หนังสอื อ่านเพม่ิ เตมิ อิเล็กทรอนิกส์ เรอ่ื ง
อาหารไทยท่ีข้นึ ทะเบยี นมรดกภูมปิ ัญญาทางวฒั นธรรมของชาติ
สำหรับนกั ศกึ ษาชาวเวียดนาม
ศภุ กานต์ มาลยาภรณ์
สภุ คั มหาวรากร
คำนำ
หนังสืออ่านเพม่ิ เตมิ อิเล็กทรอนิกส์ เรอื่ ง “อาหารไทยท่ีข้นึ ทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทาง
วัฒนธรรมของชาติ” สำหรับนักศึกษาชาวเวียดนาม เป็นส่วนหนึ่งของปริญญานิพนธ์เร่ือง
หนังสืออ่านเพ่ิมเติมอิเล็กทรอนิกส์เรื่อง “อาหารไทยที่ข้ึนทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
ของชาติ” สำหรับนักศึกษาชาวเวียดนาม หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย
มหาวทิ ยาลัยศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ
วัตถุประสงค์สำคัญ คือ เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านภาษาไทยและความรู้ความเข้าใจ
เรื่องมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรมของไทยสำหรับผู้เรียนชาวเวียดนาม โดยมีเนื้อหาหลักกล่าวถึง
อาหารไทยท่ีข้ึนทะเบยี นมรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ผู้วิจัยสร้างสรรคเ์ ป็นบทอา่ น โดย
ใชภ้ าพวาดประกอบข้อความเพือ่ สร้างแรงจูงใจในการอา่ นและทำใหผ้ ูเ้ รยี นเข้าใจเนื้อหาไดง้ ่าย
เนื้อหาในหนังสืออ่านเพ่ิมเติมอิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้ ประกอบด้วยบทอ่าน จำนวน 8 บท
ดงั นี้
บทที่ 1 “อาหารไทย” อาหารเพอ่ื สุขภาพ
บทท่ี 2 “กบั ข้าว” ของคนไทย
บทที่ 3 “ต้มยำกุ้ง” ตม้ ยำไทยอรอ่ ยไกลทัว่ โลก
บทท่ี 4 “ผัดไทย” รสชาตแิ บบไทย ๆ
บทท่ี 5 “แกงเผ็ด” กะทิของสำคญั ในแกงไทย
บทท่ี 6 “แกงเขยี วหวาน” รสหอมหวานของสมุนไพร
บทท่ี 7 “สม้ ตำ” ยำไทยดังไกลทว่ั โลก
บทที่ 8 “อาหารไทย” ภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรมของไทย
ในแตล่ ะบทประกอบด้วย
1. จุดมุ่งหมายของบทเพ่ือให้ผู้เรียนทราบว่าต้องเรียนรู้และพัฒนาทักษะการอ่าน
ซง่ึ ผ้เู รียนสามารถวัดและประเมนิ ผลไดเ้ ม่อื ผ้เู รยี นเรียนจบแตล่ ะบท
2. บทอ่านมรดกภูมิปญั ญาทางวฒั นธรรมของอาหารไทย
3. บทอ่านเพิ่มเติมอาหารเวยี ดนามเพ่อื ใหผ้ เู้ รียนเรยี นรู้วฒั นธรรมไทยและ
เช่อื มโยงความรูว้ ัฒนธรรมอาหารไทยและอาหารเวยี ดนาม
4. คำศัพทจ์ ากบทอ่าน แต่ละบทประกอบด้วยคำศัพท์ ลำดับตามการปรากฏในบท
อ่านและระบุชนิดของคำ โดยใช้อักษรย่อตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554
ไดแ้ ก่
น. หมายถงึ นาม
ก. หมายถึง กริยา
ว. หมายถึง วเิ ศษณ์
พร้อมระบุคำอา่ นภาษาไทย ความหมายของคำศัพทแ์ ละคำแปลภาษาเวยี ดนาม
5. แบบทดสอบท้ายบท เพ่ือวัดความร้คู วามเขา้ ใจเร่อื งมรดกภมู ปิ ัญญาทาง
วฒั นธรรมของไทย โดยเป็นขอ้ สอบปรนยั แบบเลือกตอบ 4 ตัวเลอื ก จำนวน 10 ขอ้
6. แบบทดสอบหลังเรียน เพ่ือวัดความรู้ความเข้าใจของผู้เรียนชาวเวียดนาม โดย
เป็นขอ้ สอบปรนยั แบบเลอื กตอบ 4 ตวั เลือก จำนวน 50 ขอ้
ผู้วิจัยหวังเป็นอย่างย่ิงว่า หนังสืออ่านเพ่ิมเติมอิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง “อาหารไทยที่ข้ึน
ทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ” สำหรับนักศึกษาชาวเวียดนาม ช่วยสร้าง
แรงจูงใจและเสริมสร้างทักษะการอ่านภาษาไทย รวมท้ังมีความรู้ความเข้าใจมรดกภูมิปัญญาทาง
วฒั นธรรมของอาหารไทยมากข้นึ
นางสาวศภุ กานต์ มาลยาภรณ์
ผู้วิจัย
คำแนะนำสำหรบั ผู้เรยี น
ผูเ้ รียนใชห้ นงั สอื อา่ นเพ่มิ เตมิ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เพื่อการเรยี นรู้ดว้ ยตนเองตามลำดบั ขั้นตอน ดงั น้ี
1. ผู้เรียนศึกษาจุดมุ่งหมายแต่ละบทก่อนเริ่มอ่านบทอ่านมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
ของอาหารไทย
2. ผู้เรียนศกึ ษาบทอ่านมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของอาหารไทยและบทอา่ นเพ่ิมเติม
อาหารเวยี ดนามเพ่อื เชื่อมโยงความร้วู ัฒนธรรมอาหารไทยและอาหารเวียดนาม
3. ผูเ้ รยี นศกึ ษาคำศัพท์จากบทอ่านเพ่ือเสรมิ ความรูค้ วามเขา้ ใจบทอ่าน
4. ผู้เรยี นทำแบบทดสอบท้ายบทเพ่อื วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจบทอ่าน
5. ผู้เรยี นตรวจคำตอบเพือ่ ประเมนิ ผลการเรียนรจู้ ากเฉลยแบบทดสอบท้ายบท
6. ผู้เรียนศึกษาหนังสืออ่านเพิ่มเติมอิเล็กทรอนิกส์ครบท้ัง 8 บทแล้ว ให้ผู้เรียนทำ
แบบทดสอบหลังเรียน จำนวน 50 ข้อ เพื่อประเมินความรู้ความเข้าใจหลังจากการใช้หนังสืออ่าน
เพ่ิมเติมอิเล็กทรอนกิ ส์
เกณฑก์ ารประเมนิ
กำหนดเกณฑ์การประเมิน คือ ผู้เรียนต้องมีคะแนนจากการทำแบบทดสอบท้ายบทและ
แบบทดสอบหลังเรียน ไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 75 (อิงจากเกณฑ์การหาประสิทธิภาพเคร่ืองมือ ใช้สูตร
คำนวณ E1/E2 = 75/75)
บทที่ 1
“อาหารไทย”
อาหารเพอ่ื สุขภาพ
จุดมงุ่ หมายของบทน้ี คอื
1. บอกประโยชนข์ องสมุนไพรและเครอื่ งเทศได้
2. อธบิ ายลักษณะอาหารไทยท่เี ปน็ ยารกั ษาโรคได้
3. แยกแยะความเหมอื นและความแตกต่างของอาหารเพื่อสขุ ภาพระหวา่ ง
อาหารไทยและอาหารเวียดนามได้
2
บทอา่ น
รับประทาน “ผกั ” ตามฤดกู าล
ประเทศไทยมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งเกิดข้ึนตามฤดูกาล คนไทยใช้
ทรัพยากรธรรมชาติทำอาหาร โดยมีข้ันตอนการทำอาหารท่ีละเอียดอ่อนและพิถีพิถัน
มีรสชาติกลมกล่อม มีคุณค่าทางสารอาหารและช่วยรักษาโรคต่าง ๆ อาหารไทยจึงมีรสชาติท่ี
โดดเด่นและมปี ระโยชนต์ ่อร่างกาย
อาหารไทยสะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนไทย คนไทยนิยมรับประทานผักตาม
ฤดูกาล เพื่อเกิดความสมดุลภายในรา่ งกายและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เนื่องจาก ประเทศไทย
แบ่งออกเป็น 3 ฤดู ดังน้ี ฤดูร้อนเป็นช่วงท่ีอากาศร้อน ควรรับประทานผกั ท่ีมีฤทธิ์เย็นเพ่ือดับ
ร้อนและแก้กระหาย ฤดูฝนเป็นช่วงฝนตกหนักและอากาศเย็น เป็นหวัดได้ง่าย ควร
รับประทานผักท่ีมีรสเผ็ดร้อนเพื่อปรับอุณหภูมิในร่างกาย และฤดูหนาวเป็นช่วงท่ีอากาศ
แปรปรวน อากาศเย็นและมีฝน เป็นหวัดและท้องอืดได้ง่าย ควรรับประทานผักที่เพ่ิมกากใย
เพอ่ื บรรเทาอาการทอ้ งอดื
ฟักทอง มะระ แตงกวา คะนา้ ใบเหลยี ง บวบ ยำมะระ
ฤดูรอ้ น (เดือนมนี าคม – เดือนพฤษภาคม)
ขงิ ข่า กะเพรา ตำลึง ผักกูด ชะอม ตม้ ข่าไก่
ฤดฝู น (เดือนมถิ ุนายน – เดอื นสงิ หาคม)
กระเทียม หอมแดง ปวยเลง้ สะเดา กะหล่ำปลี ผกั กาดหอม แกงเลยี ง
ฤดหู นาว (เดือนธันวาคม – เดอื นกมุ ภาพนั ธ)์
3
“อาหารไทย” เปน็ ยาที่อร่อยที่สดุ ในโลก
อาหารไทยมีส่วนประกอบของสมุนไพรและเครื่องเทศเป็นวัตถุดิบสำคัญ มีสารอาหาร
ทั้งวิตามินและแร่ธาตุ ทำให้ร่างกายแข็งแรง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันและรักษาโรคต่าง ๆ
เชน่ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน จนได้รบั การยกย่องว่า “อาหารไทยเป็นยาที่อรอ่ ยท่ีสุด
ในโลก”
อาหารไทยเสริมภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง โรคหัวใจและ
ต้านไวรัสโคโรนา (COVID-19) เช่น แกงเลียง แกงส้ม ผัดกะเพรา ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์
ปลาน่งึ มะนาว ตม้ ยำกุง้ แกงเขียวหวาน แกงเผ็ด สม้ ตำ เปน็ ตน้
แกงเลยี ง มีสว่ นประกอบดังน้ี
หอมแดง ชว่ ยให้หายใจไดส้ ะดวก
พริกไทย ชว่ ยขบั เสมหะและเหงือ่
ใบแมงลกั บำรุงเลอื ด
กระชาย บรรเทาอาการไอและไขห้ วัด
แกงเลียงมีฤทธ์ิร้อน จึงนิยมใส่ผักที่มีฤทธิ์เย็นเพ่ือให้เกิดความสมดุล เช่น ตำลึง บวบ
โดยเฉพาะหัวปลีเพื่อเพ่ิมน้ำนมให้หญิงต้ังครรภ์ แกงเลียงทำให้ร่างกายอบอุ่น ป้องกันไข้หวัด
โรคหวั ใจและโรคมะเรง็
แกงสม้ มีสว่ นประกอบดงั นี้
พรกิ แหง้ บรรเทาอาการไขห้ วัด
กระเทียม ลดไขมนั ในเสน้ เลือด
หอมแดง ช่วยใหห้ ายใจไดส้ ะดวก
นำ้ มะขามเปียก บรรเทาอาการไอและไขห้ วัด
แกงส้มนิยมใส่ผัก เช่น มะรุม ดอกแค ผักกาดขาว ผักบุ้ง ผักกระเฉดซ่ึงลดไขมันและ
ระดับนำ้ ตาลในเลอื ด ป้องกันไข้หวัด แกงส้มมรี สเผ็ดร้อนช่วยยอ่ ยอาหารและขับเสมหะ
4
ผัดกะเพรา มีส่วนประกอบดงั นี้
ใบกะเพรา บรรเทาอาการท้องอืด ขับลม และปอ้ งกันโรคมะเรง็
กระเทียม ลดไขมันในเสน้ เลอื ด
พริก ปอ้ งกันไข้หวดั และโรคมะเร็ง
ผัดกะเพรามีรสเผ็ดร้อนช่วยขับลมในกระเพาะ ลดไขมันและระดับน้ำตาลในเลือด
ป้องกันโรคเบาหวานและไข้หวัด รวมท้ังโรคมะเร็งและโรคหวั ใจ
ยำมะระ มสี ่วนประกอบดงั นี้
มะระ ลดระดับน้ำตาลและไขมนั ในเส้นเลือด
หอมแดง ช่วยใหห้ ายใจได้สะดวก
กระเทียม ลดไขมนั ในเส้นเลอื ด
มะนาว รกั ษาความดนั โลหติ สูง
พริกขหี้ นู ลดการอกั เสบและการอดุ ตนั ของเสน้ เลือด
ยำมะระมวี ติ ามินซีสงู ดบั ร้อนและแก้กระหาย ปอ้ งกันไข้หวดั และกระตุ้นภูมิคมุ้ กนั
ไก่ผดั เมด็ มะมว่ งหมิ พานต์ มสี ่วนประกอบดงั นี้
เมด็ มะม่วงหิมพานต์ ชว่ ยใหก้ ระดูกแข็งแรงและป้องกันมะเร็ง
พรกิ หวาน ขบั เหงือ่ และทำใหห้ ายใจไดส้ ะดวก
หอมใหญ่ ช่วยยอ่ ยอาหารและควบคมุ ระดับน้ำตาลในเลือด
ต้นหอม บรรเทาอาการทอ้ งอืด ปอ้ งกันไข้หวัดและโรคมะเร็ง
กระเทียม ชว่ ยลดไขมันในเส้นเลอื ดและป้องกันโรคหวดั
ไก่ผดั เมด็ มะม่วงหิมพานต์ปอ้ งกนั ไขห้ วดั โรคหวั ใจและกระตนุ้ ระบบภมู คิ มุ้ กัน
5
ปลานึ่งมะนาว มีส่วนประกอบดงั นี้
มะนาว แกอ้ าการคลื่นไส้และทอ้ งอืด
กระเทียม เสริมการทำงานของระบบภมู ิคมุ้ กัน
พรกิ ลดการอุดตนั ของเสน้ เลอื ดและทำให้เจรญิ อาหาร
รากผักชี ช่วยขับเหงือ่ และขบั เสมหะ
คนไทยนิยมใช้มะนาว ข่า ขิง และตะไคร้เพ่ือดับกลิ่นคาวของปลา ปลาน่ึงมะนาวช่วย
ยอ่ ยอาหาร ลดนำ้ มูกและป้องกนั ไข้หวดั
ตม้ ขา่ ไก่ มีส่วนประกอบดังนี้
ขา่ แก้ท้องอดื และปอ้ งกันการอกั เสบ
เหด็ ฟาง บำรงุ ตบั ปอ้ งกันไข้หวดั และโรคมะเรง็
ตะไคร้ บรรเทาอาการทอ้ งอดื และป้องกนั ไข้หวดั
ใบมะกรดู บรรเทาอาการไอและป้องกันโรคมะเร็ง
พริกขห้ี นู ป้องกนั หวดั และกระตุ้นให้เจรญิ อาหาร
มะนาว แกอ้ าการคล่นื ไส้และทอ้ งอืด
ต้มข่าไก่มีส่วนประกอบของกะทิ ซ่ึงกะทิมีไขมันและน้ำมันท่ีมีประโยชน์ต่อร่างกาย
ช่วยดูดซึมวิตามิน แต่ควรรับประทานในปริมาณท่ีเหมาะสม ต้มข่าไก่มีส่วนประกอบสมุนไพร
เช่น ขา่ ตะไคร้ ใบมะกรดู ชว่ ยขับลม บรรเทาอาการทอ้ งอืด ปอ้ งกนั แบคทเี รยี และไวรัส
วิถีชีวิตของคนไทยพึ่งพาอาศัยทรัพยากรธรรมชาติจากท้องถ่ินซ่ึงเกิดข้ึนตามฤดูกาล
เชน่ ฤดูฝนเป็นหวัดง่ายจึงรับประทานขิง ข่า กะเพรา พริก ฤดูรอ้ นควรรับประทานผักที่มีฤทธ์ิ
เย็นเพ่ือดับร้อน เช่น ตำลึง บวบ มะระ แตงกวา ฤดูหนาวเป็นช่วงท่ีอากาศเย็นและแห้ง ควร
รับประทานผัก เช่น มะรุม กะหล่ำปลี เพื่อบรรเทาอาการท้องผูก เป็นต้น อาหารไทยจึงมี
รสชาติอร่อย เสริมสรา้ งสขุ ภาพให้แข็งแรง ปอ้ งกันและรกั ษาโรคต่าง ๆ
6
รูห้ รอื ไม่ ?
“ผักและผลไม้” มีสรรพคุณรักษาสมดุลภายในร่างกาย รับประทานในปริมาณท่ี
เหมาะสมเพ่ือเป็นยารกั ษาโรค หากรบั ประทานตดิ ต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้สมดุลของธาตุ
ในรา่ งกายเปลีย่ นแปลง อาจเป็นพิษตอ่ ตับและระบบเลอื ด เช่น
มะเขอื เทศ VS แตงกวา ฟ้าทะลายโจร
หลีกเลี่ยงการรับประทานพร้อมกัน มี ส ร ร พ คุ ณ ช่ ว ย เพิ่ ม ภู มิ คุ้ ม กั น
เพราะแตงกวาทำลายวิตามนิ ซีในมะเขือเทศ ร่างกาย หากรับประทานในปริมาณมาก
ทำให้ได้รับสารอาหารไม่เต็มที่ อุณหภูมิ หรือติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้
ร่างกายเย็นลงและเป็นหวัด แขนและขามอี าการชาหรอื ออ่ นแรง
ทเุ รยี น VS ผลไมท้ มี่ ีรสหวาน ผกั ปวยเล้ง VS เบคอน
ทุ เรี ย น เป็ น ผ ล ไ ม้ ท่ี มี น้ ำ ต า ล สู ง แ ล ะ ให้
พลังงานสูง จึงไม่ควรรับประทานพร้อมผลไม้ที่มี หลีกเลี่ยงการรับประทานพร้อม
รสหวาน เช่น ลำไย เงาะ ขนุน มะม่วงสุก เป็นต้น กัน เนื่องจากเบคอนขัดขวางการดูดซึม
จะทำให้ท้องอืด ร้อนใน น้ำตาลในเลือดสูงและ ธ าตุ เห ล็ ก แ ล ะ แ ค ล เซี ย ม ใน ผั ก ป ว ย เล้ ง
เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน และเป็นสาเหตทุ ่ีทำให้เกิดโรคมะเร็ง
ทุเรียนควรรับประทานพร้อมมังคุด เพราะ
มังคุดลดความหวานและทำให้อุณหภูมิภายใน
รา่ งกายปกติ
7
ความรู้เพ่มิ เตมิ
อาหารเวียดนามเคียงคผู่ ักสด
อาหารเวยี ดนามมีผักสดและสมุนไพรเป็นส่วนประกอบ ผักสดเปน็ เครอ่ื งเคียง ชว่ ยชรู ส
อาหาร ชาวเวยี ดนามรับประทานผกั สดคกู่ บั อาหารตา่ ง ๆ เช่น กุง้ พันออ้ ย เฝอเน้ือ แหนมเนอื ง
ขนมเบอ้ื งญวน เน้ือยา่ งใบชะพลู ยำไหลบัว เป็นต้น
กุ้งพันอ้อย รับประทานกับผักสด ดังน้ี ใบโหระพาและ
ผักกาดหอมช่วยย่อยอาหาร ขับเหงื่อและป้องกันโรคมะเร็ง
สะระแหน่ช่วยดับกลิ่นคาวและทำให้อาหารมีกลิ่นหอม หัวปลีเพ่ิม
ภูมิต้านทานร่างกาย กล้วยดิบบรรเทาอาการท้องเสีย ถั่วงอก
บรรเทาโรคภูมิแพ้และโรคเบาหวาน กุ้งพันอ้อยนิยมรับประทาน
กบั เสน้ หมีแ่ ละนำ้ จิม้ บว๊ ย
เฝอเนื้อ รับประทานกับผักสด ดังนี้ หอมใหญ่และ
ผักชีฝรั่งมีสารต้านมะเร็ง ใบโหระพาบรรเทาอาการหวัด ถ่ัวงอก
และมะนาวช่วยย่อยอาหาร พรกิ ชว่ ยขับลมและทำใหเ้ จริญอาหาร
เฝอเนอ้ื นิยมรบั ประทานกับซอสพรกิ และซอสถั่ว
อาหารเวียดนามมีวิธีทำเรียบง่าย เช่น น่ึง ต้ม เคี่ยว ย่าง หรือทอดโดยใช้น้ำมันน้อย
เป็นต้น อาหารมีรสเปรี้ยว หวานและเผ็ดเล็กน้อย มีผักสดเป็นส่วนประกอบและเป็น
เคร่ืองเคียง มีไขมันต่ำและให้คุณค่าทางโภชนาการครบ 5 หมู่ ทำให้ระบบขับถ่ายดีและ
สุขภาพแข็งแรง อาหารเวียดนามจึงเปน็ อาหารเพื่อสุขภาพเช่นเดียวกบั อาหารไทย
8
คำศัพท์
ลำดบั คำศพั ท์ คำอ่าน ความหมาย ภาษาเวียดนาม
1. ทรพั ยากร (น.) ซบั -พะ-ยา-กอน ส่งิ ทีม่ ีคา่ tài nguyên
ช่วงเวลาที่แบ่งตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป
2. ฤดกู าล (น.) ร-ึ ด-ู กาน เช่น ฤดรู อ้ น ฤดหู นาว ฤดูฝน เปน็ ต้น mùa
ละเอียดมาก
3. พิถีพิถัน (ว.) พ-ิ ถี-พ-ิ ถัน แนวทางการดำเนินชีวติ tỉ mỉ
4. วถิ ีชวี ติ (น.) วิ-ถี-ช-ี วิด เสมอกนั เท่ากนั đời sống
5. สมดุล (ว.) สม-ดุน/สะ-มะ-ดนุ สิ่งไดจ้ ากพชื และใช้เปน็ ยา cân bằng
6. สมุนไพร (น.) สะ-หมฺ นุ -ไพฺร ส่ิงได้จากพืช มีลักษณะแห้ง มีกลิ่นหอมฉุนและเผ็ด thảo mộc
รอ้ น ใช้ปรงุ อาหารและทำยา
7. เคร่อื งเทศ (น.) เครฺ อ่ื ง-เทด สิ่งทีเ่ ตรียมไว้เพือ่ ประกอบอาหาร hương liệu
สารอาหารทีม่ ีความจำเป็นตอ่ รา่ งกาย
8. วัตถดุ บิ (น.) วัด-ถุ-ดบิ nguyên liệu thô
9. แรธ่ าตุ (น.) แร่-ทาด สภาพทีร่ ่างกายมแี รงต่อต้านเช้อื โรคทเี่ ข้าสรู่ า่ งกาย khoáng chất
hệ thống miễn
10. ภมู ิคุม้ กนั (น.) พูม-คุ้ม-กนั ของเหลวมลี ักษณะคลา้ ยเมือกทอ่ี อกจากลำคอ
dịch
11. เสมหะ (น.) เสม-หะ ผหู้ ญงิ ท่ตี ้ังท้อง đờm
ตดิ ขัด ไมม่ ีทางออก (trong cổ họng)
12. ต้งั ครรภ์ (น.) ตง้ั -คัน bầu, thai
13. อุดตนั (ว.) อดุ -ตนั รสู้ ึกคอแหง้ และต้องการดืม่ น้ำ bị tắc nghẽn
khát nước, khô
14. กระหาย (ก.) กฺระ-หาย อาการทรี่ ู้สึกอึดอดั เพราะอาหารไมย่ ่อย cổ họng
đầy hơi ,
15. ทอ้ งอดื (ว.) ทอ้ ง-อดื กล่ินเหมน็ เชน่ กล่นิ ปลาสด กลิ่นเน้อื สด đầy bụng
ของเหลวที่ไหลออกจากจมกู Mùi tanh
16. กลน่ิ คาว (น.) กฺล่ิน-คาว nước mũi
17. น้ำมกู (น.) นำ้ -มูก ของกนิ ท่ีรบั ประทานพร้อมกบั อาหารจานหลัก đồ ăn phụ, đồ
ăn kèm
18. เครอ่ื งเคยี ง (น.) เครฺ ่ือง-เคียง
9
แบบทดสอบท้ายบท
คำช้ีแจง: ผูเ้ รียนเลอื กข้อทถ่ี ูกต้องทส่ี ดุ 4. ผู้หญิงตั้งครรภ์ควรรับประทานอาหารชนิดใด
1. ฤดรู อ้ นควรรับประทานผักชนดิ ใด เพอื่ เพิ่มน้ำนม (ความรคู้ วามจำ)
(ความรูค้ วามจำ)
ก.
ก.
ข.
ก้งุ
ค.
ข.
ง.
ค.
5. อาหารชนิดใดควรรับประทานในช่วงฤดูฝน
มงา.ตราตวั สะกดแม่ กง และ แม่ กน (ความรู้ความจำ)
2. ผักชนิดใดไม่ควรรับประทานในฤดูหนาว
ก.
(คแวามม่รกคู้ งวามจำ)
ข.
ก.
ค.
ข.
ง.
ค.
ง.
3. ถ้ารับประทานฟ้าทะลายโจรเป็นเวลานาน
จะทำให้ร่างกายเป็นอยา่ งไร (ความรคู้ วามจำ)
ก. อุณหภูมริ ่างกายปกติ
ข. อุณหภูมริ า่ งกายเยน็ ลง
ค. บรรเทาอาการไอและหวดั
ง. แขนและขามีอาการชาหรือออ่ นแรง
10
แบบทดสอบทา้ ยบท
6. คนไทยนิยมใช้ผักชนิดใดดับกลิ่นคาวของเน้ือสัตว์ 9. ข้อใดคืออาหารเพ่ือสุขภาพของไท ยและ
(ความรคู้ วามจำ) เวียดนาม (การนำไปใช้)
ก. ขงิ และข่า ก. สม้ ตำกับกงุ้ พันออ้ ย
ข. มะนาวและมะระ ข. ตม้ ข่าไก่และยำมะระ
ค. ฟักทองและตำลงึ ค. เฝอเนอื้ และยำไหลบัว
ง. หอมแดงและกระเทียม ง. แหนมเนอื งกับยำไหลบวั
7. เพราะเหตุใดไม่ควรรับประทานทุเรียนพร้อมกับ 10. “ชบาไม่สบาย มีอาการไข้หวัดและมีเสมหะ
ลำไย (ความเข้าใจ) น้ำตาลและไขมันในเส้นเลือดสูง” ชบาควร
รับประทานอาหารชนดิ ใด (การนำไปใช้)
ก. เสีย่ งต่อโรคหัวใจ
ข. เสยี่ งตอ่ โรคมะเร็ง ก.
ค. ทำใหร้ ะดบั นำ้ ตาลในเลอื ดสงู
ง. ทำใหไ้ ดร้ ับสารอาหารไม่เต็มที่ ข.
8. อาหารเพอ่ื สขุ ภาพในข้อใดแตกต่างจากขอ้ อื่น ค.
(ความเขา้ ใจ)
ก. ง.
ข.
ค.
ง.
11
บรรณานกุ รม
กรมสง่ เสรมิ วัฒนธรรม. (2559). ความรแู้ ละแนวปฏบิ ตั เิ กี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล :
มรดกภมู ิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาต.ิ กรุงเทพฯ: องค์การสงเคราะห์ทหารผา่ น
ศึกในพระบรมราชูปถัมภ.์
กัญญารตั น์ จิราสวัสด.์ิ (2557). อาหาร 200 ชนดิ เพือ่ ชวี ติ ยืนยาว. กรงุ เทพฯ: ซีเอด็ ยูเคช่ัน.
ฉตั รชัย นกด.ี (2563, กุมภาพนั ธ์). กินผักตามฤดกู าล ลดเสีย่ งสารเคมี. สาระสขุ ภาพ.
สืบค้นจาก https://www.thaihealth.or.th/Content/51243.
ณัฐพนธ์ นันทพรพิสุทธ.์ิ (2558). อาหารเวียดนาม. กรงุ เทพฯ: แมบ่ ้าน.
เดชา ศิริภัทร. (2553). สมุนไพรจากครวั ไทย. (พมิ พค์ รงั้ ท่ี 6). กรุงเทพฯ: หมอชาวบา้ น.
ทวีทอง หงษว์ วิ ัฒน์. (2553). รสเย่ียมจากเวยี ดนาม. (พิมพ์คร้งั ท่ี 3). กรุงเทพฯ: แสงแดด.
ทวศี กั ดิ์ เกษปทุม. (2544). อาหารเวียดนาม. กรงุ เทพฯ: แม่บา้ น.
พรฤดี ศรที องสขุ . (2545). 100 เมนกู ำหนดสขุ ภาพ. (พมิ พค์ ร้งั ที่ 2). กรุงเทพฯ: ซเี อ็ดยูเคชั่น.
พทั ยา อนุสสร. (2554). ทกุ อาหารเปน็ ยา ถ้ากินเปน็ . (พมิ พ์คร้งั ที่ 2). กรงุ เทพฯ: มติชน.
มณฑา ลิมปยิ ประพันธ์. (2555). อาหารเปน็ ยา ยาเป็นอาหาร. กรุงเทพฯ: ซเี อด็ ยเู คช่ัน.
ราชบณั ฑติ ยสถาน. (2556). พจนานุกรม ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554
(พิมพ์ครัง้ ท่ี 2). กรุงเทพฯ: นานมบี ๊คุ ส.์
ศรณั ยร์ ัชต์ เชยี งไกรเวช. (2558). เมนอู รอ่ ย อาหารเวียดนาม. กรงุ เทพฯ: สถาพรบุค๊ ส.์
ศรสี มร คงพันธ.์ุ (2559). อาหารทหี่ ายไปกบั ข้าวไทย แกงไทย. กรงุ เทพฯ: ส.ส.ส.ส.
ศรีสมร คงพนั ธ์ุ. (2561). กนิ ตามธาตุ อาหารจากผักพื้นบ้าน. กรุงเทพฯ: ส.ส.ส.ส.
ศเิ รมอร อุณหธปู . (2552). อาหารจัดสภาพร่างกาย. (พิมพ์ครงั้ ที่ 2). กรุงเทพฯ: มติชน.
อุทัยวรรณ วิสทุ ธนากุล. (2551). อาหารรกั ษาโรค. (พิมพ์คร้งั ท่ี 2). กรงุ เทพฯ:
รีดเดอรส์ ไดเจสท์
บทท่ี 2
“กับข้าว”ของคนไทย
จุดมงุ่ หมายของบทน้ี คอื
1. บอกลักษณะวถิ ีชีวติ ของคนไทยได้
2. อธบิ ายลักษณะกบั ข้าวของคนไทยได้
3. แยกแยะความเหมือนและความแตกต่างของม้ืออาหารของชาวไทยและ
ชาวเวยี ดนามได้
132
บทอา่ น
มรดกภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ
“มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมชาติ” เป็นสมบัติล้ำค่าที่ผ่านการสร้างสรรค์ สั่งสม
และสืบทอดในชุมชนจากคนรุ่นหน่ึงสู่อีกรุ่นหนึ่ง สะท้อนความรู้ การแสดงออก การประพฤติ
ปฏิบัติ ซงึ่ บุคคลหรือชมุ ชนยอมรับและรสู้ ึกเป็นเจ้าของรว่ มกัน มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
ของไทย เช่น โขน สงกรานต์ นวดไทย วิ่งควาย ตะกร้อ มวยไทย ภาษาไทย และ “อาหาร
ไทย”
อาหารไทยที่ขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรมของชาติ มหี ลักเกณฑ์ ดังนี้
1. เป็นองค์ความรู้ วิธีการ ทักษะ ความเชื่อ แนวปฏิบัติ โขน
แล ะ ก ารแส ด งอ อ ก ท่ี พั ฒ น าขึ้ น จ าก ป ฏิ สั ม พั น ธ์ ระ ห ว่ าง คน กั บ
สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติและเหนอื ธรรมชาติ
2. แสดงให้เห็นถึงภาพรวมลักษณะเฉพาะซึ่งอาจมี
ที่มาจากความรู้ ความเชื่อ วัสดุหรือกระบวนการของชุมชน
ผสู้ ืบทอดวฒั นธรรม
มวยไทย 3. เป็นเร่ืองท่ียังมีการสืบทอดและยังปฏิบัติอยู่
ในวิถีชีวติ สะทอ้ นอตั ลักษณ์ของชุมชนหรอื ภูมภิ าค
สงกรานต์
4. เป็นเรื่องท่ีต้องได้รับการคุ้มครองอย่างเร่งด่วน
เสยี่ งต่อการสูญหายหรอื กำลงั เผชญิ ภยั คกุ คาม
นวดไทย
14
ภูมิปัญญาอาหารไทย
วิถีชีวิตของคนไทยในอดีตผูกพันกับแม่น้ำลำคลอง จึงนิยมสร้างบ้านเรือนริมแม่น้ำเพื่อ
ใช้สัญจรทางน้ำ ทั้งการค้าขาย การไปมาหาสู่ระหว่างครัวเรือนและการบริโภคภายในครวั เรือน
และเกษตรกรรม โดยเฉพาะการนำทรัพยากรธรรมชาติจากแหล่งน้ำในบริเวณที่อยู่อาศัยมา
ประกอบอาหาร ได้แก่ เน้ือสัตว์ เช่น ปลา กุ้งซ่ึงมีจำนวนมากในฤดูฝน และนำทรัพยากร
ธรรมชาติซึง่ ปลกู ในบริเวณทอ่ี ย่อู าศยั มาประกอบอาหาร เช่น มะนาว ตะไคร้ พริก
อาหารไทยสะทอ้ นองค์ความรู้ ทักษะ แนวปฏบิ ัติจากปฏสิ ัมพนั ธ์
ระหว่างคนกบั สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ
คนไทยเลือกสรรวัตถุดิบในท้องถิ่นท่ีอุดมสมบูรณ์และเติบโตตามฤดูกาล นำมา
สร้างสรรค์เป็นอาหารไทยที่มคี ุณค่าทางสารอาหารและคณุ ค่าทางยา สามารถเพ่ิมภมู ิต้านทาน
ของร่างกายและปรับสมดลุ ในร่างกาย ได้แก่
มสั ม่ัน นิยมรบั ประทานในฤดูฝน มีส่วนประกอบ
ของสมุนไพรและเคร่ืองเทศท่ีช่วยบรรเทาอาการท้องอืด
และเป็นหวัด เช่น พริกแห้ง กระเทียม พริกไทย ตะไคร้
ข่า ลูกผักชี ย่ีหร่า ลูกจันทน์ กานพลู เป็นต้น การใส่
น้ำมะขามเปียกทำให้มัสมั่นมีรสชาติกลมกล่อมและเป็น
เอกลักษณข์ องไทย
ข้าวแช่ นิยมรับประทานในฤดูร้อน โดย
ใช้น้ำลอยดอกมะลิและข้าวสวยหุงด้วยน้ำ
ใบเตย ข้าวแช่บรรเทาอาการร้อนใน กระหาย
นำ้ แกไ้ ข้ตวั ร้อนและทำให้ร่างกายสดชื่น
15
อาหารไทยแสดงใหเ้ หน็ ถึงภาพรวมลกั ษณะเฉพาะซง่ึ อาจมีท่มี าจาก
ความรู้ ความเชือ่ วสั ดหุ รอื กระบวนการของชมุ ชนผสู้ บื ทอดวฒั นธรรม
คนไทยในอดีตรับประทานข้าว ผัก และปลา เช่น ปลาย่าง ปลาเค็ม เป็นต้น ต่อมา
ตำรากับข้าวในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวบันทึกองค์ความรู้เกี่ยวกับ
อาหารไทยไม่ให้สูญหายและแสดงถึงความเจริญทางวัฒนธรรม คนไทยเลือกสรรวัตถุดิบและ
นำมาประกอบอาหารตามตำรบั อาหารเพอ่ื ให้อาหารมีรสชาติกลมกล่อม เช่น
ก า ร ท ำ น้ ำ พ ริ ก ก ะ ปิ ต้ อ ง โ ข ล ก ห รื อ ต ำ
สมุนไพรให้ละเอียดเพื่อให้น้ำมันในสมุนไพรแตก
ออกมา ตำกะปิกับกระเทียมก่อนเพราะน้ำมันจาก
กระเทียมลดกลิ่นของกะปิ จากนั้นใส่พริกขี้หนู
สวนตามด้วยกะปิและกุ้งแห้งให้รสเค็ม น้ำมะนาว
ให้รสเปรี้ยว และนำ้ ตาลมะพร้าวให้รสหวาน ทำให้
น้ำพรกิ กะปิมีรสชาตกิ ลมกล่อม
การรู้จักเลือกสรรและสร้างสรรค์อาหารจนมีความหลากหลายนับเป็นภูมิปัญญา
ของคนไทย อาหารไทยนิยมรับประทานคู่กับกับข้าว จัดในลักษณะสำรับอาหารไทย
ประกอบไปด้วย
- ขา้ ว เช่น ข้าวสวย ขา้ วเหนยี ว
- กบั ขา้ วประเภทย่างหรอื ทอดหรือปิ้ง
- กบั ขา้ วประเภทยำหรือผดั
- กับขา้ วประเภทแกงจดื หรือแกงเผด็
- เครอื่ งจิ้มรับประทานกบั ผกั สดและผักสุกตามฤดกู าล
16
5
อาหารไทยเป็นเรื่องท่ียังมีการสืบทอดและยังปฏิบัติ
อยใู่ นวิถีชวี ิต สะท้อนอัตลกั ษณข์ องชมุ ชนหรอื ภูมภิ าค
ประเทศไทยมีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลาย
ทำให้วัตถดุ ิบแตล่ ะภมู ิภาคมีความแตกต่าง รสชาตอิ าหาร
จึงแตกต่างกัน เช่น รสเค็มของอาหารทางภาคเหนือจาก
ถั่วเน่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจากปลาร้า ภาคกลาง
และภาคใตจ้ ากนำ้ ปลา
ถว่ั เนา่ ปลารา้ น้ำปลา
อาหารไทยได้รับความนิยมจากชาวไทยและชาวต่างประเทศ The World’s 50 best
foods จัดอันดับ 50 รายการอาหารที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี พ.ศ. 2564 ซึ่งอาหารไทยติด
อันดบั 3 รายการ ไดแ้ ก่ มัสมัน่ ตม้ ยำกุ้ง และ สม้ ตำ
อันดับ 1 “มัสมั่น” มีรสเค็ม รสเปร้ียว และรสหวาน
ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นอาหารท่ีดีท่ีสุดในโลก และเป็นราชา
แห่งแกง
อันดับ 8 “ต้มยำกุ้ง” มีรสเปร้ียว รสเค็ม และรสเผ็ด
มีสมุนไพร เชน่ ตะไคร้ ข่า ใบมะกรดู
17
อันดับ 46 “ส้มตำ” มีรสหวาน รสเปรี้ยว รสเค็ม และ
รสเผ็ด รสชาติแตกต่างตามวัตถุดิบของแต่ละภูมิภาค มีสมุนไพร
เชน่ กระเทียม พริก น้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว เปน็ ตน้
อาหารไทยเป็นเร่ืองที่ต้องได้รับการคุ้มครองอย่าง
เรง่ ด่วน เสี่ยงตอ่ การสูญหายหรอื กำลังเผชิญภยั คุกคาม
ปัจจุบันอาหารไทยต้องได้รับการส่งเสริมหรือคุ้มครองหรือรักษาอย่างเร่งด่วน
เน่ืองจากเส่ียงต่อการสูญหาย ได้แก่ ทุเรียนนนท์ มังคุดคัด ปลาสลิดบางบ่อ น้ำตาลมะพร้าว
และขนมฝร่ังกุฎีจีน อาหารไทยยังดัดแปลงจากสูตรต้นตำรับ เช่น ต้มยำกุ้งใส่นมสดหรือกะทิ
กลายเป็นต้มยำกุ้งน้ำข้น หรือการปรับวัตถุดิบใช้ผักและผลไม้ตามฤดูกาล เช่น แกงเผ็ดใส่
ผลไมเ้ ปรี้ยวอมหวาน เช่น สับปะรด อง่นุ ลิน้ จ่ี เป็นตน้ เพื่อลดกล่ินคาวของเน้ือสัตว์และทำให้
เนื้อสัตว์เปื่อย อาหารไทยจึงเปล่ียนแปลงตามทรัพยากรธรรมชาติและความต้องการของ
ผูบ้ ริโภค
อาหารไทยมีรสชาติกลมกล่อม มีคุณค่าทางสารอาหารและคุณค่าทางยา รวมท้ังมี
ประวัติศาสตร์และได้รับการยอมรับจากนานาชาติ เช่น มัสม่ัน ต้มยำกุ้ง ส้มตำ แกงเผ็ด
แกงเขียวหวาน เป็นตน้ อาหารไทยรับประทานคู่กบั ขา้ วสวย จงึ เรียกวา่ “กบั ข้าว”
18
มื้ออาหารของคนไทย
คนไทยรับประทานอาหาร 3 มอ้ื ในแต่ละวัน เพ่ือให้ได้รบั คุณคา่ ทางโภชนาการครบถ้วน
และสรา้ งสมั พนั ธภ์ ายในครอบครวั ลักษณะอาหารในแตล่ ะมื้อของคนไทย มดี ังนี้
อาหารมื้อเช้าเป็นอาหารรสอ่อนและย่อยง่าย เช่น ขนมห่อใบตองหรือข้าว
เหนียวหน้าต่าง ๆ เช่น สังขยา ปลาแห้ง กุ้ง เป็นต้น ข้าวต้ม โจ๊ก ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีบ ซาลาเปา
หรือทเ่ี รียกว่า ต่ิมซำ รบั ประทานคู่กบั ชาหรอื กาแฟ
อาหารม้ือกลางวันเป็นอาหารที่มีรสจัดมากข้ึน เช่น ข้าวผัดกะเพราไข่ดาว
ข้าวผัด ขา้ วผดั เครอื่ งแกง แกงเขยี วหวาน สม้ ตำ ไก่ย่าง เปน็ ตน้
อ า ห า รม้ื อ เย็ น มี รส ช า ติ ห ล าก ห ล า ย เพ่ื อ ให้ ส ม าชิ ก ใน ค ร อ บ ค รั วทุ ก ค น ร่ ว ม
รับประทานอาหารพรอ้ มกนั ได้แก่ อาหารรสเผ็ดต้องคู่กับอาหารรสจืด หรืออาหารแหง้ ต้องคู่กับ
อาหารที่มีน้ำ เช่น แกงเขียวหวานรับประทานคู่กับปลาทอด แกงเผ็ดรับประทานคู่กับปลาเค็ม
แกงส้มรับประทานคู่กับไข่เค็ม หมูหวาน ปลาสลิดทอดหรือไข่เจียว เป็นต้น อาหารม้ือเย็นจึง
เป็นมื้อสำคัญของคนไทย
19
ความร้เู พม่ิ เตมิ
ม้อื อาหารของชาวเวยี ดนาม
สำรับอาหารของชาวเวียดนามรับประทานคู่กับข้าว ประกอบไปด้วย หมูต้มเค็ม ปลาต้ม
เค็ม นำ้ ปลาพรกิ รับประทานพร้อมนำ้ ซปุ และผักสดหรอื ผกั ลวกหรือผักตม้
ก า ร ใช้ ต ะ เกี ย บ เป็ น สั ญ ลั ก ษ ณ์ ข อ ง
ความเป็นคู่และความสามัคคี ชาวเวียดนาม
รับประทานอาหารโดยใช้ตะเกียบกับอาหาร
ทกุ ประเภทท้งั ตุ๋น ผดั และทอด
ชาวเวียดนามรับประทานอาหาร 3 ม้ือ คือ ม้ือเช้า ม้ือกลางวันและมื้อเยน็ ซึ่งวิถีชีวิตของ
ชาวเวียดนามมีลักษณะคล้ายคนไทย คือ การรับประทานอาหารคู่กับข้าวสวย และอาหาร
เวยี ดนามสว่ นใหญ่มสี ่วนประกอบของผกั และผลไม้ อาหารแตล่ ะมือ้ ของชาวเวยี ดนาม มีดงั นี้
อาหารมื้อเช้าเปน็ อาหารที่มีรสชาติออ่ น และสามารถหารับประทานไดง้ า่ ย เชน่
ขนมปัง เฝอ เปน็ ต้น
อาหารม้ือกลางวันและอาหาร
ม้ือเย็นเป็ น มื้อ สำคัญ ของชาวเวียดน าม
โดยเฉพาะอาหารมื้อเย็นที่สมาชิกในครอบครัว
รับประทานอาหารพร้อมกนั
20
คำศพั ท์
ลำดับ คำศพั ท์ คำอา่ น ความหมาย ภาษาเวียดนาม
di sản
1. มรดก (น.) มอ-ระ-ดก ส่งิ ทต่ี กทอดจากบรรพบรุ ษุ
tri thức, trí tuệ
2. ภูมปิ ญั ญา (น.) พมู -ปัน-ยา ประสบการณ์ท่ีผ่านการเรียนรู้และสืบต่อกัน (do trau giồi mà có)
มา
sáng tạo
3. สร้างสรรค์ (ก.) สรา้ ง-สนั สร้างส่งิ ดีหรือมปี ระโยชน์ tích lũy, gom góp lại
4. สงั่ สม (ก.) ส่งั -สม สะสม รวบรวมใหเ้ พ่ิมมากขึ้น thừa kế
5. สืบทอด (ก.) สบื -ทอด ถ่ายทอดความรู้หรือประสบการณ์จากคนรุ่น sự tương tác
ก่อน
đặc tính, đặc trưng
6. ปฏิสมั พันธ์ (น.) ปะ-ติ-สมั -พัน การกระทำหรือประกอบกิจกรรมระหว่าง 2 bảo vệ
สง่ิ หรอื หลายส่ิง đối mặt
hăm dọa
7. อัตลกั ษณ์ (น.) อัด-ตะ-ลกั ลักษณะเฉพาะตัว
di chuyển, đi lại
8. คุ้มครอง (ก.) คุม้ -คฺรอง ปกปอ้ ง ดแู ล รกั ษา sách, giáo trình
9. เผชญิ (ก.) ผะ-เชนิ เจอ ปะทะ chọn lọc
mâm đồ ăn
10. คุกคาม (ก.) คุก-คาม ทำใหห้ วาดกลวั
vua
11. สญั จร (ก.) สนั -จอน ผา่ นไปมา biểu tượng
đoàn kết
12. ตำรา (น.) ตำ-รา หนงั สือวชิ าความรู้
13. เลือกสรร (ก.) เลอื ก-สัน คดั เลอื กแต่ส่งิ ดี ๆ
14. สำรบั (น.) สำ-รับ อาหารท่รี วมเปน็ ชุดอยใู่ นภาชนะ เช่น ถาด
15. ราชา (น.) รา-ชา ผ้ยู งิ่ ใหญ่
16. สญั ลกั ษณ์ (น.) สัน-ยะ-ลัก สิ่งทีก่ ำหนดขึ้นเพื่อใช้แทนอกี ส่งิ หนง่ึ
17. สามัคคี (น.) สา-มัก-คี ความพร้อมเพรยี งกนั ร่วมมือร่วมใจ
21
แบบทดสอบทา้ ยบท
คำชี้แจง: ผเู้ รียนเลอื กข้อทีถ่ กู ตอ้ งที่สุด
1. วิถีชีวิตของคนไทยผูกพันกับแม่น้ำ ยกเว้น 3. อาหารไทยชนิดใดติดอันดับอาหารที่อร่อยท่ีสุด
ขอ้ ใด (ความรู้ความจำ) แบบทดสอบในโทลก้า(คยวามบร้คู ทวามจำ)
กก้งุ . สญั จรทางน้ำ
ข. ตดิ ต่อค้าขาย ก.
ค. อปุ โภคบรโิ ภค ข.
ง. แหล่งปลูกผกั ตบชวา
2.มขา้อตใดราไมต่ใวั ชส่หะลกักดเกแณม่ฑก์กงาแรขล้ึนะทแะมเบ่ กียนนมรดก ค.
ภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ ง.
(ควแามมร่ กคู้ วงามจำ) 4. มัสมั่นมีส่วนประกอบของสมุนไพรใดท่ีมีทำให้
มัสม่ันมีรสชาติกลมกล่อมและเป็นเอกลกั ษณ์อย่าง
ก. ตอ้ งไดร้ ับการคมุ้ ครองอยา่ งเรง่ ด่วน ไทย (ความรู้ความจำ)
ข. สะท้อนอตั ลกั ษณวิถชี ีวติ ของคนไทย ก.
ค. ได้รับการยอมรับจากชาวไทยและชาวต่าง
ประเทศ
ง. สะท้อนความรูท้ ักษะแนวปฏิบตั ิระหว่างคน
กับสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ ข.
ค.
ง.
22
แบบทดสอบท้ายบท
5. ข้อใดไม่ใช่มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทย 8. อาหารมื้อใดที่สมาชิกในครอบครัวร่วมรับ
(ความรคู้ วามจำ) ประทานอาหารพร้อมกนั (ความรคู้ วามจำ)
ก. นวดไทย ก. อาหารมื้อเช้า
ข. มวยไทย ข. อาหารม้อื เยน็
ค. ละครไทย ค. อาหารมือ้ กลางวัน
ง. ภาษาไทย ง. อาหารม้อื เชา้ และม้อื เยน็
6. วิถีชีวิตของคนไทยและเวียดนามเหมือนกันในข้อ 9. “ฟ้ากับเพื่อนชาวเวียดนามต้องการรับประทาน
ใด (ความเขา้ ใจ) อาหารไทยท่ีมีชื่อเสียง เป็นอาหารเพ่ือสุขภาพและ
รับประทานกับข้าวสวย” ฟ้ากับเพื่อนชาวเวียดนาม
ก. คนไทยและคนเวียดนามนิยมใชต้ ะเกียบ ควรรับประทานอาหารชนิดใด (การนำไปใช้)
ข. คนไทยและคนเวยี ดนามนยิ มรับประทานอาหาร
คกู่ ับนำ้ ซปุ ก. แกงเผด็ และขา้ วตม้
ค. คนไทยและคนเวยี ดนามนยิ มรับประทานอาหาร ข. แหนมเนอื งและสม้ ตำ
คู่กบั น้ำจ้มิ ค. กุง้ พนั ออ้ ยและยำไหลบัว
ง. คนไทยและคนเวยี ดนามนิยมรับประทานอาหาร ง. ตม้ ยำกุ้งและแกงเขียวหวาน
คู่กบั ข้าวสวย
10. ข้อใดสะท้อนวิถีชวี ติ ของคนไทยมากท่ีสดุ
7. “ฤดูร้อนควรรับประทานอาหารที่ แก้ร้อนใน (การนำไปใช)้
กระหายน้ำ แก้ไข้ ตัวร้อน ช่วยให้ร่างกายสดช่ืน”
จากข้อความดังกล่าวควรรับประทานอาหารชนิดใด ก. การรับประทานอาหารคู่กบั น้ำจิ้ม
(ความเขา้ ใจ) ข. การรบั ประทานอาหารคู่กับนำ้ ซุป
ค. การใช้ตะเกยี บกบั อาหารไทยทุกชนิด
ก. ข้าวแช่ ง. การทำอาหารมื้อเย็นหลายรายการ เพื่อให้
ข. แกงเลยี ง ทุกคนในครอบครวั รับประทานได้
ค. ต้มสม้ ปลาทู
ง. ตม้ สม้ ปลากระบอก
23
บรรณานุกรม
Nguyen Cong Thanh. (2564). Văn hóa trong bữa ăn gia đình Việt.
Retrieved from https://baohatinh.vn/van-hoa-ha-tinh/n-gia-dinh-viet/190762.htm.
กรมสง่ เสรมิ วัฒนธรรม. (2559). ความร้แู ละแนวปฏิบัติเก่ียวกับธรรมชาติและจักรวาล : มรดกภูมิปญั ญาทาง
วัฒนธรรมของชาติ. กรงุ เทพฯ: องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชปู ถมั ภ์.
กรมส่งเสรมิ วัฒนธรรม. (2561). คมู่ ือดำเนินงานตามพระราชบญั ญัตสิ ง่ เสริมและรกั ษามรดกภูมปิ ัญญา
ทางวัฒนธรรม พ.ศ. 2559. (พิมพ์คร้ังท่ี 2). กรุงเทพฯ: องคก์ ารสงเคราะหท์ หารผา่ นศกึ ในพระบรม
ราชปู ถมั ภ.์
ดวงเดน่ บุญปก. (2559, เมษายน-กนั ยายน). บทบาทของครอบครวั ไทยในการสบื ทอดภมู ปิ ัญญาเกี่ยวกับ
อาหาร: กรณีศกึ ษาครอบครัวไทยภาคกลาง. วารสารปาริชาติ มทษ, 29(1), 32.
สบื คน้ จาก http://arcbs.bsru.ac.th/journal/File65176.pdf.
ดนิ าร์ บุญธรรม. (2557, 31 สิงหาคม). อาหารเชา้ ของคนไทย. สบื ค้นจาก
http://www.thaistudies.chula.ac.th/2018/12/27/.
ธัญลักษณ์ ทอนราช, วีระเดช พศิ ประเสรฐิ และสายสมร พลดงนอก. (2558). ความรู้เร่ืองอาหาร
เพือ่ สุขภาพ. ขอนแกน่ . หน่วยสรา้ งเสริมสขุ ภาพงานเวชกรรมสงั คมโรงพยาบาลศรนี ครินทร.์
ศรณั ยร์ ัชต์ เชียงไกรเวช. (2558). เมนูอรอ่ ย อาหารเวียดนาม. กรงุ เทพฯ: สถาพรบคุ๊ ส์.
ศรสี มร คงพนั ธ์ุ. (2561). อาหารขนึ้ ทะเบยี นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ. กรุงเทพฯ: ส.ส.ส.ส.
ศรสี มร คงพนั ธ์.ุ (2559). อาหารท่หี ายไปกับข้าวไทย แกงไทย. กรงุ เทพฯ: ส.ส.ส.ส.
สิรินาฏ ศริ สิ ุนทร. (2556). วฒั นธรรมอาหารไทย...จากอดตี สู่ปจั จบุ นั (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ:
องค์การสงเคราะห์ทหารผา่ นศึก.
สกุ ญั ญา สจุ ฉายา. (2561). สำรบั อาหารไทย จากบา้ นสวู่ งั . กรุงเทพฯ: กระทรวงวฒั นธรรม.
อบเชย อม่ิ สบาย. (2546). รสเยี่ยมจากเวยี ดนาม. กรุงเทพฯ: แสงแดด.
บทท่ี 3
“ตม้ ยำกุง้ ”
ตม้ ยำไทยอร่อยไกลท่ัวโลก
จุดม่งุ หมายของบทนี้ คือ
1. บอกลกั ษณะของตม้ ยำกุ้งได้
2. อธิบายมรดกภูมิปญั ญาทางวัฒนธรรมของชาตขิ องต้มยำกงุ้ ได้
3. อธิบายลกั ษณะหมอ้ ไฟไทยของชาวเวยี ดนามได้
25
บทอ่าน
“ตม้ ยำกงุ้ ” ตม้ ยำไทยอร่อยไกลทวั่ โลก
ปี พ.ศ. 2565 CNN Travel คัดเลือก “ต้มยำกุ้ง” เป็น
1 ในหมวดซุปที่ดีท่ีสุดในโลก มีรสชาติกลมกล่อม วัตถุดิบ
สำคัญ คือ กุ้งเน้ือนุ่มหวานและสมุนไพรท่ีมีกล่ินหอม เช่น ข่า
ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกขี้หนู ต้มยำกุ้งติดอันดับ 8 ใน 50
รายการอาหารที่ดีสุดในโลก ประจำปี พ.ศ. 2564 เป็นอาหาร
ไทยทไ่ี ด้รบั ความนิยมและไดร้ ับการยอมรบั จากนานาชาติ
ต้มยำกุ้งมาจากไหน ?
ต้มยำกุ้ง แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ต้มยำกุ้งน้ำใสและต้มยำกุ้งน้ำข้น โดยต้นตำรับเป็น
ต้มยำกงุ้ นำ้ ใสไมใ่ สก่ ะทิ ส่วนต้มยำกงุ้ ใส่กะทิ เรยี กว่า ต้มยำกงุ้ น้ำขน้
ต้มยำกงุ้ น้ำใส ต้มยำกุ้งน้ำขน้
ในอดีตกล่าวถึงเฉพาะการปรุงต้มยำปลา ต่อมาหม่อมราชวงศ์ กิตินัดดา กิติยากร
กล่าวถึง “ต้มยำกุ้ง” เป็นคร้ังแรก โดยใช้กุ้งทะเลสดแทนกุ้งแม่น้ำ ทูลเกล้าฯ ถวาย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดชบรมนาถบพติ รและสมเด็จพระนางเจา้ สริ ิกิต์ิ
พระบรมราชินีนาถ พร้อมพระโอรสและพระธิดา ขณะพระราชดำเนินไปประทับ ณ
วังไกลกังวล อำเภอหวั หนิ จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์
ะนาว
26
“มรดกภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมของต้มยำกงุ้ ”
ปพี ุทธศักราช 2564 กระทรวงวัฒนธรรมคัดเลือกตม้ ยำกุ้งเป็นตัวแทนมรดกวัฒนธรรม
ที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ต่อองค์การเพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่ง
สหประชาชาติ (UNESCO) ตม้ ยำกุ้งสะท้อนวิถีชีวิตท่ีเรียบง่ายของชมุ ชนริมแม่นำ้ ในภาคกลาง
ของประเทศไทย ดงั น้ี
วัฒนธรรมการบริโภคของคนไทยท่ีรับประทาน
ขา้ วกับกับข้าว โดยสมาชิกทุกคนในครอบครัวนงั่ ลอ้ มวง
รับประทานอาหารพร้อมกนั แสดงถึงความรักและความ
ผกู พันภายในครอบครวั
คำว่า “ต้มยำกุ้ง” สะท้อนความงดงามของภาษาไทย เกิดจากคำ 3 คำ คือ “ต้ม”
“ยำ” และ “กุ้ง” แสดงถึงกระบวนการทำอาหารของคนไทยท่ีนำวัตถุดิบในท้องถ่ินมา
ประกอบอาหาร เช่น กุ้งแม่น้ำต้มลงในน้ำเดือด และปรุงรสด้วยสมุนไพรรับประทานกับข้าว
สวย
ต้ม (ก.) ทำใหน้ ้ำหรือส่ิงอ่ืนที่อยใู่ นน้ำร้อน เดือด หรอื สกุ
ยำ (ก.) คละเคลา้ ปะปน
กุ้ง (น.) กงุ้ น้ำจืดท่ีมอี ยูม่ ากในธรรมชาติ
27
ลกั ษณะของต้มยำกุ้ง มรดกภูมปิ ัญญาทาง
วฒั นธรรมของชาติ
ต้มยำกุ้งเป็นอาหารประเภทแกง มี 3 รสชาติ
ปี พ.ศ. 2554
คอื รสเปร้ียว รสเค็มและรสเผ็ด มีสมุนไพรเป็นวัตถุดิบ
สำคัญ เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด ทำให้มีรสชาติหอมและ
กลมกล่อม
ต้มยำกุ้งเป็นอาหารเพ่ือสุขภาพ มีไขมันต่ำและมีสมุนไพรช่วยบำรุงร่างกาย
ปรับธาตุให้สมดุล โดยเฉพาะช่วงเปล่ียนฤดูกาลระหว่างฤดูฝนและฤดูหนาว (ปลายฝนต้น
หนาว) เปน็ หวดั และเจบ็ ป่วยง่าย ตม้ ยำกุง้ จงึ ช่วยปอ้ งกันและบรรเทาอาการหวดั
ส่วนประกอบของต้มยำกงุ้
มะนาว ก้งุ
บรรเทาอาการท้องอดื ใหโ้ ปรตีนและเสรมิ การ
ทำงานของระบบภูมคิ มุ้ กนั
และขบั เสมหะ
พริกขีห้ นู มะกรดู
ลดการอกั เสบและ มีสารตา้ นมะเรง็
การอุดตนั ของเส้นเลือด
ขับเสมหะและบรรเทาอาการไอ
ข่า ตะไคร้
บรรเทาอาการท้องอดื บรรเทาอาการหวัด
ลดไขแ้ ละป้องกันมะเร็ง
และป้องกันมะเร็ง
28
ต้มยำกุ้งมีขั้นตอนการทำสืบทอดแบบปากต่อปาก ไม่มีการจดบันทึก ต่อมาเกิดการ
เรียนรู้และสืบทอดภายในครัวเรือน มีสูตรเฉพาะของแต่ละครัวเรือน สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
ตม้ ยำกงุ้ ดัดแปลงจากสูตรต้นตำรับ ดงั น้ี
ต้มยำกุ้งใช้กุ้งแม่น้ำ เพราะวิถีชีวิต ตม้ ยำกุ้งในอดีตไมใ่ สข่ ่า เพราะขา่ ทำ
ของคนไทยสมัยก่อนต้ังบ้านเรือนใกล้แหล่ง ให้ความหอมและความหวานของกุ้งหายไป
น้ำและมีทรัพยากรธรรมชาติท่ีอุดมสมบูรณ์ แต่ปัจจุบันต้มยำกุ้งใช้ข่าเพ่ือดับกล่ินคาว
ต่อมาใช้กุ้งทะเลแทนเพราะกุ้งแม่น้ำมีราคา ของเน้ือสัตว์ทะเล เช่น กุ้ง ปลา หอย
แพง หรือใช้เนื้อสัตว์ต่าง ๆ เช่น ปลา หอย ปลาหมึก เป็นต้น รวมทั้งการใช้กะทิ หรือ
ปลาหมึก เป็นต้น นมสด และน้ำพริกเผา เพื่อให้มีรสชาติท่ี
กลมกล่อม
คนไทยเรยี นรู้และสังเกตธรรมชาติ จึงนำทรัพยากรธรรมชาติที่มมี ากในทอ้ งถิ่นหรือตาม
ฤดูกาลมาทำต้มยำกุ้ง เช่น กุ้งแม่น้ำ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก มะนาว เป็นต้น จนชาวไทย
และชาวตา่ งประเทศยอมรับ
29
ความรู้เพิม่ เติม
เหลาทา้ ย (LẨU THÁI)
หมอ้ ไฟไทยของเวียดนาม
เหลาเป็นหม้อไฟของเวียดนาม มีหลายชนิด เรียกช่ือตามประเภทของเน้ือสัตว์ ได้แก่
เหลาเนื้อ เหลาทะเล เหลาปลา เหลามังสวิรัติ หนึ่งในเหลาท่ีได้รับความนิยม คือ เหลาท้าย
(LẨU THÁI) เป็นหม้อไฟไทยของเวียดนาม มีลักษณะคล้ายต้มยำของไทย โดยคำว่า “เหลา”
คือ หม้อไฟท่ตี ้มให้เดอื ด สว่ นคำวา่ “ท้าย” คือ ไทย
เหลาท้ายมี 2 รสชาติ คือ รสเปร้ียวและรสเผ็ด และมีกล่ินหอมจากผัก เช่น ผักโขม
ขึ้นฉ่าย ข้าวโพด กะหล่ำปลี หัวปลี ผักกาดหอม เห็ดเขม็ ทอง เหด็ ฟาง ถ่ัวงอก แครอท ไชเท้า
เหลาทา้ ยนยิ มรบั ประทานกับขนมจนี หรอื บะหมีก่ งึ่ สำเร็จรูปและนำ้ จ้มิ
เหลาท้ายหรือหม้อไฟไทยของเวียดนาม
ไมม่ ีส่วนผสมของกะทิ และปรบั มาใชว้ ัตถุดิบของ
เวยี ดนาม เช่น การใชเ้ มล็ดคำแสด (นำ้ มันทไี่ ดม้ า
จากการทอดคำแสด) ทำให้น้ำซุปมีสีส้มแดง
หรือการใช้ผงเหลาท้ายเป็นผงหม้อไฟ ไทย
สำเร็จรูป ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากใน
เวียดนาม
เหลาทา้ ย
คละเคล้า ปะปน
30
คำศพั ท์
ลำดบั คำศัพท์ คำอ่าน ความหมาย ภาษาเวยี ดนาม
แกงท่ีใส่เนื้อสัตว์ตม้ ในน้ําเปลา่ หรือในกะทิ canh chua
tomyam
1. ต้มยำ (น.) ตม้ -ยำ ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด ปรุงรสเปรี้ยวและ mềm (thức ăn)
nguyên bản
รสเคม็ nước cốt dừa
2. นุม่ (ว.) นุ่ม อ่อนนิ่ม Bộ
3. ต้นตำรับ (น.) ตน้ -ตำ-หรฺ ับ ตำราอาหารเลม่ แรก (ตม้ ยำกุ้งจานแรก) cộng đồng
4. กะทิ (น.) กะ-ทิ นํ้าทค่ี ั้นออกจากมะพรา้ วขดู miền trung
หน่วยงานของรัฐมีหน้าท่ีดูแลเก่ียวกับ canh
hòa quyện,
5. กระทรวง (น.) กฺระ-ซวง วัฒนธรรม ภาษา ศาสนา และประเพณี
hài hòa
ไทย ung thư
6. ชมุ ชน (น.) ชุม-ชน กลุ่มคนทอี่ าศยั อยรู่ ว่ มกัน
7. ภาคกลาง (น.) พาก-กฺลาง ศูนย์กลางการปกครองของไทย เป็นพ้ืนท่ี
ราบลุ่ม
8. แกง (น.) แกง อาหารประเภทนา้ํ
9. กลมกลอ่ ม (ว.) กฺลม-กฺล่อม รสชาติอาหารทีเ่ ขา้ กนั พอดี
10. มะเร็ง (น.) มะ-เรง็ เนื้องอกชนิดร้าย
31
แบบทดสอบท้ายบท
คำชแี้ จง: ผ้เู รียนเลือกขอ้ ทถี่ กู ตอ้ งทีส่ ดุ
1. ตม้ ยำในอดีตเปน็ ตม้ ยำประเภทใด (ความรคู้ วามจำ) 4. เหตุใดจงึ เรียกตม้ ยำนำ้ ข้น (ความรู้ความจำ)
ก. ต้มยำปลา ก. ใส่กะทหิ รือนมสด
ข.กต้งุม้ ยำหอย ข. ใสเ่ คร่ืองแกงท่ีมสี ีสม้
ค. ตม้ ยำทะเล ค. ใสเ่ น้ือสตั วห์ ลายอยา่ ง
ง. ต้มยำกงุ้ นำ้ ใส ง. ใส่สมุนไพรหลายอย่าง
2. ต้มยำกุ้งไม่ใสข่ า่ เพราะเหตใุ ด (ความรู้ความจำ) 5. “ชาวเวียดนามนิยมรับประทานเหลาชนิดหน่ึง ซ่ึงมี
ก.มขา่ มตรี ราาคตาวแั พสงะกดแม่ กง และ แม่ กน ลักษณะคล้ายต้มยำของไทย” จากข้อความดังกล่าว
ข. ข่าดบั กลน่ิ คาวของเน้ือสตั ว์ หมายถึงเหลาชนดิ ใด (ความรูค้ วามจำ)
ค. ไแมม่พ่บกวง่ามกี ารปลูกขา่ ในประเทศไทย ก. เหลาเนือ้
ข. เหลาทา้ ย
ง. ขา่ ทำใหค้ วามหอมและความหวานของกงุ้ หายไป ค. เหลาทะเล
ง. เหลามังสวิรตั ิ
3. “มีสารต้านมะเรง็ ขับเสมหะและบรรเทาอาการไอ”
จากข้อความดังกล่าวเป็นสรรพคุณของสมุนไพรใด 6. สมนุ ไพรในขอ้ ใดไม่ใชว่ ตั ถดุ ิบของต้มยำกงุ้
(ความรูค้ วามจำ) (ความเขา้ ใจ)
ก. ก.
ข. ข.
ค. ค.
ง. ง.
แบบทดสอบทา้ ยบท 32
7. ข้อใดไม่ใช่เหตุผลท่ีต้มยำกุ้งได้รับการข้ึน 9. “จากสถิติคนไทยเป็นมะเร็งน้อยมาก เมื่อเทียบกับ
ทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของ คนชาติอ่ืนในแถบเอเชีย” แสดงว่าคนไทยรับประทาน
ชาติ (ความเขา้ ใจ) ผักชนดิ ใด (การนำไปใช)้
ก. ได้รบั ความนิยมจากชาวตา่ งประเทศ ก.
ข. มีรสชาติกลมกล่อม ทั้งรสเปรี้ยว รสเค็มและ
รสเผ็ด ข.
ค. มีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบ เช่น ตะไคร้
มะนาว มะกรดู ค.
ง. มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น มะนาวบรรเทา
อาการทอ้ งอืดและขบั เสมหะ ง.
8. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเก่ียวกับการคัดเลือกต้มยำ 10. ข้อใดสะท้อนวิถีชีวิตของคนไทยภาคกลางผ่าน
กุ้ งเป็ น ตั ว แ ท น ม ร ด ก วั ฒ น ธ ร ร ม ท่ี จั บ ต้ อ งไม่ ได้ ตม้ ยำกุ้ง (การนำไปใช้)
(ความเข้าใจ)
ก. ฟา้ ทำแกงสม้ กุ้งโดยใช้พริกแกงส้ม
ก. ต้มยำกุง้ นำ้ ขน้ เปน็ ต้นตำรับของต้มยำกุ้ง ข. บอลชอบรบั ประทานแกงเนือ้ และเนอื้ ย่างจม้ิ แจ่ว
ข. ต้มยำกุ้งมีสูตรหรือข้ันตอนการทำท่ีถ่ายทอด ค. แก้มทำกุ้งเผาโดยใช้กุ้งแม่น้ำที่มีมากในฤดูฝน
ภายในครวั เรอื น และฤดูหนาว
ค. ต้มยำกุ้งเป็นอาหารเพ่ือสุขภาพเนื่องจากมี ง. พลอยทำต้มข่าไก่โดยใช้สมุนไพร เช่น ข่า ตะไคร้
สมนุ ไพรตา่ ง ๆ เช่น ตะไคร้ มะกรดู ท่ปี ลกู ในบรเิ วณบ้าน
ง. ต้มยำกุ้งมีรสเปรี้ยว รสเค็ม รสเผ็ด และมี
สมุนไพรต่าง ๆ เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรดู ทำให้มีรส
หอมและกลมกลอ่ ม
33
บรรณานุกรม
Jen Rose Smith. (2565). 20 of the world's best soups. Retrieved from
https://edition.cnn.com/travel/article/worlds-best-wellness-soups/index.html.
MINHUY FOOD. (2565). 7 món lẩu thơm ngon là ghiền lai dễ chế biến. Retrieved from
https://vnhaisantuoingon.com/5-mon-lau-thom-ngon-la-ghien-lai-de-che-bien.html
VUA CHA RESTAURANT. (2565). TỔNG HỢP 11 MÓN LẨU NGON NGƯỜI NGƯỜI MÊ CÒN DỄ
LÀM. Retrieved from https://vuacua.vn/blogs/cac-mon-lau-ngon.
กรมส่งเสรมิ วฒั นธรรม. (2559). ความรู้และแนวปฏบิ ัตเิ ก่ียวกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล :
มรดกภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรมของชาติ. กรุงเทพฯ: องคก์ ารสงเคราะห์ทหารผา่ นศึกในพระบรม
ราชปู ถัมภ์.
กิตินดั ดา กิตยิ ากร, ม. ร. ว. (2507). ของเสวย. กรุงเทพฯ: อกั ษรสมั พันธ.์
ข่าวคณะโฆษก. (2564, 23 มนี าคม). ครม. เห็นชอบเสนอตม้ ยำกุ้ง ขึ้นทะเบียนเป็นรายการ
ตัวแทนมรดกวฒั นธรรมทจี่ บั ต้องไมไ่ ด้ของมนุษยชาติต่อยเู นสโก. รฐั บาลไทย.
สืบคน้ จาก https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/40271.
เดชา ศริ ิภทั ร. (2553). สมุนไพรจากครวั ไทย. (พิมพ์คร้ังท่ี 6). กรุงเทพฯ: หมอชาวบ้าน.
พนั ธิตร์ มะลสิ วุ รรณ. (2547, มีนาคม ). สมุนไพรเคร่อื งต้มยำ บำบดั มะเรง็ . สมุนไพร
เพ่ือสขุ ภาพ, 3(40), 76-79.
มณฑา ลมิ ปิยประพนั ธ.์ (2555). อาหารเป็นยา ยาเปน็ อาหาร. กรงุ เทพฯ: ซีเอ็ดยูเคช่นั .
ราชบัณฑิตยสถาน. (2556). พจนานกุ รม ฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ. 2554. (พิมพค์ ร้งั ที่ 2).
กรงุ เทพฯ: นานมบี ุค๊ ส์.
ศรีสมร คงพันธ.ุ์ (2561). อาหารขนึ้ ทะเบียนมรดกภูมปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ. กรงุ เทพฯ:
ส.ส.ส.ส.
สริ ินาฏ ศิรสิ นุ ทร. (2556). วฒั นธรรมอาหารไทย...จากอดีตส่ปู ัจจบุ ัน. (พมิ พค์ รัง้ ท่ี 2).
กรงุ เทพฯ: องค์การสงเคราะห์ทหารผา่ นศกึ .
บทท่ี 4
“ผดั ไทย” รสชาตแิ บบไทยๆ
จุดมุ่งหมายของบทนี้ คือ
1. บอกลกั ษณะของผดั ไทยได้
2. อธิบายมรดกภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติของผดั ไทยได้
3. อธบิ ายลักษณะเฝอส่าวของชาวเวียดนามได้
35
บทอา่ น
“ผัดไทย” รสชาติแบบไทยๆ
“pad thai” (ผัดไทย) เป็นคำศัพท์สากลที่รู้จัก
กันทั่วโลก ซึ่งบัญญัติโดย Oxford Dictionaries เพื่อ
แสดงแหล่งท่ีมาหรือถิ่นกำเนิดของผัดไทย คำว่า “pad
thai” เป็นอาหารไทยประเภทเส้นที่ทำมาจากข้าว ไข่
ผัก เน้อื สัตว์หรืออาหารทะเล
ผัดไทยมาจากไหน
สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ประเทศไทยได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจาก
สงครามโลกคร้ังท่ี 2 และเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในภาคกลางและหลายพื้นท่ี จึงเป็นอุปสรรค
สำคัญในการผลิตข้าว
รัฐบาลจงึ รณรงค์ให้คนไทยค้าขายและรับประทานก๋วยเต๋ียวแทนข้าว เพราะก๋วยเต๋ียว
มีคุณค่าทางโภชนาการและมีรสชาติกลมกล่อม คนไทยทำได้เองหรือหารับประทานได้ง่าย
รวมท้ังสนบั สนุนให้ทุกบ้านเลีย้ งไก่ ปลูกพืชผักสวนครัวและนำผลผลิตในครัวเรือนมาประกอบ
เป็นกว๋ ยเตีย๋ ว ผดั ไทยจงึ สะทอ้ นถงึ รฐั นิยมและเศรษฐกจิ ในสมยั จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม
36
“มรดกภูมปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมของผัดไทย”
ลักษณะของผดั ไทย มรดกภูมปิ ญั ญาทาง
วฒั นธรรมของชาติ
ผัดไทยเป็นอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวผัดแห้ง
มี 3 รสชาติ ได้แก่ รสเปร้ียว รสเค็ม และรสหวาน ปี พ.ศ. 2554
ผัดไทยมีรสชาติแบบไทยเพราะใช้วัตถุดิบท้องถ่ิน
ไดแ้ ก่ เส้นจนั ท์ทำมาจากข้าวเจา้ ขา้ วพื้นเมืองของจงั หวัด
จนั ทบุรี เส้นมีลักษณะเหนียวนุ่ม ใช้ผักต่าง ๆ ของไทย เช่น หอมแดง ไชโป๊และกุ้งผัดคลุกเคล้า
น้ำซอสผัดไทย นอกจากนี้ยังมีเคร่ืองปรุง คือ พริกป่น ถ่ัวลิสงบดและผักเคียง เช่น ใบกุยช่าย
หวั ปลี ถ่วั งอก มะนาว เป็นต้น
ผัดไทยมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์อย่างไทยจากน้ำซอสผัดไทย คือ รสหวานจากน้ำตาล
มะพร้าว รสเคม็ จากน้ำปลา และรสเปร้ียวจากนำ้ มะขามเปียก (สม้ มะขาม)
ส่วนประกอบของผดั ไทย กุ้ง
ใหโ้ ปรตีนและเสริมการ
ใบกยุ ช่าย ทำงานของระบบภมู ิคมุ้ กนั
เสริมการทำงานของ
กงุ้ แห้ง
ระบบภมู ิคมุ้ กนั บำรุงกระดกู และฟนั
ถั่วงอก ถ่ัวลสิ ง
มีธาตุเหลก็
บำรงุ ระบบสมอง
เพ่ิมภูมิต้านทานใหร้ ่างกาย หวั ปลี
มสี ารต้านอนุมลู อสิ ระ พรกิ ปน่ และประสาท
และธาตุเหลก็ เพ่ิมภูมติ ้านทาน บรรเทาอาการหวัด
ลดนำ้ มกู และเสมหะ
37
ผดั ไทยได้รบั อิทธิพลวฒั นธรรมอาหารเสน้ ของจนี โดยปรับมาใช้วัตถุดบิ ของไทย ได้แก่
ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแบนหรือเส้นจันท์แทนเส้นเล็ก กุ้งแห้งแทนหมู ใบกุยช่ายแทนต้นหอม
การปรุงรสด้วยน้ำปลาแทนซีอิ๊วดำ และการใช้น้ำตาลมะพร้าวแทนน้ำตาลทราย
น้ำมะขามเปียกแทนน้ำสม้ สายชู
จีน
ไทย จนี
กว๋ ยเต๋ยี วเสน้ เลก็ แบน เส้นจันท์ เส้นเล็ก
กุ้งแหง้ เนอื้ หมู
ใบกยุ ชา่ ย ต้นหอม
นำ้ ปลา ซอี ๋วิ ดำ
นำ้ ตาลมะพร้าว นำ้ ตาลทราย
นำ้ มะขามเปยี ก น้ำส้มสายชู
38
ปัจจุบนั ผดั ไทยนำมาดดั แปลงในรปู แบบตา่ ง ๆ เช่น
"ผัดไทยห่อไข่” มีส่วนประกอบ คือ เส้นจันท์
กงุ้ ผักประกอบดว้ ย หอมแดง ไชโป๊ ใบกุยชา่ ย ถั่วงอก
และน้ำซอสผัดไทยผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วห่อด้วย
ไข่
"ผัดไทยไม่ใส่เส้น” มีส่วนประกอบ คือ กุ้ง
ผกั ได้แก่ หอมแดง ไชโป๊ ใบกุยชา่ ย ถัว่ งอกและน้ำซอส
ผัดไทยผดั คลุกเคล้า ไมใ่ ส่เสน้
"ผัดไทยมังสวิรัติ” มีส่วนประกอบ คือ ผัก
ไม่ใส่เนื้อสัตว์ เช่น เต้าหู้เหลือง ไชโป๊ ถ่ัวงอก ถั่วลิสง
บล็อคโคลี่ กะหล่ำปลี แครอท และน้ำซอสผัดไทยผัด
คลุกเคลา้
"ผัดไทยทรงเครื่อง” มีส่วนประกอบดังนี้ กุ้ง ปลาหมึกฝอย เนื้อกรรเชียงปูฉีกหรือ
หมูหวาน มะม่วงสับ และเส้นจันท์หรือวุ้นเส้นคลุกเคล้ากัน โดยรสเปรี้ยวจากมะม่วงสับ
รสหวานจากหมหู วาน และรสเค็มจากปลาหมกึ ฝอย
39
ความรเู้ พ่มิ เตมิ
“เฝอสา่ ว” (phở xào)
เฝอเป็นอาหารเวียดนามประเภทหน่ึง มีท้ังเฝอน้ำและเฝอส่าว (phở xào) โดย
เฝอส่าวหรือเฝอผัด เป็นอาหารประเภทผัด คำว่า “ส่าว” มีความหมายว่า ผัดมีลักษณะคล้าย
ผดั ไทยของไทย
เฝอส่าวมสี ่วนประกอบที่เหมอื นผัดไทย คือ การใช้เส้นเฝอสดซึง่ เปน็ เสน้ ของเวยี ดนาม
ทำมาจากแปง้ ข้าวเจ้าคล้ายเส้นจนั ทข์ องไทย เฝอสดมีลกั ษณะเส้นสขี าวและนุ่ม
เฝอส่าวแตกต่างจากผัดไทย คือ รสชาติ น้ำซอสเฝอส่าวมีรสเค็มและรสเผ็ด แตกต่าง
จากน้ำปรุงรสผัดไทยซึ่งมีรสเค็ม รสหวานและรสเปร้ียว โดยรสเปรี้ยวจากน้ำมะขามเปียก
และเฝอสา่ วเวยี ดนามรับประทานกับน้ำจิม้ ซึ่งมรี สเปรีย้ วหวาน
40
คำศัพท์
ลำดับ คำศัพท์ คำอ่าน ความหมาย ภาษาเวียดนาม
1. สากล (ว.) สา-กน เปน็ ที่นยิ มท่วั ไป quốc tế
2. บญั ญตั ิ (น.) บัน-หฺยดั ข้ อ ค ว า ม ที่ ก ำ ห น ด ข้ึ น ไว้ เป็ น ก ฎ ห ม า ย ห รื อ điều lệnh, quy định
ขอ้ บงั คบั
3. ถิน่ กำเนดิ (น.) ถิ่น-กำ-เหฺนดิ จุดกำเนิด บา้ นเกดิ quê nhà, nguồn gốc
4. เศรษฐกิจ (น.) เสด-ถะ-กิด งานเกี่ยวกับการผลิต การขายและการบรโิ ภค kinh tế
5. สงคราม (น.) สง-คฺราม การส้รู บท่มี คี นจำนวนมากที่ขดั แย้งกัน chiến tranh
6. อุปสรรค (น.) อปุ -ปะ-สัก ส่ิงขดั ขวาง trở ngại
7. รณรงค์ (ก.) รน-นะ-รง ชั ก ช ว น อ ย่ า ง ต่ อ เนื่ อ ง เพ่ื อ ให้ ป ร ะ ส บ ค ว า ม kêu gọi, vận động
สำเร็จตามทต่ี ั้งไว้
8. พืชผักสวนครวั พืด-ผกั -สวน- พืชท่ีใช้ส่วนต่าง ๆ เป็นอาหาร เช่น ลำต้น ใบ các loại rau, củ quả
(น.) คฺรวั ดอก ผล และหัว ปลูกไว้ในบริเวณบ้านเพ่ือใช้
รับประทานหรอื ขาย
9. รัฐนยิ ม (น.) รัด-ถะ- ข้อบัญญัติที่รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม điều lệnh, qui định
นิ-ยม กำหนดขึ้นให้ประชาชนปฏิบัติตามวัฒนธรรม của Thái Lan thời thủ
ตะวันตก เช่น ห้ามกินหมาก ให้สวมหมวก tướng Jomphon po
phibunsongkhram
10. ข้าวเจา้ (น.) ข้าว-เจ้า ช่ือพนั ธ์ุขา้ วชนดิ หนงึ่ gạo
11. เหนยี ว (ว.) เหฺนยี ว ไมข่ าดหรอื หกั ง่าย dẻo
12. บด (ก.) บด ทำใหแ้ ตกหรอื ละเอียดเปน็ ผงดว้ ยแรงกดทบั nghiền nát
13. อิทธิพล (น.) อิด-ทิ-พน อำนาจที่สามารถทำให้ผู้อ่ืนคล้อยตาม หรือทำ ảnh hưởng
ตาม
14. มงั สวริ ัติ (น.) มงั -สะ-วิ-รัด อาหารทไี่ ม่มีเนือ้ สตั ว์ มแี ต่ผัก ăn chay
15. กรรเชยี งปู (น.) กัน-เชียง-ปู ขาของปู มีลกั ษณะคล้ายใบพาย
chân bơi của con cua
41
แบบทดสอบทา้ ยบท
คำชแี้ จง: ผู้เรียนเลือกข้อทถ่ี ูกต้องทส่ี ุด
1. เส้นจันท์เป็นเส้นพ้ืนเมืองของจังหวัดใด 4. ผัดไทยมักรับประทานกับผักต่าง ๆ ยกเว้นผักใน
(ความรู้ความจำ) ข้อใด (ความรู้ความจำ)
กก้งุ . จงั หวัดสระบรุ ี ก.
ข. จังหวัดจันทบุรี
ค. จงั หวัดนนทบรุ ี ข.
ง. จังหวัดเพชรบุรี
ค.
มาตราตวั สะกดแม่ กง และ แม่ กน
2. ขอ้ ใดไมใ่ ชร่ สชาตขิ องน้ำซอสผัดไทย ง.
(ควกแา.มมรร่สกู้คเควงาม็ มจำ) 5. ข้อใดไม่สะท้อนสังคมและเศรษฐกิจสมัยจอมพล
ป. พบิ ลู สงครามผา่ นผัดไทย (ความเข้าใจ)
ข. รสเผด็
ค. รสหวาน ก. รัฐบาลสนบั สนนุ ให้คนไทยเล้ยี งไก่
ง. รสเปรย้ี ว ข. คนไทยชอบรบั ประทานอาหารจีน
ค. ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากสงครามโลก
3. ผัดไทยได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมอาหารจาก ง. รฐั บาลสนบั สนุนให้คนไทยปลูกพืชผักสวนครวั
ประเทศใด (ความรูค้ วามจำ)
ก. จนี
ข. ลาว
ค. ญป่ี นุ่
ง. เวยี ดนาม
42
แบบทดสอบท้ายบท
6. เฝอชนิดใดมีลักษณะคล้ายผัดไทย 8. เฝอส่าวแตกต่างจากผดั ไทยอย่างไร
(ความรู้ความจำ) (ความรคู้ วามจำ)
ก. เฝอไก่ ก. ผัดไทยรับประทานคู่กับน้ำจมิ้
ข. เฝอนำ้ ข. เส้นเฝอสดทำมาจากแป้งขา้ วเจ้า
ค. เฝอเน้ือ ค. เสน้ จนั ทท์ ำมาจากแปง้ ข้าวเหนียว
ง. เฝอส่าว ง. นำ้ ซอสเฝอสา่ วมรี สเค็มและรสเผ็ด
7. ข้อใดไม่ใช่เหตุผลท่ีทำให้ผัดไทยได้รับการข้ึน 9. “หนูนาเป็นคนไทยอาศัยอยู่ท่ีประเทศเวียดนาม
ทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของ หนูนาอยากกินผัดไทย แต่ไม่มีเส้นจันท์” หนูนา
ชาติ (ความเขา้ ใจ) ควรใช้เส้นอะไรแทนเสน้ จันท์ (การนำไปใช้)
ก. ผัดไทยมรี สเปรย้ี ว รสเค็มและรสหวาน ก. เสน้ เฝอ
ข. ผัดไทยใช้วัตถุดิบต่าง ๆ เช่น ต้นหอม เน้ือหมู ข. เส้นใหญ่
ต้นหอม น้ำสม้ สายชู ค. เส้นบะหม่ี
ค. ผัดไทยใช้วัตถุดิบต่าง ๆ เช่น กุ้งแห้ง เส้นจันท์ ง. เส้นกวยจบั๊
ใบกยุ ช่าย นำ้ มะขามเปียก
ง. ผัดไทยใช้ผัก เช่น หอมแดง ไชโป๊ ใบกุยช่าย 10. ฟ้าต้องการแนะนำเพื่อนชาวต่างประเทศ
ซงึ่ มีสรรพคณุ ยา ปอ้ งกนั โรคต่าง ๆ รับประทานผัดไทยคร้ังแรก ควรแนะนำผัดไทย
ลกั ษณะใด (การนำไปใช้)
ก. ผดั ไทยกุ้งสด
ข. ผัดไทยมงั สวิรัติ
ค. ผดั ไทยไม่ใส่เสน้
ง. ผัดไทยทรงเครือ่ ง
43
บรรณานกุ รม
Lan anh. (2564, 25 พฤษภาคม). 2+ CÁCH LÀM PHỞ XÀO BÒ MỀM, PHỞ XÀO GIÒN
NGON TUYỆT ĐỈNH. Retrieved from https://daotaobeptruong.vn/pho-xao-
thit-bo-sieu-ngon.
Oxford Learner’s Dictionaries. (2565). pad thai. Retrieved from
https://www.oxfordlearnersdictionaries.com/definition/english/pad-
thai?q=pad+thai.
กรมสง่ เสริมวฒั นธรรม. (2559). ความรู้และแนวปฏิบตั ิเก่ยี วกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล :
มรดกภูมิปญั ญาทางวฒั นธรรมของชาติ. กรุงเทพฯ: องคก์ ารสงเคราะหท์ หารผ่านศกึ ใน
พระบรมราชูปถมั ภ์.
ไชยรงค์ วริ ิยะผล. (2558). ปญั หาการใหค้ วามคุ้มครองสงิ่ บง่ ชี้ทางภูมิศาสตร์ศกึ ษากรณี
ผลติ ภัณฑ์อาหารไทย (ผัดไทยเสน้ จนั ท)์ . (ปรญิ ญานิพนธป์ ริญญามหาบณั ฑติ ,
มหาวทิ ยาลัยสยาม, กรงุ เทพฯ).
สบื ค้นจาก http://www.research-system.siam.edu/2013-12-20-03-
59-31/2013-12-20-04-08-40/2825-2013-12-20-05-58-78.
ณรงค์ พว่ งพศิ . (2545). การประกาศใช้ "รฐั นยิ ม" ในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม
(พ.ศ. 2481-2487). วารสารประวัติศาสตร์. สืบค้นจาก
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/JOH/article/view/2584/2598.
เดชา ศริ ภิ ทั ร. (2553). สมุนไพรจากครวั ไทย. (พมิ พค์ รงั้ ที่ 6). กรุงเทพฯ: หมอชาวบ้าน.
มณฑา ลมิ ปยิ ประพนั ธ์. (2555). อาหารเป็นยา ยาเปน็ อาหาร. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น.
ศรสี มร คงพนั ธ.ุ์ (2561). อาหารขนึ้ ทะเบียนมรดกภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรมของชาติ.
กรุงเทพฯ: ส.ส.ส.ส.
ส.พลายนอ้ ย. (2553). วนั กอ่ นคนื เกา่ . (พิมพ์คร้งั ที่ 2). กรุงเทพฯ: พิมพค์ ำ.
สริ ินาฏ ศิรสิ นุ ทร. (2556). วฒั นธรรมอาหารไทย...จากอดตี สู่ปัจจุบนั . (พิมพ์ครัง้ ท่ี 2).
กรุงเทพฯ: องคก์ ารสงเคราะห์ทหารผา่ นศกึ .
บทที่ 5
“แกงเผ็ด”
กะทขิ องสำคญั ในแกงไทย
จดุ มงุ่ หมายของบทน้ี คอื
1. บอกลกั ษณะของแกงเผ็ดได้
2. อธบิ ายมรดกภูมิปญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติของแกงเผด็ ได้
3. อธิบายลักษณะกนั ก่ารขี องชาวเวียดนามได้
45
บทอ่าน
“ 5 แกงไทย
เมนโู ดนใจชาวต่างชาต”ิ
แกงไทยได้รับความนิยมจากชาวไทยและ
ชาวต่างประเทศ มีรสชาติท่ีแตกต่างกัน เช่น
รสเผ็ดน้อย รสหวานนำตามด้วยรสเค็ม หรือ
รสเผ็ดนำ ตามด้วยรสเค็มและรสหวาน เป็นต้น
แกงชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยม คือ “แกงเผ็ด”
หรือแกงแดงมีรสเผ็ดนำ ตามด้วยรสเค็มและ
รสมัน
แกงไทยใส่กะทิ
แกงไทยเปน็ อาหารคู่สำรบั ซึ่งรับประทานกบั ข้าว แกงไทยแบ่งออกเปน็ 2 ประเภท
คอื แกงนำ้ ใสและแกงนำ้ ขน้ แกงนำ้ ใส เชน่ แกงเลียง แกงปา่ ซึง่ เป็นตน้ ตำรบั ของแกงไทย
ต่อมาคนไทยรับวัฒนธรรมอาหารจากต่างประเทศ ได้แก่
การใช้กะทิ พรกิ แหง้ เครื่องเทศต่าง ๆ จึงกลายเปน็ แกงน้ำข้น
ดังเชน่ “แกงเผ็ด”
ลักษณะของแกงเผ็ด 46
“มรดกภูมิปญั ญาทางวัฒนธรรมของแกงเผ็ด”
ลักษณะของแกงเผ็ด มรดกภูมปิ ัญญาทาง
วัฒนธรรมของชาติ
“แกงเผ็ด” หรือ “แกงแดง” เป็นแกงกะทิ
มีรสชาตเิ ผด็ นำ ตามดว้ ยรสเคม็ และรสมันจากกะทิ ปี พ.ศ. 2555
สว่ นประกอบของแกงเผ็ด
แกงเผ็ดใช้พริกชี้ฟ้าแห้ง สมัยก่อนใช้พริกบางช้างสดมีลักษณะเม็ดใหญ่และมีกลิ่นหอม
นำมาตากแห้ง ทำให้น้ำแกงมีสีแดงสดและรสชาติไม่เผ็ดเกินไป พริกบางช้างนิยมปลูกใน
ภาคกลางของประเทศไทย จังหวัดสมุทรสงครามและจังหวัดราชบุรี แกงเผ็ดมีส่วนประกอบ
ของสมนุ ไพรและเครื่องเทศ ดังน้ี พรกิ ช้ฟี า้ แหง้ บรรเทาอาการไข้หวดั
หอมแดง มสี ารตา้ นอนุมูลอิสระ
ลดคอเรสเตอรอล
พริกไทย ย่หี ร่า
ชว่ ยขบั เสมหะ แก้อาการท้องอืด
แก้จกุ เสยี ด
ท้องเฟอ้
กระเทียม ลูกผักชี
เสริมการทำงาน ทำใหร้ ะบบยอ่ ยอาหาร
ระบบภูมิคุ้มกนั
ทำงานไดด้ ี
รากผักชี
ชว่ ยเจรญิ อาหาร ตะไคร้ ข่า ผวิ มะกรดู
ขับเหง่อื และเสมหะ ขับลมในลำไส้ ขับลมในลำไล้ ป้องกันมะเรง็
และป้องกนั มะเรง็ และกระเพาะ