The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการสอนทักษะชีวิตเพื่อการป้องกันยาเสพติด_สำหรับครูสอน ม.ต้น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by LifeSkillModel, 2023-04-25 23:57:32

คู่มือการสอนทักษะชีวิตเพื่อการป้องกันยาเสพติด_สำหรับครูสอน ม.ต้น

คู่มือการสอนทักษะชีวิตเพื่อการป้องกันยาเสพติด_สำหรับครูสอน ม.ต้น

42 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เกณฑ์การประเมินสื่อการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด รายการประเมิน คำ�อธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. วิธีการช่วยเหลือผู้ติด สารเสพติด เช่น - วิธีการถอนพิษ - การปรับปรุงแก้ไขจิตใจ และบุคลิกภาพ - การปรับปรุงสิ่งแวดล้อม - กิจกรรมเบี่ยงเบน ความสนใจ 2. ปัจจัยในการฟื้นฟูผู้ติด สารเสพติด เช่น - ความมุ่งมั่นของผู้เสพ - สัมพันธภาพ ครอบครัว เพื่อน - อาชีพ อายุ - จำ�นวนครั้ง 3. แหล่งที่ช่วยเหลือฟื้นฟู ผู้ที่ติดสารเสพติด อธิบายวิธีการ ในการช่วยเหลือ ผู้ติดสารเสพติด ได้ถูกต้อง ละเอียดชัดเจน ระบุปัจจัย ในการฟื้นฟู ผู้ติดสารเสพติด ได้ถูกต้อง ครอบคลุม 4 ด้าน ขึ้นไป ระบุแหล่งที่ ช่วยเหลือฟื้นฟู ผู้ที่ติดสารเสพติด ตามลักษณะ การดำ�เนินงาน ได้ถูกต้อง 5 แห่ง ขึ้นไป อธิบายวิธีการ ในการฟื้นฟู ผู้ติดสารเสพติด ได้ถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ ระบุปัจจัย ในการฟื้นฟู ผู้ติดสารเสพติด ได้ถูกต้อง ครอบคลุม 3 ด้าน ระบุแหล่งที่ ช่วยเหลือฟื้นฟู ผู้ที่ติดสารเสพติด ตามลักษณะ การดำ�เนินงาน ได้ถูกต้อง 3 - 4 แห่ง อธิบายวิธีการ ช่วยเหลือผู้ติด สารเสพติด ไม่ถูกต้อง ระบุปัจจัย ในการฟื้นฟู ผู้ติดสารเสพติด ได้ถูกต้อง 1 - 2 ด้าน ระบุแหล่งที่ ช่วยเหลือฟื้นฟู ผู้ที่ติดสารเสพติด ตามลักษณะ การดำ�เนินงาน ได้ถูกต้อง 2 แห่ง


43 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เกณฑ์การประเมินทักษะชีวิต รายการประเมิน คำ�อธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. มีจิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่น 2. การนำ�เสนอสื่อ 3. คุณภาพของสื่อ สื่อมีประโยชน์ ต่อตนเองและ สามารถช่วยเหลือ ผู้อื่น การนำ�เสนอสื่อ แสดงวิธีการ นำ�ไปเผยแพร่ แก่ชุมชนโรงเรียน สื่อสามารถ นำ�ไปใช้กับตนเอง ผู้อื่นและเผยแพร่ ได้ สื่อมีประโยชน์ต่อ ตนเอง การนำ�เสนอสื่อ แสดงวิธีการ นำ�ไปเผยแพร่ ความรู้แก่โรงเรียน สื่อสามารถ นำ�ไปใช้กับตนเอง และผู้อื่นได้ สื่อไม่มีประโยชน์ การนำ�เสนอสื่อ ไม่แสดงวิธีการ นำ�ไปเผยแพร่ ความรู้ สื่อสามารถ นำ�ไปใช้กับตนเอง ได้


44 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ใบงาน เรื่อง คิดช่วยเหลือ คำ�ชี้แจง ให้นักเรียนสร้างแผนผังความคิด เรื่อง คิดช่วยเหลือ และนำ�เสนอตามประเด็น ที่กำ�หนด ได้แก่ ระบุวิธีการ ปัจจัย และ แหล่งช่วยเหลือผู้ติดยาสารเสพติด


45 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น แบบสังเกตการนำ เสนอสื่อ วิธีการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด แหล่งการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด ชื่อกลุ่ม.....................................................................................................................................ชั้น....................................... คำ�ชี้แจง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม บันทึกแบบสังเกต จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงาน ของกลุ่มอื่น ๆ โดยมีประเด็น ดังนี้ 1. นักเรียนรู้สึกอย่างไรกับการนำ�เสนอของกลุ่มนำ�เสนอ ............................................................................................................................................................................................ 2. นักเรียนคิดว่าผลงานที่นำ�เสนอมีประโยชน์สามารถนำ�ไปใช้ได้จริงหรือไม่อย่างไร ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................ 3. สื่อสามารถนำ�ไปเผยแพร่ในช่องทางใด ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................ 4. ข้อมูลในสื่อมีความถูกต้องและเชื่อถือได้ ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................


46 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตัวอย่างเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด ขั้นตอนการบำ บัดรักษาผู้ติดยาเสพติด แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ 1. ขั้นเตรียมการ (Pre-Admission) ความหมาย เป็นการศึกษาประวัติ ข้อมูล และภูมิหลังผู้ติดยาเสพติด ทั้งจากผู้ขอรับการรักษาและครอบครัว เพื่อชักจูง ให้คำ�แนะนำ� และกระตุ้นให้ผู้ติดยาเสพติด มีความตั้งใจในการรักษา การดำ�เนินการ การสัมภาษณ์การลงทะเบียนและวิธีการทางการแพทย์ได้แก่การตรวจร่างกายเอกซเรย์ ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ชั่งนํ้าหนัก 2. ขั้นถอนพิษยา (Detoxification) ความหมาย การบำ�บัดอาการทางกาย ที่เกิดจากการใช้ยาเสพติด การดำ�เนินการ การให้ยาชนิดอื่นทดแทน เช่น เมธาโดน ยาสมุนไพรหรือให้เลิกเสพทันทีเรียกว่า หักดิบ แบ่งเป็นการถอนพิษแบบผู้ป่วยนอก คือ ไม่ต้องค้างคืนในสถานพยาบาลแต่ต้องรับประทานยาตามเวลาที่กำ�หนดและแบบผู้ป่วยใน คือการค้างคืนในสถานพยาบาลซึ่งนอกจากจะถอนพิษแล้วยังมีการรักษาโรคแทรกซ้อน ต่าง ๆ รวมทั้งการให้ความรู้เช่น การดูแลสุขภาพ เป็นต้น 3. ขั้นตอนการฟื้นฟูสมรรถภาพ (Rehabilitation) ความหมาย เป็น การปรับสภาพร่างกายและจิตใจของผู้เลิกยาให้มีความเข้มแข็ง ปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพ และพฤติกรรมให้สามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างปกติการดำ�เนินการใช้กิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การให้คำ�แนะนำ�ปรึกษา ทั้งเป็นรายบุคคลและเป็นกลุ่ม การสันทนาการ การฝึกอาชีพ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีรูปแบบอื่น ๆเช่น การฟื้นฟูสมรรถภาพแบบ “ชุมชน บำ�บัด” ซึ่งเป็นการสร้างชุมชน หรือสังคมจำ�ลองให้ผู้เลิกยาเสพติดมาอยู่รวมกันเพื่อให้ ความช่วยเหลือกัน เลียนแบบแปลงพฤติกรรม ฝึกความรับผิดชอบ การรู้จักตนเอง และ


47 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น แก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม เพื่อกลับไปดำ�รงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติและการฟื้นฟู จิตใจ โดยใช้หลักศาสนา ได้แก่ การนำ�ผู้เลิกยาเสพติดเข้ารับการอุปสมบท การศึกษา หลักธรรมทางศาสนา เป็นต้น 4. ขั้นการติดตามดูแล (After - Care) ความหมาย เป็นการติดตามดูแล ผู้เลิกยาเสพติดที่ผ่านการบำ�บัดรักษา ทั้ง 3 ขั้นตอน เพื่อให้คำ�แนะนำ�ปรึกษา ให้กำ�ลังใจ ทั้งนี้เพื่อมิให้หวนกลับไปเสพยาซํ้าอีก การเยี่ยมเยียน โทรศัพท์นัดพบ ใช้แบบสอบถาม และการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด หน่วยงานบริการให้คำ ปรึกษาและบำ บัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ในชุมชน 1. ระบบการบำ�บัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ปัจจุบันประเทศไทยมีระบบการบำ�บัด รักษาผู้ติดยา 3 ระบบ ดังนี้ 1.1 ระบบสมัครใจ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ติดยาเสพติดที่ต้องการจะ เลิกเสพยาเสพติดโดยความสมัครใจ สามารถขอเข้ารับการบำ�บัดรักษาพยาบาลใน สถานพยาบาลต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งดำ�เนินการรักษาทั้งระบบแพทย์แผนปัจจุบัน และแผนโบราณ 1.2 ระบบต้องโทษ เป็นการให้การช่วยเหลือบำ�บัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ที่ได้กระทำ�ความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติด และถูกคุมขังโดยต้องได้รับการรักษาพยาบาล ภายในขอบเขตข้อบังคับทางกฎหมาย หน่วยงานที่รับผิดชอบที่สำ�คัญ คือ (1) สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สังกัดศาลเยาวชนและ ครอบครัวกลาง กระทรวงยุติธรรม สำ�หรับเด็กและเยาวชนที่มีอายุไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ ในวันที่กระทำ�ผิดเพื่อควบคุมตัวไว้ระหว่างการสอบสวน หรือพิจารณาคดีหรือตาม คำ�พิพากษา หรือคำ�สั่งศาล


48 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (2) กรมคุมประพฤติกระทรวงยุติธรรม มีบทบาทหน้าที่ในการคุม ประพฤติที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและมีความผิดไม่ร้ายแรง โดยศาลจะสั่งให้ถูกคุม ประพฤติและจะต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่เป็นระยะ ๆ และอาจมีข้อกำ�หนดเงื่อนไข อื่น ๆ อีก เช่น ห้ามข้องเกี่ยวกับยาเสพติด การให้เข้ารับการบำ�บัดรักษา เป็นต้น (3) ทัณฑสถานบำ�บัดพิเศษต่างๆของกรมราชทัณฑ์กระทรวงมหาดไทย มีบทบาทหน้าที่ในการบำ�บัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ต้องขังที่ติดยาเสพติดอายุ18 ปี ขึ้นไปที่มีความผิดในคดียาเสพติดจะถูกส่งตัวเข้ารับการบำ�บัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ ภายในทัณฑสถานบำ�บัดพิเศษ จำ�นวน 6 แห่งทั่วประเทศ 1.3 ระบบบังคับ เป็นการใช้กฎหมายบังคับให้ผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำ�บัด รักษาในศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพที่จัดตั้งขึ้น ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติด ยาเสพติด พ.ศ. 2534 2. สถานบริการให้คำ�ปรึกษาและบำ�บัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ผู้ที่ประสบ ปัญหายาเสพติดและไม่อาจแก้ไขได้ด้วยตนเอง อาจขอรับคำ�ปรึกษาแนะนำ� หรือขอรับ บริการการบำ�บัดรักษายาเสพติดได้จากสถานบริการ ดังนี้ (1) กองบำ�บัดรักษา สำ�นักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด (2) สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (3) กองป้องกันและบำ�บัดการติดยาเสพติด สำ�นักอนามัย กรุงเทพมหานคร (4) โรงพยาบาลในส่วนกลาง เช่น โรงพยาบาลธัญญารักษ์ โรงพยาบาล ตำ�รวจ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โรงพยาบาลอานันทมหิดล ฯลฯ (5) โรงพยาบาลของรัฐ เอกชน และคลินิกต่าง ๆ ทั่วทุกภาคของประเทศ


49 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (6) โครงการส่งเสริมสุขภาพ สวัสดิภาพเยาวชน ครอบครัวและสังคม (ศูนย์บริการสาธารณสุข 21) วัดธาตุทอง (7) สถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด (8) คลินิกยาเสพติด 1 - 15 (ศูนย์บริการสาธารณสุข) (9) ศูนย์บำ�บัดรักษาผู้ติดยาเสพติดประจำ�ภาคต่าง ๆ และประจำ�จังหวัด ต่าง ๆ (10) ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ (11) ศูนย์/บ้านต่าง ๆ ของเอกชน เช่น ศูนย์เบิกอรุณในประเทศไทย บ้านสันติสุข ฯลฯ (12) กลุ่มผู้ติดยาเสพติดนิรนาม (NA) ในประเทศไทย เช่น โรงพยาบาล ธัญญารักษ์ศูนย์บริการชุมชนสุขุมวิท 33 บ้านพิชิตใจศูนย์บำ�บัดรักษายาเสพติดภาคเหนือ กลุ่มผู้ติดยาเสพติดนิรนาม จังหวัดภูเก็ต


50 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หน่วยงานรับผิดชอบแก้ไขปัญหาสารเสพติด สถานบำ บัดผู้ติดสารเสพติดและบริการให้คำ ปรึกษาสารเสพติด หน่วยงานที่รับผิดชอบต่อการแก้ไขปัญหาสารเสพติดในชุมชน 1. ศูนย์รับแจ้งข่าวและระบบการข่าว การผลักดันให้กลไกสำ�คัญ ๆ ในการ แก้ไขปัญหาสารเสพติด ได้แก่ หน่วยงานจัดระบบการข่าว จำ�นวน 85 หน่วยงาน โดย จัดให้มีระบบการข่าวและศูนย์แจ้งข้อมูลข่าวสารเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องกับสารเสพติด ประกอบด้วย 1.1 ส่วนกลาง รวม 9 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวง ศึกษาธิการ สำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติกองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองบัญชาการตำ�รวจปราบปรามยาเสพติด และกองบัญชาการ ตำ�รวจนครบาล 1.2 ส่วนภูมิภาค รวม 76 หน่วยงาน ได้แก่ ศูนย์ป้องกันและปราบปราม ยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ศปส.ก.) และศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด (ศปส.จ.) สำ�หรับสำ�นักงาน ป.ป.ส. ได้เปิดรับศูนย์รับแจ้งข้อมูลข่าวสารเจ้าที่ของรัฐ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ดังนี้ 1. สำ�นักงานปราบปรามยาเสพติด สำ�นักงาน ป.ป.ส. 2. สำ�นักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาคเหนือ (เชียงใหม่) 3. สำ�นักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น) 4. สำ�นักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาคใต้(สงขลา) 5. สำ�นักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาคกลาง (กทม.)


51 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 2. คณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลหรือข่าวสารการกระทำ�ที่เกี่ยวข้องกับ ยาเสพติดที่มาจากหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบ ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงาน ของส่วนราชการต่าง ๆ ดังตารางต่อไปนี้ คณะกรรมการประจำ�กรุงเทพมหานคร (ผู้แทนจากส่วนราชการ 11 ราย) 1. กระทรวงมหาดไทย 2. กระทรวงศึกษาธิการ 3. สำ�นักงานอัยการสูงสุด 4. ผู้แทนกองบัญชาการทหารสูงสุด 5. กรมพระธรรมนูญ 6. กองบัญชาการตำ�รวจนครบาล 7. กองบัญชาการตำ�รวจปราบปราม ยาเสพติด 8. กรุงเทพมหานคร 9. สำ�นักงานคณะกรรมการ ข้าราชการพลเรือน 10. กองทัพบก 11. ผู้อำ�นวยการสำ�นักงานปราบปราม ยาเสพติด สำ�นักงาน ป.ป.ส. เป็นกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการประจำ�ภาค (ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคใต้ : ผู้แทนจากส่วนราชการ 12 ราย) 1. กระทรวงมหาดไทย 2. กระทรวงศึกษาธิการ 3. สำ�นักอัยการสูงสุด 4. กองทัพบก 5. กองทัพเรือ 6. กองทัพอากาศ 7. กองบัญชาการตำ�รวจปราบปราม ยาเสพติด 8. ตำ�รวจภูธรภาค 9. ตำ�รวจภูธรภาคอีก 1 ราย 10. กองบัญชาการตำ�รวจตระเวนชายแดน 11. กระทรวงสาธารณสุข 12. ผู้อำ�นวยการสำ�นักงานป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (ในแต่ละภาค) เป็นกรรมการและเลขานุการ การบำ บัดรักษาผู้ติดสารเสพติด การบำ�บัดรักษาผู้ติดสารเสพติด หมายถึง การดำ�เนินงานเพื่อแก้ไขสภาพร่างกาย และจิตใจของผู้ติดสารเสพติดให้เลิกจากการเสพ และสามารถกลับไปดำ�รงชีวิตอยู่ในสังคม ได้อย่างปกติ


52 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ชื่อกิจกรรม หลีกเลี่ยงได้ เวลา 1 ชั่วโมง มาตรฐาน/ตัวชี้วัด พ 5.1 ม.2/2 อธิบายวิธีการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงและสถานการณ์เสี่ยง พฤติกรรมทักษะชีวิต องค์ประกอบที่ 2 การคิดวิเคราะห์ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ข้อ 3 รู้จักแก้ปัญหาในสถานการณ์วิกฤตได้อย่างเป็นระบบและสร้างสรรค์ ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. ผลงานการวิเคราะห์กรณีศึกษาที่ครูกำ�หนด 2. การตอบคำ�ถาม R - C - A กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นักเรียนดูภาพโฆษณาการรณรงค์การสูบบุหรี่แล้วตอบคำ�ถามประเด็น ดังนี้ a. ภาพที่นักเรียนเห็น สะท้อนในเรื่องอะไรบ้าง b. นักเรียนจะเลือกปฏิบัติตัวตามนางสาวเอหรือบีเพราะอะไร 2. ครูร่วมกันอภิปรายเพิ่มเติมเพื่อเชื่อมโยงประเด็นผลกระทบที่เกิดจากการ สูบบุหรี่และสารเสพติดอื่น ๆ


53 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 3. นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์กรณีตัวอย่าง เรื่องทอม ตามประเด็นคำ�ถามแล้ว สุ่มนักเรียน ตอบคำ�ถาม 4 - 5 คน “ทอมเป็นนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งที่มีความเจริญมาก แต่ทอม เป็นเด็กยากจน มีวันหนึ่งเขามีความคิดว่าทำ�อย่างไรดีถึงจะมีเงินเยอะ ๆ เพื่อมาใช้จ่ายให้ตนเองและครอบครัว เขาไปหาเพื่อนชายคนอื่น ๆ ที่ยากจน เหมือนตนเองแต่กลับมีเงินใช้จ่ายมากมายโดยไม่รู้ว่าเงินนั้นได้มาอย่างไร เขาสอบถามเพื่อน ๆว่าทำ�ไมจึงมีเงินใช้มากมายช่วยบอกเราหน่อยเราอยาก มีบ้าง จนกระทั่งมีนักเรียนคนหนึ่งเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ของโรงเรียน มาพูดคุยและชักชวนให้ทอมมาทำ�งานด้วยซึ่งสามารถสร้างรายได้เป็นอย่างดี โดยให้ทอมเป็นคนส่งยาให้จะได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท ทอมกลับมาคิด และตัดสินใจ..............” นางสาว เอ และ บีเป็นคู่แฝดกันแต่ทั้งสองมีพฤติกรรม การใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน เอ ดูแลตัวเอง ออกกำ�ลังกายเป็นประจำ�ไม่เกี่ยวข้องกับ สารเสพติด บี สูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 13 ปี ปัจจุบันทั้งสองคนอายุ 32 ปี


54 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ประเด็นคำ�ถาม ดังนี้ - ถ้านักเรียนเป็นทอมจะคิดและตัดสินใจอย่างไร - พฤติกรรมเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับทอมคืออะไรและนักเรียนมีวิธีการหลีกเลี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงของทอมอย่างไร - สถานการณ์เสี่ยงที่เกิดขึ้นกับทอมคืออะไรและนักเรียนมีวิธีการหลีกเลี่ยง สถานการณ์เสี่ยงของทอมอย่างไร 4. แบ่งกลุ่มนักเรียนเป็น 5 กลุ่ม จำ�นวนนักเรียนกลุ่มละ เท่า ๆ กัน เลือกประธาน รองประธานและเลขานุการกลุ่ม จับฉลากศึกษากรณีศึกษา โดยจำ�แนกศึกษากลุ่มละเรื่อง ดังนี้ กลุ่มที่ 1 คิดได้ไง กลุ่มที่ 2 หลงผิด กลุ่มที่ 3 สู้เพื่อใคร กลุ่มที่ 4 กิ๊กอยากสวย กลุ่มที่ 5 วัยทดลอง 5. นักเรียนรับใบกิจกรรมเรื่องกรณีศึกษาที่ตรงกับกลุ่มของตนเองแล้ววิเคราะห์ ตามประเด็น (3 นาที) 5.1 จากกรณีศึกษานักเรียนคิดว่า มีสาเหตุใดที่ทำ�ให้เกิดพฤติกรรมเสี่ยง และสถานการณ์เสี่ยง 5.2 นักเรียนมีแนวทางหลีกเลี่ยงพฤติกรรม/สถานการณ์เสี่ยงได้อย่างไร 6. ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนำ�เสนอ 7. ครูและนักเรียนสรุปร่วมกันในประเด็นพฤติกรรมเสี่ยง/สถานการณ์เสี่ยง ตามกรณีศึกษาและเชื่อมโยงทักษะในการแก้ปัญหา โดยใช้คำ�ถาม R - C - A เพื่อพัฒนา ทักษะชีวิต


55 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น R ขณะที่นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มตามกรณีศึกษานักเรียนรู้สึกอย่างไร C นักเรียนเคยมีพฤติกรรมเสี่ยง/อยู่ในสถานการณ์เสี่ยงเรื่องเกี่ยวข้องกับ สารเสพติดหรือไม่แล้วปฏิบัติอย่างไร A ถ้านักเรียนมีพฤติกรรมเสี่ยงหรืออยู่ในสถานการณ์เสี่ยง จะให้ปฏิบัติ อย่างไร การวัดและประเมินผล วิธีการวัด 1. พิจารณาจากการตอบคำ�ถามการนำ�ไปใช้(A) 2. ประเมินจากผลการวิเคราะห์กรณีศึกษา เครื่องมือวัด 1. แบบประเมินการวิเคราะห์กรณีศึกษา 2. คำ�ถาม R - C - A เกณฑ์การวัด 1. การวิเคราะห์กรณีศึกษา คะแนน 5 - 6 คะแนน ระดับ ดี คะแนน 3 - 4 คะแนน ระดับ พอใช้ คะแนน 2 คะแนน ระดับ ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ระดับ พอใช้ขึ้นไป 2. พิจาณาจากการตอบคำ�ถามการนำ�ไปใช้(A) ผ่าน หมายถึง คำ�ตอบสามารถเชื่อมโยงการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ได้ ไม่ผ่าน หมายถึง คำ�ตอบไม่สามารถนำ�ไปแก้ปัญหาได้


56 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เกณฑ์การประเมินการวิเคราะห์กรณีศึกษา รายการประเมิน คำ�อธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. อธิบายวิธีการหลีกเลี่ยง และสถานการณ์เสี่ยง 2. วิธีการแก้ปัญหา เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และผู้อื่น อธิบายสาเหตุและ วิธีการหลีกเลี่ยง และสถานการณ์ เสี่ยงได้ถูกต้อง ชัดเจน วิธีการแก้ปัญหา นำ�ไปปฏิบัติเกิด ประโยชน์ต่อ ตนเองและผู้อื่น 2 วิธีขึ้นไป อธิบายสาเหตุและ วิธีการหลีกเลี่ยง ในสถานการณ์ เสี่ยงได้ถูกต้อง ไม่สอดคล้องกับ กรณีศึกษา วิธีการแก้ปัญหา นำ�ไปปฏิบัติเกิด ประโยชน์ต่อ ตนเองและผู้อื่น 1 วิธี อธิบายสาเหตุและ วิธีการหลีกเลี่ยง และสถานการณ์ เสี่ยงไม่ได้ วิธีการแก้ปัญหา นำ�ไปปฏิบัติไม่ได้


57 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น กรณีศึกษา 1 คิดได้ไง หนุ่มเป็นวัยรุ่นชายที่ชอบอยู่คนเดียวเนื่องจากบิดาและมารดา เป็นผู้พิการทางสายตา เวลามาโรงเรียนก็ร่วมกลุ่มกับนักเรียนที่พฤติกรรมเสี่ยง ด้านสารเสพติด กลับบ้านมืดคํ่า โดยบิดาและมารดาก็ไม่สามารถ ดูแลได้เท่าที่ควร จนกระทั่งมีวันหนึ่งหนุ่มได้ไปซื้อยาแก้อักเสพมาเป็น จำ�นวนมากแล้วผสมกับนํ้าโค้กและดื่มกับเพื่อนในโรงเรียน จนกระทั่ง ช่วงเวลาตอนเย็นหลังเลิกเรียนหนุ่มได้ไปเล่นกีฬาฟุตซอลกับเพื่อน ๆ ที่ สนามบอลในโรงเรียนจนเกิดอาการช็อกหมดสติกลางสนามบอลครูพลศึกษา คนหนึ่งเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปช่วยผลปรากฏว่าหัวใจหยุดเต้น ครูพลศึกษา จึงได้ปฐมพยาบาลด้วยการทำ� CPR และรีบนำ�ส่งโรงพยาบาล กรณีศึกษา 2 หลงผิด ตำ�รวจ 191 แถลง จับนักศึกษาสาว มหาวิทยาลัยดัง ค้ายาบ้า ยึดของกลาง 8,000 เม็ดเวลา 10.00 น. วันที่18ตุลาคม ที่กองกำ�กับกลาง สายตรวจจับนางสาวเอ๋ พร้อมรถฮอนด้า สอบสวนแล้วพบว่า ตนเอง เสพยาบ้าจนติดแล้วในขณะนี้ไม่มีเงินมาซื้อยาเสพติด จนกระทั่งมีความคิด ว่าจะรับยาบ้ามาขายเองเพื่อให้มีเงินไปเที่ยวเตร่ และนำ�ยาบ้ามาเสพกับ เพื่อน ๆ จนกระทั่งถูกจับในที่สุด


58 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น กรณีศึกษา 3 สู้เพื่อใคร เอกทำ�งานรับจ้างต้องรับภาระในการหารายได้เลี้ยงครอบครัวและ ตนเอง ซึ่งขณะนี้เอกกำ�ลังเรียนอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียน แห่งหนึ่งจากภาระที่ต้องรับผิดชอบมากมายทั้งตนเองและครอบครัว จึงทำ�ให้เอกมีความคิดที่จะหารายได้เพิ่มจึงเข้าไปพัวพันกับวงการค้ายาเสพติด รายใหญ่ของหมู่บ้าน เอกมีรายได้กับการค้ายาเพิ่มขึ้นโดยการนำ�ยาบ้า มาขายกับเพื่อน ๆในโรงเรียนของตนเองและวัยรุ่นติดยาแถวบ้าน จนกระทั่ง วันหนึ่งเอกถูกตำ�รวจล่อซื้อยาบ้าและถูกจับในที่สุด เอกต้องออกจาก โรงเรียนและชดใช้กรรมอยู่ในคุก กรณีศึกษา 4 กิ๊กอยากสวย กิ๊กเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องผิวหน้า มีสิว และผิวคลํ้า แต่เพื่อน ๆ ในกลุ่มจัดว่าสวยกันทุกคน กิ๊กจึงเป็นแกะดำ�ของกลุ่ม เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม จึงแนะนำ�ยา “สวย” ให้กิ๊กใช้ยา “สวย” โดยไม่รู้ว่าคือยาไอช์ ไม่นานกิ๊ก ก็กลายเป็นเด็กติดยาและถูกบังคับให้ทำ�งานกลางคืนเพื่อมาซื้อยา


59 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น กรณีศึกษา 5 วัยทดลอง ตุ้มเป็นเด็กชายที่เรียนดีชอบไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ และชอบทำ�ตาม เพื่อนเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของเพื่อน ๆ ในกลุ่ม และอยู่ในกลุ่มของเพื่อน ที่สูบบุหรี่และเพื่อนก็ชักชวนให้ทดลองเสพ ตุ้มเสพบุหรี่จนติด พ่อแม่ไม่รู้ว่า ลูกชายของตนเองติด เวลาไปโรงเรียน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ 1. กรณีศึกษา 5 เรื่อง 2. รูปภาพโฆษณารณรงค์การไม่สูบบุหรี่ หรือโฆษณา ในคลิป/Youtube


60 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ใบกิจกรรม กรณีศึกษา ชื่อกลุ่ม.................................... คำ�ชี้แจง นักเรียนวิเคราะห์กรณีศึกษาแล้วตอบคำ�ถาม 1. จากกรณีศึกษานักเรียนคิดว่า มีสาเหตุที่ทำ�ให้เกิดพฤติกรรมเสี่ยงและสถานการณ์เสี่ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………........................................................................................……… 2. นักเรียนมีวิธีการหลีกเลี่ยงพฤติกรรม / สถานการณ์เสี่ยงได้อย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………............................................................................…………………………………………


61 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ชื่อกิจกรรม ชีวิตปลอดภัย เวลา 1 ชั่วโมง มาตรฐาน/ตัวชี้วัด พ 5.1 ม.2/3 ใช้ทักษะชีวิตในการป้องกันตนเองและหลีกเลี่ยงสถานการณ์คับขัน พฤติกรรมทักษะชีวิต องค์ประกอบที่ 2 การวิเคราะห์ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ข้อที่ 3 แก้ไขปัญหาในสถานการณ์วิกฤตได้อย่างเป็นระบบและสร้างสรรค์ ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. เขียนบทสนทนาหัวข้อการใช้ทักษะชีวิตในการป้องกันตนเองและหลีกเลี่ยง สถานการณ์คับขัน 2. การแสดงบทบาทสมมติตามสถานการณ์ที่ครูกำ�หนด 3. การตอบคำ�ถาม R - C - A กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูนำ�บทสนทนาเรื่อง ชายแปลกหน้า โดยขออาสาสมัครนักเรียน 2 คน มาอ่านบทสนทนา


62 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น บทสนทนา เรื่อง ชายแปลกหน้า ชายแปลกหน้า : ไอ้หนูกำ�ลังจะไปไหน เต้ : กำ�ลังจะไปโรงเรียนครับ ชายแปลกหน้า : เฮ้ย วันนี้โรงเรียนหยุดไม่ใช่เหรอ เต้ : ผมไปเรียนพิเศษครับ ชายแปลกหน้า : มานี่ มานี่ลุงมีอะไรให้อร่อยมากเลยนะกินแล้วจะสดชื่น ที่เดียว (นํ้าโค้กผสมยาโปร์) เต้ : .................................................................................... 2. ครูสุ่มนักเรียน 3 - 5 คน ตอบประเด็นคำ�ถาม “ถ้านักเรียนเป็นเต้จะตอบว่าอย่างไร เพราะอะไร” 3. ครูและนักเรียนช่วยกันพิจารณาคำ�ตอบ จากนั้นครูเชื่อมโยงเหตุการณ์ ดังกล่าวให้นักเรียนเห็นความสำ�คัญของทักษะชีวิตในการป้องกันตนเองและหลีกเลี่ยง สถานการณ์คับขัน 4. แบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม จำ�นวนนักเรียนกลุ่มละเท่า ๆ กัน และศึกษากรณีศึกษา กลุ่มละ 1 สถานการณ์ดังนี้ สถานการณ์ที่ 1 สมศรีมีรูปร่างอ้วนทำ�ให้สมศรีรู้สึกท้อแท้ใจจนทำ�ให้ เก็บตัวอยู่อย่างเดียวดาย มีเพื่อนคนหนึ่งมาชวนให้สมศรีไปใช้ยาลดความอ้วน สถานการณ์ที่ 2 เอกมีเพื่อนสูบบุหรี่ ช่วงเวลากลางวันเอกไปเข้าห้องนํ้า แล้วเพื่อนชวนให้ทดลองสูบบุหรี่ สถานการณ์ที่ 3 หญิง เดินอยู่ในซอยเปลี่ยวแล้วพบกับคนเมา สถานการณ์ที่ 4 วิโรจน์เป็นพนักงานขับรถบรรทุก เขาทำ�งานหนักเพื่อ เลี้ยงครอบครัวแต่เงินไม่พอใช้จ่าย เพื่อนจึงมาชักชวนให้ไปขายยาบ้า


63 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สถานการณ์ที่ 5 จอย เดินทางกลับบ้านและเห็นกลุ่มวัยรุ่นกำ�ลังทะเลาะ วิวาทกัน 6. นักเรียนเขียนบทสทนา ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีและนำ�เสนอในรูปแบบ บทบาทสมมติหัวข้อการใช้ทักษะชีวิตในการป้องกันตนเองและหลีกเลี่ยงสถานการณ์ คับขัน (ตามใบกิจกรรม) กลุ่มละ 3 นาที 7. นักเรียนนำ�เสนอบทบาทสมมติที่ได้รับ 8. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปกิจกรรมและครูเน้นยํ้าให้นักเรียนตระหนักถึง การใช้ทักษะชีวิตในการป้องกันตนเองและหลีกเลี่ยงสถานการณ์คับขันโดยศึกษาจาก เอกสารประกอบการเรียนเพิ่มเติม เรื่อง ทักษะการปฏิเสธเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชน 9. ครูใช้คำ�ถาม R - C - A เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต R ขณะที่นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมแสดงบทบาทสมมตินักเรียนรู้สึกอย่างไร C นักเรียนเคยประสบกับเหตุการณ์ดังกล่าวหรือเหตุการณ์คับขันอื่น ๆ กับตนเองหรือไม่และตอนนั้นนักเรียนทำ�อย่างไร A ถ้านักเรียนอยู่ในพฤติกรรมเสี่ยงและสถานการณ์เสี่ยงนักเรียนจะปฏิบัติ อย่างไร สื่อ/แหล่งเรียนรู้ 1. บทสนทนา เรื่อง ชายแปลกหน้า 2. เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง ทักษะการปฏิเสธเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ให้เยาวชน


64 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น การวัดและประเมินผล วิธีการวัด ประเมินบทสนทนาและการแสดงบทบาทสมมติใช้ทักษะชีวิตในการป้องกัน ตนเองและหลีกเลี่ยงสถานการณ์คับขัน เครื่องมือวัด 1. แนวทางการให้คะแนนบทสนทนา 2. คำ�ถาม R - C - A เกณฑ์การวัด 1. บทสนทนาและบทบาทสมมติ คะแนน 5 - 6 ดี 3 - 4 พอใช้ 2 ปรับปรุง ผ่านระดับพอใช้ขึ้นไป 2. พิจาณาจากการตอบคำ�ถามการนำ�ไปใช้(A) ผ่าน หมายถึง คำ�ตอบสามารถเชื่อมโยงการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ได้ ไม่ผ่าน หมายถึง คำ�ตอบไม่สามารถนำ�ไปแก้ปัญหาได้


65 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เกณฑ์การประเมินบทสนทนา “การใช้ทักษะชีวิตในการป้องกันตนเองและหลีกเลี่ยงสถานการณ์คับขัน” รายการประเมิน คำ�อธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) การใช้ทักษะชีวิตในการ ป้องกันตนเอง และหลีกเลี่ยงสถานการณ์ คับขัน การแสดงบทบาทสมมติ บทสนทนาใช้ ทักษะชีวิตแก้ไข ป้องกันตนเอง และหลีกเลี่ยง สถานการณ์ คับขันได้ สมเหตุผล แสดงวิธีการ ป้องกันตนเอง และหลีกเลี่ยง สถานการณ์คับขัน ตามบทสนทนา ได้อย่าง คล่องแคล่ว ต่อเนื่อง บทสนทนาใช้ ทักษะชีวิตแก้ไข ป้องกันตนเอง และหลีกเลี่ยง สถานการณ์ คับขันได้ ไม่สมเหตุผล แสดงวิธีการ ป้องกันตนเอง และหลีกเลี่ยง สถานการณ์คับขัน ได้ไม่คล่องแคล่ว บทสนทนา ไม่สามารถใช้ ทักษะชีวิตแก้ไข ป้องกันตนเอง และหลีกเลี่ยง สถานการณ์ คับขันได้ แสดงวิธีการ ป้องกันตนเอง และหลีกเลี่ยง สถานการณ์คับขัน ไม่ได้


66 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ใบกิจกรรม เรื่องทักษะชีวิตในการป้องกันตนเองและหลีกเลี่ยงสถานการณ์คับขัน คำ�สั่ง ให้นักเรียนเขียนบทสนทนาแสดงบทบาทสมมติหัวข้อ “การใช้ทักษะชีวิตใการ ป้องกันตนเองและหลีกเลี่ยงสถานการณ์คับขัน” และนำ�เสนอโดยการแสดง บทบาทสมมติ บทสนทนา เรื่อง................................................................................................................................................................ ...........................................………................................................................................................................................................. ...........................................………................................................................................................................................................. ...........................................………................................................................................................................................................. ...........................................………................................................................................................................................................. ...........................................………................................................................................................................................................. ...........................................………................................................................................................................................................. ...........................................………................................................................................................................................................. ...........................................………................................................................................................................................................. ...........................................………................................................................................................................................................. ...........................................………................................................................................................................................................. ชื่อกลุ่ม................................................................... สมาชิกกลุ่ม ...........................................………................................................................................................................................................. ...........................................………................................................................................................................................................. ...........................................……….................................................................................................................................................


67 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง ยาโปร์ กลุ่มเด็กมัธยมย่าน “ สามเสนแห่เสพ โปรโคดิล ตรวจสอบ พบยานํ้า ยาเม็ดผสม นํ้าอัดลมดื่ม ตำรวจ ดำเนินคดีไม่ได้เพราะ ไม่ใช่สารเสพติด เด็กยอมรับเริ่มติด คล้ายดื่มเหล้า แพทย์ชี้ตัวยาแก้ปวด มีส่วนผสมของฝิ่น หากเสพปริมาณมาก อาจชักและเสียชีวิตได้ ” ทีมข่าวกำ�แพงแดงได้รับข้อมูลจากตำ�รวจ ชุมชนสัมพันธ์สถานีตำ�รวจนครบาลสามเสนว่า ขณะนี้ นักเรียนมัธยมย่านสามเสนหลายคนติดยา ‘โปร’ (procodyl) ซึ่งเป็นยาแก้แพ้ชนิดนํ้าสำ�หรับเด็ก นักเรียนเหล่านี้จะนำ�มาผสมคู่กับยาแก้ปวดชนิดเม็ด เติมนํ้าอัดลมชงดื่ม แพร่ระบาดมาก เพราะเด็ก สามารถซื้อยาโปรฯ ได้ถูกกว่าเหล้า เบียร์แต่ออก ฤทธิ์ให้ความรู้สึกเมาคล้ายกัน ไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ให้ ครูปกครองจับมาลงโทษ และยังไม่ผิดกฎหมาย นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปีนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3ย่านสามเสนเปิดเผย‘กำ�แพงแดง’ ว่า เป็นคนไม่ดื่มเหล้า เบียร์ก็ไม่ดื่มเพราะมีรสขม ปีที่ผ่านมา มีเพื่อนต่างโรงเรียนมาแนะนำ�ให้รู้จัก ยาโปรฯ ซื้อจากร้านขายยาแห่งหนึ่งในราคาชุดละ 130 บาท (ยาโปรฯ1ขวดยาแก้ปวดชนิดเม็ด10เม็ด) นำ�มาผสมกับนํ้าอัดลม ทำ�ให้ยาโปรฯ มีรสหวาน เมื่อดื่มไปแล้วจะมีอาการเมาคล้ายดื่มเหล้า ง่วง บางครั้งจะคันตามเนื้อตัว เวลานี้แพร่หลายมากใน กลุ่มมัธยมต้นถึงมัธยมปลาย “บางคนกินเกินขนาด จะชักและหายเอง คล้ายเป็นลมบ้าหมู เวลาที่ไม่ได้กิน จะร้อน ๆ หนาว ๆ เหมือนคนเป็นหวัด ปวดเนื้อ ปวดตัว


68 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ถ้าไม่กินประมาน 2 - 3 วัน จะครั่นเนื้อครั่นตัว มันจะอยากกิน ผมว่าผมติดแล้วแหละ คิดจะเลิกแต่ขอโตกว่านี้ก่อน” และกล่าวเพิ่มเติมว่า อาจารย์ที่โรงเรียนไม่เคยจับได้ เพราะไม่เคยนำ�ไปผสมดื่มที่โรงเรียน มักจะไปดื่มช่วงหลังเลิกเรียนเป็นกลุ่มกับเพื่อน คล้ายกับการตั้งวงสังสรรค์ถ้าอาจารย์จับได้จะเรียกผู้ปกครองมาตักเตือน ทีมข่าวกำ�แพงแดงได้เดินทางไปซื้อยาโปรฯ จากร้านขายยาที่แหล่งข่าวได้ให้ ข้อมูลไว้เมื่อทีมข่าวแจ้งทางร้านว่า ขอซื้อโปรฯ ชุดหนึ่ง คนขายถามจำ�นวนเม็ดและ ขอชื่อนามสกุลของทีมข่าวกำ�แพงแดงไปเขียนใส่ในสมุดบันทึก พร้อมกับส่งยา 1 ชุด มียา 2 ชนิดคู่กัน คือยาแก้แพ้ชนิดนํ้าและยาแก้ปวดชนิดเม็ด ซึ่งเป็นยาแก้ปวดชนิด รุนแรง ราคาทั้งหมด 180 บาท โดยไม่ได้ถามอาการของทีมข่าวแต่อย่างใด เภสัชกรวุฒิพงศ์สายสงเคราะห์เจ้าของร้านขายยาแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ยาที่นำ�มา ผสมยาโปรฯสามารถขายในร้านขายยาได้ทุกร้าน แต่ทางร้านจะต้องทำ�บัญชีส่งสำ�นักงาน คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และบริษัทยาต้องทำ�บัญชีส่ง อย. ด้วยเช่นกัน ซึ่งมี ข้อกำ�หนดว่า ในระยะเวลา 1 เดือน แต่ละร้านสามารถขายยาโปรโคดิลได้ไม่เกิน 300 ขวด ในการสั่งซื้อยาชนิดนี้กับบริษัทยา จะต้องมีใบสั่งจากเภสัชกรเท่านั้น ยาอีก ชนิดหนึ่งที่นำ�มาผสมกับโปรโคดิล คือยาแก้ปวดชนิดรุนแรง ตอนนี้กระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือในการควบคุมยาจากร้านขายยาให้หลีกเลี่ยงการจ่ายยาแก่เด็กวัยรุ่น และจำ�กัดการจำ�หน่ายได้ไม่เกิน 20 เม็ดต่อคน ล่าสุด ชนิดยาที่วัยรุ่นนำ�ไปใช้เพิ่มขึ้น คือ กลุ่มยาแก้ไอที่มีรสหวาน ไม่จำ�เป็นต้องเป็นยาแก้แพ้อย่างเมื่อก่อน แหล่งข่าวอาจารย์ฝ่ายปกครองโรงเรียนย่านสามเสน เปิดเผยว่า เคยจับนักเรียน ที่นำ�ยาแคปซูลสีเหลืองเขียว (ยาแก้ปวดชนิดรุนแรง) มาโรงเรียน แต่ไม่สามารทำ�อะไรได้ เพราะไม่เหมือนกับยาเสพติดที่ตรวจฉี่แล้วรู้ว่านักเรียนคนนี้เสพ “แต่เด็กที่เสพยาโปรฯ นั้น เราสามารถรู้ได้ด้วยอาการผิดปกติ คล้ายคนเมา ไม่มีกลิ่นเหล้า ทำ ได้แค่ตักเตือน สั่งสอน เชิญผู้ปกครองมาพบ จากนั้นคัดกรองเอาไว้ ทำ ทะเบียนผู้ติดยา ต่อไปถ้าทำอีก ต้องนำ นักเรียนมาปรับพฤติกรรม เชิญตำ รวจ ทหาร นิมนต์พระมาเทศน์ ใช้มาตรการ


69 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น อ่อนและแข็งสลับกันไป” และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เด็กที่ติดยาเสพติด รวมทั้งยาโปรฯ โรงเรียนจะส่งให้ผู้ปกครองนำ�ไปบำ�บัด แล้วนำ�ใบรับรองแพทย์มา โดยเด็กสามารถ เรียนไปด้วย รักษาไปด้วยควบคู่กัน จะได้ผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับการเอาใจใส่ของครอบครัว เคยมีนักเรียนชั้น ม. 6 มีอาการติดยาโปรฯ สะลึมสะลือ พูดไม่รู้เรื่อง คล้ายคนเมา เซื่องซึม เหมือนคนง่วงตลอดเวลา หากวันไหนไม่ดื่ม จะดูสดใสมีชีวิตชีวา เป็นคนละคน “เด็กบางคนเคยท้าให้ตรวจปัสสาวะ เพราะรู้ว่าตรวจแล้วไม่เจอสารเสพติด แถวนี้ เรามี โรงเรียน 14 แห่ง จัดประชุมกัน อาจารย์โรงเรียนหนึ่งนำ เสนอปัญหาเรื่องเด็กติดโปรฯ ปรากฏว่าอาจารย์โรงเรียนอื่นๆ ก็พูดถึงปัญหาติดยาชนิดนี้เช่นกัน กลุ่มที่ติดก็จะเป็นเด็ก กลุ่มเสี่ยงกลุ่มเดิม ๆ ทั้ง 14 โรงเรียนพบปัญหาเหมือนกันหมด” ดาบตำ�รวจ พิชิต สาครินทร์ตำ�รวจชุมชนสัมพันธ์สถานีตำ�รวจนครบาลสามเสน เล่าว่า ตนเป็นวิทยากรสอนหลายโรงเรียน ส่วนมากจะได้รับคำ�ร้องเรียนจากอาจารย์ว่า เด็กมีปัญหามากในเรื่องการเสพยาโปรฯ ซึ่งหลายครั้งตนไปเจอเองที่ร้านขายยา “ร้าน ขายยาแถวศรีย่าน เด็กต่อแถวซื้อเลย เป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก เพราะเด็กที่ไปซื้อส่วนใหญ่ สวมชุดเครื่องแบบนักเรียน เห็นเลยว่ามาจากโรงเรียนไหนบ้าง มีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย ตั้งแต่ มัธยมต้น จนถึงเด็กมัธยมปลาย” และยังกล่าวอีกว่า ได้รับการแจ้งมาจากประชาชนว่า มีเด็กมั่วสุมในสถานที่ต่าง ๆ เมื่อเข้าไปตรวจสอบ พบว่ามียาชนิดนี้แต่เด็กจะอ้างว่า เป็นการดื่มนํ้าอัดลม ตำ�รวจเอาผิดไม่ได้ทุกวันนี้ตนเป็นห่วงมาก เพราะยาโปรฯ ไม่ใช่ ยาเสพติด วางขายทั่วไปตามร้านขายยา แต่มีอันตรายคล้ายยาเสพติด “มีบางโรงเรียน ที่เด็กกิน รุ่นพี่กิน แล้วมาแบ่งรุ่นน้องที่เป็นผู้หญิงที่อยู่ ม. 3 พอให้รุ่นน้องกินแล้วชัก แล้วก็นำส่งโรงพยาบาลล้างท้องเกือบไม่ทัน” นายแพทย์ปฏิพัทธ์วุฒิวิทยารักษ์แพทย์ชำ�นาญการ ศูนย์บริการสาธารณสุข 42 ถนอม ทองสิมา เปิดเผยว่า ยาโปรฯไม่ถือเป็นสารเสพติดตามกฎหมายแต่ทางพฤติกรรม ถือเป็นยาเสพติดได้ยาเม็ดที่นำ�มาผสมโปรโคดีล เป็นกลุ่มยาแก้ปวด มีส่วนผสมของฝิ่น อยู่ด้วย ทำ�ให้ลดอาการเจ็บปวดได้ส่วนมากมักใช้ในคนไข้ที่ผ่าตัด ผลข้างเคียงของยาจะ


70 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ทำ�ให้คลื่นไส้อาเจียนเยอะ ส่วนตัวที่เป็นยานํ้า เป็นยาแก้แพ้ผลข้างเคียงมีหลายอย่าง อย่างแรก ทำ�ให้ง่วงนอน กดประสาทและกดการหายใจได้เป็นกลุ่มยาที่ค่อนข้างอันตราย จะทำ�ให้มีไข้สูงและชักได้ถ้ากินในปริมาณมากอาจทำ�ให้หยุดหายใจและเสียชีวิตได้ อันตรายอีกประการหนึ่งของยาชนิดนี้คือ ส่งผลต่อความดันผิดปกติการนำ�ยาเหล่านี้ มาผสมกับนํ้าอัดลม จะออกฤทธิ์เพิ่มมากกว่าเดิม (หนังสือพิมพ์กำแพงแดง ปีที่ 18 ฉบับที่ 29 ประจำ เดือนพฤศจิกายน 2556)


71 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง ทักษะการปฏิเสธเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชน ในสังคมไทยการปฏิเสธดูเป็นเรื่องด้านลบ ส่วนในด้านวัฒนธรรมก็จะดูขัดกับ ความเป็นผู้มีอัธยาศัยที่ดีแต่การปฏิเสธถือเป็นวิธีการสื่อสารอย่างหนึ่งในการผัดผ่อน ต่อรองคำ�ชักชวนของเพื่อนที่ชักจูงไปใช้ยาเสพติด หากวัยรุ่นสามารถปฏิเสธคำ�ชักชวน ของเพื่อนได้อย่างนิ่มนวลและไม่เสียสัมพันธภาพ วัยรุ่นก็จะรอดพ้นจากการตกเป็นทาส ยาเสพติดได้ซึ่งจากการทบทวนเอกสารในเรื่องทักษะการปฏิเสธของสำ�นักงานป้องกัน และบำ�บัดการติดยาเสพติดรวมทั้งใบความรู้เรื่องหลักการปฏิเสธและการเตือนเพื่อน ของทัศนีย์ ไชยเจริญ และจากข้อมูลสายด่วน 1165 ของสถาบันบำ�บัดรักษาและฟื้นฟู ผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนีสามารถสรุปได้ว่าทักษะการปฏิเสธหรือการปฏิเสธ ที่ดีนั้นมีขั้นตอนปฏิบัติดังนี้ 1. การใช้ความรู้สึกเป็นข้ออ้างประกอบเหตุผลเพราะการใช้เหตุผลอย่างเดียว มักถูกโต้แย้งด้วยเหตุผลอื่น การอ้างความรู้สึกจะทำ�ให้โต้แย้งยากขึ้นเช่น “ฉันไม่สบายใจเลย พ่อแม่จะเป็นห่วงถ้ากลับบ้านช้า” เป็นต้น 2. การขอปฏิเสธ เป็นการบอกปฏิเสธให้ชัดเจนเป็นคำ�พูดเช่น “ขอไม่ไป นะเพื่อน” 3. การขอความเห็นชอบ กล่าวขอบคุณพร้อมแสดงความห่วงใยเมื่อผู้ชวน ยอมรับเพื่อรักษานํ้าใจผู้ชวน เช่น “เธอคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม” เป็นต้น และหากการปฏิเสธ ในครั้งแรกไม่สำ�เร็จอาจถูกสบประมาทจากผู้ชวนเมื่อผู้ชวนเซ้าซี้ควรปฏิเสธซํ้าด้วยท่าที มั่นคงและมีทางออก 3 วิธีคือ การปฏิเสธซํ้า การต่อรองโดยการชวนไปทำ�กิจกรรมอื่น ที่ดีกว่าแทน หรือการผัดผ่อนโดยการขอยืดระยะเวลาออกไปเพื่อให้ผู้ชวนเปลี่ยน ความตั้งใจ


72 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ปัจจัยที่มีผลต่อการสร้างทักษะปฏิเสธในเยาวชน การที่เยาวชนจะสามารถมีทักษะในการปฏิเสธตามที่ได้กล่าวมาแล้วนั้นขึ้นอยู่ กับปัจจัยในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นทัศนคติส่วนบุคคล, ความตระหนักรู้ในตนเอง (self awareness), ความเห็นใจผู้อื่น (emphathy), ความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง (selfesteem) และมีความรับผิดชอบต่อสังคม (social responsibility) ทัศนคติและทักษะการปฏิเสธสิ่งเสพติดของนักเรียนมัธยมศึกษาในกรุงเทพมหานคร (จิตรา ธนสารเสณี, 2541) พบว่า ผู้ที่มีทัศนคติต่อการป้องกันยาเสพติดทางบวกจะมี ทักษะการปฏิเสธสิ่งเสพติดมากกว่าผู้ที่มีทัศนคติต่อการป้องกันสิ่งเสพติดในทางลบ ดังนั้น ควรเสริมสร้างให้เยาวชนมีทัศนคติที่ดีในการป้องกันยาเสพติดด้วยการส่งเสริม ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ตามองค์ประกอบของทักษะของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (2543) ได้กล่าวว่าบุคคลจะมีทักษะต่าง ๆ ได้นั้นจะต้องมีองค์ประกอบ ดังต่อไปนี้ 1. ความตระหนักรู้ในตน (self awareness) คือ ความสามารถและเข้าใจ ในจุดดีจุดด้อยของตนเอง 2. ความเห็นใจผู้อื่น (empathy) คือความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกและ เห็นอกเห็นใจบุคคลที่แตกต่างกับเรา 3. ความภูมิใจในตนเอง (self-esteem) คือ ความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า เช่น ความมีนํ้าใจ รู้จักให้รู้จักรับ ค้นพบและภูมิใจในความสามารถด้านต่าง ๆ ของตน 4. ความรับผิดชอบต่อสังคม (social responsibility) คือความรู้สึกว่าตนเอง เป็นส่วนหนึ่งของสังคมและมีส่วนรับผิดชอบในความเจริญหรือความเสื่อมของสังคม ความรับผิดชอบต่อสังคมมีส่วนสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับความภาคภูมิใจในตนเอง เพราะหากมีความภูมิใจในตนเอง คนเหล่านี้ก็มีแรงจูงใจที่จะทำ�ดีกับผู้อื่นและสังคม ซึ่งจาก องค์ประกอบทั้งหมดสอดคล้องกับผลการศึกษาความสามารถการใช้ทักษะ


73 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ภาพตัวอย่าง ทักษะในการกำ�หนดเป้าหมายและทิศทางสู่ความสำ�เร็จของนักเรียน เช่น การเล่นกีฬา การเล่นดนตรี การทำ�จิตอาสา การทำ�บุญไหว้พระ และการตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เป็นต้น


74 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น


75 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ชื่อกิจกรรม คิดหน่อยนะ...คุณแม่ยังสาว เวลา 1 ชั่วโมง มาตรฐาน/ตัวชี้วัด พ 2.1 ม.3/2 วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ พฤติกรรมทักษะชีวิต องค์ประกอบที่ 2 การวิเคราะห์ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ข้อที่ 5 มีทักษะในการแสวงหาข้อมูลและใช้ข้อมูลให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง และผู้อื่น ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. แผนผังความคิดเรื่อง ปัจจัยส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ 2. การตอบคำ�ถาม R - C - A กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูให้นักเรียนดูคลิปหรือรูปภาพผู้หญิงท้องสูบบุหรี่ดื่มเหล้า


76 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 2. ชวนคุยในประเด็นต่อไปนี้ 2.1 ถ้าผู้หญิงท้องสูบบุหรี่ไปเรื่อย ๆ จะมีปัญหาอะไรบ้าง 2.2 ถ้าผู้หญิงท้องดื่มเหล้าไปเรื่อย ๆ จะมีปัญหาอะไรบ้าง 3. ครูชวนคุยว่าพฤติกรรมดังกล่าว มีผลกระทบต่อการการตั้งครรภ์แต่มีปัจจัย อื่น ๆ อีกมากมาย ทุกคนจะได้ร่วมกันแสวงหาข้อมูลร่วมกัน 4. แบ่งนักเรียนออกเป็น 6 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีจำ�นวนเท่ากัน ครูให้แต่ละกลุ่ม ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์และนำ�เสนอในรูปแผนผังความคิด ตามประเด็นของแต่ละกลุ่ม ดังนี้ - กลุ่มที่ 1 แอลกอฮอร์มีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์อย่างไร - กลุ่มที่ 2 สารเสพติดมีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์อย่างไร - กลุ่มที่ 3 บุหรี่มีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์อย่างไร - กลุ่มที่ 4 สภาพแวดล้อมมีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์อย่างไร - กลุ่มที่ 5 การติดเชื้อมีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์อย่างไร - กลุ่มที่ 6 โรคที่เกิดจากภาวะการตั้งครรภ์มีอะไรบ้าง 5. ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนำ�เสนอหน้าชั้นเรียนเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของ แต่ละกลุ่ม 6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์เป็นภาพรวม อีกครั้งหนึ่ง 7. ครูใช้คำ�ถาม R - C - A เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต R นักเรียนมีความรู้สึกอย่างไร เมื่อต้องค้นหาข้อมูลปัจจัยที่มีผลกระทบ ต่อการตั้งครรภ์ C นักเรียนเคยค้นหาข้อมูลเรื่องอื่น ๆ หรือไม่ มีวิธีการค้นหาอย่างไร A นักเรียนคิดอย่างไร เมื่อต้องหาข้อมูลทำ�แผนผังความคิดเรื่องปัจจัย ที่มีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์และจะมีวิธีค้นหาข้อมูลได้ที่ไหน ค้นหา ได้อย่างไร


77 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สื่อ/แหล่งเรียนรู้ 1. คลิปหรือภาพคนท้องสูบบุหรี่และดื่มสุรา 2. ประเด็นหาข้อมูลกลุ่มที่ 1 - 6 การวัดและประเมินผล วิธีการวัด 1. ประเมินชิ้นงานแผนผังความคิดเรื่อง ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ 2. พิจารณาจากการตอบคำ�ถาม R - C - A เครื่องมือวัด 1. แบบประเมินการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ 2. คำ�ถาม R - C - A เกณฑ์การวัด 1. ชิ้นงานแผนผังความคิด เรื่องปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ คะแนน 5 - 9 คะแนน ระดับ ดี คะแนน 4 - 6 คะแนน ระดับ พอใช้ คะแนน 3 คะแนน ระดับ ปรับปรุง ระดับพอใช้ขึ้นไปถือว่าผ่าน 2. พิจารณาจากการตอบคำ�ถามการนำ�ไปใช้(A) ถ้าคำ�ตอบของคำ�ถามการนำ�ไปใช้(A) มีความเหมาะสมถือว่าผ่าน


78 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เกณฑ์การประเมิน แผนผังความคิดการวิเคราะห์ปัจจัยส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ รายการประเมิน คำ�อธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) วิเคราะห์ปัจจัยที่มี ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ การแสวงหาความรู้ จำ�แนกปัจจัยที่มี ผลกระทบต่อ การตั้งครรภ์ ได้ถูกต้อง 4 ปัจจัยขึ้นไป บอกผลกระทบ จากปัจจัยที่เกิด การตั้งครรภ์ ถูกต้อง มีข้อมูล อ้างอิงหลายแห่ง จำ�แนกปัจจัยที่มี ผลกระทบต่อ การตั้งครรภ์ ได้ถูกต้อง 3 ปัจจัย บอกผลกระทบ จากปัจจัยที่เกิด การตั้งครรภ์ ถูกต้อง มีข้อมูล อ้างอิงแห่งเดียว จำ�แนกปัจจัยที่มี ผลกระทบต่อ การตั้งครรภ์ ได้ถูกต้อง 2 ปัจจัย บอกผลกระทบ ไม่มีข้อมูลอ้างอิง


79 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ชื่อกิจกรรม กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ เวลา 1 ชั่วโมง มาตรฐาน/ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.3/2 นำ�หลักการความรู้และทักษะในการเคลื่อนไหวกิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬาไปใช้สร้างเสริมสุขภาพอย่างต่อเนื่องเป็นระบบ พ 3.2 ม.3/3 ปฏิบัติตนตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นตามชนิดกีฬา ที่เลือก และนำ�แนวคิดที่ได้ไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนในสังคม พฤติกรรมทักษะชีวิต องค์ประกอบที่ 1 การตระหนักรู้และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น ข้อ 5 รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น ชิ้นงาน/ภาระงาน เล่นกีฬาประเภททีมตามกฎกติกาและระเบียบที่กำ�หนด กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูให้นักเรียนอบอุ่นร่างกาย 2. ครูแจ้งให้นักเรียนปฏิบัติตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นกีฬา ตามถนัดที่เลือก และปฏิบัติตามกฎ กติกา และข้อตกลงของการเล่น 3. นักเรียนเล่นกีฬาประเภททีม (ตามที่โรงเรียนได้จัดสอน) 4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปให้เห็นถึงประโยชน์ของการเล่นกีฬา และปฏิบัติตามกฎ กติกา และข้อตกลงของการเล่นว่านำ�ไปสู่การสร้างเสริมสุขภาพ อย่างต่อเนื่องเป็นระบบ ตลอดจนสามารถเล่นกีฬาที่ตนถนัดจนประสบความสำ�เร็จ


80 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นที่ประจักษ์ก็จะนำ�ชื่อเสียงมาสู่ตน เป็นที่รู้จักยอมรับของบุคคลทั่วไป เป็นการพัฒนา คุณภาพชีวิตของตน และไม่ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 5. ครูใช้คำ�ถาม R - C - A เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต R นักเรียนรู้สึกอย่างไรที่เล่นกีฬาได้ตามที่ตนถนัด ตลอดจนปฏิบัติตามกฎ กติกา ข้อตกลงในการเล่นกีฬา C ที่ผ่านมานักเรียนเคยประสบความสำ�เร็จในการเล่นกีฬา และรู้สึกรัก และเห็นคุณค่าในตนเองอย่างไร A ขณะนี้ถ้านักเรียนอยากช่วยให้ผู้อื่นประสบความสำ�เร็จในการเล่นกีฬา รู้สึกรักและเห็นคุณค่าในตนเองไม่ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด นักเรียน จะทำ�อย่างไร สื่อ/แหล่งเรียนรู้ อุปกรณ์การเล่นกีฬาตามชนิดที่เล่น การวัดผลและประเมินผล วิธีการวัด 1. สังเกตการปฏิบัติการเล่นกีฬา 2. การตอบคำ�ถาม R - C - A เครื่องมือวัด 1. แบบประเมินการปฏิบัติการเล่นกีฬา 2. คำ�ถาม R - C - A


81 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เกณฑ์การวัด 1. การปฏิบัติการเล่นกีฬา คะแนน 5 - 9 คะแนน ระดับ ดี คะแนน 4 - 8 คะแนน ระดับ พอใช้ คะแนน 3 คะแนน ระดับ ปรับปรุง ระดับพอใช้ขึ้นไป ถือว่าผ่าน 2. พิจารณาจากการตอบคำ�ถามการนำ�ไปใช้(A) ถ้าคำ�ตอบของคำ�ถามการนำ�ไปใช้(A) มีความเหมาะสมถือว่าผ่าน


82 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เกณฑ์การประเมิน การเล่นกีฬาประเภททีมตามกฎ กติกา และระเบียบที่กำ�หนด รายการประเมิน คำ�อธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) เล่นกีฬาปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ทักษะกีฬา เล่นกีฬาปฏิบัติ ตามกฎ กติกา และยอมรับ ข้อตกลงด้วย ความเต็มใจ แสดงทักษะ การเล่นกีฬา อย่างคล่องแคล่ว อัตโนมัติ เล่นกีฬาปฏิบัติ ตามกฎ กติกา และยอมรับ แต่แสดงปฏิกิริยา แสดงทักษะ การเล่นกีฬา ไม่คล่องแคล่ว ไม่ยอมรับกฎ กติกา แสดงทักษะไม่ได้


83 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ชื่อกิจกรรม ร้อยแปดวิธีดูแลปัญหาสุขภาพชุมชน เวลา 2 ชั่วโมง มาตรฐาน/ตัวชี้วัด พ 4.1 ม.3/3 รวบรวมข้อมูลและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาสุขภาพในชุมชน พฤติกรรมทักษะชีวิต องค์ประกอบที่ 4 การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น ข้อที่ 3 การทำ�งานร่วมกับผู้อื่นตามวิถีประชาธิปไตย ข้อที่ 4 จิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่น ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. โครงงานจิตอาสา 2. การตอบคำ�ถาม R - C - A กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 (ใช้กิจกรรมบันได 5 ขั้น) 1. ครูชี้แจงให้นักเรียนทราบ จะให้ทุกคนดูคลิปหรือภาพปัญหาสุขภาพในชุมชน โดยมีเงื่อนไขให้ทุกคนดูอย่างตั้งใจจนจบ เมื่อดูจบให้ทุกคนตั้งประเด็นคำ�ถามหรือข้อสงสัย จากการดูคลิปหรือภาพ 2. ครูรวบรวมคำ�ถามนักเรียนบนกระดานหน้าชั้นเรียน 3. ครู/นักเรียนรวบรวมจัดกลุ่มคำ�ถามเชื่อมโยงไปยังปัญหาสุขภาพที่เหมือน หรือคล้ายคลึงกันเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อให้นักเรียนร่วมกันศึกษาค้นคว้าและให้เพิ่มเติมปัญหา ที่พบในชุมชนตนเอง


84 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 4. แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มละเท่ากัน กลุ่มระดมสมองเลือกหัวข้อปัญหา ทำ�ในชุมชนของตนเองตามความสนใจ เช่น - ปัญหาสารเสพติด - ปัญหาโรคระบาด - ปัญหาขยะมูลฝอย - ปัญหานํ้าเสีย - ปัญหาการไม่ออกกำ�ลังกาย ฯลฯ 5. แต่ละกลุ่มวางแผนจัดทำ�เค้าโครงตามหัวข้อที่กลุ่มเลือก 6. แต่ละกลุ่มสืบค้นความรู้จากชุมชนตนเองและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ตในประเด็นต่อไปนี้ - สภาพปัญหา - สาเหตุของปัญหา - แนวทางแก้ไขปัญหา - ทดลองแก้ปัญหา - สรุปผลการดำ�เนินการ 7. แต่ละกลุ่มนำ�ข้อมูลที่ได้มาอภิปราย วิเคราะห์สังเคราะห์และสรุปเป็น องค์ความรู้และจัดทำ�เค้าโครง โครงงานเตรียมนำ�เสนอหน้าชั้นเรียน ชั่วโมงที่ 2 1. ครูทบทวนภาระงานในชั่วโมงที่ผ่านมา 2. ให้แต่ละกลุ่ม นำ�เสนอผลงานของกลุ่มตนเอง เพื่อนต่างกลุ่มเสนอแนะ เพิ่มเติม นำ�เสนอทุกกลุ่ม 3. ทุกกลุ่มปรับปรุงโครงงานตามข้อเสนอแนะและจัดทำ�รูปเล่ม


85 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 4. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปกิจกรรมที่นักเรียนปฏิบัติว่า มีจุดประสงค์เพื่อ ให้นักเรียนรวบรวมข้อมูลและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาสุขภาพในชุมชนและให้นำ�ความรู้ สู่การพัฒนาชุมชน 5. ครูใช้คำ�ถาม R - C - A เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต R นักเรียนคิดอย่างไรกับการเป็นผู้มีจิตอาสาร่วมกันทำ�งานกับผู้อื่นเพื่อแก้ไข ปัญหาสุขภาพของชุมชน C นักเรียนเคยมีจิตอาสาร่วมกันทำ�งานกับผู้อื่นเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพ ของชุมชนหรือไม่ A หากนักเรียนในฐานะเป็นผู้มีจิตอาสาในการทำ�โครงงานกับผู้อื่นเพื่อ แก้ไขปัญหาสุขภาพของชุมชน นักเรียนจะปฏิบัติตนอย่างไร 6. ครูเน้นยํ้าให้นักเรียนตระหนักถึงปัญหาสุขภาพของชุมชนและปัญหา ที่เกิดจากสารเสพติดและให้นักเรียนเข้าไปมีส่วนร่วมในการรณรงค์ป้องกันและแก้ปัญหา สุขภาพ ปัญหาสารเสพติดในชุมชนของตนเอง สื่อ/แหล่งเรียนรู้ คลิป/ภาพปัญหาสุขภาพของชุมชน การวัดผลและประเมินผล วิธีการวัด 1. ตรวจรายงานโครงงาน 2. ประเมินจากการตอบคำ�ถาม R - C - A


86 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เครื่องมือวัด 1. แบบประเมินโครงงานจิตอาสา 2. คำ�ถาม R - C - A เกณฑ์การวัด 1. พิจารณา จากรายงานโครงงานจิตอาสา คะแนน 13 - 18 คะแนน ระดับ ดี คะแนน 7 - 12 คะแนน ระดับ พอใช้ คะแนน 6 คะแนน ระดับ ปรับปรุง ระดับ พอใช้ขึ้นไปถือว่าผ่าน 2. พิจารณาคำ�ถามการนำ�ไปใช้(A) ถ้าคำ�ตอบของคำ�ถามการนำ�ไปใช้(A) มีความเหมาะสมถือว่าผ่าน


87 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เกณฑ์การประเมินรายงานโครงานจิตอาสา ประเด็นประเมิน ระดับคุณภาพ ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) นํ้าหนัก ขั้นตอนการทำ�โครงงาน ประโยชน์โครงงาน การใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะผู้ที่ทำ�โครงงาน ด้านความร่วมมือ มีหัวข้อครบถ้วน 5 ขั้นตอน 1. สภาพปัญหา 2. สาเหตุปัญหา 3. แนวทาง การแก้ปัญหา 4. ทดลอง แก้ปัญหา 5. สรุปผล การดำ�เนินงาน มีความเชื่อมโยง อย่างมีเหตุผล กิจกรรมโครงงาน ช่วยแก้ไขปัญหา สุขภาพชุมชน นำ�ไปใช้ในชีวิต ประจำ�วันและ ปฏิบัติได้ ใช้เทคโนโลยี ในการสืบค้นและ นำ�เสนอ ร่วมมือกันทำ� โครงงานทั้งกลุ่ม ตามหน้าที่ มีหัวข้อครบถ้วน แต่ขาดความ เชื่อมโยง กิจกรรมโครงงาน ช่วยแก้ไขปัญหา สุขภาพชุมชน ปฏิบัติไม่ได้ ใช้เทคโนโลยี เฉพาะสืบค้นหรือ นำ�เสนอ ร่วมมือกันทำ�งาน บางส่วน 2 ใน 3 ส่วน มีหัวข้อไม่ครบ กิจกรรมโครงงาน ไม่ช่วยแก้ไข ปัญหา ไม่ใช้เทคโนโลยี ร่วมมีกันทำ�งาน 1 ส่วน 2 2 1 1


88 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ชื่อกิจกรรม เมา...แก้ไขอย่างไร เวลา 2 ชั่วโมง มาตรฐาน/ตัวชี้วัด พ 5.1 ม.3/4 วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่อ สุขภาพและการเกิดอุบัติเหตุ พฤติกรรมทักษะชีวิต องค์ประกอบที่ 3 การจัดการกับอารมณ์และความเครียด ข้อที่ 3 รู้จักคลายเครียดด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ ข้อที่ 4 รู้จักสร้างความสุขให้กับตนเองและผู้อื่น ชิ้นงาน/ภาระงาน ผลการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ต่อสุขภาพและการเกิดอุบัติเหตุ ชั่วโมงที่ 1 การวิเคราะห์ 1. ครูนำ�ข่าวสื่อจากเทคโนโลยีหรือคลิปวีดิโอ หรือจากหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับ อุบัติเหตุกับการเมาสุราและก่อให้เกิดอุบัติเหตุ


89 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 2. ร่วมกันอภิปรายในประเด็นต่อไปนี้ - รู้สึกอย่างไรต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น - สาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ในข่าว สาเหตุมาจากอะไรบ้าง ใครเกี่ยวข้อง 3. แบ่งนักเรียนเป็น 5 กลุ่ม ครูแจกกระดาษฟลิปชาร์ทให้แต่ละกลุ่มร่วมกัน ระดมความคิดตามใบกิจกรรมที่กำ�หนด เตรียมนำ�เสนอในชั่วโมงต่อไป - ใบกิจกรรมกลุ่มที่ 1 ดื่มเหล้า ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไรและทำ�ให้เกิด อุบัติเหตุอย่างไร - ใบกิจกรรมกลุ่มที่ 2 ดื่มเบียร์ ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไรและทำ�ให้เกิด อุบัติเหตุอย่างไร - ใบกิจกรรมกลุ่มที่ 3 ดื่มไวน์ ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไรและทำ�ให้เกิด อุบัติเหตุอย่างไร - ใบกิจกรรมกลุ่มที่ 4 เครื่องดื่มอื่นที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์มีอะไรบ้าง ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร และทำ�ให้เกิดอุบัติเหตุอย่างไร - ใบกิจกรรมกลุ่มที่ 5 เราจะมีวิธีผ่อนคลายความเครียดที่สร้างสรรค์ ได้อย่างไร และสร้างความสุขให้ตนเองและผู้อื่นโดยวิธีใดได้บ้าง ชั่วโมงที่ 2 1. ครูทบทวนภาระงาน จากชั่วโมงที่1และให้แต่ละกลุ่ม นำ�เสนอผลงานกลุ่ม หน้าชั้นเรียน 2. ครูและนักเรียน ร่วมกันสรุปองค์ความรู้จากการนำ�เสนอข้อมูลของแต่ละกลุ่ม โดยสะท้อนข้อมูลเมื่อแต่ละกลุ่มนำ�เสนอผลงานเสร็จเพื่อสะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ของ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ที่มีต่อสุขภาพและการเกิดอุบัติเหตุ


90 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 3. นักเรียนที่ไม่ได้นำ�เสนอต้องบันทึกข้อมูลและข้อเสนอของกลุ่มที่นำ�เสนอ ทุกกลุ่ม 4. ครูใช้คำ�ถาม R - C - A เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต R นักเรียนรู้สึกอย่างไรกับผู้ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกฮอล์ C นักเรียนเคยเห็นผู้ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อ คลายเครียดส่งผลกระทบต่อตัวเขาอย่างไร A ถ้านักเรียนมีความเครียดจะมีวิธีคลายเครียดและสร้างความสุขให้กับ ตนเองและผู้อื่นอย่างไร โดยไม่ต้องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 5. ครูเพิ่มเติมข้อมูล การเมาแล้วขับก่อให้เกิดผลกระทบตามมามากมาย ก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และสาเหตุของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากความเครียดควรหาทางออกโดยการจัดการกับอารมณ์และ ความเครียด การรู้จักคลายเครียดด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ โดยไม่ต้องพึ่งยาเสพติด ประเภทเหล้า/เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ก็สามารถสร้างความสุขให้กับตนเองและ ผู้อื่นได้ครูแจกใบความรู้เรื่อง “อารมณ์และการจัดการกับอารมณ์” และผลกระทบ ของการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์เพื่อนำ�ไปปรับใช้ในชีวิตประจำ�วันต่อไปและให้ทำ� ใบงานเพื่อประเมินผลตนเอง สื่อ/แหล่งเรียนรู้ 1. ข่าวจากหนังสือพิมพ์ สื่อเทคโนโลยีคลิปวีดิโอผลกระทบจากการดื่ม เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ 2. กระดาษฟลิปชาร์ท 3. ใบกิจกรรม 4. ใบความรู้


91 แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติด ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น การวัดและประเมินผล วิธีการวัด 1. ตรวจงาน ผลการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ต่อสุขภาพและ การเกิดอุบัติเหตุ 2. การตอบคำ�ถาม R - C - A เครื่องมือวัด 1. เกณฑ์การตรวจงาน 2. คำ�ถาม R - C - A เกณฑ์การวัด 1. พิจารณาจากการประเมินผลการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ต่อ สุขภาพและการเกิดอุบัติเหตุ คะแนน 5 - 6 คะแนน ระดับ ดี คะแนน 3 - 4 คะแนน ระดับ พอใช้ คะแนน 2 คะแนน ระดับ ปรับปรุง ระดับพอใช้ขึ้นไปถือว่าผ่าน 2. พิจารณาจากการตอบคำ�ถามการนำ�ไปใช้(A) ถ้าคำ�ตอบของคำ�ถามการนำ�ไปใช้(A) มีความเหมาะสมถือว่าผ่าน


Click to View FlipBook Version