The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือ การจัดการและช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายากเกยตื้น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือ การจัดการและช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายากเกยตื้น

คู่มือ การจัดการและช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายากเกยตื้น

Keywords: สัตว์ทะเลหายาก

7) หลังจากเอาหวั ใจ และตับออกมาแล้ว Page | 97
ให้กรีดเปิดบริเวณระหว่างขากรรไกรลา่ ง
ทั้งซ้ายและขวา เพ่ือเลาะเอาลิ้นออกมา
จ า ก น้ั น แ ย ก เ อ า ห ล อ ด อ า ห า ร แ ล ะ
หลอดลมออกจากกัน เลาะหลอดอาหาร
ออกมาพร้อมกับอวยั วะอ่ืน ๆ โดยตดั เยื้อ
ยดึ อวัยวะภายในที่ตดิ กบั กระดองหลัง ใช้
เชือกผูกลาไส้ส่วนท้ายแล้วตัดลาไส้ออก
จากลาตัวเต่า แล้วทาการแยกตับอ่อน
และมา้ ม ออกจากลาไส้

8) ลักษณะของหลอดอาหาร เป็น
ท่อนิ่ม ๆ อยู่ติดกับหลอดลม ด้าน
ในของหลอดอาหารจะมีหนามอยู่
สีของหลอดอาหารจะพบว่าเรียบ
และมีสีน้าตาลอ่ อ น ในส่ว น
กระเพาะพัก จะพบเฉพาะในเต่า
ตนุเท่านั้น จะเป็นส่วนที่วางตัวอยู่
ระหว่างหลอดลม จะเป็นกระพุ้งท่ี
ใ ช้ เ ก็ บ อ า ห า ร ก่ อ น ที่ จ ะ เ ข้ า สู่
กระเพาะอาหาร ในส่วนของ
กระเพาะอาหารเป็นรูปตัวเจ “J”
ด้านในจะเป็นสนั เรยี บ

9) ลาไส้เล็ก (Small intestine) ของเต่า 11) เม่ือเลาะอวัยวะทางเดินอาหารออกแล้วให้เลาะเอา
เป็นท่อยาวที่ขดอยู่โดยปลายด้านหนึ่งต่อ สว่ นของปอดออกโดยจะต้องระวังไม่ใหเ้ นื้อปอดที่ตดิ อยู่กับ
กับกระเพาะอาหารส่วนอีกด้านหนึ่งต่อกับ กระดองเสียหาย และเมื่อเลาะมาถึงส่วนท้ายให้ระวังต่อม
หมวกไตและอวัยวะเพศ ซึ่งอยู่ระหว่างปอดและไต และทา
Page | 98 การเลาะกระเพาะปัสสาวะออก เมือ่ เลาะกระเพาะปสั สาวะ
ออก แล้วจะพบไตซึ่งจะมีอวัยวะสืบพันธ์ุอยู่ด้านบนออกมา
ลาไส้ใหญ่ ด้านในจะมีลักษณะคล้ายรังผึ้ง โดยจะเอาต่อมหมวกไตออกมาด้วย หลังจากน้ันแยกเอา
ในส่วนของลาไส้ใหญ่ (Large intestine) ปอดและหลอดลมออกมา
มีผนังเรียบมีสีน้าตาลอ่อน ความผิดปกติท่ี
มักพบในทางเดินอาหาร ได้แก่ สิ่ง 12) ปอดมีลักษณะคล้ายฟองนา้ เนื้อเรยี บและมสี ีชมพู เมื่อ
แปลกปลอม เช่นเบ็ด ขยะ แผลหลุม หรือ ผ่าเปิดดูความผิดปกติแล้วใหท้ ดสอบการลอยน้า โดยทั่วไป
หนอง ปอดจะลอยน้า แต่ถ้าพบว่าปอดจมน้าอาจเกิดจากปอดมี
การค่ังของน้าเนื่องจากการจมน้าหรือสาลักน้า หรืออาจ
10) ม้าม (Spleen) มีลักษณะมนเป็นส่วน เกิดจากปอดเสียสภาพเน่ืองจากเกิดแผลหรือหนองในปอด
ของระบบภูมิคุ้มกัน โดยท่ัวไปเนื้อจะแน่น ลักษณะของหลอดลมมีสนี ้าตาลอ่อน ภายในมีผวิ เรยี บ
เรียบ และมีสีน้าตาลชมพู และตับอ่อน
(Pancreas) จะวางตวั ไปตามแนวลาไส้เล็ก 13) กระเพาะปัสสาวะ (Urinary bladder) เป็นถุงที่มีผนัง
ส่วนต้น ซ่ึงจะมีลักษณะเรียบและหนาแล้ว หนาซ่ึงเป็นที่เก็บปัสสาวะ (เมื่อมีปัสสาวะภายในผนัง
แผ่ออกผ่านท่อน้าดีและพาดไปยังม้าม มีสี กระเพาะปสั สาวะจะบางลง) ผนงั ดา้ นในจะเป็นรอยย่นและ
ชมพูจนถงึ สีเหลืองสม้ มีเม็ดสีสีเข้ม เม่ือเปิดกระเพาะปัสสาวะควรสังเกตลักษณะ
ปัสสาวะโดยทั่วไปปัสสาวะจะมีสีเหลืองใสบางครั้งอาจพบ
เมือกสีขาวได้

14) ไตจะอยู่บริเวณกระดองหลัง ติดกับ
ปอด(ลูกศรสีดา) และอยู่ใต้กระดูกเชิงกราน
และมีอวัยวะสืบพันธ์ุวางอยู่ด้านบน (ลูกศร
สีขาว) จึงเลาะเอาต่อมบ่งเพศออกก่อนเพื่อ
นาไปแยกเพศต่อไป แลว้ จงึ แยกไต (เส้นประ
สีขาว) ออกมา โดยทวั่ ไปไตควรแน่นและมีสี
น้าตาลสมา่ เสมอ

Page | 99

15) ผ่าเปิดกะโหลกตามภาพด้านล่าง แล้วนาสมอง
และต่อมขับเกลือออกมา สมองควรจะแน่นและมีสี
ชมพูถึงน้าตาลอ่อนเป็นเน้ือเดียวกัน ความผิดปกติท่ี
อาจพบในสมองได้แก่ จุดเลือดออก คราบหนอง เป็น
ต้น ต่อมขับเกลือ (ภาพซ้ายและเส้นประสีเหลือง)เป็น
อวัยวะท่ีสาคัญในการควบคุมสมดุลเกลือแร่ ต่อมขับ
เกลือเนือ้ แนน่ มีสีชมพูถึงน้าตาลอ่อน

16) ชั่งน้าหนัก และวัดขนาดทั้งความกว้างและ 17) หลังจากทาการวัดและช่ังน้าหนัก พร้อมจด
ความยาวของอวัยวะทุกส่วน พร้อมจดบันทึกและ บันทึกและถ่ายภาพแล้ว จึงทาการตรวจสอบ
ถ่ายภาพ การวัดขนาดอวัยวะให้วัดตามแนวปกติที่ ความผิดปกติของอวัยวะภายในส่วนท่ีเหลือ โดย
อวัยวะเรียงตัวอยู่ในร่างกายในส่วนของทางเดิน ผู้ตรวจรอยโรคควรเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ
อาหาร ควรวัดแยกส่วนของหลอดอาหาร กระเพาะ หรือสัตวแพทย์ และเม่ือพบรอยโรคท่สี งสัยจึงทา
อาหารและลาไส้ โดยลาไส้จะวัดขนาดความกว้าง การเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อท่ีมีรอยโรคเพื่อส่งตรวจ
แบบสมุ่ ส่วนตน้ สว่ นกลาง และสว่ นทา้ ย ทางจุลพยาธวิ ทิ ยาต่อไป

Page | 100 ตวั อย่างความผดิ ปกติ

ลักษณะของไขมันท่ีมีกำรอักเสบจะ
มีสซี ีด และมสี สี ้มกว่ำไขมันปกติ

ตับทม่ี ีสีซดี กวำ่ ปกติ ซึ่งอำจเกิดจำก
กำรจัดกำรด้ำนอำหำรที่ไมเ่ หมำะสมได้

ลั ก ษ ณ ะ ห น อ ง ใ น เ ต่ ำ ท ะ เ ล จ ะ มี
ลกั ษณะเปน็ ก้อนแข็ง

ฟองอำกำศในหลอดลม แสดงถึง
อำกำรสำลักนำ้ กอ่ นกำรเสยี ชวี ติ

อวัยวะภายในของเตา่ ทะเล

Page | 101

การเกบ็ ตัวอย่าง

การเก็บตัวอย่างอวยั วะจากซากสามารถนาไปใชใ้ นการตรวจทางห้องปฏบิ ัติการ เพ่ือใช้ในการยนื ยนั
Page | 102 หรือช่วยในการวินิจฉัยเพิ่มเติมสาเหตุการเสียชีวิตได้ โดยอวัยวะต่างๆสามารถนาไปตรวจได้ตามตาราง

ดงั ต่อไปน้ี

อวัยวะ DNA แบคทเี รยี ไวรัส จลุ พยำธวิ ิทยำ โลหะหนกั พยำธิ

ผิวหนัง (Skin)  
ชนั้ ไขมัน (Blubber)  
เลือด (Blood)
กล้ามเนื้อ (Muscle)   
ไทรอยด์ (Thyroid)  
ไทมัส (Thymus)   
หัวใจ (Heart)  
ปอด (Lung) 
ต่อมน้าเหลือง 
(Lymph nodes)
ตอ่ มหมวกไต (Adrenal) 
ตบั (Liver)
ตับอ่อน (Pancreas)   
ไต (Kidney) 
กระเพาะปัสสาวะ (Bladder) 
อวยั วะสบื พันธุ์ 
(Reproductive) 
ตอ่ มน้านม (Mammary) 
กระเพาะ (Stomach) 
อาหารในกระเพาะ
ลาไส้ (Intestine) 
ม้าม (Spleen)
สมอง (Brain)  
ต่อมใต้สมอง (Pituitary)  
ฟัน (Teeth) 
กระดูก (Bone)  

 









อย่างไรกต็ ามการเกบ็ ตัวอย่างจากซากบางระดับไมส่ ามารถเก็บตัวอย่างได้ครบท้งั หมด และบาง
อวยั วะมวี ธิ กี ารเก็บตวั อย่างที่ต้องอาศัยผเู้ ชีย่ วชาญ ซ่งึ มีรายละเอียดการเกบ็ ตัวอยา่ งพื้นฐานต่าง ๆ ดังน้ี

1) กำรเก็บตัวอย่ำงเพอ่ื สง่ ตรวจ DNA Page | 103
- ตัดชิ้นเน้ือเยื่อขนาดกว้างและยาวประมาณ
2x2 cm อย่างน้อย 4 ช้ิน รักษาสภาพใน
95% เอทลิ แอลกอฮอล์
- ภาชนะท่ีบรรจุควรเป็นภาชนะที่สะอาด
ป้องกันการร่ัวซึมได้ดี และบันทึกข้อมูลของ
ตัวอย่างใหค้ รบถ้วน

2) กำรเก็บตัวอย่ำงเพ่ือวิเครำะหโ์ ลหะหนกั
- เก็บตัวอยา่ งกล้ามเน้ือ ช้ันไขมัน ตบั และไต อย่างละ 150 กรมั เพ่อื วเิ คราะหป์ รมิ าณโลหะหนักและ
สารพษิ อนื่ ๆ
- ควรแช่แข็งตัวอย่างหลังการเก็บ (-10๐C) และในขณะท่ีขนส่งไปยังห้องปฏิบัติการ เพื่อลดการ
เปลย่ี นแปลงของสารพิษในตัวอยา่ ง
- ไม่ควรล้างตวั อยา่ งทสี่ ง่ ตรวจ เน่ืองจากอาจเป็นการเจือจางสารพิษท่ีมอี ยใู่ นตวั อยา่ ง
- ภาชนะทบี่ รรจคุ วรเปน็ ภาชนะที่สะอาด ป้องกันการร่ัวซมึ ได้ดี
- บันทกึ ขอ้ มูลตัวสตั ว์ ชนิดของตวั อยา่ งหรือเนอื้ เยื่อท่สี ่งตรวจ

ไต ตับ ช้ันไขมนั และกล้ำมเนอ้ื

Page | 104 3) กำรเก็บตัวอย่ำงเพื่อส่งตรวจทำงจุลพยำธิวิทยำ
(Histopathology)

- เกบ็ ตวั อย่างช้ินเนื้อของอวยั วะท่ีมีรอยโรค ทัง้ สว่ น
ที่ผิดปกติและส่วนท่ีปกติให้อยู่ในชิ้นเดียวกัน ตัด
ให้มีความหนาประมาณ 0.5 cm กว้างและยาว
ประมาณ 0.5 x 0.5 cm

- รักษาสภาพด้วยฟอร์มาลีน 10% ในอัตราส่วน
1:10 เพื่อตรึงสภาพเน้ือเยื่อให้สมบูรณ์ ซ่ึงใช้เวลา
ประมาณ 24-48 ช่วั โมง

- ภาชนะบรรจุควรเป็นภาชนะที่ป้องกนั การรวั่ ซึมได้
ดี และควรบันทึกที่ภาชนะบรรจุและในประวัติให้
ตรงกนั

4) กำรเก็บตัวอย่ำงเลนส์ตำ เก็บเลนส์ตาพะยูน
ทั้งสองข้างใส่ในขวดเก็บตัวอย่างแก้วที่มี 70%
เอทิลแอลกอฮอล์เพ่ือนาไปใช้ในงานวิจัยหาอายุ
ตอ่ ไป

5) กำรเก็บตัวอย่ำงกระดูกและฟัน Page | 105
แช่กระดูกในน้าสะอาด ล้างทาความ
สะอาดและเปล่ียนน้าทุกอาทิตย์จนเศษ
เน้ือหมด เสร็จแล้วแช่ด้วยไฮโดรเจนเปอร์
ออกไซด์ 10% ให้กระดูกเปลีย่ นเป็นสีขาว
แล้วนาไปตากแดดให้แห้ง

6) กำรเก็บตัวอย่ำงเพื่อส่งตรวจ 7) กำรเก็บตวั อย่ำงอำหำรในกระเพำะและอุจจำระ
ทำงปรสิตวิทยำ เก็บตัวอย่าง - เก็บตัวอย่างบางส่วนในกระเพาะอาหาร เพ่ือนาไปศึกษา
พยาธิท้ังภายนอกและภายใน ล้าง ชนิดของหญ้า และเก็บตัวอย่างอุจจาระเพ่ือนาไปส่องตรวจหา
ด้วยน้าเกลือ (Normal saline) ไข่พยาธิ ศกึ ษาการย่อยอาหารและฮอรโ์ มนได้
แ ล้ ว รั ก ษ า ส ภ า พ ด้ ว ย 70% - การเก็บรักษาตัวอย่างอาหารในกระเพาะเก็บในภาชนะ
เ อ ทิ ล แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ ใ น ข ว ด เ ก็ บ สะอาดมีฝาปิด รักษาสภาพด้วย10% บัฟเฟอร์ฟอร์มาลิน และ
ตวั อย่าง ตวั อยา่ งอจุ จาระระสามารถเกบ็ โดยการใส่ภาชนะสะอาด รกั ษา
สภาพดว้ ยการแช่เย็น

Page | 106 การทาลายซาก

การทาลายซากสัตว์ทะเลหายากสามารถทาได้
หลายวิธีเช่น ฝังกลบ ทิ้งทะเล เผา ระเบิด โดยท้ังนี้ข้ึนกับ
คุณภาพซาก สาเหตุการเสียชีวิต ชนิดของอุปกรณ์
สิ่งแวดล้อมของพ้ืนท่ีทางาน และผู้ปฏิบัติงาน เพื่อการ
ท า ง า น ท่ี ส ะ ด ว ก ส บ า ย แ ล ะ ค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม ท า ง ด้ า น
สาธารณสุขสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างย่ิงในกรณีการ
เสียชวี ิตจากโรคติดต่อสตั ว์สคู่ น (Zoonosis) หรือบริเวณใกล้
แหล่งชมุ ชน โดยมีวิธีการทาลายซากดงั น้ี

1) กำรฝังกลบ เป็นกระบวนการที่รวดเร็วที่สุดในการกาจดั 2) กำรทิ้งทะเล เป็นการกาจัดซากที่นิยมทา
ซากและย่อยสลายตัวของซาก โดยจะต้องมกี ารประสานงาน ในกรณีซากสัตว์มขี นาดใหญ่เกินไป เช่น วาฬ
กับเจ้าหน้าท่ีในพ้ืนท่ีรับผิดชอบน้ัน ในการขอเข้าใช้พ้ืนท่ีใน มีซี่กรอง (Baleen whale) โดยพื้นที่ในการ
การฝังกลบ สร้างความเข้าใจกับสังคมและประชาชน โดย ท้ิงจะต้องอยู่ห่างจากฝ่ังมาก อีกทั้งยังต้อง
จะต้องมีการเลือกพ้ืนท่ีท่ีจะใช้ในการฝังกลบเช่น ชายหาด พิ จ า ร ณ า ใ น เ รื่ อ ง ข อ ง ก ระ แ สล มและ
พื้นดินเปล่า เนินทราย ซึ่งควรจะเลือกในบรเิ วณท่ีน้าท่วมไม่ กระแสน้าอีกด้วย ซ่ึงต้องระวังอย่างมากใน
ถึง(น้าขึ้น) โดยหลุมควรจะมีความลึกสองเท่าจากขนาดซาก เร่ืองของการเกยตื้นซ้าในกรณีเลือกพ้ืนท่ีใน
และใช้สารฆ่าเช้ือเช่น กลุ่มสารสร้างความเป็นด่าง(ปูนขาว) การทง้ิ ไมเ่ หมาะสม
หรือสารฆ่าเชื้อในกลมุ่ ไฮเปอร์คลอไรต์(ไฮเตอร)์ และทาการ 3) กำรเผำ เป็นวิธีการท่ีดีท่ีสุดในการกาจัด
ฝังกลบให้นูนกว่าปากหลุมครึ่งเมตรเพื่อป้องกันภาวะการ เชื้อหลังการตาย ซึ่งสามารถทาได้โดยการใช้
สร้างแก๊สหลังการเสียชวี ติ (Bloat) และเป็นการป้องกันการ เตาเผาหรือเผาบริเวณสาธารณะโดยใช้การ
กินซากจากสัตวใ์ นบรเิ วณใกล้เคยี ง ขุดหลุม

ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน

Page | 107

1) ควำมเส่ยี งท่เี กดิ ขน้ึ ตอ่ ชุมชน 2) ควำมเสย่ี งท่ีเกิดข้ึนกับผปู้ ฏบิ ัติงำน
สัตว์ทะเลเกยตื้นมักมีสาเหตุการเกยต้ืนจากปัญหา ผู้ปฏิบัติงานนั้นนอกจากจะสัมผัส

ตา่ ง ๆ ในระบบร่างกาย เป็นสว่ นมาก ความเครยี ดจากการ กับสัตว์ทะเลเกยตื้นโดยตรงแล้วยัง สัมผัส
เกยต้ืนน้ัน ทาให้ผู้ปฏิบัติงานไม่สามารถคาดเดาพฤติกรรม กับภูมิประเทศ และสภาพแวดล้อม
ได้แน่นอน หลายครงั้ สัตวน์ ้นั กลัวกจิ กรรมต่าง ๆ ในระหวา่ ง เดียวกับสัตว์ ซ่ึงสามารถทาให้เกิดการ
การปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ชว่ ยชีวติ ซึง่ สามารถทาใหเ้ กิดการบากเจ็บ เจ็บป่วย และอุบัติเหตุอื่น ๆ ได้ สาหรับ
ของผู้ปฏิบัติงานได้เช่นการ กัด และ การถูกกระแทก จาก กรณีการติดเชื้อจากเชื้อก่อโรคท่ีมี การ
การด้ินเพ่ือให้เป็นอิสระ ซึ่งมักพบได้ในสัตว์ที่อาศัยใน ติ ด ต่ อ ม า จ า ก สั ต ว์ สู่ ค น นั้ น จ ะ พ บ
ธรรมชาติ และ สัตว์ที่ไม่ได้รับการฝึกมาก่อน หรือในกรณี กรณีศึกษาดังกล่าวน้อยกว่าเม่ือเทียบกับ
ข อ ง ก า ร ป ฏิ บั ติ ก า ร ช่ ว ย ชี วิ ต ท่ี ไ ม่ มี ค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม การสัมผัสเช้ือก่อโรคต่าง ๆ ในฝูงชน หรือ
นอกจากนี้แล้วยังสามารถพบกรณีของเช้ือก่อโรคซ่ึง ผู้ปฏิบัติงานท่ีไม่ได้ผ่านการฝึกปฏิบัติการ
สามารถติดต่อจากสัตว์มาสู่มนุษย์โดยการสัมผัสทาง ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลเกยตื้น ซ่ึงการวาง
กายภาพกับสัตว์ทะเลเกยต้ืน ซึ่งสัตว์ทะเลเกยต้ืนท่ีดู แผนการปฏิบัติงานน้ัน นอกจากกรณีของ
ภายนอกมีสุขภาพดีนั้น ในบางคร้ังสามารถพบเช้ือก่อโรค โรคสัตว์สู่คนแล้ว ยังต้องคานึงถึงความ
ต่าง ๆ ได้ เช่นปรสิต หรือเชื้อแบคทีเรียก่อโรคเช่น เชื้อซัล ปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะ
โมเนลล่า คลอสติเดียม ดังน้ัน การได้รับเชื้อก่อโรคต่าง ๆ อาสาสมัครท่ีเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจด้วย
และการระบาดของเชื้อก่อโรคในมนุษย์จึงเป็นความเสี่ยท่ี เพราะการปฏิบัติงานยังมีความเส่ียอื่น ๆ
สามารถเกิดขน้ึ ได้ เช่น ความเหน่ือยล้าในการปฏิบัติงาน
สภาพภูมิอากาศขณะปฏิบัติงาน และการ
การวางแผนก่อนการปฏิบัติงาน สาหรับการ แช่อยู่ในน้าเป็นเวลานาน ซ่ึงจะทาให้เพิ่ม
ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลเกยต้ืนจึงควรคานึงถึง ความปลอดภัย ความเส่ียงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือการ
ของฝูงชน และ บุคคลอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับการอบรมช่วยชีวิต บาดเจ็บได้ขณะปฏิบัติงานช่วยชีวิตสัตว์
มาก่อน ด้วย เพราะกรณีการพบการเกยต้ืนในพ้ืนท่ีต่าง ๆ ท ะ เ ล ห า ย า ก ยั ง ส า ม า ร ถ ส่ ง ผ ล ต่ อ
มักเป็นหาดทราย หรือ ท่ีที่มีชุมชน ดังนั้นจึงมีโอกาสการ สตสิ มั ปชญั ญะ และ สุขภาพได้
สมั ผัสกบั สัตว์ทะเลเกยต้นื ได้ เชน่ กรณีของการเกยตื้นมีชีวิต
และ กรณีของการพบซากสัตว์ทะเลเกยตื้น อาจมี
ผู้ปฏิบัติงานอ่ืน ๆ เช่นนักข่าว เจ้าหน้าท่ีในท้องถ่ิน หรือแม้
กระทง้ั คนในชมุ ชนใกล้เคียง

ปจั จยั ความเส่ยี งที่มกั เกิดขึน้ กบั ผ้ปู ฏิบตั งิ าน

Page | 108

1) โรคสัตว์สู่คน มีสาเหตุหลากหลายเช่น เชื้อแบคทีเรีย น อ ก จ า ก นี้ แ ล้ ว ก า ร จั ด ต า ร า ง
เชื้อรา เช้ือไวรัส และสามารถติดต่อ สู่ผู้ปฏิบัติงานได้ทั้ง ปฏิบัติงานสาหรับงานในน้า ควรมีการ
ในสัตว์มีชีวิต และซากสัตว์ทะเลเกยตื้น ยกตัวอย่างเช่น สับเปลี่ยนเพื่อทาการประคองสัตว์ทะเล
เชื้อไวรัสไข้หวัด (influenza virus) สามารถแสดงอาการ เกยตน้ื โดยระยะเวลา ไม่ควรเกนิ 2 ชว่ั โมง
ตาอักเสบได้ในมนุษย์ หรือ เชื้อแบคทีเรียอื่น ๆ เช่น เชื้อ ต่อคร้ัง และการหยุดพักเม่ือปฏิบัติงาน
วัณโรค โรคฉ่ีหนู โรคไฟลามทุ่ง ซ่ึงการปฏิบัติงาน เสรจ็ ควรมกี ารขยับร่างกายและเคล่ือนไหว
ช่วยชีวิตสตั ว์ทะเล สามารถลดความเส่ยี งดังกลา่ วได้ เช่น ร่างกายเพื่อปอ้ งกนั ภาวะ hypothermia
การสวมถุงมือหรือหน้ากากอานามัย การสวมชุดกันน้า
การล้างมืออย่างถูกวิธี และ การรักษาตวามสะอาดแผล 3) กำรได้รับบำดเจ็บอื่น ๆ ระหว่าง
ท่ีเกิดระหว่างการปฏิบัติงาน และการพบแพทย์ทันทีเม่ือ ปฏิบัติงาน นอกจากสภาพอากาศขณะทา
มีความผิดปกติของร่างกายหลังจากสัมผัสกับสัตว์ทะเล การปฏิบัติงานแล้วควรระมัดระวัง พื้นท่ีท่ี
เกยต้นื ปฏิบัติงานเช่น โขดหิน พื้นลื่น การยกของ
หนัก หรือ ความยากลาบากในการ
2) กำรสัมผัสกับสภำพแวดล้อมที่ไม่เหมำะสมขณะทา ปฏิบัติงาน ควรมีการวางแผน และใช้
การปฏิบัติหน้าท่ี กรณีของ การช่วยชีวิตในท่ีโล่งแจง้ หรอื อุปกรณ์ทุ่นแรงเพ่ือให้สามารถดาเนินงาน
ชายหาดอาจทาให้เกิดภาวะ Heat stroke หรือ โรคลม ได้อย่างปลอดภัย สาห รับกรณีของ
แดด และภาวะอุณหภูมิร่างกายต่า(Hypothermia) เม่ือ อุบัติเหตุควรประสานกับเจ้าหน้าที่ในพนื้ ท่ี
มีการลงปฏิบัติหน้าท่ีในน้าเป็นเวลานาน หรือการ เ พ่ื อ ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย ข อ ง ผู้ ป ฏิ บั ติ ง า น
ปฏิบัติงานที่มีอุณหภูมิน้อยกว่า 30-32 องศาเซลเซียส สาหรับกรณีท่ีไม่สามารถเข้าช่วยชีวิตสัตว์
เพราะการแช่ในน้าเป็นเวลานาน และ การถูกลมพัดจะ ทะเลเกยตื้นได้เน่ืองจากความปลอดภัย
ทาให้เกิดการสญู เสียความร้อน ซ่ึงจะส่งผลต่อการทางาน ผู้ปฏิบัติงาน การทาการุณยฆาต เป็นอีก
ของหัวใจและไต ทาให้เกิดความดันโลหิตต่า มีอัตราการ หนึ่งสิ่งท่ีควรปฏิบัติ แต่ท้ังนี้ควรพิจารณา
เต้นของหัวใจต่าลง และลดการทางานของไต ซึ่งจะทาให้ จากอาการของสัตว์ และความปลอดภัย
เกิดอาการมึนงง มีประสิทธิภาพในการทางานน้อยลง ของผู้ปฏิบตั งิ านด้วย
ดงั นั้นจึงควรมกี ารเตรยี มชดุ สาหรับสวมใส่เพื่อใหส้ ามารถ
ปฏบิ ตั ิงานได้โดยไมเ่ กดิ ความเสีย่ งตอ่ สุขภาพ

Page | 109

Page | 110 เอกสารอา้ งองิ

กรองแก้ว สอู ำพัน, เสำวภำ อำศน์ศิลำรัตน,์ พชั รำภรณ์ แก้วโม่ง (บรรณำธกิ ำร). 2555.
คู่มอื ชว่ ยเหลือเตำ่ ทะเลบำดเจ็บและป่วยธรรมชำต.ิ กรมทรัพยำกรทำงทะเลและ
ชำยฝ่งั . 18 หนำ้ .

กำญจนำ อดุลยำนโุ กศล, สรุ ศกั ดิ์ ทองสุกด,ี ธรี วตั ร เปรมปรี และเผำ่ เทพ เชดิ สุขใจ. 2557.
คูม่ อื กำรจำแนกชนิดสตั วท์ ะเลเลย้ี งลกู ด้วยนมและเต่ำทะเลในประเทศไทย.
กรมทรัพยำกรทำงทะเลและชำยฝั่ง. 96 หนำ้ .

กำญจนำ อดลุ ยำนโุ กศล, สรุ ศกั ด์ิ ทองสุกด,ี สุระชัย ภำสดำ, ธีรวัตร เปรมปรี และ ธเนต วรรณ
รงั สี. 2554. ปลำวำฬบรดู ้ำในประเทศไทย. กรมทรพั ยำกรทำงทะเลและชำยฝ่งั . 195
หน้ำ.

คมู่ ือกำรผ่ำชันสตู รซำกโลมำและปลำวำฬในประเทศไทย. 2557. กรมทรัพยำกรทำงทะเลและ
ชำยฝงั่ . 85 หนำ้ .

AnAge. 2012. phocaenoides.http:// genomics. senescence.info/
species/entry.php?species =Neophocaena phocaenoides

Chaloupka,l M., 1998. Polyphasic growth in pelagic Loggerhead sea turtles.
Copeia., 2: 516-518.

Dierauf, L., and Gulland, F. M. D. (eds.) 2001. CRC Handbook of Marine Mammal
Medicine: Health, Disease, and Rehabilitation, Second Edition. CRC
press. New York. 1120 pp.

Geraci, J. R., and Lounsbury, V. J. 2005. Marine Mammals Ashore: A Field Guide
for Strandings, National Aquarium. Baltimore. 371 p.

Jefferson, T. A., A. M. Webber and R. L. Pitman, 2015. Marine Mammals of the
World A Comprehensive Guide to their Identification. Academic Press.
London. 616 pp.

Jones, T. T., et al. 2011. Growth of Captive Leatherback Turtles, Dermochelys Page | 111
coriacea, With Inferences on Growth in the Wild: Implications for
Population Decline and Recover. Experimental Marine Biology and
Ecology 399: 84-92.

Kobayashi, M., 2000. An analysis of the growth based on the size and age
distributions of the hawksbill sea turtle inhabiting Cuban waters. The
Japanese Veterinary Research 48:129-135·

Pugliares, K. R., A. Bogomolni, K. M. Touhey, S. M. Herzig, C. T. Harry and Moore,
M. J. 2007. Marine Mammal Necropsy: and Introductory Guide for
Stranding Responders and Field Biologists. Woods Hole Oceanographic
Institution.

William, F. P., B. Würsig and J.G.M. Thewissen (Eds.) 2002. Encyclopedia of Marine
Mammals, Academic Press, America. 1414 pp.

Wyneken, J., 2003. The External Morphology, Musculoskeletal System, and
Neuro-Anatomy of Sea Turtles. In: Lutz, P. L., J. A. Musick, and J.
Wyneken, (eds.) The Biology of sea turtle Volume II. CRC Press LLC.
USA. pp. 39-77

Wyneken, J., K. J., Lohmann, J. A. Musick, 2013. (eds.) The Biology of sea turtle
Volume III. Replika Press Pvt. India. 147 pp.

Zug, G. R., M., Chaloupka and G. H. Balazs 2006. Age and Growth in Olive Ridley
Seaturtles (Lepidochelys olivácea) from the North-Central Pacific: a
Skeletochronological Analysis. Marine Ecology 27: 263-270.

Zug, G. R. and G.H. Balazs 2000. Estimating Age in Hawaiian Green Sea Turtles by
Skeletochronology. In Proceedings of the Eighteenth International Sea
Turtle Symposium. NOAA TECHNICAL MEMORANDUM NMFS-SEFSC 436:
127-128.


Click to View FlipBook Version