The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานสรุปผลการดำเนินงานภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mango.paradon, 2023-05-01 12:45:59

รายงานสรุปผลการดำเนินงานภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน

รายงานสรุปผลการดำเนินงานภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน

“...เราทั้งหลายทราบกันดี ว่าการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าที่ถูกทำลายไปมากแล้วเป็นงานยาก และมีรายละเอียดมากมาย กว่าจะเห็นผลต้องใช้ระยะเวลานาน ระหว่างทำงานก็ต้องพบกับอุปสรรคใหญ่น้อย ที่ทำให้งานขาดความราบรื่น แต่ถ้าเราไม่ลงมือทำตั้งแต่บัดนี้ ในวันข้างหน้าความยากลำบาก ต้องเกิดแก่อนุชนรุ่นหลัง ซึ่งเป็นเชื้อสายของลูกเรา การอนุรักษ์ป่าน่านจึงเป็นว่าระสำคัญที่ต้องเร่งลงมือทำ...” อยากให้คนน่านรักษาป่า รักษาศิลปะวัฒนธรรมต่าง ๆ ไว้อยากให้น่านเป็นแบบนี้ไปนาน ๆ “...น่านคือบ้านหลังที่สองของเรา...” ประธานมูลนิธิรักษ์ป่าน่าน


...เรื่องนี้ไม่มีใครเป็นผู้ร้าย… “ในเมื่อที่ดินไม่พอทำกินก็ต้องรุกล้ำเข้าไปเรื่อย ๆ เป็นการบุกรุกผืนป่าเพื่อความอยู่รอด ซึ่งส่งผลชัดเจนว่าพื้นที่ทำกินของประชาชนไม่เพียงพอต่อความต้องการ เราต้องสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจให้กับพืชผลการเกษตร และผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงฝีมือคนน่าน” รองประธานมูลนิธิรักษ์ป่าน่าน


นครน่าน : นครแห่งการศึกษา พระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมประเพณี อันดีงามที่มีชีวิต “สิ่งเหล่านี้คือต้นทุนที่สามารถนำไปพัฒนาชีวิตพัฒนาอาชีพ รวมถึงการพัฒนาเกษตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างอย่างยั่งยืน ชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดี เกษตรกรวิถีใหม่สามารถแสวงหาองค์ความรู้และภูมิปัญญา พัฒนาชุมชนให้มีศักยภาพด้วยการพึ่งพาตัวเอง” ประธานศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง ผู้อ านวยการ วิทยาลัยสงฆ์นครน่าน เฉลิมพระเกียรติฯ


รายงานการดำเนินงานศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล-รักษ์ป่าน่าน จัดทำเพื่อสรุปผลการขับเคลื่อน งานเพื่อไปสู่เป้าหมายการพัฒนาการอนุรักษ์ฟื้นฟูพื้นที่ป่าของจังหวัดน่าน ตามพระปณิธานของสมเด็จ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานโครงการ รักษ์ป่าน่าน เนื้อหาภายในเล่มได้จัดทำขึ้นเพื่อรายงานผลการดำเนินโครงการตามแผนงานพัฒนา ศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล – รักษ์ป่าน่าน ในปีงบประมาณ ๒5๖5-2566 ณ โดยรายละเอียดในเอกสาร ประกอบด้วยการรวบรวมผลการดำเนินงาน โครงการและกิจกรรมที่สร้างองค์ความรู้ บูรณาการองค์ความรู้ และเสริมสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน และภาคีเครือข่าย การวิเคราะห์ผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัด ความสำเร็จของโครงการ การสรุปผลความสำเร็จและความพึงพอใจของผู้ที่มีส่วนร่วมในการดำเนินงาน ประมวลภาพการจัดกิจกรรม และหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการนำข้อมูลดำเนินงานตาม แผนพัฒนาไปปรับประยุกต์ใช้ในการหนุนเสริมกระบวนการจัดทำศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล-รักษ์ป่าน่าน ตลอดจนบูรณาการแผนพัฒนากับหน่วยงาน/ภาคีต่างๆ ได้อย่างสอดคล้องครอบคลุม ในโอกาสนี้คณะผู้จัดทำขอขอบคุณบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการทุกท่านที่ให้ความ ร่วมมือในการดำเนินงานตามโครงการและรายงานผลการดำเนินงานโครงการ ทำให้การดำเนินงานบรรลุผล ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้เป็นอย่างดี พระชยานันทมุนี รศ.ดร.และคณะ ประธานกรรมการศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล -รักษ์ป่าน่าน


ที่มาและความสำคัญของศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล -รักษ์ป่าน่าน 1 เป้าหมายการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล – รักษ์ป่าน่าน 5 กระบวนการดำเนินงานศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล -รักษ์ป่าน่าน 8 รายงานการปรับโครงสร้างพื้นฐาน ภูเพียงโมเดล – รักษ์ป่าน่าน 14 สร้างศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล รักษ์ป่าน่าน 18 การเปิดศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล รักษ์ป่าน่าน 30 ปัญหาอุปสรรคที่พบในการดำเนินงาน 58 สรุปงบประมาณที่ใช้ 61


1 ของศูนย์การเรียนรู้ ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน


2 สภาพลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดน่าน ยังเป็นป่าต้นน้ำ มีภูเขาล้อมรอบ ประชากรส่วนมาก ประกอบอาชีพการเกษตรเป็นหลัก และอาศัยทรัพยากรธรรมชาติเป็นแหล่งทำมาหากินใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นใน การทำเกษตรเลี้ยงชีพ มีแกนกลางเสาหลักของการดำเนินชีวิตคือ หลักของพระพุทธศาสนาเป็นรากฐานของ จิตใจ เป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการพัฒนาขีดความสามารถของการพัฒนาพุทธเกษตรวิถีพุทธดั้งเดิม แต่ในปัจจุบันจะ เห็นได้ว่าภาคการเกษตรของไทยเป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศเป็นรากฐานของ การสร้างความมั่นคงทางอาหารของประเทศและของโลก สัดส่วนมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคเกษตรต่อ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อการพัฒนา ภาคการเกษตร ทั้งจากบริบทการเปลี่ยนแปลงในระดับโลกและการเปลี่ยนแปลงภายในประเทศ ซึ่งส่งผล กระทบต่อการพัฒนาการเกษตรของประเทศไทย สิ่งเหล่านี้ส่งกระทบให้เกิดปัญหาทั้ง 4 ด้านของจังหวัดน่าน ซึ่งประกอบไปด้วย


3 อำเภอภูเพียงเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดน่าน ที่มีพื้นที่ในทำเกษตรเป็นหลักและมักจะเกิดปัญหา กับกลุ่มชุมชนที่อยู่ปลายน้ำ สิ่งสำคัญของการทำการเกษตรคือน้ำ ในช่วงต้นเดือน มีนาคม - พฤษภาคม ของทุกปีพบปัญหาของการขาดแคลนน้ำ น้ำไม่เพียงพอต่อการเกษตร จึงทำให้เกษตรกรเน้นการเกษตรที่ให้ ผลผลิตที่เร็วกว่าการทำการเกษตรที่ใช้ระยะเวลานาน การเกษตรที่ใช้ระยะเวลาสั้นและให้ผลที่รวดเร็ว ได้แก่ การทำไร่ข้าวโพด การปลูกขิง เป็นต้น ซึ่งต้องใช้สารเคมีเป็นหลักเพื่อให้ได้ผลผลิต จากที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้พื้นที่ป่าจังหวัดน่านถูกทำลายไปแล้วประมาณ 1,680,000 ไร่ โดยสาเหตุหลักมาจากความล้มเหลว ของการเกษตรและทุนเอกชนที่ส่งเสริมการปลูกข้าวโพด แต่ความเป็นอยู่ของประชาชนกลับไม่ได้ดีขึ้น โดยเป็น การทำการเกษตรที่ไม่ยั่งยืนและเสี่ยงต่อสุขภาพแบบองค์รวมทั้งชุมชน วัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวง ร่วมกับวิทยาลัยสงฆ์นครน่าน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีและกลุ่มเกษตรกรในอำเภอภูเพียง เกิดแนวคิดการจัดตั้งกลุ่มภูเพียงโมเดล เพื่อมุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้ การวิจัยเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและสร้างกระบวนการมีส่วน ร่วมของชุมชนภาคีเครือข่ายและสังคม เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยการ บูรณาการองค์ความรู้ทางด้านการเกษตร หลักเกษตรวิถีพุทธและภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้าด้วยกัน เพื่อถ่ายทอด ความรู้ที่ได้จากการวิจัยในการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการทำการเกษตรปลอดภัยที่เป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม และใช้ต้นทุนของพื้นที่จังหวัดน่านโดยเฉพาะอำเภอภูเพียงเป็นฐานในการออกแบบและ ดำเนินงาน ดำเนินกิจกรรรมของศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล – รักษ์ป่าน่าน โดยทำการผนึกแรงกายแรงใจสร้างความร่วมมือภายใต้การขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนสังคมของโครงการภู เพียงโมเดล ของ 7 กลุ่มอาชีพหลักจาก 7 ตำบล 61 หมู่บ้านอำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ประกอบด้วย กลุ่ม Young Smart Farmer, กลุ่มแพทย์แผนไทย, กลุ่มงานวิจัยผลิตผลทางการเกษตร, กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจการ แปรรูปผลิตผลทางการเกษตร, กลุ่มหมู่บ้านดงป่าสักโมเดล และกลุ่มงานไผ่ เพื่อร่วมตอบโจทย์แผนยุทธศาสตร์ ฯ อย่างเป็นรูปธรรมท่ามกลางความเปลี่ยนและยกระดับโครงการสู่การสร้าง “ศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล –


4 รักษ์ป่าน่าน” ดั่งความมุ่งมั่นตั้งใจของวัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง วิทยาลัยสงฆ์นครน่าน และ เครือข่ายเกษตรกรรุ่นใหม่ ตามพระราชดำริ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ในหลวงรัชกาล ที่ 9 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2540 ความว่า “สิ่งสำคัญที่เราพอกินอุ้มชูตัวเราได้ ให้มีความ พอเพียงแก่ตัวเองพึ่งตนเอง หมายความว่า ให้สามารถดำรงชีวิต ได้อย่างไม่เดือดร้อน มีความเป็นอยู่อย่าง ประมาณตน มีกินมีใช้ตามอัตภาพ แล้วที่เหลือจึงจะขายเป็นรายได้ต่อไป” จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ภูเพียง โมเดล – รักษ์ป่าน่าน วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง จังหวัดน่าน เพื่อมุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้ การ วิจัยนวัตกรรมสร้างสรรค์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน ภาคีเครือข่าย - สังคม เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรม โดยการบูรณาการองค์ความรู้ ทางด้านการเกษตร หลักเกษตรวิถีพุทธและภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้าด้วยกัน สู่การถ่ายทอดความรู้ที่ได้จากการ วิจัยในการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการทำการเกษตรปลอดภัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยัง มุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าทางการเกษตรให้กับความต้องการของ ตลาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ชุมชนมีความสามารถมีความเป็นอยู่อย่างยั่งยืน เกษตรกรวิถีใหม่ แสวงหาองค์ความรู้และภูมิปัญญา พัฒนาชุมชนให้เห็นศักยภาพของตนเองตามหลักปรัชญาพุทธเกษตร พุทธ เกษตรกรรมเป็นการทำเกษตรที่มีกระบวนการผลิตที่สอดคล้องกับธรรมชาติ รักษาสมดุลสิ่งแวดล้อม ตลอดจน เป็นการทำเกษตรที่เน้นเพื่อยังชีพ สนองพันธกิจหลักของศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล – รักษ์ป่าน่าน คือการ “สร้างตน สร้างคน สร้างป่า สร้างน่าน” ต่อไป


5 ของศูนย์การเรียนรู้ ภูเพียงโมเดล – รักษ์ป่าน่าน ระยะ 5 ปี ( 2565 – 2569)


6 “การพัฒนาชุมชนและสังคมแบบมีส่วนร่วม มั่นคง มั่งคั่งอย่างยั่งยืน” วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาและวิจัยทางด้านต้นทุนด้านศาสนา การเกษตร การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม การแพทย์และ สิ่งแวดล้อม สู่การสร้างมูลค่าและพัฒนาสู่ความยั่งยืน 2. เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของชุมชนให้มีศักยภาพคน ชุมชน สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 3. สร้างโมเดลต้นแบบการพัฒนาด้านศาสนา การเกษตร การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม การแพทย์และ สิ่งแวดล้อม ในพื้นที่อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน 4. เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ทางด้านด้านศาสนา การเกษตร การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม การแพทย์และ สิ่งแวดล้อม สู่การเพิ่มมูลค่าทางผลผลิตให้กับประชาชนในอำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน 5. เพื่อจัดตั้ง Phupiang Hub อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ประเด็นการพัฒนา


7 ผลสำเร็จและความคุ้มค่าของศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล – รักษ์ป่าน่าน ระยะ 5 ปี “การยกระดับการเกษตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างอย่าง ยั่งยืน ชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดี เกษตรกรวิถีใหม่สามารถแสวงหาองค์ความรู้และภูมิปัญญา พัฒนาชุมชนให้มี ศักยภาพด้วยการพึ่งพาตัวเอง ซึ่งต้องดำเนินการด้วยการ 4 ข้อ ประกอบด้วย 1. พอมีพอกิน พออยู่พอใช้ พึ่งพาตนเองได้ 2. สินค้ามีคุณภาพและปลอดภัยจากสารเคมี ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม 3. การจัดทำแผนชุมชนอย่างมีส่วนร่วม และ 4. การฟื้นฟูทรัพยากรทางธรรมชาติ ดิน น้ำ และป่าไม้ ” และพัฒนาให้จังหวัดน่านเป็นจังหวัดที่มีคามเป็นเลิศทั้งหมด “ 4 อ ” คืออาหาร อากาศ อารมณ์ และอายธรรมที่ดีของโลกอันเป็นผลพวงจากการดำเนินงานโดยศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน


8 ศูนย์การเรียนรู้ ภูเพียงโมเดล – รักษ์ป่าน่าน


9


10 Phuphiang Model - Rakphanan ต้นแบบในการบริหารจัดการต้นทุน ทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ ด้านศาสนา การเกษตร การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม การแพทย์และสิ่งแวดล้อม สู่กระบวนการแปรรูปที่เรียกว่า การวิจัย การนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ร่วมกับองค์ความรู้เดิม เพื่อให้เกิดกระบวรการพัฒนาต้นทุน เพิ่มมูลค่าของ ต้นทุนทั้ง 6 ด้าน ปลูกจิตสำนึกให้กับต้นกล้าเยาวชน ส่งเสริมอาชีพและการกิจการต่างๆที่ดำเนินการควบคู่ไป กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและป่าไม้ เพื่อให้คนมีอาชีพไปพร้อมๆกับการเจริญเติบโตของป่าไม้ในจังหวัดน่าน ตามพันธกิจของภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน ที่ว่า “สร้างตน สร้างคน สร้างป่า สร้างน่าน” สร้างตน พัฒนาอาชีพเก่า สร้างอาชีพใหม่ เพิ่มมูลค่าทางความคิด สร้างคน ร่วมแนวคิดอุดมการณ์ เมล็ดพันธ์มนุษย์(ต้นกล้าเยาวชน)และสร้างจิตวิญญาณของคนรัก ป่า, แนวคิดเกษตรวิถีที่มีนวัตกรรมใหม่ขึ้น สร้างป่า คนอยู่กับป่าพัฒนาผืนป่าต้นแบบ สร้างอาชีพจากป่าปลุกจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อม สร้างน่าน สร้างอุดมการณ์ให้คนรักษ์น่าน จากวิถีเกษตรกรรมสู่การยั่งยืนเพื่อเป็นแหล่งอาหาร อากาศ อารมณ์ของโลก PhuPhiang Hup องค์กรที่ใช้ในการบริหารการขับเคลื่อนภูเพียงโมเดลเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่ ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ หรือการจัดการตั้งแต่กระบวนการผลิต การแปรรูป ไปสู่ด้านการตลาด พุทธเกษตร พุทธเกษตรกรรมเป็นแนวทาง เกษตรกรรมที่เน้นการผลิตเพื่อบริโภคเป็นหลัก โดย อาศัยความสมดุลของธรรมชาติเป็นพื้นฐาน ร่วมมือกับธรรมชาติ รักษาสมดุลระบบนิเวศน์ ไม่ใช้ทุนมาก เน้น แรงงานและทรัพยากรท้องถิ่นที่หาได้ง่าย ภูมิปัญญาท้องถิ่น ความเข้าใจ ทัศนคติที่ได้พัฒนาก่อนก่อรูปขึ้นมา โดยชาวบ้านเพื่อที่จะสามารถ นําเอามาใช้การดําเนินชีวิตประจําวัน ซึ่งมีความหมายเช่นเดียวกับความคิด หรือระบบคิดเชิงปฏิบัติ (Practical Thought) มีบทบาทสําคัญในการ ดํารงชีวิตของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อปรุงอาหาร การสร้างบ้าน กา รักษาพยาบาล หรือการจัดสรรบทบาททางสังคมและการจัดความสัมพันธ์ทางสังคม ศูนย์การเรียนรู้Phupiang Model - Rakphanan ศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาชุมชนและ สังคมควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน สถานที่รวบรวมองค์ความรู้ด้านต้นทุน ทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ ด้านศาสนา การเกษตร การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม การแพทย์และสิ่งแวดล้อม สู่กระบวนการแปรรูปที่เรียกว่า การวิจัย การนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ร่วมกับองค์ความรู้เดิม เพื่อให้เกิดกระบวรการพัฒนาต้นทุน เพิ่มมูลค่า และ ด้านการพัฒนากระบวนการกลุ่มทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านการบริหารจัดการองค์กร 2. ด้านการบริหารทุน การตลาด และทรัพยากร 3. ด้านการจัดการผลประโยชน์ของสมาชิก


11 4. ด้านการพัฒนาความรู้ความสามารถ ของสมาชิกและองค์กรเกษตรกร 5. ด้านการให้ความสำคัญกับชุมชนและ 6. ด้านการบริหารจัดการองค์กรเชิงธุรกิจ โดยเน้นให้เครือข่ายเกษตรกรที่เข้าร่วมกิจกรรมบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งเกิดการ ระดมทุนและกองทุนหมุนเวียน เพื่อให้เกิดความอย่างยั่งยืน กลุ่มภาคีเครือข่าย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ทั้งในจังหวัด ต่างจังหวัด และต่างประเทศ ประกอบด้วย 7 ตำบล 61 หมู่บ้านอำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน , การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง ประเทศไทย , สมาคมส่งเสริมเศรษฐกิจและความร่วมมือการค้าอาเซียน – จีน , กรมทรัพยากรน้ำ , สำนักงาน พัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน), สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) , มหาวิทยาลัยแม่โจ้ - แพร่ เฉลิมพระเกียรติฯ, สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ,ศูนย์การเรียนรู้พื้นที่ ต้นแบบชุมชนไม้มีค่า อ.ร้องกวาง จ.แพร่, ชุมชนต้นน้ำแม่จริม, บริษัทสมุนไพรหมอศุภ จำกัด ลักษณะงานการขับเคลื่อนการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล – รักษ์ป่าน่าน Phu Phiang Hub เป็นจุดศูนย์กลางในการจัดการตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ ต้นน้ำ คือต้นทุนพื้นที่ของอำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน สู่กระบวนการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้ ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน โดยประกอบไปด้วยต้นทุนทั้งสิ้น 6 ด้าน ดังนี้


12 กลางน้ำ เป็นการนำต้นทุนทั้ง 6 ด้าน เข้ามาสู่ กระบวนการแปรรูป ทั้งการเพิ่มศักยภาพ โดยการนำเอา กระบวนการแปรรูป วิจัยและนวัตกรรมสร้างสรรค์ การออกแบบ รสนิยม การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม นิเวศวิทยา และการต้อนรับบริการ มาเชื่อมต่อกับกระบวนการต้นน้ำ โดย ใช้วิธีการสร้างแบรนด์ ความคิดสร้างสรรค์ ก่อนส่งถึงมือ ผู้บริโภค ทั้งแปรรูปในด้านอาหาร ตัวสินค้า แหล่งท่องเที่ยว ปลายน้ำ สินค้าและบริการต่างๆ ในอำเภอ ภูเพียง ที่ผ่านกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำสู่ปลายน้ำที่เป็นตัวสินค้าสู่ผู้บริโภค นักท่องเที่ยวหรือผู้เที่ยว ชมศูนย์การเรียนรู้สามารถชิม ช็อป ใช้ โชว์ แชร์ ช่วย และเลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากได้ (ผลสัมฤทธิ์จาก นวัตกรรมสร้างสรรค์ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ ตลาดสีเขียว กรีนมาร์เก็ต ลานเสวนาวิชาการและเปลี่ยนองค์ ความรู้ งานวิจัย บทความวิชาการ) รวมถึงเป็นจุดจัดแสดงสินค้าที่ทำจากไผ่ เพื่อเป็นการผลักดันอุตสาหกรรมไผ่ให้เป็นที่รู้จัก เพิ่ม มูลค่าของสินค้าที่เกิดจากการดีไซน์ การแปรรูป เพื่อเกิดแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาปลูกไผ่แทนการปลูก ข้าวโพดหรือพืชที่เกิดการทำลายป่าไม้โดยกระบวนการข้างต้นจะใช้Phu Phiang Hup องค์กรที่ใช้ในการ บริหารการขับเคลื่อนภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ หรือการจัดการตั้งแต่กระบวนการผลิต การแปรรูป ไปสู่ด้านการตลาด โดยสรุปศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล – รักษ์ป่าน่าน มุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้ การวิจัย นวัตกรรมสร้างสรรค์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนภาคี เครือข่าย สังคม เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรม โดยการบูรณาการองค์ความรู้ ทางด้านการเกษตร หลักเกษตรวิถีพุทธและภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้าด้วยกัน เพื่อถ่ายทอดความรู้ที่ได้จากการวิจัย ในการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการทำการเกษตรปลอดภัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมุ่งเน้น การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าทางการเกษตรให้สอดคล้องกับความต้องการ ของตลาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยน้อมรับพระราชดำรัสเรื่อง “ทฤษฎีปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง” มาปฏิบัติภายในชุมชนเพื่อให้คนในชุมชนมีความเป็นอยู่แบบพอเพียง พอดี พอกินและพอใจในวิถี ชีวิตแบบชุมชนพอเพียง ซึ่งต้องมีการดำเนินงานร่วมกันด้วยหลักการ 4 ข้อ คือ 1) พอมีพอกิน 2) สินค้ามีคุณภาพและปลอดภัยจากสารเคมี ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม 3) การจัดทำแผนชุมชนอย่างมีส่วนร่วมและ 4) การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำและป่าไม้ 2 5


13 ในปัจจุบันจึงได้มีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนเข้ามาศึกษาเรียนรู้ ทอดองค์ความรู้ยกย่องให้วัด เป็นชุมชนต้นแบบการพัฒนาศักยภาพของชุมชนให้มีความกินดีอยู่ดีและสามารถมีความเป็นอยู่อย่างยั่งยืน “ศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล – รักษ์ป่าน่าน” จึงเป็นสถานที่รวบรวมองค์ความรู้จากการวิจัย แหล่งถ่ายทอดความรู้ ศูนย์รวมสินค้าเกษตรกร สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคโนโลยีเกษตร และนวัตกรรม เกษตรรวมไปถึง หลักการบริหารงานด้านเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขั้นตอนการผลิต การแปรรูป และ สามารถถ่ายทอดความรู้ด้านการตลาด ตลอดจนห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้ขยายผลไปสู่ชุมชนเชื่อมโยงสู่กลุ่ม เกษตรแปลงใหญ่ในพื้นที่อำเภอภูเพียง จังหวัดน่านและการตลาดยุคใหม่ภายใต้แผนดำเนินงานศูนย์การเรียนรู้ ภูเพียงโมเดล รักษ์ป่าน่าน ปีพุทธศักราช 2565 - 2569 (5 ปี) ร่วมกับผู้สนับสนุนและภาคีเครือข่ายทั้ง ภายใน และภายนอกประเทศ ดังนี้ - หน่วยจัดการต้นน้ำแม่จริม


14 ของศูนย์การเรียนรู้ ภูเพียงโมเดล – รักษ์ป่าน่าน ประจ าปี 256 – 2566


15 การสร้างศูนย์การเรียนรู้ ภูเพียงโมเดล รักษ์ป่าน่าน เพื่อการบริหารจัดการโครงการที่มีประสิทธิภาพในการประสานงานกับเครือข่ายทั้งเกษตรกรใน พื้นที่ องค์กรผู้สนับสนุน องค์กรภาคีเครือข่ายในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาสภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนของ เกษตรกร ปัญหาป่าต้นน้ำ ฯลฯ รวมถึงการพัฒนาสู่ Phu Phiang Hup องค์กรที่ใช้ในการบริหารการขับเคลื่อน ภูเพียงโมเดลเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ หรือการจัดการตั้งแต่กระบวนการผลิต การแปรรูป ไปสู่ด้านการตลาด จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการก่อสร้าง ศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล รักษ์ป่าน่าน ให้มีความพร้อมและมีอาณาบริเวณที่เอื้อต่อการดำเนินงานต่อจากนี้ ศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน ได้ทำการใช้พื้นที่สวนรุกขชาติ ซึ่งเป็นที่ดินส่วนหนึ่ง ของวัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง ปัจจุบันเป็นพื้นที่รกร้าง มิได้นำไปใช้ทำการใด ๆ พระเดชพระคุณ พระชยานันทมุนีรศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง จึงได้ดำริให้ใช้พื้นที่ตรงนี้ในการสร้าง ศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่านขึ้น โดยจะต้องทำการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ระบบน้ำ ระบบไฟฟ้า งานปรับภูมิทัศน์และอาคารสถานที่ ที่เอื้อต่อการดำเนินงาน ประสานงาน เป็นพื้นที่ในการผลิต วิจัย พัฒนาและรองรับการศึกษาดูงานจากเครือข่ายเกษตรกรและองค์กรเครือข่าย ซึ่งปัจจุบันได้มีการริเริ่ม ดำเนินการแล้วตั้งแต่ ช่วงเดือนตุลาคม ปี2564 ต้นทุนทั้ง 6 ด้าน หนึ่งในนั้น คือต้นทุนทางธรรมชาติ ศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน เรา มีต้นทุนทางธรรมชาติ และเราได้นำเข้าสู่กระบวนการแปรรูป นั้นคือ การปรับภูมิทัศน์สวนรุกขชาติแห่งนี้ ให้ เป็นศูนย์การเรียนรู้ฯ ให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ การดำเนินงานในช่วงปีแรกนั้น จึงเป็นเรื่องของ การปรับ ภูมิทัศน์โดยรอบ เพื่อเป็นโมเดลในเรื่องการพัฒนาต้นทุนด้านธรรมชาติ


16 ภาพก่อนดำเนินการปรับภูมิทัศน์ ศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน ปี 2564 พื้นที่ถูกปล่อยรกร้าง เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่า ถูกนำเศษขยะมาทิ้ง รวมถึงอิฐปูนจากการบูรณะพระธาตุ แช่แห้งและภาพดินเป็นดินกรวด ไม่เหมาะต่อการปลูกผัก จึงได้นำเครื่องจักรมาปรับสภาพและขุดเศษอิฐ เศษ ปูนออกจากพื้นที่ และนำดินดำเข้ามาถมพื้นที่แทน เพื่อเป็นการปรับสภาพดิน ให้เหมาะต่อการเพาะปลูก โดย ได้รับคำแนะนำจาก พล.อ.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ผู้อำนวยการ ประวิทย์ บุญมี ผู้อำนวยการศูนย์จักรพันธุ์เพ็ญศิริ และ สำนักงานพัฒนาที่ดิน เขต 7


17


18 ช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ.2564 เริ่มต้นดำเนินการปรับภูมิ ทัศน์โดยการร่วมดำเนินงานร่วมกับทหารพันธุ์ดีน่าน โดย เป็นการขยายผลโครงการทหารพันธุ์ดี “ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย” นำโดย พล.อ.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ที่ ปรึกษาพิเศษประจำสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา โครงการ พระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นำมาขยายผลยังวัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง มอบเมล็ดพันธุ์พระราชทาน เพื่อนำมาปลูกยังศูนย์การ เรียนรู้ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน หลังจากได้ดำเนินการประชุมวางแผนการดำเนินงาน โดยใช้พื้นที่ ศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน ทั้งหมด 25 ไร่ โดยประมาณ แบ่งพื้นที่การปลูกทั้งหมด 15 โซน โดยเป็นการปลูกเมล็ดพันธุ์ พระราชทานทั้งหมด ได้แก่ พริกขี้หนูหัวเรือ พริกขี้หนู ลับแล มะเขือเปราะเจ้าพระยา มะเขือยาวสีเขียว มะเขือยาวสีม่วง ผักกาดกวางตุ้งเมืองกวางโจว และ คะน้าเห็ดหอม ประเภทพันธุ์ผักไม้เลื้อย ได้แก่ บวบ หอม บวบเหลี่ยม น้ำเต้า ฟักข้าว เป็นต้น ต่อมาได้จัด กิจกรรมการเพาะเมล็ดพันธุ์พระราชทานร่วมกับทหาร พันธุ์ดีน่าน ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2564


19 ในวันที่15 ธันวาคม 2565 คณะศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล – รักษ์ป่าน่าน ได้เดินทางสู่การศึกษา ดูงาน โครงการศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โครงการใน พระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นที่ ระลึกในวาระครบรอบ 100 ปี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ด้วยทรงเป็นกำลังสำคัญใน การพัฒนาและส่งเสริมด้านการเกษตรของประเทศไทย ทรงวางรากฐานเกษตรกรรมแบบดั้งเดิมพัฒนาสู่ เกษตรกรรมแบบยั่งยืน และทรงให้ความสำคัญกับเรื่องของเมล็ดพันธุ์ มักจะรับสั่งกับผู้ปฏิบัติงานอยู่เสมอว่า “พันธุ์พืชทุกพันธุ์ เมล็ดพันธุ์ทุกเมล็ด เป็นของพระเจ้าอยู่หัว ทำให้ดีที่สุด” ในการนี้ทางคณะดูงานได้เข้าร่วมการกิจกรรมหลักของศูนย์ฯ ประกอบด้วย - การผลิตเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน เป็นการผลิตเมล็ดพันธุ์ผักที่ดีเพื่อเก็บรักษาไว้เป็นเมล็ด พันธุ์พระราชทาน แก่ราษฎรที่ประสบภัยพิบัติ รวมถึงการดำเนินงานปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์ พืช ให้เกษตรกรได้มีพืชสายพันธุ์ที่ดี ทนทานต่อโรคและแมลง และได้ผลผลิตที่ดี - โครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” เป็นโครงการที่ศูนย์พัฒนา พันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ดำเนินการขยายผลการปลูกพืชผักพื้นบ้านออกสู่ ราษฎร มีวัตถุประสงค์ที่จะให้ราษฎรปลูก พืชผักสวนครัวในบริเวณบ้าน เพื่อให้มีผักที่ปลอดภัยจากสารพิษบริโภค หากเหลือสามารถ จำหน่ายเป็นรายได้เสริม - โครงการ “ซอยนี้มีรัก ปลูกผักแบ่งปัน” เกิดจากการที่ราษฎรในหมู่ที่ 2 ตำบลโป่งงาม ได้เข้า ร่วมโครงการ ‘บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง’ และต่อมาได้ขอทำโครงการขยาย โดยตั้งชื่อว่า ‘ซอย นี้มีรัก ปลูกผักแบ่งปัน’ ขึ้น มีวัตถุประสงค์ที่จะปลูกไม้ยืนต้นที่บริโภคได้ตามริมถนนในหมู่บ้าน เพื่อให้คนทั้งในหมู่บ้านและคนทั่วไปสามารถเก็บใบและผลไปประกอบอาหารรับ ประทานได้ - โครงการผลิตเมล็ดพันธุ์พระราชทาน ‘เพื่อนช่วยเพื่อน’ เป็นโครงการที่ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืช จักรพันธ์เพ็ญศิริ ตั้งขึ้นเพื่อให้ชาวบ้านเข้าร่วมผลิตเมล็ดพันธุ์ผักพื้นบ้าน สะสมไว้เพื่อเป็นเมล็ด พันธุ์พระราชทานแก่ราษฎรที่ประสบภัยพิบัติและโครงการ ช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบภัยพิบัติใน พื้นที่ต่างๆ - โครงการปลูกผักปลอดภัยภายใต้มาตรฐาน GAP GAP มาจาก Good Agricultural Practice แปลว่าการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริได้จัด โครงการสนับสนุนให้ราษฎรปลูกผัก ให้เข้ามาตรฐาน GAP เป็นการสนับสนุนให้ราษฎรปฏิบัติ ตามข้อกำหนดในการปลูกพืชให้ได้ผลผลิตที่ ปลอดภัย ปลอดศัตรูพืช และมีคุณภาพที่ดี - โครงการรวมกันสู้ อยู่อย่างพร้อม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดทำ โครงการนี้ขึ้น เพื่อ ให้ชุมชนที่เคยประสบอุทกภัยมีความพร้อมและความเข้มแข็งในการตั้งรับ


20 ภัย ธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริจึงได้จัดทำ โครงการนำร่อง ที่ตำบลพุคา อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เนื่องจากชุมชนนี้ประสบอุทกภัย น้ำท่วมขังเป็นเวลา 1-3 เดือนทุกปี เป็นระยะเวลา 4 ปีติดต่อกัน ซึ่งชุมชนมีความต้องการที่จะ ดูแลตนเองและพึ่งตนเองได้ในยามวิกฤติ - ร้านจันกะผัก เป็นร้านที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธุ์เพ็ญ- ศิริ ตั้งขึ้น เพื่อจำหน่ายพืชผักที่เหลือจากการทดสอบและพัฒนาพันธุ์ รวมถึงขายอาหารซึ่งใช้พืชผัก ที่ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชฯ ผลิตเอง ขายกาแฟและของที่ระลึก ขณะเดียวกันยังมีแผนงานในการ ส่งเสริมด้านการตลาดแก่ผลิตภัณฑ์พื้นบ้านของ ชุมชนท้องถิ่น โดยจะนำผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการ พัฒนามาจำหน่ายภายในร้าน ศึกษาการดำเนินงานของทางศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย


21 คณะศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน ศึกษาดูงานการเพาะเมล็ดพันธุ์พระราชทาน


22 หลังจากได้ทำการเพาะเมล็ดพันธุ์พระราชทาน จึง เริ่มดำเนินการปรับสภาพดินในพื้นที่ เพื่อให้มีธาตุอาหารในดิน เพียงพอต่อการปลูกผัก โดยการนำเศษใบไม้แห้ง มาปรุงดิน ร่วมกับปุ๋ยคอก และแกลบ ให้ย่อยสลายเป็นปุ๋ยในดิน และ นำมาคลุมโคนต้นไม้เป็นการห่มดินด้วยใบไม้แห้ง นอกจาก จะกักเก็บความชื้นไว้ให้ต้นไม้และพื้นดินแล้ว เมื่อกาลเวลาผ่าน ไปใบไม้ย่อยสลายเองตามธรรมชาติแล้วกลายเป็นปุ๋ย เพื่อเป็นต้นแบบของการนำเศษใบไม้มาสู่กระบวนการอื่น ที่ไม่ใช่การเผา ลดมลพิษทางอากาศ


23 พระชยานันทมุนีติดตามการดำเนินงานเป็นระยะ ให้คำแนะนำในเรื่องการปฏิบัติงานและ ให้ขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน พร้อมทั้งร่วมปลูกมะเขือเปราะเจ้าพระยา เพื่อเป็นต้นแบบของการ ดำเนินงานที่ลงมือปฏิบัติจริง อีกทั้งเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ฯ ได้เริ่มดำเนินงานร่วมกับโรงเรียน พระปริยัติธรรม วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง ให้ความรู้ใน เรื่องการทำดินปลูก การหมักปุ๋ยแบบไม่กลับกองและการเพาะเมล็ด พันธุ์ผัก ให้เกิดการต่อยอด และส่งเสริมสามเณร เรียนรู้การดำเนิน ชีวิตแบบพุทธเกษตร เพื่อให้เกิดการบูรณาการในการดำเนินงาน ศูนย์ การเรียนรู้๓เพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน ได้นำเจ้าหน้าที่ ศูนย์การเรียนรู้ฯ และสามเณร โรงเรียนพระปริยัติ ธรรม วัดพระธาตุแช่แห้ง ศึกษาดูงาน ณ ทหารพันธุ์ดี น่าน เพื่อเพิ่มองค์ความรู้ ทักษะการดำเนินงานและให้ เกิดการต่อยอดมายังศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล – รักษ์ป่าน่าน


24 เจ้าหน้าที่ศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน ศึกษาดูงาน ณ ทหารพันธุ์ดีน่าน เรียนรู้การปลูกผักแบบใช้กระบะปลูกผัก


25 เรียนรู้การทำปุ๋ยหมักโบกาฉิ การทำน้ำหมักชีวภาพจากพืช และการทำปุ๋ยใส้เดือน ศึกษาการเพาะเมล็ดพันธุ์พระราชาทาน การดูแลและการบำรุงรักษา เดินชนไปยังฐานต่างๆ เช่น การเลี้ยง กบ การเลี้ยงและการขยายพันธุ์ปลานิล การ ปลูกถั่วงอก เป็นต้น


26 หลังจากได้ศึกษาดูงาน ทางศูนย์การเรียนรู้ฯ ได้นำมาต่อยอด ภายในศูนย์การเรียนรู้ฯ โดยการทำบ่อ ปุ๋ยโบกาฉิ โดยการขุดหลุมและนำใบไม้แห้งกวาดลงหลุม จากนั้นนำมูลวัวและมูลไก่ จำนวน 1 กระสอบ แกลบดิบ 1 กระสอบ รำละเอียดจำนวน 1 กระสอบ จุลินทรีย์ EM 20 ซีซี ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ กากน้ำตาลจำนวน 20 ซีซี หรือประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด 10 ลิตร นำส่วนผสมทุกอย่างคลุกเคล้าให้เข้ากัน โดยนำของแห้งผสมกันก่อน จึงค่อยเติมน้ำสะอาดและหัว เชื้อจุลินทรีย์ลงไป ทำการผสมต่อให้เข้ากัน โดยให้ปุ๋ยมีความชื้นประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นจึงทิ้ง ไว้ในที่ร่มแล้วกลับกองทุกวัน จนครบ 7 วัน สามารถนำไปใช้ได้เพื่อผสมดินเพาะปลูก


27 ศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่านได้ดำเนินงานร่วมกับโรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง สร้างกระบวนการเรียนรู้การทำบ่อปุ๋ยโบกาฉิให้กับสามเณร เพื่อนำไป ผสมกับดินในแปลง เป็นกระบวนการปรุงดินอีกรูปแบบหนึ่ง ช่วยให้ดินเก็บความชื้นซับน้ำอุ้มน้ำได้ดีขึ้น อีกทั้ง ช่วยแก้ดินเสีย ปรับปรุงโครงสร้างดินให้มีโพรงอากาศ เนื้อดินร่วนฟู ทำให้ดินมีชีวิตสร้างสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เช่น ไส้เดือน ที่ช่วยพรวนดินให้ร่วนซุย ด้วยสภาพพื้นที่วัดพระธาตุแช่แห้ง มีต้นไม้เป็นจำนวนมาก ในช่วงหน้าแล้ง พบว่าใบไม้ร่วงเป็น จำนวนมาก โดยทั่วไปแล้ววิธีการทำลายใบไม้มักใช้วิธีการเผา เนื่องจากง่ายต่อการทำลาย ซึ่งส่งผลกระทบ สิ่งแวดล้อม ดั้งนั้น พระเดชพระคุณพระชยานันทมุนี มีดำริว่า ใบไม้มีประโยชน์ได้ สมควรที่จะนำมาทำเป็นปุ๋ย จึงเกิดแนวคิดปุ๋ยหมัก นำโดยวิทยาลัยสงฆ์นครน่าน โรงเรียนพระปริยัติธรรม เจ้าหน้าที่วัดพระธาตุแช่แห้ง ได้ ร่วมมือกันพัฒนา โดยการนำเศษใบไม้แห้งจากการทำความสะอาด นำใส่คอกที่ทางวัดพระธาตุแช่แห้งจัดทำไว้ หลังจากนั้น นำมูลวัว แกลบ เทกลบใบแห้งเป็นชั้น และราดสารชีวภัณฑ์ พด.1 เพื่อให้เร่งการย่อยสลาย และหมักทิ้งไว้เป็นเวลา 3 เดือน


28 เมื่อได้ปุ๋ยหมัก ข้าสู่กระบวรการแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์ ดินปลูก ที่เป็นอีกกระบวนหนึ่งในการ พัฒนาต้นทุน แนวคิดที่ช่วยในเรื่องลดการเผาป่า นำสิ่งที่ทุกคนคิดว่าไม่มีมีค่า อย่างใบไม้แห้งนั้น หากนำเข้าสู่ กระบวนการแปรรูป ก็สามารถกลับมาเป็นปุ๋ยที่สร้างแร่ธาตุให้กับดิน ช่วยลดการใช้สารเคมี และอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ


29 หลังจากได้ทดลองปลูกพันธุ์ผักพระราชทาน ในด้าน ผลผลิตภายในศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล- รักษ์ป่าน่าน ผลผลิต บางส่วนทางศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน ได้นำไป ประกอบอาหารให้พระและสามเณรฉันเป็นอาหารกลางวัน อีก ส่วนหนึ่งได้นำไปจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยววัดพระธาตุ แช่แห้ง และชาวบ้านพื้นที่ใกล้เคียงในราคาย่อมเยาว์ นอกเหนือจากนี้ทางศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน ยังแจกกล้าพันธุ์ผักให้กับ ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงวัดพระธาตุแช่แห้ง เพื่อนำไปปลูกยังครัวเรือนของตัวเอง เพื่อให้เกิดการต่อยอด ทางด้านผลผลิตทางการเกษตร หากเหลือจากการเก็บกินสามารถนำมาจำหน่ายเพื่อหารายได้เสริม หรือ สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อปลูกต่อได้


30 ช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล – รักษ์ป่าน่าน ต่อยอดการทำ ดิน ปลูก โดยการจัดซื้อเครื่องบดสับกิ่งไม้ เพื่อนำมาบดสับกิ่งไม้ ใบไม้ จากการรื้อแปลงผัก และนำเศษกิ่งไม้ เหล่านั้นนำเข้าสู่กระบวนการทำปุ๋ยต่อไป


31 เมื่อหมดช่วงฤดูของการเก็บเกี่ยวผลผลิต จึงต้องดำเนินการรื้อแปลง ตากดินและปรุง โดยนำเศษ ซากต้นไม้นำมาบดสับ เพื่อทำปุ๋ยหมักต่อไป


32 ได้เกิดความร่วมมือกัน ระหว่าง ศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน วิทยาลัยสงฆ์นครน่าน ร่วมกับทางสมาคมส่งเสริมเศรษฐกิจและการค้าอาเซียน–จีน และบริษัท Kunming Mingchuang Agricultural ดำเนินการ MOU (Memorandum Of Understanding) ร่วมกัน ในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 โดยเป็นความร่วมมือกันในด้านการเกษตร เมล็ดพันธุ์จากประเทศจีน , ส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเห็ด , ด้าน สมุนไพร , ด้านปุ๋ยอินทรีย์ และด้านไผ่


33 ในการปลูกเมล็ดพันธุ์ผักจากประเทศจีนนั้น จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องมีการควบคุมคุณภาพ และควร ปลูกในโรงเรียน ทางสมาคมส่งเสริมเศรษฐกิจและการค้าอาเซียน–จีน และบริษัท Kunming Mingchuang Agricultural จึงได้สร้างโรงเรือนปลูกผัก Smart Farm เพื่อเป็นการศึกษา ทดลอง และวิจัยพืชแต่ละชนิดที่ นำมาส่งเสริม


34


35 ผลผลิตที่ได้เมล็ดพันธุ์จากประเทศจีน ได้แก่ ผักสลัด มะเขือยาวสีม่วง ต้นหอมจีน มะเขือเทศโทมัส มะเขือเทศเชื่อรี่สีเหลือง มะเขือเทษเชอรี่สีแดง เรดิชสีแดง คื่นฉ่ายขาว ผักกาดสีม่วง เป็นต้น


36 งานปรับภูมิทัศน์และงานโครงสร้าง อาคารสำนักงาน


37 ภูมิทัศน์โดยรอบอาคารสำนักงาน


38 งานปรับภูมิทัศน์ซุ้มประตู 1. ซุ้มประตูทางเข้าศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล - รักษ์ป่าน่าน


39 สร้างซุ้มประตู


40 ทำขอบทางเดิน


41 ปรับพื้นที่ท้าวขาก่าน


42 ปรับพื้นที่ศาลานางหย้อง ต้นโพธิ์


Click to View FlipBook Version