หน่วยที่ 4 ระบบสุริยะของเรา

ตารางการประเมนิ ผลการจัดการเรยี นรู้
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 26 เร่อื ง การขน้ึ ตกและตกของดวงจันทร์
นกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3/1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลับราชภัฏอุตรดิตถ์
คำชี้แจง ให้ผ้สู อนทำเคร่อื งหมาย √ ลงในรายการตามความเปน็ จรงิ

KPA รวม สรุป หมาย
คะแนน (ผา่ น/ เหตุ
(Knowledge) (Psychomotor) (Attribute) ไม่ผา่ น)
คะแนน
ช่ือ-นามสกลุ คะแนนผา่ น คะแนนผ่านเกณฑ์ คะแนนผา่ น 12 ผ่าน
ผา่ น
เลขท่ี คะแนนเตม็ เกณฑ์รอ้ ยละ ระดบั 2 ขน้ึ ไป เกณฑร์ ะดับ 2 10 ผา่ น
10 ผ่าน
1 เดก็ ชายพสิษฐ์ แพรนิมติ ร 70 ขึ้นไป ขึ้นไป 9 ผา่ น
2 เด็กหญงิ วศนิ ธี รณ์ หะรเี มา 10 ผา่ น
3 เดก็ ชายศภุ กร มลู คำ คะแนน ผา่ น/ 4 3 2 1 ผา่ น/ 4 3 2 1 ผ่าน 9 ผ่าน
4 เด็กหญิงธมี าพร ทองเจริญ 9 ผ่าน
5 เดก็ ชายนฤพนธ์ุ สุทธะตัง้ 12 ไม่ ไม่ /ไม่ 10 ผา่ น
6 เดก็ ชายพันธ์ระพี พีระพันธ์ 11 ผ่าน
7 เด็กชายนครศักด์ิ ศรีทิพย์ ผา่ น ผา่ น ผา่ น 11 ผ่าน
8 เดก็ หญิงธัญญากร ทองเพ็ชร์ 9 ผา่ น
9 เด็กชายจิณณวตั ร ศรีขำมี 10 ผา่ น √ ผา่ น √ ผ่าน 10 ผ่าน
10 เดก็ ชายภัทรศวัฒ โทนโนนแดง 10 ผา่ น
11 เดก็ ชายรวิภาส ฐติ าคม 10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 11 ผา่ น
12 เด็กชายกฤษฎา ปานแดง 10 ผา่ น
13 เด็กชายรณกร บรู ณะถาวร 9 ผา่ น √ ผา่ น √ ผ่าน 9 ผ่าน
14 เดก็ หญิงบญุ ฑรกิ า ท่าดี 10 ผ่าน
15 เด็กหญงิ อนญั ญา แสงพานิช 10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผา่ น
16 เด็กชายณัฐธพงษ์ ธนเดชสริ ิพงศ์ 10 ผ่าน
17 เด็กหญงิ ลกั ษกิ า โชคดี 9 ผา่ น √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผ่าน
18 เด็กชายฤทธ์ิภบู ดี หะรีเมา 10
19 เด็กชายอคั รชยั ทับผดงุ 9 ผ่าน √ ผา่ น √ ผา่ น 10
20 เด็กหญงิ ปุริมปรัชญ์ เจรญิ เชาวว์ ัฒน
21 เดก็ หญงิ นภสร บุญประเสรฐิ 10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน

11 ผา่ น √ ผ่าน √ ผ่าน

11 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน

9 ผ่าน √ ผา่ น √ ผ่าน

10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น

10 ผ่าน √ ผา่ น √ ผ่าน

11 ผา่ น √ ผา่ น √ ผา่ น

10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน

9 ผา่ น √ ผ่าน √ ผ่าน

10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน

9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น

10 ผา่ น √ ผ่าน √ ผา่ น

9 ผา่ น √ ผา่ น √ ผา่ น

10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น

10 ผ่าน √ ผา่ น √ ผ่าน

22 นายธนภทั ธ์ หล่อหลอม 9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 9 ผา่ น
23 เดก็ ชายภูผา นาคหลวง 9 ผา่ น √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผ่าน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

คะแนน 10 - 12 อย่ใู นระดับ 4 มีระดับคุณภาพ ดมี าก คะแนนตามรูบริคส์เปน็ รอ้ ยละ 80 – 100 ของคะแนนเตม็
คะแนน 7 - 9 อยู่ในระดบั 3 มีระดับคุณภาพ ดี คะแนนตามรูบรคิ สเ์ ป็นร้อยละ 60 – 75 ของคะแนนเต็ม
คะแนน 4 - 6 อยู่ในระดับ 2 มรี ะดบั คุณภาพ พอใช้ คะแนนตามรูบริคสเ์ ป็นร้อยละ 50 – 59 ของคะแนนเต็ม
คะแนน 0 - 3 อย่ใู นระดบั 1 มรี ะดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรงุ คะแนนตามรูบริคส์เปน็ รอ้ ยละ 50 – 59 ของคะแนนเตม็

หมายเหตุ : คะแนนรวมตอ้ งผ่านระดบั 3 ข้ึนไป ถือว่า ผ่าน

• นักเรียนที่ไมผ่ า่ น K จำนวน........คน ครูผู้สอนมอบหมายให้นกั เรียน.....................................แล้ว
• นักเรียนทไ่ี มผ่ ่าน P จำนวน........คน ครผู สู้ อนมอบหมายให้นักเรยี น.....................................แล้ว
• นกั เรยี นทไี่ มผ่ ่าน A จำนวน........คน ครูผู้สอนมอบหมายใหน้ กั เรยี น.....................................แล้ว

ลงชื่อ ..............ภ...ัค...จ..ริ..า.....ย...อ..ด...ร..ัก.............. ผู้สอน

( นางสาวภัคจริ า ยอดรัก )

ตารางการประเมินผลการจดั การเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 26 เรอื่ ง การขึ้นตกและตกของดวงจนั ทร์
นักเรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3/2 โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลบั ราชภฏั อตุ รดติ ถ์
คำชีแ้ จง ให้ผู้สอนทำเครื่องหมาย √ ลงในรายการตามความเปน็ จริง

K P A รวม สรุป หมาย

(Knowledge) (Psychomotor) (Attribute) คะแนน (ผา่ น/ เหตุ

ช่อื -นามสกุล คะแนนผ่านเกณฑ์ คะแนนผา่ นเกณฑ์ คะแนนผ่านเกณฑ์ ไมผ่ า่ น)

เลขท่ี คะแนนเต็ม ร้อยละ 70 ข้นึ ไป ระดับ 2 ข้ึนไป ระดับ 2 ข้ึนไป

1 เดก็ ชายสิรภพ วรรณการ คะแนน ผ่าน/ 4 3 2 1 ผ่าน/ 4 3 2 1 ผ่าน/ คะแนน
2 เดก็ หญิงเสาวลักษณ์ ทับทอง
3 เดก็ ชายปติ คิ ุณ มีมา 12 ไม่ ไมผ่ า่ น ไม่ผา่ น 12
4 เดก็ ชายอัครวนิ ท์ มาดีคาน
5 เดก็ หญงิ มีนา ก้อนทับทมิ ผ่าน
6 เด็กชายฮามนิ คิม
7 เด็กชายภทั รพงศ์ จันทร์นอ้ ย 10 ผา่ น √ ผา่ น √ ผา่ น 10 ผา่ น
8 เด็กหญงิ ฑิฆัมพร เขตตบรรพต
9 เด็กชายพทิ ยุตม์ เรืองศรี 10 ผา่ น √ ผ่าน √ ผา่ น 10 ผ่าน
10 เด็กชายธนพตั ปัญญา
11 เด็กชายอุกฎษฏ์ ตันตศิ ภุ รกั ษ์ 10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 10 ผา่ น
12 เดก็ หญงิ ครองขวัญ ทับทิมแสง
13 เดก็ ชายชยั วัฒน์ กณุ จา๋ 10 ผา่ น √ ผ่าน √ ผา่ น 10 ผา่ น
14 เด็กหญงิ แพรวา ศรวี ีระ
15 เด็กหญงิ จิรภา หลา้ รอด 11 ผา่ น √ ผ่าน √ ผ่าน 11 ผา่ น
16 เดก็ หญิงอญั ชิสา บตุ รจนั
17 เด็กหญิงชื่นนภา สสี อด 9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 9 ผา่ น
18 เดก็ ชายญาณกร รัตนประพิศ
19 เดก็ ชายคามิน ผอ่ งพุฒ 9 ผา่ น √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผา่ น
20 เดก็ หญงิ ณชิ ชา สทุ ธิรส
21 เด็กหญิงกชพร ย้ิมแยม้ 10 ผ่าน √ ผา่ น √ ผ่าน 10 ผ่าน
22 เด็กหญิงวรรษชล สีหะนาม
9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผ่าน

9 ผา่ น √ ผ่าน √ ผา่ น 9 ผ่าน

9 ผา่ น √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผ่าน

10 ผ่าน √ ผา่ น √ ผา่ น 10 ผ่าน

11 ผ่าน √ ผา่ น √ ผ่าน 11 ผ่าน

9 ผ่าน √ ผา่ น √ ผ่าน 9 ผ่าน

10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 10 ผ่าน

11 ผา่ น √ ผา่ น √ ผา่ น 11 ผ่าน

9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผ่าน

10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 10 ผา่ น

9 ผา่ น √ ผ่าน √ ผา่ น 9 ผา่ น

9 ผา่ น √ ผา่ น √ ผา่ น 9 ผ่าน

9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผ่าน

11 ผา่ น √ ผา่ น √ ผ่าน 11 ผา่ น

เกณฑก์ ารให้คะแนน

คะแนน 10 - 12 อย่ใู นระดบั 4 มรี ะดับคุณภาพ ดีมาก คะแนนตามรูบริคสเ์ ปน็ ร้อยละ 80 – 100 ของคะแนนเตม็
คะแนน 7 - 9 อยู่ในระดบั 3 มรี ะดับคุณภาพ ดี คะแนนตามรบู ริคส์เปน็ รอ้ ยละ 60 – 75 ของคะแนนเตม็
คะแนน 4 - 6 อย่ใู นระดบั 2 มรี ะดับคุณภาพ พอใช้ คะแนนตามรูบรคิ ส์เปน็ ร้อยละ 50 – 59 ของคะแนนเต็ม
คะแนน 0 - 3 อยใู่ นระดับ 1 มรี ะดบั คุณภาพ ปรับปรุง คะแนนตามรบู รคิ สเ์ ป็นร้อยละ 50 – 59 ของคะแนนเตม็

หมายเหตุ : คะแนนรวมต้องผา่ นระดับ 3 ขน้ึ ไป ถือว่า ผ่าน

• นกั เรยี นท่ไี ม่ผา่ น K จำนวน........คน ครูผู้สอนมอบหมายให้นกั เรียน.....................................แล้ว
• นกั เรียนทไี่ ม่ผ่าน P จำนวน........คน ครูผู้สอนมอบหมายใหน้ ักเรยี น.....................................แลว้
• นักเรยี นทไี่ ม่ผ่าน A จำนวน........คน ครูผสู้ อนมอบหมายใหน้ กั เรียน.....................................แล้ว

ลงช่ือ ..............ภ...ัค...จ..ิร..า.....ย...อ..ด...ร..ัก.............. ผู้สอน

( นางสาวภัคจิรา ยอดรัก )

ใบงานที่ เรือ่ ง 5 การข้นึ ตกของดวงจันทร์

ช่อื …………………………………………………….. นามสกลุ ……………………………………………….. ชน้ั …………………..เลขท่ี …………………
เฉลย
คำถาม

1. วันข้นึ 8 คำ่ และวันแรม 8 ค่ำ สว่ นสว่างของดวงจันทรเ์ หมือนหรือตา่ งกันอยางไร

แนวคำตอบ แตกตา่ งกันคือ เห็นแสงสว่างแคค่ รึง่ ดวง วันขนึ้ 8 คำ่ จะสวา่ ง ทางทิศตะวันออก และวันแรม
8 คำ่ สว่างจากทางทิศตะวันตก
2. จากภาพ จนั ทร์ดับ ดวงจนั ทร์อยใู่ นตำแหนง่ ใด
แนวคำตอบ แรม15คำ่ หมายเลข 5
3. ในวนั ขา้ งขนึ้ ข้างแรม นกั เรยี นคดิ ว่าส่วนสว่างของดวงจนั ทรเ์ หมือนหรือต่างกันอยา่ งไร
แนวคำตอบ ตา่ งกันเพราะเหน็ สว่ นสว่างในทิศทางทีต่ ่างกัน ขา้ งแรมจะเห็นสว่ นสวา่ งทางทศิ ตะวันออก
สว่ นขา้ งขึน้ จะเห็นส่วนสวา่ งทางทศิ ตะวนั ตก
4. จากภาพ สว่ นสวา่ งของดวงจนั ทร์ เมื่อโคจรรอบโลกตำแหนง่ 2,4,6,8 คือข้างข้ึนหรอื ข้างแรม
แนวคำตอบ 2และ4 เปน็ ข้างแรม 6 และ 8 เป็นข้างขึน้

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 27

กลมุ่ สาระวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี 1/2564 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 ระบบสุริยะของเรา เวลา 15 คาบ

เร่ือง การเกดิ ข้างข้ึน-ขา้ งแรม เวลา 2 คาบ

ผู้สอน นางสาวภัคจิรา ยอดรกั โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลัยราชภฏั อตุ รดิตถ์

วันที่ 29 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564 ม.3/1

วันท่ี 30 เดือน กันยายน พ.ศ. 2564 ม.3/2

1. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกดิ และววิ ัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาว
ฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ ที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
อวกาศ

2. ตวั ช้ีวัด
ว 3.1 ม.3/3 สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิดข้างขึ้นขา้ งแรม การเปลยี่ นแปลงเวลา การขน้ึ และ

ตกของดวงจันทรแ์ ละการเกิดน้ำขน้ึ นำ้ ลง

3. สาระสำคัญ
ดวงจนั ทร์มกี ารหมุนรอบตัวเองและโคจรรอบโลก ซึง่ ดวงจันทรร์ บั แสงจากดวงอาทิตย์ครงึ่ ดวงตลอดเวลา

ดา้ นสวา่ งไดร้ บั แสงจากดวงอาทติ ย์ แตด่ ้านตรงขา้ มกบั ดวงอาทติ ยถ์ ูกบงั ดว้ ยเงาของตัวเองดวงจันทร์มีการหมุนรอบ
ตัวเองเทา่ กับคาบการโคจรรอบโลก ทำให้ดวงจันทร์หันด้านเดียวเข้าหาโลก เมอ่ื ดวงจนั ทร์โคจรรอบโลกจะหันส่วน
สว่างมายังโลกแตกต่างกัน ทำให้เราสังเกตเห็นส่วนสว่างของดวงจันทร์แตกต่างไปในแต่ละวัน เกิดเป็นข้างขึ้น
ข้างแรม

4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
1. อธบิ ายการเกดิ ขา้ งขนึ้ ข้างแรมของดวงจันทร์ได้
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
2. เขยี นแผนภาพแสดงการหมนุ รอบตวั เองและการโคจรรอบโลกของดวงจนั ทรไ์ ด้

ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
3. ใฝ่เรยี นรู้

5. สาระการเรียนรู้
ข้างข้นึ ข้างแรม

6. ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. ขั้นตอนการจดั การเรยี นรู้
จัดประสบการณเ์ รียนรโู้ ดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้แบบ 5Es

ขั้นท่ี1 สร้างความสนใจ (Engagement)
1. ครกู ลา่ วทกั ทายนกั เรียนดว้ ยใบหน้ายมิ้ แย้มแจ่มใส
2. กระตุ้นความสนใจของนกั เรยี นและทบทวนความรพู้ ้นื ฐานเก่ียวกับปรากฏการณท์ ่ีเกิดจากการหมนุ รอบตัวเอง
ของโลก โดยให้อา่ นเน้อื หาในหนงั สอื หนา้ 210 เพ่อื ใหน้ กั เรยี นเข้าใจการเกิดปรากฏการณก์ ารขึ้นและตกของดวง
อาทติ ย์ กลางวัน กลางคนื และการกำหนดทิศ และศึกษาขอ้ มลู เกี่ยวกับการเคล่ือนที่ของดวงจนั ทรท์ ่สี มั พันธ์กบั โลก
และ ดวงอาทติ ย์ รวมถึงเวลาทด่ี วงจนั ทร์ใช้ในการเปลย่ี นแปลงรปู ร่างกลบั มาเปน็ รูปร่างเดมิ เพอ่ื ให้นักเรียนรว่ มกนั
อภปิ รายวา่ เหตุใดในบางวนั เราจึงมองเหน็ ดวงจันทร์ในเวลากลางวัน จากน้ันนำเข้าสู่กจิ กรรมที่ 4.4 ข้างขน้ึ
ข้างแรม เกิดขึ้นไดอ้ ย่างไร โดยอาจใช้คำถามว่า การเคลอื่ นทขี่ องดวงจนั ทร์รอบโลกทำใหเ้ กดิ ปรากฏการณ์อะไรอกี
บ้าง

ขน้ั ที่ 2 สำรวจและคน้ หา (Exploration)
1. ให้นกั เรียนอา่ นช่อื กจิ กรรม จุดประสงค์ และวธิ ีดำเนนิ กิจกรรม และครตู รวจสอบความเขา้ ใจจากการอ่าน

โดยใช้ คำถามดังต่อไปน้ี (C2 3.2)
• กิจกรรมนเี้ กย่ี วกับเร่ืองอะไร (ขา้ งข้นึ ขา้ งแรม)
• กิจกรรมนม้ี ีจดุ ประสงคอ์ ะไร (สรา้ งแบบจำลองอธบิ ายการเกิดข้างขึ้น ขา้ งแรม)
• วธิ ดี ำเนนิ กจิ กรรมมีข้ันตอนโดยสรปุ อย่างไร (วาดภาพตำแหน่งท่ีดวงจันทร์โคจรรอบโลก 8 ตำแหนง่ และตำแหนง่

ของดวงอาทติ ยบ์ นกระดาษปร๊ฟู โดยใชล้ กู ปิงปองแทนดวงจนั ทร์ จากนั้นคาดคะเนและบันทกึ วา่ เม่ือดวงจนั ทร์ โคจรรอบโลก
ผสู้ ังเกตบนโลกและนอกโลกจะมองเหน็ ดวงจนั ทรม์ สี ่วนสว่างและส่วนมดื อยา่ งไร ทำกจิ กรรมเพอื่ ตรวจสอบการคาดคะเน
โดยจดั ห้องใหม้ ืดและมีแสงเขา้ เพยี ง 1 ด้าน นกั เรยี นยนื ต่อแถวกนั คนหวั แถวถือไม้ บรรทัดท่ตี ดิ ลกู ปงิ ปองยืนบรเิ วณจุดตดั
หรอื โลกหมุนตวั ไปทลี ะตำแหนง่ ท้งั 8 ตำแหน่ง ขณะเดยี วกนั ผู้สังเกต คนอืน่ ๆ ที่ตอ่ แถวอยู่ก็สังเกตดวงจันทรท์ งั้ 8 ตำแหน่ง
เมือ่ สงั เกตครบให้ผู้สงั เกตทต่ี อ่ แถวอยเู่ ดินออกมานอกแถว แลว้ สงั เกตพ้นื ที่ทไ่ี ด้รบั แสงของลกู ปงิ ปองเปรยี บเทยี บกับพ้ืนท่ี
ท้งั หมด และสังเกตทิศทางของแสง)

ครูควรบันทึกขน้ั ตอนการทำกิจกรรมโดยเขยี นสรุปไว้บนกระดาน หากนักเรยี นไมเ่ ขา้ ใจขั้นตอนการทำกิจกรรมครู
อาจสาธิตให้นกั เรียนดู

• นกั เรยี นตอ้ งสังเกตหรือรวบรวมขอ้ มลู อะไรบ้าง (สังเกตรปู รา่ งของดวงจันทรท์ ่ีมองเห็นเมื่อสังเกตจากมมุ มอง
เดียวกับผู้สังเกตทอ่ี ยูบ่ นโลก (ผู้สังเกตขณะตอ่ แถว) และสังเกตพ้ืนท่ีท่ไี ด้รบั แสงของลกู ปงิ ปองในทกุ ตำแหน่งท่ี ดวงจนั ทร์
โคจรรอบโลก (ผ้สู ังเกตขณะออกจากแถว)

2. ครแู นะนำนักเรียนเก่ยี วกบั ส่งิ ท่คี วรระวังในการทำกจิ กรรม เชน่ คนหัวแถวทถ่ี ือไม้บรรทัดท่ีติดลูกปงิ ปองใหช้ ขู น้ึ
เหนอื ศรี ษะ เพอื่ ไมใ่ ห้ศีรษะและเงาของคนถอื ลกู ปงิ ปองบงั ผูส้ งั เกตคนอ่ืน และวางกระดาษปรฟู๊ ให้วงกลมหมายเลข 1 ตรง
กบั แหลง่ กำเนิดแสง เพ่อื ใหท้ กุ กลุ่มสังเกตดวงจนั ทรด์ ว้ ยตำแหนง่ อา้ งองิ เหมือนกัน นอกจากนน้ั ยังอาจแนะนำให้ นักเรียน
ชว่ ยกนั ถ่ายภาพหรอื ถ่ายวิดีโอการสงั เกตดวงจนั ทร์ทงั้ ขณะต่อแถวและออกจากแถว
ขน้ั ท่ี 3 อธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation)

1. ให้นักเรยี นแต่ละกลุม่ นำเสนอผลการทำกจิ กรรม ตอบคำถามท้ายกจิ กรรม และรว่ มกันสรปุ ผล
ของกิจกรรมโดยใช้ คำถามท้ายกิจกรรมเป็นแนวทาง เพื่อให้ไดข้ ้อสรุปจากกิจกรรมว่า เมื่อดวงจันทรโ์ คจรรอบโลก
ถ้าสงั เกตดวงจันทร์ จากบนโลกจะเหน็ ดวงจนั ทรม์ ีการเปลยี่ นแปลงรปู ร่างไป โดยช่วงท่ดี วงจนั ทร์มีสว่ นสว่างเพ่ิมขึ้น
เรื่อย ๆ จนสว่าง เต็มดวง เรียกว่า ข้างขึ้น และช่วงเวลาที่ส่วนสว่างค่อย ๆ ลดลงจนมืดทั้งดวงอีกครั้ง เรียกว่า
ข้างแรม ถ้าสังเกต ดวงจันทร์นอกโลก ทุกตำแหน่งที่ดวงจันทร์โคจรไป ดวงจันทร์จะได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ครง่ึ
ดวงเสมอ เพราะ ดวงจันทร์มีลักษณะคล้ายทรงกลม แต่การที่ดวงจันทร์โคจรเปลี่ยนตำแหน่งไปทำให้คนบนโลก
มองเห็นรูปรา่ งของ ดวงจันทร์เปล่ียนแปลงไปทกุ วนั ใน 1 เดือน เรียกปรากฏการณ์นีว้ ่า ข้างขึ้น ข้างแรม ซึ่งจะเกิด
ซ้ำเป็นวฏั จักรเชน่ น้ี ทกุ เดือน (C2 3.2)

2. ให้นักเรียนเรียนรู้เพิ่มเติม โดยอาจใช้สื่ออินเตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชัน ตอน การเกิดข้างขึ้น ข้างแรม เพื่อ
เสรมิ ความเข้าใจ
ข้นั ท่ี 4 ขยายความรู้ (Elaboration)

ครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นซกั ถามเน้อื หาเกี่ยวกับเร่ือง การเกดิ ขา้ งขนึ้ ข้างแรม และให้ความรู้เพ่มิ เติมจาก
คำถามของนกั เรยี น โดยครูใช้ PowerPoint เรือ่ ง การเกิดขา้ งขึ้นข้างแรม ในการอธิบายเพิ่มเตมิ (A5 1.5)
ข้ันที่ 5 ประเมนิ

1. ครูใชแ้ บบประเมนิ ใบงานกจิ กรรมที่ 4.4 ข้างข้นึ ขา้ งแรม เกดิ ข้นึ ไดอ้ ย่างไร
2. สามารถทำงานร่วมกบั ผอู้ ่นื
8. สอ่ื /แหล่งเรียนรู้
ส่อื การเรยี นรู้

1. ใบงานกจิ กรรมท่ี 4.4 ขา้ งข้ึน ขา้ งแรม เกิดข้ึนไดอ้ ยา่ งไร
2. PowerPoint เรอ่ื ง การเกิดข้างข้นึ ขา้ งแร
แหล่งการเรียนรู้
1. หอ้ งสมดุ
2. หอ้ งเรยี น

3. ห้องวิทยาศาสตร์

9. การวัดและการประเมินผลการเรยี นรู้

1. กรอบการวดั และประเมนิ ผล แต่ละจดุ ประสงค์การเรียนรนู้ ำเสนอประเดน็ ทที่ ำการวัด และประเมินผล

วธิ ีการวดั และเครอ่ื งมอื วัด ดงั ตาราง

ตาราง : แสดงกรอบการวัดและประเมนิ ผล

จุดประสงค์การเรยี นรู้ สมรรถนะ วธิ ีการวดั ผล เครือ่ งมือวดั ผล เกณฑ์การประเมนิ ผล
PISA

ดา้ นความรู้ (K) ทำใบงาน การเกดิ ใบงาน การเกิด - ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70

1. อธิบายการเกดิ ข้างขึน้ A1 1.1 ข้างขนึ้ -ขา้ งแรม ขา้ งข้ึน-ข้างแรม ข้ึนไป : 7 คะแนน

ข้างแรมของดวงจนั ทร์ได้ B2 2.2 จาก 10 คะแนน

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) สังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ การทำ - ได้คะแนนรูบริคส์
2. เขยี นแผนภาพแสดงการ B3 2.3
หมนุ รอบตัวเองและการ C1 3.1 การทำกจิ กรรมการ กิจกรรมการ ตงั้ แต่ 2 ขึ้นไป
โคจรรอบโลกของดวงจันทร์
ได้ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต - ได้คะแนนรบู ริคส์
ด้านคณุ ลักษณะ (A) พฤตกิ รรม ตั้งแต่ 2 ขึ้นไป
3. สามารถทำงานรว่ มกับ
ผ้อู ่ืน

2. เกณฑก์ ารให้คะแนนเกณฑร์ ูบริคส์ (Rubric Score) ให้คะแนนเป็นรายขอ้ ของเกณฑร์ ูบรคิ ส์ ท่ีสร้างขน้ึ
สำหรับการประเมนิ (Analytical Rubric Score )

ตาราง : แสดงเกณฑก์ ารให้คะแนนเกณฑร์ ูบรคิ ส์

ประเด็นการประเมิน 4 (ดีมาก) ระดับคุณภาพ 1 (ปรับปรงุ )
3 (ดี) 2 (พอใช้)

1. ด้านความรู้ K

- อธิบายการเกดิ ข้างข้ึน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป

ข้างแรมของดวงจนั ทรไ์ ด้

2. ดา้ นทกั ษะ P - มีคุณสมบัติ 4 - มคี ณุ สมบัติ 3 - มีคุณสมบตั ิ 2 ใน - มคี ุณสมบตั ิ 1
ใน 4 ของระดบั
- เขยี นแผนภาพแสดงการ ใน 4 ของระดบั คณุ ภาพ 4 ของระดบั ใน 4 ของระดบั

หมุนรอบตวั เองและการโคจร คณุ ภาพ คุณภาพ คณุ ภาพ

รอบโลกของดวงจันทร์ได้

คุณสมบตั ิ

1. มีความรู้ความเขา้ ใจ

ในเรอ่ื งท่นี ำเสนอ

2. มีน้ำเสียงชดั เจน

3. ใชภ้ าษาเข้าใจง่าย

4. มีการตอบคำถามทด่ี ี

3. ดา้ นคณุ ลักษณะ A - มคี ณุ สมบัติ 4 - มีคุณสมบัติ 3 - มีคณุ สมบัติ 2 ใน - มีคุณสมบตั ิ 1
ใน 4 ของระดับ
- นักเรยี นมพี ฤติกรรมใฝเ่ รียนรู้ ใน 4 ของระดับ คณุ ภาพ 4 ของระดบั ใน 4 ของระดับ

คุณสมบัติ คณุ ภาพ คณุ ภาพ คุณภาพ

1. ตอบคำถามในห้องเป็น

อยา่ งดี

2. ให้ความรว่ มมือในการ

ทำงาน

3. แลกเปล่ยี นความรู้กับ

เพอื่ น

4. ยอมรบั ผลการกระทำ

ของตนเอง

3. เกณฑป์ ระเมินระดับคณุ ภาพผลการเรยี นรู้ กำหนดระดับคุณภาพผลการเรยี นร้รู ่วมกันทกุ ดา้ นเป็น 4 ระดับ คือ ดี

มาก ดี พอใช้ และปรับปรุง แต่ละระดบั กำหนดเกณฑ์ประเมนิ ตามคะแนนเกณฑร์ ูบรคิ ส์ ดงั น้ี

ระดับคุณภาพดมี าก มคี ะแนนตามเกณฑ์รูบรคิ สร์ ้อยละ 80 – 100 ของคะแนนเต็ม

ระดับคณุ ภาพดี มีคะแนนตามเกณฑร์ ูบรคิ สร์ ้อยละ 70 – 79 ของคะแนนเต็ม

ระดับคณุ ภาพพอใช้ มีคะแนนตามเกณฑ์รูบรคิ สร์ อ้ ยละ 60 – 69 ของคะแนนเต็ม

ระดับคุณภาพปรับปรงุ มีคะแนนตามเกณฑ์รูบริคส์น้อยกว่ารอ้ ยละ 60 ของคะแนนเต็ม

4. เกณฑก์ ารตดั สินระดบั คุณภาพนกั เรยี นจากคะแนนรวมทัง้ หมด

ระดบั บคุ คล นกั เรยี นมผี ลงานอยใู่ นระดบั ดี ถอื ว่า ผ่าน (ประกนั ผลการเรียนรขู้ องนกั เรยี น)

ระดับกลุ่ม นักเรยี นมีผลงานอย่ใู นระดบั ดี ไมต่ ่ำกว่าร้อยละ 70 ของจำนวนนักเรียนทง้ั หมด

ถอื วา่ การจดั ประสบการณเ์ รียนรู้ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ประสบผลสำเรจ็

5. เกณฑ์การตดั สินคะแนนเกบ็ จำนวนคะแนนเกบ็ .........คะแนน จากคะแนนรวมท้ังหมด…...คะแนน

กำหนดวิธีการคดิ คะแนนเก็บ ดงั น้ี

จำนวนคะแนนเกบ็ = (จำนวนคะแนนที่ต้องการ × จำนวนคะแนนรวมทุกกิจกรรมของนักเรยี นแต่ละคน)
คะแนนรวมทุกกจิ กรรมท้ังหมดของทกุ กจิ กรรม



ตารางการประเมินผลการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 27 เรือ่ ง การเกดิ ข้างขึน้ -ขา้ งแรม
นักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 3/1 โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลับราชภฏั อตุ รดติ ถ์
คำชีแ้ จง ให้ผสู้ อนทำเครอื่ งหมาย √ ลงในรายการตามความเปน็ จริง

K P A รวม สรปุ หมาย
(ผา่ น/ เหตุ
(Knowledge) (Psychomotor) (Attribute) คะแนน ไมผ่ า่ น)

ช่ือ-นามสกุล คะแนนผ่านเกณฑ์ คะแนนผา่ นเกณฑ์ คะแนนผา่ นเกณฑ์ ผ่าน
ผา่ น
เลขท่ี คะแนนเต็ม รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป ระดับ 2 ขึน้ ไป ระดบั 2 ขน้ึ ไป ผา่ น
ผ่าน
1 เดก็ ชายพสษิ ฐ์ แพรนมิ ิตร คะแนน ผ่าน/ 4 3 2 1 ผา่ น/ 4 3 2 1 ผ่าน/ คะแนน ผ่าน
2 เด็กหญงิ วศนิ ธี รณ์ หะรเี มา ผ่าน
3 เด็กชายศุภกร มลู คำ 12 ไม่ ไมผ่ า่ น ไมผ่ ่าน 12 ผา่ น
4 เด็กหญงิ ธมี าพร ทองเจริญ ผา่ น
5 เด็กชายนฤพนธ์ุ สทุ ธะตงั้ ผา่ น ผา่ น
6 เด็กชายพนั ธ์ระพี พรี ะพนั ธ์ ผา่ น
7 เดก็ ชายนครศกั ด์ิ ศรที ิพย์ 10 ผา่ น √ ผา่ น √ ผา่ น 10 ผ่าน
8 เด็กหญิงธัญญากร ทองเพ็ชร์ ผ่าน
9 เดก็ ชายจณิ ณวัตร ศรีขำมี 10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 10 ผ่าน
10 เด็กชายภทั รศวัฒ โทนโนนแดง ผ่าน
11 เด็กชายรวิภาส ฐติ าคม 11 ผา่ น √ ผ่าน √ ผา่ น 11 ผา่ น
12 เด็กชายกฤษฎา ปานแดง ผา่ น
13 เด็กชายรณกร บูรณะถาวร 10 ผ่าน √ ผา่ น √ ผา่ น 10
14 เด็กหญงิ บญุ ฑริกา ทา่ ดี ผ่าน
15 เดก็ หญิงอนัญญา แสงพานชิ 9 ผา่ น √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผา่ น
16 เด็กชายณฐั ธพงษ์ ธนเดชสิริ ผา่ น
9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 9 ผา่ น
พงศ์
17 เดก็ หญงิ ลกั ษกิ า โชคดี 10 ผ่าน √ ผา่ น √ ผ่าน 10 ผา่ น
18 เดก็ ชายฤทธภิ์ ูบดี หะรเี มา
19 เดก็ ชายอคั รชัย ทบั ผดงุ 9 ผา่ น √ ผ่าน √ ผา่ น 9
20 เด็กหญงิ ปุรมิ ปรชั ญ์ เจรญิ เชาว์
11 ผา่ น √ ผ่าน √ ผา่ น 11
วัฒน
21 เด็กหญิงนภสร บุญประเสริฐ 10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 10

9 ผ่าน √ ผา่ น √ ผา่ น 9

9 ผา่ น √ ผ่าน √ ผา่ น 9

9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 9

11 ผ่าน √ ผา่ น √ ผ่าน 11

10 ผา่ น √ ผา่ น √ ผา่ น 10

10 ผา่ น √ ผ่าน √ ผา่ น 10

10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 10
10 ผา่ น √ ผ่าน √ ผา่ น 10
9 ผ่าน √ ผา่ น √ ผ่าน 9
10 ผา่ น √ ผ่าน √ ผา่ น 10

9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 9

22 นายธนภทั ธ์ หล่อหลอม 11 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 11 ผา่ น
23 เด็กชายภูผา นาคหลวง 10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 10 ผา่ น

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

คะแนน 10 - 12 อยูใ่ นระดับ 4 มรี ะดับคุณภาพ ดมี าก คะแนนตามรบู รคิ สเ์ ปน็ รอ้ ยละ 80 – 100 ของคะแนนเตม็
คะแนน 7 - 9 อย่ใู นระดับ 3 มรี ะดบั คุณภาพ ดี คะแนนตามรบู ริคสเ์ ปน็ รอ้ ยละ 60 – 75 ของคะแนนเต็ม
คะแนน 4 - 6 อยู่ในระดับ 2 มีระดับคุณภาพ พอใช้ คะแนนตามรบู รคิ สเ์ ปน็ รอ้ ยละ 50 – 59 ของคะแนนเตม็
คะแนน 0 - 3 อยู่ในระดบั 1 มีระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ คะแนนตามรบู ริคสเ์ ป็นร้อยละ 50 – 59 ของคะแนนเต็ม

หมายเหตุ : คะแนนรวมต้องผา่ นระดบั 3 ขึ้นไป ถอื ว่า ผ่าน

• นกั เรยี นท่ีไม่ผ่าน K จำนวน........คน ครูผสู้ อนมอบหมายให้นกั เรียน.....................................แลว้
• นักเรียนท่ีไมผ่ า่ น P จำนวน........คน ครูผ้สู อนมอบหมายใหน้ ักเรยี น.....................................แลว้
• นกั เรยี นที่ไมผ่ ่าน A จำนวน........คน ครูผูส้ อนมอบหมายใหน้ ักเรยี น.....................................แล้ว

ลงช่อื ..............ภ..ั.ค..จ...ริ ..า.....ย..อ...ด...ร..ัก.............. ผู้สอน

( นางสาวภัคจิรา ยอดรัก )

ตารางการประเมนิ ผลการจัดการเรยี นรู้
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 27 เร่อื ง การเกดิ ข้างข้นึ -ขา้ งแรม
นักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3/2 โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลบั ราชภฏั อตุ รดติ ถ์
คำชแี้ จง ให้ผู้สอนทำเครื่องหมาย √ ลงในรายการตามความเป็นจรงิ

K P A รวม สรปุ หมาย

(Knowledge) (Psychomotor) (Attribute) คะแนน (ผ่าน/ เหตุ

ชอื่ -นามสกลุ คะแนนผ่านเกณฑ์ คะแนนผ่านเกณฑ์ คะแนนผา่ นเกณฑ์ ไมผ่ ่าน)

เลขท่ี คะแนนเตม็ รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป ระดบั 2 ขึน้ ไป ระดบั 2 ข้ึนไป

1 เด็กชายสริ ภพ วรรณการ คะแนน ผ่าน/ 4 3 2 1 ผ่าน/ 4 3 2 1 ผ่าน/ คะแนน
2 เด็กหญงิ เสาวลักษณ์ ทบั ทอง
3 เดก็ ชายปติ คิ ณุ มีมา 12 ไม่ ไมผ่ ่าน ไมผ่ ่าน 12
4 เด็กชายอคั รวินท์ มาดีคาน
5 เดก็ หญงิ มนี า ก้อนทบั ทมิ ผา่ น
6 เด็กชายฮามนิ คมิ
7 เดก็ ชายภัทรพงศ์ จนั ทร์น้อย 10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 10 ผ่าน
8 เด็กหญงิ ฑฆิ ัมพร เขตตบรรพต
9 เด็กชายพทิ ยตุ ม์ เรอื งศรี 10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 10 ผา่ น
10 เด็กชายธนพัต ปญั ญา
11 เด็กชายอกุ ฎษฏ์ ตันติศุภรักษ์ 9 ผ่าน √ ผา่ น √ ผ่าน 9 ผา่ น
12 เดก็ หญงิ ครองขวญั ทับทิมแสง
13 เด็กชายชยั วฒั น์ กุณจา๋ 10 ผา่ น √ ผา่ น √ ผา่ น 10 ผ่าน
14 เดก็ หญิงแพรวา ศรวี ีระ
15 เดก็ หญงิ จริ ภา หลา้ รอด 10 ผา่ น √ ผา่ น √ ผ่าน 10 ผา่ น
16 เด็กหญงิ อัญชิสา บตุ รจนั
17 เด็กหญงิ ชนื่ นภา สีสอด 11 ผา่ น √ ผ่าน √ ผ่าน 11 ผ่าน
18 เด็กชายญาณกร รัตนประพิศ
19 เดก็ ชายคามิน ผ่องพุฒ 9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผ่าน
20 เดก็ หญงิ ณิชชา สุทธริ ส
21 เดก็ หญงิ กชพร ยม้ิ แยม้ 11 ผ่าน √ ผา่ น √ ผา่ น 11 ผา่ น
22 เดก็ หญิงวรรษชล สหี ะนาม
9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผ่าน

10 ผา่ น √ ผ่าน √ ผา่ น 10 ผา่ น

9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 9 ผ่าน

10 ผ่าน √ ผา่ น √ ผา่ น 10 ผา่ น

10 ผ่าน √ ผา่ น √ ผ่าน 10 ผา่ น

9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผ่าน

10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 10 ผ่าน

11 ผา่ น √ ผ่าน √ ผา่ น 11 ผ่าน

9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผ่าน

9 ผ่าน √ ผา่ น √ ผา่ น 9 ผ่าน

9 ผา่ น √ ผา่ น √ ผ่าน 9 ผา่ น

9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 9 ผ่าน

9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผา่ น

11 ผา่ น √ ผา่ น √ ผ่าน 11 ผ่าน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

คะแนน 10 - 12 อยใู่ นระดบั 4 มีระดบั คุณภาพ ดีมาก คะแนนตามรบู ริคสเ์ ปน็ ร้อยละ 80 – 100 ของคะแนนเตม็
คะแนน 7 - 9 อย่ใู นระดับ 3 มรี ะดบั คุณภาพ ดี คะแนนตามรูบริคสเ์ ปน็ รอ้ ยละ 60 – 75 ของคะแนนเตม็
คะแนน 4 - 6 อยูใ่ นระดบั 2 มรี ะดับคุณภาพ พอใช้ คะแนนตามรูบรคิ ส์เปน็ รอ้ ยละ 50 – 59 ของคะแนนเต็ม
คะแนน 0 - 3 อยใู่ นระดับ 1 มีระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรงุ คะแนนตามรบู ริคส์เปน็ รอ้ ยละ 50 – 59 ของคะแนนเตม็

หมายเหตุ : คะแนนรวมตอ้ งผ่านระดับ 3 ข้นึ ไป ถือว่า ผา่ น

• นกั เรยี นที่ไม่ผ่าน K จำนวน........คน ครผู ู้สอนมอบหมายให้นักเรยี น.....................................แลว้
• นกั เรียนท่ีไมผ่ า่ น P จำนวน........คน ครผู ู้สอนมอบหมายใหน้ กั เรยี น.....................................แล้ว
• นักเรยี นที่ไม่ผา่ น A จำนวน........คน ครูผสู้ อนมอบหมายให้นกั เรยี น.....................................แล้ว

ลงชื่อ .............ภ...ัค...จ..ริ...า....ย...อ..ด...ร..ัก............... ผู้สอน

( นางสาวภัคจริ า ยอดรกั )

กจิ กรรมที่ 4.4
ขา้ งขึ้น ข้างแรม เกิดขนึ้ ไดอ้ ย่างไร

นกั เรียนจะไดเ้ รียนร้เู กย่ี วกับการเกิดข้างขึน้ ขา้ งแรม โดยการสร้างแบบจำลอง

จุดประสงค์ 1. สร้างแบบจำลองอธบิ ายการเกดิ ข้างขึ้น ขา้ งแรม
2. สรา้ งแบบจำลองอธบิ ายการเปล่ยี นแปลงเวลาการข้นึ และตกของดวงจนั ทร์

วัสดุและอปุ กรณ์ วสั ดทุ ่ใี ช้ตอ่ กลุ่ม

รายการ จำนวน/กลมุ่
1. ลูกปิงปองหรือวัตถุทรงกลมทึบแสง 1 ลูก
2. ไม้บรรทดั 1 อัน
3. เทปใส 1 มว้ น
4. กระดาษปรฟู๊ 1 แผ่น
5. หลอดไฟฟ้า 1 หลอด

วิธีการดำเนินกิจกรรม

1. วาดภาพดวงอาทติ ยแ์ ละภาพตำแหน่งท่ดี วงจันทรโ์ คจรรอบโลก 8 ตำแหน่งบนกระดาษปรู๊ฟดงั ภาพ

2. วาดรูปกระตา่ ยลงบนลูกปิงปองนำลกู ปิงปองติดทปี่ ลายไม้บรรทดั โดยให้ด้านกระตา่ ยหันเข้าหาผู้สงั เกต
ดงั ภาพ

3.คาดคะเนและบนั ทึกวา่ เมอ่ื ดวงจนั ทร์โคจรรอบโลกในตำแหนง่ ท่ี 1-8 ผูส้ ังเกตบนโลกมองเห็นดวงจันทร์มี
ส่วนสวา่ งและสว่ นมืดอย่างไร

4. จัดสภาพห้องใหม้ ืดโดยใหม้ ีแสงสว่างเขา้ มาในห้องเพยี งด้านเดียวเช่นเปิดหลอดไฟฟ้าหรือเปดิ หน้าตา่ ง
หรอื ประตูเพียงบานใดบานหน่งึ

5. ทำกิจกรรมเพื่อตรวจสอบการคาดคะเนโดยให้ทุกคนแทนผู้สงั เกตบนโลกยืนต่อแถวกันให้คนหัวแถวถอื
ไม้บรรทัดที่ติดลูกปิงปองแล้วยกขึ้นเหนือศีรษะดังภาพโดยเริ่มที่ตำแหน่งหมายเลข 1 ซึ่งตรงกับแหล่งกำเนิดแสง
สังเกตและบันทกึ รูปร่างของดวงจันทร์จากนั้นใหค้ นหัวแถวหมุนตัวต่อไปที่ตำแหน่งที่ 2 ในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา
คนท่เี หลอื เคลอ่ื นทตี่ ามใหต้ รงกบั คนหัวแถวสงั เกตและบนั ทึกรปู ร่างของดวงจันทร์ทส่ี ังเกตได้จนครบทงั้ 8 ตำแหนง่

6. เปลี่ยนตำแหน่งการสังเกตโดยให้ผู้สังเกตซึ่งแทนผู้สังเกตที่อยู่นอกโลกยืนห่างจากคนที่ถือลูกปิงปอง
จากนนั้ ในขณะท่ีผู้ถอื นำลูกปิงปองโคจรไปตามตำแหน่งที่ 1-8 เมื่อเปลี่ยนตำแหน่งไปแต่ละตำแหน่งให้ผู้สังเกตเดิน
วนรอบคนท่ถี อื ลกู ปงิ ปองและพ้นื ที่ท่รี ับแสงบนผิวลกู ปิงปองเปรียบเทียบกบั พ้นื ที่ทั้งหมดและสงั เกตทิศทางของแสง
จากดวงอาทติ ย์บันทึกผลสังเกตพ้นื ที่

กจิ กรรมที่ 4.4 คะแนนรวม

คำถามทา้ ยกิจกรรม

1. แบบจำลองนี้ใช้สงิ่ ใดแทนอะไรบ้าง
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ตำแหน่งที่ 1 2 3 4 5 ส่วนสว่างและส่วนมืดของดวงจันทร์ที่คนบนโลกมองเห็นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
และเรยี กช่วงเวลานีว้ า่ อะไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. ตำแหน่งที่ 5 6 7 8 1 ส่วนสว่างและส่วนมืดของดวงจันทร์ที่คนบนโลกมองเห็นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
และเรียกชว่ งเวลาน้วี ่าอะไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. เมื่อดวงจันทรโ์ คจรไปแตล่ ะตำแหน่ง พื้นทบี่ นดวงจันทร์ทไี่ ด้รบั แสงจากดวงอาทิตยเ์ ปน็ อยา่ งไร และ สมั พันธ์
ตำแหนง่ ของดวงอาทติ ยห์ รอื ไม่ อย่างไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

5. เพราะเหตใุ ด คนบนโลกจงึ มองเหน็ ดวงจนั ทรใ์ นแต่ละตำแหนง่ มสี ว่ นสวา่ งและส่วนมดื แตกต่างกนั
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

6. จากกิจกรรมตอนท่ี 1 สรุปไดว้ ่าอย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

กจิ กรรมท่ี 4.4 คะแนนรวม

คำถามทา้ ยกิจกรรม

1. แบบจำลองนใ้ี ช้สงิ่ ใดแทนอะไรบ้าง
แนวคำตอบ ลูกปงิ ปองแทนดวงจันทร์ แหล่งกำเนิดแสงแทนดวงอาทิตย์

2. ตำแหน่งที่ 1 2 3 4 5 ส่วนสว่างและส่วนมืดของดวงจันทร์ที่คนบนโลกมองเห็นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
และเรียกช่วงเวลาน้วี า่ อะไร

แนวคำตอบ คนบนโลกมองเหน็ ดวงจนั ทรม์ สี ่วนสวา่ งเพิม่ ขึ้นเรื่อย ๆ เรยี กชว่ งเวลานว้ี า่ ขา้ งข้ึน

3. ตำแหน่งที่ 5 6 7 8 1 ส่วนสว่างและส่วนมืดของดวงจันทร์ที่คนบนโลกมองเห็นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
และเรยี กช่วงเวลาน้วี ่าอะไร

แนวคำตอบ คนบนโลกมองเหน็ ดวงจนั ทรม์ ีส่วนสวา่ งน้อยลงเรื่อย ๆ เรยี กชว่ งเวลาน้วี ่า ข้างแรม

4. เมือ่ ดวงจันทร์โคจรไปแต่ละตำแหน่ง พ้ืนท่บี นดวงจนั ทร์ทีไ่ ด้รับแสงจากดวงอาทิตยเ์ ปน็ อยา่ งไร และ สัมพนั ธ์
ตำแหนง่ ของดวงอาทิตยห์ รอื ไม่ อย่างไร

แนวคำตอบ ในแต่ละตำแหน่งที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลก ดวงจันทร์จะได้รับแสงจากดวงอาทิตย์เพียงครึง่
ดวง เสมอ โดยพ้นื ท่ที ไี่ ด้รับแสงจะเปน็ ด้านท่หี ันเขา้ หาดวงอาทติ ย์เสมอ

5. เพราะเหตุใด คนบนโลกจงึ มองเห็นดวงจันทร์ในแตล่ ะตำแหน่งมีสว่ นสว่างและส่วนมืดแตกตา่ งกนั
แนวคำตอบ เพราะดวงจันทร์โคจรรอบโลก โดยดวงจันทร์จะได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ครึ่งดวง

เสมอ แต่คนบน โลกจะมองเห็นส่วนที่ได้รับแสงหรือส่วนสว่างของดวงจันทร์เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละ
ตำแหน่ง

5. จากกจิ กรรมตอนที่ 1 สรุปได้วา่ อย่างไร

6. แนวคำตอบ ข้างข้ึน ข้างแรม เกดิ จากการทดี่ วงจนั ทร์โคจรรอบโลก โดยท่ดี วงจันทรไ์ ด้รับแสงจาก

กดิจวงกอารทริตมย์ ทครี่ ่งึ ดว4งต.ล4อดเวลา ซง่ึ คนบนโลกสังเกตส่วนสวา่ งของดวงจนั ทร์แตกตา่ งกันในแคตะ่ละแวนั นทรำใวหม้

เห็นรูปร่างของ ดวงจันทรเ์ ป็นเส้ยี ว คร่ึงดวง คอ่ นดวง และเต็มดวง

ดวงจันทร์เจ้าขา

ใหน้ กั เรียนเลอื กสร้างชนิ้ งานของตวั เองข้นึ มา 1 ชิน้ จากการเรียนรู้เรอื่ ง การเกิดขา้ งข้ึน ข้างแรม

















แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 28

กล่มุ สาระวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรียนท่ี 1/2564 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 ระบบสุริยะของเรา
เร่ือง การเกดิ นำ้ ขึ้น น้ำลง เวลา 15 คาบ
ผสู้ อน นางสาวภัคจริ า ยอดรัก
วันท่ี 1 เดอื น ตุลาคม พ.ศ. 2564 ม.3/1 เวลา 2 คาบ
วันที่ 2 เดือน ตลุ าคม พ.ศ. 2564 ม.3/2
โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลยั ราชภัฏอตุ รดติ ถ์

1. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองค์ประกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกดิ และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาว
ฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ ที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
อวกาศ

2. ตวั ช้วี ัด
ว 3.1 ม.3/3 สร้างแบบจำลองที่อธบิ ายการเกดิ ข้างขึน้ ข้างแรม การเปล่ยี นแปลงเวลาการขน้ึ และตกของ

ดวงจนั ทร์และการเกิดนำ้ ข้ึนน้ำลง

3. สาระสำคัญ
ปรากฏการณน์ ้ำข้ึนน้ำลง (tides) เป็นปรากฏการณ์ที่เก่ียวขอ้ งกับดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก ซ่ึงเป็น

ผลมาจากความต่างของแรงโน้มถ่วงทีด่ วงอาทิตย์และดวงจันทร์กระทำต่อโลก แต่เนื่องจากระยะห่างระหว่างดวง
อาทติ ย์กับโลกมากกว่าระยะหา่ งระหว่างโลกกับดวงจนั ทร์มาก จงึ ทำใหด้ วงจันทร์มอี ิทธิพลต่อการเกิดน้ำขึ้นน้ำลง
มากกว่าดวงอาทิตย์

4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
1. อธบิ ายการเกดิ นำ้ ข้นึ น้ำลงได้ (K)
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
2. วาดแผนภาพระดับนำ้ บนผวิ โลกกับดวงอาทติ ย์ ดวงจันทร์ และโลกได้ (P)

ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
3. นักเรยี นมีพฤติกรรมใฝเ่ รยี นรู้

5. สาระการเรียนรู้
การเกิดนำ้ ขึ้นนำ้ ลง

6. ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. ขั้นตอนการจัดการเรยี นรู้
จัดประสบการณ์เรียนรโู้ ดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความร้แู บบ 5Es

ข้นั ท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (Engagement)
1.1 ครกู ล่าวทักทายนักเรยี นด้วยใบหน้ายม้ิ แยม้ แจ่มใส
1.2 ครูทบทวนคาบทแี่ ลว้ โดยใชค้ ำถามดงั นี้
- เรียนอะไรกนั มาบา้ ง (การเกดิ ขา้ งขึ้นขา้ งแรม)
1.3 ครูกระตนุ้ ความคิดนกั เรยี นว่า ()

“ถ้าโลกของเราไมม่ ดี วงจนั ทร์ จะมีนำ้ ขึน้ นำ้ ลงหรอื ไม่ อย่างไร” โดยให้นักเรียนแต่ละคนรว่ มกันอภปิ รายแสดงความคิดเห็น
อย่างอสิ ระโดยครเู ขียนคำตอบของนกั เรยี นไว้ แล้วครจู ะมาตรวจสอบคำตอบหลงั เรียนเสร็จ (B2 2.2)

(แนวตอบ : คำตอบขน้ึ อย่กู บั ดุลยพินิจของครผู ูส้ อน)
1.4 ครูสนทนากับนกั เรียนวา่ “เวลาทีน่ ักเรยี นไปเท่ียวทะเล เคยสงั เกตไหมวา่ ระดับน้ำทะเลมกี าร
เปลย่ี นแปลงเพ่ิมขึ้นหรือลดลงบ้างหรือไม่ ถ้าเคยสังเกตเห็นแลว้ มกี ารเปลี่ยนแปลงในชว่ งเวลาใด
อย่างไร”
(แนวตอบ : คำตอบขึ้นอยกู่ บั ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)
ครเู ชอ่ื มโยงความรเู้ รื่องเวลาขึ้นและตกของดวงจนั ทร์และข้างข้ึน ข้างแรมเขา้ สู่กิจกรรมท่ี 4.5 น้ำขน้ึ น้ำลง
เปน็ อยา่ งไร โดยใช้คำถามเพ่ือใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภิปรายวา่ การเคลอ่ื นที่ของดวงจันทรท์ ำใหเ้ กดิ ปรากฏการณ์อะไรบน โลก
อกี บา้ ง
ข้นั ที่ 2 สำรวจและค้นหา (Exploration)
2.1 ใหน้ กั เรียนอา่ นชือ่ กจิ กรรม จดุ ประสงค์ และวิธีดำเนนิ กิจกรรม และครตู รวจสอบความเขา้ ใจ
จากการอ่านโดยใช้ คำถามดงั ต่อไปนี้ (B1 2.1)

• กิจกรรมนเ้ี ก่ยี วกับเรอ่ื งอะไร (นำ้ ขึ้น นำ้ ลง)
• กจิ กรรมนมี้ จี ุดประสงค์อะไร (สรา้ งแบบจำลองท่อี ธิบายการเกดิ นำ้ ข้ึน นำ้ ลง)
• วิธีดำเนนิ กิจกรรมมีข้นั ตอนโดยสรุปอยา่ งไร (วาดภาพระดับน้ำบนผวิ ลูกโลก วาดแผนภาพ

ระดับน้ำบนผิวโลก จำลองบนกระดาษปรู๊ฟ วาดภาพระดับน้ำในวันแรม 15 ค่ำโดยใช้ข้อมูลจากตารางข้อมูล
ระดับน้ำทะเลต่ำสุดและ สูงสุดในแต่ละวัน จากนั้นใช้ตุ๊กตาแทนผูส้ ังเกตบนโลกแล้วหมนุ ลูกโลก 1 รอบในทิศทาง
ทวนเข็มนาฬิกา สังเกต การเปลี่ยนแปลงระดับน้ำใน 1 วัน แล้วสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเก่ียวกบั สาเหตุการเกิดนำ้ ข้นึ
น้ำลง) ครคู วรบันทึกขั้นตอนการทำกิจกรรมโดยเขียนสรุปไวบ้ นกระดาน

• นักเรียนตอ้ งสงั เกตหรอื รวบรวมขอ้ มูลอะไรบ้าง (ระบุตำแหน่งระดบั ความสงู ของน้ำในแต่
ละชว่ งเวลาในวนั แรม 15 คำ่ จากน้ันใชแ้ บบจำลองสังเกตการเปลย่ี นแปลงระดับนำ้ ใน 1 วัน)

2.2 ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรม โดยครสู งั เกตการทำกิจกรรมของนักเรียนและให้คำแนะนำหรือตอบ
ข้อสงสัยใน ประเด็นตา่ ง ๆ เชน่ การวาดแผนภาพระดับนำ้ บนผิวโลกจำลองบนกระดาษปรู๊ฟ
ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation)

ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลการทำกิจกรรม ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรม และร่วมกันสรุปผลของกิจกรรม
โดยใช้ คำถามท้ายกิจกรรมเป็นแนวทาง เพื่อให้ได้ข้อสรุปจากกิจกรรมว่า ในแต่ละวันระดับน้ำมีการเปลี่ยนแปลง
โดยระดับ นำ้ จะสูงขึ้นวันละ 2 ครั้ง เรียกว่า ช่วงน้ำข้ึน และระดบั น้ำลดลงวนั ละ 2 ครั้ง เรียกว่า ช่วงน้ำลง โดยน้ำ
ขึ้น น้ำลง เกิด จากผลของแรงไทดัลของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ ซึ่งเปน็ แรงท่ีเกิดจากแรงโน้มถว่ งหรอื แรงดึงดูด
ระหวา่ งโลกกบั ดวงจนั ทร์ เป็นผลทำให้ระดบั น้ำบนผวิ โลกเกิดการเปลย่ี นแปลง
ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration)

ใหน้ กั เรยี นเรยี นร้เู พมิ่ เตมิ โดยอ่านเนือ้ หาในหนงั สือเรียนหน้า 219 - 220 และตอบคำถามระหวา่ งเรยี น
เก่ียวกบั การ เกดิ น้ำขึ้น น้ำลง โดยสงั เกตภาพ 4.30 - 4.32 ประกอบ จากนน้ั ร่วมกนั อภปิ รายตามแนวคำถามดงั นี้
(C3 3.3)

• แรงไทดัลเกดิ จากแรงอะไร (แรงโนม้ ถ่วงหรือแรงดึงดูดระหว่างดาว)
• แรงไทดลั เก่ียวขอ้ งกับปรากฏการณ์น้ำข้ึน นำ้ ลงหรอื ไม่ อย่างไร (เกีย่ วขอ้ ง โดยขณะที่ดวงจนั ทร์โคจรรอบ
โลก พรอ้ มกบั ท่ีโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ จะมแี รงโนม้ ถว่ งของดาว 3 ดวงที่กระทำตอ่ กัน ส่งผลใหเ้ กิดการ
เปล่ียนแปลง ระดับน้ำบนผวิ โลก)
เพอื่ ใหไ้ ดข้ อ้ สรปุ วา่ ปรากฏการณน์ ำ้ ขึน้ นำ้ ลงเกิดจากการทโ่ี ลก ดวงอาทิตย์ และดวงจนั ทร์มแี รงโนม้ ถว่ ง
กระทำต่อกนั แรงโนม้ ถว่ งทีด่ วงจันทร์และดวงอาทติ ยก์ ระทำตอ่ โลกทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำบนโลกใน 1
วนั
ขน้ั ท่ี 5 ประเมิน
5.1 ครูใช้แบบประเมนิ กจิ กรรมที่ 4.5 เร่อื งนำ้ ข้ึน นำ้ ลง
5.2 ครูใชแ้ บบประเมินผลงานเพอ่ื ประเมินทำวาดแผนภาพระดับน้ำบนผิวโลกกับดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และ
โลกจาการทำกิจกรรม
5.3 ครูใชแ้ บบประเมนิ มีความใฝ่เรยี นรู้

8. สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้
ส่อื การเรยี นรู้

1. ใบกิจกรรมท่ี 4.5 เร่ืองนำ้ ขน้ึ น้ำลง
2. หนังสือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 ระบบสรุ ยิ ะ
แหล่งการเรยี นรู้
1. หอ้ งสมดุ
2. หอ้ งเรียน
3. ห้องวิทยาศาสตร์

9. การวัดและการประเมนิ ผลการเรยี นรู้

1. กรอบการวัดและประเมินผล แต่ละจดุ ประสงค์การเรยี นร้นู ำเสนอประเด็นทท่ี ำการวัด และประเมนิ ผล

วธิ กี ารวัด และเครอื่ งมือวัด ดังตาราง

ตาราง : แสดงกรอบการวัดและประเมนิ ผล

จุดประสงค์การเรียนรู้ สมรรถนะ วิธกี ารวดั ผล เครือ่ งมือวัดผล เกณฑก์ ารประเมินผล
PISA

ดา้ นความรู้ (K)

1. อธบิ ายการเกิดน้ำขนึ้ น้ำ A1 1.1 -ทำใบกจิ กรรมท่ี 4.5 -ใบกิจกรรมท่ี - ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 70

ลงได้ (K) B2 2.2 เร่ืองน้ำขน้ึ น้ำลง 4.5 เรือ่ งน้ำข้นึ ขึน้ ไป : 7 คะแนน

-ตอบคำถาม น้ำลง จาก 10 คะแนน

-คำถาม

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)

2. วาดแผนภาพระดบั นำ้ บน C1 3.1 สังเกตพฤติกรรมการ แบบประเมินการ - ไดค้ ะแนนรบู รคิ ส์

ผวิ โลกกับดวงอาทติ ย์ ดวง C2 3.1 ทำกจิ กรรมการ ทดลอง ตั้งแต่ 2 ขึน้ ไป

จนั ทร์ และโลกได้ ทดลอง

ดา้ นคุณลกั ษณะ (A) สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกต - ได้คะแนนรูบรคิ ส์
3. นกั เรียนมีพฤตกิ รรมใฝ่ พฤติกรรม ตัง้ แต่ 2 ขน้ึ ไป
เรยี นรู้

2. เกณฑ์การให้คะแนนเกณฑ์รบู รคิ ส์ (Rubric Score) ให้คะแนนเปน็ รายข้อของเกณฑ์รูบรคิ ส์ ท่ีสร้างข้นึ
สำหรบั การประเมิน (Analytical Rubric Score )

ตาราง : แสดงเกณฑก์ ารให้คะแนนเกณฑ์รบู ริคส์

ประเดน็ การประเมนิ 4 (ดีมาก) ระดับคณุ ภาพ 1 (ปรับปรงุ )
3 (ด)ี 2 (พอใช)้
- มีคุณสมบัติ 1
1. ดา้ นความรู้ K ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป ใน 4 ของระดับ
คุณภาพ
- อธิบายการเกดิ นำ้ ขน้ึ นำ้ ลงได้
- มคี ุณสมบตั ิ 1
2. ด้านทกั ษะ P - มคี ุณสมบตั ิ 4 - มคี ุณสมบัติ 3 - มคี ุณสมบัติ 2 ใน ใน 4 ของระดบั
ใน 4 ของระดับ 4 ของระดบั คณุ ภาพ
- วาดแผนภาพระดับน้ำบนผวิ ใน 4 ของระดบั คณุ ภาพ คุณภาพ

โลกกบั ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ คณุ ภาพ

และโลกได้ (P)

คณุ สมบัติ

1. มคี วามรู้ความเข้าใจใน

เรือ่ งทน่ี ำเสนอ

2. มนี ้ำเสยี งชัดเจน

3. ใชภ้ าษาเขา้ ใจงา่ ย

4. มกี ารตอบคำถามท่ดี ี

3. ดา้ นคุณลกั ษณะ A - มคี ณุ สมบตั ิ 4 - มีคุณสมบัติ 3 - มคี ณุ สมบัติ 2 ใน
ใน 4 ของระดับ 4 ของระดบั
- นักเรยี นมพี ฤตกิ รรมใฝเ่ รยี นรู้ ใน 4 ของระดบั คณุ ภาพ คณุ ภาพ

คณุ สมบตั ิ คณุ ภาพ

1. ตอบคำถามในหอ้ งเป็น

อย่างดี

2. ใหค้ วามร่วมมอื ในการ

ทำงาน

3. แลกเปล่ยี นความรู้กบั

เพอ่ื น

4. ยอมรับผลการกระทำ

ของตนเอง

3. เกณฑป์ ระเมินระดับคณุ ภาพผลการเรยี นรู้ กำหนดระดบั คุณภาพผลการเรยี นรรู้ ่วมกนั ทกุ ดา้ นเป็น 4 ระดบั คือ ดี

มาก ดี พอใช้ และปรบั ปรุง แต่ละระดับกำหนดเกณฑป์ ระเมินตามคะแนนเกณฑ์รบู รคิ ส์ ดังน้ี

ระดบั คุณภาพดมี าก มีคะแนนตามเกณฑ์รบู รคิ ส์รอ้ ยละ 80 – 100 ของคะแนนเต็ม

ระดบั คุณภาพดี มีคะแนนตามเกณฑร์ ูบริคสร์ อ้ ยละ 70 – 79 ของคะแนนเตม็

ระดับคุณภาพพอใช้ มีคะแนนตามเกณฑ์รบู ริคสร์ อ้ ยละ 60 – 69 ของคะแนนเต็ม

ระดับคุณภาพปรับปรงุ มีคะแนนตามเกณฑ์รูบรคิ ส์นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 60 ของคะแนนเต็ม

4. เกณฑก์ ารตดั สนิ ระดับคุณภาพนักเรียนจากคะแนนรวมทั้งหมด

ระดับบคุ คล นกั เรียนมีผลงานอย่ใู นระดบั ดี ถือว่า ผา่ น (ประกันผลการเรยี นรู้ของนักเรียน)

ระดับกลุ่ม นกั เรยี นมีผลงานอยใู่ นระดับ ดี ไมต่ ่ำกว่าร้อยละ 70 ของจำนวนนกั เรียนทั้งหมด

ถือวา่ การจัดประสบการณ์เรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ประสบผลสำเรจ็

5. เกณฑก์ ารตดั สินคะแนนเก็บ จำนวนคะแนนเกบ็ 10 คะแนน จากคะแนนรวมท้งั หมด 10 คะแนน

กำหนดวิธีการคิดคะแนนเกบ็ ดงั น้ี

จำนวนคะแนนเก็บ = (จำนวนคะแนนทต่ี อ้ งการ × จำนวนคะแนนรวมทุกกจิ กรรมของนกั เรียนแต่ละคน)
คะแนนรวมทกุ กจิ กรรมท้งั หมดของทุกกจิ กรรม



ตารางการประเมนิ ผลการจดั การเรียนรู้
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 28 เร่ือง การเกิดนำ้ ข้นึ นำ้ ลง
นักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลับราชภัฏอตุ รดติ ถ์
คำช้ีแจง ให้ผสู้ อนทำเคร่อื งหมาย √ ลงในรายการตามความเป็นจรงิ

KP A รวม สรปุ หมาย
(Attribute) คะแนน (ผา่ น/ เหตุ
(Knowledge) (Psychomotor) คะแนนผ่านเกณฑ์ ไมผ่ า่ น)
ระดับ 2 ขน้ึ ไป คะแนน
ช่ือ-นามสกลุ คะแนนผ่านเกณฑ์ คะแนนผ่านเกณฑ์ 4 3 2 1 ผ่าน 12 ผา่ น
ผ่าน
เลขท่ี คะแนนเต็ม รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป ระดบั 2 ข้นึ ไป /ไม่ 10 ผา่ น
ผา่ น 10 ผ่าน
1 เดก็ ชายพสษิ ฐ์ แพรนิมติ ร คะแนน ผ่าน/ 4 3 2 1 ผ่าน/ √ ผา่ น 9 ผา่ น
2 เดก็ หญงิ วศนิ ีธรณ์ หะรีเมา √ ผ่าน 10 ผา่ น
3 เดก็ ชายศุภกร มลู คำ 12 ไม่ ไม่ √ ผ่าน 9 ผา่ น
4 เดก็ หญิงธมี าพร ทองเจรญิ √ ผา่ น 10 ผา่ น
5 เด็กชายนฤพนธุ์ สุทธะตั้ง ผา่ น ผ่าน √ ผ่าน 10 ผ่าน
6 เด็กชายพนั ธร์ ะพี พีระพันธ์ √ ผ่าน 10 ผ่าน
7 เด็กชายนครศกั ดิ์ ศรีทพิ ย์ 10 ผ่าน √ ผา่ น √ ผ่าน 10 ผา่ น
8 เด็กหญิงธัญญากร ทองเพช็ ร์ √ ผา่ น 11 ผ่าน
9 เดก็ ชายจิณณวตั ร ศรีขำมี 10 ผา่ น √ ผา่ น √ ผ่าน 9 ผ่าน
10 เดก็ ชายภัทรศวฒั โทนโนนแดง √ ผ่าน 10 ผ่าน
11 เดก็ ชายรวิภาส ฐติ าคม 9 ผา่ น √ ผ่าน √ ผ่าน 10 ผ่าน
12 เดก็ ชายกฤษฎา ปานแดง √ ผา่ น 11 ผา่ น
13 เดก็ ชายรณกร บูรณะถาวร 10 ผา่ น √ ผา่ น √ ผา่ น 9
14 เด็กหญิงบญุ ฑรกิ า ทา่ ดี √ ผ่าน 9 ผา่ น
15 เด็กหญิงอนัญญา แสงพานชิ 9 ผ่าน √ ผา่ น √ ผา่ น ผา่ น
16 เดก็ ชายณฐั ธพงษ์ ธนเดชสริ ิ √ ผา่ น 10 ผา่ น
10 ผ่าน √ ผ่าน 11 ผ่าน
พงศ์ √ ผ่าน 11
17 เดก็ หญิงลกั ษิกา โชคดี 10 ผา่ น √ ผา่ น √ ผา่ น 9 ผา่ น
18 เด็กชายฤทธภ์ิ ูบดี หะรีเมา √ ผ่าน
19 เด็กชายอัครชัย ทบั ผดุง 10 ผ่าน √ ผ่าน 10
20 เด็กหญงิ ปุรมิ ปรชั ญ์ เจริญเชาว์ √ ผา่ น
10 ผา่ น √ ผา่ น
วัฒน √ ผ่าน
21 เด็กหญงิ นภสร บญุ ประเสริฐ 11 ผา่ น √ ผา่ น

9 ผ่าน √ ผา่ น

10 ผา่ น √ ผ่าน

10 ผ่าน √ ผา่ น

11 ผา่ น √ ผา่ น

9 ผ่าน √ ผา่ น

9 ผ่าน √ ผ่าน

10 ผ่าน √ ผ่าน
11 ผ่าน √ ผา่ น
11 ผา่ น √ ผ่าน
9 ผา่ น √ ผา่ น

10 ผา่ น √ ผา่ น

22 นายธนภทั ธ์ หลอ่ หลอม 10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 10 ผา่ น
23 เด็กชายภูผา นาคหลวง 10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 10 ผา่ น

เกณฑ์การให้คะแนน

คะแนน 10 - 12 อย่ใู นระดบั 4 มรี ะดบั คุณภาพ ดีมาก คะแนนตามรบู รคิ สเ์ ป็นรอ้ ยละ 80 – 100 ของคะแนนเตม็
คะแนน 7 - 9 อยู่ในระดับ 3 มีระดบั คุณภาพ ดี คะแนนตามรูบริคสเ์ ปน็ รอ้ ยละ 60 – 75 ของคะแนนเต็ม
คะแนน 4 - 6 อย่ใู นระดบั 2 มีระดับคุณภาพ พอใช้ คะแนนตามรบู ริคสเ์ ปน็ รอ้ ยละ 50 – 59 ของคะแนนเตม็
คะแนน 0 - 3 อยใู่ นระดับ 1 มีระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรงุ คะแนนตามรูบรคิ สเ์ ป็นร้อยละ 50 – 59 ของคะแนนเต็ม

หมายเหตุ : คะแนนรวมต้องผา่ นระดบั 3 ขนึ้ ไป ถอื ว่า ผ่าน

• นักเรียนท่ีไมผ่ า่ น K จำนวน........คน ครผู ู้สอนมอบหมายใหน้ ักเรยี น.....................................แลว้
• นกั เรียนท่ีไมผ่ า่ น P จำนวน........คน ครผู ูส้ อนมอบหมายใหน้ ักเรยี น.....................................แล้ว
• นักเรยี นทไี่ มผ่ า่ น A จำนวน........คน ครูผู้สอนมอบหมายให้นกั เรยี น.....................................แล้ว

ลงชอ่ื ..............ภ..ั.ค..จ...ริ ..า.....ย..อ...ด...ร..ัก.............. ผู้สอน

( นางสาวภัคจริ า ยอดรกั )

ตารางการประเมินผลการจดั การเรยี นรู้
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 28 เรอ่ื ง การเกิดนำ้ ข้ึน นำ้ ลง
นกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3/2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลบั ราชภฏั อุตรดติ ถ์
คำชแี้ จง ให้ผสู้ อนทำเครอื่ งหมาย √ ลงในรายการตามความเป็นจรงิ

K P A รวม สรปุ หมาย

(Knowledge) (Psychomotor) (Attribute) คะแนน (ผา่ น/ เหตุ

ชือ่ -นามสกลุ คะแนนผ่านเกณฑ์ คะแนนผา่ นเกณฑ์ คะแนนผ่านเกณฑ์ ไม่ผ่าน)

เลขท่ี คะแนนเตม็ รอ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป ระดับ 2 ข้ึนไป ระดบั 2 ขน้ึ ไป

1 เดก็ ชายสริ ภพ วรรณการ คะแนน ผา่ น/ 4 3 2 1 ผา่ น/ 4 3 2 1 ผ่าน/ คะแนน
2 เด็กหญงิ เสาวลักษณ์ ทับทอง
3 เดก็ ชายปติ คิ ณุ มีมา 12 ไม่ ไมผ่ า่ น ไมผ่ ่าน 12
4 เดก็ ชายอัครวินท์ มาดีคาน
5 เด็กหญิงมนี า ก้อนทับทมิ ผา่ น
6 เด็กชายฮามิน คมิ
7 เด็กชายภทั รพงศ์ จนั ทร์นอ้ ย 11 ผ่าน √ ผา่ น √ ผา่ น 11 ผ่าน
8 เด็กหญิงฑฆิ มั พร เขตตบรรพต
9 เด็กชายพิทยตุ ม์ เรอื งศรี 11 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 11 ผ่าน
10 เด็กชายธนพัต ปญั ญา
11 เด็กชายอุกฎษฏ์ ตันติศภุ รกั ษ์ 9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 9 ผ่าน
12 เด็กหญงิ ครองขวญั ทับทมิ แสง
13 เดก็ ชายชยั วฒั น์ กุณจา๋ 10 ผา่ น √ ผ่าน √ ผ่าน 10 ผ่าน
14 เด็กหญิงแพรวา ศรวี รี ะ
15 เดก็ หญงิ จิรภา หลา้ รอด 10 ผา่ น √ ผ่าน √ ผ่าน 10 ผ่าน
16 เดก็ หญงิ อัญชสิ า บุตรจัน
17 เด็กหญงิ ชน่ื นภา สีสอด 9 ผ่าน √ ผา่ น √ ผา่ น 9 ผา่ น
18 เด็กชายญาณกร รัตนประพศิ
19 เดก็ ชายคามนิ ผอ่ งพุฒ 9 ผ่าน √ ผา่ น √ ผา่ น 9 ผา่ น
20 เด็กหญงิ ณชิ ชา สุทธริ ส
21 เดก็ หญิงกชพร ยิ้มแยม้ 11 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 11 ผา่ น
22 เดก็ หญิงวรรษชล สีหะนาม
9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 9 ผา่ น

10 ผา่ น √ ผ่าน √ ผ่าน 10 ผา่ น

9 ผา่ น √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผา่ น

10 ผ่าน √ ผา่ น √ ผ่าน 10 ผา่ น

10 ผา่ น √ ผา่ น √ ผ่าน 10 ผ่าน

10 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 10 ผา่ น

11 ผ่าน √ ผ่าน √ ผา่ น 11 ผา่ น

11 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 11 ผ่าน

9 ผ่าน √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผ่าน

9 ผ่าน √ ผา่ น √ ผา่ น 9 ผ่าน

9 ผา่ น √ ผ่าน √ ผ่าน 9 ผ่าน

9 ผา่ น √ ผา่ น √ ผา่ น 9 ผา่ น

10 ผ่าน √ ผา่ น √ ผ่าน 10 ผา่ น

10 ผา่ น √ ผ่าน √ ผ่าน 10 ผา่ น

เกณฑก์ ารให้คะแนน

คะแนน 10 - 12 อยใู่ นระดบั 4 มรี ะดบั คุณภาพ ดีมาก คะแนนตามรบู ริคสเ์ ป็นรอ้ ยละ 80 – 100 ของคะแนนเตม็
คะแนน 7 - 9 อยู่ในระดับ 3 มีระดับคุณภาพ ดี คะแนนตามรูบรคิ ส์เป็นรอ้ ยละ 60 – 75 ของคะแนนเต็ม
คะแนน 4 - 6 อยใู่ นระดบั 2 มรี ะดับคุณภาพ พอใช้ คะแนนตามรูบรคิ สเ์ ปน็ รอ้ ยละ 50 – 59 ของคะแนนเตม็
คะแนน 0 - 3 อยู่ในระดบั 1 มีระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ คะแนนตามรบู ริคส์เป็นรอ้ ยละ 50 – 59 ของคะแนนเตม็

หมายเหตุ : คะแนนรวมต้องผ่านระดับ 3 ขน้ึ ไป ถอื ว่า ผ่าน

• นกั เรยี นท่ีไม่ผ่าน K จำนวน........คน ครูผู้สอนมอบหมายให้นกั เรียน.....................................แล้ว
• นกั เรียนท่ีไมผ่ า่ น P จำนวน........คน ครูผู้สอนมอบหมายใหน้ กั เรียน.....................................แลว้
• นักเรยี นทีไ่ ม่ผ่าน A จำนวน........คน ครผู ู้สอนมอบหมายใหน้ กั เรยี น.....................................แล้ว

ลงช่ือ ............ภ...ัค...จ..ริ...า....ย...อ...ด..ร...ัก............... ผู้สอน

( นางสาวภัคจิรา ยอดรัก )

กิจกรรมท่ี 4.5 คะแนนรวม

นำ้ ข้นึ น้ำลงเป็นอย่างไร

จดุ ประสงค์ สร้างแบบจำลองอธบิ ายการเกิดนำ้ ขึน้ นำ้ ลง

วสั ดุและอปุ กรณ์ ลกู โลกขนาดเสน้ ผ่านศนู ยก์ ลาง 15 cm

วธิ กี ารดำเนินกิจกรรม

1. วาดภาพลกู โลกพร้อมระดบั นำ้ บนกระดาษปรู้ฟโดยวาดให้ลูกโลกมขี นาดเส้นผา่ นศูนย์กลางเทา่ กับลูกโลกจำลอง
เสน้ ประแทนความสงู ของระดบั น้ำบนโลกทุก ๆ 1 เมตรดังภาพ

ภาพระดบั น้ำบนผวิ โลกท่ีวาดบนกระดาษปรฟู๊
2. ระบุตำแหน่งระดบั ความสูงของนำ้ ในแตล่ ะช่วงเวลาในวันแรม 15 คำ่ ตามข้อมูลในตารางหน้า 218 แลว้ ลากเส้น
เช่อื มระดับนำ้ ในแตล่ ะตำแหนง่

3. นำลกู โลกไปวางบนกระดาษปรฟู้ แล้วปั้นตกุ๊ ตาแทนคนบนโลกนำไปติดบนลูกโลกตรงตำแหน่งประเทศไทยหมนุ
ลูกโลกช้า ๆ สงั เกตโดยมองจากข้ัวโลกเหนือและอภิปรายเก่ยี วกบั การเปล่ียนแปลงระดบั นำ้ ใน 1 วนั บันทึกผล

4. สืบคน้ ข้อมูลเกีย่ วกบั สาเหตขุ องการเกิดนำ้ ขนึ้ นำ้ ลง

กิจกรรมท่ี 4.5

คำถามทา้ ยกจิ กรรม

1. ใน 1 วนั ระดับนำ้ มกี ารเปลย่ี นแปลงหรอื ไม่ อยา่ งไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. จากการสบื ค้นขอ้ มลู นำ้ ขึ้น นำ้ ลง เกดิ ขึ้นได้อย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. จากกจิ กรรม สรุปไดว้ ่าอย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

กจิ กรรมที่ 4.5
คำถามท้ายกจิ กรรม

1. ใน 1 วนั ระดับน้ำมกี ารเปลีย่ นแปลงหรอื ไม่ อยา่ งไร
แนวคำตอบ เปลี่ยนแปลง โดยระดับน้ำจะขนึ้ และลงวันละ 2 คร้งั

2. จากการสืบคน้ ข้อมูล น้ำข้ึน นำ้ ลง เกิดขน้ึ ได้อยา่ งไร
แนวคำตอบ นำ้ ขึ้น นำ้ ลง เกดิ จากแรงดึงดดู ระหว่างมวลของดวงจนั ทรแ์ ละโลก

3. จากกิจกรรม สรปุ ได้ว่าอยา่ งไร
แนวคำตอบ น้ำขน้ึ นำ้ ลงเป็นปรากฏการณท์ ี่คนบนโลกสงั เกตเห็นการเปลยี่ นแปลงของระดบั นำ้ ใน 1
วันเกิดจากผลของแรงโนม้ ถ่วงระหว่างโลกกบั ดวงอาทติ ยห์ รือดวงจันทร์ที่ดงึ ดูดน้ำบริเวณผิวโลก

?ค้นคว้าหาคำตอบ คะแนนรวม

การเกิดน้ำขนึ้ นำ้ ลง

คำชแี้ จง : ให้นกั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนใี้ หถ้ กู ต้อง

1. น้ำข้นึ นำ้ ลงเกิดขนึ้ ได้อยา่ งไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปรากฏการณน์ ำ้ เกดิ เกดิ ขึ้นไดอ้ ยา่ งไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. ปรากฏการณน์ ำ้ ตายเกดิ ขึ้นไดอ้ ยา่ งไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

?ค้นคว้าหาคำตอบ คะแนนรวม

การเกิดนำ้ ขึ้นนำ้ ลง

คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามต่อไปนใ้ี ห้ถูกต้อง

1. นำ้ ข้ึนน้ำลงเกิดขน้ึ ได้อยา่ งไร
ปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงเกิดขึ้นจากผลของความแตกต่างของแรงโน้มถ่วงของโลกที่ดวงอาทิตย์

และดวงจันทร์กระทำต่อโลก โดยแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์ที่กระทำต่อโลกส่งผลให้ด้านที่หันเข้าหา
ดวงจันทร์ถูกแรงโน้มถ่วงกระทำมากกว่าตำแหน่งอื่น ๆ ทำให้บริเวณผิวโลกที่อยู่ใกล้ดวงจันทร์ เกิด
ปรากฏการณ์น้ำข้ึน ในขณะเดียวกันผิวโลกด้านที่อยู่ตรงข้ามดวงจันทร์ได้รับอิทธิพลจากแรงโน้มถ่วง
ระหว่างโลกกับดวงจันทร์น้อยกว่าบริเวณอื่น แต่ยังมีแรงหนศี ูนย์กลางท่ีเกิดจากการหมุนรอบตัวเองของ
โลก และผลจากสภาพเฉื่อยของน้ำในบรเิ วณนัน้ ทำให้ผิวน้ำบริเวณน้ันโป่งออกในแนวเดียวกับดวงจันทร์
เกิดเป็นปรากฏการณ์น้ำขึน้ เช่นกนั

2. ปรากฏการณ์น้ำเกดิ เกิดขึน้ ไดอ้ ยา่ งไร

ปรากฏการณน์ ้ำเกดิ เกิดจากการที่ดวงอาทิตย์ ดวงจนั ทร์ และโลกโคจรอยูใ่ นแนวเดียวกัน แรงโน้มถว่ ง
ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่กระทำต่อโลกจะเสริมกันทำใหเ้ กิดปรากฏการณน์ ้ำเกิด ซ่ึงในวันท่ีเกิดนำ้
เกดิ ระดับนำ้ ข้ึนสงู สดุ และระดบั น้ำลงต่ำสดุ จะแตกตา่ งกนั มาก

3. ปรากฏการณน์ ำ้ ตายเกดิ ขึ้นไดอ้ ยา่ งไร

ปรากฏการณ์น้ำตายเกดิ จากการทด่ี วงอาทิตย์ ดวงจนั ทร์ และโลกไมไ่ ด้โคจรอยู่ในแนวเดยี วกัน แต่อยู่
ในแนวตั้งฉากซึ่งกันและกัน โดยดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ทำมุมตั้งฉากกัน แรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์
และดวงจันทรท์ ี่กระทำต่อโลกจะไมเ่ สริมกนั ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำตาย ซึง่ ในวนั ทเี่ กิดน้ำตายระดับน้ำ
ขึ้นสูงสดุ และระดับน้ำลงจะไมแ่ ตกตา่ งกันมาก



แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 29

กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี 1/2564 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 ระบบสรุ ิยะของเรา
เรื่อง เทคโนโลยอี วกาศ เวลา 15 คาบ
ผ้สู อน นางสาวภัคจริ า ยอดรัก
วันท่ี 4 เดอื น ตลุ าคม พ.ศ. 2564 ม.3/1 เวลา 2 คาบ
วนั ที่ 5 เดอื น ตุลาคม พ.ศ. 2564 ม.3/2
โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลัยราชภฏั อตุ รดิตถ์

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแลก็ ซี ดาว
ฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ ที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
อวกาศ

2. ตัวชว้ี ัด
ว 3.1 ม.3/4 อธิบายการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีอวกาศและยกตัวอย่างความก้าวหน้าของโครงการ

สำรวจอวกาศจากขอ้ มูลที่รวบรวมได้

3. สาระสำคญั
เทคโนโลยีอวกาศ คือ การนำความรู้ วิธีการต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ให้เหมาะสมใน

การศกึ ษาทางดาราศาสตร์และอวกาศ ตลอดจนสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับทรพั ยากรธรรมชาติและ
การดำรงชีวิตของมนุษย์ เช่น การนำเทคโนโลยีอวกาศมาใช้สำรวจและตรวจสอบสภาพอากาศของโลก กล้อง
โทรทรรศน์ เป็นอุปกรณ์หนึ่งทีใ่ ช้ในการสำรวจอวกาศ ช่วยทำให้สามารถมองเห็นวตั ถใุ นท้องฟา้ ไดช้ ัดเจนมากกว่า
การมองด้วยตาเปล่า

4. จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
1. ระบเุ ทคโนโลยอี วกาศและอธบิ ายการใชป้ ระโยชน์ของเทคโนโลยอี วกาศ
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
2. นำเสนอการใชป้ ระโยชน์ของเทคโนโลยอี วกาศ
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
3. นกั เรียนมพี ฤตกิ รรมใฝ่เรียนรู้

5. สาระการเรียนรู้
กลอ้ งโทรทรรศน์

6. ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. ขัน้ ตอนการจัดการเรยี นรู้
จัดประสบการณ์เรยี นรโู้ ดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5Es

ขน้ั ท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (Engagement)
1. ให้นกั เรียนสังเกตภาพนำเรือ่ ง จากนั้นร่วมกนั อภปิ รายเกย่ี วกับภาพ ครอู าจใช้คำถามเพ่อื กระตนุ้ ความสนใจ

ของนกั เรียนและนำไปสกู่ ารเรยี นเรือ่ งน้ดี ังนี้

• ภาพถา่ ยดาวพลูโตทัง้ สองภาพมีลกั ษณะอย่างไร เหมือนหรอื แตกต่างกันอย่างไร เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบตาม
ความคดิ ของนักเรียน)

2. ให้นักเรยี นอ่านเน้ือหานำเรื่องและคำสำคัญ ทำกจิ กรรม ทบทวนความร้กู อ่ นเรียน เพอ่ื ประเมนิ ความรู้
พื้นฐานของ นกั เรยี นเก่ียวกบั เทคโนโลยีอวกาศ แลว้ รว่ มกนั อภปิ ราย เพ่อื ใหไ้ ด้คำตอบทีถ่ กู ตอ้ ง หากครูพบวา่ นกั เรียนยังมี