ส่วนที่ ๒ แนวทางการดาเนินงาน
๕. “ ตัง้ สติที่ลมหายใจ ”
การกาหนดลมหายใจเข้า-ออก เป็นการกาหนดท่ีตั้งของสติ เพ่ือให้
จิตเราอยู่กับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไม่ฟุ้งซ่านไปเรื่อง อื่น ๆ แต่เรา
ไมจ่ าเปน็ ต้องไปบงั คับการหายใจ แคป่ ลอ่ ยให้มนั เป็นไปตามธรรมชาติ
๙๔
ส่วนที่ ๒ แนวทางการดาเนนิ งาน
๖. “นับลมเข้า-ออก”
การนบั ลมหายใจเขา้ ออก เป็นวิธีปฏิบัติสมาธิมาตั้งแต่โบราณ โดยเม่ือ
คุณหายใจออกก็ให้คุณเร่ิมนับหนึ่งในใจ ต่อไปก็เป็นสองสามสี่ตามลาดับ
แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกว่าความคิดของคุณกาลังล่องลอยออกไปที่อ่ืน
ให้คุณกลับมาต้งั ตน้ นบั หนง่ึ ใหม่อกี คร้ัง เพือ่ ใหค้ ุณนาจติ กลับมาทีเ่ ดิม
๙๕
สว่ นท่ี ๒ แนวทางการดาเนนิ งาน
๗. “กาจัดจิตท่ขี ุน่ มวั รู้ทวั่ ขณะจิต”
มันเป็นการยากที่จะน่ังสมาธิในขณะท่ีจิตของคุณเต็มไปด้วยอารมณ์
เพราะอารมณ์จะทาให้เกิดเร่ืองราวต่าง ๆ ในจิตใจ โดยเฉพาะอารมณ์โกรธ
กลวั เสียใจ ซ่ึงไม่ได้ทาให้คุณอยู่กับปัจจุบัน หรืออยู่กับส่ิงที่เป็นในตอนน้ีเลย
ให้คุณจัดการกับอารมณ์ท่ีเกิดขึ้นน้ีโ ดยกาหนดลมหายใจไปท่ี ความรู้สึ ก
ของร่างกายที่ควบคุมอารมณ์ส่วนนั้น เพราะจะทาให้คุณไม่คิดถึงเร่ืองราว
ทท่ี าใหค้ ุณกลัว หรอื โกรธอกี แต่หนั มาเพ่งกบั ส่งิ ทเี่ ป็นอยู่ในขณะน้แี ทน
๙๖
สว่ นท่ี ๒ แนวทางการดาเนินงาน
๘. “ปล่อยวางความคิด ให้จติ แนว่ แน่”
เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณกาลังมีความคิดเข้ามารบกวนจิตใจ ค่อย ๆ ขจัด
ความคิดเหล่านี้ออกไป โดยหันมาสนใจกับการกาหนดลมหายใจ
อย่าพยายามหยุดความคิดในทันที เพราะมันจะทาให้คุณ ฟุ้งซ่าน
และไม่สามารถกลบั เข้าสสู่ มาธไิ ด้อีก
๙๗
สว่ นท่ี ๒ แนวทางการดาเนินงาน
๙. “เติมเตม็ สมาธิ เพมิ่ พลงั ชีวิต”
คนเราหากทาอะไรแล้วมีความสุข เราก็จะทามันได้ดี และรู้สึกอยาก
ทาต่อไป ในการนั่งสมาธิก็เช่นกัน หากคุณมีความสุขในการนั่งสมาธิ
คุณก็จะรู้สึกผ่อนคลายสบายตัว และอยากจะทาต่อไป จนสามารถทาเป็น
กจิ วัตรทีท่ าทุกวันไดก้ ิจกรรม
๙๘
ส่วนที่ ๒ แนวทางการดาเนินงาน
ฝึกสมาธแิ บบง่าย ๆ ทาได้ ๓ วิธี ( สาหรับเด็ก )
สาหรับวิธีการฝึกสมาธิแบบง่าย ๆ สาหรับเด็กนักเรียนนั้น เร่ิมต้นให้
ครูนานักเรียนไหว้พระ สมาทานศีลเรียบร้อยแล้ว ให้สารวมจิตระลึกถึง
คุณพระรตั นตรัย จากนน้ั เริ่มฝึกสมาธิในอริ ิยาบถตา่ ง ดังนี้
๙๙
ส่วนที่ ๒ แนวทางการดาเนนิ งาน
๑) วธิ กี ารฝึกสมาธิในอิรยิ าบถ “ นั่ง ”
การน่ังขัดสมาธิ คือการนั่งบนพ้ืนก้นแนบพ้ืนพับขาเข้าหากัน โดยให้
ขาข้างหน่ึงซ้อนทับอยู่บนขาอีกข้างหน่ึง ส้นเท้าท้ังสองข้างจะสัมผัสพ้ืน
เป็นอิริยาบถท่ีใช้น่ังตามสบาย ส่วนการน่ังขัดสมาธิท่ีใช้ในทางศาสนา
จะมีอีก ๒ แบบด้วยกันคือ การน่ังขัดสมาธิราบ โดยเพิ่มเติมจากการ
นั่งขัดสมาธิธรรมดา แต่ให้เอามือขวาทับมือซ้ายให้หัวแม่มือจรดกัน ท่านี้ใช้
นง่ั ในการเจรญิ ภาวนาทาจิตใจให้สงบ สว่ นอีกท่าหนงึ่ คือการน่ังขัดสมาธิเพชร
จะเพิ่มเติมการพับขาเข้าหากัน เอาฝ่าเท้าท้ังสองขัดหรือไขว้ขึ้นวางบน
หน้าขา ท่าแบบนี้ต้องฝึกจนเกิดความชานาญ ทั้งแบบเป็นท่านั่งที่สง่างาม
และเป็นการฝึกสติควบคู่กับการฝกึ ความอดทน
๑๐๐
ส่วนที่ ๒ แนวทางการดาเนนิ งาน
วธิ กี ารน่งั อย่างมีสติ
๑) เลื่อนเท้าซ้ายถอยหลัง ยอตัวลง เข่าจดพ้ืน มือซ้ายเท้าลงท่ีพ้ืน
แล้วนั่งขัดสมาธิ โดยเท้าขวาวางทับเท้าซ้าย มือขวาวางหงายทับมือซ้าย
นั่งตวั ตรงและหลับตา
๒) กาหนดลมหายใจเข้า-ออก เมื่อหายใจเข้าภาวนาว่า “พุท” หายใจ
ออกภาวนาว่า “โธ” ภาวนาไปเรือ่ ยๆ จนจติ สงบเป็นสมาธิ หรอื กาหนดดูลม
หายใจเข้า-ออก เมื่อหายใจเข้าใช้สติตามดูอาการที่ท้องพองขึ้นภาวนาว่า
“พองหนอ” เม่ือหายใจออกใช้สติตามดูอาการที่ท้องยุบภาวนาว่า
“ยุบหนอ” ภาวนาไปเร่อื ยๆ จน จติ สงบเปน็ สมาธิ
๓) เมื่อน่ังได้ตามเวลาท่ีกาหนดแล้ว ต้องการเลิกนั่งสมาธิให้กาหนด
ภาวนาว่า “อยากเลิกหนอ” (๓ คร้ัง) จากน้ันค่อยยกมือขวาขึ้นช้า ๆ
อย่างมสี ติ วางควา่ บนเขา่ แล้วยกมือซ้ายขึน้ ชา้ ๆ วางคว่า
บนเข่า ขณะลืมตาขนึ้ ก็ภาวนาวา่ “เหน็ หนอ” (๓ คร้งั )
๑๐๑
ส่วนที่ ๒ แนวทางการดาเนนิ งาน
๒) วิธกี ารฝึกสมาธิในอริ ิยาบถ “ ยืน ”
การฝึกยืนอย่างมีสติ มือขวากุมมือซ้ายไว้ข้างหน้าหรือไพล่หลัง
ก้มหน้าเล็กน้อยพองามหลับตา และภาวนาว่า พุท-โธ โดยหายใจเข้าภาวนา
วา่ “พุท” หายใจออกภาวนาว่า “โธ” ฝึกปฏิบัติไปเร่ือยๆ จนกว่า จิตจะเป็น
สมาธิ หรือเม่ืออยู่ในอิริยาบถยืน ภาวนาว่า “ยืนหนอ” แล้วใช้สติกาหนดดู
ลมหายใจเข้า-ออก เมื่อหายใจเข้าใช้สติตามดูอาการท่ีท้องพองข้ึนภาวนา
ว่า “พองหนอ” เมื่อหายใจออกใช้สติตามดูอาการที่ท้องยุบภาวนา
ว่า “ยบุ หนอ” ภาวนาไปเร่ือยๆ จน จติ สงบเปน็ สมาธิ
๑๐๒
ส่วนท่ี ๒ แนวทางการดาเนินงาน
๓) วธิ กี ารฝึกสมาธใิ นอิรยิ าบถ “ เดนิ ”
การฝกึ เดินอย่างมีสติในอิรยิ าบถเดินเรียกว่า “เดินจงกรม” ซึ่งมีหลาย
วิธี ด้วยกัน อาทิ การกาหนดแบบ “พุทธ-โธ” โดยเมื่อก้าวเท่าขวาออกไป
ให้กาหนดภาวนาว่า “พุทธ” เมื่อก้าวเท้าซ้ายออกไปก็กาหนดภาวนาว่า
“โธ” กาหนดภาวนาไปเร่ือยๆ จน จิตสงบเป็นสมาธิ หรือ หากจะกาหนด
ภาวนาแบบ “พอง-ยุบ” ควรเตรียมอิริยาบถให้พร้อมในลักษณะยืนตรง
เท้าชิดกัน จากน้ันภาวนาในใจระลึกถึงการยืนว่า “ยืนหนอ” ( ๓ คร้ัง)
และกาหนดภาวนาต่อว่า “อยากเดินหนอ” (๓ ครั้ง) จากน้ันกาหนดการเดิน
โดยย่างเท่าพองามตามปกติ เมื่อก้าวเท่าขวาออกไป กาหนดภาวนาว่า
“ขวายา่ งหนอ” และ เมอ่ื กา้ วเทา้ ซา้ ยออกไปกาหนดภาวนาวา่
“ ซา้ ยยา่ งหนอ ” จนมีการกาหนดอิรยิ าบถตา่ ง ๆ
อยา่ งละเอยี ด กาหนดภาวนาไปเรอ่ื ยๆ
จนจิตสงบเปน็ สมาธิ
๑๐๓
สว่ นที่ ๒ แนวทางการดาเนนิ งาน
๔) วธิ กี ารฝกึ สมาธโิ ดยการฝึกกาหนดรู้ ดูความรู้สึก
เมื่อมีส่ิงมากระทบประสาทสัมผัสทั้ง ๖ ท่ีเรียกว่าอายตนะ เช่น
ตาเห็นรูป จมูกได้กลิ่น ล้ินได้ล้ิมรส ให้ฝึกใช้สติกาหนดรู้ ดูความรู้สึก
ของตนเองไปด้วย อาทิ ฝึกการดูอย่างมีสติ เช่น เมื่อตาเห็นรูป ให้ใช้สติ
กาหนดท่ีตา ละลึกในใจภาวนาว่า ตาหนอ ภาวนาว่า ลืมตาหนอ ขณะมองดู
ภาวนาว่า เห็นหนอ เมื่อมองดูอะไรก็ภาวนาถึงสิ่งนั้น เช่น มองดูดอกไม้
ก็ภาวนาว่า เห็นดอกไม้หนอ ในการฝึกกาหนดรู้ในการดมกลิ่น การล้ิมรส
การสัมผัส และอารมณ์ที่กระทบจิตสามารถใช้วิธีการฝึกในลักษณะดังกล่าว
ได้ตามความเหมาะสม “การฝึกกาหนดรู้ ดูความรู้สึก” นอกจากจะทาให้
จิตสงบแล้ว ยังทาให้รู้จักระมัดระวัง เพราะมีสติรู้ตนเองว่ากาลังทาอะไรอยู่
ความผดิ พลาดก็จะไม่เกิดขึ้น
ดังนั้น การเจริญสมาธิ จึงเป็นประโยชน์ของการเสริมพลังคุณลักษณะ
ของจิตทม่ี ีสมาธเิ ก้ือกูลให้เกิดปัญญา รอบรู้ในส่ิงท่ีเรียนรู้ ข้อน้ี เป็นที่ยอมรับ
กันโดยท่ัวไปในปจั จุบนั สถานศึกษาหลายแหง่ ใหค้ วามสาคัญกบั เรื่องน้ี
๑๐๔
ส่วนที่ ๒ แนวทางการดาเนินงาน
กิจกรรมแก้ไขพฤติกรรมการฝกึ สมาธไิ ม่สงบของเดก็
๗.๑ กิจกรรม “ ทาสมาธิ ๕ นาทีกอ่ นการเรยี น ”
การฝึกสมาธิในวัยเด็ก เป็นส่ิงสาคัญมาก เพราะเป็นการช่วยเพ่ิม
ประสทิ ธิภาพในการเรียน การฝกึ สมาธิในวยั เด็ก ไม่ใช่การฝึกเพ่ือให้ได้สมาธิ
ในระดับลึก แต่หมายถึงการฝึกเพื่อให้ได้สมาธิในระดับต้นถึงระดับกลาง
ร่วมกับการมีสติสัมปชัญญะ (ความรู้ตัว) เพื่อให้เกิดความสนใจ ความจดจ่อ
และความมุ่งมั่นให้อยู่กับเรื่องๆ เดียว ตามระยะเวลาท่ีต้องการ ทุกครั้งก่อน
เขา้ สู่บทเรยี นในการเรยี นการสอน สามารถนกั เรียนนงั่ สมาธิก่อนเรียนทุกคร้ัง
เพ่ือเตรียมความพร้อมให้นักเรียนมีสมาธิในการเรียน ลดความฟุ้งซ่านใน
ความคิดออกไป ทาให้บรรยากาศในห้องเรียนน่าเรียน นักเรียนเองก็จะได้
เรยี นร้อู ย่างเขา้ ใจมากข้ึน
การน่งั สมาธิ ๕ นาทีก่อนเข้าสกู่ ิจกรรมการเรียนรู้ เป็นแนวทางในการ
เตรียมความพร้อมผู้เรียนช่วยให้จิตใจสงบ มุ่งความสนใจในการเรียนรู้
พรอ้ มทจ่ี ะเรียนรู้ตอ่ ไป
๑๐๕
สว่ นที่ ๒ แนวทางการดาเนนิ งาน
๗.๒ กิจกรรม “ ดนตรสี มาธิ ”
ดนตรีสมาธิ (Meditation music) ดนตรีบาบัด ท่ีถูกนามาใช้เพื่อรักษา
ผูป้ ว่ ย หรือพฒั นาศักยภาพดา้ นรา่ งกาย จิตใจ ความคิด และทักษะทางสังคม
ถือเป็นหน่ึงในกิจกรรมที่ช่วยให้คนที่ต้องการยกระดับคุณภาพจิตใจให้ดีขึ้น
สามารถพัฒนาคณุ ภาพชีวิตใหก้ บั ผู้ที่อยากเพิ่มพูนศักยภาพของตนเอง โดยมี
ความเช่ือกนั ว่าดนตรีจะช่วยให้คนฟังผ่อนคลายจากอาการเจ็บป่วย และจาก
ความกังวล หรือลดความเครียด นอกจากน้ี ยังมีงานวิจัยท่ีศึกษาในเร่ืองของ
การฟงั ดนตรีบาบัดของผปู้ ่วยกอ่ นที่จะเขา้ รบั การผ่าตดั ว่าชว่ ยลดความเครียด
และความกงั วลได้ ฮอร์โมนท่ีเกี่ยวกับความเครียดลดลงมากกว่าการใช้ยาลด
ความเครียด การฟังดนตรียังช่วยลดภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย โดยช่วยปรับให้
อารมณ์สงบขึ้นทาให้นอนหลับง่ายขึ้น เรียกได้ว่าดนตรีบาบัดเปรียบเหมือน
ยาที่มผี ลกับจติ ใจ
๑๐๖
ส่วนที่ ๒ แนวทางการดาเนินงาน
กจิ กรรมปฏบิ ัติ
๑) นง่ั เรียนลอ้ มวงเป็นวงกลม หรือตามความเหมาะสมกบั สถานท่ี
๒) ครู เปิดดนตรสี มาธิ (Meditation music) โดยเลือกเพลงที่เหมาะสม
กับผู้เรียนในแตล่ ะระดับชนั้ หรอื เปดิ เพลงตามความนิยมของผเู้ รยี น
๓) นักเรียนทาสมาธิในอิริยาบถที่สะดวก ผ่อนคลาย ผ่อนลมหายใจ
ทาสมาธิควบคู่ไปกับการฟังดนตรี ใช้เวลา ๕ นาที ๑๐ นาที หรือ
ตามเหมาะสม
๔) เม่ือถึงเวลาท่ีเหมาะสมนักเรียนเล่าถึงความรู้สึก สภาพจิตใจ
ขณะฟังดนตรี
๕) กจิ กรรมน้ี อาจจดั ร่วมกบั กิจกรรมอ่ืน ๆ ตามความเหมาะสม
QR “ดนตรีสมาธิ”
๑๐๗
สว่ นท่ี ๒ แนวทางการดาเนินงาน
๗.๓ กิจกรรม “ กาหนดสติ ฝกึ สมาธกิ บั เพลง ”
วิธีการฝึกสมาธิที่นิยมกันมากในปัจจุบัน คือ การกาหนดสติตามดู
อาการการเคล่ือนไหวของร่างกายส่วนต่าง ๆ เช่น กาหนดสติในการเดิน
ตามดูการก้าวไป การหยุด ของเท้า กาหนดสติดูการเคลื่อนไหวของมือ แขน
และส่วนอ่ืน ๆ รวมทั้งการกาหนดดูการเคลื่อนไหวของลมหายใจ หรือการ
เคลื่อนไหวของท้อง เน้นให้ผู้ฝึกมีสติกาหนดรู้อาการทางกายอย่าง ใด
อย่างหน่ึงด้วยความจดจ่อต่อเน่ือง เม่ือจิตมีสติอย่างต่อเนื่องทาให้เกิดเป็น
สมาธิขึ้น สาระสาคัญจึงอยู่ที่การมีสติคอยกากับสิ่งที่ผู้ฝึกต้องการกาหนดรู้
ในกิจกรรม “กาหนดสติ มีสมาธิกับเพลง” เป็นกิจกรรมท่ีให้นักเรียน
ได้ฝึกกาหนดสติควบคู่กับการเคล่ือนไหวร่างกายด้วยท่าประกอบเพลง
โดยใช้เพลง “ดั่งดอกไม้บาน” ของเสถียรธรรมสถาน (สามารถใช้เพลงอ่ืนได้
ตามเหมาะสม)
QR เพลง “ด่ังดอกไม้บาน”
๑๐๘
ส่วนท่ี ๒ แนวทางการดาเนนิ งาน
กิจกรรมปฏบิ ตั ิ
๑) น่ังเรียนลอ้ มวงเป็นวงกลม หรอื ตามความเหมาะสมกับสถานที่
๒) ครู เปิดเพลง “ดั่งดอกไม้บาน” (สามารถค้นหาในชอ่ ง youtube)
๓) เมอ่ื เสียงเพลงดงั ขนึ้ ใหน้ ักเรียนแสดงท่าประกอบเพลง ดังนี้
ทา่ ท่ี ๑ “ลมหายใจเขา้ ” ยกมอื ประสานเขา้ มาท่บี ริเวณอก
ทา่ ที่ ๒ “ลมหายใจออก” ปลอ่ ยมอื ออก กางแขนเฉยี งลง ๔๕ องศา
ทา่ ท่ี ๓ “ด่ังดอกไม้บาน” ทามือเป็นดอกบวั บาน บริเวณอก
ท่าที่ ๔ “ภูผาใหญ่กวา้ ง” ทามอื เปน็ รูปภูเขา (สามเหลีย่ ม) บริเวณอก
ท่าที่ ๕ “ดั่งสายน้าฉา่ เยน็ ” เคลือ่ นไหวมอื เปน็ สายนา้ ไหล บรเิ วณอก
ท่าท่ี ๖ “ดั่งนภากาศ” อนั บางเบา กางแขนออก ตัง้ ฉากกบั ลาตวั
๔) ครู ใหร้ างวลั หรอื ชมเชยเด็กนักเรยี นท่ีมีสตอิ อกทา่ ทางประกอบเพลง
ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
๕) ครูอาจจะมีการใช้อุปกรณ์ หรือ กาหนดท่าทางอืน่ ๆ ได้เหมาะสมกับ
ผเู้ รยี นในแต่ละระดับชน้ั
๖) กิจกรรมนี้ อาจจดั รว่ มกับกจิ กรรมอน่ื ๆ หรือ บทเพลงอ่นื ไดต้ ามความ
เหมาะสม
๑๐๙
สว่ นท่ี ๒ แนวทางการดาเนนิ งาน
๘. กิจกรรม “ การแผเ่ มตตา พาสขุ ใจ ”
สาระสาคัญ : การแผ่เมตตา
การแผ่เมตตา คือ เม่ือได้สวดมนต์เจริญจิตภาวนาจิตใจของเราสงบ
บริสุทธ์ิมีพลัง ให้จิตตั้งมั่นในความปรารถนาดีที่มีให้แก่ตนเองและผู้อ่ืน
รวมถึงเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับสรรพสิ่งทั้งหลาย โดยส่วนใหญ่แล้ว
บทสวดแผ่เมตตาจะใช้สวดหลังจากการสวดมนต์ น่ังสมาธิ หรือเป็นบทสวด
สุดท้ายหลงั พิธีการทาบญุ ต่างๆ เพอื่ สง่ ต่อส่วนบุญให้แกผ่ อู้ ื่น
ส่วนอานิสงส์ทั่วไปของการแผ่เมตตา คือ ช่วยให้เราเป็นคนใจกว้าง
ช่วยฝึกจิตใหม้ ีความเมตตา ทาให้เกิดความสงบเยือกเย็นในใจ ทาให้สามารถ
พิจารณาความรัก โลภ โกรธ หลง ได้อย่างถ่องแท้ขึ้น อีกท้ังยังทาให้เกิด
ความรสู้ ึกปล่อยวางอกี ดว้ ย
๑๑๐
สว่ นที่ ๒ แนวทางการดาเนินงาน
๘.๑“การแผเ่ มตตาแก่ตนเอง”
อะหัง สุขโิ ต โหมิ อะหงั นิททกุ โข โหมิ
อะหัง อะเวโร โหมิ อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ
สุขี อัตตานัง ปะรหิ ะรามิ
คาแปล
ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์
ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ รักษากายวาจาใจให้พ้น จาก
ความทกุ ข์ภยั ท้งั ปวงเถดิ
๑๑๑
ส่วนท่ี ๒ แนวทางการดาเนนิ งาน
๘.๒ “ การแผ่เมตตาแก่ผอู้ ่ืน”
ขา้ พเจ้าขอตงั้ จิต อุทิศผล
บุญกุศลนแ้ี ผ่ไป ให้ไพศาล
ถึงบิดามารดา ครูอาจารย์
ทงั้ ลูกหลานญาติมิตร สนิทกัน
คนเคยชว่ ยกจิ การ งานทั้งหลาย
ขอให้ได้ในกุศล ผลของฉัน
ทั้งเจา้ กรรมนายเวร และเทวัญ
ขอให้ท่านได้กุศล ผลน้ีเทอญ.
๑๑๒
สว่ นท่ี ๓
การตดิ ตามประเมินผลการดาเนนิ งาน
สว่ นท่ี ๓ การตดิ ตามประเมินผลการดาเนินงาน
๓.๑ แนวทางการติดตามประเมินผลการดาเนนิ งาน
การขับเคลือ่ นโรงเรยี นรักษาศีล ๕ “สาหรับผบู้ รหิ ารโรงเรยี น”
ขนั้ ตอน ขั้นตอนกิจกรรม กจิ กรรม รายละเอยี ด รายละเอยี ด
ขัน้ ตอนที่ การกาหนด ผู้ บ ริ ห า ร ส ถ า น ศึ ก ษ า ม อ บ ห ม า ย ใ ห้ มี ค ณ ะ ท า ง า น ต า ม จ า น ว น
๑ ผรู้ บั ผดิ ชอบกจิ กรรม ที่เหมาะสมไดร้ ับผิดชอบการขับเคลอื่ นภารกิจโรงเรียนรักษาศลี ๕ โดยครู
ที่ได้รับมอบหมายสามารถเป็นผู้วางแผนกากับ ติดตาม เป็นพี่เลี้ยงใน
กจิ กรรมตา่ งๆของโรงเรียนรักษาศีล ๕ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
ข้นั ตอน กจิ กรรม รายละเอียด
ขน้ั ตอนที่ การดาเนนิ การกิจกรรม ผู้บริหารสถานศึกษาร่วมกับคณะทางานคัดเลือกกิจกรรมท่ีปรากฏ
๒ อย่ใู นคมู่ ือมาเปน็ กจิ กรรมท่ีจะสอดแทรกในรายวิชาเพ่ือบูรณาการเข้ากับ
งานขบั เคลอื่ นโรงเรยี นรกั ษาศีล ๕
๑๑๔
ส่วนที่ ๓ การติดตามประเมินผลการดาเนนิ งาน
ขัน้ ตอน กิจกรรม รายละเอยี ด
ขั้นตอนที่ การสือ่ สารกิจกรรม ผู้บรหิ ารสถานศึกษาและคณะทางานต้องมกี ารส่ือสารงานขบั เคล่อื น
๓ แกผ่ ู้เก่ยี วข้อง โรงเรียนรักษาศีล ๕ ให้ข้อมูลไหลเวียนให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทาง
โรงเรยี นไดร้ ับทราบ เขา้ ใจและพร้อมให้ความร่วมมอื
ขนั้ ตอน กจิ กรรม รายละเอยี ด
ข้นั ตอน กจิ กรรม รายละเอยี ด
ขัน้ ตอนท่ี การวิเคราะห์ผลลพั ธ์ ผู้บริหารสถานศกึ ษาและคณะทางานมีการรว่ มกันกาหนดเป้าหมาย
๔ การเปลยี่ นแปลง ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ทั้ ง เ ชิ ง ค ว า ม คิ ด แ ล ะ เ ชิ ง พ ฤ ติ ก ร ร ม ข อ ง นั ก เ รี ย น
กลุ่มเป้าหมาย โดยร่วมกาหนดข้อมูลเชิงปริมาณตามแบบประเมิน
เชิงปรมิ าณ โดยระบบ DE
ขนั้ ตอน กิจกรรม รายละเอียด
ขั้นตอนที่ การถอดบทเรยี น ผู้บรหิ ารสถานศึกษาและคณะทางานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียท้ังหมด
๕ จัดเวทีระดมความคิดเห็นถอดบทเรียนการขับเคลื่อนโรงเรียนรักษาศีล ๕ ใน
ประเด็นความสาเร็จที่เป็น Best Practiceปัจจัยท่ีผลักดันสู่ความสาเร็จ
๑๑๕ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมท่ีสอดคล้องกับหลักศีล ๕ ของกลุ่มเป้าหมาย
และปัญหาอุปสรรค เป็นต้น เพื่อสร้างสารสนเทศและนวัตกรรมส่งต่อสถาบัน
อ่ืนๆนาไปใช้ประโยชน์ และผลการถอดบทเรียนให้นาเสนอผ่านช่องทางส่ือ
ออนไลน์
สว่ นที่ ๓ การติดตามประเมนิ ผลการดาเนินงาน
๓.๒ แนวทางการตดิ ตามประเมินผลการดาเนินงาน
การขบั เคล่อื นโรงเรยี นรักษาศลี ๕ “สาหรบั คร”ู
ขนั้ ตอน ขน้ั ตอนกจิ กรรม กิจกรรม รายละเอียด รายละเอยี ด
ขั้นตอนท่ี คัดเลือกกิจกรรมศลี ๕ ครูผู้สอนที่ได้รับมอบหมายคัดเลือกกิจกรรมตามที่ปรากฎในคู่มือ
๑ แต่ละขอ้ หรือสามารถสร้างสรรค์กิจกรรมให้สอดคล้องกับบริบทของตนเองตาม
แทรกเข้าสบู่ ทเรยี น กรอบของศีล ๕ สอดแทรกเข้าสู่เนื้อหารายวิชา หรือสอดแทรกใน
กิจกรรมการจัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสม เช่น สอดแทรก
กิจกรรม “ชัว่ โมงสมั มาวาจา” เขา้ ในรายวชิ าภาษาไทย เปน็ ต้น
กิจกรรม “๔ C มธี รรม”
ขั้นตอน กจิ กรรม รายละเอียด
ขั้นตอนที่ “Campion” ครูผสู้ อนจัดกิจกรรมตามกรอบของศีล ๕ บรู ณาการกับการจัดการ
เรียนการสอนตามปกตเิ พ่ือใหผ้ ู้เรียนเกดิ การรบั รู้ เข้าใจ และส่งผลตอ่ การ
๒ จัดกจิ กรรมการรับรู้ เปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมในชวี ติ ประจาวนั
๑๑๖
ส่วนที่ ๓ การติดตามประเมนิ ผลการดาเนนิ งาน
ขั้นตอน กจิ กรรม รายละเอยี ด
ขน้ั ตอนท่ี “Connect” ในการจัดกิจกรรม ให้ใช้กระบวนการแลกเปล่ียนเรียนรู้ผ่าน
๓ เชื่อมโยงข้อมูลความรู้ กรณีศึกษานสถานการณ์จริง หรือสร้างสถานการณ์สมมติ ที่สามารถ
ข้นั ตอนสู่กิจกรรม ปลุกจติ สานึกของนักเรยี นให้เข้าใจถึงผลของการกระทาความดีตามหลัก
ศีล ๕ รายละเอียด
กิจกรรม
ข้นั ตอน กจิ กรรม รายละเอยี ด
ข้ันตอนที่ “Contest” ควรมีการนาผลการทากิจกรรมตามกรอบศีล ๕ มาขยายผล
๔ ในรูปแบบการสรา้ งแรงจงู ใจของใหน้ กั เรยี นได้เกิดความอยากท่ีจะปฏิบัติ
สร้างแรงจูงใจ ตามหลักศีล ๕ และปฏิเสธที่จะละเมิดศีล ๕ ด้วยการจดั ประกวด แข่งขัน
ผ่านกจิ กรรม เปน็ ตน้
ขนั้ ตอน กิจกรรม รายละเอียด
ขนั้ ตอนท่ี “Channel” นาผลของกจิ กรรมทไี่ ดจ้ ากการสอดแทรกในรายวิชา หรือจากการจดั
๕ กจิ กรรมเสรมิ หลกั สตู รตามทีไ่ ด้ดาเนนิ การไปนาเสนอออกสสู่ าธารณะผ่าน
นาเสนอความดี ช่องทางส่อื สงั คมออนไลน์
สูเ่ วทีสาธารณะ
๑๑๗
ส่วนท่ี ๓ การติดตามประเมินผลการดาเนนิ งาน
๓.๓ ตวั ชี้วัดความสาเร็จ
๑. นักเรียนในสถานศึกษา ร้อยละ ๘๐ สามารถสวดมนต์
และสมาทานศีล ๕ ได้ กิจกรรม รายละเอยี ด
ขน้ั ตอน
๒. นักเรียนต้ังใจเรียน มีทักษะความฉลาดทางอารมณ์
และมสี ติในการดาเนนิ ชวี ิตมากขนึ้
๓. นักเรียนสามารถนาหลักศีล ๕ ข้อ มาใช้ในการ
ดาเนินชีวิตประจาวัน มีความเอ้ือเฟ้ือเผื่อแผ่ รับผิดชอบ
ต่อหนา้ ท่ี และมจี ิตอาสารบั ผดิ ชอบตอ่ ส่วนรวม
๑๑๘
สว่ นที่ ๓ การตดิ ตามประเมินผลการดาเนินงาน
๓.๔ แนวทางการรายงานผลและเผยแพรก่ ิจกรรม
สถานศึกษา ที่เข้าร่ว ม โ ครงการเปิด เพจ Facebook
ช่ือเพจ “เยาวชนรักษ์ดี วิถีพุทธ...........(ระบุช่ือสถานศึกษา)”
ขต้ันัวตออยน่าง : เยาวชนรักษ์ดกี ิจกวริถรีพมุทธไร่ขิงวิทยา หรรืาอยเลผะยเแอพียดร่
ทางช่องทาง Social media อ่ืนๆ โดยให้โพสต์ภาพกิจกรรมตลอด
ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕
๑๑๙
๑๒๐ แบบประเมินตนเอง “โรงเรียนรกั ษาศีล ๕ ”
แบบประเมินตนเอง “โรงเรียนรกั ษาศีล ๕ ตน้ แบบ”
คณะกรรมการขบั เคลอื่ นโครงการสรา้ งความปรองดองสมานฉนั ท์
โดยใชห้ ลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บา้ นรกั ษาศีล ๕” แห่งชาติ
ออกแบบโดย
วิทยาลยั สงฆพ์ ุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั
๑๒๑ คาช้แี จง
กระบวนการประเมินโรงเรยี นรกั ษาศลี ๕ เป็นรปู แบบการประเมนิ เพื่อการพัฒนา (DE) โดยมุ่งเน้น
ผลลัพธ์ท่ีสามารถพฒั นาเป็นนวตั กรรมนาไปใช้ขยายผลในสถานศึกษาอน่ื ๆ ได้ โดยมขี ้ันตอนการประเมิน
๕ ข้นั ตอน ดังนี้
ขั้นตอน การกาหนดผู้รับผิดชอบกิจกรรม หมายถึง มีการมอบหมายให้มีคณะทางาน
ท่ี ๑ ตามจานวนทีเ่ หมาะสมได้รับผดิ ชอบการขบั เคล่ือนภารกิจโรงเรียนรักษาศีล ๕ โดยครู
ที่ได้รับมอบหมายสามารถเป็นผู้วางแผน กากับ ติดตาม เป็นพี่เล้ียงในกิจกรรมต่างๆ
ของโรงเรียนรกั ษาศลี ๕ ไดเ้ ปน็ อย่างดี
ขั้นตอน การดาเนินการกิจกรรม หมายถึง ผู้บริหารสถานศึกษาร่วมกับคณะทางาน
ที่ ๒ คัด เ ลื อ ก กิ จ ก ร ร ม ท่ี ป ร า ก ฎ อ ยู่ ใ น คู่ มื อ ม าเ ป็ น กิ จ ก ร ร ม ที่ จ ะ ส อ ด แ ท ร ก ใ น ร า ย วิ ช า
เพ่ือบูรณาการเข้ากับงานขบั เคล่ือนโรงเรยี นรกั ษาศลี ๕
ขน้ั ตอน การส่ือสารกิจกรรมแก่ผู้เกี่ยวข้อง หมายถึง การส่ือสารกิจกรรมแก่ผู้เก่ียวข้อง
ท่ี ๓ ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาและคณะทางานตอ้ งมกี ารส่อื สารงานขับเคลื่อนโรงเรียนรักษาศีล
๕ ให้ข้อมูลไหลเวียนให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางโรงเรียนได้รับทราบ เข้าใจและ
พร้อมใหค้ วามร่วมมอื
ข้นั ตอน การวเิ คราะห์ผลลพั ธ์การเปล่ียนแปลงเชงิ ปริมาณ หมายถึง ผู้บริหารสถานศึกษา
ที่ ๔ และคณะทางานมีการร่วมกันกาหนดเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงทั้งเชิงความคิด
และเชิงพฤติกรรมของนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย โดยร่วมกาหนดข้อมูลเชิงปริมาณตาม
แบบประเมนิ โดยระบบ DE
ขั้นตอน การถอดบทเรียน หมายถึง การถอดบทเรียน ผู้บริหารสถานศึกษาและคณะทางาน
ที่ ๕ ร่วมกับ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียท้ังหมดจัดเวทีระดมความคิดเห็นถอดบทเรียนการขับเคล่ือน
โรงเรียนรักษาศีล ๕ ในประเด็นความสาเร็จที่เป็น Best Practice ปัจจัยที่ผลักดันสู่
๑๒๒ ความสาเร็จ การเปล่ียนแปลงพฤติกรรมท่ีสอดคล้องกับหลักศีล ๕ ของกลุ่มเป้าหมาย และ
ปัญหาอุปสรรค เป็นต้น เพื่อสร้างสารสนเทศและนวัตกรรมส่งต่อสถาบันอ่ืนๆนาไปใช้
ประโยชน์ และผลการถอดบทเรียนให้นาเสนอผา่ นช่องทางส่อื ออนไลน์
๑๒๓ แบบบนั ทกึ ผลการทากจิ กรรม
กิจกรรมรกั ษาศีล ๕ กิจกรรมขับเคลอ่ื นในโรงเรียน ตัวช้ีวัด ระบผุ ล หนว่ ย ทา อธบิ ายกจิ กรรม
ใสเ่ ครอ่ื งหมาย ใน ( ) ที่ทา ที่ทาในรอบปี นบั ไม่ทา X ที่เปน็
Best Practice
๑.กิจ กรรม พ้ืนฐา น ( ) ๑.๑ การสวดมนต์และ ๑.๑ การสวดมนตห์ น้าเสาธง ครั้ง
“โรงเรยี นรักษา กจิ กรรมหน้าเสาธง คร้ัง
ศีล ๕” ( ๑.๒ การสมาทานศลี ๕ หน้าเสาธง ครง้ั
) ๑.๒ การสมาทานศลี ๕ คน
หน้าเสาธง ๑.๓ การทาสมาธิ ๕ นาทกี ่อนการเรยี น
กจิ กรรม
( ) ๑.๓ การทาสมาธิ ๕ นาที ๒.๑ มีการกาหนดกลุ่มแกนนานักเรียนเข้าร่วมใน ร้อยละ
กอ่ นการเรียน การรณรงค์ (จานวนนักเรียนท่ีเป็นแกนนาทา ชอ่ งทาง
กิจกรรม)
๒. กิจกรรม “เด็กรักษ์ ( ) ๒.๑ กจิ กรรม “อภัยโทษ ร้อยละ
ไม่โกรธกนั นะ” ๒.๒ มกี ารดาเนินกิจกรรมท่ีสอดคล้องกับศีลข้อที่ ๑
ดี ตามวถิ ีศลี ( (จานวนกจิ กรรม)
) ๒.๒ กิจกรรม “รักเขา
ขอ้ ท่ี ๑” เรารักษ์” ๒.๓ ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนทั้งหมด ใน
โรงเรยี นทเี่ ขา้ ร่วมกิจกรรม
( ) ๒.๓ กจิ กรรม “เมตตากัน
ปนั สขุ ” ๒.๔ มีการสื่อสารให้นักเรียนเข้าถึงข้อมูลกิจกรรม
อย่างท่ัวถึงภายในโรงเรียน (จานวนช่องทางในการ
สอ่ื สาร)
๒.๕ มีสถิตินักเรียนท่ีสามารถลดปัญหาการละเมิด
ศีลข้อที่ ๑ เช่น ปัญหาการทะเลาะวิวาทกันใน
โรงเรียน เป็นต้น ลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐(เมื่อ
เทยี บกับปีท่ีผ่านมา)
แบบบันทกึ ผลการทากจิ กรรม (ตอ่ )
กิจกรรมรกั ษาศลี ๕ กจิ กรรมขับเคลื่อนในโรงเรียน ตวั ชว้ี ดั ระบผุ ลทท่ี า หน่วย ทา คาอธบิ ายกิจกรรม
ใสเ่ คร่อื งหมาย ใน ( ) ที่ทา ในรอบปี นับ ทเ่ี ปน็
ไมท่ า X Best Practice
๒.๖ มีการถอดบทเรียนการลดปัญหา คร้ัง
ร่วมกับนักเรียนและเผยแพร่กิจกรรมผ่าน ช่องทาง
ทางส่อื สงั คมออนไลน์
คน
๓. กิจกรรม “เด็ก ( ) ๓.๑ กิจกรรม “รจู้ กั ใช้ สร้างการ ๓.๑ มีการกาหนดกลุ่มแกนนานักเรียนเข้า
กจิ กรรม
รกั ษด์ ี ตามวิถศี ีล ให้ไมร่ ูจ้ บ” ร่วมในการรณรงค์ (จานวนนักเรียนที่เป็น ร้อยละ
ช่องทาง
ข้อท่ี ๒” ( ) ๓.๒ กิจกรรม “สัมมาชพี แกนนาทากิจกรรม)
ร้อยละ
( ของหนู” ๓.๒ มีการดาเนินกิจกรรมที่สอดคล้องกับ คร้ัง
) ๓.๓ กจิ กรรม “ของหายไดค้ ืน” ศีลขอ้ ท่ี ๒ (จานวนกจิ กรรม)
๓.๓ ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนท้ังหมดใน
โรงเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม
๓.๔ มีการส่ือสารให้นักเรียนเข้าถึงข้อมูล
กจิ กรรมอยา่ งท่วั ถงึ ภายในโรงเรยี น (จานวน
ชอ่ งทางในการสือ่ สาร)
๑๒๔ ๓.๕ มสี ถติ นิ กั เรยี นทีส่ ามารถลดปัญหาการ
ละเมิดศีลข้อที่ ๒ เช่น ปัญหาของหาย
ลดลงไมน่ ้อยกว่าร้อยละ ๕๐ หรือ เมื่อของ
หายมีนักเรียนเก็บของได้นาคืนเจ้าของ
รอ้ ยละ ๕๐(เม่อื เทียบกบั ปีทผี่ ่านมา)เป็นต้น
๑๒๕ แบบบันทกึ ผลการทากจิ กรรม (ตอ่ )
กจิ กรรมรกั ษาศลี ๕ กิจกรรมขับเคลือ่ นในโรงเรยี น ตวั ชี้วัด ระบผุ ลท่ีทา หน่วย ทา คาอธบิ ายกิจกรรม
ใส่เคร่ืองหมาย ใน ( ) ท่ที า ในรอบปี นบั ไม่ทา X ทเี่ ป็น
Best Practice
๔. กิจกรรม “เด็ก ( ) ๔.๑ กิจกรรม “คนรูใ้ จ ๓.๖ มีการถอดบทเรียนการลดปัญหาร่วมกับ ชอ่ งทาง
ใช่เราเอง” นักเรียนและเผยแพร่กิจกรรมผ่านทางส่ือสังคม คน
รกั ษด์ ี ตามวิถีศลี ( ออนไลน์
) ๔.๒ กิจกรรม “น้าใส กิจกรรม
ขอ้ ที่ ๓” ใจจริง” ๔.๑ มีการกาหนดกลุ่มแกนนานักเรียนเข้าร่วม รอ้ ยละ
ในการรณรงค์ (จานวนนักเรียนท่ีเปน็ แกนนาทา ช่องทาง
( ) ๔.๓ กจิ กรรม “ขอบคุณ กิจกรรม) รอ้ ยละ
ที่รักตัวเอง”
๔.๒ มกี ารดาเนินกิจกรรมท่สี อดคล้องกับศีลข้อ ครง้ั
ที่ ๓ (จานวนกิจกรรม) ชอ่ งทาง
๔.๓ ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนท้ังหมดใน
โรงเรียนท่ีเขา้ ร่วมกจิ กรรม
๔.๔ มีการสื่อสารให้นักเรียนเข้าถึงข้อมูล
กิจกรรมอย่างท่ัวถึงภายในโรงเรียน (จานวน
ชอ่ งทางในการสื่อสาร)
๔.๕ มีสถิตินักเรียนท่ีสามารถลดปัญหา
การละเมิดศีลข้อที่ ๓ เช่น ปัญหาการทะเลาะ
วิวาทอนั มีสาเหตุจากเร่ืองรักในวัยเรียน เป็นต้น
ลดลงไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๕๐
(เมือ่ เทยี บกับปี ทผี่ ่านมา)
๔.๖ มีการถอดบทเรียนการลดปัญหาร่วมกับ
นักเรยี นและเผยแพร่กิจกรรมผ่านทางส่ือสังคม
ออนไลน์
แบบบันทึกผลการทากจิ กรรม (ตอ่ )
กจิ กรรมรกั ษาศีล ๕ กิจกรรมขับเคล่ือนในโรงเรยี น ตัวชว้ี ัด ระบผุ ลทท่ี า หน่วย ทา คาอธบิ ายกิจกรรม
ใสเ่ คร่ืองหมาย ใน ( ) ท่ีทา ในรอบปี นับ ไม่ทา X ทเี่ ป็น
Best Practice
๕. กจิ กรรม “เดก็ ( ) ๕.๑ กิจกรรม “วยั ใส ๕.๑ มีการกาหนดกลมุ่ แกนนานักเรียนเข้า คน
กิจกรรม
รกั ษ์ดี ตามวิถีศลี ไร้ Hate Speech” ร่วมในการรณรงค์ (จานวนนักเรียนท่ีเป็น
ข้อที่ ๔” ( ) ๕.๒ กจิ กรรม “วยั ใสไมห่ เู บา แกนนาทากิจกรรม)
: Anti Fake News” ๕.๒ มีการดาเนินกิจกรรมท่ีสอดคล้องกับ
( ) ๕.๓ กิจกรรม “สมั มาวาจา ศีลขอ้ ท่ี ๔ (จานวนกิจกรรม)
ภาษาดอกไม้”
๕.๓ ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนท้ังหมดใน กิจกรรม
โรงเรยี นท่ีเข้าร่วมกจิ กรรม
๕.๔ มีการสื่อสารให้นักเรียนเข้าถึงข้อมูล รอ้ ยละ
กิ จ ก ร ร ม อ ย่ า ง ท่ั ว ถึ ง ภ า ย ใ น โ ร ง เ รี ย น
(จานวนชอ่ งทางในการสือ่ สาร)
๕.๕ มีสถิตินักเรียนท่ีสามารถลดปัญหา ช่องทาง
การละเมิดศีลขอ้ ท่ี ๔ เชน่ ปัญหาการใชค้ า
ไม่สุภาพ ปัญหาการบูลล่ี (Bully)พูดจา
ด้วยค่าผู้อ่ืน เป็นต้น ลดลงไม่น้อยกว่า
ร้อยละ ๕๐(เมอื่ เทียบกบั ปที ผี่ า่ นมา)
๑๒๖ ๕.๖ มีการถอดบทเรียนการลดปัญหา คร้งั
ร่วมกับนักเรียนและเผยแพร่กิจกรรมผ่าน ชอ่ งทาง
ทางสือ่ สงั คมออนไลน์
๑๒๗ แบบบันทกึ ผลการทากจิ กรรม (ตอ่ )
กจิ กรรมรกั ษาศีล ๕ กจิ กรรมขับเคลือ่ นในโรงเรียน ตวั ช้วี ดั ระบุผลท่ที า หน่วย ทา คาอธิบายกิจกรรม
ใส่เครอ่ื งหมาย ใน ( ) ท่ีทา ในรอบปี นบั ไม่ทา X ทเี่ ปน็
Best Practice
๖. กิจกรรม “เด็ก ( ) ๖.๑ กจิ กรรม “ยาเสพติด ๖.๑ มกี ารกาหนดกลมุ่ แกนนานักเรียนเข้า คน
พิษร้ายของชวี ิต” ร่วมในการรณรงค์ (จานวนนักเรียนท่ีเป็น กจิ กรรม
รักษด์ ี ตามวถิ ีศลี ( แกนนาทากิจกรรม)
) ๖.๒ กจิ กรรม “กฬี า
ข้อที่ ๕” คือ ยาวิเศษ” ๖.๒ มีการดาเนินกิจกรรมที่สอดคล้องกับ
ศลี ขอ้ ท่ี ๕ (จานวนกจิ กรรม)
( ) ๖.๓ กจิ กรรม “จิตอาสา
พาทาดี”
๖.๓ ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนท้ังหมดใน ร้อยละ
โรงเรียนทเี่ ขา้ รว่ มกจิ กรรม
๖.๔ มีการสื่อสารให้นักเรียนเข้าถึงข้อมูล ช่องทาง
กิ จ ก ร ร ม อ ย่ า ง ทั่ ว ถึ ง ภ า ย ใ น โ ร ง เ รี ย น
(จานวนช่องทางในการสอ่ื สาร)
๖.๕ มีสถิตินักเรียนที่สามารถลดปัญหา ร้อยละ
การละเมิดศีลข้อท่ี ๕ เช่น ปัญหายา
เสพติด ปัญหาบุหร่ี เป็นต้น ลดลงไม่น้อย
กว่า รอ้ ยละ ๕๐(เมื่อเทยี บกับปีท่ีผ่านมา)
๖.๖ มีการถอดบทเรียนการลดปัญหา ครงั้
ร่วมกับนักเรียนและเผยแพร่กิจกรรมผ่าน ช่องทาง
ทางส่อื สังคมออนไลน์
แบบบันทึกผลการทากจิ กรรม (ตอ่ )
กจิ กรรมรกั ษาศีล ๕ กจิ กรรมขบั เคลอ่ื นในโรงเรยี น ตวั ช้ีวัด ระบุผลท่ที า หนว่ ย ทา คาอธบิ ายกจิ กรรม
ใสเ่ คร่อื งหมาย ใน ( ) ที่ทา ในรอบปี นับ ไม่ทา X ทเี่ ป็น
Best Practice
๗. กิจกรรม “การ ( ) ๗.๑ กจิ กรรม “ทาสมาธิ ๕นาที ๗.๑ มกี ารกาหนดกล่มุ แกนนานักเรียนเข้า คน
ฝึ ก ส ม า ธิ ใ ชี วิ ต กจิ กรรม
ประจาวันสาหรับ ( กอ่ นการเรยี น” ร่วมในการรณรงค์ (จานวนนักเรียนท่ีเป็น
เดก็ ” (
) ๗.๒ กจิ กรรม “ดนตรีสมาธิ” แกนนาทากจิ กรรม)
) ๗.๓ กิจกรรม “กาหนดสติ
ฝกึ สมาธกิ บั เพลง” ๗.๒ มีการดาเนินกิจกรรมท่ีสอดคล้องกับ
การฝึกสมาธิ (จานวนกจิ กรรม)
๗.๓ ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนทั้งหมดใน ร้อยละ
โรงเรยี นทเ่ี ขา้ ร่วมกจิ กรรม
๗.๔ มีการสื่อสารให้นักเรียนเข้าถึงข้อมูล ชอ่ งทาง
กิ จ ก ร ร ม อ ย่ า ง ทั่ ว ถึ ง ภ า ย ใ น โ ร ง เ รี ย น
(จานวนชอ่ งทางในการสื่อสาร)
๗.๕ มีสถติ นิ ักเรียนทีม่ ีผลการเรียนดีขึ้นไม่ รอ้ ยละ
นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (เมอ่ื เทียบกับปีท่ีผ่าน
มา)
๑๒๘ ๗.๖ มีการถอดบทเรียนการลดปัญหา ครัง้
ร่วมกับนักเรียนและเผยแพร่กิจกรรมผ่าน ชอ่ งทาง
ทางส่อื สงั คมออนไลน์
๑๒๙ แบบบนั ทึกผลการทากจิ กรรม (ตอ่ )
กิจกรรมรักษาศีล ๕ กจิ กรรมขับเคลือ่ นในโรงเรยี น ตวั ช้ีวัด ระบุผลท่ีทา หนว่ ย ทา คาอธบิ ายกจิ กรรม
ใส่เครอื่ งหมาย ใน ( ) ที่ทา ในรอบปี นบั ไมท่ า X ทเี่ ป็น
Best Practice
๘. กิจกรรม “แผ่ ( ) ๘.๑ กจิ กรรม “แผเ่ มตตา ๘.๑ มีการกาหนดกลุ่มแกนนานักเรียนเข้า คน
เมตตา พาสุขใจ” สาหรับตนเอง” ร่วมในการรณรงค์ (จานวนนักเรียนที่เป็น รอ้ ยละ
แกนนาทากิจกรรม)
( ) ๘.๒ กจิ กรรม “แผ่เมตตา
สาหรับผูอ้ ื่น” ๘.๒ ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนท้ังหมดใน
( โรงเรยี นที่เข้าร่วมกจิ กรรม
) ๗.๓ กิจกรรม “กาหนดสติ
ฝกึ สมาธิกับเพลง”
๑๓๐ (ตวั อย่าง) รายงานการแบบประเมนิ ตนเอง “โรงเรียนรักษาศีล ๕ ตน้ แบบ”
รายงานการแบบประเมินตนเอง “โรงเรยี นรกั ษาศีล ๕ ตน้ แบบ”
เสนอ
คณะกรรมการขับเคลอื่ นโครงการสรา้ งความปรองดองสมานฉนั ท์
โดยใชห้ ลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมูบ่ า้ นรักษาศีล ๕” แห่งชาติ
โดย
โรงเรยี นรกั ษด์ ี อาเภอสามพราน จงั หวัดนครปฐม
๑๓๑ ข้อมลู ท่วั ไป : โรงเรียนรกั ษาศลี ๕ @ โรงเรียนรักษด์ ี จังหวัดนครปฐม
ทีต่ ้งั : โรงเรยี นรักษ์ดี ตง้ั อยู่เลขท่ี ๑ หมู่ ๑ ตาบลไรข่ ิง อาเภอสามพราน จงั หวดั นครปฐม
เวบ็ ไซต์หลัก WWW.RukDee.ac.th๑๑๑, เพจเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/RukDee
ผู้บริหาร : นายมีศลี รักษ์ธรรม จานวนครูและบคุ ลากร : ๓๐ คน จานวนนักเรียน : ๑๕๐ คน
ผู้ประสานงาน : นายมีธรรม รักษ์ศีล เบอร์โทรศพั ท์ : ๐๐๐๑๑๑๒๒๒๒ Email : ๑๒๓@gmail.com
รางวัลทโี่ รงเรยี นภูมิใจ : รางวัลชนะเลศิ โรงเรียนส่งเสริมคณุ ธรรม ระดับภาค ครงั้ ที่ ๓ ปี ๒๕๖๔
การดาเนินงาน : คณะผู้บริหาร คณะครู และนักเรียน ได้ร่วมกันขับเคล่ือนโครงการดาเนินงานในการขับเคล่ือนโรงเรียนรักษาศีล ๕
@ โรงเรยี นรักษด์ ี จงั หวัดนครปฐม โดยมีการดาเนนิ งาน ดังนี้
๑) โรงเรียนได้แต่งตั้งคณะทางาน จานวน ๑๕ คน ประกอบด้วยผู้บริหาร ๑ คน ผู้แทนจากครู ๘ คน และผู้แทนจากนักเรียน ๖ คน
โดยคณะทางานมหี น้าทว่ี างแผนการดาเนินงาน ตดิ ตามประเมนิ ผล รายงานผลต่อผู้บรหิ าร โดยกาหนดเปน็ ปฏิทนิ การทางานทีช่ ดั เจน
๒) คณะทางานได้ทาการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายและคัดเลือกกิจกรรมที่ปรากฏอยู่ในคู่มือขับเคล่ือนโรงเรียนรักษาศีล ๕ ไปกาหนดเป็น
แผนการดาเนินงานทสี่ อดคล้องกับกลมุ่ เปา้ หมาย และแผนการรายงานผล คือ กาหนดรายงานผลก่อนสิ้นสุดภาคการศึกษา ปีละ ๒ ภาคการศึกษา
ในส่วนการติดตามนั้นมีการติดตามผลระหว่างภาคการศึกษาโดยครูสามารถบูรณาการกิจกรรมเข้ากับกิจกรรมที่ทาอยู่แล้วในรายวิชาต่าง ๆ
เชน่ วฒั นธรรมไทย
๓) คณะทางานได้มีการสื่อสารประชาสัมพันธ์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมผ่านช่องทางต่าง ๆ อาทิ การประชุม บุคลากรและ
คณะกรรมการโรงเรียน การประชุมนกั เรียน ตลอดถงึ มีการทาแผนป้ายประชาสมั พนั ธ์ การประชาสัมพันธผ์ า่ นเวบ็ ไซต์และเพจเฟสบคุ๊ ของโรงเรยี น
๔) คณะทางานได้รวบรวมสรุปผลลัพธ์การเปล่ียนแปลงเชิงปริมาณตามเป้าหมายที่กาหนด รวมถึงมีการติดตามผลลัพธ์เชิง พฤติกรรม
ของกลุ่มเป้าหมาย จากผู้ปกครอง หรอื เพ่อื รว่ มห้อง เปน็ ต้น
๕) คณะทางานได้ทาการถอดบทเรียนความสาเร็จ โดยการจัดเวทีระดมความคิดเห็นถอดบทเรียนการขับเคล่ือนโรงเรียนรักษาศีล ๕
ในประเด็นความสาเร็จท่ีเปน็ Best Practice ปัจจัยทผี่ ลักดันสู่ความสาเร็จ การเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรมทสี่ อดคลอ้ งกับหลักศีล ๕ ของกลุ่มเป้าหมาย
และปญั หาอุปสรรค เป็นต้น รวมถึงการจัดทาสื่อสารสนเทศเผยแพร่กิจกรรมผ่านช่องทางส่ือออนไลน์ มีการจัดเวทีนาเสนอนวัตกรรม ความสาเร็จ
ทีจ่ ะเปน็ แนวทางให้สถาบนั อ่นื ๆ นาไปใช้ประโยชน์ได้
การประเมินผลการดาเนินงาน : คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการ ได้จัดทารายงานการติดตามประเมินผลการ ขับเคลื่อน
โรงเรยี นรักษาศลี ๕ @ โรงเรียนรักษด์ ี จังหวัดนครปฐม ดังนี้
ตัวอยา่ งรายงานผลการทากิจกรรม
กิจกรรมรกั ษาศลี ๕ กจิ กรรมขบั เคลอื่ นในโรงเรียน ตวั ชี้วัด ระบผุ ล ทา อธิบายกิจกรรม
ใสเ่ คร่อื งหมาย ใน ( ) ที่ทา ทท่ี าใน หนว่ ยนับ ทเี่ ปน็
รอบปี ไม่ทา X
Best Practice
๑.กิจกรรมพ้ืนฐาน ( ) ๑.๑ การสวดมนต์และ ๑.๑ การสวดมนตห์ น้าเสาธง ๒๐๐ ครั้ง - โรงเรียนรักษ์ดี มีการจัดกิจกรรมหน้าเสาธง
“โรงเรยี นรกั ษา กิจกรรมหนา้ เสาธง ๒๐๐ ครัง้ เป็นประจา โดยหลังจากเคารพธงชาติ มีการให้
ศีล ๕” ( ๑.๒ การสมาทานศีล ๕ หนา้ เสาธง ๒๐๐ ครง้ั ผู้แทนนักเรียนนาสวดมนต์ สมาทานศีล
) ๑.๒ การสมาทานศลี ๕ หน้าเสาธง หลังจากน้ันมีการทาสมาธิ ๕ นาที
( หนา้ เสาธง ๑.๓ การทาสมาธิ ๕ นาทีกอ่ น ก่อนก ารเรี ยน โ ดยมี ครูป ร ะจาช้ั นร่ว ม
การเรยี น ปฏิบัติด้วย ซ่ึงในปีการศึกษา ๒๕๖๔ มีวัน
) ๑.๓ การทาสมาธิ ๕ นาที เรียนท้ังหมด ๒๐๔ วัน มีการจัดกิจกรรม
พื้นฐาน “โรงเรียนรักษาศีล ๕” ครบท้ัง
ก่อนการเรียน ๓ กิจกรรม ได้จานวน ๒๐๐ วัน คดิ เป็น ๙๘ %
- จากการประเมินนักเรียนเป็นรายบุคคล
ในสาระการเรียนรู้ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม
พบว่า นักเรียนร้อยละ ๙๐ สามารถสวดมนต์
กล่าวคาสมาทานศีล ๕ กล่าวรับศีล ๕ ให้ได้
ด้วยตนเอง พร้อมท้ังเข้าใจความหมายของ
ศลี แต่ละข้อ
- จากการสังเกตพฤติกรรมนักเรียนในกิจกรรม
การน่ังสมาธิก่อนเรียน พบว่ามีพฤติกรรม
เ รี ย บ ร้ อ ย ม า ก ขึ้ น ต้ั ง ใ จ เ รี ย น ม า ก ขึ้ น
โดยนักเรียนกลุ่มเป้าหมายร้อยละ ๗๐ มีผล
การเรยี นดีข้ึนกว่าปีท่ีผา่ นมา
๑๓๒
๑๓๓ ตัวอยา่ งรายงานผลการทากจิ กรรม
กจิ กรรมรกั ษาศลี ๕ กิจกรรมขับเคลื่อนในโรงเรียน ตัวชวี้ ดั ระบผุ ล ทา อธิบายกิจกรรม
ใสเ่ ครือ่ งหมาย ใน ( ) ท่ที า ทท่ี าใน หน่วยนับ ทเี่ ปน็
รอบปี
ไม่ทา X Best Practice
๒. กิจกรรม “เด็ก ( ) ๒.๑ กจิ กรรม “อภัยโทษ ๒.๑ มีการกาหนดกลุ่มแกนนานักเรียน ๕๐ คน - จากการขับเคลื่อนกิจกรรม “อภัยโทษ ไม่
ไมโ่ กรธกันนะ” เขา้ รว่ มในการรณรงค์ (จานวนนักเรียน กจิ กรรม โกรธกันนะ” และ “เมตตากัน ปันสุข” ได้ใช้
รักษ์ดี ตามวิถีศลี ท่ีเปน็ แกนนาทากิจกรรม) ๓ ร้อยละ ตัวอยา่ งในห้องเรียนซงึ่ มกี รณกี ารกล่ันแกล้งกัน
) ๒.๒ กจิ กรรม“รกั เขา ๙๐ ช่องทาง บ่อยๆ จากการท่ีได้มีกิจกรรมร่วมกันบ่อยๆ
ข้อที่ ๑” ( เรารักษ์” ๒.๒ มีการดาเนินกิจกรรมท่ีสอดคล้อง นักเรียนได้เรียนรู้เข้าใจในความเท่าเทียมกัน
กบั ศลี ขอ้ ที่ ๑ (จานวนกจิ กรรม) ร้อยละ ของศักดิศ์ รีความเปน็ มนษุ ย์ เคารพสิทธิของกัน
( ) ๒.๓ กิจกรรม “เมตตากัน และกัน เอื้อเฟื้อกัน ทาให้ลดปัญหาการกลั่น
ปันสขุ ” ๒.๓ ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนท้ังหมด คร้งั แกลง้ ในห้องเรียน การทะเลาะวิวาทกัน จากปี
ในโรงเรียนท่ีเขา้ ร่วมกจิ กรรม ช่องทาง ท่ีผ่านมา มีปัญหาดงั กล่าวถึง ๒๕ เรือ่ ง จากปีท่ี
ผ่านมามีเพียง ๕ เรื่อง คือ สามารถลด
๒.๔ มีการสื่อสารให้นักเรียนเข้าถึง ๓ กิจกรรมการทะเลาะวิวาทได้คิดเป็นร้อยละ
ข้ อ มู ล กิ จ ก ร ร ม อ ย่ า ง ทั่ ว ถึ ง ภ า ย ใ น ๘๐ จากปที ผี่ า่ นมา
โรงเรียน (จานวนช่องทางในการ - จากการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนจาก
สอื่ สาร) การได้ฝึกปฏิบัติการรักษาศีล ข้อท่ี ๑ ใน
กิจกรรมต่าง ๆ ผล คือ นักเรียนได้รับการ
๒.๕ มีสถิตนิ ักเรียนที่สามารถลดปัญหา ๘๐ ปลูกฝังในการเคารพความเท่าเทียมกัน ปลูกฝัง
การละเมิดศีลข้อท่ี ๑ เช่น ปัญหาการ ให้นกั เรยี นมคี วามรัก ความสามคั คี ไม่ก่อความ
ทะเลาะวิวาทกันในโรงเรียน เป็นต้น ทะเลาะวิวาท ในการอยรู่ ว่ มกบั ผอู้ ื่น ปลูกฝังให้
ลดลงไมน่ ้อยกว่าร้อยละ ๕๐ เป็นผู้มีจิตใจเมตตา เอ้ือเฟ้ือ รู้จักการเสียสละ
(เม่ือเทยี บกับปที ผ่ี า่ นมา) มจี ิตสาธารณะชว่ ยเหลอื ประโยชน์ส่วนรวม
- นอกจากน้ีโรงเรียนยังได้ประชาสัมพันธ์ให้
๒.๖ มีการถอดบทเรียนการลดปัญหา ๔ นักเรียนได้รับรู้ถึงแนวทางการปฏิบัติตนในศีล
ร่วมกับนักเรียนและเผยแพร่กิจกรรม ๒ ข้อที่ ๑ ผ่านบอร์ดประชาสัมพันธ์ และเพจ
ผา่ นทางส่ือสังคมออนไลน์ โรงเรียน
ตวั อย่างรายงานผลการทากิจกรรม
กิจกรรมรักษาศลี ๕ กิจกรรมขับเคล่ือนในโรงเรยี น ตวั ชี้วัด ระบผุ ล ทา อธิบายกจิ กรรม
ใส่เคร่อื งหมาย ใน ( ) ทท่ี า ทท่ี าใน หน่วยนบั ทเี่ ป็น
รอบปี ไมท่ า X
Best Practice
๓. กิจกรรม “เด็ก ( ) ๓.๑ กิจกรรม “รจู้ ักใช้ ๓.๑ มีการกาหนดกลุ่มแกนนานักเรียน ๕๐ คน - จากการขบั เคลื่อนกิจกรรม เด็กรักษ์ดีตามวิถี
รักษ์ดี ตามวิถีศีลข้อ สรา้ งการให้ไมร่ ู้จบ” เข้ารว่ มในการรณรงค์ (จานวนนักเรียน ๓ กิจกรรม ศีลข้อท่ี ๒ มีการรณรงค์ให้นักเรียนรู้จักใช้จ่าย
ท่ี ๒” ( ที่เปน็ แกนนาทากิจกรรม) ๙๐ รอ้ ยละ ให้เหมาะสมฐานะ (รจู้ ักใช้ สร้างการใหไ้ ม่รู้จบ”
) ๓.๒ กิจกรรม “สัมมาชีพ ๓ ช่องทาง รู้จกั อดออมใช้จ่ายแบบพอเพยี ง “สมั มาชีพของ
( ของหนู” ๓.๒ มีการดาเนินกิจกรรมที่สอดคล้อง หนู” และมีความประพฤติสุจริต “ของหาย
กับศีลขอ้ ท่ี ๒ (จานวนกิจกรรม) ๘๐ รอ้ ยละ ได้คืน” พบว่าปัญหาของหายของนักเรียน
) ๓.๓ กิจกรรม “ของหาย ลดลงจากเดิมในปีที่ผ่านมามีสถิติของหาย
ไดค้ นื ” ๓.๓ ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนทั้งหมด ๔ ครงั้ ๔๐ เรือ่ ง ส่วนในปี๒๕๖๔ มีสถิติของหายเพียง
ในโรงเรียนที่เขา้ ร่วมกิจกรรม ๒ ชอ่ งทาง ๙ เร่ือง และมีสถิติของหายที่ได้คืนร้อยละ ๗๐
นอกจากนั้นยงั มีสร้างค่านยิ มสจุ ริตโดยนักเรียน
๓.๔ มีการส่ือสารให้นักเรียนเข้าถึง ประถมศึกษาชั้นปีที่ ๕ ห้อง ๑ โดยการนาของ
ข้ อ มู ล กิ จ ก ร ร ม อ ย่ า ง ทั่ ว ถึ ง ภ า ย ใ น ครูประจาชั้นได้มีการรวมกลุ่ม “ออมเงิน
โรงเรียน (จานวนช่องทางในการ วันละบาท” เม่อื ส้ินสุดภาคเรียนและเปิดเทอม
ส่อื สาร) ใหม่ นักเรียนก็ได้นาเงินส่วนน้ีไปซ้ืออุปกรณ์
การเรียนของตนเอง เป็นการรู้จัดอดออม
๓.๕ มีสถติ นิ กั เรียนท่ีสามารถลดปัญหา และช่วยพ่อแมป่ ระหยัดคา่ ใชจ้ ่ายได้
การละเมิดศีลข้อที่ ๒ เช่น ปัญหาของ - นอกจากนี้โรงเรียนนากิจกรรมของนักเรียน
หาย ลดลงไมน่ ้อยกว่าร้อยละ ๕๐ หรือ ช้ัน ป.๕/๑ เป็นกิจกรรมต้นแบบ ให้นักเรียน
เม่ือของหายมีนกั เรยี นเก็บของได้นาคืน ช้ันอ่ืน ๆ ได้เรียนรู้ โดยได้มอบหมายให้ครู
เจ้าของร้อยละ ๕๐ (เม่ือเทียบกับปีท่ี ป ร ะ จ า ชั้ น ส รุ ป บ ท เ รี ย น ร่ ว ม กั บ นั ก เ รี ย น
ผ่านมา) เป็นตน้ และเผยแพรผ่ ่านเว็บไซตแ์ ละเพจของโรงเรยี น
๑๓๔ ๓.๖ มีการถอดบทเรียนการลดปัญหา
ร่วมกับนักเรียนและเผยแพร่กิจกรรม
ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์
๑๓๕ ตวั อย่างรายงานผลการทากจิ กรรม
กจิ กรรมรักษาศีล ๕ กิจกรรมขับเคลอ่ื นในโรงเรียน ตวั ช้ีวัด ระบผุ ล ทา อธบิ ายกจิ กรรม
ใส่เครือ่ งหมาย ใน ( ) ท่ที า ทท่ี าใน หน่วยนับ ทเี่ ปน็
รอบปี ไมท่ า X
Best Practice
๔. กิจกรรม “เด็ก ( ) ๔.๑ กิจกรรม “คนรใู้ จ ๔.๑ มกี ารกาหนดกลุ่มแกนนานักเรียน ๕๐ คน - จากการขับเคลื่อนกิจกรรม เด็กรักษ์ดีตามวิถี
รักษ์ดี ตามวิถีศีลข้อ ใช่เราเอง” เข้ารว่ มในการรณรงค์ (จานวนนักเรียน ๓ กจิ กรรม ศีลข้อท่ี ๓ กิจกรรม “คนรู้ใจ ใช่เราเอง”
ท่ี ๓” ( ท่ีเป็นแกนนาทากจิ กรรม) ๙๐ รอ้ ยละ กิจกรรม “น้าใส ใจจริง” กิจกรรม “ขอบคุณท่ี
) ๔.๒ กจิ กรรม “นา้ ใส ๓ ช่องทาง รักตัวเอง” มีการรณรงค์ให้นักเรียนรู้การ
( ใจจริง” ๔.๒ มีการดาเนินกิจกรรมที่สอดคล้อง เคารพในสิทธิผู้อ่ืนรู้จักหน้าท่ีในวัยของตน คือ
กับศีลขอ้ ท่ี ๓ (จานวนกิจกรรม)) ๙๕ ร้อยละ การตัง้ ใจเรยี น หลีกเล่ียงการเสพสื่อท่ีหมิ่นเหม่
) ๔.๓ กจิ กรรม “ขอบคณุ ไปทางเพศ จนถึงให้นักเรียนได้เรียนรู้และ
ทีร่ ักตวั เอง” ๔.๓ ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนทั้งหมด เคารพตนเอง รักตนเอง โยการทาตามหน้าท่ี
ในโรงเรียนท่ีเขา้ ร่วมกิจกรรม ของตนเองในฐานะเป็นนักเรียน ในฐานะเป็น
ลูก ซึ่งผลจากกิจกรรมพบว่าในปี ๒๕๖๔ มี
๔.๔ มีการส่ือสารให้นักเรียนเข้าถึง ปญั หาการทะเลาะวิวาทเนื่องจากเร่ืองรักในวัย
ข้ อ มู ล กิ จ ก ร ร ม อ ย่ า ง ทั่ ว ถึ ง ภ า ย ใ น เรียน เพียง ๑ เรอ่ื งเท่านน้ั
โรงเรียน (จานวนช่องทางในการ - โรงเรียนได้ทาสื่อกิจกรรมให้เห็นถึงอันตราย
สือ่ สาร) ในวัยเรียน สื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมให้
นักเรียนรู้จักรักษ์ตัวเอง และเคารพสิทธิผู้อ่ืน
๔.๕ มสี ถิตนิ ักเรยี นท่ีสามารถลดปัญหา เผยแพร่ผ่านทางเวบ็ ไซตแ์ ละเพจของโรงเรยี น
การละเมิดศีลข้อท่ี ๓ เช่น ปัญหาการ
ทะเลาะวิวาทอันมสี าเหตจุ ากเรือ่ งรักใน
วัยเรียน เป็นต้น ลดลงไม่น้อยกว่าร้อย
ละ ๕๐ (เมือ่ เทยี บกบั ปีทผ่ี า่ นมา)
๔.๖ มีการถอดบทเรียนการลดปัญหา ๔ คร้งั
ร่วมกับนักเรียนและเผยแพร่กิจกรรม ๒ ช่องทาง
ผา่ นทางสอ่ื สังคมออนไลน์
ตวั อย่างรายงานผลการทากิจกรรม
กจิ กรรมรักษาศีล ๕ กิจกรรมขบั เคลอ่ื นในโรงเรยี น ตวั ชี้วัด ระบผุ ล ทา อธบิ ายกจิ กรรม
ใสเ่ ครอ่ื งหมาย ใน ( ) ท่ีทา ทท่ี าใน หน่วยนับ ไมท่ า X ทเ่ี ปน็
รอบปี
Best Practice
๕. กิจกรรม “เด็ก ( ) ๕.๑ กิจกรรม “วัยใส ไร้ ๕.๑ มีการกาหนดกลุ่มแกนนานักเรียน ๕๐ คน - จากการขบั เคลื่อนกจิ กรรม เด็กรักษ์ดีตามวิถีศีล
รักษ์ดี ตามวิถีศีลข้อ กจิ กรรม ข้อท่ี ๔ มีการส่งเสรมิ การขับเคล่อื นสัมมาวาจาใน
ท่ี ๔” ( Hate Speech” เขา้ รว่ มในการรณรงค์ (จานวนนักเรียน ๓ ร้อยละ โรงเรยี นผ่านกจิ กรรม “วัยใส ไร้ Hate Speech”
๙๕ ชอ่ งทาง กิจกรรม “วัยใสไม่หูเบา : Anti Fake News”
( ) ๕.๒ กิจกรรม“วัยใสไม่หเู บา ท่ีเปน็ แกนนาทากจิ กรรม) กิจกรรม “สัมมาวาจา ภาษาดอกไม้” โดยได้
ร้อยละ รว่ มกบั วิทยาลัยสงฆพ์ ุทธปญั ญาศรีทวารวดีในการ
: Anti Fake News” ๕.๒ มีการดาเนินกิจกรรมที่สอดคล้อง จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ ซ่ึงได้มีครูและ
) ๕.๓ กจิ กรรม “สัมมาวาจา กบั ศีลข้อที่ ๔ (จานวนกจิ กรรม) ครัง้ นักเรียนผ่านการอบรมถึงร้อยละ ๙๕ และมีสถิติ
ช่องทาง การทะเลาะววิ าทอันเนอ่ื งมาจากการบูลล่ี (Bully)
ภาษาดอกไม”้ ลดลงจากปีทผี่ า่ นมา ร้อยละ ๘๐ คอื ในปี ๒๕๖๓
มเี รื่องรอ้ งเรยี นการทะเลาะวิวาทกันจากการบูลลี่
๕.๓ ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนทั้งหมด ๒๐ เรอื่ ง ในปี ๒๕๖๔ มีเพยี ง ๕ เร่อื งเทา่ นนั้
ในโรงเรียนท่เี ขา้ รว่ มกิจกรรม - จากการสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนจากการได้
ฝกึ ปฏิบตั กิ ารรกั ษาศีล ข้อที่ ๔ ในกิจกรรมต่าง ๆ
๕.๔ มีการส่ือสารให้นักเรียนเข้าถึง ๓ ผล คือ นักเรียนได้ฝึกการใช้วาจาท่ีชอบ มีความ
ข้ อ มู ล กิ จ ก ร ร ม อ ย่ า ง ทั่ ว ถึ ง ภ า ย ใ น เคารพต่อครูอาจารย์ ผู้ปกครอง พูดจาไพเราะขึ้น
โรงเรียน (จานวนช่องทางในการ ใช้คา Hate Speech ในการพูดคุยกับเพ่ือน ๆ
สอื่ สาร) น้อยลง
- นอกจากนี้ โรงเรียนได้สนับสนุนให้นักเรียน
๕.๕ มีสถติ ินกั เรยี นที่สามารถลดปัญหา ๘๐ จัดทาโครงงานขับเคลื่อนสัมมาวาจา ได้จัดทาส่ือ
การละเมิดศีลข้อที่ ๔ เช่น ปัญหาการ “เราเลิกกันเถอะ Hate Speech” เผยแพร่ผ่าน
ใช้คาไม่สุภาพ ปัญหาการบูลล่ี (Bully) เว็บไซต์และเพจของโรงเรียน และได้รับรางวัล
พูดจาด้วยค่าผู้อ่ืน เป็นต้น ลดลงไม่ ส่งเสริมคุณธรรมสัมมาวาจา จากวิทยาลัยสงฆ์
น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ (เมื่อเทียบกับปีที่ พุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง
ผ่านมา) กรณราชวทิ ยาลัย
๑๓๖ ๕.๖ มีการถอดบทเรียนการลดปัญหา ๔
ร่วมกับนักเรียนและเผยแพร่กิจกรรม ๒
ผ่านทางสือ่ สงั คมออนไลน์
๑๓๗ ตัวอยา่ งรายงานผลการทากิจกรรม
กจิ กรรมรกั ษาศลี ๕ กิจกรรมขบั เคล่อื นในโรงเรียน ตัวช้ีวัด ระบผุ ล ทา อธิบายกจิ กรรม
ใสเ่ ครื่องหมาย ใน ( ) ทที่ า ทที่ าใน หน่วยนับ ทเี่ ป็น
รอบปี ไม่ทา X
Best Practice
๖. กิจกรรม “เด็ก ( ) ๖.๑ กิจกรรม “ยาเสพติด ๖.๑ มีการกาหนดกลุ่มแกนนานักเรียน ๕๐ คน - จากการขบั เคล่ือนกิจกรรม เด็กรักษ์ดีตามวิถี
รักษ์ดี ตามวิถีศีลข้อ พษิ ร้ายของชีวติ ” เข้ารว่ มในการรณรงค์ (จานวนนักเรียน ๓ กิจกรรม ศีลข้อท่ี ๕ มีการส่งเสริมกิจกรรม “ยาเสพติด
ท่ี ๕” ( ท่ีเปน็ แกนนาทากจิ กรรม) ๙๐ รอ้ ยละ พิษร้ายของชีวิต” ๒. กิจกรรม “กีฬา คือ ยา
) ๖.๒ กิจกรรม “กฬี า คือ ๓ ช่องทาง วิเศษ” กิจกรรม “จิตอาสาพาทาดี” โดยได้
( ยาวิเศษ” ๖.๒ มีการดาเนินกิจกรรมท่ีสอดคล้อง ร่วมองค์การปกครองส่วนท้องถ่ิน จัดกิจกรรม
กบั ศลี ขอ้ ที่ ๕ (จานวนกิจกรรม) ๑๐๐ รอ้ ยละ รณรงค์เพื่อให้เห็นพิษภัยของสุรา บุร่ี และยา
) ๖.๓ กจิ กรรม “จิตอาสา เสพติด อาทิ “วันต่อต้านยาเสพติดโลก” “วัน
พาทาดี” ๖.๓ ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนท้ังหมด งดบุหรี่โลก” “วันงดสุราแห่งชาติ” “งดเหล้า
ในโรงเรยี นท่เี ขา้ รว่ มกิจกรรม เข้าพรรษา” นอกจากน้ียังมีการจัดกิจกิจกรรม
เช่น “กฬี าสี ตา้ นภยั ยาเสพติด” กิจกรรม “จิต
๖.๔ มีการส่ือสารให้นักเรียนเข้าถึง อาสาพาทาดี” พบว่า ปัญหาเร่ืองการแอบสูบ
ข้ อ มู ล กิ จ ก ร ร ม อ ย่ า ง ทั่ ว ถึ ง ภ า ย ใ น บหุ ร่ี ปญั หาการเลน่ พนนั ลดลงร้อยละ ๑๐๐
โรงเรียน (จานวนช่องทางในการ - จากการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนจาก
สอื่ สาร) การได้ฝึกปฏิบัติการรักษาศีล ข้อที่ ๕ ใน
กิจกรรมต่าง ๆ ผล คือ นักเรียนได้ใช้เวลาว่าง
๖.๕ มสี ถิตินักเรียนท่ีสามารถลดปัญหา ให้เกิดประโยชน์ คือ การเล่นกีฬาออกกาลัง
การละเมิดศีลข้อท่ี ๕ เช่น ปัญหายา กายบา้ ง การมีส่วนร่วมทางสังคมในกิจกรรมจิต
เสพติด ปัญหาบุหร่ี เป็นต้น ลดลงไม่ อาสาบ้าง ทาให้นักเรียนได้ออกกาลังกาย ใช้
น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ (เมื่อเทียบกับปีที่ เวลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์
ผา่ นมา) - นอกจากน้ี โรงเรยี นไดท้ ากจิ กรรมจิตอาสาทา
ความสะอาดวัด ทาให้นักเรียนได้ใกล้ชิดกับวัด
๖.๖ มีการถอดบทเรียนการลดปัญหา ๔ ครงั้ มากขึน้ และโรงเรยี นยงั ได้ทาสือ่ ประชาสัมพันธ์
ร่วมกับนักเรียนและเผยแพร่กิจกรรม ๒ ช่องทาง กิจกรรมจิตอาสาของนักเรยี น เผยแพร่ผ่านทาง
ผา่ นทางสอ่ื สังคมออนไลน์ เวบ็ ไซต์และเพจของโรงเรียน
ตัวอยา่ งรายงานผลการทากิจกรรม
กจิ กรรมรักษาศีล ๕ กิจกรรมขบั เคลอื่ นในโรงเรียน ตวั ชวี้ ัด ระบผุ ล ทา อธิบายกิจกรรม
ใสเ่ ครอื่ งหมาย ใน ( ) ทที่ า ทที่ าใน หนว่ ยนับ ทเ่ี ป็น
รอบปี
ไมท่ า X Best Practice
๗. กิจกรรม “การ ( ) ๗.๑ กิจกรรม “ทาสมาธิ ๕ ๗.๑ มีการกาหนดกลุ่มแกนนานักเรียน ๕๐ คน - จากการขับเคลื่อนกิจกรรม “การ ฝึกสมาธิ
ฝกึ สมาธใิ นชวี ิต นาทกี ่อนการเรยี น” เข้ารว่ มในการรณรงค์ (จานวนนักเรียน ๓ ในชีวิตประจาวันสาหรับเด็ก” มีกิจกรรม
ประจาวันสาหรับ กจิ กรรม “ทาสมาธิ ๕ นาทีก่อนการเรียน” กิจกรรม
เดก็ ” ( ) ๗.๒ กจิ กรรม “ดนตรี ทีเ่ ป็นแกนนาทากิจกรรม) ร้อยละ “ดนตรีสมาธิ” และ กิจกรรม “กาหนดสติ
สมาธิ” ช่องทาง ฝึกสมาธิกับเพลง” มีการรณรงค์ให้นักเรียน
ได้เรียนรู้การทาสมาธิแบบง่ายๆ ที่เด็กก็ทาได้
( ) ๗.๓ กิจกรรม “กาหนดสติ ๗.๒ มีการดาเนินกิจกรรมท่ีสอดคล้อง ในระหว่างวัน
ฝกึ สมาธกิ ับเพลง” กับการฝกึ สมาธิ (จานวนกิจกรรม) - จากการสังเกตพฤติกรรมนักเรียนในกิจกรรม
การนั่งสมาธิก่อนเรียน พบว่ามีพฤติกรรม
๗.๓ ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนท้ังหมด ๙๐ เ รี ย บ ร้ อ ย ม า ก ข้ึ น ตั้ ง ใ จ เ รี ย น ม า ก ข้ึ น
ในโรงเรียนที่เข้ารว่ มกจิ กรรม โดยนักเรียนกลุ่มเป้าหมายร้อยละ ๗๐ มีผล
การเรยี นดขี ึน้ กว่าปที ่ผี ่านมา
๗.๔ มีการสื่อสารให้นักเรียนเข้าถึง ๓ - นอกจากนี้โรงเรียนเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์และ
ข้ อ มู ล กิ จ ก ร ร ม อ ย่ า ง ทั่ ว ถึ ง ภ า ย ใ น เพจของโรงเรยี น
โรงเรียน (จานวนช่องทางในการ
ส่ือสาร)
๗.๕ มีสถิตินักเรียนท่ีมีผลการเรียนดี ๘๐ ร้อยละ
ข้ึนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ (เมื่อเทียบ
กับปที ผ่ี า่ นมา)
๑๓๘ ๗.๖ มีการถอดบทเรียนการลดปัญหา ๔ ครง้ั
ร่วมกับนักเรียนและเผยแพร่กิจกรรม ๒ ช่องทาง
ผ่านทางส่อื สังคมออนไลน์
๑๓๙ ตัวอยา่ งรายงานผลการทากิจกรรม
กิจกรรมรักษาศีล ๕ กิจกรรมขบั เคล่อื นในโรงเรยี น ตัวช้วี ัด ระบผุ ล ทา อธบิ ายกิจกรรม
ใส่เครอ่ื งหมาย ใน ( ) ทที่ า ทท่ี าใน หน่วยนบั ทเี่ ป็น
รอบปี
ไมท่ า X Best Practice
๘. กจิ กรรม “แผ่ ( ) ๘.๑ กิจกรรม “แผเ่ มตตา ๘.๑ มกี ารกาหนดกลุ่มแกนนานักเรียน ๕๐ คน - จากการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน พบว่า
เมตตา พาสขุ ใจ” สาหรบั ตนเอง” เขา้ ร่วมในการรณรงค์ (จานวนนักเรียน ๙๐ มีพฤติกรรมเรียบร้อยมากขึ้น มีจิตเอื้อเฟื้อต่อ
เพื่อนและสัตว์มากขึ้น มีความเคารพผู้อ่ืน
( ) ๘.๒ กจิ กรรม “แผเ่ มตตา ทเี่ ปน็ แกนนาทากจิ กรรม) เห็นใจผู้อ่ืน มีจิตอาสาและช่วยเหลือกิจกรรม
สาหรับผ้อู นื่ ”
ร้อยละ สว่ นรวมมากข้ึน
๘.๒ ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนท้ังหมด
ในโรงเรยี นที่เขา้ รว่ มกจิ กรรม
๘ กิจกรรมขับเคล่ือนโรงเรยี นรักษาศีล ๕
กจิ กรรมพืน้ ฐาน “โรงเรยี นรักษาศีล ๕” กิจกรรม “เดก็ รักษ์ดี ตามวถิ ีศีล ข้อที่ ๑”
กิจกรรม “แผ่เมตตา พาสุขใจ”
กิจกรรม “การฝึกสมาธใิ นชวี ิตประจาวนั สาหรบั เดก็ ” กจิ กรรม “เดก็ รักษ์ดี ตามวถิ ศี ีล ข้อท่ี ๒”
๑๔๐ กจิ กรรม “เด็กรกั ษด์ ี ตามวถิ ศี ีล ข้อท่ี ๕” กจิ กรรม “เด็กรกั ษด์ ี ตามวิถีศีล ขอ้ ท่ี ๓”
“เดก็ รักษ์ดี ตามวถิ ศี ีล ขอ้ ท่ี ๔”
“ มีศลี มสี ุข มปี รองดอง
มสี มำนฉนั ท์ มสี ำมัคคี มสี ันติสุข ”
สำนักงำนโครงกำร "หมู่บำ้ นรักษำศีล ๕"
วดั ไร่ขงิ พระอำรำมหลวง เลขท่ี ๕๑ หม่ทู ่ี ๒
ตำบลไรข่ งิ อำเภอสำมพรำน จงั หวัดนครปฐม ๗๓๒๑๐