The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้างและแผนการสอนสุขศึกษาป.3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mild_nartlada_26, 2022-10-26 02:04:19

โครงสร้างและแผนการสอนสุขศึกษาป.3

โครงสร้างและแผนการสอนสุขศึกษาป.3

กล่มุ สาระการเรยี นร้สู ขุ ศึกษา
และพลศึกษา

ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3

แผนกประถมศึกษา
โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา

โครงสร้างรายวชิ า สุขศึกษาและพลศึกษา ระดบั ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 3

ภาคเรียนท่ี 2 ปี การศึกษา ........ เวลา 20 ชั่วโมง

หน่วย ชื่อหน่วยการ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั
ท่ี เรียนรู้/เร่ือง ตัวชีว้ ัด (ช่ัวโมง) คะแนน

3 การเคลื่อนไหว การ มาตรฐาน พ. 3/1 - การเคล่ือนไหวอยกู่ ับที่ 2 15
(ส.1 – 2)
ออกกาลงั กาย การ เขา้ ใจ มีทกั ษะในการ แบบมีอุปกรณ์

เล่นเกม กฬี าไทย เคลื่อน กิจกรรมทางกาย การ

และกฬี าสากล เลน่ เกม และกีฬา

-การฝึกการควบคุม ตัวชี้วดั ที่ ป. 3/1

การเคล่ือนไหว - ควบคุมการเคลื่อนไหว

ร่างกายขณะอยกู่ บั ร่างกายขณะอยกู่ บั ท่ี เคลื่อนที่

ที่โดยการยนื และใชอ้ ปุ กรณ์ประกอบอยา่ ง

- การฝึ กการ มีทิศทาง

ควบคุมการ

เคลื่อนไหวร่างกาย

ขณะอยกู่ บั ท่ี

การเคล่ือนไหว การ มาตรฐาน พ. 3/1 - การเคล่อื นไหวแบบ 2 15
(ส.3 - 4 )
ออกกาลงั กาย การ เขา้ ใจ มีทกั ษะในการ เคล่อื นทไ่ี ม่มีอปุ กรณ์

เล่นเกม กฬี าไทย เคล่ือน กิจกรรมทางกาย การ

และกฬี าสากล เล่นเกม และกีฬา

-การฝึกการควบคมุ ตวั ชี้วัดที่ ป. 3/1

การเคล่ือนไหว - ควบคมุ การเคลื่อนไหว

ร่างกายขณะอยกู่ บั ร่างกายขณะอยกู่ บั ที่ เคล่ือนที่

ท่ีโดยการยนื และใชอ้ ุปกรณ์ประกอบอยา่ ง

- การฝึ กการ มีทิศทาง

ควบคุมการ

เคล่ือนไหวร่างกาย

ขณะอยกู่ บั ที่

หน่วย ชื่อหน่วยการ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก
ท่ี เรียนรู้/เร่ือง ตวั ชี้วัด (ช่ัวโมง) คะแนน

3 การเคลื่อนไหว การ มาตรฐาน พ. 3/1 -การเคล่อื นไหวแบบ 2 15
(ส.5 - 6 )
ออกกาลงั กาย การ เขา้ ใจ มีทกั ษะในการ เคลอื่ นทีม่ อี ุปกรณ์

เล่นเกม กฬี าไทย เคล่ือน กิจกรรมทางกาย การ

และกฬี าสากล เล่นเกม และกีฬา

-การฝึกการควบคุม ตวั ชี้วดั ที่ ป. 3/1

การเคล่ือนไหว - ควบคมุ การเคล่ือนไหว

ร่างกายขณะอยกู่ บั ร่างกายขณะอยกู่ บั ท่ี เคล่ือนท่ี

ที่โดยการยนื และใชอ้ ปุ กรณ์ประกอบอยา่ ง

- การฝึ กการ มีทิศทาง

ควบคุมการ

เคล่ือนไหวร่างกาย

ขณะอยกู่ บั ท่ี

3 การเคลื่อนไหว มาตรฐาน พ. 3/1 -การเลน่ เกมขม่ี า้ ทรง 3 15
(ส.7 - 9 )
การออกกาลงั กาย เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคล่ือน เมอื ง

การเล่นเกม กฬี า กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม

ไทย และกฬี าสากล และกีฬา

-การฝึกการ ตวั ชีว้ ัดท่ี ป. 3/1

ควบคมุ การ - ควบคมุ การเคลื่อนไหว

เคล่ือนไหว ร่างกายขณะอยกู่ บั ที่ เคล่ือนท่ี

ร่างกายขณะอยู่ และใชอ้ ุปกรณ์ประกอบอยา่ ง

กบั ท่ีโดยการยนื มีทิศทาง

- การฝึ กการ

ควบคมุ การ

เคลื่อนไหว

ร่างกายขณะอยู่

กบั ท่ี

หน่วย ชื่อหน่วยการ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั
ท่ี เรียนรู้/เรื่อง ตวั ชี้วัด (ช่ัวโมง) คะแนน

4 ใส่ใจสุขภาพ มาตรฐาน พ. 4/1 -การป้องกนั โรค 25

-ความหมายและ ป้องกนั การแพร่กระจายของ หมายถึง การกระทาใด (ส.11 - 12 )

ความสาคญั ของ โรคและจาแนกอาหารหลกั 5 ๆ ของบคุ คลที่ช่วยลด

การป้องกนั โรค หมู่ได้ มีสุขนิสัยที่ดีในการ อตั ราความเจบ็ ป่ วยดว้ ย

บริโภคอาหารและเลือกกิน โรคติดต่อและโรคไม่

อาหารท่ีหลากหลายใน ติดต่อท่ีสามารถป้องกนั

สดั ส่วนที่เหมาะสมตามธง ได้ รวมท้งั การควบคมุ

โภคชนาการ รวมท้งั สามารถ การแพร่กระจายของเช้ือ

แปรงฟันไดอ้ ยา่ งถกู วธิ ีและรู้ โรคจากแหลง่ นาโรค

วิธีการสร้างเสริมสมรรถภาพ หรือพาหะนาโรค การ

ทางกาย ป้องกนั โรคจึงมี

ตัวชีว้ ดั ท่ี ป. 3/1 ความสาคญั ต่อการมี

อธิบายการติดต่อและวธิ ีการ สุขภาพดีและลดการ

ป้องกนั การแพร่กระจายของ เจ็บป่ วยของบุคคล

โรค

4 -การติดต่อของโรค มาตรฐาน พ. 4/1 -การป้องกนั โรค 2 10

ป้องกนั การแพร่กระจายของ หมายถึง การกระทาใด (ส.13 - 14)

โรคและจาแนกอาหารหลกั 5 ๆ ของบุคคลท่ีช่วยลด

หม่ไู ด้ มีสุขนิสยั ที่ดีในการ อตั ราความเจ็บป่ วยดว้ ย

บริโภคอาหารและเลือกกิน โรคติดต่อและโรคไม่

อาหารท่ีหลากหลายสดั ส่วนที่ ติดต่อท่ีสามารถป้องกนั

เหมาะสมตามธงโภคชนาการ ได้ รวมท้งั การควบคุม

รวมท้งั สามารถแปรงฟันได้ การแพร่กระจายของเช้ือ

อยา่ งถูกวธิ ีและรู้วธิ ีการสร้าง โรคจากแหล่งนาโรค

เสริมสมรรถภาพทางกาย หรือพาหะนาโรค การ

ตวั ชีว้ ดั ที่ ป. 3/1 ป้องกนั โรคจึงมี

อธิบายการติดตอ่ และวธิ ีการ ความสาคญั ต่อการมี

ป้องกนั การแพร่กระจายของ สุขภาพดีและลดการ

โรค เจบ็ ป่ วยของบคุ คล

หน่วย ช่ือหน่วยการ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก
ท่ี เรียนรู้/เรื่อง ตวั ชีว้ ดั (ช่ัวโมง) คะแนน

4 -อาหารหลกั 5 หมู่ ตัวชีว้ ัดที่ ป. 3/2 - -อาหารหลกั 5 หมู่ 2 10

จาแนกอาหารหลกั 5 หมู่ ประกอบดว้ ยอาหารหมู่ (ส.15 - 16)

ท่ี 1 ไดแ้ ก่ เน้ือ สัตว์ ตา่ ง

ๆ ไข่ นม และ ถว่ั เมลด็

แหง้ อาหารหม่ทู ี่ 2

ไดแ้ ก่ ขา้ ว แป้ง น้าตาล

เผือก และ มนั อาหาร

หมทู่ ่ี 3 ไดแ้ ก่ ผกั ตา่ ง ๆ

อาหารหม่ทู ี่ 4 ไดแ้ ก่

ผลไม้ ตา่ ง ๆ และ

อาหาร หมทู่ ี่ 5 ไดแ้ ก่

ไขมนั จาก สัตว์ เพื่อการ

มีสุขภาพท่ีดีและมี

ร่างกายเจริญเติบโต

สมวยั นกั เรียนจึงควรกิน

อาหารใหค้ รบ5หมู่ใน

แต่ละม้ือ

5 ชีวิตปลอดภัย มาตรฐานท่ี 5.1 -อุบตั ิเหตุหมายถึง 15

-อบุ ตั ิเหตใุ นบา้ น ป้องกนั อบุ ตั ิเหตใุ นบา้ น เหตกุ ารณ์ที่เกิดข้ึนโดย (ส.17)

โรงเรียน และการ โรงเรียนและการเดินทาง ไม่คาดคิดทาใหเ้ กิดการ

เดินทาง และรู้วธิ ีการขอความ บาดเจบ็ พกิ ารหรือ

-การขอความ ช่วยเหลือเม่ือเกิดอุบตั ิเหตุ เสียชีวติ และเสียทรัพย์

ช่วยเหลือเมื่อเกิด ตลอดจนเขา้ ใจข้นั ตอนการ สินบา้ นของเรากอ็ าจเกิด

อบุ ตั ิเหตุ ปฐมพยาบาลการบาดเจ็บจาก อบุ ตั ิเหตไุ ดเ้ ราจึงตอ้ ง

การเลน่ อยา่ งถกู ตอ้ ง ปฏิบตั ิตนเพ่ือความ

ตัวชี้วดั ที่ ป. 3/1 ปลอดภยั เมื่ออยทู่ ่ีบา้ น

ปฏิบตั ิตนเพ่ือความปลอดภยั โดยใชอ้ ปุ กรณ์ไฟฟ้าทุก

จากอุบตั ิเหตุในบา้ นโรงเรียน ชนิดอยา่ งระมดั ระวงั

และการเดินทาง จดั เกบ็ ส่ิงของใหเ้ ป็น

ตัวชีว้ ัดท่ี ป. 3/2 ระเบียบเม่ือพบเห็น

แสดงวิธีขอความช่วยเหลือ พ้นื บา้ นลื่นกค็ วรเชด็ ให้

จากบคุ คลและแหล่งตา่ งๆเมื่อ แหง้

หน่วย ช่ือหน่วยการ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก
(ชั่วโมง) คะแนน
ท่ี เรียนรู้/เร่ือง ตวั ชี้วัด

5 -การขอความ มาตรฐานที่ 5.1 อบุ ตั ิเหตุหมายถึงเหตุการณ์ท่ี 2 10

ช่วยเหลือเม่ือ ป้องกนั อบุ ตั ิเหตใุ นบา้ น เกิดข้นึ โดยไมค่ าดคิดทาให้ (ส.18 - 19)

เกิดอบุ ตั ิเหตุ โรงเรียนและการเดินทาง เกิดการบาดเจ็บพิการหรือ

และรู้วิธีการขอความ เสียชีวิตและเสียทรัพยส์ ิน

ช่วยเหลือเมื่อเกิดอบุ ตั ิเหตุ บา้ นของเรากอ็ าจเกิด

ตลอดจนเขา้ ใจข้นั ตอนการ อุบตั ิเหตไุ ดเ้ ราจึงตอ้ งปฏิบตั ิ

ปฐมพยาบาลการบาดเจบ็ จาก ตนเพื่อความปลอดภยั เม่ืออยู่

การเลน่ อยา่ งถูกตอ้ ง ที่บา้ นโดยใชอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้า

ตัวชีว้ ัดที่ ป. 3/1 ทุกชนิดอยา่ งระมดั ระวงั

ปฏิบตั ิตนเพ่ือความปลอดภยั จดั เกบ็ สิ่งของให้เป็นระเบียบ

จากอุบตั ิเหตใุ นบา้ นโรงเรียน เมื่อพบเห็นพ้นื บา้ นล่ืนก็ควร

และการเดินทาง เช็ดใหแ้ หง้ ไม่เลน่ ยาฆ่าแมลง

ตัวชี้วดั ท่ี ป. 3/2 หรือสารเคมีตา่ งๆและใชข้ อง

แสดงวิธีขอความช่วยเหลือ มีคมอยา่ ระมดั ระวงั

จากบคุ คลและแหลง่ ต่างๆ -ในการเดินทางเราควรยดึ ถือ

เม่ือ ในเรื่องกฎความปลอดภยั

และการปฏิบตั ิตนเพ่ือความ

ปลอดภยั ไม่วา่ จะเป็นการ

เดินทางบนถนนหรือข้ึนลง

ยานพาหนะและหากเรา

ประสบอุบตั ิเหตุโดยไม่

คาดคดิ ข้ึนสิ่งแรกท่ีควรระลึก

ถึง คอื ตอ้ งต้งั สติ อยา่ ตกใจ

เกินเหตุ และรู้วิธีการขอความ

ช่วยเหลือจากผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ ง

ถกู ตอ้ งเหมาะสม

สอบปลายภาคเรียนที่ 2 (ส.20) 10 คะแนน 18 100
รวมปลายภาคเรียนท่ี 2

สัปดาหท์ ่ี 1

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นที่ 2 / ………. ชอื่ ผูส้ อน นายซลุ กิฟลี ดือราโอะ

กลมุ่ สาระ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เพิ่มพูนทกั ษะการเคล่ือนไหว เร่ือง การเคล่ือนไหวอยู่กับทแี่ บบมีอปุ กรณ์

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐานที่ พ 3.1
เข้าใจ มที ักษะในการเคล่อื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา
ตวั ช้ีวัดที่ ป. 3/1
ควบคุมการเคล่อื นไหวรา่ งกายขณะอยกู่ ับที่ เคล่ือนท่ี และใชอ้ ุปกรณป์ ระกอบอย่างมี
ทิศทาง

2. สาระสำคัญ

การเคลอ่ื นไหวอยกู่ ับท่ีแบบมอี ปุ กรณ์ (เป็นการฝกึ การเคล่อื นไหวร่างกายอยู่กบั ท่ี) คือ การเคล่ือนไหวรา่ งกายแบบอยูก่ บั
ทแี่ บบมีอปุ กรณ์ เปน็ ทกั ษะพื้นฐานในการฝึกการเคลอ่ื นไหวร่างกาย เปน็ การสรา้ งความค้นุ เคยความมน่ั ใจในการฝึกการเคล่ือนไหว
และเปน็ การควบคุมความสมั พนั ธ์ระหวา่ งร่างกายกบั สมองได้เปน็ อย่างดี

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธบิ ายลกั ษณะและความสำคัญของการเคลอื่ นไหวอยู่กับทแี่ บบมีอปุ กรณ์ อย่างถูกต้องได้ (K)
2. ตระหนักถึงความสำคัญของการเคลื่อนไหวอยู่กบั ที่แบบมีอุปกรณ์ (A)
3. แสดงทกั ษะในการเคลื่อนไหวอยู่กบั ทแี่ บบมีอุปกรณ์อยา่ งถูกต้องได้ (P)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ

1.ประวตั ิความเปน็ มาและทักษะการเคลือ่ นไหวอยู่กับ พิจารณาตามหลกั สูตรขอองสถานศึกษา

ที่แบบมีอุปกรณ์

-ทกั ษะเบ้ืองต้นของการเคลอื่ นไหวอยกู่ บั ทีแ่ บบมี

อปุ กรณ์

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี 1

ขนั้ เตรียมก่อนนำเข้าสูบ่ ทเรียน
1. ครูและนกั เรียนรว่ มพูดคยุ ตกลงเก่ียวกบั แนวทางปฏิบัติรว่ มกันในการเข้ารว่ มเรยี นรู้
กิจกรรมพลศกึ ษาในประเด็นตา่ ง ๆ เช่น
– ความเป็นระเบยี บเรยี บร้อยในการแตง่ กาย
– ความตรงต่อเวลาหรือการปฏบิ ตั ติ นระหว่างการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม

ขัน้ ที่ 1 นำเขา้ สู่บทเรียน
1.ครใู หน้ กั เรียนจดั แถวตอน 4 แถวแลว้ น่งั ลง
2.ครูตรวจความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ยในการแต่งกายและตรวจสุขภาพ
3.ครูนำนักเรยี นออกกายบริหาร

ขั้นที่ 2 กิจกรรมการเรยี นรู้
1.ครูอธบิ ายการเคลอื่ นไหวอยู่กับทีแ่ บบมอี ปุ กรณ์ให้นักเรียน
2.ครูสาธิตการเคล่ือนไหวอยู่กับทแ่ี บบมีอุปกรณ์ให้นักเรียนดู

ข้นั ที่ 3 ฝกึ ฝนทักษะและประสบการณ์
1.ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มๆละ 5 คน แลว้ น่งั ลง
2.ครูใหน้ กั เรียนฝึกการเคล่ือนไหวอยู่กับทแี่ บบมีอปุ กรณ์เป็นกลุ่ม
3.ครใู ห้คำแนะนำการฝกึ ของนกั เรยี นอย่างใกล้ชิด

ข้ันท่ี 4 การนำไปใช้
1.ครูให้นกั เรียนจัดแถวตอน 4 แถวแลว้ น่งั ลง
2.ครแู บง่ ทมี ตามแถวทีน่ กั เรียนนัง่
3.ครูให้นกั เรียนเลน่ เกม”สง่ บอลลอดถำ้ ”เป็นกล่มุ
4.ทมี ไหนสง่ บอลไปถึงดา้ นหลังกอ่ นเป็นผชู้ นะ

ข้นั ท่ี 5 สรุปความรู้
1.ครใู ห้นกั เรียนจัดแถวตอน 4 แถวแล้วนง่ั ลง
2. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปความรทู้ ไี่ ดร้ บั จากการศึกษาและการปฏิบตั ิกจิ กรรมร่วมกัน
3.ครูนำนกั เรียนทป่ี ฏิบตั ิไดถ้ ูกตอ้ งมาสาธติ ให้เพ่ือนดู
4.ครกู ล่าวชมเชยนกั เรียนทท่ี ำได้และใหค้ ำแนะนำสำหรับนักเรียนที่ยังทำไม่ได้
5.ครูใหน้ กั เรียนล้างมือล้างหน้าและนัดหมายคาบต่อไป

6. การวัดและประเมินผล วิธีการวัดผล เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ ารประเมินผล
- ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ -กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ขนึ้ ไป ถือว่าผา่ น
การวัดและประเมินผลจดุ ประสงค์ -ตรวจแบบฝึกหัด -แบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมนิ
ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) -สังเกตพฤติกรรม การทำงาน - แบบประเมนิ ทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถือว่าผ่าน
รายบคุ คล/กลุ่ม และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมิน
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) สุขศกึ ษาและพลศึกษา
1. สงั เกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสงั เกต 80% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผา่ น
คณุ ลักษณะนิสัย (A) รับผดิ ชอบต่องานทีส่ ัง่ และสง่ พฤติกรรม เกณฑ์การประเมนิ
งานได้ทนั ตามที่กำหนด
2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่เรียนรู้
3. สังเกตจากการม่งุ มั่นในการ
ทำงาน

7. สือ่ /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรียนรู้
1. กรวย
2. มารค์ เกอร์
3. ลกู บอล

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
....................................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................................

ลงช่อื .................................................ผ้สู อนลง ชอื่ ...............................................ฝา่ ยวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงชื่อ...........................................ผอู้ ำนวยการ
(.................................................................)

สัปดาหท์ ่ี 2

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี 2 / ………. ชอื่ ผูส้ อน นายซลุ กฟิ ลี ดือราโอะ

กลุ่มสาระ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้ัน ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 จำนวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เพิ่มพูนทกั ษะการเคล่ือนไหว เร่ือง การเคล่ือนไหวอยู่กับทแี่ บบมีอปุ กรณ์

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐานที่ พ 3.1
เข้าใจ มที ักษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา
ตัวช้ีวัดท่ี ป. 3/1
ควบคุมการเคลือ่ นไหวร่างกายขณะอยกู่ ับที่ เคล่ือนท่ี และใชอ้ ุปกรณป์ ระกอบอย่างมี
ทิศทาง

2. สาระสำคัญ

การเคลอ่ื นไหวอย่กู บั ท่ีแบบมอี ปุ กรณ์ (เป็นการฝกึ การเคล่อื นไหวร่างกายอยู่กบั ที่) คือ การเคล่ือนไหวรา่ งกายแบบอยูก่ บั
ทแี่ บบมีอุปกรณ์ เป็นทกั ษะพื้นฐานในการฝึกการเคลอ่ื นไหวร่างกาย เปน็ การสรา้ งความคุ้นเคยความมน่ั ใจในการฝึกการเคล่ือนไหว
และเป็นการควบคมุ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งร่างกายกบั สมองได้เปน็ อย่างดี

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธบิ ายลักษณะและความสำคัญของการเคลอื่ นไหวอยู่กับทแี่ บบมีอุปกรณ์อยา่ งถูกต้องได้ (K)
2. ตระหนักถงึ ความสำคญั ของการเคลื่อนไหวอยู่กบั ท่ีแบบมีอุปกรณ์ (A)
3. แสดงทกั ษะในการเคล่ือนไหวอยู่กบั ทแี่ บบมีอุปกรณ์อยา่ งถูกต้องได้ (P)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่นิ

1.ประวตั คิ วามเปน็ มาและทักษะการเคลือ่ นไหวอยู่กับ พิจารณาตามหลกั สูตรขอองสถานศึกษา

ทีแ่ บบมีอุปกรณ์

-ทักษะเบ้อื งต้นของการเคลื่อนไหวอยกู่ บั ทีแ่ บบมี

อปุ กรณ์

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี 2

ขนั้ เตรียมก่อนนำเข้าสูบ่ ทเรียน
1. ครูและนกั เรียนรว่ มพูดคยุ ตกลงเก่ียวกบั แนวทางปฏิบัติรว่ มกันในการเข้ารว่ มเรยี นรู้
กิจกรรมพลศกึ ษาในประเด็นตา่ ง ๆ เช่น
– ความเป็นระเบยี บเรยี บร้อยในการแตง่ กาย
– ความตรงต่อเวลาหรือการปฏบิ ตั ติ นระหว่างการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม

ขัน้ ที่ 1 นำเขา้ สู่บทเรียน
3.ครใู หน้ กั เรียนจดั แถวตอน 4 แถวแลว้ น่งั ลง
4.ครูตรวจความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ยในการแต่งกายและตรวจสุขภาพ
3.ครูนำนักเรยี นออกกายบริหาร

ขั้นที่ 2 กิจกรรมการเรยี นรู้
1.ครูอธบิ ายการเคลอื่ นไหวอยู่กับทีแ่ บบมอี ปุ กรณ์ให้นักเรียน
2.ครูสาธิตการเคล่ือนไหวอยู่กับทแ่ี บบมีอุปกรณ์ให้นักเรียนดู

ข้นั ที่ 3 ฝกึ ฝนทักษะและประสบการณ์
1.ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มๆละ 5 คน แลว้ น่งั ลง
2.ครูใหน้ กั เรียนฝึกการเคล่ือนไหวอยู่กับทแี่ บบมีอปุ กรณ์เป็นกลุ่ม
3.ครใู ห้คำแนะนำการฝกึ ของนกั เรยี นอย่างใกล้ชิด

ข้ันท่ี 4 การนำไปใช้
1.ครูให้นกั เรียนจัดแถวตอน 4 แถวแลว้ น่งั ลง
2.ครแู บง่ ทมี ตามแถวทีน่ กั เรียนนัง่
3.ครูให้นกั เรียนเลน่ เกม”สง่ บอลลอดถำ้ ”เป็นกล่มุ
4.ทมี ไหนสง่ บอลไปถงึ ดา้ นหลังกอ่ นเป็นผชู้ นะ

ข้นั ท่ี 5 สรุปความรู้
1.ครใู ห้นกั เรียนจัดแถวตอน 4 แถวแล้วนง่ั ลง
2. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปความรทู้ ไี่ ดร้ บั จากการศึกษาและการปฏิบตั ิกจิ กรรมร่วมกัน
3.ครูนำนกั เรียนทป่ี ฏบิ ตั ิไดถ้ ูกตอ้ งมาสาธติ ให้เพ่ือนดู
4.ครกู ล่าวชมเชยนกั เรียนทท่ี ำได้และใหค้ ำแนะนำสำหรับนักเรียนที่ยังทำไม่ได้
5.ครูใหน้ กั เรียนล้างมือล้างหน้าและนัดหมายคาบต่อไป

6. การวัดและประเมินผล วิธีการวดั ผล เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ ารประเมินผล
- ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ -กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ขนึ้ ไป ถือว่าผา่ น
การวัดและประเมินผลจดุ ประสงค์ -ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมนิ
ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) -สังเกตพฤติกรรม การทำงาน - แบบประเมนิ ทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถือว่าผ่าน
รายบคุ คล/กล่มุ และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมิน
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) สุขศกึ ษาและพลศึกษา
1. สงั เกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสงั เกต 80% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผา่ น
คณุ ลักษณะนิสัย (A) รับผดิ ชอบต่องานทีส่ ัง่ และสง่ พฤติกรรม เกณฑ์การประเมนิ
งานได้ทนั ตามท่ีกำหนด
2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่เรียนรู้
3. สังเกตจากการม่งุ มั่นในการ
ทำงาน

7. สือ่ /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรียนรู้
1. กรวย
2. มารค์ เกอร์
3. ลกู บอล

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
....................................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................................

ลงช่อื .................................................ผูส้ อนลง ชอื่ ...............................................ฝา่ ยวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงชื่อ...........................................ผอู้ ำนวยการ
(.................................................................)

สัปดาห์ท่ี 3

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี 2 / ………. ชือ่ ผูส้ อน นายซลุ กฟิ ลี ดือราโอะ

กลมุ่ สาระ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้ัน ประถมศกึ ษาปีที่ 3 จำนวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เพ่มิ พนู ทกั ษะการเคลื่อนไหว เร่ือง การเคล่ือนไหวแบบเคล่อื นทไ่ี มม่ อี ุปกรณ์

1. มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐานท่ี พ 3.1
เขา้ ใจ มที ักษะในการเคล่อื นไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา
ตวั ช้ีวัดท่ี ป. 3/1
ควบคมุ การเคลื่อนไหวรา่ งกายขณะอยูก่ ับที่ เคลื่อนท่ี และใชอ้ ุปกรณป์ ระกอบอยา่ งมี
ทศิ ทาง

2. สาระสำคัญ

การเคลอ่ื นไหวแบบเคลือ่ นทีไ่ ม่มอี ปุ กรณ์ คือ การเคลื่อนไหวร่างกายแบบเคลื่อนทด่ี ้วยทา่ ทางต่างๆโดยไม่มีอุปกรณ์
ประกอบ เช่น การฝึกบนั ไดลิง เป็นตน้ เปน็ ทักษะพน้ื ฐานในการฝกึ การเคล่ือนไหวรา่ งกายแบบเคล่อื นท่ีและเป็นการสรา้ ง
ความค้นุ เคยความมน่ั ใจในการฝกึ การเคล่ือนไหวร่างกายได้เป็นอยา่ งดี

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธิบายลกั ษณะและความสำคัญของการเคลื่อนไหวแบบเคลอื่ นที่ไมม่ ีอปุ กรณ์อย่างถูกต้องได้ (K)

2. ตระหนักถึงความสำคัญของการเคลื่อนไหวแบบเคลือ่ นที่ไมม่ ีอุปกรณ์(A)

3. แสดงทักษะในการเคลื่อนไหวแบบเคล่ือนท่ีไม่มีอปุ กรณ์อย่างถูกต้องได้ (P)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่ิน

1.ประวตั คิ วามเปน็ มาและทกั ษะการเคลื่อนไหวแบบ พิจารณาตามหลักสตู รขอองสถานศึกษา

เคลือ่ นท่ีไมม่ ีอปุ กรณ์

-ทักษะเบือ้ งตน้ ของการเคล่อื นไหวแบบเคลอ่ื นที่ไมม่ ี

อปุ กรณ์

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
คาบที่ 3

ขนั้ เตรียมก่อนนำเขา้ ส่บู ทเรียน
1. ครูและนักเรียนรว่ มพูดคยุ ตกลงเกยี่ วกบั แนวทางปฏิบัติร่วมกนั ในการเข้าร่วมเรียนรู้
กิจกรรมพลศึกษาในประเด็นตา่ ง ๆ เชน่
– ความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการแต่งกาย
– ความตรงต่อเวลาหรือการปฏิบัตติ นระหว่างการปฏิบัติกจิ กรรม

ขั้นท่ี 1 นำเข้าสบู่ ทเรยี น
1.ครใู หน้ ักเรยี นจดั แถวตอน 4 แถวแล้วนงั่ ลง
2.ครตู รวจความเป็นระเบียบเรยี บรอ้ ยในการแตง่ กายและตรวจสุขภาพ
3.ครนู ำนกั เรยี นออกกายบริหาร

ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรยี นรู้
1.ครูอธบิ ายการฝึกบนั ไดลงิ ในท่าต่างๆให้นักเรยี นฟัง
2.ครูสาธติ การฝึกบนั ไดลงิ ในท่าต่างๆให้นักเรยี นดู

ขั้นท่ี 3 ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์
1.ครูให้นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ ๆละ 5 คน แล้วนง่ั ลง
2.ครใู หน้ กั เรียนฝึกการฝึกบันไดลิงในทา่ ตา่ งๆเป็นแถวทีละกลมุ่
3.ครใู ห้คำแนะนำการฝึกของนักเรียนอย่างใกลช้ ิด

ขัน้ ท่ี 4 การนำไปใช้
1.ครใู ห้นักเรียนจดั แถวตอน 4 แถวแลว้ น่งั ลง
2.ครแู บ่งทมี ตามแถวทน่ี กั เรยี นน่งั
3.ครูใหน้ ักเรียนเลน่ เกมการฝึกบนั ไดลงิ ในท่าตา่ งๆเปน็ ทีม
4.ทมี ไหนมีผเู้ ลน่ ทำบันไดลิงในท่าท่ีกำหนดเสร็จก่อนเปน็ ผูช้ นะ

ข้นั ท่ี 5 สรุปความรู้
1.ครูให้นักเรยี นจดั แถวตอน 4 แถวแล้วน่งั ลง
2. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปความรทู้ ไ่ี ด้รบั จากการศึกษาและการปฏบิ ัติกิจกรรมรว่ มกัน
3.ครนู ำนักเรยี นทป่ี ฏิบัติไดถ้ ูกต้องมาสาธิตให้เพื่อนดู
4.ครกู ลา่ วชมเชยนกั เรียนทีท่ ำไดแ้ ละให้คำแนะนำสำหรับนักเรยี นท่ยี งั ทำไม่ได้
5.ครใู หน้ ักเรยี นล้างมือล้างหน้าและนดั หมายคาบต่อไป

6. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการวัดผล เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
- ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ -กิจกรรมฝกึ ทักษะ 80% ข้ึนไป ถือว่าผ่าน
การวดั และประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ -ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมนิ
ความรู้ความเข้าใจ (K) -สงั เกตพฤติกรรม การทำงาน - แบบประเมนิ ทักษะ 80% ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ น
รายบุคคล/กลมุ่ และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมนิ
ทักษะ/กระบวนการ (P) สขุ ศึกษาและพลศึกษา
1. สังเกตจากการเรียนมีความ 1. แบบสงั เกต 80% ขึ้นไป ถอื ว่าผา่ น
คุณลกั ษณะนสิ ยั (A) รบั ผดิ ชอบต่องานทสี่ ่ังและสง่ พฤติกรรม เกณฑ์การประเมนิ
งานไดท้ นั ตามที่กำหนด
2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่เรียนรู้
3. สังเกตจากการมงุ่ มน่ั ในการ
ทำงาน

7. ส่ือ/อปุ กรณ์/แหลง่ การเรียนรู้

1. บนั ไดลงิ
2. กรวย
3. มาร์เกอร์

8. กิจกรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................

ลงชื่อ.................................................ผูส้ อน ลงชื่อ...............................................ฝ่ายวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงชอื่ ...........................................ผู้อำนวยการ
(.................................................................)

สัปดาห์ท่ี 4

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี 2 / ………. ชือ่ ผูส้ อน นายซลุ กฟิ ลี ดือราโอะ

กลมุ่ สาระ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้ัน ประถมศกึ ษาปีที่ 3 จำนวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เพ่มิ พนู ทกั ษะการเคลื่อนไหว เร่ือง การเคล่ือนไหวแบบเคล่อื นทไ่ี มม่ อี ุปกรณ์

1. มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐานท่ี พ 3.1
เขา้ ใจ มที ักษะในการเคล่อื นไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา
ตวั ช้ีวัดท่ี ป. 3/1
ควบคมุ การเคลื่อนไหวรา่ งกายขณะอยูก่ ับที่ เคลื่อนท่ี และใชอ้ ุปกรณป์ ระกอบอยา่ งมี
ทศิ ทาง

2. สาระสำคัญ

การเคลอ่ื นไหวแบบเคลือ่ นทีไ่ ม่มอี ปุ กรณ์ คือ การเคลื่อนไหวร่างกายแบบเคลื่อนทด่ี ้วยทา่ ทางต่างๆโดยไม่มีอุปกรณ์
ประกอบ เช่น การฝึกบนั ไดลิง เป็นตน้ เปน็ ทักษะพน้ื ฐานในการฝกึ การเคล่ือนไหวรา่ งกายแบบเคล่อื นท่ีและเป็นการสรา้ ง
ความค้นุ เคยความมน่ั ใจในการฝกึ การเคล่ือนไหวรา่ งกายได้เป็นอยา่ งดี

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธิบายลกั ษณะและความสำคัญของการเคลื่อนไหวแบบเคลอื่ นที่ไมม่ ีอปุ กรณ์อย่างถูกต้องได้ (K)

2. ตระหนักถึงความสำคัญของการเคลื่อนไหวแบบเคลือ่ นที่ไมม่ ีอุปกรณ์(A)

3. แสดงทักษะในการเคลื่อนไหวแบบเคล่ือนท่ีไม่มีอปุ กรณ์อย่างถูกต้องได้ (P)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่ิน

1.ประวตั คิ วามเปน็ มาและทกั ษะการเคลื่อนไหวแบบ พิจารณาตามหลักสตู รขอองสถานศึกษา

เคลือ่ นท่ีไมม่ ีอปุ กรณ์

-ทักษะเบือ้ งตน้ ของการเคล่อื นไหวแบบเคลอ่ื นที่ไมม่ ี

อปุ กรณ์

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
คาบที่ 4

ขนั้ เตรียมก่อนนำเขา้ ส่บู ทเรียน
1. ครูและนักเรียนรว่ มพูดคยุ ตกลงเกยี่ วกบั แนวทางปฏิบัติร่วมกนั ในการเข้าร่วมเรียนรู้
กิจกรรมพลศึกษาในประเด็นตา่ ง ๆ เชน่
– ความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการแต่งกาย
– ความตรงต่อเวลาหรือการปฏิบัตติ นระหว่างการปฏิบัติกจิ กรรม

ขั้นท่ี 1 นำเข้าสบู่ ทเรยี น
3.ครใู หน้ ักเรยี นจดั แถวตอน 4 แถวแล้วนงั่ ลง
4.ครตู รวจความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ยในการแตง่ กายและตรวจสุขภาพ
3.ครนู ำนกั เรยี นออกกายบริหาร

ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรยี นรู้
1.ครูอธบิ ายการฝึกบนั ไดลงิ ในท่าต่างๆให้นักเรยี นฟัง
2.ครูสาธติ การฝึกบนั ไดลงิ ในท่าต่างๆให้นักเรยี นดู

ขั้นท่ี 3 ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์
1.ครูให้นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ ๆละ 5 คน แล้วนง่ั ลง
2.ครใู หน้ กั เรียนฝึกการฝึกบนั ไดลิงในทา่ ตา่ งๆเป็นแถวทีละกลมุ่
3.ครใู ห้คำแนะนำการฝึกของนักเรียนอย่างใกลช้ ิด

ขัน้ ท่ี 4 การนำไปใช้
1.ครใู ห้นักเรียนจดั แถวตอน 4 แถวแลว้ น่งั ลง
2.ครแู บ่งทมี ตามแถวทน่ี กั เรียนน่งั
3.ครูใหน้ ักเรียนเลน่ เกมการฝึกบนั ไดลงิ ในท่าตา่ งๆเปน็ ทีม
4.ทมี ไหนมีผเู้ ลน่ ทำบันไดลงิ ในท่าท่ีกำหนดเสร็จก่อนเปน็ ผูช้ นะ

ข้นั ท่ี 5 สรุปความรู้
1.ครูให้นักเรยี นจดั แถวตอน 4 แถวแล้วน่งั ลง
2. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ความรทู้ ไ่ี ด้รบั จากการศึกษาและการปฏบิ ัติกิจกรรมรว่ มกัน
3.ครนู ำนักเรยี นทป่ี ฏิบัติไดถ้ ูกต้องมาสาธิตให้เพื่อนดู
4.ครกู ลา่ วชมเชยนกั เรียนทท่ี ำไดแ้ ละให้คำแนะนำสำหรับนักเรยี นท่ยี งั ทำไม่ได้
5.ครใู หน้ ักเรยี นล้างมือล้างหน้าและนดั หมายคาบต่อไป

6. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการวัดผล เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
- ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ -กิจกรรมฝกึ ทักษะ 80% ข้ึนไป ถือว่าผ่าน
การวดั และประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ -ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมนิ
ความรู้ความเข้าใจ (K) -สงั เกตพฤติกรรม การทำงาน - แบบประเมนิ ทักษะ 80% ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ น
รายบุคคล/กลมุ่ และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมนิ
ทักษะ/กระบวนการ (P) สขุ ศึกษาและพลศึกษา
1. สังเกตจากการเรียนมีความ 1. แบบสงั เกต 80% ขึ้นไป ถอื ว่าผา่ น
คุณลกั ษณะนสิ ยั (A) รบั ผดิ ชอบต่องานทสี่ ่ังและสง่ พฤติกรรม เกณฑ์การประเมนิ
งานไดท้ นั ตามที่กำหนด
2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่เรียนรู้
3. สังเกตจากการมงุ่ มน่ั ในการ
ทำงาน

7. ส่ือ/อปุ กรณ์/แหลง่ การเรียนรู้

1. บนั ไดลงิ
2. กรวย
3. มาร์เกอร์

8. กิจกรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................

ลงชื่อ.................................................ผูส้ อน ลงชื่อ...............................................ฝ่ายวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงชอื่ ...........................................ผู้อำนวยการ
(.................................................................)

สปั ดาหท์ ่ี 5

โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ 2 / ………. ชอื่ ผูส้ อน นายซลุ กิฟลี ดอื ราโอะ
กลมุ่ สาระ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 จำนวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เพิม่ พนู ทกั ษะการเคลอื่ นไหว เรือ่ ง การเคล่อื นไหวแบบเคลื่อนที่มีอปุ กรณ์

1. มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐานท่ี พ 3.1
เขา้ ใจ มที ักษะในการเคล่อื นไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา
ตวั ช้ีวัดที่ ป. 3/1
ควบคุมการเคลอื่ นไหวรา่ งกายขณะอยูก่ ับท่ี เคลื่อนที่ และใชอ้ ปุ กรณป์ ระกอบอย่างมี
ทศิ ทาง

2. สาระสำคญั

การเคล่ือนไหวแบบเคล่ือนที่มีอุปกรณ์ คอื การเคลื่อนไหวร่างกายแบบเคลอ่ื นที่มีอุปกรณ์ประกอบ เป็นการฝึกความสมั พนั ธ์
ระหวา่ งรา่ งกายกบั ระบบประสาทและเปน็ การสร้างความมั่นใจในการฝกึ เคลอ่ื นไหว

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. อธบิ ายการเคล่ือนไหวแบบเคล่อื นท่ีมอี ุปกรณ์อย่างถูกต้องได้ (K)
2. สนใจเข้าร่วมปฏบิ ัติกิจกรรมการเรยี นรเู้ กีย่ วกบั การเคล่ือนไหวแบบเคล่ือนท่ีมีอปุ กรณ์ดว้ ยความสนใจ (A)
3. สามารถแสดงวธิ กี ารใช้ทักษะกระบวนการเคลื่อนไหวแบบเคล่ือนที่มีอปุ กรณ์อยา่ งถูกต้องได้ (P)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ
พจิ ารณาตามหลกั สูตรขอองสถานศึกษา
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1.ประวัตคิ วามเปน็ มาและทักษะการเคลอื่ นไหวแบบ
เคล่ือนท่ีมีอุปกรณ์
-ทักษะเบือ้ งตน้ ของการเคล่ือนไหวแบบเคลือ่ นทม่ี ี
อุปกรณ์

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบท่ี 5

ขั้นที่ 1 นำ เขา้ สบู่ ทเรียน
1.ครูให้นกั เรยี นจัดแถวตอน 4 แถวแล้วนั่งลง
2.ครตู รวจความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อยในการแต่งกายและตรวจสุขภาพ
3.นกั เรยี นอาสาสมัครนำเพื่อนในชั้นเรียนอบอ่นุ รา่ งกาย(warm-up)เพ่ือเตรียมความพร้อมในการปฏบิ ัติกิจกรรม
4.ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันพูดคยุ เพื่อทบทวนความรู้และความเข้าใจเก่ียวกับการศกึ ษา

ในคาบเรียนทีผ่ า่ นมา

ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้
1.ครูอธิบายการเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนท่ีมอี ุปกรณ์ให้นักเรียนฟงั
2.ครูสาธิตการเคล่ือนไหวแบบเคลือ่ นท่ีมอี ุปกรณ์ให้นักเรียนดู

ขั้นท่ี 3 ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์
1.ครูใหน้ ักเรยี นแบง่ กลมุ่ ๆละ 5 คน แลว้ นั่งลง
2.ครใู ห้นักเรยี นฝกึ การเคลื่อนไหวแบบเคลือ่ นที่มีอุปกรณ์เป็นแถวทีละกลุม่
3.ครใู ห้คำแนะนำการฝกึ ของนกั เรยี นอย่างใกล้ชดิ

ข้ันที่ 4 การนำไปใช้
1.ครูใหน้ กั เรยี นจัดแถวตอน 4 แถวแล้วนัง่ ลง
2.ครแู บ่งทมี ตามแถวทน่ี กั เรียนน่งั
3.ให้แต่ละทมี สง่ ตัวแทนมาทีมละ 4 คน
3.ครใู ห้นกั เรยี นเล่นเกมการวงิ่ เก็บของ
4.ทมี ไหนเก็บไดเ้ ยอะก็จะเป็นผู้ชนะ

ขน้ั ท่ี 5 สรุปความรู้
1.ครูใหน้ กั เรยี นจดั แถวตอน 4 แถวแลว้ นั่งลง
2. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ ความรู้ทีไ่ ดร้ บั จากการศึกษาและการปฏบิ ตั ิกิจกรรมรว่ มกัน
3.ครนู ำนักเรียนท่ีปฏบิ ตั ิได้ถูกตอ้ งมาสาธิตใหเ้ พ่ือนดู
4.ครูกล่าวชมเชยนักเรียนทที่ ำไดแ้ ละให้คำแนะนำสำหรับนักเรียนที่ยงั ทำไม่ได้
5.ครใู หน้ กั เรยี นล้างมือล้างหน้าและนัดหมายคาบต่อไป

6. การวดั และประเมนิ ผล วิธกี ารวดั ผล เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การประเมินผล
- ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ -กิจกรรมฝกึ ทักษะ 80% ข้ึนไป ถอื ว่าผา่ น
การวดั และประเมินผลจดุ ประสงค์ -ตรวจแบบฝกึ หัด -แบบฝกึ หัด เกณฑ์การประเมนิ
ความรู้ความเข้าใจ (K) -สังเกตพฤติกรรม การทำงาน - แบบประเมนิ ทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผา่ น
รายบุคคล/กล่มุ และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมนิ
ทักษะ/กระบวนการ (P) สขุ ศึกษาและพลศึกษา
1. สังเกตจากการเรียนมีความ 1. แบบสงั เกต 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่าน
คุณลักษณะนิสยั (A) รับผดิ ชอบตอ่ งานทีส่ ง่ั และส่ง พฤติกรรม เกณฑ์การประเมนิ
งานไดท้ ันตามที่กำหนด
2. สังเกตจากการเรยี นใฝเ่ รียนรู้
3. สังเกตจากการมงุ่ มนั่ ในการ
ทำงาน

7. สอ่ื /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้

1. กรวย
2. มาร์เกอร์

8. กิจกรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................

ลงช่ือ.................................................ผ้สู อน ลงชอ่ื ...............................................ฝา่ ยวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงชอ่ื ...........................................ผอู้ ำนวยการ
(.................................................................)

สปั ดาหท์ ่ี 6

โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ 2 / ………. ชอื่ ผูส้ อน นายซลุ กิฟลี ดอื ราโอะ
กลมุ่ สาระ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 จำนวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เพิม่ พนู ทกั ษะการเคลอื่ นไหว เรือ่ ง การเคล่อื นไหวแบบเคลื่อนที่มีอปุ กรณ์

1. มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐานท่ี พ 3.1
เขา้ ใจ มที ักษะในการเคล่อื นไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา
ตวั ช้ีวัดที่ ป. 3/1
ควบคุมการเคลอื่ นไหวรา่ งกายขณะอยูก่ ับท่ี เคลื่อนที่ และใชอ้ ปุ กรณป์ ระกอบอย่างมี
ทศิ ทาง

2. สาระสำคญั

การเคล่ือนไหวแบบเคล่ือนที่มีอุปกรณ์ คอื การเคลื่อนไหวร่างกายแบบเคลอ่ื นที่มีอุปกรณ์ประกอบ เป็นการฝึกความสมั พนั ธ์
ระหวา่ งรา่ งกายกบั ระบบประสาทและเปน็ การสร้างความมั่นใจในการฝกึ เคลอ่ื นไหว

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. อธบิ ายการเคล่ือนไหวแบบเคล่อื นท่ีมอี ุปกรณ์อย่างถูกต้องได้ (K)
2. สนใจเข้าร่วมปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการเรยี นรเู้ กีย่ วกบั การเคล่ือนไหวแบบเคล่ือนท่ีมีอปุ กรณ์ดว้ ยความสนใจ (A)
3. สามารถแสดงวธิ กี ารใช้ทักษะกระบวนการเคลื่อนไหวแบบเคล่ือนที่มีอปุ กรณ์อยา่ งถูกต้องได้ (P)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ
พจิ ารณาตามหลกั สูตรขอองสถานศึกษา
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1.ประวตั คิ วามเปน็ มาและทักษะการเคลอื่ นไหวแบบ
เคล่ือนท่ีมีอุปกรณ์
-ทักษะเบือ้ งตน้ ของการเคล่ือนไหวแบบเคลือ่ นทม่ี ี
อุปกรณ์

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบท่ี 6

ขั้นที่ 1 นำ เขา้ สบู่ ทเรียน
1.ครูให้นกั เรยี นจัดแถวตอน 4 แถวแล้วนั่งลง
2.ครตู รวจความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อยในการแต่งกายและตรวจสุขภาพ
3.นกั เรยี นอาสาสมัครนำเพื่อนในชั้นเรียนอบอ่นุ รา่ งกาย(warm-up)เพ่ือเตรียมความพร้อมในการปฏบิ ัติกิจกรรม
4.ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันพูดคยุ เพื่อทบทวนความรู้และความเข้าใจเก่ียวกับการศกึ ษา

ในคาบเรียนทีผ่ า่ นมา

ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้
1.ครูอธิบายการเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนท่ีมอี ุปกรณ์ให้นักเรียนฟงั
2.ครูสาธิตการเคล่ือนไหวแบบเคลือ่ นท่ีมอี ุปกรณ์ให้นักเรียนดู

ขั้นท่ี 3 ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์
1.ครูใหน้ ักเรยี นแบง่ กลมุ่ ๆละ 5 คน แลว้ นั่งลง
2.ครใู ห้นักเรยี นฝกึ การเคลื่อนไหวแบบเคลือ่ นที่มีอุปกรณ์เป็นแถวทีละกลุม่
3.ครใู ห้คำแนะนำการฝกึ ของนกั เรยี นอย่างใกล้ชดิ

ข้ันที่ 4 การนำไปใช้
1.ครูใหน้ กั เรยี นจัดแถวตอน 4 แถวแล้วนัง่ ลง
2.ครแู บ่งทมี ตามแถวทน่ี กั เรียนน่งั
3.ให้แต่ละทมี สง่ ตัวแทนมาทีมละ 4 คน
3.ครใู ห้นกั เรยี นเล่นเกมการวงิ่ เก็บของ
4.ทมี ไหนเก็บไดเ้ ยอะก็จะเป็นผู้ชนะ

ขน้ั ท่ี 5 สรุปความรู้
1.ครูใหน้ กั เรยี นจดั แถวตอน 4 แถวแลว้ นั่งลง
2. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ ความรู้ทีไ่ ดร้ บั จากการศึกษาและการปฏบิ ตั ิกิจกรรมรว่ มกัน
3.ครนู ำนักเรียนท่ีปฏบิ ตั ิได้ถูกตอ้ งมาสาธิตใหเ้ พ่ือนดู
4.ครูกล่าวชมเชยนักเรียนทที่ ำไดแ้ ละให้คำแนะนำสำหรับนักเรียนที่ยงั ทำไม่ได้
5.ครใู หน้ กั เรยี นล้างมือล้างหน้าและนัดหมายคาบต่อไป

6. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ารวัดผล เครอื่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ ผล
- ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ -กจิ กรรมฝกึ ทักษะ 80% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผ่าน
การวัดและประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ -ตรวจแบบฝกึ หัด -แบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมิน
ความร้คู วามเขา้ ใจ (K) -สงั เกตพฤตกิ รรม การทำงาน - แบบประเมินทักษะ 80% ขึน้ ไป ถอื วา่ ผา่ น
รายบุคคล/กลุ่ม และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมิน
ทักษะ/กระบวนการ (P) สขุ ศึกษาและพลศึกษา
1. สงั เกตจากการเรียนมีความ 1. แบบสงั เกต 80% ขนึ้ ไป ถอื ว่าผ่าน
คุณลักษณะนสิ ยั (A) รบั ผดิ ชอบตอ่ งานที่สง่ั และสง่ พฤติกรรม เกณฑ์การประเมิน
งานไดท้ นั ตามท่ีกำหนด
2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่เรยี นรู้
3. สังเกตจากการมงุ่ ม่นั ในการ
ทำงาน

7. ส่อื /อปุ กรณ์/แหล่งการเรยี นรู้

1. กรวย
2. มารเ์ กอร์

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................

ลงชือ่ .................................................ผ้สู อน ลงชื่อ...............................................ฝ่ายวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงช่ือ...........................................ผ้อู ำนวยการ
(.................................................................)

สัปดาห์ที่ 7

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนที่ 2 / ………… ชือ่ ผูส้ อน นายซลุ กิฟลี ดอื ราโอะ

กลมุ่ สาระ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 จำนวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เพ่ิมพูนทกั ษะการเคล่ือนไหว เรือ่ ง การเล่มเกมขีม่ า้ ทรงเมอื ง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐานท่ี พ 3.1
เข้าใจ มที ักษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา
ตวั ชี้วดั ที่ ป. 3/2
เคลอ่ื นไหวร่างกายที่ใช้ทกั ษะการเคลอ่ื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทางในการเลน่ เกมเบ็ดเตล็ด

2. สาระสำคัญ

การเลม่ เกมขีม่ ้าทรงเมือง คือ การเคล่ือนไหวรา่ งกายแบบเคลือ่ นที่เป็นคู่ เป็นการฝกึ การเคลอ่ื นไหวกับผู้อน่ื และเป็นการฝึก
การเป็นผู้นำผตู้ ามท่ีดี และเพ่ือสร้างความสนุกสนานใหก้ ับนักเรียน

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. อธิบายคณุ ค่าของการเลม่ เกมข่ีมา้ ทรงเมืองอยา่ งถกู ต้องได้ (K)
2. เข้ารว่ มปฏิบตั กิ จิ กรรมการเรยี นรเู้ กย่ี วกับคุณค่าของการเลม่ เกมข่ีม้าทรงเมอื ง

ด้วยความสนใจ (A)
3. สามารถใช้ทกั ษะกระบวนการในการเล่มเกมขีม่ า้ ทรงเมืองอย่างเหมาะสมได้ (P)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น
สาระการเรียนร้แู กนกลาง พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา

1.ประวัตคิ วามเป็นมาและทกั ษะการเลม่ เกมขม่ี ้าทรง
เมือง
-ทกั ษะเบอื้ งตน้ ของการเล่มเกมขม่ี ้าทรงเมือง

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่ 7

ขั้นที่ 1 นำเขา้ สู่บทเรียน
1.ครูใหน้ ักเรียนจดั แถวตอน 4 แถวแลว้ นัง่ ลง
2.ครตู รวจความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อยในการแตง่ กายและตรวจสุขภาพ
3.นักเรยี นอาสาสมัครนำเพ่ือนในชั้นเรยี นอบอนุ่ ร่างกาย (warm-up) เพอ่ื เตรียม

ความพร้อมในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
4.ครูและนกั เรียนรว่ มกนั พดู คุยเพื่อทบทวนความร้แู ละความเข้าใจเกยี่ วกับการศึกษา

ในคาบเรียนทีผ่ า่ นมา

ขน้ั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้
1.ครอู ธบิ ายการเล่มเกมข่ีมา้ ทรงเมืองใหน้ ักเรียนฟัง
2.ครสู าธติ การเลม่ เกมขม่ี ้าทรงเมืองให้นักเรียนดู

ขนั้ ที่ 3 ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์
1.ครใู หน้ ักเรียนจบั คู่ 2 คน แลว้ นั่งลง
2.ครใู ห้นกั เรยี นฝกึ การเลม่ เกมขมี่ ้าทรงเมืองเป็นคู่
3.ครูให้คำแนะนำการฝึกของนกั เรียนอยา่ งใกลช้ ิด

ข้นั ที่ 4 การนำไปใช้
1.ครูใหน้ กั เรยี นจัดแถวตอน 4 แถวแล้วน่งั ลง
2.ครูแบง่ ทมี ตามแถวทีน่ กั เรยี นนั่ง
3.ใหแ้ ตล่ ะทีมส่งตัวแทนมาทีมละ 2 คน
3.ครูให้นักเรียนเลน่ เกมขี่มา้ ทรงเมืองเป็นทีมๆละ2คน
4.ทีมไหนวิ่งถงึ เสน้ ชยั ก่อนเปน็ ผ้ชู นะ
5.ครูให้นักเรยี นสลับกันลงมาเลน่ เรอ่ื ยๆ

ขนั้ ที่ 5 สรุปความรู้
1.ครใู ห้นักเรยี นจัดแถวตอน 4 แถวแลว้ นั่งลง
2. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้ทไ่ี ด้รบั จากการศึกษาและการปฏิบัติกจิ กรรมร่วมกัน
3.ครนู ำนกั เรยี นที่ปฏิบตั ิไดถ้ ูกต้องมาสาธติ ใหเ้ พื่อนดู
4.ครูกล่าวชมเชยนกั เรียนที่ทำไดแ้ ละใหค้ ำแนะนำสำหรับนักเรียนทยี่ งั ทำไม่ได้
5.ครใู ห้นกั เรยี นลา้ งมือล้างหน้าและนดั หมายคาบต่อไป

6. การวดั และประเมินผล วิธีการวัดผล เครือ่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมินผล

การวัดและประเมินผลจุดประสงค์ - ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ -กจิ กรรมฝึกทกั ษะ 80% ขึ้นไป ถอื ว่า
-ตรวจแบบฝกึ หดั -แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑ์การ
ความรู้ความเข้าใจ (K) ประเมิน
-สังเกตพฤติกรรม การ - แบบประเมิน 80% ข้นึ ไป ถอื ว่า
ทักษะ/กระบวนการ (P) ทำงานรายบคุ คล/กลุ่ม ทกั ษะและ ผ่านเกณฑก์ าร
กระบวนการทางสุข ประเมิน
คุณลกั ษณะนิสัย (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมี ศึกษาและพลศึกษา
ความรบั ผิดชอบต่องานทีส่ ่ัง 1. แบบสังเกต 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
และสง่ งานไดท้ นั ตามท่ี พฤตกิ รรม ผ่านเกณฑก์ าร
กำหนด ประเมิน
2. สังเกตจากการเรยี นใฝ่
เรยี นรู้
3. สงั เกตจากการมงุ่ มั่นใน
การทำงาน

7. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

1. กรวย
2. ภาพแสดงการเลน่ เกมข่ีมา้ ทรงเมอื ง
3. มารค์ เกอร์

8. กิจกรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

ลงชือ่ .................................................ผู้สอน ลงชื่อ...............................................ฝ่ายวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงชอ่ื ...........................................ผ้อู ำนวยการ
(.................................................................)

สัปดาห์ที่ 8

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนที่ 2 / ………… ชือ่ ผูส้ อน นายซลุ กิฟลี ดอื ราโอะ

กลมุ่ สาระ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 จำนวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เพม่ิ พูนทกั ษะการเคล่ือนไหว เรือ่ ง การเล่มเกมขีม่ า้ ทรงเมอื ง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐานท่ี พ 3.1
เข้าใจ มที ักษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา
ตวั ชี้วดั ที่ ป. 3/2
เคลอ่ื นไหวร่างกายที่ใช้ทกั ษะการเคลือ่ นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทางในการเลน่ เกมเบ็ดเตล็ด

2. สาระสำคัญ

การเลม่ เกมขีม่ ้าทรงเมือง คือ การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายแบบเคลือ่ นที่เป็นคู่ เป็นการฝกึ การเคลอ่ื นไหวกับผู้อน่ื และเป็นการฝึก
การเป็นผู้นำผตู้ ามท่ีดี และเพ่ือสร้างความสนุกสนานใหก้ บั นักเรียน

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. อธิบายคณุ ค่าของการเล่มเกมข่ีม้าทรงเมืองอย่างถกู ต้องได้ (K)
2. เข้ารว่ มปฏิบตั กิ จิ กรรมการเรียนรเู้ ก่ยี วกับคุณค่าของการเลม่ เกมข่ีม้าทรงเมอื ง

ด้วยความสนใจ (A)
3. สามารถใช้ทกั ษะกระบวนการในการเล่มเกมขีม่ า้ ทรงเมืองอย่างเหมาะสมได้ (P)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา

1.ประวัตคิ วามเป็นมาและทกั ษะการเลม่ เกมขี่ม้าทรง
เมือง
-ทกั ษะเบอื้ งตน้ ของการเล่มเกมข่มี า้ ทรงเมือง

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่ 8

ขั้นที่ 1 นำเขา้ สู่บทเรียน
1.ครูใหน้ ักเรียนจดั แถวตอน 4 แถวแลว้ นัง่ ลง
2.ครตู รวจความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อยในการแตง่ กายและตรวจสุขภาพ
3.นักเรยี นอาสาสมัครนำเพ่ือนในชัน้ เรยี นอบอนุ่ ร่างกาย (warm-up) เพอ่ื เตรียม

ความพร้อมในการปฏิบตั กิ ิจกรรม
4.ครูและนกั เรียนรว่ มกนั พดู คุยเพื่อทบทวนความร้แู ละความเข้าใจเกยี่ วกับการศึกษา

ในคาบเรียนทีผ่ า่ นมา

ขน้ั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้
1.ครอู ธบิ ายการเล่มเกมข่ีมา้ ทรงเมืองใหน้ ักเรียนฟัง
2.ครสู าธติ การเลม่ เกมขม่ี ้าทรงเมืองให้นักเรียนดู

ขนั้ ที่ 3 ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์
1.ครใู หน้ ักเรียนจบั คู่ 2 คน แล้วนั่งลง
2.ครใู ห้นกั เรยี นฝกึ การเลม่ เกมขีม่ ้าทรงเมืองเป็นคู่
3.ครูให้คำแนะนำการฝึกของนกั เรียนอยา่ งใกลช้ ิด

ข้นั ที่ 4 การนำไปใช้
1.ครูใหน้ กั เรยี นจัดแถวตอน 4 แถวแล้วน่งั ลง
2.ครูแบง่ ทมี ตามแถวทีน่ กั เรยี นนงั่
3.ใหแ้ ตล่ ะทีมส่งตัวแทนมาทีมละ 2 คน
3.ครูให้นักเรียนเลน่ เกมขี่มา้ ทรงเมืองเป็นทีมๆละ2คน
4.ทีมไหนวิ่งถงึ เสน้ ชยั ก่อนเปน็ ผชู้ นะ
5.ครูให้นักเรยี นสลับกันลงมาเล่นเรอ่ื ยๆ

ขนั้ ที่ 5 สรุปความรู้
1.ครใู ห้นักเรยี นจัดแถวตอน 4 แถวแลว้ นั่งลง
2. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้ทไ่ี ด้รบั จากการศึกษาและการปฏิบัติกจิ กรรมร่วมกัน
3.ครนู ำนกั เรยี นที่ปฏิบตั ิไดถ้ ูกตอ้ งมาสาธติ ใหเ้ พื่อนดู
4.ครูกล่าวชมเชยนกั เรียนท่ีทำไดแ้ ละใหค้ ำแนะนำสำหรับนักเรียนทยี่ งั ทำไม่ได้
5.ครใู ห้นกั เรยี นลา้ งมือล้างหน้าและนดั หมายคาบต่อไป

6. การวดั และประเมนิ ผล วิธีการวดั ผล เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมินผล

การวดั และประเมินผลจุดประสงค์ - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ -กจิ กรรมฝึกทกั ษะ 80% ขึน้ ไป ถอื ว่า
-ตรวจแบบฝึกหัด -แบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑ์การ
ความรูค้ วามเข้าใจ (K) ประเมนิ
-สังเกตพฤติกรรม การ - แบบประเมิน 80% ข้ึนไป ถอื ว่า
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) ทำงานรายบคุ คล/กล่มุ ทกั ษะและ ผา่ นเกณฑ์การ
กระบวนการทางสุข ประเมนิ
คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมี ศกึ ษาและพลศึกษา
ความรับผดิ ชอบตอ่ งานที่ส่ัง 1. แบบสังเกต 80% ขึ้นไป ถือวา่
และส่งงานได้ทนั ตามท่ี พฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์การ
กำหนด ประเมนิ
2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่
เรยี นรู้
3. สงั เกตจากการมุ่งมน่ั ใน
การทำงาน

7. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้

1. กรวย
2. ภาพแสดงการเลน่ เกมขี่มา้ ทรงเมอื ง
3. มารค์ เกอร์

8. กิจกรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ .................................................ผ้สู อน ลงช่อื ...............................................ฝา่ ยวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงช่อื ...........................................ผูอ้ ำนวยการ
(.................................................................)

สัปดาหท์ ่ี 9

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนที่ 2 / ………… ชือ่ ผูส้ อน นายซลุ กิฟลี ดอื ราโอะ

กลมุ่ สาระ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 จำนวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เพ่ิมพูนทกั ษะการเคล่ือนไหว เรือ่ ง การเล่มเกมขีม่ า้ ทรงเมอื ง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐานท่ี พ 3.1
เข้าใจ มที ักษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา
ตวั ชี้วดั ที่ ป. 3/2
เคลอ่ื นไหวร่างกายที่ใช้ทกั ษะการเคลอ่ื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทางในการเลน่ เกมเบ็ดเตล็ด

2. สาระสำคัญ

การเลม่ เกมขีม่ ้าทรงเมือง คือ การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายแบบเคลือ่ นที่เป็นคู่ เป็นการฝกึ การเคลอ่ื นไหวกับผู้อน่ื และเป็นการฝึก
การเป็นผู้นำผตู้ ามท่ีดี และเพ่ือสร้างความสนุกสนานใหก้ ับนักเรียน

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. อธิบายคณุ ค่าของการเลม่ เกมข่ีมา้ ทรงเมืองอยา่ งถกู ต้องได้ (K)
2. เข้ารว่ มปฏิบตั กิ จิ กรรมการเรยี นรเู้ กย่ี วกับคุณค่าของการเลม่ เกมข่ีม้าทรงเมอื ง

ด้วยความสนใจ (A)
3. สามารถใช้ทกั ษะกระบวนการในการเล่มเกมขีม่ า้ ทรงเมืองอย่างเหมาะสมได้ (P)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น
สาระการเรียนร้แู กนกลาง พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา

1.ประวัตคิ วามเป็นมาและทกั ษะการเลม่ เกมขม่ี ้าทรง
เมือง
-ทกั ษะเบอื้ งตน้ ของการเล่มเกมขม่ี ้าทรงเมือง

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่ 9

ขั้นที่ 1 นำเขา้ สู่บทเรียน
1.ครูใหน้ ักเรียนจดั แถวตอน 4 แถวแลว้ นัง่ ลง
2.ครตู รวจความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อยในการแตง่ กายและตรวจสุขภาพ
3.นักเรยี นอาสาสมัครนำเพ่ือนในชัน้ เรยี นอบอนุ่ ร่างกาย (warm-up) เพอ่ื เตรียม

ความพร้อมในการปฏิบตั กิ ิจกรรม
4.ครูและนกั เรียนรว่ มกนั พดู คุยเพื่อทบทวนความร้แู ละความเข้าใจเกยี่ วกับการศึกษา

ในคาบเรียนทีผ่ า่ นมา

ขน้ั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้
1.ครอู ธบิ ายการเล่มเกมข่ีมา้ ทรงเมืองใหน้ ักเรียนฟัง
2.ครสู าธติ การเลม่ เกมขม่ี ้าทรงเมืองให้นักเรียนดู

ขนั้ ที่ 3 ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์
1.ครใู หน้ ักเรียนจบั คู่ 2 คน แล้วนั่งลง
2.ครใู ห้นกั เรยี นฝกึ การเลม่ เกมขีม่ ้าทรงเมืองเป็นคู่
3.ครูให้คำแนะนำการฝึกของนกั เรียนอยา่ งใกลช้ ิด

ข้นั ที่ 4 การนำไปใช้
1.ครูใหน้ กั เรยี นจัดแถวตอน 4 แถวแล้วน่งั ลง
2.ครูแบง่ ทมี ตามแถวทีน่ กั เรยี นนงั่
3.ใหแ้ ตล่ ะทีมส่งตัวแทนมาทีมละ 2 คน
3.ครูให้นักเรียนเลน่ เกมขี่มา้ ทรงเมืองเป็นทีมๆละ2คน
4.ทีมไหนวิ่งถงึ เสน้ ชยั ก่อนเปน็ ผชู้ นะ
5.ครูให้นักเรยี นสลับกันลงมาเล่นเรอ่ื ยๆ

ขนั้ ที่ 5 สรุปความรู้
1.ครใู ห้นักเรยี นจัดแถวตอน 4 แถวแลว้ นั่งลง
2. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้ทไ่ี ด้รบั จากการศึกษาและการปฏิบัติกจิ กรรมร่วมกัน
3.ครนู ำนกั เรยี นที่ปฏิบตั ิไดถ้ ูกตอ้ งมาสาธติ ใหเ้ พื่อนดู
4.ครูกล่าวชมเชยนกั เรียนท่ีทำไดแ้ ละใหค้ ำแนะนำสำหรับนักเรียนทยี่ งั ทำไม่ได้
5.ครใู ห้นกั เรยี นลา้ งมือล้างหน้าและนดั หมายคาบต่อไป

6. การวัดและประเมินผล วธิ ีการวัดผล เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การประเมินผล

การวัดและประเมนิ ผลจุดประสงค์ - ตรวจกิจกรรมฝกึ ทกั ษะ -กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ข้ึนไป ถอื วา่
-ตรวจแบบฝึกหัด -แบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑก์ าร
ความรคู้ วามเข้าใจ (K) ประเมนิ
-สงั เกตพฤตกิ รรม การ - แบบประเมิน 80% ข้ึนไป ถอื วา่
ทักษะ/กระบวนการ (P) ทำงานรายบคุ คล/กลมุ่ ทักษะและ ผา่ นเกณฑก์ าร
กระบวนการทางสุข ประเมิน
คุณลกั ษณะนสิ ยั (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมี ศกึ ษาและพลศกึ ษา
ความรบั ผดิ ชอบต่องานท่สี ั่ง 1. แบบสังเกต 80% ข้ึนไป ถอื ว่า
และส่งงานไดท้ ันตามที่ พฤติกรรม ผา่ นเกณฑก์ าร
กำหนด ประเมนิ
2. สังเกตจากการเรียนใฝ่
เรยี นรู้
3. สังเกตจากการม่งุ มัน่ ใน
การทำงาน

7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

1. กรวย
2. ภาพแสดงการเล่นเกมขี่ม้าทรงเมือง
3. มาร์คเกอร์

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ.................................................ผู้สอน ลงชอ่ื ...............................................ฝา่ ยวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงช่อื ...........................................ผู้อำนวยการ
(.................................................................)

สปั ดาหท์ ี่ 11

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ฒั นา
แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี 2 / ……. ชอ่ื ผสู้ อน นายซุลกฟิ ลี ดอื ราโอะ
กลุม่ สาระ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 จำนวน 1 คาบ
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรอื่ ง ความหมายและความสำคญั ของการปอ้ งกันโรค

1.มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐานท่ี 4.1
ป้องกันการแพร่กระจายของโรคและจำแนกอาหารหลัก 5 หมู่ได้ มสี ขุ นิสัยทด่ี ใี นการบริโภคอาหารและเลือกกินอาหาร
ที่หลากหลายในสดั ส่วนท่ีเหมาะสมตามธงโภคชนาการ รวมทง้ั สามารถแปรงฟันได้อย่างถูกวิธีและรู้วธิ กี ารสรา้ งเสรมิ
สมรรถภาพทางกาย
ตวั ช้วี ดั ท่ี ป. 3/1
อธบิ ายการติดต่อและวิธีการป้องกันการแพร่กระจายของโรค

2. สาระสำคญั

การปอ้ งกนั โรค หมายถึง การกระทำใด ๆ ของบคุ คลที่ช่วยลดอัตราความเจบ็ ปว่ ยด้วยโรคติดตอ่ และโรคไมต่ ดิ ต่อที่
สามารถป้องกันได้ รวมทงั้ การควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากแหลง่ นำโรคหรือพาหะนำโรค การป้องกนั โรคจงึ
มีความสำคัญต่อการมีสขุ ภาพดแี ละลดการเจ็บป่วยของบคุ คล

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธบิ ายความหมายและความสำคญั ของการปอ้ งกนั โรคอย่างถกู ต้องได้ (K)
2. ศกึ ษาและรว่ มปฏิบตั ิกจิ กรรมการเรียนร้เู กี่ยวกับความหมายและความสำคัญของ

การปอ้ งกนั โรคด้วยความสนใจ (A)
3. สามารถสื่อสารเพื่ออธิบายความหมายและความสำคญั ของการป้องกนั โรคใหผ้ ูอ้ ่ืนเข้าใจได้ (P)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น
พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
1.การเจรญิ เติบโตของร่างกาย
- การเปลย่ี นแปลงของร่างกายวยั เดก็
- ความสำคญั ของการเปล่ียนแปลงของร่างกาย
- อาหารท่ีเหมาะสมกับวัย

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบท่ี 11

ขนั้ เตรียมก่อนนำเข้าสบู่ ทเรยี น
• ครูนำแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี4ใสใ่ จสุขภาพแจกให้นักเรียนเพ่ือ
ทดสอบความรคู้ วามเขา้ ใจและสร้างความสนใจก่อนการเรียนรู้
ขั้นที่ 1 นำเขา้ สบู่ ทเรียน
• นกั เรยี นดภู าพคนทีเ่ จ็บปว่ ยหรือคนทบ่ี าดเจบ็ แล้วรว่ มกนั แสดงความรู้สึกของนักเรียนว่า
เม่ือดภู าพแล้วร้สู กึ อย่างไรและถ้านักเรยี นเปน็ เหมือนบคุ คลในภาพจะเกดิ อะไรขึ้น

(ครูเตรียมภาพมาล่วงหนา้ )
ขนั้ ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้
1. นักเรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่ม ละ 3–4 คน ให้ แตล่ ะคนเขยี นความหมายของการป้องกนั
โรคตามความเข้าใจของตนเองลงในกระดาษและระดมสมองเลอื กความหมายของ
การปอ้ งกันโรคมาหน่ึงความหมายตามความคดิ เหน็ ของกล่มุ
2. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมาเขยี นความหมายของการป้องกันโรคทก่ี ระดาน
หนา้ ชัน้ เรยี น
3. นกั เรียนท้งั ชนั้ เรยี นอ่านความหมายท้ังหมดทเ่ี ขยี นอยู่บนกระดานอยา่ งพร้อมเพรียง
กันและครูเสนอแนะความหมายของการป้องกนั โรคท่ถี ูกต้อง
4. ครูเสนอความรู้เร่ืองความสำคญั ของการปอ้ งกันโรคและให้นกั เรยี นรว่ มกนั แสดง
ความคิดเห็น
ขั้นท่ี 3 ฝึกฝนทักษะและประสบการณ์
• นกั เรยี นสรปุ ความรู้เรือ่ งความหมายและความสำคัญของการป้องกนั โรคโดยเขยี น
สรุปในรปู แบบของแผนทีค่ วามคิดลงในสมุดบนั ทึก
ข้ันที่ 4 การนำไปใช้
• นกั เรยี นนำความรู้ท่ีไดจ้ ากการศึกษาและการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมไปเลา่ ใหผ้ ปู้ กครองฟัง
และใหผ้ ู้ปกครองตอบรับผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมของนกั เรียนกลับมาท่ีครู
ขั้นท่ี 5 สรุปความรู้
• ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปความหมายและความสำคญั ของการป้องกันโรคโดยให้
นกั เรยี นบันทกึ ความร้โู ดยสังเขปลงในสมุดบนั ทกึ

6. การวดั และประเมินผล วธิ กี ารวัดผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑ์การประเมินผล
• ทดสอบความรู้พืน้ ฐานใน • แบบทดสอบความรู้ 80% ขึ้นไป ถือว่าผา่ น
การวดั และประเมนิ ผลจุดประสงค์ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 กอ่ นและ เกณฑ์การประเมนิ
ความร้คู วามเข้าใจ (K) • สอบถามเกีย่ วกับความหมาย หลงั เรียนหน่วยการ
และความสำคญั ของการ เรียนรู้ท่ี 4 • ผ่านเกณฑ์เฉลยี่ 2
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) ปอ้ งกันโรค ข้นึ ไป
• สังเกตพฤติกรรมการ • แบบประเมนิ ทักษะ
แสดงออกของนักเรยี น กระบวนการ*

คุณลกั ษณะนสิ ัย (A) • สังเกตพฤติกรรมการ • รปู แบบประเมิน • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลย่ี 2
แสดงออกของนักเรยี น คณุ ธรรมจรยิ ธรรม ข้นึ ไป
ประสงค*์ ค่านิยม และ
คุณลักษณะอนั พงึ

7. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้

1. แบบทดสอบกอ่ น–หลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 ใส่ใจสุขภาพ
2. ภาพแสดงลักษณะของคนทม่ี ีอาการเจบ็ ป่วย
3. หนังสอื เรยี นสาระการเรียนรู้พื้นฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป. 3 บริษัท สำนกั พิมพ์

วฒั นาพานชิ จำกัด
4. ส่ือการเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา สมบูรณแ์ บบ ป. 3 บริษทั สำนกั พิมพ์วฒั นาพานิช

จำกัด

8. กิจกรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .................................................ผู้สอน ลงชือ่ ...............................................ฝ่ายวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงชอ่ื ...........................................ผูอ้ ำนวยการ
(.................................................................)

สัปดาห์ที่ 12

โรงเรียนขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี 2 / ……. ช่อื ผสู้ อน นายซุลกิฟลี ดือราโอะ
กลุ่มสาระ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรื่อง ความหมายและความสำคญั ของการปอ้ งกันโรค

1.มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐานที่ 4.1
ปอ้ งกนั การแพร่กระจายของโรคและจำแนกอาหารหลัก 5 หมู่ได้ มีสขุ นสิ ยั ทีด่ ีในการบรโิ ภคอาหารและเลือกกนิ อาหาร
ทีห่ ลากหลายในสัดสว่ นท่เี หมาะสมตามธงโภคชนาการ รวมท้งั สามารถแปรงฟนั ได้อย่างถูกวธิ ีและรูว้ ิธีการสรา้ งเสริม
สมรรถภาพทางกาย
ตวั ช้ีวัดท่ี ป. 3/1
อธิบายการตดิ ต่อและวธิ กี ารป้องกนั การแพรก่ ระจายของโรค

2. สาระสำคญั

การป้องกันโรค หมายถึง การกระทำใด ๆ ของบคุ คลที่ช่วยลดอัตราความเจบ็ ปว่ ยด้วยโรคติดตอ่ และโรคไมต่ ิดต่อท่ี
สามารถป้องกันได้ รวมท้ังการควบคุมการแพร่กระจายของเช้อื โรคจากแหลง่ นำโรคหรอื พาหะนำโรค การป้องกันโรคจงึ

มคี วามสำคัญตอ่ การมสี ขุ ภาพดีและลดการเจ็บป่วยของบุคคล

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. อธบิ ายความหมายและความสำคญั ของการป้องกนั โรคอย่างถกู ต้องได้ (K)
2. ศกึ ษาและรว่ มปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเรียนรเู้ กย่ี วกับความหมายและความสำคัญของ

การป้องกันโรคดว้ ยความสนใจ (A)
3. สามารถสอื่ สารเพ่ืออธิบายความหมายและความสำคญั ของการป้องกันโรคใหผ้ ู้อื่นเขา้ ใจได้ (P)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่
พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
1.การเจริญเติบโตของรา่ งกาย
- การเปลี่ยนแปลงของรา่ งกายวยั เด็ก
- ความสำคญั ของการเปลย่ี นแปลงของร่างกาย
- อาหารทเ่ี หมาะสมกับวยั

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบท่ี 12

ขนั้ เตรียมก่อนนำเข้าสบู่ ทเรยี น
• ครูนำแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี4ใสใ่ จสุขภาพแจกให้นักเรียนเพ่ือ
ทดสอบความรคู้ วามเขา้ ใจและสร้างความสนใจก่อนการเรียนรู้
ขั้นที่ 1 นำเขา้ สบู่ ทเรียน
• นกั เรยี นดภู าพคนทีเ่ จ็บปว่ ยหรือคนทบ่ี าดเจบ็ แล้วรว่ มกนั แสดงความรู้สึกของนักเรียนว่า
เม่ือดภู าพแล้วร้สู กึ อย่างไรและถ้านักเรยี นเปน็ เหมือนบคุ คลในภาพจะเกดิ อะไรขึ้น

(ครูเตรียมภาพมาล่วงหนา้ )
ขนั้ ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้
1. นักเรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่ม ละ 3–4 คน ให้ แตล่ ะคนเขยี นความหมายของการป้องกนั
โรคตามความเข้าใจของตนเองลงในกระดาษและระดมสมองเลอื กความหมายของ
การปอ้ งกันโรคมาหน่ึงความหมายตามความคดิ เหน็ ของกล่มุ
2. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมาเขยี นความหมายของการป้องกันโรคทก่ี ระดาน
หนา้ ชัน้ เรยี น
3. นกั เรียนท้งั ชนั้ เรยี นอ่านความหมายท้ังหมดทเ่ี ขยี นอยู่บนกระดานอยา่ งพร้อมเพรียง
กันและครูเสนอแนะความหมายของการป้องกนั โรคท่ถี ูกต้อง
4. ครูเสนอความรู้เร่ืองความสำคญั ของการปอ้ งกันโรคและให้นกั เรยี นรว่ มกนั แสดง
ความคิดเห็น
ขั้นท่ี 3 ฝึกฝนทักษะและประสบการณ์
• นกั เรยี นสรปุ ความรู้เรือ่ งความหมายและความสำคัญของการป้องกนั โรคโดยเขยี น
สรุปในรปู แบบของแผนทีค่ วามคิดลงในสมุดบนั ทึก
ข้ันที่ 4 การนำไปใช้
• นกั เรยี นนำความรู้ท่ีไดจ้ ากการศึกษาและการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมไปเลา่ ใหผ้ ปู้ กครองฟัง
และให้ผู้ปกครองตอบรับผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมของนกั เรียนกลับมาท่ีครู
ขั้นท่ี 5 สรุปความรู้
• ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปความหมายและความสำคญั ของการป้องกันโรคโดยให้
นกั เรยี นบันทกึ ความร้โู ดยสังเขปลงในสมุดบนั ทกึ

6. การวัดและประเมินผล วธิ ีการวดั ผล เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผลจุดประสงค์ • ทดสอบความรพู้ ื้นฐานใน • แบบทดสอบความรู้ 80% ข้ึนไป ถอื ว่า
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 ก่อนและ ผา่ นเกณฑก์ าร
ความร้คู วามเข้าใจ (K) • สอบถามเกี่ยวกบั หลงั เรยี นหน่วยการ ประเมิน
ความหมาย เรียนรูท้ ่ี 4
ทักษะ/กระบวนการ (P) และความสำคญั ของการ
ปอ้ งกนั โรค • แบบประเมนิ • ผา่ นเกณฑ์เฉล่ีย 2
ทกั ษะกระบวนการ* ขึน้ ไป
• สังเกตพฤตกิ รรมการ
แสดงออกของนักเรยี น

คุณลักษณะนิสยั (A) • สังเกตพฤติกรรมการ • รูปแบบประเมนิ • ผา่ นเกณฑ์เฉลย่ี 2
แสดงออกของนักเรยี น คณุ ธรรมจริยธรรม ขนึ้ ไป
ประสงค*์ ค่านิยม และ
คณุ ลกั ษณะอันพงึ

7. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้

1. แบบทดสอบก่อน–หลังเรียน หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 ใสใ่ จสุขภาพ
2. ภาพแสดงลกั ษณะของคนท่มี ีอาการเจ็บปว่ ย
3. หนงั สอื เรยี นสาระการเรียนร้พู น้ื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 3 บริษทั สำนักพิมพ์

วฒั นาพานิชจำกดั
4. สอ่ื การเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา สมบรู ณ์แบบ ป. 3 บริษัท สำนักพิมพว์ ฒั นาพานิช

จำกัด
5. แบบฝึกหัด สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 3 บรษิ ัท สำนักพิมพว์ ฒั นาพานิช จำกัด

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

.............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ .................................................ผ้สู อน ลงชอ่ื ...............................................ฝ่ายวชิ าการ

(.................................................................) (.................................................................)

ลงชื่อ...........................................ผอู้ ำนวยการ
(.................................................................)

สัปดาห์ที่ 13

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ัฒนา
แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรยี นที่ 1 / …… ชอื่ ผู้สอน นายซุลกฟิ ลี ดือราโอะ
กลุม่ สาระ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 จำนวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เร่ือง การติดตอ่ ของโรค

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐานท่ี 4.1
ปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายของโรคและจำแนกอาหารหลัก 5 หมูไ่ ด้ มสี ุขนสิ ัยทดี่ ีในการบริโภคอาหารและเลือกกินอาหาร
ท่ีหลากหลายในสัดส่วนที่เหมาะสมตามธงโภคชนาการ รวมทงั้ สามารถแปรงฟันได้อย่างถูกวิธแี ละรู้วธิ กี ารสร้างเสรมิ
สมรรถภาพทางกาย
ตวั ชี้วดั ที่ ป. 3/1
อธบิ ายการติดต่อและวิธีการป้องกนั การแพรก่ ระจายของโรค

2. สาระสำคัญ

การติดต่อของโรคแบ่งได้2ลักษณะสำคัญคือการตดิ ต่อโดยตรงซึง่ เกิดจากการสัมผสั จบั ต้องกบั รา่ งกายของผู้ปว่ ยโดยตรง
และการตดิ ตอ่ โดยทางอ้อมซ่ึงสามารถแบง่ ออกไดเ้ ปน็ 3 ลักษณะย่อยได้แก่การติดตอ่ โดยอาศัยพาหะการติดตอ่ โดยอาศัย
สตั ว์พาหะและการติดต่อทางอากาศ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธบิ ายวิธกี ารตดิ ตอ่ ของโรคอยา่ งถกู ต้องได้ (K)
2. ศกึ ษาและร่วมปฏิบัตกิ ิจกรรมการเรยี นรเู้ ก่ยี วกับวิธกี ารติดตอ่ ของโรคดว้ ยความสนใจ (A)
3. แสดงทกั ษะและวธิ กี ารสอื่ สารเพ่ืออธิบายวิธีการติดต่อของโรคใหผ้ ้อู ื่นเข้าใจได้ (P)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนร้ทู ้องถิ่น
พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
1.การเจริญเตบิ โตของรา่ งกาย
- การเปลี่ยนแปลงของร่างกายวัยเด็ก
- ความสำคญั ของการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
- อาหารทเ่ี หมาะสมกับวยั

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 13

ขั้นท่ี 1 นำเขา้ สู่บทเรียน
• ครแู ละนักเรยี นสนทนารว่ มกนั เพื่อทบทวนความรู้และการปฏิบตั ิกิจกรรมในคาบ การเรยี นทีผ่ า่ น
มา
ข้ันท่ี2 กิจกรรมการเรยี นรู้
1. สมุ่ ตวั แทนนักเรยี นออกมาเล่าประสบการณ์การเจบ็ ปว่ ยของตนเองและให้คนอนื่ ๆ ใน

ชัน้ เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็
2. ครูอธบิ ายความรเู้ ก่ียวกับการตดิ ต่อของโรคและถามคำถามใหน้ ักเรยี นตอบลงในสมุดบันทึก
ดังนี้
– การตดิ ต่อของโรคแบ่งไดเ้ ปน็ กี่ลกั ษณะอะไรบ้าง (2 ลักษณะ คือ การ ตดิ ต่อ
โดยตรงและการตดิ ต่อโดยทางอ้อม)
– การท่ีผปู้ ่วยไอหรือจามใสเ่ ราถือว่าเปน็ การตดิ ต่อของโรคแบบใด (การติดต่อของ
โรคโดยตรงโดยทางอากาศ)
– การทเ่ี ราดมื่ นำ้ ทไี่ มส่ ะอาดแล้วทำใหเ้ กิดท้องเสยี ถือว่าเป็นการติดต่อของโรค
แบบใด(การติดต่อของโรคโดยทางอ้อมโดยอาศัยพาหะ)
– การทเ่ี รากนิ อาหารที่มแี มลงวันตอมแล้วเกดิ โรคอหวิ าตกโรคถอื ว่าเป็นการตดิ ตอ่
ของโรคแบบใด(การติดต่อของโรคโดยทางอ้อมโดยอาศัยสตั วพ์ าหะ)
ขน้ั ท่ี 3 ฝึกฝนทักษะและประสบการณ์
• นกั เรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 3–4 คนระดมสมองสรปุความรเู้ รื่องการติดตอ่ ของ
โรคโดยเขียนสรปุ ในรปู แบบของแผนทีค่ วามคดิ และส่งตัวแทนกลุ่มรายงานผล
หนา้ ชนั้ เรยี น
ข้นั ท่ี 4 การนำไปใช้
• นกั เรียนนำความร้ทู ่ีได้จากการศึกษาและการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมไปเลา่ ให้ผู้ปกครองฟัง
และให้ผูป้ กครองตอบรับผลการปฏิบัติกจิ กรรมของนักเรียนกลับมาท่ีครู
ขน้ั ท5ี่ สรปุ ความรู้
1. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ ความรใู้ นเรอ่ื งการตดิ ตอ่ ของโรค
2. นักเรียนบนั ทึกความรู้โดยสังเขปลงในสมดุ บันทกึ

6. การวดั และประเมนิ ผล วิธีการวัดผล เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
• ทดสอบความรู้พื้นฐานใน • แบบทดสอบความรู้ 80% ข้นึ ไป ถือว่าผา่ น
การวัดและประเมินผลจุดประสงค์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ก่อนและ เกณฑ์การประเมิน
ความรคู้ วามเข้าใจ (K) • สอบถามเก่ยี วกบั ความหมาย หลังเรยี นหน่วยการ
และความสำคญั ของการ เรยี นรทู้ ี่ 4 • ผ่านเกณฑ์เฉลย่ี 2
ทักษะ/กระบวนการ (P) ปอ้ งกันโรค ขึ้นไป
• สังเกตพฤติกรรมการ • แบบประเมินทักษะ
แสดงออกของนักเรยี น กระบวนการ*

คณุ ลักษณะนิสยั (A) • สังเกตพฤติกรรมการ • รปู แบบประเมิน • ผ่านเกณฑเ์ ฉล่ีย 2
แสดงออกของนักเรียน คณุ ธรรมจรยิ ธรรม ขึน้ ไป
ประสงค*์ ค่านยิ ม และ
คุณลักษณะอนั พงึ

7. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้

1. แบบทดสอบกอ่ น–หลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 ใส่ใจสุขภาพ
2. ภาพแสดงลักษณะของคนทมี่ ีอาการเจบ็ ปว่ ย
3. หนงั สือเรียนสาระการเรยี นร้พู ้นื ฐาน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ป. 3 บรษิ ทั สำนกั พิมพ์

วัฒนาพานิชจำกัด
4. สอื่ การเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สมบรู ณ์แบบ ป. 3 บริษัท สำนกั พิมพว์ ัฒนาพานิช

จำกดั
5. แบบฝึกหดั สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 3 บรษิ ัท สำนักพิมพว์ ัฒนาพานิช จำกัด

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

.............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ .................................................ผูส้ อน ลงชอื่ ...............................................ฝา่ ยวชิ าการ

(.................................................................) (.................................................................)

ลงชอื่ ...........................................ผู้อำนวยการ
(.................................................................)

สัปดาห์ที่ 14

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ัฒนา
แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรยี นที่ 1 / …… ชอื่ ผู้สอน นายซุลกฟิ ลี ดือราโอะ
กลุ่มสาระ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 จำนวน 1 คาบ
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เร่ือง การติดตอ่ ของโรค

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐานที่ 4.1
ปอ้ งกนั การแพร่กระจายของโรคและจำแนกอาหารหลัก 5 หมูไ่ ด้ มสี ุขนสิ ัยทดี่ ีในการบริโภคอาหารและเลือกกินอาหาร
ท่ีหลากหลายในสัดสว่ นที่เหมาะสมตามธงโภคชนาการ รวมทงั้ สามารถแปรงฟันได้อย่างถูกวิธแี ละรู้วธิ กี ารสร้างเสรมิ
สมรรถภาพทางกาย
ตวั ชวี้ ัดที่ ป. 3/1
อธิบายการติดต่อและวธิ ีการป้องกนั การแพรก่ ระจายของโรค

2. สาระสำคัญ

การติดต่อของโรคแบ่งได้2ลักษณะสำคัญคือการตดิ ต่อโดยตรงซึง่ เกิดจากการสัมผสั จบั ต้องกบั รา่ งกายของผู้ปว่ ยโดยตรง
และการติดตอ่ โดยทางอ้อมซ่ึงสามารถแบง่ ออกไดเ้ ปน็ 3 ลักษณะย่อยได้แก่การติดตอ่ โดยอาศัยพาหะการติดตอ่ โดยอาศัย
สัตวพ์ าหะและการติดต่อทางอากาศ

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธิบายวธิ กี ารติดต่อของโรคอยา่ งถกู ต้องได้ (K)
2. ศกึ ษาและร่วมปฏบิ ตั ิกิจกรรมการเรยี นรเู้ ก่ยี วกับวิธกี ารติดตอ่ ของโรคดว้ ยความสนใจ (A)
3. แสดงทกั ษะและวธิ กี ารสอื่ สารเพ่ืออธิบายวิธีการติดต่อของโรคใหผ้ ้อู ื่นเข้าใจได้ (P)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนร้ทู ้องถิ่น
พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา
สาระการเรียนร้แู กนกลาง
1.การเจริญเติบโตของรา่ งกาย
- การเปลี่ยนแปลงของร่างกายวัยเด็ก
- ความสำคญั ของการเปล่ยี นแปลงของร่างกาย
- อาหารทเ่ี หมาะสมกบั วัย

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 14

ขั้นท่ี 1 นำเขา้ สู่บทเรียน
• ครแู ละนักเรยี นสนทนารว่ มกนั เพื่อทบทวนความรู้และการปฏิบตั ิกิจกรรมในคาบ การเรยี นทีผ่ า่ น
มา
ข้ันท่ี2 กิจกรรมการเรยี นรู้
1. สมุ่ ตวั แทนนักเรยี นออกมาเล่าประสบการณ์การเจบ็ ปว่ ยของตนเองและให้คนอนื่ ๆ ใน

ชัน้ เรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็
2. ครูอธบิ ายความรเู้ ก่ียวกับการตดิ ต่อของโรคและถามคำถามใหน้ ักเรยี นตอบลงในสมุดบันทึก
ดังนี้
– การตดิ ต่อของโรคแบ่งไดเ้ ปน็ กี่ลกั ษณะอะไรบ้าง (2 ลักษณะ คือ การ ตดิ ต่อ
โดยตรงและการตดิ ต่อโดยทางอ้อม)
– การท่ีผปู้ ่วยไอหรือจามใสเ่ ราถือว่าเปน็ การตดิ ต่อของโรคแบบใด (การติดต่อของ
โรคโดยตรงโดยทางอากาศ)
– การทเ่ี ราดมื่ นำ้ ทไี่ มส่ ะอาดแล้วทำใหเ้ กิดท้องเสยี ถือว่าเป็นการติดต่อของโรค
แบบใด(การติดต่อของโรคโดยทางอ้อมโดยอาศัยพาหะ)
– การทเ่ี รากนิ อาหารที่มแี มลงวันตอมแล้วเกดิ โรคอหวิ าตกโรคถอื ว่าเป็นการตดิ ตอ่
ของโรคแบบใด(การติดต่อของโรคโดยทางอ้อมโดยอาศัยสตั วพ์ าหะ)
ขน้ั ท่ี 3 ฝึกฝนทักษะและประสบการณ์
• นกั เรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 3–4 คนระดมสมองสรปุความรเู้ รื่องการติดตอ่ ของ
โรคโดยเขียนสรปุ ในรปู แบบของแผนทีค่ วามคดิ และส่งตัวแทนกลุ่มรายงานผล
หนา้ ช้ันเรยี น
ข้นั ท่ี 4 การนำไปใช้
• นกั เรียนนำความร้ทู ่ีได้จากการศึกษาและการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมไปเลา่ ให้ผู้ปกครองฟัง
และให้ผูป้ กครองตอบรับผลการปฏิบัติกจิ กรรมของนักเรียนกลับมาท่ีครู
ขน้ั ท5ี่ สรปุ ความรู้
1. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ ความรใู้ นเรอ่ื งการตดิ ตอ่ ของโรค
2. นักเรียนบนั ทึกความรู้โดยสังเขปลงในสมดุ บันทกึ

6. การวดั และประเมนิ ผล วิธีการวัดผล เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
• ทดสอบความรู้พื้นฐานใน • แบบทดสอบความรู้ 80% ข้นึ ไป ถือว่าผา่ น
การวัดและประเมินผลจุดประสงค์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ก่อนและ เกณฑ์การประเมิน
ความรคู้ วามเข้าใจ (K) • สอบถามเก่ยี วกบั ความหมาย หลังเรยี นหน่วยการ
และความสำคญั ของการ เรยี นรทู้ ี่ 4 • ผ่านเกณฑ์เฉลย่ี 2
ทักษะ/กระบวนการ (P) ปอ้ งกันโรค ขึ้นไป
• สังเกตพฤติกรรมการ • แบบประเมินทักษะ
แสดงออกของนักเรยี น กระบวนการ*

คณุ ลักษณะนิสยั (A) • สังเกตพฤติกรรมการ • รปู แบบประเมิน • ผ่านเกณฑเ์ ฉล่ีย 2
แสดงออกของนักเรียน คณุ ธรรมจรยิ ธรรม ขึน้ ไป
ประสงค*์ ค่านยิ ม และ
คุณลักษณะอนั พงึ

7. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้

1. แบบทดสอบกอ่ น–หลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 ใส่ใจสุขภาพ
2. ภาพแสดงลักษณะของคนทมี่ ีอาการเจบ็ ปว่ ย
3. หนงั สือเรียนสาระการเรยี นร้พู ้นื ฐาน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ป. 3 บรษิ ทั สำนกั พิมพ์

วัฒนาพานิชจำกัด
4. สอื่ การเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สมบรู ณ์แบบ ป. 3 บริษัท สำนกั พิมพว์ ัฒนาพานิช

จำกดั
5. แบบฝึกหดั สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 3 บรษิ ัท สำนักพิมพว์ ัฒนาพานิช จำกัด

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

.............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ .................................................ผูส้ อน ลงชอื่ ...............................................ฝา่ ยวชิ าการ

(.................................................................) (.................................................................)

ลงชอื่ ...........................................ผู้อำนวยการ
(.................................................................)

สปั ดาหท์ ่ี 15

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ 2 / …… ชือ่ ผ้สู อน นายซลุ กฟิ ลี ดอื ราโอะ
กลมุ่ สาระ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 จำนวน 1 คาบ
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง อาหารหลกั 5 หมู่

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐานท่ี 4.1

ป้องกันการแพร่กระจายของโรคและจำแนกอาหารหลกั 5 หมไู่ ด้ มีสขุ นสิ ัยที่ดีในการบรโิ ภคอาหารและเลอื กกนิ อาหาร

ท่หี ลากหลายในสดั สว่ นทเ่ี หมาะสมตามธงโภคชนาการ รวมท้ังสามารถแปรงฟนั ได้อยา่ งถูกวธิ แี ละรวู้ ธิ ีการสร้างเสรมิ

สมรรถภาพทางกาย

ตัวชี้วดั ที่ ป. 3/2

จำแนกอาหารหลัก 5 หมู่

2. สาระสำคัญ

อาหารหลัก 5 หมู่ ประกอบดว้ ยอาหารหม่ทู ่ี 1 ได้แก่ เนือ้ สตั ว์ ตา่ ง ๆ ไข่ นม และ ถั่วเมล็ดแหง้ อาหารหมูท่ ่ี 2 ได้แก่

ข้าว แปง้ น้ำตาล เผอื ก และ มัน อาหารหม่ทู ี่ 3 ไดแ้ ก่ ผกั ตา่ ง ๆอาหารหมู่ที่ 4 ไดแ้ ก่ ผลไม้ ต่าง ๆ และ อาหาร หมู่ที่ 5 .

ได้แก่ ไขมนั จาก สตั ว์ เพอื่ การมสี ขุ ภาพท่ีดีและมรี ่างกายเจรญิ เติบโตสมวยั นกั เรียนจึงควรกนิ อาหารให้ครบ5หมใู่ นแต่ละมือ้

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธบิ ายและระบุอาหารแต่ละชนดิ ทีจ่ ัดอยใู่ นอาหารหลกั 5 หมูอ่ ย่างถูกต้องได้ (K, P)

2. ตระหนกั ถงึ ความสำคัญของการกนิ อาหารตามอาหารหลัก5หมู่ท่ีส่งผลดตี ่อสุขภาพ

และการเจริญเติบโตของตนเอง(A)

3. แสดงทกั ษะในการกนิ อาหารตามหลกั อาหารหลกั 5 หมู่เพอื่ การมสี ุขภาพทด่ี ีและ

สรา้ งเสริมการเจรญิ เตบิ โตของตนเองอยา่ งถูกต้องได้ (P)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ

1.การเจรญิ เติบโตของร่างกาย พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

- การเปลยี่ นแปลงของรา่ งกายวัยเดก็

- ความสำคญั ของการเปลย่ี นแปลงของร่างกาย

- อาหารทีเ่ หมาะสมกับวยั

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบที่ 15

ข้ันท่ี 1 นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
• นกั เรียนดูภาพอาหารชนดิ ต่างๆและพดู คยุ แสดงความคิดเห็นในประเด็นตัวอย่าง

คำถามต่อไปน้ี
– นักเรียนชอบอาหารในภาพใดและเพราะเหตุใด
– หากเราไมก่ ินอาหารจะเกิดอะไรขน้ึ
– อาหารในภาพเป็นอาหารที่ไดจ้ ากแหลง่ ใดบา้ ง
– นักเรียนคดิ ว่าอาหารทีม่ ีประโยชน์มีลักษณะอยา่ งไร
ขนั้ ท่ี 2 กิจกรรมการเรยี นรู้
1. นักเรยี นแบ่งกล่มุ ออกเปน็ 4 กลมุ่ เทา่ ๆ กนั ร่วมกันศึกษาเรอื่ งอาหารหมทู่ ี่ 1หมทู่ ่ี 2

ในหวั ขอ้ อาหารหลกั 5หมดู่ ังรายละเอยี ดในหนงั สือเรียนฯ/หรอื ในสื่อการเรยี นรู้
สุขศกึ ษาและพลศึกษาสมบูรณ์แบบ ป. 3
2. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มแข่งขันกันออกมาเขียนตัวอย่างอาหารหมทู่ ่ี1และหมู่ท2ี่ ทีก่ ระดาน
หน้าช้นั เรยี นโดยเขียนใหม้ ากทส่ี ดุ โดยไม่ซำ้ กนั กลุ่มใดเขียนไดจ้ ำนวนมากที่สุดและ
ถูกต้องมากที่สดุ เป็นกล่มุ ชนะให้เพื่อนๆในชนั้ เรียนปรบมือให้
3. ครูอธิบายความรู้เรื่องอาหารหมู่ที่1และหมู่ท่ี2เพ่ิมเตมิ และเปดิ โอกาสให้นกั เรียน
ซักถามข้อสงสยั
ขน้ั ท3ี่ ฝึกฝนทักษะและประสบการณ์
• นักเรียนปฏบิ ัติกิจกรรมการจับคถู่ ามและตอบคำถามเกีย่ วกับอาหารหลกั 5 หมู่
โดยใหน้ กั เรยี นจบั คูก่ บั เพื่อนผลัดกนั อ่านและตอบคำถามที่เกีย่ วข้องกบั อาหารหลกั
5 หมู่ ที่กำหนดให้
ข้นั ที่ 4 การนำไปใช้
• นักเรียนนำความรู้ที่ไดจ้ ากการศึกษาไปฝึกแยกแยะอาหารหม่ทู ่ี 1 และหมู่ที่ 2 ของ
อาหารทรี่ บั ประทานในแต่ละม้ือจดบันทึกและให้ผู้ปกครองชว่ ยตรวจสอบความถูกตอ้ ง
ขั้นท่ี 5 สรุปความรู้
1. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความรใู้ นเรอ่ื งอาหารหมู่ท่ี1 และหม่ทู ่ี 2
2. นกั เรยี นบันทึกความร้โู ดยสงั เขปลงในสมดุ บนั ทกึ

6. การวัดและประเมนิ ผล วิธีการวัดผล เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ ารประเมินผล
• ทดสอบความรู้พื้นฐานใน • แบบทดสอบความรู้ 80% ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ น
การวดั และประเมินผลจุดประสงค์ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 ก่อนและ เกณฑ์การประเมิน
ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) • สอบถามเกยี่ วกบั ความหมาย หลังเรยี นหนว่ ยการ
และความสำคัญของการ เรียนรู้ที่ 4 • ผา่ นเกณฑ์เฉลย่ี 2
ทักษะ/กระบวนการ (P) ป้องกนั โรค ขนึ้ ไป
• สังเกตพฤติกรรมการ • แบบประเมนิ ทักษะ
แสดงออกของนักเรียน กระบวนการ*

คุณลกั ษณะนิสยั (A) • สังเกตพฤติกรรมการ • รปู แบบประเมิน • ผ่านเกณฑเ์ ฉล่ยี 2
แสดงออกของนักเรียน คณุ ธรรมจรยิ ธรรม ขึ้นไป
ประสงค*์ คา่ นิยม และ
คณุ ลักษณะอันพงึ

7. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

1. แบบทดสอบก่อน–หลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 ใส่ใจสุขภาพ
2. ภาพแสดงลักษณะของคนท่ีมอี าการเจบ็ ป่วย
3. หนงั สอื เรยี นสาระการเรยี นรูพ้ ้ืนฐาน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ป. 3 บริษัท สำนักพิมพ์

วฒั นาพานชิ จำกัด
4. สอ่ื การเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษา สมบรู ณแ์ บบ ป. 3 บริษทั สำนักพิมพว์ ัฒนาพานิช

จำกัด
5. แบบฝึกหัด สุขศึกษาและพลศกึ ษา ป. 3 บรษิ ทั สำนักพิมพว์ ัฒนาพานชิ จำกัด

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

.............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ .................................................ผ้สู อน ลงช่ือ...............................................ฝา่ ยวชิ าการ

(.................................................................) (.................................................................)

ลงชอื่ ...........................................ผู้อำนวยการ
(.................................................................)

สปั ดาหท์ ่ี 16

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี 2 / …… ชือ่ ผ้สู อน นายซลุ กฟิ ลี ดอื ราโอะ
กลุ่มสาระ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 จำนวน 1 คาบ
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรือ่ ง อาหารหลกั 5 หมู่

1. มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐานที่ 4.1
ปอ้ งกันการแพร่กระจายของโรคและจำแนกอาหารหลกั 5 หมไู่ ด้ มีสขุ นสิ ัยที่ดีในการบรโิ ภคอาหารและเลอื กกนิ อาหาร
ทห่ี ลากหลายในสดั สว่ นทเ่ี หมาะสมตามธงโภคชนาการ รวมท้ังสามารถแปรงฟนั ได้อยา่ งถูกวธิ แี ละรวู้ ธิ ีการสร้างเสรมิ
สมรรถภาพทางกาย

ตัวชี้วัดที่ ป. 3/2
จำแนกอาหารหลัก 5 หมู่

2. สาระสำคญั

อาหารหลัก 5 หมู่ ประกอบดว้ ยอาหารหม่ทู ่ี 1 ได้แก่ เนือ้ สตั ว์ ตา่ ง ๆ ไข่ นม และ ถั่วเมล็ดแหง้ อาหารหมูท่ ่ี 2 ได้แก่
ข้าว แปง้ นำ้ ตาล เผอื ก และ มัน อาหารหม่ทู ี่ 3 ไดแ้ ก่ ผกั ตา่ ง ๆอาหารหมู่ที่ 4 ไดแ้ ก่ ผลไม้ ต่าง ๆ และ อาหาร หมู่ที่ 5 .
ได้แก่ ไขมัน จาก สตั ว์ เพอื่ การมสี ขุ ภาพท่ีดีและมรี ่างกายเจรญิ เติบโตสมวยั นกั เรียนจึงควรกนิ อาหารให้ครบ5หมใู่ นแต่ละมือ้

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. อธบิ ายและระบุอาหารแต่ละชนดิ ทีจ่ ัดอยใู่ นอาหารหลกั 5 หมูอ่ ย่างถูกต้องได้ (K, P)
2. ตระหนักถงึ ความสำคัญของการกนิ อาหารตามอาหารหลัก5หมู่ท่ีส่งผลดตี ่อสุขภาพ

และการเจรญิ เติบโตของตนเอง(A)
3. แสดงทกั ษะในการกนิ อาหารตามหลกั อาหารหลกั 5 หมู่เพอื่ การมสี ุขภาพทด่ี ีและ

สรา้ งเสริมการเจรญิ เตบิ โตของตนเองอยา่ งถูกต้องได้ (P)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ
พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
1.การเจริญเติบโตของร่างกาย
- การเปลีย่ นแปลงของร่างกายวัยเดก็
- ความสำคญั ของการเปล่ียนแปลงของร่างกาย
- อาหารท่ีเหมาะสมกบั วัย

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบที่ 16

ข้ันท่ี 1 นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
• นกั เรียนดูภาพอาหารชนดิ ต่างๆและพดู คยุ แสดงความคิดเห็นในประเด็นตัวอย่าง

คำถามต่อไปน้ี
– นักเรียนชอบอาหารในภาพใดและเพราะเหตุใด
– หากเราไมก่ ินอาหารจะเกิดอะไรขน้ึ
– อาหารในภาพเป็นอาหารที่ไดจ้ ากแหลง่ ใดบา้ ง
– นักเรียนคดิ ว่าอาหารทีม่ ีประโยชน์มีลักษณะอยา่ งไร
ขนั้ ท่ี 2 กิจกรรมการเรยี นรู้
1. นักเรยี นแบ่งกล่มุ ออกเปน็ 4 กลมุ่ เทา่ ๆ กนั ร่วมกันศึกษาเรอื่ งอาหารหมทู่ ี่ 1หมทู่ ่ี 2

ในหวั ขอ้ อาหารหลกั 5หมดู่ ังรายละเอยี ดในหนงั สือเรียนฯ/หรอื ในสื่อการเรยี นรู้
สุขศกึ ษาและพลศึกษาสมบูรณ์แบบ ป. 3
2. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มแข่งขันกันออกมาเขียนตัวอย่างอาหารหมทู่ ่ี1และหมู่ท2ี่ ทีก่ ระดาน
หน้าช้นั เรยี นโดยเขียนใหม้ ากทส่ี ดุ โดยไม่ซำ้ กนั กลุ่มใดเขียนไดจ้ ำนวนมากที่สุดและ
ถูกต้องมากที่สดุ เป็นกล่มุ ชนะให้เพื่อนๆในชนั้ เรียนปรบมือให้
3. ครูอธิบายความรู้เรื่องอาหารหมู่ที่1และหมู่ท่ี2เพ่ิมเตมิ และเปดิ โอกาสให้นกั เรียน
ซักถามข้อสงสยั
ขน้ั ท3ี่ ฝึกฝนทักษะและประสบการณ์
• นักเรียนปฏบิ ัติกิจกรรมการจับคถู่ ามและตอบคำถามเกีย่ วกับอาหารหลกั 5 หมู่
โดยใหน้ กั เรยี นจบั คูก่ บั เพื่อนผลัดกนั อ่านและตอบคำถามที่เกีย่ วข้องกบั อาหารหลกั
5 หมู่ ที่กำหนดให้
ข้นั ที่ 4 การนำไปใช้
• นักเรียนนำความรู้ที่ไดจ้ ากการศึกษาไปฝึกแยกแยะอาหารหม่ทู ่ี 1 และหมู่ที่ 2 ของ
อาหารทรี่ บั ประทานในแต่ละม้ือจดบันทึกและให้ผู้ปกครองชว่ ยตรวจสอบความถูกตอ้ ง
ขั้นท่ี 5 สรุปความรู้
1. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความรใู้ นเรอ่ื งอาหารหมู่ท่ี1 และหม่ทู ่ี 2
2. นกั เรยี นบันทึกความร้โู ดยสงั เขปลงในสมดุ บนั ทกึ


Click to View FlipBook Version