ทศิ ทางเดยี วกันในกรณีทขี่ ้อคาถามเป็นแบบมาตรสว่ นประมาณคา่ นิยมใช้สมั ประสิทธแิ อลฟา (∝ - Coefficient)
เพอ่ื หาค่าความเช่ือม่นั ของแบบสอบถาม
วชิรพันธ์ เชือ้ หมอ (2553, หนา้ 1) กลา่ ววา่ การตรวจสอบความเช่อื มนั่ ของแบบสอบถาม เป็นการ
หาความสอดคล้องภายในโดยพยายามอธิบายวา่ ข้อคาถามแต่ละข้อในข้อคาถามชดุ หนึง่ น้ันเป็นเร่อื งเดียวกันหรือ
ทศิ ทางเดียวกนั ในกรณีที่ขอ้ คาถามเปน็ แบบมาตรสว่ นประมาณคา่ คา่ ความเช่ือม่นั ของแบบสอบถามนิยมใชส้ ัม
ประสทิ ธแิ อลฟา การสอบซา้ กไ็ ด้
จึงสรุปไดว้ ่า การตรวจสอบความเชอื่ มั่นของแบบสอบถาม เปน็ การหาความสอดคล้องภายในโดย
พยายามอธบิ ายว่าข้อคาถามแตล่ ะข้อในข้อคาถามชุดน้ันเป็นเรอื่ งเดยี วกันหรือทิศทางเดียวกนั ขอ้ คาถามเปน็ แบบ
มาตรส่วนประมาณคา่ นิยมใช้สมั ประสทิ ธแิ อลฟา หรือการสอบซา้ ในการศึกษาคร้งั นี้ผรู้ ายงาน
ตรวจสอบความเชื่อมัน่ ของแบบสอบถามจากสูตรสัมประสิทธ์ิแอลฟา
เอกสารเกย่ี วกบั การหาประสิทธิภาพส่ือ
5.1 ความหมายและความสาคัญของการหาประสิทธภิ าพสื่อ
นกั การศึกษากลา่ วถึง ความหมายของการหาประสิทธภิ าพสอ่ื ดงั น้ี
ชยั ยงค์ พรหมวงศ์ (2545, หนา้ 134 – 143) ให้ความหมายคาวา่ ประสทิ ธภิ าพ หมายถึงการนาเอกสาร
ประกอบการเรียนการสอนไปทดลองใช้ตามขน้ั ตอนที่กาหนดไว้ เพ่ือนาข้อมลู มาปรับปรงุ แลว้ นาไปทดลองใชจ้ รงิ
ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรยี นการสอนจะกาหนดเปน็ เกณฑ์ ทผี่ สู้ อนคาดหมายวา่ ผูเ้ รยี นจะเปลี่ยน
พฤติกรรมเปน็ ที่พงึ พอใจโดยกาหนดใหเ้ ปน็ เปอรเ์ ซ็นต์ ผลเฉลยี่ ของคะแนนการประกอบกิจกรรมท้ังหมดของ
ผเู้ รยี นต่อเปอรเ์ ซ็นต์ของผลการสอนหลงั เรยี นของผู้เรยี นท้ังหมด นน่ั คอื E1/E2 หรอื ประสทิ ธิภาพของผลลพั ธ์
ประสิทธภิ าพของผลลัพธ์ หมายถึง การประเมินพฤติกรรมข้นั สุดท้าย (Terminal Behavior) โดย
พิจารณาจากการทดสอบหลงั เรยี น ระดับประสิทธิภาพของของเอกสารประกอบ
การเรยี นการสอนท่ีจะช่วยให้ผเู้ รยี นเกิดการเรียนรแู้ ละเปน็ ระดับท่ผี ู้สร้างเอกสารประกอบการเรียน
การสอนพอใจวา่ เอกสารประกอบการสอนมีประสทิ ธิภาพถึงระดบั แลว้ เอกสารประกอบการเรยี นการสอนน้นั มี
คุณค่าน่าพอใจ เราเรยี กระดับประสิทธภิ าพท่นี ่าพอใจน้ันวา่ เกณฑป์ ระสิทธภิ าพ
ธนพร โมราบตุ ร (2547, หน้า 42) ให้ความหมายคาว่า ประสทิ ธภิ าพ หมายถึง ระดบั ประสทิ ธิภาพทจ่ี ะ
ช่วยให้ผเู้ รยี นเกดิ การเรยี นร้เู ป็นระดบั ท่ีพงึ พอใจ หากมีประสิทธิภาพถงึ ระดับนน้ั แล้ว การกาหนดเกณฑ์
ประสทิ ธภิ าพกระทาโดยการประเมินผลพฤตกิ รรมของผเู้ รียน 2 ประเภท คอื พฤติกรรมตอ่ เนอ่ื ง (กระบวนการ)
และพฤตกิ รรมข้ันสุดท้าย (ผลลพั ธ์) โดยกาหนดค่าประสิทธิภาพเป็น E1 (ประสทิ ธิภาพของกระบวนการ) E2
(ประสทิ ธภิ าพของผลลัพธ์)
ทศพร ตาดสวุ รรณ์ (2550, หน้า 42) ใหค้ วามหมาย การหาประสทิ ธภิ าพสอ่ื เป็นสิง่ จาเปน็ ท่ตี ้องปฏิบัติ
เพราะการท่ีจะรวู้ า่ สอ่ื การเรยี นการสอนใดมปี ระสิทธิภาพนั้น ต้องนาส่อื การเรยี น การสอนนัน้ ไปหา
ประสทิ ธิภาพโดยนาไปทดลองใชต้ ามขั้นตอนท่ีกาหนดไว้เพื่อนาข้อมลู มาปรับปรงุ ก่อนนาไปใชจ้ ริง
ดวงมาลา จารชิ านนท์ (2551, หน้า 8) ใหค้ วามหมายคาวา่ ประสทิ ธิภาพ หมายถึง กระบวนการจัด
กิจกรรมการเรยี นร้จู ากสื่อและเทคโนโลยกี ารเรยี นการสอน ทาให้ผเู้ รียนเกดิ การเรยี นรู้ ซง่ึ
ประสิทธิภาพจะมาจากผลลัพธข์ องการคานวณ (E1) เป็นเลขตัวแรก และคานวณ (E2) เป็นเลขตวั หลงั ถ้าเลขเข้า
ใกล้ร้อยมากเทา่ ไรยง่ิ ถอื ว่ามปี ระสิทธิภาพมากยง่ิ ขึ้นเทา่ น้ัน เปน็ เกณฑ์พิจารณาการรับรองประสิทธภิ าพของส่ือการ
เรียนการสอน
วมิ ล เหล่าเคน (2552, หนา้ 6) ให้ความหมายคาว่า ประสิทธภิ าพ หมายถึง คุณภาพของสอ่ื การเรียน
การสอนหรอื นวตั กรรม ซึ่งนาไปจดั กิจกรรมการเรียนการสอน
บญุ ชม ศรีสะอาด (2553, หนา้ 154) ใหค้ วามหมายคาวา่ ประสิทธภิ าพ หมายถึง ระดบั หรอื เกณฑ์
ประสทิ ธิภาพท่ีจะชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นเกดิ การเรียนร้ใู นระดบั ท่พี ึงพอใจ หากมีประสิทธิภาพในระดบั นนั้ แลว้ การกาหนด
เกณฑ์ประสิทธิภาพกระทาโดยการประเมนิ ผลพฤติกรรมของผู้เรียน 2 ประเภท คือ พฤติกรรมต่อเน่อื ง
(กระบวนการ) และพฤตกิ รรมขัน้ สุดท้าย (ผลลพั ธ์) กาหนดค่าประสิทธภิ าพเปน็ ประสิทธิภาพของกระบวนการ
และประสิทธิภาพของผลลัพธ์
กนกกาญจน์ ศรีตะวนั (2554, หนา้ 78) ให้ความหมายคาว่า ประสทิ ธิภาพ หมายถงึ กระบวนการจดั
กจิ กรรมการเรยี นรู้จากสื่อ หรอื นวัตกรรม ทาใหผ้ ู้เรยี นเกิดการเรยี นรู้ ซงึ่ ประสิทธิภาพจะมาจากผลลัพธข์ องการ
คานวณ (E1) เป็นเลขตัวแรก และ คานวณ (E2) เปน็ เลข
ตวั หลัง ถ้าเลขเขา้ ใกลร้ ้อยมากก็ถือวา่ กระบวนการจัดการเรียนรู้จากสอื่ หรือนวตั กรรมมีประสิทธภิ าพมากยง่ิ ขึ้น
จากความหมายทน่ี ักการศึกษากลา่ วไว้ข้างตน้ สรุปได้วา่ ประสทิ ธิภาพ หมายถึง ระดับหรือเกณฑ์ จาก
ผลการใช้สื่อ หรือนวัตกรรมทาใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดการเรียนรู้ ซ่ึงประสิทธิภาพจะมาจากผลลพั ธ์ของการคานวณ (E1) เปน็
ประสทิ ธภิ าพของกระบวนการ เปน็ เลขตวั แรก และคานวณ (E2) ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ เป็นเลขตวั หลัง
กาหนดค่าประสิทธิภาพ และถา้ เลขเข้าใกล้ร้อยมากกถ็ ือ
ว่ากระบวนการจัดการเรยี นรู้จากส่ือ หรือนวตั กรรมมปี ระสิทธิภาพมากยิ่งขนึ้
5.2 ความจาเปน็ และสาคัญของการหาประสิทธิภาพส่ือ
นักการศึกษาท่กี ล่าวถงึ ความจาเป็นและความสาคัญของการหาประสทิ ธิภาพของสอื่ ดังน้ี
ชยั ยงค์ พรหมวงศ์ (2556, หน้า 8) ได้กลา่ วถงึ ความจาเป็นในการทดสอบประสิทธภิ าพไว้ว่า การ
ทดสอบประสิทธภิ าพมีความจาเปน็ ด้วยเหตผุ ล 3 ประการ ดงั นี้
1. สาหรับหน่วยงานที่ผลิตส่ือหรือชุดการสอน การทดสอบประสิทธิภาพ ชว่ ย
ประกันคุณภาพของสื่อหรือชุดการสอนว่าอยู่ในข้ันสูง เหมาะสมที่จะลงทุนผลิตเปน็ จานวนมาก หากไม่มีการ
ทดสอบประสิทธภิ าพเสยี ก่อนแลว้ เม่อื ผลติ ออกมาใชป้ ระโยชนไ์ ม่ไดด้ ี ก็ต้องผลิตหรือทาขึ้นมาใหม่เป็นการ
ส้ินเปลืองทั้งเวลา แรงงานและเงนิ ทอง
2. สาหรับผู้ใช้ส่ือหรือชุดการสอน สื่อหรอื ชุดการสอนท่ีผา่ นการทดสอบประสทิ ธภิ าพ จะทา
หน้าทเี่ ป็นเคร่ืองมือช่วยสอนได้ดี ในการสร้างสภาพการเรียนรใู้ ห้นกั เรียนเปล่ยี นแปลงพฤติกรรมตามท่มี งุ่ หวัง บางครงั้
ชดุ การสอนตอ้ งช่วยครสู อน บางครง้ั ตอ้ งสอนแทนครู (อาทใิ นโรงเรยี นครูคนเดียว) ดังนัน้ กอ่ นนาสอ่ื หรือชุด
การสอนไปใช้ ครูจึงควรมัน่ ใจวา่ ชุดการสอนนน้ั มีประสทิ ธิภาพในการชว่ ยใหน้ ักเรยี นเกิดการเรียนรจู้ ริง การ
ทดสอบประสทิ ธิภาพตามลาดบั ขน้ั ชว่ ยใหเ้ ราได้สื่อหรือชดุ การสอนท่ีมีคุณค่าทางการสอนจรงิ ตามเกณฑ์ท่ีกาหนดไว้
3. สาหรับผผู้ ลิตส่ือหรือชดุ การสอน การทดสอบประสิทธภิ าพจะทาให้ผผู้ ลิต ม่ันใจได้
วา่ เน้ือหาสาระท่ีบรรจุลงในส่ือหรอื ชดุ การสอนเหมาะสม ง่ายตอ่ การเข้าใจ อันจะช่วยให้ผู้ผลิต มีความชานาญ
สูง เป็นการประหยดั แรงสมอง แรงงาน เวลาและเงนิ ทองในการเตรียมตน้ แบบ
5.3 เกณฑก์ ารทดสอบประสทิ ธิภาพ
เกณฑ์ประสิทธิภาพ หมายถึง ระดบั ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน ท่ีช่วยให้
นกั เรียนเกิดการเรยี นรู้ เป็นระดบั ท่ผี ้ผู ลิตเอกสารประกอบการเรียนพงึ พอใจวา่ หากเอกสารประกอบการเรยี นมี
ประสิทธภิ าพถงึ ระดับขนั้ แล้ว เอกสารประกอบการเรียนก็มีคุณคา่ นาไปสอนนักเรยี นและคุ้มค่าแกก่ ารลงทุนผลติ
ออกมาเปน็ จานวนมาก
ชยั ยงค์ พรหมวงศ์ สมเชาว์ เนตรประเสรฐิ และ สดุ า สินสกุล (2520, หน้า 135) ไดก้ ลา่ วไว้วา่
การกาหนดเกณฑป์ ระสทิ ธิภาพกระทาได้ โดยการประเมนิ ผลพฤติกรรมของนกั เรียน 2 ประเภท คือ พฤติกรรม
ต่อเนอ่ื ง (กระบวนการ) และพฤติกรรมขน้ั สุดท้าย (ผลลพั ธ)์ โดยกาหนด ค่าประสทิ ธภิ าพเป็น E1 (ประสิทธภิ าพ
ของกระบวนการ) E2 (ประสทิ ธภิ าพของผลลัพธ์)
1. ประเมนิ พฤติกรรมต่อเนื่อง (Transition Behavior) คือ การประเมินผลต่อเนื่องซ่ึง
ประกอบด้วยพฤตกิ รรมย่อยหลายๆ พฤติกรรม เรียกว่า “กระบวนการ” (Process)
ของนักเรียนทส่ี ังเกตจากการประกอบกจิ กรรมกลุม่ (รายงานของกล่มุ ) และรายงานบุคคล ได้แก่ งานท่ี
มอบหมายและกจิ กรรมอ่นื ใดที่ครูกาหนดไว้
2. ประเมินพฤติกรรมขนั้ สุดท้าย (Terminal Behavior) คอื ประเมินผลลพั ธ์ (Product) ของ
นักเรยี น โดยพิจารณาจากการสอบหลังเรยี นและการสอบไล่
ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนจะกาหนดเปน็ เกณฑ์ท่คี รคู าดหมาย
วา่ นักเรียนจะเปลี่ยนเปน็ ที่พงึ พอใจ โดยกาหนดใหเ้ ปน็ เปอร์เซ็นต์ของผลเฉล่ยี ของคะแนนการทางาน และการ
ประกอบกิจกรรมของนักเรียนท้ังหมดต่อเปอร์เซน็ ตข์ องผลการสอบหลังเรียนของนักเรยี นท้ังหมด นนั่ คือ E1 / E2
คือ ประสิทธิภาพของกระบวนการ/ประสิทธภิ าพของผลลัพธ์
การกาหนดเกณฑ์ E1/ E2 ให้มีค่าเท่าใดน้ันให้ครูเป็นผู้พิจารณาตามความพอใจโดยปรกติเน้ือหาท่ี
เปน็ ความรู้ ความจา มักจะต้ังไว้ 80/80, 85/85 หรือ 90/90 สว่ นเนอ้ื หา ที่เป็นทกั ษะหรือเจตนศึกษาตัง้ ไว้
ต่ากวา่ นี้ เช่น 75/75 เป็นตน้ อยา่ งไรกต็ ามไม่ควรตั้งเกณฑ์ไวต้ ่า เพราะตัง้ เกณฑ์ไวเ้ ทา่ ใดกม็ กั จะไดผ้ ลเท่าน้นั
5.4 การคานวณหาประสิทธิภาพ
ในการหาค่า E1 และ E2 ของเอกสารประกอบการเรียนที่สรา้ งขน้ึ สามารถคานวณ หาค่าทาง
สถิตโิ ดยใช้สตู ร ดงั นี้
136 - 137) สูตร E1 / E2 (ชยั ยงค์ พรหมวงศ์ สมเชาว์ เนตรประเสรฐิ และ สุดา สินสกุล, 2520, หนา้
åX
N
E1 = A x 100
เมอื่ E1 คอื ประสิทธิภาพของกระบวนการ
å X คอื คะแนนรวมของแบบฝึกหัดหรืองานของนักเรียน
ท้ังหมดที่ได้
A คอื คะแนนเตม็ ของแบบฝึกหดั หรอื งานทง้ั หมดรวมกัน
N คือ จานวนนักเรยี น
åF
N
E2 = B x 100
เมื่อ E2 คอื ประสทิ ธิภาพของผลลพั ธ์
å F คือ คะแนนรวมของแบบทดสอบหลงั เรยี นของนกั เรียน
ท้ังหมดท่ีได้
B คอื คะแนนเต็มของแบบทดสอบหลงั เรียน
N คือ จานวนนกั เรียน
จากคากล่าวของนักการศึกษาขา้ งตน้ สรปุ ได้ว่า การหาประสทิ ธภิ าพของส่ือเป็นส่ิงจาเป็นอย่างย่งิ เพราะ
สอ่ื ท่ีสร้างขน้ึ ต้องมปี ระสิทธภิ าพก่อน นาไปใช้ในการเรยี นการสอน จึงต้องผา่ นการทดลองใช้เพ่ือหาข้อบกพร่อง
ปรบั ปรงุ แก้ไขให้ดีขน้ึ และทาให้สื่อมีประสิทธิภาพ ซึง่ ผสู้ รา้ งจะเปน็ ผกู้ าหนดเกณฑ์การหาประสิทธภิ าพ โดย
กาหนดวา่ ค่าประสิทธิภาพของส่ือ เป็นเปอร์เซ็นต์ซง่ึ
ไดจ้ ากการประเมนิ ผลเฉล่ยี ของคะแนนการทางานหรือประกอบกิจกรรมของผเู้ รียนทั้งหมด ซึง่ เปน็ กระบวนการ
(E1) ต่อเปอรเ์ ซ็นตข์ องการสอบหลงั เรียนของผูเ้ รยี นท้งั หมด ซงึ่ เป็นผลลพั ธ์ (E2)
5.3 การกาหนดเกณฑ์ประสิทธภิ าพส่ือ
นักการศึกษากล่าวถึง การกาหนดเกณฑ์ประสทิ ธิภาพสื่อการสอนไวส้ อดคล้องกนั ดงั น้ี
กชกร ธิปตั ดี และมานติ ยอดเมือง (2547, หน้า 240) กล่าวว่า การกาหนดเกณฑป์ ระสิทธภิ าพของ
ชดุ ฝกึ นยิ มกาหนดไว้ 90/90 สาหรบั เนอ้ื หาท่เี ป็นความจา และไม่ตา่ กวา่ 80/80 สาหรบั วิชาทกั ษะ เช่น ภาษา
เพราะการเปล่ยี นพฤตกิ รรมต้องตามระยะเวลาไมส่ ามารถเปลย่ี นแปลง
และวัดได้ทันทีทีเ่ รยี นเสร็จไปแลว้ การทดลองหาประสทิ ธิภาพโดยใช้สตู ร
สรุ าษฎร์ พรหมจันทร์ (2552, หน้า 121) กลา่ ววา่ การกาหนดเกณฑ์ประสทิ ธิภาพ
เปน็ เกณฑท์ ค่ี รผู สู้ อนคาดหมายว่า ผ้เู รียนจะเปล่ยี นพฤติกรรมของผเู้ รียนทัง้ หมดต่อเปอร์เซ็นตข์ องผลการทดสอบ
หลังเรียนของผู้เรียนท้ังหมดน้ัน คอื E1/E2 คอื ประสิทธภิ าพของกระบวนการ ประสิทธิภาพของผลลพั ธ์
ตวั อยา่ งเช่น 80/80 หมายความว่า เมอื่ เรยี นเอกสารประกอบการสอน
จบแล้ว ผูเ้ รยี นจะสามารถทาแบบฝึกหดั หรืองานไดผ้ ลเฉลี่ยรอ้ ยละ 80 และทาแบบทดสอบ
หลงั เรียนได้ผลเฉลี่ยรอ้ ยละ 80
สภุ พงษ์ วงศ์สมติ กลุ (2552, ออนไลน์) กลา่ วว่า ในการทาผลงานทางวชิ าการ สิง่ ทนี่ ยิ มทากนั มาก คือ
การสร้างและพัฒนานวัตกรรม เชน่ เอกสารประกอบการเรียนการสอน ชุดการสอน
บทเรียนสาเร็จรูป หนังสืออา่ นประกอบ หนังสืออ่านเพิ่มเติม บทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน
การสอนผา่ นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ในการพัฒนาส่ือหรือนวตั กรรมทางการศึกษา ส่งิ ท่ีตอ้ งทาคือการหา
ประสิทธภิ าพ ตามสตู ร E1/E2 มหี ลกั การต้งั คือ
1. หากเปน็ เนือ้ หาทงี่ า่ ยเนน้ ความรู้ ความเขา้ ใจ อาจตัง้ คา่ 90/90 หรือ 85/85
2. หากเปน็ เน้อื หาทยี่ ากเนน้ ทักษะปฏิบัติ หรือคิดคานวณชั้นสูง อาจตัง้ ค่าประสทิ ธิภาพต่าหนอ่ ย
เช่น 75/75 หรือ 80/80 แต่โดยทวั่ ๆ ไป จะต้งั ค่าประสิทธิภาพท่ี 80/80
พิสษิ ฐ์ ทองงาม (2553, ออนไลน)์ กลา่ ววา่ การกาหนดเกณฑ์ E1/E2 ให้มีคา่ เท่าใด
ควรกาหนดไว้ก่อนวา่ ในครั้งนี้ว่าจะใหม้ าตรฐานหรอื เกณฑ์มาตรฐานเท่าใด โดยยึดเกณฑ์ในการพจิ ารณากาหนด
เกณฑ์มาตรฐาน ดังนีเ้ นื้อหาวชิ าท่เี ปน็ ความรู้ ความจา ควรต้งั เกณฑ์ใหส้ ูงไว้ คือ 80/80, 85/85, 90/90
เนือ้ หาวชิ าทเ่ี ปน็ ทักษะหรอื เจตคติ ควรตั้งเกณฑ์ให้ต่าลงมาเล็กน้อย คือ 70/70, 75/75 แตอ่ าจตง้ั เกณฑ์สงู กว่านี้ก็
ได้
ราพึง ร่วมทอง (2551, ออนไลน)์ กลา่ วว่า เกณฑ์ท่ีใชป้ ระเมนิ ประสทิ ธภิ าพของนวตั กรรมในการต้ัง
เกณฑ์ทใ่ี ชป้ ระเมินประสิทธิภาพของนวตั กรรมนน้ั นิยมใชเ้ กณฑด์ งั นี้
รายวิชาท่เี ป็นวชิ าภาคปฏบิ ัติ นยิ มตั้งเกณฑ์ประสทิ ธิภาพของกระบวนการ E1/ประสิทธิภาพของ
ผลลพั ธ์ E2 = 75/75
รายวชิ าที่เปน็ วชิ าภาคทฤษฎี นิยมต้ังเกณฑ์ประสิทธิภาพของกระบวนการ E1/ประสิทธิภาพของ
ผลลพั ธ์ E2 = 80/80
ประสทิ ธภิ าพของนวัตกรรมไม่ควรตา่ งไปจากเกณฑ์ที่กาหนดไว้มากกว่าหรือน้อยกวา่ 5 กลา่ วคอื ถ้าต้ัง
เกณฑ์ไว้วา่ ประสทิ ธิภาพของกระบวนการ E1/ ประสิทธภิ าพของผลลัพธ์
E2 = 80/80 แตเ่ มื่อนาไปใช้หาคา่ ประสทิ ธิภาพของกระบวนการ E1/ ประสทิ ธภิ าพของ
ผลลัพธ์ E2 = 78.33/80.5 ถอื ว่ายอมรับได้
ทชั สน พฤฒเศรณี ( 2554, ออนไลน์) กล่าววา่ เกณฑ์มาตรฐาน E1/E2 เป็นเกณฑท์ ่ีใชใ้ นการเปรยี บเทียบ
คะแนนทไ่ี ด้จากการประเมินในกระบวนการเรยี นการสอน กบั คะแนนท่ีได้จาก
การสอบคร้ังสุดท้าย (Final) หลงั จากเรียนจบเรอ่ื ง หรือผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั แตล่ ะข้อ ถา้ เป็นนกั เรียนกลุ่มท่ี
เรยี นเกง่ ควรตง้ั เกณฑ์ท่ี 90/90 ส่วนนกั เรยี นทคี่ อ่ นขา้ งออ่ น ควรใชเ้ กณฑ์ 70/70
หรือ 80/80 แลว้ แต่ความยากงา่ ยของสาระ
จากคากลา่ วของนักวิชาการข้างต้น จึงสรปุ ไดว้ ่า การกาหนดเกณฑ์ประสิทธิภาพของเอกสาร
ประกอบการสอนเปน็ การกาหนดเกณฑ์การหาประสิทธิภาพ ที่ผู้สอนคาดหมายวา่ ผ้เู รียนจะเปล่ยี นพฤตกิ รรมของ
ผู้เรียนท้ังหมดต่อเปอร์เซ็นตข์ องผลการทดสอบหลงั เรียนของผเู้ รียนทัง้ หมดน้นั คือ E1/E2 คือประสิทธิภาพของ
กระบวนการ ประสทิ ธิภาพของผลลพั ธ์ การท่จี ะกาหนดเกณฑ์ E1/E2 ให้มคี า่ เทา่ ใดน้ัน ผู้สอนเป็นผู้พจิ ารณาตาม
ความเข้าใจโดยปกตเิ นอ้ื หาทเ่ี ป็นความรู้ความจามกั จะตัง้ ไว้ 80/80 หรอื 85/85 หรือ 90/90 ส่วนเน้อื หาทเี่ ป็น
ทกั ษะหรือการคานวณควรตงั้ ไว้ต่ากว่าน้ี เช่น 75/75 เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ไม่ควรตั้งเกณฑ์ไวต้ ่า เพราะต้งั เกณฑ์
ไว้เทา่ ใดมักจะได้ผล เท่านนั้
ในการศึกษาครง้ั น้ี ผ้รู ายงานเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การตกแตง่ ภาพด้วยโปรแกรม Adobe
Photoshop CS6 รายวิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศ 3 (ง30241) กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ผรู้ ายงานจงึ นามาเป็นแนวปฏบิ ตั ิในการกาหนดเกณฑป์ ระสิทธิภาพ E1/E2 ไวเ้ ทา่ กบั 80/80
5.4 การยอมรับเกณฑป์ ระสิทธภิ าพสื่อ
การทดสอบประสทิ ธภิ าพสือ่ นนั้ ยอ่ มมคี วามคลาดเคล่ือนของผลการประเมนิ จงึ มกี ารกาหนดค่าความ
คลาดเคลอื่ นในการยอมรับ หรอื ไม่ยอมรับประสิทธิภาพของเอกสารประกอบ การสอนชดุ น้ี ดงั น้ี
ชยั ยงค์ พรหมวงศ์ (2532, หน้า 496) และโสภณ นุ่มทอง (2540, หนา้ 84 - 86) กล่าวถึง การกาหนด
ประสทิ ธภิ าพของเอกสารประกอบการเรยี นท่ีสร้างขึน้ การกาหนดเกณฑ์ที่ยอมรบั ได้
3 ระดบั คือ
1. ระดบั “สงู กวา่ เกณฑ์” เมื่อประสิทธภิ าพของเอกสารประกอบการเรยี นสงู กว่า
เกณฑ์ทีต่ ัง้ ไว้มีคา่ เกนิ 2.5 % ขน้ึ ไป
2. ระดบั “เท่าเกณฑ์” เม่ือประสทิ ธภิ าพของเอกสารประกอบการเรียนเทา่ กบั หรือสงู กว่าเกณฑ์
ท่ตี ัง้ ไวแ้ ต่ไม่เกนิ คา่ 2.5 %
3. ระดบั “ตา่ กวา่ เกณฑ์” เมื่อประสิทธภิ าพของเอกสารประกอบการเรยี นต่ากวา่ เกณฑ์ท่ีตั้งไวแ้ ต่
ไมต่ ่ากวา่ 2.5 % ซึ่งถอื ว่าไมม่ ีประสิทธภิ าพท่ยี อมรบั ได้
การยอมรับประสทิ ธิภาพของเอกสารประกอบการเรยี น มี 3 ระดับ คอื
1. สงู กวา่ เกณฑเ์ มื่อค่าท่ีได้สูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด ตั้งแต่ 2.5 % ขึ้นไป
2. เท่ากบั เกณฑ์ เมือ่ ค่าที่ได้เทา่ กับ หรือสงู กวา่ เกณฑท์ ่ีกาหนดแตไ่ ม่เกนิ 2.5 %
3. ตา่ กวา่ เกณฑ์ เม่ือคา่ ทไ่ี ด้ต่ากว่าเกณฑ์ท่ีกาหนด แต่ไม่ต่ากว่า 2.5%
คา่ E1/E2 ท่คี านวณได้แต่ไม่ควรแตกตา่ งกันเกิน 5%
ค่า E1/E2 ท่ีคานวณไดแ้ ต่ไม่ควรแตกตา่ งกันเกนิ 5% จะเป็นค่าทน่ี ่าเช่ือถอื เชน่ E1/E2= 83/84 เป็น
คา่ ทีน่ า่ เชือ่ ถือ หรือ E1/E2= 83/90 เปน็ ค่าทไ่ี ม่น่าเชื่อถือ
เลศิ อานันทนะ และคนอืน่ ๆ (2537, หน้า 500) กลา่ วถึง การยอมรับประสทิ ธิภาพของ ชุดการสอน
หลังจากทท่ี ดลองภาคสนามแลว้ นาค่าประสิทธิภาพนามาเทียบกับเกณฑ์ทต่ี งั้ ไว้เพื่อดวู า่ สมควรท่ีจะยอมรบั
ประสิทธภิ าพหรือไม่ ในการยอมรับประสิทธภิ าพใหถ้ ือค่าความแปรปรวนที่ 2.5%-5% ซึ่งหมายถงึ ชุดการสอนนน้ั
ไม่ควรตา่ กวา่ เกณฑ์ 5% ตามปกตจิ ะกาหนดไว้ 2.5% เชน่ ถา้ เกณฑป์ ระสทิ ธภิ าพต้งั ไว้ 80/80 แตเ่ ม่ือ
ทดลองภาคสนามแล้วชดุ การสอนมีประสทิ ธภิ าพไม่ถงึ เกณฑไ์ ด้ 77.5/77.5 เรายอมรบั ได้ว่าชุดการสอนนน้ั มี
ประสทิ ธภิ าพ พอสรปุ ไดว้ ่าการยอมรบั ประสิทธภิ าพของชุดการสอนมี 3 ระดับ
1. สูงกวา่ เกณฑท์ ่ตี ง้ั ไว้
2. เท่ากบั เกณฑ์ที่ตงั้ ไว้
3. ต่ากวา่ เกณฑ์ท่ีตั้งไวป้ ระมาณ 2.5%-5%
สุนันทา สนุ ทรประเสริฐ (2544, ออนไลน์) กลา่ วว่า เม่ือทดลองเอกสารประกอบการเรยี นภาคสนามแลว้
ตอ้ งนามาเทยี บค่าระหว่างผลของประสทิ ธภิ าพที่ไดร้ บั กบั เกณฑ์ท่ตี งั้ ไว้ เพื่อดวู ่าสมควรท่ีจะยอมรับประสิทธิภาพ
หรือไม่ การยอมรบั ประสิทธภิ าพใหถ้ ือค่าแปรปรวน 2.5 - 5 % น่ันคือประสทิ ธภิ าพของเอกสารประกอบการเรยี น
ไม่ควรตา่ กวา่ เกณฑ์ 5% แต่โดยปกตจิ ะกาหนดไว้ 2.5 % ฉะนั้นการยอมรบั ประสิทธภิ าพของเอกสาร
ประกอบการเรียนจงึ มี 3 ระดับ คือ
1. สูงกวาเกณฑ์ท่ีตั้งไว้
2. เท่าเกณฑ์ทต่ี ั้งไว้
3. ตา่ กว่าเกณฑ์ประมาณ 2.5 - 5 %
5.5 ข้ันตอนการหาประสิทธิภาพสื่อ
นักการศึกษากล่าวถงึ ขั้นตอนการหาประสทิ ธิภาพส่ือการสอนไวส้ อดคล้องกนั ดังนี้
เผชญิ กิจระการ (2544, หนา้ 44 – 51) กลา่ วถงึ การหาประสทิ ธิภาพของสือ่ การเรียน
การสอน มีกระบวนการสาคัญอยู่ 2 ขั้นตอน ได้แก่
1. การหาประสทิ ธภิ าพตามวธิ กี ารหาประสทิ ธภิ าพเชิงเหตุผล (Rational Approach) กระบวนการน้ี
เป็นการหาประสิทธิภาพโดยใช้หลกั ความรู้ และเหตุผลในการตัดสินคุณคา่ ของสอ่ื การเรยี นการสอน โดยอาศัย
ผูเ้ ช่ยี วชาญ (Panel of Expert) เปน็ ผู้พิจารณา ตดั สินคุณคา่ ซ่ึงเป็นการหาความเทยี่ งตรงเชงิ เน้ือหา (Content
validity) และความเหมาะสมในดา้ นการนาไปใช้ (Usability) ผลการประเมนิ ของผเู้ ชยี่ วชาญแต่ละคนนามาหาค่า
ประสิทธภิ าพต่อไป
2. การหาประสิทธภิ าพตามวิธีการหาประสทิ ธภิ าพเชงิ ประจกั ษ์ (Empirical
approach) วิธนี จ้ี ะนาสือ่ ไปทดลองใช้กับกลุ่มนักเรยี นเป้าหมาย การหาประสิทธิภาพของสอ่ื เชน่ บทเรยี น
คอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน (CAI) บทเรียนโปรแกรม ชุดการสอน แผนการสอน แบบฝกึ ทกั ษะ เป็นตน้ ส่วนมากใช้
วิธีการหาประสิทธภิ าพดว้ ยวธิ นี ี้ ประสิทธภิ าพทว่ี ดั สว่ นใหญ่จะพจิ ารณาจากเปอร์เซ็นต์การทาแบบฝึกหดั หรือ
กระบวนการเรยี น หรือทดสอบย่อย โดยแสดงเป็นคา่ ตัวเลข 2 ตัว เช่น E1/E2= 80/80 E1/E2= 85/85 E1/E2=
90/90 เปน็ ตน้
เกณฑป์ ระสทิ ธิภาพ (E1/E2) มคี วามหมายแตกตา่ งกนั หลายลกั ษณะในที่นี้จะยกตวั อย่าง E1/E2=
80/80 ดงั นี้
2.1 เกณฑ์ 80/80 ในความหมายที่ 1 ตวั เลข 80 ตวั แรก (E1) คอื นกั เรยี นท้ังหมดทาแบบฝึกหัด
หรือแบบทดสอบยอ่ ยได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 80 ถือเปน็ ประสิทธิภาพของกระบวนการ ส่วนตวั เลข 80 ตวั หลัง (E2)
คือนกั เรียนทัง้ หมดทที่ าแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) ไดค้ ะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 80 การหาค่า E1 และ E2 ใช้
สูตรดังน้ี
ΣΧ
1 n 100
Α
เมื่อ E1 แทน รอ้ ยละของคะแนนเฉลย่ี ที่นกั เรียนทั้งหมดทาแบบฝึกหัด
หรือแบบทดสอบยอ่ ยทกุ ชุดรวมกนั
X แทน คะแนนของแบบฝกึ หัดหรือแบบทดสอบย่อยทุกชดุ
รวมกนั
n แทน จานวนนกั เรียนท้งั หมด
A แทน คะแนนเต็มของแบบฝึกหดั ทุกชุดรวมกนั
Y
E2 n 100
B
เมือ่ E2 แทน ร้อยละของคะแนนเฉลีย่ ทน่ี ักเรียนท้งั หมดทาแบบทดสอบ
หลงั เรียน
Y แทน คะแนนของแบบทดสอบหลังเรยี น
N แทน จานวนนกั เรยี นทั้งหมด
B แทน คะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรยี น
2.2 เกณฑ์ 80/80 ในความหมายที่ 2 ตัวเลข 80 ตวั แรก (E1) คือ จานวนนกั เรยี นรอ้ ยละ 80
ทาแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) ได้คะแนนร้อยละ 80 ทกุ คน สว่ นตวั เลข 80 ตัวหลัง (E2) คือ นักเรียน
ทง้ั หมดทาแบบทดสอบหลังเรียนครัง้ นัน้ ได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 80 เชน่ มนี กั เรียน 40 คน รอ้ ยละ 80 ของนักเรียน
ทง้ั หมด คือ 32 แตล่ ะคนได้คะแนนจากการสอบหลงั เรยี นถึงรอ้ ยละ 80
2.3 เกณฑ์ 80/80 ในความหมายที่ 3 ตวั เลข 80 ตวั แรก (E1) คอื จานวนนักเรียนทัง้ หมดทา
แบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) ได้คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ 80 สว่ น ตัวเลข 80 ตวั หลัง (E2) คอื คะแนนเฉล่ยี ร้อยละ
80 ท่นี ักเรียนทั้งหมดทาแบบทดสอบหลังเรยี น
2.4 เกณฑ์ 80/80 ในความหมายท่ี 4 ตัวเลข 80 ตวั แรก (E1) คอื นกั เรียนท้ังหมดทา
แบบทดสอบหลังเรยี นได้คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 80 ส่วนตวั ตัวเลข 80 ตวั หลัง (E2) หมายถึง นักเรียนทัง้ หมดทา
แบบทดสอบหลงั เรียนแต่ละข้อถูก มีจานวนรอ้ ยละ 80 (ถา้ นักเรียนทาข้อสอบข้อใดถูกมีจานวนนกั เรียนไม่ถงึ ร้อย
ละ 80 แสดงวา่ สื่อไม่มีประสิทธภิ าพ และชใี้ ห้เห็นวา่ จุดประสงค์ทตี่ รงกบั ข้อน้ันมีความบกพร่อง)
ชัยยงค์ พรหมวงศ์ (2546, หน้า 66 – 67) กลา่ วถงึ การประเมินผลการใชส้ อ่ื ประกอบ การเรียนการ
สอน เพอ่ื พจิ ารณาว่าสือ่ น้ันมีประสิทธภิ าพมากน้อยเพียงใด เมอ่ื นักเรยี นดแู ลว้ ทาให้เกดิ การเปล่ยี นแปลง
พฤติกรรมหรือเกดิ การเรียนร้มู ากข้นึ หรือไม่ การประเมนิ ผลเราอาจแบ่งเปน็ 2 ขัน้ ตอน คือ
1. ประเมนิ ตวั สื่อ หลงั จากผา่ นขบวนการใช้สอ่ื แล้ว จะต้องมกี ารประเมนิ ตวั สอ่ื ว่ามีประสิทธภิ าพ
หรือไมโ่ ดยอาจใช้การวิเคราะห์ผลจากแบบสอบถามหลังใช้ ซ่งึ ผทู้ ่จี ะวิเคราะห์อาจจะเป็น
1.1 ผู้เช่ยี วชาญทางส่อื การเรียนการสอน
1.2 ผู้เชยี่ วชาญทางด้านเนื้อหา (ครผู สู้ อน)
1.3 ผู้เรียน
2. ประเมินผลจากการเรียนรู้ กอ่ นทีจ่ ะดาเนนิ การผลิตสือ่ ประเภทเอกสารประกอบการเรียน
จะต้องวางจุดมุง่ หมายของการสรา้ งสือ่ ไว้ก่อนวา่ หลังจากผู้เรยี นเรียนแล้วจะทาให้เขาเกดิ การเรยี นรอู้ ะไรบา้ งหรือมี
การเปล่ยี นแปลงพฤติกรรมอย่างไรบ้าง ดังนัน้ ก่อนและหลังเรียนจะต้องมีการทาแบบทดสอบ เพ่ือวัดดูวา่ ผู้เรยี นมี
พัฒนาการทางการเรียนเพ่มิ ข้ึนหรอื ไม่ และตรงกับมาตรฐาน ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรทู้ ่ีเรากาหนดไวห้ รอื ไม่ โดยมี
ขั้นตอนการคัดเลือกนักเรยี นและหาประสิทธภิ าพส่ือการสอน ดงั ต่อไปนี้
2.1 สาหรับการทดลองแบบเดยี่ ว (1 : 1) เปน็ การทดลองครู 1 คนตอ่ เด็ก 1 คน ให้
ทดลองกบั เดก็ ออ่ นเสียกอ่ นทาการปรบั ปรุงแลว้ นาไปทดลองกับเดก็ ปานกลาง และนาไปทดลองกับเดก็ เกง่ อย่างไร
ก็ตามหากเวลาไม่อานวยและสภาพการณ์ไมเ่ หมาะสม ก็ให้ทดลองกบั เดก็ ออ่ นหรอื ปานกลาง
2.2 สาหรับการทดลองแบบกลุม่ (1 : 10) เปน็ การทดลองครู 1 คนต่อเด็ก
6 – 12 คนโดยให้คละกันทัง้ เด็กเกง่ ปานกลาง และเดก็ ออ่ น ห้ามทดลองกับเด็กอ่อนลว้ น หรอื เดก็ เก่งลว้ น แลว้ ทา
การคานวณหาประสิทธภิ าพแล้วปรบั ปรุง
2.3 สาหรับการทดลองภาคสนามหรอื กลุ่มใหญ่ (1 : 100) เป็นการทดลองทีใ่ ชค้ รู 1 คน กับเด็ก
นักเรยี นท้งั ช้ัน 40 – 100 คน ช้นั ท่ีเลอื กมาทดลองจะต้องมีนกั เรียนคละกนั ทง้ั เกง่ และอ่อนไมค่ วรเลือกหอ้ งเรียนท่ี
มเี ดก็ เกง่ หรืออ่อนลว้ น และทาการคานวณหาประสิทธิภาพแล้วนามาปรับปรงุ
สูตรการคานวณหาประสิทธิภาพสือ่ ตามเกณฑ์ 80/80 จากสตู ร (ชัยยงค์
พรหมวงศ,์ 2546, หนา้ 495 - 496) F
N
B
1 100 E2 100
เมอื่ E1 แทน ประสทิ ธิภาพของกระบวนการทีจ่ ัดไว้ในบทเรยี น
คิดเป็นร้อยละจากการทดสอบหลังเรยี นแต่ละชุด
E2 แทน ประสิทธิภาพผลลัพธจ์ ากการทาแบบทดสอบ
วัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นคดิ เปน็ ร้อยละ
X แทน คะแนนรวมของผ้เู รยี นจากแบบทดสอบหลังเรยี น
แต่ละชดุ
F แทน คะแนนรวมของการทดลองวัดผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น
หลังเรยี น
N แทน จานวนผูเ้ รยี น
A แทน คะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรียนแต่ละชุด
B แทน คะแนนเต็มของแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน
กชกร ธิปัตดี และมานิต ยอดเมอื ง (2547, หนา้ 240) กล่าวว่า การหาประสิทธิภาพของชดุ ฝกึ
ดาเนินการตามขั้นตอนดังน้ี
1. แบบหนึง่ ตอ่ หน่งึ (1:1) คือ นาชุดฝกึ ไปทดลองใชก้ ับผเู้ รียน 1- 3 คน โดยทดลองกบั เด็กเก่ง ปาน
กลาง และอ่อน การทดลองแต่ละครงั้ ต้องปรับปรุงส่ือการสอนใหด้ ีขึ้น
2. แบบกล่มุ (1:10) คือ นาชุดฝึกทป่ี รบั ปรุงแลว้ ไปทดลองใช้กบั ผ้เู รยี น 6-10 คน
ท่มี ีความสามารถคละกัน แล้วทาการปรบั ปรุงให้ดีข้ึน
3. ภาคสนามขัน้ (1:100) คือ นาชุดฝึกไปทดลองใช้กบั ผู้เรยี น 30-100 คนหากทดลอง
ภาคสนามได้ค่า E1 และ E2 ไม่ถงึ เกณฑ์ทตี่ ั้งไวจ้ ะต้องปรบั ปรงุ ชดุ ฝึกและทาการทดสอบหาประสทิ ธภิ าพซา้ อกี
ทศพร ตาดสุวรรณ์ (2550 : 42) กล่าวถึง วิธีการหาประสิทธภิ าพตอ้ งดาเนนิ การ ดังน้ี
1. แบบเด่ยี ว (1 : 1) เปน็ การนาสอ่ื ทส่ี รา้ งขนึ้ ไปทดลองกับผเู้ รียนรายบคุ คลเพื่อหาข้อบกพรอ่ ง การ
ทดลองน้ี ควรกระทากับผ้เู รยี นทีม่ ีระดับการเรยี นเก่ง ปานกลาง และออ่ น เพื่อหาข้อบกพร่องจากการใชถ้ อ้ ยคา
การใช้ภาษา ความชดั เจนในการนาเสนอเนอื้ หา เพื่อหาข้อมลู ในการปรับปรงุ ในเบอ้ื งต้นกอ่ นจะไปทดลองขนั้ ที่ 2
2. แบบกลมุ่ (1 : 10) เป็นการนาสอ่ื ทีส่ ร้างขึ้นท่ีได้จากการปรับปรุงจากการทดลอง
ครัง้ แรกมาใช้ทดลองกับผ้เู รียน 6 - 10 คน ท่มี ีความสามารถกระจายเพื่อหาข้อมลู ในการปรับปรุงให้สมบรู ณ์ยิง่ ขึ้น
3. แบบภาคสนาม (1 : 100) เปน็ การนาสอ่ื ทสี่ รา้ งข้นึ ท่ีได้รับการปรบั ปรงุ ครงั้ ท่ี 2
ไปทดลองใชใ้ นช้นั เรียนที่มผี ู้เรยี นตงั้ แต่ 30 – 100 คน และหาประสทิ ธิภาพ (E1/E2 ) ถา้ ไม่ถงึ เกณฑ์
ทก่ี าหนดจะตอ้ งดาเนินการปรับปรุงและทดลองหาประสิทธภิ าพซ้าอีกครัง้ การหาประสิทธภิ าพสอื่ ท่ีสรา้ งขนึ้ ไม่ถงึ
เกณฑ์ทต่ี ัง้ ไว้ เนอื่ งจากตัวแปรท่คี วบคุมไม่ได้ เชน่ ความพร้อมเพรยี งของนกั เรียน สภาพหอ้ ง ฯลฯ อาจอนโุ ลมให้
มีระดบั ผดิ พลาดได้ไม่ต่ากว่าที่กาหนดไว้
พรธภิ า ตรถี นั และคณะ (2552, หน้า 30) กล่าววา่ ขั้นตอนการหาประสิทธภิ าพของสื่อ
มีขน้ั ตอนดังน้ี
1 : 1 แบบเดี่ยว เป็นการทดลองกับผู้เรียน 1 คน โดยใชก้ ับเดก็ เกง่ ปานกลาง และเด็กอ่อน
คานวณหาประสิทธภิ าพเสรจ็ แล้วตอ้ งปรบั ปรุงให้ดีข้ึน โดยปกตคิ ะแนนท่ีได้จาก การทดลองแบบ
เดยี่ วนี้จะได้คะแนนตา่ กว่าเกณฑม์ าก แตเ่ ม่ือปรับปรงุ แล้วจะสูงข้นึ ก่อนนาไปใชท้ ดลองแบบกลมุ่
1 : 10 แบบกลุ่ม เป็นการทดลองกบั ผู้เรียน 6 – 10 คน (คละผ้เู รียนทเ่ี กง่ กบั อ่อน) คานวณหา
ประสทิ ธิภาพแล้วปรบั ปรงุ ในคร้ังน้ีคะแนนของผเู้ รียนจะเพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าเกณฑ์
โดยเฉลย่ี จะหา่ งจากเกณฑ์ท่ปี ระมาณร้อยละ10 น่ันคือ E1/E2 ทไ่ี ด้จะมีค่าประมาณ 70/70
1 : 100 ภาคสนาม เปน็ การทดลองกบั ผู้เรียนทง้ั ช้นั 40 – 100 คน คานวณหาประสิทธิภาพแล้ว
ปรับปรุง ผลลัพธ์ที่ได้ควรใกลเ้ คยี งกับเกณฑท์ ีต่ ้ังไว้ หากต่าจากเกณฑ์ไม่เกนิ ร้อยละ 2.5 กใ็ ห้ยอมรบั หากแตกต่าง
กันมากผสู้ อนตอ้ งกาหนดเกณฑป์ ระสทิ ธภิ าพของ ชดุ กิจกรรมใหม่โดยยึดสภาพความจริงเป็น
เกณฑ์
สรุ าษฎร์ พรหมจนั ทร์ (2552, หน้า 121) กล่าววา่ การทดสอบประสทิ ธิภาพของเอกสารประกอบการ
สอน เมือ่ พัฒนาเอกสารประกอบการสอนเป็นต้นฉบับแล้ว ตอ้ งนาไปหาประสิทธภิ าพเสรจ็ แลว้ นาไปปรับปรงุ แก้ไข
ตามข้ันตอนดงั น้ี
1. ขน้ั 1:1 (แบบเดย่ี ว) คือ นาเอกสารประกอบการสอนไปใชก้ ับนกั เรยี น 1 คนคานวณหา
ประสิทธภิ าพแล้วปรับปรุงให้ดีขนึ้
2. ขน้ั 1:10 (แบบกลุ่ม) คือ นาเอกสารประกอบการสอนไปทดลองใชก้ ับนักเรยี น
6-10 คน แล้วคานวณหาประสทิ ธภิ าพและปรับปรงุ ให้ดขี นึ้
3. ข้นั 1:100 (ภาคสนามหรือกลุ่มใหญ่) คือ นาเอกสารประกอบการสอนไปใชก้ บั
นักเรียน 30-100 คน แล้วคานวณหาประสทิ ธภิ าพและปรับปรุงให้ดขี ้นึ โดยใหน้ ักเรียนแตล่ ะคน ทา
ชน้ิ งาน
สรุปไดว้ ่า เพือ่ รบั รองวา่ แบบฝึกทีส่ ร้างข้ึนนนั้ มีประสิทธิภาพ สามารถทาใหก้ ารเรยี น การสอน
บรรลุตามจุดประสงค์ จงึ ต้องผา่ นการหาประสทิ ธิภาพของสอื่ ท่ีสร้างขนึ้ มขี นั้ ตอน 3 ขั้นตอน คือ 1) แบบเดย่ี วทดสอบ
กับนกั เรียนรายบุคคล 2) แบบกลมุ่ เล็กทดสอบกบั นักเรยี นกลุม่ เล็ก 6 - 10 คน และ 3) แบบภาคสนาม ทดสอบกับ
นักเรียน 30 - 100 คน และโดยท่วั ไปจะกาหนดค่าความคลาดเคล่อื นในการยอมรบั หรือไมย่ อมรับประสิทธิภาพของ
สอื่ ไวร้ ้อยละ 2.5 – 5
งานวิจยั ทีเ่ ก่ยี วข้อง
6.1 งานวิจัยในประเทศ
จันทเวศ ดอกไม้ (2552) ทาวจิ ยั เรือ่ ง “รายงานผลการใช้เอกสารประกอบการเรยี น
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 รายวิชา ง32101”
มีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือ 1) สรา้ งและพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนกลมุ่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 รายวชิ า ง32101 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เปรยี บเทยี บผลการสอบก่อนเรียนและ
หลงั เรยี นจากเอกสารประกอบการเรยี น กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4
รายวิชา ง32101 3) เปรียบเทียบผลการสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนจากเอกสาร
ประกอบการเรียนกลุ่มสาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 รายวิชา ง32101 4)
เพื่อศกึ ษาความพึงพอใจของนกั เรยี น
ท่มี ีต่อเอกสารประกอบการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
รายวิชา ง32101 กล่มุ ตัวอย่างคอื นักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2552 โรงเรยี น
องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบรู ณ์ (วงั ชมภวู ทิ ยาคม) เคร่อื งมือท่ีใช้ในการวิจยั 1) เอกสารประกอบการเรียน
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 รายวิชา ง32101 2) แผนการจัดการ
เรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 4 รายวชิ า ง32101 3) แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนของนักเรียน
4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรยี นท่มี ีต่อเอกสารประกอบการเรียนกล่มุ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี และ
เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 รายวชิ า ง32101 คา่ สถิติท่ีใชค้ ่าทดสอบที t- test (dependent) วิเคราะห์
ขอ้ มลู โดยใช้โปแกรมคอมพวิ เตอร์ ผลการวิจัยพบวา่ 1) เอกสารประกอบการเรยี น กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงาน
อาชีพและเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 รายวชิ า ง32101 (โดยรวม) มปี ระสิทธภิ าพ 85.74/82.35 ซึ่งสงู กว่า
เกณฑ์ท่กี าหนดไว้ 2) ผลการสอบก่อนเรยี นและหลังเรียน เอกสารประกอบการเรียนกลมุ่ สาระการเรียนรูก้ ารงาน
อาชีพและเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 รายวชิ า ง32101 มผี ลสัมฤทธ์ิหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมนี ัยสาคัญทางสถิตทิ ีร่ ะดับ
.05 3) ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบ การเรียน กลมุ่ สาระการ
เรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 รายวิชา ง32101 ของนักเรยี น มคี วามคิดเห็นและมี
ความพึงพอใจอยู่ในระดับมากท่ีสดุ
สมจิตร เฉลมิ แสน (2552) ทาวจิ ัย เรอื่ ง “รายงานการพฒั นาผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน
โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี
(งานเกษตร) ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ” มวี ตั ถปุ ระสงค์เพ่อื 1) พฒั นาเอกสารประกอบการเรียน
การสอน กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี (งานเกษตร) ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4
ให้มปี ระสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นของนักเรยี นก่อนและหลัง
เรยี นดว้ ย เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลมุ่ สาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) ชั้น
มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 จานวน 10 เร่ือง 3) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการ
เรียนรูก้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร)
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 4) ศึกษาความพึงพอใจของนกั เรยี นท่มี ตี อ่ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุม่ สาระ
การเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี (งานเกษตร) ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 กลมุ่ ตวั อย่างคือนักเรียนชนั้
มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 จานวน 30 คน ทเ่ี รียนในภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2552 โรงเรียนเพชรหนองขาม สงั กดั
สานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษานครราชสมี า เขต 7 ได้มาโดยใชว้ ธิ ี การเลอื กแบบ
เจาะจง (Purposive Sampling) เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการวิจยั คือ 1) เอกสารประกอบการเรียน การ
สอน กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี (งานเกษตร) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
จานวน 10 เร่ือง 2) แผนการเรียนรู้สาหรบั ใชก้ บั เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระ การ
เรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี (งานเกษตร) ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 จานวน 10 แผน
3 ) แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี (งาน
เกษตร) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เปน็ แบบทดสอบชนดิ เลือกตอบ 4 ตวั เลือก จานวน 100 ข้อ
และ 4 ) แบบสอบถามความพงึ พอใจของนักเรยี น ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ท่ีมีต่อการเรียนดว้ ยเอกสารประกอบการ
เรยี นการสอน กล่มุ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) ซงึ่ มที ง้ั หมด 10 รายการ สถติ ิที่ใช้
ได้แก่ ค่าเฉล่ยี ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน คา่ รอ้ ยละ และการทดสอบสมมตุ ิฐานดว้ ยสถติ ิ t-test ผลการวจิ ัยพบวา่ 1)
เอกสารประกอบการเรยี นการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ทีส่ ร้าง
ขน้ึ มีประสทิ ธิภาพ 84.45/83.12 ซง่ึ สงู กวา่ เกณฑม์ าตรฐาน ท้ัง 10 เร่ือง 2) ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น
ของนักเรยี นโรงเรยี นเพชรหนองขาม ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 หลงั จากนกั เรยี นเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน
การสอน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี (งานเกษตร) ท้ัง 10 เรือ่ ง มีคะแนนการทดสอบหลงั
เรียน สงู กวา่ คะแนนการทดสอบก่อนเรียนอย่างมนี ยั สาคัญทางสถิติ ท่รี ะดับ .013) ความพงึ พอใจของนักเรยี น
โรงเรียนเพชรหนองขาม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 เกีย่ วกบั คุณลกั ษณะเอกสารประกอบ
การเรียนการสอน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี (งานเกษตร) โดยรวมมีความ พึง
พอใจอยใู่ นระดบั มาก
อารยา สงคราม (2553) ทาวิจยั เรอ่ื ง “การพัฒนาผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนของนักเรียนโดยใชเ้ อกสาร
ประกอการเรยี น วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ รหัส ง21202 เร่อื ง การใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel 2007 เบอื้ งตน้
ของนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบา้ นดงเมอื ง
(ดงเมืองวทิ ยา) อาเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี” มีวตั ถุประสงค์เพือ่ 1) พัฒนาเอกสารประกอบ
การเรยี น เรอื่ ง การใช้โปรแกรม Microsoft Excel 2007 เบ้ืองต้น วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศ
กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ของนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ปีการศกึ ษา 2553
ให้มีประสทิ ธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 และมดี ัชนปี ระสิทธิผลตั้งแต่ 0.50 ขึน้ ไป และ
2) เปรียบเทยี บผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนก่อนเรยี นกับหลงั เรียน โดยใชเ้ อกสารประกอบการเรียน
เร่อื ง การใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel 2007 เบ้ืองต้น ที่พฒั นาข้ึน กลมุ่ ตัวอยา่ งคอื นักเรียน
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ปกี ารศึกษา 2553 โรงเรยี นบ้านดงเมือง (ดงเมืองวทิ ยา) จานวน 29 คน ได้มาโดยการเลอื ก
แบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือในการวจิ ยั 1) เอกสารประกอบการเรียน เรือ่ ง การใชโ้ ปรแกรม
Microsoft Excel 2007 เบื้องต้น วชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศ ของนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 จานวน 8 เลม่ 2)
แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนซ่ึงเปน็ แบบทดสอบชนดิ เลือกตอบ 4 ตัวเลือก จานวน 40 ขอ้ มคี ่าความ
ยากง่าย (p) อยูร่ ะหวา่ ง 0.53-0.84 ค่าอานาจจาแนกอยู่ระหวา่ ง 0.23-0.58 และคา่ ความเช่ือมน่ั ของแบบทดสอบ
เทา่ กับ 0.89 สถติ ิท่ใี ช้ ได้แก่ คา่ ร้อยละของค่าเฉลีย่ คา่ t-test (Dependent Sample) ผลการวิจยั พบวา่ 1)
เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Excel 2007 เบือ้ งต้น ของนักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปี
ที่ 4 มปี ระสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 86.51/83.88 และมีคา่ ดชั นีประสิทธผิ ล (E.I.) เท่ากบั 0.5996 2) ผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนของนักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ท่ีเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การใชโ้ ปรแกรม
Microsoft Excel 2007 เบ้ืองต้น มีคะแนนเฉลีย่ หลังเรยี นสงู กวา่ คะแนนเฉล่ยี ก่อนเรยี น อย่างมีนยั สาคัญทางสถิติ
ทีร่ ะดับ .05
สุนทรี มณรี ัตน์ (2554) ทาวิจัยเร่อื ง “รายงานการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน กลุ่ม
สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี (งานเกษตร) สาระเพ่ิมเติม ง30241 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ชดุ “ปยุ๋ หมกั
และนา้ หมักชีวภาพ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง” มีวตั ถปุ ระสงค์เพื่อ 1) สรา้ งและศึกษา
ประสทิ ธิภาพของเอกสารประกอบการเรยี น กลุม่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) สาระ
เพม่ิ เติม ง30241 ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ชุด ปยุ๋ หมกั และนา้ หมักชีวภาพ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ให้มี
ประสิทธิภาพตามเกณฑม์ าตรฐาน 80/80 2) เปรียบเทยี บผลสัมฤทธิท์ างการเรียนของนกั เรยี นกอ่ นเรียนและหลงั
เรียนทีเ่ รยี นรู้ดว้ ยเอกสารประกอบการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี (งานเกษตร) สาระเพ่ิมเติม ง30241 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4
ชุด ปยุ๋ หมกั และนา้ หมกั ชีวภาพ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3) ศกึ ษาความพึงพอใจของนักเรียนท่ีมีต่อ
เอกสารประกอบการเรียนกลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) สาระเพ่ิมเติม ง30241 ชนั้
มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ชุด ป๋ยุ หมักและนา้ หมกั ชวี ภาพ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลมุ่ ตวั อยา่ งคือ นักเรียน
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2554 จานวน 26 คน โรงเรียนวัดจาปา สานกั งานเขตพน้ื ที่
การศกึ ษาประถมศึกษาสพุ รรณบรุ ี เขต 2 โดยใช้การเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือท่ีใช้ใน
การศึกษาครง้ั น้ี ประกอบด้วย 1) เอกสารประกอบการเรยี นกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี
และเทคโนโลยี (งานเกษตร)
สาระเพ่ิมเติม ง30241 ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ชดุ ปุ๋ยหมักและน้าหมักชวี ภาพ ตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง จานวน 9 เล่ม 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นเอกสารประกอบการเรียน
กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี (งานเกษตร) สาระเพิ่มเติม ง30241 ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4
ชุด ปุ๋ยหมกั และนา้ หมกั ชีวภาพ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และ3) แบบสอบถามความ พึงพอใจของ
นักเรียนท่มี ตี ่อเอกสารประกอบการเรยี นกลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี (งานเกษตร) สาระ
เพมิ่ เติม ง30241 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ชุด ปุ๋ยหมกั และน้าหมักชีวภาพ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ
พอเพียง ผลการวิจยั พบวา่ 1) เอกสารประกอบการเรียนกลุม่ สาระ การเรียนรู้การงานอาชีพและ
เทคโนโลยี (งานเกษตร) สาระเพมิ่ เติม ง30241 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ชดุ ปยุ๋ หมักและน้าหมักชวี ภาพ
ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง มปี ระสทิ ธิภาพ E1/E2 เทา่ กับ
86.18/84.21 สูงกว่าเกณฑ์ทต่ี ้ังไว้ 80/80 2) ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนของนักเรยี นก่อนเรยี นและหลังเรยี น
ทเ่ี รยี นรู้ด้วยเอกสารประกอบการเรยี นกล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) สาระเพ่ิมเตมิ
ง30241 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ชดุ ปุ๋ยหมักและนา้ หมักชวี ภาพ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง มีผลสัมฤทธ์ิ
หลังเรยี นสูงกว่ากอ่ นเรียนอย่างมนี ัยสาคญั ทางสถิติทีร่ ะดบั .01 และ
3) ความพงึ พอใจของนักเรียนท่ีมตี ่อเอกสารประกอบการเรียนกลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
(งานเกษตร) สาระเพิ่มเตมิ ง30241 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ชุด ปุย๋ หมกั และน้าหมักชวี ภาพตามหลกั ปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียง โดยภาพรวมอยู่ในระดบั มาก (เท่ากับ 4.48)
จากการศึกษางานวิจยั เกีย่ วกับเอกสารประกอบการเรยี นการสอน สรปุ ได้ว่า การจัด
การเรียนรูด้ ว้ ยเอกสารประกอบการเรียน ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนอยา่ งหลากหลาย
ซ่ึงผเู้ รยี นมโี อกาสได้ศกึ ษาคน้ คว้าด้วยตนเอง มีการฝึกทกั ษะกระบวนการคิดด้านต่างๆ และทาให้
ผเู้ รียนเกิดการพัฒนาศักยภาพทางการเรยี นรู้มีค่าดัชนีประสิทธิผลหรือความก้าวหน้าทางการเรียน
ได้ดีขึ้น สามารถพัฒนาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของผเู้ รียนสูงขน้ึ ได้ นอกจากน้ีเอกสารนกั เรยี น
ที่เรียนดว้ ยเอกสารประกอบการเรียน มีความพึงพอใจอยู่ในระดบั มาก
6.2 งานวจิ ัยตา่ งประเทศ
มคี (Meek, 1972, หน้า 4296 - 4296A) ได้ศึกษาการเปรียบเทียบวิธีการสอนดว้ ยเอกสารประกอบการ
สอนกับวธิ กี ารสอนแบบธรรมดา ผลการวจิ ยั พบวา่ วธิ กี ารสอนโดยใชเ้ อกสารประกอบการสอน มปี ระสทิ ธิภาพ
มากกว่าการสอนดว้ ยวธิ ีสอนแบบธรรมดาอยา่ งมีนัยสาคัญ ทางสถติ ทิ ร่ี ะดับ .01 และผูว้ ิจัยได้
สารวจความคิดเห็นของผทู้ ี่อยู่ในกล่มุ ทดลองทุกคนโดยทาการสารวจท้ังก่อนและหลงั การทดลอง ผลการวเิ คราะห์
ชใี้ ห้เหน็ ว่า ทุกคนมีพัฒนาการทางเจตคติทดี่ ี ตอ่ การสอนโดยใชเ้ อกสารประกอบการสอนเพม่ิ ขน้ึ อยา่ งมีนยั สาคัญ
ทางสถิติ
วิวาส (Vivas, 1985, หน้า 603) ไดศ้ ึกษาวิจยั เกยี่ วกบั การออกแบบการพฒั นาและ ประเมินค่าของ
การรับรู้ทางความคิดของนักเรียนเกรด 1 ในประเทศเวเนซูเอลา่ โดยใช้เอกสารประกอบการสอนจากการศกึ ษา
เกี่ยวกับความเข้าใจในการพัฒนาทักษะทัง้ 5 คอื ดา้ นความคิด
ด้านความพร้อม ในการเรยี น ดา้ นความคิดสรา้ งสรรค์ ดา้ นเชาว์ปัญญา และดา้ นการปรับตวั
ทางสังคม ผลการวจิ ัยพบว่านักเรยี นที่ได้รับการสอน โดยใช้เอกสารประกอบการสอนมคี วามสามารถเพ่ิมขึ้นในดา้ น
ความคิด ด้านความพร้อมในการเรยี น ดา้ นความคิดสร้างสรรค์ ด้านเชาว์ปญั ญา และด้านการปรับตัวทางสงั คม
หลังจากไดร้ ับการสอนดว้ ยเอกสารประกอบการสอนสูงกวา่ นักเรยี นท่ีไดร้ บั การสอนแบบปกติ
เพอรส์ ัน และโฮแมน (Person and Homan, 1988, บทคัดยอ่ ) ไดศ้ กึ ษาวิจัย เรื่อง ผลที่เกดิ จากการใช้
เอกสารประกอบการสอนท่มี ีต่อผลสัมฤทธิท์ างการเรียนของนักศึกษาท่ีเรียนวชิ าชพี ครู
ท่เี สนอต่อการประชมุ ประจาปี ของสมาคมวจิ ัยการศึกษา ครั้งที่ 16 เดือน พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1987 กล่มุ ตวั อย่าง
เป็นนักศึกษาวชิ าชพี ครู จานวน 36 คน ท่ลี งทะเบยี นเรียนวชิ าหลักการสอนของมัธยมศกึ ษาตอนปลายระหว่างภาค
เรยี นที่ 1 ปี ค.ศ. 1986 โดยใช้วิธีสมุ่ ตัวอยา่ งออกเป็น 2 กล่มุ ๆ ละ 8 คน โดยกาหนดให้เป็นกลมุ่ ทดลอง 1 กลุ่ม สว่ น
อกี หนึง่ กลุม่ สอนตามปกตโิ ดยทีแ่ ตล่ ะกลุม่ จะรับ การสอนกลุม่ ละ 40 ช่ัวโมงเท่ากันระหว่าง 8 สปั ดาห์แรก
ของปีการศึกษา กลุ่มทดลองไดร้ ับการสอนโดยใชเ้ อกสารประกอบการสอนที่ผวู้ ิจัยจดั ทาขน้ึ เพื่อให้ผู้เรยี นได้รบั การ
เรียนรทู้ ้ังด้านพุทธพิสัย จิตพิสยั และทกั ษะด้านการปฏิบตั ิ โดยการเรยี นแบบมปี ฏิบัตสิ มั พนั ธก์ ับผูส้ อน
ในชัน้ เรยี นและ การประเมินผลการเรยี นรจู้ ากสภาพจริง สว่ นอกี กลุ่มหน่งึ ใชว้ ิธกี ารสอนแบบเดิม
ผลการวจิ ยั พบว่ากลุม่ ทดลองมีผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนสูงกวา่ กลุ่มที่ไดร้ บั การสอนแบบเดิม
จากการศึกษางานวจิ ยั ตา่ งประเทศ พบวา่ วธิ กี ารสอนโดยใชเ้ อกสารประกอบการสอน
มปี ระสิทธิภาพมากกว่าการสอนด้วยวิธสี อนแบบธรรมดาอย่างมีนัยสาคญั ทางสถติ ิ ผูเ้ รยี นทกุ คน
มพี ฒั นาการทางเจตคตทิ ีด่ ี ต่อการสอนโดยใช้เอกสารประกอบการสอนเพิ่มขนึ้ อยา่ งมีนัยสาคญั
ทางสถติ ิ และยังพบว่านักเรยี นทไ่ี ด้รบั การสอน โดยใชเ้ อกสารประกอบการสอนมีความสามารถ
เพม่ิ ข้นึ ในด้านความคดิ ด้านความพร้อมในการเรยี น ด้านความคดิ สรา้ งสรรค์ ดา้ นเชาว์ปัญญา และ
ดา้ นการปรับตวั ทางสังคมหลงั จากได้รบั การสอนดว้ ยเอกสารประกอบการสอนสูงกวา่ นักเรยี น
ทไี่ ด้รับการสอนแบบปกติ
บทที่ 3
วิธีดาเนินการ
รายงานการใชเ้ อกสารประกอบการเรยี น รหสั วิชา ง30241 รายวิชา Web design and Development
กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ผ้รู ายงานไดด้ าเนินการตามวิธดี าเนินการ
ตามขน้ั ตอน ดงั นี้
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
2. เคร่อื งมือทีใ่ ชใ้ นการศึกษา
3. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
4. การวเิ คราะห์ข้อมูล
5. สถิติที่ใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมลู
1. ประชากรและกลุม่ ตวั อย่าง
1. ประชากร ท่ีใช้ในการศกึ ษาครั้งน้ี ประกอบดว้ ย
1.1 ประชากร ท่ใี ช้ในขัน้ ตอนการหาประสทิ ธภิ าพเบอื้ งตน้ (ปแี รกของการพฒั นา) เอกสาร
ประกอบการเรยี น รหสั วิชา ง30241 วชิ า Web Design and Development กล่มุ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ
และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ไดแ้ ก่ นกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2559
โรงเรยี นบรรพตพสิ ัยพิทยาคม สงั กดั สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 42 จานวน 2 หอ้ ง จานวน 73
คน
1.2 ประชากร ทใี่ ชใ้ นข้ันตอนการทดลองใช้ (ปีทีส่ องของการพฒั นา) เอกสารประกอบการเรียน
รหสั วชิ า ง30241 รายวชิ า Web design and Development กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี
ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ได้แก่ นกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2560 โรงเรยี นบรรพตพสิ ยั
พทิ ยาคม สังกัดสานักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 42 จานวน 2 ห้อง จานวน 63 คน
2. กลุ่มตัวอยา่ ง
กล่มุ ตวั อยา่ งทใี่ ชใ้ นการศึกษาคร้งั นี้ ประกอบด้วย
2.1 กลมุ่ ตัวอย่างท่ีใช้ในการทดสอบประสิทธิภาพเบื้องต้น (ปีแรกของการ
พฒั นา) คือ นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/3 และ 4/4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียน
บรรพตพิสัยพิทยาคม สงั กดั สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 42 จานวน 42 คน โดยมขี ้นั ตอนในการ
สุ่ม ดงั น้ี
2.1.1 สมุ่ ห้องเรียนของนกั เรยี นระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 สุ่ม 1 หอ้ งเรยี น จากจานวน 2
หอ้ งเรียน ไดห้ ้องเรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4/3 จานวนนักเรียน 42 คน
2.2.2 จาแนกผลการเรียนของนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4 จานวน 42 คน โดยยดึ เกณฑใ์ น
การจาแนกจากผลการเรยี น รหัสวชิ า ง30241 วิชา Web Design and Development กลุม่ สาระการเรียนรู้การ
งานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ทีเ่ รียนในภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2559
1) สมุ่ กลุ่มตัวอยา่ งเพื่อทดสอบประสทิ ธิภาพ ข้นั ทดลองแบบเด่ยี ว
โดยการสมุ่ อยา่ งงา่ ยจบั สลากนักเรียน 3 คน นักเรยี นท่ีมผี ลการเรียนเกง่ 1 คน ปานกลาง 1 คน และอ่อน 1 คน
รวมมีท้งั หมด 3 คนการศึกษา 2559
2) สุ่มกลุ่มตวั อยา่ งเพื่อทดสอบประสทิ ธิภาพ ข้นั ทดลองแบบกลุม่
โดยการส่มุ อยา่ งง่ายจบั สลากคละกันระหว่างนกั เรยี นทมี่ ีผลการเรียน กลมุ่ เก่ง 3 คน กลุ่มปานกลาง 3 คน และ
กลมุ่ อ่อน 3 คน รวมท้งั หมด 9 คน (ท่ีไมใ่ ชก่ ลุม่ ตัวอยา่ งและขน้ั ทดลองแบบเดยี่ ว)
3) กลุม่ ตัวอย่างเพื่อทดสอบประสทิ ธิภาพ ขน้ั ทดลองแบบภาคสนามโดยสมุ่ ตวั อยา่ ง
ทดสอบนักเรียนจาก 2 หอ้ งเรียน สมุ่ ไดน้ กั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4/3 โดยคละกันระหว่างนักเรยี นท่ีมีผลการ
เรียนเกง่ 15 คน ปานกลาง 12 คน และอ่อน 15 คน รวมมีท้ังหมด 42 คนการศึกษา 2559
กลุ่มตัวอย่างไดม้ าโดยการส่มุ แบบง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้หอ้ งเรยี นเปน็ ฐาน
ในการสุ่ม จบั สลาก 1 ห้องเรียน จากจานวน 2 หอ้ งเรยี น คนทีม่ ีผลการเรียนคละกนั เก่ง ปานกลาง และอ่อน
2.2.3 กลมุ่ ตัวอยา่ งที่ใชใ้ นขน้ั ตอนการทดลองใช้ (ปที ส่ี องของการพฒั นา) เอกสารประกอบการ
เรียน ไดแ้ ก่นักเรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4/3 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบรรพตพิสยั พิทยาคม
จานวน 38 คน และ นักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4/4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2560 จานวน 25 คน รวม 63 คน
โดยคละกนั ระหว่างนกั เรยี นที่มผี ลการเรยี นเก่ง 15 คน ปานกลาง 12 คน และอ่อน 15 คน รวมมที ั้งหมด 42 คน
2. เครอ่ื งมือทใี่ ช้ในการรายงาน
เครื่องมอื ท่ีใช้ในการศกึ ษา มีดังน้ี
2.1. เอกสารประกอบการเรียน รหัสวิชา ง30241 วิชา Web Design and Development กลุ่มสาระ
การเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 จานวน 5 เล่ม
2.2. แบบทดสอบก่อนและหลังเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรยี น รหัสวิชา ง30241 วชิ า Web
Design and Development กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
2.3. แบบสอบถามความพึงพอใจของนกั เรยี นท่มี ีต่อเอกสารประกอบการเรียน
รหัสวิชา ง30241 วิชา Web Design and Development กลุม่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชีพและเทคโนโลยี
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4
2.1. เอกสารประกอบการเรียน รหัสวิชา ง30241 วิชา Web Design and Development กลมุ่
สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4
ผ้รู ายงานไดส้ ร้างและหาประสิทธภิ าพของเอกสารประกอบการเรียน รหสั วิชา ง30241 วิชา Web
Design and Development กลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ดังนี้
2.1.1 ลกั ษณะของเอกสารประกอบการเรียน รหสั วชิ า ง30241 วชิ า Web Design and
Development กลุ่มสาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4
ผรู้ ายงานสรา้ งเอกสารประกอบการเรียน รหสั วชิ า ง30241 วิชา Web Design and
Development กลุม่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 มีสว่ นประกอบดงั น้ี
1.) ส่วนนา ประกอบด้วย ปกนอกปกในคานาสารบัญคาชแ้ี จง
2.) ส่วนเนื้อหา แบง่ เปน็ เรื่องย่อยๆ ตามลกั ษณะของเนื้อหา มสี ว่ นประกอบดงั นี้ ช่อื บท หรือ
ช่อื หนว่ ยหวั ข้อเรือ่ งย่อยกิจกรรมหลักจดุ ประสงคเ์ น้อื หาโดยละเอียดแบบฝกึ หัด
3.) ส่วนอ้างอิง อยสู่ ว่ นทา้ ยของเนือ้ หาในแต่ละเล่มเอกสารมสี ว่ นประกอบดังนี้ เอกสารอ้างอิง
ประจาบทภาคผนวก เชน่ ข้อทดสอบ เฉลย แนวการตอบ/แนวปฏบิ ตั ิ
เอกสารประกอบการเรยี น รหัสวชิ า ง30241 วชิ า Web Design and Development กลมุ่ สาระการ
เรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 มีจานวน 5หน่วยประกอบดว้ ย
หนว่ ยท่ี 1 รจู้ ักการทางานของเวบ็ ไซตเ์ บื้องตน้
หนว่ ยท่ี 2 Banner และ Button สวยด้วย Photoshop
หน่วยที่ 3 เริ่มตน้ สร้างเว็บกบั Dreamweaver
หน่วยท่ี 4 สร้างเว็บงา่ ยๆ สไตล์ Dreamweaver
หนว่ ยที่ 5 การอัพโหลดและจรรยาบรรณในการใช้อนิ เทอรเ์ นต็
ตารางที่ 2 แสดงรายละเอียดของเอกสารประกอบการเรยี น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี
รหสั วิชา ง30241รายวิชา Web design and Development ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4
เอกสารประกอบ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จานวน
การเรยี นเล่มที่ ช่ัวโมง
1. นกั เรียนรูจ้ ักการทางานของเว็บไซต์เบื้องตน้ สามารถอธบิ าย
หนว่ ยท่ี 1 รู้จักการ ข้อดี ข้อเสยี ของแนวคิด Responsive Web Design 4
ทางานของเวบ็ ไซต์ 2. นกั เรยี นสามารถเขียนอธิบายความหมาย คาศัพทพ์ นื้ ฐาน
เบอ้ื งตน้ เกยี่ วกบั การสร้างเว็บไซต์
3. นกั เรียนสามารถบอกประเภทของเวบ็ ไซต์ และเหน็ คุณคา่
ของสารสนเทศ
4. นกั เรียนสามารถเขียนบอกส่วนประกอบหลกั ของเว็บไซต์
5. นกั เรยี นสามารถบอกความหมายของโทนสีท่ใี ชก้ ับเวบ็ และ
ออกแบบหนา้ เว็บตามที่กาหนดใหไ้ ด้
ตารางท่ี 2 (ต่อ)
เอกสารประกอบ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จานวน
การเรียนเล่มที่ ชัว่ โมง
หนว่ ยท่ี 2 Banner และ 1. นักเรยี นสามารถบอกความหมายประเภทของกราฟกิ ได้ 5
Button สวย ด้วย 2. นักเรยี นสามารถสรา้ ง Banner ไดอ้ ย่างต้ังใจ 5
Photoshop 3. นักเรยี นสามารถสรา้ ง ปุ่ม Menu ได้ 5
4. นกั เรยี นสามารถสร้างและอธิบายขั้นตอนการสร้าง Web
Photo Gallery
หนว่ ยท่ี 3 เรม่ิ ตน้ สร้าง 1. นกั เรยี นสามารถอธิบายส่วนประกอบของโปรแกรม
เว็บกับ Dreamweaver 2. นักเรยี นสามารถสร้างเวบ็ ไซต์ตามโครงสรา้ งท่ีมกี ารจดั การ
ตาราง แทรกรปู ภาพ และการจัดรูปแบบขอ้ ความ ตามที่
กาหนดใหไ้ ด้อย่างตง้ั ใจ
หนว่ ยท่ี 4 สร้างเว็บ 1. นกั เรยี นสามารถสรา้ งเวบ็ ไซต์และสรา้ งจุดเช่ือมโยง
ง่ายๆ สไตล์ รูปแบบที่กาหนดให้ได้อยา่ งตั้งใจ
Dreamweaver 2. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายขัน้ ตอนการเลือกเลยเ์ อาทเ์ พื่อ
ออกแบบเว็บได้
3. นักเรียนสามารถสร้างเว็บไซต์และออกแบบเฟรมตามที่
กาหนดใหไ้ ด้
4. นักเรยี นสามารถสร้างฟอรม์ ตามที่กาหนดใหไ้ ด้
หนว่ ยที่ 5 การอัพโหลด 1. นกั เรยี นสามารถวเิ คราะห์ได้วา่ เร่ืองใดท่ีไมค่ วรโพสต์ ไม่ 5
ไฟล์ และจรรยาบรรณใน ควรอัพ ไมค่ วรแชร์ และไมล่ ะเมิดข้อมลู สารสนเทศ บนโซ
การใช้อนิ เทอร์เนต็ เชยี ล อย่างมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และเหน็ ความสาคญั ของ
สารสนเทศบนโซเชยี ล
2. นักเรียนสามารถสร้างเวบ็ ไซต์ตามหวั ข้อทนี่ ักเรยี นสนใจ
และ อัพโหลดไฟล์เว็บไซต์ได้
3. นักเรยี นสามารถบอกความหมายและประเภทของโดเมน
เนมได้
2.2 การสรา้ งเอกสารประกอบการเรียน รหสั วชิ า ง30241 วชิ า Web Design and
Development กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4
ผูร้ ายงานไดด้ าเนนิ การสรา้ งเอกสารประกอบการเรียนและหาประสิทธภิ าพ ดังรายละเอียดแสดงใน
แผนภูมิท่ี 2
แผนภาพท่ี 2 แสดงลาดบั ขั้นตอนการสรา้ งและหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรยี น
รหัสวชิ า ง30241 วิชา Web Design and Development กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชน้ั
มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
1. ศึกษาเอกสารและงานวิจัยทเี่ ก่ียวข้อง 2. สรา้ งเอกสารประกอบการเรยี น
4. สร้างแผนการจดั การเรยี นรเู้ ก่ียวข้อง 3. สร้างค่มู อื
5. นาเสนอผูเ้ ช่ียวชาญตรวจสอบ 6. นาไปทดลองใชก้ บั นกั เรยี น
จากแผนภูมิข้างตน้ จาแ7น.กหราายปลระะเสอิทียธดภิ ไดาพ้ดงั นE้ี 1/E2
2.2.1 ศกึ ษาเอกสารและงานวิจยั ท่ีเกย่ี วข้องกบั การสรา้ งเอกสารประกอบ
การเรียน นามาเป็นแนวทางและประยกุ ต์ใช้ในสร้างเอกสารประกอบการเรยี น โดยเร่ิมตั้งแต่ การ
ประมวลเน้ือหาวิชาที่สอน การวิเคราะห์เน้ือหา การแบ่งหน่วยเนอ้ื หา การกาหนดรูปแบบกจิ กรรมการสอน และ
การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เพ่ือการนาเสนอเนื้อหาทสี่ อดคล้องกับทฤษฎี การเรยี นรู้ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพตามความถนัดและความสามารถของแต่ละบุคคล
2.2.2 สรา้ งเอกสารประกอบการเรียน ผู้รายงานได้ดาเนินการสร้างเอกสารประกอบการ
เรยี น รหสั วิชา ง30241 วิชา Web Design and Development กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และ
เทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 จานวน 5 เล่ม 5 หน่วยการเรียน ประกอบดว้ ย
เล่มท่ี 1 รู้จักการทางานของเวบ็ ไซตเ์ บือ้ งต้น
เล่มท่ี 2 Banner และ Button สวยด้วย Photoshop
เลม่ ที่ 3 เริ่มตน้ สร้างเว็บกับ Dreamweaver
เล่มที่ 4 สรา้ งเว็บง่ายๆ สไตล์ Dreamweaver
เล่มท่ี 5 การอัพโหลดและจรรยาบรรณในการใช้อินเทอร์เน็ต
โดยการศกึ ษาค้นคว้าเนื้อหาสาระของเร่ืองและจัดวางโครงเรื่องตามรายละเอยี ด
ของสาระการเรยี นรเู้ พ่มิ เติม รหัสวิชา ง30241 วชิ า Web Design and Development ศึกษารูปแบบการเขียน
กาหนดจุดประสงค์ กาหนดแนวการสอน และวเิ คราะห์กระบวนการวดั และประเมินผล
2.2.3 สรา้ งคู่มือผู้รายงานได้ดาเนินการสร้างคมู่ อื การใช้เอกสารประกอบ
การเรยี น รหสั วิชา ง30241 วิชา Web Design and Development กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และ
เทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประกอบไปด้วย คาแนะนาการใช้เอกสารประกอบการเรียน คาชี้แจงในการใช้
เอกสารประกอบการเรยี น
2.2.4 สรา้ งแผนการจดั การเรียนรู้ ผรู้ ายงานไดด้ าเนนิ การสร้างแผนการจดั การเรยี นรโู้ ดย
กาหนดเนอ้ื หาให้สอดคล้องกับจดุ ประสงคใ์ นเอกสารประกอบการเรียน รหัสวชิ า ง30241 วิชา Web Design and
Development กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 จานวน 5 เล่ม ใช้เวลา
สอนรวม 26 ชวั่ โมง (รวมการทดสอบกลางภาคและปลายภาคเรียน)
2.2.5 นาเสนอผเู้ ชยี่ วชาญตรวจสอบ
1) ผู้เชยี่ วชาญตรวจสอบความเหมาะสมของเอกสารประกอบการเรยี น รหสั วชิ า ง
30241 วิชา Web Design and Development กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษา
ปีท่ี 4 ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 คน ได้ตรวจสอบความเท่ียงตรงเชงิ เนื้อหาตรวจสอบ ความสอดคล้องกับจุดประสงค์เชงิ
พฤติกรรม (IOC) ของแบบสอบถามความเหมาะสมได้ค่าความสอดคล้องอยรู่ ะหว่าง .60 - 1.00 รายช่อื ผูเ้ ชีย่ วชาญ
มี ดงั นี้
(1) ผศ.พรหมเมศ วรี ะพันธ์ ตาแหน่งอาจารย์ ประจาโปรแกรมวิชาวทิ ยาการ
คอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลัยกาแพงเพชร ผู้เช่ยี วชาญด้านเทคโนโลยีการศึกษาและ
วจิ ยั
(2) ผศ.นรตุ ม์ บตุ รพลอย ตาแหน่งอาจารย์ ประจาโปรแกรมวิชาเทคโนโลยี
คอมพิวเตอร์ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยกาแพงเพชร ผู้เชีย่ วชาญดา้ นเทคโนโลยีการศึกษา และ
ผเู้ ชี่ยวชาญดา้ นเน้อื หา
(3) นางจนั ทร์เพ็ญ เขยี วสอาด ตาแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ (วชิ า
คณิตศาสตร์) โรงเรียนบรรพตพสิ ัยพิทยาคม สานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 42 ผเู้ ชย่ี วชาญด้าน
การวดั และประเมนิ ผลการศึกษา
(4) นางสาวประพิศ พรมศลิ า ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ (วชิ า
ภาษาไทย) โรงเรยี นบรรพตพิสัยพิทยาคม สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 42 ผ้เู ช่ียวชาญด้าน
เนือ้ หา การจัดรปู แบบ
(5) นางอัญชลี บุญยังอนันต์ ตาแหน่งตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ
พเิ ศษ (วิชาภาษาไทย) โรงเรยี นบรรพตพสิ ยั พิทยาคม สานกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 42
ผู้เช่ยี วชาญด้านเนอ้ื หา การจัดรปู แบบ
2) นาเอกสารประกอบการเรียนทีส่ ร้างขน้ึ เรยี บรอ้ ยแลว้ ไปให้ผ้เู ชีย่ วชาญตรวจสอบ
คณุ ภาพของเอกสารประกอบการเรียนในด้านต่างๆ จานวน 5 คน เพื่อตรวจสอบความตรงเชงิ เนื้อหา โดยใชแ้ บบ
ประเมินคุณภาพเอกสารประกอบการเรยี น ด้านเน้ือหาแบบมาตราสว่ นประเมินค่า (Rating Scale) ซง่ึ กาหนดค่า
คะแนนเปน็ 5 ระดบั ตามวธิ ีของลเิ คิร์ท โดยมีเกณฑใ์ ห้คะแนน ดงั นี้ (บุญชม ศรสี ะอาด, 2543, หน้า 61)
ระดบั 5 หมายถงึ เหมาะสมมากที่สดุ
ระดบั 4 หมายถึง เหมาะสมมาก
ระดบั 3 หมายถึง เหมาะสมปานกลาง
ระดับ 2 หมายถึง เหมาะสมน้อย
ระดับ 1 หมายถงึ เหมาะสมน้อยท่ีสุด
3) นาผลการประเมนิ ความคดิ เหน็ ของผู้เชย่ี วชาญมาพจิ ารณาหาคา่ เฉลี่ย เพอื่ ใชเ้ ปน็
เกณฑ์ในการยอมรับคุณภาพของเอกสารประกอบการเรียน โดยกาหนดเกณฑใ์ นการประเมนิ ดังน้ี (บุญชม ศรี
สะอาด, 2543, หน้า 62)
ค่าเฉล่ีย 4.51-5.00 หมายถงึ เหมาะสมมากทส่ี ดุ
คา่ เฉลยี่ 3.51-4.50 หมายถึง เหมาะสมมาก
ค่าเฉล่ยี 2.51-3.50 หมายถึง เหมาะสมปานกลาง
คา่ เฉลี่ย 1.51-2.50 หมายถงึ เหมาะสมน้อย
ค่าเฉลย่ี 1.00-1.50 หมายถงึ เหมาะสมน้อยที่สดุ
ผลการประเมนิ ของผู้เช่ียวชาญ ดงั แสดงในตารางท่ี 3
ตารางที่ 3 แสดงผลการประเมนิ คุณภาพของเอกสารประกอบการเรียนโดยผ้เู ช่ยี วชาญ
เลม่ ท่ี ชือ่ เรื่อง X S.D แปลความหมาย
4.59 0.49 เหมาะสมมากท่สี ดุ
เลม่ ที่ 1 รู้จกั การทางานของเว็บไซต์เบื้องตน้ 4.63 0.48 เหมาะสมมากท่ีสุด
เลม่ ท่ี 2 Banner และ Button สวยดว้ ย Photoshop 4.61 0.49 เหมาะสมมากทีส่ ดุ
เล่มที่ 3 เริ่มต้นสรา้ งเว็บกับDreamweaver 4.53 0.50 เหมาะสมมากทสี่ ดุ
เล่มท่ี 4 สร้างเวบ็ งา่ ยๆ สไตล์ Dreamweaver
เลม่ ที่ 5 การอัพโหลดและจรรยาบรรณในการใช้อินเทอร์เน็ต 4.58 0.49 เหมาะสมมากที่สดุ
4.59 0.49 เหมาะสมมากที่สดุ
รวม
จากตารางที่ 3 เม่ือพิจารณาผลการประเมนิ คุณภาพของเอกสารประกอบการเรียนโดยผเู้ ชย่ี วชาญ
พบวา่ วา่ ผู้เช่ียวชาญประเมนิ เอกสารประกอบการเรยี น 5 เลม่ มคี า่ เฉล่ียแตล่ ะเล่มอยู่ระหว่าง 4.53-4.63 โดยมี
ค่าสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน ระหวา่ ง 0.48-0.50 สรุปว่า ผ้เู ชยี่ วชาญมคี วามคิดเหน็ สอดคล้องกันวา่ โดยภาพรวม
เอกสารประกอบการเรียนรหัสวิชา ง30241 วิชา Web Design and Development กลมุ่ สาระการเรียนรู้การ
งานอาชพี และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 มีความเหมาะสมมากทสี่ ดุ ( X = 4.59 , S.D =0.49) (รายละเอยี ด
ในภาคผนวก ฑ หนา้ 268-283)
2.3 นาไปทดลองใช้กับนกั เรยี นเพื่อหาประสิทธิภาพเบอ้ื งตน้ ผู้รายงานได้นาเอกสาร
ประกอบการเรียน รหัสวชิ า ง30241 วิชา Web Design and Development กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี
และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 จานวน 5 เลม่ ทไี่ ดป้ รับปรุงแก้ไขตามคาแนะนาของผ้เู ช่ียวชาญไปทดลองใช้
กบั นักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ปกี ารศึกษา 2560 โรงเรียนบรรพตพิสยั พิทยาคม ตามข้ันตอน ดงั นี้
2.3.1 ขั้นทดลองแบบทดลองใชจ้ รงิ ผู้รายงานได้ส่มุ นกั เรยี นทเี่ รียนอยใู่ น ภาค
เรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2559 ของโรงเรยี นบรรพตพสิ ัยพทิ ยาคม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศึกษา เขต 42
ศึกษาเนื้อหาจากเอกสารประกอบ การรหัสวชิ า ง30241 วิชา Web Design and Development กล่มุ สาระการ
เรียนร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 จานวน 5 เลม่ พร้อมท้ังปฏิบัติกิจกรรมตามเอกสาร
จากนนั้ คานวณหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน โดยใชค้ ะแนนปฏิบตั ริ ะหว่างเรียนด้วยเอกสาร
ประกอบการเรียนและคะแนนหลงั เรยี นของนักเรยี นท่ีไดจ้ ากการทาแบบทดสอบหลงั เรียนดว้ ยเอกสาร
ประกอบการเรยี นรหสั วิชา
ง30241 วชิ า Web Design and Development กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้น
มัธยมศึกษาปีท่ี 4 หอ้ ง 4/3 จานวน 42 คน ทีไ่ ดจ้ ากการสุม่ อยา่ งงา่ ย(รายละเอียดแสดงในภาคผนวก จ หน้า 144-
178)
1.4 หาประสทิ ธภิ าพ E1/E2 โดยใช้คะแนนเฉลย่ี ของคะแนนกิจกรรมระหว่าง การเรียนใน
แตล่ ะหน่วยการเรียนของนักเรยี นท่ีเรยี นดว้ ยเอกสารประกอบการ รหสั วิชา ง30241 วชิ า Web Design and
Development กลุม่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ระหว่างเรยี นทง้ั 5 เล่ม
และคะแนนหลังเรยี นของนักเรยี นที่ได้จากการทาแบบทดสอบหลังใชเ้ อกสารประกอบการเรียนรหัสวิชา ง30241
วชิ า Web Design and Development กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4
หอ้ ง 4/3 จานวน 42 คน พบว่า หน่วยท่ี 1 มปี ระสิทธิภาพ 81.7/81.07 หน่วยท่ี 2 มปี ระสิทธภิ าพ 81.75/80.83
หนว่ ยที่ 3 มปี ระสิทธิภาพ 81.65/80.83 หน่วยที่ 4 มีประสิทธิภาพ 81.6/80.60 และ หนว่ ยท่ี 5 มีประสทิ ธิภาพ
81.65/81.19 เอกสารประกอบการเรียนท้งั 5 เลม่ มีประสิทธภิ าพตามเกณฑ์ 80/80 ที่กาหนดไว้ (รายละเอยี ด
แสดงในภาคผนวก จ หน้า 144-178) ปรบั ปรุงและนาไปใช้ทดลองกบั นกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 และ 4/4
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2560 โรงเรียน บรรพตพสิ ยั พทิ ยาคม จานวน 42 คน
2. การสรา้ งแบบทดสอบก่อนและหลังเรียนเอกสารประกอบการเรยี น รายวิชาWeb design and
Development (ง30241) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปี
ท่ี 4
2.1 ลักษณะของแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียน
แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียนรหสั วชิ า ง30241 วชิ า Web Design and Development
กล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 มี 2 ฉบบั คือ แบบทดสอบก่อนเรยี น และ
แบบทดสอบหลังเรียน จานวนฉบบั ละ 10 ข้อ เป็นชนิดเลือกตอบ 4 ตวั เลือกทฤษฎี – ปฏบิ ัติและปฏบิ ัติ 1 ขอ้ ซ่ึง
มีลักษณะเปน็ แบบทดสอบค่ขู นานท่ีครอบคลุมจุดประสงค์ของเอกสารประกอบการเรยี นทุกเล่ม(รายละเอียดแสดง
ในภาคผนวก ค หน้า 120-132)
2.2 การสร้างและการหาคุณภาพของแบบทดสอบ
การสร้างและการหาคุณภาพของแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียนรหัสวิชา ง30241 วชิ า
Web Design and Development กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4
ผู้รายงานได้ดาเนนิ การสรา้ งตามลาดบั ขั้นตอนดังรายละเอยี ดแสดง
แผนภาพที่ 3 แสดงลาดับขั้นตอนการสรา้ งแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี นเอกสารประกอบ
การเรยี น รหัสวชิ า ง30241 วิชา Web Design and Development กลุม่ สาระการเรียนรกู้ ารงาน
อาชีพและเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4
1. กาหนดจดุ ประสงค์ 2. กาหนดเนอ้ื หา และสิ่งท่ตี ้องการวดั
4. ประเมนิ คุณภาพเสนอแนะโดยผูเ้ ชย่ี วชาญ 3. เขยี นแบบทดสอบรายขอ้
5. นาแบบทดสอบไปทดลองใช้ 6. วิเคราะห์คณุ ภาพของแบบทดสอบ
จาก7แ. ผจนัดภพมู ิมิขพา้ งแ์ ตบน้ บจทาดแสนอกบราแยบลบะทเอดยีสดอไบดก้ด่อังนนเี้ รยี นและหลังเรียนเพื่อนาไปใช้
2.2.1 กาหนดจดุ ประสงคข์ องแบบทดสอบ ผู้รายงานได้ดาเนนิ การศึกษาจุดประสงคข์ อง
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐานพุทธศักราช 2551 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี และ
เทคโนโลยีสาระที่ 3 เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารมาตรฐาน ง 3.1 เข้าใจเห็นคณุ คา่ และใช้กระบวนการ
เทคโนโลยสี ารสนเทศในการสืบค้นข้อมลู การเรยี นรกู้ ารสื่อสาร การแกป้ ัญหา การทางานและอาชีพอย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธผิ ลและมีคุณธรรมแล้วนามาเป็นแนวทางในการกาหนดจุดประสงคข์ องแบบทดสอบท่ี
สอดคล้องกบั เนื้อหาของเอกสารประกอบ การเรียนรหัสวิชา ง30241 วชิ า Web Design and
Development กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4
2.2.2 กาหนดเนอ้ื หาและสิ่งท่ีตอ้ งการวดั ผ้รู ายงานได้กาหนดเนือ้ หาของ
แบบทดสอบเพ่ือศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนทเี่ รยี นเอกสารประกอบการเรียน
รหสั วิชา ง30241 วชิ า Web Design and Development กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้ัน
มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ที่ผู้รายงานสรา้ งขนึ้
2.2.3 เขียนแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี นรหัสวิชา ง30241 วชิ า Web Design and
Development กลุม่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 วดั พฤติกรรมดา้ นพุทธิ
พิสัยมลี กั ษณะเปน็ แบบคู่ขนานท่ีสอดคล้องกับเรอื่ งและจุดประสงคข์ องเอกสารประกอบการเรยี นแต่ละเล่ม
จานวน 10 ข้อ เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก
2.2.4 ประเมินคุณภาพเสนอแนะเพื่อปรบั ปรงุ แก้ไขโดยผเู้ ช่ยี วชาญ ผรู้ ายงาน
ได้นาแบบทดสอบที่สร้างข้นึ ไปให้ผเู้ ช่ยี วชาญจานวน 5 คน ซึ่งเป็นผเู้ ชยี่ วชาญชดุ เดยี วกนั กบั การสร้าง
เอกสารประกอบการเรียนรหัสวชิ า ง30241 วิชา Web Design and Development
กล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ประเมนิ ความสอดคลอ้ งระหว่างข้อคาถาม
กบั จุดประสงคโ์ ดยหาคา่ ดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ดังนี้
ให้ + 1 คะแนน เม่ือผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าองคป์ ระกอบนน้ั ๆ มคี วามตรงเชงิ
เนือ้ หา
ให้ 0 คะแนน เมอ่ื ผเู้ ช่ียวชาญไม่แน่ใจว่าองค์ประกอบน้นั ๆ
มคี วามตรงเชิงเนือ้ หาหรอื ไม่
ให้ - 1 คะแนน เมือ่ ผูเ้ ช่ยี วชาญเหน็ ว่าองค์ประกอบนน้ั ๆ
ไมม่ ีความตรงเชงิ เนื้อหา
จากผลการตรวจของผเู้ ช่ยี วชาญ ข้อสอบทีม่ ีค่าต้ังแต่ 0.50 ข้ึนไป และพบว่าข้อสอบมคี า่ ดชั นี
ความสอดคล้องอยรู่ ะหว่าง 0.60 ถงึ 1.00 (รายละเอียดแสดงในภาคผนวก ฐ
หน้า 242-267)
2.2.5 นาแบบทดสอบท้ัง 2 ฉบับ ท่ไี ด้รบั การตรวจสอบจากผูเ้ ชีย่ วชาญแลว้ ไปทดลองใชก้ ับ
นักเรียน ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ปกี ารศึกษา 2559 ของโรงเรยี นบรรพตพิสยั พทิ ยาคม สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษา
มัธยมศึกษา เขต 42 จานวน 62 คนทเี่ คยเรียนเรอื่ งน้ีมาแล้ว นาคะแนนที่ไดจ้ ากแบบทดสอบ วิเคราะห์หาคุณภาพ
โดยให้ 1 คะแนนสาหรับข้อท่ีตอบถูก และให้ 0 คะแนนสาหรับขอ้ ทีต่ อบผิด หรอื ไมต่ อบ หรอื ตอบมากกว่า 1 ข้อ
2.2.6 วิเคราะหค์ ุณภาพของแบบทดสอบ โดยการวิเคราะห์ข้อสอบเพ่ือหาค่า
ความยากง่าย (P) และค่าอานาจจาแนก (r) (โดยใช้เทคนิค 33%) คดั ข้อสอบท่ีมีความยากงา่ ยระหว่าง
0.20 – 0.80 และมีค่าอานาจจาแนกต้ังแต่ .20 ขึน้ ไป และครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรียนร้ขู อง
เอกสารประกอบการเรียนทกุ เล่มเล่มละจานวน 10 ข้อข้อสอบปฏิบัติ 1 ขอ้ (ข้อสอบค่ขู นาน)
1) แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรยี น ภาคทฤษฎีจานวน 10 ขอ้ และภาคปฏิบัติข้อสอบ
มคี วามยากง่ายระหว่าง 0.25 -0.63 มีคา่ อานาจจาแนกระหว่าง 0.32 -0.97 คา่ ความเช่อื ม่นั เท่ากับ 0.83
(รายละเอยี ดแสดงในภาคผนวก ง หน้า 133-143)
2) แล้วนาขอ้ สอบ ไปทดลองใชก้ บั นกั เรยี น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ท่ีเรยี นอยใู่ นปี
การศกึ ษา 2559 ของโรงเรยี นบรรพตพสิ ยั พทิ ยาคมสานกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษามธั ยมศึกษาเขต 42 ห้อง 4/3
จานวน 42 คน และช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ท่ีเรยี นอยใู่ นปีการศึกษา 2559 จานวน 63 คน ท่ีเรยี นเนอื้ หานม้ี าแล้วอีก
ครั้ง นามาวเิ คราะหห์ าค่าความเชือ่ มั่นของแบบทดสอบทัง้ ฉบบั โดยใชส้ ูตร KR-20 ของคเู ดอร์รชิ ารด์ สัน (Kuder –
Richardson) แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรยี นไดค้ ่าความเชือ่ มัน่ 0.73 (รายละเอยี ดแสดงในภาคผนวก ง หน้า 133
– 143)
2.2.7 จดั พมิ พ์แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรยี นเอกสารประกอบการเรยี น รหสั วชิ า ง
30241 วิชา Web Design and Development กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชัน้
มัธยมศึกษาปที ่ี 4 เพ่ือนาไปใชก้ บั ห้อง 4/3 จานวน 42 คน ปีการศึกษา 2559 จานวน 42 คน ในภาคเรยี นที่ 2 ปี
การศึกษา2560 ซึ่งเป็นกลุม่ ตัวอย่างในการทดลองใชจ้ รงิ
3. การสรา้ งแบบสอบถามความพึงพอใจของนกั เรียนทมี่ ีตอ่ เอกสารประกอบการเรยี น รหัสวชิ า ง
30241 วชิ า Web Design and Development กล่มุ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ชนั้
มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4
การสร้างและหาคณุ ภาพของแบบสอบถามความพงึ พอใจของนกั เรียนทีม่ ตี ่อเอกสารประกอบการเรยี น
รหสั วชิ า ง30241 วิชา Web Design and Development กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 โรงเรียนบรรพตพสิ ัยพทิ ยาคม สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 42 ผูร้ ายงานได้
ดาเนนิ การสรา้ งดงั รายละเอยี ดแสดงในแผนภูมทิ ่ี 4
แผนภาพท่ี 4 แสดงลาดบั ขั้นการสร้างแบบวดั ความพึงพอใจของนักเรียนทม่ี ีต่อเอกสารประกอบ
การเรยี น รหสั วชิ า ง30241 วิชา Web Design and Development กลุ่มสาระการเรยี นรูก้ ารงาน
อาชีพและเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 4
1. ศึกษาวธิ ีการสร้างแบบสอบถาม 2. ศึกษาขอ้ ความที่แสดงถึงความพงึ พอใจ
4.กาหนดเกณฑแ์ ปลความหมาย 3.สร้างแบบสอบถามวดั ความพึงพอใจ
5.ประเมินคุณภาพโดยผเู้ ชี่ยวชาญ 6.นาแบบสอบถามไปทดลองใช้
8.จดั พมิ พแ์ บบสอบถามเพ่ือนาไปใช้ 7. นาไปหาคา่ ความเช่ือมนั่
จากแผนภูมิขา้ งต้นจาแนกรายละเอยี ดได้ดังน้ี
3.1 ศึกษาวธิ กี ารสรา้ งแบบสอบถาม (บญุ ชม ศรสี ะอาด,2545, หน้า 66 - 74)
3.2 ศึกษารายการข้อความที่แสดงถึงความพงึ พอใจและแนวทางการสรา้ ง
แบบสอบถามวัดความพึงพอใจกาหนดองค์ประกอบในการสร้างแบบสอบถามความพงึ พอใจ ตอ่
เอกสารประกอบการเรยี น รหัสวิชา ง30241 วชิ า Web Design and Development กล่มุ สาระการเรียนรู้การ
งานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 โดยกาหนดประเดน็ ย่อยจานวน 10 ข้อ
3.3 สร้างแบบสอบถามวดั ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน รหสั วิชา ง
30241 วิชา Web Design and Development กลุม่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษา
ปีที่ 4 มลี ักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณคา่ 5 ระดบั จานวน 10 ข้อ มคี วามหมายดงั นี้ (บญุ ชมศรสี ะอาด, 2545,
หน้า 66 - 74)
มคี วามพงึ พอใจมากที่สุด ใหค้ ะแนน 5 คะแนน
มคี วามพงึ พอใจมาก ให้คะแนน 4 คะแนน
มีความพงึ พอใจปานกลาง ใหค้ ะแนน 3 คะแนน
มคี วามพึงพอใจนอ้ ย ใหค้ ะแนน 2 คะแนน
มคี วามพงึ พอใจนอ้ ยทีส่ ดุ ให้คะแนน 1 คะแนน
3.4 กาหนดเกณฑ์ในการแปลความหมายของค่าเฉล่ีย ( X) แบบสอบถามวัดความ พึง
พอใจของนักเรียนท่ีมตี ่อเอกสารประกอบการ รหสั วิชา ง30241 วชิ า Web Design and Development กลมุ่
สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ใช้เกณฑแ์ ปลความหมายคะแนนของลิเคอร์ท
(Likert) โดยพิจารณาคา่ เฉลย่ี ดังนี้
4.50 - 5.00 หมายถงึ มีความพึงพอใจอยใู่ นระดับมากท่สี ดุ
3.50 - 4.49 หมายถึง มคี วามพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
2.50 - 3.49 หมายถึง มคี วามพึงพอใจอยู่ในระดบั ปานกลาง
1.50 - 2.49 หมายถึง มคี วามพึงพอใจอยู่ในระดบั น้อย
1.00 - 1.49 หมายถึง มีความพึงพอใจอยใู่ นระดบั น้อยทส่ี ดุ
3.5 นาแบบสอบถามวัดความพึงพอใจที่สร้างขน้ึ ไปให้ผู้เชย่ี วชาญตรวจสอบ
ความถูกต้องซ่งึ ผ้เู ชย่ี วชาญจานวน 5 คน เปน็ ผูเ้ ชีย่ วชาญชดุ เดมิ เพื่อตรวจสอบเนื้อหา ภาษาทีใ่ ช้
ในแบบสอบถามและปรบั ปรงุ แกไ้ ขหาคา่ เฉลยี่ ดัชนีความสอดคล้องและตรวจสอบความเท่ียงตรง
เชิงเนอ้ื หา (Content validity) ดังน้ี
ใหค้ ะแนน +1 เมื่อแนใ่ จว่าข้อความนัน้ วัดได้ตรงตามโครงสรา้ ง
ใหค้ ะแนน -1 เม่ือแน่ใจว่าขอ้ ความนัน้ วัดได้ไม่ตรงตามโครงสร้าง
ใหค้ ะแนน 0 เมอ่ื ไมแ่ นใ่ จวา่ ขอ้ ความนนั้ วัดไดต้ รงตามโครงสร้าง
คัดเลือกขอ้ คาถามท่ีมคี า่ IOC ท่ีมากกว่าหรือเท่ากบั .50 ไว้ในแบบสอบถาม
วดั ความพงึ พอใจซึ่งเป็นขอ้ คาถามท่ีสามารถวัดได้ตรงตามวัตถุประสงค์ทตี่ ้องการจะวัด ข้อคาถามท่ีมคี ่า IOC ทีต่ ่า
กวา่ .50 นามาปรบั ปรงุ แกไ้ ขใหม่ใหด้ ีขึน้ (พวงรัตน์ ทวีรัตน์, 2540, หน้า 117) ผลจากการคานวณค่า
IOC รายข้อมคี า่ เทา่ กับ 1.00 (รายละเอียดแสดงในภาคผนวก ฎ หนา้ 274)
3.6 นาแบบสอบถามวัดความพึงพอใจไปทดลองใช้ (Try-out) กับนักเรียน ชั้น
มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ทีเ่ รยี นอยใู่ นปกี ารศึกษา 2559 ของโรงเรียนบรรพตพสิ ัยพิทยาคมสานกั งาน
เขตพน้ื ทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษาเขต 42 จานวน 42 คน ซ่งึ เป็นชดุ เดยี วกันกบั กลุ่มทดลองที่ใช้
หาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรยี นรหสั วิชา ง30241 วชิ า Web Design and Development กลุม่
สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 (รายละเอียดแสดงในภาคผนวก ช หนา้ 197-
201)
3.7 นาไปหาค่าความเชอื่ ม่ันตามวธิ ขี องครอนบาค (พวงรตั น์ ทวีรัตน์, 2540, หน้า
130) ไดค้ ่าสัมประสิทธแ์ิ อลฟ่า (α-Coefficient) ของแบบสอบถามวัดความพึงพอใจท้งั ฉบับเทา่ กับ 0.78
(รายละเอียดแสดงในภาคผนวก ฎ หน้า 276-278)
3.8 จดั พิมพ์แบบสอบถามวัดความพงึ พอใจเพื่อนาไปใชเ้ ป็นเครื่องมือเพือ่ เก็บรวบรวมข้อมูลใน
ขัน้ ทดลองต่อไป (รายละเอยี ดแสดงในภาคผนวก ฎ หนา้ 241-244)
แบบแผนการทดลองใช้
การศึกษาครัง้ น้ี ผู้รายงานทดลองใช้เอกสารประกอบการเรียน รหสั วิชา ง30241 วชิ า Web Design
and Development สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4 ทีส่ รา้ งขึ้นใช้แบบ
แผนการทดลองใช้แบบกลุ่มเดียวทดสอบก่อนและหลงั เรียน (One Group Pretest-Posttest Design) (นคิ ม ตงั
คะพภิ พ, 2543, หน้า 308 - 310) ดงั รายละเอียดแสดงในแผนภาพท่ี 5
แผนภาพที่ 5 แสดงแบบแผนการทดลองใชเ้ อกสารประกอบการเรยี น รหัสวชิ า ง30241 วิชา Web Design
and Development กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4
E-group O1 X O2
O1 หมายถงึ การทดสอบก่อนเรียนเอกสารประกอบการเรยี น รหสั วชิ า ง30241 วชิ า Web Design and
Development กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 (Pretest)
X หมายถงึ การเรยี นดว้ ยเอกสารประกอบการเรียน รหสั วิชา ง30241 วชิ า Web Design and
Development กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 (Treatment)
O2หมายถึง การทดสอบหลังเรียนเอกสารประกอบการเรียน รหสั วชิ า ง30241 วิชา Web Design and
Development กลมุ่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 (Posttest)
3. การเกบ็ รวบรวมข้อมูล
ผูร้ ายงานไดน้ าเอกสารประกอบการ รหัสวชิ า ง30241 วิชา Web Design and Development กล่มุ
สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ท่ีถูกต้องสมบูรณ์แล้วไปทดลองใช้จริงกับ
นักเรียน ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ของโรงเรียนบรรพตพิสยั พิทยาคม ท่ีศกึ ษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560
จานวน 63 คน โดยจัดการเรียนการสอนที่ห้องเรยี น ตามหน่วยการเรยี นและแผนการเรียนรายกจิ กรรม รวมเวลาท่ี
ทาแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี นมลี าดบั ขัน้ ตอน ดงั รายละเอยี ดแสดงในแผนภาพที่ 6
แผนภาพที่ 6 แสดงการเก็บรวบรวมขอ้ มูลเอกสารประกอบการเรยี น รหัสวิชา ง30241 วิชา Web Design and
Development กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
1. ทดสอบกอ่ นเรียน
2. จัดการเรียนรู้ตามแผนการจดั การเรยี นรู้
3. ทดสอบหลงั เรียน
4. เปรียบเทียบคะแนนก่อนเรยี นหลงั เรยี น
ขั้นที่ 1 ผรู้ ายงานทดสอบก่อนเ5ร.ยี ศนกึ โดษยาใคชวแ้ าบมบพทึงดพสออใจบก่อนเรียนเอกสารประกอบการเรียน
รหัสวชิ า ง30241 วิชา Web Design and Development กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นข้อสอบแบบปรนัยชนดิ 4 ตวั เลอื ก จานวน 10 ขอ้ เพ่ือตรวจสอบความรู้พน้ื ฐานของ
นักเรยี นแลว้ รวบรวมขอ้ มลู ไวเ้ พ่ือเปรียบเทยี บกับผลการทาแบบทดสอบหลงั เรียนต่อไป
ข้ันที่ 2 ผ้รู ายงานจดั การเรยี นรตู้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ใหน้ กั เรียนเรยี นเอกสารประกอบการเรยี น
รหสั วิชา ง30241 วชิ า Web Design and Development กล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ของโรงเรียนบรรพตพสิ ัยพทิ ยาคมท่ีศึกษาในภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2560 จานวน 63
คน ซึ่งเป็นกลมุ่ ตวั อยา่ งทีละเลม่ ตามลาดับและปฏิบตั ิกิจกรรมตามท่ีกาหนดไว้ในบทเรียน จานวน 18 ช่ัวโมง รวม
การทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี นคร้ังละ 1 ชว่ั โมง รวมจานวน 38 ชว่ั โมง โดยเรมิ่ ตั้งแต่ตั้งแตว่ ันท่ี 14
พฤศจกิ ายน 2560 ถึงวันท่ี 27 มนี าคม 2561 ดงั แสดงตารางท่ี 4
ตารางที่ 4 แสดงระยะเวลาการทดลองสอนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน รหัสวิชา ง30241 วชิ า Web
Design and Development กลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4
เนื้อหา ช่ัวโมงที่ วนั เดือน ปีท่ีสอน เวลา
แผนท่ี 1 Internet เบือ้ งตน้ 1-2 14 พฤศจกิ ายน 60 08.30-10.30 น.
แผนที่ 2 ส่วนประกอบของเว็บไซต์ 3-4 21 พฤศจกิ ายน 60 08.30-10.30 น.
แผนที่ 3 การสร้างแบนเนอร์ 5-6 28 พฤศจิกายน 60 08.30-09.30 น.
แผนที่ 4 การสร้างปุ่มเมนู 7-8 6 ธนั วาคม 60 08.30-10.30 น.
แผนท่ี 5 การสรา้ ง Web Photo gallery 9 12 ธนั วาคม 60 08.30-09.30 น.
แผนท่ี 6 การสรา้ งเว็บไซตเ์ บื้องต้น 10-11 19 ธันวาคม 60 08.30-10.30 น.
แผนที่ 7 การแต่งเวบ็ สวยด้วยตาราง 12-13 26 ธนั วาคม 60 08.30-10.30 น.
แผนท่ี 8 การจัดวางรปู ภาพและข้อความ 14 9 มกราคม 61 08.30-09.30 น.
แผนท่ี 9 การสร้าง site map 15 16 มกราคม 61 08.30-10.30 น.
แผนท่ี 10 การสร้างจุดเชื่อมโยง 16-17 23 มกราคม 61 08.30-09.30 น.
แผนท่ี 11 การออกแบบเลย์เอาท์ 18-19 30 มกราคม 61 08.30-10.30 น.
แผนที่ 12 การออกแบบเฟรม การสร้างฟอรม์ 20-21 6 กุมภาพนั ธ์ 61 08.30-09.30 น.
แผนที่ 13 จรรยาบรรณ คณุ ธรรมและจริยธรรมใน 22--23 6 กุมภาพนั ธ์ 61 08.30-10.30 น.
การใช้
แผนที่ 14 การอัพโหลดไฟลเ์ พื่อเผยแพร่ผลงาน 24 13 กุมภาพนั ธ์ 61 08.30-10.30 น.
ผูร้ ายงานจะดาเนินการรวบรวมคะแนนจากการทากิจกรรมระหว่างเรียน และคะแนนจากการทา
แบบทดสอบหลังเรยี นของนกั เรยี น มาเป็นขอ้ มูลการหาค่าประสิทธิภาพการเรียนรู้ ดา้ น
กระบวนการ (E1) และด้านการเรยี นรู้ (E2) ตอ่ ไป
ขั้นที่ 3 เม่ือนกั เรยี นใช้เอกสารประกอบการรหัสวิชา ง30241 วิชา Web Design and Development
กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ครบทัง้ 5 เล่มแลว้ ให้นกั เรียนทา
แบบทดสอบหลังเรียนซ่ึงแบบทดสอบหลังเรียนจานวน 10 ขอ้ ปฏบิ ัติ 1 ข้อของแตล่ ะหน่วยแตะ่ ละเลม่
ขน้ั ท่ี 4 นาคะแนนจากการทาแบบทดสอบก่อนเรียนและคะแนนจากการทาแบบทดสอบหลังเรยี นมา
เปรียบเทียบหาคา่ เฉลยี่
ข้ันท่ี 5 ใหน้ ักเรยี นตอบแบบสอบถามความพงึ พอใจทมี่ ตี ่อการเรยี นโดยใช้เอกสารประกอบการเรยี น
รหัสวชิ า ง30241 วชิ า Web Design and Development กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้น
มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
4. การวิเคราะหข์ อ้ มูล
ในการศึกษาครง้ั น้ี ผูร้ ายงานจะดาเนินการวเิ คราะห์ข้อมลู ตามจุดมุ่งหมายของการศึกษา ดังนี้
แผนภาพท่ี 7 แสดงข้ันตอนการวเิ คราะห์ข้อมูลการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน
รหสั วิชา ง30241 วชิ า Web Design and Development กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ทดสอบก่อนเรียน ทดลองใชเ้ อกสารประกอบการเรียน
ปฏิบตั ิกิจกรรมระหวา่ งเรียน ทดสอบหลงั เรียน
เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนและหลงั เรียน และศึกษาความพึงพอใจ
1. หาประสิทธิภาพตามเกณฑ์ของเอกสารประกอบการเรียน รหสั วิชา ง30241 วชิ า Web Design
and Development กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4
1.1 ให้นักเรียนทุกคนทาแบบทดสอบก่อนเรียนและบนั ทึกคะแนนในการทาแบบทดสอบนักเรยี นทกุ
คน
1.2 ปฏิบตั กิ ิจกรรมนาเข้าสู่บทเรียน โดยผู้สอนเป็นผดู้ าเนินกิจกรรมตามคูม่ ือ การใช้
เอกสารประกอบการเรียน รหัสวิชา ง30241 วิชา Web Design and Development กลุม่ สาระการเรยี นรู้การ
งานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 และคาชีแ้ จงในแต่ละเลม่ ของเอกสารประกอบการเรยี น นกั เรียนทา
กิจกรรมทลี ะเล่มตามลาดับ โดยครูคอยใหค้ าแนะนาและสังเกตพฤตกิ รรมขณะทากิจกรรมและบันทึกคะแนนการ
ทากจิ กรรมในแต่ละเล่มนามาหาคา่ ร้อยละเฉลย่ี เป็นคะแนน E1
1.3 ให้นักเรียนทุกคนทาแบบทดสอบหลังเรยี น นาคะแนนหลังเรียนมาหาคา่ ร้อยละ
เฉลย่ี เป็นคะแนน E2
1.4 หาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรยี น รหัสวชิ า ง30241 วชิ า Web Design and
Development กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ทั้ง 5 เล่มเปรียบเทยี บ
E1/E2 กับเกณฑ์ 80/80(รายละเอียดแสดงในภาคผนวก ซ หน้า 202-218)
2. เพ่อื เปรยี บเทยี บคะแนนก่อนเรยี นและหลงั เรยี นของนักเรียนท่เี รียนด้วยเอกสารประกอบการเรยี น
รหัสวชิ า ง30241 วิชา Web Design and Development กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ัน
มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 โดยใชก้ ารทดสอบทีแบบกลุ่มตวั อยา่ งไม่เปน็ อิสระต่อกนั ดาเนนิ การตามลาดับ ดังนี้
2.1 นาคะแนนกอ่ นเรียนและหลังเรียนมาบนั ทกึ ลงในตารางหาคา่ เฉล่ีย ( X )
และส่วน
เบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
2.2 หาความแตกต่างระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลงั เรียนแตล่ ะคู่บนั ทึกลงชอ่ ง (D) และหาผลรวม
ของผลตา่ งของคะแนน ( D )
2.3 หาค่ากาลังสองของความแตกต่างระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนบันทึก
ลงในชอ่ ง D2 และหาผลรวมของความแตกตา่ งระหว่างคะแนนแต่ละคู่กาลังสอง ( D2 )
2.4 ทดสอบความแตกตา่ งระหวา่ งคะแนนกอ่ นเรียนและหลงั เรียน ตามสมมุตฐิ าน ข้อที่ 2
โดยใชก้ ารทดสอบทีแบบกลุ่มตัวอย่างไม่เปน็ อิสระต่อกนั (รายละเอียดแสดงในภาคผนวก ฌ หนา้ 247)
3. ศกึ ษาความพึงพอใจของนักเรยี น ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ท่ีมตี อ่ เอกสารประกอบ
การเรียน รายวิชาWeb design and Development (ง30241) กลุม่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และ
เทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ดาเนนิ การตามลาดบั ดังน้ี
3.1 นาคะแนนความพึงพอใจตอ่ เอกสารประกอบการเรยี น รหสั วิชา ง30241 วชิ า Web Design
and Development กลมุ่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 หลังเรยี นของกลุ่ม
ตวั อย่างทุกคนบนั ทึกลงในตาราง
3.2 หาคา่ เฉล่ีย ( X ) และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.)
3.3 นาคา่ เฉลย่ี และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานท่ีได้มาแปลความหมายเทยี บตามเกณฑ์คณุ ภาพท่ี
กาหนดไวร้ ายข้อ (รายละเอยี ดแสดงในภาคผนวก ญ หน้า 231-233)
5. สถิตทิ ีใ่ ช้ในการวิเคราะหข์ ้อมลู
1. สถติ ิท่ีใชว้ เิ คราะห์ค่าสอดคลอ้ งระหว่างข้อคาถามกับจดุ ประสงคใ์ ชส้ ูตร IOC ดังน้ี
(ล้วน สายยศ และองั คณา สายยศ, 2539, หนา้ 249)
IOC R
N
เมื่อ IOC แทน คา่ ดัชนีความสอดคล้องระหว่างแบบทดสอบกับ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
R แทน ผลรวมของคะแนนความคิดเห็นของผ้เู ชยี่ วชาญ
N แทน จานวนผูเ้ ช่ยี วชาญ
การแปลความหมายของคา่ IOC
ค่า IOC มากกวา่ หรือเทา่ กับ0.5แสดงวา่ สอดคล้องกับจดุ ประสงค์นาไปใช้ได้
ค่า IOC น้อยกว่า0.5แสดงว่าไมส่ อดคล้องกับจดุ ประสงค์ตอ้ งปรับปรงุ
2. สถิติทใ่ี ชว้ ิเคราะห์ค่าความเหมาะสมด้วยค่าเฉล่ีย ( X) และคา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน (S.D.) ใชส้ ูตร ดงั น้ี
2.1 ค่าเฉล่ยี ของคะแนน ( X)โดยใชส้ ตู ร (ลว้ น สายยศและอังคณา สายยศ,
2539, หน้า 59)
เมอ่ื X X X
n
X
n แทน คะแนนเฉล่ยี
แทน ผลรวมของคะแนนท้ังหมด
แทน จานวนนักเรียนในกลุ่ม
2.2 คา่ ความเบยี่ งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) (ลว้ น สายยศ
และอังคณา สายยศ,2539,หน้า 73)
n X X2
S.D.
n(n 1)
เมื่อ S.D. แทน ค่าเบีย่ งเบนมาตรฐาน
X แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด
X2 แทน ผลรวมของคะแนนกาลงั สองของนกั เรยี นแตล่ ะคน
n แทน จานวนนักเรียน
X แทน คะแนนของนักเรยี นแตล่ ะคน
3. สถิตทิ ใ่ี ช้วเิ คราะห์ค่าคณุ ภาพของแบบสอบถามด้วยค่าความยากงา่ ย (P)
และคา่ อานาจจาแนก (r) โดยใชส้ ูตรดังน้ี (ลว้ น สายยศ และอังคณา สายยศ, 2539, หนา้ 246)
3.1 สถติ ทิ ี่ใช้หาค่าความยากงา่ ย (P)
P L
P แทน ความยากงา่ ยของแบบทดสอบ
H แทน จานวนคนตอบถูกในกลมุ่ สงู
L แทน จานวนคนตอบถูกในกลมุ่ ต่า
N แทน จานวนคนทงั้ หมดในกลุ่มสูงและต่า
การแปลความหมายคา่ P กาหนดดังน้ี
ค่า P คอื ระดบั ความยากง่ายของแบบทดสอบ
ถ้า P มคี ่ามากกว่า .80 แบบทดสอบง่ายเกินไป
ถา้ P มคี า่ .60 - .80 แบบทดสอบค่อนขา้ งงา่ ย
ถ้า P มีค่า .40 - .59 แบบทดสอบคอ่ นขา้ งงา่ ยปานกลาง
ถา้ P มีคา่ .20 - .39 แบบทดสอบค่อนข้างยาก
ถ้า P มีคา่ นอ้ ยกวา่ .20 แบบทดสอบยากเกนิ ไป
3.2 สถิติท่ใี ช้หาค่าอานาจจาแนก (r) โดยใช้สูตร ดงั น้ี(ลว้ น สายยศ และองั คณา
สายยศ, 2539, หน้า 247)
r L
N H หรือ N L
เมอื่ H แทน จานวนคนตอบถูกในกลมุ่ เก่งหรอื กลุ่มท่ีได้คะแนนสูง
L แทน จานวนคนท่ตี อบถกู ในกลุม่ คนไมเ่ ก่งหรือกลุ่มที่ได้คะแนนต่า
NH แทน จานวนท้ังหมดในกลุ่มสูง
NL แทน จานวนทั้งหมดในกลุ่มต่า
การแปลความหมายของคา่ r กาหนดดังน้ี
ค่า r คือ อานาจจาแนก
คา่ r มีค่า มากกว่า .80 จาแนกคนเก่ง - อ่อนไดด้ ีมาก
คา่ r มคี ่า .60 - .80 จาแนกคนเกง่ - อ่อนดี
คา่ r มคี ่า .40 - .59 จาแนกคนเก่ง -อ่อน ได้ปานกลาง
ค่า r มีค่า .20 - .39 จาแนกคนเกง่ - อ่อนค่อนข้างพอใช้ได้
คา่ r มีคา่ นอ้ ยกว่า .20 จาแนกคนเก่ง -อ่อนไม่ได้
4. สถติ ิทีใ่ ชห้ าคา่ ความเช่ือมั่นโดยใชส้ ตู ร KR - 20 ของ คูเดอร์ ริชาร์ดสนั ดังนี้
(ล้วน สายยศ และองั คณา สายยศ, 2539, หน้า 215 - 216)
rtt n pq
1
n 1 S2t
เมอ่ื rtt แทน ค่าความเชอ่ื ม่ันของแบบทดสอบ
n แทน จานวนข้อของแบบทดสอบ
p แทน สัดส่วนของคนท่ีทาถูกในข้อหนงึ่ ๆ
q แทน สดั ส่วนของคนทาผิดในข้อหนึ่งๆ
q แทน 1 - p
S 2 แทน คะแนนความแปรปรวนของแบบทดสอบท้ังฉบับ
t
S2t x2 x2
1
x แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด
x2 แทน ผลรวมของคะแนนแต่ละตัวยกกาลังสอง
x2 แทน ผลรวมของคะแนนท้ังหมดยกกาลงั สอง
N แทน จานวนคนทเ่ี ขา้ สอบท้งั หมด
5.สถิตทิ ใ่ี ช้หาประสทิ ธิภาพใชส้ ตู ร E1/E2 (ชัยยงค์ พรหมวงศ,์ 2532, หน้า 495-496)
E1 100
E1 แทน ประสิทธภิ าพของกระบวนการท่ีจดั ไวใ้ นเอกสาร
ประกอบการเรียน
X แทน คะแนนรวมของผเู้ รยี นจากใบงาน
N แทน จานวนนกั เรยี น
A แทน คะแนนเต็มของใบงาน
F
E2 100
E2 แทน ประสิทธภิ าพของเอกสารประกอบการเรียน
ในการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมของผู้เรียน
F แทน คะแนนรวมของแบบทดสอบหลังเรียน
N แทน จานวนนักเรยี น
B แทน คะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรยี น
6. สถิตทิ ใ่ี ช้ในการเปรยี บเทยี บผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นก่อนเรียนและหลังเรียนเอกสารประกอบการ
เรียน รหัสวชิ า ง30241 วิชา Web Design and Development กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และ
เทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ใช้สถติ ทิ ดสอบ t – test แบบ Dependent Samples (ชูศรี วงศร์ ตั นะ, 2553,
หนา้ 201) ท่ีระดบั นยั สาคัญ .05 ดังน้ี
t = D
n D2 ( D)2
n 1
เมอ่ื t แทน ค่าวกิ ฤตท่ใี ช้ในการพจิ ารณาการแจกแจงของค่า
t (t-distribution)
D แทน ผลรวมของความแตกต่างการทดสอบก่อนและหลงั การฝกึ
D2 แทน
ผลรวมของความแตกตา่ งการทดสอบก่อนและหลังการฝึก
n แทน แตล่ ะตัวยกกาลังสอง
จานวนคู่ของคะแนนจากการทดสอบครั้งแรกและครั้งหลัง
7. สถติ ทิ ่ีใชใ้ นการศกึ ษาความพงึ พอใจของนักเรียนที่มตี ่อเอกสารประกอบการเรยี น
ใช้สตู รเดียวกันกบั การแสดงค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานในขั้นตอนที่ 1 คือ
7.1 ค่าเฉลี่ยของคะแนน ( X ) โดยใช้สตู ร (ล้วน สายยศ และองั คณา สายยศ, 2539,
หนา้ 59)
X X
n
เมอ่ื X แทน คะแนนเฉล่ีย
X แทน ผลรวมของคะแนนท้ังหมด
n แทน จานวนนกั เรียนในกลุ่ม
7.2 คา่ ความเบีย่ งเบนมาตรฐาน (Standard deviation) (ล้วน สายยศ
และองั คณา สายยศ, 2539, หนา้ 73)
S.D. n X X2
n(n 1)
เม่ือ S.D แทน
ค่าเบยี่ งเบนมาตรฐาน
X แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด
X2 แทน ผลรวมของคะแนนกาลังสองของนักเรยี นแตล่ ะคน
n แทน จานวนนักเรยี น
X แทน คะแนนของนักเรียนแต่ละคน
7.3 วเิ คราะหค์ ่าความเช่ือมัน่ ของแบบสอบถามดว้ ยค่าสัมประสทิ ธแิ์ อลฟา
ของครอนบาค (Alpha Coefficient reliability) (พวงรตั น์ ทวีรัตน์, 2540, หน้า125-126)
n si 2
1
n 1 s 2
t
เม่อื แทน สัมประสทิ ธ์ิความเช่อื มนั่
n แทน จานวนขอ้
si2 แทน คะแนนความแปรปรวนแตล่ ะข้อ
st2 แทน คะแนนความแปรปรวนท้ังฉบับ
6.การเผยแพรผ่ ลงาน
ผรู้ ายงานไดน้ าเอกสารประกอบการเรียนรายวชิ า Web design and Development ง30241 กลมุ่
สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ที่ถกู ต้องสมบูรณแ์ ละมีประสทิ ธภิ าพไป
เผยแพรใ่ หก้ บั โรงเรยี นในสังกัดสานกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษามธั ยมศึกษา เขต 42, จานวน 11 โรงเรยี น โดยการ
มอบเอกสารประกอบการเรยี นรหัสวชิ า ง30241 วชิ า Web Design and Development กลุ่มสาระการเรียนรู้
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 จานวน 5 เล่ม ใหค้ รผู ู้สอนกลุม่ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี
และเทคโนโลยีของโรงเรียนดังกลา่ วนาไปใชส้ อนนักเรียน ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งผ้รู บั การเผยแพรผ่ ลงานได้ตอบรับ
การเผยแพร่ผลงานด้วยการลงความเหน็ ในแบบประเมินผลการใช้เอกสารประกอบการเรียน รหัสวิชา ง30241 วิชา
Web Design and Development กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
นอกจากน้ผี ้รู ายงานยงั ไดเ้ ผยแพรผ่ ลงานในอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซตด์ ังต่อไปนี้
1. www.kroobannok.com
2. https://www.dek-d.com/board/view/3862337/
3. http://www.kruwandee.com
และผู้รายงานไดน้ าผลงานเสนอตอ่ ทป่ี ระชุมทางวิชาการของโรงเรยี น เพ่ือเปน็ แนวทางในการจดั สรา้ งนวัตกรรม
ให้กับเพื่อนครูท่สี นใจ (รายละเอียดแสดงในภาคผนวก ฒ หนา้ 284-312)
บทที่ 4
ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู
ผลการวิเคราะหข์ ้อมูลเร่ืองการใช้เอกสารประกอบการเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และ
เทคโนโลยี รหสั วิชาง30241 วชิ าWeb Design and Development ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4ซ่งึ ได้มาด้วยการเก็บ
ข้อมูลจากแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนจากกิจกรรมระหว่างเรยี น และแบบสอบถามความพึงพอใจของ
นกั เรียน แบง่ ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู ออกเป็น 2 ข้ันตอน คือ ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะหก์ ารหาประสิทธิภาพในการ
ทดลองเบื้องต้น และตอนท่ี 2 ผลการวิเคราะหก์ ารหาประสิทธิภาพในการทดลองใช้จรงิ
ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะหก์ ารหาประสิทธภิ าพในการทดลองเบ้ืองต้น (ปแี รกของการพัฒนา)
การวเิ คราะห์การหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
รหสั วิชาง30241 วชิ าWeb Design and Development ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ในการทดลองแบบเด่ียว แบบกลุ่ม
และแบบภาคสนามของนักเรียน ผู้ศึกษาไดท้ าการวเิ คราะหป์ ระสทิ ธภิ าพเบอ้ื งต้นโดย (1) การหาประสิทธิภาพใน
การทดลองเบอื้ งต้น (E1/E2) (2) ความก้าวหน้าทางการเรียน และ (3) ความพงึ พอใจของนักเรียน
1.1 การหาประสิทธิภาพในการทดลองเบ้ืองต้น
ผลการวเิ คราะหป์ ระสิทธภิ าพเอกสารประกอบการเรียน กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี
รหัสวชิ าง30241 วชิ าWeb Design and Development สาหรับนกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 (E1/E2) มี 3
ขน้ั ตอน คือ ขนั้ ทดลองใช้เบื้องตน้ แบบเดยี่ ว (นักเรยี นจานวน 3 คน) ขัน้ ทดลองใช้เบ้ืองตน้ แบบกลุ่ม (นักเรียน
จานวน 9 คน) และ ขั้นทดลองใช้เบ้ืองตน้ แบบภาคสนาม (นกั เรยี นจานวน 42 คน) ดังตารางที่ 5 , 6
1.1.1 ผลการวเิ คราะหป์ ระสิทธภิ าพเอกสารประกอบการเรียน กลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ง30241 วชิ า Web Design and Development สาหรบั นกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
โดยใช้แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียน (แบบคู่ขนาน) ซงึ่ เปน็ การทดสอบขั้นทดลองใช้เบอื้ งต้นแบบเดีย่ ว โดย
คละกนั ระหวา่ งนกั เรียนทมี่ ผี ลการเรยี นเกง่ 1 คน ปานกลาง 1 คน และอ่อน 1 คน รวมมีทัง้ หมด 3 คน ดงั
รายละเอยี ด แสดงในตารางท่ี 5
ตารางที่ 5 แสดงผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชพี และ
เทคโนโลยี รหสั วิชา ง30241 วชิ า Web Design and Development สาหรบั นกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4
ข้นั ทดลองใช้เบ้ืองต้นแบบเดย่ี ว (n=3)
เอกสารประกอบ คะแนนแบบฝกึ หัด/แบบ คะแนนทดสอบ E1/E2
การเรียน ฝกึ ปฏิบัติ หลังเรียน
หน่วยท่ี1 61.81 60.00 61.81/60.00
หน่วยท่ี2 60.00 61.73/60.00
หน่วยท่ี3 61.73 61.76/60.00
หนว่ ยท่ี4 60.00 61.62/60.00
หน่วยที่5 61.76 61.54/60.00
รวมเฉล่ยี 60.00 61.69/60.00
61.62
60.00
61.54
60.00
61.69
จากตารางท่ี 5 พบว่า เอกสารประกอบการเรยี น กล่มุ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี
ง30241 วิชา Web Design and Development สาหรับนักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 หน่วยท่ี 1 มีประสิทธภิ าพ
61.81/60.00 หนว่ ยท่ี 2 มีประสทิ ธภิ าพ 61.73/60.00 หน่วยท่ี 3 มปี ระสิทธิภาพ 61.76/60.00 หนว่ ยท่ี 4 มี
ประสิทธภิ าพ 61.62/60.00 หน่วยท่ี 5 มีประสิทธิภาพ 61.54/60.00 เอกสารประกอบการเรียนทัง้ 6 หน่วย มี
ประสทิ ธิภาพไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กาหนด (E1/E2 = 80/80) ต้องปรบั ปรุงเนื้อหาและใบกจิ กรรมให้เหมาะสมกับ
เวลา (รายละเอียดแสดงในภาคผนวก จ หน้า หนา้ 144-178) ซงึ่ ต่ากว่าเกณฑ์ประสทิ ธิภาพ 80/80 พบขอ้ บกพร่อง
ของเอกสารประกอบการเรยี น คอื การพิมพ์ผดิ พิมพ์ตกหลน่ การพมิ พ์ฉีกคา การใช้สีของข้อความและสีพน้ื ทเี่ ปน็
โทนสีใกล้เคยี งกันทาให้ขอ้ ความหรือขน้ั ตอนท่ีต้องการเนน้ ไมช่ ัดเจน ใบงานและเน้ือหา ซับซอ้ นและยากเกนิ ไป จึง
นาไปปรบั ปรงุ แก้ไข
1.1.2 ผลการวเิ คราะหป์ ระสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรยี น กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงาน
อาชีพและเทคโนโลยี รหสั วิชา ง30241 วชิ า Web Design and Development สาหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปี
ที่ 4 โดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น (แบบค่ขู นาน) ซงึ่ เป็นการทดสอบขั้นทดลองใชเ้ บอื้ งตน้ แบบกลุ่ม โดย
คละกันระหว่างนักเรยี นทม่ี ผี ลการเรยี นเก่ง 3 คน ปานกลาง 3 คน และอ่อน 3 คน รวมทั้งหมด 9 คน ดงั
รายละเอยี ดแสดงในตารางที่ 6
ตารางท่ี 6 ประสิทธภิ าพของเอกสารประกอบการเรียน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี รหัสวิชา ง
30241 วชิ า Web Design and Development สาหรบั นกั เรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 แบบข้ันทดลองใชเ้ บื้อง
ตน้ แบบกล่มุ (n=9)
เอกสารประกอบ คะแนนแบบฝกึ หัด/แบบ คะแนนทดสอบ E1/E2
การเรียน ฝึกปฏิบตั ิ หลงั เรยี น
หน่วยท1ี่ 71.76 70.56 71.76/70.56
ตารางท่ี 6 (ต่อ)
เอกสารประกอบ คะแนนแบบฝึกหดั /แบบ คะแนนทดสอบ E1/E2
การเรยี น ฝึกปฏิบตั ิ หลังเรยี น
71.60/70.56
หน่วยที่2 71.60 70.56 71.57/71.11
72.05/70.56
หนว่ ยท่ี3 71.57 71.11 71.62/70.56
71.72/70.67
หน่วยที่4 72.05 70.56
หน่วยท่ี5 71.62 70.56
รวมเฉลย่ี 71.72 70.67
จากตารางที่ 6 พบวา่ เอกสารประกอบการเรยี น กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและ
เทคโนโลยี รหสั วิชา ง30241 วชิ า Web Design and Development ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ หน่วยที่ 1 มี
ประสทิ ธิภาพ 71.76/70.56 หนว่ ยที่ 2 มีประสิทธิภาพ 71.60/70.56 หน่วยท่ี 3 มปี ระสิทธิภาพ 71.57/71.11
หน่วยที่ 4 มปี ระสทิ ธิภาพ 72.05/70.56 และหน่วยท่ี 5 มีประสิทธภิ าพ 71.62/70.56 เอกสารประกอบการเรียน
ทัง้ 5 หนว่ ย ทพ่ี ัฒนาขน้ึ ยังมีประสิทธิภาพไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กาหนด (E1/E2 = 80/80) ต้องปรับปรุงเนอ้ื หาและ
ใบกิจกรรมให้เหมาะสมในหน่วยท่ี 1- หนว่ ยท่ี 5 (รายละเอียดแสดงในภาคผนวก จ หน้า 144-178)
1.1.3 ผลการวเิ คราะหห์ าประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นร้กู ารงาน
อาชีพและเทคโนโลยี รหัสวิชา ง30241 วชิ า Web Design and Development สาหรับนกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปี
ท่ี 4 โดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน(แบบคู่ขนาน) ซงึ่ เปน็ การทดสอบขั้นทดลองใช้เบ้ืองตน้ แบบ
ภาคสนาม โดยคละกนั ระหว่างนกั เรียนทม่ี ผี ลการเรียนเก่ง 15 คน ปานกลาง 12 คน และอ่อน 15 คน รวมมี
ทัง้ หมด 42 คน
ตารางท่ี 7 ประสทิ ธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี รหสั
วชิ า ง30241 รายวชิ าWeb design and Development สาหรบั นกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ข้ันทดลองใช้เบื้อง
ตน้ แบบภาคสนาม (n=42)
เอกสารประกอบ คะแนนแบบฝึกหดั /แบบ คะแนนทดสอบ E1/E2
การเรยี น ฝกึ ปฏิบัติ หลังเรียน
หนว่ ยท1ี่ 81.65 80.83 81.65/80.83
หนว่ ยท2ี่ 81.83 80.60 81.83/80.60
หนว่ ยท3ี่ 82.21 80.60 82.21/80.60
หน่วยท4ี่ 82.11 80.48 82.11/80.48
หนว่ ยท5่ี 82.16 80.95 82.16/80.95
81.99 80.69 81.99/80.69
จากตารางพบว่า เอกสารประกอบการเรยี น กล่มุ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี รหสั วชิ า
ง30241 รายวิชา Web design and Development ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ขัน้ ทดลองใชเ้ บ้อื งต้นแบบภาคสนาม
หนว่ ยที่ 1 มีประสทิ ธภิ าพ 81.65/80.83 หนว่ ยที่ 2 มีประสิทธิภาพ 81.83/80.60 หน่วยที่ 3 มีประสิทธภิ าพ
82.21/80.60 หน่วยที่ 4 มปี ระสิทธิภาพ 82.11/80.48 และหนว่ ยท่ี 5 มปี ระสิทธภิ าพ 82.16/80.95 เอกสาร
ประกอบการเรยี นทัง้ 5 หน่วย มีประสิทธภิ าพตามเกณฑ์ทกี่ าหนดไว้ (E1/E2 = 80/80) (รายละเอยี ดแสดงใน
ภาคผนวก จ หนา้ 144-178)
1.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในการทดลองเบอ้ื งตน้ ดังรายละเอยี ดแสดงในตารางที่ 8
ตารางที่ 8 การเปรยี บเทยี บผลสัมฤทธแิ์ บบทดสอบก่อนและหลังเรยี นเอกสารประกอบการเรียน
รหสั วชิ า ง30241 วชิ า Web Design and Development กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้
มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 จานวน 42 คน ปกี ารศกึ ษา 2559
เอกสารประกอบ คะแนนเฉลย่ี ก่อนเรียน คะแนนเฉลีย่ หลังเรียน t-test
การเรียน
X S.D. X S.D. 13.09
หนว่ ยที่ 1 4.42 1.35 9.01 1.60 16.40
หนว่ ยท่ี 2 4.36 1.15 8.96 1.13 13.64
หน่วยที่ 3 4.23 1.46 8.90 1.71 13.64
หนว่ ยท่ี 4 4.53 1.50 9.21 1.71 12.35
หนว่ ยท่ี 5 4.42 1.28 9.07 1.66
*มนี ัยสาคญั ทางสถิติท่รี ะดบั .05 (t(.05,41)= 1.6702)
จากตารางที่ 8 พบวา่ ความก้าวหนา้ ทางการเรยี นในการทดลองหาประสิทธิภาพเบือ้ งต้น โดยใช้
แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรยี น (แบบคูข่ นาน) ของนักเรียนทเี่ รยี นด้วยเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระ
การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหัสวชิ า ง30241 รายวชิ าWeb design and Development สาหรบั
นกั เรยี นระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ท้งั 5 หนว่ ย มคี ะแนนสอบหลังเรยี นสูงกวา่ ก่อนเรียนอย่างมนี ยั สาคญั ทางสถิติ
ท่ีระดบั .05 (รายละเอยี ดแสดงในภาคผนวก ฉ หน้า 179-202)
1.3 ความพึงพอใจของนกั เรยี นในการทดลองประสทิ ธิภาพเบอื้ งต้น
ผลการวิเคราะหค์ วามพงึ พอใจของนักเรียนท่ีเรยี นดว้ ยเอกสารประกอบการเรียน กลุม่ สาระการ
เรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ง30241 วชิ า Web Design and Development สาหรบั นักเรยี นชนั้
มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ในการทดลองหาประสิทธิภาพเบอ้ื งตน้ แบบภาคสนาม ดงั รายละเอยี ดแสดงในตารางที่ 9
ตารางที่ 9 ความพงึ พอใจของนักเรยี นทีม่ ตี อ่ เอกสารประกอบการเรยี น กลุม่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และ
เทคโนโลยี รหสั วชิ า ง30241 วิชา Web Design and Development สาหรบั นักเรียนช้ัน มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
(จานวน 42 คน)
ที่ รายการ ระดบั ความพึงพอใจ
1 รปู เล่มสวยงามนา่ อา่ น X S.D. ค่าระดบั
2 ตวั หนังสอื มีขนาดพอเหมาะ 4.48 0.26 มาก
4.76 00.119 มาก
3 ภาพประกอบสวยงาม 4.69 0.22 มาก
4 อธิบายข้ันตอนเข้าใจงา่ ย 4.79 0.17 มาก
5 ทาตามข้ันตอนได้ง่าย 4.74 0.20 มาก
6 เนื้อหาสาระเหมาะสมต่อการเรียนรู้ 4.81 0.16 มาก
7 ระยะเวลาที่ใชใ้ นการเรียนมีความเหมาะสม 4.79 0.17 มาก
8 เอกสารประกอบการเรียนนา่ สนใจ ไม่เบ่อื หนา่ ย 4.81 0.16 มาก
9 เกิดความสนกุ สนานในการเรียน 4.81 0.22 มาก
10 การเรยี นด้วยเอกสารประกอบการเรยี นทาให้ได้รบั 4.69 0.21 มาก
ความรู้มากกวา่ การเรียนดว้ ยวิธอี ่ืน
รวมเฉลย่ี 4.73 1.95 มาก
จากตารางท่ี 9 ผลการศกึ ษาความพงึ พอใจของนกั เรียนที่มตี ่อการใชเ้ อกสารประกอบการเรียน รหสั วชิ า
ง30241 วิชา Web Design and Development กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชน้ั
มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 พบวา่ โดยภาพรวมมคี วามพงึ พอใจอยู่ในระดบั มากทสี่ ุด ( = 4.73,S.D.=1.95) และเมอื่
พจิ ารณาเปน็ รายข้อพบวา่ ข้อคาถามท่ีมีคา่ เฉล่ยี ความพงึ พอใจอย่ใู นระดับมากทุกรายการคาถาม ข้อทคี่ า่ เฉล่ีย
สงู สุด คือเนื้อหาสาระเหมาะสมตอ่ การเรียนรู้ ( = 4.81,S.D. =0.16) และนกั เรียนพงึ พอใจน้อยทสี่ ดุ คือ
ภาพประกอบสวยงาม (( = 4.69,S.D. =0.22) (รายละเอียดแสดงในภาคผนวก ช หน้า 203-207)
ตอนท่ี 2 ผลการวเิ คราะห์การหาประสิทธิภาพในการทดลองใช้จริง (ปที ส่ี องของการพัฒนา)
2.1 การวิเคราะหห์ าประสิทธิภาพในการทดลองใชจ้ รงิ
ผลการวิเคราะหป์ ระสทิ ธภิ าพของเอกสารประกอบการเรียนกลมุ่ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชีพและ
เทคโนโลยี รหัสวชิ า ง30241 วิชา Web Design and Development สาหรบั นักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาค
เรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2560 โรงเรยี นบรรพตพิสยั พิทยาคม เขตพืน้ ท่กี ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 42 จานวน 42
คน โดยคละกันระหวา่ งนักเรียนที่มีผลการเรยี นระดบั เก่ง 15 คน ปานกลาง 12 คน และอ่อน 15 คน ดงั
รายละเอียดแสดงในตารางที่ 10
ตารางที่ 10 แสดงประสทิ ธภิ าพเอกสารประกอบการเรียน กลุม่ สาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี
รหสั วชิ า ง30241 วชิ า Web Design and Development สาหรบั นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 จานวน 42 คน
(n=42)
เอกสารประกอบ คะแนนแบบฝกึ หดั /แบบ คะแนนทดสอบ E1/E2
การเรียน ฝึกปฏบิ ตั ิ หลังเรียน
หนว่ ยท่ี 1 81.7 81.07 81.7/81.07
หน่วยท่ี 2 81.75 80.83 81.75/80.83
หน่วยที่ 3 81.65 80.83 81.65/80.83
หน่วยท่ี 4 81.6 80.60 81.6/80.60
หนว่ ยท่ี 5 81.65 81.19 81.65/81.19
รวมเฉลย่ี 81.67 80.90 81.67/80.90
จากตารางท่ี 10 ผลการทดสอบประสิทธภิ าพ เอกสารประกอบการเรยี น กล่มุ สาระ
การเรยี นร้กู ารงานอาชีพและเทคโนโลยี รหสั วิชา ง30241 วชิ า Web Design and Development สาหรับ
นักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 หนว่ ยที่ 1 มปี ระสทิ ธภิ าพ 81.7/81.07 หน่วยท่ี 2 มปี ระสิทธภิ าพ 81.75/80.83
หน่วยท่ี 3 มปี ระสทิ ธภิ าพ 81.65/80.83 หน่วยท่ี 4 มปี ระสิทธภิ าพ 81.6/80.60 และ หน่วยที่ 5 มปี ระสิทธภิ าพ
81.65/81.19 เอกสารประกอบการเรียนทงั้ 5 หนว่ ย ทีพ่ ฒั นาขึ้นมีประสิทธภิ าพตามเกณฑท์ ่กี าหนด (E1/E2 =
80/80) ซ่ึงเปน็ ไปตามสมมติฐานขอ้ ที่ 1 (รายละเอียดแสดงในภาคผนวก จ หน้า 167-179)
2.2 ความก้าวหนา้ ทางการเรียนของนักเรียนในการทดลองใช้จริง
ในการทดลองใช้จรงิ กับนักเรียน จานวน 42 คน ผลการวิเคราะห์ความกา้ วหน้าทางการเรียนของนักเรียน ทีเ่ รยี นด้วย
เอกสารประกอบการเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ง30241 วชิ า Web
Design and Development สาหรบั นกั เรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ดงั รายละเอยี ดแสดงในตารางที่ 11
ตารางท่ี 11 ความก้าวหนา้ ทางการเรยี นของนักเรียนที่เรยี นดว้ ยเอกสารประกอบการเรยี น กลุม่ สาระ
การเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ง30241 วิชา Web Design and Development กลุ่มสาระการ
เรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยชี ัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 จานวน 42 คน (n=42)
เอกสารประกอบ คะแนนเฉลย่ี กอ่ นเรียน คะแนนเฉลีย่ หลังเรยี น t-test
การเรยี น
X S.D. X S.D. 15.34
หนว่ ยท่ี 1 5.27 1.14 10.71 1.40 12.44
หนว่ ยที่ 2 8.18 1.48 17.26 1.65 14.05
หน่วยท่ี 3 8.55 1.42 17.50 1.59
ตารางที่ 11 ต่อ คะแนนเฉลย่ี กอ่ นเรียน คะแนนเฉลีย่ หลงั เรียน t-test
เอกสารประกอบ X S.D. X S.D. 13.18
การเรยี น 8.29 1.31 17.39 1.29 14.05
8.92 1.24 17.95 1.46
หน่วยท่ี 4
หนว่ ยที่ 5
จากตารางท่ี 11 พบว่า ความก้าวหน้าทางการเรียนในการทดลองหาประสทิ ธภิ าพเบื้องต้น โดยใช้
แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน (แบบคขู่ นาน) ของนักเรียนที่เรยี นด้วยเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระ
การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหัสวิชา ง30241 รายวชิ าWeb design and Development สาหรับ
นกั เรยี นระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ท้งั 5 หนว่ ย มีคะแนนสอบหลังเรยี นสงู กวา่ ก่อนเรียนอยา่ งมนี ยั สาคัญทางสถติ ิ
ทีร่ ะดับ .05*มีนัยสาคญั ทางสถิติทร่ี ะดบั .05 (รายละเอยี ดแสดงในภาคผนวก ซ หน้า 208-218)
2.3 ความพงึ พอใจของนักเรียนในการทดลองใช้จริง
ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลการศกึ ษาความพึงพอใจของนักเรียนท่มี ตี อ่ เอกสารประกอบการเรียน
รหสั วชิ า ง30241 วชิ า Web Design and Development กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ัน
มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ของนักเรยี นกลุม่ ตวั อยา่ ง จานวน 42 คน ดงั รายละเอียดแสดงในตารางท่ี 12
ตารางท่ี 12 ความพงึ พอใจของนกั เรียนทีม่ ตี ่อเอกสารประกอบการเรียน กล่มุ สาระการเรยี นรู้
การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหสั วิชา ง30241 วชิ า Web Design and Development สาหรับช้นั มัธยมศกึ ษาปี
ที่ 4 (กลุ่มตัวอยา่ ง 42 คน)
ท่ี รายการ ระดบั ความพึงพอใจ
1 รปู เล่มสวยงามนา่ อ่าน X S.D. ค่าระดบั
4.86 0.13 มาก
2 ตัวหนังสอื มขี นาดพอเหมาะ 4.90 0.09 มาก
3 ภาพประกอบสวยงาม 4.86 0.13 มาก
4 อธบิ ายข้นั ตอนเขา้ ใจง่าย 4.81 0.16 มาก
5 ทาตามขั้นตอนได้ง่าย 4.88 0.11 มาก
6 เนอ้ื หาสาระเหมาะสมต่อการเรยี นรู้ 4.83 0.14 มาก
7 ระยะเวลาทใ่ี ชใ้ นการเรียนมีความเหมาะสม 4.90 0.09 มาก
8 เอกสารประกอบการเรียนน่าสนใจ ไมเ่ บื่อหนา่ ย 4.86 0.13 มาก
9 เกิดความสนุกสนานในการเรียน 4.88 0.11 มาก
10 การเรยี นดว้ ยเอกสารประกอบการเรยี นทาให้ไดร้ ับ 4.83 0.14 มาก
ความรูม้ ากกว่าการเรียนดว้ ยวิธอี ืน่
รวมเฉลยี่ 4.86 1.21 มาก
จากตารางท่ี 12 ผลการศึกษาความพงึ พอใจของนักเรยี นทมี่ ีต่อการใชเ้ อกสารประกอบ
การเรียน รหัสวิชา ง30241 รายวชิ าWeb design and Development กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และ
เทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 พบวา่ โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดบั มาก ( X = 4.86 ,
S.D. = 1.21) และเมือ่ พจิ ารณาเป็นรายข้อ พบวา่ ข้อคาถามที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ตัวหนงั สือมีขนาดพอเหมาะ ( X
=4.90) และนกั เรียนพึงพอใจนอ้ ยท่สี ดุ คือ การเรียนดว้ ยเอกสารประกอบการเรียนทาให้ไดร้ ับความร้มู ากกวา่ การ
เรียนด้วยวิธอี น่ื ( X =4.83)เปน็ ไปตามสมมติฐานข้อที่ 3 (รายละเอียดแสดงในภาคผนวก ญ หนา้ 231-233)
บทที่ 5
สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
รายงานผลการใช้เอกสารประกอบการเรียน กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยีรหสั วชิ า
ง30241 วชิ า Web Design and Development ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ผรู้ ายงานขอนาเสนอสรปุ ผลการศกึ ษา
อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. สรปุ ผลการศึกษา
1.1 วัตถุประสงค์ของการศึกษา
1.1.1 เพ่อื ศึกษาประสิทธภิ าพของเอกสารประกอบการเรยี น กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหสั วชิ า
ง30241 รายวชิ า Web Design and Development สาหรับนกั เรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ใหม้ ีประสทิ ธิภาพตาม
เกณฑ์ทีก่ าหนด 80/80
1.1.2 เพอ่ื ศึกษาความกา้ วหน้าทางการเรียนกอ่ นเรียนและหลงั เรียนของนกั เรยี น ท่ีเรยี นดว้ ย
เอกสารประกอบการเรยี น กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหสั วชิ า ง30241 รายวชิ า
Web Design and Development สาหรบั นักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
1.1.3 เพ่ือศึกษาความพึงพอใจของนักเรยี นทเ่ี รยี นดว้ ยเอกสารประกอบการเรียน กลุม่
สาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี รหัสวชิ า ง30241 รายวชิ า Web Design and Development
สาหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4
1.2 สมมติฐานการศึกษา
2.1 เอกสารประกอบการเรียน กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหสั วชิ า ง
30241 รายวิชา Web Design and Development สาหรับนกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 มปี ระสทิ ธภิ าพตาม
เกณฑ์ที่กาหนด 80/80
2.2 นกั เรียนที่เรยี นดว้ ยเอกสารประกอบการเรียน กล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ
เทคโนโลยี รหสั วชิ า ง30241 รายวชิ า Web Design and Development สาหรับนกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 มี
ความก้าวหน้าทางการเรียนหลังเรยี นสูงกว่ากอ่ นเรียน อยา่ งมนี ัยสาคญั ทางสถิติ ที่ระดับ .05
2.3 นกั เรยี นทเี่ รียนด้วยเอกสารประกอบการเรยี น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ
เทคโนโลยี รหสั วิชา ง30241 รายวชิ า Web Design and Development สาหรบั นกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 มี
ความพงึ พอใจอยู่ในระดบั มาก
1.3 การดาเนนิ การศกึ ษา
1.3.1 ประชากรและกลุม่ ตวั อยา่ ง
1) ประชากร
1.1) ประชากร ท่ีใชใ้ นขนั้ ตอนการทดสอบประสิทธิภาพเบื้องตน้ (ปีแรกของ
การพฒั นา) เอกสารประกอบการเรยี น กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหสั วชิ า ง30241 รายวิชา
Web Design and Development สาหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ได้แก่ นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาค
เรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรยี นบรรพตพสิ ัยพิทยาคม สงั กัดสานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 42
จานวน 2 ห้อง จานวนนกั เรียน 73 คน
1.2) ประชากร ท่ีใชใ้ นขน้ั ตอนการทดลองใช้ (ปีทีส่ องของการพฒั นา) เอกสาร
ประกอบการเรียน กล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหสั วชิ า ง30241 รายวิชา Web Design
and Development สาหรับนักเรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ได้แก่ นักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปี
การศึกษา 2560 โรงเรียนบรรพตพสิ ยั พิทยาคม สังกดั สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 42 จานวน
2 ห้อง จานวนนกั เรียน 63 คน
รวมประชากรท่ีใชใ้ นการศึกษาครัง้ น้ี ท้ังสิ้น 136 คน
2) กลุ่มตัวอยา่ ง
2.1) กลุ่มตวั อย่างที่ใช้ในการทดสอบประสิทธิภาพเบื้องตน้ (ปีแรก
ของการพัฒนา) คือ นักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2559 โรงเรียนบรรพตพิสยั
พทิ ยาคม สังกัดสานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 42 หอ้ ง 4/3 จานวน 38 คน และ 4/4 จานวน 35
คน รวมจานวนนกั เรียน 73 คน
2.2) กลุม่ ตวั อยา่ งท่ใี ชใ้ นข้นั ตอนการทดลองใช้ (ปที สี่ องของการพฒั นา) เอกสาร
ประกอบการเรียน ไดแ้ กน่ กั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1/2 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2560 โรงเรียนบรรพตพสิ ยั
พิทยาคม จานวนนักเรยี น 42 คน กลุ่มตวั อย่างไดม้ าโดยการส่มุ แบบงา่ ย (Simple Random Sampling) โดยใช้
ห้องเรียนเป็นฐานในการสมุ่ จับสลาก 1 หอ้ งเรยี น จากจานวน 2 ห้องเรยี น ไดห้ อ้ ง ม.4/3 จานวน
นกั เรยี น 42 คน
1.3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
เคร่ืองมือท่ีใช้การศึกษาครง้ั น้ี ไดแ้ ก่
1) เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี
รหสั วิชา ง30241 รายวิชา Web Design and Development สาหรบั นกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
2) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี นดว้ ยเอกสารประกอบการเรยี น กลุม่ สาระการ
เรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหัสวิชา ง30241 รายวิชา Web Design and Development สาหรับ
นักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4
3) แบบสอบถามความพงึ พอใจของผู้เรยี นท่ีมตี ่อเอกสารประกอบการเรียน กลมุ่ สาระการ
เรยี นร้กู ารงานอาชีพและเทคโนโลยี รหสั วชิ า ง30241 รายวิชา Web Design and Development สาหรบั
นักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4
1.3.3 การเก็บรวบรวมข้อมลู
ผู้ศกึ ษาได้เก็บรวบรวมข้อมูลโดยแบ่งออกเปน็ 2 ข้ันตอน คือ 1) ทดสอบประสิทธิภาพ
เอกสารประกอบการเรยี นในขนั้ ทดลองใชเ้ บอื้ งตน้ 2) ทดสอบประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรยี นใน
ขนั้ ทดลองใช้จริง ดงั รายละเอียดตอ่ ไปน้ี
1) ทดสอบประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรยี นในขนั้ ทดลองใช้เบ้ืองตน้
ในการทดสอบประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรยี น กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ
และเทคโนโลยี รหัสวิชา ง30241 รายวชิ า Web Design and Development สาหรับนักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4
ในข้ันทดลองใช้เบอ้ื งตน้ แบบเด่ียว แบบกล่มุ และแบบภาคสนาม ผู้ศกึ ษาไดท้ ดสอบประสิทธิภาพเอกสาร
ประกอบการเรยี น (E1/E2) ของเอกสาร แยกเปน็ รายหนว่ ย วเิ คราะหค์ วามกา้ วหน้าทางการเรยี น และวเิ คราะห์
ความพงึ พอใจของนกั เรยี น ในการทดลองประสิทธิภาพเบื้องตน้ มีขัน้ ตอนการรวบรวมขอ้ มูลดงั นี้
1.1) การทดสอบประสิทธภิ าพในการทดลองใชเ้ บ้ืองตน้
ในการทดสอบประสิทธภิ าพเอกสารประกอบการเรยี น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงาน
อาชีพและเทคโนโลยี รหัสวชิ า ง30241 รายวิชา Web Design and Development สาหรบั นักเรียนชั้น
มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 มีการทดสอบ 3 ขน้ั ตอน ดังนี้
1.1.1) การทดสอบประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรยี น ในขนั้ ทดลอง
ใชเ้ บื้องต้นแบบเด่ียว (1:1)
ผศู้ กึ ษานาเอกสารประกอบการเรยี นไปทดลองใช้ ในชวั่ โมง
สุดท้ายของเวลาเรียนในแต่ละวัน คือเวลา 15.30 น.–16.30 น. กับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรยี นบรรพตพสิ ัย
พิทยาคม ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2559 จานวน 3 คน ซึ่งประกอบด้วยนักเรยี นท่มี ผี ลการเรียนเกง่ 1 คน ปาน
กลาง 1 คน และอ่อน 1 คน โดยใชเ้ อกสารประกอบการเรียนต้งั แต่หน่วยที่ 1-5 ใหน้ ักเรียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมอย่าง
ครบถว้ น บันทึกคะแนนการทาใบงาน และ ทาแบบทดสอบหลังเรียนเป็นรายบคุ คลและรายหน่วย เพ่ือ
หาประสทิ ธภิ าพ (E1/E2) จากนั้นผู้ศึกษา ไดป้ รับปรงุ แกไ้ ขข้อบกพร่องของเอกสารประกอบการเรยี น เพอ่ื
นาไปสู่การทดลองขนั้ ตอ่ ไป
1.1.2) การทดสอบประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรยี น ข้ันทดลองใช้
เบ้ืองตน้ แบบกลุ่ม (1:10)
ผศู้ ึกษานาเอกสารประกอบการเรยี นมาแก้ไขข้อบกพร่อง ท่พี บใน
ขัน้ ทดลองใช้เบ้ืองต้นแบบเดี่ยว แลว้ จดั พมิ พใ์ หม่ นาไปทดลองใช้กับนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษา ปีท่ี 4 โรงเรียน
บรรพตพสิ ยั พทิ ยาคมภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2559 จานวน 9 คน ประกอบด้วยนกั เรียนทมี่ ีผลการเรยี นเกง่ 3 คน
ปานกลาง 3 คน และออ่ น 3 คน ซง่ึ ไมใ่ ชน่ ักเรียนทเี่ คยทดลองใช้เบ้อื งตน้ แบบเดีย่ ว ใช้เวลาในการทดลองในชั่วโมง
สุดทา้ ยของเวลาเรียนในแต่ละวัน คอื เวลา 15.30-16.30 น. โดยใชเ้ อกสารประกอบการเรยี นทั้ง 5 หน่วย และให้
นกั เรียนปฏบิ ัติกิจกรรมการเรียนอยา่ งครบถ้วน บันทึกคะแนนการทาใบงานและทาแบบทดสอบหลังเรียน เป็น
รายบุคคลและรายหน่วย เพ่ือหาประสิทธิภาพ (E1/E2)
1.1.3) การทดสอบประสทิ ธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน ขัน้ ทดลองใช้
เบื้องตน้ แบบภาคสนาม (1:100)
ผู้ศึกษานาเอกสารประกอบการเรยี นมาแก้ไขปรบั ปรงุ แล้วนาไปใน
ขนั้ ทดลองใชเ้ บอ้ื งตน้ แบบภาคสนาม (1:100) กับนักเรยี นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนบรรพตพิสัยพทิ ยา
คม ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2559 จานวน 42 คน ซง่ึ เป็นนักเรียนท้ังหมดและยังไมเ่ คยผา่ นการทดลองแบบ
เด่ียวและแบบกลุ่ม โดยใชเ้ วลาเรยี นในชวั่ โมงปกติ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนหน่วยที่ 1 ถึงหนว่ ยที่ 6
ตามลาดบั ให้นักเรียนปฏิบตั กิ จิ กรรม อยา่ งครบถ้วน บันทกึ คะแนนจากการทาใบงาน และคะแนนจากการ
ทาแบบทดสอบหลงั เรียน ของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คลและรายหนว่ ย เพอื่ นามาหาคา่ ประสทิ ธิภาพ (E1/E2)
1.2) ความก้าวหน้าทางการเรียนในการทดลองประสิทธภิ าพเบื้องตน้
การวเิ คราะห์ความก้าวหน้าทางการเรียนในการทดลองหาประสิทธภิ าพเบ้ืองต้น โดย
คะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (แบบคขู่ นาน) ผ้ศู กึ ษาได้นาแบบทดสอบ ทผ่ี ่านการตรวจสอบจาก
ผ้เู ชีย่ วชาญ ผ่านการคดั เลอื กและวเิ คราะห์ค่าความเชื่อม่ัน มาจัดพิมพ์ เป็นข้อสอบฉบบั ทดลอง และนาไป
ทดลองใช้พร้อมกบั เอกสารประกอบการเรียนท้ัง 6 หนว่ ย กบั นกั เรยี นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรยี นบรรพต
พิสยั พทิ ยาคมภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2559 จานวน 42 คน ในการทดลองใชเ้ บ้ืองต้นแบบภาคสนาม
โดยให้นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน ด้วยเอกสารประกอบการเรยี นในแต่ละหนว่ ย แลว้ ทาใบงานตามกจิ กรรม
ต่างๆ ในเอกสารประกอบการเรยี นในแต่ละหนว่ ย หลงั จากนัน้ ใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน บันทกึ คะแนน
ตา่ งๆ เปน็ รายบคุ คล เพอ่ื นาไปวิเคราะห์ข้อมลู ทางสถิตติ ่อไป
1.3) ความพึงพอใจของนกั เรียนในการทดลองประสทิ ธภิ าพเบ้อื งตน้
ในการวเิ คราะห์ความพงึ พอใจของนักเรยี นทม่ี ีตอ่ การเรียน ดว้ ยเอกสารประกอบการเรียน กลมุ่ สาระการเรียนร้กู าร
งานอาชพี และเทคโนโลยี รหัสวิชา ง30241 รายวชิ า Web Design and Development สาหรับนกั เรยี นชัน้
มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ในการทดลองภาคสนาม กับนักเรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรยี นบรรพตพสิ ยั พทิ ยาคม ภาคเรียน
ท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2559 จานวน 42 คน หลังจากทน่ี ักเรียนเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนครบตามเน้ือหาทุกหนว่ ย
แลว้ ใหน้ ักเรียนตอบแบบสอบถามความพึงพอใจ จากนั้นนาคะแนนทไ่ี ด้ไปวเิ คราะห์ข้อมูลดว้ ยวิธที างสถติ ิตอ่ ไป
2) ทดสอบประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรียนในขนั้ ทดลองใช้จรงิ
ในการทดสอบประสิทธภิ าพเอกสารประกอบการเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหสั วชิ า
ง30241 รายวชิ า Web Design and Development สาหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ในการทดลองใชจ้ ริง
กบั นักเรยี น ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 โรงเรียนบรรพตพสิ ยั พทิ ยาคมภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 42 คน ผู้
ศึกษาได้ทดสอบประสทิ ธิภาพของเอกสารประกอบการเรยี น (E1/E2) วดั ความกา้ วหนา้ ทางการเรียนของผเู้ รยี น
และวัดความพงึ พอใจของนักเรยี นหลังจากการใชเ้ อกสารประกอบการเรยี น มีขั้นตอน การรวบรวมขอ้ มูลดงั น้ี
2.1) การทดสอบประสทิ ธภิ าพของเอกสารประกอบการเรยี นในการทดลองใชจ้ รงิ
ในการทดสอบประสิทธภิ าพเอกสารประกอบการเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงาน
อาชีพและเทคโนโลยี รหสั วชิ า ง30241 รายวิชา Web Design and Development สาหรบั นักเรยี นช้นั
มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ในขนั้ การทดลองใช้จรงิ มีข้นั ตอนดงั น้ี
2.1.1) ก่อนเรม่ิ การทดลอง อธิบายแนวทางการใช้เอกสารประกอบการเรียน
กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี รหัสวิชา ง30241 รายวชิ า Web Design and Development
สาหรับนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 4 ใหก้ ล่มุ ตัวอยา่ งการทดลองใชจ้ รงิ เกิดความเขา้ ใจ
2.1.2) ดาเนินการจัดการเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรยี นรู้
ประกอบการใช้เอกสารประกอบการเรยี น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหัสวิชา ง
30241 รายวชิ า Web Design and Development สาหรบั นกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยท่ี 1 ถงึ หนว่ ยที่ 5
ตามลาดับ ซึ่งผู้ศึกษาเปน็ ผสู้ อนด้วยตนเอง ใชเ้ วลาในการสอนท้งั หมด 26 ชว่ั โมง ระหวา่ งท่ีดาเนินการจดั การเรยี น
การสอน ครใู หน้ ักเรียนทากิจกรรมตามเอกสารประกอบการเรียนแต่ละหนว่ ย บนั ทึกคะแนนกิจกรรมและ
แบบทดสอบหลงั เรียนเป็นรายบคุ คลและรายหน่วย
2.1.3) นาคะแนนจากการทากจิ กรรมระหว่างเรยี นและคะแนนทดสอบหลังเรยี น
ในแต่ละหน่วยไปวเิ คราะห์หาประสทิ ธภิ าพ (E1/E2) จนครบทุกหน่วย เพอื่ ตรวจสอบสมมติฐาน
2.2) ความก้าวหนา้ ทางการเรยี นของนักเรยี นในการทดลองใช้จริง
การวิเคราะห์ความก้าวหน้าทางการเรียนของนกั เรยี นในการทดลองใชจ้ รงิ โดยใชแ้ บบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน
(แบบคู่ขนาน) ผ้ศู ึกษาได้นาแบบทดสอบทผ่ี ่านการตรวจสอบจากผเู้ ช่ียวชาญ ผา่ นการคดั เลอื กและวิเคราะห์ค่าความ
เช่ือม่นั มาจดั พมิ พ์เปน็ ข้อสอบฉบบั ใชจ้ รงิ แลว้ นาไปทดลองใช้พร้อมกับเอกสารประกอบการเรยี นทัง้ 5 หน่วย กับ
นักเรยี นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรยี นบรรพตพสิ ยั พทิ ยาคม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 42 คน โดยให้
นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน ก่อนเรมิ่ เรยี นด้วยเอกสารประกอบการเรียน เมอ่ื นักเรียนเรยี นรู้และทากจิ กรรมต่างๆ
ในแต่ละหนว่ ยเสร็จแลว้ จงึ ทาแบบทดสอบหลังเรยี น บันทกึ คะแนนตา่ งๆ เป็นรายบุคคล แลว้ นาไปวิเคราะห์ด้วยวิธที าง
สถติ เิ พื่อตรวจสอบสมมติฐาน
2.3) ความพึงพอใจของนักเรียนในการทดลองใชจ้ ริง ในการวเิ คราะห์ความพงึ พอใจของ
นกั เรียนท่มี ตี ่อการเรียน ดว้ ยเอกสารประกอบการเรยี นกล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี รหัสวิชา
ง30241 รายวชิ า Web Design and Development สาหรับนักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ในขน้ั การทดลองใช้
จรงิ กับนกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรยี นบรรพตพิสัยพทิ ยาคม ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2560 จานวน 42
คน เมื่อนักเรียนเรยี นด้วยเอกสารประกอบการเรยี น ครบทุกหนว่ ย ให้นกั เรยี นตอบแบบสอบถามความพึงพอใจ
จากน้นั นาคะแนนที่ได้ไปวิเคราะห์ ด้วยวธิ ที างสถติ ิ เพ่ือตรวจสอบสมมติฐาน
1.3.4 การวเิ คราะห์ข้อมลู
ผู้ศกึ ษาได้นาข้อมูลท้ังหมดท่ีเก็บรวบรวมได้ มาวเิ คราะห์ข้อมูล ดังน้ี
1) หาประสิทธภิ าพของเอกสารประกอบการเรียน กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและ
เทคโนโลยี รหัสวิชา ง30241 รายวิชา Web Design and Development สาหรับนักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4
จานวน 5 หนว่ ย โดยคานวณจากคะแนนเฉลี่ยจากการทากิจกรรม
ระหว่างเรยี น คดิ เป็นร้อยละต่อคะแนนเฉลยี่ จากการทาแบบทดสอบหลังเรียน คดิ เป็นร้อยละในแตล่ ะชดุ
(E1/E2)
2) เปรียบเทียบความก้าวหนา้ ทางการเรียนรหัสวชิ า ง30241 รายวิชา Web Design and
Development ก่อนเรียนและหลังเรียน ดว้ ยสถิตทิ ดสอบคา่ t (t-test) แบบกลุม่ ตัวอย่างไมเ่ ป็นอิสระแกก่ นั
3) ศึกษาความพงึ พอใจของนักเรียนท่ีมีต่อเอกสารประกอบการเรียน กล่มุ สาระการ
เรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ง30241 รายวิชา Web Design and Development สาหรบั
นกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ประเมินแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรยี นโดยการหาค่าเฉลี่ย (X ) และสว่ น
เบยี่ งเบนมาตรฐาน (S.D.) มาแปลความหมายเทียบตามเกณฑ์คณุ ภาพทกี่ าหนดไว้รายข้อ
1.4 ผลการศึกษา
1.4.1 ประสทิ ธิภาพเอกสารประกอบการเรยี น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ และเทคโนโลยี
รหสั วิชา ง30241 รายวิชา Web Design and Development สาหรบั นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 พบว่า หนว่ ย
ที่ 1 มีประสทิ ธภิ าพ 81.7/81.07 หนว่ ยที่ 2 มปี ระสทิ ธภิ าพ 81.75/80.83 หนว่ ยท่ี 3 มีประสิทธิภาพ
81.65/80.83 หนว่ ยท่ี 4 มีประสทิ ธิภาพ 81.6/80.60 และ หนว่ ยที่ 5 มปี ระสิทธภิ าพ 81.65/81.19 เอกสาร
ประกอบการเรยี นท้ัง 5 หนว่ ย ทีพ่ ัฒนาขึ้นมีประสทิ ธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ทีก่ าหนดไว้ เป็นไปตามสมมตฐิ านข้อที่
1
2. ความก้าวหน้าทางการเรยี นของนักเรยี นทเ่ี รยี นโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลมุ่ สาระ
การเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี รหัสวิชา ง30241 รายวชิ า Web Design and Development สาหรบั
นกั เรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 หลงั เรยี นสงู กวา่ ก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคญั ทางสถิตทิ รี่ ะดบั .05 เป็นไปตามสมมตฐิ าน
ข้อท่ี 2
3. ความพึงพอใจของนักเรยี นทม่ี ีต่อเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ
และเทคโนโลยี รหสั วิชา ง30241 รายวชิ า Web Design and Development สาหรับนักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี
4 โดยภาพรวมมคี วามพงึ พอใจ อยใู่ นระดบั มาก ซ่ึงเป็นไปตามเกณฑ์ ( X = 4.86 , S.D. = 1.21) เป็นไปตาม
สมมติฐานข้อที่ 3
2. อภิปรายผล
2.1 ประสทิ ธภิ าพของส่ือทีพ่ ัฒนา
ผลการทดสอบประสทิ ธิภาพเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี
และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ง30241 รายวิชา Web Design and Development สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4
พบว่า มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 สอดคลอ้ งกบั สมมติฐานท่ตี ้ังไว้ ทั้งน้ีอาจเนื่องจาก
2.1.1 ขน้ั ตอนการผลติ เอกสารประกอบการเรียนผู้ศึกษาดาเนินการสร้างตามหลักการสรา้ งและขัน้ ตอน
การผลิตเอกสารประกอบการเรยี นของนักการศึกษา คอื 1) วิเคราะหป์ ัญหาและสาเหตจุ ากการเรยี นการสอน 2)
ศึกษารายละเอยี ดในหลักสูตรของสถานศกึ ษา เพ่ือวเิ คราะห์เนือ้ หาสาระและผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวัง หรือ
จุดประสงค์และกจิ กรรมทเี่ ป็นปัญหา 3) เลอื กเนอ้ื หาที่เหมาะสมแบ่งเปน็ บท เปน็ ตอน หรือเป็นเรือ่ ง เพ่ือแก้ปัญหา
ที่พบ 4) ศึกษารปู แบบของการเขียน และกาหนดส่วนประกอบภายในของเอกสารประกอบการเรียน 5) ศึกษาคน้ คว้า
และรวบรวมข้อมลู เพื่อนามากาหนดเป็นจุดประสงค์ เนื้อหา วธิ กี าร และสอ่ื ประกอบเอกสารในแตล่ ะบท หรอื แตล่ ะ
ตอน 6) เขยี นเนื้อหา ในแตล่ ะตอน รวมทั้งภาพประกอบ แผนภมู ิ และข้อทดสอบให้สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์ ท่ี
กาหนดไว้ 7) สง่ ให้ผเู้ ชย่ี วชาญตรวจ 8) นาไปทดลองใชใ้ นห้องเรยี นและเกบ็ บันทึกผลการใช้ 9) นาผลที่ได้
มาใช้พจิ ารณาเพื่อปรบั ปรงุ แก้ไขสว่ นท่บี กพร่อง 10) นาไปใชจ้ ริงเพอื่ แก้ปญั หา
2.1.2 ผศู้ กึ ษามีขัน้ ตอนการตรวจสอบประสทิ ธภิ าพของเอกสารประกอบการเรยี น
1) ดา้ นประสิทธภิ าพเชิงเหตุผลคือ การตรวจสอบคุณภาพจากผเู้ ชี่ยวชาญ 5 ท่าน พิจารณา
ความเหมาะสมของเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี รหสั วิชา ง30241
รายวิชา Web Design and Development สาหรับนักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ผ้ศู กึ ษานามาปรับปรงุ ตาม
ขอ้ แนะนาของผ้เู ช่ียวชาญทุกทา่ น เอกสารประกอบการเรียนทีผ่ ศู้ กึ ษาสร้างขึ้นนมี้ ีความเหมาะสมระดบั อยู่ในระดับมาก
ทส่ี ุด
2) ประสิทธิภาพเชิงประจกั ษ์ จากการนาไปทดลองใช้เบ้ืองต้นกบั นักเรียน คละ
ผลการเรียน (กลุ่มเก่ง กลุ่มปานกลาง และกลมุ่ อ่อน) ท่ีไม่ใชก่ ลมุ่ ตัวอยา่ ง 3 ข้ันตอน ข้นั ที่ 1 ข้ันทดลองกับนักเรียน
แบบเดย่ี ว ในขน้ั นีผ้ ู้ศึกษาปรบั แก้ไขเน้อื หาและใบกจิ กรรมให้เหมาะสมกบั เวลา ที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอน
แลว้ นาไปทดลอง ข้ันท่ี 2 ข้ันทดลองกับนักเรียนแบบกลมุ่ และในข้ันนี้ ผู้ศกึ ษาได้ปรบั ปรุงเนอื้ หาในสว่ นของรปู ภาพ
บางรูปทีม่ ีขนาดเล็กเกินไป ให้มีขนาดใหญ่ข้นึ ทาให้ภาพชัดเจนมากขึ้น แลว้ นาไปทดลองขั้นที่ 3 ทดลองแบบ
ภาคสนาม ทาใหม้ ั่นใจวา่ เอกสารประกอบการเรียน กลมุ่ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี รหัสวิชา ง30241
รายวิชา Web Design and Development สาหรับนักเรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 มปี ระสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
ที่จะนาไปใชพ้ ัฒนาทักษะความสามารถของนักเรียน และ เมือ่ นาไปใช้กับนักเรยี นกลุ่มตวั อยา่ ง ในการทดลองใช้
จรงิ พบว่า เอกสารประกอบการเรียนท้ัง 5 หน่วย มปี ระสทิ ธิภาพ (E1/E2) คือ หนว่ ยท่ี 1 มปี ระสิทธิภาพ
81.7/81.07 หน่วยที่ 2 มีประสทิ ธิภาพ 81.75/80.83 หน่วยที่ 3 มีประสิทธภิ าพ 81.65/80.83 หน่วยท่ี 4 มี
ประสิทธภิ าพ 81.6/80.60 และ หน่วยท่ี 5 มีประสทิ ธิภาพ 81.65/81.19 ตามลาดับ เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ท่ี
กาหนดไว้ สอดคลอ้ งกบั ผลการศึกษาของ จันทเวศ ดอกไม้ (2552) ทาวิจยั เรื่อง “รายงานผลการใชเ้ อกสาร
ประกอบการเรยี น
กลุ่มสาระการเรียนร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 รายวชิ า ง32101”ผลการศึกษาพบว่ามี
ประสทิ ธิภาพโดยรวม 85.74/82.35 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ท่ีกาหนดไว้ เชน่ เดียวกับผลการศกึ ษาของ สมจิตร
เฉลิมแสน (2552) ทาวิจยั เร่ือง “รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใชเ้ อกสารประกอบการเรียนการ
สอน กล่มุ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ”ผลการศึกษาพบว่า
เอกสารประกอบการเรยี น มปี ระสิทธิภาพ 84.45/83.12 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ทก่ี าหนดไว้ และ
การศกึ ษาของ อารยา สงคราม (2553) ทาวิจยั เรอื่ ง “การพฒั นาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นของ
นกั เรยี นโดยใช้เอกสารประกอการเรียน วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ รหัส ง21202 เรือ่ ง การใชโ้ ปรแกรม Microsoft
Excel 2007 เบ้อื งต้น ของนกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 โรงเรียนบ้านดงเมือง(ดงเมืองวทิ ยา) อาเภอกุมภวาปี
จงั หวดั อุดรธานี”ผลการศึกษาพบว่า เอกสารประกอบการเรียนท่สี ร้างขนึ้ มีประสทิ ธิภาพ ตามเกณฑ์
80/80 เทา่ กบั 86.51/83.88 ท่กี าหนดไว้
2.2 ความก้าวหน้าทางการเรียนของนักเรียนทเี่ รียนด้วยสื่อทพี่ ัฒนา
ผลการเปรียบเทียบความกา้ วหนา้ ทางการเรยี นก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ เอกสาร
ประกอบการเรียน กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ง30241 รายวิชา Web Design
and Development สาหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ทัง้ 5 หนว่ ย พบวา่ มคี ะแนนสอบหลังเรียนสงู กวา่ ก่อน
เรียนอยา่ งมีนยั สาคัญทางสถิตทิ ีร่ ะดบั .05 เป็นไปตามสมมตฐิ านข้อที่ 2 ที่ตงั้ ไว้ ท้ังนี้อาจเนื่องมาจาก การจัด
กจิ กรรมการเรยี นการสอนโดยใช้เอกสารประกอบการเรยี น กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี รหสั วิชา
ง30241 รายวชิ า Web Design and Development สาหรบั นักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ไดร้ ับการออกแบบ
กจิ กรรมท่เี อ้ือต่อการเรียนรู้ ฝึกให้นักเรยี นได้เรียนรู้ ด้วยตนเองอย่างชัดเจน ตามกระบวนการเรียนรู้ มีการเตรียม
ความพร้อม การแก้ปญั หาเฉพาะหน้า การสร้างบรรยากาศใหน้ ่าเรยี น การเสรมิ แรงอย่างเหมาะสมเนือ้ หา และ
กิจกรรมในเอกสารประกอบการเรยี น สอดคล้องกับจุดประสงค์ เหมาะสมกบั วยั และความสามารถ ของผ้เู รียน
สามารถนาเสนอบทเรียนนา่ สนใจ และแบบทดสอบมคี วามยากงา่ ยเหมาะสมกับนักเรยี นนักเรียนมโี อกาสเรียนร้ดู ว้ ย
ตนเองตามความสามารถของตน สามารถใช้เอกสารประกอบการเรียน ทบทวนความรู้ และประเมนิ ผลด้วยตนเองได้
ทันทีหลงั จากศกึ ษาบทเรียนแลว้ สอดคล้องกบั การศกึ ษาของ จันทเวศ ดอกไม้ (2552) ทาวจิ ยั เรอ่ื ง “รายงานผล
การใชเ้ อกสารประกอบการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 รายวชิ า ง32101”ผลการศึกษาพบวา่ มี
ประสิทธภิ าพโดยรวม 85.74/82.35 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ทกี่ าหนดไว้ เชน่ เดยี วกบั ผลการศึกษาของ ผลการศึกษา
พบวา่ การเปรยี บเทียบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรยี นและหลังเรียนของนักเรียน มคี ะแนนสอบหลงั เรียนสูงกว่ากอ่ น
เรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถติ ิท่ีระดับ 0.05 เช่นเดียวกับผลการศกึ ษาของ สมจติ ร เฉลมิ แสน (2552) ทาวิจัย
เรื่อง “รายงานการพฒั นาผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นโดยใชเ้ อกสารประกอบการเรยี นการสอน กลุ่มสาระการเรยี นรู้
การงานอาชพี และเทคโนโลยี (งานเกษตร) ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 ” ผลการศึกษาพบว่า ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนของ