The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ร่างกายของเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จัดทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้จะส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้า เน้นการลงมือปฏิบัติกิจกรรมจริง จนเกิดความรู้และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สามารถพัฒนาตนเองจนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์และเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ครูผู้สอนสามารถมอบให้นักเรียนเพื่อนำไปศึกษาเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง สามารถใช้ทบทวนเนื้อหา หรือสามารถนำไปใช้ในการเรียนซ่อมเสริมในกรณีที่เรียนแล้วสอบไม่ผ่านได้ ซึ่งผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ร่างกายของเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ต่อไป

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Rodsarin Pantu, 2021-05-12 00:48:35

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ร่างกายของเรา

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ร่างกายของเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จัดทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้จะส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้า เน้นการลงมือปฏิบัติกิจกรรมจริง จนเกิดความรู้และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สามารถพัฒนาตนเองจนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์และเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ครูผู้สอนสามารถมอบให้นักเรียนเพื่อนำไปศึกษาเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง สามารถใช้ทบทวนเนื้อหา หรือสามารถนำไปใช้ในการเรียนซ่อมเสริมในกรณีที่เรียนแล้วสอบไม่ผ่านได้ ซึ่งผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ร่างกายของเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ต่อไป

Keywords: ร่างกายของเรา



คำนำ

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เร่ือง ร่างกายของเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จัดทาข้ึนเพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้จะส่งเสริมการเรยี นรู้ให้แก่นักเรียนไดศ้ ึกษา
ค้นคว้า เน้นการลงมือปฏิบัติกิจกรรมจริง จนเกิดความรู้และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
สามารถพฒั นาตนเองจนมผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนใหส้ ูงขึ้น อกี ทงั้ ยังชว่ ยส่งเสริมคุณลกั ษณะอันพึง
ประสงคแ์ ละเจตคตทิ ีด่ ีต่อการเรยี นรู้วชิ าวิทยาศาสตร์

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เร่ือง ร่างกายของเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้
วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 จัดทาประกอบด้วย 4 กิจกรรม ดังน้ี

กิจกรรมท่ี 1 เร่ือง ระบบสืบพันธเุ์ พศชาย
กิจกรรมท่ี 2 เรอื่ ง ระบบสบื พันธเ์ุ พศหญงิ
กิจกรรมที่ 3 เรื่อง ระบบไหลเวียนโลหิต
กจิ กรรมท่ี 4 เรอื่ ง ระบบหายใจ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทุกชุด ครูผู้สอนสามารถมอบให้นักเรียนเพ่ือนาไปศึกษาเรียนรู้ได้
ด้วยตนเอง สามารถใช้ทบทวนเนื้อหา หรือสามารถนาไปใช้ในการเรียนซ่อมเสริมในกรณีท่ีเรียน
แล้วสอบไม่ผ่านได้ ซ่ึงผู้จัดทาหวงั เป็นอย่างย่ิงว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรอ่ื ง รา่ งกาย
ของเรา กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 จะเป็นประโยชนต์ ่อการจดั กิจกรรม
การเรียนรู้ และเป็นส่วนสาคัญในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการเรียนรู้กลมุ่ สาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ต่อไป

สำรบัญ ข

คานา หน้ำ
สารบญั ก
คาชีแ้ จงเกีย่ วกบั ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ข
คาชแี้ จงการใชช้ ุดกจิ กรรมการเรียนรูส้ าหรบั ครู ค
คาชแ้ี จงการใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรียนรู้สาหรบั นักเรยี น ง
ลาดับขั้นการเรียนโดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ จ
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรื่อง ร่างกายของเรา ฉ
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน เรือ่ ง รา่ งกายของเรา 1
มาตรฐาน ตัวชว้ี ดั และจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 5
บตั รความรู้ที่ 1 เร่อื ง ระบบสืบพนั ธุ์เพศชาย 6
บัตรกิจกรรมท่ี 1 เรอ่ื ง ระบบสบื พนั ธ์เุ พศชาย 7
เฉลยบตั รกจิ กรรมที่ 1 เร่ือง ระบบสืบพันธุ์เพศชาย 9
บัตรความรู้ท่ี 2 เร่อื ง การทางานของระบบสบื พนั ธ์ุเพศชาย 10
บัตรกิจกรรมท่ี 2 เรอ่ื ง การทางานของระบบสืบพันธุ์เพศชาย 11
เฉลยบตั รกิจกรรมที่ 2 เรื่อง การทางานของระบบสบื พันธุ์เพศชาย 13
บัตรความรู้ท่ี 3 เรื่อง ระบบสบื พันธุ์เพศหญิง 14
บัตรกจิ กรรมที่ 3 เรอื่ ง ระบบสบื พนั ธเุ์ พศหญงิ 15
เฉลยบตั รกิจกรรมท่ี 3 เรื่อง ระบบสืบพนั ธุ์เพศหญิง 17
บตั รความรู้ท่ี 4 เร่ือง การทางานของระบบสืบพันธุ์เพศหญิง 18
บัตรกิจกรรมท่ี 4 เร่ือง การทางานของระบบสืบพันธุเ์ พศชาย 19
เฉลยบัตรกจิ กรรมที่ 4 เร่ือง การทางานของระบบสืบพนั ธเ์ุ พศชาย 22
23

สำรบญั (ตอ่ ) ค

บัตรความรู้ที่ 5 เรื่อง ระบบไหลเวียนโลหติ หน้ำ
บตั รกจิ กรรมท่ี 5 เรอ่ื ง ระบบไหลเวียนโลหิต 24
เฉลยบัตรกจิ กรรมท่ี 5 เรื่อง ระบบไหลเวียนโลหติ 29
บตั รความรู้ที่ 6 เรื่อง การทางานระบบไหลเวียนโลหิต 30
บตั รกจิ กรรมท่ี 6 เร่อื ง การทางานและการดูแลระบบไหลเวยี นโลหติ 31
เฉลยบัตรกิจกรรมที่ 6 เรื่อง การทางานและการดูแลระบบไหลเวียนโลหิต 33
บตั รความรู้ท่ี 7 เรื่อง ระบบหายใจ 34
บัตรกจิ กรรมท่ี 7 เรอ่ื ง ระบบหายใจ 35
เฉลยบัตรกจิ กรรมท่ี 7 เร่ือง ระบบหายใจ 38
บัตรความรู้ท่ี 8 เรอ่ื ง การหายใจเข้าออก 39
บัตรกจิ กรรมที่ 8 เรอื่ ง การหายใจเขา้ ออก 40
เฉลยบัตรกจิ กรรมที่ 8 เรื่อง การหายใจเข้าออก 42
แบบทดสอบหลังเรียน เร่ือง ร่างกายของเรา 43
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น เรือ่ ง รา่ งกายของเรา 44
บรรณานุกรม 48
49



คำช้แี จง

1. เอกสารฉบับนี้เป็นชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ร่างกายของเรา กลุ่มสาระการ
เรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 จัดทาขึ้น เพ่ือใช้ประกอบการเรียนการสอนนักเรียน
ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 2

2. เอกสารชุดน้ปี ระกอบด้วย
2.1 คาชแ้ี จงเกีย่ วกับชุดกจิ กรรมการเรียนรู้
2.2 คาชี้แจงการใชช้ ดุ กิจกรรมการเรียนรู้สาหรบั ครู
2.3 คาชแ้ี จงการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนร้สู าหรบั นกั เรียน
2.4 ลาดับขน้ั การเรียนโดยชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้
2.5 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2.6 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น
2.7 มาตรฐานการเรียนรู้ และจดุ ประสงค์การเรียนรู้
2.8 บตั รความรู้
2.9 บัตรกจิ กรรม
2.10 เฉลยบตั รกิจกรรม
2.11 แบบทดสอบหลังเรยี น
2.12 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน

3. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เร่ือง ร่างกายของเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ชดุ น้ีใชเ้ วลาในการศกึ ษา จานวน 10 ชัว่ โมง



คำชีแ้ จงสำหรบั ครู

ชุดกิจกรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เร่อื งร่างกายของเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ใช้ประกอบการเรียนการสอนนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ครูควร
เตรยี มความพร้อมและปฏิบัตติ ามคาแนะนา ดงั นี้
1. ศึกษารายละเอียดเก่ียวกับการใช้ชุดกิจกรรมและเตรียมส่ือการเรียนรู้ที่ใช้ประกอบการจัด

การเรยี นรู้
2. ก่อนทากิจกรมทุกครั้ง ครูต้องอธิบาย ช้ีแจงวิธีการปฏิบัติให้นักเรียนเข้าใจ เพ่ือให้การจัด

การเรียนรู้บรรลุเป้าหมายและมีประสิทธภิ าพ
3. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ครูควรกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการทากิจกรรมเพ่ือ

เป็นการฝึกให้นักเรียนรู้จักการทางานร่วมกัน ช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน รับผิดชอบต่อหน้าท่ี
ซื่อสัตย์ และกล้าแสดงออก และคอยสังเกตการปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียนและให้ความ
ช่วยเหลือ แนะนาในยามจาเป็นอย่างใกล้ชิด เป็นผู้อานวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้
4. หลังจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เสร็จส้ินลงในแต่ละกิจกรรม ครูต้องเป็นผู้ประเมินผล
การเรยี นรขู้ องนักเรียน



คำชี้แจงสำหรับนักเรียน

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องร่างกายของเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ใช้ประกอบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2
นักเรียนสามารถศึกษาค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง และเพื่อให้การเรียนรู้บรรลุเป้าหมายและ
มปี ระสิทธภิ าพ นักเรยี นควรปฏิบตั ติ ามข้นั ตอน ดังน้ี
1. นักเรียนอ่านคาชี้แจงเก่ียวชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เข้าใจก่อนลงมือศึกษาชุดกิจกรรม

การเรียนรู้
2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 5-6 คน โดยคละความสามารถนักเรียนในกลุ่มท้ัง 3 ระดับ คือ เก่ง

ปานกลาง ออ่ น และคละเพศ
3. นักเรียนศกึ ษามาตรฐานการเรียนรู้ และจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ อย่างละเอียด
4. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนประจาชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เร่ืองร่างกายของ

เรา กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 2 จานวน 20 ขอ้ โดยใช้เวลา 20 นาที
โดยทาลงในกระดาษคาตอบทค่ี รูแจกให้
5. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาบัตรความรู้จากชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เม่ือนักเรียนศึกษา
บตั รความรู้เสรจ็ เรียบร้อยแล้ว นกั เรยี นทาบตั รกจิ กรรมท่คี รจู ัดเตรยี มไวใ้ ห้
6. หากนักเรียนยังไม่เข้าใจในบัตรความรู้ใดก็ให้กลับไปศึกษาอีกคร้ัง เพ่ือให้เกิดความเข้าใจมาก
ยง่ิ ข้นึ
7. เมื่อนักเรียนศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามลาดับเสร็จแล้วให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน
จานวน 20 ขอ้ โดยใชเ้ วลา 20 นาที
8. ในการทาบัตรกิจกรรม และแบบทดสอบ ให้นักเรียนทาด้วยความต้ังใจและมีความซื่อสัตย์ต่อ
ตนเองมากที่สุด โดยไมเ่ ปิดดูเฉลยกอ่ น
9. หากนักเรียนศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามลาดับไม่ทันหรือไม่เข้าใจ นักเรียนสามารถรับ
ชุดกจิ กรรมไปศกึ ษาเพม่ิ เติมนอกเวลาเรยี น เพ่ือใหเ้ กดิ ความร้คู วามเข้าใจมากย่งิ ข้นึ



แผนภูมลิ ำดับขัน้ ตอน
ของกำรเรียน

อำ่ นคำชี้แจง

ทดสอบแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

ศกึ ษำกรอบเนือ้ หำ
ทำแบบฝกึ หดั หลงั กรอบ

ทดสอบแบบทดสอบหลงั เรยี น ไม่ผ่ำนกำรทดสอบ

ศึกษำเรอ่ื งใหม่

1

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
เรอ่ื ง ร่างกายของเรา
คะแนนเตม็ 20 คะแนน ใชเ้ วลา 20 นาที

คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นเลือกทำเคร่ืองหมำยกำกบำท (X) ทับตัวอกั ษรหน้ำข้อท่ถี กู ตอ้ ง
ทสี่ ุดลงในกระดำษคำตอบ

1. ข้อใดคอื อวัยวะสบื พันธุเ์ พศชำย
ก. อัณฑะ
ข. รังไข่
ค. มดลูก
ง. ช่องคลอด

2. ขอ้ ใดกล่ำวถึงกำรสร้ำงฮอร์โมนเพศชำยจนเกดิ กำรเปลี่ยนแปลงกล้ำมเน้ือ ได้ถกู ต้อง
ก. เอวคอดเล็กลง
ข. สะโพกขยำยใหญ่
ค. ลกู กระเดอื กเห็นชัดเจน
ง. มีขนขน้ึ ท่รี ักแร้และอวัยวะเพศ

3. กำรหล่งั น้ำอสุจใิ นขณะทน่ี อนหลบั เรยี กว่ำอะไร
ก. ไข่ตก
ข. ฝนั เปยี ก
ค. มดลูกต่ำ
ง. ประจำเดอื น

4. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ สุขบัญญตั เิ กยี่ วกบั อวัยวะสืบพันธุ์เพศชำย
ก. รับประทำนอำหำรท่สี ดใหมเ่ สมอ
ข. อำบน้ำชำระลำ้ งอวัยวะเพศและหลังขับถ่ำย
ค. ทำควำมสะอำดเสอ้ื ผ้ำหรือเครอ่ื งนอนอยู่เสมอ
ง. ไม่สวมใส่กำงเกงหรือกำงเกงในท่รี ดั แนน่ จนเกินไป

2

5. เดก็ ชำยสมปองเกิดกำรฝนั เปยี กขณะนอนหลับ เด็กชำยสมปองควรทำอย่ำงไร
ก. ว่ิงออกกำลงั กำย
ข. รบั ประทำนอำหำรท่มี ีประโยชน์
ค. ควรทำควำมสะอำดเส้ือผำ้ หรือเคร่ืองนอน
ง. ไมใ่ ช้เสื้อผ้ำและเครื่องน่งุ ห่มปะปนกับคนอ่ืน

6. อวยั วะสบื พันธุ์เพศหญงิ ส่งผลต่อกำรเปลี่ยนแปลงและกำรเจริญเตบิ โตในเพศหญงิ อยำ่ งไร
ก. สะโพกขยำยใหญ่ข้ึน
ข. รำ่ งกำยแขง็ แรง บกึ บึน
ค. มองเหน็ ลูกกระเดือกชัดเจน
ง. นำ้ เสยี งห้ำวและมีหนวดมีเครำ

7. อวัยวะสบื พนั ธุ์เพศหญิงขอ้ ใดทเ่ี ปน็ ทำงเดินของไข่และบริเวณทไี่ ข่ผสมกบั ตวั อสจุ ิ
ก. รังไข่
ข. มดลูก
ค. ปกี มดลูก
ง. ช่องคลอด

8. ประจำเดือนเกดิ จำกอะไร
ก. เลือดท่ีคัง่ อยใู่ นช่องคลอด
ข. ไข่ทผี่ สมกบั อสุจบิ ริเวณชอ่ งคลอด
ค. กำรไดร้ ับควำมกระทบกระเทอื นของมดลกู
ง. กำรสลำยตวั ของเยื่อบมุ ดลกู เนอื่ งจำกไข่ไม่ไดผ้ สมกบั อสจุ ิ

9. ใครปฏิบตั ิตนในกำรดแู ลระบบสืบพนั ธไ์ุ ดถ้ กู ต้อง
ก. เจนน่ชี อบเอำเสื้อผ้ำ กำงเกงในของพี่สำวมำสวมใส่บ่อย ๆ
ข. แพนเค้กเปล่ียนผ้ำอนำมัยทุก 1 ช่ัวโมงขณะทีม่ ปี ระจำเดอื น
ค. มะนำวใชแ้ อลกอฮอลล์ ำ้ งแผลในกำรเช็ดลำ้ งอวัยวะสบื พันธ์ุ
ง. น้ำตำลไมส่ วมเสอ้ื ผ้ำ กำงเกงใน เส้อื ช้นั ใน ที่อับช้ืนและรัดแน่นเกนิ ไป

3

10. ขอ้ ใด ไม่ ควรปฏบิ ตั ิ ขณะปวดทอ้ งประจำเดือน
ก. กินนำ้ แข็งเพ่อื ใหเ้ ลอื ดหยุดไหล
ข. ใชก้ ระเป๋ำน้ำรอ้ นวำงท่ีท้องน้อย
ค. ได้นอนพกั ผอ่ นทำจติ ใจให้สบำย
ง. รับประทำนอำหำรที่มปี ระโยชน์

11. หัวใจแต่ละหอ้ งมีล้นิ คอยเปดิ - ปิด เพ่ืออะไร
ก. เพ่ือไมใ่ หเ้ ลือดไหลยอ้ นกลับ
ข. เพือ่ ให้หัวใจแต่ละหอ้ งทำงำนเอง
ค. เพ่ือไมใ่ หเ้ ลอื ดดำผสมกับเลือดแดง
ง. เพอื่ ไมใ่ ห้เลอื ดไหลแรงและเรว็ เกินไป

12. ในกำรจบั ชีพจรนิยมจับทห่ี ลอดเลือดชนดิ ใด
ก. หลอดเลอื ดดำ
ข. หลอดเลอื ดแดง
ค. หลอดเลือดฝอย
ง. หลอดเลือดหัวใจ

13. เม่ือคนเรำไดร้ บั บำดแผล เลอื ดไหลไมห่ ยดุ เป็นเพรำะในเลอื ดขำดสว่ นประกอบใด
ก. นำ้ เลอื ด
ข. เกลด็ เลือด
ค. เม็ดเลอื ดแดง
ง. เม็ดเลอื ดขำว

14. ถำ้ ตอ้ งกำรบำรุงโลหิตควรเลอื กรับประทำนอำหำรใดจึงเหมำะสมที่สุด
ก. ตับ ไขแ่ ดง
ข. นมสด ผลไม้
ค. ผกั สีเขียว ถัว่ ตม้
ง. แปง้ เครอื่ งในสัตว์

15. ใครปฏิบัติตน ไมถ่ ูกต้อง ในกำรดแู ลรกั ษำระบบไหลเวียนโลหติ
ก. มะปรำงออกกำลังกำยอยำ่ งสม่ำเสมอ
ข. ดวงตำทำจติ ใจของตวั เองใหร้ ่ำเริงแจ่มใสอยเู่ สมอ
ค. สมชำยไม่กินอำหำรทีม่ ไี ขมันหรือคอเลสเทอรอลสงู มำก ๆ
ง. นำ้ ตำลไม่สวมเสอื้ ผ้ำ กำงเกงใน เสื้อชั้นใน ท่อี บั ช้ืนและรดั แน่นเกนิ ไป

4

16. ปอดมีควำมสำคัญอยำ่ งไร

ก. กำรกำจดั ของเสียออกจำกร่ำงกำย
ข. สูบฉดี เลือดไปเลี้ยงทุกส่วนของร่ำงกำย
ค. กำรสลำยอำหำรทมี่ ขี นำดใหญ่ให้มขี นำดเลก็
ง. กำรแลกเปลีย่ นแก๊สออกซเิ จนกบั คำร์บอนไดออกไซด์
17. ขอ้ ใดถกู ต้องเกีย่ วกับกำรหำยใจออก

ก. กะบงั ลมเลอ่ื นต่ำลง กระดกู ซี่โครงเลอื่ นตำ่ ลง
ข. กะบังลมเล่อื นตำ่ ลง กระดูกซโี่ ครงเลือ่ นสูงข้ึน
ค. กะบงั ลมเลอื่ นสงู ข้ึน กระดกู ซ่ีโครงเลอ่ื นตำ่ ลง
ง. กะบังลมเลอ่ื นสงู ขึ้น กระดูกซี่โครงเล่ือนสูงขนึ้
18. ขณะหำยใจเข้ำกำรลำเลยี งแก๊สจะเปน็ ไปตำมลกั ษณะใด

ก. จมกู หลอดลม ปอดถุงลม
ข. หลอดลม จมกู  ปอดถงุ ลม
ค. ปอดจมกู หลอดลม  ถงุ ลม
ง. ถงุ ลมจมกู  หลอดลม  ปอด
19. พฤติกรรมใดส่งผลใหร้ ะบบหำยใจเส่ือมสภำพ

ก. ออกกำลังกำยอย่ำงสม่ำเสมอ

ข. อยู่ในสถำนที่ทีม่ อี ำกำศบริสทุ ธ์ิ

ค. สูบบุหรี่หรอื อยใู่ นท่ีทมี่ ีผสู้ ูบบหุ ร่ี

ง. ไม่สวมใส่เสือ้ ผ้ำทคี่ ับหรือรัดเข็มขดั ให้แน่นตงึ เกินไป

20. ขอ้ ใดเปน็ วิธีดูแลรกั ษำระบบหำยใจ

ก. อำบน้ำชำระล้ำงร่ำงกำย

ข. ทำควำมสะอำดเส้อื ผ้ำหรือเครอื่ งนอน

ค. หลกี เลีย่ งกำรอยู่ใกลช้ ดิ ผู้ท่ปี ่วยเปน็ โรคทำงเดนิ หำยใจ

ง. ไม่ควรกนิ อำหำรทมี่ ีไขมนั หรอื คอเลสเทอรอลสงู มำก ๆ

5

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
เร่อื ง รา่ งกายของเรา

1. ก 11. ก
2. ค 12. ข
3. ข 13. ข
4. ก 14. ก
5. ค 15. ง
6. ก 16. ง
7. ค 17. ค
8. ง 18. ก
9. ง 19. ค
10. ก 20. ง

6

รา่ งกายของเรา

มาตรฐาน 1.1
เข้ำใจหนว่ ยพื้นฐำนของส่ิงมชี วี ติ ควำมสัมพนั ธข์ องโครงสร้ำงและหนำ้ ทขี่ องระบบต่ำงๆของ
สิง่ มชี วี ติ ทีท่ ำงำนสัมพนั ธก์ นั มกี ระบวนกำรสบื เสำะหำควำมรสู้ ื่อสำรส่งิ ที่เรียนรู้และนำควำมร้ไู ปใช้
ในกำรดำรงชีวิตของตนเองและดแู ลสิง่ มชี วี ติ

ตัวชีว้ ดั
1. อธิบำยโครงสรำ้ งและกำรทำงำนของระบบหมนุ เวยี นเลอื ด ระบบหำยใจ ระบบสืบพนั ธ์ุ
ของมนุษยแ์ ละสตั ว์ (ว 1.1 ม.2/1)
2. อธิบำยควำมสัมพันธข์ องระบบต่ำงๆของมนุษย์และนำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์
(ว 1.1 ม.2/2)

จดุ ประสงค์
1. อธบิ ำยโครงสร้ำงและกำรทำงำนของระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหำยใจ

ระบบสบื พนั ธุ์ของมนุษย์และสัตว์ได้
2. อธิบำยควำมสมั พนั ธข์ องระบบต่ำงๆของมนษุ ย์และนำควำมร้ไู ปใช้ประโยชน์ได้
3. มคี วำมใฝ่รู้ใฝ่เรียน ตรงต่อเวลำ มวี นิ ัย และมีควำมซื่อสตั ย์

7

บัตรความรู้ที่ 1 เรอ่ื ง ระบบสบื พันธุ์เพศชาย

ในร่ำงกำยของคนเรำมีระบบสืบพันธุ์ที่ทำหน้ำท่ีให้คนสำมำรถสืบพันธ์ุมีลูกหลำนต่อไป
ระบบสืบพันธ์ุจะเร่ิมทำงำนเม่ือคนแต่ละคนเจริญเติบโตเต็มวัย ซึ่งเป็นไปตำมพัฒนำกำรทำงด้ำน
รำ่ งกำย

เมื่อเริ่มเข้ำสู่วัยรุ่นอวัยวะในระบบสืบพันธ์ุของเพศชำยจะเร่ิมสร้ำงฮอร์โมนเพศชำย เพ่ือไป
กระตุ้นให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงและเจริญเติบโตของอวัยวะในระบบสืบพันธ์ุภำยนอก กล่ำวคือใน
เพศชำยจะมีกำรเจริญเตบิ โตของของกล้ำมเนื้อ โดยเฉพำะกลำ้ มเน้ือมัดใหญ่ เช่น แขน ขำ เป็นต้น
ทำให้มีร่ำงกำยใหญ่ขึ้น ไหล่กว้ำง มีหนวดมีเครำ เสียงแตกห้ำว ลูกกระเดือกเห็นชัดเจน
มีขนท่รี ักแร้ และบริเวณอวัยวะเพศ องคชำตและอณั ฑะจะเจริญเติบโตมีขนำดใหญ่ขึน้

สัญลักษณ์ทำงชีววิทยำของเพศชำย คือ มำจำกโล่และหอกของมำร์ เทพเจ้ำ
แหง่ สงครำมแหง่ อำณำจกั รโรมันโบรำณ

ภำพท่ี 1 ระบบสืบพันธ์เุ พศชำย
ทม่ี ำ : https://goo.gl/H6PY9p , 19 เมษำยน 2559

อวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศชำยที่มองเห็นภำยนอกร่ำงกำยเพศชำย ได้แก่ องคชำต
และถงุ อณั ฑะ มีลักษณะและหนำ้ ทีด่ งั นี้

1. องคชำต เป็นหลอดกลวง มีท่อปัสสำวะและท่ออสุจิซึ่งเชื่อมต่อกันเป็นทำงผ่ำนของ
ปสั สำวะและอสุจิ แตน่ ำ้ ปสั สำวะและน้ำอสุจจิ ะไม่ออกจำกท่อในเวลำเดียวกนั

2. ถุงอัณฑะ อยู่นอกร่ำงกำยทำให้อุณหภูมิเย็นกว่ำภำยในร่ำงกำย ซ่ึงเป็นสภำวะท่ีเหมำะ
กับกำรเจริญของอสุจิ โดยปกติอุณหภูมิท่ีเหมำะสมจะต่ำกว่ำภำยในร่ำงกำยประมำณ 3-5 องศำ

8

อวยั วะเพศ

ถงุ อณั ฑะ

ภำพท่ี 2 อวัยวะสบื พนั ธ์เุ พศชำยภำยนอกร่ำงกำย
ทมี่ ำ : https://goo.gl/oHPgyy, 19 เมษำยน 2559

อวัยวะในระบบสบื พันธ์เุ พศชำยที่อยู่ภำยในร่ำงกำย ได้แก่ ลูกอณั ฑะ ถุงเกบ็ น้ำอสุจิ ทอ่ นำ
อสจุ ติ ่อมลกู หมำกมลี กั ษณะและหนำ้ ท่ีดงั น้ี

1. อัณฑะ มีลักษณะเป็นก้อนรูปไข่มี 2 อัน อยู่ในถุงอัณฑะท่ีห้อยอยู่ภำยนอก มีหน้ำที่
ผลิตอสุจิและผลิตฮอร์โมนเพศชำย ภำยในอัณฑะจะมีหลอดเล็กๆ ขดไปมำทำหน้ำที่สร้ำงอสุจิ
เรยี กวำ่ หลอดสรำ้ งอสุจิ

2. หลอดเก็บตัวอสุจิ อยู่ด้ำนบนของอัณฑะ ลักษณะเป็นท่อเล็กๆ ทำหน้ำท่ีเก็บอสุจิ
จนแข็งแรง ก็จะส่งไปที่ท่อที่มีขนำดใหญ่กว่ำ เรียกว่ำ ท่ออสุจิ ทำหน้ำท่ีลำเลียงอสุจิไปเก็บไว้
ท่ตี อ่ มสร้ำงนำ้ เล้ียงอสุจิ

3. ต่อมสร้ำงน้ำเลี้ยงอสุจิ ทำหน้ำที่หลั่งของเหลวประกอบด้วย อำหำรจำพวกน้ำตำล
ฟรักโทสและโปรตนี ซึง่ ทำให้อสุจิมีชีวิตอยู่ได้ เรียกอสจุ กิ บั นำ้ เล้ียงอสจุ วิ ำ่ น้ำอสจุ ิ

4. ต่อมลูกหมำก อยู่รอบๆ หลอดฉีดอสุจิ สร้ำงสำรท่ีมีฤทธ์ิเป็นเบสอ่อน ทำลำยฤทธ์ิกรด
ในท่อปัสสำวะของเพศชำย

ภำพท่ี 3 อวยั วะสืบพนั ธ์ุเพศชำยภำยในร่ำงกำย
ทม่ี ำ : https://goo.gl/97sLUL, 19 เมษำยน 2559

9

บัตรกิจกรรมที่ 1
เรือ่ ง ระบบสืบพันธเุ์ พศชาย

คาชแ้ี จงท่ี 1 ใหน้ ักเรยี นจับคู่อวัยวะและหน้ำทขี่ องระบบสืบพนั ธุ์เพศชำยใหถ้ ูกต้องโดยนำอกั ษร

หนำ้ ขอ้ ควำมทำงดำ้ นขวำมอื มำเติมหนำ้ ขอ้ ควำมทำงซำ้ ยมือท่ีมีควำมสมั พนั ธ์กัน

1).........................ผลติ อสุจแิ ละผลติ ฮอร์โมนเพศชำย ก. ต่อมลูกหมำก

2).........................ปรับอุณหภูมิใหเ้ หมำะสมกับตัวอสุจิ ข. หลอดเกบ็ ตัวอสจุ ิ

3).........................สร้ำงอำหำรสำหรบั เลี้ยงตวั อสุจิ ค. ถงุ อัณฑะ

4).........................สรำ้ งสำรท่เี ปน็ เบสออ่ นๆ ง. ตอ่ มสร้ำงนำ้ เลยี้ ง

5).........................เกบ็ อสจุ ิจนแข็งแรง จ. อัณฑะ

คาชีแ้ จงท่ี 2 ใหน้ กั เรยี นระบตุ ำแหนง่ ของอวยั วะที่สำคญั ในระบบสบื พนั ธุเ์ พศชำยใหถ้ ูกต้อง

1)........................................... 2)........................................... 3)...........................................
4)........................................... 5)...........................................

10

เฉลยบัตรกิจกรรมที่ 1
เรอ่ื ง ระบบสืบพนั ธุ์เพศชาย

คาชี้แจงท่ี 1 ใหน้ กั เรียนจับคอู่ วัยวะและหนำ้ ท่ขี องระบบสบื พนั ธ์ุเพศชำยให้ถูกต้องโดยนำอกั ษร
หน้ำขอ้ ควำมทำงดำ้ นขวำมือมำเติมหน้ำขอ้ ควำมทำงซำ้ ยมอื ท่มี คี วำมสัมพนั ธก์ ัน

1)..........จ............ผลิตอสจุ ิและผลิตฮอรโ์ มนเพศชำย ก. ต่อมลกู หมำก
2)..........ค............ปรับอุณหภูมใิ หเ้ หมำะสมกับตัวอสุจิ ข. หลอดเกบ็ ตัวอสุจิ
3)..........ง............สร้ำงอำหำรสำหรบั เล้ียงตัวอสุจิ ค. ถงุ อณั ฑะ
4)..........ก............สรำ้ งสำรท่ีเปน็ เบสอ่อนๆ ง. ตอ่ มสร้ำงน้ำเล้ียง
5)..........ข............เกบ็ อสุจิจนแขง็ แรง จ. อัณฑะ

คาช้แี จงที่ 2 ให้นักเรียนระบตุ ำแหน่งของอวัยวะที่สำคญั ในระบบสบื พนั ธุ์เพศชำยใหถ้ ูกต้อง

1)...........อ...ณั ...ฑ...ะ....................... 2).........อ..ง..ค..ช...ำ..ต....................... 3)....ต...่อ..ม..ล...ูก..ห...ม..ำ..ก....................
4)...ห...ล..อ...ด..เ.ก...็บ..ต...วั ..อ..ส..จุ...ิ ............ 5).........ถ..ุง..อ...ณั ...ฑ...ะ.....................

11

บัตรความรทู้ ่ี 2 การทางานของระบบสบื พนั ธเุ์ พศชาย

เม่ือเพศชำยเริ่มเข้ำสู่วัยรุ่น ลูกอัณฑะจะผลิตเซลล์สืบพันธ์ุของเพศชำย คือ ตัวอสุจิ
เม่ือผลิตมำก ๆ ก็จะขับออกมำกับน้ำอสุจิ ซ่ึงมักจะออกมำเม่ือนอนหลับและฝัน จึงเรียกว่ำ
“ฝันเปียก” โดยทั่วไปเพศชำยจะเร่ิมสร้ำงตัวอสุจิเมื่อเริ่มเข้ำสู่วัยรุ่นคือ อำยุประมำณ 12–13 ปี
และจะสร้ำงไปจนตลอดชีวิต กำรหล่ังน้ำอสุ จิแต่ละครั้งจะมีของเหลวประมำณ 3 –4
ลูกบำศก์เซนติเมตร มีตัวอสุจิเฉล่ียประมำณ 350–500 ล้ำนตัว ปริมำณน้ำอสุจิและตัวอสุจิ
แตกต่ำงกันได้ตำมควำมแข็งแรงสมบูรณ์ของร่ำงกำย เช้ือชำติ และสภำพแวดล้อม ผู้ท่ีมีตัวอสุจิ
ต่ำกว่ำ 30 ล้ำนตัวต่อลูกบำศก์เซนติเมตร หรือมีตัวอสุจิที่มีรูปร่ำงผิดปกติมำกกว่ำร้อยละ 25
จะมีลูกไดย้ ำกหรือเป็นหมัน

ภำพท่ี 4 กำรทำงำนของระบบสบื พันธุเ์ พศชำย
ทม่ี ำ : https://goo.gl/549WSj, 19 เมษำยน 2559

การดูแลระบบสบื พันธเ์ุ พศชาย

ระบบสบื พันธม์ุ ีควำมสำคัญ เรำจึงควรดแู ลรกั ษำ ดงั น้ี
1. มีสขุ ปฏบิ ตั ิที่ดีเกีย่ วกบั อวัยวะเพศ เชน่ อำบน้ำชำระล้ำงอวยั วะเพศและหลังขบั ถำ่ ย

ไม่สวมกำงเกงหรือกำงเกงในทรี่ ัดแนน่ เปน็ ต้น
2. ไม่ใช้เสอ้ื ผ้ำและเคร่ืองนงุ่ ห่มปะปนกับคนอืน่
3. กนิ อำหำรที่มปี ระโยชน์ต่อรำ่ งกำย
4. ออกกำลงั กำยอย่ำงสม่ำเสมอ และพกั ผ่อนให้เพยี งพอ

12

5. ทำจติ ใจให้รำ่ เรงิ แจม่ ใส ไมเ่ ครยี ด
6. ถ้ำเกิดกำรฝนั เปยี กขณะนอนหลบั ควรทำควำมสะอำดเสอ้ื ผำ้ หรือเครือ่ งนอน

อย่ำปล่อยท้งิ ไวห้ มกั หมม เพรำะจะเปน็ แหลง่ เชอ้ื โรค
7. หำกมคี วำมผดิ ปกตเิ ก่ียวกับอวยั วะเพศ เช่น คัน บวมแดง มีหนองไหล มกี ลนิ่ เหมน็ เปน็ ต้น

ควรรบี พบแพทยเ์ พือ่ ทำกำรตรวจและรกั ษำ

ภำพที่ 5 กำรดแู ลระบบสืบพันธุเ์ พศชำย
ท่ีมำ : https://goo.gl/rvzLdD, 19 เมษำยน 2559

13

บตั รกิจกรรมท่ี 2
เรื่อง การทางานและการดูแล

ระบบสบื พนั ธเ์ุ พศชาย

ตอนท่ี 1 ใหน้ กั เรยี นทำเคร่อื งหมำย  ลงในช่องว่ำงหน้ำข้อควำมทถ่ี ูกตอ้ งและ

ทำเคร่ืองหมำย x ลงในช่องว่ำงหน้ำข้อควำมท่ผี ดิ

1).........................ลกู อัณฑะจะผลิตเซลล์สบื พันธุ์ของเพศชำย คอื ตวั อสุจิ
2).........................เพศชำยจะเริ่มสรำ้ งตัวอสจุ ิเมือ่ เร่มิ เขำ้ สวู่ ยั ร่นุ คือ อำยุประมำณ 17 – 20 ปี
3).........................ตวั อสุจิ เมอื่ ผลิตมำก ๆ ก็จะขบั ออกมำกับนำ้ อสจุ ิ ขณะนอนหลบั และฝัน

จึงเรยี กว่ำ “ ฝันเปยี ก ”
4).........................กำรหลั่งน้ำอสุจแิ ต่ละคร้ังจะมตี ัวอสุจิเฉล่ยี ประมำณ 50 – 100 ล้ำนตัว
5).........................ตัวอสจุ ิที่มรี ูปร่ำงผิดปกติมำกกวำ่ ร้อยละ 25 จะมีลูกไดย้ ำกหรอื เปน็ หมัน

ตอนท่ี 2 ให้นกั เรยี นบอกวธิ ีกำรดูแลรกั ษำระบบสืบพันธมุ์ ำ 5 ขอ้
1)....................................................................................................................................................
2)....................................................................................................................................................
3)....................................................................................................................................................
4)....................................................................................................................................................
5)....................................................................................................................................................

14

เฉลยบตั รกิจกรรมที่ 2
เรอ่ื ง การทางานและการดูแล

ระบบสืบพันธเ์ุ พศชาย

ตอนที่ 1 ให้นกั เรยี นทำเครอ่ื งหมำย  ลงในชอ่ งวำ่ งหน้ำขอ้ ควำมทีถ่ กู ตอ้ งและ

ทำเคร่ืองหมำย X ลงในช่องว่ำงหน้ำขอ้ ควำมที่ผิด
1)....................ลกู อัณฑะจะผลติ เซลล์สืบพนั ธุข์ องเพศชำย คือ ตัวอสุจิ
2)..........X............เพศชำยจะเร่ิมสรำ้ งตวั อสุจิเมอ่ื เริ่มเข้ำสู่วยั รุ่นคอื อำยปุ ระมำณ 17 – 20 ปี
3)....................ตวั อสุจิ เมอื่ ผลติ มำก ๆ กจ็ ะขับออกมำกับน้ำอสุจิ ขณะนอนหลับและฝัน

จึงเรียกว่ำ “ ฝนั เปยี ก ”
4)...........X...........กำรหล่ังน้ำอสจุ ิแต่ละครัง้ จะมตี วั อสุจิเฉลยี่ ประมำณ 50 – 100 ล้ำนตัว
5)....................ตวั อสุจิท่ีมีรปู ร่ำงผิดปกตมิ ำกกว่ำรอ้ ยละ 25 จะมีลกู ได้ยำกหรือเป็นหมนั

ตอนที่ 2 ให้นักเรยี นบอกวธิ กี ำรดูแลรักษำรักษำระบบสบื พนั ธ์ุมำ 5 ขอ้
1)....อ...ำ..บ..น...้ำ..ช..ำ..ร..ะ..ล...ำ้ ..ง..อ..ว..ัย..ว..ะ...เ.พ...ศ..แ..ล...ะ..ห...ล..ัง..ข..บั...ถ..ำ่..ย.............................................................................
2)....ไ..ม..ส่...ว..ม..ก...ำ..ง.เ..ก..ง..ห...ร..ือ..ก..ำ..ง..เ.ก...ง..ใ.น...ท..ร่ี..ดั...แ..น...่น......................................................................................
3)....ไ..ม..ใ่..ช..้เ..ส..้ือ..ผ...ำ้ ..แ..ล..ะ..เ..ค..ร..ือ่..ง..น...ุง่..ห..่ม...ป...ะ..ป..น...ก..บั...ค..น...อ..ื่น.............................................................................
4)....ก...นิ ..อ...ำ..ห..ำ..ร..ท...่ีม..ปี...ร..ะ..โ..ย..ช..น...์ต..่อ...ร..่ำ..ง..ก..ำ..ย............................................................................................
5)....อ...อ..ก...ก..ำ..ล..งั..ก..ำ..ย...อ..ย..่ำ..ง..ส...ม..่ำ..เ.ส...ม..อ....แ..ล...ะ..พ...ัก..ผ..อ่...น..ใ..ห..เ้..พ..ีย...ง.พ...อ..............................................................

15

บตั รความรทู้ ่ี 3 ระบบสืบพนั ธุ์เพศหญิง

ส่ิงมีชีวิตต้องมีกำรดำรงเผ่ำพันธุ์ของตนเองตำมระยะเวลำท่ีเหมำะสม เม่ือคนเรำมีอำยุ
ประมำณ 12 – 13 ปี ต่อมใต้สมองจะมีกำรหลั่งฮอร์โมนเพศ ทำให้ร่ำงกำยมีกำรเจริญทำงเพศ
มำกขน้ึ โดยเตบิ โตจำกเด็กชำยและเดก็ หญิงมำสคู่ วำมเป็นหนุ่มสำว

ในเพศหญิงจะมีรูปร่ำงเปลี่ยนแปลงไป หน้ำอกโต สะโพกขยำยใหญ่ขึ้น เอวคอดเล็กลง
ทำให้เหน็ ลกั ษณะรูปร่ำงของผหู้ ญิงอยำ่ งชัดเจน เร่มิ มขี นข้ึนท่รี ักแร้และอวัยวะเพศ

สัญลักษณ์ทำงชีววิทยำของเพศหญิง คือ มำจำกกระจกมือถือของวีนัส เทพธิดำ
แห่งควำมรกั ของอำณำจกั รโรมันโบรำณ

ภำพที่ 6 ระบบสบื พนั ธ์ุเพศหญงิ
ทมี่ ำ : https://goo.gl/dWVnfV, 19 เมษำยน 2555.

อวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศหญิงท่ีมองเห็นภำยนอกร่ำงกำย ได้แก่ เต้ำนมและอวัยวะ
สบื พันธุภ์ ำยนอกทเ่ี รยี กวำ่ ปำกช่องคลอด มีลักษณะและหนำ้ ท่ดี งั น้ี

1. เต้ำนม เป็นอวัยวะท่ีสำคัญบ่งบอกควำมเป็นผู้หญิง เป็นอวัยวะที่อยู่บริเวณทรวงอก
ดำ้ นหน้ำทัง้ 2 ขำ้ ง มีรูปรำ่ งคล้ำยกรวย ทำหน้ำทผ่ี ลติ น้ำนมเพ่อื เล้ียงทำรก

2. ช่องคลอด ทำหน้ำท่ี เป็นทำงเดินให้ตัวอสุจิเขำ้ สมู่ ดลูกและปีกมดลูกหรือให้ทำรกคลอด
ออกมำ และเปน็ ทำงออกของประจำเดือน

16

ภำพที่ 7 อวัยวะสืบพนั ธ์เุ พศหญงิ ภำยนอกรำ่ งกำย
ทีม่ ำ : https://goo.gl/dWVnfV , 19 เมษำยน 2559.

อวัยวะที่อยู่ภำยในร่ำงกำยเพศหญิง ได้แก่ รังไข่ มดลูก ท่อนำไข่ ช่องคลอด มีลักษณะ
และหนำ้ ที่ดงั น้ี

1. รังไข่ มี 2 ข้ำง ทำหน้ำท่ี ผลิตไข่ซึ่งเป็นเซลล์สืบพันธ์ุเพศหญิง สลับข้ำงกันทำหน้ำที่
ผลติ ไข่เดือนละใบ และสร้ำงฮอรโ์ มนเพศหญงิ ทส่ี ำคญั

2. มดลูก ทำหน้ำที่ เป็นบริเวณฝังตัวของตัวอ่อน ที่เกิดจำกกำรผสมของไข่กับตัวอสุจิ
และเปน็ ท่เี จรญิ เตบิ โตของทำรกในครรภ์

3. ท่อนำไข่หรือปีกมดลูก ทำหน้ำที่ เป็นทำงเดินของไข่มำยังมดลูกหรือเป็นบริเวณ
ทไี่ ข่ผสมกับตัวอสุจิ ซ่ึงภำยในมขี นละเอียดอ่อนคอยพัดโบกอยตู่ ลอดเวลำ

4. ช่องคลอด ทำหน้ำท่ี เป็นทำงเดินให้ตัวอสุจิเข้ำสู่มดลูก เป็นทำงให้ทำรกคลอดออกมำ
และเปน็ ทำงออกของประจำเดือน

ภำพที่ 8 อวัยวะสืบพนั ธเ์ุ พศหญงิ ภำยในรำ่ งกำย
ทมี่ ำ : https://goo.gl/YwTiQH, 19 เมษำยน 2559.

17

บัตรกิจกรรมที่ 3
เรอื่ ง ระบบสืบพันธุเ์ พศหญงิ

ตอนท่ี 1 ให้นกั เรยี นเตมิ คำหรือข้อควำมลงในช่องว่ำงให้ถกู ตอ้ ง
1. บริเวณท่ีเกิดกำรปฏสิ นธ.ิ ........................................................................................................
2. บริเวณที่เกิดกำรฝงั ตวั ของตัวอ่อน...........................................................................................
3. อวยั วะที่สร้ำงฮอรโ์ มนเพศหญิง..............................................................................................
4. ทำงผ่ำนของประจำเดอื นออกนอกรำ่ งกำย..............................................................................
5. อวัยวะท่ีทำหนำ้ ทผี่ ลติ ไขเ่ ดือนละใบ.......................................................................................

ตอนท่ี 2 ใหน้ ักเรยี นเตมิ ชอ่ื ส่วนประกอบของอวัยวะสบื พนั ธ์ใุ นเพศหญงิ ลงในภำพตอ่ ไปนี้

………………………………………… …………………………………
………………………………………… …………………………………………
……………………………………………………

18

เฉลยบตั รกิจกรรมที่ 3
เรือ่ ง ระบบสืบพนั ธุ์เพศหญิง

ตอนที่ 1 ใหน้ ักเรียนเติมคำหรอื ขอ้ ควำมลงในชอ่ งว่ำงให้ถูกต้อง
1. บริเวณท่ีเกิดกำรปฏิสนธ.ิ ..........ท...่อ...น..ำ..ไ..ข..ห่...ร..ือ..ป...ีก..ม..ด...ล..ูก.............................................................
2. บริเวณที่เกิดกำรฝงั ตวั ของตัวออ่ น......ม...ด..ล..ูก..............................................................................
3. อวัยวะทส่ี ร้ำงฮอร์โมนเพศหญิง........ร..ัง.ไ..ข..่...............................................................................
4. ทำงผ่ำนของประจำเดอื นออกนอกรำ่ งกำย.....ช...อ่ ..ง..ค..ล...อ..ด...........................................................
5. อวยั วะท่ีทำหน้ำทผ่ี ลติ ไขเ่ ดอื นละใบ..........ร..งั .ไ..ข..่......................................................................

ตอนท่ี 2 ใหน้ กั เรยี นเตมิ ชือ่ ส่วนประกอบของอวัยวะสืบพนั ธุ์ในเพศหญิงลงในภำพตอ่ ไปน้ี

………………ร…งั ไ…ข…่ ………………… …ท…อ่ …น…ำ…ไข…่ห…ร…ือ…ป…ีก…ม…ดล…กู
………ช…อ่ …ง…ค…ล…อด……… มดลูก

…………………………………………

……………ป…ำ…ก…ม…ด…ล…กู ………………………

19

บัตรความรทู้ ี่ 4 การทางานของระบบสืบพันธุ์เพศหญงิ

เมื่อเพศหญิงเริ่มเข้ำสู่วัยรุ่น อำยุต้ังแต่ประมำณ 10 – 12 ปี ข้ึนไป (ส่วนใหญ่เพศหญิง
จะเข้ำสู่วัยรุ่นก่อนเพศชำยประมำณ 1 – 2 ปี) รังไข่จะผลิตเซลล์สืบพันธุ์ของเพศหญิง คือ ไข่
ถ้ำไข่ได้รับกำรผสมกับตัวอสุจิ จะทำให้เกิดเด็กหรือลูกได้ เม่ือเด็กอยู่ในท้องแม่ครบ 9 เดือนก็จะ
คลอดออกมำ จำกน้ันต่อมน้ำนมจะผลิตน้ำนมออกมำเพ่ือเป็นอำหำรสำหรับเด็ก ถ้ำไข่ไม่ได้รับ
กำรผสมกับตัวอสุจิ ไข่ก็จะฝ่อหำยไป ส่วนมดลูกท่ีเตรียมเยื่อบุมดลูกให้หนำขึ้นเพ่ือรอรับไข่ที่ผสม
แล้วมำฝังตัว หำกไม่มีไข่มำฝังตัวเยื่อบุผนังมดลูกจะลอกตัวและขับออกมำทำงช่องคลอด เรียกว่ำ
“ประจำเดือน” หรือ “เลือดประจำเดือน” ซึ่งจะออกมำทุกเดือน โดยปกติหญิงจะมีรอบของ
กำรมีประจำเดือนทุก 21 – 35 วัน เฉล่ียประมำณ 28 วัน จนกระทั่งประมำณอำยุ 50 ปี จึงจะ
หมดประจำเดอื น ดังน้นั ตลอดชว่ั อำยขุ องเพศหญิงปกตจิ ะผลติ ไข่โดยเฉล่ียประมำณ 400 เซลล์

ภำพท่ี 9 กำรทำงำนของระบบสบื พันธเ์ุ พศหญิง
ทมี่ ำ : http://3.bp.blogspot.com/-dxCuF84kRG4/TeEP_HZPX1I/AAAAAAAAABg/

75mOUz_a7vw/s1600/6-3.jpg , 19 เมษำยน 2559

20

ระยะประจำเดือน

ระยะก่อนประจำเดอื น ระยะก่อนไขต่ ก
ระยะไขต่ ก

ภำพท่ี 10 กำรเกดิ ประจำเดือนของผู้หญงิ
ที่มำ : http://p.lnwfile.com/_/p/_raw/ag/lc/4h.jpg , 19 เมษำยน 2559

การเกิดประจาเดอื นในระยะเวลา 28 วนั

ระยะมีประจำเดือน ไขท่ ่ีไม่ไดร้ ับกำรผสมกับอสจุ ิจะสลำยออกมำพร้อมกับเยื่อบมุ ดลูก

กลำยเป็นเลือดประจำเดือน

ระยะไข่เรมิ่ สุก ผนังมดลูกเริม่ หนำขน้ึ

ระยะไข่สุก ไขต่ กออกจำกรงั ไข่เคล่ือนตัวไปมดลูกเพือ่ เตรียมฝังตัว

ผนังมดลกู หนำมำกขนึ้ กำรตกไขจ่ ะเกิดขนึ้ ประมำณ วันที่ 13 – 15

ระยะปฏิสนธิ อสจุ สิ ำมำรถเดนิ ทำงเข้ำมำผสมกบั ไขไ่ ด้

ระยะปลอดภยั ไข่เริ่มฝอ่ และเตรยี มตวั สลำยตวั จะเกิดเป็นประจำเดือน

การดูแลระบบสบื พนั ธ์ุเพศหญงิ

ระบบสบื พันธ์มุ ีควำมสำคัญ เรำจึงควรดูแลรกั ษำ ดงั น้ี
1. ควรทำควำมสะอำดอวยั วะเพศทกุ ครัง้ ที่อำบน้ำหรอื หลงั กำรขับถำ่ ยด้วยน้ำและสบู่
โดยทำควำมสะอำดจำกด้ำนหนำ้ ไปดำ้ นหลังเสมอ
2. ไมส่ วมเส้อื ผ้ำ กำงเกงใน เส้อื ช้ันใน ทอี่ ับชนื้ และรัดแนน่ เกนิ ไป
3. ไมค่ วรใชเ้ สื้อผ้ำ ผ้ำเช็ดตัวและกำงเกงในปะปนกับคนอืน่
4. กนิ อำหำรท่มี ีประโยชนต์ ่อร่ำงกำย

21

5. ออกกำลังกำยอย่ำงสม่ำเสมอ และพกั ผ่อนให้เพียงพอ
6. ทำจิตใจให้ร่ำเรงิ แจม่ ใส ไมเ่ ครยี ด
7. ใช้หอ้ งนำ้ หอ้ งส้วม ใหถ้ กู สขุ ลกั ษณะ
8. ถำ้ สงสยั วำ่ ตนเองมอี ำกำรผิดปกติกับอวยั วะเพศ เช่น คัน ตกขำว มีกลิ่นเหมน็ เปน็ ต้น

ควรรีบพบแพทยเ์ พ่อื ทำกำรตรวจและรกั ษำ
9. ขณะมีประจำเดอื น ควรดูแลสขุ อนำมัยของตนเองให้สะอำดอยเู่ สมอ โดยควรเปลย่ี น

ผำ้ อนำมยั ทกุ 3 – 4 ชัว่ โมง และหลีกเลย่ี งกำรออกแรงมำก ๆ

ภำพที่ 11 กำรดูแลระบบสบื พนั ธเ์ุ พศหญิงโดยกำรใชห้ ้องนำ้ ทสี่ ะอำด
ทีม่ ำ : http://wekorat.com/wp-content/uploads/sites/23/2014/02/WP.jpg, 19 เมษำยน 2559

22

บตั รกิจกรรมที่ 4
เรื่อง การทางานและการดแู ล

ระบบสบื พนั ธเุ์ พศหญิง

ตอนที่ 1 ให้นักเรียนเตมิ คำในช่องว่ำงของตำรำงใหถ้ กู ต้อง

ชว่ งเวลา ลกั ษณะทแี่ สดงออกในการเกดิ ประจาเดอื น
ระยะไข่เริ่มสกุ ไข่ทไี่ ม่ไดร้ บั กำรผสมกบั อสจุ จิ ะสลำยออกมำพร้อมกับเยือ่ บมุ ดลกู
ระยะปฏสิ นธิ กลำยเปน็ เลอื ดประจำเดอื น

ไข่ตกออกจำกรังไขเ่ คลอ่ื นตัวไปมดลกู เพอ่ื เตรยี มฝังตัว
ผนังมดลกู หนำมำกขึ้น

ไข่เริ่มฝอ่ และเตรียมตัวสลำยตวั จะเกดิ เปน็ ประจำเดือน

ตอนท่ี 2 ให้นกั เรยี นพิจำรณำหลกั กำรดูแลรกั ษำระบบสบื พันธ์ุเพศหญิงแล้วทำเครื่องหมำย 
ลงในชอ่ งวำ่ งหน้ำขอ้ ควำมที่ถกู ต้องและทำเครอ่ื งหมำย X ลงในช่องวำ่ งหน้ำขอ้ ควำม
ทผี่ ิด

1).........................ทำควำมสะอำดอวยั วะเพศทกุ ครงั้ ทอ่ี ำบน้ำหรอื หลงั กำรขบั ถ่ำยดว้ ยแชมพู
2).........................ไม่สวมเส้อื ผำ้ กำงเกงใน เสอ้ื ชน้ั ใน ทอี่ ับชนื้ และรัดแน่นเกินไป
3).........................มอี ำกำรผดิ ปกตกิ ับอวัยวะเพศ เช่น คัน ตกขำว มีกล่ินเหม็น เป็นตน้

ควรรีบพบแพทย์เพอ่ื ทำกำรตรวจและรกั ษำ
4).........................ทำจติ ใจใหร้ ่ำเริงแจ่มใส ไม่เครยี ด
5).........................ขณะมปี ระจำเดอื นควรดแู ลรกั ษำสะอำด โดยเปลีย่ นผ้ำอนำมัยทุก 1 ชัว่ โมง

23

เฉลยบัตรกิจกรรมท่ี 4
เรอ่ื ง การทางานและการดูแล

ระบบสบื พันธเุ์ พศหญิง

ตอนที่ 1 ให้นกั เรียนเตมิ คำในชอ่ งว่ำงของตำรำงใหถ้ ูกต้อง

ช่วงเวลา ลักษณะท่แี สดงออกในการเกดิ ประจาเดือน
ระยะมีประจาเดือน
ไขท่ ่ีไมไ่ ด้รับกำรผสมกับอสุจจิ ะสลำยออกมำพร้อมกับเย่อื บมุ ดลูก
ระยะไข่เริ่มสกุ กลำยเป็นเลือดประจำเดือน
ระยะไข่สุก ผนงั มดลูกเรม่ิ หนำข้ึน
ไขต่ กออกจำกรงั ไขเ่ คลอื่ นตัวไปมดลกู เพือ่ เตรียมฝังตัว
ระยะปฏสิ นธิ ผนังมดลกู หนำมำกข้นึ
ระยะปลอดภยั อสจุ ิสำมำรถเดินทำงเขำ้ มำผสมกบั ไขไ่ ด้
ไขเ่ ริม่ ฝอ่ และเตรยี มตัวสลำยตวั จะเกดิ เป็นประจำเดือน

ตอนท่ี 2 ให้นกั เรยี นพจิ ำรณำหลกั กำรดแู ลรักษำระบบสืบพนั ธุ์เพศหญงิ แล้วทำเครื่องหมำย 
ลงในช่องวำ่ งหนำ้ ข้อควำมท่ีถูกต้องและทำเคร่ืองหมำย X ลงในช่องว่ำงหน้ำขอ้ ควำม
ทผี่ ดิ

1)........... X..............ทำควำมสะอำดอวยั วะเพศทกุ ครั้งท่ีอำบน้ำหรือหลงั กำรขับถำ่ ยดว้ ยแชมพู
2)........................ไม่สวมเสือ้ ผ้ำ กำงเกงใน เสื้อชน้ั ใน ทอ่ี บั ชื้นและรดั แน่นเกินไป
3)........... ............มอี ำกำรผิดปกติกบั อวยั วะเพศ เช่น คัน ตกขำว มีกลิน่ เหม็น เป็นตน้

ควรรีบพบแพทย์เพอื่ ทำกำรตรวจและรกั ษำ
4)........... ...........ทำจติ ใจให้ร่ำเรงิ แจ่มใส ไม่เครียด
5)............X.............ขณะมีประจำเดือนควรดูแลรักษำสะอำด โดยเปลีย่ นผ้ำอนำมัยทกุ 1 ชั่วโมง

24

บัตรความรู้ที่ 5 ระบบไหลเวยี นโลหติ

ร่ำงกำยเรำต้องกำรสำรอำหำรและแก๊สออกซิเจนไปเล้ียงอวัยวะส่วนต่ำง ๆ และต้อง
ขับแก๊สคำร์บอนไดออกไซด์และของเสียออกจำกร่ำงกำย เพื่อให้ร่ำงกำยทำงำนได้ตำมปกติ
มีกำรเจริญเติบโต และมีพัฒนำกำรด้ำนต่ำง ๆ อย่ำงสมวัย ซ่ึงกำรลำเลียงแก๊สออกซิเจน
สำรอำหำร และของเสียภำยในร่ำงกำยของเรำเป็นหน้ำที่ของระบบไหลเวียนโลหิตและอวัยวะ
ทเี่ กยี่ วข้อง

ระบบไหลเวียนโลหิตมีหน้ำท่ีคล้ำยกับระบบจรำจรบนท้องถนน คือ เป็นระบบ
กำรขนส่งของร่ำงกำย โดยกำรนำอำหำร น้ำ สำรที่จำเป็น และแก๊สออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์
ในร่ำงกำย และนำของเสียออกจำกเซลล์ไปยังอวัยวะส่วนท่ีขับของเสียออกจำกร่ำงกำย
เชน่ ขับออกทำงลมหำยใจ เหงอื่ อจุ จำระ ปสั สำวะ

อวัยวะท่ีทำหน้ำที่สำคัญในระบบไหลเวียนโลหิต ได้แก่ หัวใจ เส้นเลือดหรือหลอดเลือด
และเลอื ด

ภำพท่ี 12 ระบบไหลเวียนโลหิต

ทม่ี ำ : http://www.maceducation.com/e-knowledge/2374203100/02_files/6-02.jpg , 19 เมษำยน 2559

25

หวั ใจ

หัวใจ เป็นอวัยวะท่ีสำคัญที่สุดในระบบไหลเวียนโลหิต ต้ังอยู่บริเวณกึ่งกลำงของทรวงอก
ระหว่ำงปอดทั้ง 2 ข้ำง ส่วนปลำยของหัวใจค่อนไปทำงทรวงอกข้ำงซ้ำย หัวใจเป็นอวัยวะ
ท่ีประกอบด้วยกล้ำมเนื้อทั้งหมด มีรูปร่ำงคล้ำยดอกบัวตูม ขนำดเท่ำกับกำปั้นของคน ๆ นั้น
หัวใจ ทำหน้ำที่สูบฉีดเลือดที่มีแก๊สออกซิเจนและสำรอำหำรไปเลี้ยงส่วนต่ำง ๆ ของร่ำงกำย
โดยกำรบีบตัวทำให้เกิดแรงดันให้เลือดเคลื่อนท่ีไปยังอวัยวะต่ำง ๆ ได้ทั่วถึง และส่งเลือดที่มี
แก๊สคำร์บอนไดออกไซด์ไปฟอกท่ีปอด ภำยในหัวใจเป็นโพรง แบ่งออกเป็น 4 ห้อง
ห้องบน 2 ห้อง ห้องล่ำง 2 ห้อง มีล้ินหัวใจกั้นระหว่ำงห้องบนและห้องล่ำงเพื่อป้องกัน
ไม่ใหเ้ ลือดไหลยอ้ นกลบั

ภำพที่ 13 หัวใจ
ทีม่ ำ : http://statics.atcloud.com/files/comments/94/946933/images/1_display.jpg , 19 เมษำยน 2559

หวั ใจแต่ละหอ้ งมหี นำ้ ทดี่ งั นี้
1. หวั ใจห้องบนขวำ มีหน้ำที่รับเลอื ดจำกส่วนตำ่ ง ๆ ของร่ำงกำยส่งไปยังหัวใจห้องล่ำงขวำ
2. หวั ใจหอ้ งบนซ้ำย มหี น้ำทรี่ ับเลอื ดทีฟ่ อกแลว้ จำกปอด และส่งให้หัวใจห้องล่ำงซำ้ ย
3. หัวใจหอ้ งล่ำงขวำ มีหนำ้ ท่ีรับเลือดจำกหัวใจหอ้ งบนขวำ แลว้ ส่งไปฟอกทป่ี อด
4. หัวใจห้องล่ำงซ้ำย มีหน้ำท่ีรับเลือดจำกหัวใจห้องบนซ้ำย แล้วสูบฉีดเลือดไปเล้ียงส่วน

ตำ่ ง ๆ ของรำ่ งกำย

26

ภำพท่ี 14 กำรแบง่ หอ้ งหวั ใจ
ทีม่ ำ : http://www.geocities.ws/peng_126/story2.html , 19 เมษำยน 2559.

เส้นเลอื ดหรอื หลอดเลอื ด

เส้นเลือดหรือหลอดเลือด เป็นอวัยวะที่มีอยู่ทั่วร่ำงกำยของเรำ เป็นท่อที่นำเลือดจำกหัวใจ
ไปยงั อวัยวะส่วนต่ำง ๆ และนำเลอื ดจำกสว่ นต่ำง ๆ กลับเขำ้ สหู่ ัวใจ แบ่งออกเป็น 3 ชนดิ ดังนี้

1. หลอดเลือดแดง มีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอก ผนังหนำ มีควำมยืดหยุ่นสูง มีหลำยขนำด
ขนำดใหญ่ท่ีสุดมีเส้นผ่ำนศูนย์กลำงประมำณ 1 นิ้ว พำดผ่ำนลำตัวใกล้กระดูกสันหลังและแตก
แขนงออกไปตำมส่วนต่ำง ๆ ของร่ำงกำย หลอดเลือดแดงมีหน้ำที่นำเลือดแดงที่สูบฉีดออกจำก
หัวใจไปยงั ส่วนตำ่ ง ๆ ของรำ่ งกำยและนอกจำกนกี้ ำรจับชพี จรนยิ มจบั ที่หลอดเลือดแดง

ภำพท่ี 15 เส้นเลือดหรือหลอดเลือด

ทมี่ ำ : http://img.kapook.com/image/health/artery.jpg , 19 เมษำยน 2559.

27
2. หลอดเลือดดำ มีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอกเหมือนหลอดเลือดแดง แต่ผนังของ
หลอดเลือดดำจะมีกล้ำมเน้ือน้อยกว่ำ และบอบบำงกว่ำ ภำยในมีลิ้นก้ันเพื่อไม่ให้เลือดไหล
ย้อนกลับ ทำหนำ้ ทีน่ ำเลือดดำจำกสว่ นตำ่ ง ๆ ของร่ำงกำยกลับเข้ำสู่หวั ใจ
3. หลอดเลือดฝอย มีผนงั บำงมำก ๆ และมขี นำดเลก็ ที่สดุ มหี นำ้ ท่ีนำเลอื ดจำกหลอดเลอื ดแดง
ไปตำมสว่ นต่ำง ๆ ของรำ่ งกำย แลว้ นำเลือดดำจำกส่วนต่ำง ๆ กลับส่หู ลอดเลือดดำ

ภำพที่ 16 ลกั ษณะของหลอดเลือดชนิดต่ำงๆ
ที่มำ : http://warayut272.wordpress.com/2012/02/22/ , 19 เมษำยน 2559.

28

เลือด

เลือด เป็นของเหลวที่อยู่ในหลอดเลือด มีหน้ำที่ลำเลียงสำรอำหำรและแก๊สออกซิเจน
ไปเล้ยี งเน้อื เยอื่ ส่วนต่ำง ๆ ในรำ่ งกำย ในเลอื ดมสี ่วนประกอบทีส่ ำคัญ ดงั น้ี

1. เม็ดเลือดแดง มีลักษณะเป็นรูปกลมแบนตรงกลำงบุ๋ม มีขนำดเล็กมีปริมำณมำกที่สุด
ในจำนวนเม็ดเลือด ภำยในมีสำรเคมีที่เรียกว่ำ เฮโมโกลบิน ทำหน้ำท่ีลำเลียงแก๊สออกซิเจน
และสำรอำหำรไปยังเนื้อเยอื่ สว่ นตำ่ ง ๆ ของรำ่ งกำย

2. เม็ดเลือดขำว มีลักษณะรูปร่ำงกลม เม็ดเลือดขำวขนำดใหญ่กว่ำเม็ดเลือดแดง
โดยจะทำหน้ำที่ตอ่ ตำ้ นและทำลำยเชื้อโรคหรือสงิ่ แปลกปลอมทเ่ี ข้ำสู่ร่ำงกำย

3. เกล็ดเลือด มีรูปร่ำงเป็นรูปไข่และแบน มีขนำดเล็กมำก ทำหน้ำท่ีช่วยให้เลือดแข็งตัว
เมอื่ เลือดไหลออกสูภ่ ำยนอกร่ำงกำย

ภำพท่ี 17 ลกั ษณะของเลือด
ทม่ี ำ : http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000001106501.JPEG , 19 เมษำยน 2559.

29

บัตรความรู้ท่ี 5
เรอื่ ง ระบบไหลเวยี นโลหติ

ตอนที่ 1 ใหน้ ักเรียนอธิบำยลกั ษณะของอวัยวะสำคัญในระบบไหลเวียนโลหติ มำพอสงั เขป
1. หัวใจ มีลักษณะ..........................................................................................................................
2. หลอดเลือดแดง มลี กั ษณะ..........................................................................................................
3. หลอดเลอื ดดำ มีลักษณะ............................................................................................................
4. เมด็ เลือดแดง มีลกั ษณะ.............................................................................................................
5. เม็ดเลอื ดดำ มีลักษณะ...............................................................................................................

ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรียนจับคู่อวัยวะและหนำ้ ทขี่ องระบบไหลเวยี นโลหติ ให้ถูกตอ้ งโดยนำอกั ษร

หน้ำขอ้ ควำมทำงด้ำนขวำมือ มำเตมิ หน้ำข้อควำมทำงซำ้ ยมือท่ีมีควำมสมั พนั ธ์กัน

1).........................ลำเลียงแก๊สออกซเิ จนและสำรอำหำร ก. หัวใจ

2).........................ต่อตำ้ นและทำลำยเชือ้ โรคทีเ่ ขำ้ สู่ร่ำงกำย ข. เสน้ เลอื ด

3).........................ช่วยให้เลอื ดแขง็ ตัว ค. เฮโมโกลบิน

4).........................ท่อที่นำเลอื ดจำกหวั ใจไปยงั อวัยวะสว่ นต่ำง ๆ ง. เมด็ เลอื ดขำว

5).........................สูบฉดี เลือดไปทกุ ส่วนตำ่ ง ๆ ของร่ำงกำย จ. เกลด็ เลอื ด

30

เฉลยบตั รกิจกรรมท่ี 5
เร่ือง ระบบไหลเวยี นโลหติ

ตอนท่ี 1 ให้นกั เรยี นอธิบำยลกั ษณะของอวยั วะสำคัญในระบบไหลเวยี นโลหิตมำพอสังเขป

1. หวั ใจ มลี กั ษณะ..ก..ล...ำ้ .ม...เ.น...อ้ื ..ท...ั้ง..ห..ม...ด....ม..ีร..ปู...ร..ำ่ .ง..ค...ล..ำ้..ย..ด...อ..ก...บ..วั..ต...มู ...ข...น..ำ..ด...เ.ท...่ำ..ก..บั...ก..ำ..ป...น้ั ..ข...อ..ง..ค..น....ๆ....น...น้ั ..
2. หลอดเลอื ดแดง มีลักษณะ...เ.ป...็น..ร..ปู...ท...ร..ง.ก...ร..ะ..บ...อ..ก....ผ..น...ัง.ห...น...ำ...ม..ีค...ว..ำ..ม..ย...ดื ..ห...ย..ุ่น...ส..งู.............................
3. หลอดเลือดดำ มีลกั ษณะ....ร..ูป..ท...ร..ง..ก..ร..ะ..บ...อ..ก....ผ...น..งั..ม..ีก...ล..้ำ..ม...เ.น..ือ้...น..้อ...ย..ก..ว..่ำ....บ..ำ..ง..ภ...ำ..ย..ใ..น..ม...ีล..ิน้...ก..ัน้...อ..ย..ู่....

4. เม็ดเลือดแดง มีลักษณะ.....เ.ป...็น...ร..ูป..ก...ล..ม..แ...บ..น...ต..ร..ง..ก...ล..ำ..ง..บ..๋มุ.............................................................
5. เม็ดเลือดดำ มลี ักษณะ....ร..ปู...ร..ำ่..ง..ก..ล..ม....เ.ม...ด็..เ..ล..ือ..ด...ข..ำ..ว..ข...น..ำ..ด..ใ..ห...ญ...ก่ ..ว..่ำ..เ.ม...็ด..เ..ล..ือ..ด...แ..ด...ง........................

ตอนท่ี 2 ให้นกั เรยี นจับคู่อวัยวะและหน้ำทขี่ องระบบไหลเวียนโลหติ ให้ถกู ตอ้ งโดยนำอักษร

หน้ำขอ้ ควำมทำงด้ำนขวำมอื มำเตมิ หนำ้ ขอ้ ควำมทำงซำ้ ยมือที่มคี วำมสมั พนั ธ์กนั

1)..........ค............ลำเลียงแก๊สออกซเิ จนและสำรอำหำร ก. หวั ใจ

2)..........ง............ตอ่ ต้ำนและทำลำยเชือ้ โรคท่ีเขำ้ ส่รู ่ำงกำย ข. เสน้ เลอื ด

3)..........จ............ชว่ ยใหเ้ ลือดแขง็ ตวั ค. เฮโมโกลบิน

4)..........ข............ท่อท่ีนำเลอื ดจำกหัวใจไปยังอวัยวะส่วนต่ำง ๆ ง. เมด็ เลอื ดขำว

5)..........ก............สูบฉดี เลือดไปทุกส่วนต่ำง ๆ ของร่ำงกำย จ. เกลด็ เลือด

31

บตั รความรทู้ ี่ 6 การทางานของระบบไหลเวยี นโลหติ

เส้นเลือด เสน้ เลือดจำกหัวใจไปปอด
จำกปอดมำหวั ใจ เส้นเลอื ดจำกปอดมหวั ใจ

เส้นเลือดดำ ลิ้นก้นั ไมทรลั
ผนงั กั้นเอเทรยี ล ลนิ้ กน้ั เอออดิก

เสน้ เลอื ดดำ ผนงั กน้ั เวนตรีคิวลำ่

ภำพท่ี 18 กำรทำงำนของระบบไหลเวยี นโลหติ
ท่ีมำ : http://3.bp.blogspot.com/-dxCuF84kRG4, 19 เมษำยน 2559.

ระบบไหลเวียนโลหติ มกี ำรทำงำน ดังนี้
1. หลอดเลือดดำนำเลอื ดจำกส่วนตำ่ ง ๆ ของรำ่ งกำยสง่ กลับเขำ้ สูห่ ัวใจห้องบนขวำ
2. หวั ใจห้องบนขวำบีบตัวให้เลือดไหลลงสู่หัวใจหอ้ งลำ่ งขวำ หัวใจห้องล่ำงขวำบบี ตวั เพ่อื ส่งเลอื ด

ไปยังปอดขำ้ งขวำและข้ำงซำ้ ย
3. ปอดทำหน้ำที่แลกเปล่ียนแก๊สออกซิเจนและแก๊สคำร์บอนไดออกไซด์ แล้วเลือดท่ีมี

แก๊สออกซิเจนมำกจะไหลกลับเขำ้ สหู่ ัวใจหอ้ งบนซ้ำย
4. หัวใจห้องบนซ้ำยรับเลือดที่มีแก๊สออกซิเจนมำกจำกปอดท้ัง 2 ข้ำง แล้วบีบตัวให้เลือดไหล

สหู่ วั ใจหอ้ งลำ่ งซำ้ ย
5. หัวใจห้องล่ำงซ้ำยบีบตัวให้เลือดไหลเข้ำสู่หลอดเลือดแดง เพ่ือนำเลือดไปเล้ียงส่วนต่ำง ๆ

ของร่ำงกำย

32

การดูแลระบบไหลเวยี นโลหิต

เลือดท่ไี หลเวยี นดีในรำ่ งกำย จะทำให้สขุ ภำพแข็งแรง สดชน่ื ผิวพรรณผ่องใส สมองปลอดโปร่ง
เรำจงึ ควรดูแลรักษำระบบไหลเวยี นโลหิต ดังนี้

1. กินอำหำรท่ีมีประโยชน์ต่อระบบไหลเวยี นโลหิต เช่น เนื้อสัตว์ ตับ ไข่แดง เป็นต้น และ
ไม่ควรกินอำหำรท่ีมีไขมันหรอื คอเลสเทอรอลสูงมำก ๆ

2. ด่ืมน้ำสะอำดให้มำก ๆ ทุกวัน เพ่ือช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี เพรำะน้ำเป็น
ส่วนประกอบของเลือด

3. ออกกำลงั กำยอย่ำงสมำ่ เสมอและให้เหมำะสมกับวยั ซึ่งจะทำใหก้ ลำ้ มเนอื้ หัวใจแข็งแรง
และกำรทำงำนของหัวใจดขี ้นึ

4. พกั ผอ่ นให้เพียงพอโดยกำรนอนหลับอย่ำงน้อยวันละ 6 – 8 ชั่วโมง
5. ควรทำจติ ใจของเรำใหร้ ่ำเริงแจ่มใสอยู่เสมอ
6. ระมัดระวังตนเองจำกกำรบำดเจ็บท่ีอำจทำให้เลอื ดออกได้
7. ตรวจสขุ ภำพของตนเอง โดยกำรไปพบแพทย์เพ่อื ตรวจร่ำงกำยเป็นประจำทุกปี

ภำพที่ 19 กำรดแู ลรกั ษำสขุ ภำพดว้ ยกำรออกกำลงั กำย
ที่มำ : http://wekorat.com/wp-content/uploads/sites/23/2014/02/WP.jpg, 19 เมษำยน 2559.

33

บตั รกิจกรรมที่ 6
เรอ่ื ง การทางานและการดแู ล

ระบบไหลเวียนโลหิต

ตอนที่ 1 ให้นกั เรยี นเรียงลำดับกลไกกำรทำงำนของระบบไหลเวียนโลหติ ใหถ้ กู ต้อง

.......................................................................................................................................................
ตอนที่ 2 ให้นักเรยี นวธิ กี ำรดูแลรกั ษำระบบไหลเวยี นโลหิตมำ 5 ข้อ
1)....................................................................................................................................................
2)....................................................................................................................................................
3)....................................................................................................................................................
4)....................................................................................................................................................
5)....................................................................................................................................................

34

เฉลยบตั รกิจกรรมท่ี 6
เรอื่ ง การทางานและการดแู ล

ระบบไหลเวยี นโลหติ

ตอนที่ 1 ให้นักเรยี นเรยี งลำดบั กลไกกำรทำงำนของระบบไหลเวยี นโลหิตให้ถูกต้อง

...........................................ห..ม...ำ..ย..เ.ล...ข...1...........3..........4...........2..........5..................................................

ตอนท่ี 2 ใหน้ ักเรียนวธิ กี ำรดูแลรกั ษำระบบไหลเวยี นโลหติ มำ 5 ข้อ
1)....ไ..ม..่ค...ว..ร..ก..ิน...อ..ำ..ห...ำ..ร..ท..่ีม...ไี .ข...ม..นั...ห..ร..ือ...ค..อ...เ.ล..ส...เ.ท..อ...ร..อ..ล...ส..ูง..ม..ำ..ก....ๆ............................................................
2)....ด...ืม่ ..น...้ำ..ส..ะ..อ...ำ..ด..ใ..ห..ม้...ำ..ก...ๆ....ท...กุ ..ว..ัน....เ..พ..ือ่...ช..ว่..ย..ท...ำ..ใ.ห...เ้.ล...ือ..ด...ไ.ห...ล..เ.ว..ีย...น..ไ..ด..ด้...ี ............................................
3)....อ...อ..ก...ก..ำ..ล..ัง..ก..ำ..ย...อ..ย..่ำ..ง..ส...ม..่ำ..เ.ส...ม..อ..แ...ล..ะ..ใ..ห..เ้..ห..ม...ำ..ะ..ส..ม...ก..ับ...ว..ัย................................................................
4)....พ...กั..ผ...อ่ ..น...ใ.ห...เ้.พ...ีย..ง..พ...อ..โ..ด..ย..ก...ำ..ร..น..อ...น..ห...ล..ับ...อ..ย...่ำ..ง.น...อ้..ย...ว..นั ..ล...ะ...6....–...8....ช..่ัว..โ..ม..ง.........................................
5)....ค...ว..ร..ท..ำ..จ...ติ ..ใ..จ..ข..อ...ง.เ..ร..ำ..ใ.ห...ร้ ..่ำ..เ.ร..งิ..แ..จ..่ม...ใ.ส...อ..ย..เู่..ส..ม..อ..............................................................................

35

บตั รความรทู้ ี่ 7 ระบบหายใจ

เสียงร้องคร้ังแรกของทำรกแรกเกิด เป็นสัญญำณแสดงให้เห็นว่ำ ร่ำงกำยของเรำ
เริ่มหำยใจโดยใช้ปอด ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญของระบบหำยใจ เม่ือเรำอยู่ในท้องแม่ เรำหำยใจผ่ำน
สำยสะดือ เป็นเร่ืองนำ่ พิศวงมำกทีส่ ะดอื บรเิ วณหน้ำท้องของเรำเคยชว่ ยใหเ้ รำหำยใจได้ แตเ่ มื่อเรำ
คลอดออกมำ เรำจึงเรม่ิ หำยใจดว้ ยอวยั วะในระบบหำยใจของเรำเอง

กำรหำยใจเป็นกำรนำอำกำศเข้ำและออกจำกร่ำงกำย ร่ำงกำยจะได้รับแก๊สออกซิเจน
จำกกำรหำยใจเข้ำ ทำให้เกิดกำรแลกเปล่ียนแก๊สออกซิเจนกับแก๊สคำร์บอนไดออกไซด์ จำกน้ัน
เลือดจะนำแก๊สออกซิเจนท่ีได้ไปเล้ยี งส่วนต่ำง ๆ และขับแก๊สคำร์บอนไดออกไซด์ออกจำกร่ำงกำย
โดยกำรหำยใจออก ทำให้กำรทำงำนของระบบในร่ำงกำยทำงำนเป็นปกติ และแก๊สออกซิเจน
ยังเป็นส่วนหน่ึงในกำรลำเลียงสำรอำหำรไปเล้ียงกระเพำะอำหำร เพ่ือกำรเจริญเติบโต
และมีพัฒนำกำรท่สี มวัย

หลอดลม โพรงจมกู หลอดเลอื ดฝอย
ปอด

กะบงั ลม

กำ๊ ซออกซเิ จน เลอื ดไปยงั หวั ใจ

กำ๊ ซคำร์บอนไดออกไซด์

เลือดจำกหวั ใจ

ภำพที่ 20 ระบบหำยใจ
ท่มี ำ : http://3.bp.blogspot.com/-S4RhDDR_Iig , 19 เมษำยน 2559.

36

อวัยวะของระบบหำยใจ แบง่ ออกเป็น 2 ส่วน คือ
1. ส่วนที่เป็นทำงผ่ำนของอำกำศ ช่วยให้อำกำศอุ่นและช้ืน อวัยวะในส่วนนี้ได้แก่ จมูก ปำก
กลอ่ งเสยี ง หลอดคอ และหลอดลม
2. ส่วนท่ีแลกเปลี่ยนแก๊ส ได้แก่ ปอด เม่ือเรำหำยใจเข้ำปอดจะทำหน้ำที่แลกเปลี่ยน
แก๊สออกซเิ จน ซง่ึ เป็นอำกำศบรสิ ุทธ์ิจำกภำยนอกเข้ำสู่เซลลข์ องร่ำงกำย เพ่ือเผำผลำญสำรอำหำร
ต่ำง ๆ ให้เกิดพลังงำน ทำให้ร่ำงกำยเจริญเติบโต และถ่ำยเทแก๊สคำร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็น
อำกำศเสียออกจำกเซลล์ ทำงลมหำยใจออก

ภำพที่ 21 อวัยวะของระบบหำยใจ
ทมี่ ำ : http://lms.thaicyberu.go.th/officialtcu/main/advcourse/presentstu , 19 เมษำยน 2559.

อวัยวะท่สี าคญั ในระบบหายใจ ไดแ้ ก่
1. จมูก เป็นส่วนที่ย่ืนออกมำตรงก่ึงกลำงใบหน้ำ มีลักษณะเป็นรูปสำมเหลี่ยม ทำหน้ำท่ี
เป็นทำงผ่ำนของอำกำศ และกรองฝุ่นละออง จมูกเป็นอวัยวะภำยนอก ตั้งอยู่กึ่งกลำงใบหน้ำ
ของเรำ มีลักษณะเป็น 2 ช่อง เรียกว่ำ ช่องจมูก ซ่ึงแบ่งเป็น 2 ตอน คือ ช่องจมูกตอนล่ำง
จะมีขนจมูก ช่วยกรองอำกำศและเช้ือโรค และช่องจมูกตอนบนหรือโพรงจมูกจะมีเย่ือเมือก
คอยดกั จบั เช้ือโรค ชอ่ งจมกู นจ้ี ะทะลุไปภำยในลำคอได้
2. หลอดลม เป็นส่วนที่ต่อจำกหลอดเสียง เป็นอวัยวะท่ีมีจุดเร่ิมต้นบริเวณลำคอและ
ทอดยำวไปในช่องอก มีลักษณะเป็นหลอดยำว ปลำยหลอดลมจะต่อเชื่อมกับข้ัวปอดท้ัง 2 ข้ำง
หลอดลมทำหนำ้ ทเ่ี ปน็ ทำงผำ่ นของอำกำศไปสูป่ อด

37

3. ปอด เป็นส่วนที่ต่อจำกหลอดลม เป็นอวัยวะท่ีสำคัญท่ีสุดในระบบหำยใจ บรรจุ
อยู่ภำยในโพรงของทรวงอก โดยแยกเป็นปอดข้ำงซ้ำยและปอดข้ำงขวำ มีลักษณะคล้ำยกรวย
ฟองน้ำขนำดใหญ่ ด้ำนนอกของปอดมีเย่ือลื่น ๆ บำง ๆ เรียกว่ำ เยื่อหุ้มปอด ห่อหุ้มปอด
ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ปอดได้รับอันตรำย ปอดของเรำประกอบด้วย ขั้วปอด ซ่ึงจะย่ืนออกจำกปอด
ท้ัง 2 ข้ำง และมำต่อเช่ือมกับหลอดลม ปลำยของขั้วปอดที่ติดกับปอดจะแตกแขนงออกเป็น
หลอดลมเล็ก ๆ อีกมำกมำย เรียกว่ำ แขนงขั้วปอด ที่ปลำยของแขนงขั้วปอดจะมีถุงลมเล็ก ๆ
มำกมำยนบั ไมถ่ ้วนไว้สำหรบั เกบ็ อำกำศ ถุงลมนี้เรียกว่ำ ถงุ ลมปอด

4. ถุงลมปอด เป็นส่วนท่ีอยู่ในปอด มีลักษณะเป็นเม็ดฟองน้ำเล็ก ๆ ทำหน้ำที่แลกเปล่ียน
แกส๊ ออกซเิ จนกบั แกส๊ คำร์บอนไดออกไซด์

38

บัตรกจิ กรรมท่ี 7
เร่อื ง ระบบหายใจ

ตอนที่ 1 ใหน้ ักเรยี นทำเครอ่ื งหมำยลงในชอ่ งว่ำงหนำ้ ข้อควำมทีถ่ ูกตอ้ งและทำเครือ่ งหมำย x

ลงในช่องวำ่ งหนำ้ ขอ้ ควำมทผี่ ดิ
1).........................เมื่อเรำอยใู่ นท้องแม่ เรำหำยใจผ่ำนสำยสะดอื
2).........................ช่องจมูกตอนล่ำงจะมีขนจมูก ช่วยกรองอำกำศและเชอ้ื โรค
3).........................รำ่ งกำยจะได้รับแก๊สออกซิเจนจำกกำรหำยใจเขำ้ และรำ่ งกำยจะขับ

แกส๊ คำรบ์ อนไดออกไซดโ์ ดยกำรหำยใจออก
4).........................อวัยวะท่ีแลกเปลย่ี นแก๊สออกซิเจนกับแกส๊ คำรบ์ อนไดออกไซด์คือ ถงุ ลมปอด
5).........................ปอด เป็นส่วนที่ต่อจำกหลอดลม เปน็ อวัยวะทีส่ ำคญั ทีส่ ดุ ในระบบหำยใจ

ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรียนเตมิ คำหรอื ข้อควำมลงในช่องวำ่ งให้ถูกตอ้ ง
1. อวยั วะใดทีท่ ำหน้ำท่ีคอยกรองไมใ่ หฝ้ ่นุ ละอองเขำ้ สู่ร่ำงกำย

.................................................................................................................................................
2. อวัยวะใดมสี ำรเมอื กคอยดักจับฝุ่นละอองและเช้อื โรคท่ปี นมำกับอำกำศ

.................................................................................................................................................
3. อวัยวะใดเปน็ ทำงเดนิ ของอำกำศเข้ำสู่ปอด

.................................................................................................................................................
4. อวยั วะใดมถี ุงลมทำหน้ำที่เก่ียวข้องกบั กำรแลกเปล่ียนแก๊ส

.................................................................................................................................................
5. ร่ำงกำยจะขบั แกส๊ ชนิดใดออกมำนอกรำ่ งกำย

.................................................................................................................................................

39

เฉลยบตั รกิจกรรมท่ี 7
เร่อื ง ระบบหายใจ

ตอนที่ 1 ให้นกั เรยี นทำเคร่อื งหมำย  ลงในชอ่ งว่ำงหน้ำข้อควำมทีถ่ กู ตอ้ งและทำเครือ่ งหมำย x

ลงในชอ่ งวำ่ งหน้ำข้อควำมทผ่ี ิด
1)....................เมื่อเรำอยู่ในท้องแม่ เรำหำยใจผำ่ นสำยสะดือ
2)....................ช่องจมูกตอนลำ่ งจะมขี นจมูก ช่วยกรองอำกำศและเช้อื โรค
3)....................รำ่ งกำยจะได้รบั แกส๊ ออกซเิ จนจำกกำรหำยใจเข้ำและร่ำงกำยจะขับ

แก๊สคำร์บอนไดออกไซดโ์ ดยกำรหำยใจออก
4)....................อวัยวะท่ีแลกเปลย่ี นแกส๊ ออกซเิ จนกับแกส๊ คำรบ์ อนไดออกไซด์คอื ถงุ ลมปอด
5)....................ปอด เป็นส่วนทต่ี อ่ จำกหลอดลม เปน็ อวยั วะท่ีสำคัญที่สดุ ในระบบหำยใจ

ตอนที่ 2 ให้นกั เรียนเติมคำหรอื ขอ้ ควำมลงในชอ่ งว่ำงให้ถกู ต้อง
1. อวัยวะใดทีท่ ำหนำ้ ทค่ี อยกรองไมใ่ ห้ฝุ่นละอองเข้ำสู่ร่ำงกำย

...ข...น..จ...ม..ูก....................................................................................................................................
2. อวยั วะใดมสี ำรเมอื กคอยดักจับฝุ่นละอองและเช้ือโรคที่ปนมำกับอำกำศ

....โ.พ...ร..ง..จ..ม...กู ................................................................................................................................
3. อวยั วะใดเป็นทำงเดินของอำกำศเข้ำสู่ปอด

....ห...ล..อ...ด..ล..ม.................................................................................................................................
4. อวยั วะใดมีถงุ ลมทำหน้ำที่เก่ียวขอ้ งกบั กำรแลกเปลี่ยนแก๊ส

...ป...อ..ด.........................................................................................................................................
5. รำ่ งกำยจะขบั แก๊สชนดิ ใดออกมำนอกรำ่ งกำย

....แ..ก..๊ส...ค..ำ..ร..์บ...อ..น...ไ.ด...อ..อ..ก...ไ.ซ...ด..์.......................................................................................................

40

บตั รความรทู้ ่ี 8 การหายใจเข้าออก

กำรหำยใจเข้ำ อำกำศจะเข้ำไปในปอด ทำให้ปอดขยำยใหญ่ขึ้น ขณะหำยใจเข้ำกล้ำมเน้ือ
กะบังลมหดตัวต่ำลง กระดูกซี่โครงยกตัวขึ้น ท้องจะป่องออกเกิดกำรแลกเปล่ียนแก๊ส
โดยแก๊สออกซิเจนท่ีอยู่ในปอดจะซึมออกจำกถุงลมปอดเข้ำสู่กระแสเลือดไปเลี้ยงส่วนต่ำง ๆ
ในร่ำงกำย แกส๊ คำรบ์ อนไดออกไซด์ในกระแสเลอื ดจะซมึ เข้ำสู่ถุงลมปอด

ภำพท่ี 22 กำรหำยใจเข้ำ
ท่มี ำ : https://sukasuksasix.wikispaces.com , 19 เมษำยน 2559.

กำรหำยใจออก อำกำศจะออกจำกปอด ทำให้ปอดแฟบลง ขณะหำยใจออก กล้ำมเน้ือ
กะบังลมยกตัวขึ้น กระดูกซ่ีโครงลดต่ำลง ท้องจะแฟบลง ควำมดันอำกำศภำยในสูงขึ้น ทำให้
อำกำศทมี่ ีแกส๊ คำรบ์ อนไดออกไซดถ์ กู ดันสู่ภำยนอกเปน็ ลมหำยใจออก

41

ภำพท่ี 23 กำรหำยใจออก
ที่มำ : https://sukasuksasix.wikispaces.com , 19 เมษำยน 2559.

ระบบหำยใจมีควำมสำคัญตอ่ กำรดำรงชวี ติ ของเรำ เรำจงึ ตอ้ งดูแลรักษำโดยปฏิบัติ ดงั น้ี
1. ควรอยู่ในสถำนท่ีที่มีอำกำศบริสุทธ์ิ เพรำะบริเวณท่ีมีอำกำศบริสุทธิ์จะแก๊สออกซิเจน
อยูม่ ำก
2. ควรรกั ษำควำมอบอุ่นของรำ่ งกำยอยู่เสมอ โดยเฉพำะเมื่อมีกำรเปลีย่ นแปลงของอำกำศ
3. ไม่สูบบุหร่ีหรืออยู่ในที่ท่ีมีผู้สูบบุหร่ี เพรำะควันจำกบุหร่ีจะทำให้เป็นสำเหตุ
ของโรคระบบทำงเดินหำยใจ เชน่ ถงุ ลมโป่งพอง มะเรง็ ปอด เป็นต้น
4. ไม่สวมใส่เส้ือผ้ำที่คับหรือรัดเข็มขัดให้แน่นตึงเกินไป เพรำะทำให้ปอดขยำยได้ไม่เต็ม
ที่มีผลใหร้ ำ่ งกำยรับแกส๊ ออกซิเจนไดน้ อ้ ย
5. ออกกำลังกำยอยำ่ งสม่ำเสมอ เพ่อื ใหป้ อดทำงำนได้ดี
6. หลกี เลี่ยงกำรอย่ใู กลช้ ิดผูท้ ป่ี ว่ ยเป็นโรคทำงเดินหำยใจ เชน่ ไข้หวดั วัณโรค เปน็ ต้น

ภำพที่ 24 กำรดูแลระบบหำยใจ
ทมี่ ำ : http://lms.thaicyberu.go.th/officialtcu/main/advcourse/presentstu33.jpg , 19 เมษำยน 2559.


Click to View FlipBook Version