The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nchanoknan, 2022-05-24 05:39:14

TEST

aw P 127-250

ข้อพิรุธพยานที่จะสอบสวนปากค�ำ ให้พิจารณาจาก พยานหลักฐานต่างๆ ของผูก้ ลา่ วหา, พยาน
การสอบสวนว่า พยานปากใดมีความส�ำคัญหรือ ฝา่ ยผกู้ ลา่ วหา ใหซ้ ดั เจนใหเ้ หน็ ความเชอื่ มโยงจากคดี
เก่ียวข้องจริง ท่ีจะต้องสอบสวนให้ปรากฎไว้ใน ความผดิ มลู ฐาน และนำ� สกู่ ารเกย่ี วขอ้ งในการฟอกเงนิ
ส�ำนวน หากไมใ่ ชพ่ ยานทมี่ ีความสำ� คัญ หรือสามารถ อย่างไร การรับไว้, การถือครอง, การได้มา หรือ
ตดั ออกจากสำ� นวนการสอบสวนได้ กไ็ มต่ อ้ งสอบหรอื การโอน ธุรกรรมท่ีเกี่ยวข้อง ช่วงเวลาที่เกิด
ปรากฏในส�ำนวนการสอบสวนการสรุปเน้ือหา การฟอกเงิน และสถานทต่ี ่างๆ ทีเ่ ก่ียวขอ้ ง ตลอดทง้ั
ตรงความเหน็ ของพนกั งานสอบสวน และขอ้ กฎหมาย ความเป็นพิรุธ, การอ�ำพราง, ปกปิดซ่อนเร้น หรือ
ให้สรุปการสืบสวนสอบสวน การใช้ตัวแทนหรือบุคคลอื่นๆ (ที่ไม่เกี่ยวข้อง)
ดำ� เนินการแทน

การต่อสู้ หรือข้ออ้างของผู้ต้องหา หรือ
ผ้กู ระท�ำผดิ หรอื บคุ คลที่ผูถ้ กู ล่าวหาอ้างถงึ

การสรุปข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานใน
การสอบสวน ให้มีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน ใน
การกล่าวหา เรอื่ งการฟอกเงนิ ฯ การสรปุ พฤติการณ์
และการกระท�ำผิดของผู้ถูกล่าวหาว่าเช่ือมโยง
การกระท�ำผิดอย่างไร ให้เข้ากับข้อกฎหมายเรื่อง
การฟอกเงนิ

การนำ� คำ� สง่ั ยดึ อายดั ซงึ่ ทางสำ� นกั งาน ปปง.
ออกค�ำสั่งไว้แล้ว มาประกอบไว้ในส�ำนวนการ
สอบสวนและอ้างไว้ตอนท้ายรายงานการสอบสวน
เพื่อให้พนักงานอัยการทราบว่ามีการด�ำเนินการ
เกี่ยวกับตัวทรัพย์สิน ของผ้ถู กู กล่าวหาในทางคดแี ล้ว
ไวด้ ้วย

การอ้างข้อกฎหมาย ตามมาตรา ๕ (๓)
แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
พ.ศ. ๒๕๔๒ ในการสั่งคดี ในคดีท่ีพบข้อเท็จจริงที่
สามารถแจง้ การกล่าวหาตามมาตราดังกลา่ วได้

177

ตัวอยา่ ง รายงานการสอบสวนคดีความผดิ ฐานฟอกเงนิ
ผู้ต้องหาท่ี ๑,๒,๓,๔ หลบหนี

ความเหน็ ทางคดี สง่ั ฟอ้ ง
อำ� นาจการมีความเหน็ ทางคดี ผบช.ภ. x
อ�ำนาจศาลจังหวดั xxxxx

สำ� นักงานตำ� รวจแห่งชาติ
รายงานการสอบสวน
คดีอาญาที ่ xxxx /๒๕๖๓
สถานตี �ำรวจ ภธู ร xxxxx อำ� เภอ xxxxx จังหวดั xxxxx
วนั ท่ี ๓๐ เดือน xxxxx พ.ศ. xxxx
เสนอ ผู้บญั ชาการต�ำรวจภธู รภาค x
พนั ตำ� รวจเอก xxxxx xxxxx อายุ xx ปี ไทย - ไทย ผกู้ ล่าวหา
คดรี ะหว่าง
นาย xxxxx หรอื xxxx xxx อายุ ป ี ไทย - ไทย ผตู้ ้องหาที่ ๑
นาย xxxxx หรือ xxxx xxx อาย ุ ปี ไทย - ไทย ผู้ตอ้ งหาท่ี ๒
นาย xxxxx หรอื xxxx xxx อายุ ป ี ไทย - ไทย ผ้ตู อ้ งหาที่ ๓
นางสาว xxxxx หรือ xxxx xxx อายุ ปี ไทย - ไทย ผ้ตู ้องหาที่ ๔
ผตู้ ้องหาที่ ๑-๓ ฐานความผิด เปน็ ผ้กู ่อด้วยการใช้ จา้ ง วาน หรือวธิ อี ่นื ใดให้บุคคลอื่นกระท�ำความผิด
ฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามนี ) มปี รมิ าณค�ำนวณเป็นสารบริสทุ ธเ์ิ กนิ ยส่ี บิ กรัม
ขน้ึ ไปไว้ในครอบครองเพื่อจำ� หนา่ ยโดยผดิ กฎหมาย และร่วมกนั ฟอกเงนิ
ผูต้ ้องหาท่ี ๔ ฐานความผิด สนับสนุนฟอกเงนิ
วนั เวลาเกิดเหต ุ ระหว่างเดือน ตุลาคม ๒๕๖๒ ถึงเดือน พฤษภาคม ๒๕๖๓ เวลากลางวันและกลางคนื
ต่อเนอ่ื งกนั
ต�ำบลทเ่ี กดิ เหตุ ต�ำบลนาขา่ อ�ำเภอ xxxx , ตำ� บลบา้ นหัน อำ� เภอโนนศลิ า, ตำ� บลเมืองพล อำ� เภอพล,
ต�ำบลดอนฉมิ อ�ำเภอแวงใหญ่, ต�ำบลในเมือง อำ� เภอ xxxxx , ตำ� บลในเมือง, ต�ำบลบ้านเป็ด
อำ� เภอเมืองขอนแก่น จงั หวดั ขอนแกน่ ,ต�ำบลสุเทพ อำ� เภอเมือง จงั หวัดเชียงใหม่ ต่อเนอ่ื งเก่ยี วพนั กัน
วนั เวลาทร่ี ้องทกุ ขห์ รอื กลา่ วโทษ วันที่ xx xxxxxx xxxxx เวลา xx.xx น. ปจว.ข้อ x
วันท่ีผ้ตู ้องหาถูกควบคุมหรอื ขังและปลอ่ ยหรือปล่อยชวั่ คราว

ผตู้ อ้ งหาที่ ๑-๔ หลบหนี พนกั งานสอบสวนไดข้ ออนมุ ตั ศิ าลออกหมายจบั และตำ� หนริ ปู พรรณ
เพ่ือประกาศสืบตอ่ ไปจบั แลว้

178

ข้อเท็จจริงและความเห็น

(ขอ้ เทจ็ จรงิ นน้ั ใหก้ ลา่ วถงึ ผกู้ ลา่ วหา ผตู้ อ้ งหา หลกั ฐานพยานทกุ ปาก สว่ นความเหน็ นนั้ ใหอ้ า้ งเหตผุ ล
บทกฎหมาย และมาตราประกอบด้วย)

คดนี ีก้ ลา่ วหาว่าตามวันเวลาเกิดเหตุ ผูต้ อ้ งหาที่ ๑ ผูต้ ้องหาท่ี ๒ และผู้ตอ้ งหาท่ี ๓ เป็นผ้กู อ่ ดว้ ยการ
ใช้ จ้าง วาน หรือวิธีอ่ืนใดให้บุคคลอื่นกระท�ำความผิดฐาน มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน)
มีปริมาณค�ำนวณเป็นสารบริสุทธ์ิเกินย่ีสิบกรัมขึ้นไปไว้ในครอบครองเพื่อจ�ำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกัน
ฟอกเงิน ส่วนผู้ต้องหาท่ี ๔ สนับสนุนฟอกเงิน ผู้กล่าวหาจึงร้องทุกข์กล่าวโทษด�ำเนินคดี เหตุเกิดหลายท้องที่
เก่ยี วพันกัน บดั น้กี ารสอบสวนเสร็จส้ินแล้วข้อเทจ็ จรงิ สรุปได้ดังน้ี

การสอบสวนผ้กู ล่าวหา มี ๑ ปาก คอื
สอบสวน พันต�ำรวจเอก xxxxx xxxxx ผู้กล่าวหา ให้การว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุ เม่ือวันที่
๕ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ชุดจับกุม สภ. xxxxx ได้จับกุมตัว นาย xxxxx xxxxx พร้อมของกลางยาบ้า จ�ำนวน
๖,๙๔๒ เมด็ , ยาไอซ์ น�้ำหนกั ๑๒๓.๖๐ กรัม, อาวธุ ปนื พกสั้น จ�ำนวน ๒ กระบอก, โทรศพั ทม์ อื ถือ หมายเลข
xx-xxxx-xxxx จ�ำนวน ๑ เคร่ือง ข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอง
เพื่อจ�ำหน่ายโดยผิดกฎหมายและความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ ต่อมาต�ำรวจภูธรภาค x
ได้ออกค�ำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลด�ำเนินคดีกับเครือข่ายผู้ร่วมกระท�ำความผิด
ในคดีนี้ จากการสอบสวน นาย xxxxx ให้การยืนยันวา่ นาย xxxxx ผู้ตอ้ งหากับพวก เปน็ ผู้นำ� ยาบา้ มาใหจ้ ำ� หนา่ ย
แลว้ ให้ทยอยโอนเงนิ ค่ายาบา้ เข้าบญั ชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพล ชอ่ื บญั ชี นางสาว xxxxx xxxxx เลขที่บญั ชี
xxx-x-xxxxx-x โดยจะใชโ้ ทรศพั ท์ติดต่อนัดหมาย จากน้นั ก็จะสัง่ การใหน้ าย xxxxx หรอื xxxx xxxxx ไปวางตาม
จุดนดั หมาย พยานเริ่มรับยาบ้าจากนาย xxxxx เมอ่ื กลางเดือน เมษายน ๒๕๖๓ จำ� นวน ๕ ถงุ ๆ ละ ๒๐๐ เมด็
กระทั่งถูกจับกุมในวันเกิดเหตุพร้อมของกลาง จ�ำนวน ๖,๙๔๒ เม็ด พยานยังให้การต่อไปว่าได้สั่งยาบ้าจาก
นาย xxxxx ทางแอพพลเิ คชนั่ ไลน์ ตามขอ้ ความสนทนาทถ่ี กู บนั ทกึ ไวใ้ นเครอ่ื งโทรศพั ทข์ องกลาง จากการรวบรวม
พยานหลักฐานต่างๆ ทราบว่า นาย xxxxx ผู้ต้องหาท่ี ๑ เป็นผู้ส่ังน�ำเข้ายาเสพติดประเภทยาบ้าและยาไอซ์
จากประเทศสปป.ลาว จากน้ันส่ังการให้นาย xxxxx หรือ xxxx xxxxx ผู้ต้องหาท่ี ๒ และนาย xxxxx หรือ
xxx xxxxx ผู้ต้องหาที่ ๓ น�ำยาบ้าไปกระจายในพ้ืนท่ีอ�ำเภอต่างๆ ของจังหวัด xxxxx และท้องท่ีอ�ำเภออื่นๆ
ของจังหวัดใกล้เคียง โดยก่อนหน้าน้ันเมื่อวันท่ี ๓ เมษายน ๒๕๖๓ ปรากฏว่าชุดจับกุม สภ. xxxx โดย
ร.ต.อ. xxxxx พยานท่ี ๒๑ ไดจ้ ับกมุ ตัวนาย xxxxx พยานท่ี ๑๑ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำ� นวน ๑,๔๐๔ เม็ด
ในคดีดังกล่าวนาย xxxxxx ได้ให้การถึงนาย xxxxxx เป็นผู้น�ำยาบ้ามาให้จ�ำหน่ายโดยให้โอนเงินเข้าบัญชี
น.ส. xxxxx xxxxx ขายได้ระยะหนึ่งกระทัง่ มาถูกจับกมุ และต่อมาเมื่อวันท่ี ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ชุดจบั กุม
โดย ร.ต.อ. xxxxxxx ก็ได้จับกุมนาง xxxxx กับพวก พร้อมยาบ้า ๒,๐๖๘ เม็ด แล้วขยายผลไปจับกุม
นาย xxxxx พยานที่ ๑๔ และ น.ส. xxxxx พยานที่ ๑๕ พร้อมยาบ้า ๙,๘๗๑ เม็ด ซึ่งผู้ถูกจับกุมดังกล่าว

179

รายงานการสอบสวนคดอี าญาท่ี ๒๐๘/๒๕๖๓ แผน่ ท่ี ๑

ไดใ้ ห้การถึง นาย xxxxx ผตู้ ้องหาท่ี ๓ เปน็ เจ้าของยาบ้าและ ให้การยนื ยันวา่ นาย xxxxx, นาย xxxxx และ
นาย xxxxx เป็นเครือข่ายเดียวกัน โดยตรวจพบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของผู้ต้องหาท้ังสามและเส้นทางการ
โอนเงินจากบัญชีท่ีเกี่ยวข้องมีความเช่ือมโยงกัน จึงเชื่อว่าผู้ต้องหาได้ร่วมกันกระท�ำความผิดโดยเป็นผู้ก่อ ใช้
จา้ ง วาน ให้นาย xxxxx พยานที่ ๑, นาย xxxxx พยานท่ี ๑๑, นาง xxxxx พยานที่ ๑๓, นาย xxxx พยานที่ ๑๔
และนางสาว xxxx พยานที่ ๑๕, กระทำ� ความผิดเก่ียวกบั ยาเสพติด โดยอำ� พรางปกปิดแหล่งทมี่ าของเงินทีไ่ ดจ้ าก
การกระท�ำความผิดดังกล่าวไปซื้อทรัพย์สินจ�ำพวกรถยนต์รถจักรยานยนต์และทรัพย์สินมีค่าอ่ืนๆ อันเป็นการ
เปล่ียนสภาพทรัพย์สิน จากการสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐานตามสมควรเช่ือว่าผู้ต้องหาที่ ๑-๔ ได้กระท�ำ
ความผิดจรงิ ผูก้ ลา่ วหาจงึ รอ้ งทกุ ขก์ ลา่ วโทษด�ำเนินคดี

การสอบสวนพยานมี ๒๖ ปาก คอื
สอบสวน นาย xxxx xxxx พยานท่ี ๑ ใหก้ ารวา่ กอ่ นถกู จบั กมุ พยานรบั ยาบ้าของกลางมาจาก
นาย xxxx หรอื xxx xx ซง่ึ เคยตอ้ งโทษคดียาเสพติดในเรอื นจำ� อำ� เภอพล ด้วยกนั มาก่อน หลงั พ้นโทษ ได้ตดิ ต่อ
รับยาบ้าจากนาย xxxx ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ และทางโทรศัพท์มือถือ หมายเลข xx-xxxx-xxxx ส่วนพยาน
ใช้หมายเลข xx-xxxx-xxxx ซึ่งการรับยาบ้ามาจ�ำหน่ายน้ันพยานจะต้องจ่ายเงินบางส่วนก่อน ส่วนท่ีเหลือค่อย
ทยอยโอนใหเ้ ร่ือย ๆ โดยนาย xxxx จะให้เครือขา่ ยนำ� ยาบ้า, ยาไอซ์ มาวางตามจุดนดั หมายแลว้ พยานไปรบั เอา
เม่ือขายยาบ้าได้เงินก็จะทยอยโอนเงินค่ายาบ้าผ่านระบบโทรศัพท์มือถืออินเตอร์เน็ตแบ้งค์ก้ิงเข้าบัญชีธนาคาร
ไทยพาณิชย์จ�ำกัด สาขาพล เลขทีบ่ ัญชี xxx-x-xxxx-x ช่ือบัญชี xxxx xxxx พยานเริ่มรับยาบ้าจากนาย xxxx
ไปขาย เม่อื กลางเดอื น เมษายน ๒๕๖๓ จ�ำนวน ๕ ถุง ๆ ละ ๒๐๐ เม็ด กระทั่งถูกจบั กมุ ในวนั เกิดเหตพุ รอ้ ม
ของกลาง จ�ำนวน ๖,๙๔๒ เม็ด พยานยังให้การต่อไปว่าได้ส่ังซื้อยาบ้าจากนาย xxxx ทางแอพพลิเคช่ันไลน์
ตามข้อความสนทนาที่ถูกบันทึกไว้ในเคร่ืองโทรศัพท์ของกลางและรายการโอนเงินค่ายาบ้าให้แก่นาย xxxx
เข้าบัญชี xxx-x-xxxx-x และให้การต่อไปว่ารู้จักนาย xxxx หรือ xx xxx ผู้ท่ีน�ำยาบ้าไปวางตามจุดนัดหมาย
ตามสั่งการของนาย xxxx และนาย xxxx xxxx เครือขา่ ยนาย xxxx ด้วย
สอบสวน น.ส. xxxx xxxx พยานที่ ๒ ใหก้ ารวา่ ชว่ งเกดิ เหตุ รจู้ กั และคบหานาย xxxx หรอื xxx xx
ในฐานะคนรักซ่ึงตลอดระยะเวลาท่ีคบหา พยานได้รับรู้ถึงพฤติการณ์เกี่ยวข้องยาเสพติดของนาย xxxxx
กบั พวกโดยนาย xxxx เป็นผู้สงั่ น�ำเข้ายาเสพตดิ ประเภทยาบา้ จากประเทศ สปป.ลาว มีเครือข่ายผรู้ ว่ ขบวนการ
คอื นาย xxxx xx, นาย xxxx หรือ xxx xxx, นาย xxx หรือ xx xxx, นาย xxxx หรือ xxx xxxx, นาย xxx หรอื
xxxx xxx, นาย xxxx หรือ xxx xx ซึ่งนาย xxxx จะใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเคร่ืองมือในการติดต่อส่ังการ
ซ้ือขายยาบ้าหลายหมายเลขเพื่อไม่ให้ถูกจับกุมได้โดยสัญญาณโทรศัพท์ คือ xx-xxxx-xxxx, xx-xxxx-xxxx,
xx-xxxx-xxxx สว่ นนาย xxxxx ใช้โทรศัพท์หมายเลข xx-xxxx-xxxx, xx-xxxx-xxxx และนาย xxxx ใช้โทรศพั ท์
หมายเลข xx-xxxx-xxxx กบั นาย xxxxx ใช้หมายเลข xx-xxxx-xxxx มหี นา้ ที่น�ำยาบ้าท่นี าย xxxx สงั่ น�ำเขา้ จาก
พ่อค้ายาเสพติด สปป.ลาว ไปกระจายในพื้นท่ี โดยแบ่งหน้าที่กันท�ำ เมื่อเครือข่ายขายยาบ้าได้ก็จะส่ังการให้

180

รายงานการสอบสวนคดีอาญาท่ี ๒๐๘/๒๕๖๓ แผ่นที่ ๒

โอนเงินเข้าบัญชี น.ส.xxxx xxxx เลขทีบ่ ญั ชี xxx-x-xxxx-x หลังจากนนั้ นาย xxxx จะทยอยถอนเงินออกมาน�ำ
ไปซื้อทรัพย์สินในนามเครือญาติจ�ำพวกรถยนต์, รถจักรยานยนต์, อาวุธปืน และพยานยังยืนยันภาพถ่าย
ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั พฤติการณ์นาย xxxx อกี ดว้ ยนาย xxxx เคยแอบใช้บญั ชขี องพยานในการรบั โอนเงนิ คา่ ยาบา้ ด้วย
แต่ไม่เคยใหเ้ งนิ หรอื ทรพั ยส์ ินแกพ่ ยาน ปัจจุบนั พยานเลิกคบหาแล้วดี

สอบสวน ร.ต.อ. xxxx xxxx พยานที่ ๓ ใหก้ ารว่า ไดร้ ่วมกับพวกจับกุม นาย xxxx พยานที่ ๑
พรอ้ มดว้ ยยาบา้ และยาไอซ์ของกลาง ซ่ึงไดใ้ ห้การรับสารภาพว่าสงั่ ซอ้ื ยาบา้ จากนาย xxxx ทางเฟสบุ๊คแล้วโอน
เงินค่ายาบ้าให้นาย xxxx เข้าบัญชี น.ส xxxx xxxx เลขที่บัญชี xxx-x-xxxx-x จากการสืบสวนทราบ
ว่าน.ส. xxxxx เป็นเครือข่ายนาย xxxx นอกจากนี้ยังตรวจพบข้อความสนทนาการซื้อขายยาบ้าระหว่าง
นาย xxxx กับนาย xxxxx ทางแอพลเิ คชั่นไลน์ จึงคดั ลอกขอ้ มูลมอบใหพ้ นกั งานสอบสวนแล้ว

สอบสวน นาย xxxx xxxx พยานท่ี ๔ ใหก้ ารว่า เปน็ บิดานาย xxxx ผูต้ ้องหาที่ ๑ พยานมบี ุตร
๒ คน คนที่ ๑ นาย xxxx xxxx ทำ� งานทีป่ ระเทศเกาหลี และคนท่ี ๒ คือนาย xxxx xxxx มีนิสยั บอกไมเ่ ชอื่ ฟัง
เคยต้องคดียาเสพติดและอาวุธปืนมาก่อน ถูกจ�ำคุก ๔ ปี ๑๒ เดือน พ่ึงพ้นโทษจากเรือนจ�ำเขาพริก จังหวัด
นครราชสีมา เม่ือเดือนสงิ หาคม ๒๕๖๑ หลังจากพ้นโทษได้ ๖ เดือน ถูกจบั ขอ้ หาเสพขบั รถจกั รยานยนต์ ติดคุก
๖ เดอื น เม่อื พน้ โทษเมือ่ ปี พ.ศ.๒๕๖๒ ได้ถูกจบั กุมขอ้ หาอาวุธปืนที่ สภ.พล โดยได้หลบหนีระหว่างประกนั ตวั
พยานยังให้การต่อไปว่ากรณีตรวจพบข้อมูลการโอนเงินจากบัญชี xxxx xxxx เข้าบัญชีพยานธนาคารเพ่ือ
การเกษตรและสหกรณก์ ารเกษตร สาขาโนน-ศิลา จ�ำนวน ๑๖ ครั้ง ยอดเงนิ ท้ังสนิ้ ๓๔๐,๐๕๐ บาท น้ัน พยาน
ไม่ทราบวา่ เป็นเงนิ เก่ยี วกับค่าอะไร เพราะว่าไม่ได้ใชบ้ ัญชี เนอื่ งจากบัญชนี แ้ี ละบตั รเอทเี อม็ นาย xxxx ขอไปใช้
เกอื บ ๒ ปแี ลว้ และไม่ได้คืนให้เคยสอบถามนาย xxxx อา้ งวา่ บตั รเอทเี อ็มหาย นอกจากนย้ี งั เคยพานาย xxxx ไป
ซื้อรถยนตด์ ้วยเงินสดของนาย xxxx ด้วย

สอบสวน นาง xxxx xxxx พยานที่ ๕ ให้การวา่ เป็นนา้ ของนาย xxxxx ซง่ึ มารดานาย xxxxx ซ่ึง
เปน็ พส่ี าวพยาน ไดเ้ สยี ชวี ติ แลว้ นาย xxxxx มปี ระวตั เิ คยตดิ คกุ คดยี าเสพตดิ มาแลว้ กรณตี รวจพบวา่ ทา่ นรบั โอน
เงินจาก น.ส.xxxxx xxxxx เลขที่บัญชี xxx-x-xxxxx-x ธนาคารไทยพาณิชย์ จ�ำกัด สาขาพล เม่ือวันที่
xx xxxx xxxx รับโอนเงนิ ๒,๐๐๐ บาท, xx xxxx xxxx รับโอนเงิน ๒,๐๐๐ บาท, xx xxxx xxxx รบั โอนเงิน
๓,๐๐๐ บาท, xx xxxx xxxx รับโอนเงนิ ๒,๐๐๐ บาท และกรณีตรวจพบวา่ ทา่ นรบั โอนเงนิ จาก น.ส. xxxx หรือ
xx xxxx เลขที่บญั ชี xxx-x-xxxxx-x ธนาคารไทยพาณิชย์ จ�ำกดั สาขานิมมานเหมินท์ เม่ือวันท่ี x xxxx xxxx
รบั โอนเงิน ๔,๐๐๐ บาท, x xxxx xxxx รบั โอนเงนิ ๒,๐๐๐ บาท, xx xxxx xxxx รบั โอนเงิน ๘๐๐ บาท,
xx xxxx xxxx รับโอนเงิน ๘๐๐ บาท, x xxxx xxxx ยอดเงิน ๕,๐๐๐ บาท นนั้ นาย xxxxx เปน็ ผู้โอนเงนิ
จากท้ังสองบัญชีมาให้ใช้จ่ายในครอบครัว เนื่องจากนาย xxxxx เห็นความห่วงใยของพยานต่อตัวนาย xxxxx
จึงโอนเงินมาให้ใช้

181

รายงานการสอบสวนคดีอาญาที่ ๒๐๘/๒๕๖๓ แผน่ ท่ี ๓

สอบสวน นาง xxxx xxxxx พยานท่ี ๖ ให้การว่า ให้บรกิ ารรบั จ้างโอนเงินผ่านระบบอินเตอรเ์ น็ต
แบ้งค์ก้ิง โดยมีลูกค้าทั่วไปมาใช้บริการ กรณีตรวจพบการโอนเงินจากบัญชีของพยานไปเข้าบัญชี น.ส. xxxxx
เลขทบี่ ญั ชี xxx-xxx-xxxxx-x และบัญชี xxxxx xxxxx เลขท่ี xxxxxxxxxx จ�ำนวนหลายรายการนนั้ เน่อื งจาก
มีลูกค้าทราบช่ือภายหลังคือนาย xxxxx หรือ xxx xxx มาจ้างโอนเข้าบัญชีดังกล่าวโดย ไม่ทราบว่าเป็นเงิน
เกี่ยวขอ้ งกับยาเสพตดิ

สอบสวน นางสาว xxxx xxxx พยานที่ ๗ ใหก้ ารวา่ เป็นลูกสะใภ้ของ นางม่วยฯ เคยให้บรกิ าร
รบั จา้ งโอนเงนิ แก่ นาย xxxx หรอื xxxx xxxx โดยใหโ้ อนเข้าบญั ชี น.ส. xxxx เลขท่ขี ้างต้นพยานไมท่ ราบวา่ เป็น
เงนิ เก่ียวขอ้ งกับยาเสพตดิ

สอบสวน นาย xxxx xxxxx พยานท่ี ๘ ใหก้ ารวา่ เคยถูกจบั กุมยาเสพตดิ โดยชุดจับกุม สภ.โนน
ศลิ า ในคร้ังนนั้ ได้ยาบา้ ของกลาง จ�ำนวน ๖ เม็ด โดยรบั ยาบา้ จากนาย xxxx หรอื xxx xxx เหตุเกดิ เม่อื วันท่ี
x xxxx xxxx ศาลตัดสินปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท ต่อมานายทรงพลฯ เคยสั่งการให้พยานเอาเงินจากเครือข่ายท่ี
รับยาบา้ ไปขายโอนเขา้ บญั ชี นาง xxxx xxxx เลขทีบ่ ัญชี xxx-x-xxxxx-x ธนาคารไทยพาณชิ ย์ จ�ำกดั สาขาพล

สอบสวน นาย xxxx xxxx พยานที่ ๙ ให้การว่า กรณตี รวจพบหมายเลขโทรศัพท์ xx-xxxx-xxxx
ถกู บนั ทกึ ไวใ้ นเครอื่ งโทรศพั ทข์ องนาย xxxx xxxx ของกลางในคดที ถี่ กู จบั กมุ นนั้ พยานยนื ยนั วา่ หมายเลขดงั กลา่ ว
พยานให้มารดาซื้อให้โดย ใช้กับเคร่ืองโทรศัพท์ ย่ีห้อ หัวเหว่ย ลงทะเบียนรายเดือนในนามมารดาโดยซื้อท่ี
ร้านสะดวกซื้อในพ้ืนที่จังหวัดชลบุรี ต่อมาเม่ือประมาณเดือนเมษายน ๒๕๖๓ พยานน�ำไปจ�ำน�ำกับนาย xxxx
หรือ xxxx xxxx ราษฎรบา้ นเดียวกัน ไดย้ าบ้า ๓ เม็ด ตแี ทนเงิน ๓๐๐ บาท จากนัน้ ไปไถ่คืนมา ตอ่ มาเดอื น
มิถุนายน ๒๕๖๓ นาย xxxx มาเล่นด้วยท่ีบ้านและขอเล่นโทรศัพท์แล้วไม่ยอมคืนให้พยาน พยานขอคืนแต่
นาย xxxxx ไม่ยอมคืนใหจ้ นเกิดมีปากเสียงชกตอ่ ยกัน แลว้ นาย xxxxx ไดข้ บั รถจักรยานยนต์พรอ้ มเอาโทรศพั ท์
ไปดว้ ย

สอบสวน นาง xxxx xxxx พยานที่ ๑๐ ใหก้ ารวา่ เปน็ มารดาของนายอนชุ าฯ ยืนยันวา่ หมายเลขที่
บันทึกไว้ในเคร่ืองโทรศัพท์ของกลางในคดีท่ีนาย xxxxx ถูกจับกุมน้ัน เป็นหมายเลขโทรศัพท์ของพยานท่ีซ้ือให้
นาย xxxxx ยืนยันวา่ ไมร่ จู้ กั นาย xxxxx

สอบสวน นาย xxxxx xxxxx พยานท่ี ๑๑ ให้การวา่ พยานถกู ชุดจบั กมุ สภ.บา้ นไผ่ จับตัวพรอ้ ม
ของกลาง ๑,๔๐๔ เมด็ เม่ือวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๓ ซ่งึ ของกลางในคดีดงั กล่าวพยานรับมาจาก นาย xxx หรือ
xxxx มาจำ� หน่าย แล้วทยอยโอนเงนิ เขา้ บัญชี น.ส.xxxxx เลขท่บี ญั ชี xxx-x-xxxx-x โดยพยานไดโ้ อนคา่ ยาบา้
จำ� นวน ๔ คร้งั ยอดเงนิ ๑๐๔,๕๐๐ บาท โดยโอนผ่านบญั ชนี าง xxxxx xxxxx เลขทีบ่ ญั ชี xxx-x-xxxx-x ปจั จบุ ัน
พยานอย่รู ะหวา่ งตอ้ งโทษจำ� คกุ ๘ ปี

182

รายงานการสอบสวนคดีอาญาท่ี ๒๐๘/๒๕๖๓ แผน่ ที่ ๔

สอบสวน นาง xxxxx xxxxxx พยานท่ี ๑๒ ให้การว่า เป็นภรรยาของ นายเสกสันต์ฯ ซ่ึงนาย
xxxxx ใหพ้ ยานไปเปดิ บญั ชีธนาคารไทยพาณชิ ย์ จ�ำกัด สาขาxxxx เลขที่ xxx-x-xxxxx-x และสมคั รใช้บรกิ าร
เบิกถอนโอนเงินระบบอินเตอร์เน็ตแบ้งค์กิ้ง แล้วมอบบัญชีให้นาย xxxxx เป็นคนใช้ ต่อมานาย xxxx ถูกจับ
กมุ พร้อมยาบา้ ๑,๔๐๔ เม็ด

สอบสวน นางxxxx xxxxx พยานที่ ๑๓ ให้การว่า ถูกชุดจับกุม สภ.บ้านไผ่จับตัวพร้อมกับ
นายxxxxx xxxxx ยาบ้าของกลาง จ�ำนวน ๒,๐๖๘ เม็ด เม่ือวันท่ี xx xxxxx xxxx โดยนาย xxxx xxxx
สั่งการให้ไปรับของกลางที่เครือข่ายส่งมาทางพัสดุเคอร์รี่ แล้วถูกจับกุมพร้อมกับนาย xxxxx พยานยังให้การ
ต่อไปว่าก่อนหน้าน้ันต้ังแต่เดือน xxxxx xxxx เป็นต้นมา พยานรับยาบ้าจากนา xxxxx ไปขายครั้งละถุงๆ
ละ ๒๐๐ เมด็ ทยอยโอนเงินค่ายาบ้าเขา้ บญั ชีนาย xxxx เลขทบี่ ัญชี xxx-x-xxxxx-x กระทั่งมาถกู จับกุม และ
ใหก้ ารอกี ว่า นา ยxxxxx, นาย xxxxx และนาย xxxxx เปน็ เครอื ข่ายเดยี วกัน

สอบสวน นาย xxxxx xxxx พยานที่ ๑๔ ใหก้ ารว่า พยานถกู ชดุ จับกุม สภ. xxxx จบั กุมพรอ้ มกบั
น.ส.xxxxx xxxxx ยาบ้าของกลาง จ�ำนวน ๙,๘๑๔ เมด็ เม่ือวนั ท่ี xx xxxxx xxxx พยานกบั ภรรยามีหน้าท่รี อสงั่
การของนาย xxxxx ในการไปรับยาบา้ ตามสถานทต่ี า่ งๆ ท่ีเครอื ขา่ ยนาย xxxxx น�ำมาวางไว้ พยานกบั ภรรยา
ก็จะเกบ็ มาพักไว้รอสง่ั การนาย xxxxx ทจี่ ะส่งั ให้น�ำไปวางต่อยังจุดต่างๆ อกี โดยนาย xxxxx ใชโ้ ทรศพั ท์มือถอื
xx-xxxx-xxxx พยานไดร้ ับค่าตอบแทนเลก็ น้อย

สอบสวน นางสาวxxxxx xxxx พยานที่ ๑๕ ให้การสอดคล้องกับนาย xxxxx โดยถูกจับกุม
พรอ้ มกนั และให้การตอ่ ไปว่า นาย xxxxx มฐี านะเปน็ พ่เี ขย พ่งึ พ้นโทษคดยี าเสพตดิ ออกมาโดยไมไ่ ดป้ ระกอบ
อาชีพ นาย xxxxx ได้ชักชวนให้พยานร่วมมือในการไปรับยาบ้าแล้วน�ำไปวางตามจุดเริ่มท�ำงานมาต้ังแต่
เดือน xxxxxx xxxx โดยวางยาบา้ ๕ คร้งั /เดือน และ ๓ ครัง้ /สปั ดาห์ คร้งั ละ ๑๐ ลกู ๆ ละ ๒,๐๐๐ เม็ด และ
สูงสุดประมาณ ๓๐ ลูก ยาบา้ ๖๐,๐๐๐ เมด็ ลูกค้าส่วนใหญอ่ ยู่ในเขตอำ� เภอ xxxx อ�ำเภอ xxxx, อำ� เภอ xxxx,
อ�ำเภอ xxxx, สถานีขนส่งจังหวัด xxxxx โดยนาย xxxxx ให้ใช้รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ไม่ทราบทะเบียน
เป็นพาหนะ นอกจากนี้ยังเคยเหน็ นางสาว xxxxx มาพบนาย xxxxx ทบ่ี ้านของพยาน พยานเคยพานาย xxx xxx
ไปเปดิ บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำ� กดั สาขาพล เลขท่ี xxx-x-xxxxx-x แล้วเอาไปให้นาย xxxxx ซึ่งนาย xxxxx
และนาย xxxxx เปน็ เครอื ขา่ ยเดียวกนั

สอบสวน นาย xxxx xxxx พยานท่ี ๑๖ ใหก้ ารวา่ กรณีตรวจพบรายการโอนเงินจากบญั ชพี ยาน
เลขที่ xxx-x-xxxxx-x เข้าบัญชี น.ส. xxxx xxxx เลขที่บัญชี xxx-x-xxxxx-x นั้น พยานไม่ได้เป็นคนใช้บัญชี
โดยไปเปิดบัญชีให้น.ส.xxxxx

สอบสวน นาง xxxx xxxxx พยานท่ี ๑๗ ให้การวา่ กรณีตรวจพบการโอนเงินจากบญั ชี นาย xxxxx
xxxx เลขทบ่ี ญั ชี xxx-x-xxxxx-x เข้าบัญชขี องพยาน ธนาคารกสกิ รไทย จ�ำกัด สาขาเสิงสาง เลขที่บัญชี xxx-x-
xxxxx-x น้นั พยานไมท่ ราบ เพราะทำ� สมดุ บญั ชแี ละบัตรเอทเี อม็ หาย หลังจากได้รบั หมายเรียกพยานได้ไปตรวจ
สอบบญั ชกี บั ทางธนาคารปรากฏวา่ มเี งนิ ถกู ถอนออก จ�ำนวน ๑๖,๘๓๙,๕๗๕ บาท พยานไม่รจู้ ักนาย xxxxx

183

รายงานการสอบสวนคดอี าญาท่ี ๒๐๘/๒๕๖๓ แผน่ ท่ี ๕

สอบสวน นางสาว xxxx xxxxx พยานท่ี ๑๘ ให้การว่า กรณีตรวจพบการโอนเงินจากบัญชี
นาย xxxx xxxx เลขทีบ่ ญั ชี xxx-x-xxxxx-x เขา้ บญั ชขี องพยาน ธนาคารกสิกรไทย จำ� กดั สาขา xxxx เลขท่บี ัญชี
xxx-x-xxxxx-x นั้น เม่ือประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน ๒๕๖๓ ได้มีนางสาว xxxx xxxx ซึ่งเป็นเพ่ือนบ้าน
ขอให้พยานไปเปิดบัญชีให้ โดยจะให้ค่าบัญชี ๕๐๐ บาท พยานมีฐานะยากจนไม่มีเงินจึงไปเปิดบัญชีให้ บัญชี
เลขท่ี xxx-x-xxxxx-x หลังจากนัน้ ก็ไมท่ ราบวา่ น.ส. xxxxx นำ� บัญชีของพยานไปทำ� อะไร

สอบสวน นางสาว xxxx xxxx พยานท่ี ๑๙ ให้การว่าอยู่กินฉันสามีภรรยากับนาย xxxxx เม่ือ
วนั ท่ี x xxxxx xxxx ขณะหลบหนกี ารจบั กุมพร้อมกบั นาย xxxxx ถูกจบั ได้พร้อมยาบ้า นาย xxxxx หลบหนีไปได้
พยานถูกตัดสินจ�ำคุก ๓ ปี ๑๒ เดือน รับว่าได้เอาบัญชีธนาคารของ นางสาว xxxxx ไปให้นาย xxxxx ใช้
เข้าใจว่าเอาไปใช้ในการซื้อขายยาเสพติดกับเครือข่ายเพื่อการโอนและรับโอนเงินค่ายาเสพติด และปัจจุบันน้ี
บัตรเอทีเอ็มก็อยู่กับนาย xxxxx และยังให้การต่อไปว่า นาย xxxxx ก่อนท่ีจะมาอยู่กินกับพยาน นาย xxxxx
คบหากบั นางสาว xxxxxx xxxxx

สอบสวน นาง xxxxx xxxx พยานที่ ๒๐ ให้การว่า เปน็ มารดา นาง xxxx xxxx พยาน ไม่ทราบว่า
บตุ รสาวทำ� งานอะไร อย่ทู ่ใี ด เพราะไมเ่ คยแจง้ ใหท้ ราบและติดต่อไมได้

สอบสวน ร.ต.อ. xxxx xxxxx พยานท่ี ๒๑ ให้การว่า รับราชการต�ำแหน่งรองสารวัตรสืบสวน
สภ. xxxx จากการสบื สวนทราบวา่ นาย xxxx, นาย xxxx, และนาย xxxxx มพี ฤตกิ ารณ์เปน็ เครือข่ายยาเสพตดิ
โดยสง่ั นำ� เข้ายาบา้ จาก สปป.ลาว และได้จับกมุ เครือขา่ ยของบุคคลดังกล่าว คอื เมือ่ วนั ที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๓
จบั กมุ นายเสกสันต์ เตโพธิ์ ยาบา้ ๑,๔๐๔ เม็ด ซ่ึงให้การถึงนาย xxxx และวนั ท่ี ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓ จบั กมุ
นาย xxxxx xxxx, นางสาว xxxx xxxx ยาบา้ ๒,๐๖๘ เม็ด ในวันเดียวกนั ขยายผลไปจับกมุ นาย xxxx xxxx และ
นางสาว xxxxx xxxxx ยาบา้ ๙,๘๗๑ เม็ด ซึ่งใหก้ ารถึงนาย xxxxx จากการสืบสวนนาย xxxx, นาย xxxxx และ
นาย xxxxx เป็นเครือขา่ ยเดียวกัน ซง่ึ นาย xxxxx เป็นลกู น้องคนสนิทของนาย xxxxx โดยมหี นา้ ท่ีน�ำยาบา้ ไปวาง
ตามสง่ั การของนาย xxxxx โดยลา่ สดุ นาย xxx ไดน้ ำ� ยาบา้ มาสง่ มอบใหก้ บั ลกู คา้ เพอื่ นำ� ไปกระจายตามสง่ั การของ
นาย xxxxx ใช้รถยนต์ ย่ีหอ้ ฮอนด้า ซติ ้ี โดยสวมทะเบียน xx xxxx xxxxx ซ่งึ ตรวจสอบแลว้ เป็นชือ่ บุคคลอน่ื
อยรู่ ะหว่างสืบสวนจับกมุ

สอบสวน นาย xxxxx xxxx พยานท่ี ๒๒ ให้การว่า มีอาชพี พนกั งานขายรถอยู่ทีบ่ รษิ ทั สามเหล่ยี ม
ออโต้ จำ� กดั เมอื่ วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๓ ได้มนี าย xxxx xxx กบั พวก มาซอ้ื รถยนตเ์ ก๋งย่ีหอ้ ฮอนดา้ ซวี คิ
ทะเบียน xx xxx xxxxx ดว้ ยเงนิ สด ราคา ๗๐๐,๐๐๐ บาท โดยซื้อในนามบิดา

184

รายงานการสอบสวนคดอี าญาท่ี ๒๐๘/๒๕๖๓ แผ่นที่ ๖

สอบสวน นางสาว xxxx xxxx พยานท่ี ๒๓ ให้การว่า มอี าชีพขายรถยนตม์ ือสองระหวา่ งเดอื น
xxxxx xxxx - เดอื น xxxxx xxxx ไดข้ ายรถยนต์ จำ� นวน ๒ คนั ให้กบั นาย xxxx xxx บดิ านาย xxxxx คือ รถยนต์
ปิกอัพ คันทะเบียน xx xxxx xxxxxxx ราคา ๔๘๐,๐๐๐ บาท วางดาวน์ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ท่ีเหลือจัด
ไฟแนนทแ์ ละรถยนตเ์ ก๋ง ยีห่ อ้ ฮอนด้า ซวี ิค ทะเบยี น xx xxx xxxx ซ้ือดว้ ยสด ราคา ๓๓๐,๐๐๐ บาท แต่ในขณะ
ตกลงซ้อื ขายกนั นาย xxxxx จะเป็นคนตัดสนิ ใจในการเลอื กซื้อ

สอบสวน นางสาว xxxx xxxxxx พยานท่ี ๒๔ ใหก้ ารว่า เปน็ พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ จ�ำกดั
สาขาพล จากการตรวจสอบบัญชีเลขท่ี xxx-x-xxxxx-x เปิดบัญชีโดย น.ส. xxxx xxxx ประเภทออมทรัพย์
เบิกถอนเงินสดโดยระบบ E-NET และบัตรเอทีเอ็ม มีค�ำขอเปิดใช้บริการ SMS ผูกกับหมายเลขโทรศัพท์
xx-xxxx-xxxx มีรายการเคล่ือนไหวบัญชี ระหว่าง xx xxxxx xxxx – xx xxxxx xxxx มีการท�ำธุรกรรม
ดา้ นฝากเงนิ ๑๖๕ รายการ เป็นเงนิ ๑,๘๓๔,๗๑๒ บาท ดา้ นถอนเงนิ ๑๔๕ รายการ เปน็ เงนิ ๑,๘๑๔,๒๘๐ บาท
สว่ นบัญชีเลขที่ xxx-x-xxxxx-x เปดิ บัญชโี ดย นาย xxxx xxxx บัญชปี ระเภทเงินฝากออมทรัพย์ เบกิ ถอนเงิน
ผา่ น SCB Easy APP มคี ำ� ขอเปิดใช้บริการ SMS ผูกกับหมายเลขโทรศพั ท์ xx-xxxx-xxxx มีรายการเคลื่อนไหว
บัญชี ระหว่าง xx xxxxx xxxx – xx xxxxx xxxx มีการท�ำธุรกรรมด้านฝากเงิน ๓๐ รายการ เป็นเงิน
๔๘๕,๒๗๑ บาท ด้านถอนเงิน ๒๘ รายการ เปน็ เงนิ ๔๘๕,๒๕๐ บาท

สอบสวน นาง xxxxx xxxxx พยานที่ ๒๕ ใหก้ ารวา่ เป็นพนักงานธนาคารกสกิ รไทย จ�ำกดั สาขา
พล จากการตรวจสอบบัญชเี ลขท่ี xxx-x-xxxxx-x เปดิ บัญชีโดย นาย xxxx xxxx ประเภทออมทรัพย์ เบกิ ถอน/
โอนเงนิ โดยระบบ K PLUS และบตั รเดบิต มีค�ำขอเปดิ ใชบ้ รกิ าร SMS ผูกกบั หมายเลขโทรศัพท์ xx-xxxx-xxxx
มีรายการเคลื่อนไหวบัญชี ระหว่าง xx xxxxx xxxx – xx xxxxx xxxx มีการท�ำธุรกรรมด้านฝากเงิน
๕๗๔ รายการ เป็นเงิน ๓,๗๗๐,๘๓๕ บาท ด้านถอนเงิน ๙๑๗ รายการ เป็นเงิน ๓,๗๗๐,๘๙๙.๘๐ บาท
มยี อดเงนิ คงเหลือ ๖๐.๘๐ บาท

สอบสวน พ.ต.ท.xxx xxxxx พยานท่ี ๒๖ ให้การว่า ได้รับค�ำส่งั ตามคำ� ส่งั แต่งตัง้ พนกั งานสบื สวน
สอบสวน โดยสบื สวนสอบสวน ผลการสบื สวนมอบใหพ้ นกั งานสอบสวนแลว้

พยานเอกสารและพยานวัตถุ
๑. บัญชธี นาคารไทยพาณิชย์ จำ� กัด สาขาพล
ช่อื บญั ชี น.ส. xxxxx xxxxx เลขที่บัญชี xxx-x-xxxx-x
๒. บญั ชีธนาคารไทยพาณิชย์ จ�ำกัด สาขาพล
ช่ือบัญชี นาย xxxxx xxxxx เลขท่ีบัญชี xxx-x-xxxx-x
๓. บัญชีธนาคารไทยพาณชิ ย์ จำ� กดั สาขา ถนนนมิ มานเหมินทร์
ชือ่ บญั ชี น.ส. xxxx xxxx เลขทีบ่ ัญชี xxx-x-xxxx-x

185

รายงานการสอบสวนคดอี าญาท่ี ๒๐๘/๒๕๖๓ แผน่ ที่ ๗

๔. บญั ชีธนาคารกสกิ รไทย จ�ำกัด สาขาพล
ชอ่ื บัญชี นาย xxxxx xxxxx เลขท่บี ัญชี xxx-x-xxxxx-x
๕. บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำ� กัด สาขาบา้ นไผ่
ชื่อบัญชี นาง xxxxx xxxxx เลขท่บี ญั ชี xxx-x-xxxxx-x
๖. บญั ชีธนาคารไทยพาณิชย์ จ�ำกัด สาขาบ้านไผ่
ช่ือบัญชี นางสาว xxxxx xxxxx เลขที่บญั ชี xxx-x-xxxxx-x
๗. บัญชีธนาคารกสิกรไทย จำ� กัด สาขาบ้านไผ่
ชื่อ บญั ชี น.ส. xxxxx xxxxx เลขท่บี ญั ชี xxx-x-xxxxx-x
๘. ข้อมลู การใช้โทรศพั ท์ หมายเลข xx-xxxx-xxxx (นาย xxxxx)
๙. ขอ้ มลู การใช้โทรศัพท์ หมายเลข xx-xxxx-xxxx (นาย xxxxx)
๑๐. ข้อมูลการใชโ้ ทรศพั ท์ หมายเลข xx-xxxx-xxxx (นาย xxxxx)
๑๑. ขอ้ มลู การใช้โทรศพั ท์ หมายเลข xx-xxxx-xxxx (นาย xxxxx)
๑๒. รายงานการสบื สวน จำ� นวน ๑๑ แผน่
๑๓. ข้อมลู การสนทนาทางแพพลเิ คชน่ั ไลน์ ระหว่าง นาย xxxxx กบั นาย xxxxx สนทนา
ถึงการซอื้ ขายยาบ้า จำ� นวน ๑๓ แผ่น
๑๔. บญั ชีของกลางในคดอี าญาท่ี xxx/๒๕๖๓ พร้อมผลการตรวจพิสจู นย์ าบ้าของกลาง

สภ. xxxx ผู้ตอ้ งหา นาย xxxx xxxx น�ำมาขยายผลในคดนี ี้
๑๕. บัญชีของกลางในคดีอาญาท่ี xxx/๒๕๖๓ พร้อมผลการตรวจพสิ ูจน์ยาบ้าของกลาง
สภ. xxxx ผู้ตอ้ งหา นาย xxxx xxxx น�ำมาขยายผลในคดนี ี้
๑๖. บญั ชีของกลางในดีอาญาท่ี xxx/๒๕๖๓ พรอ้ มผลการตรวจพสิ จู น์ยาบ้าของกลาง

สภ.บ้านไผ่ ผตู้ ้องหา นาย xxxxx xxxxx และ xxxxx xxxxx นำ� มาขยายผลในคดีน้ี
๑๗. บัญชีของกลางในคดอี าญาที่ xx/๒๕๖๓ พรอ้ มผลการพสิ จู นย์ าบ้าของกลาง
สภ. xxx ผ้ตู ้องหา นาย xxxxx xxxxx และนางสาว xxxxx xxxxx นำ� มาขยายผลในคดีน้ี

หลักฐานทางคดแี ละความเหน็ ของพนักงานสอบสวน

คดีนี้สอบสวนเสร็จสิ้นแล้วข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันท่ี ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๓ เวลากลางวัน
ชดุ จับกมุ สภ. xxx โดย ร.ต.อ.นวพล xxxx xxx กับพวก ไดจ้ ับตวั นาย xxxx xxxx ผูต้ อ้ งหา พร้อมดว้ ยของกลาง
ยาบ้า จ�ำนวน ๖,๙๔๒ เม็ด, โทรศัพท์มือถือ หมายเลข xx-xxxx-xxxx จ�ำนวน ๑ เคร่ือง น�ำส่งพนักงาน
สอบสวน สภ. xxxx ด�ำเนินคดี ตามคดีอาญาที่ xxx/๒๕๖๓ ต่อมาผู้กล่าวหากับพวก ได้รับค�ำส่ังจากต�ำรวจ
ภูธรภาค x ให้สืบสวนสอบสวนขยายผลด�ำเนินคดีเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการ จากการสอบสวนขยายผล

186

รายงานการสอบสวนคดีอาญาที่ ๒๐๘/๒๕๖๓ แผ่นท่ี ๘

นาย xxxx พยานใหก้ ารว่า รับยาบา้ ของกลางจากนาย xxxx หรือ xxx xxx ซง่ึ เคยต้องโทษในเรอื นจำ� อำ� เภอพล
ดว้ ยกนั มากอ่ น ตดิ ตอ่ ผา่ นแอพพลชิ นั่ ไลนส์ ว่ นตวั ซงึ่ นาย xxxxxx ใชโ้ ทรศพั ทห์ มายเลข xx-xxxx-xxxx สว่ นพยาน
ใชห้ มายเลข xx-xxxx-xxxx ในการรบั ยาบา้ จากนาย xxxxx มาจำ� หนา่ ยนน้ั พยานจะตอ้ งจา่ ยเงนิ คา่ ยาบา้ บางสว่ น
ก่อนที่เหลือค่อยทยอยโอนเงินหลังจากขายยาบ้าได้แล้ว โดยการซื้อขายจะนัดสถานท่ีส่งมอบยาบ้ากัน โดย
นาย xxxxx จะน�ำยาบ้าไปวางตามจุดนดั หมายและบางครัง้ จะให้นาย xxx หรอื xxxx xxxx ลูกน้องน�ำยาบา้ มา
วางไวต้ ามจดุ นดั หมายแลว้ ตดิ ต่อนาย xxxx ไปรบั โดยเม่ือประมาณกลางเดอื น เมษายน ๒๕๖๓ นาย xxxx รับ
ยาบา้ มา จำ� นวน ๕ ถงุ ๆ ละ ๒๐๐ เมด็ จากนน้ั นำ� ไปจำ� หนา่ ยตอ่ แลว้ ทยอยโอนเงนิ ผา่ นระบบโทรศพั ทอ์ นิ เตอรเ์ นต็
แบง้ ค์กิง้ ไปใหน้ าย xxxx เขา้ บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำ� กดั สาขาพล เลขที่ xxx-x-xxxx-x ชื่อบัญชี xxxx xxxx
พยานจ�ำหน่ายยาบ้า เรื่อยมากระทั่งถูกจับกุมในวันเกิดเหตุพร้อมยาบ้าของกลางดังกล่าว จากการสอบสวน
น.ส. xxxx xxxx ใหก้ ารว่า รจู้ ักและคบหานาย xxxx xxxx ในฐานะคนรกั ตลอดระยะเวลาที่คบหาไดร้ เู้ ห็นถงึ
พฤตกิ ารณ์ของนาย xxxx เปน็ ผสู้ ง่ั น�ำเขา้ ยาเสพตดิ จาก สปป.ลาว โดยมีเครือข่ายดงั น้ี นาย xxxx หรือxxx xx,
นาย xxx หรือ xx xxx, นาย xxxx หรือ xxx xxxx, นายxxx, และนาย xxx ไม่ทราบนามสกุล โดยเม่ือสั่งน�ำเข้า
ยาบ้าจากพ่อค้ายาเสพติด สปป.ลาว แล้ว ก็จะน�ำไปซุกซ่อนตามบ้านญาติเพื่อรอสั่งการให้ นาย xxxxx และ
นาย xxx น�ำไปกระจายในพื้นท่ี โดยแบ่งหนา้ ที่กนั ทำ� แล้วใหเ้ ครอื ข่ายโอนเงินเข้าบญั ชีของ น.ส. xxxx ธนาคาร
ไทยพาณชิ ย์ จ�ำกัด สาขาพล เลขทบ่ี ัญชี xxx-x-xxxxx-x ซึง่ บัญชดี งั กลา่ ว นาย xxxx เป็นผ้จู ดั หาให้ และพยาน
ตรวจพบภายหลังว่านาย xxxx แอบใหเ้ ครือขา่ ยโอนเงนิ เขา้ บัญชีพยานดว้ ย จากนน้ั นาย xxxx และนาย xxxx
และนาย xxxx กจ็ ะยกั ยา้ ยถ่ายเททรพั ยส์ ินโดยนำ� เงนิ ที่ไดจ้ ากการขายยาเสพติดไปซื้อรถยนต์, รถจกั รยานยนต์,
อาวุธปืนและใช้จ่ายอ่ืนๆ น.ส. xxxx ให้การต่อไปว่า นาย xxxx จะใช้บัญชีของบุคคลอื่นในการรับโอนเงิน
จากการซ้ือขายยาเสพติด และใช้โทรศัพท์จ�ำนวนหลายหมายเลขเพ่ือไม่ให้ถูกจับกุมได้โดยสัญญาณโทรศัพท์
ใช้โทรศัพทห์ ลายหมายเลข เท่าทีท่ ราบคือ xx-xxxx-xxxx, xx-xxxx-xxxx และ xx-xxxx-xxxx สว่ นนาย xxx xxx
ใชโ้ ทรศัพทห์ มายเลข xx-xxxx-xxxx, xx-xxxx-xxxx และนาย xxx xxxx ใช้โทรศพั ท์หมายเลข xx-xxxx-xxxx
ซ่ึงสอดคล้องกับค�ำให้การของนาย xxxx เชื่อว่านาย xxxx ให้การตามความสัตย์จริง จากการสอบสวน
ร.ต.อ. xxxx xxx พยานที่ ๓ ให้การวา่ ได้ร่วมกบั พวก จบั กุมนาย xxxxx พยานที่ ๑ พร้อมดว้ ยยาบ้าและยาไอซ์
ของกลาง ซึ่งได้ให้การรับสารภาพว่าสั่งซ้ือยาบ้าจากนาย xxxx ทางเฟสบุคแล้วโอนเงินค่ายาบ้าให้นาย xxxx
เขา้ บญั ชี น.ส. xxxx xxxx เลขทบี่ ญั ชี xxx-x-xxxxx-x จากการสบื สวนทราบวา่ น.ส. xxxxx เปน็ เครอื ขา่ ยนาย xxxx
นอกจากนยี้ ังตรวจพบข้อความสนทนาการซื้อขายยาบ้าระหว่างนาย xxxx กับนาย xxxx ทางแอพพลเิ คช่นั ไลน์
จึงคัดลอกข้อมูลมอบให้พนักงานสอบสวนแล้ว จากการนาย xxxx พยานที่ ๔ ให้การว่า เป็นบิดานาย xxxx
ผตู้ อ้ งหาที่ ๑ พยานมีบุตร ๒ คน คนท่ี ๑ นาย xxxx xx ทำ� งานที่ประเทศเกาหลี และคนที่ ๒ คือนาย xxxx xx
มีนิสัยบอกไม่เชื่อฟังเคยต้องคดียาเสพติดและอาวุธปืนมาก่อน ถูกจ�ำคุก ๔ ปี ๑๒ เดือน พึ่งพ้นโทษจาก

187

รายงานการสอบสวนคดอี าญาที่ ๒๐๘/๒๕๖๓ แผ่นที่ ๙

เรือนจ�ำเขาพริก จงั หวดั นครราชสมี า เม่ือเดอื นสงิ หาคม ๒๕๖๑ หลังจากพน้ โทษได้ ๖ เดือน ถูกจับข้อหาเสพขบั
รถจักรยานยนต์ ตดิ คกุ ๖ เดอื น เมอื่ พน้ โทษเมอื่ ปี พ.ศ.๒๕๖๒ ไดถ้ กู จบั กมุ ขอ้ หาอาวธุ ปนื ท่ี สภ. xxx โดยไดห้ ลบหนี
ระหวา่ งประกนั ตวั พยานยงั ใหก้ ารต่อไปวา่ กรณตี รวจพบข้อมลู การโอนเงินจากบญั ชี xxxx xxxx เข้าบญั ชีพยาน
ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาโนนศลิ า จ�ำนวน ๑๖ ครงั้ ยอดเงินท้งั สิ้น ๓๔๐,๐๕๐ บาท
นัน้ พยานไมท่ ราบว่าเปน็ เงนิ เกีย่ วกับคา่ อะไร เพราะวา่ ไม่ได้ใช้บัญชี เนือ่ งจากบัญชีนีแ้ ละบัตรเอทเี อม็ นาย xxxx
ขอไปใชเ้ กอื บ ๒ ปีแลว้ และไมไ่ ด้คืนใหเ้ คยสอบถามนาย xxxx อ้างวา่ บัตรเอทเี อ็มหาย นอกจากนยี้ งั เคยพานาย
xxxx ไปซ้อื รถยนต์ดว้ ยเงินสดของนาย xxxx ด้วย จากการสอบสวนนาง xxxx พยานที่ ๕ ใหก้ ารว่า เป็นน้าของ
นาย xxxx ซงึ่ มารดานาย xxxx ซึง่ เปน็ พีส่ าวพยาน ไดเ้ สยี ชีวติ แลว้ นาย xxxx มีประวตั เิ คยตดิ คุกคดียาเสพตดิ
มาแล้ว กรณีตรวจพบว่าท่านรับโอนเงินจาก น.ส. xxxxx xxxxx เลขที่บัญชี xxx-x-xxxxx-x ธนาคาร
ไทยพาณชิ ย์ จ�ำกัด สาขาพล เมอ่ื วันท่ี xx xxxxx xxxx รับโอนเงิน ๒,๐๐๐ บาท, xx xxxxx xxxx รบั โอนเงนิ
๒,๐๐๐ บาท, xx xxxxx xxxx รับโอนเงนิ ๓,๐๐๐ บาท, xx xxxxx xxxx รับโอนเงนิ ๒,๐๐๐ บาท และ
กรณีตรวจพบว่าท่านรับโอนเงินจาก น.ส. xxxx หรือ xx xxxx เลขที่บัญชี xxx-x-xxxxx-x ธนาคาร
ไทยพาณิชย์ จ�ำกดั สาขานมิ มานเหมนิ ท์ เมือ่ วนั ท่ี xx xxxxx xxxx รับโอนเงนิ ๔,๐๐๐ บาท, xx xxxxx xxxx รับ
โอนเงนิ ๒,๐๐๐ บาท, xx xxxxx xxxx รบั โอนเงิน ๘๐๐ บาท, xx xxxxx xxxx รบั โอนเงนิ ๘๐๐ บาท และ
xx xxxxx xxxx ยอดเงิน ๕,๐๐๐ บาท นั้นนาย xxxx เป็นผู้โอนเงินจากทั้งสองบัญชีมาให้ใช้จ่ายใน
ครอบครัว เนื่องจากนาย xxxx เห็นในความห่วงใยต่อนาย xxxx จึงโอนเงินมาให้ใช้ จากการสอบสวน
นาง xxxx พยานที่ ๖ ให้การว่า ให้บริการรับจ้างโอนเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแบ้งค์ก้ิง โดยมีลูกค้าท่ัวไป
มาใช้บริการ กรณีตรวจพบการโอนเงินจากบัญชีของพยานไปเข้าบัญชี น.ส. xxxxx เลขที่บัญชี
xxx-x-xxxxx-x และบัญชี xxx-x-xxxxx-x เลขท่ี xxx-x-xxxxx-x จำ� นวนหลายรายการน้ัน เน่ืองจากมลี ูกคา้ ทราบ
ช่ือภายหลังคือ นาย xxxxx หรือ xxx xxxx มาจ้างโอนเข้าบัญชีดังกล่าวโดย ไม่ทราบว่าเป็นเงินเกี่ยวข้องกับ
ยาเสพตดิ จากการสอบสวน นาง xxxxx พยานที่ ๗ ให้การว่า เปน็ ลกู สะใภข้ อง นาง xxxxx เคยให้บรกิ ารรบั จา้ ง
โอนเงินแก่นาย xxxxx หรือ xxx xxx โดยให้โอนเข้าบัญชี น.ส. xxxxx เลขท่ีข้างต้นพยานไม่ทราบว่าเป็นเงิน
เกยี่ วข้องกับยาเสพตดิ จากการสอบสวน นาย xxxxx พยานที่ ๘ ใหก้ ารว่า เคยถกู จบั กุมยาเสพติด โดยชดุ จับกุม
สภ. xxxx ในคร้ังน้ัน ไดย้ าบ้าของกลาง จ�ำนวน ๖ เม็ด โดยรบั ยาบ้าจากนาย xxxxx หรอื xxx xx เหตเุ กิดเมื่อ
วนั ที่ x xxxx xxxx ศาลตดั สนิ ปรบั ๑๐,๐๐๐ บาท ตอ่ มานาย xxxxx เคยส่ังการให้พยานเอาเงนิ จากเครือข่าย
ที่รับยาบ้าไปขายโอนเข้าบัญชี นาง xxxxx xxxxx เลขที่บัญชี xxx-x-xxxxx-x ธนาคารไทยพาณิชย์ จ�ำกัด
สาขาพล จากการสอบสวนนาย xxxxx พยานที่ ๙ ให้การว่า กรณตี รวจพบหมายเลขโทรศพั ท์ xx-xxxx-xxxx
ถูกบันทึกไว้ในเครื่องโทรศัพท์ของนาย xxxxx xxxxx ของกลางในคดีท่ีถูกจับกุมน้ัน พยานยืนยันว่าหมายเลข
ดังกล่าวพยานให้มารดาซ้ือให้โดย ใช้กับเครื่องโทรศัพท์ ยี่ห้อ หัวเหว่ย ลงทะเบียนรายเดือนในนามมารดา
โดยซ้ือท่ีร้านสะดวกซ้ือในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ต่อมาเม่ือประมาณเดือนเมษายน ๒๕๖๓ พยานน�ำไปจ�ำน�ำกับ

188

รายงานการสอบสวนคดอี าญาที่ ๒๐๘/๒๕๖๓ แผน่ ที่ ๑๐

นาย xxxx หรอื xxxxx xxxxx ราษฎรบา้ นเดียวกัน ไดย้ าบา้ ๓ เมด็ ตีแทนเงนิ ๓๐๐ บาท จากนั้นไปไถ่คนื มา
ต่อมาเดือน มิถนุ ายน ๒๕๖๓ นาย xxxxx มาเล่นดว้ ยทบี่ ้านและขอเล่นโทรศัพทแ์ ลว้ ไมย่ อมคนื ให้พยาน พยาน
ขอคืนแต่นาย xxxxx ไม่ยอมคืนให้จนเกิดมีปากเสียงชกต่อยกัน แล้วนาย xxxxx ได้ขับรถจักรยานยนต์
พร้อมเอาโทรศัพทไ์ ปด้วย จากการสอบสวน นาง xxxxx พยานที่ ๑๐ ใหก้ ารว่า เปน็ มารดาของ นาย xxxxx
ยืนยนั ว่าหมายเลขท่บี นั ทึกไว้ในเคร่อื งโทรศัพทข์ องกลางในคดที น่ี าย xxxxx ถูกจบั กุมนัน้ เป็นหมายเลขโทรศัพท์
ของพยานทซ่ี ื้อให้นาย xxxxx ยืนยันว่าไมร่ ู้จกั นาย xxxxx จากการสอบสวน นาย xxxxx พยานที่ ๑๑ ให้การว่า
พยานถูกชุดจับกุม สภ. xxx จบั ตัวพรอ้ มของกลาง ๑,๔๐๔ เมด็ เม่ือวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๓ ซงึ่ ของกลางในคดี
ดงั กลา่ วพยานรับมาจาก นาย xxx หรือ xxxxx มาจำ� หนา่ ย แล้วทยอยโอนเงินเข้าบัญชี น.ส. xxxxx เลขท่บี ญั ชี
xxx-x-xxxxx-x โดยพยานได้โอนค่ายาบ้า จ�ำนวน ๔ ครั้ง ยอดเงิน ๑๐๔,๕๐๐ บาท โดยโอนผ่านบัญชี
นางเกษร สาระคาญ เลขท่บี ญั ชี xxx-x-xxxxx-x ปจั จุบันพยานอยรู่ ะหว่างตอ้ งโทษจ�ำคุก ๘ ปี จากการสอบสวน
นาง xxxxx พยานที่ ๑๒ ให้การว่า เปน็ ภรรยาของ นายเสกสันต์ฯ ซ่ึงนาย xxxxx ให้พยานไปเปดิ บญั ชีธนาคาร
ไทยพาณิชย์ จ�ำกัด สาขา xxx เลขที่ xxx-x-xxxxx-x และสมัครใช้บริการเบิกถอนโอนเงินระบบอินเตอร์เน็ต
แบ้งค์กิง้ แล้วมอบบัญชีใหน้ าย xxxxx เปน็ คนใช้ ต่อมานาย xxxxx ถกู จบั กมุ พร้อมยาบ้า ๑,๔๐๔ เมด็ จากการ
สอบสวน นาง xxxxx พยานท่ี ๑๓ ใหก้ ารวา่ ถกู ชุดจับกุม สภ. xxx จับตวั พรอ้ มกับนาย xxxxx xxxxx ยาบ้าของ
กลาง จ�ำนวน ๒,๐๖๘ เม็ด เมือ่ วนั ท่ี ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓ โดยนาย xxxxx xxxxx สั่งการให้ไปรับของกลางท่ี
เครอื ขา่ ยสง่ มาทางพสั ดเุ คอรร์ ่ี แลว้ ถกู จบั กมุ พรอ้ มกบั นาย xxxxx พยานยงั ใหก้ ารตอ่ ไปวา่ กอ่ นหนา้ นนั้ ตง้ั แตเ่ ดอื น
มกราคม ๒๕๖๓ เปน็ ตน้ มา พยานรบั ยาบ้าจากนาย xxxxx ไปขายครัง้ ละถงุ ๆ ละ ๒๐๐ เม็ด ทยอยโอนเงนิ คา่
ยาบ้าเข้าบัญชีนาย xxxxx เลขท่ีบัญชี xxx-x-xxxxx-x กระทั่งมาถูกจับกุม และให้การอีกว่า นาย xxxxx
นาย xxxxx และนาย xxxxx เปน็ เครอื ขา่ ยเดยี วกนั จากการสอบสวน นาย xxxxx พยานที่ ๑๔ ใหก้ ารวา่ พยาน
ถูกชุดจับกุม สภ. xxx พรอ้ มกบั น.ส. xxxxx xxxxx ยาบ้าของกลาง จ�ำนวน ๙,๘๑๔ เมด็ เมอ่ื วันที่ ๒๑ พฤษภาคม
๒๕๖๓ พยานกับภรรยามีหน้าท่ีรอสั่งการของนาย xxxxx ในการไปรับยาบ้าตามสถานที่ต่างๆ ท่ีเครือข่าย
นาย xxxxx น�ำมาวางไว้ พยานกับภรรยาก็จะเก็บมาพักไว้รอสั่งการนาย xxxxx ท่ีจะสั่งให้น�ำไปวางต่อ
ยังจุดต่างๆ อีก โดยนาย xxxxx ใช้โทรศัพท์มือถือ xx-xxxx-xxxx พยานได้รับค่าตอบแทนเล็กน้อย จากการ
สอบสวน นางสาว xxxxx พยานท่ี ๑๕ ให้การสอดคล้องกับนาย xxxxx โดยถูกจับกุมพร้อมกัน และให้การ
ตอ่ ไปว่า นาย xxxxx มฐี านะเปน็ พเ่ี ขย พึง่ พ้นโทษคดียาเสพติดออกมาโดยไมไ่ ด้ประกอบอาชพี นาย xxxxx ได้
ชักชวนให้พยานร่วมมือในการไปรับยาบ้าแล้วน�ำไปวางตามจุดเริ่มท�ำงานมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ๒๕๖๓ โดย
วางยาบ้า๕ คร้ัง/เดือนและ ๓ คร้ัง/สัปดาห์ คร้ังละ ๑๐ ลูกๆ ละ ๒,๐๐๐ เม็ด และสูงสุดประมาณ ๓๐ ลูก
ยาบ้า ๖๐,๐๐๐ เม็ด ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในเขตอ�ำเภอแวงใหญ่ อ�ำเภอ xxxx, อ�ำเภอ xxxx, อ�ำเภอxxxx,
สถานีขนส่งจังหวัด xxxxxxx โดย xxxxxx ให้ใช้รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ไม่ทราบทะเบียน เป็นพาหนะ
นอกจากน้ยี ังเคยเห็นนางสาว xxxxxx มาพบนาย xxxxxx ทบ่ี ้านของพยาน พยานเคยพานาย xxxxxx xxxxx

189

รายงานการสอบสวนคดีอาญาที่ ๒๐๘/๒๕๖๓ แผ่นที่ ๑๑

ไปเปดิ บัญชธี นาคารไทยพาณิชย์ จ�ำกดั สาขาพล เลขที่ xxx-x-xxxxx-x แลว้ เอาไปใหน้ าย xxxxx ซ่งึ นาย xxxxx
และนาย xxxxx เป็นเครือข่ายเดียวกัน จากการสอบสวน นาย xxxxx พยานท่ี ๑๖ ให้การว่า กรณีตรวจพบ
รายการโอนเงนิ จากบัญชพี ยาน เลขท่ี xxx-x-xxxxx-x เขา้ บัญชี น.ส.xxxx xxxx เลขทีบ่ ญั ชี xxx-x-xxxxx-x นน้ั
พยานไม่ได้เป็นคนใช้บัญชี โดยไปเปิดบัญชีให้ น.ส. xxxxx จากการสอบสวน นาง xxxxx พยานท่ี ๑๗
ให้การวา่ กรณตี รวจพบการโอนเงินจากบญั ชี นายxxxxx xxxxx เลขทีบ่ ัญชี xxx-x-xxxxx-x เข้าบัญชขี องพยาน
ธนาคารกสกิ รไทย จ�ำกดั สาขา xxxxx เลขทีบ่ ญั ชี xxx-x-xxxxx-x นนั้ พยานไม่ทราบ เพราะทำ� สมุดบัญชีและ
บัตรเอทีเอ็มหาย หลังจากได้รับหมายเรียก พยานได้ไปตรวจสอบบัญชีกับทางธนาคารปรากฏว่ามีเงินถูกถอน
ออกจำ� นวน ๑๖,๘๓๙,๕๗๕ บาท พยานไม่รู้จกั นาย xxxxx จากการสอบสวน นางสาว xxxxx พยานที่ ๑๘
ใหก้ ารวา่ กรณตี รวจพบการโอนเงินจากบญั ชี นาย xxxxx xxxxx เลขที่บญั ชี xxx-x-xxxxx-x เขา้ บญั ชีของพยาน
ธนาคารกสิกรไทย จ�ำกัด สาขา xxx เลขทบ่ี ญั ชี xxx-x-xxxxx-x นั้น เมือ่ ประมาณเดอื นมนี าคม-เมษายน ๒๕๖๓
ได้มนี างสาว xxxxx xxxxx ซง่ึ เปน็ เพ่ือนบ้านขอให้พยานไปเปดิ บญั ชีให้ โดยจะให้ค่าบญั ชี ๕๐๐ บาท พยานมี
ฐานะยากจนไม่มเี งนิ จึงไปเปิดบัญชีให้ บญั ชเี ลขที่ xxx-x-xxxxx-x หลงั จากนนั้ กไ็ ม่ทราบวา่ น.ส. xxxxx นำ� บัญชี
ของพยานไปท�ำอะไร จากการสอบสวน นางสาว xxxxx พยานท่ี ๑๙ ให้การว่าอยู่กินฉันสามีภรรยากับ
นาย xxxxx เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๓ ขณะหลบหนีการจับกุมพร้อมกับนาย xxxxx ถูกจับได้พร้อมยาบ้า
นาย xxxxx หลบหนไี ปได้ พยานถกู ตัดสนิ จำ� คกุ ๓ ปี ๑๒ เดอื น รับว่าได้เอาบัญชธี นาคารของ นางสาว xxxxx
ไปให้นาย xxxxx ใช้ เข้าใจว่าเอาไปใช้ในการซ้ือขายยาเสพติดกับเครือข่ายเพ่ือการโอนและรับโอนเงินค่า
ยาเสพติด และปจั จบุ ันน้ี บตั รเอทเี อม็ กอ็ ยกู่ ับนาย xxxxx และยังให้การตอ่ ไปวา่ นาย xxxxx กอ่ นท่ีจะมาอยกู่ นิ
กบั พยาน นาย xxxxx คบหากบั นางสาว xxxxx xxxxx จากการสอบสวนนาง xxxxx พยานที่ ๒๐ ใหก้ ารวา่
เป็นมารดาของนาง xxxxx xxxxx พยานไม่ทราบวา่ บตุ รสาวท�ำงานอะไร อยู่ท่ีใด เพราะไมเ่ คยแจ้งใหท้ ราบและ
ติดต่อไมได้ จากการสอบสวน ร.ต.อ. xxxx พยานที่ ๒๑ ให้การว่า รับราชการต�ำแหน่งรองสารวัตรสืบสวน
สภ. xxxx จากการสืบสวนทราบว่า นาย xxxxx, นายxxxxx, และนาย xxxxx มีพฤติการณ์เป็นเครือข่าย
ยาเสพตดิ โดยส่ังน�ำเขา้ ยาบ้าจาก สปป.ลาว และได้จับกมุ เครือขา่ ยของบุคคลดงั กล่าว คอื เมือ่ วนั ที่ ๓ เมษายน
๒๕๖๓ จบั กุมนาย xxxxx xxxxx ยาบา้ ๑,๔๐๔ เม็ด ซงึ่ ใหก้ ารถึงนาย xxxxx และวนั ท่ี ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓
จับกุมนาย xxxxx xxxxx, นางสาว xxxxx xxxxx ยาบ้า ๒,๐๖๘ เม็ด ในวันเดียวกันขยายผลไปจับกุม
นาย xxxxx xxxxx และนางสาว xxxxx xxxxx ยาบ้า ๙,๘๗๑ เม็ด ซ่ึงให้การถึงนาย xxxxx จากการสืบสวน
นาย xxxxx, นา ยxxxxx และ xxxxx เป็นเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งนาย xxxxx เป็นลูกน้องคนสนิทของ
นาย xxxxx โดยมหี น้าท่ีนำ� ยาบ้าไปวางตามสงั่ การของนาย xxxxx โดยลา่ สดุ นาย xxxxx ได้นำ� ยาบ้ามาส่งมอบ
ให้กับลูกค้าเพื่อน�ำไปกระจายตามสั่งการของนาย xxxxx ใช้รถยนต์ ย่ีห้อ ฮอนด้า ซิตี้ โดยสวมทะเบียน xx
xxxx xxxxx ซง่ึ ตรวจสอบแลว้ เป็นช่อื บคุ คลอืน่ อย่รู ะหว่างสบื สวนจับกุม จากการสอบสวน นาย xxxxx xxxxx
พยานท่ี ๒๒ ใหก้ ารวา่ มอี าชีพพนกั งานขายรถอยูท่ ีบ่ ริษทั สามเหล่ียมออโต้ จ�ำกดั เมอ่ื วนั ที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๓

190

รายงานการสอบสวนคดีอาญาท่ี ๒๐๘/๒๕๖๓ แผ่นท่ี ๑๒

ได้มีนาย xxxxx xxxxx กบั พวก มาซ้ือรถยนตเ์ ก๋งยห่ี ้อ ฮอนด้า ซีวคิ ทะเบยี น xx xxx xxxx ด้วยเงนิ สด ราคา
๗๐๐,๐๐๐ บาท โดยซ้ือในนามบิดา จากการสอบสวน นางสาว xxxxx พยานท่ี ๒๓ ใหก้ ารว่า มอี าชีพขาย
รถยนต์มือสองระหว่างเดือนธันวาคม ๒๕๖๒- เดือนมกราคม ๒๕๖๓ ได้ขายรถยนต์ จ�ำนวน ๒ คัน ให้กับ
นาย xxxxx xxxx บิดานาย xxxxx คือ รถยนต์ปิกอัพ คันทะเบียน xx xxxx xxxx ราคา ๔๘๐,๐๐๐ บาท
วางดาวน์ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ที่เหลือจัดไฟแนนท์และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค ทะเบียน xx xxxx xxxx
ซอ้ื ด้วยสด ราคา ๓๓๐,๐๐๐ บาท แต่ในขณะตกลงซอ้ื ขายกนั นาย xxxxx จะเป็นคนตัดสนิ ใจในการเลือกซื้อ
จากการสอบสวน นางสาว xxxxx พยานท่ี ๒๔ ให้การวา่ เป็นพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ จ�ำกัด สาขาพล
จากการตรวจสอบบัญชีเลขที่ xxx-x-xxxxx-x เปิดบัญชีโดย น.ส. xxxxx xxxxx ประเภทออมทรัพย์ เบิกถอน
เงินสดโดยระบบ E-NET และบัตรเอทเี อม็ มคี �ำขอเปดิ ใชบ้ รกิ าร SMS ผกู กับหมายเลขโทรศัพท์ xx-xxxx-xxxx
มรี ายการเคลอื่ นไหวบัญชี ระหว่าง ๑๔ มกราคม ๒๕๖๓ – ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๓ มกี ารท�ำธรุ กรรมดา้ นฝากเงิน
๑๖๕ รายการ เป็นเงิน ๑,๘๓๔,๗๑๒ บาท ด้านถอนเงิน ๑๔๕ รายการ เปน็ เงิน ๑,๘๑๔,๒๘๐ บาท ส่วนบญั ชี
เลขที่ xxx-x-xxxxx-x เปดิ บัญชโี ดย นา ยxxxxx xxxxx บัญชปี ระเภทเงินฝากออมทรพั ย์ เบิกถอนเงิน ผ่าน SCB
Easy APP มีค�ำขอเปิดใช้บริการ SMS ผูกกับหมายเลขโทรศัพท์ xx-xxxx-xxxx มีรายการเคลื่อนไหวบัญชี
ระหว่าง ๑๙ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ – ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ มีการท�ำธุรกรรมดา้ นฝากเงิน ๓๐ รายการ เป็นเงนิ
๔๘๕,๒๗๑ บาท ดา้ นถอนเงิน ๒๘ รายการ เป็นเงนิ ๔๘๕,๒๕๐ บาท จากการสอบสวน นางสาว xxxx พยาน
ที่ ๒๕ ให้การว่าเปน็ พนักงานธนาคารกสกิ รไทย จำ� กดั สาขาพล จากการตรวจสอบบัญชีเลขที่ xxx-x-xxxxx-x
เปิดบญั ชโี ดย นาย xxxxx xxxxx ประเภทออมทรพั ย์ เบิกถอน/โอนเงนิ โดยระบบ K PLUS และบตั รเดบิต มคี ำ� ขอ
เปิดใช้บริการ SMS ผูกกับหมายเลขโทรศัพท์ xx-xxxx-xxxx มีรายการเคลื่อนไหวบัญชี ระหว่าง ๒ มกราคม
๒๕๖๓ – ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓ มกี ารทำ� ธรุ กรรมด้านฝากเงิน ๕๗๔ รายการ เปน็ เงิน ๓,๗๗๐,๘๓๕ บาท ด้าน
ถอนเงนิ ๙๑๗ รายการ เป็นเงิน ๓,๗๗๐,๘๙๙.๘๐ บาท มียอดเงนิ คงเหลือ ๖๐.๘๐ บาท จากการสอบสวน
พ.ต.ท. xxxxx ใหก้ าร ตามคำ� สง่ั แตง่ ตง้ั พนกั งานสบื สวนสอบสวน พยานไดด้ ำ� เนนิ การสบื สวน โดยไดร้ ายงานการ
สบื สวนมอบให้พนกั งานสอบสวนแล้ว

จากการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ แลว้ ทราบว่าทง้ั คดีท่นี าย xxxxx พยานถกู จับกมุ พรอ้ มยาบา้
ของกลาง ๖,๙๔๒ เม็ด ทอ้ งที่ สภ. xxxx, นาย xxxxx พยานถกู จับกมุ พร้อมยาบ้าของกลาง ๑๔๐๔ เมด็ ท้องที่
สภ. xxx, นาย xxxxx และ นางสาว xxxxx ถูกจับกุมพรอ้ มยาบา้ ของกลาง ๒,๐๖๘ เมด็ ทอ้ งที่ สภ. xxx และคดี
นาย xxxxx พยาน กบั นางสาว xxxxx พยาน ถกู จบั กมุ พรอ้ มยาบา้ ของกลาง ๙,๘๗๑ เม็ด ท้องที่ สภ. xxxxx
น้ันล้วนมีความเชื่อมโยงกันโดยมีนาย xxxxx หรือ xxxxx xxxx เป็นผู้ส่ังน�ำเข้ายาบ้าจาก สปป.ลาว แล้วให้
นาย xxxxx xxxxx, นาย xxxxx หรือ xxxxx xxx ไปกระจายยาบ้าให้เครือข่ายน�ำไปจ�ำหน่ายตามท้องท่ีที่
ถูกจับกุม โดยพฤติการณ์ดังกล่าวเริ่มต้ังแต่ นาย xxxxx พ้นโทษออกมาเมื่อเดือน กันยายน ๒๕๖๒ โดยพบ
รายการโอนเงินจากบัญชี น.ส. xxxxx เลขที่ xxx-x-xxxxx-x โอนเขา้ บญั ชนี าย xxxxx xxxxx บิดานาย xxxxx

191

รายงานการสอบสวนคดอี าญาที่ ๒๐๘/๒๕๖๓ แผ่นท่ี ๑๓

ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์ ครั้งแรกเม่ือ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๒ ยอดเงิน ๑๓,๐๐๐ บาท และโอนอีก
หลายคร้ัง ครัง้ สุดทา้ ยเม่อื วันท่ี ๙ มกราคม ๒๕๖๓ จำ� นวน ๙๕,๕๕๐ บาท รวมโอนเงนิ จากบัญชี น.ส. xxxxx
ไปยังเขา้ บญั ชนี าย xxxxx จำ� นวน ๓๔๐,๐๕๐ บาท ซึ่งในช่วงดังกลา่ วนาย xxxxx กับบิดาไดซ้ ื้อรถยนต์ จ�ำนวน
๓ คัน สอดคล้องคำ� ใหก้ ารนาย xxxxxx และสอดคลอ้ งกับปากค�ำน.ส. xxxxx ว่ารู้จกั กบั นาย xxxxx เมื่อเดอื น
ตลุ าคม ๒๕๖๒ จากขอ้ เทจ็ จรงิ ดงั กลา่ วจงึ บง่ ชว้ี า่ นาย xxxxx มพี ฤตกิ ารณจ์ ำ� หนา่ ยยาเสพตดิ โดยสง่ั นำ� เขา้ มาแลว้
ให้เครือข่ายไปกระจายให้ลูกค้าน�ำไปจ�ำหน่ายต่อโดยจะไม่แตะต้องยาเสพติด แต่จะให้นาย xxxxxx xxxxxx
เครือข่ายคนสนิทเป็นคนน�ำยาบ้าไปวางตามจุดนัดหมาย จากนั้นก็จะให้เครือข่ายท่ีรับยาบ้าไปขายโอนเงินเข้า
บัญชี น.ส. xxxxx, บัญชี น.ส. xxxxx และบญั ชี นาย xxxxx น�ำเงินทีไ่ ดจ้ ากการจ�ำหน่ายยาเสพติดไปเปล่ียนสภาพ
ทรพั ย์สนิ ตอ่ มา นาย xxxxx xxxxx เครือข่ายถกู จับกุม เมือ่ วนั ที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๓ พร้อมยาบ้า จำ� นวน ๑,๔๐๔
เมด็ โดยพบหลักฐานการโอนเงินคา่ ยาบ้าจากบัญชนี างสาวเกษรฯ ภรรยานาย xxxxx ไปเขา้ บัญชี น.ส. xxxxx
จำ� นวน ๔ คร้ัง ยอดเงิน ๑๐๔,๕๐๐ บาท ซึ่งนาย xxxxx ก็ให้การยืนยัน และตอ่ มาเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๓
นาย xxxxx ถูกจับกุม พร้อมยาบ้าจ�ำนวน ๖,๙๔๒ เม็ด โดยมีหลักฐานการโอนเงินจากบัญชีนาย xxxx xxxx
ธนาคารไทยพาณิชย์ จ�ำกัด สาขาภูเก็ต เลขท่ีบัญชี xxx-x-xxxxx-x โอนเข้าบัญชี น.ส.xxxxx เลขท่ีบัญชี
xxx-x-xxxxx-x จำ� นวน ๒๓ คร้งั ยอดเงนิ ทั้งส้ิน ๒๘๕,๙๐๐ บาท สอดคลอ้ งค�ำใหก้ ารของนาย xxxxx ซ่งึ เมือ่
มยี อดเงนิ โอนเขา้ นาย xxxxx ก็โอนตอ่ ไปบัญชี น.ส. xxxxx เลขท่ี xxx-x-xxxxx-x โดยพบวา่ บัญชี น.ส. xxxx xxx
รับโอนเงินจากบัญชี น.ส.xxxxx จ�ำนวนถึง ๑๐๙ รายการ มียอดโอนต้ังแต่หลักพันจนถึงหลักหม่ืน รวมทั้งส้ิน
๑,๓๒๓,๓๓๐ บาท เมื่อตรวจสอบรายการโอนเงินอ่ืนๆ ก็พบว่า มีการโอนเงินจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์
จ�ำกัด สาขา xxxxx ชอื่ บัญชี นาง xxxx xxxxxx เลขท่บี ัญชี xxx-x-xxxxx-x โอนเข้าบญั ชี น.ส. xxxxx จ�ำนวน
๗ รายการ ยอดเงิน ๓๙,๓๐๐ บาท และโอนเข้าบัญชี น.ส. xxxxx จ�ำนวน ๒๔ รายการ ยอดเงิน ๒๒๓,๗๐๐ บาท
ซ่ึงนาง xxxxx ยืนยันว่ามีนาย xxxxx สอดคล้องกับค�ำให้การนาย xxxxx และตรวจสอบรายการโอนเงิน
เขา้ บัญชี น.ส. xxxxx รายการอื่น ก็พบรายการโอนเงินโดย น.ส. xxxxx ซ่งึ ใหก้ ารยืนยันวา่ นาย xxxxx เป็นคนใช้
บญั ชี และนาย xxxxx กใ็ หก้ ารยนื ยันวา่ รับยาบา้ จากนาย xxxxx ไปขาย แลว้ ทยอยเงนิ ค่ายาบ้าแก่นาย xxxxx
เขา้ บญั ชีน.ส. xxxxx เลขท่ีบญั ชี xxx-x-xxxxx-x จ�ำนวน ๔ คร้ัง ยอดเงนิ ๑๐๔,๕๐๐ บาท ชว่ งเดอื น มีนาคม
๒๕๖๓ กระทั่งมาถูกจับกุมเม่ือวันท่ี ๓ เมษายน ๒๕๖๓ และเม่ือตรวจสอบการโอนเงินจากบัญชี น.ส. xxxxx
ไปยังบญั ชี นาย xxxxx xxxxx เลขท่บี ญั ชี xxx-x-xxxxx-x จ�ำนวน ๖ รายการ ยอดเงนิ ๓๑๕,๒๐๐ บาท และ
โอนคืน จำ� นวน ๗ รายการ ยอดเงนิ ๒๘๒,๓๐๐ บาท ซง่ึ น.ส. xxxxx ยืนยันวา่ ได้พานาย xxxxx ไปเปิดบัญชี
ธนาคารเลขที่ xxx-x-xxxxx-x แล้วเอาบัญชีไปให้นาย xxxxx อีกทั้งจากการตรวจสอบรายการโอนรับโอนเงิน
รายการอื่น ล้วนแต่เป็นบัญชีของบุคคลที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงบ่งชี้ว่าบัญชีเลขที่ xxx-x-xxxxx-x
ชอ่ื บญั ชี น.ส. xxxxx xxxxx, บญั ชเี ลขที่ xxx-x-xxxxx-x ชอ่ื บญั ชี น.ส. xxxxx xxxxx และบญั ชเี ลขที่ xxx-x-xxxxx-x
ช่ือบัญชี นาย xxxxx xxxxx เป็นบัญชียาเสพติดซ่ึงนาย xxxxx เป็นผู้ใช้ทั้งสามบัญชี โดยนาย xxxxxx xxxx

192

รายงานการสอบสวนคดอี าญาที่ ๒๐๘/๒๕๖๓ แผ่นท่ี ๑๔

ใหเ้ ครอื ขา่ ยโอนเขา้ บญั ชเี ลขท่ี xxx-x-xxxx-x ชอ่ื บญั ชี น.ส.xxxxx xxxxx จากนนั้ กจ็ ะโอนเขา้ บญั ชี xxx-x-xxxxx-x
ชือ่ บญั ชี น.ส. xxxxx xxxxx พยานท่ี ๒ แลว้ ถอนเงินออกมาบางสว่ นและโอนเขา้ บญั ชนี าย xxxxx ทง้ั นเ้ี พ่ือใหด้ ู
เสมอื นวา่ เปน็ การโอนเงินตามปกตแิ ละไม่เปน็ พริ ธุ ส่วนนาย xxxxx xxxxx จากการสบื สวนสอบสวนชว่ งวันเวลา
เกดิ เหตยุ ังพบอกี ว่ามีการโอนเงนิ จากบัญชีกสิกรไทย จ�ำกดั สาขาพล เลขที่ xxx-x-xxxxx-x ช่อื บัญชนี าย xxxxx
xxxxx ผกู กบั หมายเลขโทรศพั ท์ xx-xxxx-xxxx โอนเขา้ บญั ชี น.ส. xxxxx จำ� นวน ๒๙ รายการ ยอดเงนิ ๑๕๖,๕๐๐
บาท และรับโอนจากบัญชี น.ส. xxxxx จำ� นวน ๓ รายการ ยอดเงิน ๙,๗๓๐ บาท และโอนเข้าบญั ชี น.ส. xxxxx
จำ� นวน ๑๐ รายการ ยอดเงนิ ๒๑๓,๔๐๐ บาท สอดคล้องกบั ค�ำใหก้ ารของ น.ส. xxxxx ซ่ึงใหก้ ารว่ารบั ยาบา้
จากนาย xxxxx ไปขาย ตั้งแตเ่ ดือนมกราคม ๒๕๖๓ เรื่อยมา โดยทยอยโอนเงินใหน้ าย xxxxx ผา่ นบัญชีธนาคาร
กสิกรไทย จ�ำกัด สาขา xxx เลขท่ี xxx-x-xxxxx-x จำ� นวน ๙๓ รายการ ยอดเงนิ ๒๓๙,๖๐๐ บาท และพบ
การโอนเงินจากบัญชีนาย xxxxx คืนให้ น.ส. xxxxx บัญชีเลขที่ xxx-x-xxxxx-x จ�ำนวน ๕ คร้ัง ยอดเงิน
๑๖๐,๐๐๐ บาท เช่อื วา่ นาย xxxxx ให้ค่าจ้างแก่ น.ส. xxxxx xxxx กระทง่ั ถูกจบั กุม และพบการโอนเงนิ จากบัญชี
นาย xxxxx ไปเขา้ บัญชี น.ส. xxxxx อกี จ�ำนวน ๓๓ ครัง้ มยี อดเงนิ หลกั ร้อยถงึ หลกั พันและจ�ำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท
๑ ครงั้ เรมิ่ ตง้ั แต่ มกราคม ๒๕๖๓ จนถึงพฤษภาคม ๒๕๖๓ สอดคล้องกับค�ำให้การ ของน.ส. xxxxx ให้การว่า
ได้รับค่าจ้างในการวางยาบ้าตามสั่งการ นาย xxxxx ไม่แน่นอน เชื่อว่ารายการโอนเงินจากบัญชีนาย xxxxx
เขา้ บญั ชี น.ส. xxxxx และบญั ชี น.ส. xxxxx ดงั กลา่ วนน้ั เปน็ การรวบรวมเงนิ คา่ ยาบา้ ทน่ี าย xxxxx รบั ไปจำ� หนา่ ย
นอกจากนี้นาย xxxxx ยังมีการปกปิดอ�ำพรางแหล่งที่มาของเงินโดยให้ น.ส. xxxxx พยานไปเปิดบัญชีให้
แล้วใช้บัญชี

จากการตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ นาย xxxxx xxxxx ใช้โทรศัพท์หมายเลข xx-xxxx-xxxx
นาย xxxxx xxxxx ใช้โทรศัพท์หมายเลข xx-xxxx-xxxx, xx-xxxx-xxxx, xx-xxxx-xxxx, ส่วนนาย xxxxx ใช้
โทรศัพท์หมายเลข xx-xxxx-xxxx, xx-xxxx-xxxx, และนาย xxxxx xxxxx ใชโ้ ทรศัพทห์ มายเลข xx-xxxx-xxxx,
xx-xxxx-xxxx โดยปรากฏข้อมลู การใชโ้ ทรศพั ทต์ ิดต่อถงึ กันดงั นี้

พบการติดต่อครั้งแรกระหว่างนาย xxxxx กับนาย xxxxx คือ ๗/๔/๒๐ เวลา ๐๐:๓๘:๓๔
นาย xxxxx รบั สายนาย xxxxx ทางหมายเลข xx-xxxx-xxxx เปน็ เวลาสั้นๆ ๒ วนิ าที

๗/๔/๒๐ เวลา ๑๑:๓๒:๔๕ นาย xxxxx xxxxx รบั สายนาย xxxxx xxxx ทางหมายเลข xx-xxxx-xxxx
ใชเ้ วลา ๒๑ วินาที

๗/๔/๒๐ เวลา ๑๖:๔๖:๕๓ นาย xxxx xxxx โทรตดิ ตอ่ นาย xxx xxx ทางหมายเลข xx-xxxx-xxxx
ใช้เวลา ๓๘ วนิ าที

๗/๔/๒๐ เวลา ๑๖:๕๐:๒๗ นาย xxxx xxxx รบั สายนาย xxxx xxxx ทางหมายเลข xx-xxxx-xxxx
ใชเ้ วลา ๓๘ วินาที

193

รายงานการสอบสวนคดอี าญาท่ี ๒๐๘/๒๕๖๓ แผ่นที่ ๑๕

๘/๔/๒๐ เวลา ๐๓:๕๗:๐๕ นาย xxxxx xxx รับสายนาย xxxxx xxx ทางหมายเลข xx-xxxx-xxxx
ใชเ้ วลา ๔๔ วนิ าที

๘/๔/๒๐ เวลา ๒๐:๔๑:๑๘ นาย xxxxx รบั สายนาย xxxxx หรอื xxxxx ทางหมายเลข xx-xxxx-xxxx
ใชเ้ วลา ๖๒ วินาที

๘/๔/๒๐ เวลา ๒๑:๑๕:๓๒ นาย xxxxx xxx รับสายนาย xxxxx xxx ทางหมายเลข xx-xxxx-xxxx
ใชเ้ วลา ๑๔ วินาที

๘/๔/๒๐ เวลา ๒๒:๕๐:๓๖ นาย xxxxx xxx รับสายนาย xxxxx xxx ทางหมายเลข xx-xxxx-xxxx
ใช้เวลา ๙๑ วนิ าที (ซง่ึ นาย xxxxx xxx เปลย่ี นหมายเลขโทร)

๑๓/๔/๒๐ เวลา ๐๒:๔๖:๔๖ นาย xxxxx รบั สายนาย xxxxx หรอื xxxx ทางหมายเลข xx-xxxx-xxxx
ใชเ้ วลา ๗๒ วนิ าที

๑๓/๔/๒๐ เวลา ๐๖:๐๔:๒๗ นาย xxxxx โทรติดต่อนาย xxxxx ทางหมายเลข xx-xxxx-xxxx
ใช้เวลา ๒๓๙ วินาที

๑๓/๔/๒๐ เวลา ๑๑:๕๗:๕๒ นาย xxxxx รบั สายนาย xxxxx หรอื xxxx ทางหมายเลข xx-xxxx-xxxx
ใช้เวลา ๑๒๗ วนิ าที

๒๘/๔/๒๐ เวลา ๐๐:๒๘:๕๓ นาย xxxxxx โทรติดต่อนาย xxxxxx ทางหมายเลข xx-xxxx-xxxx
ใช้เวลา ๑๖ วนิ าที

๒๘/๔/๒๐ เวลา ๐๐:๒๙:๒๔ นาย xxxxxx รับสายนาย xxxxxx ทางหมายเลข xx-xxxx-xxxx
ใชเ้ วลา ๒๙ วนิ าที

๓/๕/๒๐ เวลา ๐๘:๓๒:๒๑ นาย xxxxxx รับสายนาย xxxxxx ทางหมายเลข xx-xxxx-xxxx
ใช้เวลา ๒๗ วินาที

๓/๕/๒๐ เวลา ๑๑:๕๗:๓๘ นาย xxxxxx รับสายนาย xxxxxx ทางหมายเลข xx-xxxx-xxxx
ใช้เวลา ๕๔ วินาที

วิเคราะห์แลว้ พบว่ามีการติดต่อระหว่าง นาย xxxxx กบั นาย xxxxx จ�ำนวน ๔๙ ครั้ง, นาย xxxxx
จ�ำนวน ๖ คร้ัง และระหวา่ งนาย xxxxx กับนาย xxxxx จ�ำนวน ๑๗ ครง้ั โดยชว่ งระหวา่ งเวลา ๒๐:๔๔:๒๐ น.
ของวนั ที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๓ จนถงึ เวลา ๐๖:๐๔:๒๗ น. ของวนั ที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๓ พบการตดิ ตอ่ ระหวา่ ง
นาย xxxxx, นาย xxxxx, นาย xxxxx และนาย xxxxx ต่อเนอ่ื งอยา่ งมนี ัยสำ� คญั สอดคลอ้ งกับค�ำให้การของ
นาย xxxxx และข้อความการสนทนาทางแอพพลิเคช่ันไลน์ระหว่างนาย xxxxx และนาย xxxxx ถึงเร่ือง
การส่งมอบยาบ้า

194

รายงานการสอบสวนคดีอาญาท่ี ๒๐๘/๒๕๖๓ แผน่ ท่ี ๑๖

นอกจากนี้ในคดีที่ น.ส. xxxxx xxxxx และนาย xxxxx xxxxx ถูกจับกุมพร้อมของกลาง ยาบ้า
๒,๐๖๘ เม็ด ท้องท่ี สภ. xxxx น้ันยังปรากฏว่า พบการติดต่อทางโทรศัพท์ระหว่างนาย xxxxx หมายเลข
xx-xxxx-xxxx กับนาย xxxxx หมายเลข xx-xxxx-xxxx ช่วงวนั ท่ี ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ถงึ วนั ท่ี ๒๑ พฤษภาคม
๒๕๖๓ เป็นจ�ำนวนถึง ๖๐ ครั้ง สอดคล้องกับทางการสืบสวนของ ร.ต.อ. xxxx ที่ให้การว่านาย xxxxx และ
น.ส. xxxxx รับยาบ้าจากนาย xxxxx มาขาย อีกทงั้ ระหว่างเดอื นเมษายน ๒๕๖๓ ถงึ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓
ปรากฏวา่ มกี ารตดิ ตอ่ กนั ทางโทรศัพท์ระหวา่ งนาย xxxxx, นาย xxxxx และนาย xxxxx อยู่บอ่ ยครั้ง
พิเคราะห์พยานหลักฐานต่างๆ แล้วเห็นว่า มีความเช่ือมโยงทางพยานหลักฐาน ท้ังพยานบุคคล พยาน
เอกสารข้อมูลการใช้โทรศัพท์และข้อมูลการโอนเงินทางบัญชีมีความสอดคล้องกัน พฤติการณ์การกระท�ำของ
นาย xxxxx ผู้ตอ้ งหาท่ี ๑, นาย xxxxx ผู้ตอ้ งหาท่ี ๒, นาย xxxxx ผูต้ ้องหาที่ ๓ เปน็ ผกู้ ่อด้วยการใช้ จ้างวาน หรือ
วิธีอืน่ ใดให้นาย xxxxx xxxxx พยานที่ ๑ กระท�ำความผิดฐาน มยี าเสพติดใหโ้ ทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน)
มปี รมิ าณคำ� นวณเปน็ สารบรสิ ทุ ธเ์ิ กนิ ยส่ี บิ กรมั ขนึ้ ไวใ้ นครอบครองเพอ่ื จำ� หนา่ ย ประกอบผลตรวจพสิ จู นย์ าเสพตดิ
ของกลาง ในคดีอาญาที่ xxx/๒๕๖๓ สภ. xxxxxx นำ� มาขยายผลในคดนี ้,ี เป็นผู้กอ่ ดว้ ยการใช้ จ้าง วาน หรือ วธิ ี
อ่นื ใด ให้ นาย xxxxx xxxxx พยานท่ี ๑๑ กระทำ� ความผดิ ฐาน มียาเสพตดิ ให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามนี )
ไวใ้ นครอบครองเพื่อจำ� หนา่ ย ประกอบผลตรวจพสิ จู น์ยาเสพตดิ ของกลาง ในคดอี าญาที่ xxx/๒๕๖๓ สภ. xxxx
น�ำมาขยายผลในคดีนี้, เป็นผู้ก่อด้วยการใช้ จ้าง วานหรือวิธีอ่ืนใดให้ นาง xxxxx เพิ่มคุณธรรม พยานท่ี ๑๓
กับพวก กระทำ� ความผดิ ฐาน รว่ มกันมยี าเสพติดใหโ้ ทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน) มปี ริมาณคำ� นวณเป็นสาร
บริสุทธเ์ิ กนิ ย่ีสบิ กรมั ขน้ึ ไวใ้ นครอบครองเพอ่ื จ�ำหนา่ ย ประกอบผลตรวจพิสูจนย์ าเสพตดิ ของกลาง ในคดีอาญาท่ี
xxx/๒๕๖๓ สภ. xxxxx น�ำมาขยายผลในคดีน้ี และเปน็ ผกู้ อ่ ด้วยการใช้ จา้ ง วาน หรือวธิ อี ื่นใดให้ นาย xxxxx
xxxxx พยานท่ี ๑๔ และนางสาว xxxxx xxxxx พยานที่ ๑๕ กระท�ำความผิดฐาน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ
ประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน) มีปริมาณค�ำนวณเป็นสารบริสุทธ์ิเกินย่ีสิบกรัมข้ึนไว้ในครอบครองเพ่ือจ�ำหน่าย
ประกอบผลตรวจพิสูจน์ยาเสพติดของกลาง ในคดีอาญาท่ี xx/๒๕๖๓ สภ. xxxxxx น�ำมาขยายผลในคดีนี้
อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๑๕, ๖๖ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๘๓, ๘๔, ๙๑

นอกจากความผิดดังกล่าวแลว้ นาย xxxxx ผตู้ ้องหาที่ ๑, นาย xxxxx ผตู้ ้องหาที่ ๒ และนาย xxxxx
ผู้ต้องหาท่ี ๓ ได้ใชบ้ ัญชีธนาคารของบุคคลอน่ื สำ� หรับการโอน รบั โอนเงินที่ได้จากการจ�ำหน่ายยาเสพติดนำ� ไปซอื้
ทรัพย์สินจ�ำพวกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ อันเป็นการเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระท�ำความผิด
เพ่ือซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งท่ีมาของเงินหรือกระท�ำด้วยประการใดๆ เพ่ือปกปิดหรืออ�ำพรางลักษณะที่แท้จริง
การได้มา แหล่งที่ต้ัง การจ�ำหน่าย การโอน ซึ่งทรัพย์สินที่เก่ียวกับการกระความผิด จึงเป็นความผิดฐาน
“ร่วมกันฟอกเงิน” ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๓,๕,๖๐ ประกอบ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓

195

รายงานการสอบสวนคดีอาญาท่ี ๒๐๘/๒๕๖๓ แผน่ ท่ี ๑๗

ส�ำหรับ นาง xxxxx xxxxx ผู้ตอ้ งหาท่ี ๔ เจ้าของบญั ชธี นาคารไทยพาณชิ ย์ จ�ำกดั สาขาพล เลขท่ี
xxx-x-xxxxx-x ยินยอมให้นาย xxxxx กบั พวก ใชบ้ ัญชธี นาคารของตนเพอื่ การโอนรับโอนเงนิ จากการจ�ำหนา่ ย
ยาเสพติด โดยมปี ากคำ� น.ส. xxxxx พยาน, น.ส. xxxxx พยาน และน.ส. xxxx พยานใหก้ ารยนื ยัน จึงเป็นความ
ผิดฐาน “สนับสนนุ ฟอกเงนิ ” ตาม พ.ร.บ.ปอ้ งกนั และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๗ ทางคดี
มพี ยานหลักฐานพอฟ้องจงึ เหน็ ควร “สง่ั ฟอ้ ง” ผูต้ ้องหาท่ี ๑-๔ ตามขอ้ กล่าวหาและบทกฎหมายทก่ี ล่าวอ้าง

อนึ่ง การกระท�ำผดิ ฐานฟอกเงินในกรรมอื่นๆ นอกจากท่ีฟอ้ งในคดีน้ี จะไดท้ ำ� การสบื สวนสอบสวน
ด�ำเนินคดีกบั ผูก้ ระท�ำผิดต่อไป

จึงเสนอความเห็นพร้อมส�ำนวนการสอบสวนมาเพอื่ โปรดพิจารณา

พันต�ำรวจเอก
( xxxxxx xxxxxxx )

ผู้ก�ำกบั การ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสบื สวนสอบสวนตำ� รวจภูธรภาค x
รอ้ ยตำ� รวจเอก
( xxxxxx xxxxxxx )
รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำ� รวจภธู ร xxxxx จังหวดั xxxxxx
รอ้ ยต�ำรวจเอก
( xxxxxx xxxxxxx )
รองสารวตั ร (สอบสวน) กองบงั คับการกฎหมายและคดี ต�ำรวจภูธรภาค x
พนั ตำ� รวจเอก
( xxxxxx xxxxxxx )
ผกู้ �ำกับการ (สอบสวน) กลุม่ งานสอบสวน กองบงั คับการสบื สวนสอบสวนต�ำรวจภธู รภาค x
พนั ตำ� รวจเอก
( xxxxxx xxxxxxx )
ผู้กำ� กับการ (สอบสวน) กลมุ่ งานสอบสวน กองบังคบั การสบื สวนสอบสวนตำ� รวจภูธรภาค x

196

รายงานการสอบสวนคดีอาญาท่ี ๒๐๘/๒๕๖๓ แผน่ ท่ี ๑๘

พนั ตำ� รวจเอก
( xxxxxx xxxxxxx )

ผูก้ ำ� กับการ (สอบสวน) กลุม่ งานสอบสวน กองบงั คับการสบื สวนสอบสวนต�ำรวจภูธรภาค x
พันต�ำรวจเอก

( xxxxxx xxxxxxx )
รองผู้บังคับการสบื สวนสอบสวน กองบังคบั การสบื สวนสอบสวนต�ำรวจภธู รภาค x
ความเหน็ ของหวั หน้าพนกั งานสอบสวน

พลต�ำรวจตรี
( xxxxxx xxxxxxx )

รองผบู้ ัญชาการต�ำรวจภูธรภาค x
ปฏิบัตริ าชการตำ� รวจภธู รภาค x /หวั หนา้ พนกั งานสบื สวนสอบสวน

197

198

เครอื ขา่ ยยาเสพตดิ

ตัวอยา่ ง พฤตกิ ารณ์ทเี่ ป็นการกระท�ำความผดิ ฐานฟอกเงิน ตามแนววินจิ ฉยั ของศาล

๑. พบเงนิ ซุกซอ่ นในรถยนต์
- การน�ำเงินบรรจุถุงพลาสติกเป็นมัดๆ หลายห่อแล้วน�ำไปซุกซ่อนในรถยนต์กระบะแล้วขับรถยนต์ดังกล่าวออกไป
เป็นการรับโอนทรัพย์สินท่ีเกี่ยวกับการกระท�ำความผิดเก่ียวกับยาเสพติด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งท่ีมา
ของทรัพย์สินน้นั เป็นการกระท�ำความผดิ ฐานฟอกเงนิ
๒. พบเงินซุกซ่อนในกระเปา๋
- การน�ำธนบัตรมามัดรวมกันแล้วมัดห่อพันด้วยกระดาษเทปกาวหรือสก๊อตเทปใส่ไว้ในกระเป๋าใบเล็ก แล้วน�ำกระเป๋า
ใบเล็กใส่ไว้ในกระเป๋าใบใหญ่อีกช้ันหน่ึง เป็นการปกปิดหรืออ�ำพรางลักษณะที่แท้จริง และการได้มาซ่ึงทรัพย์สิน
ท่เี กย่ี วกับการกระทำ� ความผดิ จึงเป็นการกระทำ� ความผิดฐานฟอกเงิน
๓. การนำ� เงนิ ทไี่ ดม้ าจากการกระท�ำความผิดมลู ฐานไปซอื้ ทรพั ย์สนิ อนื่
- การน�ำเงินท่ีได้จากการจ�ำหน่ายยาเสพติด มาซ้ือโทรศัพท์มือถือและรถจักรยานยนต์ โดยจ�ำเลยได้ใช้ช่ือของบุคคล
อื่นเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ แต่จ�ำเลยยังเป็นผู้ใช้และครอบครองรถจักรยานยนต์และโทรศัพท์มือถือดังกล่าว หรือการซื้อ
ที่ดินพร้อมส่ิงปลูกสร้าง การท�ำสัญญาประกันชีวิต ทั้งของตนเองและของบุคคลอื่นซื้อทองรูปพรรณ เป็นการเปล่ียน
สภาพทรัพยส์ ินท่เี กยี่ วกับการกระท�ำความผิดเพ่ือซุกซ่อน ปกปิด แหล่งทีม่ าของทรพั ยส์ นิ นนั้
๔. การโอนเงินเขา้ บญั ชีเงินฝาก
- การโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร เป็นกระท�ำด้วยประการใดๆ เพ่ือปกปิดหรืออ�ำพรางลักษณะท่ีแท้จริง การได้มา
ซ่งึ ทรัพย์สนิ ท่เี กย่ี วกับการกระท�ำความผดิ เปน็ การฟอกเงิน
๕. พบเงินซุกซ่อนในรถยนต์ ผู้ตอ้ งหารับวา่ เปน็ เงนิ ท่ีได้รบั มอบมาเพ่ือนำ� ไปส่งมอบใหอ้ กี คนหนึ่ง
- เจ้าพนักงานตำ� รวจไดต้ รวจคน้ ตวั จำ� เลยพบเมทแอมเฟตามนี จำ� นวนหน่งึ และรีโมทรถยนต์ จำ� เลยรับสารภาพวา่ เป็น
กญุ แจรถยนต์ ที่บรรทุกเงิน เพอื่ ใหจ้ ำ� เลยขับรถยนต์ดังกลา่ วไปส่งมอบตามท่ีจะไดม้ ีการนดั หมายกันต่อไป
ผลการตรวจค้นรถยนต์ พบธนบัตรในกระโปรงท้ายรถยนต์ และพบสารปนเปื้อนยาเสพติดที่ธนบัตรของกลาง ซึ่งเก็บ
ไว้ในลักษณะซุกซ่อนและมีกล่ินยาบ้าติดอยู่ ประกอบกับค�ำรับสารภาพของจ�ำเลยในช้ันสอบสวนว่าเงินจ�ำนวน
ดังกล่าว เป็นเงินท่ีพวกของจ�ำเลยได้มาจากการจ�ำหน่ายยาเสพติดและจ้างให้จ�ำเลยน�ำไปส่งมอบให้แก่อีกคนหนึ่ง
โดยจ�ำเลยได้รับมอบกุญแจรถยนต์และขับรถยนต์ เป็นการรับโอนรถยนต์พร้อมเงินท่ีซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์
เพ่ือซกุ ซอ่ นแหลง่ ที่มาของทรพั ย์สนิ นนั้

199







๑. ตวั อยา่ งเอกสารราชการ

๑.๑ แบบฟอร์มหมายเรยี กข้อมลู จากผ้ใู ห้บริการอินเตอรเ์ น็ต
เครือขา่ ย AIS

203

เครือขา่ ย TRUE

204

เครอื ขา่ ย DTAC

205

๑.๒ แบบฟอรม์ หมายเรยี กขอข้อมลู จากสถาบนั การเงนิ

206

๑.๓ ตวั อยา่ งหนังสือขอตรวจสอบประวตั ผิ ้ตู ้องสงสยั

บนั ทึกขอ้ ความ

สว่ นราชการ ........................................................................... โทร ........................................................................
ท่ี ................................................................................. วันที่ .....................................................................................
เรื่อง ขอใหต้ รวจสอบประวัตอิ าชญากร
เรียน ผบก.ทว.

ดว้ ย ...........................................................................มคี วามประสงคท์ จี่ ะขอตรวจสอบประวตั อิ าชญากร
โดยการตรวจสอบ ชือ่ -ชอ่ื สกุล หมายเลขประจำ� ตัวประชาชน บคุ คลดงั ตอ่ ไปน้ี

๑. ......................................................................................................................................................
๒. ......................................................................................................................................................
๓. ......................................................................................................................................................
เนื่องจาก.................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................

จึงเรียนมาเพ่อื โปรดพิจาณา

พนั ตำ� รวจเอก
( .................................................... )
ตำ� แหน่ง ...................................................................

207

๑.๔ ตวั อยา่ งหนังสอื ขอข้อมูลเกย่ี วกับท่ดี นิ และอาคาร

ท่ี ตช ศูนยป์ ้องกนั ปราบปรามการฟอกเงนิ
ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ
เขตปทุมวัน กรงุ เทพ ๑๐๓๓๐

................... ๒๕๖๔

เรือ่ ง ขอตรวจสอบการครอบครองอสงั หาริมทรพั ยข์ อง.......
เรียน เจา้ พนกั งานท่ดี ินจังหวดั ..........................

ดว้ ย......................................... ทำ� การสบื สวนทราบวา่ บรษิ ทั .....................................ประกอบธรุ กจิ
ในลักษณะให้ประชาชนหลงเช่ือระดมทุนเข้าข่ายความผิดตาม พระราชบัญญัติการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกง
ประชาชน โดย บริษัท............................................. ต่อมา ......................................................ได้รับค�ำร้องทุกข์
ให้ดำ� เนินคดกี บั บรษิ ัท.................................................. กับพวกในฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกนั
กู้ยืมเงินทีเ่ ป็นการฉอ้ โกงประชาชนและรว่ มกนั ฟอกเงิน” และพนักงานสอบสวนมีความจ�ำเป็นต้องสืบสวนขยายผล
ดำ� เนินการเก่ยี วกบั ทรพั ยส์ นิ ของผ้ตู ้องหาเพ่อื รวบรวมคนื ทรัพยแ์ ก่ผูเ้ สยี หาย นน้ั

จงึ ขอตรวจสอบวา่ ผตู้ อ้ งหาและผเู้ กยี่ วขอ้ ง (รายละเอยี ดตามทา้ ยหนงั สอื ฉบบั น)ี้ มกี ารถอื ครองทดี่ นิ
ไว้บา้ งหรอื ไม่ หากมีเปน็ การถือครองทด่ี นิ ประเภทใด เลขทกี่ รรมสทิ ธ์หิ รือสทิ ธใิ ด จำ� นวนเท่าใดต้ังอย่ทู ีใ่ ด และได้มี
การทำ� นิติกรรมเกย่ี วกบั ที่ดินบ้างหรือไม่ พรอ้ มทั้งสำ� เนาและรบั รองความถูกตอ้ งในเอกสารที่เก่ยี วขอ้ ง ผลการตรวจ
สอบเปน็ ประการใด กรณุ าแจ้งให้ทราบดว้ ยจกั ขอบพระคณุ ยงิ่

ขอแสดงความนับถือ

พันตำ� รวจเอก
()
ผกู้ ำ� กับการ สถานีตำ� รวจ............................................

208

ที่ ตช ๐๐๖๖(สอบสวน)/ ศูนย์ปอ้ งกันปราบปรามการฟอกเงิน
ส�ำนกั งานต�ำรวจแห่งชาติ
เขตปทมุ วัน กรุงเทพ ๑๐๓๓๐

................... ๒๕๖๔

เรอ่ื ง ขอคดั ถ่ายระวางท่ดี ินของผู้ตอ้ งหา
เรียน เจ้าพนักงานทีด่ ินจงั หวัด..........................

ดว้ ย......................................... ทำ� การสบื สวนทราบวา่ บรษิ ทั .....................................ประกอบธรุ กจิ
ในลักษณะให้ประชาชนหลงเช่ือระดมทุนเข้าข่ายความผิดตาม พระราชบัญญัติการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกง
ประชาชน โดย บริษัท............................................. ต่อมา ......................................................ได้รับค�ำร้องทุกข์
ให้ดำ� เนินคดีกับ บริษทั .................................................. กบั พวกในฐานความผดิ “ร่วมกันฉอ้ โกงประชาชน, รว่ มกนั
ก้ยู ืมเงนิ ทเี่ ป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน” และพนักงานสอบสวนมีความจำ� เป็นต้องสืบสวนขยายผล
ดำ� เนินการเกยี่ วกับทรัพย์สนิ ของผตู้ ้องหาเพอ่ื รวบรวมคืนทรพั ยแ์ ก่ผู้เสียหาย นั้น

..................................................จงึ ขอคดั ถา่ ยระวางทดี่ นิ ในชอ่ื .............................................เลขบตั ร
ประจ�ำตัวประชาชน......................................(รายละเอียดตามท้ายหนังสือฉบับน้ี) พร้อมทั้งส�ำเนาและรับรอง
ความถกู ตอ้ งในเอกสารดังกลา่ ว ผลการตรวจสอบเปน็ ประการใด กรุณาแจง้ ให้ทราบดว้ ยจักขอบพระคุณยง่ิ

ขอแสดงความนบั ถือ
พันต�ำรวจเอก
()
ผู้กำ� กับการ สถานตี ำ� รวจ............................................

209

๑.๕ ตวั อย่างขอข้อมลู ทะเบยี นรถยนต์และรถจักรยานยนต์

ที่ ตช ๐๐๖๖(สอบสวน)/ ศูนย์ป้องกนั ปราบปรามการฟอกเงิน
สำ� นักงานตำ� รวจแห่งชาติ
เขตปทมุ วนั กรุงเทพ ๑๐๓๓๐

................... ๒๕๖๔

เรอ่ื ง ขอตรวจสอบการถือครอบครองรถของผตู้ ้องหาคดที ี่เกี่ยวข้องกับฉ้อโกงประชาชน
เรียน นายทะเบยี นขนสง่ จงั หวัด.........................

ด้วย.................................... ผู้เสียหาย ได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ศูนย์ป้องกันปราบปราม
อาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำ� นักงานตำ� รวจแหง่ ชาติ (ศปอส.ตร.) เพอื่ ใหด้ �ำเนินคดกี บั ..............................
...............................................................กบั พวก โดยกลา่ วหาวา่ ฉอ้ โกงประชาชน,กยู้ มื เงนิ อนั เปน็ การฉอ้ โกงประชาชนฯ
และพนักงานสอบสวนมีความจ�ำเป็นที่จะต้องสืบสวนขยายผลด�ำเนินการเก่ียวกับทรัพย์สินของผู้ต้องหา เพื่อรวบรวม
คืนทรัพยแ์ ก่ผู้เสียหาย ดังน้ี

๑. ชอื่ ......................... ท่อี ยู่ .................. เลขบตั รประจำ� ตวั ประชาชน .....................................
๒. ชอื่ ......................... ที่อยู่ .................. เลขบตั รประจำ� ตัวประชาชน .....................................
๓. ชอื่ ......................... ทอี่ ยู่ .................. เลขบตั รประจำ� ตวั ประชาชน .....................................
๔. ช่อื ......................... ท่อี ยู่ .................. เลขบตั รประจ�ำตัวประชาชน .....................................
๕. ช่ือ......................... ทอ่ี ยู่ .................. เลขบัตรประจำ� ตวั ประชาชน .....................................
จงึ ขอใหท้ า่ นได้โปรดตรวจสอบวา่ ผูต้ อ้ งหาและผู้เกี่ยวข้องท้ัง..........ราย ดังกลา่ วขา้ งตน้ เป็นเจ้าของ
หรือเปน็ ผู้ครอบครองยานพาหนะใดไว้บา้ ง หรือไม่ หากมยี านพาหนะประเภทใด จ�ำนวนเทา่ ใด ผลการตรวจสอบเป็น
ประการใด กรณุ าแจง้ ให้ทราบดว้ ย จกั ขอบคณุ ย่งิ

ขอแสดงความนับถอื

พนั ตำ� รวจเอก

()

ผกู้ ำ� กับการ สถานตี �ำรวจ............................................

210

๑.๖ ตวั อย่างขอข้อมลู การถือหลกั ทรพั ย์

211

212

213

รายชอ่ื ของบคุ คลที่ให้ตรวจสอบ

๑. นาย xxxxx xxxxx เลขประจ�ำตวั บตั รประชาชน xxxxxxxxxxxxx
๒. นางสาว xxxxx xxxxx เลขประจ�ำตัวบัตรประชาชน xxxxxxxxxxxxx
๓. นางสาว xxxxx xxxxx เลขประจ�ำตัวบัตรประชาชน xxxxxxxxxxxxx
๔. นาย xxxxx xxxxx เลขประจำ� ตัวบัตรประชาชน xxxxxxxxxxxxx

214

๑.๗ ตัวอยา่ งหนังสือขอเบิกเงนิ เดนิ ทางไปราชการ

บันทึกข้อความ

สว่ นราชการ
ท่ี วันท ี่
เรอื่ ง รายงานผลการเดินทางปฏบิ ัติราชการ ........................................................................
เรยี น ผอ.ศปปง.ตร.( ผ่าน.........)

๑. เร่ืองเดมิ
๑.๑ หนงั สอื ......ที่ .................... ลงวนั ท่ี ............................... เรอ่ื ง ขออนมุ ตั เิ ดนิ ทางไปราชการ
ในเขตพ้ืนท่ี .................... ในวนั ที่ ..................................
๒. ขอ้ เท็จจริง
ตามท่ี ....................... ได้ขออนุมัติเดินทางไปราชการเพ่ือตรวจสอบทรัพย์สิน...... กรณี..
(พฤติการณ์)............................. (ผตู้ ้องหา) ในความผดิ ฐาน ..................................................................... และ สมคบ
รว่ มกนั ฟอกเงนิ ฯ ในพ้ืนที่............. เพอ่ื ดำ� เนินการตามกฎหมายฟอกเงิน ซึง่ ปรากฎผลการปฏิบัติดังนี้
๒.๑ ดำ� เนินการตรวจสอบที่ดนิ ในพ้ืน จ. ............... พบโฉนดทด่ี ินจำ� นวน ...........แปลงดงั นี้
๒.๑.๑ ท่ีดินโฉนดเลขท่ี....................... เลขท่ีดิน.................หน้าส�ำรวจ.......................
ต�ำบล.....................อำ� เภอ.............................จงั หวัด..............................................ทิศเหนอื ตดิ กับ.......ทิศใต้..........ทศิ
ตะวันออก........ทศิ ตะวนั ตก ...... ผู้ครอบครอง .....................รายละเอยี ดเก่ยี วกบั สิง่ ปลกู สร้าง (ถ้าม)ี
๒.๑.๒ ........................................................................................................................
๒.๒ ตรวจสอบทรพั ยส์ ิน (อสังหาริมทรพั ย์)ของผูต้ ้องหาและผทู้ ่เี กย่ี วข้อง (เอกสาร)

๒.๒.๑ ........................................................................................................................
๒.๒.๒ ........................................................................................................................
๒.๓ ตรวจสอบกรรมสิทธ์ิและสทิ ธคิ รอบครองยานพาหนะของผ้ตู อ้ งหาและผู้ที่เกย่ี วข้อง
๒.๓.๑ ........................................................................................................................
๒.๓.๒ ........................................................................................................................
๒.๔ ตรวจสอบทางการเงิน เงนิ สด, เงินฝากธนาคาร, สังหารมิ ทรัพย์อื่น ของผู้ตอ้ งหาและ
ผ้ทู ่เี กย่ี วขอ้ ง (เอกสาร)
๒.๔.๑ ........................................................................................................................
๒.๔.๒ ........................................................................................................................
๒.๖ อน่ื ๆ ..........................................................................................................................


215

จากการเดนิ ทางไปราชการเพอื่ สบื ทรัพย์ในคดนี ้ี พบทรัพยส์ นิ ของผตู้ ้องหา รวมทงั้ ส้ิน ....รายการ ราคา
รวมประมาณ .............บาท ซงึ่ นา่ จะมสี ว่ นเกี่ยวขอ้ งเป็นทรพั ยส์ ินอันเชอ่ื ไดว้ า่ มาจากการกระทำ� ผิด อันเปน็ ความผิด
มูลฐาน มาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เห็นควรส่งเอกสารรายงานผลการสืบ
ทรพั ยค์ ดดี งั กลา่ วเพอื่ ดำ� เนนิ การตามกฎหมายตอ่ ไป พรอ้ มแนบเอกสารทเ่ี กยี่ วขอ้ งตามรายการบญั ชแี นบทา้ ยมาดว้ ย
แล้ว จ�ำนวน ........ แผ่น
จึงเรยี นมาเพ่อื โปรดพจิ ารณา
พันตำ� รวจเอก
()
ต�ำแหนง่ …………………….............................

216

๑.๘ ตัวอยา่ งหนงั สอื รายงานผลการสบื ทรพั ย์ไปยังสำ� นักงาน ปปง.

ท่ี ตช ....................... …………........................................
…………........................................
…………........................................

........ เดือน .…………................. พ.ศ. .................

เรอ่ื ง ขอให้ดำ� เนินการตามพระราชบัญญตั ิปอ้ งกนั และปราบปรามการฟอกเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๒
เรยี น เลขาธิการปอ้ งกันและปราบปรามการฟอกเงนิ
อา้ งถงึ -
สิ่งท่สี ง่ มาดว้ ย รายงานผลการสบื ทรพั ยข์ องผู้ต้องหาและผเู้ ก่ียวขอ้ ง พรอ้ มรายละเอียด จำ� นวน ..... แผ่น

ตามหนงั สือทีอ่ า้ งถงึ ได้รายงานความผิดมลู ฐานใหส้ ำ� นกั งานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปราม
การฟอกเงนิ ดำ� เนนิ การ กรณ.ี .................................................................................(ผตู้ อ้ งหา) (พฤตกิ ารณก์ ารกระทำ�
ความผิด)..................................................อันเป็นการเข้าสืบสวนด�ำเนินการตามกฎหมาย ต่อมาจากการสืบสวน
ปรากฏชดั วา่ มกี ารกระทำ� ความผดิ จรงิ พนกั งานสอบสวน ................................. จงึ ไดร้ บั คำ� รอ้ งทกุ ขด์ ำ� เนนิ คดกี บั ........
(ผู้ต้องหา).................................ในความผิดฐาน...................................................................................และ สถานี
ต�ำรวจ...........ได้ด�ำเนินการสบื สวนเก่ียวกับทรพั ยส์ ินของผู้ต้องหาและผทู้ เ่ี กยี่ วข้อง รายละเอียดปรากฏตามหนังสอื
ท่ีส่งมาด้วย

สถานีต�ำรวจ.......................................................จึงเรียนมายังท่านเพ่ือโปรดพิจารณาด�ำเนินการ
ตามพระราชบัญญัตปิ อ้ งกนั และปราบปรามการฟอกเงนิ พ.ศ.๒๕๔๒ ต่อไป ทัง้ น้ี ได้แนบแบบรายงาน และเอกสาร
ท่ีเกี่ยวข้องกับการสืบสวนทรัพย์สินของผู้ต้องหามาด้วยแล้ว อน่ึง หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพ่ิมเติม สามารถ
ประสานไปไดโ้ ดยตรงท่ี ................................................สถานตี �ำรวจ................................. โทร ..............................
ซง่ึ เปน็ ผ้รู บั ผดิ ชอบคดีนี้
ขอแสดงความนบั ถือ

พันต�ำรวจเอก
()

ผูก้ ำ� กบั การ สถานีต�ำรวจ.....................................
พนักงานสอบสวน..................
โทร .......................................

217

๒. ตัวอย่างค�ำพพิ ากษา พิจารณาของศาลต่างกัน การที่จ�ำเลยฎีกาว่าค�ำ
เบิกความของนาย สร. และค�ำให้การของนาย สค.
สรปุ คำ� พพิ ากษาศาลฎกี าทเี่ กย่ี วกบั กฎหมาย และนางสาว สพ. ทใี่ หก้ ารต่อพนักงานเจา้ หนา้ ทีข่ อง
วา่ ดว้ ยการปอ้ งกันและปราบปรามการฟอกเงนิ สำ� นกั งาน ป.ป.ง. เป็น คำ� ซดั ทอดไม่สามารถรับฟังได้
แต่ศาลฎีกาเห็นว่าค�ำเบิกความของนาย สร. และค�ำ
๒.๑ คำ� พพิ ากษาศาลฎีกา ๑๘๐๑/๒๕๔๔ ใหก้ ารของนาย สค. และนางสาว สพ. มิไดเ้ ป็นการ
เมอ่ื วนั ท่ี ๒๘ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๔๖ พนั ตำ� รวจโท ซัดทอดเพ่ือให้ตนเองพ้นผิดหรือได้รับประโยชน์จาก
พ. กับพวกจับกุมนาย บ. ได้ที่บ้านพักในข้อหามี การซัดทอดนั้น ท�ำให้รับฟังได้ว่าหากจ�ำเลยไม่ได้มี
เมทแอมเฟตามนี และกญั ชาไวใ้ นครอบครองโดยไมไ่ ด้ พฤตกิ ารณเ์ กย่ี วขอ้ งกบั การจำ� หนา่ ยเมทแอมเฟตามนี
รบั อนุญาตและฟอกเงนิ รวมทั้งยดึ เมทแอมเฟตามนี แลว้ กไ็ มน่ า่ เป็นเหตุให้นาย สร. ใหก้ ารและเบกิ ความ
จำ� นวน ๑๓ เมด็ กญั ชาแห้ง ๑ ถงุ เส้อื คลมุ สนี ำ�้ ตาล หรือนาย สค. และนางสาว สพ. ให้การพาดพึงถึง
ซ่ึงมีสารเมทแอมเฟตามีนตดิ อยู่ ๑ ตัว และทรัพยส์ ิน จ�ำเลยเช่นนั้น การท่ีนาย สร. ให้การเรื่องการรับ
ต่างๆ อีกหลายรายการเปน็ ของกลางตามบันทกึ การ เมทแอมเฟตามีนจากใครในชั้นจับกุมและสอบสวน
ตรวจค้น และทรพั ย์สนิ ตา่ งๆ อกี หลายรายการ คดมี ี แตกตา่ งกนั เพราะวา่ นาย สร. มเี จตนาตอ้ งการปกปดิ
ปญั หาทต่ี อ้ งวนิ จิ ฉยั ตามฎกี าของจำ� เลยซง่ึ เปน็ ภรรยา
ของนาย บ. ว่าจ�ำเลยกระท�ำความผิดฐานฟอกเงิน
โดยน�ำเงินท่ีได้จากการจ�ำหน่ายเมทแอมเฟตามีนไป
ท�ำการเปล่ียนสภาพไปซื้อทรัพย์สินเหล่านั้นเพื่อ
ซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินเหล่าน้ัน
ตามค�ำพพิ ากษาของศาลอทุ ธรณ์หรือไม่
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ขณะท่ีนาย
สร. นาย สค. และนางสาว สพ. ใหป้ ากคำ� ตอ่ พนกั งาน
เจ้าหน้าที่ของส�ำนักงาน ปปง. หรือเบิกความในชั้น

218

ชอ่ื ทแี่ ทจ้ รงิ ของบคุ คลน้ันไว้ ทำ� ใหค้ ำ� ใหก้ ารไมต่ รงกนั นาย สร. และจ�ำเลยหาได้แตกต่างกันไม่ เม่ือคดีนี้
ดงั กลา่ ว คำ� เบกิ ความของนาย สร. ถงึ เหตทุ ไ่ี มไ่ ดใ้ หก้ าร จ�ำเลยถูกกล่าวหาในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน
ในขณะจับกุมและสอบสวนว่ารับเมทแอมเฟตามนี มา พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๕(๑) การน�ำสืบให้เห็นถึง
จากจำ� เลย เนอื่ งจากจำ� เลยสญั ญาวา่ จะสง่ เสยี นาย ส. พฤติการณ์ของจ�ำเลยเกี่ยวข้องในความผิดเกี่ยวกับ
ในระหว่างท่ีถูกคุมขัง จึงมีเหตุผลให้รับฟังค�ำให้การ ยาเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและ
ดงั กลา่ วได้ สำ� หรบั คำ� ใหก้ ารของนาย สร. ตอ่ พนกั งาน ปราบปรามยาเสพติดหรือกฎหมายว่าด้วยมาตรการ
เจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. และให้การต่อพนักงานสอบสวน ในการปราบปรามผกู้ ระทำ� ความผดิ เกย่ี วกบั ยาเสพตดิ
กองปราบปรามแตกตา่ งกบั ค�ำเบกิ ความของนาย สร. ย่อมเพียงพอต่อการรับฟังว่าเป็นความผิดมูลฐาน
ในเรอื่ งเวลาเรมิ่ ตน้ ทนี่ าย สร. รบั เมทแอมเฟตามนี จาก ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการ
จ�ำเลย จ�ำนวนเมทแอมเฟตามีนท่ีนาย สร. รับมาใน ฟอกเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๕(๑) ความแตกต่าง
แต่ละครั้ง จ�ำนวนครั้งที่รับมา จ�ำนวนราคาต่อมัดท่ี ดังกล่าวเป็นเพียงรายละเอียด ไม่ใช่สาระส�ำคัญ
จำ� เลยจำ� หนา่ ยใหน้ าย สร. และจำ� นวนราคาทนี่ าย สร. จึงเชื่อว่าจ�ำเลยน�ำเงินที่ได้จากการจ�ำหน่าย
จ�ำหน่ายต่อไปนั้น ล้วนเป็นความแตกต่างในจ�ำนวน เมทแอมเฟตามีนไปซอ้ื ท่ีดนิ รถจกั รยานยนต์ รถยนต์
ตัวเลขท่ีเก่ียวข้องกับการกระท�ำของนาย สร. และ นาฬิกาและทองรูปพรรณทรัพย์สินของกลาง
จ�ำเลย ส่วนจะมีพฤติการณ์อะไรเกิดข้ึนบ้างระหว่าง อันเป็นการเปล่ียนสภาพทรัพย์สินท่ีเก่ียวกับ
การกระทำ� ความผดิ เพอื่ ซกุ ซอ่ นหรอื ปกปดิ แหลง่ ทมี่ า
ของทรัพย์สินนั้น ท่ีจ�ำเลยน�ำสืบว่าเงินท่ีน�ำไปซื้อ
ทรัพย์สินของกลางเป็นเงินที่ นาย ร. สามีของ
นาง สภ. พสี่ าวจำ� เลยโอนมาจากประเทศเนเธอรแ์ ลนด์
เข้าบัญชีของจ�ำเลยและนางสุภา เป็นเงินประมาณ
๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซ่ึงนาง สภ. โอนให้บุตรของ
จำ� เลยเพอ่ื การศกึ ษานน้ั เปน็ การกลา่ วอา้ งขนึ้ โดยงา่ ย
ทงั้ เงนิ เปน็ จำ� นวนมากเกินกว่าทีน่ าย ร. และนาง สภ.
จะให้จ�ำเลยและบุตรของจ�ำเลยโดยเสน่หา ขัดต่อ
เหตุผลไม่มีน�้ำหนักให้รับฟังหักล้างพยานโจทก์ได้
พิพากษายืนตามที่ศาลอทุ ธรณ์ รวม ๘ กระทง

๒.๒ ค�ำพพิ ากษาฎีกาที่ ๗๒๙๐/๒๕๕๔
ศาลฎกี าพเิ คราะหแ์ ลว้ ความผดิ ฐานฟอกเงนิ
ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๕ ซ่ึงต้องระวางโทษตาม
มาตรา ๖๐ โจทก์จะต้องน�ำสืบให้ได้ความว่า เงิน
ของกลางเป็นเงินที่ได้มาจากการกระท�ำความผิด

219

มู ล ฐ า น ห รื อ จ า ก ก า ร ส นั บ ส นุ น ห รื อ ช ่ ว ย เ ห ลื อ พ . ร . บ . ป ้ อ ง กั น แ ล ะ ป ร า บ ป ร า ม ก า ร ฟ อ ก เ งิ น
การกระท�ำท่ีเป็นความผิดมูลฐานอันเป็นทรัพย์สินที่ พ.ศ. ๒๕๔๒ การซอ้ื ขายแลกเปลย่ี นเงนิ ตราโดยไมไ่ ด้
เกีย่ วกบั การกระท�ำความผดิ ความผดิ มูลฐานท่โี จทก์ รับอนุญาตเป็นเหตุให้ได้เงินของกลางมานั้น เป็น
ฟอ้ งเปน็ ความผดิ เกยี่ วกบั การลกั ลอบหนศี ลุ กากรตาม ความผิดต่อกฎหมายควบคุมการแลกเปล่ียนเงิน
กฎหมายว่าด้วยศุลกากร ข้อเท็จจริงที่โจทก์น�ำสืบ โดยเฉพาะ ไม่อยู่ในนิยาม “ความผิดมูลฐาน”
ไม่ปรากฏว่าจ�ำเลยได้น�ำของอะไรเข้ามาหรือออกไป ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
นอกราชอาณาจกั รโดยหลกี เลย่ี งศลุ กากร จนเปน็ เหตุ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓ พิพากษายกฟอ้ ง
ให้มีเงินของกลางดังกล่าว การท่ีจ�ำเลยจะน�ำเงิน
ของกลางเพ่ือออกนอกราชอาณาจักร จ�ำเลยจะมี ๒.๓ คำ� พิพากษาฎกี าที่ ๕๙๙๔/๒๕๔๘
ความผดิ ตามกฎหมายว่าด้วยศลุ กากรหรือไมน่ ้นั เป็น ศาลฎกี าพเิ คราะหแ์ ลว้ เหน็ วา่ โจทกฟ์ อ้ งโดย
อีกเร่ืองหนึ่ง เงินของกลางอาจเป็นเพียงของท่ีใช้ใน บรรยายข้อเท็จจริงว่าจ�ำเลยกระท�ำความผิดข้อหา
การกระทำ� ความผดิ ฝา่ ฝนื ตอ่ กฎหมายวา่ ดว้ ยศลุ กากร ฟอกเงินหลายกรรมต่างกันและสภาพแห่งความผิด
เท่านั้น ไม่อยู่ในนิยามค�ำว่า “ทรัพย์สินท่ีเกี่ยวกับ ดังกล่าวน้ันสามารถแยกต่างหากจากกันได้ จ�ำเลย
การกระท�ำความผิด” ตามความในมาตรา ๓ แห่ง ให้การรับสารภาพการกระท�ำของจ�ำเลยจึงเป็น
ความผิดหลายกรรมต่างกัน ท่ีศาลล่างทั้งสอง
พิพากษาลงโทษจ�ำเลยโดยเรียงกระทงลงโทษมานั้น
ชอบแล้ว ฎกี าของจ�ำเลยฟงั ไม่ขนึ้ พิพากษายนื
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจ�ำเลยตาม
พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓, ๕, ๖๐ ประมวลกฎหมาย
อาญา มาตรา ๙๑ นบั โทษจำ� เลยตอ่ จากโทษจ�ำเลย
ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ย.๘๐๕/๒๕๔๕ ของ
ศาลช้ันต้น จ�ำเลยให้การรับสารภาพและรับว่าเป็น
บุคคลคนเดียวกับจ�ำเลยในคดีท่ีโจทก์ขอให้นับโทษ
ต่อศาลช้ันต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จ�ำเลยมี
ความผดิ ตามพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปราม
การฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓, ๕ และ ๖๐
การกระทำ� ของจำ� เลยเปน็ ความผดิ หลายกรรมตา่ งกนั
ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตาม
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ฐานฟอกเงนิ ตาม
ค�ำฟ้อง ข้อ ๑ (๑)(๒)(๓)(๔)(๕)(๗)(๘)(๑๐)(๑๓)(๑๕)
จ�ำคกุ กระทงละ ๑ ปี รวม ๑๐ กระทง จำ� คกุ ๑๐ ปี

220

ฐานฟอกเงินตามค�ำฟ้องข้อ ๑(๖)(๙)(๑๑)(๑๒)(๑๔) เงินและทรัพย์สินมีค่าจ�ำนวนมากในบ้านพักของ
จ�ำคกุ กระทงละ ๒ ปี รวม ๕ กระทง จำ� คกุ ๑๐ ปี จำ� เลยทงั้ สองพรอ้ มทงั้ กระเปา๋ เดนิ ทางทบ่ี รรจเุ งนิ สด
และฐานฟอกเงินตามคำ� ฟ้องขอ้ ๒ จ�ำคุก ๘ ปี รวม ๔ ใบ และกระเปา๋ เดนิ ทางเปลา่ อกี ๑๒ ใบ จำ� เลยที่ ๒
จ�ำคุก ๒๘ ปี จ�ำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ รบั วา่ เคยตอ้ งโทษจำ� คกุ สำ� หรบั ความผดิ ฐานจำ� หนา่ ย
แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตาม ยาเสพตดิ และรบั วา่ เงนิ และทรพั ยส์ ินมีคา่ ต่างๆ น้นั
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ กระทงละกง่ึ หนง่ึ จำ� เลยท่ี ๒ ได้มาจากการจำ� หน่ายยาเสพติด จ�ำเลย
คงจ�ำคุก ๑๔ ปี ที่ ๑ ทราบดวี า่ จ�ำเลยที่ ๒ ค้ายาเสพตดิ คดมี ีประเด็น
ปญั หาทตี่ อ้ งวนิ จิ ฉยั ตามฎกี าของจำ� เลยท่ี ๑ วา่ การท่ี
๒.๔ คำ� พพิ ากษาศาลฎกี าที่ ๗๗๙๘/๒๕๔๙ จำ� เลยทัง้ สองซอื้ ทด่ี นิ ไถถ่ อนจำ� นอง น�ำเงินเขา้ บญั ชี
ศาลฎกี าพเิ คราะหแ์ ลว้ ขอ้ เทจ็ จรงิ รบั ฟงั เปน็ เงินฝากและน�ำเงินสดประมาณ ๗,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ยุติว่า พันต�ำรวจเอก ช. กับพวก สืบสวนติดตาม ซกุ ซอ่ นไวใ้ นกระเปา๋ เดนิ ทางหรอื ใตโ้ ซฟาภายในบา้ น
นางสาว ส. และนาย ธ. หรอื อาผงิ หรือดำ� กับพวก เป็นความผิดฐานฟอกเงินเงินหรือไม่ ศาลฎีกา
ซึ่งมีพฤติการณ์เก่ียวข้องกับยาเสพติด แล้วพบว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เงินสดท่ียึดได้จากบ้านพัก
นาย ว. หรอื กอล์ฟ ซง่ึ เปน็ หลานของจ�ำเลยท่ี ๑ เคย ของจ�ำเลยทั้งสอง ๗,๐๐๐,๐๐๐ บาทเศษนั้น
ขับรถยนต์เก๋งย่ีห้อฮอนด้าของนาย ธ. เข้าไปจอดที่ ร้อยต�ำรวจเอก ว. พิสูจน์แล้ว เห็นว่ามีคราบ
บ้านของจ�ำเลยทั้งสองซ่ึงเป็นสามีภรรยากันจากนั้น เมทแอมเฟตามนี ปรากฏอยูท่ ่ธี นบัตรดงั กล่าว จ�ำเลย
ก็ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาคืนนาย ธ. ต่อมา ที่ ๑ มิได้น�ำสืบปฏิเสธผลการตรวจพิสูจน์ดังกล่าว
พันต�ำรวจเอก ช. กบั พวก ลอ่ ซ้อื เฮโรอนี จำ� นวน ๓๕ แตอ่ ยา่ งใด การทเ่ี งนิ สดทต่ี รวจยดึ ไดจ้ ากบา้ นพกั ของ
กรัมเปน็ เงิน ๑๗,๕๐๐,๐๐๐ บาท ได้จากนางสาว ส. จ�ำเลยท้ังสองจ�ำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทเศษ ซึ่ง
และนาย ธ. เม่ือสอบสวนขยายผลได้ความว่า จำ� เลย จ�ำเลยท่ี ๑ เก็บเงินจ�ำนวนดังกล่าวแยกไว้ในตู้นั้น
ทัง้ สองเป็นลูกค้าของนาง ส. ดว้ ย พนั ตำ� รวจเอก ช. ปรากฏว่าเมื่อตรวจพิสูจน์แล้วเงินดังกล่าวก็ติดคราบ
จงึ ขอหมายคน้ จากศาลอาญาเขา้ ทำ� การตรวจคน้ บา้ น เมทแอมเฟตามีนเช่นกัน และการท่ีจ�ำเลยที่ ๑
พักของจ�ำเลยท้ังสอง พนั ต�ำรวจเอก ช. กับพวก พบ

221

ฎีกาว่าเงินท่ีใช้ซื้อรถยนต์โตโยต้า ซื้อที่ดิน ไถ่ถอน คดีมีปัญหาตามฎีกาของจ�ำเลยท่ี ๑ ข้อ
จ�ำนอง ฝากธนาคาร หรือโอนเข้าบัญชีในนามของ สุดทา้ ยวา่ การรบั โอนเงินฝากเข้ามาในบญั ชีเงนิ ฝาก
นางสาว ว. บตุ รสาวจำ� เลยทง้ั สองนน้ั เปน็ เงนิ ทจี่ ำ� เลย ออมทรัพย์ของจ�ำเลยที่ ๑ ที่ธนาคารเอเชีย จ�ำกัด
ท่ี ๑ ไดม้ าจากการให้กยู้ มื แกน่ กั พนันหรือแม่ค้า โดย (มหาชน) สาขาคลองเตย บัญชีเลขท่ี ๑๕๑-๒-
คดิ ดอกเบย้ี ในอตั ราสงู รอ้ ยละ ๒ ตอ่ เดอื นหรอื รอ้ ยละ ๐๗๓๖๔-๔ จำ� นวน ๑๑ คร้งั ซ่งึ จำ� เลยท่ี ๑ น�ำฝาก
๒๐ ต่อปีนั้นแสดงให้เห็นว่าจ�ำเลยท่ี ๑ ท�ำมาหากิน เข้าบัญชีเพียงคร้ังเดียว จึงเป็นความผิดกรรมเดียว
จนมฐี านะรำ�่ รวยมาก แตก่ ไ็ มป่ รากฏวา่ จำ� เลยท่ี ๑ ได้ หรอื ไม่ เหน็ วา่ แมก้ ารฝากเงนิ เขา้ บญั ชขี องจำ� เลยท่ี ๑
เคยเสียภาษีส�ำหรับภาษีที่อ้างว่ามีมหาศาลดังกล่าว อกี ๑๐ ครง้ั นน้ั นางสาว ว. เปน็ ผนู้ ำ� ฝากโดยคำ� สงั่ ของ
แสดงให้เห็นว่าจ�ำเลยที่ ๑ มีพฤติการณอ์ นั ควรเช่อื ว่า จ�ำเลยที่ ๒ ผู้เปน็ บิดาตามท่ีจ�ำเลยที่ ๑ ฎีกากต็ าม แต่
จ�ำหนา่ ยยาเสพตดิ รว่ มกับจ�ำเลยท่ี ๒ สามดี ้วย การที่ จำ� เลยท่ี ๑ ก็รับการน�ำฝากดังกล่าว โดยไม่ถอนหรือ
จ�ำเลยอ้างว่ามีรายได้ต่อเดือนจ�ำนวนมากจากธุรกิจ โอนคนื ใหน้ างสาว ว. หรือจ�ำเลยที่ ๒ ถือไดว้ า่ จ�ำเลย
อื่นอันไม่เก่ียวข้องกับธุรกิจยาเสพติดให้โทษ จึงไม่มี ที่ ๑ รบั โอนเงนิ ดงั กลา่ วอกี ๑๐ ครงั้ เพอื่ การฟอกเงนิ
น�ำ้ หนกั ให้รบั ฟงั อีกท้ังการที่เลขาธกิ าร ปปง. มคี ำ� ส่ัง ตามฟ้องแล้ว ค�ำพิพากษาศาลล่างท้ังสองชอบแล้ว
ยึดและอายัดทรัพย์สินของจ�ำเลยท้ังสองตามฟ้อง ฎีกาของจำ� เลยที่ ๑ ทุกขอ้ ฟังไม่ขนึ้ พพิ ากษายนื
ต า ม พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ป ้ อ ง กั น แ ล ะ ป ร า บ ป ร า ม
การฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๔๘ วรรคหนงึ่ และ ๒.๕ คำ� พพิ ากษาศาลฎกี าท่ี ๒๒๖๗/๒๕๕๐
ศาลแพ่งมีค�ำส่ังให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของ ศาลฎีกาวิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงเบื้องต้น
แผ่นดิน กรณีจึงเชื่อได้ว่าจ�ำเลยที่ ๑ ร่วมกับจ�ำเลย รับฟังได้ว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุในฟ้อง
ท่ี ๒ ได้ทรพั ยส์ ินดงั กล่าวของจ�ำเลยท่ี ๑ ที่ ๒ และ ร้อยต�ำรวจเอก เดชา กับพวก จับกุมจ�ำเลยทั้งสอง
บุตรได้มาโดยเก่ียวกับการกระท�ำความผิดในข้อหา พร้อมยึดได้เมทแอมเฟตามีน ๔๕,๘๐๐ เม็ด เงิน
ยาเสพตดิ อันเป็นการฟอกเงินตามฟอ้ ง จ�ำนวน ๒๑,๐๐๐ บาท โทรศพั ท์เคล่อื นที่ ๑ เคร่อื ง
รถยนตห์ มายเลขทะเบยี น ฐฉ ๑๑๖๑ กรงุ เทพมหานคร
โทรทศั น์สี ๑ เครื่อง เครื่องปรบั อากาศ ๓ เคร่ือง และ
ตเู้ ยน็ ๑ ตู้ เปน็ ของกลาง มปี ญั หาตอ้ งวนิ จิ ฉยั ตามฎกี า

222

ของจ�ำเลยทั้งสองว่าจ�ำเลยทั้งสองกระท�ำความผิด ใหโ้ ทษซอ้ื ทรพั ยส์ นิ ของกลางกต็ าม แตร่ อ้ ยตำ� รวจเอก
ฐานโอน รับโอน หรือเปลย่ี นสภาพทรพั ย์สนิ เก่ียวกับ ด. กม็ ไิ ดเ้ บกิ ความถงึ คำ� รบั ของจำ� เลยทง้ั สองและไมม่ ี
การกระทำ� ความผดิ เพอื่ ซกุ ชอ่ นหรอื ปกปดิ แหลง่ ทมี่ า การบันทึกค�ำรับของจ�ำเลยทั้งสองไว้ในบันทึกการ
ของทรัพย์สินหรือไม่ เห็นว่า คดีน้ีโจทก์ฟ้องขอให้ ตรวจยดึ ทรพั ยส์ นิ เพอ่ื ตรวจสอบ เพอื่ ใชเ้ ปน็ หลกั ฐาน
ลงโทษจำ� เลยทงั้ สองตามพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และ ด�ำเนินคดีแก่จ�ำเลยทั้งสอง ส่วนพันต�ำรวจโท ณ.
ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๖๐ ซงึ่ ก็เบิกความลอยๆ โดยโจทก์มิได้อ้างส่งบันทึกค�ำ
พระราชบัญญัติดังกล่าวมิได้บัญญัติเก่ียวกับหน้าที่ ให้การของจำ� เลยทั้งสองเปน็ พยาน ค�ำเบิกความของ
น�ำสืบในการกระท�ำความผิดดังกล่าวไว้เป็นการ จา่ สิบต�ำรวจ ก. และพนั ตำ� รวจโท ณ. จงึ ไม่มีน�้ำหนัก
เฉพาะ เม่ือคดีนี้เป็นคดีอาญาโจทก์จึงมีหน้าท่ีนำ� สืบ รับฟัง เม่ือโจทก์ไม่ได้น�ำสืบให้เห็นพฤติการณ์ของ
เพื่อให้รับฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่าจ�ำเลยท้ังสอง จ�ำเลยทั้งสองก่อนถูกจับกุมว่า จ�ำเลยท้ังสองมี
เป็นผู้กระท�ำความผิดจริง แต่โจทก์มีเพียง พฤตกิ ารณจ์ ำ� หนา่ ยเมทแอมเฟตามนี จนมรี ายไดน้ ำ� ไป
รอ้ ยตำ� รวจเอก ด. ผรู้ ว่ มจบั กมุ เบกิ ความเปน็ พยานวา่ ซ้ือทรัพย์สินของกลางและเป็นเหตุให้มีการไปตรวจ
เหตุท่ียึดทรัพย์สินของกลางเพราะฐานะของจ�ำเลย ค้นจับกุมจ�ำเลยทั้งสองในวันเกิดเหตุ ล�ำพังจากการ
ทั้งสองไม่น่าท่ีจะมีทรัพย์สินของกลางได้ และ สอบสวนพบวา่ จ�ำเลยท่ี ๑ ไมไ่ ด้ประกอบอาชพี และ
สันนิษฐานว่าเงินจ�ำนวน ๒๑,๐๐๐ บาท เป็นเงินที่ จ�ำเลยที่ ๒ ประกอบอาชพี ขับรถจักรยานยนต์รบั จ้าง
จำ� เลยทง้ั สองไดม้ าจากการจำ� หนา่ ยเมทแอมเฟตามนี จะสนั นษิ ฐานวา่ จำ� เลยทงั้ สองไมม่ รี ายไดเ้ พยี งพอทจี่ ะ
ซึ่งเป็นเพียงความเข้าใจของพยานโจทก์เอง แม้ ซ้ือทรัพย์สินของกลาง ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในชีวิต
จ่าสิบต�ำรวจ ก. ผู้ร่วมจับกุมและพันต�ำรวจโท ณ. ประจำ� วนั ยอ่ มเปน็ ผลรา้ ยแกจ่ ำ� เลยทง้ั สอง ทง้ั จำ� เลย
พนกั งานสอบสวนเบกิ ความเปน็ พยานโจทกว์ า่ จำ� เลย ท้ังสองก็น�ำสืบว่าจ�ำเลยท้ังสองมีรายได้จากการขาย
ท้ังสองรับว่าใช้เงินที่ได้จากการจ�ำหน่ายยาเสพติด ข้าวแกง การเล่นแชร์ การใหผ้ ู้อน่ื กยู้ มื เงิน รบั จำ� น�ำ
รถยนต์และกู้ยืมเงินจากบุคคลอ่ืน พยานหลักฐานท่ี
โจทกน์ ำ� สบื มคี วามสงสยั ตามสมควรวา่ จำ� เลยทงั้ สอง

223

รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินเกี่ยวกับการ ศาลอทุ ธรณภ์ าค ๑ คงมปี ญั หาทต่ี อ้ งวนิ จิ ฉยั ตามฎกี า
กระทำ� ความผดิ เพอื่ ซกุ ซอ่ นหรอื ปกปดิ แหลง่ ทม่ี าของ ของโจทกว์ า่ จำ� เลยที่ ๑ กระทำ� ความผดิ ฐานฟอกเงนิ
ทรพั ย์สนิ หรอื ไม่ จึงตอ้ งยกประโยชน์แห่งความสงสัย ตามฟ้องหรือไม่ โดยโจทก์ฎีกาว่าการท่ีจ�ำเลยท่ี ๑
น้ันให้แก่จ�ำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายวิธี น�ำเงินจ�ำนวน ๗๑๐,๐๐๐ บาท ซึ่งได้มาจากการ
พจิ ารณาความอาญา มาตรา ๒๒๗ วรรคสอง ทศ่ี าล จ�ำหน่ายเมทแอมเฟตามีนไปชุกซ่อนไว้ในกล่องสุรา
อทุ ธรณภ์ าค ๑ พพิ ากษาลงโทษจำ� เลยทง้ั สองนน้ั ศาล นั้นเป็นการกระท�ำอันเป็นความผิดฐานฟอกเงินตาม
ฎกี าของจำ� เลยทง้ั สองฟงั ขนึ้ พพิ ากษากลบั ใหย้ กฟอ้ ง พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๕ (๒) แลว้ เหน็ วา่ ตามมาตรา
๒.๖ ค�ำพพิ ากษาศาลฎีกา ๒๗๗๐/๒๕๕๐ ๕ (๒) ดงั กลา่ ว บญั ญตั วิ า่ “การกระทำ� ดว้ ยประการใดๆ
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงใน เพ่ือปกปิดหรืออ�ำพรางลักษณะท่ีแท้จริงการได้มา
เบื้องต้นรับฟังได้ว่า ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ แหล่งท่ีต้ัง การจ�ำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ
ตามฟ้อง ร้อยต�ำรวจเอก xxxxx xxxxx กับพวก ซึ่งทรัพย์สินที่เก่ียวกับการกระท�ำความผิด ผู้น้ัน
จับกุมจ�ำเลยทั้งสองโดยยึดได้เมทแอมเฟตามีน กระทำ� ความผิดฐานฟอกเงิน” ในขอ้ น้แี มข้ อ้ เทจ็ จริง
๑,๙๓๘ เมด็ น้ำ� หนกั ๒๐๘.๓๘ กรัม คำ� นวณเป็น จะรับฟงั ไวว้ ่าจำ� นวนเงนิ ๗๑๐,๐๐๐ บาท ดังกลา่ ว
สารบริสุทธ์ไิ ด้ ๔๒.๓๗ กรบั กระสุนปนื ลูกกรดขนาด จ�ำเลยท่ี ๑ ได้มาจากการจ�ำหน่ายเมทแอมเฟตามีน
.๒๒ จ�ำนวน ๕๐ นัด โทรศัพท์เคลื่อนท่ี ๓ เครื่อง แต่ข้อเท็จจริงตามทางน�ำสืบของโจทก์ได้ความเพียง
รถจักรยานยนต์ ๑ คนั และเงินสด ๗๑๐,๐๐๐ บาท ว่าเจ้าพนักงานต�ำรวจไปจับกุมจ�ำเลยที่ ๑ และ
เปน็ ของกลาง สำ� หรบั ความผดิ ฐานมเี มทแอมเฟตามนี ตรวจค้นพบเงนิ จ�ำนวนดงั กล่าวบรรจุอยใู่ นกล่องสุรา
ไว้ในครอบครองเพื่อจ�ำหน่ายและฐานมีเคร่ือง ทจี่ �ำเลยที่ ๑ ถอื อยู่ และจ�ำเลยท่ี ๑ รับว่าเปน็ เงินที่
กระสนุ ปนื ไวใ้ นครอบครองโดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าต โจทก์ ได้มาจากการจ�ำหน่ายเมทแอมเฟตามีนเท่าน้ัน
และจ�ำเลยท่ี ๑ ไม่ฎีกา การกระท�ำของจ�ำเลยท่ี ๑ ไม่ปรากฏว่าจ�ำเลยที่ ๑ ได้กระท�ำด้วยประการใดๆ
เก่ียวกับความผิดดังกล่าวจึงยุติไปตามค�ำพิพากษา

224

เพ่ือปกปิดหรืออ�ำพรางลักษณะท่ีแท้จริงการได้มา เมทแอมเฟตามีนของกลางที่บ้านเลขท่ี ๑๙/๑๘๗
ของเงินจ�ำนวนน้ีในลักษณะที่เป็นการฟอกเงิน เม่ือวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๔๖ ก่อนหน้านี้จ�ำเลย
กล่าวคือ ท�ำให้เงินท่ีได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ท้ังสองเคยเกี่ยวข้องกับการกระท�ำความผิดเก่ียวกับ
ดังกล่าวแปรสภาพเป็นเงินท่ีได้มาโดยเสมือนหนึ่ง ยาเสพติดหรือไม่ก็ยังไม่แน่ชัด เม่ือปรากฏว่าจ�ำเลย
ถูกต้องตามกฎหมาย การกระท�ำของจ�ำเลยที่ ๑ ที่ ๑ ได้ซื้อที่ดินพร้อมบ้านตึกสองช้ันเม่ือวันท่ี ๑๘
ดงั กลา่ วจงึ ไมเ่ ปน็ ความผดิ ฐานฟอกเงนิ ตามฟอ้ ง ฎกี า มิถุนายน ๒๕๔๔ และได้เช่าซื้อรถยนต์ย่ีห้อฮอนด้า
ของโจทก์ฟงั ไมข่ ้นึ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕ ก่อนเจ้าพนักงาน
ต�ำรวจตรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีนของกลาง
๒.๗ คำ� พพิ ากษาศาลฎกี าที่ ๔๗๑๖-๔๗๑๗ เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๔๖ นานเป็นปี ยิ่งท�ำให้
/๒๕๕๐ น่าสงสัยว่าเงินที่จ�ำเลยที่ ๑ น�ำมาใช้ซื้อที่ดินพร้อม
บ้านตึกสองช้ันและเช่าซ้ือรถยนต์น้ันเป็นเงินทจี่ �ำเลย
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงใน ทง้ั สองไดร้ บั มาจากการจำ� หนา่ ยเมทแอมเฟตามนี หรอื
เบอ้ื งต้นรับฟังได้แลว้ ว่า จำ� เลยท่ี ๑ ได้นำ� เงนิ ไปซ้ือ ไดร้ บั เนอ่ื งจากการกระทำ� ความผดิ เกย่ี วกบั ยาเสพตดิ
ทดี่ นิ พรอ้ มบา้ นตกึ สองชน้ั และเชา่ ซอ้ื รถยนตด์ งั กลา่ ว หรือไม่ และยังได้ความตามค�ำเบิกความของพยาน
อันเป็นการเปล่ียนสภาพทรัพย์สิน คงมีปัญหาว่า โจทก์ทั้งสองดังกล่าวว่า น่าเช่ือว่าทรัพย์สินดังกล่าว
เงินจ�ำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่เก่ียวกับการกระท�ำ จ�ำเลยทั้งสองได้มาจากการค้ายาเสพติด เน่ืองจาก
ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ ท่ีพยานโจทก์ ทรัพย์สินท่ีตรวจพบมีจ�ำนวนมากเกินฐานะ ซึ่งเป็น
ทั้งสองสืบทราบว่าจ�ำเลยทั้งสองมีพฤติการณ์ เพียงข้อสงสัยว่าจ�ำเลยทั้งสองได้กระท�ำความผิด
ลักลอบจ�ำหน่ายเมทแอมเฟตามีนเครือข่ายเดียวกับ ท้ังจ�ำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดมาและน�ำสืบว่า
นายพงษ์ศักดิ์ และพวกน้ัน เป็นเพยี งพยานบอกเล่า เงินท่ีใช้ซื้อท่ีดินพร้อมบ้านและเช่าซื้อรถยนต์จ�ำเลย
ยอ่ มมนี ำ�้ หนกั นอ้ ย ทง้ั นอกจากการสบื ทราบดงั กลา่ ว ทั้งสองได้มาจากการประกอบอาชีพสุจริต ดังน้ี
แล้วไม่ปรากฏหลักฐานอื่นว่าจ�ำเลยทั้งสองเคย จึงเห็นได้ว่า พยานหลักฐานโจทก์เท่าที่น�ำสืบมายังมี
เกี่ยวข้องกับการกระท�ำความผิดเก่ียวกับยาเสพติด
มาก่อน และพยานโจทก์ทั้งสองไปตรวจค้นพบ

225

ความสงสัยตามสมควรว่าจ�ำเลยท้ังสองได้ร่วมกัน หมายเลขแดงท่ี ๓๒๒๗/๒๕๔๘ ของศาลชั้นต้นที่
กระท�ำความผิดฐานฟอกเงินตามค�ำพิพากษาศาล นาย ว. ถูกฟ้องในความผิดฐานฟอกเงินจ�ำนวนน้ี
ชั้นต้นหรือไม่ จึงให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้น ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องแล้วก็ดีนั้น ศาลฎีกา
ให้จ�ำเลยท้ังสองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา พิเคราะหแ์ ล้วเหน็ วา่ การลักลอบจำ� หน่ายยาเสพตดิ
ความอาญา มาตรา ๒๒๗ วรรคสอง ท่ีศาลอทุ ธรณ์ ใหโ้ ทษเปน็ เครอื ขา่ ยขนาดใหญน่ น้ั ผกู้ ระทำ� ตอ้ งปกปดิ
พิพากษายกฟ้องจ�ำเลยทั้งสองนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้อง เป็นความลับวางแผนการติดต่อซ้ือขายรับส่ง
ดว้ ย ฎกี าของโจทกฟ์ ังไม่ขนึ้ พิพากษายนื ยาเสพตดิ และชำ� ระเงนิ กนั อยา่ งละเอยี ด ทง้ั หลกี เลย่ี ง
การยดึ ถอื ยาเสพตดิ และเงนิ ทไี่ ดม้ าจากการขายไวเ้ อง
๒.๘ คำ� พพิ ากษาศาลฎีกา ๙๐๙๒/๒๕๕๓ จึงยากแก่การหาพยานหลักฐานท่ีชัดเจนม่ันคงมา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงตามท่ี น�ำสืบเอาผิดกับคนร้ายได้ จ�ำเป็นต้องอาศัยเหตุผล
คู่ความไม่โต้เถียงกันในชั้นน้ีรับฟังได้ว่า ในวัน เวลา จากพยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีและพิรุธใน
และสถานท่ีเกดิ เหตตุ ามฟ้อง นาย ว. นำ� เงนิ จ�ำนวน การกระท�ำของผู้นั้น แม้ไม่มีการด�ำเนินคดีกับ
๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ฝากท่ีธนาคารกรุงเทพ จ�ำกัด นายวสิ ตู ร ในขอ้ หาความผดิ เกยี่ วกบั ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ
(มหาชน) สาขาซคี อนสแควร์ โอนเงนิ ไปเข้าบัญชเี งิน โดยตรงและความผิดฐานฟอกเงินของนาย ว.
ฝากของจ�ำเลยที่ธนาคารกรุงเทพ จ�ำกัด (มหาชน) ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา แต่ข้อเท็จจริงซึ่ง
สาขาโพนพสิ ยั มปี ระเดน็ ปญั หาทต่ี อ้ งวนิ จิ ฉยั ตามฎกี า เจ้าพนักงานสืบสวนได้ความมาตามค�ำเบิกความของ
ของจ�ำเลยว่า จ�ำเลยกับนาย ว. ร่วมกันกระท�ำ พันต�ำรวจโท อ. และค�ำให้การในช้ันสอบสวนของ
ความผิดฐานฟอกเงินตามค�ำพิพากษาของศาลล่าง นาย ร. ซึ่งเป็นพยานบอกเล่า มีสภาพ ลักษณะ
ทั้งสองหรือไม่ ที่จ�ำเลยกล่าวในฎีกาว่า คดีความผิด แหล่งที่มาและข้อเท็จจริงแวดล้อมซ่ึงท�ำให้น่าเช่ือว่า
มูลฐานไม่มคี ำ� พิพากษาลงโทษจำ� เลยหรอื นาย ว. ใน จะพิสูจน์ความจริงได้เพียงพอให้รับฟังข้อเท็จจริงได้
ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษก็ดี ในคดีอาญา วา่ นาย ว. เกย่ี วข้องและมรี ายได้จ�ำนวนมาก จากการ
ลกั ลอบจำ� หนา่ ยเมทแอมเฟตามนี และมีเหตุผลให้เช่ือ
ได้ว่าเงินจ�ำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ทน่ี าย ว. โอนให้
แกจ่ ำ� เลยเปน็ เงนิ ทไี่ ดม้ าจากการกระทำ� ความผดิ เกยี่ ว
กบั ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ ขอ้ อา้ งของจำ� เลยทวี่ า่ เลกิ รา้ งกบั

226


Click to View FlipBook Version