The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นาวิกศาสตร์ ฉบับเดือน กรกฎาคม ๒๕๕๔

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นาวิกศาสตร์, 2022-09-12 05:09:00

นาวิกศาสตร์ เดือน กรกฎาคม ๒๕๕๔

นาวิกศาสตร์ ฉบับเดือน กรกฎาคม ๒๕๕๔

นาวิกศาสตร์ สารบัญ


ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔


บทความ


๕ ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค นาวาตรี ยุทธเศรษฐ์ วังกานนท์
๑๑ การฝึกกองทัพเรือประจำปี ๒๕๕๔ นาวาเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์
๑๔ ที่ดินทรงสงวนแห่งแรกและแห่งเดียว
ของประเทศไทย พลเรือโท ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์
๒๒ ผู้บังคับการเรืออู (U-Boat Commander) พลเรือเอก ไพศาล นภสินธุวงศ์
๒๙ ผู้พิทักษ์สันติภาพในมหาสมุทรอินเดีย พลเรือโท ผสมทรัพย์ เกื้อหนุน
๓๖ งานกู้ชาติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พลเรือเอก วสินธ์ สาริกะภูติ
๔๕ นานาวิกาสารา ๕๔๒ พลเรือโท พัน รักษ์แก้ว
๕๓ ๓๐ ปี แห่งความภาคภูมิใจที่อู่ทหารเรือ
พระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ นาวาเอก อานนท์ พงษ์ทองเจริญ
๕๗ การพัฒนาระบบราชการ สำนักงานปลัดบัญชีทหารเรือ
๖๒ การแต่งกาย พลเรือเอก ไพศาล บุณยศานติ
คอลัมน์ประจำ

๓ ภาพในอดีต เรือเอกหญิง สุภาพร ผกาฟุ้ง
๕ ๔ คุยกับกองบรรณาธิการ กองบรรณาธิการ
๖๙ ดาวประดับราชนาวี กองบรรณาธิการ
๗๑ นานาสาระ นาวาโทหญิง แสงแข โตษยานนท์
๗๔ อาวุธศึกษา นาวาเอก ศูนย์ปืน โสมภีร์
๗๖ ข่าวนาวีรอบโลก นาวาเอก จรินทร์ บุญเหมาะ
๘๑ พจนานุกรมศัพท์ชาวเรือ พลเรือเอก ไพศาล นภสินธุวงศ์
๘๓ หนังสือน่าอ่าน นาวาเอกหญิง กรแก้ว ตันติเวชกุล
๘๕ ภาพข่าวกิจกรรมกองทัพเรือ กองบรรณาธิการ
๙๓ ประทีปธรรม กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ

๑๑ ๙๔ สารพันสาระเพลง สีแสด
๙๖ สุขภาพนาวี
กรมแพทย์ทหารเรือ
๙๘ การฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี กรมสวัสดิการทหารเรือ
๑๐๐ มาตราน้ำ เดือน สิงหาคม ๒๕๕๔ กรมอุทกศาสตร์
เวลาดวงอาทิตย์-ดวงจันทร์ ขึ้น-ตก เดือน กรกฎาคม-สิงหาคม ๒๕๕๔


ปกหน้า... พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ปกหลัง... เรือหลวงวิทยาคมยิงอาวุธนำวิถี เอ็กโซเซ่ต์ เอ็มเอ็ม๓๘
ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๔
ในปกหน้า... สารคดีพิเศษเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระอยู่หัว
๖๒ ในปกหลัง... นาวีพาเที่ยว พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ (เขาหมาจอ)

จัดพิมพ์โดย... กองโรงพิมพ์ กรมสารบรรณทหารเรือ
เจ้าของ... ราชนาวิกสภา
ผู้โฆษณา... นาวาเอก สุวัจ ดอนสกุล
ผู้พิมพ์... นาวาเอก ก้องเกียรติ สัจวุฒิ

มหาวชิราลงกรณาศิรวาท
๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๔

“ ห้าสิบเก้า ” ยิ่งด้วย พระพรรษากาล

พระเชี่ยวพระชำนาญ มากล้น
ขวัญเกล้าเหล่าทหาร ทุกหมู่ เหล่าเอย

ทรงฝึกทรงคิดค้น แจ่มแจ้งชัดเจน

ศิลป์และศาสตร์ว่าด้วย การบิน
พระเลื่องลือยลยิน ทั่วด้าว

สมพระหน่อภูบดินทร์ เรืองรุ่ง

พระเกียรติพระอะคร้าว ยิ่งด้วยบารมี
พระราชทานปริญญาบัตรให้ ยินดี

หลายหมื่นหลายพันทวี บ่อยครั้ง
เสด็จแทนพระภูมี เห็นทั่ว กันนา

พระเมตตาปกทั้ง ดับร้อนเลือนหาย

ทรงห่วงใยทั่วทั้ง นคร
พระมหาวชิราลงกรณ ผ่องแผ้ว

สยามมกุฏ ฯ อาทร เย็นยิ่ง
ราชกุมารแกล้ว แกว่นกล้าเรืองชวาล

เชิญคุณพระไตรรัตน์ทั้ง อมร

ชูช่วยอำนวยพร ชิดใกล้
ขอพระสุขสโมสร ทุกเมื่อ

สมดั่งราชนาวีได้ นบน้อมถวายพระพร



ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม

ข้าพระพุทธเจ้า กองบรรณาธิการนาวิกศาสตร์

(นาวาเอก ธรรมนูญ วิเศษสิงห์ ร้อยกรอง)

จุฬาภรณาศิรวาท
4 กรกฎาคม ๒๕๕๔

ภาพพระองค์ผ่องแผ้ว รูปา

ทรงกู่เจิงศรัทธา ยิ่งแท้
บุญไทยที่ทัศนา ราชกิจ เนืองเนือง

เย็นร่มจักรีแล้ ร่มฟ้าดินบน

สัมพันธไมตรีทั่วถ้วน แดนดิน
พระลูกพระภูมินทร์ ยื่นให้

เมตตาหลั่งไหลริน เอมอิ่ม ใจนา

ออกตกเหนืออีสานใต้ รอดแคล้วภัยพาล
เคมีฟิสิกส์ล้ำ เลอคุณ

พระยิ่งเกื้อการุณย์ ผู้ไข้
บำเพ็ญแต่ทางบุญ เพียรพาก

สรรเพชญบัณฑูรไว้ นี่เนี้อเวไนย ฯ

พระชนมายุเข้า “ ห้าสิบสี่ ” แล้วเอย
พระยิ่งพระบารมี เลิศแท้

ทรงเป็นมิ่งราชนาวี เรืองโรจน์
ประเสริฐพระเลิศแล้ ค่ำเช้าชวนชม

ขอคุณพระปัดป้อง ผองภัย

พระห่างโศกโรคไกล อย่าใกล้
ขอพระสุขหทัย เย็นชื่น เสมอนา

ทรงพระเจริญดั่งได้ เอ่ยถ้อยถวายพระพร


ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม

ข้าพระพุทธเจ้า กองบรรณาธิการนาวิกศาสตร์

(นาวาเอก ธรรมนูญ วิเศษสิงห์ ร้อยกรอง)

บรรณาธิการแถลง





หลังจากที่ผมได้เข้ามารับดำเนินการนิตยสารนาวิกศาสตร์
ตั้งแต่เล่มเดือน มิถุนายน ๒๕๕๔ สมาชิกหรือท่านผู้อ่านอาจจะยังไม่
เห็นการเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะผมจะมีโอกาสในการ
ตั้งหลักเพียงหนึ่งเดือน ในการปรับปรุงนิตยสารนาวิกศาสตร์
ดังนั้น ในเดือนนี้ ท่านจะได้พบกับการปรับปรุงคอลัมน์ประจำ
ให้มีเนื้อหาที่หลากหลาย และเพิ่มคอลัมน์ประจำที่น่าสนใจเข้ามา
เช่น อาวุธศึกษา สุขภาพนาวี สารพันสาระเพลง และ
นาวีพาเที่ยว ซึ่งเป็นคอลัมน์ประจำที่มีความหลากหลาย
ในเนื้อหาและสาระมากยิ่งขึ้น ตลอดจนคอลัมน์ที่
ผมเกี่ยวข้อง คือ คุยกับกองบรรณาธิการ เราเปิดคอลัมน์ประจำนี้ขึ้น เพื่อเป็นช่องทางให้กับสมาชิก หรือ
ผู้สนใจนิตยสารนาวิกศาสตร์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับทางกองบรรณาธิการครับ โดยเรามีของสมนาคุณ
ตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้แก่ แก้วมัค สกรีนตราราชนาวิกสภาสีขาวสวยงามตอบแทนให้กับทุกท่านที่ได้รับ
คัดเลือกลงในคอลัมน์ดังกล่าวนี้ ส่วนในรูปเล่ม เราได้ปรับมาใช้งานโปรแกรมออกแบบวารสาร

InDesign แทนการออกแบบวางรูปเล่ม โดยโปรแกรม PageMaker ซึ่งจะส่งผลให้การวางรูปเล่มดกระชับ และ
สวยงามน่าอ่านมากขึ้น ในส่วนการจัดปาฐกถาประจำปี ๒๕๕๔ ในปีนี้กำหนดจัดการในวันอังคารที่
๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ระหว่างเวลา ๐๘.๐๐ - ๑๒.๐๐น. ในหัวข้อเรื่อง ปัญหาเขตเเดนทางบกเเละทางทะเล
ระหว่างไทยกับกัมพูชา ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ จึงเชิญสมาชิกเเละผู้ที่สนใจ เข้าร่วมรับฟัง
ด้วยนะครับ ท้ายสุดนี้ หวังว่าท่านคงไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้แทนเรียบร้อยแล้ว คงได้ผู้แทนที่ดีตามที่หวังไว้นะครับ
แล้วพบกันเดือนหน้าครับ

นาวาเอก
[email protected]
คณะกรรมการและเหรัญญิกราชนาวิกสภา บรรณาธิการ
พล.ร.ท.สมหมาย ปราการสมุทร นายกกรรมการ น.อ.สุวัจ ดอนสกุล
พล.ร.ท.ประยุทธ เนตรประภา รองนายกกรรมการ ผู้ช่วยบรรณาธิการ
พล.ร.ท.ณรพนธ์ ตันวิเชียร กรรมการ น.อ.หญิง จิตรา รัตนวิทย์
พล.ร.ต.สุภวัฒน์ สมุทรสาคร กรรมการ ประจำกองบรรณาธิการ
พล.ร.ต.พิจารณ์ ธีรเนตร กรรมการ น.อ.ก้องเกียรติ สัจวุฒิ น.อ.ธาตรี ฟักศรีเมือง
พล.ร.ต.เวทย์วีระ ทรงวรวิทย์ กรรมการ น.อ.โกศล อินทร์อุดม น.ท.หญิง แสงแข โตษยานนท ์
พล.ร.ต.ม.ล.อนุนพนันท์ นวรัตน์ กรรมการ น.ต.หญิง กมลชนก ศิริสุนทร ร.อ.ประมวล เผือกสง่า
พล.ร.ต.ธราธร ขจิตสุวรรณ กรรมการ ร.อ.วรวุทย์ บุญช่วยช้อย ร.ท.จักกฤช สิทธิ์สงวน
พล.ร.ต.ธนะรัตน์ อุบล กรรมการ ร.ต.หญิง นิพัฒน์ เพชรศิริ พ.จ.อ.หญิง อาภาลัย เรืองศรี
พล.ร.ต.นภดล สุธัมมสภา กรรมการ สำนักงาน...อาคารราชนาวิกสภา
พล.ร.ต.ชุมพล วงศ์เวคิน กรรมการ
พล.ร.ต.สุรพงษ์ อัยสานนท์ กรรมการ ถนนอรุณอมรินทร์ บางกอกน้อย กรุงเทพ ฯ ๑๐๗๐๐
พล.ร.ต.ธนินท์ จารุดุล กรรมการ โทร. ๐ ๒๔๗๕ ๓๐๗๒, ๐ ๒๔๗๕ ๔๘๓๓, ๐ ๒๔๗๕ ๔๙๙๘
พล.ร.ต.เจริญศักดิ์ มารัตนะ กรรมการ ส่งข้อมูล/ต้นฉบับได้ที่ [email protected]
น.อ.สุวัจ ดอนสกุล กรรมการและเลขานุการ Download ข้อมูลจากหนังสือได้ที่
ร.อ.ไพโรจน์ เปรมปรี เหรัญญิก www.navy.mi.th/rtni/ebook และ www.rtni.org
ที่ปรึกษาราชนาวิกสภา ข้อคิดเห็นในบทความที่นำลงนิตยสารนาวิกศาสตร์เป็นของผู้เขียน








พล.ร.ท.สมชัย มนัสรังษี พล.ร.ต.พิสันต์ รัตนภู่เพ็ชร มใชขอคดเหนหรอนโยบายของหนวยงานใดของรฐและมไดผกพน




พล.ร.ต.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ พล.ร.ต.อภิชัย อมาตยกุล ต่อทางราชการแต่อย่างใด การกล่าวถึงคำสั่ง กฎ ระเบียบ เป็นเพียง
พล.ร.ต.หญิง จิรภา ชัยเลิศ ข่าวสารเบื้องต้น เพื่อประโยชน์แก่การค้นคว้า

ภาพในอดีต
คอลัมน์ประจำ









เรือเอกหญิง สุภาพร ผกาฟุ้ง

































เมื่อ วันที่ ๑๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๙ พลเรือเอกสถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือในขณะนั้น
เป็นประธานในพิธีนำเรือหลวงกูดลงสู่ท้องทะเล เพื่อจัดทำเป็นอุทยานใต้ทะเลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติ ครบ ๖๐ ปี โดยมุ่งหวังที่จะช่วยเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำในอ่าวพัทยาและเสริมสร้างจิตสำนึก
ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลให้มากยิ่งขึ้น ณ บริเวณเกาะสาก อ่าวพัทยา จังหวัดชลบุรี เรือหลวงกูดเป็นเรือ
ประเภทยกพลขึ้นบกขนาดกลาง เคยปฏิบัติภารกิจที่สำคัญ เช่นการลำเลียงทหารการสนับสนุนการเปลี่ยน
กำลังทหารไทยในสงครามเกาหลี เป็นเรือฝึกสำหรับนักเรียนนายเรือนักเรียนจ่าทหารเรือ ตลอดจนนักเรียนหลักสูตรต่าง ๆ
มานานจนตัวเรือมีสภาพผุกร่อนและทรุดโทรมลงจนไม่คุ้มค่าต่อการซ่อมคืนสภาพ กระทรวงกลาโหมจึงได้อนุมัติปลดระวาง
ประจำการ เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฏาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗



















เรือหลวงแรดกับเรือหลวงแสมสาร กำลังฉีดน้ำเพิ่มปริมาณน้ำในเรือเพื่อ เรือหลวงกูดกำลังจมสู่ท้องทะเล
ให้เรือหลวงกูดจมตามเวลาที่กำหนด
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐3

คอลัมน์ประจำ



คุยกับกองบรรณาธิการ








ได้รับจดหมายแนะนำจากสมาชิกท่านหนึ่งทางอีเมล์ซึ่งท่านสนใจทั้งเป็นผู้เขียนบทความ
ให้กับนิตยสารนาวิกศาสตร์และสมาชิกที่ติดตามอ่านนาวิกศาสตร์มาตลอด
ผมเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงการดำเนินงานของนิตยสารนาวิกศาสตร์
โดยมี ข้อเสนอแนะมา ผมจึงขอตอบทางนี้เลยนะครับ รายละเอียดมีเยอะครับ ดังนี้ครับ

รูปเล่ม/คุณภาพของกระดาษ ควรเพิ่มคุณภาพ คอลัมน์บางคอลัมน์ควรเปลี่ยนชื่อ เช่น ข่าวนาวีรอบโลก
กระดาษให้ดีกว่านี้ เป็นข่าวนาวีและเทคโนโลยีรอบโลก เพื่อให้กว้างขึ้น
นาวิกศาสตร์กำลังมีแผนในการปรับปรุงกระดาษภาพ กำลังดำเนินการปรับคอลัมน์ประจำ ให้เกิดความ
กิจกรรมกองทัพเรือ และภาพแทรกต่าง ๆ ให้เป็นภาพสี หลากหลาย และน่าสนใจมากขึ้นครับ โดยมีทั้ง
คุณภาพดี โดยจะปรับเป็นกระดาษอาร์ตด้าน ขนาด เรื่อง อาวุธศึกษา รีวิวซีดีเพลง เครื่องเสียง สุขภาพ
๑๓๐ แกรม ทั้งนี้ เนื่องจากยังคงมีกระดาษแบบเดิมอยู่ ท่องเที่ยวภายในกองทัพเรือ และเทคโนโลยี เป็นต้นครับ ซึ่ง
จนถึงเดือนธันวาคม จึงจำเป็นต้องใช้ให้หมดก่อนครับ สมาชิกคงจะได้เห็นในเล่มเดือน ก.ค.๕๔ นี้ครับ
ในส่วนเนื้อหาควรมีหลากหลาย เช่น ประวัติศาสตร์ มาตราน้ำ/ฌาปนกิจ/ผู้เอื้อเฟื้อต่อกองทัพเรือ ไม่ควร
ยุทธศาสตร์ บทกลอน และเทคโนโลยี นำมาลง ควรกำหนดให้เข้าไปดูในเว็บไซต์ ก็น่าจะพอเพียง
เห็นด้วยครับ ส่วนหนึ่งจำเป็นต้องยังคงอยู่ครับ เช่น มาตราน้ำ
บทความที่มีเนื้อหาต่อเนื่อง ไม่ควรเกิน ๒ ตอน ที่บางทีนาวิกศาสตร์ก็มีส่วนช่วยในการหาระดับน้ำได้อย่าง
และไม่ควรเป็นเรื่องแปล ควรมีการวิเคราะห์ด้วย รวดเร็วครับ เพราะบางครั้งหน่วยงานจะนึกถึงว่า
หากจำเป็น เช่น บทเรียนการสงคราม เป็นต้น อ้อ นาวิกศาสตร์มีมาตราน้ำอยู่ ไปเอามาดู เป็นต้นครับ
เห็นด้วยเหมือนเดิมครับ กำลังนำเสนอให้คณะกรรมการ ส่วนเรื่องอื่น ๆ จะค่อยพิจารณาลดลงหรือปรับออกไปครับ
ราชนาวิกสภา ที่เป็นคณะกรรมการ ฯ กำกับดูแลการจัดทำ ฌาปนกิจมีเอกสารแจกจ่ายอยู่แล้ว
นิตยสารนาวิกศาสตร์พิจารณาให้ความเห็นชอบด้วยครับ รับทราบครับ แต่เนื่องจากมีสมาชิกจำนวนหนึ่งที่เป็น
เรื่องที่เป็นตำรา เช่น พจนานุกรม ฯ ควรจะทำเป็นตำรา นายทหารนอกราชการ ที่ไม่ได้รับเอกสารจากฌาปนกิจ
และทำเป็นรูปเล่มมากกว่าเผยแพร่ จึงใช้ช่องทางนาวิกศาสตร์ในการติดตามครับ
พจนานุกรมศัพท์ทางเรือนั้น ได้เคยจัดพิมพ์เป็นตำรา ผู้เอื้อเฟื้อต่อกองทัพเรือ เป็นเฉพาะหน่วยมากกว่า
โดย โรงเรียนนายเรือเรียบร้อยแล้ว เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๕ แต่หากเป็นรายใหญ่ต่อกองทัพเรือจริง ก็ทำเป็นรูปสี
ทั้งนี้ ทางกองบรรณาธิการขอรับข้อมูลเพื่อดำเนินการ ใส่ในภาพข่าว
ปรับคอลัมน์ประจำอีกครั้งครับ เห็นด้วยครับ
การตั้งชื่อเรื่องควรเร้าใจ
จะพยายามดำเนินการให้ครับ
เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอก และประชาชนเขียน สุดท้าย ต้องขอขอบคุณคำแนะนำต่าง ๆ
บทความมาลงบ้าง ทั้งนี้ หากสมาชิกหรือท่านได้รับการคัดเลือก
ตอนนี้ ก็เปิดโอกาสอยู่แล้วครับ แต่ยังไม่มีผู้สนใจ มาลงในคอลัมน์ดังกล่าว ทางกองบรรณาธิการ ฯ ขอมอบ
มากนัก ทางกองบรรณาธิการจะดำเนินการประชาสัมพันธ์ ของสมนาคุณให้เป็นแก้วมัค สีขาวสวยงามมาก ให้คนละ ๑ ใบ
อีกครั้งครับ พร้อมกับมีแนวคิดในการให้สมาชิก เพื่อสะดวกในการจัดส่งของสมนาคุณไปให้ครับ
หรือผู้ที่สนใจเขียนคำแนะนำหรือข้อเสนอแนะเข้ามา แล้วเจอกันครับ
จะมีรางวัลตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ครับ กองบรรณาธิการ [email protected]
๐4 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๓ กรกฏาคม ๒๕๕๔

บทความ






















































ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค





เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา
๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔



นาวาตรี ยุทธเศรษฐ์ วังกานนท์











นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐5

นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการ พระราชพิธี จำนวน ๕๒ ลำ พร้อมกำลังพลฝีพาย จำนวน
จัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่อง ๒,๒๐๐ คน ไว้พร้อมแล้ว โดยได้จัดให้มีการอบรมนายเรือ
ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา และนายท้ายเรือ รวม ๑๖๒ นาย เมื่อวันที่ ๑๐ - ๒๘
๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๔ ได้มอบหมายให้กองทัพเรือ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๔ เพื่อทำหน้าที่เป็นครูฝึกฝีพาย
จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในงานพระราชพิธีทรงบำเพ็ญ ซึ่งหลังจากนั้นได้เริ่มฝึกฝีพายบนเขียงฝึกลักษณะคล้าย ๆ
พระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม กับอยู่ในเรือแต่อยู่บนบก เพื่อสร้างความคุ้นเคย ตั้งแต่
ราชวรมหาวิหาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล วันที่ ๓ มกราคม ถึง ๒๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๔ ต่อมาเมื่อ
เฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔ วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๔ พลเรือเอก อภิวัฒน์ ฯ เป็น
ซึ่งกำหนดจัดในวันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๔ กองทัพเรือ ประธานในพิธีบวงสรวงและอัญเชิญเรือพระราชพิธีลงน้ำ
โดย พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งขณะนี้กำลังพลฝีพายได้ทำการฝึกซ้อมการพายกับ
ได้ตระหนักดีถึงความสำคัญของการจัดขบวนเรือให้สง่างาม เรือพระราชพิธีในพื้นที่ต่าง ๆ ของกองทัพเรือ จำนวน ๕ แห่ง
และสมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประกอบด้วย ป้อมพระจุลจอมเกล้า อ.พระสมุทรเจดีย์
จึงได้มีการเตรียมการอย่างดียิ่ง ได้แต่งตั้งคณะกรรม จ.สมุทรปราการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง
การเตรียมจัดงานขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “คณะกรรมการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ
เตรียมการจัดงานพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวาย อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ
ผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่อง เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และ กองเรือเล็ก กรมการขนส่ง
ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ทหารเรือ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร โดยจะทำการซ้อม
๗ รอบ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔” ใช้ชื่อย่อว่า “คจข.” โดยมี อย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนสิงหาคม จากนั้นในช่วง
พลเรือเอก อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ เป็นประธาน คจข. พลเรือเอก ปลายเดือนสิงหาคม กำลังพลจากพื้นที่ ต่าง ๆ จะมารวมพล
อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ ประธาน คจข.ได้จัดเตรียมเรือ เพื่อทำการฝึกซ้อมเป็นรูปขบวนในแม่น้ำเจ้าพระยา



















๐6 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

เพื่อให้เกิดความพร้อมเพรียง โดยจะทำการฝึกซ้อมย่อย โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ นาวาเอก
๘ ครั้ง ในห้วงปลายเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม และกำหนด ทองย้อย แสงสินชัย ข้าราชการบำนาญ สังกัดกองทัพเรือ
ซ้อมใหญ่ ๒ ครั้ง ในวันที่ ๑๓ , ๑๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๔ ได้ประพันธ์กาพย์เห่เรือขึ้นมาใหม่ จำนวน ๓ บท ใช้เวลา
ก่อนที่จะมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย ในการขับเห่เป็นเวลา ๔๕ นาที ซึ่งสอดคล้องกับห้วงเวลา
ผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในวันที่ ในการปฏิบัติของการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
๒๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๔ ในส่วนของบทเห่เรือที่จะใช้ใน โดยมี นาวาตรี ณัฐวัฏ อร่ามเกลื้อ หัวหน้าแผนกเรือราชพิธี
พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน กองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ เป็นพนักงานเห่

กาพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔

บทที่ ๑
สรรเสริญพระบารมี

ถวายภิวาทไตรรัตน์ถ้วน ไตรทวาร
ไตรภพโพ้นจักรพาล ผ่องแผ้ว
ไตรทิพย์เทพทุกสถาน เชิญถั่ง พรเทอญ
ถวายพระเกียรติถกลแก้ว ก่องฟ้านิรันดร์สมัย
(๑) เห่เอย เห่เรือทิพย์ ล่องลอยลิบเลิศล้ำสวรรค์
ร้อยคำล้ำค่าครัน แด่จอมธรรม์ผู้จอมไทย
(๒) พระเอยพระผ่านเผ้า พระอยู่เกล้ามายาวไกล
พระแผ่พระบารมีไป เปี่ยมโลกหล้าฟ้าดินสราญ
(๓) พระชนม์พิพัฒน์ชัย เจ็ดรอบสมัยมงคลกาล
หัวใจไทยชื่นบาน ดั่งทิพย์ธารหล่อเลี้ยงไทย
(๔) ครองราชย์ก็ร่มราษฎร์ ชุ่มชื่นชาติเฉกฉัตรชัย
ร่มธรรมน้ำพระทัย ปัดป้องภัยในธรณี
(๕) สองพระบาทประพาสไทย ประทับไว้ทุกถิ่นที่
สองพระหัตถ์กระหวัดวี ทรงโอบทั่วทุกทวยชน
(๖) สองนัยน์สายพระเนตร ทรงเห็นเหตุทุกแห่งหน
สองพระกรรณสดับกล เพื่อแก้ทุกข์ทวยประชา
(๗) สองบ่าที่ทรงแบก แต่วันแรกครองพารา
เจ็ดรอบพระชันษา ทั้งสองบ่ามิเคยเบา
(๘) เหน็ดเหนื่อยนั้นหนักนัก หนุนเนื่องหนักเนิ่นนานเนา
ภัยพาลผ่านผ่อนเพลา ก้มเกศเกล้ากราบใกล้ไกล
(๙) ราษฎร์รักฤๅโรยร้าง รักกระจ่างอยู่กลางใจ
ครองธรรมจึงครองไทย จึงครองใจนานจำเนียร
(๑๐) ร้อยทุกข์ที่รุมโถม ไม่อาจโหมให้หันเหียน
ร้อยวันที่ผันเวียน ไม่อาจเปลี่ยนให้รักแปลง
(๑๑) แปดสิบสี่พระชันษา พระอังสาอาจล้าแรง
พระวรกายที่เคยแกร่ง อาจผุกร่อนไปตามกาล
(๑๒) น้ำพระทัยยังเป็นทิพย์ เลิศล้ำลิบรสหอมหวาน
ไหลหลั่งดั่งสายธาร ทั่วทวยไทยได้อาบกิน


นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐7

(๑๓) บุญใดที่ไทยสร้าง ไม่โรยร้างยังหลั่งริน
ภักดีภูบดินทร์ ไม่สุดสิ้นจากสายทรวง
(๑๔) บุญสัตย์อันศักดิ์สิทธิ์ บุญฤทธิ์อันใหญ่หลวง
บุญแก้วทั้งสามดวง เทพทั้งปวงผู้เปี่ยมบุญ
(๑๕) รวมมั่นเป็นขวัญมิ่ง ประสิทธิ์สิ่งประเสริฐสุนทร์
อำนวยค่าอำนรรฆคุณ อดุลเดชพิเศษดล
(๑๖) ถวายแรงถวายรัก ถวายมรรคถวายผล
ถวายชื่นยืนพระชนม์ ถวายผองพระพรชัย
(๑๗) คุณธรรมที่ทรงธาร เป็นปราการอันเกรียงไกร
กั้นมารและพาลไกล อย่าอาจกล้ำมาใกล้กราย
(๑๘) พระหฤทัยอันเปี่ยมธรรม จงเย็นฉ่ำและเฉิดฉาย
เพ็ญแผ้วอยู่แพรวพราย อย่าทรงพบพวกเผ่าพาล
(๑๙) สรรพสิ่งที่ทรงหวัง สำเร็จดังพระทัยดาล
แม้ทรงมุ่งพระโพธิญาณ สัมฤทธิ์ได้ดังพระทัย – เทอญ.

บทที่ ๒
ชมเรือขบวน
หงส์ทองลอยล่องฟ้า มาดิน
นาคราชสาดสายสินธุ์ สนุกล้ำ
สุบรรณแบกวิษณุบิน โบกโบย
เพลงเห่เสน่ห์เสนาะน้ำ สนั่นฟ้าดินไหว

(๑) เรือเอย เรือพระที่นั่ง งามสะพรั่งกลางสายธาร
ลอยลำล้ำแลลาน ปานเคลื่อนคล้อยลอยฟ้ามา
(๒) สุวรรณหงส์ลงลอยล่อง เพียงหงส์ทองล่องลอยนภา
พู่ห้อยร้อยรสนา งามหยาดฟ้ามาแดนชล
(๓) อนันตนาคราช เจ็ดเศียรสาดสายสินธุ์ถกล
เล่นน้ำฉ่ำชื่นชล ยลหงอนปากอย่างนาคเป็น
(๔) อเนกชาติภุชงค์ อวดลำระหงให้โลกเห็น
แนบน้ำฉ่ำชื่นเย็น ปานนาคเป็นเล่นวารี
(๕) นารายณ์ทรงสุบรรณ ผาดผายผันผ่องโสภี
ดั่งครุฑยุดนาคี แบกจักรีโบกบินบน
(๖) กระบี่ศรีสง่า งามท่วงท่าร่าเริงชล
เรือครุฑรุดเร็วยล กลครุฑคล้อยลอยเมฆินทร์
(๗) อสุรวายุภักษ์ ศักดิ์ศรีคู่อสุรปักษิน
โผนผกเพียงนกบิน ผินสู่ฟ้าร่าเริงลม
(๘) เรือแซงแข่งเรือดั้ง พายพร้อมพรั่งน้ำพร่างพรม
เรือชัยไฉไลสม ชมเรือกิ่งพริ้งเพราตา
(๙) ยักษ์ลิงกลิ้งกลอกกาย แลลวดลายล้วนเลขา
รูปสัตว์หยัดกายา ลอยคงคาสง่าครัน
(๑๐) เสนาะศัพท์ขับเพลงเห่ เสียงเสน่ห์น้ำสนั่น
เพลงทิพย์ไป่เทียมทัน กลั่นจากทรวงปวงนาวี


๐8 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

(๑๑) ศิลปกรรมล้ำเลิศเหลือ ลวดลายเรือล้วนโสภี
ท่อนไม้ไร้ชีวี มีชีวิตคิดเหมือนเป็น
(๑๒) นาวาสถาปัตย์ ช่างเชี่ยวชัดชาญเชิงเช่น
ยิ่งยลยิ่งเยือกเย็น เห็นสายศิลป์วิญญาณไทย
(๑๓) สมบูรณ์สมบัติชาติ ควรประกาศเกียรติเกริกไกร
ฝีมือลือเลิศใคร ไม่เทียบเทียมเยี่ยมนิยม
(๑๔) ควรสืบควรรักษา ควรคู่ค่าควรเมืองสม
ควรเชิดควรชื่นชม ควรภูมิใจไทยทั้งมวล
(๑๕) แม้นสิ้นจากถิ่นไทย ห่อนเห็นใครมาคู่ควร
แบบบทหมดกระบวน ล้วนเลิศแล้วแพรวพริ้งพราย
(๑๖) ขวัญเอยเป็นขวัญเนตร ศิลป์พิเศษยังสืบสาย
ลูกหลานวานอย่าวาย อย่าดูดายศรีแผ่นดิน
(๑๗) ฝากโลกให้รู้จัก ฝากศรีศักดิ์วิญญาณศิลป์
ฝากนามสยามินทร์ ฝากฝีมือชื่อไทยเอย.

บทที่ ๓
ชมเมือง
เจ้าพระยาสง่าเพี้ยง ธารสวรรค์
กรุงเทพเทพนครทัน ถิ่นฟ้า
ใจไทยย่อมหฤหรรษ์ หอมทิพย์ ธรรมแฮ
ตราบเมื่อนี้เมื่อหน้า เมื่อโน้นนิรันดร์เกษม

(๑) เจ้าเอย เจ้าพระยา ถั่งธารามานานไกล
เอิบอาบกำซาบใจ หล่อเลี้ยงไทยเลื่องลือนาม
(๒) เป็นถิ่นแห่งศีลธรรม รุ่งเรืองล้ำร่มอาราม
โลกร้อนไฟลุกลาม แดนสยามยังร่มเย็น
(๓) ดินแดนแห่งกาสาว์ คือสมญาโลกย่อมเห็น
ศีลธรรมที่บำเพ็ญ ช่วยดับเข็ญได้ทุกครา
(๔) พระแก้วอยู่เหนือเกล้า ทุกค่ำเช้าเฝ้าบูชา
ศีลทานสานศรัทธา เปรมปรีดาด้วยความดี
(๕) บัวบุญจึงเบ่งบาน อบดวงมานหอมหวานทวี
รอยยิ้มอิ่มอารี เติมไมตรีเต็มหัวใจ
(๖) ความรู้อาจไม่หลาก แต่ความรักไม่รองใคร
น้ำจริงอาจแล้งไป แต่น้ำใจยังไหลแรง
(๗) แสงเทียนทุกยามเช้า คือแสงธรรมยังทอแสง
เดือนปีอาจเปลี่ยนแปลง แต่รักแรงไม่เปลี่ยนไป
(๘) บ้านเรือนไม่หรูหรา แต่สูงค่าปัญญาไทย
หนทางอาจห่างไกล แต่หัวใจใกล้ชิดกัน
(๙) น้ำใจไม่เคยจืด อยู่ยาวยืดยิ้มยืนยัน
ต่างเพศต่างผิวพรรณ แต่ใจนั้นไม่ต่างใจ
(๑๐) ศูนย์รวมคือพ่อหลวง ร้อยรักปวงดวงใจไทย
ทุกพระองค์คือธงชัย ร้อยดวงใจจอมจักรี


นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐9

(๑๑) ราชันขวัญสยาม ปิ่นเพชรงามปักธานี
ร่มพระบารมี ศรีไผทฉัตรชัยชน
(๑๒) ไตรรงค์ธงชัยโชค ลอยอวดโลกโบกลมบน
ขวัญฟ้าขวัญตายล ขวัญกมลมงคลชัย
(๑๓) กรุงเทพคือกรุงธรรม งามเลิศล้ำด้วยน้ำใจ
งามนอกไม่หลอกใคร พร้อมงามในจริงใจครัน
(๑๔) สยามจึงงามพร้อม หัวใจหอมไม่หุนหัน
เกลียดใครไม่นานวัน แต่รักนั้นนานไม่วาง
(๑๕) ขัดแย้งแต่ไม่แยก แม้ต่างแตกไม่แตกต่าง
เจียมใจไว้ไม่จาง คุณใครสร้างค้างใจจำ
(๑๖) เมืองไทยคือเมืองทอง ขอพี่น้องครองรักนำ
ถ้าไทยไม่ทิ้งธรรม ไทยสุขล้ำฉ่ำชื่นไทย
(๑๗) เมื่อนี้ตราบเมื่อหน้า คงคู่หล้าฟ้าดินกษัย
เกษมสุขสิ้นทุกข์ภัย ชมชื่อไทยไป่สิ้นเทอญ.













ประพันธ์โดย นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย




ความหมายตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔

อักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. สีเหลืองทอง อันเป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพอยู่กลาง
ตราสัญลักษณ์ ขลิบรอบตัวอักษรด้วยสีทองบนพื้นวงกลมสีน้ำเงินล้อมรอบด้วยกรอบโค้งเรียบ
สีเหลืองทอง หมายความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจของคนไทยทั้งชาติ
ด้านบนอักษรพระปรมาภิไธยเป็นเลข ๙ หมายถึงพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ ๙ แห่งพระบรมราช
จักรีวงศ์ เลข ๙ นั้น อยู่ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎอันเป็นเครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศของ
พระมหากษัตริย์ และเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นสมเด็จราชาธิราชถัดลงมาด้านข้างซ้ายขวา
ของอักษรพระปรมาภิไธยมีสายพุ่มข้าวบิณฑ์สีทอง ซึ่งมีสัปตปฎลเศวตฉัตรประดิษฐานอยู่เบื้องบน
ด้านนอกสุดเป็นกรอบโค้งมีลวดลายสีทองบนพื้นสีเขียว หมายถึงสีอันเป็นเดชแห่งวันพระบรมราชสมภพ อีกทั้งยังหมายถึง
ความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์และความสงบร่มเย็น ด้านล่างอักษรพระปรมาภิไธยเป็นรูปกระต่ายสีขาว กระต่ายนั้นทรงเครื่อง
อยู่ในลักษณะกำลังก้าวย่าง อันหมายถึง ปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ตรงกับปีเถาะ ซึ่งปีกระต่าย
เป็นเครื่องหมายแห่งปีนักษัตร โดยรูปกระต่ายอยู่บนพื้นสีน้ำเงินมีลายกระหนกสีทอง อันหมายถึงความเจริญรุ่งเรือง
ของประเทศไทย ภายใต้พระบรมโพธิสมภารเบื้องล่างตราสัญลักษณ์เป็นแพรแถบสีชมพูขลิบทองเขียนอักษรสีทอง
ความว่า “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ “ ออกแบบโดย นายศิริ หนูแดง
ได้รับเงินรางวัล ๔๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมประกาศเกียรติคุณ สามารถ Download แบบตราสัญลักษณ์ ฯ เฉลิมพระชนมพรรษา
๗ รอบ ขนาดใหญ่ได้ที่ http://www.prd.go.th/download/king84.pdf


๐10 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

การฝึกกองทัพเรือ
บทความ







ประจำปี ๒๕๕๔






นาวาเอกไพโรจน์ เฟื่องจันทร์






























กล่าวนำ
การฝึกกองทัพเรือ เป็นการฝึกใหญ่และสำคัญที่สุดของ - เพื่อทดสอบกระบวนการวางแผน และการปฏิบัติ
กองทัพเรือ ซึ่งได้เริ่มทำการฝึกครั้งแรกเมื่อปีงบประมาณ ตามแผนยุทธการของกองทัพเรือ
๒๕๔๗ ใช้ชื่อการฝึกว่า “การฝึกกองทัพเรือบูรณาการ (ทรบ.)” - เพื่อทดสอบการควบคุมการบังคับบัญชา และการ
โดยมีแนวคิดในการบูรณาการการฝึกด้วยการนำการ อำนวยการยุทธ์ในระดับกองทัพเรือ และขีดความสามารถ
ปฏิบัติการสาขาต่าง ๆ ของส่วนกำลังรบ การปฏิบัติและ ของกำลังระดับยุทธบริเวณ ซึ่งได้แก่ทัพเรือภาคทั้ง ๓
การสนับสนุนของกรมในส่วนบัญชาการ ส่วนยุทธบริการ ทัพเรือภาค
และส่วนการศึกษา ที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันมาทำการฝึก - เพื่อทดสอบแนวความคิดในการกำหนดระดับความ
ภายใต้สถานการณ์การฝึกเดียวกันและใช้ทรัพยากรร่วมกัน พร้อมรบ ให้สอดคล้องกับระดับความรุนแรงของ
การฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๔ สถานการณ์ ตามแผนป้องกันประเทศ
การฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๔ หรือที่เรียก - เพื่อทดสอบกองทัพเรือ ในการปฏิบัติตามแผน
โดยย่อว่า “การฝึก ทร.๕๔” ยังคงแนวคิดในการบูรณาการ เผชิญเหตุ อาทิ แผนต่อต้านการก่อการร้ายบนแท่นผลิต
การฝึกของหน่วยต่าง ๆ มาทำการฝึกร่วมกัน แต่ได้ปรับปรุง ก๊าซธรรมชาติในทะเล เป็นต้น
การฝึกมาโดยลำดับเพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์และภัยคุกคาม ขั้นตอนการจัดการฝึก
ในปัจจุบัน มีรายละเอียด ดังนี้ เนื่องจากการฝึกกองทัพเรือเป็นการฝึกใหญ่
วัตถุประสงค์ของการฝึก มีอยู่ด้วยกัน ๔ ประการ คือ จึงได้เริ่มการเตรียมการฝึกตั้งแต่ปีงบประมาณที่ผ่านมา



นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐11

ด้วยการจัดการประชุมวางแผนการฝึก การจัดทำคำสั่ง ตามแผน การปฏิบัติด้านยุทธการตามสาขาปฏิบัติการ
ยุทธการและคำสั่งการฝึก รวมทั้งจัดเตรียมกำลังพล และ และขีดความสามารถของกำลังรบในทุกสาขาของ




ตรวจสอบความพรอมของยทโธปกรณกอนการฝก และ ฝ่ายอำนวยการ ได้แก่ การปฏิบัติด้านกำลังพล

เพื่อให้การฝึกบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ จึงได้แบ่ง ด้านข่าวกรองทางทหาร ด้านส่งกำลังบำรุง ด้านการ
ขั้นตอนการฝึกไว้เป็นลำดับ ดังนี้ สื่อสาร สงครามอิเล็กทรอนิกส์ และด้านกฎหมายสงคราม

- การอบรมในหองเรียน เปนการนำบทเรียน หวข้อ - การฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล นับเป็นขั้นตอนสุดท้าย


ที่เป็นข้อขัดข้องจากการฝึกในปีที่ผ่านมา และ ของการฝึก โดยจะเป็นการฝึกภาคปฏิบัติของหน่วยกำลังรบ
แนวทางการฝึกในปีปัจจุบัน มาประกอบในการกำหนด และหน่วยสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง โดยการนำเอาภาพ
หัวข้อการอบรม เพื่อเป็นการเพิ่มความรู้ ความเข้าใจ สถานการณ์สำคัญจากการฝึกปัญหาที่บังคับการ ที่ต้องการ
และสามารถนำไปใช้เป็น ทดสอบขีดความสามารถ


แนวทางการปฏิบัติในการฝึก อนแทจรงในการดำเนนกลยทธ ์



ขั้นอื่น ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม มาทำการฝึกภาคปฏิบัติ
การอบรมนี้ มุ่งเน้นทำการอบรม ร่วมกัน นอกจากนี้ ยังเป็นการ
กำลังพลของหน่วย ตามหัวข้อ ทดสอบขีดความสามารถที่
การอบรมที่สอดคล้องกับหัวข้อ กำหนดไว้ตามระดับการเตรียม
และแนวทางการฝึกในระดับ ความพร้อมตามแผนยุทธการ

กองทพเรือ ในการฝึกองค์บุคคล ของกองทัพเรือ และการ
และยุทธวิธีของหน่วยใน ทดสอบความเป็นไปได้ใน
ช่วงต้นปีงบประมาณแล้ว เรื่องที่มีแนวความคิดริเริ่มด้าน
- การฝึกแก้ปัญหาที่บังคับการ เป็นการทดสอบ ยุทธการต่าง ๆ รวมทั้งด้านการส่งกำลังบำรุงมาทำการฝึก
แนวความคิด การตัดสินใจ และการปฏิบัติตามแผนยุทธการ เช่น การต่อต้านการก่อการร้ายบริเวณแท่นผลิตก๊าซ
ที่ได้จัดทำขึ้นสอดคล้องกับแผนระดับกองบัญชาการ ธรรมชาติ ซึ่งในปีนี้ กองทัพเรือได้ร่วมกับบริษัท ปตท.
กองทัพไทย การฝึกในห้วงแรกได้ทำการฝึก ณ ที่ตั้งปกติ สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด มหาชน ทำการฝึก ณ
ของหน่วยต่าง ๆ โดยปล่อยสถานการณ์ และพัฒนา แท่นผลิตก๊าซธรรมชาติโครงการอาทิตย์ โดยได้ทำการฝึกไป
สถานการณ์จากภาวะปกติจนเกิดภาวะขัดแย้งเน้นการฝึก เมื่อ ๒๑ - ๒๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๔ ซึ่งเร็วกว่าการฝึกอื่น ๆ
เกี่ยวกับกระบวนการวางแผนทางทหาร การเตรียมการ เนื่องจาก บริษัท ปตท.สำรวจและการผลิตปิโตรเลียมจำกัด
ก่อนเกิดสงคราม และการต่อต้านการก่อการร้าย จะทำการปิดแท่นผลิตดังกล่าวเพื่อทำการซ่อมบำรุง สำหรับ
จากนั้น เมื่อสถานการณ์การฝึกมีความรุนแรง ห้วงเวลาหลักของการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล ได้ดำเนินการฝึก
การปฏิบัติของหน่วยรับการฝึก จะเข้าสู่สถานการณ์ ระหว่าง ๑๘ - ๒๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๔ ในการนี้ได้เรียนเชิญ
ฝึกในขั้นตอบโต้ และขั้นป้องกันประเทศ ซึ่งทำการฝึก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มาตรวจเยี่ยมการฝึก เพื่อ

เกี่ยวกับกฎการใช้กำลัง การอำนวยการยุทธ์ เป็นขวัญและกำลังใจแก่กำลังพลที่เข้าร่วมการฝึก รวมทั้ง
การควบคุมบังคับบัญชาและสั่งการ การใช้กำลัง เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพ ได้เห็น




















๐12 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

การฝึกในพื้นที่จริงและการปฏิบัติงานของหน่วยต่าง ๆ - การฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี EXOCET และการ
ของกองทัพเรือ โดยมีการฝึกและการปฏิบัติที่สำคัญ ยิงเป้าลวง โดยมีการสมมุติสถานการณ์ว่ามีภัยคุกคาม
ประกอบด้วย จากเรือผิวน้ำข้าศึกเข้าโจมตีกองเรือ จึงสั่งการให้เรือเร็ว
- การประชุมทางไกลผ่านระบบ Video Teleconferencing โจมตีอาวุธปล่อยนำวิถีจำนวน ๒ ลำ ประกอบด้วย
จากเรือหลวงจักรีนฤเบศร ไปยังศูนย์อำนวยการการยุทธ์ เรือหลวงวิทยาคม และ เรือหลวงอุดมเดช เป็นหน่วย
ของกองบัญชาการกองทัพไทย เหล่าทัพ และทัพเรือภาคต่าง ๆ เรือปฏิบัติการผิวน้ำเข้าทำการต่อตีเรือผิวน้ำข้าศึก
เพื่อแสดงให้เห็นว่า กองทัพเรือสามารถที่จะสั่งการหน่วย โดยทำการยิงอาวุธปล่อยนำวิถี จำนวน ๑ ลูก ต่อเป้าหมาย
ต่าง ๆ ได้ หากจำเป็นต้องเปลี่ยนที่ตั้งไปบัญชาการรบ ข้าศึกที่ระยะ ๑๔ ไมล์ หลังจากที่ยิงอาวุธปล่อยนำวิถีแล้ว
ณ เรือลำใดลำหนึ่ง ซึ่งขีดความสามารถดังกล่าว ได้ถูก ได้สมมติสถานการณ์ว่าถูกข้าศึกตอบโต้ด้วยอาวุธปล่อยนำวิถี
นำมาใช้ในสถานการณ์จริง ในกรณีปัญหาความขัดแย้ง จึงทำการยิงเป้าลวง โดยเรือหลวงสงขลาเป็นเรือยิง
ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชาโดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ได้สั่งการไปยังศูนย์บัญชาการทางทหารกองบัญชาการ บทสรุป
กองทัพไทย ผ่านระบบดังกล่าว การฝึกที่กล่าวมาข้างต้นในทุกขั้นตอนการฝึก
- การฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธีทางฝั่งทะเลอันดามัน ผลการฝึกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กำลังพลได้รับ
บริเวณเขาหน้ายักษ์ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา โดยทำการฝึก ความรู้และมีทักษะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังทำให้กำลังพล
ยิงปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีโค้งขนาด ๑๕๕ มิลลิเมตร ของหน่วย ในทุกระดับของกองทัพเรือ และผู้บังคับบัญชาระดับสูง
บัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จำนวน ๓ กระบอก ของกองทัพ เกิดความภาคภูมิใจและเชื่อมั่นในขีด
ที่ระยะยิง ๒๐ กิโลเมตร เพื่อฝึกการป้องกันฝั่งบริเวณ ความสามารถของกองทัพเรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ฐานทัพเรือพังงาร่วมกับกำลังทางเรือของทัพเรือภาคที่ ๓ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวแสดงความชื่นชม
- การฝึกขัดขวางทางทะเลในหัวข้อการปราบปราม ในความตั้งใจ ทุ่มเท และมุ่งมั่นของกำลังพลกองทัพเรือ
โจรสลัด โดยทำการฝึกใน ๓ ขั้นตอน ประกอบด้วย ซึ่งส่งผลให้การฝึกบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
การให้คำแนะนำเรือสินค้าขณะถูกโจมตี การขัดขวาง และ ทุกประการ และเป็นสิ่งแสดงให้ทุกฝ่ายได้ประจักษ์ว่า
การแย่งยึดคืน เพื่อให้กำลังพลที่เข้ารับการฝึกได้เข้าใจถึง กองทัพเรือพร้อมเสมอที่จะปฏิบัติภารกิจในการปกป้อง
ขั้นตอนการปฏิบัติต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ชาติและดูแลประชาชน
- การฝึกปฏิบัติการร่วม
กองทัพเรือ - กองทัพอากาศ
เป็นการฝึกปฏิบัติการร่วมกับ
เครื่องบินของกองทัพอากาศ
ที่จัดเครื่องบินขับไล่แบบ F - 16
จำนวน ๔ เครื่อง มาทำการ
ป้องกันภัยทางอากาศให้กับ
กองเรือ และทำการควบคุม
การบินสกัดกั้น


นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐13

บทความ


ที่ดินทรงสงวนแห่งแรก ของประเทศไทย

และแห่งเดียว
































































จากซ้าย
๑.พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ๒.พระองค์เจ้าบุตรฉัตรไฉยกร ๓.สมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ ๔.พระองค์เจ้าจริประวัติวรเดช ๕.สมเด็จเจ้าสมมติวงศ์วโรทัย ๖.พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
๗.สมเด็จเจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร ๘.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ๙.สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงศภูวนาถ ๑๐.พระองค์เจ้าวุฒิไชยเฉลิมลาภ ๑๑.พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ
๑๒.พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์

๐14 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

ที่ดินทรงสงวนแห่งแรก ของประเทศไทย

และแห่งเดียว


พลเรือโท ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์





























































จากซ้าย
๑.พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ๒.พระองค์เจ้าบุตรฉัตรไฉยกร ๓.สมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ ๔.พระองค์เจ้าจริประวัติวรเดช ๕.สมเด็จเจ้าสมมติวงศ์วโรทัย ๖.พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
๗.สมเด็จเจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร ๘.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ๙.สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงศภูวนาถ ๑๐.พระองค์เจ้าวุฒิไชยเฉลิมลาภ ๑๑.พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ
๑๒.พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์

นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐15

กล่าวนำ ประจักษ์ศิลปาคม จนทำให้กรมทหารเรือเจริญรุดหน้า
ก่อนรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อย่างรวดเร็ว แต่เป็นที่น่าเสียดายมีเหตุการณ์เกิดขึ้น
กิจการทหารของไทยไม่ว่าจะเป็นทหารบก ทหารเรือ ในช่วง พ.ศ.๒๔๕๔ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเศร้า
เราจำเป็นจะต้องจ้างชาวต่างประเทศมาเป็นที่ปรึกษา เสียใจให้แก่บรรดาเหล่าทหารเรือ ผู้ใต้บังคับบัญชา
หรือเป็นผู้ควบคุม ผู้บังคับบัญชาของทหาร โดยเฉพาะ เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งพระองค์ท่านถูกเข้าใจผิดบางประการ
อย่างยิ่งกิจการทหารเรือ ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีในการดำเนินการ จึงจำเป็นต้องออกจากราชการทหารเรือไป จนถึงปี พ.ศ.๒๔๖๐
ดังนั้น เพื่อพัฒนากิจการทหารให้ทัดเทียมอารยประเทศ นานถึง ๖ ปี ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ จึงได้จัดส่งทั้งพระราชโอรสและสามัญชน เจ้าอยู่หัว ทรงเข้าพระทัยถึงความซื่อสัตย์ จงรักภักดี
ไปศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ เพื่อนำความรู้มาพัฒนาประเทศ และความสามารถของเสด็จในกรม จึงได้โปรดให้เข้า
ต่อไป ในด้านกิจการทหารเรือพระราชโอรสพระองค์ รับราชการเป็นเจ้ากรมจเรทหารเรือ ในปี พ.ศ.๒๔๖๐
แรกที่ท่านได้ส่งไปรับการศึกษา ณ ต่างประเทศ คือ และได้พระราชทานเลื่อนพระอิสริยยศ ตำแหน่งเป็น
พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ พระราชโอรสองค์ที่ ๒๘ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากร
ซึ่งทรงส่งไปรับการศึกษาวิชาการทหารเรือ ณ ประเทศ เกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และดำรง
อังกฤษ พร้อม ๆ กับเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ พระราชโอรส ตำแหน่ง เสนาธิการทหารเรือ ในปี พ.ศ. ๒๔๖๑ และเลื่อน
องค์ที่ ๒๙ ซึ่งต่อมา เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ได้รับการสถาปนา เป็นเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๖
เป็น มกุฎราชกุมาร แทนเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ซึ่งตั้งแต่
ทิวงคต เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๘ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว จึงทรงมีพระมหากรุณาโปรดเกล้าให้เปลี่ยนไป ที่มาของที่ดินทรงสงวน
ศึกษาวิชาการทหารบกและวิชาการปกครองที่วิทยาลัย ดังที่กล่าวไปแล้วพระองค์เป็นผู้มีความมุ่งมั่น
การทหาร แซนเฮิสต์และมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ดแทน ตลอดจนเป็นผู้ที่ชอบท่องเที่ยวและสำรวจสถานที่
ต่าง ๆ เพื่อกิจการทหารเรือ พระองค์ท่านได้เคยสำรวจ
พื้นที่่สัตหีบไว้ว่าเหมาะที่จะเป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือ
การเข้ารับราชการของเสด็จในกรม ฯ เป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น ในกันยายน พ.ศ.๒๔๖๕ จึงทรงมี

สำหรับเสด็จในกรม ฯ เมื่อทรงศึกษาวิชาทหารเรือ พระราชหัตถเลขากราบบังคมทูลขอพระราชทานที่ดิน
จบแล้ว ในปี พ.ศ.๒๔๔๓ จึงได้เสด็จนิวัตพระนคร ต่อล้นเกล้ารัชกาลที่ ๖ โดยทรงเน้นให้เห็นคุณและโทษ
แล้วได้ทรงรับราชการในตำแหน่งแรก คือ Flag Lieutenant ของการจัดสัตหีบเป็นฐานทัพเรือไว้ ดังต่อไปนี้
หรือ นายธง (นายทหารคนสนิท) ของพลเรือโท พระเจ้า
บรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เสนาบดีกระทรวง “ คุณ
กลาโหม และรั้งตำแหน่งผู้บัญชาการกรมทหารเรือ ๑. อยู่เป็นสถานกลางของอ่าวสยาม
ในขณะนั้น ๒. เป็นต้นทางของ Vital Point คือ แม่น้ำเจ้าพระยา
โดยได้รับพระราชทานยศ เป็น นายเรือโท พระเจ้า ๓. น้ำลึกพอที่จะเป็นอ่าวเรือใหญ่หรือที่ฝึกซ้อมยิง
บรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวง ตอร์ปิโดได้
ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ๔. มีเกาะต่าง ๆ เป็นที่กำบังสำหรับเล็ดลอดออกกระทำ
เสด็จในกรมได้รับราชการด้วยความวิริยะ อุตสาหะ การยุทธวิธีด้วยเรือเล็กได้สะดวก
และจากอุปนิสัยของพระองค์ท่าน คือ ความซื่อตรง ๕. ที่บนบกไม่ได้ตกเป็นสิทธิ์ขาดของผู้หนึ่งผู้ใด โดยทรง
ซึ่งเป็นตามพระราชวินิจฉัยของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ พระมหากรุณาธิคุณให้เทศาภิบาล หวงห้ามไว้เป็นพระคุณ
ประกอบกับที่ทรงมีใจนักเลง รักลูกน้อง และมีความมุ่งมั่น แก่ทหารเรืออย่างยิ่ง
ที่จะพัฒนากรมทหารเรือให้เจริญรุดหน้าให้ทัดเทียม ๖. ทางบกมีทางติดต่อกับทางรถไฟสายปราจีนได้สะดวก
อารยประเทศ เพื่อไม่ให้ต่างชาติมารังแกได้อีก ไม่ต้องกลัว Isolation
ท่านได้พัฒนากองทัพเรือในทุก ๆ ด้าน จนเป็นที่ไว้วาง ๗. โดยข้อ ๖. นั้นเองอาจติดต่อกับกำลังทางทหารบก
พระราชหฤทัย ทั้งจากองค์ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ และกรมหลวง และเป็นปีกหนึ่งของกองทัพบกฝ่ายตะวันตกได้สะดวก



๐16 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

“การที่

จะเอาสัตหีบ

เป็นฐานทัพเรือนั้น

ก็ตรงตาม

ความปรารถนา
ของเราอยู่แล้ว

เพราะที่เราได้สั่ง

หวงห้าม

ที่ดินไว้ก็ด้วย

ความตั้งใจ

จะให้เป็นเช่นนั้น...”

พระราชหัตถเลขารัชกาลที่ ๖











๏ พลเรือโท พระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม

๘. เป็นที่ฝึกหัดทางทะเลได้ตลอดทั้งสองมรสุม โดยเป็น ๕. ในขั้นต้นนี้จะจัดเป็นฐานทัพยั่งยืนไม่ได้ โดยไม่มี
ที่กำบังมิดชิด ทุนพอที่สร้างในเร็ววัน
๖. เวลานี้ความไข้ชุกชุมมาก เพราะเป็นที่รกร้างโดยไม่มี
โทษ ใครจะถากถาง เพราะจะยึดเป็นกรรมสิทธิ์ของตนไม่ได้”
๑. ในเวลานี้ยังไม่มีที่ขังน้ำจืด
๒. ในเวลานี้ยังกันดารด้วยเสบียงอาหาร ซึ่ง ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๖ ได้ทรงมีพระราชหัตถเลขา
๓. ในเวลานี้ยังห่างจากคมนาคมกับกรุงเทพ ฯ คือ ถึงเสด็จในกรม ฯ ความว่า
ยังไม่มีรถไฟ “การท่จะเอาสัตหีบเป็นฐานทัพเรือน้นก็ตรงตาม


๔. ถ้าจะให้เป็นที่มั่นจะเปลืองค่าป้อมและเครื่องป้องกัน ความปรารถนาของเราอย่แล้ว เพราะท่เราได้ส่ง หวงห้าม



ในข้อนี้ไม่ว่าเป็นฐานทัพแล้วต้องป้องกันทั้งสิ้น ท่ดินไว้ก็ด้วยความต้งใจจะให้เป็นเช่นน้น แต่เม่อเห็น




นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐17

๏ อ่าวสัตหีบ













วายงไมถงเวลาทจะใชเปนฐานทพเรอและไมอยากให และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรง
โจทย์กันว่น จึงได้กล่าวไว้ว่าจะต้องการท่ไว้ทำวังสำหรับ พระราชทานให้เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๔๖๕




เผ่อจะมีผ้ขอจับจองฝ่ายเทศาภิบาลจะได้ตอบไม่อนุญาต ซึ่งในเวลาต่อมา ราษฎรได้มีการร้องเรียนว่า ได้รับ

โดยอ้างเหตุว่า พระเจ้าอย่หัวต้องพระราชประสงค ความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยและที่ทำกินเนื่องจาก




เม่อบัดน้ทหารเรือจะต้องการท่น้นก็ยินดีอนุญาตให อยู่ในที่สงวนหวงห้ามของกองทัพเรือ และคณะกรรมการ




(สั่งไปทางมหาดไทยด้วย) ราม ร. ” นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กฤษฎีกา ได้มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๘
ทหารเรือก็ได้ใช้ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ตั้งฐานทัพเรือ และ สรุปได้ว่า

ได้พัฒนาให้เจริญขึ้นเป็นลำดับ จนกระทั่งเป็นที่ตั้งของ “การครอบครองท่ดินในเขตทรงสงวนเป็นการครอบครอง

ฐานทัพเรือสัตหีบ กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการ ท่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่ได้ปฏิบัติตามพระราชโองการ ฯ


นาวิกโยธิน หน่วยต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และ ท่กำหนดให้กระทรวงทหารเรือเป็นผ้มีอำนาจอนุญาตให้ราษฎร
หน่วยทหารเรืออื่น ๆ เป็นจำนวนมาก เข้าไปครอบครอง ในเขตทรงสงวน”
เป็นอันว่าที่ตั้งของหน่วยทหารเรือที่สัตหีบ จึงได้ ดังนั้น จึงเป็นที่ปรากฏแน่ชัดว่า พระบาทสมเด็จ
บังเกิดขึ้น โดยแบ่งเขตที่ดินทั้งหมดเป็น ๒ ตอน คือ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นผู้สงวนหวงห้าม และ
ตอนที่ ๑ ส่วนที่ดิน เรียกว่าที่พระราชทาน ซึ่งเป็น พระราชทานที่ดินพื้นที่อำเภอสัตหีบ ให้แก่กองทัพเรือ
เอกสิทธิ์ขาดของทหารเรือ เพื่อใช้เป็นที่ตั้งฐานทัพเรือ โดยมีสิทธิสมบูรณ์ส่วนหนึ่ง
ตอนที่ ๒ ไม่หวงห้าม แต่ไม่อนุญาตให้ชาวต่าง และอีกส่วนหนึ่งสงวนหวงห้ามไว้ให้คนไทยเข้ามาจับจอง
ประเทศมาจับจองหรือรับซื้อไปได้ และให้กระทรวงทหารเรือ ทำไร่นา โดยให้อำนาจแก่กองทัพเรือเป็นผู้มีอำนาจอนุญาต
มีอำนาจอนุญาตแก่ผู้ที่จับจองทำไร่นาและถากถางได้ อันจะทำให้กองทัพเรือสามารถพัฒนากำลังรบทางเรือใน
ตามพอสมควร ซึ่งไม่เกินขีดขั้น พระราชบัญญัติการตัดไม้ การปกป้องอธิปไตยของชาติ ดังเช่นปัจจุบัน สำหรับประชาชน
๐18 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

ที่ดินในเขตทรงสงวนจากกองทัพเรือ โดย
ผู้บัญชาการทหารเรือ จะพิจารณาอนุญาต
ให้ทุกราย หากไม่ผิดกฎหมาย เช่น ไม่รุกล้ำ
ที่เขาหรือที่ต้องห้ามหรือผิดกฎหมาย
หลังจากนั้นกรมที่ดินจะนำตราประทับ
ที่โฉนดว่าได้รับการอนุญาตจากกองทัพเรือ
แล้ว จึงสามารถใช้เป็นเอกสารที่ถูกต้อง
ตามกฎหมายได้ แต่ถ้าหากครอบครองที่ดิน
แต่ออกโฉนดไปก่อนหน้านี้แล้ว ถือว่า
ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะต้องให้กองทัพเรือ
อนุญาตก่อน ซึ่งกองทัพเรือก็จะอนุญาตให้
ทุกราย หากเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตาม
กฎหมาย

สรุป
จากสายพระเนตรอันยาวไกลของเสด็จ
ในกรม ฯ ในการขอพระราชทานพื้นที่ให้กับ
กองทัพเรือ เพื่อเป็นที่ตั้งของหน่วยต่าง ๆ
รวมทั้งยังได้กำหนด มิให้ชาวต่างชาติมีสิทธิ
ในการครอบครองที่ดินในเขตทรงสงวน จึงทำ
ให้ทหารเรือได้มีพื้นที่ ในการตั้งฐานทัพและ
หน่วยต่าง ๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์แห่งชาติ
ทางทะเลได้อย่างสมบูรณ์ และนับเป็นพระมหา
กรุณาธิคุณเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมของล้นเกล้า
รัชกาลที่ ๖ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ที่ได้ทรงพระราชทานที่ดินให้ทหารเรือ ตามที่
เสด็จในกรม ฯ ทรงร้องขอ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว
เรียกว่า “พื้นที่ทรงสงวน” นับเป็นแห่งแรก
และแห่งเดียวในประเทศไทย ดังนั้นทหารเรือ
๏ ล้นเกล้ารัชกลที่ ๖ ได้ทรงมีพระราชหัตถเลขาตอบอนุญาต และประชาชนชาวไทยต่างสำนึกในพระมหา
ให้ทหารเรือใช้สัตหีบ เป็นฐานทัพเรือ
กรุณาธิคุณและจะเทิดไว้เหนือเกล้าตลอดไป
ในพื้นที่สัตหีบก็สามารถมีที่ดินทำกิน โดยที่ชาวต่างชาติ
ไม่สามารถมีสิทธิครอบครองที่ดินนั้นได้ ที่ดินนี้จึงเรียกว่า เอกสารอ้างอิง
“ที่ทรงสงวน” คือทรงสงวนไว้ให้ทหารเรือพิจารณาในการ - http://www.abhakara.com/index.php?option=com_content&
ใช้ประโยชน์ตามสมควรต่อไป view=article&id=63&Itemid=75, ๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๔
และในปัจจุบันนี้ กองทัพเรือโดยฐานทัพเรือสัตหีบ - http://th.wikipedia.org/wiki,
ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กำลังดำเนินการพิจารณา - http://www.navy.mi.th/sattahipbase/sattahip/?name=page&
file=page&op=prawat , ๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๔
อนุญาตการครอบครองที่ดินในเขตทรงสงวนเป็นราย ๆ ไป - หนังสือที่ระลึก เนื่องในพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาท
ทั้งนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎร และปฏิบัติให้ สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ในพื้นที่ฐานทัพเรือสัตหีบ,
เป็นไปตามพระบรมราชโองการ ฯ โดยการดำเนินการ กองโรงพิมพ์ กรมสารบรรณทหารเรือ พ.ศ.๒๕๔๕
ทั้งหมดนั้น ราษฎรจะมีหนังสือขออนุญาตการครอบครอง



นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐19

๏ แผนที่แสดง ที่ดินเวนคืน เขตหวงห้าม เขตทรงสงวน เขตพระราชทาน
และเกณฑ์ความสูง ของสิ่งปลูกสร้างภายในบริเวณแนวเขตปลอดภัย
ในราชการทหารแห่งกองทัพเรือ ในท้องที่ อำเภอบ้านค่าย อำเภอบ้านฉาง
อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง และอำเภอบางละมุง อำเภอสัตหีบ
จังหวัดชลบุรี พ.ศ.๒๕๒๖



๐20 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐21

บทความ

ผู้บังคับการเรืออู






ตอนที่ ๑๒ เข้าสู่เวลาสนธยาและพบความปราชัย



พลเรือเอก ไพศาล นภสินธุวงศ์



































“ผู้ชนะไม่ตอบคำถามใด ๆ แต่ผู้ปราชัยต้องตอบทุกคำ”
Sir Hamilton : Gallipoli Diary

เดือนพฤษภาคม ค.ศ.๑๙๔๓ ไม่ได้เป็นพฤษภาทมิฬ ไปแต่ละเดือน แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว เรืออูที่สร้างขึ้นมา
สำหรับกองเรืออูที่ปฏิบัติการในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ขณะนั้นทุกชั้นยังนับว่าค่อนข้างล้าสมัยเมื่อเปรียบเทียบ
เท่านั้น แต่รวมทั้งพื้นที่อ่าวบิสเคย์ซึ่งเป็นทางเข้า - ออก กับมาตรการปราบเรือดำน้ำของพันธมิตรที่นับวันจะพัฒนา
ฐานทัพของเรือและชายฝั่งตะวันตกของฝรั่งเศส ในจำนวน และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
เรืออูที่ถูกจม ๘๙ ลำ ๖๔ ลำถูกจมโดยเครื่องบิน และในจำนวนนี้ เยอรมนีจึงออกแบบเรืออูใหม่ชนิดที่เรียกว่าเป็น
๒๐ ลำถูกจมในอ่าวบิสเคย์ระหว่างการเดินทางเข้า - ออก การปฏิวัติของเรืออูเองที่นำเรือดังกล่าวเรียกกันว่า
จากฐานทัพ ความสูญเสียอย่างหนักเช่นนั้น ทำให้เยอรมนี Electroboat (เรียกตามอุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนมากที่เรือ
ต้องรีบเร่งปรับปรุง ทั้งทางยุทธวิธีและสร้างเรืออูเพิ่มเติม ประเภทใหม่นี้ติดตั้งไว้) จำนวนแบตเตอรี่มากกว่าเรือ
นับถึงเดือนมิถุนายน ค.ศ.๑๙๔๓ กองเรืออูมีเรือ รุ่นเก่าเกือบ ๓ เท่า ทำความเร็วใต้น้ำมากกว่า ความเร็ว
ที่ประจำการจำนวน ๔๒๘ ลำ ในจำนวนนี้เป็นเรือ ที่อยู่ ของกระบวนคอนวอย ตามแผนที่วางไว้สามารถทำความเร็ว
ในพื้นที่ปฏิบัติการในทะเลถึง ๒๑๔ ลำ ในทางที่ดีแล้ว ใต้น้ำไว้ถึง ๑๘ นอต นานถึง ๑ ชั่วโมงครึ่ง หากใช้ความเร็ว
เรือที่สร้างขึ้นมาใหม่คิดเฉลี่ยแล้วมากกว่าเรือที่สูญเสีย ๑๒ - ๑๔ นอต ดำได้นานถึง ๑๐ ชั่วโมง นับว่าพัฒนาไป


๐22 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

Doenitz ทบทวนยุทธวิธี
และใช้อาวุธชนิดใหม่ เหตุการณ์
พฤษภาทมิฬ ค.ศ.๑๙๔๓ ความ
ผิดพลาดและความบกพร่องของ
Rudeltaktik (Wolfpack) พร้อมกับ
ความสูญเสียเรืออูจำนวนมากจน



ทำให Doenitz ตองถอนกำลงเรออ ู

ทั้งหมดบริเวณแอตแลนติกเหนือ
แต่เขาถือว่านั่นเป็นการหยุดเลียแผล
ชั่วคราวเท่านั้น เมื่อ ๑๓ กันยายน
ปีเดียวกันนั้นเขาตัดสินใจว่าเวลา
สุกงอมแล้วที่ต้องใช้เรืออูรุกใหม่
อีกครั้ง เขาจึงส่งสัญญาณ ไปยัง
U-boat ถูกโจมตีโดยเครื่องบิน บรรดาเรืออูว่า “สิ่งที่จำเป็นทั้งหมด
ไกลกว่าเรือรุ่นเก่าที่มีอยู่ ซึ่งความเร็วสูงสุดขณะดำทำได้ สำหรับความสำเร็จในการรบอยู่ในมือพวกเราแล้ว”
ไม่เกิน ๖ นอต และน่าจะไม่เกิน ๔๕ นาที เท่านั้น เรืออู สิ่งที่จำเป็น ฯ ความหมายของ Doenitz คือ ปืนต่อสู ้
Electroboat ลำแรก เรียกว่าชั้น XXI ระวางขับน้ำ ๑,๖๐๐ ตัน อากาศยานชนิดใหม่ที่มีอัตรายิงสูงได้ติดตั้งให้แก่บรรดา
ความยอดเยี่ยมของขีดความสามารถในการดำของ เรืออู อุปกรณ์ ดักรับสัญญาณเรดาร์ข้าศึกที่เรียกว่า Wanze
เรือชั้นนี้ประกอบกับการปรับปรุงความคล่องตัวในการ และตอร์ปิโดเดินทางโดยคลื่นเสียง (Zaukoening - T5)
นำเรือ รัศมีปฏิบัติการไกลเมื่อดำด้วยความเร็วสูงที่เงียบ ที่ออกแบบสำหรับใช้ยิงเป้าเรือคุ้มกันความเร็วสูง
(๖๐ ชั่วโมง ที่ความเร็ว ๕ นอต เปรียบเทียบกับเรือรุ่นเก่า การโจมตีครั้งแรกของฝูงหมาป่าต่อกระบวนคอนวอย
ที่ทำได้ ๒๐ - ๓๐ ชั่วโมงที่ความเร็ว ๑.๕ นอต) ทำให้ ด้วยการรุกใหม่กระตุ้นให้เกิดความมั่นใจ ต่อยุทธวิธี
เรือรุ่น XXI นี้ สามารถหลบหลีกการโจมตีจากข้าศึก ที่ผ่านการทบทวนใหม่และด้วยอาวุธชนิดใหม่ ฝูงหมาป่า
ได้อย่างยอดเยี่ยม ความจุน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนมาก “Leuthen” ซึ่งประกอบด้วยเรืออู ๒๒ ลำ เมื่อวันที่ ๒๐
ทำให้สามารถขยายรัศมีปฏิบัติการครอบคลุมทั้ง กันยายน ค.ศ.๑๙๔๓ ได้สกัดกระบวนคอนวอยขนาดใหญ่
แอตแลนติกเหนือ - แอตแลนติกใต้ โดยไม่จำเป็น สองกระบวนที่ร่วมกัน คือ ON 202 และ ONS 18 แม้
ต้องพึ่ง Milch Cows (U - Tankers) รายละเอียดของ กระบวนคอนวอยที่กล่าวนี้ได้รับการคุ้มกันอย่างเข้มแข็ง
เรือชั้น XXI ดูท้ายบทความนี้ จากเรือคุ้มกันและเครื่องบิน เรืออูจมเรือคุ้มกัน ๓ ลำ
นอกจากนั้น XXI แล้ว เยอรมนียังได้ออกแบบ และได้รับความเสียหาย ๑ ลำ ส่วนเรือพาณิชย์ถูกจม ๖ ลำ
เรืออู XXIII ซึ่งเป็นเรืออู Eloctroboat ขนาดเล็ก ๒๓๒ ตัน คิดเป็นระวางขับน้ำ ๓๖,๔๒๒ ตัน ความจริงแล้วกระบวน
ใช้ปฏิบัติการใกล้ฝั่งบริเวณน้ำตื้น เพื่อให้สามารถสร้าง คอนวอยน่าจะสูญเสียมากกว่านี้หากไม่เกิดหมอกลง
เรืออูใหม่เหล่านั้นได้รวดเร็วขึ้น เยอรมนี แบ่งการสร้าง หนาบริเวณนอกชายฝั่ง New Found Land จนทำให้บรรดา
เป็น Sections โดยให้แต่ละโรงงานที่ตั้งอยู่กระจาย เรืออูต้องยุติการปฏิบัติการ ส่วนฝ่ายเรืออูได้รับความ
ทั่วประเทศเป็นผู้สร้างแล้วนำมาประกอบที่อู่ต่อเรือ สูญเสียเช่นกัน ถูกจม ๓ ลำ (๒ ลำ โดยเครื่องบิน)
บริเวณชายฝั่งทะเล เมื่อสงครามยุติลงเรืออูชั้น XXI และเสียหายหนักอีก ๓ ลำ สำหรับกองบัญชาการกองเรืออู
สร้างเสร็จถึง ๑๒๓ ลำ เข้าประจำการ ๕๕ ลำ ส่วนชั้น ตัวเกณฑ์ความสำเร็จยกให้ประสิทธิภาพของตอร์ปิโด
XXIII สร้างเสร็จถึง ๕๙ ลำ เข้าประจำการ ๓๕ ลำ T - 5 หรือ Zaunkoenig และอาวุธปืนต่อสู้อากาศยาน
พลังอำนาจของเรืออูชั้นใหม่ของเยอรมันนับว่า น่ากลัว ชนิดใหม่ อย่างไรก็ตามการประเมินผลของกองบัญชาการ
อย่างยิ่ง แต่ตามที่ได้กล่าวมาแล้วว่ายังไม่มากพอและ กองเรืออูต่อความสำเร็จในประสิทธิภาพของตอร์ปิโด
สำคัญคือมันสายเกินไปเสียแล้ว (Too Few and Too Late) T - 5 นั้น สูงเกินความเป็นจริงมากถึงร้อยละ ๘๐


นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐23

U-boat Type XXI U-boat Type XXIII
ภายหลังจากความสำเร็จในการโจมตีกระบวนคอนวอย เข้ากับเครื่อง Enigma แล้วก็ตาม ผลของการถอดรหัส
ON 202/ONS 18 รวมทั้งความมั่นใจของกองบัญชาการ ได้นี้ทำให้กระบวนคอนวอยสามารถใช้เข็มหลบหลีกพื้นที่
กองเรืออู ปฏิบัติการรุกที่เริ่มต้นกันใหม่นี้กลับประสบ ซึ่งมีเรืออูลาดตระเวนอยู่นอกจากนั้นหลังจากเดือน
ความล้มเหลวในเวลาต่อมา ระหว่างช่วงเวลาที่เหลือ มิถุนายน ค.ศ.๑๙๔๔ ฝ่าย B - Dienst ของเยอรมันเอง

ของเดือนกันยายนและตลอดเดือนตุลาคมของปี ก็ไม่สามารถถอดรหัสของกองทัพเรืออังกฤษได้อีกต่อไป
ค.ศ.๑๙๔๓ ฝูงหมาป่าสกัดกระบวนคอนวอยได้เพียง Doenitz ยกเลิกยุทธวิธีฝูงหมาป่า ความล้มเหลว
กระบวนเดียวเท่านั้น คือ กระบวนคอนวอย ONS 20 ดังที่กล่าวมานี้ทั้ง ๆ ที่ Doenitz ได้ย้ายพื้นที่ปฏิบัติการมา
ความเชื่อมั่นต่ออาวุธปืนต่อสู้อากาศยานชนิดใหม่ ก็พบกับ ยังตะวันออกของแอตแลนติก โดยเหตุผลประการหนึ่ง
ความผิดหวัง บรรดาเรืออูของฝูงหมาป่า “Schlieffen” คือ การหวังพึ่งการลาดตระเวนทางอากาศจากเครื่องบิน
จับเป้ากระบวนคอนวอย ONS 20 ได้เมื่อ ๒๐ ตุลาคม ของกองทัพอากาศ (Luftwaffe) แต่ก็ไม่เกิดผลประการใด
ค.ศ.๑๙๔๓ แต่มีกำลังคุ้มกันทางอากาศอย่างเข้มแข็ง จากเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.๑๙๔๓ ถึง มีนาคม ค.ศ.๑๙๔๔
โดยได้รับการเสริมกำลังจากเครื่องบินปราบเรือดำน้ำ เรืออูสามารถจมเรือในกระบวนคอนวอยได้เพียง ๘ ลำ
ที่บินมาจากฐานบินในไอซ์แลนด์ จนทำให้ฝูงหมาป่า เท่านั้น ดังนั้นในเดือนมีนาคม ๑๙๔๔ จึงตัดสินใจยกเลิก
ต้องดำอยู่ใต้น้ำเกือบตลอดเวลา เว้นเรืออูบางลำที่ยอมฝืน การใช้ยุทธวิธีฝูงหมาป่าในยุทธบริเวณแอตแลนติกเหนือ
แล่นบนผิวน้ำเพื่อติดตามเป้า ด้วยเหตุนี้ฝูงหมาป่าจึง อย่างไม่สู้เต็มใจนัก แต่สถานการณ์บีบให้ต้องทำเช่นนั้น
อยู่อย่างกระจัดกระจายในพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง ทำให้ หลังจากนั้นเป็นต้นมาบรรดาเรืออูที่ออกปฏิบัติ
ไม่สามารถสนับสนุนการปฏิบัติซึ่งกันและกันได้ การจะไม่รวมตัวกันเพื่อเข้าโจมตีกระบวนคอนวอยแบบ
แต่กระนั้นก็ตาม Doenitz ยังสั่งการให้ฝูงหมาป่า “แล่นอยู่ ฝูงหมาป่า แต่ละลำประจำสถานีในพื้นที่โจมตีของตนซึ่ง
บนผิวน้ำและให้ใช้ปืนต่อสู้อากาศยานยิงเรือในกระบวน มีระยะห่างกันราว ๒๐ - ๔๐ ไมล์ และกระจัดกระจายอยู่
คอนวอย” ความผิดพลาดอย่างมหันต์ของ Doenitz ครั้งนี้ ในพื้นที่ตั้งแต่แลต ๔๘ - ๖๑ องศาเหนือ กลางวันจะดำ
ได้รับการพิสูจน์อย่างชัดเจนที่ให้เรืออูต่อสู้กับข้าศึกขณะ อยู่ที่ความลึกที่เห็นว่าเหมาะแก่การเฝ้าฟังเสียงเรือผิวน้ำ
อยู่บนผิวน้ำ ผลที่ตามมาไม่ได้เกินความคาดหมาย เรืออู แต่อาจขึ้นมาอยู่ที่ระดับความลึกกล้องตาเรือเพื่อติดต่อ
จม ๖ ลำ ในขณะที่เรือพาณิชย์ของกระบวนคอนวอย สื่อสาร ปกติจะโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำในช่วงเวลาใกล้ค่ำ
ONS 20 จมเพียงลำเดียว ซึ่งมีระวางขับน้ำ ๖,๖๒๕ ตัน ในช่วงเวลาสุดท้ายของการปฏิบัติการของสงคราม
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้อังกฤษประสบความสำเร็จ เรืออู (มิถุนายน ค.ศ.๑๙๔๔ – พฤษภาคม ค.ศ.๑๙๔๕)
คือ ความสามารถในการถอดรหัสของเครื่อง Enigma หรือคิดง่าย ๆ ว่าปีสุดท้ายเป็นการปฏิบัติการของเรืออู
ของเยอรมันได้ แม้ฝ่ายเยอรมันได้เพิ่ม Rotor ตัวที่ ๔ ที่มีเหลืออยู่ทั้งหมดที่สังกัดอยู่ในอ่าวบิสเคย์ถูกส่งให้



๐24 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

ออกปฏิบัติการในช่องแคบอังกฤษเพื่อโจมตีกองเรือข้าศึก ในขณะที่เรือผิวน้ำพันธมิตรจมเพียง ๕ ลำเท่านั้น
ซึ่งบุกขึ้นฝั่งฝรั่งเศสในวัน D - Day ที่ Normandy ในสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม เมื่อมีการรุก
จนถึงเมื่อ ๖ มิถุนายน ค.ศ.๑๙๔๕ (D - Day) หมู่เรือ จากพื้นที่ยกพลขึ้นบกคืบเข้าสู่ตะวันออกมุ่งไปยังเยอรมนี
คุ้มกันของพันธมิตร ประกอบด้วยเรือ ๕๔ ลำ ได้เข้าประจำ อ่าวบิสเคย์และฐานทัพเรือของเยอรมันในฝรั่งเศส
สถานีตามแนวของเส้นทางโจมตีของพันธมิตร (วัตถุประสงค์ ถูกคุกคามอย่างหนัก โดยเฉพาะจากกำลังทางอากาศ
เพื่อต่อต้านกองเรืออู) นอกจากนั้นเครื่องบินของอังกฤษ ของพันธมิตร ความพยายามปฏิบัติการของบรรดาเรืออู
จากหน่วย Coastal Command ได้ร่วมลาดตระเวนอย่าง ในพื้นที่ช่องแคบอังกฤษได้ถูกยกเลิก แล้วเปลี่ยนเป็น
เข้มข้นบริเวณด้านตะวันตกของทางเข้าช่องแคบอังกฤษ การใช้ฐานทัพเรือในนอร์เวย์ การอพยพของเรืออูทำให้
และอ่าวบิสเคย์ มาตรการของพันธมิตรที่กล่าวนี้สร้างความ หน่วยกำลังปราบเรือดำน้ำของพันธมิตร ซึ่งมีพื้นที่
ลำบากให้แก่บรรดาเรืออูอย่างมาก ปฏิบัติการในอ่าวบิสเคย์ ผ่อนคลายลงไป แต่ถึงกระนั้น
ขณะที่ฝ่ายเยอรมันรู้แน่ชัดว่าการยกพลขึ้นบก ก็ยังสามารถทำลายเรืออูบริเวณเขตชายฝั่งในเดือน
กำลังจะเกิดขึ้นแน่นอน บรรดาเรือได้รีบออกจากฐานทัพเรือ สิงหาคมได้ ๑๕ ลำ โดย ๓ ลำ ในช่องแคบอังกฤษ และ
ในอ่าวบิสเคย์ทันที กล่าวคือจาก Brest, St - Nazaire, ๑๒ ลำในอ่าวบิสเคย์
Lorient, La Pallice มีเรืออูบางลำพยายามวางแนว ในช่วงปีสุดท้ายของสงคราม อัตราการสูญเสียเฉลี่ย
ข้าศึกเข้าสู่ช่องแคบอังกฤษ บางลำลาดตระเวนและประจำ ของเรือพาณิชย์เพียง ๑๑.๑๖ ลำต่อเดือน หรือ ๕๒,๑๓๖ ตัน
สถานีป้องกันฐานทัพของตนเอง ช่วงเวลา ๕ วัน ทั้ง ๆ ที่โดยข้อเท็จจริงแล้ว จำนวนเรืออูที่อยู่ในพื้นที่
(๖ - ๑๐ มิถุนายน) พันธมิตรพบเรืออูราว ๔๐ ลำ ปฏิบัติการ (Frontboote) ตกเดือนละ ๔๘ ลำ ความล้มเหลว
และเข้าตี ๒๔ ลำ ในจำนวนนั้นเป็นเวลากลางคืน ของกองเรืออูอย่างสิ้นเชิงในช่วงสุดท้ายเกินจากการ
๑๘ ลำ บรรดา เรืออู ทุกลำได้ต่อสู้อย่างบ้าเลือด เรืออู คาดฝัน อัตราเรือผิวน้ำพันธมิตรที่ถูกจมต่อการสูญเสีย
ถูกจมโดยเครื่องบินซึ่งกำลังคุ้มกันกระบวนคอนวอย เรืออู ๑ ลำ ในช่วง ๑๒ เดือนสุดท้ายของสงครามโลก
ถึง ๖ ลำ และได้รับความเสียหายอีกหลายลำ ฝ่ายเยอรมัน ครั้งที่ ๒ ตก ๐.๔๑ ลำ (คิดเป็นระวางขับน้ำรวม ๑,๙๖๑ ตัน)
เข้าตาจนจึงหาทางออกโดยนำเรืออูที่ติดตั้งท่อหายใจ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่น่าสงสัยเลยว่า การปฏิบัติการ
(Schnorchel) มาช่วยเสริม ปรากฏว่าได้ผลมาก เรืออู ของเรืออูนั้นได้มาซึ่งวาระสุดท้ายแล้ว ในสงครามโลก
ถูกตรวจพบลดน้อยลงมาก แต่อย่างไรก็ดีเรือผิวน้ำของ ครั้งที่ ๒ เรืออูของเยอรมัน ๘๓๐ ลำ ร่วมปฏิบัติการ
พันธมิตร ซึ่งปฏิบัติการร่วมกับเครื่องบินได้จมเรืออู ๒ ลำ ทั้งหมด ๓,๐๐๐ การปฏิบัติการในทุกยุทธบริเวณ จมเรือ
อีก ๓ ลำถูกทำลายเสียหาย โดยสรุปแล้วในเดือนมิถุนายน ของพันธมิตรได้ ๒,๙๒๗ ลำ คิดเป็นระวางขับน้ำ
บริเวณช่องแคบอังกฤษของอ่าวบิสเคย์ เรืออูถูกจมถึง ๑๑ ลำ ๑๔,๙๑๕,๙๒๑ ตัน หากย้อนไปดูตัวเลขในสงครามโลก





























นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐25

ครั้งที่ ๑ จะพบว่า เรืออู ๓๒๐ ลำ ร่วมปฏิบัติการ
๓,๒๗๔ ปฏิบัติการจมเรือพาณิชย์ได้ถึง ๕,๒๘๒ ลำ
ระวางขับน้ำรวม ๑๒,๒๘๔,๗๕๗ ตัน เมื่อรวม
ทั้งสองครั้งเข้าด้วยกัน เรืออูทั้งหมด ๑,๑๕๐ ลำ
จมเรือ ๘,๒๐๙ ลำ ระวางขับน้ำ ๒๗,๒๐๐,๖๗๘ ตัน
รวมการปฏิบัติการ ๖,๒๗๔ ครั้ง สงคราม
ทั้งสองครั้งสูญเสียเรืออูทั้งหมด ๙๙๙ ลำ นาย
ทหารและทหารประจำเรือ ๓๓,๐๘๖ คน
ได้อุทิศชีวิตของตนให้แก่ปิตุภูมิ (Vaterland)
กองเรืออูของเยอรมันได้สู้รบอย่างกล้าหาญ
ไม่มีที่ติ รักษาระเบียบวินัยและดำรงขวัญได้ดีเยี่ยม de la Periere Kretschmer

ในเอกสาร Naval Doctrine Publication 1 - Naval บทสรป มักจะมีการตั้งคำถามอยู่เสมอภายหลัง
Warfare ของ US Navy กล่าวเกี่ยวกับการยุทธ์ใน สงครามโลกครั้งที่สองว่าผลของสงครามอาจเป็น
แอตแลนติกว่า “ในสงครามโลกครั้งที่ ๒ กำลังรบทางเรือ อย่างอื่นไหม หากกองเรืออูในตอนเริ่มต้นสงคราม
ของพันธมิตรได้ทำสงครามทำลายล้าง (Attrition Warfare) มีจำนวนเรือมากกว่า ๕๗ ลำ หรือจำนวน ๒๐๐ ลำ
โดยใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลต่อสู้กับกองเรืออูของ ตามที่ Doenitz ต้องการ และเยอรมนีมีนโยบายก่อน
เยอรมัน จอมพลเรือ Sergei Gorshkove ของกองทัพเรือ สงครามที่จะรบกับอังกฤษและฝรั่งเศส นั่นหมายถึง
โซเวียตได้วิเคราะห์ถึงประสิทธิผลของสงครามเรือดำน้ำ แผนโครงสร้างกำลังรบเป็นไปตาม Z - Plan ของจอมทัพเรือ
และให้ข้อสังเกตจากการศึกษาในช่วงการยุทธ์ใน Raeder และจะไม่เข้าสู่สงครามก่อนปี ค.ศ.๑๙๔๔ คำตอบ
แอตแลนติก ว่ากองเรืออูของเยอรมันเกือบทำให้สงคราม ก็ยังคงปล่อยให้เป็นที่ถกแถลงกันต่อไป เพราะนั่นเป็นเรื่อง
ยุติลง ซึ่งมีผลจากการทำลายเรือสินค้าของพันธมิตร ที่สมมุติของเหตุที่ผ่านไปแล้ว
อย่างรวดเร็ว กำลังรบทางเรือของเยอรมันโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบการปฏิบัติการ
กองเรืออูได้รับการยกย่อง (ให้เครดิต) ที่สามารถ ของเรืออูในสงครามโลกทั้งสองครั้งแล้วจะพบความ
จมเรือสินค้าได้กว่า ๒,๘๐๐ ลำ คิดเป็นร้อยละ ๖๘ แตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยเฉพาะความสามารถหรือ
ของจำนวนตันที่กองทัพเรือนาซีจมเรือได้ทั้งหมด สมรรถนะของผู้บังคับการเรืออูในสงครามครั้งแรกนั้น
การสร้างความพินาศจากอาวุธชนิดนี้ (U - Bootwaffe) สูงกว่า ผู้บังคับการเรืออูฝีมือชั้นหนึ่ง (U – Boat Ace)
ทำให้ฝ่ายพันธมิตรต้องตอบโต้ สำหรับเรืออู ๑ ลำ อันดับที่ ๑ ในสงครามโลกครั้งแรก คือ นาวาโท Lothar von
ต้องใช้เรือรบของอังกฤษและสหรัฐ ฯ ถึง ๒๕ ลำ Arnauld de la Periere จมเรือพาณิชย์ได้ ๑๙๔ ลำ
เครื่องบินสำหรับตามล่าอีก ๑๐๐ ลำ สำหรับนักเรือดำน้ำ คิดเป็นระวางขับน้ำรวม ๔๕๓,๗๑๖ ตัน ส่วน นาวาตรี Otto
ของเรืออู ๑ คนที่อยู่ในทะเลอังกฤษและสหรัฐ ฯ Kretschmer อันดับหนึ่งของผู้บังคับการฝีมือชั้น ๑
ต้องใช้ทหารสำหรับปราบเรือดำน้ำถึง ๑๐๐ คน ในสงครามโลกครั้งที่สองจมเรือพาณิชย์ได้เพียง ๔๔ ลำ
ยอดรวมทั้งหมดของกำลัง ๖ ล้านคน เรือที่สร้าง รวมเป็น ๒๖๖,๖๒๙ ตันเท่านั้น ในช่วง ๕๑ เดือน
เป็นพิเศษ โดยเฉพาะ ๕,๕๐๐ ลำ และเรือขนาดเล็ก ของสงครามโลกครั้งแรก เรืออูจม ๑ ลำ ต่อการจม
อีก ๒๐,๐๐๐ ลำ ที่ได้ทุ่มเทให้กับสงครามปราบ ของเรือพาณิชย์ ๒๙.๖๗ ลำ หรือ ๖๙,๐๑๕ ตัน
เรือดำน้ำ .........การยุทธ์ในแอตแลนติกและภัยคุกคาม แต่ในสงครามโลกครั้งที่สอง ช่วงเวลา ๖๙ เดือน
จากเรืออูได้ถูกตรวจสอบและตอบโต้จากพันธมิตรอย่าง ลดลงเป็น ๓.๘๔ ลำ หรือ ๑๘,๑๖๗ ตัน ต่อการ
เต็มที่ โดยใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาล สูญเสียความ สูญเสียเรืออู ๑ ลำ เหตุผลสำคัญที่ตัวเลขลดลงนั้น
พยายามและเวลาซึ่งแสดงให้เห็นถึงลักษณะของ อยู่ที่มาตรการต่อต้านเรือลำน้ำของพันธมิตรมี
สงครามทำลายล้างอย่างชัดเจน” ประสิทธิภาพสูง แต่สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของ
ความตกต่ำเกิดจากกำลังทางอากาศของพันธมิตร
(ในสงครามโลกครั้งแรกมีเรืออูเพียง ๑ ลำ


๐26 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

เท่านั้นที่ถูกจมโดยเครื่องบิน) ซึ่งได้
แสดงบทบาทหลักในการทำลายเรืออู
เรืออูถูกจมโดยเครื่องบินถึง ๓๘๘ ลำ
(คิดเป็นร้อยละ ๔๗.๒๕ ของยอด
สูญเสียทั้งหมด) ส่วนเรือผิวน้ำทำลาย
เรืออูเพียงร้อยละ ๔๕ เท่านั้น แต่กระนั้น

ก็ตาม ราไม่ควรฝังใจว่ากำลังทางอากาศ
เพียงอย่างเดียว เปรียบเสมือน
ยาแก้สารพัดโรค (Panacea) ที่เป็น
อันตรายต่อเรืออู ตรงกันข้ามระบบคอน
วอยพร้อมด้วยการคุ้มกันทางอากาศ
และเรือคุ้มกัน ต่างหากที่เป็นยาแก้
สารพัดโรค เพราะว่า วิธีการที่แน่นอน
เชื่อถือได้มากที่สุดนี้ไม่เพียงแต่การ
ป้องกันเรือพาณิชย์เท่านั้น แต่ยังเป็น
วิธีการปฏิบัติเพื่อเอาชนะเรืออูอีกด้วย กระบวนคอยวอย

สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจน คือ ระหว่าง กันยายน ตรวจจับ และด้วยเครื่องเทอร์ไบน์แบบ Walter ประกอบ
ค.ศ.๑๙๔๓ พฤษภาคม ค.ศ.๑๙๔๕ จำนวนเรือ ๑ หมื่น กับการออกแบบตัวเรือให้มีพื้นที่หน้าตัดเป็นวงรีคล้าย
ลำที่เดินทางภายใต้การคุ้มกัน เรืออูจมได้เพียง ๑๐๐ ลำ ของปลา ทำให้แล่นใต้น้ำด้วยความเร็วสูง ในการทดลอง
เท่านั้น ขณะที่เรืออูสูญเสียถึง ๑๕๐ ลำจากการโจมตีทั้ง ปลายปี ค.ศ.๑๙๔๒ สามารถทำความเร็วใต้น้ำได้ถึง
ของเครื่องบินและเรือรบผิวน้ำ ประสิทธิผลของคอนวอย ๒๘ นอต โดยสรุปแล้ว Walter U - Boat เปรียบเสมือน
เป็นเสมือนยาถอนพิษในการต่อต้านเรืออู เรือในจินตนาการ (ในสมัยนั้น) อย่างไรก็ตามเรือต้นแบบนั้น
คุณค่าของมันเป็นเพียงเรือทดลองเท่านั้น โดยเฉพาะ
ข้อมูลรายละเอียดของเรืออู Type XXI วิธีการขับเคลื่อนยังไม่สมบูรณ์เท่าใดนัก อัตราการใช้
Electroboat (Type XXI) ได้รับการพัฒนา น้ำมันในเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์สูงมากเป็นพิเศษ
มาจากเรือต้นแบบ Walter U – Boat ซึ่งมีการทดสอบ ระบบยังมีอันตรายที่สามารถเกิด ระเบิดได้ง่าย ดังนั้น
อยู่หลายปี ประดิษฐ์โดยศาสตราจารย์ชาวคีล ชื่อ Helmuth เรืออูชนิดนี้ ซึ่งเป็นแค่เรือทดลองนั้นมีจำนวนน้อยมาก
Walter ซึ่งคิดพลังขับเคลื่อนโดยอาศัยการแตกตัวของ จากประสบการณ์ที่ได้รับนี้ ในปื ค.ศ.๑๙๔๒ Doenitz
Hydrogen Peroxide (H2 O2) ตัว Peroxide หรือ สั่งให้ต่อเรือ Type XXVII (Walter U - Boat ขนาดเล็ก)
Superoxide แตกตัวโดยอาศัยตัวกระตุ้นปฏิกิริยาทำให้ เพื่อใช้สำหรับปฏิบัติการในน่านน้ำใกล้ฝั่ง และชั้น XXVI
เกิด Oxygen และน้ำ สำหรับใช้ในเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเจ็ท ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า เพื่อใช้สำหรับในแอตแลนติก แต่ใน
ของจรวดหรือเป็นแหล่งผลิตกำลังขับเคลื่อนของเครื่อง ที่สุดแล้วการทดลองเกี่ยวกับ Walter U - Boat คงเป็น
เทอร์ไบน์ (The Walter Turbine) แค่ความฝันในอนาคตเท่านั้น แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นการ
ศาสตราจารย์ Walter เกิดความคิดในการสร้าง ทดลองที่สูญเปล่า ศาสตราจารย์ Walter กล่าวว่า
เทอร์ไบน์ชนิดนี้ ผลิตไอน้ำขึ้นมาโดยอาศัย Hydrogen “ผลพลอยได้จากการทดลองสำหรับใช้กับเรืออูนั้น
Peroxide เพื่อใช้สำหรับเรืออู ยังผลให้เรืออูขณะที่ดำไม่ ไปเกิดประโยชน์อย่างมากต่อเครื่องยนต์ของจรวด
จำเป็นต้องอาศัยอากาศบริสุทธิ์จากภายนอก ทำให้เรดาร์ ทั้งหมดและหน่วยพลังขับเคลื่อนของเครื่องบินขับไล่”
ข้าศึกไม่สามารถจับเป้าได้ และเรืออูสามารถดำอยู่ใต้น้ำ ในขณะที่มีการชะลอโครงการ “เรืออูสำหรับพรุ่งนี้”
ได้เป็นเวลายาวนาน ก๊าซ CO ที่เกิดขึ้นถูกผสมกับน้ำทะเล ศาสตราจารย์ Walter ได้พัฒนาท่อหายใจ (Schnorchel)
2
ขณะที่ปล่อยออกมานอกตัวเรือไม่ทำให้เกิดฟองอากาศ โดยได้รับแนวคิดมาจากพวกดัตช์ ขั้นต่อไปก็คือการ
เสียงที่เกิดจากเครื่องยนต์เงียบมากจนทำให้ยากต่อการ พยายามรวมเอารูปร่างของตัวเรือแบบ Walter U - Boat


นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐27

เข้ากับระบบการขับเคลื่อนใหม่ หากสามารถแก้ไขปัญหา เรือลำใหม่เริ่มต้นทันที ราวกับว่าการผลัดเปลี่ยน
พื้นที่ภายในเรือได้ เครื่องยนต์ดีเซลยังคงไว้แบบเดิม กันนอน บนเตียงของทหารประจำเรือในเรืออูเตียงอุ่น
แต่ระบบก๊าซดีสำหรับเครื่องยนต์แก้ด้วย Schnorchel อยู่ตลอดเวลา (จำนวนเตียงน้อยกว่าจำนวนคน)
ระบบแบตเตอรี่ ปรับปรุงให้มีสมรรถนะสูงเป็น ๓ เท่า เรืออูชั้น XXI มีเครื่องยนต์ดีเซลที่ให้กำลังถึง
เรืออูแบบเก่า (Type VII) ก็สามารถพัฒนาให้เข้าใกล้เคียง ๔,๐๐๐ แรงม้า เหตุผลหนึ่ง ที่ชั้น XXI

กับเรืออูรุ่นใหม่ที่มีสมรรถนะสูงซึ่งกำลังจะเริ่มผลิต ถูกเรียก ว่า Electroboat เพราะม




หรือที่เรียกกันว่า Electroboat แม้เรือชั้นใหม่นี้ไม่เร็ว มอเตอรไฟฟ้า ถง ๖ ตวสามารถใหพลัง
เท่าเรือ Walter U - Boat ก็ตามแต่ก็ยากต่อการค้นหา ขั บ เ ค ลื่ อ น ไ ด้ ร า ว
และตรวจจับ เร็วมากพอที่จะหลบหนีขณะดำจากการโจมตี
ใน ๑๓ สิงหาคม พ.ศ.๑๙๔๓ Doenitz
สั่งให้อู่ต่อเรือมุ่งเน้นต่อ Electroboat พร้อมกับสั่งให้
ต่อถึง ๓๐๐ ลำ ซึ่งต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก แต่สงคราม
ไม่ได้หยุดรอ แต่เพื่อลดเวลาให้การสร้างสั้นลง เรืออู
Type XXI ถูกสร้างเป็นส่วน ๆ แยกเป็น ๘ ส่วน
ใช้โรงงานในส่วนต่าง ๆ
ของเยอรมนีถึง
๓๐ โรงงาน ๔,๒๐๐ แรงม้า
Schnorchel ทำให้
เรือชั้นนี้ไม่ต้องอาศัยอากาศ
จากภายนอก แม้ขณะที่เดินเครื่องยนต์
ดีเซล แต่อาศัยอากาศโดยผ่าน ท่อหายใจ
(Schn orchel) สามารถออกฉุกเฉิน ภายในเวลาเพียง
๑๘ วินาที ตามทฤษฎีดำได้ลึก ๒๕๐ เมตร แต่ในทางปฏิบัติสามารถ
ดำได้ลึกราว ๔๐๐ เมตร ระวางขับน้ำราว ๑,๖๐๐ ตัน
(รวมทั้งใน Silesia ด้วย) ทำความเร็วใต้น้ำได้ราว ๑๘ นอต บรรทุกตอร์ปิโด ๒๐ ลูก
เนื่องจากแต่ละส่วนมีขนาดใหญ่ ปืนต่อสู้อากาศยานขนาด ๓๐ มิลลิเมตร แท่นคู่
และหนัก จึงต้องขนส่งทางน้ำแล้วประกอบเป็นตัวเรือ ทหารประจำเรือ ๕๗ นาย กล่าวกันว่านับตั้งแต่รูปร่าง
บริเวณตามชายฝั่งทะเล ใช้โรงงานเพื่อติดตั้งอาวุธถึง ของตัวเรือ ตลอดจนเครื่องประกอบบางอย่างกลายเป็นต้น
๑๒ โรงงาน ส่วนอู่ต่อเรือสุดท้ายที่ประกอบให้เป็นเรืออูที่ แบบของเรือดำน้ำนิวเคลียร์ในปัจจุบัน
สมบูรณ์อยู่ที่ Hamburg Bremen และ Danzig หมายเหตุ
ในฤดูร้อนของปี ค.ศ.๑๙๔๔ ใช้เวลารวมในการต่อเรือ
๘๐ วัน แต่มีความพยายามให้ลดเวลาให้เหลือสั้นลง ได้นำเสนอเรื่องราวของเรืออูของเยอรมัน

ซึ่งทำได้ถึง ๗๑ วัน การต่อเรือและการติดตั้งอุปกรณ์ใช้ ในการยุทธในแอตแลนติกมามากพอสมควรแล้ว
เวลา ๕๐ วัน อีก ๔ วัน สำหรับการเชื่อมส่วน แต่สำหรับเรื่องราวของผู้บังคับการเรืออู
ต่าง ๆ เข้าด้วยกันบนคานเรือจนถึงการปล่อยเรือลงน้ำ โดยเฉพาะนั้นยังมีไม่มากนัก ในตอนต่อไป
อีก ๖ วันใช้สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ขั้นสุดท้าย จะวิเคราะห์ให้เห็นว่าผู้บังคับการเรืออู
มีการทดสอบที่อู่ต่อเรืออีกราว ๑ สัปดาห์ แล้วจึงมอบ ของเยอรมันมีภาวะผู้นำอย่างไรที่พวกเขา
ให้กองทัพเรือ กล่าวกันว่าเมื่อเรือถูกปล่อยลงน้ำไป สามารถปกครองและนำผู้ใต้บังคับบัญชา
ได้เพียง ๒ - ๓ ชั่วโมงเท่านั้น กระบวนการต่อไปสำหรับ ภายใต้แรงกดดันต่าง ๆ






๐28 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

บทความ
ในมหาสมุทรอินเดีย
ผู้พิทักษ์สันติภาพ











พลเรือโท ผสมทรัพย์ เกื้อหนุน

























พญาอินทรีสะท้านพญามังกรลับเขี้ยวเล็บทางทหารคมกริบขึ้นทุกวัน เกาะติดผู้มีอำนาจชาวภารตะต้าน
พญามังกรแฝงตัวในมหาสมุทรอินเดีย

จีนจะเพิ่มความแข็งแกร่งทางทหารโดยปราศจากความ สืบเนื่องจากแรงดึงดูดที่เย้ายวนของอินเดียได้แววทาง
โปร่งใส รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมต่างๆทางทะเลนับ เศรษฐกิจที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วและพลังกำลังทางทหาร
ตั้งแต่มหาสมุทรอินเดียจรดทะเลจีนตะวันออกจีนในยุคใหม่มา ที่เข้มแข็งในมหาสมุทรอินเดีย อินเดียก็ตกอยู่ในภาวะ
แรงแซงทางโค้งเบียดญี่ปุ่นชนิดชิดซ้ายตกคู ตกคลอง กลายเป็น เหลียวซ้ายแลขวาว่าจะถือหางยักษ์ใหญ่แห่งค่ายตะวันตก
ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย หรือยักษ์ใหญ่แห่งค่ายตะวันออก ผลที่สุดแล้วอินเดีย
แถมยังวิ่งหายใจรดต้นคอมหาอำนาจอันดับหนึ่งในโลก เลือกที่จะเล่นเกมกับสหรัฐ ฯ ต่อกรกับมหาอำนาจแห่ง
อย่างสหรัฐอเมริกา เตรียมผงาดขึ้นเป็นประเทศที่มีขนาด อนาคตคือจีน เป้าหมายที่วอชิงตันและปักกิ่งคาดหวัง
เศรษฐกิจใหญ่โตที่สุดในโลก ชนิดสามารถทำให้สหรัฐ ฯ ในมหาสมุทรอินเดียได้แก่ การเข้าสู่และควบคุมท่าเรือ
ตกเวทีประวัติศาสตร์ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าหรือภายใน แหล่งน้ำมันและเส้นทางเดินเรือรวมทั้งสัญญาทางธุรกิจ
ปี พ.ศ.๒๕๖๓ ความพยายามของจีนในการอ้างสิทธิ์เข้า นับพันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ด้านอินเดียนั้นก็ต้องการขยาย
ครอบครองหมู่เกาะสแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้ มีจุดมุ่งหมาย เศรษฐกิจของตน สร้างอำนาจเหนืออนุทวีป รุดหน้าในการ
ที่จะแสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและส่งผลให้เกิด เข้าถึงแหล่งพลังงานในเอเชียกลางขยายความสามารถ
อิทธิพลในการควบคุมอาณาบริเวณพื้นที่ทางทะเลชนิด ด้านการทหาร การที่อินเดียยอมรับเป็นหุ้นส่วนพันธมิตร
ยาวไกลไปถึงมหาสมุทรอินเดียเป็นการมุ่งสู่เป้าหมายและ ทางทหารกับสหรัฐ ฯ ทำให้สหรัฐ ฯ พอใจและประกาศว่า
วัตถุประสงค์ทางยุทธศาสตร์ เพื่อความมั่นคงของจีนแล้ว “อินเดียจะเป็นผู้พิทักษ์สันติภาพในมหาสมุทรอินเดีย”

ยุทธศาสตร์ความมั่นคงของจีนนั้น เอาเข้าจริง ๆ แล้ว... สหรัฐ ฯ มองว่าเอเชียกำลังมีการเกิดขึ้นของ
มันจะมีความหนักไปทางสันติภาพหรือสงครามกันแน่ ศูนย์กลางอำนาจใหม่ ดังนั้น สหรัฐ ฯ จึงพยายามที่จะเพิ่มการ
ทั้งสหรัฐ ฯ และจีนต้องการที่จะดึงอินเดียเข้าเป็นพันธมิตร ปฏิสัมพันธ์ในเอเชีย โดยผ่านทางองค์กรภูมิภาคเวที


นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐29

หารือใหม่ ๆ และการทูตระดับสูง สหรัฐ ฯ จะดำเนินยุทธศาสตร์
ต่อเอเชียผ่านทางพันธมิตร กระชับความสัมพันธกับ จีนไม่ต้องการเป็นพันธมิตร

มหาอำนาจใหม่ และเพิ่มบทบาทในเวทีพหุภาคีต่าง ๆ
ซึ่งรวมทั้ง ASEAN APEC และเวที EAST ASIA SUMMIT ทางทหารกับอินเดียเพียงแต่
สำหรับความสัมพันธ์กับจีน สหรัฐ ฯ จะเน้นความ ต้องการไม่ให้อินเดียเข้ามาแทรกแซง
สัมพันธ์ที่เป็นบวกสร้างสรรค์และสมบูรณ์เบ็ดเสร็จกับจีน ในเกมที่จีนกำลังเล่นอยู่กับ
สหรัฐ ฯ ยินดีที่จีนจะเล่นบทบาทเป็นผู้นำที่รับผิดชอบ
ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ร่วมกับสหรัฐ ฯ อย่างไรก็ตาม ปากีสถาน บังกลาเทศ และพม่า
สหรัฐ ฯ จะยังคงเฝ้าระวังเกี่ยวกับการพัฒนาแสนยานุภาพ
ทางทหารของจีนและเตรียมรับมือกับผลกระทบ เพื่อ ที่เป็นแหล่งผลประโยชน์ของสหรัฐ ฯ อย่างมหาศาลอินเดีย
ป้องกันไม่ให้ผลประโยชน์ของสหรัฐ ฯ และพันธมิตรได้ เป็นเจ้าของพื้นที่ สหรัฐ ฯ ต้องการไฟเขียวจากอินเดีย
รับผลกระทบทางลบจาการผงาดของจีนทางทหารสหรัฐ ฯ อินเดียจึงน่าจะเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของอเมริกา
กับจีนคงไม่สามารถตกลงได้ในทุก ๆ เรื่อง ความเห็นที่ ได้ สหรัฐ ฯ ยามนี้ต้องลดแลกแจกแถมและหาของกำนัล
แตกต่างกันนี้จะเป็นอุปสรรคในการรักษาผลประโยชน์ของ ให้แก่อินเดียเพียงเพื่อให้อินเดียห่างเหินรัสเซียและต้อง
สหรัฐ ฯ ซึ่ง สหรัฐ ฯ จำเป็นต้องหันมามองอินเดียที่มีศักยภาพ การให้อินเดียขวางทางจีน อย่าลืมว่าครั้งหนึ่งในปี พ.ศ.๒๕๔๑
เพียงพอที่จะถ่วงดุลกับจีนในภูมิภาค สหรัฐ ฯ กำลังพัฒนา เคยมีการ เสนอการจับมือพันธมิตรสามเส้าระหว่างรัสเซีย
ความสัมพันธ์ในลักษณะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับอินเดีย จีนและอินเดีย เป็นขั้วอำนาจใหม่ต่อกรกับสหรัฐ ฯ ซึ่ง
ซึ่งทั้งสองประเทศมีผลประโยชน์ร่วมกันและเป็นประเทศ สหรัฐ ฯ ใช้ความเป็นนักการเมืองมืออาชีพหยิบยื่น
ประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุด บทบาทความรับผิดชอบของ ผลประโยชน์ให้ทั้งสามประเทศในลักษณะที่แตกต่างกัน
อินเดียเป็นตัวอย่างเชิงบวกสำหรับประเทศกำลังพัฒนา ทำให้การรวมกลุ่มเป็นขั้วอำนาจใหม่กลายเป็นความฝัน
และได้เปิดโอกาสในการเป็นหุ้นส่วนกับสหรัฐ ฯ ทั้งทาง พร้อมทั้งทำให้ทั้งสามประเทศหวาดระแวงกันเองในที่สุด
ด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง สหรัฐ ฯ มองว่าอินเดียกำลัง จีนไม่ต้องการเป็นพันธมิตรทางทหารกับอินเดียเพียง
จะมีบทบาทความเป็นผู้นำในการจัดการปัญหาของโลก แต่ต้องการไม่ให้อินเดียเข้ามาแทรกแซงในเกมที่จีนกำลัง
โดยการเป็นสมาชิกของกลุ่ม G 20 และบทบาทของอินเดีย เล่นอยู่กับปากีสถาน บังกลาเทศ และพม่า ซึ่งจีนนั้นมีความ
ในการสร้างเสถียรภาพในเอเชียใต้ สัมพันธ์ใกล้ชิดอยู่กับปากีสถานคู่อริหัวเห็ดของอินเดีย
วอชิงตันวางแผน ขณะเดียวกันก็สนับสนุนผู้นำทหารพม่า เพราะต้องการที่
สานสัมพันธ์ทางยุทธ จะทะลวงสู่แหล่งน้ำมันและก๊าซอันอุดมในเขตทะเลหม่อง
ศาสตร์กับอินเดีย โดย นอกจากนี้จีนยังจีบบังกลาเทศโดยหวังพิชิตเส้นทางสู่

มประธานาธิบดี จอร์จ ท่าเรือขนสินค้าเชื่อมกับดินแดนที่ไร้ทางออกทะเลแถบ



ดบเบลย บช เสนอข้อ ตะวันตกของแผ่นดินใหญ่ ความระหองระแหงข้อพิพาท

ตกลงพลังงานนิวเคลียร์ เหนือดินแดนชายแดนอินเดีย - จีน ที่มีความยาว ๒,๒๐๐
เพื่อสันติชุดใหม่แก่ กิโลเมตร ส่งผลให้อินเดียเอนเอียงไปข้างอเมริกามากกว่า
ผู้นำภารตะ ซึ่งระบุว่า สำหรับรัสเซีย การแก้ปัญหาสำคัญของโลกจำเป็นที่
วอชิงตันจะรับรอง จอร์จ ดับเบิลยู บูช จะต้องได้รับความร่วมมือจากรัสเซีย รัฐบาลโอบามา
สถานภาพชาติอำนาจนิวเคลียร์แก่อินเดีย อีกทั้งจะ ของสหรัฐ ฯ จึงได้มีการฟื้นฟูความสัมพันธ์ใหม่และใน
ป้อนเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่อาจนำไปใช้งานได้สองด้าน ช่วงเวลา ๑ ปีครึ่ง ที่ผ่านได้มีความร่วมมือกับรัสเซียหลาย
ทั้งในทางพลเรือนและทหาร สหรัฐ ฯ รู้ดีว่าพวกเขาต้อง เรื่อง อาทิ สนธิสัญญาลดอาวุธ ความร่วมมือมาตรการ
การอินเดียเพื่อสกัดและถ่วงดุลอำนาจกับจีน ซึ่งเป็นสิ่งที่ คว่ำบาตรอิหร่านและเกาหลีเหนือในคณะมนตรีความมั่นคง
ชัดเจนและที่สำคัญไม่น้อยกว่ากันคือ บทเรียนในอิรัก อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศไม่ใช่
ทำให้วอชิงตันตระหนักว่าพวกเขาจะต้องมีพันธมิตร เรื่องง่าย ยังมีความชัดเจนขัดกันหลายเรื่อง อาทิ ปัญหาการ
ที่เปิดทางให้กองทัพเข้าไปในดินแดนได้ มหาสมุทรอินเดีย ละเมิดสิทธิมนุษยชนในการทำสงครามจอร์เจียของรัสเซีย



๐30 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

ประเด็นเหล่านี้ สหรัฐ ฯ จะไม่รีรอที่จะคัดค้าน และรัสเซีย มหาสมุทรอินเดียระหว่างประเทศทั้งสองมีแนวโน้ม
ก็รู้เท่าทันการแสวงหาผลประโยชน์ในตะวันออกกลางและ สูงขึ้น คือ ทั้งจีนและอินเดียต้องพึ่งพาการขนส่งน้ำมันจาก
กำลังรุกคืบเข้าไปในแอฟริกาทำให้รัสเซียต้องรื้อฟื้น ตะวันออกกลางผ่านมหาสมุทรอินเดีย จึงมีแนวโน้มที่ทั้ง
ฐานทัพเรือในมหาสมุทรอินเดียขึ้นมาใหม่นึกถึงความเป็น สองประเทศจะเสริมสร้างแสนยานุภาพทางทะเล เพื่อปกป้อง
สหภาพโซเวียตในอดีต เส้นทางการลำเลียงน้ำมัน

“ยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุด คือ การเป็น
มหาอำนาจอันดับ ๑ ของโลกต่อไป”
มหาอำนาจใหม่ที่จะใกล้ชิดสหรัฐ ฯ คืออินเดีย ส่วนจีน
กับรัสเซียนั้นในอนาคตจะมีความขัดแย้งกับสหรัฐ ฯ มาก
ขึ้นเรื่อย ๆ ความขัดแย้งจีนกับอินเดีย ทั้งในมิติด้าน
ภูมิรัฐศาสตร์ การทหาร และเศรษฐกิจ ดังนั้นความขัดแย้ง
ทางภูมิรัฐศาสตร์จีนและอินเดียเป็นประเทศที่กำลังผงาด Hambantota
ขึ้นมาแรงที่สุด โดยมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สำหรับจีนได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้อง
สูงที่สุด ทั้งสองประเทศจึงมีลักษณะเป็นคู่แข่งและกำลัง เส้นทางลำเลียงน้ำมัน โดยการสร้างท่าเรือและ
จะขัดแย้งกันมากขึ้นเรื่อง ๆ โดยจีนมองว่าอินเดียกำลังเป็น จุดยุทธศาสตร์ทางทหารบริเวณมหาสมุทรอินเดีย
คู่แข่งที่สำคัญ ที่จะต้องถ่วงดุลและสกัดกั้นการขยาย จีนได้สร้างท่าเรือน้ำลึกที่ Hambantota ทางใต้
อิทธิพลเช่นเดียวกัน ของศรีลังกาและที่ Gwadar ของปากีสถานซึ่งมี
มูลค่าประมาณ ๑,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ในช่วงต้นปีนี้
อินเดียมองจีนว่าเป็นคู่แข่งที่สำคัญที่จะต้อง มีข่าวการเผชิญหน้าระหว่างเรือรบ จีนและอินเดีย
หาทางปิดล้อม ในอ่าวเอเดน อินเดียได้ตอบสนองต่อการรุกคืบทางทะเล
อินเดียมองว่า จีนกำลังมียุทธศาสตร์ปิดล้อม ของจีน ด้วยการพัฒนากองทัพเรือขนาดใหญ่โดยอินเดีย
โดยจีนได้เข้าไปตีสนิทกับประเทศเพื่อนบ้านของอินเดีย ได้มีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ และได้ซื้อเรือรบจาก
กำลังพัฒนาท่าเรือน้ำลึกในปากีสถานและบังกลาเทศ รัสเซียและสหรัฐ ฯ อย่างไรก็ตาม แผนการสร้างเรือบรรทุก
สร้างถนนในเนปาล และสร้างท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เครื่องบินของจีน รวมทั้งกองเรือดำน้ำของจีน ทำให้
จากพม่าไปจีน จีนยังได้ช่วยปากีสถานพัฒนาอาวุธ กองทัพเรือจีนดูจะมีความเหนือกว่าอินเดีย แต่อินเดีย
นิวเคลียร์ ซึ่งน่าจะเป็นการตอบโต้ที่สหรัฐ ฯ ได้ให้ความ ก็ได้พยายามเพิ่มความสัมพันธ์ทางทหารกับประเทศ
ช่วยเหลืออินเดียในด้านพลังงานนิวเคลียร์ ขณะนี้จีนกลาย เกาะเล็ก ๆ ในมหาสมุทรอินเดีย อาทิเช่น Mauritius
เป็นประเทศป้อนอาวุธให้กับปากีสถานรายใหญ่ที่สุด Seychelles Madagascar และ Maldives
อินเดียยังมองด้วยว่า จีนเป็นตัวขัดขวางไม่ให้อินเดียได้
เป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงของ UN การสานผลประโยชน์ที่เกื้อกูลกันทำให้อินเดีย

และขัดขวางไม่ให้อินเดียได้เป็นสมาชิกเอเปก นอกจากนี้ และสหรัฐ ฯ เห็นพ้องที่จะเดินไปด้วยกัน
จีนยังตีสนิทกับศรีลังกา เรือรบของจีนสามารถไปจอดที่ อินเดียถือว่าเป็นประเทศที่สำคัญทางยุทธศาสตร์
ท่าเรือทางตอนใต้ของศรีลังกาได้สำหรับอินเดียก็ตอบโต้ ของสหรัฐ ฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปิดล้อมจีน ยุทธศาสตร์
ยุทธศาสตร์ปิดล้อมของจีนด้วยการตีสนิทกับสหรัฐ ฯ ในเรื่องการก่อการร้าย ในภูมิภาคเอเชียใต้ ซึ่งจะต่อเนื่อง
โดยในปี พ.ศ.๒๕๔๘ สหรัฐ ฯ กับอินเดียได้มีข้อตกลง ขึ้นไปถึงเอเชียกลางรวมทั้งอดีตประเทศในเครือสาธารณรัฐ
ความร่วมมือด้านนิวเคลียร์ รัสเซียและยังเป็นประเทศมหาอำนาจในมหาสมุทรอินเดีย
ความขัดแย้งในมหาสมุทรอินเดียแนวโน้มความ ที่เป็นเส้นทางเดินเรือ เพื่อการขนส่งพลังงานและแหล่ง
ขัดแย้งระหว่างจีนกับอินเดียกำลังจะเกิดขึ้นในมหาสมุทร วัตถุดิบที่สำคัญของโลก
อินเดีย อินเดียนั้นมุ่งเน้นที่จะครอบงำมหาสมุทรอินเดีย ขณะเดียวกันอินเดียอยู่ในกลุ่ม BRIC ที่ถือว่าเป็น
มาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม การแข่งขันทางทหารใน Emerging Market ที่กำลังมีบทบาทมากขึ้นในเวที



นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐31

ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ สิ่งแวดล้อม สหรัฐ ฯ เมินจีนที่จะเป็นผู้พิทักษ์สันติภาพใน
ในระดับโลกนั้นจะยิ่งทำให้ความสำคัญในอาณาบริเวณ มหาสมุทรอินเดีย
ของประเทศรอบ ๆ มหาสมุทรอินเดียเกิดความตื่นตัว เพนตากอนกำลังวิตกว่า ขีปนาวุธรุ่นล่าสุดของจีน
มากขึ้น ขณะที่อินเดียหันมาจับมือทางยุทธศาสตร์ อาจมีความสามารถที่จมเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกัน
กับสหรัฐ ฯ มากขึ้น ก่อให้เกิดภาพสะท้อนของอดีต ได้หรืออย่างน้อยช่วยป้องปรามไม่ให้สหรัฐ ฯ เข้าถึง
พันธมิตรอย่างรัสเซียมีความเหินห่างอินเดียเป็นเงา น่านน้ำที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ทางทะเลของ
ตามตัว อเมริกา อาวุธที่สามารถพลิกเกมนี้ได้ คือ ขีปนาวุธปราบ
เรือบรรทุกเครื่องบิน ตงเฟิง ๒๑ ดี สามารถยิงทะลุทะลวง
ระบบป้องกันของเรือบรรทุกเครื่องบินที่ไฮเทคที่สุดได้
ในระยะไกลถึง ๑,๕๐๐ กิโลเมตร ขีปนาวุธปราบเรือบรรทุก
เครื่องบินจะมีผลทางจิตวิทยาต่อผู้กำหนดนโยบายของ
สหรัฐอ ฯ ทำให้กองทัพเรือสหรัฐ ฯ ตระหนักว่าตัวเอง
ไม่ได้ครองน่านน้ำทั่วโลกและไม่อาจนิ่งนอนใจกับการ
ควบคุมทางทะเลอีกต่อไป การเพิ่มงบประมาณทางเรือ
อย่างมหาศาลด้วยการพัฒนาเรือบรรทุกเครื่องบินของ
พรรคคองเกรส ตนอย่างรวดเร็วเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า กำลังทางเรือของจีนไม่
นายโรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จำกัดอยู่เฉพาะทะเลเหลืองและนอกชายฝั่งด้านตะวันออก
ของสหรัฐ ฯ เขียนจดหมายลงในหนังสือพิมพ์ The Time เฉียงเหนือของจีน ในทางตรงข้ามจีนกำลังมีแผนที่จะขยาย
of India เนื่องในโอกาสเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการ กำลังทางเรือเข้าสู่มหาสมุทรอินเดียเท่านั้น เพื่อรองรับ
เมื่อ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๓ แสดงความยินดีต่อความ การขยายตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจที่ต้องการลำเลียง
สัมพันธ์ที่ก้าวหน้าของทั้งสองประเทศ ในสมัยสงครามเย็น ทรัพยากรแร่ธาตุและแหล่งวัตถุดิบจากตะวันออกกลาง
อินเดียค่อนข้างเอนเอียงเข้าหาโลกสังคมนิยม ยึดถือ และทวีปแอฟริกา โดยใช้เส้นทางมหาสมุทรอินเดีย -
สหภาพโซเวียตเป็นหุ้นส่วนพันธมิตรทางทหารร่วมกัน ทะเลจีนใต้ - ทะเลเหลือง - เข้าสู่น่านน้ำของตน
แต่หลังจากสงครามเย็นจบลง อินเดียปรับท่าทีเข้าหา จีนกำลังเสริมแนวรุกเพื่อขึ้นเป็นจ้าวเศรษฐกิจ
สหรัฐ ฯ มากขึ้น ช่วงหลังปี พ.ศ.๒๕๔๓ เป็นต้นมา ของโลก สินค้าและเครื่องนุ่งห่มราคาถูกจากโรงงานในจีน
โดยเฉพาะรัฐบาลของพรรคคองเกรสที่นำโดย ถูกส่งออกมาขายล้นตลาดโลก ทำเอาญี่ปุ่นที่เคยเป็น
นายมัน โมหัน สิงห์ นายกรัฐมนตรีสายพิราบคน ผู้ยึดครองสินค้าตลาดล่างราคาถูกจำเป็นต้องปิดกิจการ
ปัจจุบัน ให้ความร่วมมือทางทหารกับสหรัฐ ฯ อย่าง ยกเลิกการผลิตหันเข้าสู่ตลาดบนที่มีเทคโนโลยีที่สูงกว่า
แนบแน่นจนทำให้สหรัฐ ฯ เข้ามาช่วยอินเดียพัฒนา แต่จีนก็ได้สร้างเครือข่ายสายลับอุตสาหกรรม โดยให้
ความรู้ทางด้านนิวเคลียร์ และสหรัฐ ฯ พึงพอใจที่จะให้ นักล้วงข้อมูลเจาะเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท
“อินเดีย เป็นผู้พิทักษ์สันติภาพในมหาสมุทรอินเดีย” และ ชาติตะวันตก เพื่อขโมยความลับ ทั้งสหรัฐ ฯ และรัสเซียได้
มีส่วนร่วมอย่างมากต่อความมั่นคงระดับโลกและเชิญชวน จับกุมและลงโทษสายลับจีนเป็นประจำปัจจุบันสินค้า
ให้อินเดีย “ร่วมเดินไปข้างหน้าด้วยกันกับสหรัฐ ฯ” ของจีน เทคโนโลยีในการผลิตสินค้าไม่ได้ด้อยกว่าสินค้า
















นายโรเบิร์ต เกตส์ บริษัท Wal - Mart
๐32 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

จากสหรัฐ ฯ ญี่ปุ่น และชาติตะวันตก จีนจึงเป็นคู่แข่ง มหาอำนาจของโลกอย่างสหรัฐ ฯ จะต้องจับตามองและ
ทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ฯ และญี่ปุ่น จีนเป็นผู้ส่งออก พยายามยกระดับอินเดียขึ้นเป็นผู้พิทักษ์สันติภาพใน
รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยได้เปรียบดุลการค้าในรอบ มหาสมุทรอินเดีย เพื่อถ่วงดุลจีน
๑๒ เดือนที่ผ่านมา ทั้งสิ้น ๒๕๐,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ จีนขยายแสนยานุภาพทางทะเล
ในทางกลับกันสหรัฐ ฯ เป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของโลก ไชน่าเดลีระบุว่า ฉันทามติของคนจีนทั้งชาติในวันนี้
และมียอดขาดดุลการค้าเมื่อปีที่แล้ว ๕๗๕,๐๐๐ คือ ต้องการมีกองทัพเรือที่แข็งแกร่งเพื่อปกป้องผลประโยชน์
ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ โดยบริษัท Wal-Mart มีรายงานว่า ทางทะเลของชาติ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อธิปไตยทางทะเล
๑ ใน ๘ ของการขาดดุลการค้าเกิดขึ้นเพราะบริษัทเดียวคือ ของจีนกำลังเผชิญกับภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง อันมีสาเหตุ
Wal - Mart ผู้นำเข้าสินค้าจีนรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ฯ มาจากข้อพิพาทเรื่องเขตแดนกับหลายประเทศ ดังนั้น
จีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยเป็น การวิพากษ์วิจารณ์ที่มุ่งเป้ามาที่การพัฒนาขีดความสามารถ
ผู้ถือหลักทรัพย์ในสกุลเงินดอลลาร์ไม่ต่ำกว่า ๒ และประสิทธิภาพของกองทัพเรือจีนจึงถือว่าไม่ได้ให้ความ

ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ในขณะที่สหรัฐ ฯ เป็นลูกหนี้ เป็นธรรมกับจีน พราะหากมองย้อนไปในสมัยราชวงศ์หมิง
รายใหญ่ที่สุดของโลก นักวิเคราะห์บางคนมองว่า สภาวะ จะเห็นได้ว่าราชสำนักจีนมีกองทัพเรือที่แข็งแกร่งที่สุด
ทางการเงินของทั้งสองประเทศส่งผลให้จีนมีอำนาจเหนือ ของโลก แต่กลับไม่เคยรุกรานประเทศอื่นแต่อย่างใด
เศรษฐกิจสหรัฐ ฯ โดยจีน ในการประชุมคณะผู้
สามารถจะเทขายหลักทรัพย์ แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ในสหรัฐ ฯ ซึ่งอาจจะส่งผล ประจำกองทัพปลดแอก
ให้ค่าเงินดอลลาร์ลดฮวบใน ประชาชนจีน (People’s
ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา Liberation Army - PLA) ที่ขึ้น
ความพยายามของจีนสามารถ สังกัดกองทัพเรือเมื่อวันที่
กว้านซื้อธุรกิจของสหรัฐ ฯ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๒
และหากำไรจากการล่มสลาย ประธานาธิบดีหูจินเทาของจีน

ของอุตสาหกรรมรถยนตใน กล่าวสุนทรพจน์ว่า “ควรมี
สหรัฐ ฯ เพนตากอน การเสริมสร้างความเข้มแข็ง
สหรัฐ ฯ เคยคิดที่จะเอาจีนเป็นหุ้นส่วนการค้า และปรับปรุงในกองทัพนาวีของจีนให้กล้าแข็งเพื่อจะได้
ทำธุรกิจร่วมกันแต่จีนปรับตัวได้เร็วเขยิบฐานะจากหุ้น เตรียมรับมือภัยคุกคามทางทะเล พรมแดนด้านความมั่นคง
ส่วนเป็นคู่แข่งทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้จีนมีความโดดเด่น ของจีนไม่ควรจำกัดอยู่เฉพาะบริเวณภายใต้อำนาจอธิปไตย
ในเวทีการเมืองและเศรษฐกิจระดับโลก หลายครั้งที่จีน ของจีนเท่านั้น หากแต่ควรขยายไปให้ครอบคลุมผลประโยชน์
ได้มีส่วนร่วมในการเข้าไปไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งในหลาย ของจีนในที่อื่น ๆ ด้วย”
กรณี เช่น การแข็งข้อของเกาหลีและอิหร่าน สหรัฐ ฯ สาเหตุที่จีนต้องหันมาเน้นแสนยานุภาพนาวีของตน
เริ่มหวาดระแวงดุลอำนาจกำลังทางเรือของจีนนับวัน ส่วนใหญ่ก็มาจากความจำเป็นที่ต้องออกไปปกป้อง
จะเติบโตขึ้น ย่อมลดทอนความเป็นจ้าวสมุทรของสหรัฐ ฯ ทรัพยากรทางธรรมชาติอันจำเป็นต่อการขยายตัวทาง
ในมหาสมุทรอินเดีย สหรัฐ ฯ ไม่สามารถกดดันจีน เศรษฐกิจ การที่จีนต้องพึ่งพลังงานจากต่างประเทศ
จุดยุทธศาสตร์ในมหาสมุทรอินเดียที่สหรัฐ ฯ เคย หมายถึงความจำเป็นที่ว่ากองเรือนาวีของจีนต้องมี
ควบคุมอยู่เช่น ช่องแคบมะละกา สหรัฐ ฯ มีฐานทัพเรือ ศักยภาพที่จะออกไปคุ้มครองเส้นทางเดินเรือของตน
อยู่ที่สิงคโปร์ จีนก็มีอยู่ที่ศรีลังกา สหรัฐ ฯ มีฐานทัพเรือ และสามารถที่จะ “เปิดจุดคับคั่ง” อันมีนัยสำคัญต่อการค้า
อยู่ที่เดียร์โก้กราเซีย จีนก็มีอยู่ที่บังกลาเทศ ปากีสถาน ของตนให้ได้
และโอมาน การมุ่งขยายเขตอิทธิพลของจีนลึกเข้าไป กระทรวงกลาโหมของสหรัฐ ฯ หรือเพนตากอน
ในมหาสมุทรอินเดีย ทำให้สหรัฐ ฯ ไม่คิดที่จะเอาจีนเป็น รายงานว่า จีนมีเป้าหมายในการขยายขีดความสามารถ
หุ้นส่วนพันธมิตรทางทหารที่จะรักษาสันติภาพใน ทางทะเลครอบคลุมภูมิภาคตะวันออกไกล ทะเลจีนใต้
มหาสมุทรอินเดีย แต่จีนจะเป็นคลื่นอำนาจลูกใหม่ที่ มหาสมุทรอินเดียและหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก



นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐33

จีนมีงบประมาณทางทหารทั้งสิ้น ๑.๕ แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ทำลายล้างสูง เช่น เกาหลีเหนือ อิรัก อิหร่าน ถูกกล่าวหา
อุตสาหกรรมต่อเรือภายในประเทศของจีนจะสามารถผลิต ว่าเป็น “กลุ่มอักษะแห่งความชั่วร้าย” การข่มขู่คุกคาม
เรือบรรทุกเครื่องบินโดยใช้เทคโนโลยีของตนเองได้ภาย และยึดครองประเทศอิรัก ก็เกิดข้อสงสัยว่า อิรักสะสมอาวุธ
ในสิ้นปีนี้ ความไม่โปร่งใสในกองทัพจีนและความมั่นคงอาจ ร้ายแรงจริงอย่างที่สหรัฐ ฯ กล่าวหาหรือไม่ การตามล่าหาตัว
ทำให้เกิดความไม่แน่นอนและการเข้าใจผิดรวมทั้งการ บิน ลาดิน ในอัฟกานิสถาน กลับกลายเป็นการจัดตั้ง
ประเมินที่ผิดพลาดได้ อีกทั้งยังทำให้เกิดความกังวลว่าจีน รัฐบาลหุ่นของสหรัฐ ฯ ในอัฟกานิสถาน บิน ลาดิน
จะใช้แสนยานุภาพของกองทัพไปในทิศทางใด ยังคงยืนหยัดต่อสู้กับแสนยานุภาพทางการทหารของ
นายโรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง สหรัฐ ฯ ได้อย่างไร ? หรือสหรัฐ ฯ จงใจที่จะให้เป็นเช่นนั้น
กลาโหมสหรัฐ ฯ กล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมกองทัพอากาศ ทำให้อิทธิพลของสหรัฐ ฯ เข้าไปมีบทบาทในตะวันออกกลาง
ในรัฐแมรี่แลนต์ เมื่อวันพุธที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒ หากแบ่งออกเป็นเหนือ - ใต้ ด้านใต้ก็ตกอยู่ในอิทธิพล
โดยเตือนถึงภัยคุกคามใหม่อันเกิดจากการพัฒนา ของสหรัฐ ฯ เริ่มตั้งแต่คูเวต บาห์เรน กาตาร์ สหรัฐอาหรับ
กองทัพจีนให้ทันสมัยว่า ศักยภาพท้าทายสหรัฐ ฯ ของจีน เอมิเรตส์ โอมาน เยเมนเหนือ - ใต้ ซาอุดีอาระเบีย
ในลักษณะเครื่องบินขับไล่ต่อเครื่องบินขับไล่ หรือ อิสราเอล ทางทิศเหนือ สหรัฐ ฯ ได้ยึดครองอิรัก ยังเหลือ
เรือรบต่อเรือรบนั้น เป็นสิ่งที่สหรัฐ ฯ ควรวิตกให้น้อยกว่า อิหร่านที่ยืนหยัดเป็นปฏิปักษ์ต่อสหรัฐ ฯ อย่างแข็งกร้าว
เรื่องขีดความสามารถของจีนในการขัดขวางความเคลื่อนไหว แต่ก็ถูกสหรัฐ ฯ จับตาความเคลื่อนไหวอาจสร้างเงื่อนไข
ของสหรัฐ ฯ อย่างอิสระและบีบทางเลือกด้านยุทธศาสตร์ เป็นข้ออ้างเข้ายึดครอง ซึ่งเท่ากับว่าสหรัฐ ฯ สามารถ
ให้แคบลง การลงทุนของจีนในด้านสงครามไซเบอร์ ปิดล้อมรัสเซียทางด้านใต้และปิดล้อมจีนตลอดเส้นทาง
และต่อต้านดาวเทียม สรรพาวุธต่อต้านอากาศยาน สายไหมได้โดยสมบูรณ์และการควบคุมปากบ่อน้ำมัน
และทางเรือตลอดจนการลงทุนพัฒนาขีปนาวุธสิ่ง แหล่งพลังงานสำคัญของโลกได้อย่างเบ็ดเสร็จ
เหล่านี้สามารถคุกคามการใช้กำลังของสหรัฐ ฯ เมื่อจีน
ครอบครองอาวุธยุทโธปกรณ์และขีปนาวุธที่ได้รับ อินเดียเหมาะสมที่จะเป็นผู้พิทักษ์ในมหาสมุทร
การพัฒนาล้ำหน้าทางเทคโนโลยีได้แล้ว ในอีกไม่ช้า อินเดีย
กองทัพพญาอินทรีก็จะสูญเสียอำนาจควบคุมใน มหาสมุทรอินเดียเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของโลก
ทะเลหลวง ห้วงอวกาศและในโลกไซเบอร์ต่อไป การพัฒนา ครอบคลุมเขต Exclusive Economic Zone (EEZ) ที่เป็น
กองทัพเรือให้ทันสมัยและการดำเนินการทูตของจีน แหล่งอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของโลก และมีความสำคัญ
ที่มุ่งด้านทรัพยากรในมหาสมุทรอินเดียเป็นหลักนั้น ในการขนส่งสินค้าและลำเลียงน้ำมันจากตะวันออกกลาง
คือปัจจัยที่ทำให้จีนเป็น “ปัญหาท้าทายสำหรับโลก” รวมทั้งเป็นเส้นทางเดินเรือสมุทรขนาดใหญ่ เป็นแหล่ง
ผลประโยชน์ที่นักยุทธศาสตร์กล่าวว่า “ใครครอบครอง
อิทธิพลสหรัฐ ฯ ในตะวันออกกลาง มหาสมุทรอินเดียจะได้ครอบครองโลก”
โลกมุสลิมจะกำหนด สหรัฐ ฯ ให้ความสำคัญการสร้างความร่วมมือกับ
ท่าทีอย่างไร ? ขณะที่สหรัฐ ฯ รัฐชายฝั่งในมหาสมุทรอินเดียทั้งในระดับโลกและภูมิภาค
ผู้นำสิทธิ “ต่อต้านก่อการร้าย” ได้ร่วมก่อตั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International
ได้พุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่ม Monetary Fund : IMF) และองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ
ประเทศมุสลิม ซึ่งเป็นกลุ่ม ที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับรัฐชายฝั่ง
ประเทศที่เป็นแหล่งพลังงาน ในมหาสมุทรอินเดีย ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๒๗ กลุ่มประเทศ
ใหม่ ๆ มาทดแทนไม่ได้ ประเทศ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (Non - Aligned Movement : NAM) อันมี
ที่กล่าวหากลับมีการสะสม อินเดียเป็นผู้นำและมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งคณะ
พัฒนาอาวุธที่มีอำนาจการ กรรมาธิการมหาสมุทรอินเดีย (Indian Ocean Commission
:
บิน ลาดิน
ทำลายล้างสูง ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามต่อความสงบสันติ IOC) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทาง
ของประชาคมโลกและมีการพัฒนากันมานานร่วม ๑๐๐ ป ี เศรษฐกิจในภูมิภาคและขยายการค้าระหว่างประเทศ
ประเทศด้อยพัฒนาที่กำลังพัฒนาอาวุธที่มีอำนาจการ หมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดียและได้ริเริ่มแนวความคิดการ



๐34 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

สร้างพื้นที่สันติภาพ (Zone of Peace) ในมหาสมุทรอินเดีย ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ช่องแคบมะละกาเป็นจุดอ่อนไหว
โดยพยายามรณรงค์ให้ประเทศมหาอำนาจลดกำลังทหาร ที่นำไปสู่การแข่งขันเสริมกำลังทางทะเล ช่องแคบมะละกา
ตลอดจนถอนฐานทัพเรือออกจากภูมิภาคแถบนี้ จากการ ติดต่อกับไทยทางฝั่งทะเลอันดามัน มีความกว้างบริเวณ
ที่สภาวะระบบการเงินและเศรษฐกิจภายในสหรัฐ ฯ ตกต่ำ ทางเข้าประมาณ ๖๐๐ ไมล์ ช่องที่แคบที่สุดประมาณ
ความไม่ชัดเจนในนโยบายความช่วยเหลือทางการเงิน ๑.๕ ไมล์ มีเรือผ่านประมาณ ๙๐๐ ลำ ต่อวัน หรือ
การค้าของสหรัฐ ฯ ทำให้การพัฒนาทางเศรษฐกิจของรัฐ ๓๒๘,๕๐๐ ลำต่อปี มากกว่าคลองสุเอช ๒ เท่า
ชายฝั่งเกิดการสะดุดและมีผลกระทบเป็นจังหวะพอดีที่ และมากกว่าคลองปานามา ๓ เท่า ก่อนหน้านี้ไทยไม่เคย
เศรษฐกิจของจีนขยับขึ้นในระดับสูงสุดได้ขยายตัวธุรกิจ แสดงความสนใจที่จะเข้าไปมีส่วนโดยตรงกับการรักษา
และการค้าเข้ามาในรัฐชายฝั่ง ส่งเสริมทางการเงินในลักษณะ ความปลอดภัยของช่องแคบใกล้บ้านนี้ เพราะเข้าใจว่า
ช่วยเหลือและกระตุ้นให้ทุกรัฐชายฝั่งเกิดการปฏิรูปเศรษฐกิจ เพื่อนบ้านแถบนี้ได้แสดงบทบาทของตัวเองอย่างชัดเจน
อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเปิดเสรีทางการค้าเป็นโอกาสให้ อยู่แล้ว แต่ความปลอดภัยของการเดินเรือผ่านช่องแคบ
จีนสามารถปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้ดีขึ้น มะละกากลายเป็นหัวข้อสำคัญขึ้นมาเพราะเกิดสำนึก
ทำให้รัฐชายฝั่งกำลังมีท่าทีจะหันออกห่างสหรัฐ ฯ หันไป ขึ้นมาว่า หากช่องแคบแห่งนี้ถูกก่อการร้ายทำให้ต้องปิด
พึ่งพิงจีนมากขึ้น ยามนี้พญาอินทรีเริ่มรู้แล้วว่าพญามังกร ไปชั่วคราว การค้าระหว่างประเทศจะถูกกระทบทันที
เริ่มกางเขี้ยวเล็บหาทางออกสู่ทะเล สายตาอันเฉียบคมของ “ช่องแคบมะละกา เป็นเป้าหมายทางยุทธศาสตร์
พญาอินทรีจับจ้องที่ผู้มีอำนาจเหนือชมพูทวีป พญาอินทรี ที่สำคัญของสหรัฐ ฯ ในการสร้างดุลอำนาจที่เหนือกว่า เพื่อ
ไม่ลังเลที่จะโผบินลงไปหาผู้มีอำนาจชาวภารตะ ปกป้องคุ้มครองผลประโยชน์และเป็นหลักประกันความ
เหมือนสบตาก็รู้ใจกัน ผู้มีอำนาจชาวภารตะประกาศก้อง มั่นคงของตนให้คงอยู่เป็นนิรันดร์”
“มหาสมุทรอินเดียเป็นของอินเดีย (Indian Ocean belong สำหรับจีน ช่องแคบแห่งนี้เป็นทางเข้าออกที่สำคัญยิ่ง
to Indian) พื้นที่แห่งนี้ต้องการสันติภาพ (Zone of Peace)” สำหรับเศรษฐกิจและความมั่นคง เพราะร้อยละ ๘๐
แต่พญามังกรไม่สนใจหายวับลงสู่ทะเลลึกไปเรียบร้อยแล้ว ของน้ำมันที่จีนสั่งเข้าจากต่างประเทศที่เอาไปป้อน
อุตสาหกรรมของจีนที่กำลังเฟื่องฟูเหลือเกินนั้น ต้องผ่าน
ประเทศไทย ช่องแคบมะละกาที่อยู่เหนือการควบคุมโดยตรงของจีน
ทางภูมิศาสตร์ มีความสำคัญเป็นศูนย์กลางของ อย่างเห็นได้ชัด จีนจึงเป็นห่วงและเมื่อปักกิ่งแสดงความ
ภูมิภาคอาเซียน ซึ่งในอดีตเคยถูกสหรัฐ ฯ ใช้เป็นฐาน กังวลเรื่องไหนเป็นพิเศษ ประเทศเพื่อนบ้านในแถบนี้
ที่มั่นในการจัดส่งกำลังเข้าสู้รบในสมรภูมิ เวียดนาม ลาว ก็ย่อมจะเหลียวขวาแลซ้ายเพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยง
กัมพูชา นับได้ว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์หนึ่งที่มีความสำคัญมาก ด้วยเช่นกัน และที่ประเทศเล็ก ๆ ในแถบนี้ต้องจับตาจีน
ซึ่งมีความเหมาะสมทางภูมิศาสตร์ในการปิดล้อมจีนทาง เพราะจีนถือเป็นข้ออ้างสร้างแสนยานุภาพทางทะเล
ตะวันตกเฉียงใต้ ย้อนกลับลงไปในประวัติศาสตร์ อาณาจักร ด้วยความกลัวลึก ๆ ว่า ถ้าปักกิ่งกับวอชิงตัน เผชิญหน้า
ศรีวิชัย ก่อตั้งขึ้นเมื่อพุทธศตวรรษที่ ๑๑ สิ้นสุดประมาณ กันทางด้านการเมืองจนลามปามไปถึงด้านการทหาร
พุทธศตวรรษที่ ๑๙ เป็นรัฐชายฝั่งทะเลที่มีอิทธิพลการค้า สิ่งหนึ่งที่สหรัฐ ฯ จะทำคือการปิดล้อมช่องแคบมะละกา
ทางทะเลระหว่างอินเดียกับเมืองจีน มีอาณาเขตกว้างขวาง เพื่อตัดเส้นทางลำเลียงน้ำมันของจีน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า
ครอบคลุมหมู่เกาะต่าง ๆ บริเวณตอนใต้ของคาบสมุทรมาเลย์ ไม่ใช่จีนประเทศเดียวที่จะเผชิญปัญหาเรื่องเส้นทางขนส่ง
ตลอดขึ้นมาถึงดินแดนบางส่วนของคาบสมุทรอินเดีย น้ำมันและสินค้าสำคัญ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทยเราเอง
เป็นศูนย์กลางการค้าขายสินค้าข้ามสมุทรทางฝั่งทะเล ก็จะพลอยกระทบไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปัจจุบันไทย
ตะวันตกและตะวันออก ผ่านช่องแคบมะละกา เข้าร่วมการลาดตระเวนช่องแคบมะละกากับเพื่อนบ้าน
ช่องแคบมะละกา ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์โลกทางทะเล แถบนี้ จึงดูเหมือนว่าจะสอดคล้องกับคลื่นใต้น้ำของการ
หากชาติใดสามารถควบคุมช่องแคบมะละกาได้ ก็จะสามารถ แข่งขันสร้างกำลังของกองทัพเรือของประเทศยักษ์ ๆ
ควบคุมเส้นทางการเดินเรือทั้งด้านพาณิชยนาวีและ แถบนี้ เศรษฐกิจยิ่งดียิ่งต้องห่วงแสนยานุภาพของตัวเอง
ยุทธนาวี เป็นจุดตัดรอยต่อที่เชื่อมระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิก กองทัพเรือไทยอย่าพลาดวิเคราะห์ดุลยภาพแห่งอำนาจ
มหาสมุทรอินเดีย มหาสมุทรแอตแลนติกและเชื่อมต่อ ในทะเลอันดามันและมหาสมุทรอินเดียเป็นอันขาด



นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐35

บทความ



ของ
งานกู้ชาติ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช





พลเรือเอก วสินธ์ สาริกะภูติ
























































๑๐. ยุทโธปกรณ์



(ต่อจากฉบับที่แล้ว)



๐36 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๓ กรกฏาคม ๒๕๕๔

ยุทโธปกรณ์ ให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้รวดเร็ว
- สร้างเรือรบในแม่น้ำจำนวนมาก และฝึกให้ทหาร เรื่องอาหารการกินนั้นไม่ต้องเป็นห่วง นา สวน มีให้ทำ
ใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งแจว ทั้งพาย จนสามารถ มากมาย ขอให้มีคนทำ ดังนั้นในขณะที่บางปีพม่าหงสาวดี
จัดเป็นกองเรือเร็ว และเรือปืนได้ เป็นจุดแข็งประการหนึ่ง ขาดแคลนข้าว แต่อยุธยามีเหลือเฟือ
ของกองทัพไทย
- เรือรบในทะเล หลังประกาศเอกราชแล้ว มีการสร้าง สร้างระเบียบวินัย หรือสร้างเหล็กในคน
เรือรบในทะเลด้วย เอกสารจีนบันทึกไว้ว่า เมื่อปี พ.ศ.๒๑๓๕ ไม่น่าเชื่อว่าปัญหาสำคัญของอยุธยา คือ หาคนมารบ
ทูตไทยที่ส่งไปเจริญสัมพันธไมตรีเมืองจีน ถวายรายงาน ได้ไม่พอตามที่ต้องการ ต้องเก็บข้าใส่เมือง ไม่ว่าจะเป็น
ฮ่องเต้จีน (จักรพรรดิเสินจง) ว่าสมเด็จพระนเรศวร ชนเผ่าใด สมเด็จพระนเรศวรท่านเอามาหมด เมื่อได้
อาสายกทัพเรือกรุงศรีอยุธยา ไปตีญี่ปุ่นช่วยจีนแต่ฮ่องเต้จีน ชนต่างเผ่าพันธุ์ ต่างวัฒนธรรม ความเจริญต่างกัน มาอยู่
ตอบปฏิเสธ ตามคำแนะนำของกุนซือ รวมกัน พระองค์จึงต้องใช้กฎระเบียบ วินัย เป็นเครื่อง
- เรือสินค้าทางทะเล ไปค้าขายถึงเมืองจีน เพื่อสร้าง หล่อหลอมให้ทุกคนมีมาตรฐานเดียวกัน นักประวัติศาสตร์
ความมั่งคั่ง ต่าง ๆ จึงกล่าวว่า สมเด็จพระนเรศวร ท่านดุ และเข้มงวด
กวดขันเรื่องระเบียบวินัยมาก จนพม่าเองกล่าวว่า ทหาร
ปัจจัยทางเศรษฐกิจ อยุธยากลัวสมเด็จพระนเรศวรมากกว่ากลัวตาย รบกับคน
การทำสงครามต้องมีเศรษฐกิจหนุนหลังอย่างใกล้ชิด ไม่กลัวตายที่มีฝีมือรบนั้น เอาชนะยากจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
ประเทศยากจน ไม่มีกองทัพที่เข้มแข็ง กรุงศรีอยุธยา กองทัพสมัยใด สงครามยุคไหน
ในสมัย พ.ศ.๒๑๑๒ หลังเสียกรุง ยากจนมาก ๆ ทรัพย์สมบัติ
ของทั้งของรัฐและของราษฎร์ พม่าขนเอาไปหมด แถมขนคน การปฏิบัติตามแผนที่รวมพล เตรียมกองทัพ
ซึ่งเป็นปัจจัยผลิตที่สำคัญเอาไปด้วย ปัญหาเฉพาะหน้า ที่ซ่องสุมกำลังมิให้พม่ารู้เห็น ไหวตัวทำลาย
ของผู้บริหารรัฐ คือ จะเอาทรัพย์สินเงินทองจากไหน ขุมกำลังนี้เสียก่อน พื้นที่กรุงศรีอยุธยาและหัวเมืองรอบ ๆ
มาซื้อหาอาวุธยุทธโธปกรณ์ ปืนเล็ก (ปืนไฟ) ปืนใหญ่ พระนคร ย่อมไม่คลาดสายตาทหารพม่า ๓,๐๐๐ คนไปได้
ดินปืน ซื้อเหล็กมาตีเป็นดาบ หอก ฯลฯ ตามมาดูซิว่า จึงต้องมองไปที่ถิ่นเดิมของราชวงศ์สุโขทัย นั่นคือ
บรรพบุรุษของเราท่านแก้ปัญหาอย่างไร เมืองพิษณุโลก และหัวเมืองเหนือแคว้นสุโขทัยเดิม
จีนบันทึกว่า กรุงศรีอยุธยาได้ส่งคณะทูตนำเครื่อง ซึ่งห่างจากอยุธยา ห่างไกลหูตาพม่า ประชาชนก็เป็น
บรรณาการไปถวายฮ่องเต้จีน ในปี พ.ศ.๒๑๓๕ นั่นคือ พวกเดียวกัน ไว้วางใจได้ ฐานทัพกู้ชาติจึงเริ่มต้นที่เมือง
อยุธยาได้ส่งกองเรือสินค้าไปค้าขายกับจีน การค้าขาย พิษณุโลก
กับจีนจะต้องมีคณะทูตนำเครื่องบรรณาการไปถวายฮ่องเต้
ตามประเพณี แล้วจะซื้อขายอะไรก็ว่ากันไป ถ้าการทูตดี พื้นที่รวมพล
ก็เสียภาษีน้อย หรือไม่ต้องเสียภาษีเลย จีนมีเหล็ก ทองแดง อยุธยาและหัวเมืองโดยรอบมีประชาชนเบาบาง
แต่จะซื้อ (นำออก) ต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ บางครั้ง ประชาชนส่วนใหญ่ถูกกวาดต้อนไปพม่า จะได้จากกลุ่ม
ก็ได้ บางครั้งก็ไม่ได้ บางยุคบางสมัย ไทยต้องซื้อ ที่หลบหนีภัยเขมรกลับมาบ้างก็มีไม่เท่าใด พม่ามิให้
กะทะเหล็ก เอามาตีเป็นอาวุธก็มี ส่วนสินค้าที่จะทำรายได้ อยุธยาตั้งกองทัพ การจะเรียกเกณฑ์มาฝึกเพลงอาวุธ
ให้อยุธยา ส่วนใหญ่เป็นของป่า พูดได้ว่า เป็นการเอาสินค้า ทำได้ยาก นักรบฝีมือดีก็ถูกจับเป็นเชลยไปพม่าแทบหมด
ไปแลกสินค้า แม้แต่การค้าขายกับชาติตะวันตก เปอร์เซีย ส่วนหัวเมืองทางเหนือสภาพบ้านเมืองและประชาชน
ยุโรป ก็ทำนองเดียวกัน เอาสินค้าไทย แลกปืนไฟ ปืนใหญ ่ ส่วนใหญ่ยังบริบูรณ์ดี ไม่ถูกกวาดต้อนไปพม่า ประชากร
อาศัยที่กรุงศรีอยุธยาอยู่ใกล้ปากอ่าว มีสินค้าพื้นเมือง หนาแน่นกว่าอยุธยาและหัวเมืองทางชายทะเล แผนการ
ที่ทางจีน เปอร์เซีย และยุโรปต้องการเป็นจำนวนมาก เตรียมกองทัพ (คน) ของไทยจึงมุ่งไปหาคนในหัวเมืองเหนือ
ทั้งชนิดและปริมาณ ดังนั้นแม้จะแพ้ศึก ถูกปล้นเมือง ลูกหลานพ่อขุนรามคำแหงมหาราชกลับไปเมืองประสูติ
แต่สมเด็จพระมหาธรรมราชา ก็สามารถทำการค้าขาย ของพระองค์




นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๓ กรกฏาคม ๒๕๕๔ ๐37

อุปราชครองเมืองพิษณุโลก
เมื่อสถานที่รวมพลและแหล่งกำลังพล
อยู่ที่หัวเมืองเหนือ พระมหาธรรมราชา
จึงโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระนเรศวร
เป็นอุปราชขึ้นไปปกครองหัวเมืองเหนือ
อยู่ที่เมืองพิษณุโลกในปี พ.ศ.๒๑๑๔
เมื่อพระชนมายุ ๑๗ พรรษา (ประสูติ
พ.ศ.๒๐๙๘) นับว่าเป็นพระมหาอุปราชที่
อายุน้อยมาก กลับจากหงสาวดีตั้งแต่อายุ
๑๖ พรรษา อยู่อยุธยา ๑ ปี เพื่อให้
ประชาชนรู้จัก รักใคร่ ศรัทธา เพราะจะเป็น
ผู้นำกู้ชาติ ต้องได้ความรัก ความศรัทธา
จากมหาชน จึงจะชวนคนไปตายเพื่อชาติ
ด้วยกันได้ อยู่อยุธยาเพื่อให้คนเมืองหลวงรู้จัก
ได้แสดงฝีมือรบ ความองอาจกล้าหาญ
การควบคุมกองทัพ พอให้ชาวอยุธยา
รู้ฝีมือบ้าง แล้วจึงขึ้นไปซ่องสุมผู้คน
จัดตั้งกองทัพกู้ชาติ


พิษณุโลก เมืองอกแตก
พิษณุโลก เป็นเมืองที่แม่น้ำผ่ากลาง
ถือกันว่าเป็น “เมืองอกแตก” ซึ่งเชื่อ
กันว่ายากในการป้องกันเมือง เช่น ถ้าศัตรู
มีกำลังทางเรือมากกว่า เข้มแข็งกว่าอาจ
จะรุกเข้าเมืองได้ทางลำน้ำ หรือยาก
ลำบากในการเคลื่อนย้ายกำลังทางบก
จากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง
แต่เมื่อหันไปดูเมืองใหญ่ ๆ ในโลกนี้
ตั้งแต่โบราณเป็นต้นมา ปรากฏว่า มีเมือง
ที่มีแม่น้ำผ่านกลางเมืองหลายเมือง
แม้แต่ในประเทศไทย ทำไมกลับไม่ถูก พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดพิษณุโลก
กล่าวกันว่าเป็นพระพุทธรูปงามที่สุดในประเทศไทย
เรียกว่าเป็นเมืองอกแตก เช่น เมือง
นครปฐม ตั้งคร่อมแม่น้ำบางแก้ว เมืองนครชัยศรี ผ่ากลางเมือง แบ่งตัวเมืองเป็นสองส่วน มีกำแพง
เมืองสุพรรณบุรี เป็นต้น แม้แต่กรุงธนบุรีสมัยสมเด็จ ล้อมรอบเมืองทั้งสองฝั่ง
พระเจ้าตากสินมหาราช ก็สร้างกำแพงเมืองป้องกันทั้ง หม่อมเจ้า ชาตรี เฉลิม ยุคล วิเคราะวิจารณ์ถึงข้อดี
๒ ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คลุมเกาะรัตนโกสินทร์ปัจจุบันไว้ด้วย ของเมืองพิษณุโลก เมืองอกแตกไว้ใน ตามรอยสมเด็จ
ต่างประเทศในยุโรป เมืองใหญ่ ๆ หลายเมืองก็เป็น พระนเรศวรมหาราช หน้า ๓๒ - ๓๕ อย่างมีเหตุผล เช่น
เมืองอกแตกเหมือนกัน เช่น ลอนดอน ปารีส ปราก การมีแม่น้ำผ่ากลางเมือง อาจจะเป็นข้อดี ในเรื่อง
การสร้างเมืองคร่อมแม่น้ำคงจะเป็นประเพณีนิยมมา - เป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญ ในสมัยโบราณ
แต่โบราณทุกภูมิภาคของโลก แม้แต่เมืองบาบิโลน ใช้การคมนาคมทางน้ำเป็นหลัก ทั้งการเดินทาง ค้าขาย
ซึ่งสร้างก่อนคริสตวรรษ ก็มีแม่น้ำยูฟราเตส (Eufrates) ขนส่งสินค้า จึงสามารถขนส่งสินค้าเข้าถึงใจกลางเมืองได้



๐38 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๓ กรกฏาคม ๒๕๕๔

- ในช่วงมีศึกสงคราม สามารถเก็บรวมพล เพราะจะปลุกใจได้ง่ายกว่า
กองทัพเรือไว้ในเมือง สามารถเคลื่อนพลออกรบได้ทุกเวลา ขั้นแรก ตั้งหน่วยทหารองครักษ์พิเศษประจำพระองค์
การป้องกัน กองเรือข้าศึกเข้าตีสามารถใช้โซ่ขึงขวางลำน้ำ โดยคัดเลือกเด็กหนุ่มในวัยเดียวกันกับพระองค์มาเป็น
ไม่ให้เรือข้าศึกผ่านเข้ามาได้ ทหาร ตั้งเป็นหน่วยคล้ายทหารองครักษ์มีจำนวน ๑๓๖ คน
- ตลิ่งแม่น้ำผ่านในตัวเมืองสูงชัน ข้าศึกบุก (คบคนหนุ่มวัยเดียวกัน พูดกันรู้เรื่อง)
ขึ้นตลิ่งได้ลำบาก เสียเปรียบฝ่ายป้องกันที่อยู่บนฝั่ง ที่กล่าว ทรงฝึกทหารกลุ่มนี้ด้วยพระองค์เอง ให้มีความรู้
ว่าเป็นจุดอ่อนในการคลื่อนย้ายกำลังพลป้องกันเมือง ความชำนาญในการใช้อาวุธ ยุทโธปกรณ์ทุกชนิดทั้งอาวุธ
ก็แก้ไขได้ สมัยโบราณ และอาวุธสมัยใหม่ ปืนไฟ ปืนใหญ่ ให้รู้ลูกไม้
- การเคลื่อนย้ายกำลังพลจากฝั่งหนี่ง ไปอีกฝั่งหนึ่ง เพลงอาวุธของพม่า มอญ กระเหรี่ยง ไทยใหญ่ ฯลฯ
แม้จะมีแม่น้ำขวางกั้น แต่ก็สามารถเอาเรือมาต่อกันเป็น ฝึกให้มีความทรหดอดทน รบได้ทุกสภาพภูมิประเทศ
สะพานทำได้ไม่ยาก ให้ทหาร เดิน - วิ่ง ผ่าน ไปมาได้ และภูมิอากาศ รู้จักการรบบนพื้นดิน บนหลังม้า หลังช้าง
บทเรียนจากการศึกษาป้องกันเมืองพิษณุโลก และในเรือทั้งเรือแจวและเรือพาย ลักษณะเหมือนการฝึก
ในอดีตที่ผ่านมาในสมัยพระมหาธรรมราชา ป้องกัน หน่วยรบพิเศษในปัจจุบัน ประวัติศาสตร์กล่าวว่า ทหาร
เมืองจาก กองทัพพม่า พระเจ้าบุเรงนอง พ.ศ.๒๑๐๖ หน่วยนี้ ๑ คนสามารถสู้คนได้ ๑๐ - ๒๕ คน
กองทัพล้านช้าง ของพระเจ้าไชยเชษฐา และกองทัพ เป็นนักรบที่แกล้วกล้า กล้าหาญ ไม่กลัวตาย และพระองค ์
อยุธยา ของสมเด็จพระมหินทราธิราชในปี พ.ศ.๒๑๐๙ สอนให้รู้พิชัยสงคราม ยุทธวิธี และยุทธศาสตร์ทั้งของไทย
และในการป้องกันเมืองพิษณุโลกของเจ้าพระยาจักรี พม่า มอญ ต่อมานักรบกลุ่มนี้ได้เป็นแม่ทัพนายกอง
กับเจ้าพระยาสุรสีห์ ในศึกอะแซหวุ่นกี้ เมื่อปี พ.ศ.๒๓๑๙ ผู้เกรียงไกรหลายคน และเป็นแกนนำไปฝึกหัดสร้าง
สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แม่น้ำน่าน หน่วยทหารอื่น ๆ ต่อไป จนกองทัพอยุธยาเป็นกองทัพ
ที่ผ่านกลางเมือง ก็มิได้เป็นปัญหาสำคัญ จนเป็นจุดอ่อน ขนาดเล็ก ที่สามารถเอาชนะกองทัพขนาดใหญ่ เช่น
ถึงกับเสียเมืองแต่อย่างใด การเสียเมืองมาจากปัญหาอื่น กองทัพพม่าได้ พระองค์ให้แปลตำราพิชัยสงครามของไทย
ดังนั้น ที่กล่าวกันว่า พิษณุโลก เป็นเมืองอกแตก เป็น จากร้อยกรองอ่านเข้าใจยาก ต้องตีความ ให้เป็นร้อยแก้ว
จุดอ่อนในการป้องกันเมืองจึงไม่จริง เหมือนกับที่กล่าวว่า อ่านเข้าใจง่าย ทหารอยุธยาในยุคของพระองค์จึง เชี่ยวชาญ
น้ำเหนือที่ไหลมาท่วมท้องทุ่งอยุธยา จะช่วยขับไล่ข้าศึกที่ ทั้งเพลงอาวุธและยุทธวิธี มีแม่ทัพฝีมือดีมากมาย สามารถ
มาล้อมกรุงศรีอยุธยา ถอยทัพกลับไปนั้นก็ไม่จริง ไม่เคย ดำเนินกลยุทธ์ตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง เช่น พระราชมนู
ปรากฏขึ้นจริง ๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียว ข้าศึกถอยกลับเพราะ เป็นต้น ในจำนวนทหารเอกของสมเด็จพระนเรศวร
ฝีมือรบของทหารอยุธยา แต่พอทหารอยุธยารบไม่เก่ง มีท่านหนึ่งรู้เพลงดาบแสนหวี ในประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า
แม้น้ำจะท่วมทุ่งอยุธยา ข้าศึกก็ไม่ถอยกลับ เช่น ในสงคราม เพลงดาบแสนหวีนี้สามารถสู้กับทหารเลวได้ถึง ๑๐๐ คน
คราวเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ ๒ ในปี พ.ศ.๒๓๐๙ - ๒๓๑๐ และเมื่อเหนื่อยก็สามารถรบไปพักไปได้ด้วย ไม่ทราบว่า
อะไรที่กล่าวตาม ๆ กันมา บางทีก็ไม่สมเหตุสมผลในทาง เท็จจริงอย่างไร
การทหาร ทหารราบของทุกประเทศในโลกใบนี้มีคำกล่าว นอกจากกองทหารรักษาพระองค์ กลุ่มนี้เพียง ๑๓๖ คน
เหมือนกันอยู่ประโยคหนึ่ง คือ “ไม่มีภูมิประเทศใดที่ แล้ว พระองค์ยังได้จัดตั้งหน่วยทหาร และจัดให้มีการฝึก
ทหารราบจะไปไม่ได้” เพลงอาวุธแก่ประชาชนทุกคนที่อยู่ในวัยทำการรบได้
โดยให้ฝึกในเวลาว่างงาน ว่างฤดูทำนา สมัยนั้นไม่มี
การเตรียมกองทัพ (คน) “คบเด็กสร้างเมือง กู้ชาติ” กองทัพประจำการเหมือนปัจจุบัน มีแต่กองหนุนเวียน
ณ เมืองพิษณุโลก แผ่นดินประสูติดินแดนของต้น กันมาเข้าเวร (ทำงาน) ลูกหลานพ่อขุนรามคำแหง
ตระกูลราชวงศ์สุโขทัย ลูกหลานนักรบกล้าพ่อขุนราม ต้องกลับมาจับดาบรำดาบใหม่ ฝึกอย่างเข้มข้น เพื่อให้
คำแหงมหาราช มาดูว่าสมเด็จพระนเรศวรพระองค์สร้าง คนน้อยเอาชนะคนมากกว่าได้ ในที่สุดคนเมืองพิษณุโลก
กองทัพกู้ชาติได้อย่างไร ก็คือ นักรบพิเศษทุกคน น่าภาคภูมิใจแทนคนเมืองพิษณุโลก
ไม่คบคนแก่ที่กลัวพม่า มุ่งไปที่คนหนุ่มรุ่นเดียวกับ และหัวเมืองเหนือ ลูกหลานพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
พระองค์และวัยใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่เคยแพ้พม่า ที่ได้ทำงานใหญ่อันมีเกียรติอย่างยิ่งเช่นนี้



นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๓ กรกฏาคม ๒๕๕๔ ๐39

แผนที่เมืองบาบิโลนโบราณ










































แผนที่กรุงธนบุรี


๐40 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๓ กรกฏาคม ๒๕๕๔

ปัจจัยที่มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ ที่มีความสำคัญ ในขณะทำการสู้รบ ไม่มีใครมานึกถึงว่า สิ่งที่ตัวกำลังทำ
ต่อการกู้ชาติ ไม่ยิ่งหย่อนกว่าปัจจัยที่มองเห็น เช่น คน อยู่นั้น เป็นความกล้าหาญหรือไม่ คิดแต่จะทำให้งาน
อาวุธ ยุทโธปกรณ์ ซึ่งต้องอาศัยคุณสมบัติและคุณลักษณะ สำเร็จเท่านั้น กองทัพใดที่ฝึกอบรมจนทหารทุกคน
ประจำตัวของสมเด็จพระนเรศวรโดยเฉพาะ ทุกระดับชั้นยศ มีจิตวิญญาณที่จะต้องทำงานที่ได้รับมอบ
- ปัญหาความสามัคคีในชาติ การแตกความสามัคคี ให้สำเร็จ กองทัพนั้นเป็นกองทัพที่กล้าหาญ ซึ่งทุกประเทศ
ระหว่างไทยภาคเหนือ (พิษณุโลก) และไทยภาคใต้ ก็ต้องการกองทัพเช่นนี้
(อยุธยา) ที่มีมาแต่เดิม ได้อาศัยสมเด็จพระนเรศวรที่มี การกู้ชาติเป็นงานใหญ่ งานหนัก ต้องรวบรวมคน
เชื้อสายไทยราชวงศ์สุโขทัยทางพ่อ และไทยใต้ราชวงศ์ เท่าที่มีเอามาเป็นทหารสู้ศึก ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดเผ่าใด
สุพรรณภูมิทางแม่ หลานตาหลานยายสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ที่อยู่ในอาณาจักร ก็ต้องเอามารบทั้งหมด เนื่องจากอาณาจักร
และพระศรีสุริโยทัย เป็นตัวเชื่อมความสามัคคีไทยภาคเหนือ อยุธยาขณะนั้นมีประชากรอยู่น้อยมาก ไม่มีคนให้เลือก
ไทยภาคใต้มารวมอยู่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เลิกคิดถึงไทย เมื่อระดมมาจากร้อยพ่อพันแม่ จึงต้องหล่อหลอมให้เสมือน
เหนือไทยใต้อีกต่อไป เป็นพลังสามัคคีที่แน่นแฟ้น มีผลดี เป็นคนคนเดียวกัน นั่นคือต้องใช้วินัยเป็นพื้นฐานเพื่อ
ในการทำศึกสงคราม นี่คือปัจจัยที่มองไม่เห็นข้อหนึ่ง หล่อหลอม เมื่อทหารมีวินัยแล้วหลังจากนั้นจะให้ความรู้
ที่ส่งผลต่อจิตใจรุกรบ ในวิชายุทธต่าง ๆ อะไรก็รับได้ทุกอย่าง
- ปัญหาขวัญของพลเมืองไทยที่ถูกพม่าเข่นฆ่า ด้วยวิธีการหล่อหลอมโดยวินัยทัพอย่างเข้มงวด
ทารุณเผาผลาญบ้านเมือง ทุกเมืองที่ต่อสู้พม่า เช่น กวดขัน ทหารในกองทัพของสมเด็จพระนเรศวร
กำแพงเพชร สุโขทัย ฯลฯ หลายเมืองพอทราบข่าวศึก จึงเป็นนักรบกล้า สามารถรบตลุยติดตามผู้นำหน่วย
ก็ครั่นคร้าม รีบพากันยอมจำนน เช่น เมืองสวรรคโลก ไปได้ทุกแห่ง ชนิดไม่กลัวตาย ไม่กลัวความยากลำบาก
เมืองพิชัย ฯลฯ ปัจจัยนี้สมเด็จพระนเรศวรต้องใช้ลักษณะ จนพม่าถึงกับกล่าวว่า “ทหารไทยกลัวพระนเรศวร
การเป็นผู้นำอันยอดเยี่ยมของพระองค์ และต้องใช้เวลา มากกว่ากลัวตาย”
แสดงให้เห็นว่าพม่าก็แพ้เป็น จึงทำให้ปัญหาข้อนี้หมดไป
ฝึก ฝึก ฝึก และฝึก
สร้างวินัยทัพ เมื่อได้รับกองทัพ (คน) และสร้างวินัยให้แล้วยังไม่พอ
“ทหารไทย กลัวพระนเรศร์มากกว่ากลัวตาย” ต้องฝึกให้รบเป็น รบชนะ ซึ่งจะต้องอบรม สั่งสอนทั้ง
กองทัพต้องมีกฎระเบียบ ทหารต้องมีวินัย เป็นลักษณะ ทางทฤษฎี และทางปฏิบัติโดยเฉพาะ ด้านการปฏิบัตินั้น
ประจำขององค์กรนี้ ทหารจะมีเฉพาะความรู้ในวิธีรบ วิธียุทธ์ จะต้องฝึกแล้วฝึกอีกทำซ้ำ ๆ จนสามารถปฏิบัติได้โดย
มีอาวุธยุทโธปกรณ์ดียังไม่พอที่จะทำให้รบชนะ ทหาร อัตโนมัติ หรือกลายเป็นสัญชาตญาณกันเลย
ในกองทัพต้องมีวินัยดีด้วย เพราะวินัยเป็นพื้นฐานขององค์ งานกู้ชาติ ศัตรูคือพม่า มีมอญ ไทยใหญ่ ยะไข่
ประกอบประเภทนามธรรม กองทัพที่เก่งกล้าสามารถ รบชนะ และกะเหรี่ยง ฯลฯ เป็นผู้ช่วย หรือเป็นกำลัง
ต้องมีทั้งองค์ประกอบรูปธรรม และนามธรรม การสู้รบ ในกองทัพพม่า จำเป็นต้องฝึกเพลงอาวุธ เอาชนะ
ทำศึกสงคราม เป็นงานที่มีโอกาสบาดเจ็บ ล้มตาย เพลงอาวุธทุกชนิดของพม่า และของชนเผ่าต่าง ๆ
ได้ตลอดเวลา การที่จะให้ทหารไม่กลัวเจ็บ ไม่กลัวตาย ของฝ่ายศัตรูคู่ศึก ขั้นต้นก็รวบรวมเพลงอาวุธทุกชนิด
ก็คือ “วินัย” นี่แหละ ทหารที่ผ่านศึกสงครามจะรู้ซึ้ง ของสำนักดาบต่าง ๆ ของไทยทุกเมือง ฝึกสอนโดยไม่มี
ในเรื่องนี้ดี ผู้เขียนเคยยกย่องชมเชยทหารนาวิกโยธิน การหวงวิชา จนชำนาญทุกแม่ไม้ และต้องศึกษา คิดค้น
ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ร่วมรบ ซึ่งรบด้วยความกล้าหาญ ดัดแปลง ให้ข่มเพลงอาวุธของข้าศึกให้ได้ เพื่อว่าเมื่อ
เจ้าตัวเองกลับบอกว่า “ผมไม่รู้ว่าที่ผมทำไปนั้น ประดาบ ประอาวุธกันแล้วทหารไทยต้องเป็นฝ่ายได้เปรียบ
กล้าหาญหรือไม่ แต่ผมตั้งใจทำงานตามหน้าที่ของผม ต้องชนะ ต้องฝึกให้ทหารไทยหนึ่งคนสู้กับข้าศึกหลาย ๆ
ที่ได้รับมอบให้สำเร็จเท่านั้นกล้าหาญหรือไม่ ไม่ทราบ” คนได้ หรือทหารไทย ๒ - ๓ คน สู้กับข้าศึกเป็นสิบหรือ
ทหารที่มีวินัยดี จะต้องทำตามคำสั่งหรือทำตาม สิบกว่าได้ จึงจะกู้ชาติได้
ภารกิจ หรือกิจที่ได้รับมอบให้สำเร็จ ไม่ทำในสิ่งที่ห้าม รู้เพลงอาวุธเอาชนะคู่ศึกแล้วก็ยังไม่พอ ต้องเรียนรู้
นั่นคือทำให้เขาเป็นนักรบที่กล้าหาญโดยไม่รู้ตัว ยุทธวิธี หรือวิธียุทธ์ กลยุทธ์ กลศึกต่าง ๆ ทั้งทางฝ่ายข้าศึก



นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๓ กรกฏาคม ๒๕๕๔ ๐41

และของฝ่ายเราจะทำอย่างไร ใช้กลยุทธ์ใดให้คนน้อย แต่ผมก็เชื่อได้ว่า ไม่ถึงหนึ่งในร้อยหรือหนึ่งในพัน
เอาชนะคนมากกว่าได้ กลยุทธ์ใดที่ฝ่ายพม่าข้าศึกใช้บ่อย ๆ ของการฝึกกองทัพกู้ชาติ ของสมเด็จพระนเรศวร
การทำสงคราม เป็นกิจกรรมของคนหมู่มากร่วมกันทำกิจ บรรพบุรุษของเรา ท่านเหนื่อยยาก แสนเข็ญ เสี่ยงเป็น
เดียวกัน มิใช่การต่อยมวยที่สู้กันตัวต่อตัว มีเพลงอาวุธดี เสี่ยงตาย เอาเลือดทาแผ่นดิน กู้ชาติ รักษาแผ่นดินที่ได้
แต่ยุทธวิธีเลวก็รบแพ้ศึกสงครามได้ จึงต้องดีทั้งเพลงอาวุธ ชื่อว่า “ประเทศไทย” มอบให้เป็นมรดก จนพวกเราได้อยู่
และยุทธวิธี และผู้นำดีจึงจะรบชนะ กู้ชาติได้สำเร็จ อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุข ตราบเท่าทุกวันนี้ ท่านมิได้หามาง่าย ๆ
ผมไม่ทราบว่าสมเด็จพระนเรศวร ฯ พระองค์ท่าน พวกเราจึงควรระลึกถึงไว้ตลอดเวลา แล้วช่วยกันรักษา
ฝึกอบรมกลุ่มนักรบกู้ชาติของพระองค์อย่างไร หนักหนา มรดกผืนนี้ส่งต่อให้ลูก หลาน เหลน โหลน ต่อไป
สาหัสแค่ไหน จึงทำให้คนไทยหายกลัวพม่า จากที่เคยรบแพ้ ภายหน้าให้มีประเทศไทย ที่บริหารปกครองด้วย
อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๑๐๖ จนถึงปี พ.ศ.๒๑๒๗ คนไทยตลอดไป
จึงได้สำแดงฝีมือรบชนะพม่าได้ แต่ในฐานะที่เป็นทหาร
ฝ่ายการรบของกองทัพเรือก็จะขอเล่าวิธีการฝึกเตรียม ยุทธศาสตร์รับ ยุทธวิธีรุก
ของทหารนาวิกโยธินก่อนที่จะยกกำลังจากสัตหีบ ด้วยกำลังพลที่น้อยกว่าพม่ามากนัก จึงต้องใช้
ไปช่วยกองทัพภาคที่ ๓ ของกองทัพบกปราบปราม ยุทธศาสตร์เชิงรับ เช่น อาศัยพระนครศรีอยุธยาตั้งรับ
ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ในยุทธการสามชัย เมื่อปี ในเมือง แต่ในทางยุทธวิธีพระองค์พยายามชิงทำการ
พ.ศ.๒๕๑๕ - ๒๕๑๖ ให้ผู้อ่านที่มิใช่ทหารได้รู้ว่า เป็นฝ่ายรุกก่อนเสมอ แม้จะมีกำลังน้อยกว่า แต่ก็จะแย่ง
ก่อนทำศึกสงคราม หรือก่อนที่จะให้ทหารไปรบนั้น เป็นฝ่ายเข้าตีก่อน ทำให้ข้าศึกปั่นป่วน ตกเป็นฝ่าย
เรามีการฝึกเตรียมกันอย่างไรบ้างจึงสามารถปฏิบัติ คอยป้องกัน ใช้การเข้าตีในลักษณะการรบปัจจุบันเรียกว่า
ภารกิจได้สำเร็จ การเข้าตีเพื่อทำลายการเตรียมการเข้าตีของข้าศึก (ฝ่ายรุก)
ทหารนาวิกโยธิน เคยชินอยู่กับการปฏิบัติการรบอยู่ การรบแบบกองโจร การซุ่มโจมตี ฯลฯ ใช้ความคล่องตัวใน
บริเวณพื้นที่ริมทะเล และป่าเขาริมทะเล และข้าศึก การเคลื่อนย้ายกำลังทางเรือ ที่ไทยได้เปรียบ เช่น
จากต่างชาติ ต่างภาษา ไม่เคยชินภูมิประเทศป่าเขาสูง มีกองเรือเร็ว และใช้ความชำนาญภูมิประเทศให้เป็น
ทางภาคเหนือ บริเวณภูหินล่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก ประโยชน์อย่างสูง การเตรียมกำลังรบของสมเด็จพระนเรศวร
และยังไม่เคยรบกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) จึงเน้นคุณสมบัตินักรบในด้านสิ่งเหล่านี้ จนเห็นว่า แม่ทัพ
มาก่อน เราจึงต้องศึกษาให้รู้ทั้งลักษณะสภาพภูมิประเทศ นายกองตลอดจนลูกแถวของกองทัพไทยในยุคนั้น
และยุทธวิธีต่าง ๆ ที่ ผกค. ใช้ มีความรู้ความสามารถ มีความคล่องตัว สามารถดำเนิน
การฝึกให้เคยชินกับภูมิประเทศป่าเขาสูง เราฝึกกัน กลยุทธ์ได้เองตั้งแต่ผู้บังคับหน่วยขนาดเล็ก
ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ซึ่งมีป่าทึบ เขาสูง เดินยาก ยุทธศาสตร์การตั้งรับนี้ ถ้ากำลังพลไม่ต่างกันมากนัก
กว่าป่าภาคเหนือ ป่าภาคเหนือหาน้ำยากต้องฝึกให้ ไทยจะออกไปตั้งรับห่างพระนครโดยใช้ภูมิประเทศสำคัญ
ประหยัดน้ำ และรู้จักหาน้ำจากต้นกล้วยป่า ที่เลือกไว้ก่อนให้ได้เปรียบ วิธีนี้จะช่วยให้ประชาชนรอบ ๆ
ในด้านยุทธวิธี เราฝึกแก้และหักเหลี่ยมยุทธวิธีของ พระนครไม่เดือดร้อนจากภัยสงคราม ส่วนยุทธวิธีรุกนั้น
ผกค. ทุกชนิด ฝึกทำซ้ำ ๆ จนแม้แต่พลทหารลูกแถวก็ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง การรบในภูมิประเทศป่าทุ่งราบสามารถ
สามารถทำได้เป็นอัตโนมัต และที่ขาดไม่ได้คือวินัยทัพ ดำเนินกลยุทธ์ได้มากมายหลากหลาย
และวินัยการยิงปืน จนปรากฎว่าหน่วยทหารนาวิกโยธิน
ปะทะ ผกค. หลายครั้งภารกิจสำเร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ หลักการรบของสมเด็จพระนเรศวรที่ใช้บ่อย ๆ

โดยใช้กระสุนปืนน้อยมาก การฝึกเตรียมครั้งนี้เป็นการ - การข่าวนำ
ฝึกเตรียมที่สมบูรณ์ที่สุดครั้งหนึ่งของทหารนาวิกโยธิน - การจู่โจม เลือกกระทำโดยข้าศึกไม่รู้ตัว
ในช่วงที่ผู้เขียนรับราชการทหารนาวิกโยธิน ตั้งแต่ - การเข้าตีก่อน ไม่ตั้งมั่นให้ข้าศึกเข้าตี (จรยุทธ์)
ปี พ.ศ.๒๕๐๔ - ๒๕๔๒ - รวมกำลังให้มากกว่าข้าศึกเฉพาะตำบล โจมตีทำลาย
แม้การฝึกเตรียมยุทธการสามชัยของทหารนาวิกโยธิน ข้าศึกอย่างรุนแรง รวดเร็ว
กองทัพเรือไทยในปี พ.ศ.๒๕๑๕ จะหนักและเหนื่อย - พระองค์ทรงเป็นผู้นำทหารออกรบเอง ใช้ความกล้าหาญ



๐42 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๓ กรกฏาคม ๒๕๕๔

สมเด็จพระนเรศวรทรงตามล่าพระยาจีนจันตุ (เขมร) ปี พ.ศ.๒๑๒๑
เด็ดขาด และรักษาวินัยทัพ “เป็นผู้นำ นำหน้าลุย” ภัยจากเจ้านายของตน หลบมาอาศัยเขาอยู่หลบภัย
งานยากทำเอง พระยาจีนจันตุอยู่สุขสบายมาประมาณ ๑ ปี พอทราบ
- ใช้กองโจร รุกเร็ว ถอยเร็ว ก่อกวนมิให้ข้าศึก ว่าพระยาละแวกเจ้านายตนไม่เอาโทษ จึงพาครอบครัวและ
อยู่เป็นสุขสบาย ทั้งบริเวณหลังแนวข้าศึกและตัดการส่ง พรรคพวกลงเรือสำเภาหลบหนีออกจากกรุงศรีอยุธยา
กำลังบำรุง เมื่อวันอาทิตย์ขึ้น ๔ ค่ำ เดือนยี่ ปีเถาะ พ.ศ.๒๑๒๒
เวลาประมาณ ๒ นาฬิกา มุ่งออกไปทางปากแม่น้ำ
เปิดตัวผู้นำสองพี่น้อง เจ้าพระยา จะหลบกลับไปเมืองละแวก สมเด็จ
ปีเถาะ พ.ศ.๒๑๒๒ ขณะที่สมเด็จพระนเรศวรได้ พระนเรศวรทราบ จึงให้จัดกองทัพเรือพร้อมด้วยสมเด็จ
เสด็จลงมาเฝ้าสมเด็จพระราชบิดาอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา พระเอกาทศรถ ยกติดตามเรือสำเภาของพระยาจีนจันตุ
พระยาจีนจันตุ ขุนนางเขมรเมืองละแวกเชื้อสายจีน ในเวลาคืนนั้นเอง ครั้นกองเรือไล่ทันเรือสำเภาของพระยา
ที่หลบราชภัยมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารสมเด็จ จีนจันตุ พระองค์จึงใช้เรือประตู เรือกัน เรือรบทั้งหลาย
พระมหาธรรมราชา อยู่ที่กรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๑๒๑ เข้าล้อมเรือสำเภา มีการสู้รบกันด้วยปืนไฟอย่างดุเดือด
หลังจากรับอาสาเจ้านายพระยาละแวก ยกทัพเรือมาตี เรือสำเภาพยายามออกไปกลางแม่น้ำ ทำการรบ
เมืองเพชรบุรี โดยให้ทัณฑ์บนต่อพระยาละแวกไว้ว่า พรางถอยพราง สมเด็จพระนเรศวรใช้เรือรบพยายาม
ถ้าตีเอาเมืองเพชรบุรีไม่ได้จะถวายชีวิต ครั้นตีเมือง เทียบท้ายเรือใหญ่เพื่อปืนขึ้นเรือ แต่ไม่สำเร็จ ทรงนำเรือ
เพชรบุรีไม่ได้จริง ๆ กลับกลัวตายพาครอบครัวหนีมา พระที่นั่งเข้าใกล้เรือสำเภา เสด็จยืนทรงพระแสงปืนนกสับ
กรุงศรีอยุธยา ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารสมเด็จ ยิงถูกจีนผู้ใหญ่ตายถึง ๓ คน และไม่เลี่ยงหลีกกระสุน
พระมหาธรรมราชา หลบราชภัยจากเจ้านายของตนเอง ที่ฝ่ายพระยาจีนจันตุ ยิงโต้ตอบกลับมา จนถูกราง
แปลกดีนะ ยกทัพมาตีบ้านเมืองเขา พอตีไม่ได้กลับกลัว พระแสงปืนต้นแตก แต่พระองค์ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด



นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๓ กรกฏาคม ๒๕๕๔ ๐43

สมเด็จพระเอกาทศรถเห็นสมเด็จพระเชษฐากล้านัก ชนิดเรียกว่า “ชนะใจ” ลูกน้องได้ทุกคน อีกประการหนึ่ง
เกรงจะเป็นอันตรายจึงเร่งให้เรือพระที่นั่ง เข้าบังเรือ ได้เห็นความรักใคร่ของพี่น้องสองพระองค์ พระองค์ขาว
พระที่นั่งสมเด็จพระนเรศวร พระยาจีนจันตุได้ต่อสู้อย่าง ที่มีต่อพระองค์ดำผู้พี่ ชนิดที่กล้าเอาตัวเข้าบังยอมเสี่ยง
สุดความสามารถ ฝ่ายไทยไม่สามารถปีนขึ้นเรือสำเภาได้ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้พี่ การกระทำของสมเด็จพระ
พอเรือสำเภาออกไปพ้นปากแม่น้ำเจ้าพระยาสู่ทะเลลึก เอกาทศรถเช่นนี้ ย่อมประทับใจทั้งสมเด็จพระนเรศวรผู้พี่
เรือใบกินลมแล่นห่างออกไป เรือเล็กออกทะเลลึกไม่ได้ และทหารอยุธยาทุกคน เมื่อเห็นว่าน้องรักเคารพพี่เช่นนี้
สมเด็จพระนเรศวรจึงต้องเลิกทัพกลับคืนกรุงศรีอยุธยา ขวัญกำลังใจของกองทัพอยุธยาภายใต้การนำของทั้งสอง
สงครามย่อย ๆ ในคืนวันนั้น ทหารอยุธยาเมืองหลวง พระองค์จึงมีสูงมาก ถือได้ว่าพระยาจีนจันตุช่วยเปิดตัว
ได้เห็นความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวของสมเด็จพระนเรศวร ผู้นำกู้ชาติ ผู้สามารถทั้งสองพระองค์ของไทยให้ชาวอยุธยา
ที่ทรงออกนำทัพสู้ศึกเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารทุกคน ได้เห็นได้ทราบ เป็นผลดีต่อการกู้ชาติอย่างยิ่ง ชาวอยุธยา
กล้าเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเหมือนทหารทุกคน จึงได้รับการยอมรับ เริ่มมีขวัญกำลังใจดีขึ้น เพราะเขามีผู้นำที่สามารถฝาก
นับถือจากทหารอยุธยาเมืองหลวงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความหวังไว้ได้แล้ว กรุงศรีอยุธยาจะต้องเป็นเอกราช









ข่าวประชาสัมพันธ์

เกี่ยวกับ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดตั้งขึ้น

ตาม พรบ. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.๒๕๓๙
เพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำเหน็จบำนาญและประโยชน์
ตอบแทนการรับราชการแก่ข้าราชการเมื่อออกจากราชการ
ส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก และจัดสวัสดิการและสิทธิ

ประโยชน์อื่นให้แก่สมาชิก กบข. มีสถานะเป็นองค์กรของรัฐจัดตั้งขึ้น
ตามกฎหมายเฉพาะไม่มีสถานะเป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
มีคระกรรมการ กบข. เป็นผู้กำหนดนโยบาย ปัจจุบัน กบข.
มีสมาชิก ๑.๒ ล้านคน มูลค่าสินทรัพย์สุทธิประมาณ ๔๙๕,๐๐๐

ล้านบาท
ทั้งนี้สมาชิก กบข. ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียด
เพิ่มเติ่มได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข. โทร ๑๑๗๙ กด ๖
หรือเว็บไซต์ กบข. www.gpf.or.th
















๐44 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๓ กรกฏาคม ๒๕๕๔

บทความ

นานาวิกาสารา ๕๔๒






พลเรือโท พัน รักษ์แก้ว


สาราหนึ่ง บทเรียนภาวะผู้นำที่ชิลี
วันที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๓ และติดตั้งการสื่อสารไม่ยากนัก แต่การขุดเจาะรูช่องทาง
เหมืองทองแดงและทองซานโจเซในชิลีใกล้ ผ่านพื้นที่แข็งแกร่งบริเวณนั้นด้วยเครื่องมือที่มีอยู่
เมืองโคปิอาโปถล่ม ทำให้คนงานเหมือง ๓๓ คน จะใช้เวลาถึง ๔ เดือนหรือถึงคริสต์มาสปลายปี
ติดอยู่ใต้พื้นดินลึก ๖๒๕ เมตร โดยข้างบนไม่รู้ว่า จึงอาจช่วยคนขึ้นมาได้หรือช้ากว่านั้นหากชั้นใต้ดินลึก
คนงานเป็นตายอย่างไร เป็นอุปสรรคยิ่งขึ้น ปิเนราขอความช่วยเหลือจาก
คนงานติดอยู่ในหลืบใต้ดินเหมือนห้องโถงโดย นานาประเทศโดยไม่กลัวเสียหน้าด้วยความคิดพื้นฐาน
พบว่า มีอาหารและน้ำพอเพียง ๒ วัน อากาศ มีจำกัด ว่าขุดเจาะเป็นรูใหญ่ แล้ววางท่อสู่แหล่งคนงานและสร้าง
แสงสว่างมีเพียงแสงจากหมวกที่มีติดตัว แต่ภาวะผู้นำ กระสวยชักขึ้นลงในท่อให้คนขึ้นมาได้ทีละคนปิเนรา
เกิดขึ้นในภาวะสุดอันตรายนั้น ขอให้สหรัฐอเมริกาส่งเครื่องขุดเจาะหนักสุดเป็นระยะทาง
คนสำคัญ ๔ คนใน ๓๓ คน สร้างภาวะผู้นำจนรอด ๘,๐๐๐ กิโลเมตร ไปยังแหล่งขุดเจาะเพื่อเร่งงาน
ปลอดภัยทุกคนอย่างเหลือเชื่อ โชคดีที่หัวหน้ากะ แม้ช่างวิศวกรโลหะช่างไทย ๒ คน ก็ยังได้รับเชิญ
คนงานเหมืองชุดนี้ คือ อูร์ซัวอา (Luis Alberto ร่วมงานสร้างแคปซูลสำหรับชักคใต้ดินสู่พื้นโลก วันที่ ๑๓
Urzua) วัย ๕๔ ปี ที่รู้ซึ้งถึงสถานการณ์อันเลวร้าย ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๓ คนงานคนแรกก็ออกจากแคปซูล
และความยากลำบาก ในการกู้ภัยที่อาจสำเร็จอย่าง เข้าสู่อ้อมกอดของประธานาธิบดีที่อยู่ต้อนรับ
เลือนลาง เขาประชุมคนให้ตระหนักในสภาพการณ์ คนงานทุกคนเป็นเวลา ๒๔ ชั่วโมงซึ่งคนงานคนสุดท้าย
ความขาดแคลนต่าง ๆ บอกความมุ่งมั่นที่จะอยู่รอด ที่ขึ้นสู่พื้นดินก็คืออูร์ซัวอา
ด้วยกัน เขานำคนอีก ๓ คนสำรวจพื้นที่และทำแผนที่ ผลงานช่วยชีวิตคนงานเหมืองทำให้ฐานะทาง
เพื่อการพักพิง และประโยชน์ต่อการช่วยเหลือที่อาจเกิดขึ้น การเมืองของปิเนรามั่นคงขึ้น เพราะเศรษฐกิจชิลี
บาริโอส์ (Yonni Barrios) วัย ๕๐ ปี ทำหน้าที่การแพทย ์ กำลังตกต่ำ คนชิลีที่บ่นกันมากก็บ่นกันน้อยลงปลายเดือน
ฉีดวัคซีน ดูแลสุขภาพและติดต่อเรื่องนี้กับข้างบน ตุลาคม ปิเนราไปอังกฤษตามคำเชิญซึ่งได้ไปชมห้อง
มาริโอโกเมซ (Mario Gomez) วัย ๖๓ ปี กลายเป็น บัญชาการใต้ดินของเชอร์ชิลในบัญชาการสู่สงครามโลก
ผู้นำทางจิตขวัญกำลังใจ เขาจัดให้มีสถานที่เคารพบูชา กับฮิตเลอร์ปิเนรากล่าวคล้ายเชอร์ชิลว่า “คนจำนวนมาก
สงบจิตใจและสวดขอพรกับติดต่อสภาพจิตวิทยา ไม่คิดว่าเราทำได้” เป็นการแน่นอนว่า งานเหลือเชื่อ
กับข้างบน และ เซปัลเวดา (Mario Sepulnvda) วัย ๔๐ ปี ที่ชิลีครั้งนี้สำเร็จได้เพราะภาวะผู้นำทั้งใต้ดินและบนดิน
ผู้ทำหน้าที่ถ่ายวิดีโอให้ข้างบนรู้สภาพข้างล่างตลอดเวลา ย้อนหลังไป ๑๐ ปี ในเดือน สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๓
หลังจากบนกับล่างติดต่อกันได้ เรือดำน้ำนิวเคลียร์ รุ่นใหม่ขนาดหมื่นกว่าตันชื่อ Kursk
จากอาหารและน้ำที่ปกติกินได้ ๒ วัน คนใต้ดินปันส่วน ของทหารเรือรัสเซียจมลงในทะเลเบเรนต์ลึกราว ๓๐๐ ฟุต
ปลาทูน่า ๑ ช้อนชา และนมครึ่งแก้ว ต่อคนต่อ ๔๘ ชั่วโมง ที่ผิวน้ำเป็นน้ำแข็งในขณะฝึกกับกองเรือสันนิษฐานว่า
ทำให้มีกินได้ยืดเยื้อถึง ๑๗ วัน รวมทั้งเคลื่อนไหวร่างกาย เกิดจากการระเบิดภายในเรือมีคน ๓๓ คนรอดชีวิต
น้อยเพื่อสงวนอากาศ วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๓ หนีไปอยู่ห้องที่ ๙ ส่วนท้ายเรือโดยได้ส่งสัญญาณ
ด้วยประสบการณ์และเทคโนโลยีที่มีทำให้รู้ว่าคนใต้ดิน ให้คนข้างบนทราบทหารเรือรัสเซียไม่มียานกู้ภัย
ยังมีชีวิตอยู่ ประธานาธิบดี ปิเนรา (Sebastian Pinera) เรือดำน้ำใช้กับสถานการณ์นั้น ในขณะที่ทางนอร์เวย์
แม้เห็นความสำเร็จไม่แน่นอนประกาศ “กู้ ๓๓ ชีวิตให้ได้ และอังกฤษเสนอส่งยานกู้ภัยทางอากาศมาช่วยเหลือ แต่
What ever it look” การขุดรูเจาะส่งอาหาร น้ำ ยา อากาศ “น่าจะเป็นเพราะเกรงว่าฝ่ายตะวันตกจะรู้ความลับ


นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐45

เกี่ยวกับเรือดำน้ำรัสเซีย รวมทั้งรัสเซียคงเกรงว่า
จะเสียหน้าด้วย” (สยามจดหมายเหตุปีที่ ๒๕ ฉบับที่ ๓๗)
จึงปฏิเสธความช่วยเหลือ
ขณะเกิดเหต ประธานาธิบดีรัสเซีย นายปูติน พักร้อน

อยู่ริมทะเลดำแถลงว่า “การขอให้ฝ่ายตะวันตกมาช่วย
ชีวิตลูกเรือคูร์สก ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์
ได้แต่อย่างใด” (คำแถลงหลังรู้ว่ารัสเซียไม่อาจช่วยชีวิต
ลูกเรือ และกู้เรือได้) ทั้งชาวรัสเซียและทั่วโลกต่างสวด
ภาวะผู้นำของปูติน ซึ่งในภายหลังได้พบจดหมายของ
เรือโท ดมิทร นิคอฟ เขียนไว้ติดตัวขณะมีชีวิตอยู่
ในเรือว่า “หลังตอร์ปิโด หัวเรือระเบิดสองครั้ง ลูกเรือ
๒๓ คน ตอนกลางลำเรือหนีภัยไปอยู่ห้องที่ ๙ ส่วนท้ายเรือ ผู้นำบนดินพบผู้นำใต้ดิน
ยังมีชีวิตนานกว่า ๒๔ ชั่วโมงแล้ว”
ภาวะผู้นำที่ชิลีกับที่รัสเซียแตกต่างกันสิ้นเชิง สาราสอง สองเราสองเนลสัน
ทั้งผู้นำที่อยู่บนดินบนน้ำและผู้นำที่อยู่ใต้ดินใต้น้ำ ทหารเรือทั่วโลกรู้เรื่องของนายพลเรือเนลสัน
ตำราหนึ่งว่าภาวะผู้นำเป็นพรสวรรค์ตั้งแต่เกิดใน วีรบุรุษทหารเรืออังกฤษ (Vice Admiral of the White
ขณะที่อีกตำราว่าฝึกฝนภาวะผู้นำได้อย่างไรก็ตาม Horatio Viscount Nelson & Bronte) กันไม่มากก็น้อย
ไม่ว่าคนระดับประธานาธิบดีหรือนายพล หัวหน้าช่าง และคนทั่วโลกก็รู้เรื่องของอีกเนลสันวีรบุรุษแห่ง
หรือจ่าเรือก็มีโอกาสแสดงภาวะผู้นำได้ตามสถานการณ์ อาฟริกาใต้ Nelson Mandela ผู้กลายเป็นสัญลักษณ์
ผู้รู้ผู้หนึ่งวางประเภทของผู้นำไว้ว่า ของอิสรภาพสากลของโลก
๑. ผู้นำแบบคนขับรถไฟ (ทำงานตามระบบที่วางไว้ นายพลเรือ เนลสัน เริ่มเป็นทหารเรืออังกฤษ
ไม่สร้างสรรค์) ในปี ค.ศ.๑๗๗๐ ที่ได้ผ่านการรบทางเรือมาหลายครั้ง
๒. ผู้นำแบบนายแพทย์ (มีปัญหาจึงลุกขึ้นมานำ) ในการรบที่แหลมเซนต์ วินเซนต์ ค.ศ.๑๗๙๗
๓. ผู้นำแบบชาวนา (นำเฉพาะที่รอให้มีคำสั่ง จาก นายพลเรือจัตวา เนลสัน ได้นำหมวดเรือของเขา
หน่วยเหนือ) ในกองเรือในบังคับบัญชาของนายพล เจอร์วิซ ตัดกระบวน
๔. ผู้นำแบบชาวประมง (กล้าคิด กล้าทำ กล้านำ เรือข้าศึกสเปนจนจับยึดเรือสเปนได้สองลำซึ่งท่าน
กล้ารับผิดชอบ ) ได้เลื่อนยศเป็นพลเรือตรีตั้งแต่อายุน้อยกว่า ๔๐ ปี


ลูกเรือคูร์สกบนเรือวันออกเดินทางไปฝึก

























๐46 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

นายพลเรือ เนลสัน เนลสัน แมนเดลา

ในการยุทธ์ที่คาร์ดิซในเวลาต่อมา เนลสันบาดเจ็บสาหัส ได้รับการจัดสร้างเป็นอนุสรณ์สถานของวีรบุรุษ
และเสียดวงตาข้างขวาไป นายพลเรือผู้ยืนสูงกลางจัตุรัสหันหน้าไปทางช่องแคบ
ในการยุทธ์ที่โคเปนเฮเกน ค.ศ.๑๘๐๑ หมวดเรือ อังกฤษทุกวันนี้ ส่วนอีกเนลสันเป็นชายผิวดำวัย ๙๐ ปี
ของ เนลสันอยู่ในบังคับบัญชาของผู้บัญชาการกองเรือ ผู้มีคู่ทุกข์คู่ยากคนที่สาม Graca Machel ในปัจจุบัน
นายพล ไฮด์ ปาร์เกอร์ ต่อสู้กับกองเรือของ เดนมาร์ก เมื่อเกือบ ๕๐ ปีก่อน เนลสัน แมนเดลา ถูกศาล จำคุก
ที่ป้องกัน กรุงโคเปนเฮเกนอย่างเหนียวแน่น นายพล ตลอดชีวิตในโทษฐานวางแผนก่อสงครามกองโจรต่อต้าน
ปาร์เกอร์ เกรงว่าหมวดเรือของเนลสันจะถูกล้อมกรอบ รัฐบาล ชาวผิวขาวของแอฟริกาใต้ ภายใต้การกดดัน
จึงส่งสัญญานให้เนลสันถอยจากการสู้รบ แต่เนลสัน ของนานาชาติเขาได้รับการปล่อยตัวเมื่อมีอายุ ๗๒ ปี
ได้เอากล้องตาเดียว ขึ้นส่องที่ตาข้างที่บอดอยู่แล้วก็บอก หลังจากอยู่ในเรือนจำ ๒๗ ปี และได้เป็นประธานาธิบดี
กับนายธงว่า - ไม่เห็นสัญญาณอะไร “You know, I really แห่งแอฟริกาใต้ เมื่อรัฐบาลชาวผิวขาวแบ่งแยกผิวต้อง
do not see the signal” และรุกไล่กองเรือเดนมาร์ก สละอำนาจไปตามสถานการณ์
จนข้าศึกถอยหนีเข้าท่าเรือของตนไป ในวัยหนุ่ม เนลสัน ชอบกีฬาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การยุทธ์ครั้งสุดท้ายของเนลสันเกิดขึ้นนอกแหลม การชกมวย ได้รับการศึกษาในโรงเรียนชั้นดีของแอฟริกาใต้
ทราฟัลการ์ ใน ค.ศ.๑๘๐๕ กองทัพเรือของเนลสัน และเรียนทางไปรษณีย์ จากมหาวิทยาลัยในลอนดอน
มีเรือใบประจัญบาน (Ships of the Line) ๒๗ ลำ ปะทะกับ ระหว่างการถูกกุมขัง เนลสัน เข้าร่วมขบวนการปฏิวัติ
กองเรือผสมฝรั่งเศสกับสเปน ๓๓ ลำ ที่หากกองเรือ ด้วยการเดินสายหาทุนปฏิวัติ จากต่างประเทศ เมื่ออายุ
อังกฤษพ่ายแพ้ กองทัพของนโปเลียนแห่งฝรั่งเศสก็อาจ ๔๐ ปี เนลสันตั้งใจฝึกทหารในเอธิโอเปียเป็นเวลา ๖ เดือน
ข้ามช่องแคบอังกฤษไปเหยียบย่ำเกาะอังกฤษได้ ด้วยจิตใจ แต่ฝึกได้เดือนเดียวก็ถูกพรรคพวกเรียกกลับบ้าน
และยุทธวิธีรบรุก กองเรือผสมแตกพ่ายยับเยิน แต่เนลสัน เพื่อแก้ปัญหาขัดแย้งกับกลุ่มก่อการอื่นโดยเฉพาะ
ก็บาดเจ็บและตายในเรือธง Victory ที่ปัจจุบันเก็บ รักษาไว้ อย่างยิ่ง กลุ่มคอมมิวนิสต์ชาวอเมริกาใต้จนกระทั่งถูกจับ
ในพิพิธภัณฑ์สถานเมืองพอร์ทสมัธ อังกฤษถือว่า การยุทธ์ แล้วคิดว่าจะถูกแขวนคอแทนการจำคุก ระหว่างเป็น
ที่ทราฟัลการ์ นอกจากประเทศชาติปลอดภัยแล้ว ยังเป็น ประธานาธิบดีเขาได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพ Nobel
จุดเริ่มต้นการเป็นทหารเรือที่ยิ่งใหญ่ของโลกและเกิด Peace Prize ร่วมกับนายกรัฐมนตรีผิวขาว F.W.de
จักรภพอังกฤษที่ดวงอาทิตย์ไม่ตกดินเลยบนจักรภพ Klerk ผู้มีส่วนร่วมในการสลายอำนาจรัฐบาลแบ่งแยกผิว
จัตุรัสทราฟัลการ์และอนุสาวรีย์เนลสันกลางกรุงลอนดอน แมนเดลา มีชื่อเดิมว่า Rolihdahla แปลได้ว่า


นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๐47


Click to View FlipBook Version