ชมรมอนรุ ักษป์ า† ชายเลนต�าบลหัวเขา
จัดกิจกรรมท่องเท่ียวป†าชายเลนบา้ นหัวเขา
เปดรับคณะศกึ ษาดงู าน เดนิ ศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลน
ชมปา่ ดสู ัตวล่องเรือไปปลูกปา่ ชายเลนรว่ มกบั ชาวบา้ น
เวลาไปปลกู ป†าชายเลน
เราปลูกตน้ อะไร
บา้ งนะ
เมอ่ื ป†าชายเลน¿„œนคนื มา ความอุดมสมบูร³์ของทอ้ งทะเลกçกลับคืนมา
ชาวประมงกกç ลบั มาท�าอาชีพได้เชน่ เดมิ
โครงการพัฒนาและฟนฟปู า ชายเลนบานหวั เขา
ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา
เปดทุกวนั เวลา ๐๗.3๐-๑๗.3๐ น.
๐8 ๗899 ๑๑๕3, ๐8 ๑๗38 9๔๑๗
ชมรมอนรุ กั ษปา่ ชายเลน ต หัวเขา อ สงิ หนคร จ สงขลา การเดนิ ทาง ๕๑
สนกุ เรียนรู้ แกป้ ญั หาน้�าท่วม
âครงการปอ‡ งกันและบรรเทาอทุ กภัยเมืองชุมพร
ตามพระราชด�าริ จ.ชุมพร
พระราชา¼แู้ ก้ความทุกขเ์ ร่ืองนา�้ ทว่ ม
พระองคท รงทราบถึงความเดอื ดร้อนของชาวเมืองชุมพร
ท่ปี ระสบปญ หานา�้ ท่วมตวั เมอื งทกุ ปี
สาเหตเุ พราะเมืองชมุ พรเปน็ ที่ราบลมุ่ สองฝง คลองท่าตะเภา
หนา้ ฝนน�า้ จะลน้ ตลงิ่ เขา้ ทว่ มพ้ืนที่บา้ นเรอื นในตวั เมืองชมุ พรเสยี หาย
พระราชาจึงไดล้ งมือหาวิธชี ว่ ยแกป้ ญหาน�้าทว่ มให้กับชาวเมอื งชมุ พร
น้า� ท่วมใหญ่ ò คร้ัง
เมอื งชุมพรเจอปญั หา
นา้� ท่วมใหญอ่ กี ò ครั้ง
จากพายุไตฝ้ †นุ เกย์ ป‚ òõóò
๕๒ และจากพายุâ«นรอ้ น«ีตา้ ป‚ òõôð
๕3
พระราชาแกป้ ัญหาน้�าทว่ มชุมพรไดย้ ังไงนะ
ขุดคลองระบายน้า� หัววัง-พนงั ตกั
ชว่ ยผนั น้�าจากคลองท่าตะเภาออกสทู่ ะเลโดยตรง
แกป้ ญ หาน้�าจากคลองท่าตะเภาล้นตลิง่ ท่วมเมอื ง
จัดระบบประตรู ะบายน้�า
สร้างประตรู ะบายนา้� หลายแห่งเพ่อื ผนั นา้�
จากคลองทา่ ตะเภาเขา้ สู่คลอง
âครงการพั²นาพ้ืนที่หนองใหญ่
ตามพระราชดา� ริ
ขดุ ลอกบรเิ วณหนองใหญ ่ เพอื่ ใชเ้ ปน็ แกม้
ลงิ เกบ็ นา้� ในยามนา�้ มาก และเปน็ แหลง่ เกบ็ นา้�
ไวใ้ ชใ้ นหนา้ แล้งด้วย
บรเิ วณหนองใหญ
แก้มลงิ คืออะไร เมอื งชมุ พร
ใครรบู้ ้าง
ทา� ไมต้องแกม้ ลิง
พระราชาอธิบายว่า “ลงิ โดยทว่ั ไป ถาเราสงกลว ยให ลงิ จะรบี ปอก
เปลอื กเอาเขา ปาก เคยี้ วแลว นาํ ไปเกบ็ ไวท แี่ กม กอ น ลงิ จะทาํ อยา งนจ้ี น
กลวยหมดหวี หรอื เตม็ กระพุงแกม จากนั้นจะคอยๆ นําออกมาเคีย้ ว
๕๔ และกลืนกนิ ภายหลงั ”
ท่องเที่ยวเชิงอนรุ ักษ์ท่ี…
âครงการพั²นาพ้ืนที่หนองใหญ่ ตามพระราชดา� ริ
เดçกæ รู้ม้ยั
“หนอง”
คืออะไรกนั นะ
“หนองเปนš พ้ืนท่ีน�า้ เคมç
หรือน�า้ จดื ”
เกาะชมนกชมไม้ หนองใหญ่ เป็นหนองนา�้ ธรรมชาติขนาดใหญ่
ชมตน้ ไม้นานาชนิด มตี ้นไมร้ ม่ รืน่ เป็นทอี่ ยอู่ าศยั ของนกนานาชนิด
ที่เปน็ อาหารนก เหมาะให้ทอ่ งเทีย่ วพักผอ่ นหย่อนใจ
และเป็นแหล่งเรียนรูก้ ารอนุรกั ษ
ฟน ฟูทรัพยากรธรรมชาติ
สะพานไมเ้ ค่ยี ม แก้มลงิ หนองใหญ่
ทางเดินไมย้ าวขา้ มหนองน้า� ไปสเู่ กาะ ในชว่ งน�้ามาก หนองใหญเ่ ป็นพืน้ ที่รับนา�้
หรือ “แกม้ ลงิ ” กักน�้าไว้ชัว่ คราว
เปน็ จุดชมทวิ ทศั นท่สี วยงาม ก่อนระบายน�า้ ออกไป เปรยี บได้กบั แก้มลงิ
สะพานท�าจากไมเ้ คีย่ ม ไมเ้ น้ือแขง็
ทม่ี มี ากในภาคใต ้ เน้ือไม้แขง็ แกร่ง เก็บรองรบั นา�้ ฝนไว้กอ่ น
ชว่ ยบรรเทาปญหาน�า้ ท่วมได้
ทนได้ทั้งน้�าจดื น�้าเค็ม
โครงการปอ งกันและบรรเทาอทุ กภัยเมอื งชุมพร ตามพระราชดาํ ริ ชมุ พร
โครงการพฒั นาพ้นื ที่หนองใหญต ามพระราชดาํ ริ
ต.บางลึก อ.เมอื ง จ.ชมุ พร
เปด ทกุ วัน เวลา ๐8.๐๐ -๑๗.๐๐ น.
๐ ๗๕๔๑ ๖๑๒๗ ๕๕
การเดินทาง
ไปรจู้ ักปญั หา ô น้า� ó รส
âครงการพั²นาพนื้ ที่ลุ่มน�า้ ปากพนัง
อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดา� ริ จ.นครศรีธรรมราช
เมื่อเกดิ ปญั หา ô น้า� ó รส
ประชาชนเดอื ดร้อนท�าการเกษตรไม่ได้
พระราชาปราชญแ์ หง่ สายนา้� ให้แนวทางแกป้ ัญหา
ดว้ ยการสร้างระบบจัดการน้�าท้ังล่มุ น้า�
ในอดีต ลุ่มน้�าปากพนงั แหง่ นเี้ คอยเปน็ พน้ื ที่อุดมสมบรู ณ เป็นอู่
ข้าวอนู่ ้า� แห่งภาคใต ้ ชาวบ้านมีอาชีพทา� นาเปน็ หลัก
วกิ ฤตนา้� เกดิ ขน้ึ เมอ่ื เขอ่ื นธรรมชาต ิ หรอื ปา่ ตน้ นา้� ล�าธารถกู ท�าลาย
เกิดน�้าท่วมใหญ่เมื่อปี ๒๕3๑ หลังจากนั้นน้�าเค็มรุกเข้าไปในแม่น�้า
ปากพนัง ท�าให้ขาดแคลนน�้าจืด มีการปรับเปล่ียนพื้นที่นาข้าวเป็น
นากุ้ง เกิดปญหาน้�าเสีย น้�าเปร้ียวออกจากพ้ืนที่พรุ และน้�าเสียจาก
การเล้ียงกงุ้
๕๖
๕๗
พื้นท่ีลุ่มนา�้ ปากพนัง
พืน้ ท่ลี ุ่มนา้� ปากพนังครอบคลุมพื้นทปี่ ระมาณ ๒,๒๗๕,๕๐๐ ไร ่ มีพ้ืนท่ี
ปา่ ตน้ นา้� บนเทอื กเขา ทร่ี าบ แมน่ า้� ลา� คลอง และชายฝง ทะเล เกดิ เปน็ พนื้ ที่
ระบบนิเวศ 3 น้�า คอื น�า้ จดื นา้� เค็ม และน้า� กร่อย
ปญั หา ô น้า� ó รส คอื อะไร
นา้� เคมç นา้� แล้ง
นา�้ ทะเลหนุนรกุ น�้าจืด ขาดแคลนนา้�
ในยามหน้าแลง้
ô น้า�
น�้าเปรี้ยว นา้� ท่วม
หรือนา�้ เสีย น้�าระบายออกทะเลไดช้ า้
เกิดขนึ้ ในพ้ืนทปี่ ่าพรตุ อนกลาง
ท่มี สี ภาพดินเป็นกรด ó รส นา้� ท่วมขังนาน
ทา� ใหน้ �้าเสียและเปรีย้ ว
● น้�าจดื ขาดแคลนน�า้ จืดในการท�าเกษตร
● นา�้ เคมç นา้� ทะเลหนนุ นา�้ เคม็ ทา� ใหผ้ ลผลติ
การเกษตรเสยี หาย
● นา�้ เปร้ียว ท�าการเกษตรไม่ได้
ศาสตร์พระราชา “รู้ รัก สามัคค”ี ช่วยแกป้ ญั หาล่มุ นา�้
ร ู้ รู้ถึงสาเหตุ รู้ถึงปญ หา และรถู้ งึ วิธกี ารแก้ปญ หา
รัก มีความรกั ในการเขา้ ไปลงมือแกไ้ ขปญหา
๕8 สามัคค ี เราท�างานคนเดียวไม่ได้ ตอ้ งท�างานร่วมมือ ร่วมใจกัน
แ¼นท่ีเรียนร้ภู ายในศนู ย์การเรียนรู้âครงการพั²นาพ
แปลงทดสอบสาธิตตามแนวพระราชด�าริ
แสดงถงึ พชื พนั ธกุ ารเกษตรทปี่ ลูกได้ในพน้ื ท่ลี ุ่มน�า้
คลองบางป
ประตู เขา -ออก
ในวอâารพคกราาะรสบพทาิพ่ีททธิ(สรรภงัชมั³กคเ±าดรลอçจเ์ ©ทงพรล่ีราùิมะชเพ)ยจรา้ค์ ะอรเยบกู่หยี õวัรตðิ ป‚
จัดแสดงความเปน็ มาของโครงการและความรู้
เกยี่ วกบั ลมุ่ น้�าปากพนงั พร
๕9
พน้ื ที่ลุ่มนา�้ ปากพนังÏ
แมน้ำปากพนัง ประตรู ะบายน้�าอทุ กวิภาชประสิทธิ
จดุ เริม่ ตน้ ของโครงการและศูนยร วม
ในการแก้ไขปญหาลุ่มนา�้
อนสุ ร³ส์ ¶านปล่องâรงสีไ¿ การเปด -ปด ประตรู ะบายน�า้
แสดงถงึ ความเป็นอขู่ ้าวของพ้ืนที่ อทุ กวิภาชประสทิ ธิ
ลมุ่ น�้าปากพนงั ในอดตี ต้องใชภ้ ูมปิ ญั ญาในการสงั เกต
น้า� ทะเลขÖ้น-ลง
สังเกตยังไงกนั นะ
เดกç æ ¶ามพ่ีæ เจา้ หนา้ ท่ีดสู ิ
ระตา� หนักปอรา� ะเภทอับปแารกมพเ©นลงั มิ พระเกียรติ เดçกæ ลองคดิ กันหน่อย
ประชาชนร่วมแรงร่วมใจสร้างถวาย ¶า้ บ้านเราน�้าทว่ ม
พระราชา รชั กาลท ่ี 9 สรา้ งแบบสถาปต ยกรรม
ภาคใต้ ภายในมีพิพิธภัณฑ เปดให้เข้าชม เราจะจัดการนา�้ ท่วมขงั ในบ้าน
วันเสาร - อาทติ ย ๐9.๐๐ - ๑๖. ๐๐ น. ยงั ไงกนั ดีนะ
๖๐
แนวทางพระราชา ● แก้ปัญหาน้�าเคçมและขาดแคลนน�้าจืด
แก้ปัญหา ก่อสรา้ ง “ประตูระบายน้ําอทุ กวิภาชประสิทธิ” ประตู
ô น้า� ó รส ระบายน้�าปดกั้นแม่น้�าปากพนังปองกันไม่ให้น�้าทะเล
ไดอ้ ย่างไรนะ รสเค็มรุกล้�าพื้นที่การเกษตร และเก็บน้�าจืดไว้ใช้ใน
ยามหน้าแล้ง
เทอื กเขา ประตรู ะบายนำ้
นครศรีธรรมราช อุทกวภิ าชประสิทธิ
อา งเกบ็ น้ำหวยน้ำใส แมน ำ้ ปากพนัง
๖๑ คลองชะอวด-แพรกเมอื ง
คันแบง เขต
น้ำจืด-น้ำเค็ม
● แก้ปญั หาน�้าเสีย
ปองกันนา้� เปรย้ี วออกจากพน้ื ท่ีพรุ
ก�าหนดเขตเพาะเล้ยี งชายฝง
และบา� บดั นา�้ เสียชุมชนเฉพาะจดุ
● แก้ปัญหาน�า้ ท่วม
ขุดคลองระบายนา้� ผนั น�า้ ออกสทู่ ะเลใหเ้ รว็ ขน้ึ
แปลงสาธติ ทดลอง...พิพธิ ภ³ั ±
สาธิตการปลูกพืชและเ
ปศุสัตว์ ในลุ่มน้า� ปาก
เชน่ เล้ยี งไก่พันธุศ์ รีวิชัย
เปดš เทศพันธ์ุรอ่ นพบิ ูลย์
แพะ ปศุสตั ว
ปาจาก
แปลงสาธติ
พืชไร่พชื สวน กลว ยน
พชื ผสมผสาน
ท่ีชาวบา้ นนยิ มปลกู ในลุ่มน�า้ ปากพนงั
เชน่ มะนาว มะพร้าว เดçกæ ลองขีดâยง
ภาพแ¼นท
กลว้ ยน้�าวา้ ส้มâอทับทมิ สยาม
๖๒
±์ธรรมชาตทิ ่ีมีชีวิต ประมง สาธติ การท�าประมง
ท้ังน�า้ จดื และน�้าเคมç
เลี้ยงสตั วท์ ่ีเด่น ประมงน�า้ จดื เช่น กุง้ กุลาดา� ปลานลิ
กพนัง ประมงน�า้ เคมç เชน่ ปลากะพงขาว
แปลงสาธติ
ดา นประมง
มะละกอ พชื อนรุ ักษ์พืน้ ¶ิ่น
มะนาแวกว มงั กร เชน่ ไรจ่ าก เสมçดขาว
สม โอ ๖3
พันธทุ บั ทิมสยาม
นำ้ วา
งภาพในวงกลมกับ
ที่แปลงสาธติ
เท่ียวไปเรียนรไู้ ป ในชุมชนลมุ่ น�า้ ปากพนัง
ตะลุยป†าจาก
ศูนย์เรียนรูภ้ ูมิปญั ญาท้อง¶่ิน การทา� น้า� ตาลจาก
ไร่จันทรังษี ต.ขนาบนาก อ.ปากพนงั
เรียนรู้วิถีชวี ติ ชมุ ชนคนท�านา้� ตาล
จากพืชนา�้ กร่อยทนี่ า� มาท�าน้า� ตาลได้
รูไ้ หมน�้าตาลจาก
ที่นอี่ รอ่ ยและมีเพียงที่เดียว
ในประเทศไทย
ส่วนไหนของต้นจาก
ท่ีเอามาท�าน�้าตาล
ลองชิมด«ู ิ น้า� ตาลจาก
รสชาติยังไงนะ
เหมอื นน้า� ตาลทราย
๖๔ ท่ีบา้ นเราไหม
ไปตามหาต้นก�าเนดิ ส้มâอทับทิมสยาม
ชุมชนบา้ นแสงวิมาน ต.คลองนอ้ ย อ.ปากพนงั
ชิมส้มโอเน้ือสีชมพู รสชาติหวานอร่อย ส้มโอพันธุดี
ปรับปรุงพนั ธโุ ดยภูมิปญญาของชาวบา้ นแสงวมิ าน
สม้ âอที่ปลกู ท่ีน่ี
ทา� ไม¶Öงมีรสชาติ
ดจี ัง
ทา� ไม¶งÖ ช่ือ
สม้ âอทับทบิ สยาม
นะ
โครงการพัฒนาพน้ื ทีล่ มุ นา้ํ ปากพนงั อนั เน่ืองมาจากพระราชดําริ
ต.หลู อ่ ง อ.ปากพนัง จ.นครศรธี รรมราช ๐ ๗๕๔๑ ๖๑๒๗
เปด ทกุ วนั เวลา ๐8.3๐ -๑๖.3๐ น.
วันเสาร- วันอาทติ ย หากตอ้ งการเข้าชมตอ้ งแจง้ ลว่ งหน้า
ศนู ยอ�านวยการและประสานการพัฒนาพนื้ ทลี่ ุม่ น�า้ ปากพนัง การเดินทาง
อนั เน่ืองมาจากพระราชด�าริ www.pncenter.com
๖๕
ท่อง¼ืนป†าแหง่ พระเมตตา
âครงการบริหารจัดการปา† พรุâตะ แดง จ.นราธวิ าส
พรุâตะ แดง ป†าพรุขนาดใหญ่
ทยี่ งั คงความอุดมสมบูรณที่สดุ ผนื สดุ ทา้ ยของเมอื งไทย
พรุâตะ แดง ปา† พรุใตร้ ม่ พระบารมี
พระราชาห่วงใยปา่ พรุโตะแดงทเ่ี สอ่ื มโทรมจากการถูกบกุ รกุ ท�าลาย
จงึ มพี ระราชด�าริให้พลกิ ฟน ป่าพรุผืนน้ีให้อดุ มสมบูรณข นึ้ มาอกี ครงั้
ป†าพรุâตะ แดง
เจ้าหญิงนกั พฒั นาสมเด็จพระเทพรัตนฯ เสด็จมาทีป่ ่าพรแุ ห่งนีห้ ลายคร้ัง
เพื่อทรงศึกษาธรรมชาติ และเส้นทางตามรอยเสด็จนี้ถูกพัฒนาเป็นเส้นทาง
ศึกษาธรรมชาตปิ ่าพรุโตะแดงทคี่ นนยิ มเย่ยี มชม
๖๖
“พรุเราตอ้ งเก็บไว ้ เพราะมคี วามสา� คญั เก่ียวกบั สิง่ แวดลอ้ ม ต้องหา้ มไม่
ใหบ้ กุ รกุ เขา้ ไป คราวนเ้ี ราทา� โครงการทโี่ คกใน เขาจะบกุ รกุ เขา้ ไปไมไ่ ดอ้ กี แลว้
เพราะจ�ากัดบริเวณเขา ในพรุเราก็ส่งเสริมเอาไม้พรุเพ่ิมประสิทธิภาพ อย่าง
ตามขา้ งทางนสี้ วยมาก เหน็ ไมต้ า่ งๆ ไม้หลาวชะโอนก็มี”
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัว ทรงมพี ระราชด�าริ
ไว้เมอื่ วันท่ี 9 ตุลาคม พ.ศ. ๒๕3๕
๖๗
ป†าพรุคอื ปา† ดงดบิ ท่ีมีน�า้ ท่วมขงั อยู่ตลอด
ป†าพรุâตะแดง คา� วา่ “พรุ” เปน็ คา� สามญั ท่ชี าวบ้านทางภาคใต้
ใช้เรยี ก “บรเิ วณท่ีเปน็ ท่ลี ่มุ ชมุ่ ชน้ื มนี า้� แช่” ป่าพรุโตะแดงครอบคลมุ
พื้นท ี่ 3 อ�าเภอคอื อ.ตากใบ อ.สไุ หงโกลก และ อ.สไุ หงปาด ี มพี น้ื ท่ี
ประมาณ ๑๒๐,๐๐๐ ไร่ และมีล�าน้�าไหลผ่านคือ คลองสุไหงปาดี
แมน่ า้� บางนรา และคลองโตะ แดง อนั เป็นทีม่ าของชือ่ ปา่ พรโุ ตะแดง
ป†าพรุâตะแดงเปšนป†าพรุ¼ืนสุดท้ายของ
เมืองไทยท่ี ได้รับการประกาศให้เปšนพื้นที่
ชุ่มน้�าล�าดับที่ ññðò ของประเทศไทยเม่ือ
ป‚ òõôô
ป†าพรุâตะแดงอุดมสมบูร³์ไปด้วยสัตว์ป†า
และพรร³ไม้
“ปา† พรุ” เกิดจากพื้นที่ชุ่มน้า�
ป่าพรุเกิดจากแอ่งน�้าจืดขังสะสมและมีการทับถมของซากพืช ซากต้นไม้ ใบไม้
เกิดชนั้ ดินกลายเป็นดนิ พีท (Peat) ทมี่ ีลักษณะหยุ่นยวบเหมือนฟองน�า้ อุ้มนา้� ได้มาก
และด้วยเป็นดินท่ีอ่อนนุ่ม ไม้ยืนต้นในป่าพรุจึงมีระบบรากแขนงแข็งแรงแผ่ออกไป
๖8 เกาะเกย่ี วกนั
ในป†าพรุ ป†าพรุส�าคญั อย่างไร
มตี น้ ไม้ เดกç æ สงสยั ไหมวา่
อะไรบ้าง
¶้าไมม่ ปี า† พรุ
จะเกดิ อะไรขÖน้
ป†าพรุ คอื ชีวิต
ป่าพรเุ ตม็ ไปดว้ ยความหลากหลาย
ของส่ิงมีชีวิต เป็นแหล่งอาหาร
อันอุดมสมบูรณของบรรดาสัตวป่า
หายากหลายชนิด อีกทั้งพันธุไม้
หายาก พืชสมนุ ไพร รวมถึงไม้ที่ใช้
ในการกอ่ สร้าง และท�าเคร่ืองเรอื น
พันธ์ุไม้ท่ีพบในป†าพรุ
มกี ว่า ôðð ชนดิ เช่น
หมากแดง หมากงาช้าง เตา่ ร้าง กะพ้อ
รศั มเี งนิ มะมดุ มะมว่ งปา่ เงาะปา่ และ
มะเด่ือต่างๆ และมีพืชสมุนไพร เช่น
จันทนา กาพุ่ม เทพี สักช ี อบเชย ขา่ ลิง
หลาว จนั ทนแดง บอนจีน ฯลฯ
๖9
เดนิ ปา† ศกÖ ษาธรรมชาติ
เส้นทางเดินชมป†าพรุ
แบบใกล้ชดิ ธรรมชาติ
ทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติเร่ิมที่บึงน�้า
ด้านหลังอาคารศูนยวิจัยและศึกษาธรรมชาติ
ป่าพรุสิรินธร มีลักษณะเป็นสะพานไม้ลัดเลาะ
เข้าไปในป่าพร ุ ระยะทาง ๑,๒๐๐ เมตร ตลอดทาง
จะได้พบความเขียวชอุ่มของต้นไม้ อาจได้เห็น
สัตวป่า สัตวน�้า นก หรือแมลงต่างๆ ออกมา
อวดโฉมกนั
เดินป†าพรุใหส้ นกุ ควรมีอุปกร³์
เช่น คู่มอื ดูนก สมุดบันทÖก ดินสอสี
กลอ้ งส่องทางไกล กลอ้ ง¶่ายรปู
แลว้ ไปเพลดิ เพลนิ บันทกÖ
สิง่ ท่ีเหçนในปา† พรุกัน
Äดูกาลทอ่ งเท่ียว
ป่าพรุมฝี นตกชุกตลอดป ี
แตช่ ่วงเวลาที่เหมาะสม
ส�าหรับการทอ่ งเทยี่ วคือ
เดือนกมุ ภาพันธ-เมษายน
เพราะเป็นชว่ งทีฝ่ นตกนอ้ ยทส่ี ดุ
ท�าใหเ้ ดินชมป่าพรไุ ด้
๗๐ โดยไมต่ อ้ งตากฝนมากนัก
นกท่ีพบในปา† พรุ
ในป่าพรมุ ีนกหลายชนดิ นกท่เี ด่นๆ ไดแ้ ก่
นกกางเขนดงหางแดง นกจับแมลงสฟี า มาเลเซีย
ในประเทศไทยพบที่ปา่ พรโุ ตะ แดงเพยี งแหง่ เดียว
สตั วป์ ระจ�า¶ิ่นในป†าพรุ
ในปา่ พรุมีสัตวป ่ากวา่ ๒๐๐ ชนดิ เปน็ แหล่งอาศยั ของสัตวป ่านานาชนิด
เช่น คาง ชะมด หมูปา หมขี อ แมวปา หวั แบน สตั วค ุ้มครองทหี่ ายากของไทย
ปลาหลากหลายชนดิ ส่ิงท่ีต้องระวงั
พันธปุ ลาทพ่ี บในป่าพรุ ได้แก ่ ในปา่ พรมุ ยี ุงด�าชุกชมุ มาก
ปลาปากยน่ื ปลาดุกรําพัน เปน็ พาหะน�าโรคเท้าชา้ ง
ปลากะแมะ ฯลฯ ยงุ ด�ามกั ออกหากนิ ในชว่ งพลบคา่�
ปลาเหลา่ นี้อาศัยป่าพรุ ดงั นั้นควรระวังอย่าใหย้ ุงกัด
เปน็ พืน้ ทห่ี ลบภัยและวางไข่ อย่าลืมเตรียมยากันยงุ เข้าไปดว้ ย
ศูนยว จิ ัยและศกึ ษาธรรมชาตปิ าพรโุ ตะแดง นราธิวาส ๗๑การเดนิ ทาง
ต.ปูโยะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธวิ าส
เปดทกุ วนั เวลา ๐8.๐๐-๑๕.3๐ น.
๐9 8๐๑๐ ๕๗3๖
ภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนลา ง ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือตอนบน
สรา งสรรคโดย สนับสนนุ โดย สรางสรรคโดย สนบั สนนุ โดย สรา งสรรคโดย สนับสนนุ โดย
มูลนิธชิ ยั พฒั นา มูลนิธิชยั พฒั นา มลู นธิ ิชยั พฒั นา
ภาคตะวนั ตก ภาคกลาง ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ตอนลา ง
สรางสรรคโดย สนบั สนุนโดย สรา งสรรคโดย สนับสนุนโดย สรา งสรรคโดย สนบั สนนุ โดย
มูลนิธิชัยพฒั นา
มลู นธิ ชิ ัยพฒั นา มลู นธิ ิชยั พฒั นา
ทอง ๙ แหลง เรียนรู พิพิธภัณฑทม่ี ชี ีวติ เสน ทางเรียนรู “ตามรอยพระราชา” ทอ ง ๙ แหลง เรียนรู พิพิธภัณฑท่มี ีชีวิต เสนทางเรียนรู “ตามรอยพระราชา”
ภาคใตฝง ตะวันตก ภาคใตฝ งตะวันออก ภาคตะวันออก
สรา งสรรคโดย สนับสนนุ โดย สรา งสรรคโดย สนับสนนุ โดย สรางสรรคโดย สนับสนนุ โดย
มูลนธิ ิชัยพฒั นา
มลู นิธิชยั พัฒนา มลู นิธชิ ยั พัฒนา ทอง ๙ แหลง เรียนรู พพิ ิธภณั ฑท่ีมีชวี ิต เสน ทางเรยี นรู “ตามรอยพระราชา”
ทอง ๙ แหลง เรียนรู พพิ ิธภณั ฑท ี่มชี ีวติ เสนทางเรยี นรู “ตามรอยพระราชา” ทอ ง ๙ แหลงเรียนรู พิพิธภณั ฑท ม่ี ีชวี ติ เสน ทางเรียนรู “ตามรอยพระราชา”
หนงั สือเดนิ ทางตามรอยพระราชา
“The King’s Journey” Learning Passport
สรา้ งสรรคโ ดย
สาํ นกั งานสงเสริมสงั คมแหงการเรียนรูและพฒั นาคณุ ภาพเยาวชน (สสค.)
388 อาคารเอส.พี. (อาคารเอ) ชนั้ ๑3 ถนนพหลโยธิน
แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐
โทรศัพท ๐ ๒๖๑9 ๑8๑๑
เวบ็ ไซต www.qlf.or.th
วเิ คราะหเ นื้อหา
นายเฉลิมพร พงศธีระวรรณ
ครรู างวัลสมเด็จเจา้ ฟา มหาจักร ี ประจา� ปี ๒๕๕8
ผศ.ดร.ธนั ยวิช วเิ ชยี รพนั ธ
หัวหน้าโครงการวจิ ยั พฒั นาเครือ่ งมอื สง่ เสริมและประเมิน
ทกั ษะความคิดสรา้ งสรรคและการคดิ วิเคราะห
ผลติ งานโดย
บริษัท รักลูกกรุป จาํ กัด
กลมุ่ บรษิ ัท อารแอลจี (รกั ลูก เลิรนนิ่ง กรุป )
พิมพครง้ั ที ่ ๑ ธนั วาคม ๒๕๖๐
จา� นวน พิมพ ๑๐,๐๐๐ เลม่
จดั พมิ พโดย
สรา งสรรคโดย สนบั สนุนโดย
มูลนธิ ชิ ัยพฒั นา