทงรมวหงามดหไาทดยไทย
บริหบารริหยาุทรธยศุทาธสศตารส์ ตร์ เฉพาะก(รหณัว(ีทหหมี่ นัวีก้าหากรนมล้าอ่มุ กบจลหงั ุ่มมหจาวยังัดหภ)าวยัดใ)นกระทรวง
กลุ่มกจลงั ่มหจวังัดหว(OัดS(MOS) M)

ส่งข้อมูล อนมุ ตั ิและส่งข้อมูล อนมุ ัติและสง่ ข้อมลู สาํ นักงานสภา
อนมุ ัติ พัฒนาการ
หัวหน้า หัวหน้าสํานักงาน รองผู้ว่าราชการAccAocucnotuanbtialibtyผilู้วit่าyราชการจังหวัด ปลดั กระทรวง
ส่วนราชการ จงั หวดั จังหวัด มหาดไทย เศรษฐกิจและ
สงั คมแหง่ ชาติ
ที่มทา่มี :าสใ:นําจนสงั ํากัหนวงัดาักนงาสนภสาภพาัฒพนฒั านกากรเาศรรเศษรฐษกฐิจกแจิลแะลสะงั คสมังคแมหแ่งหชา่งตชิาติ อนมุ ตั ิและส่งข้อมูล
รับข้อมูลที่ได้รับการอนุมัติ
ผกู้ รอกขอ้ มูลและเลอื ก เพื่อจัดทาํ รายงาน

 เส้นทางเอกสาร

วารสารดำ�รงราชานุภาพ 107

 บทบาทและการด�ำเนินการของ กระทรวง โดยก�ำหนดให้หน่วยงานระดบั สำ� นกั /
กระทรวงมหาดไทยเก่ียวกับระบบ กองของส่วนราชการระดับกรม หรือเทียบเท่า
ติดตามและประเมินผลแหง่ ชาติ ซึ่งเป็นผู้จัดท�ำแผนงาน/โครงการ เป็นผู้บันทึก
และรายงานข้อมูลผลการด�ำเนินการตาม
ส�ำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ ยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ
และสงั คมแหง่ ชาตไิ ดก้ ำ� หนดรปู แบบการรายงานผล กรณีจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ส่วนราชการ
การด�ำเนินการในระบบติดตามและประเมินผล ประจำ� จงั หวดั หรอื หนว่ ยงานสว่ นกลาง ทมี่ ที ตี่ งั้ ใน
แห่งชาติของส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐ จังหวัดท่ีมีโครงการบรรจุในแผนพัฒนาจังหวัด
ประเภทต่าง ๆ โดยให้ส่วนราชการระดับ และกลุ่มจังหวัดให้รับบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่าน
กระทรวงรบั ผดิ ชอบการรายงานผลการดำ� เนนิ การ จากหนว่ ยงานตน้ สงั กัดที่สว่ นกลาง
ของส่วนราชการระดับกรม หรือเทียบเท่า
รวมทั้งหน่วยงานภายในหรือหน่วยงานอ่ืน ๆ  กระบวนการรายงานผลการด�ำเนนิ การ
ที่สังกัดส่วนราชการระดับกรมหรือเทียบเท่า ตามยทุ ธศาสตรช์ าตแิ ละแผนการปฏริ ปู
เว้นแต่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งก�ำหนดให้ ประเทศในระบบตดิ ตาม และประเมนิ ผล
หน่วยงานรัฐวิสาหกิจรายงานผลการด�ำเนินการ แหง่ ชาติ (eMENSCR) ของกระทรวง
ตรงต่อส�ำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ มหาดไทย
และสังคมแห่งชาติ โดยไม่ต้องผ่านการอนุมัติ
ของปลดั กระทรวง ต า ม ท่ี ส� ำ นั ก ง า น ส ภ า พั ฒ น า ก า ร
ก ร ะ ท ร ว ง ม ห า ด ไ ท ย รั บ ผิ ด ช อ บ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ แ ล ะ สั ง ค ม แ ห ่ ง ช า ติ ก� ำ ห น ด ใ ห ้
การรายงานผลการดำ� เนนิ การของหนว่ ยงานในสงั กดั ส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐรายงาน
ประกอบด้วย ส่วนราชการระดับกรม และ ผ ล ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ต า ม ยุ ท ธ ศ า ส ต ร ์ ช า ติ
หน่วยงานในสังกัดส�ำนักงานปลัดกระทรวง และแผนการปฏิรูปประเทศเป็นรายไตรมาส
มหาดไทย นอกจากน้ี กระทรวงมหาดไทย โดยใหร้ ายงานภายใน 30 วนั นบั ถดั จากวนั สน้ิ สดุ
ยงั ไดร้ บั การมอบหมายจากสำ� นกั งานสภาพฒั นาการ แต่ละไตรมาสตามปีงบประมาณนั้น การน�ำเข้า
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้รับผิดชอบ ข้อมูลและการอนุมัติข้อมูลของหน่วยงาน
การรายงานผลการด�ำเนินงานของจังหวัด ในสงั กดั กระทรวงมคี วามเกยี่ วขอ้ งกบั การดำ� เนนิ การ
76 จงั หวดั และกลมุ่ จงั หวดั 18 กลมุ่ จงั หวดั ดว้ ย ของหน่วยงานหลายระดับ ตั้งแต่ระดับส�ำนัก/
ทงั้ น้ี สำ� นกั งานสภาพฒั นาการเศรษฐกจิ ก อ ง  ก ร ม ห รื อ ส� ำ นั ก ง า น ป ลั ด ก ร ะ ท ร ว ง
แ ล ะ สั ง ค ม แ ห ่ ง ช า ติ เ ป ็ น ผู ้ ส ร ้ า ง บั ญ ชี ผู ้ ใ ช ้ กระทรวงมหาดไทย จึงได้ก�ำหนดกระบวนการ
(Username) และรหสั ผา่ น (Password) สำ� หรบั รายงานผลการด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ
เขา้ ใชง้ านระบบตดิ ตามและประเมนิ ผลแหง่ ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศในระบบติดตาม
ให้กับส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐระดับ และประเมินผลแห่งชาติให้มีกรอบระยะเวลา

108 วารสารดำ�รงราชานุภาพ

ในการดำ� เนนิ การสอดคลอ้ งกบั หนงั สอื สำ� นกั งาน  ปลัดกระทรวงมหาดไทย วันท่ี
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 20 – 30 นับถัดจากวันส้ินสุดแต่ละไตรมาส
ที่ นร 1112/ว 2772 เรื่องระเบียบว่าด้วย ตามปีงบประมาณ
การติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล โดยก�ำหนดให้กลุ่มงานในสังกัด
การด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ และ สำ� นกั นโยบายและแผน สำ� นกั งานปลดั กระทรวง
แผนการปฏริ ูปประเทศ พ.ศ. 2562 ลงวันท่ี 16 มหาดไทย เป็นหน่วยงานกล่ันกรองการอนุมัติ
พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ซ่ึงก�ำหนดระยะเวลา ข้อมูลในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ
ในการรายงานผลการดำ� เนนิ งานตามยทุ ธศาสตรช์ าติ ของส่วนราชการระดับกรมและหน่วยงาน
และแผนการปฏิรูปประเทศในระบบติดตาม ในสังกัดส�ำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
และประเมนิ ผลแห่งชาติ ภายใน 30 วนั นบั ถัด ให้ส�ำนักพัฒนาและส่งเสริมการบริหารราชการ
จากวันสิ้นสุดแต่ละไตรมาสตามปีงบประมาณ จังหวัด ส�ำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
โดยกระทรวงมหาดไทยได้จัดการประชุมร่วม เป็นหน่วยงานกล่ันกรองการอนุมัติข้อมูล
ฝ่ายเลขานุการคณะท�ำงานกระทรวงมหาดไทย ในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ
เพอื่ สนบั สนนุ การดำ� เนนิ งานตามยทุ ธศาสตรช์ าติ ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และให้กลุ่ม
และการปฏริ ปู ประเทศ เมอ่ื วันที่ 30 พฤษภาคม ขับเคล่ือนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ
พ.ศ. 2562 ณ ห้องประชุมราชสีห์ ศาลาวา่ การ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง กระทรวง
กระทรวงมหาดไทย และทปี่ ระชมุ ไดม้ มี ตเิ หน็ ชอบ มหาดไทย (ป.ย.ป.มท.) เป็นผู้กล่ันกรอง
ต า ม ที่ ก ลุ ่ ม ขั บ เ ค ลื่ อ น ก า ร ป ฏิ รู ป ป ร ะ เ ท ศ การอนมุ ตั ขิ อ้ มลู ในระบบตดิ ตามและประเมนิ ผล
ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคี แหง่ ชาตลิ ำ� ดบั สดุ ทา้ ยใหก้ บั สำ� นกั งานสภาพฒั นาการ
ปรองดอง กระทรวงมหาดไทย (ป.ย.ป.มท.) เสนอ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ แ ล ะ สั ง ค ม แ ห ่ ง ช า ติ ใ น น า ม ข อ ง
โดยก�ำหนดให้หัวหน้าส่วนราชการและผู้บริหาร ปลัดกระทรวงมหาดไทย
อนุมัติข้อมูลการรายงาน ในแต่ละระดับภายใน ทั้งน้ี ข้อมูลที่ส�ำนักงานสภาพัฒนาการ
30 วัน นับถัดจากวันส้ินสุดแต่ละไตรมาส เ ศ ร ษ ฐ กิ จ แ ล ะ สั ง ค ม แ ห ่ ง ช า ติ ร า ย ง า น ใ ห ้
ตามปงี บประมาณ ดงั น้ี คณะรัฐมนตรีและรัฐสภาทราบ คือ ข้อมูลท่ี
 ผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั /กอง วนั ท่ี 5 นบั ส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐรายงาน
ถดั จากวนั สน้ิ สดุ แตล่ ะไตรมาสตามปงี บประมาณ ภายในระยะเวลา 30 วัน นับถัดจากวันสิ้นสุด
 อธบิ ดี วนั ท่ี 10 นบั ถดั จากวนั สน้ิ สดุ แตล่ ะไตรมาส และใหถ้ อื วา่ ความถกู ตอ้ งเชอ่ื ถอื ได้
แต่ละไตรมาสตามปีงบประมาณ ข อ ง ก า ร ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ต า ม
 รองปลัดกระทรวงมหาดไทยที่ ยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ
ก�ำกับดูแลส่วนราชการระดับกรม และรองปลัด ในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ
กระทรวงมหาดไทย ด้านบรหิ าร วนั ที่ 15 นับถดั เป็นความรับผิดชอบ (Accountability)
จากวันสิน้ สดุ แตล่ ะไตรมาสตามปงี บประมาณ ของหน่วยงานเจ้าของโครงการ อย่างไรก็ตาม

วารสารดำ�รงราชานุภาพ 109

หากมีการเชอ่ื มตอ่ ระบบติดตามและประเมนิ ผล ในการน�ำเข้าข้อมูลและการอนุมัติข้อมูล
แหง่ ชาตกิ บั ระบบบรหิ ารการเงนิ การคลงั ภาครฐั อันเน่ืองมาจากการออกแบบระบบ อาทิ
(GFMIS) ของกรมบัญชกี ลาง กระทรวงการคลัง การเช่ือมโยงข้อมูลกับแผนระดับต่าง ๆ
กจ็ ะทำ� ให้ระบบติดตามและประเมินผลแหง่ ชาติ การรายงานผลการด�ำเนินการ การลงรหัส
สามารถแสดงข้อมูลโครงการและงบประมาณ ระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบ
ทีม่ คี วามถกู ต้อง แม่นย�ำ มากขนึ้ โดยอตั โนมตั ิ อิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) ซึ่งปัญหาเหล่านี้
เปน็ ปญั หาการดำ� เนนิ การ ในระยะแรก เนอื่ งจาก
 ปัญหาการใช้งานและการจัดการ ส�ำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
ระบบตดิ ตามและประเมนิ ผลแหง่ ชาติ แห่งชาติได้พัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง อย่างไร
ก็ตาม ปัญหาเหล่าน้ีลดลงเม่ือมีการฝึกอบรม
ระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ ผู้ใช้งานระบบนับต้ังแต่เร่ิมต้นใช้งานระบบ
ถูกออกแบบด้วยเจตนารมณ์ท่ีมุ่งหมายให้เป็น ติดตามและประเมินผลแห่งชาตใิ นปี พ.ศ. 2562
ระบบฐานขอ้ มลู กลางระดบั ชาตทิ ส่ี ามารถเชอ่ื มโยง เป็นต้นมา แต่ความพึงพอใจต่อประสิทธิภาพ
ข้อมูลท่ีเก่ียวข้องได้อย่างบูรณาการ สามารถ ของฟังก์ชันการใช้งานระบบของผู้ใช้งาน
เ ผ ย แ พ ร ่ ร า ย ง า น ส รุ ป ผ ล ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ยังคงเป็นสิ่งส�ำคัญในการพิจารณาปรับปรุง
ตามยทุ ธศาสตรช์ าตแิ ละแผนการปฏริ ปู ประเทศ การออกแบบ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้เสนอ
ใหท้ กุ ภาคสว่ นทเี่ กย่ี วขอ้ ง รวมทงั้ ประชาชนทราบ แนวทางการปรับปรุงพัฒนาระบบติดตาม
ก ่ อ ใ ห ้ เ กิ ด ก า ร มี ส ่ ว น ร ่ ว ม ข อ ง ป ร ะ ช า ช น และประเมนิ ผลแหง่ ชาตกิ บั สำ� นกั งานสภาพฒั นาการ
ในการติดตามประเมินผล ประโยชน์ของ เศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาตเิ ป็นระยะ
การรายงานผล การด�ำเนินงานในระบบ
อิเล็กทรอนิกส์ยังช่วยลดต้นทุนการด�ำเนินงาน   การน�ำข้อมูลเชิงสถิติจากการด�ำเนินการ
รวมทง้ั ชว่ ยลดภาระการใหข้ อ้ มลู เพอ่ื ประกอบการ ในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ
ชี้แจงต่าง ๆ ของหน่วยงาน อย่างไรก็ตาม และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมินผลการ
กระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยงานภาครัฐ ด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผน
ท่ีมีบทบาทในการร่วมด�ำเนินการพบปัญหา การปฏิรปู ประเทศไปใช้
ก า ร ใ ช ้ ง า น แ ล ะ ก า ร จั ด ก า ร ร ะ บ บ ติ ด ต า ม ปัญหาการน�ำข้อมูลจากระบบติดตาม
และประเมินผลแห่งชาติ ดังน้ี ประเมนิ ผลไปใชป้ ระโยชนอ์ าจแบง่ ได้ 2 ลกั ษณะ
 ก ารน�ำเขา้ ข้อมลู และการอนมุ ตั ขิ อ้ มูล คือ การน�ำข้อมูลเชิงสถิติจากการด�ำเนินการ
หนว่ ยงานเจา้ ของโครงการระดบั สำ� นกั /กอง ในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ
ในหน่วยงานส่วนกลาง และหนว่ ยงานในจงั หวัด และข้อมูลจากการวิเคราะห์ เพ่ือประเมินผล
และกลมุ่ จงั หวดั ทเ่ี กยี่ วขอ้ งพบปญั หาและอปุ สรรค ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ต า ม ยุ ท ธ ศ า ส ต ร ์ ช า ติ แ ล ะ
แผนการปฏิรูปประเทศ

110 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ

2.1 การน�ำข้อมูลเชิงสถิติจากการ ในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ
ดำ� เนนิ การในระบบตดิ ตามและประเมนิ ผลแหง่ ชาติ รวมท้ังรายงานผลการด�ำเนินการตามเป้าหมาย
ไปใชย้ งั คงมขี อ้ จำ� กดั แมร้ ะบบจะสามารถบง่ บอก ของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตรช์ าติ ซงึ่ จัดท�ำ
สถิติเกี่ยวกับการน�ำเข้าข้อมูลและการรายงาน ในรปู แบบ Dash Board แสดงผลการดำ� เนนิ การ
ผลการด�ำเนินการในระบบได้ แต่สถิติดังกล่าว โ ด ย เ ที ย บ กั บ เ ป ้ า ห ม า ย แ ล ะ ตั ว ช้ี วั ด ข อ ง
ยงั ไมส่ ะทอ้ นความเปน็ จริง เช่น การระบจุ ำ� นวน แผนแมบ่ ทภายใตย้ ทุ ธศาสตรช์ าตริ ายแผนแมบ่ ท
โครงการสทุ ธขิ องหนว่ ยงานสว่ นกลางและจงั หวดั อยา่ งไรกต็ าม การวเิ คราะหข์ อ้ มลู และประเมนิ ผล
และกลุ่มจังหวัดที่ถูกน�ำเข้าสู่ระบบทั้งหมด การดำ� เนนิ การตามยทุ ธศาสตรช์ าติ และแผนการ
ในช่วงเวลาหนึ่งของแต่ละปีงบประมาณ จำ� นวน ปฏิรูปประเทศจากข้อมูลแผนงาน/โครงการ
โครงการ (M1 – M5) ของหน่วยงานส่วนกลาง ในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ
และของจงั หวดั และกลมุ่ จงั หวดั ทม่ี กี ารอนมุ ตั แิ ลว้ ยังมีข้อจ�ำกัด เนื่องจากแผนแม่บทภายใต้
ในแต่ละปีงบประมาณ จ�ำนวนโครงการ ยุทธศาสตร์ชาติก�ำหนดเป้าหมายและตัวช้ีวัด
ของหน่วยงานส่วนกลางและของจังหวัด โดยอ้างอิงเทียบเคียงกับการวัดในระดับสากล
และกลุ่มจังหวัดท่ีมีการอนุมัติการรายงาน อาทิ ดัชนีชี้วัดของ IMD (The Institute for
ความก้าวหน้า (M6) แล้วในแต่ละไตรมาส Management Development) และ WEF
จ�ำนวนโครงการของหน่วยงานส่วนกลาง (The World Economic Forum) เป็นต้น
แ ล ะ ข อ ง จั ง ห วั ด แ ล ะ ก ลุ ่ ม จั ง ห วั ด ท่ี สิ้ น สุ ด ส่วนแผนการปฏิรูปประเทศเป็นการก�ำหนด
การดำ� เนนิ การแลว้ จำ� นวนโครงการของหนว่ ยงาน เป้าหมายและตัวช้ีวัดในภาพรวมระดับประเทศ
ส่วนกลางและของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด โดยเป้าหมายและตัวชี้วัดดังกล่าวมิได้ก�ำหนด
ทอี่ ยรู่ ะหวา่ งการดำ� เนนิ การ ทงั้ ในปงี บประมาณนนั้ สัดส่วนของความรับผิดชอบ (Contributions)
และโครงการผูกพนั ข้ามปงี บประมาณ เปน็ ตน้ ของแตล่ ะสว่ นราชการ/หนว่ ยงาน จงึ ไมส่ ามารถ
2.2 การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมินผล ถา่ ยทอดเปา้ หมายและตวั ชวี้ ดั ใหก้ บั สว่ นราชการ/
การด�ำเนินงานและการน�ำข้อมูลไปใช้ถือเป็น หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องได้อย่างชัดเจนเท่าที่ควร
หัวใจส�ำคัญของการใช้ประโยชน์จากส่ิงท่ี ผลการด�ำเนินงานที่ส่วนราชการ/หน่วยงาน
หน่วยงานภาครัฐได้ด�ำเนินการในระบบติดตาม จัดท�ำแผนงาน/โครงการจึงอาจไม่สะท้อน
และประเมนิ ผลแหง่ ชาติ สำ� นกั งานสภาพฒั นาการ ถงึ เปา้ หมายและตวั ชวี้ ดั ในภาพรวมระดบั ประเทศ
เศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาตไิ ดจ้ ดั ทำ� ประมวลผล การใชป้ ระโยชนจ์ ากระบบตดิ ตามและประเมนิ ผล
ฐานข้อมูลโครงการท่ีส่วนราชการบันทึก แห่งชาติในส่วนน้ีในการทบทวนการจัดท�ำ
ในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ แผนงาน/โครงการจึงยังไม่เต็มประสิทธิภาพ
และข้อมูลจ�ำแนกตามแผนทุกระดับที่ใช้งาน เท่าท่ีควร

วารสารดำ�รงราชานภุ าพ 111

 ทิศทางการพัฒนาระบบติดตาม ท่ีมีอยู่ต้องเชื่อมโยงและรองรับการท�ำงาน
และประเมนิ ผลแห่งชาติ ของระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ
ระบบในการตดิ ตามประเมนิ ผลแผนงาน โครงการ
ความสำ� คญั ของยทุ ธศาสตรช์ าติ แผนแมบ่ ท และงบประมาณของหน่วยงานของรัฐต่าง ๆ
ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูป ได้แก่ ระบบฐานข้อมูลแผน/ผลการปฏิบัติงาน
ประเทศทมี่ ผี ลผกู พนั หนว่ ยงานใหต้ อ้ งดำ� เนนิ งาน และการใช้จ่ายงบประมาณ (BB-EvMIS) ของ
ใหส้ อดคลอ้ งเชอื่ มโยงกบั เปา้ หมายของแผนเหลา่ นนั้ สำ� นักงบประมาณ ระบบสารสนเทศการบรหิ าร
ท�ำให้ระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ จั ด ก า ร เ พื่ อ ก า ร ว า ง แ ผ น แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล
มีความส�ำคัญต่อหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติ การใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครอง
ตามระเบียบกฎหมายซ่ึงท�ำให้การใช้ประโยชน์ สว่ นทอ้ งถน่ิ (e-Plan) ของกรมสง่ เสรมิ การปกครอง
ระบบขยายออกไป ส�ำนักงานสภาพัฒนาการ ทอ้ งถนิ่ และระบบบรหิ ารการเงนิ การคลงั ภาครฐั
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้ก�ำหนดแนวทาง (GFMIS) ของกรมบญั ชีกลาง กระทรวงการคลงั
การพฒั นาระบบตดิ ตามและประเมนิ ผลแหง่ ชาติ เป็นอาทิ ซ่ึงในปัจจุบัน มีการเช่ือมต่อระบบ
ซง่ึ เกยี่ วขอ้ งกบั หนว่ ยงานภาครฐั โดยอาจจำ� แนกได้ ดงั กลา่ วบางระบบกบั ระบบตดิ ตามและประเมนิ ผล
3 ประการหลัก คือการเช่ือมต่อระบบติดตาม แหง่ ชาติ เชน่ ระบบสารสนเทศการบรหิ ารจดั การ
และประเมินผลแห่งชาติกับระบบติดตาม เพื่อการวางแผนและประเมินผลการใช้จ่าย
และประเมนิ ผลแผนงาน โครงการ และงบประมาณอน่ื ๆ งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน
ของหน่วยงานภาครัฐ การติดตาม ตรวจสอบ (e-Plan) ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
และประเมนิ ผลการดำ� เนนิ การตามยทุ ธศาสตรช์ าติ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การเช่ือมต่อกับระบบ
และแผนอื่น ๆ ที่เก่ียวข้อง และการพัฒนา ของหนว่ ยงานกลางอื่น ๆ ยังคงเป็นส่ิงท้าทาย
ขอ้ มลู สนบั สนนุ การขบั เคลอ่ื นเปา้ หมายการพฒั นา ท้ังการเชื่อมโยงข้อมูลโดยการท�ำให้เป็นดิจิทัล
ตามยุทธศาสตรช์ าติ (Digitization) และการผสานบทบาทภารกิจ
ระหว่างหนว่ ยงานใหเ้ กดิ เอกภาพ
 การเชอื่ มต่อระบบตดิ ตามและประเมนิ ผล  การตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลการ
แหง่ ชาตกิ บั ระบบตดิ ตามและประเมนิ ผลแผนงาน ด�ำเนนิ การตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนอน่ื ๆ
โครงการ และงบประมาณของหนว่ ยงานภาครฐั อน่ื ๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง
ระเบียบว่าด้วยการติดตาม ตรวจสอบ ขอ้ มลู จากระบบตดิ ตามและประเมนิ ผล
และประเมนิ ผลการดำ� เนนิ การตามยทุ ธศาสตรช์ าติ แห่งชาติ (eMENSCR) มีความส�ำคัญต่อ
และแผนการปฏริ ปู ประเทศ พ.ศ. 2562 กำ� หนดให้ การทบทวนการจัดท�ำแผนงาน/โครงการตาม
บรรดาระบบในการติดตามประเมินผลแผนงาน หลกั การวงจรนโยบายสาธารณะ (Policy Cycle)
โครงการ และงบประมาณของหนว่ ยงานของรฐั ตา่ ง ๆ

112 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ

ของสำ� นกั งานสภาพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คม เรง่ รดั การดำ� เนนิ การสรา้ งการรบั รเู้ พมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั
แห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย แนวทางการก�ำหนด แนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติในระดับ
นโยบาย (Policy Advocacy) การก�ำหนด พ้ืนที่ให้กับภาคส่วนต่าง ๆ ให้ชัดเจน เพื่อให้
นโยบาย (Policy Formation) การนำ� นโยบาย การก�ำหนดเป้าหมายการพัฒนาในแต่ละระดับ
ไปปฏิบัติ (Policy Implementation) (ภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด และท้องถ่ิน)
และการตดิ ตามและประเมนิ ผลนโยบาย (Policy และการจัดท�ำแผนงาน/โครงการที่เกี่ยวข้อง
Monitoring and Evaluation) การจัดทำ� แผน สอดคลอ้ งกบั แนวทางการขบั เคลอ่ื นยทุ ธศาสตรช์ าติ
และโครงการของส่วนราชการและหน่วยงาน ในระดับพื้นที่ โดยให้บูรณาการร่วมกับ
ภาครัฐจึงต้องอาศัยความเข้าใจต่อเป้าหมาย คณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค
ของยทุ ธศาสตรช์ าตแิ ละแผนระดบั ท่ี 2 โดยเฉพาะ (ก.บ.ภ.) คณะกรรมการบริหารงานจังหวัด
เปา้ หมายและคา่ เปา้ หมายของแผนแมบ่ ทภายใต้ แบบบรู ณาการ (ก.บ.จ.) คณะกรรมการบรหิ ารงาน
ยทุ ธศาสตรช์ าติ เพื่อให้เขา้ ใจทิศทางการพฒั นา กลมุ่ จงั หวดั แบบบรู ณาการ (ก.บ.ก.) และหนว่ ยงาน
ประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติที่ต้องการบรรลุ ทเี่ กย่ี วขอ้ งในการดำ� เนนิ การดังกล่าวให้บรรลุผล
ในแต่ละห้วงปี ระยะเวลา 5 ปี เพื่อวิเคราะห์ อย่างเป็นรูปธรรม โดยแผนพัฒนาภาคซึ่งจัดท�ำ
บทบาทและจดุ เนน้ ของการพฒั นาของหนว่ ยงาน โ ด ย ส� ำ นั ก ง า น ส ภ า พั ฒ น า ก า ร เ ศ ร ษ ฐ กิ จ
หรือพื้นท่ีให้บรรลุเป้าหมายที่ก�ำหนดได้อย่าง และสังคมแห่งชาติจะต้องพิจารณาเป้าหมาย
เป็นรูปธรรม และสามารถวิเคราะห์ช่องว่าง แผนแม่บทย่อย (Y1) จ�ำนวน 140 เป้าหมาย
เชงิ นโยบายและชอ่ งวา่ งการพฒั นาของหนว่ ยงาน พร้อมทั้งวิเคราะห์ศักยภาพ ความต้องการ
หรือพ้นื ท่ี (Gap Analysis) ซึ่งนำ� ไปสูก่ ารจัดทำ� และทรัพยากรของภาคที่มีส่วนสนับสนุน
แผนที่มีการถ่ายระดับจากยุทธศาสตร์ชาติ การด�ำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายแผนแม่บท
ลงมา (XYZ) ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติผ่านการพิจารณา
ในอนาคต ระบบตดิ ตามและประเมนิ ผล องค์ประกอบและปัจจัยห่วงโซ่คุณค่าของ
แห่งชาติ (eMENSCR) จะเป็นเคร่ืองมือหลัก ประเทศไทย (Final Value Chain Thailand :
ในการติดตามและประเมินผลแผนของพื้นท่ี FVCT) ว่าองค์ประกอบและปัจจัยที่ภาค
ในทุกระดับ เนื่องด้วยคณะรัฐมนตรีได้มีมติ มี ค ว า ม เ กี่ ย ว ข ้ อ ง แ ล ะ ส อ ด ค ล ้ อ ง ส า ม า ร ถ
เมอื่ วนั ท่ี 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 รบั ทราบแนวทาง มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมาย
การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติในระดับพื้นท่ี แผนแมบ่ ทยอ่ ยไดม้ ากนอ้ ยเพยี งใด สกู่ ารกำ� หนด
ตามท่ีส�ำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ เป้าหมายแผนพัฒนาภาคที่มีการถ่ายระดับ
และสังคมแหง่ ชาตใิ นฐานะสำ� นักงานเลขานกุ าร มาจากเป้าหมายแผนแม่บทย่อย (Y1)
คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเสนอ และให้ และการจัดท�ำแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดจะต้อง
สำ� นกั งานสภาพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ พิจารณาเป้าหมายแผนพัฒนาภาค พร้อมทั้ง

วารสารดำ�รงราชานภุ าพ 113

วเิ คราะหศ์ กั ยภาพ ความตอ้ งการ และทรพั ยากร และมอี ทิ ธพิ ลอยา่ งมากได้ นอกจากการออกแบบ
ของกลุ่มจังหวัดเพื่อประมวลหาเป้าหมายที่ เพอื่ ใชใ้ นการตดิ ตาม ตรวจสอบ และการประเมนิ
กลมุ่ จงั หวดั สามารถมสี ว่ นรว่ มขบั เคลอ่ื นใหบ้ รรลผุ ล ผ ล ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ต า ม ยุ ท ธ ศ า ส ต ร ์ ช า ติ
ซึ่งจะพิจารณาองค์ประกอบและปัจจัยเฉพาะ และแผนการปฏิรูปประเทศแล้ว ระบบติดตาม
ของห่วงโซ่คุณค่าของเป้าหมายแผนพัฒนาภาค และประเมินผลแห่งชาติยังถูกออกแบบให้เป็น
ที่กลุ่มจังหวัดมีส่วนร่วมขับเคล่ือนเพ่ือบรรลุ ระบบฐานขอ้ มลู ภาครฐั ขนาดใหญท่ สี่ ว่ นราชการ
และก�ำหนดเป้าหมายแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด และหน่วยงานภาครัฐสามารถใช้ประโยชน์
ท่ี มี ก า ร ถ ่ า ย ร ะ ดั บ ม า จ า ก เ ป ้ า ห ม า ย แ ผ น ในการจัดท�ำนโยบายสาธารณะโดยใช้ข้อมูล
การพัฒนาภาค รวมถึงแผนพัฒนาจังหวัด และ เป็นฐาน (Data driven) และอยู่บนฐานข้อมูล
แผนระดบั ท่ี 3 อนื่ ๆ ทใ่ี ชห้ ลกั การถา่ ยระดบั เปา้ หมาย เชิงประจักษ์ (Evidence base) โดยข้อมูล
การพัฒนาลงมา และนอกจากน้ัน ยังต้องมี โครงการที่ส่วนราชการบันทึกในระบบติดตาม
การก�ำหนดและมอบหมายหน่วยงานเจ้าภาพ และประเมินผลแห่งชาติ และข้อมูลจ�ำแนก
ของแตล่ ะเปา้ หมายของแผนตา่ ง ๆ ในระดบั พนื้ ท่ี ตามแผนทุกระดับท่ีใช้งานในระบบติดตาม
ใหม้ คี วามสอดคลอ้ งกบั การมอบหมายสว่ นราชการ/ และประเมินผลแห่งชาติจะอยู่ในรูปแบบไฟล์ที่
หนว่ ยงานภาครฐั ใหเ้ ปน็ หนว่ ยงานเจา้ ภาพขบั เคลอื่ น สามารถดัดแปลงได้หรือในรูปแบบดิจิทัล
แผนแม่บทย่อย (จ.3) ตามมติคณะรัฐมนตรี ท่ีนักวางแผนและผู้พัฒนาระบบข้อมูลของ
เมอ่ื วนั ท่ี 25 ธนั วาคม พ.ศ. 2562 โดยมผี วู้ า่ ราชการ หน่วยงานภาครัฐสามารถเข้าถึงและน�ำไปใช้
จงั หวดั เปน็ ผปู้ ระสานเพอื่ บรู ณาการการดำ� เนนิ งาน ประโยชนไ์ ด้ เช่น ไฟล์ JSON ซึ่งสามารถแปลง
ของฝ่ายต่าง ๆ ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย ข้อมลู ในสกุล xls เป็น text ท่มี ีการจดั หมวดหมู่
การบรหิ ารงานจงั หวดั แบบบรู ณาการ พ.ศ. 2551 ทำ� ใหข้ อ้ มลู ปรมิ าณมากมขี นาดเลก็ ลง การเชอ่ื มโยง
 การพัฒนาข้อมูลสนับสนุนการขับเคลื่อน ข้อมลู แบบกง่ิ ก้าน (Tree) และการจดั ท�ำแผนผงั
เป้าหมายการพฒั นาตามยทุ ธศาสตร์ชาติ ข้อมลู (Mapping) ท่สี ามารถน�ำไปใช้ประโยชน์
การพฒั นาขอ้ มลู สนบั สนนุ การขบั เคลอ่ื น ต่อไปได้
เป้าหมายการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติ การพฒั นาขอ้ มลู สนบั สนนุ การขบั เคลอ่ื น
ข อ ง ส� ำ นั ก ง า น ส ภ า พั ฒ น า ก า ร เ ศ ร ษ ฐ กิ จ เป้าหมายการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติ
และสงั คมแหง่ ชาตสิ ะทอ้ นถงึ ยคุ สมยั ของการเปน็ ยังรวมถึงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลเปิดภาครัฐ
ดิจิทัล (Digitalization) ท�ำให้ทรัพยากรมนุษย์ (Open Government Data) ท่ีส่วนราชการ
จ�ำเป็นต้องได้รับการพัฒนาเพ่ือยกระดับ และหนว่ ยงานภาครฐั สามารถเขา้ ถงึ และใชป้ ระโยชน์
ขีดความสามารถให้สามารถเข้าใจและบริหาร ขอ้ มลู ขา้ มหนว่ ยงาน และการสรา้ งการมสี ว่ นรว่ ม
จัดการความรู้ที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง กับการด�ำเนินการของภาครัฐในระดับท่ีสูงขึ้น
คอื การใหป้ ระชาชนสามารถเขา้ ถงึ และมสี ว่ นรว่ ม

114 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ

ในการด�ำเนินงานของรัฐได้ เช่น การติดตาม โดยรวม กระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยงาน
การด�ำเนินโครงการท่ีหน่วยงานของรัฐจัดท�ำ ของรฐั ทร่ี บั ผดิ ชอบการดำ� เนนิ การของหนว่ ยงาน
หรอื การแจง้ ปญั หาทไ่ี ดร้ บั จากการดำ� เนนิ โครงการ ในสงั กดั ทงั้ ในสว่ นกลาง และโดยเฉพาะอย่างย่ิง
ของหน่วยงานของรัฐ เป็นต้น ซึ่งอยู่ระหว่าง การดำ� เนนิ การในพน้ื ทโ่ี ดยจงั หวดั และกลมุ่ จงั หวดั
การพัฒนา จึงมีบทบาทท่ีส�ำคัญในการสนับสนุนการพัฒนา
อาจกลา่ วโดยสรปุ ไดว้ า่ การด�ำเนนิ การ ระบบตดิ ตามและประเมนิ ผลแหง่ ชาติ อยา่ งไรกต็ าม
จัดท�ำและพัฒนาระบบติดตามและประเมินผล ระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติจ�ำเป็น
แห่งชาติ (eMENSCR) โดยความร่วมมือของ ตอ้ งไดร้ บั การปรบั ปรงุ พฒั นาอยา่ งตอ่ เนอื่ งตอ่ ไป
สว่ นราชการและหนว่ ยงานภาครฐั เปน็ สว่ นหนง่ี ซึ่งจะท�ำให้ระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ
ของการขบั เคลอ่ื นของรฐั บาลไปสกู่ ารเปน็ รฐั บาล สามารถยกระดับการวางแผน การน�ำแผน
ดจิ ทิ ลั โดยการสรา้ งและพฒั นาระบบตดิ ตามและ ไปปฏิบัติ และการติดตามประเมินผลให้บรรลุ
ประเมนิ ผลแหง่ ชาตใิ หเ้ ปน็ ระบบฐานขอ้ มลู กลาง ผ ล สั ม ฤ ท ธิ์ ต า ม ยุ ท ธ ศ า ส ต ร ์ ช า ติ แ ล ะ แ ผ น
ขนาดใหญแ่ หง่ ชาติ สำ� หรบั การตดิ ตาม ตรวจสอบ การปฏิรูปประเทศมากยิ่งข้ึน ตลอดจนสามารถ
และประเมินผลการด�ำเนินการ ตามระเบียบ สร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ได้อย่าง
และกฎหมายท่ีเก่ียวข้อง ซึ่งเป็นการยกระดับ มนี ัยสำ� คญั
ประสทิ ธภิ าพการปฏบิ ตั ริ าชการของระบบราชการไทย

ขอ้ ควรระวงั ความผิดพลาดทตี่ รวจพบในการท�ำโครงการ

กล่มุ งานตรวจสอบภายในระดบั กรม
ส�ำนักงานปลดั กระทรวงมหาดไทย

โครงการ เป็นแผนงานท่ีจัดท�ำขึ้น การด�ำเนินโครงการของหน่วยงาน
อยา่ งรอบคอบเปน็ ระบบ พรอ้ มกบั มแี นวทางปฏบิ ตั ิ ภาครฐั โดยใชง้ บประมาณของแผน่ ดนิ ตอ้ งอาศยั
เพอ่ื ใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงคต์ ามเปา้ หมายของแผนงาน กระบวนการจดั ซอื้ จดั จา้ ง ซงึ่ นบั เปน็ กระบวนการ
ทไี่ ดก้ ำ� หนดไว้ โดยใชท้ รพั ยากรในการดำ� เนนิ งาน ส�ำคัญในการขับเคล่ือนงบประมาณรายจ่าย
อยา่ งคมุ้ คา่ มจี ดุ เรมิ่ ตน้ และจดุ สนิ้ สดุ อยา่ งชดั เจน เพื่อพัฒนาประเทศ การจัดท�ำโครงการในอดีต
มีพื้นท่ีในการด�ำเนินงานเพื่อให้บริการและ ที่ผ่านมาส่วนใหญ่มุ่งเน้นการจัดหาให้ได้มาซึ่ง
มบี คุ คลากรหรอื หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบ มกี ารใชจ้ า่ ย รายการครภุ ณั ฑแ์ ละสงิ่ กอ่ สรา้ ง โดยมไิ ดค้ ำ� นงึ ถงึ
งบประมาณของแผ่นดิน การด�ำเนินงาน วัตถุประสงค์ของการใช้งานและความคุ้มค่า
ในลักษณะโครงการจึงมีความแตกต่างจาก ของการใช้เงิน เราจึงมักจะเห็นครุภัณฑ์หรือ
งานประจ�ำ เพราะงานโครงการมีโอกาสเกิด สิง่ ก่อสรา้ งทดี่ �ำเนินการแล้วเสร็จถูกทง้ิ ใหร้ กรา้ ง
ความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนมากกว่าและ ว่างเปล่าโดยไม่มีการใช้ประโยชน์แต่อย่างใด
กระบวนการดำ� เนนิ งานของงานโครงการอาจจะตอ้ ง แตใ่ นปจั จบุ นั ไดม้ กี ารนำ� ระบบการบรหิ ารกจิ การ
เปล่ียนแปลงไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง บ้านเมืองท่ีดี หรือหลักธรรมาภิบาล (Good
ด้วยเหตุน้ีงานโครงการต่าง ๆ ของหน่วยงาน Governance) มาใช้เป็นนโยบายหลักท่ีส�ำคัญ
จึงเป็นงานท่ีมักจะมีผู้ประเมินหรือตรวจสอบ ในการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ และใชเ้ ปน็ แนวทาง
จากองคก์ รตา่ ง ๆ เขา้ ไปพจิ ารณาการดำ� เนนิ งาน ในการจัดระเบียบ เพ่ือให้สังคมของประเทศ
และช่วยค้นหาค�ำตอบให้กับผู้บริหารระดับสูง ทง้ั ภาครฐั ภาคธุรกจิ เอกชนและภาคประชาชน
อยูเ่ สมอ ๆ สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข และต้ังอยู่
ในความถกู ตอ้ ง โปรง่ ใส เปน็ ธรรม และพรอ้ มรบั
การตรวจสอบ

116 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ

จงึ เปน็ ขอ้ สรปุ ไดว้ า่ การจดั ทำ� โครงการตา่ ง ๆ ดำ� เนนิ งานไดบ้ รรลตุ ามเปา้ หมายและวตั ถปุ ระสงค์
เพื่อรองรับแผนงานเป็นสิ่งส�ำคัญและจ�ำเป็น ที่ก�ำหนด อันจะน�ำไปสู่ผลสัมฤทธ์ิของงาน
อย่างยิ่งที่จะต้องค�ำนึงถึงความพร้อมส�ำหรับ และการพัฒนาองค์กรให้มุ่งสู่การบริหารจัดการ
การด�ำเนินงาน วัตถุประสงค์ของการใช้งาน ทด่ี อี ยา่ งยงั่ ยนื ต่อไป
แ ล ะ มี ก า ร บ ริ ห า ร พั ส ดุ ใ ห ้ เ กิ ด ค ว า ม ย่ั ง ยื น ดังนั้น เพ่ือให้ภาครัฐเป็นองค์กรท่ีมี
ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่หน่วยงานของรัฐ การบริหารจัดการที่ดี สามารถใช้ศักยภาพ
และสอดคลอ้ งกับหลกั การดงั ต่อไปน้ี ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และ
 คมุ้ คา่ พสั ดทุ ไี่ ดจ้ ากการดำ� เนนิ งาน เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน จึงได้รวบรวม
ต้องมีคุณภาพหรือคุณลักษณะที่ตอบสนอง ประเดน็ ขอ้ ตรวจพบของการตรวจสอบดำ� เนนิ งาน
วัตถุประสงค์ในการใช้งานของหน่วยงานของรัฐ โครงการ ตามรายงานผลการตรวจสอบดำ� เนนิ งาน
มีราคาท่ีเหมาะสม และมีแผนการบริหารพัสดุ ของสำ� นกั งานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ และผตู้ รวจสอบ
ทเี่ หมาะสมและชดั เจน ภายในทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพ่ือเป็น
 โปร่งใส การจัดหาและการบริหาร ข้อควรระวังความผิดพลาดที่ตรวจพบในการท�ำ
พสั ดตุ อ้ งกระทำ� โดยเปดิ เผย มหี ลกั ฐานการดำ� เนนิ งาน โครงการให้กับผู้มีหน้าที่ในการจัดท�ำโครงการ
ชดั เจน ผู้ปฏิบัติงานและผู้บริหารโครงการ ได้ใช้เป็น
 มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล แนวทางการปฏิบัติงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์
ตอ้ งมกี ารวางแผนการจดั หาและการบรหิ ารพสั ดุ สูงสุดต่อผู้ที่เก่ียวข้องทุกฝ่าย และสามารถ
ล่วงหน้าเพ่ือให้การจัดหาและการบริหารพัสดุ ตอบสนองวัตถุประสงค์ขององค์กรได้อย่างมี
เปน็ ไปอยา่ งตอ่ เนอ่ื งและมกี ำ� หนดเวลาทเ่ี หมาะสม ประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ดงั น้ี
 ตรวจสอบได้ มีการเก็บข้อมูล
การจัดหาและการบริหารพัสดุอย่างเป็นระบบ      ข อ้ พงึ ระวงั
เพือ่ ประโยชนใ์ นการตรวจสอบ  การก�ำหนดโครงการไมส่ อดคลอ้ ง
จากการทร่ี ฐั บาลไดป้ รบั เปลย่ี นแนวทาง กับวัตถุประสงค์ของแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด
ในการบรหิ ารงานและปฏริ ปู ระบบตา่ งๆในการดำ� เนนิ งาน คือ กรณีงบประมาณกลุ่มจังหวัด
จึงส่งผลให้การปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบ ร้อยละ 50 ขน้ึ ไปของงบประมาณทีไ่ ด้รบั จัดสรร
ของผู้มีหน้าที่ในการตรวจสอบได้ถูกขยาย มลี กั ษณะสนบั สนนุ งบประมาณตามภารกจิ หลกั
ขอบเขตจากการตรวจสอบดา้ นการเงนิ และบญั ชี (Function) ของสว่ นราชการหรอื องคก์ รปกครอง
(Financial Audit) ไปสู่การตรวจสอบ ส่วนท้องถิ่น โดยจัดสรรงบประมาณให้แต่ละ
การด�ำเนินงาน (Performance Audit) หน่วยงานรับไปด�ำเนินการในพื้นท่ีจังหวัดน้ัน ๆ
ซึ่งเป็นการตรวจสอบท่ีมุ่งเน้นประสิทธิผล ขาดการบูรณาการร่วมกัน หรือโครงการได้รับ
ประสทิ ธภิ าพ และความคมุ้ คา่ ในการดำ� เนนิ งาน ป ร ะ โ ย ช น ์ ใ น เ ชิ ง พื้ น ที่ เ พี ย ง จั ง ห วั ด เ ดี ย ว
ของส่วนราชการ ตลอดจนช่วยให้ส่วนราชการ

วารสารดำ�รงราชานุภาพ 117

ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการใช้จ่าย     ข อ้ พึงระวงั
งบประมาณกลมุ่ จงั หวดั ทำ� ใหเ้ สยี โอกาสทจี่ ะไดร้ บั  การด�ำเนนิ โครงการไมม่ ปี ระสทิ ธภิ าพ
การแก้ไขปัญหาร่วมกันจากโครงการขนาดใหญ่ สง่ ผลตอ่ การเกดิ ผลสมั ฤทธ์ิของโครงการ
ในระดับกลุ่มจังหวัด หรือสูญเสียโอกาสที่จะน�ำ  องค์ประกอบของโครงการ
งบประมาณ มาส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาด้าน ไมช่ ดั เจน ไมค่ รบถว้ นตามหลกั เกณฑท์ ก่ี ำ� หนด เชน่
การทอ่ งเทย่ี วในกลมุ่ จงั หวดั อยา่ งเปน็ ระบบ และไดร้ บั  ตัวช้ีวัดไม่สามารถสะท้อน
ประโยชนม์ ากกวา่ 1 จงั หวดั อยา่ งแท้จรงิ ผลการด�ำเนินงานทแี่ ทจ้ รงิ ของโครงการได้
 โ ค ร ง ก า ร ไ ม ่ แ ส ด ง
    ขอ้ ควรปฏิบัติ รายละเอยี ดของกจิ กรรมและประมาณคา่ ใชจ้ า่ ย
 ควรกำ� หนดบทบาทการประสานงาน ในการด�ำเนินงาน แบบฟอร์มการจ�ำแนกตาม
ภายในคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัด งบประมาณรายจ่ายระบุรายการโดยไม่มี
แบบบรู ณาการ (ก.บ.ก.) เพอื่ ใหเ้ ปน็ ไปตามเจตนารมณ์ รายละเอียดประกอบ เช่น ค่าจ้างเหมาบริการ
ของการบริหารแบบบูรณาการในลักษณะ ค่าครุภัณฑ์ เป็นการจัดท�ำโครงการที่ไม่เป็นไป
ยึดพ้ืนที่เป็นหลัก (Area-Based Approach) ตามหลักเกณฑ์การจัดท�ำแผนปฏิบัติราชการ
และการสรา้ งความรว่ มมอื ในการบรหิ ารจดั การทดี่ ี ประจ�ำปีของจังหวัด และแผนปฏิบัติราชการ
(Collaboration for Good Governance) ประจำ� ปีของกลุ่มจงั หวัด
เพอ่ื รว่ มกนั ผลกั ดนั ใหม้ กี ารจดั ทำ� โครงการขนาดใหญ่
หรือ Approach) และการสร้างความร่วมมือ  โครงการทเ่ี กยี่ วกบั การพัฒนา
ในการบริหารจัดการที่ดี (Collaboration for ระบบเทคโนโลยีไม่สามารถด�ำเนินการได้
Good Governance) เพ่ือร่วมกันผลักดันให้มี เน่ืองจากเทคโนโลยีท่ีก�ำหนดใน TOR
การจัดท�ำโครงการขนาดใหญ่ หรืออาจจัดสรร กบั เทคโนโลยที ใ่ี ชใ้ นปจั จบุ นั มรี ปู แบบการใชง้ าน
ง บ ป ร ะ ม า ณ ส� ำ ห รั บ โ ค ร ง ก า ร ท่ี มี แ น ว ท า ง
การพฒั นาซง่ึ สามารถแกไ้ ขปญั หารว่ มกนั ในระดบั
กลมุ่ จังหวดั และด�ำเนินการชีแ้ จงท�ำความเขา้ ใจ
กบั สว่ นราชการตา่ ง ๆ เพอื่ ผลกั ดนั ใหส้ ว่ นราชการ
ต ร ะ ห นั ก ถึ ง ค ว า ม ส� ำ คั ญ ข อ ง แ ผ น พั ฒ น า
กลุ่มจังหวัด และร่วมกันคิด ส�ำรวจ คัดเลือก
และพิจารณาโครงการที่มีขอบเขตด�ำเนินการ
หรือไดร้ ับประโยชน์มากกวา่ 1 จังหวัด

118 วารสารดำ�รงราชานุภาพ

ทแี่ ตกตา่ งกนั และมรี าคาในการจดั ทำ� ทสี่ งู มากขนึ้ ประจำ� ปขี องกลมุ่ จงั หวดั ใหช้ ดั เจน เพอ่ื ใหโ้ ครงการ
ไม่สอดคล้องกับงบประมาณท่ีต้ังไว้ ท�ำให้ บรรลุผลสัมฤทธ์ิ และคุ้มค่า ในการใช้จ่ายเงิน
โครงการไม่สามารถด�ำเนินการให้ลุล่วงไปได้ ของแผน่ ดนิ และเปน็ ไปตามพระราชบญั ญัตวิ นิ ัย
สาเหตเุ กดิ จากหนว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบขาดความรู้ การเงนิ การคลงั ของรัฐ พ.ศ. 2561 ดงั นี้
ค ว า ม ช� ำ น า ญ ด ้ า น เ ท ค โ น โ ล ยี ส า ร ส น เ ท ศ  ในการพิจารณาโครงการให้
และขาดประสทิ ธภิ าพในการดำ� เนนิ การจดั ซอื้ จดั จา้ ง พิจารณาถึงวัตถปุ ระสงค์ กล่มุ เป้าหมาย ผลลพั ธ์
ส่งผลให้ผู้ประกอบการท่องเท่ียวในกลุ่มจังหวัด รายละเอยี ดของกจิ กรรมและประมาณการคา่ ใชจ้ า่ ย
ขาดโอกาสน�ำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงาน วิธีการด�ำเนินงาน และตัวชี้วัดที่สามารถวัดผล
และเสียโอกาสในการน�ำงบประมาณไปพัฒนา การด�ำเนินงานได้อย่างแท้จริงเพ่ือประเมินผล
โครงการอนื่ ความสำ� เร็จของโครงการ
 กรณีการจัดท�ำโครงการเก่ียวกับ
    ข้อควรปฏิบตั ิ เทคโนโลยแี ละสารสนเทศ ตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ความพรอ้ ม
และศกั ยภาพ ตลอดจนบคุ ลากรของผรู้ บั ผดิ ชอบ
 การจัดท�ำรายละเอียดในการเสนอ โครงการวา่ สามารถดำ� เนนิ การใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงค์
โครงการโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัตถุประสงค์     ข้อพงึ ระวงั
กลมุ่ เปา้ หมาย ผลลพั ธ์ รายละเอยี ดของกจิ กรรม  งานท่ีได้จากโครงการมีการใช้
และประมาณการค่าใช้จ่าย วิธีการด�ำเนินงาน ประโยชน์ไม่คุ้มค่าหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์
และตวั ชว้ี ดั จะตอ้ งสามารถวดั ผลการดำ� เนนิ งาน สืบเน่ืองจากสาเหตุของการจัดท�ำโครงการ
ได้อย่างแท้จริง รวมทั้งก�ำหนดผู้รับผิดชอบ โดยไม่ได้มีการศึกษาข้อมูลสถานท่ีตั้งโครงการ
ในการประเมินผลสัมฤทธิ์และความส�ำเร็จของ ไ ม ่ มี ก า ร จั ด ว า ง ร ะ บ บ ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร
โครงการไวด้ ว้ ย และกำ� ชบั คณะอนกุ รรมการจดั ทำ� และขาดความพร้อมในการบริหารโครงการ
แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดให้พิจารณากลั่นกรอง ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้ครุภัณฑ์หรือส่ิงก่อสร้าง
โครงการและการจัดท�ำแผนปฏิบัติราชการ ที่ได้รับจากโครงการไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้
และหากทรพั ยส์ นิ ไมไ่ ดใ้ ชง้ านและหรอื ขาดการดแู ล
บำ� รุงรกั ษาอยา่ งต่อเนื่อง อาจเส่ือมสภาพ ช�ำรดุ
เสียหาย หรือสูญหายได้ และส่งผลกระทบ
ตอ่ โครงการอนื่ ๆ ในการสญู เสยี โอกาสทจี่ ะไดร้ บั
การจัดสรรงบประมาณไปด�ำเนนิ การอีกด้วย

วารสารด�ำ รงราชานุภาพ 119

    ข้อควรปฏิบตั ิ     ข อ้ ควรปฏบิ ตั ิ

 ในการจดั ทำ� โครงการควรมกี ารศกึ ษา  ควรแจ้งให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบ
ขอ้ มูล วางแผนอยา่ งรอบคอบ ส�ำรวจสภาพพน้ื ที่ โครงการเตรียมความพร้อมของการด�ำเนินการ
โครงการอย่างละเอียดเพ่ือก�ำหนดรูปแบบ ต้ังแต่ขั้นตอนของการเสนอขอรับการสนับสนุน
โดยค�ำนึงถึงความเหมาะสมและการได้รับ งบประมาณรายจ่ายประจ�ำปี เพ่ือให้สามารถ
ประโยชนส์ งู สดุ ของโครงการ ควรจดั ใหป้ ระชาชน ดำ� เนนิ การไดท้ นั ทเี มอ่ื พระราชบญั ญตั งิ บประมาณ
มีส่วนร่วมแสดงความเห็นในการจัดท�ำโครงการ รายจ่ายประจ�ำปีมีผลใช้บังคับและได้รับ
อย่างแท้จริง เพ่ือจะได้สนองความต้องการ การจัดสรรงบประมาณ ตลอดจนการบริหาร
และไดป้ ระโยชนม์ ากทีส่ ุด จดั การกระบวนการจดั ซอ้ื จดั จา้ งใหเ้ ปน็ ไปตามแผน
   ท่ีก�ำหนดเพ่ือมิให้โครงการเกิดความล่าช้า
    ข้อพงึ ระวงั และต้องก�ำหนดแผนการจัดซ้ือจัดจ้างให้มี
หว้ งเวลาทีส่ ัมพันธ์กัน
 การด�ำเนินโครงการล่าช้า ไม่เป็น  ก�ำชับให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบ
ไปตามระยะเวลาทโี่ ครงการก�ำหนด หน่วยงาน โครงการต้องท�ำการศึกษาข้อมูลโครงการ
ที่รับผิดชอบไม่ได้ก�ำหนดแผนการด�ำเนินการ และมีการส�ำรวจความเหมาะสมของพื้นที่
จดั ซอ้ื จดั จา้ งใหม้ หี ว้ งระยะเวลาทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ นั ที่ด�ำเนินการจริงอย่างรอบคอบก่อนการขอรับ
ในแต่ละกิจกรรม ซึ่งส่งผลให้เริ่มด�ำเนินการ ค ว า ม เ ห็ น ช อ บ โ ค ร ง ก า ร แ ล ะ ก� ำ ห น ด ใ น
ล่าช้าต้ังแต่ขั้นตอนการเตรียมการจัดหา และ แผนปฏบิ ตั ิราชการประจำ� ปี รวมถงึ การวางแผน
ไมม่ กี ารกำ� หนดแนวทางการตดิ ตามการดำ� เนนิ งาน การออกแบบโครงการอย่างรอบคอบรัดกุม
อย่างต่อเนื่องและชัดเจน ขาดความพร้อม เพ่ือมิให้เกิดการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในภายหลัง
ด้านสถานท่ีก่อสร้าง ท�ำให้ต้องมีการแก้ไข เพื่อป้องกันปัญหาอุปสรรคในการก่อสร้าง
แบบรปู รายการและแกไ้ ขสญั ญาหรอื อาจจะตอ้ ง มิให้เกิดความล่าชา้
มีการขยายระยะเวลาในการด�ำเนินการออกไป  ให้มีการติดตามประเมินผลการ
ดำ� เนนิ งานของโครงการใหเ้ ปน็ ไปตามระยะเวลา
ท่ีก�ำหนด ตลอดจนการติดตามความก้าวหน้า
และสอบถามผู้รับผิดชอบโครงการเก่ียวกับ
ปญั หาอปุ สรรคและขอ้ จำ� กดั ของโครงการ เพอ่ื ให้
สามารถแกไ้ ขปญั หาใหก้ บั หนว่ ยงานผรู้ บั ผดิ ชอบ
โครงการไดท้ นั กาล พรอ้ มทง้ั มมี าตรการเรง่ รดั ใหร้ บี
ดำ� เนนิ โครงการใหแ้ ลว้ เสรจ็ ตามหว้ งเวลาทก่ี ำ� หนด

120 วารสารดำ�รงราชานุภาพ

   ข้อพึงระวัง    ข้อควรปฏบิ ตั ิ
 ในการจดั ทำ� โครงการจะตอ้ งกำ� หนด
 การบรหิ ารจดั การทรพั ยส์ นิ ทไ่ี ดร้ บั แนวทางและวธิ กี ารบรหิ ารจดั การทรพั ยส์ นิ ไวใ้ ห้
จากโครงการ ไม่มีการก�ำหนดแนวทาง ชดั เจนตง้ั แต่ ขนั้ ขออนมุ ตั โิ ครงการ หากผปู้ ระสงค์
การบรหิ ารจัดการทรัพย์สินไวใ้ นโครงการ ทำ� ให้ จะรับโอนทรัพย์สินเป็นราชการส่วนภูมิภาค
เมอ่ื ดำ� เนนิ โครงการแลว้ เสรจ็ ไมส่ ามารถสง่ มอบ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงาน
ทรัพย์สินให้กับหน่วยงานใดบริหารจัดการ ต้นสังกัดในการรับมอบทรัพย์สินด้วยแล้ว และ
ให้เกิดความยั่งยืนได้ หน่วยรับโอนทรัพย์สิน จะตอ้ งพจิ ารณาถงึ ศกั ยภาพและความพรอ้ มของ
ไ ม ่ ข อ รั บ ท รั พ ย ์ สิ น ต า ม ที่ ไ ด ้ ต ก ล ง กั น ไ ว ้ หน่วยงานท่ีจะรับมอบทรัพย์สินประกอบด้วย
การบรหิ ารจดั การทรพั ยส์ นิ ของรฐั ไมเ่ ปน็ ไปตาม เช่น งบประมาณ บุคลากร เพ่ือให้ทรัพย์สิน
ขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ กฎกระทรวง สามารถใช้งานไดอ้ ยา่ งต่อเน่อื งและยั่งยืน
และหนงั สือสง่ั การทเ่ี กย่ี วข้อง เชน่ ไม่ไดแ้ จ้งขนึ้  เมื่อโครงการแล้วเสร็จต้องก�ำกับ
ทะเบียนอาคารหรือส่ิงปลูกสร้างเป็นที่ราชพัสดุ ดแู ลใหเ้ จา้ หนา้ ทถ่ี อื ปฏบิ ตั ใิ หเ้ ปน็ ไปตามขนั้ ตอน
ต่อส�ำนักงานธนารักษ์พ้ืนท่ี ส่งผลให้หน่วยรัฐ ของกฎหมาย ระเบยี บ กฎกระทรวง และหนงั สอื
ขาดรายได้จากการไม่จัดเก็บค่าเช่าท่ีราชพัสดุ สัง่ การท่ีเกยี่ วข้องโดยเครง่ ครัด เชน่ การบนั ทกึ
และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ได้ หน่วยด�ำเนินการ ทะเบยี นคมุ ทรพั ยส์ นิ การยมื ทรพั ยส์ นิ การจำ� หนา่ ย
ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติเรื่อง ทรัพย์สิน และการแจ้งขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ
การโอนทรพั ย์สนิ การปฏิบตั ิกรณีท่ีทางราชการ ภายใน 30 วนั เปน็ ตน้
ขอให้ราษฎรอุทิศท่ีดินให้และหลักการในการรับ
บรจิ าคทีด่ ิน เปน็ ตน้

วารสารดำ�รงราชานภุ าพ 121

บทสรุป งานโครงการ หรือไม่มีการติดตามประเมินผล
การด�ำเนินโครงการอย่างเป็นระบบ อีกท้ัง
ข้อควรระวังความผิดพลาดท่ีตรวจพบ ก า ร ข า ด บุ ค ล า ก ร ท่ี มี ค ว า ม รู ้ ค ว า ม เ ข ้ า ใ จ
ในการท�ำโครงการที่ได้สรุปไว้ข้างต้น เป็นเพียง ในโครงการและวิธีการด�ำเนินงานโครงการแล้ว
ส่วนหน่ึงในประเด็นข้อตรวจพบของผู้มีหน้าที่ โครงการนั้นย่อมบรรลุถึงเป้าหมายได้ยาก
ตรวจสอบทม่ี คี วามส�ำคัญไมน่ ้อยต่อความสำ� เรจ็ หรือไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ข้อควรระวัง
ของโครงการและความคุ้มค่าของการใช้จ่าย และข้อปฏิบัติดังกล่าวอาจเป็นส่วนหนึ่ง
งบประมาณของแผ่นดิน ดังนน้ั แมว้ า่ การเขยี น ในการช่วยให้ผู้จัดท�ำโครงการ ผู้รับผิดชอบ
โครงการอยา่ งละเอยี ดชดั เจนเพยี งใด หากการบรหิ าร โครงการ และผู้บริหารโครงการ สามารถจัดท�ำ
โครงการขาดประสิทธิภาพ ผู้บริหารโครงการ โครงการและบรหิ ารโครงการใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพ
ไม่ตระหนักถึงความส�ำคัญในการวางแผน มี ป ร ะ สิ ท ธิ ผ ล แ ล ะ บ ร ร ลุ เ ป ้ า ห ม า ย ห รื อ
วตั ถปุ ระสงค์ทวี่ างไว้ไดใ้ นโอกาสตอ่ ๆ ไป

บทบาท ก.ธ.จ. ต่อการติดตามโครงการ

ศิริพร กฤชสินชัย

ในฐานะที่มีประสบการณ์ในการปฏิบัติ ท่ีได้รับมอบหมายมาให้ตรวจติดตามก็จะมี
หน้าที่คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด การตดิ ตามผลเพอื่ ใหไ้ ดข้ อ้ เทจ็ จรงิ ขอ้ มลู ต่าง ๆ
โดยด�ำรงต�ำแหน่ง รองประธานกรรมการ ทรี่ วบรวมจากการปฏบิ ตั หิ นา้ ทขี่ องคณะกรรมการ
ธรรมาภิบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ธรรมาธิบาลจงั หวดั ทัง้ 76 จังหวดั จะเปน็ ขอ้ มลู
พ.ศ. 2560 – 2562 และต�ำแหน่งในปัจจุบัน กอ้ นใหญท่ ส่ี ะทอ้ นความเปน็ จรงิ ใหก้ บั ฝา่ ยบรหิ าร
คือ ท่ีปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน ไว้ใช้ประโยชน์ตอ่ ไป
ด้านสังคมส�ำนักนายกรัฐมนตรี ประจ�ำ
จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ซง่ึ กฎหมายเปดิ โอกาส อาสามาท�ำงาน มกี ฎหมายระเบยี บรองรบั
ให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการ
ตรวจราชการ และที่ปรึกษาคณะกรรมการ กฎหมายสำ� คญั ทที่ ำ� ใหม้ ี “คณะกรรมการ
ธรรมาภบิ าลดา้ นวชิ าการจงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ธรรมาภบิ าลจงั หวดั ” สบื เนอื่ งมาจากพระราชบญั ญตั ิ
พ.ศ. 2563 – 2565 จะไดน้ ำ� เรอ่ื งทม่ี คี วามสำ� คญั ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
ต่อนักวางแผนท้ังหลายมาบอกกล่าวให้เข้าใจว่า ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบ
คณะกรรมการธรรมาภบิ าลจงั หวดั มไิ ดม้ าจบั ผดิ บริหารราชการแผน่ ดนิ (ฉบับท่ี 7) พ.ศ. 2550
อะไรพวกทา่ น แตม่ าสอดสอ่ งวา่ ทา่ นกำ� ลงั จะทำ� มาตรา 55/1 ได้ก�ำหนดให้มีคณะกรรมการ
แผนอะไร การวางแผนน้ันมีการเตรียมพร้อม ธรรมาภิบาลจังหวัด หรือเรียก โดยย่อว่า
เพยี งใด โดยมองอยา่ งระยะยาวเพราะไมต่ อ้ งการ “ก.ธ.จ.” ในทกุ จังหวดั ยกเว้นกรุงเทพมหานคร
ให้โครงการเสร็จแล้วแต่กลับทิ้งร้างหรือใช้งาน เพอื่ ทำ� หนา้ ทสี่ อดสอ่ ง (ความหมายของการสอดสอ่ ง
ไมค่ มุ้ คา่ เกดิ ความสญู เสยี และเสยี ดายงบประมาณ คือการเอาใจใส่ดูแล หรือการตรวจตราโดย
หากมีการกระท�ำผิดละเลยกฎหมายหรือ ท่ัวไป (Scrutinize) การสังเกตเหตุการณ์
มกี ารทจุ รติ กจ็ ำ� เปน็ ตอ้ งรายงานใหป้ ระธานทราบ (Observation) การเฝ้ามองดู (Watch out))
โดยประธานคณะคือผู้ตรวจราชการส�ำนักนายก และเสนอแนะการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงาน
รัฐมนตรีซึ่งมีเขตอ�ำนาจในจังหวัด แต่ละท่าน ของรัฐในจังหวัด ให้ใช้วิธีการบริหารกิจการ
จะรับผิดชอบหลายจังหวัด ท�ำให้มีมุมมอง บา้ นเมอื งทด่ี ี และเปน็ ไปตามหลกั การทกี่ ำ� หนดไว้
การตดิ ตามโครงการไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวางเปน็ ประโยชน์ ตามมาตรา 3/1
แกจ่ งั หวดั เมอื่ มนี โยบายสำ� คญั หรอื เรอ่ื งรอ้ งเรยี น

วารสารด�ำ รงราชานภุ าพ 123

มาตรา 3/1 การบริหารราชการตาม ในจงั หวดั รวมทงั้ แผนงาน โครงการตามนโยบาย
พระราชบัญญัติต้องเป็นไปเพ่ือประโยชน์สุข ของรฐั บาล หรอื เรอื่ งอนื่ ๆ ตามทป่ี ระธาน ก.ธ.จ.
ของประชาชน เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ เห็นสมควร
ความมีประสิทธิภาพ ความคุ้มค่าในเชิงภารกิจ
แห่งรัฐ การลดข้ันตอน การปฏิบัติงาน การลด องค์ประกอบทเี่ หมาะสมและหลากหลาย
ภารกจิ และยบุ เลกิ หนว่ ยงานทไี่ มจ่ ำ� เปน็ การกระจาย
ภารกจิ และทรพั ยากรใหแ้ กท่ อ้ งถน่ิ การกระจาย กรรมการประกอบด้วยผู้ตรวจราชการ
อ�ำนาจการตัดสินใจ การอ�ำนวยความสะดวก ส�ำนักนายกรัฐมนตรี ซ่ึงมีเขตอ�ำนาจในจังหวัด
และการตอบสนองความต้องการของประชาชน เป็นประธาน ผู้แทนภาคประชาสังคม ผู้แทน
ทัง้ นีโ้ ดยมผี ู้รบั ผิดชอบต่อผลของงาน สมาชิกสภาท้องถิ่น ที่ไม่ได้ด�ำรงต�ำแหน่ง
ส�ำหรับจ�ำนวน วิธีการสรรหาและ ผู้บริหาร และผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน มีวาระ
การปฏิบัติหน้าที่ของ ก.ธ.จ. ให้เป็นไปตาม การด�ำรงต�ำแหน่งคราวละ 3 ปี นับแต่วันท่ี
ระเบยี บส�ำนกั นายกรฐั มนตรวี า่ ดว้ ยคณะกรรมการ ปลัดส�ำนักนายกรัฐมนตรี ลงนามรับรองรายชื่อ
ธรรมาภิบาลจังหวัด พ.ศ. 2552 ประกาศ กรรมการ เป็นรายจังหวัด กรรมการซึ่งพ้นจาก
ในราชกิจจานุเบกษา เม่ือวันที่ 27 เมษายน ต�ำแหน่งตามวาระอาจได้รับการสรรหาอีกได้
พ.ศ. 2552 มีผลใชบ้ งั คบั เม่ือวนั ที่ 28 เมษายน แต่จะด�ำรงต�ำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้
พ.ศ. 2552 หลังจากน้ัน ไดม้ ีการแกไ้ ขปรับปรงุ จำ� นวนคณะกรรมการจะมมี ากหรอื นอ้ ยขน้ึ อยกู่ บั
ระเบียบฯ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2554 มีผลใชบ้ งั คับ จำ� นวนอำ� เภอของแตล่ ะจงั หวดั ใหม้ เี ลขานกุ าร/
เมื่อวันท่ี 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ซ่ึงเป็น ผู้ช่วยเลขานุการจากข้าราชการส่วนกลาง
การเปล่ียนแปลงเก่ียวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ (สำ� นกั งานปลดั สำ� นักนายกรัฐมนตร)ี และผู้ช่วย
สรรหากรรมการ การกำ� หนดสดั สว่ นของกรรมการ เลขานกุ ารซงึ่ เปน็ ขา้ ราชการของจงั หวดั ด้วย
ผู้แทนสมาชิกสภาทอ้ งถนิ่ การจดั ทำ� บญั ชรี ายชอื่
สำ� รอง ตลอดจนการลงคะแนนเพ่ือเลือกกันเอง
และเมื่อวันท่ี 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ได้มี
ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรีมาเพิ่มเติมก�ำหนด
กรอบแนวทางทชี่ ดั เจนมากยง่ิ ขนึ้ โดยสอดสอ่ ง
การปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานของรัฐและ
เจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั ในจงั หวดั ทกุ แผนงาน โครงการ
ของจงั หวดั และสว่ นราชการ ในจงั หวดั อกี ทงั้
แก้ไขปัญหาความเดอื ดรอ้ นจากการปฏบิ ตั งิ าน
ของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าท่ีของรัฐ

124 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ

จ�ำ นวนอ�ำ เภอ จ�ำ นวน ก.ธ.จ. ประธาน จำ�นวน ก.ธ.จ.
ของจงั หวดั ท้งั หมด (ผต.นร.) ภาคประชา สมาชกิ ภาคธรุ กิจ

ไมเ่ กนิ 10 14 1 สงั คม สภาทอ้ งถนิ่ เอกชน
ตั้งแต่ 11 – 15 16 1 7 33
ตั้งแต่ 16 - 20 18 1 9 33
ต้งั แต่ 21 ข้ึนไป 20 1 9 44
11 4 4

เน้นการมีสว่ นรว่ ม 53/1 มาตรา 53/2 คณะกรรมการธรรมาภบิ าล
จั ง ห วั ด จึ ง ถู ก ก�ำ ห น ด บ ท บ า ท เ พ่ื อ ค ว า ม
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ สอดคลอ้ งและเสนอแนะการปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ของ
แผ่นดิน พ.ศ. 2535 แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี 7) หนว่ ยงานของรฐั ในจงั หวดั ใหใ้ ชว้ ธิ กี ารบรหิ าร
พ.ศ. 2550 มาตรา 53/1 และ 53/2 ในเร่ืองของ กิจการบา้ นเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ดงั ที่ปรากฎใน
แผนพัฒนาจังหวัด และแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด หมายเหตุท้ายพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร
ให้จังหวัดเป็นนิติบุคคล และสามารถต้ัง ราชการแผน่ ดนิ (ฉบบั ที่ 7) พ.ศ. 2550 ตอนหนงึ่ วา่
งบประมาณเองได้น้ัน คร้ันเม่ือจะให้มี “เพอื่ ใหเ้ กดิ การบรหิ ารราชการในราชการบรหิ าร
คณะกรรมการชดุ หนงึ่ ขน้ึ เพอื่ ความสอดคลอ้ งกบั ส่วนภูมิภาคสอดคล้องกับ ทิศทางการพัฒนา
บทบาทหน้าท่ีของจังหวัดที่เปลี่ยนแปลงไปใน ป ร ะ เ ท ศ แ ล ะ ใ ห ้ ก า ร บ ริ ห า ร ร า ช ก า ร แ บ บ
การจดั ระเบยี บบรหิ ารราชการสา่ นภมู ภิ าค ดงั นน้ั บูรณาการในจังหวัดบรรลุผล สมควรปรับปรุง
มาตรา 55/1 เรื่องของคณะกรรมการ อำ� นาจการดำ� เนนิ การของจงั หวดั การจดั ทำ� แผน
ธรรมาภบิ าลจงั หวดั จงึ เนน้ การมสี ว่ นรว่ มของ พัฒนาจังหวัดและการจัดท�ำงบประมาณของ
ภาคประชาสงั คม ภาคธรุ กจิ เอกชนและสมาชกิ จังหวัดให้เหมาะสม รวมทั้งสมควรส่งเสริมให้มี
สภาทอ้ งถนิ่ ทไ่ี มไ่ ดด้ �ำรงต�ำแหนง่ ผบู้ รหิ ารดว้ ย คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเพ่ือสอดส่อง
ยอ่ มแสดงถงึ เจตนารมณท์ เี่ ปน็ ไปตามรฐั ธรรมนญู และเสนอแนะการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงาน
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ของรัฐในจังหวัด ให้ใช้วิธีการบริหารกิจการ
มาตรา 87 ในแนวนโยบายดา้ นการมสี ว่ นรว่ มของ บา้ นเมอื งทดี่ ี อันจะทำ� ให้การบริหารเปน็ ไปดว้ ย
ประชาชน และในความสอดคล้องของมาตรา ความโปรง่ ใส เป็นธรรม มคี วามรับผิดชอบ”

วารสารดำ�รงราชานภุ าพ 125

ยึดหน้าท่ี สอดส่องติดตามโครงการ
แลว้ สง่ ผลอยา่ งไร

การสอดสอ่ งโครงการตา่ ง ๆ ของจงั หวดั หรือมีกรณีทุจริต ประธานจะแจ้งเป็นหนังสือ
โดยคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดร่วมกัน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ
ทำ� งานเพอ่ื บา้ นเมอื ง ยดึ หลกั “โปรง่ ใส ไรท้ จุ รติ รฐั วสิ าหกิจหรือหน่วยงานอน่ื ของรฐั ที่เกยี่ วข้อง
คอื ภารกจิ ก.ธ.จ.” แม้จะไมไ่ ด้รับเงินเดอื นเปน็ แล้วแต่กรณี เพ่ือดําเนินการตามอํานาจหน้าที่
ค่าตอบแทน แต่ก็ยินดีและอาสามามีส่วนร่วม และให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ
หวงแหนแผ่นดิน หวงแหนงบประมาณภาครัฐ รัฐวสิ าหกิจ หรือหนว่ ยงานอื่นของรฐั ทเ่ี ก่ยี วข้อง
เห็นว่าส่ิงใดควรปรับควรแก้ไข จะแนะน�ำ แล้วแต่กรณี รายงานผลการดําเนินการ
ให้ขอ้ เสนอแนะแนวทางการปฏิบัติ โดยส่งเสริม ให้ประธานทราบ ภายใน 30 วันนับแต่วันท่ี
ตามหลกั คณุ ธรรม จรยิ ธรรมและธรรมาภบิ าลแก่ ได้รับหนังสือ หากผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้า
ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานของรัฐใน ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่น
จังหวัดเพ่ือให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การบริหาร ของรัฐที่เก่ียวข้อง แล้วแต่กรณี มิได้ดําเนินการ
จัดการบ้านเมืองท่ดี ี ตามอํานาจหน้าท่ี ประธานจะแจ้งมติ ก.ธ.จ.
การลงไปตรวจในพ้ืนท่ีแต่ละคร้ังได้รับ ให้ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีทราบ เพื่อรายงาน
การประสานอ�ำนวยความสะดวกจากเจ้าของ ตอ่ รัฐมนตรีเจา้ สงั กดั ดําเนนิ การตอ่ ไป
พื้นท่ีท้ังนายอ�ำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ
ขา้ ราชการผเู้ กยี่ วขอ้ ง มารว่ มอธบิ ายตอบขอ้ สงสยั
และมอบเอกสารส�ำคัญประกอบโครงการ
เป็นอย่างดี ภายหลังการตรวจจะจัดท�ำเป็น
รายงานโดยร่วมกับฝ่ายผู้ช่วยเลขานุการ ก.ธ.จ.
ซ่ึงเป็นข้าราชการและเจ้าหน้าที่จากกลุ่มงาน
บริหารทรัพยากรบุคคลของส�ำนักงานจังหวัด
แล้วจัดส่งรายงานผลข้อเสนอแนะให้กับผู้ตรวจ
ราชการสำ� นกั นายกรฐั มนตรี หรอื รวบรวมนำ� เสนอ
ในการประชุมติดตามผลกรณีผู้ตรวจราชการ
เดนิ ทางมาเปน็ ประธานในการประชมุ
ในกรณีที่ ก.ธ.จ. มีมติว่ามีการละเลย
ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับ

126 วารสารด�ำ รงราชานภุ าพ

เทียบเคียงการปฏบิ ตั ทิ ่ไี มถ่ กู ต้อง และประเมินผลการปฏิบัติงาน ทั้งน้ีตาม
ในการสอดสอ่ งโครงการ ความเหมาะสมของแตภ่ ารกิจ
เมือ่ ใดท่ี ก.ธ.จ. สอดสอ่ งโครงการ จะใช้
ในการปฏิบัติหน้าท่ีของส่วนราชการ วิธีเปรียบเทียบการด�ำเนินการท่ีไม่เป็นไปตาม
ต้องใช้วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองท่ีดี หลกั การบรหิ ารกจิ การบา้ นเมอื งทด่ี ี กบั ระเบยี บ
โดยเฉพาะอย่างย่ิงให้ค�ำนึงถึงความรับผิดชอบ ส�ำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการ
ของผู้ปฏิบัติงาน การมีส่วนร่วมของประชาชน ธรรมาภบิ าลจงั หวดั พ.ศ. 2552 และทแ่ี กไ้ ขเพมิ่ เตมิ
การเปิดเผยข้อมูล การติดตามตรวจสอบ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2554 ข้อ 23 ดงั นี้

ข้อ 23 ระเบยี บ นร. ว่าดว้ ย ก.ธ.จ. ทมี่ า ปจั จัยเสีย่ งตอ่ การท่ีเจ้าหนา้ ท/่ี หน่วยงาน หลกั ธรรมาภิบาล
ของรัฐไมด่ �ำ เนินการให้เปน็ ไปตาม UNESCAP
หลักการบรหิ ารกจิ การบา้ นเมืองท่ดี ี

(1) ปฏิบัติภารกิจให้เป็นไปตาม รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2550 • ไม่ด�ำเนนิ การตามกฎหมาย ซ่ึงอาจกระทบ หลกั นติ ิธรรม
กฎหมาย เพื่อรักษาประโยชน์ มาตรา 74 ตอ่ ผลประโยชน์ของสว่ นรวม (Rule of Law)
ส่วนรวม ตลอดจนไม่ละเมิดสิทธิ • การด�ำเนินการที่อาจเป็นการละเมิดสิทธิ
และเสรภี าพของประชาชน ของประชาชน

(2) ป ฏิ บั ติ ภ า ร กิ จ เ พื่ อ อ� ำ น ว ย พ.ร.ฎ. การบริหารกิจการ • ไม่ค�ำนึงถึงความต้องการและความ ความสอดคลอ้ งเห็นพอ้ ง
ความสะดวก ให้บริการ และ บ้านเมืองท่ดี ี พ.ศ. 2546 พงึ พอใจของประชาชนทม่ี ารบั บริการ (Consensus Oriented)
สนองความต้องการของประชาชน หมวด 7 : การอ�ำนวย • ไม่ก�ำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของงาน
ค ว า ม ส ะ ด ว ก  แ ล ะ และประกาศให้ประชาชนและขา้ ราชการ
การตอบสนองความตอ้ งการ • ไม่ตอบค�ำถาม ข้อร้องเรียนสงสัยของ
ของประชาชน ประชาชน
(มาตรา 37 – 44) • ไม่มีการส�ำรวจความพึงพอใจที่จะสามารถ
นำ� ไปปรับปรงุ การบริการ

(3) ปฏิบัติภารกิจเพื่อประโยชน์สุข พ.ร.ฎ. การบริหารกิจการ • ไมต่ อบสนองความตอ้ งการของประชาชน การตอบสนอง หรือความ
ของประชาชน บ้านเมอื งทีด่ ี พ.ศ. 2546 • ไม่ด�ำเนินการให้เกิดผลในทางบวกต่อ รบั ผดิ ชอบ (Responsiveness)
หมวด 2 : การบริหาร การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของประชาชน
ร า ช ก า ร เ พื่ อ ใ ห ้ เ กิ ด • ไม่ประกาศก�ำหนดมาตรฐานการบริการ
ประโยชนส์ ขุ ของประชาชน ใหป้ ระชาชนทราบ
(มาตรา 7 - 8) • ไ ม ่ เ ผ ย แ พ ร ่ ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น แ ล ะ ผ ล
การประเมนิ ตนเองตอ่ สาธารณะ
• ไม่มีระเบียบปฏิบัติในการด�ำเนินงาน
กบั เร่อื งรอ้ งเรียนโดยตรง

(4) ปฏิบัติภารกิจให้เกิดผลสัมฤทธิ์ พ.ร.ฎ. การบริหารกิจการ • ไม่คำ�นึงถึงประสิทธิภาพ และความสำ�เร็จ ประสิทธิภาพ ประสทิ ธผิ ล
มีประสทิ ธภิ าพ และมคี วามคมุ้ คา่ บา้ นเมอื งที่ดี พ.ศ. 2546 ของผลลพั ธท์ ่เี กดิ ขน้ึ และความค้มุ ค่า
หมวด 3 : การบริหาร • ไม่มีการบูรณาการกันระหว่างหน่วยงาน (Effectiveness Efficiency
ราชการเพ่ือให้เกิดผล ในโครงการท่ีเกี่ยวข้อง หรือมีภารกิจ and Value for Money)
สัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ ตอ่ เน่ืองใกลเ้ คียงกนั
(มาตรา 9 - 19) • ไ ม่ มี ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ ค ว า ม เ ป็ น ไ ป ไ ด้
และหมวด 4 : การบริหาร ความเสย่ี ง หรอื ความคมุ้ คา่ ของงาน/โครงการ
ราชการอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ • ไม่กำ�หนดวัตถุประสงค์ เป้าหมายของงาน
และเกิดความคุ้มค่าในเชิง และการวัดผลไว้
ภารกิจของรัฐ • ไม่กำ�หนดขั้นตอน ระยะเวลา ในเรื่องท่ี
(มาตรา 20 - 26) กฎหมายกำ�หนดข้ันตอนการปฏิบัติไว้
และมีข้ันตอนการปฏิบัติเกิน 15 วัน
แ ล ะ ไ ม่ ป ร ะ ก า ศ กำ� ห น ด ร ะ ย ะ เ ว ล า
การพิจารณาไวใ้ ห้ส่วนราชการอนื่ ทราบ

วารสารด�ำ รงราชานภุ าพ 127

ข้อ 23 ระเบยี บ นร. วา่ ดว้ ย ก.ธ.จ. ทม่ี า ปจั จัยเส่ยี งต่อการทีเ่ จา้ หนา้ ท/ี่ หนว่ ยงาน หลกั ธรรมาภิบาล
ของรฐั ไม่ด�ำ เนินการใหเ้ ป็นไปตาม UNESCAP
หลกั การบรหิ ารกิจการบ้านเมอื งท่ดี ี

(5) ปฏิบัติภารกิจโดยไม่มีขั้นตอน พ.ร.ฎ. การบริหารกิจการ • ไมพ่ ยายามทจ่ี ะลดขน้ั ตอนการบรกิ ารทเ่ี กนิ ภาระรบั ผดิ ชอบ
การปฏิบัติงานเกินความจ�ำเป็น บ้านเมืองท่ดี ี พ.ศ. 2546 ความจำ� เปน็ (Accountability) และ
ให้ทันต่อสถานการณ์โดยเฉพาะ หมวด 5 : การลดขั้นตอน • ไมม่ กี ารกระจายอ�ำนาจการตดั สินใจ ความเสมอภาคเปน็ ธรรม
ในเร่ืองท่ีเป็นความเดือดร้อน การปฏิบตั ิงาน • ไม่มีการทบทวนภารกิจ และปรับปรุง (Equity and inclusiveness)
และทุกข์ยากของประชาชน (มาตรา 27 – 32) กระบวนการท�ำงานให้สอดคล้องกับ
และหมวด 6 : การปรบั ปรงุ สถานการณ์
ภารกจิ ของสว่ นราชการ
(มาตรา 33 – 36)

(6) ปฏิบัติภารกิจโดยยึดหลักการ มาตรา 3/1 พ.ร.บ.ระเบียบ • ไม่ได้ให้ความส�ำคัญกับการเปิดโอกาส การมสี ว่ นร่วม
มีส่วนร่วมของประชาชน และ บริหารราชการแผ่นดิน ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกับ (Participatory)
การเปดิ เผยข้อมลู อยา่ งโปรง่ ใส (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 การด�ำเนินการภาครัฐเท่าท่ีควร ความโปรง่ ใส
(บางสว่ น) • ไม่ดำ� เนนิ การตาม พ.ร.บ. ขอ้ มูลข่าวสารฯ (Transparency)
(น�ำไปตราเป็น พ.ร.ฎ. กล่าวคือ ไม่เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส
การบรหิ ารกจิ การบา้ นเมอื ง ให้ประชาชนตรวจสอบได้
ท่ดี ี พ.ศ. 2546)

(7) ปฏิบัติภารกิจโดยมีการติดตาม พ.ร.ฎ. การบริหารกิจการ • ไม่มีการตรวจสอบวัดผลการปฏบิ ตั งิ าน ภาระรบั ผิดชอบ
ตรวจสอบ และประเมินผล บา้ นเมืองทดี่ ี พ.ศ. 2546 • ไม่เผยแพร่ผลงานตอ่ สาธารณะ (Accountability)
การปฏิบัติงานสม่�ำเสมอ และ หมวด 8 : การประเมนิ ผล • ไม่มีการวางระบบการควบคุมภายใน
เผยแพรต่ ่อสาธารณะ การปฏบิ ัติราชการ ทจี่ ะผลกั ดนั ใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านของหนว่ ยงาน
(มาตรา 45 – 49) บรรลเุ ปา้ หมายอยา่ งมีประสิทธภิ าพ

เทคนิคการวางแผนเชิงพื้นที่

เพอ่ื ใหก้ ารทำ� งานของ ก.ธ.จ. มกี ารสอื่ สาร แล้วกลับมาสรุปผลการสอดส่อง ณ หอ้ งประชุม
เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจถกู ตอ้ งตรงกนั การตดิ ตามผล เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อน�ำเสนอประธาน
ไ ด ้ ค ร บ ทุ ก อ� ำ เ ภ อ อ ย ่ า ง มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ในการประชุมเตม็ คณะ
จึงมีการจัดแบ่งกรรมการรับผิดชอบแผนงาน/
โครงการตามอำ� เภอพน้ื ที่ ของกรรมการ และรว่ มกนั
ตดิ ตามผลในภาพรวม โดยมมี ตเิ อกฉนั ทร์ ว่ มกนั วา่
หลงั จากการประชมุ ก.ธ.จ. และคดั เลอื กโครงการ
ตามแผนปฏบิ ตั ริ าชการประจำ� ปงี บประมาณแลว้
ให้ถือปฏิบตั ิ ดังนี้
 ประชมุ อยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการทกุ วนั พธุ
ที่ 3 ของเดือน
 ในการประชุมภาคเช้า (09.00 –
12.00 น.) จะลงพนื้ ทต่ี ดิ ตามโครงการ 1 - 2 โครงการ

128 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ

 การลงพ้ืนที่จะไปตรวจร่วมกันเป็น
หม่คู ณะ แตถ่ า้ กรรมการท่านใดติดภารกจิ ขอให้
แจ้งรองประธานเพ่ือทราบ และขอให้รายงาน
การติดตามผลการสอดส่องทางไลน์กลุ่มเพ่ือให้
ทันเหตุการณ์ และมอบหมาย ก.ธ.จ. ในพ้ืนที่
รบั ผดิ ชอบตดิ ตามงาน
 ในการลงพื้นที่ทกุ ครั้ง รองประธาน
จะประสานงานกับฝ่ายผู้ช่วยเลขานุการ
(กลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคล ส�ำนักงาน
จังหวัด) ในการขอข้อมูลและประสานงาน
กับเจ้าของโครงการ หน่วยงานที่รับผิดชอบ
ในพ้ืนที่เพื่อน�ำเสนอและช้ีแจงรายละเอียด
ของโครงการ

การแก้ไขปัญหา

 การสอดสอ่ งโครงการ เมอ่ื พบปญั หา
คณะกรรมการซ่ึงประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ
หลายด้านมากด้วยประสบการณ์และเต็มเปี่ยม
ด้วยจิตอาสาที่จะช่วยกันรักษาผลประโยชน์
ของแผ่นดิน จะร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและ
ให้ข้อเสนอแนะที่เป็นเหตุเป็นผล ตัวอย่างเช่น
เม่ือสอดส่องโครงการสร้างถนนคอนกรีต
เสริมเหล็ก (คสล.) พบว่า ไม่มีการเสริมไหล่ทาง
ก็จะให้ค�ำแนะน�ำผู้รับจ้างและขอให้เพ่ิมงาน
เพื่อประโยชน์ของประชาชนและราชการ ดังนนั้
จึงเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานเจ้าของ
โครงการท่ีจะน�ำข้อแนะน�ำไปด�ำเนินการแก้ไข
ตามหลกั ธรรมาภบิ าล

วารสารดำ�รงราชานุภาพ 129

 การลงพ้ืนที่ในบางโครงการที่มี
ความเสย่ี งตอ่ การทจุ รติ หรอื รบั ขอ้ รอ้ งเรยี นจาก
ประชาชน วา่ มกี ารละเลยไมป่ ฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย
ระเบียบข้อบังคับ จะเชิญหน่วยงาน ท่ี MOU
รว่ มกนั เดนิ ทางไปดว้ ย เชน่ สำ� นกั งาน ป.ป.ท. เขต,
สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวดั ในการลงสอดสอ่ ง
การปล่อยกุ้งก้ามกราม, การสอดส่องบริษัท
เอกชนบ่อขยะ จนเกิดการขับเคล่ือนไปในทางท่ี
ถกู ต้อง ประชาชนได้รบั ผลประโยชน์
 เสนอแนะแนวทางการปฏิบัติ
และส่งเสริมตามหลักคุณธรรม จริยธรรม
และธรรมาภบิ าลเพอ่ื การบรหิ ารกจิ การบา้ นเมอื งทดี่ ี
แก่เจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั และหนว่ ยงานในจงั หวัด
 แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้า
ส่วนราชการ และหน่วยงานอ่ืนท่ีเกี่ยวข้อง
แลว้ แตก่ รณี ดำ� เนนิ การตามอำ� นาจหนา้ ทใี่ นกรณที ่ี
พบว่ามีการละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับหรือมีกรณีทุจริต ต้องแจ้ง
ปลัดส�ำนักนายกรัฐมนตรีเพ่ือให้มีหนังสือแจ้ง
รัฐมนตรเี จ้าสงั กัดตอ่ ไป

130 วารสารด�ำ รงราชานุภาพ

ปัจจัยแห่งความส�ำเร็จ

 ปฏิบัติภารกิจให้เป็นไปตาม
กฎหมายเพื่อรักษาประโยชนส์ ว่ นรวม ไม่ละเมดิ
สิทธิและเสรภี าพของประชาชน
 ปฏิบัติภารกิจเพ่ือประโยชน์สุข
ของประชาชน เกดิ ผลสมั ฤทธแิ์ ละมปี ระสทิ ธภิ าพ
คุ้มค่า
 ปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ทเี่ ปน็ เรอื่ งความเดอื ดรอ้ น
ของประชาชน
 ปฏบิ ตั ภิ ารกจิ โดยลดขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิ
ที่เกินความจ�ำเป็น อ�ำนวยความสะดวก
ใหบ้ รกิ ารและสนองความตอ้ งการของประชาชน
 ปฏิบัติภารกิจโดยยึดหลักการ
มีส่วนร่วมของประชาชนและเปิดเผยข้อมูล
อย่างโปร่งใส มีการติดตาม ตรวจสอบ
แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น ส ม�่ ำ เ ส ม อ
และเผยแพร่ต่อสาธารณะ โดยส่ือโซเชียลมิเดีย
จากความอนุเคราะห์และความร่วมมือของ
ที่ปรกึ ษาด้านการประชาสัมพันธ์ และสอ่ื ทอ้ งถ่ิน
ในจังหวัด

ขอ้ คดิ เห็นและข้อเสนอแนะ

ปลัดส�ำนักนายกรัฐมนตรีได้ก�ำหนด
การปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ตามอำ� นาจหนา้ ทขี่ อง ก.ธ.จ. โดยให้
สอดสอ่ ง การปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ของหนว่ ยงานของรฐั
และเจ้าหน้าที่ของรัฐในจังหวัดให้ใช้วิธีการ
บรหิ ารกจิ การบา้ นเมอื งทดี่ ี ตามพระราชกฤษฎกี า
ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการ

วารสารดำ�รงราชานภุ าพ 131

บา้ นเมอื งทดี่ ี พ.ศ.2546 โดยสอดสอ่ ง ทกุ แผนงาน และความรับผิดชอบของหน่วยงานและผู้เสนอ
โครงการของจังหวัดและส่วนราชการใน โครงการ เพอ่ื ให้เกดิ การระมดั ระวงั ในการเสนอ
จงั หวัด แผนงาน และของบประมาณโดยให้ค�ำนึงถึง
 ข้อคิดเห็นโดยสว่ นตวั สถานการณ์ ความคมุ้ ค่าและความยั่งยืน
ปจั จบุ นั การจัดสรรงบประมาณของส่วนราชการ  ข้อเสนอแนะเร่ืองคุณสมบัติของ
ท่ี จ ะ ด� ำ เ นิ น ก า ร ใ น พื้ น ท่ี ไ ม ่ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ ผู้จะสมัครเป็น ก.ธ.จ. ประการส�ำคัญควรเป็น
ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด, กลุ่มจังหวัด ผู้มีจิตอาสา เสียสละที่จะท�ำงานเพื่อประโยชน์
ท�ำให้ไม่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงปัญหา ของประชาชนโดยแทจ้ รงิ มคี วามรคู้ วามสามารถ
และความต้องการของประชาชนโดยแท้จริง เขา้ ใจบทบาทอำ� นาจหนา้ ทขี่ อง ก.ธ.จ. และขอบเขต
ปัญหาที่เกิดจากโครงสร้าง ปัญหาท่ีเกิดจาก การปฏบิ ตั ิงาน มีความรบั ผิดชอบ ถา้ ไมส่ ามารถ
การทำ� งานแบบแยกสว่ น และขาดการบรู ณาการ ปฏิบัติได้ก็ไม่ควรได้รับการพิจารณา ควรมี
ขาดการเช่ือมโยงความสัมพันธ์ ระหว่าง การปรับเปล่ียนวิธีการคัดเลือกโดยใช้ผลงาน
หนว่ ยงานกบั ประชาชน ภาครฐั กบั ภาคประชาชน เชิงประจักษ์ท่ีปรากฏเป็นที่ยอมรับของสังคม
ภาคประชาสงั คม ภาคธรุ กจิ เอกชน และความสมั พนั ธ์ ว่าเป็นคนดี ซ่ือสัตย์ มีความรู้ ความสามารถ
ระหวา่ งสว่ นกลาง สว่ นภมู ภิ าคและการปกครอง และเสียสละ ไม่ต้องการต�ำแหน่งแต่ต้องการ
ส่วนท้องถิ่น ดังนั้น การขาดความเชื่อมโยง ท�ำงานเพ่ือตอบแทนคุณแผ่นดิน ถ้าอาสา
และการบูรณาการต้องก�ำหนดไว้ในแผนพัฒนา มาทำ� หนา้ ทแี่ ลว้ ควรปฏบิ ตั ติ นใหส้ มเกยี รตศิ กั ดศ์ิ รี
จงั หวัด และแผนพฒั นากลุม่ จงั หวดั ซึ่งส่วนใหญ่ กรณีท่ีไม่สามารถเข้าร่วมประชุมเกิน 3 ครั้ง
ขาดความเป็นเอกภาพต่อการใช้งบประมาณ กค็ วรพจิ ารณาใหผ้ ทู้ มี่ คี วามพรอ้ มมาทำ� หนา้ ทแ่ี ทน
จงึ สง่ ผลกระทบตอ่ ภาคประชาชน อาจกอ่ ใหเ้ กดิ เพ่ือให้องค์กรเขม้ แขง็ ตอ่ ไป
ความทกุ ขย์ ากเดอื ดรอ้ นตอ่ ประชาชน จงึ ขอเสนอวา่ ทา้ ยสดุ น้ี ข้าพเจา้ ขอเสนอคู่มือการตรวจ
การคดั สรรโครงการเพอื่ การสอดสอ่ งควรจะแบง่ นับกุ้ง ซึ่งเป็นโครงการแผนปฏิบัติราชการ
ลกั ษณะโครงการทจ่ี ะสอดสอ่ งเปน็ กลมุ่ โครงสรา้ ง ของจงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ในความรบั ผดิ ชอบ
พ้ืนฐาน, กลุ่มเศรษฐกิจ, กลุ่มสิ่งแวดล้อม, ของส�ำนักงานประมงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
กลุ่มด้านสังคม เป็นต้น ซ่ึงตามอ�ำนาจ หน้าที่ โดยกุ้งเป็นสัตว์น�้ำเศรษฐกิจเป็นภาพลักษณ์
ของ ก.ธ.จ. สามารถสอดส่องได้ทุกแผนงาน/ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซ่ึงนักท่องเท่ียว
โ ค ร ง ก า ร ข อ ง จั ง ห วั ด แ ล ะ ส ่ ว น ร า ช ก า ร จะนยิ มมาบรโิ ภคกงุ้ เผาในจงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยามาก
ในจงั หวดั หลาย ๆ โครงการจดั สรรงบประมาณ และอาชีพตกกุ้งสามารถเพ่ิมรายได้ให้แก่
ลงไปแลว้ ทงิ้ รา้ ง ไมเ่ กดิ ประโยชนใ์ ด ทำ� ใหส้ ญู เสยี ชาวประมงพน้ื บา้ นไดเ้ ปน็ อยา่ งดี จากการตดิ ตาม
งบประมาณแผน่ ดนิ โดยเปลา่ ประโยชน์ ควรจะมี สอดส่องโครงการ กิจกรรมการผลิตกุ้งแม่น้�ำ
การทบทวนและตรวจสอบประเมินผลงาน ปลอดภัยของประมงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

132 วารสารด�ำ รงราชานุภาพ

เพ่ือให้คลายข้อสงสัยว่าโครงการน้ีเขาจะ ขอขอบพระคุณท่านผู้ว่าราชการ
ตรวจนับกุ้งกันอย่างไร เพราะมูลค่าโครงการ จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา หนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วข้อง
หลายลา้ นบาท จึงไดจ้ ัดท�ำค่มู ือการตรวจนบั กุง้ แ ล ะ ฝ ่ า ย ผู ้ ช ่ ว ย เ ล ข า นุ ก า ร ที่ ไ ด ้ ส นั บ ส นุ น
เพื่อเป็นประโยชน์ส�ำหรับจังหวัดท่ีอาจจะจัดท�ำ และใหค้ วามอนเุ คราะหใ์ หก้ ารทำ� งานของ ก.ธ.จ.
โครงการในลักษณะเดียวกันน้ี ได้ใช้เป็นคู่มือ พระนครศรีอยุธยา บรรลุเป้าหมายได้รับ
ประกอบการสอดส่องเพ่ือให้เกิดธรรมาภิบาล การยอมรับและพัฒนาโครงการ รวมท้ังการใช้
ท่ยี ังยนื ต่อไป งบประมาณท่คี ุ้มคา่ ย่งั ยนื

บรรณานุกรม

สำ� นกั งานปลดั สำ� นกั นายกรฐั มนตร.ี (2562). คมู่ อื คณะกรรมการธรรมาภบิ าลจงั หวดั . กรงุ เทพมหานคร
ระเบียบส�ำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน. (2562).

ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ 136 ตอนพเิ ศษ 120 ง., น.1.

เส้นทางก้าวหน้าในต�ำแหน่งนักวางแผน

ไกร เอี่ยมจุฬา
หวั หนา้ ส�ำนกั งานจังหวดั ยโสธร

การเกดิ เป็นคนมหี นา้ ท่ีสำ� คัญอยา่ งน้อย ดังน้ัน การปฏิบตั หิ น้าท่รี าชการของผม
2 ประการ ท่ีต้องท�ำให้ส�ำเร็จจึงจะถือได้ว่า จึงได้ค�ำนึงถึงหลักการสั้น ๆ 2 ประการคือ
“ไม่เสียชาติเกิด” คือ การทดแทนบุญคุณของ “ถกู ใจ กับ ถูกต้อง” ถูกใจ คือ ถูกใจประชาชน
ผู้มีพระคุณ และการทดแทนบุญคุณแผ่นดิน ถูกต้อง คือ ถูกต้องตามระเบียบ กฎหมาย
ส�ำหรับการทดแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ แนวทางปฏิบัติ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วคิดว่า
ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดก็มีโอกาสท�ำได้อย่าง ตัวผมเองคงไม่มีความรู้ความสามารถหรือ
เท่าเทียมกันตามศักยภาพท่ีมี แต่การทดแทน คุณค่ามากพอท่ีจะสอน หรือเป็นแบบอย่าง
บุญคุณแผ่นดินน้ัน ผู้ท่ีท�ำงานราชการถือว่ามี ให้แก่ผู้อื่นได้ดีนักจึงขอน�ำเสนอในลักษณะ
โอกาสมากท่ีสุด เพราะมีปัจจัยเก้ือหนุนใน การเล่าสู่กันฟังจากประสบการณ์ท่ีเคยพบเจอ
หลาย ๆ ดา้ น ทง้ั ในเรอื่ งภารกจิ ทต่ี อ้ งทำ� ในหนา้ ท่ี มากกว่าลักษณะเชิงวิชาการ เพราะผมคิดว่า
ซ่ึงเป็นอาชีพที่มีผลตอบแทนเป็นค่าใช้จ่าย ความรู้ทางวิชาการสามารถหาซ้ือจากท่ีใดก็ได้
ในการด�ำรงชีพและยังมีสวัสดิการจากรัฐ แตค่ วามรจู้ ากประสบการณไ์ มม่ ขี ายในทอ้ งตลาด
คอยดูแลรวมถึงยังมีรางวัลอันเป็นสิริมงคล และกว่าจะได้มาแต่ละบทเรียนต้องใช้เวลา
แก่ชีวิต คือ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้เป็นท่ี ของชีวิตแลกมา ต้องเรียนรู้จากแบบอย่าง
ภาคภมู ิใจ มีวสั ดุ ครุภณั ฑห์ รอื ทรพั ยากรต่าง ๆ และการปฏิบัติจริงตอ้ งผา่ นความทกุ ข์ ความสุข
ทท่ี างรฐั จดั ใหใ้ ชใ้ นการทำ� งานโดยไมต่ อ้ งลงทนุ เอง ความผดิ หวงั ความสมหวงั มามากมายจนตกผลกึ
มนี โยบาย ระเบยี บ กฎหมายรองรบั ทช่ี ว่ ยใหท้ ำ� งาน เป็นองค์ความรู้ โดยส่ิงท่ีจะน�ำเสนอต่อไปนี้
ได้สะดวกและปลอดภัย มีองค์กร/เครือข่าย
ทง้ั ภาครฐั และภาคเอกชนทค่ี อยใหก้ ารสนบั สนนุ
อยา่ งไรกต็ าม ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทรี่ าชการใหเ้ กดิ
คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน
ช่วยสร้างเกียรติยศศักดิ์ศรีได้อย่างสมบูรณ์นั้น
จะตอ้ งท�ำใหไ้ ดค้ รบถว้ น 2 ประการคือ มผี ลงาน
เป็นท่ีประจักษ์ และเกษียณอายุราชการไปโดย
ไร้มลทิน

134 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ

เป็นการเรียนรู้แล้วน�ำมาประยุกต์ใช้ซ่ึงเป็น แต่อย่างน้อยก็ยังภาคภูมิใจต่อการท่ีไม่ได้ทรยศ
วธิ กี ารทำ� งานเฉพาะบคุ คล บางอยา่ งอาจจะใชไ้ ด้ ต่อปณิธานที่ต้ังไว้ น่ันหมายความรวมถึง
ทั่วไปแต่บางอย่างอาจจะใช้ได้ผลกับบาง ไมไ่ ด้ทรยศต่อประชาชนและแผ่นดนิ เกิดอันเปน็
สถานการณ์ ภารกิจหรือบริบทอื่น ๆ เฉพาะ ทร่ี ักดว้ ย
ในห้วงเวลาน้ัน ๆ จึงขอให้ถือว่าเป็นข้อมูล
ส�ำหรับการศึกษาหาความรู้ร่วมกันแล้วน�ำไป ความรู้ได้จากต�ำรา
ประยุกต์ใช้น่าจะเกิดประโยชน์บ้างถึงจะไม่มาก สติปญั ญาเกิดจากประสบการณ์
ก็คงไมน่ ้อยเกนิ ไป
ปัจจัยส�ำคัญประการหน่ึงที่ช่วยให้
ปณิธาน ก�ำหนดทางเดนิ การปฏบิ ตั หิ นา้ ทป่ี ระสบผลสำ� เรจ็ คอื ความรู้ซง่ึ ใน
ความเห็นส่วนตัว มี 2 แหล่งความรู้หลัก คือ
มีค�ำกล่าวไว้ว่า ความคิดเปรียบได้กับ 1) ความรจู้ ากตำ� รา และ 2) ความรจู้ ากประสบการณ์
เมลด็ พันธท์ุ เ่ี พาะในจิตใจ เม่ือเตบิ โตมาก็จะเป็น ความรไู้ ด้จากต�ำรา เปน็ ความรพู้ น้ื ฐาน
ความรสู้ กึ สะทอ้ นออกมาเปน็ ถอ้ ยคำ� และปรากฏ ทมี่ มี ากอ่ นรบั ราชการ ไดจ้ ากการศกึ ษาเลา่ เรยี น
ผลผลิตเป็นการกระท�ำ หรือพูดง่าย ๆ คือ ท้ังในและนอกสถาบันการศึกษา ซึ่งส่วนมาก
ความคิดเป็นเมล็ดพันธุ์ของการกระท�ำ ส�ำหรับ จะเปน็ ลกั ษณะการสอนใหจ้ ำ� มากกวา่ การใหร้ จู้ กั คดิ
การปฏิบัติหน้าที่ราชการซ่ึงจะส่งผลกระทบต่อ แต่เมื่อมาท�ำงานโดยเฉพาะงานสายปกครอง
ประชาชนและประเทศชาติ เมล็ดพันธุ์ท่ีจะต้อง ด้วยแล้ว ความรู้เหล่านั้นแทบไม่ได้น�ำมาใช้เลย
เพาะไว้ในจิตใจตั้งแต่เริ่มต้น คือ เมล็ดพันธุ์ เรียนมาสาขาหน่ึงแต่ท�ำงานอีกด้านหน่ึง หรือ
ธรรมาภบิ าล เพอื่ ท่จี ะให้ได้ผลผลติ เปน็ ความสุข แม้แต่ท�ำงานตรงกับสาขาท่ีเรียนก็ยังไม่ได้น�ำมา
ของประชาชนและการพัฒนาท่ียั่งยืนของ ใชม้ ากนกั ทงั้ ๆ ทใ่ี ชเ้ วลาศกึ ษาเลา่ เรยี น 15 - 16 ปี
ประเทศ ดงั นนั้ หากผทู้ ท่ี ำ� งานราชการไดก้ ำ� หนด เป็นอย่างน้อย แต่ก็ถือว่ามีความส�ำคัญ
ปณิธานไว้ต้ังแต่เริ่มต้นแล้วว่าจะปฏิบัติหน้าท่ี เพราะความรู้เหล่าน้ันเป็นรากฐานที่น�ำเรามา
ราชการดว้ ยความซอื่ สตั ยส์ จุ รติ ตามหลกั ธรรมาภบิ าล สเู่ สน้ ทางน้ี ถา้ รจู้ กั นำ� มาประยกุ ตใ์ ช้ ใหเ้ หมาะสม
โดยค�ำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนและ กับการท�ำงานกจ็ ะเกดิ ประโยชน์
ประเทศชาติเป็นส�ำคัญ คือ ท�ำเพ่ือประโยชน์
ของสว่ นรวมมากกว่าส่วนตน การกา้ วเดนิ ต่อไป
บนเส้นทางราชการก็จะไปในทางที่ถูกท่ีควร
ชวี ติ กจ็ ะมแี ตค่ วามเจรญิ เมอื่ ถงึ วนั ทจี่ ะตอ้ งออก
จากเสน้ ทางนไ้ี ป หากไดย้ อ้ นกลบั ไปมองทางเดนิ
ท่ีผ่านมาก็จะรู้สึกภาคภูมิใจในผลงานที่เกิดข้ึน
ถึงผลงานจะมีไม่มาก ไม่โดดเด่นเหมือนคนอ่ืน

วารสารด�ำ รงราชานภุ าพ 135

สตปิ ญั ญาเกดิ จากประสบการณ์ คำ� วา่ สตปิ ญั ญา และหลากหลายสาขาอาชีพ ในที่นี้ เนื่องจาก
ในท่ีน้ีหมายถึง เทคนิค กลยุทธ์ วิธีการท�ำงาน ในชว่ งตน้ ของชวี ติ ราชการจะอยทู่ ส่ี ำ� นกั งานจงั หวดั
ให้ประสบผลส�ำเร็จไม่ใช่ท�ำแค่เสร็จ การปฏิบัติ จงึ ขอยกตวั อยา่ งผบู้ งั คบั บญั ชาสงู สดุ ของจงั หวดั
หน้าท่ีเปรียบเสมือนการข้ึนเวทีจริงในการต่อสู้ ซึ่งมีความใกล้ชิดในการปฏิบัติงาน คือ
ท่ีแตกต่างจากการอยู่ในสถานศึกษาที่ผลดี ผู้ว่าราชการจังหวัดท่ีประสบผลส�ำเร็จในชีวิต
ผลเสียส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับตัวเราเอง แต่ในด้าน ราชการ และผมไดใ้ ชเ้ ปน็ แบบอยา่ งในการสรา้ ง
การท�ำงานตา่ งกันโดยสิน้ เชงิ ผลของการท�ำงาน แรงบันดาลใจ รวมถึงได้ศึกษา วิเคราะห์
ส่งผลกระทบต่อประชาชนและประเทศชาติ รปู แบบ เทคนิค วธิ กี ารทำ� งาน แล้วประมวลผล
ถ้าท�ำส�ำเร็จตามเป้าหมายก็เกิดประโยชน์ เป็นองค์ความรู้น�ำมาประยุกต์ใช้ในการท�ำงาน
เปน็ เกยี รตยิ ศ เปน็ ความภาคภมู ใิ จ แตถ่ า้ ลม้ เหลว ให้มีประสิทธิภาพ โดยขอกล่าวถึงเพื่อเป็น
ประชาชนก็สูญเสียโอกาสท่ีจะได้รับประโยชน์ การใหเ้ กยี รตดิ ว้ ยจติ คารวะ 2 ทา่ น คอื ทา่ นมนชุ ญ์
จากการด�ำเนินงานของภาครัฐ รัฐก็เสียโอกาส วัฒนโกเมร และทา่ นสธุ ี มากบุญ
ท่ีจะได้รับการพัฒนาจากภาษีของประชาชน 1) ม นุ ช ญ ์ วั ฒ น โ ก เ ม ร [ อ ดี ต
อันเป็นส่ิงที่ประเมินค่าไม่ได้ ดังน้ัน การท�ำงาน (ผวู้ ่าราชการจังหวดั สมทุ รสงคราม / ลพบุรี /
ให้ประสบผลส�ำเร็จ ถ้าจะใช้เพียงความรู้ นครสวรรค์) และรองปลัดกระทรวงมหาดไทย]
ทีไ่ ดศ้ กึ ษาเล่าเรียนคงไม่พอ จะตอ้ งใชส้ ตปิ ัญญา เปรียบเสมือนครูคนแรกท่ีสอนให้ผมได้เรียนรู้
ประกอบการปฏบิ ตั ใิ หเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพ สตปิ ญั ญา ทักษะการวางแผนและใช้ระบบเทคโนโลยี
จะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยการคิด วิเคราะห์ สรุปเป็น สารสนเทศเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการท�ำงาน
องค์ความรู้ จากการปฏิบัติงานของเราเอง ซึ่งผมถือว่าท่านเป็นบุคลากรท่ีทรงคุณค่า
จากการศกึ ษาการทำ� งานของผอู้ นื่ จากการศกึ ษา ของกระทรวงมหาดไทยผู้หนึ่ง ที่มีความรู้
หาความรู้เพ่ิมเติม หากเราได้ใช้สติปัญญา ความเชยี่ วชาญดา้ นการบรหิ ารราชการครอบคลมุ
ประกอบการวางแผนการท�ำงานอย่างรอบคอบ ทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างย่ิงการบริหาร
ผลทเี่ กดิ ขน้ึ กจ็ ะสำ� เรจ็ มากกวา่ ลม้ เหลว โดยสงิ่ หนงึ่ การพัฒนาในพื้นที่โดยใช้กระบวนการวางแผน
ที่ผมเห็นว่าเป็นทางลัดท่ีจะช่วยให้เราเกิด ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพเปน็ เครอื่ งมอื ในการขบั เคลอื่ นงาน
สติปัญญามีองค์ความรู้ได้อย่างรวดเร็ว ส�ำหรับ มุ่งสู่ประโยชน์สุขของประชาชน ขอยกตัวอย่าง
ใช้ในการท�ำงาน ให้ส�ำเร็จ คือ การศึกษา บทเรยี นสำ� คญั ทไี่ ดค้ อื การสรา้ งเขอ่ื นปา่ สกั ชลสทิ ธิ์
จากแบบอย่างการท�ำงานที่ประสบความส�ำเร็จ ที่จังหวัดลพบุรี (ท่านเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด
เปน็ ทีป่ ระจกั ษ์ ลพบุรีในขณะน้ัน) มีโจทย์ส�ำคัญคือ จะสร้าง
“แบบอยา่ งดมี ชี ยั ไปกวา่ ครงึ่ ” ตวั ผมเอง ความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ผู้ได้รับ
ถือว่าเป็นข้าราชการคนหน่ึงท่ีโชคดีได้มีโอกาส ผลกระทบอย่างไรจึงจะไม่เกิดการต่อต้าน
ร ่ ว ม ง า น กั บ ผู ้ ท่ี มี ค ว า ม รู ้ ค ว า ม ส า ม า ร ถ หรือมีการต่อต้านน้อยที่สุด จากการศึกษา
และประสบความสำ� เรจ็ ในการทำ� งานหลายทา่ น เรยี นรวู้ ธิ กี ารทำ� งานกพ็ บวา่ นอกจากการวางแผน

136 วารสารดำ�รงราชานุภาพ

ในการเวนคนื ทดี่ นิ การจา่ ยคา่ ชดเชย การอพยพ การทำ� งาน ซง่ึ เปน็ องคค์ วามรสู้ ำ� คญั ทกี่ ่อใหเ้ กดิ
ประชาชน การจดั หาทด่ี นิ แหง่ ใหมร่ องรบั ประชาชน โปรแกรมระบบติดตามประเมินผลแผนงาน
ที่ได้รับผลกระทบ และการก่อสร้างตามล�ำดับ โครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจ�ำปีของ
ขนั้ ตอนแลว้ มีประเด็นสำ� คัญ ทตี่ ้องด�ำเนนิ การ จังหวัดและกลุ่มจงั หวัด (PADME) ในเวลาตอ่ มา
ให้ส�ำเร็จเป็นล�ำดับแรก คือ การช้ีแจง 2) สุธี มากบุญ [อดีต (ผู้ว่าราชการ
ทำ� ความเขา้ ใจถงึ เหตผุ ลความจำ� เปน็ ในการกอ่ สรา้ ง จงั หวดั ยโสธร / อุบลราชธานี / นครราชสมี า)
เข่ือนและการชดเชย/เยียวยาให้ประชาชน รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรี
พึงพอใจมากทีส่ ุด ช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ปัจจุบันด�ำรง
ท่านมนุชญ์ฯ ยกตัวอย่างให้ฟังประเด็น ต�ำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา] ท่านสุธีฯ คือผู้ที่เป็น
หนึ่งท่ีส�ำคัญ คือ เร่ืองการชดเชยให้กับผู้ที่ต้อง แบบอย่างให้ผมได้เรียนรู้จากท่านมากที่สุด
อพยพ ซงึ่ การชดเชยตามกฎหมาย เช่น ให้เปน็ ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2543 สมัยท่านเป็น รองผู้ว่า
ค่าท่ีดินและค่ารื้อถอน/ค่าขนย้ายส่ิงปลูกสร้าง ราชการจงั หวดั นครสวรรค์ ตอ่ เนอ่ื งเรอ่ื ยมาจวบจน
หรือกรณีประสงค์จะไปอยู่ในที่ท่ีจัดให้ใหม่ก็ให้ ปจั จบุ นั เทคนคิ วธิ คี ดิ วธิ ที ำ� งาน การประสานงาน
เปน็ คา่ รอ้ื ถอน/คา่ ขนยา้ ยสง่ิ ปลกู สรา้ ง เพยี งเทา่ น้ี การวางแนวทางพัฒนา การแก้ไขปัญหา
ถึงแม้จะเป็นไปตามกฎหมายแต่ยังไม่เพียงพอ ในลักษณะของนักวางแผน นักยุทธศาสตร์
ท่านมนุชญ์ฯ สอนว่าเป็นแค่การท�ำงานเสร็จ ของผมจึงได้รับการถ่ายทอดจากท่านสุธีฯ
แตไ่ มถ่ อื วา่ ท�ำงานส�ำเรจ็ เพราะยงั มสี งิ่ ทปี่ ระชาชน มากท่ีสุด ถึงแม้จะได้มาไม่ครบถ้วนร้อย
สญู เสยี ไป และยงั ไมไ่ ดร้ บั การชดเชย คอื โอกาส เปอรเ์ ซน็ ต์ แตก่ ช็ ว่ ยใหม้ ศี กั ยภาพมากพอทจี่ ะทำ�
ในการท�ำมาหากิน เขาได้ที่อยู่ใหม่แต่บริบท หน้าที่ได้อย่างสมศักด์ิศรีในแต่ละต�ำแหน่ง
แวดลอ้ มเปลยี่ นไป แลว้ เขาจะประกอบอาชพี อะไร (มีสิ่งเดียวท่ีผมไม่อาจเลียนแบบท่านได้ คือ
เขาจะอยู่กันอย่างไร ดังน้ัน จึงต้องจัดหาอาชีพ ความเป็น “สุภาพบุรุษ นักปกครอง”) โดย
ใหด้ ว้ ย ประชาชนจงึ จะไมร่ สู้ กึ วา่ ไดร้ บั ความสญู เสยี องคค์ วามรทู้ ไี่ ดร้ บั มาและสามารถใชเ้ ปน็ แนวทาง
จากการดำ� เนนิ การของภาครฐั มากเกนิ ไป นอกจาก ในการปฏิบตั ิหน้าทจี่ นถึงปัจจุบนั เชน่
เรอ่ื งทก่ี ลา่ วขา้ งตน้ ยงั ไดเ้ รยี นรใู้ นอกี หลากหลาย 2.1) การใช้แผนปฏิบัติราชการ
ลักษณะ ทั้งเรื่องการวางแผนพัฒนาพ้ืนท่ี เปน็ กรอบในการพฒั นาพนื้ ที่ ซงึ่ ในปี พ.ศ. 2547
การบรหิ ารความขดั แยง้ และสถานการณท์ น่ี อกเหนอื นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จังหวัด
การควบคุม การประกอบงานรัฐพิธีอย่าง ส า ม า ร ถ ก� ำ ห น ด แ น ว ท า ง ก า ร พั ฒ น า พื้ น ที่
สมพระเกียรติท่ีสุด ภาวะผู้น�ำท่ีเด็ดขาดแต่ อยา่ งเปน็ ระบบไดเ้ อง ผา่ นกระบวนการจดั ทำ� แผน
ข้าราชการเคารพรักและนักการเมืองเกรงใจ โดยในขณะนั้นผมได้มีโอกาสร่วมรับผิดชอบ
ชว่ ยใหก้ ารบรหิ ารราชการเปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ การจัดท�ำ “แผนปฏิบัติราชการ 4 ปี จังหวัด
และอีกบทเรียนหน่ึง ท่ีส�ำคัญคือการน�ำระบบ ยโสธร ประจ�ำปี พ.ศ. 2548 – 2551” และ
เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ “ข้อเสนอการเปลี่ยนแปลง (Blueprint for

วารสารดำ�รงราชานภุ าพ 137

Change) จังหวัดยโสธร ปีงบประมาณ ยโสธรเป็นไปอย่างมีคุณภาพและขยายวงกว้าง
พ.ศ. 2549 - 2551” โดยยุทธศาสตร์หรือ ขึ้นเรือ่ ย ๆ มาจนถึงวันนี้
แนวทางการพัฒนาจงั หวดั ยโสธร ท่ไี ด้ก�ำหนดไว้ ส�ำหรับผมแล้ว ต้ังแต่มาด�ำรงต�ำแหน่ง
ต้ังแต่วันนัน้ มคี วามยั่งยนื มาจนถึงวนั น้ี อกี ท้งั ยัง หัวหน้าส�ำนักงานจังหวัดยโสธรเมื่อต้นปี
เป็นต้นแบบการพัฒนาท่ีบรรจุไว้ในแผนพัฒนา พ.ศ. 2562 สงิ่ หนงึ่ ทแ่ี อบภาคภมู ใิ จแทนทา่ นสธุ ฯี
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั 12 คอื เรอ่ื ง คอื ถา้ พดู ถงึ เรอ่ื งเกษตรอนิ ทรยี เ์ มอ่ื ใด ไมว่ า่ จะเปน็
“เกษตรอินทรีย์” แต่ความย่ังยืนด้านเกษตร ชาวยโสธรเองหรือบุคคลภายนอก ก็จะพูด
อนิ ทรยี ข์ องจงั หวดั ยโสธร ทา่ นสธุ ฯี (ผวู้ า่ ราชการ เป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นเพราะผู้ว่าฯ สุธีฯ
จังหวัดยโสธรในขณะนั้น) กล่าวอยู่เสมอว่า ไดว้ างรากฐานไวใ้ ห้ แมส้ งิ่ ทด่ี ำ� เนนิ การไวจ้ ะผา่ น
ไม่ใช่การริเร่ิมให้ท�ำโดยภาครัฐ ในทางกลับกัน มากว่าสิบปีแล้วก็ยังมีการกล่าวถึงอยู่เสมอ
เกษตรอินทรีย์เป็นภูมิปัญญาและการเล็งเห็น นค่ี อื ความยง่ั ยนื ของการพฒั นาทถ่ี กู ใจประชาชน
คณุ คา่ ของพน่ี อ้ งเกษตรกรในจงั หวดั ยโสธรเอง อย่างแท้จรงิ
ทไ่ี ดอ้ นรุ กั ษว์ ถิ กี ารทำ� เกษตรแบบดง้ั เดมิ ไมใ่ ชป้ ยุ๋ นอกจากเร่ืองเกษตรอินทรีย์ที่เป็น
เคมี ไม่ใช้สารพิษปราบศัตรูพืช ใช้ธรรมชาติ ยุทธศาสตร์ส�ำคัญในการพัฒนาพ้ืนที่แล้ว
จดั การกนั เอง อยา่ งสมดลุ มายาวนานหลายสบิ ปี การพัฒนาด้านอ่ืน ๆ ก็ได้ก�ำหนดไว้ในแผนฯ
และมีการท�ำกันหลายกลุ่มอยู่แล้ว โดยหน่ึง ครบทุกด้าน ส่งผลให้แผนฯ ของจังหวัดยโสธร
ในปราชญ์ชาวบ้านซึ่งถือเป็นปูชนียบุคคล ได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน ในจังหวัด
ท่ีจะขออนุญาตกล่าวถึงคือ พ่อม่ัน สามสี หนว่ ยงานในจังหวดั ซง่ึ ท่านสุธีฯ ใชค้ ำ� ว่า “กรม
แห่งกลุ่มเกษตรกรท�ำนานาโส่ อ�ำเภอกุดชุม ยโสธร” (หมายความว่าทุกคนท่ีอยู่ในจังหวัด
จงั หวดั ยโสธร ผนู้ ำ� ดา้ นเกษตรอนิ ทรยี ท์ เี่ ปน็ ตน้ แบบ ควรลดการยึดติดกับต้นสังกัดในส่วนกลาง
และร่วมบุกเบิกการขยายผลอย่างเป็นระบบ หั น ม า ห ล อ ม ร ว ม จิ ต ใ จ เ ป ็ น ห น่ึ ง เ ดี ย ว กั น
ตง้ั แตก่ ารเริม่ ใช้แผนฯ ในปี พ.ศ. 2548 มาจนถึง ขับเคล่ือนการพัฒนาพื้นท่ีไปด้วยกันในสังกัด
ปจั จบุ นั สำ� หรบั ภารกจิ ของภาครฐั คอื การสง่ เสรมิ เดยี วกนั คอื “ยโสธร”) สามารถใชแ้ ผนฯ เปน็ กรอบ
สนับสนุนขยายผล ต่อยอด เช่น การอบรม ในการพัฒนาพื้นท่ีตามภารกิจของตนเอง
ให้ความรู้และสร้างแรงจูงใจเกษตรกรให้เห็น ให้ตอบสนองความต้องการของประชาชน
คุณค่าและเข้าร่วมด�ำเนินการ น�ำหลักวิชาการ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซ่ึงจากการด�ำเนินการ
สมัยใหม่มาช่วยเพ่ิมประสิทธิภาพ สนับสนุน ในครั้งนั้นที่ส่งผลการพัฒนาย่ังยืนมาถึงวันนี้
ปัจจัยการผลิต ช่วยเรื่องการรับรองมาตรฐาน มขี อ้ คน้ พบวา่ การจดั ท�ำแผนพฒั นาพน้ื ทใี่ หต้ รง
และการตลาดเพิ่มเติม ในส่วนท่ีขาดให้มี ความตอ้ งการของประชาชนและเปน็ ทย่ี อมรบั
ความสมบูรณ์ครอบคลุมทั้งระบบ ผลจาก ของทุกภาคส่วน สามารถใช้เป็นกรอบ
การดำ� เนนิ งานอยา่ งจรงิ จงั และตอ่ เนอ่ื งของภาครฐั การพฒั นาไดโ้ ดยทไี่ มต่ อ้ งกงั วลผลกระทบทางลบ
ส่งผลให้การขยายผลด้านเกษตรอินทรีย์ของ ท่ีจะตามมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อต้าน

138 วารสารดำ�รงราชานุภาพ

จากประชาชนหรอื การแทรกแซงจากฝา่ ยการเมอื ง ความเสียหาย ไม่เฉพาะแต่ในพ้ืนท่ีจังหวัด
มแี นวทางดำ� เนนิ การในการจดั ทำ� แผนฯ ทสี่ ำ� คญั คอื อุบลราชธานี แต่ยังช่วยป้องกันและบรรเทา
2.1.1) สร้างการมีส่วนร่วม ปัญหาน้�ำท่วมให้กับจังหวัดทางตอนเหนือข้ึนไป
ของทุกภาคส่วนต้ังแต่ต้น โดยการเชิญผู้แทน อกี อยา่ งนอ้ ย 6 จงั หวดั (ศรสี ะเกษ บรุ รี มั ย์ ยโสธร
หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ร้อยเอ็ด อ�ำนาจเจริญ และกาฬสินธุ์) ป้องกัน
ผู้น�ำทางศาสนา ผู้ปกครองท้องท่ีท้องถ่ิน พน้ื ทก่ี ารเกษตรเสยี หายไดไ้ มต่ ำ�่ กวา่ 570,000 ไร่
ผดู้ อ้ ยโอกาสในสงั คม ปราชญช์ าวบา้ น ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ โดยวางแผนการด�ำเนินงานล่วงหน้านานนับ
สาขาตา่ ง ๆ รวมทง้ั ภาคการเมอื ง ทกุ หนว่ ยงาน/ เดือน มีขน้ั ตอนการท�ำงาน คือ
องค์กร/บุคคล มาร่วมแสดงความคิดเห็น 2.2.1) ค�ำนวณปริมาณน�้ำฝน
เสนอความต้องการการพัฒนาและแก้ไขปัญหา ทต่ี กในพ้ืนท่ี
ร่วมกัน โดยผู้บริหารของจังหวัดต้องให้ 2.2.2) น�ำข้อมูลปริมาณน�้ำท่ี
ความสำ� คัญด้วย ถูกปล่อยมาจากทางตอนเหนือของจังหวัด
2.1.2) บูรณาการแผนงาน/ ทั้งในส่วนของแม่น้�ำมูล (เข่ือนล�ำตะคอง
โครงการของทกุ หนว่ ยงาน ทกุ แหลง่ งบประมาณ ล�ำพระเพลิง มูลบน ล�ำแชะ ล�ำนางรอง
ที่ด�ำเนินการในพื้นท่ีให้เชื่อมโยง/สอดคล้องกับ ล�ำปลายมาศ) และแม่น�้ำชี (เข่ือนอุบลรัตน์
แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ นโยบาย จุฬาภรณ์ ล�ำปาว) รวมถึงปริมาณน�้ำที่ผ่านจุด
รัฐบาล แนวทาง การพัฒนาระดับนโยบาย วัดน้�ำต่าง ๆ เพื่อค�ำนวณเก่ียวกับระยะเวลา
ไม่ให้ซ้�ำซ้อนกันและตอบสนองความต้องการ และปรมิ าณของนำ้� ทจี่ ะไหลมาสมทบกบั ปรมิ าณนำ้�
ของประชาชน/ครอบคลมุ บรบิ ท การพฒั นาทกุ มติ ิ ในจังหวัดอุบลราชธานี
ใหค้ วามสำ� คญั กบั ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ วถิ ชี วี ติ ทค่ี นุ้ เคย 2.2.3) ตรวจสอบแหลง่ กกั เกบ็ นำ้�
ในการประกอบอาชีพของประชาชน โดยมี และปริมาณน�้ำในพ้ืนท่ีจังหวัดอุบลราชธานี
นักวิชาการที่มีความรู้ความสามารถท้ังด้าน ทงั้ หมด เพอื่ คำ� นวณปรมิ าณทสี่ ามารถรองรบั นำ้�
วิชาการและสภาพภูมสิ งั คมคอยให้ค�ำแนะนำ� 2.2.4) น�ำข้อมูลปริมาณน�้ำ
2.1.3) นำ� แผนฯทไี่ ดใ้ หท้ กุ ภาคสว่ น ในเขื่อนสิรินธร และเขื่อนปากมลู ทง้ั ทกี่ ักเก็บไว้
ร่วมกันตรวจสอบอีกครั้ง โดยน�ำไปผ่านการท�ำ ปริมาณที่สามารถรองรับได้ ระดับน้�ำที่เพิ่มข้ึน
ประชาพิจารณ์ และที่ประชุมคณะกรมการ และปรมิ าณทร่ี ะบายออกในแตล่ ะวนั มาประกอบ
จงั หวดั กอ่ นสง่ ใหห้ นว่ ยงานสว่ นกลางทเี่ กย่ี วขอ้ ง การพจิ ารณา
2.2) การบรหิ ารสถานการณฉ์ กุ เฉนิ 2.2.5) ตดิ ตามพยากรณอ์ ากาศ
ขอยกตัวอยา่ งกรณีการรับมือพายชุ า้ งสาร ท่เี ข้า เกยี่ วกบั มรสมุ ที่พดั ผา่ นพ้นื ที่ทุกระยะ
ประเทศไทยเม่ือปลายปี พ.ศ. 2549 ได้มี 2.2.6) ตรวจสอบระดับน้�ำใน
การวางแผนรองรบั อยา่ งเปน็ ระบบ สามารถบรรเทา แมน่ ำ�้ โขงซงึ่ มผี ลตอ่ การระบายนำ�้ จากเขอื่ นปากมลู

วารสารด�ำ รงราชานุภาพ 139

2.2.7) ขอความรว่ มมอื การไฟฟา้ กรณีที่กล่าวมาท้ังหมดเป็นการยก
ฝ ่ า ย ผ ลิ ต แ ห ่ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ช ่ ว ย พ ร ่ อ ง น�้ ำ ตัวอย่างพอสังเขป ยังมีแบบอย่างการเรียนรู้อีก
(ปลอ่ ยนำ้� ) ออกจากเขอ่ื นสริ นิ ธรและเขอื่ นปากมลู มากมายหลากหลายลักษณะ ท่ีได้เรียนรู้และ
ลว่ งหนา้ กอ่ นทพี่ ายชุ า้ งสานจะเขา้ พนื้ ทปี่ ระมาณ สง่ั สมประสบการณจ์ ากการปฏบิ ตั ิ ซงึ่ ตอ้ งใชเ้ วลา
1 สัปดาห์ ระบายน�้ำไปประมาณ 7,400 ในชีวิตราชการที่ผ่านมาทั้งหมดแลกมา และจะ
ลา้ นลูกบาศกเ์ มตร ตอ้ งเรยี นรตู้ อ่ ไปไมม่ วี นั หยดุ จนกวา่ จะสนิ้ สดุ ทาง
2.2.8) ในระหวา่ งทพี่ ายชุ า้ งสาร เดินสายน้ี
เข้าพ้ืนที่ต้องตรวจสอบปริมาณน้�ำฝน น�้ำท่ีไหล
เข้าพื้นที่ และน�้ำท่ีปล่อยลงสู่แม่น้�ำโขงตลอด
24 ชั่วโมง เพ่ือให้ปริมาณน�้ำมีความสมดุลกัน คณุ คา่ อยตู่ รงหนา้ ที่ ผลงานดไี มม่ วี นั ตาย
มากทสี่ ดุ ชว่ ยบรรเทาความเดอื ดรอ้ นของประชาชน
ใหไ้ ดม้ ากทสี่ ุด ตน้ ไมแ้ ตล่ ะชนดิ ใชเ้ วลาในการเจรญิ เตบิ โต
2.2.9) เตรยี มทรพั ยากรสำ� หรบั ผลิดอกออกผลไม่เท่ากันฉันใด ชีวิตของคนเรา
ให้ความช่วยเหลือประชาชนทุกมิติไว้ให้พร้อม ก็ใช้เวลา ในการเจริญเติบโตไม่เท่ากันฉันน้ัน
สามารถปฏิบตั งิ านไดอ้ ย่างทันทว่ งที ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ต่างคนต่างก็มี
จากสถานการณด์ งั กลา่ ว สรปุ เปน็ บทเรยี น เสน้ เวลาแหง่ ความสำ� เรจ็ ของตนเอง ทง้ั นี้ คณุ คา่
ได้ว่า การบริหารงานในภาวะวิกฤติหรือ ไม่ได้อยทู่ ใี่ ครถึงเป้าหมายกอ่ นหรือหลัง แตอ่ ยู่
สถานการณฉ์ กุ เฉนิ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การรบั มอื กบั ที่ได้ท�ำหน้าที่ในแต่ละต�ำแหน่งท่ีรับผิดชอบ
ภัยธรรมชาตใิ หไ้ ดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ จะตอ้ ง ได้ดีท่ีสุด คุ้มค่ากับภาษีประชาชนท่ีสุดหรือยัง
 รู้เขา เช่น ทิศทาง ระยะเวลา ถ้าเราท�ำหน้าท่ีได้อย่างสมบูรณ์แล้วก็จง
ปรมิ าณ รวมทงั้ อตั ราการไหลของนำ�้ จากทกุ สาย ภาคภมู ใิ จในคณุ คา่ ของตวั เอง ไมต่ อ้ งไปเปรยี บเทยี บ
ที่จะเข้าพ้ืนที่ ความรุนแรงและปริมาณน้�ำฝน กบั คนอนื่ หากอดทจ่ี ะคดิ เปรยี บเทยี บไมไ่ ดก้ ต็ อ้ ง
ทจ่ี ะตก ระดับน้�ำในแมน่ ำ้� โขง พจิ ารณาใหด้ ี ถา้ เปรยี บเทยี บไมถ่ กู หลกั กม็ แี ตผ่ ลเสยี
 รเู้ รา เชน่ ความจขุ องแหลง่ กกั เกบ็ นำ�้ เปรียบเทียบกับคนท่ีเหนือกว่าก็จะท้อถอย
และปริมาณน้�ำในพื้นท่ี ปริมาณน้�ำ ท่ีสามารถ เปรียบเทียบกับคนที่ด้อยกว่า ก็จะหลงตัวเอง
รองรับเพ่ิม ความสามารถในการระบายน�้ำ เกดิ ความประมาทตามมา แตถ่ า้ เราใชค้ นทเ่ี หนอื
ออกจากพนื้ ท่ี พนื้ ทที่ ปี่ ระชาชนจะไดร้ บั ผลกระทบ กว่าเป็นตัวแบบในการศึกษาเรียนรู้ว่าเขา
 รสู้ ถานการณ์ เชน่ ปรมิ าณนำ้� ทไี่ หล ท�ำได้อย่างไร ส่ิงใดดีก็ใช้เป็นแบบอย่าง เป็น
เข้าพื้นที่และปริมาณน้�ำฝนในช่วงที่ พายุเข้า แรงบนั ดาลใจในการพฒั นาตวั เอง สว่ นคนทด่ี อ้ ยกวา่
การระบายน้�ำออกแบบนาทีต่อนาที ระดับน้�ำ ก็ดูว่าเขาผิดพลาดตรงไหนแล้วใช้เป็นบทเรียน
ในแม่น้�ำโขง ระยะเวลาที่พายุส่งผลกระทบ ถ้าเปรียบเทียบได้เช่นน้ีก็จะเป็นประโยชน์
ในพนื้ ที่ อย่างไรก็ตาม การเปรียบเทียบท่ีดีท่ีสุด คือ
เปรียบเทียบระหว่างหน้าท่ีท่ีต้องท�ำกับผลงาน

140 วารสารด�ำ รงราชานุภาพ

ทเ่ี กดิ ขนึ้ วา่ สง่ิ ใดมมี ากหรอื นอ้ ยกวา่ กนั ถา้ หนา้ ท่ี จะเห็นได้ว่า การสร้างเกียรติยศให้เป็น
ท่ีท�ำ มีมากกว่าผลงานแสดงว่าล้มเหลว แต่ถ้า ที่จดจ�ำจารึกไว้ในแผ่นดินตราบนานเท่านานนั้น
ผลงานมีมากกว่าหน้าที่ท่ีท�ำแสดงว่าเกิด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับ จ�ำนวน หรือระยะเวลา
ผลสมั ฤทธจ์ิ ากการปฏิบตั แิ ล้ว คดิ ไดเ้ ชน่ นีก้ จ็ ะมี ในการดำ� รงต�ำแหนง่ แตอ่ ยู่ที่ผลงานเปน็ สำ� คญั
ความสุขในการท�ำงาน
“ผลงานดีไม่มีวันตาย” เพ่ือเป็น หลักการปฏิบัติหนา้ ที่
การสรา้ งแรงบนั ดาลใจ ขอยกตวั อยา่ งบคุ คลธรรมดา
สามญั ทมี่ โี อกาสทำ� งานราชการ ถงึ แมร้ ะยะเวลา จากทไ่ี ดก้ ลา่ วไวใ้ นตอนตน้ วา่ หลกั ปฏบิ ตั ิ
ในการด�ำรงต�ำแหน่งจะไม่นานนัก แต่ผลงานได้ เทคนิค วิธีการ องค์ความรู้ต่าง ๆ ท่ีผมใช้
รับการจารึกไว้ให้ชนรุ่นหลัง ยกย่องสรรเสริญ ในการทำ� งานสว่ นมากจะไดร้ บั การถา่ ยทอดจาก
กลา่ วขานถงึ จากรุน่ สู่รนุ่ ไมม่ วี ันตาย เช่น ท่านสุธี มากบุญ ผนวกกับส่ิงที่ได้ศึกษาเรียนรู้
- เปาบุ้นจ้ิน ด�ำรงต�ำแหน่งผู้ว่าการ เพิ่มเติม และการสังเกต คิด วิเคราะห์
เมืองไคเฟงิ (ไคฟง) พ.ศ. 1600 – 1601 ในระยะ จากประสบการณ์ของตนเอง สรุปหลัก
เวลาเพียงประมาณ 1 ปีที่เป็นเจ้าเมืองไคเฟิง ในการปฏิบตั ิหน้าทีไ่ ด้ 2 สว่ น คือ
แต่ผลของการปฏิบัติหน้าที่ผดุงความยุติธรรม 1) หลักของท่านสธุ ี มากบญุ
ยังเป็นท่ีกล่าวขาน ถึงปัจจุบัน จนได้รับ 1.1) หลักในการปฏิบัติราชการ
การเคารพนับถือเป็นเทพเจ้าแห่งความยุติธรรม คือ “5 ร่วม 3 ประสาน”
ในทสี่ ดุ - รว่ มคดิ รว่ มทำ� รว่ มรบั ผดิ ชอบ
-  พระรฐั กจิ วจิ ารณ์ (สวาสด์ิ ณ นคร) ร่วมแกไ้ ขปญั หา รว่ มติดตามประเมนิ ผล
ด�ำรงต�ำแหน่งข้าหลวงประจ�ำจังหวัดยะลา - ประสานงาน ประสานใจ
คนที่ 10 (พ.ศ. 2456 – 2458) เมอื่ ออกจากราชการ ประสานการปฏิบตั ิ
ก็สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล 1.2) หลกั ในการทดแทนคณุ แผน่ ดนิ
และด�ำรงต�ำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองยะลา 1.2.1) เป็นข้าราชการใน
ติดตอ่ กนั 2 สมยั (พ.ศ. 2480 – 2488) โดยชว่ ง พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ให้ดีทส่ี ดุ
ทเ่ี ปน็ นายกเทศมนตรี ไดว้ างรากฐานการพัฒนา 1.2.2) ตอบสนองนโยบาย
เมืองยะลา สร้างความเจริญไว้อย่างมั่นคง ของรัฐบาลให้ดีท่ีสุดในทุก ๆ เรื่องภายใต้กรอบ
ทโี่ ดดเดน่ ทส่ี ดุ คอื ทำ� การวางรากฐาน ผงั เมอื งยะลา ของกฎหมาย
จนได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทย 1.2.3) ยึ ด ป ร ะ ช า ช น เ ป ็ น
ที่มีผังเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงาม ศนู ยก์ ลางในการพฒั นา เปน็ ท่พี ่งึ ของประชาชน
ที่สุด ได้รับรางวัล UNESCO Cities ให้เป็น ใหด้ ที ่ีสุด
ผังเมืองที่ดีที่สุดอันดับท่ี 23 ของโลกในปี 1.2.4) ใชห้ ลักธรรมาภบิ าล
พ.ศ. 2560 1.2.5) บ ริ ห า ร จั ด ก า ร เ ชิ ง
ยทุ ธศาสตรแ์ บบมุง่ ผลสมั ฤทธ์ิ

วารสารดำ�รงราชานุภาพ 141

2) หลักเพิ่มเตมิ ของตนเอง 2.3) รู้จักพลิกแพลง ทุกปัญหา
2.1) ถูกใจประชาชน ถูกต้องตาม มีทางออก
ระเบียบ 2.4) อยากยืนแถวหน้าก็ต้องกล้า
2.2) ทำ� หนา้ ทใี่ หส้ มบรู ณ์ คมุ้ คา่ ภาษี มากกวา่ กลัว
ประชาชน อธิบายเพ่ิมเติม : งานที่ยาก
อธิบายเพิ่มเติม : สร้างความ ไมม่ ใี ครอยากท�ำ คอื งานทค่ี วรอาสาและพยายาม
ภาคภมู ใิ จจากผลงานมากกวา่ การฉลองตำ� แหนง่ ท�ำใหส้ �ำเรจ็ เพอื่ เพมิ่ มลู คา่ ในตวั เรา ถา้ ทำ� เตม็ ท่ี
พงึ ระลกึ ไวเ้ สมอวา่ “ความดงั ไมค่ งที่ ความดสี ิ แลว้ ไมส่ ำ� เรจ็ กไ็ มใ่ ชเ่ รอ่ื งนา่ อาย อยา่ งนอ้ ยกไ็ ดใ้ ช้
คงทน” ค�ำถามคือ จะรู้ได้อย่างไรว่าท�ำหน้าท่ี ความพยายามและได้ความรู้ ได้บทเรียนใน
ไดส้ มบรู ณแ์ ลว้ โดยสว่ นตวั มหี ลกั ในการพจิ ารณา การปรับปรุงวิธีการท�ำงาน อีกทั้งยังได้ชื่อว่ามี
เบอ้ื งตน้ คอื ตอ้ งรู้ 2 เรอื่ ง ไดแ้ ก่ รภู้ ารกจิ ของตน ความกล้าที่จะท�ำ แต่ถ้าท�ำส�ำเร็จก็จะโดดเด่น
ท่ีต้องท�ำในต�ำแหน่งนั้น และรู้ว่าใคร เป็น กวา่ คนอ่นื
ผ้มู สี ่วนไดส้ ว่ นเสยี โดยตรง 2.5) รู้แบบตวั T
ขอยกตัวอย่างผลของการท�ำ อธิบายเพิ่มเติม : รู้ลึกในงาน
หนา้ ทซี่ งึ่ สง่ ผลในระดบั ประเทศ เมอ่ื ครงั้ ปฏบิ ตั งิ าน ของตนเอง และรู้กว้างไปถึงงานข้างเคียงท่ี
ท่ีส่วนส่งเสริมการบริหารราชการจังหวัด เก่ียวข้องจะช่วยให้งานของเราส�ำเร็จได้อย่าง
ส�ำนักพัฒนาและส่งเสริมการบริหารราชการ มีประสทิ ธภิ าพ
จังหวัด ส�ำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เสียดาย
โดยภารกจิ สำ� คญั ของหนว่ ยงาน คอื การสง่ เสรมิ โปรแกรมระบบตดิ ตามประเมนิ ผลแผนงาน
สนบั สนนุ การบริหารงาน ของจังหวัดและกล่มุ โครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจ�ำปี
จังหวัดให้มีประสิทธิภาพ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ของจงั หวดั และกลมุ่ จงั หวดั (PADME) เปน็ นวตั กรรม
(ลูกค้า) โดยตรง คือ จังหวัดและกลุ่มจังหวัด ทนี่ ำ� ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศมาเปน็ เครอ่ื งมอื
มีผลการด�ำเนินงานท่ีเป็นหลักฐานส�ำคัญว่าได้ ในการบริหารจัดการ (Management Tool)
ท�ำหน้าที่อย่างสุดความสามารถแล้วอย่างน้อย เพ่ือเสริมสร้างประสิทธิภาพการบริหารงาน
3 เร่อื ง คอื (1) เรื่องควรรนู้ ักปกครอง (เปน็ คูม่ ือ จังหวัดและกลุ่มจังหวัดเกี่ยวกับการติดตาม
แนวทางการปฏิบัติหน้าท่ีของผู้ด�ำรงต�ำแหน่ง และประเมินผลแผนงาน/โครงการที่ด�ำเนินการ
ผู้ว่าราชการจงั หวดั จัดท�ำในปี พ.ศ. 2558) (2) ในพ้ืนที่จากทุกหน่วยงานทุกแหล่งงบประมาณ
พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการมอบอ�ำนาจ ซงึ่ จะทำ� ใหร้ ปู แบบการรายงานผลการดำ� เนนิ งาน
(ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2559 และ (3) โปรแกรมระบบ แผนงาน/โครงการเป็นมาตรฐานเดียวกัน
ติดตามประเมินผลแผนงาน โครงการตามแผน และท�ำให้การติดตามประเมินผลผ่านระบบ
ปฏิบัติราชการประจ�ำปีของจังหวัดและกลุ่ม เทคโนโลยี (Internet) เป็นไปอย่างสะดวก
จงั หวดั (PADME) รวดเรว็ เปน็ ปจั จบุ นั (Real Time) ประหยดั เวลา

142 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ

และค่าใชจ้ ่าย โดยหนว่ ยงานต่าง ๆ ท้ังในระดบั ที่นา่ เศรา้ ใจ คือ หลังจากท่ีผมพ้นภาระ
พื้นที่ ส่วนกลาง และหน่วยงานระดับนโยบาย หน้าท่ีจากตรงนั้น ตัว PADME เอง กลับถูก
สามารถน�ำข้อมูลที่ได้จากโปรแกรมฯ ไปใช้ ปล่อยปละละเลยให้อยู่อย่างโดดเด่ียวไม่ได้รับ
ป ร ะ ก อ บ ก า ร ว า ง แ ผ น พั ฒ น า ใ น ป ี ต ่ อ ไ ป การใสใ่ จดแู ล หรอื พฒั นาใหม้ ศี กั ยภาพมากยงิ่ ขนึ้
ใหส้ ามารถตอบสนองความตอ้ งการของประชาชน ทงั้ ๆ ทยี่ งั มคี ณุ สมบตั ดิ า้ นตา่ ง ๆ ทส่ี ามารถพฒั นา
ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ รวมทัง้ เป็นการเผยแพร่ ต่อยอดได้อีกมากมาย หากพัฒนาให้สมบูรณ์
ประชาสัมพันธ์ผลงานให้ประชาชนได้รับทราบ ตามแนวทางทไี่ ดว้ างไว้ PADME จะเปน็ หนง่ึ เดยี ว
อยา่ งทว่ั ถงึ มากขนึ้ อกี ประโยชนห์ นงึ่ ทสี่ ำ� คญั คอื ทส่ี ามารถบรหิ ารจดั การขอ้ มลู โครงการทดี่ ำ� เนนิ การ
การลดภาระของเจา้ หนา้ ทผี่ ปู้ ฏบิ ตั ิ เพราะใชห้ ลกั ในพ้ืนท่ีได้ ต้ังแต่การวางแผนพัฒนา การจัดท�ำ
ช่วยกันท�ำงาน บันทึกเฉพาะข้อมูลของตนเอง โครงการ การติดตามและประเมินผลโครงการ
ใชง้ านง่าย สะดวก ทำ� ไดท้ ุกที่ทุกเวลาผ่านระบบ การตรวจสอบและประชาสมั พนั ธ์ ทำ� ไดท้ กุ อยา่ ง
อนิ เทอรเ์ น็ต ในระบบเดียว นอกจากนั้น ส�ำนักงานปลัด
ศักยภาพของ PADME เป็นท่ียอมรับ กระทรวงมหาดไทยยงั จะมโี อกาสเปน็ มหาอำ� นาจ
ของหน่วยงานระดับนโยบายเกือบจะท้ังหมด ทางขอ้ มลู โดยเปน็ แหลง่ รวมขอ้ มลู ดา้ นการพฒั นา
เช่น ส�ำนักงบประมาณ ส�ำนักงานปลัดส�ำนัก ของประเทศนไ้ี วใ้ ชป้ ระโยชนไ์ ดม้ ากมายมหาศาล
นายกรัฐมนตรี สำ� นกั งาน ก.พ.ร. คณะกรรมการ แตส่ ดุ ทา้ ย โอกาสนน้ั ไดห้ ลดุ ลอยไป เพราะภายหลงั
นโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัด มี ห น ่ ว ย ง า น อ่ื น พั ฒ น า ร ะ บ บ ใ ห ม ่ ข้ึ น ม า
แบบบูรณาการ (ก.น.จ.) คณะกรรมการบริหาร แล้วก�ำหนดเป็นนโยบายบังคับให้ทุกหน่วยงาน
ราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ต้องใช้ สถานภาพของ PADME จึงอยู่ในภาวะ
ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคี ทนี่ า่ เปน็ หว่ ง ถอื เปน็ เรอ่ื งทน่ี า่ “เสยี ดาย” เปน็ อยา่ งยงิ่
ปรองดอง (ป.ย.ป.) ส�ำนักงานคณะกรรมการ
ตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) รวมท้ังกระทรวง สรุป
กรม อกี หลายแหง่ ขอใชง้ าน บางหนว่ ยงานขอใช้ “คา่ ของคนอยทู่ ผี่ ลของงาน” เปน็ วลอี มตะ
เป็นต้นแบบในการพัฒนาระบบของตนเอง ทใ่ี ชพ้ สิ จู นค์ ณุ ภาพของคนไดด้ ที ส่ี ดุ ในการปฏบิ ตั ิ
นอกจากน้ี ยังอาจกลา่ วได้ว่า PADME เป็นสาร หน้าท่ีราชการ หากเราให้ความส�ำคัญกับ
หล่อเลี้ยงความเจริญก้าวหน้าของข้าราชการ ผลงานมากกว่าต�ำแหน่งท่ีเป็นหัวโขน ความรู้
มากมายหลายทา่ น โดยไดถ้ ูกนำ� ไปใช้เปน็ ขอ้ มูล ความสามารถ ความทุ่มเท ของเราท้ังหมดก็จะ
ส�ำหรับจัดท�ำผลงานประกอบการพิจารณา อยู่ที่งาน ช่วยให้การท�ำงานมีประสิทธิภาพ
เลือ่ นตำ� แหนง่ หลายระดบั เกดิ ผลงานทคี่ วรค่ากบั ความภาคภูมิใจ


Click to View FlipBook Version