ใบใบงงาานนววทิ ิทยยาาศศาาสสตตรร์์
ชัน้ชั้นมมธั ธัยยมมศศกึ กึษษาาปปที ที ี่ ี่ 21
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
เ(พฉจบวับทิ ปยราับศปาสรงุตรพ์ .ปศร.ะ2ถ5ม6ม0.)ตน้
เพจวทิ ยาศาสตร์ ประถม ม.ต้น
ใบงานวิทยาศาสตร์
ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2
เทอม 1
➢ หน่วยท่ี 1 ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตรแ์ ละจติ วทิ ยาศาสตร์
➢ หน่วยที่ 2 สารละลาย
บทที่ 1 องค์ประกอบของสารละลายและปจั จยั ทีม่ ีผลตอ่ สภาพละลายได้
บทท่ี 2 ความเขม้ ขน้ ของสารละลาย
➢ หนว่ ยที่ 3 รา่ งกายมนษุ ย์
บทท่ี 1 ระบบอวยั วะในรา่ งกายของเรา
➢ หนว่ ยที่ 4 การเคลอ่ื นทแี่ ละแรง
บทท่ี 1 การเคล่อื นที่
บทที่ 2 แรงในชวี ิตประจาวนั
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551
(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
เพจวทิ ยาศาสตร์ ประถม ม.ต้น
Science ว22101 ใบงานที่ 1 ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตร์
หนว่ ยท่ี 1 ชื่อ-สกลุ ชน้ั ม.2/ เลขท่ี
ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตร์
คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนเติมคาหรือขอ้ ความลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกต้อง
1. วทิ ยาศาสตร์คอื อะไร………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. คาถามแบบใดทีว่ ทิ ยาศาสตรไ์ ม่สามารถตอบได้………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ธรรมชาตขิ องวิทยาศาสตร์คอื อะไร……………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ยกตัวอยา่ งธรรมชาติของวทิ ยาศาสตร์อย่างน้อย 3 ตัวอยา่ ง
4.1…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….....
4.2…………………………………………………………………………………………………………………………………….…
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..
4.3…………………………………………………………………………………………………………………………………….…
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..
3
Science ว22101 ใบงานที่ 2 ธรรมชาตขิ องวิทยาศาสตร์
หน่วยท่ี 1 ชือ่ -สกุล ช้ัน ม.2/ เลขที่
ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตร์
คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นเติมคาหรอื ขอ้ ความลงในชอ่ งว่างให้ถูกต้อง
1. จิตวทิ ยาศาสตร์ คอื อะไร…………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. ยกตัวอย่างจติ วิทยาศาสตร์ อย่างน้อย 3 ตวั อย่าง
2.1 ………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..
2.2 ………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..
2.3 ………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..
3. ความรทู้ างวิทยาศาสตร์เปล่ียนแปลงไดห้ รอื ไม่ อยา่ งไร………………………………………………………………..
......................................................................................................................................................
4. วทิ ยาศาสตร์มลี ักษณะเฉพาะตัวอยา่ งไร………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
5. ลักษณะนิสยั แบบใดทีช่ ่วยใหท้ างานทางวิทยาศาสตร์สาเร็จ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………..................................
4
Science ว22101 ใบงานท่ี 3 ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตร์
หนว่ ยที่ 1 ชื่อ-สกุล ช้นั ม.2/ เลขท่ี
ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตร์
คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนเตมิ คาหรอื ข้อความลงในช่องว่างให้ถูกตอ้ ง
ธรรมชาติของวทิ ยาศาสตรแ์ ละจติ วทิ ยาศาสตร์
ประกอบดว้ ย
จิตวทิ ยาศาสตร์ ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตร์
เช่น เช่น
5
Science ว22101 ข้อสอบเรอ่ื ง ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตร์
หนว่ ยที่ 1 ชอ่ื -สกุล ช้ัน ม.2/ เลขที่
ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตร์
คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนเลือกข้อท่ีถกู ตอ้ งทสี่ ดุ คะแนน............/15
1. ความหมายของ “วิทยาศาสตร์” ขอ้ ใดถกู ตอ้ งและครอบคลมุ มากที่สุด
ก. เปน็ วชิ าทีม่ กี ารสงั เกต ทดลองและสรุปผล
ข. เป็นวชิ าทว่ี ่าดว้ ยการค้นพบความจรงิ ในธรรมชาติ
ค. เปน็ วิชาท่ีอธบิ ายปรากฏการณ์ต่างๆ ของธรรมชาติ
ง. เป็นวิชาที่ว่าด้วยการใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์คน้ ควา้ ความรูท้ างวิทยาศาสตร์
2. ถา้ กาหนดตัวเลขตอ่ ไปนีแ้ ทนขัน้ ตอนทางวิทยาศาสตร์
1 = การต้งั สมมติฐาน 2 = การสงั เกตและการตัง้ ปญั หา
3 = การวเิ คราะห์ขอ้ มลู เพ่ือหาข้อสรปุ 4 = การทดลอง
ก. 1 ----> 2 ----> 3 ----> 4
ข. 4 ----> 2 ----> 1 ----> 3
ค. 2 ----> 4 ----> 1 ----> 3
ง. 2 ----> 1 ----> 4 ----> 3
3. ความรู้ทางวิทยาศาสตรเ์ ปลี่ยนแปลงไดห้ รอื ไม่
ก. ได้ เมือ่ มีเหตผุ ลหรอื หลกั ฐานท่ีดกี วา่
ข. ได้ เมอ่ื มนี กั วิทยาศาสตรท์ เี่ กง่ กวา่ มาบอก
ค. ไมไ่ ด้ เพราะความร้ทู างวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้ว
ง. ไม่ได้ เพราะความรทู้ างวทิ ยาศาสตรเ์ ป็นความจรงิ ท่ียอมรบั กันแล้ว
4. นักวิทยาศาสตร์มกี ระบวนการคดิ เปน็ ขนั้ ๆ ต่อไปน้ี ข้อใดเป็นขัน้ แรก
ก. ทาความเข้าใจสมมติฐาน ข. ทาความเข้าใจปญั หา
ค. พิจารณาสรปุ และตดั สินใจ ง. พจิ ารณาเลอื กสมมตฐิ าน
5. ถ้านักเรยี นไปนง่ั ทับหมากฝรง่ั ทม่ี คี นกนิ แล้วทง้ิ ไวท้ ่ีเก้าอี้ ตดิ กางเกง ควรทาความสะอาดอยา่ งไร
ก. แชใ่ นน้าเกลือเจือจาง สกั ครแู่ ล้วลา้ งออก
ข. นากางเกงไปแชใ่ นนา้ ผสมเบกกิ้งโซดา
ค. อากางเกงใสถ่ ุง แล้วเขา้ ตูเ้ ย็น พอหมากฝร่ังถกู ความเย็นจะแข็งตวั แกะออกง่าย
ง. นาไปแชใ่ นนา้ ปูนใส
6. ความหมายของ จิตวิทยาศาสตร์ หมายถงึ ข้อใด
ก. ความชานาญ
ข. การใช้ประสาทสมั ผสั ทัง้ 5
ค. ลกั ษณะนสิ ัยของบุคคลที่เกิดขน้ึ จากการศึกษา
ง. กระบวนการท่ีใช้จดั พวกวตั ถุหรอื ปรากฎการณ์ตา่ งๆ
6
Science ว22101 ข้อสอบเรอื่ ง ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตร์
หน่วยท่ี 1 ชือ่ -สกุล ช้ัน ม.2/ เลขที่
ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตร์
คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กข้อที่ถกู ตอ้ งท่ีสุด
7. บุคคลในข้อใดมีจติ วทิ ยาศาสตร์?
ก. ปอนดม์ าโรงเรียนตรงเวลาทกุ วัน
ข. แคนสง่ การบา้ นช้ากวา่ กาหนด 1 สปั ดาห์
ค. ต้นเลน่ เกมในโทรศัพท์ขณะประชมุ งานกล่มุ
ง. พลอยคยุ กบั ฟา้ ใสในขณะเรียนวิชาวิทยาศาสตร์
8. การเปน็ นักวทิ ยาศาสตร์ท่ีดคี วรมีลกั ษณะอยา่ งไร?
ก. ชา่ งสังเกต ข. เขา้ สงั คมเก่ง ค. พดู เกง่ ง. จิตนาการเก่ง
9. ขอ้ ใดไม่เปน็ วทิ ยาศาสตร์
ก. โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์
ข. นา้ เกดิ จากก๊าซไฮโดรเจนและออกซเิ จนรวมตวั กัน
ค. แม่เหลก็ ขวั้ เดยี วกันเกดิ แรงผลักกัน
ง. คนทาดี ตายแล้วจะไดข้ ึ้นสวรรค์
10. ข้อใดไม่ใช่คุณลกั ษณะของบคุ คลท่มี ีเจตคติทางวิทยาศาสตร์
ก. เป็นคนมีเหตุผล ข. เปน็ คนชา่ งสงั เกต
ค. เป็นคนอยากรู้อยากเห็น ง. เป็นคนละเอียดรอบคอบ
11. ข้อใดกล่าวถูกตอ้ งเกยี่ วกบั “ การสงั เกต การต้งั ปญั หา การต้งั สมมติฐาน การทดลอง
และการสรปุ ผล”
ก. วิธกี ารทางวทิ ยาศาสตร์ ข. ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
ค. เจตคติทางวิทยาศาสตร์ ง. ไม่มขี ้อใดถูก
12. ถา้ แมลงวนั ไปไขบ่ นก้อนเนื้อ หรือขยะเปยี กแล้วจะทาใหเ้ กิดตวั หนอน ขอ้ ความนนี้ ่าจะอยใู่ นทักษะ
กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ ด
ก. ทกั ษะการต้งั สมมุติฐาน ข. ทักษะการทดลอง
ค. ทกั ษะการตีความและลงข้อสรุป ง. ทักษะการกาหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ
13. ข้อใดไม่ใช่วิธกี ารทางวทิ ยาศาสตร์
ก. การศกึ ษารวบรวมขอ้ มูล ข. การระบปุ ัญหาจากการสังเกต
ค. การสงั เกตอย่างละเอียดรอบคอบ ง. การพยากรณค์ าตอบของปญั หาล่วงหนา้
14. กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรข์ ั้นตอนใดที่จะนาไปสู่การสรุปผลและการศกึ ษาตอ่ ไป
ก. การรวบรวมขอ้ มลู ข. การตั้งสมมตฐิ านและการออกแบบการทดลอง
ค. การสงั เกต ง. การหาความสมั พนั ธข์ องขอ้ เทจ็ จรงิ
15. สมมติฐานทางวทิ ยาศาสตร์จะเปลย่ี นเปน็ ทฤษฎไี ดเ้ ม่ือใด
ก. ทดสอบแลว้ เป็นจริงทุกครง้ั ข. เป็นทย่ี อมรบั โดยทวั่ ไป
ค. มีเครือ่ งมอื พสิ จู น์ ง. อธบิ ายไดก้ ว้างขวาง
7
Science ว22101 ใบงานท่ี 1 สารละลาย
หน่วยท่ี 1 ช่อื -สกลุ ชนั้ ม.2/ เลขท่ี
สารละลาย
คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนเติมคาหรือข้อความลงในช่องว่างให้ถกู ตอ้ ง
1. สารละลาย (solution) คอื ………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
2. สารละลายมี 3 สถานะ ได้แก่ ของแขง็ ของเหลว และแกส๊
2.1 สารละลายทเ่ี ป็นของแข็ง เช่น …………………………………………………………………………..
2.2 สารละลายทเี่ ปน็ ของเหลว เชน่ ………………………………………………………………………….
2.3 สารละลายที่เป็นกา๊ ซ เช่น ………………………………………………………………………….
3. สารท่มี ีปรมิ าณน้อยกวา่ เรยี กวา่ …………………..สารที่มีปรมิ าณมากกว่าเรยี กวา่ …………………..
4. หากตัวทาละลายและตัวละลายมสี ถานะต่างกัน สารทมี่ สี ถานะเหมอื นกบั สารละลายจัดวา่ เปน็
………………….. สารทม่ี สี ถานะตา่ งไปจัดวา่ เป็น …………………..
5. ภาพแผนภูมิวงกลมปรมิ าณองค์ประกอบในอะมัลกัมอุดฟัน สารใดเปน็ ตวั ละลาย สารใดเป็นตวั ทา
ละลายทราบได้อยา่ งไร
6. สารละลายอน่ื ๆ ในชีวิตประจาวันทมี่ สี ถานะเป็นของแข็ง ของเหลว และแกส๊ มอี ะไรบ้าง
ยกตัวอยา่ ง
6.1 สารละลายท่ีมสี ถานะเป็นของแขง็ เชน่ …………………..…………………..……………………..
6.2 สารละลายท่มี สี ถานะเปน็ ของเหลว เช่น …………………..…………………..…………………..
6.3 สารละลายทีม่ ีสถานะเป็นแก๊ส เช่น …………………..…………………..………………………….
8
Science ว22101 ใบงานท่ี 2 องคป์ ระกอบของสารละลาย
หนว่ ยท่ี 2 ชอ่ื -สกุล ชน้ั ม.2/ เลขที่
สารละลาย
คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นเตมิ คาหรอื ขอ้ ความลงในชอ่ งว่างให้ถูกต้อง
1. 75%
2. 25%
3.
73%
4. 18% 8%
5.
6. 1%
7. 70%
8.
30%
9. 50% 25%
25%
10. 18 70%
11. 30%
12.
78%
21%
0.93%
0.03%
0.04%
95.5%
0.5%
75%
16% 9%
95% 5%
33%
60 %
7%
9
Science ว22101 ใบงานท่ี 3 สภาพละลายไดแ้ ละปจั จยั ทมี่ ผี ลตอ่ สภาพละลายได้
หน่วยท่ี 2 ช่ือ-สกุล ชั้น ม.2/ เลขที่
สารละลาย
คาชแ้ี จง จงตอบคาถามต่อไปนีใ้ ห้ถกู ต้อง
1. จากภาพ อธบิ ายการละลายของสารไดอ้ ย่างไร
สาร สภาพละลายไดข้ องสาร (กรมั ต่อน้า 100 กรัม)
ทีอ่ ุณหภมู ิ 20 องศาเซลเซียส
นา้ ตาลทราย 202
กลูโคส 90
เกลือแกง 36
ดนิ ประสิว 32
จุนสี 32
ผงฟู 10
2. จากตาราง สารใดละลายไดม้ ากทีส่ ุดในนา้ ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซยี ส
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. จากตาราง ถ้าใชน้ า้ 300 กรัมจะสามารถละลายจุนสไี ดส้ งู สดุ กีก่ รัม จึงจะได้สารละลายอมิ่ ตัวพอดี
ที่อณุ หภมู ิ 20 องศา เซลเซยี ส
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
10
Science ว22101 ใบงานท่ี 4 สภาพละลายไดแ้ ละปจั จยั ทมี่ ผี ลตอ่ สภาพละลายได้
หนว่ ยท่ี 2 ช่อื -สกลุ ชั้น ม.2/ เลขท่ี
สารละลาย
คาช้ีแจง จงตอบคาถามตอ่ ไปนใ้ี ห้ถกู ตอ้ ง
1. จากกราฟ อุณหภูมมิ ีผลอยา่ งไรต่อสภาพละลายได้ของสารแตล่ ะชนิด
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. จากกราฟ ถา้ ละลายโซเดียมคลอไรด์ 20 กรมั ในน้า 100 กรมั ท่ีอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส
โซเดียมคลอไรด์จะละลายหมดหรือไม่
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. จากกราฟ ถ้าละลายโพแทสเซียมไนเทรต 20 กรัม ในน้า 50 กรัมท่ีอณุ หภูมิ 50 องศาเซลเซยี ส
แลว้ ลดอณุ หภูมิลงเหลอื 20 องศาเซลเซียส จะเกิดการเปล่ยี นแปลงอยา่ งไร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
4. ถ้านักเรียนต้องการเกบ็ รกั ษาความซา่ ของนา้ อดั ลมไว้ สามารถทาไดอ้ ยา่ งไรบ้าง
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
11
Science ว22101 ใบงานที่ 5 สภาพละลายไดแ้ ละปจั จยั ทมี่ ผี ลตอ่ สภาพละลายได้
หน่วยที่ 2 ช่อื -สกุล ช้นั ม.2/ เลขที่
สารละลาย
คาชแ้ี จง จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ใี ห้ถกู ตอ้ ง
1. ถา้ นาสาร X จานวน 70 กรมั มาละลายในนา้ 350 กรมั ท่ีอณุ หภมู ิ 30 องศาเซลเซยี ส พบวา่ ได้
สารละลายอิ่มตวั และสาร X บางส่วนตกตะกอน จากน้ันกรองเอาสาร X ทไี่ มล่ ะลายน้าออกแลว้ ทาให้
แห้ง ชงั่ มวลได้ 21 กรัม สภาพละลายไดข้ องสาร X ในน้า 100 กรมั ที่อุณหภมู ิ 30 องศาเซลเซยี สมี
ค่าเท่าใด
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. นกั เรยี นกลมุ่ หน่ึงทดลองละลายเกลอื โซเดียมคลอไรดท์ ่ีมีลกั ษณะเปน็ ก้อนในน้าทอี่ ุณหภูมิ 20 องศา
เซลเซียส ความดัน 1 บรรยากาศ พบว่ามสี ภาพละลายได้ 36 กรมั ในน้า 100 กรัม ถ้าเปลย่ี นการ
ทดลองตามเงอื่ นไข ดังตอ่ ไปนี้
การทดลองชุดที่ 1 ใชเ้ กลือโซเดยี มคลอไรด์ทเี่ ปน็ ผงแทนโซเดียมคลอไรดท์ ่ีเปน็ กอ้ น
การทดลองชุดที่ 2 ใช้อณุ หภมู ิ 60 องศาเซลเซยี สแทนอณุ หภูมิ 20 องศาเซลเซียส
การทดลองชดุ ท่ี 3 ใชค้ วามดัน 2 บรรยากาศแทนความดนั 1 บรรยากาศ
สภาพละลายได้ของเกลือโซเดยี มคลอไรด์ในการทดลองชดุ ที่ 1 – 3 จะมผี ลเปน็ อยา่ งไรเมือ่ เปรยี บเทียบ
กับการทดลองครั้งแรกท่เี กลือโซเดยี มคลอไรดม์ สี ภาพละลายได้ 36 กรมั ในน้า 100 กรมั
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. นักเรยี นคนหนึ่งกลา่ ววา่ “นา้ ตาลทรายละลายไดเ้ รว็ ข้ึนเมอ่ื ใชแ้ ทง่ แกว้ คนสารละลาย เพราะการคน
สารละลายทาใหส้ ภาพละลายได้ของน้าตาลทรายเพิ่มข้ึน” คากลา่ วของนกั เรียนคนนถ้ี กู ต้องหรอื ไม่
เพราะเหตใุ ด
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
12
Science ว22101 ใบงานท่ี 5 สภาพละลายไดแ้ ละปจั จยั ทมี่ ผี ลตอ่ สภาพละลายได้
หนว่ ยที่ 2 ชอ่ื -สกุล ชนั้ ม.2/ เลขท่ี
สารละลาย
คาช้แี จง จงตอบคาถามตอ่ ไปนี้ใหถ้ กู ต้อง
4. ความสมั พันธร์ ะหว่างสภาพละลายไดข้ องสาร A B C และ D กบั อุณหภูมเิ ป็นดงั กราฟ
สาร A B C และ D ชนิดละ 40 กรัม นาสารแต่ละชนิดมาละลายในน้าปรมิ าณ 200 กรัม
ท่ีอุณหภมู ิ 35 องศาเซลเซียส ตอบคาถามตอ่ ไปนี้
4.1 สารละลายของสารใดยังไม่อ่มิ ตัวและสารใดอมิ่ ตวั พอดี
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
4.2 สารใดละลายไม่หมดและเหลือก่กี รมั
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
13
Science ว22101 ใบงานที่ 5 สภาพละลายไดแ้ ละปจั จยั ทม่ี ผี ลตอ่ สภาพละลายได้
หน่วยท่ี 2 ช่อื -สกลุ ชัน้ ม.2/ เลขที่
สารละลาย
คาช้ีแจง จงตอบคาถามต่อไปน้ใี หถ้ กู ตอ้ ง
4.3 เมื่อนาสารละลายอิ่มตัวของสารแต่ละชนดิ ในน้า 100 กรัมทอ่ี ณุ หภูมิ 40 องศาเซลเซียส มาลด
อณุ หภูมเิ ป็น 20 องศาเซลเซยี ส จะมีการเปลีย่ นแปลงเกดิ ข้นึ หรอื ไม่ อย่างไร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
5. กาหนดให้
ทอ่ี ุณหภูมิ 30 องศาเซลเซยี ส ในน้า 100 กรัม สาร Z สามารถละลายได้สงู สุด 20 กรมั
ที่อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซยี ส ในน้า 200 กรมั สาร Z สามารถละลายได้สงู สดุ 30 กรัม
ท่อี ณุ หภมู ิ 50 องศาเซลเซียส ในนา้ 300 กรมั สาร Z สามารถละลายได้สงู สุด 36 กรมั
นักเรียนคิดว่าความสมั พันธร์ ะหวา่ งสภาพละลายได้ของสาร Z กบั อณุ หภูมเิ ปน็ อย่างไร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
14
Science ว22101 ใบงานที่ 5 สภาพละลายไดแ้ ละปจั จยั ทม่ี ผี ลตอ่ สภาพละลายได้
หน่วยที่ 2 ชอ่ื -สกุล ชัน้ ม.2/ เลขที่
สารละลาย
คาชี้แจง จงตอบคาถามต่อไปนใ้ี ห้ถูกต้อง
6. การทดลองสภาพละลายได้ของสาร A ทัง้ หมด 4 การทดลอง โดยแตล่ ะการทดลองใชม้ วลของสาร
A และตัวทาละลายคงที่ ได้ผลดงั ตาราง
6.1 จดุ ประสงค์การทดลองนี้คอื อะไร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
6.2 การทดลองท่ี 1 และ 2 ตัวแปรตน้ ตวั แปรตาม และตวั แปรควบคมุ คอื อะไร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
6.3 การทดลองที่ 2 และ 4 ตวั แปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคมุ คอื อะไร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
6.4 สรุปผลการทดลองน้ีได้อยา่ งไร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
15
Science ว22101 ใบงานที่ 6 สารละลาย
หนว่ ยที่ 2 ชือ่ -สกลุ ช้นั ม.2/ เลขที่
สารละลาย
คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นเตมิ คาหรือข้อความลงในช่องว่างให้ถกู ต้อง
สารละลาย มี
เปน็
ประกอบดว้ ย ตวั ละลาย
เม่อื
ตัวทาละลาย
มี
ทาให้
สารละลายอม่ิ ตัว
มี
ทาให้ทราบ
หน่วย สภาพละลายได้ของสาร
ปัจจยั
16
Science ว22101 ใบงานท่ี 7 ความเขม้ ขน้ ของสารละลายในหนว่ ยรอ้ ยละโดยมวล
หน่วยท่ี 2 ช่ือ-สกลุ ช้ัน ม.2/ เลขที่
สารละลาย
คาช้ีแจง จงคานวณหาความเขม้ ข้นของสารละลายในหนว่ ยรอ้ ยละโดยมวล
1. มี KMnO4 (โพแทสเซยี มเปอรแ์ มงกาเนต) 2. มี CuSO4 (คอปเปอรซ์ ลั เฟต) 12 กรัม
32 กรัม เตมิ นา้ ลงไปจนสารละลายมมี วล 400 เตมิ นา้ ลงไป 88 กรัม สารละลายท่ไี ดเ้ ขม้ ขน้ กี่
กรมั สารละลายที่ไดเ้ ข้มข้นก่เี ปอรเ์ ซ็นต์โดยมวล เปอรเ์ ซ็นต์โดยมวล
3. มี CuSO4 (คอปเปอร์ซัลเฟต) 12 กรัม 4. มี NaCl (โซเดยี มคลอไรด)์ 35 กรัม เติม
เตมิ นา้ ลงไปจนสารละลายมีปรมิ าตร 60 กรมั นา้ ลงไปจนสารละลายมมี วล 200 กรัม
สารละลายทไ่ี ด้เขม้ ขน้ ก่ีเปอรเ์ ซน็ ตโ์ ดยมวล สารละลายท่ไี ดเ้ ขม้ ข้นกเี่ ปอรเ์ ซน็ ต์โดยมวล
5. สารละลาย NaCl (โซเดยี มคลอไรด์) 6. สารละลายนา้ ตาลทรายเขม้ ข้น 15 % w/w
เขม้ ขน้ 5 % w/wสารละลายมีมวล 300 กรมั สารละลายมีมวล 200 กรมั สารละลายนา้ ตาล
สารละลาย NaCl (โซเดียมคลอไรด์) มโี ซเดยี ม
คลอไรดล์ ะลายอยู่ก่กี รัม ทรายมีนา้ ตาลทรายละลายอยู่ก่กี รมั
17
Science ว22101 ใบงานท่ี 8 ความเขม้ ขน้ ของสารละลายในหนว่ ยรอ้ ยละโดยปริมาตร
หน่วยท่ี 2 ชือ่ -สกลุ ชนั้ ม.2/ เลขท่ี
สารละลาย
คาช้ีแจง จงคานวณหาความเข้มขน้ ของสารละลายในหนว่ ยร้อยละโดยปรมิ าตร
1. เอทานอล 15 cm3 ละลายอยู่ในสารละลาย 2. เอทานอล 35 cm3 ละลายอย่ใู นน้า 115
เอทานอล 80 cm3 สารละลายทไี่ ด้เขม้ ขน้ ก่ี cm3 สารละลายทไ่ี ด้เขม้ ข้นก่ีเปอรเ์ ซ็นต์โดย
เปอรเ์ ซ็นตโ์ ดยปริมาตร ปริมาตร
3. NaOH (โซเดียมไฮดรอกไซด์) 40 cm3 4. สารละลายกรด HCl (ไฮโดรคลอรกิ )
ละลายอยูใ่ นน้า200 cm3 สารละลายที่ไดเ้ ขม้ ขน้ ปรมิ าตร 250 cm3 เขม้ ขน้ 5 %v/v มกี รด
ก่เี ปอร์เซน็ ตโ์ ดยปรมิ าตร ไฮโดรคลอริก ละลายอยกู่ ลี่ กู บาศกเ์ ซนติเมตร
5. สารละลายกรด HBr (ไฮโดรโบรมิก) 6. สารละลายกรด HBr (ไฮโดรโบรมกิ )
ปรมิ าตร 300 cm3 เขม้ ข้น 10 %v/v มกี รด เข้มข้น 7 %v/v มีกรดไฮโดรโบรมกิ ละลาย
ไฮโดรโบรมกิ ละลายอยู่ก่ีลูกบาศก์เซนติเมตร อยู่ 12 cm3 สารละลายกรดไฮโดรโบรมิกมี
ปริมาตรก่ลี ูกบาศกเ์ ซนติเมตร
18
Science ว22101ใบงานที่ 9 ความเขม้ ขน้ ของสารละลายในหนว่ ยรอ้ ยละโดยมวลตอ่ ปรมิ าตร
หน่วยที่ 2 ชือ่ -สกลุ ชัน้ ม.2/ เลขท่ี
สารละลาย
คาชีแ้ จง จงคานวณหาความเขม้ ข้นของสารละลายในหน่วยรอ้ ยละโดยมวลตอ่ ปรมิ าตร
1. มลี เิ ทยี มคลอไรดอ์ ยู่ 8 กรมั เตมิ น้าลงไปจน 2. มีโซเดียมคลอไรด์ 35 กรัม เตมิ น้าลงไปจน
สารละลายมีปรมิ าตร 80cm3สารละลายท่ไี ด้ สารละลายมปี รมิ าตร 300 cm3 สารละลายที่
เข้มขน้ กีเ่ ปอร์เซ็นต์โดยมวลตอ่ ปริมาตร ไดเ้ ขม้ ข้นก่ีเปอรเ์ ซน็ ตโ์ ดยมวลต่อปรมิ าตร
3. สารละลายโพแทสเซยี มเปอรแ์ มงกาเนตเข้มขน้ 4. สารละลายคอปเปอรซ์ ัลเฟตเข้มขน้ 5
12 %W/v มปี รมิ าตร 300 cm3 สารละลาย %W/v มปี ริมาตร 150 cm3สารละลาย
ดงั กล่าวมโี พแทสเซียมเปอรแ์ มงกาเนตละลายอยู่กี่ ดังกลา่ วคอปเปอรซ์ ลั เฟตละลายอยู่กี่กรัม
กรัม
5. สารละลายนา้ ตาลทราย เขม้ ขน้ 16 %W/v 6. สารละลายโพแทสเซยี มเปอร์แมงกาเนต
มนี า้ ตาลทรายละลายอยู่ 4 กรมั มสี ารละลาย เข้มข้น 10 % w/v มีโพแทสเซยี มเปอรแ์ มงกา
น้าตาลทรายอยู่ก่ีลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร เนตละลายอยู๋ 3 กรัมมีสารละลายโพแทสเซยี ม
เปอรแ์ มงกาเนตก่ีลูกบาศกเ์ ซนติเมตร
19
Science ว22101 ใบงานท่ี 10 ความเขม้ ขน้ ของสารละลาย
หน่วยที่ 2 ชื่อ-สกลุ ช้ัน ม.2/ เลขท่ี
สารละลาย
คาชแ้ี จง จงตอบคาถามตอ่ ไปนี้ให้ถูกตอ้ ง
1. น้าสม้ สายชเู ป็นสารละลายของกรดนา้ ส้มกบั น้า ถ้าต้องการน้าสม้ สายชทู ี่มีความเข้มข้นรอ้ ยละ 5 โดย
ปริมาตรตอ่ ปรมิ าตรจานวน 20 ลติ ร จะต้องใชก้ รดน้าสม้ ก่ลี ิตร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
2. ถา้ ต้องการเตรยี มน้าเชือ่ มจานวน 3 ลิตร โดยการละลายกลโู คสในน้าใหม้ ีความเข้มข้นรอ้ ยละ 40
โดยมวลต่อปริมาตร ตอ้ งใช้กลูโคสกกี่ โิ ลกรัม
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
3. เหล็กกล้าไร้สนมิ ชนดิ หนงึ่ มโี ครเมยี มเป็นองค์ประกอบอยรู่ อ้ ยละ 9 โดยมวลตอ่ มวล ถ้าต้องการ
เหลก็ กลา้ ไร้สนมิ 3 ตัน ต้องใชโ้ ครเมยี มอยา่ งน้อยกกี่ ิโลกรัม
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
4. ถา้ มีโพแทสเซียมคลอไรด์ 45 กรมั จะสามารถเตรยี มสารละลายโพแทสเซยี มคลอไรดเ์ ขม้ ขน้ ร้อยละ
15 โดยมวลต่อปรมิ าตรไดส้ ูงสุดก่ีลติ ร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
5. น้าส้มสายชูที่มีความเขม้ ข้นของกรดน้าส้มร้อยละ 5 โดยปริมาตรต่อปรมิ าตรจานวน 3 ลติ ร จะมี
กรดน้าส้มเป็นองคป์ ระกอบกล่ี กู บาศก์เซนติเมตร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
20
Science ว22101 ใบงานที่ 10 ความเขม้ ขน้ ของสารละลาย
หน่วยที่ 2 ชอ่ื -สกุล ช้นั ม.2/ เลขที่
สารละลาย
คาช้แี จง จงตอบคาถามตอ่ ไปนใ้ี ห้ถูกตอ้ ง
6. ถา้ มดี ่างทบั ทิม 2 กรมั ในสารละลาย 250 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร สารละลายนม้ี คี วามเขม้ ข้นร้อยละ
เท่าใด โดยมวลต่อปริมาตร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
7. ตอ้ งการเตรียมสารละลายเกลือแกงเข้มข้นร้อยละ 0.9 โดยมวลต่อปรมิ าตร ปรมิ าตร 50 ลกู บาศก์
เซนติเมตร จะตอ้ งใช้เกลอื แกงกีก่ รัม
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
8. อากาศมแี ก๊สออกซเิ จนอยรู่ อ้ ยละ 21 โดยปริมาตรต่อปรมิ าตร ถา้ ต้องการแยกแก๊สออกซเิ จนจานวน
63,000 ลติ ร ออกจากอากาศ จะตอ้ งใช้อากาศกลี่ ิตร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
21
Science ว22101 ใบงานที่ 11 ความเขม้ ขน้ ของสารละลาย
หน่วยที่ 2 ช่อื -สกลุ ชน้ั ม.2/ เลขท่ี
สารละลาย
คาชแ้ี จง จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ีให้ถกู ตอ้ ง
ความเขม้ ข้นของสารละลาย
รอ้ ยละโดยมวลต่อมวล รอ้ ยละโดยปรมิ าตรตอ่ ปรมิ าตร ร้อยละโดยมวลตอ่ มวล
1. สามารถนาความร้เู กีย่ วกบั ความเข้มขน้ ของสารละลายไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาวันไดอ้ ย่างไร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
2. การนาสารละลายไปใช้ประโยชน์ต้องคานึงถงึ องค์ประกอบของสารละลาย ปัจจยั ทีม่ ีผลตอ่
สภาพละลายได้ และความเข้มข้นของสารละลายอย่างไร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
22
Science ว22101 ข้อสอบเรอื่ ง สารละลาย
หนว่ ยท่ี 2 ชื่อ-สกุล ชั้น ม.2/ เลขที่
สารละลาย
คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกขอ้ ทถ่ี กู ต้องท่ีสุด คะแนน............/15
1. ในการเตรยี มสารละลาย NaOH โดยละลาย NaOH 6 กรมั ในน้า 20 cm3 สารละลาย
NaOH มคี วามเข้มข้นรอ้ ยละเท่าไรโดยมวลต่อปรมิ าตร
ก. ความเขม้ ขน้ รอ้ ยละ 20 โดยมวลตอ่ ปรมิ าตร
ข. ความเขม้ ขน้ ร้อยละ 25 โดยมวลต่อปรมิ าตร
ค. ความเขม้ ขน้ ร้อยละ 30 โดยมวลตอ่ ปรมิ าตร
ง. ความเข้มขน้ รอ้ ยละ 35 โดยมวลต่อปรมิ าตร
2. สารละลายกรดไนตริก เข้มขน้ ร้อยละ 0.4 โดยปรมิ าตร จานวน 500 cm3 จะมปี ริมาตรของ
กรดไนตรกิ ละลายอยู่เท่าใด
ก. 2 cm3 ข. 4 cm3 ค. 6 cm3 ง. 8 cm3
3. เหรยี ญบาทประกอบด้วยนิกเกิล 25 % และทองแดง 75 % โดยมวล ถา้ ตอ้ งการทาเหรียญบาท
หนัก 3 กรัม ตอ้ งใช้นิกเกลิ ทงั้ หมดก่ีกรัม
ก. 0.25 กรมั ข. 0.50 กรมั ค. 0.75 กรัม ง. 0.95 กรมั
4. ข้อใดไม่ถกู ตอ้ งเกี่ยวกบั สารละลาย
ก. เปน็ สารที่มองเห็นเป็นเน้ือเดยี วกัน
ข. สามารถแยกสว่ นประกอบไดด้ ว้ ยการกรอง
ค. เปน็ การรวมกันของสารตั้งแต่ 2 ชนดิ ขน้ึ ไป
ง. สารละลายประกอบดว้ ยตัวทาละลายและตัวละลาย
5. สารละลายขอ้ ใดเกดิ จากแก๊สละลายในของเหลว
ก. นา้ หวาน นา้ อัดลม เบยี ร์ ข. นา้ อดั ลม นา้ หวาน นา้ โซดา
ค. น้าอดั ลม น้าหวาน เบยี ร์ ง. น้าอัดลม นา้ โซดา เบยี ร์
6. ขอ้ ใดให้คานยิ ามของคาวา่ “ตวั ทาละลาย” ได้ถูกต้อง
ก. สารทีใ่ ช้ละลายตวั ละลาย
ข. สารที่ใช้ละลายตัวทาละลาย
ค. สารที่มตี ัวละลายอยูป่ ริมาณมากในสารละลาย
ง. สารละลายทมี่ ตี ัวละลายทละลายอยู่เลก็ นอ้ ยในสารละลาย
7. ฟิวส์ไฟฟ้าประกอบด้วย ดบี ุก 25% ตะกั่ว 25% และ บิสมัส 50% สารใดเปน็ ตัวละลาย
ก. ดีบกุ ข. ตะก่วั
ค. ดีบุกและตะกั่ว ง. บสิ มัส
23
Science ว22101 ขอ้ สอบเรอ่ื ง ความเขม้ ขน้ ของสารละลาย
หนว่ ยท่ี 2 ชื่อ-สกลุ ชั้น ม.2/ เลขที่
สารละลาย
คาช้แี จง ให้นกั เรียนเลือกขอ้ ท่ีถูกต้องทีส่ ดุ
8. เมอ่ื เพิม่ ความดนั และอุณหภูมใิ หก้ ับสารทีส่ ถานะแกส๊ สภาพการละลายได้ของสารเหมอื นหรือต่างกัน
อย่างไร
ก. เหมือนกัน เมื่อเพม่ิ ความดนั และอุณหภมู ิ สภาพละลายได้ของสารจะลดลง
ข. เหมือนกัน เมื่อเพิม่ ความดัน และอณุ หภูมิ สภาพละลายได้ของสารจะเพมิ่ ข้ึน
ค. ต่างกัน เม่ือเพิ่มความดนั สภาพละลายไดข้ องสารจะลดลง เม่อื เพิ่มอณุ หภมู ิ สภาพละลายได้
ของสารจะเพมิ่ ขน้ึ
ง. ต่างกนั เมื่อเพมิ่ ความดนั สภาพละลายไดข้ องสารจะเพมิ่ ข้ึน เมื่อเพ่ิมอณุ หภูมิ สภาพละลายได้
ของสารจะลดลง
9. ตารางแสดงปรมิ าณมวลของสาร และปรมิ าตรของนา้ ทใี่ ชท้ าละลาย
สาร มวลที่ใช้ (g) ปรมิ าตรนา้ (cm3)
A2 20
B4 30
C6 50
D 10 60
ขอ้ ใดเรยี งลาดบั ความเข้มขน้ ของสารละลายจากมากไปน้อยไดถ้ กู ต้อง
ก. D B C และ A ข. A C B และ D
ค. C D B และ A ง. B A C และ D
10. สารละลายคอปเปอรซ์ ลั เฟตมีปรมิ าณคอปเปอรซ์ ัลเฟต 5 กรมั ในสารละลาย 50 cm3 จงหา
ความเข้มข้นของสารละลายเปน็ ร้อยละโดยมวลตอ่ ปริมาตร
ก. 10 ข. 5
ค. 50 ง. 100
11. ข้างขวดแอลกอฮอล์ ระบุว่า แอลกอฮอล์ 80% โดยปริมาตร มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด
ก. สารละลายนั้น 100 cm3 มีเอทิลแอลกอฮอลอ์ ยู่ 80 cm3
ข. สารละลายน้ัน 100 กรัม มีเอทลิ แอลกอฮอลอ์ ยู่ 80 กรมั
ค. สารละลายนน้ั 100 cm3 มีเอทลิ แอลกอฮอลอ์ ยู่ 80 กรัม
ง. สารละลายนั้น 100 กรมั มีเอทิลแอลกอฮอลอ์ ยู่ 80 cm3
24
Science ว22101 ข้อสอบเรอ่ื ง สารละลาย
หน่วยที่ 2 ช่ือ-สกลุ ชั้น ม.2/ เลขท่ี
สารละลาย
คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นเลอื กขอ้ ที่ถูกตอ้ งท่สี ดุ
12. 2. สารละลายชนดิ หนึ่งประกอบดว้ ยสาร 3 ชนิด ได้แก่ สาร A รอ้ ยละ 40 สาร B ร้อยละ 30
และ สาร C ร้อยละ 30 ซง่ึ สารท้ัง 3 ชนดิ มสี ถานะเดียวกัน สารชนิดใดทาหน้าที่เปน็ ตัวละลาย
ก. สาร A ข. สาร B
ค. สาร C ง. สาร B และ สาร C
13. นา้ อดั ลมมีสารใดเปน็ ตวั ทาละลาย
ก. สี ข. นา้
ค. นา้ ตาล ง. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
14. ปัจจยั ในข้อใดไม่มีผลต่อสภาพการละลายไดข้ องสารทม่ี สี ถานะเปน็ ของแข็ง
ก. อณุ หภมู ิ ข. ความดนั
ค. ขนาดของตัวละลาย ง. ชนิดของตัวทาละลาย
15. หากละลายนา้ ตาลกลูโคส 12.5 กรัมในนา้ จนไดส้ ารละลาย 400 กรัม สารละลายน้าตาลกลโู คส
จะมีความเข้มขน้ รอ้ ยละโดยมวลเท่าใด
ก. 2.775 ข. 3.125
ค. 3.250 ง. 3.550
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
25
Science ว22101 ใบงานท่ี 1 เซลล์เมด็ เลอื ด
หนว่ ยที่ 3 ช่อื -สกุล ชัน้ ม.2/ เลขท่ี
ระบบรา่ งกายมนุษย์
คาช้แี จง ให้นกั เรียนนาข้อความเตมิ ลงในแผนภาพให้ถกู ตอ้ ง
1. นา้ เลือดมลี ักษณะ…………………………………………ภายในนา้ เลือดประกอบดว้ ย …………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
2. เซลล์เม็ดเลือดมีท้งั หมด 3 ชนิด ไดแ้ ก่ ……………………………………………………………………………………
3. เซลลเ์ มด็ เลอื ดแดงมีลักษณะ ………………………………………… ผิวของเมด็ เลือดแดงมี ……………………………
ซ่งึ ทาหนา้ ท่ี ………………………………………… เซลลเ์ มด็ เลอื ดแดงมอี ายุ …………………………… หลังจากน้นั จะถูก
ทาลายที่ ………………………………………… .
4. เซลลเ์ ม็ดเลือดขาวสรา้ งจาก …………………………มหี นา้ ที่ ………………………………………………………………
5. เกลด็ เลอื ดมีหน้าท่ี ……………………………………………………………………………………
6. เซลล์เม็ดเลอื ดแดงและเซลลเ์ ม็ดเลอื ดขาวมีขนาดและปริมาณแตกต่างกนั อย่างไร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
7. รปู ร่างลักษณะของเซลลเ์ มด็ เลือดแดงและเซลล์เม็ดเลอื ดขาวเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
26
Science ว22101 ใบงานที่ 2 หลอดเลอื ด
หนว่ ยที่ 3 ช่ือ-สกลุ ชั้น ม.2/ เลขท่ี
ระบบร่างกายมนุษย์
คาช้ีแจง ให้นกั เรยี นนาขอ้ ความเตมิ ลงในแผนภาพให้ถกู ตอ้ ง
คาชแ้ี จง จงเปรียบเทียบความแตกตา่ งของหลอดเลือดแดง หลอดเลือดดา และหลอดเลอื ดฝอย
หลอดเลือดอารเ์ ทอรี หลอดเลอื ดเวน หลอดเลอื ดฝอย
หน้าที่
ผนงั หลอดเลอื ด
ล้นิ
แรงดันเลอื ด
27
Science ว22101 ใบงานท่ี 3 หวั ใจ
หน่วยที่ 3 ชื่อ-สกลุ ชัน้ ม.2/ เลขท่ี
ระบบรา่ งกายมนษุ ย์
คาชีแ้ จง ให้นกั เรยี นนาขอ้ ความทกี่ าหนดให้เติมลงในแผนภาพใหถ้ กู ตอ้ ง
การไหลเวยี นเลอื ดผา่ นหวั ใจ
เลอื ดดาจากสว่ นต่างของร่างกายไหลเขา้ สู้เส้นเลือด 2 เสน้ คือ 1) ……………………………
และ ………………………… ไหลเขา้ สหู่ วั ใจ2) ………………………… ผา่ นล้นิ 3) ………………………
ลงสู่4) ………………………… เข้าสู่หลอดเลอื ด5) ………………………… นาเลือดไปฟอกที่
ปอด/กลายเป็นเลือดแดง เลือดแดงจากปอดจะไหลรวมกันที่หลอดเลือด6) ……………………
เขา้ ส่หู วั ใจ7) ………………………… ผา่ น8) ………………………… ลงส9ู่ ) …………………………
การบบี ตัวของหวั ใจดนั เลือดเข้าสู่หลอดเลอื ด10) ………………………… แตกแขนงไปเลยี้ งสว่ น
ตา่ งๆของร่างกาย
28
Science ว22101 ใบงานท่ี 4 ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด
หนว่ ยที่ 3 ชอ่ื -สกลุ ชน้ั ม.2/ เลขท่ี
ระบบรา่ งกายมนษุ ย์
คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ใี หถ้ ูกตอ้ ง
1. เพราะเหตใุ ดผ้ทู ี่สญู เสียเลือดไปกบั การให้เลอื ดหรือการบริจาคเลอื ดจึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
2. หลงั จากบรจิ าคเลอื ด เพราะเหตุใดแพทย์จงึ แนะนาให้รบั ประทานอาหารที่มีธาตเุ หล็กเปน็ ส่วนประกอบ
หรอื ใหย้ าเสรมิ ธาตเุ หล็ก
3. การตรวจเลือดบางคร้ังแพทยจ์ ะตรวจนับจานวนเซลล์เม็ดเลอื ด การตรวจนบั จานวนเซลล์เมด็ เลือดมี
ความสาคัญต่อการวนิ จิ ฉยั โรคอย่างไร
4. บุคคลท่ีมีจานวนเกล็ดเลอื ดตา่ กว่าปกติมาก ๆ จะส่งผลต่อรา่ งกายอยา่ งไร
5. การบรจิ าคเลอื ด แพทยจ์ ะเจาะเลือดจากหลอดเลือดชนิดใด เพราะเหตใุ ด
29
Science ว22101 ใบงานท่ี 4 ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด
หนว่ ยท่ี 3 ชอ่ื -สกลุ ช้ัน ม.2/ เลขท่ี
ระบบรา่ งกายมนุษย์
คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนีใ้ ห้ถกู ต้อง
6. อัตราการเต้นของหวั ใจขณะออกกาลังกายระหวา่ งนกั กีฬากบั บุคคลทีไ่ ม่ค่อยได้ออกกาลังกายแตกต่าง
กันอย่างไร เพราะเหตุใด
7. นกั เรยี นจะปฏบิ ัตติ นอยา่ งไรเพอ่ื หลกี เลีย่ งไม่ให้เกดิ โรคความดนั เลือดสูง
8. ให้นกั เรยี นเปรยี บเทยี บความเหมอื นและความแตกต่างของเซลลเ์ ม็ดเลือดแดง เซลลเ์ มด็ เลือดขาว และ
เกล็ดเลือด โดยใชแ้ ผนภาพต่อไปนี้ สว่ นท่เี หมอื นกนั ใหเ้ ขียนไว้ในสว่ นทวี่ งกลมซ้อนทับกนั สว่ นทีแ่ ตกต่าง
กนั ใหเ้ ขียนลงในวงกลมในสว่ นที่ไมท่ บั ซอ้ น
เซลล์เมด็ เลอื ดแดง เซลล์เม็ดเลอื ดขาว
เกล็ดเลอื ด
30
Science ว22101 ข้อสอบเรอ่ื ง ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด
หนว่ ยท่ี 3 ช่อื -สกลุ ชน้ั ม.2/ เลขท่ี
ระบบรา่ งกายมนุษย์
คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นตอบคาถามต่อไปนีใ้ ห้ถกู ตอ้ ง
1. เลอื ดของคนเราประกอบด้วยอะไรบา้ ง คะแนน............/10
ก. เม็ดเลอื ดแดง เกลด็ เลอื ด น้าเลือด
ข. เม็ดเลือดแดง เมด็ เลอื ดขาว เกลด็ เลอื ด น้าเลอื ด
ค. เม็ดเลอื ดแดง เม็ดเลอื ดขาว เม็ดเลอื ดดา ฮโี มโกลบนิ นา้ เลือด
ง. เม็ดเลือดแดง เม็ดเลอื ดขาว เม็ดเลือดดา ฮีโมโกลบิน น้าเลือด หลอดเลอื ด
2. เหตุใดหวั ใจหอ้ งล่างซ้ายจึงมีผนงั กลา้ มเน้อื หนาทสี่ ุด
ก. เพราะต้องบีบตัวอย่างแรงเพอ่ื สบู ฉดี เลอื ดไปยงั ปอด
ข. เพราะตอ้ งรบั เลือดมาจากหวั ใจห้องบนขวา
ค. เพราะต้องรบั เลือดมาจากหัวใจห้องบนซา้ ย
ง. เพราะต้องบบี ตัวอย่างแรงเพ่อื สบู ฉีดเลอื ดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกาย
3. จงพจิ ารณาขอ้ ความต่อไปนี้ เสน้ เลือดอาเทอรร์ ปี ระกอบดว้ ยลักษณะดังข้อใด
1) มผี นังบางและมีลิน้ กั้นอยภู่ ายในเป็นระยะ ๆ
2) นาเลือดออกจากหวั ใจโดยการบีบตวั ของหวั ใจ
3) หลอดเลือดอาร์เทอรที กุ หลอดเปน็ หลอดเลอื ดทีน่ าเลอื ดที่มแี ก๊สออกซเิ จนสูง
ก. 1) ข. 2) ค. 2), 3) ง. 1), 2), 3
4. ลักษณะสาคญั ของเม็ดเลือดแดงคอื
ก. สร้างจากตับ ไมม่ ีนวิ เคลียส ไมม่ ีไมโทคอนเดรีย
ข. สร้างจากตับ ไม่มีนวิ เคลียส มีไมโทคอนเดรีย
ค. สรา้ งจากไขกระดูก ไมม่ ีนวิ เคลยี ส ไม่มีไมโทคอนเดรีย
ง. สรา้ งจากไขกระดูก ไม่มีนิวเคลยี ส มไี มโทคอนเดรยี
5. หวั ใจที่มคี วามสัมพนั ธก์ ับเลือดที่ใชแ้ ลว้ คอื หวั ใจหอ้ งใด
ก. หอ้ งบนซ้ายและบนขวา ข. หอ้ งลา่ งซ้ายและลา่ งขวา
ค. ห้องบนขวาและล่างขวา ง. หอ้ งล่างขวาและบนซา้ ย
6. หัวใจห้องล่างซ้ายเป็นหอ้ งท่ีส่งเลือดไปเลีย้ งท่ัวรา่ งกาย แต่หวั ใจห้องล่างขวาเปน็ ห้องท่สี ่งเลือดไปยงั
ปอด ถา้ เราผ่าหวั ใจดคู วรจะพบลักษณะใด
ก. หวั ใจห้องล่างขวานา่ จะมีผนงั หนากวา่ ห้องลา่ งซา้ ย
ข. หวั ใจหอ้ งลา่ งซา้ ยนา่ จะมีผนังหนากวา่ หอ้ งล่างขวา
ค. หัวใจทงั้ สองหอ้ งมผี นงั หนาเท่า ๆ กนั
ง. ห้องบนจะมผี นังบางกว่าหอ้ งล่าง
31
Science ว22101 ขอ้ สอบเรอื่ ง ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด
หนว่ ยท่ี 3 ชื่อ-สกลุ ชนั้ ม.2/ เลขท่ี
ระบบรา่ งกายมนุษย์
คาชแี้ จง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ีให้ถกู ต้อง
7. หลอดเลือดท่ีมองเห็นไดช้ ัดเจนที่หลังมือและขอ้ มอื คืออะไร
ก. หลอดเลอื ดออกจากหัวใจ ข. หลอดเลือดแดง
ค. หลอดเลือดฝอย ง.หลอดเลอื ดเข้าสูห่ ัวใจ
8. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีเรยี งลาดับการไหลเวยี นของเลอื ดไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. ปอด หวั ใจหอ้ งบนขวา หวั ใจหอ้ งลา่ งซ้าย รา่ งกาย หวั ใจหอ้ งบนซ้าย รา่ งกาย หัวใจหอ้ งล่างขวา
ข. ร่างกาย หวั ใจห้องบนซ้าย หัวใจห้องล่างซา้ ย ปอด หวั ใจห้องบนขวา หวั ใจหอ้ งบนซา้ ย ร่างกาย
ค. หัวใจห้องบนขวา หัวใจหอ้ งบนซา้ ย ร่างกาย ปอด ร่างกาย หวั ใจห้องบนซ้าย หวั ใจห้องล่างซ้าย
ง. ร่างกาย หัวใจห้องบนขวา หัวใจหอ้ งล่างขวา ปอด หัวใจหอ้ งบนซา้ ย หวั ใจหอ้ งล่างซ้าย รา่ งกาย
9. หลอดเลอื ดชนดิ ใดมีล้นิ กน้ั ป้องกนั การไหลยอ้ นกลบั ของเลอื ด
ก. หลอดเลอื ดดา ข. หลอดเลือดฝอย
ค. หลอดเลือดแดง ง. หลอดเลือดแดงและหลอดเลอื ดดา
10. ข้อใดกล่าวถึงหนา้ ที่ของหลอดเลือดไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. หลอดเลือดแดง : แลกเปลีย่ นแก๊ส
ข. หลอดเลอื ดแดง : ลาเลยี งเลอื ดไปยงั ปอด
ค. หลอดเลือดดา : ลาเลยี งเลือดดาไปส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกาย
ง. หลอดเลอื ดแดง : กาจัดแก๊สคารบ์ อนไดออกไซดอ์ อกจากเลอื ด
……………………………………………………………………………………………….
32
Science ว22101 ใบงานท่ี 1 ระบบหายใจ
หน่วยที่ 3 ชือ่ -สกลุ ชน้ั ม.2/ เลขท่ี
ระบบรา่ งกายมนุษย์
คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนนาขอ้ ความที่กาหนดใหเ้ ตมิ ลงในแผนภาพใหถ้ ูกต้อง
คาชแี้ จง จงจบั คู่ข้อความตอ่ ไปนี้ท่มี ีความสมั พันธ์กันให้ถูกตอ้ ง โดยการนาตัวเลือกทางด้างขวามือมา
เติมลงในชอ่ งวา่ งหนา้ ขอ้ ความทางซา้ ยมือ (ใชต้ วั เลอื กซ้าได้)
..……..1. เป็นแหลง่ แลกเปล่ยี นแก๊สออกซเิ จนและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ a. หลอดลม
……….2. เปน็ แขนงของท่อลมทีแ่ ยกออกไปมากมายแทรกอยู่ท่ัวไปในเน้ือปอด b. เสน้ เลอื ดฝอยทถี่ ุงลมปอด
……... 3. มกี ระดูกออ่ นเรยี งเป็นรปู เกือกมา้ ติดอยู่ c. โรคถงุ ลมโป่งพอง
d. หลอดลมฝอย
…..… 4. เปน็ ส่วนของหลอดลมท่ีแยกเปน็ แขนงซา้ ยและแขนงขวา เพ่ือเข้าสู่ปอด e. การสะอึก
…..…. 5. นา O2 เขา้ ส่ถู งุ ลมปอด f. การหายใจเข้า
….…. 6. นา CO2 ออกจากร่างกาย g. ข้ัวปอด
…..…. 7. กระดกู ซีโ่ ครงเลือ่ นตา่ ลง ขณะทีก่ ะบงั ลมเลอื่ นสงู ขน้ึ
h. การหายใจออก
i. การหาว
…..…. 8. กระดกู ซโี่ ครงเล่อื นสงู ข้ึน ขณะทกี่ ะบังลมเล่อื นตา่ ลง
…..…. 9. เกดิ จากการอักเสบของเนื้อปอดบริเวณถงุ ลมปอด ทาใหเ้ น้อื ปอดมถี งุ ลมเล็กๆ
ดูคลา้ ยกบั พวงอง่นุ
….…. 10. เกิดจากการที่กะบังลมหดตัวเป็นจังหวะ ทาให้อากาศถูกดนั ผ่านปอดทนั ที
เป็นผลให้สายเสียงส่นั
33
Science ว22101 ใบงานท่ี 2 ระบบหายใจ
หน่วยที่ 3 ช่อื -สกลุ ชน้ั ม.2/ เลขที่
ระบบร่างกายมนษุ ย์
คาช้ีแจง จงเรยี งลาดบั กลไกการหายใจเข้าและหายใจออก โดยเขยี นตัวอักษร
หน้าข้อความท่ีกาหนดไวล้ งในแผนผัง
A. ปรมิ าตรของช่องอกเพมิ่ ขึ้น
B. แกส๊ ออกซิเจนแพร่เข้าส่เู ลือด แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์แพร่เข้าสูถ่ ุงลม
C. อากาศเคลือ่ นเข้าสถู่ งุ ลม
D. อากาศเคล่อื นจากหลอดลมฝอยไปยังหลอดลมและท่อลม ตามล าดบั
E. ปริมาตรของช่องอกลดลง
F. อากาศเคลอ่ื นที่เขา้ สู่จมูก ไปยงั ทอ่ ลม หลอดลม และหลอดลมฝอยตามล าดับ
G. อากาศเคลอ่ื นออกจากถงุ ลม
H. อากาศเคลื่อนออกจากจมกู
หายใจเข้า หายใจออก
กลา้ มเนือ้ กะบงั ลมหดตัว กลา้ มเน้อื กะบังลมคลายตวั ตวั
กระดกู ซีโ่ ครงยกสงู ข้นึ กระดูซโี่ ครงลดตา่ ลง
34
Science ว22101 ใบงานท่ี 3 ระบบหายใจ
หนว่ ยที่ 3 ชอ่ื -สกลุ ช้นั ม.2/ เลขที่
ระบบร่างกายมนษุ ย์
คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนนาขอ้ ความทก่ี าหนดใหเ้ ตมิ ลงในแผนภาพใหถ้ ูกตอ้ ง
แบบจาลองการทางานของปอดเหมือนกับกลไกการหายใจท่ี
เกดิ ขึน้ ในรา่ งกายมนุษย์ดงั นี้
1. ลูกโป่งทัง้ สองใบ คอื …………………………
2. ทอ่ รูปตัว Y คอื …………………………
3. แผน่ ยาง คอื …………………………
4. ดงึ แผ่นยางลงขา้ งล่างลกู โป่งด้านในสองใบ ………………
5. ดนั แผ่นยางขึ้นลกู โป่งดา้ นในสองใบ …………………
การแลกเปล่ยี นแก๊สระหว่างถุงลมในปอดกับหลอดเลอื ดฝอย
การแลกเปลีย่ นแกส๊ ระหวา่ งหลอดเลือดฝอยกับเซลล์
35
Science ว22101 ข้อสอบเรอ่ื ง ระบบหายใจ
หน่วยท่ี 3 ชื่อ-สกลุ ชน้ั ม.2/ เลขท่ี
ระบบรา่ งกายมนุษย์
คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนีใ้ หถ้ ูกต้อง
1. อวัยวะใดทาหนา้ ที่ในการแลกเปล่ียนแก๊ส ข. ปอด คะแนน............/10
ก. จมกู
ค. ท่อลม ง. กะบังลม
2. ข้อใดไม่ใช่การเปล่ยี นแปลงของชอ่ งอกเม่ือหายใจเขา้
ก. กะบงั ลมเล่อื นต่าลง ข. ชอ่ งอกมีปรมิ าตรเพิม่ ข้นึ
ค. กระดกู ซีโ่ ครงเลื่อนสงู ขนึ้ ง. ชอ่ งอกมีความดันเพม่ิ ขน้ึ
3. ขอ้ ใดเรยี งลาดบั การเดินทางของอากาศเขา้ สูร่ า่ งกายได้ถูกต้อง
ก. จมูก ท่อลม หลอดลมฝอย แขนงปอด ถงุ ลม
ข. จมกู ท่อลม แขนงปอด หลอดลมฝอย ถงุ ลม
ค. จมกู แขนงปอด ทอ่ ลม หลอดลมฝอย ถงุ ลม
ง. จมกู แขนงปอด หลอดลมฝอย ท่อลม ถุงลม
4. เมอ่ื หายใจออก กะบงั ลมและกระดูกซีโ่ ครงมีการเปลยี่ นแปลงอย่างไร
ก. กะบังลมและกระดกู ซโ่ี ครงเลือ่ นต่าลง
ข. กะบงั ลมและกระดูกซโี่ ครงเลอื่ นสูงข้นึ
ค. กะบงั ลมเล่อื นตา่ ลง กระดกู ซี่โครงเลื่อนสูงข้ึน
ง. กะบังลมเลื่อนสูงข้ึน กระดกู ซโ่ี ครงเลอ่ื นต่าลง
5. ถา้ ร่างกายหายใจเอาอากาศทีไ่ ม่บรสิ ทุ ธิ์เขา้ ไป ร่างกายจะแสดงอาการใดเพอ่ื เปน็ การขบั สง่ิ
แปลกปลอมออกนอกร่างกาย
ก. การหาว ข. การสะอึก
ค. การคดั จมูก ง. การไอ การจาม
6. การแลกเปลีย่ นแกส๊ เกิดขึน้ ระหวา่ งอวัยวะใดของระบบหายใจ
ก. ถุงลมปอดกบั หลอดเลอื ดฝอย ข. กระบังลมกบั หลอดลม
ค. จมูกกบั ขนจมกู ง. ปอดกบั หวั ใจ
7. การสลายสารอาหารภายในเซลล์เพอ่ื ใหไ้ ด้พลงั งาน ซึ่งใชแ้ กส๊ ออกซเิ จนและมแี ก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
และน้าเกดิ ข้นึ คากล่าวนตี้ รงกบั ความหมายในข้อใด
ก. การหายใจเขา้ ข. การหายใจออก
ค. การหายใจระดบั เซลล์ ง. ถูกทกุ ขอ้
36
Science ว22101 ขอ้ สอบเรอื่ ง ระบบหายใจ
หน่วยที่ 3 ชอ่ื -สกุล ชนั้ ม.2/ เลขท่ี
ระบบร่างกายมนุษย์
คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปนี้ให้ถกู ตอ้ ง
8. จากรปู ถ้านักเรยี นดงึ แผ่นยางลงข้างล่าง ลกู โป่งดา้ นในสองใบจะมลี กั ษณะอย่างไร
ก. ลูกโปง่ จะแฟบลง ข. ลูกโป่งจะพองออก
ค. ลูกโป่งไม่มีการเปลย่ี นแปลง ง. ถกู ท้งั ก. และ ข.
9. ลกู โปง่ เปรียบเสมือนอวัยวะใดในร่างกายมนษุ ย์
ก. กลา้ มเนือ้ กระดกู ซโ่ี ครง ข. หัวใจ
ค. กล้ามเนอ้ื กะบงั ลม ง. ปอด
10. ถา้ หากถุงลมปอดท่ีมีขนาดเล็กๆเกดิ การแตกแล้วรวมตัวเป็นถงุ ลมขนาดใหญ่ นกั เรยี นคิดว่าจะส่งผล
ดหี รอื ผลเสยี ต่อรางกาย อย่างไร
ก. ส่งผลเสีย เพราะทาใหพ้ น้ื ที่ผวิ ในการแลกเปลย่ี นแกส๊ ลดลง สง่ ผลให้ร่างกายได้รับแกส๊
ออกซิเจนไม่เพียงพอ
ข. สง่ ผลดี เพราะถงุ ลมปอดทีม่ ีขาดใหญจ่ ะทาใหร้ ะบบหายใจทางานไดด้ ขี ้ึน
ค. สง่ ผลเสยี เพราะจะทาใหข้ นาดของปอดลดลง ทาให้หายใจไดไ้ มเ่ ต็มท่ี
ง. สง่ ผลดี เพราะจะไดม้ แี ก๊สคารบ์ อนไดออกไซดเ์ กดิ ข้ึนไดน้ ้อยลง
.................................................................................................................................................
37
Science ว22101 ใบงานที่ 1 ระบบขบั ถา่ ย
หนว่ ยที่ 3 ชื่อ-สกุล ช้นั ม.2/ เลขท่ี
ระบบรา่ งกายมนษุ ย์
คาชี้แจง ให้นักเรียนนาข้อความทกี่ าหนดใหเ้ ติมลงในแผนภาพใหถ้ กู ตอ้ ง
38
Science ว22101 ใบงานที่ 1 ระบบขบั ถา่ ย
หนว่ ยท่ี 3 ชื่อ-สกลุ ชน้ั ม.2/ เลขท่ี
ระบบร่างกายมนุษย์
คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นนาข้อความท่กี าหนดใหเ้ ติมลงในแผนภาพใหถ้ ูกตอ้ ง
แผนภาพโครงสร้างหนว่ ยไต (nephron)
39
Science ว22101 ใบงานท่ี 2 ระบบขบั ถา่ ย
หน่วยที่ 3 ชอ่ื -สกลุ ช้ัน ม.2/ เลขที่
ระบบร่างกายมนษุ ย์
คาชี้แจง ให้นกั เรียนเขียนช่อื อวัยวะให้ตรงกบั หน้าทท่ี ่ีกาหนดให้
อวัยวะ : โบว์แมนส์แคปซูล, โกลเมอรลู สั , หว่ งเฮนเล, ทอ่ รวม, ท่อขดส่วนต้น
หนา้ ท่ี :
1) มลี ักษณะคล้ายถว้ ยท่พี องออกมาจากท่อของหลอดไต ภายในเต็มไปดว้ ยกระจกุ หลอดเลอื ด
ฝอย (Glomerulus) ทาหน้าทีก่ รองสารต่าง ๆ ออกจากร่างกาย
2) กลุม่ เสน้ เลอื ดฝอยต่อจากเส้นเลอื ดแดงทต่ี ่อเข้ากับไต จะอยูใ่ นโบว์แมน แคปซลู
3) ทาหน้าที่ดดู ซึมสารท่ยี งั มปี ระโยชนก์ ลับส่ขู องเหลว แล้วเข้าสู่กระแสเลือด
1) ม4ีลกั)หษเลปณอ็นดะบคเรลเิลวอื า้ณดยฝทถอี่มว้ ยีกย(าทGรี่พดlอดูoงนmอา้ อeกกลrบัมuมlาuาจsกา)ทกีส่ททดุ อ่ าขหอนง้าหทลี่กอรดอไตงสภาราตยใ่านงๆเต็มอไอปกดจ้วายกกรรา่ ะงจกุกาย
5) เป็นบริเวณทท่ี อ่ ขดส่วนปลายของหนว่ ยไตอืน่ ๆมาเปิดรวมกันเพอ่ื นาน้าปสั สาวะสง่ ต่อไปยงั
กรวยไต
อวัยวะ หนา้ ที่
โบว์แมนสแ์ คปซลู
โกลเมอรูลสั
หว่ งเฮนเล
ท่อรวม
ทอ่ ขดสว่ นต้น
40
Science ว22101 ใบงานที่ 3 ระบบขบั ถา่ ย
หน่วยท่ี 3 ชื่อ-สกลุ ช้ัน ม.2/ เลขที่
ระบบรา่ งกายมนุษย์
คาชแ้ี จง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ ง
1. การขบั ถ่ายของเสยี มีความสาคัญตอ่ ร่างกายอยา่ งไร
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. เพราะเหตุใดแพทยจ์ งึ สามารถตรวจสอบภาวะโรคหรอื ความผิดปกตขิ องรา่ งกายเบ้ืองต้นได้ด้วยการ
ตรวจปสั สาวะ
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ปัสสาวะประกอบดว้ ยสารใดบา้ ง
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
4. ระบบขับถา่ ยของมนษุ ยม์ กี ารกาจดั ของเสยี ออกนอกรา่ งกายทางใดบ้าง
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
5. ปอดมีการกาจัดของเสียอยา่ งไร จงอธิบาย
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
6. อธิบายการกาจัดของเสียทางไตใหถ้ กู ต้อง
………………………………………………………………………….....................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………......................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………….........................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
41
Science ว22101 ข้อสอบเรอื่ ง ระบบขบั ถา่ ย
หน่วยที่ 3 ชื่อ-สกลุ ชนั้ ม.2/ เลขท่ี
ระบบรา่ งกายมนุษย์
คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปนใี้ หถ้ กู ต้อง
1. ปัสสาวะประกอบด้วยสารชนดิ ใดเป็นหลัก คะแนน............/10
ก. น้า ข. ยูเรยี
ค. กลโู คส ง. กรดอะมิโน
2. ขอ้ ใดไม่ใช่วิธกี ารดแู ลรกั ษาไตอย่างถกู วิธี
ก. งดด่มื เครือ่ งด่ืมแอลกอฮอล์
ข. การรับประทานอาหารรสเค็ม
ค. การดื่มน้าสะอาดอย่างเพียงพอ
ง. การออกกาลงั กายอยา่ งสมา่ เสมอ
3. สารชนิดใดไม่ควรพบในปัสสาวะ
ก. นา้ ข. ยเู รยี
ค. โปรตนี ง. โซเดยี ม
4. . ข้อใดตอ่ ไปนี้ จดั ว่าเปน็ ของเสยี จากระบบขับถา่ ยท้งั หมด
ก. กากอาหาร ปสั สาวะ เหง่อื
ข. ปัสสาวะ เหง่ือ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ค. เหงื่อ แกส๊ ออกซิเจน อจุ จาระ
ง. แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ อจุ จาระ ปัสสาวะ
5. อวัยวะใดทีท่ าหน้าทีใ่ นการกรองเลือด เพอื่ ดึงสารท่เี ปน็ ประโยชน์กลบั คนื ส่รู ่างกาย
ก. ทอ่ ปัสสาวะ ข. หนว่ ยไต
ค. กระเพาะปัสสาวะ ง. ไต
6. ถา้ นักเรยี นด่ืมน้าน้อย จะส่งผลอยา่ งไรต่อร่างกาย
ก. ปัสสาวะสีเขม้ ออ่ นเพลีย
ข. ปสั สาวะสีจาง มีอาการปวดศรี ษะ
ค. ผวิ แห้ง การหดตัวของกล้ามเนอ้ื บกพร่อง
ง. การแข็งตวั ของเลอื ดลกลด ออ่ นเพลีย
7. เพราะเหตใุ ด อจุ จาระจึงไมจ่ ดั เป็นของเสียในระบบขบั ถ่าย
ก. เพราะอุจจาระเป็นกากอาหาร จงึ ไม่จัดเปน็ ของเสยี
ข. เพราะอจุ จาระยงั มสี ารอาหารหลงเหลอื อยู่ จึงไมจ่ ัดเปน็ ของเสีย
ค. เพราะอจุ จาระไม่สามารถกาจัดออกทางไตได้ จงึ ไม่จดั เปน็ ของเสีย
ง. เพราะอจุ จาระไม่ได้เกดิ จากสลายสารอาหารภายในเซลลห์ รือเมทาบอลิซมึ แตเ่ ปน็ เพยี งการ
กาจัดกากอาหารทเี่ หลือจากกระบวนการย่อยอาหารเท่าน้ัน
42
Science ว22101 ขอ้ สอบเรอ่ื ง ระบบขบั ถา่ ย
หน่วยท่ี 3 ช่ือ-สกุล ชนั้ ม.2/ เลขที่
ระบบรา่ งกายมนุษย์
คาชแี้ จง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ใี หถ้ ูกตอ้ ง
8. การกาจดั ของเสียออกจากไตมีลาดับดงั นี้ หมายเลข 1, 2 และ 3 คืออะไรตามลาดบั
ก. ท่อไต กรวยไต กระเพาะปัสสาวะ
ข. ท่อไต กระเพราะปัสสาวะ หนว่ ยไต
ค. หน่วยไต ทอ่ ไต กระเพราะปสั สาวะ
ง. หน่วยไต กระเพราะปัสสาวะ ท่อไต
9. จากรูป ของเสยี ทไี่ ด้จากกระบวนการกรองของ
หน่วยไตจะถกู ส่งไปเก็บไว้ทใี่ ด
ก. C ข. D
ค. E ง. F
10. จากรูป หลอดเลอื ด B ท่นี าเลอื ดผา่ นเข้ามายงั ไตและหลอดเลอื ด A ท่ีนาเลอื ดออกจากไตเปน็ หลอด
เลือดชนิดใด
ก. A คือ หลอดเลอื ดอารเ์ ทอรี B คอื หลอดเลอื ดเวน
ข. A คือ หลอดเลอื ดอาร์เทอรี B คือหลอดเลือดฝอย
ค. A คอื หลอดเลอื ดฝอย B คอื หลอดเลือดอารเ์ ทอรี
ง. A คือ หลอดเลือดเวน B คือ หลอดเลอื ดอาร์เทอรี
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
43
Science ว22101 ใบงานท่ี 1 ระบบประสาท
หน่วยที่ 3 ชื่อ-สกลุ ช้ัน ม.2/ เลขท่ี
ระบบร่างกายมนุษย์
คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นนาข้อความท่ีกาหนดใหเ้ ตมิ ลงในแผนภาพใหถ้ ูกตอ้ ง
ซรี บี รัม ทาลามสั ไฮโพทาลามสั สมองสว่ นกลาง
ซรี ีเบลลัม พอนส์ เมดุลลาออบลองกาตา
เดนไดรต์ นิวเคลยี ส ตัวเซลล์ แอกซอน
44
Science ว22101 ใบงานท่ี 2 ระบบประสาท
หนว่ ยที่ 3 ช่อื -สกลุ ช้นั ม.2/ เลขท่ี
ระบบรา่ งกายมนษุ ย์
คาชี้แจงให้ นกั เรียนจบั คคู่ วามสมั พนั ธ์โดยนาอักษรช่องขวามือมาใส่ในช่องซ้ายมือใหถ้ กู ต้อง
ชอ่ื ระบบประสาท หนา้ ท่ี
1. พอนส์ ก มีรปู ร่างเปน็ กอ้ นรปู ไข่ ประกอบดว้ ยเซลล์
ประสาทจานวนมาก
2. เมดัลลา ออบลองกาตา ข ทาหน้าท่ีเปน็ ศนู ย์กลางการเคล่ือนไหว
สว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกาย
3. เซรีเบลลัม ค ควบคมุ อุณหภูมขิ องรา่ งกาย ความดนั โลหติ
ความหวิ ความอ่มิ การนอนหลับ
4. ไฮโพทาลามัส ง การถา่ ยทอดสัญญาณไปยังสมองต่าง ๆ
ท่เี กี่ยวกับกระแสประสาท
5. เซรบี รัม จ ควบคมุ เกยี่ วกบั การมองเหน็ การไดย้ นิ และการสมั ผสั
ทาลามัส ฉ ศูนย์กลางในการประสานงานทางานของอวัยวะต่าง ๆ
7. สมองส่วนกลาง ของรา่ งกาย
8. สมอง
ช ควบคุมการทางานและกิจกรรมตา่ ง ๆ ของ
ร่างกาย เชน่ การพูด การมองเห็น การเรยี นรู้
ซ ควบคุมการเคลือ่ นไหวของกล้ามเน้ือให้
ทางานประสานกนั
9. ไขสันหลงั ฌ ควบคมุ การทางานของอวยั วะภายใน เชน่
การหายใจ การหมนุ เวยี นโลหิต การไอ
10. ระบบประสาทสว่ นกลาง ญ ควบคมุ การทางานของกล้ามเน้อื บรเิ วณ
ใบหนา้ เกย่ี วกับการหลบั ตา การย้ิม การยกั ค้ิว
45
Science ว22101 ใบงานท่ี 3 ระบบประสาท
หนว่ ยที่ 3 ช่อื -สกุล ชนั้ ม.2/ เลขท่ี
ระบบร่างกายมนษุ ย์
คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนวเิ คราะห์พฤติกรรมทีก่ าหนดให้จากนน้ั ใหเ้ ขียนเคร่ืองหมาย “”
เพือ่ ตอบคาถามว่าเกิดข้ึนได้จากการทางานของสมองหรือไขสันหลัง
พฤติกรรม สมอง ไขสันหลงั
1. กระตุกขาเม่อื ถูกเคาะบริเวณเอน็ ของหัวเข่า
2. เขยี นเรียงความสง่ เข้าประกวด
3. มองตู้ปลาทจ่ี ัดไว้อย่างสวยงาม
4. ชักมอื หนเี ม่อื โดนเตารดี ทีร่ อ้ น
5. ชกั เท้าออกเมอ่ื เหยยี บกน้ บหุ ร่ี
6. หัดร้องเพลงกบั เพ่อื นๆ
7. พรวนดนิ ในแปลงกุหลาบทีป่ ลูกไว้
8. ขณะต่ืนเต้น หัวใจจะเต้นเร็ว
9. กะพรบิ ตาเม่ือมลี มพาย
10. นอนหลับเมือ่ รสู้ กึ เหนอ่ื ยและเพลีย
1. รูปรา่ งของเซลล์ประสาทแตกต่างจากเซลลโ์ ดยทั่วไปอย่างไร
………………………………………………………………………….........................................................................
2. สมองมคี วามสาคญั ตอ่ รา่ งกายอย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ถา้ ผู้ขบั ข่ีหรอื ผซู้ ้อนท้ายรถจกั รยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนริ ภยั แลว้ เกิดอบุ ตั เิ หตุทาใหเ้ กิดอันตราย
ตอ่ สมองจะส่งผลต่อการทางานของร่างกายอยา่ งไร
………………………………………………………………………….........................................................................
4. เมือ่ จับวัตถุร้อนนกั เรยี นจะชักมือออกทนั ที ปฏิกริ ิยาการตอบสนองโดยการชกั มือออกเป็นปฏิกริ ิยา
รีเฟล็กซ์ หรือไม่ เพราะเหตใุ ด
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. ปฏกิ ริ ิยารีเฟลก็ ซ์มีประโยชนต์ อ่ มนุษย์อย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
46
Science ว22101 ขอ้ สอบเรอ่ื ง ระบบประสาท
หนว่ ยท่ี 3 ชือ่ -สกุล ชน้ั ม.2/ เลขที่
ระบบรา่ งกายมนุษย์
คาช้ีแจง ให้นกั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนี้ใหถ้ กู ต้อง คะแนน............/10
1. โครงสรา้ งใดของของมนษุ ย์ ทาหน้าที่เปน็ ศูนยก์ ลางควบคมุ การทางานของระบบประสาท
ก. หัวใจ ไขสนั หลัง ข. สมอง ไขสนั หลัง
ค. สมอง เสน้ ประสาท ง. ไขสันหลงั เสน้ ประสาท
2. การแสดงพฤติกรรมหรือการตอบสนองตอ่ เรา้ ของมนษุ ย์จะถกู ควบคุมโดยระบบของร่างกาย
ก. ระบบประสาท ข. ระบบยอ่ ยอาหาร
ค. ระบบขับถา่ ย ง. ระบบหายใจ
3. หากสมองส่วนเซรีบรัมบกพรอ่ ง จะส่งผลใหร้ ่างกายมีความบกพรอ่ งในสว่ นใด
ก. การหายใจ ข. การไดย้ ิน
ค. การเตน้ ของหวั ใจ ง. ถูกทุกขอ้
A
4. จากรูป A คอื ส่วนใดของเซลลป์ ระสาท
ก. กระแสประสาท ข. นวิ เคลียส
ค. แอกซอน ง. เดนไดรต์
5. เฮง เฮง ประสบอบุ ตั ิเหตทุ างรถยนตท์ าใหก้ ลายเปน็ ผปู้ ว่ ยความจาเสือ่ มชว่ั คราว อาการความจาเส่อื ม
ของเฮง เฮง น่าจะมาจากการท่สี มองส่วนใดไดร้ บั การกระทบกระเทอื น
ก. เซรเี บลลัม ข. เซรบี รัม
ค. เมดัลลา ออบลองกาตา ง. พอนส์
47
Science ว22101 ขอ้ สอบเรอื่ ง ระบบประสาท
หน่วยท่ี 3 ชื่อ-สกลุ ชั้น ม.2/ เลขท่ี
ระบบร่างกายมนุษย์
คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ใี ห้ถูกตอ้ ง
6. การท่นี กั เรียนกระตุกขาทนั ทีเม่อื ถูกเคาะบริเวณเอน็ ของหัวเข่า เป็นผลมาจากการส่งั การของข้อใด
ก. ศนู ย์ประสาทในเซรเี บลลัม ข. ศูนย์ประสาทในไฮโพทาลามัส
ค. ศูนยป์ ระสาทในเซรบี รัม ง. ศนู ยป์ ระสาทไขสนั หลงั
7. ระบบประสาทอัตโนวตั ิควบคมุ การทางานของสิ่งใด
1. กล้ามเน้ือลาย 2. กลา้ มเน้ือเรยี บ 3. กล้ามเนอื้ หัวใจ 4. ต่อมต่าง ๆ ในรา่ งกาย
ก. ขอ้ 1, 3, 4 ข. ข้อ 2, 3, 4
ค. ขอ้ 1, 2, 3 ง. ขอ้ 1, 2, 3, 4
8. ระบบประสาทของมนุษยม์ อี งค์ประกอบสาคญั ใดบา้ ง
ก. สมอง ไขสันหลงั เสน้ ประสาท
ข. สมอง ปมประสาท เสน้ ประสาท
ค. สมอง ไขสันหลงั ร่างแหประสาท
ง. สมอง เสน้ ประสาท เซลลป์ ระสาท
9. ขอ้ ใดกล่าวถึงหนา้ ท่ีของระบบประสาทไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. ควบคุมอารมณแ์ ละความรู้สึกของมนษุ ย์
ข. ทาให้อวัยวะในร่างกายเกดิ การเคลอ่ื นไหว
ค. ควบคุมการเต้นของหวั ใจและอัตราการหายใจ
ง. ควบคมุ และประสานการทางานของระบบต่าง ๆ ในรา่ งกาย
10. ข้อใดทก่ี ารทางานไม่ไดอ้ าศัยรีเฟลกอารก์ (reflex arc)
ก. การยกขากลบั เมอ่ื เหยยี บตะปู
ข. การปล่อยเอนไซน์เพือ่ ยอ่ ยอาหาร
ค. ปัสสาวะเมอื่ ตกใจกลวั
ง. การเต้นของหวั ใจเมอื่ ตืน่ เตน้ หรือตกใจกลัว
.......................................................................................................................................................
48
Science ว22101 ใบงานท่ี 1 ระบบสบื พนั ธุ์
หนว่ ยท่ี 3 ช่ือ-สกุล ชนั้ ม.2/ เลขท่ี
ระบบรา่ งกายมนษุ ย์
คาชีแ้ จง ให้นักเรียนนาขอ้ ความท่ีกาหนดใหเ้ ติมลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ต้อง
ตอ่ มลกู หมาก องคชาต ถุงหุ้มปลายองคชาต ถุงอณั ฑะ
อณั ฑะ หลอดนาอสุจิ ต่อมสร้างน้าเล้ยี งอสจุ ิ ถงุ เกบ็ น้าอสุจิ
มดลูก ปากมดลกู รงั ไข่ เซลล์ไข่
ท่อนาไข่ ช่องคลอด อสจุ ิ กระเพาะปัสสาวะ
ระบบสบื พนั ธุเ์ พศชาย
ระบบสืบพนั ธเุ์ พศหญงิ
49
Science ว22101 ใบงานท่ี 2 ระบบสืบพนั ธุ์
หน่วยที่ 3 ชือ่ -สกุล ชน้ั ม.2/ เลขที่
ระบบร่างกายมนุษย์
คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปนีใ้ ห้ถูกต้อง
1. อสุจสิ รา้ งทีต่ าแหนง่ ....................................................
2. ถงุ อณั ฑะทาหนา้ ท่ี ……………………………………………………………………………………
3. ในการทาหมนั ชาย แพทย์จะผา่ ตดั โดยการผูกและตัดทตี่ าแหน่ง............................
4. การปฏสิ นธเิ กดิ ขึ้นที่บริเวณ..............................................................................
5. นักเรยี นอธบิ ายการมปี ระจาเดอื นโดยเลอื กใช้คาจากในภาพ
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
6. อวัยวะใดในระบบสืบพันธุข์ องเพศชายและเพศหญิงท่ที าหนา้ ท่เี หมือนกนั
………………………………………………………………………….............................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………….............................................................................
50