ส้อมของ Lord Nelson
ี
ี
ื
ั
ในวงการทหารเรอของโลก ต่างทราบกนดว่า ผลจากการท ลอร์ด เนลสัน ได้สูญเสียแขนขวา
่
ี
ี
ิ
�
�
ลอร์ด เนลสัน แม่ทัพเรือท่ย่งใหญ่ท่สุดของอังกฤษ ต่อมาทางเรือของเขาได้จัดทาอุปกรณ์พิเศษสาหรับใช้
ึ
ได้สูญเสียตาข้างขวาและแขนขวา ซ่งการสูญเสีย รับประทานอาหาร โดยเฉพาะการพัฒนาให้มีดและส้อม
ึ
ิ
อวัยวะท้งสองอย่างน้เน่องจากการสู้รบกับข้าศึกของเขา อยู่บนช้นเดียวกน (ซ่งต่อมาเรยกว่า Nelson's Fork)
ี
ื
ั
ั
ี
้
ื
ั
�
ื
ี
อย่างกล้าหาญ เร่องเล่าชาวเรอคร้งนจะนาเสนอ เพ่อช่วยให้เขาสามารถตัดอาหาร และใช้ส้อม
ื
้
ั
ี
ี
ึ
ื
ในประเด็นว่าเม่อเขามีเพียงแขนซ้ายข้างเดียว รบประทานอาหารสะดวกข้นโดยใชเพยงมือซ้ายข้างเดยว
ั
ั
ู
เขารับประทานอาหารท่ต้องใช้อุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร ส้อมของเนลสน ถกเกบรกษาไว้ในเวลาต่อมา
็
ี
ึ
ั
อย่างไร ซ่งโดยวัฒนธรรมท่วไปของพวกยุโรปน้น ทพพิธภณฑ์ทางทะเลแห่งชาตขององกฤษ (National
ิ
ิ
ั
ี
่
ั
ั
ต้องใช้ทั้ง มีด ส้อม และช้อน Maritime Museum, Greenwich) ท่กรุงลอนดอน
ี
ั
�
ลอร์ด เนลสัน ได้สูญเสียแขนซ้ายในการรบท ่ ี ในสงครามโลกคร้งท ๑ มีทหารจานวนมาก
ี
่
Santa Cruz ของเกาะ Tenerife tenerife ของฝรั่งเศส ได้สูญเสียแขนในการสู้รบ แขนทหารถูกตัดหลายข้าง และ
�
ึ
อยู่ในแอตแลนติกตะวันออกเหนือ Algeria เป็นการ ได้มีการนาต้นแบบของ Nelson's Fork มาใช้แทน ซ่งนับ
ี
โจมตียกพลขึ้นบก เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ค.ศ. ๑๗๙๗ เป็นการออกแบบท่ค่อนข้างธรรมดาแต่มีประสิทธิภาพสูง
ื
่
ั
้
ู
ตอนนนเขาอย่บนเรอธงชอ HMS Agamemnon และยังคงมีใช้จนกระทั่งปัจจุบัน
ื
ี
้
การยุทธ์คร้งน้เขาประสบความพ่ายแพ้ และมีการ ในยุคร่วมสมัยน เราอาจเคยเห็นส้อมท่มีลักษณะ
ี
ี
ั
ื
ตกลงสงบศึกกับฝร่งเศส เม่อวันท ๒๕ กรกฎาคม ใกล้เคียงกับของ ลอร์ด เนลสัน แต่เป็นส้อมที่ใช้ส�าหรับ
ี
่
ั
เขาต้องถูกตัดแขนข้างขวาซ่งเขาได้เก็บรักษาไว้ โดยต้งใจ รับประทานผลไม้ เพ่อให้สะดวกแก่การตัดและใช้ส้อม
ั
ึ
ื
ื
ให้เป็นเคร่องเตือนใจถึงรอยด่างแห่งความพ่ายแพ้ สาหรับในประเทศไทยบางคนอาจเคยเห็น แต่ปัจจุบัน
�
ในชีวิตการต่อสู้ของเขา ค่อนข้างหาดูได้ยากเต็มที
นาวิกศาสตร์ ๗๐
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔
“ท�ำไมกะลำสีเรืออังกฤษ ถูกเรียกว่ำน�้ำมะนำว (Limey)”
้
�
ี
ผู้ท่เรียกกะลาสีเรืออังกฤษว่า นามะนาว (Limey) ต่อมา Dr. James Lind นายแพทย์ชาวสกอต
พวกแรก คือ ทหารเรืออเมริกัน ในสมัยยุคเรือใบ ได้ค้นพบว่า นามะนาวสามารถป้องกัน โรคลักปิดลักเปิดได้
�
้
(Age of sail) และต่อมาได้ขยายไปเป็นคนอังกฤษ จึงได้แนะน�าให้ทหารเรืออังกฤษดื่มน�้ามะนาว ในขณะที่
ึ
โดยรวมว่า Limey เช่นเดียวกัน อน่ง Limey เป็นการเรียก อยู่ในทะเลเป็นเวลานาน ในตอนแรกประสบปัญหาบ้าง
้
�
ั
�
ให้ส้นของคา Lime Juice คาว่า Lime ในท่น้ไม่ได้ เพราะทหารไม่คุ้นเคย แต่มีการผสมนามะนาวลงไปใน
ี
�
ี
ึ
�
ึ
ี
้
เก่ยวข้องกับหินปูน แต่หมายถึง มะนาวชนิดหน่ง มีสีเขียว Grog คือ เหล้ารัมผสมนา ซ่งทหารทุกนายได้รับแจก
ี
ี
แกมเหลือง ส่วนใหญ่พบในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และ ทุกวัน น่คือเหตุผลท่ทหารเรืออเมริกันเรียกกะลาสีเรือ
หมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน อังกฤษว่า Limey
ในยุคเรือใบ ปัญหาในการเก็บเสบียงอาหารสด ทหารเรืออเมริกันซ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของมหาสมุทร
ึ
ู
ั
ให้คงอยู่ได้นานเป็นเรื่องส�าคัญ ดังนั้น ผักสด และผลไม้ แอตแลนตก ใช้คานเป็นคาสแลงในเชงเย้ยหยนดถก
ู
ิ
ี
้
�
ิ
�
ั
จึงบริโภคหมดในช่วงแรก ๆ ของการเดินทาง ดังน้นทหารเรือ ในตอนแรก ๆ แต่ตอมาคาสแลงน กลายเป็นคาทค่อนข้าง
�
้
่
ี
่
ี
�
อังกฤษจึงขาดแคลนอาหารสด โดยเฉพาะผักสด น่ารัก
ี
และผลไม้ ท่สาคัญคือ ไม่ได้บริโภคมะนาวเป็นเวลานาน
�
ั
ึ
ี
�
ทาให้ขาดวิตามินซ ซ่งส่งผลให้ทหารเหล่าน้นเป็นโรค
ลักปิดลักเปิด หรือเลือดออกตามไรฟัน (Scurvy)
กล่าวกันว่า ในประวัติศาสตร์ของราชนาวีอังกฤษ
�
ิ
กะลาสีเรือได้เสียชีวตจากโรคดังกล่าวเป็นจานวน
ู
มากกว่าสญเสยในการรบเสยอก หรอแม้กระทง Lord
ื
ี
ี
่
ั
ี
Nelson แม่ทัพเรือ
อังกฤษเอง ก่อนที่เขา
ี
ี
จะเสยชวิตในการรบ เลือดออกตามไรฟัน (Scurvy)
ี
ิ
ั
ั
คร้งย่งใหญ่ คร้งสุดท้าย อย่างไรก็ด โรคลักปิดลักเปิดได้รับการเยียวยา
ั
ี
ั
ท Trafalgar จน มาอย่างด จนกระท่งถึงสงครามโลกคร้งแรกในราชนาว ี
่
ี
ดับฝันของพระเจ้า อังกฤษ โรคนี้กลับเกิดขึ้นอีกอย่างไม่คาดหมาย อังกฤษ
ึ
ั
ี
้
ุ
่
ื
นโปเลียนท่จะบุกรุก จงได้มการตงคณะกรรมการเพอค้นหาสาเหต และ
ี
่
ั
็
ั
ั
้
่
ี
ี
ิ
ิ
่
้
ุ
เกาะอังกฤษ เขาได้ การปองกน ผลสดทายพบวาวตามนซตางหากทเปนปจจย
ั
�
ึ
ี
เหลือฟันสาหรับเค้ยว สาคัญในการป้องกันโรคดังกล่าว ซ่งต่อมาคนโดยท่วไป
�
ี
ี
ื
อาหาร เพียงไม่กี่ซี่ ได้บริโภควิตามินซ เพ่อป้องกันโรคน้และอีกหลายโรค
Dr. James Lind แม้กระทั่งปัจจุบันในการต่อสู้กับ COVID-19
นาวิกศาสตร์ 80
ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕
เรือสำ�ร�ญ (Love Boat)
แม้ว่าเรอ USS Acadia เป็นเรอช่วยรบ (AD 42)
ื
ื
ั
ก็ตาม แต่บรรดาทหารหญิงท้งหมดราว ๑ ใน ๔ ของ
�
ี
ี
จานวนลูกเรือได้ปฏิบัติการท่มีความเส่ยงอันตราย
�
ี
เช่นเดียวกันกับทหารชาย เช่น ทาหน้าท่ประจาปืนกล
�
ทาหน้าท่เก่ยวกับอาวุธปล่อยนาวิถ Tomahawk เป็นต้น
ี
�
�
ี
ี
ถือว่าเธอเหล่านั้นเป็นผู้บุกเบิกของกองทัพเรือ และ
กองทัพเรือหวังกันว่าผลงานของเธอเหล่าน้น ในสนามรบ
ั
ื
จะเป็นการนาไปสู่การบรรจุทหารหญิงบนเรือรบลาอ่น ๆ
�
�
อีกต่อไปด้วย
USS Acadia อย่างไรก็ตาม การที่ทหารหญิงตั้งครรภ์จ�านวนมาก
เม่อกล่าวถึงเรือสาราญหรือ Love Boat สาหรับคน กลับท�าให้เป็นที่วิจารณ์ว่า เรือล�านี้เป็นเรือ Party Boat
�
�
ื
ื
อเมริกันย่อมเข้าใจกันด เน่องจากมีภาพยนตร์โทรทัศน์ มากกว่าเรือรบ กล่าวกันว่า ลูกเรือมีพฤติกรรม Free Sex
ี
ั
ของช่อง ABC ออกอากาศใน ค.ศ. ๑๙๗๗-๑๙๘๖ มีการร่วมเพศ แม้กระท่งในห้องใต้ดาดฟ้าหัวเรือ
ื
�
ี
ั
ื
เป็นซีรีย์เกี่ยวกับกัปตันเรือ Pacific Princess พร้อมกับ (Forecastle) ส่อมวลชนต้งช่อเรือลาน้ว่า Love Boat
ึ
ลูกเรือจานวนหน่งท่มีความสุขสนุกสนานกับผู้โดยสาร นักเขียนการ์ตูนได้วาดภาพเรือ ชักธงเพลย์บอยคร่งเสา
�
ึ
ี
่
ื
ี
�
(หญิง) โดยเรือลาน้ได้เข้าจอดท่เมืองท่า Puerto Vallarta พร้อมกับบรรยายว่า “เพอเป็นเกยรติยศต่อการตายใน
ี
ี
ั
และ Acapulco น่นเป็นเร่องของนวนิยาย แต่ในท่น ้ ี หน้าที่ของกระต่าย ๓๖ ตัว”
ี
ื
จะกล่าวถึง Love Boat ที่เป็นเรื่องจริงของกองทัพเรือ
สหรัฐอเมริกา
ปัญหาเร่องการบรรจุทหารหญิงในเรือรบท่ต้อง
ื
ี
ี
ออกปฏิบัติการในทะเล เป็นท่ถกเถียงกันเกือบตลอดเวลา
เหตุการณ์ของเรือ USS Acadia ซ่งเป็นเรือประเภทช่วยรบ
ึ
เป็นเรือพ่เล้ยงเรือพิฆาต (Destroyer Tender)
ี
ี
ื
ได้ปฏิบัติการในตะวันออกกลาง เม่อ ค.ศ. ๑๙๙๑
ี
�
เรือลาน้ได้บรรจุทหารหญิงมีจานวนเปอร์เซ็นต์สูง เรือส�ำรำญ Love Boat
�
(มากกว่า ๑ ใน ๓) ของก�าลังพลทั้งหมด เมื่อเรือได้จบ เหตุการณ์คร้งน ทาให้กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา
ั
�
ี
้
ิ
ภารกจแล้ว กลับเข้าจอดท่เมืองท่า San Diego ปรากฏว่า ได้รับความเจ็บปวดมาก โดยเฉพาะเม่อเปรียบเทียบกับ
ี
ื
ทหารหญิง ๓๖ คน หายไปจากเรือ เนื่องจากบรรดาเธอ ความสาเร็จในการปฏิบัติการรบของกองทัพบก และ
�
เหล่านั้นได้ตั้งครรภ์ กองทัพอากาศ
นาวิกศาสตร์ 73
ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
การเปาะที่หัวเรือ (Bulbous Bow)
การเกยต้นของ
ื
เรือบรรทุกสินค้าขนาด
ิ
้
�
ี
์
�
ั
้
ยกษลานทาใหเกดภาพ
ึ
ซ่งหลายคนคงสงสัยว่า
ี
กระเปาะท่หัวเรือน้นม ี
ั
ไว้เพื่อประโยชน์อะไร
ี
กระเปาะท่หัวเรือในทาง
เทคนคช่วยทาให้เรอลดแรง
�
ิ
ื
กระแทกท่หัวเรือเม่อเรือ
ื
ี
ฟันคล่น (แล่นสวนคล่น)
ื
ื
ึ
ประโยชน์อีกประการหน่ง
ิ
หลายคนคงเคยเห็นกระเปาะท่หัวเรือ ซ่งปกต ิ ช่วยเพ่มความเร็วของเรือ
ึ
ี
จะอยู่ใต้เส้นแนวน�้า (Waterline) ไม่สามารถมองเห็นได้ ในขณะเดินทาง (Underway)
�
ขณะท่เรือบรรทุกเต็ม แต่เราสามารถเห็นเม่อเรือไม่ได้อย ู่ เรือพาณิชย์ลาแรก
ื
ี
ี
ในสภาพที่เป็นเช่นนั้น ท่มีการต่อเรือให้มีกระเปาะท ่ ี
เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เราได้มีโอกาส หัวเรือคือเรือเดินสมุทรข้าม
ื
เห็นกระเปาะท่หัวเรือของเรือสินค้าขนาดยักษ์บรรทุก แอตแลนติกของเยอรมนีช่อ MS Bremen ของบริษัท
ี
ื
คอนเทนเนอร์ มากกว่า ๒ แสนตัน ช่อเรือ MS Ever Norddeutscher Lloyd สร้างก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒
�
ี
ื
ั
ื
Given เป็นข่าวดังไปท่วโลก เม่อเรือลาน้ได้เกยต้น
ั
ึ
ฝั่งหน่งของคลองสุเอซ เรือได้ปิดก้น (Blocking)
�
ขวางคลอง ไม่มีเรือสินค้าลาใดผ่านไปได้ จนกระท่ง
ั
ประมาณ ๑ สัปดาห์ ด้วยความร่วมมือของหลาย ๆ ฝ่าย
ได้ช่วยกันแก้ปัญหาจนส�าเร็จ
ั
้
สาเหตุของอุบัติเหตุคร้งนี กล่าวกันว่าเป็นเพราะเรือ
ได้เจอพายุทะเลทราย ทาให้เสียทัศนวิสัย อีกกระแสหน่ง
ึ
�
อ้างว่าเรือเกิดไฟฟ้าดับ ไม่สามารถควบคุมเรือได้
ี
ั
อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุคร้งน้ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหาย
ทางด้านเศรษฐกิจมากนัก เม่อเปรียบเทียบกับในอดีตท ี ่
ื
คลองนี้เคยถูกปิดโดยความตั้งใจนานถึง ๘ ปี
นาวิกศาสตร์ 75
ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๕
ตำ�น�นเกี่ยวกับสมอ (Anchor) ที่เร�อ�จยังไม่ทร�บ
ี
สมอ เป็นค�ำท่มำจำกภำษำกรีก หมำยถึง ตะขอ เป็นสัญลักษณ์ ดังปรำกฏใน Hebrew 6:19 ว่ำ “เรำมี
ี
หรือท่เก่ยว กะลำสีเรืออังกฤษปัจจุบันยังใช้ส�ำนวนเดิม ควำมหวังเช่นเดียวกันกับสมอของจิตวิญญำณทั้งในด้ำน
ี
ื
่
ั
ั
ิ
เม่อปล่อยสมอวำ “ท้งตะขอ” ปัจจุบนสมอโดยท่วไปแล้ว ควำมแน่นอนและควำมแน่วแน่” นอกจำกนั้นชำวคริสต์
ื
หมำยถึง เคร่องมือท่ใช้ส�ำหรับยึดเรือกับพ้นท้องทะเล ในสมัยโบรำณเช่อกันว่ำสมอเป็นสัญลักษณ์ของ
ี
ื
ื
เมื่อเรือไม่ได้เดินทำง (get underway) ควำมปลอดภัย ควำมสงบของจิตใจ และควำมใจเย็น
ี
Dr.Giles ผู้เช่ยวชำญท่มีช่อเสียงมำกคนหน่งด้ำน ชำวคริสต์รุ่นใหม่บำงคนไม่เคยทรำบมำก่อนถึง
ึ
ื
ี
ี
ั
ประวัติศำสตร์จีน ได้บันทึกว่ำ เรือของชำวจีนมีสมอ ควำมสมพันธ์เก่ยวกับสมอและศำสนำคริสต์ ถึงกับ
ั
หำงเสือและกระเชยงมำนำนแล้วกว่ำ ๒,๐๐๐ ปี กล่ำวว่ำ ควำมสัมพันธ์ของท้ง
ี
ก่อนคริสต์ศักรำช จักรพรรดิ Yu ของจีนได้เคยประดิษฐ์ ๒ อย่ำง คือ สมอและไม้กำงเขน
ื
สมอและเป็นบุคคลแรกที่ได้ใช้โซ่สมออีกด้วย อำจเน่องจำกลักษณะคล้ำยคลึง
กัน โดยเฉพำะสมอแบบดั้งเดิม
ถุงบรรจุทรำยหรือหินเคยถูก (Admiralty)
นักเดินเรือในยุคแรกใช้เป็นสมอ
ี
ึ
มำก่อนแล้ว ในยุคนั้นสมอที่ใช้หิน อีกประเด็นหน่งท่คนส่วนใหญ่มักจะเข้ำใจ
ิ
ี
ื
เป็นท่นิยมของชำวกรีกและชำว คลำดเคล่อนจำกควำมเป็นจริงกล่ำวคือ ส่งท่เรำเห็น
ี
ี
ิ
โรมัน ในหนังสือของ Stephanus รูปสมอ พันโซ่ (foul anchor) ส่งท่ปรำกฏกลำยเป็น
ั
ื
ั
Byzantinus ช่อ De Urbibus ได้กล่ำวว่ำ เมือง Ancyra ภำพสญลกษณ์ของกระทรวงทหำรเรอและของรำชนำว ี
ื
ั
ในอียิปต์ เป็นชื่อที่มำจำกค�ำว่ำ เหมืองหิน อังกฤษ ต่อมำได้ปรำกฏให้เห็นแพร่หลำยท้ง
ั
ั
ึ
ั
ี
ล�ำตัวสมอท่ท�ำจำกตะก่ว ซ่งแสดงว่ำเป็นสมอจำก ในส่วนของกองทัพเรือและชำวเรือโดยท่วไป น่นเป็น
ึ
ี
ี
ยุคกรีกโบรำณ สำมำรถดูได้ที่พิพิธภัณฑ์ Boreli ที่เมือง ศิลปะท่ท�ำให้ภำพดูสวยงำมข้น แต่ส�ำหรับชำวเรือท่แท้
ั
ี
Marseilles และ Old Museum ในกลุ่ม Berlin และ จริงแล้วเป็นปรำกฏกำรณ์ท่บำงคร้งเรียกว่ำควำมอับอำย
ที่อื่น ๆ ในยุโรปตอนใต้ ขำยหน้ำของชำวเรือ เพรำะแสดงถึงควำมสะเพร่ำ หรือ
พวกโรมันสมัยโบรำณใช้สมอเป็นสัญลักษณ์ ควำมอ่อนหัดทำงด้ำนควำมเป็นชำวเรือ เพรำะสมอพันโซ่
ิ
ั
ิ
่
้
�
ิ
ั
แห่งควำมม่งค่งและกำรค้ำขำย ขณะท่พวกกรีกใช้เป็น จะทำใหสมอไมกนดน และสมอตดขดขณะหะเบสสมอ
ี
ั
สัญลักษณ์แห่งควำมหวังและควำมมั่นคง ซึ่งควำมหมำย
ี
ั
เหล่ำน้สืบทอดและเก่ยวพันกับศำสนำคริสต์ และรวมท้ง
ี
บำงคนใช้ประกอบตรำประจ�ำตระกูลของตน
สมอเคยใช้เป็นสัญลักษณ์ของชำวคริสต์ จนกระทั่ง
ถึงคริสต์ศักรำช ๔๐๐ พวกเขำใช้สมอก่อนหน้ำไม้กำงเขน
นาวิกศาสตร์ 74
ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๕
“ห้องน�้ำต้นเหตุท�ำให้ U-Boat ของเยอรมันจม”
ี
เรือล�ำน้เป็นล�ำหน่งท่ได้มีกำรติดต้งห้องน้ำไฮเทค
ึ
ั
�
ี
แบบใหม่
ี
เรือ U-Boat ท่ประสบชะตำกรรมคือ U-1206
มีเรือเอก Karl Schlitt เป็นผู้บังคับกำรเรือ เรือล�ำน ้ ี
ได้รับกำรดัดแปลงติดต้งท่อหำยใจ (Schnorkel)
ั
่
รวมทั้งห้องน�้ำแบบใหม่ตำมที่กล่ำวข้ำงต้น แตเนื่องจำก
�
ึ
เป็นของใหม่ กำรใช้ห้องน้ำจึงเกิดปัญหำข้น
เมื่อวันที่ ๑๔ เมษำยน ค.ศ. ๑๙๔๕ เรือ U-1206
ลำดตระเวนบริเวณตะวันออกของสกอตแลนด์ ห่ำง
ี
จำกฝั่งประมำณ ๙ ไมล์ทะเล ขณะท่ก�ำลังด�ำอยู่
�
ื
ผู้บังคับกำรเรือได้ใช้ห้องน้ำ เม่อเสร็จธุระเขำได้เรียก
ห้องน้ำ (ชำวเรือเรียกว่ำ head) มีควำมส�ำคัญ เจ้ำหน้ำท่เทคนิคให้ช่วยเหลือ แต่บังเอิญเจ้ำหน้ำท ่ ี
ี
�
�
ิ
�
ต่อควำมเป็นอยู่ของทหำรไม่แพ้เตียงนอน สถำนท ่ ี มือใหม่เปิดล้นน้ำผิดพลำด น้ำทะเลจึงทะลักเข้ำเรือ
รับประทำนอำหำร โดยเฉพำะห้องน้ำของ U-Boat อย่ำงรวดเร็วและมีจ�ำนวนมำก และไหลลงไปสู่ดำดฟ้ำ
�
ึ
ื
ั
�
�
ั
ในสงครำมโลกคร้งท่ ๒ ปกติแล้วของเสียจำกห้องน้ำ ช้นล่ำงซ่งเป็นท่เก็บแบตเตอร่ เม่อน้ำทะเลเจอกรด
ี
ี
ี
ี
ึ
ี
จะถูกเก็บไว้ในห้องท่ท้องเรือจนกว่ำเรือจะโผล่ข้นสู่ จำกแบตเตอร่ท�ำให้เกิดก๊ำซพิษคลอรีนฟุ้งกระจำย
�
ั
ผิวน้ำแล้วจึงอัดหรือดันออกจำกเรือ ขณะท่เรือด�ำน้ำ ท่วเรือ ผู้บังคับกำรเรือไม่มีทำงเลือก จึงต้องน�ำเรือ
ี
�
ึ
อยู่ในระดับควำมลึกจึงไม่กระท�ำกัน แต่กำรเก็บ โผล่ข้นสู่ผิวน้ำ ด้วยควำมโชคร้ำยเม่อโผล่ข้นมำท ี ่
ึ
ื
�
ิ
ื
�
ื
ของเสียจ�ำนวนมำก เม่อเรือจ�ำเป็นต้องด�ำอยู่ใต้น้ำ ผิวน้ำ บังเอิญเคร่องบินท้งระเบิดของกองทัพอำกำศ
�
ั
เป็นเวลำนำน น้ำหนักของส่งปฏิกูลเหล่ำนนไม่เป็นท ่ ี อังกฤษผ่ำนมำจึงท้งระเบิดเข้ำใส่เรือ ท�ำให้ทหำร
�
ิ
ิ
้
ึ
พึงประสงค์ เรือ U-Boat ของเยอรมันท่สร้ำงข้น เสียชีวิตทันที ๑ นำย เรือเสียหำยหนัก ผู้บังคับกำรเรือ
ี
มำตอนปลำยของสงครำม จึงได้รับกำรพัฒนำ จึงสั่งสละเรือ พร้อมกับให้เปิดลิ้นน�้ำเพื่อขอให้น�้ำเข้ำเรือ
ห้องน้ำให้สำมำรถชักโครกของเสียออกจำกตัวเรือได้ (จมเรือ-scuttle) ทหำรท่เหลือใช้เรอยำงพำยสู่ฝั่ง
�
ี
ื
ี
ในขณะที่ก�ำลังด�ำอยู่ แต่เสียชีวิตระหว่ำงทำง อีก ๓ นำย ท่เหลือรวมท้ง
ั
ั
เรือ U-1206 เป็นเรือ Type VllC เรือช้นน ้ ี ผู้บังคับกำรเรือถูกจับเป็นเชลยศึก
ื
ี
�
ถือว่ำเป็น Backbone ของกองเรือด�ำน้ำเยอรมันท่ม ี เรือเอก Schlitt เสียชีวิต เม่อ ค.ศ. ๒๐๐๙
ี
ุ
ื
�
ประสิทธิภำพสูงมำก ระวำงขับน้ำเพียง ๗๐๐ กว่ำตัน ขณะท่มอำยได้ ๙๐ ปี ซำกของเรอ U-1206 ต่อมำ
ี
มทหำรประจำเรอ ประมำณ ๕๐ นำย อำวธหลกเป็น ถูกค้นพบใน ค.ศ. ๑๙๗๐ โดยบริษัทบีพีของ
ี
ุ
ั
�
ื
ตอร์ปิโดออกปฏิบัติกำรใน Atlantic ได้นำนถึง ๔๕ วัน อังกฤษ
นาวิกศาสตร์ 148
ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕
เริ่มยุค้สำำ�รวจึและก�รค้้นพบทำ�งทำะเล
ึ
ี
้
ำ
้
้
ำ
ทำ�ไมจึงต้องมก�รสำ�รวจึเสำนทำ�งก�รค้�ข�ยทำ�ง
วัันที่่ ๒๐ พฤษภาคม เมอราวั ๕ ศตวัรรษที่่ผ่่านมา ทำะเล
�
�
่
�
่
ั
ุ
่
ิ
ำ
ิ
์
ิ
คอ ค.ศ. ๑๔๙๘ Vasco da Gama นกสำารวัจและนกเดินเรอ สำงครามครเสำดิ ระหวัางชาวัครสำตกบชาวัมสำลม
ั
ั
่
่
่
ิ
็
่
ั
ึ
ิ
ิ
้
่
่
่
้
้
์
ุ
ชาวัโปรตุเกสำไดิเดินที่าง ถึงเมอง Calicut ของอนเดิย รบกนนานกอนหนานนสำดิที่ายฝ่ายพวักครสำตเปนฝ่ายแพ ้
ั
�
ึ
ุ
�
ิ
ิ
ซึ่งถึอวัาเปนชาวัยุโรปคนแรกที่เดินที่างถึงอินเดิย กรงคอนสำแตนตโนเปล ซึ่งเคยเปนเมองหลวัง
่
�
็
ึ
่
ิ
�
่
็
ึ
่
่
่
�
่
ิ
ิ
ที่างเรอ แตเขามใชคนแรกที่เดินที่างอ้อมปลายแหลม ของพวักโรมันตะวัันออก (ไบแซึ่นไที่น์) ถึกพวักเตร์ก
่
ิ
่
่
�
่
ิ
�
ำ
่
่
้
ิ
ที่วัปแอฟริกา ซึ่งกอนหน้านนนกเดินเรอชาวัโปรตุเกสำ ยดิครอง ที่าใหเสำนที่างสำายไหมที่ผ่านบรเวัณนนถึกปดิลง
่
้
ึ
ิ
ั
ั
ั
�
ึ
�
่
่
้
้
่
ั
�
่
ิ
Bartolomeu Dias เปนคนแรกที่เดินที่างออมแหลม การคาขายระหวั่างยุโรปกบเอเชยโดิยเฉพาะเคร่องเที่ศ
�
็
ั
้
ุ
�
่
่
ิ
็
ั
ใตสำดิของแอฟรกาสำมหาสำมที่รอนเดิ่ย เมอ ค.ศ. ๑๔๘๘ และยารกษาโรค อนเปนสำงตองการมากของพวักยโรป
ุ
ิ
�
้
่
ุ
ิ
้
ั
ุ
ในยุคน�นเรยกวั่า Cape of Storms เน�องจากเป็นบริเวัณ ตองยตลง
่
่
ิ
ิ
ั
่
ุ
�
้
ที่มพายจดิอยตลอดิเวัลา มเรอจมบอยครงจนเกดิตานาน การขาดิแคลนสำนคาที่จาเปนเหลานนที่าให ้
�
ิ
ั
ำ
่
่
�
ำ
่
่
�
ั
่
่
็
ำ
่
่
�
็
เร่อผ่่สำง (Flying Dutchman) เปนที่่หวัาดิกลวัของชาวั ชาวัยโรปเรมสำารวัจและคนพบเสำนที่างใหมที่างที่ะเล
้
้
ำ
่
ุ
ิ
ิ
�
ั
้
้
�
เร่อเมอผ่่านบรเวัณนัน เพอไปยงเอเชย จนตอมาพวักเขาไดิคนพบหมเกาะตาง ๆ
่
่
ิ
่
่
�
�
่
่
ั
่
้
่
ในเอเชย ซึ่�งอดิมสำมบรณ์ไปดิวัยเคร�องเที่ศและยารักษาโรค
ึ
่
่
ุ
ิ
ิ
่
้
็
เชน ในอนเดิ่ย มะละกา เกาะในอนโดิน่เซึ่่ย เปนตน
ิ
ิ
นอกจากเหตผ่ลที่างเศรษฐกจแลวั การเดินที่าง
้
ุ
่
่
โดิยที่างบกม่คาใชจายสำ่งกวัาที่างเร่อ ม่อนตรายจากการ
้
่
ั
่
่
ุ
่
้
ถึกปลนและที่าราย เปนตน แตตอมานอกจากเหตผ่ล
็
้
้
ำ
�
้
่
ของการคาขายแลวั ยงมเหตผ่ลอน ๆ เชน การเผ่ยแผ่ ่
ั
่
่
ุ
้
้
ิ
ครสำตศาสำนา การแสำวังหาอาณานคม เปนตน
็
ิ
์
่
ั
ิ
เดิิมน�นการตดิต่อค้าขายระหวั่างยุโรปกับเอเชย นอกจากน�นภายหลังมการสำารวัจเสำนที่างที่างตะวัน
่
ำ
้
ั
ั
่
ำ
โดิยเฉพาะกับจนกระที่ากันที่างบกซึ่�งเรยกวั่าเสำ้นที่าง ตกของยุโรปเพอไปสำอนเดิยจนมการคนพบที่วัปอเมรกาหม ่ ่
ึ
่
่
่
่
้
่
ิ
�
่
ิ
่
็
์
้
สำายไหม โดิยม่ มารโคโปโล ชาวั Venice เปนผ่่บกเบก เกาะในที่ะเลแคริบเบยนของโคลัมบสำและการออมแหลม
ิ
ุ
่
้
ั
้
คนแรก เขาไดิเขาที่างานในราชสำำานกของราชวังศหยวัน Horn เขาสำมหาสำมที่รแปซึ่ฟกของ Magellan และ
้
ั
์
ำ
ิ
่
้
ิ
ุ
่
เมอประมาณ ค.ศ. ๑๒๗๑ นานถึึง ๑๗ ป ี นกสำำารวัจอน ๆ อ่กหลายคน
�
่
ั
�
่
นาวิกศาสตร์ 85
ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๕
ื
ี
ิ
่
สหรััฐอเมรักาสงกองเรัอสขาว (Great White Ships) ออกไปอวดธงรัอบโลก (๑๙๐๗ – ๑๙๐๙)
ี
�
ั
็
ี
ี
�
ิ
ื
แรงจููงใจู : ประธานาธบดีี Theodore Roosevelt มทหารหนขึนจูากเรอ ๒๒๑ นาย ซีึงนบว่่าเปนบทเรยน
้
ั
้
ิ
ั
ั
้
ั
ำ
ื
ั
�
�
ั
ึ
ี
้
ไดีแสดีงบทบาทสาคัญในการสรางสนติภาพภายหลัง อย่างหนงททาใหกองทพเรอติองหนกลับมาสนใจู
ำ
ิ
ั
้
ั
ำ
ั
ำ
่
ื
�
�
ั
�
่
สงคัรามระหว่่างรสเซีียกบญีปน ใน คั.ศ. ๑๙๐๔–๑๙๐๕ ดีานสว่ัสดีการเพอบารงขว่ญแลัะกาลังใจูของกาลังพลั
ำ
ั
้
จูนทาใหเขาไดีรบรางว่ัลัโนเบลัสาขาสันติภาพใน ใหมากขึ�น
ิ
ำ
้
ั
้
้
ู
ั
คั.ศ. ๑๙๐๖ แลัะดีว่ยคัว่ามทเคัยเปนผู้ช่ว่ยรฐมนติร ี การเดีินทางของกองเรอสีขาว่ ซี�งเปนย่คัของกองเรอ
ื
็
ื
่
็
ี
�
้
ึ
�
�
ั
้
ทบว่งทหารเรือของสหรัฐอเมริกามาก่อน ประกอบกบ กลัไฟ ติองอาศัยถึ่านหินเป็นเช่ือเพลัิงหลััก ดีังนัน การหา
ำ
ำ
�
่
็
�
ิ
ั
ื
ั
ี
ำ
่
ติว่อยางการแจูงเกดีเปนมหาอานาจูทางทหารของญ�ปน เมองทาทเปนมติรเพอสงกาลังบารง จูงติองใหคัว่ามสาคัญ
ิ
้
ำ
่
่
ึ
้
ื
้
็
่
�
ั
ี
็
้
่
ี
ี
ิ
�
่
้
ั
แมจูะเปนช่ว่งปลัายของการบรหารประเทศ เขาไดีสง เปนอยางยง บทเรยนดีงกลัาว่น กองเรอของรสเซียเคัย
�
่
ี
ั
่
ื
ิ
็
่
่
่
ิ
�
้
กองเรือสีขาว่อันทรงอานภาพออกเดีินทางรอบโลัก ประสบมากอนหนาแลัว่ขณ์ะเดีนทางจูากยโรป เพอ
้
ื
ำ
ำ
ื
็
ู
�
่
�
�
ั
ิ
(Circumnavigate) เพอแสดีงการเปนมหาอานาจูโลัก ไปทาสงคัรามกบญี�ปนทีช่่องแคับซีช่มา
ึ
�
ื
หรอเพอการอว่ดีธง (Show of Flags) รว่มทงเพอหา กองเรอสขาว่ เดีนทางกลับถึงเว่อรจูเนย เมอ
ิ
�
ั
์
ิ
ื
ื
ี
�
ื
ื
ี
�
ั
�
ิ
ี
ื
ั
ี
บทเรยนจูากการเดีนทางรอบโลักของกองเรอดีว่ย ว่นท ๒๒ กมภาพนธ คั.ศ. ๑๙๐๙ รว่มระยะทางประมาณ์
่
์
ั
้
ู
ิ
่
้
์
้
กองเรอสขาว่ ประกอบดีว่ย เรอประจูญบาน ๑๖ ลัา ๔๐,๐๐๐ ไมลั โดียเดีินทางขามแอติแลันติกเขาสทะเลั
ื
ำ
้
ี
ื
ั
่
ี
ื
�
�
ั
ิ
่
ั
ำ
ี
ื
์
ั
ี
ิ
่
มกาลังพลั ๑๔,๐๐๐ นาย เรอทกลัาติว่เรอทาสีขาว่ เมดีเติอรเรเนยนผู้านสเอซี โคัลัมโบ จูน ญปน มะนลัา
ำ
ี
่
ั
ื
ิ
ี
็
�
ึ
ี
เพอแสดีงออกถึงสนติภาพ คัว่ามเปนมติรไมติรของ ออสเติรเลัีย ซีานฟรานซีิสโก ช่ลั ออมแหลัมฮอร์น
ิ
้
ิ
์
ื
่
ิ
้
ั
ี
สหรัฐอเมริกากับประเทศอ�น ๆ โดียม พลัเรือติร ี อารเจูนติินา แลัะกลัับเขาสูสหรฐอเมรกาในที�ส่ดี
้
้
ั
ู
ั
�
ี
ี
ื
�
ิ
ื
Robley Evans เปนผู้บญช่าการกองเรอ บทเรยนอน ๆ ทไดีรบจูากการเดีนทาง : กองเรอแลัะ
ื
็
้
ี
ี
ื
ำ
ั
ื
�
ิ
�
ิ
ื
ื
ิ
ั
์
กองเรอสขาว่ ออกเดีนทางจูากเว่อรจูเนยเมอว่นท � ี กาลัังพลัไดีรบประสบการณ์์ในเรือง การเรอ การเดีนเรอ
ั
้
๑๖ ธนว่าคัม คั.ศ. ๑๙๐๗ ใช่เว่ลัาเดีนทางเกือบ ๒ ป ี จูดีออนของการเดีนทางระยะไกลั ปญหาของการ
ั
ิ
ิ
่
่
้
้
่
ื
ี
ระหว่างเสนทางไดีจูอดีเรอติามเมองทาของประเทศติาง ๆ ออกแบบเรอ เปนติน อยางไรกดีี ประสบการณ์์เปนเพยง
็
็
็
ื
่
ื
้
่
่
้
ี
่
ั
้
แลัะบางแหงไดีรบการติอนรบเปนอยางดียง เช่น ท ออสเติรเลัย ในยามสงบเทานน ซีงไมอาจูสามารถึเรยนรไดีมากนก
ู
ี
�
ิ
่
่
�
ึ
�
ี
ี
่
ั
�
่
ั
้
้
ั
็
ี
้
้
�
ี
่
�
ื
ั
้
ื
ื
เปนติน แติทนกมเหติการณ์ทนาตินเตินเหมอนกน คัอ หากกองเรอติองเขารว่มรบในสงคัราม
้
์
่
�
ี
่
็
ี
็
่
ื
�
นาวิกศาสตร์ 70
ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๕
ิ
้
ในช่วงวกฤตโควด-๑๙ มีคนกล่าวถึง “ภูเกต แล่ะหนวยปรัะเมีนผล่เสื่มี่อนจรังทั้ีจากด ใช่รัับ็โปรัแกรัมี
ิ
�
ั
่
ำ
ิ
่
ู
่
็
ี
ิ
ึ
ั
่
็
์
ิ
�
่
่
่
�
ี
�
ั
ั
�
แซนดบ็อกซ” กนมีากทั้งสื่อมีวล่ช่น ภูาครัฐแล่ะปรัะช่าช่น แยกตางหากออกจากสื่วนพื่นทั้ปกตซงเปนกล่ไกข้อง
�
์
็
ึ
้
ั
�
ี
่
่
โดยทั้วไปเข้าใจวามีคนจานวนไมีนอยทั้เข้าใจความีหมีาย ความีปล่อดภูัย เช่น เสื่�ยงต่อการัแพื่รั่กรัะจายข้องไวรัสื่
ี
ำ
ี
�
้
ั
่
้
่
ั
�
ู
ำ
่
ข้องคานคล่าดเคล่่อนจากความีเปนจรัง เรัามีาทั้ำาความีรัจัก แตเมีอมี sandbox ไวรัสื่จะถึกจากดใหอยในพื่นทั้เฉพื่าะนน
�
ี
ี
ั
ิ
�
็
ู
้
�
้
�
่
ำ
ู
่
�
ี
ั
ำ
กบ็คาวา Sandbox กน Sandbox เปนศพื่ทั้ทั้เรัมีใช่ในช่วงวกฤตโควด-๑๙
ั
ิ
ั
ิ
่
ิ
ั
�
ี
�
้
็
์
่
้
ี
ในความีหมีายทั้คล่ายคล่งกบ็การัจำากดการัแพื่รักรัะจาย
�
ั
ึ
ั
่
�
ี
ั
ิ
ิ
่
์
ั
็
่
ข้องไวรัสื่คอมีพื่วเตอรัเปนการัเปดรับ็นกทั้องเทั้ยวตางช่าต ิ
ั
�
ำ
ั
ี
ในข้ณะทั้มีการัรัะบ็าดข้องโควิด-๑๙ ทั้วปรัะเทั้ศ โดยกาหนด
ี
�
�
ั
่
ำ
้
ั
่
ำ
์
ุ
ั
หล่กเกณฑ์สื่าหรับ็ข้อจากดบ็างอยางเพื่อควบ็คมีบ็รัรัดา
ั
ู
่
ำ
�
�
ี
ี
นกทั้องเทั้ยวใหอยในข้อบ็เข้ตทั้จากดแล่ะสื่ามีารัถึควบ็คมี
้
ั
ุ
่
ั
ู
็
การัแพื่รักรัะจายข้องไวรัสื่โควิด-๑๙ ได ภูเกตไดทั้า Pilot
้
่
ำ
้
Project ไว โดยเรัิมีตน ๑ กรักฎาคมี ๒๐๒๒ แล่ะจะมีี
�
้
้
์
ั
่
วากนตามีนรักตศาสื่ตรั (etymology) หมีายถึง กล่อง เกาะสื่มีย พื่ทั้ยา ฯล่ฯ ตามีมีาอก
ิ
ี
ิ
ุ
ึ
ั
่
ุ
ำ
ั
้
่
่
้
่
็
หรัอกรัะบ็ะทั้รัาย สื่วนมีากใช่สื่าหรับ็ใหเดกเล่นในสื่วน
เพื่�อจากัดข้อบ็เข้ตไมี่ใหทั้รัายกรัะจายจนทั้าให้ความี
ำ
้
่
ำ
ั
สื่วยงามีข้องสื่วนเสื่ียไป ในภูาษาองกฤษ (British English)
ใช่คาวา (Sandpit) คานีเรัิมีปรัากฏ ตังแต ค.ศ. ๑๕๗๒
�
่
้
ำ
�
�
่
ำ
้
่
ิ
ุ
ึ
็
้
* กล่องบ็รัรัจทั้รัายใช่ในเมีองหนาว ซงอาจจาเปน Sandbox ในภูาคธุรักจใช่วา “สื่นามีทั้ดล่อง”
ำ
่
�
ุ
่
่
ั
ั
่
่
�
้
็
ิ
็
ู
ี
้
�
่
ั
ตองใช่ทั้รัายโรัยทั้างเดนเพื่อกนล่นเพื่รัาะทั้างเดน เช่น ใช่ภูเกตเปนสื่นามีทั้ดล่องเปดรับ็นกทั้องเทั้ยวตางช่าต ิ
ิ
้
�
ิ
่
้
ี
็
ำ
ี
ั
้
ำ
็
กล่ายเปนนาแข้ง ็ แบ็บ็มีข้อจากดบ็างปรัะการั หากไดผล่ดกจะนาโครังการัน� ี
ำ
�
ั
่
�
่
ั
้
ิ
้
ั
* เปนศพื่ทั้ทั้ใช่ในช่่วงเรัมีตนการัพื่ฒนาคอมีพื่วเตอรั ์ ไปใช่ในจงหวดอน ๆ ตอไป
�
�
ิ
้
ี
ั
์
็
�
ึ
ี
ี
ุ
�
่
่
่
สื่วนบ็คคล่ (ทั้ศวรัรัษทั้ 1970s) หมีายถึง พื่นทั้หนวยความีจา
ำ
�
นาวิกศาสตร์ 63
ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕