การวเิ คราะห์สถานการณด์ า้ นการศึกษาของจังหวัด (SWOT Analysis)
จดุ แขง็ (Strengths)
1. เปน็ จังหวดั ทม่ี สี ถานศึกษา จดั การศึกษา ทุกระดบั สามารถใหบ้ ริการทางการศึกษาให้กบั ผ้เู รยี น
ทุกกลุ่ม ทกุ ประเภท และทกุ ชว่ งวยั
2. เปน็ จังหวดั ทมี่ ีความโดดเด่นดา้ นประเพณแี ละวัฒนธรรมทเ่ี อื้อต่อการจดั การศึกษา
3. มีเครือขา่ ยทางด้านการศึกษาของหนว่ ยงานทางการศึกษาในจงั หวดั ทุกระดับท่ีเอื้อต่อการ
พัฒนาการศกึ ษา
4. บคุ ลากรทางการศึกษา มคี ุณวฒุ ทิ างการศึกษา ใบประกอบวิชาชีพ มีความร้คู วามสามารถ และ
ประสบการณ์ในการถ่ายทอดความรู้
5. การจดั การศึกษาในระดบั อนบุ าลและประถมศึกษาในภาคเอกชนทาได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
จดุ ออ่ น (Weaknesses)
1. ผเู้ รียนมีผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนตา่ กวา่ เกณฑ์
2. อัตราการเรยี นตอ่ ในสายอาชพี ไมเ่ ป็นไปตามเปาู หมาย
3. ขาดความเชื่อมโยงและความร่วมมือในการจดั การศึกษาทกุ ระดับ
4. มีสถานศึกษาขนาดเล็กภาครฐั บางแห่งมีครผู สู้ อนไม่ครบชนั้ และสอนไม่ตรงวชิ าเอก ส่งผลให้
ผู้ปกครองขาดความเช่อื ม่นั
5. โรงเรยี นในพื้นทห่ี า่ งไกลยังขาดส่ือ อปุ กรณ์และเทคโนโลยที ีเ่ อ้อื ตอ่ การจดั การศึกษา
6. ปัจจุบันมีสถานศึกษาขนาดเลก็ เป็นจานวนมาก ก่อให้เกิดปญั หาดา้ นการบริหารจัดการและ
คุณภาพการศึกษา
7. ขาดการนาผลการติดตามและประเมินผลมาใชใ้ นการพัฒนาอยา่ งต่อเน่อื งและจรงิ จัง
8. ขาดความต่อเน่ืองและจรงิ จงั ในการพัฒนาการศกึ ษา
9. มคั คเุ ทศก์ขาดใบประกอบวชิ าชพี
10. ขาดการบรหิ ารจดั การระบบฐานขอ้ มลู ด้านการศึกษาระหว่างหนว่ ยงาน
11. ขาดความสามารถในการคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละคิดวเิ คราะห์
12. ครู อาจารย์ ตอ้ งทางานเกยี่ วกับธุรการ งบประมาณ
13. ขาดหลกั สูตรวิชาชพี ดา้ นการค้าชายแดนและเศรษฐกิจพเิ ศษ
36
โอกาส (Opportunities)
1. หน่วยงานภาครฐั และเอกชนมสี ว่ นรว่ มในการพฒั นาการศกึ ษามากขึ้น
2. เป็นพื้นท่ีในเขตเศรษฐกจิ พเิ ศษ
3. นโยบายการจัดการศึกษาโดยไมเ่ กบ็ ค่าใชจ้ า่ ย 15 ปี
4. มีแม่น้าโขงเอ้ือต่อการศึกษาและคน้ คว้าเกย่ี วกับการค้า การเกษตร และการท่องเทยี่ วริมฝงั่
แมน่ า้ โขง
5. จงั หวดั หนองคายเป็นประตูส่อู าเซียน เอื้อต่อการรว่ มมือทางการศึกษา
6. ปัจจบุ ันสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีท่ีทนั สมัยช่วยให้เขา้ ถึงแหลง่ เรียนรู้ไดอ้ ย่างรวดเร็วและ
หลากหลาย
7. เป็นเมืองน่าอยู่อันดบั 7 ของโลก
8. มกี ฎหมายรองรบั การจัด การศึกษาภาคบงั คบั ทใ่ี ห้โอกาสทางการศึกษากับประชากรวยั เรียน
ทุกกลมุ่ และทุกช่วงวยั
อุปสรรค (Threats)
1. การจดั สรรงบประมาณไมเ่ พียงพอต่อการบรหิ ารจัดการ
2. นโยบายด้านการศึกษาของประเทศขาดความต่อเนือ่ ง และไม่สอดคล้องกบั บริบทของพนื้ ท่ี
3. การเช่อื มโยงและบูรณาการงบประมาณด้านการศกึ ษาระหว่างหน่วยงานทางการศึกษากับ
จงั หวัด และองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นยังมขี ้อจากัด
4. การเปน็ พนื้ ทีช่ ายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ทาใหเ้ กิดปัญหาเรอ่ื งยาเสพติด ซ่ึงส่งผลกระทบ
ตอ่ ผ้เู รียน
5. กฎหมายด้านการศึกษามีความความขัดแย้งกนั จึงทาให้เปน็ อปุ สรรคต่อการปฏริ ูปการศึกษา
6. ผ้ปู กครองรายได้ต่า
7. ปญั หาการย้ายถิ่นของประชากร สง่ ผลตอ่ ความต่อเน่อื งและคณุ ภาพการศกึ ษาของผเู้ รียน
8. การจัดการศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019
37
สว่ นท่ี 2
บริบทที่เก่ียวขอ้ งด้านการศึกษา
1. ยุทธศาสตรช์ าติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580)
วสิ ยั ทัศนป์ ระเทศไทย
"ประเทศไทยมีความม่ันคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" หรือเป็นคติพจน์ประจาชาติว่า "มั่นคง มั่งค่ัง ย่ังยืน" เพ่ือสนองตอบต่อ
ผลประโยชน์แห่งชาติ อันได้แก่ การมีเอกราช อธิปไตย การดาริงอยู่อย่างมั่นคง และยั่งยืนของสถาบันหลักของ
ชาติและประชาชนจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ การอยู่ร่วมกันในชาติอย่างสันติสุขเป็นปีกแผ่น มีความม่ันคงทาง
สังคมท่ามกลางพหุสังคมและการมีเกียรติและศักด์ิศรีของความเป็นมนุษย์ ความเจริญเติบโตของชาติความเป็น
ธรรมและความอย่ดู ีมสี ขุ ของประชาชน ความย่งั ยืนของฐานทรัพยากรธรรมชาตสิ ิ่งแวดลอ้ ม
ความมั่นคงทางพลงั งานและอาหาร ความสามารถในการรกั ษาผลประโยชน์ของชาตภิ ายใตก้ ารเปล่ยี นแปลง
ของสภาวะแวดล้อมระหว่างประเทศ และการอยูร่ ว่ มกนั อย่างสันติประสานสอดคลอ้ งกนั ดา้ นความมน่ั คง
ในประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกอยา่ งมีเกียรติและศกั ดศ์ิ รี
ความมั่นคง หมายถึง การมีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยและการเปล่ียนแปลงทั้งภายใน
ประเทศและภายนอกประเทศในทุกระดับ ท้ังระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจกบุคคล และ
มีความม่ันคงในทุกมิติ ทั้งมิติทางการทหาร เศรษฐกิจ สังคม ส่ิงแวดล้อม และการเมือง เช่น ประเทศ
มีความม่ันคงในเอกราชและอธิปไตย มีการปกครองระบบประชาธิปไตยท่ีมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มีความเข้มแข็งเป็นศูนย์กลางและเป็นท่ียึดเหน่ียวจิตใจของประชาชน
มีระบบการเมืองท่ีม่ันคงเป็นกลไกที่นาไปสู่การบริหารประเทศท่ีต่อเน่ืองและโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล สังคม
มีความปรองดองและความสามคั คี สามารถผนึกกาลังเพื่อพัฒนาประเทศ ชุมชนมีความเข้มแข็ง ครอบครัวมีความ
อบอุ่น ประชาชนมีความม่ันคงในชีวิต มีงานและรายได้ที่มั่นคงพอเพียงกับการดารงชีวิต มีการออมสาหรับวัย
เกษยี ณ ความม่ันคงของอาหาร พลงั งาน และนา้ มีที่อยอู่ าศยั และความปลอดภยั ในชวี ิตทรพั ย์สิน
ความมั่งคง่ั หมายถงึ ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเน่ืองและมีความย่งั ยืน
จนเข้าสู่กลุ่มประเทศรายได้สูง ความเหล่ือมล้าของการพัฒนาลดลง ประชากรมีความอยู่ดีมีสุขได้รับผลประโยชน์
จากการพฒั นาอย่างเทา่ เทยี มกนั มากขนึ้ และมีการพฒั นาอยา่ งท่วั ถงึ ทกุ ภาคสว่ น มคี ณุ ภาพชีวิตตามมาตรฐานของ
องค์การสหประชาชาติ ไม่มีประชาชนท่ีอยู่ในภาวะความยากจน เศรษฐกิจในประเทศมีความเข้มแข็ง
ขณะเดียวกันต้องมีความสามารถในการแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ ท้ังในตลาดโลกและตลาดโลกและตลาด
ภายในประเทศเพื่อให้สอดรบั กบั บริบทการพัฒนาที่เปลี่ยนแปลงไป และประเทศไทยมีบทบาทหน้าท่ีสาคัญในเวที
๓๘
โลก และมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างแน่นแฟูนกับประเทศในภูมิภาคเอเชีย เป็นจุดสาคัญของ
การเชื่อมโยงในภูมภิ าค ทง้ั การคมนาคมขนสง่ การผลิต การค้า การลงทุน และการทาธุรกิจเพ่ือให้เป็นพลังในการ
พัฒนา นอกจากนี้ ยังมีความสมบูรณ์ในทุนท่ีจะสามารถสร้างการพัฒนาต่อเนื่องไปได้ ได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนทาง
ปัญญา ทุนทางการเงิน ทุนทเ่ี ป็นเครือ่ งมือเครอ่ื งจักร ทุนทางสงั คม และทนุ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม
ความย่ังยืน หมายถึงการพัฒนาท่ีสามารถสร้างความเจริญ รายได้ และคุณภาพชีวิตของประชาชน
ให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจท่ีอยู่บนหลัดการใช้ การรักษาและการฟ้ืนฟูฐาน
ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติจนเกินพอดี ไม่สร้างมลภาวะต่อส่ิงแวดล้อมจนเกิน
ความสามารถในการรองรับและเยียวยาของระบบนิเวศ การผลิตและการบริโภคเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม และ
สอดคล้องกับเปูาหมายการพัฒนาท่ีย่ังยืน ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นและสิ่งแวดล้อมมี
คณุ ภาพดขี ึ้น คนมคี วามรับผิดชอบต่อสังคม มีความเอือ้ อาทร เสียสละเพือ่ ผลประโยชน์ส่วนรวม รัฐบาลมีนโยบาย
ที่มุ่งประโยชน์ส่วนรวมอย่างยั่งยืน และให้ความสาคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน และทุกภาคส่วนในสังคม
ยดึ ถอื และปฏบิ ตั ิตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเพ่ือการพัฒนาอยา่ งสมดลุ มีเสถียรภาพ และยงั่ ยืน
การพัฒนาประเทศในช่วงระยะเวลาของยุทธศาสตร์ชาติ จะมุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนา
ความม่ันคง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในรูปแบบ "ประชารัฐ" โดย
ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้าง
ความสามารถในการแข่งขัน ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบน
คุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหาร
จัดการภาครัฐ ดังน้ี
๓๙
1. ยุทธศาสตร์ชาติด้านความม่ันคง มีเปูาหมายการพัฒนาที่สาคัญ คือ ประเทศชาติมันคง
ประชาชนมีความสุข เน้นการบริหารจัดการสภาวะแวดล้อมของประเทศให้มีความม่ันคง ปลอดภัย เอกราช
อธิปไตย และมีความสงบเรียบร้อยในทุกระดับ ต้ังแต่ระดับชาติ สังคม ชุมชน มุ่งเน้นการพัฒนาคน เคร่ืองมือ
เทคโนโลยี และระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ให้มีความพร้อมสามารถรับมือกับภัยคุกคามและภัยพิบัติได้ทุกรูปแบบ
และทุกระดับความรุนแรง ควบคู่ไปกับการปูองกันและแก้ไขปัญหาด้านความม่ันคงท่ีมีอยู่ในปัจจุบันและที่อาจจะ
เกิดขึ้นในอนาคต ใชก้ ลไกการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการท้ังกับส่วนราชการ ภาคเอกชน ประชาสังคมและองค์กร
ที่ไม่ใช่รัฐ รวมถึงประเทศเพ่ือนบ้านและมิตรประเทศท่ัวโลกบนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาลเพ่ือเอ้ืออานวย
ประโยชน์ต่อการดาเนินการของยุทธศาสตร์ชาติด้านอ่ืน ๆ ให้สามารถขับเคลื่อนไปได้ตามทิศทางและเปูาหมาย
ทีก่ าหนด
2. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มีเปูาหมายการพัฒนาที่มุ่งเน้นการ
ยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ บนพ้ืนฐานแนวคิด 3 ประการ ได้แก่ (1) "ต่อยอดอดีต" โดยมอง
กลับไปท่ี รากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และจุดเด่นทางทรัพยากรธรรมชาติ
ท่ีหลากหลาย รวมทั้งความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศในด้านอื่น ๆ นามาประยุกต์ผสมผสานกับเทคโนโลยี
และนวัตกรรม เพ่ือให้สอดรับกับบริบทของเศรษฐกิจและสังคมโลกสมัยใหม่ทรัพยากรธรรมชาติท่ีหลากหลาย รวมทั้ง
ความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศในด้านอื่น ๆ นามาประยุกต์ผสมผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้
สอดรับกับบริบทของเศรษฐกิจและสังคมโลกสมัยใหม่ (2) "ปรับปัจจุบัน" เพื่อปูทางสู่อนาคต ผ่านการพัฒนาโครงสร้าง
พ้ืนฐานของประเทศในมิติต่าง ๆ ท้ังโครงข่ายระบบคมนาคมและขนส่ง โครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ
ดิจิทัล และการปรับสภาพแวดล้อมให้เอ้ือต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการอนาคต และ (3) "สร้างคุณค่าใหม่
ในอนาคต" ด้วยการเพ่ิมศักยภาพของผู้ประกอบการ พัฒนาคนรุ่นใหม่ รวมถึงปรับรูปแบบธุรกิจ เพื่อตอบสนองต่อ
ความต้องการของตลาด ผสมผสานกับยุทธศาสตร์ท่ีรองรับอนาคต บนพื้นฐานของการต่อยอดอดีตและปรับปัจจุบัน
พร้อมทงั้ การส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐให้ประเทศไทยสามารถสร้างฐานรายได้และการจ้างงานใหม่ ขยายโอกาส
ทางการค้าและการลงทุนในเวทีโลก ควบคู่ไปกับกรยกระดับรายได้และการกินดีอยู่ดี รวมถึงการเพิ่มขึ้นของคนข้ันกลาง
และลดความเหล่ือมล้าของคนในประเทศได้ในคราวเดียวกัน
3. ยทุ ธศาสตร์ชาตดิ า้ นการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ มเี ปูาหมายการ
พัฒนาท่ีสาคญั เพื่อพัฒนาคนในทุกมติ ิและในทุกชว่ งวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ โดยคนไทยมีความพร้อม
ทั้งกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการท่ีดีรอบด้านและมีสุขภาวะท่ีดีในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะรับผิดชอบต่อสังคมและ
ผู้อื่น มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย รักษาศีลธรรม และเป็นพลเมืองดีของชาติ มีหลักคิดที่ถูกต้อง มีทักษะท่ี
จาเป็นในศตวรรษที่ 21 มีทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษและภาษาท่ีสามและอนุรักษ์ภาษาท้องถิ่น มีนิสัยรักการเรียนรู้
และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต สู่การเป็นคนไทยที่มีทักษะสูงเป็นนวัตกร นักคิด ผู้ประกอบการ
เกษตรกรยุคใหม่และอ่ืน ๆ โดยมสี มั มาชีพตามความถนัดของตนเอง
4. ยทุ ธศาสตรช์ าตดิ า้ นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม มีเปูาหมายการ
พัฒนาท่ีสาคัญท่ีให้ความสาคัญกับการดึงเอาพลังของภาคส่วนต่าง ๆ ท้ังภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชน ท้องถ่ิน
มาร่วมขับเคล่ือน โดยการสนับสนุนการรวมตัวของประชาชนในการร่วมคิดร่วมทาเพื่อส่วนรวมการกระจายอานาจและ
ความรับผิดชอบไปสู่กลไกบริหารราชการแผ่นดินในระดับท้องถิ่น การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการจัดการ
ตนเอง และการเตรียมความพร้อมของประชากรไทยท้ังในมิติสุขภาพเศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อมให้เป็น
ประชากรท่ีมีคุณภาพ สามารถพึ่งตนเองและทาประโยชน์แก่ครอบครัว ชุมชน และสังคมให้นานท่ีสุด โดยรัฐให้
หลกั ประกันการเข้าถึงบริการและสวัสดิการท่ีมีคุณภาพอย่างเป็นธรรมและทวั่ ถึง
๔๐
5. ยุทธศาสตรช์ าตดิ า้ นการสรา้ งการเติบโตบนคุณภาพชีวิตท่เี ปน็ มิตรต่อสิ่งแวดล้อม
มีเปูาหมายการพัฒนาท่ีสาคัญเพ่ือนาไปสู่การบรรลุเปูาหมายการพัฒนาท่ีย่ังยืนในทุกมิติ ทั้งด้าน
สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาล และความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างกันทั้งภายในและภายนอก
ประเทศอย่างบูรณาการ ใช้พื้นท่ีเป็นตัวต้ังในการกาหนดกลยุทธ์และแผนงาน และการให้ทุกฝุายที่เกี่ยวข้องได้เข้ามา
มีส่วนร่วมในแบบทางตรงให้มากท่ีสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเป็นการดาเนินการบนพ้ืนฐานการเติบโตร่วมกัน ไม่ว่าจะ
เป็นทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิต โดยให้ความสาคัญกับการสร้างสมดุล ทั้ง 3 ด้าน อันจะนาไปสู่ความ
ย่ังยืนเพ่ือคนร่นุ ต่อไปอย่างแทจ้ ริง
6. ยทุ ธศาสตรช์ าตดิ ้านการปรบั สมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจดั การภาครฐั
มีเปาู หมายการพัฒนาที่สาคัญเพ่ือปรับเปลี่ยนภาครัฐท่ียึดหลัก "ภาครัฐของประขาชนเพ่ือประชาชน
และประโยชน์ส่วนรวม" โดยภาครัฐต้องมีขนาดท่ีเหมาะสมกับบทบาทภารกิจ แยกแยะบทบาทหน่วยงานของรัฐ
ที่ทาหน้าที่ในการกากับหรือในการให้บริการในระบบเศรษฐกิจที่มีการแข่งขัน มีสมรรถะสูง ยืดหลักธรรมาภิบาลปรับ
วัฒนธรรมการทางานให้มุ่งผลสัมฤทธ์ิและผลประโยชน์ส่วนรวม มีความทันสมัย และพร้อมท่ีจะปรับตัวให้ทันต่อการ
เปล่ียนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างย่ิงการนานวัตกรรม เทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่ระบบการทางานที่
เป็นดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่าและปฏิบัติงานเทียบได้กับมาตรฐานสากล รวมท้ังมีลักษณะเปิดกว้าง เช่ือมโยง
ถึงกันและเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
และโปรง่ ใส โดยทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันปลูกฝังค่านิยมความซ่ือสัตย์สุจริต ความมัธยัสถ์ และสร้างจิตสานึกใน
การปฏิเสธไม่ยอมรับการทุจริตประพฤติมิชอบอย่างส้ินเชิง นอกจากน้ัน กฎหมายต้องมีความชัดเจน มีเพียงเท่าที่
จาเป็น มีความทันสมัย มีความเป็นสากลมีประสิทธิภาพ และนาไปสู่การลดความเหลื่อมล้าและเอื้อต่อการพัฒนา
โดยกระบวนการยุติธรรมมีการบริหารท่ีมีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และการอานวยความยุติธรรมตาม
หลกั นิตธิ รรมนักคดิ นกั นวัตกร และการเป็นผู้ประกอบการใหม่ รวมท้ังทักษะชีวิตท่ีสามารถอยู่ร่วมและทางานภายใต้
สังคมทเี่ ป็นพหุวฒั นธรรม
2. แผนแม่บทภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาติ
(11) ประเด็น การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวติ
ยุทธศาสตร์ชาติได้กาหนดเปูาหมายการขับเคล่ือนการพัฒนาให้ประเทศเจริญก้าวหน้าไปในอนาคต
ซึ่งทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยขับเคลื่อนสาคัญในการยกระดับการพัฒนาประเทศในทุกมิติไปสู่เปูาหมายการเป็น
ประเทศท่ีพัฒนาแล้วที่ขับเคลื่อนโดยภูมิปัญญาและนวัตกรรมในอีก 20 ปีข้างหน้า อีกท้ังการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง
ประชากรท่ีมีสัดส่วนประชากรวัยแรงงานและวัยเด็กที่ลดลงและประชากรสูงอายุท่ีเพ่ิมขึ้นอย่างต่อเน่ือง จะเป็นปัจจัย
เสี่ยงสาคัญท่ีจะทาให้การพัฒนาประเทศในมิติต่าง ๆ มีความท้าทายเพ่ิมมากข้ึน ทั้งในส่วนของเสถียรภาพทางการเงิน
ของประเทศในการจัดสวสั ดิการเพ่ือดูแลผู้สูงอายุท่ีเพ่ิมสูงขึ้น การลงทุนและการออม การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของ
ประเทศ ความมั่นคงทางสังคม การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างย่ังยืน ซึ่งจะเป็นประเด็นท้าทายต่อการ
ขบั เคล่อื นประเทศไปสู่การเปน็ ประเทศพฒั นาแลว้ โดยปจั จุบัน โครงสร้างประชากรไทยกาลังเปล่ียนแปลงเข้าสู่สังคมสูง
วัย และจะเปล่ียนแปลงอย่างสมบูรณ์ในช่วงปี 2564 ซึ่งทาให้ประชากรวัยแรงงานจะมีจานวนสูงสุดและเร่ิมลดลง
อย่างต่อเน่ืองส่งผลกระทบต่อศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว นอกจากนี้ อัตราการเจริญ
พันธ์ุรวมของประชากรไทยในปี 2561 อยู่ที่ 1.58 ซึ่งต่ากว่าระดับทดแทน นอกจากนี้ กลุ่มวัยต่าง ๆ ยังคงมี
ปัญหาและความท้าทายในแต่ละกลุ่ม อาทิ โภชนาการในกลุ่มเด็กปฐมวัย ความสามารถทางเชาว์ปัญญา และความ
ฉลาดทางอารมณ์ของกล่มุ วัยรุ่น ผลติ ภาพแรงงานตา่ ในกลุ่มวัยแรงงาน และปัญหาสขุ ภาพของกลุ่มผสู้ งู อายุ เปน็ ต้น
๔๑
แผนย่อยการพัฒนาชว่ งวัยเรียน/วยั รุน่
ช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น ปลูกฝังความเป็นคนดี มีวินัย พัฒนาทักษะความสามารถที่สอดรับกับทักษะในศตวรรษ
ท่ี 21 โดยเฉพาะทักษะด้านการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนมีภูมิคุ้มกันต่อปัญหา
หรืออาชญากรรมต่าง ๆ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถในการทางานร่วมกับผู้อ่ืน มีความยืดหยุ่นทางความคิด
รวมถึงทกั ษะดา้ นภาษา ศิลปะ และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพสอดคล้องกับ
ความสามารถ ความถนัดและความสนใจ รวมถึงการวางพื้นฐานการเรียนรู้เพื่อการวางแผนชีวิตและวางแผนทางด้าน
การเงนิ ทเ่ี หมาะสมในแตล่ ะชว่ งวัยและนาไปปฏิบัติได้ ตลอดจนการพัฒนาทักษะที่เรียนรู้ท่ีเช่ือมต่อกับโลกการทางาน
รวมถึงทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ มีทักษะชีวิต สามารถอยู่ร่วมและทางานกับผู้อ่ืนได้
ภายใต้สังคมท่ีเป็นพหุวัฒนธรรม ซึ่งหากมีการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ และมีหลักสูตรการศึกษาทีเอ้ือต่อทักษะ
ชีวิต มีการเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิต ทักษะชีวิต และทักษะอาชีพในหลักสูตร และสร้างการมีงานทาของวัยเรียน/
วยั รนุ่ จะชว่ ยให้การพฒั นาเด็กและเยาวชนบังเกิดผลสัมฤทธไ์ิ ด้
แนวทางการพัฒนา
1 ) จัดให้มีการพัฒนาทักษะที่สอดรบั กบั ทกั ษะในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะทักษะด้านการคดิ
วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ความสามารถในการแก้ปัญหาทซ่ี บั ซ้อน ความคิดสร้างสรรค์ การทางานรว่ มกับผูอ้ ื่น
2 ) จดั ใหม้ ีการพัฒนาทกั ษะดา้ นภาษา ศิลปะ และความสามารถในการใช้เทคโนโลยที ี่สอดคล้อง
กบั ความสามารถ ความถนดั และความสนใจ
3 ) จดั ใหม้ ีการพัฒนาทักษะในการวางแผนชีวิตและวางแผนการเงนิ ตลอดจนทกั ษะท่ีเช่ือมต่อ
กับโลกทางาน
4 ) จัดให้มรพัฒนาทักษะอาชพี ท่สี อดคลอ้ งกับความต้องการของประเทศ การบม่ เพาะการเป็น
นกั คิด นักนวตั กร และการเป็นผปู้ ระกอบการใหม่ รวมทง้ั ทักษะชีวิตท่สี ามารถอยรู่ ว่ มและทางานภายใต้สังคมที่
เปน็ พหุวัฒนธรรม
5 ) สง่ เสริมและสนบั สนุนระบบบรกิ ารสุขภาพและอนามัยทีเ่ ช่ือมต่อกนั ระหวา่ งระบบสาธารณะ
สขุ กบั โรงเรยี นหรือสถานศึกษา เพือ่ เสรมิ สร้างศักยภาพดา้ นความฉลาดทางเชาวนป์ ญั ญา และความฉลาดทางด้าน
อารมณ์ ตลอดจนภูมิคุ้มกนั ต่าง ๆ ในการดาเนนิ ชีวิตของกลุ่มวยั เรยี น/วนั รุ่น
เปา้ หมายและตวั ชี้วดั
เป้าหมาย ตัวชวี้ ัด ปี 2561 - 2565 ค่าเปา้ หมาย
เพิ่มข้ึนรอ้ ยละ 20 ปี 2566 -2570 ปี 2571 - 2575 ปี 2576 - 2580
วยั เรยี น/วยั รนุ่ มคี วามรู้ คะแนนความสามารถใน เพิ่มข้ึนร้อยละ 20 เพิ่มขน้ึ รอ้ ยละ 20 เพ่ิมขนึ้ ร้อยละ 20
และทักษะในศตวรรษท่ี การแขง่ ขันการพัฒนาทุน
21 ครบถ้วน รู้จกั คดิ มนษุ ยด์ ้านทักษะ ( Skill )
วิเคราะห์ รักการเรียนรู้ ของ World Economic
มสี านกึ พลเมอื ง มีความ Forum (WEF)
กลา้ หาญทางจรยิ ธรรม
มีความสารถในการ
แกป้ ญั หา ปรับตวั
สอ่ื สาร และทางาน
รว่ มกบั ผูอ้ น่ื ได้อยา่ งมี
ประสทิ ธิผลตลอดชวี ิตดี
ข้นึ
๔๒
เป้าหมาย คนไทยทุกช่วงวัยมคี ุณภาพเพิม่ ข้ึน ไดร้ บั การพฒั นาอย่างสมดุล ทั้งด้านร่างกายสติปัญญา
และคณุ ธรรมจริยธรรม เปน็ ผูท้ ม่ี คี วามรแู้ ละทักษะในศตวรรษที่ 21 รกั การเรยี นรู้อยา่ งต่อเน่ืองตลอดชีวิต
ดังน้ัน จึงจาเป็นต้องมีการวางรากฐานการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศอย่างเป็นระบบ
โดยจาเป็นต้องมุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ สร้างความอยู่ดีมีสุข
ของครอบครัวไทยซง่ึ เป็นหนว่ ยที่ย่อยท่ีสุดเพ่ือให้สามารถเป็นพลังในการขับเคล่ือนช่วยเหลือสังคม พัฒนาและยกระดับ
คนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ท่ีดี เก่ง และมีคุณภาพพร้อมขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศไป
ข้างหน้าได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่ง “คนไทยในอนาคตจะต้องมีความพร้อมท้ังกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการที่ดีรอบ
ด้านและมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและผู้อื่น มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย
รักษาศีลธรรม และเป็นพลเมืองดีของชาติ มีหลักคิดท่ีถูกต้องมีทักษะท่ีจาเป็นในโลกอนาคต สามารถใช้ภาษาไทยได้ดี
มีทกั ษะส่อื สารภาษาองั กฤษและภาษาท่ี 3 รวมทั้งอนุรักษ์ภาษาท้องถ่ิน มีนิสัยรักการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่าง
ต่อเน่ืองตลอดชีวิต สู่การเป็นคนไทยที่มีทักษะสูงเป็นนักพัฒนาเทคโนโลยีระดับสูงและนวัตกร นักคิด ผู้ประกอบการ
เกษตรกรยุคใหม่และอนื่ ๆ โดยมีสัมมาชีพตามความถนัดของตนเอง” แผนแม่บทประเด็น การพัฒนาศักยภาพคนตลอด
ช่วงชีวิต ได้กาหนดแผนย่อยไว้ 5 แผนย่อย เพ่ือพัฒนาและยกระดับทรัพยากรมนุษย์ในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เต็ม
ศกั ยภาพและเหมาะสม ดังน้ี
การสร้างสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ พัฒนาทรัพยากร
มนุษย์ของประเทศ โดยจาเป็นต้องมุ่งเน้นการพัฒนาและยกระดับคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นทรัพยากรมนุษย์
ท่ีดี เก่ง และมีคุณภาพพร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไปข้างหน้าได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งจาเป็นต้องมีการ
เสริมสรา้ งสภาพแวดล้อมทเ่ี ออ้ื ตอ่ การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์อย่างเป็นระบบตั้งแต่ระดับครอบครัว
ชมุ ชน สังคม และการมีระบบและกลไกรองรบั การพฒั นาทรัพยากรมนุษยท์ ม่ี ีประสิทธภิ าพ การพัฒนาเด็กตั้งแต่ช่วง
การตัง้ ครรภ์จนถึงปฐมวัย โดยจัดให้มีการเตรียมความพร้อมให้แก่พ่อแม่ก่อนการตั้งครรภ์ พร้อมท้ังส่งเสริมอนามัยแม่
และเด็กตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ส่งเสริมและสนับสนุนให้โรงพยาบาลทุกระดับดาเนินงานตามมาตรฐานงานอนามัยแม่และ
เด็กสู่มาตรฐานโรงพยาบาลและบรกิ ารสขุ ภาพ ส่งเสริมและสนับสนุนการเล้ียงลูกด้วยนมแม่ และสารอาหารที่จาเป็นต่อ
สมองเดก็ การกระต้นุ พฒั นาการสมองและการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนาการท่สี มวยั ทุกด้าน
การพัฒนาช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น จัดให้มีการพัฒนาทักษะความสามารถท่ีสอดรับกับทักษะใน
ศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ความคิด
สร้างสรรค์ การทางานร่วมกับผู้อ่ืน จัดให้มีการพัฒนาทักษะด้านภาษา ศิลปะ ทักษะด้านดิจิทัล และความสามารถใน
การใช้เทคโนโลยีท่ีสอดคล้องกับความสามารถ ความถนัดและความสนใจ จัดให้มีการพัฒนาทักษะในการวางแผนชีวิต
และวางแผนการเงิน ตลอดจนทักษะการเรียนรู้ท่ีเช่ือมต่อกับโลกการทางาน จัดให้มีการเรียนรู้ทักษะอาชีพท่ีสอดคล้อง
กบั ความตอ้ งการของประเทศ และทักษะชวี ิตทส่ี ามารถอยู่ร่วมและทางานภายใต้สังคมที่เป็นพหุวัฒนธรรม ส่งเสริมและ
สนับสนุนระบบบริการสุขภาพและอนามัยท่ีเช่ือมต่อกันระหว่างระบบสาธารณสุขกับโรงเรียนหรือสถานศึกษา เพื่อ
เสริมสร้างศักยภาพด้านความฉลาดทางเชาวน์ปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ของกลุ่มวัยเรียน/วัยรุ่น รวมทั้งสร้าง
ความอยากรู้อยากเห็นและสร้างแรงจูงใจใฝสุ ัมฤทธ์ิ
การพัฒนาและยกระดับศกั ยภาพวยั แรงงาน ด้วยการยกระดับศักยภาพทักษะและสมรรถนะของ
คนในช่วงวัยทางานให้สอดคล้องกับความสามารถเฉพาะบุคคลและความต้องการของตลาดแรงงาน เพ่ือสร้างความ
เข้มแข็งของเศรษฐกิจและผลิตภาพเพ่ิมขึ้นให้กับประเทศเสริมสร้างความอยากรู้และยกระดับตนเอง สร้างวัฒนธรรม
การทางานท่ีพึงประสงค์ และความรู้ความเข้าใจและทักษะทางการเงิน เพ่ือเสริมสร้างความม่ันคงและหลักประกันของ
ตนเองและครอบครัว ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาความรู้แรงงานฝีมือให้เป็นผู้ประกอบการใหม่ และสามารถ
๔๓
พัฒนาต่อยอดความรใู้ นการสรา้ งสรรค์งานใหม่ ๆ และสรา้ งเสริมคุณภาพชีวิตท่ีดีให้กับวัยทางานผ่านระบบการคุ้มครอง
ทางสังคมและการสง่ เสริมการออม
การส่งเสริมศักยภาพวัยผู้สูงอายุ โดยส่งเสริมการมีงานทาของผู้สูงอายุให้พ่ึงพาตนเองได้ทาง
เศรษฐกจิ และร่วมเป็นพลงั สาคญั ตอ่ การพัฒนาเศรษฐกจิ ชุมชนและประเทศ ส่งเสรมิ และพัฒนาระบบการออมเพื่อสร้าง
หลักประกันความม่ันคงในชีวิตหลังเกษียณ และหลักประกันทางสังคมท่ีสอดคล้องกับความจาเป็นพื้นฐานในการ
ดารงชีวิต และส่งเสริมสนับสนุนระบบการส่งเสริมสุขภาพดูแลผู้สูงอายุ พร้อมท้ังจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นมิตรกับ
ผู้สูงอายุ
แนวทางการพัฒนา
1 ) ยกระดับศักยภาพ ทักษะและสมรรถนะของคนในช่วงวัยทางานให้มีคุณภาพมาตรฐาน
สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน รวมท้ังเทคโนโยลีสมัยใหม่ เพื่อสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจและ
ผลิตภาพเพ่ิมข้ึนใหก้ บั ประเทศ
2 ) เสริมสร้างวัฒนธรรมการทางานที่พึงประสงค์ และความเรียนรู้ความเข้าใจและทักษะ
ทางการเงินเพ่อื เสริมสรา้ งความมน่ั คงและหลักประกนั ของตนเองและครอบครัว รวมท้ังสร้างเสริมคุณภาพชีวิตท่ีดี
ใหก้ บั วยั ทางานผ่านระบบการคมุ้ ครองทางด้านสังคมและการส่งเสริมเอกชน
3 ) ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาทักษะแรงงานฝีมือให้เป็นผู้ประกอบการใหม่และสามารถ
พัฒนาตอ่ ยอดความรู้ในการสร้างสรรค์งานใหม่ ๆ และมีโอกาสและทางเลือกทางานและสร้างงาน
4 ) ส่งเสริมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญต่างชาติและคนไทยที่มีความสามารถพิเศษในต่างประเทศ ทั้งในรูปแบบ
การทางานช่ัวคราวและถาวร เพ่ือสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ รวมท้ังส่งเสริม สนับสนุนผู้มี
ความสามารถพิเศษทั้งคนไทยหรือคนต่างชาติท่ีกาเนิดในประเทศไทย ให้สามารถแสดงศักยภาพและใช้ความสามารถใน
การทาประโยชน์และสร้างช่ือเสียงให้แก่ประเทศ ตลอดจนอานวยความสะดวกให้ผู้เช่ียวชาญในสาขาจาเป็นหรือขาด
แคลนจากตา่ งประเทศเข้ามาทางานในประเทศไทย
5 ) ส่งเสรมิ การพฒั นา การปรบั เปลย่ี นทศั นคติ และสร้างศักยภาพให้ผทู้ เี่ คยกระทาผดิ สามารถ
ประกอบอาชีพ เป็นกาลงั ในการพฒั นาประเทศ และอยู่ในสงั คมอย่างสงบสุข
เป้าหมายและตัวช้ีวดั
เปา้ หมาย ตวั ชวี้ ดั ค่าเป้าหมาย
ปี 2561 - 2565 ปี 2566 -2570 ปี 2571 - 2575 ปี 2576 - 2580
1. แรงงานมศี ักยภาพใน ผลิตภาพแรงงาน ไม่ตา่ กว่ารอ้ ยละ 2.5 ไม่ตา่ กว่าร้อยละ 2.5 ไม่ตา่ กว่าร้อยละ 2.5 ไมต่ า่ กวา่ รอ้ ยละ 2.5
การเพ่ิมผลผลิต มีทกั ษะ (ร้อยละต่อป)ี
อาชพี สูง ตระหนกั ใน
ความสาคัญท่จี ะพัฒนา
ตนเองใหเ้ ตม็ ศกั ยภาพ
สามารถปรับตวั และ
เรียนรสู้ ิ่งใหมต่ ามพลวตั
ของโครงสร้างอาชีพและ
ความตอ้ งการของ
ตลาดแรงงานเพ่มิ ขึ้น
๔๔
เป้าหมาย ตัวชีว้ ัด ปี 2561 - 2565 ค่าเป้าหมาย ปี 2576 - 2580
เพ่มิ ขนึ้ รอ้ ยละ 10 ปี 2566 -2570 ปี 2571 - 2575
2. มคี นไทยทีม่ ี สดั สว่ นกาลัง เพม่ิ ขน้ึ รอ้ ยละ 10 เพ่มิ ข้ึนร้อยละ 10 สดั สว่ นผูส้ าเรจ็
ความสามารถและ แรงงานด้าน การศกึ ษา
ผเู้ ชย่ี วชาญตา่ งประเทศ วิทยาศาสตร์และ วทิ ยาศาสตร์
เขา้ มาทาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
เทคโนโลยี และ เทคโนโลยี และ
นวตั กรรมใน นวตั กรรมเปน็ ร้อยละ
อุตสาหกรรมเปาู หมาย
เพมิ่ ขึน้ 50 ของผู้สาเร็จ
การศึกษาท้ังหมด
(12) ประเดน็ การพัฒนาการเรยี นรู้
ยทุ ธศาสตร์ชาติใหค้ วามสาคัญกบั การพัฒนาศกั ยภาพและคณุ ภาพของประชากรไทยทกุ ชว่ งวัย ให้เป็นคนดี เก่ง
และมีคุณภาพ ซึง่ การพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์ได้ให้ความสาคัญกับการพัฒนาท้ังสอดคล้อง กับศักยภาพ ความสนใจ ความ
ถนัด และการตระหนกั ถึงพหุปัญญาของมนุษยท์ ี่หลากหลาย อาทิ ภาษา ตรรกะและคณิตศาสตร์ ด้านทัศนะและมิติดนตรี
กฬี าและการเคลื่อนไหวของร่างกาย การจัดการตนเอง มนุษยสัมพันธ์ รวมถึงผู้มีความสามารถอันโดดเด่นด้านใดด้านหนึ่ง
หรอื หลายดา้ น ซึง่ จาเปน็ ตอ้ งมีการพัฒนาระบบและปัจจัยส่งเสริมต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องไปพร้อมกัน ทั้งในส่วนของระบบการ
เรียนการสอน และการพฒั นาทกั ษะฝมี อื รวมทัง้ การใหค้ วามสาคญั กับการสง่ เสริมเทคโนโลยแี ละนวตั กรรม เพอื่ ให้ประเทศ
ไทยสามารถยกระดับเป็นเจ้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมก้าวทันโลก ซึ่งการศึกษาและการเรียนรู้เป็นเคร่ืองมือสาคัญใน
การพัฒนาศักยภาพของคนให้มีทักษะความรู้ ทักษะอาชีพบนฐานพหุปัญญา มีสมรรถนะท่ีมีคุณภาพสูง รู้เท่าทันการ
เปลี่ยนแปลง
โดยในชว่ งที่ผ่านมา แม้ว่าคนไทยได้รับโอกาสทางการศึกษาสูงขึ้น โดยมีจานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของประชากร
วัยแรงงานอายุ 15-59 ปี เพ่มิ ขนึ้ อย่างต่อเนื่องจาก 8.8 ปี ในปี 2551 เป็น 9.4 ปี ในปี 2559 แต่ในภาพรวมคุณภาพ
การศึกษาและการเรียนรู้ของคนไทยยังอยูใ่ นระดับค่อนขา้ งตา่ แต่เม่ือพจิ ารณาคะแนนผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
ขั้นพ้ืนฐาน ในปี 2560 พบว่า มีค่าเฉลี่ยต่ากว่าร้อยละ 50 และผลคะแนนสอบ PISA ท่ีอยู่ในระดับต่ากว่าอีกหลาย
ประเทศที่มีระดับการพัฒนาใกล้เคียงกัน เนื่องจากข้อจากัดที่สาคัญของการศึกษาไทย ทั้งปัญหาเรื่องหลักสูตรและระบบ
การเรียนการสอนท่ีเน้นการท่องจา ทาให้ขาดความคิดสร้างสรรค์ ปัจจัยสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนและครูท่ีมี
คุณภาพยังกระจายไม่ทั่วถึงโดยเฉพาะในพื้นท่ีห่างไกล ขณะท่ีในระดับอาชีวศึกษายังมีเด็กที่สนใจเรียนต่อสายอาชีพใน
สดั ส่วนทนี่ อ้ ย ส่วนระดับอดุ มศึกษาพบวา่ มีการเปิดหลกั สตู รโดยไม่คานึงถึงความต้องการของตลาดงานบณั ฑิตทจ่ี บออกมา
บางสว่ นยงั มีปญั หาคณุ ภาพ
เปา้ หมายและตัวชีวัดภายใต้ยุทธศาสตรช์ าติ ประเดน็ การพัฒนาการเรยี นรู้
เป้าหมาย ตวั ช้วี ดั ปี 2561 - 2565 ค่าเป้าหมาย ปี 2576 - 2580
เฉลี่ย 470 คะแนน ปี 2566 -2570 ปี 2571 - 2575 เฉล่ีย 410 คะแนน
1. คนไทยมีการศกึ ษาที่มี คะแนน PISA ด้านการ เฉลยี่ 480 คะแนน เฉลี่ย 490 คะแนน
คุณภาพตาม อ่านคณติ ศาสตร์ และ
มาตรฐานสากลเพ่มิ ขึน้ มี วทิ ยาศาสตร์ (คะแนน
ทักษะท่ีจาเปน็ ของโลก เฉลีย่ ) อันดบั ขีด
ศตวรรษท่ี 21 ความสามารถในการ
สามารถแกป้ ญั หา แข่งขันของประเทศ
ปรับตวั ส่ือสาร และ ดา้ นการศกึ ษา
๔๕
เป้าหมาย ตัวชว้ี ัด ค่าเปา้ หมาย
ปี 2561 - 2565 ปี 2566 -2570 ปี 2571 - 2575 ปี 2576 - 2580
ทางานรว่ มกับผ้อู ืน่ ได้
อยา่ งมีประสิทธผิ ลเพ่มิ ขน้ึ
มีนสิ ยั ใฝุเรียนรู้ อย่าง
ตอ่ เน่อื งตลอดชวี ิต
2. คนไทยไดร้ ับการ ความสามรถในการ ไม่นอ้ ยกวา่ 50.1 ไม่น้อยกวา่ 56.63 ไม่นอ้ ยกวา่ 69 ไมน่ อ้ ยกวา่ 72.49
พัฒนาเตม็ ตามศักยภาพ แขง่ ขันของประเทศ คะแนน คะแนน(เทยี บเทา่ คะแนน คะแนน(เทียบเท่า
ตามความถนดั และ ไทยในระดบั สากลดขี นึ้ คา่ เฉลี่ยยของภูมภิ าค คา่ เฉลย่ี ยของภูมิภาค
ความสามารถของพหุ (GTCI) (คะแนน) อเมรกิ าเหนอื )
ปญั ญาดขี ้นึ ยโุ รป)
เปา้ หมาย
1. คนไทยมีการศึกษาท่มี คี ุณภาพตามมาตรฐานสากล มที ักษะท่ีจาเปน็ ของโลกศตวรรษที่ 21 สามารถ
ในการแกป้ ัญหา ปรบั ตัว ส่อื สาร และทางานร่วมกับผอู้ ื่นได้อย่างมีประสิทธผิ ล มนี ิสัย ใฝเุ รียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชวี ิต
2. คนไทยได้รับการพฒั นาเต็มตามศักยภาพตามความถนดั และความสามารถของพหุปัญญา
ดังนั้น แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการพัฒนาการเรียนรู้ ได้กาหนดประเด็นยุทธศาสตร์ ที่
เน้นทั้งการแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน และการเสริมสร้างและยกระดับการพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ท้ังการศึกษาใน
ระบบ นอกระบบ และการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยการพัฒนาระบบการเรียนรู้ท่ีตอบสนองต่อการเปล่ียนแปลงในศตวรรษ
ที่ 21 มีการออกแบบระบบการเรียนรู้ใหม่ การเปลี่ยนบทบาทครู การเพ่ิมประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการศึกษา และ
การพัฒนาระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้สามารถกากับการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตนเองได้อย่าง
ต่อเน่ืองแม้จะออกจากระบบการศึกษาแล้ว ควบคู่กับการส่งเสริมการพัฒนาคนไทยตามพหุปัญญาให้เต็มตามศักยภาพ
รวมถึงการสร้างเสริมศักยภาพ ผู้มีความสามารถพิเศษให้สามารถต่อยอดการประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง โดย
ประกอบดว้ ย 2 แผนย่อย ดังนี้
การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปล่ียนแปลงในศตวรรษท่ี 21 ด้วยการปรับเปลี่ยนระบบ
การเรียนรู้สาหรับศตวรรษที่ 21 โดยพัฒนากระบวนการเรียนรู้ในทุกระดับช้ัน ต้ังแต่ปฐมวัยจนถึงอุดมศึกษา ท่ีใช้
ฐานความรู้และระบบคิดในลักษณะสหวิทยาการ พัฒนากระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกระดับการศึกษา รวมถึงจัด
กจิ กรรมเสริมทกั ษะเพ่ือพฒั นาทกั ษะสาหรับศตวรรษท่ี 21 พฒั นาระบบการเรียนร้เู ชงิ บรู ณาการที่เน้นการลงมือปฏิบัติ มี
การสะท้อนความคิด/ทบทวนไตร่ตรอง พัฒนาระบบการเรียนรู้ท่ีให้ผู้เรียนสามารถกากับการเรียนรู้ของตนได้ เพ่ือให้
สามารถนาองคค์ วามรไู้ ปใชส้ รา้ งรายได้ รวมถึงมีทักษะด้านวิชาชีพและทักษะชีวิต เปลี่ยนโฉมบทบาท “ครู” ให้เป็นครูยุค
ใหม่ โดยวางแผนการผลิต พัฒนาและปรับบทบาท “ครู คณาจารย์ยุคใหม่” ให้เป็น “ผู้อานวยการการเรียนรู้”
ปรับระบบการผลิตและพฒั นาครูต้งั แต่ การดงึ ดดู คัดสรร ผูม้ ีความสามารถสงู ให้เขา้ มาเป็นครู ส่งเสริมสนับสนุนระบบการ
พัฒนาศักยภาพและสมรรถนะครูอย่างต่อเนื่องครอบคลุมท้ังเงินเดือน สายอาชีพและระบบสนับสนุนอ่ืน ๆ การเพิ่ม
ประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการศึกษาในทุกระดับ ทุกประเภท โดยปฏิรูปโครงสร้างองค์กรด้านการศึกษาให้
มีประสิทธิภาพ จัดให้มีมาตรฐานข้ันต่าของโรงเรียนในทุกระดับ เพื่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนท่ีสูงข้ึน ปรับปรุงโครงสร้าง
การจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพและเพ่ิมคุณภาพการศึกษา ส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชนในการจัดการศึกษา
พฒั นาระบบประกันคุณภาพการศึกษา โดยแยกการประกันคุณภาพการศึกษาออกจากการประเมินคุณภาพและการรับรอ
คุณภาพและการกากับดูแลคุณภาพการศึกษา ปฏิรูประบบการสอบที่นาไปสู่การวัดผลในเชิงทักษะที่จาเป็นสาหรับ
ศตวรรษท่ี 21 มากกว่าการวัดระดับความรู้ รวมทั้งส่งเสริมการวิจัยและใช้เทคโนโลยีในการสร้างและจัดการความรู้
๔๖
การเรียนการสอน และการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับบริบทพ้ืนท่ี การพัฒนาระบบการเรียนรู้
ตลอดชีวิต โดยจัดให้มีระบบการศึกษาและระบบฝึกอบรมบนฐานสมรรถนะท่ีมีคุณภาพสูงและยืดหยุ่น มีมาตรการจูงใจ
และสง่ เสริมสนับสนุนให้คนเข้าสู่ใฝุเรียนรู้ พัฒนาตนเอง รวมถึงการยกระดับทักษะวิชาชีพ พัฒนาระบบการเรียนรู้ชุมชน
ให้เขา้ ถึงไดท้ กุ ท่ี ทกุ เวลา โดยความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม พัฒนาระบบเครือข่ายเทคโนโลยี
ดิจิทัลและดิจิทัลแฟลตฟอร์มเพื่อการศึกษาในทุกระดับทุกประเภทการศึกษาอย่างท่ัวถึงและมีประสิทธิภาพ พัฒนา
โปรแกรมประยกุ ต์หรือสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลที่มีคุณภาพท่ีนักเรียน นักศึกษาและประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์
ในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ รวมถึงการสร้างระบบการศึกษาเพื่อเป็นเลิศทางวิชาการระดับ
นานาชาติ โดยส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสถาบันการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญและมีความโดดเด่นเฉพาะสาขาสู่ระดับ
นานาชาติ สร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและแลกเปล่ียนนักเรียน นักศึกษาและบุคลากรในระดับนานาชาติ
รวมถึงการพัฒนาศูนย์วิจัยเฉพาะทางศูนย์ฝึกอบรมและทดสอบในระดับภูมิภาค จัดให้มีการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติ
ไทยและประวตั ิศาสตรท์ ้องถิ่นจัดให้มกี ารเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรมของไทยและพัฒนาการของประเทศ
เพื่อนบ้านในระบบการศึกษา และสาหรับประชาชน ส่งเสริมสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของเด็ก เยาวชนและ
นักเรียนกบั ประเทศเพ่ือนบ้านในภูมภิ าคเอเชยี อาคเนย์
การตระหนักถึงพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลายด้วยการพัฒนาและส่งเสริมพหุปัญญา ผ่านครอบครัว
ระบบสถานศึกษา สภาพแวดล้อม รวมทั้งส่ือ โดยพัฒนาระบบบริหารจัดการ กลไกการคัดกรองและการส่งต่อเพ่ือ
ส่งเสริมการพัฒนาคนไทยตามพหุปัญญาให้เต็มตามศักยภาพ ส่งเสริมสนับสนุนครอบครัว ในการเสริมสร้าง
ความสามารถพิเศษตามความถนัดและศักยภาพ ท้ังด้านกีฬา ภาษาและวรรณกรรม สุนทรียศิลป์ ส่งเสริมสนับสนุน
ระบบสถานศึกษาและสภาพแวดล้อม ที่เอื้อต่อการสร้างและพัฒนาเด็กและเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษบนฐานพหุ
ปัญญา ส่งเสริมสนับสนุนมาตรการจูงใจแก่ภาคเอกชน และสื่อ ในการมีส่วนร่วมและผลักดันให้ผู้มีความสามารถพิเศษ
มีบทบาทเด่นในระดับนานาชาติ การสร้างเส้นทางอาชีพ สภาพแวดล้อมการทางาน และระบบสนับสนุนที่เหมาะสม
สาหรับผู้มีความสามารถพิเศษ โดยจัดให้มีโครงสร้างพ้ืนฐาน และระบบสนับสนุนเพ่ือผู้มีความสามารถพิเศษได้สร้าง
ความเข้มแข็งและต่อยอดได้ จัดให้มีกลไกการทางานในลักษณะการรวมตัวของกลุ่มผู้มีความสามารถพิเศษในหลาก
สาขาวิชา เพ่ือรวมนักวิจัยและ นักเทคโนโลยีช้ันแนวหน้าเพื่อพัฒนาต่อยอดงานวิจัยเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ
และสร้างความรว่ มมอื และเช่ือมต่อสถาบันวิจัยชั้นนาทั่วโลก เพ่ือสร้างความเข้มแข็งให้นักวิจัยความสามารถสูงของไทย
ให้มีศักยภาพสงู ย่ิงข้ึน
แผนยอ่ ยการตระหนกั ถงึ พหปุ ญั ญาของมนุษยท์ ี่หลากหลาย
การตระหนักถึงพหุปัญญาของมนษุ ย์ทห่ี ลากหลาย อาทิ ภาษา ตรรกะ และคณิตศาสตร์ ด้านทศั นะและ
มิติดนตรี กีฬาและการเคลื่อนไหวของร่างกาย การจัดการตนเอง มนุษยสัมพันธ์ รวมถึงผู้มีความสามารถอันโดด
เดน่ ด้านใดด้านหน่งึ หรอื หลายด้าน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาและรักษากลุ่มผู้มีความสามารถพิเศษของแต่ละประเภท
การสร้างสภาพแวดล้อมและระบบสนับสนุนประซากรไทยมีอาชีพบนฐานพหุปัญญาการสร้างเสริมศักยภาพผู้มี
ความสามารถพิเศษให้สามารถต่อยอดการประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงท่ีครอบคลุมทั้งการพัฒนาและส่งเสริม
พหุปัญญาผ่านครอบครัว ระบบสถานศึกษา สภาพแวดล้อม รวมท้ังส่ือ ต้ังแต่ระดับปฐมวัย เพื่อสร้างเด็กและ
เยาวชนไทยมีการพัฒนาท่ีสมดุล มีทางเลือกในการใช้ศักยภาพพหุปัญญาในการดารงชีวิต เกิดอาชีพบนฐาน
พหุปัญญาท่ีสังคมยอมรับและเห็นความสาคัญ รวมท้ังมีกลไกคัดกรองและส่งเสริมเด็กและเยาวชนท่ีมี
ความสามารถพิเศษ จัดโรงเรียน ระบบเสริมประสบการณ์ การมีส่วนร่วมของภาคเอกชนตลอดจนสร้างมาตรการ
จูงใจ เพื่อพัฒนาผู้มีความสามารถพิเศษผลักดันให้ประเทศไทยมีบทบาทเด่นในประชาคมโลก ท้ังด้านกีฬา ภาษา
และวรรณกรรม สนุ ทรียศลิ ป์ ตลอดจนการวิจัย และการสรา้ งเส้นทางอาชีพ สภาพแวดล้อมการทางาน และระบบ
สนับสนุนที่เหมาะสมสาหรับผู้มีความสามารถพิเศษผ่านกลไกต่าง ๆ โดยจัดให้มีโครงสร้างพ้ืนฐาน เครื่องมือการ
ทางานท่ีเหมาะสม การสร้างระบบเชื่อมโยงเครือข่ายวิจัยกับศูนย์ความเป็นเลิศที่มีอยู่ในปัจจุบันในรูปแบบการ
ร่วมมือ การมีกลไกการทางานในลักษณะการรวมตัวของกลุ่มคนในหลายสาขาวิชา เพ่ือรวมนักวิจัยและ
๔๗
นักเทคโนโลยีชั้นแนวหน้าให้สามารถต่อยอดงานวิจัยที่สามารถต่อยอดงานวิจัยที่สามารถตอบโจทย์การพัฒนา
ประเทศ การสร้างความร่วมมือและเช่ือมต่อกับสถาบันวิจัยอ่ืน ๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้นักวิจัย
ความสามารถสูงของไทย รวมถึงการเปิดพ้ืนท่ีในการสร้างเสริมศักยภาพผู้มีความสามารถพิเศษให้สามารถต่อยอด
การประกอบอาชีพได้อยา่ งมน่ั คง
แนวทางการพฒั นา
๑) พัฒนาและสง่ เสรมิ พหุปัญญา โดยพัฒนาระบบบริหารจัดการกลไกการคัดกรองและการส่ง
ต่อเพื่อส่งเสริมการพัฒนาคนไทยตามพปัญญาให้เต็มตามศักยภาพ ส่งเสริมสนับสนุนครอบครัว ในการเสริมสร้าง
ความสามารถพเิ ศษตามความถนัดและศักยภาพท้ังด้านกีฬา ภาษาและวรรณกรรม สุนทรียศิลป์ส่งเสริมสนับสนุน
ระบบสถานศกึ ษาและสภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อการสร้างและพัฒนาเด็กและเยาวชนท่ีมีความสามารถพิเศษบนฐาน
พหุปัญญา และส่งเสริมสนับสนุนมาตรการจูงใจแก่ภาคเอกชน และสื่อ ในการมีส่วนร่วมและผลักดันให้ผู้มี
ความสามารถพิเศษ มบี ทบาทเด่นในระดบั นานาชาติ
๒) สร้างเส้นทางอาชีพ สภาพแวดล้อมการทางาน และระบบสนับสนุนที่เหมาะสม สาหรับ
ผูม้ คี วามสามารถพิเศษ โดยจัดใหม้ โี ครงสรา้ งพื้นฐานและระบบสนบั สนุนเพ่ือผู้มีความสามารถพิเศษได้สร้างความ
เข้มแข็งและต่อยอดได้ จัดให้มีกลไกการทางนในลักษณะการรวมตัวของกลุ่ม ผู้มีความสามารถพิเศษ
หลากสาขาวิชา เพอ่ื รวมนักวจิ ยั และนกั เทคโนโลยีชนั้ แนวหน้าเพอ่ื พฒั นาต่อยอดงานวิจัยเพ่ือตอบโจทย์การพัฒนา
ประเทศ สร้างความร่วมมือและเชื่อมต่อสถาบันวิจัยช้ันนาทั่วโลก เพ่ือสร้างความเข้มแข็งให้นักวิจัยความสามารถ
สงู ของไทยให้มีศักยภาพสงู ย่ิงขึน้
เปา้ หมายและตัวชี้วดั
เป้าหมาย ตวั ชีว้ ดั ปี 2561 - ค่าเปา้ หมาย ปี 2576 -
2565 2580
ประเทศไทยมรี ะบบ สัดส่วนสถานศกึ ษาที่ ปี 2566 - ปี 2571 -
ฐานขอ้ มลู เพอ่ื การ สามารถจดั การเรยี น ร้อยละ 10 2570 2575 สถานศึกษาทุก
สง่ เสริมการพฒั นา การสอนทสี่ ร้างสมดลุ แหง่ สามารถ
ศักยภาพตามพหุ ทุกดา้ นและมกี ารจดั รอ้ ยละ 10 สถานศึกษาทุก สถานศึกษาทุก จัดการเรยี นตาม
ปญั ญา เพอ่ื ใช้ การศกึ ษาเพอื่ พฒั นา แหง่ สามารถ แห่งสามารถ พหปุ ัญญา
ประโยชนใ์ นการ พหุปญั ญารายบคุ คล จัดการเรียน จัดการเรียนตาม
พฒั นาและการส่งตอ่ ตามพหุปัญญา พหปุ ัญญา
การพัฒนาให้เต็มตาม สัดสว่ นเด็กและ
ศักยภาพเพ่ิมขน้ึ เยาวชนท่ไี ด้รบั การส่ง รอ้ ยละ 10 ร้อยละ 10 รอ้ ยละ 10
ต่อและพัฒนาตาม
ศักยภาพ/พหุปญั ญา
๔๘
3. แผนการปฏริ ปู ประเทศ
แผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา การปฏิรูปการศึกษา มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพ
การจัดการศึกษา ลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษาและปฏิรูประบบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ สามารถ
รองรับความหลากหลายของการจัดการศึกษาและตอบโจทย์การพัฒนาของโลกอนาคต โดยมีเปูาหมาย
เพ่ือให้ผู้เรียนทุกกลุ่มวัยได้รับการศึกษาท่ีมีคุณภาพตามมาตรฐาน มีทักษะท่ีจาเป็นของโลกอนาคต
สามารถแก้ปญั หา ปรับตัว ส่ือสาร และทางานร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีประสิทธิผล มีวินัย มีนิสัยใฝ่เรียนรู้
อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต และเป็นพลเมืองที่รู้สิทธิและหน้าท่ี มีความรับผิดชอบ มีจิตสาธารณะ มีความ
รักและความภาคภูมิใจในความเป็นไทย โดยมีขอบเขตครอบคลุมท้ังการสร้างโอกาสและความเสมอภาค
ทางการศึกษาต้ังแต่ระดับปฐมวัยไปจนถึงระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ลดความเหล่ือมล้าทางการศึกษา
การพัฒนาการจดั การเรยี นการสอนสูก่ ารเรยี นรูฐ้ านสมรรถนะ เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษท่ี
21 การปฏิรูปกลไกและระบบการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพมาตรฐาน
จัดการศึกษาในระดับอาชีวศึกษาโดยใช้ระบบทวิภาคีหรือระบบอ่ืน ๆ ท่ีเน้นการฝึกปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบ
เพื่อนาไปสู่การจ้างงานและการสร้างงานและการปฏิรูปบทบาทการวิจัยและร ะบบธรรมาภิบาลของ
สถาบันอุดมศึกษาเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทยออกจากกับดักรายได้ปานกลางอย่างย่ังยืน นาไปสู่การ
ยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมีกลไกสนับสนุน
การขับเคลื่อนที่สาคัญ ได้แก่ การเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. …. ให้มีผลบังคับใช้
การสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทางสังคมและสื่อ ในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และมีส่วนร่วม
ในการขับเคลื่อนการปฏิรูป และความเป็นเจ้าของร่วมในเปูาหมายและความสาเร็จของการปฏิรูปของ
ประชาชน การกระจายอานาจสู่สถานศึกษา และการทดลองนาร่องกิจกรรมปฏิรูปท่ีเก่ียวข้องกับภารกิจ
การจัดการศึกษาของสถานศึกษาให้สอดคล้องต่อบริบทพ้ืนท่ีอย่างย่ังยืน การบริหารจัดการข้อมูล
สารสนเทศเพื่อการศึกษา (Big Data for Education) ให้สามารถนามาใช้ประโยชน์ในการบริหารจัด
การศึกษา ติดตามเฝูาระวงั เด็กไม่ให้ออกจากระบบการศึกษา เพื่อให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที รวมถึง
การติดตามผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนรายบุคคลให้ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มตามศักยภาพและความสนใจของ
ผเู้ รียน การเปล่ยี นโลกทศั นท์ างการศึกษาของสาธารณชนในการส่ือสาร ปลูกฝัง พัฒนาวิธีคิด ปรับเปล่ียน
คา่ นิยม ทัศนคติ ความคาดหวังต่อระบบการศึกษาท่ีมุ่งเน้นไปสู่การพัฒนาระบบการศึกษาอิงฐานสมรรถนะ
ที่ม่งุ ใหค้ รแู ละนักเรยี นมคี วามสขุ กับการเรียนรู้และพัฒนาความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ การกาหนดหน่วยงาน
เจา้ ภาพหลกั ในการติดตาม รวบรวมผลการดาเนินงานจากเจ้าภาพหลักในแต่ละกิจกรรม และรายงานผล
การดาเนินงานตามแผนปฏริ ูปประเทศดา้ นการศึกษาต่อคณะกรรมการปฏิรูปประเทศดา้ นการศกึ ษา
ทั้งนี้ กิจกรรมปฏิรูปตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาดังกล่าว ได้คานึงถึง
เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 54 ท่ีบัญญัติให้มี
การดาเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 12 ปี ต้ังแต่ก่อนวัยเรียนจนถึงการศึกษาภาคบังคับ
อย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย รวมท้ังสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเอกชนเข้ามา
มี ส่วนรว่ มในการจดั การศึกษาและมาตรา 258 จ (4) ทคี่ รอบคลุมท้ังการพัฒนาเด็กเล็ก การสร้างโอกาสทาง
การศึกษา การปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน และการพัฒนาครู และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
ดา้ นการพฒั นาและเสริมสรา้ งทรพั ยากรมนุษย์ที่เน้นการปฏริ ปู การเรียนรทู้ ี่ตอบสนองต่อการเปล่ียนแปลงใน
ศตวรรษที่ 21 การพฒั นาและส่งเสรมิ พหุปญั ญาทห่ี ลากหลาย การพฒั นาศักยภาพคนทุกช่วงวัย และการสร้าง
๔๙
สภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อการพัฒนาและยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมที่ให้
ความสาคัญกับการลดความเหล่ือมล้า สร้างความเป็นธรรมในทุกมิติ การสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการทาง
การศึกษา การพัฒนาทักษะอาชีพการรองรับสังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ รวมถึงได้คานึงถึงประเด็นปัญหา
ด้านการศึกษาของประเทศท้ังด้านคุณภาพการศึกษา ความเหล่ือมล้าทางการศึกษา ปัญหาของระบบ
การศกึ ษาท่เี ปน็ อปุ สรรคตอ่ การสรา้ งขดี ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงการบริหารและการ
จัดการศกึ ษา นอกจากนี้ ยงั ได้คานงึ ถึงสถานการณแ์ ละบริบทการเปล่ียนแปลงท่ีส่งผลต่อการจัดการศึกษาที่
สาคัญ อาทิ สถานการณ์ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีช่วยให้มีการสื่อสารไร้พรมแดนและ
สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลและแหล่งความรู้ได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา และบริบทการเปล่ียนแปลงของโลกยุค
ใหม่ท่ีส่งผลต่อวิถีชีวิตของประชากรทั่วโลกในทุกกลุ่มทุกวัย ท่ีจะต้องเผชิญความท้าทายกับวิถีชีวิตใหม่
เพ่ือให้การศึกษาของประเทศสามารถรองรับความหลากหลายของการจัดการศึกษาและตอบโจทย์การ
พฒั นาของโลกอนาคต
เป้าหมาย กิจกรรมปฏริ ปู ประเทศดา้ นการศึกษาและกลไกการขับเคล่อื น
กิจกรรมปฏริ ูปประเทศท่สี ่งผลใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอยา่ งมนี ยั สาคัญ
กิจกรรมปฏริ ปู ทีจ่ ะส่งผลให้เกดิ การเปลยี่ นแปลงต่อประชาชนอยา่ งมนี ยั สาคญั
๕๐
1. การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัย เด็ก
ปฐมวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงก่อนวัยเรียน (3-5 ปี) เป็นช่วงวัยท่ีมีความสาคัญต่อพัฒนาการตลอดช่วง
ชีวิตของบุคคล หากเด็กในช่วงวัยนี้ไม่ได้รับการดูแลท่ีเหมาะสม โดยเฉพาะในครอบครัวที่ด้อยโอกาสขาดความ
พร้อมจะส่งผลให้สถานการณ์ความเหลื่อมล้าทางการศึกษาของประเทศมีแนวโน้มท่ีสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม
ปจั จุบนั เด็กในชว่ งอายกุ อ่ นวัยเรียนทไ่ี มไ่ ดเ้ ข้าไปอยูใ่ นระบบการศกึ ษาปฐมวยั อาทิ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หรือ
ห้องเรียนระดับอนุบาลยังมีสัดส่วนสูงมากกว่าร้อยละ 10 โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กจากครอบครัวท่ีมีฐานะ
ยากจน พ่อแม่ผู้ปกครองมีอาชีพรับจ้างและทางานอยู่ต่างถ่ิน ซึ่งมักนาบุตรหลานเข้าเรียนระดับอนุบาล
ล่าช้า หรือไม่ได้ส่งเข้าเรียน ทาให้เด็กเหล่าน้ีเสี่ยงต่อการมีพัฒนาการด้านต่าง ๆ ที่ล่าช้า ไม่ทันเพื่อน
นับตั้งแต่เริ่มเข้าศึกษาในระดับประถมศึกษา ซ่ึงช่องว่างของความเหลื่อมล้าด้านพัฒนาการนี้ หากไม่ถูกค้นพบ
และไดร้ ับการแก้ไขอย่างทันท่วงที จะมีแนวโน้มแย่ลงในอนาคต ส่งผลต่อความสามารถในการอ่านออกเขียน
ได้ ทักษะการเรียนรู้ และความเสี่ยงต่อการออกจากระบบการศึกษาก่อนสาเร็จการศึกษาข้ันพ้ืนฐานในท่ีสุด
รวมทั้งยังมีเด็กและเยาวชนที่ออกนอกระบบการศึกษาจานวนมากที่ไม่จบการศึกษาภาคบังคับ ไม่ได้รับการ
พัฒนาทักษะอาชีพตามความถนัดและมีศักยภาพที่จะพ่ึงพาตนเองในการดารงชีวิต อีกทั้งยังมีประชากรวัย
แรงงานขาดทักษะด้านการอ่านและคณิตศาสตร์จานวนมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นการขาดโอกาสและความ
เสมอภาคทางการศกึ ษา
ดังน้ัน จึงจาเป็นต้องสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัย
และปูองกันเด็กเยาวชนออกจากระบบการศึกษา โดยพัฒนาระบบการค้นหา เฝูาระวัง ติดตาม และ
ช่วยเหลือเดก็ ให้เขา้ ถงึ โอกาสทางการศึกษาต้ังแต่ปฐมวัย และติดตาม ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนนอกระบบ
การศึกษาให้กลับเข้าศึกษาต่อหรือได้รับการพัฒนาทักษะอาชีพ รวมทั้งการพัฒนาเครื่องมือสารวจความ
พร้อมของเด็กปฐมวัยในการเข้าสู่การศึกษาระดับประถมศึกษา (School Readiness Survey) และการ
พัฒนาเคร่ืองมือการประเมินศักยภาพด้านการอ่านและคณิตศาสตร์ในระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานของ
ประชากรวัยแรงงาน (Workforce Readiness Survey) เพื่อให้สังคมไทยได้เฝูาระวังและติดตาม
ความก้าวหน้าของการพัฒนาคุณภาพและความเสมอภาคในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของไทยอย่าง
ตอ่ เนือ่ ง ตลอดจนให้มกี ลไกการสนับสนุนอย่างเพียงพอทั้งในการปูองกันและมาตรการแก้ไขปัญหาเด็กและ
เยาวชนออกจากระบบการศึกษาต้ังแต่ระดับปฐมวัย การดาเนินงานในระดับพื้นท่ี และต้นสังกัด และการ
ติดตามความคืบหน้า และการระดมการมีส่วนร่วมของสังคมอย่างต่อเนื่องอันจะช่วยลดความเหลื่อมล้า
ทางการศึกษาการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาต้ังแต่ระดับปฐมวัยตามกิจกรรมปฏิรูปน้ี
นอกจากจะสอดคล้องกับเปูาหมายการพัฒนาท่ียั่งยืนของโลกข้อท่ี 4 (UN SDG4) แล้ว ยังเป็นรากฐาน
สาคัญของการพัฒนากาลังคนของประเทศให้สามารถสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทยให้
สามารถก้าวออกจากกับดักรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) สู่การเป็นประเทศรายได้สูง (High
Income Country) ให้ได้ภายใน 20 ปี ตามเปาู หมายของยทุ ธศาสตร์ชาตอิ ย่างยัง่ ยืน
เป้าหมาย
1) เดก็ ปฐมวัยในช่วงกอ่ นวยั เรยี น (3 - 5 ปี) ทกุ คน โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งผขู้ าดแคลน
ทุนทรัพย์ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส ได้รับการดูแลและส่งเสริมพัฒนาการจากสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
ท่ีมีคุณภาพตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ และได้รับโอกาสทางการศึกษาท้ังในและนอก
ระบบการศึกษา รวมถึงระบบการศึกษาซ่ึงจัดการโดยครอบครัวหรือกลุ่มของครอบครัวจนสาเร็จการศึกษา
ขนั้ พื้นฐาน หรือระดับสงู กว่าอยา่ งเสมอภาคตามศกั ยภาพและความถนัด
๕๑
2) เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษากลับเข้าศึกษาต่ออย่างน้อยจนจบ
การศึกษาภาคบังคับ และได้รับการพัฒนาทักษะอาชีพตามความถนัดและมีศักยภาพที่จะพึ่งพาตนเองใน
การดารงชวี ิตได้
3) ประชากรวัยแรงงานมีทักษะด้านการอ่านและคณิตศาสตร์ (Literacy & Numeracy
Competency) ในระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานทีจ่ าเป็นต่อการทางานและการใชช้ ีวติ ในโลกยุคปัจจบุ ัน
4) เกิดระบบหลักประกันโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาตั้งแต่ระดับ
ปฐมวัยด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานภาครัฐอ่ืน ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง รวมท้ัง
ภาคเอกชน
แนวทางการดาเนนิ งาน
1) การพัฒนาเครื่องมือ และระบบบูรณาการทางานเพื่อสนับสนุนการดาเนินการ
ปฏิรูป โดยกาหนดนิยามเชิงปฏิบัติการของเด็กเยาวชนนอกระบบการศึกษา และเปูาหมายร่วมของ
หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา พัฒนาระบบการค้นหา เฝูาระวัง ติดตาม และช่วยเหลือเด็กให้
เขา้ ถงึ โอกาสทางการศกึ ษาตงั้ แต่ปฐมวัย และติดตาม ชว่ ยเหลอื เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลับ
เข้าศกึ ษาตอ่ หรอื ไดร้ บั การพัฒนาทักษะอาชีพ พัฒนาเครื่องมือสารวจความพร้อมของเด็กปฐมวัยในการเข้า
สู่การศึกษาระดับประถมศึกษา (School Readiness Survey) เป็นรายจังหวัด พัฒนาเครื่องมือการ
ปร ะเ มิน ศั กย ภา พ ด้านการอ่ านและคณิ ตศาสตร์ ในระดับการศึกษาข้ั นพื้ นฐานของประชากรวั ย แรงงาน
(Workforce Readiness Survey)
2) การสนับสนุนนวตั กรรมการปูองกัน (Prevention) และการแก้ไข (Correction)
ปัญหาเด็กและเยาวชนออกจากระบบการศึกษาต้ังแต่ระดับปฐมวัย เพื่อลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษา
โดยสนับสนุนทุนการศึกษาและเงินอุดหนุนแก่เด็กที่มีฐานะครอบครั วยากจนในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
จนถึงระดบั การศึกษาภาคบงั คับ ทัง้ ในสถานศึกษาและศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
เพ่ือส่งเสริมการพัฒนาทักษะอาชีพตามความถนัดให้สามารถพึ่งพาตนเองในการดารงชีวิตได้ พัฒนาระบบคัด
กรองเด็กเยาวชนกลุ่มเสย่ี งที่จะออกจากระบบการศึกษา สนับสนุนการพัฒนาระบบฐานข้อมูล งานวิจัย และการ
พัฒนานวัตกรรมเชิงสหวิทยาการ เพ่ือปูองกันและแก้ไขปัญหาการออกจากระบบการศึกษาของเด็กและ
เยาวชนไทยอย่างเป็นระบบและยั่งยืน สร้างนวัตกรทางสังคม (Social Innovator) ทั้งจากภาครัฐ และ
ภาคเอกชนเพ่ือร่วมสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมเพ่ือปูองกันและแก้ไขปัญหาการออกจากระบบการศึกษา
ของเดก็ และเยาวชนไทย
3) การสนับสนุนกลไกการดาเนินงานในระดับพ้ืนที่ และต้นสังกัด โดยสนับสนุน
การพัฒนาสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ สนับสนุน
องค์ความรู้ และพัฒนาทักษะให้แก่ครูปฐมวัย ครูผู้ช่วย และอาสาสมัครผู้ดูแลเด็กเล็กทุกสังกัด รวมทั้ง
การส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาทักษะอาชีพให้เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาท่ีสอดคล้องกับ
ความต้องการและความสนใจ สนับสนุนการพัฒนาสถานศึกษาระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานและศูนย์
การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ใหม้ ีข้อมลู องค์ความรู้ และเคร่อื งมอื ท่ีจาเป็นในดาเนินการ
ปูองกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและย่ังยืน สนับสนุนการ
แก้ไขปัญหาความเหล่ือมล้าทางการศึกษาในสถานศึกษาขนาดเล็กอย่างย่ังยืนและสอดคล้องกับบริบทของ
พื้นที่ด้วยกระบวนการทางวิชาการแบบมีส่วนร่วม โดยคานึงถึงความแตกต่างของสถานศึกษาขนาดเล็กใน
พื้นท่ีห่างไกลทุรกันดาร (Protected and Isolated Schools) และสถานศึกษาขนาดเล็กประเภทอื่น ๆ
๕๒
พัฒนาและสร้างสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาให้เอื้อต่อการพัฒนาผู้เรียน ให้เด็กมีความรู้สึกปลอดภัย
มีความอบอุ่น และมีความสุขในการเรียน
4) การติดตามความคืบหน้า และการระดมการมีส่วนร่วมของสังคม พร้อมทั้ง
สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการดาเนินงานและดาเนินการร่วมกับองค์กรภาคเอกชน ภาคประชา
สงั คม และหนว่ ยงานอน่ื ๆ ทีเ่ ก่ียวขอ้ ง เพ่อื ระดมการมีส่วนรว่ มสนับสนนุ การดาเนนิ การปฏริ ปู อย่างต่อเนื่อง
2. การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนสกู่ ารเรยี นรู้ฐานสมรรถนะ เพือ่ ตอบสนอง
การเปลย่ี นแปลงในศตวรรษที่ 21
การจัดการศกึ ษาของประเทศ จะต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร
ไทย พุทธศักราช 2560 และยุทธศาสตร์ชาติ คานึงถึงสถานการณ์การเปล่ียนแปลงทางด้านประชากร การ
เปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยี และพลวัตของโลกยุคใหม่ ท่ีส่งผลต่อวิถีชีวิตของประชากรในทุกช่วงวัย
ทีจ่ ะตอ้ งเผชิญความท้าทายกับวถิ ชี วี ติ ใหม่ จึงจาเป็นต้องปรับเปล่ียนกระบวนการจัดการเรียนรู้และรูปแบบ
การเรียนการสอน โดยมีเปูาหมายท่ีผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ มีส่วนร่วมและลงมือปฏิบัติ ผู้เรียน
ไดร้ ับการพฒั นาไปสศู่ กั ยภาพสงู สุดของแต่ละบคุ คล เปน็ ผ้มู ีความรู้ มีทักษะและใฝุเรียนรู้ (Learning Skills)
สามารถเช่ือมโยงนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง มีทักษะชีวิต (Life Skills) ในโลกยุคใหม่ รู้เท่าทันการ
เปลย่ี นแปลงของสังคม เป็นพลเมืองท่ีตื่นรู้ (Active Citizen) มคี วามรับผิดชอบ มีจติ สาธารณะ มีความรักและความ
ภาคภูมิใจในความเป็นไทย โดยการปรับเปล่ียนการเรียนการสอนตามหลักสูตรอิงมาตรฐาน (Standard-based
Curriculum) ในปัจจุบันไปสู่การเรียนรู้ท่ีพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน (Competency-based Learning)
เป็นสาคัญ
ทง้ั น้ี การจัดการเรียนรเู้ พื่อพัฒนาสมรรถนะแบบผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง มุ่งเน้น
กระบวนการเรียนรู้แบบถักทอความรู้ ทักษะ คุณลักษณะผู้เรียนเข้าด้วยกันด้วยการลงมือปฏิบัติจริง
(Active Learning) มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจและเรียนรู้อย่างมีความสุขและพัฒนาความเป็นมนุษย์ท่ี
สมบูรณ์ ผ่านการทางานเป็นทีมและความร่วมมือระหว่างผู้เรียนด้วยกัน การมีครู อาจารย์ท่ีมีสมรรถนะ
ด้านการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย เหมาะสมกับผู้เรียนและบริบทของท้องถ่ิน ผู้บริหารสถานศึกษาและ
ผู้บริหารการศึกษามีสมรรถนะในการบริหารงานการจัดการเรียนรู้ การนิเทศการเรียนรู้ การสร้างระบบ
นิเวศการเรยี นรู้ที่ปลอดภยั และส่งเสรมิ การเรียนรทู้ ีผ่ เู้ รยี นสามารถกาหนดเส้นทางและจงั หวะก้าวการเรียนรู้
ของตนเอง (Personalized Learning) อย่างมีความหมาย มีการวัดและประเมินผลเพ่ือพัฒนาผู้เรียนในทุก
มติ อิ ย่างแท้จรงิ ตลอดจนมีการใช้เทคโนโลยีทางการศึกษาที่เหมาะสมกับผู้เรียนและความพร้อมเพื่อให้การ
จัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจดุ เน้นของการจัดการศึกษาและการเรียนรแู้ ต่ละระดบั ดังน้ี
ระดับก่อนอนุบาล ส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาเด็กของผู้ปกครองและชุมชน
เน้นการจัดการศึกษาเพ่ือเสริมสร้างสุขภาพ บ่มเพาะปลูกฝังวินัยและพัฒนาการที่ดีท้ังกาย ใจ และอารมณ์
ระดับอนุบาล มุ่งส่งเสริมสถานศึกษาจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพ่ือพัฒนาทุกด้าน ทั้งร่างกาย สติปัญญา
อารมณ์ จิตใจ และสงั คม บ่มเพาะปลกู ฝังวินยั คณุ ธรรมและคา่ นยิ มท่ดี ี ด้วยความร่วมมือระหว่างผู้ปกครอง
ชุมชน และสถานศึกษา พัฒนาการคิดวิเคราะห์เชิงระบบ ลงมือปฏิบัติ (Enactive) ด้วยประสบการณ์ตามมุม
ต่าง ๆ เพื่อให้สัมพันธ์กับการเรียนรู้ของสมอง และจัดสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาให้เห็นแบบอย่าง
ของพฤติกรรมการดาเนินชีวิตทดี่ ีงาม
ระดับประถมศกึ ษา พฒั นาผ้เู รยี นเป็นรายบุคคลตามแนวทางพหุปัญญาให้หลากหลาย
ตามศักยภาพ พฒั นาการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงผ่านการบูรณาการกิจกรรมการเรียนรู้ที่ใช้ปัญหาหรือ
๕๓
โครงงานเป็นฐาน (Problem-based Learning & Project-based Learning) รวมถึงพัฒนาทักษะสาคัญ
ในการเรียนรู้ อันได้แก่ ทักษะทางภาษา ทักษะการคิด ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ทักษะการคิดสร้างสรรค์ มีการวัดและการประเมินผลผู้เรียนที่มุ่งเน้นการเรียนรู้ท่ีเป็นช้ินงาน ผลผลิตเชิง
ประจักษ์ เสริมสร้างสมรรถนะ และทักษะที่จาเป็นในศตวรรษท่ี 21 ให้ผู้เรียนพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
สรา้ งงาน สรา้ งนวัตกรรม ทีส่ ามารถพฒั นาไปเป็นผลิตภณั ฑ์ในท้องถนิ่ ได้
ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น มุ่งต่อยอดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดเชิงระบบ ผู้เรียน
สร้างความรู้ระดับความคิดรวบยอด และระดับหลักการใช้ความรู้ผลิตผลงานอย่างสร้างสรรค์ เน้นทักษะ
พ้ืนฐานทางการเรียนรู้และการดารงชีวิต คือ ทักษะความเป็นมนุษย์ ได้แก่ ทักษะการตัดสินใจ ทักษะการ
แก้ปัญหา ทักษะการสังเคราะห์ ทักษะการสร้างสรรค์ ทักษะการทางานเป็นทีม ทักษะการสื่อสาร
บนพืน้ ฐานของคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดี และส่งเสริมทักษะเฉพาะทางด้านความรู้ คานึงถึงความแตกต่าง
ของแต่ละบุคคลตามความถนัด ความสนใจ ท้ังด้านวิชาการและพ้ืนฐานวิชาชีพ มีศักยภาพในการสร้าง
ผลผลิตจากการเรียนรู้และต่อยอดนวัตกรรมคิดสร้างสรรค์ได้ มีนิสัยปรับปรุงพัฒนางานอยู่เสมอ สร้างและ
ผลิตผลงานใหม่ ๆ เพ่ือประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตตนเอง ครอบครัว และเชื่อมโยงทั้งด้านสังคม
เศรษฐกิจ ชุมชน ทอ้ งถิ่น ภูมภิ าค และประเทศ
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มุ่งต่อยอดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดขั้นสูงผ่าน
การเรยี นร้แู บบใช้ปัญหาหรือโครงงานเป็นฐาน ผู้เรียนสามารถใช้ความรู้ผลิตผลงานอย่างสร้างสรรค์ เป็น
นวัตกรรมนาไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริง เพ่ือประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตตนเอง ครอบครัวและสังคม
ต่อยอดพื้นฐานทางการเรียนรู้และการดารงชีวิต คือ ทักษะความเป็นมนุษย์ที่มีคุณค่าระดับสูง เน้นทักษะ
ความเปน็ ผนู้ า รวมทั้งส่งเสรมิ ทกั ษะเฉพาะทางดา้ นวิชาการและวิชาชีพ และฝึกประสบการณ์อย่างเข้มข้น
ในด้านความรู้ และส่งเสริมการเรียนรู้สร้างความรู้จากปฏิบัติการเชิงวิจัยท้ังในสถานศึกษาและชุมชน เพ่ือ
พัฒนาให้เป็นนวัตกรรม ท้ังท่ีเป็นผลิตภัณฑ์และโครงการ ความร่วมมือปฏิบัติการวิจัยในระดับชุมชน
เช่ือมโยงกบั พหวุ ัฒนธรรม และบรบิ ทของชุมชนทอ้ งถนิ่ ภูมภิ าค และประเทศ
ระดับอาชีวศกึ ษา เน้นการลงมือปฏิบัติจริงให้สอดคล้องกับการใช้เทคโนโลยีและการสร้าง
นวัตกรรมนาไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตจรงิ ปรับปรงุ พฒั นาอยูเ่ สมอ พลิกผันให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงต่อสถานการณ์
ตามบรบิ ทของภมู ภิ าคและโลก สง่ เสริมทกั ษะเฉพาะทางดา้ นวิชาการและวิชาชีพและฝึกประสบการณ์อย่างเขม้ ข้น
ในด้านความรู้ ตามความถนัดความสนใจรายบุคคล และต่อยอดทักษะความเป็นมนุษย์ผ่านการเรียนรู้แบบใช้
ปัญหาหรือโครงงานเป็นฐาน ทั้งในสถานศึกษาและสถานประกอบการท่ีมุ่งสร้างความคิดรวบยอดด้านการคิด
ดา้ นคุณธรรมจริยธรรม และค่านยิ มข้ันสงู และปลูกฝงั จรรยาบรรณทางวชิ าชพี และมคี วามเป็นผ้นู า
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มุ่งให้ประชาชนได้รับโอกาสการเรียนรู้
สามารถนาหลักการมาใช้พลิกผันแก้ปัญหาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเอง พัฒนา
งาน พัฒนาอาชีพ ชุมชน สังคม และประเทศชาติได้เหมาะสมสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก
และเทคโนโลยี ใหป้ ระชาชนทกุ ชว่ งวัยเรียนร้ไู ดต้ อ่ เนื่องตลอดชวี ิต พฒั นาสูก่ ารเป็นสังคมแหง่ การเรียนรู้
๕๔
4. แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570)
4.1 ความเส่ยี งและโอกาสของการพัฒนาและเสรมิ สรา้ งศักยภาพทรพั ยากรมนุษย์
มีความเสี่ยงและโอกาสที่สาคัญ 5 ประการ อันเป็นผลเนื่องมาจากแนวโน้มการเปล่ียนแปลง
ด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร การขยายตัวของความเป็น
เมือง การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมและอนาคตของงาน ดังนี้
1) ความเส่ียงในการขาดแคลนแรงงานทักษะสูงท่ีสอดคล้องกับความต้องการขอตลาดแรงงานและ
สามารถทดแทนกับแรงงานท่ลี ดลงโดยอนาคตของงานและแนวโนม้ การเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้อง จะส่งผลให้เกิด
งานประเภทใหม่ ๆ ขณะท่ีงานบางประเภทจะเลือนหายไป อาทิ การเพิ่มขึ้นของงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
และนวัตกรรมจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี หรืองานในอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพจากการแพทย์สู่
สังคมสูงวัย ขณะที่งานที่มีลักษณะของการทาซ้าหรือเป็นแบบแผน (Repetitive/Routine) มีแนวโน้มท่ีจะถูก
ทดแทนด้วยหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ อีกทั้งความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังส่งผลเกิดเป็นความท้าทายในการ
พัฒนาแรงงานให้มีทักษะใหม่ ๆ และ/หรือมีความสามารถเฉพาะเพ่ือรองรับกับความต้องการของตลาดแรงงาน
มากยง่ิ ขึน้ เนือ่ งจากคุณภาพการศกึ ษาและทกั ษะแรงงานในปัจจุบันยังอยใู่ นระดบั ตา่ นอกจากน้ี การเปลยี่ นแปลง
โครงสรา้ งประชากรจะยิ่งทาให้การขาดแคลนแรงงานทักษะสูงมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จากการลดลง
ของสัดสว่ นประชากรวัยแรงงานและการเพ่มิ ข้ึนของกลุ่มประชากรในชว่ งวัยพึง่ พิงท่ีมรี ะดับทักษะตา่ กวา่
2) โอกาสในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการฝึกอบรมด้วยเทคโนโลยีและประชากรวัยเรียนที่
ลดลง โดยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนามาซ่ึงโอกาสในการปรับปรุงและยกระดับประสิทธิภาพการเรียนการ
สอนและการฝึกอบรมที่ยังมีข้อจากัดด้านคุณภาพและการเข้าถึง ผ่านการปรับปรุงอุปกรณ์ ส่ือการเรียนรู้ ส่ิง
อานวยความสะดวกทางการศึกษา ตลอดจนรูปแบบการเรียนการสอนให้มีความทันสมัยและสามารถบรรลุตาม
วัตถุประสงค์การเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกัน การขยายตัวของความเป็นเมืองจะส่งผล
ให้ประชาชนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงการศึกษาและการฝึกอบรมในระดับสูงและ/หรือมีคุณภาพมากขึ้นโดยมี
ต้นทุนค่าใช้จ่ายท่ีต่าลง นอกจากน้ี การเปล่ียนแปลงโครงสร้างประชากรและการลดลงของประชากรวัยเรียน
อาจเปน็ โอกาสในการขยายโอกาสการเข้าถึงและยกระดับคุณภาพการศึกษา/การฝึกอบรม ซึ่งเป็นหน่ึงในความ
ท้าทายท่สี าคญั ในปัจจบุ นั หากสามารถบรหิ ารจัดการทรัพยากรทีเ่ ก่ียวข้องได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ
3) ความเหล่ือมล้าทางการศึกษาและการพัฒนาทักษะ จากความไม่พร้อมทางเทคโนโลยีและ
ความแตกต่างระหว่างพ้ืนท่ี แม้ว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะมีคุณูปการย่ิง แต่อาจมีความเป็นไปได้
ที่จะส่งผลให้ปัญหาความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษาและการพัฒนาทักษะท่ีมีอยู่แต่เดิมปรากฏให้เห็น
ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อันเป็นผลมาจากปัญหาความเหล่ือมล้าทางดิจิทัล (Digital Divide) ระหว่างกลุ่มคนท่ีมีและ
กลุ่มคนที่ขาดความพร้อมทางด้านทักษะและเครื่องมืออุปกรณ์ดิจิทัล เช่นเดียวกับแนวโน้มการขยายตัวของ
ความเป็นเมือง ซ่ึงอาจส่งผลให้ความเหลื่อมล้าเชิงพื้นท่ีระหว่างเขตเมืองและชนบททวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
เน่ืองจากความแตกต่างของระดับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการให้บริการสาธารณะ ดังท่ีปรากฏให้เห็น
ในช่วงสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด-19 ซ่ึงมีนักเรียนในชนบทจานวนมากที่ขาดความพร้อมและไม่
สามารถเขา้ ถงึ การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ได้
๕๕
4) โอกาสในการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง
และรองรับกับทุกคน โดยอนาคตของงานและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมของประชากรใน
ระยะต่อไป อาทิ การให้ความสาคัญกับการศึกษาและการเรียนรู้ ตลอดจนความสมดุลระหว่างการทางาน
กบั ชวี ติ สว่ นตัว นามาซ่ึงโอกาสในการสง่ เสรมิ การเรียนรู้ตลอดชวี ติ ทย่ี ดื หยุ่นและสอดคล้องกับความต้องการ
ของกลุ่มประชากรรุ่นใหม่ ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมสูงวัยส่งผลให้เกิด
ความจาเป็นในการขยายการเรยี นรตู้ ลอดชีวิตให้ครอบคลมุ กลมุ่ ประชากรผู้สูงอายุซ่ึงมีแนวโน้มเพ่ิมขึ้นอย่าง
ต่อเน่อื ง โดยอาศัยความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยใี นปจั จุบัน ในการช่วยสนบั สนนุ ให้การจัดการศึกษาและการ
ฝกึ อบรมตลอดชว่ งชีวิตเป็นไปอยา่ งสะดวกและมปี ระสิทธภิ าพมากย่ิงขึน้
5) ความเส่ียงในการขาดแคลนทักษะทางพฤติกรรม (Soft Skills) และค่านิยมวัฒนธรรมท่ี
สอดคล้องกับการใช้ชีวิตและการทางานรูปแบบใหม่ โดยอนาคตของงานและการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและ
วัฒนธรรม อาทิ กระแสความเป็นปัจเจก (Individualization) หรือกระแสการตระหนักรู้ของสาธารณชน
(Public Awareness) อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรและแนวโน้มการเพ่ิมข้ึนของ
ประชากรรนุ่ ใหม่ จะนามาซ่ึงรูปแบบการทางาน การใช้ชีวิต และสภาพสังคมที่มีความแตกต่างหลากหลายจาก
เดิมอย่างมีนัยสาคัญ ส่งผลให้เกิดความจาเป็นในการมีทักษะทางพฤติกรรม (Soft Skills) อาทิ การมี
จติ สาธารณะ มคี วามเป็นพลเมือง มีทักษะในการสื่อสารและการทางานร่วมกับผู้อื่น เพื่อสร้างสังคมที่เปิดกว้าง
เข้าใจ และเห็นอกเห็นใจต่อความแตกต่างหลากหลายดังกล่าวมากย่ิงข้ึน สอดคล้องกับแนวโน้มความก้าวหน้า
ทางเทคโนโลยี ซึ่งนอกจากจะนาไปสู่ความต้องการทักษะทางปัญญา (Cognitive) แล้ว ยังคาดว่าทักษะทาง
พฤติกรรม (Non-Cognitive) หรือทักษะด้านมนุษย์ (Human Skills) จะเป็นท่ีต้องการมากขึ้นในระยะต่อไป
เนอ่ื งจากเป็นทักษะเฉพาะท่เี ทคโนโลยีสมัยใหม่ยังไม่สามารถทดแทนแรงงานมนุษย์ได้ แนวโน้มดังกล่าวจึงอาจ
กลายเป็นความเสี่ยงท่ีสาคัญสาหรับกาลังแรงงานในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่ยังขาดแคลนทักษะท่ีจาเป็นต่อการ
ทางานและการใชช้ ีวติ ในอนาคต
แผนภาพ ความเส่ียงและโอกาสด้านการพฒั นาและเสริมสรา้ งศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
ทีม่ า: วิเคราะห์และรวบรวมโดย สศช. (2564)
๕๖
4.2 แนวคิดของกรอบแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570)
ภายใต้กระแสแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อาทิ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี
อย่างพลิกผัน การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรสู่สังคมสูงวัย และภาวะโลกร้อนจากการเปลี่ยนแปลง
สภาพภูมิอากาศ ร่วมกับปัจจัยเร่งจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ก่อให้เกิดความผันผวนของ
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคมและส่ิงแวดล้อมแก่หลายประเทศท่ัวโลกรวมถึงประเทศไทยนั้น พบว่า
แนวโน้มการเปลีย่ นแปลงดงั กลา่ วสามารถนามาซ่ึงโอกาสและความเส่ียงท่ีจะช่วยผลักดันให้การพัฒนาประเทศ
ไทยในระยะตอ่ ไปใหเ้ กดิ ผลสาเรจ็ หรือเป็นอุปสรรค หน่วงรั้งการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้ไม่สามารถ
บรรลุเปาู หมายท่ีกาหนดไว้ ขน้ึ อยกู่ บั บริบทหรือศักยภาพและขีดความสามารถของประเทศในการรับมือกับ
การเปล่ียนแปลงท่ีเกิดขึ้น โดยโอกาสที่สาคัญสาหรับประเทศไทยซ่ึงมีที่มาจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง
ในระดับโลก พบว่ามีที่มาจากความก้าวหน้าและความแพร่หลายของเทคโนโลยีเป็นหลัก ซ่ึงการสรรค์สร้าง
ประโยชน์จากเทคโนโลยีให้เกิดเป็นโอกาสสาหรับประเทศไทยได้นั้น ต้องอาศัยการพัฒนาคนและระบบ
บริหารจัดการด้านดิจิทัลและข้อมูลสารสนเทศให้มีความพร้อมเพ่ือรองรับโอกาสที่เกิดข้ึนจากการ
เปล่ียนแปลงให้กระจายลงสู่ทุกภาคส่วนอย่างท่ัวถึง เท่าทัน ขณะเดียวกัน ความเส่ียงที่คาดว่าจะส่งผลกระทบ
เชิงลบและเป็นความท้าทายทสี่ าคัญต่อประเทศไทยในการที่จะต้องเร่งแสวงหาแนวทางในการแก้ไขรับมือน้ัน
พบว่ามาจากแนวโน้มด้านการเปล่ียนแปลงโครงสร้างประชากร ความเหล่ือมล้าด้านดิจิทัล รวมถึงปัญหา
สิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ ซึ่งจะบ่ันทอนขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงยังอาจเป็น
เงอื่ นไขท้าทายตอ่ มติ ิการพฒั นาทรัพยากรมนษุ ยแ์ ละการสรา้ งความเสมอภาคในสังคม ซึ่งบริบทสถานการณ์
ของประเทศไทยที่ยงั มีข้อจากัดภายในหลายประการนั้น หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนแล้ว อาจส่งผล
ใหป้ ระเทศไทยมีความเปราะบางย่ิงขึ้นเม่ือตอ้ งเผชิญกับความเสี่ยงต่าง ๆ ท่ีมีความผันผวนสูง ตลอดจนอาจ
พลาดโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากพลวัตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดข้ึนในการพัฒนาประเทศไปสู่เปูาหมายที่
ต้องการ และส่งผลให้ประเทศไทยไม่สามารถก้าวตามโลกได้อย่างเท่าทัน นาไปสู่การสูญเสียความสามารถ
ในการแข่งขันในระยะยาว และอาจต้องจมกับปัญหาเร้ือรังท่ีฉุดร้ังความก้าวหน้าของประเทศในทุกมิติอย่าง
ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพ่ือให้สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในช่วงระยะเวลาของแผนพัฒนาฯ
ฉบับท่ี 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในทิศทางที่จะนาไปสู่การบรรลุเปูาหมายตาม
ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ได้อย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้เง่ือนไขความท้าทายท้ังหลายดังกล่าว จึงจาเป็นท่ี
ประเทศจะต้องเสริมสร้างให้เกิดความเปล่ียนแปลงคร้ังใหญ่ในระดับโครงสร้างของประเทศบนพื้นฐ านของ
ความเขม้ แข็ง สมดุล และย่ังยืน เพื่อก้าวข้ามปัญหาอุปสรรคเดิมให้ประเทศไทยมีสมรรถนะเพียงพอต่อการ
บริหารจัดการความเสี่ยง พร้อมท้ังเร่งเพ่ิมศักยภาพในการสร้างสรรค์ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นได้อย่าง
เหมาะสมและทันท่วงที ท้ังน้ี การยกระดับสมรรถนะและศักยภาพของประเทศไทยในระยะเวลาอันใกล้จะ
ไม่สามารถเกิดข้ึนได้อย่างเป็นรูปธรรม หากอาศัยเพียงการมุ่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าหรือการปรับเปล่ียน
แนวทางการดาเนนิ งานในรายละเอียดเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการปรับตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปจะไม่เท่าทัน
ตอ่ พลวตั การเปล่ยี นแปลงท่เี กิดข้นึ อย่างรวดเร็วฉับพลันในยุคปัจจุบัน อีกทั้งยังไม่เพียงพอสาหรับการรับมือ
กับความเสี่ยงท่ีอาจส่งผลกระทบท่ีรุนแรงและแผ่ขยายในวงกว้าง หรือทันต่อการแสวงหาโอกาสที่จะสร้าง
ผลประโยชน์ที่ผลักดันให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเปูาหมายในการพัฒนาภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติได้
ตามกรอบระยะเวลาทีก่ าหนด
๕๗
4.3 พลกิ โฉมประเทศไทย ส่เู ศรษฐกจิ สรา้ งคณุ ค่า สงั คมเดนิ หนา้ อยา่ งย่ังยนื (Transformation to
Hi-Value and Sustainable Thailand)
การวางกรอบทิศทางการพัฒนาประเทศในระยะของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 มีจุดประสงค์เพ่ือ พลิกโฉม
ประเทศไทยหรือเปล่ียนแปลงประเทศขนานใหญ่ (Thailand’sTransformation) ภายใต้แนวคิด “Resilience”
ซึง่ มจี ดุ มุ่งหมายในการลดความเปราะบาง สรา้ งความพร้อมในการรับมือกบั การเปลีย่ นแปลงสามารถปรับตัวให้อยู่รอด
ได้ในสภาวะวิกฤติ โดยสร้างภูมิคุ้มกันทั้งในระยะส้ันและระยะยาว เพื่อให้ประเทศสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดย
การพลิกโฉมประเทศไทยครอบคลุมต้ังแต่การเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้าง นโยบาย และกลไก ในขณะเดียวกัน
กรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ยังมุ่งกาหนดทิศทางการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง ผ่านการสร้างความสมดลุ ในการกระจายผลประโยชนจ์ ากการพฒั นาแก่ทุกภาคส่วนเศรษฐกิจและสังคมอย่าง
เป็นธรรม รวมทั้งการสร้างความสมดุลระหว่าง ความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศกับความสามารถในการ
พึ่งตนเอง พร้อมท้ังการปรับเปล่ียนองคาพยพในมิติต่าง ๆ ให้เท่าทันและสอดคล้องกับพลวัตและบริบทใหม่ของโลก
โดยคานึงถึงเงื่อนไขของสถานการณ์และทรัพยากรของประเทศ นอกจากนี้ กรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี 13 ยังให้
ความสาคัญกับเปูาหมายการพัฒนาอย่างย่ังยืน ในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตท่ีดีของประชาชนทุกกลุ่ม และส่งต่อ
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มทด่ี ไี ปยงั คนรนุ่ ตอ่ ไป
เพ่ือให้การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศเกิดผลสัมฤทธ์ิตามเปูาหมายท่ีกาหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ และ
สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาประเทศทั้งหมดตามที่กล่าวถึงข้างต้น การพลิกโฉมประเทศไทย (Thailand’s
Transformation) ในระยะแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 จึงมีเปูาหมายหลักเพื่อพลิกโฉมประเทศไปสู่ “เศรษฐกิจสร้าง
คณุ ค่า สังคมเดนิ หน้าอยา่ งยัง่ ยืน” หรอื “Hi-Value and Sustainable Thailand” โดยใชอ้ งค์ความรู้ ความคิด
สร้างสรรค์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเป็นเคร่อื งมอื ในการขับเคลื่อนการยกระดับศักยภาพและพัฒนาประเทศในทุก
มติ ิ เพอ่ื สนบั สนุน เสริมสรา้ งการสร้างมูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจและขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพื่อส่งเสริม
โอกาสและความเสมอภาคทางสงั คมอยา่ งทั่วถงึ ตลอดจนเพื่อใหเ้ กดิ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตและการบริโภค
ใหเ้ ป็นมติ รกบั สง่ิ แวดล้อม ให้เป็นไปในทศิ ทางทป่ี ระเทศสามารถปรบั ตัวและรองรับกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเท่า
ทัน ตลอดจนสามารถอยู่รอดและเติบโตได้อย่างต่อเน่ืองในระยะยาวไปพร้อมกับการรักษาความย่ังยืนของ
ทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม
4.4 Value and Sustainable Thailand
เนื่องด้วยเปูาประสงค์ที่ต้องการให้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทาหน้าท่ีระบุ
ทิศทางการพฒั นาประเทศที่ควรมุ่งเนน้ ไดอ้ ย่างชดั เจน การกาหนดกรอบแผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี 13 จงึ มุง่ เน้นคัดเลือก
ประเด็นการพัฒนาที่มีลาดับความสาคัญสูงในการพลิกโฉมประเทศไทยสู่ Hi-Value and Sustainable Thailand
ในองคป์ ระกอบสาคญั 4 ประการ ไดแ้ ก่ (1) เศรษฐกิจมูลค่าสูงท่ีเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม (High Value-Added
Economy) (2) สังคมแห่งโอกาสและความเสมอภาค (High Opportunity Society) (3) วิถีชีวิตท่ีย่ังยืน
(Eco-Friendly Living) และ (4) ปัจจัยสนับสนุนการพลิกโฉมประเทศ (Key Enablers for Thailand’s
Transformation) โดยภายใต้องค์ประกอบในแต่ละด้าน ได้มีการกาหนด “หมุดหมาย” (Milestones) ซ่ึงเป็น
การบ่งบอกถึงสิ่งที่ประเทศไทยปรารถนาจะ ‘เป็น’ มุ่งหวังจะ ‘มี’ หรือต้องการจะ ‘ขจัด’ ในช่วงระยะเวลา 5 ปี
ของแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี 13 เพื่อสะท้อนประเด็นการพัฒนาท่ีมีความสาคัญต่อการพลิกโฉมประเทศสู่การเป็น
Hi-Value and Sustainable Thailand ภายในปี 2570 โดยรายละเอียดขององค์ประกอบทั้ง 4 ด้าน และ
หมุดหมาย มดี ังนี้
๕๘
4.5 ปจั จยั สนบั สนุนการพลิกโฉมประเทศ (Key Enablers for Thailand’s Transformation)
ปัจจัยขับเคล่ือนที่เอื้อต่อการเปล่ียนผ่านประเทศไปสู่การเป็น Hi-Value and Sustainable Thailand
โดยเฉพาะ กลไกการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ท้ังระบบการศึกษา และการยกระดับและปรับทักษะแรงงาน ที่มี
คุณภาพได้มาตรฐาน สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและโลกยุคใหม่และส่งเสริมการเคล่ือนย้าย
แรงงานไปสู่ภาคการผลิตและบริการที่มีผลิตภาพและมูลค่าสูง และกลไกการบริหารจัดการภาครัฐ ทั้งระเบียบ
กฎหมาย ระบบงบประมาณ โครงสร้างพ้ืนฐาน การให้บริการสาธารณะ ตลอดจนการติดตามประเมินผลท่ีทันสมัย
เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง ตอบสนองความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนา
ประเทศ โดยหมดุ หมายที่ต้องบรรลุในระยะเวลาของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 เพ่ือสร้าง “ปัจจัยสนับสนุนการพลิก
โฉมประเทศ” ประกอบด้วย
หมุดหมายท่ี 12 ไทยมีกาลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การพัฒนาแห่ง
อนาคต คนเป็นรากฐานสาคัญในการขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศ อย่างไรก็ตาม คุณภาพการศึกษาและ
ระบบการพัฒนาทักษะแรงงานของไทยยังอยู่ในระดับต่า อีกท้ังยังประสบกับความเหลื่อมล้าในการเข้าถึง
ส่งผลให้ขาดแคลนกาลังแรงงานที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ ในระยะต่อไปปัญหาดังกล่าว
มีแนวโน้ มท่ีจะทวี ความรุ นแรงมากข้ึนจากอนาคตของงานแ ละการเปล่ี ยนแปลงอย่ างรวดเร็ว ของทาง
เทคโนโลยี วิถีชีวิตและวัฒนธรรมทม่ี าพร้อมกับความตอ้ งการงานและทักษะประเภทใหม่ ๆ รวมถึงทักษะทาง
พฤติกรรม (Soft Skills) ภายใต้บริบทการเปล่ียนแปลงโครงสร้างประชากรซ่ึงส่งผลให้กาลังแรงงานลดลง
อย่างต่อเนื่อง นอกจากน้ี การขาดความพร้อมทางเทคโนโลยีและความแตกต่างระหว่างพ้ืนท่ียังอาจทาให้
ปัญหาความเหลื่อมล้าทางการศึกษาและทักษะเพ่ิมสูงมากข้ึน อย่างไรก็ดี ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการ
ลดลงของประชากร และการขยายตัวของความเป็นเมืองจะนามาซ่ึงโอกาสในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ตลอดจนส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้สามารถผลิตและพัฒนากาลังคนท่ีมีสมรรถนะสูงเป็น
ปจั จยั พนื้ ฐานทส่ี าคญั ในการเปลี่ยนผา่ นประเทศไปสู่การเปน็ Hi-Value and Sustainable Thailand ต่อไป
๕๙
โดยขอบเขตของเปาู หมายการดาเนนิ งานในหมุดหมายที่ 12 มีดังนี้
1. ระบบการศึกษาไทยต้ังแต่ระบบปฐมวัยมีคุณภาพมาตรการใกล้เคียงกัน
ภายในประเทศและเทียบเท่าระดับสากล โดยมุ่งพัฒนาคนให้มีทักษะท่ีจาเป็นในโลกยุคใหม่อย่างรอบด้าน
อาทิ ทักษะด้านภาษาต่างประเทศ ทักษะด้านดิจิทัลและทักษะการเป็นผู้ประกอบการ รวมถึงทักษะทาง
สงั คม/พฤตกิ รรม (soft skills) อาทิ ทักษะดา้ นการคดิ เชิงวพิ ากษ์ ความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการ
ปรับตัว การยอมรับความแตกต่างและการสื่อสารและการทางานร่วมกับผู้อื่น พร้อมทั้งส่งเสริมการสร้างสังคม
แห่งการเรียนรู้ตลอดชวี ิต
2. ระบบการศึกษาและกลไกท่ีเก่ียวเนื่องมีความเหมาะสมและสอดรับกับศักยภาพ
ของเด็กแตล่ ะกลุ่ม ต้งั แตก่ กลุ่มผมู้ คี วามสามารถพิเศษ จนถึงกลมุ่ NEETs (กลุ่มเดก็ และเยาวชนอายุระหว่าง
15-24 ปี ทีไ่ ม่ได้เรยี น ไมไ่ ดท้ างานหรอื ไม่ได้อยู่ในระบบการฝกึ อบรมใด ๆ)
3. สถาบันอุดมศึกษาสามารถปรับบทบาทในการผลิตและพัฒนากาลังคนให้มี
ปริมาณและคุณภาพสอดคลอ้ งกับความตอ้ งการของตลาดแรงงานและสนับสนุนการมุ่งสู่การเป็น Hi-Value
and Sustainable Thailand รวมถึงมบี ทบาทในการพฒั นาทุนมนุษยใ์ นทกุ ชว่ งวยั (นอกเหนอื จากวยั เรยี น)
4. ระบบการฝึกอบรมเพื่อปรับและยกระดับทักษะฝีมือแรงงาน (Re-skill/Up-skill/
New-skill) มีคุณภาพ ทันสมัย ได้มาตรฐาน ตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงจุด ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
โดยเฉพาะการฝึกอบรมเพอ่ื โยกยา้ ยแรงงานไปสู่ภาคการผลติ และบริการเปาู หมายภายใต้การสร้างเศรษฐกิจ
มูลค่าสูงท่ีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสาหรับผู้มีความเสี่ยงจากการถูกทดแทนจากระบบอัตโนมัติ
กลุ่มวยั แรงงานตอนปลายและผ้สู งู อายุ
5. นโยบายการบริหารจัดการกาลังคนภายใต้บริบทสังคมสูงวัยมีความชัดเจน และ
สามารถลดทอนความเสย่ี งในการขาดแคลนกาลงั แรงงาน อาทิ การขยายอายเุ กษียณ การยกระดับผลิตภาพ
แรงงานไทย และการดึงดูดแรงงานทักษะสูงจากตา่ งประเทศ
6. ระบบการบริหารจัดการกาลังคนและฐานข้อมูลสารสนเทศด้านกาลังคนของ
ประเทศมคี วามบรู ณาการ นาไปสกู่ ารออกแบบนโยบายที่เฉพาะเจาะจง และมปี ระสทิ ธภิ าพยง่ิ ขึ้น
7. สถาบันทางสังคมเอ้ือต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ต้ังแต่การส่งเสริมการเลี้ยงดู
บุตร การปฏิรูปส่ือและอุตสาหกรรมบันเทิง จนถึงมาตรการที่เอ้ือต่อการมีสุขภาพดี มีความตระหนักด้าน
ส่งิ แวดล้อม และมีจิตสานกึ ท่ีดตี อ่ สังคมส่วนรวม
ทั้งนี้ การกาหนด “หมุดหมาย” (Milestones) ในช่วงระยะเวลา 5 ปี ของแผนพัฒนาฯ
ฉบับท่ี 13 เพื่อนาไปสู่การพลิกโฉมประเทศสู่การเป็น Hi-Value and Sustainable Thailand ภายในปี
2570 มเี ปูาหมายและผลลัพธข์ องการพัฒนาระดบั หมุดหมาย ดงั นี้
เปา้ หมายท่ี 1 คนไทยไดร้ ับการพฒั นาอย่างเตม็ ศกั ยภาพในทุกช7วงวัย มีสมรรถนะท่ีจาเป็นสาหรับโลกยุค
ใหม่ มีคุณลักษณะตามบรรทัดฐานท่ีดีของสังคม มีคุณธรรม จริยธรรม และมีภูมิคุ้มกันต่อการเปล่ียนแปลง
อยา่ งพลกิ โฉมฉับพลันของโลก สามารถดารงชีวติ ร่วมกนั ในสังคมได้อย่างสงบสขุ
ตัวชวี้ ดั ที่ 1.1 ดชั นีพฒั นาการเดก็ สมวยั เพ่มิ ขึน้ เปน็ ร้อยละ 88 ณ สนิ้ ส้นิ สดุ แผนฯ
ตัวชว้ี ดั ที่ 1.2 ร้อยละของนักเรียนที่มีสมรรถนะไมถ่ ึงระดับพื้นฐานของทั้ง 3 วชิ าในแต่ละ
กลมุ่ โรงเรียนลดลง ร้อยละ 8 เมอื่ ส้ินสดุ แผนฯ
ตวั ชี้วดั ที่ 1.3 ทุนชีวติ เดก็ และเยาวชนไทยเพิ่มขนึ้ ร้อยละ 3 เมอื่ สิ้นสดุ แผนฯ
ตวั ชวี้ ดั ท่ี 1.4 จานวนนกั ศกึ ษาที่เข้าร่วมการจดั การศกึ ษาเพ่ือพฒั นาบณั ฑิตฐาน
สมรรถนะเพม่ิ เปน็ ร้อยละ 30
๖๐
ตวั ชี้วัดท่ี 1.5 ผลติ ภาพแรงงานไมต่ ่ากวา่ รอ้ ยละ 4 ตอ่ ปี
ตัวชว้ี ดั ท่ี 1.6 จานวนผู้สงู อายุที่ประสบปญั หาความยากจนหลายมติ ิลดลงร้อยละ 20
ของจานวนผู้สูงอายุทย่ี ากจนตอ่ ปี
เป้าหมายที่ 2 กาลังคนมีสมรรถนะสูง สอดคล้องกบั ความต้องการของภาคการผลติ เปาู หมาย และสามารถ
สร้างงานอนาคต
ตวั ชี้วดั ท่ี 2.1 ดัชนีความสามารถในการแข่งขนั ของสภาเศรษฐกิจโลก 6 ดา้ นทักษะ
คะแนนเพ่มิ ข้นึ ร้อยละ 20เมื่อสนิ้ สุดแผนฯ
ตวั ชีว้ ดั ท่ี 2.2 การจดั อันดบั ในดา้ นบุคลากรผมู้ ีความสามารถสถาบนั การศึกษาดา้ นการ
บรหิ ารธรุ กจิ มีคะแนนเพิ่มขนึ้ รอ้ ยละ 3 ตอ่ ปี
ตัวชว้ี ดั ท่ี 2.3 จานวนและมูลคา่ ของธุรกจิ สตารท์ อัพเพมิ่ ขึ้น
เปา้ หมายที่ 3 ประชาชนทุกกลมุ่ เขา้ ถึงการเรยี นรูต้ ลอดชีวติ
ตวั ชีว้ ดั ท่ี 3.1 การประเมินสมรรถนะผู้ใหญ่ในระดับนานาชาติ ของคนไทยในทุกด้านไม่ต่ากว่าค่าเฉล่ียของ
ประเทศทเ่ี ข้ารับการประเมิน
ตัวชีว้ ัดที่ 3.2 กลุ่มประชากรอายุ 15 – 24 ปี ท่ีไมไ่ ดเ้ รียน ไม่ได้ทางาน หรอื ไม่ไดฝ้ ึกอบรม ไมเ่ กิน
ร้อยละ 5 เมอื่ ส้นิ แผนฯ
5. แผนความมั่นคงแหง่ ชาติ
วิสัยทัศน์
"มีเสถียรภาพภายในประเทศ มีศักยภาพในการลดภัยข้ามเขตพรมแดนไทย มีบทบาท
สร้างสรรค์ในภูมิภาและประชาคมโลก" กล่าวคือ ชาติมีเสถียรภาพและเป็นปีกแผ่น ประชาชนมีความ
มั่นคงในชีวิต ประเทศมีการพัฒนาเน่ือง ปลอดภัยจากภัยคุกคามข้ามพรมแดน พร้อมเผชิญวิกฤตการณ์ มี
บ ท บ า ท ท่ี ส ร้ า ง ส ร ร ค์ แ ล ะ รั บ เ ป็ น ที่ ย อ ม รั บ ใ น ภู มิ ภ า ค แ ล ะ ป ร ะ ช า ค ม โ ล ก เ พื่ อ รั ก ษ า ค ว า ม ม่ั น ค ง แ ล ะ
ผลประโยชน์ของชาติ
นโยบายที่ ๑ เสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติและการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อส่งเสริมและรักษาไว้
นโยบายที่ ๒ ซง่ึ การปกครองระบอประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ
นโยบายที่ ๓ เพื่อเสริมสร้างจิตสานึกของคนในชาติให้มีความจงรักภักดี และธารงรักษาไว้
นโยบายที่ ๔ ซ่ึงสถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์
สร้างความเป็นธรรม ความปรองดอง และความสมานฉนั ทใ์ นชาติ
เพือ่ ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างความปรองดอง ความเป็นธรรม และความ
สมานฉนั ท์ในชาติเพื่อลดการเผชิญหน้า และการใช้ความรุนแรงในทุกรปู แบบ
ป้องกันและแก้ไขการก่อเหตุรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพ่ือให้จังหวัด
ชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัย ปราศจากเงื่อนไขของการใช้ความรุนแรง
จัดระบบการบริหารจัดการชายแดนเพ่ือป้องกันและแก้ไขปัญหาข้าม
พรมแดน เพ่ือพัฒนาศักยภาพของภาครฐั และส่งเสรมิ บทบาทและความ
๖๑
นโยบายท่ี ๕ เข้มแข็งของทุกภาคส่วนในการรับมือกับภัยคุกคามทุกรูปแบบที่กระทบกับ
นโยบายที่ ๖ ความม่ันคง
นโยบายที่ ๗ สร้างเสริมศักยภาพการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามข้ามชาติ เพื่อ
นโยบายที่ ๘ พัฒนาศักยภาพของภาครัฐ และส่งเสริมบทบาทและความเข้มแข็งของทุก
โยบายท่ี ๙ ภาคสว่ นในการรบั มอื กับภยั คุกคามทุกรปู แบบทีก่ ระทบกับความม่นั คง
นโยบายที่ ๑0
นโยบายที่ ๑ ๑ ปกป้อง รักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล เพ่ือพัฒนาศักยภาพของ
ภาครัฐ และส่งเสริมบทบาทและความเข้มแข็งของทุกภาคส่วน ในการ
นโยบายที่ ๑๒ รบั มอื กับภยั คุกคามทกุ รูปแบบท่กี ระทบกับความม่ันคง
นโยบายท่ี ๑๓ จัดระบบ ป้องกัน และแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมือง เพื่อพัฒนา
ศักยภาพของภาครัฐ และส่งเสริมบทบาทและความเข้มแข็งของทุกภาค
นโยบายที่ ๑๔ ส่วน ในการรบั มอื กบั ภยั คุกคามทกุ รปู แบบทก่ี ระทบกบั ความมน่ั คง
เสริมสร้างความเข้มแข็งและภูมิคุ้มกันความม่ันคงภายใน เพ่ือพัฒนา
ศักยภาพของภาครัฐ และส่งเสริมบทบาทและความเข้มแข็งของทุกภาค
ส่วน ในการรับมอื กบั ภยั คุกคามทุกรปู แบบทีก่ ระทบกบั ความมนั่ คง
เสรมิ สร้างความมน่ั คงของชาติจากภัยการทุจริต เพื่อพัฒนาศักยภาพของ
ภาครัฐ และส่งเสริมบทบาทและความเข้มแข็งของทุกภาคส่วน ในการ
รับมือกบั ภัยคกุ คามทกุ รปู แบบที่กระทบกับความมน่ั คง
เสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อพัฒนาศักยภาพของภาครัฐ
และส่งเสริมบทบาทและความเข้มแข็งของทุกภาคส่วน ในการรับมือกับภัย
คกุ คามทกุ รูปแบบท่ีกระทบกับความม่ันคง
รักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เพื่อให้
การจัดการฐานทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม พลังงาน และอาหาร
มีความม่ันคงความยั่งยืนและมีความสมดุลกับการขยายตัวของการพัฒนา
ประเทศ รวมถึงลดความเสย่ี งจากผลกระทบของกระแสโลกาภวิ ัตน์
เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร เพ่ือให้การจัดการฐาน
ทรพั ยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม พลังงาน และอาหาร มีความม่ันคง ความ
ย่ังยืนและมีความสมดุลกับการขยายตัวของการพัฒนาประเทศ รวมถึงลด
ความเส่ยี งจากผลกระทบของกระแสโลกาภิวตั น์
พัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของ
ชาติ เพื่อพัฒนาศักยภาพการเตรียมความพร้อมของชาติในการเผชิญกับ
ภาวะสงครามและวิกฤตการณ์ความ มั่นคง อย่างมีเอกภาพและ
ประสิทธิภาพ
เสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศ เพ่ือพัฒนาศักยภาพ
ก า ร เ ต รี ย ม ค ว า ม พ ร้ อ ม ข อ ง ช า ติ ใ น ก า ร เ ผ ชิ ญ กั บ ภ า ว ะ ส ง ค ร า ม แ ล ะ
วิกฤตการณ์ความม่ันคงอย่างมีเอกภาพและ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของ
กองทัพในการปูองกันประเทศสนับสนุนภารกิจที่ไม่ใช่การสงคราม และ
สามารถผนึกกาลังของกองทัพกับทุกภาคส่วนในการเผชิญกับภัยคุกคาม
ดา้ นการปอู งกันประเทศในทุกรปู แบบ
๖๒
นโยบายที่ ๑๕ พัฒนาระบบงานข่าวกรองให้มีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาศักยภาพของ
นโยบายที่ ๑๖ ภาครัฐ และส่งเสริมบทบาทและความเข้มแข็งของทุกภาคส่วน ในการ
รบั มือกบั ภัยคุกคามทุกรูปแบบทีก่ ระทบกับความมัน่ คง
เสรมิ สรา้ งดลุ ยภาพในการดาเนนิ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งประเทศ เพ่ือส่งเสริม
สภาวะแวดล้อมที่สร้างสรรค์และสันติในการอยู่ร่วมกับประเทศเพ่ือนบ้าน
กลุ่มประเทศอาเซียน ประชาคมโลก บนพ้ืนฐานของการรักษาผลประโยชน์
และการดารงเกียรติภูมิของชาติ
6. เป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยืน (Sustainable Development Goals SDGs) และการขับเคลื่อน
เป้าหมายการพฒั นาทีย่ ัง่ ยืนด้านการศึกษาในส่วนของประเทศไทย
วาระการพฒั นาที่ย่งั ยืน : เปา้ หมายการพัฒนาทย่ี ่ังยนื (Sustainable Development Goals: SDGs)
องค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN) ได้เล็งเห็นความสาคัญของการพัฒนาของ
โลก โดยการตั้งเปูาหมายการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ของโลก เร่ิมจากเปูาหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ
(Millennium Development Goals: MDGs) มีระยะเวลา 15 ปี (พ.ศ. 2543-2558) ต้ังเปูาหมายของ
การพัฒนาไว้ 8 เปาู หมาย ประกอบด้วย
1) ขจดั ความยากจนและความหิวโหย
2) ให้เดก็ ทุกคนได้รับการศกึ ษาระดบั ประถมศึกษา
3) สง่ เสริมความเท่าเทยี มกันทางเพศและบทบาทสตรี
4) ลดอัตราการตายของเด็ก
5) พฒั นาสุขภาพสตรีตั้งครรภ์
6) ต่อสูก้ บั โรคเอดส์ มาลาเรยี และโรคสาคัญอื่น ๆ
7) รักษาและจดั การสงิ่ แวดลอ้ มอย่างยั่งยืน
8) ส่งเสรมิ การเปน็ หนุ้ ส่วนเพื่อการพฒั นาในประชาคมโลก
ผลการดาเนินงานตามเปูาหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษที่ผ่านมา มีท้ังในส่วนที่ประสบ
ผลสาเรจ็ และไมป่ ระสบผลสาเร็จ หลังจากสิ้นสุดเปูาหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ สหประชาชาติได้ริเร่ิม
ดาเนินการหารือเก่ียวกับการพัฒนาของโลกให้มีความต่อเน่ืองและยั่งยืน ภายใต้ชื่อ เปูาหมายเพ่ือการ
พัฒนาที่ย่ังยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) โดยเพ่ิมเปูาหมายจาก 8 เปูาหมาย เป็น 17
เป้าหมายหลัก (Goals) โดยในแต่ละเปูาหมายจะกาหนดเปูาหมายย่อย เรียกว่า เป้าประสงค์ (Targets)
และในแต่ละเปูาประสงค์ จะกาหนด ตัวช้ีวัด (Indicators) เพ่ือใช้ในการติดตามความก้าวหน้าของการ
ดาเนนิ งานในแต่ละเปูาหมาย ทง้ั นี้ เปูาหมายการพัฒนาที่ย่งั ยืน 17 เปูาหมายหลกั ประกอบดว้ ย
1) ยตุ ิความยากจนทุกรูปแบบในทุกท่ี
2) ยุติความหวิ โหย บรรลุความมัน่ คงทางอาหารและยกระดับโภชนาการ และส่งเสริม
เกษตรกรรมที่ยงั่ ยืน
3) สร้างหลักประกันการมีสขุ ภาวะท่ีดี และส่งเสริมความเป็นอย่ทู ่ีดสี าหรับทุกคนในทุกช่วงวัย
4) สร้างหลกั ประกันว่าทุกคนมีการศึกษาท่ีมีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และ
สนับสนุนโอกาสในการเรยี นรูต้ ลอดชีวิต
5) บรรลุความเสมอภาคระหว่างเพศ และเพิ่มบทบาทของสตรีและเด็กหญิงทุกคน
๖๓
6) สรา้ งหลกั ประกนั เร่ืองน้าและการสุขาภิบาล ใหม้ ีการจัดการอย่างยั่งยนื และมีสภาพพร้อม
ใชส้ าหรับทุกคน
7) สร้างหลกั ประกันว่าทุกคนเข้าถึงพลังงานสมัยใหม่ในราคาท่ีสามารถซื้อหาได้ เชื่อถือได้
และย่ังยนื
8) ส่งเสริมการเจรญิ เติบโตทางเศรษฐกจิ ทีต่ ่อเนื่อง ครอบคลุม และยั่งยืน การจ้างงานเต็มท่ี
และมผี ลติ ภาพ และการมีงานทีม่ คี ุณค่าสาหรับทุกคน
9) สร้างโครงสรา้ งพื้นฐานท่มี ีความยืดหยนุ่ ตอ่ การเปล่ยี นแปลง ส่งเสริมการพัฒนาอตุ สาหกรรม
ทค่ี รอบคลมุ และย่งั ยืน และสง่ เสริมนวตั กรรม
10) ลดความไม่เสมอภาคภายในและระหวา่ งประเทศ
11) ทาใหเ้ มืองและการต้ังถ่ินฐานของมนุษย์ มีความครอบคลุม ปลอดภยั ยืดหยุ่นต่อการ
เปลย่ี นแปลงและย่ังยืน
12) สรา้ งหลักประกนั ใหม้ ีแบบแผนการผลิตและการบรโิ ภคทย่ี ัง่ ยืน
13) ปฏิบตั ิการอย่างเร่งด่วนเพื่อต่อสกู้ ับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบ
ทเ่ี กิดขึ้น
14) อนรุ ักษแ์ ละใชป้ ระโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างย่ังยืน
เพ่ือการพัฒนาทยี่ ั่งยืน
15) ปกปูอง ฟ้นื ฟู และสนับสนนุ การใชร้ ะบบนิเวศบนบกอย่างย่ังยืน จัดการปุาไมท้ ยี่ ่ังยนื
ต่อสู้การกลายสภาพเป็นทะเลทราย หยุดการเสื่อมโทรมของที่ดินและฟ้ืนสภาพกลับมาใหม่ และหยุดการสญู เสีย
ความหลากหลายทางชีวภาพ
16) สง่ เสรมิ สังคมทีส่ งบสุขและครอบคลุมเพื่อการพฒั นาทย่ี ั่งยืน ใหท้ ุกคนเข้าถึงความ
ยตุ ิธรรมและสร้างสถาบันท่ีมปี ระสิทธผิ ล รับผิดชอบ และครอบคลุมในทุกระดับ
17) เสริมความแขง็ แกร่งให้แก่กลไกการดาเนินงานและฟื้นฟูห้นุ สว่ นความร่วมมือระดับโลก
เพ่ือการพัฒนาท่ยี ั่งยืน
๖๔
เป้าหมายที่ 4 สร้างหลกั ประกันว่าทุกคนมกี ารศึกษาท่มี ีคุณภาพอย่างครอบคลมุ และเท่าเทียมและสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้
ตลอดชีวติ (Quality education)
4.1 สรา้ งหลกั ประกนั ว่าเด็กชายและเด็กหญิงทุกคนสาเรจ็ 4.1.1 สัดสว่ นของเดก็ /เยาวชนใน (ก) ระดบั ชนั้ ป.2 หรอื
การศึกษาระดบั ประถมศกึ ษาและมัธยมศกึ ษาที่มีคณุ ภาพ เทา่ ป.3 (ข) ป.6 และ (ค) ม.3 ท่มี ีความสามารถตามเกณฑข์ ้ัน
เทียม และไมม่ ีค่าใช้จ่าย นาไปสู่ผลลัพธท์ างการเรยี นทมี่ ี ต่าเป็นอย่างน้อย ใน (1) ดา้ นการอา่ น และ (2) ดา้ น
ประสิทธผิ ล ภายในปี พ.ศ. 2573 คณิตศาสตร์ หรือการคิดคานวณ จาแนกตาม เพศ
4.1.2 อัตราการสาเร็จการศกึ ษา (ระดับประถมศึกษา
มัธยมศกึ ษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย)
4.2 สร้างหลกั ประกนั ว่าเดก็ ชายและเดก็ หญงิ ทุกคนเขา้ ถึง 4.2.1 รอ้ ยละของเดก็ อายตุ ่ากวา่ 5 ปี ทม่ี พี ฒั นาการ
การพัฒนา การดูแล และการจัดการศกึ ษา ทางด้านสุขภาพ การเรียนรู้ และพัฒนาการ
ระดบั กอ่ นประถมศกึ ษา สาหรบั เด็กปฐมวัยทม่ี คี ณุ ภาพ ทางบคุ ลิกภาพตามวยั จาแนกตามเพศ
เพอ่ื ใหเ้ ดก็ เหล่านั้นมีความพรอ้ มสาหรับการศกึ ษา 4.2.2 อัตราการเขา้ เรยี นปฐมวยั (อย่างนอ้ ย 1 ปี ก่อนถงึ
ระดบั ประถมศกึ ษา ภายในปี พ.ศ. 2573 เกณฑ์อายเุ ข้าเรยี นประถมศกึ ษา) จาแนกตามเพศ
4.3 สรา้ งหลกั ประกันใหช้ ายและหญงิ ทุกคนเขา้ ถงึ การศกึ ษา 4.3.1 อัตราการเขา้ เรยี นของเยาวชนและผ้ใู หญ่
อาชีวศกึ ษา อุดมศกึ ษา รวมถงึ มหาวิทยาลยั ทง้ั ในระบบ นอกระบบการศึกษา รวมทง้ั
ทม่ี ีคณุ ภาพ ในราคาท่สี ามารถจา่ ยได้ ภายในปี พ.ศ. 2573 การฝกึ อบรมในช่วง 12 เดอื นทผ่ี ่านมา จาแนกตามเพศ
4.4 เพม่ิ จานวนเยาวชนและผูใ้ หญ่ทม่ี ที ักษะท่ีเกยี่ วขอ้ ง 4.4.1 สัดสว่ นของเยาวชน/ผใู้ หญท่ มี่ ีทกั ษะ
จาเป็น รวมถึงทกั ษะทางด้านเทคนิคและอาชพี ทางด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร จาแนกตาม
สาหรับการจา้ งงาน การมีงานท่ีมคี ุณคา่ และการเปน็ ประเภททักษะ
ผู้ประกอบการ ภายในปี พ.ศ. 2573
4.5 ขจัดความเหลีอ่ มล้าทางเพศด้านการศกึ ษา 4.5.1 ดชั นีความเทา่ เทยี มกัน (ผู้หญงิ -ผ้ชู าย/ในเขต-นอก
และสรา้ งหลกั ประกนั ว่ากลุ่มท่เี ปราะบางซึง่ รวมถึงผู้พิการ ชน เขตเมือง/ความมั่งคัง่ สูง-ต่า และอน่ื ๆ
พน้ื เมือง และเดก็ เข้าถงึ การศกึ ษาและการฝกึ อาชพี ทกุ ระดบั เชน่ สถานะความพิการ คนพน้ื เมอื ง และคนทไี่ ดร้ ับ
อยา่ งเท่าเทียม ภายในปี พ.ศ. 2573 ผลกระทบจากความขดั แย้งหากมขี ้อมลู ) สาหรบั
ทุกตวั ช้วี ดั ที่ในรายการน้ที สี่ ามารถแยกได้
4.6 สร้างหลกั ประกนั วา่ เยาวชนทุกคนและผูใ้ หญ่ 4.6.1 สดั ส่วนของประชากรในกลมุ่ อายุทีก่ าหนด
ทั้งชายและหญงิ ในสัดสว่ นสงู สามารถอ่านออกเขียนได้ มีความรู้ความสามารถสาหรบั การทางานในดา้ น
และคานวณได้ ภายในปี พ.ศ. 2573 ก) การอ่านออกเขยี นได้ ข) ทักษะในการคานวณ จาแนก
ตามเพศ
4.7 สร้างหลกั ประกันวา่ ผู้เรียนทุกคนไดร้ บั ความรู้ 4.7.1 ระดับการดาเนินการเพอ่ื บรรจุ
และทกั ษะทจี่ าเปน็ สาหรับสง่ เสรมิ การพฒั นาท่ียงั่ ยนื รวมไป (i) การศกึ ษาเพ่ือความเปน็ พลเมอื งโลก และ
ถงึ การศึกษาสาหรบั การพฒั นาทยี่ งั่ ยนื และการมีวิถชี ีวิตที่ (ii) การจดั การศกึ ษาเพ่อื การพัฒนาทยี่ ่งั ยืน
ย่ังยืน สทิ ธิมนุษยชน ความเสมอภาคระหว่างเพศ การสง่ เสริม เป็นเรือ่ งหลักใน (ก) นโยบายการศกึ ษาของประเทศ (ข)
วฒั นธรรมแหง่ ความสงบสขุ และการไม่ใช้ความรุนแรง การ หลักสตู ร (ค) การศกึ ษาของครู
เปน็ พลเมอื งของโลก และความชืน่ ชมในความหลากหลาย และ (ง) การประเมนิ ผลนักเรยี น
ทางวฒั นธรรมและการท่ีวัฒนธรรมมสี ่วนช่วยให้เกิดการ
พฒั นาท่ยี ั่งยืน ภายในปี พ.ศ. 2573
4.a สร้างและยกระดบั สถานศกึ ษา ตลอดจนเคร่อื งมือและ 4.a.1 สดั สว่ นของโรงเรยี นทมี่ ีการเข้าถึงบริการ
อุปกรณก์ ารศึกษาทอ่ี ่อนไหวตอ่ เดก็ ผู้พิการ ขัน้ พ้ืนฐาน จาแนกตามประเภทบรกิ าร
และเพศภาวะ และจดั ให้มสี ภาพแวดล้อมทางการเรยี นรู้ (สัดสว่ นของโรงเรียนท่มี ีการเขา้ ถงึ (a) ไฟฟาู
ทป่ี ลอดภัย ปราศจากความรุนแรง ครอบคลมุ (b) อินเทอรเ์ น็ตท่ีใชใ้ นการเรียนการสอน
และมปี ระสิทธผิ ลสาหรับทุกคน (c) เครอื่ งคอมพิวเตอร์ท่ีใช้ในการเรียนการสอน
(d) โครงสร้างพื้นฐาน และวัสดอุ ปุ กรณ์ทไี่ ดร้ บั การปรบั ให้
๖๕
4.b เพ่มิ จานวนทนุ การศึกษาทัว่ โลกทีใ่ หแ้ กป่ ระเทศกาลงั เหมาะสมกับนักเรยี นท่มี คี วามบกพร่อง
พฒั นา โดยเฉพาะประเทศพฒั นาน้อยท่สี ดุ ทางรา่ งกาย (e) นา้ ดม่ื พ้ืนฐาน (f) สงิ่ อานวยความสะดวก
รัฐกาลังพฒั นาทเ่ี ปน็ เกาะขนาดเลก็ และประเทศในทวีป พน้ื ฐานด้านสุขอนามยั ท่ีแบ่งแยกตามเพศ และ (g) สง่ิ
แอฟรกิ า เพ่อื เข้าศึกษาต่อในระดบั อุดมศกึ ษา รวมถงึ การฝึก อานวยความสะดวกพื้นฐานในการทาความสะอาดมอื (ตาม
อาชีพ และโปรแกรมด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศและการ นิยามตัวชี้วัดของ WASH
ส่ือสาร ด้านเทคนคิ วิศวกรรม และวิทยาศาสตร์ ในประเทศ ในเรื่อง น้า สขุ อนามยั และสุขลักษณะสาหรบั ทกุ คน))
พัฒนาแลว้ และประเทศกาลงั พฒั นาอ่ืน ๆ ภายในปี พ.ศ. 4.b.1 ปริมาณความช่วยเหลือเพอื่ การพัฒนา
2563 อย่างเป็นทางการ (ODA) ทีเ่ ป็นทุนการศกึ ษา จาแนกตาม
สาขาและประเภทการศกึ ษา
4.c เพิม่ จานวนครทู ม่ี ีคณุ วุฒิ รวมถงึ การดาเนนิ การ
ผ่านความร่วมมอื ระหว่างประเทศในการฝกึ อบรมครู 4.c.1 สดั สว่ นของครูท่มี คี ณุ วฒุ ิเหมาะสมในการจดั
ในประเทศกาลงั พฒั นา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศพัฒนา การศึกษาพน้ื ฐาน จาแนกตามระดบั การศึกษา
นอ้ ยท่ีสุด และรัฐกาลังพัฒนาท่ีเป็นเกาะขนาดเลก็ ภายในปี สัดสว่ นของครูในระดบั (a) กอ่ นประถมศึกษา
พ.ศ. 2573 (b) ประถมศกึ ษา (c) มธั ยมศึกษาตอนตน้
และ (d) มธั ยมศึกษาตอนปลาย ผซู้ ึ่งอยา่ งนอ้ ยไดร้ บั การ
ฝกึ อบรม (เช่น การฝึกอบรมการสอน) ซึง่ ตอ้ งดาเนนิ การกอ่ น
หรอื ระหว่างช่วงทท่ี าการสอน
ในระดบั ทเี่ กย่ี วขอ้ งของแต่ละประเทศ
7. แผนพฒั นาการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560-2579)
การจัดการศึกษาในศตวรรษท่ี 21 จุดเน้นของการศึกษาเปลี่ยนไปสู่ “การเรียนรู้” โดยมุ่งเน้นการ
เรียนรู้ตลอดชีวิต เพ่ือให้การเรียนรู้เป็นปัจจัยสร้างความสามารถและศักยภาพของคนและสนับสนุน
ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ดังนั้น มนุษย์ทุกคนท้ังชายหญิง ไม่ว่าจะมีสถานภาพทางสังคม
หรือเศรษฐกิจแตกต่างกันอย่างไร ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกันท่ีจะเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพ
เพ่ือการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งต่อตนเองและต่อสังคมโดยส่วนรวม การศึกษาตลอดชีวิตเป็นการส่งเสริมสิทธิของแต่
ละบุคคลในการเข้าถึงการเรียนรู้ เพ่ือพัฒนาตนเองในด้านสังคม เศรษฐกิจและการเมือง การศึกษาตลอด
ชวี ติ ครอบคลุมถงึ การเรยี นรู้ท่ีเป็นทางการ ไม่เป็นทางการ และตามอัธยาศัย
แนวคิดการจัดการศึกษา (Conceptual Design) ตามแผนการศึกษาแห่งชาติ ยึดหลักสาคัญในการจัด
การศึกษา ประกอบด้วย หลักการจัดการศึกษาเพ่ือปวงชน (Education for All) หลักการจัดการศึกษาเพื่อ
ความเท่าเทียมและท่ัวถึง (Inclusive Education) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency
Economy) และหลักการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนของสังคม (All for Education) อีกท้ังยึดตามเปูาหมาย
การพัฒนาท่ีย่ังยืน (Sustainable Development Goals : SDGs 2030) ประเด็นภายในประเทศ
(Local Issues) อาทิ คณุ ภาพของคนทกุ ชว่ งวยั การเปล่ียนแปลงโครงสร้างประชากรของประเทศ ความเหล่ือม
ล้าของการกระจายรายได้ และวิกฤตด้านส่ิงแวดล้อม โดยนายุทธศาสตร์ชาติ (National Strategy) มาเป็น
กรอบความคดิ สาคญั ในการจัดทาแผนการศึกษาแห่งชาติ
๖๖
จากแนวคิดการจัดการศึกษาดังกล่าวข้างต้นจึงกาหนดวิสัยทัศน์(Vision)แผนการศึกษาแหง่ ชาติ คือ
“คนไทยทุกคนไดร้ บั การศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดารงชีวิตอย่างเปน็ สุข สอดคล้องกับหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลีย่ นแปลงของโลกศตวรรษท่ี 21”
มีวัตถปุ ระสงค์ในการจัดการศึกษา 4 ประการ คือ
(1) เพือ่ พฒั นาระบบแลกระบวนการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและมีประสิทธภิ าพ
(2) เพ่ือพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะทักษะและสมรรถนะท่ีสอดคล้องกับบทบัญญัติ
ของรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาติ และยทุ ธศาสตร์ชาติ
(3) เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณธรรม จริยธรรม รู้รักสามัคคี และ
รว่ มมือผนึกกาลังม่งุ สู่การพัฒนาประเทศอย่างย่ังยืน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
(4) เพ่อื นาประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศท่ีมีรายได้ปานกลาง และความเหลื่อมล้าภายในประเทศ
ลดลง เพ่ือให้บรรลุวิสัยทัศน์และจุดมุ่งหมายในการจัดการศึกษาดังกล่าวข้างต้น แผนการศึกษาแห่งชาติได้
วางเปูาหมายไว้ 2 ด้าน คือเปูาหมายด้านผู้เรียน (Learner Aspirations) โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มี
คณุ ลกั ษณะและทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 (3Rs8Cs) ประกอบด้วย ทักษะและคุณลักษณะต่อไปนี้
✥ 3Rs ไดแ้ ก่ การอ่านออก (Reading) การเขยี นได้ (Writing) และการคิดเลขเป็น
(Arithmetic)
✥ 8Cs ไดแ้ ก่ ทักษะด้านการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา (Critical
Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะ
ด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross – culturalUnderstanding) ทักษะด้านความร่วมมือ
การทางานเป็นทีม และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการส่ือสาร
สารสนเทศ และการรู้เท่าทันส่ือ (Communications, Information and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์
และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้
(Career and Learning Skills) และความมเี มตตา กรุณา มีวนิ ัย คุณธรรม จรยิ ธรรม(Compassion)
เปาู หมายของการจัดการศึกษา (Aspirations) 5 ประการ ซ่งึ มตี ัวช้ีวดั เพอ่ื การบรรลุ
เปาู หมาย 53 ตวั ชว้ี ัด ประกอบดว้ ย เปาู หมายและตวั ช้ีวัดท่ีสาคญั ดงั นี้
1) ประชากรทุกคนเข้าถงึ การศึกษาท่ีมคี ุณภาพและมีมาตรฐานอยา่ งท่วั ถึง (Access)
มตี ัวชว้ี ดั ท่ีสาคญั เช่น ประชากรกลุ่มอายุ 6 - 14 ปีทุกคนไดเ้ ขา้ เรยี นในระดบั ประถมศึกษาแลมัธยมศกึ ษา
ตอนต้นหรอื เทยี บเทา่ ทรี่ ฐั ตอ้ งจดั ให้ฟรี โดยไม่เก็บค่าใชจ้ า่ ย ผู้เรียนพิการได้รบั การพฒั นาสมรรถภาพหรือ
บริการทางการศึกษาทเ่ี หมาะสมทุกคน และประชากรวยั แรงงานมกี ารศึกษาเฉลย่ี เพ่มิ ขน้ึ เปน็ ตน้
2) ผู้เรยี นทกุ คน ทกุ กลมุ่ เปูาหมาย ไดร้ ับบรกิ ารการศึกษาที่มคี ณุ ภาพตามมาตรฐาน
อยา่ งเทา่ เทียม (Equity) มีตวั ช้ีวัดทส่ี าคัญ เช่น ผเู้ รยี นระดบั การศึกษาขน้ั พื้นฐานทุกคนไดร้ ับการสนับสนนุ
ค่าใช้จ่ายในการศึกษา 15 ปี เป็นต้น
3) ระบบการศึกษาท่ีมีคุณภาพ สามารถพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุขีดความสามารถเต็ม
ตามศักยภาพ (Quality) มีตวั ชีว้ ดั ที่สาคัญ เช่น นักเรียนมีคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ัน
พื้นฐาน (O-NET) แต่ละวิชาผ่านเกณฑ์คะแนนร้อยละ 50 ข้ึนไปเพ่ิมขึ้น และคะแนนเฉล่ียผลการทดสอบ
โครงการประเมนิ ผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment :
PISA)ของนกั เรียนอายุ 15 ปสี ูงขนึ้ เปน็ ตน้
4) ระบบการบริหารจัดการศึกษาท่ีมีประสิทธิภาพ เพ่ือการลงทุนทางการศึกษา
ที่คุ้มค่าและบรรลุเปูาหมาย (Efficiency) มีตัวช้ีวัดท่ีสาคัญ เช่น ร้อยละของสถานศึกษาขนาดเล็กที่ไม่ผ่าน
๖๗
เกณฑ์การประเมินคุณภาพภายนอกลดลง มีระบบการบริหารงานบุคคล ครู และบุคลากรทางการศึกษา
ท่ีมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน รวมท้ังมีกลไกส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนสนับสนุนทรัพยากร
เพอ่ื การจัดการศกึ ษา เป็นต้น
5) ระบบการศึกษาท่ีสนองตอบและก้าวทันการเปล่ียนแปลงของโลกที่เป็นพลวัต
และบริบทที่เปล่ียนแปลง (Relevancy) มีตัวช้ีวัดท่ีสาคัญ เช่น อันดับความสามารถในการแข่งขันของ
ประเทศด้านการศึกษาดีข้ึน สัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษาสูงขึ้นเมื่อเทียบกับผู้เรียนสามัญศึกษา และจานวน
สถาบันอดุ มศึกษาทีต่ ดิ อนั ดบั 200 อันดับแรกของโลกเพมิ่ ข้นึ เปน็ ต้น เพ่ือให้บรรลุวสิ ัยทัศน์ จุดมุง่ หมาย
และเปาู หมายดงั กลา่ วข้างต้น แผนการศึกษาแห่งชาติจึงได้กาหนดช่วงเวลาในการดาเนินการในแต่ละเปูาหมาย
และตัวชี้วัด เป็น 5 ช่วง ดังนี้ ระยะเร่งด่วน ระยะ 5 ปีแรกของแผน ระยะ 5 ปีท่ีสองของแผน ระยะ 5 ปีที่
สามของแผน และระยะ 5 ปสี ดุ ท้ายของแผน
แผนการศึกษาแห่งชาติได้กาหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาการศึกษาภายใต้
6 ยุทธศาสตร์หลักท่ีสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพ่ือให้แผนการศึกษาแห่งชาติบรรลุเปูาหมาย
ตามจดุ มงุ่ หมาย วิสยั ทศั น์ และแนวคดิ การจดั การศกึ ษาดงั กลา่ วขา้ งต้น ดังน้ี
ยทุ ธศาสตร์ท่ี 1 : การจัดการศึกษาเพ่อื ความม่ันคงของสังคมและประเทศชาติ
แนวทางการพฒั นา
1.1 พัฒนาการจัดการศึกษาเพ่ือเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ
และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ
1.2 ยกระดับคุณภาพและส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาในเขตพัฒนา
พิเศษเฉพาะกจิ จงั หวดั ชายแดนภาคใต้
1.3 ยกระดับคุณภาพและส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาในพื้นที่พิเศษ (พื้นที่
สูง พ้ืนท่ีตามแนวตะเข็บชายแดน และพื้นท่ีเกาะแก่ง ชายฝ่ังทะเล ทั้งกลุ่มชนต่างเช้ือชาติ ศาสนา และ
วัฒนธรรม กลุ่มชนชายขอบ และแรงงานต่างด้าว)
1.4 พัฒนาการจัดการศึกษาเพ่ือการจัดระบบการดูแลและปูองกันภัยคุกคามในรูปแบบ
ใหม่ อาทิ อาชญากรรมและความรุนแรงในรูปแบบต่าง ๆ ยาเสพติด ภัยพิบัติจากธรรมชาติ ภัยจากโรคอุบัติ
ใหม่ ภยั จากไซเบอร์ เป็นต้น
ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 2 : การผลติ และพฒั นากาลงั คน การวจิ ัยและนวัตกรรรม เพ่อื สร้างขดี ความสามารถใน
การแขง่ ขันของประเทศ
แนวทางการพฒั นา
2.1 ผลติ และพัฒนากาลังคนใหม้ ีสมรรถนะในสาขาที่ตรงตามความต้องการของ
ตลาดงานและการพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศ
2.2 สง่ เสริมการผลิตและพฒั นากาลงั คนที่มีความเช่ยี วชาญและเป็นเลศิ เฉพาะด้าน
2.3 ส่งเสรมิ การวิจยั และพัฒนา เพ่ือสรา้ งองค์ความรแู้ ละนวัตกรรมทส่ี ร้าง
ผลผลิตและมลู คา่ เพิ่มทางเศรษฐกิจ
ยทุ ธศาสตร์ที่ 3 : การพฒั นาศกั ยภาพคนทุกชว่ งวยั และการสร้างสงั คมแห่งการเรียนรู้
แนวทางการพฒั นา
3.1 สง่ เสริม สนับสนนุ ให้คนทกุ ช่วงวัยมที ักษะ ความรคู้ วามสามารถ และการ
พัฒนาคุณภาพชีวติ อย่างเหมาะสม เต็มตามศักยภาพในแตล่ ะชว่ งวัย
๖๘
3.2 ส่งเสริมและพัฒนาแหลง่ เรียนรู้ สื่อตาราเรยี น และสอื่ การเรยี นรตู้ ่าง ๆ ใหม้ ี
คณุ ภาพมาตรฐานและประชาชนสามารถเข้าถึงแหลง่ เรยี นรู้ได้โดยไมจ่ ากัดเวลาและสถานท่ี
3.3 สรา้ งเสริมและปรบั เปลี่ยนค่านยิ มของคนไทยให้มีวนิ ัย จิตสาธารณะ และ
พฤติกรรมที่พึงประสงค์
3.4 พัฒนาระบบและกลไกการตดิ ตาม การวดั และประเมินผลผู้เรียนให้มี
ประสิทธภิ าพ
3.5 พฒั นาคลังข้อมูล สือ่ และนวัตกรรมการเรียนรู้ ท่ีมีคุณภาพและมาตรฐาน
3.6 พฒั นาคุณภาพและมาตรฐานการผลิตครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
3.7 พฒั นาคุณภาพครู อาจารย์ และบคุ ลากรทางการศกึ ษา
ยุทธศาสตร์ท่ี 4 : การสรา้ งโอกาส ความเสมอภาค และความเทา่ เทียมทางการศกึ ษา
แนวทางการพัฒนา
4.1 เพ่มิ โอกาสและความเสมอภาคในการเขา้ ถึงการศึกษาทม่ี คี ณุ ภาพ
4.2 พฒั นาระบบเทคโนโลยดี จิ ิทลั เพ่ือการศึกษาสาหรบั คนทุกชว่ งวัย
4.3 พฒั นาฐานข้อมลู ด้านการศึกษาท่มี มี าตรฐาน เชอื่ มโยง และเขา้ ถงึ ได้
ยุทธศาสตรท์ ี่ 5 : การจัดการศกึ ษาเพอื่ สรา้ งเสรมิ คณุ ภาพชวี ิตทเี่ ปน็ มติ รกับสิ่งแวดลอ้ ม
แนวทางการพฒั นา
5.1 ส่งเสริม สนับสนุนการสร้างจิตสานึกรักษ์ส่ิงแวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม
และนาแนวคดิ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสกู่ ารปฏิบัตใิ นการดาเนนิ ชีวติ
5.2 ส่งเสริมและพัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ และสื่อการเรียนรู้
ตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การสรา้ งเสรมิ คณุ ภาพชีวติ ทเี่ ป็นมิตรกับสิ่งแวดลอ้ ม
5.3 พัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรม ด้านการสร้างเสริมคุณภาพชีวิต
ที่เป็นมติ รกับส่ิงแวดลอ้ ม
ยทุ ธศาสตร์ที่ 6 : การพฒั นาประสิทธภิ าพของระบบบริหารจัดการศึกษา
แนวทางการพฒั นา
6.1 ปรับปรุงโครงสรา้ งการบริหารจัดการศกึ ษา
6.2 เพิม่ ประสทิ ธภิ าพการบริหารจดั การสถานศึกษา
6.3 สง่ เสริมการมสี ่วนร่วมของทกุ ภาคส่วนในการจดั การศกึ ษา
6.4 ปรับปรุงกฎหมายเกีย่ วกับระบบการเงินเพ่ือการศึกษาท่ีส่งผลต่อคุณภาพ
และประสิทธภิ าพการจดั การศึกษา
6.5 พัฒนาระบบบรหิ ารงานบุคคลของครู อาจารย์ และบคุ ลากรทางการศึกษา
๖๙
8. นโยบายรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ (นางตรีนุช เทยี นทอง)
นโยบายรฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ (นางตรนี ุช เทยี นทอง) มสี าระสาคัญ ดังนี้
จุดเน้นสาคัญ นโยบาย แนวทางหลักการดาเนนิ งานและโครงการสาคญั ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
“TRUST” หมายถงึ “ความไวว้ างใจ” เป็นรปู แบบการทางานท่ีจะทาให้ครู บุคลากรทางการศึกษา
ผู้ปกครอง ผเู้ รยี น และประชาชน กลบั มาให้ความไว้วางใจในการทางานของกระทรวงศึกษาธกิ ารอีกครง้ั โดย
T ยอ่ มาจากTransparency (ความโปรง่ ใส)
R ยอ่ มาจากResponsibility (ความรบั ผิดชอบ)
S ย่อมาจากStudent-Centricity
(ผเู้ รียนเป็นเปูาหมายแหง่ การพัฒนา)
T ยอ่ มาจากTechnology (เทคโนโลย)ี
รูปแบบการทางาน“TRUST” คือการพัฒนาต่อยอดจากรูปแบบการทางาน“MOE ONE
TEAM” หรือ “การทางานร่วมกันเป็นหน่ึงเดียวของกระทรวงศึกษาธิการ” ที่กระทรวงศึกษาธิการได้
ดาเนินการมาโดย ตลอด ซ่ึง“TRUST” จะเข้ามาเป็นส่วนเสริมในเรื่องความโปร่งใสท้ังในเชิงกระบวนการ
ทางานและ กระบวนการตรวจสอบจากภาคส่วนต่าง ๆ การสนับสนุนให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนดาเนินการตาม
ภารกิจของตน ด้วยความรับผิดชอบต่อตัวเอง องค์กร ประชาชน และประเทศชาติ ให้ความสาคัญกับการ
ประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนParticipation)( ผ่านกลไกการรับฟังความคิดเห็นมาประกอบการ
ดาเนินงานต่าง ๆ ท่ีเป็นประโยชน์ต่อการยกระดับคุณภาพการศึกษา ท้ังน้ี กระทรวงศึกษาธิการเป็นพ้ืนท่ีของ
ทุกคนความเป็น มี อันหน่ึงอันเดียวระหว่างครูบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง ผู้เรียน และประชาชน ซ่ึงมี
เปูาหมายร่วมกัน คือ การมีผู้เรียนเป็นเปูาหมายแห่งการพัฒนาโดยการทาให้ผู้เรียนมีวิธีคิดและทักษะที่เป็น
สากลสอดคล้องกับ พลวัตในศตวรรษท่ี ๒๑ ควบคไู่ ปกับสานึกและความเข้าใจในความเป็นไทย ผ่านการมีความ
พร้อมดา้ น เทคโนโลยีท้ังในเชงิ โครงสรา้ ง(Infrastructure) คือ การเข้าถึงส่ิงจาเป็นและส่ิงอานวยความสะดวก
ด้าน การศึกษาอย่างท่ัวถึง เพ่ือลดความเหล่ือมล้าของโอกาสในการศึกษา และในเชิงการเรียนรู้ (Learning)
คือ แหล่งข้อมูล แหล่งเรียนรู้รูปแบบต่าง ๆ ที่ทันสมัย และจะช่วยให้ผู้เรียนทุกคนถึงพร้อมซึ่งคุณลักษณะ
อันพงึ ประสงค์ทกุ ประการ
เพ่ือเป็นการตระหนักถึงความสาคัญของยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้าง
ศักยภาพทรัพย์ มนุษย์ โดยเฉพาะแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ(พ..๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) ประเด็นการพัฒนา
ศักยภาพคน ตลอดช่วงชีวิการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ การ
พฒั นาเดก็ ต้ังแต่ ชว่ งต้งั ครรภ์จนถึงปฐมวัย การพัฒนาช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น การพัฒนาและยกระดับศักยภาพวัย
แรงงาน การส่งเสริมศักยภาพวัยผู้สูงอายุ ประเด็นการพัฒนาการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปล่ียนแปลงใน
ศตวรรษท่ี ๒๑ และพหปุ ัญญาของมนุษย์ทีห่ ลากหลาย และประเดน็ อ่นื ทีเ่ กีย่ วข้อง
๗๐
นาเสนอนโยบายการจดั การศึกษาทัง้ ๑๒ ข้อ ดังน้ี
ข้อ ๑ การปรับปรุงหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ให้ทันสมัยและทันการเปล่ียนแปลง
ของโลกใน ศตวรรษท่ี ๒๑ โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกระดับการศึกษาให้มีความรู้และคุณลักษณะท่ีเหมาะสม
กับทักษะบริบทสงั คมไทย
ข้อ ๒ การพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครูและอาจารย์ในระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน
และอาชีวศึกษา ให้มีสมรรถนะทางภาษาและดิจิทัล เพ่ือให้ครูและอาจารย์ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะ
ท้ังด้านการจัดการ เรียนรู้ ด้วยภาษาและดิจิทัล สามารถปรับวิธีการเรียนการสอนและการใช้สื่อทันสมัย
และมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ ผลลพั ธท์ างการศึกษาที่เกิดกับผเู้ รยี น
ข้อ ๓ การปฏิรูปการเรียนรู้ด้วยดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้วยดิจิทัลแห่งชาติ
(NDLP) และการ ส่งเสริมการฝึกทักษะดิจิทัลในชีวิตประจาวัน เพื่อให้มีหน่วยงานรับผิดชอบพัฒนา
แพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้วย ดิจิทัลแห่งชาติท่ีสามารถนาไปใช้ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ท่ีทันสมัยและ
เข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้อย่าง กว้างขวางผ่านระบบออนไลน์ และการนาฐานข้อมูลกลางทางการศึกษามาใช้
ประโยชนใ์ นการพัฒนา ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารและการจัดการศกึ ษา
ขอ้ ๔ การพฒั นาประสทิ ธภิ าพการบริหารและการจัดการศึกษา โดยการส่งเสริมสนับสนุน
สถานศึกษาให้มี ความเป็นอิสระและคล่องตัว การกระจายอานาจการบริหารและการจัดการศึกษาโดยใช้
จงั หวดั เป็นฐาน โดยอาศยั อานาจตามกฎหมายการศึกษาแห่งชาติท่ีได้รับการปรับปรุงเพื่อกาหนดให้มีระบบ
บริหารและการ จัดการ รวมถึงการจัดโครงสร้างหน่วยงานให้เอ้ือต่อการจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ
สถานศึกษาให้มี ความเป็นอิสระและคล่องตัว การบริหารและการจัดการศึกษาโดยใช้จังหวัดเป็นฐาน
มีระบบการบรหิ ารงาน บุคคลโดยยดึ หลกั ธรรมาภิบาล
ข้อ ๕ การปรับระบบการประเมินผลการศึกษาและการประกันคุณภาพ พร้อมจัดทดสอบ
วัดความรแู้ ละ ทักษะทจ่ี าเปน็ ในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาท้ังสายวิชาการและสายวิชาชีพ เพื่อให้ระบบ
การประเมินผล การศึกษาทุกระดับและระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย
ตอบสนองผลลพั ธ์ ทางการศึกษาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ข้อ ๖ การจัดสรรและการกระจายทรัพยากรให้ทั่วถึงทุกกลุ่มเปูาหมาย รวมถึงการระดม
ทรัพยากรทาง การศึกษาจากความร่วมมือทุกภาคส่วน เพ่ือให้การจัดสรรทรัพยากรทางการศึกษามีความ
เป็นธรรมและสร้าง โอกาสให้กลุ่มเปูาหมายได้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพทัดเทียมกลุ่มอ่ืน ๆ กระจาย
ทรัพยากรทั้งบคุ ลากรทาง การศกึ ษา งบประมาณและสอื่ เทคโนโลยไี ด้อยา่ งท่วั ถงึ
ข้อ ๗ การนากรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) และกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (AQRF)
สู่การปฏิบัติเป็น การผลิตและการพัฒนากาลังคนเพ่ือการพัฒนาประเทศโดยใช้กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ
เชอื่ มโยงระบบการศกึ และการอาชีพโดยใช้กลไกการเทียบโอนประสบการณ์ด้วยธนาคารหน่วยกิตและการ
จดั ทามาตรฐานอาชีพใน สาขาทสี่ ามารถอ้างอิงอาเซยี นได้
ข้อ ๘ การพัฒนาเด็กปฐมวัยให้ได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษาเพื่อพัฒนา
ร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์สังคม และสติปัญญาให้สมกับวัย เพื่อเป็นการขับเคล่ือนแผนบูรณาการการ
พัฒนาเด็กปฐมวัย ตามพระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. ๒๕๖๒ สู่การปฏิบัติเป็นรูปธรรม
โดยหน่วยงานที่เก่ียวข้อง นาไปเป็นกรอบในการจัดทาแผนปฏิบัติการเพ่ือพัฒนาเด็กปฐมวัย และมีการ
ตดิ ตามความก้าวหนา้ เป็นระยะ
๗๑
ข้อ ๙ การศึกษาเพ่ืออาชีพและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเพ่ือให้ผู้
จบการศกึ ษา ระดับปรญิ ญาและอาชีวศึกษามีอาชีพและรายได้ท่ีเหมาะสมกับการดารงชีพและคุณภาพชีวิต
ท่ดี ี มสี ่วนช่วย เพมิ่ ขีดความสามารถในการแข่งขนั ในเวทีโลกได้
ขอ้ ๑๐ การพลิกโฉมระบบการศกึ ษาไทยด้วยการนานวตั กรรมและเทคโนโลยีท่ีทันสมัยมา
ใช้ในการจัด การศึกษาทุกระดับการศึกษาเพื่อให้สถาบันการศึกษาทุกแห่งนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่
ทันสมยั มาใช้ การจดั การศึกษาผ่านระบบดจิ ิทลั
ข้อ ๑๑ การเพิ่มโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพของกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทาง
การศึกษาและ ผู้เรียนที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาที่มี
คุณภาพของกลุ ผดู้ อ้ ยโอกาสทางการศึกษา และผูเ้ รียนทมี่ ีความต้องการจาเปน็ พเิ ศษ
ข้อ ๑๒ การจัดการศึกษาในระบบนอกระบบ และตามอัธยาศัย โดยยึดหลักการเรียนรู้
ตลอดชีวิตและการมี ส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อเพ่ิมโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาท่ีมีคุณภาพของ
กลุ่มผูด้ อ้ ยโอกาสทาง การศึกษาและผเู้ รยี นท่มี ีความตอ้ งการจาเปน็ พเิ ศษ
เนอ่ื งดว้ ยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในปัจจุบัน
ได้ก่อให้เกิด ความนิยมในรูปแบบการเรียนการสอนออนไลน์ (Online) มากย่ิงขึ้น ส่งผลกระทบอย่างมี
นัยสาคัญต่อการ เตรียมผู้เรียนไทยให้มีทักษะท่ีจาเป็นในศตวรรษท่ี ๒๑ ซ่ึงมุ่งเน้นความเป็นผู้ประกอบการ
(Entrepreneurship) และความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ (Resilience) รวมถึง
ปัญหาความปลอดภัยของ สถานศึกษาและปัญหาความเหลื่อมล้าของโอกาสในการศึกษาที่นับวันจะทวี
ความรนุ แรงมากยงิ่ ข้ึน ดิฉันจงึ เสนอให้มวี าระเรง่ ดว่ น (Quick Win) ของกระทรวงศึกษาธกิ าร ดังต่อไปน้ี
วาระที่ ๑ เร่ืองความปลอดภัยของผู้เรยี น
โดยจัดให้มีรูปแบบ วิธีการ หรือกระบวนการในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการ
เรยี นรอู้ ยา่ งมีคุณภาพ มคี วามสขุ และไดร้ ับการปกปอู งคุ้มครองความปลอดภัยท้ังด้านร่างกาย และ จิตใจ รวมถึง
การสร้างทักษะให้ผู้เรียนมีความสามารถในการดูแลตนเองจากภัยอันตราย ต่าง ๆ ท่ามกลางสภาพแวดล้อม
ทางสังคม
วาระที่ ๒ หลกั สตู รฐานสมรรถนะ
มงุ่ เน้นการจัดการเรียนรู้ท่ีหลากหลายโดยยึดความสามารถของผู้เรยี นเปน็ หลัก และพัฒนาผู้เรยี น
ให้เกิดสมรรถนะทต่ี ้องการ
วาระท่ี ๓ Big Data
พัฒนาการจัดเกบ็ ข้อมูลอยา่ งเปน็ ระบบและไมซ่ ้าซ้อน เพ่ือให้ได้ข้อมูลภาพรวมการศึกษาของประเทศ
ทม่ี ีความครบถ้วน สมบรู ณถ์ ูกต้องเป็นปัจจุบนั และสามารถนามาใชป้ ระโยชน์ได้อยา่ งแท้จริง
วาระที่ ๔ ขับเคลื่อนศนู ย์ความเปน็ เลศิ ทางการอาชีวศกึ ษา (Excellent Center)
สนับสนุนการดาเนินงานของศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) ตาม
ความเป็นเลิศของแต่ละสถานศึกษาและตามบริบทของพื้นท่ี สอดคล้องกับความต้องการของประเทศท้ังใน
ปัจจุบนั และอนาคต ตลอดจนมีการจัดการเรยี นการสอนดว้ ยเคร่อื งมือท่ีทนั สมัยสอดคล้องกับเทคโนโลยี
ปัจจุบัน
๗๒
วาระที่ ๕ พัฒนาทักษะทางอาชพี
ส่งเสริมการจัดการศกึ ษาทเ่ี น้นพัฒนาทกั ษะอาชีพของผู้เรยี น เพ่ือพฒั นาคุณภาพชีวิต สรา้ งอาชพี
และ รายได้ท่เี หมาะสม และเพม่ิ ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
วาระท่ี ๖ การศกึ ษาตลอดชีวิต
การจัดเรียนรูต้ ลอดชวี ติ สาหรับประชาชนทุกช่วงวยั ใหม้ ีคณุ ภาพและมาตรฐาน ประชาชนในแต่ช่วง
วยั ไดร้ ับการศึกษาตามความต้องการอย่างมีมาตรฐาน เหมาะสมและเต็มตามศักยภาพต้ังแต่วัยเด็กจนถึงวัย
ชรา และพัฒนาหลักสูตรที่เหมาะสมเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่สงั คมผู้สงู วยั
วาระที่ ๗ การจัดการศกึ ษาสาหรับผทู้ ี่มคี วามต้องการจาเปน็ พเิ ศษ
ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้ที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ
สามารถดารงชีวิตในสังคมอย่างมีเกียรติศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับผู้อ่ืนในสังคม สามารถช่วยเหลือตนเอง และมี
สว่ นร่วมในการพัฒนาประเทศ
9. จดุ เนน้ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
การพัฒนาและเสริมสรา้ งศกั ยภาพทรัพยากรมนุษย์
๑) ICT (Information and Communication Technologies) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ประกอบด้วย ๗ เรื่องย่อย ได้แก่ (๑) Data Center ศูนย์ข้อมูลกลาง (๒) Big Data ข้อมูลขนาดใหญ่ (คลังข้อมูล
การนาข้อมูลมารวมกัน) (๓) Platform (e-library e-learning และ Teaching Platform) (๔) ebook (๕) e-office
e-mail และ document (๖) ระบบบริหารจัดการห้องเรียน School และ Classroom Management และ (๗)
โครงสรา้ งพนื้ ฐาน Infrastructure (Internet)
๒) การจัดการองค์ความรู้และยกระดับทักษะทีจ่ าเปน็ เน้นพัฒนาความรู้และสมรรถนะด้าน
Digital Literacy สาหรับผูเ้ รยี นท่มี ีความแตกตา่ งกนั ตามระดับและประเภทของการจัดการศกึ ษา เชน่
STEM Coding เปน็ ตน้
๓) การศึกษาเพ่ือทักษะอาชีพและการมีงานทา พัฒนา ๓ ทักษะหลัก ได้แก่ โลกทัศน์อาชีพการเสริม
ทักษะใหม่ (Up Skill) และการเพ่ิมทักษะใหม่ท่ีจาเป็น (Re-Skills) ให้แก่กลุ่มเปูาหมายประกอบด้วย (๑)
ผู้อยู่ในระบบการศึกษา (การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และอาชีวศึกษา) (๒) ผู้อยู่นอกระบบการศึกษา (๓) วัยแรงงาน และ
(๔) ผู้สูงอายุ เพื่อให้มีทักษะและสมรรถนะสอดคล้องกับการเปล่ียนแปลงที่เกิดจากเทคโนโลยีดิจิทัลและอาชีพท่ี
เกิดข้ึนใหม่ (Digital Disruption) โดยเน้นเพ่ิมบทบาทของ กศน.ในการ Re-Skills ต้านอาศึกษากับสานักงาน
คณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
4 ) การต่างประเทศ เน้นภารกิจท่ีต้องใช้ความร่วมมือระดับนานาชาติในการจัดหาครู
ชาวต่างชาติให้แก่สถานศึกษาทุกระดับ ทุกประเภทของกระทรวงศึกษาธิการเพ่ือจัดการศึกษาใน
สถานศกึ ษา ๒ ด้านหลกั ๆ ได้แก่ (๑) ดา้ นภาษาต่างประเทศ และ (๒) ด้านวชิ าการ โดยเฉพาะอาชีวศกึ ษา
๕) กฎหมายและระเบียบ เน้นแผนงาน ๒ เร่ือง ท่ีบรรจุอยู่ในแผนการปฏิรูปประเทศด้าน
การศกึ ษา ประกอบด้วย
เรือ่ งท่ี ๑ : การปฏิรูประบบการศึกษาและการเรียนรู้โดยรวมของประเทศโดยพระราชบัญญัติ
การศึกษาแหง่ ชาติฉบับใหม่และกฎหมายลาดบั รอง มปี ระเด็นปฏิรูป ๕ ประเดน็ ได้แก่
- การมีพระราชบัญญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ... และมีการทบทวน จัดทา แก้ไขและปรับปรุง
กฎหมายทเี่ กี่ยวขอ้ ง
- การสรา้ งความรว่ มมือระหวา่ งรัฐ องคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ และเอกชน เพ่ือการจดั การศึกษา
๗๓
ตลอดชวี ติ เพอ่ื รองรบั การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต
- การขบั เคลือ่ นการจดั การศกึ ษาเพอื่ การพัฒนาตนเองและการศกึ ษาเพื่อการเรยี นรู้
- การทบหวนและปรบั ปรงุ แผนการศึกษาแหง่ ชาติ
- การจดั ต้งั สานักงานคณะกรรมการนโยบายการศกึ ษาแห่งชาติ
เร่ืองท่ี ๖ การปรับโครงสร้างของหน่วยงานในระบบการศกึ ษา ประกอบดว้ ยประเด็น ปฏิรูป ๓
ประเด็น ได้แก่ สถานศึกษามีความเป็นอิสระในการบริหารและจัดการศึกษา พ้ืนการศึกษา การปรับปรุง
โครงสรา้ งของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
๖) ระบบบริหารจัดการและการพัฒนาบุคลากร โดยรวบรวมหลักสูตรวิชาการของแต่ละ
หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้าช้อนในการจัดฝึกอบรมให้แต่ละ
กลุ่มเปูาหมายและใช้ประโยชน์จากสถาบันพัฒนาท่ีมีอยู่แล้ว เช่น สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และ
บคุ ลากรทางการศึกษาเพื่อเป็นหนว่ ยงานกลางในการจัดฝึกอบรมพัฒนาทักษะสมรรถนะให้แก่บุคลากรของ
กระทรวงศึกษาธิการ (ผู้บริหารหน่วยงานทุกระดับ ผู้บริหารสถานศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท ครู อาจารย์
และบคุ ลากรอน่ื ๆรวมทง้ั พัฒนายกระดับให้เป็นสถาบันฝึกอบรมระดบั นานาชาติ
๗) การประชาสัมพันธ์ โดยจัดต้ังศูนย์ประชาสัมพันธ์ของกระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงาน
สังกัดสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดาเนินการผลิตสื่อและจัดทาเนื้อหา (Content) เพ่ือเผยแพร่
ผลงาน กิจกรรมและการเขา้ รว่ มงานต่าง 1 ของทุกหน่วยงานในภาพรวมของ ศธ.
๘) การพัฒนาเด็กปฐมวัย ดาเนินการขับเคลื่อนนโยบายและแนวปฏิบัติในการจัดการศึกษา
และการเรยี นรสู้ าหรับเด็กปฐมวยั
๙) การพัฒนาโรงเรยี นขนาดเล็ก โดยการส่งเสรมิ โครงการ ๑ ตาบล ๑ โรงเรียนคณุ ภาพ
๑๐) กรรับเรือ่ งราวร้องทุกขท์ ี่เก่ียวขอ้ งกบั กระทรวงศึกษาธิการ โดยการนาเทคโนโลยีมาใช้ใน
การบรหิ ารจดั การ เช่น การยกระดับตอบรับอัตโนมัติเพื่อแก้ไขปัญหาเบ้ืองต้น (Call Centerด้านกฎหมาย)
การวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการการรับเร่ืองราวร้องทุกข์ในภาพรวมของ
กระทรวงศึกษาธิการ
๑๑) การปฏิรปู องคก์ ารและโครงสรา้ งกระทรวงศึกษาธกิ าร
๑๒) การพัฒนาครู ในสาขาวิซาตา่ ง ๆ เพอ่ื ให้มีมาตรฐานวชิ าชพี ทส่ี ูงขึน้
๑๓) การศกึ ษายกกาลงั สอง โดย
- พฒั นาครทู กุ ระดบั ให้มีทักษะ ความรทู้ ่ีจาเป็น เพื่อทาหน้าท่ีวิทยากรมอื อาชีพ (Train
The Trainer) และขยายผลการพัฒนาผ่านศนู ย์พฒั นาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (Human Capital
Excellence Center : HCEC)
- จัดการเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ ผ่านเวบ็ ไซต์ www.deep.go.th โดยปลดล็อกและเปิดกว้าง
ให้ภาคเอกชนสามารถเข้ามาพัฒนาเน้ือหา เพ่ือให้ผู้เรียน ครู และผู้บริหารทางการศึกษามีทางเลือกในการ
เรียนรูท้ ีห่ ลากหลาย และตลอดเวลาผ่านแพลตฟอร์มดา้ นการศึกษาเพื่อความเปน็ เลิศ (Digital Education
Excellence Platform : DEEP)
- ให้ผู้เรียน ครู ผู้บริหารทางการศึกษามีแผนพัฒนารายบุคคลผ่านแผนพัฒนารายบุคคล
สูค่ วามเป็นเลิศ (Exceltence Individual Development Plan : EIDP)
- จัดทา "คูม่ ือมาตรฐานโรงเรียน" เพือ่ กาหนดให้ทุกโรงเรียนตอ้ งมีพนื้ ฐานท่ีจาเป็นการสร้าง
ความสามารถในการแข่งขน้
๗๔
- มุ่งเน้นการศึกษาเพื่อทักษะอาชีพและการมีงานทาด้วยคุณภาพ โดยสร้างค่านิยม
อาชีวศกึ ษา และเตมิ เตม็ ชอ่ งวา่ งระหวา่ งทักษะ (Full fill Skill Gaps) โดยขยายและยกระดับอาชวี ศึกษา
ทวิภาคีสู่คุณภาพมาตรฐาน เน้นร่วมมือกับสถานประกอบการขั้นนา (Tailor-made Curriculum)
ขับเคลือ่ นความร่วมมือการจดั การอาชศี ึกษาระหวา่ งภาครัฐและภาคเอกชนสู่มาตรฐานนานาชาติ
- มุ่งเน้น Re-Skills, Up Skill และ New Skill การฝึกอบรมวิชาชีพระยะสั้น รวมทั้งผลิต
กาลังแรงงานที่มีคุณภาพตามความเป็นเลิศของแต่ละสถานศึกษาและตามบริบทของพ้ืนท่ี เพ่ือตอบโจทย์
การพัฒนาประเทศและสถานประกอบการ
- มุ่งเนน้ พัฒนาศูนยป์ ระสานงานกลางการผลติ และพฒั นากาลังคนอาชวี ศึกษา (TVET
Excellence Center) สู่มาตรฐานสากล ผลิตอาชีวะพันธุ์ใหม่ รวมถึงการนานวัตกรรม Digital เพ่ือมุ่ง
สู่การอาชวี ศกึ ษาดจิ ิทัล (Digital College)
- มุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพผู้เรียนอาชีวศึกษาให้เป็นผู้ประกอบการ พัฒนาทักษะการเรียนรู้
ผู้เรียนเพ่ือการดารงชีวิตให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์และทักษะที่จาเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ (Technical
Vocational Education and Training : TVET, Student Skill Set รวมท้ังให้ความร่วมมือในการพัฒนา
ขดี ความสามารถของผู้เรยี นผ่านการฝกึ ประสบการณว์ ิชาชพี ในตา่ งประเทศและการแช่งขนั
ในเวทรี ะดับนานาชาติ
- มุ่งเน้นการเพ่ิมปริมาณผู้เรียนในหลักสูตรอาชีวศึกษา สร้างภาพลักษณ์สถานศึกษา
อาชีวศกึ ษาเพื่อดึงดูดให้ผทู้ ่ีสนใจเข้ามาเรียน
- สนับสนนุ ให้สถานศึกษาอาชศี ึกษาบริหารจดั การอยา่ งมคี ุณภาพ และจดั การเรยี นการสอน
ดว้ ยเครอื่ งมือปฏิบัตทิ ี่ทันสมัยการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศกึ ษา
- ขับเคลอื่ นพ้นื ทน่ี วัตกรรมการศึกษาให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษา
พ.ศ. ๒๕๖๒
- สง่ เสริมใหผ้ ูเ้ รียนท่ียุติการศึกษาท้งั ก่อนและหลังสาเร็จการศึกษาภาคบังคับให้ได้รับโอกาส
ทางการศึกษาจนสาเร็จการศึกษาภาคบังคับการจัดการศึกษาเพ่ือสร้างเสริมคุณภาพชีวิตท่ีเป็นมิตรกับ
ส่ิงแวดล้อมเสริมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ความตระหนัก และส่งเสริมคุณลักษณะและพฤติกรรมท่ีพึง
ประสงคด์ ้านส่งิ แวดล้อม รวมท้งั การปรับตัวรองรับการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะเกดิ ข้นึ ในอนาคต
- ส่งเสริมการพัฒนาส่ิงประดิษฐ์และนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ให้สามารถเป็น
อาชีพ และสร้างรายได้การพัฒนาการศึกษาเพื่อความม่นั คง
- เฝูาระวังภัยทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน ครู และสถานศึกษาการปรับสมดุลและพัฒนา
ระบบการบรหิ ารจัดการ
- ปฏิรปู องคก์ ารเพอ่ื เพิม่ ประสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธผิ ล และความเป็นเอกภาพของหน่วยงาน
- ปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศต่าง ๆ ท่ีเป็นอุปสรรคและข้อจากัดในการ
ดาเนินงาน โดยคานึงถงึ ประโยชนข์ องผู้เรียนและประชาชน ตลอดจนกระทรวงศกึ ษาธิการโดยรวม
- ยกระดับการประเมินคณุ ธรรมและความโปร่งใสในการดาเนนิ งานของหนว่ ยงานภาครัฐ
(Integrity and Transparency Assessment : ITA) ของหน่วยงานในสงั กดั กระทรวงศึกษาธกิ าร
- พัฒนาระบบฐานขอ้ มลู ดา้ นการศึกษา (Big Data)
๗๕
การขบั เคล่ือนนโยบายและจดุ เน้นสูก่ ารปฏบิ ตั ิ
๑. ใหส้ ว่ นราชการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ นานโยบายและจุดเน้นเป็นกรอบ
แนวทางในการวางแผนและจัดทางบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ตามที่
รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศึกษาธกิ ารไดใ้ ห้แนวทางในการบรหิ ารงบประมาณไว้
๒. ให้มีคณะกรรมการติดตาม ประเมินผล และรายงานการขับเคล่ือนนโยบายและจุดเน้นสู่
การปฏิบัติระดับพ้ืนที่ โดยให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน สานักงานศึกษาธิการภาค
และสานักตรวจราชการและตดิ ตามประเมนิ ผล สป. เป็นฝุายเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการตามลาดับโดย
มีบทบาทการกิจในการตรวจราชการ ติดตาม ประเมินผลในระดับนโยบาย และจัดทารายงานเสนอต่อ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการจัด
การศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธิการ ทราบตามลาดับ
3. กรณีมีปัญหาในเชิงพื้นที่หรือข้อขัดข้องในการปฏิบัติงาน ให้ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลและ
ดาเนินการแก้ไขปัญหาในระดับพ้ืนที่ก่อน โดยใช้ภาคีเครือข่ายในการแก้ไขข้อขัดข้อง พร้อมท้ังรายงานต่อ
คณะกรรมการติดตาม ฯ ข้างต้น ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ตามลาดับ
อนึ่ง สาหรับภารกิจของส่วนราชการหลักและหน่วยงานท่ีปฏิบัติในลักษณะงานในเชิงหน้าที่
(Function) งานในเชิงยุทธศาสตร์ (Agenda) และงานในเชิงพื้นท่ี (Area) ซึ่งได้ดาเนินการอยู่ก่อนเมื่อ
รัฐบาลหรือกระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายสาคัญเพิ่มเติมในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ นอกเหนือจากท่ี
กาหนดหากมคี วามสอดคล้องกบั หลกั การนโยบายและจุดเน้นข้างต้น ให้ถือเป็นหน้าท่ีของส่วนราชการหลัก
และหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องต้องเร่งรัด กากับ ติดตาม ตรวจสอบให้การดาเนินการเกิดผลสาเร็จและมี
ประสทิ ธิภาพอยา่ งเป็นรปู ธรรมดว้ ยเชน่ กัน
๗๖
10. แผนพฒั นาการศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (พ.ศ. 2566-2570) และแผนปฏิบัตกิ าร
ดา้ นการศกึ ษา พ.ศ. 2566
วิสยั ทศั น์
ประชากรทุกชว่ งวยั ไดร้ บั การศึกษาที่มคี ุณภาพ เปน็ สงั คมแห่งการเรยี นรู้ และมีความพร้อมสาหรับ
วิถีชวี ติ ในศตวรรษที่ 21 ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
พันธกจิ
1. ส่งเสริม สนับสนุนการจัดการเรียนรู้ให้ประชากรทุกช่วงวัยได้รับโอกาสทางการศึกษาและการ
เรยี นรู้อยา่ งทวั่ ถงึ สอดคลอ้ งกบั การเปลีย่ นแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21
2. สง่ เสรมิ สนับสนนุ และเชอื่ มโยงศกั ยภาพการจัดการเรยี นรูแ้ บบบรู ณาการใหม้ คี ณุ ภาพ
3. ส่งเสรมิ สนบั สนุนใหป้ ระชากรทกุ ช่วงวัยมีศักยภาพในการเรียนรู้ และการประกอบอาชีพ
4. ส่งเสริม สนับสนุนประชากรทุกช่วงวัยให้มีความรู้ ทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและการพัฒนา
นวัตกรรม เพ่ือเพม่ิ ขีดความสามารถในการแขง่ ขนั
5. ส่งเสริมและพัฒนาการจัดการศึกษาเพ่ือเสริมสร้างคุณภาพชีวิต ที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมตาม
หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
เปา้ ประสงค์
1. ประชากรทุกช่วงวยั ได้รับโอกาสทางการศกึ ษาและการเรยี นรอู้ ย่างทว่ั ถงึ ไดร้ ับการพัฒนาเต็ม
ตามศักยภาพและมีคุณภาพ สอดคล้องกบั การเปลย่ี นแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21
2. ประชากรได้รบั การพัฒนาศกั ยภาพอย่างมีคณุ ภาพตลอดชว่ งชวี ติ
3. ประชากรทุกช่วงวัยได้รับการพฒั นาศักยภาพการเรยี นรู้ ทกั ษะในการประกอบอาชีพ เพ่อื การ
เรยี นรู้ตลอดชวี ติ และสอดคลอ้ งกบั การเปล่ียนแปลงของโลกในศตวรรษท่ี 21
4. ประชากรทกุ ช่วงวัย มีศกั ยภาพในการสร้างงานวิจยั และพฒั นานวัตกรรมดว้ ยเทคโนโลยีดจิ ทิ ัล
เพอ่ื เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
5. มกี ารจัดการศึกษาทส่ี ร้างเสริมคุณภาพชวี ติ ทีเ่ ป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อมตามหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
ยุทธศาสตร์ : (Strategy)
1. การจดั การเรียนร้ใู หป้ ระชากรทกุ ชว่ งวัยได้รับโอกาสทางการศึกษาและการเรยี นรู้อย่างทวั่ ถึง
2. การพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของประชากรตลอดชว่ งชวี ติ
3. การพฒั นาศักยภาพของประชากรทุกชว่ งวัยในการเรยี นรแู้ ละการประกอบอาชพี
4. การสง่ เสรมิ การวจิ ยั และพัฒนานวัตกรรมการจดั การเรียนรดู้ า้ นดิจทิ ลั เพ่ือเพิ่มขดี ความสามารถ
ในการแข่งขนั
5. การจดั การศกึ ษาเพอื่ เสริมสรา้ งคณุ ภาพชวี ิตทเี่ ป็นมติ รกับส่งิ แวดลอ้ มตามหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
๗๗
11. ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาจงั หวดั หนองคาย
ประเดน็ การพฒั นาจงั หวดั
ประเดน็ การพัฒนาท่ี ๑ : การยกระดับมาตรฐานการผลิตสนิ คา้ เกษตรและสรา้ งมูลคา่ เพม่ิ
(๑) แนวทางการพัฒนา (กลยุทธ์)
(๑.๑) พัฒนาโครงสร้างพนื้ ฐานภาคการเกษตร
(๑.๒) สง่ เสรมิ การผลติ และสนบั สนุนการตรวจรบั รองมาตรฐานการผลิตสินคา้ เกษตร
(๑.๓) ส่งเสริมและสนับสนุนนวัตกรรม เทคโนโลยีทางการเกษตรเพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพ
ทางการผลติ และการตลาดสนิ คา้ เกษตร
(๒) ตัวขีว้ ดั ความสาเรจ็
(๒.๑) พื้นที่ชลประทานเพิม่ ขนึ้
(๒.๒) พ้นื ท่เี กษตรอินทรีย์ทไี่ ด้มาตรฐาน เพิม่ ขน้ึ (๕,0๐๐ ไร่ /ปี)
(๒.๓) ผลผลิตสนิ ค้าเกษตรในพื้นทีเ่ กษตรแปลงใหญเ่ พิ่มขึ้น (สินค้าขา้ ว ไม้ผล ปศสุ ัตว์ประมง)
(๓) แผนงาน และโครงการท่ีสาคญั /ตวั ช้ีวัดรายโครงการ
(๓.๑) แผนงาน : การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพอื่ การเกษตร
๑. โครงการพัฒนาแหล่งนา้ และระบบชลประทานเพื่อการเกษตร
ตัวช้ีวดั โครงการ พนื้ ทีช่ ลประทานเพิ่มขึ้น
๒. โครงการพัฒนาแหล่งน้าเพ่อื การเกษตร นอกเขตชลประทาน
ตวั ชี้วัดโครงการ แหลง่ น้าเพือ่ การเกษตรนอกเขตชลประทานเพ่ิมขน้ึ
(๓.๒) แผนงาน : การส่งเสริมและสนับสนุนนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการเกษตรเพ่ือเพ่ิม
ประสทิ ธภิ าพทางการผลติ และการตลาดสินคา้ เกษตร
๑. โครงการเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการผลิตและการตลาดสินค้าเกษตรทสี่ าคัญ
ตวั ชี้วดั โครงการ ผลผลิตสนิ ค้าเกษตรในพน้ื ทีเ่ กษตรแปลงใหญเ่ พม่ิ ขึน้
๒. โครงการบรหิ ารจดั การนา้ เพอื่ การเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม
ตวั ช้วี ดั โครงการ จานวนพืน้ ที่การเกษตรท่ีไดร้ บั ประโยชน์จากแหล่งนา้ เพ่ิมขึ้น
(๓.๓) แผนงาน : ส่งเสรมิ การผลติ และสนับสนุนการตรวจรับรองมาตรฐานการผลิตสนิ ค้าเกษตร
๑. โครงการส่งเสรมิ เกษตรอนิ ทรีย์
ตวั ชีว้ ดั โครงการ พนื้ ท่เี กษตรอินทรยี ์ที่ไดม้ าตรฐานเพิ่มข้นึ ท่องเทย่ี ว และการบรกิ าร
ประเดน็ การพัฒนาท่ี ๒ : พัฒนาขดี ความสามารถในการแขง่ ขันทางการค้า การลงทนุ การคา้ ชายแดน
การท่องเทีย่ ว และการบริการ
(๑) แนวทางการพฒั นา (กลยุทธ)์
(๑.๑) พัฒนาระบบโครงสร้างพ้ืนฐาน สาธารณูปโภค และโลจิสติกส์เช่ือมโยงพ้ืนท่ีการค้าการ
ลงทุน และการท่องเท่ียว
(๑.๒) สง่ เสรมิ การท่องเที่ยวทางธรรมะ วัฒนธรรม ประเพณี และทางธรรมชาติบนแนว
ทางการท่องเท่ยี ววถิ ใี หม่ (New Normal) อยา่ งยั่งยนื
(๑.๓) ยกระดบั มาตรฐานการผลติ สินค้าและบรกิ ารสู่มาตรฐานสากล
๗๘
(๑.๔) ส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวเช่ือมโยง
ภายในประเทศและระหวา่ งประเทศ
(๒) ตวั ช้วี ัดความสาเรจ็
(๒.๑) รายไดจ้ ากการทอ่ งเทีย่ วเพ่มิ ขน้ึ ร้อยละ ๕
(๒.๒) มูลค่าการคา้ ขายแดนเพมิ่ ข้ึนร้อยละ ๒๐
(๒.๓) รายไดจ้ ากการจาหน่ายผลิตภณั ฑ์ชุมชน (OTOP) เพิ่มข้นึ ร้อยละ ๑0 ต่อปี
(๓) แผนงาน และโครงการทสี่ าคญั /ตัวช้ีวัดรายโครงการ
(๓.๑) แผนงาน : การพฒั นาโครงสรา้ งพ้นื ฐานและโครงขา่ ยคมนาคมเพอื่ รองรบั
การคา้ การลงทนุ และการทอ่ งเท่ียว
๑. โครงการพฒั นาระบบโครงสร้างพนื้ ฐานการคมนาคม ขนสง่ และการท่องเที่ยว
ตัวชี้วดั โครงการ
(๓.๒) แผนงาน : การสง่ เสรมิ การทอ่ งเทีย่ วทางธรรมะ วฒั นธรรม ประเพณี และ
ทางธรรมชาติบนแนวทางการท่องเท่ยี ววถิ ใี หม่ (New Normal) อยา่ งย่งั ยืน
๑. โครงการหนองคายเมอื งแห่งการท่องเท่ยี ว (The city of tourism)
ตวั ชวี้ ดั โครงการ
(๓.๓) แผนงาน : ยกระดบั มาตรฐานการผลิตสนิ คา้ และบริการสมู่ าตรฐานสากล
๑. โครงการพฒั นาและยกระดบั ผลิตภณั ฑ์ สินคา้ และบริการของจงั หวดั หนองคาย
ตัวขวี้ ดั โครงการ
(๓.๔) แผนงาน : สง่ เสริมและพัฒนาความร่วมมือทางการคา้ การลงทุน การท่องเท่ียว และการบริการ
๑. โครงการส่งเสรมิ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยวและการบริการ
ตัวช้ีวัดโครงการ
ประเด็นการพัฒนาท่ี ๓ : การเสริมสร้างความม่ันคงของคน สังคม และสงิ่ แวดลอ้ ม
(๑) แนวทางการพัฒนา (กลยทุ ธ)์
(๑.๑) เพ่มิ ประสิทธภิ าพในการบริหารจัดการพ้นื ท่ชี ายแดนเพื่อปอู งกันและเฝาู ระวังปญั หา
อาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติดและภยั คกุ คามทกุ รปู แบบ
(๑.๒) การเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านประสิทธิภาพเป็นไปตาม
มาตรฐานสากล
(๑.๓) พฒั นาระบบการบรกิ ารสขุ ภาพเพอ่ื รบั มอื ตอ่ โรคอบุ ตั ใิ หมแ่ ละโรคอุบตั ซิ ้าอยา่ งมี
(๑.๔) พัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัยด้านการศึกษา แรงงาน สาธารณสุข และ
สงั คม เพอ่ื ลดปญั หาความยากจน ด้อยโอกาส และความเหลือ่ มลา้ ทางสงั คม
(๑.๕) การอนรุ กั ษ์ และฟนื้ ฟทู รัพยากรทางธรรมชาติรวมท้งั การบรหิ ารจัดการปุาไม้อยา่ งย่งั ยืน
(๑.๖) การขบั เคลือ่ นและขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดาริ
(๒) ตัวขว้ี ดั ความสาเร็จ
(๒.๑) คดีอาชญากรรมและคดียาเสพติดลดลงคิดเปน็ รอ้ ยละ ๒๕
(๒.๒) การแจ้งความคดชี วี ิต รา่ งกาย เพศ และคดีประทษุ รา้ ยต่อทรัพย์ (ต่อประชากรแสนคน)
(๒.๓) สถานพยาบาลได้รับการรับรองมาตรฐาน HA เพ่ิมขึ้น รอ้ ยละ ๘ ต่อปี
๗๙
(๒.๔) ร้อยละของปริมาณขยะมูลฝอยชุมชนได้รับการกาจัดอย่างถูกต้องราชการคลอดมีชีพ
ในหญงิ อายุ ๑๕ - ๑๙ ปี ต่อประชากรหญงิ อายุ ๑๕- ๑
(๒.๖) คะแนนเฉลยี่ การทดสอบ O-Net ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
(๓) แผนงาน และโครงการท่สี าคญั /ตวั ช้ีวดั รายโครงการ
(๓.๑) แผนงาน : เพมิ่ ประสิทธิภาพในการบริหารจดั การพ้ืนทช่ี ายแดน ในการปอู งกนั และ
ปราบปรามภยั คุกคามด้านความมน่ั คง
๑. โครงการเพ่ิมประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพ้ืนท่ีชายแดนเพื่อปูองกันและ
ปราบปรามภยั คุกคามด้านความมัน่ คง
ตวั ขวี้ ัดโครงการ
(๓.๒) แผนงาน : กรเสรมิ สรา้ งความสัมพันธอ์ ันดีกบั ประเทศเพอื่ นบ้าน
๑. โครงการเสริมสร้างความสมั พันธ์อนั ดีกับประเทศเพ่ือนบ้าน
ตวั ช้ีวดั โครงการ
(๓.๓) แผนงาน : การพัฒนาและยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ทุกชว่ งวยั ด้านการศึกษา แรงงาน
สาธารณสุข และสังคม เพอ่ื ลดปญั หาความยากจนด้อยโอกาส และความเหลื่อมลา้ ทางสงั คม
๑. โครงการพัฒนาและยกระดับคณุ ภาพชีวติ คนทุกชว่ งวัย
ตวั ขีว้ ดั โครงการ
(๓.๔) แผนงาน : พัฒนาระบบบริหารจัดการนา้ การจดั การขยะ/น้าเสีย และทรพั ยากรธรรมชาติ
และส่ิงแวดลอ้ มอย่างเปน็ ระบบและย่งั ยนื
๑. โครงการพัฒนาระบบบรหิ ารจดั การจัดการขยะมลู ฝอย/ น้าเสีย
ตวั ชี้วดั โครงการ
๒. โครงการสง่ เสรมิ และพฒั นาพลงั งานทดแทน
ตัวช้ีวดั โครงการ
ประเด็นการพฒั นาที่ ๔ : การพฒั นาระบบบริหารจัดการภาครัฐ
(๑) แนวทางการพัฒนา (กลยุทธ์)
(๑.๑) การพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครฐั ดว้ ยเทคโนโลยีและนวตั กรรม
(๑.๒) การพฒั นาและเพ่มิ ประสิทธิภาพบคุ ลากรภาครัฐ
(๒) ตัวขีว้ ัดความสาเร็จ
(๒.๑) ความสามารถในการเบิกจ่ายงบประมาณของจังหวัด (%)
(๒.๒) จานวนนวัตกรรมการบริหารจดั การภาครฐั ท่ไี ดร้ บั การพฒั นา
(๒.๓) ร้อยละของจานวนเรือ่ งรอ้ งเรยี น/รอ้ งทกุ ข์ท่ลี ดลง
(๓) แผนงาน และโครงการที่สาคัญ/ตวั ชว้ี ัดรายโครงการ
(๓.๑) แผนงาน : พัฒนาระบบการบริหารจดั การภาครฐั ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม
๑. โครงการการพฒั นาระบบการบริหารจัดการภาครฐั ด้วยเทคโนโลยีและนวตั กรรม
ตวั ช้ีวัดโครงการ
(๓.๒) แผนงาน : พฒั นาและเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพบคุ ลากรภาครัฐ
๑. โครงการการพัฒนาและเพ่ิมประสทิ ธิภาพบคุ ลากรภาครฐั
ตัวช้วี ัดโครงการ
๘๐
12. ผลการติดตาม ประเมินผลการจดั การศึกษาของจังหวดั
สรปุ ผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ
รายงานการศึกษาส่วนบุคคล เร่ือง แนวทางการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือแบบ
บูรณาการเพื่อพฒั นาคุณภาพการศึกษาจังหวัดหนองคายครั้งน้ี มวี ตั ถุประสงค์
1) เพ่ือศึกษา วิเคราะห์ สภาพปัจจุบัน และ ปัญหาของการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือ
แบบบูรณาการเพอ่ื พัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา จงั หวัดหนองคาย
2) เพ่ือศึกษาแนวทางการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการเพ่ือพัฒนาคุณภาพ
การศึกษาจังหวัดหนองคาย กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ บุคลากรจากหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน ภาคประชาสังคม
และบวร รวมท้ังส้ิน 27 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือท่ีใช้ในการ
รวบรวมขอ้ มลู ไดแ้ ก่ แบบสมั ภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการรวบรวม เรียบเรียง จัดหมวดหมู่ นาเสนอบรรยาย
เปน็ ความเรยี ง แลว้ หาขอ้ สรปุ รว่ มกับผมู้ สี ว่ นเกีย่ วข้อง โดยสามารถสรปุ ผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ ดงั นี้
สรุปผลการศกึ ษา
1. สภาพปัจจุบัน และ ปัญหาของการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการเพื่อ
พัฒนาคณุ ภาพการศึกษา จังหวดั หนองคาย
สภาพปัจจุบัน จังหวัดหนองคายมีเครือข่ายความร่วมมือของสมาชิกในการดาเนินงานของ
เครือข่ายแบง่ เป็น 2 ประเภท คอื 1) เครอื ข่ายไม่เป็นทางการ โดยการประสานความร่วมมือจากหน่วยงาน
ทางการศึกษา ได้แก่ สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1 สานักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขต 2 สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา สานักงานการ
อาชีวศึกษา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองคาย
มหาวิทยาลัย ศูนย์การศึกษาพิเศษ และหน่วยงานอื่นๆ อาทิเช่น แรงงานจังหวัดหนองคาย อุตสาหกรรม
จงั หวดั หนองคาย หอการคา้ จังหวัดหนองคาย ร่วมนาเสนอแผนพัฒนาในภาพรวมของจังหวัด 2) เครือข่าย
เป็นทางการ เป็นเครือข่ายที่สมาชิกลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการทางานร่วมกัน
มีการดาเนินงานในรูปแบบเครือข่ายความร่วมมือแบบ บูรณาการ 3 ระดับ คือ ระดับจังหวัด ระดับ
หนว่ ยงานทางการศกึ ษา และระดบั สถานศึกษา มีสมาชิกเครอื ข่ายแต่ละระดบั จะมบี ทบาทหน้าที่ท่ีแตกต่าง
กนั ไป
องค์ประกอบของเครือข่ายความร่วมมือด้านการศึกษา มีผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นประธาน
คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดโดยตาแหน่ง มีหน้าที่สั่งการ กากับ ติดตามการดาเนินงานด้านการศึกษา
และ ศกึ ษาธิการจังหวัดเป็นกรรมการและเลขานกุ าร มีหนา้ ท่ีประสานงานความรว่ มมือกับสมาชิกเครือข่าย
ในระดบั จงั หวัด ระดบั หน่วยงานทางการศึกษา และระดับสถานศกึ ษา ให้มารว่ มมอื กันปฏิบัติงาน ใช้วิธีการ
ประสานความร่วมมือในหลากหลายรูปแบบและหลากหลายช่องทาง สมาชิกเครือข่ายมีการดาเนินงานโดย
อาศัยเครือข่ายการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานการศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท หน่วยงานองค์กร
ภาครัฐ และเอกชน อาทิเช่น แรงงานจังหวัดหนองคาย อุตสาหกรรมจังหวัดหนองคาย หอการค้าจังหวัด
หนองคาย ร่วมนาเสนอแผนในภาพรวมของจังหวัดหนองคายใช้ระบบการบริหารจัดการโดยใช้เครือข่าย
ความร่วมมือแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาในหน่วยงานทางการศึกษา โดยผ่านกลไก กศจ.
๘๑
ในการขับเคลื่อน และการนิเทศ การติดตาม และประเมินผล ในลักษณะการทาข้อตกลงความร่วมมือ
(MOU) ระหว่างหน่วยงานทางการศึกษาองค์กรเอกชน
สภาพปัญหาการดาเนินงานในปัจจุบัน เครือข่ายความร่วมมือเป็นการประสานงานแต่ละ
โครงการ ยังไม่ใช่การบูรณาการที่มวี ตั ถุประสงคแ์ ละเปูาหมายเดียวกัน จงึ ขาดการส่งเสริมสนับสนุน อานวย
ความสะดวกเท่าที่ควร โดยแต่ละองค์กรหน่วยงาน ต่างคนต่างทา การประสานงาน อยู่ในระนาบเดียว
เครือขา่ ยความร่วมมอื ภาคเอกชนภาคประชาสงั คม และบวร ซ่ึงเป็นตัวแทนจาก มูลนิธิ สมาคม ชมรม และ
สภาตา่ ง ๆ เขา้ มารว่ มรบั ผิดชอบในงาน เป็นแกนนาหลัก เพ่ือการประสานงานยังไม่ชัดเจน ปัจจุบันแม้ว่า
จะมีสมาชิกเครือข่ายสถานศึกษาท่ีมากขึ้น แต่เป็นเพียงการประสานงานระหว่างองค์กรในการจัดทา
แผนพัฒนาคุณภาพเท่าน้ัน ส่วนการขับเคล่ือนแผนพัฒนาสู่การปฏิบัติ มีการประสานงานเฉพาะด้าน
องค์กรภาครัฐเท่าน้ัน ส่วนหน่วยงานภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และด้านบวร เพื่อให้ครอบคลุม
กลุ่มเปูาหมายทุกระดับ ทุกประเภท การกาหนดแนวทางการพัฒนางาน และการกาหนดบทบาทหน้าท่ี
ร่วมกันยังไม่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม ยังไม่เชื่อมโยงการปฏิบัติที่มีวัตถุประสงค์และเปูาหมายเดียวกัน
ไดอ้ ยา่ งชดั เจน
ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ควรปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้ 1) การพัฒนาครูและบุคลากรทาง
การศกึ ษา 2) การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนของทุกสังกัดทุกประเภท 3) จัดระบบโครงสร้างการบริหารจัดการ
เครือข่ายความร่วมมือให้มีความชัดเจนในบทบาทหน้าท่ี 4) ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และบวร ควรมี
บทบาทหน้าท่ีคือผู้นาหลักเพื่อขับเคล่ือน การบูรณาการเครือข่ายความร่วมมือเพื่อให้เกิดความยั่งยืน และ
5) การประสานพลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และบวร เพ่ือประโยชน์ด้านการทางาน
ร่วมกัน ระดมความคิดเห็น นาทรัพยากรทุกชนิดมาแบ่งปันและใช้ประโยชน์ร่วมกัน สามารถแก้ปัญหาท่ีมี
ความสลบั ซับซอ้ นไดม้ ากข้ึน
2. แนวทางการเสรมิ สรา้ งเครือขา่ ยความร่วมมือแบบบรู ณาการเพือ่ พัฒนาคุณภาพการศึกษา
จังหวัดหนองคาย
โครงสร้างของเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาจังหวัด
หนองคาย ควรมีความคลอบคลุมการศึกษาทุกประเภท ทุกระดับ ประกอบด้วย 1) องค์คณะบุคคล
2) แนวทางการเสริมสร้าง 3) กระบวนการบริหารจัดการเครือข่าย และ 4) การติดตามประเมินผล โดยองค์
คณะบุคคลควรมีผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธาน ศึกษาธิการจังหวัดหนองคาย เป็นกรรมการ
และเลขานุการ ส่วนสมาชิกเครือข่ายความร่วมมือควร ประกอบด้วย ตัวแทนจากองค์กรภาครัฐ เอกชน
ประชาคม บวร ผู้บรหิ ารการศกึ ษา ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง และตัวแทน
จากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดการศึกษาในพื้นที่ โดยอาจจัดตั้งเป็นทีมผู้บริหาร เพื่อวางแผน บริหาร
จัดการ ทีมประมวลผลสรุปเป็นองค์ความรู้และแนวทางปฏิบัติจริง ทีมประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่เครือข่าย
ทาเชงิ รุก และควรมผี ู้ทรงคณุ วฒุ ิ ผูเ้ ชีย่ วชาญ ดา้ นนนั้ ๆ โดยยดึ หลกั ความเปน็ ประชาธิปไตย การทางานเป็น
ทีม โปร่งใส ความร่วมมือ และคานึงถึงคุณภาพประสิทธิผลของเครือข่าย มีการดาเนินงานจากแผนพัฒนา
การศกึ ษาไปสูก่ ารปฏบิ ัตทิ ีไ่ ดม้ าตรฐาน และเป็นรูปธรรมมากขึ้น
บทบาทในการการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพ
การศึกษาจังหวัดหนองคาย ควรให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัดเป็นเลขานุการ เพ่ือประสานความร่วมมือ
และประสานงานระหว่างองค์กรเครือข่าย โดยกาหนดนโยบาย วิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์ เปูาหมาย
การปฏิบัติการพัฒนาร่วมกันและการสรุปรายงานผล และการนาเสนอข้อมูลท่ีได้ดาเนินการให้เห็น
ความสาคัญ ศึกษาธิการจังหวัดหนองคายควรเป็นผู้ส่งเสริมและประสานการสร้างเครือข่ายการพัฒนา
คุณภาพการศึกษาจากทุกหน่วยงาน องค์กร และเป็นศูนย์กลางของการประสานงานและกาหนดนโยบาย
๘๒
ตามความต้องการของจังหวัด มีการประสานระหว่างกระทรวงกับท้องถ่ิน ให้เกิดการร้อยรัดเชิงนโยบาย
แนวทางปฏิบัติและการนาผลไปใช้ มีการพัฒนาฐานข้อมูลด้านการศึกษา นวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยมี
ขอ้ มูล (Data Base) ของการบรหิ ารจัดการของสมาชกิ และเครอื ขา่ ยการบริหารจดั การ
สมาชิกเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการเพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาของจังหวัด
หนองคาย ควรจะพัฒนาการจัดการศึกษา ทุกๆ ด้าน ควบคู่กันไป ลดความเหล่ือมล้าในสังคมและส่งเสริม
คุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะด้านครูเพราะมีส่วนสาคัญในการจัดกระบวนการเรียนรู้ เทคนิคการจัดการ
เรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียน ด้านผู้เรียนควรมุ่งเน้นในด้านการพัฒนาทักษะชีวิต ภาษา อาชีพ นวัตกรรมและ
เทคโนโลยี ตลอดจนการส่งเสริมให้มีคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อรองรับอาชีพ
ในเขตพ้ืนท่ีเศรษฐกิจพิเศษ และรถไฟความเร็วสูง ของจังหวัดหนองคาย โดยมีเครือข่ายของหน่วยงานท่ีจัด
การศึกษา ทาให้ทิศทางการดาเนินการไปในทิศทางเดียวกัน นอกนั้นควรมีการสร้างความรู้ความเข้าใจ
การทาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา กาหนดบทบาทหน้าท่ีในแต่ละตาแหน่ง เทคนิควิธีการปฏิบัติงานใน
บทบาท หน้าท่ีของแต่ละกลุ่มงาน องค์กร การติดต่อควรประสานงานกับสมาชิกเครือข่าย สมาชิกใน
เครือข่ายควรได้แลกเปล่ียนความรู้ในการพัฒนาการศึกษาแต่ละเครือข่าย เพราะจะทาให้พัฒนาคุณภาพ
การศึกษาทย่ี ่งั ยนื ซ่ึงสง่ ผลต่อคุณภาพผูเ้ รยี นเปน็ สาคัญ
ปัจจัยที่มีส่วนสนับสนุนการปฏิบัติงานของสมาชิกเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการเพื่อ
พัฒนาคุณภาพการศึกษาจังหวัดหนองคาย ให้สามารถปฏิบัติงานจนบรรลุเปูาหมาย ควรเน้นการทางาน
เป็นทีม ความร่วมมือ ภาวะผู้นา ความจริงใจ และการส่ือสารท่ีมีประสิทธิภาพ การมีส่วนร่วม การนิเทศ
อย่างต่อเนื่อง การประสานงานและการมีส่วนร่วมของแต่ละองค์กร มีการใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี ดิจิตัล
มกี ารแลกเปล่ยี นเรียนรกู้ ันตลอดจนการใช้ฐานขอ้ มูลสารสนเทศทางการศกึ ษาของแต่ละองค์กรร่วมกัน และ
มีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมการดาเนินงานอย่างต่อเน่ือง ทั้งนี้ ควรมีการปรับปรุงหรือแก้ไขกฎหมาย
เกี่ยวกับการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการด้านการศึกษา ให้สามารถดาเนินไปอย่าง
มีประสิทธิภาพ โดยกาหนดบทบาท หน้าที่ของแต่ละระดับให้ชัดเจนและร้อยรัดกันไม่ทางานก้าวก่ายกัน
หรือซ้าซ้อนของการบริหาร มีการพัฒนาบุคลากรขององค์กรทุกระดับ ให้มีความรู้ความเข้าใจ ในบทบาท
หน้าท่ีของตนเองที่เป็นรูปธรรม ระยะเวลาในการทางาน ควรมีการยืดหยุ่น เพราะการทางานแต่ละ
หน่วยงานมีภารกิจท่ีแตกต่างกัน เวลาที่แตกต่าง ควรมีปฏิทินและแจ้งการยืนยันล่วงหน้า โครงสร้างการ
บริหารของกระทรวง ในทุกระดับให้สอดคล้องกันทุกระดับ มีการมอบหมายบทบาทหน้าที่ของแต่ละ
หน่วยงานใหช้ ัดเจน ไม่ซ้าซอ้ น และมีการกระจายอานาจให้หนว่ ยปฏบิ ัตงิ านในพื้นท่ีอย่างแท้จรงิ
ขอ้ เสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะในการพฒั นาการบรหิ ารจดั การท่ีเหมาะสมและมคี ุณภาพทเ่ี ปน็ รปู ธรรม
1.1 ควรจัดต้ังคณะกรรมการเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพ
การศึกษาจังหวัดหนองคาย โดยประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน ศึกษาธิการจังหวัด
หนองคาย เป็นกรรมการและเลขานุการ ส่วนคณะกรรมการควรประกอบด้วย ตัวแทนจากองค์กรภาครัฐ
เอกชน ประชาสังคม บวร ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง
และตัวแทนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดการศึกษาในพื้นที่ เพื่อให้การดาเนินงานจากแผนพัฒนา
การศึกษาไปสู่การปฏิบัตทิ ่ีได้มาตรฐาน และเป็นรปู ธรรมมากข้นึ
๘๓
1.2 ควรส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีบทบาทหน้าท่ีส่งเสริมสนับสนุน ในด้านงบประมาณ
ด้านทรัพยากรบุคคล ด้านวัสดุอุปกรณ์ และด้านวิธีปฏิบัติงาน ตลอดจนหาแนวทาง ในการเสริมสร้าง
เครอื ข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการทีช่ ัดเจน
1.3 ควรกาหนดบทบาทหน้าที่ของแต่ละเครือข่ายท้ังอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ
โดยเฉพาะบทบาทของเครือข่ายแบบไม่เป็นทางการ ควรจะมีโครงสร้าง ผู้นาเครือข่าย องค์ประกอบของ
เครือขา่ ย มเี ปูาหมายท่จี ะพัฒนาร่วมกันอย่างชดั เจนและเปน็ รปู ธรรม ครอบคลุมการศกึ ษาทุกช่วงวัย
1.4 ควรมีกลไกการขับเคล่ือนเครือข่าย โดยมีองค์กรภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และบวร
มีส่วนร่วมในการวางแผนงานการดาเนินงาน ทั้งนี้ ในแต่ละเครือข่ายควรมีการส่งเสริมสนับสนุนผู้นาหลัก
และผู้นารองตามบทบาทหน้าท่ีความรับผิดชอบ ให้มีอิสระในการทางาน มีการกระจายอานาจและมอบ
อานาจหน้าที่ของเครือข่ายตามความเหมาะสม ตลอดจนร่วมกันปฏิบัติงาน ติดตาม และประเมินผลการ
ดาเนนิ งานของเครือขา่ ย รายงานส่สู าธารณชน
1.5 ควรมีการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์การดาเนินงานด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย เก่ียวกับการ
เครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของจังหวัดให้เป็นท่ีรู้จักอย่างกว้างขวาง
ด้วย เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักรู้และแรงเสริมให้กับหน่วยงาน องค์กร ภาครัฐ ประชาสังคม เอกชน
และบวร ในการใหค้ วามร่วมมอื กันด้านการศกึ ษาและการเสริมสร้าง การดาเนินงานของเครอื ขา่ ยใหเ้ ขม้ เข็ง
1.6 กระทรวงศึกษาธิการควรมีการปรับปรุงแก้ไขคาสั่ง ระเบียบ ข้อกฎหมาย ท่ียังเป็น
อุปสรรคต่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาในระดับกระทรวง ระดับภูมิภาค และระดับจังหวัด
เพ่อื ให้การดาเนนิ งานบรรลุผลสาเร็จมากข้นึ
2. ขอ้ เสนอแนะในการพฒั นาตอ่ เน่อื งท่สี าคญั ต่อไป
2.1 ศึกษาแนวทางท่ีเหมาะสมของเครือข่ายความร่วมมือเชิงบูรณาการของจังหวัด
หนองคายในการจัดการศึกษา โดยมุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนในด้านทักษะชีวิต ภาษา อาชีพ นวัตกรรมและ
เทคโนโลยี ตลอดจนการส่งเสริมให้มีคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือรองรับอาชีพ
ในเขตพน้ื ทีเ่ ศรษฐกจิ พเิ ศษ และรถไฟความเรว็ สงู ของจังหวัดหนองคาย
2.2 ศึกษาแนวทางการขับเคล่ือนเครือข่ายความร่วมมือเชิงบูรณาการของสานักงาน
ศกึ ษาธิการจงั หวดั หนองคาย ควรมงุ่ เนน้ ในการนาแผนพัฒนาเขตพ้ืนที่เศรษฐกิจพิเศษแผนชายแดน จังหวัด
หนองคายนาไปสู่การปฏบิ ัตกิ ารในเชงิ พนื้ ทมี่ ากข้ึน โดยใชก้ ลไกการขับเคล่ือนของคณะกรรมการศึกษาธิการ
จงั หวัดหนองคาย
๘๔
สว่ นท่ี 3
สาระสาคญั ของการวางแผนพัฒนาการศกึ ษา (พ.ศ. 2566 – 2570 )
จังหวัดหนองคาย โดยสํานักงานศึกษาธิการจังหวัดหนองคาย ได้ร่วมกับหน่วยงานการศึกษา
จังหวัดหนองคาย และหน่วยงานที่เก่ียวข้องได้กําหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์
กลยทุ ธ์ ตวั ชี้วดั และโครงการ ภายใตป้ ระเดน็ ยุทธศาสตร์ เพอื่ กําหนดเปา้ หมายการพัฒนาการศึกษาจังหวัด
หนองคาย ดังนี้
วิสยั ทศั น์ (Vision)
จดั การศึกษาแบบบูรณาการท่ีไดม้ าตรฐานสากล ผู้เรยี นมีทักษะทจ่ี าํ เปน็ ในศตวรรษที่ 21
สอดคล้องกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
พันธกจิ
1. สง่ เสริม สนบั สนนุ ใหท้ กุ ภาคสว่ นบรู ณาการในการจัดการเรียนรแู้ ละพฒั นาผ้เู รยี นร่วมกันอยา่ งมี
คณุ ภาพไดม้ าตรฐาน
2. ส่งเสริมและสนับสนุนใหผ้ เู้ รยี นมีทกั ษะจาํ เป็นในศตวรรษที่ 21 และสร้างเสริมคุณภาพชีวติ ท่ี
เปน็ มติ รกบั ส่งิ แวดล้อม
3. ส่งเสริมการจัดการศกึ ษาเพอ่ื การประกอบอาชีพอย่างหลากหลายตามหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
4. สง่ เสริม สนับสนนุ และสรา้ งโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการศกึ ษาของประชาชนอย่างทั่วถงึ
เสมอภาค และเท่าเทยี มกนั
5. พฒั นาและยกระดบั คุณภาพครแู ละบุคลากรทางการศึกษาสู่มาตรฐานวิชาชีพ
6. พฒั นาระบบบริหารจัดการการศึกษาตามหลักธรรมาภบิ าล
ประเด็นยุทธศาสตร์
ประเดน็ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 1 การจดั การศกึ ษาเพื่อความมัน่ คงของสังคมและประเทศชาติ
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 การผลิตและพัฒนากําลังคน การวิจัย และนวัตกรรม เพ่ือรองรับ
ตลาดแรงงานยุคใหม่
ประเด็นยุทธศาสตรท์ ี่ 3 การพฒั นาศักยภาพคนทกุ ช่วงวยั และการสร้างสงั คมแหง่ การเรียนรู้
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 สร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการศึกษาอย่างมีคุณภาพและ
เสมอภาค
ประเดน็ ยุทธศาสตร์ท่ี 5 บรู ณาการการจดั การศึกษาเพ่ือสร้างเสรมิ คณุ ภาพชีวิตท่ีเป็นมติ รกบั
สิ่งแวดล้อม
ประเดน็ ยุทธศาสตร์ที่ 6 การพฒั นาระบบบริหารจดั การ และสง่ เสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนรว่ ม ใน
การจดั การศกึ ษาใหม้ ี ประสิทธิภาพตามหลกั ธรรมาภิบาล ๘๕ 15