The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นาวิกศาสตร์ ฉบับเดือน พฤศจิกายน ๒๕๖๓

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นาวิกศาสตร์, 2022-02-13 22:24:28

นาวิกศาสตร์ พฤศจิกายน ๒๕๖๓

นาวิกศาสตร์ ฉบับเดือน พฤศจิกายน ๒๕๖๓





“...ศาสนาทุกศาสนาแม้จะมีหลักธรรมคาสอนท่แตกต่างกันในรายละเอียด แต่ก็มีจุดม่งหมายท่ตรงกัน



ในสาระสาคัญ คือให้ศาสนิกชนเป็นคนดี อย่ร่วมกันด้วยความเมตตาสามัคคี และสงเคราะห์เก้อกูลกัน
ในทุกโอกาส. ...”


พระราชดำารัส
ในพิธีเปิดงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ฮิจเราะห์ศักราช ๑๔๓๙
ณ ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ
วันจันทร์ ที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑


นาวิกศาสตร์ นิตยสารของกองทัพเรือ มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่วิชาการ และข่าวสารทหารเรือทั้งในและนอกประเทศ
ตลอดจนวิทยาการอื่น ๆ ทั่วไป และเป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์ของกองทัพเรือ
สารบัญ ๘



บทความ




๘ DDG-1000 ตัวเรือ Tumblehome ในอดีตสู่
เทคโนโลยีเรือรบแห่งอนาคต

นาวาตรี ธนกิจ ศรีแสง


๒๓ ศักดานาวี
พลเรือตรี กรีฑา พรรธนะแพทย์



๓๗ เก็บตก วาทะและนโยบายประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ๕๓
ถ.ถุง



๕๓ ทหารเรือไทยในน่านน้ำามังกรจีน (ตอนจบ ๒/๒)
ผึ้งบ้าน ๔๒๑


๖๓ Thanks And Praise Soldiership.
นาวาเอก เกษม กิจกระจ่าง




ปกหน้า พระราชหัตถเลขา ร.๕ ในพิธีเปิดโรงเรียนนายเรือ
ปกหลัง สมุด ”สยาม โรงเรียนนายเรือ ๑๒๓”
ออกแบบปก กองบรรณาธิการ

พิมพ์ที่ กองโรงพิมพ์ กรมสารบรรณทหารเรือ
เจ้าของ ราชนาวิกสภา

ผู้พิมพ นาวาเอก ก้องเกียรติ ทองอร่าม








ข้อคิดเห็นในบทความที่นำาลงนิตยสารนาวิกศาสตร์เป็นของผู้เขียน มิใช่ข้อคิดเห็นหรือนโยบายของหน่วยงานใดของรัฐและมิได้ผูกพันต่อทางราชการแต่อย่างใด
ได้นำาเสนอไปตามที่ผู้เขียนให้ความคิดเห็นเท่านั้น การกล่าวถึงคำาสั่ง กฎ ระเบียบ เป็นเพียงข่าวสารเบื้องต้น เพื่อประโยชน์แก่การค้นคว้า


คลังความรู้


ค่ราชนาวี


นายกกรรมการราชนาวิกสภา
พลเรือโท เคารพ แหลมคม
รองนายกกรรมการราชนาวิกสภา
พลเรือตรี จิรพล ว่องวิทย์
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๓ กรรมการราชนาวิกสภา
พลเรือตรี สุรสิงห์ ประไพพานิช
พลเรือตรี บัญชา บัวรอด
๒๓ พลเรือตรี คณาชาติ พลายเพ็ชร์
พลเรือตรี อุทัย โสฬศ

พลเรือตรี วราณัติ วรรธนผล
พลเรือตรี สรไกร สิริกรรณะ
พลเรือตรี มนต์เดช พัวไพบูลย์
พลเรือตรี วิสาร บุญภิรมย์
พลเรือตรี สุนทร คำาคล้าย
พลเรือตรี ดนัย สุวรรณหงส์
พลเรือตรี อนุพงษ์ ทะประสพ
พลเรือตรี ประสาน ประสงค์สำาเร็จ
กรรมการและเลขานุการราชนาวิกสภา
นาวาเอก สุพจน์์ สารภาพ
เหรัญญิกราชนาวิกสภา
เรือเอก สุขกิจ พลัง

ที่ปรึกษาราชนาวิกสภา
พลเรือโท สมัย ใจอินทร์
คอลัมน์ประจำา พลเรอโท วรพล ทองปรีชา


พลเรอโท มนตรี รอดวิเศษ
พลเรอโท อำานวย ทองรอด

พลเรอโท กตัญญู ศรีตังนันท์

๓ บรรณาธิการ
นาวาเอก สุพจน์์ สารภาพ
ผู้ช่วยบรรณาธิการ
นาวาเอกหญิง วรนันท์ สุริยกุล ณ อยุธยา
ประจำากองบรรณาธิการ
นาวาเอก ก้องเกียรติ ทองอร่าม
นาวาเอก ธาตรี ฟักศรีเมือง
นาวาเอกหญิง แจ่มใส พันทวี
๘๑ นาวาโทหญิง ศรุดา พันธุ์ศรี
๘๙ นาวาโทหญิง อรณัฐ โพธิ์ตาด
เรือเอก เกื้อกูล หาดแก้ว
๙๑ เรือเอกหญิง สุธิญา พูนเอียด

๙๓ เรือโท อัศฐวรรศ ปั่นจั่น
เรือโทหญิง อภิธันย์ แก่นเสน
สำานักงานราชนาวิกสภา
ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย
กรุงเทพฯ ๑๐๗๐๐ โทร. ๐ ๒๔๗๕ ๓๐๗๒
๐ ๒๔๗๕ ๔๙๙๘
s ส่งข้อมูล/ต้นฉบับได้ที่ [email protected]
s อ่านบทความเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่ WWW.RTNI.ORG


บรรณาธิการ แถลง







นาวาเอก สุพจน์ สารภาพ

[email protected]
๓๙



“ วันท่ ๒๐ พฤษจิกายน รศ ๑๒๕ เราจุฬาลงกรณ์ ปร ได้มาเปิดโรงเรียนน้ มีความปล้มใจ ซ่งได้เหนการทหารเรือ

มีรากหยั่งลงแล้ว จะเปนที่มั่นสืบไปภายน่า ”











ในโอกาสทวันกองทพเรอได้เวยนมาบรรจบครบรอบอกวาระหนง เป็นปีท ๑๑๔ กองบรรณาธการนตยสาร

นาวิกศาสตร์ขออัญเชิญพระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า


โปรดกระหม่อมพระราชทานไว้ในสมุด “สยาม โรงเรียนนายเรือ ๑๒๓” ในวโรกาสท่เสด็จฯ มาทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ
เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ร.ศ.๑๒๕ ซึ่งกองทัพเรือถือเอาวันดังกล่าวของทุกปีเป็น “วันกองทัพเรือ”


กองบรรณาธิการขอขอบคุณผู้เรียบเรียงบทความต่าง ๆ ท่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างด และขอเชิญชวนนักเขียน

รุ่นใหม่ ร่วมถ่ายทอดเร่องราวหรือประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเร่องส้น บทความ หรือจะเป็นนวนิยาย ก็ยินด ี


เพราะชีวิตสร้างนวนิยาย นวนิยายสร้างชีวิต
สาหรับบทความในฉบับเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๓ น เร่มด้วยบทความต่อเน่องจากฉบับท่แล้ว ซ่งในฉบับน ้ ี









เป็นตอนจบ คือ “ทหารเรือไทยในน่านนามังกรจีน (ตอนจบ ๒/๒)” เขียนโดย ผ้งบ้าน ๔๒๑ นอกจากน้ยังมีบทความ


ที่น่าสนใจอีกหลายเรื่องด้วยกัน อาทิ “DDG-1000 ตัวเรือ Tumblehome ในอดีตสู่เทคโนโลยีเรือรบแห่งอนาคต”





เขียนโดย นาวาตร ธนกิจ ศรีแสง และอีกหน่งเร่องราวท่น่าสนใจ คือ “ศักดานาว” ท่เป็นเร่องราวของ




เพลงทหารเรือ ซ่งแสดงถึงสมุทานุภาพของทหารเรือเม่อร้อยปีเศษ เขียนโดย พลเรือตร กรีฑา พรรธนะแพทย์

“เกบตกวาทะ และนโยบายประธานาธบด ส จินผง” ท่บ่งบอกถึงทัศนคติอันทรงพลังของแนวคิดท่ลึกซ้ง และ










โดดเด่น นาไปสู่การปฏิบัติท่ประสบความสาเร็จ เขียนโดย ถ.ถุง และปิดท้ายด้วยเร่อง “Thanks And Praise



Soldiership.” เขียนโดย นาวาเอก เกษม กิจกระจ่าง ครับ


จากบทความต่าง ๆ ท่ได้กล่าวมาแล้วน้น กองบรรณาธิการหวังเป็นอย่างย่งว่าท่านสมาชิกจะได้รับความรู้

ความเพลิดเพลินจากการอ่านนิตยสารนาวิกศาสตร์เหมือนดังเช่นท่ผ่านมา และเพ่อไม่เป็นการเสียเวลา ขอเชิญ


สมาชิกทุกท่านอ่านบทความภายในเล่มกันได้เลยครับ
“When you good at something, you’ll tell everyone.
When you’re great at something, they’ll tell you”
Walter Payton


กองบรรณาธิการ




ปกหน้า : พระราชหัตถเลขา ร.๕ ในพิธีเปิดโรงเรียนนายเรือ





พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท ๕ พระราชทานพระราชวังเดิม กรุงธนบุร เป็นสถานท่ต้ง



โรงเรียนนายเรือต้งแต่วันท ๒๓ กุมภาพันธ์ ร.ศ.๑๑๙ (พ.ศ.๒๔๔๓) เป็นต้นมา และได้เสด็จพระราชดาเนิน

ทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ร.ศ.๑๒๕ (พ.ศ.๒๔๔๙)




ทรงชักธงอันซ่งปิดประตูโรงเรียนน้นให้เปิดออก แล้วเสด็จพระราชดาเนินทอดพระเนตรสถานท่ต่าง ๆ


และการฝึกหัดของนกเรียนนายเรอ กับได้พระราชทานลายพระราชหัตถเลขาไว้ในสมุด “สยาม โรงเรยนนายเรือ ๑๒๓”

ความว่า ๓๙
วันที่ ๒๐ พฤษจิกายน รศ ๑๒๕
เรา จุฬาลงกรณ์ ปร ได้มาเปิดโรง
เรียนนี้ มีความปลื้มใจซึ่งได้เหนการ
ทหารเรือมีรากหยั่งลงแล้วจะเปนที่มั่น
สืบไปในภายน่า
นับว่าเป็นพระราชหัตถเลขาประวัติศาสตร์ท่ยังไม่ปรากฏว่าได้พระราชทานพระราชหัตถเลขาในการเปิดสถานท ใด ๆ



ไว้เลย นอกจากโรงเรียนนายเรือ ปัจจุบันโรงเรียนนายเรือได้ย้ายมาตั้งที่ ต.ปากน�้า อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
ต่อมาทางราชการทหารเรือจึงได้ถือเอาวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ของทุกปีเป็น “วันกองทัพเรือ” ตราบจนกระทั่ง
ทุกวันนี้

ปกหลัง : สมุด ”สยาม โรงเรียนนายเรือ ๑๒๓”
เป็นสมุดที่โรงเรียนนายเรือจัดท�าขึ้นเมื่อ ร.ศ.๑๒๓ ก่อนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕




เสด็จพระราชดาเนินทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ เม่อวันท ๒๐ พฤศจิกายน ร.ศ.๑๒๕ เป็นสมุดขนาดยาว ๓๒ เซนติเมตร



กว้าง ๒๒.๕ เซนตเมตร หนา ๒.๕ เซนตเมตร ปกแขงห้มด้วยหนงสีนาตาล ตวอักษรหน้าปก ทาด้วยโลหะเงิน






มีข้อความว่า
“สยาม โรงเรียนนายเรือ ๑๒๓”
สมุด สยาม โรงเรยนนายเรอ ๑๒๓ เป็นสมุดสาหรับลงพระนาม และนาม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า



เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ประมาณ พ.ศ.๒๔๗๓ เรียกว่า สมุดอัตตโนลิขิต (Autograph)
ปัจจุบันสมุด “สยาม โรงเรียนนายเรือ ๑๒๓” มีอายุ ๑๑๖ ปี








นาวิกศาสตร์ 4
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


ร.ต.กานต์ชนัต พันธุ์ศรี









































เหตุการณ์รบทางเรือในวิกฤตการณ์ ร.ศ.๑๑๒ พระองค์แรก ท่เป็นนายทหารเรอททรงสาเรจการศกษา






เม่อวันท่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๓๖ เหตุการณ์ส้นสด จากประเทศอังกฤษ


โดยท่ไทยต้องถูกปรับและสูญเสียดินแดนบางส่วนไป ต่อมาเม่อพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอาภากร




ด้วยบทเรียนอันมีค่าสาหรับประเทศน้ ทาให้ต้องรีบเร่ง เกยรตวงศ ทรงไดรบพระราชทานเลอนพระอสรยยศขน










ปรับปรุงทั้งองค์วัตถุและบุคลากร จนถึง นายพลเรือเอก พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์

ใน ปี พ.ศ.๒๔๓๖ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด์ พระองค์ท่านได้ทรง

เจ้าอยู่หัว ทรงส่งพระราชโอรสหลายพระองค์ไปศึกษา พระวิริยะอุตสาหะท่จะให้ทหารเรือไทย มีความรู้
วิชาด้านการปกครอง การทหารบก และการทหารเรือ ความสามารถในกิจการทหารเรือ เพ่อเข้ารับราชการ

เพ่อน�าวิชามาปรับปรุงแก้ไขบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง แทนชาวต่างประเทศ สมตามพระราชประสงค์ของ



ทดเทียมอารยประเทศ ซ่งในโอกาสน้ทรงได้ส่งพระเจ้า พระราชบิดาได้โดยสมบูรณ์ และด้วยพระเกียรติคุณ



ลกยาเธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ไปศึกษาวิชา ของพระองค์ท่านท่ได้ทรงบากบ่นสร้างกองทัพเรือไทย






การทหารเรือ ณ ประเทศอังกฤษ จนสาเร็จการศึกษา ให้แข็งแกร่งข้นน้ จึงเป็นการสมควรอย่างย่งท่พระองค์ท่าน


และเสด็จกลับถึงกรุงเทพฯ เม่อวันท่ ๑๑ มิถุนายน จะได้รับการขนานนามจากกองทัพเรือใน รัชกาลท่ ๙

พ.ศ.๒๔๔๓ แล้วทรงพระมหากรุณาธคุณโปรดเกล้าฯ เม่อวันท่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๖ ว่า “องค์บิดาของ



พระราชทานยศเป็นนายเรือโท นับว่าเป็นพระราชโอรส ทหารเรือไทย”
นาวิกศาสตร์ 5
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓




ถึงหน้าพระราชวังเดิม ซ่งโปรดเกล้าฯ ให้ต้งเปน
โรงเรียนนายเรือ เทียบเรือพระท่น่ง เสด็จพระราชดาเนิน



ข้นประทับบนพลับพลายกท่หน้าประตูแล้ว นายพลเรือโท


สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนครสวรรค์
วรพินิต ผู้บัญชาการกรมทหารเรือ ทรงอ่านรายงาน
การเปิดโรงเรียนนายเรือ กราบบังคมทูลพระกรุณาแล้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดารสตอบ



ตามสมควรแล้วทรงชกเชอกเปิดธงทประตโรงเรยนออก






มีอักษรตัวทองติดท่ซุ้มประตูว่า โรงเรียนนายเรือ ร.ศ.

๑๒๕ ...” พร้อมทงได้ทรงพระกรณาโปรดเกล้าฯ


พระราชทานลายพระราชหัตถเลขา ไว้ในสมุด
“สยาม โรงเรียนนายเรือ ๑๒๓” ดังนี้ “วันท ๒๐


๓๙

เม่อวันท่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๙ พระบาทสมเด็จ พฤษจิกายน รศ ๑๒๕ เราจุฬาลงกรณ์ ปร ได้มาเปิด

พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ ๕ ได้เสด็จ โรงเรียนน มีความปล้มใจซ่งได้เหนการทหารเรือ






พระราชดาเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ ท่ พระราชวังเดิม มีรากหยั่งลงแล้ว จะเปนที่มั่นสืบไปในภายน่า”


ซ่งมีรายละเอียดตามข่าวเสด็จพระราชดาเนินทรงเปิด โดยพระราชหัตถเลขานี้เอง วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน

โรงเรยนนายเรือ ในราชกิจจานเบกษา เล่ม ๒๓ วันท ี ่ ซึ่งเป็นวันที่รากฐานการทหารเรือได้หยั่งลงแล้ว ทางการ



๒๕ พฤศจิกายน ร.ศ.๑๒๕ หน้า ๘๙๑ ความว่า “วันท่ ๒๐ ทหารเรือจึงถือว่าเป็นวันกองทัพเรือสืบมาจนถึงทุกวันนี้
พฤศจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๕ เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเคร่องเต็มยศขาว อ้างอิง

ทหารเรือ เสด็จพระราชดาเนินด้วยรถพระท่น่ง - “การจัดต้งโรงเรียนนายเรือในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า



เจ้าอยู่หัว” หนังสือการทหารของไทยในรัชสมัยพระบามสมเด็จ

แต่วังสวนดุสิต ไปเสด็จลงประทับเรือพระท่น่งกลไฟ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมยุทธการทหารบก ๒๕๔๑





ท่ท่าราชวรดิฐ เรือพระท่น่งแล่นลงไปตามลานา - ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๒๓ วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ร.ศ.๑๒๕ หน้า ๘๙๑






นาวิกศาสตร์ 6
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


DDG-1000 ตัวเรือ Tumblehome


ในอดีตสู่เทคโนโลยีเรือรบแห่งอนาคต


นาวาตรี ธนกิจ ศรีแสง



เน่องด้วยผู้เขียนเองมีความช่นชอบในด้านนาวา เท่านั้น จากที่ต้องการทั้งหมด ๓๒ ล�า ระยะเวลาในการ


สถาปัตย์จึงได้พยายามหาความรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ สาหรับ ด�าเนินการตั้งแต่ ปี ค.ศ.๒๐๐๙ จนถึงปัจจุบัน



เรอรบ ประกอบกับเม่อป พ.ศ.๒๕๖๐ ได้มีโอกาสเข้าเรยน การใช้งานเรือรูปแบบ Tumblehome ต้งแต่ในอดีต


ในหลักสูตรช้นต้นนายทหารเรือพรรคกลิน หน่งในน้น จนถึงปัจจุบัน เนื่องด้วย ทร.สหรัฐฯ ได้มีการน�ารูปแบบ





มีหัวข้อวิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมเรือรบ ซ่งได้ให้นายทหาร เรือชนิดน้กลับมาทาใหม่ต้งแต่ปี ค.ศ.๒๐๐๙ ซ่ง




นักเรียนศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองแล้วนาเสนอหน้า ตัวเรือดังกล่าวไม่ได้รับความนิยมในการต่อเรือตั้งแต่



ช้นเรียนพร้อมท้งส่งข้อมูลเอกสารเป็นรูปเล่ม กระผม ปี ค.ศ.๑๙๐๐ เป็นต้นมา มีหลายสาเหตุด้วยกันท่ไม่ม ี


จึงได้ใช้เวลาหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีการสร้างเรือรบ การใช้งานตัวเรือประเภทน เช่น เน้อท่ใช้สอยบริเวณดาดฟ้า



สมัยใหม่ท่น่าสนใจ และได้มาสะดุดตากับรูปทรงของ หลักมีน้อย การทรงตัวของเรือไม่ดีเม่อเปรียบเทียบกับ

เรือรบในโครงการเรือ DDG-1000 ของกองทัพเรือ ตัวเรือแบบ Flare ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เป็นต้น

สหรัฐฯ ท่มีลักษณะแตกต่างจากเรือรบท่ว ๆ ไป แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ รูปทรงของตัวเรือประเภทนี้สามารถ







รวมถึงการใส่เทคโนโลยีสมัยใหม่ลงไปในเรือชนิดท่ยัง หลบหลกเรดาห์ได้ด ทร.สหรฐฯ จงได้จดตงโครงการ


ไม่เคยมีประเทศใดทามาก่อน ประกอบกับงบประมาณ DDG-1000 ซ่งเป็นโครงการท่ได้นาเทคโนโลยีสมัยใหม่






ของโครงการน้ท่สูงมากย่งทาให้โครงการน้น่าสนใจ มาบรรจุไว้ภายในเรือ ทาให้โครงการน้ได้รับความสนใจ







เป็นอีกเท่าตัว ด้วยคาถามท่ว่าทาไมตัวเรือท่ดูแปลกตาเม่อศตวรรษท ี ่



บทความน้จะเป็นการแนะนาทุกท่านให้ได้รู้จักกับ ผ่านมาได้ถูกน�ากลับมาใช้ใหม่ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย





โครงการเรือ DDG-1000 ตัวเรือรบรูปทรง Tumblehome ก่อนอ่นเรามาทาความเข้าใจเร่องเสถียรภาพ
ที่เคยมีการใช้งานในอดีต ท�าไมถึงเอารูปทรงเรือที่ใช้งาน การทรงตัวของเรือผิวน�้า (Stable Equilibrium) เกิดขึ้น

เม่อศตวรรษท่แล้วนากลับมาใช้ใหม่แล้วใส่เทคโนโลยีท ี ่ ได้อย่างไร โดยแรงท่เก่ยวข้องกับการทรงตัวของเรือ








ก้าวหน้าท่สุดในขณะน้เข้าไปในเรือรบ อะไรเป็นสาเหต ุ ผิวนาประกอบด้วยแรงลอยตัว และนาหนักของเรือ




ท่ทาให้โครงการของเรือรบท่ทรงอานุภาพทางทะเล แรงลอยตวเกดจากส่วนของตวเรอท “จม” อย่ในนา















ท่หมายจะครองทะเลให้ได้เหมือนกับเรือประจัญบาน หรือแทนท่นาน่นเอง (ตามกฎของอาร์คิมิดีส คนเดียว
(BB) ช้น Iowa-Class Battleship ในอดีต หรือการเอามา กับที่กระโดดขึ้นร้องยูเรก้าจากอ่างอาบน�้า) ส่วนน�้าหนัก

ทดแทนเรือฟริเกตช้น Oliver Hazard Perry Class ของเรือมาจากมวลของเรือท้งหมดท้งส่วนท่อยู่เหนือนา








frigates ที่โครงการฯ ต้องหยุดชะงักเหลือเพียงแค่ ๓ ล�า และใต้นา โดยปกติแล้วจุดศูนย์ถ่วงของเรือผิวนาจะอยู่


นาวิกศาสตร์ 8
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓





สูงกว่าจุดศูนย์กลางของแรงลอยตัว เน่องจากนาหนัก กลายเป็นการลด Dynamic Stability ส่งผลให้เรือ




โครงสร้างตัวเรือส่วนท่อยู่เหนือนาจะส่งผลต่อความสูง เอยงข้างเป็นอย่างมากเมอมคลนลมแรง หรอเมอเรอ












ของจุดศูนย์ถ่วง ในขณะท่จุดศูนย์กลางของแรงลอยตัว หันเล้ยวด้วยความเร็วสูง นอกจากน้หากมีรูร่วในตัวเรือ

เกิดจากส่วนของตัวเรือท่จมอยู่ในนาเท่าน้น อย่างไรก็ด ี เน่องจากความเสียหายจากการรบ หรืออุบัติเหตุตัวเรือ
















ในขณะท่เรือเอียงไปข้างใดข้างหน่งจะทาให้ส่วนท่จมอยู่ เหนอแนวนาทจมลงจะทาหน้าท่สร้างแรงลอยตวข้นมา



ใต้นาเปล่ยนไป ส่งผลให้จุดศูนย์กลางของแรงลอยตัว ทดแทนแรงลอยตัวท่สูญเสียไป ซ่งหากตัวเรือเหนือ










เคล่อนท่ตามไปด้วย ในขณะท่จุดศูนย์ถ่วงของนาหนัก แนวนามีรูปร่างสอบเข้าจะทาให้ส่วนท่จะแทนท่นาต้อง











เรือยังคงอยู่ท่จุดเดิม ซ่งการเคล่อนท่ของจุดศูนย์กลาง จมลงมากข้น เพ่อให้ได้ปริมาตรทเพยงพอในการสร้าง





แรงลอยตัวน้ท�าให้เกิดแขนโมเมนต์ท่ดึงเรือกลับไปต้ง แรงลอยตัวขึ้นทดแทน


ตรงอยู่ได้ ดังน้นหากจุดศูนย์ถ่วงของเรือย่งอยู่ตาก็จะ ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นเรือผิวนาในปัจจุบันใช้รูปทรงตัว






ทาให้เรือมีการทรงตัวท่ดีมากย่งข้น เม่อเรือเอียงจะทาให้ เรือแบบตัววี หรือแบบ Flare (บานออก) มากกว่าตัวเรือ








จุดศูนย์กลางแรงลอยตัวเคล่อนท่และดึงให้เรือกลับไป แบบ Tumblehome ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาตร และเพิ่มแรง







ต้งตรงเช่นเดิม กล่าวคือ เป็นการทรงตัวของเรือในช่วง ลอยตัวในขณะท่ตัวเรือเหนือแนวนาจมลงแทนท่นา




ท่เม่อเรือเอียงไปแล้วสามารถกลับมาต้งตรงในสถานะ โดยเฉพาะอย่างย่งเรือขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างตัวเรือสูง
แบบ Equilibrium ได้เหมือนเดิมโดยอัตโนมัติ (โดยเรือ มักนิยมใช้ตัวเรือแบบ Flare เพื่อเพิ่มอัตราการเคลื่อนที่
ไม่เอียงจนคว�่า) ของจุดศูนย์กลางแรงลอยตัว มากกว่าการใช้ตัวเรือแบบ
ข้อดีของตัวเรือแบบ Tumblehome คือการ Tumblehome ท่พยายามลดจุดศูนย์ถ่วง อย่างไรก็ด ี


ลดมวลบริเวณกราบเรือท่มีความสูง ทาให้จุดศูนย์ถ่วง ผลข้างเคียงของการใช้ตัวเรือแบบ Tumblehome เพื่อ





ของเรืออยู่ตาลง อย่างไรก็ดีการท่ตัวเรือเหนือแนวนา ช่วยเพมแรงลอยตัวโดยเฉพาะบริเวณหัวเรือจะทาให้














มีความกว้างท่ลดลงก็ทาให้ส่วนท่จมน�าเพ่มข้นในด้าน หัวเรือโยนข้นลงขณะฟันคล่นซ่งทาให้เกิดความล้าของ



ท่เรือเอียงมาขนาดลดลงไปด้วย ดังน้นถึงแม้ว่าตัวเรือ ตัวเรือ และคนท่ปฏิบัติงานภายในเรือ แต่เวลาโดนยิงหรือ
แบบนี้จะช่วยลดความสูงของจุดศูนย์ถ่วง แต่ในขณะ เมื่อมีความเสียหาย (Damage) จะจมเร็วมาก เนื่องจาก
เดียวกันตัวเรือแบบ Tumblehome ก็ลดการเคล่อนท ี ่ แรงลอยตัวท่เหลอหลังจากโดนยง หรือแรงลอยตวสารอง








ของจุดศูนย์กลางแรงลอยตัวเม่อเรือเอียงไปด้วย ทาให้ (Reserve Buoyancy) มีน้อย และเวลาเรือเริ่มจมพื้นที่
นาวิกศาสตร์ 9
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


หน้าตัด (Water plane) จะลดลงเรื่อย ๆ ส่งผลต่อการ








ทรงตวของเรอ ถาจะทาใหมความสามารถในการทรงตว
เรือขณะเรือเกิดความเสียหาย หรือการทรงตัวในสถานะ

ท่แรงลอยตัวไม่สมบูรณ์ดังเดิม (Damage Stability)
มีมากพอ ก็ทาได้ด้วยใช้การวิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์







สมยใหม แตกระทาไดยากตองออกแบบใหความสามารถ



การทรงตวสถตของเรอในนานง (Intact Stability)






มีมากกว่าปกติซ่งอาจส่งผลต่อการเคล่อนไหวของเรือ เรือ Ironclad มีตัวเรือแบบ Tumblehome และกราบเรือต�่า เหมาะกับการ

เป็นไปได้ยาก (Severer Motion) และต้องมีการแบ่ง ใช้งานในแม่นาแต่ไม่เหมาะกับสภาพคล่นลมในทะเลในช่วงสงคราม Civil War



คอมพาร์ทเม้นค่อนข้างแน่น โดยเฉพาะท้ายเรือ (หมายถึง ภาพถ่าย ในเดือนตุลาคม ค.ศ.๑๘๖๒
















ซอยคอมพาทเมนใหถขน) อกทงยงตองควบคมนาหนกเรอ ในช่วงปลายปี ค.ศ.๑๘๙๐ มีแนวคิดด้านสถาปัตยกรรม

ท่เพ่มข้นหลังการใช้งาน (Service Life Weight Growth) เรือรบ ซ่งลาตัวของเรือส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นแบบ Wall





อย่างระมัดระวังจากการออกแบบ side เหนือแนวนา หรือก้มเพียงเล็กน้อยจากผนังด้านใน

และค่อนข้างมีกินน�าลึกน้อย มีแนวคิดซ่งเป็นอีกทางเลือก




วิวัฒนาการการออกแบบเรือ “Tumblehome” หน่งคือ มีด้านลาตัวลาดชันเข้าด้านในแบบ Tumblehome
นาวาสถาปนิกออกแบบทาให้ด้านข้างของลาตัวเรือ ซึ่งกินน�้าลึกมากขึ้น


สอบเข้าจากด้านบนของเส้นแนวน�้า หรือแคบเข้าด้านใน
ซึ่งเรียกว่า “Tumblehome” จนถึงยุค ค.ศ.๑๘๙๐ ที่

ถือได้ว่าเป็นเรือรบท่ทันสมัยท่สุดในสมัยน้น แต่แนวคิด


รูปทรงเรือแบบนี้น้นสามารถหลีกเล่ยงการสะท้อนกลับ



เรดาร์ เพ่อหลบขีปนาวุธบินท่ขนานไปกับพ้นผิวของนา




เพ่อการหลีกเล่ยงตัวเรือแบบ Wall Side เรือรบล่าสุด



เช่น DDG 51 จึงได้สร้างเปลือกหุ้มลาตัวซ่งเป็นทางเลือก


หน่งในการกาจัดการออกแบบข้างเรือเป็นเรือแบบ Wall

Side คือการเลือกใช้รูปแบบเรือแบบ Tumblehome รูปแสดงการเปรียบเทียบตัวเรือแบบ Flared, Wall Side



แนวคิดของเรือลาน้ได้รับการนาเสนออย่างกว้างขวางโดย และ Tumblehome ช่วงบริเวณกลางล�าเรือ



ส่อมวลชนในฐานะส่วนหน่งของแนวคิดเก่ยวกับเรือ Flare หมายถึง ระยะทางระดับท่บ่งความโค้ง





ใหม่ ๆ ในช่วงเปล่ยนศตวรรษท ๒๐ กองทัพเรือใช้ประโยชน์ ด้านข้างเรือเทียบกับแนวเส้นก่งกลางเช่นเดียวกับ


อย่างกว้างขวางจากสถาปัตยกรรม Tumblehome ม ี Tumblehome แต่เป็นการโค้งออกจากแนวก่งกลางลาเรือ


ปรากฏบันทึกทางประวัติศาสตร์ของรูปทรงเรือท่ได้รับ การเรียกช่อจะมีลักษณะเช่นเดียวกับ Tumblehome
การวิเคราะห์เกี่ยวกับปัญหาการล่ม และการจมน�้าอย่าง คือ ต้องระบุว่าเป็นระยะ Flare ตรงส่วนใดของเรือ ซึ่ง

รวดเร็ว และได้เกิดประเด็นและแนวทางการแก้ปัญหาที่ ส่วนใหญ่แล้วบริเวณหัวเรือของเรือท่วไปจะมีลักษณะเป็น









เป็นไปได้ในการใช้แบบเรือลาน้น สาหรับการพัฒนาเรือ Flare ในขณะทบรเวณกลางลาเหนอแนวนามักมีลักษณะ

สมัยใหม่ เป็น Tumblehome
นาวิกศาสตร์ 10
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓




บันทึกการใช้เรือ Tumblehome ในสงครามทางเรือ ท้งหมด ๕ คน จากจานวนกว่า ๒,๔๐๐ คน เรือ



การยาตราเรือของกองทัพเรือรัสเซียท่ยุทธการ Alexander III เร่มจมลงจากการยิงด้วยปืน ๖ น้ว
Tsushima ในปี ค.ศ.๑๙๐๕ (ดังได้สรุปไว้ในตาราง A) ของเรือญี่ปุ่นในเวลาเพียงไม่กี่นาที




เรือรบท่ใหญ่ และใหม่ท่สุดของรัสเซียท่นามาใช้ในการรบ
มีตัวเรือแบบ Tumblehome (Suvaroff, Borodino,









Alexander III) โดนโจมตีอยางรนแรงจากการตอสตงแตตน

และถูกทาลายลงในวันแรก เช่น เรือ Alexander III


ท่โดนเรือขนาดเล็กกว่าของกองทัพเรือญ่ปุ่นโจมต ี

อย่างหนักโดยในคืนน้นและในวันถัดไปเป็นเร่องยากท่จะ



สรุปเก่ยวกับรูปแบบความเสียหายของเรือ เนื่องจาก
การกระจายของกลุ่มกระสุนจากปืนเรือญ่ปุ่นไปยังกองเรือ ตาราง A แสดงก�าลังรบทางเรือของรัสเซียในยุทธการ Tsushima





รสเซยทาให้เกดความเสยหาย ไม่มรปแบบแน่นอน



ลูกกระสุนปืนใหญ่ท่โดนเปลือกเรือเป็นบริเวณกว้าง




ทาให้เกดความเสยหายทซบซ้อนขน จนทาให้น้าทะเล








ร่วไหลเข้าเรือ เกิดไฟไหม้ ตัวเรือฉีกขาด และมีการ
กระจัดกระจายของทีมป้องกันความเสียหายอย่าง
โกลาหล ท�าให้ตัวเรือค่อย ๆ จมลงอย่างช้า ๆ
ตาราง B แสดงก�าลังรบทางเรือของรัสเซียในยุทธการ Tsushima
เรือที่ใช้แบบ Tumblehome ที่มีเกราะหนา และความสูญเสีย
การวิเคราะห์ทางเทคนิคของการทรงตัวเรือเม่อเกิด

ความเสียหายของเรือแบบ Tumblehome
เรือแบบ Tumblehome ใช้งานได้เป็นอย่างดีโดย


เรือจะมีการทรงตัวท่ด เม่อไม่มีสงคราม หรือในขณะท ี ่


เรือไม่ได้รับความเสียหาย ปัจจัยสาคัญสาหรับการทรงตัว







เรือเม่อเกิดความเสียหายก็คือพ้นท่แนวนา และจานวน


อัตราการลอยของเรือท่เหลืออยู่ พ้นท่แนวนาของเรือ






ทาให้เรือต้งข้น อัตราการลอยของเรือทาให้เรือยังสามารถ

ลอยอยู่ได้ เรือ Wall side เม่อถูกทาลายท่บริเวณใต้



เรือ Alexander III ของ ทร.รัสเซีย


แนวนา เรือจมลงในขณะท่ด้านข้างของตัวเรือยังต้งตรงอย ู่






ซ่งมีแนวโน้มที่จะพาลูกเรือจมลงไปกับเรือด้วย เพราะ พ้นท่แนวนาท่ไม่เสียหายจะมีแรงพยุงให้เรือสามารถ



ช่องทางประตูท่ออกดาดฟ้าไปได้ยาก เรือ Suvaroff รักษาแรงลอยตัวอยู่ได้ ส่วนเรือ Tumblehome จะม ี
ไม่มีผู้รอดชีวิต เรือ Borodino มีผู้รอดชีวิตเพียง ๑ คน พื้นที่แนวน�้า และอัตราการลอยตัวที่น้อยกว่า อัตราการ

เรือ Alexander III มีผู้รอดชีวิต ๔ คน สรุปมีผู้รอดชีวิต จมลงจึงมากกว่า นาจะสามารถเข้ามาในเรือด้วยอัตรา

นาวิกศาสตร์ 11
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓





ท่มากกว่า ความเสียหายท่มากกว่าเกิดจากการท่เปิดช่อง ความยาว และมีทวนหัวที่เรียวแหลม แบนเหมือนใบมีด
ระบายอากาศบริเวณดาดฟ้า จะยิ่งท�าให้น�้าทะเลเข้าเรือ ตัวเรือส่วนที่เหนือแนวน�้าจะสอบเข้า แทนที่จะบานออก



ได้อย่างรวดเร็วย่งข้น โดยรวมแล้วเรือ Tumblehome เหมือนเรือท่ว ๆ ไป รูปทรงของตัวเรือแบบน้จะทาให้







มีอัตราการลอยส�ารองน้อยกว่าเรือ Wall side อยู่แล้ว เรอแหวกกระแสคล่นได้ดกว่ารปทรงเรอแบบอน ๆ ซง ่ ึ







และย่งน้อยเป็นพิเศษเม่อเรือกาลังจะจม ส่วนเรือแบบ การออกแบบตัวเรือแบบน จะแตกต่างจากเรือในยุคหลัง
Flare จะมีลักษณะท่ตรงกันข้ามคือ จะมีอัตราการ ของ ทร.สหรฐฯ ท่มักจะเป็นแบบ Catamaran





ลอยตัวสารองท่ดีเม่อเรือกาลังจะจม ทาให้เรือจมได้ช้า หรือ Trimaran ท่เน้นยกลาตัวของเรือเกือบท้งหมด










กว่าแบบอื่น ๆ ให้พ้นนาในขณะท่เรือแล่น เพ่อลดแรงเสียดทานระหว่าง



ลาเรือกับนา แต่ตัวเรือแบบ Tumblehome น้นกลับ

ด้วยเหตุผลท่ด้อยกว่าทางด้าน Ship Stability ของเรือ ตรงกันข้ามคือ ตัวเรือส่วนใหญ่จมอยู่ใต้นา อาศัยเพียง



แบบ Tumblehome แต่มีเหตุผลใดท่ยังได้รับคัดเลือก รูปทรง และความราบเรียบของแผ่นเหล็กตัวเรือ เป็น




มาเป็นแบบตัวเรือท่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ตัวแหวกกระแสนา ก่อให้เกิดการไหลอันราบเรียบ ซ่ง ึ

อีกครั้งหนึ่ง ในโครงการเรือ DDG-1000 นอกจากจะทาให้เรือแล่นไปได้รวดเร็วแล้ว ยังลดเสียง


ใต้น�า เพ่มคุณสมบัติด้าน Stealth เน่องจากตัวเรือส่วนใหญ่




จมอยู่ใต้นา ส่วนท่เป็นเก๋งเรือ (Super Structure)




นอกจากนยงช่วยให้สนเปลองพลงงานน้อยอกด้วย





เน่องจากจะไม่เกิดกระแสคลนไหลวน (Turbulence


Flow) รอบล�าเรือในขณะเรือเดิน และไม่ต้องใช้พลังงาน










มากในการเรงความเรว เพอใหเรอมแรงยกเหมอนกบเรอ
Catamaran หรือ Trimaran สามารถท�าความเร็วได้ถึง
๓๐ นอต แต่จากข้อด้อยของตัวเรือแบบ Tumblehome
ในอดีตที่มีเกี่ยวกับ Ship Stability และประวัติการรบ

ในอดีตท่มีจมได้ง่ายเม่อถูกยิง ได้รับการชดเชยด้วยการ




แบ่งซอยคอมพาทเม้นต์ให้ถ่ข้น เพ่อเพ่มความสามารถ

ในการลอยเมื่อเรือถูกโจมตี
ในส่วนของ Deckhouse หรือ Superstructure

จะมีท้งหมด ๗ ช้น โดย ๓ ช้นล่างจะทามาจากเหล็ก



แต่จะต้องลดการตรวจจับจากเรดาห์ เพราะฉะน้น

อีก ๔ ช้นด้านบนจึงทามาจากวัสดุคอมโพสิตแบบประกบ


เข้าด้วยกัน (Sandwich Panel) โดยใช้ Flat-table tool
ภาพแสดงคุณลักษณะของเรือโครงการเรือ DDG-1000 (USS Zumwalt)

โดยรูปแบบในการทากระบวนการ Vacuum-assisted

ตัวเรือแบบ Tumblehome resin transfer molding (VARTM) ซ่งข้นรูปด้วย


ตัวเรือจะเป็นแบบ Tumblehome คือ จะมีลักษณะ กระบวนการอัดในแม่พิมพ์ชนิด (VARTM) ท่ใช้แบบเดยว



เหมือนใบมีดท่แหวกไปในนา ตัวเรือส่วนใหญ่จะจมอยู่ กับการท�าโครงสร้างอากาศยาน โดยแกน (Core) ที่ใช้ใน




ใต้นา ความกว้างของลาเรือจะน้อยมากเม่อเทียบกับ โครงการน ไม้บัลซ่า หรือโฟม ส่วนวัสดุท่ใช้ฉาบผิวคือ




นาวิกศาสตร์ 12
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓




คาร์บอน/ไวนิลเอสเทอร์ เป็นแผ่นประกบแบบแซนวิช ของบรรดาเจ้าหน้าท และพนักงานอู่ต่อเรือเก่าแก่ราว
จะท�าให้ Superstructure มีความแข็งแรง และน�้าหนัก ๒๐๐ คน น่คือเรือรบแห่งอนาคต เรือพิฆาตยักษ์

ลดลงมากเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้วัสดุจากเหล็ก รูปทรงแปลกตาย้อนยุคเป็นเรือพิฆาตขนาดใหญ่โตมหึมา



รูปทรงแปลกตากับขนาดอันใหญ่โต ปรากฏเป็น ท่สุดเท่าท่เคยสร้างมา ซ่งจะเป็นเรือรบแห่งอนาคตของ



เงาทะมึนขณะถกลากจูงออกจากบรเวณอู่ต่อเรอบาร์ธ ทร.สหรัฐฯ และยังเป็นศูนย์รวมแห่งเทคโนโนยีเรือรบ


ไอออนเวิร์ค (Bath Iron Works) ของกลุ่มเจเนอรล ช้นนาของโลก ได้ออกแล่นในทะเลแอตแลนติกเป็น


ไดนามิกส์ (General Dynamics) แล่นช้า ๆ ไปตามแม่นา ครงแรก ในวนจนทร์ท ๗ ธนวาคม ค.ศ.๒๐๑๖ ซงได้










เคนเนเบ็ก (Kennebec) ในรัฐเมน ภายใต้อุณหภูมิท ี ่ กลายเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของอุตสาหกรรม

เย็นจัดเพ่อออกสู่ทะเลเปิด ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้อง ต่อเรือ และกองทัพเรือทั่วโลก










ภาพแสดงการแบ่งคอมพาร์ทเม้นต์ (ซ้าย) และภาพแสดงแบบในการท�ากระบวนการ VARTM (ขวา) เรือ DDG-1000


























ภาพแสดงเรือ DDG 1000 ขณะอยู่ในอู่ต่อเรือบาร์ธไอออนเวิร์ค (Bath Iron Works) จาก Associated Press/Robert F Bukaty. Bukaty.



นาวิกศาสตร์ 13
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


ภาพเรือพิฆาต USS Zumwalt จาก Associated Press/Robert F Bukaty.



อู่ต่อเรือเก่าแก่ริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกแห่งน ้ ี สาหรับปืน ๑๕๕ มิลลิเมตร บนเรือ DDG-1000 ท่เรียกว่า


ให้กาเนิดเรือรบมานับจานวนไม่ถ้วน เรือจานวนมาก GPS-guided long-range และ Long Range Land





จากท่น่เคยเข้าร่วมในการยกพลข้นบกท่หาดนอร์มังด ี Attack Projectile LRLAP โดยกระสุนยิงโจมตีเป้าหมาย
ประเทศฝรั่งเศสเมื่อ ๗๐ ปีที่แล้ว รวมทั้งเรือพิฆาต และ บนบกจากระยะไกล เป็นกระสุนความแม่นยาสูงม ี


เรือลาดตระเวนท่ประจาการอยู่ในปัจจุบัน แต่ยังไม่เคย ระยะยงพลาดเป้าหมาย ในเส้นรอบวงเพยง ๕๐ เมตร



สร้างเรือรบรุ่นใดที่มีรูปลักษณ์ประหลาดล�้า และมีขนาด หรือแคบกว่าน้น สามารถยิงได้ไกลถึง ๑๐๙ กิโลเมตร




ใหญ่โตระดับนี้มาก่อน (๕๙ ไมล์ทะเล) และกาลังพัฒนาต่อไปเพ่อเพ่มอานาจ

การยงทจะทาให้ “ปืนใหญ่เรือจะต้องไม่พลาดเป้า”




ปืนใหญ่ ๑๕๕ มิลลิเมตร แบบก้าวหน้า รวมไปถึงป้อมปืนแบบ Stealth ซึ่งกระบอกปืนสามารถ






เรือ DDG-1000 ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ท้งส้น เก็บเข้าไปภายในป้อมปืนได้โดยสมบูรณ์ เพอเพมความ


ต้งแต่การขับเคล่อน ไปจนถึงการควบคุมความเสถียรของ สามารถในการล่องหนของเรือ นอกจากน้ยังสามารถ



ล�าเรือโดยไม่ต้องพูดถึงระบบอาวุธ ซึ่งไฮไลท์ส�าคัญที่สุด ใช้งานได้แบบอัตโนมัติต้งแต่ข้นตอนการบรรจุกระสุน


อาจจะเป็น ปืน ๑๕๕ มิลลิเมตร แคลิเบอร์เดียวกันกับ ไปจนถึงข้นตอนการยิง ทาให้ไม่ต้องใช้กาลังพลมาก

ปืนใหญ่สนามทั่วไป แต่เป็น Advanced Gun System ในการบรรจุลูกปืนเช่นปืนรุ่นเก่า ๆ และสามารถ
หรือ “ระบบปืนใหญ่ก้าวหน้า” ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา บรรจุไว้ในเรือได้มากถึง ๙๐๐ นัด แต่มีข่าวออกว่า
ในขั้นตอนสุดท้าย โดย BAE Systems เพื่อติดตั้งบนเรือ ปืน ๑๕๕ มิลลิเมตร LRLAP นี้ อาจต้องมีการทบทวน


พิฆาตพันธุ์ใหม่น้โดยเฉพาะ นอกจากจะยิงด้วยกระสุน การใช้งานใหม่เน่องจากกระสุนมีราคาแพงเกินไป
มาตรฐานจาเพาะแล้ว บริษัทล็อกฮีดมาร์ติน (Lock- (นัดละประมาณ ๑ ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ทร.สหรัฐฯ



heed Martin) กาลังพัฒนากระสุนพิเศษอีกชนิดหน่ง จาเป็นจะต้องหาทางออกประเด็นน้ให้เร็วท่สุด บางท ี



นาวิกศาสตร์ 14
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓





อาจพัฒนานาปืน Railgun มาติดทดแทนปืน ๑๕๕ สาหรับต่อต้านเรือผิวนาและอากาศยาน RIM-๑๖๒

มิลลิเมตร ก็เป็นได้ เรายังคงต้องติดตามข่าวกันต่อไปครับ Evolved Sea Sparrow Missiles (ESSM)

























เรือ USS Zumwalt มีโรงเก็บท้ายเรือ บรรทุกเฮลิคอปเตอร์ขนส่ง/ปราบเรือด�าน�้า “ซีฮอว์ก” หรือระดับเดียวกัน
จ�านวน ๒ ล�า ภาพจาก Associated Press/Robert F Bukaty.



ระบบอาวุธปล่อยน�าวิถีแนวตั้งแบบสุดล�้า แบบเดียวกับท่ติดต้งบนเรือฟริเกตชุดเรือหลวงนเรศวร





ระบบ Peripheral Vertical Launch System ของราชนาวไทย ขปนาวธทางยทธวธ Tomahawk

(PVLS) น้นเป็นระบบปล่อยอาวุธปล่อยนาวิถีในแนวต้ง อันเล่องช่อ สาหรับทาลายเป้าหมายบนบก และจรวด







และเน่องจากขนาดของเรือ DDG-1000 น้น ถือว่า ปราบเรือดานา ASROC (Anti-Submarine Rocket)






ไม่ได้มขนาดใหญ่มาก โดยเฉพาะในส่วนของความกว้าง ซ่งมีจานวนช่องบรรจุท้งหมด ๘๐ ช่อง โดย ESSM






ทาให้พ้นท่ในการติดต้งอาวุธปล่อยฯ น้นมีน้อย อีกท้ง สามารถบรรจุได้ ๔ ลูกต่อช่อง และจรวด BMG-109



ความกังวลในเร่องของความแข็งแรงของตัวเรือ เม่อ Tomahawk กับ ASROC บรรจุได้ ๑ ลูกต่อช่อง




บริเวณท่เก็บอาวุธปล่อยฯ เกิดระเบิดนั้นมีมาก จึงได้มีการ โดยจรวดร่อนรุ่นใหญ่ (BMG-109 Tomahawk) ท่ติด





ออกแบบระบบ PVLS นขนมา โดยระบบนจะเปนลกษณะ หัวรบนิวเคลียร์ได้ และยิงได้ไกลตั้งแต่ ๑,๓๐๐ – ๒,๕๐๐



ของโมดูลท่ใช้เก็บอาวุธปล่อยฯ แบบแยกออกจากกัน กิลโลเมตร ระบบท่อยิง MK 57 ยังใช้ยิงจรวดมาตรฐาน

ลูกอาวุธปล่อยฯ แต่ละลูกจะถูกเก็บแยกไว้ในกล่อง RIM-66 ซึ่งเป็นจรวดยิงโจมตีระยะปานกลาง (๗๐-๑๖๔

อย่างอิสระ ซ่งกล่องน้จะถูกวางไว้บริเวณเปลือกเรือช้นนอก กิโลเมตร) ขนาดเล็กกว่าจรวดโทมาฮอว์กแต่ละท่อยิง


และออกแบบให้มีช่องทางในการระบายแรงระเบิดออกส ู่ บรรจุได้ถึง ๒ ลูก


นอกตัวเรือแทนทจะอัดตัวเรอให้ฉีกขาด และป้องกน


ไม่ให้ลูกอาวุธปล่อยฯ ลูกอื่น ๆ ระเบิดตาม หากลูกอาวุธ เรดาร์ตรวจการณ์สมัยใหม่


ปล่อยฯ ลูกใดลูกหน่งหรือหลาย ๆ ลูกเกิดระเบิดข้น ไม่ว่า เรดาร์แบบ Dual Band Radar (DBR) บนเรือ
จากการถูกโจมต หรือระเบิดข้นเองก็ด อาวุธปล่อยฯ DDG-1000 นั้นจะเป็นรุ่น AN/SPY-3 ของ Raytheon



ทสามารถบรรจลงในระบบ PVLS ได้นน ได้แก อาวธปล่อยฯ ท่แพร่คล่นในย่าน X-Band และเรดาร์ AN/SPY-4









นาวิกศาสตร์ 15
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


ภาพแสดงต�าแหน่งการติดตั้งอาวุธปล่อยน�าวิถีระบบ PVLS ปืนหลักและระบบขับเคลื่อนของ เรือ DDG - 1000



ของบริษัท Lockheed Martin ท่แพร่คล่นในย่าน การถกตรวจจับคล่นเรดาร์ และการก่อกวนจากฝ่าย










S-Band ซงต่อมาได้มแนวความคดทจะเปลยนเรดาร์ ตรงข้ามด้วย
AN/SPY-4 ไปเป็น Air Missile Defense Radar (AMDR) โดยเรดาร์และเซนเซอร์ต่าง ๆ ท้งหมดจะถูกบรรจ ุ



ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มแรกของการพัฒนา อยู่ใน Super Structure ท่มีช่อเรียกว่า Integrated

เรดาร AN/SPY-3 เปนเรดารแบบ Multi-Function Deckhouse & Apertures เพ่อเพ่มประสิทธิภาพ





Radar (MFR) แพร่คล่นในย่าน X-Band มีความยาวคล่น ในการป้องกันการตรวจจับจากฝ่ายตรงข้าม และรักษา

๘ – ๑๕ เซนติเมตร และมีความถี่ ๒ – ๔ GHz เหมาะกับ คุณสมบัติ Stealth ของตัวเรือเอาไว้

การตรวจจับอากาศยานขนาดใหญ่ อาวุธปล่อยนาวิถ ี
และเรือผิวน�้า ส่วนเรดาร์ AN/SPY-4 เป็นเรดาร์ประเภท โซนาร์อันทันสมัย
Volume Search Radar แพร่คลื่นในย่าน S-Band ซึ่ง โซนาร์ของเรือ DDG-1000 นั้นจะประกอบไปด้วย

จะมีความยาวคลื่น ๒.๕ – ๔ เซนติเมตร และมีความถี่ โซนาร์แบบ AN/SQS-60 ซ่งมีคล่นความถ่ปานกลาง







๘ – ๑๒ GHz ทาให้เรดาร์ในย่าน S Band น้มีขีด สาหรับตรวจจับเรือดานา และตอร์ปิโด โซนาร์แบบ AN/

ความสามารถในการตรวจจับวัตถุขนาดเล็ก เช่น SQS-61 ซึ่งมีคลื่นความถี่สูง ส�าหรับตรวจจับทุ่นระเบิด



เรือผิวน�้าขนาดเล็ก อากาศยานไร้คนขับ เป็นต้น โซนาร์ท้งสองน้ติดต้งอยู่บริเวณโดมโซนาร์หัวเรือ มีรัศม ี
ส�าหรับ Air Missile Defense Radar (AMDR) นั้น ตรวจจับคลอบคลุม ๓๖๐ องศา นอกจากนี้ก็ยังมีโซนาร์


เป็นเรดาร์รุ่นใหม่ล่าสุด ท่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพ ลากท้าย (Tow Array Sonar) แบบ AN/SQR-20 สาหรับ

ในการตรวจจับ และแยกแยะเป้าต่าง ๆ ในแบบที่เรดาร์ ตรวจสอบสภาพพ้นท้องทะเล และสภาพแวดล้อม


ทั่ว ๆ ไปท�าไม่ได้ เช่น ยานรบที่วิ่งอยู่ในพื้นที่รกทึบบน ในทะเล ซ่งท้งหมดน้ถูกควบคุมและประมวลผลโดยระบบ

ผืนแผ่นดิน ขีปนาวุธที่วิ่งเรี่ยน�้า อากาศยาน และเรือรบ Integrated Undersea Warfare ท่มีความสามารถ



ท่ว่งฝ่าสายฝน นอกจากน้ยังมีประสิทธิภาพในการป้องกัน ในการแยกแยะเปาใตนา ตอตานทนระเบด และตอรปโด












นาวิกศาสตร์ 16
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓



การจัดการพลังงานภายในเรือและระบบขับเคลื่อน ฮาร์ดแวร์ในการควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ท้งหมดในเรือ

แนวความคิดแบบใหม่ของการจัดการพลังงาน แนวความคิดหลักของระบบน้ก็คือ การใช้ระบบคอมพิวเตอร์

ในเรือรบรุ่นใหม่ ๆ ของ ทร.สหรัฐฯ ก็คือการใช้ แบบ Client-Server ในการควบคมและประมวลผล






คอมพวเตอร์เข้ามาควบคมในการจดสรรพลงงานให้ การทางาน และการส่งการของอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยม ี








เหมาะสมกับภารกิจ เช่น ในสถานีรบ ระบบ Integrated เครอง client ทตดตงอยตามสวนตาง ๆ ของเรอทาหนาท ่ ี







Power System (IPS) จะจัดสรรพลังงานเพ่อให้พอเพียง แสดงผลและรับค�าสั่ง เพื่อส่งผ่านไปยังเครื่อง server ซึ่ง


กบระบบอานวยการรบทงหมด เช่น ปืน อาวุธปล่อยนาวถ ี ทาหน้าท่ประมวลผล และส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ








และเรดาร์ เพ่อไม่ให้เกิดการติดขัดอันเน่องมาจากการ หรือส่งกลับไปให้ผู้ใช้ ผู้ใช้หรือกาลังพลเรือสามารถท่จะ


ขาดแคลนพลังงานในระหว่างการรบ ซึ่งระบบทุกระบบ ใช้งานโปรแกรมควบคุมอุปกรณ์ใด ๆ จากท่ใด ๆ ก็ได้







ในเรือจะใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานท้งหมด แม้กระท่งระบบ ภายในเรือท่ติดต้งเคร่อง Client ไว้ เพราะเคร่อง


ขับเคล่อน ก็ยังเป็นระบบท่ขับเคล่อนโดยมอเตอร์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ทุกเคร่องสามารถเรียกโปรแกรมควบคุม



โดยเคร่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ Rolls-Royce MT30 ขนาด อุปกรณ์นั้น ๆ ขึ้นมาใช้งานได้ เหมือนการเปิดโปรแกรม
๓๖ MW จ�านวน ๒ เครื่อง และเครื่องยนต์ดีเซลฉุกเฉิน บนระบบปฏิบัติการ Windows อย่างไรอย่างนั้น ดังนั้น

อีก ๒ เครื่อง จะมีหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าป้อนให้กับ IPS หากเคร่อง Client ส่วนใดส่วนหน่งถูกโจมตีเสียหาย ก็ยัง

เพียงอย่างเดียวและ IPS จะทาหน้าท่แจกจ่ายพลังงาน สามารถสั่งการ และควบคุมเรือได้จากส่วนอ่น ๆ ภายในเรือ





ไปยังแหล่งท่ต้องการพลังงานตามโปรแกรมท่ได้ควบคุมไว้ แต่ท้งน้ท้งน้น ภายในเรือก็ยังมีส่วนส่งการรวม





ที่เรียกว่า Mission Control Center ซึ่งประกอบไปด้วย


เคร่องคอมพิวเตอร์ Client หลายเคร่องต้งไว้รวมกัน


ผู้บังคับการเรือสามารถส่งการ และรับรายงานสถานการณ์
ต่าง ๆ ได้จากภายในห้องนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่จากทุกส่วน

รับคาส่งอยู่ภายในห้องน ท้งแผนกเดินเรือ อาวุธ ยุทธการ




สื่อสาร และแม้แต่แผนกช่างกล ดังนั้นการสั่งการในการ
ปฏิบัติภารกิจทั้งหมดทั้งมวลจึงเป็นไปอย่างชัดเจน และ
รวดเร็วกว่าระบบเดิม ๆ เป็นอย่างมาก
ทางด้านสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์
TSCEI ได้ออกแบบไว้ให้เป็นสถาปัตยกรรมแบบเปิด
(Open Architecture Computing Environment)
หมายความว่า ในอนาคตเม่อเทคโนโลยีทางด้าน


ภาพแสดงระบบไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนของเรือ DDG - 1000 คอมพิวเตอร์มีการเปล่ยนแปลงพัฒนาไปตามกฎ
ของมัวร์ (Moore’s Law) เรือก็ยังสามารถอัพเกรดท้ง ั
หัวใจที่ส�าคัญที่สุดของเรือ ซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ให้ทันสมัยได้ไม่ยาก ไม่เหมือน

Total Ship Computing Environment ระบบควบคุมส่งการของเรือรบรุ่นเก่า ๆ ท่ต้องร้อกัน



Infrastructure (TSCEI) คือหัวใจท่สาคัญท่สุดของเรือ ยกแผง ซ่งน่นทาให้ค่าใช้จ่ายในการบารุงรักษา และ






เน่องจาก TSCEI น้นเป็นท้งแนวคิด ซอฟต์แวร์ และ ปรับปรุงเรือในระยะยาวลดลงเป็นอย่างมาก



นาวิกศาสตร์ 17
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓




การป้องกันความเสียหาย ยิงได้ก่อน น่นจึงเป็นข้อได้เปรียบท่สุดของเรือ DDG-1000
การป้องกันความเสียหายในเรือ DDG-1000 จะเป็น เรือ DDG-1000 มีแผนขึ้นระวางประจ�าการจ�านวน

ระบบอัตโนมัติท้งหมด ด้วยการอาศัยเซนเซอร์ตรวจจับ ๓ ลา ประกอบด้วย เรือซูมวอลต์ (USS Zumwalt,



ต่าง ๆ กล้องวงจรปิด ระบบคอมพวเตอร์ และระบบ DDG-1000) สร้างข้น ณ อู่ต่อเรือ Bath Iron Works


ดับไฟอัตโนมัต จุดประสงค์ก็เพ่อลดความผิดพลาด เมือง Bath มลรัฐ Maine ขึ้นระวางประจ�าการ เมื่อวันที่


ในการป้องกันความเสยหายด้วยคน เพ่มความรวดเร็ว ๑๕ ตุลาคม ค.ศ.๒๐๑๖ เรือไมเคิลมอนซูร์ (USS Michael


และแน่นอนให้กับการป้องกันความเสียหาย และลด Monsoor, DDG 1001) ขนระวางประจาการเมือวนท ่ ี







จานวนพลประจาเรือ เพราะไม่จาเป็นต้องใช้กาลังพล ๒๙ มกราคม ค.ศ.๒๐๑๙ และ เรือลีนดอน บี จอห์นสัน
ประจาหน่วยซ่อมมากมาย ดังเช่นเรือรบในอดีต โดยระบบ (USS Lyndon B Johnson, DDG 1002) จะขึ้นระวาง



น้จะช่วยจากัดขอบเขตความเสียหายได้รวดเร็วข้น อีกท้ง ั ประจ�าการภายใน ปี ค.ศ.๒๐๑๙ สร้างที่อู่ต่อเรือ Ingalls

ยังช่วยควบคุมการแพร่กระจายของความเสียหายไม่ให้ Shipbuilding ของบริษัท Northrop Grumman
แพร่กระจายออกไปยังห้องข้างเคียงได้ด้วย ระบบน ้ ี ในมลรัฐ Mississippi
เรียกว่า Automatic Damage Control
ความเป็นมาโครงการเรือ DDG-1000
ความสามารถในการล่องหน (ข้อมูลจาก Navy DDG-51 and DDG-1000
ความต้องการหลักอีกอย่างของเรือ DDG-1000 คือ Destroyer : Congressional Research Service )


ความสามารถในการล่องหน (Stealth Capability) โครงการเรือ DDG-1000 เร่มต้นข้นในต้นปี
เพ่อท่จะแทรกซึมเข้าไปยังชายฝั่งของข้าศึกให้ได้ใกล้ ค.ศ.๑๙๙๐ โดยต้องการให้เป็นเรือพิฆาตท่สามารถปฏิบัต ิ



ที่สุดโดยไม่ถูกตรวจจับ ดังนั้นการออกแบบทุกอย่างของ ภารกิจได้หลากหลาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเน้นการยิง



เรือลาน้จึงต้องคานึงถึงเร่อง Stealth เป็นหัวใจสาคัญ สนับสนุนทางทะเล (เข้าสู่ฝั่ง) (Naval Surface Fire




เร่มจากโครงสร้างตัวเรือแบบ Tumblehome ท่ช่วย Support : NSFS) และการปฏิบัติการในบริเวณชายฝั่ง

ทาให้เรือเคล่อนท่ได้อย่างเงียบเชียบลด Acoustic ทะเลหรือมหาสมุทร






Signature ตัวเรือส่วนใหญ่ท่จมอยู่ในนาช่วยลดอุณหภูม ิ แต่เดิมโครงการน้ถูกกาหนดช่อ DD-21 ซ่ง








ของเรือ และปล่องไอเสียท่มีนาคอยหล่อระบายความร้อน หมายถึงเรือพิฆาตในศตวรรษท ๒๑ ในเดือนพฤศจิกายน
เพื่อลด Thermal Emission รูปทรง Super Structure ค.ศ.๒๐๐๑ โครงการดังกล่าวได้รับการปรับโครงสร้าง



ที่ช่วยลด และเบี่ยงเบนการสะท้อนของคลื่นเรดาร์ และ และเปล่ยนช่อเป็น DD (X) ซ่งหมายถึงเรือพิฆาตท่ม ี




เปลือกเรือท่ฉาบด้วยคาร์บอนเพ่อดูดซับคล่นเรดาร์ การออกแบบและกาลังพัฒนา ในเดือนเมษายน





ลากล้องปืนท่สามารถเก็บซ่อนในป้อมปืนได้ และเรดาร์ ค.ศ.๒๐๐๖ ช่อโครงการได้เปล่ยนไปเป็น DDG-1000




ทออกแบบมาเพอป้องกนการตรวจจบจากเรดาร์ของ อีกคร้งซ่งหมายถึงเรือพิฆาตอาวุธปล่อยนาวิถีพร้อม






ฝ่ายตรงข้าม ท้งหมดน้ทาให้เรือขนาด ๑๕,๖๑๒ ตัน หมายเลขเรือ ๑๐๐๐



ยาว ๑๘๐ เมตรนี้ กลายเป็นเรือประมงล�าจิ๋วในจอเรดาร์ โครงการ DDG-1000 เดิมทีต้งใจจะมาแทนท ่ ี

ของฆ่าศึกได้เลยทีเดียว และเม่อประกอบกับเรดาร์ DBR เรือประจัญบานช้นไอโอว่าท่สร้างข้นในช่วงสงครามโลก



ท่มีประสิทธิภาพด้วยแล้ว ทาให้สามารถตรวจพบเรือ คร้งท ๒ และปลดระวางประจาการไปในช่วงต้นทศวรรษ








และอากาศยานข้าศึกได้ก่อนท่ผู้มุ่งประสงค์ร้ายน้นจะ ๑๙๙๐ (ในชวงป ค.ศ.๑๙๘๐ เรือชั้นนี้ไดรับการปรับปรุง








ทันรู้ตัวว่ามีเรือล�านี้เข้าไปใกล้ ซึ่งเมื่อเห็นก่อนก็สามารถ ท้งส่ลา และได้เข้าประจาการอีกคร้งในช่วง ปี ค.ศ.๑๙๘๒ –
นาวิกศาสตร์ 18
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓



ค.ศ.๑๙๘๘) เพ่อทดแทนความสามารถในการยิงปืน มาเป็น ๗ ล�า และสุดท้ายเหลือ ๓ ล�า ถ้าเปรียบเทียบ





ขนาดใหญ่ของเรือช้นไอโอว่า โดยมีการใช้เทคโนโลยีท ่ ี กับเคร่องบินรบ ก็อาจเปรียบได้กับเคร่องบิน ยุคท ๕
ทันสมัยกว่าเพ่อดารงขีดความสามารถในการปฏิบัติการ (GEN.5) F-35 อะไรจะเป็นสาเหตุให้ต้องมีการลดจานวน






ป้องกันชายฝั่ง และเพ่อการนาเทคโนโลยีใหม่ท่หลากหลาย ลงอย่างมาก จากงบประมาณที่บานปลายและวิเคราะห์
มาใช้งานบนเรือในอนาคตได้ ได้ว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมาย Nunn-McCurdy ต้งแต่





เรือ DDG-1000 มีการลดจานวนกาลังพลท้งหมด ต้นโครงการ แล้วกฎหมาย Nunn-McCurdy ท่ว่าน ้ ี
ลงเหลือ ๑๗๕ นาย (ก�าลังพลประจ�าเรือ ๑๔๗ นาย และ คืออะไร ?
ปฏิบัติการทางอากาศ ๒๘ นาย ) เมื่อเทียบกับเรือพิฆาต ปลายเดือนกรกฎาคม ค.ศ.๒๐๐๘ มีการพลิกล็อค






และเรือลาดตระเวนท่มีระบบ Aegis ซ่งมีกาลังพลถึง ครงใหญของแผนการจดหาเรอพฆาต ทร.สหรฐฯ ออกมา





๓๐๐ นาย ซ่งจะช่วยลดต้นทุนในการปฏิบัติราชการ ประกาศว่าต้องการยุติการจัดซ้อเรือ DDG-1000 และ



และการส่งกาลังบารุง เน่องจากได้มีการใช้ระบบขับเคล่อน ดาเนินการจัดหาเรือ DDG-51 ต่อ โดยอธิบายว่า



แบบ Integrated Electric-Drive Propulsion การตัดสินใจในครั้งนี้มาจากการที่ ทร.สหรัฐฯ ได้รับการ





System ซ่งเทคโนโลยีอัตโนมัติน้เองท่ช่วยให้สามารถ จัดหาเรือ DDG-1000 จานวน ๒ ลา แล้วระบุว่าได้ประเมิน

ลดจานวนกาลังพลประจาเรือลง ในขณะท่ระวางขับนา สภาพแวดล้อมการปฏิบัติการในอนาคต และกาหนด










เต็มท ประมาณ ๑๕,๖๑๒ ตัน ซ่งมีขนาดใหญ่กว่า ว่าการจัดซ้อเรือพิฆาตในตอนน้จาเป็นต้องเน้นสาม


เรือพิฆาตและเรือลาดตระเวน ที่มีระบบ Aegis ถึง ๖๔% ภารกิจหลักคือ : Open-Ocean Antisubmarine
(ระวางขับน�้าประมาณ ๙,๕๐๐ ตัน) Warfare (ASW)) Countering Anti-Ship Cruise

DDG-1000 จานวน ๒ ลาได้รับการจัดหาใน Missiles (ASCMs ) และ Countering Ballistic Missiles

ปีงบประมาณ ค.ศ.๒๐๐๗ ในปีงบประมาณ ค.ศ.๒๐๑๙ แม้ว่า DDG-1000 จะสามารถปฏิบัติภารกิจสองของ


ทร.สหรัฐฯ ส่งยอดงบประมาณประเมินค่าใช้จ่ายในการ ภารกิจแรกได้ แต่ภารกิจท่สามจาเป็นต้องปรับปรุงเรือ



จัดซ้อ (จานวน ๒ ลา) รวม ๙,๒๔๒.๓ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มเติม ดังนั้น ทร.สหรัฐฯ จึงได้ข้อสรุปว่าการออกแบบ

ลาท ๓ ของ DDG-1000 มีการจัดซ้อในปีงบประมาณ เรือ DDG-51 สามารถปฏิบัติภารกิจท้งสามน้ได้อย่าง





ค.ศ.๒๐๐๙ ปีงบประมาณ ค.ศ.๒๐๑๙ ทร.สหรัฐฯ เพียงพอ และจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการออกแบบเรือ
ส่งยอดงบประมาณประเมินค่าใช้จ่ายในการจัดซ้อราคา DDG-1000



๓,๗๘๙.๙ ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยท้ง ๓ ลาสร้างข้น ทร.สหรัฐฯ จึงมีข้อเสนอท่จะหยุดการจัดหาเรือ


ู่


ท่อ Northrop Grumman Shipbuilding (NGSB) โดยม ี DDG-1000 และดาเนนการจดหา DDG-51 ต่อไป


บริษัท Raytheon เป็นคู่สัญญาหลักในระบบ Combat ในการน�าเสนองบประมาณปี ค.ศ.๒๐๑๐ ซึ่งถูกส่งไปยัง
System ซึ่งประกอบไปด้วย Collection of sensors, สภาคองเกรสในปี ค.ศ.๒๐๐๙ สภาคองเกรสได้ดาเนิน

Computers, Related Software, Displays, and การอนุมัติในหลักการยุติการจัดหาเรือ DDG-1000

Weapon Launchers แต่ต้องดูกันต่อไปว่าหลังจากนั้น โดยให้เหลือจานวน ๓ ลาในงบประมาณปี ค.ศ.๒๐๑๐

งบประมาณที่ตั้งไว้จะเพียงพอหรือไม่อย่างไร และมีการจัดหาเรือจากโครงการเรือ DDG-51 อีกครั้ง
เม่อมองย้อนกลับไป การวางแผนการจัดซ้อ


การลดจ�านวนการจัดซื้อเรือในโครงการ DDG-1000 เรอพฆาตของกองทพเรอในปี ค.ศ.๒๐๐๘ เป็นสงบ่งช ี ้







เดิม DDG-1000 มีความต้องการจัดหาจานวน ถึงการส้นสุดของยุคหลังสงครามเย็น (ในระหว่างน้น




๓๒ ลา ก่อนจะถูกลดจานวนลงเหลือ ๑๖ ถึง ๒๔ ลา ทร.สหรัฐฯ มุ่งเน้นไปท่การวางแผนในการปฏิบัติการ


นาวิกศาสตร์ 19
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓







ในน่านนาชายฝั่งกับกองกาลังทางบก และทางทะเล จาเป็นต้องหยุดดาเนินโครงการ ยกเว้นแต่ว่ารัฐมนตรี


ของประเทศต่าง ๆ เช่น อิหร่าน และเกาหลีเหนือ) กลาโหมจะส่งรายงานท่บ่งบอกถึงความสาคัญของ


และการเปล่ยนสภาพแวดล้อมด้านความปลอดภัย โครงการต่อความม่นคงของสหรัฐฯ หรือไม่มีทางเลือกอ่น

ระหว่างประเทศเป็นสถานการณ์ใหม่ท่มีการแข่งขัน ท่ถูกกว่าน้อีกแล้ว นอกจากน้นยังต้องให้เหตุผลสนับสนุน






ท่สูงข้น ในขณะท่กาลังรบทางเรือจากประเทศคู่แข่งม ี ถึงค่าใช้จ่ายของโครงการท่ประเมินใหม่ว่าสมเหตุสมผล



ความใกล้เคียงกัน เช่น จีน และรัสเซีย และมีการปรับปรุงการบริหารโครงการให้เหมาะสม แต่
จากงบประมาณท่บานปลาย จะแสดงได้จากตาราง ก็ไม่ทราบเหตุผลว่าโครงการ DDG-1000 ผ่านกฎหมาย


Table A-1 ซ่งรวมประมาณการงบประมาณการจัดหา Nunn-McCurdy และล่วงเลยมาจนถึงปีงบประมาณ
เรือ DDG – 1000 ทั้ง ๓ ล�า ดังที่ปรากฏในการยื่นงบ ค.ศ.๒๐๒๐ ได้อย่างไร ผู้เขียนวิเคราะห์ว่าอาจเป็นเร่อง


ประมาณประจ�าปีของ ทร.สหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ๔,๒๑๘.๔ ของความม่นคงของชาต และการพัฒนาเทคโนโลยีท ี ่


ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ๔๗.๐% นับตั้งแต่งบประมาณ ทันสมัยใส่เข้าไปในเรือรบทาให้ สหรัฐฯ ไม่อาจท่จะ

ปี ค.ศ. ๒๐๐๙ จนถึง ค.ศ.๒๐๒๐ ถอยหลังออกจากโครงการน้ได้ ส่วนการลดจานวนเรือ


จาก ๓๒ ล�า เหลือแค่เพียง ๓ ล�า ด้วยเรื่องงบประมาณ

ท่บานปลายประกอบกับความจาเป็นด้านยุทธการ

ทร.สหรัฐฯ จึงเลือกไปใช้เรือจากโครงการ DDG-51 แทน

ซ่งตอบโจทย์ทางด้านงบประมาณ และด้านยุทธการ
มากกว่า
การด�าเนินการที่ผ่านมา










อตอเรอฯ เรอ DDG-1000 อยในระหวางดาเนนการ

เสร็จส้นในส่วนของระบบตัวเรือ กลจักรและไฟฟ้า
(Hull, Mechanical, and Electrical HM&E) ส�าหรับ


เรือท้งสามลาการส่งมอบเรือ (HM&E) ของอู่ต่อเรือฯ
ตาราง Table A-1 รวมประมาณการงบประมาณการจัดหาเรือ DDG – 1000 เกิดขึ้นล่าช้ากว่าก�าหนด ๑๘ เดือน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ
ทั้ง ๓ ล�า ตั้งแต่ปี ค.ศ.๒๐๐๙ – ค.ศ.๒๐๒๐ (FY หมายถึง ปีงบประมาณ)



ข้อมูลงบประมาณประจ�าปี ของ ทร.สหรัฐฯ ปัญหาการทางานท่เก่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าของเรือ
จาก Congressional Research Service : CRS DDG-1001 (เป็นเรือลาท่สองในช้นน้) โดยหลังจาก









ตรงน้มีประเดนน่าคิดครับ เพราะมีกฎหมายท่เก่ยวข้อง การทดลองเรอในทะเล (SAT) ทร.สหรัฐฯ ได้ตรวจพบ







อยู่คือ กฎหมายที่ชื่อ Nunn-McCurdy (ตั้งชื่อเล่นของ หนงในเครองกาเนดไฟฟ้ากงหนหลกของเรอได้รบ







กฎหมายน้ตามวุฒิสมาชิก และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ความเสียหาย ความเสียหายน้นมากเพียงพอท่จะให้
ที่เป็นคนเสนอเพื่อเป็นการให้เกียรติครับ เป็นวัฒนธรรม ทร.สหรัฐฯ เลือกท่จะเปล่ยนเคร่องยนต์และส่งไปซ่อม




ของสหรัฐฯ เอง) กฎหมายนี้ออกมาตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๙๘๒ โดยอู่ต่อเรือฯ ทาการส่งมอบเรือ DDG-1001 ในเดือน
เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการพัฒนาอาวุธของสหรัฐฯ สูงขึ้น เมษายน ปี ค.ศ.๒๐๑๘ และน�าเคร่องไฟฟ้าฯ ใหม่



ทุกท โดยกฎหมายกาหนดว่าโครงการพัฒนาท่ต้องใช้ มาทดแทนในเดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน

งบประมาณมากกว่าประมาณการ ๑๕% ต้องแจ้งต่อ ทร.สหรัฐฯ มีกาหนดการรับมอบเรือ DDG-1000



สภาคองเกรสให้ทราบ และถ้าเพ่มข้นมากกว่า ๒๕% แล้ว ขั้นสุดท้าย ทั้งระบบตัวเรือ กลจักร และไฟฟ้า (HM&E)
นาวิกศาสตร์ 20
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓



รวมถึงระบบอานวยการรบ ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ.๒๐๑๙ ข้อมูลล่าสุดจากรายงานต่อคณะกรรมการรัฐสภา
กาหนดรับมอบข้นสุดท้ายของ DDG-1000 ในเดือน ของ United States Government Accountability


กันยายน ค.ศ.๒๐๒๐ อย่างไรก็ตาม ทร.สหรัฐฯ ยังคง Office เกี่ยวกับโครงการ DDG-1000 ในเดือนมิถุนายน

ทางานเพ่อแก้ไขข้อบกพร่องที่ร้ายแรง โดยมีคณะ ค.ศ.๒๐๒๐ หน้า ๑๒๒-๑๒๓ ได้สรุปงบประมาณของเรือ





กรรมการการสารวจและตรวจสอบ และได้ระบุไว้ว่า ท้ง ๓ ลาน้ไว้สาหรับการพัฒนาจานวน ๑๑,๙๔๔.๓๔






เรือท้งสองลาตรวจพบข้อบกพร่องท่ร้ายแรงมากกว่า ล้านเหรียญสหรัฐฯ การจัดซ้อจัดจ้างจานวน ๑๓,๘๐๘.๓๒









๓๒๐ คร้ง หลังจากอู่ต่อเรือฯ ส่งมอบ DDG-1000 ลานเหรยญสหรฐฯ คดเปนจานวนเงนรวม ๒๕,๗๕๒.๖๖


(HM&E) มาแล้วในช่วงเดือนพฤษภาคม ค.ศ. ๒๐๑๖ ลานเหรยญสหรฐฯ คดเปนเงนไทยประมาณ ๘๐๓,๘๙๕.๐๓





และตรวจพบอีก ๒๔๖ คร้ง หลังจากท ทร.สหรัฐฯ ล้านบาท (อัตราแลกเปล่ยนเงินตราต่างประเทศธนาคาร



ดาเนินการทดสอบทดลองเรือ DDG-1000 ในเดือน แห่งประเทศไทยวันท ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๓



มกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.๒๐๑๘ ปัญหาเหล่าน ี ้ ๓๑.๒๑๖ บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ) คิดเล่น ๆ ว่างบประมาณ
จะเป็นตัวช้วัดว่าเรือจะไม่มีความสามารถอย่างเต็มท ่ ี ก้อนน้สามารถจัดหาเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช ได้ ๕๓ ลา




เมื่อเรือเข้าประจ�าการในกองทัพเรือ (งบประมาณลาละประมาณ ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท)



เพ่อจากัดความล่าช้าของการสร้างเรือ DDG-1000 และ สามารถจัดหาเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ได้ ๑๔๖ ลา
และ DDG-1001 ทร.สหรัฐฯ ได้อนุญาตให้บริษัทผู้สร้าง (งบประมาณล�าละประมาณ ๕,๕๐๐ ล้านบาท)

เรือของตนมีส่วนร่วมกับเรือ DDG-1002 ซ่งเป็นเรือ
ตารางแสดงงบประมาณของโครงการ DDG-1000 ข้อมูลจาก Report to Congressional Committees
ของ United States Government Accountability Office เดือน มิถุนายน ค.ศ.๒๐๒๐






ลาท่สาม และลาสุดท้ายของช้นซ่งอยู่ระหว่างการสร้าง ต้งแต่เดือนมกราคม ค.ศ.๒๐๒๐ โครงการน้ยังคง


ทร.สหรัฐฯ ยังไม่ทราบว่าการดาเนินการจะล่าช้ากว่า ดาเนินต่อไป ยังคงมีการพัฒนาเทคโนโลยีท่สาคัญ



กาหนดการสร้างเรือ DDG-1002 หรือไม่ แต่ระบุว่า ท่เหลืออย มีการส่งมอบระบบการรบ (Combat Systems)

ู่


โดยท่วไปแล้วช้นส่วนอะไหล่ต่าง ๆ สามารถยืม และ ของเรือ DDG-1000 ในเดือนเมษายน ค.ศ.๒๐๒๐ ซึ่ง



แทนท่ได้โดยไม่ทาให้เกิดความล่าช้า ทร.สหรัฐฯ ล่าช้ามา ๖ เดือนจากปีที่แล้ว ท�าให้เรือล�านี้ส่งมอบล่าช้า
ได้ก�าหนดการส่งมอบเรือ DDG-1002 (HM&E) ในเดือน รวม ๒ ปี ส่วนเรือ DDG-1001 น้น ล่าช้าไปโดยมีแผนการ


มีนาคม ค.ศ.๒๐๒๐ ตามด้วยการส่งมอบข้นสุดท้าย ส่งมอบระบบการรบในเดือนสิงหาคม ค.ศ.๒๐๒๐



(รวมระบบอ�านวยการรบ) ในเดือนกันยายน ค.ศ.๒๐๒๒ เจ้าหน้าทโครงการฯ ระบว่าได้ใช้บทเรยนจากเรือ

นาวิกศาสตร์ 21
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓








DDG-1000 จะทาให้สามารถส่งมอบระบบการรบท ่ ี กบงบประมาณกอนโตทมีค่าประมาณหนงในสของ GDP





สมบูรณ์โดยใช้เวลาอย่างน้อยท่สุดใน ๓ ปี สาหรับเรือ ประเทศไทย คงต้องติดตามกันต่อไปว่าโครงการ
DDG-1001 ภายในเดือนกันยายน ค.ศ.๒๐๒๒ DDG-1000 จะลงเอยอย่างไร กับเทคโนโลยีท่เรียกว่าท่สุด


ในเดือนมกราคม ค.ศ.๒๐๑๘ ทร.สหรัฐฯ ของเรือรบแห่งอนาคต ระบบต่าง ๆ ภายในเรือจะเป็นไป

ได้เปล่ยนช้นเรือจากภารกิจโจมตีบก (Land Attack) ตามท่หวังไว้หรอไม่ และจะมีประเทศอ่น ๆ ท่สนใจ





ไปเป็น Offensive Surface Strike และยังปรับปรุง จะสร้างโครงการเรือคล้าย ๆ DDG-1000 แบบของ

ในเอกสารเก่ยวกับภารกิจใหม่ในเดือนกรกฎาคม ทร.สหรัฐฯ อีกหรือไม่ และเรามีโอกาสได้เห็นตัวเรือรบ

ค.ศ.๒๐๑๘ ให้สามารถปฏิบัติการ Surface Strike รูปทรงในอดีตท่มีรูปร่างแปลกตาจะสามารถแสดง


Mission ใน ๕ ปีถัดไป โดย ทร.สหรัฐฯ ของบประมาณ ศกยภาพแข่งขนกบเรอรบในยุคปัจจบนได้ดขนาดไหน





เพ่มเติมจานวน ๑๖๐ ล้านเหรียญฯ สาหรับเพ่ม ๔ เวลาเท่าน้นจะเป็นเคร่องพิสูจน์เรือชุดน “DDG-1000









ระบบ ใหม่ให้กับเรือชุดน้อันประกอบไปด้วย ระบบขีปนาวุธ ตัวเรือ Tumblehome ในอดีตสู่เทคโนโลยีเรือรบ
๒ ระบบ (two missile systems) ระบบส่อสาร แห่งอนาคต”

(a communications system) และระบบข่าวกรอง


(an intelligence system) โดยจะติดต้งท้ง ๓ ลา ภายใน อ้างอิง

ปีงบประมาณ ค.ศ.๒๐๒๓ โดยค่าใช้จ่ายในการพัฒนา - Stable Equilibrium, Intact Stability, Damage Stability
จาก วิชาการทรงตัวทางขวางเรือ น.อ.ผศ.สมศักดิ์ แจ่มแจ้ง



และติดต้งระบบท้ง ๔ น จะอยู่นอกเหนือไปจากงบ - ภาพเรือ Ironclad

ประมาณจัดซื้อจัดจ้างของโครงการ DDG-1000 ที่มา http://steamboattimes.com/civil_war_ironclads.html
- บันทึกการใช้เรือ Tumblehome ในสงครามทางเรือ
ที่มา Tumblehome Warships โดย Philip d. Sims, Member Depart-
ความคิดเห็นจากส�านักงานโครงการเรือ DDG-1000 ment of the Navy, NAVSEA. and James S. Webster, Member, Gibbs
& Cox, Inc., Arlington, VA
ในเดือนมีนาคม ค.ศ.๒๐๒๐ เรือ DDG-1000 มีระบบ - ภาพแสดงการแบ่งคอมพาร์ทเม้นต์ (ซ้าย) และภาพแสดงแบบในการทา �
การรบ (Combat System) ที่เพียงพอ จากการติดตั้ง กระบวนการ VARTM (ขวา)

ท่มา http://www.compositesworld.com/articles/DDG-1000-zum-

และการใช้งานภายในเรือจะทาให้ไปสู่การพัฒนา และ walt-stealth-warship
การบูรณาการในเฟสของการทดสอบทดลองเรือในทะเล - ภาพแสดงระบบไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนของ เรือ DDG-1000

ท่มา thaimilitaryandasianregion.wordpress.com Design & Research
โดยในปี ค.ศ.๒๐๑๙ เรือ DDG-1000 ใช้เวลาในการ by ANIMAGRAFFS
- ข้อมูลเรือ DDG-1000 Zumwalt Class

ทดสอบในทะเลมากว่า ๑๐๐ วัน เพ่อคงขีดความสามารถ ที่มา https://www.naval-technology.com/projects/dd21/
ในการสนับสนุนการปฏิบัติการของกองเรือ และเรือ https://www.navy.mil/ah_online/zumwalt/index.html#
https://allhands.navy.mil/Features/Zumwalt
DDG-1001 เสร็จสิ้นการทดสอบความพร้อมรบในเดือน https://www.popularmechanics.com/military/navy-ships/

มีนาคม ค.ศ.๒๐๒๐ และเรือ DDG-1002 น้น อยู่ระหว่าง a28582223/zumwalt-destroyers-history-parts-future/
https://topdesignbuilders.blogspot.com/2017/10/zumwalt-design-
การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วร้อยละ ๙๓ โดยม ี builders.html
การบูรณาการระบบใหม่ท่เพ่มขีดความสามารถในการ - ความเป็นมาโครงการเรือ DDG-51 และ DDG-1000 จาก Congressional


Research Service report ณ วันที่ ๑๐ ตุลาคม ค.ศ.๒๐๑๙
โจมตีเป้าหมายอีกด้วย https://fas.org/sgp/crs/weapons/RL32109.pdf

แน่นอนว่าการพัฒนาเทคโนโลยีท่ยังไม่สมบรณ์ - ข้อมูลรายงานต่อคณะกรรมการรัฐสภา ของ United States Government

Accountability Office เกี่ยวกับโครงการ DDG-1000 (หน้า ๑๒๒ -๑๒๓ )
ต้องมีการปรับปรุงแก้ไข เพ่อให้ได้ตามความต้องการ https://www.gao.gov/assets/710/707359.pdf#page131

ใช้งานในตอนออกแบบ ท�าให้ต้องใช้เวลาในการทดสอบ United States Government Accountability Office
https://www.gao.gov/

ทดลองในการใช้งานจริง เพ่อให้ระบบน้น ๆ เสร็จสมบูรณ์

นาวิกศาสตร์ 22
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


ยิงปืน เปรี้ยง เปรี้ยง ก็เที่ยงดี ได้ทีซ�้าปล่อย ตอร์ปิโด
ยามสายของวันอาทิตย์ที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๒ “สี่ชาย” ได้นัดพบกันที่ “ชมรมคนรักเสด็จเตี่ย” สนามเป้า

เพื่อคุยกันในเรื่องที่อยากจะคุย
ชายหนึ่ง คือ ดร.กระจ่าง พันธุมนาวิน ลูกชายของคุณครู พลเรือตรี พระยาหาญกลางสมุทร (บุญมี พันธุมนาวิน)


ซ่งเป็นผู้บังคับกองจับเรือเชลยเยอรมัน เม่อวันสยามประกาศสงครามกับเยอรมัน และออสเตรีย – ฮังการี ในคราว





สงครามโลกคร้งท่ ๑ และเป็นนักเรือดานาสยามคนแรก ดร.กระจ่างฯ เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนทวีธาภิเศก ได้รับทุน
การศึกษาของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา ๑๗ ปี ไปเรียนเมืองนอกประเทศอังกฤษอยู่ ๘ ปี จนได้รับปริญญาเอก
กลับมาเมืองไทย มีการงานท�าอยู่ดี ๆ ก็ลาออกเอาดื้อ ๆ ก่อนเกษียณอายุถึง ๑๒ ปี ด้วยเหตุผลที่ว่า “ผมเบื่อนาย
ที่โง่กว่าครับ”
ชายสอง คอ ม.ร.ว.อภเดช อาภากร หลานป่ของ พลเรอเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองศ์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ ์




กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เป็นหลานปู่ที่รู้พระประวัติ และพระกรณียกิจของกรมหลวงชุมพรฯ ดีมาก ๆ บอกว่า
ที่มาคุยกันวันนี้ ก็เพราะว่า “ดร.กระจ่างฯ คุยสนุกดี ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม มีเรื่องแปลก ๆ มาเล่าให้ฟัง”
ชายสาม หนุ่มท่สุด คือ อาจารย์ประกิต สะเพียรชัย อักษรศาสตรมหาบัณฑิต ประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์

มหาวิทยาลัย เป็นอดีตหัวหน้าศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพณิชยการพระนคร
ปัจจุบัน อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยนเรศวร ศิษย์เก่าโรงเรียนทวีธาภิเศก บอกว่า ท่มาคุยกันวันน้ ก็เพราะว่า “อยากรู้จัก


ดร.กระจ่างฯ ศิษย์เก่าทวีธาภิเศกด้วยกัน”
ชายสี่ แก่ที่สุด คือ ผมเอง พลเรือตรี กรีฑา พรรธนะแพทย์ นักเรียนเตรียมนายเรือรุ่น ๑๓ (LUCKY NUMBER
: เลขซวย) ส�าเร็จเป็นนายทหาร พ.ศ.๒๔๙๘ เกษียณ พ.ศ.๒๕๓๖ ได้รับปริญญาหลังเกษียณตอนแก่ คือ “อักษรแสบ
มหาบัณฑิต ประวัติแสบ” และ “วารสารแสบมหาบัณฑิต” มหาวิทยาลัยสนามเป้า พบกันวันนี้ กรีฑาฯ อยู่ในฐานะ
เจ้าของบ้าน

นาวิกศาสตร์ 23
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


สี่ชาย คุยกันด้วยเรื่องสัพเพเหระ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง แต่พอจะเป็นเรื่องขึ้นมา ก็ต้องเปลี่ยนเรื่องคุย
คุยไปคุยมา ดร.กระจ่างฯ ท่านก็ท่องโคลงตอนหนึ่งให้ฟัง บอกว่าจ�ามาจากคุณพ่อ (พระยาหาญกลางสมุทร) คุณพ่อ






บอกว่าเป็นเพลงจากละครแสดงโดยทหารเรือ เข้าใจว่าเป็นการแสดงหน้าพระทน่ง ในหลวงรชกาลท่ ๖ จาได้ตอนเดยว


ท�านองไทยเดิม คือ “กราวนอก”



พอ ดร.กระจ่างฯ ท่องโคลงซ่งเป็น “คาร้อง” ท่ไม่มี “ช่อเพลง” จบ กรีฑาฯ ก็หาปากกา กระดาษให้ ดร.กระจ่างฯ



รีบจดทันที เพราะมีท้ง “คาร้อง” และ “ทานอง” แล้ว ย่อมเอาไปให้กองดุริยางค์ทหารเรือบรรเลงเป็นเพลงได้

ทหารเรือจะได้มีเพลงเก่าที่เป็นของใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเพลง เอาไว้ร้องเล่น ๆ หรือจะร้องจริง ๆ ก็ได้
วันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๒

















จากซ้าย : พลเรือตรี กรีฑา พรรธนะแพทย์ หม่อมราชวงศ์อภิเดช อาภากร
อาจารย์ประกิต สะเพียรชัย ดร.กระจ่าง พันธุมนาวิน


























ดร.กระจ่าง พันธุมนาวิน ก�าลังเขียนค�าร้องของเพลงจากความทรงจ�า

24
นาวิกศาสตร์
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


ดร.กระจ่างฯ เขียนเอาไว้ ดังนี้










































































นาวิกศาสตร์ 25
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


สรุปแล้วเพลงนี้มี “ค�าร้อง” มี “ท�านอง” แต่ไม่มี “ชื่อเพลง” ไม่มี “ชื่อผู้แต่ง”
เรื่องหาเพลงเก่า ๆ ให้กองดุริยางค์ทหารเรือบรรเลงนี้ คุณชายอภิเดชฯ เคยท�าส�าเร็จมาแล้วครั้งหนึ่ง ในสมัยที่

นาวาเอก ก�าจร เจริญเกียรติ (พลเรือตรี) เป็นผู้บังคับกองดุริยางค์ทหารเรือ เป็นเพลงพระนิพนธ์ในกรมหลวงชุมพรฯ





ไม่มีช่อเพลง ทางกองดุริยางค์ทหารเรือ จึงต้งช่อให้ว่าเพลง “พลยทธนาวา” แล้วคุณชายอภิเดชฯ ก็เขียนเร่อง
“เพลงของเสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ ที่หายไป” ลงในนิตยสารนาวิกศาสตร์ ฉบับเดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๗
สี่ชายต่างดีใจมากที่ทหารเรือจะได้มีเพลงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเพลง เดา (สันนิษฐาน) ว่าเพลงนี้ต้องเกิดขึ้นหลังจากที่
ทหารเรือมีตอร์ปิโดใช้แล้ว คือ มีเรือตอร์ปิโดแล้วแน่ ๆ เรือตอร์ปิโดล�าแรกของทหารเรือไทย คือ “เรือเสือทยานชล”
สมัยรัชกาลที่ ๕ เป็นเรือพิฆาตตอร์ปิโด ตัวเรือเหล็กระวางขับน�้า ๓๘๕ ตัน ต่อที่บริษัทอู่กาวาซากิ โกเบ ประเทศญี่ปุ่น
ขึ้นระวางประจ�าการวันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๑ มีอาวุธตอร์ปิโด ขนาด ๔๕ เซนติเมตร ๒ ท่อ มีปืนใหญ่ขนาด

๗๖ มิลลิเมตร ๑ กระบอก ขนาด ๕๗ มิลลิเมตร ๕ กระบอก
กรมทหารเรือรับมอบเรือเสือทยานชลในวันเดียวกับวันขึ้นระวางประจ�าการ พร้อมกับเรือตอร์ปิโดอีก ๓ ล�า คือ
เรือตอร์ปิโดที่ ๑ เรือตอร์ปิโดที่ ๒ และเรือตอร์ปิโดที่ ๓
ส่วนเรือเสือค�ารณสินธุ์นั้นเหมือนกับเรือเสือทยานชล แต่ขึ้นระวางประจ�าการเมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๕๕
ในรัชสมัยรัชกาลที่ ๖ และมีเรือตอร์ปิโดที่ ๔ อีก ๑ ล�า ขึ้นระวางประจ�าการเมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๕๖
เพราะฉะนั้น เพลงนี้ต้องเกิดขึ้นภายหลังวันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๑ สมัยรัชกาลที่ ๕ หรือไม่ก็เกิดขึ้นภายหลัง
ที่รัชกาลที่ ๖ เสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๓ แน่นอน ในเมื่อเพลงนี้ไม่มีชื่อ หรือไม่ทราบชื่อ








ดร.กระจ่างฯ จงตงชอให้เองว่าเพลง “ศักดานาวี” เพราะมคาร้องตอนหนงว่า “ศักดาของนาวี” แค่เหนคาร้อง



ยังไม่ทันจะได้ยินเพลง ก็รู้สึกว่า “มันส์” เสียแล้ว คือตอน “ยิงปืน เปรี้ยง เปรี้ยง ก็เที่ยงดี ได้ทีซ�้าปล่อย ตอร์ปิโด”
เม่อวันท่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๒ ดร.กระจ่างฯ ท่านคงนึกถึงความ “มันส์” ของเพลงน้อยู่ในหัวใจ



เลยแต่งค�าร้องของเพลงนี้เพิ่มเติมอีก ๑ ตอน ส่งมาให้ ดังนี้




เรือหรั่ง เรือเจ๊ก เกา และ รัส ช่างคัดสรรมาให้เราแล่น
ซ้อมรบอวดธงหลากถิ่นแดน อาเซียนทุกแคว้นต้องยอมไทย
นาวิกฯ นาวีฯ มีบินรบ ขีปนาวุธครบอริไล่
ศัตรูข้ามขอบฟ้าผลาญบรรลัย จงรู้ไว้เราคือราชนาวี





๑ เรือหรั่ง เรือต่อในอังกฤษ, อเมริกา
๒ เรือเจ๊ก เรือต่อในจีน

เกา เรือต่อในเกาหลีใต้
๔ รัส เรือก�าลังเจรจาต่อในรัสเซีย


26
นาวิกศาสตร์
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


เรือเสือทยานชล



































เรือเสือค�ารณสินธุ์ ก�าลังยิงตอร์ปิโด

นาวิกศาสตร์ 27
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


เรือตอร์ปิโดที่ ๑






















เรือตอร์ปิโดที่ ๒
























เรือตอร์ปิโดที่ ๓

28
นาวิกศาสตร์
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


ประจ�าสถานีรบบนเรือตอร์ปิโด

































บรรจุลูกตอร์ปิโดเข้าท่อยิง



ขอขอบคุณ : ภาพจากนิตยสารกระดูกงู

นาวิกศาสตร์ 29
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓








ผมได้รบคาร้องตอนท ๒ แล้ว ผมกเรยนให้ดร.กระจ่างฯ ทราบว่า “ก็ดีเหมือนกัน” แต่ “เก็บเอาไว้
ร้องกันเองเถอะ” เดี๋ยวท่านผู้แต่งเพลงขนานแท้ และดั้งเดิมท่านจะหงุดหงิดเอา ที่ไปต่อเติมเพลงของท่าน โดยที่มิได้
จุดธูปบอกกล่าวขออนุญาต
เพ่อให้ “คาร้อง” ”ทานอง” “นักร้อง” ”นักดนตรี” ได้พบกันจนทาให้เกิดเป็นเพลงท่สมบูรณ์ได้ กรีฑาฯ ก็ติดต่อ





กับ พลเรือตรี ณรงค์ แสงบุศย์ หรือ “ครูจ๋อง” อดีตผู้บังคับกองดุริยางค์ทหารเรือ ขอให้จัดการท�าเป็นเพลงขึ้นให้ได้



ครูจ๋อง กรีบจัดการทนท “ไม่รอรา” ให้ทางวงดนตรีไทยของกองดุรยางค์ทหารเรอช่วยบรรเลง และหานักร้องให้


แล้วบันทึกเสียงลง CD จนเรียบร้อย แต่ยังเป็นเพียง “ฉบับร่าง” ยังไม่เอาจริง ครูจ๋องเอา CD เพลง “ศักดานาวี”
มาให้กรีฑาฯ เมื่อวันจันทร์ที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๒ กรีฑาฯ ก็เอา CD มาเปิดฟัง แล้วส่งเสียงเพลงทางโทรศัพท์
กรอกหูให้อาจารย์ประกิตฯ ฟัง ต่างก็มีความรู้สึกเหมือนกันว่า เสียงดนตรีดังไป เสียงนักร้องอ่อนไป จะต้องเข้มแข็ง
กว่านี้ ให้สมกับเป็นเพลงปลุกใจ จะต้องมีการบันทึกเสียงเพลงนี้อีกที


คราวน้จะเป็นการบันทึกเสียงจริง คือ “เอาจริง” กรีฑาฯ จึงมีหนังสือลงวันท่ ๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๒

เป็นทางการ ถึง นาวาเอก ภาสกร สุวรรณพันธ์ ผู้บังคับกองดุริยางค์ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ เพ่อขออนุญาต
บันทึกเสียงวงดนตรีไทย นาวาเอก ภาสกรฯ ก็อนุญาตให้ด�าเนินการได้ในวันเดียวกันนั้นเอง
และแล้ว “ครูจ๋อง” ก็โทรมานัดผมว่าจะบันทึกเสียงแบบ “เอาจริง” ในวันอังคารที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖๒

ท่กองดุริยางค์ทหารเรือ ผมก็โทรนัด ดร.กระจ่างฯ ให้ไปช่วยฟังกันหน่อย ตอนเช้า “ครูจ๋อง” ก็ขับรถมารับ
ดร.กระจ่างฯ กับผมที่ส�านักงานราชนาวิกสภา
ท่กองดุริยางค์ทหารเรือ ห้องบันทึกเสียงพร้อม วงดนตรีไทยพร้อม นักร้องพร้อม ผู้กากับพร้อม วงดนตรีไทย


บรรเลงอยู่หลายเท่ยว นักร้องร้องอยู่หลายเท่ยว เพ่อให้ได้ผลงานดีท่สุด จนเป็นผลสาเร็จได้เพลง “ศักดานาวี”





เป็นที่พอใจ
ผมขอบันทึกรายนามผู้บุกเบิกเพลง “ศักดานาวี” จนเป็นผลส�าเร็จไว้เป็นประวัติศาสตร์ ดังนี้
ดร.กระจ่าง พันธุมนาวิน ผู้น�าต้นฉบับเพลง “ศักดานาวี” มาเผยแพร่
หม่อมราชวงค์อภิเดช อาภากร ผู้สมรู้ร่วมคิด
อาจารย์ประกิต สะเพียรชัย ผู้สมรู้ร่วมคิด

พลเรือตรี กรีฑา พรรธนะแพทย์ ผู้ผลักดันให้เกิดเพลง “ศักดานาวี”
พลเรือตรี ณรงค์ แสงบุศย์ ผู้ก�ากับการบรรเลง และประสานงาน

------------------------------------------
นาวาเอก ภาสกร สุวรรณพันธ์ ผู้บังคับกองดุริยางค์ทหารเรือ

เรือเอกหญิง สาทิพย์ น่วมศิริ หัวหน้าหมวดดนตรีไทย
เรือตรี สมเดช แม่นข�า ประจ�าหมวดดนตรีไทย

จ่าเอก อรรณพ พิศาลพันธุ์ เจ้าหน้าที่บันทึกเสียง
------------------------------------------




30
นาวิกศาสตร์
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


จากซ้าย
ตะโพน ปี่ ฆ้องวงใหญ่ ระนาดเอก ฉิ่ง ฆ้องวงเล็ก ระนาดทุ้ม กลองทัด

๑. เรือตรี ชัยนรินทร์ แถมมีทรัพย์ ปี่

๒. จ่าโท ธีรภัทร บุญจิตติ ระนาดเอก
๓. จ่าเอก มาโนช แสวงศิลป์ ระนาดทุ้ม
๔. พันจ่าเอก วิเชียร สังข์สุวรรณ ฆ้องวงใหญ่
๕. จ่าเอก ส�าริด อ้วนฉ�่า ฆ้องวงเล็ก
๖. พันจ่าเอก พีระวรรตน์ สังข์สุวรรณ ตะโพน
๗. จ่าเอก ธนัช พ่วงสุวรรณ กลองทัด
๘. จ่าเอก วินัย นรเหรียญ ฉิ่ง

๙. พันจ่าเอก ภมร บุญยัง นักร้อง
๑๐. พันจ่าเอก พงศกร วรรณกรรม นักร้อง










นาวิกศาสตร์ 31
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


จากซ้าย พันจ่าเอก ภมร บุญยัง นักร้อง
เรือเอกหญิง สาทิพย์ น่วมศิริ หัวหน้าหมวดดนตรีไทย
พันจ่าเอก พงศกร วรรณกรรม นักร้อง

































เรือตรี สมเดช แม่นข�า ประจ�าหมวดดนตรีไทย
จ่าเอก อรรณพ พิศาลพันธ์ุ เจ้าหน้าที่บันทึกเสียง

32
นาวิกศาสตร์
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


ดร.กระจ่าง พันธุมนาวิน
พลเรือตรี กรีฑา พรรธนะแพทย์
พลเรือตรี ณรงค์ แสงบุศย์
ภายในห้องบันทึกเสียง










เพลง “ศักดานาวี” กสาเรจเรยบร้อยไปด้วยด โดยวงดนตรีไทยของกองดรยางค์ทหารเรอ ท่านผ้ใดอยากฟัง
โปรดมาฟังที่บ้านผม “ชมรมคนรักเสด็จเตี่ย” หรือจะให้ส่งเสียงกรอกหูไปทางโทรศัพท์ก็ได้



เพลง “ศักดานาวี” เป็นเพลงเก่าแก่ท่มีคุณภาพ ทานอง “กราวนอก” วัฒนธรรมไทยแท้แต่โบราณท่ใช้


ดนตรีบรรเลงประกอบกับการแสดง ทานอง “กราวนอก” เป็นเพลงหน้าพาทย์ชนิดหน่งใช้ประกอบการแสดงโขน




สาหรับ “การยกทัพของมนุษย์ ลิง” จึงเป็นทานองท่ปลุกใจเหล่าทหารหาญให้คึกคัก เข้มแข็ง ฮึกเหิม





ส่วนคาร้องน้นท่านผู้แต่งเพลงน้ข้นมาก็ได้แสดงถึงเดชศักดาของนาวี หรือสมุททานุภาพในสมัยน้น มีอาวุธตอร์ปิโด



เป็นอาวุธท่น่าเกรงขามมีอานาจการท�าลายสูง ทันสมัยท่สุดในสมัยนั้น คงจะเปรียบได้กับอาวธปลอยนาวถในปัจจุบัน






กราวใน ส�าหรับการยกทัพของยักษ์
นาวิกศาสตร์ 33
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


มนุษย์ - ลิงยกทัพ ท�านองกราวนอก


































ยักษ์ยกทัพ ท�านองกราวใน


34
นาวิกศาสตร์
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


ฟัง ดร. กระจ่างฯ เล่าถึงเพลง “ศักดานาวี” ว่า

“จ�ามาจากคุณพ่อ (พระยาหาญกลางสมุทร) คุณพ่อบอกว่า เป็นเพลงจากละครแสดงโดยทหารเรือ เข้าใจว่า
เป็นการแสดงหน้าพระที่นั่งในหลวงรัชกาลที่ ๖”
ฟังแล้วท�าให้ผมจ�าขึ้นมาได้ว่า เคยอ่านหนังสือ “นิทานชาวไร่” ที่คุณครู นาวาเอก สวัสดิ์ จันทนี (ครูหวัด)
ท่านเขียนเล่าไว้ ตอนหนึ่งว่า




คุณครูเรือโท ถวิล เสถียรสวัสด์ ซ่งเป็นนักเรียนนายเรือในสมัยน้น เล่าถึงการถวายพระกระยาหารคา แด่พระบาท

สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ที่โรงเรียนนายเรือ พระราชวังเดิม เมื่อเสวยราชย์แล้ว (เสวยราชย์ เมื่อ
วันที่ ๒๓ ตุลาคม ร.ศ. ๑๒๙ : พ.ศ.๒๔๕๓)



เร่องน้จึงเป็นเร่องเล่า เรือโท ถวิลฯ ท่านเล่าให้ “ครูหวัด” ฟัง “ครูหวัด” ก็เขียนเล่าต่อมา “กรีฑา” อ่านแล้ว
ก็เล่าต่อไป
“ครูหวัด” ท่านเขียนไว้ว่ายังงี้
“จะเชิญเสด็จไปถวายดินเนอร์ในวันเดือนใด คุณถวิลก็จ�าไม่ได้…”
“การถวายดินเนอร์คืนนี้ มีตอรปิโดจริง ๆ วางไว้ตรงกลาง ประดับด้วยพวงมาลา นับว่าท�ากันอย่างหรูหรา
กับการข่มขวัญในหลวงองค์ใหม่ไปด้วยในตัว ว่าลูกตอรปิโดมันก็ใหญ่ไม่ใช่เล่นนะพะย่ะค่ะ”
“ระหว่างถวายดินเนอร์เหตุการณ์ปรกติ ทุกอย่างเรียบร้อย โดยจัดถวายที่โรงเลี้ยงข้างประตูหลัง”



น่คือเร่องเล่าท่ครูถวิลฯ เล่าให้ครูหวัดฟัง ครูหวัดก็เล่าต่อมาแล้วผมก็เล่าต่อไป จะเก่ยวกับเพลง “ศักดานาวี”

หรือไม่ ผมก็ไม่รู้
แต่เร่องการถวายพระกระยาหารคาแด่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่โรงเรียนนายเรือ




พระราชวังเดิมนั้น คุณครูพลเรือเอก ประพัฒน์ จันทวิรัช อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ ท่านเขียนเล่าไว้ว่า




“เป็นเร่องท่เกิดข้นจริง เพราะนักเรียนนายเรือสมัยน้นจาได้หลายคน ถ้าเป็นการเล้ยง เน่องในวันเกิดของ



โรงเรียนนายเรือ ๒๐ พฤศจิกายน ก็จะต้องเกิดขึ้นใน ร.ศ.๑๒๙ ซึ่งเป็นการเลี้ยงเมื่อพระองค์เสวยราชย์แล้ว”






















นาวิกศาสตร์ 35
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓








เพลง “ศกดานาว” เป็นเพลงท่คาร้องกับทานองคล้อยตามกันไป ไปด้วยกันได้ (Harmonized) คาร้องใช้วรรณยุกต์
ตรงตามเสียงดนตรี ไม่เพี้ยน ท�าให้ร้องง่าย จ�าได้ขึ้นใจ ค�าร้องที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นภาษาไทยเก่าแก่ที่สละสลวย เช่น
เสนานาวายุทธ์ หมายถึง ทหารเรือ
ฤทธิรุทร์ อ่านว่า ริด-ทิ-รุด หมายถึง มีอ�านาจ น่าเกรงขาม
เกรงเดชศักดาของนาวี หมายถึง เกรงกลัวความเก่งกล้าของทหารเรือ
ก็เที่ยงดี หมายถึง แม่นย�า (ยิงปืนแม่น)
นอกจากนี้ ท่านผู้แต่งยังได้น�าเอา ค�าคู่ และค�าซ�้า มาใช้ได้อย่างเหมาะเจาะ เช่น

ย่นย่อ รอรา เลี้ยวไล่ เป็น ค�าคู่
รี่รี่ เปรี้ยงเปรี้ยง เป็น ค�าซ�้า
ปิดท้ายด้วย “ได้ทีซ�้าปล่อยตอร์ปิโด” นับว่าเป็นทีเด็ด ของเพลงนี้





ส่งท่ควรทาในข้นต่อไป ผมขอเสนอให้ทาเพลงน้บรรเลงโดยวงโยธวาทิต ของกองดุริยางค์ทหารเรือ เพ่อจะได้


อนุรักษ์เป็นเพลงร้องของทหารเรือที่ปลุกใจ ให้ฮึกเหิมอีกต่อไป ขอฝากไว้กับกองดุริยางค์ทหารเรือด้วย
อะไรมันจะเกิด มันก็เกิด อะไรมันจะไม่เกิด มันก็ไม่เกิด
ยิงปืน เปรี้ยงเปรี้ยง ก็เที่ยงดี



































ขอบคุณ
ขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่มีส่วนร่วม และสนับสนุนท�าให้เพลง “ศักดานาวี” เกิดขึ้นมาได้อีกครั้ง

36
นาวิกศาสตร์
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


เก็บตก วาทะและนโยบาย











ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง












ถ.ถุง




กล่าวน�า ลึกซ้งถึงยุทธศำสตร์กำรแก้ไขปัญหำควำมยำกจน








กำรผลกดนสวสดกำรสงคม กำรจดกำรพฒนำเขตเมอง


ในช่วงปี ค.ศ.๑๙๙๐ จนถึงปัจจุบันมีผู้น�ำหลำย กำรปรำบปรำมคอร์รัปชน และกำรเปลยนถ่ำยภำค




ประเทศแสดงบทบำทให้เป็นท่รู้จักกันท่วโลก เช่น อุตสำหกรรม ซ่งผมได้กลับไปเยือนปักก่งอีกคร้งในปี


ประธำนำธิบด บำรัค โอบำมำ และโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ พ.ศ.๒๕๖๓ นี้ มองเห็นได้ชัดว่ำปักกิ่งเจริญขึ้นอย่ำงผิดหู

อเมริกำ ประธำนำธิบดี ปูติน ของสหพันธรัฐรัสเซีย และ ผิดตำ มีควำมเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอำดสะอ้ำนต่ำงจำก
อีกคนหนึ่งก็คือ ประธำนำธิบดี สี จิ้นผิง ของสำธำรณรัฐ ท่เคยไปเรียนเม่อปี พ.ศ.๒๕๕๐ - พ.ศ.๒๕๕๑ ไปในทำง







ประชำชนจีน ซ่งมีควำมแตกต่ำงจำกผู้น�ำท่ำนอ่น คือ ท่ดีข้นอย่ำงมำก จำกผลงำนท่ได้ท�ำมำท�ำให้ข้อจ�ำกัด
สำมำรถเปลี่ยนแปลงใหประเทศจีน กำวขึ้นเปนประเทศ เรื่องวำระด�ำรงต�ำแหน่งสูงสุดของประธำนำธิบดีจีนได้



มหำอ�ำนำจท้งด้ำนเศรษฐกิจ ด้ำนกำรเมือง ด้ำนกำรทหำร เพียง ๒ สมัย (๑๐ ปี) ได้รับกำรแก้ไขโดยสภำประชำชน

และด้ำนเทคโนโลยี แห่งชำติจีน ได้ลงมติผ่ำนควำมเห็นชอบแก้ไขธรรมนูญ
โดยก�ำหนดเป้ำหมำยหลัก ๆ คือ ผลักดันให้เกิด ของพรรคคอมมิวนิสต์ ให้ประธำนำธิบดีสำมำรถด�ำรง
กำรฟื้นฟูประเทศครั้งใหญ่ เพื่อสร้ำงควำมเป็นจีนยุคใหม่ ตำแหน่งได้อย่ำงไม่มกำหนด เปิดทำงให้ ส จนผง









อันย่งใหญ่เกรียงไกร ไล่ต้งแต่กำรยกระดับชีวิตควำม สำมำรถเป็นประธำนำธิบดีได้อย่ำงไม่มีข้อจ�ำกัด กำรท ี ่







เป็นอย่ของประชำชน สร้ำงควำมมงค่ง สร้ำงสงคมทด ี ประธำนำธิบดี สี จิ้นผิง สำมำรถน�ำประเทศสำธำรณรัฐ
ข้นตลอด ไปจนถึงขยำยแสนยำนุภำพของกองทัพให้ ประชำชนจีนก้ำวมำสู่จุดน้ได้ จึงเป็นเร่องท่น่ำสนใจ






แข็งแกร่ง ขณะเดียวกันก็ปลุกคนหนุ่มสำวให้กล้ำฝัน อย่ำงย่งว่ำประธำนำธิบด ส จ้นผิง มีหลักกำร แนวคิด



ลุกข้นมำท�ำงำนหนักเพ่อบรรลุควำมส�ำเร็จในชีวิต โดย หรือวิธีปฏิบัติอย่ำงไรบ้ำง แม้จะไม่มีข้อมูล หรือไม่ได้รู้ส่งท ี ่


ต้องไม่ลืมอุดมกำรณ์สังคมนิยม ภำยในเวลำ ๕ ปี ของ กล่ำวมำแล้วท้งหมด แต่วำทะและนโยบำยท่ประธำนำธิบด ี


กำรด�ำรงต�ำแหน่งประธำนำธิบด ส จ้นผิง ได้ผลักดัน สี จิ้นผิง ได้เคยกล่ำวไว้ และได้ก�ำหนดไว้ก็น่ำจะพอเป็น



ู้
มำตรกำรปฏิรูปไปแล้วมำกกว่ำ ๑,๕๐๐ มำตรกำร และ แนวทำงให้พวกเรำได้ร ได้คิด และน�ำไปประยุกต์ปฏิบัติตำม


เดินสำยตรวจงำนตำมพ้นท่ต่ำง ๆ ท่วทุกภูมิภำคของ ไดบำง ดังนั้นในบทควำมนี้ผู้เขียนจึงจะได้เก็บตกเกี่ยวกับ




ประเทศ โดยกลุ่มผู้น�ำสูงสุดท่อยู่ข้ำงกำย (ท�ำงำน วำทะและนโยบำยของประธำนำธิบด ส จ้นผิง ท่น่ำสนใจ







เป็นทม) ซงล้วนเป็นนกปฏิรูปยุคใหม่ไฟแรงทเข้ำใจ โดยจะเริ่มจำกประวัติก่อนเป็นอันดับแรก



นาวิกศาสตร์ 37
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


ประวัติประธานาธิบดี สี จิ้นผิง โดยสังเขป สมำชิกพรรคคอมมิวนิสต์สมใจ
ในปี พ.ศ.๒๕๑๕ สี จิ้นผิง ได้พบกับบิดำอีกครั้งด้วย


น้ำตำ ซ่งบิดำของเขำผ่ำนกำรใช้แรงงำนมำอย่ำงหนัก

กว่ำสิบปี และไม่สำมำรถจ�ำใบหน้ำของลูกชำยตนเองได้

ส่งท่ผูกพันสองพ่อลูก คือ บุหร่มวนท่เขำย่นให้แก่บิดำ




และถำมเขำว่ำ “ท�ำไมแกถึงสูบบุหรี่ด้วยล่ะ?” เขำก็ตอบ
ไปว่ำ “ผมเครียด ที่เรำผ่ำนควำมล�ำบำกหลำยปีมำนี้ได้ก็

เพรำะมันน่แหละ” จึงไม่น่ำแปลกใจว่ำท�ำไมคนจีนจึงสูบ

บุหร่กันเยอะมำก เม่อช่อเสียงของบิดำได้รับกำรฟื้นฟ ู


ภำยหลังกำรอสัญกรรมของประธำน เหมำ เจ๋อตุง เขำกลับ

มำศึกษำต่อจนกระท่งส�ำเร็จกำรศึกษำด้ำนเคมีจำก
มหำวิทยำลัยชิงหวำ และเร่มมีสำยสัมพันธ์กับบุคคลใน

กองทัพ หลังจำกนั้นเข้ำท�ำงำนรับใช้พรรคคอมมิวนิสต์ที่
มณฑลเหอเป่ย ในฐำนะผู้เชี่ยวชำญในกำรผสมพันธุ์สุกร
สี จิ้นผิง เริ่มรับต�ำแหน่งทำงกำรเมืองในมณฑลฝั่งทะเล

ของจีน ได้เป็นผู้ว่ำกำรมณฑลฝูเจ้ยน ระหว่ำงปี พ.ศ.๒๕๔๒

สี จิ้นผิง (Xi Jinping) เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนำยน - พ.ศ.๒๕๔๕ เป็นผู้ริเร่มพัฒนำควำมสัมพันธ์ทำงเศรษฐกิจ
พ.ศ.๒๔๙๖ (ปัจจุบันปี พ.ศ.๒๕๖๓ อำยุย่ำง ๖๗ ปี) กับไต้หวัน ด�ำรงต�ำแหน่งเลขำธิกำรพรรคคอมมิวนิสต์


เป็นบุตรของนำยส จงชุน อดตรองนำยกรัฐมนตรจีน ของมณฑลเจ้อเจียงต้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๕ - พ.ศ.๒๕๕๐ แล้ว





ผู้ซ่งเป็นคนใกล้ชิดของประธำน เหมำ เจ๋อตุง แต่ก่อนกำร ถูกโอนไปเซ่ยงไฮ้เป็นเลขำธิกำรพรรคช่วงส้น ๆ ท�ำให้เขำ


ปฏิวัติวัฒนธรรมไม่นำน ส จงชุน ก็ถูกปรับลดต�ำแหน่งลง ได้มีโอกำสพัฒนำควำมสัมพันธ์กับ เจียง เจ๋อหมิน อดีต

เป็นเพียงกรรมกร เน่องจำกเป็นผู้อนุมัติให้มีกำรตีพิมพ์ เลขำธิกำรพรรค และแกนน�ำคนส�ำคัญของกลุ่มผู้น�ำรุ่นท ี ่
หนังสือท่วิจำรณ์ประธำน เหมำ กำรถูกปรับลดต�ำแหน่งท�ำให้ ๓ ของจีน ซึ่งต่อมำก็ได้เป็นประธำนำธิบดี ต่อมำ สี จิ้นผิง

ครอบครัวส ประสบกับควำมทุกข์ยำก และเน่องจำกประวัต ิ ได้เข้ำร่วมคณะกรรมำธิกำรสำมัญประจ�ำสภำคณะกรรมกำร


ท่ด่ำงพร้อยของบิดำท�ำให้เขำเป็นนักเรียนท่มักถูกกล่นแกล้ง บริหำรสูงสุด และส�ำนักเลขำธิกำรกลำงในเดือนตุลำคม








อยู่เสมอ แม้กระท่งพ่สำวของ ส จ้นผิง ก็ถูกกล่นแกล้ง พ.ศ.๒๕๕๐ ใช้เวลำอีกห้ำปีเป็นผู้ติดตำม และพร้อมจะ
เช่นกันจนสุดท้ำยเธอจึงฆ่ำตัวตำย ต่อมำ สี จิ้นผิง ได้เป็น สืบทอดต�ำแหน่งประธำนำธิบดีต่อจำก ห จ่นเทำ โดย ส จ้นผิง





หน่งใน ๒๙,๐๐๐ ปัญญำชนชุดแรก ท่ถูกกวำดต้อนไป เป็นรองประธำนำธิบด ระหว่ำงปี พ.ศ.๒๕๕๑ - พ.ศ.๒๕๕๖


เข้ำรับกำรศึกษำใช้ชีวิตเรียนรู้กำรท�ำไร่ท�ำนำ และปศุสัตว์ และเป็นรองประธำนคณะกรรมกำรกลำงทหำรส่วนกลำง
พักอำศัยอยู่ในถ�้ำที่เหลียงเจี่ยเหอ ซึ่งเป็นหมู่บ้ำนเล็ก ๆ ต้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๓ - พ.ศ.๒๕๕๕ ด�ำรงต�ำแหน่งเลขำธิกำร




ทำงเหนือของมณฑลชำนซ ส จ้นผิง มีควำมมุ่งม่นท่จะ พรรคคอมมิวนิสต์จีน เม่อวันท ๑๕ พฤศจิกำยน พ.ศ.๒๕๕๕






เป็นสมำชิกของพรรคคอมมิวนิสต์จีนมำก ขณะยังคง และก้ำวข้นเป็นประธำนำธิบดีสำธำรณรัฐประชำชนจีน
อำศัยอยู่ในถ้ำได้เขียนจดหมำยสมัครเป็นสมำชิกพรรค เม่อวันท ๑๕ มีนำคม พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนเป็นประธำนคณะ




คอมมิวนิสต์จีนคร้งแล้วคร้งเล่ำ แม้จะถูกปฏิเสธมำตลอด กรรมำธิกำรกำรทหำรส่วนกลำง หรือผู้น�ำสูงสุดของจีน




จนในท่สุดหลังจำกควำมพยำยำมหลำยคร้งเขำก็ได้เป็น ในปี พ.ศ.๒๕๕๙
นาวิกศาสตร์ 38
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


เก็บตกวาทะและนโยบายของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง คนลับหลังด้วย มีอยู่คืนหนึ่งคุณพ่อ (สี จงชุน) ท�ำบะหมี่




๑. “บทเรียน ไข่สามใบ” สองชำม ชำมหน่งมีไข่ไก่ฟองหน่งบนบะหม อีกชำมดูไม่ม ี



“ลูกเอ๋ย เจ้ำจงจ�ำไว้ ท่ตำเห็นน้นอำจไม่ใช่ของแท้ อะไรมีแต่บะหม คุณพ่อถำมข้ำพเจ้ำว่ำ “จะทำนชำมไหน”


คิดจะเอำเปรียบคนอ่น กลับขำดทุนใหญ่หลวงได้นะลูก” ตอนน้นไข่ไก่เป็นของหำยำกมำก ต้องตรุษจีนหรือวันเกิด




“ลูก เจ้ำจงจ�ำไว้ให้ดนะลกนะ อย่ำให้ควำมส�ำคญ ถึงมีโอกำสทำนไข่ไก่ ข้ำพเจ้ำจึงเลือกทำนชำมท่มีไข่ไก่

หรือเช่อในประสบกำรณ์มำกเกินไป เพรำะกำรด�ำรงชีวิต โปะอยู่ข้ำงบน ต่อมำจึงรู้ว่ำข้ำพเจ้ำเลือกผิดเพรำะตอนที่


มีกำรพลิกแพลง หลอกเรำได้ แต่ลูกก็ไม่ต้องท้อแท้ ไม่ต้อง ทำนอย่ำงเอร็ดอร่อยอยู่น้น เห็นคุณพ่อทำนถึงก้นชำมแล้ว

เสียใจ ถือว่ำเป็นกำรล้มลองเป็นประสบกำรณ์ก็แล้วกัน ในก้นชำมมีไข่ถึงสองฟอง ข้ำพเจ้ำรู้สึกเสียใจที่ตนใจร้อน



นะลูก ภูมิปัญญำเหล่ำนี้หำอ่ำนจำกต�ำรำไม่ได้นะ” ไม่ได้คิดให้ด คร้นคุณพ่อเห็น ท่ำนก็ย้มแล้วพูดกับข้ำพเจ้ำ


“ลูกต้องจ�ำไว้ให้ดีนะ เมื่อลูกคิด และท�ำเพื่อคนอื่น ว่ำ “ลูกเอ๋ย เจ้ำจงจ�ำไว้ ท่ตำเห็นน้นอำจไม่ใช่ของแท้

แล้ว ควำมโชคดีก็บังเกิดกับเรำได้นะ” คิดจะเอำเปรียบคนอ่น กลับขำดทุนใหญ่หลวงได้นะลูก”








ทงสำมคำนไมใชวำทะ หรอนโยบำยของ ส จนผง แต ่ ในคืนที่สอง คุณพ่อก็ท�ำบะหมี่อีกสองชำม ดูแล้วเหมือน







ผู้เขียนคิดว่ำเป็นค�ำสอนท่มีควำมส�ำคัญต่อประธำนำธิบด ี ของคืนก่อนไม่มีผิด ชำมหน่งมีไข่ไก่โปะอยู่ฟองหน่ง




ส จ้นผง เป็นอย่ำงมำก เพรำะถือเป็นต้นก�ำเนิดแนวควำมคิด อีกชำมหน่งคล้ำยมีแต่บะหม คุณพ่อให้ข้ำพเจ้ำเลือก





และกำรปฏิบัต ค�ำกล่ำวท้งสำมค�ำน้แท้จริงแล้วเป็นค�ำสอน ข้ำพเจ้ำเคยเลือกผิดไปครั้งหนึ่งแล้ว ข้ำพเจ้ำจึงเลือกเอำ

ของนำย สี จงชุน บิดำของสี จิ้นผิง (ดูภำพที่ ๑ นำยสี ชำมท่ไม่มีไข่ คุณพ่อมองหน้ำข้ำพเจ้ำแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร


จงชุน บิดำของประธำนำธิบด ส จ้นผิง) ท่ได้ส่งสอนไว้ ข้ำพเจ้ำจับตะเกียบได้ก็รีบทำนบะหมี่เข้ำปำก ด้วยคิดว่ำ




เรียกว่ำ “บทเรียน ไข่สามใบ” จะทำนไข่ในก้นชำมไว ๆ แต่หำรู้ไม่ว่ำ นอกจำกบะหม่และ
ซุปแล้ว ไม่มีอะไรเลย และแล้วคุณพ่อกับกล่ำวกับข้ำพเจ้ำ
ว่ำ “ลูก เจ้ำจงจ�ำไว้ให้ดีนะลูกนะ อย่ำให้ควำมส�ำคัญ หรือ
เช่อในประสบกำรณ์มำกเกินไป เพรำะกำรด�ำรงชีวิตม ี

กำรพลิกแพลง หลอกเรำได้ แต่ลูกก็ไม่ต้องท้อแท้ ไม่ต้อง
เสียใจ ถือว่ำเป็นกำรล้มลองเป็นประสบกำรณ์ก็แล้วกัน


นะลูก ภูมิปัญญำเหล่ำน้หำอ่ำนจำกต�ำรำไม่ได้นะ” ในคืน
ที่สำม คุณพ่อก็ท�ำบะหมี่สองชำมอีก ดูเป็นแบบเดียวกัน
ชำมหน่งมีไข่ไก่ฟองหน่ง อีกชำมไม่มีไข่ ครำวน้ข้ำพเจ้ำ



ให้คุณพ่อเลือกก่อนไม่หุนหันเหมือนสองคืนท่ผ่ำนมำ

ข้ำพเจ้ำพูดกับคุณพ่อด้วยควำมเคำรพว่ำ “คุณพ่อครับ







ภำพที่ ๑ นำย สี จงชุน บิดำประธำนำธิบดี สี จิ้นผิง ท่ำนเป็นผ้ใหญ่ ท่ำนเหนดเหนอยกบกำรดแลครอบครว
โดยมีเรื่องเล่ำว่ำ ตอนเด็ก ๆ ข้ำพเจ้ำ (สี จิ้นผิง) เป็นคน เรำมำมำกแล้ว คุณพ่อเลือกก่อนเถอะครับ” คุณพ่อเลือก



เห็นแก่ตัวมำก เจออะไรดี ๆ ก็อยำกจะเอำมำเป็นของ เอำชำมท่มีไข่หน่งฟอง ส่วนข้ำพเจ้ำก็ทำนชำมท่ไม่เห็น

ตัวเองให้ได้ โดยไม่สนใจว่ำคนอ่นเขำคิดอย่ำงไร นำนเข้ำ มีไข่ แต่ผิดคำดนะครับในก้นชำมมีไข่อยู่สองฟอง คุณพ่อ


เพื่อน ๆ ก็หำยไปทีละคนสองคน ท�ำให้มีเพื่อนน้อยลงไป เงยหน้ำข้น พูดกับข้ำพเจ้ำด้วยสีหน้ำท่อ่อนโยน และ
เรื่อย ๆ ข้ำพเจ้ำกลัดกลุ้ม และหงุดหงิดใจมำก นอกจำก ครุ่นคิดว่ำ “ลูกต้องจ�ำไว้ให้ดีนะ เมื่อลูกคิด และท�ำเพื่อ




เหนแก่ตวแล้วข้ำพเจ้ำยงเป็นคนชอบวพำกษ์วจำรณ์ คนอื่นแล้ว ควำมโชคดีก็บังเกิดกับเรำได้นะ” ค�ำพูดของ

นาวิกศาสตร์ 39
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


คุณพ่อท�ำให้ข้ำพเจ้ำรู้สึกละอำยใจในตัวเองเป็นอย่ำงมำก ฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก ด้ำนกำรยุติปัญหำระดับโลก หรือ





นบแต่นนมำข้ำพเจ้ำกจดจ�ำสำมประโยคของคณพ่อไว้ ระดับภูมิภำค อีกท้งกำรรับมือกับควำมท้ำทำยระดับโลก

มิรู้ลืม ยึดเป็นสรณะในกำรด�ำรงชีวิต ไม่ว่ำเป็นกำรวำงตัว ต่ำง ๆ ทั้งสองประเทศ จึงต้องเสริมสร้ำงกำรแลกเปลี่ยน



หรือปฏิบัติหน้ำท ก็มักจะค�ำนึงถึงประโยชน์ของคนอ่นก่อน มำกขึ้น ภำยใต้สถำนกำรณ์ใหม่นี้ จีนและสหรัฐฯ จึงต้อง



ผลก็เป็นอย่ำงท่คุณพ่อได้สอนส่งไว้จริง ๆ ควำมโชคด ี ร่วมมือกัน โดยพิจำรณำจำกผลประโยชน์ข้นมูลฐำน

มำเยือนมิได้ขำด และหน้ำท่กำรงำนของตัวเองก็เร่มด ี ของประชำชนท้งสองประเทศ และควำมก้ำวหน้ำของ


ขึ้นเรื่อย ๆ งำนบำงอย่ำงก็ไปแบบก้ำวกระโดดเลยทีเดียว มวลมนุษยชำต ทำงด้ำนนำยบำรัค โอบำมำ กล่ำวว่ำ


นับต้งแต่น้นมำ ส จ้นผิง มักจะใช้บทเรียนไข่สำมใบ ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงจีน - สหรัฐฯ มีควำมส�ำคัญมำกต่อ



กับทุก ๆ อย่ำงของเขำ รวมไปถึงกำรใช้เงินของเขำเพื่อ ทั้งสองประเทศ ภูมิภำคเอเชีย - แปซิฟิก ตลอดจนทั่วโลก

ผู้อ่น โดยในปี พ.ศ.๒๕๓๗ นำยหล โหวชิง ชำวนำหมู่บ้ำน กำรแลกเปลยนอย่ำงตรงไปตรงมำ และมลกษณะ


ู่





เหลียงเจียเหอ เพ่อนเก่ำของ ส จ้นผิง สมัยเขำท�ำงำน สร้ำงสรรค์ของผู้น�ำทั้งสองประเทศมีควำมส�ำคัญอย่ำงยิ่ง
ให้กับคณะปฏิวัติ ป่วยเป็นโรคกระดูกอักเสบ ใช้เงินรักษำ ต่อกำรพัฒนำควำมสัมพันธ์ของสองประเทศในอนำคต
ตัวไปกว่ำ ๖,๐๐๐ หยวน ก็รักษำตัวไม่หำย เรื่องไปถึงหู สหรัฐฯ ยินดีเห็นจีนในฐำนะประเทศมหำอ�ำนำจพัฒนำ






ส จ้นผิง ท่รับรำชกำรอยู่ท่เมืองฝูโจว เขำส่งเงิน ๕๐๐ หยวน อยำงสนตตอไป กำรทประเทศจนมสนตภำพ เสถยรภำพ










มำให้ชำวนำคนนั้นซื้อตั๋วรถไฟนั่งไปเมืองฝูโจว แล้วรักษำ และควำมเจริญรุ่งเรืองน้นเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ
จนหำย รวมท้งให้ค่ำเดินทำงกลับไปหมู่บ้ำนเหลียงเจียเหอ และท่วโลก สหรัฐฯ จึงหวังว่ำจะรักษำควำมสัมพันธ์ท ่ ี



อีก ๒,๐๐๐ หยวน ชำวนำคนนั้นกล่ำวขอบคุณ สี จิ้นผิง ร่วมมือกันอย่ำงแข็งแกร่งกับจีน อย่ำงไรก็ตำมเม่อหมด


อย่ำงมำก ส จ้นผิง เพียงตอบกลับว่ำ “ไม่เป็นไร เรำสองคน สมัยของประธำนำธิบดี บำรัค โอบำมำ และนำยโดนัลด์

เป็นเพ่อนกัน” แม้หลังจำกเป็นประธำนำธิบดีของจีน ทรัมป์ ได้ข้นเป็นประธำนำธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนมกรำคม พ.ศ.

แล้วก็ตำม สี จิ้นผิง ยังไม่ลืมมิตรภำพเก่ำแก่ ได้เดินทำง ๒๕๖๐ ควำมสัมพันธ์ของจีนกับสหรัฐฯ ก็เปล่ยนแปลงไป


ไปเย่ยมเยียน และช่วยเหลือชำวนำท่หมู่บ้ำนเหลียงเจียเหอ โดยเฉพำะสงครำมกำรค้ำท่ท้งสองประเทศเปิดศึกต่อสู้








อยู่เสมอ ๆ กนอย่ำงดเดอด จนทำให้เศรษฐกจท่วโลกตกอย่ใน



ควำมผนผวน และไม่แน่นอน ส่งผลให้ประเทศต่ำง ๆ

๒. “เม่อจีน และอเมริกามีความร่วมมือท่ดี ก็จะสามารถ ทั่วโลกรวมทั้งไทย (ดูภำพที่ ๒ สินค้ำไทยที่คำดว่ำจะได้




เป็นด่งอับเฉาถ่วงนาหนักเรือท่จะให้ความม่นคงแก่โลก” รับผลกระทบจำกสงครำมกำรค้ำ) ได้รับผลกระทบด้ำน


เมื่อวันที่ ๗ มิถุนำยน พ.ศ.๒๕๕๖ ประธำนำธิบดี เศรษฐกิจตำมไปด้วยอย่ำงหลีกเลี่ยงไม่ได้
ส จ้นผิง ได้พบกับนำยบำรัค โอบำมำ ประธำนำธิบด ี



สหรัฐฯ ท่รัฐแคลิฟอร์เนีย โดย ส จ้นผิง กล่ำวว่ำ กำรพบกับ





ประธำนำธิบด บำรัค โอบำมำ คร้งมีวัตถุประสงค์เพ่อ
จะวำงแผนกำรพัฒนำควำมสัมพันธ์ของสองประเทศ


และขยำยควำมร่วมมือท่ข้ำมมหำสมุทรแปซิฟิก ซ่ง

ปัจจุบนควำมสัมพันธ์ระหว่ำงจีน - สหรฐฯ เดินทำงมำถง



จุดเร่มต้นใหม่ของประวัติศำสตร์ โดยท้งสองประเทศ

มีประโยชน์ร่วมกันมำกขึ้นในหลำย ๆ ด้ำน ทั้งด้ำนกำร
พัฒนำเศรษฐกิจของประเทศตน ด้ำนกำรส่งเสริมกำร ภำพที่ ๒ สินค้ำไทยที่คำดว่ำจะกระทบจำกสงครำมกำรค้ำ
นาวิกศาสตร์ 40
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


๓. “งานหนักของเรา คือ การรักษาเสถียรภาพ เป็นยำจกเพียงชั่วข้ำมคืน เป็นต้น ส�ำหรับแรดเทำ (Gray


การพัฒนา และการปฏิรูป โดยจะต้องเฝ้าระวังอย่าง หรือ Grey Rhino) ค�ำน้เกิดข้นในกำรประชุมของ World
สุดชีวิต คอยจับตา “หงส์ด�า” และสกัด “แรดเทา”” Economic Forum ในปี พ.ศ.๒๕๕๖ โดย Michele
เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๑ มกรำคม พ.ศ.๒๕๖๒ ซึ่งเป็น Wucker นักวิเครำะห์นโยบำย และนักเขียนชำวสหรัฐฯ

วันเปิดกำรอบรมส่วันของพรรคคอมมิวนิสต์จีน มีผู้เข้ำ และต่อมำได้เขียนหนังสือชื่อ The Gray Rhino ในปี พ.ศ.
ร่วมกำรอบรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประกอบด้วย ๒๕๕๙ เปรียบเปรยโดยใช้แรดเทำเพรำะต�ำรำบอกว่ำ

กลุ่มเจ้ำหน้ำท่ระดับสูงหลำยร้อยคน เช่น เจ้ำหน้ำท่อำวุโส แรดมี ๒ สี คือ สีขำวกับด�ำ แต่ในควำมเป็นจริงแล้วแรด

จำกทุกมณฑล และเขตกำรปกครองตัวเอง รัฐมนตร ี ทั้งหมดดูคล้ำยกันเป็นสีเทำ ซึ่งเปรียบเสมือนกำรเกิดขึ้น

และผู้น�ำใหญ่ของหน่วยงำนองค์กรพรรคคอมมิวนิสต์ ของเหตุกำรณ์ หรือสถำนกำรณ์ท่มีกระทบอย่ำงใหญ่หลวง

โดยส�ำนักงำนสถิติแห่งรัฐ ได้แถลงตัวเลขอัตรำเติบโต หรือมีโอกำสเกิดข้นสูงมำก เพียงแต่ผู้รับผิดชอบแยกแยะ
ทำงเศรษฐกิจ หรือ GDP ปี พ.ศ.๒๕๖๑ ขยำยตัวที่ระดับ ไม่ออก หรือมองไม่เห็นอำกำร หรือสัญญำณ หรืออำจจะเห็น
ร้อยละ ๖.๖ ชะลอตัวลงจำกระดับร้อยละ ๖.๙ ของปี พ.ศ. แต่คิดว่ำไม่ส�ำคัญ จึงเปรียบเหมือนแรดหนัก ๒ ตัน


๒๕๖๐ และถือเป็นกำรชะลอตัวมำกที่สุดในรอบ ๓๐ ปี ว่งเข้ำมำด้วยควำมเร็ว ๖๐ กิโลเมตรต่อช่วโมง โดยผู้ต้งรับ

ประกอบกับสงครำมกำรค้ำระหว่ำง สหรัฐฯ กับจีน ที่ยัง ไม่สงเกตเหนรำยละเอยด หรอควำมใส่ใจถูกเบยงเบน







ไม่รู้ว่ำผลกระทบจะรุนแรงเพียงใด ท้งน้ประธำนำธิบด ี เพรำะมีปัญหำภำยใน กว่ำจะทันรู้ตัวก็ถูกแรดชนจน





ส จ้นผิง ได้กล่ำวในพิธีเปิดคร้งน้ว่ำ “แม้เศรษฐกิจจีน บำดเจ็บสำหัส หรือถึงตำย จ�ำเป็นต้องมำแก้ปัญหำอีกใน

โดยรวมยังคงด�ำเนินไปได้ด้วยดี แต่ผู้น�ำท้งในคณะรัฐบำล ภำยหลัง ทั้งที่หนทำงที่ถูกต้อง คือ ต้องพยำยำมมองหำ




และทุกเขตมณฑล จะต้องต่นตัวในกำรประคับประคอง และตรวจพจำรณำสงบอกเหตุ หรอสญญำณ และแนวทำง



เศรษฐกิจ และระมัดระวังอุปสรรค หรือควำมวุ่นวำยท่อำจ แก้ไขก่อนท่แรดจะว่งเข้ำใส่น่นเอง ท้งน้หงส์ด�ำกับแรดเทำ








เกิดข้น”.....“เรำก�ำลังเผชิญหน้ำกับควำมเปล่ยนแปลง เหมือนและต่ำงกัน ตรงท่สัตว์ท้งสองก่อให้เกิดผลกระทบ



ด้ำนต่ำง ๆ บนเวทีระหว่ำงประเทศท่ไม่อำจคำดหมำย ได้อย่ำงกว้ำงขวำงเหมือนกัน แต่หงส์ด�ำน้นมีโอกำสเกิดข้น


และปัจจัยภำยนอกท่ซับซ้อนและอ่อนไหว งำนหนักของ ได้ต่ำมำก และเรำไม่สำมำรถท�ำอะไรกับมันได้ก่อนจึงต้อง

เรำ คือ กำรรักษำเสถียรภำพ กำรพัฒนำ และกำรปฏิรูป อยู่ในฐำนะต้องยอมรับ ขณะที่แรดเทำนั้นมีโอกำสเกิดขึ้น
โดยจะจะต้องเฝ้ำระวังอย่ำงสุดชีวิต คอยจับตำ “หงส์ด�ำ” ได้สูงมำก แต่สำมำรถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ (ดูภำพที่ ๓
และสกัด “แรดเทำ”” ทั้งนี้มีเรื่องเล่ำว่ำ คนรู้จักหงส์ขำว หงส์ด�ำ (Black Swan) และแรดเทำ (Grey Rhino))



มำเป็นเวลำนำนนับพันปี แต่ไม่เคยพบหงส์ด�ำ (Black ท้งน ดร.วรำกรณ์ สำมโกเศศ ได้ให้ควำมเห็นว่ำส่งท ่ ี



Swan) เลย จนกระท่งนักเดินเรือช่อ Willlem de ประธำนำธิบดี สี จิ้นผิง กล่ำวถึงหงส์ด�ำ และแรดเทำนั้น

Vianmingh พบหงส์ดำคร้งแรกท Swan River ในรฐ หมำยถึง ปัญหำหน้สินท่วมตัวของบริษัท และเมืองต่ำง ๆ





ออสเตรเลียตะวันตกในปี ค.ศ.๑๖๙๑ ทั้งนี้กำรที่คนเรำ ของจีนในปัจจุบัน กำรเก็งก�ำไรในธุรกิจอสังหำริมทรัพย์
ไม่พบหงส์ด�ำมำก่อนไม่ได้หมำยถึงว่ำ หงส์ด�ำไม่มีอยู่ “สงครำม” ท่ต้องต่อสู้ในเร่องกำรค้ำ กำรเมือง และ



ในโลกน้เพียงแต่ว่ำเรำไม่คำดคิดว่ำจะได้พบเท่ำน้น เทคโนโลย ฯลฯ ซ่งอำจมีฝูงแรดเทำแอบแฝงอยู่กับหงส์ด�ำ




ซ่งก็เปรียบเหมือนกับกำรเกิดของเหตุกำรณ์ท่ม ี หลำยตัวก็เป็นได้ ส�ำหรับตัวอย่ำงเหตุกำรณ์หงส์ด�ำ ที่เคย

ผลกระทบอย่ำงใหญ่หลวง หรือเกิดข้นอย่ำงไม่คำดคิด เกิดข้นมำแล้วในอดีต เช่น เหตุกำรณ์วิกฤติค่ำเงินบำท



เพรำะมีโอกำสจะเกิดขึ้นได้ต�่ำมำก เช่น วิกฤตเศรษฐกิจ “ต้มย�ำกุ้ง” ของไทยเม่อปี พ.ศ.๒๕๔๐ หรือเม่อวันท ี ่


แผ่นดินไหว กำรเกิดโรคระบำด หรืออย่ำงเช่นเศรษฐีกลำย ๑๑ กันยำยน พ.ศ.๒๕๔๔ เหตุกำรณ์เคร่องบินชนตึก
นาวิกศาสตร์ 41
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓






World Trade Center ท่สหรัฐฯ หรือเม่อวันท ๑๑ มีนำคม ๓. ผลักดันกำรอนุรักษ์ส่งแวดล้อมเป็นวัฒนธรรม

พ.ศ.๒๕๕๔ เหตุกำรณ์ระเบิดของโรงไฟฟ้ำนิวเคลียร์ หลักของสังคม ด�ำเนินชีวิตอย่ำงเรียบง่ำย พอเพียง ไม่ท�ำลำย


เพรำะแผ่นดินไหว และคล่นยักษ์สินำม ท Fukushima สิ่งแวดล้อม ไม่สร้ำงมลพิษ ปฏิเสธควำมฟุ่มเฟือย











ประเทศญ่ปุ่น เป็นต้น ส�ำหรับเหตุกำรณ์ท่มีควำมเส่ยง ๔. สรำงระบบนเวศ สรำงจตวญญำณธรรมำภบำล


ท่จะเป็นแรดเทำในปี พ.ศ.๒๕๖๒ ตำมควำมเห็นของ ส่งแวดล้อม บริหำรปกครองตำมกฎธรรมชำต เพ่อกำรอย ู่


Michele Wucker เช่น ควำมตึงเครียดระหว่ำงสหรัฐฯ ร่วมกัน

กับจีน สงครำมไซเบอร์ และกำรตกต�่ำด้ำนเศรษฐกิจโลก ๕. จับมือกัน ร่วมกันจัดกำรกับประเด็นทำงส่งแวดล้อม
เป็นต้น ระดับโลก เช่น กำรเปลี่ยนแปลงสภำพภูมิอำกำศ มลพิษ

ทำงทะเล เพ่อบรรลุเป้ำหมำยกำรพัฒนำส่งแวดล้อมอย่ำง

ยั่งยืน ๒๐๓๐ ของสหประชำชำติ


นอกจำกน ยังมีค�ำกล่ำวท่ว่ำจีนจะปกป้องส่งแวดล้อม



เฉกเช่นปกป้องดวงตำของตน ดูแลรักษำส่งแวดล้อม
เฉกเช่นดแลชวตของตน รปแบบกำรพฒนำ “ฆ่ำแม่ไก่








เพ่อไข่ไก่” และ “สูบทะเลสำบเพ่อจับปลำ” ไม่ใช่ส่งท ่ ี
พึงกระท�ำอีกต่อไป ควำมหมำยก็คือ กำรฆ่ำแม่ไก่เพ่อ



เอำไข่ และกำรสูบน้ำออกจำกทะเลสำบจนหมดเพ่อ


จับปลำ ไม่ใช่ส่งท่ย่งยืน คล้ำยกับค�ำสุภำษิตไทย “ฆ่ำช้ำง






เอำงำ” ท้งน้อุตสำหกรรมได้สร้ำงควำมม่งค่งอย่ำงท่ไม่เคย
เกิดมำก่อน แต่กลับกันก่อให้เกิดควำมเสียหำยต่อระบบ

นิเวศ และโลกอย่ำงรุนแรง ดังน้นรูปแบบกำรพัฒนำแบบ


ภำพที่ ๓ หงส์ด�ำ (Black Swan) และแรดเทำ (Grey Rhino) “ฆ่ำแม่ไก่เพ่อเอำไข่” และ “ระบำยทะเลสำบเพ่อเอำปลำ”

น้น จะพำโลกไปสู่ทำงตัน ย้อนกลับมำท่ประเทศไทย


๔. “ฆ่าแม่ไก่เพื่อไข่ไก่ สูบทะเลสาบเพื่อจับปลา ไม่ใช่ เม่อก่อนน้นเรำคงเคยได้ยินได้ฟังค�ำพังเพยท่เปรียบเทียบ


สิ่งที่พึงกระท�าอีกต่อไป” ประเทศไทยว่ำ “ในน�้ำมีปลำ ในนำมีข้ำว” (ดูภำพที่ ๔

เมื่อวันที่ ๒๘ เมษำยน พ.ศ.๒๕๖๒ ที่ผ่ำนมำ ในพิธี ในน้ำมีปลำ ในนำมีข้ำว) ซ่งในอดีตสมัยผู้เขียนเด็ก ๆ




เปิดงำน “มหกรรมพืชสวนโลก ๒๐๑๙” กรุงปักก่ง ๔๐ - ๕๐ ปีท่แล้ว ยังพอได้เห็นภำพน้น เพรำะตอนออกไป








ประธำนำธบดส จนผง ได้กล่ำวแสดงวสยทศน์ส่งเสรม ท�ำนำไม่ต้องเอำขวดน้ำ หรือกระบอกน้ำติดไป สำมำรถ






กำรพัฒนำสีเขียว ๕ ประกำร ดังนี้ หำน้ำด่มได้ตำมท้องนำ บ่อ หนอง คลอง บึง หรือสระน้ำ

๑. สร้ำงควำมเป็นหนงเดียวกันระหว่ำงมนุษย์ ท่วไปได้ รวมท้งกำรหำหอย ป ปลำ ก็ท�ำได้ง่ำย ๆ





และธรรมชำต เพ่อด�ำรงรักษำสมดุลของระบบนิเวศ ไม่ยุ่งยำก แต่ปัจจุบันประเทศไทยแทบจะไม่ได้เห็น


บนโลก เพ่อปกป้องท้องฟ้ำแจ่มจรัส หุบเขำเขียวชอุ่ม อย่ำงน้นอีกต่อไปแล้ว สำเหตุหลัก คือกำรไม่สำมำรถ


และดอกไม้กลิ่นหอมหวนไว้ให้คนรุ่นใหม่ รักษำส่งแวดล้อมควบคู่ไปกับกำรพัฒนำได้อย่ำงสมดุล


๒. ผืนน้ำใสบริสุทธ์และเทือกเขำเขียวขจีเป็นสมบัต ิ ส่งแวดล้อมท่เป็นปัจจัยส�ำคัญท่สุดของประเทศไทย





ท่ประเมินค่ำมิได้ เรำจึงควรสร้ำงควำมเจริญม่งค่งจำก ตำมควำมคิดของผู้เขียนก็คือ “ป่ำไม้” เพรำะเป็นแหล่ง


สองสิ่งนี้ไปพร้อม ๆ กับกำรพัฒนำ และปกป้อง ก�ำเนิดของฝน อำหำร และท�ำให้อุณหภูมิควำมร้อนของ
นาวิกศาสตร์ 42
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓






โลกลดลง จำกข้อมูลของสถำบันวิจัยเพ่อกำรพัฒนำ และต่อให้เกดพำยุฝนนบครงไม่ถ้วน ทะเลก็ยงคงเป็น



ประเทศไทย (TDRI) พบว่ำ เม่อปี พ.ศ.๒๕๐๔ ไทยมีป่ำไม้ ทะเลต่อไป...” อย่ำงไรก็ตำมไม่ได้มีแค่ประธำนำธิบด ี

ร้อยละ ๕๓.๓๓ ปี พ.ศ.๒๕๔๑ ร้อยละ ๒๕.๒๘ ปี พ.ศ. ส จ้นผิง เท่ำน้นท่ใช้เวทีประชุมนำนำชำติกล่ำวถึง



๒๕๕๗ ร้อยละ ๓๑.๖๒ ปี พ.ศ.๒๕๕๘ ร้อยละ ๓๑.๖๐ สหรัฐฯ ส�ำนักข่ำวซินหัว และหนังสือพิมพ์พีเพิลเดล ี

และปีพ.ศ.๒๕๕๙ ร้อยละ ๓๑.๕๘ ปริมำณฝนตก ลงบทบรรณำธิกำรใช้ค�ำรนแรงว่ำ สหรัฐฯ ต่อส้เพ่อ


จำกประมำณ ๑๐๐ กว่ำวันต่อปี ก็มีแนวโน้มลดลงเกือบ ควำมละโมบ และโอหัง แต่จีนต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิ และ
ทุกภำค หำกประเทศไทยไม่สำมำรถฟื้นฟูป่ำไม้ได้ใน ผลประโยชน์อันชอบธรรม สงครำมกำรค้ำของสหรัฐฯ

เร็ววันน เด็กรุ่นหลังคงเพียงได้ยินได้ฟังค�ำว่ำ “ในน้ำมีปลำ เป็นฝีมือของคน ๆ เดียว และรัฐบำลของเขำที่โน้มน้ำว




ในนำมีข้ำว” จำกภำพภ่ำยหรือภำพวำด แต่ไม่มีโอกำส คนท้งประเทศ ขณะท่จีนและชำวจีนก�ำลังถูกคุกคำม
ได้เห็นภำพจริงอีกต่อไปแล้วในอนำคต ท้งประเทศ ส่งท่เกิดข้นจึงเปรียบเหมือนสงครำมของ




ประชำชนอย่ำงแท้จริง นอกจำกนี้ประธำนำธิบดี สี จิ้นผิง
ยังได้เคยกล่ำวว่ำ “สงครำมกำรค้ำ ที่ก�ำลังเป็นอยู่ขณะนี้
ท�ำให้นึกถึง “กำรเดินทัพทำงไกล” สมัยเหมำ เจ๋อ ตุง






ซงแสดงใหเหนวำ จนจะไมยอมแพ” ทงนสงครำมกำรคำ







ระหว่ำงสหรฐฯ กบจน เรมข้นเมอวนท ๖ กรกฎำคม











พ.ศ.๒๕๖๑ โดยสหรัฐฯ ตั้งภำษีศุลกำกรร้อยละ ๒๕ ต่อ
สินค้ำจีนมูลค่ำรำว ๓๔,๐๐๐ ล้ำนดอลลำร์สหรัฐ ซึ่งเป็น

ส่วนหน่งของนโยบำยพิกัดอัตรำใหม่ของประธำนำธิบด ี
ภำพที่ ๔ ในน�้ำมีปลำ ในนำมีข้ำว

โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อมำจีนได้ตอบโต้ด้วยกำรต้งภำษ ี
๕. “........เศรษฐกิจจีนน้นกว้างใหญ่กว่าทะเล ไม่ใช่ ศุลกำกรขนำดเท่ำกันต่อผลิตภัณฑ์ของสหรัฐฯ และท้ง ั



สระขนาดเล็ก พายุฝนอาจทาลายสระขนาดเล็กได้ สองฝ่ำยต่ำงตอบโต้ด้วยมำตรกำรทำงภำษีต่อกันเร่อยมำ


แต่ไม่สามารถทาอะไรทะเลได้ และต่อให้เกดพายฝน (ดูภำพท ๕ สงครำมกำรค้ำระหว่ำงสหรัฐฯ กับจีน) ล่ำสุด




นับครั้งไม่ถ้วน ทะเลก็ยังคงเป็นทะเลต่อไป...” หลังจำกท่เปิดศึกกำรค้ำกันมำเป็นเวลำ ๑๘ เดือน ในท่สุด

ในกำรประชุม Conference on Dialogue of Asian สหรัฐฯ และจีน ได้ลงนำมจัดท�ำข้อตกลงกำรค้ำฉบับแรก





Civilizations ณ กรงปกกง เมอวนท ๑๕ พฤษภำคม พ.ศ. ที่เรียกว่ำ “ข้อตกลงกำรค้ำเฟส ๑” ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.








๒๕๖๒ ในสุนทรพจน์ของประธำนำธิบด สี จิ้นผิง ตอนหน่ง ึ เม่อวันท ๑๕ มกรำคม พ.ศ.๒๕๖๓ นับเป็นก้ำวแรกในกำร



กล่ำวถงสหรัฐอเมรกำภำยใต้กำรนำของประธำนำธบด ี ยุติข้อพิพำททำงกำรค้ำระหว่ำง ๒ มหำอ�ำนำจ ที่ได้ชื่อว่ำ







โดนัลด ทรัมป ที่ก�ำลังผลักดันจีนใหเปลี่ยนแปลงรูปแบบ เป็นประเทศท่มขนำดเศรษฐกิจใหญ่มำกท่สดสองอนดับ


กำรด�ำเนินกำรทำงกำรเมือง และธุรกิจที่สหรัฐฯ มองว่ำ แรกของโลก อย่ำงไรก็ตำมสหรัฐฯ ยอมรับว่ำข้อตกลง
ไม่เป็นธรรม โดยประธำนำธิบด ส จ้นผิง กล่ำวว่ำ “...ควำม ฉบับน้คล่คลำยควำมกังวลใจได้เพียงส่วนหน่งเท่ำน้น








พยำยำมท่จะเปล่ยนโฉมควำมเจริญของประเทศอ่น เพรำะก�ำแพงภำษบำงส่วนกยังถูกคงไว้ไม่ได้ปรบลด








โดยมีควำมคิดท่ว่ำ ควำมเจริญของตนเองเหนือกว่ำ ลงมำ เพรำะเขำเองมีควำมเห็นว่ำอัตรำภำษีท่คงไว้น้น

ประเทศอ่น เป็นเร่องท่ไม่ฉลำดนัก....เศรษฐกิจจีนน้น ควรจะมีกำรปรับลดลงก็ต่อเม่อท้งสองฝ่ำยสำมำรถ






กว้ำงใหญ่กว่ำทะเล ไม่ใช่สระขนำดเลก พำยฝนอำจ จัดท�ำข้อตกลงกำรค้ำเฟส ๒ ด้ำน นำยโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์

ท�ำลำยสระขนำดเล็กได้ แต่ไม่สำมำรถท�ำอะไรทะเลได้ ผู้แทนกำรค้ำสหรัฐฯ กล่ำวกับผู้ส่อข่ำวว่ำ ข้อตกลงฉบับแรก

นาวิกศาสตร์ 43
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓






น้มีผลท�ำให้จีนต้องปรับพฤติกรรมกำรค้ำ ภำยในไม่ เต็มท เพ่อสร้ำงควำมเป็นปึกแผ่นแก่มณฑล และดินแดน
ก่เดือนข้ำงหน้ำก็คงจะเห็นกันว่ำจะสำมำรถปฏิบัติได้ ต่ำง ๆ ของจีน ภำยใต้นโยบำยหน่งประเทศสองระบบ ท้งน ้ ี









จริงหรือไม่ และกำรท่สหรัฐฯ คงอัตรำภำษีท่เก็บเพ่มจำก ส จ้นผิง เป็นประธำนำธิบดีจีนคนแรกในรอบ ๒๓ ปี ท่เดินทำง

สินค้ำจีนบำงส่วนเอำไว้ ก็เพ่อให้รัฐบำลสหรัฐฯ มีเคร่องมือ เยือนเนปำลอย่ำงเป็นทำงกำร หลังจำกที่ประธำนำธิบดี


เอำไว้บังคับใช้ข้อตกลงต่อไป ทั้งนี้คำดว่ำจะสำมำรถเริ่ม เจียง เจ๋อหมิน เคยเยือนเม่อปี พ.ศ.๒๕๓๙ นักวิชำกำรระบุว่ำ


กำรเจรจำเพ่อจัดท�ำข้อตกลงกำรค้ำเฟส ๒ ก่อนท่จะมีกำร ทิเบต และซินเจียงเป็นประเด็นท่อ่อนไหวอยู่แล้วในเร่อง



เลือกต้งประธำนำธิบดีสหรัฐฯ ในต้นเดือนพฤศจิกำยน แบ่งแยกดินแดน เพรำะปัจจุบันมีชำวทิเบตอำศัยอยู่


พ.ศ.๒๕๖๓ ซ่งสงครำมกำรค้ำระหว่ำงสหรัฐฯ กับจีนน ส่งผล ในเนปำลประมำณ ๒๐,๐๐๐ คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ล้ภัย




กระทบต่อทุกประเทศท่วโลก เน่องจำกกำรขยำยตัวของ ทำงกำรเมือง และมีนักเคล่อนไหวชำวทิเบตท่ล้ภัยมำ




เศรษฐกิจโลกในภำพรวมชะลอตัวลง โดยเฉพำะอย่ำงย่ง อำศัยอยู่ในเนปำลรำว ๆ ๒๐ คน ได้ก่อควำมวุ่นวำยขึ้น


ประเทศท่พ่งพำกำรส่งออกไปยังสองประเทศน้ได้รบ ท้งก่อนกำรเดินทำงมำถึง และขณะท่ประธำนำธิบด ี




ผลกระทบหนัก ยอดกำรส่งออกลดลงจนส่งผลต่ออัตรำ ส จ้นผิง อยู่ระหว่ำงกำรเยือนเนปำล อย่ำงไรก็ตำมค�ำกล่ำวน ี ้



กำรขยำยตัวของประเทศเหล่ำน้นตำมไปด้วย สุดท้ำยแล้ว ไม่จำกดขอบเขตว่ำควำมพยำยำมแยกส่วนใดส่วนหนง ่ ึ








แม้แต่ประเทศทไม่ได้พงพำกำรส่งออกไปยงสหรฐฯ ออกจำกจีน จะหมำยถึงเฉพำะทิเบต และซินเจียงเท่ำน้น


และจีน ก็จะได้รับผลกระทบทำงอ้อมจำกกำรท่เศรษฐกิจ แต่รวมหมำยถึง มำเก๊ำ ไต้หวัน และฮ่องกงด้วย โดย



ของประเทศอ่นชะลอตัวลงตำมไปด้วย และเน่องจำก เฉพำะฮ่องกงท่เกิดกำรประท้วงต่อต้ำนร่ำงรัฐบัญญัต ิ
ทั้งสองประเทศเป็นคู่ค้ำรำยใหญ่ของประเทศไทย สงครำม ส่งผู้ร้ำยข้ำมแดนฮ่องกงปี พ.ศ.๒๕๖๒ - พ.ศ.๒๕๖๓






กำรค้ำท่ยืดเย้อจึงส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่ำงหลีกเล่ยง (ดูภำพท ๖ กำรประท้วงในฮ่องกง) เพ่อเรียกร้องให้
ไม่ได้ ถอน “ร่ำงรัฐบัญญัติกฎหมำยผู้หนีคดี และควำมช่วยเหลือ

ร่วมกันทำงกฎหมำยในคดีอำญำ (แก้ไขเพ่มเติม) ค.ศ. 2019”
(Fugitive Offenders and Mutual Legal Assistance
in Criminal Matters Legislation (Amendment) Bill
2019) ที่รัฐบำลฮ่องกงเสนอ เพรำะเกรงว่ำร่ำงกฎหมำย
ดังกล่ำวจะท�ำให้ฮ่องกงเปิดรับควำมครอบง�ำจำกกฎหมำย
ของจีนแผ่นดินใหญ่ ซ่งจะท�ำให้ชำวฮ่องกงตกอยู่ใต้

ระบบกฎหมำยอ่นท่นอกเหนือไปจำกของตน โดยกำร










ประท้วงครงแรกเรมเมอวันท ๙ มถนำยน พ.ศ.๒๕๖๒


คำดว่ำมีผู้มำประท้วงถึง ๑.๐๓ ล้ำนคน อย่ำงไรก็ตำม
ภำพที่ ๕ สงครำมกำรค้ำระหว่ำงสหรัฐฯ กับจีน
แม้มีกำรเดินขบวนอย่ำงกว้ำงขวำงแต่รัฐบำลฮ่องกง

๖. “ใครก็ตามท่มีความพยายามแยกส่วนใดส่วนหน่ง ยืนยันจะผ่ำนร่ำงกฎหมำยน้ให้ได้ โดยกล่ำวว่ำจ�ำเป็น




ออกจากจีน จะถูกบดขย้ร่างจนแหลกละเอียดไปถึง ต้องมีกฎหมำยน้อย่ำงเร่งด่วน เพ่อจะได้อุด “ช่องว่าง”

กระดูก” ในกฎหมำยเดิม โดยมีก�ำหนดจะพิจำรณำวำระท่สอง



ค�ำกล่ำวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลำคม พ.ศ.๒๕๖๒ ในวันท ๑๒ มิถุนำยน พ.ศ.๒๕๖๒ แต่ให้เล่อนออกไปก่อน

ระหว่ำงหำรือกับนำย เค.พี.ชำร์มำ โอล นำยกรัฐมนตรีเนปำล เพรำะกำรประท้วง จนถึงวันท ๑๕ มิถุนำยน พ.ศ.๒๕๖๒



ท่กล่ำวให้กำรสนับสนุนกำรปกป้องอธิปไตยของจีนอย่ำง ผู้บริหำรสูงสุดของเกำะฮ่องกงแถลงว่ำให้เล่อนพิจำรณำ


นาวิกศาสตร์ 44
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓





ร่ำงกฎหมำยนี้อย่ำงไม่มีก�ำหนด ขณะท่ฝ่ำยสหรัฐฯ ค�ำปรำศรัยของ ส จ้นผิง กล่ำวว่ำ “โลกำภิวัตน์ทำง

เม่อต้นเดือนพฤศจิกำยน พ.ศ.๒๕๖๒ นำยโดนัลด์ ทรัมป์ เศรษฐกิจ คือกระแสหลักทำงประวัติศำสตร์ เฉกเช่น



ประธำนำธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนำมในกฎหมำย ๒ ฉบับ ที่ แม่น้ำสำยใหญ่ของโลก ไม่ว่ำจะเป็น แม่น้ำแยงซี แม่น้ำไนล์


เก่ยวข้องกับกำรสนับสนุนประชำธิปไตย และสิทธิมนุษยชน แม่นำแอมะซอน หรอแม่นำดำนบ ซงสำยธำรทกสำย











ในฮ่องกง หลังจำกสภำผู้แทนรำษฎรสหรัฐฯ สนับสนุน ต่ำงไหลเช่ยวสู่เบ้องหน้ำอย่ำงไม่หยุดยั้ง และไม่มีส่งใด

กฎหมำยดังกล่ำวอย่ำงท่วมท้น โดยกฎหมำยฉบับแรก สำมำรถต้ำนทำนกระแสซัดสำดของสำยน้ำเหล่ำน้”

ก�ำหนดให้กระทรวงกำรต่ำงประเทศสหรัฐฯ ต้องพิจำรณำ “เรำล้วนต้องมุ่งเน้นประโยชน์ส่วนรวมมำก่อน ไม่ควร
รับรองอย่ำงน้อยปีละ ๑ ครั้ง ว่ำฮ่องกงมีอิสระเพียงพอ วำงประโยชน์ส่วนตนเหนือมวลมนุษยชำติ” “เรำจ�ำเป็น
หรือไม่ในกำรปกครองตนเอง เพ่อแลกกับสิทธิพิเศษ ต้อง “จับมือกัน” มิใช่ปล่อยมือกันและกัน เรำจ�ำเป็นต้อง

ทำงกำรค้ำจำกสหรัฐฯ ส่วนกฎหมำยอีกฉบับเก่ยวกับ “ท�ำลำยก�ำแพง” มิใช่ “สร้ำงก�ำแพง” เรำจ�ำเป็นต้องยืนหยัด

กำรส่งห้ำมขำยอำวุธควบคุมฝูงชนให้กับต�ำรวจฮ่องกง ต่อต้ำนลัทธิกีดกันทำงกำรค้ำ (Protectionism) และ

ด้ำนกระทรวงกำรต่ำงประเทศจีน ประกำศกร้ำวเตือนให้ ลัทธิกระท�ำเพียงฝ่ำยเดียว (Unilateralism) ท้งยัง

สหรัฐฯ เตรียมรับผลกระทบจำกมำตรกำรตอบโต้ของจีน จ�ำเป็นต้องลดอุปสรรคทำงกำรค้ำอย่ำงต่อเนื่อง ผลักดัน
ส�ำหรับประเทศไทยสำมจังหวัดชำยแดนภำคใต้ ปัญหำ กำรปรับปรุงห่วงโซ่มูลค่ำ และห่วงโซ่อุปทำนระดับโลก

กำรแบ่งแยกดินแดนอำจเป็นส่วนหน่งท่ไทยต้องใช้ ตลอดจนร่วมกันส่งเสริมควำมต้องกำรของตลำด” และ


ควำมระมัดระวังในกำรแก้ปัญหำ โดยเฉพำะในประเด็น ยังกล่ำวถึงมำตรกำร ๕ ประกำรของจีนท่มุ่งส่งเสริม
กำรถูกแทรกแซงจำกต่ำงชำติ และองค์กรต่ำง ๆ กำรเปิดประเทศในระดับสูงย่งข้น อันได้แก่ กำรเปิด



ตลำดอย่ำงต่อเน่อง กำรปรับปรุงโครงสร้ำงกำรเปิดประเทศ

กำรเพ่มประสิทธิภำพของสภำพแวดล้อมทำงธุรกิจ

กำรเพ่มควำมร่วมมือพหุภำคีและทวิภำค และกำรผลักดัน

ควำมร่วมมือภำยใต้แผน “ริเริ่ม หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทำง”
โดยยืนยันว่ำจีนจะด�ำเนินกำรตำมข้นตอนท่วำงไว้เพ่อ




ลดภำษ และค่ำใช้จ่ำยในกำรท�ำธุรกรรม กำรพัฒนำ



พ้นท่สำธิตเพ่อส่งเสริมกำรค้ำน�ำเข้ำด้วยวิธีท่สร้ำงสรรค์



กำรน�ำเข้ำสินค้ำ และบริกำรท่มีคุณภำพสูงจำกท่วโลก
และกำรปรับปรุงสภำพแวดล้อมทำงธุรกิจเพ่อให้เป็นไป

ภำพที่ ๖ กำรประท้วงในฮ่องกง
โดยมุ่งเน้นกำรตลำด ให้อยภำยใต้ระเบียบกฎหมำย และ
ู่




๗. เราจ�าเป็นต้อง “จับมือกันมิใช่ปล่อยมือกันและกัน” มีควำมเป็นสำกลย่งข้น ท้งน้ในงำนสินค้ำน�ำเข้ำนำนำชำติจีน





เราจ�าเป็นต้อง “ท�าลายก�าแพงมิใช่สร้างก�าแพง” (CIIE) คร้งท ๒ น้จัดข้นระหว่ำงวันท ๕ - ๑๐ พฤศจิกำยน








เมอวนท ๕ พฤศจกำยน พ.ศ.๒๕๖๒ สำนกข่ำว พ.ศ.๒๕๖๒ ประเด็นหลักของงำนคร้งน คือ “ยุคใหม่ ร่วม





Xinhua รำยงำนว่ำ สี จิ้นผิง ประธำนำธิบดีจีน ได้กล่ำว แบ่งปันอนำคต” มีนักธุรกิจกว่ำ ๓,๐๐๐ คน จำกกว่ำ
สุนทรพจน์ในพิธีเปิดงำนมหกรรมสินค้ำน�ำเข้ำนำนำชำติจีน ๑๕๐ ประเทศ และเขตแคว้นทั่วโลกเข้ำร่วม โดย ๑ ใน ๓



(CIIE) คร้งท ๒ ที่จัดขึ้นในนครเซี่ยงไฮ้ พร้อมเรียกร้องให้ เป็นประเทศใหม่ท่เข้ำร่วมงำนเป็นคร้งแรก (แสดง


ทกประเทศรวมใหควำมสำคญแกประเด็น “มนุษยชาติ” ให้เห็นควำมสัมพันธ์ท่ดีกับจีน) พ้นท่จัดงำนถูกขยำย











และเผยเค้ำโครงนโยบำยเปิดประเทศชดถดไปของจน จำก ๖๐,๐๐๐ ตำรำงเมตร เป็น ๓๖๐,๐๐๐ ตำรำงเมตร

นาวิกศาสตร์ 45
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓







ในจ�ำนวนน้พ้นท่จัดแสดงในงำน ๑๐ อันดับแรกเป็น สิบปีท่ผ่ำนมำ จีนกับรัสเซียสนับสนุนซ่งกันและกัน






ของผู้เข้ำร่วมจำก สหรัฐฯ ญ่ปุ่น เยอรมน ฮ่องกง ให้ควำมร่วมมือทเป็นประโยชนต่อกน และใหควำมส�ำคญ


เกำหลีใต้ อิตำล ฝร่งเศส ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ กับผลประโยชน์ของกันและกัน ผลักดันให้ควำมสัมพันธ์


และอังกฤษ โดยแบ่งพื้นที่จัดงำนออกเป็น ๗ โซน ได้แก่ สองประเทศในปัจจุบันก้ำวสู่ระดับสูงสุดในประวัติศำสตร์



อุตสำหกรรมกำรบริกำร ยำนยนต์ อุปกรณ์เคร่องมือ โดยในเดือนมิถุนำยน พ.ศ.๒๕๖๒ ประธำนำธิบด ส จ้นผิง

วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ไลฟ์สไตล์ เครื่องมือแพทย์ ได้เดินทำงเยือนรัสเซียในโอกำสเฉลิมฉลองครบรอบ ๗๐ ปี
และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภำพ รวมถึงอำหำร และสินค้ำ แห่งกำรสถำปนำควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูต และกล่ำวว่ำ

เกษตร ส่วนผู้จัดซ้อท่เข้ำร่วมงำนครอบคลุมถึงแขนง “ในช่วง ๖ ปีท่ผ่ำนมำ เรำพบกันเกือบ ๓๐ คร้ง รัสเซียเป็น







ต่ำง ๆ โดยมีผู้จัดซ้อในต่ำงประเทศกว่ำ ๗,๐๐๐ คน ประเทศหน่งท่ผมมำเยือนมำกท่สุด และประธำนำธิบด ี


โดยประเทศไทยเข้ำร่วมจัดท�ำ Thailand Pavilion วลำดิเมียร์ ปูติน เป็น “มิตรแท้และเพ่อนร่วมงำนช้นเย่ยม””



บนพ้นท ๒๕๖ ตำรำงเมตร เพ่อแสดงศักยภำพด้ำนกำรค้ำ ส่วนควำมสัมพันธ์จีนกับเกำหลีเหนือน้น ในกำรเฉลิมฉลอง



กำรลงทุน กำรท่องเที่ยว นวัตกรรม และ Enterprise & ๗๐ ปี ครบรอบควำมสัมพันธ์ เมื่อวันที่ ๖ ตุลำคม พ.ศ.

Business Exhibition และมีผู้ประกอบกำรไทยร่วมแสดง ๒๕๖๒ ประธำนำธิบด ส จ้นผิง ได้กล่ำวว่ำ เม่อก่อต้ง




สินค้ำในงำน ๔๖ รำย คำดว่ำจะมียอดกำรซื้อขำยมูลค่ำ สำธำรณรัฐประชำชนจีนในปี พ.ศ.๒๔๙๒ เกำหลีเหนือเป็น




๒,๐๐๐ ล้ำนบำท เพ่มข้นจำกปีท่ผ่ำนมำ ไทยออกบูท ประเทศแรก ๆ ท่เปิดควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูตระหว่ำงกัน


Exhibitor จ�ำนวน ๖๓ รำย มียอดกำรซื้อขำยประมำณ และรับปำกว่ำจะส่งเสริมควำมสัมพันธ์อันด และม่นคง
๑,๙๒๑ ล้ำนบำท และมีนำยจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในระยะยำวระหว่ำงกัน ขณะที่ส�ำนักข่ำวเคซีเอ็นเอของ

รองนำยกรัฐมนตร และรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงพำณิชย์ เกำหลีเหนือรำยงำนว่ำ นำยคิม จองอึน ได้ส่งสำรแสดง




เข้ำร่วมพิธีเปิดงำนด้วย ควำมยินดีไปยังประธำนำธิบด ส จ้นผิง มีข้อควำมหน่งว่ำ
“มิตรภำพยืนยงของประเทศเรำจะเป็นอมตะ บนเส้นทำง
๘. “คบกันด้วยผลประโยชน์ ผลประโยชน์ไม่มีก็เลิกคบ แห่งกำรบรรลุหลักกำรสังคมนิยม” ดังนั้น จึงไม่น่ำจะมี
คบกันด้วยบารมี บารมีหมดก็ล้มเลิก คบกันด้วยอ�านาจ ข้อสงสัยว่ำจีนคบกับรัสเซีย และเกำหลีเหนือแบบไหน

อานาจหมดก็ท้ง คบกันด้วยพิศวาส ความพิศวาส (คบกันด้วยผลประโยชน์ คบกันด้วยบำรม คบกันด้วย


หมดไปก็เจ็บปวด มีเพียงคบกันด้วยใจ จึงจะเป็นอมตะ อ�ำนำจ คบกันด้วยพิศวำส หรือคบกันด้วยใจ) ส�ำหรับ
ทะนุถนอมคนมีบุญวาสนากับเรา ทะนุถนอมเวลา คิดแต่ ประเทศไทยได้สถำปนำควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูตกับจีน


ส่งดี รู้บุญคุณคน ให้ความจริงใจ คบกันด้วยใจ มิตรภาพ อย่ำงเป็นทำงกำรเม่อวันท ๑ กรกฎำคม พ.ศ.๒๕๑๘ โดย


กัลปาวสาน” หม่อมรำชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปรำโมช นำยกรัฐมนตรีของไทย
ทั้งหมดนี้ประธำนำธิบดี สี จิ้นผิง ได้กล่ำวไว้ในกำร ขณะนน กบนำยโจว เอินไหล นำยกรัฐมนตรีสำธำรณรัฐ



ไปเยือนมหำวทยำลัย Seoul National University ประเทศ ประชำชนจีนได้ลงนำมร่วมกันฯ ณ กรุงปักกิ่ง แม้ควำม


เกำหลีใต้ เม่อวันท ๔ กรกฎำคม พ.ศ.๒๕๕๗ โดยผู้เข้ำรับฟัง สัมพันธ์เบ้องต้นอำจไม่รำบร่นนัก เน่องจำกระบอบกำร





มีท้งนักศึกษำ นักกำรเมือง นักธุรกิจ และอ่น ๆ หลำยร้อยคน ปกครองท่แตกต่ำงกัน แต่ก็ผ่ำนมำได้ด้วยด ควำมสัมพันธ์









ซงในบรรดำประเทศต่ำง ๆ ทจีนมีควำมสัมพนธ์ด้วย ของจีนกับไทยจะคบกันอย่ำงไรน้นก็คำดเดำได้ยำก อย่ำงไร







รสเซย และเกำหลเหนอ น่ำจะจดเป็นประเทศมควำม ก็ตำม ส�ำนักข่ำวซินหัวของจีนได้รำยงำนเม่อวันท ๑๙





สมพนธแนบแนนเปนพเศษ อำจจะเปนดวยกำรปกครอง กุมภำพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๓ ว่ำ นำยหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวง






ที่ใกล้เคียงกัน และอยู่ภูมิภำคเดียวกัน โดยในช่วงหลำย กำรต่ำงประเทศของจีน ได้พบปะกับนำยดอน ปรมัตถ์วินัย
นาวิกศาสตร์ 46
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓






รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรต่ำงประเทศของไทย ระหว่ำง ข้นท่จัตุรัสเทียนอันเหมิน) นับต้งแต่น้นมำจีนก็เร่มก้ำวเดิน

กำรหำรือทวิภำคีก่อนกำรประชุมรัฐมนตรีต่ำงประเทศ จนเป็นอย่ำงที่เรำเห็นอยู่ในปัจจุบัน










อำเซียน - จน ทจะมีขนในวนท ๒๐ กมภำพนธ์ พ.ศ.๒๕๖๓
ณ กรุงเวียงจันทน์ (Vientiane) สปป.ลำว ระหว่ำงกำร


หำรือ นำยหวังอได้กล่ำวช่นชมมิตรไมตรีของไทยต้งแต่


ระดับรำชวงศ์ รัฐบำล ไปจนถึงภำคส่วนต่ำง ๆ ในสังคม



ท่ย่นมือเข้ำช่วยเหลือจีนในห้วงเวลำท่จีนต้องเผชิญกับ
สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของไวรัสโควิด - ๑๙ (น่ำจะเรียกว่ำ
หงส์ด�ำได้) ซ่งสะท้อนมิตรภำพอันพิเศษระหว่ำงประชำชน

จีนและไทย จะจริงหรือไม่ก็ต้องติดตำมกันต่อไป
๙. “ณ ห้วงยามนี้ ประชาชนชาวจีนทุกกลุ่มชาติพันธุ์
ลูกหลานชนชาติจีนทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ใน หรือนอกประเทศ
จงภาคภูมิใจ และร่วมอวยพรมาตุภูมิอันยิ่งใหญ่ด้วย ภำพที่ ๗ เหมำ เจ๋อตุง ประกำศตั้งสำธำรณรัฐประชำชนจีน

ความสุขสาราญใจ” เราต้องยึดมั่นหลักการ “รวมชาต ิ ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน
อย่างสันติ” และ “หน่งประเทศ สองระบบ” ดารงความ ส�ำหรับประเทศไทย ไม่ว่ำจะเกิดเหตุกำรณ์อะไร



ม่งค่ง และความม่นคงในฮ่องกงและมาเก๊า ส่งเสริม ก็ตำมขอให้คนไทยยึดม่นในมำตรำ ๑ ของรัฐธรรมนูญ



สายสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ รวมลูกหลานชาติจีนเป็น แห่งรำชอำณำจักรไทย ซ่งใช้ต่อเน่องกันมำหลำยฉบับ











หนงเดยว เพอการรวมชาตอยางสมบรณของมาตภม” มีใจควำมว่ำ “ประเทศไทยเป็นรำชอำณำจักรอันหน่ง




“จีนวานน้ถูกจารึกในหน้าประวัติศาสตร์โลกแล้ว อันเดียว จะแบ่งแยกมิได้” และมำตรำ ๒ “ประเทศไทยม ี

ส่วนจีนวันนี้อยู่ในมือของชาวจีนหลายร้อยล้านคน” กำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์


ค�ำกล่ำวท้งหมดเกิดข้นในวันฉลองกำรก่อต้งสำธำรณ ทรงเป็นประมุข” หำกเปรียบเทียบกับจีนปัจจุบัน

รัฐประชำชนจีน ครบรอบ ๗๐ ปี เมอวันท ๑ ตุลำคม พ.ศ. ประเทศไทยแม้จะมีระบอบกำรปกครองท่แตกต่ำงกัน





๒๕๖๒ กว่ำจะมำถึงวันนี้ หำกเรำได้ศึกษำประวัติศำสตร์ ประเทศไทยก็อยู่ในมือของคนไทย ๖๐ กว่ำล้ำนคน


จีน จะพบว่ำ จีนได้ผ่ำนควำมยำกลำบำกมำอยำงมำกมำย เช่นเดียวกัน ซ่งหำกเรำได้ศึกษำประวัติศำสตร์ชำติไทย

ด้วยแผ่นดินท่กว้ำงใหญ่ ด้วยควำมหลำกหลำยทำง มำ เรำจะพบว่ำสำเหตุส�ำคัญท่ท�ำให้ไทยต้องเสียเอกรำช


เชอชำต ศำสนำ ประเพณ และวฒนธรรม จนเคยถก ทั้งสองครั้งก็เพรำะกำรแตกควำมสำมัคคี คนไทยเรำคง







ต่ำงชำติเอำเปรียบ และยึดครองมำแล้ว รวมทั้งต้องต่อสู้ ไม่อยำกให้เกิดกำรอย่ำงน้นข้นอีก ด่งเช่นภำษิตธรรม






กันเองระหว่ำงคนจีนท่มีอุดมกำรณ์แตกต่ำงกันท�ำให้ ในรัชสมัย รัชกำลท ๕ เป็นภำษำบำลีท่ว่ำ “สัพเพสัง

มีคนตำยเป็นจ�ำนวนอีก และคนจีนจ�ำนวนหน่งก็ต้อง สังฆภูตำนัง สำมัคคี วุฑฒิสำธิกำ” ซ่งแปลควำมว่ำ


หลบหนีไปอยู่ประเทศอื่นรวมทั้งประเทศไทย เนื่องจำก “ควำมพร้อมเพรียงแห่งชน ผู้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ ยังควำม




ควำมยำกล�ำบำก จนกระท่งเม่อวันท ๑ ตุลำคม พ.ศ.๒๔๙๒ เจริญวัฒนำถำวรให้ส�ำเร็จ”
เหมำ เจ๋อตุง ได้ประกำศสถำปนำสำธำรณรัฐประชำชนจีน
ขึ้น โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนเข้ำปกครองจีนแผ่นดินใหญ่ ๑๐. “ยุทธการตีเสือ และแมลงวันไปพร้อมกัน”





(ดูภำพท ๗ เหมำ เจ๋อตุง ประกำศต้งสำธำรณรัฐประชำชนจีน นโยบำยของประธำนำธิบด ส จ้นผิง ได้ประกำศ

นาวิกศาสตร์ 47
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


มำตลอดว่ำ จะพยำยำมปรับปรุงคุณภำพชีวิตของประชำชน คณะกรรมกำรกลำงพรรคคอมมิวนิสต์ และ พลโท ค ู


แก้ไขปัญหำ และพัฒนำเศรษฐกิจของประเทศ และท่ส�ำคัญ จวิ้นซำน อดีตรองผู้บัญชำกำรฝ่ำยพลำธิกำรของกองทัพ

ท่สุด คือ กำรกวำดล้ำงพฤติกรรมทุจริตทุกรูปแบบใน นอกจำกนี้ ในปี พ.ศ.๒๕๕๗ สี จิ้นผิง ได้ก�ำหนดให้มีกำร


หมู่ข้ำรำชกำร เพ่อเสริมสร้ำงภำพลักษณ์กำรเป็นรัฐบำล ไล่ล่ำน�ำตัวคนจีนท่กระท�ำ และอำศัยอยู่ในต่ำงประเทศ


“มือสะอำด” จึงได้ก�ำหนดนโยบำยท่รู้จักกันโดยท่วไป กลับมำรับโทษในประเทศ ภำยใต้แผน “ปฏิบัติกำรไล่ล่ำหมำ








ว่ำ “ยุทธกำรตีเสือ และแมลงวันไปพร้อมกัน” (ดูภำพท ๘ จงจอก” พงเปำไปทกำรจะกระชำกตวขำรำชกำรเหลยมจด






ยุทธกำรตีเสือ และแมลงวันไปพร้อมกันของ สี จิ้นผิง) และอำชญำกรเศรษฐกิจ ท่หอบเงินท่ได้มำจำกกำรทุจริต



ถึงแม้จะมีหลำยฝ่ำยวิจำรณ์ว่ำ เป็นกำรละเมิดสิทธิ และ กำรใช้ต�ำแหน่งหน้ำท่ในทำงมิชอบ และกำรยักยอกทรัพย์



มีเป้ำหมำยซ่อนเร้น เพือปรำบศัตรทำงกำรเมือง แต่ทกคน แล้วหนีไปใช้ชีวิตในต่ำงประเทศกลับมำด�ำเนินคด ี

ก็รู้กันและยอมรับว่ำ เสือท่ถูกตีแต่ละคนน้นก็โกงกินชำต ิ ในประเทศให้ได้ ไม่ว่ำจะหนีไกลสุดขอบฟ้ำแค่ไหน หรือ



จริง ๆ และนโยบำยนี้เป็นท่ถูกใจ และได้รับควำมช่นชอบ เนิ่นนำนหลำยสิบปีแล้วก็ตำม ซึ่งมีอยู่อย่ำงน้อย ๑๑ รำย
จำกประชำชนทั่วไปอย่ำงสูง ที่หอบเงินหนีคดีมำแล้วกว่ำ ๑๐ ปี และมีอยู่ ๒ - ๓ รำย
ท่หอบเงินหนีต้งแต่ช่วงทศวรรษ ๒๕๒๓ โดยส�ำนักข่ำว


ซินหัวเปิดเผยว่ำ ข้ำรำชกำรท่ทุจริตคอร์รัปชัน และ

อำชญำกรเศรษฐกิจชื่อดังนับพัน ๆ คน ได้หอบเงินหนีไป
เสวยสุขในต่ำงประเทศถึงกว่ำ ๔๐ ประเทศ โดยประเทศ


ท่หมำจ้งจอกเหล่ำน้ชอบหนีไปกบดำนในช่วงไม่ก่ปี


ท่ผ่ำนมำก็คือ สหรัฐฯ แคนนำดำ ออสเตรเลีย และประเทศ


ในเอเชียตะวันออก รวมท้งในแอฟริกำ โดยในช่วง


๑๐๐ วันของปฏิบัติกำรไล่ล่ำหมำจ้งจอกน้น ปรำกฏว่ำม ี
ข้ำรำชกำรทุจริต และอำชญำกรเศรษฐกิจจ�ำนวน ๑๘๐ คน
ถูกจับกุม และถูกส่งตัวกลับมำรับโทษ ในจ�ำนวนน ๑๐๔ คน


ภำพที่ ๘ ยุทธกำรตีเสือและแมลงวันไปพร้อมกันของ สี จิ้นผิง มำจำกกำรไล่ล่ำของต�ำรวจจีนภำยใต้กำรประสำน



ยกตัวอย่ำง เสือท่โดนตีหัว หรือโดนปรำบ เช่น นำยซ หรง ควำมร่วมมือกับรัฐบำลประเทศน้น ๆ และอีกจ�ำนวน ๗๖ คน

อดีตรองประธำนคณะกรรมกำรท่ปรึกษำทำงกำรเมือง มำจำกกำรเกล้ยกล่อมอย่ำงละมุนละม่อมจนยอมมอบตัว


แห่งชำต นำยว่ำน ช่งเหลียง เลขำธิกำรพรรคคอมมิวนิสต์ ด้วยควำมสมัครใจ

เมืองกวำงเจำ นำยเจียง เจี๋ยหมิน ประธำนบริษัทน�้ำมัน
แห่งชำติ พร้อมคนในครอบครัว และผู้บริหำรบริษัทอีก ๑๑. “ฝันของของจีน (Chinese dream)”

๓๐๐ คน นำยโจว หยงคัง อดีตผู้น�ำพรรคท่มีอ�ำนำจ เม่อเข้ำรับต�ำแหน่งเป็นประธำนำธิบดีในเดือน




ล้นฟ้ำในฐำนะผ้ดแลควำมมนคงในประเทศ นำยป๋อ ช ี มีนำคม พ.ศ.๒๕๕๖ ประธำนำธิบดี สี จิ้นผิง ได้ประกำศ







ไหล อดีตเลขำธกำรพรรคสำขำเมองฉงช่ง นำยหลี ชนเฉง ภำรกิจหลักของกลุ่มผู้น�ำรุ่นใหม่ คือ กำรน�ำพำสำธำรณรัฐ
อดีตรองเลขำธิกำรพรรคสำขำมณฑลเสฉวน ในส่วน ประชำชนจีนบรรลุถึง “ควำมฝันของจีน (Chniese

ของกองทพปลดแอกประชำชนจน กมกำรกวำดล้ำง Dream)” หรือออกเสียงภำษำจีนว่ำ “จงก๋ว เม้ง”






กำรคอร์รัปชัน ด้วยเช่นกัน เช่น กำรจับกุม พลเอก ซู่ (ดูภำพท ๙ จงก๋ว เม้ง หรือควำมฝันของจีน) โดยกำร




ไฉโฮ่ว อดีตรองประธำนคณะกรรมำธิกำรทหำรของ ผลักดันกำรฟื้นฟูคร้งใหญ่แห่งประชำชำติจีน ได้แก่
นาวิกศาสตร์ 48
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓


Click to View FlipBook Version