The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตร วิทย์ ม.ต้น (ฉบับบปรับปรุง 2566 )

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pinyo1154, 2023-07-25 19:24:36

หลักสูตร วิทย์ ม.ต้น (ฉบับบปรับปรุง 2566 )

หลักสูตร วิทย์ ม.ต้น (ฉบับบปรับปรุง 2566 )

98 ค าอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ว23182 รายวิชาวิทยาการค านวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เวลา 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ศึกษาขั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชัน Internet of Things (IoT )การเขียนโปรแกรมเพื่อพัฒนา แอปพลิเคชัน ข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ การประมวลผลข้อมูล การสร้างทางเลือกและประเมินผล ซอฟต์แวร์หรือบริการบน อินเทอร์เน็ตที่ใช้ในการจัดการข้อมูล การประเมินการความน่าเชื่อถือของข้อมูล การสืบค้นหาแหล่งต้นตอของข้อมูล เหตุผลวิวัติ ผลกระทบจากข่าวสารที่ผิดพลาด การรู้เท่าทันสื่อ กฎหมายที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ การใช้ลิขสิทธิ์ของ ผู้อื่นโดยชอบธรรม รวบรวมข้อมูลปฐมภูมิหรือทุติยภูมิ ประมวลผล สร้างทางเลือก และน าเสนอการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ออกแบบและเขียนโปรแกรม เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีการบูรณาการกับวิชาอื่นอย่างสร้างสรรค์ ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างรู้เท่าทัน และมีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก โดยน้อมน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ว 4.2 ม.3/1, ว 4.2 ม.3/2, ว 4.2 ม.3/3, ว 4.2 ม.3/4 รวมทั้งหมด 4 ตัวชี้วัด


99 โครงสร้างรายวิชา รหัส ว23182 รายวิชาวิทยาการค านวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เวลา 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 2 ความน่าเชื่อถือ ของข้อมูล ว 4.2 ม.3/3 ในปัจจุบันการได้มาซึ่งข้อมูลในยุคดิจิทัล เพื่อน าไปใช้ประโยชน์นั้น สิ่งส าคัญสิ่ง หนึ่ง คือ ความน่าเชื่อถือของข้อมูล ซึ่ง เป็นปัจจัย ส าคัญต่อคุณภาพของข้อมูล หากข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ไม่มีความ น่าเชื่อถือ จะไม่สามารถน าข้อมูล ดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ โดยความน่าเชื่อถือของ ข้อมูลจ าเป็นต้องเริ่มจากการ สืบค้นเพื่อ หาแหล่งข้อมูลที่มีคุณภาพ และ ด าเนินการประเมิน ความน่าเชื่อถือของ ข้อมูลตามล าดับ ซึ่งหลักการประเมิน ความ น่าเชื่อถือของข้อมูลเป็นขั้นตอน ในการประเมินเพื่อคัดเลือกข้อมูล ที่ได้ จากการสืบค้นที่มีคุณภาพ มีความ น่าเชื่อถือทางวิชาการ มีหลักเกณฑ์ใน การประเมิน ดังนี้ประเมินตรงความ ต้องการของ ข้อมูล ประเมินความ น่าเชื่อถือและความทันสมัยของข้อมูล ประเมินระดับเนื้อหาของข้อมูล และ จะต้องมีการตรวจสอบความ น่าเชื่อถือ ของแหล่งข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็น จริง มีคุณภาพ นอกจากการรับรู้ความ น่าเชื่อถือของข้อมูลแล้ว จ าเป็นต้องมี การ รู้เท่าทันสื่อ ซึ่งจะได้ไม่หลงเชื่อ เนื้อหาที่ได้อ่าน ได้ฟัง แต่มักจะ สามารถ ใช้ความคิดและประสบการณ์ในการ วิเคราะห์ รู้จักตั้ง ค าถาม และมีแหล่ง อ้างอิงให้เกิดความน่าเชื่อถือมากน้อย เพียงใด 4 20


100 หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 3 เทคโนโลยี สารสนเทศ ว 4.2 ม.3/4 เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นการน า เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้ใน กระบวนการท างานต่าง ๆ เพื่อใช้จัดการ ข้อมูลที่เกิดขึ้นในการท างานของบุคคล หน่วยงาน หรือองค์กร เพื่อให้ได้มาซึ่ง สารสนเทศที่น าไปใช้งานตาม วัตถุประสงค์ที่ต้องการ ซึ่งในปัจจุบัน เทคโนโลยีสารสนเทศมีการพัฒนาอย่าง รวดเร็ว ประกอบกับเทคโนโลยี สารสนเทศได้สร้างการเปลี่ยนแปลงต่อ ระบบทางสังคม และองค์กรต่าง ๆ โดยมี การน าเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ใน ระดับประเทศ ระดับองค์กรหรือ หน่วยงาน และระดับบุคคล 2 10 4 แอปพลิเคชัน ว 4.2 ม.3/1 แอปพลิเคชันได้เข้ามามีบทบาทกับคนใน สังคมเป็นอย่างมากทั้งทางด้าน การศึกษา การสาธารณสุขหรือ ความบันเทิง ซึ่งในการ พัฒนา แอปพลิเคชันนั้นจะต้องมีการออกแบบ แอปพลิเคชันก่อน เพื่อให้ได้แอปพลิเค ชันที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งแอปพลิเคชันสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ แอปพลิเคชันระบบ เป็นส่วนของซอฟต์แวร์พื้นฐานหรือ ระบบปฏิบัติการที่เป็นตัวรองรับ การใช้ งานของแอปพลิเคชันอื่นหรือโปรแกรม ต่าง ๆ ที่ติดตั้งอยู่ ภายในอุปกรณ์ เทคโนโลยีและแอปพลิเคชันที่ ตอบสนองความ ต้องการของกลุ่มผู้ใช้ เป็นส่วนของโปรแกรมประยุกต์ที่ท างาน ภายใต้ระบบปฏิบัติการ มีวัตถุประสงค์ เฉพาะอย่าง เช่น เพื่อการศึกษา 7 30 รวมเวลาเรียน 18 80 ระหว่างภาค/ปลายภาค 1/1 80/20 รวมตลอดภาคเรียน 20 100


101 ค าอธิบายรายวิชา รหัส ว23201 รายวิชาไฟฟ้าและเครื่องกล กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เวลา 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับระบบความปลอดภัยในงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ แหล่งก าเนิดไฟฟ้า กฎของโอมห์ พลังงานไฟฟ้า วงจรไฟฟ้าเบื้องต้น วงจรไฟฟ้าแสงสว่าง การควบคุมไฟฟ้า โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสาธิต การทดลอง การคิดค านวณ การส ารวจตรวจสอบ การอภิปราย ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจเห็นคุณค่าของการน าไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ าวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสอง ภาษา ล้ าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมน าหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายของประจุไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าได้ 2. บอกวิธีการผลิตไฟฟ้าได้ 3. อธิบายหลักการของเซลล์ไฟฟ้าเคมี เซลล์สุริยะ และไดนาโมได้ 4. อธิบายความหมายของความต่างศักดิ์ไฟฟ้าและความต้านทานไฟฟ้าได้ 5. บอกความสัมพันธ์ระหว่างความต่างศักดิ์ไฟฟ้ากับกระแสไฟฟ้าได้ 6. บอกความสัมพันธ์ระหว่างความต้านทานไฟฟ้ากับกระแสไฟฟ้าได้ 7. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้า ความต่างศักดิ์ไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้าได้ 8. ทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้า ความต่างศักดิ์ไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้า 9. ค านวณเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้า ความต่างศักดิ์ไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้า 10. อธิบายความหมายของวงจรไฟฟ้าและชนิดของวงจรไฟฟ้าได้ 11. สามารถต่อวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนานได้ 12. สามารถค านวณเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างก าลังไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และความต่างศักดิ์ไฟฟ้า 13. อธิบายหลักการท างานของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานแสงได้ 14. อธิบายหลักการท างานของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อนได้ 15. อธิบายหลักการท างานของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกลได้ 16. อธิบายหลักการท างานของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานเสียงได้ 17. สามารถเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงในการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานอื่นได้ รวมทั้งหมด 17 ผลการเรียนรู้


102 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว23201 รายวิชาไฟฟ้าและเครื่องกล กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เวลา 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 1 กระแสไฟฟ้า ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6 ไฟฟ้า เป็นคุณสมบัติพื้นฐานของ อนุภาคซึ่งเล็กกว่าอะตอม ซึ่งอะตอม ประกอบด้วยโปรตอนที่เป็นประจุไฟฟ้า บวกและอิเล็กตรอนที่เป็นประจุไฟฟ้าลบ ในจ านวนที่เท่ากัน ซึ่งท าให้ธาตุชนิดนั้น มีสภาพเป็นกลาง เมื่อวัตถุสองชนิดเกิด การเสียดสีกัน จะเกิดการถ่ายเทประจุ ไฟฟ้า การเคลื่อนที่ของประจุไฟฟ้าหรือ การเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอน ซึ่งถ้า อิเล็กตรอนสถิตอยู่ในวัตถุ ประจุไฟฟ้าจะ ไม่มีการเคลื่อนที่ แต่สามารถส่งพลังงาน ไฟฟ้าออกมารอบๆ เรียกว่า ไฟฟ้าสถิต 9 20 2. วงจรไฟฟ้า ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 ข้อ 11 วงจรไฟฟ้าเป็นเส้นทางการเคลื่อนที่ ของประจุไฟฟ้า การเคลื่อนที่จะเกิดขึ้น ได้จะต้องมีแหล่งก าเนิดพลังงานไฟฟ้า ต่อเชื่อมเข้ากับเส้นลวดตัวน า และ อุปกรณ์ไฟฟ้าหนึ่งหรือสองชนิด เช่น สวิตช์ ความต้านทาน แอมมิเตอร์ โวลต์มิเตอร์ หรือหลอดไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าจะไหลออกจากแหล่งก าเนิด ไปโดยรอบวงจรที่ต่อเชื่อมกัน 9 20


103 หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 3 ตัวต้านทาน ข้อ 12 ข้อ 13 ข้อ 14 ข้อ 15 ตัวต้านทาน (Resistor) คือ อุปกรณ์ที่ท าหน้าที่ลดปริมาณของ กระแสไฟฟ้า(เพิ่มความต้านทาน) ให้กับวงจรไฟฟ้า ตัวต้านทาน โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 4 ชนิด คือ 1. ตัวต้านทานแบบค่าคงที่ (fix resistor) 2. ตัวต้านทานแบบเปลี่ยนแปลงค่า ได้ (variable or adjustable resistor) 3. ตัวต้านทานไวความร้อน (Thermistor) 4. ตัวต้านทานไวแสง (Light dependent resistor : LDR) 9 20 4 กฎของ โอห์ม ข้อ 13 ข้อ 14 ข้อ 15 ข้อ 16 ข้อ 17 ข้อ 18 ยอร์ช ไซมอน โอห์ม (Georg Simon Ohm) ได้ค้นพบ ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้ากับ ความต้านทาน กล่าวคือ ค่าความ ต้านทานของวัตถุต่างๆ สามารถวัด ได้จากอัตราส่วนของความต่างศักย์ ระหว่างปลายทั้งสองของวัตถุกับ กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านวัตถุ 10 10 รวมเวลาเรียน 37 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 1.5/1.5 70/30 รวมตลอดภาคเรียน 40 100


104 ค าอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รหัส ว23202 รายวิชาอิเลคทรอนิคเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เวลา 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ศึกษาและปฏิบัติงานเกี่ยวกับหลักการท างาน ระบบความปลอดภัย ในงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ แหล่งก าเนิดไฟฟ้า กฎของโอห์ม พลังงานไฟฟ้า วงจรไฟฟ้าเบื้องต้น วงจรไฟฟ้าแสงสว่าง การควบคุม มอเตอร์เบื้องต้น อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าและการต่อสายดิน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ R L C หม้อแปลงไฟฟ้า รีเลย์ ไมโครโฟน ล าโพง อุปกรณ์สารกึ่งตัวน า เทคนิคการบัดกรี การใช้มัลติมิเตอร์ เครื่องก าเนิดสัญญาณ ออสซิลโลสโคป การประกอบวงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น มีความสามารถในการตัดสินใจเห็นคุณค่าของการน าไปใช้ประโยชน์ ในชีวิต ประจ าวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมน าหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1.บอกถึงอันตรายของไฟฟ้าได้ 2.อธิบายวิธีการป้องกันอันตรายที่เกิดจากไฟฟ้าได้ 3.ปฐมพยาบาลผู้ถูกกระแสไฟฟ้าดูดได้ 4.สามารถปฏิบัติงานทางด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างปลอดภัย 5.บอกประโยชน์ของอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าได้ 6.อธิบายโครงสร้างของฟิวส์แต่ละชนิดได้ 7.อธิบายหลักการท างานของสวิตช์ตัดวงจรอัตโนมัติได้ 8.สามารถติดตั้งเครื่องตัดกระแสไฟฟ้าอัตโนมัติเข้ากับระบบไฟฟ้าได้อย่างถูกต้อง 9.บอกวิธีการปรับความไวของเครื่องตัดกระแสไฟฟ้าอัตโนมัติได้อย่างถูกต้อง 10.เลือกขนาดของสายดินและการต่อลงดินได้อย่างถูกต้อง 11.บอกความหมายและจุดประสงค์ของการควบคุมมอเตอร์ได้ 12.บอกอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมมอเตอร์ได้ 13.อธิบายหลักการท างานของมอเตอร์ไฟฟ้า 1 เฟส และ 3 เฟส ได้ 14.อธิบายวิธีการควบคุมมอเตอร์ 1 เฟส และ 3 เฟส ได้ 15.บอกลักษณะโครงสร้างของตัวต้านทานแต่ละแบบได้ถูกต้อง 16.เลือกใช้งานตัวต้านทานแต่ละชนิดได้เหมาะสมและถูกต้อง 17.อ่านค่าความต้านทานจากรหัสสีได้ถูกต้อง 18.วัดและทดสอบค่าความต้านโดยใช้โอห์มมิเตอร์ได้ รวมทั้งหมด 18 ผลการเรียนรู้


105 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว23202 รายวิชาอิเลคทรอนิคเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เวลา 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต หน่วย ที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 1 ความ ปลอดภัยใน งานไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ไฟฟ้าเป็นพลังงานชนิดหนึ่ง มีทั้งโทษ และประโยชน์ในเวลาเดียวกัน หาก ใช้ถูกวิธีจะเกิดประโยชน์มหาศาล หากใช้ผิดวิธีจะมีโทษมหาศาล เช่นเดียวกัน การเกิดไฟฟ้าดูดเกิด จากกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกาย ซึ่งอันตรายมากน้อยที่เกิดต่อร่างกาย จะแตกต่างกัน ตามปริมาณ กระแสไฟฟ้าไหลผ่านและระยะเวลา ที่กระแสไหลผ่าน 9 20 2. อุปกรณ์ ป้องกันไฟฟ้า และการต่อ สายดิน ข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 ไฟฟ้าที่ใช้ตามบ้านเรือนเป็นไฟฟ้า กระแสสลับ นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า ไฟเอซี (AC : Alternating Current) จะต้องท าความเข้าใจถึงหลักการ ท างานของอุปกรณ์ป้องกันแต่ละ ชนิด เพื่อให้สามารถเลือกใช้อุปกรณ์ ป้องกันได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม มีความปลอดภัย อุปกรณ์ป้องกันทาง ไฟฟ้าที่นิยมใช้กันทั่วไปตาม บ้านเรือนและอาคารส านักงานต่าง ๆ ได้แก่ ฟิวส์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ สวิตช์ทิชิโน่ โหลดเซ็นเตอร์ เซฟตี้ สวิตช์ และ กราวด์ร๊อด 9 15


106 หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ รหัสตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 3 การควบคุม มอเตอร์ เบื้องต้น ข้อ 11 ข้อ 12 ข้อ 13 ข้อ 14 มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับที่ใช้ งานโดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 ชนิดคือ 1 เฟส และ 3 เฟส การที่จะท า ให้มอเตอร์หมุนจะต้องมีอุปกรณ์ ควบคุมและป้องกันเช่น สวิตช์ ฟิวส์ คอนแทกเตอร์ โอเวอร์ โหลดรีเลย์ไทม์เมอร์รีเลย์ เป็น ต้น วงจรควบคุมมอเตอร์มีหน้าที่ ส าคัญคือ ควบคุมความเร็ว กลับ ทิศทางการหมุน ป้องกันโหลด มอเตอร์เกินซึ่งจะขึ้นอยู่กับการ ใช้งานและการออกแบบวงจร ควบคุมให้เหมาะสมกับงาน 9 15 4 ตัวต้านทาน ข้อ 15 ข้อ 16 ข้อ 17 ข้อ 18 ตัวต้านทานมีค่าหลายชนิดการ จะเลือกใช้งานได้ถูกต้องและ เหมาะสมจ าเป็นต้องรู้ถึงการ ก าหนดค่าและหน่วยของความ ต้านทาน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การก าหนดค่าของ ความต้านทานจะจัดอยู่ใน ลักษณะต่างกัน เช่น การก าหนดค่าด้วยตัวเลข ตัวอักษร 10 20 รวมเวลาเรียน 37 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 1.5/1.5 70/30 รวมตลอดภาคเรียน 40 100


107 อภิธานศัพท์ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Process) เป็นกระบวนการในการศึกษาหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนหลัก คือ การตั้งค าถามหรือก าหนดปัญหา การสร้างสมมติฐานหรือการคาดการณ์ค าตอบ การออกแบบวิธีการ เก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูล การลงข้อสรุป และการสื่อสาร การแก้ปัญหา (Problem Solving) เป็นการหาค าตอบของปัญหาที่ยังไม่รู้วิธีการมาก่อน ทั้งปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาใน วิทยาศาสตร์โดยตรง และปัญหาในชีวิตประจ าวัน โดยใช้เทคนิค วิธีการหรือกลยุทธ์ต่างๆ การวิเคราะห์ (Analyzing) เป็นระดับของผลการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถแยกแยะข้อมูลหรือข้อสนเทศ เพื่อเชื่อมโยง ความสัมพันธ์ การสังเกต (Observation) เป็นวิธีการหาข้อมูลโดยตรงโดยใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า ได้แก่ การดู การดม การฟัง การชิม และการสัมผัส การสืบค้นข้อมูล (Search) เป็นการหาข้อมูลหรือข้อสนเทศที่มีผู้รวบรวมไว้แล้วจากแหล่งต่าง ๆ เช่น ห้องสมุด เครือข่าย อินเทอร์เน็ต ภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นต้น การสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Inquiry) เป็นการหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือวิธีการอื่น ๆ เช่น การส ารวจ การสังเกต การวัด การจ าแนกประเภท การทดลอง การสร้างแบบจ าลอง การสืบค้นข้อมูล เป็นต้น การส ารวจ (Exploration) เป็นการหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ โดยใช้วิธีการและเทคนิคต่าง ๆ เช่น การสังเกต การ สั ม ภ า ษ ณ์ ก า ร เ ก็ บ ตั ว อ ย่ าง เ พื่ อ น า ม า วิ เ ค ร า ะ ห์ จ า แ น ก ห รื อ ห า ค ว า ม สั ม พั น ธ์ การส ารวจตรวจสอบ (Scientific Investigation) เป็นวิธีการหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ โดยผ่านการรวบรวมข้อมูล ใช้ความคิดที่มีเหตุผลในการ ตั้งสมมติฐาน อธิบายและแปลความหมายข้อมูล การส ารวจตรวจสอบท าได้หลายวิธี เช่น การ สังเกต การส ารวจ การทดลอง เป็นต้น


108 ความเข้าใจ (Understanding) เป็นระดับของผลการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถอธิบาย เปรียบเทียบ แยกประเภท ยกตัวอย่าง เขียนแผนภาพ เลือก ระบุ เลือกใช้เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ จิตวิทยาศาสตร์ (Scientific mind / Scientific attitudes) เป็นคุณลักษณะหรือลักษณะนิสัยของบุคคลที่เกิดขึ้นจากการศึกษาหาความรู้โดยใช้กระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ จิตวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วยคุณลักษณะต่าง ๆ ได้แก่ ความสนใจใฝ่รู้ ความมุ่งมั่น อดทน รอบคอบ ความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ ประหยัด การร่วมแสดงความคิดเห็นและยอมรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น ความมีเหตุผล การท างานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสร้างสรรค์ เจตคติต่อวิทยาศาสตร์ (Attitudes Toward Sciences) เป็นความรู้สึกของบุคคลต่อวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นผลจากการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยผ่านกิจกรรม ที่หลากหลาย ความรู้สึกดังกล่าว เช่น ความสนใจ ความชอบ การเห็นความส าคัญและคุณค่า


109 คณะผู้จัดท า ที่ปรึกษา 1. นายธารา พิลาแสง ผู้อ านวยการโรงเรียนค าแสนวิทยาสรรค์ 2. นายทิวากร มาเบ้า รองผู้อ านวยการโรงเรียนค าแสนวิทยาสรรค์ 3. ว่าที่ ร.ต.นพดล ศรีแก้ว รองผู้อ านวยการโรงเรียนค าแสนวิทยาสรรค์ 4. นายภาณุวัฒน์ ศรีโนนยาง รองผู้อ านวยการโรงเรียนค าแสนวิทยาสรรค์ 5. นางศุภิญญา วงศ์หาจักร รองผู้อ านวยการโรงเรียนค าแสนวิทยาสรรค์ คณะท างาน 1. นายอาทร สอนสุภาพ ประธานคณะท างาน 2. นางช่อทิพย์ คาสเตลีน คณะท างาน 3. นางสุภาพร จิตะรักษ์ คณะท างาน 4. นางอรุณี บุญแสนแผน คณะท างาน 5. นางภิญโญ สงไพรสน คณะท างาน 6. นางสาวรุ่งจิต แสนดี คณะท างาน 7. นางสาวมยุรี นาชัยสิทธิ์ คณะท างาน 8. นายพิทักษ์พงศ์ บัวชาน้อย คณะท างาน 9. นางปรียาภัทร์ พลคุป คณะท างาน 10. นางสาวอรนุช สอนสุภาพ คณะท างาน 11. นางสุดารัตน์ พิสิทธิ์ คณะท างาน 12. นางภิญญาพัชญ์ พลทา คณะท างาน 13. นางธิดารัตน์ พร้อมพรั่ง คณะท างาน 14. นางศิลามณี บุตรศรี คณะท างาน 15. นายสายชล ลือค าหาญ คณะท างาน 16. นายวีระศักดิ์ เวียงสมุทร คณะท างาน 17. นางสาวนารีรัตน์ คณาจันทร์ คณะท างาน 18. นางสาวสวรรยา ตาข า คณะท างาน 19. นายอานันท์ ประเสริฐศรี คณะท างาน 20. นางสาวเพชรสุดา ชาอินทร์ คณะท างาน 21. นายกิตติ์วิทยา คงสุ คณะท างาน 22. นายอธิวัฒน์ ศรีบุรินทร์ คณะท างาน 23. นายเจษฎา แข็งฤทธิ์ คณะท างาน 24. นายอรรถพล ภะวะภูทะ คณะท างาน 25. นายเจษฎา จันทเขตต์ คณะท างาน 26. นายน าพล ขาวดีภัทร์ คณะท างาน 27. นางสาวรติกานต์ ทองใบ คณะท างาน 28. นางสาววรานันท์ คตธมาตย์ คณะท างาน


Click to View FlipBook Version