๑๔๓
เฉลย
แบบฝกึ ทักษะ
แบบฝึกทักษะท่ี ๑
ใคร : กบฝูงหนงึ่
ทำอะไร : วงิ วอนเทวดา
เพรำะเหตุใด : อยากไดเ้ จ้านายใหมท่ ด่ี ี
แบบฝึกทักษะท่ี ๒
น้าตกหว้ ยยางอย่บู นเทอื กเขาตะนาวศรี มี 7 ชนั้ ชั้นท่ี 4 สวยที่สดุ
เพราะมองเห็นอ่าวไทย
แบบฝึกทักษะที่ ๓ ๒. ค ๓. ค
๑. ง
๑๔๔
แบบทดสอบประจำหนว่ ยที่ 11
ตอนท่ี 1 ใหเ้ ลอื กคาตอบทีถ่ ูกท่ีสุดเพยี งคาตอบเดยี ว
อำ่ นบทร้อยกรองต่อไปน้แี ลว้ ตอบคำถำมขอ้ ที่ 1 – 3
เด็กเด็กมารจู้ ัก วัดเกาะหลักหลวงพอ่ เปี่ยม
ภกิ ษุผยู้ อดเยี่ยม รกั ษ์วนิ ยั ใจเมตตา
พร้อมเก่งกาจอาคมกลา้
เช่ียวชาญโหราศาสตร์ งามวจิ ิตรจาหลักลาย
งานชา่ งก่อสร้างหนา
ทมี่ า : ชลธิชา จันทรแ์ กว้
1. ถา้ ตอ้ งการไปสกั การะบูชาหลวงพ่อเปี่ยมตอ้ งไปที่ไหน
ก. วัดกยุ บุรี ข. วดั คลองวาฬ
ค. วดั ธรรมิการาม ง. วดั เกาะหลัก
2. ข้อใดไม่ใช่ความสามารถของหลวงพอ่ เป่ียม ข. การรักษาโรค
ก. การก่อสรา้ ง ง. การทานายดวงชะตา
ค. การใช้วิชาอาคม
3. หลวงพอ่ เป่ียมมีคุณธรรมด้านใดทน่ี ักเรียนควรนาไปเป็นแบบอย่าง
ก. ขยัน ข. ซื่อสัตย์
ค. มีวนิ ัย ง. เสียสละ
๑๔๕
อ่ำนบทร้อยกรองต่อไปนแี้ ลว้ ตอบคำถำมข้อที่ 4 – 5
เลา่ ขานนานมา เกดิ พายรุ า้ ย
ซัดซ้าทาลาย เรือจมนที
ดน้ิ รนชีพมี
เหลือสามรอ้ ยคน เกาะสามร้อยรอด
จงึ เรียกช่อื น้ี เป็นสามรอ้ ยยอด
ตลอดเขตคาม
ตอ่ มาเพย้ี นความ พระที่น่งั งาม
เขาหินปนู ทอด คูหาคฤหาสน์
ภูเขาหน่งึ มี ที่มา : ชลธิชา จนั ทรแ์ ก้ว
เลอื่ งชือ่ ลือนาม
4. “เขาสามรอ้ ยยอด” มที ่มี าตามข้อใด ข. สัตว์ท่ีรอดตาย ๓๐๐ ตัว
ก. คนท่ีรอดชวี ิต ๓๐๐ คน ง. ภเู ขาท่ีมียอดแหลม ๓๐๐ ยอด
ค. ตน้ ไม้ท่อี ยู่บนเขา ๓๐๐ ต้น
5. ขอ้ ใดไมไ่ ด้กล่าวถึงความสาคญั ของอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
ก. พืน้ ทช่ี ุม่ น้าตลอดท้ังปี
ข. แหล่งศึกษาระบบนเิ วศ
ค. ท่ีต้ังของพระทีน่ ่งั คหู าคฤหาสน์
ง. ภเู ขาหินปนู ที่ใหญท่ สี่ ุดในประเทศไทย
๑๔๖
อ่ำนสำรคดตี ่อไปนแ้ี ล้วตอบคำถำมขอ้ ท่ี 6 – 10
ประเพณีวง่ิ ควำย
ประเพณวี ง่ิ ควาย เปน็ ประเพณีของชาวชลบุรีทยี่ ดึ ปฏิบตั ิกนั นาน ซ่งึ มกั จะ
จัดกันในช่วงวันออกพรรษาซ่ึงเป็นช่วงปลายปี ในสมัยก่อนชาวบ้านมาทาบุญที่วัด
ต้องนาควายมาด้วย พอทาบุญเสร็จก็จะพักควายไว้ท่ีวัด เพื่อพบปะสังสรรค์กัน
ในขณะมาพบปะกันทตี่ ลาด ชาวบ้านแตล่ ะคนจะจูงควายมาเที่ยวตลาด จึงกลายมา
เป็นการว่ิงควายรอบๆ ตลาด ต่อมาเพิ่มการตกแต่งควายและเจ้าของควาย
ในการประกวดแขง่ ขัน รวมทง้ั มีการประกวดสขุ ภาพควายเพิ่มเติมเขา้ มาอีกดว้ ย
แม้ว่าปัจจุบันนี้การใช้ควายไถนาหรือช่วยทาประโยชน์ตา่ งๆ จะลดน้อยลง
เนอ่ื งจากเทคโนโลยีใหม่ๆ จะเข้ามามีบทบาทช่วยอานวยความสะดวกแทน แตช่ าว
จังหวัดชลบรุ กี ย็ งั สบื ทอดประเพณีวง่ิ ควายมาจนถงึ ทุกวนั น้ี
ทีม่ า : หนังสอื พมิ พเ์ ดลินวิ ส์ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๐
๑๔๗
6. ประเพณีวงิ่ ควาย เปน็ ของชาวจังหวดั ใด ข. ชลบุรี
ก. ระยอง ง. ปราจีนบุรี
ค. จันทบรุ ี
7. ประเพณวี ิ่งควายนิยมจดั กนั ในชว่ งเดือนใด ข. กนั ยายน
ก. สิงหาคม ง. พฤศจิกายน
ค. ตุลาคม
8. ในปัจจบุ นั ประเพณวี ่ิงควายมีกิจกรรมเพ่มิ เตมิ ตามข้อใด
ก. ประกวดสขุ ภาพของควาย
ข. ประกวดความเรว็ ของควาย
ค. ประกวดความฉลาดและความร้ขู องควาย
ง. ประกวดความสวยงามของควายและเจ้าของ
9. อะไรคือเหตกุ ารณ์ที่เกดิ ขึ้นก่อนประเพณวี ิง่ ควาย
ก. การประกวดสุขภาพควาย
ข. การตกแต่งควายและเจ้าของควาย
ค. ชาวบ้านมาทาบญุ ตอ้ งนาควายมาด้วย
ง. ชาวชลบุรีสบื ทอดประเพณวี ่งิ ควายจนถึงทุกวนั น้ี
10. ผู้เขียนรู้สกึ อย่างไรต่อประเพณีวง่ิ ควาย
ก. ภมู ใิ จในความสวยงามของเจ้าของ
ข. ภูมใิ จในความสามารถของคนขี่ควาย
ค. ภูมใิ จในความเป็นประเทศเกษตรกรรม
ง. ภมู ิใจในคณุ คา่ ของประเพณที ี่เกา่ แก่ของไทย
๑๔๘
อ่ำนโฆษณำตอ่ ไปนี้แล้วตอบคำถำมข้อท่ี 11 – 12
ไฮเทคทวี ี 5900 บาท
พรอ้ มโทรฟรกี บั ดีอเี อ็ม แอดวานซ์
ซ้อื จานดาวเทียม ไฮเทคทีวี
ชอ่ งจุใจไม่มรี ายเดอื น แถมได้ ซิมเบอรส์ วย
ค่าโทร ฟรีและอกี มากมาย รวม 1,500 บาท
11. สนิ คา้ ทต่ี อ้ งการโฆษณาคอื อะไร
ก. ระบบโทรศัพท์ดอี ีเอ็ม แอดวานซ์
ข. จานดาวเทียมไฮเทคทวี ี
ค. ซมิ เบอรส์ วยจากดอี ีเอม็ แอดวานซ์
ง. ถกู ทกุ ข้อ
12. ถา้ ติดตงั้ จานดาวเทยี มไฮเทคทวี ี จะไดร้ ับสิทธิพิเศษอะไร
ก. ได้โทรฟรกี บั ดีอเี อม็ แอดวานซ์
ข. ได้ซิมโทรศัพท์ฟรี
ค. ไดซ้ ิมโทรศัพท์และคา่ โทรฟรี
ง. ไดเ้ งิน 1,500 บาท
๑๔๙
อ่ำนบทควำมต่อไปน้ีตอ่ ไปนแี้ ลว้ ตอบคำถำมข้อที่ 13 – 15
“ดีท็อกซ์ด้วยนำ้ แรธ่ รรมชำติ คืนควำมสดใสให้ผิวสวย”
สร้างชีวิตชีวาให้กับร่างกายและอารมณ์ด้วยการ “ดีท็อกซ์” หรือการล้างพิษ
ออกจากร่างกาย เพ่ือป้องกันการเสื่อมก่อนวัยง่ายๆ ด้วยการด่ืมน้าแร่ธรรมชาติ”
ผู้เช่ียวชาญท่านหนึ่งกล่าวว่า อยากผิวสวยแลดูสุขภาพดีสามารถทาได้ด้วยการด่ืมน้าแร่
ธรรมชาติ ๑๐๐% เพราะแร่ธาตุจากน้าแร่ท่ีด่ืมเข้าไปจะช่วยลดการสะสมสารพิษและ
สร้างสมดุลใหม่ให้กับร่างกาย เน่ืองจากในน้าแร่จะมีส่วนผสมของแร่ธาตุหลักๆ อยู่ ๕
ชนิด คือ แคลเซียม โซเดียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม และกามะถัน ตอนเช้าหลัง
ตนื่ นอนใหด้ ม่ื น้าแร่ธรรมชาติ ๑๐๐ % จะช่วยล้างพิษในร่างกายคืนความสดใสเปล่งปล่ัง
สู่ผิวพรรณ และช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปอย่างสม่าเสมอ ในขณะทางานพยายามด่ืม
น้าแร่เป็นประจาจะช่วยให้นัยน์ตาสดใส พอถึงช่วงเวลานอนหากต้องตื่นมากลางดึก
ให้ดื่มน้าแร่สักแก้ว เพ่ือช่วยลดอาการคอแห้งและเติมแร่ธาตใุ ห้ร่างกาย เพียงเท่านี้ก็จะ
ได้ผวิ ผ่องใสแล้ว
ท่มี า:จากหนังสือพิมพม์ ตชิ น
13. “ดีทอ็ กซ์” จากบทความนมี้ ีความหมายตรงกับข้อใด
ก. การสรา้ งชวี ิตชวี าใหก้ ับรา่ งกาย ข. การดืม่ นา้ ชว่ ยใหร้ ่างกายมีพลังงาน
ค. การล้างพิษด้วยการด่มื นา้ แรธ่ รรมชาติ ง. การล้างพิษออกจากร่างกายให้สะอาด
14. การด่มื น้าแรส่ ่งผลตอ่ ร่างกายตามข้อใดมากทส่ี ดุ
ก. การหายใจ ข. การขบั ถา่ ย
ค. การยอ่ ยอาหาร ง. การดูแลผิวพรรณ
15. ถา้ นักเรียนต้องการให้ระบบขับถ่ายทางานเปน็ ปกติควรปฏิบัติตามขอ้ ใด
ก. ดื่มน้าแรก่ อ่ นกนิ อาหาร ข. ด่มื น้าแรร่ ะหวา่ งทาางาน
ค. ดมื่ นา้ แรข่ ณะตื่นมากลางดกึ ง. ดม่ื น้าแรต่ อนเชา้ หลังต่นื นอน
๑๕๐
ตอนที่ 2 อา่ นสารคดตี ่อไปน้ีแล้วตอบคาถาม
วันไหวพ้ ระจันทร์
วันไหว้พระจันทร์ เป็นประเพณีท่ีชำวจีนถือปฏิบัติสืบต่อกนั มำนับพันปี ตรงกบั
วันขึน ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ซึ่งจะเป็นวันท่ีพระจันทร์เต็มดวง และส่องแสงงดงำมที่สุด
ชำวจีนจึงให้พระจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของควำมสวยงำม เป็นส่ือกลำงของกำรคิดถึงซ่ึงกนั
และกัน นอกจำกนี ชำวจีนยังถือว่ำ วันไหว้พระจันทร์เป็นวันที่คนในครอบครัวจะได้
แสดงควำมสำมัคคีกัน และเป็นวันแห่งกำรอยู่พร้อมหน้ำกันของครอบครัว กำรไหว้
พระจันทร์จะเร่ิมต้นตอนหัวค่ำ ซ่ึงดวงจันทร์เร่ิมปรำกฏบนท้องฟ้ำ พิธีดำเนินไปจนถึง
ประมำณ ๔ – ๕ ทุ่ม หลังจำกเสร็จพธิ ี ทุกคนในครอบครัวจะตังวงแบง่ กันกนิ ขนมไหว้
พระจันทร์ ซึ่งทำเป็นก้อนวงกลม แล้วนำมำห่ันแบ่งให้เท่ำกับจำนวนคนในครอบครัว
ห้ำมเกินหรือขำด และแตล่ ะชนิ ตอ้ งมีขนำดที่เท่ำกัน ขนมไหวพ้ ระจันทร์จึงเป็นสัญลักษณ์
ของควำมสำมคั คี และควำมกลมเกลยี วของคนในครอบครัว
ทมี่ ำ : บำ้ นมหำดอทคอม
คำถำม
๑. ทาไมชาวจนี จงึ ไหว้พระจนั ทรใ์ นวนั ข้ึน ๑๕ คา่ เดือน 8 ...........................................
๒. ชาวจีนเช่อื ว่าพระจนั ทรเ์ ป็นสญั ลักษณข์ องสิง่ ใด .........................................................
๓. พธิ ีไหวพ้ ระจันทร์จะใช้เวลาท้ังหมดเท่าไร .....................................................................
๔. การท่ชี าวจนี แบง่ ขนมไหว้พระจนั ทรใ์ ห้เท่ากับจานวนคนในครอบครวั และมีขนาดเท่ากนั
เพอื่ ตอ้ งการสอนสิ่งใด .....................………….……………………..………………...............……
๕. วันไหวพ้ ระจันทรม์ ีความสาคญั ต่อชาวจีนอยา่ งไร .........................................................
๑๕๑
เฉลยแบบทดสอบประจำหน่วย
ตอนที่ 1
1. ง 2. ข 3. ค 4. ก 5. ง
6. ข 7. ค 8. ก 9. ค 10. ง
11. ข 12. ค 13. ค 14. ง 15. ง
ตอนท่ี 2
๑. เพราะเป็นวันทีพ่ ระจนั ทรเ์ ตม็ ดวงและสอ่ งแสงงดงามทสี่ ดุ
๒. ความสวยงามและส่ือกลางของการคดิ ถงึ ซ่งึ กันและกนั
๓. ประมาณ ๔ ชว่ั โมง โดยเริ่มตง้ั แตห่ ัวค่า จนถึงประมาณ ๔ – ๕ ทมุ่
๔. ความสามคั คีและความกลมเกลียวของคนในครอบครัว
๕. เปน็ วนั ทีค่ นในครอบครัวจะไดแ้ สดงความสามคั คีและได้อยู่พรอ้ มหนา้ กัน
เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ตอบผิดได้ 0 คะแนน
ตอบถกู ได้ 1 คะแนน
13 – 16 = ดี
ระดับคุณภำพ 0 – 8 = ปรับปรงุ
17 – 20 = ดีมาก
9 – 12 = พอใช้
๑๕๒
หนว่ ยที่ 12 กำรเขยี นสื่อสำร
กำรเขียนสอ่ื สำร
การเขียนส่ือสาร การเขียนถ้อยคา หรือข้อความ เพ่ือถ่ายทอดความรู้ ความคิด
ตลอดจนอารมณ์ ความรูส้ กึ และประสบการณ์ของผเู้ ขียนไปยงั ผอู้ า่ น การเขยี นสือ่ สารจะชว่ ย
ให้ผ้อู ่านได้รับความรแู้ ละเข้าใจวตั ถุประสงคข์ องผเู้ ขียนในหลายๆ ดา้ น
ลักษณะกำรเขยี นส่ือสำรทด่ี ี
๑. เขียนสะกดคาถกู ต้องตามอกั ขระวธิ ี
๒. รปู แบบการเขียนถูกตอ้ งตามหลักของงานเขยี นแบบต่างๆ เช่น รูปแบบการ
เขยี นจดหมาย การเขียนเรื่องจากภาพ ฯลฯ
๓. การใช้สานวนภาษาทสี่ ละสลวย แตช่ ัดเจน ไมว่ กวน
๔. ไมใ่ ช้ภาษาพดู หรือภาษาถน่ิ ในการเขยี น
๕. เขยี นดว้ ยตวั บรรจง
๑๕๓
๑. ประโยค
ประโยค คือ การนาคาชนดิ ต่างๆ มาเรยี งกันแลว้ ได้ใจความหรอื สอ่ื
ความหมายได้ชัดเจน
โครงสร้ำงของประโยค หมายถึง ส่วนประกอบของประโยค ซึ่งประกอบดว้ ย
๒ ส่วน คอื
๑. ภาคประธานของประโยค คือ ส่วนที่เป็นผู้กระทาหรือแสดง
อาการ ซงึ่ เป็นคานามหรือคาสรรพนาม แบง่ เป็นประธาน และบทขยายประธาน
๒. ภาคแสดงของประโยค คือ ส่วนท่ีแสดงอาการหรือ
ความเป็นไปของประธาน แบ่งเป็น กริยา กรรม บทขยายกริยา และบทขยาย
กรรม ซ่ึงบางประโยคอาจมีเพียงบทขยายกริยาหรือบทขยายกรรมเท่าน้ัน
บางประโยคมบี ทขยายทั้งกรยิ าและกรรม และบางประโยคไมม่ บี ทขยาย
ตวั อย่ำงโครงสรำ้ งของประโยค ภำคประธำน ๑๕๔
ประธำน
๑.๑ ประธำน + กริยำ กานดา ภำคแสดง
นอ้ ง กรยิ ำ
ประโยค แมว ร้องไห้
๑) กานดารอ้ งไห้ คลาน
๒) นอ้ งคลาน วิง่
๓) แมววง่ิ
๑.๒ ประธำน + กริยำ + กรรม
ประโยค ภำคประธำน ภำคแสดง
ประธำน กรยิ ำ กรรม
๑) แมร่ ีดผา้ แม่ รดี ผา้
๒) ปูต่ ักน้า ปู่ ตกั นา้
๓) ครสู อนหนังสือ ครู สอน หนังสอื
๑๕๕
๑.๓ ประธำน + ขยำยประธำน + กรยิ ำ + ขยำยกรยิ ำ + กรรม + ขยำยกรรม
ตัวอยำ่ งประโยค
๑) นกั เรยี นชน้ั ป.๓ ปลูกคะนา้ ใบโตในแปลงเกษตร
๒) ครูต้นเขียนสระภาษาไทยบนกระดานดา
๓) แมวสขี าวกนิ ปลาทูในตู้กับขา้ วอยา่ งเอร็ดอรอ่ ย
ภำคประธำน ภำคแสดง
ประธำน ขยำยประธำน กริยำ ขยำยกรยิ ำ กรรม ขยำยกรรม
นักเรียน ชั้น ป.๓ ปลกู ในแปลงเกษตร คะนา้ ใบโต
ครู ต้น เขยี น บนกระดานดา สระ ภาษาไทย
แมว สีขาว กนิ อยา่ งเอรด็ อรอ่ ย ปลาทู ในตู้กับข้าว
“กำรทีเ่ รำขยำยสว่ นตำ่ ง ๆ
ของประโยค กเ็ พอ่ื ให้ประโยค
มคี วำมหมำยชดั เจนยิง่ ขน้ึ ”
๑๕๖
แบบฝกึ ทักษะที่ ๑
คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นแยกโครงสร้างของประโยคท่ีกาหนดใหต้ อ่ ไปน้ี
ภำคประธำน ภำคแสดง
ประโยค ประธำน ขยำย กริยำ ขยำย กรรม ขยำย
ประธำน กรยิ ำ กรรม
๑. แดงดูโทรทศั น์
๒. สมชายเตะฟตุ บอล
๓. นกบนิ
๔. นกั เรยี นชายขอกระดาษ
วาดเขียน
๕. เตน้ เลน่ ดนตรีเพราะมาก
๖. สุนขั สีขาวเหา่ แมวดา
๗. แมค่ า้ ไกย่ า่ งกาลังทอนเงนิ
ลูกค้า
๘. หนนู าชอบดม่ื นมรสหวาน
๙. อนั ดากนิ แตงโมลกู ใหญ่
๑๐.พ่ีสวยอ่านหนงั สือนทิ าน
แกะดาในห้องเรียน
“เก่งมำกค่ะ”
๑๕๗
๒. เขียนเร่ืองตำมจินตนำกำร
กำรเขียนเรื่องตำมจินตนำกำร เป็นการเขียนเรื่องตามความคิด
ความใฝ่ฝัน ความรู้สึกของผู้เขียน ผู้เขียนสามารถเติมแต่งเรื่องราวได้
อย่างอิสระ หรือเหนือความเป็นจริงได้ ผู้เขียนจึงต้องเป็นผู้ที่มีความคิด
สร้างสรรคแ์ ละช่างสังเกต
ข้นั ตอนกำรเขยี นเรอ่ื งตำมจนิ ตนำกำร
๑. ผเู้ ขียนจะต้องคดิ แนวเรือ่ งทจี่ ะเขยี น
๒. ศกึ ษาหาความรู้เพิม่ เติมในเร่ืองท่ีจะเขยี น
๓. วางโครงเร่ืองตามจินตนาการ (ใคร ทาอะไร ที่ ไหน ฯลฯ)
และลาดบั เหตกุ ารณก์ ่อน – หลงั
๔. เรยี บเรยี งเร่อื งราวใหต้ อ่ เน่ืองกนั
๕. ตง้ั ช่อื เร่ืองให้น่าสนใจและสอดคลอ้ งกบั เนอ้ื เรื่อง
๖. เขยี นดว้ ยลายมือตัวบรรจง เรยี บรอ้ ย
ทมี่ า : พรพรรณอะคาเดมี่ ทรปู ลูกปญั ญา
๑๕๘
ตวั อย่ำงกำรเขยี นเรื่องตำมจินตนำกำร
ภาพ :https://www.hanyuban.com
เรอ่ื ง ครอบครวั สุขสนั ต์
เช้าวันเสาร์นี้ ฉันและพ่ีนพตกลงกันว่าจะช่วยคุณพ่อคุณแม่
ทางานบ้าน ด้วยการทาความสะอาดห้องรับแขก เราสองคนแบ่ง
หน้าท่ีกัน โดยพ่ีนพทาหน้าที่กวาดพ้ืน ส่วนฉันทาหน้าท่ีถูพ้ืนให้
สะอาด เราสองคนทางานด้วยความต้ังใจ ทาให้ห้องรับแขกสะอาด
น่าอยู่ คุณพ่อคุณแม่ชมเราสองคนว่าเป็นลูกท่ีดี ช่วยงานของท่าน
ได้มาก ท่านได้สอนพวกเราว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่ และให้แต่ละคน
ทาหน้าท่ีของตนเองให้ดีที่สุด เช่น พวกเรายังเด็ก มีหน้าท่ีเรียน
หนังสือ ดังน้ัน ต้องต้ังใจเรียน ช่วยเหลืองานท่านเท่าที่จะทาได้
พวกเราสองคนรบั ปากว่าจะเปน็ ลกู ทีด่ ขี องคุณพอ่ คุณแม่ตลอดไป
๑๕๙
แบบฝกึ ทักษะท่ี ๒
คำชแ้ี จง เขียนเร่อื งตามจนิ ตนาการจากภาพทีก่ าหนดให้ได้ใจความสมบูรณ์ ดว้ ยตวั บรรจง
ครึ่งบรรทดั ความยาว ๑๐ บรรทดั และต้ังชือ่ เรอ่ื งใหเ้ หมาะสม
ภาพ : เครอื่ งมอื วัดและประเมนิ ผล
“ความสามารถในการอ่านและการเขยี น” ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๑
เร่ือง.................................................................
๑๖๐
๓. กำรเขียนเรียงควำม
เรียงควำม คือ ข้อความหลายย่อหน้าท่ีบรรยายหรืออธิบายเร่ือง
หรือความคิดเห็นอย่างใดอย่างหน่ึง ประกอบด้วย หัวข้อ คานา (ความนา)
เน้ือเร่ือง (ตวั เรอ่ื ง) และสรปุ (ความลงทา้ ย)
องค์ประกอบของเรียงควำม มีส่วนสำคญั ๓ ส่วน
๑. คานา (ความนา) เป็นส่วนเริ่มต้นของเรียงความทาหน้าท่ี
นาเกริ่นเข้าสู่เนื้อเรื่องและปูพ้ืนฐานความเข้าใจให้แก่ผู้อ่าน ความนาควรมีใจความ
รวบรัด และไม่ควรซ้ากับส่วนสรุป เพราะคานาจะช่วยกระตุ้นให้ผู้อ่านสนใจด้วย
เนอ้ื เรื่องของเรยี งความ
๒. เน้ือเร่ือง (ตัวเรื่อง) เป็นข้อความต่อจากคานา ทาหน้าที่ขยาย
ใจความของคานาให้ละเอียดแจ่มแจ้ง ย่อหน้าเน้ือเร่ืองอาจมีได้หลายย่อหน้ามาก
น้อยสุดแต่เนื้อเรื่อง ในการเขียนเรียงความโดยท่ัวไปควรกาหนดจุดประสงค์ในการ
เขียน เพ่ือช่วยให้กาหนดขอบเขตของหัวข้อเรียงความให้ชัดเจน นอกจากนี้ก่อน
ลงมือเขียนควรมีการวางโครงเร่ือง เพ่ือช่วยให้เน้ือหาเรียงความมีเอกภาพ ไม่ออก
นอกเรอ่ื งและสามารถนาเสนอความคดิ ไดเ้ ป็นลาดบั ไมส่ ับสน
๓. สรุป (ความลงท้าย) เป็นข้อความย่อหน้าสุดท้ายทาหน้าที่ปิดเร่ือง
ชี้ให้เห็นสาระสาคัญที่สุดของเรื่อง และยังทาหน้าที่สนองจุดประสงค์ของผู้เขียนให้
แจ่มชัด โดยมีความยาวใกล้เคยี งกับคานา วธิ กี ารเขยี นบทสรุปมดี งั นี้
- สังเขปความท้ังหมดที่นาเสนอในโครงเร่ืองอย่างย่อให้ได้สาระ
สาคัญอยา่ งชดั เจน
- นาสว่ นสาคัญท่ีสดุ ของตัวเรื่องมากลา่ วยา้ เพือ่ สะกิดในผอู้ ่าน
- เลือกสภุ าษิต คาคม หรอื คากลา่ วทน่ี ่าเชอื่ ถืออ่นื ๆ มาเป็นสว่ น
สรุป
- ฝากข้อคิดแกผ่ ้อู า่ นเพือ่ ให้นาไปคิดหรอื ปฏบิ ัตเิ มอื่ มีโอกาส
- ทง้ิ คาถามใหผ้ ู้อา่ นใคร่ครวญตอ่ ไปโดยไม่จาเป็นตอ้ งเสนอขอ้ ยุติ
๑๖๑
ตัวอย่ำงกำรเขยี นเรียงควำม
เรยี งควำมเร่ือง แม่
คนคนน้ีท่านคือคนที่ให้กาเนิดฉันมา เล้ียงดูฉันมาตั้งแต่เล็กจนฉันได้
เติบโตจนถึงทุกวันนี้ ท่านคอยอบรมส่ังสอนฉันให้ฉันเป็นคนดี คอยทางานหา
เงนิ สง่ ให้ฉันเรียนสูงๆ คอยดแู ลฉนั เวลาฉันไม่สบาย คอยปกป้องฉันจากอันตราย
ทั้งปวง และคนคนนีก้ ค็ ือแมข่ องฉันนั่นเอง
แม่คือคนท่ีฉันรักมากที่สุดในชีวิต เพราะไม่มีใครที่จะรักฉันเท่ากับแม่
ของฉันเลย ท่านคอยสั่งสอนฉันและเลี้ยงดูฉันมาตลอด ท่านคอยให้ความรัก
ความอบอุ่นกับฉัน ครอบครัวฉันเป็นครอบครัวที่ยากจน ถึงแม่ไม่ค่อยมีเงิน
แต่เม่ือฉันต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร แม่ก็พยายามหามาให้ฉันได้เสมอ แม่ทาทุก
อย่างได้เพื่อฉัน ท่านเป็นคนขยันและอดทนในการทางานเพ่ือหาเงินมาเลย้ี งฉัน
ท่านเป็นคนดีและเป็นแบบอย่างท่ีดีให้กับฉัน แม่เคยตีฉันร้องไห้ แต่ฉันรู้ว่าที่
แม่ตีฉันเพระอยากให้ฉันเป็นคนดี และฉันก็ไม่เสียใจเลยที่แม่ตีฉันเพ่ือต้องการ
ให้ฉันเป็นคนดี แต่ที่ฉันเสียใจมากคือฉันทาให้แม่ร้องไห้ เพราะฉันขอเงินแม่
แลว้ แม่ไม่มีเงนิ ใหฉ้ ัน ฉนั กเ็ ลยว่าแม่ไป แมค่ งเสยี ใจแลว้ แอบไปรอ้ งไห้ ฉันก็ไป
แอบเห็น ฉันเสียใจมาก ฉันรู้ว่าแม่รักฉันมาก และฉันก็รักแม่ของฉันมากท่สี ดุ
ในโลกเลย
แม่คือคนที่สาคัญ อย่ารักแม่เฉพาะวันแม่ เราต้องรักแม่ทุกวัน และ
คอยเอาใจใส่ท่านบ้าง ดูแลท่านบ้าง ให้เหมือนกับท่ีท่านคอยดูแลเรามา
เพราะทา่ นจะไดช้ ่ืนใจและมคี วามสขุ
ท่มี า : ธญั ชติ า ชจู ันทร์
๑๖๒
แบบฝึกทักษะท่ี ๓
คำชี้แจง เขยี นเรียงความในหวั ข้อ “แมข่ องฉัน” ( ๑๕ คะแนน)
เรียงควำมเรอ่ื ง แมข่ องฉนั
(คานา)……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
(เนอื้ เรื่อง)…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
(สรุป)…………………………………………………………………………………………………………………
………………………............................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
๑๖๓
๔. กำรเขียนย่อควำม
กำรเขียนย่อควำม การเขียนจากการอ่านเก็บใจความสาคัญของ
เรอ่ื งใดเรื่องหนึ่ง โดยตัดคาขยายต่างๆ ออกไปใหเ้ หลือแตใ่ จความสาคัญท่ี
เราตอ้ งการ แล้วนามาเรียบเรียงใหมด่ ้วยสานวนของผ้เู ขียนเอง และเขยี น
ใหถ้ ูกต้องตามรปู แบบของย่อความ วรรณรี วุ่นนรุ ักษ์
ส่วนประกอบกำรเขียนย่อควำม
สว่ นประกอบของยอ่ ควำม ย่อความประกอบด้วยส่วนสาคญั ๒ ส่วน
ไดแ้ ก่ สว่ นนา และสว่ นใจความสาคญั ของเรือ่ ง
๑. ส่วนนา เป็นแบบข้ึนต้นย่อความเพื่อบอกที่มาของเรื่องให้ผู้อ่าน
ทราบ
๒. ส่วนเน้ือเร่ือง เป็นส่วนเนื้อหาท่ีเรียบเรียงแล้ว มีย่อหน้า
เดียว
๑๖๔
รปู แบบกำรเขยี นยอ่ ควำม
๑. กำรย่อควำมนทิ ำน นยิ ำย ตำนำน เรอ่ื งสัน้
๒. กำรยอ่ ควำมคำบรรยำย โอวำท ปำฐกถำ สุนทรพจน์
คำปรำศรยั ฯลฯ
๓. กำรยอ่ ควำมข่ำว
๔. กำรย่อควำมบทรอ้ ยกรอง เชน่ กลอนสภุ ำพ
๕. กำรย่อบทสัมภำษณ์
๑๖๕
ตัวอย่ำงกำรเขยี นย่อควำม
เร่อื ง คิดก่อนพดู
ปากคนน้ันนาสุขมาให้ก็ได้ นาทุกข์มาให้ก่อนก็ได้ มีคาเตือนมากมาย
เกี่ยวกับปาก เช่น “พูดไปสองไพเบ้ีย น่ิงเสียตาลึงทอง” เมื่อลูกคบหากับ
ใคร ทางานทไ่ี หนก็ตาม ส่ิงท่ตี ้องระวังใหม้ ากคอื ปาก ทา่ นกลา่ วว่า “จงเก็บ
ปากไว้ท่ีใจ อย่าเก็บใจไว้ท่ีปาก” คือ อยากพูดอะไรก็เก็บไว้ในใจ อย่าพูด
ทุกอย่างตามท่ีใจคิด พูดมากโอกาสพลาดก็มีมาก พูดน้อยก็พลาดน้อย เมื่อ
จาเป็นต้องพูดกค็ วรพูดอย่างมีสติ พูดพอประมาณ พูดอย่างสร้างสรรค์ถูกตอ้ ง
และมีประโยชน์ ท่านบอกไว้ว่า “คาพูดที่แรงเกินไป คาพูดที่เกินความจริง
ลว้ นฆ่าคนพูดผ้โู งเ่ ขลาไดท้ ง้ั สน้ิ ”
คนสมัยน้พี ูดเกง่ และพูดได้มาก แต่มสี กั กีค่ นท่พี ดู แบบสร้างสรรค์ ทาให้
เกิดความสามัคคี ทาให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ แต่เราจะไปห้ามเขาไม่ให้
พูดก็ไม่ได้ เขาจะพูดดีไม่ดีอย่างไร พูดก้าวร้าวเสียดสีใคร เป็นสิทธิส่วนตัว
ของเขา เขาพูดเขาก็ต้องรบั ผดิ ชอบเอง สาคญั ลกู อย่าไปพดู อยา่ งเขากแ็ ล้วกัน
คิดใหด้ ีก่อนพดู เสมอ ย่ิงพดู ถึงบุคคลอ่ืนด้วยแลว้ ยิ่งต้องระวงั เพราะเราไมร่ ู้จัก
เขาดีพอ ไม่รู้ถึงความรู้สึกนึกคิดของเขาดีเท่ากับตัวเขาหรอก เราจะไปคาด
เอาเองว่าเขาเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างน้ีแล้วไปพูดทาให้เขาเสียหาย ดูจะไม่
ยุติธรรมนัก ดีท่ีสุดคือไม่พูดถึงคนอ่ืนโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงดีพอ แม้จะรู้จริงก็ไม่
ควรพูด ถา้ จาเป็นตอ้ งพูดกค็ วรพดู อย่างมีสติ พูดดว้ ยความระมัดระวงั เพราะ
การพูดถึงคนอื่นน้ันเส่ียงต่อการเป็นศัตรูกัน และจะเป็นบาปกรรมด้วย ระวัง
ไว้เปน็ ดีทสี่ ดุ
คาพอ่ คาแม่ : พระธรรมกิตติวงศ์ ราชบัณฑติ
ย่อคำสอนเรอื่ ง คิดกอ่ นพดู ของ พระธรรมกติ ตวิ งศ์ ราชบณั ฑิต .
จำก หนงั สือคาพ่อคาแม่ หน้า ๙๔–๙๕ ควำมว่ำ
ก่อนจะพูดอะไรใหใ้ ชส้ ตไิ ตร่ตรอง รูจ้ กั คิดกอ่ นพูดโดยเฉพาะการพูดถึงคนอ่ืน
ใหร้ ะมัดระวังใหม้ าก
๑๖๖
แบบฝึกทักษะที่ ๔
คำช้ีแจง เขยี นยอ่ ความนิทานอีสป เร่ือง สงิ โตกบั แพะท่ีกาหนดใหต้ ่อไปนี้
ตามรูปแบบการเขียนย่อความ
สงิ โตกบั แพะ
วันหน่ึงท่ามกลางอากาศอันแสนอบอ้าวของฤดูร้อน สิงโตและ
แพะต่างกระหายน้า เท่ียวเดินหาน้าดื่มจนเดินมาพบกันที่แอ่งน้าเล็กๆ
แห่งหน่ึง ทั้งสองแย่งกันกินน้าจนเกิดทะเลาะและต่อสู้กันข้ึน ในท่ีสุด
ท้ังสิงโตและแพะเหนื่อยหอบด้วยกันท้ังคู่ หลังจากต่อสู้กัน ท้ังคู่ก็นอน
หมดเรี่ยวหมดแรง ในขณะท่ีนอนอยู่นั้น เจ้าสิงโตมองเห็นฝูงแร้งกาลัง
บินคอยท่าอยู่บนฟ้า มันจึงพูดข้ึนว่า “เราควรแบ่งน้ากันกินดีกว่าต่อสู้
กันจนตาย แล้วกลายเปน็ อาหารของแร้งนะ” เจ้าแพะเห็นดว้ ยกับสิงโต
ทัง้ สองจึงแบง่ น้ากนั กินแต่โดยดี อานนท์ นิทานอีสป
ย่อนทิ ำนเร่อื ง............................................ของ..................................
จำก................................................... ควำมว่ำ
.............................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
๑๖๗
แบบทดสอบประจำหน่วยที่ ๑๒
คำชแี้ จง เขียนยอ่ ความจากบทร้อยกรองที่กาหนดใหต้ อ่ ไปนี้ ตามรูปแบบการย่อความ
บทรอ้ ยกรองเรือ่ ง หนั หนา้ หนั หลัง
ผูแ้ ตง่ ฐะปะนยี ์ นาครทรรพ
หนงั สือ ศึกษาภาษิต
ย่อบทร้อยกรองเร่ือง................................ของ.......................................
จำก...........................................................................ควำมว่ำ
..................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
๑๖๘
เฉลยแบบฝึกทักษะที่ ๑
คำชี้แจง แยกโครงสร้างของประโยคทก่ี าหนดให้ต่อไปนี้ (ขอ้ ละ ๑ คะแนน)
ภำคประธำน ภำคแสดง
ประโยค ประธำน ขยำย กรยิ ำ ขยำย กรรม ขยำยกรรม
ประธำน กริยำ
๑. แดงดโู ทรทศั น์ แดง - ดู - โทรทศั น์ -
๒. สมชายเตะฟุตบอล สมชาย - เตะ - ฟตุ บอล -
๓. นกบนิ นก - บนิ - - -
๔. นักเรียนชายขอ นกั เรยี น ชาย ขอ - กระดาษ วาดเขียน
กระดาษวาดเขียน
๕. เต้นเลน่ ดนตรีเพราะ เตน้ - เล่น - ดนตรี เพราะมาก
มาก
๖. สุนัขสีขาวเห่าแมวดา สนุ ขั สีขาว เหา่ - แมว ดา
๗. แม่คา้ ไกย่ ่างกาลงั แมค่ ้า ไกย่ า่ ง ทอน กาลงั เงิน -
ทอนเงินลูกค้า
๘. หนนู าชอบด่มื นมรส หนนู า - ดื่ม ชอบ รสหวาน -
หวาน
๙. อนั ดากนิ แตงโม อนั ดา - กิน - แตงโม ลกู ใหญ่
ลกู ใหญ่
๑๐.พส่ี วยอา่ นหนังสือ พ่ี สวย อา่ น ในห้องเรียน นทิ าน แกะดา
นทิ านแกะดาใน
ห้องเรียน
ระดับคุณภำพ ระดบั “เกง่ มำกคะ่ ”
คะแนน ดีมาก
ดี
คะแนน ๘ – ๑๐
คะแนน ๗ พอใช้
คะแนน ๕ – ๖ ปรับปรุง
คะแนน ๐ – ๔
๑๖๙
แนวคำตอบแบบฝึกทักษะท่ี ๒
คำชแ้ี จง เขยี นเรอื่ งตามจนิ ตนาการจากภาพที่กาหนดใหไ้ ด้ใจความสมบรู ณ์ ดว้ ยตัวบรรจง
คร่งึ บรรทัด ความยาว ๑๐ บรรทดั และตงั้ ช่ือเร่อื งให้เหมาะสม
ภาพ : เคร่อื งมอื วดั และประเมนิ ผล
“ความสามารถในการอา่ นและการเขียน” ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑
เรือ่ ง.................................................................
(คาตอบอยู่ในดุลยพนิ ิจของครู)
แนวคำตอบ
กำรตั้งช่อื เร่อื ง เปน็ คา วลี หรือประโยคที่ถกู ตอ้ ง และมีความหมายท่ีสอดคลอ้ งกับภาพ
อาจจะมีคาใดคาหน่ึงที่เกี่ยวข้องกับภาพ เช่น “สัตว์เล้ียงของฉัน” “ชีวิตในบ้านสวน” “ธรรมชาติ
ของนก” ฯลฯ
สำระสำคญั เขยี นเรื่องตามจินตนาการใหม้ ีสาระสาคญั จากภาพ เช่น
๑. สัตว์เลี้ยง
๒. บ้านสวน
๓. ธรรมชาติของสัตว์
ฯลฯ
๑๗๐
เกณฑ์กำรให้คะแนน ใชเ้ กณฑ์วัดควำมสำมำรถในกำรเขียนเร่ืองตำมจนิ ตนำกำรตำมระดบั คะแนน
(Rubric Scores) ดังนี้ (คะแนนเต็ม ๒๐ คะแนน)
รำยกำรประเมิน ๕ ๔ ระดับคะแนน ๒ ๑
ต้ังช่ือเร่ือง ตั้งชือ่ เรอื่ ง
๑. กำรต้งั ชื่อเรอ่ื ง ๓ ไดต้ ามเกณฑ์ ได้ตามเกณฑ์
ต้ังช่อื เรือ่ ง ครบ ๒ ข้อ ๑ ขอ้
๑.๑ ช่ือเรือ่ งมีคา ไดต้ ามเกณฑ์
ครบ ๓ ข้อ เขยี นเรอ่ื ง
เกยี่ วขอ้ งสอดคลอ้ งกบั ภาพ ได้สาระสาคญั
ตามเกณฑ์ ๑ ขอ้
๑.๒ สอ่ื ความหมายได้ตรง คะแนนเตม็ ๓ คะแนน
ใชภ้ าษา
หรอื สอดคล้องกับภาพ ได้ตามเกณฑ์
๑ ข้อ
๑.๓ ใช้ วลี ประโยคหรอื
เขยี นผดิ
ข้อความถูกตอ้ ง ๘ คา ข้ึนไป
ตามหลกั การใชภ้ าษา
๒. สำระสำคัญของเร่ือง เขยี นเร่อื ง เขียนเรื่อง เขียนเร่ือง เขียนเรือ่ ง
ไดส้ าระสาคญั ได้สาระสาคญั
๒.๑ ลาดบั ความคดิ ได้สาระสาคญั ได้สาระสาคญั ตามเกณฑ์ ตามเกณฑ์
๓ ขอ้ ๒ ข้อ
อย่างต่อเนื่อง ตามเกณฑ์ ตามเกณฑ์
๒.๒ นาเสนอเนอ้ื หา ครบ ๕ ขอ้ ๔ ข้อ
ตรงสาระสาคญั
ของภาพ
๒.๓ เนือ้ หามคี วามสมั พันธ์
กบั ภาพ
๒.๔ มคี วามเปน็ เหตเุ ปน็ ผล
๒.๕ มกี ารนาเสนอ
แนวคดิ ใหม่
๓. กำรใชภ้ ำษำ ใชภ้ าษา ใช้ภาษา ใช้ภาษา ใชภ้ าษา
ไดต้ ามเกณฑ์ ไดต้ ามเกณฑ์
3.๑. การเลอื กใช้คาไดถ้ ูกตอ้ ง ไดต้ ามเกณฑ์ ไดต้ ามเกณฑ์ ครบ ๓ ขอ้ ๒ ข้อ
ตามกาลเทศะ ครบ ๕ ข้อ ครบ ๔ ขอ้
3.๒. เรียงลาดบั เหตกุ ารณ์
ไดถ้ กู ตอ้ ง
3.๓. เขียนเว้นวรรค ตอน
ไดถ้ ูกตอ้ ง
3.๔. ใชค้ าสภุ าพ
3.๕. ประโยคถกู ตอ้ งตาม
หลกั ภาษา
๔. กำรเขยี นสะกดคำ เขียนถกู ต้อง เขียนผดิ เขียนผดิ เขียนผดิ
ทกุ คา ไมเ่ กนิ ๓ คา ไมเ่ กนิ ๕ คา ไมเ่ กนิ ๗ คา
5. ควำมเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย เขียนได้ เขยี นไดต้ าม เขยี นไดต้ ามเกณฑ์
และถกู ตอ้ งตำมคำช้ีแจง ตามเกณฑ์ เกณฑ์ ๒ ข้อ ๑ ข้อ
5.1 เขียนตวั อักษรอ่านง่าย ครบ ๓ ข้อ
5.2 สะอาดเรยี บรอ้ ย คะแนนเตม็ ๓ คะแนน
๕.๓ เขยี นไดต้ ามจานวน
บรรทดั ที่กาหนด
๑๗๑
ระดับคุณภำพแบบฝึกทกั ษะเร่อื ง กำรเขียนเรือ่ งตำมจนิ ตนำกำร (๒๐ คะแนน)
คะแนน ระดับ
คะแนน ๑๕ – ๒๐ ดมี าก
คะแนน ๑๓ – ๑๔ ดี
คะแนน ๑๐ – ๑๒
คะแนน ๐ – ๙ พอใช้
ปรบั ปรงุ
๑๗๒
แนวคำตอบแบบฝึกทักษะที่ ๓
คำช้ีแจง เขยี นเรยี งความในหัวข้อ “แม่ของฉนั ” ( ๑๕ คะแนน)
เรยี งความเร่ือง แม่ของฉัน
(คานา)……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
(เนอื้ เรอ่ื ง)…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………(ค……าต……อ……บ……อ……ย……ู่ใน……ด……ุล……ยพ……นิ……จิ ……ข……อ……งค……ร……ู) …………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
(สรปุ )…………………………………………………………………………………………………………………
………………………............................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
๑๗๓
รำยละเอยี ดเกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนแบบฝกึ ทกั ษะกำรเขียนเรยี งควำมเรือ่ ง แม่ของฉนั
กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี ๔
ประเด็นกำรประเมนิ เกณฑ์กำรประเมิน
๑. การตัง้ ชื่อเรอื่ ง ๓ ๒ ๑
๑.๑ ชอ่ื เรื่องมีคาท่สี ่ือ ตั้งชอ่ื เรื่องได้ตาม
ความหมายทตี่ รงหรือ เกณฑ์ครบ ๒ ขอ้ ตั้งช่ือเรอื่ งได้ตาม ตงั้ ชือ่ เร่อื งได้ไมต่ รงตาม
สอดคล้องกับประเดน็ ที่ เกณฑ์ครบ ๑ ข้อ เกณฑ์ทก่ี าหนด
กาหนด เขียนเรอื่ งได้
๑.๒ ใช้คา วลี ประโยคหรือ สาระสาคญั ครบตาม เขียนเร่ืองได้ เขยี นเรื่องไดส้ าระสาคัญ
ข้อความถูกตอ้ งตามหลักการ สาระสาคัญครบตาม ครบตามเกณฑ์ ๑ ข้อ
ใชภ้ าษา เกณฑ์ ๓ ข้อ
๒. สาระสาคญั ของเรื่อง เกณฑ์ ๒ ข้อ
๒.๑ ลาดบั ความคดิ เห็นอยา่ ง เขียนคา ประโยค
ตอ่ เน่ือง และข้อความ ได้ เขยี นคา ประโยค และ เขยี นคา ประโยค และ
๒.๒ เนอ้ื หามคี วามสัมพนั ธ์ ถูกต้องตามอกั ขรวิธี ขอ้ ความ ไม่ถกู ต้อง ข้อความ ไม่ถูกต้องตาม
กับประเดน็ ท่กี าหนด ตลอดทง้ั เร่ือง ตามอักขรวิธี ๒ อกั ขรวิธี ๓ ตาแหน่งข้นึ
๒.๓ มีความเป็นเหตุเปน็ ผล เขียนเว้นวรรคตอน ตาแหนง่ ไป
๓. การเขยี นคา ประโยค และ ถกู ต้องตลอดเรื่อง
ขอ้ ความ เขียนเว้นวรรคตอน เขียนเว้นวรรคตอนไม่
ผลงานสะอาด เป็น ไมถ่ ูกต้อง ๒ ตาแหน่ง ถกู ต้องเกนิ ๓ ตาแหน่ง
๔. การเว้นวรรคตอนถกู ต้อง ระเบยี บ ลายมือเปน็ ข้นึ ไป
แบบเดยี วกนั ตลอด
๕. ความสะอาด สวยงาม ท้งั เร่อื ง ลายมอื ไม่เป็นระเบยี บ ลายมอื ไมเ่ ป็นระเบยี บ
เปน็ ระเบียบเรียบร้อย ผลงานมรี อยลบ ขดี ฆ่า ผลงานมีรอยลบ ขีดฆ่า
ไม่สะอาด ๒ ตาแหน่ง ไมส่ ะอาด ๓ ตาแหน่ง
ข้ึนไป
เกณฑก์ ำรให้คะแนนเรื่อง กำรเขยี นเรยี งควำม ๑๕ คะแนน (ข้อละ ๑ คะแนน)
คะแนน ระดบั
คะแนน ๑๒ – ๑๕ ดมี าก
คะแนน ๑๐ – ๑๑ ดี
คะแนน ๘ – ๙ พอใช้
คะแนน ๐ – ๗ ปรับปรุง
๑๗๔
แนวคำตอบแบบฝึกทักษะที่ ๔
คำช้ีแจง เขียนยอ่ ความนิทานอีสป เรื่อง สิงโตกบั แพะท่ีกาหนดใหต้ อ่ ไปนี้
ตามรปู แบบการเขียนย่อความ
สิงโตกับแพะ
วันหนึ่งท่ามกลางอากาศอันแสนอบอ้าวของฤดูร้อน สิงโตและ
แพะต่างกระหายน้า เท่ียวเดินหาน้าด่ืมจนเดินมาพบกันท่ีแอ่งน้าเล็กๆ
แห่งหนึ่ง ทั้งสองแย่งกันกินน้าจนเกิดทะเลาะและต่อสู้กันข้ึน ในท่ีสุด
ท้ังสิงโตและแพะเหนื่อยหอบด้วยกันทั้งคู่ หลังจากต่อสู้กัน ทั้งคู่ก็นอน
หมดเร่ียวหมดแรง ในขณะที่นอนอยู่นั้น เจ้าสิงโตมองเห็นฝูงแร้งกาลัง
บินคอยท่าอยู่บนฟ้า มันจึงพูดขึ้นว่า “เราควรแบ่งน้ากันกินดีกว่าต่อสู้
กันจนตาย แล้วกลายเปน็ อาหารของแร้งนะ” เจ้าแพะเห็นดว้ ยกบั สิงโต
ทัง้ สองจึงแบง่ น้ากันกนิ แตโ่ ดยดี อานนท์ นิทานอีสป
ย่อนิทำนเรอื่ ง.......สงิ โตกบั แพะ........ ของ......อานนท์........
จำก.........นิทานอสี ป............. ควำมวำ่
.................สิงโตและแพะต่างเดินหาน้าดื่ม สัตว์ทั้งสองทะเลาะถกเถียง
แย่งกินน้า และต่อสู้กันจนนอนหมดแรงด้วยกัน ท้ังสองจึงเลิกต่อสู้และแบ่งน้า
กนั โดยดี เพอ่ื จะได้ไมเ่ ปน็ เหย่อื ของแร้ง....................
หมายเหตุ คาตอบอยู่ในดุลยพนิ ิจของ
คร)ู
๑๗๕
รำยละเอียดเกณฑ์กำรใหค้ ะแนนแบบฝกึ ทักษะกำรเขียนย่อควำมนิทำยอีสป เรอ่ื งสิงโตกบั แพะ
และแบบทดสอบประจำหนว่ ยกำรเรยี นรูท้ ่ี ๑๒ ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี ๔
รำยกำรประเมนิ ๕๔ ระดบั คะแนน ๑
คะแนน ๒ คะแนน ๓๒ ระบุ
๑. กำรเขยี นคำข้นึ ตน้ ส่วนประกอบ
มีส่วนประกอบคือ ระบสุ ่วนประกอบ คาข้นึ ตน้
๑.๑ ชื่อเร่ือง
๑.๒ ชื่อผู้แตง่ คาขึ้นต้น ขาด ๓ ข้อ
๑.๓ ช่ือหนงั สือ ไดค้ รบทุกข้อ ขึน้ ไป
๑.๔ คาวา่ ความวา่
คะแนน เขียน เขียน เขยี นเน้อื ความ เขียน
๒. กำรเขียนเนอ้ื ควำม ๔ คะแนน เนือ้ ความ เนื้อความ ได้ตามเกณฑ์ ๒ เน้อื ความ
๒.๑ มีประเดน็ สาคญั ไดต้ าม ไดต้ าม ข้อ ไดต้ ามเกณฑ์
ครบตามแนวคาตอบ เกณฑ์ครบ เกณฑ์ ๑ ขอ้
๒.๒ ไมข่ ยายความคดิ ๔ ขอ้ ๓ ข้อ
เกินประเด็นสาคัญ
๒.๓ ไมเ่ พม่ิ ประเดน็ ความคดิ ใช้ภาษา ใชภ้ าษา
นอกเหนอื จากประเด็น
สาคญั ได้ตามเกณฑ์ครบ ๕ ไดต้ ามเกณฑ์
๒.๔ ลาดบั เน้อื ความเป็นเหตุ
เป็นผลกนั ข้อ ๑ ขอ้
๓. กำรใชภ้ ำษำ คะแนน ๒ คะแนน
๓.๑ ย่อหนา้ และเว้นวรรค
ถกู ตอ้ ง เขยี นถูกต้อง เขยี นผดิ
๓.๒ ใชค้ าถูกต้องตามบริบท ทุกคาและ มากกว่า ๕ คา
๓.๓ ใชค้ าเช่อื มไดเ้ หมาะสม ตัวหนงั สือสะอาด
กับเนอ้ื ความ เรียบรอ้ ยอ่านงา่ ย ข้นึ ไปและ
๓.๔ ใชภ้ าษาระดบั เดียวกนั ตวั หนงั สอื ไม่
๓.๕ ใช้ภาษาระดับก่ึง สะอาดอา่ น
ทางการ ยาก
ขึ้นไป ไม่ใชภ้ าษาพดู
หรือภาษาถิน่
๔. กำรเขยี นสะกดคำและ
ควำมสะอำดเรียบรอ้ ย
คะแนนเตม็ ๒ คะแนน
๑๗๖
ระดบั คุณภำพเกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนเร่อื ง กำรเขียนย่อควำมนิทำนอสี ป เร่อื งสงิ โตกับแพะ (๑๐ คะแนน)
คะแนน ระดบั
คะแนน ๘ – ๑๐ ดมี าก
คะแนน ๗ ดี
คะแนน ๕ – ๖
คะแนน ๐ – ๔ พอใช้
ปรบั ปรงุ
ระดับคณุ ภำพเกณฑ์กำรใหค้ ะแนน แบบทดสอบประจำหนว่ ยกำรเรยี นรู้ที่ ๑๒ เรอื่ ง กำรเขยี นสื่อสำร
(๑๐ คะแนน)
คะแนน ระดับ
คะแนน ๘ – ๑๐ ดีมาก
คะแนน ๗ ดี
คะแนน ๕ – ๖
คะแนน ๐ – ๔ พอใช้
ปรบั ปรุง
๑๗๗
แนวคำตอบ
แบบทดสอบประจำหนว่ ยกำรเรยี นรู้ที่ ๑๒
คำช้ีแจง เขยี นย่อความจากบทรอ้ ยกรองทก่ี าหนดให้ต่อไปนี้ ตามรปู แบบการเขยี นย่อความ
บทรอ้ ยกรองเร่ือง หันหนา้ หันหลงั
ผู้แตง่ ฐะปะนีย์ นาครทรรพ
หนงั สอื ศึกษาภาษิต
แนวคำตอบ
ยอ่ บทรอ้ ยกรองเรอ่ื ง......หันหนา้ หนั หลัง......ของ.......ฐะปะนยี ์ นาครทรรพ........
จำก.....................หนงั สอื ศึกษาภาษติ ............................
ควำมว่ำ...............การทางานให้ชาติบ้าน-เมือง ถ้าหันหน้าปรึกษาพูดคุยกันดีๆ ก็จะมีแต่
ความรงุ่ เรือง แต่ถ้ามวั แต่ทะเลาะกัน หนั หลังให้กนั บ้านเมอื งก็คงมีแต่ความพินาศ ดังน้ัน
เราควรสามคั คีปรองดองกนั ไว้ เพ่ือความสงบสุขของบา้ นเมอื ง....................
หมายเหตุ คาตอบอยูใ่ นดลุ ยพินิจของครู
๑๗๘
เอกสำรอ้ำงอิง
กรมวิชาการ, กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2551). ตัวชีว้ ดั และสำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทยตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขนั้ พ้ืนฐำน
พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศ
ไทย.
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (๒๕๕๖). หนงั สอื เรยี นรำยวิชำพ้ืนฐำนภำษำไทย ชดุ ภำษำเพ่ือชีวติ
ช้ันประถมศึกษำปีท่ี ๔. กรงุ เทพฯ : สานักพิมพ์สกสค.
กอบกาญจน์ วงศว์ สิ ิทธ.ิ์ (2551). ทกั ษะภำษำเพอื่ กำรสอื่ สำร. กรงุ เทพฯ : สานกั พิมพ์
โอเดยี นสโตร์.
คณะผจู้ ัดทาหนงั สอื เรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวิต ภาษาพาท.ี (2563).
พมิ พค์ รง้ั ท่ี ๑๓. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค.
จิราภรณ์ บญุ ณรงค์. (2544). “กำรเปรียบเทียบผลสมั ฤทธิ์กำรอ่ำนจบั ใจควำมของ
นักเรยี นชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี ๖ ทไ่ี ด้รบั กำรสอนด้วยเทคนคิ KWL กับวิธสี อน
แบบปกติ” วิทยานิพนธป์ รญิ ญาศึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าการสอน
ภาษาไทย บัณฑิตวิทยาลยั มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร.
จุฑามาศ เจริญธรรม และคณะ. (๒๕๔๖). คมู่ ือกำรจัดกิจกรรม กำรอำ่ นเชิงวิเครำะห์
กรุงเทพมหานคร : เนชน่ั มัลติมีเดยี กรปุ๊ .
ฉววี รรณ คูหาภินันท.์ (2542). กำรอำ่ นและกำรส่งเสรมิ กำรอำ่ น. กรงุ เทพฯ :
ศลิ ปาบรรณาคาร, ๒๕๔๒.
ชลอ รอดลอย. (2544). กำรเขยี นสำรคดี. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ณชิ าพร ปรีชาวิภาษ. (2555). “กำรพฒั นำแบบฝกึ กำรอำ่ นจบั ใจควำมโดยใชข้ ้อมูล
ท้องถน่ิ สำหรับนักเรยี นชัน้ ประถมศึกษำปที ่ี ๔.” วทิ ยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร์
มหาบัณฑิต สาขาวชิ าหลักสตู รและการนเิ ทศ บัณฑติ วิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั
ศลิ ปากร.
ถวัลย์ มาศจรัส. (2550). สรรพศำสตร์ของกำรเขยี นในกำรทำนวัตกรรมกำรศึกษำ.
กรุงเทพฯ : ธารอักษร.
บรษิ ทั อกั ษร เอ็ดดูเคชั่น จากัด มหาชน. เคลด็ ลบั ช่วยจำกำรผนั วรรณยุกต์. [ออนไลน์]
เขา้ ถึงได้จาก https://www.aksorn.com/tonal-conjugation เข้าถงึ เม่ือ 18
พฤษภาคม ๒๕๖๔.
๑๗๙
เอกสำรอ้ำงอิง (ตอ่ )
ฝ่ายวชิ าการ. (2547). แบบฝึกเข้มข้นเพือ่ เตรียมตวั สอบภำษำไทย ป.๔. กรงุ เทพฯ :
สานกั พมิ พ์ดอกหญา้ วชิ าการ จากัด.
ฝ่ายวิชาการสานกั พมิ พโ์ ฟกัส. (2537). แบบฝกึ หลักภำษำไทย ป.๕ เล่ม ๒. สมุทรปราการ :
ห้างห้นุ สว่ นจากัดสินทวกี จิ พริ้นติง้ .
ยุวดี. หลกั ภำษำไทยอกั ษรควบกลำ้ . [ออนไลน์] เขา้ ถงึ ไดจ้ าก https://teen.mthai.com/
education/172367.html. เข้าถงึ เม่ือ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๔.
วเิ ชียร เกษประทุม. (2550). ลกั ษณะคำประพันธ์ไทย. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพ์พฒั นาศึกษา.
สถาบนั ภาษาไทย สวก.สพฐ. (2559). คู่มอื กำรสอนอำ่ นเขยี นโดยกำรแจกลกู สะกดคำ.
กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พช์ ุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากดั .
สาลี รักสุทธ.ี (2557). สอนอย่ำงไรให้เด็กอำ่ นออก อ่ำนได้ อำ่ นคลอ่ ง อ่ำนเปน็ เขียนได้
เขยี นคล่องและเขยี นเปน็ . กรงุ เทพมหานคร : บริษัท ธนธัชการพมิ พ์ จากัด.
อัจฉรา ชีวพันธ์ และคณะ. หลกั ภำษำไทย ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี ๕. (2545). กรงุ เทพฯ :
สานักพิมพ์บรรณกจิ ๑๙๙๑ จากดั , ๒๕๔๕.
๑๘๐
คณะทำงำน
ท่ีปรกึ ษำ
1. นายมงั กรแก้ว ดรุณศลิ ป์ ผูอ้ านวยการสานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรขี ันธ์ เขต 1
2. นางสาววรลักษณ์ จันทร์ผา รองผู้อานวยการสานักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1
3. นายภญิ โญ พลู สวสั ด์ิ รองผู้อานวยการสานักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาประจวบคีรีขนั ธ์ เขต 1
4. นายประจบ ดีพรม รองผอู้ านวยการสานักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาประจวบครี ขี ันธ์ เขต 1
5. นายขจรเกียรติ เครือประดับ ผ้อู านวยการกลุม่ นเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา
6. นางหริณญา รุ่งแจ้ง
7. นางสาวกรวกิ า พงศาปาน ศกึ ษานเิ ทศก์
8. นางสาวมิตรสินีย์ สมบรู ณ์ ศกึ ษานิเทศก์
9. นางสาวพัทรส์ ติ า ภมู ิพฤก ศกึ ษานิเทศก์
10. นางสุประวณี ์ เอกมณโี รจน์ ศึกษานิเทศก์
11. นายจุมพลภัทร์ ไชยสัตย์ ศกึ ษานเิ ทศก์
ศกึ ษานิเทศก์
คณะจดั ทำและบรรณำธกิ ำรกิจ ศึกษานิเทศก์
ครูโรงเรียนอนุบาลบางสะพานนอ้ ย
1. นางหรณิ ญา รุง่ แจ้ง ครูโรงเรยี นวัดเขาราษฏร์บารุง
2. นายโกวิท ทองมาก ครโู รงเรยี นธนาคารออมสนิ
3. นายสริ วชิ ญ์ นกทอง ครโู รงเรียนบ้านยุบพรกิ
4. นางสาวจงรัก ภคั ประจวบพร ครโู รงเรยี นบ้านคลองชายธง
5. นางโสภี สูงย่งิ ครูโรงเรยี นอนบุ าลบางสะพาน
6. นางสาวชลธิชา เปรมปาน ครูโรงเรยี นบ้านคัน่ กะได
7. นางชลธิชา จันทรแ์ กว้ ครโู รงเรียนบางสะพาน
8. นางสาวสดุ ใจ มุง่ ดี ครโู รงเรยี นอนุบาลประจวบคีรขี นั ธ์
9. นางวาสนา โตแก้ว ครโู รงเรียนบ้านหนองเสือ
10. นางสาวเปรมจติ ร บวั เผ่อื น ครูโรงเรยี นบา้ นชา้ งเผอื ก
11. นางสาวภทั รธดิ า ทองไทยจรูญ ครูโรงเรยี นมูลนธิ ิศกึ ษา
12. นางสาวจรรยพร เอกอรุณ
13. นางสาวรวิ เตม็ วนาวรรณ
ผอู้ อกแบบปก เจา้ หน้าทีธ่ รุ การ สพป.ประจวบคีรขี นั ธ์ เขต 1
นายณดลพฒั น์ วริ ะมุข
ผจู้ ดั รูปเล่ม เจ้าพนักงานธุรการ สพป.ประจวบครี ขี ันธ์ เขต 1
นางดารณี ธรรมรงรัตน์
๑๘๑