The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ไผ่เพื่อชีวิต

ไผ่เพื่อชีวิต

ไผเ พอ่ื ชวี ติ   45 

ภาพการแตกกอดมี ากสาํ หรบั ไผรวก

ราวเดอื นเมษายน  ตนไผรวกจะใหหนอ กับเจา ของได   ทั้งน้ีเพราะมีการรดน้ํา 
น่ันเอง  หนอไผที่ขาย   กิโลกรัมละ  8-15  บาท  เขานิยมนําไปรับประทานกันมาก 
โดยการแปรรูป  อาจจะแกง  อดั ปป ก็เขาทาดี  เปนหนอ ไมด อง 

ไผร วก  1 กอ  ใหหนอ กบั เจา ของได  8 กิโลกรมั ตอป  หากพ้นื ท ่ี 1 ไร    ปลูกได 
100  กอ    เจาของก็มีผลผลิตราว  800  กิโลกรัมตอไร    หากปลูกถ่ี ข้ึ นก็มี 
หนอ ไผม ากขนึ้ เชน กนั   กรณีการขายลาํ   ไผรวกตดั สางได  8 ลําตอ กอตอป  พน้ื ท ี่ 1  ไร 
ม ี 100  กอ    ก็ตัดลําไผขายได  800  ลําตอไรตอไป    ราคาขายไผรวกจาก 
แหลงของเกษตรกร  ลาํ ละ  4  บาทเมื่อถึงผูใ ชแ ลว   ราคาเพิม่ ขึ้นอยา งแนนอน 

คณุ ประสทิ ธป์ิ ลกู ไผรวกราว 5 ไร   บางสว นยงั ใหผ ลผลติ ไมเ ตม็ ท ่ี  แตก ็ มรี ายได 
8 หม่นื บาทเศษ ๆ ตอนน้ีจงึ เรม่ิ ขยายพนื้ ที่ปลกู เพ่ิม 

ไมไผรวก   ในปจจุบันมีความจําเปนตองใชกันมาก   เชนงานสานเขง   นํา 
มาคํ้ากิ่งของผลไม      ชาวประมงแถบอําเภอบานแหลม    จังหวัดเพชรบุรี    นิยมนําไป 
เล้ียงหอยแมลงภู  ใชสํากรับใหหอยเกาะ  นับวามีความเหมาะสมมาก  สาํ หรับส่ิงท ี่
เกษตรกรทําข้ึน    เพราะหากไมมีการปลูกเลี้ยง    มีแตนําออกจากปาแลวไมดีแน 
เพราะเกี่ยวกับตวั บทกฎหมายแลว   ผนู ําไมออกจํานวนมากมคี วามผิดดว ย 

ไผเ พอ่ื ชวี ติ   46 

ภาพผลติ ภณั ฑจ ากไมไ ผป จจบุ นั ไดร บั ความนยิ มมากข้ึน

เกษตรอําเภอหนองหญาปลองบอกวา    มีการนําตนไผรวกไปปลูกในพื้ นท่ี 
ท่ีมีการปลูกพืชไรมากอน    ปรากฎวา    พื้นท่ีดังกลาว    ชุมเย็นขึ้นมาอยางรวดเร็ว    ปา 
ทเี่ คยเปน ปา เสอื่ มโทรม  ดดู ขี ้นึ อยางผดิ สงั เกต  ทกุ วันนจี้ งึ มีคนสนใจปลกู ไผร วก เพ่มิ ขน้ึ  
เพราะปลกู แลวมรี ายไดเพ่ิม  ผลพลอยไดจากการปลูกไผร วกนาสนใจดี 

อยากดูงานติดตอท่ี  โทรศัพท  (038)  497197  เปนหมายเลขของสํานักงาน 
เกษตรอําเภอหนองหญาปลอง    คุยกับคุณอนันต    อัคนียุทธ    เกษตรอําเภอ    หรือ 
เจาหนาท่ีประจาํ สํานักงานกไ็ ด 

ไผเ พอ่ื ชวี ติ   47 

ตอนท ี่ 5 

แหลงผลิตผลิตภัณฑไมไผของเมืองไทย 

สาระสําคัญ 

ประโยชนของไมไผมีมากมาย   สวนของลํา    นํามาทําเครื่องใชผลิตภัณฑ 
ไดห ลายอยาง  นับวนั ผลติ ภณั ฑจ ากไมไผจ ะมคี วามสําคัญยิง่ ขน้ึ  

จุดประสงคการเรียนรู 

อธิบายถึงการผลติ ผลิตภัณฑจากไมไผได 

ขอบขายเนื้อหา 

การผลิตผลิตภัณฑจากไมไผ

ไผเ พอื่ ชีวติ   48 

ตอนที่  5 

แหลงผลิตผลิตภัณฑไมไผของเมืองไทย 

เปนที่ยอมรับกันวา  เมืองไทยน้ันแหลงปลูกไผมากที่สุดอยูจงั หวดั ปราจีนบุร ี
ขึ้นช่ือมากท่ีสุดคือไผตง    ไผชนิดอื่น  ๆ  ก็มีมากเชนกัน    จากการท่ีมีไม  ไผมากนี่เอง 
จึงไดเกิดงานที่ เกี่ ยวของขึ้ นมากมาย    อาทิ    โรงงานอุตสหกรรม  ผลิตหนอไม 
ที่กระจายอยูตามรอบนอกของตัวจังหวดั  

ผลิตภัณฑจากไมไผ      เปนงานหน่ึงท่ีเปนผลพวงจากการปลูกตนไผของ 
เกษตรกร 

งานปลูกไผของเกษตรกรน้ันสะดุดลงชวงหนึ่ง    เม่ือไมนานมานี้   เพราะ 
ไผต งตายขยุ ลง  รวมพ้ืนที่กวา แสนไร  อยา งไรก็ตามยังมพี ้ืนทส่ี ว นหนงึ่   ยงั คงเหลืออยู 
รวมทั้งไผบางชนิดไมไดตายลงแตอยางใด    เกษตรกรยังมีรายไดจาก  การขายผลผลิต 
เกษรตกรท่เี กีย่ วเนอ่ื งก็ยนื หยดั อยไู ดเชนกนั  

การเดินทางไปจังหวัดปราจีนบุรี    ทุกวันน้ีไปไดสะดวกมาก    ถนนหนทางด ี
ตามเสนทางสายรังสิตนครนายก    ถึงแมถนนกําลังสราง    แตการจราจรไมคอย  คับคั่ง 
เม่ื อเทียบกับถนนสายอ่ื น    ผานจังหวัดนครนายกไปไมก่ี มากนอยก็เขาเขต 
จงั หวดั ปราจนี บรุ  ี  เปน ทนี่ า แปลกใจมาก  ระยะทางจากจังหวัดนครนายกไป  ปราจนี บุร ี
ระยะทางไมถ ึง  40 กิโลเมตร 

กอนเขาจังหวัดปราจีนบุรีจะมีสี่แยก    หากเลี้ยวซายเปนทางไปเขาใหญ 
ระหวางทางผานสถานท่ีรวบรวมพันธุไผของกรมราชทัณฑ    หากเล้ียวขวาเขาตัวเมือง 
ปราจีนบุร ี  ตงั้ แตสระแกว แยกตวั ออกเปน จงั หวดั   ตวั จงั หวดั ปราจนี บรุ ีดเู งียบสงบลงมาก 
มเี สนห ไ ปอกี แบบ  หากตรงไปจะไปสู อําเภอประจันตคาม  เลยไปอีกถึงอําเภอ 
กบนิ ทรบรุ  ี   เปนท่เี รมิ่ ตนของเสน ทางไดห ลายเสน   เปนตน วา  ไปจังหวดั นครราชสีมา 
จันทบรุ  ี  สระแกว  รวมทงั้ ชลบุรแี ละระยองกส็ ะดวก 

จากส่ีแยกกอนเขาเมืองปราจนี บรุ ไี ปราว  25 กโิ ลเมตร  เปน ทีต่ ้งั ของ บานตน 
ตําบลโพธิ์งาม  อําเภอประจันตคาม  จังหวัดปราจีนบุรี  เม่ือกอนราว  30  ปที่แลว 
สองขางทางบานตน    เหมือนกับหมูบานในชนบททั่วไป    เกษตรกรมีอาชีพทํานา 
ชวงกลางวนั หากผา นไปดเู งยี บเหงา 

แตเมือ่   20 ปเศษ ๆ มาน ี้  สองขา งทางดคู กึ คกั ข้ึน  มรี า นรวงขายของ   เปนสิ่งท ่ี
แปลกใหมแ ละนา สนใจไมน อ ย  นนั่ ก็คอื ผลติ ภัณฑจ ากไมไ ผ   เขามวี างขายอยสู องขา งทาง 
ซ่ึงจุดท่ีวางต้ัง   ไมไดวางเฉพาะท่ีบานตน   แตกระจายสูบานโงง     ตําบลเดียวกัน 
แตป รมิ าณสูบานตนไมไ ด

ไผเ พอื่ ชวี ติ   49 

คุณบรรพต    เช้ื อเพชร    เจาหนาท่ี เกษตร    ของสํานักงานเกษตรอําเภอ 

ประจันตคาม  บอกวา งานสงเสริมการเกษตรของสํานักงานเกษตรอาํ เภอประจันตคาม 

สําหรบั เกษตรกรบา นตนเปลีย่ นไป  เพราะระบบการผลติ เปลย่ี นไปนั่นเอง  จะเปลย่ี นไป 

อยา งไรลองติดตามกันด ู

บานตนเปนหมูบานที่ต้ังข้ึนตามแนวถนนในเบ้ืองตน    จากนั้นก็กระจายไป 

ตามแตท่ีดิน  ปจจุบันมีประชากร  270  ครัวเรือน  อาชีพหลักของเกษตรกรยุคเร่ิม 

แรกคือทํานาขาว    อาชีพทํานาไมถึงกับแรนแคนนัก    ทั้งนี้เนื่องจากน้ําทาพอมีทํานา 

ตามปกติ    อยางไรก็ตามเกษตรกรท่ี ทํานา    ขายขาวและมีอาชีพเสริม  อยางอ่ื น 

ไมไดมีรายไดมากนัก    เมื่อเปรียบเทียบกับเกษตรกรท่ีอยูในพ้ืนที่ไมไกลกันนัก 

อยางอาํ เภอเมือง   สวนใหญทําสวนมีรายไดด  ี

ภาพผูผลติ ผลติ ภณั ฑไ มไผร ิมทาง 

เกือบ  30  ปมาแลว  มีผูอาวุโสของหมูบานคนหน่ึง  ไดริเริ่มผลิตเครื่องใช 
จากไมไผข้ึน  แลววางตั้งขายอยูริมทาง  เปนเพราะทําแลวของมีคุณภาพ   จึงมีการ 
เอาเยี่ยงอยางกัน  จาก  2-3 รายก็กลายเปน  10 ราย  จนปจจุบันนี้  ผูประกอบอาชีพ 
ทาํ เครือ่ งใชม มี ากถึง  200 ราย  มีเพยี ง  70 รายเทาน้นั   ทีไ่ มประกอบอาชีพทางน้ี

ไผเ พอื่ ชีวติ   50 

งานจากไมไผ    ไดสรางงานท่ีเก่ียวของขึ้นมากมาย    แรกสุดคือผูปลูกไผเล้ียง 

ตอมาเปนผูผลิตผลติ ภัณฑจ ากไมไ ผ  และสดุ ทา ยคือผูขาย 

ผลิตกันอยางไร 

ผลิตภัณฑจากไมไผท ม่ี ีจาํ หนา ยอยู ไดแก   เกา อีร้ บั แขก บนั ได  แคร  ไมกวาด 
เปนตน 

ภาพบนั ไดรมิ ทาง

มีโอกาสไดแวะคุยกับชาวบานทานหนึ่ง   ท่ีบานตน   ทําใหทราบวาอาชีพ 
ทําเคร่ืองใชหรือผลิตภัณฑจากไมไผ    มีรายไดดีกวาทํานา    จึงมีการทิ้งท่ีนาใหรกราง 
แลวหันมาประกอบอาชีพที่เพ่ือนบานทําแลวประสบผลสําเร็จ    โดยที่ไมไดเดินทาง 
เขาหางานทาํ ที่กรุงเทพฯแตอยา งใด 

ไผที่ใชทําผลิตภัณฑตาง ๆ ไดผลดีน้ัน   ใชไผเล้ียง   ซึ่งมีคุณสมบัติ  เนื้อ 
ของปลองหนา   ทนทานตอการแตกหัก   จะใชไผชนิดอ่ืนแทนยาก   เชนใชไผรวก 
แทนไมไดเด็ดขาด  ถึงแมไผรวกปลองตรง   แตเน้ือบาง   เมื่อนํามาทําท่ีน่ังรับรอง 
เนอ้ื ไมสรา งบาดแผลใหแน   ไผเ ล้ียงจึงดที ่ีสุด 

เกษตรกรที่ เปลี่ ยนจากทํานามาผลิตผลิตภัณฑจากไมไผ    เลาใหฟงวา 
ไผเ ลย้ี งทน่ี าํ มาใช  หากไปซื้อเอง  คือเขาตัดถึงสวน  ซอ้ื ไมไ ผไดร าคาลาํ ละ  13-15  บาท 
หากเขาสงใหถึงที่ราคาลําละ  25  บาท   เปนไมไผลําใหญ    แตหากขนาดเล็ก   ลง 
ก็ลดหลั่นกัน 

ไผเ พอ่ื ชวี ติ   51 

ภาพไผเ ลยี้ งที่ซ้อื มาลาํ ละ  25 บาท  ตอ ลํา 

ไมไผเล้ียงมีมากในบางชวง    แตชวงท่ีคอนขางหายาก    คือชวงที่แปลงปลูก 
กําลังใหหนอไมสูงนัก    ท้ังนั้เพราะเจาของไมอยากใหเขาตัด    เกรงวาจะกระทบ 
กระเทือนตอหนอท่ีกําลังเจริญเติบโต   ชวงท่ีหนอกําลังเจริญเติบโต   เปนผลทําให 
ราคาของไมไ ผสงู ผิดปกติ 

ภาพลาํ ไผเ ลย้ี งเหมาะตอการทาํ เครอื่ งใช

ไผเ พอื่ ชีวติ   52 

ชาวบานผูผลิตบอกวา  เกาอี้  โตะ  ใชไมไผ  7 ลาํ   แบงเปนลําใหญ  5 ลํา 

ที่เหลือเปนลาํ เล็ก  ใชเ ปนสวนประกอบไมไดท ําเปน อุปกรณหลัก  การทํางานแตละครัง้  

จะเตรียมอุปกรณกอน  จากน้ันก็ประกอบสวนเขา ดวยกัน  จะทําใหง านม ี  ประสทิ ธภิ าพ 

และตอเน่ื อง    การเตรียมอุปกรณในที่ นี้ คือการเตรียมขาโตะ    ขาเกาอ้ี 

ตองตดั ไมใ หไ ดขนาดเตรียมไว 

ครอบครวั ท่ไี ดพดู คยุ ดว ยมสี มาชกิ   4-5 คน  ผลติ โตะ  เกาอี้  ไดว ันละ  2  ชดุ  

อยา งอืน่ มีบนั ไดประกอบกัน 

ภาพแครไมไ ผเ ล้ียง

การทําผลติ ภณั ฑจ ากไมไ ผ  ไมถือวาเปน เรื่องยุงยาก  แตเรียนรูตอ ๆ กัน แรกๆ 
อาจจะไมสวยงามนัก  แตนานเขาทุกอยางเขา ที่  ไมก็ตัดเทากัน  ความสม่าํ เสมอ จึงมี 
การเรียนรไู มไ ดเรยี นกันจากสถาบนั ใด  แตเ พ่ือนบานนน่ั แหละดีทส่ี ดุ    เรยี นรดู วยสายตา 
วางน้ั เถอะ  ใครทม่ี ีปญหาก็สอบถามกันเอง  อยา งบนั ได   บางคน ใชเ วลาศกึ ษาเพยี ง  2- 
3  ชวั่ โมงก็ทาํ ไดแลว  

ไผเ พอ่ื ชีวติ   53 

ภาพผูผ ลิตก็ทาํ บนั ไดดี 

ภาพไมไผท เ่ี ตยี มไวทีละมาก ๆ

ไผเ พอ่ื ชวี ติ   54 

ภาพโตะและเกา อจ้ี ากไมไ ผ

โตะและเกาอี้   สวนทีทํายากหนอย   เห็นจะเปนลวดลาย   เขาใชทองแดง 
เผาไฟใหรอน    จนเปนสีแดง    แลวข้ึนลาย    การข้ึนลายทําหลังจากที่ตัดเรียบรอย  แลว 
อยา งอ่นื กไ็ มไ ดใชฝ ม อื พเิ ศษแตอยา งใด 

การซื้อการขาย  ผลิตภัณฑจากไมไผ  ถือวาซื้องายขายคลอง   โตะชุดหนึ่ง 
สนนราคาราว  650 บาท  หากเปน ปลายทางอาจจะเพมิ่ คาขนสงมากขึน้   ผผู ลติ บอกวา  
โตะ ทใี่ ชง านควรอยใู นรม   จะทาํ ใหอ ายยุ าวนานกวา 2 ป  การใชโ ดย ใหถ กู แดดและฝนนน้ั  
อายกุ ารใชงานอาจจะไมน านนัก 

ผูที่ซื้อโตะชุดคอนขางมากคือรานอาหาร    ซื้อท่ีละคันรถสิบลอ    รานอาหาร 
ที่ตั้งข้ึนใหมตองใชมาก    ใชแลวอายุการใชงานอาจจะไมคงทน    เมื่อเปรียบเทียบกับ 
ผใู ชท่วั ไป เพราะคนลกุ คนน่งั มากนน่ั เอง พอผานระยะเวลาการใชไประยาํ หน่งึ ก็เปลย่ี น 
ทาํ ใหผผู ลิตขายได 

ลวดลายและสสี ันของโตะเกาอน้ี ัน้ นา สนใจมาก  เขาปรับเปล่ยี นอยตู ลอด เวลา 
เปรียบเทียบงานที่ทําออกมากับราคาของแลว  เขาทาํ ดวยความมานะพยายาม   ผูซื้อ 
สว นหนึ่งซ้ือไปจะมีความรสู กึ วา ไดเปลา   เฟอรนิเจอรทท่ี ําดวยไมไผน ั้น   นําไปตกแตง 
ใหเ ขา ไดดกี บั พนื้ ทหี่ ลายรูปแบบ  โดยไมแ ปลกแยกแตอยา งใด 

ไผเ พอ่ื ชีวติ   55 

บันไดเปนผลิตภัณฑหนึ่งที่ทําแลวขายไดดี    เพราะปจจุบันความจําเปน 
ตองใชมาก    อาจจะทาสีบาน    ตัดแตงกิ่งไมผล    เก็บเกี่ยวผลผลิต    บันไดใชไผเล้ียง 
ทาํ เชน กนั   โดยเฉลย่ี แลว  เขาจาํ หนา ยกันเมตรละ  20 บาท  บนั ไดท ีม่ คี วามสงู   4  เมตร 
ซ้อื ขาย  80 บาท  อยา งนเี้ ปนตน  

งานผลิตบันได    เขาทําไดท้ังแมบานแมเรือน    ไมจํากัดวาตองเปนผูชาย 
วันหน่ึงตอคนท่ีทําไดไมตํ่ากวา  15  อัน  เกษตรกรท่ีไดแวะพูดคุยดวย   เขาทําแลว 
นาํ ไปสง อีกทหี นึง่   โดยสง เดอื นละครง้ั   ครง้ั ละเปน หมืน่ บาทข้นึ ไป 

ไมกวาดเปนผลิตภัณฑหนึ่ง    ซึ่งแบงเปนไมกวาดท่ีใชกวาดถนนทั่วไป 
และไมกวาดท่ีใชกวาดบาน    ผูผลิตบอกวา    ไมกวาดที่ใชกวาดถนน    มีโอกาสชํารุด 
เพราะใชงานหนกั   กระนนั้ ก็ตาม  ถือวา คมุ   เพราะสนนราคาไมหนกั หนวงแตอยา ง ใด 

ความนิยมในการซ้ือขาย   เปรียบเทียบสมัยกอนกับสมัยน้ีแลว   สมัยกอน 
มีผูผลิตนอย   ขายไดดี  ขณะน้ีมีผูผลิตมาก   จึงขายไดลดลงบาง   เกษตรกรที่ทํานา 
อยแู ลว หันมาผลิตผลิตภัณฑจ ากไมไผ   ยังไมห วนคืนสอู าชพี ทํานาอยา งเดมิ  

โอกาสดีของชาวบาน 

นับเปนงานที่นาสนใจ    สําหรับชาวบานตนและบานโงง  เหตุท่ีชาวบาน 
รูจักทําผลิตภัณฑข้ึนมาจําหนายนั้น    ก็อยางที่แนะนําไปแลว    คือ  มีการปลูกไผเล้ียง 
อยา งหนาแนนบริเวณนน้ั   วตั ถดุ บิ ทม่ี ีทําใหคนรจู กั นาํ มาปรงุ แตง   จนเปนงานท่ีทาํ รายได 
ใหมหาศาล  ผลติ ภณั ฑจ ากไมไผ  ถึงแมจะคงทนถาวร  แตก ม็ อี ายกุ ารใชงานระดบั หนงึ่  
เทา นนั้   แลว ผพุ งั ไปตามกาลเวลา   จาก นนั้ กซ็ อ้ื หากนั ใหม   ถอื วา เปน เรอื่ งธรรมดาอยแู ลว  
ผผู ลติ จงึ ผลติ ไดอ ยางสมาํ่ เสมอ

ไผเ พอ่ื ชวี ติ   56 

จุดท่ีจําหนายผลติ ภัณฑ  ถือวา เปน ท่ีรูจกั กนั ดแี ลว  จงึ ถือวา เปนชอ งทางทีม่ อี ยู 

ทองถ่นิ อน่ื ทอี่ ยากทาํ บา ง  คงตอ งใชเวลานานในการสรา งตลาด 

ภาพขณะประกอบไมไ ผทําบันได

การผลติ ผลติ ภณั ฑไ มไ ผหลาย ๆ อยาง  และมีปริมาณเพยี งพอ  ทาํ ใหค นถน่ิ อ่ืน 
อยากเขา ไปซอ้ื   เพราะไดจ ํานวนที่ชัดเจน ทกุ วนั น้ีการซ้ือขายแบง ไดห ลายแบบ 

แบบแรกมีผผู ลติ อยา งเดยี ว  ทตี่ ง้ั ของตวั บา นอยลู กึ   ไมอ ยรู มิ ถนน  สว นนจ้ี ะมคี น 
มารับไปขาย  หรอื คนที่อยรู ิมถนนรบั ออกมาขายให 

แบบทสี่ อง  คนที่มบี า นอยูริมถนน  ผลติ เองแลว ขายเองสวนหน่ึง  อีกสว นหนึง่  
สงใหผ ูคา  

มีอยูไมนอยท่ีไมไดผลิตเอง    แตมีบานอยูริมถนน    รับจากคนอ่ืนมาจําหนาย 
ซึ่งก็ถือวาเปนงานแบง รายไดกันไป 

สนนราคาผลิตภัณฑจากไมไผ    ราคาไมแพง    ท้ังนี้ คงเปนเพราะเขาทํา 
จํานวนมาก    มีความชํานาญ    หากเปนมือใหม    ราคาไมถึงพันบาทคงจําหนายไมได 
แตนี่ราคาไมแพง   แตก็ขายไดอยางสมํ่าเสมอ    ถือวาเปนจุดเดน   การตั้งราคาขาย 
ของผูผลิตใกลเคียงกัน   หรือเทากัน   ความแตกตางมีนอย   ดังนั้นใครจอดรถตรง 
ไหนก็ซอ้ื ไดต รงน้นั   ของใครขาดเหลอื อะไรก็บอกใหซือ้ กบั รายอ่นื ได 

ไผเ พอื่ ชีวติ   57 

อาจจะมีสื่อมวลชนเขาไปสัมภาษณผูผลิต  ในรูปแบบของโทรทัศน   วิทย ุ
รวมท้ังสิ่งพิมพ    ชาวบานไมไดมีการทําโฆษณาเปนทางการแตอยางใด    แตท่ีขายได 
เพราะบอกกันปากตอปาก   การนําเสนอสินคา   อาจจะมีบางเชนงานของจังหวัดท่ี 
จัดข้ึนประจาํ ป 

เปนเร่ืองราวท่ีนาสนใจมาก   รายละเอียดหรืออยากซ้ือผลผลิตติดตอสํานัก 
งานเกษตรอาํ เภอประจนั ตคาม

ไผเ พอื่ ชีวติ   58 

ภาคผนวก 

กิจกรรมตอนท่ี 1 

“ไผสรา งสภาพแวดลอมใหด ีไดอยางไร”
1.1 ใหผูเรียนชมวีดิทศั นเ รื่องประโยชนของไผท่ีมตี อส่ิงแวดลอม อยางตั้งใจ
และพยายามสรุปประเดน็ สําคัญไวใ นใจ
1.2 ใหผ ูเ รยี นทาํ เครื่องหมาย 3 ลงในหนาขอ ทถี่ กู และทาํ เคร่ืองหมาย 7 ลงใน
หนา ขอทผ่ี ิด จากเร่อื งประโยชนข องไผทีม่ ีตอสง่ิ แวดลอ ม 
ก.  การปลกู ไผจํานวนมากจะชว ยปองกันไมใ หเกดิ ภยั แลงและอุทกภยั ได 
ข.  ไผเ ปนพชื ทส่ี ารพัดประโยชนทง้ั สรางสง่ิ แวดลอ มทดี่ แี ละในเชงิ อตุ สาหกรรม 
ค.  เนอ่ื งจากไผม รี ากฝอย  จงึ ไมส ามารถยดึ ดนิ ไมใหเกิดการพังทะลายได 
ง.  ไผข ึ้นหนาแนนบรเิ วณใดจะทําใหบ ริเวณนนั้ ดินเส่ือมอยางรวดเรว็   เนอื่ งจาก 
รากไผด ูดธาตอุ าหารในดนิ ไปหมด 
จ.  การสงั เกตตน ไผสามารถจะรูไดวา ดนิ ตรงไหนดีหรือไมด  ี
ฉ.  ไผเลย้ี งนิยมปลกู ไวบริโภคหนอ มากทส่ี ดุ มากกวา ตอ งการสวนอื่นๆของไผ 
ช.  ในการปลูกไผไวก นิ หนอ   จาํ เปน จะตอ งฉีดพนสารเคมีฆา แมลงชอนไชหนอ 
ซ.  ใบไผเมื่อยอยสลายจะเปนปุยช้ันดีท่ีเหมาะปลูกพืชไมดอกไมประดับ 

ในกระถาง 

ฌ.  ไผต งเปนไผทน่ี ิยมปลกู ไวก นิ หนอและขายลาํ  
ญ. ไผเ ล้ียงนยิ มปลูกใหเ ปน ไผสวยงามไวต กแตงสถานที่ 

กจิ กรรมตอนท ่ี 2 

“ไผประดับกบั การสรา งสเี ขียว” 
2.1 ใหผ เู รยี นชมวดี ทิ ศั น “เรอ่ื งไผป ระดบั ” อยา งตง้ั ใจ  และพยายามสรปุ ประเดน็  
สําคัญไวใ นใจ 
2.2 ใหผ เู รยี นสรปุ ชนดิ ของไผป ระดบั มาสกั 5 ชนดิ   พรอ มวธิ ปี ลกู ลงในชอ งวา ง 
.............................................................................................................................................. 
.............................................................................................................................................. 
.............................................................................................................................................. 
.............................................................................................................................................. 
.............................................................................................................................................. 
..............................................................................................................................................

ไผเ พอ่ื ชีวติ   59 

.............................................................................................................................................. 

.............................................................................................................................................. 

.............................................................................................................................................. 

.............................................................................................................................................. 

.............................................................................................................................................. 

.............................................................................................................................................. 

.............................................................................................................................................. 

.............................................................................................................................................. 

.............................................................................................................................................. 

.............................................................................................................................................. 

.............................................................................................................................................. 

.............................................................................................................................................. 

.............................................................................................................................................. 

.............................................................................................................................................. 

กิจกรรมตอนที่ 3 

“ชนิดของไผท ่ีนาสนใจเพอื่ นาํ มาปลูกเปน การคา” 

3.1  ใหผเู รียนชมวีดทิ ศั นเรอ่ื ง  “เก่ยี วกบั สานไผ”  

3.2  ใหผเู รียนโยงเสนจบั คขู อ ทางซา ยมอื ทีม่ ีความสัมพันธเกย่ี วของกบั ขอ  ทาง 

ขวามอื มากท่ีสดุ   (ลากเสนซํ้าขอได) 

ก.  อตุ สาหกรรมเยือ่ กระดาษ  1.  ไผตงดาํ  

ข.  ปลูกบริโภคหนอ  2.  ไผตงเขยี ว 

ค.  ตายขยุ ลงมากในป  2537  3.  ดวงงวง 

ง.  เกษตรกรนิยมปลกู มากที่สดุ   4.  ไผรวก 

จ.  นําเขา จากจนี   5.  ใชเ มลด็  

ฉ.  ออกดอกแลวตาย  6.  ใชแ ขนง 

ช.  การขยายพนั ธุโดยเกษตรกร  7.  ไผตง 

ซ.  ตนแมอายุมาก  ตายลง  8. ใชเน้ือเย่อื  

ฌ.  การขยายพนั ธใุ นหองทดลอง  9.  ไผตงหน ู

ญ.  ศตั รูไผต ง  10.  ไผบ งหวาน 

ฎ.  นิยมนํามาสานเขง  ทาํ ร้ัว  11.  ไผเ ล้ียง 

ฏ.  จงั หวัดเลย  12.  ไผส ีสกุ

ไผเ พอื่ ชีวติ   60 

กจิ กรรมตอนท่ ี 4 

“สวนไผเ ศรษฐกิจสรา งชวี ิตสรางธรรมชาติ” 

4.1  ใหผ เู รียนชมวดี ทิ ศั นเ รอ่ื งข้นั ตอนการปลูกไผ   อยา งตงั้ ใจ 

4.2  ใหผ ูเรียนเตมิ คาํ ลงในชองวา งใหถกู ตอ ง 

ก.  มไี ผช นดิ ใดบา งทนี่ ยิ มปลกู เพื่อใชประโยชนจ ากลําตน 

............................................................................................................................................. 

ข.  เกษตรกรหันมาขยายพนั ธุไผห ลงั จากประสบปญ หาไผต ายขยุ ดว ยวธิ ใี ด 

............................................................................................................................................. 

ค.  มวี ิธกี ารเพาะเมลด็ ไผอ ยางไร 

............................................................................................................................................. 

ง.  มวี ิธดี ลู ักษณะท่ดี ีของตนไผท ่เี พาะจากเมลด็ อยางไร 

............................................................................................................................................. 

จ.  ลุงประเสรฐิ   พนั ธโ น  มรี ายไดจ ากการปลูกไผอ ยา งไรบา ง 

................................................................................................................................................ 

ฉ.  ไผร วกมีกช่ี นิด  อะไรบา ง 

............................................................................................................................................... 

กิจกรรมตอนที่ 5 

“แหลงผลิตผลิตภณั ฑไ มไผของเมอื งไทย” 
5.1  ใหผูเรียนชมวดี ิทัศนเ รอ่ื งงานผลติ ส่งิ ของเครอื่ งใชจากไมไผ   อยางต้ังใจ 
5.2  ใหผ เู รยี นสาํ รวจสง่ิ ของเครอื่ งใชภ ายในบา นทท่ี าํ มาจากไมไ ผ  แลว จดบนั ทกึ  
ช่ือสง่ิ ของดังกลาวลงในชองวา งตอ ไปน ี้
............................................................................................................................................. 
............................................................................................................................................. 
............................................................................................................................................. 
............................................................................................................................................. 
.............................................................................................................................................

ไผเ พอ่ื ชวี ติ   61 

เฉลยแบบทดสอบตนเองกอ นเรยี น 

“ทานรจู ักไมไ ผม ากนอย”  เพยี งใด 

/  1  x  6 

x  2  x  7 

/  3  /  8 

/  4  /  9 

/  7  x  10 

เฉลยกิจกรรม  x  ค  x  ง  /  จ 
/  ซ  /  ฌ  x  ญ 
เฉลยกิจกรรมตอนที ่ 1 

ขอ   1.2 
/  ก  /  ข 
x  ฉ  x  ช 

เฉลยกิจกรรมตอนที่  2 

ขอ  2.2  สรุปชนดิ ของไผประดับพรอ มวิธีปลกู  มา  5 ชนดิ   พรอมวิธปี ลูก 
ก.  ไผเลี้ยง    มีลําตนสูง  5  เมตร    เสนผาศูนยกลางลํา  1-3  เซนติเมตร 
มีลําสีเขียวมขี นละเอยี ดสีขาวนวล  ไมม หี นาม  ใบเลก็ เรยี ว  ลําตน ตรง  ชว งลางไมมกี ิ่ง 
ดูเกลี้ยงสวย   วิธีปลูกในดินที่อุดมไปดวยปุย   หรือปลูกในกระถางขนาดใหญก็ได 
ใชพ ืน้ ทไ่ี มก วา งมากนักในการปลูก  เมือ่ โตพยายามตดั แตง อยาใหมหี นอมากนัก 
ข.  ไผน้ําเตา   มลี ักษณะขอ ปลอ งส้ัน  โปง ตรงกลาง  มีกิง่ ตามขอ คลายผลนาํ้ เตา  
ลํามสี ีเขยี วเขม  สูงประมาณ  3-4  เมตร  ลาํ ตนสะอาดไมม กี าบ  แขนงสั้น  ใบสเี ขียว 
หนอสีเหลือง    ขนหนอสีน้ําตาลแก    มีวิธีปลูกงายในพื้นที่วาง    หรือในกระถางขนาด 
ใหญก็ได 
ค.  ไผสีทอง  มีลําสีทองเปนไผขนาดเล็กถึงขนาดกลางมีกาบหุมลําสีนํ้าตาล 
ออน  ข้ึนกอไมแนน  รากแตกก่ิงเฉพาะสวนยอดของลาํ   นิยมปลูกตามสันรองสวน 
เมอ่ื ตน โตเตม็ ท่จี ะขดุ ลอมไปปลูก  หรอื ขายตอ ไปปลกู ได 
ง.  ไผเหลือง   ลําตนไมตรง   ไมคอยเปนระเบียบจะมีแถบสีเขียวใหญเล็ก 
สลับตามความยาวของลาํ   เนอื้ ของปลองหนา  กอแนน กวาไผส ที องมาก 
จ.  ไผเ พก็   เปน ไผข นาดเลก็   ขยายพนั ธโุ ดยใชเ หงา   หรอื ไหล  ขน้ึ รวมกนั เปน กอ 
ทอดไปตามพื้นดิน  ลําตนมีขนาดเสนผาศูนยกลาง  2  ซม.  สูง  50 ซม.  ปลองส้ัน

ไผเ พอ่ื ชีวติ   62 

ขอถไี่ มต รง  คดงอ  ใบเล็กเรยี ว  สีเขียวแกมเหลือง  หนอเปน ลํา  ไมน ยิ มนํามาบริโภค 

ใชตน ทาํ ไมเ ทา   คนั เบด็   ได ฯลฯ 

เฉลยกจิ กรรม  ตอนที่ 3 

3.2  ก.  1. 
ข.  2. 
ค.  3. 
ง.  4. 
จ.  5. 
ฉ.  6. 
ช.  7. 
ซ.  8. 
ฌ.  9. 
ญ.  10. 
ฎ.  11. 
ฏ  12. 

เฉลยกิจกรรมตอนท ่ี 4 

“สวนไผเศรษฐกิจสรางชีวิตสรางธรรมชาต”ิ  
ขอ  4.2 

ก.  ตอบ  ไผตง  ไผเ ลีย้ ง  และไผร วก 
ข.  ตอบ  เพาะเมลด็  
ค.  ตอบ  วิธีเพาะเมล็ดไผโดยการเก็บเมล็ดไผจากตนที่ออกดอก  เลือกเมล็ด 
ลีบออก  เก็บเมลด็ ไปเพาะในกระบะทรายที่ผสมดวยแกลบดาํ   10 วัน จะเริ่มงอกเม่ือ 
ตนกลาอายุ  45 วนั   ถอนแยกปลูกลงในถุงดาํ ทม่ี ีขนาด  4" x 7"  หรอื   4" x 8"  ดแู ล 
200 วัน  จึงพรอมจาํ หนายไปปลกู  
ง.  ตอบ  วิธดี ลู ักษณะทีด่ ีของตน ไผที่เพาะจากเมลด็ ดงั น ้ี  คือ 

- ขอปลองไมส ัน้ หรือยาวเกินไป 
-  การเกดิ ของหนอใหมมีระยะหางสมํา่ เสมอ  ไมแตกกอเปน กระจุก 
-  หนอ ทเ่ี กิดทหี ลงั มีขนาดใหญก วา หนอท่ีเกดิ กอ น  1 เทาตวั  
-  มีใบมาก  หากมี  14-15 ใบจะดีมาก 
จ.  ตอบ  3 ทางคอื   จากการขยายหนอ   ขยายลาํ ตน ไผ  และขยายตน พันธุไผ 
ฉ.  ตอบ  คอื ไผรวกปา  และไผร วกบาน

ไผเ พอื่ ชีวติ   63 

รายการอางองิ  

วิทย  เท่ยี วบูรณะธรรม.  พจนานกุ รมไมดอกไมประดับในเมืองไทย.  กรงุ เทพ : โรงพิมพ 
โอ  เอส  พรน้ิ ติง้   เฮา ส, 2530. 

สทุ ัศน   เดชวิสิทธ์.ิ   ไมไ ผส ําหรบั คนรกั ไผ. กรุงเทพ :  สาํ นกั พมิ พอะโกรดอม    มิวนกิ า , 
2539. 

อนันต  อนัตโชต.ิ   ไมไผใ นประเทศไทยท่นี า รูจัก.  กรุงเทพ :  โรงพมิ พอกั ษรสยาม 
การพิมพ ,  2539.

ไผเ พอื่ ชวี ติ   64 

ชดุ วิชา ไผเ พอ่ื ชวี ติ  

คณะกรรมการจัดทาํ ชุดวิชา 

คณะท่ีปรึกษา 

1.  ดร. กษมา วรวรรณ ณ อยุธยา 
อธิบดกี รมการศึกษานอกโรงเรียน 

2.  ดร. บญุ เลศิ   มาแสง 
ผเู ชยี่ วชาญพเิ ศษกรมการศกึ ษานอกโรงเรียน 

3.  นายชานนท   พงศอุดม 
ผูอ าํ นวยการศูนยก ารศึกษานอกโรงเรียนภาคตะวันออก 

คณะกรรมการชุดวิชา 

1.  นายประพันธ   ผลเสวก 
ประธาน 

2.  นายพานชิ ย   ยศปญญา 
ผเู ชยี่ วชาญเนื้อหา/ผเู ขียน 

3.  นายสญั ชัย  รอบรู 
นักเทคโนโลยี 

4.  น.ส. ทพิ วรรณ  เตียงธวชั  
นักวัดผล 

5.  นายสฤษดช์ิ ยั   ศิรพิ ร 
เลขานุการ

ไผเ พอื่ ชวี ติ   65 

ชดุ วิชา ไผเ พอ่ื ชีวติ  

คณะกรรมการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร 

ท่ีปรึกษา 

นายประถม  สมัครพงศ 
ผูอํานวยการศนู ยการศึกษานอกโรงเรยี นภาคตะวันออก 

นางสาวสรุ ภี  สกุลรตั น 
รองผอู ํานวยการศูนยก ารศึกษานอกโรงเรยี นภาคตะวันออก 

คณะกรรมการพัฒนาและปรับปรุง 

นายพานิชย  ยศปญ ญา 
ผเู ชย่ี วชาญเน้อื หา/ผเู ขียน 
นางสาวบุษยา  ปยารมย 

นักเทคโนโลยี 
นายสฤษดิช์ ยั   ศิรพิ ร 
บรรณาธิการและเลขานุการ


Click to View FlipBook Version