The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nchanoknan, 2022-05-24 05:39:14

TEST

aw P 127-250

นาย ว. แล้ว ฟงั ไมข่ ้ึนเพราะขดั แยง้ กับที่ให้การไวใ้ น ถือตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในค�ำพิพากษาคดีอาญา
ช้ันสอบสวนดังท่ีวินิจฉัยมา จ�ำเลยซึ่งเป็นภริยาของ คดีอืน่ ท่ีศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจ�ำเลยมาจึง
นาย ว. อยูก่ ินด้วยกันมานานถึงสบิ ปแี ละมบี ตุ รด้วย ชอบแลว้ ศาลฎกี าเหน็ พอ้ งดว้ ย ฎกี าของจำ� เลยทกุ ขอ้
กนั สองคนยอ่ มต้องทราบดวี ่า นาย ว. ไดเ้ งนิ จ�ำนวน ฟงั ไมข่ ึ้น พิพากษายืน
ดังกล่าวมาอย่างไร ประกอบกับที่ฟังได้ว่า หลัง
เกิดเหตุเพียง ๓ วัน จ�ำเลยก็ถอนเงิน จ�ำนวน ๒.๙ คำ� พิพากษาศาลฎีกา ๙๕๘/๒๕๕๔
๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท ออกจากบัญชีเงินฝากดังกล่าว ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว มีประเด็นปัญหาที่
ล้วนเป็นพิรุธที่ท�ำให้รับฟังข้อเท็จจริงได้ว่าจ�ำเลย ตอ้ งวนิ จิ ฉยั ตามฎกี าของโจทกว์ า่ จำ� เลยทงั้ สามกระทำ�
ทราบดวี ่าเงินทร่ี บั โอนจากนาย ว. เป็นเงินท่นี าย ว. ความผิดตามฟ้องหรือไม่ คดีน้ีโจทก์ฟ้องกล่าวหา
ได้มาจากการกระท�ำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จำ� เลยทงั้ สามรว่ มกบั พวกทห่ี ลบหนยี งั ไมไ่ ดต้ วั มาฟอ้ ง
ให้โทษ การกระท�ำของจ�ำเลยย่อมเป็นความผิด ร่วมกันกระท�ำความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกัน
ตามฟอ้ ง เหน็ วา่ เมอ่ื รบั ฟงั ขอ้ เทจ็ จรงิ ในคดนี วี้ า่ จำ� เลย และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๕
กระท�ำความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินตามฟ้อง ศาลก็ โจทกจ์ งึ มหี นา้ ทน่ี ำ� สบื ใหศ้ าลเหน็ วา่ เงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ
พิพากษาลงโทษจ�ำเลยได้ กรณีไม่จ�ำต้องอาศัย ตามฟอ้ งนัน้ จ�ำเลยทง้ั สามไดม้ าอันเนอ่ื งมาจากการก
ความผดิ มลู ฐานเปน็ เงอ่ื นไขวา่ จะตอ้ งมกี ารดำ� เนนิ คดี ระทำ� ความผิดมลู ฐาน ซ่งึ ความผดิ มลู ฐานในคดนี ี้ คอื
อาญาในความผิดมูลฐานหรือมีค�ำพิพากษาลงโทษ ความผิดเก่ียวกับยาเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยการ
ผกู้ ระทำ� ความผดิ มลู ฐานเสยี กอ่ น จงึ จะดำ� เนนิ คดกี บั ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือกฎหมายว่า
ผู้กระท�ำความผิดฐานฟอกเงินท่ีได้มาจากการ ด้วยมาตรการในการปราบปรามผู้กระท�ำความผิด
กระท�ำความผิดมูลฐานได้ ท้ังในการพิพากษาคดี เก่ียวกับยาเสพติด เม่ือตามทางน�ำสืบของโจทก์คง
อาญากไ็ มม่ บี ทบญั ญตั แิ หง่ กฎหมายใด ใหศ้ าลจำ� ตอ้ ง ปรากฏข้อเท็จจริงแต่เพียงว่าก่อนจับกุมเจ้าพนักงาน
ตำ� รวจสบื ทราบวา่ บา้ นทจ่ี ำ� เลยทง้ั สามพกั อาศยั มคี น

227

อยู่อาศัยจ�ำนวนมากโดยคนในบ้านไม่ได้ประกอบ ปราบปรามการฟอกเงินตามส�ำเนาบันทึกค�ำให้การ
อาชีพ แต่มีฐานะร่�ำรวย ตกแต่งบ้านหรูหราและมี เอกสารหมาย ล.๑ ว่าทรัพย์สินต่างๆ ท่ีเจ้าหน้าท่ี
รถยนต์ราคาแพงสงสัยว่าจะได้มาจากการกระท�ำ ต�ำรวจยึดมาตลอดจนค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในบ้านได้
ความผดิ หรอื มพี ฤตกิ ารณเ์ กยี่ วขอ้ งกบั ยาเสพตดิ และ มาจากการเล่นการพนนั ของจำ� เลยท่ี ๑ เพียงผู้เดียว
เมอื่ เขา้ ทำ� การตรวจคน้ กพ็ บเมทแอมเฟตามนี จำ� นวน ซ่ึงสอดคล้องกับค�ำให้การของนาย อ. พยานโจทก์
ประมาณ ๒๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้ที่นอนบริเวณ ซึ่งเป็นผู้ร่วมสอบคดีนี้ที่เบิกความว่าพยานเป็น
หวั เตียงดา้ นขวาในหอ้ งนอนของจ�ำเลยที่ ๑ ซง่ึ ในชัน้ ผู้สอบสวนจำ� เลยที่ ๑ และภรยิ าของจ�ำเลยที่ ๑ คือ
จับกมุ จ�ำเลยท่ี ๑ รับว่าเปน็ ของตนมไี ว้เพอ่ื จำ� หน่าย จำ� เลยท่ี ๒ โดยจำ� เลยท่ี ๑ ใหก้ ารวา่ ทรพั ยส์ นิ ทต่ี รวจ
ก็ตาม แต่ในช้ันสอบสวนจ�ำเลยท่ี ๑ ให้การปฏิเสธ ยดึ มา ไดม้ าจากการปลอ่ ยกแู้ ละเลน่ การพนนั ฟตุ บอล
ข้อหามียาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ (เมทแอมเฟ รวมท้ังการให้เช่ารถแท็กซี่ แต่จ�ำเลยท่ี ๑ ไม่มี
ตามนี ) ไวใ้ นครอบครองเพอื่ จำ� หนา่ ยโดยผดิ กฎหมาย หลกั ฐานมาแสดงยนื ยนั จำ� เลยท่ี ๒ ใหก้ ารวา่ ทรพั ยส์ นิ
และร่วมกันฟอกเงินตามบันทึกค�ำให้การผู้ต้องหา ของจำ� เลยที่ ๑ นนั้ ไดม้ าจากการเลน่ การพนนั ฟตุ บอล
เอกสารหมาย จ.๒๑ และตามส�ำเนาบันทึกคำ� ให้การ และปล่อยเงินกู้ พยานหลักฐานโจทก์ท่ีน�ำสืบมา
ของจ�ำเลยที่ ๑ เอกสารหมาย ล.๓ ท่ีให้การต่อ จึงไม่อาจเช่ือมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเงินและ
พนกั งานเจา้ หน้าท่สี ำ� นกั งานปอ้ งกนั และปราบปราม ทรัพย์สินที่ยึดได้ในคดีนี้กับการกระท�ำความผิด
การฟอกเงินวันจับกุมก็ระบุว่าเงินและทรัพย์สิน มูลฐานได้ เพียงแต่ข้อสงสัยของเจ้าพนักงานต�ำรวจ
ทง้ั หมดไดม้ าจากการเล่นการพนันฟุตบอล ให้เช่ารถ และการทจ่ี ำ� เลยทง้ั สามไมม่ หี ลกั ฐานยนื ยนั วา่ เงนิ และ
แทก็ ซแ่ี ละปลอ่ ยเงนิ กโู้ ดยไมไ่ ดใ้ หก้ ารถงึ การจำ� หนา่ ย ทรัพย์สินดังกล่าวได้มาจากการปล่อยกู้และการเล่น
ยาเสพติดแต่อย่างใด เช่นเดียวกับจ�ำเลยท่ี ๓ ท่ีให้ การพนันฟุตบอล และน้องชายของจ�ำเลยที่ ๒ มี
การต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ีส�ำนักงานป้องกันและ ประวัติการกระท�ำความผิดเก่ียวกับยาเสพติด
ทั้ ง จ� ำ เ ล ย ท่ี เ ค ย ต ้ อ ง ค� ำ พิ พ า ก ษ า เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร
ครอบครอง ยาเสพตดิ เทา่ นี้ ไมพ่ อทจ่ี ะรบั ฟงั ไดว้ า่ เงนิ
และทรัพย์สินดังกล่าวเกิดจากการกระท�ำความผิด
เกยี่ วกบั การครอบครองยาเสพตดิ เมอื่ ขอ้ เทจ็ จรงิ ตาม
ทางนำ� สืบของโจทกร์ บั ฟังไดว้ ่าจ�ำเลยท่ี ๑ และท่ี ๒

228

ไมเ่ คยมปี ระวตั กิ ารกระทำ� ความผดิ เกยี่ วกบั ยาเสพตดิ จ�ำเลยที่ ๑ ยังน�ำสืบถึงรายการเคลื่อนไหวทางบัญชี
และแม้จ�ำเลยท่ี ๓ จะเคยกระท�ำความผิดฐานมี เงนิ ฝากของตนกบั พวกท่ถี ูกอายัดไวใ้ นคดีนี้ โดยระบุ
ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษในประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามนี ) ไว้ ที่มาของการโอนเงินเข้าและออกจากบัญชีได้ แม้จะ
ในครอบครองโดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าต แตเ่ มอ่ื โจทกน์ ำ� สบื เป็นการโอนเงินจ�ำนวนคร้ังละมากๆ และจ�ำเลย
ในลกั ษณะวา่ เงนิ และทรพั ยส์ นิ ทง้ั หมดเปน็ ของจำ� เลย ทง้ั สามไมน่ ำ� เจา้ ของบญั ชเี หลา่ นนั้ มาเบกิ ความตอ่ ศาล
ที่ ๑ ที่ใส่ช่ือจ�ำเลยที่ ๓ ไว้บางส่วนและไม่ได้ฟ้อง ก็ตาม ก็มิใช่ข้อท่ีจะชี้ว่าเงินดังกล่าวมิใช่เงินท่ีได้มา
จ�ำเลยท่ี ๓ ว่าร่วมกับจ�ำเลยท่ี ๑ และท่ี ๒ มี จากการพนนั ฟตุ บอลและการกยู้ มื เงนิ เปน็ การกระทำ�
ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษในประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามนี ) ไว้ ท่ีไมช่ อบดว้ ยกฎหมาย จึงเปน็ ปกตวิ สิ ยั ท่ผี ูก้ ระท�ำจะ
ในครอบครองเพอ่ื จำ� หนา่ ย จงึ เชอ่ื วา่ เงนิ และทรพั ยส์ นิ ไมด่ ำ� เนนิ การใหป้ รากฏหลกั ฐานไวเ้ พอื่ การตรวจสอบ
ดังกลา่ วเปน็ ของจำ� เลยท่ี ๑ เม่ือจ�ำเลยที่ ๑ และท่ี ๒ พยานหลักฐานที่โจทก์น�ำสืบมาจึงมีข้อสงสัยตาม
ไมเ่ คยมปี ระวตั กิ ารกระทำ� ความผดิ เกยี่ วกบั ยาเสพตดิ สมควรว่าจ�ำเลยทั้งสามได้ร่วมกันโอน รับโอน หรือ
ทั้งคดีอาญาที่โจทก์ฟ้องจ�ำเลยท่ี ๑ และท่ี ๒ ใน เปลยี่ นสภาพทรพั ยส์ นิ ทเี่ กย่ี วกบั การกระทำ� ความผดิ
ความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ (เมท เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น
แอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพอ่ื จำ� หน่าย ตามคดี ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการ
อาญาหมายเลขด�ำที่ ๕๕๐๗/๒๕๔๖ ของศาลอาญา ฟอกเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๕ (๑) จริงหรือไม่ ฎีกา
ธนบุรี อันเป็นความผิดมูลฐานในคดีน้ีน้ัน ปรากฏ ของโจทกฟ์ ังไมข่ ้ึน พิพากษายนื
ข้อเท็จจริงตามค�ำแก้ฎีกาของจ�ำเลยทั้งสามว่า ศาล
อาญาธนบรุ มี คี ำ� พพิ ากษายกฟอ้ งจำ� เลยที่ ๑ และที่ ๒ ๒.๑๐ คำ� พพิ ากษาศาลฎกี าท่ี๒๗๑๓/๒๕๕๕
แล้ว ตามคดีหมายเลขแดงท่ี ๓๒๐๖/๒๕๔๘ ซึ่งคดี ศาลฎกี าพเิ คราะหแ์ ลว้ ขอ้ เทจ็ จรงิ รบั ฟงั เปน็
อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอทุ ธรณ์ นอกจากน้ี ยุตใิ นชัน้ ฎีกาวา่ จ�ำเลยที่ ๑ เปน็ น้องสาวจำ� เลยท่ี ๒
เมอ่ื วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๕ จ�ำเลยที่ ๑ ซื้อทีด่ นิ
โฉนดเลขท่ี ๑๙๓๐ แขวงบางบอน เขตบางบอน

229

กรุงเทพมหานคร พรอ้ มอาคารพาณชิ ย์ ๓ ชน้ั เลขท่ี คดีนจ้ี งึ ไม่จ�ำตอ้ งรอฟังผลคดดี ังกลา่ วดังที่จำ� เลยท่ี ๒
๔๕/๑๔๐๒ ตามส�ำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน ยืน่ ค�ำร้อง การทีจ่ ำ� เลยที่ ๒ นำ� สืบว่า จ�ำเลยที่ ๒ ซ้ือ
เอกสารหมาย จ.๓๔ ต่อมาเม่ือวันท่ี ๒๘ มกราคม อาคารพาณชิ ย์ เลขที่ ๔๕/๑๔๐๒ ใหแ้ กน่ างสาว xxxx
๒๕๔๖ จำ� เลยท่ี ๑ ทำ� สญั ญาขายที่ดินแปลงดังกลา่ ว โดยนำ� เงนิ ทไี่ ดจ้ ากการเลน่ การพนนั ในบอ่ นการพนนั
พร้อมอาคารพาณิชย์ใหแ้ กน่ างสาว xxxxx เมือ่ วนั ที่ ในประเทศกัมพูชา มาซ้ือ ส่วนอาคารพาณิชย์เลขท่ี
๓ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๔๖ จำ� เลยที่ ๑ ท�ำหนังสอื สัญญา ๔๕/๑๐๗๙ จำ� เลยที่ ๑ ซอื้ ดว้ ยเงนิ ตนเอง สำ� หรบั เงนิ
ขายที่ดินโฉนดเลขที่ ๒๐๖๘ แขวงบางบอน ที่พบในอาคารพาณิชย์เลขท่ี ๔๕/๑๔๐๒ และใน
เขตบางบอน กรงุ เทพมหานคร พร้อมอาคารพาณชิ ย์ รถยนต์ย่ีห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน จฉ ๗๗๒๗
๓ ชั้น เลขที่ ๔๕/๑๐๗๐ ให้แก่นาย ส. ต�ำรวจไป กรุงเทพมหานคร ไม่ใช่เงินของจ�ำเลยน้นั ไมม่ ีเหตผุ ล
ตรวจคน้ อาคารพาณิชย์เลขท่ี ๔๕/๑๔๐๒ พบเงนิ สด ให้น่าเชื่อถือเพราะเป็นการง่ายที่จะกล่าวอ้าง ท้ังยัง
ซกุ ซอ่ นอยจู่ ำ� นวน ๔๑,๘๕๙,๘๗๐ เมอื่ วนั ท่ี ๑ มนี าคม ปรากฏว่าจ�ำเลยท่ี ๒ เป็นคนซือ้ อาคารพาณิชย์เลขท่ี
๒๕๔๖ เจ้าพนักงานต�ำรวจตรวจค้นรถยนต์เก๋งย่ีห้อ ๔๕/๑๔๐๒ โดยมหี ลุมลับเกบ็ ซ่อนเงินไว้เป็นจำ� นวน
นิสสันสีเขียวอ่อน หมายเลขทะเบียน จฉ ๗๗๒๗ มาก กับมีตู้เซฟเก็บเงินจ�ำนวนมากไว้ภายในบ้าน
กรุงเทพมหานคร พบเงนิ สดจ�ำนวน ๓๑,๕๙๐,๐๐๐ จ�ำเลยท่ี ๒ จะไม่รู้เห็นได้อย่างไร เม่ือข้อเท็จจริง
บาท ระหวา่ งการพจิ ารณาของศาลฎีกา จำ� เลยที่ ๑ ปรากฏว่าจ�ำเลยท่ี ๒ เคยต้องค�ำพิพากษาให้ลงโทษ
ยื่นค�ำร้องขอถอนฎีกา ศาลฎีกามีค�ำส่ังอนุญาตและ จำ� คกุ ๑๐ ปี ฐานมยี าเสพตดิ ใหโ้ ทษในประเภท ๑ ไว้
ให้จ�ำหน่ายคดีเฉพาะจ�ำเลยท่ี ๑ ออกจากสารบบ
ความศาลฎกี า

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่ามีประเด็นที่
ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจ�ำเลยที่ ๒ ว่า จ�ำเลยท่ี ๒
กบั พวกตามฟอ้ งรว่ มกนั กระทำ� ความผดิ ฐานฟอกเงนิ
หรือไม่ แม้ศาลอุทธรณ์มีค�ำพิพากษายกฟ้องจ�ำเลย
ที่ ๒ ในข้อหา “ร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนจ�ำนวน
๕๐๐,๐๐๐ เม็ด ไว้ในครอบครองเพ่ือจ�ำหน่ายและ
ข้อหาอน่ื นั้น การทศี่ าลอุทธรณ์มีคำ� พิพากษายกฟอ้ ง
จ�ำเลยท่ี ๒ ในคดีดังกล่าวก็ไม่มีผลต่อคดีนี้ เพราะ
ข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่จ�ำต้องถือตามข้อเท็จจริงในคดี
ดงั กลา่ ว เนอ่ื งจากเปน็ การฟอ้ งใหล้ งโทษตา่ งขอ้ หากนั
กฎหมายทนี่ ำ� มาวนิ จิ ฉยั กเ็ ปน็ กฎหมายคนละฉบบั กนั
และมีองคป์ ระกอบความผดิ แตกตา่ งกนั การวินจิ ฉัย

230

ในครอบครองเพ่ือจ�ำหน่าย ตามคดีหมายเลขแดงท่ี การจ�ำหน่าย จ่ายโอน ซ่ึงทรัพย์สินท่ีเกี่ยวกับการ
๖๒๖/๒๕๓๙ ของศาลช้ันตน้ เม่ือวันท่ี ๓๑ มกราคม กระท�ำความผิดเป็นความผิดฐานฟอกเงิน ตาม
๒๕๓๙ ทงั้ จำ� เลยท่ี ๒ ยงั พวั พนั กบั คดอี าญาหมายเลข พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ดำ� ที่๔๐๓๐/๒๕๔๖คดหี มายเลขแดงท่ี๘๘๗๐/๒๕๔๖ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๕, ๖๐ ประกอบดว้ ยประมวล
ของศาลอาญาธนบุรี ซึ่งมีเมทแอมเฟตามีนจ�ำนวน กฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ ศาลล่างทัง้ สองพพิ ากษา
มากถึง ๕๐๐,๐๐๐ เม็ด จึงตรงกับที่จ�ำเลยท่ี ๑ ชอบแลว้ ฎีกาของจำ� เลยท่ี ๒ ฟงั ไม่ขนึ้
ให้การว่า จ�ำเลยที่ ๒ ได้เงินจ�ำนวนมากมาจากการ
ค้ายาเสพติดให้โทษ พยานหลักฐานของจ�ำเลยที่ ๒ ๒.๑๑ ค�ำพิพากษาศาลฎีกาท่ี ๑๑๑๙๐/
จึงไม่มีน้�ำหนักให้หักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ ๒๕๕๖
ขอ้ เทจ็ จรงิ รบั ฟงั ได้วา่ จ�ำเลยท่ี ๒ น�ำเงินทไ่ี ด้จากการ
ค้ายาเสพติดให้โทษไปซื้อท่ีดินโฉนดเลขท่ี ๒๐๖๘ ข้อเท็จจริงเบ้ืองต้นรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่
แขวงบางบอน เขตบางบอน กรงุ เทพมหานคร พร้อม ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ พันต�ำรวจโท ว. กับพวก
อาคารพาณิชย์เลขท่ี ๔๕/๑๐๗๙ และท่ีดินโฉนด ร่วมกันจับกุมจ�ำเลยได้พร้อมยึดทรัพย์สิน ส�ำหรับ
เลขท่ี ๑๙๐๓ แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพ ความผิดตามฟ้องข้อ ๑.๑.๑ ถงึ ข้อ ๑.๑.๑๔ ขอ้ ๑.๓
มหานคร พร้อมอาคารพาณิชย์เลขท่ี ๔๕/๑๔-๒ ข้อ ๑.๗ และข้อ ๑.๘ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
ดังกล่าว และรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน พิพากษายกฟ้อง จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาใน
จฉ ๗๗๒๗ กรงุ เทพมหานคร การกระทำ� ของจำ� เลย ความผิดดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ที่ ๒ จงึ เปน็ การรว่ มกนั กบั พวกตามฟอ้ งเปลยี่ นสภาพ ความอาญา มาตรา ๒๒๒ คงมีปัญหาท่ีต้องวินิจฉัย
ทรัพย์สินท่ีเก่ียวกับการกระท�ำความผิดเพ่ือซุกซ่อน ตามฎีกาของโจทก์ว่าจ�ำเลยกระทำ� ความผิดตามฟ้อง
หรอื ปกปดิ แหลง่ ทมี่ าของทรพั ยส์ นิ นน้ั และเพอื่ ปกปดิ ขอ้ ๑.๒.๑ ขอ้ ๑.๒.๒ ขอ้ ๑.๒.๓ ขอ้ ๑.๔ และขอ้ ๑.๕
หรืออ�ำพรางลักษณะท่ีแท้จริง การได้มา แหล่งที่ตั้ง และข้อ ๑.๖ หรอื ไม่

ศาลฎกี าพเิ คราะหแ์ ลว้ เหน็ วา่ มปี ระเดน็ ตาม
ที่โจทก์ฎีกาว่าจ�ำเลยได้กระท�ำความผิดเกี่ยวกับ

231

ยาเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและ ทั้งโจทก์ก็ไม่ได้น�ำพยานท่ีรู้เห็นว่าจ�ำเลยมีการ
ปราบปรามยาเสพติดหรือกฎหมายว่าด้วยมาตรการ กระท�ำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมาเบิกความ
ในการปราบปรามผกู้ ระทำ� ความผดิ เกยี่ วกบั ยาเสพตดิ เปน็ พยาน เพอื่ ยืนยนั วา่ จำ� เลยจำ� หนา่ ยยาเสพติดจรงิ
อันเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกัน สำ� หรบั แฟม้ ประวตั ทิ เ่ี กยี่ วกบั การกระทำ� ความผดิ ของ
และปราบปรามการฟอกเงนิ พ.ศ.๒๕๔๒ และเงนิ หรอื จ�ำเลยตามเอกสารหมาย จ.๓ ก็เป็นเอกสารท่ีพยาน
ทรพั ยส์ นิ ของจำ� เลยเปน็ เงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ ทไ่ี ดม้ าจาก โจทก์จัดท�ำขึ้นฝ่ายเดียว แม้โจทก์จะมีค�ำให้การ
การกระท�ำซึ่งเป็นความผิดมูลฐานหรือจากการ ในชนั้ สอบสวนของนาง ส. นางสาว พ. บตุ รของนาง ส.
สนับสนุนหรือช่วยเหลือการกระท�ำซึ่งเป็นความผิด นาย ธ. นาง ส. ภรยิ านาย ธ. และนางสาว ม. นอ้ ง
มูลฐานตามมาตรา แห่งบทบัญญัติดังกล่าวหรือไม่ จ�ำเลยตามบันทึกค�ำให้การของพยานเอกสาร
พเิ คราะหจ์ ากคำ� เบกิ ความพยานของโจทกแ์ ลว้ พบวา่ หมาย จ.๔o จ.๔๑ จ.๔๙ ถงึ จ.๕๑ มาอา้ งสง่ ศาลกต็ าม
พยานดังกล่าวล้วนเป็นพยานบอกเล่า ไม่ได้รู้เห็น แต่ค�ำให้การในช้ันสอบสวนดังกล่าวล้วนเป็นพยาน
เหตุการณด์ ว้ ยตนเอง เพียงแต่ไดร้ บั รายงานจาก ชุด บอกเล่า โดยโจทก์มิได้น�ำตัวพยานดังกล่าวมา
สืบสวนว่าจ�ำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เบิกความต่อศาลเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงตามที่เคย
ให้การไว้ และเพื่อให้จ�ำเลยมีโอกาสถามค้าน ท�ำให้
จ�ำเลยเสียเปรียบ อีกท้ังไม่ปรากฏว่าจ�ำเลยเคยถูก
ด�ำเนินคดีฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพ่ือ
จ�ำหน่ายหรือจ�ำหน่ายยาเสพติดมาก่อน และจ�ำเลย
ใหก้ ารปฏเิ สธตลอดมา ประกอบกบั คดนี ้ีโจทก์ฟอ้ งขอ
ให้ลงโทษจ�ำเลยตามพระราชบัญญัติป้องกันและ
ปราบปรามการฟอกเงนิ พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๖๐ ซ่ึง
พระราชบญั ญตั ดิ งั กลา่ วมไิ ดบ้ ญั ญตั เิ กยี่ วกบั การนำ� สบื
ในการกระท�ำความผิดดังกล่าวไว้เปน็ การเฉพาะ เมอ่ื
คดีน้ีเป็นคดีอาญาโจทก์จึงมีหน้าที่น�ำสืบเพ่ือให้
รับฟังได้โดยปราศจากขอ้ สงสยั วา่ จำ� เลยเป็นผู้กระทำ�
ความผิด แต่พยานหลักฐานของโจทก์ท่ีน�ำมาสืบ
ล้วนเป็นพยานบอกเล่า มีน�้ำหนักน้อยและยังมีความ
สงสัยตามสมควรว่าจ�ำเลยกระท�ำความผิดเกี่ยวกับ
ยาเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและ
ปราบปรามยาเสพติดหรือกฎหมายว่าด้วยมาตรการ
ในการปราบปรามผกู้ ระทำ� ความผดิ เกย่ี วกบั ยาเสพตดิ
อันเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกัน
และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ และ

232

เงินหรือทรัพย์สินของจ�ำเลยเป็นเงินหรือทรัพย์สิน แขวงทุ่งวัดดอน (บ้านทราย) เขตสาทร (บางรัก)
ที่ได้มาจากการกระท�ำความผิดมูลฐานหรือจากการ กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ไปจ�ำนองแก่
สนับสนุนหรือช่วยเหลือการกระท�ำความผิดมูลฐาน ธนาคารกรุงเทพฯ วันท่ี ๒๒, ๒๓, ๒๖ กุมภาพันธ์
ตามมาตรา ๓ แหง่ บทบัญญัติดงั กลา่ วหรือไม่ จงึ ให้ ๒๕๔๔ และวันท่ี ๖ มนี าคม ๒๕๔๔ จ�ำเลยที่ ๑ น�ำ
ยกประโยชน์แห่งความสงสัยน้ันให้แก่จ�ำเลยตาม เชค็ ธนาคารทหารไทย จ�ำกดั (มหาชน) สาขาพาหรุ ดั
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา หมายเลข ๑๕๙๐๖๑๘, ๑๕๙๐๖๑๙, ๑๕๙๐๖๒๐,
๒๒๗ วรรคสอง ทศ่ี าลอทุ ธรณพ์ พิ ากษายกฟอ้ งมานน้ั ๒๐๗๕๖๖๖, ๒๐๗๕๖๖๗ ส่ังจ่ายเงินฉบับละ
ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น ศาลฎีกา ๑,๘๐๐,๐๐๐ บาท ไปฝากเข้าบัญชีเลขท่ี ๒๑๙-๐-
พิพากษายนื ๒๒๒๗๑-๗ ธนาคารกรงุ เทพ จำ� กดั (มหาชน) สาขา
ถนนจันทร์สะพาน ๕ วันที่ ๑๘ และ ๒๘ กมุ ภาพนั ธ์
๒.๑๒ คำ� พพิ ากษาศาลฎกี า ๕๕๖๗ /๒๕๕๘ ๒๕๔๕ จ�ำเลยที่ ๑ น�ำเงินสดฝากเข้าบัญชีเลขที่
ศาลฎีกาตรวจส�ำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ๒๑๙-๐-๒๙๐๖๑-๕ ของจ�ำเลยที่ ๑ ท่ีธนาคาร
ข้อเท็จจริงรับฟังยุติได้ว่าจ�ำเลยที่ ๓ เป็นนิติบุคคล กรุงเทพ สาขาถนนจันทร์สะพาน ๕ คร้ังๆ ละ
ประเภทบริษัทจำ� กดั มจี �ำเลยท่ี ๑ เป็นกรรมการผมู้ ี ๘๐๐,๐๐๐ บาท และวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๕
อำ� นาจกระทำ� การแทน เมอ่ื วนั ท่ี ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๓๘ จำ� เลยที่ ๑ นำ� เงนิ สด ๒,๑๙๙.๙๔๒.๓๒ บาท ฝากเขา้
จ�ำเลยท่ี ๒ กบั พวก ถูกดำ� เนนิ คดใี นขอ้ หาสมคบกนั บัญชีธนาคารเดียวกัน วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๔๕
เพ่ือกระทำ� ความผิดเก่ียวกบั ยาเสพติด ศาลพพิ ากษา จ�ำเลยท่ี ๑ ซอื้ ที่ดินโฉนดเลขท่ี ๑๒๔๔๕, ๑๒๘๕๕,
ลงโทษจ�ำคุกจ�ำเลยท่ี ๒ มีก�ำหนด ๓ ปี ๔ เดือน ๑๒๘๕๘, ๕๑๗๘, ๙๐๒๖ แขวงบางโพงพาง
ตามค�ำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๖๕๙/๒๕๔๗ เมื่อวนั ที่ เขตยานนาวา (เมอื ง) กรุงเทพมหานคร จากบรรษทั
๒๑ กรกฎาคม ๒๕๔๓ และวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ บริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน และในวันเดียวกัน
๒๕๔๔ จ�ำเลยท่ี ๑ น�ำเงินสด ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท จำ� เลยท่ี ๑ น�ำทีด่ นิ ดงั กล่าวไปจ�ำนองแก่ธนาคารไทย
และ ๙๐๐,๐๐๐ บาท ตามลำ� ดับ ฝากเขา้ บัญชเี ลขที่ ธนาคารจ�ำกัด (มหาชน) เพอื่ เป็นประกันหน้ที ง้ั หมด
๒๑๙-๐-๒๒๒๗๑-๗ ของจ�ำเลยที่ ๓ ที่ธนาคาร ของจำ� เลยท่ี ๑ และท่ี ๓ ในวงเงนิ ๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
กรงุ เทพ จำ� กัด (มหาชน) สาขาถนนจนั ทร์สะพาน ๕

233

วันที่ ๒ กันยายน ๒๕๔๕ จ�ำเลยท่ี ๑ น�ำเงินสด ส่วนเก่ียวข้องกับคู่ความฝ่ายใด เบิกความอธิบาย
๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท ไปซอื้ พนั ธบตั รออมทรพั ยช์ ว่ ยชาติ ภาพถา่ ยในงานศพของนาง ออ. มารดาของนาย วช.
พ.ศ. ๒๕๔๕ อายุ ๕ ปี จากธนาคารแห่งประเทศไทย วา่ บุคคลท่ีระบชุ ื่อว่านาย วช. แตง่ กายด้วยผ้าปอ ถือ
จ�ำนวน ๓๐๐ หนว่ ย หนว่ ยละ ๑๐,๐๐๐ บาท วนั ท่ี ไม้กระบองที่ผ้าปอผูกไว้มีความหมายว่าเป็นลูกของ
๑๗ ตลุ าคม ๒๕๔๕ จ�ำเลยท่ี ๑ ซอ้ื ทีด่ นิ โฉนดเลขท่ี ผู้ตาย ส่วนจ�ำเลยท่ี ๑ แต่งกายในภาพถ่ายมีความ
๓๐๕๔๘ แขวงสุริยวงศ์ (บางรัก) เขตบางรัก หมายว่าเป็นหลานในของผู้ตายพยานหลักฐานโจทก์
กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้าง จากธนาคาร สนับสนุนกันอย่างมีเหตุผลและมีน้�ำหนักเช่ือได้ว่า
ทหารไทย จ�ำกัด (มหาชน) ในราคา ๘,๐๐๐,๐๐๐๐ จ�ำเลยท่ี ๑ เป็นบตุ รของนาย วช. ทจ่ี ำ� เลยท่ี ๑ และ
บาท ที่ ๓ ฎกี าวา่ นาย วช. และนาย พช. มสี าเหตโุ กรธเคอื ง
กับจ�ำเลยท่ี ๑ มาก่อน ท้ังเข้าร้องเรียนและมา
มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจ�ำเลยท่ี เบกิ ความตอ่ ศาลเพอ่ื หวงั เงนิ สนิ บนรางวลั นน้ั เหน็ วา่
๑ และท่ี ๓ มวี ่า จ�ำเลยที่ ๑ และท่ี ๓ ร่วมกระทำ� การที่นาย วช. เข้าแจ้งต่อส�ำนักงานป้องกันและ
ความผิดตามค�ำพิพากษาศาลอุทธรณ์หรือไม่ คดีน้ี ปราบปรามการฟอกเงนิ วา่ จำ� เลยท่ี ๑ กบั พวก กระทำ�
โจทก์มีนาย วช. บิดาของจ�ำเลยที่ ๑ และนาย พ. ความผิดเก่ียวกับยาเสพติดซ่ึงเป็นข้อหาอุกฉกรรจ์
น้องของจ�ำเลยท่ี ๑ เป็นพยานเบิกความ พิเคราะห์ นบั วา่ เปน็ เรอ่ื งรา้ ยแรง หากไมม่ มี ลู ความจรงิ ยอ่ มเสยี่ ง
แลว้ เหน็ ว่า นาย วช. และนาย พ. ต่างยืนยันวา่ จ�ำเลย ตอ่ การถกู ดำ� เนนิ คดีในภายหลัง โดยเฉพาะนาย วช.
ท่ี ๑ เป็นบตุ รคนที่ ๔ ของนาย วช. โดยมีนาย วน. และนาย พช. เป็นบิดาและน้องชายของจ�ำเลยท่ี ๑
เบิกความสนับสนุนว่า พยานเป็นบุตรคนท่ี ๒ ของ ตามล�ำดับ หากไม่มีสาเหตุขัดแย้งกันอย่างรุนแรง
นาย วช. และนาง ต. สว่ นจำ� เลยท่ี ๑ เปน็ บตุ รคนท่ี ๔ ย่อมไม่น่าจะมาแจ้งเร่ืองเก่ียวกับข้อหาร้ายแรงเช่นนี้
ซึง่ จ�ำเลยที่ ๒ เบกิ ความตอบโจทกถ์ ามคา้ นรบั วา่ ใน เม่ือพิเคราะห์ถึงเรื่องท่ีนาย วช. ไปทวงเงินส่วนแบ่ง
คดลี ม้ ละลายจำ� เลยที่ ๑ ไดแ้ จง้ ตอ่ เจา้ หนา้ ที่ธนาคาร จากจำ� เลยท่ี ๑ แตจ่ ำ� เลยท่ี ๑ ไมใ่ ห้ นาย วช. จงึ ทำ� รา้ ย
ว่า นาย วน. เปน็ พช่ี ายของจำ� เลยที่ ๑ และมีนาย สว. รา่ งกายจำ� เลยที่ ๑ และที่ ๒ แลว้ ถกู ด�ำเนนิ คดี นับว่า
พยานโจทก์อาชีพรับจัดพิธีศพแบบชาวจีนซึ่งไม่มี

234

มเี หตผุ ลเปน็ ไปไดแ้ ละนำ�้ หนกั เพยี งพอทน่ี าย วช. และ ว่า นาย วช. ให้การต่อพยานวา่ พบจ�ำเลยท่ี ๒ ในหอ้ ง
นาย พช. จะตัดความสัมพันธ์กับจ�ำเลยท่ี ๑ จนถึง ทีเ่ กดิ เหตุ และได้ตบหนา้ จ�ำเลยที่ ๒ ไป ๑ ที และ
ขนาดเขา้ แจง้ เรอ่ื งใหด้ ำ� เนนิ คดแี กจ่ ำ� เลยท่ี ๑ กบั พวก พันต�ำรวจโท อ. เบิกความว่า จ�ำเลยที่ ๑ และท่ี ๒
ส่วนเงินสินบนรางวัลน่าจะเป็นเพียงผลพลอยได้ใน เดินทางเข้าออกในและนอกราชอาณาจักรหลายครั้ง
ภายหลังหาใช่วัตถุประสงค์หลักแห่งการกระท�ำไม่ และจำ� เลยที่ ๑ และที่ ๒ เดินทางด้วยเครอื่ งบนิ เทีย่ ว
สาเหตุโกรธเคืองและเงินสินบนรางวัลในเรื่องนี้จึง เดียวกันมีประมาณ ๒ คร้ัง ประกอบกับนาย วน.
หามีผลท�ำให้น�ำหนักค�ำเบิกความของนาย วช. และ พ่ีชายของจ�ำเลยที่ ๑ เบิกความยืนยันว่า หลังจาก
นาย พช. เสยี ไปไม่ ฎกี าข้อนีข้ องจำ� เลยที่ ๑ และท่ี ๓ จ�ำเลยท่ี ๓ และที่ ๒ จดทะเบียนหยา่ กัน แตจ่ �ำเลย
ฟงั ไมข่ ึน้ ท่ี ๑ และท่ี ๒ ยงั คงอยดู่ ้วยกัน ดังนพ้ี ฤตกิ ารณเ์ ชือ่ ได้
วา่ จำ� เลยที่ ๑ และที่ ๒ เพียงจดทะเบียนหยา่ กัน แต่
ท่ีจ�ำเลยท่ี ๑ และที่ ๓ ฎีกาว่าโจทก์ไม่มี ยงั คงมคี วามสัมพันธ์ฉนั สามภี ริยา และในคดที ีจ่ ำ� เลย
พยานหลกั ฐานว่าจำ� เลยที่ ๑ ค้ายาเสพตดิ ไมป่ รากฏ ที่ ๑ ถกู ฟอ้ งใหเ้ ปน็ บคุ คลลม้ ละลาย จำ� เลยท่ี ๑ ใหก้ าร
หลกั ฐานเสน้ ทางการเงนิ ทจี่ ำ� เลยท่ี ๒ ไดโ้ อนหรอื มอบ ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อวันท่ี ๑ เมษายน
ให้แก่จ�ำเลยที่ ๑ การท�ำนิติกรรมต่างๆ ของจ�ำเลย ๒๕๓๗ ว่าก่อนถูกฟ้องล้มละลาย จ�ำเลยที่ ๑ เป็น
ที่ ๑ ตามฟ้อง อาทิ การซ้ือที่ดิน การซ้ือพันธบัตร แม่บ้านไม่ได้ประกอบอาชีพ ค่าใช้จ่ายในครอบครัว
ออมทรัพย์ช่วยชาติ การน�ำเงินสดหรือเช็คฝากเข้า สามเี ปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบ ไมเ่ คยเปน็ หนุ้ สว่ นหรอื มหี นุ้ สว่ น
บญั ชธี นาคาร เปน็ ต้น ไม่ปรากฏว่าจำ� เลยท่ี ๒ มสี ่วน ในห้างหรือบริษัทใดๆ ไม่มีบัญชีเงินฝากในธนาคาร
เกี่ยวข้องร่วมด้วยน้ัน เห็นว่า แม้จ�ำเลยที่ ๑ จด ใดๆ ไม่ได้ฝากทรัพย์สินไว้กับใคร ไม่มีทรัพย์สินของ
ทะเบียนหยา่ กบั จำ� เลยท่ี ๒ ต้งั แตว่ ันที่ ๒๑ ตลุ าคม บคุ คลอน่ื อยใู่ นความครอบครอง ไมม่ สี ทิ ธเิ รยี กรอ้ งให้
๒๕๓๐ แตโ่ จทก์มี พันต�ำรวจโท ช. พนกั งานสอบสวน ผูใ้ ดช�ำระหนี้ ไมม่ ีสญั ญาท่ีต้องปฏิบตั กิ บั ใคร ภายใน
ในคดที นี่ าย วช. กบั พวก ถกู กลา่ วหาว่าบุกรกุ เข้าไปที่ ระยะเวลาสามเดือนและสามปีก่อนถูกฟ้องให้
ห้องชุดอาคารสาทร แฮปปี้แลนด์ ทาวเวอร์ ของ ลม้ ละลายและภายหลงั นนั้ ไมเ่ คยโอนทรพั ยใ์ หบ้ คุ คล
จ�ำเลยที่ ๑ เมอื่ วันที่ ๑๙ มิถนุ ายน ๒๕๔๓ เบิกความ ใด ท้ังตามหนังสือขอประนอมหน้ี ลงวันที่ ๒๔
กรกฎาคม ๒๕๔๐ ที่จำ� เลยที่ ๑ ส่งไปถึงหวั หน้าสว่ น
ประนอมหนี้ ธนาคารกรงุ เทพ กร็ ะบวุ า่ ปจั จบุ นั จำ� เลย
ท่ี ๑ ไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ คงมีแต่สามีที่ท�ำงาน
หาเลย้ี งครอบครวั และพยายามเกบ็ รวบรวมเงนิ ไวเ้ พอื่
ช�ำระหน้ีสินต่างๆ ให้หมดสิ้น อันเป็นการยอมรับว่า
ในช่วงปี ๒๕๔๐ จ�ำเลยท่ี ๑ มิได้ประกอบอาชีพ
เปน็ กจิ จะลกั ษณะ มที รพั ยส์ นิ ทไ่ี ดจ้ ากการทำ� งานของ
จ�ำเลยที่ ๒ เท่าน้ัน นอกจากนี้ผลการตรวจสอบ

235

หลักฐานการเสียภาษเี งินไดข้ องจ�ำเลยท่ี ๑ และที่ ๓ ท่ี ๑ และที่ ๓ ได้กระท�ำความผิดมูลฐานเม่ือใดนั้น
ไมป่ รากฏวา่ จำ� เลยที่ ๑ ไดม้ กี ารยน่ื แบบแสดงรายการ ศาลฎกี าพเิ คราะหแ์ ลว้ เหน็ วา่ เมอื่ ขอ้ เทจ็ จรงิ ฟงั ไดว้ า่
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และจ�ำเลยท่ี ๓ ย่ืนแบบ เงินหรือทรัพย์สินของจ�ำเลยท่ี ๑ และที่ ๓ กับพวก
แสดงรายการภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ คุ คลมผี ลการดำ� เนนิ การ เป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระท�ำความผิดมูลฐาน
ขาดทนุ ซ่งึ จำ� เลยท่ี ๑ ก็เบิกความตอบโจทก์ถามค้าน ต า ม พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ป ้ อ ง กั น แ ล ะ ป ร า บ ป ร า ม
รบั วา่ ไมเ่ คยยนื่ แบบรายการแสดงการเสยี ภาษเี งนิ ได้ การฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓ แล้ว แมจ้ ำ� เลย
และต้ังแตป่ ี ๒๕๔๑ ถงึ ๒๕๔๔ จ�ำเลยท่ี ๓ ขาดทนุ ท่ี ๑ และท่ี ๓ จะมิได้กระท�ำความผิดมูลฐานอีก
สะสม ๑,๗๐๐,๐๐๐ บาทเศษนนั้ ดงั นน้ั แมโ้ จทกไ์ มม่ ี แต่ได้มีการกระท�ำอันเข้าลักษณะตามบทบัญญัติ
พยานหลกั ฐานตามที่จ�ำเลยท่ี ๑ และท่ี ๓ อ้างมาใน มาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว จำ� เลยท่ี ๑
ฎีกาข้อน้ี แต่พยานหลักฐานโจทก์เช่ือมโยงและ และที่ ๓ ย่อมมคี วามผิดฐานฟอกเงนิ ฎีกาขอ้ น้ขี อง
สนบั สนุนกันอยา่ งสมเหตุสมผล มีน้ำ� หนกั รบั ฟังไดว้ ่า จ�ำเลยที่ ๑ และที่ ๓ ฟงั ไม่ขนึ้
จำ� เลยที่ ๑ และท่ี ๓ กบั พวกไดม้ าซงึ่ เงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ
ที่เกี่ยวกับการกระท�ำความผิด ยาเสพติด อันเป็น ท่ีจ�ำเลยท่ี ๑ และท่ี ๓ ฎีกาว่า ฟ้องโจทก์
ความผดิ มลู ฐาน แลว้ ไดโ้ อนหรอื เปลยี่ นสภาพเงนิ หรอื ก็มิได้บรรยายว่าจ�ำเลยที่ ๑ และท่ี ๓ กระท�ำโดย
ทรพั ยส์ ินเพื่อซุกซอ่ น ปกปดิ แหล่งท่มี า หรืออำ� พราง มีเจตนาพิเศษอย่างไรน้ัน เห็นว่า ฟ้องโจทก์ระบุว่า
ลักษณะที่แท้จริง ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับความผิด “จ�ำเลยท้ังสามร่วมกันน�ำเงินสด ไปซ้ือที่ดิน เพ่ือ
ตามฟ้อง ฎกี าข้อนีข้ องจำ� เลยที่ ๑ และที่ ๓ ฟังไมข่ ้ึน ซุกซ่อน ปกปิดแหล่งท่ีมา อ�ำพรางลักษณะที่แท้จริง
การไดม้ าซง่ึ ทรพั ยส์ นิ ทเี่ กย่ี วกบั การกระทำ� ความผดิ ”
มีประเดน็ ที่ต้องวินจิ ฉัยตามฎกี าจำ� เลยที่ ๑ จึงเป็นค�ำฟ้องที่บรรยายโดยชัดแจ้งถึงเจตนาพิเศษ
และที่ ๓ ว่า โจทก์ไม่สามารถน�ำสืบได้ว่าภายหลัง ตามพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามการฟอก
พระราชบัญญัติบัญญัติป้องกันและปราบปราม เงนิ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๕ แลว้ ฎีกาข้อนข้ี องจำ� เลย
การฟอกเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๒ มีผลใช้บงั คบั แลว้ จำ� เลย ท่ี ๑ และที่ ๓ ฟงั ไมข่ ึน้

236

ทจ่ี ำ� เลยท่ี ๑ และที่ ๓ ฎกี าวา่ จ�ำเลยที่ ๑ ๒.๑๓ ค�ำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๓๕๓๗/
น�ำเงินสดท่ีได้จากการกระท�ำความผิดเก่ียวกับ ๒๕๕๓
ยาเสพติดไปซื้อที่ดิน ฝากเข้าบัญชีธนาคาร ซ้ือ
พันธบัตรออมทรัพย์ช่วยชาติ และน�ำที่ดินไปจ�ำนอง ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จ�ำเลยที่ ๑ และ
ต่อธนาคาร ได้มาก่อนท่ีพระราชบัญญัติป้องกันและ ที่ ๓ ร่วมกันสั่งอายัดเงินในบัญชีเงินฝากของโจทก์
ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ มผี ลใชบ้ งั คบั ไว้เป็นเวลานาน โดยไม่แจ้งข้อกล่าวหาแก่โจทก์ แต่
จึงไม่มีความผิดตามบทกฎหมายดังกล่าว เน่ืองจาก ถอนการยึดและอายัดแก่ผ้อู ื่นโดยเรว็ ทำ� นองวา่ มกี าร
ไม่สามารถน�ำบทกฎหมายท่ีมีโทษทางอาญาไปใช้ เรียกรับสินบน เม่ือโจทก์กับพวกไม่ยอมจ่ายจึงไม่ได้
บังคับย้อนหลังน้ัน เห็นว่าข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจ�ำเลย รับการถอนอายดั เงินในบัญชเี งนิ ฝาก และไม่ปรากฏ
ท่ี ๒ กับพวก ได้รับเงินมาจากการกระท�ำซึ่งเป็น พยานหลกั ฐานวา่ เงนิ ดงั กลา่ วเกย่ี วขอ้ งกบั การกระทำ�
ความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและ ความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่อย่างไร เป็นการปฏิบัติ
ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ ๒๕๔๒ มาตรา ๓ ก่อน หน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์
กฎหมายบงั คบั ใช้ แตเ่ งนิ ดงั กลา่ วกย็ งั คงเปน็ ทรพั ยส์ นิ ศาลฎีกาเห็นว่า ในเรื่องนี้ปรากฏข้อเท็จจริงตาม
ที่เก่ียวกับการกระท�ำความผิดตามบทกฎหมาย หนงั สอื ชแี้ จงขอ้ เทจ็ จรงิ วา่ หลงั จากมกี ารยดึ ทรพั ยส์ นิ
ดังกลา่ วตลอดมา เมือ่ จ�ำเลยที่ ๑ กบั พวก ไดก้ ระท�ำ และอายัดเงินในบัญชีเงินฝากของผู้เก่ียวข้องกับการ
การอนั เขา้ ลกั ษณะความผดิ ฐานฟอกเงนิ ตามพระราช กระท�ำความผิดรวมท้ังโจทก์แล้ว คณะพนักงาน
บัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. สบื สวนสอบสวนไดป้ ระชมุ พจิ ารณาคนื ทรพั ยส์ นิ ของ
๒๕๔๒ มาตรา ๕ ภายหลังจากที่พระราชบัญญัติ บุคคลในกลุ่มของโจทก์ที่ยึดและอายัดไว้ถึง ๑๘
ดงั กล่าวมีผลใชบ้ ังคับแล้ว จ�ำเลยที่ ๑ กบั พวก ยอ่ มมี รายการ และโจทกเ์ พ่งิ กลา่ วอา้ งในชัน้ ฎกี าวา่ จำ� เลย
ความผิดตามฟ้อง ฎกี าขอ้ นี้ของจ�ำเลยท่ี ๑ และท่ี ๓ ที่ ๑ และที่ ๓ เรียกรับสินบนโดยไม่บรรยายถงึ เหตุ
ฟังไม่ขึ้นเชน่ กนั พพิ ากษายืน แหง่ ความไมส่ จุ รติ ไวใ้ นคำ� ฟอ้ ง และในทางไตส่ วนของ
โจทก์ไม่น�ำสืบหรือเสนอพยานหลักฐานใดให้ปรากฏ

237

พอท่จี ะรบั ฟงั ได้ ดังท่ีโจทก์อ้างในฎีกา ดังนัน้ การท่ี อนั เกยี่ วกบั การกระทำ� ความผดิ อยา่ งหนงึ่ ทอ่ี าจพสิ จู น์
คงอายัดเงินในบัญชีเงินฝาก ๓ บัญชีตามฟ้องไว้ ให้เห็นความผิดตามท่ีกล่าวหาได้ จ�ำเลยท่ี ๓ จึงมี
ถอื ไม่ได้วา่ เป็นการปฏิบตั ิหนา้ ทโ่ี ดยมชิ อบเพอื่ ใหเ้ กดิ อ�ำนาจยึดหรืออายัดเงินในบัญชีเงินฝากของโจทก์
ความเสียหายแก่โจทก์หรือโดยทุจริต ส�ำหรับข้อที่ ไว้ตรวจสอบเพ่ือประโยชน์ในการรวบรวมพยาน
โจทกอ์ า้ งวา่ มกี ารอายดั เงนิ ในบญั ชเี งนิ ฝากของโจทก์ หลกั ฐานตาม ป.ว.ิ อ. มาตรา ๘๕ วรรคสาม และ ๑๓๒
เป็นระยะเวลานานเกือบ ๑ ปี นับถึงวันฟ้อง โดย อันเป็นการด�ำเนินการทางอาญาในความผิดฐาน
ไมแ่ จง้ ขอ้ กลา่ วหา เมอื่ โจทกข์ อใหเ้ พกิ ถอนคำ� สงั่ อายดั ลักลอบหนีศุลกากรและฐานฟอกเงินตามอ�ำนาจ
จ�ำเลยท่ี ๓ ก็เพิกเฉย เห็นว่า จ�ำเลยท่ี ๓ เป็น หนา้ ทข่ี องคณะพนกั งานสบื สวนสอบสวนผรู้ บั ผดิ ชอบ
เจา้ พนกั งานตำ� รวจยอ่ มมอี ำ� นาจหนา้ ทที่ ำ� การสบื สวน จ�ำเลยที่ ๓ ในฐานะพนักงานสืบสวนสอบสวน
คดอี าญา เมอ่ื สบื สวนแสวงหาขอ้ เทจ็ จรงิ และหลกั ฐาน ผู้รับผิดชอบจึงมีอ�ำนาจอายัดไว้จนกว่าคดีจะถึงท่ีสุด
จนทราบรายละเอียดแห่งความผิดแล้วว่าโจทก์อยู่ ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ในฐานะผู้ต้องสงสัยหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้า มาตรา ๘๕ วรรคสาม เม่อื คดอี ยรู่ ะหว่างการสืบสวน
น�้ำมันเถ่ือน จ�ำเลยที่ ๓ ย่อมมีอ�ำนาจกล่าวโทษได้ สอบสวนยงั ไมถ่ งึ ทสี่ ดุ การกระทำ� ของจำ� เลยท่ี ๑ และ
ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๒ (๘) ๑๗, ๑๘, ๑๒๕ และ ๑๒๗ ท่ี ๓ ไม่เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
และเม่ือจ�ำเลยที่ ๓ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงาน โดยมิชอบเพ่ือให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์เช่นกัน
สืบสวนสอบสวนของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ส่วนที่โจทก์ฎีกาว่า จ�ำเลยท่ี ๓ ไม่มีพยานหลักฐาน
ผู้รับผิดชอบ จ�ำเลยท่ี ๓ ย่อมมีอ�ำนาจสอบสวน ยืนยันว่าเงินท่ีอายัดเก่ียวข้องกับการกระท�ำความผิด
รวบรวมพยานหลกั ฐานทกุ ชนดิ เทา่ ทสี่ ามารถจะทำ� ได้ ฐานฟอกเงินหรือไม่ อย่างไร ก็ปรากฏตามส�ำเนา
เพ่ือทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่างๆ อันเกี่ยว รายงานประจ�ำวันเก่ียวกับคดีเอกสารว่า นอกจาก
กบั ความผดิ ทก่ี ล่าวหาและเพอ่ื พิสจู น์ใหเ้ หน็ ความผิด จ�ำเลยท่ี ๓ กล่าวโทษต่อพนกั งานสอบสวนว่า โจทก์
ตาม ป.ว.ิ อ. มาตรา ๑๒๑,๑๓๐ และ ๑๓๑ ซงึ่ ลกั ษณะ ร่วมกับพวกลักลอบค้าน้�ำมันเถ่ือนแล้วยังได้มอบ
ความผิดฐานลักลอบหนีศุลกากรและฐานฟอกเงิน เอกสารหลักฐานข้อมูลเกี่ยวกับพฤติการณ์ในการ
ที่กล่าวหา บัญชีเงินฝากของโจทก์ย่อมเป็นหลักฐาน กระท�ำความผิดของโจทก์กับพวกแก่พนักงาน
สอบสวนด้วย ซ่ึงหากโจทก์ไม่ได้กระท�ำความผิด
238

ก็สามารถใช้สิทธิต่อสู้คดีตามที่ถูกกล่าวหาได้อยู่แล้ว ตัวอย่างการท�ำคดีคอลเซ็นเตอร์
พฤติการณ์ของจ�ำเลยที่ ๑ ในการส่ังยับยั้งการท�ำ ของต�ำรวจภูธรภาค ๖
ธุรกรรมทางการเงินของโจทก์ และพฤติการณ์ของ
จำ� เลยที่ ๓ ในการสบื สวนสอบสวน กลา่ วโทษ รายงาน จากกรณีระหว่างวันท่ี ๒๔ ก.พ - ๘ มี.ค.
ผลการสืบสวน และสง่ั อายัดเงินในบัญชีเงนิ ฝากของ ๒๕๖๐ ได้มีประชาชนจ�ำนวนมากโทรศัพท์มา
โจทกต์ ามฟอ้ งจงึ ไมม่ มี ลู ความผดิ ศาลอทุ ธรณภ์ าค ๑ ท่ีท�ำการศูนย์ส่ือสาร ต�ำรวจภูธรภาค ๖ หมายเลข
พิพากษามา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ โทรศัพท์ xxx-xxxxxx สอบถามกรณีมีบุคคลแอบ
ฟังไมข่ ้ึน พพิ ากษายืน อา้ งเปน็ ตำ� รวจท่ี ภ.๖ หลอกลวงใหป้ ระชาชนโอนเงนิ
ในลักษณะเป็นการกระท�ำของแก๊ง Call Center
ขอ้ สงั เกตจากคำ� พิพากษาฎกี า ผบช.ภ.๖ จึงได้ส่ังการให้ บก.สส.ภ.๖ ด�ำเนินการ
๑. โจทก์ต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า มีการ รวบรวมรายช่ือประชาชนและหลักฐานท่ีเก่ียวข้อง
กระท�ำผิดในคดคี วามผิดมูลฐานเกดิ ข้ึน มีการดำ� เนนิ เพ่ือด�ำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวให้ได้ถึงที่สุด
คดคี วามผดิ มลู ฐาน แต่คดีไมจ่ �ำเป็นต้องถงึ ทส่ี ุด อาจ เน่ืองจากก่อความเดือดร้อนให้กับประชาชน
อยูใ่ นชนั้ พิจารณาคดกี ไ็ ด้ (ฎีกาที่ ๔๗๑๖/๒๕๕๐) บก.สส.ภ.๖ โดย ผกก. วเิ คราะหข์ า่ วฯ พรอ้ มชดุ ปฏบิ ตั ิ
๒. ผกู้ ระทำ� ความผดิ ฐานฟอกเงนิ ไมจ่ ำ� เปน็ การสืบสวนได้รวบรวมข้อมูลเก่ียวกับเครือข่ายแก๊ง
ต้องร่วมกระท�ำผิดเป็นผู้ต้องหาคดีความผิดมูลฐาน ดงั กลา่ วเพอื่ ใชป้ ระกอบการออกหมายจบั สรปุ ความ
แตต่ อ้ งมกี ารกระทำ� เกย่ี วกบั ทรพั ยต์ ามมาตรา ๕ และ ได้ดงั น้ี
ศาลทพ่ี จิ ารณาคดคี วามผดิ ฐานฟอกเงนิ ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ ง
ฟงั ขอ้ เทจ็ จรงิ ตามคดคี วามผดิ มลู ฐาน เนอ่ื งจากมลู ใน ๑. เก่ยี วกับผเู้ สยี หายและทอ้ งทีท่ เ่ี กิดเหตุ
การฟ้องคดีความผิดมูลฐานกับคดีความผิดฐาน กรณีท่ีเกิดข้ึนมีประชาชนที่หลงเชื่อและ
ฟอกเงินต่างกัน (ฎีกาที่ ๙๐๙๒/๒๕๕๓,๒๗๑๓/ โอนเงนิ ใหก้ บั แก๊ง Call Center ทัว่ ประเทศ เฉพาะ
๒๕๕๕ ทแี่ จง้ ขอ้ มลู ผา่ นมายงั ผกก. วเิ คราะหข์ า่ วฯ ในฐานะ
เจ้าพนักงานตาม พรบ.ป้องกันและปราบปราม
การมสี ว่ นรว่ มในองคก์ รอาชญากรรมขา้ มชาติ จำ� นวน
๕๐ ราย ความเสยี หาย ๓๐,๖๙๓,๓๙๕ บาท

239

**** นอกจากน้ียังมีประชาชนอีกจ�ำนวน ในความผิดฐาน “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรม
หลายรอ้ ยรายทไ่ี ดร้ บั การตดิ ตอ่ จากแกง๊ Call Center ข้ามชาติ” และคดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนพื้นท่ี
แต่ยังไม่หลงเชื่อโอนเงิน ซึ่งชุดปฎิบัติการสืบสวนได้ เกิดเหตุ ไดเ้ ดนิ ทางไปแจง้ ความร้องทกุ ขต์ ่อพนักงาน
รวบรวมรายชื่อสรุปไว้ในรายงานการสืบสวนอีกส่วน สอบสวนใหด้ ำ� เนนิ คดกี บั กลมุ่ คนรา้ ยในความผดิ ฐาน
หนึ่งแลว้ **** “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” อีก
ส่วนหนงึ่
๒. เกยี่ วกับคนรา้ ย
ชดุ ปฏบิ ตั กิ ารสบื สวนไดแ้ บง่ คนรา้ ยออกเปน็ ๓. การออกหมายจับในส่วนสถานีต�ำรวจ
๔ กล่มุ คือ ทร่ี บั คำ� ร้องทกุ ข์
- กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ (Call Center)
- กลุ่มม้าถอนเงิน จากการรวบรวมพยานหลักฐานท้ังหมด
- กลมุ่ จดั หาบญั ชธี นาคารหรอื บตั รเอทเี อม็ ท�ำให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ได้ทราบ
- กลมุ่ จดั การทางการเงิน และ หัวหน้า ขอ้ เทจ็ จรงิ พฤติการณ์ การกระทำ� ผดิ ของเครือข่าย,
ทงั้ น้ี จากการสบื สวนคดดี งั กลา่ วตง้ั แต่ เดอื น บุคคลในเครือข่าย และความเช่ือมโยงของบุคคล
ม.ี ค. ๒๕๖๐ จนถงึ ปจั จบุ นั พนกั งานสอบสวนผรู้ บั ผดิ ในเครือข่าย จึงได้สรุปรายช่ือผู้ร่วมก่อเหตุ ส�ำหรับ
ชอบตาม พรบ.ปอ้ งกนั และปราบปรามการมสี ว่ นรว่ ม พนักงานสอบสวนท้องท่ีท่ีรับค�ำร้องทุกข์ใช้ประกอบ
ในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖ การออกหมายจับในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง
ไดร้ วบรวมพยานหลกั ฐาน เสนอศาลจงั หวดั พษิ ณโุ ลก โดยแสดงตนเปน็ บคุ คลอื่น, ซอ่ งโจร”
ออกหมายจับเครือข่ายแล้วท้ังสิ้น ๓๕ หมาย

240

การน�ำเสนอกรณีศกึ ษา ประเดน็ ท่ี ๒ ปญั หาการทรี่ อ้ ยเวรไมร่ บั แจง้
ความคดีคอลเซ็นเตอร์
ประเดน็ ท่ี ๑ เขตอ�ำนาจการสอบสวน ตาม
ป.วิ.อ. ส�ำคญั แค่ไหนต่อการด�ำเนนิ คดคี อลเซน็ เตอร์ ขอ้ เทจ็ จรงิ จากปญั หาในประเดน็ ที่ ๑ ทำ� ให้
ร้อยเวรท่ีรับแจ้งความในสถานีต�ำรวจอ้างเหตุการณ์
ขอ้ เทจ็ จรงิ ในคดคี อลเซน็ เตอรเ์ ปน็ รปู แบบ ไม่รบั คดี หรอื รับคดแี ต่ลงประจ�ำวันไวเ้ ป็นหลักฐาน
อาชญากรรมทค่ี นรา้ ยกลมุ่ พนกั งานโทรศพั ท์ สามารถ โดยไม่ได้ด�ำเนินการสืบสวนสอบสวนไปหาคนร้าย
ก่อเหตไุ ด้ท่ัวประเทศ ทส่ี ามารถตดิ ตอ่ โทรศัพทไ์ ด้ ไม่ เพราะล�ำพังงานของสถานีก็มากมาย ไม่สามารถ
ได้เฉพาะเจาะจงว่าจะเป็นพ้ืนท่ีใด เราจึงพบว่ากลุ่ม บริหารจัดการ ขยายผลคดีให้ไปท�ำกลุ่มคนร้าย
คอลเซน็ เตอร์ ๑ แกง๊ กอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายในพน้ื ท่ี เครอื ข่ายนี้ได้
ตา่ งๆ ทวั่ ประเทศในวงกวา้ ง และไมม่ ขี อ้ จำ� กดั แลว้ แต่
จะสุ่มไปเจอโทรศพั ทผ์ ูเ้ สยี หายเบอรใ์ ด อยู่ท่ีไหน เทคนคิ การบรหิ ารจดั การ ทมี สบื สวนทราบ
และเขา้ ใจปญั หาพนกั งานสอบสวน ไมส่ ามารถรบั แจง้
ปัญหาท่ีพบคือ คนร้ายท่ีปลอมเบอร์ ความคดีคอลเซ็นเตอร์เป็นอย่างดี จึงไม่เลือกการ
โทรศพั ทโ์ ทรมาจากพน้ื ทไ่ี หน ตอนทผี่ เู้ สยี หายรบั สาย ส่ังการให้ร้อยเวรรับแจ้งความคดีเหล่าน้ี แต่ขอรับ
โทรศพั ท์ผ้เู สียหายอยู่พ้ืนทไี่ หน ผเู้ สยี หายโอนเงนิ ให้ ส�ำนวนเหล่านี้มาสืบสวนด้วยตนเองในอ�ำนาจ
คนร้ายพ้ืนที่ไหน เงินเข้าแล้วคนร้ายไปกดเงินท่ีไหน ของกองบงั คบั การสบื สวนสอบสวนตำ� รวจภธู รภาค ๖
ปัญหาพื้นที่เหล่านี้ท�ำให้เป็นข้อขัดข้องในการตั้งรูป อีกท้ังรับเอาเหตุท่ีลงประจ�ำวันเป็นหลักฐานท้ังหมด
คดใี นดา้ นเขตอำ� นาจสอบสวนของพนกั งานสอบสวน ทุกเหตุ ทกุ คดี ทุกรปู แบบในประเทศ มาเปน็ เอกสาร
การสืบสวนเพ่ือใช้สืบสวนสอบสวนประกอบ
เทคนิคการบรหิ ารจัดการ พนื้ ทต่ี ำ� รวจภธู ร พฤติการณ์ให้เห็นภาพเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม
ภาค ๖ รับผดิ ชอบ ๙ จังหวัดภาคเหนือตอนลา่ งคือ ทำ� หนา้ ทแ่ี ทนพนกั งานสอบสวนระดบั สถานที เี่ กดิ เหตุ
อุทยั ธานี นครสวรรค์ พิจติ ร ก�ำแพงเพชร พษิ ณโุ ลก คดคี อลเซน็ เตอร์
สโุ ขทยั เพชรบรู ณ์ ตาก และ อตุ รดติ ถ์ หากทมี สบื สวน
ต้องการท�ำคดีน้ีจะต้องไปเสาะหาคดีคอลเซ็นเตอร์ที่
เกดิ ขน้ึ ใน ๙ จงั หวดั ขา้ งตน้ ซง่ึ ผเู้ สยี หายแจง้ ความตอ่
พนักงานสอบสวนแล้ว จากน้ันออกค�ำส่ังในนาม
กองบญั ชาการต�ำรวจภธู รภาค ๖ แตง่ ตงั้ คณะทำ� งาน
สืบสวนสอบสวน โดยให้มีอ�ำนาจสอบสวนได้
ตาม ป.วิ.อ. ทีมสืบสวนสอบสวนจึงจะได้มาซึ่งเขต
อำ� นาจสอบสวนตาม ป.วิ.อ.

241

ประเด็นที่ ๓ ความร้ายแรงของแก๊งคอล ประเดน็ ที่ ๔ ความออ่ นแอของกระบวนการ
เซน็ เตอรท์ ก่ี ระทำ� ตอ่ เหยอ่ื (ประชากรในประเทศไทย) ยุตธิ รรมท้งั ระบบ ในการแก้ไขปญั หาการเอาผิดผ้รู บั
จ้างเปิดบัญชี คือ ช่องว่างที่ท�ำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
ขอ้ เทจ็ จรงิ จากท่ีกลา่ วมาแลว้ วา่ เครือขา่ ย สร้างตัวเองได้เข้มแข็ง และจัดการไดย้ าก
คนร้าย ๑ แก๊ง สามารถกอ่ เหตไุ ดท้ ว่ั ประเทศในชว่ ง
เวลา ๑ วนั หาก ๑ แก๊งมีคนคอลเซน็ เตอร์ ๓๐ คน ขอ้ เทจ็ จรงิ การรบั จา้ งเปดิ บญั ชคี อื เนอื้ รา้ ย
โทรศัพทท์ ั้งวนั ๑ วนั โทรหาเหยือ่ ได้ คนละ ๑,๐๐๐ ของอาชญากรรมทุกประเภท เพราะหลักกฎหมาย
ราย สำ� เรจ็ วนั ละ ๒๐ ราย ผเู้ สยี หาย ๑ ราย ถกู หลอก อาญาให้พิจารณาเร่ืองเจตนา ดังนั้นเม่ือน�ำสืบได้แต่
เฉลี่ย ๑๐๐,๐๐๐-๗,๐๐๐,๐๐๐ บาท ท�ำแบบนี้ได้ เพียงรับจ้างเปิดบัญชี แต่ไม่ได้รู้เหตุเก่ียวกับการน�ำ
ทุกๆ วัน คือความเสียหายท่ีประชาชนชาวไทยที่ บัญชีไปใชผ้ ิดกฎหมาย เกดิ มีคำ� พพิ ากษาจ�ำนวนมาก
หลงเช่อื ตกเป็นเหยอ่ื เป็นมาตรฐานว่า ผู้รับจ้างเปิดบัญชีไม่ไดอ้ าชญากรท่ี
ก่อเหตุ ช่องว่างดังกล่าวท�ำให้องค์กรอาชญากรรมนี้
นอกจากนี้ยังมีความยากต่อการสืบสวน ก่อเหตุมาได้เรื่อยมาและไม่ถูกด�ำเนินคดี ยกเว้น
จับกุมเพราะกลุ่มคอลเซ็นเตอร์อยู่นอกประเทศไทย จะมีพยานหลักฐานว่าเป็นผู้สนับสนุนในการ
กลมุ่ ผรู้ บั จา้ งเปดิ บญั ชไี มร่ เู้ รอื่ งวา่ คนซอ้ื บญั ชเี อาไปใช้ ฟอกเงิน จึงเป็นทมี่ าของการทห่ี น่วยงานภาครัฐ เชน่
กอ่ เหตุ กลมุ่ ผกู้ ดเงนิ แมอ้ ยใู่ นประเทศไทยแตก่ ระจาย ส�ำนักงาน ปปง. และกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจ
อยู่ท่ัวประเทศหลายกลุ่มมีเพียงภาพวงจรปิดกดเงิน และสังคมเสนอแก้ไขกฎหมายให้ผู้เปิดบัญชีม้า
กลุ่มฟอกเงินอยู่ทั้งในและนอกประเทศท�ำธุรกิจ มีความผดิ อาญา
ถูกกฎหมายน�ำเงินที่หลอกมาเข้าระบบฟอกเงิน ที่
กล่าวมาทั้งหมดหากไม่รวมท้ังหมดให้เป็นเร่ือง เทคนิคการบริหารจัดการ ทีมงานสืบสวน
เดียวกันจะให้การน�ำเสนอหลักฐานไม่เชื่อมโยง เลือกไม่ใช้กฎหมายปกติด�ำเนินคดีกับเครือข่าย
สอดคล้อง และไม่สามารถด�ำเนินคดีกับคนร้ายได้ อาชญากรรมดงั กล่าว ซึ่งเดิมใช้การตั้งข้อหา รว่ มกนั
ส่วนใหญ่ จบั กุมเฉพาะผรู้ บั จา้ งเปิดบัญชตี ดิ คกุ ไมไ่ ด้ ฉ้อโกง หรือ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซ่ึงต้องหา
เงินคืน ไม่ได้อาชญากรตัวจรงิ มาลงโทษ หลักฐานสืบสวนให้เห็นเจตนาซึ่งยากมาก แต่ทีม
สืบสวนเริ่มขยายข้อหาไปเป็น มีส่วนร่วมในองค์กร
เทคนิคการบริหารจัดการ ศึกษารูปแบบ อาชญากรรมข้ามชาติ ฯ ดังน้ัน แค่เพียงมีส่วนร่วม
องค์กรอาชญากรรมน้ีให้เข้าใจ วางรูปแบบองค์กร
การแสวงหาหลกั ฐาน รวมเรอ่ื งราวทงั้ หมดใหเ้ ปน็ เรอ่ื ง
เดียวกันให้ได้ จากนั้นสืบสวนและท�ำคดีทั้งองค์กร
ท�ำทีละโมเดล ผู้รับจ้างเปิดบัญชีทุกคนต้องถูกจับ
ผู้ค้าขายบัญชีทุกคนต้องถูกจับ เม่ือจับคนกดเงินได้
ต้องขยายผลให้สุดถึงเงินสดท่ีคนกดเงินต้องโอนไป
อีกทอด ต้องสืบสวนให้เห็นเส้นการเงินทุกคดีเพ่ือ
หาความเชอื่ มโยงกลมุ่ ฟอกเงนิ โดยตอ้ งจรงิ จงั กบั การ
ดำ� เนินคดที ุกระดบั ของเครอื ข่ายคนร้าย

242

ไมท่ างใดทางหนง่ึ ทท่ี ำ� ใหเ้ ครอื ขา่ ยองคก์ รอาชญากรรม ประเด็นที่ ๖ กวา่ จะนำ� พ.ร.บ.ปอ้ งกันและ
กระท�ำการส�ำเร็จก็มีความผิดแล้ว นับเป็นการแก้ ปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรม
ปญั หาทางกฎหมายที่ดี ขา้ มชาติ ปี ๒๕๕๖ มาใชง้ านได้จริง และแพรห่ ลาย

ประเด็นที่ ๕ ความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ ข้อเท็จจริง คดีท่ีสืบสวนของต�ำรวจภูธร
ต�ำรวจต่างประเทศ กระดูกสันหลังแห่งความส�ำเร็จ ภาค ๖ คอื คดที เ่ี กดิ ขนึ้ ในชว่ งปี ๒๕๖๐ แตป่ รากฏเมอื่
ของคดีคอลเซน็ เตอร์ ไดพ้ ยายามหาตวั อยา่ งคดที ใ่ี ชก้ ฎหมาย พ.ร.บ.ปอ้ งกนั
และปราบปรามการมสี ว่ นรว่ มในองคก์ รอาชญากรรม
ข้อเท็จจริง ได้มีโอกาสร่วมกับเจ้าหน้าท่ี ขา้ มชาติ ปี ๒๕๕๖ กลบั พบวา่ แทบจะไมม่ หี นว่ ยงานใด
ต�ำรวจของประเทศจีนสืบสวนติดตามจับกุมแก๊ง ในส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติใช้กฎหมายฉบับมาปรับ
คอลเซ็นเตอร์ที่เป็นคนจีน เข้ามาตั้งคอลเซ็นเตอร์ ใช้เลย ซึ่งแปลกมาก แต่กฎหมายฉบับน้ีจ�ำเป็นมาก
ในประเทศไทย และจับกุมกลุ่มคนไทยท่ีช่วยเหลือ ส�ำหรับสืบสวนคดีนี้ อีกท้ังยังถูกจัดให้เป็นความผิด
แก๊งคนจีน ท�ำให้ช่วงเวลาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ กก.๕ มลู ฐานตามกฎหมายฟอกเงินดว้ ย
บก.ปอศ. ได้มีโอกาสรับรู้การจัดองค์กรของแก๊ง
คอลเซ็นเตอร์จากเจ้าหน้าท่ีต�ำรวจประเทศจีน แต่ เทคนิคการบริหารจัดการ ลองผิดลองถูก
ท่านไม่ได้เก็บความรู้ดังกล่าวไว้เพียงผเู้ ดยี ว ทา่ นได้ ถงึ ลกู ถงึ คน ท�ำทุกข้ันตอนด้วยตนเอง เม่อื ไดอ้ า่ นตัว
เขยี นบทความเกย่ี วกบั แกง๊ คอลเซน็ เตอรใ์ นทุกๆ มิติ บทกฎหมาย ก็สรา้ งวธิ กี ารปฏบิ ตั อิ อกมาเอง ท้งั เรื่อง
ไว้ในบทความของ กก.๕ บก.ปอศ. -See more at: การประสานหนังสือไปยังอัยการสูงสุด การตั้งข้อหา
http://www.ecdpolice.com/ การท�ำงานร่วมกับพนักงานอัยการ ทุกอย่างใหม่
index.php…Credit...กองบังคับการปราบปราม ทั้งหมด เทคนิคในข้อนี้คือ ให้ลงมือท�ำห้ามกลัว
การกระท�ำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง ความผดิ พลาด แกป้ ญั หาไปเรอื่ ยๆ จะพบแนวทางเอง
เศรษฐกิจ

เทคนคิ การบรหิ ารจัดการ เจา้ หน้าท่ี กก.๕
บก.ปอศ. ได้โทรศพั ท์มาหาและให้ค�ำแนะนำ� ว่าใหไ้ ป
อ่านบทความที่ท่านเขียนให้เข้าใจ จากนั้นลองวาง
โครงสรา้ งคดสี บื สวน การตงั้ ขอ้ หาตามรปู แบบทเี่ ขยี น
เอาไว้ คอื โครงสรา้ งการวางแนวทางสบื สวน และตั้ง
รูปคดีของต�ำรวจภูธรภาค ๖ และใช้เป็นแนวทางให้
สำ� นกั งานตำ� รวจแหง่ ชาติ วางรปู คดีในทกุ ๆ สถานีท่ี
รบั แจ้งความ

243

ประเดน็ ที่ ๗ การเปน็ นักประสานงาน ประเดน็ ที่ ๘ ทำ� คดีเดยี ว เป็นเวลา ๑ ปี
ข้อเท็จจริงคดีน้ีต้องท�ำงานร่วมกับหน่วย ข้อเท็จจริง คดีน้ีมีผู้เสียหายที่อยู่ในการ
จากอืน่ มากมาย เร่มิ จาก สถานตี �ำรวจทอ้ งท่เี กดิ เหต,ุ สืบสวนสอบสวนรวมประมาณ ๗๙ คน มีผู้ต้องหาที่
กองบงั คบั การสืบสวนภาค ๖, อัยการสงู สดุ , อยั การ เป็นเจ้าของบัญชีกว่า ๑๐๐ บัญชี มีผู้ต้องหาที่
จังหวัดพิษณุโลก, ดีเอสไอ, ธนาคารท่ีเก่ียวข้อง เป็นกลุ่มกดเงินกว่า ๔๐ ราย มีผู้ต้องหาที่เป็นกลุ่ม
ทงั้ หมด, สำ� นกั งาน ปปง., ผบู้ งั คบั บญั ชา ในระดบั ตร., ฟอกเงินอีก ๗ กลมุ่ ใหญ่ เปน็ ไปไม่ไดท้ จ่ี ะสามารถท�ำ
ฝ่ายสืบสวนต�ำรวจภูธรภาคอื่น ท่ีมีข้อมูลเกี่ยวกับคดี คดีน้ีให้แล้วเสรจ็ ได้พรอ้ มๆกับการสบื สวนคดอี ่นื
คอลเซ็นเตอร์ท่ีเกดิ ข้นึ ในพ้ืนทที่ ัง้ หมด เทคนิคการบริหารจัดการ แจ้งปัญหาการ
เทคนคิ การบรหิ ารจดั การ การเปน็ วทิ ยากร ท�ำคดีดังกล่าวให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และจ�ำกัด
สบื สวน จะทำ� ใหม้ ลี กู ศษิ ย์ พ่ี และเพอ่ื นวงการสบื สวน วงการท�ำงานของตนเองและทีมงาน ท�ำให้สามารถ
มากมายในประเทศ ประกอบกบั ต้องมีความสามารถ มสี มาธิทำ� คดี เก็บตกรายละเอยี ดและทำ� งานรว่ มกบั
ในการท�ำความเข้าใจความต้องการของหน่วยงานที่ หน่วยอ่ืนอีกมากมายไดส้ �ำเรจ็
แตกต่างกันจากนั้นหาแนวทางร่วมเพ่ือประโยชน์ ประเดน็ ท่ี ๙ การสอบสวน ๖๐ การสบื สวน
สูงสุดคือความส�ำเร็จในการสืบสวนจับกุมตัวคนร้าย ๔๐ แล้วคดจี ะสำ� เร็จ
ความสามารถเฉพาะตวั ในการนำ� เสนอเรอ่ื งราวทย่ี าก ข้อเทจ็ จริง การสบื สวนคดีน้ี คือ สืบสวนให้
สลับซับซอ้ นให้เขา้ ใจได้งา่ ย ส้นั กระชบั จงึ ทำ� ให้การ รวู้ า่ คนรา้ ยเปน็ ใคร แลว้ ตามไปจบั กมุ ตวั การสอบสวน
ตอ้ งทำ� งานรว่ มกบั หลายหนว่ ยไมเ่ กดิ ปญั หาการปฏบิ ตั ิ คดีน้ีคือ รวบรวมพยานหลักฐานท่ีมี สร้างความ
และภารกจิ ส�ำคญั ๆ สำ� เร็จได้ เช่ือมโยงให้ปรากฏเห็นภาพโครงสร้างองค์กรคนร้าย
จากนั้นน�ำหลักฐานท้ังหมดประกอบเป็นส�ำนวน
244 การสอบสวน เสนอศาลออกหมายจับ เม่ือจับกุมได้
เป็นหน้าที่ของทีมสืบสวนสอบสวนที่จะต้องน�ำเสนอ
เรื่องราวทั้งหมดต่อพนักงานอัยการ และให้การต่อ
ศาลให้เห็นภาพทัง้ หมดของการสบื สวนสอบสวน
เทคนิคการบริหารจัดการ หากเป็นการ
จดั การของผบู้ งั คบั บญั ชาทต่ี อ้ งการตงั้ คณะทำ� งาน จะ
แยกให้พนักงานสอบสวนไปสอบสวนปากค�ำ รวม
เอกสาร แยกใหท้ มี สืบสวนไปแสวงหาความจรงิ การ
แยกดังกล่าวท�ำให้เกิดรอยต่อของสืบสวนและ
สอบสวน ดังนั้น หากหวังความสำ� เร็จในการท�ำคดที ี่
สลับซับซ้อน ไม่มีความจ�ำเป็นต้องแยกทีมสืบสวน
แยกทีมสอบสวน ให้คนท่ที ำ� คดีทำ� ทงั้ สองสว่ น

ประเดน็ ท่ี ๑๐ การบรหิ ารขอ้ มลู จำ� นวนมาก ประเดน็ ที่ ๑๑ เพราะไมเ่ คยถกู ยา้ ยออกจาก
ผา่ นทกั ษะการสบื สวนสอบสวนคดี กองบงั คบั การสืบสวนสอบสวนต�ำรวจภธู รภาค ๖

ข้อเท็จจริง คดีดังกล่าวผู้เสียหายจ�ำนวน ข้อเท็จจริง ตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ ถึง ๒๕๖๓
มาก ผู้ต้องหาจ�ำนวนมาก บัญชีธนาคารจ�ำนวนมาก ด�ำรงตำ� แหนง่ ที่ กองสบื สวนภาค ๖ มาตลอด คดนี ้ี
เอกสารท่ีเก่ียวขอ้ งกจ็ �ำนวนมาก เปน็ เร่อื งจากในการ เริ่มท�ำต้ังแต่ด�ำรงต�ำแหน่ง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ
บรหิ ารจดั การขอ้ มูล ในรูปแบบสำ� นวนการสอบสวน บก.สส.ภ.๖ ระหว่างท�ำคดีก็ปรับมาเป็น ผกก.๓
เพื่อใช้นำ� เสนอตอ่ อัยการ และศาล บก.สส.ภ.๖ ช่วงขึ้นให้การเป็นพยานศาล ก็ด�ำรง
ต�ำแหน่ง รอง ผบก.สส.ภ.๖ ท�ำให้เอกสารทุกอย่าง
เทคนิคการบริหารจัดการ หลักสูตรของ ชาร์ททุกชาร์ทที่จ�ำเป็น การประสานงานอัยการ
(ILEA) มีอยหู่ ลกั สตู รหน่งึ ชือ่ Major Case Manage- อยา่ งใกล้ชิด ไมข่ าดตอน
ment คือหลักสูตรท่ีสอนเร่ืองการบริหารจัดการ
ข้อมูลจ�ำนวนมากมายมหาศาลในคดี การน�ำเสนอ เทคนิคการบริหารจดั การ ผกู้ ลา่ วหาในคดี
ข้อมูล ผมได้ใช้ทักษะการอบรมดังกล่าว ความรู้ท่ีมี ซง่ึ เปน็ แกนกลาง เปน็ กระดกู สนั หลงั ของคดี ควรเปน็
สำ� หรับบรหิ ารขอ้ มลู ท่มี ากมายเหลา่ น้ี ผู้ที่มีความนิ่งในต�ำแหน่ง เจริญก้าวหน้าได้ในหน่วย
งานท่ีตนสงั กดั สร้างความเปน็ ผชู้ ำ� นาญการในหน่วย
จะให้คดสี ำ� เร็จมปี ระสิทธิภาพ

245

สรปุ และขอ้ เสนอแนะ ที่มีความแหลมคมในการจัดการกับเครือข่ายคนร้าย
ให้ได้ ภายใต้โจทย์ แก๊งคอลเซน็ เตอรต์ อ้ งหมดไปจาก
คดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คือ คดีองค์กร ประเทศไทย ภายในระยะเวลาประมาณ ๘ เดือน
อาชญากรรม ท่ีมีความสลับซับซ้อนในการสืบสวน คนร้ายทุกระดับถูกจับท้ังหมด กลุ่มโทรศัพท์ท่ี
สอบสวนมาก เป็นเรอื่ งยากท่พี นักงานสอบสวนพื้นที่ ต่างประเทศถูกตามจับถึงนอกประเทศ (มาเลเซีย
เจ้าหน้าท่ีสืบสวน (ระดับสถานี) จะสามารถบริหาร กัมพชู า ไต้หวนั ดไู บ จีน) กล่มุ ผู้รบั จ้างเปดิ บัญชีถูก
จัดการได้ส�ำเร็จ เพราะล�ำพังคดีที่เกิดขึ้นในสถานี ออกหมายจบั และจบั กมุ กลมุ่ ผรู้ บั จา้ งกดเงนิ ถกู จบั กมุ
ตนเองก็บริหารจัดการในหนึ่งวันก็ล�ำบากแล้ว จึงมี ขยายผล กลุ่มฟอกเงินถูกยึดทรัพย์ โดย ส�ำนักงาน
ความจำ� เปน็ ทต่ี อ้ งมหี นว่ ยงานทมี่ คี วามชำ� นาญเฉพาะ ปปง. นอกจากน้ีด้วยศักยภาพในการประสานงาน
ทางคดีองค์กรอาชญากรรมเข้ามาช่วยสืบสวน หนว่ ยขา้ งเคยี ง การประชาสมั พนั ธก์ ารจบั กมุ และการ
สอบสวนคดี สร้างความรู้ให้เห็นภาพการกระท�ำของคนร้ายท�ำให้
คนหลงเชอื่ นอ้ ยลง คดคี อลเซน็ เตอรจ์ งึ จะหมดไปจาก
โ ด ย ก ่ อ น ท่ี จ ะ ล ง มื อ ตั้ ง รู ป ค ดี สื บ ส ว น ประเทศไทย
สอบสวน ทีมงานจะต้องมีการศึกษาองค์ความรู้
รูปแบบขององค์กรคนร้ายให้เข้าใจอย่างถ่องแท้
จากนั้นเขียนเป็นโมเดลคดีเพื่อสร้างแนวทาง
การท�ำงาน ที่ส�ำคัญอย่างยิ่งคือการปรับใช้กฎหมาย

246

๓. ประเด็นสาํ คัญกรณศี กึ ษา สมคบกนั ฟอกเงนิ

๑. ข้อเทจ็ จริง ๓) ก า ร ส อ บ ส ว น ผู ้ ต ้ อ ง ห า ใ น ค ดี
ในการสอบสวนกรณีความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดมูลฐาน สามารถชี้แจงเกี่ยวกับทรัพย์สิน
ไดห้ รอื ไม่ และช้ีแจงวา่ ไดม้ าหรอื มีไวเ้ ปน็ อย่างไร
จะต้องให้ได้ความปรากฏว่าและมีพยานหลักฐาน
เปน็ ความผดิ มลู ฐานใดตาม มาตรา ๓ และมพี ฤตกิ ารณ์ ๔) ความเกย่ี วพนั กบั บคุ คลทเ่ี กยี่ วขอ้ ง
ที่ลักษณะเป็นการฟอกเงิน ตามมาตรา ๕ แห่ง อยา่ งไร
พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.
๒๕๔๒ อย่างไร เช่น ถ้าเป็นยาเสพติดให้สอบสวน ๒.๒ พยานผู้จับกุม พยานผู้ตรวจค้น ให้
ถึงคดีอาญาความผิดมูลฐานและพยานหลักฐาน สอบสวนในประเดน็ ทเี่ ก่ียวข้องเชน่ เดียวกนั
ต่างๆ และมีการกระทําความผิดที่เป็นความผิดฐาน
ฟอกเงนิ ซ่ึงแต่ละความผิดมรี ายละเอยี ดและเทคนคิ ควรมีการจัดทํารายงานการสืบสวน
การสืบสวนสอบสวนและลักษณะของการกระทําที่ โดยมีรายละเอียดการปฏิบัติของพยานว่าดําเนินการ
เป็นองค์ประกอบของความผิดก็จะแตกต่างกันด้วย อะไรบา้ ง ไดแ้ ก่ เวลาตงั้ แตช่ ว่ ง กอ่ นเกดิ เหตุ จนถงึ ชว่ ง
อย่างกรณีศึกษาเพื่อความสมบูรณ์ในการรวบรวม เกิดเหตุ ที่มีการนําเสนอหรือรายงานผู้บังคับบัญชา
พยานหลักฐานในการทําสํานวนการสอบและ ไว้เป็นระยะๆ เช่น ตรวจค้นหาพยานหลักฐาน
ดําเนินคดีได้อย่างครบถ้วน อาจกําหนดแนวทางใน อย่างไร เก่ียวกับพฤติการณ์กระทําความผิดมูลฐาน
เนอื้ หาสาํ คญั นอกจากทตี่ อ้ งดาํ เนนิ การตามปกตหิ รอื (ยาเสพติดฯ) เก่ียวกับการได้มาซึ่งทรัพย์สินต่างๆ
เปน็ ขอ้ สงั เกต ดงั นี้ ของผตู้ ้องหา และ บุคคลที่เก่ียวข้องผู้ถือครองทรพั ย์
๒. พยานบคุ คล แทนผู้ต้องหา) อาชีพ รายได้ ของผู้ต้องหาและผู้ที่
เกี่ยวข้องดังกลา่ ว
๒.๑ ประเดน็ สําคัญในการสอบสวน
๑) พบข้อเท็จจริงการฟอกเงินอย่างไร ๒.๓ พยานที่มชี ่ือปรากฏในทรัพยส์ ิน เช่น
เจ้าของบัญชีธนาคาร ในประเด็นต่างๆ เช่น ทรัพย์
และดําเนินการอยา่ งไร มาอยู่ท่ีผู้ต้องหาอย่างไร รู้จักหรือมีความสัมพันธ์กับ
๒) หลักฐานท่ีพบจากการสอบสวน ผู้ต้องหาอย่างไร ประวัติของตนเอง อาชีพ รายได้
พยานทาํ หนา้ ทอี่ ะไรทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ผตู้ อ้ งหา พยานได้
ในคดีความผิดมูลฐาน ได้แก่ บัญชีธนาคารพบพิรุธ ประโยชน์จากผู้ต้องหาอย่างไร บัญชีของพยาน
อย่างไร เช่น เป็นช่ือของบุคคลอื่น มีจํานวนหลาย มกี ารดาํ เนนิ การประการใดบา้ ง ทราบหรอื ไมว่ า่ เงนิ ท่ี
บัญชี หลายธนาคาร มีความเคล่ือนไหวทางการเงิน เข้าออกบัญชีมาจากทีใ่ ด จากผใู้ ด
ผิดปกติ มีเงินเข้าออกเป็นจํานวนมาก มีรถยนต์
ราคาแพงท่ีไม่สามารถหามาได้และเป็นชื่อของ 247
บคุ คลอื่น เคร่ืองประดบั ทองรปู พรรณ ที่ดนิ เปน็ ตน้
มีความเชื่อมโยงหรือพฤติการณ์ท่ีเกี่ยวข้องกับ
ผ้ตู ้องหาทเี่ ปน็ การฟอกเงนิ อยา่ งไร

๒.๔ สอบสวนผู้ต้องหา ในคดีความผิด รายการชําระบัญชีของธุรกิจท่ีผู้ต้องหากล่าวอ้าง
มลู ฐาน เปน็ พยานของคดคี วามผดิ ฐานฟอกเงนิ เช่น ในกรณีท่ีผู้ต้องหาอ้างว่าทําธุรกิจในลักษณะที่ต้อง
ทรัพย์ที่มีไว้ในครอบครองได้มาอย่างไร รู้จักกับ จดทะเบียนนิติบคุ คล ให้ขอหลกั ฐานการจดทะเบยี น
เจา้ ของทรพั ยอ์ ยา่ งไร และเกยี่ วพนั อยา่ งไร มหี ลกั ฐาน นิติบุคคลน้ัน สมุดบันทึกหรือการบันทึกในกระดาษ
การกู้ยืมทรัพย์สิน หรือมีภาระหน้ีสินต่อกันหรือไม่ ทท่ี าํ ขน้ึ หรอื เชอ่ื วา่ เกย่ี วขอ้ งกบั การฟอกเงนิ ภาพจาก
มีมรดกอะไรบ้าง ประกอบอาชพี ใด มีรายได้เทา่ ไหร่ กลอ้ งวดี โี อ ตเู้ อทเี อม็ ธนาคารทมี่ ีวันเวลา ในการทาํ
เสยี ภาษหี รอื ไม่ มหี ลกั ฐานการเสยี ภาษหี รอื ไม่ เปน็ ตน้ รายการบญั ชีของผู้ต้องหาและบัญชีทีเ่ กยี่ วขอ้ ง
๕. ประเด็นสาํ คญั ในการพิจารณาคดคี วามผิดฐาน
๒.๕ พยานเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ฟอกเงินทม่ี กี ารสมคบกัน
เช่น เจ้าหน้าท่ีธนาคาร กรมสรรพากร ท่ีดิน เจ้า
หน้าที่ ปปง. ฯลฯ เป็นพยานประกอบสํานวนขอ ต้องมีการตกลงกันตั้งแต่สองคนข้ึนไป
ข้อมูลการทําธุรกรรมทางการเงินของผู้ต้องหา และ เพื่อกระทําความผิดเก่ียวกับยาเสพติด มาตรา ๘
บุคคลท่ีเกี่ยวข้อง หรือผู้ถือครองทรัพย์แทนนั้นว่ามี วรรคหนงึ่ ตอ้ งมกี ารกระทาํ การอนั เปน็ การแสดงออก
เสน้ ทางการเงินอยา่ งไรบา้ ง ให้เห็นว่ามีการตกลงกันทําผิดจริง เช่น การนัดพบ
มีการพูดคุยกัน การโทรศัพท์หากัน เป็นต้น โดยมี
๒.๖ พยานบคุ คลอื่นๆ เชน่ บุคคลใกล้ชดิ ความเช่ือมโยงหรือมีความเก่ียวข้องของการสมคบ
สามภี รรยา หรอื ญาติ หรอื คนรจู้ กั ของผถู้ อื ครองทรพั ย์ และแม้ผู้ร่วมกระทําผิดไม่รู้จักกันท้ังหมด เมื่อรู้ถึง
ที่ยึดว่าผู้ถือครองทรัพย์เป็นผู้ซื้อหรือครอบครองจริง การกระทําของคนอ่ืนหรือการกระทําของคนที่ร่วม
หรอื ไม่ ได้เงินหรอื ทรัพย์มาจากไหนเพอ่ื มาซอื้ ทรพั ย์ กระบวนการมกี ารกระทํา ตา่ งกรรม ต่างวาระกัน แต่
ท่ีถือครองทรัพย์น้ัน พยานที่เป็นเจ้าของทรัพย์สิน หากมผี ลประโยชนร์ ว่ มกนั ในผลของงาน กถ็ อื วา่ มกี าร
เดิมว่า ได้ขายให้แก่ผู้ถือครองจริงหรือไม่ ผู้ใดเป็น ตกลงกันแล้ว โดยลักษณะการกระทํามักเป็นพยาน
เจ้าของเงิน หรือเป็นผู้มาติดต่อซ้ือ (นอกจาก แวดล้อมกรณีท่ีบ่งชี้ว่าการกระทําท่ีแสดงออกมา
ผูถ้ อื ครอง) เป็นการตกลงสมคบคิดกระทําความผิดเกี่ยวกับ
๓. พยานวัตถุท่ีเกี่ยวข้องในคดี เช่น เคร่ืองจักร ยาเสพตดิ น่นั เอง
เคร่ืองนับพันธบัตร ซ่ึงผู้ต้องหาไม่น่าจะจําเป็น
ต้องใช้ในการประกอบกิจการธุรกิจของผู้ต้องหา พยานหลักฐานที่จะแสดงว่ามีการตกลง
เคร่ืองทําลายเอกสาร เคร่ืองมือสื่อสาร เคร่ือง สมคบกัน เช่น หลักฐานแสดงความสัมพันธ์กัน
คอมพิวเตอร์ ทางการเงนิ หลกั ฐานแสดงการตดิ ตอ่ เขา้ พกั รายงาน
๔. พยานเอกสาร เช่น สมุดบัญชีธนาคาร โฉนด การสืบสวนพฤติการณ์ของผู้กระทําผิดหรือหนังสือ
ท่ีดิน สําเนาทะเบียนรถ ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ ร้องเรียน หรือประวัติ เก่ียวข้องกับยาเสพติด
หลักฐานการครอบครองหรือใช้หมายเลขโทรศัพท์ คําซัดทอดของผู้กระทําผิด แผนผังแสดงบทบาท
ที่ตรวจยึดได้จากผู้ต้องหาและหมายเลขโทรศัพท์ หน้าที่ และความสัมพันธ์ท่ีมีการติดต่อเช่ือมโยงกัน
ท่ีเช่ือมโยง รายการบัญชีของธุรกิจที่ดําเนินการ ภาพถ่ายการสืบสวน หรือการตรวจสอบการใช้
โทรศัพท์ เป็นต้น
248

๖. แนววนิ จิ ฉยั ของศาลฎกี า (ทม่ี ลี กั ษณะการสมคบ) จ่ายเงินให้แก่ผู้เก็บรักษาแลกกับเฮโรอีนจํานวนหนึ่ง
ฎกี าท่ี ๕๔๘๗/๒๕๔๘ ความผดิ ฐานสมคบ จากนั้นก็จะนําเฮโรอีนส่วนท่ีเหลือมามอบให้พร้อม
กับให้สายลับนําเงินเข้าบัญชีของจําเลยที่ ๑ ก็ตาม
เป็นตัวการร่วมกับพวกจําหน่ายเฮโรอีนน้ัน จําเลย พฤตกิ ารณข์ องจาํ เลย ท่ี ๒ กย็ งั ไมพ่ อฟงั วา่ จาํ เลยท่ี ๒
ทั้งสอง กับพวกส่งเฮโรอีนจํานวนดังกล่าวไปให้แก่ สมคบโดยเปน็ ตวั การรว่ มกบั จาํ เลยที่ ๑ ฐานพยายาม
อ. โดยมีเจตนาเพื่อท่ีจะให้ อ. ส่งมอบเฮโรอีนแก่ จําหน่ายเฮโรอีน คงฟังได้แต่เพียงว่า จําเลยท่ี ๒
ลกู คา้ ผู้ซือ้ ต่อไป ดังน้นั ระหว่างจาํ เลยทั้งสองกับ อ. สมคบกับจําเลยท่ี ๑ เพื่อกระทําความผิดเก่ียวกับ
ต้องถือว่าเป็นการส่งมอบเฮโรอีนของกลางระหว่าง ยาเสพติด โดยเป็นผู้สนับสนุนจําเลยท่ี ๑ ในการ
ผู้กระทําความผิดด้วยกันเอง ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการ จําหน่ายเฮโรอื่นแก่สายลับ และเมื่อมีการกระทํา
จาํ หนา่ ย จงึ ไมม่ คี วามผดิ ฐานรว่ มกนั จาํ หนา่ ยเฮโรอนี ความผิดฐานพยายามจําหน่ายเฮโรอีนตามท่ี
แต่การท่ีจําเลยทั้งสองร่วมกัน ส่งเฮโรอีนของกลาง สมคบกัน จําเลยที่ ๒ จึงต้องรับโทษฐานพยายาม
แสดงว่ามีเจตนาร่วมกันจําหน่ายเฮโรอีน และการ จําหน่ายเฮโรอีนด้วย ตาม พ.ร.บ. มาตรการฯ
กระทําของจําเลยท้ังสองเป็นข้ันตอนสุดท้ายของ มาตรา ๘ วรรคสอง
การดําเนินการส่งมอบเฮโรอีนใกล้ชิดต่อความผิด
สําเร็จท่ีจะเกิดขึ้น ถือได้ว่าเป็นการกระทําที่เลยขั้น ฎีกาท่ี ๑๑๑๒/๒๕๔๓ การจําหน่าย
ตระเตรยี มการแลว้ จงึ มคี วามผดิ ฐานรว่ มกนั พยายาม ยาเสพติดให้โทษจะต้องมีผู้ขายฝ่ายหนึ่งกับผู้ซ้ือ
จําหน่ายเฮโรอีนจํานวนเดียวกับท่ีร่วมกัน มีไว้ใน อกี ฝา่ ยหนง่ึ ทงั้ สองฝา่ ยมเี จตนาคนละอยา่ งกนั ผขู้ าย
ครอบครองเพื่อจาํ หน่ายน้ันอกี ฐานหนงึ่ ด้วย มีเจตนาท่ีจะขายผู้ซ้ือมีเจตนาท่ีจะซื้อ เมื่อทั้งสอง
ฝ่ายตกลงร่วมกัน ท่ีจะขายและจะซ้ือยาเสพติดให้
แต่ความผิดฐานสมคบกันกระทําความผิด โทษต่อกัน ก็ถือว่าได้สมคบโดยการตกลงร่วมคบคิด
เกี่ยวกับยาเสพติด ความผิดฐานร่วมกันมีเฮโรอีน กันที่จะกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดแล้ว
ไว้ในครอบครองเพ่ือจําหน่าย และความผิดฐาน ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปราม
ร่วมกันพยายามจําหน่ายเฮโรอ่ืนเป็นการกระทํา ผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔
อั น เ ป ็ น ก ร ร ม เ ดี ย ว เ ป ็ น ค ว า ม ผิ ด ต ่ อ ก ฎ ห ม า ย มาตรา ๘ วรรคหนง่ึ หาใชว่ ่าจะต้องมีเจตนาเดียวกนั
หลายบท ให้ลงโทษในความผิดฐานร่วมกันมีเฮโรอนี หรือเจตนารว่ มกันไม่
ไว้ในครอบครอง เพื่อจําหน่าย ซ่ึงเป็นบทที่มีโทษ ท่มี า http://criminalaffairs.police.go.th
หนักท่สี ดุ http://www.psthailaw.com/article.

ฎีกาท่ี ๒๕๖๔/๒๕๔๓ จําเลยที่ ๒ มากับ php?cid=๔๖๔
จําเลยท่ี ๑ ในคร้ังแรกแต่ไม่ได้เข้าร่วมเจรจากับ
สายลับแตอ่ ย่างใดมีแตใ่ นระยะหลงั ที่จาํ เลยท่ี ๒ เขา้ 249
ร่วมเจรจาพร้อมกับจําเลยท่ี ๑ และสายลับในตอน
ที่พวกของจําเลยที่ ๑ นําเฮโรอีนจากผู้เก็บรักษา
มาไม่ได้ โดยผู้เก็บรักษาต้องการเงินก่อนแม้จําเลย
ท่ี ๒ จะไปช่วยเจรจากับสายลบั จนสายลบั ตกลงท่ีจะ


Click to View FlipBook Version