The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนปฏิบัติการฯ 2567-อมก๋อย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thanyanan pongnorkeaw, 2024-03-16 04:42:24

แผนปฏิบัติการฯ 2567-สกร.อมก๋อย

แผนปฏิบัติการฯ 2567-อมก๋อย

แผนปฏิบัติการประจำปี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อย สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดเชียงใหม่ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ


การให้ความเห็นชอบ แผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อย จากสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดเชียงใหม่ ตามที่กรมส่งเสริมการเรียนรู้(สำนักงาน สกร. เดิม) กำหนดนโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดใช้เป็นกรอบในการปฏิบัติงานการ จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย นั้น ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อยจึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยแปลงนโยบายและจุดเน้นการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ของสำนักงาน สกร. และ แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรรจากสำนักงานส่งเสริมการ เรียนรู้จังหวัดเชียงใหม่สู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ ในการนี้ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อยจึงขอเสนอความเห็นชอบแผนปฏิบัติการประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2567 ฉบับปรับปรุงงบประมาณ เพื่อเป็นกรอบในการปฏิบัติงานการจัดการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อยต่อไป ลงชื่อ...................................................ผู้เสนอขอความเห็นชอบ (นางวิไลลักษณ์ สุขสาย) ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อย ลงชื่อ................................................... ผู้ให้ความเห็นชอบ (นางสาวทิพวรรณ เตียงธวัช) ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดเชียงใหม่


การให้ความเห็นชอบ แผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อย ตามที่กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สำนักงาน สกร. เดิม) กำหนดนโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดใช้เป็นกรอบในการปฏิบัติงานการ จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย นั้น ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อยจึงได้ปรับปรุงแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยแปลงนโยบายและจุดเน้นการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ของสำนักงาน สกร. และแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรรจากสำนักงานส่งเสริม การเรียนรู้จังหวัดเชียงใหม่สู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ ในการนี้ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อยจึงขอเสนอความเห็นชอบแผนปฏิบัติการประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2567 เพื่อเป็นกรอบในการปฏิบัติงานการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อยต่อไป ลงชื่อ.............................................ผู้เสนอขอความเห็นชอบ (นางวิไลลักษณ์ สุขสาย) ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อย ลงชื่อ.............................................. ผู้ให้ความเห็นชอบ (นายสุทัศน์ ใจตา) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา


คำนำ ด้วยพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มาตรา 9 ได้กำหนดไว้ว่า การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐให้ส่วนราชการปฏิบัติ ก่อนจะ ดำเนินการตามภารกิจใด ส่วนราชการต้องจัดทำแผนปฏิบัติราชการไว้เป็นการล่วงหน้า การกำหนด แผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการตาม โดยต้องมีรายละเอียดของขั้นตอน ระยะเวลา และงบประมาณที่ จะต้องใช้ในการดำเนินการของแต่ละขั้นตอน เป้าหมายของภารกิจ ผลสัมฤทธิ์ของภารกิจ และตัวชี้วัด ความสำเร็จของภารกิจ และสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560 - 2579) นโยบายรัฐบาล นโยบาย ความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2558 - 2564) นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของ กระทรวงศึกษาธิการ แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และบริบทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทบาทอำนาจหน้าที่ของสถานศึกษาใน สังกัด สำนักงาน สกร. เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567นั้น ดังนั้น ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อย จึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานตามงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรรเพิ่มเติม และเป็นกรอบในการปฏิบัติงานและใช้จ่ายงบประมาณของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อยให้ บรรลุผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อย


สารบัญ หน้า ส่วนที่ 1 บทนำ หลักการและเหตุผล อำนาจและหน้าที่ของ สกร.อำเภออมก๋อย ข้อมูลทั่วไปของ สกร.อำเภออมก๋อย ข้อมูลพื้นฐานของอำเภออมก๋อย 1 1 2 5 6 ส่วนที่ 2 บริบทที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน สกร. 19 ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560 - 2579) แผนพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสำนักงาน สกร. (พ.ศ.2560-2579) แผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ (พ.ศ. 2564 - 2566) แผนปฏิบัติราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของ กระทรวงศึกษาธิการ อำนาจหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน กรมส่งเสริมการเรียนนรู้ประจำปี งบประมาณพ.ศ. 2566 แผนปฏิบัติการสำนักงาน สกร.จังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกของสถานศึกษา 19 18 19 22 27 34 37 39 40 44 51 ส่วนที่ 3 สาระสำคัญของแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 60 ของ สกร.อำเภออมก๋อย วิสัยทัศน์ 60 พันธกิจ จุดเน้น 60 60 เป้าประสงค์ 61 ตัวชี้วัด 62


สารบัญ (ต่อ) นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงานของ สกร.อำเภออมก๋อยประจำปี พ.ศ. 2567 65 นโยบายเร่งด่วนเพื่อร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 65 ภารกิจต่อเนื่อง 66 ค่าเป้าหมายการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 71 ส่วนที่ 4 โครงการตามแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 80 ของ สกร.อำเภออมก๋อย ตารางความสัมพันธ์ : พันธกิจ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด และโครงการ/กิจกรรม 80 ตารางรายชื่อ : โครงการ/กิจกรรม ตามแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 87 ส่วนที่ 5 การบริหารจัดการ การติดตามและประเมินผลตามแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของ สกร.อำเภออมก๋อย 107 การบริหารจัดการ 107 การติดตามและประเมินผล 108 การรายงานผลการดำเนินงาน 108 คณะผู้จัดทำ


ส่วนที่ 1 บทนำ 1. หลักการและเหตุผล ตามที่พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มาตรา 9 ได้กำหนดไว้ว่า การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐให้ส่วนราชการ ปฏิบัติ คือ (1) ก่อนจะดำเนินการตามภารกิจใด ส่วนราชการต้องจัดทำแผนปฏิบัติราชการไว้เป็นการ ล่วงหน้า (2) การกำหนดแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการตาม (1) ต้องมีรายละเอียดของขั้นตอน ระยะเวลา และงบประมาณที่จะต้องใช้ในการดำเนินการของแต่ละขั้นตอน เป้าหมายของภารกิจ ผลสัมฤทธิ์ของภารกิจ และตัวชี้วัดความสำเร็จของภารกิจ นั้น ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการ บ้านเมืองที่ดีพ.ศ.2546 และสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560 - 2579) นโยบาย รัฐบาล นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน สกร.และบริบทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทบาท อำนาจหน้าที่ของสถานศึกษาในสังกัด สำนักงาน สกร.เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติงานใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อย ให้บรรลุผลสำเร็จได้อย่างมี ประสิทธิภาพ วัตถุประสงค์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานตามงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรร และ เป็นกรอบในการปฏิบัติงานของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อย ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วิธีการดำเนินงาน 1. ศึกษายุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560 - 2579) นโยบายรัฐบาล นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2558 - 2564) นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ และบริบทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง


2 2. กำหนดกรอบเค้าโครง แนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อยให้มีความสอดคล้องกับนโยบาย ภารกิจของหน่วยงานและ บริบทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 3. จัดประชุมข้าราชการครู ครูศูนย์การเรียนในสังกัด และเจ้าหน้าที่จัดทำข้อมูลรายละเอียด แผนงาน/โครงการที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ให้สอดคล้องกับนโยบาย ภารกิจ อำนาจหน้าที่ และนโยบายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 4. จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอ 5. ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา และเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สถานศึกษา และเสนอความเห็นชอบจากสำนักงาน สกร. จังหวัดเชียงใหม่ใช้เป็นแผนปฏิบัติราชการ ป ร ะ จ ำ ป ี ง บ ป ร ะ ม า ณ พ . ศ . 2567 ข อ งศ ู น ย ์ ส ่ ง เ ส ร ิ ม ก า ร เ ร ี ย น ร ู ้ อ ำ เ ภ อ อ ม ก ๋ อ ย อมก๋อย 6. เผยแพร่ทั้งในรูปแบบเอกสารรูปเล่มและเว็บไซต์ของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อย ผลที่คาดว่าจะได้รับ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อย มีแผนการจัดการศึกษาสำหรับใช้เป็นแนวทางในการ วางแผนการปฏิบัติงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ 2. อำนาจและหน้าที่ของสำนักงาน สกร.อำเภอ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการกำหนดอำนาจและหน้าที่ของสถานศึกษา ประกาศ ณ วันที่ 10 มีนาคม 2551 ข้อ 1 กำหนดให้มี ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อย เรียกโดยย่อว่า “สกร.อำเภอ” และศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้เขต เรียกโดยย่อว่า “สกร.เขต” มีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้ 1. จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 2. ส่งเสริม สนับสนุน และประสานภาคีเครือข่าย เพื่อการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย 3. ดำเนินการตามนโยบายพิเศษของรัฐบาลและงานเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ 4. จัด ส่งเสริม สนับสนุนและประสานงานการจัดการศึกษาตามโครงการอันเนื่องจาก พระราชดำริในพื้นที่ 5. จัด ส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น 6. วิจัยและพัฒนาคุณภาพหลักสูตร สื่อ กระบวนการเรียนรู้ และมาตรฐานการศึกษานอก ระบบ


3 7. ดำเนินการเทียบโอนผลการเรียน การเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ 8. กำกับ ดูแล ตรวจสอบ นิเทศภายใน ติดตามประเมินผลและรายงานผลการดำเนินงาน ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ 9. พัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษาศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ 10. ระดมทรัพยากรเพื่อใช้ในการจัดและพัฒนาศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ 11. ดำเนินการประกันคุณภาพภายใน ให้สอดคล้องกับระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด 12. ปฏิบัติงานอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย จากกฎหมายและข้อกำหนดบทบาท อำนาจและหน้าที่ดังกล่าว จึงทำให้ศูนย์ส่งเสริมการ เรียนรู้อำเภออมก๋อย/เขต มีสถานภาพเป็นสถานศึกษาที่ต้องดำเนินการบริหารจัดการสถานศึกษาให้ เป็นไปตามภารกิจดังกล่าว ดังนั้น ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อย/เขต จึงต้องทำหน้าที่เป็น สถานศึกษาในการส่งเสริม สนับสนุน ประสานงานและจัดการศึกษาส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกับภาคี เครือข่าย จึงมีภารกิจโครงสร้างการบริหารงานสถานศึกษา สกร.อำเภอ/เขต ดังแสดงในแผนภาพ โครงสร้างการบริหารงานสถานศึกษา สกร.อำเภอ กลุ่มอำนวยการและ บริหารงานทั่วไป กลุ่มจัดและส่งเสริม การศึกษานอกระบบ กลุ่มจัดและส่งเสริม การศึกษาตามอัธยาศัย กลุ่มประสานภาคี เครือข่ายและกิจการพิเศษ คณะกรรมการสถานศึกษา


4 ซึ่งมีการแบ่งตามหน้าที่เพื่อให้บุคลากรในองค์กรสามารถทำงานหลายๆ ด้าน เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการทำงานให้แก่ผู้ปฏิบัติงานให้สามารถทำงานได้หลายหน้าที่ ซึ่งเป็นขอบข่ายและ ภารกิจการบริหารและจัดการศึกษาดังต่อไปนี้ คือ 1. กลุ่มอำนวยการและบริหารงานทั่วไป - งานบริหารทั่วไป - งานนโยบายและแผนงาน 2. กลุ่มจัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบ - งานการศึกษาขั้นพื้นฐาน - งานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา - งานการศึกษาต่อเนื่อง - งานจัดการศึกษาบนพื้นที่สูง 3. กลุ่มจัดและส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย - งานห้องสมุดประชาชน - งานการศึกษาตามอัธยาศัย สกร.ตำบล - งานประชาสัมพันธ์ 4. กลุ่มประสานภาคีเครือข่ายและกิจการพิเศษ - งานพัฒนาเครือข่ายการศึกษา - งานกิจกรรมพิเศษ


5 3. ข้อมูลทั่วไปของ สกร.อมก๋อย ชื่อสถานศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อย ที่ตั้ง/การติดต่อ เลขที่ 599 ถนนเจริญทัศนา หมู่ 1 ตำบลอมก๋อย อำเภออมก๋อย จังหวัด เชียงใหม่ สังกัด สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดเชียงใหม่ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ ปรัชญาสถานศึกษา (Philosophy) “สร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ สู่ความพอเพียง” วิสัยทัศน์ (Vision) สกร.อมก๋อยเป็นสถานศึกษาที่จัดการศึกษาส่งเสริมการเรียนรู้ตอบสนองโครงการ พระราชดำริ ภายใต้เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อนำไปสู่ชุมชนแห่งการเรียนรู้ พันธกิจ (Mission) 1. จัดการศึกษานอกระบบให้กลุ่มเป้าหมายนอกสถานศึกษาและผู้ด้อยโอกาสบนพื้นที่สูง 2. จัดการศึกษาตามอัธยาศัยโดยส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นและ เสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ของชุมชน 3. จัดและส่งเสริมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4. จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ตอบสนองโครงการพระราชดำริ 5. ส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานภาคีเครือข่ายในการส่งเสริมการเรียนรู้ อัตลักษณ์ (Identity) “พอเพียง” เอกลักษณ์ (Uniqueness) “จัดการศึกษาแบบวิถีพอเพียงสำหรับประชาชนในถิ่นทุรกันดาร เพื่อตอบสนองงานโครงการ พระราชดำริ”


6 ข้อมูลพื้นฐานอำเภออมก๋อย อมก๋อย มาจากคำว่า อำกอย เป็นภาษาลัวะ (ละว้า) แปลว่า ขุนน้ำหรือต้นน้ำ สันนิษฐานว่า หมายถึง ต้นน้ำแม่ตื่นที่ไหลผ่านชุมชนเมืองโบราณจากตำนานเมืองตื๋นนันทบุรีได้จารึก ไว้ ว่าพระยา ช้างเผือกและพระยาเลิก สองพี่น้องได้พาราษฎรที่อพยพมาจากเมืองเชียงใหม่มาทำการสร้างเมืองตั๋น บุรี ในปี พ.ศ. 1985 (ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ตำบลแม่ตื่น) มีอาณาเขตถึงบ้านฟ้อนฟ้า นาหง สะหรง แม่ ระมาด หินลวด นาไฮ หนอแสง ดินแดง บ้านป๊อก บ้านหมาก ผาสาด และวังคำต่อมมาพระอทิตตรา ได้สร้างพระบรมธาตุเจดีย์วัดจอมแจ้งขึ้น ที่ดอยนางนอนในปี พ.ศ. 2148 และพระยาอนันตราช เจ้า เมืองตั๋นได้บรรจุพระบรมธาตุเจดีย์ในปี พ.ศ. 2299 และได้มีประเพณีไหว้พระธาตุในเดือน 9 เหนือ ขึ้น 15 ค่ำ ที่สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน สำหรับที่ตั้งอำเภอออมก๋อยในปัจจุบัน เดิมเป็นหมู่บ้านของชาวลัวะ มีขุนแสนทองเป็น หัวหน้าหมู่บ้าน ต่อมาได้มีคนเมืองอพยพเข้ามาแทนที่ และชาวลัวะได้ย้ายออกไปอยู่ในท้องที่อื่น ส่วน ทางราชการได้ทำการจัดตั้งเป็นตำบลอยู่ในเขตปกครองของอำเภอฮอดได้ทำการยก ฐานะขึ้นเป็นกิ่ง อำเภออมก๋อยในปี พ.ศ. 2463 และได้ยกฐานะเป็นอำเภออมก๋อยเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2501 เป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของจังหวัดเชียงใหม่ อำเภออมก๋อย ตั้งอยู่พิกัดเส้นรุ้งที่ 17 องศาเหนือ และเส้นแวงที่ 98 องศาตะวันออก อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000 เมตร ส่วนที่กว้างที่สุด ของอำเภอจากด้านทิศตะวันออก ประมาณ 53 กิโลเมตร ส่วนที่ยาวจากทิศเหนือจดทิศใต้ ประมาณ 94 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัดเชียงใหม่ 179 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพมหานคร 875 กิโลเมตร โดยทางรถยนต์ผ่านทางจังหวัดเชียงใหม่ สภาพภูมิประเทศ ลักษณะภูมิประเทศของตำบลอมก๋อย ส่วนใหญ่เป็นภูเขามีแหล่งน้ำ ซึ่งมีลักษณะเป็นลำ ห้วยพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ลักษณะทางภูมิอากาศเป็นแบบมรสุมมี 3 ฤดู ฤดูร้อน เริ่มเดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 25 องศา ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่พฤษภาคม - เดือนตุลาคม มีระดับน้ำฝนเฉลี่ย 1,000 มม./ปี ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม – เดือนมีนาคม อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 2 – 4 องศา อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 10 – 30 องศา อำเภออมก๋อยอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติทรัพยากรป่าไม้ส่วนใหญ่เป็นป่าเบญจพรรณ ต้นไม้ที่ขึ้นเป็นไม้ยืนต้นได้แก่ไม้เต็งรัง ไม้สัก ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้กระยาเลย ฯ สัตว์ป่า เช่น หมูป่า กวาง นก ช้าง ฯ สภาพป่าในตำบลอมก๋อยยังมีสภาพที่สมบูรณ์เป็นบางส่วน


7 เนื่องจากชาวเขาบุกรุกป่าแผ้วถางเพื่อทำการเพาะปลูก มีพื้นที่ป่าไม้ประมาณ 13,816 ไร่ และแหล่ง ท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น หน่วยจัดการต้นน้ำห้วยจิโน , สวนกาแฟ , น้ำตกโป่งดิน , เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ แม่ตื่น ,อ่างเก็บน้ำบ้านดง เป็นต้น อาชีพหลัก ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางเกษตรและปศุสัตว์ บางส่วนประกอบอาชีพ รับจ้างในกรุงเทพมหานคร ตำบลอมก๋อยมีพื้นที่การเกษตรทั้งสิ้น 12,895 ไร่ จำนวน 1,733 คน (ที่ขึ้น ทะเบียน ) ทำนา ทำไร่ ทำสวน (ข้าวนาปี,ข้าวไร่,กะหล่ำปลี,มะเขือเทศ,พริก,ถั่วลันเตา,กล้วย น้ำว้า,ฟักทอง) เลี้ยงสัตว์ ( หมู , วัวเนื้อ , ระบือ , ไก่ , เป็ด ) รับจ้างทั่วไป ค้าขาย รับราชการ ศกร..ตำบล/ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” กศน.ตำบล ที่ตั้ง ผู้ประสานงาน/ผู้รับผิดชอบ ตำบลม่อนจอง ม.5 ต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย น.ส.พรพิมน สิริมิ่งขวัญ ตำบลแม่ตื่น ม.1 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย น.ส.ดอกสร้อย มัทธุรส ตำบลยางเปียง ม.13 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย นายบุญเรือง ปัญญาเจ๊ก ตำบลแม่หลอง 169 ม. 3 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย น.ส.กรรณิการ์ สุยะภู ตำบลนาเกียน 305 ม.3 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย นางสาวพิมวรรณ์ พิชโสภณณ์ ตำบลอมก๋อย 125 ม.1 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย น.ส.อาภรณ์ ทูตศิริ รวมจำนวน 6 6 ศูนย์การเรียนชุมชน ที่ตั้ง ผู้ประสานงาน/ผู้รับผิดชอบ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านยองแหละ ม.15 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย 1) ว่าที่ ร.ต.สมชาติ ษมาจิตวิโรจน์ 2) นางสาวกัลยา ค้ำจุนสิงขร 3) นางสาวจันทรา เวียงศิลา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านรังบี้ ม.15 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย 1) นางสาววิไลพร ผดุงอรรถ 2) นางสาวศศินันท์ หล้าเดือน


8 ศูนย์การเรียนชุมชน ที่ตั้ง ผู้ประสานงาน/ผู้รับผิดชอบ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยจิโน ม.17 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย 1) นายเทิดภูมิ ทวนธง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านแม่ระมีดหลวง ม.17 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย 1) นางอมรพรรณ สุวรรณเดช 2) นางสาวจุฑารัตน์ อุนจะนำ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านแม่ระมีดน้อย ม.17 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย 1) นางสาวนุชนภา สุขฝั้น 2) นายอนุกุล พันธุ์กา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านพะอัน ม.5 ต.สบโขง อ.อมก๋อย 1) นางสาวตะวัน กิตติวรเชฏฐ์ 2) นายนรินทร์ ก้านต่อดอก ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยตองสาด ม.2 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย 1) นางสาวจริยา เบี้ยพอ 2) นายผจญ สุขใส ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านผาแดง ม.12 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย 1) นางสาวสายทอง โป๊ะทู 2) นางสาวสาวิณี สายชลรำไพ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านสงินเหนือ ม.13 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางสาวพิศมัย เหมะธุลิน 2) นางสาวอัจจิมา มณีนิธิกุล ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านอูตูมใต้ ม.6 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายวิฑูรย์ อิ่นแก้ว 2) นางสาวศิริพร ดีทู 3) นายพรชัย อมตปรีชา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านทังที ม.20 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางสาวจีรวัฒ เสาร์เพ็ง 2) นายภัทรพงษ์ เวียงศิลา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านก๋องป๋อใต้ ม.8 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางสาวอนัญญา กุณนันท์ 2) นางสาวน้ำฝน ประเสริฐ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านพลั่งแท ม.12 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางสาววรรณกร ประมาตัง 2) นางสาวรัชดา ค้ำจุนคงคา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านทูจอง ม.8 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางสาวบุปผา บุญบวรนันท์ 2) นางสาวอาภรณ์ สง่าวงศ์รัตนมาศ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านแม่ลอกเหนือ ม.8 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางสาวสุทธิกานต์ เพสอุน 2) นายเสถียรพงษ์ ก่อดู ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านก๋องป๋อเหนือ ม.20 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางสาวชบาไพร ชัยชนะบุตร 2) นางสาวจุฑารัตน์ โกพอ


9 ศูนย์การเรียนชุมชน ที่ตั้ง ผู้ประสานงาน/ผู้รับผิดชอบ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านสงินกลาง ม.13 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) ) นางสาวอรอนงค์ จินตนากอง 2) นางสาวชนิกานต์ กำมังละการ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านสงินนุปอย ม.13 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางยุพิน ธนภัทรศักดิ์กุล 2) นางสาวสุรี ปู่โหล่ง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านหนองอึ่งใต้ ม.7 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางสาวจันทร์จิรา คำโปธิ 2) นางสาวกัลยาณี ชาญชนวุฒิ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านหนองอึ่งเหนือ ม.19 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางสาวสุพรรณิการ์ นภาศิริภิรมณ์ 2) นางสาววนัสนันท์อินตา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยบง ม.19 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายธีรพันธ์นอฤทธิ์ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านสงินใหม่ ม.13 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายชนนน สิริธารกุล 2) ว่าที่ ร.ต.หญิงกมลทิพย์ ธิปธนา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านผีปานใต้ ม.10 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายนาฎครินทร์ กันตีฟอง 2) นายดำรงค์ชัย นาติ๊บ 3) ว่าที่ร.ต.วานิต วงศ์ศรี ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยครั่ง ม.5 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางศิรินยา วุฒิกรณ์ 2) นายดนัย ก้านต่อดอก ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านทิกะเย ม.10 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1)นางสาวศิรากรณ์คงแพ 2) นายอภินัน คำบุญเรือง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านแม่สอเหนือ ม.17 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางสุนิสา กำมังละการ 2) นายชูพอ อภิบาลกุญชร ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านแม่สอใต้ ม.17 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางสาวดาริณีเหล็กจันทร์ 2) นายสันทัด สยุมภูดำเนิน ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านแม่เกิบ ม.15 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายเจตน์สนธิคุณ 2) นายวาสุ แสงอรุณคีรี 3) นายสิงหพล รุกขชาติ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านทีลอง ม.16 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายเชื้อ แซ่โค้ว 2) นายวรพงษ์กกเปือย ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านศาลาเท ม.15 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางอารียา แซ่โค้ว


10 ศูนย์การเรียนชุมชน ที่ตั้ง ผู้ประสานงาน/ผู้รับผิดชอบ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านทีเนอะ ม.21 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางสไบทิพย์ดวงดอก 2) นายธีรเชษฐ์ พัลลภศิริ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านมะหินหลวง ม.21 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายสุทธิพงษ์อุทเวียง 2) นายนำโชค นิมิตคีรีมาศ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านแม่ละเอ๊าะ ม.15 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายชนภัทร อุแสง 2)นางสาวสุทธิกานต์อินตา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยบง ม.10 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายธีรพันธ์วัฒณะศิลป์ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านกองดา ม.14 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายวีระพล เกี๋ยงมณา 2) นายชัยยา เรวดีภูมิ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านแม่ฮองกลาง ม.1 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายอัครเดช อาจทิพาฤกษ์ 2) นางสาวนารี วารียินดี ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านแม่ฮองใต้ ม.1 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายวิทวัธ ทิพย์คำ 2) นายอารียา อรจง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยหวาย ม.1 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายประพัฒน์ค้ำจุนกระสินธุ์ 2) นายชล สารใจ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยลอก ม.18 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายพิทักษ์ชัย จันธี 2) นางสาวอินตา นิมิตคงคา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยกว้าง ม.7 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายสายฝน จันทร์พร่ำ 2) นายรัชพล วริศกิตติธารา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยส้ม ม.9 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางสาวอ้อมใจ ชมภูวัน 3) นายปรีชา แก้วสม ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านสงินใต้ ม.13 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1)นายณัฏฐวีวงค์กาศ 2) นายวีระพงษ์ ทองเติม ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านกองแนะ ม.9 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายมณเฑียร เทียมยอด 2) นางสาวชนิดา ศรีบุญราม ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านแม่ลง ม.9 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางสาวภัทรนันท์ขนเขียว 2) นางสาวกมลทิพย์ พิไรเรืองรอง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยกว้างใหม่ ม.7 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นางสาวทิพาพร จากสมัย 2) นางสาวสไบพร สมพันธ์


11 ศูนย์การเรียนชุมชน ที่ตั้ง ผู้ประสานงาน/ผู้รับผิดชอบ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านสงิน ณ แคว ม.13 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 1) นายอดุลย์ พิไรเรืองรอง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยปูหลวง ม.4 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย 1) นางสาวฐิติกานต์บุญหนุน 2) นางสาวเสาวลักษณ์ ศรีทันต์ 3) นายสิทธิเดช ฉานสูงเนิน ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยปูน้อย ม.4 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย 1) นางสาวนลัทพร คำยุ 2) ว่าที่ร.ต.หญิงภัสรา รอดอยู่ยืน 3) นายวัชรากรณ์ ยะมัง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยตองหลวง ม.6 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย 1) นางสาวงามตา ประไพมาลี 2) นางสาวกุลธิดา จันทร์ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยตองน้อย ม.6 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย 1) นางสาวสุรีวรรณ เสริมมติวงศ์ 2) นางสาวจรินภรณ์ เสริมมติวงศ์ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านขุนหาด ม.15 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย 1) นางสาวบัวแก้ว อุดรพิสัย 2) นางสาวพิกุล นิมิตคงคา 3) นางสาวกานต์พิชชา กติกาโชคสกุล ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านหลังป่าข่า ม.17 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย 1) นายสจักร์กะพอ 2) นายยงยุทธ เสริมมติวงศ์ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยแห้ง ม.17 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย 1) นางสาวจิราวรรณ์ชุมศรี 2) นางสาวเฉลิมภรณ์ณัฐธยานนท์ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านเหล่าปลาทู ม.8 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย 1) นายภวัตพงศ์ วรวัตสิริกุล 2) นายสันทัต ศิริวัฒน์ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านแม่แฮน้อย ม.15 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย 1) นางสาวหล้าชีวัน อุปนันท์ 2) นางสาวฐิติพร แสงจันทร์ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านแม่แฮหลวง ม.14 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย 1) นางสาวสุนิสา ชูชัยวุฒิกุล 2) นางนารีรัตน์ พิสุทธิวงศ์ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านปิตุคี ม.11 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย 1) นายปริยัติสรณะรังสรรค์ 1) นายต่อศักดิ์ คุปตจิต ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านขุนสอง ม.11 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย 1) นายสุทธิชัย เลาหาง 2) นายสินสมุทร สุรินคำ


12 ศูนย์การเรียนชุมชน ที่ตั้ง ผู้ประสานงาน/ผู้รับผิดชอบ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยไก่ป่า ม.14 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นางสาวสุจิวรรณ พุทธิชัยพัฒน์ 2) นายสุข พุทธิชัยพัฒน์ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยยาบ ม.8 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นายธีระพล พูนผล 2) นางสาววาสนา นุกัน ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านจกปก ม.10 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นายระพีพัฒน์ตาปัญญา 2) นางสาวศศิประภา วิภามาลัย ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านฉุ้ยมอ ม.9 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นางสาวบัวจันทร์สรณ์สิริศุภทิน ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านลูกูดู ม.9 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นายสมชาย บุษบาผล 2) นางสาววราภรณ์ มาโน ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านแม่ระอานอก ม.1 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นางสาวธนพร แก่นแก้ว ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านแม่ระอาใน ม.9 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นางสาวปัทมพร ใจมา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยขนุน ม.8 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นายธีระยุทธ วุฒิกรณ์ 2) นายทนงศักดิ์ แววจันทรา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านสบหาด ม.14 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นายพงษ์พันธ์ปัญญาไว ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านเลอะตอ ม.12 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นายอดุลย์มาโน 2) นายวายุ สาคเรศจำลอง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านยะลิกุย ม.13 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นายนาถ พุฒขุนทด 2) นายสราวุฒิ ชรอย ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านซอแอะ ม.12 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นายประทวน นวลแก้ว 2) นางสาวศรีรัตน์ ตาคำ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านใหม่ทอง ม.12 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นางกฤษดาพร แสนศรี 2) นายจีรพงษ์ ปู่ลาย ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”แมะแตะแหละกุย ม.6 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นางสาวปภาพินท์ สิระไผ่ทอง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านเลอะกรา ม.15 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นายสมชาย ยะแสง 2) นายทิวธวัช นะบอ


13 ศูนย์การเรียนชุมชน ที่ตั้ง ผู้ประสานงาน/ผู้รับผิดชอบ 3) นางสาวจารุวรรณ เมืองมูล ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านปิพอ ม.6 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นายผล ปันมูล 2) นางทิวาพร ปัญญาไว ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านขุนตื่นน้อย ม.6 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นางสาวพิมพ์พิรุฬห์สุวรรณ 2) นายวรวุธ สีจันทร์สุกสกาว ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านขุนตื่นใหม่ ม.6 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นางสาวนงคารญ ศรีวิชัย 2) นายรพีพงษ์ เจริญจิตนิรันดร์ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านบราโกร ม.15 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นายอุทัย หน่อแก้ว 2) นายธวัชชัย วิเศษชุมชน ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยโป่ง ม.15 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นางสาววิภาวรรณ เมธาสุข 2) นางสาวพิชญา มีพรรณ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านมูเซอหลังเมือง ม.5 ต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย 1) นางภคินีแดงมา 2) นางพีรยา รพีพงไพร ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านปิสหลง ม.2 ต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย 1)นางสาวสุวมาลย์พาเกลาะ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านทะโกรเด ม.15 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นายเอกดนัย มหามนตรี 2) นายพงษ์ศักดิ์ อะกะยอง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านปรอโกร ม.15 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นายเอกพล หน่ามือ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านเคอะกะชอเด ม.11 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นางสาวปฐมพร เอมสะอาด 2) นางสาวภวัศญาภรณชม สร้างสรรค์ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านเด๊ะบือเซทะ ม.11 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นายสุทธิพงษ์แสนช่างคำ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านหม่าโอโจ ม.11 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นางสาวมณฑา ปู่ลาย 2) นายชวิศ ภูดอนตอง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านหัวโล๊ะ ม.11 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 1) นางสาวอุไลวรรณ์หมื่นน้อย 2) นางสาวกมลพิชญ์ โคตรปัญญา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านขุนอมแฮดนอก ม.5 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นางสาวสายชล กันทา 2) นางสาวนภัสวรรณ ปุกัง


14 ศูนย์การเรียนชุมชน ที่ตั้ง ผู้ประสานงาน/ผู้รับผิดชอบ 3) นางสาวภัทตราภรณ์ โรจน์พานิชกุล ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านขุนอมแฮดใน ม.5 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นางพรพิมล สวัสดี 2) นางสาวลู่หมี ธรรมบัณฑิต ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านอูแจะ ม.6 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นางสาววารีพิพัฒน์หฤทัยกุล 2) นางสาวนงนุช ใจมา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยแห้ง ม.6 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นางสาวจำเรียง มัจฉาคีรีรัตน์ 2) นางสาววริศรา เรณสถาน ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านผาผึ้ง ม.12 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นายมังกร ต้อนรับ 2) นางสาวพรทิพย์ อุดมธัญญกิจ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านพะเบี้ยว ม.11 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นางสาวสุรภีกสิวุฒิ 2) นางสาวศลิษา เถิงฝั้น ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านมอคี ม.11 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นางขนิษฐา ตาปัญญา 2) นายชาญวิทย์ ฟ้ากุศล ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านคอทะ ม.1 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นายปรีชา คำอินต๊ะ 2) นางสาวรัชนีกร ผ่านดาวเทียม 3) นายสิงห์วิชัย อำรุงพนา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านโอโลคีล่าง ม.10 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นางสาวพิกุลทอง กันโท 2) นายวินัย หล้าพอ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านโอโลคีบน ม.10 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นางสาวแอนลิชา ลิขิตสโมสร 2) นายนพดล คนเที่ยง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยยาว ม.7 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นางแสงสุริยา ใจไธสง 2) นายกำธร ใจไธสง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านทีทอทะ ม.1 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นางจีรวรรณ สมปัน ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านราชา ม.11 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นายวัชรินทร์แก้วมาลา 2) นายจ่าโย พนาลีผดุง 3) นางสาวขวัญภิรมย์ แก่นเมือง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านแม่หลองใต้ ม.1 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นายณัชธีป สองธีปธานา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา ม.10 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นางสาวปานชีวา ทรัพย์กรม


15 ศูนย์การเรียนชุมชน ที่ตั้ง ผู้ประสานงาน/ผู้รับผิดชอบ “แม่ฟ้าหลวง”บ้านจือทะ 2) นางพิชญ์สินี พิชวิรัสสกุล ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านทีเลอเปอคี ม.10 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นายรัตนกร จันทร์แจ่ม ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านมอโกรทะ ม.10 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นายอาทิตย์โกนมูล 2) นายวิทวัส สมพันธ์ 3) นายภมร สฎาทู ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านเมโลเด ม.10 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นางสาวศิริขวัญ ทิพย์คำ 2) นายวินทกร พร้อมรักษ์ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านคะเนจือคี ม.10 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นางสาวศรัญญา สารินจา 2) นายกฤษพงษ์ สุขตามยอดดอย 3)นางสาวพรฤดี วนาพร ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยน้ำผึ้ง ม.12 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นายวิรัตน์เสริมมติวงศ์ 2) นางธีราภรณ์ สัตย์ซื่อ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านตะกอคะ ม.8 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นายยี่โจ เงินสุขใจ 2) นายธีรสิทธิ์ ธารศรีทอง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านมอโพทะ ม.9 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นายชยุต ปุกัง 2) นายสมคิด ลิ่วมโมเงิน ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านสเรเดคี ม.9 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นายนิรันดร์ทรายมูล 2) นายชิษณุพงษ์ ยะตุ้ย ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านปริโกร ม.8 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นายวีรศักดิ์สมปัน 2) นายพลเดช ญาณมานนท์ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านทีผะแหล่ ม.9 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นายธีระ สมมิตร 2) นางสาวชมพูนุท บุญเกิด ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านวาเมทะ ม.9 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นายอดุลย์ คารมศิลปะชาญชัย ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านทีตะอึคี ม.9 ต.แม่หลอง อ.อมก๋อย 1) นายสันติสุข ยอดสรรเสริญ รวมจำนวน 113 222


16 แหล่งเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ ด้าน ที่อยู่/เบอร์โทรศัพท์ ผู้รับผิดชอบ ลานโพธิ์บ้านห้วยไม้หก กิจกรรมทางสังคม ม.6 ต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย นายศักรนันทร์ ชายกวินภพ ดอยม่อนจอง ทรัพยากรธรรมชาติ ต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอมก๋อย ศูนย์ปฏิบัติการฯนางนอน ทรัพยากรธรรมชาติ ต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย เขตเพาะพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย วัดจอมแจ้ง กิจกรรมทางสังคม ม.2 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย พระสมุห์ทนงเดช จิตฺตสํวโร วัดดอยชัยมงคล กิจกรรมทางสังคม ม.2 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย พระบุญช่วย ปุญฺญจนฺโท น้ำตกแม่ตื่นน้อย ทรัพยากรธรรมชาติ ม.3 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย สถานีพัฒนาป่าไม้บ้านแม่ตื่นน้อย วัดพระธาตุดอยแก้ว กิจกรรมทางสังคม ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย หนานหล้า วัดแสนทอง กิจกรรมทางสังคม ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย พระครูสุนทร วิภาต วัดดวงดีศรัทธาราม กิจกรรมทางสังคม ม.14 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย พระศุภชัย คณสกฺโก วัดบ้านนาเกียน กิจกรรมทางสังคม ม.3 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย พระอุดม อนฺทปณโญ วัดยางเปียง กิจกรรมทางสังคม ม.2 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย พระเจนหล้า อาตฺติถทฺโธ สถานีพัฒนาเกษตรที่สูง ตาม พระราชดำริ บ้านนาเกียน สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ม.3 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย นายเอกพงษ์ ประเสริฐ์ โบสถ์นักบุญเปาโล กิจกรรมทางสังคม ม.3 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย นายคมสันต์ ใจสดใส โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบ โครงการหลวงสบโขง สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ม.3 ต.สบโขง อ.อมก๋อย นางสาวอรประภา แสงสี สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ ดอยแบแล สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ม.5 ต.สบโขง อ.อมก๋อย นายวิทยา เติมต้น วัดแม่หลองหลวง กิจกรรมทางสังคม ม.3 ต.สบโขง อ.อมก๋อย พระเดชภัทร ใจสดใส กลุ่มทอผ้าบ้านหลวง สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ม.1 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านยางครกเหนือ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ม.7 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย นายนพปฏค ปู่ตอง ศูนย์เรียนรู้บ้านยางใต้ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ม.1 ต.ยางเปียง องค์การบริการส่งตำบลยางเปียง โครงการขยายผลลดพื้นที่ปลูก ฝิ่นอย่างยั่งยืนบ้านห้วยแห้ง สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ม.6 ต.สบโขง อ.อมก๋อย นายอุดม พรหมตัน ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาอมก๋อย ตามพระราชดำริฯ ทรัพยากรธรรมชาติ ม.1 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย นายสมศักดิ์ เพียงขวัญหทัย รวมจำนวน 21 21 21


17 ภาคีเครือข่าย ภาคีเครือข่าย (กลุ่ม องค์กร และหน่วยงาน) ด้าน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ศมพ.อำเภออมก๋อย (มวลชนสัมพันธ์2) ความมั่นคง ม.2 ต.สบโขง อ.อมก๋อย 095-6855106 ศมพ.อำเภออมก๋อย ความมั่นคง ม.1 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย 053-467067 พัฒนาชุมชนอำเภออมก๋อย พัฒนาสังคมและชุมชน ม.1 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย 053-467105 สถานีตำรวจภูธรอมก๋อย ความมั่นคง ม.1 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย 053-467066 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดเชียงใหม่ การส่งเสริมประชาธิปไตย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 053-112347 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้าน แม่หลองหลวง ด้านสุขภาพอนามัย ม.3 ต.สบโขง อ.อมก๋อย 053-317428 ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง พัฒนาสังคมและชุมชน ต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย 053-279264 องค์การบริหารส่วนตำบลอมก๋อย พัฒนาสังคมและชุมชน ม.18 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย 052-000412 องค์การบริหารส่วนตำบลยางเปียง พัฒนาสังคมและชุมชน ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย 053-467187 องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ตื่น พัฒนาสังคมและชุมชน ม.1 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย 052-001590 องค์การบริหารส่วนตำบลนาเกียน พัฒนาสังคมและชุมชน ม.6 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย 081-7832117 องค์การบริหารส่วนตำบลสบโขง พัฒนาสังคมและชุมชน ม.2 ต.สบโขง อ.อมก๋อย 052-081890 องค์การบริหารส่วนตำบลม่อนจอง พัฒนาสังคมและชุมชน ต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย 052-005167 เทศบาลตำบลอมก๋อย พัฒนาสังคมและชุมชน 789 ม.1 ตำบลอมก๋อย 053-467013 รวมจำนวน 14 14 14


18 ภูมิปัญญา บุคคล (ปราชญ์ชาวบ้าน ภูมิปัญญา ผู้นำ) ความรู้ ความสามารถ ที่อยู่/เบอร์โทรศัพท์ นายสมพร ตันมา ภูมิปัญญาด้านตีมีด ม.2 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย นายสมบูรณ์ ตากันทะ ภูมิปัญญาด้านพิธีกรรม ม.1 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย นางดวงพร สมใบ ภูมิปัญญาด้านศิลปะหัตถกรรม ม.1 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย นายมุยดา เดชาไพร ภูมิปัญญาด้านพิธีกรรมชนเผ่ากะเหรี่ยง ม.3 ต.นาเกียน อ.อมก๋อย นายออเซ่ ปรีชาเดชสุข ภูมิปัญญาด้านพิธีกรรมชนเผ่ากะเหรี่ยง ม.3 ต.สบโขง อ.อมก๋อย นายสมคิด โสส้มกบ ภูมิปัญญาด้านพื้นบ้าน ม.1 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย นายศรี สร้อยแก้ว ภูมิปัญญาด้านการจักสาน ม.4 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย นางมยุรี ถวิลกรณ์ ภูมิปัญญาด้านการทอผ้ากะเหรี่ยง ม.2 ต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย นางติ๊ซอ ชายกวินภพ ภูมิปัญญาด้านการทอผ้ากะเหรี่ยง ม.6 ต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย นายใส คำใจ ภูมิปัญญาด้านการจักสาน ม.7 ต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย นางยุพาฐ์ อุ่นอุดมวนา ภูมิปัญญาด้านการทอผ้ากะเหรี่ยง ม.5 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย รวมจำนวน 11 11


ส่วนที่ 2 บริบทที่เกี่ยวข้องกับ สกร.อำเภออมก๋อย ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภออมก๋อย สังกัด สำนักงาน สกร.จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำ ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560 - 2579) นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของกระทรวงศึกษาธิการ แผนปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แผนพัฒนาการศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ (พ.ศ. 2563 - 2565) นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน สกร. และ สำนักงาน สกร.จังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ตลอดจนบริบทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มาเชื่อมโยงกับอำนาจหน้าที่ของ สกร.อำเภออมก๋อย เพื่อใช้กำหนดเป็นกรอบแนวทางในการจัดทำ แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของ สกร.อำเภออมก๋อย เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการ ขับเคลื่อนการพัฒนาสถานศึกษาประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และใช้เป็นหลักในการดำเนินงาน ในระดับพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นไปตามนโยบายที่วางไว้ โดยมี รายละเอียด ดังนี้ 1. ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติได้ดำเนินการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางการพัฒนาประเทศในระยะ 20 ปี โดยกำหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมายและ ยุทธศาสตร์ ดังนี้ วิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และเป็นคติพจน์ประจำชาติว่า “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ความมั่นคง หมายถึง การมีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยและการเปลี่ยนแปลง ทั้งภายในประเทศ และภายนอกประเทศในทุกระดับ ทั้งระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และ ปัจเจก บุคคล และมีความมั่นคงในทุกมิติ ทั้งมิติทางการทหาร เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และ การเมือง เช่น ประเทศมีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตยมีการปกครองระบบประชาธิปไตยที่มี พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุข สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มีความเข้มแข็งเป็น ศูนย์กลางและเป็นที่ยึดเหนี่ยว จิตใจ ของประชาชน มีระบบการเมืองที่มั่นคงเป็นกลไกที่นำไปสู่การ บริหารประเทศที่ต่อเนื่องและโปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล สังคม มีความปรองดองและความสามัคคี


20 สามารถผนึกกำลังเพื่อพัฒนาประเทศ ชุมชนมีความเข้มแข็ง ครอบครัวมีความอบอุ่น ประชาชนมี ความมั่นคงในชีวิต มีงานและรายได้ที่มั่นคง พอเพียงกับการดำรงชีวิต มีการออมสำหรับวัยเกษียณ ความมั่นคงของอาหาร พลังงาน และน้ำ มีที่อยู่อาศัย และความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน ความมั่งคั่ง หมายถึง ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและมีความ ยั่งยืน จนเข้าสู่กลุ่มประเทศรายได้สูง ความเหลื่อมล้ำของการพัฒนาลดลง ประชากรมีความอยู่ดีมีสุข ได้รับ ผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น และมีการพัฒนาอย่างทั่วถึงทุกภาคส่วน มีคุณภาพ ชีวิตตามมาตรฐานขององค์การสหประชาชาติ ไม่มีประชาชนที่อยู่ในภาวะความยากจน เศรษฐกิจในประเทศ มีความเข้มแข็ง ขณะเดียวกันต้องมีความสามารถในการแข่งขันกับประเทศ ต่าง ๆ ทั้งในตลาดโลกและตลาดภายในประเทศเพื่อให้สามารถสร้างรายได้ทั้งจากภายในและภายนอก ประเทศ ตลอดจนมีการสร้าง ฐานเศรษฐกิจและสังคมแห่งอนาคตเพื่อให้สอดรับกับบริบทการพัฒนา ที่เปลี่ยนแปลงไป และประเทศไทย มีบทบาทที่สำคัญในเวทีโลก และมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และการค้าอย่างแน่นแฟ้นกับประเทศ ในภูมิภาคเอเชีย เป็นจุดสำคัญของการเชื่อมโยงในภูมิภาคทั้ง การคมนาคมขนส่ง การผลิต การค้า การลงทุน และการทำธุรกิจ เพื่อให้เป็นพลังในการพัฒนา นอกจากนั้น ยังมีความสมบูรณ์ในทุนที่จะสามารถสร้าง การพัฒนาต่อเนื่องไปได้ ได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนทางปัญญา ทุนทางการเงินทุนที่เป็นเครื่องมือเครื่องจักร ทุนทางสังคม และทุนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน หมายถึง การพัฒนาที่สามารถสร้างความเจริญ รายได้ และคุณภาพชีวิต ของ ประชาชนให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจที่อยู่บนหลักการใช้ การ รักษา และ การฟื้นฟูฐานทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติจนเกินพอดี ไม่ สร้างมลภาวะต่อ สิ่งแวดล้อมจนเกินความสามารถในการรองรับและเยียวยาของระบบนิเวศ การผลิต และการบริโภคเป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดม สมบูรณ์ มากขึ้นและสิ่งแวดล้อมมีคุณภาพดีขึ้น คนมีความรับผิดชอบ ต่อสังคม มีความเอื้ออาทร เสียสละ เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม รัฐบาลมีนโยบายที่มุ่งประโยชน์ ส่วนรวมอย่างยั่งยืน และให้ความสำคัญกับ การมีส่วนร่วมของประชาชน และทุกภาคส่วนในสังคม ยึดถือและปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง เพื่อการพัฒนาอย่างสมดุล มีเสถียรภาพและ ยั่งยืน โดยมีเป้าหมายการพัฒนาประเทศ คือ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาติยั่งยืน” โดยยกระดับศักยภาพ ของประเทศ ในหลากหลายมิติ พัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ สร้างโอกาสและ ความเสมอภาคทางสังคม สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีภาครัฐ ของประชาชนเพื่อประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม โดยการประเมินผลการพัฒนาตาม ยุทธศาสตร์ชาติ ประกอบด้วย


21 1) ความอยู่ดีมีสุขของคนไทยและสังคมไทย 2) ขีดความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาเศรษฐกิจ และการกระจายรายได้ 3) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ 4) ความเท่าเทียมและความเสมอภาคของสังคม 5) ความหลากหลายทางชีวภาพ คุณภาพสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนของ ทรัพยากรธรรมชาติ 6) ประสิทธิภาพการบริหารจัดการและการเข้าถึงการให้บริการของภาครัฐ ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ โดยมี สาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน สกร. ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 ด้านความมั่นคง มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญ คือ ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เน้นการบริหารจัดการสภาวะแวดล้อมของประเทศให้มีความมั่นคง ปลอดภัย เอกราช อธิปไตย และมีความสงบเรียบร้อยในทุกระดับตั้งแต่ระดับชาติ สังคม ชุมชน มุ่งเน้นการ พัฒนาคน เครื่องมือ เทคโนโลยี และระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ให้มีความพร้อมสามารถรับมือกับภัย คุกคามและภัยพิบัติ ได้ทุกรูปแบบ และทุกระดับความรุนแรง ควบคู่ไปกับการป้องกันและแก้ไขปัญหา ด้านความมั่นคงที่มีอยู่ ในปัจจุบัน และที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ใช้กลไกการแก้ไขปัญหาแบบบูรณา การทั้งกับส่วนราชการ ภาคเอกชนประชาสังคม และองค์กรที่ไม่ใช่รัฐ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านและ มิตรประเทศ ทั่วโลกบนพื้นฐาน ของหลักธรรมาภิบาล เพื่อเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อการดำเนินการของ ยุทธศาสตร์ชาติด้านอื่น ๆ ให้สามารถ ขับเคลื่อนไปได้ตามทิศทางและเป้าหมายที่กำหนด ยุทธศาสตร์ที่ 2 ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มีเป้าหมายการพัฒนาที่ มุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ บนพื้นฐานแนวคิด 3 ประการ ได้แก่ 1) “ต่อยอดอดีต” โดยมองกลับไปที่รากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และจุดเด่นทางทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย รวมทั้งความได้เปรียบเชิง เปรียบเทียบ ของประเทศในด้านอื่น ๆ นำมาประยุกต์ผสมผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อให้ สอดรับกับบริบท ของเศรษฐกิจ และสังคมโลกสมัยใหม่ 2) “ปรับปัจจุบัน” เพื่อปูทางสู่อนาคต ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ในมิติต่าง ๆ ทั้งโครงข่ายระบบคมนาคมและชนส่ง โครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ ดิจิทัล และการปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการอนาคต 3) “สร้างคุณค่าใหม่ในอนาคต” ด้วยการเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ พัฒนาคนรุ่น ใหม่ รวมถึง ปรับรูปแบบธุรกิจ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด ผสมผสานกับยุทธศาสตร์ที่ รองรับอนาคต บนพื้นฐานของการต่อยอดอดีตและปรับปัจจุบัน พร้อมทั้งการส่งเสริมและสนับสนุน จากภาครัฐ ให้ประเทศไทยสามารถสร้างฐานรายได้และการจ้างงานใหม่ ขยายโอกาสทางการค้า และ การลงทุนใน เวทีโลก ควบคู่ไปกับการยกระดับรายได้


22 ยุทธศาสตร์ที่ 3 ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ มีเป้าหมาย การพัฒนาที่สำคัญเพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกข่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ โดยคนไทย มีความพร้อมทั้งกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการที่ดีรอบด้านและมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัย มีจิต สาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและผู้อื่น มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย รักษาศีลธรรม และเป็น พลเมืองดีของชาติ มีหลักคิดที่ถูกต้อง มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 มีทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษ และภาษาที่สาม และอนุรักษ์ ภาษาท้องถิ่น มีนิสัยรักการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ตลอดชีวิต สู่การเป็นคนไทยที่มีทักษะสูง เป็นนวัตกรรม นักคิด ผู้ประกอบการ เกษตรกรยุคใหม่และ อื่น ๆ โดยมีสัมมาชีพตามความถนัดของตนเอง ยุทธศาสตร์ที่ 4 ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม มีเป้าหมายการ พัฒนาที่สำคัญที่ให้ความสำคัญการดึงเอาพลังของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชน ห้องถิ่น มาร่วมขับเคลื่อน โดยการสนับสนุนการรวมตัวของประชาชน ในการร่วมคิดร่วมทำเพื่อ ส่วนรวม การกระจายอำนาจและความรับผิดชอบไปสู่กลไกบริหารราชการแผ่นดินในระดับท้องถิ่น การเสริมสร้าง ความเข้มแข็งของชุมชนในการจัดการตนเอง และการเตรียมความพร้อมของประชากร ไทยทั้งในมิติ สุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อมให้เป็นประชากรที่มีคุณภาพ สามารถ พึ่งตนเองและทำประโยชน์แก่ ครอบครัว ชุมชน และสังคมให้นานที่สุด โดยรัฐให้หลักประกันการ เข้าถึงบริการและสวัสดิการที่มีคุณภาพ อย่างเป็นธรรมและทั่วถึง ยุทธศาสตร์ที่ 5 ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งมิติด้าน สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาล และความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งภายใน และภายนอกประเทศอย่างบูรณาการ ใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งในการกำหนดกลยุทธ์และแผนงาน และการ ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามามีส่วนร่วมในแบบทางตรงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยเป็นการ ดำเนินการ บนพื้นฐานการเติบโตร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิต โดยให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุล ทั้ง 3 ด้าน อันจะนำไปสู่ความยั่งยืนเพื่อคนรุ่นต่อไปอย่างแท้จริง ยุทธศาสตร์ที่ 6 ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อปรับเปลี่ยนภาครัฐที่ยึดหลัก “ภาครัฐของประชาชนเพื่อประชาชน และ ประโยชน์ส่วนรวม” โดยภาครัฐต้องมีฃนาดที่เหมาะสมกับบทบาทภารกิจ แยกแยะบทบาท หน่วยงานของรัฐ ที่ทำหน้าที่ในการกำกับหรือในการให้บริการในระบบเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันมีขีด สมรรถนะสูง ยึดหลักธรรมาภิบาล ปรับวัฒนธรรมการทำงานให้มุ่งผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ ส่วนรวมมีความทันสมัยและ พร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำนวัตกรรม เทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่ ระบบการทำงานที่เป็นดิจิทัลเข้ามา ประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่า และปฏิบัติงาน เทียบได้กับมาตรฐานสากล รวมทั้งมีลักษณะเปิดกว้าง เชื่อมโยงถึงกันและเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามา มีส่วนร่วม เพื่อตอบสนองความต้องการของ


23 ประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส โดยทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันปลูกฝังค่านิยม ความซื่อสัตย์สุจริต ความมัธยัสถ์ และสร้างจิตสำนึกในการปฏิเสธ ไม่ยอมรับการทุจริตประพฤติมิชอบ อย่างสิ้นเชิง นอกจากนั้น กฎหมายต้องมีความชัดเจน มีเพียงเท่าที่จำเป็น มีความทันสมัย มีความเป็น สากล มีประสิทธิภาพ และ นำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำและเอื้อต่อการพัฒนา โดยกระบวนการ ยุติธรรมมีการบริหารที่มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติและการอำนวย ความยุติธรรมตาม หลักนิติธรรม 2. แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ตามพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 10 บัญญัติว่า 1) เมื่อมี พระบรมราชโองการประกาศใช้ยุทธศาสตร์ชาติแล้วให้คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติแต่ละด้าน จัดทำ แผนแม่บทเพื่อบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติเสนอคณะกรรมการพิจารณา ให้ความเห็นชอบก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี 3) แผนแม่บทที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบและประกาศ ใน ราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้มีผลพันธ์หน่วยงานของรัฐที่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้น รวมทั้ง การจัดทำ งบประมาณรายจ่ายประจำปีต้องสอดคล้องกันแผนแม่บทด้วย โดยแผนแม่บทภายใต้ ยุทธศาสตร์ชาติ ประกอบด้วย 6 ด้าน 37 ประเด็น (ข้อมูล ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2561) ดังนี้ 1. ด้านความมั่นคง 1. การรักษาความสงบภายในประเทศ 2. การป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง 3. การพัฒนาศักยภาพของประเทศให้พร้อมเผชิญภัยคุกคามที่กระทบต่อความมั่นคงของ ชาติ 4. การบูรณาการความร่วมมือด้านความมั่นคงกับอาเซียนและนานาชาติ รวมถึงองค์กร ภาครัฐและมิใช้ภาครัฐ 5. การพัฒนากลไกการบริหารจัดการความมั่นคงแบบองค์รวม 2. ด้นการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 6. การเกษตรสร้างมูลค่า 7. อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต 8. สร้างความหลากหลายด้านการท่องเที่ยว 9. โครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมไทย เชื่อมโยง 10. พัฒนาเศรษฐกิจบนพื้นฐานผู้ประกอบการยุคใหม่ 3. ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 11. การปรับเปลี่ยนค่านิยมและวัฒนธรรม 12. การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต


24 13. ปฏิรูปการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 14. การตระหนักถึงพหุปัญหาของมนุษย์ที่หลากหลาย 15. การเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี 16. การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 17. การเสริมสร้างศักยภาพการกีฬาในการสร้างมูลค่าทางสังคมและพัฒนาประเทศ 4. ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 18. การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจฐานราก 19. การปฏิรูประบบภาษีและการคุ้มครองผู้บริโภค 20. การสร้างหลักประกันสังคม (รวมประเด็นแรงงาน การศึกษา และสาธารณสุข) 21. เรื่องกระบวนการยุติธรรม 22. การกระจายศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี 23. การเสริมสร้างพลังทางสังคม 24. การเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนท้องถิ่นในการพัฒนาตนเองและจัดการตนเอง 5.ด้านการสร้างเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 25. สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมเศรษฐกิจสีเขียว 26. สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมเศรษฐกิจภาคทะเล 27. สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ 28. พัฒนาพื้นที่เมือง ชนบท เกษตรกรรมและอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ มุ่งเน้นความเป็น เมือง ที่เติบโตอย่างยั่งยืน 29. พัฒนาความมั่นคงทางน้ำ พลังงาน และเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 30. ยกระดับกระบวนทัศน์เพื่อกำหนดอนาคตประเทศ 6.ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ 31. การพัฒนาระบบบริการประชาชน 32. การปรับสมดุลภาครัฐ 33. การพัฒนาระบบบริหารงานภาครัฐ 34. การพัฒนาบุคลากรภาครัฐ 35. การต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ 36. การแก้ไขกฎหมาย 37. การปรับปรุงกระบวนการยุติธรรม


25 3. กรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) แนวคิดของกรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 (2566-2570) ภายใต้กระแสแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อาทิ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี อย่างพลิกผัน การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรสู่สังคมสูงวัย และภาวะโลกร้อนจากการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร่วมกับปัจจัยเร่งจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ก่อให้เกิดความ ผันผวนของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมแก่หลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศ ไทยนั้น พบว่าแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสามารถนำมาซึ่งโอกาสและความเสี่ยงที่จะช่วย ผลักดันให้การพัฒนาประเทศไทยในระยะต่อไปให้เกิดผลสำเร็จหรือเป็นอุปสรรค หน่วงรั้งการ ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ ขึ้นอยู่กับบริบทหรือศักยภาพ และขีดความสามารถของประเทศในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยโอกาสที่สำคัญ สำหรับประเทศไทยขี่งมีที่มาจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในระดับโลก พบว่ามีที่มาจาก ความก้าวหน้าและความแพร่หลายของเทคโนโลยีเป็นหลัก ซึ่งการสรรค์สร้างประโชน์จากเทคโนโลยี ให้เกิดเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยได้นั้น ต้องอาศัยการพัฒนาคนและระบบบริหารจัดการด้าน ดิจิทัลและข้อมูลสารสนเทศให้มีความพร้อมเพื่อรองรับโอกาสที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงให้ กระจายลงสู่ทุกภาคส่วนอย่างทั่วถึง เท่าทันขณะเดียวกัน ความเสี่ยงที่คาดว่าจะส่งผลกระทบเชิงลบ และเป็นความท้าทายที่สำคัญต่อประเทศไทยในการที่จะต้องเร่งแสวงหาแนวทางในการแก้ไขรับมือ นั้น พบว่ามาจากแนวโน้มด้านการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร ความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัล รวมถึง ปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ ซึ่งจะบั่นทอนขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึง ยังอาจเป็นเงื่อนไขท้าทายต่อมิติการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการสร้างความเสมอภาคในสังคม ซึ่ง บริบทสถานการณ์ของประเทศไทยที่ยังมีข้อจำกัดภายในหลายประการนั้น หากไม่ได้รับการแก้ไข อย่างเร่งด่วนแล้ว อาจส่งผลให้ประเทศไทยมีความเปราะบางยิ่งขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่มีความผันผวนสูง ตลอดจนอาจพลาดโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากพลวัตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใน การพัฒนาประเทศไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ และส่งผลให้ประเทศไทยไม่สามารถก้าวตามโลกได้อย่าง เท่าทัน นำไปสู่การสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว และอาจต้องจมกับปัญหาเรื้อรังที่ จุดรั้งความก้าวหน้าของประเทศในทุกมิติอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในช่วงระยะเวลาของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570 ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในทิศทางที่จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ได้อย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้เงื่อนไขความท้าทายทั้งหลายดังกล่าว จึงจำเป็นที่ประเทศจะต้อง เสริมสร้างให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระดับโครงสร้างของประเทศบนพื้นฐานของความ เข้มแข็ง สมดุล และยั่งยืน เพื่อก้าวข้ามปัญหาอุปสรรคเดิมให้ประทศไทยมีสมรรถนะเพียงพอต่อการ


26 บริหารจัดการความเสี่ยง พร้อมทั้งเร่งเพิ่มศักยภาพในการสร้างสรรค์ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นได้ อย่างเหมาะสมและทันท่วงที ทั้งนี้ การยกระดับสมรรถนะและศักยภาพของประเทศไทยในระยะเวลาอันใกล้จะไม่สามารถ เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรมหากอาศัยเพียงการมุ่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าหรือการปรับเปลี่ยนแนว ทางการดำเนินงานในรายละเอียดเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการปรับตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปจะไม่เท่า ทันต่อพลวัตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วฉับพลันในยุคปัจจุบัน อีกทั้งยังไม่เพียงพอสำหรับ การรับมือกับความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบที่รุนแรงและแผ่ขยายในวงกว้าง หรือทันต่อการแสวงหา โอกาสที่จะสร้างผลประโยชน์ที่ผลักดันให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาภายใต้ กรอบยุทธศาสตร์ชาติได้ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด การวางกรอบทิศทางการพัฒนาประเทศในระยะของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 มีจุดประสงค์ เพื่อพลิกโฉมประเทศไทย หรือ เปลี่ยนแปลงประเทศขนานใหญ่ (Thailand's Transformation) ภายใต้แนวคิด "Resilience" ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการลดความเปราะบาง สร้างความพร้อมในการรับมือ กับเปลี่ยนแปลง สามารถปรับตัวให้อยู่รอดได้ในสภาวะวิกฤติ โดยสร้างภูมิคุ้มกันทั้งในระยะสั้นและให้ ประเทศสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนโดยการพลิกโฉมประเทศไทยครอบคลุมตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงใน ระดับโครงสร้าง นโยบาย และกลไก ในขณะเดียวกัน กรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ยังมุ่งกำหนด ทิศทางพัฒนาประทศให้สอดคล้องกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผ่านการสร้างความสมดุลในการ กระจายผลประโยชน์จากการพัฒนาแก่ทุกภาคส่วนเศรษฐกิจและสังคมอย่างเป็นธรรม รวมทั้งการ สร้างความสมดุลระหว่างความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศกับความสามารถในการพึ่งตนเอง พร้อมทั้งการปรับเปลี่ยนองคาพยพในมิติต่าง ๆ ให้เท่าทันและสอดคล้องกับพลวัตและบริบทใหม่ของ โลก โดยคำนึงถึงเงื่อนไขของสถานการณ์และทรัพยากรของประเทศ นอกจากนี้ กรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ยังให้ความสำคัญกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยังยืน ในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของ ประชาชนทุกกลุ่ม และส่งต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดีไปยังคนรุ่นต่อไป 4. แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560 - 2579) แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 เป็นแผนที่วางกรอบเป้าหมายและทิศทางการจัด การศึกษา ของประเทศ โดยมุ่งจัดการศึกษาให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสและความเสมอภาค ในการศึกษา ที่มีคุณภาพ พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ พัฒนาคนให้มี สมรรถนะในการทำงาน ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ แนวคิดการจัดการศึกษา ตามแผนการศึกษาแห่งชาติ ยึดหลักสำคัญในการจัดการศึกษาประกอบด้วย หลักการจัดการศึกษาเพื่อปวงชน (Education for All) หลักการจัดการศึกษาเพื่อความเท่าเทียม และ ทั่วถึง (Inclusive Education) หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) และ


27 หลักการมีส่วนร่วมของสังคม (All For Education) อีกทั้งยึดตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs 2030) ประเด็น ภายในประเทศ (Local Issues) อาทิ คุณภาพของคนช่วงวัย การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของประเทศ ความเหลื่อมล้ำของการ กระจายรายได้ และวิกฤติด้านสิ่งแวดล้อม โดยนำยุทธศาสตร์ชาติมาเป็นกรอบความคิด สำคัญในการ จัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ วิสัยทัศน์คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิต อย่าง เป็นสุข สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาระบบและกระบวนการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ 2. เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะ ทักษะและสมรรถนะที่สอดคล้อง กับ บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ ชาติ 3. เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณธรรมจริยธรรม รู้รักสามัคคี และ ร่วมมือผนึกกำลังมุ่งสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. เพื่อน่าประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง และความเหลื่อมล้ำ ภายในประเทศลดลง แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560 - 2579) ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ภารกิจของสำนักงาน สกร. ทั้ง 6 ยุทธศาสตร์ ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและประเทศชาติ เป้าหมาย 1. คนทุกช่วงวัยมีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดมั่นการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2. คนทุกช่วงวัยในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่พิเศษ ได้รับการศึกษาและเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ 3. คนทุกช่วงวัยได้รับการศึกษา การดูแลและป้องกันจากภัยคุกคามในชีวิตรูปแบบ ใหม่


28 แนวทางการพัฒนา 1. พัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ และ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2. ยกระดับคุณภาพและส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษ เฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3. ยกระดับคุณภาพและส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาในพื้นที่พิเศษ (พื้นที่สูง พื้นที่ตามแนวตะเข็บชายแดน และพื้นที่เกาะแก่ง ชายฝั่งทะเล ทั้งกลุ่มชนต่างเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม กลุ่มชนชายขอบ และแรงงานต่างด้าว) 4. พัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อการจัดระบบการดูแลและป้องกันภัยคุกคาม ใน รูปแบบใหม่ อาทิ อาชญากรรมและความรุนแรงในรูปแบบต่าง ๆ ยาเสพติด ภัยพิบัติจากธรรมชาติ ภัยจากโรคอุบัติใหม่ ภัยจากไขเบอร์ เป็นต้น ยุทธศาสตร์ที่ 2 การผลิตและพัฒนากำลังคน การวิจัย และนวัตกรรม เพื่อสร้าง ขีด ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เป้าหมาย 1. กำลังคนมีทักษะที่สำคัญจำเป็น และมีสมรรถนะตรงตามความต้องการของ ตลาดงานและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ 2. สถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่จัดการศึกษาผลิตบัณฑิตที่มีความเชี่ยวชาญ และเป็นเลิศเฉพาะด้าน 3. การวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมที่สร้างผลผลิตและ มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ แนวทางการพัฒนา 1. ผลิตและพัฒนากำลังคนให้มีสมรรถนะในสาขาที่ตรงตามความต้องการของ ตลาดงานและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ 2. ส่งเสริมการผลิตและพัฒนากำลังคนที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นเลิศเฉพาะด้าน 3. ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมที่สร้างผลผลิตและ มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ


29 ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัย และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เป้าหมาย 1. ผู้เรียนมีทักษะและคุณลักษณะพื้นฐานของพลเมืองไทย และทักษะและ คุณลักษณะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 2. คนทุกช่วงวัยมีทักษะความรู้ความสามารถ และสมรรถนะตามมาตรฐาน การศึกษา และมาตรฐานวิชาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ตามศักยภาพ 3. สถานศึกษาทุกระดับการศึกษาสามารถจัดกิจกรรม/กระบวนการเรียนรู้ ตามหลักสูตรได้อย่างมีคุณภาพและมาตรฐาน 4. แหล่งเรียนรู้ สื่อตำราเรียน นวัตกรรมและสื่อการเรียนรู้มีคุณภาพและมาตรฐาน และประชาชนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่ 5. ระบบและกลไกการวัด การติดตามและประเมินผลมีประสิทธิภาพ 6. ระบบการผลิตครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาได้มาตรฐานระดับสากล 7. ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาสมรรถนะตามมาตรฐาน แนวทางการพัฒนา 1. ส่งเสริม สนับสนุนให้คนทุกช่วงวัยมีทักษะ ความรู้ความสามารถ และการพัฒนา คุณภาพชีวิตอย่างเหมาะสม เต็มตามศักยภาพในแต่ละช่วงวัย 2. ส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้สื่อตำราเรียน และสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆให้มี คุณภาพมาตรฐาน และประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่ 3. สร้างเสริมและปรับเปลี่ยนค่านิยมของคนไทยให้มีวินัย จิตสาธารณะ และ พฤติกรรมที่พึงประสงค์ 4. พัฒนาระบบและกลไกการติดตาม การวัดและประเมินผลผู้เรีย นให้มี ประสิทธิภาพ 5. พัฒนาคลังข้อมูล สื่อ และนวัตกรรมการเรียนรู้ ที่มีคุณภาพและมาตรฐาน 6. พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการผลิตครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา 7. พัฒนาคุณภาพครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา


30 ยุทธศาสตร์ที่ 4 การสร้างโอกาส ความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางการศึกษา เป้าหมาย 1. ผู้เรียนทุกคนได้รับโอกาสและความเสมอภาคในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ 2. การเพิ่มโอกาสทางการศึกษาผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษาสำหรับคนทุก ช่วงวัย 3. ระบบข้อมูลรายบุคคลและสารสนเทศทางการศึกษาที่ครอบคลุม ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน เพื่อการวางแผนการบริหารจัดการศึกษา การติดตามประเมินและรายงานผล แนวทางการพัฒนา 1. เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ 2. พัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษาสำหรับคนทุกช่วงวัย 3. พัฒนาฐานข้อมูลด้านการศึกษาที่มีมาตรฐาน เชื่อมโยงและเข้าถึงได้ ยุทธศาสตร์ที่ 5 การจัดการศึกษาเพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป้าหมาย 1. คนทุกช่วงวัย มีจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม และน่าแนวคิด ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ 2. หลักสูตร แหล่งเรียนรู้ และสื่อการเรียนรู้ที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตร กับ สิ่งแวดล้อม คุณธรรม จริยธรรม และการนำแนวคิดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่ การปฏิบัติ 3. การวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แนวทางการพัฒนา 1. ส่งเสริม สนับสนุนการสร้างจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม และ น่าแนวคิดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติในการดำเนินชีวิต 2. ส่งเสริมและพัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ และสื่อ การเรียนรู้ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 3. พัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรม ด้านการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อม


31 ยุทธศาสตร์ที่ 6 การพัฒนาประสิทธิภาพของระบบบริหารจัดการศึกษา เป้าหมาย 1. โครงสร้าง บทบาทและระบบการบริหารจัดการการศึกษา มีความคล่องตัว ชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้ 2. ระบบการบริหารจัดการศึกษามีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ส่งผลต่อคุณภาพ และมาตรฐานการศึกษา 3. ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาที่ตอบสนองความต้องการ ของประชาชนและพื้นที่ 4. กฎหมายและรูปแบบการบริหารจัดการทรัพยากรทางการศึกษารองรับลักษณะ ที่แตกต่างกันของผู้เรียน สถานศึกษา และความต้องการกำลังแรงงานของประเทศ 5. ระบบบริหารงานบุคคลของครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา มีความ เป็นธรรม สร้างขวัญกำลังใจ และส่งเสริมให้ปฏิบัติงานได้อย่างเต็มตามศักยภาพ แนวทางการพัฒนา 1. ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการศึกษา 2. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสถานศึกษา 3. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการจัดการศึกษา 4. ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับระบบการเงินเพื่อการศึกษาที่ส่งผลต่อคุณภาพ และ ประสิทธิภาพการจัดการศึกษา 5. พัฒนาระบบบริหารงานบุคคลของครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา 5. แผนพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสำนักงาน สกร. (พ.ศ. 2560 - 2579) สำนักงาน สกร. ได้จัดทำแผนพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ของ สำนักงาน สกร. (พ.ศ. 2560 – 2579) สำหรับเป็นแผนระดับหน่วยงาน เพื่อวางกรอบเป้าหมายและ ทิศทางการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ของสำนักงาน สกร. ให้สามารถ ขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยไปสู่การปฏิบัติอย่างมี ประสิทธิภาพ โดยมุ่งจัดการศึกษาให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสและความเสมอภาคใน การศึกษาที่มีคุณภาพ พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ พัฒนากำลังคนให้มี สมรรถนะในการทำงานที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดงานและการพัฒนาประเทศ โดยมี รายละเอียด ดังนี้


32 วิสัยทัศน์ “คนไทยได้รับโอกาสการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ สามารถดำรงชีวิตที่ เหมาะสมกับช่วงวัย สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมีทักษะที่จำเป็นในโลก ศตวรรษที่ 21” จุดเน้น “ส่งเสริม สนับสนุน และให้บริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยและการ เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ มีสาระการเรียนรู้ที่เป็นปัจจุบันและตรงกับความต้องการ ของผู้เรียนและสังคม โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และใช้สื่อเทคโนโลยีที่ หลากหลายและทันสมัยมาเป็นกลไกในการจัดรวมทั้งพัฒนาครูให้เป็นผู้จัดการศึกษาและการเรียนรู้มือ อาชีพ เน้นพัฒนากระบวนการคิดและการวิจัยให้กับกลุ่มเป้าหมาย ใช้กลยุทธ์การบริหารจัดการเชิงรุก โดยให้ชุมชนและทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมภายใต้การบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อสร้าง สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน” เป้าหมายหลัก 1) คนไทยสามารถเข้าถึงบริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการ เรียนรู้ตลอดชีวิตที่มีคุณภาพ และมาตรฐานอย่างทั่วถึง 2) คนไทยมีสมรรถนะและทักษะในการดำรงชีวิตที่เหมาะสมกับช่วงวัย สอดคล้องกับหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 3) หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพเพื่อให้บริการ การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับประชาชนอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ 4) หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้การบริหาร จัดการตามหลักธรรมาภิบาล 5) ทุกภาคส่วนมีบทบาทและมีส่วนร่วมในการส่งเสริม สนับสนุน และจัดการศึกษาและการ เรียนรู้ตลอดชีวิต


33 ยุทธศาสตร์ 1) เพิ่มและกระจายโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษาและการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ 2) พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนทุกช่วงวัยให้มีสมรรถนะและทักษะเหมาะสม มีคุณภาพ ชีวิตที่ดี 3) ส่งเสริมและพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษาสำหรับคนทุกช่วงวัย 4) พัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีบทบาทและมีส่วนร่วมใน การจัดการศึกษา เป้าหมายตามยุทธศาสตร์และแนวทางการพัฒนา ยุทธศาสตร์ที่ 1 เพิ่มและกระจายโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษาและการเรียนรู้ที่มี คุณภาพ เป้าหมายตามยุทธศาสตร์ 1) คนไทยได้รับโอกาสและความเสมอภาคในการเข้าถึงการศึกษาและการเรียนรู้ ตลอดชีวิตที่มีคุณภาพและมาตรฐาน 2) แหล่งเรียนรู้ สื่อและนวัตกรรมการเรียนรู้มีคุณภาพและมาตรฐาน ประชาชน สามารถเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่ 3) คนไทยทุกช่วงวัยในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจชายแดนใต้ และพื้นที่พิเศษได้รับ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ แนวทางการพัฒนา การศึกษานอกระบบ 1) ประกันโอกาสการเข้ารับบริการทางการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้แก่ ผู้เรียนในทุกพื้นที่ ครอบคลุมผู้ที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ 2) ส่งเสริมให้มีการบูรณาการ การศึกษานอกระบบเพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึง โอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับวัย สภาพร่างกายและสุขภาพ ความจำเป็น ความ ต้องการและความสนใจ และสามารถนำผลที่ได้จากการศึกษาและการเรียนรู้ไปเทียบระดับ เทียบโอน เชื่อมโยงส่งต่อระหว่างการศึกษาทุกรูปแบบทุกระดับได้ 3) ส่งเสริมการจัดการศึกษานอกระบบที่สอดคล้องกับความสนใจและวิถีชีวิตของ ผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย 4) ส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงการศึกษานอกระบบของคนทุกช่วงวัยในพื้นที่พิเศษ และเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนใต้ให้เหมาะสมกับภูมิสังคม อัตลักษณ์ และความ ต้องการของชุมชนและพื้นที่


34 5) จัดทำ SMART CARD ทางการศึกษาสำหรับทุกกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ กลุ่มเป้าหมายพิเศษเพื่อขอรับบริการทางการศึกษา 6) พัฒนาระบบ E-exam และระบบการสอบอิเล็กทรอนิกส์ให้มีมาตรฐานและ ยกระดับสถานศึกษาทุกแห่งให้เป็นศูนย์ทดสอบด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษา ขั้นพื้นฐานที่มีคุณภาพให้แก่ประชาชน 7) พัฒนาระบบการเทียบโอนและการเทียบระดับการศึกษา ให้มีมาตรฐานและ สามารถเชื่อมโยงการศึกษาและการเรียนรู้ทุกระดับ ทุกรูปแบบ การศึกษาตามอัธยาศัย 1) พัฒนาแหล่งเรียนรู้ในชุมชนให้มีมาตรฐานตามประเภทแหล่งการเรียนรู้ และ สอดคล้องกับความสนใจและวิถีชีวิตของผู้รับบริการแต่ละกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้ง สามารถให้บริการได้ อย่างทั่วถึง 2) พัฒนาห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ และจัดแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย กระจายอยู่ทุก พื้นที่ให้เป็นกลไกในการแสวงหาความรู้ของประชาชน 3) เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาตามอัธยาศัยของคนทุกช่วงวัยในพื้นที่พิเศษ และเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนใต้ให้เหมาะสมกับภูมิสังคม อัตลักษณ์ และความ ต้องการของชุมชนและพื้นที่ 4) พัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ สื่อเพื่อการเรียนรู้ และการให้บริการ เทคโนโลยีสารสนเทศทุกรูปแบบ ตลอดจนขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในสถานศึกษาทุก แห่ง ครอบคลุมทุกพื้นที่และเพียงพอกับผู้เรียน เพื่อเอื้อต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง และการเรียนรู้แบบ มีส่วนร่วม ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนทุกช่วงวัยให้มีสมรรถนะ และทักษะ เหมาะสมมีคุณภาพชีวิตที่ดี เป้าหมายตามยุทธศาสตร์ 1) คนทุกช่วงวัยมีทักษะ ความรู้ ความสามารถตามมาตรฐานการศึกษา และพัฒนา คุณภาพชีวิตได้ตามศักยภาพ 2) คนไทยได้รับการพัฒนาสมรรถนะและทักษะในการดำรงชีวิตที่เหมาะสมกับช่วง วัย และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 รวมพื้นที่ชายแดนใต้และพื้นที่พิเศษ 3) ระบบการวัดผลและประเมินผลและการเทียบโอนการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ 4) คนไทยมีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดมั่นการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข


35 5) สถานศึกษาสามารถจัดกิจกรรม กระบวนการเรียนรู้ตามหลักสูตรได้อย่างมี คุณภาพ มาตรฐาน 6) ครู และบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาสมรรถนะอย่างต่อเนื่อง 7) กลุ่มผู้ด้อยโอกาส กลุ่มผู้พลาดโอกาส และกลุ่มผู้ขาดโอกาส ได้รับโอกาสในการ พัฒนาสมรรถนะและทักษะในการดำรงชีวิตเพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี 8) ผู้เรียน ผู้รับบริการ ได้รับโอกาสและความเสมอภาคในการเข้ารับการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างมีคุณภาพ แนวทางการพัฒนา การศึกษานอกระบบ 1) ปฏิรูปหลักสูตร ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการจัดการเรียนรู้ให้ทันต่อความ เปลี่ยนแปลงเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพของกลุ่มเป้าหมาย 2) พัฒนากระบวนการเรียนการสอนเพื่อยกระดับคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบ คุณภาพการศึกษานอกระบบระดับชาติ (N-NET) 3) พัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษานอกระบบให้เชื่อมโยงกับระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ที่นำไปสู่เส้นทางอาชีพ โดยมีกลไกการวัดและประเมินผลเพื่อเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ และ พัฒนาให้มีระบบการสะสมและเทียบโอนหน่วยการเรียน (Credit Bank System) 4) พัฒนาหลักสูตร และกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์การพัฒนา ประเทศและเป็นไปตามสภาพและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยคำนึงถึงการพัฒนาคุณภาพ มาตรฐาน เสริมสร้างความตระหนักในคุณค่าของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และความรู้เรื่อง ทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 5) พัฒนารูปแบบและวิธีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ที่มีคุณภาพและมาตรฐาน สามารถวัดและประเมินได้ตรงตามวัตถุประสงค์ และนำผลการประเมินไปใช้ได้จริง 6) ส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ สื่อเพื่อการเรียนรู้ และการให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศทุกรูปแบบที่ได้มาตรฐาน 7) พัฒนาหลักสูตรการศึกษานอกระบบและหลักสูตรการอบรมแก่กลุ่มผู้สูงวัยให้มี คุณภาพและชีวิตที่ดี 8) พัฒนาหลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับประชาชนเพื่อยกระดับทักษะการใช้ ภาษาอังกฤษของคนไทย และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ ที่เป็นไปตามความต้องการของพื้นที่และ ประชาชน 9) ส่งเสริมให้มีการจัดทำแผนการเรียนรู้ตลอดชีวิตของชุมชน/รายบุคคล เพื่อเป็น เครื่องมือในการกำหนดทิศทางและสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชน


36 10) ส่งเสริมให้สถานประกอบการจัดการศึกษานอกระบบ ซึ่งอาจจัดเองหรือร่วมจัด โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาไปลดหย่อนภาษีได้ 11) พัฒนาหลักสูตรอาชีพเพื่อเสริมสร้างการพัฒนาอาชีพให้กับประชาชนในชุมชน แบบครบวงจรซึ่งเป็นกระบวนการต้นทางถึงปลายทางตั้งแต่กระบวนการผลิต การแปรรูป การจัด จำหน่าย การตลาด และการดำเนินการในเชิงธุรกิจ 12) ส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่สร้างเสริม และปรับเปลี่ยนค่านิยมของคน ไทยให้มีวินัยจิตสาธารณะ และพฤติกรรมที่พึงประสงค์ 13) พัฒนาสมรรถนะครูให้มีศักยภาพในการจัดการเรียนรู้ สามารถใช้เทคโนโลยี และประสานภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อประโยชน์ในการจัดการเรียนรู้ เป็นครูมืออาชีพ และมีมาตรฐาน คุณภาพตามที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ (องค์กรมหาชน) กำหนด 14) พัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของบุคลากรให้ตรงกับสายงานหรือความ ชำนาญเพื่อให้สามารถจัดการศึกษาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ 15) ส่งเสริมให้แรงงานได้รับโอกาสยกระดับคุณวุฒิทางการศึกษาและทักษะความรู้ ที่สูงขึ้น การศึกษาตามอัธยาศัย 1) พัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ที่ปลูกจิตวิทยาศาสตร์ให้กับประชาชนผ่าน STEM Education สำหรับประชาชน อันจะนำไปสู่การใช้ความคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ และ การใช้เหตุผลในการดำเนินชีวิต 2) ส่งเสริมการสร้างสรรค์ความรู้ใหม่ ๆ ทั้งจากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอยู่เดิมและ ความรู้ด้านนวัตกรรมใหม่ๆ 3) จัดกิจกรรม สื่อ และนิทรรศการที่มีชีวิตและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ในแหล่ง เรียนรู้ ยุทธศาสตร์ที่ 3 ส่งเสริมและพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษาสำหรับคนทุกช่วงวัย เป้าหมายตามยุทธศาสตร์ 1) โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษาของหน่วยงานและ สถานศึกษามีความทันสมัย และมีคุณภาพ 2) ระบบฐานข้อมูลรายบุคคลและสารสนเทศทางการศึกษาครอบคลุม ถูกต้อง เป็น ปัจจุบัน และระบบเชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นเพื่อประโยชน์ในการจัดและบริการการศึกษาได้


37 แนวทางการพัฒนา 1) พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา การจัดการเรียนการสอน การจัด กระบวนการเรียนรู้ที่มีความยืดหยุ่นหลากหลาย สามารถเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่ 2) พัฒนาสถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษา (ETV) ให้เป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษา สาธารณะ (Free ETV) 3) ส่งเสริมให้มีการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์สาธารณะแบบดิจิทัลและการผลิตรายการเพื่อ การศึกษา 4) พัฒนากระบวนการเผยแพร่ ICT เพื่อการศึกษาให้มีรูปแบบที่หลากหลาย ทันสมัย เป็น ปัจจุบันและสอดรับกับความต้องการของสังคม 5) ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการวิจัย เพื่อพัฒนารูปแบบ แนวทางในการใช้เทคโนโลยีเพื่อ การศึกษาในการจัดและส่งเสริมการจัดการศึกษา 6) ให้มีและบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้เทคโนโลยีเพื่อ การศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ 7) ส่งเสริมให้มีสื่อดิจิทัลเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและการส่งเสริมการมีอาชีพเพิ่มขึ้น 8) จัดและสนับสนุนสถานศึกษา แหล่งการเรียนรู้ สกร.ตำบล ให้มีความพร้อมเกี่ยวกับ โครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอื่นที่เหมาะสมกับพื้น 9) พัฒนาระบบฐานข้อมูลรายบุคคลและสารสนเทศทางการศึกษาให้ครอบคลุมถูกต้อง เป็น ปัจจุบัน และเชื่อมโยงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการวางแผน การบริหารจัดการ การติดตาม ประเมิน และรายงานผล ให้มีมาตรฐานที่ครอบคลุม ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงกับความต้องการใน การใช้งานที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างเป็นระบบ 10) พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน อุปกรณ์ เนื้อหา และวิชาการ เพื่อ ช่วยในการเรียนรู้ด้วยตนเองสำหรับประชาชน 11) พัฒนาประสิทธิภาพเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาทางไกล และการศึกษาในระบบเปิด อาทิ ETV E-learning MOOC เพื่อเป็นเครื่องมือในการขยายการให้บริการในรูปแบบต่าง ๆ


38 ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษา และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีบทบาทและมี ส่วนร่วมในการจัดการศึกษา เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เป้าหมายตามยุทธศาสตร์ 1) ระบบบริหารจัดการมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ส่งผลต่อคุณภาพและมาตรฐานการ จัดการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต 2) ระบบบริหารงานบุคคล มีความเป็นธรรม สร้างขวัญและกำลังใจ และส่งเสริมให้ปฏิบัติงาน ได้เต็มตามศักยภาพ 3) บุคลากรทุกประเภททุกระดับได้รับการพัฒนาความรู้ ทักษะ ตามมาตรฐานตำแหน่ง รวมทั้งบทบาทภารกิจที่ได้รับมอบหมาย 4) กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รองรับการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและ สอดคล้องกับบริบทของสภาพสังคม 5) ระบบและกลไกการวัด ติดตาม และประเมินผลการศึกษาและการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ 6) ทุกภาคส่วนมีบทบาทและมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อ ความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในพื้นที่/ชุมชน แนวทางการพัฒนา 1) พัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการที่เน้นการกระจายอำนาจลงสู่พื้นที่ภาค การมีส่วนร่วม ของทุกภาคส่วน และมีระบบบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล 2) กำหนดให้มีมาตรการจูงใจทั้งด้านภาษี และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับภาคีเครือข่ายที่เข้า มาร่วมจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 3) ผลักดันให้เกิดกองทุนเพื่อการพัฒนาสำหรับการศึกษานอกระบบ เพื่อเป็นกลไกในการ สร้างโอกาสทางการศึกษา 4) ส่งเสริม สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นภาคีเครือข่าย และสร้าง แรงจูงใจในรูปแบบต่าง ๆ ให้ภาคีเครือข่ายร่วมจัดและส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ในชุมชนอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน 5) สร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการศึกษากับองค์กรหรือหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นการทำงานในลักษณะบูรณาการการวิจัยและพัฒนา 6) วิเคราะห์ วิจัย ปรับปรุงกฎ ระเบียบต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับการพัฒนาการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยให้เอื้อต่อการบริหารจัดการ 7) ส่งเสริมการสร้างสภาพแวดล้อมของชุมชน ท้องถิ่น สังคม เพื่อเอื้อต่อการศึกษาและการ เรียนรู้และสนับสนุนการสร้างกลไกการขับเคลื่อนชุมชนไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้


39 8) วิเคราะห์และจัดทำแผนอัตรากำลังตามบทบาท หน้าที่ และภารกิจ ของหน่วยงานและ สถานศึกษาในสังกัดโดยใช้รูปแบบการวิจัย เพื่อให้การเกลี่ยอัตรากำลัง/บรรจุแต่งตั้งบุคลากรตาม อัตรากำลังมีความเหมาะสม 9) พัฒนาบุคลากร สกร. ทุกระดับ ให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐานตำแหน่ง ให้ตรงกับ สายงานหรือความชำนาญ 6. แผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ (พ.ศ. 2564 - 2566) สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดทำแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ (พ.ศ. 2564 - 2566) ขึ้น เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาการศึกษาของหน่วยงานทางการศึกษาของ จังหวัดเชียงใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้ วิสัยทัศน์ “สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนนวัตกรรมการศึกษา มุ่งพัฒนาคนเขียงใหม่สู่โลกในศตวรรษที่ 21” นิยาม “นวัตกรรมการศึกษา” แนวคิด วิธีการ กระบวนการ สื่อการเรียนการสอน การบริหารจัด การศึกษารูปแบบใหม่ ที่สามารถส่งเสริมการเรียนรู้และการจัดการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพ ทางการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำกระจายอำนาจ และสร้างกลไกการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา “คนเชียงใหม่” ทุกคนที่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ “โลกในศตวรรษที่ 21” ในศตวรรษที่ 21 คนเชียงใหม่มีทักษะที่สำคัญในการใช้ชีวิตและ ทำงาน ได้แก่ ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะสารสนเทศ สื่อ เทคโนโลยี ทักษะชีวิตและอาชีพ ดำรงชีพโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและพระบรมราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พันธกิจ 1. พัฒนาคุณภาพการศึกษาทุกระดับ ทั้งในระบบ นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ให้ มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาชาติ 2. พัฒนาคนเชียงใหม่ให้มีทักษะและคุณลักษณะที่มีความจำเป็นในศตวรรษที่ 21 เป็น พลเมืองดีน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและพระบรมราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในการดำรงชีพ และธำรงรักษาความเป็นอัตลักษณ์ของพื้นที่


40 3. สร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษาเพื่อลดความเลื่อมล้ำ และ ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต 4. ส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน 5. พัฒนาระบบการบริหารและการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ โดยเน้นกระบวนการมี ส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เป้าประสงค์ 1. ผู้เรียนในแต่ละระดับมีความรู้ ความสามารถและสมรรถนะตามมาตรฐานการศึกษาชาติ 2. คนเชียงใหม่มีทักษะที่มีความจำเป็นในศตวรรษที่ 21 เป็นพลเมืองดี น้อมนำหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงและพระบรมราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ในการดำรงชีพ และธำรงรักษาความเป็นอัตลักษณ์ของพื้นที่ 3. คนเชียงใหม่มีโอกาสทางการศึกษาอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อ การเรียนรู้ตลอดชีวิต 4. หน่วยงานทางการศึกษามีผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ส่งผลต่อการเพิ่มความสามารถใน การแข่งขันและรองรับการพัฒนาจังหวัด 5. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่มีระบบการบริหารและการจัดการศึกษาที่มี ประสิทธิภาพ โดยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ประเด็นยุทธศาสตร์ ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคง ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนากำลังคนและส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม เพื่อเพิ่มความสามารถในการ แข่งขัน ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ยุทธศาสตร์ที่ 4 สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา ยุทธศาสตร์ที่ 5 พัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ องค์กร


41 กลยุทธ์ภายใต้ประเด็นยุทธศาสตร์ ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคง กลยุทธ์ 1. ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อปลูกฝังความเป็นพลเมืองดี น้อมนำหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงและพระบรมราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ในการดำรงชีพ และธำรงรักษาความเป็นอัตลักษณ์ของพื้นที่ 2. ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและภัยพิบัติทุก รูปแบบ 3. ส่งเสริมการจัดการศึกษาในพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงใหม่ ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนากำลังคนและส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม เพื่อเพิ่มความสามารถในการ แข่งขัน กลยุทธ์ 1. ส่งสริมการผลิตและพัฒนาทักษะเพื่อการประกอบอาชีพ ตามความต้องการของ ตลาดแรงงาน 2. ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ 1. ยกระดับคุณภาพการศึกษาทุกระดับเพื่อให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการศึกษาทุก ระดับในภูมิภาค 2. ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา และการเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล 3. ส่งเสริมการใช้ศูนย์การเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ และภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นแหล่งเรียนรู้นอก ห้องเรียน 4. พัฒนาบุคลากรในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดให้มีทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงานมีความ รอบรู้และสามารถเป็นผู้นำทางการศึกษา


42 ยุทธศาสตร์ที่ 4 สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา กลยุทธ์ 1. ส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับเด็กพิการ เด็กด้อยโอกาส และเด็กที่มีความต้องการ จำเป็นพิเศษ ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาครอบคลุมทุกพื้นที่ 2. ขับเคลื่อนการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กให้มีคุณภาพโดยการมีส่วนร่วมของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกลไกของ กศจ. ยุทธศาสตร์ที่ 5 พัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ องค์กร กลยุทธ์ 1. ขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามเจตนารมย์ของ พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรม การศึกษา 2. บูรณาการการศึกษาในจังหวัด ให้สามารถบริหารทุกด้านของการศึกษาอย่างมีประสิทธิ ภาพเพื่อเพิ่มศักยภาพและคุณภาพของสถานศึกษาโดยใช้กลไก กศจ.และเครือข่ายความร่วมมือด้าน การศึกษา 3. พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อการวางแผนพัฒนาการศึกษา เชื่อมโยงทุกหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง 4. พัฒนาระบบบริทารงานบุคคลให้มีความเข้มเข็งโปร่งใส่ ตรวจสอบได้ และได้รับการ ยอมรับจาผู้ที่เกี่ยวข้อง


43 7. แผนปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดสาระสำคัญของแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตาม งบประมาณที่ได้รับจัดสรร) ดังนี้ วิสัยทัศน์ บูรณาการจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เรียนมีคุณภาพและทักษะที่จำเป็นใน โลกยุคใหม่ พันธกิจ 1. ส่งเสริม สนับสนุนการบริหารและจัดการศึกษาแบบบูรณาการทุกระดับ ทุกพื้นที่อย่าง มีประสิทธิภาพ 2. ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย ให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคใหม่ 3. ส่งเสริม สนับสนุนการสร้างโอกาส และความเสมอภาคทางการศึกษาอย่างทั่วถึง เหมาะสมตามศักยภาพและช่วงวัยของผู้เรียน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 4. ส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนาระบบการบริหารงานบุคคลและพัฒนาสมรรถนะของ ข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษาให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคใหม่ ค่านิยม TEAMWINS T = Teamwork การทำงานเป็นทีม E = Equality of Work ความเสมอภาคในการทำงาน A = Accountability ความรับผิดชอบ M = Morality and Integrity การมีศีลธรรมและมีความซื่อสัตย์ W - Willful ความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานอย่างเต็มศักยภาพ I - Improvement การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ N = Network and Communication การเป็นครือข่ายที่มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน S = Service Mind การมีจิตมุ่งบริการ


Click to View FlipBook Version