การเช่า อปท.อาจเช่า รถสว่ นกลาง หรอื รถประจาตาแหน่ง ไดต้ ามความจาเป็นและเหมาะสม โดยถอื
รถประจาตาแหน่ง ปฏบิ ตั ติ ามหลกั เกณฑข์ องกระทรวงการคลงั โดยอนุโลม ไดแ้ ก่
และรถสว่ นกลาง
๑. ดาเนินการตาม พรบ. จดั ซ้ือจดั จา้ งและการบรหิ ารพสั ดภุ าครฐั และมติ ครม.
(ขอ้ ๙วรรคหา้ ) ท่เี กย่ี วขอ้ ง
(นส.ขอ้ ๒ และขอ้ ๓.๒(๔))
๒. กค. ไดก้ าหนดเงอ่ื นไขในการเช่ารถยนตม์ าใชใ้ นราชการไว้ ดงั น้ี
- การเช่ารถในแต่ละครง้ั ใหท้ าสญั ญาเช่าเป็นระยะเวลา ๕ ปี โดยใหท้ าสญั ญากบั บรษิ ทั
หรอื ผูป้ ระกอบการซ่ึงจดทะเบียนใหบ้ รกิ ารเช่ารถโดยตรง และตอ้ งเป็นรถใหม่
ไม่เคยใชง้ านมากอ่ น
- กรณีรถเสยี หรอื เกดิ อบุ ตั เิ หตุ บรษิ ทั ผูใ้ หเ้ ช่าตอ้ งจดั หารถในสภาพ
ตามสญั ญาเช่ามาทดแทนใหท้ นั ที
- สญั ญาเช่ารถใหท้ าตามแบบท่กี รมบญั ชีกลางกาหนด
๓. โดยจดั ทาบญั ชีรถท่ไี ดม้ าโดยการเช่าแยกจากบญั ชีรถท่เี ป็นกรรมสทิ ธ์ิ
ของ อปท. ตามแบบ ๑ หรอื แบบ ๒ ทา้ ยระเบยี บ
๔. กรณีรถท่ไี ดม้ าจากการเช่า ใหผ้ ูบ้ รหิ ารทอ้ งถ่นิ ควบคมุ การใชร้ ถใหม้ กี ารปฏบิ ตั ติ ามสญั ญา
เช่ารถ และระเบยี บ มท.วา่ ดว้ ยการใชแ้ ละรกั ษารถยนตข์ อง อปท. โดยเคร่งครดั
๕. อตั ราคา่ เช่ารถยนตป์ ระเภทตา่ ง ๆ ใหเ้ ป็นไปตาม นส.กค. ด่วนท่สี ดุ ท่ี กค ๐๔๐๙.๔/ว
๖๔ ลว. ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕
การใชแ้ ละคนื รถประจาตาแหน่ง (รบ.ขอ้ ๑๑ ,ขอ้ ๑๓
นส.ขอ้ ๓.๑)
การใชร้ ถประจาตาแหน่ง
- ในการปฏบิ ตั ริ าชการในตาแหน่งหนา้ ท่หี รอื ท่ไี ดร้ บั มอบหมายโดยรวม หรอื
- งานท่เี ก่ยี วเน่ืองโดยตรงกบั งานในตาแหน่งหนา้ ท่หี รอื ฐานะท่ดี ารงตาแหน่งน้ัน
- การใชเ้ พ่อื การเดนิ ทางไปและกลบั ระหว่างท่พี กั และสานกั งาน และ
- เพ่อื การอน่ื ท่จี าเป็นและเหมาะสมแกก่ ารดารงตาแหน่งหนา้ ท่ใี นหมู่ขา้ ราชการและสงั คม เช่น งานรฐั พธิ ี
ตา่ ง ๆ งานพธิ ีการ งานประเพณี หรอื งานสงั คมท่เี กย่ี วขอ้ งกบั ตาแหน่งหนา้ ท่ี เป็นตน้
- หา้ มผูม้ สี ทิ ธไิ ดร้ บั รถประจาตาแหน่งแลว้ จะนารถสว่ นกลางไปใชอ้ กี เวน้ แตม่ ีเหตผุ ลความจาเป็ นเฉพาะ
คราว ทง้ั น้ี ใหร้ ะบเุ หตผุ ลความจาเป็ นท่ตี อ้ งใชร้ ถสว่ นกลางไวด้ ว้ ย (ขอ้ ๑๑ วรรคส)่ี
การคนื รถประจาตาแหน่ง
- กรณีผูใ้ ชร้ ถประจาตาแหน่งคืนรถใหแ้ ก่ อปท. ภายในกาหนด ๓๐ วนั นบั แตว่ นั ท่ีไดพ้ น้ จากตาแหน่ง
หรอื สง่ มอบงาน แลว้ แต่กรณี
- กรณีผูใ้ ชร้ ถประจาตาแหน่งถงึ แกก่ รรม ใหผ้ ูบ้ รหิ ารทอ้ งถ่นิ เรียกรถประจาตาแหน่งคนื
หากผูบ้ รหิ ารทอ้ งถ่นิ เหน็ ว่ามีเหตผุ ลสมควรจะผ่อนผนั ใหส้ ง่ คนื รถประจาตาแหน่งเกินกาหนดเวลาดงั กลา่ ว
ในวรรคหน่ึง กใ็ หก้ ระทาไดแ้ ตต่ อ้ งไม่เกนิ กว่า ๖๐ วนั นบั แต่วนั ถงึ แกก่ รรม
(รบ.ขอ้ ๑๑ นส.ขอ้ ๓.๒(๑))
การใชร้ ถสว่ นกลาง รถรบั รองและรถประจาตาแหน่ง
การใชร้ ถสว่ นกลาง รถรบั รอง
-ใหใ้ ชเ้ พอ่ื กจิ การอนั เป็นสว่ นรวมของ อปท. หรอื เป็นประโยชนข์ องทางราชการ
ตามหลกั เกณฑท์ ่ี อปท. เจา้ ของรถกาหนดข้ึน
- การใชร้ ถปกตใิ หใ้ ชภ้ ายในเขต อปท. น้นั หากจะใชร้ ถออกไปปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี
นอกเขต อปท. ตอ้ งไดร้ บั อนุญาตจากผูบ้ รหิ ารทอ้ งถ่นิ ก่อน
- โดยการใชร้ ถทง้ั ภายในเขตหรอื นอกเขต อปท. ใหใ้ ชใ้ บขออนุญาตใชร้ ถสว่ นกลาง
ตามแบบ ๓ ทา้ ยระเบยี บและบนั ทกึ การใชร้ ถสว่ นกลางและรถรบั รอง (แบบ ๔)
รถสว่ นกลาง รถรบั รอง ใหอ้ ยู่ในความควบคุมและความรบั ผิดชอบของ อปท.
โดยเกบ็ รกั ษาในสถานท่เี กบ็ หรอื บรเิ วณของ อปท.
รถประจาตาแหน่ง ใหอ้ ยู่ในความควบคมุ และความรบั ผิดชอบของผูด้ ารงตาแหน่ง
๑. การเกดิ การสูญหายหรอื เสยี หายกบั รถสว่ นกลาง ในระหว่างการเกบ็ รกั ษา
การเกดิ การสูญหายหรอื ท่อี น่ื เป็นการชวั่ คราว ผูเ้ กบ็ รกั ษาตอ้ งรบั ผิดชอบชดใชค้ ่าสนิ ไหมทดแทน
เสยี หายข้ึน ใหแ้ ก่ อปท. เวน้ แต่
กบั รถสว่ นกลาง - พสิ ูจน์ไดว้ า่ ไดใ้ ชค้ วามระมดั ระวงั ดูแลรกั ษาเย่ียงวิญญูชน จะพงึ สงวนรกั ษา
รถรบั รอง ทรพั ยส์ นิ ของตนแลว้ และการสูญหายหรอื เสยี หายน้ัน มไิ ดเ้ กดิ ข้ึนจากความ
ประมาทเลนิ เลอ่ อยา่ งรา้ ยแรงของผูเ้ กบ็ รกั ษา
รถประจาตาแหน่ง - แต่หากการสูญหาย/เสยี หายน้ันเกดิ ข้ึน เน่ืองจากการนาไปใชใ้ นการอน่ื ใหผ้ ูอ้ น่ื
ใช้ หรอื นาไปเกบ็ ไว้ ณ ท่ที ่มี ิไดร้ บั อนุญาต ผูเ้ กบ็ รกั ษาตอ้ งรบั ผิดชอบทกุ กรณี แมว้ า่
จะเกดิ ดว้ ยเหตสุ ดุ วสิ ยั เวน้ แต่จะพสิ ูจนไ์ ดว้ า่ ถงึ อย่างไรความสูญหายหรอื เสยี หายก็
จะเกดิ แกร่ ถสว่ นกลางคนั น้นั
รบ.ขอ้ ๑๕ วรรคสองและสาม ๒. กรณีเกดิ การสูญหายหรอื เสยี หายข้ึนกบั รถสว่ นกลาง รถรบั รอง และ
นส.ขอ้ ๔.๒ รถประจาตาแหน่ง
- ใหผ้ ูร้ บั ผิดชอบ หรอื พนกั งานขบั รถรบี รายงานผูบ้ งั คบั บญั ชาตามลาดบั
จนถงึ ผูบ้ รหิ ารทอ้ งถน่ิ ทราบทนั ที ตามแบบ ๕ ทา้ ยระเบยี บน้ี
เม่อื เกดิ การสูญหายหรอื ๓. กรณีเกดิ การสูญหายหรอื เสยี หายกบั รถประจาตาแหน่ง
เสยี หายกบั - ผูใ้ ชร้ ถประจาตาแหน่งตอ้ งรบี รายงานใหผ้ ูบ้ รหิ ารทอ้ งถ่นิ ทราบทนั ที
- กรณีท่มี ไิ ดเ้ ป็นผูใ้ ชร้ ถเองหรอื ไม่สามารถท่จี ะรายงานเองได้
รถประจาตาแหน่ง ใหพ้ นกั งานขบั รถรบี รายงานผูบ้ งั คบั บญั ชา
- กรณีผูใ้ ชร้ ถประจาตาแหน่งเป็นผูบ้ รหิ ารทอ้ งถ่นิ ใหท้ าบนั ทึกไว้
เป็นลายลกั ษณะอกั ษร
๓.๑ กรณีรถประจาตาแหน่งสูญหาย เพราะความประมาท เลนิ เลอ่ ของ
ผูใ้ ชร้ ถประจาตาแหน่ง หรอื อนุญาตใหบ้ คุ คลอน่ื นารถประจาตาแหน่ง
ไปใชน้ อกเหนือหนา้ ท่ปี กติ ผูใ้ ชร้ ถประจาตาแหน่งตอ้ งรบั ผิดชดใช้
ค่าสนิ ไหมทดแทนความสูญหายแมด้ ว้ ยเหตสุ ดุ วสิ ยั
รบ. ขอ้ ๑๖ และนส. ๓.๒ กรณีรถประจาตาแหน่งเกดิ ความเสยี หาย เพราะความผิดของ
ขอ้ ๔.๑) - บคุ คลภายนอก ใหผ้ ูใ้ ชร้ ถประจาตาแหน่ง เป็นผูเ้ รยี กรอ้ งคา่ สินไหมทดแทน
จากบคุ คลภายนอกในนามของ อปท. น้นั
- ผูข้ บั ข่ีซ่งึ มใิ ช่พนกั งานขบั รถ หรอื ผูใ้ ชร้ ถประจาตาแหน่ง ผูใ้ ชร้ ถประจา
ตาแหน่งตอ้ งรบั ผิดชอบซอ่ มแซมใหค้ งสภาพดีตามเดิม
กรณีเกดิ การสูญหาย ๔. ในระหว่างท่ดี าเนินการหาตวั ผูร้ บั ผิดชดใชค้ ่าเสยี หาย
หรอื เสยี หายกบั ท่เี กดิ ข้ึนกบั รถดงั กลา่ ว หาก อปท. มคี วามจาเป็น
รถสว่ นกลาง ตอ้ งใชร้ ถคนั น้นั ใหผ้ ูบ้ รหิ ารทอ้ งถ่นิ พจิ ารณาอนุมตั ิ
รถรบั รอง ซ่อมรถคนั น้นั โดยเบกิ จา่ ยจากเงนิ งบประมาณไปกอ่ นได้
รถประจาตาแหน่ง
๕. ใหน้ าระเบยี บความรบั ผิดชอบของขา้ ราชการในทางแพง่
มตคิ ณะรฐั มนตรที ่เี ก่ยี วขอ้ ง กบั กรณีดงั กลา่ วมาใชบ้ งั คบั
ตามระเบยี บน้ีดว้ ย
(ตามหนงั สอื มท ด่วนท่สี ดุ มท ๐๘๐๘.๒/ว ๐๕๔๖
ลงวนั ท่ี ๒๕ มกราคม ๒๕๖๒ แจง้ ตามมตคิ ณะรฐั มนตรี
เม่อื วนั ท่ี ๘ มกราคม ๒๕๖๒)
ขอ้ ๑๖
คา่ เช้ือเพลงิ
รถประจาตาแหน่ง (ขอ้ ๑๙)
- ผูใ้ ชร้ ถประจาตาแหน่งเป็ นผูจ้ า่ ยค่าเช้ือเพลงิ เอง
- เวน้ แต่ ในกรณีท่นี ารถไปใชใ้ นการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ซี ่งึ นอกเหนือไปจากหนา้ ท่ปี กติประจา เช่น การใชร้ ถ
ประจาตาแหน่งในการเดินทางไปราชการหรอื เขา้ รบั การฝึกอบรม เป็นตน้ ใหเ้ บกิ จา่ ยน้ามนั เช้ือเพลงิ หรอื เบกิ
คา่ น้ามนั เช้ือเพลงิ จาก อปท.ได้
ทง้ั น้ี ผูบ้ รหิ ารทอ้ งถ่นิ ตอ้ งรบั รองทกุ ครง้ั ว่าไดม้ กี ารนารถประจาตาแหน่งไปใชใ้ นกรณีดงั กลา่ วจรงิ ตามแบบ
รบั รองการใชร้ ถประจาตาแหน่งท่ี มท.กาหนด
รถสว่ นกลางและรถรบั รอง
- ใหเ้ บกิ จา่ ยคา่ น้ามนั เช้ือเพลงิ จากงบประมาณของ อปท.น้นั (ขอ้ ๑๙ วรรคสอง)
- ในแต่ละปีงบประมาณ อปท. ตอ้ งสารวจและกาหนดเกณฑก์ ารใชส้ ้นิ เปลอื งน้ามนั เช้ือเพลงิ ของรถ
ทกุ คนั เพอ่ื เป็นหลกั ฐานในการเบกิ จา่ ยน้ามนั เช้ือเพลงิ และตรวจสอบของเจา้ หนา้ ท่ี
ฝ่ ายตรวจสอบ (ขอ้ ๗)
ขอ้ ตรวจพบ การใชร้ ถของอปท.
๑. อนุญาตใหก้ บั บคุ คลภายนอก และไม่ใช่ประโยชน์ราชการ
๒. ไม่ทาแบบ ๓ และ แบบ ๔ ใหเ้ ป็นปจั จุบนั
๓. นารถไปใชเ้ กดิ ความเสยี หายไม่มีการรายงานตามแบบ ๕
๔. ซ่อมบารงุ รถ ไม่บนั ทกึ รายการในแบบซ่อมบารงุ แบบ ๖
๕. นารถสว่ นกลางไปใชเ้ ป็นสว่ นตวั
๖. นายกใหเ้ ลขานารถไปเกบ็ ไวท้ ่บี า้ นโดยไม่มเี หตผุ ลความจาเป็น
คาพพิ ากษาศาลอาญาคดที จุ รติ ฯ
คดีนารถยนตร์ าชการไปใชส้ ว่ นตวั ผูบ้ รหิ ารทอ้ งถ่นิ นารถยนต์
ราชการไปใชส้ ว่ นตวั และประสบอบุ ตั เิ หตโุ ดยไม่รายงานตามระเบยี บ ศาล
มคี าพพิ ากษาวา่ จาเลยมีความผดิ ตามมาตรา ๑๕๑ ลงโทษจาคกุ ๕ ปี ไม่
รอลงอาญา
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๑ ระบวุ า่ ผูใ้ ดเป็นเจา้ พนกั งานมหี นา้ ท่ี
ซ้ือ ทา จดั การหรอื รกั ษาทรพั ยใ์ ด ๆ ใชอ้ านาจในตาแหน่งโดยทจุ รติ อนั
เป็นการเสยี หายแกร่ ฐั เทศบาล สขุ าภบิ าลหรอื เจา้ ของทรพั ยน์ ้นั ตอ้ งระวาง
โทษจาคกุ ตง้ั แต่หา้ ปีถงึ ย่สี บิ ปี หรอื จาคกุ ตลอดชีวติ และปรบั ตง้ั แต่หน่ึง
แสนบาทถงึ สแ่ี สนบาท
คาพพิ ากษาศาลอาญาคดีทจุ รติ ฯ
คดีกรรมการสอบสวนขอ้ เท็จจรงิ การใชร้ ถหลวง
กรณีเจา้ หนา้ ท่ที อ้ งถ่นิ ใชร้ ถหลวงและไปประสบอบุ ตั ิเหตุ โดย
จาเลยเป็นคณะกรรมการสอบสวนขอ้ เทจ็ จรงิ สอบสวนขอ้ เทจ็ จรงิ ไม่ตรง
ตามความเป็นจรงิ โดยมีเจตนาช่วยเหลอื ผูถ้ กู สอบสวน
พพิ ากษาจาคุกจาเลย ฐานเป็นเจา้ พนกั งานปฏบิ ตั หิ รอื ละเวน้ การ
ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่โี ดยมิชอบเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเสยี หายแกผ่ ูห้ น่ึงผูใ้ ด หรอื ปฏบิ ตั ิ
หรอื ละเวน้ การปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีโดยทจุ รติ จาคุกคนละ ๑ ปี
คาพพิ ากษาศาลอาญาคดที จุ รติ ฯ
คดีจดั เกบ็ รายไดไ้ ม่นาสง่
กรณีเจา้ พนกั งานจดั เกบ็ รายได้ มหี นา้ ท่จี ดั เกบ็ ภาษีอากร และรายไดอ้ น่ื ออก
ใบเสรจ็ รบั เงนิ รวบรวมเอกสารสง่ ใหก้ ารเงนิ และนาเงนิ ฝากธนาคารตามระเบยี บ
กระทรวงมหาดไทย ว่าดว้ ยการรบั เงนิ การเบกิ เงนิ การจา่ ยเงนิ การฝากเงนิ การเกบ็ รกั ษาเงนิ
และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ พ.ศ. ๒๕๔๗ แตไ่ ม่นาเงนิ เขา้ บญั ชีเงนิ ฝาก
หรอื สง่ มอบใหแ้ กอ่ บต. โดยปฏบิ ตั หิ รอื ละเวน้ การปฏบิ ตั หิ นา้ ท่โี ดยมชิ อบทจุ รติ ตอ่ หนา้ ท่หี รอื
กระทาผิดต่อหนา้ ท่รี าชการ
ศาลอทุ ธรณ์พพิ ากษายนื จาคกุ ๔๑๐ ปี เจา้ พนกั งานจดั เกบ็ รายไดข้ องอบต.เบยี ดบงั ภาษี
อากร คา่ ธรรมเนียม ท่จี ดั เกบ็ ในทอ้ งถ่นิ เป็นของตนโดยทจุ รติ ๘๒ ครง้ั จาคกุ กระทงละ ๕ ปี
เงนิ ๙๐๐๐๐ กวา่ บาท รบั สารภาพลด ๒๐๕ ปี รวมโทษความผดิ ทกุ กระทงแลว้ ใหจ้ าคกุ ๕๐
ปี
คาพพิ ากษาศาลอาญาคดที จุ รติ ฯ
คดดี าเนินการจา้ งราคาสูงเกนิ จรงิ กรณีท่ขี า้ ราชการของเทศบาล
ซ่ึงเป็นผอ.กองช่างและเจา้ หนา้ ท่ี ไดด้ าเนินการจา้ งกอ่ สรา้ งระบบไฟฟ้ าสอ่ ง
สว่างชุมชนพลงั งานแสงอาทิตยใ์ นราคาสูงเกนิ จรงิ ศาลมีคาพพิ ากษาวา่ มี
ความผดิ ตามมาตรา ๑๕๗ ประกอบมาตรา ๘๓ จาคกุ คนละ ๒ ปี ปรบั คน
ละ ๒๐,๐๐๐ บาท รบั สารภาพ ลดโทษใหก้ ง่ึ หน่ึง เหลอื จาคกุ คนละ ๑ ปี
และปรบั คนละ ๑๐๐๐๐ บาท โทษจาคุกใหร้ อการลงโทษ
คาพพิ ากษาศาลอาญาคดที จุ รติ ฯ
คดีนารถยนตร์ าชการไปใชส้ ว่ นตวั ผูบ้ รหิ ารทอ้ งถ่นิ นารถยนต์
ราชการไปใชส้ ว่ นตวั และประสบอบุ ตั เิ หตโุ ดยไม่รายงานตามระเบยี บ ศาล
มคี าพพิ ากษาวา่ จาเลยมีความผดิ ตามมาตรา ๑๕๑ ลงโทษจาคกุ ๕ ปี ไม่
รอลงอาญา
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๑ ระบวุ า่ ผูใ้ ดเป็นเจา้ พนกั งานมหี นา้ ท่ี
ซ้ือ ทา จดั การหรอื รกั ษาทรพั ยใ์ ด ๆ ใชอ้ านาจในตาแหน่งโดยทจุ รติ อนั
เป็นการเสยี หายแกร่ ฐั เทศบาล สขุ าภบิ าลหรอื เจา้ ของทรพั ยน์ ้นั ตอ้ งระวาง
โทษจาคกุ ตง้ั แต่หา้ ปีถงึ ย่สี บิ ปี หรอื จาคกุ ตลอดชีวติ และปรบั ตง้ั แต่หน่ึง
แสนบาทถงึ สแ่ี สนบาท
คาพพิ ากษาศาลอาญาคดีทจุ รติ ฯ
คดปี ลอมเอกสารใบสงั่ ซ้อื ถงั ขยะ
กรณีผูบ้ รหิ ารทอ้ งถ่นิ และพวก ปลอมเอกสารใบสงั่ ซ้ือถงั ขยะเพอ่ื ใหต้ รงกบั พสั ดุท่สี ง่ มอบแลว้
ศาลอาญาคดีทจุ รติ ฯมคี าพพิ ากษาว่าจาเลยทง้ั สอง มคี วามผิดกรรมเดยี วตอ่ กฎหมายหลายบท
ใหล้ งโทษร่วมกนั ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่โี ดยมิชอบเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเสยี หายแก่ผูห้ น่ึงผูใ้ ด ตามมาตรา
๑๕๗ ซ่งึ เป็นกฎหมายบทท่มี ีโทษหนกั ท่สี ดุ ตามมาตรา ๙๐ จาคกุ คนละ ๑ ปี และปรบั คนละ
๑๐,๐๐๐ บาท โทษจาคกุ ใหร้ อการลงโทษไว้ ๒ ปี
มาตรา ๑๕๗ ระบวุ ่า ผูใ้ ดเป็นเจา้ พนกั งาน ปฏบิ ตั หิ รอื ละเวน้ การปฏบิ ตั หิ นา้ ท่โี ดย
มชิ อบเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเสยี หายแก่ผูห้ น่ึงผูใ้ ด หรอื ปฏบิ ตั หิ รอื ละเวน้ การปฏบิ ตั หิ นา้ ท่โี ดย
ทจุ รติ ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ตง้ั แต่หน่ึงปีถงึ สบิ ปี หรอื ปรบั ตง้ั แต่สองหม่ืนบาทถงึ สองแสนบาท
หรอื ทง้ั จาทง้ั ปรบั
คาพพิ ากษาศาลอาญาคดที จุ รติ ฯ
คดใี หพ้ นกั งานกลบั เขา้ ทางานทง้ั ท่อี นุมตั ใิ หล้ าออกไปแลว้
กรณีนายกอบต.ใหพ้ นกั งานจา้ งกลบั เขา้ ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ทง้ั ท่อี นุมตั ใิ หล้ าออกไปแลว้
โดยมไิ ดด้ าเนินการสรรหาและเลอื กสรรตามระเบยี บ ทง้ั ท่ผี ูใ้ ตบ้ งั คบั บญั ชาไดเ้ สนอ
ความเหน็ และโตแ้ ยง้ มาโดยตลอด ทาใหอ้ บต.ไดร้ บั ความเสยี หาย ตอ้ งเบกิ จา่ ย
ค่าตอบแทนเสยี หายต่อระบบการบรหิ ารงานบคุ คลระบบราชการ ศาลชน้ั ตน้
พพิ ากษาว่า จาเลยมคี วามผิดตามประมวลกกหมายอาญามาตรา ๑๕๗ จาคกุ ๑ ปี
คาพพิ ากษาศาลอาญาคดีทจุ รติ ฯ
คดรี บั ซองเสนอราคาหลงั พน้ กาหนดย่นื ซองสอบราคา
กรณีท่นี ายกเทศมนตรแี ละปลดั เทศบาล ไดร้ บั ซองเสนอราคาโครงการกอ่ สรา้ ง
ถนน หลงั พน้ กาหนดย่นื ซองสอบราคาแลว้ ศาลอาญาคดีทจุ รติ มคี าพพิ ากษา
จาเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗ และความผิดตาม
กฏหมายวา่ ดว้ ยความผิดเก่ยี วกบั การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรฐั พ.ศ. ๒๕๔๒
จาคกุ จาเลยคนละ ๕ ปี สว่ นหา้ งหนุ้ สว่ นท่เี สนอราคาผิดพรบ.ฮว้ั ใหป้ รบั ๑๖,๐๐๐
บาท
คาพพิ ากษาศาลอาญาคดีทจุ รติ ฯ
คดีเบกิ เงนิ ฝึกอบรมดูงานเป็นเทจ็
กรณีการเบกิ จา่ ยเงนิ โครงการฝึกอบรมและศึกษาดูงานของอบต. มเี บกิ จา่ ยเงนิ ค่าท่ี
พกั โดยไม่มกี ารเขา้ พกั และไม่มีการ
รบั ประทานอาหารจรงิ แต่มีการทาเอกสารปลอมมกี ารลงนามและรบั รองเอกสารปลอมแลว้
นาไปเบกิ เงนิ จาเลยรบั สารภาพและชดใชเ้ งนิ ค่าสนิ ไหมทดแทนใหอ้ บต.แลว้ ศาลพเิ คราะห์
พยานหลกั ฐานแลว้ เหน็ ว่าแมจ้ าเลยทง้ั หมดรบั สารภาพและชดใชเ้ งนิ แลว้ แตจ่ าเลยเป็น
เจา้ หนา้ ท่ขี องรฐั มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานทจุ รติ ต่อหนา้ ท่ี ใหจ้ าคกุ คนละ
๕ ปี ไม่รอลงอาญา สาหรบั พนกั งานโรงแรม ไม่ไดเ้ ป็นผูร้ ่วมวางแผนแต่ตน้ และเป็นผูร้ บั จา้ ง
งานบรกิ าร จาคกุ คนละ ๑ ปี ๘ เดือน ปรบั คนละ ๖๐๐๐ บาท ใหร้ อการลงโทษ
คาพพิ ากษาศาลปกครองสูงสดุ
คดเี บกิ จา่ ยเงนิ ลา่ ชา้ ไม่ยอมลงนาม เพราะเอกสารยงั ไมถ่ กู ตอ้ ง
ปลดั อบต. ถกู ตอ้ งกรรมการสอบสวนวนิ ยั ไม่รา้ ยแรง กรณีท่ไี ม่ยอมลงนามในฎีกาเบกิ จ่
ยาเงนิ ค่าจา้ งใหผ้ ูร้ บั จา้ ง ทาใหก้ ารจา่ ยเงนิ ลา่ ชา้ โดยช่วงระยะเวลาการวาง
ฏกี าจนถงึ สงั่ จา่ ยเช็ค ใหเ้ วลา ๑๕ วนั ไม่เป็นไปตามระเบยี บ มท.ว่าดว้ ยการรบั เงนิ การเบกิ
จา่ ยเงนิ ฯ ขอ้ ๖๐ ประกอบขอ้ ๖๔ ซ่งึ คณะกรรมการพนกั งานสว่ นตาบล
เหน็ ว่า แมผ้ ูร้ บั จา้ งไม่ตดิ ใจ แต่การกระทาดงั กลา่ ว สง่ ผลตอ่ ความเช่ือมนั่ และช่ือเสยี งของ
อบต. อนั เป็นการเพกิ เฉย ละเลยตอ่ หนา้ ท่แี ละขดั คาสงั่ ผูบ้ งั คบั บญั ชา จึงมีคาสงั่ ลงโทษ
ภาคทณั ฑ์ ปลดั อบต.อา้ งว่าเหตทุ ่ยี งั ไม่ลงนามเพราะเอกสารไม่สมบูรณ์ถกู ตอ้ ง เม่อื มีการ
ดาเนินการใหถ้ กู ตอ้ งตามระเบยี บท่กี าหนดกไ็ ดล้ งนามเบกิ จา่ ยแลว้ การถกู ลงโทษจงึ ไม่เป็น
ธรรม ไดอ้ ทุ รธณ์คาสงั่ ลงโทษแลว้ แตถ่ กู ยกอทุ ธรณ์จงึ นาคดีมาฟ้ องต่อศาลปกครอง
คาพพิ ากษาศาลปกครองสูงสดุ (ตอ่ )
คดีเบกิ จา่ ยเงนิ ลา่ ชา้ ไม่ยอมลงนาม เพราะเอกสารยงั ไม่ถกู ตอ้ ง
คาวนิ ิจฉยั ศาลปกครองสูงสดุ พจิ ารณาเหน็ ว่าผูฟ้ ้ องคดไี ดช้ ้ีแจงเหตผุ ลและในชน้ั ทา
คาใหก้ าร อบต. มไิ ดม้ ีการโตแ้ ยง้ ขอ้ กลา่ วอา้ งของผูฟ้ ้ องคดี กรณีรบั ฟงั ไดว้ ่า การเบกิ จา่ ย
ค่าจา้ งลา่ ชา้ มสี าเหตมุ าจากเอกสารยงั ไม่ครบถว้ นและไม่ถกู ตอ้ งตามระเบยี บราชการ ฉะน้นั
การเบกิ จา่ ยเงนิ ท่ลี า่ ชา้ ไป ๑๕ วนั โดยผูร้ บั จา้ งไม่ตดิ ใจในความเสยี หาย จงึ ยงั ฟงั ไม่ไดว้ ่าเป็น
เพราะผูฟ้ ้ องคดเี พกิ เฉยละเลยตอ่ การปฏบิ ตั หิ นา้ ท่แี ตป่ ระการใด ผูฟ้ ้ องคดีจงึ มไิ ดก้ ระทาผิด
วนิ ยั ตามขอ้ กลา่ วหา จงึ มีคาสงั่ ใหเ้ พกิ ถอนคาสงั่ ลงโทษของอบต.และมตคิ ณะกรรมการ
พนักงานสว่ นตาบล
คาพพิ ากษาศาลปกครอง
คดีหน่วยงานไม่หกั เงนิ ชาระหน้ีสหกรณ์ ใครรบั ผิด
ขอ้ ๓๐ ของระเบยี บกระทรวงการคลงั ว่าดว้ ยการเบกิ จา่ ยเงนิ เดือน เงนิ ปี บาเหน็จ
บานาญ เงนิ ประจาตาแหน่ง เงนิ เพม่ิ และเงนิ อน่ื ในลกั ษณะเดียวกนั พ.ศ๒๕๕๐ กาหนดว่า
การจา่ ยเงนิ หา้ มมิใหส้ ว่ นราชการผูเ้ บกิ หกั เงนิ เดือน บาเหน็จ บานาญ และเงนิ อน่ื ในลกั ษณะ
เดียวกนั ไวเ้ พอ่ื การใด ๆ เวน้ แตม่ หี นงั สอื ยนิ ยอมจากขา้ ราชการหรอื ผูม้ สี ทิ ธริ บั บาเหน็จ
บานาญ เพอ่ื ชาระเงนิ ใหแ้ ก่สหกรณ์ท่จี ดั ตง้ั โดย
สว่ นราชการ และค่าสวสั ดิการต่าง ๆ ตามระเบยี บว่าดว้ ยการสวสั ดกิ ารในสว่ นราชการ หรอื
ชาระตามขอ้ ผูกพนั กบั ทางราชการเท่าน้นั
โดยหนงั สอื ใหค้ วามยนิ ยอมใหห้ กั เงนิ มผี ลผูกพนั ตลอดไปจนกว่าจะชาระหน้ีเสรจ็ ส้นิ
คาพพิ ากษาศาลปกครอง(ต่อ)
คดีหน่วยงานไม่หกั เงนิ ชาระหน้ีสหกรณ์ ใครรบั ผิด
นาย ก. กูเ้ งนิ สหกรณ์ไดท้ าหนงั สอื ยนิ ยอมใหส้ ว่ นราชการท่จี า่ ยเงนิ เดอื น คา่ จา้ ง
บาเหน็จ บานาญ ฯหกั เงนิ ตามจานวนท่สี หกรณ์แจง้ เพอ่ื ชาระหน้ีใหส้ หกรณ์ ต่อมาผูก้ เู้ งนิ
ลาออก และแจง้ เปล่ยี นความประสงคจ์ ะชาระหน้ีสหกรณ์ดว้ ยตนเอง เจา้ หนา้ ท่กี ารเงนิ ได้
จา่ ยเงนิ บาเหน็จทง้ั หมดโดยไม่หกั เงนิ ไวเ้ พอ่ื ชาระหน้ีใหแ้ กส่ หกรณ์
ปรากฏว่านาย ก. ผูก้ ูเ้ งนิ ไม่ชาระหน้ีสหกรณ์ๆจงึ หกั เงนิ เดอื นผูค้ ้าประกนั
ปญั หา (๑) ผูค้ ้าประกนั ตอ้ งชาระหน้ีสหกรณ์แทนผูก้ ูต้ อ่ ไปหรอื ไม่
(๒) ถอื ว่าสว่ นราชการละเลยตอ่ หนา้ ท่ไี ม่หกั เงนิ ไวช้ าระหน้ีสหกรณ์หรอื ไม่
ตอ่ มาผูค้ ้าประกนั และสหกรณ์เป็นผูฟ้ ้ องคดี จงึ ฟ้ องหน่วยงานตน้ สงั กดั ของนาย ก.
เป็นผูถ้ กู ฟ้ องคดี
คาพพิ ากษาศาลปกครอง(ต่อ)
คดีหน่วยงานไม่หกั เงนิ ชาระหน้ีสหกรณ์ ใครรบั ผิด
ศาลปกครองวินิจฉยั ว่า เม่อื นาย ก. ไดใ้ หค้ วามยนิ ยอมเป็ นหนังสอื ใหห้ กั เงนิ บาเหน็จผูถ้ ูกฟ้ อง
คดจี งึ มหี นา้ ท่ตี อ้ งหกั เงนิ บาเหน็จชาระหน้ีสหกรณ์ การท่เี จา้ หนา้ ท่ตี น้ สงั กดั ไม่หกั เงนิ บาเหน็จชาระหน้ีให้
สหกรณ์ เป็นการละเลยตอ่ หนา้ ท่ตี ามท่กี ฎหมายกาหนดใหต้ อ้ งปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บ ขอ้ ๓๐ ของระเบยี บกระ
ทรงการคลงั และการท่สี หกรณ์หกั เงนิ เดอื นผูค้ ้าประกนั ชาระหน้ีแทนนาย ก. จงึ เป็นผลโดยตรงใหผ้ ูฟ้ ้ อง
คด(ี ผูค้ ้าประกนั ) ไดร้ บั ความเสยี หาย เป็นการกระทาละเมิดตามมาตรา ๔๒๐ แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง
และพาณิชย์
ศาลปกครองสูงสดุ มีคาพพิ ากษาใหผ้ ูถ้ ูกฟ้ องคดี(หน่วยงาน) ชดใชห้ น้ีเงนิ ท่คี า้ งชาระพรอ้ ม
ดอกเบ้ยี ในอตั รา ๗.๕ ตอ่ ปีใหแ้ กส่ หกรณ์ และใหส้ หกรณ์คนื เงนิ แกผ่ ูค้ ้าประกนั ตามสว่ นท่ไี ดร้ บั ชาระหน้ี
(คาพพิ ากษาสูงสดุ ท่ี อ.๑๔๔๒/๒๕๕๙)
๐๘๑-๑๗๔๓๗๐๐