The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

งานวิจัยบทที่ 1 - 5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 007 Aneeta Madeng, 2024-03-08 11:35:05

งานวิจัยบทที่ 1 - 5

งานวิจัยบทที่ 1 - 5

41 3.3.4 การสร้างแบบประเมินวัดระดับความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3.3.4.1 ศึกษาแนวคิดทฤษฎีจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความพึงพอใจ 3.3.4.2 สร้างแบบแบบสอบถามความพึงพอใจเสนอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจมาปรับปรุง แก้ไขให้เหมาะสม เป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) โดยได้กำหนดน้ำหนัก คะแนน 5 ระดับและการแปลความหมาย โดยกำหนดระดับและเกณฑ์น้ำหนักคะแนน ดังนี้ (บุญชม ศรี สะอาด, 2553, น. 121) ระดับความพึงพอใจ ระดับคะแนนเฉลี่ย พึงพอใจมากที่สุด 4.50-5.00 พึงพอใจมาก 3.50-4.49 พึงพอใจปานกลาง 2.50-3.49 พึงพอใจน้อย 1.50-2.49 พึงพอใจน้อยที่สุด 1.00-1.49 3.3.4.3 นำแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความตรงเชิง เนื้อหากับข้อคำถาม แล้วนำไปวิเคราะห์หาความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา เลือกข้อที่มีดัชนีความสอดคล้อง ตั้งแต่ .50 ขึ้นไปเพื่อนำมาใช้ และนำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงให้เครื่องมือมีคุณภาพยิ่งขึ้น เมื่อพิจารณา แล้วพบว่าแบบประเมินวัดระดับความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการ สอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความ เหมาะสมโดยมีค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 1.00 3.3.4.4 นำแบบสอบถามที่ปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะครั้งสุดท้ายไปใช้กับนักเรียน กลุ่มทดลอง เพื่อหาค่าความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาภาษาไทย เรื่อง การ อ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model 3.4 แบบแผนการวิจัย การศึกษาครั้งนี้ใช้แบบแผนการศึกษาแบบ One-Group Pretest-Posttest Design ซึ่งเป็น การศึกษาจากกลุ่มทดลองเพียงกลุ่มเดียว มีการวัดตัวแปรตามก่อนและหลังการทดลอง และนำผลจาก การวัดทั้งสองครั้งมาพิจารณาเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรตาม รูปแบบการศึกษาแสดงได้ ดังนี้ (สมบัติ ท้ายเรือคำ, 2551, น. 243) O1 X O2


42 สัญลักษณ์ที่ใช้ในรูปแบบการวิจัย O1 หมายถึง การวัดผลก่อนการทดลอง X หมายถึง การทดลองโดยใช้สื่อการสอน MLH Model O2 หมายถึง การวัดผลหลังการทดลอง 3.5 การรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยได้ดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 3.5.1 ขั้นเตรียมการ ผู้วิจัยได้ดำเนินการเลือกกลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 โรงเรียนบ้านละแอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลาเขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2566 จำนวน 5 คน ได้มาจากการหากลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของ Taro Yamane, 1973 3.5.2 การดำเนินการทดลอง ผู้วิจัยได้ดำเนินการทดลองในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ตั้งแต่วันที่ 01 สิงหาคม ถึงวันที่ 28 สิงหาคม 2566 3.5.3 เก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลตามขั้นตอนต่อไปนี้ 3.5.3.1 ทำการทดสอบก่อนการทดลอง (Pre-Test) โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model 3.5.3.2 ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามแผนการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านสะกด คำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model 3.5.3.3 เมื่อจบการทดลองจึงทดสอบหลังการทดลอง (Post-Test) โดยใช้แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ฉบับที่เคยใช้ทดสอบมาก่อนการทดลอง 3.5.3.4 นำคำตอบที่ได้จากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมาตรวจให้คะแนนแล้ว จึงนำไปวิเคราะห์ต่อไป 3.5.3.5 นำแบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจต่อสื่อการสอน MLH Model มาวัดระดับ ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3.5.3.6 ผู้วิจัยรวบรวมแบบสอบถามที่ได้รับคืนมาทั้งหมด แล้วนำมาวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป 3.6 การวิเคราะห์ข้อมูล ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป โดยวิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้


43 3.6.1 วิเคราะห์หาประสิทธิภาพของสื่อการสอน เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยหาคะแนนก่อนเรียนของกระบวนการจัดการเรียนรู้โดย ใช้แบบทดสอบก่อนเรียนและคะแนนผลการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน โดยการหา ค่าเฉลี่ย (x̅) และส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) แล้วแปลความหมายค่าเฉลี่ยของระดับการศึกษา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยมีเกณฑ์ ดังนี้ 4.21 - 5.00 หมายถึง มากที่สุด 3.41 – 4.20 หมายถึง มาก 2.61 – 3.40 หมายถึง ปานกลาง 1.81 – 2.60 หมายถึง น้อย 1.00 – 1.80 หมายถึง น้อยที่สุด 3.6.2 เปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้ค่าพัฒนาการ สัมพัทธ์ 3.6.3 วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการ เรียนรู้เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) 3.7 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 3.7.1 การหาค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา โดยคำนวณหาดัชนีความสอดคล้องของสื่อการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้สูตร Index of Objective Congruence หรือ IOC (สมบัติ ท้ายเรือคำ, 2551, น. 107) สูตรหาความเที่ยงตรง IOC = R N โดย IOC แทน ดัชนีความสอดคล้องระหว่างแบบทดสอบกับลักษณะที่จะวัด R แทน ผลรวมของคะแนนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด N แทน จำนวนผู้เชี่ยวชาญ 3.7.2 การวิเคราะห์ผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่านสะกด คำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model และความพึงพอใจที่มีต่อการ พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model


44 โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยหาค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (x̅) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และ ค่าเฉลี่ยของคะแนนผลต่าง ค่าร้อยละ (Percentage) ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Arithmetic mean) = เมื่อ แทน คะแนนเฉลี่ย แทน ผลรวมของข้อมูลทั้งหมด N แทน จำนวนข้อมูลทั้งหมด ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) โดยคำนวณจากสูตร S.D. = เมื่อ S.D. แทน ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน แทน ผลรวมทั้งหมดของคะแนนแต่ละตัวยกกำลังสอง ( แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมดยกกำลังสอง N แทน จำนวนนักเรียน ค่าพัฒนาการสัมพัทธ์ ร้อยละคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์= X ( ) ( 1) 2 2 − X − X 2 x 2 x) ร้อยละ = จำนวนคำตอบทั้งหมด จำนวนผู้ตอบทั้งหมด x 100 X Post-Pre คะแนน เต็ม-Pre คะแนนเต็ม-Pre × 100 คะแนน เต็ม-Pre


45 เมื่อ Post แทน คะแนนหลังเรียน Pre แทน คะแนนก่อนเรียน เกณฑ์คะแนนพัฒนาการเทียบกับระดับพัฒนาการ (ศิริชัย กาญจนวาสี, 2552, น. 268) ดังนี้ คะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์ ระดับพัฒนาการ 76 – 100 51 – 75 26 – 50 0 - 25 พัฒนาการระดับสูงมาก พัฒนาการระดับสูง พัฒนาการระดับปานกลาง พัฒนาการระดับต้น


46 บทที่ 4 ผลการวิจัย การวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านละแอ มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านละแอ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model เพื่อ ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อสื่อการสอน MLH Model ผู้วิจัยนำเสนอ ผลการดำเนินการวิจัย ดังนี้ ตอนที่ 1 ผลการพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการ สอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านละแอ ตอนที่ 2 ผลการศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อสื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านละแอ ตอนที่ 1 ผลการพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านละแอ ผลการพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านละแอ โดยใช้แบบทดสอบ นำเสนอดังตารางที่ 1 ตารางที่ 4.1 การเปรียบเทียบผลต่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อ การสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 คนที่ คะแนนก่อนเรียน คะแนนหลังเรียน ผลต่าง(D) ผลต่าง( 2 D ) 1 1 4 3 9 2 1 5 4 16 3 1 4 3 9 4 1 5 4 16 5 2 5 4 16 รวม 6 23 18 66 x̅ 1.20 4.60 3.60 13.20 จากตารางที่ 4.1 การเปรียบเทียบผลต่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง การอ่านสะกด คำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า คะแนนก่อนเรียนและ


47 หลังเรียนที่เกิดจากการใช้แบบทดสอบของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.20 และ 4.60 ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าคะแนนหลังเรียนของนักเรียนกลุ่มทดลองที่จัดการเรียนการสอนเรื่องการ อ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model สูงกว่าก่อนเรียน ตารางที่ 4.2 แสดงคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน และคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังได้รับการสอนโดยใช้สื่อการสอน MLH Model เรื่อง การอ่านสะกด คำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model คนที่ คะแนน ก่อนเรียน คะแนน หลังเรียน พัฒนาการสัมพัทธ์ (%) ระดับพัฒนาการ 1 2 3 4 5 3 2 3 3 3 9 10 9 9 9 85.71 % 100 % 85.71 % 85.71 % 85.71 % ระดับสูงมาก ระดับสูงมาก ระดับสูงมาก ระดับสูงมาก ระดับสูงมาก ค่าเฉลี่ย (x̅) 2.20 8.40 79.49 % ระดับสูงมาก จากตารางที่ 4.2 แสดงคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน และคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังได้รับการสอนโดยใช้สื่อการสอน MLH Model เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model พบว่า คะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนที่เกิดจากการ จัดการเรียนการสอน เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 คะแนนทดสอบก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.20 คะแนนทดสอบหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 8.40 คะแนน นักเรียนมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 79.49 อยู่ในระดับสูงมาก ตอนที่ 2 ผลการศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการพัฒนาการอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านละแอ จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจ ที่มีต่อ การพัฒนาการอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 นำเสนอดังตารางที่ 3 และ 4


48 ตารางที่ 4.3 ตารางแสดงจำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง โดยจำแนกตามเพศ เพศ จำนวน ร้อยละ ชาย 4 80 หญิง 1 20 รวม 5 100 จากตารางที่ 4.3 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามเพศ พบว่า กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 100 เป็นเพศชายจำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 80 เป็นเพศหญิงจำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 20 ตารางที่4.4 แสดงค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจ ที่มีต่อการพัฒนาการอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ลำดับ รายการประมิน ระดับความพึงพอใจ N = 5 ค่าเฉลี่ย (x̅) ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน (S.D) ระดับ ความพึง พอใจ 1 ระยะเวลาในการทำกิจกรรมมีความเหมาะสม 5.00 2.24 มากที่สุด 2 ความเหมาะสมด้านประเด็นเนื้อหาสาระใน การจัดการเรียนรู้ 4.80 1.73 มากที่สุด 3 สื่อประกอบการเรียนรู้มีความเหมาะสม 5.00 2.24 มากที่สุด 4 รูปแบบและกิจกรรมในการเรียนรู้มีความ น่าสนใจ 4.80 1.73 มากที่สุด 5 มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหา และสาระการ เรียนรู้เพิ่มขึ้น 5.00 2.24 มากที่สุด รวมเฉลี่ย 4.92 10.10 มากที่สุด จากตารางที่ 4.4 ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจ ที่มีต่อการพัฒนาการอ่าน สะกดคำ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅ = 4.92, S.D. =


49 10.10) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีความพึงพอใจโดยมีค่าเฉลี่ยเรียงจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ระยะเวลาในการทำกิจกรรมมีความเหมาะสม (x̅ = 5.00, S.D. = 2.24) สื่อการสอนมีความเหมาะสม ด้านประเด็นเนื้อหาสาระในการจัดการเรียนรู้ (x̅ = 4.80, S.D. = 1.73) สื่อประกอบการเรียนรู้มีความ ยากง่ายที่เหมาะสม (x̅ = 5.00, S.D. = 2.24) รูปแบบสื่อและการจัดกิจกรรมในการเรียนรู้มีความ น่าสนใจ (x̅ = 4.80, S.D. = 1.73) สื่อการสอนช่วยให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหา และสาระ การเรียนรู้เพิ่มขึ้น (x̅ = 5.00, S.D. = 2.24)


50 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านละแอ มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านละแอ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model เพื่อ ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อสื่อการสอน MLH Model ได้สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ มีประเด็นสำคัญสรุปได้ ดังนี้ 5.1 สรุปผลการวิจัย 5.1.1 การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อ การสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ผลสัมฤทธิ์การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อ การสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยคะแนน ทดสอบก่อนเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 1.20 คะแนน คะแนนทดสอบหลังเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 4.60 คะแนน ซึ่ง เป็นไปตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 5.1.2 นักเรียนมีความพึงพอใจที่มีต่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการ สอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅ = 4.92, S.D. = 10.10) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีความพึงพอใจโดยมีค่าเฉลี่ยเรียงจากมากไปหาน้อย ดังนี้ การ พัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ใช้ ระยะเวลาในการทำกิจกรรมมีความเหมาะสม (x̅ = 5.00, S.D. = 2.24) การพัฒนาทักษะการอ่านสะกด คำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model มีความเหมาะสมด้านประเด็น เนื้อหาสาระในการจัดการเรียนรู้ (x̅ = 4.80, S.D. = 1.73) การพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อ การสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ใช้สื่อประกอบการเรียนรู้มีความยากง่ายที่ เหมาะสม (x̅ = 5.00, S.D. = 2.24) การพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model มีรูปแบบสื่อและการจัดกิจกรรมในการเรียนรู้มีความน่าสนใจ (x̅ = 4.80, S.D. = 1.73) การพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการ สอน MLH Model ช่วยให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหา และสาระการเรียนรู้เพิ่มขึ้น (x̅ = 5.00, S.D. = 2.24) ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 2


51 5.2 อภิปรายผล การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านละแอ มีประเด็นสำคัญ สามารถนำมาอภิปราย ได้ดังนี้ 5.2.1 การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ทักษะการอ่าน สะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งเป็นไปตาม วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 กล่าวคือ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 5 คน ซึ่งเรียนโดยใช้สื่อการสอน MLH Model มี คะแนนทดสอบก่อนเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 1.20 คะแนน คะแนนทดสอบหลังเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 4.60 คะแนน ทั้งนี้เนื่องจากก่อนสร้างสื่อการสอน ผู้วิจัยได้ศึกษาสภาพปัญหาและสาเหตุที่นักเรียนไม่สามารถอ่าน สะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ได้อย่างถูกต้อง โดยเลือกแก้ปัญหาตามแนวคิดที่ว่า นักเรียน จะเรียนรู้ได้ดีจะต้องเรียนรู้จากการจำแนกความแตกต่างและความเหมือนด้วยตา การที่เด็กจำเป็นต้อง รู้จักการสังเกตเห็นความเหมือนและความแตกต่างกันของรูปทรงของวัตถุ รูปภาพ คำที่เขียนเป็น สัญลักษณ์ความสามารถในการอ่านขึ้นอยู่กับความสามารถในการเห็น ความแตกต่างระหว่างคำที่อ่านกับ คำอื่น ๆ เด็กจะสามารถเห็นภาพความแตกต่างของคำได้ดีกว่าเห็นความเหมือน ควบคู่กับการเห็นภาพ ของคำนั้น ๆ ด้วยการจำแนกเสียงที่คล้ายคลึงกันจากการฟัง หมายถึง ความสามารถในการจำแนกเสียง ช่วยให้การอ่านเป็นไปอย่างถูกต้อง การเรียนโดยใช้สื่อการสอน MLH Model สามารถพัฒนาทักษะการ อ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model อีกทั้งยังเป็นสื่อการเรียนการสอนที่สามารถนำมา แก้ปัญหาการอ่านสะกดคำของนักเรียนได้ ทำให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนและได้รับความสนุกสนาน เพลิดเพลินในการเรียนยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิจัยของภัททิยา แก้วเกตุ (ภัททิยา แก้วเกตุ, 2564, น. 154-155 ) การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพื่อพัฒนาการอ่านออกเสียงสะกดคำวิชาภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 38 คน โรงเรียนนาหลวง พบว่า จากการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและ หลังเรียน นักเรียนมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งนักเรียนมี ผลสัมฤทธิ์ของค่าเฉลี่ยสูงขึ้นตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ การวิจัยของณัฐชิมากรณ์ หนูส่ง (ณัฐชิมากรณ์ หนูส่ง, 2561, น. 8 ) ได้ศึกษา เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การอ่านคำพื้นฐานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่สอนโดยใช้บัตรคำและบัตรภาพ โรงเรียนบ้านนาสีนวล โดยใช้บัตรคำและบัตรภาพ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ใน การศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 72 คน ซึ่งได้มาโดยการ เลือกแบบเจาะจง ผลการวิจัยพบว่า การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การอ่านคำพื้นฐานของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 2 ที่สอนโดยใช้บัตรคำและบัตรภาพ เมื่อเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์การอ่านคำ พื้นฐานที่สอนโดยใช้บัตรคำและบัตรภาพ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี


52 ที่ 2 พบว่ามีคะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไป ตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ การวิจัยของภานุวัฒน์ จารุนัย (ภานุวัฒน์ จารุนัย, 2563, น. 131 ) ได้ศึกษา เรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านคําศัพท์พื้นฐานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้วิธีสอนอ่านแจกลูก สะกดคําร่วมกับเกมทางภาษากรณีศึกษา โรงเรียนบ้านนาดี กลุ่มเป้าหมายในการวิจัย คือ นักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ของโรงเรียนบ้านนาดี จํานวน 16 คน ได้มาจากการ เลือกแบบเจาะจง ผลการวิจัยพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านคําศัพท์พื้นฐานก่อนเรียนและ หลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่าน คําศัพท์พื้นฐานหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติระดับ .05 5.2.2 นักเรียนมีความพึงพอใจที่มีต่อการพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅ = 4.92, S.D. = 10.10) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีความพึงพอใจโดยมีค่าเฉลี่ยเรียงจากมากไปหาน้อย ดังนี้ การพัฒนา ทักษะการอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ใช้ระยะเวลา ในการทำกิจกรรมมีความเหมาะสม (x̅ = 5.00, S.D. = 2.24) การพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำ โดยใช้ สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model มีความเหมาะสมด้านประเด็นเนื้อหาสาระ ในการจัดการเรียนรู้ (x̅ = 4.80, S.D. = 1.73) การพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ใช้สื่อประกอบการเรียนรู้มีความยากง่ายที่เหมาะสม (x̅ = 5.00, S.D. = 2.24) การพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อ การสอน MLH Model มีรูปแบบสื่อและการจัดกิจกรรมในการเรียนรู้มีความน่าสนใจ (x̅ = 4.80, S.D. = 1.73) การพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ช่วยให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหา และสาระการเรียนรู้เพิ่มขึ้น (x̅ = 5.00, S.D. = 2.24) ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 ทั้งนี้เนื่องจากผู้วิจัยได้ศึกษาทฤษฎี หลักจิตวิทยาในการจัดการ เรียนรู้ ซึ่งผู้วิจัยมีความเข้าใจว่านักเรียนวัยใดมีความชอบและความสนใจแบบใด ควรจัดให้มีการจัดการ เรียนการสอนแบบใดจึงจะให้นักเรียนมีความสนใจและชอบที่จะศึกษาหาความรู้ โดยมีการวิเคราะห์ เนื้อหาและจัดเนื้อหาออกเป็นส่วนย่อย ๆ เรียงลำดับเนื้อหาจากง่ายไปหายากซึ่งในการจัดการเรียนรู้จะใช้ รูปแบบที่เหมาะสมกับเนื้อหา มีความน่าสนใจ มีรูปแบบ หรือลักษณะที่หลากหลาย กิจกรรมการเรียน การสอนมีลำดับขั้นตอนเข้าใจง่าย ใช้เวลาเหมาะสม แบบทดสอบไม่ยากหรือง่ายจนเกินไป ช่วยพัฒนา ทักษะการอ่านสะกคดำได้ดี นักเรียนเกิดการเรียนรู้ สร้างความสนุกสนานให้กับนักเรียน อีกทั้งยังช่วยให้ นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาไทยและวิชาอื่น ๆ ต่อไป และเมื่อนักเรียนได้พัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model โดยใช้สื่อการสอน MLH Model จึงทำให้ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 คน มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของภัททิยา แก้วเกตุ (ภัททิยา แก้วเกตุ, 2564, น. 154-


53 155 ) ได้ศึกษา เรื่อง การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพื่อพัฒนาการอ่านออกเสียงสะกดคำวิชา ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนนาหลวง กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 2 จํานวน 38 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ผลการวิจัยพบว่า การพัฒนาหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์เพื่อพัฒนาการอ่านออกเสียงสะกดคำวิชาภาษาไทย การอ่านออกเสียงสะกดคำ ซึ่ง ส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีส่วนประกอบของรูปภาพ กราฟิก และเนื้อหา ประกอบด้วย หน้าปก คำชี้แจงสำหรับนักเรียน ข้อสอบ เนื้อหาบทเรียน แบบฝึกทักษะ เป็นต้น สามารถ ส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียงสะกดคำ ของนักเรียนอยู่ในระดับมาก นักเรียน ร้อยละ 97.37 มีทักษะ การอ่านเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และจากการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อน เรียนและหลังเรียน นักเรียนมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 อีก ทั้งมีความพึงพอใจต่อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพื่อพัฒนาการอ่านออกเสียงสะกดคำ วิชาภาษาไทย ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในระดับมาก 5.3 ข้อเสนอแนะ จากการวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่าน สะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านละแอ มี ข้อเสนอแนะ ดังนี้ 5.3.1.1 การเลือกสื่อการสอนที่จะนำมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญ ครูผู้สอนควรคำนึงถึงความเหมาะสมของเพศ วัย และระดับความสามารถของนักเรียน ควรเลือกเกมที่ นักเรียนสนใจ จะช่วยให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น 5.3.1.2 ในระหว่างการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้พฤติกรรมนักเรียนที่มี ความสามารถในการเรียนต่ำ อาจจะไม่เข้าใจ ทำให้เกิดการเรียนรู้ช้า ครูผู้สอนควรสังเกตหรือต้องการ ความช่วยเหลือ ครูผู้สอนควรใช้เทคนิคเสริมแรงกระตุ้นให้นักเรียนสนใจ หรืออธิบายให้เข้าใจชัดเจนอีก ครั้ง 5.3.1.3 ในการทำแบบทดสอบแต่ละครั้งของนักเรียน ครูผู้สอนควรเฉลยทันทีและชี้แจง ข้อบกพร่องในการที่จะแก้ไข เพื่อให้นักเรียนทราบความสามารถของตน พร้อมทั้งแนะแนวทางแก้ไขและ พัฒนาความสามารถในการเรียนของตนให้ดียิ่งขึ้นในครั้งต่อไป 5.3.2 ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยครั้งต่อไป 5.3.2.1 ควรศึกษาวิธีการสร้างหรือออกแบบสื่อการสอน เพื่อให้มีรูปแบบที่ทันสมัยมี ความหลากหลายและสร้างความท้าทายให้กับนักเรียน 5.3.2.2 ควรพัฒนาสื่อการสอนและการจัดการสอนโดยใช้สื่อการสอนในกลุ่มสาระการ เรียนรู้อื่น ๆ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น เช่น ภาษาไทย คณิตศาสตร์ภาษาต่างประเทศ หรืออื่น ๆ


บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. กุลิสรา จิตรชญาวณิช. 2562. การจัดการเรียนรู้. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรมวิชาการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: องค์การรับสินค้าและพัสดุภัณฑ์. กรมวิชาการ. (2546). คู่มือแนวการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตาม หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว. ขนิษฐา บุญภักดี. (2556). การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักศึกษาระดับ ปริญญาตรี. คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอม เกล้าธนบุรี. ขวัญนภา บุญนิธี. (2564). การพัฒนาทักษะด้านการอ่านสะกดคำนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกวินิจฉัยเป็นรายบุคคล. รายงานการศึกษาค้นคว้าอิสระ การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น. คมสัน อินทะเสน และคณะ. (2560). ความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการขององค์การ บริหารส่วนตำบลนาหว้า อำาเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น. การค้นคว้าอิสระ, หลักสูตร ปริญญารัฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์การปกครอง มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย. จันตรา ธรรมแพทย์. (2559). ฉวีวรรณ คูหาภินันท์. (2547). การทําหนังสือสําหรับเด็ก. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: บูรพาสาส์น. ณัฐชิมากรณ์ หนูส่ง, ปพิชญา พรหมกันธา และพัทธนันท์ พาป้อ. (2561). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การ อ่านคำพื้นฐานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่สอนโดยใช้บัตรคำและบัตรภาพ. วารสาร ปัญญา. 26(2) : 8. ดิเรก ฤกษ์หร่าย. (2558). ทฤษฎีความพึงพอใจ. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช. ทักษิณ คุณพิภาค. (2560). การพัฒนาแบบฝกทักษะการอานและการเขียนสะกดคําภาษาไทยโดย ใชการเรียนรูแบบรวมมือรวมกับเทคนิคแผนผังความคิดที่สงผลต่อทักษะการอานและการ เขียน ความพึงพอใจตอการเรียนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปที่ 2. วารสารครุศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. 3(6) : 8. ทิศนา แขมมณี. (2560). ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มี


ประสิทธิภาพ พิมพ์ครั้งที่ 21. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. ทิศนา แขมมณี. (2556). รูปแบบการเรียนการสอน. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. นิรัชรา ชัยชนะอุดมกุล. (2556). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดการแก้ปัญหาของ โพลยาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น. พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2558). หลักการวัดและประเมินผลทางการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : ศูนย์หนังสือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. พิชา พลมาตย์, ปพิชญา พรหมกันธา และพัทธนันท์ พาป้อ. (2561). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ในการ อ่านออกเสียง โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านแจกลูกสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1. วารสารปัญญา. 26(2) : 29. ไพโรจน์ คะเชนทร์. (2556). การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน. [เว็บบล็อก]. เข้าถึงได้จาก : http://www.wattoongpel.com. [1 กรกฎาคม 2566]. ภัททิยา แก้วเกตุ, เพียงเพ็ญ จิรชัย. (2564). การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพื่อพัฒนาการอ่าน ออกเสียงสะกดคำวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. วารสารรัชต์ภาคย์. 17(52) : 154 - 155. ภานุวัฒน์ จารุนัย, แสงเดือน คงนาวัง. (2563). การพัฒนาทักษะการอ่านคําศัพท์พื้นฐานของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้วิธีสอนอ่านแจกลูกสะกดคําร่วมกับเกมทางภาษา กรณีศึกษา. วารสารร้อยแก่นสาร. 6(7) : 131. เมขลา ลือโสภา .(2555). การพัฒนาการจับใจความด้วยวิธีการสอนแบบSQ4R กลุ่มสาระการ เรียนรู้ ภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขา หลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. รุ่งทิพย์ ทิพย์เนตร. (2565). การพัฒนาความสามารถในการอ่านสะกดคำที่ประสมด้วยสระเสียง เดี่ยว โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ร่วมกับแบบฝึกการอ่านชุด เรียนรู้สระไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. รายงานการศึกษาค้นคว้าอิสระ การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวร.


วัชรพล วิบูลยศริน. 2561. วิธีวิทยาการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. วรรณี โสมประยูร. (2542). การสอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช. วิลัยลักษณ์ ดำคง. (2564). การพัฒนาการอ่านและการเขียนแบบแจกลูกสะกดคำโดยการใช้แบบ ฝึก ทักษะอ่านและการเขียนแบบแจกลูกสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. โรงเรียนวัดท่าไทร. วิสารัตน์ ทองเพียร. (2563). การพัฒนาทักษะการอ่านและการสะกดคำของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้กิจกรรมเกมการศึกษาจับคู่ประสมคำกับภาพ. โรงเรียนวัด เสาธงนอก. วรรณี โสมประยูร. (2542). การสอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช. สุธะนะ พามนตรี. (2561). ความสําคัญของภาษาไทย. [เว็บบล็อก]. เข้าถึงได้จาก : https://www.classstart.org/classes/4131. [1 กรกฎาคม 2566] สุธิดา การีมี. (2561). การเรียนกระตุ้นความคิด. กรุงเทพฯ : นิตยสาร สสวท. สุชาดา ตั้งศิรินทร์. (2563). วิธีสอนภาษาไทยสำหรับประถมศึกษา. [เว็บบล็อก]. เข้าถึงได้จาก : https://anyflip.com/klqdo/vjzc/basic. [1 กรกฎาคม 2566] สุคนธ์ ภูริเวทย์. (2559). แผนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช. สมบัติ ท้ายเรือคำ. (2551). ระเบียบวิธีวิจัยสำหรับมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. กาฬสินธุ์: ประสานการพิมพ์. สำลี รักสุทธี. (2559). การเขียนแผนการสอน. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น. อารมณ์ ใจเที่ยง. (2558) หลักการสอน. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์. อริสรา โพธิ์ทอง, 2563. การพัฒนาชุดกิจกรรมการอ่านและเขียนภาษาไทยโดยการแจกลูกสะกด คําสําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. วารสารรัชต์ภาคย์. 6(2) : 73. ไอดิน วงค์เจริญ, วิภาวี คีรีเบญจวรรณ, อรทัย ฤทธิ์ชูเกียรติและบุณฑริกา สุมนรัตนกูล. (2563). การ พัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำไม่ตรงมาตราตัวสะกดโดยใช้แบบฝึกทักษะ. วารสารล้านนาวิจัยปริทรรศน์. 1(1) : 1. Gay, L.R. & Gallagher, P.D. (1976). สูตรของ Taro Yamane. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://ksitds55.wordpress.com/. [1 กรกฎาคม 2566]


Noiumkar, S. (2018). Interactive E-Book Model. Journal of Humanities and Social Sciences Mahasarakham University. 37(2) : 182 - 193. Sakolrak, S. et al. (2017). A Comparative Study of Teaching Thai Literacy Models, Methods and Achievement at the Elementary Education Level in the Reign of King RAMA IX. Journal of Research Methodology. 30(2) : 303 - 327.


ภาคผนวก


ภาคผนวก ก รายนามผู้เชี่ยวชาญ


รายนามผู้เชี่ยวชาญ 1) นางสาวฮามีด๊ะ ยามามะลี ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านละแอ 2) นางสาวฟาตีหม๊ะ เบ็ญฮาวัน ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านละแอ 3) นายอารีฟ สาเมาะ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียน โรงเรียนบ้านละแอ


ภาคผนวก ข เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย


ภาคผนวก ข เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย - แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 - สื่อการสอน MLH Model เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้สื่อการสอน MLH Model - แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง การอ่านสะกดคำ โดยใช้ สื่อการสอน MLH Model - แบบสอบถามความพึงพอใจต่อสื่อการสอน MLH Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3


แผนการจัดการเรียนรู้


แผนการจัดการเรียนรู้๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง อักษร คู่เสียง เวลาเรียน ๓ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง อักษรสามหมู่ เวลาเรียน ๓ ชั่วโมง สอนวันที่ ๓ เดือน สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ตัวชี้วัด ท ๔.๑ ป.๓/๑ เขียนสะกดคําและบอกความหมายของคํา สาระสำคัญ ไตรยางศ์ คือ อักษรสามหมู่ เป็นการแบ่งพยัญชนะออกเป็น 3 หมู่ คือระบบการจัด หมวดหมู่อักษรไทย (เฉพาะรูปพยัญชนะ) ตามลักษณะการผันวรรณยุกต์ ของพยัญชนะแต่ละ หมวด ได้แก่ อักษรกลาง อักษรสูง และอักษรต่ำ สาระการเรียนรู้ อักษรสามหมู่ จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ อธิบายความหมายของอักษรสามหมู่ได้ ด้านทักษะ อ่าน เขียนพยัญชนะในภาษาไทยได้ถูกต้องตามอักขรวิธี ด้านจิตพิสัย เห็นความสำคัญของการอ่านและเขียนพยัญชนะในภาษาไทยได้ถูกต้อง


สมรรถนะสำคัญ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูประเมินความสามารถในการอ่านออกเสียงสะกดคำพยัญชนะของ นักเรียน โดยใช้แบบทดสอบก่อน เรื่อง การอ่านสะกดคำพยัญชนะผสมสระเสียงสั้น เสียงยาว 2. ครูสนทนาคำถามเกี่ยวกับบทเรียน โดยใช้คำถาม ดังนี้ นักเรียนคิดว่าพยัญชนะไทยแต่ละตัว มีลักษณะของเสียงที่แตกต่างกันหรือไม่ ? ขั้นสอน 3. นักเรียนชมสื่อวิดิทัศน์ เรื่อง เพลง อักษรสามหมู่ 4. นักเรียนส่งตัวแทนออกมานำร้องเพลงอักษรสามหมู่ จากนั้นให้นักเรียน ร่วมกันร้องเพลง อักษรสามหมู่ 5. คุณครูทบทวนการอ่านออกเสียงพยัญชนะไทย 44 ตัว โดยใช้ Flash Card ที่มีรูปภาพช่วยส่งเสริมในการจำ แยกออกเป็น 3 หมวด ได้แก่ อักษรกลาง อักษรต่ำ และอักษรสูง โดยแบ่งวิธีการเล่น 3 ครั้ง โดยใช้วิธีการเล่น ดังนี้ 5.1 ทบทวนพยัญชนะใดบ้างที่นักเรียนออกเสียงยังไม่ถูกต้องตามจำนวนชุดที่ เตรียม 5.2 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน แบ่งชุด Flash Card จำนวน 3 ชุด


5.3 นักเรียนดูแฟลชการ์ด ในเบื้องต้นคุณครูจะยังไม่ปิดรูปภาพ แล้วให้ นักเรียนตอบว่าคือพยัญชนะใด พร้อมอ่านออกเสียงพยัญชนะนั้น หากนักเรียนอ่านออก เสียงไม่ถูกต้อง คุณครูทำการวนซ้ำพยัญชนะที่นักเรียนยังอ่านออกเสียงไม่ถูกต้องอีกครั้ง 6. นักเรียนแต่ละกลุ่ม เล่นเกมสุ่มหยิบแฟลชการ์ด พร้อมแยกตามหมวดอักษร ที่กำหนด จากนั้นให้นักเรียนอ่านออกเสียงพยัญชนะนั้นพร้อมกัน ขั้นสรุป 7. คุณครูชูแฟลชการ์ดพยัญชนะให้นักเรียนดูทีละใบ พร้อมให้นักเรียนแต่ละ กลุ่มบอกหมวดของพยัญชนะนั้นว่าอยู่ในอักษรเสียงใด 8. เมื่อนักเรียนบอกได้แล้ว ในครั้งนี้คุณครูจะสุ่มถามนักเรียนแต่ละคน เพื่อ ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านออกเสียง พยัญชนะร่วมกัน 9. นักเรียนเขียนพยัญชนะแต่ละหมวดตามที่คุณครูบอก หากนักเรียนสามารถ เขียนได้ตามที่คุณครูบอกให้ถือว่านักเรียนจำพยัญชนะได้แล้ว หากพยัญชนะบางตัว นักเรียนเขียนผิด คุณครูอาจทบทวนหมวดพยัญชนะนั้นซ้ำอีกครั้ง 10. นักเรียนทุกกลุ่มร่วมกันอ่านออกเสียงพยัญชนะแต่ละหมวดให้ถูกต้อง สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การอ่านสะกดคำพยัญชนะผสมสระ - สื่อแฟลชการ์ด พยัญชนะในภาษาไทย - เพลง อักษรสามหมู่ - ชุดคำถาม เรื่อง อักษรสามหมู่ - แบบประเมินแบบทดสอบการอ่านสะกดคำพยัญชนะผสมสระ - แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ - แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ชิ้นงาน แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การอ่านสะกดคำพยัญชนะผสมสระ


กระบวนการวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัดและ ประเมินผล เครื่องมือการวัด และประเมินผล เกณฑ์การประเมิน อธิบายความหมาย ของอักษรสามหมู่ได้ ตอบคำถาม ชุดคำถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมินระดับดี อานพยัญชนะใน ภาษาไทยได้ถูกต้อง ตามอักขรวิธี การอ่าน แบบทดสอบการอ่าน เรื่อง การอ่านสะกด คำพยัญชนะผสม สระ ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ เห็นความสำคัญของ การอ่านพยัญชนะใน ภาษาไทยได้ถูกต้อง การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมินระดับดี บันทึกและข้อเสนอแนะของผู้บริหาร ไม่มี (ลงชื่อ)……………………………………….ผู้บริหาร (นายอารีฟ สาเมาะ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านละแอ วันที่ ๑ เดือน สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๖


แบบบันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง อักษร คู่เสียง ชั้นประถมศึกษาที่ ๓ ผู้สอน นางสาวอานิตา มะเด็ง รายวิชาภาษาไทย ใช้สอนวันที่ ๓ เดือน สิงหาคม๒๕๖๖ 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 จำนวนนักเรียนทั้งหมด 5 คน 1.2 นักเรียนที่ผ่านตัวชี้วัด 3 คน คิดเป็นร้อยละ 60 1.3 นักเรียนที่ไม่ผ่านตัวชี้วัด 2 คน คิดเป็นร้อยละ 40 1. นักเรียนที่ไม่ผ่านตัวชี้วัด/สาเหตุ จากการตรวจแบบทดสอบการอ่านสะกดคำก่อนเรียน พบว่า นักเรียนอ่านออกเสียง พยัญชนะในภาษาไทยได้ไม่ถูกต้องตามอักขรวิธีตามจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กำหนด 2. ปัญหาและอุปสรรค นักเรียนยังไม่สามารถจดจำพยัญชนะบางพยัญชนะที่เป็นปัญหาในการจดจำ ได้แก่ ฃ ฅ ฆ ฌ ฎ ฏ ฐ และอื่น ๆ 3. ข้อเสนอแนะ แนวทางการพัฒนาและซ่อมเสริม ใช้สื่อการสอนที่สามารถช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้และจดจำพยัญชนะได้ดีมาก ยิ่งขึ้นและสอนเพิ่มเติม โดยใช้สื่อ Flash Card พยัญชนะไทย หลังการใช้นักเรียนสามารถ จดจำพยัญชนะไทยได้ครบทั้ง 44 ตัว รวมถึงพยัญชนะที่เป็นปัญหาในการจดจำของนักเรียน และยังสามารถเขียนพยัญชนะไทยได้ถูกต้อง ลงชื่อ…………………………….ผู้สอน ลงชื่อ…………………………….หัวหน้าฝ่ายวิชาการ (นางสาวอานิตา มะเด็ง) (นางสาวฟาตีหม๊ะ เบ็ญฮาวัน) นักศึกษาฝึกสอน ตำแหน่ง ครู โรงเรียนบ้านละแอ


ความคิดเห็นผู้บริหาร/ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านละแอ ไม่มี ลงชื่อ…………………………….ผู้บริหาร (นายอารีฟ สาเมาะ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านละแอ


แบบประเมินชุดคำถาม เรื่อง อักษรสามหมู่ เลข ที่ ชื่อ - สกุล ข้อชุดคำถาม รวม สรุป 1. ให้นักเรียน อธิบายอักษรสาม หมู่ 2. ให้นักเรียนอ่าน ออกเสียง พยัญชนะในหมวด อักษรสามหมู่ 3. ให้นักเรียน จำแนกอักษรสาม หมู่ 4. ให้นักเรียน อธิบายถึง ความสำคัญของ การอ่านออกเสียง พยัญชนะที่ถูกต้อง ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ผ มผ 1 เด็กชายฟาฎิล แตร อแม็ง / / / / ๔ / 2 เด็กชายฟาอิซ ปา เนาะ / / / / ๙ / 3 เด็กชายนาอีฟ อาแด / / / / ๙ / 4 เด็กชายอาเดล ดารี ซอ / / / / ๖ / 5 เด็กหญิงจัสมีน ดามะ ยะ / / / / ๙ / เกณฑ์การประเมิน ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ ดีมาก ๓ ดี ๒ พอใช้ ๑ ปรับปรุง 1. อธิบายอักษรสาม หมู่ บอก หลักการ อ่านอักษร สามหมู่ได้ ถูกต้อง ทั้งหมด บอกหลักการ อ่านอักษร สามหมู่ได้ ถูกต้องเป็น ส่วนมาก แต่ ไม่ทั้งหมด บอกหลักการ อ่านอักษรสาม หมู่ได้ถูกต้อง เป็นส่วนน้อย ไม่สามารถบอก หลักการอ่าน อักษรสามหมู่ได้


2. อ่านออกเสียง พยัญชนะในหมวด อักษรสามหมู่ อ่านออก เสียง พยัญชนะใน หมวดอักษร สามหมู่ได้ ถูกต้องทุก พยัญชนะ อ่านออกเสียง พยัญชนะใน หมวดอักษร สามหมู่ได้ ถูกต้อง 3 ส่วนใน 4 ส่วน อ่านออกเสียง พยัญชนะใน หมวดอักษร สามหมู่ได้ ถูกต้อง 2 ส่วน ใน 4 ส่วน อ่านออกเสียง พยัญชนะใน หมวดอักษร สามหมู่ได้ ถูกต้อง 1 ส่วน ใน 4 ส่วน 3. จำแนกอักษรสาม หมู่ สามารถ จำแนก อักษรสาม หมู่ได้ ถูกต้องทุก พยัญชนะ สามารถ จำแนกอักษร สามหมู่ได้ ถูกต้องใน 3 ส่วน 4 สามารถจำแนก อักษรสามหมู่ได้ ถูกต้องใน 2 ส่วน 4 สามารถจำแนก อักษรสามหมู่ได้ ถูกต้องใน 1 ส่วน 4 4. เห็นความสำคัญ ของการอ่านออก เสียงพยัญชนะที่ ถูกต้อง สามารถ ยกตัวอย่าง การอ่าน ออกเสียง พยัญชนะที่ ถูกต้องได้ ทุก พยัญชนะ สามารถ ยกตัวอย่าง การอ่านออก เสียง พยัญชนะที่ ถูกต้องใน 3 ส่วน 4 สามารถ ยกตัวอย่างการ อ่านออกเสียง พยัญชนะที่ ถูกต้องใน 2 ส่วน 4 สามารถ ยกตัวอย่างการ อ่านออกเสียง พยัญชนะที่ ถูกต้องใน 1 ส่วน 4 เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ คะแนน 13-16 คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนน 9-12 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 5-8 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 1-4 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เลขที่ ชื่อ - สกุล มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน รวม สรุป คะแนนเต็ม ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ผ มผ 1 เด็กชายฟาฎิล แตรอแม็ง / / / ๖ / 2 เด็กชายฟาอิซ ปาเนาะ / / / ๖ / 3 เด็กชายนาอีฟ อาแด / / / ๓ / 4 เด็กชายอาเดล ดารีซอ / / / ๓ / 5 เด็กหญิงจัสมีน ดามะยะ / / / ๙ / เกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอังพึงประสงค์ ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ๓ ดีมาก ๒ ดี ๑ พอใช้ 1. ด้านการมีวินัย รับผิดชอบ - ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ กำหนดร่วมกัน มีความ ตรงต่อเวลาในการ ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ปฏิบัติตามข้อตกลง ที่กำหนดร่วมกัน มี ความตรงต่อเวลาใน การปฏิบัติกิจกรรม ต่าง ๆ อย่าง สม่ำเสมอ ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ กำหนดร่วมกัน มี ความตรงต่อเวลาใน การปฏิบัติกิจกรรม ต่าง ๆ บ่อยครั้ง ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ กำหนดร่วมกัน มี ความตรงต่อเวลาใน การปฏิบัติกิจกรรม ต่าง ๆ เป็นบางครั้ง 2. ใฝ่เรียนรู้ - เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่าง ๆ เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่าง ๆ อย่าง สม่ำเสมอ เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่าง ๆ บ่อยครั้ง เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่าง ๆ เป็น บางครั้ง 3. มุ่งมั่นในการทำงาน มีความตั้งใจและ พยายามในการ มีความตั้งใจและ พยายามในการทำงาน มีความตั้งใจและ พยายามในการทำงาน


- มีความตั้งใจและ พยายามในการทำงาน ที่ได้รับมอบหมายให้ สำเร็จ ทำงานที่ได้รับ มอบหมายให้สำเร็จ อย่างสม่ำเสมอ ที่ได้รับมอบหมายให้ สำเร็จบ่อยครั้ง ที่ได้รับมอบหมายให้ สำเร็จเป็นบางครั้ง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ คะแนน 7-9 คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนน 4-6 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 1-3 คะแนน หมายถึง พอใช้ แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน เลขที่ ชื่อ - สกุล 1. ความสามารถ ในการสื่อสาร 2. ความสามารถ ในการคิด รวม สรุป คะแนนเต็ม ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ผ มผ 1 เด็กชายฟาฎิล แตรอแม็ง / / ๔ / 2 เด็กชายฟาอิซ ปาเนาะ / / ๔ / 3 เด็กชายนาอีฟ อาแด / / ๓ / 4 เด็กชายอาเดล ดารีซอ / / ๓ / 5 เด็กหญิงจัสมีน ดามะยะ / / ๖ /


เกณฑ์การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน สมรรถนะที่ประเมิน ระดับคุณภาพ ๓ ดีมาก ๒ ดี ๑ พอใช้ 1. ความสามารถใน การสื่อสาร - ฟัง ดู พูด อ่าน เขียน อย่างมีมารยาท และ พูด เขียน แสดงความรู้ ความคิดจากเรื่องที่ฟัง ดู อ่าน ได้ชัดเจนตรง ตามวัตถุประสงค์ ฟัง ดู พูด อ่าน เขียน อย่างมีมารยาท และ พูด เขียน แสดง ความรู้ ความคิด จากเรื่องที่ฟัง ดู อ่าน ได้ชัดเจนตรง ตามวัตถุประสงค์ อย่างสม่ำเสมอ ฟัง ดู พูด อ่าน เขียน อย่างมีมารยาท และ พูด เขียน แสดง ความรู้ ความคิดจาก เรื่องที่ฟัง ดู อ่าน ได้ ชัดเจนตรงตาม วัตถุประสงค์บ่อยครั้ง ฟัง ดู พูด อ่าน เขียน อย่างมีมารยาท และ พูด เขียน แสดง ความรู้ ความคิดจาก เรื่องที่ฟัง ดู อ่าน ได้ ชัดเจนตรงตาม วัตถุประสงค์เป็น บางครั้ง 2. ความสามารถใน การคิด - แสดงทักษะการ รวบรวมข้อมูลและ ทักษะการเชื่อมโยง ความรู้ แสดงทักษะการ รวบรวมข้อมูลและ ทักษะการเชื่อมโยง ความรู้อย่าง สม่ำเสมอ แสดงทักษะการ รวบรวมข้อมูลและ ทักษะการเชื่อมโยง ความรู้บ่อยครั้ง แสดงทักษะการ รวบรวมข้อมูลและ ทักษะการเชื่อมโยง ความรู้เป็นบางครั้ง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ คะแนน 5-6 คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนน 3-4 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 1-2 คะแนน หมายถึง พอใช้


แผนการจัดการเรียนรู้๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง สระหรรษา เวลาเรียน ๓ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง สระในภาษาไทย เวลาเรียน ๓ ชั่วโมง สอนวันที่ ๘ เดือน สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ตัวชี้วัด ท ๔.๑ ป.๓/๑ เขียนสะกดคําและบอกความหมายของคํา สาระสำคัญ สระ หมายถึง เครื่องหมายใช้แทนเสียงที่เปล่งออกมา ตามหลักภาษา ถือว่า พยัญชนะจำเป็นต้องอาศัยสระจึงจะออกเสียงได้ สาระการเรียนรู้ สระในภาษาไทย จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ บอกรูปสระในภาษาไทย ด้านทักษะ อ่าน เขียนคําที่มีรูปสระในภาษาไทย ด้านจิตพิสัย เห็นความสำคัญของการสะกดคำที่ถูกต้องตามหลักการใช้ภาษาไทย สมรรถนะสำคัญ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด


คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนที่เกี่ยวกับบทเรียน โดยใช้ Flash Card สระใน ภาษาไทย 2. ครูสนทนาคำถามเกี่ยวกับบทเรียน โดยใช้คำถาม ดังนี้ นักเรียนเห็นความแตกตางของเสียงสระแตละเสียงหรือไม่ว่า มีลักษณะของเสียงที่ แตกตางกันหรือเหมือนกันอยางไร ? ขั้นสอน 3. ครูแบ่งชุด Flash Card จำนวน 3 ชุด แล้วให้นักเรียนดูแฟลชการ์ด ในเบื้องต้น คุณครูจะยังไม่ปิดคำอ่าน จากนั้นให้นักเรียนตอบว่าการ์ดที่นักเรียนเห็นคือสระใด หาก นักเรียนไม่ทราบ คุณครูทำการวนซ้ำสระที่นักเรียนยังจำไม่ได้ 4. นักเรียนเล่นเกมสุ่มหยิบแฟลชการ์ด พร้อมอ่านออกเสียงสระ 5. นักเรียนดูแฟลชการ์ดทีละใบ ในรอบนี้คุณครูจำเป็นที่จะต้องปิดคำอ่านในแฟล ชการ์ด และให้นักเรียนอ่านออกเสียงสระ หากนักเรียนจำไม่ได้ ให้คุณครูทำการวนซ้ำสระ ดังกล่าว ขั้นสรุป 6. นักเรียนเขียนตัวพยัญชนะและสระไม่มีตัวสะกดตามที่คุณครูบอก หากนักเรียน สามารถเขียนได้ตามที่คุณครูบอกให้ถือว่านักเรียนจำสระได้แล้ว หากสระบางตัวนักเรียนเขียน ผิด คุณครูอาจทบทวนสระนั้นซ้ำอีกครั้ง สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - สื่อแฟลชการ์ด สระในภาษาไทย - ใบงาน เรื่อง สระในภาษาไทย


- ชุดคำถาม เรื่อง สระในภาษาไทย - แบบประเมินชุดคำถาม เรื่อง สระในภาษาไทย - แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ - แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ชิ้นงาน ใบงาน เรื่อง สระในภาษาไทย กระบวนการวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัดและ ประเมินผล เครื่องมือการวัด และประเมินผล เกณฑ์การประเมิน บอกรูปสระใน ภาษาไทย ตอบคำถาม ชุดคำถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมินระดับดี อาน เขียนคําที่มีรูป สระในภาษาไทย การอ่าน การตรวจผลงาน ใบงาน เรื่อง สระใน ภาษาไทย ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ เห็นความสำคัญของ การสะกดคำที่ถูกต้อง ตามหลักการใช้ ภาษาไทย การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมินระดับดี บันทึกและข้อเสนอแนะของผู้บริหาร ไม่มี (ลงชื่อ)……………………………………….ผู้บริหาร (นายอารีฟ สาเมาะ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านละแอ วันที่ ๑ เดือน สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๖


แบบบันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง สระหรรษา ชั้นประถมศึกษาที่ ๓ ผู้สอน นางสาวอานิตา มะเด็ง รายวิชาภาษาไทย ใช้สอนวันที่ ๘ เดือนสิงหาคม ๒๕๖๖ 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 จำนวนนักเรียนทั้งหมด 5 คน 1.2 นักเรียนที่ผ่านตัวชี้วัด 5 คน คิดเป็นร้อยละ 100 1.3 นักเรียนที่ไม่ผ่านตัวชี้วัด - คน คิดเป็นร้อยละ - 1. นักเรียนที่ไม่ผ่านตัวชี้วัด/สาเหตุ นักเรียนทุกคนสามารถอ่าน เขียน คำที่มีรูปสระในภาษาไทยได้ตรงตามจุดประสงค์ การเรียนรู้ที่กำหนด 2. ปัญหาและอุปสรรค นักเรียนบางคนขาดแรงจูงใจในการเรียนรู้ 3. ข้อเสนอแนะ แนวทางการพัฒนาและซ่อมเสริม หลังจากการใช้ชุดกิจกรรม Flash Card สระในภาษาไทยครั้งต่อมา นักเรียน สามารถจดจำรูปสระเดี่ยวและสระประสมได้เพิ่มมากขึ้นและสามารถเขียนพยัญชนะผสมสระ แบบไม่มีตัวสะกดตามที่คุณครูบอกได้ถูกต้องและวางสระได้ตรงตามตำแหน่ง แนวทางการสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ คุณครูออกแบบบัตรสะสมแต้มดาวในการ จัดการเรียนรู้ เพื่อให้นักเรียนมีแรงจูงใจในการเรียนรู้ที่ดีมากขึ้น ลงชื่อ…………………………….ผู้สอน ลงชื่อ…………………………….หัวหน้าฝ่ายวิชาการ (นางสาวอานิตา มะเด็ง) (นางสาวฟาตีหม๊ะ เบ็ญฮาวัน) นักศึกษาฝึกสอน ตำแหน่ง ครู โรงเรียนบ้านละแอ


ความคิดเห็นผู้บริหาร/ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านละแอ ไม่มี ลงชื่อ…………………………….ผู้บริหาร (นายอารีฟ สาเมาะ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านละแอ


แบบประเมินชุดคำถาม เรื่อง สระในภาษาไทย เลข ที่ ชื่อ - สกุล ข้อชุดคำถาม รวม สรุป 1. ให้นักเรียน อธิบายคำว่าสระ ในภาษาไทย 2. ให้นักเรียน อ่านออกเสียง สระ 3. นักเรียนคิดว่า เสียงสระแต่ละ เสียงมีความ เหมือนหรือ ต่างกันหรือไม่ 4. ให้นักเรียน อธิบายถึง ความสำคัญของการ อ่านออกเสียงสระที่ ถูกต้อง ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ผ มผ 1 เด็กชายฟาฎิล แตรอแม็ง / / / / ๑๓ / 2 เด็กชายฟาอิซ ปาเนาะ / / / / ๑๔ / 3 เด็กชายนาอีฟ อาแด / / / / ๑๔ / 4 เด็กชายอาเดล ดารีซอ / / / / ๑๓ / 5 เด็กหญิงจัสมีน ดามะยะ / / / / ๑๔ / เกณฑ์การประเมิน ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ ดีมาก ๓ ดี ๒ พอใช้ ๑ ปรับปรุง 1. อธิบายความหมาย ของสระ อธิบาย ความหมาย ของสระได้ ถูกต้อง ทั้งหมด อธิบาย ความหมาย ของสระได้ ถูกต้องเป็น ส่วนมาก แต่ ไม่ทั้งหมด อธิบาย ความหมายของ สระได้ถูกต้อง เป็นส่วนน้อย ไม่สามารถ อธิบาย ความหมายของ สระได้ 2. การอ่านออกเสียง สระ อ่านออก เสียงสระได้ อ่านออกเสียง สระได้ถูกต้อง ทุกสระได้ อ่านออกเสียง สระได้ถูกต้อง ทุกสระได้ อ่านออกเสียง สระได้ถูกต้อง ทุกสระได้


ถูกต้องทุก สระ ถูกต้อง 3 ส่วนใน 4 ส่วน ถูกต้อง 2 ส่วน ใน 4 ส่วน ถูกต้อง 1 ส่วน ใน 4 ส่วน 3. สามารถจำแนก เสียงสระ นักเรียน สามารถ บอกความ แตกต่างของ การอ่าน ออกเสียง สระได้ อย่างน้อย 5 สระ นักเรียน สามารถบอก ความแตกต่าง ของการอ่าน ออกเสียงสระ ได้ อย่างน้อย 4 สระ นักเรียน สามารถบอก ความแตกต่าง ของการอ่าน ออกเสียงสระได้ อย่างน้อย 3 สระ นักเรียน สามารถบอก ความแตกต่าง ของการอ่าน ออกเสียงสระได้ อย่างน้อย 2 สระ 4. เห็นความสำคัญ ของการอ่านออก เสียงสระที่ถูกต้อง สามารถ ยกตัวอย่าง การอ่าน ออกเสียง สระที่ ถูกต้องได้ สระ สามารถ ยกตัวอย่าง การอ่านออก เสียงสระที่ ถูกต้องใน 3 ส่วน 4 สามารถ ยกตัวอย่างการ อ่านออกเสียง สระที่ถูกต้องใน 2 ส่วน 4 สามารถ ยกตัวอย่างการ อ่านออกเสียง สระที่ถูกต้องใน 1 ส่วน 4 เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ คะแนน 13-16 คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนน 9-12 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 5-8 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 1-4 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เลขที่ ชื่อ - สกุล มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน รวม สรุป คะแนนเต็ม ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ผ มผ 1 เด็กชายฟาฎิล แตรอแม็ง / / / ๙ / 2 เด็กชายฟาอิซ ปาเนาะ / / / ๙ / 3 เด็กชายนาอีฟ อาแด / / / ๖ / 4 เด็กชายอาเดล ดารีซอ / / / ๖ / 5 เด็กหญิงจัสมีน ดามะยะ / / / ๙ / เกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอังพึงประสงค์ ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ๓ ดีมาก ๒ ดี ๑ พอใช้ 1. ด้านการมีวินัย รับผิดชอบ - ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ กำหนดร่วมกัน มีความ ตรงต่อเวลาในการ ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ปฏิบัติตามข้อตกลง ที่กำหนดร่วมกัน มี ความตรงต่อเวลาใน การปฏิบัติกิจกรรม ต่าง ๆ อย่าง สม่ำเสมอ ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ กำหนดร่วมกัน มี ความตรงต่อเวลาใน การปฏิบัติกิจกรรม ต่าง ๆ บ่อยครั้ง ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ กำหนดร่วมกัน มี ความตรงต่อเวลาใน การปฏิบัติกิจกรรม ต่าง ๆ เป็นบางครั้ง 2. ใฝ่เรียนรู้ - เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่าง ๆ เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่าง ๆ อย่าง สม่ำเสมอ เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่าง ๆ บ่อยครั้ง เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่าง ๆ เป็น บางครั้ง


3. มุ่งมั่นในการทำงาน - มีความตั้งใจและ พยายามในการทำงาน ที่ได้รับมอบหมายให้ สำเร็จ มีความตั้งใจและ พยายามในการ ทำงานที่ได้รับ มอบหมายให้สำเร็จ อย่างสม่ำเสมอ มีความตั้งใจและ พยายามในการทำงาน ที่ได้รับมอบหมายให้ สำเร็จบ่อยครั้ง มีความตั้งใจและ พยายามในการทำงาน ที่ได้รับมอบหมายให้ สำเร็จเป็นบางครั้ง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ คะแนน 7-9 คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนน 4-6 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 1-3 คะแนน หมายถึง พอใช้ แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน เลขที่ ชื่อ – สกุล 1. ความสามารถ ในการสื่อสาร 2. ความสามารถ ในการคิด รวม สรุป คะแนนเต็ม ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ผ มผ 1 เด็กชายฟาฎิล แตรอแม็ง / / ๕ / 2 เด็กชายฟาอิซ ปาเนาะ / / ๖ / 3 เด็กชายนาอีฟ อาแด / / ๖ / 4 เด็กชายอาเดล ดารีซอ / / ๔ / 5 เด็กหญิงจัสมีน ดามะยะ / / ๖ /


เกณฑ์การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน สมรรถนะที่ประเมิน ระดับคุณภาพ ๓ ดีมาก ๒ ดี ๑ พอใช้ 1. ความสามารถใน การสื่อสาร - ฟัง ดู พูด อ่าน เขียน อย่างมีมารยาท และ พูด เขียน แสดงความรู้ ความคิดจากเรื่องที่ฟัง ดู อ่าน ได้ชัดเจนตรง ตามวัตถุประสงค์ ฟัง ดู พูด อ่าน เขียน อย่างมีมารยาท และ พูด เขียน แสดง ความรู้ ความคิด จากเรื่องที่ฟัง ดู อ่าน ได้ชัดเจนตรง ตามวัตถุประสงค์ อย่างสม่ำเสมอ ฟัง ดู พูด อ่าน เขียน อย่างมีมารยาท และ พูด เขียน แสดง ความรู้ ความคิดจาก เรื่องที่ฟัง ดู อ่าน ได้ ชัดเจนตรงตาม วัตถุประสงค์บ่อยครั้ง ฟัง ดู พูด อ่าน เขียน อย่างมีมารยาท และ พูด เขียน แสดง ความรู้ ความคิดจาก เรื่องที่ฟัง ดู อ่าน ได้ ชัดเจนตรงตาม วัตถุประสงค์เป็น บางครั้ง 2. ความสามารถใน การคิด - แสดงทักษะการ รวบรวมข้อมูลและ ทักษะการเชื่อมโยง ความรู้ แสดงทักษะการ รวบรวมข้อมูลและ ทักษะการเชื่อมโยง ความรู้อย่าง สม่ำเสมอ แสดงทักษะการ รวบรวมข้อมูลและ ทักษะการเชื่อมโยง ความรู้บ่อยครั้ง แสดงทักษะการ รวบรวมข้อมูลและ ทักษะการเชื่อมโยง ความรู้เป็นบางครั้ง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ คะแนน 5-6 คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนน 3-4 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 1-2 คะแนน หมายถึง พอใช้


แผนการจัดการเรียนรู้๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง สะกดคำ พาสนุก เวลาเรียน ๓ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง พยัญชนะผสมสระเสียงสั้น เสียงยาว เวลาเรียน ๓ ชั่วโมง สอนวันที่ ๑๑ เดือน สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ตัวชี้วัด ท ๔.๑ ป.๓/๑ เขียนสะกดคําและบอกความหมายของคํา สาระสำคัญ การเกิดขึ้นของพยางคแตละพยางค คําแตละคํา จําเปนตองมีเสียงสระประสมอยู ในพยางค ๆ นั้น หรือคํา ๆ นั้น การใชสระในภาษาไทยใหถูกตองตามหลักการใชภาษาทั้งการ พูด การอาน หรือการเขียน ยอมทําใหผูเรียนสามารถสื่อสารทางภาษาไทยไดอยางมี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สาระการเรียนรู้ อักษรสามหมู่ สระในภาษาไทย จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ บอกรูปสระเสียงสั้นและสระเสียงยาว ด้านทักษะ อ่าน เขียนคําที่มีรูปสระเสียงสั้นและสระเสียงยาว


ด้านจิตพิสัย เห็นความสำคัญของการสะกดคำที่ถูกต้องตามหลักการใช้ภาษาไทย สมรรถนะสำคัญ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนที่เกี่ยวกับบทเรียน โดยใช้สื่อแฟลชการ์ดสระ ในภาษาไทย 2. ครูสนทนาคำถามเกี่ยวกับบทเรียน โดยใช้คำถาม ดังนี้ นักเรียนเห็นความแตกตางของเสียงสระแตละเสียงหรือไม่ วามีลักษณะของเสียงที่แตกตางกัน หรือเหมือนกันอยางไร ? ขั้นสอน 3. ครูแบ่งชุดสื่อแฟลชการ์ดสระ จำนวน 2 ชุด ได้แก่ สระเสียงสั้นและสระเสียงยาว จากนั้นให้นักเรียนดูแฟลชการ์ดสระ แล้วตอบคำถามว่าการ์ดที่นักเรียนเห็นคือสระใด พร้อม อ่านออกเสียงสระ 4. คุณครูตั้งคำถามกระตุ้นความคิด โดยใช้คำถาม ดังนี้ นักเรียนเห็นความแตกต่างของเสียงสระแต่ละตัวหรือไม่ อย่างไร ? 5. คุณครูอธิบายความรู้เพิ่มเติมผ่านการเล่นเกม โดยใช้สื่อเกม Word Wall เรื่อง สระเสียงสั้นและสระเสียงยาว ดังนี้ สระเสียงสั้น ได้แก่ สระที่ออกเสียงสั้น คือ อะ อิ อึ อุ เอะ แอะ โอะ เอาะ เออะ เอียะ เอือะ อัวะ ฤ ฦ อำ ไอ ใอ เอา สระเสียงยาว ได้แก่ สระที่ออก เสียงยาว คือ อา อี อื อู เอ แอ โอ ออ เออ เอีย เอือ อัว ฤๅ ฦๅ


ขั้นสรุป 6. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน เล่นเกมสุ่มหยิบแฟลชการ์ดพยัญชนะและสระ โดยคุณครูแบ่งชุดแฟลชการ์ดพยัญชนะจำนวน 3 ชุด ได้แก่ อักษรกลาง อักษรต่ำ และอักษร สูง แบ่งชุดแฟลชการ์ดสระ จำนวน 2 ชุด ได้แก่ สระเสียงสั้นและสระเสียงยาว พร้อมอ่าน ออกเสียงพยัญชนะประสมสระเสียงสั้นและพยัญชนะประสมสระเสียงยาวให้ถูกต้อง 7. นักเรียนเขียนตัวพยัญชนะผสมสระแบบไม่มีตัวสะกดตามที่คุณครูบอก หากสระ บางตัวนักเรียนเขียนผิด คุณครูอาจทบทวนสระนั้นอีกครั้ง 8. นักเรียนร่วมกันตอบคำถาม โดยใช้คำถาม ดังนี้ สระเสียงสั้นและสระเสียงยาวมีการอ่านออกเสียงที่เหมือนกันหรือไม่ อย่างไร ? พยัญชนะในแต่ละหมวดมีการอ่านออกเสียงที่เหมือนกันหรือไม่อย่างไร ? 9. ครูสุ่มหยิบแฟลชการ์ดพยัญชนะตามหมวดต่าง ๆ และสระ จากนั้นนักเรียน ร่วมกันอ่านออกเสียงพยัญชนะประสมสระเสียงสั้นและพยัญชนะประสมสระเสียงยาวให้ ถูกต้อง สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - สื่อแฟลชการ์ด สระในภาษาไทย - สื่อแฟลชการ์ด พยัญชนะในภาษาไทย - สื่อเกม Word Wall เรื่อง สระเสียงสั้นและสระเสียงยาว - ใบงาน เรื่อง โดยใช้สื่อการสอน MLH Model - ชุดคำถาม เรื่อง สระเสียงสั้นและสระเสียงยาว - แบบประเมินชุดคำถาม เรื่อง สระเสียงสั้นและสระเสียงยาว - แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ - แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ชิ้นงาน ใบงาน เรื่อง โดยใช้สื่อการสอน MLH Model


กระบวนการวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัดและ ประเมินผล เครื่องมือการวัด และประเมินผล เกณฑ์การประเมิน บอกรูปสระเสียงสั้น และสระเสียงยาว ตอบคำถาม ชุดคำถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมินระดับดี อาน เขียนคําที่มีรูป สระเสียงสั้นและสระ เสียงยาว การอ่าน ตรวจผลงาน ใบงาน เรื่อง โดยใช้ สื่อการสอน MLH Model ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ เห็นความสำคัญของ การสะกดคำที่ถูกต้อง ตามหลักการใช้ ภาษาไทย การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมินระดับดี บันทึกและข้อเสนอแนะของผู้บริหาร ไม่มี (ลงชื่อ)……………………………………….ผู้บริหาร (นายอารีฟ สาเมาะ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านละแอ วันที่ ๑ เดือน สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๖


แบบบันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง สระหรรษา ชั้นประถมศึกษาที่ ๓ ผู้สอน นางสาวอานิตา มะเด็ง รายวิชาภาษาไทย ใช้สอนวันที่๑๑ เดือนสิงหาคม ๒๕๖๖ 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 จำนวนนักเรียนทั้งหมด 5 คน 1.2 นักเรียนที่ผ่านตัวชี้วัด 5 คน คิดเป็นร้อยละ 100 1.3 นักเรียนที่ไม่ผ่านตัวชี้วัด - คน คิดเป็นร้อยละ - 1. นักเรียนที่ไม่ผ่านตัวชี้วัด/สาเหตุ นักเรียนทุกคนสามารถบอกรูปสระเสียงสั้นและสระเสียงยาวได้ตรงตามจุดประสงค์ การเรียนรู้ที่กำหนด 2. ปัญหาและอุปสรรค นักเรียนรู้จักรูปสระเฉพาะสระเดี่ยวเพียงบางสระ เช่น สระ อะ อา หลังจากทดลอง ใช้ชุดกิจกรรม Flash Card สระในภาษาไทยครั้งแรก นักเรียนสามารถจดจำรูปสระเดี่ยวใน ภาษาไทยได้เพิ่มมากขึ้น 3. ข้อเสนอแนะ แนวทางการพัฒนาและซ่อมเสริม ใช้ชุดกิจกรรม Flash Card สระในภาษาไทย ครั้งต่อมา นักเรียนสามารถจดจำรูป สระเดี่ยวและสระประสมได้เพิ่มมากขึ้นและสามารถเขียนพยัญชนะผสมสระแบบไม่มีตัวสะกด ตามที่คุณครูบอกได้ถูกต้อง ลงชื่อ…………………………….ผู้สอน ลงชื่อ…………………………….หัวหน้าฝ่ายวิชาการ (นางสาวอานิตา มะเด็ง) (นางสาวฟาตีหม๊ะ เบ็ญฮาวัน) นักศึกษาฝึกสอน ตำแหน่ง ครู โรงเรียนบ้านละแอ


ความคิดเห็นผู้บริหาร/ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านละแอ ไม่มี ลงชื่อ…………………………….ผู้บริหาร (นายอารีฟ สาเมาะ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านละแอ


Click to View FlipBook Version