๙๘
ข้อคิดเห็นเกยี่ วกบั หนงั ตะลุงในปจั จปุ ัน
ในยุคปจั จุปันน้เี ด็กท่ัวไปยงั คงสนใจในการเล่นหนงั ตะลุง
อยู่ สังเกตจากทด่ี ใู นภาคใตย้ ังมเี ด็กฝกึ หัดหนังตะลุงอยู่ แต่ในเร่อื ง
ของบทกลอนจะไม่ค่อยรเู้ ร่อื งสกั เท่าไร แต่กถ็ ือว่าอาชพี นีย้ ัง
สามารถทำไดไ้ ม่สญู หายไป และอยากใหเ้ ดก็ รนุ่ ใหมเ่ นน้ ในเรือ่ ง
กลอน ๘ กลอน ๖ ว่าสัมผัสกันอย่างไร เด็กรุ่นใหมส่ ว่ นมากจะขา้ ม
ข้ันมาเลน่ หนังโดยไม่รู้เรอื่ งกลอนบทประพนั ธุ์
ยกตัวอยา่ งกลอนพระนางจบี กัน
ดวงเห้อดวง สาวเหอ้ พแี่ สนหวงไม่หา่ ง
นางเห้อนาง ไปสร้างความฝัน
พก่ี ับน้อง เป็นทองแผ่นเดียวกนั
รกั ของพี่ ไม่มเี จือจาง
หญงิ กับชาย มาเขา้ ใตต้ ้นสกั
พูดเรอื่ งความรัก อุปสรรค์มาขวา้ ง
นายเจตพล พูลภริ มย์
ผสู้ ัมภาษณ์
๙๙
ศลิ ปินในท้องถน่ิ ในจงั หวดั พทั ลงุ
(ครูหมอโนราห์)
ประวัติส่วนตวั
นาย วชิ า สขุ ศรีสะอาด ลงุ ทอก (แซม) อายุ 60 ปี
ท่ีอยู่ บา้ นนาปรือ ต.ควนมะพร้าว อ. เมอื ง จ.พทั ลงุ
ประวตั กิ ารศึกษา
จบช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 4
๑๐๐
ประวตั ิการศกึ ษาทางด้านดนตรีไทย
ลุงทอกเริ่มเล่นเครื่องดนตรีตั้งแต่อายุ 13 ปี เนื่องจากครอบครัว
เป็นครูหมอโนราห์ ซึ่งในคณะก็มีลูกคู่โนราห์ ตนจึงได้ฝึกเล่นเคร่อื ง
ดนตรีแต่ละชิ้นจากการจำและหัดด้วยตนเองและได้ติดตามไปทุก
งานแสดงและได้เล่นเครื่องดนตรีเครื่องห้าทีละชิ้น สั่งสม
ประสบการณ์มาเรอ่ื ย ๆ จนได้ถ่ายทอดวิชากับลกู หลาน
ประสบการณก์ ารทำงานด้านดนตรี
ก่อนจะเป็นครูหมอในคณะ ซึ่งขณะนั้นตนได้อยู่กับคณะ
มโนราห์ สมพงษ์ น้อยดาวรุ่ง ได้เดินทางไปแสดงกับคณะทุกๆท่ี
ก่อนที่จะแยกตัวออกมาตั้งคณะใหม่ในชื่อ คณะมโนราห์แซมเดชา
สองพี่น้องคะนองศิลป์ เป็นครูหมอโนราห์และได้คอยอบรมสั่งสอน
คอยให้คำแนะนำเยาวชนหรือลกู หลาน ทีเ่ ขา้ มาเรยี นรวู้ ชิ า ใช้ระบบ
๑๐๑
พ่อสอนลูก พี่สอนน้อง สอนกันเอง หรือคอยต่อยอดให้กับผู้มคี วาม
รอู้ ยู่แลว้ วิธีการสอนก็จะเปน็ การทำให้ดูแล้วใหท้ ำตาม
๑๐๒
เครื่องดนตรแี ละวงดนตรีที่ชน่ื ชอบ
เครื่องดนตรีที่ตนชอบเป็นเครื่องดนตรีเครื่องห้าในวง ได้แก่ ฉิ่ง
โหม่ง ทับ กลอง ปี่ เพราะตนโตมากับเครื่องดนตรีเหล่านี้ ส่วนวง
ดนตรที ช่ี ื่นชอบ คือวงดนตรีตนเอง เพราะตนนน้ั ต้ังขน้ึ มาเอง ภูมิใจ
ในสิ่งทต่ี ัวเองสรา้ งมา
ผลงานการประพนั ธเ์ พลง
ตนเคยประพนั ธเ์ นื้อรอ้ งใหเ้ อกชยั ชดุ พ่ีหลวงแก่แล้ว
ผลงานทางดนตรีดา้ นอ่นื ๆ
- ไดม้ โี อกาสไปรำหนา้ พระบรมศพ ร.9 ท่ีสนามหลวง ปี 2559
- ออกรายการคนไทยขั้นเทพซึ่งเดินทางไปกับคณะมโนราห์เทพ
ศรัทธา
- แสดงในงานครอบครูโนราห์ ทีว่ ทิ ยาลัยนาฏศิลป์พทั ลุง
- แสดงในงานโรงครูท่าแค ทุกปี ที่ตำบล ท่าแค อำเภอ จังหวัด
พทั ลงุ
๑๐๓
๑๐๔
ขอ้ คิดเห็นเกี่ยวกับวงการอาชพี นักดนตรีไทย
สมัยนี้การตั้งคณะมีเยอะแยะ แต่โดยส่วนน้อยที่จะมีวิชา
ความรู้หนักแน่นในคณะของแต่ละคณะ พูดง่ายๆคือสั่งสมวิชา มา
เพียงน้อยน้อยนิดแล้วรีบตั้งคณะของตนเอง และตนไม่ค่อยปราบ
ปล้มื กับการทเ่ี อาเครือ่ งดนตรสี ากลมาเล่นรว่ มกบั การเล่น
นายธนภมู ิ เทพไข่
ผ้สู มั ภาษณ์
๑๐๕
นายนิยม คงสังข์
ประวัตสิ ว่ นตัว
ชอื่ -สกลุ : นายนิยม คงสังข์
บิดา : นายชม คงสงั ข์
มารดา : นางหวน คงสงั ข์
วัน/เดือน/ปีเกิด : วันพฤหัสบดีที่ ๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช
๒๔๙๐
คู่สมรส : นางประดับ เอยี ดรื่น
สัญชาติ : ไทย เชอื้ ชาติ : ไทย
๑๐๖
นบั ถอื ศาสนา : พุทธ
อายุ : ๗๕ ปี ภูมิลำเนา ที่อยู่ : ๑๓/1 หมู่ที่ ๓ บ้านสวนหลวง
อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวดั นครศรธี รรมราช
ประวตั กิ ารศกึ ษา
ประถมศึกษาปที ี่ ๑-๔ โรงเรยี นวัดพงั ยอม (วัดหนองหม้อ)
ประวัตกิ ารศึกษาทางดา้ นปี่หนังตะลงุ
จากการสัมภาษณ์นายนิยม คงสังข์ กล่าวว่า ตนมีความ
สนใจดนตรีหนังตะลงุ เริ่มจากภายในชุมชนที่ตนอยู่มีศิลปินพื้นบา้ น
และคณะหนังตะลุงหลายคณะอีกทั้งญาติยังมีความสารถในด้านน้ี
หลายท่านจึงศึกษาการสีซอเพลงหนังตะลุงจนเกิดความชำนาญ ได้
มีตำแหน่งคนซอในคณะหนังตะลุงหนังปล้อง อ้ายลูกหมี ต่อมาทาง
คณะหนังตะลุงได้มีอุปสรรคเกี่ยวกับการเดินทางของนายปี่คน
ปัจจุบันของคณะ(อาศัยอยู่ที่จังหวัดพัทลุง) ทำให้ทางคณะหนัง
ตะลุงต้องมีนายปี่คนใหม่หัวหน้าคณะหนังตะลุงจึงให้นายนิยมได้
ทดลองเป็นนายปี่คืนแรก ซึ่งการแสดงหนังตะลุงในคืนนั้นก็ผ่านไป
ได้ด้วยดี หัวหน้าคณะหนังตะลุงจึงให้นายนิยมเป็นนายปี่ประจำ
คณะ นายนิยมจึงไปเรียนรู้เทคนิคการบรรเลงเพลงปี่เพลงหนัง
ตะลุงเพิ่มเติมจากลุงชื่อนายลาภเป็นนายปี่ของคณะหนังตะลุงที่มี
ชื่อเสียงในยุคนั้นจนเกิดความชำนาญและได้เป็นนายปี่ในคณะหนงั
ตะลุงที่มีชื่อเสียงหลายคณะ ต่อมานายนิยมได้เป็นนายปี่ในคณะ
๑๐๗
หนังปฐม อ้ายลูกหมี (พ.ศ.๒๕๑๙-๒๕๖๑) จึงได้นำเพลงสากลและ
เพลงที่เป็นที่นิยมในยุคนั้นมาประยุกต์ใช้บรรเลงเป็นเพลงปี่หนัง
ตะลงุ ทำให้คณะหนงั ตะลงุ หนังปฐม อา้ ยลูกหมี มีชอื่ เสยี งโดง่ ดงั มาก
ในภาคใต้และเป็นหนังตะลุงคณะแรกที่มีการทัวร์คอนเสิร์ตใน ๑๔
จังหวัดภาคใต้และนายนิยมยังได้มีโอกาสบันทึกเสียงปี่ในเพลง
ลูกท่งุ ของศลิ ปินภาคใต้ชื่อดงั มากมาย
ประสบการณ์การทำงานทางดา้ นดนตรี
- นายปี่คณะหนังตะลุง หนังปล้อง อ้ายลูกหมี, หนังทวี บาง
ตะพง, หนงั ไสว ทุ่งรวงทอง,
หนังเคลา้ น้อย โรจนเมธากลุ ,หนังปฐม อ้ายลกู หมี ฯลฯ
- ร่วมบันทึกเสียงปี่ในเพลงลูกทุ่งให้กับศิลปินนักร้องภาคใต้
เอกชยั ศรีวชิ ัย (เพลง อกหกั จากปกั ษใ์ ต้),
รงุ่ ตะวนั ขวญั กระบ่ี, ฉตั รทอง คนใหม่ ฯลฯ
- ทัวร์คอนเสิร์ตหนังตะลุงในภาคใต้และประเทศมาเลเซีย
เป็นในขณะที่มีตำแหน่งเป็นนายปี่ประจำคณะหนังตะลุง
หนังปฐม อา้ ยลกู หมี ในปพี ุทธศกั ราช ๒๕๓๓
๑๐๘
เครื่องดนตรีและวงดนตรีทช่ี น่ื ชอบ
ชอบเครื่องดนตรีปี่ เพราะเป่าแล้วรู้สึกว่าตนเองถนัดที่สุด
ชอบในน้ำเสยี งของปี่ และชอบดนตรีหนังตะลุงเนื่องจากคลุกคลีกับ
ดนตรีหนังตะลุงและปี่มากว่า ๕๐ ปี จึงทำให้เกิดความชอบและ
ความผูกพันธ์กับดนตรีหนังตะลุงเป็นอย่างมากเนื่องจากมีญาติพ่ี
น้องเป็นนักดนตรีในคณะหนังตะลุงหลายท่าน จึงได้มีโอกาสเห็น
การฝกึ ดนตรเี พลงหนังตะลุงมาตัง้ แต่เดก็
อปุ กรณแ์ ละปขี่ อง นายนิยม คงสังข์
เลาปี่ ทำจากแก่นไม้เนื่องจากแก่นไม้มีความคงทนมีอายุ
การใช้งานยืนยาว ช่างทำปี่จึงนิยมนำมาแก่นไม้มาใช้เช่น ไม้ราช
พฤกษ์ ไม้รักเขา ไม้พะยูง ไม้ขนุน ไม้สาวดำ ไม้ตะเคียนหิน ไม้หลา
โอน ไม้จำปาทอง ฯลฯ ปัจจุบันนายนิยมมีปี่จำนวน 6 เลา ใช้
บรรเลงในคณะหนังตะลุง ๓ เลา ใช้บชู าเปน็ ส่ิงมคี ุณค่าทางจิตใจ ๓
เลา ลิ้นปี่ทำจากใบตาลโตนด ใช้ใบแก่จัดที่ร่วงหล่นจากต้นแล้ว
นำมาตัดเป็นลิ้นปี่ใช้เชือกผูกลิ้นปี่ไว้กับกำพวด นายนิยมตัดลิ้นป่ี
และทำเองทุกขั้นตอนจนเสร็จสมบูรณ์พร้อมเป่าได้ กำพวดปี่ ทำ
จากทองเหลืองโดยใช้แผ่นทองเหลืองม้วนด้วยแม่แบบที่แข็งแรงใช้
ตะกั่วประสานให้เป็นกำพวดที่สมบูรณ์เพื่อใชเ้ ป็นทางผ่านของเสียง
๑๐๙
จากลิ้นปี่สู่เลาปี่ ก่อนใช้ปี่บรรเลงทุกครั้งนายปี่จะต้องเตรียม
อุปกรณ์ให้พร้อมควรนำลิ้นปี่แช่น้ำไว้ประมาณ ๑๐-๑๕ นาที ใช้น้ำ
เช็ดเลาปี่ให้พอหมาด ๆ ทั้งนอกและในเลาปี่ เพื่อให้ไม้ได้รับ
ความช้ืนงา่ ยต่อการบรรเลง
(ใช้น้ำแช่ลิ้นปี่และกำพวดป่ี) (ใชน้ ำ้ เชด็ เลาปกี่ ่อนการบรรเลง)
๑๑๐
วิธีการสอนเพลงปี่ของนายนิยม คงสังข์
เป็นการสอนแบบมุขปาฐะไม่มีการจดบันทึกเป็นตัวโน้ต
สอนโดยให้ลูกศิษย์ที่มาเรียนสังเกตการเป่า สอนการวางนิ้วการฟัง
เสียงที่เป่าจำและร้องโน้ตได้ การสอนของนายนิยมไม่คิดค่าใช้จ่าย
และไม่มีพิธีกรรมก่อนการสอน ไม่เปิดสอนอย่างเป็นทางการ
เนื่องจากนายนิยมมีอายุเยอะจึงมีกำลังไม่พอที่จะสอนลูกศิษย์ครั้ง
ละหลายคนได้ ทำใหไ้ ม่มลี กู ศษิ ยเ์ ยอะเหมอื นครูปีท่ า่ นอื่น
ผลงานทางดา้ นดนตรีอืน่ ๆ
ผลงานด้านการบรรเลงเคร่อื งดนตรี
- เป็นคนซอในคณะหนังตะลุงหนังปล้อง อ้ายลูกหมี ต่อมา
ได้เปลย่ี นตำแหน่ง
เป็นนายปี่ประจำคณะหนงั ปล้อง อ้ายลูกหมีและคณะหนงั
ตะลุงทม่ี ีทม่ี ีชอ่ื เสียงอกี มากมาย
รวมทั้งได้เป็นนายปี่ประจำคณะหนังปฐม อ้ายลูกหมี ซึ่ง
ในช่วงนั้นคณะหนังตะลงุ หนงั ปฐม อ้ายลกู หมี
มชี ่อื เสียงมากในภาคใต้
- บันทึกเสียงปี่ในเพลงลูกทุ่งกับศิลปินภาคใต้ เอกชัย ศรี
วิชัย (เพลง อกหักจากปกั ษใ์ ต้)
รุ่งตะวัน ขวัญกระบ่ี, ฉัตรทอง คนใหม่ ฯลฯ ซึ่งเพลง อก
หกั จากปักษใ์ ต้ ที่นายนยิ มได้บนั ทกึ เสยี งปี่
๑๑๑
โด่งดังมากทำให้นายนิยมมีโอกาสได้บันทึกเสียงให้ศิลปิน
ท่านอน่ื ต่อมา
- นำเพลง lambada ของศิลปิน Kaoma ประเทศบราซิล
มาประยุกต์และใช้เป็นเพลงหนังตะลุง ซึ่งในขณะนั้นไม่มี
หนังตะลุงคณะใดนำเพลงสากลมาบรรเลงในคณะ หนัง
ปฐม อ้ายลูกหมี จึงเป็นคณะแรกที่นำเพลงสากลมาเป็น
ประยุกต์เป็นเพลงหนังตะลุงโดยมีนายนิยม คงสังข์ เป็น
นายปี่ประจำคณะ
ผลงานด้านการสอนปีห่ นังตลุง
นายนิยม คงสังข์ มีลูกศิษย์ที่มีความรู้และความสามารถ
ในด้านการบรรเลงเพลงปี่และด้านศิลปะวัฒนธรรมหลากหลาย
แขนง ทำให้ลูกศิษย์ของนายนิยม คงสังข์ ได้รับรางวัลด้านการ
บรรเลงเพลงปแ่ี ละด้านศิลปะวฒั นธรรมมากมาย
นายติณณภพ นพการ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ๕
วทิ ยาลยั นาฏศลิ ปนครศรีธรรมราช
- รางวัลชนะเลิศ การประกวดแสดงเพลงพื้นบ้านประเภท
เพลงมโนราห์ วันที1่ 2 มิถนุ ายน 2562
- รางวัลชนะเลิศ การแข่งขันศิลปะการแสดงพื้นบ้านรวม
ศิลปแ์ ผน่ ดนิ สยาม วันท่ี30 เมษายน 2563
- รางวัลชนะเลิศ การแข่งขันมโนราห์เยาวชน วันที่28
กนั ยายน 2563
๑๑๒
- รางวัลชนะเลิศ การประกวดมโนราห์เยาวชน วันที่20
กันยายน 2564
- ได้รับรางวัลนายปี่ดีเด่น งานแข่งขันหนังตะลุงชิงถ้วย
พระราชทาน วันที2่ 1 กันยายน 2564
- รับเข็มฝีมือศรทอง การประกวดบรรเลงดนตรีไทยศรทอง
วนั ท1่ี 6 ธันวาคม 2564
(รางวัลชนะเลิศ การประกวดแสดงเพลงพื้นบ้านประเภท
เพลงมโนราห์ ท่มี า นายตณิ ณภพ นพการ)
๑๑๓
(รางวัลชนะเลิศ การแข่งขันศิลปะการแสดงพื้นบ้านรวม
ศลิ ป์แผน่ ดนิ สยาม ที่มา นายตณิ ณภพ นพการ)
(รางวัลชนะเลิศ การแข่งขันมโนราห์เยาวชน วันที่28 กันยายน
2563 ที่มา นายติณณภพ นพการ)
๑๑๔
(รางวัลชนะเลิศ การประกวดมโนราห์เยาวชน วันท่ี20 กันยายน
2564 ท่ีมา นายตณิ ณภพ นพการ)
๑๑๕
(ได้รับรางวัลนายปีด่ ีเดน่ งานแข่งขันหนังตะลุงชิงถ้วยพระราชทาน
ทม่ี า นายติณณภพ นพการ)
(เข็มฝีมือศรทอง การประกวดบรรเลงดนตรีไทยศรทอง ที่มา นาย
ติณณภพ นพการ)
นายพงศ์ปกรณ์ พรหมเดชะ นายปี่คณะหนังตะลุงหนังโอ
ปอ ศ.เคล้าน้อย มีฝีมือการบรรเลงเพลงปี่อย่างชำนาญเนื่องจากได้
เรียนรู้การบรรเลงเพลงปี่จากนายนิยม คงสังข์ นายพงศ์ปกรณ์เป็น
นายปี่ในการแข่งขันประชันหนังตะลุงทำให้คณะหนังตะลุงหลาย
คณะได้รบั ถว้ ยพระราชทาน
- หนังกุ้ง พงศธร รางวัลชนะเลิศ งานแข่งขันหนังตะลุงชิง
ถ้วยพระราชทาน 21 สิงหาคม พ.ศ. 2559
๑๑๖
- หนังแบงค์ อ้ายลูกหมี งานแข่งขันหนังตะลุงชิงถ้วย
พระราชทาน
(หนังกุ้ง พงศธร รางวัลชนะเลิศ งานแข่งขันหนังตะลุงชิงถ้วย
พระราชทาน ที่มา นายพงศ์ปกรณ์ พรหมเดชะ)
๑๑๗
ข้อคิดเหน็ เก่ยี วกบั นายป่ีหนังตะลุงในปจั จุบนั
นายปี่ในปัจจุบันควรหาประสบการณ์ใหม่ ๆ เพราะหนัง
ตะลงุ แต่ละคณะจะมสี ำเนียงการเปา่ ปเ่ี พลงหนงั ตะลุงทต่ี ่างกัน นาย
ปี่แต่ละท่านจะมีสำเนียงในการบรรเลงและทางเพลงที่ตา่ งกัน นาย
ปี่ในยุคปัจจุบันควรศึกษาไว้เพื่อความหลากหลายในการบรรเลง
เพลงปข่ี องตนเอง ทัง้ นยี้ งั ฝากขอ้ คิดในการฝึกซ้อมการบรรเลงเพลง
ปี่ให้กับนายปี่รุ่นใหม่ คือ การบรรเลงเพลงปี่ต้องพัฒนาตนเองอยู่
เสมอทั้งด้านความรู้ความสามารถและการดำเนนิ ชีวติ ไม่ควรละท้ิง
การฝึกซ้อมเป็นเวลานานเพราะจะทำให้ความสามรถในการบรรเลง
ของตนเองลดลงได้ ควรใฝ่ร้แู ละหาโอกาสใหต้ นเองอย่างสมำ่ เสมอ
นายปรวิ ัตร เทยี บทอง
ผสู้ ัมภาษณ์
๑๑๘
มโนราห์วนั ดี ศรีนครฯ
ชอื่ นางสาวศิรพิ ร หนูสุวรรณ
อายุ ๓๕ ปี เกิดวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๒๙
อาชีพปจั จุบัน แอดมินเพจขายของออนไลน์ มโนราห์ นักรอ้ ง
๑๑๙
ท่ีอยู่ปัจจุบนั บา้ นเลขท่ี ๔๒/๑๖ หมู่ ๙ ตำบลนาเหรง อำเภอ
พบพติ ำ จังหวดั นครศรธี รรมราช
มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ ๔๒/๑๖ หมู่ ๙ ตำบลนาเหรง
อำเภอพบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรสาวของ
มโนราห์มณฑาสุวรรณศิลป์ (นางทบ หนูสุวรรณ) ปัจจุบันอายุ ๘๐
ปี และมโนราห์กล่อมสุวรรณศิลป์ (นายกล่อม หนูสุวรรณ) ปัจจุบัน
เสียชีวติ มพี ี่นอ้ ง ๖ คน มบี ุตรชาย ๑ คน
ภาพ : มารดา นางทบ หนูสวุ รรณ
๑๒๐
ประวตั กิ ารศึกษา
วฒุ กิ ารศกึ ษา ชัน้ ประมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖
เข้ารับการเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ ๓ จากโรงเรียนเคียงศิริ ตั้งอยู่ที่ ๑๙๓ หมู่ ๖ บ้าน
ท่าพุด ตำบลนาเหรง อำเภอนบพิตำ นครศรีธรรมราช และสำเร็จ
การศกึ ษามัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ จากวทิ ยาลยั นาฏศิลปนครศรีธรรมราช
ตั้งอยู่ที่ ๑๓๐ หมู่ ๑๑ ตำบลท่าเรือ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
จงั หวดั นครศรธี รรมราช
ภาพ : โรงเรยี นเคยี งครี ี
๑๒๑
ภาพ : วทิ ยาลัยนาฏศลิ ปะนครศรธี รรมราช
ทมี่ าของการเป็นมโนราห์
สาเหตุสนใจในการรำมโนราห์
เนื่องจากด้วยครอบครัวมีเชื้อสายมโนราห์เดิมอยู่แล้ว
ทางด้านบิดาและมารดา ก็ประกอบ
อาชีพการรำมโนราห์ โดยมีคณะ
มโนราห์เป็นของตนเองโดยใช้ชื่อว่า
“คณะมโนราห์มณฑาสุวรรณศิลป์”
ทำให้ตนมีความคุ้นเคยและคลุกคลี
เกี่ยวกับอาชีพมโนราห์ตั้งแต่จำความ
ได้ ประกอบกับการได้ติดสอยห้อย
ตามครอบครัวที่ไปทำการแสดงยัง
๑๒๒
สถานที่ต่าง ๆ ได้เห็นบิดามารดาและพี่น้องรำมโนราห์อยู่บ่อยครั้ง
จนเกิดเป็นความชอบ และอยากฝึกรำมโนราห์ จึงไดร้ บั การสืบทอด
จากครอบครวั และกา้ วเขา้ สู่อาชีพการรำมโนราหต์ ้งั แตว่ ยั เดก็
ภาพ : มโนราห์วนั ดี ศรนี ครฯ วัยเดก็
ผู้ถา่ ยทอดความร้ใู นวชิ าการรำมโนราห์
ตนน้ันไดร้ บั การถ่ายทอดความรูต้ ่างๆในการรำมโนราห์
พน้ื ฐานเกือบท้งั หมดจากบิดาและมารดา ทั้งในเร่ืองของทา่ รำ การ
ร้องกลอนต่าง ๆ นอกจากน้ียังไดร้ บั ประสบการณ์และการเรยี นรู้
เพิ่มเติมจากวิทยาลัยนาฏศลิ ปนครศรธี รรมราช และการเป็นสมาชิก
เขา้ ร่วมการแสดงของวงดนตรีศรีวิชยั โชว์ โดยคณุ เอกชยั ศรีวชิ ัย
ประวตั ิการทำงาน
เริ่มต้นฝึกหัดรำมโนราห์ตั้งแต่อายุ ๓ ขวบ และได้ออก
เดินสายแสดงการรำมโนราห์กับคณะของครอบครัวตั้งแต่เล็ก ด้วย
ความสามารถในการร่ายรำมโนราห์ท่ีสวยงาม ตามแบบฉบับโบราณ
ที่ได้รับการสืบทอดมา บวกกับมีความสามารถในการร้องเพลง ท้ัง
เพลงที่ใช้ขับบทมโนราห์ หรือเพลงลูกทุ่งเป็นเอกลักษณ์ ต่อมา
๑๒๓
ในช่วงวัยที่พึ่งสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ขณะนั้นใน
อำเภอใกล้เคียงได้มีวงดนตรีลูกทุ่งที่มีชื่อเสียงของภาคใต้คือ “วง
ดนตรีศรีวิชัยโชว์”มาทำการแสดง ตนจึงมีโอกาสได้ทำการอัด
แผ่นเสียงร้องเพลงของตนให้แก่ คุณเอกชัย ศรีวิชัย ด้วย
ความสามารถจึงทำให้ตนได้มีโอกาสเข้าเป็นสมาชิกของวง และได้
ร่วมทำการแสดงต่างๆ ทั้งการรำมโนราห์ การแสดงโชว์ และการ
ร้องเพลง ตั้งแต่การแสดงชดุ รกั คุณเท่าฟ้า ตั้งแต่ปี ๒๕๔๘เป็นเวลา
ร่วมสิบปี นอกจากน้ียงั ได้มโี อกาสเป็นนกั ร้อง และมีผลงานกับค่าย
เพลงเช่น ค่ายTOPLINE Music เป็นต้น ต่อมาภายหลังตนก็ได้เปน็
นักร้องประจำอยู่ที่ “วงอลังการ นครศรีฯ” นอกจากนี้ก็ทำอาชีพ
แอดมนิ เพจขายของออนไลน์ และยังคงรับงานแสดงการรำมโนราห์
การทำพธิ กี ารตา่ งๆต่อเนอ่ื งจนถงึ ปจั จุบนั
ภาพ : การทำงานต่างๆของมโนราหว์ ันดี ศรนี ครฯ
๑๒๔
ผลงาน
ทางด้านมโนราห์
รางวัลการประกวดแข่งขันโนรา เทศกาลเดือนสิบ ปี
๒๕๓๔
รางวัลการประกวดแข่งขันกลอนสด เทศกาลเดือนสิบ ปี
๒๕๓๔
รางวัลการประกวดแข่งขันโนราอาชีพ เทศกาลเดือนสิบ ปี
๒๕๔๓
ภาพ : รางวลั การประกวดของมโนราหว์ ันดี ศรีนครฯ
๑๒๕
ทางดา้ นอน่ื
การบนั ทึกเสยี งรอ้ ง
- เพลงสาวนากับเจ้าทุย
- เพลงมหาลัยหัวใจ
- เพลงไมผ้ ลัดใบใจขาดรกั
- เพลงสาวใต้
- เพลงสาวรามปสี าม
- อลั บม้ั ๗ ดาวศรีวิชยั
บันทกึ การแสดงสด คอนเสิรต์ ศรีวิชยั โชว์
- ตอน รักคุณเทา่ ฟา้ (ปี ๒๕๔๘ )
- ตอน พ่นี กั รอ้ ง น้องโนราห์ (ปี ๒๕๔๙ )
- ตอน แผ่นดินแม่ ภาค๑ (ปี ๒๕๕๐)
- ตอน แผ่นดนิ แม่ ภาค๒ (ปี ๒๕๕๐)
- ตอน ๗ อัศจรรย์โชว์ (ปี ๒๕๕๑)
๑๒๖
- ตอน อลงั การล้าน ๗ (ปี ๒๕๕๒)
- ตอน พาพ่คี นดีมาฝากแม่ (ปี ๒๕๕๒)
- ตอน ๗ ตำนานอลงั การโชว์ (ปี ๒๕๕๓)
ภาพ : ผลงานด้านตา่ งๆของมโนราห์วนั ดี ศรนี ครฯ
ท่มี าของคณะมโนราห์
เดมิ มีท่ีมาจากบิดามารดาคือมโนราห์มณฑา และมโนราห์
กลอ่ ม ซงึ่ เปน็ เจ้าของคณะมโนราหม์ ีช่อื เดิมวา่ “คณะมโนราหม์ ณฑา
สุวรรณศิลป์” มสี มาชกิ เดมิ ประมาณ ๒๖ คน ต่อมาภายหลังตนได้
เข้ามารบั ชว่ งต่อจากบิดาและมารดาและได้เปลีย่ นชือ่ เป็น“คณะ
๑๒๗
มโนราห์วันดี ศรนี ครฯ นครศิลป์ อัศวินกระดูกออ่ น” ปจั จบุ ันยังคง
รับงานแสดง งานแก้บน และงานพิธีการต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
การแสดงมโนราห์
มลี ักษณะการแสดงการรำมโนราหแ์ บบฉบบั โบราณ มี
ดนตรี ชุดการแสดง โรงมโนราห์ ฉาก แบบเต็มรูปแบบ มีการร้อง
กลอนทำบทตามแบบฉบับโบราณ เป็นมโนราหโ์ รงครสู ามารถรำแก้
บน เหยยี บเสน และอนื่ ๆ ตามความเชือ่ ของผูส้ บื เชอ้ื สายมโนราห์
ลักษณะดา้ นการแสดง
มที ง้ั แบบพิธกี รรม และโนราเพ่อื ความบันเทงิ โดยเปน็
ลกั ษณะการรำในแบบโบราณที่สบื ต่อกันมาจากตน้ สายมโนราห์
เช่น รำขอป่ี รำขอทบั รำขอเทริด รำตีนเตีย้ รำคลอ้ งหงส์ รำ ๑๒
ทา่ ประกอบไปดว้ ย
๑. ทา่ เทพพนม ๒. ท่าพรหมสี่หนา้ ๓. ท่าลาย
กนก ๔. ท่าสอดสร้อยมาลา ๕. ผา่ หลาเพยี งไหล่
๖. ทา่ บวั ตูม ๗. ทา่ บัวแย้ม ๘. ทา่ บัว
บานแซมกลางใบ ๙. ท่าแมงมุมชกั ใย ๑๐. ทา่ พิสมยั เรยี งหมอน
๑๑. ท่าเขาควาย ๑๒. ท่าข้หี นอน
๑๒๘
ยงั มกี ารร้องกลอน หรอื ท่เี รยี กกันว่าการ “ว่ากลอน ขับ
บท” โดยเปน็ การอวดลีลาความสามารถการร้อง และไหวพริบ
ปฏภิ าณในการคิดกลอน รวดเรว็ ไดเ้ นอ้ื หาดี สัมผัสดี และสามารถ
ร้อง โตต้ อบกันได้
จดุ เดน่ การของแสดง
ยึดรูปแบบการแสดงแบบฉบับโบราณทีไ่ ดร้ บั การสืบทอด
กันมา ท้ังเร่ืองของทา่ รำ การร้อง การขับบท ดนตรี นอกจากนี้ยงั มี
ความพิเศษท่เี ห็นได้ไม่มากนกั คอื กายกรรมมโนราห์ ท่ีเรยี กกนั ว่า
มโนราหต์ ัวอ่อน
ภาพ : บางส่วนของการแสดงของมโนราหว์ ันดี ศรีนครฯ
๑๒๙
อปุ กรณ์การแสดง
ส่งิ ทสี่ ำคัญอีกอยา่ งหน่ึงในการแสดงคือชุดท่ีใช้ในการแสดง
ซ่ึงประกอบไปดว้ ย ชิน้ สว่ นมากมาย ได้แก่
เทรดิ ,ป้งิ คอ,พาดบา่ ,รัดอก,หางหงส์,ปง้ิ สะโพก,สร้อยคอ,เล็บ,ผา้
หอ้ งขา้ ง, หนา้ ผา้ ,กางเกง,โจงกระเบน,กำไล,อุบะ,สังวาล,กำไลตน้
แขน,กำไลปลาย,แขน,ปีกนกแอน่ ,ปน้ั เหน่ง,ทับทรวง
๑๓๐
ภาพ : เคร่อื งประดบั บางสว่ นของชุดมโนราห์ของมโนราหว์ ันดี ศรีนครฯ
ดนตรปี ระกอบการแสดง
ใช้วงดนตรีในแบบโบราณบรรเลงเพลงประกอบการแสดง
โดยเพลงทีใ่ ช้ ก็จะเป็นเพลงแบบพืน้ บ้านเดิม เชน่ เพลงปี่ เพลงทบั
ผสมกบั เพลงลกู ลูกท่งุ โดยใชเ้ คร่ืองดนตรี คอื ป่ี ซอ โหม่ง ทับ
กลอง แตระ ภายหลงั ไดเ้ สรมิ ด้วยเครอื่ งคยี บ์ อรด์ ใช้ประกอบ
ทำนอง
๑๓๑
ภาพ : เครอ่ื งดนตรีบางสว่ นของชุดมโนราหข์ องมโนราห์วันดี ศรนี ครฯ
ฉากการแสดง
มีโรงมโนราห์ที่ใชใ้ นการแสดงขนาด ๘ x ๘ , ๘ x ๕ เมตร
ตามความเหมาะสมของงานแสดง มีฉากตามเน้อื เร่ืองสมมตุ ิที่ใช้ใน
การแสดง
ความเชือ่ และศรทั ธา
มคี วามเช่อื และศรัทธาในครูหมอ มโนราห์ โดยทีบ่ ้านได้มี
การตัง้ หงิ้ บูชาครู ไดแ้ ก่ พอ่ ขุนศรทั ธา ตาพรานบุญ ตาพรานคง ตา
หลวงหลง ตาพราน ลุยไฟ และบรรพบรุ ุษที่สืบเชอ้ื สายมโนราห์
๑๓๒
โดยจะมีพิธกี ารบชู าทต่ี รงกับวันเสาร์วนั อังคารแต่ไมต่ รงกบั วันพระ
โดยใชเ้ ครอ่ื งหมากพลู ดอกไม่ ธูป เทียน เหลา้ ขาว และอาหาร
ตา่ งๆ โดยเชอื่ วา่ ครูหมอมโนราหจ์ ะชว่ ยบันดาลความสำเร็จดงั ท่ี
ต้ังใจในทุกประการโดยใหท้ ำการกลา่ วชือ่ ขอบนบาลศาลกลา่ วตอ่
หนา้ ห้ิงบูชา หากได้สำเร็จดงั ต้ังใจก็ให้กลา่ วช่ือครูแลว้ มาแก้บน
ภาพ : หิ้งครหู มอมโนราห์ ภาพ : เครอื่ งบชู าครหู มอมโนราห์
ภาพ : การบชู าครหู มอมโนราห์
๑๓๓
ศิลปิน และวงดนตรีท่ีชืน่ ชอบ
ตนมีความช่นื ชอบศลิ ปินในสายมโนราห์คือ มโนราหอ์ ้อย
เสยี งทอง มโนราห์เพญ็ ศรี ยอดระบำ มโนราห์มณฑา และมโนราห์
กลอ่ ม ทางด้านของสายนักร้องกช็ ือ่ ชอบผลงานของ คุณตกั๊ แตน ชล
ดา และยังช่ือชอบวงดนตรศี รีวชิ ัยโชว์ และมีความฝันตงั้ แต่วยั เด็กท่ี
อยากจะข้นึ ไปเป็นส่วนหน่ึงของเวทลี ะไดท้ ำจนสำเร็จ
การแสดงทีช่ นื่ ชอบ
มคี วามช่ืนชอบในการในการรำมโนราห์ทา่ ปฐมรำทา่ ครู
โดยเฉพาะการรำแบบหมู่ เพราะมีความพร้อมเพรยี ง สวยงาม ตาม
แบบฉบับด้ังเดิม นอกจากน้ียังช่ือชอบขับบท การร้องเพลงอีกดว้ ย
การถ่ายทอดความรู้
มกี ารเปิดสอนการรำมโนราห์ให้แกบ่ ุคคลท่วั ไป หรอื ผูท้ ่ี
สนใจโดยใหผ้ ู้เรยี นมาเรียนแบบตัวตอ่ ตัวท่ีบ้าน มากนิ นอนทบี่ ้าน
และจะสอนรำท่าต่อท่าด้วยตนเอง ใชว้ ิธีการแบบค่อยๆดำเนินการ
สอนไปทลี ะข้ันตอน โดยตนเป็นผคู้ อยดัด คอยบอกท่า และให้
คำแนะนำแก่ศษิ ย์อยา่ งใกลช้ ิด ทำให้ตนมีลกู ศิษย์อยู่มากมายท้ัง
เด็กและผ้ใู หญ่ และเป็นครุใหก้ ับผู้ทปี่ ระกอบอาชพี มโนราหใ์ น
๑๓๔
ปจั จุบนั อีกหลายทา่ น เชน่ มโนราห์ลูกหมเู ทพบรรทม มโนราหร์ ้งุ
เปน็ ตน้
ความคดิ เหน็ เกี่ยวกับมโนราห์
มีความคดิ เหน็ วา่ การรำมโนราหน์ นั้ เป็นอาชีพทดี่ เี นอ่ื งจาก
สามารถสรา้ งรายได้ให้แก่ผู้ทีเ่ ปน็ มโนราห์ทง้ั การออกเดนิ สายการ
แสดงทั้งการแกบ้ น พธิ ีกรรม รวมไปถึงการแสดงโชว์ ในงานตา่ งๆ
และยังเปน็ การสืบสานประเพณวี ฒั นธรรมของคนภาคใตท้ ส่ี ืบทอด
กันมาแตโ่ บราณเพ่ือใหค้ นร่นุ หลังได้มีโอกาสไดร้ บั ชมส่ิงเหล่าน้ี
ซึ่งเปน็ วฒั นธรรมท่ถี อื ว่าเป็นมรดกท่สี ำคญั ของโลกอย่างหน่ึง จงึ
อยากให้เด็กร่นุ หลงั นนั้ อนุรกั ษร์ กั ษา สบื ทอดมโนราห์ไวเ้ พือ่ ใหค้ ง
อย่กู บั คนรุ่นหลังตอ่ ไป อย่าได้คดิ อายในการรกั ษารากเหง้าของตน
และยงั ใหค้ วามเห็นวา่ ควรจะปรบั ปรงุ การแสดงมโนราห์ใหม้ ีความ
ทันสมัยเข้ากับยคุ สมัยจะทำใหม้ โนราหน์ น้ั มีความนา่ สนใจยิ่งข้นึ
๑๓๕
ภาพ : ภาพประกอบการสัมภาษณ์มโนราห์วันดี ศรีนครฯ
ณฏั ฐ์ จลุ พนั ธ์
ผู้สัมภาษณ์
๑๓๖
ศลิ ปินพ้นื บา้ น
โนราเจิม สมเพชร
ประวัตสิ ่วนตวั
ชื่อ-สกุล เจิม สมเพชร เกดิ เมอื่ ปี พ.ศ.๒๔๙๒ ทบี่ า้ นเขาแดง จ.
พัทลุง
ปัจจุบนั มโนราเจิมได้ยา้ ยภมู ิเลาเนามาอยู่ท่ี หมทู่ ่ี 4 ตำบลท่งุ ยาว
อำเภอปะเหลียน จังหวดั ตรงั
สัญชาติ ไทย
๑๓๗
ประวตั กิ ารศกึ ษา
โนราเจิม เรียนหนังสือทีโ่ รงเรียนวัดเขาแดงจนจบช้ัน ป.๔
หลงั จากนัน้ ไดเ้ ข้าไปฝากตัวเป็นศษิ ยข์ องหลวงตาหมุน ณ วัดเขา
แดง หลงั จากนั้นประมาณ ๓-๔ ปี นายเจมิ ก็เริม่ เข้าสูช่ ่วงวยั รนุ่
หลวงตาหมุนก็ได้ส่งนายเจมิ ไปฝกึ หนงั ตะลงุ และมโนรา ทีบ่ ้านคอก
ววั ตำบลชยั บรุ ี อำเภอเมืองพทั ลงุ จังหวดั พัทลุง
ประวัตกิ ารศกึ ษาทางด้านดนตรีไทย
ไปฝึกหัดหนังตะลุงพร้อมกับเพอ่ื นคอื หนงั ครวน ชาวจงั หวดั พัทลุง
ที่บ้านคอกวัว ตำบลชยั บรุ ี อำเภอเมืองพัทลงุ จงั หวัดพัทลุง แต่ตน
ชอบดมู โนราก็เลยลองฝึกขบั บทกลอนต่างๆตามทีต่ นได้ไปรับฟังมา
ทำให้เกินความชอบ จงึ ไดฝ้ กึ รำมโนราและฝกึ ท่องบทกลอน
ประสบการณก์ ารทำงานทางด้านดนตรี
เร่ิมแสดงมโนราจริงเปน็ ครั้งแรก เมื่ออายุได้ ๑๓ ปี ดว้ ยมงี านที่วัด
ปากสระในตำบลเดียวกนั ทางวดั จึงติดต่อมโนราไปแสดง ในงาน
ทอดผ้าป่า ผคู้ นติดอกติดใจดูไดต้ ลอดคนื หลังจากน้นั มคี วิ การแสดง
ตลอดท้ังปีโดยอาศัยการปรบั การแสดงใชท้ า่ รำทผี่ ูค้ นชนื่ ชอบ และ
มอบอุปกรณ์ในการแสดง เพราะตนมีความคิดท่แี ตกตา่ ง จงึ ทำให้
๑๓๘
เปน็ ทีส่ นใจของผ้ชู ม ในระยะเวลาการแสดงหนังไม่ถึง ๑๐ ปี ก็
กลายเป็นเป็นทนี่ ยิ มของจงั หวัดพทั ลุง และจังหวดั ใกล้เคยี ง
เครื่องดนตรีและวงดนตรีท่ชี ่ืนชอบ
ปีม่ โนรา
ผลงานการประพนั ธเ์ พลง
แสดงในงานตา่ งๆแล้วแต่โอกาสในจงั หวัดตรงั พทั ลงุ กระบ่ี สตลู
เป็นทีเ่ ลื่องลือกนั ของชาวบา้ นสมัยกอ่ นว่าการแสดงของมโนราเจมิ
เปน็ การราํ แบบโบราณ ที่มีการผสมผสานในการใช้ส่งิ ของต่างๆมา
แสดงประกอบรว่ ม
การว่ากลอนสดของโนราเจิม ถือ ไดว้ า่ เปน็ ผู้มนี ้ำเสยี งดี มีปฏภิ าณ
ไหวพริบ คาํ กลอนไพเราะคมคาย มีเน้อื หาสาระกินใจ สอดคลอ้ ง
กับเหตกุ ารณ์ปจั จุบัน ซึง่ สรา้ งความชน่ื ชมให้กับคนดเู ปน็ อย่างมาก
๑๓๙
ข้อคดิ เหน็ เกี่ยวกับวงการอาชีพนกั ดนตรีไทย
สืบทอดและพฒั นา ถา้ ไมอ่ นุรักษ์ให้มันเปน็ แบบเดิมไปตลอด
ไมเ่ ช่นนัน้ วนั หนง่ึ วัฒนธรรมไทยของเราจะหายไปจากความทรงจำ
ของทุกคน
จิรเมธ ยงคห์ นู
6211119027
๑๔๐
นายสม โดะโอย
ประวตั ิ
ชือ่ นายสม โดะโอย
สญั ชาติ ไทย
ศาสนา อสิ ลาม
วัน เดอื น ปี เกิด ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๐
อายุปัจจบุ นั ๗๕ ปี
ชือ่ ในวงการ สม มือซอ
๑๔๑
ทอ่ี ยูป่ จั จุบนั บา้ นเลขที่ ๑๐๑ หมู่ท่ี ๑
ตำบล บางหมาก อำเภอ กันตัง จังหวดั ตรงั
ทอ่ี ย่เู ดิม คอื บา้ นเลขที่ ๖๑ หม่ทู ี่ ๑ ตำบล คลอง
ลุ อำเภอ กันตัง จังหวัด ตรัง แต่เนื่องจากได้มีภรรยาอยู่
ที่นี่ จึงได้ย้ายมายังที่อยู่ปัจจุบัน มีภรรยา ๒ คน บุตร ๓
คน
เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๗๘๙๒๑๑๖๕
การศึกษา
สำเร็จการศึกษาระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ ที่โรงเรยี นบ้านคลองลุ
หมูที่ ๑ ตำบลคลองลุ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง สำเร็จการศึกษา
เม่อื ปพี ทุ ธศกั ราช ๒๕๐๐
๑๔๒
ประวัติในการทำงานก่อนทจ่ี ะมาสซี อด้วง
ทำอาชีพเกษร รับจ้างทั่วไป เพราะที่บ้านก็ไม่ค่อยได้
สนับสนุนเท่าไหร่ เพราะทางบ้านอยากให้เป็น ซึ่งทางบ้านอาจจะมี
ความเชือ่ วา่ การเป็นนักดนตรีอาจจะไม่ม่ันคงขนาดนั้น แต่ว่าทางท่ี
ทำงาน เขาจะมีโควตาประมาณว่าสามารถใหล้ กู หลานทำงานต่อกัน
ได้
เข้าสู่วงการสีซอไดอ้ ย่างไร ได้รับการสืบทอดจากใครและ
ฝึกฝนการแสดงจากใคร
มีความรักและความชอบในเสียงซอ และเหตุผล
อกี อยา่ งคือ อยากเล่นเพอื่ เอาใจสาว
คนที่นำพาเข้าวงการนี้คือพี่เขยที่ในขณะนั้นกำลังตามจีบ
พสี่ าวของตน
ประสบการณ์ในการเลน่ ซอด้วง
มีประสบการณ์ในการเล่นวงโนรา ที่ชื่อว่า โนรา
จุก และวงกลองยาวตำบล ย่านซื่อ และมีงานแห่ เช่น งาน บวช
งานศพ ลเิ กปา่ แตส่ ่วนใหญ่จะบรรเลงให้กับวงกลองยาวตำบล ยา่ น
ซ่ือ ประมาณ ๕๐ ปี
๑๔๓
เอกลกั ษณห์ รือจุดเดน่ ของการเลน่ เล่นซอด้วง
มีการเข้าถึงอารมณ์ของพทเพลง การใช้น้ำหนัก
เสยี งที่หนกั เบาให้เกิดอารมณท์ ่ีตา่ งกัน
วิธีการถา่ ยทอด
การให้หดั เข้าจังหวะกับเพลงทลี ะห้องๆ ไปเร่ือยๆ
เล่นช้าๆซ้ำๆและต้องหมั่นฝึกฝนทุกวัน และอาจจะฝึกการ
ฟังเสยี งไมใ่ หเ้ พีย้ นไปในตัวดว้ ย บางกรณกี ็อาจจะสอนทริก
เล็กๆน้อยให้ด้วย แต่ส่วนใหญ่เด็กที่มาหัดเรียน จะไม่ค่อย
ประสบความสำเร็จสักเท่าไร เพราะไม่ค่อยจริงจังกับการ
เลน่
ลกั ษณะงานทร่ี บั
รับงานทั่วไป เช่น งานบวช งานศพ งานวัด งาน
ขน้ึ บา้ นใหม่
ผลงาน / รางวลั
รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ ๑ การแข่งกลองยาวระดับ
จงั หวัด
รางวัลชนะเลิศอันดบั ท่ี ๑ การแขง่ กลองยาวระดับอำเภอ
๑๔๔
ความคิดเห็นเก่ียวกับอาชีพของตน
นายสม โดะโอย ได้กล่าวว่า สมัยก่อนสามารถยึด
อาชีพนักดนรีไทยเป็นอาชีพหลักได้แต่ในยุคปัจจุบันไม่
สามารถซอด้วงเพียงอย่างเดียวได้แล้ว เนื่องจากรายได้ไม่
เพียงพอต่อการครองชีพและงานก็น้อยลง โดยเฉพาะการ
เป็นหัวหน้าครอบครัวที่มีภาระมากมายที่ต้องรับผิดชอบ
ถึ งแม้ อา ชี พนั กด น รี ไทย ยุ คปั จ จุ บั น จ ะไม่ ส า ม า ร ถ
เลี้ยงชีพได้ แต่นายสม ก็ไม่ได้ทิ้งอาชีพนักดนรีไทยยังคง
อนุรักษ์และส่งเสริมเอาไว้เพื่อคนรุ่นหลังต่อไป
๑๔๕