การมองภาพสามมิติ ภาพแบบรวมสายตา 1จ ุ ด เป็ นภาพเขียนแบบที่มองเห็นด้านหน้าลักษณะตรงตงฉากและจะเห็น ด ้ านอ ื ่ นเอ ี ยงล ึ กลงไปรวมจด ุ เพย ี งหน ึ ่ งจด ุ ม ี อย ่ ู 3 ลักษณะ คือ แนวระดับ สายตา, แนวม ุ มส ู งและแนวม ุ มต ่ า
ภาพแบบรวมสายตา 2จ ุ ด เป็ นภาพเขย ี นแบบท ี ่ ม ี จด ุ รวมสายตาอย ่ ู 2 จด ุ ค ื อจด ุ ทางด ้านซ้ายมือ (LVP) และจด ุ ทางด ้ านขวาม ื อ(RVP)
ภาพแบบรวมสายตา 3จ ุ ด เป็ นภาพเขย ี นแบบท ี ่ ม ี จด ุ รวมสายตาอย ่ 3 ู จด ุ ค ื อจด ุ รวมสายตา ทางด ้ านซ ้ ายม ื อ จด ุ รวมสายตาทางด ้ านขวาม ื อ และจด ุ รวมสายตา ทางด้านล่าง (หรือด้านบน)
ภาพสามม ิ ต ิ ท ี ่ น ิ ยมใช ้ในงานเขย ี นแบบ ม ี อย ่ ู ด ้ วยกน ั 4 ชนิด คือ 1. ภาพไอโซเมตริก (Isometric) 2. ภาพออบลิก(Oblique) 3. ภาพไดเมตริก (Dimetric) 4. ภาพไตรเมตริก (Trimetric)
ภาพไอโซเมตริก(Isometric) ลักษณะของภาพไอโซเมตริก 1. โครงร่างของขอบภาพจะประกอบด้วยเส้น 3เส้น คือ เส้นเอียง 30องศา 2 เส้น และเส้นในแนวดิ่ง(90องศา) 1 เส้น 2. ขนาดความกว ้ าง ความส ู งและความล ึ กของภาพจะม ี ขนาดเท ่ าก ั บขนาด ของจริง
ภาพออบลิก(Oblique) ลักษณะของภาพออบลิก 1.โครงร่างของขอบภาพจะประกอบด้วยเส้น 3เส้น คือ เส้นใน แนวนอน(180องศา) เส้นในแนวดิ่ง(90องศา) และ เส้นเอียง 45 องศา 2. ขนาดความกว ้ าง ความส ู งของภาพจะม ี ขนาดเท ่ ากบ ั ของจร ิ ง(1:1) ส่วนความลึกของ ภาพจะมีขนาดเพียงครึ่งหนึ่ง(1:2) ของขนาด ของจริง
ภาพไดเมตริก(Dimetric) ลักษณะของภาพไดเมตริก 1. โครงร่างของขอบภาพจะประกอบด้วยเส้นสามเส้น คือ เส้นเอียง 7องศา เส้นใน แนวดิ่ง และเส้นเอียง 42 องศา 2. ขนาดความกว ้ าง ความส ู งจะม ี ขนาดเท ่ าของจร ิ ง (1:1) ส่วนความลึกจะมีขนาด เพียงครึ่งหนึ่ง(1:2) ของขนาดของจริง
ภาพสามมิติแบบ TRIMETRIC เป็ นภาพสามมิติที่มีความสวยงาม และลักษณะคล้ายของจริง มากท ี ่ ส ุ ด และเป็ นภาพที่ง่ายต่อการอ่านแบบเพราะเป็ นภาพที่เขียนได้ยากเนื่องจาก ม ุ มท ี ่ ใช ้ เขย ี นเอ ี ยง12องศา และ 23องศาและอัตราความยาวของแต่ละ ด้านไม่เท่ากัน
THE END
เขียนแบบเครื่องมือกล1(20102-2001) ภาพฉาย
ภาพฉาย เป็ นภาพเข ี ยนแบบเคร ื่องกลท ี่ผ ้ อ ู อกแบบ และผ ้ เ ู ข ี ยนแบบใช ้ เป็ นเครื่องมือ ส ื่อสารให ้ ผ ้ ผ ู ล ิ ตได ้ ผล ิ ตช ิ ้ นงานตามล ั กษณะร ู ปร ่ างและรายละเอ ียดของชิ้นงาน ที่ก าหนด การเขียนและอ่านแบบภาพฉายจึงมีความส าคัญต่องานช่าง อ ุ ตสาหกรรม หลักการฉายภาพ การมองชิ้นงานในด้านต่างๆ ในแนวที่ตงฉากกับพื้นผิวชิ้นงานที ละด้าน ก็ จะเห็นภาพแต่ละด้านรวมหกด้าน
F SL B R
ระบบการแสดงภาพฉาย ระบบการแสดงภาพฉายเป็ นการจัดวางภาพด้านต่าง ๆ ตามรูปแบบที่ได้ ก าหนดไว้เป็ น มาตรฐาน ซึ่งมอยู่หลายมาตรฐาน ซึ่งมีระบบการฉายภาพอยู่ 2 วิธี คือ การฉายภาพแบบมุมที่ 1, การฉายภาพแบบมุมที่ 3
ภาพฉายแบบม ุ มท ี่1 (First angle Projection) หรือ ระบบ ISO-Method E เป็ น ว ิ ธ ี การฉายภาพท ี่ม ี ร ู ปแบบการวางภาพดา ้ นต ่ าง ๆ
ภาพฉายแบบม ุ มท ี ่ 3 (Third angle Projection) หรือ ระบบ ISO-Method A เป็ นวิธีการฉายภาพที่มีรูปแบบการวาง ภาพดา ้ นต ่ าง ๆ
เทคนิคการเขียนเส้นฉาย เส้ นฉายเป็ นการเข ี ยนเส้ นร ่ างเบา ๆ เพ ื่อเช ื่อมโยงกนั ในระหวางภาพ ่ ฉายแต ่ ละดา ้ น ซ่ึ งจะม ี ความสัมพนัธ ์ กนัท ้ งัตา แหน ่ งขนาดสัดส ่ วน และ ท ิ ศทางต ่ อกนัโดยใช ่ ภาพดา ้ นหนา ้ เป็ นดา ้ นหลกั
เขียนแบบเครื่องมือกล1(20102-2001)
ภาพตัด (Section view) ค ื อ ภาพท ี่แสดงการต ั ดหร ื อผ ่ าว ั ตถ ุ โดยสามารถมองเห ็ นรายละเอียด ของว ั ตถ ุ เน ื ้ อว ั ตถ ุ และ ท ี่ว ่ างได ้ อย ่ างช ั ดเจน
ค าศัพท์ที่เกี่ยวกับการเขียนภาพตัดและการใช้งาน Cutting plane เป็ นระนาบทีสมมติขึ้นเพื่อใช ้ ต ั ดว ั ตถ ุ เพอเปิ ดให้ ื่เห็นรายละเอียดด้านในที่ต้องการ
Cutting plane line เป็ นเส้นแสดงขอบของระนาบที่ใช้ต ั ดว ั ตถ ุ
Section Lines (Cross-hatch lines) Section lines เป็ นเสนแรงเงาที่ใช้แสดงพื้นผ ิ วของว ั ตถ ุ ทถ ี ่ ู กต ั ด ด้วย cutting plane ลักษณะของเส้นที่ใช้เขียน section lines นั้นจะเป็ น เส้นเต็มบาง ลักษณะของเส้นแตกต่างกันไป โดยขึ้นอย ่ ก ู บ ั ชนิดของ ว ั ตถ ุ ท ี ่ เขย ี นด ้ วย
ชนิดของภาพตัด ชนิดของการเขียนภาพตัดนั้นม ี อย ่ ห ู ลายชน ิ ดด ้วยกัน ซึ่งแต่ละ ชน ิ ดกเ ็ หมาะสมกบ ั ล ั กษณะของว ั ตถ ุ ท ี ต ่ างกน ัไป 1. Full section 2. Offset section 3. Half section 4. Broken-out section 5. Revolved section 6. Removed section
Full Section ภาพตัดชนิดแรกนี้เรียกว่า full section การสร้างภาพตัดชนิดนี้เราจะใช้ cutting plane ท ี เป็ นระนาบตรงต ั ดผ ่ านตลอดแนวของว ั ตถ ุ
Offset Section ภาพตัดชนิดนี้จะใช้ cutting plane ทีหักงอไปมา เพื่อให้สามารถตัดผ่าน รายละเอ ี ยดภายในตลอดแนวความยาวของว ั ตถ ุ
Half Section การสร้างภาพตัดในกรณีเช่นนี้ให้ใช้cutting plane ที่มี ล ั กษณะเป็ นม ุ มฉากต ั ดว ั ตถ ุ เพย ี งหน ึ ่ งในส ี ่ ส ่ วน
Broken-out Section ภาพตัดชนิดนี้จะเป็ นการเปิ ดให้เห ็ นรายละเอ ี ยดภายในว ั ตถ ุ เฉพาะบริเวณที มีความซับซ้อน หรือบริเวรที่ต้องการแสดงเฉพาะส่วนเท่านั้น ซึ่งมักจะเป็ น บริเวณเล็ก ๆ ข
Revolved Section ภาพตัดชนิดนี้จะใช้เพื่อแสดงพื้นผ ิ วหน ้ าต ั ดของว ั ตถ ุ ท ี พจ ิ ารณา ซ ึ่งหลักการ ในการ สร้างภาพตัดชนิดนี้จะเริ่มจากการใช้ cutting plane ต ั ดผ ่ านว ั ตถ ุ ในบร ิ เวณท ี่ต้องการ แสดงพื้นผิวหน้าตัด จากนั้นให้จินตนาการว่าภาพพื้นผิวหน้าตัดทีบริเวณนั้นถ ู กวาดไป บนcutting plane ต่อไปก็ให้ดึง cutting plane ออกจากว ั ตถ ุ แล ้ วหม ุ นจนกระท ั่งภาพพื้น ผ ิ วหน ้ าต ั ดท ี่อย ่ บ ู น cutting plane นั้นตั้งฉากก ั บท ิ ศทางการมองของผ ้ ส ู งเกต ุ
Removed Section ภาพตัดชนิดนี้ถือได้ว่าเป็ นสวนหนึ่งของภาพตัดแบบ revolved section เพียงแต่พื้นผิวหน้าตัดที่ต้องการแสดงนั้น จะถ ู กน าออกไปเขย ี นไว ้ นอกร ู ป ไม่เขียนทับลงไปบนภาพ