สรุปเนื้อหาIS

Independent study : IS

05 การออกแบบ วางแผนและการเก็บรวบรวมข้อมลู

วิธกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมลู

2. การสัมภาษณท์ างโทรศัพท์
ในกรณีทีค่ าถามไม่มากและไมซ่ ับซอ้ น ปริมาณคาถามมไี มม่ ากนัก การสมั ภาษณ์

ทางโทรศัพท์จะทาใหไ้ ดข้ อ้ มลู เรว็ ขึ้น แตม่ ีขอ้ เสยี คอื สัมภาษณไ์ ด้เฉพาะหนว่ ยตวั อยา่ งท่ีมี
โทรศัพท์เทา่ น้นั บางกรณผี ตู้ อบอาจจะไมเ่ กรงใจ หรอื ไมพ่ อใจทจ่ี ะตอบ หรอื อาจจะวาง
หูโทรศพั ท์ก็ได้

Independent study : IS

05 การออกแบบ วางแผนและการเก็บรวบรวมข้อมลู

วิธีการเก็บรวบรวมขอ้ มลู

3. การตอบแบบสอบถาม
เป็นวธิ กี ารรวบรวมข้อมูลโดยมอบแบบสอบถามพร้อมท้งั อธิบายวิธีบนั ทกึ ตลอดจน

คาอธบิ ายศพั ท์ตา่ งๆ ใหแ้ กห่ นว่ ยตวั อยา่ งล่วงหนา้ ผวู้ ิจยั จะกลับไปรบั แบบสอบถามตามวัน
เวลาทน่ี ดั หมายไว้ ถ้าการบันทึกแบบสอบถามไม่ถูกตอ้ งหรอื ไมเ่ รยี บร้อยกจ็ ะได้มีการ
สอบถามหรอื สมั ภาษณ์เพ่ิมเตมิ จนกระทง่ั ไดข้ อ้ มลู ตามทตี่ ้องการ

Independent study : IS

05 การออกแบบ วางแผนและการเกบ็ รวบรวมข้อมูล

วิธกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมูล

4. การส่งแบบสอบถามทางไปรษณีย์
ผูเ้ ก็บรวบรวมขอ้ มูลส่งแบบสอบถามทางไปรษณีย์ วิธนี ้เี หมาะสาหรบั การเก็บข้อมูล

ท่ีไมม่ ีความสาคญั มากนัก เปน็ ข้อมลู งา่ ยๆ ท่ีไม่ซบั ซ้อน ไมม่ ศี พั ท์หรอื คาจากัดความท่ี
ตอ้ งการคาอธิบาย จานวนข้อคาถามมไี มม่ ากนัก วธิ นี ม้ี ีข้อดีคอื เสียค่าใชจ้ า่ ยนอ้ ยแต่มี
ข้อเสียคอื ไดร้ บั แบบสอบถามกลบั คนื มานอ้ ยหรือผู้บนั ทกึ อาจจะเข้าใจข้อคาถามไมถ่ ูกตอ้ ง
หรอื บนั ทกึ อย่างขาดความรับผิดชอบ ข้อจากดั คอื วธิ ีนใ้ี ช้สาหรับหน่วยตวั อย่างทอ่ี ่านออก
เขียนได้เทา่ นัน้

Independent study : IS

05 การออกแบบ วางแผนและการเก็บรวบรวมข้อมลู

วิธีการเก็บรวบรวมขอ้ มลู

5. การนับและการวดั
ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลบางอยา่ งต้องใช้วิธีนับ เชน่ การสารวจจานวนรถทผ่ี า่ นจุด

ทตี่ ้องการศึกษา และในเวลาทีส่ นใจศกึ ษา จานวนลกู คา้ ทีเ่ ข้าแถวเพื่อชาระเงินในคาบเวลา
หนึ่งๆ จานวนผปู้ ่วยที่เข้ารับบริการในโรงพยาบาลในคาบเวลาหน่ึง การเก็บข้อมูลโดยให้
กล่มุ ตวั อย่างทาแบบสอบ แบบวัด เป็นต้น

Independent study : IS

05 การออกแบบ วางแผนและการเก็บรวบรวมข้อมลู

วิธกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมลู

6. การสงั เกต
วธิ ีนี้ใช้ในโครงการวิจยั ต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์ และทางสังคมศาสตร์ เชน่ การ

สงั เกตตาแหนง่ ของดวงดาวบนท้องฟา้ การสังเกตพฤติกรรมของคนในชุมชนทีม่ ีต่อผู้ปว่ ย
เอดส์ เป็นตน้ ขอ้ มลู ที่ได้จากการสงั เกตอาจจะเปน็ ขอ้ มูลเชิงคณุ ลักษณะหรือปริมาณก็ได้ใน
การเก็บรวบรวมขอ้ มูลผศู้ กึ ษาต้องกาหนดข้ันตอนให้รดั กมุ ตง้ั แต่ การวางแผนการเกบ็
รวบรวม กาหนดวธิ กี ารให้เหมาะสมกบั กล่มุ ตัวอย่าง กาหนดวธิ บี ันทกึ ข้อมูล เมื่อไดข้ ้อมลู
กลบั มาต้องตรวจสอบความสมบูรณข์ องข้อมูลท่ไี ด้รับก่อนนาไปวเิ คราะห์ขอ้ มลู ตอ่ ไป

Independent study : IS

05 การออกแบบ วางแผนและการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล

วิธีการเกบ็ รวบรวมข้อมูล

7. การทดลอง
เปน็ กระบวนการปฏิบตั ิ หรือหาคาตอบหรือตรวจสอบสมมติฐานท่ตี ง้ั ไวโ้ ดยการ

ทดลองเพ่อื ทาการค้นคว้าหาขอ้ มูลและตรวจสอบดวู า่ สมมตฐิ านขอ้ ใดเปน็ คาตอบทีถ่ ูกต้อง
ทส่ี ดุ ประกอบดว้ ยกิจกรรม 3 กระบวนการ คอื

1. การออกแบบการทดลอง
2. การปฏิบัตกิ ารทดลอง
3. การบนั ทึกผลการทดลอง

Independent study : IS

05 การออกแบบ วางแผนและการเกบ็ รวบรวมข้อมลู

วิธีการเกบ็ รวบรวมข้อมูล

7. การทดลอง
7.1 การออกแบบการทดลอง คอื การวางแผนการทดลองก่อนทีจ่ ะลงมือปฏิบัติจริงโดย

ให้สอดคล้องกับสมมตฐิ านทต่ี ง้ั ไวเ้ สมอ และควบคุมปัจจัยหรอื ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลตอ่ การ
ทดลอง แบง่ ได้เป็น 3 ชนดิ คอื

1) ตวั แปรอิสระหรือตวั แปรต้น
2) ตวั แปรตาม
3) ตวั แปรท่ีตอ้ งควบคมุ

Independent study : IS

05 การออกแบบ วางแผนและการเก็บรวบรวมข้อมูล

วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล

7. การทดลอง
7.2 การปฏิบัติการทดลอง ในกิจกรรมนจ้ี ะลงมอื ปฏบิ ตั กิ ารทดลองจริงโดยจะ

ดาเนินการไปตามข้นั ตอนที่ไดอ้ อกแบบไว้ และควรจะทดลองซา้ ๆ หลายๆ ครัง้ เพอื่ ใหแ้ น่ใจ
ว่าไดผ้ ลเช่นนั้นจรงิ

Independent study : IS

05 การออกแบบ วางแผนและการเกบ็ รวบรวมข้อมูล

วธิ กี ารเก็บรวบรวมข้อมลู

7. การทดลอง
7.3 การบนั ทึกผลการทดลอง หมายถงึ การจดบันทึกทไี่ ดจ้ ากการทดลองซ่งึ ข้อมลู ที่ได้

นี้สามารถรวบรวมไว้ใชส้ าหรับยนื ยนั วา่ สมมติฐานที่ตั้งไว้ถกู ตอ้ งหรือไม่

Independent study : IS

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 ไปแสวงหาคาตอบ

การอ้างองิ ทางบรรณานุกรม
การจัดกระทาขอ้ มลู และการนาเสนอขอ้ มลู
การจัดทารปู เล่มการศึกษาคน้ คว้า
ตวั อยา่ งการศึกษาค้นควา้

Independent study : IS
06 การอา้ งองิ ทางบรรณานุกรม

Independent study : IS

06 การอ้างอิงทางบรรณานกุ รม

การอ้างอิงทางบรรณานกุ รม หมายถึง รายการเอกสาร สง่ิ พมิ พ์ หรอื สอื่ อืน่ ใด ท่ี
ผผู้ ลิตผลงานทางวิชาการใชอ้ า้ งอิงในเอกสารผลงานของตน

การแสดงรายการทางบรรณานุกรมไวท้ ่ีผลงานของท่านจึงนบั เป็นการใหค้ วามเคารพ
ผลงานทางปัญญาทผ่ี ู้อนื่ ไดแ้ สดงไว้ อกี ทง้ั ยงั มีประโยชน์ในการแสดงท่มี าท่ไี ปขององคค์ วามรู้
ในเร่ืองน้นั ๆ ทาให้ผู้สนใจสามารถติดตามพัฒนาการของเรื่องนัน้ ได้ ในโอกาสหน้า

Independent study : IS

06 การอ้างอิงทางบรรณานุกรม

1. การอา้ งองิ จากบทความในวารสาร
ผู้แตง่ . (ปที พี่ ิมพ)์ . ช่ือบทความ. ชอื่ วารสาร, ปีท(่ี ฉบบั ที่), เลขหนา้ .

ตัวอย่าง
ชัยเสฏฐ์ พรหมศร.ี (2549). การเป็นผู้นาทีม่ จี รยิ ธรรม, นักบริหาร, 26(3), 20-25.

Dubeck, L. (1990). Science fiction aids science teaching. Physics Teacher, 28,
316-318.

Independent study : IS

06 การอา้ งอิงทางบรรณานกุ รม

2. การอ้างองิ จากบทความในฐานขอ้ มลู

ผแู้ ตง่ . (ป,ี เดือน). ชอ่ื บทความ. ช่อื วารสาร, ปีท(ี่ ฉบับท่ี), เลขหนา้ . สบื คน้ เม่อื เดือน วัน,ป,ี
จากฐานข้อมลู ชื่อฐานข้อมูล.

ตัวอยา่ ง
Mershon, D. H. (1998, November/December). Star trek on the brain: Alien

minds, human minds. American Scientist, 86(6), 585. Retrieved July 29,
1999, from Expanded Academic ASAP database.

Independent study : IS

06 การอ้างอิงทางบรรณานุกรม

3. การอา้ งองิ จากบทความในหนังสือพิมพ์
ผู้แตง่ . (ป,ี เดอื น วนั ). ชื่อบทความ. ชอ่ื หนงั สือพิมพ.์ หน้า.

ตวั อยา่ ง
สชุ าติ เผอื กสกนธ์. (9 มถิ นุ ายน 2549). ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง. ผู้จัดการรายวนั , น.13.
Di Rado, A. (1995, March 15). Trekking through college: Classes explore

modern society using the world of Star trek. LosAngeles Times, p. A3.

Independent study : IS

06 การอ้างอิงทางบรรณานุกรม

4. การอ้างองิ จากหนังสือ
ผแู้ ต่ง. (ป)ี . ชื่อเรอื่ ง. สถานที่พมิ พ์: สานักพมิ พ์.

ตวั อยา่ ง
พมิ พันธ์ เดชะคปุ ต.์ (2562). แมลงวันในประเทศไทย. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์

แหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .

Independent study : IS

06 การอ้างอิงทางบรรณานุกรม

5. การอา้ งองิ จากบท/ตอนในหนงั สือ

ผแู้ ต่ง. (ปีท่ี). ชอ่ื บท/ตอน. ใน ชอื่ บรรณาธกิ าร (บรรณาธิการ), ชือ่ หนังสอื (หนา้ ). สถานท่พี มิ พ์:
สานกั พมิ พ.์

ตัวอย่าง
James, N. E. (1988). Two sides of paradise: The Eden myth according to Kirk and

Spock. In D. Palumbo (Ed.), Spectrum of the fantastic (pp. 219-223).
Westport, CT: Greenwood.

Independent study : IS

06 การอ้างอิงทางบรรณานุกรม

6. การอ้างองิ จากบทความในหนงั สือประเภทสารานกุ รม
ผ้แู ต่ง. (ปที ่ีพิมพ)์ . ชื่อบทความ. ใน ชื่อสารานุกรม (ฉบับท,ี่ หน้า). สถานท่ีพมิ พ์: สานกั พมิ พ์.

ตัวอย่าง
Sturgeon, T. (1995). Science fiction. In The encyclopedia Americana (Vol. 24,

pp. 390-392). Danbury, CT: Grolier.

Independent study : IS

06 การอ้างอิงทางบรรณานกุ รม

7. การอา้ งอิงจากเวบ็ ไซต์
ผแู้ ตง่ . (ป)ี . ชื่อเรื่อง. สืบคน้ เมอื่ วนั เดือน, ป,ี จาก ช่ือเว็บไซต์: URL

ตวั อย่าง
กระทรวงศกึ ษาธิการ สานักงานเลขาธิการสภาการศกึ ษา. (2546). รายงานผลการวิจยั เร่อื ง

การใช้ละครสร้างสรรค์ในการพัฒนาผ้เู รยี น. สืบค้นเมือ่ 4 ธันวาคม 2550. จาก
http://www.bradley.edu/campusorg/psiphi/DS9/ep/503r.html

Independent study : IS

07 การจดั กระทาขอ้ มลู และ

การนาเสนอข้อมลู
(Presentation of Data)

Independent study : IS

07 การจดั กระทาขอ้ มลู และการนาเสนอข้อมูล (Presentation of Data)

การจัดกระทา คอื การนาขอ้ มูลดิบมาจดั ลาดับ จัดจาพวก หาความถี่ หาความสัมพนั ธ์
หรอื คานวณใหม่

การสือ่ ความหมายข้อมลู เปน็ การใชว้ ธิ ตี า่ งๆ เพ่ือแสดงข้อมลู ให้ผอู้ ่ืนเข้าใจ เช่น การ
บรรยาย ใชแ้ ผนภมู ิ แผนภาพ วงจร กราฟ ตาราง สมการ ไดอะแกรม เปน็ ต้น

Independent study : IS

07 การจัดกระทาขอ้ มลู และการนาเสนอขอ้ มลู (Presentation of Data)

ขัน้ ตอนการจัดกระทาและการส่ือความหมายของหมายขอ้ มลู

1. เลือกรปู แบบในการจดั ทานาเสนอใหเ้ หมาะสมกับขอ้ มลู
2. จัดกระทาขอ้ มลู ตามรปู แบบท่ีได้เลอื กไว้ โดยอาจทาไดด้ ังนี้

2.1 จัดเรียงลาดับใหม่
2.2 หาความถเ่ี ม่อื มขี อ้ มลู ซ้า
2.3 แยกหมวดหมู่หรือประเภท
2.4 คานวณหาค่าใหม่
2.5 บรรยายลกั ษณะส่งิ ใดสิง่ หนง่ึ หรือสถานทีด่ ้วยขอ้ ความกะทัดรัดเหมาะสมจน
สื่อความหมายให้ผู้อ่นื เข้าใจได้

Independent study : IS

07 การจัดกระทาข้อมูลและการนาเสนอข้อมลู (Presentation of Data)

การนาเสนอข้อมลู (Presentation of Data)
1. การนาเสนอข้อมลู โดยบทความ ( Text Presentation )

ตัวอย่าง
“ ในปี พ.ศ. 2537 มจี านวนผู้จบการศึกษาระดบั ปริญญาตรจี ากมหาวิทยาลยั ของรัฐ

ประมาณ 85,000 คน ซง่ึ คาดวา่ ในปกี ารศึกษา 2538 เพมิ่ ขนึ้ เป็น 110,000 ”
“ ในปี พ.ศ. 2536 ชาวสวนลาไย จงั หวัดเชยี งใหม่ สามารถส่งลาไยออกสู่ตลาดเปน็

จานวนเงนิ 10 ลา้ นบาท ซ่งึ มากกวา่ ปี 2535 จานวน 2.5 ล้านบาท ”

Independent study : IS

07 การจัดกระทาข้อมลู และการนาเสนอข้อมูล (Presentation of Data)

การนาเสนอข้อมลู (Presentation of Data)

2. การนาเสนอโดยบทความกึง่ ตาราง ( Seml – Tabular Presentation )
ตวั อยา่ ง ภูมลิ าเนาของนกั ศึกษาวิทยาลยั แห่งหนึง่ ระหวา่ งปี 2534 – 2537

จานวน (คน)

ภมู ิลาเนา 2534 2535 2536 2537

กรงุ เทพฯ 2,540 2,590 2,556 2,618

ภาคเหนือ 350 244 310 287

ภาคกลาง 825 1,300 1,310 1,544

ภาคใต้ 408 325 368 387

ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 520 458 488 481

รวม 4,643 4,917 5,032 5,317

Independent study : IS

07 การจดั กระทาขอ้ มลู และการนาเสนอข้อมลู (Presentation of Data)

การนาเสนอขอ้ มลู (Presentation of Data)

3. การนาเสนอโดยตาราง ( Tabular Presentation )

คอื การนาเสนอข้อมูลโดยใชต้ าราง กรอกขอ้ มูลทเ่ี ปน็ ตวั เลขโดยแบง่ เปน็ แถวตั้ง

(Columns ) และแถวนอน ( Row ) เพือ่ จดั ข้อมลู ใหเ้ ปน็ ระเบียบ ซึ่งลักษณะของตารางขึ้นอยู่

กบั จดุ มงุ่ หมายของการนาเสนอขอ้ มลู ส่วนประกอบของตารางสถติ ทิ ่คี วรมี

1. หมายเลขตาราง 2. ช่อื เร่อื ง

3. หมายเหตุ 4. หัวเรอ่ื ง

5. ตน้ ขว้ั 6. ตวั เรอ่ื ง

Independent study : IS

07 การจดั กระทาข้อมูลและการนาเสนอข้อมลู (Presentation of Data)

การนาเสนอข้อมูล (Presentation of Data)

4. การนาเสนอด้วยกราฟหรือแผนภมู ิ ( Graphical Presentation )
รูปภาพที่แสดงข้อมลู จะทาให้เกดิ ความน่าสนใจ ทาให้อา่ นเขา้ ใจได้งา่ ย และรวดเรว็ กว่า

วิธีอืน่ ๆ การนาเสนอดว้ ยกราฟหรอื แผนภูมิมหี ลายลักษณะดังนี้
1) แผนภูมวิ งกลม ( Pie Chart )
2) แผนภมู แิ ท่งหรอื กราฟแทง่ ( Bar Chart )
3) กราฟเส้น ( Line Graphs )
4) แผนภมู ิภาพ ( Pictogram )
5) แผนทส่ี ถิติ ( Statistical Map )

Independent study : IS

07 การจดั กระทาข้อมลู และการนาเสนอขอ้ มูล (Presentation of Data)

การนาเสนอข้อมูล (Presentation of Data)
4. การนาเสนอด้วยกราฟหรอื แผนภมู ิ ( Graphical Presentation )

1) แผนภมู วิ งกลม ( Pie Chart )

Independent study : IS

07 การจัดกระทาขอ้ มูลและการนาเสนอข้อมลู (Presentation of Data)

การนาเสนอขอ้ มูล (Presentation of Data)
4. การนาเสนอดว้ ยกราฟหรือแผนภมู ิ ( Graphical Presentation )

2) แผนภูมแิ ทง่ หรือกราฟแทง่ ( Bar Chart )

Independent study : IS

07 การจัดกระทาข้อมลู และการนาเสนอขอ้ มูล (Presentation of Data)

การนาเสนอขอ้ มูล (Presentation of Data)
4. การนาเสนอด้วยกราฟหรอื แผนภูมิ ( Graphical Presentation )

3) กราฟเส้น ( Line Graphs )

Independent study : IS

07 การจัดกระทาข้อมลู และการนาเสนอขอ้ มูล (Presentation of Data)

การนาเสนอขอ้ มูล (Presentation of Data)
4. การนาเสนอดว้ ยกราฟหรือแผนภูมิ ( Graphical Presentation )

4) แผนภมู ิภาพ ( Pictogram )

Independent study : IS

07 การจดั กระทาขอ้ มูลและการนาเสนอข้อมูล (Presentation of Data)

การนาเสนอขอ้ มูล (Presentation of Data)
4. การนาเสนอด้วยกราฟหรือแผนภูมิ ( Graphical Presentation )

5) แผนท่ีสถติ ิ ( Statistical Map )

Independent study : IS

07 การจัดกระทาข้อมูลและการนาเสนอขอ้ มลู (Presentation of Data)

การนาเสนอข้อมูล (Presentation of Data)

5. สถิติร้อยละ

ตารางที่ 1 กลุ่มตัวอยา่ งเป็นนักเรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 5 ของจังหวดั มหาสารคาม จานวน 530 คน

โรงเรียน จานวน ร้อยละ
โรงเรยี นสารคามพทิ ยาคม 135 25.47
โรงเรยี นผดงุ นารี 124 23.39

โรงเรยี นบรบอื 90 16.98

โรงเรียนมหาชัยพทิ ยาคาร 50 9.43
โรงเรียนมหาวิชานกุ ลู 75 14.15
โรงเรยี นสาธิตมหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม 56 10.56

จากตารางท่ี 1 กลุ่มตวั อยา่ งเป็นนกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 ของจงั หวัดมหาสารคาม จานวน 530 คน จาก 6 โรงเรยี น ดังนี้ โรงเรียนสาร

คามพทิ ยาคม (ร้อยละ 25.47), โรงเรยี นผดงุ นารี (รอ้ ยละ 23.39), โรงเรยี นบรบือ (รอ้ ยละ 16.98), โรงเรยี นมหาชยั พทิ ยาคาร (รอ้ ยละ 9.43),

โรงเรยี นมหาวิชานกุ ลู (รอ้ ยละ 14.15) และ โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม (ร้อยละ 10.56)

Independent study : IS

07 การจัดกระทาข้อมูลและการนาเสนอข้อมลู (Presentation of Data)

การนาเสนอข้อมลู (Presentation of Data)
1. การนาเสนอข้อมลู โดยบทความ ( Text Presentation )

ตัวอย่าง
“ ในปี พ.ศ. 2537 มจี านวนผู้จบการศึกษาระดบั ปริญญาตรจี ากมหาวิทยาลยั ของรัฐ

ประมาณ 85,000 คน ซง่ึ คาดวา่ ในปกี ารศึกษา 2538 เพมิ่ ขนึ้ เป็น 110,000 ”
“ ในปี พ.ศ. 2536 ชาวสวนลาไย จงั หวัดเชยี งใหม่ สามารถส่งลาไยออกสู่ตลาดเปน็

จานวนเงนิ 10 ลา้ นบาท ซ่งึ มากกวา่ ปี 2535 จานวน 2.5 ล้านบาท ”

Independent study : IS

08 การจัดทารปู เล่ม

การศึกษาค้นควา้

Independent study : IS

08 การจดั ทารปู เลม่ การศึกษาคน้ คว้า

ส่วนประกอบของรายงานการศึกษาคน้ ควา้

1. ปกนอก (กระดาษปก)
2. ปกใน (กระดาษ A4)
3. กิตติกรรมประกาศ
4. บทคัดย่อ
5. คานา
6. สารบัญ

Independent study : IS

08 การจัดทารูปเลม่ การศึกษาคน้ คว้า

ส่วนประกอบของรายงานการศึกษาค้นควา้

7. บทท่ี 1 บทนา

- ความเปน็ มาของการทาการศกึ ษาค้นคว้า
- คาถามการศกึ ษาค้นคว้า
- วัตถปุ ระสงคก์ ารศึกษาค้นคว้า
- สมมตุ ิฐาน
- ขอบเขตของการทาการศึกษาคน้ คว้า
- นยิ ามคาศพั ท์
- เครือ่ งมือทาการศกึ ษาคน้ ควา้
- ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะได้รบั

Independent study : IS

08 การจัดทารปู เล่มการศึกษาคน้ ควา้

สว่ นประกอบของรายงานการศึกษาคน้ คว้า

8. บทที่ 2 เอกสารท่เี กี่ยวขอ้ งกับการศึกษา
9. บทที่ 3 วธิ ีดาเนินการ

- วสั ด/ุ อปุ กรณ์
- วธิ ดี าเนินการทาการศึกษาค้นควา้
- วิธีวิเคราะห์ข้อมูล
10. บทท่ี 4 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล
- ผลการวิเคราะหแ์ ละแปลความหมายขอ้ มูล

Independent study : IS

08 การจัดทารปู เล่มการศึกษาค้นคว้า

ส่วนประกอบของรายงานการศึกษาค้นคว้า

11. บทที่ 5 สรุปผล อภปิ ราย และข้อเสนอแนะ
- สรปุ ผล
- อภปิ ราย
- ขอ้ เสนอแนะ

12. เอกสารอา้ งองิ
13. ภาคผนวก

- รปู ภาพ
- ประวตั ิผู้จดั ทา ฯลฯ

Independent study : IS

08 การจัดทารูปเล่มการศึกษาค้นคว้า

ส่วนประกอบของรายงานการศึกษาค้นควา้

1. ชื่อการศกึ ษาค้นควา้
ชือ่ การศึกษาค้นคว้า เรื่อง “..........” เปน็ สง่ิ สาคัญประการแรก เพราะชื่อการศึกษา

คน้ ควา้ จะชว่ ยโยงความคิดไปถงึ วัตถปุ ระสงค์ของการศึกษาค้นคว้าและควรกาหนดช่อื
การศึกษาคน้ คว้าใหส้ อดคลอ้ งกับวัตถุประสงคห์ ลักด้วย

เชน่ การศกึ ษาคน้ ควา้ เรอ่ื ง “ถงุ น้าพลาสติกพิชิตแมลงวนั ตวั นอ้ ย” ซึ่งปญั หาคอื ถุงนา้
พลาสติกสามารถไลแ่ มลงวนั ที่มาตอมอาหารได้จรงิ หรอื ไม่

Independent study : IS

08 การจัดทารูปเลม่ การศึกษาคน้ ควา้

ส่วนประกอบของรายงานการศึกษาคน้ ควา้

2. คณะผู้ทาการศกึ ษาค้นคว้า
การเขยี นชื่อผู้รบั ผดิ ชอบการศึกษาคน้ ควา้ เปน็ สงิ่ ดี เพอื่ จะไดท้ ราบว่า การศึกษาคน้ ควา้

น้ันอยใู่ นความรับผิดชอบของใคร และสามารถตดิ ตอ่ ไดท้ ีใ่ ด

3. ช่ืออาจารย์ท่ีปรึกษา
การเขียนชือ่ ผูใ้ ห้คาปรึกษาควรใหเ้ กยี รตยิ กยอ่ ง และเผยแพร่ รวมทัง้ ขอบคณุ ที่ได้

แนะนาการทาการศึกษาค้นควา้ จนบรรลเุ ปา้ หมาย

Independent study : IS

08 การจดั ทารปู เลม่ การศึกษาคน้ ควา้

ส่วนประกอบของรายงานการศึกษาค้นคว้า

4. ที่มาและความสาคญั ของการศึกษาคน้ ควา้
การเขยี นทมี่ าและความสาคัญของการศกึ ษาค้นคว้า คือ การอธบิ าย ให้กระจางชดั วา่

ทาไมตอ้ งทา ทาแลว้ ไดอ้ ะไร หากไมท่ าจะเกิดผลเสยี อย่างไร ซ่งึ มีหลักการเขียนคลา้ ยการเขียน
เรียงความท่วั ไป คอื คานา เนือ้ เรอ่ื ง และสรปุ

สว่ นที่ 1 คานา : เป็นการบรรยายถงึ นโยบาย เกณฑ์ สภาพทวั่ ไป หรือปัญหาท่ีมสี ว่ น
สนบั สนุนรเิ ร่ิมทาการศกึ ษาค้นคว้าฯ

Independent study : IS

08 การจัดทารูปเล่มการศึกษาคน้ ควา้

ส่วนประกอบของรายงานการศึกษาค้นคว้า

4. ทมี่ าและความสาคญั ของการศกึ ษาคน้ คว้า
ส่วนที่ 2 เน้ือเรื่อง : อธบิ ายถงึ รายละเอยี ดเชือ่ มโยงให้เหน็ ประโยชน์ของการศึกษา

คน้ คว้า โดยมีหลกั การ ทฤษฎสี นบั สนุนเรือ่ งท่ศี กึ ษาหรอื การบรรยายผลกระทบ ถ้าไม่
ทาการศกึ ษาคน้ คว้าเรอื่ งนี้

ส่วนที่ 3 สรุป : สรปุ ถึงความจาเป็นที่ตอ้ งดาเนนิ การตาม ส่วนที่ 2 เพื่อแก้ปัญหา
ค้นคว้าความรู้ใหม่ คน้ สิง่ ประดิษฐใ์ หม่ และวธิ กี ารใหม่ ใหเ้ ปน็ ไปตามเหตุผลของส่วนที่ 1

Independent study : IS

08 การจัดทารูปเล่มการศึกษาค้นคว้า

ส่วนประกอบของรายงานการศึกษาคน้ ควา้

5. คาถามการศกึ ษาค้นควา้
การเขยี นคาถามการศกึ ษาคน้ ควา้ มคี วามสาคัญ เพราะเป็นคาถามท่ีต้องการใหผ้ ู้เรียน

ทาการศึกษาคน้ ควา้ เพอ่ื ตอบคาถาม ซึ่งเปน็ คาถามที่ Unknown by All

Independent study : IS

08 การจัดทารปู เล่มการศึกษาคน้ คว้า

สว่ นประกอบของรายงานการศึกษาค้นคว้า

6. วัตถปุ ระสงคข์ องการทาการศกึ ษาคน้ คว้า
วัตถปุ ระสงค์ คือ กาหนดเป้าหมายปลายทางท่ีต้องการให้เกดิ จากการทาการศึกษา

คน้ ควา้ ในการเขียนวตั ถปุ ระสงค์ตอ้ งเขียนใหช้ ดั เจนอ่านเขา้ ใจง่าย สอดคลอ้ งกบั ชอ่ื การศกึ ษา
ค้นควา้ หากมีวัตถุประสงคห์ ลายประเดน็ ให้ระบุเปน็ ข้อๆ การเขยี นวัตถุประสงค์มคี วามสาคญั
ตอ่ แนวทางการศึกษาตลอดจนขอ้ ความรูท้ ค่ี ้นพบ หรอื ส่งิ ประดษิ ฐท์ ีค่ ้นพบนัน้ จะมีความ
สมบรู ณ์ครบถว้ น คือ ต้องสอดคล้องกบั วตั ถุประสงค์ทุกๆ ขอ้

Independent study : IS

08 การจัดทารปู เล่มการศึกษาคน้ ควา้

สว่ นประกอบของรายงานการศึกษาคน้ ควา้

7. สมมตุ ิฐานของการศึกษาคน้ ควา้
สมมตฐิ านของการทาการศกึ ษาค้นควา้ เปน็ ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ หรือ

ทักษะการคดิ ทีผ่ ทู้ าการศึกษาคน้ ควา้ ต้องใหค้ วามสาคญั เพราะจะทาใหก้ าหนดแนวทางในการ
ออกแบบการทดลองได้ชดั เจน และรอบคอบ ซึง่ สมมุตฐิ านก็คือ การคาดคะเนคาตอบของ
ปญั หาอยา่ งมีหลกั และเหตผุ ล ตามหลักการ ทฤษฎี รวมท้ังผลของการศกึ ษาของการศกึ ษา
ค้นคว้าทไี่ ด้ทามาแล้ว

Independent study : IS

08 การจัดทารูปเลม่ การศึกษาค้นควา้

สว่ นประกอบของรายงานการศึกษาคน้ ควา้

8. ขอบเขตของการศกึ ษาค้นควา้
ผ้ทู าการศึกษาคน้ ควา้ ตอ้ งให้ความสาคัญตอ่ การกาหนดขอบเขตของการศึกษาคน้ คว้า

เพื่อให้ได้ผลการศึกษาท่ีน่าเช่ือถอื ได้แก่ การกาหนดประชากร กลมุ่ ตวั อย่าง ตลอดจนตวั แปร
ทศ่ี ึกษา

Independent study : IS

08 การจัดทารูปเล่มการศึกษาค้นคว้า

สว่ นประกอบของรายงานการศึกษาค้นควา้

9. วิธีดาเนนิ การ
วิธดี าเนินการ หมายถงึ วธิ กี ารทีจ่ ะชว่ ยให้งานบรรลุตามวตั ถุประสงค์ของการศึกษา

ค้นควา้ ตั้งแต่เรมิ่ ต้นนาเสนอการศกึ ษาค้นคว้า จนกระทงั่ สน้ิ สุดการศกึ ษาค้นควา้ ซงึ่
ประกอบด้วย

1) การกาหนดประชากร กลุ่มตัวอย่างท่ศี กึ ษา
2) การสรา้ งเครือ่ งมือเกบ็ รวบรวมข้อมูล
3) การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
4) การวิเคราะห์ข้อมูล

Independent study : IS

08 การจัดทารปู เล่มการศึกษาค้นคว้า

ส่วนประกอบของรายงานการศึกษาคน้ ควา้

10. วิธีวเิ คราะหข์ ้อมูล
วิธีวเิ คราะห์ขอ้ มูล คอื การระบกุ ารวิเคราะห์ขอ้ มูลเชิงปริมาณหรอื ขอ้ มลู เชงิ คณุ ภาพ

ถ้าเปน็ ขอ้ มูลเชิงปรมิ าณจะวิเคราะหด์ ว้ ยสถิตอิ ะไรบา้ ง เชน่ ความถ่ี ค่ารอ้ ยละ ค่าเฉลี่ย

Independent study : IS

08 การจัดทารปู เล่มการศึกษาคน้ ควา้

ส่วนประกอบของรายงานการศึกษาค้นควา้

11. ผลทค่ี าดวา่ จะได้รบั
ผลทีค่ าดวา่ จะได้รบั คือ การคาดหวงั ถึงผลการดาเนินการตามการศึกษาคน้ ควา้ การ

เขยี นต้องคาดคะเนเหตกุ ารณ์วา่ เม่ือได้ทาการศกึ ษาค้นคว้าสิ้นสดุ ลง ใครเป็นผู้ได้รับประโยชน์
อยา่ งไร หรอื นาไปใชไ้ ปประยุกตใ์ นสถานการณใ์ นประเดน็ ใดบ้าง และไดร้ ับมากนอ้ ยเพยี งใด
ผลที่ไดร้ ับสอดคล้องกับ วตั ถปุ ระสงคท์ ศ่ี ึกษา

Independent study : IS

08 การจดั ทารูปเล่มการศึกษาค้นคว้า

สว่ นประกอบของรายงานการศึกษาคน้ คว้า

12. แผนการกาหนดเวลาปฏบิ ัติงาน
การทาการศึกษาคน้ ควา้ ตอ้ งกาหนดตารางเวลาดาเนนิ การทุกขั้นตอน เพราะการทา

ตารางเวลาจะเปน็ ประโยชนใ์ ห้ดาเนนิ การอย่างตอ่ เนอ่ื ง เป็นประโยชนต์ ่อการตดิ ตาม
ประเมนิ ผลการดาเนนิ งานแต่ละขัน้ ตอน จนสนิ้ สดุ การทาการศึกษาค้นควา้ นนั้