ก
คำ� น�ำ
ส�ำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 3 (สสว.3) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคง
ของมนุษย์ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองต่อต้านการค้ามนุษย์ ด�ำเนินโครงการจัดท�ำรายงาน
สถานการณก์ ารค้ามนุษยร์ ายภมู ภิ าคและการจดั ระดบั สถานการณก์ ารคา้ มนุษยข์ องจังหวดั (Grouping)
จึงได้จัดท�ำรายงานฉบับนี้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหากลไกการแก้ไขหรือการป้องกันท่ีเหมาะสม
ต่อมาตรการการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ สสว.3 จากการวิเคราะห์
จัดระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์จังหวัด (Grouping) โดยรวบรวมข้อมูลสถานการณ์การค้ามนุษย์
ของจงั หวัดไปวเิ คราะห์ คาดการณ์แนวโนม้ สถานการณ์การค้ามนษุ ย์ในภาพรวมกลมุ่ จงั หวัด
การศึกษาคร้ังนี้ได้รับความร่วมมือและการอนุเคราะห์ขอข้อมูลจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อาทิ กองต่อต้านการค้ามนุษย์ ส�ำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หน่วยงาน
ทเ่ี กย่ี วขอ้ งจากคณะอนกุ รรมการศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ารปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ยจ์ งั หวดั โดยมสี ว่ นรว่ ม
ในการใหข้ ้อมลู เข้าประชุมแลกเปล่ียนความคิดเห็น และรวบรวมข้อมูลในครง้ั น้ี
สสว.3 หวังเป็นอย่างยิง่ วา่ รายงานฉบับนจ้ี ะเปน็ ประโยชน์สำ� หรับจังหวัด และผู้ท่ีสนใจ นำ� ข้อมูล
ไปใช้ประโยชน์ ประกอบการพิจารณาจัดท�ำนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนปฏิบตั ิการ ท่เี หมาะสม ตอ่ ไป
ส�ำนกั งานสง่ เสรมิ และสนับสนุนวิชาการ 3
มนี าคม 2563
3
4
ข
บทสรปุ ผูบ้ ริหาร
รายงานการศกึ ษาฉบบั นจ้ี ดั ทำ� ขนึ้ เพอ่ื ศกึ ษาสถานการณก์ ารคา้ มนษุ ยเ์ ฉพาะในเขตพน้ื ทร่ี บั ผดิ ชอบ
ของส�ำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 3 (สสว.3) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคง
ของมนุษย์ ซึ่งมีจังหวัดในเขตรับผิดชอบ จ�ำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี
สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพ่ือศึกษาสถานการณ์
การค้ามนุษย์ในภาพรวมกลุ่มจังหวัด วิเคราะห์/สังเคราะห์ สถานการณ์ความเส่ียงที่อาจเกิดขึ้น
ตอ่ กระบวนการคา้ มนษุ ย์ โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื หากลไกการแกไ้ ขหรอื การปอ้ งกนั ทเี่ หมาะสมตอ่ มาตรการ
การป้องกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ยใ์ นเขตพ้ืนทีร่ บั ผิดชอบ สสว.3
กรอบแนวคิดท่ีใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย นโยบายระหว่างประเทศ นโยบายระดับชาติ
นโยบายกระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนษุ ย์ (พม.) นโยบายระดบั จงั หวดั โดยนำ� ตวั ชว้ี ดั
ทจ่ี ำ� เปน็ ไดแ้ ก่ จำ� นวนคดกี ารคา้ มนษุ ย์ จำ� นวนผเู้ สยี หาย จำ� นวนผตู้ อ้ งหา และตวั ชว้ี ดั ดา้ นอน่ื ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
รวมทงั้ สนิ้ 14 ตวั ชวี้ ดั มาวเิ คราะหเ์ ชงิ สถติ หิ าคา่ ความสมั พนั ธข์ องชดุ ขอ้ มลู เพอ่ื นำ� ไปอา้ งองิ ผลการศกึ ษา
ในการจัดระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์จังหวัด (Grouping) ซ่ึงสามารถบ่งบอกทิศทางความสัมพันธ์
ของตัวแปรได้ อาจจะคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์การค้ามนุษย์ระยะยาวไม่ได้ หรือไม่สามารถบ่งช้ี
ความสมั พนั ธข์ องตวั แปรไดท้ งั้ หมด เนอื่ งจากขอ้ จำ� กดั ของขอ้ มลู หรอื หว้ งระยะเวลาของขอ้ มลู แตร่ ายงาน
ฉบบั นกี้ ส็ ามารถบ่งช้หี รืออธิบายไดว้ า่ สถานการณก์ ารคา้ มนุษย์จังหวัดอยใู่ นระดบั ใด
ผลจากการศกึ ษา โดยใช้ขอ้ มูลย้อนหลัง 3 ปี พ.ศ.2560 – 2562 พบวา่ สถานการณก์ ารคา้ มนุษย์
ในเขตพ้ืนที่รับผิดชอบ สสว.3 ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ปกติถึงเล็กน้อย พบว่า ไม่มีจังหวัดท่ีต้องเฝ้าระวัง
เปน็ พเิ ศษจงั หวดั ทอี่ ยใู่ นเกณฑป์ กติมจี ำ� นวน3จงั หวดั (รอ้ ยละ37.5)ไดแ้ ก่ราชบรุ ีสมทุ รสาครสมทุ รสงคราม
จงั หวดั ทีม่ สี ถานการณ์การค้ามนษุ ยเ์ ล็กนอ้ ย มจี �ำนวน 2 จังหวัด ไดแ้ ก่ กาญจนบรุ ี เพชรบรุ ี (รอ้ ยละ 25)
และจงั หวดั ทต่ี อ้ งเฝา้ ระวงั (รอ้ ยละ 37.5) มจี ำ� นวน 3 จงั หวดั ไดแ้ ก่ นครปฐม สพุ รรณบรุ ี ประจวบครี ขี นั ธ์
ซึ่งประเด็นที่ควรค�ำนึงถึง คือ จังหวัดที่มีระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ปกติ/เล็กน้อยและมีสถานะเป็น
จังหวัดต้นทางด้วย มีโอกาสเกิดการค้ามนุษย์สูงกว่าจังหวัดท่ีไม่ได้มีสถานะเป็นจังหวัดต้นทาง ดังนั้น
จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี จึงเป็นจังหวัดท่ีมีโอกาสเกิดการค้ามนุษย์สูงกว่าจังหวัดสมุทรสาคร
สมุทรสงคราม และจังหวัดเพชรบุรี ท่ีไม่มีสถานะเป็นจังหวัดต้นทาง นอกจากนี้จังหวัดท่ีไม่เป็นต้นทาง
มโี อกาสเสยี่ งตอ่ การเฝา้ ระวงั สงู กวา่ จงั หวดั ทเ่ี ปน็ ตน้ ทาง หมายถงึ จงั หวดั นครปฐม ทเ่ี ปน็ จงั หวดั เฝา้ ระวงั
และไม่ได้มีสถานะเป็นจังหวัดต้นทาง มีโอกาสเสี่ยงเกิดการค้ามนุษย์สูงกว่าจังหวัดสุพรรณบุรี และ
จงั หวดั ประจวบคีรขี นั ธ์ ท่มี สี ถานะเป็นจงั หวดั ต้นทาง
5
ค
จากการสังเคราะห์ผลดังกล่าว อธิบายได้ว่าจังหวัดท่ีอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังสาเหตุอาจเกิดจาก
ลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่มีความสะดวกในการคมนาคมขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นโครงข่ายถนนหรือรถไฟ
เออื้ ตอ่ เปน็ เสน้ ทางผา่ นกระบวนการคา้ มนษุ ยไ์ ปยงั จดุ หมายปลายทางอน่ื หรอื ประเทศเพอ่ื นบา้ น รวมถงึ
เปน็ จงั หวดั ทม่ี ศี กั ยภาพทางเศรษฐกจิ สงู จะเหน็ วา่ อตั ราการวา่ งงานใน 3 จงั หวดั ทตี่ อ้ งเฝา้ ระวงั นน้ั มจี ำ� นวน
ผวู้ า่ งงานนอ้ ยทส่ี ดุ เมอื่ เทยี บกบั จงั หวดั อน่ื ๆ ในเขตพน้ื ท่ี โดยพบผเู้ สยี หายสว่ นใหญเ่ ปน็ คนตา่ งดา้ ว ผตู้ อ้ งหา
เป็นคนไทย รูปแบบการแสวงหาผลประโยชน์ท่ีเกิดจากการบังคับใช้แรงงานน้อยกว่ารูปแบบการขูดรีด
และการค้าประเวณี อาจจะกล่าวได้ว่าจ�ำนวนแรงงานต่างด้าวในพ้ืนที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์โดยตรงต่อ
การค้ามนุษย์ แต่ปัจจัยด้านสถานบริการ หรือสถานที่อ่ืนๆ เช่น เคหะสถานอาจเป็นปัจจัยเส่ียงมากกว่า
ต่อกระบวนการค้ามนษุ ยใ์ นเขตพนื้ ที่
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ประกอบด้วย 1) การจัดท�ำฐานข้อมูลจังหวัด โดยสามารถเช่ือมโยง
ข้อมูลจำ� เปน็ ของภาคเี ครือขา่ ย หรือ ศปคม. เพื่อการน�ำไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสดุ ระหวา่ งผู้ทีเ่ ก่ียวข้อง
2) การติดตามและประเมินผลจังหวัด มีระบบการติดตามและประเมินผลการด�ำเนินงาน 2 ระยะ คือ
ระหว่างการด�ำเนินงาน ผ่าน google form หรือ application เพื่อให้ง่ายและสะดวกต่อการรายงาน
หรอื การดงึ ขอ้ มลู ในระบบนำ� ไปใชต้ อ่ และการรายงานหลงั จากการปฏบิ ตั งิ าน ในรปู แบบการถอดบทเรยี น
คน้ หาปญั หา อปุ สรรค ตอ่ การปฏบิ ตั งิ านในบรบิ ทของพน้ื ที่ 3) รปู แบบการจดั ทำ� รายงาน กำ� หนดมาตรฐาน
การจดั ทำ� รายงาน การวเิ คราะหข์ อ้ มลู และการนำ� เสนอขอ้ มลู ใหม้ คี วามนา่ สนใจ ถกู ตอ้ ง ทนั ตอ่ สถานการณ์
และ 4) การสนบั สนนุ ลา่ มให้เพยี งพอต่อความต้องการในพ้ืนที่
ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติ ประกอบด้วย 1) ด้านนโยบายและการประสานงาน (Policy and
Coordination) โดยบูรณาการแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์จังหวัด รูปแบบ
One Plan 2) ด้านการป้องกัน (Pervention) ควรแต่งตั้งทีมส�ำรวจชุมชน ท�ำงานป้องกัน เฝ้าระวัง
ระดบั ชุมชน และนำ� เครื่องมอื Protect-U application มาใชใ้ นการแจ้งเหตุ เบาะแส สำ� หรบั ประชาชน
ในพน้ื ท่ี ควรมกี ารจดั ตงั้ ศนู ย์ War room จงั หวดั โดยใชป้ ระโยชนจ์ ากสอ่ื Social Media ในการปฏบิ ตั งิ าน
ให้ทันต่อสถานการณ์ และการบูรณาการจัดระเบียบขอทานในพ้ืนที่ต�ำบล 3) ด้านการด�ำเนินคดี
(Prosecution) ควรมีการถอดบทเรียนการด�ำเนินคดี ปีละ 1 คร้ัง 4) การคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหาย
จากการค้ามนุษย์ การส่งกลับประเทศ และการคืนสู่สังคม (Protection) โดยจัดทีมล่ามสหวิชาชีพ
ทีม One Home พม. และจัดให้มาตรฐานการคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ 5) การมีส่วนร่วม
(Partnership) จัดให้มีการจัดต้ังเครือข่ายการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในระดับภาค และ
เครือข่ายปอ้ งกนั การค้ามนษุ ย์สำ� หรับสถานบริการ
6
ง
สารบัญ
หนา้
ค�ำนำ� ก
บทสรปุ ผู้บรหิ าร ข
สารบัญ ง
สารบญั ตาราง จ
สารบญั ภาพ ฉ
สารบัญแผนภูม ิ ช
บทที่ 1 บทนำ� 1
1.1 นโยบายระหวา่ งประเทศ/ข้อเสนอแนะของ TIP Report 1
1.2 นโยบายระดับชาต ิ 5
1.3 นโยบายกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมั่นคงของมนษุ ย ์ 9
1.4 นโยบายระดบั จังหวดั 14
บทท่ี 2 สถานการณก์ ารคา้ มนษุ ยใ์ นเขตพืน้ ที่รับผดิ ชอบ สสว.3 19
2.1 ขอ้ มลู บริบทของพ้ืนท่ี 19
2.2 สถานะของการค้ามนษุ ย์ระดับจังหวดั 23
2.3 สถติ ทิ ่ีเก่ียวขอ้ งกับสถานการณ์การค้ามนษุ ย ์ 25
บทท่ี 3 บทวิเคราะหก์ ารจดั ระดบั สถานการณก์ ารคา้ มนุษย ์ 35
3.1 แนวคดิ การจัดระดบั สถานการณก์ ารคา้ มนุษย์ 35
3.2 ระดับสถานการณ์การค้ามนษุ ย์ 37
บทท่ี 4 บทสรุป 47
4.1 บทสรปุ สถานการณ์การค้ามนษุ ย์ 47
4.2 จุดแขง็ /ลักษณะเดน่ 48
4.3 ปัญหา อปุ สรรค 49
4.3 ขอ้ เสนอแนะ 50
ภาคผนวก ก 57
ภาคผนวก ข 59
ภาคผนวก ค 61
บรรณานุกรม 63
7
8
จ
สารบญั ตาราง
หน้า
ตารางที่ 1 ผลติ ภณั ฑ์ต่อหวั 21
ตารางท่ี 2 ประชากรและเขตการปกครองรายจงั หวัด 22
(เฉพาะผ้มู ีสญั ชาตไิ ทย และมีชือ่ อยู่ในทะเบยี นบ้าน)
ตารางท่ี 3 จ�ำนวนการคัดแยกเหยือ่ จากการค้ามนษุ ย์ พ.ศ. 2560-2562 25
ตารางที่ 4 จ�ำนวนผู้เสยี หายจากการคดั แยกเหยื่อจากการคา้ มนุษย์ พ.ศ. 2560-2562 25
ตารางที่ 5 จ�ำนวนผเู้ สยี หายจากการคา้ มนุษย์ จำ� แนกตามเพศ พ.ศ. 2560-2562 26
ตารางท่ี 6 จำ� นวนผเู้ สยี หายคดคี า้ มนษุ ย์ จ�ำแนกตามสัญชาติ พ.ศ.2560-2562 27
ตารางท่ี 7 จำ� นวนผูต้ อ้ งหาคดั แยกเหย่ือจากการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2560-2562 28
ตารางท่ี 8 จำ� นวนผ้ตู อ้ งหาคัดแยกเหย่ือจากการคา้ มนษุ ย์ จ�ำแนกตามเพศ พ.ศ. 2560-2562 28
ตารางที่ 9 จ�ำนวนผตู้ อ้ งหาคดคี ้ามนุษย์ จ�ำแนกตามสัญชาติ พ.ศ.2560-2562 29
ตารางที่ 10 จ�ำนวนคดีการคา้ มนุษย์ พ.ศ. 2560-2562 30
ตารางที่ 11 จ�ำนวนคดกี ารคา้ มนุษย์ จ�ำแนกตามรูปแบบการแสวงหาผลประโยชน์โดยมชิ อบ 31
พ.ศ. 2560-2562
ตารางที่ 12 จ�ำนวนแรงงานตา่ งดา้ วที่ได้รับอนญุ าตทำ� งานคงเหลอื พ.ศ. 2560–2562 32
ตารางท่ี 13 จ�ำนวนเรือประมงท่ีไดร้ บั ใบอนุญาตทำ� การประมงพาณิชย์ ทำ� การประมงในพืน้ ที่ 32
พ.ศ. 2560–2562
ตารางที่ 14 จำ� นวนโรงงานทไ่ี ดร้ ับอนุญาตใหป้ ระกอบกจิ การตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 33
ปี พ.ศ. 2560-2562
ตารางที่ 15 จำ� นวนโรงแรมและสถานบรกิ าร 33
ตารางท่ี 16 ขอ้ มูลด้านเศรษฐกิจทีเ่ ก่ียวข้อง 34
ตารางท่ี 17 ผลการจดั ระดับสถานการณ์การคา้ มนุษย์ ในเขตพืน้ ที่ สสว.3 40
ตารางที่ 18 ระดบั สถานการณก์ ารค้ามนุษย์กับสถานการณ์ด้านอ่ืนๆ 42
9
10
สารบญั ภาพ ฉ
หน้า
ภาพท่ี 1 ยทุ ธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี พ.ศ. 2561 - 2580 6
ภาพท่ี 2 ยทุ ธศาสตรช์ าตดิ ้านความม่นั คง พ.ศ. 2561-2580 8
ภาพท่ี 3 นโยบาย ยทุ ธศาสตร์ และมาตรการในการปอ้ งกัน 10
และปราบปรามการค้ามนุษย์ ฉบบั ที่ 2 14
ภาพท่ี 4 กลไกการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการคา้ มนุษย์จงั หวัด 19
ภาพที่ 5 จงั หวดั ในเขตพน้ื ทีร่ บั ผิดชอบของ สสว.3 23
ภาพที่ 6 เส้นทางการค้ามนษุ ย์จงั หวดั 35
ภาพท่ี 7 กรอบแนวคดิ การจัดระดบั สถานการณก์ ารค้ามนษุ ย ์ 38
ภาพที่ 8 ระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ในประเทศไทย 39
ภาพท่ี 9 ระดบั สถานการณก์ ารค้ามนษุ ย์ในพื้นท่ีรับผดิ ชอบ สสว.3 49
ภาพท่ี 10 จุดแข็ง และลกั ษณะเด่นของการปฏิบัติงานจังหวดั ในเขตพ้นื ท่ี สสว.3 54
ภาพท่ี 11 ข้อเสนอแนะตอ่ การปฏบิ ตั ิงานดา้ นการป้องกนั และปราบปรามการค้ามนุษย์
ในเขตพ้ืนที่ สสว.3
11
12
สารบัญแผนภมู ิ ช
หนา้
แผนภมู ทิ ่ี 1 แสดงจำ� นวนผเู้ สยี หายคดคี ้ามนุษย์ จ�ำแนกตามเพศ 26
พ.ศ. 2560 - 2562 27
แผนภูมิที่ 2 แสดงจ�ำนวนผ้เู สยี หายคดคี ้ามนษุ ย์ จ�ำแนกตามสัญชาต ิ 29
พ.ศ. 2560 - 2562 30
แผนภูมิที่ 3 แผนภูมแิ สดงจ�ำนวนผู้ต้องหาคดคี า้ มนุษย์ จำ� แนกตามเพศ 31
พ.ศ. 2560 - 2562 43
แผนภูมิท่ี 4 แผนภมู แิ สดงจำ� นวนผตู้ อ้ งหาคดคี า้ มนุษย์ จ�ำแนกตามสญั ชาต ิ
พ.ศ. 2560 - 2562
แผนภมู ิที่ 5 แสดงจ�ำนวนคดีการคา้ มนุษย์ จำ� แนกตามรูปแบบ
การแสวงหาผลประโยชนโ์ ดยมชิ อบ พ.ศ. 2560-2562
แผนภมู ทิ ี่ 6 แสดงจ�ำนวนแรงงานต่างด้าว คนวา่ งงาน เรือประมง
โรงงานอุตสาหกรรม และสถานบริการ
13
14
บทที่ 1
บทน�ำ
1.1 นโยบายระหวา่ งประเทศ/ขอ้ เสนอแนะของ TIP Report
1.1.1 กฎหมายคมุ้ ครองเหยอื่ การคา้ มนษุ ย์ (Trafficking Victims Protection Act - TVPA
และ Trafficking Victims Protection Reauthorization Act - TVPRAs)
ความเปน็ มาและสาระสำ� คญั สหรฐั อเมรกิ ามบี ทบาทนำ� ในการแกไ้ ขปญั หาการคา้ มนษุ ย์
โดยเป็นผู้น�ำเสนอร่าง Palermo Protocols ซึ่งยงั ขาดอำ� นาจบงั คับใชแ้ ละกลไกในการติดตามตรวจสอบ
(monitoring) วา่ ประเทศสมาชกิ Palermo Protocols ปฏบิ ตั ติ ามหลกั เกณฑ์ ตา่ งๆ ใน Protocols หรอื ไม่
อยา่ งไร โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ พธิ สี ารเพอ่ื ปอ้ งกนั และปราบปรามและลงโทษการคา้ มนษุ ย์ โดยเฉพาะการคา้ หญงิ
และเดก็ จงึ เปน็ ทม่ี าของ TVPA โดยถอื เปน็ กฎหมายขอสหรฐั อเมรกิ าฉบบั แรกทค่ี รอบคลมุ การปราบปราม
การค้ามนุษย์ท้ังในระดับประเทศและระหว่างประเทศ อีกทั้งเป็นกฎหมายฉบับต้นแบบส�ำหรับ
นานาประเทศ โดยมีวตั ถุประสงคห์ ลัก 3 ประการ คอื
1) การปอ้ งกนั กำ� หนดการใหค้ วามชว่ ยเหลอื แกป่ ระเทศตา่ งๆ ในการยกรา่ งกฎหมายปอ้ งกนั
ปราบปราม และลงโทษการค้ามนุษยใ์ นลักษณะขา้ มชาติ สง่ เสริมการสบื สวน การฟ้องรอ้ งคดผี คู้ ้ามนุษย์
และโครงการชว่ ยเหลอื ผทู้ ต่ี กเปน็ เหยอื่ แลกเปลย่ี นเจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั ในโครงการทเ่ี นน้ เกยี่ วกบั ความผดิ ฐาน
คา้ มนษุ ย์ โดย TVPA เปรยี บเหมอื นแผนยทุ ธศาสตรข์ องสหรฐั อเมรกิ า ในการแกป้ ญั หาการคา้ หญงิ และเดก็
2) การคมุ้ ครอง ใหก้ ารคมุ้ ครองแกเ่ หยอื่ โดยใหส้ ทิ ธพิ ำ� นกั ชว่ั คราว และวางยทุ ธศาสตรห์ ลกั
เพอ่ื ปราบปรามการคา้ หญงิ และเดก็ โดยปกปอ้ งคมุ้ ครองผเู้ สยี หาย ดงึ ผเู้ สยี หายเขา้ มา เปน็ พนั ธมติ รเพอ่ื ให้
ได้มาซึ่งข่าวสารข้อมลู ของกระบวนการคา้ มนษุ ย์
3) การฟอ้ งคดี โดยแยกนยิ ามค�ำว่า “รปู แบบการค้ามนุษยท์ ่รี นุ แรง” (severe forms of
trafficking in person) กบั “การคา้ มนุษยท์ างเพศ” (sex trafficking) รวมทั้งให้ค�ำนิยาม “กิจกรรมใน
ทางเพศพาณิชย”์ และ “การท�ำให้ตกอยู่ใต้บังคบั โดยไม่สมัครใจ” (involuntary servitude)
1.1.2 การจัดท�ำรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (Trafficking in Persons Report -
TIP Report) รายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ TVPA ก�ำหนดให้กระทรวงการต่างประเทศของ
สหรฐั อเมรกิ าจดั ทำ� รายงานสถานการณก์ ารคา้ มนษุ ย์ (TIP Report) เปน็ รายงานประจำ� ปเี ผยแพรใ่ นเดอื น
มิถนุ ายน เพ่อื เสนอต่อ รัฐสภาสหรฐั ฯ เก่ยี วกับสถานการณก์ ารคา้ มนษุ ย์ และการดำ� เนนิ การของรฐั บาล
ประเทศตา่ งๆ ทว่ั โลก จำ� นวนกวา่ 187 ประเทศ โดยจดั ระดบั เปน็ Tier 1, Tier 2, Tier 2 Watch List และ
Tier 3 ตามมาตรฐานข้ันต่�ำในการขจัดการค้ามนุษย์ที่ระบุใน TVPA โดยเป็นการประเมินความคืบหน้า
การด�ำเนินการของแต่ละประเทศเปรียบเทียบกับการด�ำเนินการของประเทศน้ันๆ ในปีที่ผ่านมา โดย
แตล่ ะ Tier มีความหมาย ดังน้ี
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngษุ ยsiใ์ tนuaพt้ืนioทnี่ สสว.3 1
report
1) Tier 1 หมายถึง ประเทศท่ีรัฐบาลด�ำเนินการโดยสอดคล้องกับมาตรฐานข้ันต�่ำ
ในการขจดั การค้ามนุษยต์ าม TVPA
2) Tier 2 หมายถึง ประเทศท่ีด�ำเนินการไม่สอดคล้องกับมาตรฐานข้ันต่�ำ แต่ได้ใช้
ความพยายามอยา่ งมีนยั ส�ำคัญในการปรับปรงุ แกไ้ ข
3) Tier 2 Watch List คลา้ ยกบั Tier 2 แตม่ เี หยอ่ื การคา้ มนษุ ยจ์ ำ� นวนมาก หรอื เพม่ิ ขนึ้ มาก
หรอื ไมม่ ีหลักฐานชัดเจนว่าได้ใชค้ วามพยายามเพิม่ ข้นึ ในการตอ่ ต้านการคา้ มนษุ ย์
1.1.3 นโยบายส�ำคญั ระหว่างประเทศ
การด�ำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
กระทรวงการต่างประเทศ มีภารกิจที่เกี่ยวข้องในด้านการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายชาวไทย
ในตา่ งประเทศ ผา่ นการดำ� เนนิ งานของสถานเอกอคั รราชทตู และสถานกงสลุ ทวั่ โลก มสี ว่ นในกระบวนการ
ก�ำหนดนโยบาย โดยคณะกรรมการระดับชาติ และการด�ำเนินความร่วมมือในประเด็นการป้องกันและ
ปราบปรามการค้ามนษุ ยร์ ะหว่างประเทศ ท้ังในระดับทวภิ าคแี ละระดบั พหุภาคี ซึง่ การดำ� เนนิ งานระดับ
ระหว่างประเทศทสี่ �ำคญั มีดงั น้ี
• ระดับทวิภาคี
1. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขจัดการค้าเด็กและสตรีและการช่วยเหลือเหย่ือของ
การคา้ มนษุ ย์ (MOU on Bilateral Cooperation for Eliminating Trafficking in Children and Women
and Assisting Victims of Trafficking) ซึ่งไทยได้มีความตกลงกับกัมพูชา (ปี 2546) ลาว (ปี 2548)
เวยี ดนาม (ปี 2551) และสาธารณรฐั แหง่ สหภาพเมยี นมา (ปี 2552) โดยกำ� ลงั มคี วามรเิ รม่ิ ปรบั เนอ้ื หาของ
MOU เพอ่ื ใหเ้ ป็นปจั จุบันเพ่ือสามารถรองรบั สถานการณก์ ารค้ามนุษย์ทีเ่ ปล่ยี นแปลงไป และอยู่ระหวา่ ง
การหารือเพ่ือจัดท�ำกรอบความร่วมมืออีกหลายประเทศที่มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นต้นทางของ
ผูเ้ สยี หายในประเทศไทยและ/หรือปลายทาง ของคนไทยทีต่ กเป็นผเู้ สยี หายจากการคา้ มนษุ ย์
2. การจัดท�ำบนั ทึกความร่วมมือระหว่างไทยกับญ่ีป่นุ ว่าด้วยการแลกเปลยี่ นข่าวสาร
ส�ำหรับการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ (Memorandum of Cooperation between the
Government of Japan and Thailand concerning the Exchange of Information for the
Purpose of Preventing and Combating Trafficking in Persons) เพ่ือประโยชน์ในการสืบสวน
สอบสวนผู้ต้องสงสัยในคดีค้ามนุษย์ ขยายผลการจับกุม และด�ำเนินคดีผู้กระท�ำความผิดท้ังในไทยและ
ญ่ปี ่นุ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ สนับสนนุ ความร่วมมือทางกฎหมายระหว่างไทยกบั ญปี่ ุ่น
3. การจดั ทำ� บนั ทกึ ความเขา้ ใจระหวา่ งรฐั บาลวา่ ดว้ ยความรว่ มมอื ดา้ นการจา้ งแรงงาน
ซ่ึงเป็นการลดความเส่ียงของการค้ามนุษย์ในภาคแรงงาน โดยเฝ้าระวังการแสวงผลประโยชน์โดยมิชอบ
จากการผลกั ดัน แรงงานอพยพไปท�ำงานในประเทศปลายทาง
2 Hราuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrุษeยpใ์oนrtพ้นื ที่ สสว.3
• ระดับภูมภิ าค และระหว่างประเทศ
กระบวนการบาหลี (Regional Ministerial Conference on People Smuggling,
Trafficking in Persons and Related Transnational Crime - Bali Process) เป็นการประชุม
ระดับรัฐมนตรีของประเทศ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเกี่ยวกับการลักลอบขนคนเข้าเมือง การค้ามนุษย์
และอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยสมาชิก 46 ประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ
และประเทศผู้สังเกตการณ์ 19 ประเทศ มี Steering Group ซึ่งไทยเป็นสมาชิก สนับสนุนการท�ำงาน
ของออสเตรเลียและอินโดนีเซีย ในฐานะประธานร่วม โดยได้จัดตั้ง ส�ำนักงานสนับสนุนระดับภูมิภาค
(Regional Support Office – RSO) ทก่ี รุงเทพฯ เพ่อื อนวุ ตั ิกรอบความร่วมมอื ระดบั ภมู ิภาค (Regional
Co-operation Framework – RCF) ซึ่งเปิดท�ำการเมื่อเดือนกันยายน 2555 ทั้งน้ี ประเทศไทยได้มี
ส่วนรว่ มในกระบวนการบาหลี ดงั น้ี
1. ผู้แทนไทย (ดร.ชัชชม อรรฆภิญญ์ ส�ำนักงานอัยการสูงสุด) เป็นผู้ประสานงาน
คณะท�ำงานนโยบาย กรอบกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมาย (Coordinator of Bali Process
activities on Policy and Law Enforcement Response)
2. ใหเ้ งนิ อดุ หนนุ การดำ� เนนิ งานของ RSO และกระบวนการบาหลรี ะหวา่ งปี 2555-2557
เปน็ จำ� นวนเงนิ 30,000 ดอลลารส์ หรัฐ
3. ริเริ่มกิจกรรมในกรอบกระบวนการบาหลี เช่น ร่วมกับออสเตรเลียเพ่ือจัดประชุม
ปฏบิ ตั ิการในหัวขอ้ การให้สตั ยาบนั และการดำ� เนนิ งานตามพนั ธกรณขี องอนุสัญญาสหประชาชาติว่าดว้ ย
การต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร (UNTOC) เมื่อปลายปี 2555 ซ่ึงจะได้
มกี ารต่อยอดกจิ กรรมดงั กล่าวในชว่ งปี 2557
• ระดับอาเซยี น
กรอบอาเซยี นเก่ยี วกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษยท์ ีไ่ ทยเปน็ ภาคี ไดแ้ ก่
ASEAN Declaration Against Trafficking in Persons Particularly Women and Children ปี 2557
ซึ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมาย การคัดแยกเหย่ือออกจากผู้กระท�ำผิด และการก�ำหนดบทลงโทษท่ีรุนแรง
แก่ผู้กระท�ำผิดฐานค้ามนุษย์ และสนธิสัญญาว่าด้วยความช่วยเหลือซ่ึงกันและกันในเรื่องทางอาญาของ
ภูมิภาคอาเซียน (The Treaty on Mutual Legal Assistance in Criminal Matters among
Like-Minded ASEAN Member Countries) ไทยไดใ้ หส้ ตั ยาบนั สนธสิ ญั ญาฯ เมอื่ วนั ท่ี 31 มกราคม 2556
ซึง่ จะท�ำให้สามารถเพ่ิมประสทิ ธภิ าพความร่วมมอื ในการดำ� เนนิ คดีคา้ มนษุ ยใ์ นอาเซยี นไดอ้ ีกทางหน่ึง
กลไกหลกั ในกรอบอาเซยี น ไดแ้ ก่ Regional Plan of Action to Combat Trafficking in
Persons ซง่ึ ไทยและสงิ คโปรไ์ ดเ้ รมิ่ ผลกั ดนั ในการประชมุ เจา้ หนา้ ทอ่ี าวโุ สอาเซยี นดา้ นอาชญากรรมขา้ มชาติ
(SOMTC) ครั้งที่ 12 ในเดือนกันยายน 2555 ที่กรุงเทพฯ ให้สอดคล้องและสะท้อนความพยายาม
ระดับภูมิภาคเพ่ือสนับสนุนแผนระดับโลก UN Global Plan of Action to Combat Trafficking in
Persons และการจัดท�ำอนุสัญญาอาเซียนว่าด้วยการค้ามนุษย์ (ASEAN Convention on Trafficking
in Persons)
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngษุ ยsiใ์ tนuaพt้ืนioทnี่ สสว.3 3
report
• การปอ้ งกันและปราบปรามการคา้ มนุษยใ์ นกรอบสหประชาชาติ
อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติท่ีจัดต้ังในลักษณะ
องคก์ ร (United Nations Convention against Transnational Organized Crime – UNTOC) ไทยลงนาม
UNTOC เมื่อเดือนธันวาคม 2543 รวมท้ังลงนามพิธีสารว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และลงโทษ
การค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็ก (Protocol to Prevent, Suppress and Punish Trafficking
in Persons, Especially Women and Children) และพิธีสารว่าด้วยการต่อต้านการลักลอบขน
ผโู้ ยกยา้ ยถน่ิ ฐานโดยทางบก ทะเล และอากาศ (Protocol Against the Smuggling of Migrants by Land,
Sea and Air) เมอื่ เดือนธันวาคม 2544 ทง้ั น้ี ประเทศไทยไดเ้ ข้าเป็นภาคีอนสุ ญั ญาฯ และพิธสี ารว่าดว้ ย
การปอ้ งกนั ปราบปรามและลงโทษการค้ามนุษยฯ์ ตง้ั แตว่ นั ที่ 16 พฤศจิกายน 2556
1.1.4 ข้อเสนอแนะของ TIP Report
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามท่ีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์
(พม.) รายงานวา่ กระทรวงการตา่ งประเทศสหรฐั อเมรกิ าไดเ้ ผยแพรร่ ายงานการคา้ มนษุ ย์ หรอื Trafficking
in Persons Report (TIP Report) ประจ�ำปี 2562 เม่ือวนั ที่ 20 มิถนุ ายน 2562 โดยจดั ระดบั ประเทศ
ต่างๆ ทว่ั โลก รวม 187 ประเทศ มีสาระส�ำคญั สรุปได้ ดงั นี้
1. ประเทศไทยยงั ไมส่ ามารถขจดั ปญั หาการคา้ มนษุ ยไ์ ดต้ ามมาตรฐานขนั้ ตำ่� ของกฎหมาย
สหรัฐอเมริกา แต่ได้เพ่ิมความพยายามอย่างส�ำคัญในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์โดยรวมมากย่ิงขึ้น
เม่ือเทียบกับช่วงการรายงานที่ผ่านมา ดังน้ัน ประเทศไทยจึงยังคงถูกจัดระดับอยู่ในระดับ 2 (Tier 2)
เชน่ เดยี วกับปี 2561
2. การด�ำเนินงานท่ีส�ำคัญของประเทศไทยที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่เพ่ิมขึ้น
เช่น การก�ำหนดบทลงโทษผู้กระท�ำความผิดฐานค้ามนุษย์อย่างเข้มงวด ด้วยการจ�ำคุกเป็นเวลานาน
และตัดสินลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐท่ีมีส่วนเก่ียวข้องกับการค้ามนุษย์ด้วยการให้ออกจากราชการ การพัฒนา
คู่มือการท�ำงานต่างๆ ร่วมกับหุ้นส่วนในภาคประชาสังคม การวางมาตรฐานด้านการฝึกอบรมต่อต้าน
การค้ามนุษย์นอกจากน้ี ได้ด�ำเนินการคัดแยกและส่งต่อผู้เสียหายไปยังทีมสหวิชาชีพเป็นคร้ังแรก
ส่งผลใหส้ ามารถคดั กรองผ้เู สยี หายจากการค้ามนุษย์ดา้ นแรงงานได้
3. ประเทศไทยยงั ไมส่ ามารถบรรลมุ าตรฐานขน้ั ตำ�่ ในหลายประเดน็ ทสี่ ำ� คญั เชน่ การดำ� เนนิ คดี
และตัดสินลงโทษผู้คา้ มนษุ ยม์ จี �ำนวนลดลง และสามารถไต่สวนคดคี ้ามนษุ ยด์ ้านแรงงานได้เพียง 43 คดี
รัฐบาลจ�ำกัด การเดินทางและช่องทางการสื่อสารของผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่อยู่ในสถานคุ้มครอง
ของรัฐ การทุจริตของเจ้าหน้าท่ีรัฐยังเป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์
และเจ้าหน้าท่ียังไม่สามารถคัดแยกคดีค้ามนุษย์อย่างได้มาตรฐาน สม่�ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างย่ิงกรณี
การคา้ มนุษยด์ า้ นแรงงาน
4 Hราuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrุษeยpใ์oนrtพ้ืนที่ สสว.3
ดังน้ัน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาจึงได้มีข้อเสนอแนะน�ำที่ส�ำคัญ เช่น
พัฒนาศักยภาพของผู้บังคับใช้กฎหมายเพ่ือด�ำเนินการเชิงรุกในการด�ำเนินคดีและตัดสินโทษผู้ค้ามนุษย์
ดา้ นแรงงาน และการคดั แยกผเู้ สยี หายจากการคา้ มนษุ ยด์ า้ นแรงงาน สอบสวนและดำ� เนนิ คดใี นเชงิ รกุ กบั
เจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์รวมทั้งตัดสินและลงโทษผู้กระท�ำความผิดด้วยบทลงโทษ
ที่เด็ดขาด สร้างความเช่ือม่ันว่าสถานคุ้มครองของรัฐและองค์การนอกภาครัฐจะดูแลผู้เสียหายโดยค�ำนึง
ถึงผลกระทบจากบาดแผลทางจิตใจอย่างเหมาะสม รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายและ
การเยยี วยาสภาพจิตใจ
ทง้ั น้ี กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ จะไดจ้ ดั ประชมุ คณะกรรมการ
ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เพ่ือพิจารณาข้อแนะน�ำท่ีส�ำคัญดังกล่าวและมอบเจ้าภาพหลัก
รับผิดชอบในแต่ละประเด็น และใช้ในการติดตามผลการขับเคลื่อนการด�ำเนินงานของทุกหน่วยงาน
ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง รวมท้ังใชเ้ ปน็ กรอบในการจัดทำ� รายงานของประเทศไทยในปีตอ่ ไป
1.2 นโยบายระดบั ชาติ
1.2.1 ยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580)
กำ� หนดวสิ ยั ทศั นป์ ระเทศไทยคอื “ประเทศไทยมคี วามมน่ั คงมงั่ คงั่ ยง่ั ยนื เปน็ ประเทศพฒั นาแลว้
ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” มีการยกระดับศักยภาพในหลากหลายมิติเพ่ือ
การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง น�ำไปสู่การก�ำหนดยุทธศาสตร์ที่จะใช้เป็นกรอบแนวทางการพัฒนา
ในระยะ 20 ปี ซง่ึ ประกอบดว้ ย 6 ยุทธศาสตร์ ไดแ้ ก่
(1) ด้านความมน่ั คง
(2) ดา้ นการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน
(3) ดา้ นการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
(4) ดา้ นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม
(5) ดา้ นการสรา้ งความเตบิ โตบนคณุ ภาพชีวิตทีเ่ ป็นมติ รตอ่ สงิ่ แวดล้อม
(6) ด้านการปรบั สมดลุ และพัฒนาระบบการบรหิ ารจดั การภาครัฐ
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngุษยsiใ์ tนuaพt้ืนioทnี่ สสว.3 5
report
ภาพที่ 1 ยทุ ธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี พ.ศ. 2561 – 2580
ทม่ี า : ส�ำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ
จากยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี การค้ามนุษย์นับเป็นวาระแห่งชาติภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
ด้านความมั่นคง “ประเทศชาติม่ันคง ประชาชนมีสุข” โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงความมุ่งมั่นใน
การขจดั ปญั หาการคา้ มนษุ ยใ์ หห้ มดสน้ิ ไปจากแผน่ ดนิ ไทย “Zero Tolerance” ซง่ึ ดำ� เนนิ การตอ่ เนอื่ งมา
ตงั้ แตป่ ีพ.ศ.2547มีพ.ร.บ.ปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์พ.ศ.2551(TheAnti-TraffickinginPersons
Act 2008) โดยประเทศไทยถอื เปน็ ประเทศทมี่ กี ารเชอื่ มโยงในภมู ภิ าคและเปน็ ประตสู เู่ อเชยี ทม่ี อี าณาเขต
ติดกับประเทศเพ่ือนบ้านหลายประเทศ ท�ำให้ปัญหาด้านเขตแดนกับประเทศเพ่ือนบ้านยังคงเป็น
ความทา้ ทายดา้ นความมน่ั คงในอนาคต รวมทงั้ การรวมกลมุ่ เศรษฐกจิ และการเปดิ เสรใี นภมู ภิ าคทน่ี ำ� ไปสู่
ความเชื่อมโยงในทุกระบบ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านอาชญากรรมข้ามชาติและเศรษฐกิจนอกระบบ
รวมทงั้ ปัญหายาเสพตดิ การค้ามนุษย์และการลักลอบเข้าเมอื ง
ยทุ ธศาสตรช์ าตดิ า้ นความมนั่ คง มเี ปา้ หมายสำ� คญั เพอ่ื บรหิ ารจดั การสภาวะแวดลอ้ มของประเทศ
ใหม้ คี วามมน่ั คง ปลอดภยั และมคี วามสงบเรยี บรอ้ ยในทกุ ระดบั ตงั้ แตร่ ะดบั ชาติ สงั คม ชมุ ชน ไปจนถงึ ระดบั
ความม่ันคงของมนุษย์ในทุกมิติ ให้มีความพร้อมสามารถรับมือกับภัยคุกคามและภัยพิบัติได้ทุกรูปแบบ
โดยใช้กลไกการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการ ท้ังกับส่วนราชการภาคเอกชน ประชาสังคม และองค์กร
6 Hราuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrุษeยpใ์oนrtพ้ืนที่ สสว.3
ที่ไม่ใช่รัฐ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านและมิตร ประเทศท่ัวโลกบนพ้ืนฐานของหลักธรรมาภิบาล เพื่อมุ่งท่ี
จะเอื้ออ�ำนวยประโยชน์ต่อการด�ำเนินการของยุทธศาสตร์ชาติด้านอื่นๆ ให้สามารถขับเคลื่อนไปได้
ตามทศิ ทางและเปา้ หมายทีก่ �ำหนด
1.2.2 แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 12 (พ.ศ. 2560 - 2564)
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 จัดท�ำขึ้นภายใต้ร่างยุทธศาสตร์ชาติ
ระยะ 20 ปี ซึ่งเป็นแผนแม่บทหลักของการพัฒนาประเทศ โดยการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและ
การค้ามนษุ ยข์ องประเทศไดก้ �ำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ท่ี 5 และ 10 ดงั นี้
1) ยุทธศาสตร์ที่ 5 การเสริมสร้างความม่ันคงแห่งชาติเพ่ือการพัฒนาประเทศ
สคู่ วามมงั่ คงั่ และยงั่ ยนื พนื้ ฐานดา้ นความมน่ั คงทเ่ี ปน็ ปจั จยั สำ� คญั ตอ่ การพฒั นาทางเศรษฐกจิ และสงั คม
ของประเทศ โดยเฉพาะการอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมอยา่ งสนั ตขิ องผมู้ คี วามเหน็ ตา่ งทางความคดิ และอดุ มการณ์
บนพื้นฐานของการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และการเตรียมการ
รับมือกับภัยคุกคามข้ามชาติ ด�ำเนินบทบาทเชิงรุก และใช้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งระดับ
ภูมิภาคและพหุภาคี เพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของไทย ตลอดจนเสริมสร้างขีดความสามารถ
แลกเปลย่ี นและเรยี นรแู้ นวปฏบิ ตั ทิ เ่ี ปน็ เลศิ และรว่ มมอื ในการรบั มอื กบั ภยั คกุ คามดา้ นความมนั่ คงระหวา่ ง
ประเทศ อาทิ ปัญหายาเสพติด การก่อการร้าย การโยกย้ายถ่ินฐาน การลักลอบเข้าเมือง การค้ามนุษย์
ความมั่นคงดา้ นไซเบอร์ ภัยพบิ ัติ โรคระบาดโรคติดตอ่ ร้ายแรง โรคอุบัติใหม่ โรคอุบัตซิ �ำ้ และสถานการณ์
ฉกุ เฉนิ ทางสาธารณสุขอ่นื ๆ
2) ยุทธศาสตรท์ ี่ 10 ความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการพฒั นา
มีความส�ำคัญเป็นภาคีความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยมีบทบาทที่สร้างสรรค์เพ่ือ
เปน็ ทางเลอื กในการดำ� เนนิ นโยบายระหวา่ งประเทศในเวทโี ลก เพอื่ รกั ษาสมดลุ ในปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งไทย
และมหาอ�ำนาจต่างๆ ทั้งในระดับโลกและภูมิภาค และประโยชน์อื่นๆ ของประเทศ ท้ังในด้านการค้า
ความมนั่ คงของอาหารและพลงั งาน โอกาสทางการตลาดของผลติ ภณั ฑไ์ ทย โอกาสในการเขา้ ถงึ ตลาดเงนิ
และตลาดทุนที่ทันสมัยและเป็นทางเลือกของประเทศ การสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างประชาชนใน
กรอบนานาชาตแิ ละการรักษาเสถยี รภาพและความมน่ั คงของไทยและภมู ภิ าคโดยรวม
การยกระดับมาตรฐานของไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐาน และบรรทัดฐานสากลตาม
พนั ธกรณรี ะหว่างประเทศ โดยให้สามารถปรับตวั ตามกลไก กฎระเบียบ ทงั้ ในระดบั ภมู ภิ าคและในระดับ
โลกและมาตรฐานสากลต่างๆ อาทิ กฎการค้ามนุษย์และการใช้แรงงานทาส มาตรฐานและกฎระเบียบ
การบนิ ตามทก่ี ำ� หนด โดยองคก์ ารการบนิ ระหวา่ งประเทศ (International Civil AviationOrganization:
ICAO) รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (Trafficking in Person Report: TIP Report) ระเบียบ
การทำ� ประมงทผี่ ดิ กฎหมาย (Illegal, Unreported, and Unregulated (IUU) Fishing) กรอบอนสุ ญั ญา
สหประชาชาตวิ า่ ดว้ ยการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ สมยั ท่ี 21 (COP21) และขอ้ ตกลงยอมรบั รว่ มของ
อาเซียน (ASEAN Mutual Recognition Agreement: MRA) รวมทงั้ กรอบเปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ง่ั ยืน
เพ่ือเอ้ืออ�ำนวยใหไ้ ทยมบี ทบาทส�ำคญั และสร้างสรรคท์ ง้ั ในระดับภูมิภาคและระดับโลก
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngุษยsiใ์ tนuaพt้นืioทnี่ สสว.3 7
report
1.2.3 นโยบายและแผนระดบั ชาติวา่ ดว้ ยความม่ันคงแหง่ ชาติ (พ.ศ. 2560 - 2564)
นโยบายและแผนระดบั ชาตวิ า่ ดว้ ยความมนั่ คงแหง่ ชาติ (พ.ศ. 2560 - 2564) โดยสำ� นกั งาน
สภาความมั่นคงแห่งชาติ ส�ำนักนายกรัฐมนตรี จัดท�ำขึ้นเพื่อเป็นแผนหลักของชาติที่เป็นกรอบทิศทาง
การด�ำเนินการป้องกันแจ้งเตือน แก้ไข หรือ ระงับยับย้ังภัยคุกคามเพื่อธ�ำรงไว้ซึ่งความม่ันคงแห่งชาติ
ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12
(พ.ศ. 2560 - 2564) โดยดา้ นการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาการคา้ มนษุ ยร์ องรบั นโยบายแผนที่ 2 : การปอ้ งกนั
และแกไ้ ขปัญหาทมี่ ีผลกระทบต่อความมั่นคง
ภาพท่ี 2 ยทุ ธศาสตรช์ าติดา้ นความมัน่ คง พ.ศ. 2561-2580
ยุทธศาสตร์ชาตดิ า้ นความม่นั คง พ.ศ. 2561-2580
แผนแมบ่ ทด้านความมัน่ คง
แผนท่ี 1 แผนท่ี 2 แผนท่ี 3 แผนที่ 4 แผนท่ี 5
การรกั ษาความสงบ การป้องกนั และ การพฒั นาศักยภาพ การบูรณาการ การพัฒนากลไก
ภายในประเทศ แกไ้ ขปญั หาท่ีมี ของประเทศไทย ความร่วมมอื การบรหิ ารจดั การ
(กอ.รมน.) ผลกระทบต่อ ใหพ้ ร้อมเผชิญภยั ดา้ นความมั่นคง ความม่ันคง
เป็นหัวหน้ากลุ่มแผน ความมน่ั คง (กอ.รมน.) คุกคามที่กระทบตอ่ กับอาเซียนและ แบบองคร์ วม (สมช.)
เปน็ หัวหนา้ กลุม่ แผน ความมั่นคงของชาติ นานาชาติ รวมถงึ เปน็ หัวหน้ากลุม่ แผน
(กห.) เปน็ องคก์ รภาครฐั และ
หวั หน้ากลมุ่ แผน ท่ีมใิ ชภ่ าครฐั (กต.)
เป็นหัวหน้ากล่มุ แผน
ท่มี า : กองตอ่ ตา้ นการคา้ มนุษย์ พ.ศ. 2563
8 รHาuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrุษeยpใ์oนrtพ้ืนที่ สสว.3
1.3 นโยบายกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนษุ ย์
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ด�ำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
ในการขับเคล่ือนการด�ำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ โดยได้มีการจัดท�ำบันทึก
ข้อตกลงรว่ มกันหน่วยงานภาครฐั และภาคส่วนท่เี ก่ยี วข้องในการดำ� เนนิ งานด้านการค้ามนษุ ย์ ดงั นี้
1.3.1 นโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
(ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2560 – 2564
นโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
(พ.ศ. 2554 - 2559) ใหค้ วามสำ� คญั 5 ดา้ น คอื การปอ้ งกนั การดำ� เนนิ คดี การคมุ้ ครองชว่ ยเหลอื การพฒั นา
กลไกเชงิ นโยบายและการขบั เคลอื่ น การพฒั นาและการบรหิ ารขอ้ มลู ภายใตว้ สิ ยั ทศั น์ “ประชารฐั รว่ มใจ
ประเทศไทยไรก้ ารคา้ มนษุ ย์” โดยมีนโยบายการขับเคล่ือน ดงั น้ี
1) พฒั นากลไกเชงิ นโยบายและการขบั เคลอ่ื นการปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์ และ
การเช่ือมโยงระบบฐานข้อมูลและองค์ความรู้ท่ีเกี่ยวข้องในการก�ำหนดและขับเคลื่อนกลไกเชิงนโยบาย
ไปสู่การปฏบิ ัตทิ มี่ ปี ระสทิ ธิภาพและประสทิ ธผิ ลอย่างต่อเนอ่ื งและยั่งยืน
2) การเสริมสร้างความปลอดภัยในสังคมจากปัญหาการค้ามนุษย์โดยการแก้ไขปัญหา
การค้ามนุษย์ โดยมาตรการทางกฎหมายที่เข้มงวดภายใต้กระบวนการยุติธรรมที่มีประสิทธิภาพและ
เป็นธรรม
3) การบรหิ ารจดั การดา้ นการคมุ้ ครองชว่ ยเหลอื ผเู้ สยี หายจากการคา้ มนษุ ยท์ มี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ
และผเู้ สยี หายและครอบครัวไดร้ ับการชว่ ยเหลืออยา่ งเพยี งพอและเหมาะสมตามมาตรฐานสากล
4) นโยบายลดปัญหาการค้ามนุษย์โดยการให้ความรู้ ความเข้าใจและการสร้าง
ความตระหนักถึงปัญหาการค้ามนุษย์และหลักสิทธิมนุษยชนให้แก่ทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่องและ
ยั่งยืน รวมทั้งนโยบาย การบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติและแรงงานนอกระบบท่ีมีความชัดเจนและ
ถกู ต้องตามกฎหมาย
5) พัฒนาและขยายความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในการป้องกันและปราบปราม
การคา้ มนษุ ยใ์ นภาครฐั องคก์ รพฒั นาเอกชน ภาคธรุ กจิ และภาคประชาชนอยา่ งเปน็ รปู ธรรมในทกุ ระดบั
ไดแ้ ก่ ระดบั ท้องถ่นิ ระดับจงั หวดั ระดับชาติ ระดบั ภมู ิภาค และระดบั นานาชาติ
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngุษยsiใ์ tนuaพt้นืioทnี่ สสว.3 9
report
ภาพท่ี 3 นโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการในการปอ้ งกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ย์ ฉบบั ท่ี 2
นโยบาย ยทุ ธศาสตร์ และมาตรการในการป้องกันและปราบปราม
การคา้ มนุษย์ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2560-2564
นโยบาย มาตรการ 5 P ประเด็นยุทธศาสตร์ 5 ด้าน
การขบั เคลือ่ นนโยบายมีประสทิ ธิภาพ 1. ด้านการพฒั นากลไกเชิงนโยบายและ
การขับเคล่ือน
คมุ้ ครองสงั คมปลอดภัย 2. ด้านการด�ำเนนิ คดี
หลกั กฎหมายและหลกั มนุษย์ธรรม 3. ดา้ นการคุ้มครองช่วยเหลือ
4. ด้านการป้องกัน
พฒั นาและขยายภาคเี ครือข่าย 5. ดา้ นการพฒั นาความรว่ มมอื กบั ภาคเี ครอื ขา่ ย
ท่มี า : นโยบาย ยทุ ธศาสตร์ และมาตรการในการปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2560-2564
ปจั จบุ นั ประเทศไทยและนานาประเทศ ยงั คงประสบปญั หาการคา้ มนษุ ยอ์ ยา่ งรนุ แรง ประเทศไทย
อยใู่ นสถานะเป็นทัง้ ประเทศตน้ ทาง ทางผ่าน และปลายทางของกระบวนการค้ามนุษย์ ตลอดระยะเวลา
ทผ่ี า่ นมา รฐั บาลไทยไดพ้ ยายามดำ� เนนิ การปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ยต์ ามนโยบาย ยทุ ธศาสตร์
และมาตรการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการป้องกันและ
ปราบปรามการค้ามนุษย์ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2554-2559) ภายหลังการประกาศใช้พระราชบัญญัติป้องกัน
และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์ พ.ศ. 2551 โดยมกี ลไกการดำ� เนนิ งานประกอบดว้ ยคณะกรรมการระดบั ชาติ
2 คณะ ไดแ้ ก่ คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์ (ปคม.) โดยมนี ายกรฐั มนตรเี ปน็ ประธาน
และคณะกรรมการประสานและก�ำกับการด�ำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปกค.) ซ่ึงมี
รองนายกรฐั มนตรีเป็นประธาน เพือ่ ผลักดันนโยบายระดับชาตใิ ห้ลงส่กู ารปฏบิ ตั ไิ ด้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
จากรายงานการคา้ มนษุ ย์ หรอื Trafficking in Persons Report (TIP Report) ประจำ� ปี พ.ศ. 2560
ท่ีจัดท�ำโดยกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ได้ประเมินสถานการณ์การค้ามนุษย์ใน
ประเทศไทย อยใู่ นระดบั 2 ทตี่ อ้ งจบั ตามอง (Tier 2 Watch List) เปน็ ปที สี่ องตอ่ เนอ่ื งจากปที แ่ี ลว้ โดยระบวุ า่
ประเทศไทยยังไม่บรรลุมาตรฐานข้ันต�่ำ แต่มีความพยายามในการด�ำเนินงานป้องกันและปราบปราม
การค้ามนุษย์ ท้ังนี้สหรัฐฯ ยังคงให้ความส�ำคัญ เรื่องการด�ำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐท่ีเข้าไปมี
ส่วนเก่ียวข้องกับการค้ามนุษย์ การคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในกลุ่มเสี่ยง เปราะบาง เช่น
กลมุ่ ลกู เรอื ประมง บคุ คลไรร้ ฐั และกลมุ่ ผลู้ ภ้ี ยั รวมถงึ ประสทิ ธภิ าพในการตรวจแรงงาน และใหข้ อ้ เสนอแนะ
ตอ่ ประเทศไทย รวม 11 ข้อ ท่สี อดคล้องกับประเด็นท่ใี ห้ความส�ำคัญขา้ งตน้
10 Hราuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrษุ eยpใ์oนrtพ้ืนที่ สสว.3
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงประสบปัญหาการค้ามนุษย์เช่นเดียวกับนานาประเทศ ซึ่งเป็น
ปัญหาในระดับสากล รัฐบาลจะต้องดาเนินการป้องกันและผลักดันการปราบปรามการค้ามนุษย์ต่อไป
โดยใหม้ ผี ลลพั ธ์ทีเ่ ป็นรูปธรรมและมปี ระสิทธผิ ลมากยิ่งข้นึ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยส�ำนักงานปลัดกระทรวงฯ ในฐานะ
เลขานุการของคณะกรรมการระดับชาติ 2 คณะ ซ่ึงได้ด�ำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์
ตามแนวนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ฉบับท่ี 1
(พ.ศ. 2554-2559) และเปน็ ความสำ� คญั ของการดำ� เนนิ การปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์ ฉบบั ที่ 2
(พ.ศ. 2560-2564) ข้ึน โดยน�ำผลจากการด�ำเนินงานระยะแรก ในช่วงระยะปี พ.ศ. 2554-2559 และ
การด�ำเนินงานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาเป็นแนวทางใน
การกำ� หนดกรอบนโยบาย ยทุ ธศาสตรแ์ ละมาตรการในการปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ยฉ์ บบั น้ี รวมทง้ั
การมีส่วนร่วม และการระดมความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในกระบวนการต่อต้านการค้ามนุษย์
จากทุกภาคส่วนทั่วประเทศมาร่วมจัดท�ำ นโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการในการป้องกันและ
ปราบปรามการค้ามนุษย์
การจัดท�ำนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ฉบับที่ 2
(พ.ศ.2560-2564) ได้ด�ำเนินการภายใต้หลักการที่เน้นการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่เก่ียวข้อง โดยเร่ิมจาก
การจดั การประชมุ กลมุ่ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี (Stakeholders Meeting) ทง้ั ภาครฐั และองคก์ รพฒั นาเอกชน
ในส่วนกลาง รวมถงึ การจดั ประชุมการสนทนากลุ่ม (focus group) ของผมู้ สี ว่ นได้ส่วนเสยี ในพื้นท่ีระดบั
ภูมิภาค ประกอบด้วยพ้ืนที่จังหวัดชายทะเล พื้นที่ที่เป็นเส้นทางการค้ามนุษย์ และพ้ืนที่เสี่ยงต่อการเกิด
ปัญหาการค้ามนุษย์ท่ีส�ำคัญ เพ่ือให้ทราบถึงสถานการณ์การค้ามนุษย์ในประเทศไทย และสภาพปัญหา
ท่ีต้องได้รับการแก้ไข และเป็นการเพ่ิมศักยภาพการด�ำเนินงานของผู้ปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
รวมทั้งมีทิศทางการจัดการให้เท่าทันกับสถานการณ์และแนวโน้มของปัญหาการค้ามนุษย์ที่จะเกิดข้ึน
ในช่วงระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า และเพ่ือให้กฎหมายที่เก่ียวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
สามารถบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ให้ทันท่วงทีกับสถานการณ์
ปญั หาในปัจจบุ นั
การจดั ทำ� นโยบาย ยทุ ธศาสตร์ และมาตรการในการปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์ ฉบบั นี้
จงึ ไดใ้ หค้ วามสำ� คญั กบั การมสี ว่ นรว่ มของกลมุ่ เปา้ หมาย และภาคเี ครอื ขา่ ยทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ปญั หาการคา้ มนษุ ย์
โดยได้ก�ำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ท่ีมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ได้แก่ “ประชารัฐร่วมใจ ประเทศไทย
ไร้การค้ามนุษย์”และประกอบด้วยนโยบายและยุทธศาสตร์ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
ทค่ี รอบคลมุ 5 ดา้ น ได้แก่ ยุทธศาสตรแ์ ละมาตรการดา้ นการพฒั นากลไกเชิงนโยบายและการขับเคลือ่ น
(Policy) ยุทธศาสตร์และมาตรการด้านการด�ำเนินคดี (Prosecution) ยุทธศาสตร์และมาตรการด้าน
การคุ้มครองช่วยเหลือ (Protection) ยุทธศาสตร์และมาตรการด้านการป้องกัน (Prevention) และ
ยทุ ธศาสตร์และมาตรการดา้ นการพัฒนาความรว่ มมอื กับภาคเี ครอื ขา่ ย (Partnership) ให้เป็นไปอย่างมี
ประสิทธิภาพ ต่อเนือ่ งและยงั่ ยนื และสามารถน�ำไปปฏิบตั ิได้อยา่ งเป็นรูปธรรม
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngษุ ยsiใ์ tนuaพt้ืนioทnี่ สสว.3 11
report
1.3.2 แผนปฏบิ ัตกิ ารด้านการป้องกนั และแก้ไขปัญหาการคา้ มนษุ ย์ พ.ศ. 2561 - 2580
กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ เปน็ หนว่ ยงานหลกั ในการจดั ทำ� แผน
แม่บทด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2561 - 2580 เพ่ือให้สอดคล้องกับนโยบาย
และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก่อนเสนอคณะกรรมการจัดท�ำยุทธศาสตร์ชาติด้านความม่ันคงพิจารณา
โดยมโี ครงการสำ� คญั ภายใตแ้ ผนปฏบิ ตั กิ ารดา้ นการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาการคา้ มนษุ ย์ พ.ศ. 2561 - 2580
ท่กี ระทรวงการพัฒนาสังคมและความมน่ั คงของมนุษย์รับผดิ ชอบ ดังนี้
แผนแม่บทดา้ นความม่นั คง : แผนที่ 2 การปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหาท่ีมผี ลกระทบต่อ
ความม่ันคง (กอ.รมน.) เปน็ หัวหนา้ กลมุ่ แผน
โครงการสำ� คัญภายใตแ้ ผนปฏิบัตกิ ารดา้ นการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาการค้ามนุษย์
พ.ศ. 2561 - 2580 ท่ี พม. รบั ผดิ ชอบ
กลยทุ ธท์ ี่ 1 1. โครงการทบทวน ติดตาม และประเมินผลการด�ำเนินงานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
พ.ศ. 2551 และทีแ่ ก้ไขเพิ่มเตมิ (ปี 62 – 80)
กลยุทธท์ ่ี 6 1. โครงการจดั ทำ� และพฒั นาหลกั สตู รการเรยี นการสอนในสถานศกึ ษา เพอ่ื ใหเ้ ดก็ และเยาวชนสามารถปอ้ งกนั ตนเอง
จากการคา้ มนษุ ย์ (ปี 63-67)
2. โครงการรณรงค์/ประชาสัมพันธ์ เพ่ือสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักถึงปัญหาการค้ามนุษย์
ทกุ รปู แบบ (ปี 63-67)
กลยุทธ์ท่ี 7 1. โครงการสร้างและพฒั นาเครอื ขา่ ยองคก์ รภาคประชาสงั คมท้องถน่ิ ให้มคี วามเขม้ แข็ง (62-65)
2. โครงการพัฒนาและใช้ส่ือ Social Network ในการรับแจ้งเหตุและช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
(ปี 63-65)
3. โครงการจัดท�ำรายงานและเผยแพร่ผลการด�ำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ประจ�ำป ี
ของประเทศไทย (ปี 62-80)
4. โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับบันทึกข้อตกลง (MOU/SOP) กับหน่วยงาน
ทีเ่ ก่ยี วข้องท้ังในและนอกประเทศ เพอ่ื ป้องกนั และปราบปรามการคา้ มนุษย์ (ปี 63-80)
กลยทุ ธท์ ี่ 8 1. โครงการอบรมและพฒั นาศกั ยภาพลา่ มแปลภาษาเพอ่ื ชว่ ยเหลอื คมุ้ ครองผเู้ สยี หายจากการคา้ มนษุ ย์ (ปี 62-65)
2. โครงการศึกษาระเบียบและกฎหมายเพ่ือสนับสนุนการด�ำเนินงานของสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหาย
จากการคา้ มนุษยภ์ าคเอกชน (ปี 63-65)
3. โครงการพัฒนาและจัดท�ำมาตรฐานการคุม้ ครองผเู้ สยี หายจากการค้ามนษุ ย์ (ปี 63-64)
4. โครงการพฒั นาศกั ยภาพเจา้ หนา้ ทที่ เ่ี กยี่ วขอ้ งในการคมุ้ ครองชว่ ยเหลอื ผเู้ สยี หายจากการคา้ มนษุ ย์ (ปี 62-80)
กลยุทธท์ ่ี 9 1. โครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลด้านการค้ามนุษย์ของประเทศไทยระหว่างหน่วยงานที่เก่ียวข้อง เพ่ือติดตาม
การด�ำเนินงานและนำ� มาใชใ้ นการกำ� หนดนโยบาย (ปี 62-67)
12 Hราuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrุษeยpใ์oนrtพ้นื ที่ สสว.3
1.3.3 บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาระบบงานยุติธรรมทางอาญา
ในคดคี า้ มนษุ ย์ ระหวา่ งศาลอาญา สำ� นกั งานอยั การสงู สดุ สำ� นกั งานตำ� รวจแหง่ ชาติ กระทรวงยตุ ธิ รรม
และกระทรวงการพฒั นาสงั คมและความม่นั คงของมนุษย์
ปจั จบุ นั ปญั หาเกย่ี วกบั การคา้ มนษุ ยไ์ ดท้ วคี วามรนุ แรงมากขน้ึ สง่ ผลกระทบตอ่ ความมนั่ คง
ทางเศรษฐกิจและสังคมของนานาประเทศท่ีเก่ียวข้อง และศาลยุติธรรม ได้จัดตั้งแผนกคดีค้ามนุษย์ใน
ศาลอาญา โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้การด�ำเนินคดีค้ามนุษย์เป็นไปภายใต้หลักการให้ความเป็นธรรมแก่
คคู่ วามทง้ั สองฝา่ ย มกี ารดแู ลรกั ษาพยานหลกั ฐานใหค้ งอยแู่ ละพรอ้ มตอ่ การสบื พยาน มมี าตรการทเี่ พยี งพอ
ต่อการคุ้มครอง สิทธิมนุษยชนและปกป้องผู้เสียหาย การด�ำเนินกระบวนพิจารณาที่มีประสิทธิภาพ
โดยองคค์ ณะผพู้ พิ ากษาทมี่ ปี ระสบการณแ์ ละความเชยี่ วชาญเฉพาะทาง และมกี ระบวนพจิ ารณาทรี่ วดเรว็
โดยใช้สือ่ เทคโนโลยที ี่เหมาะสม ซึ่งจ�ำเปน็ ต้องได้รบั ความรว่ มมอื จากหน่วยงานทเี่ กี่ยวขอ้ งทกุ ฝา่ ย
ศาลอาญา ส�ำนักงานอัยการสูงสุด ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม และ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ จึงจัดท�ำขอ้ ตกลงว่าดว้ ยความรว่ มมอื ในการพัฒนา
ระบบงานยตุ ิธรรมทางอาญาในคดคี า้ มนุษย์ ดงั น้ี
(1) ความร่วมมือดา้ นการด�ำเนินคดี
1.1 จัดให้มีศูนย์ประสานงานคดีค้ามนุษย์ในแต่ละหน่วยงาน เพื่อท�ำหน้าท่ี
ประสานงานและแกไ้ ขข้อขดั ข้องในการดำ� เนนิ คดีรวมทงั้ การคมุ้ ครองสิทธิของผูเ้ สียหายและพยาน
1.2 ร่วมมือเพื่อให้มีการสืบพยานไว้ล่วงหน้าโดยเร็วเม่ือเกิดเหตุจ�ำเป็นตามที่
กฎหมายบญั ญัติ โดยค�ำนึงถงึ โอกาสในการต่อสคู้ ดีของผตู้ ้องหาหรอื จ�ำเลยประกอบดว้ ย
1.3 จัดให้มีศูนย์ประสานงานในการจัดหาล่าม และทีมสหวิชาชีพท่ีเกี่ยวข้อง
เพ่ือประโยชน์ในการสอบสวนและการพจิ ารณาพพิ ากษาคดขี องศาล
1.4 การปลอ่ ยตวั ช่วั คราวผู้ตอ้ งหาหรอื จ�ำเลย ควรพจิ ารณาด้วยความรอบคอบ
โดยค�ำนึงถึงพฤติการณ์และการกระท�ำของผู้ต้องหา และความเสียหายท่ีผู้เสียหายได้รับโดยฟังจาก
ความเปน็ มาของผเู้ สยี หาย หรอื พยานสำ� คญั ประกอบ และตอ้ งมมี าตรการหรอื เงอื่ นไขในการปลอ่ ยตวั ชว่ั คราว
ที่เหมาะสม เพ่ือป้องกันการหลบหนีหรืออันตรายท่ีอาจเกิดขึ้นแก่ผู้เสียหายหรือพยาน ทั้งนี้ ส�ำนักงาน
ตำ� รวจแหง่ ชาตจิ ะกำ� หนดจดุ รบั และปฏบิ ตั ติ ามคำ� สงั่ ของพนกั งานสอบสวน หรอื พนกั งานอยั การหรอื ศาล
เพอ่ื ป้องกนั มใิ ห้ผู้ตอ้ งหาหรอื จำ� เลยเดนิ ทางออกนอกประเทศ
1.5 ร่วมมือให้มีการสืบเสาะข้อมูลประวัติและพฤติการณ์เกี่ยวกับการค้ามนุษย์
ของผ้ตู ้องหาหรอื จำ� เลยเพ่ือประกอบการสอบสวนและการพจิ ารณาพพิ ากษาคดีของศาล
1.6 รว่ มมอื ในการพฒั นาระบบอเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ พอื่ การฟอ้ งคดแี ละการสบื พยาน
ผา่ นระบบการประชมุ ทางจอภาพ
(2) ความร่วมมือดา้ นการค้มุ ครองสิทธขิ องผเู้ สียหายและพยาน
2.1 สนับสนุนและร่วมมือในการฟื้นฟู ช่วยเหลือ เยียวยา และการคุ้มครอง
สวสั ดภิ าพและความปลอดภยั แกผ่ เู้ สยี หาย ตลอดจนการแจง้ ใหท้ ราบถงึ สทิ ธใิ นการเรยี กคา่ สนิ ไหมทดแทน
และการฟ้องร้องบงั คบั คดีเพอื่ ให้มกี ารชดใช้คา่ สินไหมทดแทนดงั กล่าว
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngุษยsiใ์ tนuaพt้นืioทnี่ สสว.3 13
report
2.2 ดำ� เนนิ การเพอ่ื ใหม้ กี ารจดั ทำ� ขอ้ มลู ประวตั แิ ละความคดิ เหน็ หรอื ขอ้ กงั วลของ
ผเู้ สยี หาย เพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาของเจา้ พนกั งานในการออกคำ� สงั่ และการพจิ ารณาพพิ ากษาคดขี องศาล
2.3 สนับสนุนและร่วมมือในการคุ้มครองผู้เสียหาย พยานและครอบครัว
ของผู้เสียหายหรือพยานในตลอดระยะเวลาด�ำเนินคดี การแจ้งความคืบหน้าของคดี ตลอดจนการให้
ความช่วยเหลือและอำ� นวยความสะดวกในการไปเบกิ ความตอ่ ศาลอาญา
1.4 นโยบายระดับจงั หวัด
กลไกขบั เคลอ่ื นงานภายในระดบั จงั หวดั ซง่ึ มฐี านะเปน็ หนว่ ยปฏบิ ตั ใิ นพนื้ ที่ ทสี่ ำ� คญั มี 2 ลกั ษณะ คอื
1) กระบวนการขบั เคลอ่ื นของ“ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ารปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ยจ์ งั หวดั ” (ศปคม.จงั หวดั )
และทีมสหวิชาชีพ รวมถึง 2) กระบวนการขับเคล่ือนงานของหน่วยงาน/องค์กรต่างๆ ท่ีมีการท�ำงาน
เก่ยี วขอ้ งกับการป้องกนั แก้ไขปญั หาการค้ามนษุ ย์ ดงั นี้
ภาพที่ 4 กลไกการขับเคลือ่ นการป้องกันและปราบปรามการค้ามนษุ ย์จงั หวดั
คณะอนุกรรมการระดับจังหวัด
ศนู ย์ปฏบิ ัตกิ ารป้องกันและปราบปราม
การค้ามนษุ ย์จังหวัด
คณะอนกุ รรมการศูนยป์ ฏบิ ัตกิ ารปอ้ งกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ย์จังหวัด
ผวู้ ่าราปชรกะธาราจนังหวัด
รองผู้วา่ ราชการจงั หวดั
รองประธาน
ผแู้ ทนหนว่ ยงานราชการในจงั หวัด ผทู้ รงคณุ วุฒซิ ่งึ เป็นผู้แทนจากองคก์ รเอกชน
ไมเ่ กิน 16 คน ภาคเอกชน หรอื ภาคประชาสงั คม ไม่เกนิ 2 คน
พัฒนาสังคมและความมน่ั คงของมนุษยจ์ งั หวดั
เลขานกุ าร
ทม่ี า : กองตอ่ ตา้ นการคา้ มนษุ ย์ พ.ศ. 2563
14 รHาuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrุษeยpใ์oนrtพ้นื ที่ สสว.3
การดำ� เนนิ โครงการส�ำคญั (5P)
นโยบาย ยุทธศาสตร์ มาตรการการด�ำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา
การค้ามนุษย์ระดับจังหวัด อยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์การด�ำเนินงานด้านความมั่นคงระดับชาติ และ
ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม
การค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพ่ิมเติมโดยการด�ำเนินโครงการตามมาตรการ 5P ในกลุ่มจังหวัด
เขตพ้ืนทร่ี บั ผดิ ชอบ สสว.3 ประกอบดว้ ย
P1 ด้านนโยบายและการประสานงาน (Policy and Coordination)
P2 ดา้ นการป้องกนั (Prevention)
P3 ด้านการด�ำเนินคดี (Prosecution)
P4 ด้านการคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ การส่งกลับประเทศ และ
การคืนส่สู ังคม (Protection)
P5 ด้านการมีส่วนร่วม (Partnership)
1.4.1 ด้านนโยบายและการประสานงาน (Policy and Coordination)
ดา้ นนโยบายและการประสานงาน มกี ลไกในการขบั เคลอื่ นระดบั จงั หวดั คอื คณะอนกุ รรมการ
ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ารปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ยจ์ งั หวดั (ศปคม.) โดยมผี วู้ า่ ราชการจงั หวดั เปน็ ประธาน
และมีส�ำนักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์จังหวัดเป็นเลขานุการ หน่วยงานภายในจังหวัด
ทั้งภาครฐั และภาคเอกชนเป็นคณะอนุกรรมการ ทงั้ น้จี งั หวดั ในเขตพ้ืนที่ สสว.3 มลี ักษณะการด�ำเนนิ งาน
ภายใต้มาตรการตา่ งๆ ดงั น้ี
1) จัดท�ำแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัด ประจ�ำปี
งบประมาณ โดยการรวบรวมแผนงาน โครงการ/กจิ กรรม ของหนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ งในการปฏบิ ตั กิ ารปอ้ งกนั
และแก้ไขปญั หาการคา้ มนษุ ยม์ าจดั ท�ำแผนปฏบิ ตั ิการประจำ� ปีของจังหวดั
2) จัดประชุมคณะอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
จังหวัด เพ่ือรายงานผลการด�ำเนินงานและขับเคล่ือนการปฏิบัติงานการป้องกันและแก้ไขปัญหา
การคา้ มนุษยใ์ นระดบั จังหวดั โดยเฉลยี่ ปีละ 3 คร้ัง
3) การสนบั สนนุ งบประมาณจากกองทนุ เพอื่ การปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์
เพื่อขับเคล่ือนการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัด โดยให้หน่วยงานต่างๆ เสนอ
โครงการเพอื่ ขอรับการสนบั สนนุ งบประมาณจากคณะอนกุ รรมการฯ
4) รายงานผลการด�ำเนินงานการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และจัดท�ำ
สถานการณก์ ารค้ามนุษยจ์ ังหวัดประจำ� ปี
1.4.2 ดา้ นการปอ้ งกนั (Prevention)
ดา้ นการปอ้ งกนั พบวา่ จงั หวดั ในเขตพน้ื ที่ สสว.3 โดยสว่ นใหญจ่ ดั กจิ กรรม/โครงการ หรอื
มีมาตรการด้านการป้องกนั มากทส่ี ดุ ดงั น้ี
1) การตรวจบรู ณาการรว่ มกบั หนว่ ยงานในพน้ื ทรี่ ว่ มกบั ชดุ ปฏบิ ตั กิ ารเฉพาะกจิ ปอ้ งกนั
และปราบปรามการคา้ มนษุ ยอ์ ยา่ งสมำ่� เสมอ เชน่ ออกตรวจโรงงาน สถานประกอบการดา้ นการประมง เกษตร
ปศสุ ตั วแ์ รงงานตา่ งดา้ วผดิ กฎหมาย ตรวจสอบ จบั กมุ และดำ� เนนิ คดนี ายจา้ ง/สถานประกอบการ เปน็ ตน้
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngุษยsiใ์ tนuaพt้ืนioทnี่ สสว.3 15
report
2) การรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ แก่ประชาชนท่ัวไป ประชาชน
กลุม่ เสี่ยง เด็กและเยาวชน ผปู้ ระกอบการ ภาคประชาสงั คม นักท่องเท่ยี ว รว่ มกนั เฝา้ ระวงั เพ่อื ป้องกัน
ปญั หาการค้ามนษุ ย์
3) การจัดระเบียบขอทานร่วมกับหน่วยงานทีม One Home จังหวัด กระทรวง
การพัฒนาสังคมและความม่ังคงของมนุษย์ (พม.) และหน่วยงานภายนอกที่เก่ียวข้องตามแหล่งชุมชน
ตลาดนดั หรืองานเทศกาลตา่ งๆ ในพน้ื ท่ี ร่วมกบั ต�ำรวจภูธร โรงพยาบาล สาธารณสขุ เป็นตน้
4) การบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 และกฎหมายอ่ืนๆ ท่ีเก่ียวข้อง เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
พระราชบัญญตั คิ วบคมุ การขอทาน พ.ศ. 2559 เปน็ ตน้
5) การดำ� เนนิ งานโครงการ/กจิ กรรมตา่ งๆ เพอื่ ปอ้ งกนั ปญั หาการคา้ มนษุ ยใ์ นระดบั
พน้ื ที่ เช่น
- จดั ตง้ั ศนู ยบ์ รู ณาการและประสานงานปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ยอ์ ำ� เภอ
เพอ่ื เป็นเครือข่ายเฝา้ ระวังระดับอ�ำเภอ
- โครงการฝึกอบรมเพ่ิมศักยภาพในการคัดแยกเหยื่อคดีค้ามนุษย์ให้แก่
ทีมสหวิชาชีพ
- โครงการอบรมให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายต่างๆ เช่น กลุ่มเด็กและเยาวชน
สตรี แรงงานผู้ประกอบการ ด้านความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับกฎหมาย ด้านป้องกันและเฝ้าระวัง
กระบวนการคา้ มนุษย์ เป็นตน้
- โครงการดา้ นการพฒั นาศกั ยภาพเครอื ขา่ ยปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์
ให้แกก่ ลุ่ม/องคก์ รต่างๆ ทัง้ ภาครัฐและเอกชน
- กิจกรรมประชาสัมพันธ์และผลิตสื่อเก่ียวกับการป้องกันและปราบปราม
การค้ามนุษย์
1.4.3 ด้านการด�ำเนินคดี (Prosecution)
ด้านการด�ำเนินคดี เป็นด้านการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม
การค้ามนษุ ย์ ทีเ่ กยี่ วขอ้ งตามอ�ำนาจหน้าทข่ี องกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมน่ั คงของมนุษย์ คือ
กระบวนการชว่ ยเหลอื คมุ้ ครองสวสั ดภิ าพผเู้ สยี หายจากการคา้ มนษุ ย์ โดยมกี ระบวนการคดั แยกผเู้ สยี หาย
จากการค้ามนษุ ยร์ ว่ มกบั ทีมสหวชิ าชพี จงั หวัด ผา่ นการสมั ภาษณ์ พิจารณาจาก 3 องค์ประกอบ ดงั นี้
1) ทมี สหวชิ าชพี ลงความเหน็ วา่ เปน็ ผเู้ สยี หายจากกระบวนการคา้ มนษุ ย์ เจา้ หนา้ ทแ่ี จง้
สทิ ธแิ กผ่ ้เู สียหายในการประสงคเ์ ขา้ รบั การคมุ้ ครองตามสิทธใิ นสถานคุม้ ครองของรฐั หรอื สถานคุ้มครอง
เอกชน
2) ทมี สหวชิ าชีพเหน็ วา่ เขา้ ข่ายเป็นคดีมนุษย์แตร่ อขอ้ มูลประกอบ ต้องจดั หาสถานท่ี
คุม้ ครองชัว่ คราวภายใน 24 ชวั่ โมง และขอขยายไดไ้ ม่เกิน 7 วัน
3) ทีมสหวิชาชีพลงความเห็นว่าไม่เป็นผู้เสียหาย แนะน�ำบริการอ่ืนตามความจ�ำเป็น
หรอื สง่ เขา้ รับการคุ้มครองตามกฎหมายอ่นื ๆ
16 รHาuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrษุ eยpใ์oนrtพ้ืนที่ สสว.3
นอกจากนี้ยังมีมาตรการอื่นๆ ท่ีเกี่ยวข้องในการป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐกับกระบวนการ
ค้ามนุษย์ ตามระเบียบส�ำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยมาตรการทางการบริหารในการป้องกันเจ้าหน้าท่ี
ของรัฐมิให้เก่ียวข้องกับการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2558 และประกาศคณะกรรมการป้องกันเจ้าหน้าท่ีของรัฐ
เรือ่ ง หลกั เกณฑ์และวธิ กี ารเกยี่ วกบั การรายงานการด�ำเนินการทางวนิ ัยและการด�ำเนินคดี
1.4.4 ด้านการคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ การส่งกลับประเทศ และ
การคืนสสู่ งั คม (Protection)
สืบเน่ืองจากด้านการด�ำเนินคดีข้างต้นท่ีมีบทบาทภารกิจตามกระบวนการช่วยเหลือ
และคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยจัดให้มีการคุ้มครองทั้งสถานคุ้มครองของรัฐ
และสถานคุ้มครองเอกชนตามระเบียบกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ว่าด้วย
การจัดตั้งสถานคุ้มครองเอกชนเพ่ือการช่วยเหลือและคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2560
โดยมขี ั้นตอนกระบวนการ ดงั นี้
1) กรณีเป็นผู้เสียหาย จะได้รับการส่งต่อเข้าสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหาย
ตามเขตพืน้ ที่ จำ� นวน 8 แห่ง ท่วั ประเทศ
2) ผู้ทม่ี ีเหตอุ ันควรเช่ือว่าเปน็ ผ้เู สยี หาย หากอายตุ �ำ่ กว่า 15 ปี จะเขา้ รบั การคมุ้ ครอง
ณ บ้านพักเด็กและครอบครวั จงั หวดั
3) แรงงานทตี่ ้องได้รบั คุ้มครองตามกฎหมายแรงงาน ได้แก่
• กรณแี รงงานเด็กอายุต�ำ่ กว่า 18 ปี ส่งบา้ นพกั เดก็ และครอบครัว
• กรณีแรงงานไทยอายุ 18 ปี ข้ึนไป กระทรวงแรงงานจดั หางานให้ท�ำ
• กรณีแรงงานต่างด้าวอายุ 18 ปี ขึ้นไปส่งศูนย์ร่วมบริการช่วยเหลือแรงงาน
ตา่ งด้าว
4) กรณไี มป่ ระสงคเ์ ขา้ รบั การคมุ้ ครอง จะพจิ ารณาเงนิ ชว่ ยเหลอื จากกองทนุ คา้ มนษุ ย์
หรอื กรณีอื่นๆ เชน่ ค่าจา้ งคา่ แรงคา้ งจ่ายจากนายจ้าง คา่ ตอบแทนในฐานะพยานคดอี าญา การเรียกร้อง
ค่าสนิ ไหมทดแทนจากผู้กระท�ำผดิ เปน็ ต้น
1.4.5 ดา้ นการมสี ่วนรว่ ม (Partnership)
การด�ำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยการมีส่วนร่วมของ
ทกุ ภาคส่วน ดังน้ี
1) จัดต้ังทีมสหวิชาชีพ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัด
เพอ่ื คดั แยกและให้ความช่วยเหลือคุ้มครองสวสั ดภิ าพผเู้ สียหายจากการค้ามนษุ ย์
2) การแตง่ ตง้ั คณะท�ำงานตรวจบรู ณาการรว่ มจงั หวดั เพื่อลงพ้ืนทลี่ าดตระเวนตรวจ
ตามสถานทตี่ า่ งๆเชน่ โรงงานอตุ สาหกรรมเรอื ประมงสถานประกอบการสถานบรกิ ารเปน็ ตน้ โดยมหี นว่ ยงาน
ท่ีเกี่ยวข้อง อาทิ ที่ท�ำการปกครองจังหวัดและอ�ำเภอ ส�ำนักงานต�ำรวจภูธรจังหวัดและสถานีต�ำรวจภูธร
สำ� นกั งานตรวจคนเขา้ เมอื ง สำ� นกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั หนว่ ยงานสงั กดั กระทรวงแรงงาน กระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ กระทรวงอตุ สาหกรรม สำ� นกั งานประมงจังหวดั DSI เปน็ ตน้
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngษุ ยsiใ์ tนuaพt้นืioทnี่ สสว.3 17
report
3) จดั ตงั้ ศนู ยบ์ รู ณาการและประสานงานปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ยอ์ ำ� เภอ
เพ่ือเปน็ เครือข่ายเฝา้ ระวงั ระดับอำ� เภอ
4) จดั ต้ังศูนยค์ วบคุมการแจ้งเขา้ -ออกเรือประมง (Port in – Port out) หรอื ไปโป้
(PIPO)
5) ภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม ภาคเอกชน เช่น อาสาสมัครพัฒนาสังคมและ
ความม่ันคงของมนุษย์จังหวัด (อพม.) สภาเด็กและเยาวชนจังหวัด หอการค้า สภาอุตสาหกรรม
ในการเผยแพร่ประชาสมั พนั ธ์รณรงค์ตอ่ ต้านการคา้ มนุษย์ให้แก่กล่มุ เปา้ หมายในพืน้ ท่ี
18 รHาuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrษุ eยpใ์oนrtพ้ืนที่ สสว.3
บทท่ี 2
สถานการณ์การค้ามนุษยใ์ นเขตพ้ืนทร่ี บั ผดิ ชอบ สสว.3
2.1 ขอ้ มลู บริบทของพื้นที่
2.2.1 ทต่ี ้ัง
เขตพนื้ ทร่ี บั ผดิ ชอบของ สสว.3 ประกอบดว้ ย 8 จงั หวดั ไดแ้ ก่ จงั หวดั นครปฐม กาญจนบรุ ี
ราชบรุ ี สพุ รรณบรุ ี สมทุ รสงคราม สมทุ รสาคร เพชรบรุ ี และจงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ มอี าณาเขตตดิ ตอ่ กบั
สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาด้านตะวนั ตก จงั หวัดกาญจนบุรี 370 กโิ ลเมตร และราชบุรี 70 กิโลเมตร
ดา้ นเหนอื ตดิ กบั จงั หวดั อทุ ยั ธานี ชยั นาท ตาก ดา้ นใตต้ ดิ กบั จงั หวดั ชมุ พร สว่ นทศิ ตะวนั ออกตดิ กบั จงั หวดั
กรงุ เทพมหานคร และอ่าวไทย
ภาพท่ี 5 จงั หวัดในเขตพ้นื ทร่ี ับผดิ ชอบของ สสว.3
การแบง่ เขตการบรหิ ารราชการแบบกลุ่มจงั หวัด ในเขตพื้นที่ความรับผดิ ชอบของ สสว.3 แบ่งได้ ดังน้ี
กล่มุ จงั หวัดภาคกลางปรมิ ณฑล จงั หวัดนครปฐม
กลุ่มจงั หวัดภาคกลางตอนลา่ ง 1 จังหวัดราชบุรี จังหวัดสพุ รรณบุรี จังหวัดกาญจนบรุ ี
กลมุ่ จังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 จังหวดั สมทุ รสาคร จงั หวดั สมทุ รสงคราม จังหวดั เพชรบุรี
จังหวดั ประจวบคีรีขนั ธ์
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngุษยsiใ์ tนuaพt้ืนioทnี่ สสว.3 19
report
2.1.2 พื้นทีแ่ ละลักษณะภูมิประเทศ
พนื้ ทร่ี วม 46,088 ตารางกโิ ลเมตร หรอื รอ้ ยละ 8.98 ของประเทศ ภมู ปิ ระเทศแบง่ ออกเปน็
3 ลักษณะ คือ ด้านตะวันตกเป็นพ้ืนที่สูง บริเวณเทือกเขาถนนธงชัยและตะนาวศรีเป็นแนวยาวไป
ทางใต้ตามแนวพรมแดน มีอาณาเขตติดต่อกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
หรือสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ตอนกลางเป็นที่ราบลุ่มแม่น้�ำที่เกิดจากการทับถมของดินตะกอน
ท่ีแม่น้�ำเจ้าพระยาและแม่น�้ำสาขาต่างๆ พัดพามา สภาพดินมีความอุดมสมบูรณ์สูง และตอนล่าง
เปน็ พนื้ ทร่ี าบและทรี่ าบชายฝง่ั ทะเล มดี า่ นถาวร 1 ดา่ น คอื ดา่ นถาวรบา้ นพนุ ำ�้ รอ้ น จดุ ผอ่ นปรน 2 จดุ คอื
จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร และจุดผ่อนปรนด่านพระเจดีย์สามองค์ ท่ีเป็นจุดเช่ือมโยงการค้าชายแดน
กับสาธารณรัฐแหง่ สหภาพเมียนมา
2.1.3 ทรพั ยากรธรรมชาติ
1) ดิน ดินท่ีพบส่วนใหญ่ในบริเวณท่ีราบภาคมีลักษณะเป็นดินลุ่มน้�ำหรือดินตะกอนท่ี
แม่น�้ำแม่กลอง มีคุณสมบัติท่ีแตกต่างกัน เช่น ดินเหนียวด�ำ เป็นดินท่ีมีเน้ือละเอียดเหมาะที่จะใช้
เพาะปลูกข้าวหรือยกร่องปลูกมะพร้าว ดินร่วนก�ำแพงแสน เป็นดินบริเวณขอบของที่ราบภาคกลาง
ใชป้ ลกู พชื ไรด่ ี และ ดนิ เหนยี วทา่ จนี พบในเขตทตี่ ดิ ตอ่ กบั ทะเล หากยกรอ่ งใหส้ งู ขน้ึ สามารถปลกู มะพรา้ ว ผกั
หรือไม้ผลอื่นๆ หรอื ใชพ้ ืน้ ท่ีเล้ยี งก้งุ เลีย้ งปลาหรือทำ� นาเกลือ
2) แหลง่ นำ้� มลี มุ่ นำ�้ และแมน่ ำ้� ทส่ี ำ� คญั 7 ลมุ่ นำ�้ คอื ลมุ่ นำ�้ ทา่ จนี ลมุ่ นำ�้ แมก่ ลอง ลมุ่ นำ�้ เพชรบรุ ี
และ ลมุ่ นำ้� ชายฝง่ั ทะเลตะวนั ตก โดยแมน่ ำ้� ทส่ี ำ� คญั 3 สาย ไดแ้ ก่ แมน่ ำ้� ทา่ จนี แมน่ ำ้� แมก่ ลอง แมน่ ำ้� เพชรบรุ ี
3) ปา่ ไม้ ปี 2559 มพี น้ื ทป่ี า่ ไม้ 12.74 ลา้ นไร่ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 3.93 ของพน้ื ทป่ี า่ ทง้ั ประเทศ
ลกั ษณะของปา่ ไมใ้ นภาคกลางสว่ นใหญเ่ ปน็ ปา่ เบญจพรรณ ลกั ษณะทวั่ ไปเปน็ ปา่ โปรง่ พน้ื ทปี่ า่ ไมไ้ มร่ กทบึ
โดยมีไม้ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจหลายชนิด ได้แก่ ไม้สัก ไม้มะค่า และยังมีป่าไม้ประเภทอ่ืนๆ ด้วย เช่น
ป่าดิบช้ืน ข้ึนอยู่ในท่ีราบหรือบนภูเขาท่ีระดับความสูงเกิน 600 เมตร จากระดับน�้ำทะเล ป่าชายเลน
มักพบข้ึนอยู่บริเวณชายฝั่งทะเล ปากแม่น�้ำล�ำคลอง และบริเวณรอบเกาะท่ีมีสภาพเป็นดินเลน และ
ป่าชายหาด ป่าที่ขึ้นคลุมดินหรือเนินทรายชายฝั่งทะเลที่ยกตัวจนน้�ำท่วมไม่ถึงแต่ได้รับผลกระทบจาก
ทะเล เชน่ ไอความเคม็ และลมจากทะเล
2.1.4 โครงขา่ ยคมนาคมขนส่งและการบรกิ ารสาธารณูปโภค
1) การคมนาคมขนส่งทางบก
โครงขา่ ยถนน มเี สน้ ทางถนนสายหลกั ขนาดไมต่ ำ�่ กวา่ 4 ชอ่ งจราจรเชอ่ื มโยงทกุ จงั หวดั และ
โครงข่ายหลักของประเทศท่ีเชื่อมสู่ภาคต่างๆ โดยบางพื้นที่เมืองยังมีปัญหาการจราจรแออัด นอกจากนี้
ยังมีเส้นทางแนวระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) เชื่อมโยงระหว่าง
สาธารณรฐั แหง่ สหภาพเมยี นมา ไทย กมั พชู า และเวยี ดนาม ประกอบดว้ ย เสน้ ทางทวาย - ทกิ ิ - กรงุ เทพฯ -
อรัญประเทศ - ปอยเปต - พนมเปญ - โฮจมิ ินห์ - วังเตา ซ่ึงเปน็ เสน้ ทางทีม่ ศี ักยภาพทางเศรษฐกจิ สงู โดย
พาดผา่ นเมอื งสำ� คญั หลายเมอื งและมกี ารขนสง่ ขา้ มแดนตามแนวเสน้ ทางในปรมิ าณมาก และเสน้ ทางทวาย -
ทิกิ - บ้านพุน้�ำร้อน - กรุงเทพฯ - เสียมราฐ - สตรึงเตร็ง - ควิวยอน ซึ่งเป็นเส้นทางเศรษฐกิจและ
ทอ่ งเทย่ี วสำ� คญั ระหวา่ งไทย และกมั พชู า รวมถงึ เชอ่ื มตอ่ ระหวา่ งไทยไปกบั ภาคกลางของเวยี ดนามผา่ นกมั พชู า
20 รHาuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrุษeยpใ์oนrtพ้นื ที่ สสว.3
2) รถไฟ มศี นู ยก์ ลางอยทู่ สี่ ถานกี รงุ เทพ ฯ โดยเปน็ ระบบทางสาม ไดแ้ ก่ ชว่ งสถานี รงั สติ -
ชุมทางบ้านภาชี และหัวหมาก - ชุมทางฉะเชิงเทรา และทางคู่ ได้แก่ ช่วงสถานีชุมทางบางซื่อ - รังสิต
ชมุ ทาง บา้ นภาชี - ลพบรุ ี ชมุ ทางบ้านภาชี - ชมุ ทางแก่งคอย และตล่งิ ชัน - นครปฐม ทางรถไฟมี 5 สาย
คอื สายเหนอื สายตะวนั ออกเฉียงเหนอื สายตะวนั ออก สายใต้ และสายแม่กลอง
3) การขนส่งทางล�ำน้�ำ ได้แก่ เส้นทางแม่กลอง และท่าจีน ซึ่งยังใช้ได้ไม่เต็มศักยภาพ
เนือ่ งจากปญั หาลำ� นำ�้ ตื้นเขนิ ในบางช่วง
2.1.5 สภาพเศรษฐกิจและรายได้
ภาพรวมเศรษฐกจิ
จงั หวดั ในเขตพน้ื ท่ี สสว.3 มกี ารพฒั นาและใชป้ ระโยชนท์ ดี่ นิ เพอื่ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ สงู
ซง่ึ เปน็ ผลมาจากการเปน็ พน้ื ทรี่ องรบั การขยายตวั ของกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ จากกรงุ เทพฯ อกี ทง้ั ยงั ไดร้ บั
การพฒั นาดา้ นโครงสรา้ งพนื้ ฐานคอ่ นขา้ งเพยี บพรอ้ ม ทำ� ใหม้ คี วามสะดวกในการคมนาคมขนสง่ ทงั้ ทางบก
ทางน้�ำ และทางอากาศ รวมทงั้ มีแหล่งน�้ำ และระบบชลประทานค่อนขา้ งสมบูรณ์เมอ่ื เทยี บกับพน้ื ทอ่ี ื่นๆ
และมีพ้ืนท่ีชายแดนติดกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จึงมีศักยภาพและโอกาสในการพัฒนา
ท้ังทางด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การค้า การท่องเท่ียวและบริการ ท�ำให้มีสัดส่วนการผลิตสูง
รองจากกรงุ เทพฯ และภาคตะวันออก
โครงสรา้ งเศรษฐกจิ ของพนื้ ทพี่ ง่ึ พงิ ภาคอตุ สาหกรรมมากทส่ี ดุ มสี ดั สว่ นการผลติ รอ้ ยละ 48.0
นอกจากสาขาอตุ สาหกรรมแล้วสาขาการผลติ หลักทสี่ �ำคญั รองลงมา คือ สาขาการค้า มีสดั สว่ นการผลติ
รอ้ ยละ 12.5 สาขาขนสง่ ร้อยละ 7.4 และสาขาเกษตรร้อยละ 4.8
ในปี 2560 จังหวัดที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์จังหวัดเฉลี่ยต่อหัวสูงที่สุดคือ จังหวัดสมุทรสาคร
411,326 บาท ส่วนจังหวัดที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์จังหวัดเฉลี่ยต่อหัวต่�ำที่สุดคือ สุพรรณบุรี 100,595 บาท
ซ่ึงตำ่� กวา่ จงั หวดั สมทุ รสาครถึง 3 เทา่ รายละเอยี ดดงั ตาราง 1
ตารางท่ี 1 ผลิตภัณฑต์ อ่ หวั หน่วย : บาทตอ่ ปี
จงั หวัด ผลติ ภณั ฑต์ อ่ หัว
นครปฐม 308,167
ราชบุรี 214,742
สุพรรณบุรี 100,595
กาญจนบรุ ี 121,570
สมทุ รสาคร 411,326
สมทุ รสงคราม 114,990
เพชรบรุ ี 143,460
ประจวบครี ีขนั ธ์ 198,434
ทม่ี า: ส�ำนกั งานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ขอ้ มูลปี พ.ศ. 2560)
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngษุ ยsiใ์ tนuaพt้ืนioทnี่ สสว.3 21
report
22 รHาuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrุษeยpใ์oนrtพ้ืนที่ สสว.3 2.1.6 ประชากรและเขตการปกครอง
ตารางที่ 2 ประชากรและเขตการปกครองรายจงั หวดั (เฉพาะผูม้ ีสัญชาตไิ ทย และมชี ่ืออยใู่ นทะเบียนบ้าน)
ข้อมลู นครปฐม ราชบุรี สพุ รรณบรุ ี จงั หวดั รวม
กาญจนบรุ ี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบรุ ี ประจวบครี ีขนั ธ์
1. ประชากร (คน) 836,253 5,136,438
รวม 903,729 840,582 403,372 809,121 544,429 190,374 476,179 535,771 2,493,243
ชาย 432,382 407,376 432,881 403,706 260,971 90,999 229,783 264,654 2,643,195
หญงิ 471,347 433,206 159,582 405,415 283,458 99,375 246,396 271,117 1,028,547
176,971 164,288 84,985 175,339 113,722 32,723 92,761 113,161
ตำ�่ กวา่ 18 ปี 103,263 92,238 422,830 94,053 59,075 18,590 50,033 63,670 565,907
18 - 25 ปี 467,024 423,731 168,856 418,457 284,966 96,042 243,127 270,146 2,626,323
26 – 59 ปี 156,470 160,323 121,270 86,663 43,019 90,258 88,793
60 ปี ขน้ึ ไป - 915,652
ไมท่ ราบปเี กิด 1 2 (20.19%) 2 3 - - 1 9
รอ้ ยละของประชากร (17.31%) (19.07%) (14.98%) (15.91%) (22.59%) (18.95%) (16.57%)
ท่ีมอี ายุ 60 ปขี ึน้ ไป 5,358.01 (17.82%)
2. เขตการปกครอง 2,168.33 5,196.46 10 19,483.15 872.35 416.71 6,225.14 6,367.62
พ้นื ท่ีจงั หวดั (ตร.กม.) 7 10 110 13 3 38 8 46,088
104 95 40 36 93 48 62
อำ� เภอ 106 975 1,008 959 632
ต�ำบล 930 290 284 698 435
หมบู่ า้ น 5,579
ที่มา : กรมการปกครอง (ขอ้ มูล ณ ธันวาคม พ.ศ. 2562)
จากตารางท่ี 2 ประชากรในเขตพื้นที่รับผิดชอบ สสว.3 มีจ�ำนวนรวมทั้งสิ้น 5,136,438 คน
เพศหญิงมากกว่าเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 51.46 โดยจังหวัดสมุทรสาครก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
อยา่ งสมบูรณ์ คิดเป็นร้อยละ 22.59 และจังหวดั สพุ รรณบุรี คิดเป็นรอ้ ยละ 20.19 ของจำ� นวนประชากร
ทั้งหมดในจังหวัด ซ่ึงมีสัดส่วนผู้สูงอายุมากกว่า ร้อยละ 20 และจังหวัดท่ีมีแนวโน้มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
อย่างสมบูรณ์ ไดแ้ ก่ จงั หวดั นครปฐม เพชรบรุ ี และจังหวัดราชบรุ ี โดยมีสัดสว่ นประชากรผู้สงู อายุร้อยละ
17.31 18.95 และ ร้อยละ 19.04 ตามล�ำดับ
ด้านเขตการปกครอง มีพื้นท่ีรวม 46,088 ตารางกิโลเมตร โดยเขตการปกครองเป็น 62 อ�ำเภอ
632 ต�ำบล 5,579 หมบู่ ้าน ลักษณะการตัง้ ถิ่นฐานของประชากร จะประกอบไปด้วยชุมชนเมอื งขนาดเลก็
จำ� นวนมาก แตพ่ นื้ ทส่ี ว่ นใหญย่ งั มลี กั ษณะชนบท ยกเวน้ บางชมุ ชนทเี่ ปน็ สถานทท่ี อ่ งเทย่ี ว ทงั้ นใ้ี นเมอื งใหญ่
เป็นเพียงศูนย์บริการระดับจังหวัดมากกว่าที่จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ท่ีมีอิทธิพลทางเศรษฐกิจ เหนือพ้ืนที่
ชนบทโดยรอบ
2.2 สถานะของการคา้ มนษุ ย์ระดบั จังหวดั
ภาพท่ี 6 เส้นทางการค้ามนษุ ย์จังหวดั
ตน้ ทาง หมายถงึ จงั หวดั ตน้ ทางมปี ระชาชนในพนื้ ทถ่ี กู หลอกลวงและตกเปน็ เหยอ่ื ขบวนการคา้ มนษุ ย์
เช่น การหลอกลวงไปบังคับใชแ้ รงงานและค้าประเวณีตา่ งประเทศ
ทางผา่ น หมายถงึ จงั หวดั ทางผา่ นคอื ขบวนการคา้ มนษุ ยเ์ ปน็ ทางผา่ นพาคนจากจงั หวดั ใกลเ้ คยี ง
ไปยงั จงั หวดั อนื่ ๆ
ปลายทาง จังหวัดปลายทาง มีการน�ำคนจากที่อ่ืน เขามาพักและแสวงหาประโยชน์จาก
การค้าประเวณีแอบแฝงในสถานบริการ/สถานประกอบการ
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngุษยsiใ์ tนuaพt้ืนioทnี่ สสว.3 23
report
สถานะการคา้ มนษุ ยใ์ นระดบั จงั หวดั หมายถงึ เสน้ ทางของกระบวนการคา้ มนษุ ยป์ ระเทศไทย
และประเทศเพอ่ื นบา้ น ประกอบดว้ ย 3 สถานะ ไดแ้ ก่ จงั หวดั ตน้ ทาง จงั หวดั ทางผา่ น และจงั หวดั ปลายทาง
โดยจังหวัดในเขตพ้ืนท่ีรับผิดชอบ สสว.3 ถือเป็นกลุ่มจังหวัดที่มีลักษณะเส้นทางกระบวนการค้ามนุษย์
ครอบคลุมทั้ง 3 สถานะ เน่ืองจากสภาพทางภูมิศาสตร์และการคมนาคมขนส่งในพ้ืนที่เอ้ืออ�ำนวยต่อ
กระบวนการคา้ มนุษย์
จังหวัดต้นทาง บางจังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 อาทิ จังหวัดราชบุรี และ
จังหวัดกาญจนบุรี มีขอบเขตพ้ืนที่จังหวัดชายแดนที่ติดกับประเทศเพ่ือนบ้าน หรือมีลักษณะเป็น
รอยตะเขบ็ ชายแดนระหวา่ งไทยกบั ประเทศเพอ่ื นบา้ น และมเี สน้ ทางเดนิ ธรรมชาตหิ ลายแหง่ โดยจงั หวดั
กาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่อยู่ติดชายแดน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซ่ึงมีแนวชายแดนยาวประมาณ
370 กิโลเมตร มีช่องทางเข้า – ออก ตามแนวชายแดน ประมาณ 43 จุด ประกอบกับพื้นที่ส่วนใหญ่
โดยรอบเปน็ ปา่ เขา เชน่ เดยี วกบั จงั หวดั ราชบรุ ที างดา้ นทศิ ตะวนั ตกทม่ี เี ทอื กเขาตะนาวศรเี ปน็ แนวพรมแดน
สันปันน้�ำกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ระยะความยาว 73 กิโลเมตร ท�ำให้เป็นต้นทาง
ของกระบวนการค้ามนุษย์ในรูปแบบต่างๆ เช่น จุดเริ่มต้นของการเคล่ือนย้ายแรงงานไปยังประเทศอ่ืน
หรอื การขนยา้ ยแรงงานที่ประสงค์เข้ามาท�ำงานในประเทศไทย โดยการลกั ลอบหลบหนีเขา้ เมืองอยา่ งผดิ
กฎหมาย หรอื กระบวนการค้าประเวณเี ดก็ เป็นต้น
จงั หวดั ทางผา่ น พบวา่ จงั หวดั ในเขตพนื้ ทคี่ วามรบั ผดิ ชอบของ สสว.3 ทกุ จงั หวดั มสี ถานะเปน็
ทางผา่ นของกระบวนการคา้ มนษุ ย์ เนอ่ื งจากเปน็ เสน้ ทางคมนาคมทมี่ คี วามสะดวกทง้ั ทางถนน รถไฟ และ
เรอื ซงึ่ มกั เปน็ เสน้ ทางผา่ นไปยงั จงั หวดั ใกลเ้ คยี ง หรอื สง่ ตอ่ ไปยงั จดุ หมายปลายทางจงั หวดั อน่ื หรอื ประเทศ
อื่น เช่น มาเลเซีย เป็นต้น นอกจากน้ียังถือเป็นกลุ่มจังหวัดที่ใช้เป็นที่พักระหว่างทางไปยังจุดหมายอ่ืน
ดว้ ยเชน่ กนั จากกรณตี วั อยา่ งจงั หวดั นครปฐม ชาวโรฮงิ ญาถกู นายหนา้ นำ� พาเดนิ ทางจากสาธารณรฐั แหง่
สหภาพเมยี นมา ซง่ึ มจี ดุ หมายปลายทางทปี่ ระเทศมาเลเซยี เดนิ ทางโดยรถยนตแ์ ละเดนิ เทา้ ผา่ นพรมแดน
ธรรมชาติบริเวณจังหวดั ตาก ถงึ เขตอำ� เภอเมอื งนครปฐมจงึ แวะพกั จะเดินทางต่อไปภาคใต้
จังหวัดปลายทาง พบว่า เป็นแรงงานลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เน่ืองจากกลุ่มจังหวัด
ในเขตพื้นที่ สสว.3 โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นท่ีโรงงานอุตสาหกรรมเกษตรและเกษตรแปรรูป อีกท้ังยังมี
สถานะเป็นจังหวัดปริมณฑล ติดกับกรุงเทพมหานคร ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร มีความเจริญและ
อัตราคา่ แรงข้นั ตำ�่ สงู นอกจากนยี้ งั เปน็ กล่มุ จังหวดั ทีม่ แี หล่งท่องเที่ยวส�ำคญั ได้แก่ จังหวดั สมุทรสงคราม
จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ และจงั หวดั เพชรบรุ ี จงึ เปน็ จงั หวดั ปลายทางของแรงงานตา่ งดา้ วทปี่ ระสงคล์ กั ลอบ
เข้าเมอื งอย่างผิดกฎหมาย เพือ่ เปน็ ลกู จา้ งในสถานประกอบการทั้งขนาดเลก็ และขนาดใหญ่
24 Hราuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrษุ eยpใ์oนrtพ้ืนที่ สสว.3
2.3 สถติ ทิ ่ีเกย่ี วขอ้ งกับสถานการณก์ ารค้ามนษุ ย์ (หนว่ ย : ครัง้ )
ตารางท่ี 3 จ�ำนวนการคดั แยกเหยือ่ จากการค้ามนษุ ย์ พ.ศ. 2560-2562
จงั หวดั 2560 2561 2562 รวม 3 ปี
นครปฐม 0 10 7 17
ราชบรุ ี 0 4 3 7
สพุ รรณบรุ ี 1 1 6 8
กาญจนบุรี 0 0 4 4
สมทุ รสาคร 9 5 10 24
สมทุ รสงคราม 1 1 0 2
เพชรบรุ ี 42 21 16 79
ประจวบคีรขี ันธ์ 3 10 15 28
ท่มี า : ศูนย์ปฏิบตั ิการปอ้ งกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัด (ศปคม.จังหวัด)
การคดั แยกเหยอื่ จากการคา้ มนษุ ย์ ปี พ.ศ. 2560-2562 พบวา่ จงั หวดั ทม่ี กี ารคดั แยกเหยอื่ มากทส่ี ดุ
ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี จ�ำนวน 79 ครั้ง รองลงมา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จ�ำนวน 28 ครั้ง และ
จังหวัดสมุทรสาคร จ�ำนวน 24 ครั้ง ส่วนจังหวัดท่ีมีจ�ำนวนคร้ังการคัดแยกเหย่ือจากการค้ามนุษย์
นอ้ ยท่สี ดุ คือ จังหวดั สมทุ รสงคราม จำ� นวน 2 คร้งั
ตารางท่ี 4 จ�ำนวนผเู้ สยี หายจากการคัดแยกเหยอื่ จากการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2560-2562
(หน่วย : คน)
จังหวดั 2560 2561 2562 รวม 3 ปี
นครปฐม 5 14 27 46
ราชบรุ ี 1 1 0 2
สุพรรณบุรี 1 1 7 9
กาญจนบุรี 0 0 7 7
สมทุ รสาคร 4 0 0 4
สมทุ รสงคราม 1 3 0 4
เพชรบรุ ี 0 0 1 1
ประจวบคีรขี นั ธ์ 2 0 72 74
ทม่ี า : ฐานข้อมูลของประเทศไทยด้านการด�ำเนนิ คดีและการชว่ ยเหลือผ้เู สยี หายจากการค้ามนุษย์ (E-AHT)
ผู้เสียหายจากการคัดแยกเหย่ือค้ามนุษย์ ปี พ.ศ. 2560-2562 พบว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
มีผู้เสียหายจากการคา้ มนุษย์มากทส่ี ุด จำ� นวน 74 คน รองลงมา จงั หวดั นครปฐม 46 คน ส่วนจงั หวัดท่มี ี
จ�ำนวนผูเ้ สยี หายจากการค้ามนษุ ยน์ อ้ ยทีส่ ดุ คือ จงั หวัดเพชรบุรี จ�ำนวน 1 คน
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngษุ ยsiใ์ tนuaพt้ืนioทnี่ สสว.3 25
report
ตารางที่ 5 จ�ำนวนผู้เสยี หายจากการคา้ มนุษย์ จ�ำแนกตามเพศ พ.ศ. 2560-2562 (หนว่ ย : คน)
รวมเพศ 3 ปี
จงั หวัด เพศ 2560 2561 2562
25
นครปฐม ชาย 3 12 10 21
หญงิ 2 2 17
ราชบรุ ี ชาย 0 0 0 0
หญงิ 1 1 0 2
สุพรรณบุรี ชาย 0 1 0 1
หญิง 1 0 7 8
กาญจนบุรี ชาย 0 0 6 6
หญิง 0 0 1 1
สมุทรสาคร ชาย 0 0 0 0
หญงิ 4 0 0 4
สมุทรสงคราม ชาย 0 0 0 0
หญิง 1 3 0 4
เพชรบุรี ชาย 0 0 0 0
หญงิ 0 0 1 1
ประจวบคีรีขันธ์ ชาย 0 0 59 59
หญงิ 2 0 13 15
ทม่ี า : ฐานข้อมูลของประเทศไทยดา้ นการด�ำเนนิ คดีและการชว่ ยเหลอื ผ้เู สียหายจากการคา้ มนุษย์ (E-AHT)
ผเู้ สยี หายจากการคา้ มนษุ ยแ์ บง่ ตามเพศ ปี พ.ศ. 2560-2562 พบวา่ สว่ นใหญเ่ ปน็ เพศชาย จำ� นวน
ทง้ั สน้ิ 87 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 59.59 และเพศหญงิ จำ� นวน 59 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 40.41 ดงั แผนภมู ดิ า้ นลา่ ง
26 Hราuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrุษeยpใ์oนrtพ้ืนที่ สสว.3
ตารางท่ี 6 จำ� นวนผู้เสียหายคดคี ้ามนุษย์ จำ� แนกตามสญั ชาติ พ.ศ. 2560-2562 (หนว่ ย : คน)
2560 2561 2562
จงั หวดั กัมพูชา
ลาว
ไทย
เ ีมยนมา
กัมพูชา
ลาว
ไทย
เ ีมยนมา
กัมพูชา
ลาว
ไทย
เ ีมยนมา
โร ิฮงญา
นครปฐม 1 0 2 0 0 0 2 12 3 0 0 0 24
0
ราชบรุ ี 0 0 1 0 0 0 1 0 0 0 0 0 0
0
สุพรรณบุรี 0 0 1 0 0 0 1 0 0 3 3 1 0
0
กาญจนบุรี 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 7 0
0
สมทุ รสาคร 0 1 3 0 0 0 0 0 0 0 0 0 24
สมทุ รสงคราม 0 0 1 0 0 0 3 0 0 0 0 0
เพชรบรุ ี 000000000010
ประจวบคีรีขนั ธ์ 0 0 2 0 0 0 0 0 0 0 0 72
รวมสัญชาติ 1 1 10 0 0 0 7 12 3 3 4 80
ที่มา : ฐานขอ้ มูลของประเทศไทยดา้ นการด�ำเนินคดีและการช่วยเหลอื ผู้เสยี หายจากการคา้ มนษุ ย์ (E-AHT)
ผ้เู สียหายจากการคา้ มนษุ ยแ์ บง่ ตามสญั ชาติ ปี พ.ศ. 2560-2562 ในเขตพนื้ ที่รับผดิ ชอบ สสว.3
พบว่า ส่วนใหญ่เป็นสัญชาติสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จ�ำนวนทั้งส้ิน 92 คน รองลงมาสัญชาติ
โรฮิงญา จ�ำนวน 24 คน สว่ นสญั ชาติกัมพชู า และสญั ชาตลิ าวมนี อ้ ยท่สี ุด จำ� นวน 8 คน
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngุษยsiใ์ tนuaพt้ืนioทnี่ สสว.3 27
report
ตารางท่ี 7 จ�ำนวนผตู้ ้องหาคดั แยกเหยื่อจากการคา้ มนษุ ย์ พ.ศ. 2560-2562 (หนว่ ย : คน)
จังหวดั 2560 2561 2562 รวม 3 ปี
นครปฐม 4 5 17 26
ราชบรุ ี 3 1 0 4
สุพรรณบรุ ี 1 2 10 13
กาญจนบรุ ี 0 0 1 1
สมุทรสาคร 6 0 0 6
สมุทรสงคราม 1 5 0 6
เพชรบุรี 0 0 7 7
ประจวบคีรีขันธ์ 2 0 27 29
ท่ีมา : ฐานข้อมูลของประเทศไทยดา้ นการด�ำเนนิ คดแี ละการชว่ ยเหลอื ผ้เู สยี หายจากการคา้ มนุษย์ (E-AHT)
ผู้ต้องหาจากการคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์ ปี พ.ศ. 2560-2562 พบว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
มผี ูต้ อ้ งหาจากการคา้ มนุษย์มากที่สุด จ�ำนวน 29 คน รองลงมาเป็นจงั หวัดนครปฐม 26 คน สว่ นจงั หวัด
ทมี่ ีจ�ำนวนผ้ตู อ้ งหานอ้ ยท่สี ดุ คือ จังหวัดกาญจนบรุ ี จ�ำนวน 1 คน
ตารางท่ี 8 จ�ำนวนผ้ตู อ้ งหาคัดแยกเหยือ่ จากการค้ามนษุ ย์ จ�ำแนกตามเพศ พ.ศ. 2560-2562
(หนว่ ย : คน)
จังหวดั เพศ 2560 2561 2562 รวมเพศ 3 ปี
ชาย 2 2 14 18
นครปฐม หญิง 2 338
ราชบุรี ชาย 1 001
สุพรรณบรุ ี หญิง 2 103
กาญจนบุรี ชาย 0 055
สมทุ รสาคร หญงิ 1 258
สมทุ รสงคราม ชาย 0 000
เพชรบรุ ี หญิง 0 011
ประจวบครี ขี นั ธ์ ชาย 2 002
หญิง 4 004
ชาย 0 202
หญิง 1 304
ชาย 0 055
หญิง 0 022
ชาย 1 0 22 23
หญิง 1 056
ที่มา : ฐานข้อมูลของประเทศไทยดา้ นการด�ำเนนิ คดีและการช่วยเหลอื ผเู้ สียหายจากการค้ามนุษย์ (E-AHT)
28 รHาuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrษุ eยpใ์oนrtพ้นื ที่ สสว.3
ผู้ต้องหาจากการค้ามนุษย์แบ่งตามเพศ ปี พ.ศ. 2560-2562 ในเขตพ้ืนท่ีรับผิดชอบ สสว.3
พบว่า ส่วนใหญเ่ ป็นเพศชาย จ�ำนวนท้ังสน้ิ 56 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 60.87 และเพศหญงิ จ�ำนวน 36 คน
คดิ เปน็ ร้อยละ 39.13 ดงั แผนภูมิดา้ นลา่ ง
ตารางที่ 9 จำ� นวนผู้ต้องหาคดคี า้ มนุษย์ จ�ำแนกตามสัญชาติ พ.ศ. 2560-2562 (หน่วย : คน)
2560 2561 2562
จงั หวัด
ักมพูชา
ไทย
ไทย
ักม ูพชา
ไทย
เมียนมา
มาเลเซีย
ไม่ทราบ
ัสญชา ิต
นครปฐม 1353931 1
0
ราชบรุ ี 0 3 1 0 0 0 0 0
สุพรรณบรุ ี 0 1 2 0 10 0 0 0
กาญจนบรุ ี 0 0 0 0 0 1 0 0
สมุทรสาคร 0 6 0 0 0 0 0 0
สมทุ รสงคราม 0 1 5 0 0 0 0 0
เพชรบรุ ี 0000700 0
1
ประจวบคีรขี นั ธ์ 0 2 0 0 18 9 0
รวมสัญชาติ 1 16 13 3 44 13 1
ทม่ี า : ฐานขอ้ มูลของประเทศไทยด้านการด�ำเนนิ คดีและการช่วยเหลือผเู้ สียหายจากการค้ามนุษย์ (E-AHT)
ผตู้ อ้ งหาจากการคา้ มนษุ ยจ์ ำ� แนกตามสญั ชาติ ปี พ.ศ. 2560-2562 ในเขตพน้ื ทรี่ บั ผดิ ชอบ สสว.3
พบว่า สว่ นใหญ่เปน็ สัญชาติไทย จ�ำนวนท้ังสิ้น 73 คน รองลงมาสญั ชาติสาธารณรัฐแหง่ สหภาพเมยี นมา
จ�ำนวน 13 คน ส่วนสัญชาติกัมพูชามีจ�ำนวนน้อยที่สุด 4 คน นอกจากน้ียังเป็นสัญชาติมาเลเซีย
จ�ำนวน 1 คน และไม่พบสญั ชาติ จ�ำนวน 1 คน
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngุษยsiใ์ tนuaพt้นืioทnี่ สสว.3 29
report
ตารางที่ 10 จำ� นวนคดกี ารคา้ มนุษย์ พ.ศ. 2560-2562
(หนว่ ย : คดี)
จังหวัด 2560 2561 2562 รวม 3 ปี
นครปฐม 4 3 2 9
ราชบรุ ี 1 1 0 2
สพุ รรณบรุ ี 1 1 6 8
กาญจนบุรี 0 0 2 2
สมทุ รสาคร 4 0 0 4
สมุทรสงคราม 1 3 0 4
เพชรบุรี 0 0 1 1
ประจวบครี ขี นั ธ์ 1 0 3 4
ท่มี า : ฐานข้อมูลของประเทศไทยด้านการดำ� เนินคดแี ละการช่วยเหลือผเู้ สยี หายจากการคา้ มนุษย์ (E-AHT)
หมายเหตุ : สำ� นวนคดี หมายถงึ สำ� นวนคดใี นช้นั พนกั งานสอบสวน
จ�ำนวนคดีการค้ามนุษย์ ปี พ.ศ. 2560-2562 พบว่า จังหวัดนครปฐม มีจ�ำนวนคดีมากท่ีสุด
จำ� นวน 9 คดี รองลงมา จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี จำ� นวน 8 คดี สว่ นจงั หวดั ทมี่ จี ำ� นวนคดกี ารคา้ มนษุ ยน์ อ้ ยทส่ี ดุ
คือ จงั หวัดเพชรบรุ ี จ�ำนวน 1 คดี
30 รHาuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrุษeยpใ์oนrtพ้นื ที่ สสว.3
ตารางท่ี 11 จ�ำนวนคดีการค้ามนุษย์ จ�ำแนกตามรูปแบบการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
พ.ศ. 2560-2562
(หน่วย : คด)ี
2560 2561 2562
จงั หวัด ค้าประเว ีณ
ใ ้ชบัแงรงคังบาน
น�ขำอคทนามนา
ค้าประเว ีณ
บัแงรงคังบาใน ้ช
�นขำอคทนามนา
ค้าประเว ีณ
ใ ้ชบัแงรงคังบาน
ูขด ีรด
เเอป็านคทนาลสง
นครปฐม 2 0 2 2 1 0 0 1 1 0
ราชบรุ ี 1 0 0 0 0 1 0 0 0 0
สุพรรณบุรี 1 0 0 0 0 2 4 2 0 0
กาญจนบรุ ี 0 0 0 0 0 0 0 0 2 0
สมทุ รสาคร 3 1 0 0 0 0 0 0 0 0
สมุทรสงคราม 1 0 0 3 0 0 0 0 0 0
เพชรบรุ ี 0000001000
ประจวบคีรขี ันธ์ 1 0 0 0 0 0 0 0 1 2
รวมคดี 9125135342
ทีม่ า : ฐานข้อมลู ของประเทศไทยด้านการด�ำเนนิ คดีและการช่วยเหลือผู้เสยี หายจากการคา้ มนุษย์ (E-AHT)
รูปแบบการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการค้ามนุษย์ ปี พ.ศ.2560-2562 ในเขตพ้ืนที่
รับผดิ ชอบ สสว.3 พบว่า สว่ นใหญ่มีรูปแบบการค้าประเวณีมากทส่ี ุด จ�ำนวน 19 คดี รองลงมา คือ บังคบั
ใชแ้ รงงานและน�ำคนมาขอทาน จำ� นวนละ 5 คดี ส่วนรปู แบบเอาคนลงเป็นทาสนอ้ ยทสี่ ดุ จ�ำนวน 2 คดี
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngษุ ยsiใ์ tนuaพt้นืioทnี่ สสว.3 31
report
ตารางท่ี 12 จำ� นวนแรงงานต่างด้าวท่ไี ดร้ บั อนญุ าตทำ� งานคงเหลือ พ.ศ. 2560–2562
(หน่วย : คน)
จังหวดั 2560 2561 2562
นครปฐม 111,035 138,892 209,264
ราชบุรี 27,956 20,735 50,489
สพุ รรณบุรี 9,253 9,203 17,432
กาญจนบุรี 15,786 14,485 29,329
สมทุ รสาคร 220,571 190,020 247,915
สมุทรสงคราม 10,712 5,484 12,103
เพชรบรุ ี 16,008 16,966 19,283
ประจวบคีรีขนั ธ์ 32,140 17,938 30,481
ที่มา : ส�ำนกั บรหิ ารแรงงานตา่ งด้าว กรมการจดั หางาน
แรงงานตา่ งดา้ วทไี่ ดร้ บั อนญุ าตทำ� งานคงเหลอื พบวา่ ปจั จบุ นั จงั หวดั ทม่ี แี รงงานตา่ งดา้ วมากทส่ี ดุ
อยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร จ�ำนวน 247,915 คน รองลงมาจังหวัดนครปฐม จ�ำนวน 209,264 คน
และจงั หวดั ราชบรุ ี จำ� นวน 50,489 คน ทง้ั นจ้ี ากขอ้ มลู 3 ปยี อ้ นหลงั ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. 2560 - พ.ศ. 2561 พบวา่
จ�ำนวนแรงงานต่างด้าว จากปี พ.ศ. 2561 มีจำ� นวนเพ่มิ สูงข้ึนอยา่ งก้าวกระโดด ในปี พ.ศ. 2562
ตารางที่ 13 จ�ำนวนเรือประมงท่ีได้รับใบอนุญาตท�ำการประมงพาณิชย์ ท�ำการประมงในพื้นท่ี
พ.ศ.2560–2562
(หน่วย : ล�ำ)
จังหวัด 2560 2561 2562
นครปฐม - - -
ราชบุรี - - -
สพุ รรณบรุ ี - - -
กาญจนบุรี - - -
สมุทรสาคร 662 880 905
สมทุ รสงคราม 572 1,044 1,082
เพชรบรุ ี 559 1,262 1,236
ประจวบคีรขี ันธ์ 473 1,152 1,171
ท่มี า : กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เรอื ประมงในเขตพนื้ ที่ สสว.3 พบเฉพาะกลมุ่ จงั หวดั ทมี่ ภี มู ศิ าสตรต์ ดิ ทะเลอา่ วไทย 4 จงั หวดั ไดแ้ ก่
จงั หวดั สมทุ รสาคร จงั หวดั สมทุ รสงคราม จงั หวดั เพชรบรุ ี และจงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ โดยพบวา่ จงั หวดั ทม่ี ี
เรอื ประมงมากทสี่ ดุ คอื จงั หวดั เพชรบรุ ี จำ� นวน 1,236 ลำ� รองลงมาจงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ จำ� นวน 1,171 ลำ�
ส่วนจงั หวัดสมุทรสาครคอื จงั หวัดท่มี จี ำ� นวนเรอื ประมงนอ้ ยท่ีสุด จ�ำนวน 905 ลำ� จากสถติ ิ 3 ปยี ้อนหลัง
ตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2560 - พ.ศ. 2561 พบว่า ทกุ จังหวัดมจี ำ� นวนเรือประมงเพมิ่ ข้นึ
32 รHาuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrษุ eยpใ์oนrtพ้ืนที่ สสว.3
ตารางที่ 14 จ�ำนวนโรงงานท่ีได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535
ปี พ.ศ. 2560-2562
(หนว่ ย : แหง่ )
จังหวดั 2560 2561 2562
นครปฐม 3,396 3,493 3,671
ราชบุรี 1,875 1,915 1,982
สพุ รรณบุรี 1,205 1,200 1,299
กาญจนบุรี 1,675 1,702 1,747
สมุทรสาคร 6,191 6,557 6,918
สมุทรสงคราม 315 330 338
เพชรบรุ ี 772 782 817
ประจวบคีรขี ันธ์ 710 731 746
ท่มี า : กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอตุ สาหกรรม
จ�ำนวนโรงงานอุตสาหกรรมในเขตพื้นท่ีรับผิดชอบ สสว.3 พบมากที่สุด คือ จังหวัดสมุทรสาคร
จ�ำนวน 6,918 แห่ง รองลงมาจังหวัดนครปฐม 3,671 แห่ง และจังหวัดราชบุรี จ�ำนวน 1,982 แห่ง
จากสถิติ 3 ปยี อ้ นหลัง ตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2560 - พ.ศ. 2561 พบว่า ทุกจังหวดั มจี ำ� นวนโรงงานอุตสาหกรรม
เพม่ิ ขน้ึ
ตารางที่ 15 จำ� นวนโรงแรมและสถานบริการ
(หน่วย : แหง่ )
จงั หวดั โรงแรม สถานบรกิ าร
นครปฐม 66 18
ราชบรุ ี 285 9
สุพรรณบุรี 143 25
กาญจนบรุ ี 519 17
สมุทรสาคร 148 148
สมทุ รสงคราม 295 1
เพชรบรุ ี 428 16
ประจวบคีรขี นั ธ์ 949 8
ที่มา : สำ� นักงานสถติ ิ 2561, กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย 2562
จ�ำนวนโรงแรมในเขตพ้ืนที่รับผิดชอบ สสว.3 พบมากท่ีสุด คือ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จ�ำนวน
949 แหง่ รองลงมาจังหวัดกาญจนบรุ ี จำ� นวน 519 แหง่ โดยจงั หวัดนครปฐมมจี �ำนวนโรงแรมน้อยท่ีสดุ
จ�ำนวน 66 แห่ง ส่วนจ�ำนวนสถานบริการ พบว่า จังหวัดสมุทรสาคร มีจ�ำนวนสถานบริการมากท่ีสุด
จ�ำนวน 148 แห่ง รองลงมาจังหวัดสุพรรณบุรี 25 แห่ง และจังหวัดที่มีจ�ำนวนสถานบริการน้อยท่ีสุด
คือ จงั หวดั สมทุ รสงคราม จ�ำนวน 1 แหง่
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngุษยsiใ์ tนuaพt้นืioทnี่ สสว.3 33
report
ตารางท่ี 16 ขอ้ มูลดา้ นเศรษฐกจิ ท่เี กย่ี วข้อง
จังหวดั รายได้เฉล่ยี ค่าใชจ้ า่ ย หนีส้ ิน รายได้ จ�ำนวน อัตรา
นครปฐม (เดอื น/ (เดอื น/ (ครวั เรอื น) ต่อหัว (GDP) คนจน การว่างงาน
ครวั เรือน) ครัวเรือน) 75,904.34 308,167 24,600
32,760.69 24,962.41 4,320
ราชบุรี 33,622.28 22,833.63 255,929.54 214,742 91,500 6,985
สุพรรณบุรี 20,440.57 14,244.50 45,861.04 100,595 145,900 759
กาญจนบุรี 20,564.74 20,738.75 157,164.45 121,570 12,000 1,885
สมทุ รสาคร 25,446.01 20,573.08 104,677.28 411,326 52,000 2,961
สมทุ รสงคราม 30,182.85 18,755.08 130,743.39 114,990 13,800 593
เพชรบุรี 27,232.09 20,207.39 226,174.50 143,460 32,800 2,168
ประจวบครี ีขนั ธ์ 28,466.60 23,513.15 160,756.74 198,434 34,600 658
ทีม่ า : รายได้เฉลี่ยตอ่ เดือนตอ่ ครวั เรือน 2560 : สำ� นักงานสถติ ิแห่งชาติ
ค่าใชจ้ า่ ยโดยเฉล่ียต่อเดือนต่อครัวเรือน 2561 : สำ� นักงานสถติ แิ หง่ ชาติ
หน้ีสนิ เฉล่ียต่อครัวเรือน 2560 : สำ� นักงานสถิติแหง่ ชาติ
รายไดเ้ ฉลยี่ ตอ่ หวั ของประชากร 2560, จำ� นวนคนจน 2561, อตั ราการวา่ งงาน 2562 : สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ
34 รHาuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrุษeยpใ์oนrtพ้ืนที่ สสว.3
บทท่ี 3
บทวเิ คราะห์การจดั ระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์
3.1 แนวคิดการจัดระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์
3.1.1 กรอบแนวคดิ
จากฐานขอ้ มลู สถานการณก์ ารคา้ มนษุ ยร์ ะดบั ประเทศ ดา้ นการดำ� เนนิ คดแี ละการชว่ ยเหลอื
ผเู้ สยี หายจากการคา้ มนษุ ย์ (Olap-Eaht) ประกอบดว้ ย จำ� นวนคดี จำ� นวนผเู้ สยี หาย จำ� นวนผตู้ อ้ งหา และ
ขอ้ มลู สถติ ิท่เี กย่ี วข้อง ได้แก่ จำ� นวนแรงงานต่างด้าว จ�ำนวนโรงแรม จ�ำนวนสถานบรกิ าร จ�ำนวนโรงงาน
จ�ำนวนชอ่ งทางการค้ามนุษย์ อัตราการวา่ งงาน รายไดเ้ ฉลี่ยครัวเรอื นตอ่ เดือน หนสี้ ินครวั เรือน คา่ ใช้จ่าย
ครัวเรือน GDP ภายในจังหวัด และจ�ำนวนคนจน น�ำมาจัดระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ของจังหวัด
(Grouping) ตามกรอบแนวคิด ดังนี้
ภาพที่ 7 กรอบแนวคดิ การจัดระดบั สถานการณ์การค้ามนุษย์
3.1.2 เครือ่ งมือ
สถติ ใิ นการวเิ คราะหห์ าคา่ สมั ประสทิ ธส์ิ หสมั พนั ธ์ (Correlation coefficient) แบบเพยี รส์ นั
(Pearson product-moment correlation coefficient) เพ่ือวัดความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล 2 ชุด
ทอ่ี ยใู่ นรปู ของขอ้ มลู ในมาตราอนั ตรภาคหรอื อตั ราสว่ น และ สเปยี รแ์ มน (Spearman rank correlation
coefficient) ใช้วัดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร หรือ ข้อมูล 2 ชุด โดยตัวแปรอยู่ในรูปของข้อมูลใน
มาตรจดั อนั ดบั (Ordinal scale) และหาขนาดความสมั พนั ธใ์ ช้ Odds ratio (OR) ตามกรอบการวเิ คราะห์
และเกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นลา่ ง
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngษุ ยsiใ์ tนuaพt้ืนioทnี่ สสว.3 35
report
3.1.3 เกณฑ์การให้คะแนน
เกณฑ์การใหค้ ะแนนระดบั สถานการณ์การคา้ มนุษย์ แบ่งเปน็ 4 ระดับ ประกอบดว้ ย
ระดบั ปกติ 0.00 - 0.50
เลก็ นอ้ ย 0.50 - 0.75
เฝ้าระวงั 0.75 - +1.5IR
เฝ้าระวงั เปน็ พิเศษ +1.5IR
P1 P50 P75 extreme
outlier
ค่าคะแนน 12 34
อัตราส่วนจ�ำนวนคดี
อตั ราสว่ นจ�ำนวนผตู้ ้องหา 0 1.3300 3.1650 6.9070
อัตราส่วนจำ� นวนผูเ้ สียหาย 0 2.6667 7.0000 16.0000
0 2.3330 11.8330 28.5830
36 Hราuยmงาaนnสtrถaาfนficกkาiรnณg กs์ iาtuรaคtา้ ioมnนrษุ eยpใ์oนrtพ้ืนที่ สสว.3
เกณฑก์ ารใหร้ ะดบั สถานการณ์การค้ามนุษย์
ปกติ เกิดการกระท�ำการค้ามนุษย์ในพน้ื ทน่ี อ้ ยมาก P50
เลก็ น้อย เกิดการกระทำ� การค้ามนษุ ย์ในพนื้ ทนี่ ้อย P75
เฝ้าระวงั P75-1.5IR
เฝ้าระวังเปน็ พเิ ศษ เกิดการกระทำ� การค้ามนษุ ย์ในพ้นื ทมี่ าก
ต้องมีการเฝา้ ระวงั อย่างเขม้ งวด Max
เกิดการกระท�ำการคา้ มนุษยใ์ นพื้นทีม่ ากที่สดุ
ตอ้ งได้รบั การแกไ้ ขอยา่ งเรง่ ดว่ น
3.2 ระดบั สถานการณก์ ารคา้ มนษุ ย์
3.2.1 การจดั ระดับสถานการณก์ ารค้ามนุษย์ประเทศไทย
การจัดระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์พิจารณาจากการน�ำผลการวิเคราะห์สถิติถดถอย
ประกอบดว้ ย ข้อมลู สถานการณก์ ารคา้ มนุษย์ 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ จำ� นวนคดี จ�ำนวนผูเ้ สียหาย จ�ำนวนผู้ต้องหา
(คา่ น�ำ้ หนกั 30:30:40) โดยมเี กณฑก์ ารใหร้ ะดบั สถานการณก์ ารค้ามนุษย์ 4 ระดับ ดังน้ี
ระดับสถานการณก์ ารค้ามนุษย์ จ�ำนวนคดี จำ� นวนผ้ตู อ้ งหา จ�ำนวนผูเ้ สยี หาย
ปกติ (1 คะแนน) 0.000 - 1.333 0.000 - 2.667 0.000 - 2.333
เล็กน้อย (2 คะแนน) 1.334 - 3.165 2.668 - 7.000 2.334 – 11.833
เฝ้าระวงั (3 คะแนน) 3.166 - 6.907 7.001 – 16.000 11.834 – 28.583
เฝา้ ระวังเป็นพเิ ศษ (4 คะแนน) มากกว่า 6.907 มากกวา่ 16.000 มากกวา่ 28.583
คะแนนรวม (4 คะแนน) 0.00 – 1.00 1.01 – 2.00 2.01 - 3.00 3.01-4.00
ระดับสถานการณก์ ารคา้ มนษุ ย์ (ปกติ) (เล็กน้อย) (เฝ้าระวงั ) (เฝา้ ระวังเปน็ พิเศษ)
รายงานสถาHนuกmารaณnก์ trาaรfคficา้ kมiนngุษยsiใ์ tนuaพt้นืioทnี่ สสว.3 37
report