90
6.4 เมือ่ ต้องการท่จี ะพดู คยุ กับเพอื่ นท่ีกาลังออนไลนอ์ ยู่ ให้คลกิ ไปทชี่ อ่ื เพอ่ื นจะปรากฏหน้าจอสาหรับสนทนากับ
เพื่อนท่ผี ใู้ ชต้ อ้ งการจะสนทนาดว้ ย โดยแตล่ ะส่วนของหนา้ จอการสนทนามีดงั น้ี
7.ผูเ้ รียนทดลองส่ง E-mail โดยเขยี นเน้อื หา และมกี ารส่งไฟลต์ ่างๆ ใหก้ บั เพื่อนมากกวา่ 5 คน พร้อมทงั้ สง่ ใหค้ รูผสู้ อนด้วย
(Capture) ประกอบเนือ้ หา)
8.ผเู้ รียนสาธติ การใช้งานโปรแกรมส่อื สารข้อมลู โปรแกรมอ่นื ๆ 1 โปรแกรม
9.ครูแนะนาให้ผเู้ รยี นร้จู กั การนาเอาความพอเพยี งไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์ ซ่ึงเปน็ ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล รวมถงึ
ความจาเป็นที่ต้องมรี ะบบภูมิคุ้มกนั ในตัวทด่ี พี อสมควรต่อผลกระทบใดๆ อนั เกิดจากการเปล่ียนแปลงท้ังภายนอกและภายใน การ
ตดั สินใจและการดาเนนิ กจิ กรรมตา่ งๆใหอ้ ยู่ในระดบั พอเพยี งนนั้ ตอ้ งอาศัยท้งั ความรแู้ ละคุณธรรมเป็นพ้ืนฐาน
10.ผู้เรยี นทาแบบฝกึ ปฏิบตั ิ
ข้ันสรุปและการประเมนิ ผล
11.ครแู ละผเู้ รียนสรปุ การใชง้ านโปรแกรมทีใ่ ชใ้ นการส่งจดหมายอเิ ล็กทรอนิกส์ (E-mail) และการใชง้ านโปรแกรมทใ่ี ชใ้ นการ
สอื่ สารในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยถามตอบ และการฝึกปฏบิ ตั ิเพอื่ ให้เกดิ ทักษะการเรยี นรู้ เพอ่ื การประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวนั
12.ครแู นะนาใหผ้ ู้เรียนนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวนั
13.สรปุ เน้ือหาในหนว่ ยการเรียนอกี ครง้ั โดยวิธีถาม–ตอบและซักถามข้อสงสัย ผู้เรยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และ
แบบประเมินตนเอง
ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ
รายการประเมิน =9-10 =7-8 =5-6 =ตา่ กวา่ 5 คะแนน
คะแนน
1.การกล่าวนา แนะนาตวั และเพ่อื นร่วมงาน
2.จุดประสงคใ์ นการทางาน แหลง่ ขอ้ มูล วิธกี ารทางาน
3.ออกเสยี ง ชัดเจน ถกู ตอ้ ง
4.นา้ เสียงเหมาะสม
5.ตัวอยา่ งประกอบมสี ่อื ชดั เจน
6.ลาดบั ความคิดได้ดี
7.ทา่ ทางเหมาะสม
91
แบบประเมนิ ประสบการณพ์ ื้นฐานการเรยี นรู้
ชื่อผู้เรียน ประสบการณพ์ นื้ ฐานการเรยี นรู้ วธิ ีการเรียนรู้
ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน
1.
2.
3.
4.
5.
ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1.หนงั สือเรียน วิชาเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรเ์ บอื้ งตน้ ของสานักพมิ พ์เอมพนั ธ์
2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.แผน่ ใส
5.สื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์ สอ่ื VDO และสื่อ PowerPoint
6.แบบประเมินผลการเรียนรู้
หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายช่อื
3.แผนจัดการเรียนรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวดั ผลและการประเมนิ ผล
วิธวี ดั ผล
1. สงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่
4 ตรวจกิจกรรมสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้
5. ตรวจแบบประเมนิ กจิ กรรมสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ และแบบประเมนิ ค่านยิ ม 12
ประการ
6. ตรวจใบงาน
7. ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝึกปฏบิ ตั ิ
8. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
เครือ่ งมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. แบบประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ (โดยคร)ู
3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยผเู้ รยี น)
4. แบบประเมนิ กิจกรรมส่งเสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้
5. แบบประเมนิ กิจกรรมส่งเสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ และแบบประเมนิ ค่านิยม 12 ประการ
6. แบบประเมินกจิ กรรมใบงาน
7. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝกึ ปฏิบตั ิ
8. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รียนร่วมกนั ประเมิน
92
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไมม่ ีชอ่ งปรับปรุง
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ข้ึนไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50% ข้นึ ไป)
4. ตอบคาถามในกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้จึงจะถอื ว่าผา่ น
เกณฑ์การประเมิน มีเกณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดีมาก, 3 = ดี, 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรงุ
5. กจิ กรรมใบงาน เกณฑ์ผา่ น คอื 50%
6. แบบประเมนิ กิจกรรมสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ และแบบประเมนิ คา่ นิยม 12 ประการ
ต้องไม่มีชอ่ งปรับปรุง
7. แบบประเมินผลการเรยี น และแบบฝกึ ปฏิบัตริ มู้ เี กณฑผ์ ่าน 50%
ค แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขนึ้ อย่กู บั การประเมนิ ตาม
สภาพจรงิ
กจิ กรรมเสนอแนะ
1.ผเู้ รียนควรฝึกทักษะในการใช้งานด้านคอมพิวเตอร์ให้สมา่ เสมอ
2.อ่านและทบทวนเนื้อหา
แบบประเมนิ ผลการเรียน้รหู้ นว่ ยที่ 7
จงเลือกคาตอบท่ถี ูกตอ้ งเพยี งข้อเดยี ว
1 ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีกลา่ วถึงโปรแกรมประยุกตไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง
1. โปรแกรมประยกุ ต์เป็นโปรแกรมทีค่ วบคมุ การทางานของคอมพวิ เตอร์
2. โปรแกรมประยุกต์เป็นโปรแกรมท่ีทาหนา้ ท่ีจดั สรรทรัพยากรคอมพิวเตอร์
3. โปรแกรมประยุกตเ์ ป็นโปรแกรมที่ทางานเฉพาะอยา่ งเพ่อื ช่วยในการทางาน
4. โปรแกรมประยุกตเ์ ปน็ โปรแกรมทีท่ าหน้าท่ีทาให้ผใู้ ช้ใชง้ านคอมพิวเตอรไ์ ดง้ ่ายขึ้น
2 ข้อใดตอ่ ไปน้ีคือโปรแกรมประยกุ ต์
1. Windows 7 2. Scan Virus 3. Deferments 4. Microsoft Word
3 ข้อใดตอ่ ไปน้ีกล่าวถงึ โปรแกรม Web Browser ไดถ้ ูกต้อง
1. เปน็ โปรแกรมทีค่ วบคุมการทางานของคอมพวิ เตอร์
2. เปน็ โปรแกรมที่ใช้สาหรบั ทอ่ งเวบ็ ในอนิ เทอรเ์ น็ต
3. เปน็ โปรแกรมที่ชว่ ยการทางานบนอนิ เทอร์เนต็ เร็วขน้ึ
4. เป็นโปรแกรมท่ชี ่วยแกไ้ ขปัญหาในการทางานผิดพลาดของคอมพวิ เตอร์
4 ข้อใดตอ่ ไปน้เี ป็นโปรแกรม Web Browser
1. We chat 2. Line 3. Safari 4. MSN
5 หากจิรายทุ ธตอ้ งการจะสง่ E-mail ควรใช้โปรแกรมใดในการสง่
1. Outlook 2. Windows 3. Line 4. Microsoft word
6 เจนตี่ อ้ งการจะหาขอ้ มลู เพื่อทารายงานส่งครู ควรเลอื กใช้โปรแกรมในขอ้ ใด
1. Windows 8 2. Android 3. Line 4. Google Chrome
7 โปรแกรมในข้อใดเหมาะทจ่ี ะใชใ้ นการพดู คุยผา่ นเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์
1. MSN Messenger 2. Android 3. Outlook 4. Microsoft Word
93
8 โปรแกรม MSN Messenger นอกจากใชพ้ มิ พ์ข้อความเพือ่ คยุ กนั แลว้ ยังสามารถทาอะไรไดอ้ กี
1. ค้นหาข้อมูลผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต 2. คุยกันแบบวิดโี อคอล
3. ชว่ ยในการเชือ่ มตอ่ เว็บไซต์ 4. ใชใ้ นการจดั ทารายงานส่งครู
9 โปรแกรมในข้อใดท่ีไม่ใช่โปรแกรมท่ใี ชใ้ นการส่อื สารผ่านเครือข่าย
1. MSN Messenger 2. Google Talk 3. Facebook Messenger 4. Google
10 โปรแกรมในขอ้ ใดใชส้ าหรับสร้างเว็บเพจ
1. Google Chrome 2. Internet Explore 3. WordPress 4. Opera
11 ชอ่ งสาหรบั สง่ ทอี่ ยขู่ องผ้รู ับจดหมาย “To” หมายถงึ ข้อใด
1. จะสง่ จดหมายถงึ ผ้รู ับคือใคร 2. สาเนาเพ่ือส่งไปยังผรู้ บั อนื่ ๆ
3. ช่ือของจดหมาย 4. ขอ้ ความส้ันๆ ทส่ี ื่อให้รวู้ า่ จดหมายเก่ียวกับอะไร
12 โปรแกรมเวบ็ บราวเซอรค์ อื ข้อใด
1. Microsoft Outlook 2. MSN, Google Talk
3. Skype, Facebook Messenger 4. Google Chrome
13 ข้อใดเปน็ สญั ลักษณข์ องโปรแกรมทใ่ี ช้ในการพูดคยุ
1. 2.
3. 4.
14.ขอ้ ใดเป็นโปรแกรมสรา้ งหนา้ เว็บไซตส์ าเร็จรูป
1. Microsoft PowerPoint 2. Google Chrome
3. Internet Explorer 4. Firefox
15.ถ้าตอ้ งการจะนาเสนอขอ้ มลู ทเี่ ปน็ ข้อความ ภาพเคลื่อนไหว หรอื เสียง ควรใช้โปรแกรมประเภทใด
1.การใช้งานโปรแกรม Outlook
2.โปรแกรม MSN Messenger
3.การใช้งานโปรแกรมประเภทเวบ็ เบราวเ์ ซอร์
4.โปรแกรม Microsoft Word
16. Microsoft Outlook เปน็ โปรแกรมประเภทใด
1.เวบ็ เบราวเ์ ซอร์ 2.โปรแกรมทีใ่ ชร้ บั –สง่ จดหมายทางอนิ เตอรเ์ น็ต
3.โปรแกรมทใ่ี ชใ้ นการพูดคุย หรอื Chat 4.โปรแกรมสร้างหนา้ เว็บไซตส์ าเรจ็ รปู
17. Internet Explorer เปน็ โปรแกรมประเภทใด
1.โปรแกรมประเภทอ่นื ๆ 2.เวบ็ เบราวเ์ ซอร์
3.โปรแกรมทใี่ ช้ Chat 4.โปรแกรมทใ่ี ช้รับ–ส่งจดหมายทางอินเตอร์เน็ต
18. CC เป็นช่องสาหรบั ส่งทอ่ี ย่ขู องผูร้ ับจดหมายในลักษณะใด
1.จะส่งจดหมายถึงผรู้ ับคือใคร 2.สาเนาเพ่ือสง่ ไปยังผรู้ ับอ่ืนๆ
3.ชื่อของจดหมาย 4.พนื้ ทีใ่ นการเขียนเนอ้ื หาของจดหมาย
19.ข้อใดเปน็ โปรแกรมดา้ นติดต่อสื่อสาร
1. MSN Messenger, Google Talk, Skype 2. Google Chrome, Internet Explorer
3. Mozilla Firefox, Safari, Opera 4. Microsoft Outlook
20. หมายถงึ สถานะของเพอ่ื นลกั ษณะใด
1.สถานะ Online 2.สถานะ Offline 3.สถานะ Away 4.สถานนะ Busy
94
เฉลยแบบประเมินผลการเรียน้รหู้ นว่ ยที่ 7
1.3 6.4 11.1 16.2
2.4 7.1 12.4 17.2
3.2 8.2 13.1 18.2
4.3 9.4 14.1 19.1
5.1 10 3 15.3 20.1
บันทกึ หลังการสอน
ข้อสรุปหลังการสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาท่ีพบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ญั หา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
95
แผนการจัดการเรยี นรแู้ บบบรู ณาการที่ 17 หนว่ ยที่ 8
รหสั 20204-2005 เครือขา่ ยคอมพวิ เตอรเ์ บื้องตน้ (2-2-3) สอนครั้งท่ี 17
ชอ่ื หน่วย/เรอ่ื ง โปรแกรมยูทิลติ บ้ี นเครือขา่ ย (49-51)
จานวน 4 ช.ม.
สาระสาคญั
โปรแกรมอรรถประโยชน์ หรือทีเ่ รยี กว่า โปรแกรม ยทู ิลิต้ี (Utility Program) เปน็ โปรแกรมทใี่ ชส้ าหรบั การดแู ลรกั ษา
บารุงรักษา และบรหิ ารจัดการระบบซอฟตแ์ วรข์ องคอมพวิ เตอร์ เพ่ือใหส้ ามารถทางานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ โปรแกรมยทู ลิ ิตี้
แบง่ เปน็ 2 ประเภทคอื โปรแกรมยทู ิลติ สี้ าหรบั เครือขา่ ยคอมพิวเตอรม์ ีอยู่มากมายหลายโปรแกรมส่วนใหญ่จะเปน็ โปรแกรมท่ี
เกี่ยวกับการจดั การ File การจดั การระบบเครือขา่ ยใหส้ ามารถทางานไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพมากยิง่ ขน้ึ
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1 อธบิ ายความหมายของโปรแกรมยูทิลติ ้บี นเครอื ข่ายได้
2 ประยุกตใ์ ช้โปรแกรมที่ชว่ ยในการดแู ลระบบเครือข่ายได้
3 ประยุกตใ์ ช้โปรแกรมที่ช่วยในการจัดการแฟ้มข้อมลู บนเครอื ขา่ ยได้
4.การพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผสู้ าเร็จการศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการ
อาชีวศึกษา ท่ีครสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอื่ ง
4.1 ความมมี นษุ ยสมั พนั ธ์
4.2 ความมวี ินยั
4.3 ความรับผดิ ชอบ
4.4 ความซ่ือสตั ย์สุจรติ
4.5 ความเชือ่ มัน่ ในตนเอง
4.6 การประหยัด
4.7 ความสนใจใฝร่ ู้
4.8 การละเว้นส่ิงเสพตดิ และการพนัน
4.9 ความรักสามัคคี
4.10 ความกตัญญูกตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1.แสดงความรเู้ กีย่ วกบั หลกั การทางาน และกระบวนการของระบบเครือข่าย
2.ใช้อปุ กรณ์และเช่อื มต่อระบบเครอื ขา่ ยเบอื้ งต้นในการปฏบิ ตั ิงาน
3.ประยกุ ต์ใช้งานเครอื ขา่ ยในการปฏิบตั ิงานขององค์กร
เนื้อหาสาระ
1 ความหมายของโปรแกรมยทู ลิ ติ บี้ นเครอื ข่าย
2 โปรแกรมท่ชี ว่ ยในการดูแลระบบเครือข่าย
3 โปรแกรมที่ช่วยในการจดั การแฟม้ ข้อมูลบนเครือขา่ ย
96
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน
1.ครูสนทนากับผ้เู รยี นเก่ยี วกบั โปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่ใี ช้ในระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ มดี ว้ ยกนั
มากมายหลายโปรแกรม โดยเปน็ โปรแกรมที่มลี ขิ สิทธ์ิ และโปรแกรมที่เป็นประเภทฟรแี วร์ ให้ผใู้ ช้ได้เลอื กทจี่ ะหา
มาใชง้ านเพ่ือความสะดวกในการบรหิ าร และจดั การระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ต่อไป
2.ครูและผูเ้ รยี นยกตวั อยา่ งโปรแกรมยูทิลติ ี้ (Utility Program) หรอื โปรแกรมอรรถประโยชน์ เพอ่ื ใชเ้ ป็น
ตวั อยา่ งในการนาเข้าสู่ หรอื เชื่อมโยงเนื้อหาของสปั ดาห์นี้
ขั้นสอน
3.ครูอธบิ ายความหมายของโปรแกรมยูทลิ ติ ้ีบนเครอื ขา่ ย โดยใช้ Power Point เป็นสอื่ ประกอบในการเรียนการสอน ซงึ่ เป็น
โปรแกรมประเภทหน่งึ ทีถ่ กู ออกแบบมาเพอื่ ทาหน้าทเ่ี ฉพาะอยา่ ง เช่น การวเิ คราะหร์ ะบบภายในเครอื่ งการปรบั ปรงุ การทานของ
คอมพวิ เตอร์ใหท้ างานได้ดขี นึ้ การบารุงรักษาเคร่อื งคอมพิวเตอร์รวมถึง
การจดั การแฟ้มขอ้ มลู ท่อี ยภู่ ายในคอมพิวเตอร์น้นั ซงึ่ โปรแกรมยทู ิลติ ี้ โดยปกตเิ นน้ การสรา้ งขึน้ มาเพ่ือการทางานทเ่ี กี่ยวกบั โครงสรา้ ง
ของคอมพวิ เตอรเ์ ป็นหลัก เชน่ ทางานเก่ียวกบั อุปกรณฮ์ ารด์ แวร์กับระบบปฏบิ ตั กิ าร กับการจดั เก็บขอ้ มูล หรอื การจดั การด้าน
เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์
4.ครูใช้เทคนคิ การจัดการเรียนร้แู บบสาธิต (Demonstration Method) คอื กระบวนการท่ผี สู้ อน หรือบุคคลใดบคุ คลหนึ่งใช้
ในการช่วยใหผ้ ู้เรยี นได้เกดิ การเรียนรู้ตามวตั ถุประสงค์ โดยการแสดงหรือกระทาใหด้ เู ปน็ ตัวอยา่ งพรอ้ ม ๆ กบั การบอก อธบิ าย ให้
ผเู้ รยี นไดเ้ รียนรู้ ผเู้ รยี นจะเกดิ การเรยี นรจู้ ากการสงั เกต กระบวนการข้ันตอนการสาธติ นัน้ ๆ แล้วให้ผเู้ รียนซักถาม อภิปราย และสรุป
การเรยี นรทู้ ไ่ี ด้จากการสาธิต การจดั การเรยี นรู้แบบนจ้ี ึงเหมาะสมสาหรบั การสอนทต่ี อ้ งการใหผ้ เู้ รยี นเห็นข้ันตอนของการปฏิบตั ิ
เก่ยี วกับโปรแกรมที่ช่วยในการดแู ลระบบเครือข่าย โดยโปรแกรมทชี่ ว่ ยในการดแู ลระบบเครอื ข่าย ให้เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ทางานได้
อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ โปรแกรมประเภทน้จี ะเปน็ หน้าทข่ี องผ้ดู ูแลระบบใช้เปน็ สว่ นใหญ่ เช่นการจัดการ IP Address ของเครือ่ ง
Client, โปรแกรมในการตรวจสอบการถา่ ยเทข้อมลู ภายในเครือขา่ ย, โปรแกรม ในการเช่อื มต่ออนิ เทอร์เนต็ และตรวจสอบความเรว็
อินเทอร์เนต็ ในเครอื ข่าย หรือโปรแกรมที่ใชใ้ นการตรวจสอบการทางานของเครอื ข่ายไรส้ าย Wireless LAN เป็นตน้ โปรแกรมยูทิลติ ้ี
สาหรับเครอื ขา่ ย เช่น 1) Network Utilities 2) LAN Speed Test
3) Microsoft Network Monitor
5.ครูใช้เทคนิคการจัดการเรียนร้แู บบอภิปราย (Discussion Method) คือกระบวนการทผี่ สู้ อนมุ่งใหผ้ เู้ รียนมโี อกาสสนทนา
แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ หรอื ระดมความคิดในเรือ่ งโปรแกรมที่ชว่ ยในการจัดการแฟม้ ข้อมูลบนเครือขา่ ย ซงึ่ อาจจะเปน็ เรอื่ งท่ี
เกี่ยวขอ้ งกับบทเรยี นหรือทกี่ ลมุ่ มคี วามสนใจรว่ มกัน โดยมีจุดมงุ่ หมายเพอื่ หาคาตอบ แนวทางหรอื แกป้ ัญหารว่ มกัน
6.ครแู ละผ้เู รยี นใชเ้ ทคนคิ การสาธติ โปรแกรมที่ช่วยในการจัดการ แฟ้มข้อมลู บนเครอื ขา่ ย และใหผ้ ู้เรยี นปฏิบตั ติ ามข้ันตอน
เช่น 1) Smart FTP Client 2) โปรแกรม CuteFTP 3) FTP Commander 4) Team Viewer
7.ผู้เรียนช่วยกันสาธติ แบ่งกลมุ่ และหาโปรแกรมยทู ลิ ติ ี้ ทีช่ ว่ ยในการดแู ลระบบเครือข่ายคอมพิวเตอรโ์ ปรแกรมอื่นๆ พรอ้ มท้ัง
บอกวธิ ีการใชง้ านมาพอสังเขป (แสดงรปู ภาพประกอบ ถา้ มี)
8.ผูเ้ รียนแบง่ กลุ่มและหาโปรแกรมยทู ลิ ติ ี้ทีช่ ว่ ยในการจดั การไฟล์ในเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ โปรแกรมอนื่ ๆ พรอ้ มทั้งบอก
วิธกี ารใชง้ านมาพอสงั เขป
9.ครเู น้นใหผ้ ู้เรยี นนาโปรแกรมยทู ลิ ติ ้ีทไปใชง้ านในระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวงั ข้อผิดพลาด
จากการใช้งาน ทง้ั นเี้ พอ่ื ฝกึ ทกั ษะความชานาญใหผ้ เู้ รยี นปฏิบตั ไิ ด้จรงิ และสง่ เสรมิ เพ่ือนาไปประกอบวชิ าชีพ เพือ่ เป็นการสรา้ ง
ภมู คิ มุ้ กนั ที่ดใี นตวั เอง
ขน้ั สรปุ และการประยุกต์
10.ครูและผูเ้ รียนสรปุ โดยการฝึกทักษะปฏบิ ัติตอบคาถามเกี่ยวกับความหมายของโปรแกรมยูทิลติ ี้
บนเครอื ขา่ ย ฝึกทกั ษะการใชโ้ ปรแกรมทีช่ ว่ ยในการดแู ลระบบเครือข่าย และโปรแกรมทชี่ ่วยในการจดั การแฟม้ ขอ้ มลู บนเครือข่าย
เพื่อใหส้ ามารถนาไปใชไ้ ดจ้ รงิ
97
11.ผู้เรยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ แบบฝึกปฏิบตั ิ และประเมนิ ตนเองจากแบบประเมินตนเอง รวมท้ังกิจกรรมการจดั
ประสบการณก์ ารเรยี นรู้
ช่ือผู้เรยี น ธรรมชาติของผเู้ รียน วิธกี ารเรยี นรู้
ความสนใจ สติปญั ญา วฒุ ภิ าวะ
1.
2.
3.
4.
5.
แบบประเมนิ ผลประสบการณพ์ ื้นฐานการเรยี นรู้
ชอ่ื ผเู้ รียน ประสบการณ์พื้นฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้
ความรู้ ทักษะ ผลงาน
1.
2.
3.
4.
5.
ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
1.หนังสอื เรียน วิชาเครือข่ายคอมพิวเตอรเ์ บือ้ งตน้ ของสานักพมิ พ์เอมพนั ธ์
2.รูปภาพ
3.กิจกรรมการเรยี นการสอน
4.แผ่นใส
5.สอื่ อิเล็กทรอนิกส์ ส่ือ CD และส่อื PowerPoint
6.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
หลกั ฐาน
1.บันทกึ การสอน
2.ใบเช็ครายชือ่
3.แผนจดั การเรียนรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวัดผลและการประเมนิ ผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล
2. ประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่
3. สังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่
4 ตรวจกจิ กรรมส่งเสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้
5. ตรวจใบงาน
6. ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝึกปฏบิ ตั ิ
7. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
เครอ่ื งมือวัดผล
1. แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
98
2. แบบประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม (โดยคร)ู
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผเู้ รียน)
4. แบบประเมินกจิ กรรมส่งเสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้
5. แบบประเมนิ กิจกรรมสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ และแบบประเมินค่านิยม 12 ประการ
6. แบบประเมินกิจกรรมใบงาน
7. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝกึ ปฏิบตั ิ
8. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครแู ละผ้เู รยี นร่วมกนั ประเมิน
เกณฑ์การประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ีช่องปรับปรุง
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. ตอบคาถามในกิจกรรมส่งเสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้จงึ จะถอื วา่ ผ่าน
เกณฑก์ ารประเมิน มีเกณฑ์ 4 ระดบั คือ 4= ดมี าก, 3 = ดี, 2 = พอใช้ , 1= ควรปรับปรุง
5. กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ า่ น คือ 50%
6. แบบประเมนิ กิจกรรมสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ และแบบประเมนิ คา่ นิยม 12 ประการ
ต้องไม่มชี ่องปรับปรุง
7. แบบประเมินผลการเรียนรู้ และแบบฝกึ ปฏิบตั ิมเี กณฑผ์ ่าน 50%
8 แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอย่กู ับการประเมนิ ตาม
สภาพจริง
กิจกรรมเสนอแนะ
1.ครูแนะนาให้ผเู้ รียนฝึกทักษะโดยฝึกใชโ้ ปรแกรมยูทิลติ ้บี นเครือขา่ ย เพอื่ นาไปใชง้ านไดจ้ รงิ
2.อา่ นและทบทวนเน้ือหา
แบบประเมินผลการเรยี น้รหู้ น่วยที่ 8
จงเลือกคาตอบท่ีถูกต้องเพียงขอ้ เดียว
1 ขอ้ ใดต่อไปนีจ้ ดั เป็นโปรแกรมยทู ลิ ติ ้ี
1. Windows Server 2. Windows 8 3. Team Viewer 4. Google Chrome
2 ความสาคัญของโปรแกรมยทู ลิ ติ ีค้ ือข้อใด
1 ช่วยให้ผู้ใชง้ านติดต่อกบั อปุ กรณค์ อมพิวเตอร์
2 ช่วยเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพในการทางานของคอมพิวเตอร์
3 ชว่ ยให้ซอฟต์แวรต์ า่ งๆ ในเครอ่ื งมปี ระสิทธภิ าพมากขน้ึ
4 ชว่ ยให้ผู้ใช้งาน ใช้งานคอมพิวเตอร์ไดง้ ่ายขน้ึ
3 โปรแกรมในข้อใดท่เี ปน็ โปรแกรมยทู ิลติ ท้ี ใี่ ชใ้ นเครอื ข่าย
1. Windows Server 2. CuteFTP 3. Norton Commander 4. Internet Explorer
4 สมชายเป็นผดู้ แู ลเครอื ขา่ ยระบบคอมพวิ เตอรใ์ นโรงเรยี น สมชายควรมีความรู้ในเร่ืองใด
1. มีความรู้เรอื่ งเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์
2. เรอื่ งการตดิ ต้งั โปรแกรมคอมพวิ เตอร์
3. มคี วามรใู้ นเรอื่ งอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์
4. มีความรูใ้ นด้านการใชง้ านอินเทอร์เน็ต
99
5 โปรแกรมในข้อใดทใ่ี ช้ควบคุมการทางานของเครอื่ งคอมพิวเตอรล์ กู ขา่ ย (Client)
1. Internet Explorer 2. Norton antivirus 3. Netscape Navigator 4. Team Viewer
6 เมอ่ื เครอื่ งคอมพิวเตอร์ทอ่ี ย่ใู นโรงงานมปี ัญหาไมส่ ามารถใช้งานโปรแกรม Microsoft Word ได้ ชา่ งคอมพิวเตอร์ควรใชโ้ ปรแกรม
ใดทจ่ี ะช่วยแก้ปญั หาได้เม่ือไมไ่ ด้อยูท่ ่โี รงงาน
1. Google Chrome 2. Team Viewer 3. CuteFTP 4. Microsoft Network Monitor
7 โปรแกรมในข้อใดที่ชว่ ยในการสง่ ไฟล์ข้อมลู ระหวา่ งกนั ในเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์
1. Microsoft Network Monitor 2. CuteFTP 3. Team Viewer 4. Network Utilities
8 โปรแกรมในขอ้ ใดไมเ่ กี่ยวข้องกับเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์
1. Microsoft Windows 2003 2. Linux 3. Microsoft Word 4. Outlook
9 โปรแกรมในข้อใดทผี่ ใู้ ช้ตอ้ งมคี วามร้เู กย่ี วกบั เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ถงึ จะใช้งานได้
1. Microsoft PowerPoint 2. Google Chrom 3. WinRAR 4. Linux
10 ข้อใดต่อไปนีไ้ มใ่ ชโ่ ปรแกรมยทู ิลิต้ี
1. LAN Speed Test 2. Anti-Virus 3. Windows 7 4. Defragment
เฉลยแบบประเมนิ ผลการเรยี น้รหู้ นว่ ยท่ี 8
1.3 6.2
2.2 7.2
3.2 8.3
4.1 9.4
5.4 10.3
บนั ทึกหลังการสอน
ข้อสรุปหลังการสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาท่ีพบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปญั หา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
100
แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 18 หนว่ ยท่ี -
สอนคร้งั ท่ี 18 (52-54)
รหสั 20204-2005 เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์เบ้ืองตน้ (2-2-3)
ชอ่ื หน่วย/เรอ่ื ง ทบทวน/สอบปลายภาคเรยี น จานวน 4 ช.ม.
สาระสาคญั
จากการทผี่ เู้ รียนไดศ้ ึกษาวิชาเครือข่ายคอมพวิ เตอรเ์ บื้องตน้ นี้ จะไดร้ บั ความรคู้ วามเข้าใจ และเกดิ ทกั ษะการฝึกปฏิบตั ิ
กจิ กรรมการเรยี นโดยเนน้ ผเู้ รียนเป็นศนู ย์กลาง ให้ผ้เู รียนฝกึ คิด เพือ่ ใหส้ อดคล้องกบั พระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
(แกไ้ ขปรบั ปรุงเพิ่มเตมิ พ.ศ. 2545) โดยยึดหลักการนาไปใช้ให้เกิดไปประโยชน์ในการพัฒนาสังคม พร้อมทง้ั นาหลักคุณธรรม จริยธรรม
ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้สาเร็จการศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา มาประยกุ ตใ์ ช้กบั กจิ กรรมการ
เรียนอย่างเหมาะสม
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นาเรอ่ื งท่ีทบทวนตามเนอ้ื หาวชิ าเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอรเ์ บอื้ งตน้ ไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้
2. แจง้ คะแนนระหวา่ งภาคเรยี นใหผ้ เู้ รยี น
3. แก้ปญั หาการเรียนของผู้เรยี นได้
4. ผู้เรยี นนาความรู้ท่ีศึกษามาไปสอบปลายภาคเรยี นได้
5.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงคข์ องผสู้ าเร็จการศึกษาสานกั งานคณะกรรมการ
การอาชวี ศกึ ษา ทีค่ รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอื่ ง
5.1 ความมมี นษุ ยสมั พนั ธ์
5.2 ความมีวนิ ยั
5.3 ความรบั ผดิ ชอบ
5.4 ความซ่ือสตั ย์สจุ ริต
5.5 ความเชือ่ มั่นในตนเอง
5.6 การประหยดั
5.7 ความสนใจใฝร่ ู้
5.8 การละเวน้ ส่งิ เสพตดิ และการพนัน
5.9 ความรกั สามัคคี
5.10 ความกตัญญูกตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1.แสดงความรเู้ กี่ยวกับหลักการทางาน และกระบวนการของระบบเครือขา่ ย
2.ใช้อุปกรณ์และเช่ือมตอ่ ระบบเครอื ข่ายเบือ้ งตน้ ในการปฏิบตั ิงาน
3.ประยุกต์ใช้งานเครือข่ายในการปฏิบตั งิ านขององคก์ ร
เนอ้ื หาสาระ
1. ทบทวนเนอ้ื หาวิชาทไี่ ดศ้ ึกษามาแบบย่อ
2. รวบรวมคะแนนระหว่างภาคเรยี น
3. ปัญหาการเรียนของผู้เรยี น
4. สอบปลายภาคเรยี น
101
กิจกรรมการเรียนรู้
1. ครแู จง้ ให้ผู้เรียนทราบคะแนนระหว่างภาค และกลางภาค จดุ ประสงคท์ ี่ผู้เรยี นยังไมไ่ ดป้ ฏิบตั ิ หรอื ไมผ่ า่ น หรอื ไมไ่ ด้
สอบ ให้ผู้เรยี นดาเนินการโดยพบครผู สู้ อนกาหนดวันเวลาทจี่ ะปฏิบตั ิหรือสอบ หรอื เรยี นเพิม่ เตมิ
2. ผู้เรยี นรบั ทราบจุดประสงค์การสอบปลายภาคว่า จะมีการสอบเรื่องใดบ้าง ผู้รียนไมเ่ ขา้ ใจเร่ืองใดกใ็ ห้ซกั ถาม
3. ครูและผเู้ รียนรว่ มกันทบทวนบทเรียนทีผ่ ่านมาโดยสรปุ
สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
1.ขอ้ มูลการเกบ็ คะแนนของผูเ้ รยี น
2.จดุ ประสงค์การสอบปลายภาค
หลกั ฐาน 1.ใบเช็ครายช่ือเขา้ ห้องเรยี น และเข้าหอ้ งสอบ
2.ขอ้ สอบ
3.เอกสารในการสอบต่าง ๆ
การวดั ผลและการประเมนิ ผล
เปน็ ไปตามเกณท์ ีไ่ ดแ้ จ้งไวใ้ นแผนการจัดการเรยี นรสู้ ัปดาหท์ ี่ 1-18
กิจกรรมเสนอแนะ
แจ้งการประเมนิ ผลนกั เรยี นที่ตดิ ขร, มส
บนั ทึกหลังการสอบ
ขอ้ สรปุ หลังการสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปญั หาที่พบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปัญหา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................