The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตร วิทย์ ม.ต้น (ฉบับบปรับปรุง 2566 )

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pinyo1154, 2023-07-25 19:24:36

หลักสูตร วิทย์ ม.ต้น (ฉบับบปรับปรุง 2566 )

หลักสูตร วิทย์ ม.ต้น (ฉบับบปรับปรุง 2566 )

48 ค าอธิบายรายวิชา รหัส ว21101 รายวิชาวิทยาศาสตร์1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ศึกษาวิเคราะห์ สืบค้น ทดลอง และอธิบาย เรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างไร ความส าคัญ และความหมายของวิทยาศาสตร์ กระบวนการท างานของนักวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ สารบริสุทธิ์ สมบัติของสารบริสุทธิ์ จุดเดือด จุดหลอมเหลว ความหนาแน่น การจ าแนก และองค์ประกอบของสารบริสุทธิ์ โครงสร้างอะตอม การจ าแนกสารบริสุทธิ์ โครงสร้างอะตอม การจ าแนกธาตุและการใช้ประโยชน์หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต เซลล์การศึกษาเซลล์ ด้วยกล้องจุลทรรศน์โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์ การล าเลียงสารเข้าออกเซลล์การแพร่การออสโมซิส การด ารงชีวิตของพืช การสืบพันธุ์การขยายพันธุ์ของพืชดอก การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ ของพืชดอก การขยายพันธุ์พืชดอก การสังเคราะห์ด้วยแสง ปัจจัยและผลผลิตของการสังเคราะห์ด้วยแสง การล าเลียงธาตุและอาหารของพืช ธาตุอาหารของพืช การล าเลียงในพืช โดยการใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์กระบวนการสืบเสาะหาความรู้การสืบค้นข้อมูล การส ารวจตรวจสอบและการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิดและความเข้าใจ สามารถสื่อสารและ เชื่อมโยงสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ น าความรู้ไปใช้ในชีวิตประจ าวันตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรมคุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสาร สองภาษา ล้ าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมน า หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ตัวชี้วัด ว 4.1 ม 1/1-5 , ว 4.2 ม 1/1-4 ว 2.1 ม 1/1-9 ว 1.2 ม 1/1-5 ว 1.2 ม 1/6-18 รวม 36 ตัวชี้วัด


49 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว21101 รายวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ ตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 1 เรียนรู้ วิทยาศาสตร์ อย่างไร ว 4.1 ม 1/1-5 ว 4.2 ม 1/1-4 - เทคโนโลยี เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้าง หรือ พัฒนาขึ้นซึ่งอาจเป็นได้ทั้งชิ้นงาน หรือวิธีการ เพื่อใช้แก้ปัญหา สนองความต้องการ หรือเพิ่ม ความสามารถ ในการทางานของมนุษย์ - ระบบทางเทคโนโลยี เป็นกลุ่มของส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่สองส่วนขึ้นไปประกอบเข้าด้วยกันและ ท างานร่วมกันเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ โดยใน การท างานของระบบทางเทคโนโลยีจะ ประกอบไปด้วยตัวป้อน (input) กระบวนการ (process) และผลผลิต (output) ที่สัมพันธ์กัน นอกจากนี้ระบบทางเทคโนโลยีอาจมีข้อมูล ย้อนกลับ (feedback) เพื่อใช้ปรับปรุงการ ท างานได้ตามวัตถุประสงค์ ซึ่งการวิเคราะห์ ระบบทางเทคโนโลยีช่วยให้เข้าใจองค์ประกอบ และการท าง านของเทคโนโลยี รวมถึงสามารถ ปรับปรุงให้เทคโนโลยีท างานได้ตามต้องการ - เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีสาเหตุหรือปัจจัย มาจากหลายด้าน เช่น ปัญหาความต้องการ ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ เศรษฐกิจ - ปัญหาหรือความต้องการในวิตประจ าวัน พบได้จากหลายบริบทขึ้นกับสถานการณ์ เช่น การเกษตร การอาหาร การแก้ปัญหา จ าเป็นต้องสืบค้น รวบรวมข้อมูลความรู้จาก ศาสตร์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อน าไปสู่การ ออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาการวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จ าเป็น โดยค านึงถึงเงื่อนไข และทรัพยากรที่มีอยู่ 12 15


50 หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ ตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 2 สารบริสุทธิ์ ว 2.1 ม 1/1-9 - ธาตุแต่ละชนิดมีสมบัติเฉพาะตัวและ มีสมบัติทางกายภาพบางประการ เหมือนกันและบางประการต่างกัน ซึ่ง สามารถน ามาจัดกลุ่มธาตุเป็นโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ธาตุโลหะมีจุดเดือด จุดหลอมเหลวสูง มีผิวมันวาว น าความ ร้อนน าไฟฟ้า ดึงเป็นเส้น หรือตีเป็นแผ่น บาง ๆ ได้และมีความหนาแน่นทั้งสูงและ ต่ า ธาตุอโลหะ มีจุดเดือด จุดหลอมเหลว ต่ า มีผิวไม่มันวาว ไม่น าความร้อน ไม่น า ไฟฟ้า เปราะแตกหักง่าย และมีความ หนาแน่นต่ า ธาตุกึ่งโลหะมีสมบัติบาง ประการเหมือนโลหะ และสมบัติบาง ประการเหมือนอโลหะ ธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ที่สามารถแผ่รังสีได้จัดเป็น ธาตุกัมมันตรังสี - ธาตุมีทั้งประโยชน์และโทษ การใช้ธาตุ โลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ ธาตุกัมมันตรังสี ควรค านึงถึงผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต 14 18 3 หน่วย พื้นฐาน ของสิ่งมีชีวิต ว1.2 ม.1/1-5 - เซลล์เป็นหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิต บางชนิดมีเซลล์เพียงเซลล์เดียว เช่น อะมีบา พารามีเซียม ยีสต์ บางชนิด มีหลายเซลล์ เช่น พืช สัตว์ - โครงสร้างพื้นฐานที่พบทั้งในเซลล์พืช และเซลล์สัตว์และสามารถสังเกตได้ด้วย กล้องจุลทรรศน์ใช้แสง ได้แก่ เยื่อหุ้มเซลล์ ไซโทพล าซึม และนิวเคลียส โครงสร้างที่ พบในเซลล์พืชแต่ไม่พบในเซลล์สัตว์ได้แก่ ผนังเซลล์และคลอโรพลาสต์ - โครงสร้างต่างๆ ของเซลล์มีหน้าที่ แตกต่างกัน ได้แก่ ผนังเซลล์ ท าหน้าที่ให้ ความแข็งแรงแก่เซลล์ เยื่อหุ้มเซลล์ ท า หน้าที่ห่อหุ้มเซลล์และควบคุมการล าเลียง สารเข้าและออกจากเซลล์ นิวเคลียส ท าหน้าที่ควบคุมการท างานของเซลล์ 12 15


51 หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ ตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 4 การด ารง ชีวิตของพืช ว1.2 ม.1/6 - /18 - กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชที่ เกิดขึ้น ใน คลอโรพลาสต์ จ าเป็นต้องใช้ แสง แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ คลอโรฟิลล์ และน้ า ผลผลิตที่ได้จาก การสังเคราะห์ ด้วยแสง ได้แก่ น้ าตาลและแก๊สออกซิเจน - พืชมีไซเล็มและโฟลเอ็ม ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อมี ลักษณะ คล้ายท่อเรียงตัวกันเป็นกลุ่ม เฉพาะที่ โดยไซเล็ม ท าหน้าที่ล าเลียงน้ า และธาตุอาหาร มีทิศทางล าเลียง จากราก ไปสู่ล าต้น ใบ และส่วนต่าง ๆ ของพืช เพื่อใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสง รวมถึง กระบวนการอื่น ๆ ส่วนโฟลเอ็มท าหน้าที่ ล าเลียงอาหารที่ได้จากการ สังเคราะห์ ด้วยแสง มีทิศทางล าเลียงจากบริเวณที่มี การสังเคราะห์ด้วยแสงไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของพืช - พืชดอกทุกชนิดสามารถสืบพันธุ์แบบ อาศัยเพศได้และบางชนิดสามารถสืบพันธุ์ แบบไม่อาศัยเพศได้ - การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศเป็นการ สืบพันธุ์ที่มีการผสมกันของสเปิร์มกับเซลล์ ไข่ การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช ดอกเกิดขึ้นที่ดอก โดยถ่ายใน อับเรณูของ ส่วนเกสรเพศผู้มีเรณู ซึ่งท าหน้าที่สร้าง สเปิร์ม ภายในออวุลของส่วนเกสรเพศเมีย มีถุงเอ็มบริโอ ท าหน้าที่สร้างเซลล์ไข่การ สืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ เป็นการสืบพันธุ์ ที่พืช ต้นใหม่ไม่ได้เกิดจากการปฏิสนธิ ระหว่างสเปิร์ม กับเซลล์ไข่ แต่เกิดจาก ส่วนต่าง ๆ ของพืช เช่น ราก ล าต้น ใบ มี การเจริญเติบโตและพัฒนาขึ้นมา เป็นต้น ใหม่ได ้ 16 22 รวมเวลาเรียน 54 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 3/3 70/30 รวม 60 100


52 ค าอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ว21102 รายวิชาวิทยาศาสตร์2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ศึกษาวิเคราะห์ สืบค้น ทดลอง และอธิบายพลังงานความร้อน ความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงของ สาร การจ าลองอนุภาคของสสารในแต่ละสถานะ ความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสสาร ความ ร้อนกับการขยายตัวหรือหดตัวของสสาร การถ่ายโอนความร้อนในชีวิตประจ าวัน สมดุลความร้อน กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ ลมฟ้าอากาศรอบตัว บรรยากาศของเรา อุณหภูมิอากาศ ความ กดอากาศและลม ความชื้น เมฆและฝน การพยากรณ์อากาศ มนุษย์และการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ พายุ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก โดยการใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การส ารวจ ตรวจสอบ และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด และความเข้าใจ สามารถสื่อสารและเชื่อมโยงสิ่ง ที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ น าความรู้ไปใช้ในชีวิตประจ าวันตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรมคุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสอง ภาษา ล้ าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมน าหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ตัวชี้วัด ว 2.1 ม 1/10 , ว /2.3 ม1/1-7 ว 2.2 ม 1/1 , ว /3.2 ม1/1-7 รวม 16 ตัวชี้วัด


53 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว21102 รายวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ ตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 5 พลังงาน ความร้อน ว 2.1 ม 1/10 ว 2.3 ม 1/1-7 - ความร้อนมีผลต่อการเปลี่ยนสถานะของ สสาร เมื่อให้ความร้อนแก่ของแข็ง อนุภาคของ ของแข็ง จะมีพลังงานและอุณหภูมิเพิ่มขึ้น จนถึงระดับหนึ่ง ซึ่งของแข็งจะใช้ความร้อนใน การเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกความ ร้อนที่ใช้ในการเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็น ของเหลวว่า ความร้อนแฝงของ การ หลอมเหลว และอุณหภูมิขณะเปลี่ยนสถานะ จะคงที่ เรียกอุณหภูมินี้ว่า จุดหลอมเหลว - เมื่อให้ความร้อนแก่ของเหลว อนุภาคของ ของเหลวจะมีพลังงานและอุณหภูมิเพิ่มขึ้น จนถึงระดับหนึ่ง ซึ่งของเหลวจะใช้ความร้อนใน การเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊ส เรียกความร้อนที่ ใช้ในการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นแก๊ส ว่า ความร้อนแฝงของการกลายเป็นไอ และ อุณหภูมิขณะเปลี่ยนสถานะจะคงที่ เรียก อุณหภูมินี้ว่า จุดเดือด - เมื่อท าให้อุณหภูมิของแก๊สลดลงจนถึงระดับ หนึ่งแก๊สจะเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียก อุณหภูมินี้ว่าจุดควบแน่น ซึ่งมีอุณหภูมิเดียวกับ จุดเดือดของของเหลวนั้น เมื่อท าให้อุณหภูมิ ของของเหลวลดลงจนถึงระดับหนึ่ง ของเหลว จะเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกอุณหภูมินี้ ว่า จุดเยือกแข็ง ซึ่งมีอุณหภูมิเดียวกับ จุดหลอมเหลวของของแข็งนั้น - เมื่อสสารได้รับหรือสูญเสียความร้อนอาจท า ให้สสารเปลี่ยนสถานะหรือเปลี่ยนรูปร่าง - ปริมาณความร้อนที่ท าให้สสารเปลี่ยน อุณหภูมิขึ้นกับมวล ความร้อนจ าเพาะ และ อุณหภูมิที่เปลี่ยนไป 26 30


54 หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ ตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 6 กระบวนการ เปลี่ยนแปลง ลมฟ้าอากาศ ว 2.2 ม 1/1 ว 3.2 ม1/1-7 - เมื่อวัตถุอยู่ในอากาศจะมีแรงที่อากาศ กระท าต่อวัตถุในทุกทิศทาง แรงที่อากาศ กระท าต่อวัตถุขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ของ วัตถุนั้น แรงที่อากาศกระท าตั้งฉากกับผิว วัตถุต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่เรียกว่าความดัน อากาศ - ความดันอากาศมีความสัมพันธ์กับความ สูงจากพื้นโลก โดยบริเวณที่สูงจากพื้นโลก ขึ้นไป อากาศเบาบางลง มวลอากาศ น้อยลง ความดันอากาศก็จะลดลง - โลกมีบรรยากาศห่อหุ้ม นักวิทยาศาสตร์ ใช้สมบัติและองค์ประกอบของบรรยากาศ ในแบ่งบรรยากาศของโลกออกเป็นชั้น ซึ่ง แบ่งได้หลายรูปแบบตามเกณฑ์ที่แตกต่าง กัน โดยทั่วไปนักวิทยาศาสตร์ใช้เกณฑ์ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิตามความสูงแบ่ง บรรยากาศได้เป็น 5 ชั้น ได้แก่ ชั้นโทรโพสเฟียร์, ชั้นสตราโตสเฟียร์, ชั้นมีโซสเฟียร์, ชั้นเทอร์โมสเฟียร์และ ชั้นเอกโซสเฟียร์ - การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกก่อให้เกิด ผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม เช่น การหลอมเหลวของน้ าแข็งขั้วโลก การเพิ่มขึ้นของระดับทะเล การ เปลี่ยนแปลงวัฏจักรน้ า การเกิดโรคอุบัติ ใหม่และอุบัติซ้ า และการเกิดภัยพิบัติ ทาง ธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น มนุษย์จึงควรเรียนรู้ แนวทาง การปฏิบัติตนภายใต้สถานการณ์ ดังกล่าว ทั้งแนวทางการปฏิบัติตนให้ เหมาะสมและแนวทางการลดกิจกรรมที่ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก 28 40 รวมเวลาเรียน 54 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 3/3 70/30 รวม 60 100


55 ค าอธิบายรายวิชา รหัส ว21181 รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 เวลา 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ศึกษา อธิบายความหมายของเทคโนโลยีวิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยีการทางานของระบบทางเทคโนโลยีประยุกต์ใช้ความรู้ทักษะ และทรัพยากร โดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบและเลือกข้อมูลที่จาเป็นเพื่อออกแบบวิธีการแก้ปัญหาในชีวิตประจ าวันในด้านการเกษตรและ อาหาร และสร้างชิ้นงานหรือพัฒนาวิธีการ โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม รวมทั้งเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์เครื่องมือในการแก้ปัญหา ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย เพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ าหน้า ทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก โดยน้อมน าหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ตัวชี้วัด ว 4.1 ม.1/1, ว 4.1 ม.1/2, ว 4.1 ม.1/3, ว 4.1 ม.1/4, ว 4.1 ม.1/5 รวมทั้งหมด 5 ตัวชี้วัด


56 โครงสร้างรายวิชา รหัส ว21181 รายวิชาการออกแบบและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 1 เทคโนโลยีรอบตัว ว 4.1 ม.1/1 เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้าง ขึ้นทั้งในอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งชิ้นงาน หรือวิธีการเพื่อใช้แก้ปัญหา สนองความต้องการ หรือเพิ่ม ความสามารถในการท างานของ มนุษย์เทคโนโลยีจึงเกิดขึ้น ตั้งแต่สมัยอดีตพร้อมกับการ ด ารงชีวิตอยู่ของมนุษย์ เทคโนโลยียังรวมถึงเครื่องมือ อุปกรณ์หรือวิธีการที่น ามาใช้ใน การสร้างชิ้นงานเพื่อให้ได้ผล ผลิตที่ต้องการ 4 10 2 การเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยี ว 4.1 ม.1/1 การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี มีสาเหตุหรือปัจจัยมาจากหลาย ด้าน เช่น ปัญหา ความต้องการ ความก้าวหน้าของศาสตร์ ต่าง ๆ เศรษฐกิจ สังคม โดยอาจ เป็นการปรับปรุงกระบวนการ ผลิต ลักษณะทางกายภาพ วัสดุ หน้าที่ใช้สอย ระบบกลไกการ ท างาน การใช้งาน รวมถึง ประสิทธิภาพของวิธีการ สิ่งของ เครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์ 4 10 3 ระบบทางเทคโนโลยี ว 4.1 ม.1/1 ระบบ (system) คือ กลุ่มของ ส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่สองส่วนขึ้นไป ประกอบเข้าด้วยกันและท างาน ร่วมกันเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ เดียวกัน มนุษย์ประดิษฐ์หรือ สร้างเทคโนโลยีขึ้นมาเพื่อใช้ใน 4 10


57 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน กระบวนการแก้ปัญหา หรือ สนองความต้องการ ซึ่งเรียกว่า ระบบทางเทคโนโลย ี (technological system) ระบบทางเทคโนโลยีจะประกอบ ไปด้วย ตัวป้อน (input) กระบวนการ (process) และผลผลิต (output) ที่ สัมพันธ์กัน นอกจากนี้ระบบทาง เทคโนโลยีอาจมีข้อมูลย้อนกลับ (feedback) เพื่อใช้ปรับปรุงการ ท างานได้ตามวัตถุประสงค์ 4 วัสดุและเครื่องมือช่าง พื้นฐาน ว 4.1 ม.1/5 การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับ งานจะต้องใช้ความรู้เรื่องสมบัติ ของวัสดุและในการลงมือสร้าง ชิ้นงานต้องเลือกใช้อุปกรณ์ หรือเครื่องมืออย่างเหมาะสมกับ ประเภทของวัสดุใช้อย่าง ถูกต้อง และค านึงถึงความ ปลอดภัยในการใช้งาน 4 15 5 กลไก ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น ว 4.1 ม.1/5 กลไก คือ ส่วนของอุปกรณ์ที่ท า หน้าที่ส่งผ่านการเคลื่อนที่ ท าให้ มีการเปลี่ยนต าแหน่งจากต้น ทางไปยังปลายทางของ การเคลื่อนที่ หรือท าหน้าที่ เปลี่ยนทิศทาง ความเร็ว ลักษณะการเคลื่อนที่ นอกจากนี้ ยังช่วยผ่อนแรงให้ท างานได้ง่าย ขึ้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือ ท างานได้ตามที่เราต้องการ ไฟฟ้า คือ พลังงานรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ของ อิเล็กตรอนหรือโปรตอน น ามาใช้ประโยชน์โดยท าให้ 4 15


58 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน เปลี่ยนเป็นพลังงานรูปแบบอื่น ๆ ได้เช่น แสงสว่าง ความร้อน เสียง ตัวอย่างการน าไฟฟ้ามาใช้ ประโยชน์ในชีวิตประจ าวัน เช่น ท าให้เกิดแสงสว่างด้วยหลอดไฟ ท าให้เกิดความร้อนด้วยเตารีด หม้อหุงข้าว ท าให้เกิดภาพและ เสียงด้วยโทรทัศน์สมาร์ตโฟน ท าให้เกิดการเคลื่อนที่ เช่น การ หมุนของมอเตอร์ที่อยู่ในพัดลม หรือเครื่องซักผ้า อิเล็กทรอนิกส์คือ การควบคุม การเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้า เพื่อให้ได้ปริมาณหรือ ทิศทางการเคลื่อนที่ของ กระแสไฟฟ้าตามที่ต้องการ การท างานต่าง ๆ จะต้องใช้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อ ควบคุมการเคลื่อนที่ของ กระแสไฟฟ้านั่นเอง อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์มีหลายชนิด ที่พบทั่วไป เช่น หลอด LED (ไดโอดเปล่งแสง) ตัวต้านทาน ความรู้เกี่ยวกับกลไก ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์สามารถ ประยุกต์ใช้เพื่อการสร้าง ชิ้นงานที่ตอบสนองความ ต้องการของเราได้ 6 กระบวนการออกแบบเชิง วิศวกรรม ว 4.1 ม.1/2 ว 4.1 ม.1/3 ว 4.1 ม.1/4 การแก้ปัญหาตามกระบวนการ ออกแบบเชิงวิศวกรรม 6 ขั้นตอน ได้แก่ ระบุปัญหา รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ การแก้ปัญหาออกแบบวิธีการ แก้ปัญหา วางแผนและ 10 20


59 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน ด าเนินการแก้ปัญหา ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไข วิธีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน และน าเสนอวิธีการแก้ปัญหา หรือชิ้นงาน ซึ่งการท างานใน บางครั้งอาจมีการย้อนขั้นตอน กลับไปมาเพื่อพัฒนางานให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 7 กรณีศึกษาการท างาน ตามกระบวนการ ออกแบบเชิงวิศวกรรม ว 4.1 ม.1/2 ว 4.1 ม.1/3 ว 4.1 ม.1/4 ว 4.1 ม.1/5 การแก้ปัญหาตามกระบวนการ ออกแบบเชิงวิศวกรรม จะ เริ่มต้นจากการระบุปัญหา จากนั้นจึงรวบรวมข้อมูลที่ เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา แล้ว ตัดสินใจเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่ เหมาะสมกับสถานการณ์และ เงื่อนไขที่มีอยู่ เมื่อได้วิธีการใน การแก้ปัญหาแล้ว ก็น าวิธีการ นั้นมาออกแบบโดยก าหนด รายละเอียดของการแก้ปัญหาที่ ชัดเจน ซึ่งวิธีการแก้ปัญหานั้น สามารถท าได้ในรูปแบบของ วิธีการหรือสร้างออกมาเป็น ชิ้นงาน จากนั้นลงมือสร้างตามที่ ได้ออกแบบไว้การสร้างชิ้นงาน ต้องใช้ความรู้ในการเลือกวัสดุที่ เหมาะสมกับการสร้างชิ้นงาน และต้องมีทักษะการใช้เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ในการสร้างชิ้นงาน อย่างถูกต้องและใช้อย่าง 10 20 รวมเวลาเรียน 38 80 ระหว่างภาค/ปลายภาค 1/1 80/20 รวมตลอดภาคเรียน 40 100


60 ค าอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รหัส ว21201 รายวิชาพลังงานทดแทน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ ทดลอง ตรวจสอบ เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ า พลังงาน ชีวมวล และพลังงานนิวเคลียร์ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในหลักการทางวิทยาศาสตร์ของพลังงานดังกล่าว และการน ามาใช้เป็นพลังงานทดแทน และตระหนักในบทบาทและผลกระทบของพลังงานเหล่านั้นที่มีต่อ มนุษย์และสิ่งแวดล้อม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ น าความรู้ไปใช้ในชีวิตประจ าวัน มีจิต วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม มีความสามารถในการตัดสินใจเห็นคุณค่าของการน าไปใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจ าวัน มีจิต วิทยาศาสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ าหน้าทาง ความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมน าหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายความส าคัญของพลังงานทดแทน 2. อธิบายหลักการทางวิทยาศาสตร์ ในการน าพลังงานแสงอาทิตย์พลังงานลม พลังงานน้ า พลังงาน ชีวมวลและพลังงานนิวเคลียร์ ไปใช้ประโยชน์ 3. อธิบายการใช้ประโยชน์ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ า พลังงานชีวมวลและพลังงาน นิวเคลียร์ ในประเทศไทย 4. อธิบายข้อดีและข้อจ ากัดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์และแนวทางการพัฒนา ของพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ า พลังงานชีวมวลและพลังงานนิวเคลียร์ รวมทั้งหมด 4 ผลการเรียนรู้


61 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว21201 รายวิชาพลังงานทดแทน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 1 พลังงานน้ า ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 น้ าเป็นของไหลที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ า เสมอเมื่อน้ าไหลกระทบกับวัตถุใดๆ สามารถท าให้วัตถุนั้นเคลื่อนที่หรือหมุน ได้มนุษย์ได้น าพลังงานน้ า ไปหมุนกังหัน น้ าเพื่อฉุดระหัดวิดน้ าหรือต าข้าว 8 15 2 พลังงานลม ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 มนุษย์ได้ใช้พลังงานจากพลังงานลมที่ สามารถท าให้วัตถุต่างๆ เคลื่อนที่ได้มา ตั้งแต่อดีต เช่นใช้พลังงานลมในการหมุน กังหันลม เพื่อฉุดระหัดในการวิดน้ าเข้านา ข้าว นาเกลือ ใช้ฉุดระหัดในการสูบน้ า จากบ่อบาดาลขึ้นไปไว้ในถังกักเก็บเพื่อใช้ ในการเกษตรและปศุสัตว์ปัจจุบันมีการ พัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับการน าพลังงาน ลมมาใช้ประโยชน์มากขึ้น 8 15 3 พลังงาน แสงอาทิตย์ ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 สิ่งมีชีวิตบนโลกล้วนอาศัยพลังงานจาก ดวงอาทิตย์ในการด ารงชีวิตเช่น ใช้เป็น แหล่งพลังงานความร้อนเพื่อให้ความ อบอุ่นแก่ร่างกาย ใช้ในการถนอมอาหาร โดยการตากแห้ง ใช้ผลิตเกลือสินเทา ปัจจุบันมีการน าพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ ประโยชน์มากขึ้น 8 15 4 พลังงาน ชีวมวล ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 แหล่งพลังงานที่สามารถน ามาใช้ ประโยชน์ได้นอกเหนือจากดวงอาทิตย์ ลม น้ า แล้วยังมีสารอินทรีย์ได้จาก สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ชีวมวล ซึ่งสามารถ น ามาใช้เป็นพลังงาน โดยมีวิธีการผลิต และการน าไปใช้ที่หลากหลายเพื่อ ทดแทนแหล่งพลังงานอื่นๆได้ 7 15


62 หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 5 พลังงาน นิวเคลียร์ ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 พลังงานนิวเคลียร์เป็นพลังงานที่อยู่ ในธรรมชาติรอบตัวเรา ดิน หิน พืช และสัตว์ล้วนมีองค์ประกอบที่ให้ ก า เ นิ ด รัง สี ที่ ส่ง ผ่ า น พ ลังง า น นิวเคลียร์ไปยังสิ่งแวดล้อม ดวง อาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานนิวเคลียร์ ขนาดใหญ่ที่ส่งผ่านพลังงานนิวเคลียร์ ส่วนหนึ่งมาหล่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิตบนโลก การน าพลังงานนิวเคลียร์มาผลิต กระแสไฟฟ้าเพื่อทดแทนการใช้ พลังงานเชื้อเพลิงซากดึกด าบรรพ์ถือ ได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถ ช่วยตอบสนองความต้องการพลังงาน ของประเทศเพิ่มมากขึ้นในอนาคต 6 10 รวมเวลาเรียน 37 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 1.5/1.5 70/30 รวมตลอดภาคเรียน 40 100


63 ค าอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รหัส ว21202 รายวิชาวิทยาศาสตร์กับความงาม กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง 1 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ ตรวจสอบ และอธิบาย ความงามที่สมวัยและปัจจัยที่มีผลต่อความงาม การดูแล ความงามและการเลือกใช้เครื่องส าอาง เครื่องส าอางในชีวิตประจ าวัน การใช้สมุนไพรในท้องถิ่นเพื่อความ งามและสุขภาพ เทคโนโลยีเพื่อความงามและสุขภาพ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสาร สิ่งที่รู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ น าความรู้ไปใช้ในชีวิตประจ าวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นที่จะใฝ่เรียนรู้ ตระหนักถึง ความส าคัญของวิทยาศาสตร์ในการน าหลักการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาดูแลความงามและ สุขภาพให้สมวัย โดยใช้สมุนไพรในท้องถิ่น มีความสามารถในการตัดสินใจเห็นคุณค่าของการน าไปใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจ าวัน มีจิต วิทยาศาสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ าหน้า ทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมน าหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายส่วนต่างๆ ของร่างกายที่เกี่ยวข้องกับความงาม และแนวทางในการดูแลอย่างถูกต้องและ เหมาะสม 2. สืบค้นข้อมูล ส ารวจตรวจสอบและอธิบายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับความงามประเภทต่างๆ 3. สืบค้นข้อมูลและส ารวจตรวจสอบภูมิปัญญาไทยที่เกี่ยวกับความงาม 4. น าความรู้ไปใช้ในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับความงามได้อย่างถูกต้องและ เหมาะสม 5. สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และสร้างสรรค์ผลงานเกี่ยวกับความงามอย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้


64 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว21202 รายวิชาวิทยาศาสตร์กับความงาม กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 เวลา 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 1 ความงาม ที่สมวัย ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 ความงามเป็นลักษณะที่มนุษย์ทุกเพศ ทุกวัยชื่นชม ความงามช่วยเสริมสร้าง ความมั่นใจให้กับตัวเองและสร้าง ความประทับใจกับบุคคลที่ได้พบเห็น 8 15 2 โครงสร้าง ร่างกายที่ เป็นพื้นฐาน ความงาม ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 ความงามมีความเกี่ยวข้องกับร่างกาย การดูแลความงามตามธรรมชาติอย่างมี ประสิทธิภาพจึงจ าเป็นต้องทราบถึง โครงสร้าง สมบัติ และพื้นฐานการท างาน ของอวัยวะเหล่านั้น 8 15 3 เครื่องส าอาง ในชีวิต ประจ าวัน ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 เครื่องส าอางบางชนิดมีความจ าเป็น ส าหรับชีวิตประจ าวัน ควรเลือกใช้ให้ถูก วิธีและใช้เท่าที่จ าเป็นเท่านั้น เครื่องส าอางที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ส่วนมากมีส่วนประกอบหลักของสารเคมี สังเคราะห์ 8 15 4 ภูมิปัญญา ไทยกับความ งามและ สุขภาพ ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 คนไทยรู้จักการใช้ประโยชน์จากสมุนไพร เพื่อความงามมาตั้งแต่อดีต และมีการ ถ่ายทอดองค์ความรู้สืบทอดกันมาเป็นภูมิ ปัญญาคนไทยยังรู้จักการใช้สมุนไพรเพื่อ การดูแลสุขภาพ ทั้งโดยการกิน การทา ตามผิวหนัง การอบไอน้ า การประคบ สมุนไพรรวมทั้งยังใช้ประโยชน์จากน้ ามัน หอมระเหยในพืชโดยเฉพาะดอกไม้ 7 15


65 หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 5 เครื่องส าอาง ในท้องตลาด ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 ผลิตภัณฑ์เครื่องส าอางที่มีจ าหน่าย ตามท้องตลาดมีหลากหลายมากขึ้น ซึ่งผู้ผลิตพยายามน าเสนอจุดเด่นของ ผลิตภัณฑ์เพท่อดึงดูดความสนใจของ ผู้บ ริโภค ก า รใช้เครื่องส าอางมี วัตถุประสงค์การใช้เฉพาะบางชนิด อาจไม่มีความจ าเป็นส าหรับวัยรุ่น แม้ว่าใช้แล้วไม่เกิดอันตรายก็ตาม 6 10 รวมเวลาเรียน 37 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 1.5/1.5 70/30 รวมตลอดภาคเรียน 40 100


66 ค าอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ว22101 รายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ ส ารวจ สืบค้นข้อมูล และอธิบาย ชนิดตัวละลาย ชนิดตัวท าละลาย อุณหภูมิที่มีต่อ สภาพละลายได้ของสาร รวมทั้งอธิบายผลของความดันที่มีต่อสภาพละลายได้ระบุปริมาณตัวละลาย ในสารละลาย ในหน่วยความเข้มข้นเป็นร้อยละ ปริมาตรต่อปริมาตรมวลต่อมวล และมวลต่อปริมาตร น าวิธีการแยกสารไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจ าวัน โครงสร้างและการท างานของระบบย่อยอาหาร ระบบ หมุนเวียนเลือด ระบบหายใจ ระบบขับถ่าย ระบบสืบพันธุ์ ของมนุษย์แรงและการเคลื่อนที่ แรง แรงดันใน ของเหลว แรงพยุง แรงเสียดทาน โมเมนต์ของแรง แรงในธรรมชาติ การเคลื่อนที่ ระยะทางและการกระจัด อัตราเร็ว ความเร็ว โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร กระบวนการสืบเสาะหาความรูการสืบคนขอมูลการสังเกต การวิเคราะหการทดลองการอภิปรายการอธิบายและสรุปการสืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูลและ อภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ เพื่อใหเกิดความรูความคิดความเขาใจ มีความสามารถในการตัดสินใจสื่อสารสิ่งที่เรียนรูและ น าความรูไปใชในชีวิตของตนเอง ดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่น เฝาระวังและพัฒนาสิ่งแวดลอมอยางยั่งยืนมี จิตวิทยาศาสตร จริยธรรม คุณธรรม และคานิยม เป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ าหน้าทาง ความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมน าหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ รหัสตัวชี้วัด ว 1.2 ม.2/1, ว 1.2 ม.2/2, ว 1.2 ม.2/3, ว 1.2 ม.2/4, ว 1.2 ม.2/5, ว 1.2 ม.2/6, ว 1.2 ม.2/8, ว 1.2 ม.2/9, ว 1.2 ม.2/10, ว 1.2 ม.2/11, ว 1.2 ม.2/12, ว 1.2 ม.2/13, ว 1.2 ม.2/14, ว 1.2 ม.2/15, ว 1.2 ม.2/16, ว 1.2 ม.2/17 ว 2.1 ม.2/4, ว 2.1 ม.2/5, ว 2.1 ม.2/6 ว 2.2 ม.2/1, ว 2.2 ม.2/2, ว 2.2 ม.2/3, ว 2.2 ม.2/4, ว 2.2 ม.2/5, ว 2.2 ม.2/6, ว 2.2 ม.2/8, ว 2.2 ม.2/9, ว 2.2 ม.2/10, ว 2.2 ม.2/11, ว 2.2 ม.2/12, ว 2.2 ม.2/13, ว 2.2 ม.2/14, ว 2.2 ม.2/15 รวม 35 ตัวชี้วัด


67 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว22101 รายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน / รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 1 สารละลาย ว 2.1 ม.2/ 4-6 -สารละลายอาจมีสถานะเป็นของแข็ง ของเหลวและแก๊ส สารละลายประกอบด้วย ตัวท าละลายและตัวละลาย กรณี สารละลายเกิดจากสารที่มีสถานะเดียวกัน สารที่มีปริมาณมากที่สุดจัดเป็นตัวท า ละลาย กรณีสารละลายเกิดจากสารที่มี สถานะต่างกัน สารที่มีสถานะเดียวกันกับ สารละลายจัดเป็นตัวท าละลาย - สารละลายที่ตัวละลายไม่สามารถละลาย ในตัวท าละลายได้อีกที่อุณหภูมิหนึ่ง ๆ เรียกว่า สารละลายอิ่มตัว -ความรู้เกี่ยวกับสภาพละลายได้ของสาร เมื่อเปลี่ยนแปลงชนิดตัวละลาย ตัวท า ละลาย และอุณหภูมิสามารถน าไปใช้ ประโยชน์ในชีวิตประจ าวัน เช่น การท า น้ าเชื่อมเข้มข้น การสกัดสารออกจาก สมุนไพรให้ได้ปริมาณมากที่สุด 15 20 2 ร่างกายมนุษย์ ว 1.2 ม.2/ 1-17 - ระบบหมุนเวียนเลือดระบบหายใจ ระบบขับถ่าย ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และในแต่ละระบบ ประกอบด้วยอวัยวะหลายชนิดที่ท างาน อย่างเป็นระบบ และมีการท างานสัมพันธ์ กันท าให้มนุษย์สามารถที่จะด ารงชีวิตอยู่ ได้อย่างปกติประจ าเดือน การตกไข่ การ คุมก าเนิด ผลกระทบของการตั้งครรภ์ ก่อนวัยอันควร 24 25


68 หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน / รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 3 การเคลื่อนที่ และแรง ว 2.2 ม.2/ 1-15 - แรงเป็นปริมาณเวกเตอร์ เมื่อมีแรง หลายแรงในระนาบเดียวกันกระท าต่อ วัตถุเดียวกัน สามารถหาแรงลัพธ์ได้โดย ใช้หลักการรวมเวกเตอร์ - เมื่อแรงลัพธ์มีค่าเป็นศูนย์กระท าต่อ วัตถุที่หยุดนิ่ง วัตถุนั้นก็จะหยุดนิ่ง ตลอดไป แต่ถ้าวัตถุเคลื่อนที่ด้วย ความเร็วคงตัว ก็จะเคลื่อนที่ด้วย ความเร็วคงตัวตลอดไป - ของเหลวจะมีแรงที่ของเหลว กระท าต่อวัตถุในทุกทิศทาง โดยแรงที่ ของเหลวกระท าตั้งฉากกับผิววัตถุต่อหนึ่ง หน่วยพื้นที่เรียกว่าความดันของของเหลว - ขนาดของแรงเสียดทานระหว่าง ผิวสัมผัสของวัตถุขึ้นกับลักษณะผิวสัมผัส และขนาดของ แรงปฏิกิริยาตั้งฉากระหว่างผิวสัมผัส - โมเมนต์ของแรงเป็นผลคูณของแรงที่ กระท าต่อวัตถุกับระยะทางจากจุดหมุน ไปตั้งฉากกับแนวแรง เมื่อผลรวมของ โมเมนต์ของแรงมีค่าเป็นศูนย์วัตถุจะอยู่ ในสภาพสมดุลต่อการหมุน โดยโมเมนต์ ของแรงในทิศทวนเข็มนาฬิกาจะมีขนาด เท่ากับโมเมนต์ของแรงในทิศตามเข็ม นาฬิกา - ขนาดของแรงโน้มถ่วง แรงไฟฟ้า และ แรงแม่เหล็กที่กระท าต่อวัตถุที่อยู่ใน สนามนั้น ๆ จะมีค่าลดลงเมื่อวัตถุอยู่ห่าง จากแหล่งของสนามนั้น ๆ มากขึ้น 15 15 รวมเวลาเรียน 54 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 3/3 70/30 รวมตลอดภาคเรียน 60 100


69 ค าอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ว22102 วิทยาศาสตร์ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ ส ารวจ สืบค้นข้อมูล และอธิบาย เกี่ยวกับงานและพลังงาน งาน ก าลัง เครื่องกล อย่างง่าย พลังงาน ประเภทของพลังงานกล กฎการอนุรักษ์พลังงานแยกสารผสม การระเหยแห้ง การตก ผลึก การกลั่น โครมาโทกราฟีแบบกระดาษ การน าวิธีการแยกสารไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจ าวัน การหา แรงลัพธ์ของแรงหลายแรงในระนาบเดียวกันที่กระท าต่อวัตถุ อธิบายแรงลัพธ์ที่กระท าต่อวัตถุที่หยุดนิ่งหรือ วัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงตัว หลักการแยกสารด้วยวิธีการกรอง การตกผลึก การสกัด การกลั่น และ โครมาโทกโลกและการเปลี่ยนแปลง เชื้อเพลิงซากดึกด าบรรพ์ ถ่านหิน หินน้ ามัน ปิโตรเลียม พลังงาน ทดแทน โครงสร้างของโลก การเปลี่ยนแปลงของโลก ทรัพยากรดิน กระบวนการเกิดดิน หน้าตัดข้างของดิน ปัจจัยในการเกิดดิน สมบัติของดิน การปรับปรุงคุณภาพของดิน แหล่งน้ า น้ าบนดิน น้ าใต้ดิน การใช้ ประโยชน์จากแหล่งน้ า ภัยพิบัติที่เกิดจากน้ า โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร กระบวนการสืบเสาะหาความรูการสืบคนขอมูลการสังเกต การวิเคราะหการทดลองการอภิปรายการอธิบายและสรุปการสืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูลและ อภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ เพื่อใหเกิดความรูความคิดความเขาใจ มีความสามารถในการตัดสินใจสื่อสารสิ่งที่เรียนรูและน า ความรูไปใชในชีวิตของตนเอง ดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่น เฝาระวังและพัฒนาสิ่งแวดลอมอยางยั่งยืน มีจิตวิทยา ศาสตร จริยธรรม คุณธรรม และคานิยมเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ าหน้าทางความคิด ผลิต งานอย่างสร้างสรรค์ และ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่ การจัดการเรียนรู้ รหัสตัวชี้วัด ว 2.1 ม.2/1, ว 2.1 ม.2/2, ว 2.1 ม.2/3 ว 2.3 ม.2/1, ว 2.3 ม.2/2, ว 2.3 ม.2/3, ว 2.3 ม.2/4, ว 2.3 ม.2/5, ว 2.3 ม.2/6 ว 3.2 ม.2/1, ว 3.2 ม.2/2, ว 3.2 ม.2/3, ว 3.2 ม.2/4, ว 3.2 ม.2/5, ว 3.2 ม.2/6 รวม 15 ตัวชี้วัด


70 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว22102 รายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 1 งานและก าลัง ว 2.3 ม.2/1-6 - งานที่ท าในหนึ่งหน่วยเวลาเรียกว่า ก าลัง หลักการของงานน าไปอธิบายการ ท างานของเครื่องกลอย่างง่าย ได้แก่คาน พื้นเอียง รอกเดี่ยว ลิ่มสกรูล้อและเพลา ซึ่งน าไปใช้ประโยชน์ด้านต่าง ๆใน ชีวิตประจ าวัน - พลังงานจลน์เป็นพลังงานของวัตถุที่ เคลื่อนที่พลังงานจลน์จะมีค่ามากหรือ น้อยขึ้นกับมวลและอัตราเร็ว ส่วน พลังงานศักย์โน้มถ่วงเกี่ยวข้องกับ ต าแหน่งของวัตถุจะมีค่ามากหรือน้อย ขึ้นกับมวลและต าแหน่งของวัตถุ เมื่อวัตถุ อยู่ในสนามโน้มถ่วง วัตถุจะมีพลังงาน ศักย์โน้มถ่วงพลังงานจลน์และพลังงาน ศักย์โน้มถ่วงเป็น พลังงานกล - พลังงานยังสามารถถ่ายโอนไปยังอีก ระบบหนึ่งหรือได้รับพลังงานจากระบบ อื่นได้เช่น การถ่ายโอนความร้อนระหว่าง สสารการถ่ายโอนพลังงานของการสั่นขอ แหล่งก าเนิดเสียงไปยังผู้ฟัง ทั้งการเปลี่ยน พลังงานและการถ่ายโอนพลังงาน พลังงานรวมทั้งหมดมีค่าเท่าเดิมตามกฎ การอนุรักษ์พลังงาน 15 25 2 กาแยกสาร ว 2.1 ม.2/1-3 - การแยกสารผสมให้เป็นสารบริสุทธิ์ท า ได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับสมบัติของสารนั้น ๆ การระเหยแห้งใช้แยกสารละลายซึ่ง ประกอบด้วยตัวละลายที่เป็นของแข็งใน ตัวท าละลายที่เป็นของเหลว โดยใช้ ความร้อนระเหยตัวท าละลายออกไปจน หมดเหลือแต่ตัวละลาย การตกผลึกใช้ แยกสารละลายที่ประกอบด้วยตัวละลาย 12 10


71 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน ที่เป็นของแข็งในตัวท าละลายที่เป็น ของเหลว โดยท าให้สารละลายอิ่มตัว แล้วปล่อยให้ตัวท าละลายระเหยออกไป บางส่วนตัวละลายจะตกผลึกแยกออกมา การกลั่นอย่างง่ายใช้แยกสารละลายที่ ประกอบด้วยตัวละลายและตัวท าละลาย ที่เป็นของเหลวที่มีจุดเดือดต่างกันมาก วิธี นี้จะแยกของเหลวบริสุทธิ์ออกจาก สารละลายโดยให้ความร้อนกับสารละลาย ของเหลวจะเดือดและกลายเป็นไอแยก จากสารละลายแล้วควบแน่นกลับเป็น ของเหลวอีกครั้ง ขณะที่ของเหลวเดือด อุณหภูมิของไอจะคงที่ โครมาโทกราฟี แบบกระดาษเป็นวิธีการแยกสารผสมที่มี ปริมาณน้อยโดยใช้แยกสารที่มีสมบัติ การละลายในตัวท าละลายและการถูกดูด ซับด้วยตัวดูดซับแตกต่างกัน ท าให้สารแต่ ละชนิดเคลื่อนที่ไปบนตัวดูดซับได้ต่างกัน สารจึงแยกออกจากกันได้อัตราส่วน ระหว่างระยะทางที่สารองค์ประกอบแต่ ละชนิดเคลื่อนที่ได้บนตัวดูดซับ กับระยะทางที่ตัวท าละลายเคลื่อนที่ได้ เป็นค่าเฉพาะตัวของสารแต่ละชนิดในตัว ท าละลายและตัวดูดซับหนึ่ง ๆ การสกัด ด้วยตัวท าละลายเป็นวิธีการแยกสารผสม ที่มีสมบัติการละลายในตัวท าละลายที่ ต่างกัน โดยชนิดของตัวท าละลาย มีผลต่อชนิดและปริมาณของสารที่สกัดได้ การสกัดโดยการกลั่นด้วยไอน้ า ใช้แยก สารที่ระเหยง่าย ไม่ละลายน้ า และไม่ท า ปฏิกิริยากับน้ าออกจากสารที่ระเหยยาก โดยใช้ไอน้ าเป็นตัวพา


72 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 3 โลกและการ เปลี่ยนแปลง ว 3.2 ม.2/4-10 - โครงสร้างภายในโลกแบ่งออกเป็นชั้นตาม องค์ประกอบทางเคมีได้แก่ เปลือกโลก ซึ่งอยู่ นอกสุด ประกอบด้วยสารประกอบของซิลิกอน และอะลูมิเนียมเป็นหลัก เนื้อโลกคือส่วนที่อยู่ ใต้เปลือกโลกลงไปจนถึงแก่นโลก มี องค์ประกอบ หลักเป็นสารประกอบของซิลิกอน แมกนีเซียม และเหล็ก และแก่นโลกคือส่วนที่อยู่ใจกลางของ โลก มีองค์ประกอบหลักเป็นเหล็กและนิกเกิล ซึ่งแต่ละชั้นมีลักษณะแตกต่างกัน - การผุพังอยู่กับที่คือ การที่หินผุพังท าลายลง ด้วยกระบวนการต่าง ๆ ได้แก่ลมฟ้าอากาศกับ น้ าฝน - การกร่อน คือ กระบวนการหนึ่งหรือหลาย กระบวนการที่ท าให้สารเปลือกโลกหลุดไป ละลายไปหรือกร่อนไปโดยมีตัวน าพาธรรมชาติ คือ ลม น้ า และธารน้ าแข็ง ร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่ลมฟ้าอากาศ สารละลาย การครูดถู การน าพา - การสะสมตัวของตะกอน คือ การสะสมตัว ของวัตถุจากการน าพาของน้ า ลม หรือธาร น้ าแข็ง -ดินมีลักษณะและสมบัติแตกต่างกันตาม วัตถุต้นก าเนิดดิน ลักษณะภูมิอากาศ ลักษณะภูมิประเทศ พืชพรรณ สิ่งมีชีวิต และระยะเวลาในการเกิดดิน และ ตรวจสอบสมบัติบางประการของดิน - ชั้นหน้าตัดดินแต่ละชั้นและแต่ละพื้นที่ มีลักษณะ สมบัติ และองค์ประกอบแตกต่าง กัน การปรับปรุงคุณภาพดินขึ้นอยู่กับ สภาพของดินเพื่อท าให้ดินมีความ เหมาะสมต่อการใช้ประโยชน์ มองเห็นวัตถุเป็นสีต่างๆ นัยน์ตาของ คนเราเป็นอวัยวะใช้มองดูสิ่งต่างๆ นัยน์ตามีองค์ประกอบส าคัญหลายอย่าง ความสว่างมีผลต่อนัยน์ตามนุษย์ จึงมีการ น าความรู้เกี่ยวกับความสว่างมาช่วยใน 18 25


73 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน การจัดความสว่างให้เหมาะสมกับการ ท างาน - การใช้ประโยชน์ของแหล่งน้ า ต้องมีการ วางแผนการใช้ การอนุรักษ์ การป้องกัน การแก้ไข และผลกระทบ ด้วยวิธีการที่ เหมาะสม - แหล่งน้ าบนดินมีหลายลักษณะขึ้นอยู่กับ ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะทางน้ า และ ความเร็วของกระแสน้ า ในแต่ละฤดูกาล - การผุพังอยู่กับที่การกร่อน การพัดพา การทับถม และการตกผลึก เป็น กระบวนการส าคัญที่ท าให้พื้นผิวโลกเกิด การเปลี่ยนแปลงเป็นภูมิลักษณ์ต่างๆ โดยมีลม น้ า ธารน้ าแข็ง คลื่นและแรง โน้มถ่วงของโลกเป็นตัวการส าคัญ -โครงสร้างของโลกประกอบด้วยชั้น เปลือกโลก ชั้นเนื้อโลก และชั้นแก่นโลก โครงสร้างแต่ละชั้นจะมีลักษณะและ ส่วนประกอบแตกต่างกัน 4 แหล่งพลังงาน ว 3.2 ม.2/1-3 - เชื้อเพลิงซากดึกด าบรรพ์เกิดจากการ เปลี่ยนแปลงสภาพของซากสิ่งมีชีวิตในอดีต โดย กระบวนการทางเคมีและธรณีวิทยา เชื้อเพลิง ซากดึกด าบรรพ์ได้แก่ถ่านหิน หินน้ ามัน และ ปิโตรเลียม ซึ่งเกิดจากวัตถุต้นก าเนิด และ สภาพแวดล้อมการเกิดที่แตกต่างกัน ท าให้ได้ ชนิดของเชื้อเพลิงซากดึกด าบรรพ์ที่มีลักษณะ สมบัติและการน าไปใช้ประโยชน์แตกต่างกัน ส าหรับปิโตรเลียมจะต้องมีการผ่านการกลั่น ล าดับส่วนก่อนการใช้งานเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ เหมาะสมต่อการใช้ประโยชน์เชื้อเพลิงซากดึก ด าบรรพ์เป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป เนื่องจากต้องใช้เวลานานหลายล้านปี จึงจะ เกิดขึ้นใหม่ได้ 9 10 รวมเวลาเรียน 54 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 3/3 70/30 รวมตลอดภาคเรียน 60 100


74 ค าอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ว22181 รายวิชาวิทยาการค านวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ศึกษาแนวคิดเชิงค านวณ การแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงค านวณ การเขียนโปรแกรมที่มีการ ใช้ ตรรกะและฟังก์ชัน องค์ประกอบและหลักการท างานของระบบคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสื่อสาร แนวทางการ ปฏิบัติ เมื่อพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ วิธีการสร้างและ ก าหนดสิทธิความเป็นเจ้าของผลงาน น าแนวคิดเชิงค านวณไปประยุกต์ใช้ในการเขียนโปรแกรมหรือการ แก้ปัญหาในชีวิตจริง สร้างและก าหนดสิทธิการใช้ข้อมูล ตระหนักถึงผลกระทบในการเผยแพร่ข้อมูล เพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก โดยน้อมน าหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/1, ว 4.2 ม.2/2, ว 4.2 ม.2/3, ว 4.2 ม.2/4 รวมทั้งหมด 4 ตัวชี้วัด


75 โครงสร้างรายวิชา รหัส ว22181 รายวิชาวิทยาการค านวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลาเรียน 40 ชั่วโมง 1 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 1 แนวคิดเชิง ค านวณ กับการแก้ปัญหา ว 4.2 ม.2/1 แนวคิดเชิงค านวณ คือ แนวคิดในการ แก้ปัญหาต่าง ๆ เพราะเป็นกระบวนการที่ มีล าดับขั้นตอนที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการ เข้าแถวตามล าดับของนักเรียน หรือ ปัญหาการจัดเรียงเสื้อผ้า อีกทั้งเป็น กระบวนการที่มนุษย์และคอมพิวเตอร์ สามารถเข้าใจร่วมกันได้ ดังนั้นจึงควรน า แนวคิดเชิงค านวณเข้ามาใช้ในการ แก้ปัญหา เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในการ แก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ 4 10 2 การออกแบบ ขั้นตอนการ ท างานด้วยการ เขียนโปรแกรม ด้วยภาษา Python ว 4.2 ม.2/2 การออกแบบขั้นตอนการท างานของ โปรแกรมหรือการออกแบบอัลกอริทึม เป็นการออกแบบล าดับขั้นตอนการ ท างานของโปรแกรม ซึ่งสามารถแบ่งได้ เป็น ๓ ลักษณะ คือ การใช้ ภาษาธรรมชาติ การใช้รหัสจ าลอง และ การใช้ผังงาน โดยภาษาไพทอนเป็น ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่ เหมาะส าหรับผู้เริ่มต้นเขียนโปรแกรมไป จนถึงการประยุกต์ใช้งานในระดับสูง เนื่องจากเป็นภาษาที่มีโครงสร้างและ ไวยากรณ์ค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อน ท าให้ ง่ายต่อความเข้าใจ มีการน าตัวแปร และ ฟังก์ชันมาช่วยในการท างาน ตลอดจนมี โครงสร้างการท างานแบบเรียงล าดับ และโครงสร้างการท างานแบบเลือกท า เพื่อให้สามารถค านวณประมวลผลได้ ตามที่ต้องการ 18 40


76 หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 3 ระบบ คอมพิวเตอร์ ว 4.2 ม.2/3 ระบบคอมพิวเตอร์ หมายถึง การท างาน ของคอมพิวเตอร์ที่มีส่วนต่างๆ มาท างาน ร่วมกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการ ท างานอย่างมีระบบ ประกอบไปด้วย หน่วยต่าง ๆ ท างานร่วมกันอย่างเป็น ระบบ คือ หน่วยรับข้อมูล หน่วย ประมวลผลกลาง หน่วยความจ าหลัก หน่วยความจ าส ารอง และหน่วย แสดงผลข้อมูล และในปัจจุบัน เทคโนโลยีด้านการสื่อสารได้เข้ามามี บทบาทต่อการด ารงชีวิตของมนุษย์มาก ขึ้น ซึ่งองค์ประกอบของการสื่อสาร ข้อมูลประกอบไปด้วยข้อมูลข่าวสาร ผู้ส่งสาร สื่อกลาง ผู้รับสาร และ โปรโตคอล นอกจากนั้นระบบเครือข่าย ในปัจจุบันยังแบ่งเป็น เครือข่ายส่วน บุคคล เครือข่ายท้องถิ่น เครือข่ายระดับ เมือง และเครือข่ายระดับประเทศ 10 20 4 การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ อย่างปลอดภัย ว 4.2 ม.2/4 เทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาท กับชีวิตของผู้คนในหลากหลายด้าน และ ถือเป็นเครื่องมือที่มีความส าคัญอย่างยิ่ง ต่อกา รด าเนินชีวิตของคนในสังคม ปัจจุบัน เมื่อเทคโนโลยีสารสนเทศได้รับ การพัฒนาให้มีรูปแบบที่มีความน่าสนใจ แ ล ะ อ ยู่ ใ ก ล้ ชิ ด กั บ ม นุ ษ ย์ ม า ก ขึ้ น เทคโนโลยีจึงสร้างทั้งคุณประโยชน์และ โทษให้กับผู้ใช้ ทั้งโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ 8 10 รวมเวลาเรียน 38 80 ระหว่างภาค/ปลายภาค 1/1 80/20 รวมตลอดภาคเรียน 40 100


77 ค าอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รหัส ว22201 รายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง 1 หน่วยกิต ศึกษาค้นคว้า ทดลอง สืบค้นข้อมูล อธิบาย ส ารวจตรวจสอบ อภิปราย และน าเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ กระบวนการสู่โครงงานวิทยาศาสตร์ ได้แก่ การคิด เลือกหัวข้อเรื่อง การระบุ การตั้งสมมติฐาน การทดลอง การรวบรวมข้อมูล การเขียนเค้าโครง การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ การลงมือท าโครงงาน วิทยาศาสตร์ การสรุปผลการทดลอง การจัดแสดงและน าเสนอผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ มีทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สามารถแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ได้ และการท างานเยี่ยงนักวิทยาศาสตร์ รู้จักกับโครงงานวิทยาศาสตร์ การศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องจากแหล่งความรู้ต่างๆ ตลอดจน ศึกษาค้นคว้า เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การออกแบบการ ทดลอง สร้างสถานการณ์จ าลอง ส ารวจตรวจสอบ ทดลอง วิเคราะห์ อภิปรายและสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ทักษะกระบวนการคิด มีความเข้าใจ มีความสามารถสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ การใช้ ทักษะชีวิต และการใช้เทคโนโลยี น าความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ าวัน มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการท างาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ ดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่น เฝ้าระวังและพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม ค่านิยมที่เหมาะสม และ ด าเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผลการเรียนรู้ 1. มีความรู้ความเข้าใจการระบุปัญหาและสามารถระบุปัญหาได้ 2. มีความรู้และสามารถตั้งสมมติฐานได้ 3. สามารถเลือกวิธีการออกแบบการทดลองที่ตรวจสอบได้ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพที่ได้ผล เที่ยงตรง ปลอดภัย ใช้วัสดุ และ เครื่องมือที่เหมาะสม 4. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการท างานเยี่ยงนักวิทยาศาสตร์ 5. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงงาน วิทยาศาสตร์ และประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์ 6. มีความรู้ และทักษะในการคิดและเลือกหัวข้อเรื่องโครงงานวิทยาศาสตร์ได้ 7. มีความสามารถในการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงงานวิทยาศาสตร์โดยค้นคว้าเพิ่มเติมจาก แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆให้ได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ 8. ความรู้และความสามารถเขียนเค้าโครงของโครงงานวิทยาศาสตร์ที่มีวิธีตรวจสอบได้ทั้งเชิง ปริมาณและคุณภาพ ได้ผลเที่ยงตรงปลอดภัย ใช้วัสดุและเครื่องมือที่เหมาะสม 9. นักเรียนสามารถลงมือท าโครงงานวิทยาศาสตร์ ตามความสนใจได้อย่างถูกต้อง เขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ แสดงแนวคิดตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ได้ อย่างถูกต้องและให้ผู้อื่นเข้าใจได้ 10. จัดแสดงและน าเสนอผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ อธิบายแนวคิดกระบวนการและผลของ โครงงานหรือชิ้นงานให้ผู้อื่นเข้าใจ รวมทั้งหมด 10 ผลการเรียนรู้


78 โครงสร้างรายวิชา รหัส ว22201 รายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง 1 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 1 กระบวนการสู่ โครงงาน วิทยาศาสตร์ ข้อ 1 การระบุปัญหาแนวคิดประเด็นปัญหา 5 10 2 เค้าโครงของ โครงงาน วิทยาศาสตร์ ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 การสืบค้นข้อมูลจากแหล่งความรู้ต่างๆ ตลอดจน ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์และการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ภายในอาเซียน คิดหัวข้อโครงงานการ ตั้งสมมติฐานการออกแบบการทดลอง การท างานเยี่ยงนักวิทยาศาสตร์ 5 10 3 รู้จักกับโครงงาน วิทยาศาสตร์ ข้อ 5 ความรู้เกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์ และประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์ 5 10 4 การท าโครงงาน วิทยาศาสตร์ ข้อ 6 การปฏิบัติการท าโครงงานวิทยาศาสตร์ การคิดและเลือกหัวข้อเรื่องโครงงาน วิทยาศาสตร์ 5 10 5 การเขียนรายงาน โครงงาน วิทยาศาสตร์ ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 9 การศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ โครงงานวิทยาศาสตร์จากแหล่งความรู้ ต่างๆตลอดจน ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์และการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ภายในอาเซียน 10 15 ๖ การจัดแสดงและ น าเสนอผลงาน โครงงาน วิทยาศาสตร์ 10 การจัดแสดงและน าเสนอผลงาน โครงงานวิทยาศาสตร์และเกณฑ์การ ประเมินโครงงานวิทยาศาสตร์ 10 15 รวมเวลาเรียน 37 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 1.5/1.5 70/30 รวมตลอดภาคเรียน 40 100


79 ค าอธิบายรายวิชา รหัสวิชา I22281 รายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง 1 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกทักษะตั้งประเด็นปัญหา /ตั้งค าถามในเรื่องที่สนใจโดยเริ่มจากตนเอง เชื่อมโยงกับ ชุมชน ท้องถิ่นและประเทศ ตั้งสมมติฐานและให้เหตุผลโดยใช้ความรู้จากศาสตร์สาขาต่างๆ ค้นคว้าแสวงหา ความรู้เกี่ยวกับสมมติฐานที่ตั้งไว้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ออกแบบวางแผนรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ ข้อมูลโดยใช้วิธีการที่เหมาะสม ท างานบรรลุผลตามเป้าหมายภายในกรอบการด าเนินงานที่ก าหนด โดยการ ก ากับดูแล ช่วยเหลือของครูอย่างต่อเนื่อง สังเคราะห์สรุปองค์ความรู้และร่วมกันเสนอแนวคิด วิธีการ แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ด้วยกระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการปฏิบัติและกระบวนการกลุ่มในการวิพากษ์ เพื่อให้เกิดทักษะในการค้นคว้าแสวงหาความรู้ เปรียบเทียบเชื่อมโยงองค์ความรู้ สังเคราะห์สรุป อภิปราย เพื่อให้เห็นประโยชน์และคุณค่าของการศึกษา ค้นคว้าด้วยตนเอง โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร กระบวนการสืบเสาะหาความรูการสืบคนขอมูลการสังเกต การวิเคราะหการทดลองการอภิปรายการอธิบายและสรุปการสืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูลและ อภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ เพื่อใหเกิดความรูความคิดความเขาใจ มีความสามารถในการตัดสินใจสื่อสารสิ่งที่เรียนรูและน า ความรูไปใชในชีวิตของตนเอง ดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่น เฝาระวังและพัฒนาสิ่งแวดลอมอยางยั่งยืน มีจิตวิทยา ศาสตร จริยธรรม คุณธรรม และคานิยมเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ าหน้าทางความคิด ผลิต งานอย่างสร้างสรรค์ และ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่ การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. ตั้งประเด็นปัญหา โดยเลือกประเด็นที่สนใจ เริ่มจากตนเอง ชุมชนท้องถิ่น ประเทศ 2. ตั้งสมมติฐานประเด็นปัญหาที่ตนเองสนใจ 3. ออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ 4. ศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรู้เกี่ยวกับประเด็นที่เลือก จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย 5. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มาของข้อมูลได้ 6. วิเคราะห์ข้อค้นพบด้วยสถิติที่เหมาะสม 7. สังเคราะห์สรุปองค์ความรู้ด้วยกระบวนการกลุ่ม 8. เสนอแนวคิด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการค้นพบ 9. เห็นประโยชน์และคุณค่าของการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง รวมทั้งหมด 9 ผลการเรียนรู้


80 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา I22281 รายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง 1 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 1 การตั้งประเด็น ค าถาม / สมมุติฐานอย่างมี เหตุผล (Hypothesis Formulation) 1. ตั้งประเด็น ปัญหา โดยเลือก ประเด็นที่สนใจ เริ่มจากตนเอง ชุมชนท้องถิ่น ประเทศ 2. ตั้งสมมติฐาน ประเด็นปัญหาที่ ตนเองสนใจ 3. ออกแบบ วางแผน ใช้ กระบวนการ รวบรวมข้อมูล อย่างมี ประสิทธิภาพ 1. ตั้งประเด็น / คาถามในเรื่องที่ตน สนใจโดยเริ่มจากตัวเอง เชื่อมโยงกับ ชุมชน ท้องถิ่น ประเทศ 2. ตั้งสมมุติฐานและให้เหตุผล โดยใช้ ความรู้จากสาขาวิชาต่าง ๆ 12 25 2 การสืบค้นความรู้ จากแหล่งเรียนรู้ และสารสนเทศ หรือจากการปฏิบัติ ทดลอง (Searching for Information) 4. ศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรู้ เกี่ยวกับประเด็น ที่เลือก จากแหล่ง เรียนรู้ที่ หลากหลาย 5. ตรวจสอบ ความน่าเชื่อถือ ของแหล่งที่มา ของข้อมูลได้ 1. ศึกษา ค้นคว้าแสวงหาความรู้ เกี่ยวกับ สมมุติฐานที่ตั้งไว้จากแหล่ง เรียนรู้หลากหลาย (เช่น ห้องสมุด แหล่งเรียนรู้ทางออนไลน์ วารสาร การปฏิบัติ ทดลอง หรืออื่น ๆ) 2. ออกแบบ วางแผน รวบรวมข้อมูล โดยใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูล อย่างมีประสิทธิภาพ 3. ใช้กระบวนการกลุ่มในการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยใช้ความรู้ 12 25


81 หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 6. วิเคราะห์ข้อ ค้นพบด้วยสถิติที่ เหมาะสม จากสาขาวิชาต่างๆเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ ครบถ้วนสมบูรณ์ 4. ท างานบรรลุผลตามเป้าหมาย ภายในกรอบการดาเนินงานที่กาหนด โดยการกากับดูแล ช่วยเหลือของครู อย่างต่อเนื่อง 3 การสรุปองค์ความรู้ (Knowledge Formation) 7. สังเคราะห์สรุป องค์ความรู้ด้วย กระบวนการกลุ่ม 8. เสนอแนวคิด การแก้ปัญหา อย่างเป็นระบบ ด้วยองค์ความรู้ จากการค้นพบ 9. เห็นประโยชน์ และคุณค่าของ การศึกษาค้นคว้า ด้วยตนเอง 1. วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการที่ เหมาะสม 2. สังเคราะห์และสรุปองค์ความรู้ อภิปรายผลและเปรียบเทียบเชื่อมโยง ความรู้ 3. เสนอแนวคิด วิธีการแก้ปัญหา อย่างเป็นระบบ 14 30 รวมเวลาเรียน 38 80 ระหว่างภาค/ปลายภาค 1/1 80/20 รวมตลอดภาคเรียน 40 100


82 ค าอธิบายรายวิชา รหัสวิชา I22282 รายวิชาการสื่อสารและการน าเสนอ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง 1 หน่วยกิต ศึกษา เรียบเรียง และถ่ายทอดความคิดอย่างชัดเจน เป็นระบบจากข้อมูลองค์ความรู้ จาก การศึกษาค้นคว้าในรายวิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ ( Research and Knowledge Formation) โดยเขียนโครงร่าง บทน า เนื้อเรื่อง สรุป ในรูปของรายงานเชิง ความยาว ๒,๕๐๐ ค า มีการ อ้างอิงแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้อย่างหลากหลาย เรียบเรียงและถ่ายทอด ความคิดอย่างชัดเจน เป็นระบบ มีการน าเสนอในรูปแบบเดี่ยว (Oral Individual Presentation) หรือกลุ่ม (Oral Panel Presentation) โดยใช้สื่อ ประกอบที่หลากหลาย และมีการเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ เพื่อให้เกิดทักษะ ในการเขียน รายงานเชิงวิชาการ และทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งาน และถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ให้เป็นประโยชน์แก่สาธารณะ โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร กระบวนการสืบเสาะหาความรูการสืบคนขอมูลการสังเกต การวิเคราะหการทดลองการอภิปรายการอธิบายและสรุปการสืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูลและ อภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ เพื่อใหเกิดความรูความคิดความเขาใจ มีความสามารถในการตัดสินใจสื่อสารสิ่งที่เรียนรูและ น าความรูไปใชในชีวิตของตนเอง ดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่น เฝาระวังและพัฒนาสิ่งแวดลอมอยางยั่งยืน มีจิตวิทยาศาสตร จริยธรรม คุณธรรม และคานิยมเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ าหน้าทาง ความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมน าหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. วางโครงร่างการเขียนตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบและวิธีการเขียนโครงร่าง 2. เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการภาษาไทย ความยาว ๒,๕๐๐ ค า 3. น าเสนอข้อค้นพบ ข้อสรุปจากประเด็นที่เลือกในรูปแบบเดี่ยว(Oral Individual Presentation) หรือกลุ่ม (Oral Panel Presentation) โดยใช้ อุปกรณ์ในการน าเสนอได้ อย่างเหมาะสม 4. เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ 5. เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ให้เป็นประโยชน์ แก่ สาธารณะ รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้


83 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา I22282 รายวิชาการสื่อสารและการน าเสนอ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง 1 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 1 วาง โครงร่างการ เขียน 1. วางโครงร่างการเขียน ตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบ และวิธีการ เขียนโครงร่าง . 1.ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน โครงร่าง 2.หลักเกณฑ์ องค์ประกอบ และ วิธีการเขียนโครงร่าง 12 25 2 เรียนรู้ การสร้างผลงาน 2. เขียนรายงาน การศึกษาค้นคว้าเชิง วิชาการภาษาไทยความ ยาว 2,500 ค า 3.การเขียนรายงานการศึกษา ค้นคว้าเชิงวิชาการภาษาไทย 12 25 3 สร้างสรรค์การ น าเสนอ 3. น าเสนอข้อค้นพบ ข้อสรุปจากประเด็นที่ เลือกในรูปแบบเดี่ยว (Oral individual presentation) หรือ กลุ่ม (Oral panel presentation) โดยใช้ สื่ออุปกรณ์น าเสนอได้ อย่างเหมาะสม 4. เผยแพร่ผลงานสู่ สาธารณชน 5. เห็นประโยชน์และ คุณค่าในการสร้างสรรค์ งานและถ่ายทอดสิ่งที่ เรียนรู้แก่ สาธารณชน 4.การน าเสนอและการเผยแพร่ ผลงานจากการศึกษาค้นคว้า 5.การเลือกรูปแบบและสื่อ ประกอบการน าเสนอผลงาน 6.คุณค่าของการสร้างสรรค์งานและ ถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ 12 30 รวมเวลาเรียน 38 80 ระหว่างภาค/ปลายภาค 1/1 80/20 รวมตลอดภาคเรียน 40 100


84 ค าอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ว23101 รายวิชาวิทยาศาสตร์5 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ศึกษาวิเคราะห์ สืบค้น ทดลอง อธิบาย ส ารวจตรวจสอบ อภิปราย และน าเสนอข้อมูล เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์กับการแก้ปัญหา ลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซม การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต โรคทางพันธุกรรม กระบวนการแบ่งเซลล์ ของสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม คลื่น คลื่นกล ความยาวคลื่น ความถี่ แอมพลิจูด คลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า สเปกตรัมของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ประโยชน์และโทษของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า แสง การ สะท้อนของแสง การหักเหของแสง การหักเหของแสงผ่านเลนส์ การเกิดภาพจริงภาพเสมือนแสงขาว สเปกตรัมของแสงขาว ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับแสง การท างานของทัศนอุปกรณ์การมองวัตถุ ความ บกพร่องทางสายตา ความสว่างของแสงมีผลต่อดวงตามนุษย์ระบบสุริยะ แรงโน้มถ่วงเป็นแรงดึงดูด ระหว่างวัตถุสองวัตถุ การโคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยแรงโน้มถ่วง ปฏิสัมพันธ์ระหว่างโลก ดวงจันทร์ และดวง อาทิตย์ เทคโนโลยีอวกาศ ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศและการส ารวจอวกาศ โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร กระบวนการสืบเสาะหาความรูการสืบคนขอมูล การ สังเกต การวิเคราะห การทดลอง การอภิปราย การอธิบาย และสรุปการสืบค้นข้อมูล บันทึกจัดกลุ่มข้อมูล และอภิปรายเพื่อใหเกิดความรูความคิด ความเขาใจ มีความสามารถในการตัดสินใจสื่อสารสิ่งที่เรียนรูและ น าความรูไปใชในชีวิตของตนเองดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่น เฝาระวังและพัฒนาสิ่งแวดลอมอยางยั่งยืน มีจิตวิทยาศาสตร จริยธรรมคุณธรรม และคานิยม เป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก โดยน้อมน าหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ตัวชี้วัด ว 1.3 ม.3/1, ว 1.3 ม.3/2, ว 1.3 ม.3/3, ว 1.3 ม.3/4, ว 1.3 ม.3/5, ว 1.3 ม.3/6, ว 1.3 ม.3/7, ว 1.3 ม.3/8, ว 2.3 ม.3/10, ว 2.3 ม.3/11, ว 2.3 ม.3/12, ว 2.3 ม.3/13, ว 2.3 ม.3/14, ว 2.3 ม.3/15, ว 2.3 ม.3/16, ว 2.3 ม.3/17, ว 2.3 ม.3/18, ว 2.3 ม.3/19, ว 2.3 ม.3/20, ว 2.3 ม.3/21, ว 3.1 ม.3/1, ว 3.1 ม.3/2, ว 3.1 ม.3/3, ว 3.1 ม.3/4 รวม 24 ตัวชี้วัด


85 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว23101 รายวิชาวิทยาศาสตร์ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 1 วิทยาศาสตร์ กับการ แก้ปัญหา - ความส าคัญของความรู้ทางวิทยาศาสตร์ - วิทยาศาสตร์กับการแก้ปัญหาของมนุษย์ - กระบวนการแก้ปัญหา - กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม 6 8 2 การถ่ายทอด ลักษณะทาง พันธุกรรม ว 1.3 ม.3/1 - ลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต - ความสัมพันธ์ระหว่างโครโมโซม ยีน ดีเอ็นเอ 21 27 ว 1.3 ม.3/2 ว 1.3 ม.3/3 - การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของ สิ่งมีชีวิต - กฎของเมนเดล - การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากการ ผสมโดยพิจารณาลักษณะเดียว จนเกิดเป็นจีโน ไทป์และแสดงฟีโนไทป์ในรุ่นลูก ว 1.3 ม.3/4 - กระบวนการแบ่งเซลล์ของสิ่งมีชีวิตมี๒ แบบ คือ ไมโทซิส และไมโอซิส ว 1.3 ม.3/5 ว 1.3 ม.3/6 - การเปลี่ยนแปลงของยีนหรือโครโมโซม ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะทาง พันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต - โรคทางพันธุกรรมและการป้องกันภาวะเสี่ยง จากการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรม ว 1.3 ม.3/7 ว 1.3 ม.3/8 - มนุษย์เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต เรียกสิ่งมีชีวิตนี้ว่า สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม - การใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม - ผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่มีต่อ สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม


86 หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 3 คลื่น ว 2.3 ม.3/10 - คลื่น ความยาวคลื่น ความถี่ แอมพลิจูด - คลื่นกล พลังงานจะถูกถ่ายโอนผ่านตัวกลาง 6 8 ว 2.3 ม.3/11 ว 2.3 ม.3/12 - คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นคลื่นที่ไม่อาศัยตัวกลาง ในการเคลื่อนที่ - สเปกตรัมของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ได้แก่ คลื่นวิทยุไมโครเวฟ อินฟราเรด แสงที่มองเห็น อัลตราไวโอเลต รังสีเอกซ์และรังสีแกมมา - เลเซอร์เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มี ความยาวคลื่นเดียว เป็นล าแสงขนานและมี ความเข้มสูง น าไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ - คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านอกจากจะสามารถน าไปใช้ ประโยชน์แล้ว ยังมีโทษต่อมนุษย์ด้วย 4 แสง ว 2.3 ม.3/13 ว 2.3 ม.3/14 - กฎการสะท้อนของแสง โดยรังสีตกกระทบ เส้นแนวฉาก รังสีสะท้อนอยู่ในระนาบเดียวกัน และมุมตกกระทบเท่ากับมุมสะท้อน - การเขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสง แสดง การเกิดภาพจริงภาพเสมือน ภาพจากกระจกเงา 12 15 ว 2.3 ม.3/15 ว 2.3 ม.3/16 - การหักเหของแสงผ่านตัวกลางเมื่อแสงเคลื่อนที่ ในตัวกลางใด ๆ ที่ไม่ใช่อากาศ จะมีอัตราเร็ว ต่างกันจึงมีการหักเหต่างกัน - การหักเหของแสงผ่านเลนส์ท าให้เกิดภาพที่มี ชนิดและขนาดต่าง ๆ แผนภาพการเคลื่อนที่ของ แสงแสดงการเกิดภาพจากเลนส์ - การกระจายแสงของแสงขาวเมื่อผ่านปริซึม สเปกตรัมของแสงขาว ว 2.3 ม.3/17 ว 2.3 ม.3/18 - การสะท้อนและการหักเหของแสงน าไปใช้ อธิบายปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับแสง เช่น รุ้ง มิราจ และอธิบายการท างานของทัศนอุปกรณ์ เช่น แว่นขยาย กระจกโค้งจราจร กล้อง โทรทรรศน์กล้องจุลทรรศน์และแว่นสายตา - ในการมองวัตถุ เลนส์ตาจะถูกปรับโฟกัส ความบกพร่องทางสายตาต้องใช้เลนส์แก้ไข เพื่อช่วยให้มองเห็นเหมือนคนสายตาปกติ


87 หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน ว 2.3 ม.3/19 ว 2.3 ม.3/20 ว 2.3 ม.3/21 - ความสว่างของแสงมีผลต่อดวงตามนุษย์ - ความรู้เกี่ยวกับความสว่างสามารถน ามาใช้จัด ความสว่างให้เหมาะสมกับการท ากิจกรรมต่าง ๆ 5 ปฏิสัมพันธ์ใน ระบบสุริยะ ว 3.1 ม.3/1 - ระบบสุริยะมีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งดาวเคราะห์และวัตถุเหล่านี้โคจรรอบ ดวงอาทิตย์ด้วยแรงโน้มถ่วง - แรงโน้มถ่วงเป็นแรงดึงดูดระหว่างวัตถุสองวัตถุ 9 12 ว 3.1 ม.3/2 - การที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ในลักษณะที่ แกนโลกเอียงกับแนวตั้งฉากของระนาบทางโคจร ท าให้ส่วนต่าง ๆ บนโลกได้รับปริมาณแสงจาก ดวงอาทิตย์แตกต่างกัน ว 3.1 ม.3/3 - ดวงจันทร์โคจรรอบโลก โลกและดวงจันทร์ โคจรรอบดวงอาทิตย์ดวงจันทร์รับแสงจาก ดวงอาทิตย์ครึ่งดวงตลอดเวลา จึงท าให้คนบน โลกสังเกตส่วนสว่างของดวงจันทร์แตกต่างไป ในแต่ละวันเกิดเป็นข้างขึ้นข้างแรม - แรงโน้มถ่วงที่ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์กระท าต่อ โลกท าให้เกิดปรากฏการณ์น้ าขึ้นน้ าลง มีความสัมพันธ์กับข้างขึ้นข้างแรม ว 3.1 ม.3/4 - เทคโนโลยีอวกาศได้มีบทบาทต่อการด ารงชีวิต ของมนุษย์ - โครงการส ารวจอวกาศต่าง ๆ ได้พัฒนาเพิ่มพูน ความรู้ความเข้าใจต่อโลก ระบบสุริยะและ เอกภพมากขึ้นเป็นล าดับ ตัวอย่างโครงการส ารวจ อวกาศ เช่น การส ารวจสิ่งมีชีวิตนอกโลก รวมเวลาเรียน 54 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 3/3 70/30 รวมตลอดภาคเรียน 60 100


88 ค าอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ว23102 รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ศึกษาวิเคราะห์ สืบค้น ทดลอง อธิบาย ส ารวจตรวจสอบ อภิปราย และน าเสนอข้อมูล เกี่ยวกับสมบัติทางกายภาพและการใช้ประโยชน์วัสดุประเภทพอลิเมอร์ เซรามิกส์และวัสดุผสมอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า การเกิดปฏิกิริยาเคมีกฎทรงมวล การถ่ายโอนความร้อน สมการแสดงปฏิกิริยาการเกิด สนิมของเหล็ก ปฏิกิริยาของกรดกับโลหะ ปฏิกิริยาของกรดกับเบส และปฏิกิริยาของเบสกับโลหะ ปฏิกิริยา การเผาไหม้การเกิดฝนกรด การสังเคราะห์ด้วยแสง ประโยชน์และโทษของปฏิกิริยาเคมีที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและ สิ่งแวดล้อม ออกแบบวิธีแก้ปัญหาในชีวิตประจ าวันโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับปฏิกิริยาเคมีโดยบูรณาการ วิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ วงจรไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า ความต่างศักย์ ความต้านทาน วงจรไฟฟ้าประกอบด้วยแหล่งก าเนิดไฟฟ้า สายไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้า มีการต่อ วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ ตัวต้านทาน ไดโอด ทรานซิสเตอร์ ตัวเก็บประจุต่อชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่างง่ายในวงจรไฟฟ้า ค่าไฟฟ้า การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต้องเลือกใช้ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความต่างศักย์และก าลังไฟฟ้าให้เหมาะกับการใช้งาน และใช้อย่างถูกต้อง ประหยัด และปลอดภัย ระบบนิเวศ ความสัมพันธ์กันของสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตในรูปแบบต่าง ๆ กลุ่มสิ่งมีชีวิตใน ระบบนิเวศ ได้แก่ ผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์มีความสัมพันธ์กันท าให้เกิดการหมุนเวียน สารเป็นวัฏจักร มีการถ่ายทอดพลังงาน การดูแลรักษาระบบนิเวศให้เกิดความสมดุลและคงอยู่ตลอดไป ความหลากหลายทางชีวภาพ ได้แก่ความหลากหลายของระบบนิเวศ ความหลากหลายของชนิดสิ่งมีชีวิต และความหลากหลายทางพันธุกรรม มีความส าคัญต่อการรักษาสมดุลของระบบนิเวศและมีความส าคัญต่อ มนุษย์จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนในการดูแลรักษาความหลากหลายทางชีวภาพให้คงอยู่ โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร กระบวนการสืบเสาะหาความรูการสืบคนขอมูล การ สังเกต การวิเคราะห การทดลอง การอภิปราย การอธิบาย และสรุปการสืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และอภิปรายเพื่อใหเกิดความรูความคิด ความเขาใจ มีความสามารถในการตัดสินใจสื่อสารสิ่งที่เรียนรูและ น าความรูไปใชในชีวิตของตนเองดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่น เฝาระวังและพัฒนาสิ่งแวดลอมอยางยั่งยืน มีจิตวิทยาศาสตร จริยธรรมคุณธรรม และคานิยม เป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก โดยน้อมน าหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ตัวชี้วัด ว 1.1 ม.3/1, ว 1.1 ม.3/2, ว 1.1 ม.3/3, ว 1.1 ม.3/4, ว 1.1 ม.3/5, ว 1.1 ม.3/6 ว 1.3 ม.3/9, ว 1.3 ม.3/10, ว 1.3 ม.3/11 ว 2.1 ม.3/1, ว 2.1 ม.3/2, ว 2.1 ม.3/3, ว 2.1 ม.3/4,ว 2.1 ม.3/5,ว 2.1 ม.3/6,ว 2.1 ม.3/7,ว 2.1 ม.3/8 ว 2.3 ม.3/1, ว 2.3 ม.3/2, ว 2.3 ม.3/3, ว 2.3 ม.3/4, ว 2.3 ม.3/5, ว 2.3 ม.3/6, ว 2.3 ม.3/7, ว 2.3 ม.3/8, ว 2.3 ม.3/9 รวม 26 ตัวชี้วัด


89 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว23102 รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 5 ปฏิกิริยาเคมี และวัสดุใน ชีวิตประจ าวัน ว 2.1 ม.3/1 ว 2.1 ม.3/2 - พอลิเมอร์เซรามิก และวัสดุผสม เป็นวัสดุที่ ใช้มากในชีวิตประจ าวัน - พอลิเมอร์เป็นสารประกอบโมเลกุลใหญ่ พอลิเมอร์ที่มีสมบัติแตกต่างกัน โดยพลาสติก เป็นพอลิเมอร์ที่ขึ้นรูปเป็นรูปทรงต่าง ๆ ได้ ยางยืดหยุ่นได้ส่วนเส้นใยเป็นพอลิเมอร์ที่ สามารถดึงเป็นเส้นยาวได้พอลิเมอร์จึงใช้ ประโยชน์ได้แตกต่างกัน - เซรามิกเป็นวัสดุที่ผลิตจาก ดิน หิน ทราย และแร่ธาตุต่าง ๆ จากธรรมชาติจะผ่านการ เผาที่อุณหภูมิสูง ท าเป็นรูปทรงต่าง ๆ ได้ สมบัติทั่วไปของเซรามิกจะแข็ง ทนต่อการสึก กร่อน และเปราะ สามารถน าไปใช้ประโยชน์ได้ - วัสดุผสมเป็นวัสดุที่เกิดจากวัสดุตั้งแต่ 2 ประเภท ที่มีสมบัติแตกต่างกันมารวมตัวกัน เพื่อน าไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น - วัสดุบางชนิดสลายตัวยากอาจก่อปัญหาต่อ สิ่งแวดล้อม - แนวทางการใช้วัสดุอย่างประหยัดและคุ้มค่า 21 23 ว 2.1 ม.3/3 - การเกิดปฏิกิริยาเคมีหรือการเปลี่ยนแปลง ทางเคมีของสาร การเกิดปฏิกิริยาเคมีสามารถ เขียนแทนได้ด้วยสมการข้อความ - การเกิดปฏิกิริยาเคมีอะตอมของสารตั้งต้น จะมีการจัดเรียงตัวใหม่ ได้เป็นผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีสมบัติแตกต่างจากสารตั้งต้น โดยอะตอม แต่ละชนิด ก่อนและหลังเกิดปฏิกิริยาเคมี มีจ านวนเท่ากัน ว 2.1 ม.3/4 - เมื่อเกิดปฏิกิริยาเคมีมวลรวมของสารตั้งต้น เท่ากับมวลรวมของผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นไปตาม กฎทรงมวล


90 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน ว 2.1 ม.3/5 - การเกิดปฏิกิริยาเคมีจะมีการถ่ายโอน ความร้อนควบคู่ไปกับการจัดเรียงตัวใหม่ของ อะตอมของสาร วัดอุณหภูมิได้โดยใช้เครื่องมือ ที่เหมาะสม ว 2.1 ม.3/6 - ปฏิกิริยาเคมีที่พบในชีวิตประจ าวันมีหลาย ชนิด เช่น ปฏิกิริยาการเผาไหม้การเกิดสนิม ของเหล็ก ปฏิกิริยาของกรดกับโลหะ ปฏิกิริยา ของกรดกับเบส ปฏิกิริยาของเบสกับโลหะ การเกิดฝนกรด การสังเคราะห์ด้วยแสง ปฏิกิริยาเคมีสามารถเขียนแทนได้ด้วยสมการ ข้อความ - การเกิดสนิมของเหล็ก เกิดจากปฏิกิริยาเคมี ระหว่างเหล็ก น้ า และออกซิเจน ได้ผลิตภัณฑ์ เป็นสนิมของเหล็ก - ปฏิกิริยาการเผาไหม้และการเกิดสนิมของ เหล็ก เป็นปฏิกิริยาระหว่างสารต่าง ๆ กับออกซิเจน - ปฏิกิริยาของกรดกับโลหะ กรดท าปฏิกิริยา กับโลหะได้หลายชนิด ได้ผลิตภัณฑ์เป็นเกลือ ของโลหะและแก๊สไฮโดรเจน - ปฏิกิริยาของกรดกับสารประกอบคาร์บอเนต ได้ผลิตภัณฑ์เป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เกลือของโลหะ และน้ า - ปฏิกิริยาของกรดกับเบส ได้ผลิตภัณฑ์เป็น เกลือของโลหะและน้ า หรืออาจได้เพียงเกลือ ของโลหะ - ปฏิกิริยาของเบสกับโลหะบางชนิด ได้ ผลิตภัณฑ์เป็นเกลือของเบสและแก๊สไฮโดรเจน - การเกิดฝนกรด เป็นผลจากปฏิกิริยาระหว่าง น้ าฝนกับออกไซด์ของไนโตรเจน หรือออกไซด์ ของซัลเฟอร์ท าให้น้ าฝนมีสมบัติเป็นกรด - การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช เป็นปฏิกิริยา ระหว่างแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์กับน้ า โดยมี แสงช่วยในการเกิดปฏิกิริยา ได้ผลิตภัณฑ์เป็น น้ าตาลกลูโคสและออกซิเจน


91 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน ว 2.1 ม.3/7 ว 2.1 ม.3/8 - ปฏิกิริยาเคมีที่พบในชีวิตประจ าวันมีทั้ง ประโยชน์และโทษต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนรู้จักวิธีป้องกันและแก้ปัญหาที่เกิดจาก ปฏิกิริยาเคมีที่พบในชีวิตประจ าวัน - ความรู้เกี่ยวกับปฏิกิริยาเคมีสามารถ บูรณาการกับคณิตศาสตร์เทคโนโลยีและ วิศวกรรมศาสตร์เพื่อใช้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้มี คุณภาพตามต้องการ 6 ไฟฟ้า ว 2.3 ม.3/1 ว 2.3 ม.3/2 ว 2.3 ม.3/3 - เมื่อต่อวงจรไฟฟ้าครบวงจรจะมีกระแสไฟฟ้า ออกจากขั้วบวกผ่านวงจรไฟฟ้าไปยังขั้วลบของ แหล่งก าเนิดไฟฟ้า - ขนาดของกระแสไฟฟ้ามีค่าแปรผันตรงกับ ความต่างศักย์ระหว่างปลายทั้งสองของตัวน า โดยอัตราส่วนระหว่างความต่างศักย์และ กระแสไฟฟ้ามีค่าคงที่ เรียกค่าคงที่นี้ว่า ความต้านทาน 24 31 ว 2.3 ม.3/4 ว 2.3 ม.3/5 - ในวงจรไฟฟ้าประกอบด้วยแหล่งก าเนิดไฟฟ้า สายไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า มีการต่อ วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน เขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้า - การต่อตัวต้านทานหลายตัวแบบอนุกรมใน วงจรไฟฟ้า ความต่างศักย์ที่คร่อมตัวต้านทาน แต่ละตัวมีค่าเท่ากับผลรวมของความต่างศักย์ ที่คร่อมตัวต้านทานแต่ละตัว โดยกระแสไฟฟ้า ที่ผ่านตัวต้านทานแต่ละตัวมีค่าเท่ากัน ว 2.3 ม.3/6 ว 2.3 ม.3/7 - ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีหลายชนิด แต่ละชนิด ท าหน้าที่แตกต่างกันเพื่อให้วงจรท างานได้ - ตัวต้านทานท าหน้าที่ควบคุมปริมาณ กระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า ไดโอดท าหน้าที่ให้กระแสไฟฟ้าผ่านทางเดียว ทรานซิสเตอร์ท าหน้าที่เป็นสวิตช์ปิดหรือเปิด วงจรไฟฟ้าและควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้า ตัวเก็บประจุท าหน้าที่เก็บและคายประจุไฟฟ้า - เขียนแผนภาพและต่อชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อย่างง่ายในวงจรไฟฟ้า


92 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน ว 2.3 ม.3/8 ว 2.3 ม.3/9 - เครื่องใช้ไฟฟ้าจะมีค่าก าลังไฟฟ้าและ ความต่างศักย์ก ากับไว้ค่าไฟฟ้าส่วนใหญ่ คิดจากพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ทั้งหมด - การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจ าวันต้อง เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความต่างศักย์และ ก าลังไฟฟ้าให้เหมาะกับการใช้งาน และ ใช้อย่างถูกต้อง ประหยัด และปลอดภัย 7 ระบบนิเวศ และความ หลาหลาย ทางชีวภาพ ว 1.1 ม.3/1 - ระบบนิเวศประกอบด้วยองค์ประกอบที่มีชีวิต และองค์ประกอบที่ไม่มีชีวิต มีปฏิสัมพันธ์กัน 12 16 ว 1.1 ม.3/2 - สิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตมีความสัมพันธ์กันใน รูปแบบต่าง ๆ เช่น ภาวะพึ่งพากัน ภาวะ อิงอาศัย ภาวะเหยื่อกับผู้ล่า ภาวะปรสิต - สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันที่อาศัยอยู่ร่วมกันใน แหล่งที่อยู่เดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน เรียกว่า ประชากร - กลุ่มสิ่งมีชีวิตประกอบด้วยประชากรของ สิ่งมีชีวิตหลาย ๆ ชนิด อาศัยอยู่ร่วมกันใน แหล่งที่อยู่เดียวกัน ว 1.1 ม.3/3 ว 1.1 ม.3/4 ว 1.1 ม.3/5 ว 1.1 ม.3/6 - กลุ่มสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศแบ่งตามหน้าที่ได้ เป็น ๓ กลุ่ม ได้แก่ผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้ย่อย สลายสารอินทรีย์สิ่งมีชีวิตทั้ง ๓ กลุ่มนี้ มีความสัมพันธ์กัน ท าให้เกิดการหมุนเวียนสาร เป็นวัฏจักร ท าให้กลุ่มสิ่งมีชีวิตอยู่อย่างสมดุล - พลังงานถูกถ่ายทอดจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค ล าดับต่าง ๆ รวมทั้งผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์ ในรูปแบบสายใยอาหาร ที่ประกอบด้วย โซ่อาหารหลายโซ่ที่สัมพันธ์กัน - การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ อาจท า ให้มีสารพิษสะสมอยู่ในสิ่งมีชีวิตได้ดังนั้น การดูแลรักษาระบบนิเวศให้เกิดความสมดุล และคงอยู่ตลอดไปจึงเป็นสิ่งส าคัญ


93 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน ว 1.3 ม.3/9 ว 1.3 ม.3/10 ว 1.3 ม.3/11 - ความหลากหลายทางชีวภาพ มี๓ ระดับ ได้แก่ความหลากหลายของระบบนิเวศ ความหลากหลายของชนิดสิ่งมีชีวิต และ ความหลากหลายทางพันธุกรรม - ความหลากหลายทางชีวภาพนี้มีความส าคัญ ต่อการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ ระบบนิเวศ ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง จะรักษา สมดุลได้ดี - ความหลากหลายทางชีวภาพยังมีความส าคัญ ต่อมนุษย์ในด้านต่าง ๆ เช่น ใช้เป็นอาหาร ยารักษาโรค วัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของทุกคนในการดูแลรักษา ความหลากหลายทางชีวภาพให้คงอยู่ รวมเวลาเรียน 54 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 3/3 70/30 รวมตลอดภาคเรียน 60 100


94 ค าอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ว23181 รายวิชาการออกแบบและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เวลา 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ศึกษา เกี่ยวกับเทคโนโลยีวิเคราะห์สาเหตุ หรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์เพื่อเป็นแนว ทางการแก้ปัญหาหรือ พัฒนางาน ระบุปัญหาหรือความต้องการของชุมชนหรือท้องถิ่น เพื่อพัฒนางาน อาชีพ สรุปกรอบของปัญหา รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหา โดยค านึงถึงความ ถูกต้องด้านทรัพย์สินทางปัญญา และออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จ าเป็น ภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรที่มีอยู่ น าเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อื่นเข้าใจด้วยเทคนิค หรือวิธีการที่หลากหลาย วางแผนขั้นตอนการทา งานและด าเนินการแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์และให้เหตุผลของปัญหาหรือ ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นภายใต้กรอบเงื่อนไข พร้อมทั้งหา แนวทางการ ปรับปรุงแก้ไข และน าเสนอผลการ แก้ปัญหา โดยใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ให้ ถูกต้องกับลักษณะของงาน และปลอดภัย เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน และเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ าหน้าทาง ความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมน าหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ว 4.1 ม.3/1, ว 4.1 ม.3/2, ว 4.1 ม.3/3, ว 4.1 ม.3/4, ว 4.1 ม.3/5 รวมทั้งหมด 5 ตัวชี้วัด


95 โครงสร้างรายวิชา รหัส ว23181 รายวิชาการออกแบบและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เวลา 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 1 เทคโนโลยีกับชีวิต ว 4.1 ม.3/1 การศึกษาสาเหตุในการเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เช่น ความต้องการของมนุษย์ความก้าวหน้า ของศาสตร์ต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลง ทางด้าน เศรษฐกิจ สังคม และ วัฒนธรรมที่ท าให้เกิดการพัฒนา เทคโนโลยีขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาหรือความ ต้องการของมนุษย์โดยจะต้องศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับ ศาสตร์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์มนุษยศาสตร์หรือ สังคมศาสตร์เพื่อที่น าความรู้เหล่านั้น ไปสู่การพัฒนา เทคโนโลยีและการสร้าง องค์ความรู้ใหม่ๆ จนสามารถ พัฒนาขึ้น ไปเป็นการสร้างนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหา อย่าง ยั่งยืน 5 20 2 เทคโนโลยีกับการ พัฒนางาน อาชีพ ภายในชุมชนหรือ ท้องถิ่น ว 4.1 ม.3/2 ว 4.1 ม.3/3 การส ารวจปัญหาหรือความต้องการเพื่อ น ามาพัฒนางานอาชีพ ในชุมชนหรือ ท้องถิ่น จะต้องท าการรวบรวมข้อมูล ความรู้จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ด้วย วิธีการที่หลากหลาย เช่น การศึกษา จากเอกสารต ารา การสัมภาษณ์การ ส ารวจสภาพปัญหาของ ชุมชนหรือ ท้องถิ่น จากแบบสอบถาม จากนั้นน า ข้อมูลไป แบ่งตามประเภทของปัญหา แล้ววิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูล เพื่อน า ข้อมูลนั้นมาตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยี ในการออกแบบ แนวทางการแก้ปัญหา โดยพิจารณาจากปัจจัยด้านต่าง ๆ ทั้ง ด้านทรัพยากรทางเทคโนโลยีการ ประเมินผลกระทบต่อมนุษย์และสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมในชุมชนหรือ 4 15


96 หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน ท้องถิ่น และการ ใช้เทคนิคในการ น าเสนอแนวทางการแก้ปัญหาด้วย วิธีการที่ หลากหลาย วางแผนการ ด าเนินการอย่างมีหลักการ เพื่อลด ข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่าง การด าเนินงาน 3 วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ และ ความรู้ในการ แก้ปัญหาหรือ พัฒนางาน ว 4.1 ม.3/5 ในการพัฒนาชิ้นงานหรือนวัตกรรมใด จะต้องมีการศึกษาสมบัติของวัสดุ ประเภทต่าง ๆ เพื่อเลือกใช้ให้เหมาะสม กับ ลักษณะของงานซึ่งจะท าให้สามารถ สร้างชิ้นงานจากวัสดุที่มีความคงทน แข็งแรงหรือมีสมบัติตรงตามที่ต้องการ นอกจากนั้นยังจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับ วิธีการที่ต้องใช้ในการ สร้างชิ้นงาน เช่น กลไกและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อ ใช้ ในการออกแบบโครงสร้างของชิ้นงาน การก าหนดแหล่ง พลังงาน กลไกการ ท างาน หรือส่วนประกอบต่าง ๆ ที่มี มาตรฐาน แข็งแรง ทนทาน ปลอดภัย และใช้งานได้จริง 4 15 4 การแก้ปัญหา ชุมชนหรือ ท้องถิ่นด้วย กระบวนการ ออกแบบเชิง วิศวกรรม ว 4.1 ม.3/1 ว 4.1 ม.3/2 ว 4.1 ม.3/3 ว 4.1 ม.3/4 กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมเป็น กระบวนการ แก้ปัญหาหรือพัฒนา ชิ้นงานอย่างเป็นขั้นตอนภายใต้ ทรัพยากรที่มีอยู่การวิเคราะห์ สถานการณ์ของปัญหา ผลกระทบของ การแก้ปัญหา เพื่อน าไปสู่การออกแบบ แนวทางการแก้ปัญหา โดยใช้ความรู้ด้าน วิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และศาสตร์ อื่น ๆ ส าหรับกระบวนการออกแบบเชิง วิศวกรรม โดยการพัฒนาชุมชนอย่าง ยั่งยืนนั้น จะมุ่งเน้น พัฒนาชุมชนให้ พึ่งพาตัวเองได้ผ่านการสร้างผู้น าชุมชนที่ เข้มแข็ง ท างานตอบสนองต่อ สภาพแวดล้อมที่เป็น เอกลักษณ์ของแต่ ละชุมชน น าวิธีการพัฒนาที่ได้ผลมาใช้ 7 30


97 หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน แก้ปัญหาที่ส าคัญของชุมชนและกระตุ้น ให้เกิดการลงมือท า ตลอดจนมีการสร้าง เศรษฐกิจให้กับชุมชนและประชาชนใน การใช้ทรัพยากรต่าง ๆ เป็นเครื่องมือใน การท างานและสร้าง อาชีพได้โดยอาศัย กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมมา ช่วยในการสร้างงาน เพื่อน าไปสู่การ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนอย่างยั่งยืน รวมเวลาเรียน 18 80 ระหว่างภาค/ปลายภาค 1/1 80/20 รวมตลอดภาคเรียน 20 100


Click to View FlipBook Version