The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

4.ภาคใต้ฝั่งตะวันออก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by prindol007, 2018-11-21 09:30:00

4.ภาคใต้ฝั่งตะวันออก

4.ภาคใต้ฝั่งตะวันออก

ภาคใตŒฝ›ง˜ ตะวันออก

ท‹อง ๙ แหลง‹ เรยี นรŒู พิพธิ ภณั ฑท ี่มชี วี ติ เสŒนทางเรยี นรŒู “ตามรอยพระราชา”

พระราชา
ไมไดม ีแตในนทิ าน
ในเดตินรแยีขดอมนงตพแัวรหเดะงรินกาทาชราาเงรไียปนรู
สนุกรู
สนุกคิด Heart

Head สนุกทำ
Hand

เตรยี มตวั ไปเรยี นรู ใหเ ต็มอิ่ม

เตรยี มใจไปสนกุ ใหเต็มที่

เตรียมถามไดทกุ คำถามทส่ี งสยั

เตรยี มบันทกึ ทกุ ความประทบั ใจไวกันลืม

ณ แหลงเรีนรู พพิ ธิ ภัณฑมีชีวติ
จากโครงการอันเน่อื งมาจากพระราชดำริ

พระราชา รัชกาลที่ ๙

หนงั สือเดินทางของ©ัน

ชื่อจริง
ช่ือเลน่
âรงเรียน
ชน้ั
คติประจา� ใจ
âทรศพั ท์

เตรยี มตวั ออกเดนิ ทางไปเรยี นรู้

สมุดบันทÖก กระบอกนา�้

ดนิ สอ กลอ้ ง¶่ายรปู
ยางลบ หมวก
กระเป‰าเป‡

3

คมู่ อื พอ่ แม่
(Parent’s Guide)

การเดนิ ทาง ‘ตามรอยพระราชา’ ของเดกç æ ครงั้ นี้ พอ่ แม่
ครู หรือ¼ู้ ใหญ่สามาร¶มสี ่วนรว่ มในการเรียนรู้และสนกุ
ไปกับเดçกæ ด้วยการ…
• กระตุน้ ใหเ้ ดกç æ เกดิ การเรียนรอู้ ย่างสร้างสรรค์
สบื เสาะ จินตนาการ และลงมือทา�
• สงั เกต พÄตกิ รรมการเรียนรขู้ องเดçกæ ส่งเสริมใหเ้ กดิ
การต่อยอด และเช่ือมâยงกบั ประสบการ³์จริง
• ประเมิน การเรียนรู้และทักษะส�าคัญที่เกิดจากการ
เรียนรู้ของเดçกæ

ô ทกั ษะ คือ

แรงบนั ดาลใจ คิดสร้างสรรค์

เอาใจใส่ จดจอ่ อยากเรียนรู้ สา� รวจ เสาะแสวงหาค�าตอบ
อยากทา� ต่อ สงั เกต อธบิ ายข้อมลู สร้างแนวคดิ ใหม่

เกดิ แรงบนั ดาลใจ เช่ือมâยง บรู ³าการ

คดิ วิเคราะห์ ลงมือท�า

เข้าใจปัญหา เปรียบเทียบมุมมอง ป¯บิ ัตจิ ริง กล้าลอง
ต่างæ ตรวจสอบความ¶กู ต้อง กล้าเรียนรู้ ลองลงมอื ทา�
วิเคราะหข์ ้อมลู แสดงเหตุ¼ล



ร่วมเรียนรไู้ ปกบั เดçกæ

• กระต้นุ ใหเ้ ดçกæ สนใจ ชี้ชวนให้สังเกตส่ิงต่างæ รอบตัว
• ชวนเดçกæ ต้ังคา� ¶าม คิด และหาคา� ตอบ
• ลองให้เดกç æ ไดเ้ ล่น ลองท�า สมั ¼ัส และเรียนรสู้ ง่ิ ต่างæ
• ชวนเดกç æ ใหค้ ดิ เชื่อมâยงสง่ิ ตา่ งæ กบั ตวั เอง ที่บา้ น ที่âรงเรียน
และสังคมรอบตัว
• ตง้ั คา� ¶ามให้เดçกæ ทา� ความเขา้ ใจเร่ืองราว ปัญหา และสาเหตุ
ของการเกิดปญั หาตา่ งæ
• ตั้งข้อสงั เกตใหเ้ ดกç æ คิด¶งÖ ขอ้ ดี-ข้อเสยี ของส่ิงตา่ งæ ทไี่ ด้เหนç
• ต้ังข้อสงสัย และคน้ คว้าข้อมลู เพมิ่ เติมตอ่ จากแหลง่ อื่นæ
• ทา้ ทายเดกç æ ให้คิดหาแนวทางแก้ปญั หาตามวิธขี องตัวเอง



กฟผ.

ผลิตไฟฟาเพือ่ ความสขุ ของคนไทย
กฟผ.

❝ศาสตรของพระราชาไม‹มีวันลŒาสมัย วิชาท่ีพระองคทรงสอน

ใชไ้ ด้ทุกมมุ โลก เปน็ ศาสตรถนอมโลก ถนอมมนุษย ตลอด ๗๐ ปีแห่ง
ศาสตรพระมหากษตั รยิ  ในหลวงรัชกาลท่ ี 9 ทา่ นทรงสอนพวกเราไว้
ครบเครื่อง วันนี้พระองคท่านไม่ประทับอยู่กับเราแล้ว แต่มีแสงสว่าง
ทส่ี อ่ งทางเราตลอดเวลา ขอให้เดินตาม
หนังสือเดินทางตามรอยพระราชา คือโรดแมปให้ไปศึกษาตาม
เส้นทางของศาสตรกษัตริย เป็นเครื่องมือเหมือนมีไกดคอยอธิบาย



พอ่ แม่ลกู ไดเ้ รียนรู้พร้อมกัน เขา้ ใจพร้อมกนั ตรวจสอบ ลงมอื ปฏบิ ตั ิ
บนฐานความสามัคค ี
ขอให้เป็นการเท่ียวอย่างสร้างสรรค เที่ยวไปสู่องคความรู้ที่
พระองคป ระสิทธปิ์ ระสาทให้ เท่ยี วดูศาสตรก ษตั ริย  ศาสตรพระราชา
จะเท่ยี วไดเ้ ปน็ ร้อยโครงการ เหนือสง่ิ อ่ืนใด จะเกดิ ความภาคภูมใิ จวา่
พ่อของเราเก่งเหลือเกิน พ่อเราสอนเราทุกอย่างเราเสียอีก อาจ
ไม่ค่อยเป็นลูกที่ดีนัก ไม่ค่อยใส่ใจค�าสอนของพ่อนัก แต่ไม่สาย
เวลานหี้ นงั สอื เดนิ ทางจะนา� ทางพวกทา่ นทงั้ หลายไป จะเปน็ เครอ่ื งชว่ ย
อย่างดี รับรองว่าจะบรรลุธรรม ธรรมชาติและธรรมดา และจบลง

ดว้ ยคา� วา่ ประโยชนส ุข❞

ดร.สเุ มธ ตนั ติเวชกลุ
เลขาธกิ ารมลู นิธิชยั พฒั นา
และทปี่ รกึ ษาโครงการหนังสอื เดนิ ทางตามรอยพระราชา



เรียนรู้ แกป้ ัญหาน้ำ� แกป้ ัญหาดิน
จัดการพนื้ ท่ีทำ�กินอยา่ งย่ังยนื

เสน้ ทางภาคใต้ ฝงั่ ตะวันออก

● ประจวบครี ขี ันธ์ ● ชุมพร
● สุราษฎรธ์ านี ● นครศรีธรรมราช

● สงขลา ● พัทลงุ
● ปตั ตานี ● ยะลา

● นราธิวาส

8

9

แผตนาทม่ีเรสอน ยทพางรกะารราเรชยี านรู
๑๐ โครงการอนรุ กั ษแ ละฟน ฟูสภาพปา
บรเิ วณปา สงวนแหงชาติปา กุยบรุ ี
อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จ.ประจวบคีรีขันธ

กฟผ. ๒๐

ผลติ ไฟฟา เพอื่ ความสุขของคนไทย เข่ือนรัชชประภา
กฟผ. จ.สรุ าษฎรธ านี

พิพธิ ภณั ฑธรรมชาติ
จดั การน้ำชมุ ชน
บา นทบั คริสต ๒๖

จ.สรุ าษฎรธานี

โครงการไมด อกเมืองหนาว

อันเนอื่ งมาจากพระราชดำริ ๔๒

เบตง จ.ยะลา

๑๐

๔๖ โครงการพฒั นาและฟน ฟู
ปาชายเลนบา นหวั เขา จ.สงขลา

๕๐

โครงการปองกนั และบรรเทาอทุ กภัย
เมืองชมุ พร ตามพระราชดำริ จ.ชุมพร

โครงการพฒั นาพืน้ ทล่ี มุ น้ำปากพนงั

๕๔ อันเน่ืองมาจากพระราชดำริ

จ.นครศรีธรรมราช

โครงการศูนยศึกษา สันทราย ทด่ี อน
การพัฒนาพกิ ลุ ทอง
อันเน่อื งมาจากพระราชดำริ

๓๒ จ.นราธวิ าส

๖๔

โครงการบริหารจดั การ

๑๑ปา พรโุ ตะ แดง จ.นราธิวาส

ตะลุยปา† สอ่ งช้าง «ุม่ ดกู ระทิง
âครงการอนรุ ักษ์และ¿„œน¿สู ภาพป†า
บริเว³ป†าสงวนแหง่ ชาติป†ากุยบรุ ี
อนั เน่อื งมาจากพระราชดา� ริ จ.ประจวบครี ีขันธ์

¿„œน¿ูป†า คืนบา้ นใหช้ า้ ง ชว่ ยชา้ งกับคนอยรู่ ว่ มกนั ได้
เพราะคนรุกเขา้ ไปท�าการเกษตร ทา� ลายป่าทีเ่ คยเปน็ ท่อี ยขู่ องช้าง
ช้างจงึ ออกมากินพชื ผลในไรข่ องชาวบา้ นจนเสยี หาย
สับปะรด ขา้ วโพดทีป่ ลูกไวใ้ นไร ่ ของโปรดแสนอรอ่ ยของช้างเลย
คนกบั ชา้ งเลยกระทบกระทั่งกนั ตลอดมา
ชา้ งป่าออกมาทา� ลายพชื ผลรุนแรงทสี่ ดุ ในปี ๒๕๔๐
จนวนั หน่ึง มชี า้ งป่าตายกลางไร่สับปะรด เพราะได้รับสารเคมจี ากในไร่
พระราชาผเู้ มตตา ท้งั ตอ่ คน ช้าง และป่า เหน็ ว่าถ้าปล่อยไวอ้ ยา่ งน้ี
ช้างปา่ คงตอ้ งสญู พนั ธุ
จึงให้แนวทางอนรุ กั ษฟ œ„นฟจู นป่ากลบั มาเขียวขจอี ีกครงั้
เป็นบ้านทีอ่ ุดมสมบรู ณของชา้ งและสตั วป ่า
และช่วยให้คนกับช้างอย่รู ว่ มกนั ไดอ้ ีกครงั้

๑๒

๑3

ป†าสมบูร³์ ช้าง กระทงิ เพมิ่ ขน้Ö
ววั แดง เกง้ กวาง เสือ กมç า

เปลย่ี นพน้ื ท่ีปลกู สบั ปะรด
ñø,ö÷õ ไร่

ให้กลายเปšนปา† ไม้
ท่ีอยู่อาศัยของสตั วป์ า†

แนวเขตอุทยานแหงชาติกยุ บรุ ี
ขอบเขตโครงการพระราชดำรฯิ
พนื้ ท่ีปลกู ฟนฟูสภาพปา
จดุ ชมฝงู ชางปา กระทงิ

ปา† กุยบุรี บา้ นของสตั วป์ า† นานาชนดิ
แหลง่ ต้นน�า้ ของล�าน�้ากุยบรุ ี
แหลง่ เที่ยวเชิงอนรุ ักษช์ มฝูงช้างป†าและกระทงิ

๑๔

ศาสตรพ์ ระราชา
แก้ปัญหาคนกับชา้ งอยา่ งยัง่ ยืนตลอดไป

● ใช้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ
ปลูกป่าโดยไมต่ ้องปลกู ปลอ่ ยให้ข้ึนเองตามธรรมชาต ิ

ใช้ประโยชนจ ากป่าควบคู่ไปกบั
การฟนœ„ ฟูใหอ้ ุดมสมบรู ณ
● ปลกู ป†าในใจคน

สร้างจติ ส�านึกใหค้ นรักหวงแหนปา่ ไม้ สัตวป า่
มีสว่ นรว่ มในการอนุรกั ษ  ฟœน„ ฟปู ่า

มจี �านวนชา้ งป†าเพิม่ ขน้Ö
มากกวา่ òõð ตวั

ป†าต้นนา�้ มจี า� นวนกระทงิ เพม่ิ ขÖน้
นส่ี า� คัญอยา่ งไร มากกว่า ñõð ตัว

กนั นะ

เม่ือป่าคืนกลับมาอุดมสมบูรณ ช้างก็ออกจากป่ามา ชา้ งสา� คญั อยา่ งไร
ทา� ลายไรข่ องชาวบา้ นนอ้ ยลง ทา� ไมเราตอ้ ง
กระทงิ ฝงู ใหญ ่ และสตั วป า่ นานาชนดิ ววั แดง เลยี งผา
เกง้ หม้อ เกง้ เสือโครง่ เสือดาว หมีควาย ค่างแว่น ชะน ี อนรุ ักษช์ า้ งด้วยละ่
ฯลฯ ก็กลบั มาขยายพันธุในป่าแหง่ นี้อีกครัง้
๑๕

เตรียมตัว
ไปตะลยุ ป†าอย่างไร
ให้ปลอดภัยนะ?

บอ ๑

จดุ ชมชาง ชา งปจา ดุ ชกมระทิง
หนา ผา

บอ ๒

บอ ๕ บอ ๓ บอ ๗

บอ ๘ บอ ๔

จดุ ชมชาง
โปง สลัดได

บอ ๖ บอ ๙

หนว ยฯ ท่ี กร.๕ ทท่ี ำการ ฝายกุญชร
(หวยลึก) โครงการฯ

เส้นทางท่องเทย่ี วทีเ่ ปดให้นักทอ่ งเทย่ี ว
เดินทางเขา้ ไปชมสตั วป่าได้ ๑๖

ชะนี กระทิง

อาหารยอดนยิ ม
ของสตั วก์ ินพชื คอื หญ้า

สัตว์ตวั ไหนกนิ หญ้า
เปนš อาหารบ้างนะ

เก้งหมอ้

ชา้ ง สัตวป์ กา† ินมอาะกไมร

สัตว์กินพืชตอ้

สัตวต่างๆ มากินดิน
เช่น ชา้ งปา่ กระทงิ กวาง
หมูป่า

เกง้
ท�าเคร่ืองหมาย รอบชื่อสัตว์กินเน

๑๗

เสอื âคร่ง

เลียง¼า

สัตว์กินเนื้อ เราเรียกว่า สตั ว์นักลา่
สัตว์นักล่า กินสัตวอ์ ื่นเปนš อาหาร

หมปู า† หมคี วาย

ไมรเาปยนš ทอ่ีอาาหศายั รใกนันปนา† ะกุยบรุ ี

องกินดนิ âป†ง

นโป่ง สัตวที่กินดินโป่ง
ง เกง้ ววั แดง สมเสร็จ

สงสัยไหม
ท�าไม¶งÖ เรียกดนิ นว้ี า่ ดนิ âป†ง

นอ้ื ท�าเครื่องหมาย รอบชื่อสัตว์กินพืช

๑8

ดนิ âปง† คอื ดนิ ทมี่ รี สเคม็ มแี รธ่ าตแุ ละเกลอื แร่
ทจี่ า� เปน็ ตอ่ การดา� รงชวี ติ ของสตั วป า่ ในปรมิ าณมาก
สตั วป า่ บางชนดิ โดยเฉพาะสตั วท กี่ นิ หญา้ เปน็ อาหาร
ต้องมากนิ ดินโป่งเพื่อรับแร่ธาตุ
๑9

ชุมชนรว่ มอนรุ ักษ์ปา† และชา้ ง

เพราะเดินตามรอยพระราชา ชุมชน 3 หมู่บ้านในกุยบุรี
หมบู่ า้ นรวมไทย หมบู่ า้ นพุบอน หมบู่ า้ นยา่ น«อ่ื ตา่ งรว่ มกนั
อนรุ กั ษป า่ เออ้ื อารตี อ่ ชา้ ง ชาวบา้ นทนี่ รี่ จู้ กั สรา้ งรายไดเ้ พมิ่ ขนึ้ จากอาชพี
ที่หลากหลาย ใชท้ รัพยากรในชุมชน สรา้ งคุณภาพชีวติ ทดี่ ีขนึ้

จดุ ชมชา งปา
กยุ บรุ ี

จุดชมววิ

ทงุ หญา 1,500 ไร

ฟารม แพะ

ใหอ้ มาาหกลานั อรงแพะ แปลงหมอน

๒๐ ● กลมุ่ ปลูกหมอ่ นเลี้ยงไหม บา นรวมไทย
ผลติ เสน้ ไหม ผลิตชาใบหมอ่ น

● กลมุ่ ¼ลิตภ³ั ±แ์ ปรรูปจากสับปะรด
เพราะท�าไร่สบั ปะรดมากมาย
ต้นสับปะรดที่เหลอื ทงิ้ เอามาทา�
กระดาษเสน้ ใยสบั ปะรด
และขา้ วของเครือ่ งใช้
● ¿าร์มแพะ
กลุ่มผูเ้ ล้ียงแพะบา้ นรวมไทย
เลย้ี งแพะสรา้ งรายได้

● การทอ่ งเท่ียวâดยชุมชน เส้นทางการเรียนรู้ ò วัน ñ คนื
น�าเท่ียวชมชา้ งป่าครบวงจร บ้านรวมไทย อ.กุยบุรี
รถยนตน า� เทย่ี ว ไกด 
บริการบ้านพัก ● เขา้ พักโฮมสเตยบ ้านรวมไทย ๑ คืน
● ต่ืนแต่เช้ามืด นั่งรถออกไปชม
การทำกระดาษ พระอาทติ ยข นึ้ ทจ่ี ดุ ชมววิ ทวิ ทศั น  หนว่ ยพทิ กั ษ 
จากใยสบั ปะรด อช.กยุ บุรี ส�าโหรง
● ระหว่างทางชมทุ่งหญ้า ๑,๕๐๐ ไร ่
โรงเล้ียงไหม สถานีพฒั นาอาหารสัตวฯ ทสี่ วยงามเขียวขจี
● บ่ายๆ เตรียมตัวออกไปเท่ียวซาฟารี
OTOP เมอื งไทย ออกไปชมชา้ งป่า และกระทงิ ใน
เส้นทางสูจ่ ุดชมชา้ งปา่ กุยบรุ ี
ติดตอ‹ สอบถาม รถนา� เทยี่ วและไกด
พาชมชา้ งป่าและกระทงิ
ชมรมทอ่ งเที่ยวเชงิ อนุรักษส ัตวป า่ กุยบุรี
โทร. ๐8 ๕๒๖๖ ๑๖๐๑, ๐8 ๐๖9๑ ๑๑๑3
www.changkui.org

บานพกั
ในชมุ ชน

อา งเก็บนำ้ ยางชมุ
อันเน่ืองมาจากพระราชดำริ

โครงการอนรุ กั ษและฟ„นœ ฟูสภาพป†าบริเวณป†าสงวนแหง‹ ชาตปิ า† กยุ บรุ ี
อนั เน่ืองมาจากพระราชดาํ ริ

ต.หาดขาม อ.กยุ บรุ ี จ.ประจวบครี ีขันธ
เปด ทุกวนั เวลา ๐8.๐๐ -๑๖.๐๐ น. ๐ ๗๕๔๑ ๖๑๒๗

การเดินทาง

๒๑

¼จญภัยในทะเลสาบ
เขอื่ นรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี

ทะเลสาบที่คนสรา้ งขÖน้
สวยจนไดช้ ่ือว่า “กุ้ยหลนิ เมอื งไทย”
กอ่ นจะไปหาค�าตอบว่า ท�าไมทน่ี ไ่ี ด้ชื่อว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย”
ไปดูท่มี าของเขอื่ นกันกอ่ น
เข่ือนรชั ชประภาสรา้ งขึ้นเพ่ือฉลองในโอกาสท่ีพระราชา รชั กาลท ่ี 9
มพี ระชนมายคุ รบ ๕ รอบ หรอื อายุครบ ๖๐ ปีนัน่ เอง
ทา่ นเสดจ็ เปด เขือ่ นรัชชประภาและโรงไฟฟา‡ พลังน�้า เมือ่ วนั พธุ ท่ี 3๐

๒๒ กันยายน ๒๕3๐

๒3

เเปขือ่ šนนเขร่อืัชชนปปรระะภเาภทไหน

เปนš เข่ือนอเนกประสงคแ์ หง่ ที่สองของภาคใต้

กฟผ.

ผลติ ไฟฟา เพอื่ ความสขุ ของคนไทย
กฟผ.

เปสšนรเ้าขงอ่ื ปนด หกินน้ั ¶ลมา� แนกา�้ นคลดอินงเหแนสงยี ว

ประâยชน์ของเข่ือน

¼ลติ กระแสไ¿¿า‡ จากพลังนา�้
ด้วยâรงไ¿¿า‡ พลังงานน�า้
การชลประทาน
ประชาชนมนี ้�ากักเก็บไว้กินไว้ใช้

๒๔

อยู่ในพอ้ืนทุ ทยี่สา่วนนแใหห่งญชาข่ ตองิเขเขาอื่สนก อางเก็บนำ้

โรงไฟฟา
สนั เข่อื น

มแคี สวงาสมรวหัช่าชมงปาแยรหะว่งภ่ารอาัชยก่าางลไร

(Light of the Kingdom)

แหลง่ ประมงน�า้ จดื
เป็นทีอ่ ยู่อาศัยของสัตวน า�้ จ�านวนมาก
ชาวประมงได้จับสตั วน้�ามาขาย

แก้ปัญหาน�า้ เสียและน�้าเคมç ๒๕
ที่รุกเข้ามาตามล�านา�้ ตาปี-พุมดวง

บรรเทาปัญหาน้า� ท่วม
ในพน้ื ทีต่ อนล่างบริเวณลุ่มนา้� คลองแสง
คลองพมุ ดวง และแมน่ า�้ ตาปี

¼จญภยั ในทะเลสาบ
ลยุ เท่ียวป†าฝนเขาสกแห่งภาคใต้

จุดชมวิวสันเขอื่ น
ชมวิวเขื่อนรชั ชประภาไดอ้ ย่างสวยงาม

สนั เข่อื น เข่ือนรชั ชประภา

การไฟฟาฝายผลติ

โรงไฟฟา จุดชมววิ ศาลาประภาภริ มย
สวนปารัชชประภา

คลองแสง

พักในแพกลางน�า้
ภายในอ่างเกบ็ นา�้ เขือ่ นรชั ชประภา มีแพ
พักของอุทยานแหง่ ชาตเิ ขาสก และแพเอกชน
อกี หลายแห่ง เราต้องเชา่ เรอื หางยาว ลอ่ งไป
ชมเทือกเขาหินปูน แล้วไปนอนพกั แรมบนแพ

๒๖ กลางนา�้ กระโดดน�้าเล่นใหส้ บายไปเลย

ท�าไมที่น่ี
¶งÖ เรียกว่า
“กุย้ หลินเมืองไทย”

ลอ่ งเรือชมอ่างเกบç นา�้ เข่อื นรัชชประภา กุย้ หลนิ เมืองไทย
อ่างเก็บน้�า เข่ือนรัชชประภา ว่ากันว่าเป็นทะเลสาบที่คนสร้างขึ้นที่
สวยงามทส่ี ดุ เพราะมภี เู ขาหนิ ปนู ขน้ึ สลบั ซบั ซอ้ นทา่ มกลางนา้� ในเขอื่ นทกี่ วา้ ง
ใหญ ่ ได้รับฉายาวา่ “กุ้ยหลินเมืองไทย” เพราะลกั ษณะภมู ิประเทศคล้ายกบั
สถานท่ที ่องเทย่ี วชือ่ ดงั ในเมอื งกุ้ยหลิน ประเทศจีน

¼จญภยั ในอทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาสก ผนื ปา่ ทอี่ ดุ มสมบรู ณท ส่ี ดุ
อีกแห่งหนึง่ เปน็ ปา่ ฝนทีช่ มุ่ ชืน้ ป่าตน้ นา้� ของแมน่ �้าตาปี

เดินป†าเที่ยว¶�้าน้�าทะลุ กิจกรรม
ผจญภัยที่ต้องมีร่างกายแข็งแรง ผจญภัยในถ้�า
โดยมีเจ้าหนา้ ทน่ี า� เทย่ี วเพ่ือความปลอดภยั
ตามล่าหาบัว¼ุด ชมมหัศจรรยดอกบัวผุด พันธุไม้
ทมี่ ดี อกขนาดใหญ่ทส่ี ดุ ในโลก ปหี นึ่งบานแคค่ รั้งเดยี ว พบเพียงไมก่ ่แี หง่ ในโลก
ถ้าอยากดูตอ้ งมีเจา้ หน้าทค่ี อยนา� ทางเดินไปเสาะหาตามจดุ ตา่ งๆ ทด่ี อกบัวผุดเคยมี

ประชาสมั พนั ธเ ข่อื นรชั ชประภา การเดนิ ทาง
ต.เขาพงั อ.บา้ นตาขนุ จ.สุราษฏรธ านี
เปด ทุกวนั เวลา ๐8.๐๐-๑8.๐๐ น. ๒๗
๐ ๗๗๒๔ ๒๕๕๕ ต่อ ๕๐๖๑- ๒ http.rbp.egat.com
การไฟฟา‡ ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขือ่ นรัชชประภา

ไปตามหาสระพวง
พพิ ิธภั³±ธ์ รรมชาติจัดการน้�าชุมชน
บา้ นทับคริสต์ จ.สุราษฎรธ์ านี

ตน้ แบบชุมชนบริหารจัดการน�้า ตามแนวพระราชด�าริ
ในอดตี ชมุ ชนบ้านทบั ครสิ ตไ มม่ แี หล่งน�้าธรรมชาต ิ มีเพียงลา� ห้วยเลก็ ๆ
เมื่อถึงหนา้ แลง้ น�้ากแ็ หง้ ทกุ ปชี าวบา้ นขาดแคลนนา้� กนิ น้า� ใช้
ขาดน�้าท�าการเกษตร
ดว้ ยความทกุ ขย ากเพราะไมม่ นี า้� ชาวบา้ นจงึ ไดข้ อพระราชทานอา่ งเกบ็ นา�้
พระราชาผูเ้ ป›ียมเมตตาจงึ ได้สร้าง “อา‹ งเกบ็ นา้ํ บางทรายนวล” ให้แกช่ าวบ้าน
ชาวบ้านก็ใช้น�้าเยอะจนหมดอ่างตั้งแต่ปีแรก และมีป˜ญหาทะเลาะเบาะแว้ง
แยง่ น�้ากัน
เม่อื มอี า่ งเก็บน�า้ ใหญ่แล้วก็ยังแก้ปญ˜ หานา้� ไมไ่ ด ้ ชาวบ้านจงึ รว่ มมือกัน
คดิ หาทางแกไ้ ข น�าระบบจดั การนา้� แบบ “สระพวง” มาใช้
ตอ่ ยอดแนวทางทีพ่ ระราชาเคยบอกไว ้ ท�าใหแ้ ก้ป˜ญหาขาดแคลนนา�้ ได้จรงิ
ชาวบา้ นมีน้า� ใจเอือ้ อาทรตอ่ กนั ร้จู ักจัดสรร จดั การนา้�
ท�าให้มนี �้าใชท้ �าการเกษตรไดต้ ลอดท้งั ปี

๒8

สงสยั ใช่ไหมว่า สระพวง คืออะไร
ต้องตามไปดดู ้วยกนั แลว้ !

๒9

รแะลบะรแบใชะลเ้ ใบกะนบçบใชชสีเว้ ใก�าินตçบรชปอสีวรงา�ิตะนรปจอ้า� �ารงเวพะนันจือ่ ้า� า�กเวพานั รื่อเกกาษรตเกรษตร

อนรุ ักษ์ปา† ตน้ น้�า
ฟ„œนฟูระบบนเิ วศปา่ ตน้ นา้� รอบอา่ งเก็บน้า� บาง
ทรายนวล ไม่ตัดไม้ท�าลายป่า สร้างฝายชะลอ
ความช่มุ ชน้ื รักษาป่าไว้เป็นสมบตั ขิ องชมุ ชน
เพื่อให้ป่าท�าหน้าที่รักษาความชุ่มช้ืน เป็น
แหล่งกกั เก็บน�า้ ตามธรรมชาตทิ ย่ี ั่งยืนต่อไป

คลองบางปรกิ

อ่างเกบç น�า้ บางทรายนวล
ธนาคารน้�าของชุมชน
อา่ งเกบ็ นา�้ ขนาดใหญ ่ ทา� หน้าทีก่ กั เกบ็ น�้า
เปรยี บเสมอื นธนาคารน�้าของชุมชน

อางเกบ็ นำ้

3๐ บางทรายนวล

สระพวง ระบบสง่ และกระจายน้�า
ชาวบ้านขุดสระน�้าขนาดเล็กในที่ดินของ
ตนเอง เรียกว่า “สระพวง” กระจายน�้าจากอ่าง
เก็บน้�าบางทรายนวล ท�าท่อส่งไปสู่สระพวงของ
ตนเอง
คิดหาวิธีปล่อยน้�าจากอ่างเก็บน�้าไปยัง
สระพวง เพื่อให้สระพวงเก็บน�้าไว้ใช้ตลอดทั้งปี
จงึ หมดป˜ญหาขาดน้�าในหนา้ แล้ง
สระพวงขนาดเล็กน้ีกระจายอยู่ในท่ีดินของ
เกษตรกร
ป˜จจบุ นั ในชุมชนมีสระพวงมากกว่า ๑๖๐ สระ

เดçกæ คดิ ว่า
ตวั อเองจะชว่ ยอนรุ ักษ์

ปา† ต้นนา้�

ไดอ้ ยา่ งไรบา้ งนะ

3๑

ชาวบา้ นดี ใจ มีน�า้ ใช้ท�าการเกษตรได้ทั้งป‚
ชว่ ยปลดหน้ี เพ่ิมรายได้

เมื่อมีน้�าจากสระพวง เกษตรกรก็ท�าการเกษตรปลูก
พชื ผลได้ตลอดปี หลายครอบครัวเปลีย่ นมาทา� การเกษตร
ตามทฤษฎใี หมข่ องพระราชา จนสามารถปลดหน ี้ เพมิ่ ราย
ได ้ ดงั เชน่ ครอบครวั คณุ ปา‡ กฤษณา อาจณรงค  ทา� เกษตร
ทฤษฎใี หม่ ปลูกพืชผสมผสานในทด่ี นิ มากกว่า 3๐ ชนิด
มีรายไดม้ ากข้นึ จนปลดหนแ้ี ละมคี วามสขุ

กลุ่มไม้ดอก ไมป้ ระดับ
ชาวบ้านทับคริสตปลูกไม้ดอกไม้
ประดับกันหลายครัวเรือน รวมตัวกัน
เป็นกลุ่มไม้ดอกไม้ประดับส่งขาย สร้าง
รายได้ดมี าก
ที่นม่ี ีไมด้ อกไม้ประดบั อะไรบ้าง

เดกç æ ร้จู ัก
ไมด้ อกไมป้ ระดบั
พวกนบี้ า้ งไหม

แลว้ ที่บา้ น

3๒ ปลกู ตน้ อะไรบ้าง

เกษตรทÄษฎี ใหม่ ปลกู พืช¼สม¼สาน
จากเดิมชาวบ้านปลูกพืชเชิงเดี่ยว ปลูกแค่อย่างเดียว
ปลี ะมากๆ ปไี หนราคาพืชผลตกตา�่ ก็ขาดทนุ และเปน็ หน้ี
ชาวบ้านจึงเปล่ียนมาปลูกพืชหลายชนิดผสมผสานใน
ทดี่ นิ เดมิ เชน่ ทเุ รยี น มงั คดุ เงาะ กลว้ ย ไมด้ อกไมป้ ระดบั
ฯลฯ
สามารถเก็บผลผลิตหมุนเวยี นออกขายได้ตลอดป ี
หากราคาพืชผลชนิดใดตกต�่า ก็ยังมีรายได้จากผลผลิต
อ่ืนๆ มาชว่ ยไวไ้ มใ่ หข้ าดทุน

แรงบนั ดาลใจจากพระราชา ปราชญแ์ หง่ น�า้
พระราชาทมุ่ เทศกึ ษาเรอื่ งบรหิ ารจดั การนา�้ อยา่ งยง่ั ยนื เพอ่ื ชว่ ยเหลอื คนไทย เปน็
แรงบนั ดาลใจใหช้ าวบา้ นทบั ครสิ ตม งุ่ มนั่ ตงั้ ใจ คดิ ระบบจดั การนา�้ สระพวงจนสา� เรจ็
และเปล่ียนมาทา� เกษตรผสมผสานตามแนวทางพระราชด�าร ิ เป็นชุมชนต้นแบบใน
การจดั การน�้าและเกษตรผสมผสานท่ปี ระสบความส�าเรจ็
พิพธิ ภัณฑธ รรมชาตจิ ัดการนาํ้ ชุมชน บาŒ นทับครสิ ต
ต.คลองชะอุ่น อ.พนม จ.สรุ าษฎรธ านี
เปดทกุ วัน เวลา ๐8.๐๐ -๑๖.๐๐ น. ๐ ๗๕๔๑ ๖๑๒๗

การเดนิ ทาง

33

รจู้ ักการแกล้งดนิ ท่ี
âครงการศูนย์ศÖกษาการพั²นาพกิ ุลทอง
อันเน่อื งมาจากพระราชดา� ริ
จ.นราธิวาส

ร้มู ั้ยทา� ไม¶งÖ ต้อง “แกล้งดิน”
หลายปีแล้ว เมื่อพระราชาออกเย่ียมเยียนประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ และ
ทรงทราบวา่ ในพ้นื ทีแ่ ถบจังหวัดนราธิวาสและใกล้เคียง ประชาชนไดร้ บั ความ
เดอื ดรอ้ น มปี ˜ญหาเน่อื งจากพ้ืนทีเ่ ป็น “ดนิ พร”ุ พน้ื ดินมนี ้า� ขัง ทา� ใหด้ ินเปรยี้ ว
มสี ภาพความเปน็ กรดอยา่ งรนุ แรง ไมส่ ามารถใชท้ า� การเกษตรได ้ ยงิ่ ระบายนา�้
ออก ดินก็จะแปรสภาพเปร้ียวจัดจนท�าปลูกพืชหรือท�าประโยชนจากที่ดิน
ไม่ไดเ้ ลย พระราชาจงึ คดิ หาวิธีแก้ปญ˜ หาดนิ ให้หายเปรย้ี วเพ่อื ช่วยราษฎร

3๔

พ้ืนท่ี “ดินพรุ”
เกิดขÖน้ ไดอ้ ยา่ งไรนะ

3๕

พิพธิ ภ³ั ±ธ์ รรมชาตทิ ี่มีชีวิต

บนพ้ืนท่ีศูนยศึกษาการพัฒนา
พกิ ลุ ทองฯ กวา่ ๑,๗๔๐ ไร ่แบง่ พน้ื ทสี่ วน
ต่างๆ ภายใต้แนวคิด “พิพิธภัณฑ
ธรรมชาตทิ มี่ ชี วี ติ ” เพอ่ื ใหค้ นไดเ้ รยี นรู้
และเห็นตวั อยา่ งจากของจริง

สวนไม้มงคล สวน õð ป‚ ครองราชย์
เ©ลมิ พระชนม์ ÷ö พรรษา รวบรวมพืชตระกลู ปาลม
สวนพรรณไมม้ งคลนานาชนิด นานาชนิดทั้งในและต่างประเทศ
สาธติ การเลีย้ งปลา
การประมง (สาธิต) ในบ่อ สวน ÷ò พรรษา
น�้าเปรี้ยว ศึกษาการเพาะเลี้ยง สวนรวบรวมพันธุไม้หายาก
ขยายพันธุปลาที่ทนต่อน�้าเปรี้ยว ใกล้สูญพันธุและพืชสมุนไพรกว่า
และการเล้ียงปลาสวยงามใน ๔๐๐ ชนิด
พ้ืนพรุ การเล้ียงกบในกระชัง
การท�าการเกษตรผสมผสาน 3๖
บรเิ วณของบ่อเล้ยี งปลา

ปา† พรุ ดนิ เปรี้ยวมาจากไหน
มลี กั ษ³ะอยา่ งไร
ดินเปรี้ยวเกิดข้ึนในพื้นท่ปี า่ พรทุ ี่เส่อื
กันนะ ดนิ เปร้ียว ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น จนถูกทงิ้ ร้า
พระราชาหาวิธีแกล้งดินให้กลับม
ขาดแคลนทที่ �ากิน ไดม้ ดี นิ ดีๆ ไวท้ �าการ

ปา† พรุส�าคัญตอ่
ระบบนเิ วศอยา่ งไร
เราอนรุ ักษป์ า† พรุ

ไวเ้ พือ่ อะไร

แกล้งดนิ ให้หายเปรี้ยว
พระราชาคิดโครงการ “แกล้งดนิ ” เพอื่ หาทางท�าใหด้ ินเปรยี้ ว
กลับมาใช้ประโยชนได้ และศึกษาวิธีเพ่ือแก้ไขป˜ญหาพื้นท่ีพรุให้

3น�า๗มาใช้ประโยชนท า� การเกษตรและด้านอนื่ ๆ ได้

น?

อมโทรม นำ้� ขงั กลายเป็น
าง
มาดี เพื่อให้ชาวบ้านท่ี
รเกษตร

แกลง้ ดินทำ� อยา่ งไรนะ
วธิ ีการ “แกลง้ ดนิ ” คอื ท�ำใหด้ ินเปรย้ี วทเ่ี ป็นกรดจัดรุนแรง แหง้ และเปยี กสลับกนั ไป
เร่ิมจาก ปลอ่ ยน้ำ� เขา้ แปลงให้ท่วมดินชว่ งระยะหนึ่ง และระบายนำ�้ ออกให้ดนิ แหง้ ระยะหนึ่ง
สลบั กันไปเลยี นแบบสภาพธรรมชาติ ทีม่ ฤี ดแู ลง้ และฤดฝู น
โดยปล่อยให้ดินแหง้ ๑ เดอื น และขังน�ำ้ ใหด้ นิ เปียกนาน ๒ เดอื น สลบั กนั ไป เปน็ ดินแห้ง
และดนิ เปยี ก ๔ รอบ ตอ่ ๑ ปี

38

การแกลง้ ดิน แกลง้ ดินแล้วต้องปรับปรุงดิน
คืออะไร เมื่อผ่านการ “แกล้งดิน” แล้ว ข้ันตอนต่อไปคือ
การปรับปรุงดิน เพ่ือให้ดินพร้อมส�าหรับปลูกพืชหรือ
ทา� อย่างไรนะ ท�าการเกษตร ทา� ไดย้ ังไงบ้างนะ

??

● ใช้ปูนขาวหรือหินปูนฝุ่น ใส่ลงไปในดิน
คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปูนจะท�าปฏิกิริยากับกรด
ก�ามะถันในดิน ท�าให้ปริมาณกรดในดินลดลง
ช่วยใหด้ นิ มีสภาพเปน็ กลาง ปลูกพชื ได้

39

● ใชน้ ้า� จดื ลา้ งกรดและสารพษิ ออกจากดิน
● น�าพืชพนั ธทุ ท่ี นทานตอ่ ความเป็นกรด
มาปลูกในดนิ เปรี้ยว
● ยกร่องปลูกไม้ผลหรือไม้ยืนต้น มีคูน้�าด้าน
ข้าง ตักดินจากในคูนามาเสริมหน้าดินในแปลง
คันร่อง ใชน้ �า้ ชะลา้ งกรดจากดนิ แลว้ ระบายออก
ไป

ด้วยพระเมตตาแกล้งดนิ เพอ่ื ช่วยคน
พื้นท่ีดินเปร้ียวจัด จงÖ มิใช่พน้ื ท่ี ไร้ประâยชน์
เหมือนเกา่ แล้ว สามาร¶ท�าการเกษตร
ปลกู ข้าว พชื พันธุ์นานาชนดิ และขดุ บ่อเล้ยี งปลา
เพราะว่าพระราชาท�างานพั²นา
เพื่อใหท้ ุกคนได้มีชีวิตความเปนš อย่ทู ี่ดีข้นÖ

๔๐

แปลงปลูก¼ัก แปลงปลกู ข้าว
พืชสวนครัวเกษตร สาธิตการปลูกข้าวบน
อินทรีย เน้นการใช้ปุ‰ย พ้นื ทดี่ นิ เปร้ยี วจัด การปลกู
อนิ ทรียช วี ภาพ ข้าวพันธุต่างๆ ท่ีเหมาะสม
ในพ้ืนท่ีดินเปรย้ี ว
âครงการทÄษฎี ใหม่
แปลงสาธิตการบริหาร
จดั การดนิ และนา้� เพอ่ื ใหเ้ กดิ
ประโยชนส ูงสุด

สนั ทราย ทดี่ อน

ป†าพรุจ�าลอง âครงการแกล้งดิน
ป่าพรุและป่าเสม็ดจ�าลอง ศึกษาเรื่องการเกิดดิน
เปร้ียวจัด และเทคนิคการ
การปลูกป่าในพื้นที่พรุ เพื่อการ ปรับปรุงดินเปร้ียวจัดเพื่อ
ศึกษาระบบนิเวศธรรมชาติของ ใชป้ ระโยชนในการปลกู พชื
ป่าพรุ ศึกษาการนา� ไมแ้ ละใบไม้
เสม็ดมาแปรรูป ผลิตกล้าไม้ไว้
ส�าหรับแจกจ่ายประชาชนเพ่ือน�า
ไปปลกู

๔๑

¿ารม์ ของเรา ไม¼้ ล
ปลกู อะไรดีนะ
มาช่วยกันทา� ¿ารม์ เกษตรทÄษฎี ใหม่
ในพน้ื ท่ีดนิ เปรี้ยวกนั ดีกว่า
ในพืน้ ที่ดนิ เปรีย้ วแบบน้ ี เราตอ้ งแกล้งดนิ ให้เปร้ยี วนอ้ ยลง
แล้วกเ็ ลอื กพืชพนั ธุทท่ี นดนิ เปรี้ยวไดม้ าปลกู กนั

พชื ไร่
ปลูกพชื อะไรดีนะ

นาขา้ ว
ปลกู ขา้ วพันธอ์ุ ะไรดี

๔๒

แปลง¼กั แปลงดอกไม้
เราจะปลูก ปลกู ดอกอะไรดี
อะไรดีนะ

คอกสัตว์
จะเลย้ี งสตั ว์อะไรดี

แปลงเล้ยี งปลาในนาข้าว
เล้ยี งปลาพันธ์ุไหนดี

โครงการศนู ยศ กึ ษาการพฒั นาพิกุลทองอนั เน่ืองมาจากพระราชดําริ
ต.ปโู ยะ อ.สไุ หงโกลก จ.นราธวิ าส
เปด ทุกวนั เวลา ๐8.๐๐-๑๕.3๐ น. ๐ ๗3๖3 ๑๐38
www.pikunthong.com
ศูนยศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อนั เน่ืองมาจากพระราชด�าริ การเดนิ ทาง

๔3

เมอื่ สวนดอกไม้เมอื งหนาวบานที่เมอื งใต้
âครงการไมด้ อกเมอื งหนาว อันเน่อื งมาจากพระราชดา� ริ
อ.เบตง จ.ยะลา

เจา้ หญิงชวนปลกู ดอกไม้
เม่ือเจ้าหญิงนักพัฒนาทรงเห็นไม้ดอกไม้ประดับที่สวนยางเขาส�านัก
ศูนยศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ผลิดอกสวยงาม จึงให้ทดลองน�าไม้ดอก
เมืองหนาวมาปลูกในพ้ืนที่สงู อากาศเย็นของ อ.เบตง จ.ยะลา ดูบา้ ง
เมื่อปลูกแล้วได้ผลดี จึงชักชวนให้เกษตรกรเข้ามาศึกษาเรียนรู้เพ่ือน�าไป
ปลูกเป็นอาชพี เสรมิ สรา้ งรายได้เป็นอยา่ งด ี
เพราะมีดอกไม้สวยงามมากมาย อากาศเย็นสบายตลอดปี จึงกลายเป็น
แหล่งทอ่ งเทย่ี วทีใ่ ครๆ กอ็ ดใจไปเยือนไม่ได ้

ดอกไมง้ ามดีเพราะอยู่ในท่ีสูง
พื้นที่ทดลองปลูกไม้ดอกเมืองหนาว บ้านปยะมิตร ๒
ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา เปน็ พน้ื ทอี่ ยสู่ งู จากระดบั นา้�

๔๔ ทะเลประมาณ 8๐๐ เมตร อณุ หภูมิเฉลยี่ ๑8 องศาเซลเซยี ส

๔๕

สวนดอกไมน้ านาพันธุ์

สวนดอกไมเ้ มอื งหนาวเปน็ สถานที่ท่องเท่ียวเชงิ นเิ วศ ใครๆ ก็เขา้ ไปเทย่ี วได้
มที ดลองปลูกไม้ดอกกลางแจง้ ๑๗ ชนดิ และไม้ในโรงเรอื น ๗ ชนิด

แ«สกแ¼แไมัลรรีกอลเ้ดส้อะเสะลวอดือ้ยดเดียกตาไอâิพกษกออก«่ีคลลรก่อกÎาçอจ์ัสนรรองกนีะะกแลบดเลจจสลเาาสิ่น้งยีรีÎนษ้ียอ้วอçไไรนมยดคมักร่ฝท้แาเู้âดรรอกรรา่ั่งง่ยก์ วาเรเรือตç ง

ไมส้ดดี ออกกทเขุกม้ ชสนดดิ สมวีดยองกามâต

เดçกæ รู้ไหม ยง่ิ สงู อากาศยง่ิ เยçน
ดอกไม้เมอื งหนาวเติบâตได้ดี

๔๖ ในท่ีอากาศเยçนæ แบบนล้ี ่ะ

เดกç æ รจู้ ัก
ดอกไม้เมืองหนาว

อะไรบา้ ง

เเคไบยมาญอ้ดรรอ์เจนบ์กมชีรใา่ันนา่ศâลรแกงลิ ลุเหลระลี่ือหานนบ้า÷ววั ชนดิ ไดแ้ ก่

¶้าบ้านเราอากาศรอ้ น การเนรมิตไม้เมืองหนาว
เดกç æ อยากปลกู ดอกไมเ้ มืองร้อน ให¼้ ลบิ านที่ ใต้สุดแดนสยาม

ชนดิ ไหนที่บ้าน คอื ตัวอยา่ งของ
“การคดิ สร้างสรรคอ์ ยา่ งพระราชา”

โครงการไมดŒ อกเมอื งหนาวอนั เนื่องมาจากพระราชดําริ อําเภอเบตง จงั หวัดยะลา
บา้ นปยะมิตร ๒ หม่ทู ี่ ๒ ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา
เปดทุกวนั เวลา ๐๗.3๐-๑๗.3๐ น.
๐8 ๗899 ๑๑๕3, ๐8 ๑๗38 9๔๑๗
โครงการไม้ดอกเมอื งหนาว อันเนอื่ งมาจากพระราชด�าริ
การเดินทาง

๔๗

เท่ียวชุมชน ¿œน„ ¿ปู †าชายเลน
âครงการพั²นาและ¿œ„น¿ูปา† ชายเลนบ้านหวั เขา
จ. สงขลา

เจ้าหญิงนกั พั²นา น�าการ¿„œน¿ูป†าชายเลน
เพราะเหน็ ความสา� คัญของป่าชายเลน เจา้ หญิงนักพัฒนาจงึ ได้เร่ิมใหป้ ลูก
ปา่ ชายเลนทบี่ ้านหวั เขา พระองคชกั ชวนให้ชาวบา้ นหนั มาอนรุ ักษป ่าชายเลน
เพอ่ื ฟ„œนฟธู รรมชาตขิ องปา่ ชายเลนและท้องทะเลให้กลับมาอดุ มสมบูรณ

ทา� ไมปา† ชายเลนเสื่อมâทรม
ภาคใต้ฝ˜›งตะวันออกของอ่าวไทย ป่าชายเลนค่อน
ข้างเสื่อมโทรม และลดจ�านวนลงมาก เพราะพื้นท่ีถูก
เปลีย่ นเปน็ นาก้งุ นาเกลือ และแหลง่ อตุ สาหกรรม

๔8

ปา† ชายเลน
คือป†าแบบไหน
ส�าคัญอยา่ งไรนะ ?

๔9

ชุมชนช่วยกันอนรุ ักษป์ า† ชายเลน

ชาวบา้ นเหนç ความสา� คญั ของการ¿œ„น¿ูปา† ชายเลน
จัดทา� ศูนย์ศÖกษาธรรมชาติปา† ชายเลน
ควบคู่ไปกบั การปลูกป†า

ชุมชนบ้านหัวเขา ต้งั อยู่บรเิ วณล่างสดุ ของ อา วไทย
คาบสมุทรสทิงพระใกล้กับปากทะเลสาบสงขลา ทะเลสาบสงขลา บา นหวั เขา
ทเ่ี ช่ือมกับอ่าวไทย เป็นชมุ ชนชาวประมงทเ่ี คย
อดุ มสมบรู ณไปดว้ ยปา่ ชายเลน เกาะยอ

เมื่อป†าชายเลนหาย สตั ว์ทะเลกçหายไปดว้ ย
ป†าชายเลนเปšนแหล่งเพาะพันธ์ุ
อนบุ าลสตั ว์ทะเลท่ีส�าคัญ

เมอื่ ไมม่ แี หลง่ เพาะพันธุ์ สัตว์ทะเลจงÖ ลดลง
ชาวประมงกçมรี ายได้น้อยลง

จัดต้ังชมรม¿น„œ ¿อู นรุ ักษป์ †าชายเลนตา� บลหัวเขา
ปลกู จิตส�านกึ ให้ทกุ คนในชมุ ชนรกั ป่าชายเลน
จากความร่วมแรงร่วมใจกันของชาวบ้าน
ทา� ให้พ้ืนทป่ี า่ ชายเลนเพิ่มข้นึ เร่อื ยๆ
ปจ˜ จุบันมีป่าชายเลนของชมุ ชน
บ้านหัวเขา ๗๖ ไร่

เดçกæ รไู้ หม
ป†าชายเลน
เปšนแหล่งอาศัย

๕๐ ของสัตวอ์ ะไรบ้าง


Click to View FlipBook Version