การเช่อื มประพจน์
1. เขาเปน็ คนสูง (ไม่เป็นประพจน)์
2. ข้าวเป็นอาหารหลกั ของคนไทย (เป็นประพจน์ มคี า่ ความจริงเป็น จรงิ )
3. 2 + 5 = 8 (เปน็ ประพจน์ มคี า่ ความจรงิ เป็น เท็จ)
4. 1 เป็นจานวนเต็มบวก (เป็นประพจน์ มคี ่าความจรงิ เปน็ จรงิ )
5. 1 เปน็ จานวนค่ี (เปน็ ประพจน์ มีค่าความจรงิ เปน็ จรงิ )
ตวั เช่อื มตา่ งๆ มี 5 ตวั
“และ”
“หรอื ”
“ถา้ ...แลว้ ...”
“กต็ ่อเมอ่ื ”
“ไม”่
สัญลักษณก์ ารเช่ือมประพจน์
การเชอ่ื มประพจน์ จะใชอ้ ักษรภาษาองั กฤษตวั พิมพเ์ ลก็
เช่น p, q, r, s, … แทนประพจน์ท่ีนามาเชือ่ ม
ค่าความจริงของประพจนท์ ่มี ีตัวเชื่อมข้ึนอยกู่ บั จานวนประพจน์
ทน่ี ามาเชอ่ื มกนั ซึ่งสามารถพิจารณาค่าความจรงิ ท่ีเปน็ ไปไดท้ ง้ั หมด
โดยใช้ T แทนจรงิ และ F แทนเท็จ ไดด้ ังน้ี
pq pq
T TT
T
TF
F FT
T FF
F
F
การเชอ่ื มประพจน์ด้วย
ตัวเชื่อม และ
T
F
การเชอื่ มประพจน์ 2 ประพจน์ ด้วย “และ”
pq
T pq pq
T TT T
F TF F
F T FT F
F FF F
ดังน้นั ตัวอpย่างqท่ี 1แทน 1 เป็นจานวนเตม็ บวก และ 1 เป็นจานวนค่ี (T)
(T)
ให้ p แทน 1 เป็นจานวนเต็มบวก (T)
q แทน 1 เปน็ จานวนค่ี
ดังนน้ั p q แทน 1 เป็นจานวนเต็มบวก และ 1 เป็นจานวนคี่
ดงัตนวั ั้นอยา่pงท่ี 2q แทน 1 + 2 = 3 และ 1 - 2 = 3 (T)
(F)
ให้ p แทน 1 + 2 = 3 (F)
q แทน 1 - 2 = 3
ดงั นัน้ p q แทน 1 + 2 = 3 และ 1 - 2 = 3
ดงั นน้ั ตวั อpย่างทq่ี 3แทน 1 - 2 = 3 และ 1 + 2 = 3 (F)
(T)
ให้ p แทน 1 - 2 = 3 (F)
q แทน 1 + 2 = 3
(F)
ดงั น้นั p q แทน 1 - 2 = 3 และ 1 + 2 = 3 (F)
(F)
ดังน้ัน ตวั pอย่างqทแี่ 4ทน 2 + 3 = 4 และ 2 x 3 = 4
ให้ p แทน 2 + 3 = 4
q แทน 2 x 3 = 4
ดงั น้ัน p q แทน 2 + 3 = 4 และ 2 x 3 = 4
การเชอ่ื มประพจน์ด้วย
ตัวเชื่อม หรือ
T
F
การเชอื่ มประพจน์ 2 ประพจน์ ดว้ ย “หรือ”
pq
T T pq pq
F
F TT T
T TF T
FT T
F
F FF
ดังนน้ั ตัวpอย่างqที่ แ1ทน 1 เป็นจานวนเต็มบวก หรือ 1 เปน็ จานวนค่ี
ให้ p แทน 1 เปน็ จานวนเตม็ บวก (T)
q แทน 1 เปน็ จานวนค่ี (T)
ดังนน้ั p q แทน 1 เปน็ จานวนเต็มบวก หรือ 1 เปน็ จานวนคี่ (T)
ดงั นตน้ั วั อpยา่ งทq่ี 2แทน 1 + 2 = 3 หรือ 1 - 2 = 3 (T)
(F)
ให้ p แทน 1 + 2 = 3 (T)
q แทน 1 - 2 = 3
ดงั นน้ั p q แทน 1 + 2 = 3 หรือ 1 - 2 = 3
ดงั น้นั ตวั อpยา่ งqท่ี แ3ทน 1 - 2 = 3 หรือ 1 + 2 = 3 (F)
(T)
ให้ p แทน 1 - 2 = 3 (T)
q แทน 1 + 2 = 3
(F)
ดังนัน้ p q แทน 1 - 2 = 3 หรือ 1 + 2 = 3 (F)
(F)
ดังน้นัตัวอpยา่งทq่ี 4แทน 2 + 3 = 4 หรือ 2 x 3 = 4
ให้ p แทน 2 + 3 = 4
q แทน 2 x 3 = 4
ดงั น้นั p q แทน 2 + 3 = 4 หรือ 2 x 3 = 4
สรป เป็นตารางไดด้ งั น้ี pq pq
pq T T
F T
TT F T
TF F F
FT
FF
แบบฝึ กหดั
1. 2 เปน็ จานวนคู่ และ 2 เปน็ จานวนค่ี
2. 20 = 1และ 22 2k + 1เม่ือ k = 1,2,3,...
3. 3 7 หรือ 7 3
4. เปน็ จานวนเต็ม หรือ เปน็ จานวนตรรกยะ
การเช่อื มประพจน์ด้วย
ตัวเชือ่ ม ถ้า....แล้ว...
T
F
การเชือ่ มประพจน์ 2 ประพจน์ ดว้ ย “ถ้า...แลว้ ...”
pq
T pq p→q
T F TT T
F T TF F
FT T
F FF T
ดงั น้ันตัวอpย→า่ งทq่ี 1แทน ถ้า 2 + 3 = 3+ 2 แลว้ 3(2 + 3) = 3(3 + 2)
ให้ p แทน 2 + 3 = 3 + 2 (T)
(T)
q แทน 3(2 + 3) = 3(3 + 2)
ดังนั้น p → q แทน ถ้า 2 + 3 = 3 + 2 แลว้ 3(2 + 3) = 3(3 + 2) (T)
ดังนน้ั ตวัpอ→ยา่ งทqี่ 2แทน ถ้า 3 เป็นจานวนคี่ แลว้ 23 เปน็ จานวนคี่ (T)
(F)
ให้ p แทน 3 เป็นจานวนค่ี (F)
q แทน 23 เปน็ จานวนคี่
ดังน้นั p → q แทน ถ้า 3 เป็นจานวนคี่ แลว้ 23 เป็นจานวนค่ี
ดงั นนั้ ตวั pอย→า่ งทq่ี 3แทน ถา้ 23 เปน็ จานวนคี่ แลว้ 3 เปน็ จานวนคี่
ให้ p แทน 23 เปน็ จานวนคี่ (F)
q แทน 3 เป็นจานวนค่ี (T)
ดงั นั้น p → q แทน ถา้ 23 เปน็ จานวนคี่ แลว้ 3 เป็นจานวนค่ี (T)
ดงั น้ัน p → q แทน
งนนั้ pตวั →อย่าqงทแ่ี ท4น ถ้า ปลาเป็นสัตว์ไมม่ ีกระดกู สันหลงั แล้ว ปลาไมส่ ามารถวา่ ยน้าได้
มารถว่ายนา้ ได้ ให้ p แทน ปลาเปน็ สัตวไ์ มม่ กี ระดกู สันหลัง (F)
q แทน ปลาไมส่ ามารถว่ายน้าได้ (F)
ดงั นน้ั p → q แทน ถ้า ปลาเปน็ สัตว์ไม่มีกระดกู สนั หลัง แล้ว (T)
ปลาไม่สามารถว่ายนา้ ได้
การเช่อื มประพจน์ด้วยตวั เช่ือม ถ้า...แล้ว... อาจจะเขียนในรปู อ่ืนท่มี ี
ความหมายอยา่ งเดียวกัน เชน่
ถา้ ...ดังนน้ั ...
ถา้ ...จะได.้ ..
การเช่อื มประพจนด์ ้วย
ตัวเชือ่ ม ก็ตอ่ เม่ือ
T
F
การเชื่อมประพจน์ 2 ประพจน์ ดว้ ย “ก็ต่อเมอ่ื ”
pq pq
T T pq T
F
F TT F
T TF T
F FT
F FF
ดงั นั้น p q แทน ABC จะเป็นรปู ส
ดงั นั้น ตัวpอย่างqท่ี 1แทน ABC จะเปน็ รูปสามเหลย่ี มดา้ นเท่า ก็ตอ่ เมื่อ ABC มดี า้ นยาวเท่ากนั ทกด้าน
ABC มใีดหา้ น้ ยาวเทา่pกันทแกทดนา้ นABC จะเป็นรูปสามเหล่ยี มด้านเท่า (T)
q แทน ABC มดี า้ นยาวเท่ากันทกด้าน (T)
ดังนั้น p q แทน ABC จะเปน็ รปู สามเหล่ยี มดา้ นเท่า ก็ต่อเม่อื (T)
ABC มดี า้ นยาวเท่ากันทกด้าน (T)
(F)
ดังน้ัน ตpวั อยา่ งqท่ี แ2ทน 22 = (− 2)2 กต็ ่อเมือ่ 2 = −2 (F)
ให้ p แทน 22 = (− 2)2
q แทน 2 = −2
ดงั นนั้ p q แทน 22 = (− 2)2 กต็ ่อเมอ่ื 2 = −2
ตัวอย่างที่ 3
ให้ p แทน 2 3 (F)
q แทน 1 1 (T)
(F)
23
ดังนน้ั p q แทน 2 3 กต็ อ่ เมอ่ื 1 1
23
ตวั อยา่ งที่ 4 (F)
(F)
ให้ p แทน 7 หารดว้ ย 2 ลงตวั (T)
q แทน 7 เป็นจานวนคู่
ดังนนั้ p q แทน 7 หารด้วย 2 ลงตัว ก็ตอ่ เม่อื 7 เป็นจานวนคู่
นเิ สธของประพจน์
การเขยี นนิเสธของประพจน์ p
p ~p
ตวั อยา่ งท่ี 1 TF (T)
ให้ FT (F)
ดังนัน้ p แทน 5 + 2 = 7 (F)
(T)
ตัวอยา่ งที่ 2 ~ p แทน 5 + 2 7
ให้ p แทน ปลาเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสนั หลัง
ดงั นนั้ ~ p แทน ปลาเป็นสตั วม์ ีกระดกู สนั หลัง
สรปุ เปน็ ตารางได้ดงั นี้
p→q pq ~p
p q pq pq
TT T T T T F
TF F T F F F
FT F T T F T
FF F F T T T
แบบฝึ กหดั
1.
2.
3. ยะลาอยูท่ างภาคใต้ ก็ต่อเมื่อ เชียงรายอยทู่ างภาคเหนือ