44 ประเด็นที่ประเมิน รายการประเมิน ̅ . 3.2 ความน่าสนใจของเสียงประกอบ 4.33 0.58 3.3 ความชัดเจนของคำแนะนำการใช้งาน 5.00 0.00 3.4 เมนูหลักมีโครงสร้าง / องค์ประกอบ ครบถ้วนเหมาะสม 5.00 0.00 3.5 การนำเสนอแต่ละตอนเหมาะสม 5.00 0.00 3.6 การออกแบบการนำเสนอเหมาะสม 5.00 0.00 3.7 ลำดับขั้นตอนการนำเสนอเหมาะสม 5.00 0.00 3.8 มีความครบถ้วนของเนื้อหา สามารถเรียนรู้ได้ด้วย ตนเอง 5.00 0.00 4.ด้านองค์ประกอบด้าน มัลติมีเดีย 4.1 ลักษณะ ขนาด สีของตัวอักษร ชัดเจน สวยงาน อ่านง่าย และเหมาะสมกับระดับชั้นที่เรียน 5.00 0.00 4.2 ความเหมาะสมของสีพื้น กับเนื้อหาที่นำเสนอ 5.00 0.00 4.3 ภาพ/ ภาพเคลื่อนไหว/ เสียง/ วีดีโอที่ใช้เหมาะสม กับเนื้อหา และสื่อการเรียนรู้ได้ดี 5.00 0.00 4.4 สีพื้น ปุ่มควบคุม การปรากฏตัวของ ข้อความ/ ภาพนิ่ง/ ภาพเคลื่อนไหว มีความคงเส้นคงวา 5.00 0.00 4.5 มีการใช้สี/ สัญลักษณ์/ อักษรพิเศษ เพื่อเน้น ข้อความที่เป็นข้อความที่เป็นคำสำคัญของเนื้อหา 5.00 0.00 5. ด้านการมีปฏิสัมพันธ์ 5.1 สื่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียนอย่างเหมาะสม 5.00 0.00 5.2 ตอบสนองต่อความแตกต่างระหว่างบุคคล 5.00 0.00 5.3 บทเรียนมีความยืดหยุ่น มีเมนู/ปุ่มให้ผู้เรียนควบคุม บทเรียนได้สะดวก 5.00 0.00 5.4 การใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน สะดวกต่อการใช้งาน 5.00 0.00 จากตารางที่ 4.1 พบว่า แต่ละรายการที่ประเมินของแต่ละประเด็นมีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ซึ่งผ่านเกณฑ์ ประเมินขั้นต่ำคือ 3.50 ดังนั้น จึงสรุปว่า เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดยใช้รูปแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR (Augmented Reality) มีความเหมาะสม 2.2 การหาประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ วิธีการหาประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ของการพัฒนา ผลการเรียนรู้ เรื่องกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดยใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จะใช้วิธีการเทียบกับเกณฑ์ ประสิทธิภาพ E1/E2 = 75/75 โดยนำการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของ
45 พืช C3 โดยใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่หาประสิทธิภาพเชิงเหตุผลแล้วไปทดลองกับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ อำเภอ ท่าปลา จังหวัด อุตรดิตถ์ ปีการศึกษา 2566 จำนวน 22 คน นักเรียนกลุ่มดังกล่าวเป็นคนละกลุ่ม กับกลุ่มตัวอย่างหรือกลุ่มเป้าหมายการวิจัย ผลการหาประสิทธิภาพเชิงประจักษ์พบว่าการพัฒนา ผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดยใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพของ E1/E2 = 75/75 และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ที่กำหนดคือE1/E2=75/75 พบว่า การพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดยใช้รูปแบบกิจกรรมการ เรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ ตามเกณฑ์ที่กำหนด สำหรับผลการคำนวณหาประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ของE1/E2 จากการทดลองใช้กับ กลุ่มนักเรียนที่เป็นคนละกลุ่มกับกลุ่มเป้าหมายการวิจัยนั้นแสดงแล้วในภาคผนวก ค: ตารางที่ 10 การพัฒนาผลการเรียนรู้ 1. คะแนนผลการเรียนรู้ จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องกระบวนการสังเคราะห์ ด้วยแสงของพืช C3 โดยใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR ให้กับนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 38 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายโดยทดลองใช้การพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดยใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR คะแนนผลการเรียนรู้จากการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ดังกล่าวแสดงดังตารางที่ 4.2 ตารางที่ 4.2: แสดงคะแนนผลการเรียนรู้เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 จากการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้โดยทดลองใช้กิจกรรมห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR กับ กลุ่มเป้าหมาย คะแนนเต็มเท่ากับ 90 คะแนน นักเรียน (คน) คะแนน คิดเป็นร้อยละ 1 78 86.67 2 70 77.78 3 80 88.89 4 82 91.11 5 75 83.33 6 80 88.89 7 85 94.44
46 นักเรียน (คน) คะแนน คิดเป็นร้อยละ 8 80 88.89 9 82 91.11 10 76 84.44 11 77 85.56 12 84 93.33 13 80 88.89 14 76 84.44 15 85 94.44 16 83 92.22 17 81 90.00 18 86 95.56 19 80 88.89 20 81 90.00 21 85 94.44 22 82 91.11 23 76 84.44 24 77 85.56 25 86 95.56 26 80 88.89 27 82 91.11 28 84 93.33 29 73 81.11 30 85 94.44 31 84 93.33 32 80 88.89 33 79 87.78 34 85 94.44 35 84 93.33 36 80 88.89 37 82 91.11
47 นักเรียน (คน) คะแนน คิดเป็นร้อยละ 38 75 83.33 รวมจำนวน 38 คน รวมค่าคะแนนทั้งหมด = 3060 รวมร้อยละค่าคะแนน = 3400 ค่าคะแนนเฉลี่ย = 80.53 = 3.86 ค่าคะแนนเฉลี่ยร้อยละ = 89.47 = 4.29 จากตารางที่ 4.2 ภายหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของ พืชC3 โดยทดลองใช้กิจกรรมห้องเรียนดลับด้านร่วมกับ AR กับกลุ่มเป้าหมายพบว่า มีค่าคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ80.53 คะแนน และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.86 คิดเป็นค่าคะแนนเฉลี่ยร้อยละ89.47 และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 4.29 2. การเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ เมื่อใช้ร้อยละค่าคะแนนเฉลี่ยผลการเรียนรู้ระดับชั้นเรียนจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 กับกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้กิจกรรมห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบแสดงดังตารางที่ 4.3 ตารางที่ 4.3: แสดงผลและระดับผลการเรียนรู้ของกลุ่มตัวอย่างจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการ พัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดยใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน (2550) ที่กำหนดเป็นเกณฑ์ประเมินผ่านระดับชั้นเรียน เกณฑ์ประเมินผ่านระดับชั้นเรียนของเกณฑ์ที่ ใช้เทียบ ร้อยละค่าคะแนนเฉลี่ยและระดับผลการ เรียนรู้จากนวัตกรรมการเรียนรู้ ร้อยละค่าคะแนน ระดับผลการเรียนรู้ ร้อยละค่าคะแนน เฉลี่ย ระดับผลการเรียนรู้ 75 3.50 89.47 4.00 จากตารางที่ 3 พบว่า 1. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดย ทดลองใช้กิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR นั้น กลุ่มเป้าหมายมีค่าคะแนนเฉลี่ยคิดเป็น ร้อยละ 89.47 ซึ่งสูงกว่า ค่าคะแนนผลการเรียนรู้ที่กำหนดเป็นเกณฑ์ประเมินผ่านระดับชั้นเรียนตาม เกณฑ์ของงสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2550) คือร้อยละ 60 จึงอธิบายว่า
48 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดย ทดลองใช้กิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR ทำให้มีผล ต่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ของ กลุ่มเป้าหมาย 2. เมื่อเปรียบเทียบระดับผลการเรียนรู้พบว่า ระดับผลการเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมาย จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดยทดลองใช้กิจกรรม การเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR สูงกว่า ระดับผลการเรียนรู้ที่กำหนดเป็นเกณฑ์ประเมินผ่าน ตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2550) คือที่ระดับ 80 จากผลการวิเคราะห์ตารางที่ 3 จึงสรุปว่า เมื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ระหว่างการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดยใช้สืบเสาะหาความรู้แบบ 5E กับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องเดียวกันโดยทดลลองใช้กิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR ทำให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ อำเภอ ท่าปลา จังหวัด อุตรดิตถ์ภาคเรียนที่ 1 ปีการการศึกษา 2566 เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 14.47 รวมถึงมีผลต่อการพัฒนา ระดับผลการเรียนรู้ของนักเรียนระดับชั้นดังกล่าว ระดับความพึงพอใจ จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ของพืช C3 โดยใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 38 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย ผู้วิจัยต้องการ ศึกษาระดับความพึงพอใจของของกลุ่มเป้าหมาย ที่มีต่อการทดลองใช้นวัตกรรมการเรียนรู้ดังกล่าว ผลการวิเคราะห์ระดับความพึงพอใจ แสดงดังตารางที่ 4.4 ตารางที่ 4.4: แสดงระดับความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อการทดลองใช้ การพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดยใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ประเด็นและรายการที่ประเมิน ̅ . ระดับความพึง พอใจ ด้านการใช้งานบทเรียน 1. ความรวดเร็วในการเข้าสู่ระบบ 3.90 0.75 มาก 2. เมนูหลักเข้าใจง่ายในการเข้าถึงข้อมูล 4.00 0.68 มาก 3. การออกจากระบบง่ายและรวดเร็ว 4.00 0.78 มาก 4. ความเร็วในการแสดงผลของภาพและบทเรียน 4.03 0.76 มาก 5. ช่องทางในการติดต่อสื่อสารมีความสะดวก รวดเร็ว 4.00 0.78 มาก
49 ประเด็นและรายการที่ประเมิน ̅ . ระดับความพึง พอใจ 6. การเชื่อมโยงภายในบทเรียนต่อเนื่องกัน 4.11 0.70 มาก รวม 4.00 0.74 มาก ด้านเนื้อหา 1. เนื้อหามีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ 3.90 0.84 มาก 2. ความถูกต้องของเนื้อหา 3.90 1.01 มาก 3. ความชัดเจนในการอธิบายเนื้อหา 3.90 0.89 มาก 4. เนื้อหาบทเรียนมีความน่าสนใจ 3.70 0.91 มาก 5. เนื้อหากับระดับความรู้ของผู้เรียนมีความเหมาะสม 3.74 0.90 มาก รวม 3.82 0.92 มาก ด้านภาพ เสียง และการใช้ภาษา 1. ภาพที่นำเสนอตรงตามเนื้อหา 4.19 0.79 มาก 2. ขนาดของภาพที่ใช้ประกอบบทเรียนมีความเหมาะสม 4.11 0.80 มาก 3. ภาพที่ใช้ประกอบมีความหมายชัดเจน 4.11 0.64 มาก 4. เสียงที่ใช้ประกอบบทเรียนชัดเจน 4.15 0.76 มาก 5. การออกเสียงบรรยายถูกต้องตามอักขระ ไวยากรณ์ 4.07 0.78 มาก รวม 4.13 0.76 มาก ด้านการออกแบบภาพจอ 1. ความเหมาะสมของตัวอักษร 4.07 0.78 มาก 2. ความเหมาะสมของขนาดตัวอักษรที่เลือกใช้ 4.11 0.64 มาก 3. ความเหมาะสมของสีตัวอักษรกับพื้นจอภาพ 4.22 0.75 มาก รวม 4.14 0.72 มาก ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน 1. ระยะเวลาของการร่วมกิจกรรม 4.07 0.64 มาก 2. จำนวนของกิจกรรมที่กำหนดให้ทำในบทเรียน 4.11 0.86 มาก 3. ความยากง่ายของการนำเสนอเหมาะสม 4.11 0.78 มาก รวม 4.10 0.76 มาก รวมทั้งหมด 4.00 0.78 มาก
50 จากตารางที่ 4.4 พบว่า เมื่อวิเคราะห์โดยภาพรวมกลุ่มเป้าหมายมีความพึงพอใช้ต่อการทดลอง ใช้การพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดยใช้รูปแบบกิจกรรม การเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ระดับ มาก ( ̅ = 4.00 . =0.78) แต่เมื่อวิเคราะห์เป็นรายด้านโดยเรียงลำดับระดับค่าเฉลี่ยจาก ระดับมากสุดไปหาน้อยสุด 3 ลำดับ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อด้านการออกแบบภาพจอ (̅ = 4.14 =.0.72) สูงสุด มีความพึงพอใจระดับมาก รองลงมาคือด้านภาพ เสียง และการใช้ภาษา (̅ = 4.13 =0.76) มีความพึงพอใจระดับมาก และลำดับสุดท้ายคือด้านกิจกรรมการเรียนการสอน (̅ = 4.10 =0.78) มีความพึงพอใจระดับมาก
บทที่ 5 สรุป อภิปราย และข้อเสนอแนะผลการวิจัย สรุปผลการวิจัย เป้าหมายของการวิจัยเพื่อต้องการพัฒนาผลการเรียนรู้เรื่อง การพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดยใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้เพราะว่าจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ พบว่า กลุ่มเป้าหมายมีผลการเรียนรู้ที่ระดับ 3.50 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน (2550)ซึ่งระดับผลการเรียนรู้ดังกล่าวต่ำกว่าระดับ 4.00 ซึ่งเป็นเกณฑ์ประเมินผ่านระดับชั้นเรียน ด้วยสาเหตุดังกล่าว ผู้สอนจึงต้องการทำการวิจัยเพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ ด้วยแสงของพืช C3 โดยอาศัยแนวคิดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ของ วรัทยา มณีรัตน์ (2560) ซึ่งเป็นผลจากการทบบทวนเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องผู้สอนจึงพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องกระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดยใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR พร้อมทั้ง กำหนดสมมติฐานการวิจัยว่า การทดลองใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR จัดกิจกรรมการเรียนรู้จะมีผลต่อการพัฒนาผลการเรียนรู้เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 และระดับความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมาย เมื่อจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 กับกลุ่มตัวอย่างโดย ทดลองใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR พบว่า 1. กลุ่มเป้าหมายมีผลการเรียนรู้เพิ่มขึ้นจากเดิม 2. ผลการเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมายผ่านเกณฑ์ประเมินผ่านระดับชั้นเรียน 3. ผลการเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ระดับ 4.00 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ของสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2550) ซึ่งสูงกว่าระดับผลการเรียนรู้ที่เป็นเกณฑ์เปรียบเทียบ อภิปรายผลการวิจัย จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวในบทที่ 4 ประเด็นที่จะหยิบยกขึ้นมาสู่การอภิปราย ผลการวิจัยประกอบด้วย ผลการพัฒนารูปแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ผลการพัฒนาผลการ เรียนรู้ของนักเรียน และระดับความพึงพอใจของนักเรียน แต่ละประเด็นดังกล่าวนำมาอภิปราย ดังนี้
52 1. ผลการพัฒนารูปแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลในบทที่ 4 พบว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 76.36/74.55 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 75/75 ที่กำหนดไว้ ทั้งนี้เป็นเพราะว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ที่กำหนด เนื่องจากว่าในการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนรู้นั้น ผู้วิจัยศึกษาขั้นตอนการสร้างแผนการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบโดยเริ่มจากศึกษาหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) คู่มือกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ การวิเคราะห์สาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ และผลการเรียนรู้ ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการ สร้างแผนการจัดการเรียนรู้จากเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นแนวทางในการสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ ตลอดจนกำหนดกิจกรรมและเนื้อหาให้สอดคล้องกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมที่กำหนดไว้ และ สอดคล้องกับขั้นตอนต่างๆ ในหลักการสอนวิทยาศาสตร์ แล้วจึงสร้างแผนการจัดการเรียนรู้แบบ ห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งผลดังกล่าวสอดคล้องกับแนวคิด ทฤษฎี หลักการวิธีการการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ ARของวรัทยา มณีรัตน์ (2560) ที่กล่าวว่าแผนการจัดการเรียนรู้ แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR จะ ประกอบไปด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ การกำหนดยุทธวิธี เพิ่มพูนประสบการณ์ การสืบค้นเพื่อให้เกิดมโนทัศน์รวบยอด การสร้างองค์ความรู้อย่างมีความหมาย และการสาธิตและประยุกต์ใช้ นอกจากนี้ผลการวิเคราะห์ดังกล่าวยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ พัชฏา บุตรยะถาวร (2558) ที่ทำการวิจัยเรื่อง ระบบไหลเวียนเลือด โดยใช้วิธีการสอนแบบห้องเรียน กลับด้านด้วยการเรียนออนไลน์ และวิธีการสอนแบบสืบเสาะ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เปรียบเทียบ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างวิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านด้วยการเรียนออนไลน์ และวิธีการสอนแบบสืบเสาะ ผลการวิจัยพบว่า ประสิทธิภาพของวิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านด้วย การเรียนออนไลน์มีค่าประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 ส่วนการสอนแบบสืบเสาะมี ค่าประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ ลัทธพล ด่านสกุล (2558) ที่ทำการวิจัยเรื่องโครงสร้างการโปรแกรมและการกำกับตนเอง โดยใช้การจัดการเรียนรู้ แบบห้องเรียนกลับด้านด้วยพอดคาสต์โดยใช้กลวิธีกำกับตนเองที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางทางการเรียน เรื่อง โครงสร้างการระหว่างก่อน เรียนและหลังเรียน 2. เพื่อพัฒนาเว็บไซต์พอดคาสต์สำหรับการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านโดยใช้ กลวิธีกำกับตนเอง และ 3. เพื่อเปรียบเทียบการกำกับตนเองระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ผลการวิจัย พบว่า ประสิทธิภาพของเว็บไซต์พอดคาสต์สำหรับการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านโดยใช้กลวิธีการ
53 กำกับตนเอง เรื่องโครงสร้างโปรแกรม มีค่าเท่ากับ 81.07/83.35 นอกจากนี้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้าน ชีววิทยา 1 ท่าน ด้านภาษาไทย 1 ท่าน และด้านเทคโนโลยี 1 ท่าน เพื่อพิจารณาข้อบกพร่องและให้ ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไข แผนการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR เมื่อแก้ไข ปรับปรุงแล้วจึงนำแผนการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว ทดลองใช้ตามขั้นตอน ขั้นที่ 1 ขั้นทดลองรายบุคคล ขั้นที่ 2 ขั้นทดลองกลุ่มย่อย และขั้นที่ 3 ขั้นการทดลองภาคสนาม เพื่อหาประสิทธิภาพของแผนการ จัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ วัชระศักดิ์ วรรณโยธา (2559) ที่ได้พัฒนา แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และนำ แบบฝึกทักษะที่พัฒนาให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่านประเมินคุณภาพ และความสอดคล้องของแบบ ฝึกทักษะ ซึ่งพบว่าผลการประเมินอยู่ในระดับดีมาก และจากการนำแบบฝึกทักษะไปทดลองใช้กับ นักเรียน ตามขั้นที่ 1 ขั้นทดลองรายบุคคล ขั้นที่ 2 ขั้นทดลองกลุ่มย่อย และขั้นที่ 3 ขั้นการทดลอง ภาคสนาม จำนวนทั้งหมด 30 คน พบว่านักเรียนสามารถเรียนรู้ได้เป็นอย่างดีและแบบฝึกทักษะมี ประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จากการอภิปรายผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวข้างต้น จึงลงข้อสรุปว่า การจัดกิจกรรมการ เรียนรู้เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดยการทดลองใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR มีผลต่อการพัฒนารูปแบบกิจกรรม ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานการ วิจัยที่กำหนดขึ้น คือ การจัดกิจกรรมการกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR มีผลต่อการ พัฒนารูปแบบกิจกรรม เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 ห้องเรียนที่ 1 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ 2. ผลการพัฒนาผลการเรียนรู้ของนักเรียน จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลในบทที่ 4 พบว่า ผลการเรียนรู้ของนักเรียนที่มีการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้องเรียนที่ 1 มีผลระดับผลการเรียนรู้ที่สูงขึ้นจากนวัตกรรมจากระดับ ผลการเรียนรู้ที่ 3.50 เพิ่มขึ้นเป็นระดับผลการเรียนรู้ 4.00 ทั้งนี้เป็นเพราะว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้ แบบการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 มีการ ดำเนินการสร้างเป็นลำดับขั้นตอนที่เหมาะสม โดยมีผู้เชี่ยวชาญประเมินความเหมาะสม ความสอดคล้อง ขององค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้และตรวจทาน และผู้วิจัยได้ปรับแก้ตามคำแนะนำของ ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้นครอบคลุมขอบเขตของเนื้อหาที่กำหนด และมีการลำดับ เนื้อหาที่เหมาะสม จึงส่งผลให้ การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีผลระดับผลการเรียนรู้
54 ที่สูงขึ้นจากนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เดิม ผลการวิเคราะห์ดังกล่าวยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ พัชฏา บุตรยะถาวร (2558) ที่ทำการวิจัย เรื่อง ระบบไหลเวียนเลือด โดยใช้วิธีการสอนแบบห้องเรียน กลับด้านด้วยการเรียนออนไลน์ และวิธีการสอนแบบสืบเสาะ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เปรียบเทียบ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างวิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านด้วยการเรียนออนไลน์ และวิธีการสอนแบบสืบเสาะ ผลการวิจัยพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยวิธีการสอนแบบห้องเรียน กลับด้านด้วยการเรียนออนไลน์สูงกว่าวิธีการสอนแบบสืบเสาะอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ ลัทธพล ด่านสกุล (2558) ที่ทำการวิจัยเรื่องโครงสร้างการ โปรแกรมและการกำกับตนเอง โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านด้วยพอดคาสต์โดยใช้ กลวิธีกำกับตนเองที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน เรื่อง โครงสร้างการระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 2. เพื่อพัฒนาเว็บไซต์พอดคาสต์ สำหรับการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านโดยใช้กลวิธีกำกับตนเอง และ 3. เพื่อเปรียบเทียบการกำกับ ตนเองระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ที่เรียนรู้ ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านโดยใช้กลวิธีการกำกับตนเองมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 นอกจากนี้การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบ การเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นเป็นการจัดการเรียนรู้ที่มีลักษณะเป็นการเรียนรู้จากแหล่ง เรียนรู้นอกชั้นเรียนที่เป็นการเรียนผ่าน AR ซึ่งทำให้ผู้เรียนสามารถที่จะเรียนรู้ได้ทุกที่และทุกเวลาก่อน เข้าชั้นเรียน ซึ่งการเรียนแบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR นั้นจะเป็นการกระตุ้นให้นักเรียนเกิดการ เรียนรู้ด้วยตัวนักเรียนเองและเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ อีกทั้งนักเรียนยังได้มีเวลาในการลงมือปฏิบัติทำ แบบฝึกหัดและงานที่ได้รับมอบหมายต่างๆ ที่ครูมอบหมายให้นักเรียนทำในชั่วโมง โดยมีครูเป็นผู้คอย ชี้แนะแนวทางในการหาคำตอบจากการทำกิจกรรมอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้นักเรียนมีเวลาว่างเพิ่มมาก ขึ้นและสามารถที่จะเตรียมความพร้อมก่อนเข้าชั้นเรียนได้อีกผลการวิเคราะห์ดังกล่าวยังสอดคล้องกับ งานวิจัยของ มนตรีศรี และทะนงศักดิ์ โสวจัสสตากุล (2562) ที่ทำการวิจัย เรื่อง สร้างงานแอนิเมชั่น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีเสมือนจริง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่าง กลุ่มที่เรียนผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริงกับกลุ่มที่เรียนด้วยวิธีปกติ ผลการวิจัยพบว่า ผลการเรียนรู้หลัง เรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้สื่อเทคโนโลยีเสมือนจริงสูงกว่านักเรียนที่เรียนรู้ด้วยวิธีแบบปกติอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จากการอภิปรายผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวข้างต้น จึงลงข้อสรุปว่า การจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดยการทดลองใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR มีผลต่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งสอดคล้องกับ สมมติฐานการวิจัยที่กำหนดขึ้น คือ การจัดกิจกรรมการกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ
55 AR มีผลต่อการพัฒนาผลการเรียนรู้เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 ของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้องเรียนที่ 1 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ 2. ระดับความพึงพอใจของนักเรียน จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลในบทที่ 4 พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความพึง พอใจต่อการทดลองรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR เรื่อง กระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( ̅ = 4.00 . = 0.78) ทั้งนี้เป็นเพราะว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ ด้วยแสงของพืช C3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ได้เพิ่มประสบการณ์เรียนรู้ของผู้เรียน ให้ผู้เรียน สนุกสานไปกับการเรียน อีกทั้งยังสร้างแรงจูงใจในการเรียน สะดวกเข้ากับยุคสมัยใหม่ สามารถเรียนรู้ได้ ตลอดเวลาไม่จำกัด กระตุ้นความคิดให้ผู้เรียนได้เห็นภาพมากขึ้น ซึ่งผลดังกล่าวสอดคล้องกับแนวคิด ทฤษฎี หลักการเทคโนโลยีเสมือนจริงกับการศึกษา ของ Di. Serio. et al. (2556) โดยการใช้เทคโนโลยี เสมือนจริงเพื่อ สร้างแรงจูงใจของนักเรียน โดยศึกษาปัจจัยที่ก่อให้เกิดแรงจูงใจในการเรียนซึ่งประกอบ 4 ด้าน คือ ความสนใจ ความสัมพันธ์กัน ความมั่นใจ และ ความพึงพอใจ ซึ่งผลปรากฏว่า ปัจจัย ที่ก่อให้เกิด แรงจูงใจในสภาพแวดล้อมที่เรียนด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง คือ ก่อให้เกิดความสนใจ และ เกิดความพึงพอใจของนักเรียนมาก นอกจากนี้ผลการวิเคราะห์ดังกล่าวยังสอดคล้องกับงานวิจัย ของปัญจรัตน์ ทับเปีย (2555) ที่ทำการวิจัย เรื่อง โครงสร้างและการทํางานของหัวใจ โดยใช้การพัฒนา สื่อประสมแบบโลกเสมือนผสานโลกจริง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่ใช้ สื่อประสมแบบโลกเสมือนผสานโลกจริง ผลการวิจัยพบว่า ความสนใจของนักเรียนที่มีต่อเนื้อหา รูปแบบการนําเสนอ และการใช้งานชุดสื่อประสม มีความคิดเห็นโดยรวมในระดับมากที่สุด (X = 4.77) นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ ณัฐพล รอทอง และวัชรินทร์ โพธิ์เงิน (2559) ที่ทำการ วิจัย เรื่อง หุ่นยนต์เดลต้า โดยใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry-Based Learning) ร่วมกับเทคโนโลยีความเสมือนจริง (Augmented Reality) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสิ่ง ที่เสมือนจริงให้กับผู้ใช้งาน ผลการวิจัยพบว่า ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อชุดการสอนอยู่ที่ระดับดี (X = 4.42, SD = 0.59) นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ อุบล ทองปัญญา (2559) ที่ทำการวิจัย เรื่อง ทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมผนวกวิธีการสอนบูรณาการ เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผู้สนับสนุนของการจัดการเรียนการสอน สภาพแวดล้อม วิธีการสอนบูรณาการเทคโนโลยีสารสนเทศ สื่อความเป็นจริงเสริม และกิจกรรมการจัดการเรียน การสอน ผลการวิจัยพบว่า ความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดทําให้ผู้เรียนมีความเข้าใจ ในบทเรียนได้ดีขึ้น และให้ความใส่ใจการเรียนมากขึ้น นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุรุจิรา
56 บุญเลิศ (2556) ที่ทำการวิจัย เรื่อง สารละลายกรด และเบส โดยใช้ บทปฏิบัติการทดลองเสมือนจริง โดยใช้โปรแกรม Yenka Science (Chemistry) โดยมีจุดประสงค์เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียน ที่มีผลต่อบทปฏิบัติการทดลองเสมือนจริงโดยใช้โปรแกรม Yenka Science (Chemistry) ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ระดับมาก (4.05 ± 0.68) จากการอภิปรายผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวข้างต้น จึงลงข้อสรุปว่า การจัด กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 โดยการทดลองใช้การจัดกิจกรรม การเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR มีผลต่อระดับความพึงพอใจของนักเรียน ซึ่งสอดคล้องกับ สมมติฐานการวิจัยที่กำหนดขึ้น คือ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 มีผลต่อระดับความพึงพอใจของนักเรียนระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้องเรียนที่ 1 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ ข้อเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะการใช้ประโยชน์ผลการวิจัย 1.1 ครูควรมีการศึกษาระบบ AR Vidinoti ที่ใช้สอน ทั้งนี้เพราะเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อ การเรียนรู้ของนักเรียน 1.2 การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านผ่านระบบ AR Vidinoti นั้นเหมาะสำหรับ นักเรียนที่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยี เช่น มีคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ เพื่อการใช้ งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ข้อเสนอแนะการศึกษาเพิ่มเติมหรือทำวิจัยต่อยอด 2.1 กิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านควรเป็นกิจกรรมที่มีความแปลกใหม่ และ เข้ากับวิถีชีวิตของผู้เรียนในปัจจุบันและอนาคต เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนมีความสนใจ 2.2 ควรมีการวิจัยเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ทางการเรียนและทักษะอื่นๆ ที่จำเป็นใน ศตวรรษที่ 21 ระหว่างรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านกับรูปแบบการสอนอื่นๆ 2.3 รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR มีข้อดี คือ 1. ช่วยให้ นักเรียนมีเวลามากพอในการทำแบบฝึกหัดหรือกิจกรรมต่างๆ และมีครูคอยให้คำแนะนำช่วยอย่างใกล้ชิด 2. นักเรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลารวมถึงสามารถเรียนซ้ำในเนื้อหานั้นได้ตลอด 3. ช่วยให้ครูและ นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้นระหว่างการทำกิจกรรม และ 4. มุ่งเน้นให้นักเรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ดังนั้นจึงควรนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ AR ไปใช้ในหัวข้ออื่น วิชาอื่น หรือระดับชั้นอื่น ตามความเหมาะสม
บรรณานุกรม
58 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. (2511). การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2566, จาก https://tic.kku.ac.th กวินธร รัฐอาจ. (2558). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านด้วยคลังรายวิชา ออนไลน์ แบบเปิด. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. มหาสารคาม. บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหาสารคาม. จันทิมา ปัทมธรรมกุล. (2556). Getting to know Flipped Classroom. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2566, จาก http://www2.li.kmutt.ac.th. ชวนพิศ จะรา. (2556). Augmented Reality. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2566, จากhttp://citeseerx.ist .psu.edu ณัฐพล รอทองและวัชรินทร์ โพธิ์เงิน. (2559).การพัฒนาและหาประสิทธิภาพชุดการสอน เรื่องหุ่นยนต์ เดลต้า โดยใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry-Based Learning) ร่วมกับเทคโนโลยีความเสมือนจริง. การประชุมวิชาการครุศาสตร์อุตสาหกรรมระดับชาติครั้งที่ 9 คณะ ครุศาสตร์อุตสาหกรรม. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. ดนัย บุณยเกียรติ. (2546). กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2566, จาก www.digitalschool.com นงคราญ ศรีสะอาด. (2556). การสร้างสภาพแวดล้อมทางการเรียนจากเทคโนโลยีเสมือนจริงโดยใช้ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบ สุริยะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ ปริญญาครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสารมวลชน คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. นุชนภา พลสรรค์. (2558). การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยบทปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์เรื่องพันธะไอโอนิค. ปริญญานิพนธ์สาขาเคมี คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราช ภัฏบุรีรัมย์. บุญชม ศรีสะอาด. (2555). การวิจัยเบื้องต้น ฉบับปรับปรุงใหม่. บริษัทสุวีริยาสาส์น จำกัด. กรุงเทพฯ. ปัญจรัตน์ ทับเปีย. (2555). การพัฒนาชุดสื่อประสมแบบโลกเสมือนผสานโลกจริง เรื่อง โครงสร้างและ การทํางานของหัวใจ สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยนเรศวร. พนิดา ตันศิริ. (2553). โลกเสมือนผสานโลกจริง Augmented Reality. Executive Journal. 28(2), 169-175.
59 พัชฎา บุตรยะถาวร. (2558). ผลการสอนของวิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านด้วยการเรียนออนไลน์ กับวิธีการสอนแบบสืบเสาะ เรื่อง ระบบไหลเวียนโลหิต. วิทยานิพนธ์ วท.ม. (ชีววิทยาศึกษา) มหาสารคาม บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ไพฑูรย์ ศรีฟ้า. (2553). การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีสื่อแผ่นพับ กับภาพ 3 มิติ เสมือนจริง (AR). สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2566, จาก http://www.drpaitoon.com ภสิทธ เมตตพันธ์. (2556). การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้นอกห้องเรียนด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์โดยใช้ เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อส่งเสริมทักษะการสังเกตและทักษะการ จำแนกประเภทของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ระพินทร์ โพธิ์ศรี. (2549). สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล. หลักการวัดและประเมินผลการเรียนรู้. โรง พิมพ์เลิศไพศาลการพิมพ์. แพร่. ลัทธพล ด่านสกุล. (2558). ผลของการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านด้วยพอดคาสต์โดยใช้กลวิธี การกำกับตนเองที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โครงสร้างการโปรแกรม และการกำกับ ตนเอง ของนักเรียนห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์. วิทยานิพนธ์ วท.ม. (คอมพิวเตอร์ศึกษา) บัณฑิตวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. ลัลน์ลลิต เอี่ยมอำนวยสุข. (2556). การสร้างสื่อบนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพา เรื่องการเคลื่อนไหวใน ระบบดิจิตอลเบื้องต้นที่ใช้วิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน. วิทยานิพนธ์ วท.ม. (คอมพิวเตอร์ เพื่อการสื่อสาร) บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. วรัทยา มณีรัตน์. (2560). การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านวิชาเคมี เรื่อง กรด-เบส สำหรับนักเรียนห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์. ปริญญานิพนธ์ สาขาวิชาเคมี คณะการ ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. วัชระศักดิ์ วรรณโยธา. (2559). การพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. ปริญญานิพนธ์ สาขาเคมี คณะการศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรี นทรวิโรฒ. วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพ: มูลนิธิสดศรีสฤษดิ์วงษ์. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2560). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่ง ประเทศไทย. กรุงเทพมหานครฯ. สุนทรี มนตรีศรี และทะนงศักดิ์ โสวจัสสตากุล. (2562). การพัฒนาสื่อเทคโนโลยีเสมือนจริง เรื่องสร้าง งานแอนิเมชั่นสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วาระสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม. 18 (2), 40-47.
60 สุมาลี จันทรชลอ. (2533). ผลการฝกทักษะการรูคิดตอการคิดรวบยอด. ปริญญานิพนธ กศ.ด. (การวิจัย และพัฒนาหลักสูตร). บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. สุรศักดิ์ ปาเฮ. (2556). ห้องเรียนกลับทาง ห้องเรียนมิติใหม่ในศตวรรษที่ 21. เอกสารประกอบการ ประชุมผู้บริหารโรงเรียน. แพร่: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่เขต 2. สุรุจิรา บุญเลิศ. (2560). จัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสารละลายกรดและเบสด้วยบทปฏิบัติการทดลอง เสมือนจริงโดยใช้โปรแกรม Yenka Science (Chemistry). ปริญญานิพนธ์สาขาเคมี คณะการ ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนทรวิโรฒ. เสาวภา กลิ่นสูงเนิน สมเกียรติ ตันติวงศ์วาณิช และศิริรัตน์ เพ็ชรแสงศรี. (2558). การพัฒนาสื่อ เทคโนโลยีเสมือนจริง เรื่องหลักการทํางานของคอมพิวเตอร์ สําหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม. 14 (3), 288-295. อิสระ ทับสีสด. (2560). การปรับปรุงผลการเรียนรู้ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้น ม.3 จาก เรื่องการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ด้วยชุดบทปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ที่ใช้ทฤษฎีการสร้าง ความรู้ด้วยตนเอง. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์. อุบล ทองปัญญา. (2559). การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมผนวก วิธีการสอนบูรณาการเทคโนโลยีสารสนเทศในระดับอุดมศึกษา. ดุษฎีนิพนธ์ศึกษาศาสตร์ดุษฎี บัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. Azuma. (2540). Recent advances in augmented reality. IEEE Computer graphics and Applications. 21(6). 34–47. Bergmann; & Sams. (2556). แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2566, จาก http://rujinannn.blogspot.com/2014/03/1.html Di Serio, Á., Ibáñez, M. B., & Kloos, C. D. (2013). Impact of an augmented reality system on students’ motivation for a visual art course. Computers & Education, pp586 - 596. Gerstein. (2556). องค์ประกอบของการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนแบบกลับด้าน. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2566, จาก http://www.usnews.com Jonathan, B.; & Aaron, S. (2555). Flip Your Classroom Reach Every Student in Every Class Every Day. Intl Society for Technology in educ. Nincarean,D., Ali, M,. Halim, D,. & AbdulRahman, M, H,. (2013). Mobile augmented.
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก รายนามผู้เชี่ยวชาญตรวจเครื่องมือในการวิจัย
รายนามผู้เชี่ยวชาญตรวจเครื่องมือในการวิจัย นางสาวสุรินทร์ทิพย์ คำอ้าย ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการ กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ นางสาธิยา สารเถื่อนแก้ว ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีโรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ นางปัทมาภรณ์ โมรารักษ์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการ กลุ่มสาระภาษาไทย โรงเรียน ท่าปลาประชาอุทิศ
ภาคผนวก ข แบบประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา แบบประเมินความเหมาะสมของนวัตกรรม ข้อสอบฉบับร่าง
แบบประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) ของแบบประเมินความเหมาะสมของ นวัตกรรม ที่ใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR (Augmented Reality) เพื่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สำหรับผู้เชี่ยวชาญ คำชี้แจง 1. แบบประเมินที่สร้างขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบประเมินความ เหมาะสมของนวัตกรรม ที่ใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR (Augmented Reality) เพื่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ภาคเรียน ที่ 1 ปีการศึกษา 2566 2. วิธีการประเมินจะประเมินด้วยค่าดรรชนีความสอดคล้อง (Index of Item-Objective Congruence: IOC) 3. ผลการประเมินของแต่ละข้อคำถาม (Item) ของแต่ละด้านมีคะแนน 3 ระดับ โดย 3.1 ข้อคำถามใดที่ท่านเห็นว่าสอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน มีระดับคะแนน +1 3.2 ข้อคำถามใดที่ท่านไม่แน่ใจว่าสอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน มีระดับคะแนน 0 3.3 ข้อคำถามใดที่ท่านเห็นว่าไม่สอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน มีระดับคะแนน -1 4. ให้ท่านทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องแต่ละรายการประเมินของแต่ละด้านตามความเห็นของท่าน 5. ขณะที่ท่านทำการประเมินหากพบรายการใดที่เห็นว่าสมควรปรับปรุงแก้ไขขอความอนุเคราะห์โปรด ให้ข้อเสนอแนะหรือทำการแก้ไขจักกราบขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
ตาราง แบบประเมินความเหมาะสมของนวัตกรรม ที่ใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมการ เรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR (Augmented Reality) เพื่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ที่ รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ผลการประเมิน หมาย -1 0 +1 เหตุ 1. ด้านเนื้อหา 1.1 เนื้อหามีความสอดคล้องกับจุดประสงค์ 1.2 เนื้อหามีความถูกต้อง 1.3 ความเหมาะสมของปริมาณเนื้อหา 1.4 ความชัดเจนในการนำเสนอเนื้อหา 2 ด้านคุณภาพการสอน 2.1 บทเรียนสามารถให้ผลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ 2.2 ความยากง่ายเหมาะสมกับผู้ใช้ 2.3 การใช้ภาพและเสียงเหมาะสมกับเนื้อเรื่อง 2.4 บทเรียนสามารถประสานกับประสบการณ์เดิมของผู้เรียนได้ 3 ด้านการออกแบบ 3.1 น่าสนใจ มีภาพเคลื่อนไหวดึงดูดใจ กระตุ้นให้เกิดความสนใจ 3.2 ความน่าสนใจของเสียงประกอบ 3.3 ความชัดเจนของคำแนะนำการใช้งาน 3.4 เมนูหลักมีโครงสร้าง/ องค์ประกอบ ครบถ้วนเหมาะสม 3.5 การนำเสนอแต่ละตอนเหมาะสม 3.6 การออกแบบการนำเสนอเหมาะสม 3.7 ลำดับขั้นตอนการนำเสนอเหมาะสม 3.8 มีความครบถ้วนของเนื้อหา สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง 4 ด้านองค์ประกอบด้านมัลติมีเดีย 4.1 ลักษณะ ขนาด สีของตัวอักษร ชัดเจน สวยงาน อ่านง่าย และ เหมาะสมกับระดับชั้นที่เรียน 4.2 ความเหมาะสมของสีพื้น กับเนื้อหาที่นำเสนอ 4.3 ภาพ/ ภาพเคลื่อนไหว/ เสียง/ วีดีโอที่ใช้เหมาะสมกับเนื้อหา และ สื่อการเรียนรู้ได้ดี
ที่ รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ผลการประเมิน หมาย -1 0 +1 เหตุ 4.4 สีพื้น ปุ่มควบคุม การปรากฏตัวของ ข้อความ/ภาพนิ่ง/ ภาพเคลื่อนไหว มีความคงเส้นคงวา 4.5 มีการใช้สี/ สัญลักษณ์/ อักษรพิเศษ เพื่อเน้นข้อความที่เป็นข้อความ ที่เป็นคำสำคัญของเนื้อหา 5 ด้านการมีปฏิสัมพันธ์ 5.1 สื่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียนอย่างเหมาะสม 5.2 ตอบสนองต่อความแตกต่างระหว่างบุคคล 5.3 บทเรียนมีความยืดหยุ่น มีเมนู/ปุ่มให้ผู้เรียนควบคุมบทเรียนได้ สะดวก 5.4 การใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน สะดวกต่อการใช้งาน ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อผู้ประเมิน.............................................................. (..........................................................) วันที่............ เดือน........................... พ.ศ. ................
แบบประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) ของแบบประเมินความเหมาะสม แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR (Augmented Reality) เพื่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วย แสงของพืช C3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สำหรับผู้เชี่ยวชาญ คำชี้แจง 1. แบบประเมินที่สร้างขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบประเมิน แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR (Augmented Reality) เพื่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 2. วิธีการประเมินจะประเมินด้วยค่าดรรชนีความสอดคล้อง (Index of Item-Objective Congruence: IOC) 3. ผลการประเมินของแต่ละข้อคำถาม (Item) ของแต่ละด้านมีคะแนน 3 ระดับ โดย 3.1 ข้อคำถามใดที่ท่านเห็นว่าสอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน มีระดับคะแนน +1 3.2 ข้อคำถามใดที่ท่านไม่แน่ใจว่าสอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน มีระดับคะแนน 0 3.3 ข้อคำถามใดที่ท่านเห็นว่าไม่สอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน มีระดับคะแนน -1 4. ให้ท่านทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องแต่ละรายการประเมินของแต่ละด้านตามความเห็นของท่าน 5. ขณะที่ท่านทำการประเมินหากพบรายการใดที่เห็นว่าสมควรปรับปรุงแก้ไขขอความอนุเคราะห์โปรด ให้ข้อเสนอแนะหรือทำการแก้ไขจักกราบขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
ตาราง แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมการเรียนรู้ ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR (Augmented Reality) เพื่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศอำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ที่ รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ผลการประเมิน หมาย -1 0 +1 เหตุ 1 สาระสำคัญ 1.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 1.2 มีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน 1.3 เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 1.4 มีความชัดเจน เข้าใจง่าย 2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 2.2 ภาษาที่ใช้มีความชัดเจนเข้าใจง่าย 2.3 เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 2.4 ระบุพฤติกรรมที่สามารถวัดและประเมินได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 3.2 มีคำชี้แจงชัดเจน เข้าใจได้ง่าย 3.3 มีความยากง่ายเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 3.4 น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน 4 กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4.1 สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 4.2 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4.3 เหมาะกับเวลาที่ใช้จัดกิจกรรม 4.4 เร้าความสนใจให้ผู้เรียนกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และเข้าร่วม กิจกรรม 4.5 กิจกรรมการเรียนรู้เป็นไปตามขั้นตอน 4.6 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม
ที่ รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ผลการประเมิน หมาย -1 0 +1 เหตุ 5 สื่อการเรียน 5.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 5.2 สอดคล้องกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และกิจกรรม 5.3 เร้าความสนใจของนักเรียน 5.4 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการใช้ 5.5 เหมาะสมกับวัยและความสนใจของผู้เรียน 6 การวัดและประเมินผล 6.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 6.2 สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 6.3 การวัดที่ระบุไว้สามารถประเมินได้ 6.4 ใช้เครื่องมือวัดได้เหมาะสม ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อผู้ประเมิน.............................................................. (..........................................................) วันที่............ เดือน........................... พ.ศ. ................
แบบประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) ของแบบประเมินความพึงพอใจ ที่ใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR (Augmented Reality) เพื่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สำหรับผู้เชี่ยวชาญ คำชี้แจง 1. แบบประเมินที่สร้างขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบประเมินความ พึงพอใจ ที่ใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR (Augmented Reality) เพื่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 2. วิธีการประเมินจะประเมินด้วยค่าดรรชนีความสอดคล้อง (Index of Item-Objective Congruence: IOC) 3. ผลการประเมินของแต่ละข้อคำถาม (Item) ของแต่ละด้านมีคะแนน 3 ระดับ โดย 3.1 ข้อคำถามใดที่ท่านเห็นว่าสอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน มีระดับคะแนน +1 3.2 ข้อคำถามใดที่ท่านไม่แน่ใจว่าสอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน มีระดับคะแนน 0 3.3 ข้อคำถามใดที่ท่านเห็นว่าไม่สอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน มีระดับคะแนน -1 4. ให้ท่านทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องแต่ละรายการประเมินของแต่ละด้านตามความเห็นของท่าน 5. ขณะที่ท่านทำการประเมินหากพบรายการใดที่เห็นว่าสมควรปรับปรุงแก้ไขขอความอนุเคราะห์โปรด ให้ข้อเสนอแนะหรือทำการแก้ไขจักกราบขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
ตาราง แบบประเมินความพึงพอใจ ที่ใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับ ด้าน ร่วมกับ AR (Augmented Reality) เพื่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วย แสงของพืช C3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ อำเภอท่าปลา จังหวัด อุตรดิตถ์ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ที่ รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ผลการประเมิน หมาย -1 0 +1 เหตุ 1. ด้านการใช้งานบทเรียน 1.1 ความรวดเร็วในการเข้าสู่ระบบ 1.2 เมนูหลักเข้าใจง่ายในการเข้าถึงข้อมูล 1.3 การออกจากระบบง่ายและรวดเร็ว 1.4 ความเร็วในการแสดงผลของภาพและบทเรียน 1.5 ช่องทางในการติดต่อสื่อสารมีความสะดวก รวดเร็ว 1.6 การเชื่อมโยงภายในบทเรียนต่อเนื่องกัน 2 ด้านเนื้อหา 2.1 เนื้อหามีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ 2.2 ความถูกต้องของเนื้อหา 2.3 ความชัดเจนในการอธิบายเนื้อหา 2.4 เนื้อหาบทเรียนมีความน่าสนใจ 2.5 เนื้อหากับระดับความรู้ของผู้เรียนมีความเหมาะสม 3 ด้านภาพ เสียง และการใช้ภาษา 3.1 ภาพที่นำเสนอตรงตามเนื้อหา 3.2 ขนาดของภาพที่ใช้ประกอบบทเรียนมีความเหมาะสม 3.3 ภาพที่ใช้ประกอบมีความหมายชัดเจน 3.4 เสียงที่ใช้ประกอบบทเรียนชัดเจน 3.5 การออกเสียงบรรยายถูกต้องตามอักขระ ไวยากรณ์ 4 ด้านการออกแบบภาพจอ 4.1 ความเหมาะสมของตัวอักษร 4.2 ความเหมาะสมของขนาดตัวอักษรที่เลือกใช้ 4.3 ความเหมาะสมของสีตัวอักษรกับพื้นจอภาพ
ที่ รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ผลการประเมิน หมาย -1 0 +1 เหตุ 5 ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน 5.1 ระยะเวลาของการร่วมกิจกรรม 5.2 จำนวนของกิจกรรมที่กำหนดให้ทำในบทเรียน 5.3 ความยากง่ายของการนำเสนอเหมาะสม ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อผู้ประเมิน.............................................................. (..........................................................) วันที่............ เดือน........................... พ.ศ. ................
แบบประเมินความเหมาะสมของนวัตกรรมที่มีผลต่อการจัดการเรียนรู้ที่ใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ แบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR (Augmented Reality) เพื่อการพัฒนาผล การเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 คำชี้แจง 1. จุดประสงค์แบบประเมินความเหมาะสมของนวัตกรรมที่มีผลต่อการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR (Augmented Reality) เพื่อการพัฒนาผลการเรียนรู้เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียน ท่าปลาประชาอุทิศ อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 2. แต่ละคำถามของแบบประเมินความความสอดคล้องแต่ละด้านจะเป็นแบบประมาณค่า 5 อันดับคือ ระดับ 5 หมายถึง มีความสอดคล้องแต่ละข้อคำถามมีคุณภาพระดับ เหมาะสมที่สุด ระดับ 4 หมายถึง มีความสอดคล้องแต่ละข้อคำถามมีคุณภาพระดับ ค่อนข้างเหมาะสม ระดับ 3 หมายถึง มีความสอดคล้องแต่ละข้อคำถามมีคุณภาพระดับ เหมาะสมปานกลาง ระดับ 2 หมายถึง มีความสอดคล้องแต่ละข้อคำถามมีคุณภาพระดับ ค่อนข้างเหมาะสมที่สุด ระดับ 1 หมายถึง มีความสอดคล้องแต่ละข้อคำถามมีคุณภาพระดับ ไม่เหมาะสมที่สุด ที่ รายการที่ทำการประเมิน ระดับคะแนน 1 2 3 4 5 1 ด้านเนื้อหา 1.1 เนื้อหามีความสอดคล้องกับจุดประสงค์ 1.2 เนื้อหามีความถูกต้อง 1.3 ความเหมาะสมของปริมาณเนื้อหา 1.4 ความชัดเจนในการนำเสนอเนื้อหา 2 ด้านคุณภาพการสอน 2.1 บทเรียนสามารถให้ผลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ 2.2 ความยากง่ายเหมาะสมกับผู้ใช้ 2.3 การใช้ภาพและเสียงเหมาะสมกับเนื้อเรื่อง 2.4 บทเรียนสามารถประสานกับประสบการณ์เดิมของผู้เรียนได้
ที่ รายการที่ทำการประเมิน ระดับคะแนน 1 2 3 4 5 3 ด้านการออกแบบ 3.1 น่าสนใจ มีภาพเคลื่อนไหวดึงดูดใจ กระตุ้นให้เกิดความสนใจ 3.2 ความน่าสนใจของเสียงประกอบ 3.3 ความชัดเจนของคำแนะนำการใช้งาน 3.4 เมนูหลักมีโครงสร้าง/ องค์ประกอบ ครบถ้วนเหมาะสม 3.5 การนำเสนอแต่ละตอนเหมาะสม 3.6 การออกแบบการนำเสนอเหมาะสม 3.7 ลำดับขั้นตอนการนำเสนอเหมาะสม 3.8 มีความครบถ้วนของเนื้อหา สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง 4 ด้านการออกแบบ 4.1 ลักษณะ ขนาด สีของตัวอักษร ชัดเจน สวยงาน อ่านง่าย และ เหมาะสมกับระดับชั้นที่เรียน 4.2 ความเหมาะสมของสีพื้น กับเนื้อหาที่นำเสนอ 4.3 ภาพ/ ภาพเคลื่อนไหว ที่ใช้เหมาะสมกับเนื้อหา และสื่อการเรียนรู้ ได้ดี 4.4 สีพื้น ปุ่มควบคุม การปรากฏตัวของ ข้อความ/ภาพนิ่ง/ ภาพเคลื่อนไหว มีความคงเส้นคงวา 4.5 มีการใช้สี/ สัญลักษณ์/ อักษรพิเศษ เพื่อเน้นข้อความที่เป็น ข้อความที่เป็นคำสำคัญของเนื้อหา 5 ด้านการมีปฏิสัมพันธ์ 5.1 สื่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียนอย่างเหมาะสม 5.2 ตอบสนองต่อความแตกต่างระหว่างบุคคล 5.3 บทเรียนมีความยืดหยุ่น มีเมนู/ปุ่มให้ผู้เรียนควบคุมบทเรียนได้ สะดวก 5.4 การใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน สะดวกต่อการใช้งาน
ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ...............................................ผู้ประเมิน (.........................................) ............./................/..............
แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียน กลับด้าน ร่วมกับ AR (Augmented Reality) เพื่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ อำเภอ ท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 คำชี้แจง 1. แบบประเมินที่สร้างขึ้นสำหรับแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ กิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR (Augmented Reality) 2. จุดประสงค์ประเมินความความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับสาระการเรียนรู้และ จุดประสงค์การเรียนรู้ 3. แต่ละคำถามของแบบประเมินความความสอดคล้องแต่ละด้านจะเป็นแบบประมาณค่า 5 อันดับคือ ระดับ 5 หมายถึง มีความสอดคล้องแต่ละข้อคำถามมีคุณภาพระดับ เหมาะสมที่สุด ระดับ 4 หมายถึง มีความสอดคล้องแต่ละข้อคำถามมีคุณภาพระดับ ค่อนข้างเหมาะสม ระดับ 3 หมายถึง มีความสอดคล้องแต่ละข้อคำถามมีคุณภาพระดับ เหมาะสมปานกลาง ระดับ 2 หมายถึง มีความสอดคล้องแต่ละข้อคำถามมีคุณภาพระดับ ค่อนข้างเหมาะสมที่สุด ระดับ 1 หมายถึง มีความสอดคล้องแต่ละข้อคำถามมีคุณภาพระดับ ไม่เหมาะสมที่สุด ที่ รายการที่ทำการประเมิน ระดับคะแนน 1 2 3 4 5 1 สาระสำคัญ 1.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 1.2 มีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน 1.3 เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 1.4 มีความชัดเจน เข้าใจง่าย 2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 2.2 ภาษาที่ใช้มีความชัดเจนเข้าใจง่าย 2.3 เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 2.4 ระบุพฤติกรรมที่สามารถวัดและประเมินได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
ที่ รายการที่ทำการประเมิน ระดับคะแนน 1 2 3 4 5 3.2 มีคำชี้แจงชัดเจน เข้าใจได้ง่าย 3.3 มีความยากง่ายเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 3.4 น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน 4 กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4.1 สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 4.2 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4.3 เหมาะกับเวลาที่ใช้จัดกิจกรรม 4.4 เร้าความสนใจให้ผู้เรียนกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และเข้าร่วม กิจกรรม 4.5 กิจกรรมการเรียนรู้เป็นไปตามขั้นตอน 4.6 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม 5 สื่อการเรียน 5.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 5.2 สอดคล้องกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และกิจกรรม 5.3 เร้าความสนใจของนักเรียน 5.4 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการใช้ 5.5 เหมาะสมกับวัยและความสนใจของผู้เรียน 6 การวัดและประเมินผล 6.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 6.2 สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 6.3 การวัดที่ระบุไว้สามารถประเมินได้ 6.4 ใช้เครื่องมือวัดได้เหมาะสม
รวมคะแนน.....................คะแนน ค่าเฉลี่ย.......................... ระดับคุณภาพ..................... ค่าเฉลี่ยระหว่าง 4.50 – 5.00 หมายถึง คุณภาพในระดับดีมาก 3.50 – 4.49 หมายถึง คุณภาพในระดับดี 2.50 – 3.49 หมายถึง คุณภาพในระดับพอใช้ 1.50 – 2.49 หมายถึง คุณภาพในระดับควรปรับปรุง 1.00 – 1.49 หมายถึง คุณภาพในระดับไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ลงชื่อ...............................................ผู้ประเมิน (.........................................) ............./................/..............
แบบประเมินความพึงพอใจที่มีผลต่อการจัดการเรียนรู้ที่ใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรม การเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR (Augmented Reality) เพื่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนท่าปลา ประชาอุทิศ อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 คำชี้แจง 1. จุดประสงค์แบบประเมินความความพึงพอใจที่มีผลต่อการจัดการเรียนรู้ที่ใช้กระบวนการจัดการ เรียนรู้แบบกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับ AR (Augmented Reality) เพื่อการพัฒนา ผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 2. แต่ละคำถามของแบบประเมินความความสอดคล้องแต่ละด้านจะเป็นแบบประมาณค่า 5 อันดับคือ ระดับ 5 หมายถึง มีความสอดคล้องแต่ละข้อคำถามมีคุณภาพระดับ เหมาะสมที่สุด ระดับ 4 หมายถึง มีความสอดคล้องแต่ละข้อคำถามมีคุณภาพระดับ ค่อนข้างเหมาะสม ระดับ 3 หมายถึง มีความสอดคล้องแต่ละข้อคำถามมีคุณภาพระดับ เหมาะสมปานกลาง ระดับ 2 หมายถึง มีความสอดคล้องแต่ละข้อคำถามมีคุณภาพระดับ ค่อนข้างเหมาะสมที่สุด ระดับ 1 หมายถึง มีความสอดคล้องแต่ละข้อคำถามมีคุณภาพระดับ ไม่เหมาะสมที่สุด ที่ รายการที่ทำการประเมิน ระดับคะแนน 1 2 3 4 5 1 ด้านการใช้งานบทเรียน 1.1 ความรวดเร็วในการเข้าสู่ระบบ 1.2 เมนูหลักเข้าใจง่ายในการเข้าถึงข้อมูล 1.3 การออกจากระบบง่ายและรวดเร็ว 1.4 ความเร็วในการแสดงผลของภาพและบทเรียน 1.5 ช่องทางในการติดต่อสื่อสารมีความสะดวก รวดเร็ว 1.6 การเชื่อมโยงภายในบทเรียนต่อเนื่องกัน 2 ด้านเนื้อหา 2.1 เนื้อหามีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ 2.2 ความถูกต้องของเนื้อหา 2.3 ความชัดเจนในการอธิบายเนื้อหา 2.4 เนื้อหาบทเรียนมีความน่าสนใจ 2.5 เนื้อหากับระดับความรู้ของผู้เรียนมีความเหมาะสม
ที่ รายการที่ทำการประเมิน ระดับคะแนน 1 2 3 4 5 3 ด้านภาพ เสียง และการใช้ภาษา 3.1 ภาพที่นำเสนอตรงตามเนื้อหา 3.2 ขนาดของภาพที่ใช้ประกอบบทเรียนมีความเหมาะสม 3.3 ภาพที่ใช้ประกอบมีความหมายชัดเจน 3.4 เสียงที่ใช้ประกอบบทเรียนชัดเจน 3.5 การออกเสียงบรรยายถูกต้องตามอักขระ ไวยากรณ์ 4 ด้านการออกแบบภาพจอ 4.1 ความเหมาะสมของตัวอักษร 4.2 ความเหมาะสมของขนาดตัวอักษรที่เลือกใช้ 4.3 ความเหมาะสมของสีตัวอักษรกับพื้นจอภาพ 5 ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน 5.1 ระยะเวลาของการร่วมกิจกรรม 5.2 จำนวนของกิจกรรมที่กำหนดให้ทำในบทเรียน 5.3 ความยากง่ายของการนำเสนอเหมาะสม 5.4 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการใช้ 5.5 เหมาะสมกับวัยและความสนใจของผู้เรียน ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ...............................................ผู้ประเมิน (.........................................) ............./................/..............
ข้อสอบฉบับร่าง โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ข้อสอบการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 รายวิชาชีววิทยา 3 รหัสวิชา ว 32242 เวลา 40 นาที คะแนนเต็ม 20 คำชี้แจง 1. ข้อสอบมีจำนวน 4 หน้า ประกอบด้วย 2 ตอน ตอนที่ 1 ข้อสอบเป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ 10 คะแนน ตอนที่ 2 ข้อสอบเป็นแบบถูก-ผิด แบบประยุกต์ จำนวน 10 ข้อ 10 คะแนน 2. ก่อนทำข้อสอบ ให้เขียนชื่อ –นามสกุล ห้อง เลขที่สอบ ในกระดาษคำตอบให้ชัดเจน ผลการเรียนรู้10. อธิบายขั้นตอนที่เกิดขึ้นในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 1. พืชมีกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง อยากทราบว่าแสงสีใดและรงควัตถุชนิดใดรับแสงสีนั้นได้ดี ก. แสงสีเหลือง โดยมีแคโรทีนอยด์เป็นตัวรับแสงสี ข. แสงสีเหลือง โดยมีแคโรฟิลล์เป็นตัวรับแสงสี ค. แสงสีน้ำเงินและแสงสีแดง โดยมีแคโรทีนอยด์เป็นตัวรับแสงสี ง. แสงสีน้ำเงินและแสงสีแดง โดยมีคลอโรฟิลล์เป็นตัวรับแสงสี 2. แสงสีที่พืชนำไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงน้อยที่สุดคือ ก. เขียว ข. น้ำเงิน ค. แดง ง. ส้ม 3. ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง การสังเคราะห์ ATP เกิดขึ้นที่ ................. ส่วนการสังเคราะห์น้ำตาลเกิดขึ้นที่................ ก. Mitochondria, Stroma ข. Stroma, Thylakoid ค. Thylakoid, Stroma ง. Thylakoid, Cytoplasm 4. เมมเบรนที่ซ้อนเป็นชั้นๆ ในคลอโรพลาสต์เรียกว่าอะไร ก. ลูเมน ข. กรานุม ค. ไทลาคอยด์ ง. สโตรมา 5. จงเรียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระบบแสง II 1. คลอโรฟิลล์ที่เป็นศูนย์กลางปฏิกิริยาถูกกระตุ้น 2. การส่งต่ออิเล็กตรอนจากศูนย์กลางปฏิกิริยาไปยังตัวรับอิเล็กตรอน 3. การส่งต่ออิเล็กตรอนจากน้ำไปยังคลอโรฟิลล์ที่เป็นศูนย์กลางปฏิกิริยา 4. พลังงานแสงกระตุ้นโมเลกุลของคลอโรฟิลล์ (ที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดพลังงาน) ก. 2 3 4 1 ข. 2 1 3 4 ค. 4 1 2 3 ง. 1 2 3 4
C G B F D E A 6. ในวัฏจักรคัลวินของกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงนั้น CO2 ทำปฏิกิริยากับสารใด ก. hydrogen ข. ATP synthase ค. ribulose bisphosphate ง. Phosphoglycerric acid 7. สารประกอบในข้อใดคือสารที่สเถียรตัวแรกของการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชทั่วไป ก. G3P ข. PGA ค. PGAL ง. กลูโคส 8. วัฏจักรคัลวินในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชเกิดขึ้นที่บริเวณใด ก. ลูเมน ข. กรานุม ค. สโตรมา ง. เยื่อหุ้มเซลล์ 9. น้ำตาลตัวแรกที่ได้จากการสังเคราะห์ด้วยแสงคือ ก. PGA ข. PGAL ค. น้ำตาลกลูโคส ง. น้ำตาลฟรุกโตส 10. ข้อใดเป็นสิ่งที่ทำให้ PGA เปลี่ยนเป็น PGAL ก. ATP และ NADPH ข. ADP และ NADPH ค. ATP และ NADP+ ง. ADP และ NADP+ 11. คลอโรฟิลล์ชนิดใดเป็นศูนย์กลางปฏิกิริยาของระบบแสง ก. คลอโรฟิลล์ เอ ข. คลอโรฟิลล์ บี ค. คลอโรฟิลล์ ซี ง. คลอโรฟิลล์ อี จากรูปต่อไปนี้จงตอบคำถามข้อที่ 12-13 12. ตำแหน่ง A และ E คืออะไร ก. P700 และ P680 ข. P680 และ P700
ค. H2O และ ADP + Pi → ATP ง. Ferredoxin และ ADP + Pi → ATP 13. ตำแหน่ง D และ G คืออะไร ก. ADP + Pi → ATP และ NADP+ + H+ → NADPH ข. NADP+ + H+ → NADPH และ ADP + Pi → ATP ค. ADP + Pi → ATP และ Ferredoxin ง. Hydrolysis และ NADP+ + H+ → NADPH จากรูปต่อไปนี้จงตอบคำถามข้อที่ 14-15 1. อิเล็กตรอนถูกส่งต่อไปยังไซโทโครมคอมเพล็กซ์ 2. อิเล็กตรอนถูกส่งกลับมายังระบบแสง I 3. แสงกระตุ้นระบบแสง I เกิดการถ่ายทอดอิเล็กตรอนไปยังตัวรับอิเล็กตรอนเฟอริดอกซิน 4. เกิดการสังเคราะห์พลังงานเพียง ATP เท่านั้น 14. ข้อใดเรียงลำดับได้ถูกต้อง ก. 2 3 4 1 ข. 2 3 1 4 ค. 3 1 4 2 ง. 3 1 2 4 15. จากรูปภาพนี้มีชื่อเรียกว่าอะไร ก. non-cyclic electron transfer ข. cyclic electron transfer ค. non- cyclic transfer electron ง. cyclic transfer electron 16. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับคลอโรพลาสต์ ก. คลอโรพลาสต์มีเยื่อหุ้มชั้นเดียว ข. กรานุม คือ เนื้อเยื่อส่วนที่พับเหมือนเป็นถุงที่มีลักษณะแบนซ้อนทับกันเป็นชั้น
ค. ไทลาคอยด์ คือ เนื้อเยื่อส่วนที่พับเหมือนเป็นถุงที่มีลักษณะแบนซ้อนทับกันเป็นชั้น ง. สโตรมา คือ เนื้อเยื่อของไทลาคอยด์ส่วนที่ไม่ได้ซ้อนทับกันซึ่งอยู่ระหว่างกรานุม 17. เมื่อส่องไฟตรงไปยังสารละลายคลอโรฟิลล์ แถบคลื่นแสงที่สะท้อนออกมาจากสารละลายนั้นมากที่สุดคือคลื่นแสงใด ก. ส้ม ข. แดง ค. เขียว ง. น้ำเงิน 18. ในการทดลองโดยใช้สาหร่ายสีเขียวใส่ในน้ำที่ผ่านแสงและให้คาร์บอนกัมมันตรังสี เพื่อให้เกิดการสังเคราะห์ด้วยแสง แล้วจึง หยุดปฏิกิริยาของการสังเคราะห์ด้วยแสงเป็นระยะๆ เมื่อตรวจดูจะพบสารประกอบในข้อใด ก. เกิด G3P ก่อน แล้วจึงเกิด PGA ข. เกิดน้ำตาลกลูโคสขึ้นก่อนออกซิเจน ค. เกิด PGA ก่อน แล้วจึงเกิดน้ำตาลกลูโคส ง. เกิดมาเลตก่อนแล้วจึงเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคส 19. โปรตีนเชิงซ้อนที่ไม่ได้ทำหน้าที่ในขั้นตอนการถ่ายทอดอิเล็กตรอนในคลอโรพลาสต์ คือข้อใด ก. ATP synthase complex ข. photosystem I complex ค. photosystem II complex ง. Cytochrome complex 20. กิจกรรมใดเป็นกิจกรรมหลักของวัฏจักรคัลวิน ก. การปลดปล่อยแก๊สออกซิเจน ข. สารสีดูดกลืนพลังงานแสง ค. การสร้าง ATP และ NADPH ง. การสร้างอินทรีย์จากสารอินทรีย์ ตอนที่ 2 จงใส่เครื่องหมาย / หน้าข้อความที่เห็นว่าถูก และใส่ X หน้าข้อความที่เห็นว่าผิดพร้อมทั้งแก้ไขให้ถูกต้อง ............ 21. การถ่ายทอดอิเล็กตรอนแบบเป็นวัฏจักรนี้อาจเกิดขึ้นได้ในภาวะที่พืชต้องการ ATP เพิ่มขึ้น หรือในภาวะที่ มี NADP+ เพียงพอที่จะนำไปสร้างเป็น NADPH (ภาวะที่ไม่มี NADP+ เพียงพอ) …………. 22. ปฏิกิริยาที่ใช้แสง เป็นการเปลี่ยนรูปพลังงานแสงเป็นพลังงานเคมี โดยเก็บสะสมไว้ในสารอินทรีย์ ............. 23. แอนเทนนา ประกอบด้วย รงควัตถุที่เป็น คลอโรฟิลล์ เท่านั้น (สามารถมีสารสีอื่นๆอีกได้เช่น แคโรทีนอยด์) ............. 24. การรับแสง เกิดขึ้นที่ thylakoid โดยระบบแสง 2 ระบบ คือ ระบบแสง I และ ระบบแสง II …………. 25. ระบบแสง I สามารถรับแสงที่มีความยาวคลื่น 680 นาโนเมตร และ ระบบแสง II สามารถรับแสงที่มีความยาวคลื่น 700 นาโนเมตร (ระบบแสง I p700 และระบบแสง II p680) ............. 26. ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากขั้นตอนการถ่ายทอดอิเล็กตรอนแบบเป็นวัฏจักร คือ ATP และ NADPH …………. 27. ในพืชพวกโกสนที่มีใบสีเหลืองหรือสีแดง สามารถสังเคราะห์แสงไม่ได้ เพราะไม่มีคลอโรฟิลล์(สามารถสังเคราะห์ด้วย แสงได้) x / x / x / x
............. 28. พืชมีอัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงได้น้อยที่สุด เมื่อพืชได้รับแสงสีส้ม ............. 29. รงควัตถุที่จำเป็นสำหรับการสังเคราะห์ด้วยแสงมีหลายชนิด และทั้งหมดไม่สามารถมารวมกันอยู่ในระบบเดียวได้ (สามารถอยู่ในระบบเดียวกันได้) ............. 30. แสงสีต่างๆ ที่คลอโรฟิลล์รับไว้ มีความสัมพันธ์กับอัตราการสังเคราะห์ด้วยแสง / x /
แบบประเมินความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับผลการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว32242 รายวิชา ชีววิทยา 3 คำชี้แจง ให้ท่านพิจารณาว่าข้อสอบที่สร้างขึ้น สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่กำหนดหรือไม่ โดยการ พิจารณา ให้น้ำหนักดังนี้ -1 คือ แน่ใจ ว่าข้อสอบนั้นไม่สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่กำหนด 0 คือ ไม่แน่ใจ ว่าข้อสอบนั้นสอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่กำหนดหรือไม่ +1 คือ แน่ใจ ว่าข้อสอบนั้นสอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่กำหนด ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ผลการประเมิน ข้อเสนอแนะ -1 0 +1 10. อธิบาย ขั้นตอนที่เกิดขึ้น ในกระบวนการ สังเคราะห์ด้วย แสงของพืช C3 1. พืชมีกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง อยากทราบว่าแสง สีใดและรงควัตถุชนิดใดรับแสงสีนั้นได้ดี ก. แสงสีเหลือง โดยมีแคโรทีนอยด์เป็นตัวรับแสงสี ข. แสงสีเหลือง โดยมีแคโรฟิลล์เป็นตัวรับแสงสี ค. แสงสีน้ำเงินและแสงสีแดง โดยมีแคโรทีนอยด์ เป็นตัวรับแสงสี ง. แสงสีน้ำเงินและแสงสีแดง โดยมีคลอโรฟิลล์เป็น ตัวรับแสงสี 2. แสงสีที่พืชนำไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง น้อยที่สุดคือ ก. เขียว ข. น้ำเงิน ค. แดง ง. ส้ม 3. ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง การสังเคราะห์ ATP เกิดขึ้นที่ ................. ส่วนการสังเคราะห์น้ำตาลเกิดขึ้นที่ ................ ก. Mitochondria, Stroma ข. Stroma, Thylakoid ค. Thylakoid, Stroma ง. Thylakoid, Cytoplasm
ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ผลการประเมิน ข้อเสนอแนะ -1 0 +1 10. อธิบาย ขั้นตอนที่เกิดขึ้น ในกระบวนการ สังเคราะห์ด้วย แสงของพืช C3 4. เมมเบรนที่ซ้อนเป็นชั้นๆ ในคลอโรพลาสต์เรียกว่าอะไร ก. ลูเมน ข. กรานุม ค. ไทลาคอยด์ ง. สโตรมา 5. จงเรียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระบบแสง II 1. คลอโรฟิลล์ที่เป็นศูนย์กลางปฏิกิริยาถูกกระตุ้น 2. การส่งต่ออิเล็กตรอนจากศูนย์กลางปฏิกิริยาไป ยังตัวรับอิเล็กตรอน 3. การส่งต่ออิเล็กตรอนจากน้ำไปยังคลอโรฟิลล์ที่ เป็นศูนย์กลางปฏิกิริยา 4. พลังงานแสงกระตุ้นโมเลกุลของคลอโรฟิลล์ (ที่ ทำหน้าที่ถ่ายทอดพลังงาน) ก. 2 3 4 1 ข. 2 1 3 4 ค. 4 1 2 3 ง. 1 2 3 4 6. ในวัฏจักรคัลวินของกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงนั้น CO2 ทำปฏิกิริยากับสารใด ก. hydrogen ข. ATP synthase ค. ribulose bisphosphate ง. Phosphoglycerric acid 7. สารประกอบในข้อใดคือสารที่สเถียรตัวแรกของการ สังเคราะห์ด้วยแสงของพืชทั่วไป ก. G3P ข. PGA ค. PGAL ง. กลูโคส
C G B F D E A ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ผลการประเมิน ข้อเสนอแนะ -1 0 +1 10. อธิบาย ขั้นตอนที่เกิดขึ้น ในกระบวนการ สังเคราะห์ด้วย แสงของพืช C3 8. วัฏจักรคัลวินในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช เกิดขึ้นที่บริเวณใด ก. ลูเมน ข. กรานุม ค. สโตรมา ง. เยื่อหุ้มเซลล์ 9. น้ำตาลตัวแรกที่ได้จากการสังเคราะห์ด้วยแสงคือ ก. PGA ข. PGAL ค. น้ำตาลกลูโคส ง. น้ำตาลฟรุกโตส 10. ข้อใดเป็นสิ่งที่ทำให้ PGA เปลี่ยนเป็น PGAL ก. ATP และ NADPH ข. ADP และ NADPH ค. ATP และ NADP+ ง. ADP และ NADP+ 11. คลอโรฟิลล์ชนิดใดเป็นศูนย์กลางปฏิกิริยาของระบบ แสง ก. คลอโรฟิลล์ เอ ข. คลอโรฟิลล์ บี ค. คลอโรฟิลล์ ซี ง. คลอโรฟิลล์ อี จากรูปต่อไปนี้จงตอบคำถามข้อที่ 12-13
ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ผลการประเมิน ข้อเสนอแนะ -1 0 +1 10. อธิบาย ขั้นตอนที่เกิดขึ้น ในกระบวนการ สังเคราะห์ด้วย แสงของพืช C3 12. ตำแหน่ง A และ E คืออะไร ก. P700 และ P680 ข. P680 และ P700 ค. H2O และ ADP + Pi → ATP ง. Ferredoxin และ ADP + Pi → ATP 13. ตำแหน่ง D และ G คืออะไร ก. ADP + Pi → ATP และ NADP+ + H+ → NADPH ข. NADP+ + H+ → NADPH และ ADP + Pi → ATP ค. ADP + Pi → ATP และ Ferredoxin ง. Hydrolysis และ NADP+ + H+ → NADPH จากรูปต่อไปนี้จงตอบคำถามข้อที่ 14-15 1. อิเล็กตรอนถูกส่งต่อไปยังไซโทโครมคอมเพล็กซ์ 2. อิเล็กตรอนถูกส่งกลับมายังระบบแสง I 3. แสงกระตุ้นระบบแสง I เกิดการถ่ายทอด อิเล็กตรอนไปยังตัวรับอิเล็กตรอนเฟอริดอกซิน 4. เกิดการสังเคราะห์พลังงานเพียง ATP เท่านั้น
ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ผลการประเมิน ข้อเสนอแนะ -1 0 +1 10. อธิบาย ขั้นตอนที่เกิดขึ้น ในกระบวนการ สังเคราะห์ด้วย แสงของพืช C3 14. ข้อใดเรียงลำดับได้ถูกต้อง ก. 2 3 4 1 ข. 2 3 1 4 ค. 3 1 4 2 ง. 3 1 2 4 15. จากรูปภาพนี้มีชื่อเรียกว่าอะไร ก. non-cyclic electron transfer ข. cyclic electron transfer ค. non- cyclic transfer electron ง. cyclic transfer electron 16. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับคลอโรพลาสต์ ก. คลอโรพลาสต์มีเยื่อหุ้มชั้นเดียว ข. กรานุม คือ เนื้อเยื่อส่วนที่พับเหมือนเป็นถุงที่มี ลักษณะแบนซ้อนทับกันเป็นชั้น ค. ไทลาคอยด์ คือ เนื้อเยื่อส่วนที่พับเหมือนเป็นถุงที่ มีลักษณะแบนซ้อนทับกันเป็นชั้น ง. สโตรมา คือ เนื้อเยื่อของไทลาคอยด์ส่วนที่ไม่ได้ ซ้อนทับกันซึ่งอยู่ระหว่างกรานุม 17. เมื่อส่องไฟตรงไปยังสารละลายคลอโรฟิลล์ แถบคลื่น แสงที่สะท้อนออกมาจากสารละลายนั้นมากที่สุดคือคลื่น แสงใด ก. ส้ม ข. แดง ค. เขียว ง. น้ำเงิน 18. ในการทดลองโดยใช้สาหร่ายสีเขียวใส่ในน้ำที่ผ่านแสง และให้คาร์บอนกัมมันตรังสี เพื่อให้เกิดการสังเคราะห์ด้วย แสง แล้วจึงหยุดปฏิกิริยาของการสังเคราะห์ด้วยแสงเป็น ระยะๆ เมื่อตรวจดูจะพบสารประกอบในข้อใด ก. เกิด G3P ก่อน แล้วจึงเกิด PGA ข. เกิดน้ำตาลกลูโคสขึ้นก่อนออกซิเจน ค. เกิด PGA ก่อน แล้วจึงเกิดน้ำตาลกลูโคส ง. เกิดมาเลตก่อนแล้วจึงเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคส
ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ผลการประเมิน ข้อเสนอแนะ -1 0 +1 10. อธิบาย ขั้นตอนที่เกิดขึ้น ในกระบวนการ สังเคราะห์ด้วย แสงของพืช C3 19. โปรตีนเชิงซ้อนที่ไม่ได้ทำหน้าที่ในขั้นตอนการถ่ายทอด อิเล็กตรอนในคลอโรพลาสต์ คือข้อใด ก. ATP synthase complex ข. photosystem I complex ค. photosystem II complex ง. Cytochrome complex 20. กิจกรรมใดเป็นกิจกรรมหลักของวัฏจักรคัลวิน ก. การปลดปล่อยแก๊สออกซิเจน ข. สารสีดูดกลืนพลังงานแสง ค. การสร้าง ATP และ NADPH ง. การสร้างอินทรีย์จากสารอินทรีย์ ............ 21. การถ่ายทอดอิเล็กตรอนแบบเป็นวัฏจักรนี้อาจ เกิดขึ้นได้ในภาวะที่พืชต้องการ ATP เพิ่มขึ้น หรือในภาวะที่ มี NADP+ เพียงพอที่จะนำไปสร้างเป็น NADPH …………. 22. ปฏิกิริยาที่ใช้แสง เป็นการเปลี่ยนรูปพลังงาน แสงเป็นพลังงานเคมี โดยเก็บสะสมไว้ในสารอินทรีย์ ............. 23. แอนเทนนา ประกอบด้วย รงควัตถุที่เป็น คลอโรฟิลล์ เท่านั้น ............. 24. การรับแสง เกิดขึ้นที่ thylakoid โดยระบบ แสง 2 ระบบ คือ ระบบแสง I และ ระบบแสง II …………. 25. ระบบแสง I สามารถรับแสงที่มีความยาวคลื่น 680 นาโนเมตร และ ระบบแสง II สามารถรับแสงที่มีความ ยาวคลื่น 700 นาโนเมตร ............. 26. ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากขั้นตอนการถ่ายทอด อิเล็กตรอนแบบเป็นวัฏจักร คือ ATP และ NADPH …………. 27. ในพืชพวกโกสนที่มีใบสีเหลืองหรือสีแดง สามารถสังเคราะห์แสงไม่ได้ เพราะไม่มีคลอโรฟิลล์
ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ผลการประเมิน ข้อเสนอแนะ -1 0 +1 10. อธิบาย ขั้นตอนที่เกิดขึ้น ในกระบวนการ สังเคราะห์ด้วย แสงของพืช C3 ............. 28. พืชมีอัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงได้น้อยที่สุด เมื่อพืชได้รับแสงสีส้ม ............. 29. รงควัตถุที่จำเป็นสำหรับการสังเคราะห์ด้วย แสงมีหลายชนิด และทั้งหมดไม่สามารถมารวมกันอยู่ใน ระบบเดียวได้ ............. 30. แสงสีต่างๆ ที่คลอโรฟิลล์รับไว้ มีความสัมพันธ์ กับอัตราการสังเคราะห์ด้วยแสง ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อผู้ประเมิน.............................................................. (..........................................................) วันที่............ เดือน........................... พ.ศ. ................