The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวม ก.ม.-การพิจารณาคดีอิเล็กทรอนิกส์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รวม ก.ม.-การพิจารณาคดีอิเล็กทรอนิกส์

รวม ก.ม.-การพิจารณาคดีอิเล็กทรอนิกส์

กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๙๕ ตัวอย่างลายน้ าแสดงสัญลักษณ์ของการพิมพ์ออกจากระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๙๖ ตัวอย่างลายน้ าแสดงสัญลักษณ์ของการพิมพ์ออกจากระบบบริการออนไลน์ศาลยุติธรรม


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๙๗ ประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง การก าหนดอักษรย่อของส านวนความในศาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๓ __________________ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง การก าหนดอักษรย่อ ของส านวนความในศาล ให้เหมาะสมส าหรับคดีที่ได้ยื่นทางระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๖ วรรคสอง ของระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ว่าด้วยงานธุรการเกี่ยวกับส านวนความและเอกสาร พ.ศ. ๒๕๕๗ ส านักงานศาลยุติธรรมจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง การก าหนดอักษรย่อ ของส านวนความในศาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๓” ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสามของข้อ ๔ แห่งประกาศประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง การก าหนดอักษรย่อของส านวนความในศาล พ.ศ. ๒๕๖๑ “คดีที่ได้ยื่นค าฟ้องหรือค าร้องขอตั้งต้นคดีทางระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) ให้ใช้อักษรย่อน าหน้าหมายเลขคดีด าตามที่ก าหนดใน (ก) (ข) และ (ค) แล้วแต่กรณี และเพิ่มอักษร “E” ไว้ท้ายอักษรย่อดังกล่าว ทั้งนี้ ให้แยกเป็นหมายเลขคดีด าต่างหากจากคดีที่มิได้ยื่นทางระบบรับส่ง อิเล็กทรอนิกส์” ประกาศ ณ วันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 256๓ (ลงชื่อ) สราวุธ เบญจกุล (นายสราวุธ เบญจกุล) เลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรม


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๙๘ ประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง คู่ความที่มีสิทธิลงทะเบียนเพื่อใช้งานระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing System) __________________ อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๑๒ (๑) ของประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่น ส่ง และรับค าคู่ความและเอกสารทางระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ ส านักงานศาลยุติธรรมออกประกาศก าหนดให้บุคคลซึ่งเป็นคู่ความที่มีสิทธิลงทะเบียน เพื่อใช้งานระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์และสามารถยื่นค าคู่ความและเอกสารทางระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ (๑) บุคคลธรรมดาที่ยื่นค าร้องขอจัดการมรดกซึ่งทายาททุกคนยินยอมให้ผู้ร้อง เป็นผู้จัดการมรดก โดยมีนิติกรของศาลเป็นผู้จัดท าค าร้องขอให้ (๒) บุคคลธรรมดาที่เป็นผู้บริโภคยื่นค าฟ้องคดีผู้บริโภค ทั้งนี้ ตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 256๔ (ลงชื่อ) พงษ์เดช วานิชกิตติกูล (นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล) เลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรม


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๙๙ (ส าเนา) ประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้ระบบบริการออนไลน์ศาลยุติธรรม (Court Integral Online Service : CIOS) ___________________ โดยที่ส านักงานศาลยุติธรรมได้น าระบบบริการออนไลน์ศาลยุติธรรม (Court Integral Online Service : CIOS) มาให้บริการแก่คู่ความหรือทนายความในการยื่น ส่ง และรับค าคู่ความและ เอกสารทางคดีทางออนไลน์อันเป็นการท าธุรกรรมที่มีความส าคัญ จึงสมควรก าหนดหลักเกณฑ์และ วิธีการในการพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้ระบบดังกล่าวให้มีระดับความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๑๙ ของข้อก าหนดของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการยื่น ส่ง และรับค าคู่ความและเอกสารทางระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๐ ส านักงานศาลยุติธรรม ออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการ ในการพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้ระบบบริการออนไลน์ศาลยุติธรรม (Court Integral Online Service : CIOS)” ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป ข้อ ๓ ในประกาศนี้ “ระบบ” หมายความว่า ระบบบริการออนไลน์ศาลยุติธรรม (Court Integral Online Service : CIOS) “ระบบบริการออนไลน์ศาลยุติธรรม” หมายความว่า ระบบยื่น ส่ง และรับค าคู่ความ และเอกสาร ระบบบริการข้อมูลคดี วันนัดพิจารณา ผลการส่งหมายและค าสั่งศาลผ่านอินเทอร์เน็ต การให้บริการคัดถ่ายเอกสารในส านวนคดีออนไลน์ การให้บริการขอใบส าคัญเพื่อแสดงว่าค าพิพากษา หรือค าสั่งได้ถึงที่สุดแล้ว การยื่นค าร้องขอไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง ระบบทนายความขอแรง รวมถึง การให้บริการออนไลน์และการลงทะเบียนอื่น ๆ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของส านักงานศาลยุติธรรม “ผู้ใช้ระบบ” หมายความว่า บุคคลที่ลงทะเบียนขอใช้ระบบไว้ต่อศาลหรือส านักงาน ศาลยุติธรรม “เจ้าหน้าที่” หมายความว่า เจ้าหน้าที่ศาลที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๐๐ “ศาล” หมายความว่า ศาลชั้นต้น “บัตร” หมายความว่า บัตรประจ าตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด (Smart card หรือ Chip card) ข้อ ๔ ผู้ใช้ระบบที่ประสงค์พิสูจน์ตัวตนในการใช้ระบบต้องไปแสดงตนที่ศาล พร้อมแสดง บัตรต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจสอบอัตลักษณ์ ข้อ ๕ ในการรับพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้ระบบ ให้เจ้าหน้าที่ด าเนินการดังต่อไปนี้ ๑) ตรวจสอบอัตลักษณ์ว่าผู้ใช้ระบบเป็นบุคคลคนเดียวกับภาพถ่ายที่ปรากฏในบัตร ที่น ามาแสดงหรือไม่ หากปรากฏว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน ให้น าบัตรมาเสียบในเครื่องอ่านบัตร ด้วยโปรแกรมอ่านและจัดเก็บประวัติการติดต่อราชการด้วยบัตรประชาชนใบเดียวของส านักงานศาลยุติธรรม เพื่อตรวจสอบความแท้จริงของข้อมูลและเปรียบเทียบข้อมูลของผู้ใช้ระบบกับข้อมูลในชิปของบัตร ๒) เข้าสู่ระบบโดยกรอกชื่อผู้ใช้งาน (username) และรหัสผ่าน (password) เพื่อด าเนินการ แสดงสถานะการยืนยันตัวตนของผู้ใช้ระบบตามขั้นตอนที่ระบบก าหนด ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ (ลงชื่อ) พงษ์เดช วานิชกิตติกูล (นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล) เลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรม


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๐๑ ประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่น ส่ง และรับค าคู่ความและเอกสารในคดีครอบครัว ทางระบบบริการออนไลน์ศาลยุติธรรม ____________________ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Coronavirus Disease : COVID-19) กระทบต่อการเดินทางมาติดต่อราชการศาลของประชาชน จึงสมควรน าระบบ บริการออนไลน์ศาลยุติธรรม (Court Integral Online Service : CIOS) มาใช้ในการยื่นค าฟ้องและ ค าร้องขอตั้งต้นคดีในคดีครอบครัวเพื่ออ านวยความสะดวกแก่ประชาชน อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๑๙ ของข้อก าหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการยื่น ส่ง และรับค าคู่ความและเอกสารทางระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ..๒๕๖๐ ส านักงานศาลยุติธรรมออกประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่น ส่ง และรับค าคู่ความและเอกสารในคดีครอบครัว ทางระบบบริการออนไลน์ศาลยุติธรรม ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ในประกาศฉบับนี้ “คดีครอบครัว” หมายความว่า คดีครอบครัวตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัว และวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้แก่ คดีแพ่งที่ฟ้องหรือร้องขอต่อศาลหรือ กระท าการใด ๆ ในทางศาลเกี่ยวกับผู้เยาว์หรือครอบครัว ซึ่งจะต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับครอบครัว “ศาล” หมายความว่า ศาลเยาวชนและครอบครัว “ระบบ” หมายความว่า ระบบบริการออนไลน์ศาลยุติธรรม (Court Integral Online Service : CIOS) “ผู้ใช้ระบบ” หมายความว่า คู่ความหรือทนายความที่ลงทะเบียนขอใช้ระบบไว้ต่อศาล หรือส านักงานศาลยุติธรรม ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป ข้อ ๓ ผู้ใช้ระบบที่พิสูจน์ตัวตนตามวิธีการที่ส านักงานศาลยุติธรรมก าหนดแล้ว อาจยื่นค าฟ้องหรือค าร้องขอตั้งต้นคดีในคดีครอบครัวทางระบบได้ตลอดเวลาที่ระบบเปิดใช้งาน


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๐๒ ในกรณีที่ต้องมีการจัดท าเอกสารตามวรรคหนึ่ง เพื่อจัดท าเป็นส านวนความของศาล หรือส่งให้แก่คู่ความฝ่ายอื่นตามกฎหมายหรือค าสั่งศาล ให้ผู้ใช้ระบบเป็นผู้ช าระค่าจัดท าเอกสาร โดยให้เรียกเก็บในอัตราหน้าละ ๑ บาท ข้อ ๔ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่นนอกจากที่ก าหนดไว้ในประกาศฉบับนี้ ให้เป็นไปตามประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่น ส่ง และ รับค าคู่ความและเอกสารทางระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ (ลงชื่อ) พงษ์เดช วานิชกิตติกูล (นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล) เลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรม


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๐๓ (ส าเนาคู่ฉบับ) ประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง การก าหนดอักษรย่อของส านวนความในศาล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ __________________ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง การก าหนดอักษรย่อ ของส านวนความในศาล ให้เหมาะสมส าหรับคดีผู้บริโภคที่เป็นคดีซื้อขายออนไลน์ที่ได้ยื่นทางระบบรับส่ง อิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๖ วรรคสอง ของระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ว่าด้วยงานธุรการเกี่ยวกับส านวนความและเอกสาร พ.ศ. ๒๕๕๗ ส านักงานศาลยุติธรรมจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง การก าหนดอักษรย่อ ของส านวนความในศาล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔” ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสี่ของข้อ ๔ แห่งประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง การก าหนดอักษรย่อของส านวนความในศาล พ.ศ. ๒๕๖๑ “คดีผู้บริโภคที่เป็นคดีซื้อขายออนไลน์ตามประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง การจัดตั้งแผนกคดีซื้อขายออนไลน์ในศาลแพ่ง ที่ได้ยื่นค าฟ้องทางระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) ให้ใช้อักษรย่อน าหน้าหมายเลขคดีด าตามที่ก าหนดใน (ข) (๓) และเพิ่มอักษร “EC” ไว้ท้ายอักษรย่อ ดังกล่าว เพื่อแยกเป็นหมายเลขคดีด าต่างหากจากคดีอื่น” ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ (ลงชื่อ) จีระพัฒน์ พันธุ์ทวี (นายจีระพัฒน์ พันธุ์ทวี) เลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรม


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๐๔ ประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้วิธีพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ในคดีซื้อขายออนไลน์ ____________________ โดยที่เป็นการสมควรก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้วิธีพิจารณาคดี ทางอิเล็กทรอนิกส์ และแนวทางปฏิบัติทางธุรการในคดีซื อขายออนไลน์ เพื่อให้การด าเนินคดีซื อขาย ออนไลน์ในศาลแพ่งใช้ระบบศาลอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบ อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๔ ข้อ ๗ ข้อ ๑๓ และข้อ ๒๗ ของข้อก าหนดของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๓ ส านักงานศาลยุติธรรมออกประกาศก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้วิธีพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ในคดีซื อขายออนไลน์ ดังต่อไปนี ข้อ ๑ ในประกาศฉบับนี “คดี” หมายความว่า คดีซื อขายออนไลน์ตามประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง การจัดตั งแผนกคดีซื อขายออนไลน์ในศาลแพ่ง “การนั่งพิจารณา” หมายความว่า การที่ศาลออกนั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดี เช่น ชี สองสถาน สืบพยาน ท าการไต่สวน ฟังค าขอต่าง ๆ และฟังค าแถลงการณ์ด้วยวาจา รวมถึงด าเนิน กระบวนพิจารณาใด ๆ ต่อคู่ความหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดี “เจ้าหน้าที่” หมายความว่า เจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรมที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ “ระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า ระบบงานของศาลเพื่อรองรับการยื่น ส่ง และรับ ค าฟ้อง ค าคู่ความ ค าสั่งศาล หมายเรียก หมายอื่น ๆ รวมทั งเอกสารทางคดีในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ ๒ ประกาศนี ให้ใช้บังคับตั งแต่วันประกาศเป็นต้นไป ข้อ ๓ เลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรมมีอ านาจตีความและวินิจฉัยปัญหาการปฏิบัติงาน ทางธุรการตามประกาศนี หมวด ๑ บททั่วไป ข้อ ๔ การด าเนินกระบวนพิจารณาทุกขั นตอนในคดีซื อขายออนไลน์ให้ใช้วิธีพิจารณาคดี ทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่ก าหนดในประกาศนี และประกาศ ส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่น ส่งและรับค าคู่ความและเอกสาร ทางระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ ประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดท าสารบบความ สารบบค าพิพากษา และการรวบรวมเก็บรักษาเอกสารในส านวนความในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้วิธีพิจารณาคดี ทางอิเล็กทรอนิกส์ แล้วแต่กรณี


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๐๕ ข้อ ๕ การยื่นค าฟ้อง ค าให้การ ค าคู่ความหรือเอกสารอื่นต่อศาล ให้ยื่นทางระบบรับส่ง อิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) ส าหรับคดีซื อขายออนไลน์ได้ทุกวันตลอดเวลา โดยต้องกรอกข้อมูล แนบเอกสารและปฏิบัติตามขั นตอนที่ระบบก าหนด หากกระท าเสร็จสมบูรณ์นอกเวลาท าการปกติหรือ นอกวันท าการปกติของศาล ให้ถือว่าเป็นการยื่นในเวลาแรกหรือวันท าการแรกที่ศาลเปิดท าการปกติถัดไป ทั งนี ให้ถือตามเวลาของระบบ เอกสาร ภาพถ่าย บันทึกภาพและเสียง (คลิปวิดีโอ) หรือบันทึกเสียง (คลิปเสียง) ที่คู่ความประสงค์จะแนบมาพร้อมค าคู่ความหรือยื่นต่อศาลต้องอยู่ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยต้องจัดท าเป็นไฟล์ตามประเภทและขนาดที่ระบบก าหนด คู่ความสามารถติดตามความคืบหน้าหรือค าสั่งศาลเกี่ยวกับการยื่นค าฟ้อง ค าให้การ ค าคู่ความ หรือเอกสารอื่นได้ทางระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ภายในสิบสองชั่วโมงนับแต่เวลาที่ยื่น ข้อ ๖ ค าฟ้องจะระบุตัวจ าเลยเพียงชื่อหรือนาม (Profile) ที่จ าเลยใช้ในการติดต่อ ท านิติกรรมกับโจทก์ทางออนไลน์ก็ได้ในกรณีที่ทราบข้อมูลอื่นเกี่ยวกับตัวตนจ าเลยก็ให้ระบุมาให้ มากที่สุดเท่าที่ท าได้ ให้เจ้าหน้าที่ประสานขอหรือเรียกข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตนและที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นของจ าเลยไปยังหน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องทันที และรายงานผล ให้ศาลทราบโดยเร็ว ข้อ ๗ การส่งหมายเรียกหรือเอกสารทางคดีหรือการแจ้งค าสั่งศาลหรือข้อความใดให้แก่ คู่ความ ให้ด าเนินการโดยทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น โดยจัดท าเอกสาร หรือข้อความนั นในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แล้วส่งไปยังที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์หรือ สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นของคู่ความดังกล่าวตามที่ได้แจ้งไว้ต่อศาล หรือที่คู่ความนั นได้ใช้ในการ ติดต่อสื่อสารกับคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเกี่ยวกับการซื อขายออนไลน์ที่พิพาทหรือได้แจ้งไว้ต่อหน่วยงาน ราชการหรือสถาบันการเงิน โดยให้ถือว่าเป็นการส่งโดยคู่ความนั นได้ทราบข้อความนับแต่เวลาที่เอกสาร หรือข้อความเช่นว่านั นไปถึงคู่ความตามที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศดังกล่าว ในกรณีที่ไม่มีช่องทางที่จะส่งหมายเรียกหรือเอกสารให้แก่จ าเลยทางไปรษณีย์ อิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น ให้เจ้าหน้าที่รายงานศาลเพื่อพิจารณาสั่งจ าหน่ายคดี ชั่วคราวหรือตามที่เห็นสมควร ข้อ ๘ การลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในเอกสารในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ อาจด าเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งโดย (๑) ลงลายมือชื่อในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งท าให้ปรากฏภาพลายมือชื่อดังกล่าว ในเอกสารในเวลาที่มีการลงลายมือชื่อนั น (๒) ท าการใด ๆ บนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อันแสดงได้ว่าผู้ท าได้ยอมรับความถูกต้อง ของข้อมูลหรือข้อความที่เกี่ยวข้อง เช่น การสแกนใบหน้าหรือลายพิมพ์นิ วมือ (๓) ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ส านักงานศาลยุติธรรมก าหนด คู่ความ พยาน และบุคคลที่เกี่ยวข้องในกระบวนพิจารณาที่จะลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ตาม (๓) ต้องด าเนินการลงทะเบียนพิสูจน์และยืนยันตัวตนเพื่อใช้ระบบตามวิธีการที่ส านักงานศาลยุติธรรม ก าหนด


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๐๖ หมวด ๒ การไกล่เกลี่ยและการนั่งพิจารณา ข้อ ๙ การไกล่เกลี่ยและการนั่งพิจารณาให้ใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ ๑๐ สถานที่ที่คู่ความหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องอยู่ในขณะไกล่เกลี่ยหรือนั่งพิจารณา ต้องเป็นสถานที่ที่เหมาะสม ข้อ ๑๑ การแสดงตนของคู่ความหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีในการพิจารณาคดี ทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้บุคคลดังกล่าวแสดงบัตรประจ าตัวประชาชนให้ปรากฏทางจอภาพของระบบ และให้เจ้าหน้าที่ท าการบันทึกภาพใบหน้าบุคคลนั นพร้อมกับบัตรประจ าตัวประชาชนที่ปรากฏข้อมูล บนบัตรประจ าตัวประชาชนอย่างชัดเจนเสนอศาลเพื่อเป็นหลักฐานรวมไว้ในส านวนความอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ ๑๒ ในการนั่งพิจารณาทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้ใช้ระบบบันทึกภาพและเสียง กระบวนพิจารณาทั งหมดหรือบางส่วนในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และน าไปจัดเก็บไว้ในระบบ การจัดท าสารบบและส านวนความอิเล็กทรอนิกส์ของส านักงานศาลยุติธรรม ห้ามมิให้คู่ความหรือบุคคลใดบันทึก เผยแพร่ หรือแพร่เสียงแพร่ภาพ ภาพหรือเสียง กระบวนพิจารณาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล การขอตรวจดูภาพและเสียงกระบวนพิจารณาที่บันทึกไว้ตามวรรคหนึ่งให้กระท าในศาล และอยู่ในความควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ โดยมิให้บันทึกภาพหรือเสียงหรือท าซ าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว ข้อ ๑๓ รายงานกระบวนพิจารณาและเอกสารที่ศาลท าขึ นในการนั่งพิจารณาทางระบบ อิเล็กทรอนิกส์ให้จัดท าในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และให้ผู้เกี่ยวข้องลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ ๑๔ การนั่งพิจารณาทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้ด าเนินการในห้องพิจารณา โดยให้ถ่ายทอดภาพและเสียงของคู่ความหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีที่ใช้ระบบอยู่นอกศาลมาเผยแพร่ ในห้องพิจารณาอย่างเปิดเผย หมวด ๓ ค าพิพากษา ข้อ ๑๕ ผู้พิพากษาอาจจัดท าค าพิพากษาหรือค าสั่งในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ แล้วลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ของผู้พิพากษา ข้อ ๑๖ เมื่อมีกรณีต้องด าเนินการบังคับคดีทางเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือต้องใช้วิธีการ ชั่วคราวก่อนพิพากษา ให้จัดท าหมายบังคับคดีหรือค าสั่งในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ส่งไปยัง กรมบังคับคดีหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว และเมื่อครบก าหนดระยะเวลาที่ต้องปฏิบัติตามค าสั่งแล้ว ให้เจ้าหน้าที่รายงานผลการด าเนินการตามค าสั่งศาลให้ศาลทราบโดยเร็ว ประกาศ ณ วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕ (ลงชื่อ) จีระพัฒน์ พันธุ์ทวี (นายจีระพัฒน์ พันธุ์ทวี) เลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรม


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๐๗ ประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง การขอปล่อยชั่วคราวทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ ___________________________ โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๙ บัญญัติรับรอง สิทธิของผู้ต้องหาหรือจ าเลยในคดีอาญาว่า ค าขอประกันผู้ต้องหาหรือจ าเลยในคดีอาญาต้องได้รับ การพิจารณา และประธานศาลฎีกามีนโยบายสร้างดุลยภาพแห่งสิทธิ ลดการคุมขังที่ไม่จ าเป็นในทุกขั นตอน ยกระดับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของจ าเลยในการต่อสู้คดีในศาล ขยายการใช้เทคโนโลยีในการลดขั นตอน และค่าใช้จ่ายในการด าเนินคดีโดยมีระบบที่มีมาตรฐานให้ทุกศาลขับเคลื่อนไปในแนวทางเดียวกัน ประกอบกับส านักงานศาลยุติธรรมได้น าระบบบริการออนไลน์ศาลยุติธรรม (Court Integral Online Service : CIOS) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการให้บริการแก่ประชาชนในการยื่น ส่ง และรับค าคู่ความและเอกสารทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและบริการอื่น ๆ ทางออนไลน์ สมควรน าระบบ ดังกล่าวมาอ านวยความสะดวกแก่ผู้ต้องหาหรือจ าเลยในคดีอาญาในการขอประกันโดยไม่ต้องเดินทางมาศาล และสามารถยื่นค าขอประกันทางออนไลน์ได้ตลอดเวลา อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๑๙ และข้อ ๒๐/๑ ของข้อก าหนดของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการยื่น ส่ง และรับค าคู่ความและเอกสารทางระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๐ และข้อ ๑๓ ของระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการปล่อยชั่วคราว พ.ศ. ๒๕๔๘ ส านักงานศาลยุติธรรม ออกประกาศว่าด้วยการขอปล่อยชั่วคราวทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ ดังต่อไปนี ข้อ ๑ ประกาศนี เรียกว่า “ประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง การขอปล่อยชั่วคราว ทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ” ข้อ ๒ ประกาศนี ให้ใช้บังคับตั งแต่วันประกาศเป็นต้นไป ข้อ ๓ ในประกาศนี “ระบบ” หมายความว่า ระบบบริการออนไลน์ศาลยุติธรรม (Court Integral Online Service : CIOS) “ผู้ใช้ระบบ” หมายความว่า บุคคลที่ลงทะเบียนขอใช้ระบบบริการออนไลน์ศาลยุติธรรม ไว้ต่อศาลหรือส านักงานศาลยุติธรรม “เจ้าหน้าที่” หมายความว่า เจ้าหน้าที่ศาลที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ “ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า อักษร อักขระ ตัวเลข เสียงหรือสัญลักษณ์ อื่นใดที่สร้างขึ นให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งน ามาใช้ประกอบกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแสดง ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของ ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั น และเพื่อแสดงว่าบุคคลดังกล่าวยอมรับ ข้อความในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั น


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๐๘ “ค าร้อง” หมายความว่า ค าร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวหรือค าร้องอุทธรณ์ค าสั่งศาล ที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว หมวด ๑ บททั่วไป ข้อ ๔ ชื่อผู้ใช้ระบบและรหัสผ่านเป็นหลักฐานแสดงการลงลายมือชื่อของผู้ใช้ระบบ ในการติดต่อกับศาลหรือคู่ความอื่นผ่านระบบ ผู้ใช้ระบบต้องเก็บรักษาชื่อผู้ใช้ระบบและรหัสผ่านไว้ เป็นความลับ การระบุชื่อผู้ใช้ระบบและรหัสผ่านลงในระบบเพื่อเข้าใช้ระบบ ถือเป็นการยืนยันตัวตนผู้ใช้ระบบ และการรับรองข้อความในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ ๕ การจัดท าหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อยื่นค าร้องทางระบบ ผู้ใช้ระบบต้องบันทึกข้อมูลเป็นไฟล์ประเภท PDF หรือ PDF/A ส่วนรูปภาพ ให้บันทึกเป็นไฟล์ประเภท JPEG โดยไฟล์เอกสารทั งหมดที่ยื่นทางระบบต้องมีขนาดรวมกันไม่เกิน จ านวนที่ส านักงานศาลยุติธรรมก าหนด ด้วยมาตรฐานขั นต่ าส าหรับความละเอียดของภาพ (Resolution) ของภาพลายเส้นหรือภาพขาวด า อย่างน้อย 200 จุดต่อนิ ว (dot per inch หรือ dpi) โดยถือว่าผู้ใช้ระบบได้ตรวจสอบและรับรองแล้วว่าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั นมีความหมายหรือรูปแบบ เหมือนกับเอกสารและข้อความเดิม หากผู้ใช้ระบบมิได้ยื่นค าร้องตามวิธีการดังกล่าวข้างต้น ระบบจะปฏิเสธและให้ถือว่า ผู้ใช้ระบบไม่ได้ยื่นค าร้องดังกล่าว ข้อ ๖ ให้ผู้ใช้ระบบพิมพ์ชื่อและชื่อสกุลหรือลงลายมือชื่อของตนในค าร้องให้ครบถ้วน และจัดเตรียมเอกสารให้มีลักษณะตามข้อ ๕ แล้วจึงอัปโหลด (Upload) บนระบบ หรือในกรณีที่ระบบ ก าหนดให้กรอกข้อความลงในแบบฟอร์มออนไลน์ (Online Form) บนระบบ ให้ผู้ใช้ระบบพิมพ์ชื่อและ ชื่อสกุลของตนให้ครบถ้วน และด าเนินการตามขั นตอนที่ก าหนดไว้ในระบบ เอกสารที่บุคคลภายนอกซึ่งมิใช่ผู้ใช้ระบบต้องลงลายมือชื่อ เช่น หนังสือมอบอ านาจ หรือใบแต่งทนายความ ต้องมีการลงลายมือชื่อของบุคคลภายนอกครบถ้วนแล้วก่อนจัดท าเป็นเอกสาร ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ใช้ระบบจึงจะอัปโหลด (Upload) เอกสารบนระบบได้และถือว่าผู้ใช้ระบบ ได้รับรองแล้วว่าผู้ใช้ระบบมีเอกสารดังกล่าวอันเป็นต้นฉบับอยู่ในครอบครอง ข้อ ๗ การยื่นค าร้องทางระบบ หากกระท าเสร็จสมบูรณ์นอกเวลาท าการปกติหรือ นอกวันท าการปกติของศาล ให้ถือว่าเป็นการยื่นในเวลาแรกหรือวันท าการแรกที่ศาลเปิดท าการปกติถัดไป ทั งนี ให้ถือตามเวลาของระบบ ข้อ ๘ ค าร้องที่ได้ยื่นทางระบบ ให้ถือเป็นการยื่นเป็นหนังสือและถือว่าผู้ใช้ระบบ ได้ลงลายมือชื่อตามข้อ ๔ ค าสั่งหรือการอื่นใดที่กระท าโดยผู้พิพากษาหรือเจ้าหน้าที่ ให้ถือว่ามีการลงลายมือชื่อ โดยผู้เกี่ยวข้องซึ่งเป็นผู้ท ารายการจนเสร็จสมบูรณ์ในระบบ ข้อ ๙ กรณีมีปัญหาต้องวินิจฉัยชี ขาดเกี่ยวกับการยื่นค าร้องทางระบบ เป็นอ านาจศาล ในการพิจารณาสั่ง


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๐๙ ข้อ ๑๐ เลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรมมีอ านาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับ การปฏิบัติงานทางธุรการตามประกาศนี ข้อ ๑๑ การด าเนินการนอกเหนือจากที่ก าหนดไว้ในประกาศนี ให้น าประกาศส านักงาน ศาลยุติธรรม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่น ส่ง และรับค าคู่ความและเอกสารทางระบบ รับส่งอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๓ มาใช้บังคับโดยอนุโลม หมวด ๒ การลงทะเบียนเข้าใช้ระบบ ข้อ ๑๒ บุคคลที่มีความประสงค์จะเข้าใช้ระบบ ต้องลงทะเบียนเข้าใช้ระบบและ ลงทะเบียนความเกี่ยวข้องในคดีในระบบบริการออนไลน์ศาลยุติธรรม ตามรายละเอียดและขั นตอน ที่ก าหนดไว้ในระบบที่เว็บไซต์ https://cios.coj.go.th/ หรือไปลงทะเบียนที่ศาลชั นต้นทั่วราชอาณาจักร การลงทะเบียนของผู้ใช้ระบบถือได้ว่าเป็นการยอมรับหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และผลของ การลงทะเบียนตามประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่น ส่ง และรับค าคู่ความและเอกสารทางระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๓ หมวด ๓ การยื่นค าร้อง ข้อ ๑๓ ผู้ใช้ระบบอาจยื่นค าร้องทางระบบได้ตลอดเวลาที่ระบบเปิดใช้งาน การยื่นค าร้องผู้ใช้ระบบไม่จ าต้องเสนอหลักประกันมาพร้อมกับค าร้อง แต่จะเสนอ หลักประกันมาก็ได้ ข้อ ๑๔ การยื่นค าร้องทางระบบ ให้ผู้ใช้ระบบลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ และยื่นค าร้อง ตามวิธีการที่ระบบก าหนด โดยการแนบไฟล์ของค าร้องที่ต้องการยื่น หรือกรอกข้อความลงในแบบฟอร์ม ออนไลน์ (Online Form) บนระบบ ในกรณีที่ผู้ใช้ระบบยังไม่ได้ลงทะเบียนความเกี่ยวข้องในคดี จะต้องแนบไฟล์ส าเนา บัตรประจ าตัวประชาชนหรือบัตรประจ าตัวสมาชิกสภาทนายความ แล้วแต่กรณี ด้วย เพื่อตรวจสอบว่า มีความเกี่ยวข้องในคดี จากนั นท าการบันทึกข้อมูลดังกล่าวในระบบ โดยให้ถือว่าการยื่นค าร้องนั น เสร็จสมบูรณ์ต่อเมื่อระบบได้ยืนยันการรับเอกสารไว้แล้ว ข้อ ๑๕ เมื่อผู้ใช้ระบบได้ปฏิบัติถูกต้องตามขั นตอนที่ก าหนดไว้ในระบบแล้ว ระบบ จะแสดงหมายเลขอ้างอิงของการยื่นค าร้องดังกล่าวเพื่อแสดงว่าได้รับค าร้องเข้าสู่ระบบแล้วและส าหรับ ใช้ในการตรวจสอบติดตามค าสั่งศาลต่อไป ข้อ ๑๖ ผู้ใช้ระบบมีหน้าที่ติดตามผลค าสั่งเกี่ยวกับค าร้องที่ผู้ใช้ระบบยื่นทางระบบ และเมื่อมีการแจ้งค าสั่งผ่านระบบแล้วให้ถือว่าผู้ใช้ระบบทราบค าสั่งนั น


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๑๐ หมวด ๔ การด าเนินการของเจ้าหน้าที่ ข้อ ๑๗ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับค าร้องที่ส่งทางระบบแล้ว ให้ตรวจสอบความเกี่ยวข้องในคดี ข้อมูลเบื องต้นของค าร้อง หากพบข้อบกพร่องให้แจ้งผู้ใช้ระบบท าการแก้ไขทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ด าเนินการดังกล่าวเรียบร้อยและค าร้องครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ให้จัดท า สิ่งพิมพ์ออกจากระบบเสนอศาลภายในหนึ่งชั่วโมงนับแต่เวลาที่ยื่นค าร้องเสร็จสมบูรณ์ แต่ถ้าการยื่นค าร้อง กระท าเสร็จสมบูรณ์นอกเวลาท าการปกติ ให้จัดท าสิ่งพิมพ์ออกจากระบบเสนอศาลภายในหนึ่งชั่วโมง นับแต่เวลาท าการแรกของวันท าการถัดไป ทั งนี ให้ถือตามเวลาของระบบ ในกรณีที่ศาลมีค าสั่งให้ประเมินความเสี่ยงหรือค าสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยตั ง ผู้ก ากับดูแลผู้ถูกปล่อยชั่วคราวตามพระราชบัญญัติมาตรการก ากับและติดตามจับกุมผู้หลบหนี การปล่อยชั่วคราวโดยศาล พ.ศ. ๒๕๖๐ ให้เจ้าหน้าที่ด าเนินการตามค าสั่งศาลในวันที่มีค าสั่ง ข้อ ๑๘ ให้เจ้าหน้าที่น าเข้าข้อมูลในระบบเพื่อแจ้งความคืบหน้าในการด าเนินการ เกี่ยวกับค าร้องให้ผู้ใช้ระบบทราบ ข้อ ๑๙ เมื่อศาลมีค าสั่งค าร้องแล้วให้เจ้าหน้าที่แจ้งผู้ร้องขอประกันทราบ และเมื่อศาล ได้อ่านค าสั่งค าร้องให้ผู้ต้องหา จ าเลย หรือผู้ร้องขอประกันฟังแล้ว ให้เจ้าหน้าที่น าเข้าข้อมูลค าสั่งศาล ในระบบ พร้อมทั งนัดหมายผู้ร้องขอประกันให้ด าเนินการตามค าสั่งศาลต่อไป ข้อ ๒๐ การติดต่อระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ใช้ระบบให้ด าเนินการผ่านทางระบบ และอาจ กระท าโดยทางโทรศัพท์หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นด้วยก็ได้ ข้อ ๒๑ ในกรณีที่ผู้ต้องหาหรือจ าเลยถูกคุมขัง การสอบถามผู้ต้องหาหรือจ าเลย หรือการจัดให้ผู้ต้องหาหรือจ าเลยสาบานหรือปฏิญาณตนว่าจะมาตามนัดหรือหมายเรียกก่อนที่จะปล่อยไป อาจด าเนินการในลักษณะการประชุมทางจอภาพหรือกระท าโดยทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นก็ได้ หมวด ๕ การท าสัญญาประกัน ข้อ ๒๒ ในกรณีที่ศาลมีค าสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ าเลยและต้องท า สัญญาประกัน ถ้าผู้ร้องขอประกันเป็นผู้ใช้ระบบที่ลงทะเบียนเข้าใช้ระบบโดยมีการยืนยันตัวตน ต่อศาลแล้ว ให้เจ้าหน้าที่นัดหมายผู้ร้องขอประกันเพื่อท าสัญญาประกันด้วยวิธีให้ผู้ประกันจัดท าสัญญาประกัน เป็นเอกสารในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามวิธีการในข้อ ๕ แล้วอัปโหลด (Upload) เข้าสู่ระบบหรือ ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ของผู้ประกันในสัญญาประกันที่เป็นเอกสารในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ในระบบ โดยไม่ต้องเดินทางมาที่ศาล และถือว่าได้ท าสัญญาประกันเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของ ผู้ประกันในสัญญาแล้ว และให้เจ้าหน้าที่จัดพิมพ์สัญญาประกันนั นจากระบบเพื่อเสนอศาลสั่งรวมไว้ใน ส านวน ถ้าผู้ร้องขอประกันเป็นผู้ใช้ระบบที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตนต่อศาล ให้เจ้าหน้าที่นัดหมาย ผู้ร้องขอประกันมายืนยันตัวตนและท าสัญญาประกันที่ศาลในวันที่ศาลมีค าสั่ง แล้วด าเนินการตามค าสั่ง ศาลต่อไปโดยทันที


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๑๑ หมวด ๖ การวางหลักประกัน ข้อ ๒๓ ในกรณีที่ศาลมีค าสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ าเลยและต้อง วางหลักประกันในการปล่อยชั่วคราวด้วย ถ้าหลักประกันเป็นเงินสด ผู้ประกันอาจวางเงินต่อศาล ด้วยวิธีการดังต่อไปนี (๑) ช าระผ่านเคาน์เตอร์หรือตู้ ATM ของธนาคาร (๒) ช าระผ่านทางอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ ง (ทาง Website และ Mobile Application ของธนาคาร) (๓) วิธีอื่นที่ส านักงานศาลยุติธรรมประกาศก าหนด ให้เจ้าหน้าที่แนะน าวิธีการวางเงินหลักประกันแก่ผู้ประกัน เมื่อผู้ประกันวางเงิน หลักประกันด้วยวิธีการดังกล่าวแล้ว ให้อัปโหลด (Upload) ไฟล์หลักฐานการวางเงินเข้าสู่ระบบ และให้ เจ้าหน้าที่จัดพิมพ์หลักฐานการวางเงินจากระบบเสนอศาลแล้วด าเนินการต่อไปโดยทันที ถ้าหลักประกันไม่ใช่เงินสด ให้เจ้าหน้าที่นัดหมายผู้ประกันมาด าเนินการที่ศาลโดยเร็ว ประกาศ ณ วันที่ 5 มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ (ลงชื่อ) พงษ์เดช วานิชกิตติกูล (นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล) เลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรม


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๑๒ ค าแนะน าของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการส่งเอกสารและการประกาศนัดไต่สวนโดยวิธีลงโฆษณาทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ พ.ศ. ๒๕๖๑ __________________ เพื่อให้การส่งค าคู่ความ ค าฟ้องตั้งต้นคดี หมายเรียก หรือเอกสารอื่นใดตามประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๗๙ และมาตรา ๘๓ อัฏฐ ซึ่งก าหนดให้สามารถท าได้โดยการ ลงโฆษณา หรือท าวิธีอื่นใดตามที่ศาลเห็นสมควร และการประกาศนัดไต่สวนค าร้องขอของศาลเป็นไปด้วย ความเรียบร้อย เป็นระเบียบเดียวกัน และเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกระบวนพิจารณาคดีของศาล ได้โดยโดยสะดวกรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย โดยการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ประธานศาลฎีกา จึงออกค าแนะน า ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ในกรณีที่ศาลเห็นสมควรให้ส่งค าคู่ความ ค าฟ้องตั้งต้นคดีหมายเรียก หรือเอกสาร อื่นใด โดยการลงโฆษณาหรือท าวิธีอื่นใดตามที่ศาลเห็นสมควร ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๗๙ และมาตรา ๘๓ อัฏฐ รวมทั้งการประกาศนัดไต่สวนค าร้องขอทางหนังสือพิมพ์ศาลอาจสั่งให้ใช้ วิธีการลงโฆษณาทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศก็ได้ ความในวรรคหนึ่งมิให้น ามาใช้บังคับกับกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติให้ลงโฆษณาหรือท าวิธี อื่นใดเป็นการเฉพาะ ข้อ ๒ การลงโฆษณาทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศตามข้อ ๑ ให้กระท าโดยการประกาศ ผ่านเว็บไซต์ตามที่ส านักงานศาลยุติธรรมก าหนด ข้อ ๓ การลงโฆษณาทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศตามข้อ ๑ ไม่ใช้ในกรณีที่มีข้อความ อันอาจกระทบต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ข้อ ๔ การนับระยะเวลาและการมีผลของการลงโฆษณาตามข้อ ๒ ให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยเริ่มนับถัดจากวันที่มีการลงโฆษณานั้น ข้อ ๕ เมื่อมีการลงโฆษณาตามข้อ ๒ แลว ให้เก็บรวบรวมหลักฐานการลงโฆษณาพร้อมทั้ง รายละเอียดเกี่ยวกับวันที่มีการลงโฆษณาไว้ในส านวนคดีด้วย ข้อ ๖ ในการส่งเอกสารหรือการประกาศนัดไต่สวนค าร้องขอโดยวิธีการลงโฆษณาทางสื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศตามค าแนะน านี้ ไม่พึงเรียกเก็บค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมอื่นใด


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๑๓ ข้อ ๗ ให้ส านักงานศาลยุติธรรมจัดให้มีเว็บไซต์ตามข้อ ๒ และมีการระบุวันที่มีการ ลงโฆษณาไว้โดยชัดเจน ข้อ ๘ เว้นแต่ศาลจะมีค าสั่งเป็นอย่างอื่น การลงโฆษณาตามข้อ ๒ พึงมีระยะเวลา หกเดือนนับแต่วันที่ลงโฆษณา เมื่อพ้นก าหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้วส านักงานศาลยุติธรรมอาจลบ โฆษณานั้นออกจากเว็บไซต์ได้ตามความเหมาะสม ข้อ ๙ ในกรณีที่ต้องมีวิธีการใดในทางธุรการ เพื่อให้การปฏิบัติตามค าแนะน านี้เป็นไปด้วย ความเรียบร้อย ให้เลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรมเป็นผู้ก าหนดแนวทางปฏิบัติหรือด าเนินการ ในเรื่องนั้นได้ตามความจ าเป็น ข้อ ๑๐ ค าแนะน านี้ให้ใช้กับคดีอื่นที่มีกฎหมายบัญญัติให้น าประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่งไปใช้บังคับโดยอนุโลมด้วย ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ (ลงชื่อ) ชีพ จุลมนต์ (นายชีพ จุลมนต์) ประธานศาลฎีกา


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๑๔ ประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการส่งเอกสารและการประกาศนัดไต่สวน โดยวิธีลงโฆษณาทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ _____________ ศาลยุติธรรมมีพันธกิจหลักในการอ านวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนตามมาตรฐานสากล ประกอบกับประธานศาลฎีกามีนโยบายก าหนดให้เพิ่มการก าหนดเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการคดี เพื่อให้การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ น ง่ายขึ น และเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง ดังนั น เพื่อให้การส่งค าคู่ความ ค าฟ้องตั งต้นคดี หมายเรียกหรือเอกสารอื่นใด และการประกาศนัดไต่สวน ค าร้องขอเป็นไปโดยสะดวกและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั งคู่ความสามารถด าเนินการได้โดยไม่ต้องเสีย ค่าใช้จ่ายในการประกาศทางหนังสือพิมพ์ ส านักงานศาลยุติธรรมจึงได้จัดท าโครงการพัฒนาระบบการส่ง เอกสารและการประกาศนัดไต่สวนโดยวิธีลงโฆษณาทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ (e-Notice System) ขึ น โดยค านึงถึงความมั่นคงปลอดภัย ความถูกต้องครบถ้วน ความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของระบบ อิเล็กทรอนิกส์ในการส่งเอกสารและการประกาศนัดไต่สวนให้คู่ความ ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทราบ ในระดับที่ไม่ด้อยกว่าการประกาศทางหนังสือพิมพ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และมีระบบสืบค้นข้อมูลที่สะดวก รวดเร็วและไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยที่เป็นการสมควรก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการส่งเอกสารและการประกาศนัดไต่สวน โดยวิธีลงโฆษณาทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ และก าหนดแนวทางปฏิบัติของศาลในการด าเนินการ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การส่งค าคู่ความ หมายเรียกและค าฟ้องตั งต้นคดี หรือเอกสารอื่นใดตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๗๙ และมาตรา ๘๓ อัฏฐ ซึ่งก าหนดให้สามารถท าได้โดยการลงโฆษณา หรือท าวิธีอื่นใดตามที่ศาลเห็นสมควร และตามประกาศนัดไต่สวนค าร้องขอของศาลเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพและเป็นระเบียบเดียวกัน อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๙ ของค าแนะน าของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการส่งเอกสาร และการประกาศนัดไต่สวนโดยวิธีลงโฆษณาทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ พ.ศ. ๒๕๖๑ ส านักงานศาลยุติธรรม จึงออกประกาศก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการส่งเอกสารและการประกาศนัดไต่สวนโดยวิธีลงโฆษณา ทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ ดังต่อไปนี ข้อ ๑ ในประกาศนี “อิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า การประยุกต์ใช้วิธีการทางอิเล็กตรอนไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือวิธีการอื่นใดในลักษณะคล้ายกัน และให้หมายความรวมถึงการประยุกต์ใช้วิธีการ ทางแสง วิธีการทางแม่เหล็ก หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้วิธีต่าง ๆ เช่นว่านั น


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๑๕ “ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า ข้อมูลที่ได้สร้าง ส่ง รับ เก็บรักษา หรือประมวลผล ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ “ระบบ” หมายความว่า ระบบการส่งเอกสารและการประกาศนัดไต่สวนโดยวิธี ลงโฆษณาทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ (e-Notice System) “การประทับรับรองเวลา (time stamp)” หมายความว่า วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้ กระท าต่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรับรองความมีอยู่ของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ณ ขณะที่มีการรับรอง และสามารถตรวจพบได้หากมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นับแต่ที่ได้มีการรับรอง “ผู้อ านวยการ” หมายความว่า ผู้อ านวยการส านักอ านวยการประจ าศาลหรือ ผู้อ านวยการส านักงานประจ าศาล “เจ้าหน้าที่” หมายความว่า เจ้าหนักงานของศาลที่ได้รับแต่งตั งจากศาลนั น ให้รับผิดชอบในเรื่องการส่งเอกสารและการประกาศนัดไต่สวนผ่านระบบ ข้อ ๒ การส่งค าคู่ความ ค าฟ้องตั งต้นคดี หมายเรียกหรือเอกสารอื่นใด รวมทั ง การประกาศนัดไต่สวนค าร้องขอโดยวิธีการลงโฆษณาทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศให้กระท าผ่านระบบ ทางเว็บไซต์ https://enotice.coj.go.th ข้อ ๓ เมื่อศาลมีค าสั่งให้ส่งค าคู่ความ ค าฟ้องตั งต้นคดี หมายเรียกหรือเอกสารอื่นใด รวมทั งการประกาศนัดไต่สวนค าร้องขอโดยวิธีการลงโฆษณาทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้เจ้าหน้าที่ จัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้พร้อม โดยจัดท าหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปแบบของ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ทั งหมด และบันทึกข้อมูลเป็นไฟล์ประเภท PDF หรือ PDF/A โดยไฟล์เอกสาร ทั งหมดต้องมีขนาดรวมกันไม่เกิน ๓๐ MB ในกรณีแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ให้จัดเตรียม ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด้วยมาตรฐานขั นต่ าส าหรับความละเอียดของภาพ (resolution) ของภาพลายเส้น หรือภาพขาวด า อย่างน้อย ๒00 จุดต่อนิ ว (dot per inch หรือ dpi) โดยถือว่าเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ และรับรองแล้วว่าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั นมีความหมายหรือรูปแบบเหมือนกับเอกสารและข้อความเดิม ข้อ ๔ เจ้าหน้าที่ต้องกรอกชื่อผู้ใช้งาน (username) และรหัสผ่าน (password) ในการยืนยันตัวตนกับระบบเพื่อเข้าใช้งาน ข้อ ๕ ในการส่งค าคู่ความ ค าฟ้องตั งต้นคดี หมายเรียกหรือเอกสารอื่นใด รวมทั งการ ประกาศนัดไต่สวนค าร้องขอผ่านระบบ ให้เจ้าหน้าที่กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อศาล หมายเลขคดี ชื่อและชื่อสกุลของคู่ความหรือผู้ร้อง เรื่อง และเนื อหาโดยย่อตามที่ระบบก าหนด แล้วจึงอัปโหลด (upload) ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามข้อ ๓ บนระบบต่อไป ข้อ ๖ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติถูกต้องตามขั นตอนที่ระบบก าหนดแล้ว ระบบจะแสดง ข้อความยืนยันการอัปโหลด (upload) และประทับรับรองเวลา (time stamp) ลงในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้อัปโหลด (upload) โดยจะปรากฏข้อความว่า “เอกสารฉบับนี ได้มีการลงโฆษณาทางสื่อเทคโนโลยี สารสนเทศ ณ วันที่ .....................”


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๑๖ ข้อ ๗ ให้เจ้าหน้าที่จัดพิมพ์ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามข้อ ๓ ที่มีการประทับรับรองเวลา (time stamp) จากระบบแล้วเก็บรวบรวมไว้ในส านวนคดีเพื่อเป็นหลักฐานโดยเร็ว ข้อ ๘ หากต้องการยกเลิกการส่งค าคู่ความ ค าฟ้องตั งตันคดี หมายเรียกหรือเอกสารอื่นใด รวมทั งการประกาศนัดไต่สวนค าร้องขอผ่านระบบที่ได้ด าเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้ว อันเนื่องมาจาก ข้อผิดพลาดในขั นตอนการด าเนินการหรือตามค าสั่งศาล ให้ผู้อ านวยการเป็นผู้ตรวจสอบและด าเนินการ ยกเลิกตามขั นตอนที่ระบบก าหนด โดยต้องกรอกชื่อผู้ใช้งาน (username) และรหัสผ่าน (password) ในการยืนยันตัวตนเพื่อเข้าใช้งาน แล้วให้เจ้าหน้าที่ด าเนินการส่งเอกสารหรือประกาศนัดไต่สวนผ่านระบบต่อไป ข้อ ๙ ให้ผู้อ านวยการส านักเทคโนโลยีสารสนเทศหรือผู้ได้รับมอบหมายจากผู้อ านวยการ ส านักเทคโนโลยีสารสนเทศด าเนินการลบค าคู่ความ ค าฟ้องตั งต้นคดี หมายเรียกหรือเอกสารอื่นใดที่ได้ มีการลงโฆษณาหรือประกาศผ่านระบบเมื่อพ้นก าหนดหกเดือนนับแต่วันที่ได้มีการลงโฆษณาหรือ ประกาศ เว้นแต่ศาลจะมีค าสั่งเป็นอย่างอื่น ข้อ ๑๐ ในกรณีมีเหตุจ าเป็น ผู้อ านวยการส านักเทคโนโลยีสารสนเทศหรือผู้ได้รับมอบหมาย จากผู้อ านวยการส านักเทคโนโลยีสารสนเทศอาจด าเนินการปิดระบบโดยได้รับอนุญาตจากเลขาธิการ ส านักงานศาลยุติธรรม เว้นแต่ในกรณีเร่งด่วนให้ปิดระบบชั่วคราวได้และต้องรายงานให้เลขาธิการ ส านักงานศาลยุติธรรมทราบทันที ข้อ ๑๑ เลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรมมีอ านาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับ การปฏิบัติงานทางธุรการตามประกาศนี ข้อ ๑๒ ประกาศนี ให้ใช้บังคับตั งแต่วันประกาศเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑ (ลงชื่อ) สราวุธ เบญจกุล (นายสราวุธ เบญจกุล) เลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรม


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๑๗ ข้อพิจารณาในการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีแพ่ง ตามที่ได้มีประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับ การใช้วิธีพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Coronavirus Disease : COVID-19) ฉบับที่ ๑ ถึงฉบับที่ ๔ ก าหนดให้มีการนั่งพิจารณาคดีแพ่งโดยวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ ท าให้อาจมีกรณีที่คู่ความประสงค์ที่จะท าสัญญาประนีประนอมยอมความและขอให้ ศาลพิพากษาไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความโดยคู่ความไม่ต้องเดินทางมาศาลซึ่งกระบวนพิจารณา ดังกล่าวสามารถด าเนินการได้โดยใช้วิธีการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในสัญญาประนีประนอมยอมความ ที่จัดท าเป็นเอกสารในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งผ่านออนไลน์ ภายใต้หลักการ ๔ ประการ ดังนี้ ๑. การลงลายมือชื่อของคู่ความในสัญญาประนีประนอมยอมความคดีแพ่งต้องกระท า ต่อหน้าศาลที่นั่งพิจารณา การลงลายมือชื่อของคู่ความในสัญญาประนีประนอมยอมความคดีแพ่งต้องกระท า ต่อหน้าศาลที่นั่งพิจารณา ในกรณีที่ศาลก าหนดให้นั่งพิจารณาทางออนไลน์และคู่ความที่อยู่นอกศาล ประสงค์ท าสัญญาประนีประนอมยอมความโดยลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในสัญญาประนีประนอมยอมความ ที่เป็นเอกสารในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ก่อนเริ่มกระบวนการลงลายมือชื่อ เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบ ให้คู่ความทุกฝ่ายอยู่พร้อมหน้ากันในการนั่งพิจารณาทางออนไลน์ คู่ความทุกฝ่ายต้องเปิดกล้องให้ทุกคน เห็นซึ่งกันและกันทางจอภาพตลอดเวลาที่พิจารณาคดี ทั้งนี้ ศาลอาจบันทึกภาพและเสียง (Video) กระบวนการที่คู่ความได้ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในสัญญาประนีประนอมยอมความไว้เป็นหลักฐาน ๒. มีการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของคู่ความที่จะลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในสัญญาประนีประนอมยอมความ การท าสัญญาประนีประนอมยอมความในการนั่งพิจารณาทางออนไลน์ ก่อนที่คู่ความ ซึ่งอยู่นอกศาลจะลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในสัญญาประนีประนอมยอมความ ให้คู่ความแสดงตัวตนอีกครั้ง โดยแสดงบัตรประจ าตัวประชาชนให้ปรากฏทางจอภาพของโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันที่ใช้ในการนั่งพิจารณา และให้เจ้าหน้าที่บันทึกภาพใบหน้าของคู่ความพร้อมกับภาพบัตรประจ าตัวประชาชนที่มีข้อมูลบนบัตร ครบถ้วนชัดเจน แล้วน าไปแนบไว้กับสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว ๓. ปรากฏลายมือชื่อของคู่ความทั้งสองฝ่ายในรูปแบบของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งแสดงถึงเจตนาในการลงลายมือชื่อในสัญญาประนีประนอมยอมความ1 อาจด าเนินการได้ดังนี้ 1 การลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ของคู่ความในสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีแพ่ง เป็นการด าเนินกระบวนพิจารณาตามข้อก าหนดของ ประธานศาลฎีกา ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๓ แต่ทั งนี มีข้อสังเกตว่าพระราชกฤษฎีกาก าหนดประเภทธุรกรรมในทางแพ่งและพาณิชย์ ที่ยกเว้นมิให้น ากฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้บังคับ พ.ศ. ๒๕๔๙ ซึ่งออกตามความในมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วย ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ได้ก าหนดมิให้น าบทบัญญัติตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้บังคับแก่ธุรกรรมเกี่ยวกับ ครอบครัวและมรดก เนื่องจากยังไม่เหมาะสมที่จะให้กระท าได้ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยยังคงต้องท าตามรูปแบบที่ประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ได้ก าหนดไว้


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๑๘ ๓.๑ เมื่อได้ร่างสัญญาประนีประนอมยอมความตามที่คู่ความได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ให้เจ้าหน้าที่น าร่างสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นให้คู่ความทุกฝ่ายตรวจสอบความถูกต้อง โดยอาจส่ง ทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ (แอปพลิเคชัน) เดียวกันกับที่ใช้ในการนั่งพิจารณาทางออนไลน์ ๓.๒ เมื่อคู่ความตรวจสอบสัญญาประนีประนอมยอมความว่าถูกต้องแล้ว ให้คู่ความ ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ ๓.๒.๑ ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในสัญญาประนีประนอมยอมความที่ได้จัดท า เป็นเอกสารในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (ไฟล์ PDF, PDF/A) เช่น เปิดไฟล์แล้วลงลายมือชื่อในเอกสารนั้น ด้วยการพิมพ์ชื่อ สแกนภาพของลายมือชื่อ หรือเขียนลายมือชื่อด้วยมือลงบนหน้าจอของอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน (Smartphone) แท็บเล็ต(Tablet) หรืออุปกรณ์ส าหรับการลงลายมือชื่อ อิเล็กทรอนิกส์ (Sign Pad) เป็นต้น ซึ่งถือเป็นการกระท าการใด ๆ บนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อันแสดงได้ว่า ผู้ท าได้ยอมรับความถูกต้องของข้อมูลหรือข้อความที่เกี่ยวข้อง ตามข้อ ๘ ของประกาศส านักงานศาลยุติธรรม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้วิธีพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ และข้อ ๑๐ แห่งข้อก าหนดของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๓ เมื่อคู่ความคนแรกลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในสัญญาประนีประนอมยอมความ ด้วยวิธีการข้างต้นแล้ว ให้ส่งไฟล์ภาพสัญญาประนีประนอมยอมความที่มีลายมือชื่อของคู่ความดังกล่าว ไปให้คู่ความคนถัดไปทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการนั่งพิจารณาทางออนไลน์หรือที่ศาลก าหนด เพื่อลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ด้วยวิธีการเดียวกันจนลงลายมือชื่อครบทุกคน แล้วให้ผู้ที่ลงลายมือชื่อ เป็นคนสุดท้ายส่งไฟล์ภาพสัญญาประนีประนอมยอมความที่มีลายมือชื่อทุกคนครบถ้วนมาให้ศาล ทางระบบอิเล็กทรอนิกส์(แอปพลิเคชัน) เดียวกัน การรับส่งไฟล์เอกสารสัญญาประนีประนอมยอมความข้างต้น นอกจาก จะรับส่งทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ อาจใช้วิธีรับส่งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) ของศาล กับคู่ความได้ ทั้งนี้คู่ความต้องรับส่งไฟล์โดยใช้บัญชีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail account) ที่ตน ได้แจ้งไว้กับศาลเท่านั้น เช่น บัญชีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ของโจทก์ที่ระบุในค าฟ้อง หรือบัญชีจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ของทนายความที่ระบุในใบแต่งทนายความ เป็นต้น โดยถือว่าการที่ได้แจ้งบัญชีไว้กับศาล เป็นการพิสูจน์ตัวตนแล้ว ๓.๒.๒ ให้คู่ความคนแรกจัดท าสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นกระดาษ แล้วลงลายมือชื่อจริง จากนั้นแปลงสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวให้เป็นเอกสารในรูปแบบ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (สแกนเป็นไฟล์ PDF, PDF/A) แล้วน าเข้า (อัปโหลด) ไฟล์สัญญาประนีประนอมยอมความ ดังกล่าวเข้าสู่ระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ (ระบบ CIOS หรือระบบ e-Filing) เมื่อคู่ความคนแรกด าเนินการข้างต้นแล้ว ให้คู่ความคนถัดไปพิมพ์สัญญา ประนีประนอมยอมความที่มีลายมือชื่อของคู่ความคนแรกออกจากระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ เป็นกระดาษแล้วลงลายมือชื่อจริง จากนั้นแปลงสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวให้เป็นเอกสาร


กลับไปหน้าสารบัญ กฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๑๙ ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (สแกนเป็นไฟล์ PDF, PDF/A) แล้วน าเข้า (อัปโหลด) ไฟล์สัญญา ประนีประนอมยอมความดังกล่าวเข้าสู่ระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ (ระบบ CIOS หรือระบบ e-Filing) การรับส่งไฟล์เอกสารสัญญาประนีประนอมยอมความข้างต้น นอกจาก จะรับส่งทางระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ (ระบบ CIOS หรือระบบ e-Filing) อาจใช้วิธีรับส่งทางจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) ของศาลกับคู่ความได้ ทั้งนี้คู่ความต้องรับส่งไฟล์โดยใช้บัญชีจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail account) ที่ตนได้แจ้งไว้กับศาลเท่านั้น เช่น บัญชีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ของ โจทก์ที่ระบุในค าฟ้อง หรือบัญชีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ของทนายความที่ระบุในใบแต่งทนายความ เป็นต้น โดยถือว่าการที่ได้แจ้งบัญชีไว้กับศาลเป็นการพิสูจน์ตัวตนแล้ว ๓.๒.๓ ให้เจ้าหน้าที่แสดงสัญญาประนีประนอมยอมความในรูปแบบข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ (ไฟล์ PDF, PDF/A) บนหน้าจอโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันที่ใช้ในการนั่งพิจารณาทางออนไลน์ (share screen) แล้วคู่ความทุกฝ่ายที่อยู่นอกศาลลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามวิธีการในข้อ ๓.๒.๑ ให้ปรากฏภาพลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าว ในลักษณะที่คู่ความทุกฝ่ายสามารถตรวจสอบได้ทันที ในขณะนั้น (real time) ๓.๓ ในกรณีที่คู่ความมาศาลด้วยตนเองในวันนัด เจ้าหน้าที่อาจจัดให้คู่ความที่มาศาล ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์ลงลายมือชื่อ (Sign Pad) ในสัญญาประนีประนอมยอมความ ที่เป็นเอกสารในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือจัดท าสิ่งพิมพ์ออกของสัญญาประนีประนอมยอมความ ที่มีลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ของคู่ความที่อยู่นอกศาล แล้วให้คู่ความที่มาศาลลงลายมือชื่อในสิ่งพิมพ์ออก ดังกล่าวต่อหน้าศาล ๔. ยืนยันและบันทึกหลักฐานในการท าสัญญาประนีประนอมยอมความเพื่อรักษา ความครบถ้วนของข้อมูล ให้ด าเนินการได้ดังนี้ ๔.๑ ให้เจ้าหน้าที่แสดงภาพสัญญาประนีประนอมยอมความที่มีลายมือชื่อทุกคนครบถ้วน (share screen) ที่หน้าจอของโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันที่ใช้ในการนั่งพิจารณาทางออนไลน์เพื่อให้ คู่ความทุกฝ่ายตรวจสอบอีกครั้ง แล้วให้เจ้าหน้าที่บันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นหลักฐานรวมไว้ในส านวน ๔.๒ ให้เจ้าหน้าที่จัดท าสิ่งพิมพ์ออกของสัญญาประนีประนอมยอมความที่เป็นเอกสาร ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เสนอให้ผู้พิพากษาลงลายมือชื่อ เพื่อจัดเก็บเป็นเอกสารในส านวนความ แล้วจัดท ารายงานเจ้าหน้าที่ระบุวิธีการที่คู่ความใช้ในการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ รายงานประวัติ การใช้งานระบบในการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในสัญญาประนีประนอมยอมความ แนบไว้กับสัญญา ประนีประนอมยอมความดังกล่าว


คณะผู้จัดท ำ ที่ปรึกษำ ๑. นายสรวิศ ลิมปรังษี ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจ าส านักประธานศาลฎีกา ๒. นายพิเชษฐ์ คงศิลา ผู้อ านวยการส านักส่งเสริมงานตุลาการ ส่วนส่งเสริมพัฒนำงำนศำลดิจิทัลและนวัตกรรม ส ำนักส่งเสริมงำนตุลำกำร ๓. นางสาวสุธินี ฤกษ์วศินกุล นิติกรเชี่ยวชาญ ๔. นายวิศวัฒน์ ทองกุล เจ้าพนักงานคดีช านาญการพิเศษ ๕. นางสาวสรณีย์ ประเสริฐ นักทรัพยากรบุคคลช านาญการพิเศษ ๖. นางสาวณัฐพร ยันต์วิเศษ นิติกรปฏิบัติการ ๗. นางสาวนิตยา แสงวัชรานนท์นิติกรปฏิบัติการ ๘. นางสาวเอมิกา สิทธิสาร นิติกรปฏิบัติการ ๙. นางสาวชนกนาถ คูณกลาง เจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน ๑๐. นางสาวอรจิรา ศิริกานต์นนท์ นิติกร ๑๑. นายอานนท์ ข าสุวรรณ นิติกร ส านักส่งเสริมงานตุลาการ หมายเลขโทรศัพท์ : ๐ ๒๕๑๒ ๘๔๙๘ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ : [email protected]


https://www.coj.go.th


Click to View FlipBook Version