The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เรื่องเล่าชาวเรือ สิงหาคม ๒๕๕๗ - ปัจจุบัน

พลเรือเอก ไพศาล นภสินธุวงศ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นาวิกศาสตร์, 2021-12-15 22:46:12

เรื่องเล่าชาวเรือ สิงหาคม ๒๕๕๗ - ปัจจุบัน

เรื่องเล่าชาวเรือ สิงหาคม ๒๕๕๗ - ปัจจุบัน

พลเรือเอก ไพศาล นภสินธุวงศ์

เรือยอชท์ของประธานาธิบดี

สหรัฐอเมริกา (Presidential Yachts)





ทำเนียบขาวลอยน้ำ/เรือยอชท์ของประธานาธิบดี ต่อมาเปลี่ยนไปใช้เรือ USS Potomac ซึ่งมีการต่อเติม
สหรัฐอเมริกา เริ่มมีตั้งแต่ คริสต์ศักราชที่ ๑๘ ก่อน ติดตั้งลิฟต์สำหรับการขึ้นลงระหว่างดาดฟ้า เนื่องจาก

AIR FORCE ONE นับศตวรรษ ประธานาธิบดใช้เรือดังกล่าว เขานั่งรถเข็น FDR เคยใช้เรือเจรจากับนายกรัฐมนตรี
เพื่อการพักผ่อนและต้อนรับแขกสำคัญชาวต่างชาติรวมแล้ว Churchill ของอังกฤษ แต่ส่วนใหญ่เขาใช้สำหรับการพักผ่อน
มีเกือบ ๑๐ ลำ ตั้งแต่ ค.ศ.๑๘๘๐ ถึง ค.ศ.๑๙๗๗ ลำสุดท้าย
ได้ขายทอดตลาดไปเมื่อปี ค.ศ.๑๙๗๗ บทบาทสำคัญ
ของเรือเหล่านั้นเช่น ประชุมสุดยอดทางการทูตระหว่าง
ประเทศ สังสรรค์และสันทนาการในแม่น้ำ Potomac
นอกจากนั้นยังใช้เป็นที่หลบหนีความวุ่นวายจากทำเนียบขาว

ซึ่งดีกว่าไปพักผ่อนที่แคมป์เดวิด


ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน กล่าวกันว่าเป็นคน
ที่ชื่นชอบ USS Sequoia มากที่สุด เขาใช้มันราวเกือบร้อยครั้ง
ใช้เจรจากับประธานาธิบดี Brezhnev ของโซเวียต
ในการเจรจาตกลงอาวุธนิวเคลียร์ (SALT 1) เขาเคยใช้
เป็นที่หลบภัยจากกรณีวอเตอร์เกต เที่ยวสุดท้ายของเขา

ในการใช้เรือ เดือนสิงหาคม ค.ศ. ๑๙๗๗ เขาได้ประกาศ
Air Force One : 8 Fascinating กับครอบครัวบนเรือว่าจะลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบด ี
เรือยอชท์ยุคใหม่เริ่มใช้ตอนต้นศตวรรษที่ ๒๐ คือ สหรัฐอเมริกา
เรอ USS Mayflower กล่าวกันว่าเป็นเรือค่อนข้างหรู ยุคของเรือยอชท์ของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

แต่เป็นเรือมือสองมีโต๊ะดินเนอร์สำหรับแขก ๓๐ คน จบลงเมื่อปี ค.ศ. ๑๙๗๗ โดยประธานาธิบดี Carter ได้ขาย
อ่างอาบน้ำทำจากหินอ่อนอิตาลี มีลูกเรือถึง ๑๕๐ คน USS Sequoia ให้แก่เอกชนเนื่องจากต้องเสียค่าดูแล
ที่มีชื่อเสียงพอ ๆ กับ USS Mayflower คือ USS Sylph สูงถึงปีละ ๒๕๐,๐๐๐ เหรียญ และเขาได้เคยประกาศ
เรือลำนี้ประธานาธิบดี ธีโอดอร์ รูสเวลท์ ใช้เป็นสถานที่ ขณะหาเสียงก่อนเลือกตั้งว่าจะตัดค่าใช้จ่ายของทำเนียบ
เจรจาให้เกิดสันติภาพระหว่างสงครามญี่ปุ่น – รัสเซีย ประธานาธิบดี นั่นคือทำเนียบขาวลอยน้ำหรือเรือยอชท์

จนทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลในเวลาต่อมา ประธานาธิบด ี ของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันคงเป็นเพียง
Franklin D. Roosevelt ตอนแรกเช่าเรือ USS Sequoia แค่ตำนานเท่านั้น











�������� ����������������� �.�.62.indd 1 1/29/19 3:20:57 PM


WINSTON CHURCHILL


ดูหมิ่นราชนาวีอังกฤษ


























พล.ร.ท.Peter Gretton กล่าวว่า Churchill กล่าวกันว่าเขาพูดประโยคนี้ หลังจากที่เขา
ได้สั่งให้ราชนาวีเปลี่ยนจากเรือที่ใช้ถ่านหิน ดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงทหารเรือ (First Lord
เป็นการใช้น้ำมัน ให้เก็บเรือเก่าให้อยู่ในสภาพดี of Admiralty) จากพยานที่ได้ยินได้ฟังกล่าวว่าเขาม ี
(mothballing) แล้วสร้างเรือขนาดเล็ก ความเร็วสูง ปัญหากับบรรดานายพลเรือในการประชุม
ทหารเรือคนหนึ่งบอกเขาว่าเขากำลังทำลายประเพณี ยุทธศาสตร์ทางเรือ นายพลเรือคนหนึ่งกล่าวว่าเขามี
ทหารเรืออังกฤษ เขาโกรธจึงได้กล่าวประโยคที่ quote ความคิดขัดแย้งกับประเพณีทหารเรือ ซึ่งเขาโกรธ

ต่อมาเขาบอกกับคนสนิทของเขาว่าเขาไม่ได้พูด แลวกล่าวว่า“ไม่ต้องมาพูดกับข้าพเจ้าเรื่อง

แต่ในความเป็นจริงเขาอยากพูดเช่นนั้นเหมือนกัน ประเพณีทหารเรอ เพราะมแตเหลารม การรวมเพศ






Churchill จบจาก โรงเรียนนายร้อย Sandhurst แบบวิตถาร และการโบย (lash)”
ซึ่งมาเอาดีทางการเมือง ชอบล้วงลูกในกิจการ แม้ Churchill จะปฏิเสธ แต่คนส่วนใหญ่
ของทหารเรือ ค่อนข้างเชื่อว่าเขาพูดจริง คงเข้าทำนองที่ Bill Murry
หากทหารเรือยอมตาม Churchill ผลการรบที่ กล่าวว่า “เมื่อเราโกหกรัฐบาลมันเป็นการกระทำ
Jutland จะทำให้ Grand Fleet ของอังกฤษเพลี่ยงพล้ำ ที่ผิดกฎหมายร้ายแรง แต่ถ้าพวกเขาโกหกเรามันคือ
ทางยุทธวิธีต่อ Hoch See Flotte ของเยอรมัน นโยบายการเมือง”
หนักเข้าไปอีก
Quote ของ Winston Churchill นี้ ปรากฎอยู่ใน
Oxford Dictionary Of Quotations





นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๑ ๘๗




����������������� ��.�.61.indd 1 5/8/18 1:42:23 PM


ทำไมนาวิกโยธินอังกฤษเรียกว่า BOOT NECK


และของสหรัฐอเมริกาเรียก LEATHER NECK















ข้ามสระน้ำไปยังอีกฝั่ง (ในราชนาวีอังกฤษเรียก
มหาสมุทรแอตแลนติกเล่น ๆ ว่า POND) คือ
สหรัฐอเมริกา US MARINE CORPS มีชื่อเล่นว่า
LEATHER NECK ซึ่งเราคุ้นเคยดี
หน่วยนี้เกิดเมื่อ ค.ศ.๑๗๗๕ หลัง BOOT NECK
กว่าศตวรรษ ในสงครามอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา
ทั้งสองหน่วยเคยสู้รบกัน แต่ต่อมาได้รบเคียงบ่าเคียงไหล่

BOOT NECK (ROYAL) โดยเฉพาะใน WWII
นาวิกโยธินอังกฤษ เกิดขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.๑๖๖๔ มีชื่อ คอเสื้อทรงสูงของ

เล่นว่า ROYALS, BOOT NECK, COMMANDO, JOLLIES นาวิกโยธินสหรัฐอเมริกา
หน้าที่หลักในตอนแรกที่ไปกับเรือรบ (MAN OF WAR) ใช้เพื่อป้องกันการใช้มีดสั้น
คือ คอยให้การอารักขาบรรดานายทหารในเรือ โดยเฉพาะ ปาดคอจากพวกสลัดมุสลิม
การใช้มีดสั้นปาดคอจากกะลาสี ในตอนแรก หากสังเกตชุด
นาวิกโยธินเหล่านี้ใช้หนังสัตว์สีดำพันคอเป็นปก สีน้ำเงินของนาวิกโยธิน
สูงราว ๓ นิ้ว เรียกว่า STOCK จึงกล่าวล้อเลียนว่า ในปัจจุบันจะเห็นว่ายังคง
ตัดมาจากส่วนบนของรองเท้าบูท หรือเรียกกันว่า รักษาของเดิมไว้ LEATHER NECK (US MARINE)

BOOT NECK เป็นที่มาของชื่อเล่นนาวิกโยธินอังกฤษ
การใช้คอเสื้อทรงสูงเป็นที่นิยมเนื่องจากทำให้ ที่มา : https://www.royalnavy.mod.uk/-/media/careers-section-
ผู้ใส่ตัวตรง เก็บคาง บุคลิกดีขึ้น แต่ต่อมาค่อย ๆ redesign/homepage
เสื่อมความนิยมตั้งแต่หลัง NAPOLEAN WAR นาวิก http://www.norwaynews.com/wp-content/uploads/2018/03/
who_1800x1310-350x210.jpg
โยธินอังกฤษยังคงใช้ต่อไปเป็นหน่วยสุดท้าย เลยถูกล้อ https://media.defense.gov/2010/Apr/10/199476/750/422/0/
ว่าเป็น Bootneck 100410-M-2156H-002.jpg





นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ๘๗




����������������� �.�.61.indd 1 5/21/18 2:02:02 PM


ธงขาว White Flag (For truce / surrender)

















ภาพแสดงฝ่ายอังกฤษถือธงขาวยอมจำนนญี่ปุ่น
ที่สิงคโปร์ ค.ศ.๑๙๔๑






ธงขาว หมายถึง การขอพักรบ หรือยอมแพ้หรือ
ทั้งสองกรณี (ยามสงคราม)
- ฝ่ายเสียเปรียบมักใช้ธงขาวเป็นสัญลักษณ์ในการ
ขอเจรจากับฝ่ายตรงข้าม
- บุคคลที่ต้องการเจรจาด้วยนั้นต้องปราศจากอาวุธ
ไม่ว่าจะมาด้วยจุดมุ่งหมายอะไรก็ตาม อนึ่งไม่ควรสับสนกับธงราชนาวีของอังกฤษ ที่เรียกว่า
- ผู้ถือธงขาวได้รับการคุ้มครองอันตรายจากอนุสัญญาเจนีวา White Ensign
- การใช้ธงขาวอาจถือเป็นอาชญากรรมสงครามหากใช ้
แบบสับปลับ (perfidy) เช่น ใช้หลอกลวงฝ่ายตรงข้าม

แล้วโจมตี
กล่าวกันว่าใช้ธงขาวครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ฮั่นของจีน
(พ.ศ.๕๖๘-๗๖๓) แต่นักประวัติศาสตร์กล่าวว่าก่อน
หน้านั้นทหารโรมันแสดงการยอมแพ้ด้วยการชูโล่
เหนือศีรษะ อย่างไรก็ดีใน ค.ศ.๑๐๙๕ Pope Urban ในยุคเรือใบการมอบดาบของ ผบ.เรือ/นายพลเรือ
ที่ ๒ ประกาศให้มีผลในทางปฏิบัติใช้ธงขาวสำหรับ แสดงถึงการยอมจำนน ในภาพ นายพลเรือสเปน
พวกคริสเตียนที่เลือกใช้สีขาว เชื่อกันว่าเป็นสีของ มอบดาบให้เนลสัน หลังจากพ่ายแพ้ในการรบที่

ความบริสุทธิ์ และอาจสัมพันธ์กับผ้าไหมสีขาว Cape St. Vincent
ที่ใช้คลุมจอกศักดิ์สิทธิ์ (Holy Grail) ในงานเลี้ยง
พระกระยาหารมื้อสุดท้าย (The Last Supper)



นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๑ ๘๖




86 ����������������� ��.�.61.indd 1 6/25/18 9:33:25 AM


ชื่อนั้นสำคัญไฉน

















อดอาหารประท้วง Lehman แม้นับถือศาสนาคริสต์
การตั้งชื่อเรือรบของแต่ละชาติมีประเพณีแตกต่างกัน ไม่ยอม ร้อนถึงประธานาธิบดีต้องลงมาประนีประนอม
จะไม่กล่าวถึงรายละเอียด แต่จะเอาเฉพาะเกร็ดที่น่าสนใจ ตกลงกันให้ใช้ชื่อ THE CITY OF CORPUS CHRISTI

บางเรื่องเท่านั้น : ชื่อเรือย่อมผูกพันกับขวัญของประเทศ น่าแปลกที่ยอมรับกันว่า เรือเปรียบเสมือนเพศหญิง
แม้ฝรั่งก็เช่นเดียวกัน (ใช้สรรพนาม she) แต่ชื่อเรือรบส่วนใหญ่เป็นชื่อผู้ชาย
เรือลาดตระเวนสงคราม DEUTSCHLAND เช่น Bismarck Hood Nelson ตากสิน ฯลฯ
ของเยอรมัน (เอาชื่อประเทศมาตั้งชื่อเรือ) Hitler แต่ฝรั่งยังมีชื่อผู้หญิงบ้าง เช่น QUEEN ELIZABETH
กลัวว่าหากเรือลำนี้ถูกทำลายในสงครามจะทำให้ขวัญ ของอังกฤษ หรือ เรือลาดตระเวน Jeanne d’Arc
กำลังใจคนเยอรมันเสีย จึงให้เปลี่ยนชื่อเป็น Lutsow (Joan of Arc) เป็นต้น
ในปี ค.ศ. ๑๙๔๐











สมัยที่ Churchill เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ในกองทัพเรือไทยยังไม่เคยมี เรือดำน้ำ ๓ ลำ
ทหารเรืออังกฤษ (First Lord of Admiralty) เขาต้องการ ที่จะมีในอนาคตอันใกล้น่าจะนำไปประกอบการ
ให้ตั้งชื่อเรือประจัญบานใหม่ว่า Cromwell ตามชื่อ พิจารณาในการตั้งชื่อเรือ วีรสตรีไทยใช่ว่าไม่มี
ของผู้ปฏิวัติและสำเร็จโทษพระเจ้า Charles ที่ ๑ ในปี
ค.ศ. ๑๖๔๙ แต่พระเจ้า Edward ที่ ๗ ไม่อนุญาต

ในสมัยรัฐบาล Reagan รัฐมนตรี ทบวง ทหารเรือ
John Lehman ต้องการตั้งชื่อเรือดำน้ำโจมตี (SSN)
ลำหนึ่งว่า CORPUS CHRISTI (ร่างของพระเยซู)
โบสถ์คาธอลิคทั่วสหรัฐอเมริการวมทั้งพลเมืองหลายคน



นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ๘๗


Skyscraper ตึกระฟ้า







หรือริบใบทันที มิฉะนัั้นจะเกิดอันตรายถึงกับล่มได้
การริบใบในท่ามกลางพายุเป็นงานที่ต้องอาศัยความกล้า
ทักษะและประสบการณ์













ภาพแสดงการริบใบในขณะเจอพายุุ
มีการบันทึกในประวัติศาสตร์ว่า HMS Eurydice
เกือบทุกคนคุ้นเคยกับคำ “Skyscraper” หรือ เมื่อแล่นเรือผ่าน Isle of Wight ทางตอนใต้
“ตึกระฟ้า” คำนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ทศวรรษที่ ๑๙๓๐ ตึกแรก ของอังกฤษในปี ค.ศ.๑๘๗๘ มีผู้ที่อยู่บนสถานียามฝั่ง
ที่ถูกเรียกคือตึก Crysler ในปี ๑๙๓๐ ต่อมาในปี ๑๙๓๑ Bonchurch เห็นเรือลำนี้แล่นด้วยความเร็วสูงมาก
เป็นตึก Empire State สาเหตุที่เมืองใหญ่ ๆ เช่น เนื่องจากเจอพายุอย่างไม่ทันตั้งตัว เรือกางใบเต็มที่

New York , Chicago สร้างตึกระฟ้าเนื่องจากราคา ที่มีอยู่ไม่สามารถเก็บใบได้ทันเวลา ประกอบกับไม่ได้
ที่ดินแพงมาก แต่คงมีน้อยคนนักที่รู้ว่าศัพท์คำนี้ ปิดช่องปืน (gunports) ทั้งน้ำและลมโจมตีทำให้เรือจม
มาจากชาวเรือ ซึ่งเป็นชื่อประเภทของใบเรือ ของเรือใบ จากกำลังพล ๓๖๖ คน รอดชีวิต ๒ คนเท่านั้น
ขนาดใหญ่ ใบดังกล่าวอยู่สูงกว่าใบอื่น ๆ เรียกว่า
ประเภทใบเสียบฟ้า (skysails) เนื่องจากชาวเรือ
เมื่อมองจากดาดฟ้า ดูสูงเสียบฟ้า

ใบเรือที่อยู่สูงเสียบฟ้า
คือ skysail และต่ำลงมาเป็น
royal ใบเหล่านี้เมื่อกางแล้ว
ช่วยทำให้เรือมีความเร็วสูงขึ้น
อย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเรืออยู่ในทะเลหาก HMS Eurydice จมเนื่องจากเจอพายุแล้วเก็บใบไม่ทัน
สภาพอากาศเลวหรือมีพายุ
ใบเรือที่อยู่สูงจะต้องเก็บใบ


WARDROOM



“Discipline begins in the wardroom”
“The wardroom officer is the discipline of the fleet”

Admiral Lord Jervis (St.Vincent)

มีคำที่ชวนสงสัยอยู่ ๒ คำ
๑. Wardroom
๒. Wardroom officer

๑. Wardroom ในตอนต้นศตวรรษที่ ๑๘ นำไปเป็นแบบอย่าง น่าแปลกที่กองทัพเรือไทย
มีห้อง ๆ หนึ่งอยู่ใต้ดาดฟ้าของห้องผู้บังคับการเรือ (great ไม่มีกติกามารยาท ที่เป็นลายลักษณ์อักษร เรือแต่ละลำ
cabin) เรียกว่าห้อง “wardrobe” (ห้องเก็บเสื้อผ้าเครื่อง ต่างปฏิบัติตามที่เคยทำ
ประดับ) แต่ใช้เก็บของมีค่าที่ได้จากการ

ยึดมาจากเรือข้าศึก (prize-ทรัพย์เชลย)
ห้องนี้ติดกับห้องพักของนายทหาร ในช่วง
ขาออกเดินทางห้องนี้จะว่าง บรรดา
นายทหารส่วนใหญ่ยศเรือเอกจึงใช้เป็น
ที่พักผ่อน รับประทานอาหาร เดิม
ใช้ในลักษณะชั่วคราวไม่เป็นทางการ ต่อมา
เมื่อใช้เป็นทางการห้อง wardrobe

ก็กลายเป็น wardroom (ห้องโถงนายทหาร)


๒. Wardroom officer หมายถึง

นายทหารสัญญาบัตรที่มีสิทธิ์ใช้
wardroom
ในกองทัพเรือไทยเราเรียก wardroom ว่าห้องโถง ข้อสังเกต:
นายทหาร ใช้ในลักษณะเดียวกันกับของเรือรบต่างชาติ - ในห้องโถงนายทหารของเรือรบสหรัฐอเมริกา





น่าสังเกตว่าอังกฤษซึ่งเป็นต้นแบบของประเพณี ส่วนใหญ่จะมภาพ “ทำไมเรอจงมสรรพนามเพศหญง”

ชาวเรือ เขามีกติกามารยาทสำหรับ wardroom ติดไว้
(customs and etiquette) แม้กองทัพเรือ - ห้องโถงฯ ยังใช้ประโยชน์อื่น ๆ เช่น การประชุม
สหรัฐอเมริกา แคนาดา และอีกหลายกองทัพเรือ วางแผนการรบ พิจารณาคดีของศาลทหาร ฯลฯ


เรือรบทำการทูตได้ดีที่สุด




























Quotes ของบุคคลทั้งสองมีนัยคล้ายคลึงกัน ในปี ค.ศ.๑๘๕๓ พลเรือจัตวา Perry ของ
Oliver Cromwell เป็นนักการเมือง และทหาร สหรัฐอเมริกา นำกองเรือเปิดประเทศญี่ปุ่น
เคยปฏิวัติในอังกฤษ สำเร็จโทษพระเจ้า Charles ที่ ๑ บางคนอาจคิดว่าการทูตเรือปืน (Gunboat
แต่ครองอำนาจได้ไม่นาน Diplomacy) หมดสมัยแล้วในปัจจุบัน แม้ชื่ออาจ
อีกคน Lord Nelson วีรบุรุษทหารเรืออังกฤษ ไม่ค่อยปรากฏ แต่โดยนัยแล้วมิได้หมดหายไปและ
ที่คนรู้จักกันดี กลับทวีมากขึ้นด้วยซ้ำ เพียงแต่เรียกกันอย่างอื่น
มาตรการต่าง ๆ ก่อนถึงขั้นทำสงคราม (short of war) คือการทูตทางเรือ (Naval Diplomacy) ซึ่งแยกย่อย

เรือรบ (man of war) หรือกองเรือรบ (fleet) เป็น ออกเป็น
ตัวแสดงบทบาทสำคัญ มีตัวอย่างให้เห็นมากมายในอดีต - การปรากฏตัวทางเรือ
ประเทศเราก็เคยโดนการทูตเรือปืนมาแล้วเช่นกัน - การสร้างภาพลักษณ์ทางเรือ
- การใช้กำลังบีบบังคับทางทะเล
- การสร้างพันธมิตร









พล.ร.จ.แมทิว เพอรริ นำเรือรบสหรัฐอเมริกา ปิดอ่าวโตเกียวบังคับให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศ
ฝรั่งเศสใช้ gunboat diplomacy ต่อไทยใน ร.ศ.๑๑๒


ALL ABOVE BOARD

(ตรงไปส่งมา เปิดเผย ชอบด้วยกฎหมาย)



ใช้กลอุบายสกปรกโดยสั่งให้ลูกเรือ ส่วนหนึ่งซ่อนตัว
อยู่ภายใต้ดาดฟ้า (below boards) เพื่อหลอกข้าศึก
ไม่ให้รู้จำนวนที่แท้จริงของลูกเรือของตน
ทฤษฎีใกล้เคียงกันอีกทฤษฎีหนึ่งคือกัปตันเรือโจรสลัด
สั่งให้บรรดาพวกโจรสลัดลูกเรือซ่อนตัวใต้ดาดฟ้าเพื่อ

หลอกให้เรือที่เป็นเหยื่อเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเรื่องปกติ
ที่ไม่เป็นอันตราย
การใช้อุบายลวงเช่นที่กล่าวตกทอดมาถึงสงครามโลก
ครั้งที่ ๑ และที่ ๒ นั่นคือ อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา
ให้เรือพาณิชย์ติดอาวุธอย่างปกติโดยเฉพาะปืน เพื่อ
สำนวนนี้กล่าวกันว่า มีต้นตอมาจากชาวเรือ ใช้ในการโจมตีเรือ u boats ของเยอรมัน เรือพาณิชย์
All Above board ใช้กันแพร่หลายในความหมายว่า ดังกล่าวเรียกว่า Q ship

การเล่นเกมอย่างสุจริตเป็นไปตามกฎกติกา (fair play) อีกทฤษฎีหนึ่งที่เป็นต้นตอของสำนวนนี้แต่
และบ่อยครั้งใช้ในทางธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ซึ่งมิใช่สีดำ แตกต่างออกไป อาจมาจากการเล่นไพ่หรือเล่นเกม
หรือสีเทา









บนโต๊ะซึ่งบรรดาผู้เล่นต้องเอามือทั้งสองขึ้นมาวาง
อยู่เหนือโต๊ะที่ทำด้วยไม้ในสมัยก่อน นั่นคือ above
the table หรือ board เพื่อใช้ป้องกันคนที่จะทำการ

คำว่าบอร์ดมาจากภาษา anglo-saxon ว่า board โกง (shadier practices) ซึ่งอาจทำได้ง่ายหากมือของ
ไม้กระดานที่ใช้ในการสร้างตัวเรือ ดังนั้น all above board เขาอยู่ใต้โต๊ะ
ใช้ในความหมายทุกสิ่งทุกอย่างของเรือที่อยู่บนดาดฟ้านั่น
คือที่สามารถมองเห็นบนดาดฟ้าได้ด้วยสายตา
ต้นตอของสำนวนมาจากการปฏิบัติสมัยยุคเรือใบ
ที่บรรดาผู้บังคับการเรือ ก่อนจะนำเรือเข้าทำการรบ


NAVY ONE คืออะไร





NAVY ONE
คงมีเพียงไม่กี่คนที่คุ้นเคยกับ NAVY ONE แต่
เมื่อกล่าวถึง AIR FORCE ONE คนส่วนใหญ่รู้จักกันดี
เป็นนามเรียกขานอย่างเป็นทางการของเครื่องบิน
ประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ซึ่งมีขนาดใหญ่มีระบบความปลอดภัยชั้นสูงและมีความ

หรหราเป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นถึงความมีอำนาจและ
ตำแหน่งประธานาธิบดี ในปี ค.ศ. ๑๙๙๐ สหรัฐอเมริกา
ได้จัดหาเครื่องบินโบอิ้ง 747-200 B โดยใช้ชื่อว่า Vc-25 a
โดยเครื่องบิน ๒ ลำนี้จะสงวนไว้ใช้กับประธานาธิบดีเท่านั้น
และในปี ค.ศ. ๒๐๑๕ กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ค.ศ. ๒๐๐๓ ส่วนเครื่องบินลำใด
ได้เปิดเผยถึงแผนการเปลี่ยนเครื่องบินประจำตำแหน่ง ที่ใช้ลำเลียง รองประธานาธิบดีเรียกว่า NAVY TWO
ประธานาธิบดีลำใหม่เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 747-8 ปัจจุบันกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาไม่มี NAVY ONE อีกแล้ว
ส่วนนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกายังคงมี MARINE ONE
โดยใช้เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ SEA King หรือ WHITE HAWK
หากลำเลียงรองประธานาธิบดีเรียกว่า Marine TWO













NAVY ONE คืออะไร
NAVY ONE เป็นนามเรียกขานของเครื่องบิน
ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา เคยมีเพียงลำเดียว
เป็นเครื่องบิน S-3 VIKING ซึ่งเคยนำประธานาธิบดี
จอร์จ ดับเบิลยู บุช ไปลงเรือบรรทุกเครื่องบิน
USS Abraham Lincoln จากเมืองซาน ดิเอโก












�������� ����������������� �.�.61.indd 1 12/20/18 11:08:49 AM


Canteen boat





canteen boat หมายถึง เรือรบซึ่งมีผู้บังคับการเรือ

อาวุโสต่ำสุดในกองเรือหรือหมวดเรือเฉพาะกิจนั้น
ดังนั้น จึงเป็นเรือที่ได้รับกิจที่ไม่น่าพึงพอใจนัก ดังสำนวน
ทหารเรือที่ว่า “always first out and last in, then
tied up miles from the run-ashore”
canteen ว่ากันตามตัวอักษรคือโรงอาหาร
ของค่ายทหาร หรือของโรงเรียน มหาวิทยาลัย สำหรับ
ทหารนั้นเป็นประเพณีปฏิบัติที่ผู้อาวุโสต่ำต้องให้บริการแก ่
ผู้อาวุโสกว่า เช่น ซื้ออาหาร บุหรี่ เป็นต้น นั่นคือที่มา
ของ canteen boat ขอนำเสนอเหตุการณ์เพื่อเป็น

กรณีศึกษาในบริบทดังกล่าว
แต่ท่อนท้ายลอยอยู่ได้ซึ่งในเวลาต่อมาเรือ HMS Bahamas
ได้ลากกลับไปซ่อมทำที่ Murmansk จนสามารถ
เดินทางกลับอังกฤษได้ในเวลาต่อมา เหตุการณ์ครั้งนั้น

แสดงว่าระบบการป้องก้นความเสียหายนั้นนับว่า สุดยอด
แม้ลูกเรือส่วนหนึ่งจมน้ำไปกับส่วนหัวแต่ที่เหลือในส่วนท้าย
มีกำลังใจและความพยายามดีมาก ประคองให้ลอยลำอยู่ได้
การสร้างส่วนหัวจำลองขึ้นมาแทนในยามสงครามของ
รัสเซียนับว่ามีขีดความสามารถสูง



HMS Cassandra เป็นเรือพิฆาต C class ของ
ราชนาวีอังกฤษ ได้รับหน้าที่เป็นเรือคุ้มกัน (escort ship)
ให้แก่ convoy RA62 เดินทางจาก Murmansk

ทางตอนเหนือของรัสเซียไปยังท่าเรือในอังกฤษ
เรือลำนี้เป็น canteen boat (อยู่ท้ายกระบวน
ของบรรดาเรือคุ้มกัน) ถูกเรือ U 365 ซึ่งมีเรือเอก Dieter
Todenhagen เป็นผู้บังคับการเรือ ยิงด้วยตอร์ปิโด
ขาดสองท่อนที่บริเวณ Barents sea ท่อนหัวจมน้ำ


SAIL UNDER FALSE COLOURS

เดินเรือโดยใช้ธงเท็จ




Colours ในที่นี้ หมายถึงธงชาติ (flag) เรือฟริเกตสเปน (xebec) El Gamo ซึ่งมีปืน ๓๒ กระบอก
มีลูกเรือจำนวน ๓๑๙ คน ตอนแรกเขาชักธงชาติเดนมาร์ก
เป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวเรือที่เรือทุกลำในทะเล และให้นายทหารแต่งเครื่องแบบนายทหารเรือเดนมาร์ก
ต้องชักธงชาติเพื่อแสดงให้เรือลำอื่นได้รับรู้ แต่การชักธงชาติ เขานำเรือเข้าไปใกล้เรือ El Gamo แต่ได้แล่นเลยออกไป
ก็เป็นเล่ห์เหลี่ยมอย่างหนึ่งแบบคลาสสิคของชาวเรือ และหวนกลับมาอีกราว ๓ วันต่อมา เรือสเปนไม่ได้สงสัย
เช่นกัน การชักธงเท็จ เป็นการหลอกให้เรือที่เป็นศัตรูติดกับ เจตนาที่แท้จริงของ Cochran ซึ่งนำเรือเข้าไปประชิด
หรือ เข้าไปใกล้เรือลำนั้นโดยไม่มีความเคลือบแคลงใจ แล้วเปิดการยิงโดยข้าศึกไม่ทันตั้งตัว เขานำเรือเข้าเทียบ
วิธีการนี้เป็นที่นิยมของเรือโจรสลัด เรือ privateer แล้วยึดเรือได้โดยไม่ยากนัก กล่าวกันว่าปฏิบัติการครั้งนั้น

(เรือเอกชนที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลให้จับกุมเรือข้าศึกได้) เป็นการกระทำที่กล้าหาญ (derring-do) ที่สุดครั้งหนึ่ง
และเป็นที่ยอมรับกันว่าเรือสามารถชักธงเท็จได้ แต่ต้อง ซึ่งมีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ทางเรือ และนั่นคือ
ชักลง และแทนที่ด้วยธงชาติจริงของเรือนั้นก่อนทำการยิง ที่มาของ Sail Under False Colours
หรือโจมตี









สำนวนนี้เมื่อนำมาใช้บนบกจึงมีความหมายว่า
ปลอมตัว หรือแสร้งทำเป็นการกระทำเพื่อลวงบุคคลอื่น
นายทหารเรืออังกฤษ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในการใช้ หรือซ่อนเจตนาที่แท้จริงของตนไว้ เช่นประโยคที่ว่า
ธงเท็จ คือ Lord Thomas Cochran เขาเป็นกัปตันเรือ “You are not whom you seem to be, you are sailing

ที่กล้าหาญที่สุดคนหนึ่งในยุคสงคราม นโปเลียน under false colours.” สวนสำนวนที่สืบเนื่องกับข้างต้น
เป็นผู้บังคับการเรือ HMS. Speedy ซึ่งเป็นเรือ brig คือ True Colour ตามที่ได้กล่าวนั้น หมายถึงเปิดเผยตัวตน
(เรือใบ สองเสาขึงตามขวาง) มีปืน ๑๔ กระบอก ลูกเรือ ที่แท้จริง เผยสิ่งที่เป็นจริงออกมา หรือเปิดเผยธาตุแท้
๕๔ คน ในเดือนพฤษภาคม คริสตศักราช ๑๘๐๑ เขาเจอ ออกมา


NAIL ONE’S COLOURS TO THE MAST


ตอกตะปูตรึงธงชาติ ไว้ที่เสาเรือ




เดือนที่แล้วได้นำเสนอเกี่ยวกับการเดินเรือโดยใช้ธงเท็จ (sail under false colours) เพื่อหลอกศัตรู
หรือเรือเป้าหมาย ให้เข้าใจผิด

ในการปะทะกันทางเรือในสมัยยุคเรือใบ เมื่อ
ผู้บังคับการเรือรู้ว่าเรือของเขาไม่อยู่ในสภาพ
ที่ป้องกันตัวเองได้ การยอมจำนนเป็นหนทางเดียว
ที่จะรักษาชีวิตของลูกเรือไว้ เขาใช้วิธีส่งสัญญาณ
บอกเจตจำนงการยอมจำนนด้วยการลดธงชาติลง
เมื่อข้าศึกเห็นสัญญาณดังกล่าว โดยปกติจะหยุด

การระดมยิงเข้าใส่แล้วจัดการควบคุมเรือที่ยอมจำนน
แต่ในการปะทะกันโดยธรรมชาติของการต่อสู้
ธงชาติของเรืออาจจะถูกยิงกระเด็นตกน้ำไป (ยุทธวิธี
ของเรือฝรั่งเศสมักใช้วิธีการยิงเชือก เสา เพลา ใบ
ตรงข้ามกับฝ่ายอังกฤษที่ใช้วิธียิงที่กลุ่มคนและตัวเรือ) ต้นตอของตำนานที่กล่าวมาข้างต้นมาจาก การรบ
นั่นเป็นการทำลายขวัญ กำลังใจของลูกเรือให้ตกต่ำลง ทางเรือในศตวรรษที่ ๑๘ เป็นการยุทธที่ Camperdown
การสู้รบผ่อนลง เมื่อเจอสภาพดังกล่าวหนทางปฏิบัติเดียว ระหว่างอังกฤษ กับ ดัตช์ (Dutch) เรือธงของอังกฤษ

เท่านั้นที่จะกู้ขวัญและจิตใจอยากสู้รบต่อไป ก็คือ ชื่อ Venerable ภายใต้การนำของ พลเรือเอก Duncan
การตอกตะปูตรึงธงไว้ที่เสาของเรือส่วนที่เหลือ ถูกยิงจนเสาเรือหักตกน้ำไปพร้อมกับธงชาติ หากไม่ทำอะไร
เพื่อส่งสัญญาณแก่ทั้งฝ่ายตนเองและข้าศึกว่าการต่อสู้ ย่อมหมายถึง การยอมจำนน แต่ Jack Crawford (ต่อมา
จะดำเนินการต่อไป เป็นการประกาศเจตจำนงที่ชัดเจน เป็นวีรบุรุษของอังกฤษ) ได้นำธงชาติไปตรึงไว้กับเสา
เพื่อให้เรือทุกลำเห็นได้ชัดเจน แล้วต่อมาอังกฤษ
เป็นฝ่ายชนะ อย่างเด็ดขาด
ผลการสู้รบทำให้อังกฤษเป็นเจ้าทะเล (Britania
ruled the waves) แทนดัทช์ เมื่อ Jack Crawford
กลับถึงอังกฤษได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษ

แม้ไม่มีการยืนยันว่าเขาเป็นคนแรกที่ตรึงธงชาติ
ไว้ที่เสาของเรือแต่คนส่วนใหญ่เชื่อเช่นนั้น เขาเสียชีวิต
และศพของเขาถูกฝังที่สุสานใน Sunderland และมี
อนุสาวรีย์ของเขาอยู่ที่นั่นด้วย


CLEAR THE DECK

เตรียมเรือเข้ารบ






ความหมายดั้งเดิม หมายถึง เตรียมการรบ ในยุคเรือใบบนดาดฟ้าตามปกติอาจมีสิ่งของวางเกะกะ จึงต้องเก็บ
เข้าที่ให้เรียบร้อย สิ่งของที่เคลื่อนที่ได้ต้องผูกมัดให้แน่น โดยเฉพาะดาดฟ้าปืน ต้องดูแลเป็นพิเศษ มิฉะนั้นอาจเป็นอุปสรรค
ต่อการใช้อาวุธ และเป็นอันตรายได้ ในบริบทของทหารเรือในปัจจุบัน หมายถึง การเตรียมเรือเพื่อการปะทะข้าศึก
สำนวนชาวเรือนี้ใช้กันแพร่หลายบนบกในความหมาย ออกไปให้พ้นเส้นทาง หรือบริเวณนี้ อีกความหมายเป็นเชิงอุปมา

คือ หยุดทำกิจปัจจุบันเดี๋ยวนี้ เตรียมทำกิจที่สำคัญกว่า
ตัวอย่าง: Clear the decks, here comes the captain.
We are trying to clear the deck before entering the harbour.
The PTT is clearing the decks before setting up new projects.
NOTE: บนเรือไม่ใช้คำว่า พื้น floor ชาวเรือใช้ deck แทน ทำนองเดียวกับ เพดาน ceiling ซึ่งใช้ overhead


เพลงชาวเรือ หรือเพลงทหารเรือ




เดิมเป็นเพลงที่กะลาสีเรือ ร่วมกันร้องตั้งแต่
ยุคเรือใบ เพื่อใช้จังหวะเพลงเป็นการผ่อนแรงและ
ออกแรงร่วมกัน เช่นในการหมุนกว้าน (capstan)
เพื่อหะเบสสมอ ดึงเชือก ชักหย่อนเรือโบ้ต เป็นต้น

อาจมหัวหน้าเล่นหีบเพลง (accordion) และให้จังหวะ
ประกอบเพื่อสร้างบรรยากาศลดความเหนื่อย
เพลงชาวเรือมีหลายแบบ เช่น ใช้เมื่อประกอบ

การทำงานกับกว้านมาเป็นเพลงที่เน้น จังหวะให้เข้ากับ
การหมุนของกว้าน เพลงที่ประกอบกับการริบใบ (reefing) เพลงชาวเรือแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ Single Pull
โดยเฉพาะเมื่อทำงานขณะลมแรงมักเป็นเพลงที่เร้าใจ เป็นจังหวะช้า ต้องออกแรงมาก Double Pulls จังหวะช้า
Chanty มาจากภาษา Norman-French คำนี้ เล็กน้อย ส่วน Capstan Chanty ค่อนข้างเร็วขึ้น
สามารถเขียนได้ทั้ง chantey หรือ shanty แปลว่า ให้จังหวะการออกแรงและการร้องเพลงที่ค่อนข้างนุ่มนวล
“ร้องเพลง” เริ่มใช้กันมาตั้งแต่ ค.ศ. 1855 - 1860 เช่น เพลง “Away for Rio” กล่าวกันว่าเป็นเพลง
เพลงชาวเรืออเมริกันที่มีชื่อเสียงมากเป็นเนื้อเพลง ที่มีชื่อเสียงเพลงหนึ่ง นอกจากนั้นยังมีเพลงที่นิยมกันมาก

ที่เกี่ยวกับเหล้า whiskey ดังตอนหนึ่งของเพลงที่ว่า เช่น “A Roving” และ “Marching Through Georgia”
และเพลงอเมริกันชื่อ “On the plains of Mexico”
Whiskey is the life of man ส่วนเพลงชาวเรือของไทยที่ต้นตอมาจากกะลาสีเรือ
O, whiskey johny! หรือชาวเรือโดยตรงเดิมนั้น แทบจะไม่ปรากฏ แต่ก็มี
I’ll drink whiskey while i can เพลงทหารเรือค่อนข้างมากที่ร้องกันยุคหลัง ซึ่งมิได้เกิดจาก
O, whiskey johny! วัตถุประสงค์เดิม


เ ป ล ญ ว น





ชาวยุโรปสมัยโบราณไม่ค่อยรู้จักเปลญวน ค.ศ. ๑๔๙๘
ในบาฮามาส คริสโตเฟอร์โคลัมบัสได้พบว่า ชาวพื้นเมือง
ใช้ตาข่ายที่ทำด้วยผ้าฝ้ายทำเป็นที่นอน เรียกว่า hammocks

ต่อมาชาวสเปนได้เปลี่ยนชื่อเป็น hamaco การเรียกชื่อ
ของชาวสเปนดังกล่าวถูกนำมาใช้เป็นศัพท์ชาวเรือของอังกฤษ
ในยุคของพระนางอลิซาเบธที่ ๑ ราวกลางศตวรรษที่ ๑๖
ต่อมาในปี ค.ศ. ๑๕๙๖ ถูกใช้เรียกเป็นทางการในความหมาย
ของเตียงนอน ภายหลังจากการรบ เศษของผ้าใบถูกนำมาใช้
เป็นเปลญวน และกางเกงขายาวสีขาวสำหรับกะลาสี
ปัจจุบันมีการใช้เปลญวนกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก
เพื่อการพักผ่อน ใช้แทนเตียงขนาดเบาสำหรับ Camping
เปลญวนจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการพักผ่อนหน้าร้อน

แบบง่าย ๆ ในบริบทของชาวเรือถูกนำมาใช้ในเรือตั้งแต่ ผ่อนคลายบนเรือยอชท์ในเปลญวนไนลอนนี้
ค.ศ. ๑๕๙๐ ใช้เป็นที่นอนสำหรับกะลาสี ซึ่งส่วนใหญ่กางเปล แสดงให้เห็นการใช้งานที่มีการวางแนวขวางของร่างกาย
ที่ดาดฟ้าปืน เนื่องจากมีพื้นที่จำกัดสำหรับกางเปลอย่างถาวร การนอนเปลญวนทำให้ไม่ค่อยเมาคลื่น กล่าวกันว่ากะลาส ี
หลายคนที่เคยชินกับการนอนเปลญวนถึงกับนำติดตัว
ไปกางที่บ้านเมื่อถึงคราวได้ขึ้นบก
ปัจจุบันเรือส่วนใหญ่มีเตียงนอน bunk แต่ก็มียกเว้น
เช่น เรือลำเลียงทหารและเรือฝึกนักเรียนนายเรือ (ทั้งเรือใบ

และเรือรบ) นอกจากนั้นมีการนำไปใช้ในยานอวกาศ
เป็นบางครั้ง เช่น ของโครงการอะพอลโล
เปลญวนที่ใช้กันแพร่หลายบนบกมีลักษณะหลากหลาย
เปลญวนของเรือฝึกนักเรียนนายเรือ
ได้รับการพัฒนาตามความต้องการของผู้ใช้ บางแบบมีมุ้งกาง
กันยุงอีกด้วย ส่วนใหญ่มักทำจากไนลอนมีลักษณะเบา
หลากหลายสีง่ายต่อการกางเปลญวน
ทหารเรือไทยยังขาดประสบการณ์เรื่องเปลญวน
บนเรือรบ ผู้เขียนเคยนอนเปลญวนบนเรือฝึกเรือใบ ๓ เดือน
ฝึกเรือรบ ๖ เดือน ของกองทัพเรือเยอรมัน ตอนขึ้นนอน

บนบกคืนแรกมีความรู้สึกปวดหลังทันที หรือว่าอาจจะ
เปลญวนของเรือ VICTORY เป็นเพราะอุปทานก็ได้











�������� ����������������� �.�.62.indd 1 7/23/19 9:24:32 AM


Striking the Colours












Alternative fashion: HMS Nereide
surrendered at the Battle of Grand Port:
the French flag has been hoisted over
the British ensign as to indicate both
the captor and the previous masters of

the ship.





Strike ในที่นี้หมายถึง เอาลง (hauled down) ตัวอย่าง
การดึงธงราชนาวีหรือธงรบของเรือลงโดยทางสากล ๑. HMS Nereide ยอมจำนนต่อเรือรบฝรั่งเศส
แล้วหมายถึงการยอมจำนนต่อข้าศึก โดยเฉพาะเมื่อ ในการยุทธ์ที่ Battle of Grand Port ธงชาติฝรั่งเศส

เรืออยู่ในทะเลการยอมจำนนให้นับตั้งแต่การที่เรือชัก จะถูกขึ้นเหนือธงราชนาวีอังกฤษ เป็นการแสดงว่า
ธงลง หากเรือลำนั้นชักธงลงแล้วและยังยิงต่อสู้หรือหนี ฝรั่งเศสเป็นผู้ยึดเรือของอังกฤษตามที่เห็นในภาพ
ถือว่าผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ในกรณีนี้ไม่มีผล ๒. ในปี ค.ศ. ๑๘๐๗ เมื่อกัปตันเรือฟริเกตของ
ต่อเรือสินค้า เรือสินค้าเมื่อชักธงลงอาจหนีได้ ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกาชื่อ USS Chesapeake ได้ปฏิเสธ
เพราะเรือสินค้าไม่ได้ทำการต่อสู้กับเรือรบ ไม่ยอมให้นายทหารเรืออังกฤษของเรือ HMS Leopard
อาจมีคนเข้าใจผิดว่าเรือสามารถชักธงขาว ขึ้นตรวจค้นเรือเพื่อหาทหารอังกฤษที่หนีทัพ ดังนั้น HMS
เพื่อยอมจำนนได้หรือไม่ การชักธงขาวไม่ใช่ leopard จึงเข้าเทียบและได้ยิงเรือ USS Chesapeake

การยอมจำนน แต่เป็นเพียงการพักยิงชั่วคราว ราว ๑๐ นาที จนกระทั่งเรือ Chesapeake ยอมชักธงลง
เพื่อขอเจรจากับข้าศึกตามอนุสัญญาเจนีวา เพื่อยอมจำนน
การยกธงขาวของบุคคลเป็นเพียงห้ามการโจมตี ในสมุดปูม (log book) ของเรือได้บันทึกไว้ว่า
หรือยิงบุคคลนั้น และบุคคลนั้นก็ไม่สามารถใช้อาวุธ “มีปืน ๑ กระบอก ได้ยิงมายังเรือของเรา เราจึงชักธง
ทำการต่อสู้ได้อีกเช่นกัน ลงเรือ ต่อมา HMS leopard หยุดยิงและได้ส่งเรือบต
และนำคนมาขึ้นบนเรือของเรา”


อาหารรอบดึกของทหารเรือบนเรือรบขณะเดินทาง



อาหารรอบดึกนี้จัดไว้สำหรับทหารที่จะเข้ายาม
ตอนเที่ยงคืนและผู้ออกยามหลังเที่ยงคืน หากเป็น
เรือดำน้ำปกติจะมียามสามผลัด ผลัดละ ๖ ชั่วโมง คือ
เข้ายาม ๖ ชั่วโมง พักยาม ๑๒ ชั่วโมง อาหารมื้อนี้ไม่มาก
และหนักอย่างมื้ออื่น ๆ ส่วนใหญ่เป็นอาหารจานเดียว
แต่ทหารจะไม่รู้ว่า midrats แต่ละมื้อเป็นอะไร

เพราะส่วนใหญ่จะจัดทำหรือปรุงกลางวันและมื้อเย็น
ของแต่ละวัน (ที่ยังไม่ได้ปรุง)
Midrats ของเรือดำน้ำได้รับการยอมรับว่าดีกว่า
บนเรือผิวน้ำ ทั้งนี้เพราะถือว่าอาหารเป็นส่วนหนึ่ง ในกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดี

ในการสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงานของลูกเรือ ธีโอดอร์ รูสเวลท ได้ออกกฎหมายเป็นครั้งแรก เมื่อ
เมื่อเรือออกทะเลหลายวันอาหารสด เช่น ผักสด ผลไม้ วันที่ ๑ กรกฎาคม ค.ศ. ๑๙๐๒ กำหนดให้เรือรบสหรัฐฯ

เนื้อสัตว์ จะถูกนำมาบริโภคก่อนที่มันจะเสื่อมคุณภาพ ขณะเดินทางต้องจัดอาหาร midrats ดังที่ปรากฏว่า
แต่ถ้าเป็นระยะเวลาสั้น ๆ คงไม่มีปัญหามากนัก ต้องประกอบอาหารที่จัดเป็นพิเศษ คือ กาแฟ ๑ ออนซ์
เมื่ออาหารสดหมด รายการต่อไปจะเป็นอาหารกระป๋อง น้ำตาล ๒ ออนซ์ ขนมปังแข็ง ๔ ออนซ ์เนื้อสัตว์ ๔ ออนซ์
ที่นำมาปรุงใหม่ เช่น ผักกระป๋อง ผลไม้กระป๋อง หรือของที่เทียบเท่าสำหรับกะลาสีเรือที่ต้องเข้ายามดึก
เนื้อกระป๋อง นม UHT เป็นต้น และออกยามดึก
ตัวอย่างของ midrats: ปัจจุบันอาหารมื้อดังกล่าวได้เปลี่ยนแปลงไปมาก
- อาหารที่เหลือจากมื้อกลางวันและมื้อเย็น ตามสถานการณ์และการพัฒนาในการถนอมอาหาร
- ผัดมักกะโรนีกับซอสพริก แต่ถึงกระนั้นก็ตามกล่าวกันว่าอาหารรอบดึกของเรือดำน้ำ
- ไส้กรอก ถั่วอบ เป็นต้น สหรัฐฯ อยู่ในเกณฑ์ชั้นเลิศ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับ
เรือ U–boats ของเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ ๒ แล้ว

ต่างกันราวฟ้ากับดิน บนเรือ U–boats ของเยอรมัน
มีให้เพียงกาแฟร้อน ๑ ถ้วยเท่านั้น
น่าสนใจและน่าติดตามว่าอาหารรอบดึกในเรือดำน้ำ
ของไทยที่จะเข้าประจำการในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านั้น
จะมีลักษณะเป็นแบบใด ถึงแม้ไม่ดีเลิศเท่าของกองทัพเรือ
สหรัฐฯ แต่ก็น่าจะดีกว่าบนเรือผิวน้ำของเราแน่ ๆ








วล bottom up เป็นทรู้จกและค้นเคยกนด ี

ในกลุ่มนักด่ม เป็นการชวนเชิญเพ่อนท่ร่วมด่มด้วยกัน



ให้กระดกแก้วหรือขวดด่มให้หมดอย่างรวดเร็ว

ในเร่องของการบริหารจัดการงาน หมายถึง


การพิจารณาจากล่างสู่บน (Bottom up) ซ่งตรงข้าม
กับอีกวิธีคือการบริหารหรือการพิจารณาจากบนลงล่าง
(Top Down)
Urban dictionary ให้ความหมายแหวกแนว


เพ่มว่า “เป็นท่าร่วมเพศของคนท่าหน่ง (coitus a tergo) bottom up
หรือที่เรียกว่า doggy-style” อย่างไรก็ตามวล bottom up คนส่วนใหญ่

ไม่ทราบว่ามีต้นตอมาจากชาวเรือต้งแต่สมัยยุคเรือใบ

(age of sails) โดยเฉพาะในยุคสงครามนโปเลียน คร้งน้น




ราชนาวีอังกฤษขาดแคลนกาลังพลท่เป็นกะลาสีเรือ



จานวนมาก ได้จัดต้งหน่วย press gang เพ่อไปจัดหา

กาลังพลเพ่มเติม ประกอบไปด้วยหลายวิธ เช่น


จากอาสาสมัคร ชักชวนกะลาสีเรือสินค้า ชักชวนคนบก
(land lubbers) หรือบางครั้งถึงกับบังคับเอาดื้อ ๆ
พวก press gang บางคร้งใช้กลอุบายท่ไม่ค่อย


สะอาด เช่น ใส่เงินท่เป็นเหรียญลงในแก้วเบียร ์


แล้วชักชวนให้คนหนุ่มด่มเบียร์ให้หมดแก้ว และจะได้
press gang

รางวัลเหรียญท่อยู่ก้นแก้วน้นซ่งเขาต้องกระดกเเก้ว



ด่มให้หมด เม่อด่มหมดแก้วแล้วเขาจะถูกบันทึกช่อว่า



ROYAL NAVY ได้รับเงินจากทางราชการและสมัครใจเป็นกาลังพล ี




ของราชนาวีอังกฤษ น่นก็เป็นอีกตานานหน่งของวล
bottom up
นาวิกศาสตร์ 62
ปีที่ ๑๐๒ เล่มที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๒








ในสมัยโบราณมีความเช่อกันว่า เรือมชีวตจิตใจ อีกเหตุผลหน่งซ่งค่อนข้างร่วมสมัย เรือแต่ละลา
คล้ายกับคน มีเพศเป็นหญิง หากต้องการเปล่ยน ย่อมเป็นท่รู้จักกันในหมู่ชาวเรือ และพ่อค้าว่าลาใดบรรทุก










ชอเรอใหม่ต้องประกอบพิธีให้เธอ มฉะนนอาจประสบ สินค้าประเภทใด และมีช่อเสียงด้านใด การเปล่ยนช่อเรือ


โชคร้ายได้ ในยุคเรือใบเม่อมีการรบทางเรือ บางคร้ง สร้างความสับสนให้แก่ผู้พบเห็นได้ โดยเฉพาะบรรดา


ฝ่ายท่ปราชัยอาจต้องสูญเสียเรือ เน่องจากถูกฝ่ายชนะ กัปตันเรือ


ยึดเรือไป แต่การถูกนาไปใช้ใหม่โดยอีกฝ่ายหน่งน้น ไม่ว่าจะมีความเช่อเร่องโชคลาง (Superstitious)







จะไม่มีการเปล่ยนช่อเรือ หรือไม่ก็ตามแต่บรรดาลูกเรือล�านั้น ๆ จะพอใจ หากได้มี
โดยท่วไปแล้วพิธีกรรมของการเปล่ยนช่อเรือ การทาพิธีกรรมเม่อมีการเปล่ยนช่อเรืออย่างเปิดเผยโดย







อาจกระทาอย่างง่าย ๆ จนถึง เป็นพิธีกรรมท่ใหญ่โตก็ได ้ ไม่ได้ตั้งใจปกปิดการรับรู้ของพระสมุทร




แล้วแต่ความเชื่อของเจ้าของเรือ ตัวอย่างเช่น การเขียน พิธีกรรมการเปล่ยนช่อเรือแตกต่างกันในแต่ละชาต ิ

ช่อเรือเดิมในกระดาษแล้วพับใส่กล่องไม้ หลังจากน้น ส่วนใหญ่มักจะทาลายร่องรอยของช่อเรือเก่า เผาสมุดปูม



นากล่องไม้ไปเผาไฟ แล้วจึงนาเศษเถ้าถ่านโยนท้งทะเล ของเรือเก่า ขอให้พระสมุทรลืมช่อเรือเก่า อาจมีการรินเหล้า




เป็นเสรจพธข้นต้น ขนตอไปลบหรือทาลายช่อเรือเดิมออก ลงสู่ทะเลและลงบนเรือ และอาจมีการนาปัสสาวะของสาว




















แต่ยังไม่ต้องนาส่งของใด ๆ ท่มีช่อเรือลาใหม่ลงเรือ บริสุทธ์ราดท่หัวเรือลาท่มีการเปล่ยนช่อ (วิธีหลังน้มักไม่ค่อย


ขั้นตอนต่อไป อาจมีการบูชาด้วยแชมเปญ หรือเหล้าไวน์ ปรากฏ)
จากนั้นให้รีบเปลี่ยนชื่อเรือใหม่ติดที่ตัวเรือทันที
POSEIDON NEPTUNE
POCKET BATTLESHIP “DEUTSCHLAND” เปลี่ยนชื่อเป็น “LUETZOW”



การเปล่ยนช่อเรืออาจมีเหตุผลอ่น ๆ เช่น ทางด้าน





เช่อกันว่าการต้งช่อเรือคร้งแรก ช่อของเรือลาน้น จิตวิทยา ในสงครามโลกคร้งท ๒ ฮิตเลอร์ส่งให้






ได้ถูกบันทึกไว้ท่ใต้สมุทร โดยพระสมุทร (โพไซดอนของพวก เปล่ยนช่อเรือประเภท Panzerschiff (Pocket battleship)




กรีกหรอเนปจูนของพวกโรมน) ดังน้น การเปล่ยนชอเรอ ช่อ “Deutschland” ซ่งเป็นช่อท่ใช้เรียกประเทศ











โดยพลการ เป็นการข้ามหน้าข้ามตาพระสมุทรซ่งอาจเจอ เยอรมนีเป็น “Luetzow” เพราะเกรงว่าหากเรือลาน้นจม


วิบัติในทะเลได้ อาจท�าให้ประชาชนเสียขวัญได้ เป็นต้น
นาวิกศาสตร์ 73
ปีที่ ๑๐๒ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๒


สำ�นวนที่มีต้นตำ�รับม�จ�ก ช�วเรือ “GUNDECK”

ปลอมแปลง บิดเบือน ทำ�ให้ไม่ถูกต้อง



























Gundeck ว่ากันตามตัวอักษรหมายถึง ดาดฟ้าปืน (Weather Deck) คือ Gundeck หลังจากเรียบร้อยแล้ว




ซ่งอยู่ใต้ดาดฟ้าเปิด (Weather Deck) ในยุคเรือรบเรือใบ จึงนาผลไปส่งให้ต้นหน ซ่งบางคร้งมักมีนักเรียนนายเรือ



(Man-of-War) เรือมีหลายช้นดาดฟ้าเพ่อให้สามารถ บางคนใช้วิธีลัดในการหาคาตอบท่ถูกต้องเขาจะใช้



ติดต้งปืนได้มาก แต่บางคร้งอาจมีดาดฟ้าสร้างหลอก ตาบลท่เรือจริงคร้งสุดท้ายจาก Traverse Board









ให้ดูเหมือนเรือมีหลายช้นดาดฟ้าท่ติดปืนซ่งมักเป็น ซ่งเป็นเคร่องมือท่ต้นหนใช้ในการบันทึกเข็ม และ

ดาดฟ้าถัดจากดาดฟ้าเปิด (Weather Deck) ดาดฟ้านี้ ความเร็วของเรือในการเดินทางทาให้นักเรียนนายเรือ


ไม่มีปืนเพียงต้องการลวงให้ข้าศึกเข้าใจผิดว่าเรือ คนนนพอจะทราบท่เรือโดยประมาณ ด้วยการใช้ท่เรือ




มีหลายดาดฟ้าและมีปืนหลายกระบอก น่เป็นท่มาของ รายงาน (Dead Reckoning DR) และด้วยข้อมล DR น ี ้


ค�าว่า “Gundeck” หรือในความหมายของ Falsify ที่ได้ เขาคานวณง่าย ๆ ย้อนหลังเพ่อหาค่าของวัตถุท้องฟ้า

อธิบายไว้ข้างต้นซึ่งเป็นค�าอธิบายที่เชื่อถือได้ ทั้ง ๆ ที่อาจไม่ได้ท�าจริง





แต่คาอธบายทน่าเชอถือได้มากกว่า คอ การทางาน Gundeck ในปัจจุบันซ่งใช้บนบกตามพจนานุกรม





วิธีลัด (Shortcut) ท่ไม่ถูกต้องนัก กล่าวคือในยุคน้น Merriam Webster ได้ให้นิยามว่า “ปลอมแปลง หรือบิดเบือน

นักเรียนนายเรือ (Midshipman) ต้องท�างานภาคปฏิบัติ โดยเฉพาะวิธีการเขียน เช่น รายงานของทางราชการเพ่อให้

เก่ยวกับการเดินเรือดาราศาสตร์ ในตอนเช้าและตอนเย็น สอดคล้องกับความต้องการแต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ดาเนินการ




มีการวัดดาว ส่วนตอนเท่ยงวัดแดด เม่อวัดวัตถุท้องฟ้า ให้ถูกต้องตามกระบวนการ” หรือ “การได้รับรางวัล
ได้แล้วจึงนาผลงานลงไปคานวณยังห้องใต้ดาดฟ้าเปิด หรือเครดิตส�าหรับผลงานที่ไม่ได้ส�าเร็จจริง”


นาวิกศาสตร์ 70
ปีที่ ๑๐๒ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๒


ชาวเรือกับความเชื่อเรื่องโชคลาง (Seafarer and Superstition)


















การวางเหรียญเงินบนกระดูกงูเรือตอนทาพิธีวางกระดูกง ู





ความเช่อเร่องโชคลางโดยเฉพาะเก่ยวกับลางร้าย ความเช่อเร่องพิธีกรรมในการวางเหรียญเงิน


มักจะแยกไม่ออกกับบรรดาชาวเรือ เช่น ชาวเรือในสมัยโบราณ บนกระดูกงูเรือได้สืบเน่องมาจนถึงปัจจุบัน แต่มีการ


ไม่ออกเรือในวันศุกร์ ไม่นากล้วยไปกับเรือ ไม่ให้ผู้หญิงเดินทาง เปลี่ยนแปลงไปบ้างตามสภาพของเทคโนโลยีในการต่อเรือ
ไปด้วยกัน ไม่ผิวปากขณะเรืออยู่ในทะเล เป็นต้น แต่ก็ม ี ตัวอย่างเช่น
หลายเร่องท่ชาวเรือเช่อว่าจะประสบโชคดีหากออกเดินทาง เม่อวันท่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๒ มีการวางกระดูกง ู





ในวันอาทิตย์ ระหว่างเดินทางพบปลาโลมาว่ายไปกับเรือ เรือคอร์เวตของกองทัพเรือเยอรมัน (Deutsche Marie)

ถือว่าจะประสบโชคดี (ตรงกันข้ามกับปลาฉลาม) นอกจากน้น โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหญิง นาง Ursula
การท�าพิธีต่าง ๆ ท�าให้เรือประสบแต่โชคดี เช่น การท�า von der Leyen เป็นประธาน ท่อู่ต่อเรือ Peene Werft




พิธีปล่อยเรือลงนา การทาพิธีข้ามเส้นศูนย์สูตร (crossing ในเมือง Welgast การวางเหรียญเงิน ๒ เหรียญ ไม่ได้วาง


the line) เป็นต้น ตรงตาแหน่งท่ของเสาหลักเน่องจากเรือสมัยใหม่ไม่ม ี

การวางกระดูกงูเรือเป็นโอกาสดีท่สามารถช่วยทาให้ การสร้างเสาหลักบนกระดูกงูเรือ พิธีการวางเหรียญเงิน



เรือล�าน้นอาจประสบโชคดีในเวลาต่อมาได้ ในยุคเรือใบ กระดูกงูเรือถือว่าเป็นประเพณีชาวเรืออย่างหน่งท่สืบเน่อง




(age of sail) ในการวางกระดูกงูเรือจะนาเหรียญเงิน กันมาจนถึงปัจจุบัน


วางลงบนกระดูกงูตรงตาแหน่งของเสาหลัก (main mast) กองทัพเรือเยอรมันจะต่อเรือคอร์เวตช้น Koeln







ของเรอ ในการวางเหรยญเงนต้องหงายด้านหวขนเพอรบ (Klasse 130) จานวน ๕ ลา ใช้งบประมาณ ๒.๕ พันล้านยูโร








เสาหลัก ยังมีความเช่อเพ่มอีกว่าหากนาเกือกม้า (horseshoe) มีข้อสังเกตว่าเรือช้น Koeln ในยุคแรกท่ก่อต้งกองทัพเรือ





ติดไว้ท่ยอดเสาหลักจะทาให้เรือประสบแต่โชคดี (เป็นความเช่อ เยอรมัน (Bundes Marine) เรือช้นน้จัดเป็นเรือฟริเกต







ของชาวตะวันตกท่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวอียิปต์ในสมัย แตชนใหมนจดเปนเรอคอรเวต ซงมระวางขบนาตากวาเลกนอย

















โบราณ หน้าบ้านของพวกเขาบางหลังในปัจจุบันอาจเจอ แต่ก็มีสมรรถนะทางยุทธการสูงกว่า
รูปเกือกม้าอยู่ที่ใกล้ ๆ ประตูบ้าน)
นาวิกศาสตร์ 74
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๓


หมู่เกาะอินดีสตะวันตก (West lndies)































หม่เกำะอนดสตะวนตก ถกเรยกโดยพวกยโรป มีลูกเรือ ๕๒ คน ส่วนเรือ Pinta และ Nina มีลูกเรือ
ด้วยควำมเข้ำใจผิด ตั้งแต่ปลำยศตวรรษที่ ๑๕ โคลัมบัส ล�ำละ ๑๘ คน เกำะแรกที่เขำค้นพบ คือ เกำะบำฮำมำส


ได้ออกเดินทำงส�ำรวจทำงทะเลคร้งแรก เพ่อหำทิศทำงใหม่ เขำได้เดินทำงส�ำรวจ ประเทศอเมริกำกลำงรวมด้วยกัน










ด้ำนตะวันตกไปสู่เอเชีย โดยเฉพำะอินเดียซ่งมีเคร่องเทศมำก ทงหมด ๔ ครง วนท ๑๒ ตลำคม ค.ศ.๑๔๙๒ เป็นวนท ่ ี

ภำยใต้กำรสนับสนุนของรำชวงศ์สเปน โคลัมบัสได้พบ คนในทวีปอเมริกำหลำยประเทศร�ำลึกถึงคริสโตเฟอร์

หมู่เกำะน้ และเข้ำใจผิดว่ำเป็นอินเดีย แต่ต่อมำอีกหลำยปี โคลัมบัสซึ่งวันนี้เรียกว่ำ Columbus Day




ควำมจรงได้ปรำกฏว่ำหม่เกำะทเขำค้นพบน้น ไม่ใช่


ประเทศอินเดีย แต่ช่อน้นได้ติดตลำด

ไปแล้ว จึงได้มีควำมพยำยำมให้เห็น
ควำมแตกต่ำงระหว่ำงหมู่เกำะใหม่
กับประเทศอินเดีย โดยเรียกว่ำหมู่เกำะ
อินดีสตะวันตก และให้ชัดเจนข้นไปอีก

ให้เห็นควำมแตกต่ำงระหว่ำงหมู่เกำะ


ทคนพบโดยฮอลแลนด หมเกำะใหมน ้ ี





ช่อว่ำหมู่เกำะอินดีสตะวันออก หรือ

ประเทศอินโดนีเซีย

โคลัมบัสออกเดินทำงเท่ยวแรก
ด้วยกองเรือที่มีด้วยกัน ๓ ล�ำ ล�ำแรก
คือ เรือ Santa Maria เป็นเรือธงของเขำ
นาวิกศาสตร์ 74
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓


AMERIGO VESPUCCI ผู้ค้นพบอเมริกาตัวจริง


































วันนั้นในอดีต (วันที่ ๔ พฤษภำคม ค.ศ.๑๔๙๗) คำว่ำ Americus เป็นภำษำละตนมำจำกชอแรกของ

อเมริโก เวสปุชชี ชำวอิตำลีได้ออกเดินทำง ทำงทะเล Vespucci ต้นตอของท่มำ ค�ำว่ำ America มำจำก




ส�ำรวจไปทำงทิศตะวันตกเป็นคร้งแรก เขำเป็นท้งนักเดินเรือ นักท�ำแผนท่ชำวเยอรมันช่อ Martin Waldseem

นักส�ำรวจ และนักผจญภัย เขำได้ใส่ช่อ America ลงบนทวีปในแผนท่โลกท่เขำ


เขำส�ำรวจคร้งแรกในปี ค.ศ.๑๔๙๗ ให้แก่ประเทศ ประดิษฐ์ข้น เขำได้อธิบำยว่ำมำจำกช่อภำษำละติน



สเปน และครั้งที่ ๒ ในปี ค.ศ.๑๕๐๑ ให้แก่ประเทศ ของ Americus Vespucius แต่เนื่องจำกค�ำว่ำทวีป


โปรตุเกส ผลของกำรส�ำรวจท้ง ๒ คร้ง ท�ำให้เขำม่นใจว่ำ ในภำษำละตินเป็นเพศหญิง ดังนั้นค�ำว่ำ Americus



ดินแดนท่คริสโตเฟอร์โคลัมบัสได้ค้นพบ และท่เขำส�ำรวจ จึงเป็น America
เหมือนกันนั้นไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งของเอเชีย คือ อินเดีย ทุกวันท่ ๑๒ ของเดือนตุลำคม ประเทศสหรัฐอเมริกำ


และจีน แต่เหมำะท่จะเรียกว่ำเป็นแผ่นดินใหม่ หรือ และอีกหลำยประเทศในทวีปอเมริกำ ได้มีกำรเฉลิมฉลอง
โลกใหม่ (The new world) Columbus Day ทั้ง ๆ ที่เขำได้ส�ำรวจ และค้นพบโดย

คร้งท่ ๒ ในปี ค.ศ.๑๕๐๒ เพ่อเป็นเกียรติแก่ เข้ำใจผิดว่ำเป็นส่วนหน่งของทวีปเอเชีย กระน้นก็ตำม




Amerigo Vespucci นักส�ำรวจชำวอิตำลีผู้ท่ค้นพบ ต้องยกเครดิตให้ Amerigo Vespucci เป็นผู้ไขปริศนำ


ทวีปใหม่ ได้มีกำรตั้งชื่อทวีปนี้ว่ำ America ซึ่งมำจำก ถึงควำมเป็นจริง ตำมท่เรำได้ทรำบกันอยู่ในปัจจุบัน
นาวิกศาสตร์ 72
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๓


“Splice the main brace”




























ในเดือนมิถุนายน ค.ศ.๒๐๐๕ ภายหลังการสวนสนาม ในขณะท่กําลังปะทะกับข้าศึก (ยุทธวิธีของอังกฤษต่างกับ

ทางเรือระดับนานาชาติส้นสุดลงในอังกฤษ ควีนอลิซาเบธ ของฝรั่งเศส ในการปะทะข้าศึกเรือรบอังกฤษยิงปืนเรือ





ท ๒ ได้ทรงขอบใจกองทัพเรือต่าง ๆ ท่เข้าร่วมพิธีในคร้งน้น ไปยังตัวเรือ และกลุ่มทหาร ส่วนเรือรบฝรั่งเศสจะยิงปืน

และจบลงด้วยประโยคว่า “Splice the main brace” เล็งไปท่เชือก เสา เพลา ใบ (rigging) ไม่ว่าจะเป็นงานลําบาก
และได้ตรัสด้วยวลีชาวเรือเดียวกัน ท่ประเทศแคนาดา หรือเสี่ยงอันตรายเพียงใด main brace ต้องรีบซ่อมทํา





ในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปี ของกองทัพเรือแคนาดา เมื่อ ให้เร็วท่สด คนท่ทํางานนต้องเป็นผ้ท่มีประสบการณ และ




วันที่ ๒๙ มิถุนายน ค.ศ.๒๐๑๐ มีความชํานาญสูง

ก่อนท่จะทราบความหมายของสํานวนข้างต้นน ี ้ เป็นประเพณีชาวเรือท่ทหารประจําเรือแทบทุกคน





มาทําความเข้าใจความหมายของแต่ละคํา splice หมายถึง ชนชมยนดเม่องานซ่อมทํา main brace สําเร็จลุล่วงด้วยด ี

การแทงเชือก โดยการถักเกลียวปลายเชือกท้งสองให้ ผู้บังคับการเรือจะให้รางวัลแก่ผู้ทํางาน และคนอื่นด้วย

กลืนเกลียวกัน brace คือ เชือก บาระ ชายดึงแต่งพรวน เหล้ารัมเพ่อฉลองเป็นการพิเศษ น่คือท่มาของสํานวน




(yard) ตามแนวนอน main brace เป็นเชือกท่โยงระหว่าง splice the main brace
พรวนหลักกับดาดฟ้าของเรือท่ขึงใบแบบส่เหล่ยมใบหลัก ต่อมาชาวเรือรวมท้งชาวบกหลายประเทศโดยเฉพาะ






(main sail) เป็นใบท่สําคัญท่สุด ดงนน main brace ประเทศท่อยู่ติดทะเลมีการให้รางวัลแก่ บรรดาคนท่ช่วย







จึงสําคัญ และหนักกว่าทุกเส้น หากเชือกน้ขาด ต้องซ่อมทํา ทางานทยากลําบาก และเสยงอนตรายได้จนสาเรจ และ







แบบฉุกเฉินให้เร็วที่สุดโดยการแทงเชือก จึงถือว่าเป็นงาน ฉลองในโอกาสต่าง ๆ กัน





ทยากมาก โดยเฉพาะเมอเผชญกับสภาพอากาศเลว หรอ

นาวิกศาสตร์ 71
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๓


The Black Tot Day
































ทหารเรือส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจวล The Black Day งดจ่ายแก่บรรดานายทหารเรือ และในปี ค.ศ.๑๙๑๘
หรือ Black Tot Day เท่าใดนัก คงมีเพียงทหารเรือ งดจ่ายแก่พันจ่าเอกอาวุโส และได้งดการจ่ายเด็ดขาด










องกฤษ และในเครอจกรภพเท่านน ทมความหมาย อย่างเป็นทางการท้งหมด เม่อวันท ๓๑ เดือนกรกฎาคม



ส�าหรับพวกเขา ค.ศ.๑๙๗๐


วลีดังกล่าวหาใช่ความหมายท่เกิดจากความพ่ายแพ้ เหตุผลท่ราชนาวีอังกฤษได้แจ้ง คือ เหล้ารัมไม่







ในยทธนาว หรอการจมของเรอทสาคญลาใดลาหนง สอดคล้องกับการทางานเก่ยวกับอุปกรณ์ท่สลับซับซ้อน









โดยข้อเท็จจริงแล้วสาหรับกาลังพลของราชนาวีอังกฤษ และอาวุธนิวเคลียร์ในสมัยใหม่


เรื่องราวเลวร้ายกว่านั้นเสียอีก เป็นท่น่าสนใจว่ากองทัพเรือของสหรัฐอเมริกา

The Black Tot Day เกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๓๑ เดือน ได้กาหนด Black Tot Day ก่อนหน้าราชนาวีอังกฤษ

กรกฎาคม ค.ศ.๑๙๗๐ เป็นวันท่ราชนาวีอังกฤษเร่มงด มากกว่า ๑ ศตวรรษ กล่าวคือใน ค.ศ.๑๘๖๒

จ่ายเหล้ารัมประจาวันให้แก่กาลังพลของเรือนับต้งแต่ กองทัพเรือออสเตรเลียกาหนดการเลิกจ่ายเหล้ารัม




กลางทศวรรษท ๑๙ แล้ว ท่ปริมาณของการแจกจ่าย ในปี ค.ศ.๑๙๒๑ ส่วนแคนาดา ค.ศ.๑๙๗๒ และ



เหล้ารัมได้ถูกลดลงจากครึ่งเหลือ ๑ ใน ๔ Pint (๑ Pint นิวซีแลนด์ ค.ศ.๑๙๙๐
เท่ากับ ๑ ใน ๘ แกลลอน) ต่อมาในปี ค.ศ.๑๘๘๑
นาวิกศาสตร์ 71
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๓


การกักตัว/การกักด่าน (Quarantine)
























ในช่วงเวลำวิกฤตกำรณ์ COVID - 19 ค�ำว่ำ Quarantine สำหรบเรอทถกกกดำนตำมประเพณชำวเรือ เรอตอง


คนส่วนใหญ่จะเข้ำใจควำมหมำยในทิศทำงเดียวกันคือ ชกธงประมวลสำกล “Lima” (อกษร L) ขณะทจอด



กำรแยกผู้ที่มีควำมเสี่ยงต่อกำรติดโรค COVID - 19 จำก ในบริเวณเมืองท่ำเพื่อเป็นกำรแสดงให้เรืออื่น ๆ ทรำบว่ำ

ชุมชน หรือสงคมเพอสังเกตอำกำรของตัวเอง และป้องกัน เรือล�ำนั้นถูกกักด่ำน (The ship is quarantined)


ผู้อื่นติดเชื้อจำกผู้ที่มีควำมเสี่ยงนั้น การกักด่านในบริบทของสงครามทางเรือ



แต่ค�ำน้ยังมีอีกหลำยควำมหมำย เช่น กำรกักเรือ หรือ ก่อนกำรก�ำเนด UN เรำมกค้นเคยกับกำรปิดอ่ำว




บุคคล หรือสัตว์ท่ต้องสงสัยว่ำเป็นพำหะของโรคติดต่อ ทำงเรือ (Naval Blockade) ซ่งใช้กันมำต้งแต่สมัยโบรำณ

และยังมีควำมหมำยที่เรำไม่ค่อยคุ้นเคยอีก เช่น ในบริบท โดยท่ว ๆ ไปหมำยถึง “ความพยายามกระทาเชิงบังคับ



ของสงครำมทำงเรือที่มีชื่อเสียงในประวัติศำสตร์ คือ ใน หรือขู่เข็ญเพ่อโดดเด่ยวฝ่ายตรงข้ามจากการเข้าถึง

Cuban Missile Crisis ค.ศ.๑๙๖๒ ซ่งจะกล่ำวในโอกำสต่อไป ทรัพยากร สิ่งอุปกรณ์ ซึ่งมีความแตกต่างจากการปิดอ่าว
ประวัติศำสตร์ของ Quarantine กำรกักตัวเกิดขึ้น ทางเรือ เพราะการกักด่านไม่มีการรับรองจากกฎหมาย
มำนำนแล้ว ซ่งปรำกฏในคัมภีร์ Old Testament กล่ำวถึง ระหว่างประเทศ”

กำรแยกผู้ติดโรคออกจำกสังคม ในวิกฤตกำรณ์ขีปนำวุธคิวบำ (Cuban Missile Crisis)


การกักด่านทางเรือคร้งแรกเกิดข้น ท่เมืองชำยทะเล ๑๙๖๒ สหรัฐอเมริกำได้ประกำศกักด่ำนบริเวณพ้นท่เข้ำส ู่






Adriatic ของอิตำลี โดยบังคับให้เรือทุกล�ำที่เข้ำจอดต้อง ควบำ แทนกำรใช้ปิดอ่ำวทำงเรอ แต่โดยนยแล้ว มได้

ถูกกักด่ำน เพ่อตรวจสอบกำรน�ำโรคระบำดเข้ำสู่เมืองหรือไม่ แตกต่ำงกันมำกนัก นอกจำกในแง่ของกฎหมำยระหว่ำง



ซ่งมีหลักฐำนจำกหอสมุดของเมือง Dulerovnik เม่อวันท ี ่ ี ประเทศ สหรฐอเมรกำอำงควำมชอบธรรมของกำรประกำศ



๒๗ กรกฎำคม ค.ศ.๑๓๗๗ อย่ำงไรก็ด ศัพท์ Quarantine เน่องจำกโซเวียตได้เร่มก่อสร้ำงฐำนยิงขีปนำวุธระยะไกล



เริ่มใช้แพร่หลำยใน ค.ศ.๑๖๑๗ ใน ๒ ความหมาย คือ ที่คิวบำ ซึ่งตั้งอยู่หน้ำบ้ำนของตน ส่วนโซเวียตตอบโต้ว่ำ
(๑) เรือท่เดินทำงสู่ท่ำเรือ และถูกสงสัยว่ำเป็นพำหนะน�ำ สหรัฐฯ ได้ไปติดต้งฐำนยิงขีปนำวุธในยุโรป โดยมีเป้ำหมำย





โรคระบำด ต้องถูกกักดำนในบริเวณท่จอดเรือ ซ่งห่ำงไกล ที่โซเวียต แต่จำกกำรเจรจำโซเวียตยอมถอนขีปนำวุธจำก
จำกฝั่ง (๒) ระยะเวลำ ๔๐ วัน แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว ระยะ คิวบำ และสหรัฐฯ ยอมถอนขีปนำวุธออกจำกยุโรปในเวลำ
เวลำกักด่ำนเริ่มแรกนั้น เป็น ๓๐ วัน แต่ต่อมำเปลี่ยนเป็น ต่อมำ กรณีนี้ถือว่ำโซเวียตเสียหน้ำ และครุสเชฟต้องหลุด
๔๐ วน ซงในภำษำเวเนเชยนโบรำณ คอ “Quarantina” ออกจำกอ�ำนำจในเวลำต่อมำ





นี่คือที่มำของ Quarantine
นาวิกศาสตร์ 70
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๓


ยุทธนาวีที่ปากแม่น�้าไนล์ (The Battle of the Nile) :


ดับฝันนโปเลียนที่จะขยายอ�านาจไปตะวันออกกลาง































วันที่ ๑ เดือนสิงหาคม ค.ศ.๑๗๙๘ กองเรืออังกฤษ ของนโปเลียนอย่างเด็ดขาด นอกจากน้นความสาเร็จ
ภายใต้การบังคับบัญชาของ พลเรือตรี ลอร์ดเนลสัน ของกองเรืออังกฤษเป็นการแจ้งเกิดวีรบุรุษสงคราม

ได้ทาลายกองเรือฝร่งเศสท่จอดทอดสมอเรียงกันเป็นแนว จุดเด่นของการยุทธ์ท่ปากแม่นาไนล์ คือ Lord Nelson





เส้นตรงในอ่าว Aboukir นอกฝั่งอเล็กซานเดรียของอียิปต์ ได้ใช้ยุทธวิธีแตกต่างจากเดิม (Unconventional Tactic)
การยุทธ์นี้บางครั้งเรียกว่า The Battle of Aboukir Bay กล่าวคือ แบ่งกองเรือออกเป็น ๒ หน่วย จู่โจมตีกองเรือ
การยุทธ์เริ่มต้นตั้งแต่ เย็นของวันที่ ๑ และจบลงใน ฝร่งเศสท่จอดทอดสมออยู่โดยขนาบข้างพร้อม ๆ กัน



วันท่ ๓ เดือนสิงหาคม เป็นจุดสุดยอดของการทัพทางเรือ แม้ Lord Nelson รู้ดีว่ามีเขตนาต้นด้านท่ชิดชายฝั่ง และ




(Naval Campaign) ท่มียุทธบริเวณในทะเลเมดิเตอร์ ยอมให้เรือบางลาเส่ยงต่อการเกยต้น แต่ในทสุดสามารถ












เรเนียน ซ่งได้เร่มก่อนหน้าน้น ๓ เดือนมาแลัว ต้งแต่ ทาลายกองเรือฝร่งเศสได้อย่างงดงาม เรือธงของฝร่งเศส

คอนวอยของฝร่งเศสขนาดใหญ่ได้ออกเดินทางจากเมือง L’Orient ถูกยิงจนระเบิดและไฟไหม้ แต่เสากระโดง



Toulon ไปยัง Alexandria โดยนากาลังรบโพ้นทะเล ถูกฝ่ายอังกฤษน�าไปเป็นของท่ระลึก และต่อมาได้ใช้



(Expedition Force) ภายใตการบังคับบญชาของนโปเลยน ทาโลงศพของ Lord Nelson ท่อังกฤษ หลังจากท่เขา







ชัยชนะของราชนาวีอังกฤษในการยุทธ์ท่ปากแม่นา เสียชีวิตในการรบท่ทราฟัลการ์ เม่อวันท่ ๒๑ ตุลาคม




ไนล์ มีผลทาให้เป็นการยุติการบุกเข้าสู่ตะวันออกกลาง ค.ศ.๑๘๐๕
นาวิกศาสตร์ 70
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๓


ความเชื่อเรื่องโชคลาง (superstition) ของชาวเรือ


เรื่อง “siren” หรือ ปีศาจผู้เป็นภัยต่อนักเดินเรือ






































Note : poseidon เป็นช่อของเทพเจ้ำแห่งทะเล หนึ่งนั้นได้อ�ำนำจของเทพเจ้ำซูส สองอยู่ใต้เทพโพไซดอน

ในต�ำนำนกรีก ส่วนในต�ำนำนโรมันคือ Neptune เป็น สำมอยู่ใต้เทพเฮดีส รูปลักษณ์ของไซเรนน้นต่ำงกันออกไป

องค์เดียวกัน เป็นพ่น้องกับ เทพ Zeus และ Hades ตำมแต่ละต�ำนำน บ้ำงก็ว่ำเป็นนกท่มีหัวเป็นผู้หญิง บ้ำงก็ว่ำ






(ในต�ำนำนของโรมันคือ เนปจูนและพลูโต) เป็นหญงทมเทำเป็นนก แตโดยปกติแล้วไซเรนมกจะปรำกฏ


“ไซเรน (Siren)” ปีศำจผู้เป็นภัยต่อนักเดินเรือ เป็นหญิง หรือชำยธรรมดำ แต่ชำยท่เป็นไซเรนน้นได้หำยไป





ตำมต�ำนำนน้น ได้มีปีศำจตนหน่งท่เป็นท่หวำดกลัวของ จำกต�ำนำนรวมถึงภำพวำดต่ำง ๆ ตั้งแต่ศตวรรษที่ห้ำ




นักเดินเรือ ปีศำจตนนั้นคือ “ไซเรน (Siren)” ไซเรนน้นเป็นท่หวำดกลวของเหล่ำนักเดนเรือ


ไซเรน (Siren) เป็นปีศำจที่หลอกล่อนักเดินเรือด้วย มำแต่โบรำณ แต่ท้งหมดน้ก็อำจจะเป็นเพียงกุศโลบำย




เสียงดนตรี และเสียงร้องเพลงท่ไพเรำะ เพ่อให้นักเดินเรือ ท่ให้นักเดินเรือระมัดระวัง ไม่หลงไปกับเสียงอะไรก็ตำม
หลงและขับเรือไปชนหิน หรือท�ำเรือจม ขณะออกเดินเรือ
พลำโต (Plato) ได้กล่ำวว่ำ ไซเรนนั้นมีสำมจ�ำพวก
นาวิกศาสตร์ 70
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๓


Uncharted waters







Uncharted Waters ว่ากันตามตัวอักษรแล้ว มีการสารวจไว้เกือบหมดแล้ว แต่กระน้นความประมาท






หมายความว่า น่านนาท่ไม่ได้บันทึกหรือพล็อตลงบน ไม่ใส่ใจต่อแผนท่เดินเรือท่ทันสมัย กลับใช้แผนท่เดินเรือ








แผนท่เดินเรือ คาน้ตาม Oxford English Dictionary เก่าทมอย่ทาให้เรอ USS San Francisco (SSN 771)

ระบุว่าได้เริ่มใช้กันมา ตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๘๓๒ ในความหมาย ได้ชนภูเขาใต้ทะเลในระหว่างเดินทางจากเกาะกวมไป

ท่กล่าวข้างต้นน้ หรืออีกนัยหน่ง คือน่านนาท่ไม่คุ้นเคย ออสเตรเลยเมอวนท่ ๘ มกราคม ค.ศ.๒๐๐๕ ผานหมเกาะ













ไม่รู้จักมาก่อน แคโรไลน์ จนเรือเสียหายหนัก ทหารหลายคนได้รับบาดเจ็บ
การเดินเรือในสมัยโบราณโดยเฉพาะในยุคเรือใบ และเสียชีวิต ๑ คน
ที่มีการบุกเบิก ส�ารวจน่านน�้าดังกล่าวค่อนข้างมีอันตราย Uncharted Waters ต่อมาได้ถูกนามาใช้เป็น

สาหรับชาวเรือเพราะเรืออาจเกยต้น หรือเกยหินโสโครกได้ ส�านวนของชาวเรือ และได้แพร่หลายขึ้นมาใช้บนบกซึ่งมี





ในยุคของ Magellan ท่ออกเดินทางรอบโลกเป็นคร้งแรก ความหมายว่าสถานการณ์ท่เราขาดประสบการณ์ และ
นั้น กองเรือของเขาหลายล�าได้ประสบปัญหาในน่านน�้าที่ ไม่คุ้นเคยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรข้น ดังประโยคท่ว่า “US


ไม่คุ้นเคยและไม่รู้จักมาก่อน กองเรือกลับถึงสเปนได้เพียง sailing into uncharted waters” (China Daily)
ล�าเดียวเท่านั้น เกี่ยวกับ The US - China Trade War


แม้แต่ในยุคท่เจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ และ หมายเหตุ : คนส่วนใหญ่มกเขียนผิดเป็น unchartered



เทคโนโลยแล้วกตาม ทกพนทในทะเลและมหาสมทรได้ แทน uncharted





นาวิกศาสตร์ 71
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๓


Cockpit ในความหมายของชาวเรือ

ในขณะท่ปะทะ (Engage) หรือท�ำกำรยุทธ์ (Battle) กับ

ข้ำศึก แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วห้องดังกล่ำวน้มิได้ก�ำหนดให้

เป็นห้องรักษำพยำบำลถำวร ปกติแล้วมักเป็นห้องพักอำศัย
ของบรรดำนำยทหำรชั้นผู้น้อยของเรือล�ำนั้น
ศัพท์ชำวเรือ Cockpit ต่อมำหมำยถึง หลุม (The pit)



ซงจำกสถำนท่แห่งนเรอยนต์ หรือเรอยอชต์ขนำดเลกใช้เป็น





ที่ส�ำหรับถือท้ำย และได้ขยำยขอบเขตเป็นสถำนที่ส�ำหรับ
ใช้ในกำรควบคุมเรืออื่น ๆ ด้วย
Cockpit ของเรือยนต์ หรือเรือยอชต์ขนาดเล็ก


ในกำรยุทธ์คร้งส�ำคัญ และคร้งสุดท้ำยของ Lord

คนท่ว ๆ ไปในปัจจุบัน ท้งท่เป็นชำวเรือ และมิใช่ชำวเรือ Nelson เม่อวันท่ ๒๑ ตุลำคม ค.ศ.๑๘๐๕ ท่ Trafalgar เม่อเขำ






เข้ำใจควำมหมำย Cockpit ว่ำเป็นห้องนักบิน แต่ค�ำท่กล่ำวน ้ ี ถูกพลแม่นปืนของข้ำศึกยิงล้มลง และบำดเจ็บสำหัส ร่ำงของ

มีใช้มำก่อนที่จะมีอำกำศยำน กล่ำวคือ ตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๕๕๖ เขำถูกน�ำไปรักษำพยำบำลใน Cockpit ของ HMS Victory


ในควำมหมำยด้งเดิมซ่งสันนิษฐำนว่ำมำจำกภำษำฝร่งเศสท ่ ี แต่ไม่สำมำรถเยียวยำได้ เขำจึงเสียชีวิตใน Cockpit นั้น

หมำยถึง เวที หรือสนำมชนไก่ Cockpit ในปัจจุบันยังหมำยถึง ในสงครำมปี ค.ศ.๑๘๑๒ ระหว่ำงอังกฤษกับสหรัฐ
ห้อง หรือช่วงลึกส�ำหรับคนขับเคร่องบิน รถยนต์ หรือเรือยนต์ อเมริกำ ครั้งหนึ่งมีกำรสู้รบกันเพียงสองล�ำ ระหว่ำง HMS


หรอพนทสำหรบคนถอท้ำยเรอยอชต์ขนำดเลก สำหรบ Shannon กับ USS Chesapeake นอกฝั่ง Boston













ในวงกำรทหำรหมำยถึง สถำนที่ซึ่งเกิดควำมขัดแย้ง หรือ เม่อวันท่ ๑ มิถุนำยน ค.ศ.๑๘๑๓ นำวำเอก James Lawrence





ท�ำกำรยุทธ์ เช่น ประโยค “Most conventional army training ผ้บงคบกำรเรอ ถกพลแม่นปืนของ HMS Shannon ยง

takes place on the cockpit of Salisbury Plain” แล้วเขำถูกน�ำไปรักษำพยำบำลท่ห้อง Cockpit เร่องน่ำเศร้ำ


มำกกว่ำกำรเสียชีวิตของ นำวำเอก Lawrence ในเวลำ
ต่อมำคือ เรือเอก William Cox ซึ่งเป็นผู้น�ำร่ำงของเขำลง
ไปยัง Cockpit นั้น ต่อมำโชคร้ำยถูกกล่ำวหำว่ำมีควำมผิด
ฐำนละทิ้งหน้ำที่ เขำตกเป็นแพะผู้รับบำปโดยแท้จริง ถูกให้
ออกจำกรำชกำรกองทัพเรือ ส่วนนำวำเอก James Lawrence

ซ่งเสียชีวิตต่อมำในขณะท่เรือของเขำก�ำลังเดินทำงไปยัง







แคนำดำ เพรำะพำยแพและถกยดเรอโดยอังกฤษ แตกลบไดรบ





กำรยกย่องให้เป็นวีรบุรุษจำกสหรัฐอเมริกำ ท้งท่หน่วยเหนือ
ห้องปฐมพยาบาลใต้ดาดฟ้าเรือ ใช้ส�าหรับรักษาผู้บาดเจ็บ
ได้สั่งกำรให้ผู้บังคับกำรเรือ USS Chesapeake หลีกเลี่ยง
ในการปะทะกับข้าศึก กำรปะทะกับอังกฤษที่มีควำมเหนือกว่ำ ทั้งอ�ำนำจกำรรบ

ส�ำหรับชำวเรือในยุคเรือรบเรือใบ (Man – of war) น้น และประสบกำรณ์








cockpit เปนหอง (Compartment) อยใตดำดฟำของทำยเรอ Cockpit แตกต่ำงจำก Sick Bay โดยค�ำหลังน้หมำยถึง

เป็นห้องท่ใช้ส�ำหรับน�ำทหำรท่บำดเจ็บไปรักษำพยำบำล ห้องพยำบำล หรือสถำนีพยำบำลในยำมปกติ


นาวิกศาสตร์ 79
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๓


ทำ�ไมท้องเรือจึงท�สีแดง








หลายคนคงสังเกตเห็นว่าเรือส่วนใหญ่โดยเฉพาะเรือ ข้อสงเกต : เรือด�ำน้ำเกือบทุกล�ำทำสีด�ำท้งล�ำเรือ




ท่ต่อด้วยเหลกในปัจจุบันกบเรือรบและเรือพาณชย์ ท้องเรือ แม้แต่ท้องเรือ




จะถูกทาสีแดงเพ่อให้เข้าใจได้ง่ายข้น สาหรับคาตอบน ี ้
ขอย้อนกลับไปสู่ยุคเรือใบที่ตัวเรือต่อด้วยไม้



ปัญหาสาหรับของเรือท่ต่อด้วยไม้ท่ชาวเรือต้องคอย




แก้ปัญหาคือ ท้องเรือท่อยู่ใต้แนวนามักเป็นท่อาศัยของเพรียง


(barnacles) และสัตว์บางชนิดท่กินเน้อไม้เป็นอาหาร



ด้วยเหตุนท้องเรอจึงถูกทาสีด้วยสีกนเพรยง (Antifouling


bottom paint) ซึ่งสีดังกล่าวมีส่วนผสมของทองแดง หรือ




ทองแดงอ๊อกไซด์ท่ทาหน้าท่เป็นสารฆ่า หรือยับย้งการเติบโต

ของสัตว์ดังกล่าว (biocide) ทองแดงทาให้สีท่ใช้ทาท้องเรือ ท้องเรือของเรือใบสมัยโบราณ หุ้มด้วยแผ่นทองแดง


มีสีแดง การทาสีกันเพรียงช่วยทาให้ท้องเรือสะอาดปลอดจาก


สัตว์นาดังกล่าว เป็นการช่วยไม่ให้เรือเพ่มนาหนักโดย



ไม่จาเป็น

แม้ว่าปัจจุบันสารฆ่า หรือยับยั้งการเติบโตของสัตว์น�้า

ท่ไม่พึงประสงค์สามารถผสมกับสีกันเพรียงสีใด ๆ ก็ได้

แต่ชาวเรือมักจะยึดติดกับประเพณีด้งเดิมคือ สีแดง นอกเหนือ


จากน้นสีแดงยังช่วยเป็นท่สังเกตภาระ (load) ของสินค้า

ท่บรรทุกในเรือได้ดีกว่าสีอ่น หากเรือสู่ภาระบรรทุกมาก


เรือย่งจมลงในนามากข้น ด้วยเหตุน้เราจะเห็นตัวเลข ท้องเรือทาสีแดง พร้อมมีเลขบอกระดับขนาดภาระที่บรรทุก




ในแนวตั้งบนทั้งสองข้างของตัวเรือ

ก่อนท่จะพัฒนาเป็นสีแดงกันเพรียง ในราชนาวีอังกฤษ
ได้ใช้แผ่นทองแดงหุ้มท้องเรือรบที่ต่อด้วยไม้ กระบวนการนี้

ได้เร่มต้นต้งแต่ปี ค.ศ.๑๗๖๑ โดยมีวัตถุประสงค์เดียวกับ

ปัจจุบัน เรียกว่า “Copper – bottomed”
ในปัจจุบันส�านวนชาวเรือ “Copper – bottomed”

หมายถึง ส่งใดก็ตามไม่ว่าเป็นวัตถ หรือความคิด เป็นส่งท ี ่



น่าเช่อถือได้ ไม่น่าจะล้มเหลว หรือในทางธุรกิจหมายถึง
การร่วมทุน แผน หรือการลงทุนที่มีความปลอดภัย ท้องเรือทาสีกันเพรียง (สีแดง)
นาวิกศาสตร์ 76
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


หน้าต่างเรือ หรือช่องระบายอากาศข้างเรือ (Porthole)










หน้าต่างเรอ (Porthole) มีชอเรียกหลายช่อ เชน Sid light บริเวณมุมท้งส่จะเป็นจุดอ่อนต่อแรงกระแทก นอกจากท่ปรากฏ
(ช่องกระจกข้างเรือ หรือตาวัว (Bull’s eye) แต่ porthole บนเรอแล้ว เรายงพบได้ทรถยานเกราะ อากาศยาน รถยนต ์









เป็นคาเร่มแรกท่นิยมใช้กัน port ในท่น้ไม่ได้มีส่วนเก่ยวข้อง (Ford Thunderbird) ยานอวกาศ หรือแม้แต่เครื่องซักผ้า


กับ port ท่หมายถึง ท่าเรือ หรือด้านซ้าย หรือกราบซ้าย port ชนิดเปิด-ปิดด้านข้าง เป็นต้น

มาจากภาษาฝร่งเศส porte ท่แปลว่าประตู หรือทางเข้า


สืบเน่องมาจากสมัยพระเจ้า Henry ท่ ๗ ของอังกฤษ

(ค.ศ. ๑๔๘๕) พระองค์ยืนยันที่จะติดต้งปืนเรือขนาดใหญ่มาก






บนเรอรบองกฤษ แตสมยนนปนเรอสวนใหญตดตงทดาดฟา











ยกหัวเรือ (Forecastle deck) และดาดฟ้ายกท้ายเรือ ดังน้น

ด้วยวิธีการด้งเดิมจึงเป็นไปไม่ได้ ได้มีนักต่อเรือชาว

ฝรั่งเศสชื่อ James Baker รับอาสาแก้ปัญหาให้ เขาใช้วิธี



การเจาะด้านข้างของเรอท้งซ้ายและขวา เพอให้ปืนเรอ



ขนาดใหญ่สามารถติดต้งในดาดฟ้าหัวเรือ – ท้ายเรือได้ หน้าต่างเรือ (Porthole /Bull’s eye)
หากมีสภาพอากาศเลว หรือไม่ใช้ปืน ที่ปิดซึ่งมักท�าด้วยไม้
เรียกกันว่าประตู ในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า porte ซึ่งค�านี้ได้
เพี้ยนเป็นภาษาอังกฤษว่า Port และต่อมากลายเป็น port
hole และท้ายท่สุดมีความหมายว่า ฝาปิดท่ด้านข้างของเรือ


ไม่ว่าจะใช้สาหรับปืนเรือ หรือกระจกข้างเรือ หรือช่องระบาย

อากาศข้างเรือ เรียกว่า porthole ส�าหรับช่องปืนซ่งเป็นต้นตอ

ของ porthole นั้น ในยุคเรือใบ เรียกว่า gunport
ในยุคเรือรบเรือใบ (Man – of – War) porthole หน้าต่างของยานอวกาศ
สร้างเพ่อใช้สาหรับปืนเรือเป็นหลัก ต่อมาในยุคเรือกลไฟ


เม่อปืนใหญ่เรือถูกติดต้งบนดาดฟ้า porthole จึงเป็นช่องลม


สาหรับระบายอากาศ หรือช่องรับแสงสว่าง ส่วนเรือสมัยใหม่



ในยุคปัจจุบันหาดูได้ยาก จะพบได้ท่เรือพาณิชย์ เรือสาราญ
เป็นต้น
ข้อสังเกตส�าหรับการสร้าง porthole คือ มีลักษณะ

ทรงกลม อาจเป็นมีฝาปิด ๒ ช้น เป็นกระจกและโลหะ

เพอผนกนาเมอเจอสภาพอากาศเลว ส่วนทมรปร่างกลม












ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว หากหน้าต่างเป็นทรงส่เหล่ยม ช่องปืนเรือ (Porthole)
นาวิกศาสตร์ 72
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓


สำ�นวนช�วเรือ






พลเรือเอก ไพศ�ล นภสินธุวงศ์ NAUTICAL SLANG

สนธิสัญญา Tordesillas



















หน้าปกของสนธิสัญญา Tordesillas แผนที่การแบ่งเขตอิทธิพลของประเทศมหาอำานาจสเปนและโปรตุเกส



เมื่อประมาณ ๕๐๐ กว่าปี สเปนและโปรตุเกสได้มี ความร้ทางภูมศาสตร์ของ “โลกใหม่” เท่าใดนก



การลงนามในสนธิสัญญา Tordesillas เม่อวันท ๗ การแบ่ง/เขตอิทธิพลตามสนธิสัญญาน ส่งผลให้เกิด


มิถุนายน ค.ศ.๑๔๙๔ ในประเทศสเปน เพ่อแบ่งเขต อาณานิคมใหม่ คือ บราซิล เน่องจากปลายด้านตะวันออก






อิทธิพลของท้งสองประเทศมหาอานาจทางทะเล ของทวปอเมรกาใต้ทค้นพบใหม่ ตกอย่ใต้อทธพลของ








ในขณะน้น แบ่งแผ่นดินใหม่ท่ค้นพบตามแนวเส้น โปรตุเกสและเป็นแห่งเดียวในทวีปอเมริกา ส่วนอ่น
เมริเดียนทางตะวันตกของ Cape Verde ของโปรตุเกส เกือบท้งหมดอยู่ภายใต้อิทธิพลของสเปน อย่างไรก็ด ี



เป็นระยะทาง 370 leagies หรือ ๑,๑๘๕ ไมล์ (1 league = สนธิสัญญาน้ได้ละเลยชาติมหาอานาจอ่น ๆ ในยุโรป

๓ ไมล์) การตกลงแบ่งกันคร้งนได้รับการยอมรับและ ทั้งหมด ชาติเหล่านั้นจึงเพิกเฉยต่อสนธิสัญญาดังกล่าว



สนับสนุนจากสมเด็จพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ท ๖ โดยเฉพาะอย่างย่งชาติท่ต่อมากลายเป็นนิกาย









เส้นสมมติท่ใช้แบ่งน้ลากจากข้วโลกท้งสองข้ว โปรเตสแตนต์ ภายหลังการปฏิรูปโปรเตสแตนต์ในยุโรป

สเปนจะได้ครอบครองแผ่นดินท้งหมดทางตะวันตกของ ส่วนโปรตุเกสนอกจากมีอิทธิพลบริเวณชายฝั่งแอฟริกา
เส้นดังกล่าว รวมทั้งแผ่นดินที่คริสโตเฟอร์โคลัมบัสเพิ่ง แล้ว ต่อมาได้ขยายมาแถบเอเชียจนถึงอินเดียและมาเก๊า
ค้นพบใหม่ ส่วนโปรตุเกสจะได้ครอบครองแผ่นดินที่จะ สนธิสัญญามีผลบังคับใช้ประมาณเกือบ ๓๐๐ ปี


ค้นพบท้งหมดทางด้านตะวันออก รวมท้งชายฝั่งของ จนถึงประมาณคร่งหลังของศตวรรษท ๑๘ โดย









แอฟรกา โดยไม่คานงถงว่าใครอาศยอย่ก่อน สาเหต ุ ข้อเท็จจริงแล้วสนธิสัญญาน้สเปนได้ประโยชน์มากท่สุด



ท่มีสนธิสัญญาคร้งน เน่องจากการแข่งขันกันของ สมเด็จพระสันตะปาปาจึงหาใช่บุคคลท่มีอิทธิพลสูงสุด





ท้งสองประเทศในการสารวจค้นหาแผ่นดินใหม่ของโลก ทางด้านศาสนาและการเมืองต่อไปอีกในยุโรปชาติยุโรป


อีกทั้งก่อนหน้านี้เคยมีการลากเส้นสมมติมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ หรืออ่น ๆ จึงเร่มหาเส้นทางใหม่ไปทางตะวันตก


โปรตุเกสโวยวายหาว่าไม่ยุติธรรม จึงมีการขยับเส้นสมมต ิ เพ่อไปยังอินเดียและส่งผลให้เกิดวัฒนธรรม และ









ออกไปทางตะวันตกประมาณ 100 leagues อย่างไรก็ตาม การเมองใหมดานการหาอาณานคม ขอดของสนธสญญา

ประเทศในยุโรปอื่น ๆ หาได้ยอมรับสนธิสัญญานี้ไม่ น้ส่งท่ไม่ควรละเว้นท่จะกล่าวถึงคือ เป็นการแก้ปัญหา



สเปนและโปรตุเกสปฏิบติตามข้อกาหนดใน ความขัดแย้งระหว่างสเปนและโปรตุเกสท่จะก่อให้เกิด







สนธสัญญาดังกล่าวได้ค่อนข้างด แม้ทงสองฝ่ายจะไม่ม ี สงคราม
นาวิกศาสตร์ 73
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔


สำ�นวนช�วเรือ






พลเรือเอก ไพศ�ล นภสินธุวงศ์ NAUTICAL SLANG


นายทหารเรืออังกฤษ นั่งดื่มถวายพระพร (loyal toast)



ขอให้ท่านด่มถวายพระพรขณะน่งอยู่ เพราะความ



จงรักภักดของท่านทั้งหลายน่าสรรเสริญ”


ประการท่ ๓ พระเจ้าวิลเล่ยมท่ ๔ ขณะดารงตาแหน่ง






Duke of Clarence เม่อครั้งเสด็จไปเสวยพระกระยาหารคา





บนเรือรบลาหน่ง ขณะท่พระองค์ยืนข้นเพ่อด่มตอบ

พระเศียรชนกับคานขวางของเพดานเรือ เช่นเดียวกัน
กับเหตุการณ์ครั้งก่อน ๆ ที่กล่าวมาแล้ว
หลายคนอาจไม่ทราบมาก่อนว่าในการด่ม

ถวายพระพรให้แก่พระมหากษัตริย์ หรือพระราชินีของ
อังกฤษ ของนายทหารเรืออังกฤษขณะอยู่ในห้องโถง
นายทหาร (wardroom) ของเรือรบในราชนาวีอังกฤษ



น้น เป็นประเพณีเก่าแก่ท่นายทหารเรือไม่ต้องยืนข้นด่ม


ถวายพระพร บางคนอาจทราบมาแล้ว แต่เช่อว่ามคน



จานวนไม่มากนักท่ทราบถึงสาเหตุ และความเป็นมา



ของประเพณีดังกล่าว การปฏิบัติท่แตกต่างจากสากล น่นมาจากสาเหตุของความเช่อในสมัยโบราณ




นิยมนี้มีทั้งความเชื่อและเชิงตรรกะ ซ่งก็มีนาหนักเพียงพอ แต่ก็มีคนกลุ่มหน่งให้เหตุผล


ท่มาของประเพณีการด่มถวายพระพรตามท่กล่าว ในเชิงตรรกะว่าปกติโต๊ะเเละโซฟา หรือเก้าอ้ท่มีเบาะ




ข้างต้นนี้เป็นความเชื่อว่ามาจากหลายสาเหตุ และพนักพิงของนายทหารท่ใช้ในห้องโถง นายทหารเรือ



สาเหตุแรก ในสมัยพระเจ้าชาร์ลท่ ๒ ขณะท ่ ี ส่วนหน่งมักจะยึดติดกัน จึงทาให้นายทหารส่วนหน่ง

ประทับบนเรือ HMS Royal Charles เม่อมีการด่ม ยากที่จะยืนขึ้นตรง ๆ ได้








ถวายพระพร ขณะท่พระองค์ทรงยืนข้น พระเศียรชนกับ อีกประการหน่ง ตาแหน่งท่น่งใกล้ หรือติดกับ






คานขวาง (beam) ของเพดาน (overhead) พระองค์ ผนงตวเรอ ซ่งเรือใบสมัยน้นความกว้างของดาดฟ้าช้นท ่ ี

ตรัสว่าต่อไปน้เม่อมีการด่มถวายพระพร บรรดา สูงขึ้นไปจะยิ่งสอบเข้าหากัน (thumblehome) ดังนั้น


นายทหารเรือไม่ต้องเส่ยงกับการกระทาดังกล่าว นายทหารส่วนนี้จึงเป็นการยากที่จะยืนขึ้นได้ตรง ๆ




พระองค์อนุญาตให้นั่งดื่มถวายพระพรได้ หมายเหตุ : การด่มถวายพระพรขณะน่ง ใช้เฉพาะ


สาเหตุที่ ๒ พระเจ้าจอร์จที่ ๔ ขณะด�ารงต�าแหน่ง ในห้องโถงนายทหารเรือบนเรือรบเท่าน้น ไม่เก่ยวกับ
Prince Regent ครั้งหนึ่ง เสด็จเสวยพระกระยาหารค�่า ในห้อง Mess นายทหารที่อยู่บนบก



บนเรือรบลาหน่ง เม่อมีนายทหารเรือกล่าวด่มถวาย หากการด่มถวายพระพรเกิดข้นขณะท่มีพิธีเคารพธง





พระพรจบ พระองค์ได้ตรัสว่า “ท่านสุภาพบุรุษท้งหลาย ในตอนเย็น ต้องยืนขึ้นดื่มถวายพระพร
นาวิกศาสตร์ 75
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔


“กัปตัน James Cook กับ Sauerkraut”





การเดินทางคร้งสาคัญของเขาท้ง ๓ คร้งน้น ลูกเรือเสียชีวิต


จากโรคนน้อยมาก เจมส์ คุก จัดให้มีการซ้อเสบียง




อาหารสด โดยเฉพาะผักและผลไม้ และท่จาเป็นท่สุด


คือ จ�าพวกมะนาว ทุกครั้งที่เรือจอดตามเมืองท่า แต่ใน
ทางปฏิบัติไม่สามารถท�าได้บ่อยครั้งนัก อีกทั้งอาหารสด


เก็บได้ไม่นานก็จะเสีย อาหารตามปกตของอังกฤษยุคน้น

เม่อกล่าวถึงช่อ James Cook คนส่วนใหญ่โดย เป็นขนมปังแข็ง (Hard Tack) และเนื้อเค็ม


เฉพาะชาวเรือรู้จักกันดีว่า เขาเป็นยอดนักเดนเรือและ





นักสารวจ และเป็นผู้เชยวชาญในการทาแผนท่เดนเรือ

ชาวอังกฤษในยุคเรือใบ (Age of Sail) เขาได้เดินทางเข้า
มหาสมุทรแปซิฟิกถึง ๓ คร้ง เขาได้ค้นพบออสเตรเลียและ

ฮาวาย และได้ยึดออสเตรเลียเป็นอาณานิคมให้แก่อังกฤษ
แต่ในตอนสุดท้ายเขาถูกชาวพ้นเมืองฮาวายฆ่าตาย

ในปี ค.ศ.๑๗๗๙ ผลงานของเขาได้รับการยกย่องจากหลาย คนอังกฤษไม่คุ้นเคยกับ Sauerkraut ทหารเรือจึง
วงการ แม้แต่ NASA ของสหรัฐอเมริกายังให้เกียรติเขา โดย ไมนยมรบประทาน Cook เอง ตวเขากไมทราบชดเจนวา













ต้งช่อ Space Shuttle ลาหน่งตามช่อเรือลาหน่งของเขา โรคลักปิดลักเปิดเกิดจากสาเหตุอะไร และจะแก้ไข


คือ HMS Discovery และ Space Shuttle ลาดับสุดท้าย อย่างไร เพียงแตเข้าใจว่า Sauerkraut สามารถระงับโรค




ช่อ Endeavour ตามช่อเรือล�าแรกท่เขาใช้เดินทางรอบโลก ดังกล่าวไม่ให้ขยายตัวออกไปได้ (at bay)

ก่อนการเดินทางเขาให้มีการจัดหา Sauerkraut

เป็นจานวนหลายตัน ปัญหาที่ลูกเรือส่วนใหญ่ไม่ยอม
รับประทานนั้น เขาใช้กุศโลบายง่าย ๆ โดยอาหารทุกมื้อ

ของบรรดานายทหารจัดให้ม Sauerkraut เป็นเครื่องเคียง
เม่อลูกเรือเห็นว่าบรรดานายทหารรับประทานคงต้องเป็น


ของด จึงเรียกร้องให้มีการจัดหาให้พวกเขาได้รับประทาน

นอกจากการสารวจและการเดินเรือแล้ว เขายังได้ บ้าง ปัญหาเลยหมดไป
ค้นพบวิธีการปัดป้อง (warding off) โรคลักปิดลักเปิด คนที่เคยรับประทานอาหารเยอรมันโดยเฉพาะเมนู

(scurvy) ซ่งเป็นโรคเน่องจากการขาดวิตามินซ ี ขาหมูเยอรมันย่อมรู้จัก Sauerkraut ด มันเป็นกะหลาปล ี









ในศตวรรษท ๑๘ โรคน้ทาให้ลูกเรือของอังกฤษท่ออกทะเล เปร้ยว เป็นของดองโดยใช้แบคทีเรย เกบไดนาน กล่าวกนวา







เป็นเวลานานต้องเสียชีวิตเป็นจานวนมากกล่าวกันว่า อุดมไปด้วยสารอาหารท่มีประโยชน์มากมายรวมท้ง ั

ในการทาสงครามนโปเลียน (Napoleonic War) ทหารเรือ วิตามินซ นอกจากนนยังช่วยย่อยอาหาร ลดความอ้วน




อังกฤษได้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าว มีจานวนมากกว่า บารุงสมอง บารุงหัวใจ และกระดก ลดความเครียด






จากการเสียชีวิตเน่องจากการสู้รบกับฝร่งเศส สาหรับ ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง

นาวิกศาสตร์ 75
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๔


วัฒนธรรมการชนแก้ว (Clink Glasses) และการกล่าวคำาว่า Cheers! ก่อนการดื่ม

























ท�ำไมเรำต้องชนแก้ว ส�ำหรับบำงคนแล้วกำรชนแก้ว ๔. ด่มเพ่อพระเจ้ำ เน่องจำกว่ำค�ำ Cheers อำจไม่ม ี

กลำยเป็นควำมเคยชน (Second Nature) ทเกิดข้น กำรใช้กันในทุกอำรยธรรมโดยตรง (per se)






เม่อมีกำรด่มอวยพรในกรณีต่ำง ๆ แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว อำรยธรรมใช้กำรชนแก้ว เพ่อเป็นกำรให้เกียรติต่อ

ประเพณีปฏิบัติน้เกิดข้นมำนับหลำยศตวรรษแล้ว พระผู้เป็นเจ้ำระหว่ำงกำรด่ม หรือเพ่อเป็นกำร



เหตุผลนั้นมีอยู่หลำยประกำรคือ แลกเปล่ยนกับค�ำอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้ำ เช่น ขอให้


๑. เพื่อเพิ่มพูนประสำทควำมรู้สึกทั้งห้ำ เมื่อเรำดื่ม สุขภำพดี ขอให้เจริญก้ำวหน้ำ ดังเช่นท่ปรำกฏใน

ประสำทหลำยส่วนได้มีส่วนเก่ยวข้อง เช่น เรำสำมำรถ อำรยธรรมของกรีกและโรมันสมัยโบรำณ

เห็น ล้มรส สัมผัส ได้กล่น เช่อกันว่ำกำรชนแก้วช่วยท�ำให้ Cheers ! ใช้ในหมู่คนท่พูดภำษำอังกฤษ ภำษำอ่น ๆ




ประสำทหูได้ยินเสียงและรู้ว่ำจะมีกำรดื่ม เรียกแตกต่ำงกันไป เช่น ภำษำสเปน - Salud เยอรมัน


๒. ขจัด (Ward Off) ส่งช่วร้ำย ในยุคกลำงผู้คนเช่อว่ำ และดัตช์ - Prost ฝรั่งเศส - Sante ญี่ปุ่น - Kampai

กำรชนแก้วและเปล่งเสียง Cheers ดัง ๆ เป็นกำรขจัด จีน - Gan bei ลำว - ต�ำจอก/ยกจอก เป็นต้น
สิ่งชั่วร้ำยให้ออกไป แต่ก็มีบำงประเทศ เช่น ในเยอรมนี กำรดื่มอวยพรส�ำหรับอำหำรเย็นในเรือรบของอังกฤษ





นอกจำกชนแก้วแล้ว บำงคร้งอำจใช้วิธีวำงแก้วเบียร์ วันอำทิตย์เพ่อเพ่อนท่จำกไป วันจันทร์เพ่อบรรดำ

อย่ำงแรงให้เกิดเสียงดังลงบนโต๊ะแทน เรือของเรำในทะเล วันอังคำรเพ่อผู้ใต้บังคับบัญชำ


๓. ป้องกันกำรใส่ยำพิษในแก้วเหล้ำ ในสมัยโบรำณ วันพุธเพ่อตัวเรำเอง วันพฤหัสบดีเพ่อสงครำมเลือด



เม่อมีกำรต่อสู้กันตัวต่อตัว ระหว่ำงพักเพ่อรอกำรต่อสู้ วันศุกร์เพ่อข้ำศึกท่จงใจ วันเสำร์เพ่อหวำนใจและภรรยำ




ต่อไปน้นจะมีกำรด่ม ก่อนด่มคู่ต่อสู้จะใช้แก้วเหล้ำ ครงต่อไปเรำมำดกนว่ำ ทำไมทหำรเรอใน









ท่มีเหล้ำอยู่เต็มชนกัน เพ่อเป็นกำรพิสูจน์ว่ำไม่ได้ใส่ รำชนำวีอังกฤษไม่มีกำรชนแก้วเม่อมีกำรด่มอวยพร



ยำพิษลงในแก้วของตัวเอง และหวังจะให้กระฉอกลงไป หรือถวำยพระพร ซ่งเป็นประเพณีท่ใช้กันมำต้งแต่


ในแก้วของคู่ต่อสู้ สมัยโบรำณจนถึงปัจจุบัน

นาวิกศาสตร์ 75
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๔


ทำ�ไมน�ยทห�รเรืออังกฤษไม่ชนแก้ว (Clinking Glasses) เมื่อมีก�รดื่มอวยพร



หากมีการด่มภายในเรือและมีการชนแก้วกัน
เสียงกระทบของแก้วเหล้า ชาวเรือถือว่าเป็นลางร้าย
จะเหมือนกับเสียงระฆังในพิธีปลงศพทหารลงสู่
ก้นทะเลลึก เพ่อไปสู่เจ้าแห่งความตาย (Davy Jone)





ท่คอยรอรับศพทหารอยู่ ซ่งน่นเช่อกันว่าเป็นลางไม่ด ี
ส�าหรับทหารประจ�าเรือ
หากบังเอิญมีนายทหารบางคนชนแก้วกัน ซึ่งถือว่า

เป็นลางร้ายจะโดยต้งใจหรือไม่ก็ตาม ทหารเรืออังกฤษ

เขามีวิธีแก้เคล็ดด้วยกัน ๒ วิธ วิธีแรก ให้รีบใช้มือจับ

สาเหตุหลักของประเพณีน้สืบเน่องมาจากการ แก้วเหล้าท่ใช้ชนกันน้นทันทีเพ่อไม่ให้เกิดเสียงดังเกินไป




เช่อเร่องโชคลาง (Superstition) ในสมัยยุคเรือใบ ส่วนวิธีที่ ๒ ให้ชนแก้วต่อไปอีก ๑ ครั้ง ซึ่งเชื่อกันว่าจะ






(Age of Sail) เมอราว ๔ - ๕ รอยปมาแล้ว เฉพาะประเดนน ้ ี ทาให้ปีศาจท่คอยจ้องจะรับศพทหารเกิดความสับสนแล้ว



เก่ยวข้องกับการฌาปนกิจศพทหารในทะเล (Burial เลิกท�าหน้าที่ของตน



at Sea) แก่บรรดาศพทหารท่เสียชวิตระหว่างเวลาท ่ ี


เรืออยู่ในทะเล เน่องจากในยุคน้นไม่มีวิธีการและสถานท ี ่



ซ่งใช้เป็นห้องเย็นเก็บศพ คร้นจะนาศพกลับสู่อังกฤษ



ก็ทาได้ยาก เน่องจากการออกทะเลแต่ละคร้งกินเวลา
นานแรมเดือนหรือแรมปี
ศพทหารจะถูกห่อด้วยผ้าใบเรือเย็บติดให้มิดชิด


พร้อมกับนานาหนักถ่วงศพ การเย็บผ้าใบหุ้มศพ


เข็มสุดท้ายต้องเย็บผ่านจมูกของศพเพ่อให้แน่ใจว่าศพ
น้นตายจริง ๆ ก่อนจะปล่อยศพลงสู่ทะเล โดยประเพณีแล้ว ดังน้น หากใครได้รับเชิญไปร่วมงานรับประทาน



จะมีการตีระฆัง ๔ คู่ เหมือนกับการเปล่ยนเวรยาม อาหารในห้องโถงนายทหารบนเรือของอังกฤษ เป็นการ


เพอเป็นสญลกษณ์ว่าเขานนหมดภาระหน้าทแล้ว เสยง ดีท่สุดต้องงดเว้นการชนแก้ว แต่หากเผอเรอไปชนแก้ว








ของระฆังน่เอง มีความหมายมากสาหรับบรรดาทหารเรือ ท่านควรชนแก้วต่อไปอีก ๑ ครั้ง เพื่อแก้เคล็ด







ตามปกติเม่อมีงานฉลองหรือมีการด่ม พลเรือนหรือ มีข้อท่น่าสังเกตว่า เม่อท่านไปร่วมงานใด เม่อม ี
ทหารเหล่าทัพอ่นจะมีการชนแก้วกัน และกล่าว Cheers ! การด่มอวยพรและมีการชนแก้วกัน และท่านได้เห็น





ก่อนการเร่มต้นด่ม หากท่านสังเกตจะพบว่านายทหารเรือ นายทหารเรือซ่งอาจไม่แต่งเคร่องแบบ ยืนลังเล



จะไม่ชนแก้ว เขาเพียงแต่ยกแก้วซ่งมีเหล้าข้นเท่าน้น ว่าจะชนแก้วดีหรือไม่ ขอให้สันนิษฐานว่าเขาคงเป็น

พร้อมกับกล่าว Cheers ! พร้อม ๆ กับผู้อื่น นายทหารเรืออังกฤษ
นาวิกศาสตร์ 67
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔


ขนมปังน้ำ�ต�ลทร�ย HOLYSTONE






















ค�ำน้ส�ำหรับชำวบกเม่อฟังดูแล้วน่ำสนใจหำกอยู่ในสภำพก�ำลังหิว แต่ส�ำหรับลูกเรือ หรือนักเรียนนำยเรือ

สมัยโบรำณค่อนข้ำงแสลงหูไม่น่ำยินดีนัก เพรำะหมำยถึงเวลำท่ต้องท�ำควำมสะอำดเรือในยุคเรือใบ หรือเรือเหล็ก
ที่มีพื้นดำดฟ้ำท�ำด้วยไม้ วิธีท�ำควำมสะอำดให้ขำวคือ กำรใช้หินทรำยขัดพื้นดำดฟ้ำพร้อมกับน�้ำเค็ม หินทรำยที่ใช้เป็น


ประเภทค่อนข้ำงนุ่ม เวลำใช้ขัดพ้นทรำยจะหลุดออกง่ำย ก้อนหินทรำยและทรำยท่หลุดออกมำจึงดูเหมือนขนมปังและ
น�้ำตำลทรำย นั่นคือที่มำและควำมหมำยของขนมปังน�้ำตำลทรำย


ส�ำหรับชำวเรือยุโรปและอเมริกำพวกเขำมีกำรขัดหินทรำยท�ำควำมสะอำดพ้นดำดฟ้ำเรือท่ท�ำด้วยไม้ (Holystoning)
ตั้งแต่สมัยยุคเรือใบ เนื่องจำกเป็นวิธีประหยัดกว่ำกำรใช้สบู่ล้ำงเรือ ซึ่งสมัยนั้นคงหำได้ยำก







ท�ำไมหินทรำยจึงเรียกว่ำ Holystone ชำวเรอองกฤษคร้งแรกได้นำชนส่วนของซำกโบสถ์เซนต์นโคลัส

ใน Great Yarmouth บนเกำะ Isle of Wight ซ่งเป็นหินทรำยชนิดนุ่มมำขัดพ้นดำดฟ้ำเรือกับน้ำทะเล ในขณะท่ลูกเรือ



ขัดพื้นนั้นพวกเขำต้องนั่งคุกเข่ำลง ซึ่งดูเหมือนกับว่ำก�ำลังสวดมนต์ ด้วยเหตุผลนี้จึงเรียกหินทรำยว่ำ Holystone

หินทรำยท่ใช้ส่วนใหญ่ม ๒ ขนำด แท่งเล็กเรียกว่ำหนังสือสวดมนต์ (Prayer Book) ขนำดใหญ่เรียกว่ำไบเบิล (Bible)

กองทัพเรือสหรัฐอเมริกำเคยห้ำมเรือรบใช้หินทรำยท�ำควำมสะอำดเรือ เม่อวันท ๕ พฤษภำคม ค.ศ. ๑๙๓๑






รัฐมนตรีว่ำกำรทบวงทหำรเรือของสหรัฐอเมริกำได้ส่งห้ำม โดยอ้ำงเหตุผลว่ำหินทรำยท�ำให้พ้นดำดฟ้ำเรือซ่งท�ำด้วยไม้















สกกรอนเร็วเกนกวำจำเปน ซงกองทพเรอตองเสยงบประมำณในกำรซอมทำ หรอเปลยนพนดำดฟำเรวกวำกำหนดมำก








อันเป็นเร่องท่ไม่สมควร ดังน้นจึงจ�ำกัดกำรใช้หินทรำยหรือวัสดุอ่น ๆ ประเภทเดียวกันในกำรขจัดครำบสกปรก




ออกจำกพื้นดำดฟ้ำเรือ
ปัจจุบันยังปรำกฏว่ำมีกำรใช้ Holystone อยู่อีกหรือไม่ เน่องจำกเรือรบหรือเรือสินค้ำเกือบท้งหมดพ้นดำดฟ้ำ



ของเรือท�ำด้วยเหล็ก จึงไม่มีควำมจ�ำเป็นต้องใช้หินทรำยอีกต่อไป แต่อำจปรำกฏให้เห็นบ้ำงบนเรือใบขนำดใหญ่







และเรอฝึกนกเรยนนำยเรอของบำงประเทศทมพนดำดฟ้ำทำด้วยไม้ แต่กระนนกตำมได้ใช้สบ่แทนหนทรำย








ท�ำควำมสะอำดเรือ
ชำวเรือยุคใหม่ของไทยจึงแทบไม่รู้จัก “ขนมปังน�้ำตำลทรำย” และฝรั่งเองก็คงไม่ค่อยรู้จัก Holystone เช่นเดียวกัน
นาวิกศาสตร์ 69
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๔


ลงเรือลำ�เดียวกัน (Be in the same boat)




























ราชบัณฑิตยสถานได้ให้นิยามวลีน้ท่เก่ยวกับชาวเรือว่า “ทางานร่วมกัน ร่วมรับผลการกระทาด้วยกัน” เป็นอุปมา





ท่หมายถึงการลงมือทางานร่วมกัน เป็นพวกเดียวกันหรือตกอยู่ในสถานการณ์ท่ต้องรับผลจากการกระทาร่วมกัน



ดังน้นต้องช่วยกันคิดช่วยกันทาต่อไปให้สาเร็จ ไม่ควรเอาตัวรอดเพียงคนเดียว ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Be in the same boat
ซึ่ง Cambridge English Dictionary ให้ความหมายว่า อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่น่ายินดีเช่นเดียวกันทุกคน หรืออยู่ใน
สถานการณ์ที่มีปัญหาเช่นเดียวกัน
วลีนี้เริ่มใช้กันตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๖ คนแรกที่ใช้คือ Thomas Hudson ในปี ค.ศ. ๑๕๘๔ โดยใช้ในเชิงอุปมาว่า

อยู่ในชะตาเดียวกัน เขาอธิบายว่า “เม่อเรือกาลังเดินทางไม่มีใครคนใดออกไปจากเรือได้ ไม่ว่าเขาจะเลือกหรือไม่ก็ตาม”





มีอีกทฤษฎีหนึงกล่าวถึงต้นตอของวลีดังกล่าวซ่งเกิดข้นกลางศตวรรษท ๑๙ ใช้กันมากในบรรดาชาวกรีก

ในความหมายคล้ายคลึงกัน กล่าวคือผู้โดยสารเรือต้องเผชิญความเสี่ยงเช่นเดียวกัน เมื่อพวกเขาต้องลงไปอยู่ในเรือบต
หรือเรือช่วยชีวิต (Lifeboat)
แต่ยังมีอีกทฤษฎีหนึ่งซึ่งน่าสนใจ ส่วนจะเชื่อถือได้เพียงใดนั้นขอให้ใช้ดุลพินิจเองแล้วกัน กล่าวกันว่าวลีดังกล่าว





มีต้นตอมาจากการจมของเรือโดยสารใหญ่ท่สุดของอังกฤษท่เรารู้จักกันดีคือ RMS Titanic เม่อวันท ๑๕ เมษายน


ค.ศ. ๑๙๑๒ ซ่งชนกับภูเขานาแข็ง คร้งน้นทุกคนทุกชนช้นตกอยู่ในสถานการณ์และชะตากรรมเดียวกันแม้ก่อน




เรือไททานิคจะจม ระหว่างเดินทางผู้โดยสารและลูกเรืออาจมีหลายสถานะและต่างชนชั้นกัน แต่เมื่อเรือจมและทุกคน
ลงไปอยู่บนเรือบต หรือเรือช่วยชีวิตแล้ว ทุกคนตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันเสี่ยงต่อการอยู่รอดเหมือนกัน
ต้องไม่สับสนกับส�านวน “ตะเภาเดียวกัน” ซึ่งค�านี้หมายถึง พวกเดียวกันหรือแบบเดียวกัน ตะเภาในที่นี้หมายถึง
เรือส�าเภาของจีน ผู้ที่อพยพมาจากเมืองจีนในเรือล�าเดียวกันย่อมมีขนบธรรมเนียมประเพณีเหมือน ๆ กัน เราจึงเรียก
ผู้ที่ท�าอะไรเหมือน ๆ กันว่า “ตะเภาเดียวกัน” หรือ “มาตะเภาเดียวกัน”

นาวิกศาสตร์ 77
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๔


ยุทธนาวีครั้งส�าคัญและใหญ่ที่สุดในสงครามโลกครั้งแรก


ระหว่างกองเรือ Grand Fleet ของอังกฤษ

ภายใต้การนาของ พลเรือเอก John Jelicoe กับ
พลเรือโท David Beaty ผู้บัญชาการกองเรือลาดตระเวน
สงคราม ปะทะกับกองเรือ High Sea Fleet ของเยอรมน ี


ภายใต้การนาของ พลเรือโท Reinhard Scheer กบ
พลเรือตรี Franz Hipper ทางตะวันตกของคาบสมุทร
Jutland ในทะเลเหนือ เป็นการรบทางเรือที่ส�าคัญที่สุด
และใหญ่ที่สุดในสงครามโลกครั้งแรก

ผลของการรบอังกฤษเสียเรือ ๑๕๑ ลา เสียทหาร
กว่า ๖,๐๐๐ คน ฝ่ายเยอรมันเสียเรือ ๙๙ ล�า เสียทหาร * ยุทธบริเวณในทะเลเหนือทาความลาบากใจ







กว่า ๒,๕๐๐ คน แม้กระทงปัจจุบนนยังเป็นท่ถกเถยงกัน ให้แก่ท้งสองฝ่าย โดยเฉพาะด้านทัศนวิสัย แต่ฝ่าย



ไม่จบว่าฝ่ายใดเป็นผู้ชนะ ฝ่ายอังกฤษมักอ้างว่าพวกเขา เยอรมันกลับใช้เป็นประโยชน์อีกทางหน่งกล่าวคือ อาศัย

แพ้ทางยุทธวิธีแต่ชนะทางยุทธศาสตร์ เพราะหลังจากนั้น ควันปืนสามารถหลบออกมาจากยุทธบริเวณได้
ฝ่ายเยอรมันไม่ได้ส่งกองเรือผิวนาออกไปสู้รบกับ * HMS Queen Marry และ HMS Indefati-






อังกฤษอีก เน่องจากมีเรือรบผิวนาจานวนน้อยกว่า แต่ gable ถูกยิงจนเกิดระเบิด เน่องจากมีเกราะท่ดาดฟ้าบาง


ฝ่ายเยอรมันได้ปรับเปล่ยนยุทธศาสตร์ การทาสงคราม ซ่งอังกฤษยอมรับว่าการออกแบบเรือมีปัญหาควรได้รับ



เป็นสงครามเรือค้า (gurre de course) ด้วยกองเรือ การแก้ไข แต่ประวัติศาสตร์ได้ซ้ารอยในสงครามโลกคร้งที ่


u boats เป็นหลัก ๒ อีก เม่อ HMS Hood เรือประจัญบานท่คนอังกฤษ


ข้อเท็จจริงบางประการ ภาคภูมิใจในอานุภาพได้ถูกเรือบิสมาร์คยิงจนเรือระเบิด
* เดิมที ในปี ค.ศ.๑๙๑๔ เยอรมนีใช้ยุทธศาสตร์ ในทันทีที่ปะทะกันบริเวณช่องเดนมาร์ก
ตั้งรับจึงถูกฝ่ายอังกฤษปิดล้อม (Blockade) * พลเรือโท Beaty ผู้บัญชาการกองเรือ
* ต่อมา พลเรือโท Scheer เปล่ยนยุทธศาสตร์ ลาดตระเวนสงครามของอังกฤษ ในเวลาต่อมาได้รับ

เป็นเชิงรุก และดึงก�าลังรบส่วนหนึ่งของ Grand Fleet ตาแหน่งแทน Jelicoe บางคนคิดว่าเขาดูน่าจะเป็น Lord

ไปท�าการยุทธในทะเลเหนือ Nelson คนท ๒ ของอังกฤษ ในด้านความกล้าหาญ


* องกฤษมเรอประจญบานททรงอานภาพกว่า แต่ในการรบคร้งน (รวมท้งการรบท่ดอกเกอร์แบงก์













และจานวนมากกว่า โดยเฉพาะเรือประจัญบานช้น ในป ค.ศ.๑๙๑๕) เขากลบลมเหลวทจะฉวยโอกาสทาลาย







“Queen Elizabeth” มีความเร็วสูงถึง ๒๕ น็อต กองเรือลาดตระเวนสงครามของเยอรมัน กระน้นก็ตาม

* การควบคุมปืนของเรือรบอังกฤษดีกว่า ในเวลาต่อมาเขาได้ครองยศจอมพลเรือ และเป็น First
แต่การปืนของเยอรมันเหนือกว่า ยิงได้แม่นย�ากว่า Sea Lord (แม่ทัพเรืออังกฤษ) ในเวลาต่อมา
นาวิกศาสตร์ 77
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๔


สมอเรือ Anchor




สมอเรือเป็นอุปกรณ์ท่ใช้ยึดตัวเรือกับพ้นทะเล
ในการทอดจอด สมอเรือแบ่งเป็นสามกลุ่มหลักคือ

แบบราชนาว (Admiralty Pattern) แบบไม่มีกะ
(Stockless) และแบบเก็บกระชับ (Close Stowing)


สมอเรือมาจากคาในภาษากรีกท่หมายถึง เบ็ดตกปลา
หรือตะขอ ความหมายด้งเดิมของชาวกรีกยังไม่ปรากฏ


ชัดเจน ความหมายในปัจจุบันมีเพียงนัยเดียวคือ เคร่องมือ

ท่ใช้จับยึดเรือไว้ขณะท่เรือไม่ได้เดินทาง (not under way)


Dr.Giles ผ้เช่ยวชาญประวตศาสตร์จนคนหนง






ได้บันทึกไว้ว่าจีนมีสมอเรือ หางเสือ และไม้พายใช้งาน
เป็นท่รู้จักกันดีเม่อราว ๒,๐๐๐ ปีก่อนคริสต์ศักราช







เขาได้บนทกไว้ว่าจกรพรรด Yu ได้ทรงประดษฐ์สมอเรอ




ข้นมา และได้รบการยกย่องว่าเป็นพระองค์แรกท่ได้ใช้
โซ่สมอเรือ ในกรุงโรม เป็นต้น แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วลักษณะของโซ่

ถุงทราย หรือก้อนหินเคยถูกนามาใช้เป็นสมอเรือ ท่พันก้านสมอน้น ชาวเรือถือว่าเป็นส่งไม่ด ไม่พึงปรารถนา






โดยนักเดินเรือยุคแรก ๆ พวกกรีกและโรมนใช้สมอเรือ น่าละอาย (Disgrace) เพราะเป็นลักษณะท่สมอไม่กินดิน
ท่เป็นก้อนหินในยุคแรกเช่นกัน กล่าวกันว่าเมือง Ancyra สมอแบบเก่า หรือท่เรียกว่า Admiralty Pattern



ในอียิปต์ เป็นช่อท่มีรากศัพท์มาจากการสร้างสมอเรือ มีความยุ่งยากในการเก็บ โดยเฉพาะสมอเรือท่มีขนาดใหญ่



จากแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ด้วยหินของเมืองนั้น มีหลักฐาน สมอไม่มีกะ (Stockless) ท่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน
พอท่จะเช่อได้ว่าในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมีการใช้ จึงได้ท�าการพัฒนาขึ้น สมอชนิดนี้สามารถแขวนที่รูสมอ





สมอเรอเป็นสญลกษณ์ของการพาณิชย์ และความม่งค่ง (Hawse Pipe) ได้อย่างม่นคงในระหว่างท่เรือกาลังเดินทาง










ส่วนพวกกรีกใช้สมอเรือเป็นเคร่องแสดงคุณค่าของ ขนาดและนาหนักของสมอเรือจะเพ่มข้นตาม



ความหวัง หนักแน่น และเด็ดเด่ยว ซ่งเป็นความหมาย ขนาดของเรือ ตัวอย่างเช่น เรือบรรทุกเคร่องบิน USS
ฝังแน่นในทางศาสนา ส�าหรับพวกคริสเตียนในยุคแรก ๆ Forrestal มีสมอหลักตัวละ ๖๐,๐๐๐ ปอนด์ โซ่สมอ
ใช้สมอเรือเป็นสัญลักษณ์ของความจงรักภักด ี ยาว ๑,๘๐๐ ฟุต หนัก ๒๔๖ ตัน
ความหวัง และการไถ่บาป ภาพวาดบางภาพจะมีคาจารึก สมอเรือได้มีความสัมพันธ์กับราชนาวีอังกฤษ



ความหมายดังกล่าวประกอบ เช่น Spes in Christo เม่อ Lord Howard of Effingham นามาใช้เป็นตรา
(ศรัทธาต่อพระเจ้า) ภาพที่เราคุ้นตาในปัจจุบันคือ โซ่พัน หรือสัญลักษณ์ของตน ในปี ค.ศ. ๑๖๐๑ เมื่อถูกน�ามาใช้
ก้านสมอ (Foul Andior) เป็นประติมากรรมที่มีชื่อเสียง เปนตราของกองทพเรอ และตอมาไดแพร่หลายโดยทวไป









เช่น ท Temple of Neptune (วิหารของพระสมุทร) ส�าหรับชาวเรือ
นาวิกศาสตร์ 75
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๔


การรับ- ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารเรือ




บางคนอาจสังเกตถึงความแตกต่างของการรับ-ส่งหน้าท่ระหว่างผ้บัญชาการทหารเรือ ผ้บัญชาการทหารบก และ


ผบญชาการทหารอากาศ เชน การแตงกาย ทหารเรอสวมชดปกตขาว สวนผบญชาการทหารบก และผบญชาการ















ทหารอากาศ ใช้สีตามเหล่าทัพ แต่ส่งท่เด่นและเป็นสัญลักษณ์ของพิธีสาคัญนี้คือ ทหารบก/ทหารอากาศ มีการส่งมอบ















ธงประจาตาแหนงผบญชาการเหลาทพ แตสาหรบทหารเรอมการสงมอบตราประจาตาแหนงซงทาดวยงาชาง บรรจอย ู ่









ในกล่อง คงมีคนสงสัยว่า ผู้บัญชาการทหารเรือไม่มีธงประจำาตำาแหน่งหรือ? คำาตอบคือ มี แต่ไม่มีการส่งมอบธงประจำา
ตำาแหน่งกัน และดูเหมือนจะไม่มีทหารเรือของชาติใดกระทำากัน
หมายเหตุ: พิธีรับ-ส่งหน้าท่ผ้บัญชาการทหารเรือ


ประกอบดวยพธตรวจแถวกองทหารเกยรตยศของ





ผบญชาการทหารเรอ พธการมอบและรบมอบ







การบังคับบัญชา โดยผ้บัญชาการทหารเรือ ท่านเดิม



กล่าวมอบการบังคับบัญชา และมอบตราประจาตาแหน่ง


ผ้บัญชาการทหารเรือ ให้แก่ผ้บัญชาการทหารเรือ
ท่านใหม่ จากนั้นลงนามในสมุดรับ-ส่งหน้าที่
เป็นท่น่าสังเกตว่าในราชนาวีอังกฤษมีประเพณ ี



การส่งมอบหน้าท่ผ้บัญชาการทหารเรือ (First Sea Lord
and Chief of Naval Staff) บนเรือ HMS Victory ซึ่ง




เคยเป็นเรอธง ของ Lord Nelson ในการยทธ์ท Trafulgar
ค.ศ.๑๘๐๕ ปัจจุบันเรือลำานี้ยังคงประจำาการ มีอายุุราว

๒ ศตวรรษคร่ง HMS Victory ปัจจุบันเป็นเรือธง (Flagship)

ของผบญชาการทหารเรอองกฤษ จอดอยท Portsmouth








ทางตอนใต้ของอังกฤษ
พิธีรับ - ส่งหน้าท กระทาบนดาดฟ้าใหญ (Main




Deck) แขกรับเชิญนอกจากข้าราชการ เจ้าหน้าท ่ ี


ท่เก่ยวข้องแล้ว ยังมีพลเรือนเข้าร่วมพิธีด้วย นอกจากน้น

ยังมีผู้แทนจากกองทัพเรือของมิตรประเทศอีกหลายคน
สาหรับกระบ่ท่ใช้เป็นเชิงสัญลักษณ์ของ



การบังคับบัญชานี้ นายทหารเรือหญิงนำาไปเก็บไว้ที่ห้อง

พักของผ้บัญชาการทหารเรือ (Great Cabin) บนเรือ


HMS Victory อน่งการส่งมอบหน้าท่จะขาดเสียไม่ได ้
ในทางนิตินัย คือ การลงนามในเอกสารซึ่งกระทำากันใน
ทุกกองทัพเรือ
นาวิกศาสตร์ 74
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๔


เรือด�ำน�้ำชั้น “วิบัติ” (K-class)





















ในสงครามฟอล์กแลนด์ ปี ค.ศ. ๑๙๘๒ เรือด�าน�้า เรือออกปฏิบัติการในทะเลได้สูญหายไป ๖ ล�า โดยไม่ได้







นิวเคลียร์ของอังกฤษ ได้ประสบความส�าเร็จอย่างสูง ปะทะกบข้าศึก มเพยงลาเดียวเท่านน คอ เรือ K-7 ปะทะ
HMS Conqueror จมเรือลาดตระเวนของอาร์เจนตินา กับเรือ U-Boat ของเยอรมัน โดยยิงตอร์ปิโดถูกกลางล�า

เพียงลาเดียว ถึงกับทาให้กองเรือของ Argentina ท้งหมด แต่ตอร์ปิโดไม่ระเบิด หลังจากทราบผลการยิง เรือ K-7


ไม่กล้าออกทะเล แต่หากย้อนกลับไปช่วงสงครามโลก ได้แล่นหนีหายไปจากยุทธบริเวณ













คร้งแรก เรือดานาของอังกฤษไม่ประสบความส�าเร็จมากนัก ความลมเหลวของเรอชนน เชน เรอ K-1 ชนเรอ K-4
ลอร์ดฟิชเชอร์ แม่ทัพเรือของอังกฤษ (First Sea Lord) จน K-1 ต้องจมตัวเอง ส่วนเรือ K-4 นอกจากเคยเกยตื้น





ก่อนเกิดสงครามได้กาหนดให้สร้างเรอดานาในมิติใหม่ ท่เกาะ Walney แล้ว ต่อมาถูกเรือ K-6 ชนเกือบขาด

กล่าวคือ ต้องการให้สามารถร่วมปฏิบัติการกับกองเรือ เป็น ๒ ท่อน จมลงพร้อมกับลูกเรือท้งลา เรือ K-15



Grand Fleet ได้ นั่นหมายถึงต้องออกแบบเรือใหม่ให้มี จมขณะจอด แต่ท่น่าสนใจมากท่สุดคือ เรือ K-3 ขณะออก








ความเร็วสูงขณะแล่นบนผิวนา ซ่งโดยหลักนิยมของการใช ้ ทดสอบในทะเล ซ่งม King George ท ๖ (ขณะน้นยังไม่ได้





เรือดานาแล้ว ไม่ต้องการเปิดเผยตัวเอง และปฏิบัติการลบ ครองราชย์สมบัติ) ออกทะเลไปกับเรือด้วย เรือได้ด�าเร็ว

อย่างอิสระ เกินไป ด้วยมุมท่ชันมากจนหัวเรือปักพ้นท้องทะเล



จากแนวความคิดดังกล่าว ได้กลายเป็นเรือดานาช้น ติดอยู่นานราว ๒๐ นาที และยังมีอุบัติเหตุอื่น ๆ อีก


K-class ท่ขับเคล่อนด้วยพลังไอนา ออกแบบใน ค.ศ. ๑๙๑๓ เรือช้นน้ของอังกฤษถูกล้อเลียน และต้งช่อเล่นว่า









ให้สามารถมีรัศมีทาการได้ไกลราว ๘๐๐ ไมล์ เป็นเรือดานา เป็น Kalamity Class (ค�าที่ถูกต้องเขียนด้วยตัว C แทน









โจมต มความเรวประมาณ ๒๔ นอต ระวางขบนา ตัว K) เน่องจากเป็นเรือท่สร้างความวิบัติให้แก่ราชนาว ี





๒,๐๐๐ ตัน กล่าวกันว่าเรือช้นน้ม ๑๗ ลา เป็นเรือรบท่แย่ อังกฤษ) บทเรียนจากความล้มเหลวของเรือช้นน ทาให้















ท่สุดในประวัติศาสตร์ การใช้เคร่องจักรไอนากินเน้อท ี ่ ไม่มีกองทัพเรือใดใช้พลงงานไอนาเป็นพลังขบเคล่อนของ


ของเรอไปมาก เรอทรงตวได้ไม่ดเลย อากาศภายในเรอ เรือด�าน�้าอีกต่อไป




ไม่ดีนัก ร้อนอบอ้าวมาก ในช่วงของสงครามโลกครั้งแรก
นาวิกศาสตร์ 74
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


Click to View FlipBook Version