คำนำ
อักษรธรรมอีสานเป็นอักษรท่ีบันทึกสรรพวิชาการต่างๆ ในภาคอีสาน
โดยเฉพาะคมั ภรี ใ์ บลานอนั เป็นหลกั ฐานชนั้ ตน้ ทส่ี าคญั ต่อวงวชิ าการทบ่ี นั ทกึ เหตุการณ์
และเร่อื งราวต่างๆ ทงั้ คดโี ลกและคดธี รรม เช่น หลกั ธรรมคาสอนทางพระพุทธศาสนา
ประวัติศาสตร์ โหราศาสตร์ วรรณกรรม พงศาวดาร กฎหมายโบราณ ตารายา
คาถาอาคม เป็นต้น ซ่งึ สงิ่ ต่างๆ เหล่าน้ีสะทอ้ นให้เห็นถึงภูมปิ ญั ญา วถิ ีชีวติ ความ
ศรทั ธาและความเช่อื ของคนในท้องถนิ่ ท่สี บื ทอดกนั มายาวนาน ภายหลงั อกั ษรธรรม
อีสานก็เริ่มลดบทบาทลงตงั้ แต่สมยั ขยายการศึกษาระบบโรงเรียนจากส่วนกลางสู่
ภูมภิ าคเป็นต้นมา ซ่งึ เรม่ิ ตน้ สมยั รชั กาลท่ี ๕ และอกั ษรไทยภาคกลางเขา้ มามอี ทิ ธพิ ล
เตม็ ทเ่ี มอ่ื ประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ปิ ระถมศกึ ษาเม่อื พ.ศ. ๒๔๖๔ เป็นตน้ มา หลงั จาก
นนั้ อกั ษรโบราณอสี านกถ็ กู ละเลยจากชาวอสี านเร่อื ยมาจนถงึ ปจั จบุ นั
ดงั นนั้ เพอ่ื ใหภ้ มู ปิ ญั ญาดา้ นอกั ษรธรรมอสี านและภาษาทอ้ งถนิ่ ซ่งึ เป็นกุญแจ
สาคญั ในการไขประตไู ปสูภ่ มู ปิ ญั ญาดา้ นอ่นื ๆ ของทอ้ งถน่ิ ทบ่ี รรพบรุ ุษไดบ้ นั ทกึ ไวใ้ น
เอกสารโบราณไดร้ บั การอนุรกั ษ์ สบื สานต่อไป จงึ ไดจ้ ดั ทาแบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน
ขน้ึ เพอ่ื ใหพ้ ระภกิ ษุ สามเณร นิสติ นกั ศกึ ษา และประชาชนผสู้ นใจทวั่ ไปไดเ้ รยี น
เขยี นอา่ นอกั ษรธรรมอสี านได้ ซง่ึ เป็นกุญแจสาคญั ทจ่ี ะใหล้ กู หลานชาวอสี านไดไ้ ขขมุ
คลงั ภมู ปิ ญั ญาทบ่ี รรพบรุ ุษอสี านไดบ้ นั ทกึ ไว้ และเพอ่ื ใหช้ าวอสี านเกดิ ความภาคภมู ใิ จ
ในมรดกทางภมู ปิ ญั ญาของตน เกดิ ความรกั ความหวงแหน รว่ มอนุรกั ษแ์ ละสบื ทอดภมู ิ
ปญั ญาของบรรพบุรุษใหค้ งอยสู่ บื ตอ่ ไป
หวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ แบบเรยี นอบรมอกั ษรธรรมอสี านฉบบั น้ี จะเป็นประโยชน์
ต่อทา่ นผสู้ นใจในอนั ทจ่ี ะรกั ษา สบื ทอดภมู ปิ ญั ญาของบรรพบุรุษอสี านไวใ้ หค้ งอยคู่ ู่
สงั คมอสี านและเป็นบรู พจติ ในอนั ทจ่ี ะคดิ คน้ หาภมู ปิ ญั ญาบรรพบรุ ษุ อสี านและรว่ มกนั
สบื สานต่อไป
สมยั วรรณอุดร
พนกั งานวชิ าการ
โครงการอนุรกั ษใ์ บลานภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ
มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม
สารบญั
เรื่อง หน้า
คำนำ ................................................................................................................. ก
หน่วยท่ี ๑ ควำมเป็นของอกั ษรธรรมอสี ำน ................................................ ๑
หน่วยท่ี ๒ พยญั ชนะอกั ษรธรรมอสี ำน ........................................................ ๖
๖
รปู พยญั ชนะอกั ษรธรรมอสี ำน ....................................... ๑๐
แบบฝึกเขยี นพยญั ชนะตวั เตม็ ....................................... ๑๔
แบบฝึกเขยี นพยญั ชนะตวั เฟ้ือง ..................................... ๑๖
แบบฝึกทบทวนควำมรู้ ................................................... ๑๘
หน่วยท่ี ๓ สระ ............................................................................................... ๑๘
สระลอย ............................................................................ ๑๙
แบบฝึกเขยี นสระลอย ..................................................... ๒๐
สระจม .............................................................................. ๒๒
แบบฝึกเขยี นสระจม ....................................................... ๒๔
แบบฝึกทบทวนควำมรู้ ................................................... ๒๕
หน่วยท่ี ๔ พยญั ชนะประสม .......................................................................... ๒๕
พยญั ชนะทม่ี ี ห นำ ........................................................ ๒๖
พยญั ชนะควบกล้ำ .......................................................... ๒๗
แบบฝึกทบทวนควำมรู้ ................................................... ๒๙
หน่วยท่ี ๕ กำรประสมคำ .............................................................................. ๒๙
กำรประสมคำทไ่ี มม่ ตี วั สะกด ......................................... ๓๒
กำรประสมคำทม่ี ตี วั สะกด .............................................. ๔๗
แบบฝึกทบทวนควำมรู้ ................................................... ๕๐
หน่วยท่ี ๖ เคร่อื งหมำย วรรณยกุ ต์ และตวั เลข ........................................... ๕๐
เคร่อื งหมำย ..................................................................... ๕๑
วรรณยกุ ต์ ........................................................................ ๕๑
ตวั เลข .............................................................................. ๕๒
แบบฝึกเขยี นตวั เลข ........................................................ ๕๓
แบบฝึกทบทวนควำมรู้ ...................................................
หน่วยท่ี ๗ อกั ขรวธิ พี เิ ศษ .............................................................................. ๕๕
แบบฝึกทบทวนควำมรู้ ................................................... ๕๙
๖๐
หน่วยท่ี ๘ กำรเขยี นภำษำบำล.ี ..................................................................... ๖๐
พยญั ชนะ ......................................................................... ๖๑
สระ ................................................................................... ๖๒
กำรสงั โยค ....................................................................... ๖๓
กำรสงั โยคพยญั ชนะวรรค .................................. ๖๖
กำรสงั โยคพยญั ชนะอวรรค ............................... ๖๙
ฝึกอำ่ นกำรเขยี นภำษำบำลี ............................................ ๗๑
แบบฝึกทบทวนควำมรู้ ................................................... ๗๓
๗๓
หน่วยท่ี ๙ แบบฝึกอำ่ นผญำ คตธิ รรมคำสอน ............................................. ๗๕
ผญำ ................................................................................. ๗๙
คตธิ รรมศลี หำ้ จำกวรรณกรรมเรอ่ื งปลำแดกปลำสมอ... ๘๒
แบบฝึกทบทวนควำมรู้ ...................................................
หน่วยท่ี ๑๐ แบบฝึกอำ่ นนิทำนพน้ื บำ้ นอสี ำน.................................................
แบบฝึกทบทวนควำมรู้ ...................................................
บรรณำนุกรม ........................................................................................................
หน่วยที่ ๑
ความเป็นมาของอกั ษรธรรมอีสาน
อกั ษรธรรมอสี านเป็นตวั อกั ษรท่มี รี ูปลกั ษณะท่กี ลมคลา้ ยกนั กบั อกั ษรธรรม
ลา้ นนา หรอื ตวั เมอื ง หรอื เรยี กอกี อย่างหน่ึงว่าอกั ษรยวนเป็นอย่างมาก จะแตกต่าง
กนั บา้ งบางตวั เทา่ นนั้ สาเหตุทค่ี ลา้ ยกนั เป็นเพราะอกั ษรธรรมอสี านนนั้ ไดร้ บั อทิ ธพิ ล
และสบื ทอดมาจากอกั ษรธรรมลา้ นนา ซ่งึ มพี ฒั นาการมาจากอกั ษรมอญโบราณดงั ท่ี
ศาสตราจารยธ์ วชั ปุณโณทก๑กลา่ วว่า เม่อื ศกึ ษารูปแบบของอกั ษรตวั ธรรมทใ่ี ชใ้ น
ภาคอสี านและลา้ นชา้ งแลว้ พบว่ามรี ูปแบบคลา้ ยกบั อกั ษรยวนหรอื อกั ษรตวั เมอื งใน
ภาคเหนือ ซ่งึ ทงั้ อกั ษรตวั ธรรมและอกั ษรตวั ยวนในภาคเหนือนัน้ ไดส้ บื ทอดมาจาก
อกั ษรมอญโบราณท่หี ริภุญไชย นัน่ คืออกั ษรมอญหริภุญไชย พุทธศตวรรษท่ี ๑๘
(ครสิ ตศตวรรษท่ี ๑๒) เป็นตน้ แบบของอกั ษรยวนภาคเหนือและอกั ษรธรรมอสี าน
สาเหตุทเ่ี ช่อื ว่าอกั ษรธรรมอสี านไดร้ บั อทิ ธพิ ลและสบื ทอดมาจากอกั ษรธรรม
ล้านนาเพราะหลักฐานทางประวัติศาสตร์เป็นเคร่ืองยืนยนั ท่ีชัดเจนโดยกล่าวถึง
ความสมั พนั ธ์ระหว่างอาณาจกั รล้านชา้ ง (รวมถึงภาคอีสานบางส่วน) และอาณาจกั ร
ลา้ นนาในสมยั ราชวงศ์มงั ราย ทงั้ ทางดา้ นศาสนาศลิ ปวฒั นธรรมและความสมั พนั ธท์ าง
สายเลอื ดแห่งเจ้าผูป้ กครองอาณาจกั รทงั้ สอง กล่าวคอื ในสมยั พระเจ้าวิชุลราช แห่ง
อาณาจกั รลา้ นชา้ งได้ฟ้ืนฟูและทานุบารุงพระพุทธศาสนาแบบลงั กาวงศ์โดยไดร้ บั การ
สบื ทอดมาจากเชยี งใหม่และมพี ระเถระผใู้ หญ่จากลา้ นชา้ งมาศกึ ษาพระธรรมวนิ ัยจาก
ลา้ นนาดว้ ย ต่อมาในสมยั พระเจา้ โพธสิ าลราช (๒๐๖๓–๒๐๙๓) พระโอรสของพระเจา้
วชิ ุลราช ไดส้ มรสกบั พระธดิ าเจ้าเมอื งเชยี งใหม่และในสมยั เดยี วกนั น้ีพระเจา้ โพธสิ าล
ราชไดข้ อพระเทพมงคลเถระและบรวิ ารพร้อมทงั้ คมั ภรี พ์ ระไตรปิฎกจากเชยี งใหม่มา
เผยแผ่ล้านช้างเม่ือ พ.ศ. ๒๐๖๖ อีกด้วย ต่อมาในสมยั พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช
พระโอรสของพระเจ้าโพธิสาลราชและเจ้าหญิงเมืองเชยี งใหม่ได้เสด็จไปครองเมอื ง
เชยี งใหมอ่ ยรู่ ะยะหน่ึงเพราะทางเชยี งใหม่ขาดผสู้ บื เชอ้ื สาย (พ.ศ.๒๐๙๑–๒๐๙๓) เม่อื
พระเจ้าโพธสิ าลราชสวรรคตจึงเสด็จกลบั ไปครองอาณาจกั รล้านช้าง และในการ
กลบั มาครงั้ นัน้ พระองค์คงจะได้นาเอาพระธรรมคมั ภีร์ วรรณคดี นักปราชญ์ราช
บัณฑิตตลอดถึงช่างฝีมือ กลบั มาล้านช้างด้วย ฉะนัน้ ตัวอกั ษรล้านนาท่ีใช้กัน
๑ ธวชั ปณุ โณทก. อกั ษรโบราณอีสาน : อกั ขรวิทยาอกั ษรตวั ธรรมและไทยน้อย. กรงุ เทพฯ : สยามเพรส
แมเนจเมน้ ท,์ ๒๕๔๐, ๕๔ .
๒
แพรห่ ลายในอาณาจกั รลา้ นนาในขณะนนั้ กน็ ่าจะไดเ้ ขา้ มามบี ทบาทต่ออาณาจกั รลา้ น
ช้างมากย่ิงข้ึนตามลาดบั ในระยะแรกๆ อกั ษรทงั้ ๒ อาณาจกั รน้ีเป็นอกั ษรแบบ
เดยี วกนั เพราะนาอกั ษรธรรมลา้ นนามาใชใ้ นอาณาจกั รลา้ นชา้ งช่วงตน้ ๆ ดงั ปรากฏ
ในศลิ าจารกึ ท่พี บในภาคอสี านและลา้ นช้าง เช่น จารึกฐานพระพุทธรูปวดั สสี ะเกด
เวยี งจนั ทน์ (พ.ศ. ๒๐๓๓) จารกึ ฐานพระพทุ ธรปู พระประธานในพระอุโบสถวดั พระ
ธาตุพนม (พ.ศ. ๒๐๔๖) จารกึ วดั ถ้าสุวรรณคูหา (พ.ศ.๒๑๐๖) เป็นตน้ จารกึ ดงั กล่าว
มรี ปู แบบสณั ฐานตวั อกั ษรเหมอื นกนั กบั อกั ษรธรรมลา้ นนาในชว่ งระยะเวลาใกลเ้ คยี ง
กนั เช่น จารกึ ฐานพระพุทธรปู วดั เชยี งมนั่ จงั หวดั เชยี งใหม่ (พ.ศ. ๒๐๐๘) ศลิ าจารกึ
วดั ชา้ งค้า จงั หวดั น่าน (พ.ศ. ๒๐๙๑) เป็นตน้ ต่อมารูปแบบของตวั อกั ษรลา้ นนาและ
ตวั อกั ษรธรรมได้พฒั นาแตกต่างกนั ออกไปจนในปจั จุบนั มรี ูปแบบแตกต่างกนั บ้าง
บางประการ เช่น ตวั อกั ษรธรรมล้านนา ไดเ้ พม่ิ เสียงวรรณยุกต์ เพม่ิ เคร่อื งหมาย
กากบั เสยี งตวั พยญั ชนะ เป็นต้น ส่วนตวั อกั ษรธรรมในลา้ นชา้ งไม่ไดเ้ พม่ิ เตมิ อะไร
มากและกน็ ามาใชใ้ นภาคอสี านของไทยสบื ตอ่ มา
สาเหตุทช่ี อ่ื วา่ ตวั อกั ษรธรรมนนั้ เพราะใชต้ วั อกั ษรชนิดน้ีในการบนั ทกึ
เร่อื งราวเกย่ี วกบั พระพทุ ธศาสนาเชน่ พระไตรปิฎก พระธรรมคมั ภรี ต์ า่ งๆ เป็นตน้ ซง่ึ
ถอื วา่ เป็นอกั ษรชนั้ สงู อกั ษรศกั ดสิ ์ ทิ ธิ ์ตวั อกั ษรชนิดน้ีใชใ้ นประเทศลาวกเ็ รยี กวา่ ตวั
ธรรมลาว ใชใ้ นภาคอสี านกเ็ รยี กวา่ ตวั ธรรมอสี านตามแตล่ ะทอ้ งถน่ิ จะเรยี กแตก่ ค็ อื
ตวั อกั ษรชนิดเดยี วกนั นนั่ เอง
๓
ตวั อยา่ งอกั ษรธรรมอีสานในศิลาจารึก
ศลิ าจารกึ วดั ถ้าสวุ รรณคหู า (พ.ศ. ๒๑๐๖) ศลิ าจารกึ วดั มหาผล (พ.ศ.๒๔๐๓)
อ.สวุ รรณคหู า จ.หนองบวั ลาภู บา้ นทา่ ขอนยาง ต.ทา่ ขอนยาง
อ.กนั ทรวชิ ยั จ.มหาสารคาม
ตวั อยา่ งอกั ษรธรรมอีสานในเอกสารใบลาน
ตวั อยา่ งอกั ษรธรรมอีสานในสมดุ ข่อย
๔
๕
หน่วยที่ ๒
พยญั ชนะอกั ษรธรรมอีสาน
พยญั ชนะอกั ษรธรรมอีสานแบง่ ออกเป็ น ๒ ประเภท
๑. พยญั ชนะตวั เตม็ คอื พยญั ชนะทเ่ี ขยี นเตม็ รปู แบบปกติ มี ๓๗ รปู
ทำหน้ำทเ่ี ป็นพยญั ชนะตน้ เขยี นไวบ้ นบรรทดั
๒. พยญั ชนะตวั เฟื้ อง หรอื ตวั ห้อย คอื พยญั ชนะทเ่ี ขยี นครง่ึ รปู หรอื ครง่ึ ตวั
โดยเขยี นไวใ้ ตบ้ รรทดั ทำหน้ำทเ่ี ป็นพยญั ชนะตวั สะกดและพยญั ชนะควบกล้ำ
รปู พยญั ชนะอกั ษรธรรมอีสาน
ก Dตวั เฟื้ อง วรรค ก 3ตวั เฟื้ อง
1ตวั เฟื้ อง ข ¦ตวั เฟื้ อง
ตวั เตม็
ตวั เตม็
d
-
ค
ฆ
ตวั เตม็
ตวั เตม็
8
S
ง
& "ตวั เฟื้อง
ตวั เตม็
'
จ ¨ Rตวั เฟื้อง วรรค จ ๗
ª Rตวั เฟื้อง ฉ
ตวั เตม็ ©ตวั เฟื้ อง
ตวั เตม็ ฌตวั เฟื้ อง
0
c ตวั เฟื้ อง
ช/ซ
ฌ {
ตวั เตม็
!ตวั เตม็ ตวั เฟื้ อง
=
ตวั เฟื้ อง ฌ ²
ญ
- วรรค ฏ
ตวั เตม็ ฐ
ฏตวั เฟื้ อง
\ ´ตวั เฟื้ อง ตวั เตม็
ฎ [
ตวั เตม็ ฒ
Z ตวั เตม็
ฑ/ด .
ตวั เตม็ ณตวั เฟื้ อง ฌ
f
ณ
ตวั เตม็
I
ต 2ตวั เฟื้ อง วรรค ต ๘
Mตวั เฟื้ อง ถ
ตวั เตม็ ตวั เฟื้ อง
ตวั เตม็
9 {
5
ท ตวั เฟื้ อง
ธ
ตวั เตม็ R
ตวั เตม็
m
T
น
Oตวั เฟื้ อง
ตวั เตม็
o
บ/ป ตวั เฟื้ อง วรรค ป ตวั เฟื้ อง
ผ
ตวั เตม็ X ผ
ตวั เตม็
x ตวั เฟื้ อง {ตวั เฟื้ อง
z
ฝ - Àตวั เฟื้ อง
พ
ตวั เตม็ ตวั เฟื้ อง
ตวั เตม็
/ -
r
ฟ
ภ
ตวั เตม็
ตวั เตม็
a
4
๙
ม <ตวั เฟื้ อง
ตวั เตม็
,
ย ตวั เฟื้ อง อวรรค ตวั เฟื้ อง
ร
ตวั เตม็ P E
ตวั เตม็
p q Åตวั เฟื้อง Çตวั เฟื้ อง
ร
ล Lตวั เฟื้ อง Ëตวั เฟื้ อง
ว
ตวั เตม็ ตวั เฟื้ อง ตวั เฟื้ อง
ตวั เตม็
+ ฬ V
;
ส ตวั เฟื้ อง ตวั เฟื้ อง
ห
ตวั เตม็ - N
ตวั เตม็
l
s
ฬ
อ
ตวั เตม็
ตวั เตม็
>
v
ฮ
อย
ตวั เตม็
ตวั เตม็
i
?
๑๐
แบบฝึ กเขียนพยญั ชนะตวั เตม็
๑๑
๑๒
๑๓
ทำทำนบ่มีศีลพรอ้ มผลบญุ บ่เฮืองฮุ่ง
มีศีลคนั บ่คึดละเวน้ สิเป็ นไดฮ้ ่อมใด
ทำทำนผวั เมียบ่พรอ้ มผลบุญบ่เต็มส่วน
บญุ คนั บ่เพียรก่อสรำ้ งสิหมำยไดด้ งั่ ใด
๑๔
แบบฝึ กเขียนพยญั ชนะตวั เฟื้ อง
กD
ข3
ค1
ฆ¦
ง &"
จ ¨R
ฉ©
ช,ซ ª R
ฌ¬
ฎ¯
ฐ{
ฑ/ด F
ณณ
ต2
ถ{
ทM
๑๕
ธR
นO
บ,ป X
ผผ
พ{
ภÀ
ม<
ยP
รE
ล }q
ว:
สL
หË
อV
ฬฬ
อย N
๑๖
แบบฝึ กทบทวนความรู้
๑. จงเตมิ พยญั ชนะในชอ่ งวำ่ งใหถ้ กู ตอ้ ง
กค พฟ ท
d9 I
ฒ ย
S
ง ช/ซ ฌ ถ น
Zผฐฝ?
ภหอ
x,
๒. จงเขยี นพยญั ชนะตวั เฟ้ืองลงในชอ่ งวำ่ งใหถ้ กู ตอ้ ง ถ ๑๗
จช ธ ฐ
พ
งนม ว อ
บ ย ส ร อย
กข คตณด
๓. พยญั ชนะตวั เฟ้ืองทม่ี รี ปู เหมอื นกนั กบั พยญั ชนะตวั เตม็ มกี ต่ี วั อะไรบำ้ ง
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
R๔. พยญั ชนะตวั เฟ้ืองทม่ี รี ปู เป็น มกี ต่ี วั อะไรบำ้ ง
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
{๕. พยญั ชนะตวั เฟ้ืองทม่ี รี ปู เป็น มกี ต่ี วั อะไรบำ้ ง
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หน่วยที่ ๓
สระ
สระอกั ษรธรรมอสี าน แบง่ ออกเป็น ๒ ประเภท คอื สระลอยและสระจม
๑. สระลอย คอื สระทส่ี ามารถเขยี นไดเ้ ลย โดยไมต่ อ้ งอาศยั พยญั ชนะ
อ่นื มาประกอบซง่ึ ทาหน้าทแ่ี ทน อ และสระนนั้ ๆ ดว้ ย การเขยี นสระลอยจะเขยี นอยใู่ น
ระดบั เดยี วกนั กบั พยญั ชนะตวั เตม็ และอยตู่ น้ คาหรอื ตน้ พยางค์
สระลอยมี ๘ รปู ดงั น้ี
v vk d} U j J G jkH
อะ อา อิ อี อุ อู เอ เอา
ตวั อย่างการใช้สระลอย
รปู สระลอย คาอกั ษรธรรมอีสาน คาอกั ษรไทย
อนิจจา
v vo0b kR อาศยั
อนิ ตา
vk vkwl อสี าน
อทุ าน
B Bhµ อู่
เอกา
U UlkO เอาไป
j jmkO
JJ
G Gdk
jkH jHkwx
๑๙
แบบฝึ กเขียนสระลอย
๒๐
๒. สระจม คอื สระทต่ี อ้ งอาศยั พยญั ชนะมาประกอบเทา่ นนั้ จงึ จะใชไ้ ด้ โดย
เขยี นไวร้ อบพยญั ชนะตวั เตม็ คอื ดา้ นหน้า เรยี กวา่ สระหน้า ดา้ นหลงั เรยี กวา่ สระ
หลงั ดา้ นบน เรยี กวา่ สระบน ดา้ นลา่ ง เรยี กว่า สระลา่ ง
สระจม มี ๒๗ รปู ดงั น้ี
xt xk xb xu
อะ อา อิ อี
x7 xn x6 X^
อึ อื อุ อู
เxt เx áxt áx
เอะ เอ แอะ แอ
ext ex เxkt x Y, xV
โอะ โอ เอาะ ออ
xH:t xH: gxyPt gxPy
อวั ะ อวั เอยี ะ เอยี
เx×VÐ เx×V เxtb เxb
เออื ะ เออื เออะ เออ
xÓ wx เxkH
อา ไอ เอา
อยากทุกขใ์ หเ้ ป็ นนายคน
อยากสนละวนใหเ้ อาเมียนอ้ ย
อยากใหเ้ ขาป้ อยใหข้ ้ีใส่ทาง
๒๑
ขอ้ ควรจา dVf
˚๑) การใช้ สระออ ถา้ ไมม่ พี ยญั ชนะสะกดใหใ้ ช้ “ ” (นิคหติ )
dYคาท่ีไม่มีตวั สะกด เช่น ก,็ กอ (ก + อ)
ถา้ มพี ยญั ชนะสะกดใหใ้ ช้ “ V ” ( เฟ้ือง อ)
คาที่มีตวั สะกด เช่น กอด (ก + อ + ด)
๒) สระทม่ี ตี วั เฟ้ือง ว และ อ อยใู่ ตบ้ รรทดั เมอ่ื ประกอบกบั พยญั ชนะควบกลา้
จะเปลย่ี นรปู ไปโดยเขยี นเป็นรปู พยญั ชนะตวั เตม็ ในบรรทดั เดยี วกนั กบั พยญั ชนะตน้
x:H เปลย่ี นเป็น xH ; เชน่ s}H; (หลวั )
เxVn เปลย่ี นเป็น เxnv เชน่ เsn}v (เหลอื )
๓) สระพเิ ศษ ๕ ตวั มวี ธิ กี ารใชด้ งั น้ี
๑) x å สระ อา สงู เพอ่ื ใหม้ คี วามแตกตา่ งจากตวั ต (9 )
เชน่ ;å (วา หรอื วา่ )
๒) xP ตวั ย เฟ้ือง ใหเ้ ขยี นแทน สระเอยี เมอ่ื มตี วั สะกด
เชน่ dP; (เกย่ี ว) lP' เสยี ง
๓) x N ตวั ย หยาดน้า ใชเ้ ทา่ กบั เสยี ง สระออ สะกดดว้ ย ย (ออย)
เชน่ 8N (คอย) oN (น้อย)
๔) A ฤ/ ฤๅ ใชเ้ ขยี นเหมอื น ฤ/ฤๅ ในภาษาไทย เชน่ Ak=k (ฤๅชา)
๕) gxk โอ ใชส้ าหรบั การเขยี นภาษาบาลี เชน่ rØgmRk (พุทฺโธ)
๒๒
แบบฝึ กเขียนสระจม
xt
xk
xb
xu
x7
xn
x6
X^
เxt
เx
áxt
áx
ext
ex
เxkt
x ,Y xV
๒๓
xtH:
x:H
gxPy t
gxPy
เxÐV×
เx×V
เxtb
เxb
xÓ
wx
เxHk
สุขเพราะมีขา้ วกิน
สขุ เพราะมีดินอยู่
สขุ เพราะมีค่นู อนนา
สขุ เพราะมีเงินคาเต็มไถ้
สุขเพราะมีเฮือนหลงั ใหญ่มุงแป้ นกระดาน
สขุ เพราะมีลกู หลานหลายมานงั่ เฝ้ า
แบบฝึ กทบทวนความรู้
๒๔
๑. จงเขยี นคาต่อไปน้ีดว้ ยอกั ขรวธิ อี กั ษรธรรมใหส้ วยงาม
๑) อเวจี ....................................................
๒) อายุ ....................................................
๓) โตดา ....................................................
๔) อารี ....................................................
๕) มานี ....................................................
๖) เตะตา ....................................................
๗) อีดู ....................................................
๘) อสุ า ....................................................
๙) หวั ใจ ....................................................
๑๐) เอามา ....................................................
๒. จงเขยี นคาต่อไปน้ีดว้ ยตวั อกั ษรไทยปจั จุบนั
๑) dkfÓ ....................................................
๒) xrY Y ....................................................
Udk๓) ....................................................
๔) ,n5n ....................................................
๕) 00n Ó ....................................................
๖) vÓgrb ....................................................
๗) goV9n :H ....................................................
๘) 0oH: N ....................................................
๙) glPy w0 ....................................................
๑๐) w8pN ....................................................
หน่วยที่ ๔
พยญั ชนะประสม
พยญั ชนะประสม ในทน่ี ้ีหมายถงึ พยญั ชนะทซ่ี อ้ นกนั ๒ ตวั โดยพยญั ชนะตวั
แรกเป็นตวั เต็ม และพยญั ชนะท่ตี ามเป็นตวั เฟ้ืองซ้อนอยู่ ซ่ึงในอกั ษรธรรมอสี าน
พยญั ชนะประสมมี ๒ ลกั ษณะคอื พยญั ชนะทม่ี ี ห นาและพยญั ชนะควบกล้า
พยญั ชนะทีม่ ี ห นำ
พยญั ชนะทม่ี ี ห นา ในอกั ษรธรรมอสี านนนั้ มี ๖ ตวั คอื ง, น, ม, ย, ล, ว เม่อื
ตามหลงั ห จะเปลย่ี นรปู เป็นตวั เฟ้ือง อยใู่ ต้ ห ดงั น้ี
s '(ห) นา (ง) มรี ปู เป็น s“ เชน่ s“าP (หงาย)
s o(ห) นา (น) มรี ปู เป็น sO เชน่ skO (หน้า)
s ,(ห) นา (ม) มรี ปู เป็น s< เชน่ sY< (หมอ)
s p(ห) นา (ย) มรี ปู เป็น sP เชน่ sPkF (หยาด)
s ](ห) นา (ล) มรี ปู เป็น s} เชน่ โs} (โหล)
s ;(ห) นา (ว) มรี ปู เป็น s: เชน่ ws: (ไหว)
๒๖
พยญั ชนะควบกลำ้
พยญั ชนะควบกลำ้ หมำยถึง พยญั ชนะสองตวั เขยี นเรยี งกนั อยตู่ น้ พยางค์
และใชส้ ระเดยี วกนั เวลาอา่ นออกเสยี งกล้าเป็นพยางคเ์ ดยี วกนั เสยี งวรรณยกุ ตข์ อง
พยางคน์ นั้ จะผนั เป็นไปตามเสยี งพยญั ชนะตวั หน้า ในอกั ษรธรรมอสี านมพี ยญั ชนะ
ควบกลา้ ทพ่ี บมากทส่ี ุดคอื คาทค่ี วบกล้าดว้ ย ร ล ว
การเขยี นคาควบกล้าพยญั ชนะตน้ จะเป็นตวั เตม็ สว่ นตวั ควบจะเขยี นดว้ ยตวั
เฟ้ือง เชน่
Eพยญั ชนะต้นควบกบั ร ( ) ไดแ้ ก่
EdÒX (กราบ)
Er (พระ)
ExgmyL (ประเทศ)
พยญั ชนะต้นควบกบั ล ไดแ้ ก่
dk} : (กลา่ ว)
dH}; (กลวั )
r}yร (พลนั )
พยญั ชนะต้นควบกบั ว ไดแ้ ก่
dk: ” (กวาง)
-:yร (ขวญั )
8k: − (ควาย)
๒๗
แบบฝึ กทบทวนควำมรู้
๑. จงเขยี นคาทม่ี ี ห นา ดว้ ยอกั ขรวธิ อี กั ษรธรรมอสี านใหถ้ ูกตอ้ งสวยงาม
๑) หนี .......................................................
๒) ไหม้ .......................................................
๓) เหยอ่ื .......................................................
๔) ไหล่ .......................................................
๕) หวี .......................................................
๖) เหงอ่ื .......................................................
๗) หนู .......................................................
๘) เหมา .......................................................
๙) เหลา้ .......................................................
๑๐) หวา้ .......................................................
๒. จงเขยี นคาต่อไปน้ีดว้ ยตวั อกั ษรไทยปจั จุบนั
su<๑) .......................................................
๒) sk} .......................................................
๓) เs”Hk .......................................................
๔) ไsP .......................................................
sฦ<๕) .......................................................
sOY๖) .......................................................
๗) เsv}n .......................................................
๘) sำ” .......................................................
๙) sำ< ๒๘
๑๐) เsvOn
.......................................................
.......................................................
๓. จงเขยี นคาควบกลา้ ต่อไปน้ีดว้ ยอกั ขรวธิ อี กั ษรธรรมอสี าน
๑) ทรง .......................................................
๒) ขวา .......................................................
๓) กราบ .......................................................
๔) กวา้ ง .......................................................
๕) กลา้ .......................................................
๔. จงเขยี นคาต่อไปน้ีดว้ ยตวั อกั ษรไทยปจั จุบนั
๑) dP: O .......................................................
๒) 8:yร .......................................................
๓) -k: O .......................................................
๔) d:kO .......................................................
๕) Erk .......................................................
ทุกขย์ ากฮา้ ย ใหไ้ ดอ้ ยู่นากนั
กลอยมนั มี จงั่ ค่อยหามาเล้ียง
อา้ ยน้ีทุกขย์ ากฮา้ ย ปากกา่ กินมนั หมก
คนั บ่กินหมกกลอย ปากบ่ดาปานน้ี
หน่วยท่ี ๕
การประสมคา
อกั ขรวธิ หี รอื หลกั การประสมคาของอกั ษรธรรมอสี านแตกต่างจากอกั ขรวิธี
ของภาษาไทยปจั จุบนั ทงั้ น้ีเพราะอกั ขรวธิ ขี องอกั ษรธรรมอสี านนนั้ พยญั ชนะตน้ ซ่งึ
เป็นพยญั ชนะตวั เต็มจะอยู่บนบรรทดั ส่วนพยญั ชนะตวั ตามคอื พยญั ชนะควบกล้า
และพยญั ชนะตวั สะกดใชร้ ูปของพยญั ชนะตวั เฟ้ือง วางไวข้ า้ งล่างของพยญั ชนะตวั
Eเตม็ ยกเวน้ เฟ้ือง ร x (ร ระวง หรอื โอพระ) วางไวข้ า้ งหน้า สาหรบั สระสามารถวาง
ไวร้ อบพยญั ชนะตน้ คอื วางไวบ้ น ลา่ ง หน้า หลงั ของพยญั ชนะตน้ สว่ นอกั ขรวธิ ขี อง
ภาษาไทยนัน้ กาหนดให้วางพยญั ชนะไว้บนบรรทดั เดยี วกนั หมดทงั้ พยัญชนะต้น
พยญั ชนะควบกลา้ และพยญั ชนะตวั สะกด สว่ นสระนนั้ ใชเ้ หมอื นกนั
๑. การประสมคาที่ไมม่ ีตวั สะกด
รปู สระ สระ การประสมคา คาอ่าน
กะ
xt * อะ dt กา
dk กิ
xk ** อา db กี
du กึ
xb อิ d7 กอื
dn กุ
xu อี d6
กู
x7 อึ d^
xn อื
x6 อุ
x^ อู
๓๐
รปู สระ สระ การประสมคา คาอ่าน
เอะ เกะ
เxt เอ gdt เก
เx แอะ เd แกะ
áxt แอ แdt แก
áx โอะ แd โกะ
e xt โอ โdt โก
ex เอาะ โd เกาะ
เxkt ** ออ เdkt
x ,Y xV *** อวั ะ dY, dV’ กอ,กอง
xt:H อวั dวะH กวั ะ
xH: dวH กวั
gxyPt เอยี ะ เdPy t เกยี ะ
gxyP เdPy เกยี
เxÐV× เอยี เdtVn เกอื ะ
เxV× เออื ะ เdnV เกอื
เxbt เออื เdtb เกอะ
เxb เออะ เdb เกอ
xÓ ** เออ dำ กา
อา
๓๑
รปู สระ สระ การประสมคา คาอ่าน
ไก
ไ x ไอ ไd เกา
เdHk
เxHา ** เอา
ความรเู้ พม่ิ เตมิ
t๑. * รปู สระ x (วสิ รรชนีย)์ ไมน่ ิยมประกอบกบั พยญั ชนะ เพราะพยญั ชนะทุก
9 tตวั ออกเสยี ง อะ เช่น
อ่านวา่ ตะ แต่จะใชร้ ูป x สาหรบั ประกอบกบั
สระผสมทม่ี เี สยี งสนั้ เชน่ เ9t (เตะ) á9t (แตะ) e9t (โต๊ะ) เป็นตน้
k๒.**สาหรบั สระทม่ี รี ปู สระอา x , xÓ, เxkt และ เxาH เมอ่ื ประสมกบั o
จะเปลย่ี นรปู ดงั ต่อไปน้ี (นา)
o + xk เปลย่ี นรปู เป็น h
o + xÓ เปลย่ี นรปู เป็น h,Y (นา)
o + เxkt เปลย่ี นรปู เป็น ght (เนาะ)
o + เxาH เปลย่ี นรปู เป็น ghH (เนา)
Y๓.*** x ใชป้ ระกอบกบั คาทป่ี ระกอบดว้ ยสระออซง่ึ ไมม่ ตี วั สะกด
เชน่ s + xV = sY (หอ)
Vx ใชป้ ระกอบกบั คาทป่ี ระกอบดว้ ยสระออซง่ึ มตี วั สะกด
เชน่ s + xV + , = s,V (หอม)
หมายเหตุ สระ เxb ในเอกสารโบราณใชแ้ ทนสระเออื ได้ เชน่ เr b (เพอ่ื )
เ’bD (เงอื ก) เfbO (เดอื น) เ]Fb (เลอื ด) เป็นตน้
๓๒
๒. การประสมคาที่มตี วั สะกด
การประสมคาทม่ี ตี วั สะกดในอกั ขรวธิ อี กั ษรธรรมอสี านเหมอื นกนั กบั การผสม
คาท่มี ตี วั สะกดในภาษาไทยปจั จุบนั คอื มแี ม่สะกด ๘ แม่ เหมอื นกนั ไดแ้ ก่ แม่กก
แมก่ ด แม่กบ แมก่ ง แม่กน แมก่ ม แม่เกย แม่เกอว แต่มหี ลกั การวางรปู พยญั ชนะใน
การเขยี นทแ่ี ตกตา่ งจากภาษาไทย โดยพยญั ชนะทเ่ี ป็นตวั สะกดของอกั ษรธรรมอสี าน
มกั จะเขยี นในรปู ของพยญั ชนะตวั เฟ้ือง แตถ่ า้ มพี ยญั ชนะควบกล้าหรอื มสี ระล่างจงึ จะ
เขยี นเป็นพยญั ชนะตวั เตม็ ดงั ตวั อยา่ งต่อไปน้ี
ตวั สะกด แม่ กก ( xD ) รปู คา คาอ่าน
กกั
รปู สระ สระ dDy กาก
dkD กกิ
xt อะ dDb กกี
xk อา dDu กกึ
xb อิ d7D กกื
xu อี dnD กุก
x7 อึ dd6
xn อื dd^ กกู
x6 อุ
x^ อู
เxt เอะ gdyD เกก็
เx เอ gdDy เกก
áx แอ ggdD แกก
๓๓
รปู สระ สระ รปู คา คาอ่าน
กก
ext โอะ dDH โกก
ex โอ edD กอก
xV ออ ddV กวก
x:H อวั dd: เกยี ก
gxyP เอยี dPd เกอื ก
เx×V เออื เกกิ
เxb เออ gdndV
gdDb
ความรเู้ พมิ่ เตมิ
๑. คาทม่ี พี ยญั ชนะประสม หรอื พยญั ชนะควบกล้า การเขยี นพยญั ชนะตวั สะกดจะ
เปลย่ี นจากพยญั ชนะตวั เฟ้ือง ( xD ) เป็นพยญั ชนะตวั เตม็ (xd)
เชน่ sOyd (หนกั ) 8yd: (ควกั )
๒. การเขยี นรปู พยญั ชนะตวั สะกดในคาทป่ี ระกอบดว้ ยสระลา่ งและสระผสม
จะเปลย่ี นจากพยญั ชนะตวั เฟ้ือง ( xD ) เป็นพยญั ชนะตวั เตม็ (xd)
เชน่ ]d^ (ลกู ) xdV (บอก)
xPd (เปียก) เ=dVn (เชอื ก)
๓. เครอ่ื งหมายทส่ี ามารถใชเ้ ป็นตวั สะกดในแม่ กก ไดแ้ ก่
y๑) x (ไมซ้ ดั ) ใชส้ ะกดในคาทป่ี ระกอบดว้ ยสระหน้า สระหลงั
และสระลา่ ง ยกเวน้ สระบน
เชน่ แxy (แบก) xky (ปาก) sy^ (หกู )
๓๔
W๒) x (สองจุด) ใชส้ ะกดในคาทป่ี ระกอบดว้ ยสระหน้า สระหลงั และ
สระบน ยกเวน้ สระลา่ ง
เชน่ แxW (แบก) xkW (ปาก) 0Wb (จกิ )
๔. ใช้ xD , xd, xy และ xW แทนคาทส่ี ะกดดว้ ยแม่ กก ทน่ี อกเหนือจาก ก
ไดท้ ุกคา เชน่ my6 (ทุกข)์ ld6 (สขุ )
โรD (โรค) เ,Wy (เมฆ)
ตวั สะกด แม่ กด ( xด )
รปู สระ สระ รปู คา คาอ่าน
อะ กดั
xt dดy
xk อา dkด กาด
xb อิ dดb กดิ
xu อี dดu กดี
x7 อึ dด7 กดึ
xn อื dดn กดื
x6 อุ df6 กดุ
x^ อู df^ กดู
เxt เอะ gdดy เกด็
เx เอ gdดy เกด
รปู สระ สระ รปู คา ๓๕
áx แอ ggdด คาอ่าน
ext โอะ dดH แกด
ex โอ edด กด
xV ออ dfV โกด
xH: อวั d:f กอด
gxPy เอยี dPf* กวด
เx×V เออื gdfVn เกยี ด
เxb เออ gdดb เกอื ด
เกดิ
ความรเู้ พมิ่ เตมิ
๑. คาทม่ี พี ยญั ชนะประสม หรอื พยญั ชนะควบกล้า การเขยี นพยญั ชนะตวั สะกดจะ
เปลย่ี นจากพยญั ชนะตวั เฟ้ือง ( xด ) เป็นพยญั ชนะตวั เตม็ (xf)
เชน่ sf<y (หมดั ) 8:fy (ควดั )
๒. การเขยี นรปู พยญั ชนะตวั สะกดในคาทป่ี ระกอบดว้ ยสระลา่ งและสระผสม
จะเปลย่ี นจากพยญั ชนะตวั เฟ้ือง ( xด ) เป็นพยญั ชนะตวั เตม็ (xf)
เชน่ -f6 (ขดุ ) dfV (กอด)
xPf (เบยี ด) เ]nfV (เลอื ด)
๓. ใชพ้ ยญั ชนะเฟ้ือง ส ( xL ) สะกดในแม่ กด แทนเฟ้ือง ด ( xด ) กไ็ ด้
เชน่ Exgmดy (ประเทศ) หรอื ExgmyL (ประเทศ)
๓๖
ด f L๔. ใช้ x , x และ x แทนคาทส่ี ะกดดว้ ยแม่ กด ทน่ี อกเหนือจาก ด ไดท้ กุ คา
เชน่ xkdFH (ปรากฏ) เdLy (เกษ)
รHF (รถ/รส) 8f6 (ครุฑ)
หมายเหตุ * การเขยี นพยญั ชนะตวั สะกดแม่ กด สาหรบั ประสมคาใน สระเอยี
สามารถเขยี นรปู ตวั เฟ้ืองกไ็ ด้ เชน่ dPf (เกยี ด) หรอื dPด (เกยี ด)
ตวั สะกด แม่ กบ ( xX )
รปู สระ สระ รปู คา คาอ่าน
อะ กบั
xt dXy
xk อา dkX กาบ
xb อิ dbX กบิ
xu อี dXu กบี
x7 อึ dX7 กบึ
xn อื dXn กบื
X6 อุ d6x กบุ
x^ อู d^x กบู
เxt เอะ gdyX เกบ็
เx เอ gdyX เกบ
áx แอ ggdX แกบ
รปู สระ สระ รปู คา ๓๗
ext โอะ dXH คาอ่าน
ex โอ edX กบ
xV ออ dVx โกบ
xH: อวั d:x กอบ
gxyP เอยี dPx กวบ
เxV× เออื gdVxn เกยี บ
เxb เออ gdXb เกอื บ
เกบิ
ความรเู้ พมิ่ เตมิ
๑. คาทม่ี พี ยญั ชนะประสม หรอื พยญั ชนะควบกล้า การเขยี นพยญั ชนะตวั สะกดจะ
เปลย่ี นจากพยญั ชนะตวั เฟ้ือง ( xX ) เป็นพยญั ชนะตวั เตม็ (xx)
เชน่ sxy} (หลบั ) d}yx (กลบั )
๒. การเขยี นรปู พยญั ชนะตวั สะกดในคาทป่ี ระกอบดว้ ยสระลา่ งและสระผสม
จะเปลย่ี นจากพยญั ชนะตวั เฟ้ือง ( xX ) เป็นพยญั ชนะตวั เตม็ (xx)
เชน่ l^x (สบู ) =Vx (ชอบ)
]Px (เลยี บ) เdVnx (เกอื บ)
X x๓. ใช้ x และ x แทนคาทส่ี ะกดดว้ ยแม่ กบ ทน่ี อกเหนือจาก บ ไดท้ กุ คา
เชน่ เ8kH รHX (เคารพ) โ]X (โลภ)
รx^ (รปู ) เmyX (เทพ)
ตวั สะกด แม่ กง ( x” ) ๓๘
รปู สระ สระ รปู คา คาอ่าน
อะ กงั
xt d”y กาง
dk” กงิ
xk อา d”b กงี
d”u กงึ
xb อิ d”7 กงื
dn” กงุ
xu อี d6’ กงู
d’^ เกง็
x7 อึ เกง
gdy” แกง
xn อื gd”y กง
ggd” โกง
x6 อุ d”H กอง
ed” กวง
x^ อู dV’
d:’
เxt เอะ
เx เอ
áx แอ
ext โอะ
ex โอ
xV ออ
xH: อวั
รปู สระ สระ รปู คา ๓๙
gxPy เอยี dP’* คาอ่าน
เx×V เออื gdอ’n เกยี ง
เxb เออ gd”b เกอื ง
เกงิ
ความรเู้ พม่ิ เตมิ
๑. คาทม่ี พี ยญั ชนะประสม หรอื พยญั ชนะควบกล้า การเขยี นพยญั ชนะตวั สะกดจะ
เปลย่ี นจากพยญั ชนะตวั เฟ้ือง ( x” ) เป็นพยญั ชนะตวั เตม็ (x’)
เชน่ sy}’ (หลงั ) 87}’ (คลงึ )
๒. การเขยี นรปู พยญั ชนะตวั สะกดในคาทป่ี ระกอบดว้ ยสระลา่ งและสระผสม
จะเปลย่ี นจากพยญั ชนะตวั เฟ้ือง ( x” ) เป็นพยญั ชนะตวั เตม็ (x’)
เชน่ l’^ (สงู ) ,’V (มอง)
]P’ (เลย้ี ง) เ,Vn’ (เมอื ง)
&๓. x (องั แลน่ ) ใชส้ ะกดแม่ กง ในคาทป่ี ระกอบดว้ ยสระหลงั และสระ
ลา่ งกไ็ ด้
เชน่ fk” (ดา่ ง) หรอื fk& (ดา่ ง)
l’^ (สงู ) หรอื l&^ (สงู )
หมายเหตุ * การเขยี นพยญั ชนะตวั สะกดแม่ กง สาหรบั ประสมคาใน สระเอยี
สามารถเขยี นรปู ตวั เฟ้ืองหรอื ใชไ้ มอ้ งั แลน่ กไ็ ด้
เชน่ lP’ (เสยี ง) lP” (เสยี ง) หรอื lP& (เสยี ง)
ตวั สะกด แม่ กน ( xO ) ๔๐
รปู สระ สระ รปู คา คาอ่าน
อะ กนั
xt dOy กาน
dkO กนิ
xk อา dbO กนี
duO กนึ
xb อิ d7O กนื
dOn กุน
xu อี dร6 กนู
dร^ เกน็
x7 อึ เกน
gdOy แกน
xn อื gdOy กน
ggdO โกน
x6 อุ dOH กอน
edO กวน
x^ อู dVร เกยี น
dร:
เxt เอะ dPร*
เx เอ
áx แอ
ext โอะ
ex โอ
xV ออ
x:H อวั
gxPy เอยี
รปู สระ สระ รปู คา ๔๑
เx×V เออื gdVรn คาอ่าน
เxb เออ gdbO เกอื น
เกนิ
ความรเู้ พม่ิ เตมิ
๑. คาทม่ี พี ยญั ชนะประสม หรอื พยญั ชนะควบกลา้ การเขยี นพยญั ชนะตวั สะกดจะ
เปลย่ี นจากพยญั ชนะตวั เฟ้ือง ( xO ) เป็นพยญั ชนะตวั ร (xร)
เชน่ sy<ร (หมนั่ ) r}yร (พลนั )
๒. การเขยี นรปู พยญั ชนะตวั สะกดในคาทป่ี ระกอบดว้ ยสระลา่ งและสระผสม
จะเปลย่ี นจากพยญั ชนะตวั เฟ้ือง ( xO ) เป็นพยญั ชนะตวั ร (xร)
เชน่ ]6ร (ลนุ ) ,รV (มอญ)
รPร (เรยี น) เiรnV (เฮอื น)
O ร๓. ใช้ x และ x แทนคาทส่ี ะกดดว้ ยแม่ กน ทน่ี อกเหนือจาก น ไดท้ ุกคา
เชน่ dOH (กล) โsO (โหร)
xร6 (บญุ ) 86ร (คณุ )
หมายเหตุ * การเขยี นพยญั ชนะตวั สะกดแม่ กน สาหรบั ประสมคาใน สระเอยี
สามารถเขยี นรปู ตวั เฟ้ืองกไ็ ด้
เชน่ lPร (เสย้ี น) หรอื lPO (เสย้ี น)
ตวั สะกด แม่ กม ( x< ) ๔๒
รปู สระ สระ รปู คา คาอ่าน
อะ กมั
xt dy< * กาม
dk< กมิ
xk อา d<b กมี
du< กมึ
xb อิ d<7 กมื
d<n กุม
xu อี d6, กมู
d^, เกม็
x7 อึ เกม
gd<y แกม
xn อื gdy< กม
ggd< โกม
x6 อุ dH< กอม
ed< กวม
x^ อู d,V เกยี ม
d:,
เxt เอะ dP, **
เx เอ
áx แอ
ext โอะ
ex โอ
xV ออ
x:H อวั
gxyP เอยี
รปู สระ สระ รปู คา ๔๓
เxV× เออื gd,Vn คาอ่าน
เxb เออ gd<b เกอื ม
เกมิ
ความรเู้ พมิ่ เตมิ
๑. คาทม่ี พี ยญั ชนะประสม หรอื พยญั ชนะควบกลา้ การเขยี นพยญั ชนะตวั สะกดจะ
เปลย่ี นจากพยญั ชนะตวั เฟ้ือง ( x< ) เป็นพยญั ชนะตวั เตม็ (x,)
เชน่ s,ฝO (หนุ่ม) 8}ฝ, (คลมุ )
๒. การเขยี นรปู พยญั ชนะตวั สะกดในคาทป่ี ระกอบดว้ ยสระลา่ งและสระผสม
จะเปลย่ี นจากพยญั ชนะตวั เฟ้ือง ( x< ) เป็นพยญั ชนะตวั เตม็ (x,)
เชน่ v6, (อมุ้ ) 0V, (จอม)
lP, (เสยี ม)
หมายเหตุ * dy< (กมั ) นิยมเขยี นเป็น dำ (กา) แทน
** การเขยี นพยญั ชนะตวั สะกดแม่ กม สาหรบั ประสมคาใน สระเอยี
สามารถเขยี นรปู ตวั เฟ้ืองกไ็ ด้
เชน่ 0P, (เจยี ม) หรอื 0P< (เจยี ม)
ตวั สะกด แม่ เกย ( xP )
รปู สระ สระ รปู คา คาอ่าน
กยั
xt อะ dyP* กาย
กยื
xk อา dkP
xn อื dnP
รปู สระ สระ รปู คา ๔๔
อุ
x6 d6p *** คาอ่าน
dp^ *** กยุ
x^ อู
edP กยู
ex โอ dN **
d:p *** โกย
xV ออ gdVpn *** กอย
gdbP กวย
xH: อวั เกอื ย
เกย
เxV× เออื
เxb เออ
ความรเู้ พม่ิ เตมิ
๑. คาทม่ี พี ยญั ชนะประสม หรอื พยญั ชนะควบกลา้ การเขยี นพยญั ชนะตวั สะกดจะ
เปลย่ี นจากพยญั ชนะตวั เฟ้ือง ( xP ) เป็นพยญั ชนะตวั เตม็ (xp)
เชน่ sP6p (หยยุ ) -Øp} (ขลยุ่ )
๒. การเขยี นรปู พยญั ชนะตวั สะกดในคาทป่ี ระกอบดว้ ยสระลา่ งและสระผสม
จะเปลย่ี นจากพยญั ชนะตวั เฟ้ือง ( xP ) เป็นพยญั ชนะตวั เตม็ (xp)
เชน่ ]p6 (ลยุ ) l:p (สวย) gxnVp (เป่ือย)
หมายเหตุ * dyP (กยั ) นิยมเขยี นเป็น ไd (ไก) แทน
**สระ xV สะกดดว้ ย p จะใช้ x N แทน
เชน่ ] + xV + p เขยี นเป็น ]N จะไม่เขยี น ]Vp
๔๕
*** การเขยี นพยญั ชนะตวั สะกดแม่ เกย สาหรบั ประสมคาทม่ี ี สระลา่ ง
และสระผสมทม่ี สี ระลา่ ง สามารถเขยี นรปู ตวั เฟ้ืองกไ็ ด้
เชน่ dp6 (กุย) เป็น d6P (กุย)
dp^ (กยู ) เป็น d^P (กยู )
dp: (กวย) เป็น d:P (กวย)
gdVpn (เกอื ย) เป็น เdPVn (เกอื ย)
ตวั สะกด แม่ เกอว ( x: )
รปู สระ สระ รปู คา คาอ่าน
กาว
xk อา dk: กวิ
กวี
xb อิ db: เกว็
เกว
xu อี d:u แกว
เกยี ว
เxt เอะ gdy:
เx เอ gd:y
áx แอ ggd:
gxyP เอยี dP;*
๔๖
ความรเู้ พมิ่ เตมิ
๑. คาทม่ี พี ยญั ชนะประสม หรอื พยญั ชนะควบกลา้ การเขยี นพยญั ชนะตวั สะกดจะ
เปลย่ี นจากพยญั ชนะตวั เฟ้ือง ( x: ) เป็นพยญั ชนะตวั เตม็ (x;)
เชน่ sO;b (หน่ิว) gg8}; (แคลว้ )
๒. การเขยี นรปู พยญั ชนะตวั สะกด แม่ เกอว ใน สระเอยี สามารถเขยี นได้
ทงั้ ตวั เตม็ และตวั เฟ้ือง
เชน่ -P; (เขยี ว) หรอื -Pว (เขยี ว)
คนเพิ่นยอ้ งเถิงถิ่นแดนอีสาน
วา่ มีของบฮู าน อย่เู ต็มภายพ้ืน
เฮามาพากนั สรา้ งฮกั ษาสืบต่อ
ของดีมีอย่แู ลว้ อย่าไลถ้ิมเป่ าดาย