คาํ นํา
“ไผเ พอื่ ชวี ิต” จดั ทําขน้ึ เพอื่ ใชก บั กลมุ เปา หมายท่ ี
เปนประชาชนทั่วไป นักเรียน นิสิต นักศึกษา ซึ่ง
เกย่ี วขอ งโดยตรงกบั สภาพแวดลอ มซงี่ นบั วนั จะมปี า ไมใ น
ธรรมชาตลิ ดลง ไผเปนไมท ีจ่ ะชวยรกั ษาสมดลุ ธรรมชาต ิ
ใหก ลับคืนมาได นอกจากน้ไี ผยังกอ ใหเกดิ ผลตอบแทน
เชิงเศรษฐกิจอยา งมาก
ศู น ย ก าร ศึ ก ษาน อ ก โ ร ง เ รี ย น ภาค ตะ วั น อ อ ก
หวังเปนอยางย่ิ งวา ชุดวิชาการศึกษาตามอัธยาศัย
ชุ ด น้ี จ ะ เ ป น ป ร ะ โ ย ช น ต อ ผู ท่ี ส น ใ น ทั่ ว ไ ป
และขอขอบคุ ณคณะกรรมการจั ดทําชุ ดวิ ชาและ
ค ณ ะก ร ร ม กา ร พั ฒ น า แ ละ ป รั บป รุ งห ลั ก สู ต ร
ทรี่ วมดาํ เนินการ จดั ทาํ ชดุ วิชาชุดนไ้ี ว ณ โอกาสน ี้
ศูนยก ารศกึ ษานอกโรงเรียนภาคตะวันออก
สารบญั
หนา
คําแนะนาํ การอานและการเรยี น ............................................................ก
ทดสอบตนเองกอ นเรยี น ........................................................................ข
โครงสรา งชุดวิชา...................................................................................ค
ตอนที ่ 1 ไผส รา งสภาพแวดลอมใหด ีไดอ ยา งไร ................................. 1
ตอนที ่ 2 ไผป ระดับกบั การสรา งสเี ขียว ............................................. 14
ตอนท ่ี 3 ชนดิ ของไผทน่ี า สนใจ เพื่อปลูกเปนการคา ....................... 25
ตอนที ่ 4 สวนไผเ ศรษฐกจิ สรางชีวิตสรางธรรมชาติ ........................ 36
ตอนที่ 5 แหลง ผลิตผลติ ภณั ฑไ มไ ผข องเมอื งไทย............................ 47
ภาคผนวก ......................................................................................... 58
- กจิ กรรมตอนท ่ี 1 ....................................................................... 58
- กจิ กรรมตอนท ี่ 2 ....................................................................... 58
- กจิ กรรมตอนที ่ 3 ....................................................................... 59
- กจิ กรรมตอนท ่ี 4 ....................................................................... 60
- กจิ กรรมตอนที่ 5 ....................................................................... 60
เฉลยแบบทดสอบตนเองกอนเรยี น...................................................... 61
เฉลยกจิ กรรม........................................................................................ 61
รายการอางอิง ....................................................................................... 63
ไผเ พอ่ื ชวี ติ ก
คําแนะนาํ การอา น
1. ชุดวิชานี้ เปนชุดวิชาการศึกษาตามอัธยาศัย
ที่ ผู อานจะตองศึกษาดวยตนเอง ซ่ึ งประกอบดวย
โครงสรางชุดวชิ า เนอ้ื หา จาํ นวน 5 ตอน และภาคผนวก
ซ่งึ ประกอบดวย กิจกรรมการเรยี น เฉลยแบบทดสอบตนเอง
กอ นเรยี น และเฉลยกิจกรรม
2. ใหผูอาน อานและทําความเขาใจโครงสราง
ชดุ วชิ า โครงสรางตอนโดยละเอียด แลวจงึ อา นรายละเอยี ด
เนื้อหาตอนที ่ 1 ถงึ ตอนที่ 5 ตามลําดบั
3. ผูอานทํากิจกรรมหลังจากศึกษาเนื้อหาทั้ง 5
ตอน เพื่อทดสอบความเขา ใจของเนอื้ หา
ไผเพอื่ ชวี ิต ข
แบบทดสอบตนเองกอนเรยี น
“ทานรจู กั ไมไผม ากนอ ยเพยี งใด”
ใหผ ูเ รยี นทําเครื่องหมาย üลงในชอ ง ในขอ ทถ่ี ูกและทําเครือ่ งหมาย
û ลงใน ชองในขอทีผ่ ดิ
1. ไผเปน พชื ตระกลู หญา ทมี่ ขี นาดใหญท ี่สดุ ในโลก
2. ไผเ ปน พืชทีม่ รี ากแกวท่ีแขง็ แรง
3. ไผจะชว ยเพิ่มพนู ความอดุ มสมบรู ณข องดนิ ถา ปลูกไผ
4. ความชุมชืน้ ในสิ่งแวดลอม เปนผลมาจากการปลูกไผจ ํานวนมาก ๆ ได
5. จงั หวดั ปราจีนบุรีมีพ้นื ทปี่ ลกู ไผนับแสนไร
6. ไผเ ปนพืชท่ีไมส ามารถนาํ มาปลกู ตกแตง เพอ่ื ความสวยงามของสภานทไ่ี ด
7. ไผเลีย้ งเปนไผทีไ่ มเ หมาะสมตอการทาํ เคร่อื งใชในชวี ติ ประจาํ วนั
8. ทกุ สวนของตน ไผส ามารถนาํ มาใชป ระโยชนได
9. ไผต งเปนไผท ่นี ยิ มปลูกเพ่อื เอาหนอ มาบรโิ ภคและเอาลําตน มาใชป ระโยชน
10. มีวิธขี ยายพันธไุ ผโ ดยการนําหนอ มาปลูกเทานัน้
ไผเพอื่ ชีวิต ค
โครงสรา งชดุ วชิ า
ไผเ พ่อื ชวี ติ
สาระสําคัญ
นบั วนั ปา ไมใ นธรรมชาตมิ จี ํานวนลดลงซง่ึ สง ผลโดยตรงตอ สภาพ แวดลอ มใน
ทางลบ ไผไดรับการยอมรับวา เปน ไมทช่ี วยปรับสภาพแวดลอ มใหด ีข้ึน ขณะเดยี วกัน
มีประโยชนใ นการใชสอยทําไดส ารพดั อยาง ตง้ั แตห นอ ออ น ไปถงึ ตน แก และรากเหงา
จุดประสงค
เม่อื ศึกษาชุดวชิ านี้แลว ผเู รยี นสามารถ
1. อธิบายประโยชนข องไผในการสรางสงิ่ แวดลอมท่ดี ขี ้ึนได
2. อธิบายชนิดของไผท ป่ี ลกู ประดับเพ่อื ความสวยงามได
3. อธิบายชนิดของไผท่มี ีการปลกู เล้ียงในเชงิ เศรษฐกจิ ได
4. อธิบายสวนไผท ่มี กี ารปลกู เลี้ยงในเชิงเศรษฐกิจได
5. อธิบายการใชประโยชนจากไมไ ผได
ขอบขายเนื้อหา
1. ไผสรา งสภาพแวดลอมใหดไี ดอ ยา งไร
2. ไผป ระดับกับการสรางสเี ขียว
3. ชนดิ ของไผท ่นี า สนใจ เพื่อปลูกเปนการคา
4. สวนไผเศรษฐกจิ สรางชีวิตสรางธรรมชาต ิ
5. แหลงผลติ ผลิตภัณฑไ มไผข องเมืองไทย
ตอนที่ 1
ไผสรางสภาพแวดลอมใหดีไดอยางไร
สาระสําคัญ
ไผเปนไมท่ี พบอยู ตามธรรมชาติ จุดท่ี ไผขึ้ นอยู บงบอกความอุดมสมบูรณ
ของทองถิ่นไดด ี สถานการณปจจุบนั พ้ืนที่ปาคลอง มีการนําไผม าปลูกเพื่อสรางสภาพ
แวดลอ ม และการใชสอย
จุดประสงคการเรยี นร ู
1. อธิบายประโยชนของไผท ีม่ ตี อ สิง่ แวดลอ มได
2. อธิบายขอแตกตา งระหวางพื้นท่ีวางเปลาและพ้ืนท่ีปลูกไผได
ขอบขายเนื้อหา
ประโยชนของไผท มี่ ตี อส่ิงแวดลอม
ไผเ พอื่ ชวี ติ 2
ตอนท่ี 1
ไผสรางสภาพแวดลอมใหดีไดอยางไร
เมื่อกอนเมอื งไทยมพี ื้นทปี่ ามากมายมหาศาล จนมคี วามหวาดกลัวกัน อยา งเชน
ปา ดงพญาเยน็ เมอื่ กอ นเปน ปารกชฎั มาก อนั ตรายจากสงิ สาราสตั ว รวมทงั้ พษิ ไขมาลาเรยี
เหตุท่ีเปนอยางท่ีกลาวมา เพราะปาสมบูรณ เหมาะตอการอยูอาศัยของยุงรวมท้ัง
สัตวปาอ่ืนๆ คนสวนหน่ึงจึงมีความเขาใจวา ตองทําลายเทานั้น จึงจะอยูอยางรอด
ปลอดภัยได
ภาพ ปาเขาระยะไกล ทอี่ ุดมสมบูรณ
ปจจบุ นั ปา ดงพญาเยน็ โลน แลง จนถือเปนตํานานไปแลว แนะนาํ ตรงนส้ี ักเลก็
นอย ก็ได ปาดงพญาเย็น พน้ื ท่สี วนใหญอ ยใู นจงั หวดั นครราชสีมา แถบอาํ เภอปากชอง
ตอกับจังหวัดสระบุรี ผูคนไดอาศัยพ้ืนดินทําการเกษตร ซึ่งก็ประสบผลสําเร็จด ี
มีการปลูกพืชไดอ ยางกวา งขวาง ตงั้ แตพชื ทวั่ ไป จนถึงไมเมอื งรอนอยางเงาะและทเุ รยี น
การยอ นคนื สอู ดตี ของดงพญาเยน็ คงเปน ไดแ ตเ พยี งตาํ นาน ทเี่ ลา ขานกนั เทา นนั้
เพราะทุกส่ิ งทุกอยางเปล่ี ยนไปมาก หรือหากอยากจะสัมผัสบรรยากาศใกล
เคียงก็ที่อุทยานแหงชาติเขาใหญ พ้ื นที่บริเวณนั้นยังคงสภาพใกลเคียงกับอดีตหลาย
สิง่ หลายอยา งมปี ระกอบกนั เปนองคป ระกอบที่สมบรู ณ
เปนท่ียอมรับกันวาภัยแลง และภัยธรรมชาติตาง ๆ ท่ีเกิดข้ึนอยูทุกวันน้ี
เกิดจากการทําลายปาเปนสาเหตุหลัก เปรียบเทียบไดงายๆ ระหวางผืนดินกับ
รางกายของคน
ไผเ พอ่ื ชวี ติ 3
ผนื ดนิ ทม่ี ตี น ไมใ บหญา ขนึ้ อย ูยามฝนตกลงมา นา้ํ คอ ย ๆ ไหล ไมไ หลบา รนุ แรง
การเกิดนํ้าทวมอยางฉับพลันจึงมีนอย ผืนดินท่ีมีปาคลุมก็เชนกัน เม่ือแดดสอง
แสงกวาจะรอดสูพ้ื นดินได ตองผานตนไม โอกาสที่ดินจะไดรับความรอนอยางรุน
แรงจึงมีนอ ย
ปาอดุ มสมบรู ณ
ตัวคนเราหากเปลือยรางกายรับแสงแดด รางกายมีโอกาสรอนกวาท่ีใสเส้ือผา
กรณีฝนตก หากถอดเสื้อนํ้าฝนท่ีตกใสรางกายไมมีน้ําหลงเหลืออยูเลย ขณะท่ีใสเสื้อ
โอกาสที่ถกู ซับดวยเสอ้ื ผา มมี าก ดังนน้ั ผนื ดินทม่ี ปี า ยอมดกี วา ผนื ดนิ ที่ไมม ปี า
แตเหตุที่ปาไมบ านเราถูกทาํ ลายมากๆ เปนเพราะความตองการใชประโยชน
จากตนไม รวมทั้งนําที่ดินมาใชเพ่ือการเกษตรกรรม เปนเพราะทราบสาเหตุวาทาํ ไม
เกิดความแหงแลง และจะแกไขอยางไร จึงมีความสนใจปลูกตนไมอยางจริงจัง
ปลกู ตน ไมเ พอ่ื ใหเ กิดปา
ความหลากหลายของต นไม ในบ านเรามีอยู มาก ที่ สามารถนํามาปลู กเพื่ อ
ความรม เย็นได ชนดิ ของไมที่ปลกู อาจจะปลูกแลว ไมสามารถตดั ฟนมาใชป ระโยชนไ ด
เพราะไมมีความเหมาะสม หรืออยู ในเขตของทางราชการ แตตนไมสวนหน่ึ ง
สามารถตัดมาใชใ นเชิงเศรษฐกจิ เรยี กวาไดประโยชนส องทาง
ไมอาจปฏิเสธไดวา ไผเปนพืชที่สารพัดประโยชน ทั้งน้ีเพราะไผสามารถ
ใชประโยชนในแงของการปลูกเพ่ือสรางความชุมชื้น สรางสภาพแวดลอม รวมทั้ง
นําตน ไผท ่ีปลูกมาใชใ นเชิงอตุ สาหกรรมได
ไผเ พอื่ ชวี ติ 4
เมืองไทยเรารูคุณคาของตนไผมานานแลว จึงมีการปลูกสรางในรูปของ
การรวบรวมพันธุ เปนแปลงใหผูสนใจไดศึกษาหาความรู ขณะเดียวกันเอกชน
ไดป ลกู ไผเพื่อการคาเปนแปลงใหญๆ ตา งประเทศก็ใหความสําคญั เชนกนั
ม.ล.จารุพันธ ทองแถม แหงภาควิชาพืชสวนคณะเกษตรมหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร บอกวา ที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกา เม่ือกอนปลูกสับปะรดและออยกันมาก
ขณะน้ี หันมาปลูกไผและศึกษาเร่ื องไผอยางจริงจัง และฟลิปนสรู จักใชประโยชน
จากไมไผอยางจริงจังมานานแลว ถือวาเปนชาติหน่ึ งท่ี เขาใจพืชชนิดน้ี ด ี
ประเทศไทยเราไมนอยหนาตางชาติ เพราะหลังจากการตัดไมทําไดลําบากมากขึ้ น
ตน ไผก ็ถ่ กู หยบิ ยกข้ึนมาพิจารณาเปนพืชระดับนาํ
ไผสรางส่งิ แวดลอ มอยางไร
ไผอาจจะมีลักษณะทางพฤกษศาสตรตางจากพืชชนิดอื่ น ตรงท่ี ลําตนมี
ขอปลอง กลางปลองกลวง กระน้ันก็ตาม คุณสมบัติอื่นๆ ไผเหมือนกับพืชทั่วไป
ในแงของการรักษาส่ิงแวดลอ ม
ไผเ ปน พชื ตระกลู หญาทม่ี ขี นาดใหญท ่สี ุดในโลก พจิ ารณาดทู ร่ี าก ไผม ี รากฝอย
ถักสานกันไปมาในดิน ชวยใหดินลดการพังทะลาย สังเกตุวา ภูเขาหินปูนท่ีโครงสราง
ของดินไมเกาะตัวกันแนนนัก แตเมื่ อมีไผขึ้ นอยู อยางหนาแนน รากไผจะชวย
ยึดดนิ ใหแ ขง็ แรงรวมตวั กันอยูได เปน ตัวอยางท่ีเหน็ ไดช ัดเจน
ปา ไผ ทาํ ใหด นิ อดุ มสมบรู ณ จากประสบการณข องเกษตรกร บรเิ วณใดทตี่ น ไผ
ขนึ้ อยูอ ยางหนาแนน ดนิ บรเิ วณนน้ั จะอดุ มสมบรู ณ การหกั ลางถางพง เพือ่ นําพน้ื ทมี่ าใช
ในการเกษตรจะไมผิดหวังแตอ ยา งใด ทแ่ี นะนําอยางน้ ี ไมไ ดสงเสริมใหมีการตดั ตน ไม
เพียงแตอยากบอกใหท ราบเทา นนั้ เอง
ปา ไผ
ไผเ พอ่ื ชีวติ 5
พนื้ ทร่ี มิ น้าํ สวนใหญจะพบไผปา ทม่ี ีลาํ สีเขียวขนาดใหญขึ้นอยู ดนิ บริเวณท ่ี
ไผปาข้ึนอยู ถือวาเปนดินดีมากทีเดียว หากพื้นที่เปล่ียนไป เปนที่สูงข้ึนเปนเนิน
ชนิดของไผที่พบก็จะเปล่ียนไปดวย ไผจึงบงบอกสภาพแวดลอมของถิ่นน้ันๆ ไดด ี
คนที่เดนิ ปาบอย ๆ จะรเู ลยวา ดนิ ตรงไหนดไี มด ี เพราะมชี นดิ ของไผเ ปนตัวบง บอก
กอไผร ิมนํา้
มีการนาํ ไผเขาไปปลูกแถบอีสานเหนือ อยางจังหวัดนครพนมและหนองคาย
เปนแปลงใหญ ๆ ท้ังน้ีผูสงเสริมใหเกษตรกรปลูก ตองการสรางธรรมชาติใหดีข้ึน
ผลท่ี เกิดตามมานั้ นแนนอนเขาตองการตัดฟนผลผลิตเขาโรงงานอุตสาหกรรม
ทําเยอื่ กระดาษ แตผ ลการดาํ เนนิ การไมประสบผลสาํ เรจ็ มากนกั เนอ่ื งจากไผเ กดิ ตายขยุ ลง
จํานวนมาก
การปลูกตน ไผล งเปนแปลงขนาดใหญ หรอื อาจจะปลกู ขนาดไมมากนกั ก็ตาม
จะชวยสรางสภาพแวดลอมใหดีข้ึนอยางแนนอน เร่ิมจากท่ีตนไผคอยปกคลุมผืนดิน
ลดการถูกกระทบจากดวงอาทติ ยโ ดยตรงของดนิ ความรอนที่ดินจะระเหยขึน้ สูท องฟา
จงึ ลดนอ ยลงหรอื ไมมี ความชนื้ จงึ ยงั คงอย ู สง่ิ ทต่ี น ไผชว ยได ในเร่ืองของความชนื้ คอื
ใบไผ รวมทั้งตนท่ีเปนกลุมกอ ตามปาที่มีความสมบูรณ ไมวาจะเปนเขตรักษาพันธุ
สัตวปา หว ยขาแขง บริเวณนน้ั ปา ไผอดุ มสมบรู ณ พน้ื ดนิ ดชู ุม ชนื้ น้ําทไี่ หลตามหวยบาง
สายไมเ คยเหือดแหง และใสสะอาดตลอดท้งั ป
การปลูกไผเพื่อการบริโภค ชวยใหคนมีสุขภาพอนามัยดีขึ้น รวมทั้งรบกวน
สง่ิ แวดลอ มนอย เปนทยี่ อมรบั กนั วา ไผท่ีปลกู เพ่อื การบรโิ ภคหนอนัน้ ไผต งเปนไผ
ทป่ี ลกู มากทสี่ ดุ ปจจัยทใี่ สใ หก บั ตน ไผต งเปน เรอื่ งของปยุ คอกปยุ หมกั ศตั รทู จ่ี ะทําลาย
ไผเ พอื่ ชีวติ 6
แทบมองไมเห็น จึงไมมีการใชสารกําจัดศัตรูพืชประเภทสารกําจัดแมลงศัตรูพืชใน
การปลูกไผเพ่ือนําหนอมาบริโภคแตอยางใด ดังน้ัน คนบริโภคอาหารจากไผ
จึงปลอดภัยไรกังวล พืชอื่ นท่ีมีการใชสารเคมีกําจัดแมลงศัตรูพืชน้ั น บางครั้งอาจม ี
สารเคมหี ลงเหลือ และไหลลงสูลาํ คลอง มีผลตกคา งยาวนาน
สวนหนึง่ ชาวบานเก็บผลผลิตไผจ ากปามาบริโภค เชน ไผไร หนอไผไ รน ้ัน
มีการบริโภคกันอยางกวางขวาง ทางภาคอีสานบางจังหวัด และภาคเหนือ ถือวา
เปน อาหาร ที่ไมเ ปนอนั ตราย เนื่องจากเกบ็ ผลผลิตไดจ ากปา โดยตรง
หนอไมไ ผใ ตโคนกอไผ
ไผชวยเพิ่ มพูนความอุดมสมบูรณของดิน แตละปใบไผรวงหลนลงพ้ื นดิน
มากมายมหาศาล ใบไผท ที่ บั ถมกนั กลายเปน ปยุ ชน้ั ด ี ชว ยปรบั โครงสรางของดนิ ใหดขี นึ้
สง่ิ ทพ่ี สิ จู นไ ด คอื ดนิ ขยุ ไผ มกั จะมกี ารซอ้ื หาดนิ ขยุ ไผไ ปปลกู ตน ไม ประเภทไมก ระถาง
อยเู สมอ
โดยรวมแลว หากมกี ารรณรงคปลกู ตนไผใ หม ากๆ ไมว า จะวตั ถปุ ระสงค อนั ใด
เชน เพ่ืออุตสาหกรรม เพือ่ การบริโภคหนอตนไผก็จะชว ยใหสง่ิ แวดลอมในบา นเมือง
เราดีขึ้น
ไผเล้ียงสรางพืน้ ดนิ ดี ทป่ี ระจันตคาม
พื้นท่ีของจังหวัดปราจีนบุรีน้ันกวางใหญไพศาลมาก คิดดูก็แลวกัน ตัอง
แยกพื้นที่ สวนหน่ึงไปเปนจังหวัดสระแกว เพราะพื้นท่ีกวางใหญ งานปลูกพืชจึง
มีหลากหลาย ท่ีอําเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ปลูกพืชเมืองรอน อยางเงาะทุเรียนได
แตอ ําเภออ่ืน อยา งนาดี ปลูกทเุ รียนไมค อยประสบผลสาํ เรจ็ นัก
ไผเ พอ่ื ชีวติ 7
ความหลายหลาย สวนหนึ่งดินเปนตัวบอช้ีไดดี ท่ีหม ู 5 ตําบลคําโตนด
อําเภอประจนั ตคาม จงั หวดั ปราจนี บรุ ี มีท่ีดนิ เปน โคกสงู ไรค นเหลียวแล สภาพท่วั ๆ ไป
เปน ทโี่ ลน แลง โครงสรางของดินเปน หนิ กรวด ทีบ่ รเิ วณดงั กลา วอยกู อ น ถงึ หมทู ี่ 5
พื้นทีท่ ี่แนะนาํ คอื อําเภอประจันตคาม ไปทางอาํ เภอกบนิ ทรบ รุ ี ประมาณ 5
กโิ ลเมตร อยูไมต ดิ ถนนใหญ ตอ งเลี้ยวซา ยเขา ไป ฟง จากคําบอกเลาแลว นกึ ภาพ เมื่อ 20
ปกอนออก เพราะบริเวณใดที่ ปลอยใหรกราง บริเวณน้ั นขนาดตนไมไมสูงนัก
แตบริเวณใดที่ปลกู ตน ไม ความเขียวขจมี ีอยอู ยางชัดเจน
ภาพ ทางเขา หมทู ่ี 5 ต. คําโตนด อ. กบินทรบ ุรี จ. ปราจีนบรุ ี
นางเกตุ ทุมมี ชาวบานอยูบานเลขท ่ี 25 หม ู 5 ตําบลคําโตนด เปนผูหนึ่ง
ที่ ถือครองที่ ดิน ซ่ึ งเม่ื อกอนมีกิตติศัพทในเร่ื องของความแหงแลง แตปจจุบัน
ท่ีบริเวณน้ันกลับชุมเย็น มีตนไผเล้ียงข้ึนเปนดง นอกจากพ้ืนที่ปลูกของนางเกตุแลว
ยงั มขี องเพ่อื นบา น ปลกู ตามอยางกนั รวมเปนแปลงขนาดใหญ
นางเกตุเลาวา บรรพบุรุษของตนเอง มีท่ีดินอยูหลายสวนดวยกัน สวนหน่ึง
เปนที่นา อยูบริเวณท่ีราบลุม สวนหนึ่งท่ีสูง เปนเนินกอนเขาหมูบาน บริเวณเนิน
กอ นเขา หมบู า นไมไดใชป ระโยชนอ ะไรแลว ก็ไมค อยมีใครคิดอยากใช
ไผเ พอ่ื ชีวติ 8
จนกระทั่งอยูมาวันหนึ่งบรรพบุรุษของนางเกตุไดนําไผเล้ียงลงปลูกบริเวณท ี่
ดอนจํานวนไมมากนักชวงแรกท่ีปลูกเพื่อนบานไมคอยมีความมั่นใจนัก วาส่ิงที่ทาํ
ลงไปนน้ั จะไดผ ล กระนั้นกต็ าม ผูปลกู ไมไดทอ แท แตมุงม่ันดแู ลตนไผอ ยา งสมาํ่ เสมอ
ไมใหวัวควายเขาไปแทะเล็ม หน่ึงปผานไปไผเริ่มแตกหนอ สองป ผานไปไผเร่ิมกอ
ใหญข ึ้น จนถึงปท ่ี 6-7 ไผข ยายกอมลี ําขนาดใหญ อยา งกบั ทน่ี ําตน พันธมุ าสรา งความ
ภูมิใจใหก บั เจาของเปนอยา งมาก จึงมีการขยายออกปลูกเพม่ิ เติม แรกๆ เจาของนาํ ไมม า
ใชประโยชนเ อง เชน ทาํ รัว้ ทาํ เครอื่ งใชตา ง ๆ ตนพันธุก็ไมตอ งซ้อื ตอ งหาขอกันปลูก
ภาพ หนอ ไผเ ลี้ยง
ไผเ พอื่ ชวี ติ 9
ภาพ การเจรญิ เติบโตของไผเ ลย้ี ง
เวลาผา นไปชวงหน่ึง ผูคนเห็นดีเห็นงามดวย จึงมีการขยายพ้ืนที่ปลูกมากข้ึน
ขณะเดยี วกัน การใชไมม ีความตองการเพมิ่ ขึน้ จึงมีการซอ้ื ขาย การซ้ือขายนเี่ องสงผลให
การปลกู เปน การคาจรงิ ๆ
ภาพ ลาํ ไผม ีเนื้อหนา
ไผเ พอื่ ชวี ติ 10
ภาพ การปลกู ไผชว ยสรางส่งิ แวดลอ มที่ด ี
จากพื้นท่ีเคยแหงแลงบริเวณท่ีดอนเม่ือปลูกไผมากข้ึนความชุมเย็นกลับมา
มอี ยางนาอศั จรรยใจยิ่ง มีพน้ื ท่ีบางสว นที่หลงเหลืออยู เกษตรกรไดน ําขนนุ เขา ไปปลูก
นาํ กระทอ นเขา ไปปลกู ปรากฎวางอกงาม ท้ัง ๆ ทีเ่ ม่อื กอ นทาํ ไมได ขนนุ รวมถงึ ผลไม
ชนดิ อ่นื ทป่ี ลูกใกลกับปา ไผ ไดรสชาตทิ ี่ด ี การดแู ลรักษาไมตองมีมาก ชาวบานบริเวณ
น้นั บอกวา ชวงแลงราวเดือนมีนาคม เมษายน เดินเขา ไปยงั ปา ไผ รสู ึกเยน็ สบายดี สวน
หนาฝนนน้ั ไมตอ งหวง เย็นยะเยอื กอยูแลว เหตุท่ีความชุมชน้ื มีขึ้นนั้น เปน ผลมาจากไผ
ทปี่ ลกู ไวหลายหมนื่ หลาย แสนลํา
นางเกตบุ อกวา การปลกู ไผเ ลยี้ ง ไมต องเอาใจใสเ ปนพเิ ศษมากนกั ดแู ลครงั้ แรก
เมื่ อรอดตายก็ปลอยตามธรรมชาติอาจจะใหปุ ยคอกบาง เรื่ องของวัชพืชก็ไมมี
เมอ่ื การปลกู ผา นพนไปแลว 3 ป พ้นื ดนิ ดา นลางเปนทีโ่ ลงเตยี น
ภาพ
หนอไผนาํ มาปรงุ อาหารโดยทเ่ี ปน พืลผักอนามัย
ปลอดภัยจากสารพษิ
ไผเ พอ่ื ชีวติ 11
ประโยชนจากไผเลี้ ยง หนอนํามาปรุงอาหารไดอรอย แตไมคอยนิยม
เพราะลาํ ขายไดราคาดีกวา
ภาพ ไผเลีย้ งอายุยงั ไมถงึ ป
หากปลูกกันตามแบบชาวบาน จํานวนตนตอไร อาจจะมีขอจํากัด แตหาก
เปน ทางวชิ าการแลว ใชระยะระหวา งตน ระหวางแถว 4 x 4 เมตร พืน้ ท่ี 1 ไร ปลกู ไดร าว
100 ตน
ระยะเวลาปลกู ผา นไป 3 ป เจา ของสามารถตัดสางตน ที่มขี นาดเล็กและอายุมาก
ออกขายได แตราคาไมแพงจนถึงปท ี่ 7 การตัดเกี่ยวผลผลิตจึงทําไดเต็มท่ี นางเกตุ
บอกวาไผที่มีขนาดใหญสุด ความยาวประมาณ 8 เมตร ขายลาํ ละ 20 บาท ลาํ ขนาด
กลางขายลําละ 10 บาท ขนาดเล็กขายลําละ 5 บาท ขนาดจ๋ิวขายลําละ 3-4 บาท
ราคาอาจจะมีการขึ้นลงบางแตชวง การขายเจาของไมตองทําอะไร เพียงแตคอยนับ
เม่ือมคี นมาตดั วาตัดไดก่ีลาํ เทา น้ันเอง
นางเกตุบอกวา ตนเองมพี ้นื ทีป่ ลกู ไผเลี้ยงอยรู าว 40 ไร ขณะนใ้ี หผ ลผลติ แลว
17 ไร แตล ะปมีเงนิ จากการขายลําไผต้ังแต 40,000-100,000 บาท เปรียบเทียบกับ
ไผเ พอ่ื ชวี ติ 12
การปลูกไผตงแลว ไผเลี้ยงมีรายไดตอไรน อยกวา แตไผเลี้ยงแทบไมไดลงทุนอะไร
เลยระหวา งป ปจจัยการผลิตท่ีใหกบั ตนไผ เชน สารกาํ จดั ศตั รพู ืชก็ไมตอ งใชเชน กัน
ทาํ ใหเ กษตรกรมีความปลอดภยั มีสุขภาพทด่ี ี
นางเกตุมีลูก หลานท่ี ประกอบอาชีพคาขายเปนหลัก งานเกษตรอยาง
การปลกู ไผเล้ยี งถือวา เปน ส่งิ ท่เี สริมเขา มาแตก ส็ รา งรายไดเ ปน อยา งดี
พ้ืนท่ีปลูกไผเล้ียงของอําเภอประจันตคาม ขณะนี้มีอยูเกือบ 3,000 ไร
ตลาดอยูกับที่ คือ มีผูมาซื้อไมตองดิ้นรนไปขายท่ีไหน บางคร้ังไผไดกําหนด
เวลาขายแลว แตไมอ ยากขายหรือเห็นวาราคาไมดี ไมตองขายกไ็ ด
งานขยายพนั ธไุ ผเ ลย้ี งนนั้ ทาํ ไดย ากพอสมควร คอื ตอ งขดุ ตน ทอ่ี ยรู อบนอกออก
เม่ือไผอายประมาณ 1 ป ตอ งคาดคะเนวา ตนไหนพรอ มจะมหี นอ ใหมออกมา ขุดตน
แลวนําลงปลูกเลยจะเกิดตนใหมขึ้นมาภายในปน้ัน และเติบโตเร็วมากในปตอ ๆ มา
ตน ท่ีไมมีหนอ ขุดปลกู ไดเ ชนกัน แตจะเจรญิ เติบโตชา
ภาพ ประโยชนจ ากไผเลยี้ ง
ใครท่ีแวะเวียนเขาไปยังหมู 5 ตําบลคําโตนด ทุกวันน้ี จะมีความรูสึกวา
ถิ่นน้ันมีความสมบูรณ มีความชุมเย็น หมูบานผสมผสานไดดีกับปาไม ถือวา
เปน ปาเศรษฐกจิ ทอี่ ยูรวมกบั ชุมชนไดเปน อยางดี
ไผเ พอื่ ชีวติ 13
ภาพ คณุ บรรพต เชอ้ื เพชร เจาหนา ทเี่ กษตร
สํานกั งานเกษตรอําเภอประจันตคาม
ทางเจาหนาท่ีเกษตร ประจําสํานักงานเกษตรอําเภอประจันตคามรวมท้ัง
เจาหนาท่ี เกษตรจังหวัดปราจีนบุรี มีความภูมิใจในส่ิ งท่ี เกิดขึ้ นอยางมาก
หากมีใครตอ งการศกึ ษาดูงาน ก็จะพาไปศึกษายังจดุ ดังกลา ว เพราะถือวาเปนหนาตา
ของจังหวดั เลยทีเดียว
ไผเ พอื่ ชีวติ 14
ตอนท ี่ 2
ไผประดบั กับการสรางสีเขียว
สาระสําคัญ
เดิมทีมีความเขาใจวาไผปลูกไดเฉพาะพ้ืนที่กวางใหญเทานั้น แตปจจุบัน
สามารถ ปลกู ไดใ นพ้นื ท่จี ํากัดรอบ ๆ บาน ทาํ ใหส รางสเี ขยี วรวมท้งั อาณาบรเิ วณไดดี
จุดประสงคการเรียนร ู
อธบิ ายไผช นิดตาง ๆ ท่ใี ชประดับพรอมทัง้ วธิ ีการปลูกได
ขอบขายเน้ือหา
ชนดิ และประโยชนของไผสวยงาม วธิ ีปลกู และดแู ลรกั ษา
ไผเ พอ่ื ชวี ติ 15
ตอนที่ 2
ไผประดบั กับการสรางสีเขียว
ไผเ ปน ไมป ระดบั ทมี่ ีความสวยงามมาก ไผบ างชนดิ ทปี่ ลกู เพอ่ื ผลติ หนอ และลาํ
แตสามารถนํามาปลูกประดับไดดี เปรียบเทียบกับชาติอื่ น ๆ แลว ไทยเรา
ยังนําไผมาประดับนอ ย ทัง้ น้ีอาจจะเปนเพราะวา บา นเรามีไมป ระดบั มากมายใหป ลกู
รวมท้งั ไผ อยูคกู บั คนไทยเก่ยี วขอ งกบั ชวี ติ จนถือเปน เรอ่ื งธรรมดาไป
แปลงรวมพันธุไผท่ีปราจีนบุรี
จังหวัดปราจีนบรุ ี ขน้ึ ชอ่ื วาเปนเมืองไผ ท้งั น้ีเพราะไผตงท่ีนน่ั เขาลอื ล่นั มาก
เมอื่ ป 2527 กรมราชทณั ฑ กระทรวงมหาดไทย ไดจัดสรา ง “สวนพนั ธุไผ
ปราจนี บรุ ”ี ขนึ้ ซง่ึ ตงั้ อยทู ถ่ี นนสายปราจนี บรุ เี ขาใหญ หลกั กโิ ลเมตรที่ 10.5 บา นเนินสงู
ตําบลเนินหอม อําเภอเมือง จงั หวัดปราจนี บรุ ี วัตถปุ ระสงคของการตั้งสวนพันธุไผก ็
เพอ่ื เฉลมิ พระเกยี รติ์ เนอื่ งในมหามงคลสมยั ทีพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา อยหู วั ฯ ทรงเจริญ
พระชนมพรรษา 5 รอบ วันท ่ี 5 ธนั วาคม 2530 และในวโรกาสมหามิ่งมงคลพิธรี ัช
มังคลาภิเษกวันที ่ 2 กรกฎาคม 2531 วัตถุ ประสงคอยางอื่นก็เพื่อเปนศูนยเผยแพร
ความรทู างวิชาการ รวบรวมพนั ธไุ ผ สวน ตัวอยาง และสถานทท่ี องเท่ยี ว
ไผเ พอื่ ชีวติ 16
ภาพกอไผร วกทีส่ วนพนั ธุไผปราจนี บุรี
สวนพนั ธไุ ผเรม่ิ ดําเนินการเมอื่ ปพ.ศ. 2527 เสรจ็ สิน้ เรียบรอ ย เมื่อปพ.ศ. 2531
พน้ื ทขี่ องสวนมีทง้ั หมด 327 ไร ปลูกพนั ธุไผไ วเกือบ 50 สายพนั ธุ พ้นื ทก่ี วางใหญ
นอกจากปลูกไผไวจนเตม็ แลว สวนหน่ึงเปน อาคารศนู ยวิชาการ จดั แสดงพิพิธภัณฑไ ผ
ท่ีเนนเคร่ืองจักสาน เชน ของใสปลา หวดนึ่งขาว และอ่ืน ๆ บางช้ินหาดูไดยาก
และไมเคยพบเห็นมากอน สําหรับแปลงปลูกไผนั้นมีการจัดการท่ีดี ไผท่ีเห็น
นอกจากชนิด ทปี่ ลกู เพ่อื การศึกษาเร่ืองเศรษฐกจิ แลว ยงั มีชนิดท่ปี ลูกเพื่อการประดับ
ใครท่ีสนใจศึกษาเร่ืองไผสามารถเขาไปศึกษาได หากไมเปนทางการ ก็ตรง
ไปไดเลย หากเปนทางการตอ งการขอ มลู เปนหมูคณะก็ทําหนงั สือผา นทางอธบิ ดกี รม
ราชทัณฑ กระทรวงมหาดไทย จะไดรบั ความสะดวกสบายทเี ดยี ว
ไผเ พอื่ ชีวติ 17
สวนพันธุ ไผ เปนการรวมพันธุ ไผที่ มีทุกภูมิภาคของประเทศไทยไว
ใครที่อยากศึกษาวาหนาตาไผท่ีเมืองเหนือเปนอยางไรก็ไปดูได ใครที่อยากชมไผ
พื้นท่ีสวนใหญข้ึนอยูในท่ีแหงแลงกันดารก็มีใหศึกษา เขายอพื้นท่ีศึกษาไผเขาไว
ในแหลง เดยี วกนั จึงทนุ เวลาไดอยางดีทเี ดียวใครอยากเขาชม หรือถามรายละเอียด
อยา งไมเ ปน ทางการนัก ติดตอทีโ่ ทรศพั ท (037) 212661
ตน ไผห าปยุ ไดนอ ยทําใหข นาดของกอไผไมใหญน กั หากที่จาํ กดั แลวยังปลอ ย
ใหพ มุ กอของไผมมี าก อาจจะมปี ญ หาภายหลงั คอื ตน ไมส มบูรณ และขาดความสวยงาม
ภาพลําไผเลีย้ งดใู กล ๆ
ไผเลี้ยง
ไผเ ล้ยี งมีลาํ ตน สูงกวา 5 เมตร เสน ผา ศนู ยก ลางลาํ 1-3 เซนติเมตร ปลองยาว
20-30 เซนตเิ มตร ลําสีเขียวมขี นละเอยี ดสขี าวนวล ไมม ีหนาม ใบเลก็ เรยี ว ขนาดความ
ยาวประมาณ 8-10 เซนตเิ มตร กวา ง 1-1.5 เซนติเมตร กาบหุม ลําสนี ํ้าตาลออนหลุดงาย
ไผเลี้ยงมีลาํ ตนตรง ชวงลางไมมีกิ่ง ลําตนชวงลางจึงดูเกลี้ยงสวย สวนน้ ี
น่ีเองทีใ่ หความสวยแกผ ูป ลกู
ไผเลี้ยงเปนไผท่ีมีความมหัศจรรย ปลูกใหงอกงามในดินดีก็ไดหรือยอสวน
ใหอยูในพ้ืนท่ีจาํ กัดไดเชนกัน ในเมืองใหญอยางกรงุ เทพฯ มีการปลูกไผเล้ียงไวต าม
หนาบานหรือปลูกในกระถางขนาดใหญก็พบเห็นอยูมาก และนับวันจะมีความสําคัญ
มากขึ้น
ไผเ พอ่ื ชีวติ 18
ไผเลี้ยงเปนไผที่มีความมหัศจรรย ปลูกใหงอกงามในดินดีก็ไดหรือยอสวน
ใหอยูในพ้ืนท่ีจํากัดไดเชนกัน ในเมืองใหญอยางกรงุ เทพฯ มีการปลูกไผเลี้ยงไวตาม
หนาบานหรือปลูกในกระถางขนาดใหญก็พบเห็นอยูมาก และนับวันจะมีความสําคัญ
มากขึ้น
ไผเ ลยี้ งปลกู งาย แตการซื้อตนพนั ธทุ ่ีวางขายอยตู ามรา นขายตนไม ตอ งเลอื ก
ตนท่ีผานการชํามานานแลวเทานั้น เพราะหากเพียงแตชําแลวแตกใบ นําไปปลูก
อาจจะไมประสบความสาํ เร็จได พื้นที่ไมก วา งนักก็สามารถปลูกไผเ ล้ยี ง ขอเพยี งแต
ตัดแตงใหยามมีหนอข้ึนมา อยาใหมีหนอมากนัก ลําตนก็ตัดอยาใหสูงเกินไปให
สมดุลกันกับพ้ืนท่ี
ไผเ พอื่ ชีวติ 19
ภาพตน ไผน ํา้ เตา
ไผนํ้าเตา
ถือวา เปนไผท่ีปลูกเพื่อการประดบั อยางแทจริง ปลูกอยทู ั่ว ๆ ไปของบานเรา
เสนห ของไผช นดิ นอ้ี ยทู ่ขี อ ปลอ ง ซ่งึ สัน้ โปง ตรงกลาง แลวก่วิ ตามขอ คลา ยผลนํา้ เตา
ลํามีสเี ขียวเขม สูงประมาณ 3-4 เมตร ลาํ ตน สะอาด ไมมคี าย แขนงส้ัน และจะออก
แขนงเม่ือลําสงู ขึ้นจากพื้นประมาณ 1-5 เมตร แตกออกเปนแขนงเด่ียว ๆ ใบสเี ขียว
หนอสเี หลอื ง ขนหนอสนี าํ้ ตาลแก
ภาพตนไผน า้ํ เตา
ไผเ พอ่ื ชีวติ 20
ไผสีทอง
จัดเปน ไผทีม่ ีความสวยงามมากชนิดหนง่ึ โดยเฉพาะสขี องลาํ ไผส ีทอง มีชื่อ
อยางอืน่ อกี เชน ไผโ ป ไผท อง จดั เปน ไผขนาดเล็กถงึ กลาง ผิวของลํามีสเี หลืองทอง
ท้ังลาํ กาบหุมลาํ ตนมีสีน้าํ ตาลออน ติดอยูกับลาํ ตนเปนระยะ ๆ ใบยอดกาบ มีฐาน
กวา งแตย อดแหลม ลาํ ตน ตรง
ไผส ที องมเี น้ือของลาํ บาง ขนึ้ เปนกอไมแ นน จะแตกกิ่งเฉพาะสวนยอดของลํา
ประโยชนของไผสีทอง นิยมปลูกเพ่ื อการประดับ สวนหน่ึ งใชทําฝา
ทําเพดานบาน ท้ังนเี้ พราะเนือ้ ของลาํ ตนบาง งายตอการทุบ
สําหรับการปลูกประดับ เกษตรกรแถบบางกรวยจะขยายพันธุไผสีทอง
ปลกู ตามสันรองสวน ใหตน เจรญิ เตบิ โตเตม็ ท่ีแลว กข็ ุดลอมใหก ับผตู องการ ยามใดทย่ี งั
ไมมีใครตองการก็ปลูกลงดินใหแตกหนออยูอยางนั้น เนื่องจากปลูกในพื้นท่ี น้ํามาก
การแตกกอจึงยาวนาน ไดป รมิ าณของลาํ เร็วขน้ึ ในแตละป นั่นก็หมายถึงการขายไดเงนิ
เรว็ เชน กัน
ไผส ที องผวิ เรยี บสเี หลอื งลวนๆ มีไผที่สใี กลเ คียงกบั ไผส ที องคอื ไผเหลอื ง
ไผเหลือง คลา ยกบั ไผสีทอง แตก ารเกดิ ของลาํ ตน ไมต รงไมคอยเปนระเบยี บ
ไผเหลืองมีแถบสีเขียวใหญเ ล็กสลับตามความยาวของลํา เนื้อของปลองคอนขางหนา
กอแนนทึบกวา ไผสีทองมาก
ภาพกอไผเ พ็ก
ไผเ พอื่ ชวี ติ 21
ไผเ พก็ เลก็ แตสวย
ไผเพ็กบางท่ี เรียกวา “ไผเพ็ก” หรือ“หญาเพ็ก” พ้ื นเพเดิมเขาใจวาอย ู
ใ นประเทศไทยหรือไมก็เวียตนาม เปนไผขนาดเล็กขยายพันธุโดยใชเหงาหรือไหล
เชนเดียวกับหญาคา ขึ้นรวมกันเปนกอ ทอดไปตามพื้นดิน ดูคลายหญาแพรก
ลําตนมีขนาดเสนผาศูนยกลาง 2 เซนติเมตร สูงกวา 50 เซนติเมตร ปลองส้ัน
ขอ ถ่ไี มตรง คดงอ ใบเล็กเรยี วสีเขียว แกมเหลือง กวางครึง่ เซนติเมตร ยาวไมเกนิ 10
เซนติเมตร หนอท่ีโผลเหนือดินจะเปนลํา หนอไมนิยมนํามาบริโภค แตใชตนทาํ
ประโยชน เชน ทาํ ไมเทา ทําคันเบ็ด หรือไมกท็ าํ คางปลกู พืชผักลมลุก
ไผป ระดบั มีแนวโนม ดขี ้นึ
ไมดอกไมประดับ เปนปจจัยหนึ่ งท่ี มีความจําเปนสําหรับคนในเมือง
อาคารบานเรือนมีมากมายข้ึนเพียงใด ไมประดับจําเปนตองใชมากข้ึนเทาน้ั น
ไผประดับเปนไมประดับชนิดหนึ่ง ท่ีมีการปลูกเพื่อการคามากข้ึน เชน ไผนํ้าเตา
ไผสที อง รวมทงั้ ไผเล้ยี ง
ไผเปนพืชที่มคี วามอดทน ข้ึนไดด ีในสภาพธรรมชาต ิ เมื่อนาํ มาปลกู เลีย้ งใน
เมืองก็ขนึ้ ไดด ีเชน กัน
ตน ไผ ใหความรูสึกเปนปา ทุกวันน้ีคนโหยหาธรรมชาต ิ การปลกู ตน ไผไ ว
ใหเปนกอ ยามลมพัดมีเสียงการเสียดสีของใบไผและของลําตนท่ีเอนไหวไปมา
จะสามารถดึงบรรยากาศความเปนธรรมชาติมาไดระดับหน่ึง
ไผเ พอ่ื ชวี ติ 22
ไผประดับมีสวนชวยใหบ รรยากาศดีข้ึน ขณะเดียวกันก็สรา งใหโลกมีสีเขียว
เมอื่ ปลกู กนั มาก ๆ กจ็ ะเขยี วคร้ึม มองไปทางไหนกช็ ่นื ตาชนื่ ใจ
ไผป ระดบั สรางสเี ขยี ว สรา งธรรมชาติใหไดไมย งิ่ หยอ นไปกวา พชื อนื่ ๆ ไผบาง
ชนดิ ถึงกับมชี ่ือวา “ไผสรางไพร”
ไผเ พอื่ ชวี ติ 23
ภาพเบื้องหนา เปน เขาใหญ ธรรมชาติทมี่ ีไผป าขึน้ อยา งหนาแนน
ไผเ พอ่ื ชวี ติ 24
ภาพไผเ ลยี้ งปลกู มลี าํ ตนเสมอกัน
ไผเ พอื่ ชีวติ 25
ตอนที่ 3
ชนดิ ของไผท น่ี า สนใจ เพอ่ื ปลกู เปน การคา
สาระสําคัญ
มีการพัฒนาการปลูกไผนาสนในมากในปจจุบัน ไผบางชนิดไมนาจะทําเปน
การคาได แตก ็ทาํ ไดอยา งดี
จุดประสงคการเรียนร ู
อธิบาย ไผชนิดตาง ๆ ทป่ี ลกู ในระดบั เศรษฐกิจได
ขอบขายเน้ือหา
การเลอื กชนิดไผแ ละการปลูกไผเ พอ่ื การคา
ไผเ พอ่ื ชีวติ 26
ตอนที่ 3
ชนดิ ของไผทน่ี า สนใจ เพอื่ นํามาปลกู เปนการคา
ประโยชนของตน ไผน้ันมีมากมายมหาศาล ปจ จบุ นั ไมในธรรมชาตลิ ดนอ ยลง
ไผเปน พชื ทีใ่ ชทดแทนไดร ะดับหนึ่ง หรอื ทดแทนไดใ นงานบางอยาง ดังนน้ั จึงมกี าร
ปลูกเล้ียงตนไผกันมาก เพื่อใชงานหลายแขนงเปนตนวา ปลูกไผเพื่อนาํ เขาโรงงาน
กระดาษ อยา งนเี้ ปนตน
ภาพสิง่ ประดิษฐส วย ๆ งามที่จากไผ
ไผเ พอ่ื ชีวติ 27
ในแงของการปลูกเพ่อื นําหนอมาบรโิ ภคก็มมี ากเชนกนั
ภาพหนอ ไผต งที่ยังเลก็ ๆ อยู
ภาพเครอื่ งดนตร ี เครอื่ งใช ทไี่ ดจากไมไ ผ
ไผเ พอื่ ชวี ติ 28
ภาพไผตงออกดอก
ไผตง เปนตนไผท่ีใชประโยชนทั้งแงการใชงาน เพื่อการอุตสาหกรรม เย่ือ
กระดาษ และปลกู บริโภคหนอกย็ ังไรเทียมทานยากที่ไผชนิดอื่นจะแซงได อยางไร
ก็ตาม ไผต งมีอายขุ ยั ระดับหนึง่ เมือ่ ปลายป 2537 ไผตงตายขุยลง มากกวา 2.5 แสนไร
สรา งความเสยี หายแกเกษตรกรเปน อยา งมาก
ไผตงมีอยู 3 สายพนั ธดุ วยกนั คอื ไผตงเขียว ไผตงหน ู และไผตงดาํ ไผต งดาํ
เปนไผท่ีเกษตรกรนิยมปลูกมากท่ีสุด ลําตนมีเสนผานศูนยกลางประมาณ 9-12
เซนติเมตร หรือเสนรอบวงประมาณ 30-40 เซนติเมตร ผิวลําตนมีสีเขียวอมดํา
จบั ดูรสู กึ สากมอื ใบมีขนาดใหญ เหน็ รองใบชดั เจน หนอ ตงดาํ ไดรับความนยิ มสงู สดู
เพราะคุณภาพดี รสชาติหวาน เนื้อหนอสีขาวละเอียด น้ําหนักหนอยูระหวาง 3-6
กโิ ลกรมั สกี าบหนอ สีนาํ้ ตาลปนดาํ หรอื ดําอมนวล
ไมไผ เปนพืชท่ีมีอายุขัยระดับหน่ึงแลวตายลง ไผตงอยูในขายน้ีเชนกัน
จังหวัดปราจีนบุรี มีการนําไผตงเขามาปลูกกวา 80 ปแลว โดยนําเขามาจากจีน
แผน ดนิ ใหญ ไผต งออกดอกเปน กอพรอ ม ๆ กนั ทกุ ลํา โดยใชร ะยะเวลาในการพฒั นาการ
ออกดอกมากวา 1 ป เม่อื ออกดอกแลวกต็ ายลงพรอมกนั ไผท อี่ อกดอกเหมอื นกับไผตง
คือไผรวก
เปนทพี่ สิ ูจนไ ดแ ลววา การนําตน พนั ธุท่ไี ดจากก่งิ ตนแมทมี่ อี ายุมาก ๆ มาปลูก
เมอื่ ตน แมต ายแขนงทไ่ี ดจ ากตน แมกจ็ ะตายตามกนั ดว ย นักวชิ าการเกษตรรวมทงั้ อาจารย
ในมหาวิทยาลัยได ศึกษาวิ ธีการขยายพันธุ ไผตง จนขณะน้ี เปนที่ ยอมรับกันแลววา
หากมีทุน มีหอ งปฏิบัตกิ าร เขานิยมขยายพนั ธโุ ดยการเพาะเลย้ี งเนื้อเยือ่ แตหากเปน
เกษตรกรขยายพันธุโ ดยการเพาะเมลด็ ดที ี่สุด
ไผเ พอ่ื ชีวติ 29
การขยายพันธุโดยการเพาะเล้ียงเน้ือเยื่อน้ัน เปนการลงทุนที่มากพอสมควร
ผทู ี่นิยมขยายพันธุโดยวธิ นี ี้คอื บรษิ ัทใหญ ๆ หรือไมก็หนวยงานของทางราชการ
ไผเ พอ่ื ชวี ติ 30
การเพาะเมล็ด เกษตรกรทําไดงาย ซ่ึ งจะไดกลาวถึงไวในตอนท ี่ 5 เปน
ประสบการณของเกษตรกร จากจังหวัดสระแกว วิธีการไมยุงยากทําคลาย ๆ กับ
เพาะเมล็ดพชื อ่ืน ๆ อาจจะตา งบา งตรงทเ่ี พาะอยูภายในโรงเรือนเทา น้นั เอง
โดยรวมแลวไผตงเปนพืชท่ีนาปลูกมาก เพราะใหผลตอบแทนในระดับ
เศรษฐกจิ ได ไมวาจะเปน ลําตน หรือหนอ
ศัตรูของไผตงนอกจากตายขุยแลว ศัตรูอยางหน่ึงที่อยากแนะนาํ ใหรูจักคือ
“ดวงงวงเจาะหนอ”
ดวงงวงเจาะหนอของไผตง พบวามีการระบาดชว งเดือนสิงหาคม ถึง เดือน
ตลุ าคม การทาํ ลายหนอไมเกิดข้นึ 2 ลกั ษณะดวยกันคอื
การกัดกนิ ดว งงวงโตเตม็ วยั ลาํ ตวั มสี ดี ํา สว นอกจะมสี เี หลอื งเขม มีความยาว
ประมาณ 4 เซนตเิ มตร กดั แทะเน้ือเย่ือออ นของหนอ ไมกนิ เปน อาหาร ทําใหเ กดิ บาด
แผลข้ึน เมื่อมีความชื้นในบรรยากาศสูงเชื้อแบคทีเรียก็จะเขาทําลายบริเวณดังกลาว
เกิดการเนา และตายในท่ีสุด
ไผเ พอื่ ชวี ติ 31
การเขาทําลายของตัวออ น ตัวเมยี จะวางไขบ นรอยแผล หลังจากการกัด แทะ
หนอไม ไขที่ฟกเปนตัวหนอนจะเจาะเขาสูสวนยอดของหนอไม กัดกินเนื้อภายใน
ทาํ ใหคุณภาพลดลง จนไมสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได หนอนทโี่ ตเตม็ ท่ี มีความยาว
5-6 เซนติเมตร เมือ่ เจาะยอดหนอ ไมจนทะลุจะทงิ้ ตัวลงดนิ อาศยั อยูใตผิวดนิ ลึก 3-30
เซนตเิ มตร จนกระทัง่ ตัวเตม็ วัย จะบินออกหากินตอ ไป
การพนสารเคมีจะเปนอันตรายตอผู บริโภคได ดังนั้ น ดร. จุฑารัตน
อรรถจารสุ ทิ ธ ิ์ นักวชิ าการเกษตร กลมุ งานปราบศตั รูพืชทางชวี วิทยา กองกีฎา และ
สัตววิทยา กรมวิชาการเกษตร จึงแนะนําวาเกษตรกรควรหม่ันออกตรวจดูแปลงไผ
อยางสม่ําเสมอ เมื่อจับตัวแกไดควรทําลายทิ้ง และทําความสะอาดบริเวณใตกอไผ
ไมใ หเ ปน ทอ่ี ยอู าศัยของตวั ออ น
สว นนี้ผูสนใจรายละเอยี ดสอบถามไดท ่ี โทรศัพท (02) 5797580, 5795583
ไผเ พอ่ื ชีวติ 32
ไผรวกนาสนใจ
ไผร วกนนั้ สว นใหญพ บเห็นกนั อยใู นปา การปลกู เพอื่ การใชง านนนั้ เกษตรกร
แถบจังหวัดจันทบุร ี รวมท้งั ปราจีนบุรี นิยมปลูกบงั ลม ผลพลอยไดคือ การนํามาค้าํ กงิ่
ผลไม อยา งไรกต็ าม มเี กษตรกรเขตอนื่ ปลกู และทํารายไดด ีทเี ดยี ว
ไผรวก เปนไมไผที่การเกิดของกอมีความสวยงาม เปนกอชิดทึบ แนน
ลําตนสูงหากปลูกในท่ี ดินดี ซ่ึ งพบวามีความสูงตั้ งแต 2-10 เมตร ลําตนตรง
เสนผานศูนยกลางของตน (ลํา) เฉล่ีย 2.5 เซนตเิ มตร ขอปลองยาว 15-30 เซนตเิ มตร
ขอ คอ นขางเรียบ มีวงใตข อ สีขาว ใบมีขนเลก็ ๆ
มีการแบงไผรวกไดหลายลักษณะดวยกัน นักวิชาการอยางคุณสุทัศน
เดชวสิ ทิ ธ ระบวุ า ไผรวกแบง เปน ไผร วกธรรมดาและไผร วกดํา สว นคุณอนนั ต อัคนยี ทุ ธ
เกษตรอําเภอ สํานักงานเกษตรอําเภอหนองหญาปลอง จังหวัดเพชรบุรี บอกวา
ไผร วกแบง เปน ไผรวกบา นท่ีมลี าํ ขนาดใหญและยาว อีกสายพันธุหน่ึงเปนไผร วกปา
ลํามีขนาดเลก็ ตนไมส งู นัก
ไผเ พอื่ ชีวติ 33
การใชประโยชนจากไผรวกน้ัน ลาํ ตนใชสานเขง ทํารั้ว และอุปกรณอ่ืนๆ
สําหรับหนอนํามาทําอาหาร แกงหนอไมอรอยมาก เชนท่ีอําเภอหนองหญาปลอง
เขานยิ มนาํ มาทาํ แกงเปอะ เปนแกงพืน้ เมอื ง
ไผรวกมแี นวโนมไดรับความนิยมมากขึ้นตามลาํ ดับ การใชพันธุปลูกตองสั่ง
จองลว งหนา หรอื บอกใหขุดเตรียมไวเปนพิเศษ ไมมีวางจําหนา ยตามรานขายตน ไม
ทว่ั ไปแตอยางใด
ไผบงหวานเมืองเลย
ไผบ งหวานเมืองเลย มีถน่ิ กาํ เนิดแถบจงั หวัดเลย แตไ มม ีหลกั ฐานแนชัดวา ถิ่น
กําเนดิ ครงั้ แรกอยอู าํ เภอไหน ไผบงหวานเปน ไผท มี่ ขี นาดปานกลาง เน้อื ของลาํ ตน หนา
ขนาดของเสนผา นศนู ยก ลางประมาณ 5-8 เซนติเมตร เมอื่ โต เตม็ ทม่ี คี วามสงู ประมาณ
5-10 เมตร หนอ มสี ีเขยี วหรอื น้ําตาลออน ขนาดโตเตม็ ท่ีหนักประมาณ 1 กิโลกรัม
หนอ มรี สหวาน เนอ้ื ละเอยี ด รบั ประทานสดอรอ ยมาก การนาํ ไปประกอบอาหารสามารถ
ทําไดห ลายอยาง เชน ตมจมิ้ นาํ้ พริก แกง ผัด และอื่นๆ
ที่บา นนาทมุ ตาํ บลดา นซาย อาํ เภอดานซาย จงั หวัดเลย ทีน่ ั่นมกี ารปลกู ไผบ ง
หวานมากกวา 50 ป รวมพืน้ ทท่ี ง้ั หมดกวา 100 ไร ทีต่ ั้งของหมบู า นเปน ทีร่ าบระหวาง
หุบเขา ทุกปจะมีน้ําหลากไหลพัดเอาตะกอนทราย ปุยตามธรรมชาติมาทับถมที่ราบ
ริมน้าํ ทําใหท่แี หงน้ีเหมาะกับการเกษตร โดยเฉพาะอยางยิง่ การปลกู หนอ ไมบงหวาน
แตลลหลังคาเรือนจึงปลูกไมบงหวานไวเพ่ือการบริโภค สวนหน่ึงปลูกเปนการคา
บางรายปลูกเพือ่ การคา รวมพ้นื ท่กี วา 20 ไร
ไผเ พอ่ื ชีวติ 34
การขยายพันธไุ ผบ งหวาน ทําได 2-3 วธิ ดี ว ยกัน วิธีแรกเพาะเมลด็ ไผบงหวาน
ออกดอก ประมาณเดอื นพฤศจกิ ายน-กมุ ภาพันธ เมื่อเมล็ดแกแลวจะรว งหลนลงดิน
ดังนัน้ เกษตรกรนยิ มเก็บเมล็ดทใี่ ตต น มาเพาะ เมอื่ เก็บเมลด็ ไดแลว ท้ิงไวประมาณ 2
อาทติ ย จงึ นาํ ไปเพาะ โดยเตรยี มดินในแปลงเพาะใหเ รยี บรอ ย แลวนาํ เมลด็ หวา นลงไป
จากนั้นหมั่นรดน้ําทุกวัน เมล็ดเริ่มงอกเม่ือเวลาผานไปแลว 7-10 วัน เม่ือเมล็ด
งอกเปนตน และมีอายุ 1 เดือน ใหยายกลาลงถุงพลาสติก รดน้ําสมํ่าเสมอ
เพราะตน ไผต อ งมอี ายไุ ด 1 ป จงึ นาํ ลงปลกู เมอื่ ตน ไผอ ายุ 3 ป เรม่ิ เก็บผลผลติ จากตน ได
อีกวิธีการหนึ่ง เปนการขยายพันธุดวยเหงา นิยมกันมากในหมูเกษตรกร
ผูปลูกไผบงหวาน การใชเหงาจะขุดจากตนท่ีอายุ 1 ป ขุดขึ้นมาทั้งเหงา ตัดตอ
ใหสูงประมาณ 1 เมตร หรือตํ่ากวาก็ได การใชเหงาเปนวิธีการไมยุงยากขุดขึ้นมา
แลวปลูกไดเลย ในตนฝนสําหรับเกษตรกรที่ ตองการขยายพันธุในพื้ นท่ีของตนเอง
แตห ากทาํ เปน การคา รอผูม าซ้ือนยิ มปลูกลงถุง
ไผบ งหวานท่ขี ยายพันธดุ ว ยเหงา เม่ือปลกู ไปปแรก ตนไผจ ะใหหนอ ได 5-6
หนอ หมายถึงการสรางตน เพ่ือทจี่ ะใหห นอ ไดในฤดูกาลใหม
อีกวธิ ีการหนึ่ง สําหรับการขยายพนั ธคุ อื การใชก ง่ิ แขนงทช่ี าํ จนออกรากดแี ลว
จึงนําปลูกลงแปลง เปอรเซนตการรอดมีไมมากนัก ตองอาศัยความชํานาญและ
รักษาความช้ืนใหดีขณะที่ชาํ
ไผบงหวานปลูกไดในดินแทบทุกชนิด แตปลูกไดดีในดินที่มีความอุดม
สมบูรณสูง โดยเฉพาะดินรวนปนทราย ท่ีมีการระบายน้ําดี อยางทองท่ีบานนาทุม
ตาํ บลดา นซา ย กอนปลกู ควรใสป ยุ รองพ้นื จะดีที่สุด เปน ปุยคอก
การปลูกไมยืนตน ระยะเวลาท่ีเหมาะสม คือ ตนฤดูฝน ระยะปลูกท่ี นิยม
ใชกันคอื 4 x 4 เมตร พื้นที่ 1 ไร ปลูกได 100 ตน หลมุ ควรขุดลึก 50 เซนตเิ มตร กวาง
50 เซนติเมตร ยาว 50 เซนติเมตร ปลกู แลว ควรกลบโคนใหแ นน และมีไมหลักปกยึด
หลังจากปลูกไปประมาณ 1 เดือน หนอจะเร่ิ มแตกจากตาของเหงา
ในระยะนคี้ วรปอ งกันแมลงไมใหเ ขา มากัดกินและอาศัยอยูตามหนอออน ในชวงฤดฝู น
ควรดูแลเร่ืองวัชพืช หากมีควรกําจัดเพราะจะเปนผลเสียตอการเกิดของหนอคือ
มีการแขงขันกัน การใชสารกําจัดวัชพืชควรระวัง เพราะจะเปนอันตรายตอคนได
การเกบ็ ผลผลิต เรมิ่ เม่อื ปที่ 3 ผานพน ไปแลว
คุณสมศักดิ์ พรหมรักษา เกษตรกรอยูบานเลขที่ 19 หมู 11 บานนาทุม
ตําบลดานซาย จังหวัดเลย ปลูกไผบงหวานมานาน สืบทอดกันมาแตบรรพบุรุษ
เขาบอกวา ผลผลิตไผท ่ีไดประมาณ 50 กิโลกรัมตอกอ ราคาที่ขายอยรู ะหวา ง 10- 15
บาทตอ กิโลกรัม ถอื วา เปนรายไดด ีทีเดยี ว
ไผเ พอื่ ชีวติ 35
ศัตรูของไผบงหวานที่พบอยูมีหนู นับวาเปนศัตรูที่รายแรงมาก การกําจัด
ใชกับดกั หรอื ไมก็ใชป นยงิ ในเวลากลางคนื ศัตรอู ยา งอน่ื เชน โรคแมลงไมมีพบ
การตลาดของไผบงหวานไมมีปญหา เพราะมีผู นิยมซื้ อไปบริโภคกันมาก
รวมทั้งตนพันธุมีการกระจายพันธุไปยังจังหวัดอื่น เชน จังหวัดกาญจนบุรี สระบุรี
ผลการปลูกดมี าก มีผลผลติ จําหนา ยบางแลว
ไผบงหวานเปนไผท มี่ ีลักษณะพเิ ศษ ตรงท่ีหนอไผเม่ือเก็บตัดจากตน สามารถ
นาํ มาบริโภคไดเ ลยไมม รี สขม (ไมตอ งผานขั้นตอนการตม) หากตองการผดั เกบ็ ใหม ๆ
ฝานหรอื ห่นั แลว ผัดไดเลย เปนคณุ สมบตั ิทห่ี นอไมช นิดอ่นื ไมม ี
ไผเ พอ่ื ชีวติ 36
ตอนท่ ี 4
สวนไผเศรษฐกิจ สรางชวี ิตสรา งธรรมชาติ
สาระสําคัญ
ไผเปนไมที่ขึ้นอยูในธรรมชาติ แตเปนเพราะมีการตัดฟนมาใชงานมาก
จึงตองมีปลูกทดแทน การปลูกปาไผสรางรายไดใหกับเจาของโดยภาพรวม
สามารถตอบสนองความตองการใชไมได และผลไดท่ีประเมินคาไมไดคือการชวย
สรา งธรรมชาตใิ หช ุมชนื้
จุดประสงคการเรยี นร ู
อธบิ ายการปลูกไผของเกษตรกรตวั อยางได
ขอบขายเน้ือหา
เกษตรกรที่ปลูกไผเปนการคา อยางไดผล
ไผเ พอื่ ชีวติ 37
ตอนท ่ี 4
สวนไผเ ศรษฐกิจสรางชีวิตสรางธรรมชาต ิ
บรรพบรุ ุษของคนไทย คงไมไ ดค ิดไวล ว งหนา วาลกู หลานของตนเอง จะตอ ง
มาปลูกตนไผ เพราะเมอ่ื กอนตน ไผม อี ยดู าดดน่ื จะนาํ มาเปน เครอ่ื งใชไ มส อย หรอื จะนาํ
หนอ มาบรโิ ภคก็หาไดไ มย าก
เปนเพราะความตองการใชก็มีเพ่ิมขึ้น ประชากรเพ่ิมข้ึน รวมท้ังทรัพยากร
ดานอื่นถูกทําลายไปมาก ไผจึงถูกปดฝุนใหกลายเปนไมที่ปลูกเปนพืชเศรษฐกิจใช
ประโยชนไดอยางจรงิ จงั ขณะเดยี วกันก็ทดแทนทรัพยากร บางอยา งได
ดังนั้นจึงพบเห็นเกษตรกรปลูกไผเพื่อการคา เริ่มต้ั งแตขายหนอเพ่ื อนําไป
บรโิ ภคและเพอ่ื การแปรรปู สว นลําไผใชประโยชนไ ดด ี ชนิดของไผท ปี่ ลกู เปน การคา
มีอยมู ากมายหลายชนิด เชน ไผตง ไผเล้ียง และไผรวกพบเกษตรกรเพาะตน ไผของ
จังหวัดสระแกว
การนําพันธุไผล งปลูกนั้น เดมิ ทีนยิ มปลูกดว ยกิง่ ชํา ท่ชี ําจากแขนงไผ ในที่น ้ี
หมายถงึ ไผต ง การปลูกไผด ว ยตน ทขี่ ยายพนั ธทุ ไ่ี ดจ ากแขนงพากนั ตายหม ู หรือทเี่ รยี กวา
ตายขยุ อยา งมาก คณุ อนสุ ิทธิ์ ธาํ รงครตั นสทิ นทร เกษตรกรอยูบา น เลขที่ 109 หมู 4
ตาํ บลวังใหม อาํ เภอวังนํ้าเย็น จังหวัดสระแกว เปนเกษตรกรท่ีปลูกไผตงมากท่ีสุด
คนหนง่ึ ในละแวกนน้ั เขาประสบปญ หาไผต ายขยุ เหมอื นเพ่อื นเกษตรกรรายอื่น ๆ จึงทํา
การเพาะเมล็ดไผต งขึ้น
ภาพตนพนั ธุไผทไี่ ดจ ากการเพาะเมล็ด
ไผเ พอ่ื ชวี ติ 38
คุณอนุสิทธ์ิเลาวา งานเพาะเมล็ดเร่ิมจากออกเก็บเมล็ดไผจากตนที่ออกดอก
ใหด คี วรเลอื กจากตน ทมี คี วามสม่าํ เสมอของลาํ ตนขนาดใหญท ใ่ี หหนอ มาก ไดเมลด็ แลว
เลือกเมล็ดลีบออก เก็บเมล็ดเพาะในกระบะทรายซึ่งผสมดวยแกลบดํา รวม 10 วัน
เมล็ดไผกเ็ ร่มิ งอก เมอื่ ตนกลา อายไุ ด 45 วนั ถอนแยกปลกู ลงในถุงดํา ท่ีมีขนาด 4 คูณ
7 นิ้ ว และ 4 คูณ 8 น้ิ ว ไผมีความงอกประมาณ 40 เปอรเซนตโดยเฉล่ี ย ดู
ตัวเลขแลวไมมากนัก แตเกษตรกรก็หาเมลด็ ไดจ าํ นวนมาก ถือวา คุม
เลย้ี งดูตนไผอยปู ระมาณ 200 วัน จงึ พรอ มจาํ หนายใหกับผูสนใจ
ตนไผท่ีเพาะจากเมล็ด ดูไดยากวาลักษณะที่ดีเปนอยางไร แตคุณอนุสิทธิ์
กม็ ีวธิ ี ซึง่ เขาแนะนาํ ไวดงั น ้ี
- ขอ ปลองไมส น้ั หรอื ยาวเกินไป
- การเกิดของหนอใหมมรี ะยะหา งสมาํ่ เสมอ ไมแ ตกกอเปน กระจุก
- หนอ ที่เกดิ ทหี ลงั มีขนาดใหญก วาหนอทเี่ กดิ กอน 1 เทา ตัว
- มใี บมาก หากม ี 14-15 ใบจะดมี าก
งานเพาะเมล็ดไผเขาทําในโรงเรือน ที่มุงดวยซาแลน ปจจุบันนอกจาก
ขยายพนั ธุเพื่อปลูกเองแลว เจาของยังพอมเี ผยแพร สาํ หรบั ผสู นใจ ติดตอ คณุ อนุสิทธ ์ิ
ไดตามท่ีอยู หากโทรศพั ท (037) 251906
ตนไผท่ีไดจากการเพาะเมล็ด สรางชีวิตใหมใหกับไผ เพ่ือจะมีอายุขัย
ยนื ยาวตอ ไป
ภาพไผต งของเกษตรกร
ไผเ พอื่ ชวี ติ 39
ไผตงดาํ ริมถนนมิตรภาพ
ลุงประเสริฐ พันธโน เกษตรกรอยูบานเลขท ่ี 40/2 หมู 12 บานสระบัว
ตําบลสาหรา ย อาํ เภอปากชอ ง จงั หวดั นครราชสมี า เปน ผหู นงึ่ ทส่ี นใจปลกู ไผต ง เมอื่ กอ น
ลงุ ปลูกขา ว แตเ น่ืองจากขาวราคาไมแ นน อน เมือ่ หนั มาปลูกไผตงราคาแนนอนกวา
ทตี่ ั้งสวนไผต งของลงุ อยหู า งจากปากชองราว 15 กิโลเมตร (ไปจากกรงุ เทพฯ)
อยทู างขวามอื เหตทุ ลี่ งุ สนใจปลกู ไผต งดาํ เพราะประโยชนม มี าก โดยเฉพาะเรอ่ื งของหนอ
รสชาตเิ ยยี่ มยอด ผคู นนยิ มซอ้ื ไปปรงุ อาหาร เนอื่ งจากพน้ื ทป่ี ลกู เปน ทน่ี ามากอ น เจา ของ
พูนดนิ ขน้ึ นิดหนึ่ง ระยะปลูกใชระยะระหวา งตน ระหวา งแถว 4 เมตร ถือวา คอนขา งถี่
เจา ของบอกวา ใหดีขยายออกใชร ะยะ 6 เมตรจะดที ่สี ดุ
กอนปลูกขุดหลุมใหลึกและกวางพอสมควร ใสปุยคอกประเภทขี้วัวหรือ
ขี้หมลู งไป ไมวา จะเปนข้ีหมูหรอื ขว้ี วั ควรสลายตวั กอน ไมอ ยางน้ันแลวจะเกดิ แกสได
ซ่งึ เปนอันตรายตอ ตน ไม เม่ือปลกู ตองหมัน่ รดนา้ํ หากฝนไมตก เวลาผาน ไปราว 1 ป
ตนไผจะตง้ั ตัวได สวนใหญจะแทงหนอใหมขึน้ มาเพื่อสืบสกลุ เจา ของจะยงั ไมต ัดขาย
แตผานไปปท ่ี 3 จงึ ตัดหนอ ได หนอไผต งเรม่ิ โผลพนดนิ เดือนเมษายน ลุงตดั ขายได
กโิ ลกรมั ละ 15 บาท จากนัน้ ราคาลดตํ่าลง ผลผลติ ไปหมดราวเดอื นสิงหาคม
งานปลูกไผสรางรายไดใหลุงดีมาก มีรายได 3 ทางดวยกัน ทางแรกจาก
การขายหนอ ชมุ ชนนนั้ นยิ มนําหนอ ไมไ ปปรงุ อาหารกนั มาก เพราะไมค อ ยมใี คร ปลกู กนั
สวนใหญทําอาชีพอ่ืน เมื่อมีหนอไมลุงจึงไมตองด้ินรนไปขายท่ีอ่ืนใหยุง ยาก
สําหรบั รายไดทางทีส่ องลงุ ขายลํา ลาํ ไผตงใชป ระโยชนไ ดห ลากหลายเปน ตนวา ทาํ บาน
เรือน ทาํ เคร่ืองใช ในสวนนเ้ี จา ของไมค อ ยขายบอยนัก เพราะตอ งการมีลําเพื่อมีหนอ
รายไดอ กี ทางหนง่ึ คอื การขายตนพันธ ุ ทขี่ ายไดเนอื่ งจากเพอื่ น บา นเห็นแลว อยากทําตาม
สองขางทางของถนนมิตรภาพ สวนใหญแลวมีสภาพแหงแลง ยามเดือน
เมษายน เม่ือผานทางไปความเขียวขจ ี ความรมร่ืนมีใหเ ห็นนอย แตต รงสวนไผของ
ลุงประเสริฐ ดูแปลกไป คร้ังไดลงไปสัมผัสจริง ๆ แทบไมอยากโยกยายไปไหน
ลุงมีสระนํ้าขนาดพอสมควร เมื่อกอนการสรางบอสรางสระเก็บกักนํ้า ปริมาณนํ้า
หนา แลง มไี มมากนกั คร้นั ปลูกตน ไผ การเก็บกักนํ้าดีขึ้น
ไผเ พอ่ื ชวี ติ 40
เปนเพราะมีความรมเย็น ที่มีตนไผใหรมเงา ยามแลงจึงมีเพื่อนบานอาศัย
หลบรอ น พนื้ ลา งปา ไผข องลงุ ราบโลง ไมม วี ชั พชื ทงั้ นเี้ ปน เพราะแสงแดดสอ งไม คอ ยถงึ
หากเปน ตน ไผทอี่ ายุนอ ย เจาของขยนั หมนั่ ทาํ ความสะอาดอยูเปน ประจํา
ผานถนนมิตรภาพทีไร ตองต้ังใจดูปาไผของลุงทุกคร้ังไปมองแลวเพลินตา
มีความภมู ใิ จแทนเจา ของจรงิ ๆ ท่ีทาํ ได งานของลงุ สรา งความแปลกใหมไดดี
ไผเ พอ่ื ชีวติ 41
ไผรวกหนองหญาปลอง
มีโอกาสพูดคุยกับคุณอนันต อัคนียุทธ เกษตรอําเภอหนองหญาปลอง
จังหวดั เพชรบุรี คณุ อนันตบอกวา เกษตรกรทอี่ ยูในความดแู ลของตนเอง มีงานผลติ
สนิ คา เกษตรท่นี าสนใจมากมาย หนึง่ ในจาํ นวนหลาย ๆ อยาง การปลกู ไผรวกนาสนใจ
ไมน อ ย
คุณอนันตเคยทํางานอยูในทองท่ีจังหวัดปราจีนบุรีมากอน ซ่ึงปราจีนบุร ี
ถือวาเปนเมืองไมไผ เม่ือยายไปอยูถ่ินหนองหญาปลอง จึงนาํ ความคิดไปขายใหกับ
เกษตรกร เปนการขายโดยไมคิดเงิน เหตุท่ีคุณอนันตขายความคิดใหกับเกษตรกร
เปนเพราะเขามองวา ไมไผตองทําเงินใหกับเกษตรกรอยางแนนอน เพราะไผตาม
ธรรมชาติมลี ดลง ขณะเดยี วกนั ความตองการใชมีเพมิ่ ขนึ้
ภาพคณุ ประสิทธ ์ิ ธนกมลประดิษฐ
ไผเ พอ่ื ชีวติ 42
งานสงเสริมเกษตรกร โดยสํานักงานเกษตรอําเภอหนองหญาปลองจึงเกิด
ขึ้นอยางจริงจัง รวมแลวขณะนี้พ้ืนที่ปลูกไผรวกมีกวา 200 ไร ไผรวกแบงเปน 2
ชนิดดวยกันคือไผรวกปาและไผรวกบาน ไผรวกปามีลาํ ขนาดเล็ก พบเห็นอยูทั่วไป
ตามรานขายไมไผเขานิยมนํามาขัดแตะ หรือไมก็คํ้ากิ่งสมเข้ียวหวาน สวนไผรวก
บานลํามีขนาดใหญการใชงานแตกตางจากไผรวกปา ขนาดของไผรวกบานและ
ไผรวกปาแตกตางกันอยางชัดเจนท่ีขนาดของลาํ ราคาซ้ือขายก็แตกตางกันดวย
แปลงปลูกไผรวกที่ คุณอนันตไดพาไปชม เจาของชื่ อคุณประสิทธ
ธนกมลประดิษฐ อยูบานเลขที ่ 123 หมู 4 ตําบลหนองหญาปลอง อําเภอหนอง
หญา ปลอง จงั หวดั เพชรบรุ ี แปลงปลูกของเกษตรกรอยรู มิ นา้ํ แมป ระจันทไี่ หล มาจาก
ประเทศพมา ถือวาเปนเสนเลือดใหญหลอเล้ียงชาวหนองหญาปลอง หนาแลง
สายนํ้าไมเคยเหือดแหง ถึงแมข นาดของสายนาํ้ ไมใ หญนกั ก็ตาม ทั้งนเ้ี ปน เพราะฝงพมา
ไมมีการทําลายปา ซง่ึ เปนแหลง ของตน นํา้
คุณอนันตบอกวา ไผรวกเปนไมหลบซอน บางคนคิดวาเปนไมธรรมดา
แตจากการคิดคํานวณถึงรายไดตอไรตอปที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวจากตนไผแลว ไม
นอ ยกวาหม่ืนบาทตอ ไร การลงทนุ มีเพยี งปยุ คอก ใสไรล ะพนั บาท เดิมทีคุณประสิทธ
ปลูกมะพราวอยูกอนแลว เปนมะพราวใหญ แตก็ไมประสบผลสําเร็จเทาท่ีควร
จึงไดหันมาปลูกไผรวกแซมเขาไป จนมะพราวสู รากของไผท่ี ชอนไชไมไหว
ซ่ึงคุณประสิทธ์ิก็ทราบส่ิงท่ีเกิดข้ึน แตก็ปลอยไวไมไดทําอะไร เพราะไผรวก
เปนพชื ใหมท ใ่ี หเงนิ ดีเสยี แลว
ไผเ พอื่ ชีวติ 43
แหลง ใหญข องไผร วกอยทู จี่ งั หวดั จันทบรุ ีและปราจนี บุร ี สองจังหวัดท ี่ แนะนํา
เขาปลกู เปนไมบังลม สงิ่ ที่ไดเ พม่ิ เติมมีหนอใหเ จาของไวปรงุ อาหารบา ง สว นไมท ไี่ ด
กเ็ อาไวคา้ํ ก่ิงผลไม
คุณอนันตบอกถึงวิธีการขยายพันธุไผรวกวา ทําไดโดยขุดตนท่ีอายุปครึ่ง
ข้ึนชาํ ในถุง เปนถุงดําที่บรรจุวัสดทุ ่ีอุมนํ้าไดด ี โดยตัดตนใหส ูงเหลือประมาณ 1 เมตร
หรอื สน้ั กวา 1 เมตรเลก็ นอ ย การชาํ ควรชําในทีร่ มราํ ไร ระยะเวลาชาํ จน ยายปลูกได
ใชเวลาอยางนอย 3 เดือน ถาเล้ี ยงไว 4 เดือนเปอรเซนตการรอดตาย
จะมีมากตนไผรวกน้ัน หลังจากที่ชําในถุงจะแตกกิ่งกานเร็วมาก แตระบบรากยัง
ไมแ ข็งแรง หากนาํ ไปปลกู เปอรเซนตการตายจะมีมาก
ภาพบริเวณสวนไผรวก
บางคร้ังผูขายตนพันธุที่ไมมีคุณธรรม จะสรางปญหาใหกับเกษตรกรได
ดังน้ันผูผลิตตนพันธุควรจะคํานึงถึงผูซื้อ ผูซื้อควรถามวา ชําตนไวนานหรือยัง
ถามแลวควรสังเกตุดูการแตกก่ิงแตกกานดวยวาเปนอยางไร มีมากนอยแคไหน ให
ดีควรแตกมาก ๆ เขาไว เม่ือนําไปปลูกเปอรเซนตการรอดตายจะมีมาก สนนราคา
ของกงิ่ ไผรวกอยูระหวาง 15-20 บาท แตกห็ าไดไมง ายนัก หากตองการปรมิ าณมาก
อาจจะตอ งส่งั เปนพเิ ศษ ในแหลงท่ีเขาผลติ
ไผเ พอื่ ชวี ติ 44
ภาพตน ไผอ ายุยังไมถงึ ปโ ตเร็วสรางปา ไดเ ร็วมาก
ปาไผที่ข้ึนอยูตามธรรมชาติน้ัน จะข้ึนเปนกลุมกอน การนํามาปลูกเปน
แปลงขนาดใหญจึงมีความเหมาะสม ระยะระหวางตนท่ีคุณอนันตแนะนํา มีระยะ
ปลูกระหวางตนระหวางแถว 4 x 4 เมตร พนื้ ที่ 1 ไร สามารถปลกู ไผรวก ได 100
ตน แตเกษตรกรทหี่ นองหญาปลองนยิ ม ระยะ 2 คณู 3 เมตร พน้ื ท ่ี 1 ไรปลกู ได 266
ตน ปแรกท่ีปลูกไป หนอไผจะแตกโผลพ้ืนดินเร็วมาก คุณอนันตพาไปดูแปลงที่
ปลูกใหม มีอายุ 6 เดือน ลําไผแทงข้ึน 7-8 ลาํ แตเปนลําขนาดเล็ก การใหผล
ตอบแทนจะใหเ ม่อื ปท ี่ 3 ไปแลว หากเตม็ ทต่ี องปท ี่ 5
คุณประสิทธ เลาใหฟงวา เนื่องจากที่ดินของตนเองติดน้ําแมประจัน จึง
โชคดีกวาเกษตรกรรายอ่ืน มีนํ้าเพ่ือการเกษตรทั้งป คุณประสิทธ์ิไดรับคําแนะนํา
จากเกษตรอําเภอวา หากปลูกไผแลวรดน้ํา ผลผลิตจะมีกอนคนอื่ น คุณประสิทธิ์
ทาํ ตามปรากฎวาเปน จริงตามคาํ แนะนํา
ภาพรม ครมื้ ภายในสวนไผร วก