The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

อิฐดินซีเมนต์

อิฐดินซีเมนต์

ชดุ วิชา  อฐิ ดนิ ซเี มนต 

ศนู ยก ารศกึ ษานอกโรงเรยี นภาคตะวนั ออก 
สํานกั บรหิ ารงานการศกึ ษานอกโรงเรยี น 

กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ชดุ วิชา 

อฐิ ดินซเี มนต 

ศนู ยการศกึ ษานอกโรงเรยี นภาคตะวนั ออก 

สํานกั บรหิ ารงานการศึกษานอกโรงเรียน 
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คํานาํ  

ในปจจุบันรัฐบาลมีโครงการรณรงคให  ประชาชนหันมาใหความ 
สําคัญของการอนุรักษสิ่ งแวดลอม  รักษาปาไม  ตนนํ้าลําธาร  ลดการ 
ทําลายปาไม จึงดาํ เนินการทดลองวิจัย การนําดินซึ่งเปนวัสดุที่หางาย 
ราคาถูก  ทําเปนอิฐดินซีเมนต  โดยเลือกใชวัสดุอุปกรณ  และสวนผสม 
ท่ี ถูกตอง  รวมท้ั งการเก็บรักษาท่ีถูกวิธี    ผู สนใจจําเปนตองฝกทักษะ 
และหาประสบการณเ พ่อื จะไดผลผลติ และจําหนาย ได 

ศูนยการศึกษานอกโรงเรียนภาคตะวันออก    ไดจัดทําชุดวิชาน้ี 
เพื่อใหนักเรียน นักศึกษา และประชาชนท่ัวไปที่สนใจ  ไดศึกษาหา 
ความรูดวยตนเอง  เม่ือศึกษาวิชานี้แลว สามารถทําอิฐดินซีเมนตได 
เปนการสงเสริม  ใหประชาชนมีรายไดเสริมหรือประกอบอาชีพเล้ียง 
ตนเองและครอบครัว 

ศูนยการศึกษานอกโรงเรียนภาคตะวันออก    ขอขอบคุณ 
คณะกรรมการชุดวิชาและคณะกรรมการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร 
ทุกทา น ที่มสี วนรวมในการผลิตชุดวิชาไวใ นโอกาส นี้ดว ย 

ศูนยก ารศกึ ษานอกโรงเรียนภาคตะวนั ออก

สารบัญ

หนา 
คําแนะนําการใชช ุดวชิ า ........................................................... ก 
แบบทดสอบกอ นเรยี น .............................................................. ข 
โครงสรา งชดุ วชิ า ......................................................................ง 
ตอนท่ ี 1  ความเปนมาของอฐิ ดนิ ซเี มนต ...........................1 

1.  ความเปน มาของอฐิ ดนิ ซเี มนต .................................2 
2.  คณุ ลกั ษณะของดนิ ทน่ี ํามาทาํ อฐิ ดนิ ซเี มนต..............2 
ตอนที่  2  การใช บาํ รงุ รกั ษา เครอ่ื งมอื อปุ กรณ....................4 
1.  เครอ่ื งมอื  อปุ กรณท ใ่ี ชท ําอฐิ ซเี มนต ..........................5 
2.  วธิ ใี ชเ ครอื่ งมอื  อปุ กรณ............................................7 
3.  การบาํ รงุ รกั ษาเครอื่ งมอื  อปุ กรณ ...............................8 
ตอนที่  3  สว นผสมของอฐิ ดนิ ซเี มนต ...............................9 
1.  วตั ถดุ บิ ทใ่ี ชใ นการทาํ อฐิ ดนิ ซีเมนต ....................... 10 
2.  อตั ราสว นผสมทใี่ ชท าํ อฐิ ดนิ ซเี มนต....................... 10 
ตอนที่  4  การทาํ อฐิ ดนิ ซเี มนต......................................... 11 

วธิ กี ารทาํ อฐิ ดนิ ซเี มนต .......................................... 12 
ตอนที่  5  การรกั ษาและจําหนา ยอฐิ ดนิ ซเี มนต ................. 16 

1.  การเกบ็ รกั ษาอฐิ ดนิ ซเี มนต ..................................... 17 
2.  การจําหนา ยอฐิ ดนิ ซเี มนต ...................................... 17 
กจิ กรรม .................................................................................. 19 
แบบทดสอบหลงั เรยี น ............................................................. 25 
เฉลยแบบทดสอบกอ นเรยี น-หลงั เรยี น .................................... 27 

รายการอา งองิ .......................................................................... 28 

อฐิ   ดนิ ซีเมนต  ก

คาํ แนะนาํ การใชช ดุ วชิ า 

1.  ชดุ วิชาอฐิ ดนิ ซเี มนต  ประกอบดวยเนอ้ื หา จาํ นวน 5 ตอน ผเู รียนสามารถ 
ศึกษาหาความรูไดดวยตนเองโดยผูเรียนตองศึกษา  โครงสรางชุดวิชานี้ 
ใหเขา ใจ แลววางแผนการเรยี นใหเหมาะสมกบั ตนเอง 
2.  ใหผูเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน แลวตรวจคําตอบกับคําเฉลยเพื่อ 
ตรวจสอบความรพู น้ื ฐานของตนเองกอนเรยี น 
3.  ควรศึกษาแนวคิด จุดประสงค ขอบขายเนื้อหาในแตละตอนใหเขาใจ 
เพอ่ื ทราบสาระสําคญั  และจดุ เนนในตอนน้ัน ๆ 
4.  ผูเรยี นตอ งปฏิบัตติ ามกิจกรรมที่กาํ หนดให จึงจะเปนแนวทางในการนํา 
ไปสกู ารเรยี นรแู ละปฏิบัตจิ ริงได 
5.  เมอ่ื ศกึ ษาทกุ ตอนแลว  ทําแบบทดสอบหลังเรยี น เพอ่ื ตรวจสอบความกา ว 
หนา  หากยังติดขัดหรือไมมั่นใจในเรอ่ื งใดใหกลับไปทบทวนใหม 

อฐิ   ดินซีเมนต  ข

แบบทดสอบกอ นเรยี น 

กอนที่ ผู เรียนจะตองศึกษารายละเอียดของชุดวิชาใหผู เรียนทําแบบ 
ทดสอบกอนเรียนเพื่อจะทราบวาผูเรียนมคี วามรูความเขาใจเก่ียวกบั เร่ืองน้ี 

เพียงใด โดยใหท าํ เครอื่ งหมาย (û) หนาขอท่ีถกู ตอ งทส่ี ุดเพียงขอ เดยี ว 

1.  วธิ ที ี่นยิ มใชใ นวงการกอ สรา งในปจจบุ นั มีอะไรบา ง 
ก.  อฐิ มอญ 
ข.  อฐิ อดั  
ค.  อฐิ ทนไฟ 
ง.  ถูกทุกขอ 

2.  อิฐทว่ั ไปมรี ปู รา งอยา งไร 
ก.  สเ่ี หลย่ี มจตุรสั  
ข.  สเี่ หลย่ี มผนื ผา  
ค.  ส่เี หลยี่ มดานเทา  
ง.  สเ่ี หลยี่ มมมุ ฉาก 

3.  โดยท่ัวไปขนาดของอิฐจะมคี วามยาวเปนก่ีเทาของดานกวาง 
ก.  1 เทาของดานกวา ง 
ข.  2 เทา ของดา มกวาง 
ค.  3 เทา ของดา นกวา ง 
ง.  4 เทา ของดานกวา ง 

4.  ดนิ ท่ีเหมาะสมกับการนาํ มาทาํ อฐิ ดินซีเมนตคือดนิ ชนดิ ใด 
ก.  ดินปนทรายสแี ดง 
ข.  ดินลูกรงั สแี ดง 
ค.  ดินหนิ ชะนวนผุ 
ง.  ถูกทุกขอ 

5.  อปุ กรณท ่ีมคี วามจําเปนนอยทสี่ ุดในการทาํ อิฐดินซเี มนตคอื ขอใด 
ก.  พลั่ว 
ข.  จอบ 
ค.  ปบหรอื กระปอง 
ง.  สายวดั  

อิฐ  ดนิ ซเี มนต  ค

6.  สวนผสมของอฐิ ดินซเี มนตป ระกอบดวยอะไรบาง 
ก.  ดนิ เหนยี ว ข้เี ถา แกลบ ยิบซ่ัม 
ข.  ดนิ ปนทรายสีแดง ปนู ซเี มนต นํา้  
ค.  ดนิ ปนทรายสแี ดง ทราย ยิบซ่ัม 
ง.  ดินเหนียว ดินดาน ทราย 

7.  ดินทไ่ี มควรนาํ มาเปนสวนผสมของอิฐดินซเี มนต คอื ขอใด 
ก.  ดินเหนยี ว 
ข.  ดินปนทรายสีแดง 
ค.  ดินดาน 
ง.  ดินทราย 

8.  อตั ราสว นผสมทเ่ี หมาะสมในการทาํ อฐิ ดินซีเมนต   ควรจะใชป นู ซเี มนต 
ตอ ดนิ ปนทรายสีแดงอตั ราสวนเทา ไร 
ก.  ปนู ซีเมนต  1  สว นดินปนทรายสีแดง  4  สว น 
ข.  ปนู ซีเมนต  1  สว นดนิ ปนทรายสีแดง  6  สว น 
ค.  ปูนซีเมนต  1  สว นดินปนทรายสแี ดง  8  สว น 
ง.  ปูนซีเมนต  1  สว นดินปนทรายสีแดง  9  สว น 

9.  ลกั ษณะของอิฐดินซีเมนตที่ไมด คี ือขอ ใด 
ก.  มคี วามเหนยี ว ไมแตกงา ย 
ข.  มรี อยพรนุ และรอยแตก 
ค.  มีความแข็งแรงทนทาน 
ง.  ขนาดเทา กันทกุ อัน 

10.  การนาํ อิฐดนิ ซเี มนตไปบม โดยการรดน้าํ ก่วี ันจึงจะนําไปใชง านได 
ก.  3 วัน 
ข.  5 วนั  
ค.  6 วนั  
ง.  7 วัน 

อฐิ   ดนิ ซเี มนต  ง

โครงสรา งชุดวชิ า 

อิฐดินซีเมนต 

สาระสําคัญ 

ในปจจุบนั  รัฐบาลมีโครงการรณรงคใหป ระชาชนหันมาใหความ 
สนใจความสําคัญของการอนุรักษสิ่งแวดลอม  รักษาปาไม  ตนไม  ลําธาร 
ลดการทําลายปาไม จงึ ดําเนินการทดลอง วิจัยการนําดนิ ซึง่ เปนวัสดุท่ีหางา ย 
ราคาถูก ทาํ เปน อิฐซเี มนต โดยเลอื กใชว สั ดอุ ุปกรณและสว นผสมท่ีถกู ตอ ง 
รวมทง้ั การเกบ็ รักษาทีถ่ กู วิธ ี เพอื่ จําหนายเปนอาชีพและเลยี้ งครอบครัว 

จุดประสงค 

เมอื่ ผเู รียนศกึ ษาชุดวชิ าอิฐดินซเี มนตจ บแลว  สามารถ 
1.  บอกความเปน มาของอฐิ ดินซีเมนตไ ด 
2.  ดแู ล บํารุงรักษาเครือ่ งมอื อปุ กรณไ ดถูกตอ ง 
3.  บอกสวนผสมของอฐิ ดินซเี มนตไ ด 
4.  ปฏบิ ัตกิ ารทําอิฐดินซีเมนตไ ดถ ูกตอ งตามข้ันตอน 
5.  เก็บรักษาและจาํ หนายอิฐดินซีเมนตได 

ขอบขายเน้ือหา 

ชดุ วชิ านี้ใชเวลาเรียน  30 ชั่วโมง 

ตอนที่  1  ความเปนมาของอฐิ ดินซเี มนต  จาํ นวน  2  ชั่วโมง 

ตอนที ่ 2  การใช  เคร่อื งมือ อุปกรณ  จาํ นวน  2  ช่ัวโมง 

ตอนท ่ี 3  สว นผสมของอฐิ ดินซเี มนต  จาํ นวน  5  ชั่วโมง 

ตอนท ่ี 4  การทาํ อฐิ ดนิ ซีเมนต  จํานวน  18  ช่ัวโมง 

ตอนท ี่ 5  การเก็บรักษาและจําหนายอิฐดินซีเมนต จาํ นวน  3  ชั่วโมง 

ตอนท่ี 1 

ความเปน มาของอฐิ ดนิ ซเี มนต

สาระสําคัญ 

อิฐดินซีเมนต    ทําจากสวนผสมระหวาง    ดินทรายสีแดงหรือ 
ดินลูกรังกับปูนซีเมนตและนํ้าในอัตราสวนที่เหมาะสม  คลุกเคลาเขากัน 
แลวนําเขาเครือ่ งอดั ใหเ ปนรปู ทรงที่ตองการแทง  

จุดประสงค 

เม่อื ผเู รียนศกึ ษาตอนท่ี 1 จบแลว  สามารถ 
บอกความเปน มาของอฐิ ดินซีเมนตไ ด 

ขอบขายเน้ือหา 

1.  ความเปนมาของอิฐดินซีเมนต 
2.  คุณลกั ษณะของดนิ ทีน่ ํามานําอิฐดนิ ซีเมนต 

อิฐ  ดินซเี มนต  2

ความเปนมาของอิฐดินซีเมนต 

ดินซีเมนต  หมายถึง แทงดินซีเมนต ท่ีทําจากสวนผสมระหวาง 
ดินทรายสีแดง  หรือดินลูกรัง  กับปูนซีเมนตและน้ําในอัตราสวนท่ี 
เหมาะสมคลกุ เคลา เขา กนั จนทว่ั  แลวนําเขา เครอ่ื งอดั ใหเ ปน แทง ตาม ตองการ 

สําหรับเคร่ืองมือท่ีใชในการอัดแทงดินซีเมนต  ไดแก  เครื่องชิน 
วาแรม แทงอิฐที่ผลิตในระยะแรกเปนแทงกอนแบบตัน มี  2  ชนิด ชนิด 
เต็มกอ น และชนดิ ครงึ่ กอน 

ดินซีเมนตในปจจุบัน  เปนผลมาจากการพัฒนาเคร่ืองอัดดิน 
ทเ่ี รยี กวา   เคร่อื งชินวาแรม  โดย นายฉตั รศิร ิ    ธรรมารมณ    จากสถาบนั วิจยั  
และเทคโนโลยีแหงประเทศไทย  กับ  Dr.  A  Bruce  Etherington  จาก 
สถาบันเทคโนโลยีแหงเอเชีย(AIT)  ได  รวมกันพัฒนาเคร่ื องอัดดิน 
ซเี มนตใ หมใหมี รู รอง และเดอื ย ทําใหสามารถประสานกนั ไดท ัง้ แนวนอน 
และแนวดง่ิ  สามารถวางซอนกันได  จึงทําใหผ นังแขง็ แรงสามารถรบั นํา้ หนัก 
ตาง ๆ ไดโดยไมตอ งใชเ สาและใชท บั หลังเหมอื นกับอาคารที่กอ ดวยวัสดกุ อ  
ชนิดอ่ืน  ๆ  อิฐดินซีเมนตนอกจากจะไมตองใชปูนกอแลว  ยังสามารถกอ 
ไดทลี ะหลาย ๆ ชน้ิ  จึงไมเพยี งแตจ ะทําใหเ กดิ ความเรยี บรอย สวยงาม และ 
ประหยัดเวลาในการกอเทานั้น แตยังจะชวยใหผนังท่ีกอเกดิ ความแข็งแรง 
อีกดว ย  โดยไมตอ งใชเ สาและทับหลงั  

คุณลักษณะของดินที่นํามาทาํ อิฐดินซีเมนต 

ดินทีน่ าํ มาทําอิฐดินซีเมนต  ทง้ั หมดมหี ลายชนดิ  แตจะกลา วใน ท่นี  ี้
2 ชนิด

1. ดินปนทรายสีแดง  จะเปนดินที่มีเน้ือละเอียดไมมีเม็ด  เม่ือ 
นํามาใชไ มต อ งบดเพยี งรอนกอ นผสมกบั ปูนซเี มนตเ ทา น้ัน 

อิฐ  ดินซีเมนต  3

ดินปนทรายสีแดง 

2. ดินลูกรังแดง  ปกติเปนชนิดเดียวกับท่ีใชทําถนน  เปนดิน 
ท่ีมที รายปนอยเู กนิ กวา 80 สวน และมีสว นผสมเหล็กปนอยูระหวา ง  8 - 10 
สวน  แตไมควรมีดินเหนียวปนเกินกวา  10  สวน  ดินชนิดน้ี เมื่อแหง 
จะรอนแตกตวั งา ย เม่อื ใชม อื บบี จะแตกตวั ทนั ที แตเ มอื่ ชน้ื จะจบั  ตวั เปน กอ น 
เมอ่ื ใชม อื จบั จะไมเ หนยี วตดิ มอื    ดนิ ชนดิ นม้ี สี แี ดง  เหลอื ง  นา้ํ ตาล มอี ยทู ว่ั ไป 
ทุกภาคของประเทศ ยกเวน ภาคกลางตอนลาง

ตอนที่ 2 

การใช บาํ รงุ รกั ษา เคร่อื งมอื อุปกรณ

สาระสําคัญ 

การใชเครื่องมืออุปกรณในการทําอิฐดินซีเมนตที่ถูกตองทําให 
การทํางานมีประสิทธิภาพ  ทําใหช้ินงานมีคุณภาพและผู ใชเครื่องมือ 
มีความปลอดภัย  อันมีผลทําใหเคร่ืองมือและอุปกรณมีอายุการใชงาน 
ยาวนานขึน้  

จุดประสงค 

เมือ่ ผูเรียนศกึ ษาตอนที่ 2 จบแลว สามารถ 
1.  บอกชื่อเครือ่ งมอื  อปุ กรณท ี่ใชทาํ อิฐดินซีเมนตไ ด 
2.  อธบิ ายการใชเครื่องมอื  อุปกรณทใ่ี ชท ําอิฐดนิ ซเี มนตไ ด 
3.  บาํ รงุ รกั ษา เครอื่ งมือ อปุ กรณใ หมสี ภาพดีพรอ มใชง านได 

อยูตลอดเวลาได 

ขอบขายเนื้อหา 

1.  เครื่องมอื  อปุ กรณทีใ่ ชท าํ อิฐดนิ ซีเมนต 
2.  วธิ ใี ชเ ครอื่ งมอื อปุ กรณ 
3.  การบาํ รุงรักษา เครื่องมืออปุ กรณ 

อิฐ  ดนิ ซีเมนต  5

เครื่องมืออุปกรณท่ีใชในการทาํ อิฐดินซีเมนต 

เคร่ืองมือ  อุปกรณท่ีใชทําอิฐดินซีเมนต  หาไดงาย ไมยากนัก 
เพราะสวนใหญเปนเคร่ืองมือที่ใชในงานกอสรางท่ัวไป  อุปกรณบางชนิด 
สามารถทาํ เองไดโดยไมตองซื้อ ทําใหประหยัดเงินในการจัดซื้อ อุปกรณ 
ซึง่ เคร่อื งมืออปุ กรณม ีหลายชนิดแตจ ะกลาวถงึ ในทน่ี ี้มี 6 ชนิด  คอื  

จอบ

ò  ñ

กะบะผสมดิน
กับซีเมนต

อฐิ   ดินซเี มนต  6

พลั่ว  ð 

ï เคร่ืองตวง เชน ปบ

กระปอ ง 

เกรียงปลายแหลม  ð 

อฐิ   ดนิ ซเี มนต  7

เครอ่ื งอัดอฐิ ดนิ ซีเมนต 

วิธีใชเ ครื่องมอื   อปุ กรณ 

เครอ่ื งมอื อปุ กรณใ นการทําอฐิ ดนิ ซเี มนตท งั้ 6 ชนิด มวี ธิ กี าร ใชด งั น ี้
1.  กะบะผสมอิฐดนิ ซเี มนต หรอื อาจจะใชส ถานทโี่ ลง สะอาด  เชน 
ลานซีเมนตหรือลานดินที่ สะอาดไมมีเศษใบไมหรือหญาแหงอยาง 
ใดอยา งหน่ึง เม่ือมีที่สาํ หรับผสมแลวนาํ ดินที่เตรียมไว ปูนซเี มนต และนาํ้  
แลวนาํ มาผสมคลกุ เคลา ใหเ ขากนั ดี นําไปใสเครือ่ งอดั ดนิ ซีเมนต 
2.  จอบ  จอบที่ใชกับงานปูน  คอนกรีต  เปนจอบที่ มีลักษณะ 
หนาเรียบตรงเหมือนจอบถากที่ใชกับงานทางดานเกษตรกรรม  ดามเปน 
ไม  โดยสาํ หรบั คลกุ เคลา วัสดุตา ง ๆ ในงานปูนหรืองานคอนกรีต 
3.  พล่ัว พลั่วใชกับงานปูนหรืองานคอนกรีตจะมี 2 ชนิด ได  แก 
ชนิดหนาเหล่ียม        ชนิดหนามนหรือหนาแหลมโดยชนิดหนาเหล่ียม 
จะใชไดกับงานตักวสั ดุเหลว ๆ   ในขณะท่ชี นิดหนา มนหรอื หนา แหลมจะ 
ใชไดดกี บั งานคลกุ เคลา สว นผสมของปนู หรอื สวนผสมของคอนกรตี  
4.  เครื่องตวง  ในท่ี น้ีอาจจะดัดแปลงโดยใชวัสดุที่ หางายไม 
ตองซ้ื อใหเปลืองเงิน  โดยใชป บหรือกระปองอยางใดอยางหนึ่ ง  ใช 
สาํ หรับตวงดิน ปูนซีเมนต  และนํา้ ใหไ ดสดั สวนตามท่ีกําหนด 

อิฐ  ดินซเี มนต  8

5.  เกรียง  การเลอื กซ้อื เกรียงท่ที าํ จากวัสดทุ ม่ี ีคณุ ภาพด ี  เมื่อเคาะ 
จะมีสียงดงั กังวาลในตวั เกรียงจะตอ งมีสปรงิ ในตัว 

6.  เครอ่ื งอดั อิฐดินซเี มนต 
มีลักษณะเปนกล องสี่ เหลี่ ยมผืนผา  ทําด วยเหล็กแผนอย างดี  มี 
ความแข็งแรงสามารถอัดไดดี        ประกอบดวยบล็อกสีเหลี่ยมดานบนมีฝา 
ปด- เปด ไดดานลาง เปนแผน เหล็กหนาเคลื่อนขึน้ ลงไดโ ดยมขี าตะเกียบ  2 
ขางเปนตัวยึด  บังคับข้ึนลงโดยใชแรงกดมีขอตอดานบน  เครื่ องมือที่ ใช 
อัดอิฐดนิ ซเี มนต  เรยี กวา  ชนิ วาแรม 

การบํารุงรกั ษาเครื่องมือ  อุปกรณ 

เครื่ องมื ออุ ปกรณ แต ละชนิ ดควรรู จั กวิ ธี การบํารุ งรั กษาให อยู 
ในสภาพที่ใชงานไดดี  และเหมาะสมกับการใชงานกอนหากมีการนํามา 
ใชงานทุกคร้ั งจะตองดูแลความเรียบรอย  หากมีสวนใดชํารุดควรจะ 
ซอมแซมเพราะบางครั้ง เคร่ืองมอื อปุ กรณชาํ รุดอาจทําใหช ้ินงานเกิดความ 
เสียหายได  ดังน้ันการบํารุงรักษาเครื่องมือ อุปกรณแตละชนิดมีวิธีการ 
แตกตางกนั ออกไป ซ่งึ แตละชนิดมวี ธิ ีการดังตอไปน ้ี

1.  จอบ  กอนใชควรตรวจดูมีอาการโยกคลอน  หรือไมหลัง 
จากใชงานแลว ลางทําความสะอาดทกุ ครั้ง 

2.  กะบะ  หรือลานผสมดิน  ควรปดกวาดเศษหญาใบไม  ส่ิ ง 
ของท่ีวางเกะกะออกจากบริเวณลานผสมดิน  กะบะผสมควรลางทุกคร้ัง 
หลังจากทาํ งานเสร็จ 

3.  พลั่ ว  กอนใชควรตรวจดูบริเวณดามมือถือ  ชํารุดหรือไม 
หลังจากการใชงานแลวลางทําความสะอาด 

4.  เกรียง  กอนใชควรตรวจดูบริเวณดามมือถือ มีการแตกชํารุด 
หรอื ไม ทํางานเสร็จแลวลา งทาํ ความสะอาด 

5.  เคร่ืองตวง  กอนใชควรตรวจดูความเรียบรอย  หลังจากทํา 
งานเสร็จแลวควรลา งเก็บ 

6.  เครอื่ งอดั อฐิ ดินซเี มนต กอ นใชค วรหลอดนาํ้ มนั หลอ ลน่ื ตามจดุ  
ขอ ตอ ตา ง ๆ หลงั จากทาํ งานเสรจ็ แลว  เชด็ ทาํ ความสะอาดใชเ กรียงแซะเศษ 
ดินออกจากบรเิ วณสว นตาง ๆ ของเคร่อื งเชด็ และหยอดนาํ้ มันหลอ ล่ืนไวใ น 
ระหวา งการทําการอัดอิฐดินซเี มนต  ควรมกี ารตรวจ สอบเครื่องเปนระยะ ๆ 

ตอนที่ 3 

สวนผสมของอิฐดินซีเมนต

สาระสําคัญ 

การผสมดินกับซีเมนตต ามอัตราสว นทถ่ี ูกตอง และถูกวิธ ี จะ 
ทําใหไดอฐิ ดนิ ซีเมนตท ม่ี คี ุณภาพดี 

จุดประสงค 

เมอื่ ผูเรยี นศกึ ษาตอนท่ี 3 จบแลว สามารถ 
1.  บอกวัตถดุ ิบท่ใี ชในการทําอฐิ ดินซเี มนตได 
2.  อธบิ ายอตั ราสว นผสมทใ่ี ชในการทําอิฐดนิ ซีเมนตไ ด 

ขอบขายเน้ือหา 

1.  วตั ถุดิบที่ใชในการทาํ อิฐดินซีเมนต 
2.  อตั ราสว นผสมทใี่ ชท าํ อฐิ ดินซเี มนต 

อิฐ  ดินซีเมนต  10

วัตถุดิบท่ีใชในการทําอฐิ ดนิ ซีเมนต 

นอกจากดนิ ทกี่ ลา วไวใ นตอนที่ 1 จะนาํ มาใชเปนวตั ถดุ ิบในการทํา 
อิฐดินซเี มนต   ปนู ซเี มนตก เ็ ปน วัตถุดิบอกี ชนดิ หนึง่  

ปูนซีเมนต  เปนวัสดุท่ีเปนตัวเช่ือมประสานสําคัญในงานปูน 
ทุกอยาง  เปนผงบดละเอียด  เมื่ อผสมเขากับนํ้าในปริมาณพอดีจะจับ 
ตวั แข็งและเกาะแนนกบั วัสดุผสมทเี่ หมาะสม 

อัตราสวนผสมท่ีใชทาํ อิฐดินซีเมนต 

กอ นจะเรมิ่ ทาํ อฐิ ดนิ ซเี มนตค วรจะเตรยี มอปุ กรณทจ่ี ําเปน ให พรอ ม 
คอื  ดนิ  ปนู ซีเมนต  นํ้า

วธิ ีผสม 
1.  นําดินท่เี ตรยี มไวมาบดใหละเอยี ด โดยการใชจอบ หรือไมทุบ 

จากนน้ั จงึ เลือกเศษไม   รากไม   หิน  เศษวสั ดอุ ื่น ๆ ออกใหหมด 
2.  ใชป บ หรอื กระปอ งทเี่ ตรยี มไว  ตวงปนู ซีเมนตและดินตามอตั รา 

สวนดังน้ ี คือ 
1.  ปูนซีเมนต  1 สว น  จะใชดินปนทรายสีแดง  8  สวน 
2.  ปนู ซเี มนต  1 สวน  จะใชด นิ ลกู รงั สแี ดง  8  สว น 

นอกจากนน้ั ในสว นของพ้นื ท่ีอาคารที่ตอ งการความแข็งแรง พเิ ศษ 
และปอ งกันการกดั กรอ น เชน ผนังหอ งน้ํา และบรเิ วณผนงั ของอาคารที่รับ 
น้ําหนักมากกวาสวนอื่น ควรใชส ว นผสมท่แี ตกตางทก่ี ลา วมาแลว  

คาํ แนะนําของผูรู ควรใชอัตราสวนผสม

ปนู ซเี มนต 1 สวน ดิน 5 สวน 
3.  นําปูนซีเมนตและดินที่ตวงเสร็จแลวมาคลุกผสมใหเขากัน 

เสียกอน จากน้ันพรมนํา้ ลงไปในดินที่ผสมคลุกเคลา ใหพ อชื้น 
วิธีทดสอบ  วามีความช้ืนตามตองการไดหรือไม   ใชมือกําดินท ่ี

คลุกเคลาใหแนน แลวคายมือออก   ถาดินที่กําแตกออกจากกัน แสดงวา 
ความชื้นของดินยังไมเพียงพอตองผสมน้ําอีก  แลวทดสอบเชนเดิมถา 
หากทดสอบแลว ดนิ ไมแ ตกจากกนั  สามารถนาํ ไปอดั ไดเลย 

ตอนที่ 4 

การทําอิฐดินซีเมนต 

สาระสําคัญ 

การทําอิฐดินซีเมนตใหมีคุณภาพดี  ตรงกับความตองการของ 
ตลาด จําเปน ตองมีวิธีการที่ถูกตอ งตามข้ันตอน 

จุดประสงค 

เมื่อผเู รยี นศกึ ษา ตอนท่ี 4 แลว ผูเ รียนสามารถ 
1.  อธบิ ายวิธกี ารทาํ อฐิ ดนิ ซีเมนตได 
2.  ปฏิบัตกิ ารทําอฐิ ดินซีเมนตได 

ขอบขายเนื้อหา 

การทําอฐิ ดินซีเมนต

อฐิ   ดินซเี มนต  12

วธิ กี ารทาํ อฐิ ดนิ ซเี มนต 

1.  การเตรียมเครอ่ื งมืออุปกรณแ ละวัตถดุ บิ  
ผทู จ่ี ะทาํ อฐิ ดนิ ซีเมนตจ ะตอ งเตรียมเครอ่ื งมือ อปุ กรณ  วสั ด ุ ใหพรอ ม 

2.  การทําอิฐดนิ ซเี มนตหลังจากที่เตรียมทกุ อยางพรอมแลว  เราจะทาํ  
อฐิ ดินซเี มนตตามข้ันตอนดงั ตอ ไปนี ้
2.1.  นาํ ดินทเ่ี ตรียมไวบดใหละเอยี ด คัดเลือกเศษไม รากไม 
เศษวสั ดอุ นื่ ออกใหห มด 

2.2.  ใชป บ หรือกระปองท่ีเตรยี มไวตวงปนู ซีเมนตแ ละดนิ ตาม 
อัตราสวนทีต่ อ งการ 

อฐิ   ดนิ ซเี มนต  13

2.3.  นําดินและปูนซเี มนตที่ตวงเสร็จแลวมาผสมคลุกเคลา  
ใหเ ขา เปนเนอื้ เดยี วกัน 

2.4.  ในระหวา งผสมดินและปนู ซเี มนตจ ะตอ งพรมน้าํ เพอื่ ใหม ี 
ความชนื้  โดยการทดสอบเปนระยะ 

2.5.  นําดนิ ท่ีผสมเรียบรอ ยแลวมาใสแบบอดั  กระจายดนิ ใหทว่ั แบบ 
อัดใชมือและแตง ดวยเกรยี งจนเรยี บ ปด ฝาอัด และใชเครือ่ งอัด 
ใหแ นน โดยใชแ รงดันอดั จํานวน 1-2 คน โหนคนั โยกเครอื่ งอัด 

อฐิ   ดินซเี มนต  14

2.6.  ในขณะถอดอิฐดินซีเมนตออกจากแบบอัด หากมีรอยแตกดา น 
ขา งของตวั อิฐ แสดงวาแบบอัดไมสะอาด มีความชื้น สําหรับ 
ดินท่เี กาะติดผนงั แบบ ใชเ กรียงแซะดินออก แลว โรยดวย 
ปูนซเี มนตผ ง 

2.7.  หลงั จากอัดซเี มนตไดเปนกอนอฐิ ท่ีสมบรู ณแ ลว จะตองนาํ ไป 
ผง่ึ ในรม ประมาณ 1 วนั (12 ชว่ั โมง) จากนน้ั ใหท ําการบม ดว ยนาํ้  
4 - 5 วนั   วธิ บี ม   คอื   ใชน าํ้ รดใหท ว่ั 3วนั  แลว ใชผ า หรอื กระสอบ 
คลุม อกี   2 - 3 วนั  จึงคอ ยนาํ ไปใชง าน 

อฐิ   ดนิ ซเี มนต  15

ลักษณะของอิฐดินซีเมนตท่ีด ี

1.  มีความแข็งแรง ทนทานรบั นํ้าหนักไดด ี 
2.  มรี ปู รา งไมอ อ นบดิ  หรอื ไมม รี อยพรนุ  
3.  ทุก ๆ เหล่ยี มของอิฐจะตองไดฉ าก 
4.  ขนาด และนาํ้ หนกั  เทา กันทกุ กอ น 

ตอนที่ 5 

การเก็บรกั ษาและจาํ หนายอฐิ ดนิ ซีเมนต 

สาระสําคัญ 

การเก็บรักษาอิฐดินซีเมนตอยางถูกวิธี  จะชวยเพ่ิ มคุณลักษณะ 
ของอิฐดนิ ซเี มนตใหค งทนยงิ่ ขนึ้   ราคาจําหนา ยจะคํานึงถงึ ทนุ   คาแรง 
คา ขนสง   และคาใชจ ายอ่นื  ๆ ตามความเหมาะสม 

จุดประสงค 

เมื่อผูเรยี นศกึ ษาตอนที่ 5 จบแลว ผเู รยี นสามารถ 
1.  บอกวิธีเก็บรกั ษาอฐิ ดินซีเมนตได 
2.  อธิบายการคดิ ตนทุน และจรรยาบรรณทีด่ ขี องผูจาํ หนา ยได 

ขอบขายเนื้อหา 

1.  การเกบ็ รกั ษาอฐิ ดินซีเมนต 
2.  การจาํ หนา ยอิฐดินซีเมนต 

-  ตนทนุ  
-  วิธีจําหนา ย 
-  จรรยาบรรณ

อิฐ  ดนิ ซีเมนต  17

การเก็บรักษาอิฐดินซีเมนต 

เรามีวีธีการเก็บรกั ษาอิฐดินซเี มนต  ดงั นี ้
1.  เกบ็ รกั ษาไวใ นทีร่ มประมาณ  12  ชัว่ โมง 
2.  หลงั จากนนั้ นําอฐิ ดินซีเมนตไปบมโดยวางซอนกัน 
3.  ใชผา กระสอบ ฟาง หรือวสั ดอุ น่ื  ๆคลุม 
4.  รดน้ําใหช ุมทกุ วัน ใชเวลาประมาณ  7  วนั  
5.  ตองจาํ ใหไดวาอิฐดินซีเมนตกอนไหนครบกาํ หนดการใชงาน 

กอ นก็นาํ อฐิ ซเี มนตก อนนนั้ ไปใชก อ น 

การจําหนายอิฐดนิ ซีเมนต 

1.  การกําหนดราคาขาย 

การคิ ดต นทุ นผลิ ตนั้ นจะรวม ถึ งต นทุ นของวั ตถุ ที่ ใช การผลิ ต 
คาแรง และคาเสยี เวลา 

ตัวอยาง 

สูตรการคดิ  ราคาจาํ หนาย 

การคิดราคาจําหนาย 

1.  คาวัสดทุ ้งั หมดเปนเงนิ 500 บาท 

2.  คาเบ็ดเตลด็ ประมาณ 25 % ของคาวัสด ุ

25 x 500  =  125  บาท 
100 

3.  คาแรง 50 % ของขอ 1 และ ขอ 2 

50 x (500+125)  =  312.5  บาท 
100 

4.  กาํ ไร 10% ของขอ 1 และ ขอ 2 และขอ 3 รวมกัน 

10 x (500+125+312.5)  =  93.75  บาท 
100 

5.  ราคาจําหนา ยเทา กบั 1, 2, 3 และ 4 รวมกนั  

= 500+125+312.5+93.75  =  1031.25  บาท 

เพราะฉะน้ันราคาจําหนา ยเทา กับ  1031.25  บาท 

อฐิ   ดินซีเมนต  18

2.  วิธีจาํ หนาย 

การจําหนา ยอญิ ดนิ ซเี มนตจ ําหนายได 2 วิธ ี
คอื   การขายปลกี และขายสง 

2.1 การขายปลกี  เปน การขายอฐิ ดนิ ซเี มนตเ พยี งเลก็ นอ ยหรอื ขายให 
ผูซ อื้ โดยตรงสว นใหญ 

เราจะคิดราคาตามจาํ นวนกอน เชน อิฐดินซีเมนตราคากอนละ 4 
บาท ถา ซือ้   200  กอนจะเปน เงิน  800  บาท 

2.2 การขายส งเป นการขายอิ ฐดิ นซี เมนต เป นจํานวนมาก 
หรือขายใหกับผูซ้ือท่ีซ้ือไปจําหนาย    เราจะคิดราคาตามจํานวนกอน 
และลดใหร อยละ  5  บาท 

เชน อิฐดินซีเมนตราคากอ นละ 4 บาท  ถาซ้ือ 4,000 กอ น จะเปน เงิน 
16,000 บาท แตจะลดใหร อ ยละ 5 บาท จะเปนเงนิ ลดใหเทา กับ 

5 x 16,000  =  800  บาท 
100 

เพราะฉะน้นั เราจะไดร ับเงินทง้ั ส้ินเทา กับ 
16,000 - 800  =  15,200  บาท 

3.  จรรยาบรรณของผูจาํ หนายอิฐดินซีเมนต

ผูจําหนายที่ดจี ะตอ งมจี รรยาบรรณตอไปนี้ 
1.  ซ่ือตรง ซ่อื สัตย  คิดราคาสนิ คา ตามความเปน จรงิ  
2.  รักษาคําพูด เมื่อผูขายกลาวตกลงกับผูซ้ือไวอยางไร จะตอง 

ปฏิบตั ิตามนั้นทุกประการ 
3.  การนัดเวลาจะตองไมผิดนัดกับลูกคามีความจําเปนท่ีจะตอง 

ผิดนดั แลวตองพยายามหาเหตุผลช้ีแจงใหล ูกคาทราบและเขาใจ 
4.  การรกั ษาคณุ ภาพของอฐิ ดนิ ซเี มนตจ ะตองมคี ณุ ภาพดสี มา่ํ เสมอ 

และคุณภาพท่ีดีทุกกอน    หากกอนใดคุณภาพไมดีหรือไมไดมาตรฐาน  จะ 
ตองแจงใหลูกคาทราบกอนทกุ ครัง้   ซงึ่ ผขู ายอาจจะขายอิฐดินซเี มนตทไี่ มม  ี
คณุ ภาพนั้นในราคาตาํ่ กวาปกต ิ  เชน ร าคาปกติกอนละ 4  บาท  เราขายเพยี ง 
3.50 บาท เปน ตน 

5.  บริการประทับใจใหกับลูกคา และตามไปบริการหลังการขาย 
ใหกับลูกคา 

อฐิ   ดินซเี มนต  19

กิจกรรม 1

ใหผเู รียนบอกคณุ ลกั ษณะของดินทาํ อฐิ ดนิ ซีเมนต 

ชื่อของดนิ   คณุ ลักษณะของดิน 

1.  ดนิ ปนทรายสแี ดง  ......................................................................... 
......................................................................... 
......................................................................... 
......................................................................... 
......................................................................... 
......................................................................... 

2.  ดนิ ลกู รงั สีแดง  ......................................................................... 
......................................................................... 
......................................................................... 
......................................................................... 
......................................................................... 
......................................................................... 

กจิ กรรมที่ 2

ใหผูเ รียนบอกชือ่ เคร่ืองมอื อุปกรณ ทาํ อฐิ ดนิ ซีเมนต มา 6 ชนดิ  
1............................................................................................................. 
2............................................................................................................. 
3............................................................................................................. 
4............................................................................................................. 
5............................................................................................................. 
6............................................................................................................. 

อฐิ   ดินซีเมนต  20

กจิ กรรมท่ี 3

ใหผเู รยี นบอกวธิ กี ารใชเ คร่ืองมอื ในการทาํ อิฐดนิ ซีเมนตโ ดยยอ ๆ 
1.............................................................................................................. 
................................................................................................................ 
2.............................................................................................................. 
................................................................................................................ 
3.............................................................................................................. 
................................................................................................................ 
4.............................................................................................................. 
................................................................................................................ 
5.............................................................................................................. 
................................................................................................................ 
6.............................................................................................................. 
................................................................................................................ 

กจิ กรรมที่ 4

ใหผเู รียนไปพบผูรู และปรึกษากบั ผรู จู าํ นวน 3 คน การบํารงุ รกั ษา
เครื่องมืออัดอิฐดนิ ซเี มนต และจดบนั ทกึ ตามรายการดงั น้ ี

ชื่อผรู  ู รายละเอยี ดคําแนะนาํ ของผรู ู 

1........................................................................................................... 
............................................................................................................. 
............................................................................................................. 
2........................................................................................................... 
............................................................................................................. 
............................................................................................................. 
3........................................................................................................... 
............................................................................................................. 
............................................................................................................. 

อิฐ  ดินซเี มนต  21

กจิ กรรมที่ 5

ใหผ ูเรยี นบอกวตั ถดุ ิบทใ่ี ชใ นการทําอิฐดนิ ซีเมนตแ ละสวนผสม 

วัตถุดบิ ในการทาํ อิฐดินซีเมนต 
1....................................................................................................... 
2....................................................................................................... 
3....................................................................................................... 

อัตราสว นผสมของวัตถุดิบทใ่ี ชผสมในการทําอิฐดนิ ซเี มนต 
1....................................................................................................... 
2....................................................................................................... 

กิจกรรมท่ี 6

ใหผ เู รยี นพบผรู ูและสอบถามแหลง ดนิ ทีน่ ํามาผสมกบั อิฐดินซเี มนต 

แหลง ดิน  ดนิ ท่ีผสมกับปนู ซีเมนต 

1.  ดินปนทรายสีแดง  ......................................................... 
2.  ดินลูกรังปนทรายสีแดง  ......................................................... 

กจิ กรรมท่ี 7

ใหผูเรียนทดลองทําอิฐดินซีเมนตจากสวนผสมระหวาง ปูนซีเมนต
ดินปนทรายสีแดง ปูนซีเมนตดินลูกรังสีแดงอยางละ 40 กอน และตรวจ
สอบคุณภาพของอิฐดินซีเมนตวามีคุณลักษณะตรงกับ อิฐดินซีเมนต
ทด่ี มี เี ทา ไรและทไ่ี มตรงคณุ ลักษณะเพราะเหตุใด 

1.  อิฐดินซีเมนตดี..................................................................กอน 
2.  อิฐดินซีเมนตไ มดี.............................................................กอน 
เพราะ........................................................................................... 
....................................................................................................... 

อฐิ   ดนิ ซเี มนต  22

กจิ กรรมที่ 8

ใหผ เู รยี นคดิ ราคาจําหนา ยอฐิ ดนิ ซเี มนตจ ากราคาทนุ 1,200 บาทโดย
แสดงวธิ ีการคิดตามขั้นตอน 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 

อฐิ   ดนิ ซเี มนต  23

กิจกรรมที่ 9

ใหผ เู รยี นคดิ ราคาขายปลกี จากอฐิ ดนิ ซีเมนตก อ นละ 4 บาท จาํ นวน
300 กอ นจะไดร ับเงนิ เทา ไร และใหค ดิ ราคาขายสง จากอิฐดินซีเมนต
กอ นละ 4 บาท จาํ นวน 5,000 กอน จะไดรบั เงนิ เทา ไร 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 

อฐิ   ดนิ ซเี มนต  24

กจิ กรรมที่ 10

ใหผูเรยี นไปพบผูประกอบการและสอบถามเก่ยี วกับจรรยาบรรณ
ของผปู ระกอบการและบันทกึ รวบรวมไว 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 
................................................................................................................. 

อฐิ   ดนิ ซเี มนต  25

แบบทดสอบหลังเรียน 

กอนท่ี ผู เรียนจะตองศึกษารายละเอียดของชุดวิชาใหผู เรียนทําแบบ 
ทดสอบกอนเรียนเพื่อจะทราบวา ผูเรียนมคี วามรูความเขาใจเกี่ยวกบั เรื่องน้ ี

เพยี งใด โดยใหท ําเคร่ืองหมาย (û) หนา ขอท่ีถกู ตองทส่ี ดุ เพียงขอ เดยี ว 

1.  วธิ ที ่นี ยิ มใชในวงการกอสรางในปจ จบุ ันมอี ะไรบาง 
ก.  อฐิ มอญ 
ข.  อฐิ อดั  
ค.  อฐิ ทนไฟ 
ง.  ถูกทุกขอ 

2.  อิฐทว่ั ไปมีรปู รา งอยา งไร 
ก.  สเี่ หลย่ี มจตุรสั  
ข.  สเ่ี หลย่ี มผนื ผา  
ค.  สี่เหลย่ี มดา นเทา  
ง.  สเ่ี หลย่ี มมุมฉาก 

3.  โดยทั่วไปขนาดของอิฐจะมคี วามยาวเปนกี่เทาของดา นกวาง 
ก.  1 เทาของดานกวาง 
ข.  2 เทา ของดา มกวาง 
ค.  3 เทาของดานกวาง 
ง.  4 เทาของดานกวาง 

4.  ดนิ ที่เหมาะสมกับการนํามาทําอิฐดินซเี มนตค อื ดินชนดิ ใด 
ก.  ดินปนทรายสแี ดง 
ข.  ดินลูกรงั สแี ดง 
ค.  ดนิ หนิ ชะนวนผ ุ
ง.  ถูกทุกขอ 

5.  อปุ กรณท มี่ ีความจาํ เปนนอยทีส่ ุดในการทําอฐิ ดินซเี มนตคอื ขอ ใด 
ก.  พล่ัว 
ข.  จอบ 
ค.  ปบ หรือกระปอง 
ง.  สายวัด 

อฐิ   ดนิ ซีเมนต  26

6.  สวนผสมของอิฐดินซเี มนตประกอบดว ยอะไรบาง 
ก.  ดินเหนยี ว ข้เี ถา  แกลบ ยบิ ซัม่  
ข.  ดนิ ปนทรายสีแดง ปูนซีเมนต นาํ้  
ค.  ดนิ ปนทรายสีแดง ทราย ยิบซ่มั  
ง.  ดนิ เหนยี ว ดนิ ดาน ทราย 

7.  ดนิ ทไี่ มค วรนํามาเปนสวนผสมของอิฐดนิ ซเี มนต  คอื ขอใด 
ก.  ดนิ เหนยี ว 
ข.  ดนิ ปนทรายสแี ดง 
ค.  ดินดาน 
ง.  ดินทราย 

8.  อตั ราสว นผสมทเ่ี หมาะสมในการทําอฐิ ดนิ ซีเมนต   ควรจะใชป นู ซเี มนต 
ตอ ดนิ ปนทรายสแี ดงอัตราสว นเทา ไร 
ก.  ปนู ซีเมนต  1  สว นดนิ ปนทรายสีแดง  4  สว น 
ข.  ปนู ซีเมนต  1  สว นดินปนทรายสแี ดง  6  สว น 
ค.  ปนู ซีเมนต  1  สว นดนิ ปนทรายสแี ดง  8  สว น 
ง.  ปูนซีเมนต  1  สว นดนิ ปนทรายสแี ดง  9  สว น 

9.  ลักษณะของอฐิ ดินซีเมนตท่ีไมดคี ือขอ ใด 
ก.  มีความเหนยี ว ไมแ ตกงา ย 
ข.  มรี อยพรนุ และรอยแตก 
ค.  มีความแข็งแรงทนทาน 
ง.  ขนาดเทากันทกุ อัน 

10.  การนาํ อฐิ ดินซีเมนตไปบมโดยการรดนา้ํ กีว่ ันจงึ จะนําไปใชงานได 
ก.  3 วนั  
ข.  5 วนั  
ค.  6 วนั  
ง.  7 วัน 

อิฐ  ดนิ ซีเมนต  27

เฉลยแบบทดสอบกอ นเรยี น - หลงั เรียน 

1.  ง  2.  ข 
3.  ข  4.  ง 
5.  ง  6.  ข 
7.  ก  8.  ค 
9.  ข  10.ก 

อิฐ  ดินซเี มนต  28

รายการอา งอิง 

กรมการศึกษานอกโรงเรียน . การกอ สรางอาคารดว ยอฐิ ดินซเี มนต 
ลาํ ปาง:โรงพิมพศูนยการศึกษานอกโรงเรียนภาคเหนอื , 2536 

ประณต กุลประสูตร. ชา งฝม ือเบ้อื ตน 2.  พิมพครัง้ ท่ี 2.  กรงุ เทพ ฯ: หางหนุ  
สวนจาํ กดั ภาพพมิ พ, 2530 

ประณต กลุ ประสตู ร. เทคนิคงานปูน - คอนกรตี . กรงุ เทพ ฯ : คณะวิศวกรรม 
และเทคโนโลยี สถาบนั เทคโนโลยีราชมงคล,  2535 

พิทยา อภมิ ณฑล. คูม ือวัสดุกอสรา งและคืดราคา. กรงุ เทพฯ : เจรญิ รตั นการ 
พมิ พ, 2516 

พิภพ สุนทรสมยั . ชางปูนกอสรา ง. กรุงเทพฯ : หา งหนุ สว นจํากัดสีทองกจิ  
พิศาล, 2523 

พภิ พ สนุ ทรสมยั . วัสดวุ ศิ วกรรมการกอ สรา ง. กรงุ เทพฯ : เอช.เอน การพมิ พ,  
2530 

อฐิ   ดนิ ซีเมนต  29

คณะกรรมการชุดวชิ า 

คณะกรรมการที่ ปรึกษา 

ดร.  กษมา  วรวรรณ  ณ  อยุธยา 
อธบิ ดกี รมการศกึ ษานอกโรงเรยี น 
ดร.  บุญเลิศ  มาแสง 
ผเชู ยี่ วชาญพเิศษ 
นายบุญสง    คูวรากุล 

ผอู าํ นวยการศนู ยก ารศกึ ษานอกโรงเรยี นภาคตะวนั ออก 

คณะกรรมการผลิตชุดวิชา 

ดร.  วิษณุ    แยมจรูญ 
ประธาน 

นายสุวรรณ  สมจันทรา 
ผเูชย่ี วชาญเนอื้ หา 

นายวุฒิชัย   ชมภู 
ผเูขยี น 

นางสาวชนะจิต    โมฬิยสุวรรณ 
นกั เทคโนโลยี 

นางสาวสมทรง  นิลนอย 
นกั วดั ผล 

นายสําเริง    กองแกว 
บรรณาธกิ าร 

นางมุจลินท  เดชะวิบูลย 
เลขานกุ าร 

อิฐ  ดนิ ซีเมนต  30

คณะกรรมการพัฒนาและปรบั ปรุงหลกั สูตร 

ท่ี ปรึกษา 

นายประถม    สมัครพงศ 
ผอู าํ นวยการศนู ยก ารศกึ ษานอกโรงเรยี นภาคตะวนั ออก 

นางสาวสุรภี    สกุลรัตน 
รองผอู าํ นวยการศนู ยก ารศกึ ษานอกโรงเรยี นภาคตะวนั ออก 

ค ณ ะก รรมก า รพั ฒ น าแ ล ะ ปรั บ ปรุ ง 

นายสุวรรณ  สมจันทรา 
ผเูชย่ี วชาญเนอ้ื หา 

นายวุฒิชัย   ชมภ ู
ผเูขยี น 

นางสมหทัย    ประสมศร ี
นกั เทคโนโลย ี

นางสาวบุษยา    ปยารมย 
บรรณาธกิ ารและเลขานกุ าร 



อฐิ ดนิ ซเี มนต


Click to View FlipBook Version