แผนการจัดการเรียนรู้
ประกอบคลปิ วดิ ีโอการสอน
เรอ่ื ง การอา่ นออกเสยี งร้อยแกว้
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒
แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๒
เสนอ
ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. พัชรีภรณ์ บางเขยี ว
จดั ทำโดย
นางสาวอรนสิ า กาใจใส
เลขท่ี ๑๙ รหัส ๖๒๘๑๑๒๔๐๔๙ หมู่เรียน D๗
รายงานนเี้ ป็นสว่ นหนงึ่ ของวิชา วทิ ยาการจัดการเรียนรู้
รหัสวชิ า ๑๑๙๐๓๐๑ คณะครุศาสตร์
ภาคเรยี นท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔
มหาวิทยาลัยราชภฏั บา้ นสมเด็จเจา้ พระยา
แผนการจดั การเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวิชา ภาษาไทย
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕
ครผู ูส้ อน นางสาวอรนสิ า กาใจใส เวลา ๑๒๐ ชั่วโมง / ๓ หนว่ ยกิต
๑. มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชี้วัด
สาระที่ ๑ การอ่าน
มาตรฐาน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพอ่ื นำไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ัญหา
ในการดำเนนิ ชวี ิต และมีนสิ ยั รักการอ่าน
สาระที่ ๒ การอา่ น
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ใน
รปู แบบต่าง ๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศ และรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และ
ความรูส้ ึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์
สาระที่ ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และ พลัง
ของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษาและรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ
สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า
และนำมาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตจรงิ
ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการ
ดำเนินชีวติ และมีนิสัยรักการอา่ น
ท ๑.๑ ม.๒/๑ อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถูกต้อง
ท ๑.๑ ม.๒/๒ จบั ใจความสำคัญ สรปุ ความและอธบิ ายรายละเอียดจากเรอื่ งทอ่ี า่ น
ท ๑.๑ ม.๒/๓ เขียนผงั ความคดิ เพ่อื แสดงความเข้าใจในบทเรียนตา่ งๆ ที่อ่าน
ท ๑.๑ ม.๒/๔ อภิปรายแสดงความคิดเห็นและขอ้ โต้แยง้ เกีย่ วกบั เร่ืองท่อี ่าน
ท ๑.๑ ม.๒/๕ วเิ คราะหแ์ ละจำแนกข้อเท็จจริง ข้อมลู สนบั สนนุ และข้อคดิ เหน็ จากบทความที่อ่าน
ท ๑.๑ ม.๒/๖ ระบุขอ้ สงั เกตการชวนเชือ่ การโนม้ น้าวหรือความสมเหตสุ มผลของงานเขยี น
ท ๑.๑ ม.๒/๗ มีมารยาทในการอ่าน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ใน
รูปแบบตา่ ง ๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศ และรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
ท ๒.๑ ม.๒/๑ คัดลายมอื ตัวบรรจงครึ่งบรรทดั
ท ๒.๑ ม.๒/๒ เขียนบรรยายและพรรณนา
ท ๒.๑ ม.๒/๓ เขียนเรยี งความ
ท ๒.๑ ม.๒/๔ เขียนยอ่ ความ
ท ๒.๑ ม.๒/๕ เขียนรายงานการศกึ ษาคน้ คว้า
ท ๒.๑ ม.๒/๖ เขียนจดหมายกิจธรุ ะ
ท ๒.๑ ม.๒/๗ เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเหน็ หรือโต้แยง้ ในเรือ่ งที่อ่าน อย่างมี
เหตุผล
ท ๒.๑ ม.๒/๘ มีมารยาทในการอ่าน
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และ
ความรูส้ ึกในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์
ท ๓.๑ ม.๒/๑ พูดสรุปใจความสำคัญของเรื่องท่ีฟังและดู
ท ๓.๑ ม.๒/๒ วิเคราะห์ขอ้ เทจ็ จรงิ ข้อคิดเห็น และความนา่ เช่อื ถือของข่าวสารจากส่อื ต่าง ๆ
ท ๓.๑ ม.๒/๓ วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่ฟังและดูอย่างมีเหตุผลเพื่อนำข้อคิดมาประยุกต์ใช้ใน การ
ดำเนนิ ชีวติ
ท ๓.๑ ม.๒/๔ พดู ในโอกาสต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์
ท ๓.๑ ม.๒/๕ พดู รายงานเรอื่ งหรือประเดน็ ทศี่ ึกษาคน้ ควา้
ท ๓.๑ ม.๒/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และ
พลังของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษาและรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ
ท ๔.๑ ม.๒/๑ สรา้ งคำในภาษาไทย
ท ๔.๑ ม.๒/๒ วเิ คราะห์โครงสรา้ งประโยคสามัญประโยครวม และประโยคซอ้ น
ท ๔.๑ ม.๒/๓ แต่งบทร้อยกรอง
ท ๔.๑ ม.๒/๔ ใชค้ ำราชาศพั ท์
ท ๔.๑ ม.๒/๕ รวบรวมและอธบิ ายความหมายของคำภาษาตา่ งประเทศทีใ่ ช้ในภาษาไทย
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า
และนำมาประยกุ ต์ใช้ในชีวิตจรงิ
ท ๕.๑ ม.๒/๑ สรุปเนื้อหาวรรณคดแี ละวรรณกรรมทีอ่ า่ นในระดับท่ียากขึ้น
ท ๕.๑ ม.๒/๒ วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่นที่อ่านพร้อมยก
เหตผุ ลประกอบ
ท ๕.๑ ม.๒/๓ อธบิ ายคณุ ค่าของวรรณคดแี ละวรรณกรรมทีอ่ า่ น
ท ๕.๑ ม.๒/๔ สรปุ ความรูแ้ ละขอ้ คิดจากการอา่ น ไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ จริง
ท ๕.๑ ม.๒/๕ ท่องจำบทอาขยานตามท่กี ำหนดและบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคุณคา่ ตามความสนใจ
๒. จุดประสงค์การเรียนรู้
๒.๑ ความรู้ (K)
๑. บอกความหมายการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว (K)
๒. บอกความหมายการอ่านออกเสียงร้อยกรอง (K)
๓. อธิบายหลักการอ่านจับใจความ การสรุปความ และการอธิบายรายละเอียดจาก เรื่องท่ี
อ่าน (K)
๔. อธิบายรูปแบบและการใชแ้ ผนภาพโครงเรอ่ื ง (K)
๕. นกั เรยี นบอกรูปแบบการประพนั ธ์ของวรรณคดี วรรณกรรมได้ (K)
๖. นกั เรยี นบอกรูปแบบโวหารภาพพจนไ์ ด้ (K)
๗. นักเรยี นบอกรปู แบบการโวหารภาพจนไ์ ด้ (K)
๒.๒ ทกั ษะกระบวนการ (P)
๑. บอกหลักเกณฑใ์ นการอา่ นบทร้อยแก้วได้ถูกต้อง (P)
๒. บอกหลกั เกณฑ์ในการอา่ นบทร้อยกรองได้ถูกต้อง (P)
๓. จับใจความ สรุปความ และอธิบายรายละเอียดจากเรอ่ื งทีอ่ า่ น (P)
๔. เขียนแผนภาพโครงเรือ่ งจากวรรณกรรมทีอ่ า่ น (P)
๕. นกั เรยี นอธบิ ายความหมายของคณุ ค่าในวรรณคดี วรรณกรรม (P)
๖. นกั เรยี นอธิบายความหมายของโวหารภาพพจน์ในวรรณคดี (P)
๗. นกั เรยี นอธบิ ายความหมายของโวหารภาพพจนไ์ ด้ (P)
๒.๓ จิตพิสยั (A)
๑. อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วไดถ้ ูกต้องและสอดคลอ้ งกับเน้ือเรื่องที่อ่าน
๒. อ่านออกเสียงบทร้อยกรองไดถ้ กู ต้องและสอดคล้องกับเนื้อเรื่องที่อ่าน
๓. เห็นความสำคัญของการอ่านและมมี ารยาทในการอ่าน
๔. เขียนผงั ความคดิ เพ่ือสรุปเน้ือหาจากการอ่านบทเสภาสามคั คีเสวก
๕. นกั เรยี นบอกคณุ คา่ ของวรรณคดี วรรณกรรมได้ (ด้านวรรณศิลป์)
๖. นักเรยี นบอกคุณค่าของวรรณคดีได้ (ด้านวรรณศิลป์)
๗. นกั เรยี นบอกคณุ คา่ ของโวหารภาพพจน์ได้
๓. สาระสำคญั
หลกั การอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมเป็นเคร่ืองมือที่ทำใหผ้ ู้อ่านต้องเข้าใจจุดมุ่งหมายในการแต่ง คุณค่า
ความงามของวรรณคดีและวรรณกรรมเรื่องน้นั ๆ และวรรณกรรมแต่ละประเภทจะมจี ุดมุ่งหมาย คณุ ค่า และความ
งามท่แี ตกต่างกันโดยสะท้อนออกมาจากเน้ือหา และกลวิธีการแตง่ ผอู้ า่ นจงึ ตอ้ งอา่ นออกเสียง บทรอ้ ยแก้วและ
บทร้อยกรองให้ถูกต้อง จับใจความสำคัญ สรุปความ และอธิบายรายละเอียดจากเรื่องที่อ่านอย่างมีมารยาท คัด
ลายมอื ตัวบรรจงคร่ึงบรรทัดและมีมารยาทในการเขียน พูดสรุปใจความสำคัญ วิเคราะหข์ ้อเท็จจริง ขอ้ คิดเห็น และ
ความน่าเชื่อถือ รวมไปถึงวิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่ฟังและดู อย่างมีเหตุผลเพื่อ นำข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการ
ดำเนินชีวิตอย่างมีมารยาท ในการฟัง ดู และพูด นอกจากนี้ยังสามารถรวบรวมและอธิบายความหมายของคำ
ภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย ดังนั้น การศึกษาหลักการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมโดยใช้ทักษะการอ่าน
เขียน ฟัง ดู และพดู ดว้ ยความเข้าใจจะทำใหผ้ ้อู ่านเห็นคณุ คา่ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมเหล่านั้นยิ่งขึน้
๔. สาระการเรยี นรู้
ภาษาไทยเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนจนเกิดความชำนาญในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร การเรียนรู้อย่าง มี
ประสิทธิภาพ และเพ่ือนำไปใช้ในชวี ิตจริง
การอ่าน การอ่านออกเสียงคำ ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คำประพันธ์ชนิดต่าง ๆ การอ่านในใจเพ่ือ
สร้างความเข้าใจ และการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ความรจู้ ากส่ิงทอี่ ่าน เพือ่ นำไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจำวัน
การเขียน การเขียนสะกดตามอักขรวิธี การเขียนสื่อสาร โดยใช้ถ้อยคำและรูปแบบต่าง ๆ ของ การ
เขียน ซึ่งรวมถึงการเขียนเรียงความ ย่อความ รายงานชนิดต่าง ๆ การเขียนตามจินตนาการวิเคราะห์วิจารณ์ และ
เขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์
การฟัง การดู และการพูด การฟังและดูอยา่ งมวี ิจารณญาณ การพดู แสดงความคิดเหน็ ความรสู้ ึก พูดลำดบั
เรอ่ื งราวตา่ ง ๆ อย่างเปน็ เหตุเป็นผล การพดู ในโอกาสต่าง ๆ ทั้งที่เปน็ ทางการและไม่เป็นทางการ และการพูดเพื่อ
โน้มน้าวใจ
หลักการใช้ภาษาไทย ธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาให้ถูกต้องเหมาะสมกับโอการส
และบคุ คล การแต่งบทประพันธป์ ระเภทตา่ ง ๆ และอทิ ธพิ ลของภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย
วรรณคดีและวรรณกรรม วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อศกึ ษาข้อมูล แนวความคิดคุณค่าของงาน
ประพันธ์ และความเพลิดเพลิน การเรียนรู้และทำความเข้าใจบทเห่ บทร้องเล่นขิงเด็กเพลงพื้นบ้านที่เป็นภูมิ
ปัญญาที่มีคุณค่าของไทย ซึ่งได้ถ่ายทอดคสามรู้สึกนึกคิด ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเภณี เรื่องราวของสังคมใน
อดตี และความงามของภาษา เพอื่ ใหเ้ กิดความซาบซึง้ และภูมใิ จในบรรพบรุ ษทไ่ี ด้สง่ั สมสบื ทอดมาจนถึงปัจจบุ ัน
คำอธบิ ายรายวชิ า
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ภาคเรยี นที่ ๑
ศึกษาหลักการอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง จับใจความสำคัญของเรื่องที่อ่าน เขียนแผนผังความคิด แสดง
ความคิดเห็นและข้อโต้แย้งจากการอ่าน ฝึกคดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั เขยี นบรรยาย พรรณนา เรียงความ
ยอ่ ความ พูดสรปุ ใจความสำคัญจากการฟังและการดู วิเคราะห์ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น วิจารณเ์ รอ่ื งท่ีฟังและ
ดูได้อย่าง มีเหตุผล สร้างคำสมาส วิเคราะห์โครงสร้างของประโยค ฝึกการใช้คำราชาศัพท์ สรุปเนื้อหา
วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมท้องถิ่นที่อ่าน สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่านไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวติ จริง
โดยใช้กระบวนการทางภาษา การสืบค้นความรู้ การจดบันทึก ใช้ความสามารถในการคิด การ
อภปิ ราย เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจในการเรยี นรู้ ใชค้ วามสามารถในการส่อื สารกับผอู้ น่ื ใหเ้ ข้าใจตรงกนั
เห็นคณุ ค่าของภาษาไทย นำความรูไ้ ปในการแก้ปัญหาให้เกิดประโยชน์ในชีวิต เป็นผ้มู คี ณุ ลักษณะอันพึง
ประสงค์ มีมารยาทในการอ่าน การเขยี น การฟงั การดแู ละการพดู เหน็ คุณค่าภาษาไทยซ่ึงเป็นเอกลักษณ์ของ
ชาติ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความ
เป็นไทยและมีจิตสาธารณะเพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาคภูมิใจในภาษาไทย และรักษาไว้เป็น
สมบตั ขิ องชาติ
รหสั ตวั ชี้วดั
ท ๑.๑ ม.๒/๑ ท ๑.๑ ม.๒/๓ ท ๑.๑ ม.๒/๔ ท ๑.๑ ม.๒/๖ ท ๑.๑ ม.๒/๘
ท ๒.๑ ม.๒/๒ ท ๒.๑ ม.๒/๔ ท ๒.๑ ม.๒/๕ ท ๒.๑ ม.๒/๘
ท ๓.๑ ม.๒/๓ ท ๓.๑ ม.๒/๔ ท ๓.๑ ม.๒/๕ ท ๓.๑ ม.๒/๖
ท ๔.๑ ม.๒/๒
ท ๕.๑ ม.๒/๑ ท ๕.๑ ม.๒/๒ ท ๕.๑ ม.๒/๓ ท ๕.๑ ม.๒/๔ ท ๕.๑ ม.๒/๕
รวม ๑๙ ตวั ช้วี ัด
คำอธิบายรายวิชา
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ เวลา ๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรยี นท่ี ๒
ฝึกทักษะการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด การวิเคราะห์และประเมินค่าวรรณคดีและ
วรรณกรรม โดยศึกษาเกี่ยวกับการอ่านออกเสียง การอ่านจับใจความ ฝึกทักษะการคัดลายมือ การเขียนบรรยาย
และพรรณนา เขียนเรียงความเกี่ยวกับประสบการณ์การเขียนจดหมายกิจธุระ การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และ
แสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้ง การพูดสรุปความ พูดวิเคราะห์และวิจารณ์จากเรื่องที่ฟังและดู และศึกษา
ลกั ษณะของประโยคในภาษาไทย การสรา้ งคำสมาส การใช้คำราชาศัพท์ การแต่ง บทรอ้ ยกรอง ประเภท
กลอนสุภาพ การรวบรวมและอธิบายความหมายของคำภาษาต่างประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย
วิเคราะห์ ประเมินค่า และข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเรื่องที่อ่าน ท่องจำบทอาขยานตาม ที่
กำหนด และบทร้อยกรองทมี่ คี ณุ คา่ ตามความสนใจ
โดยใช้กระบวนการอ่านเพื่อสร้างความรู้ความคิดนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต
กระบวนการเขียนเพื่อการสื่อสารอย่างมีประสทิ ธิภาพ กระบวนการฟัง การดู และการพูด สามารถเลือกฟังและดู
และพดู แสดงความรคู้ วามคิดอย่างมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ เพื่อใหเ้ ขา้ ใจธรรมชาติภาษาและ หลกั ภาษาไทย
การเปลี่ยนแปลงของภาษา พลังภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา วิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมอย่างเห็น
คุณค่านำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง รักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ และมีนิสัย รักการอ่าน การเขียน มี
มารยาทในการอา่ น การเขียน การฟัง การดู และการพูด
ตวั ช้วี ดั
ท ๑.๑ ม.๒/๒ ท ๑.๑ ม.๒/๕ ท ๑.๑ ม.๒/๗
ท ๒.๑ ม.๒/๑ ท ๒.๑ ม.๒/๓ ท ๒.๑ ม.๒/๖ ท ๒.๑ ม.๒/๗
ท ๓.๑ ม.๒/๑ ท ๓.๑ ม.๒/๒
ท ๔.๑ ม.๒/๑ ท ๔.๑ ม.๒/๓ ท ๔.๑ ม.๒/๔ ท ๔.๑ ม.๒/๕
ท ๕.๑ ม.๒/๑ ท ๕.๑ ม.๒/๒ ท ๕.๑ ม.๒/๓ ท ๕.๑ ม.๒/๔ ท ๕.๑ ม.๒/๕
รวม ๑๘ ตวั ชี้วัด
โครงสรา้ งรายวชิ า
รายวิชาภาษาไทย รหสั วิชา ท๒๑๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒ (ภาคเรยี นท่ี ๑) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๓ หนว่ ยกติ
หน่วย ชือ่ หน่วย มาตรฐานการ สาระการเรียนรู้ ชว่ั โมง นำ้ หนกั
การเรยี นรู้ เรยี นร้/ู ตวั ชี้วดั คะแนน
๑ หลกั การอ่าน ท ๑.๑ ม.๒/๑, -อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้ว และ บทรอ้ ย ๑๐ ๒๐
วรรณคดีและ ม.๒/๒, ม.๒/๓, กรองได้ถูกตอ้ ง
วรรณกรรม ม.๒/๘, -อ่านจับใจความ สรปุ ความ และ
ท ๒.๑, ม.๒/๑, รายละเอียดจากเรือ่ งท่ีอ่าน พรอ้ มทง้ั เขียน
ม.๒/๘ แผนผังจากเร่อื งท่อี ่าน
ท ๓.๑ ม.๒/๑, -
ม.๒/๒, ม.๒/๓,
ม.๒/๖
ท ๔.๑ ม.๒/๕
ท ๕.๑ ม.๒/๑,
ม.๒/๓, ม.๒/๔
๒ โคลงภาพ ท ๑.๑ ม.๑/๑, -การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง ๑๕
พระราช ม.๑/๒, ,ม.๑/๓, -การอา่ นจับใจความจากส่ือต่างๆ
พงศาวดาร ม.๑/๔, ม.๑/๘ -การอภิปรายแสดงความคิดเห็น และ
ท ๒.๑ ม.๑/๑,
ม.๑/๓, ม.๑/๕, ข้อโตแ้ ย้งเก่ยี วกับเรื่องท่ีอ่าน
ม.๑/๗, ม.๑/๙ -การอ่านหนงั สือ บทความ หรือคำประพันธ์
ท ๓.๑ ม.๑/๑, อยา่ งหลากหลาย และประเมินคุณคา่ หรือ
ม.๑/๒, ม.๑/๓
โคลงภาพ ท ๔.๑ ม.๑/๒, แนวคดิ ทไี่ ด้จากการอ่าน เพื่อนำไปใช้
ม.๑/๖ แก้ปญั หาในชีวิต
พระราช -การเขียนรายงาน
พงศาวดาร ท ๕.๑ ม.๑/๒, -การพดู สรปุ ความจากเร่ืองที่ฟังและดู
ม.๑/๓, ม.๑/๔, -มารยาทในการฟงั การดู และการพูด
ม.๑/๕ -การสรา้ งคำสมาส คำราชาศัพท์
-การวิเคราะห์คุณคา่ และขอ้ คิดจาก
วรรณคดี วรรณกรรม
-บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองท่ีมคี ุณค่า
๓ บทเสภาสามคั คี ท ๑.๑ ม.๑/๑, -การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง การอ่าน ๑๔
เสวก ตอน ม.๑/๒, ม.๑/๓, ทำนองเสนะ
วศิ วกรรม ม.๑/๔, ม.๑/๘
มาและสามัคคี ท ๒.๑ ม.๑/๑, -การอา่ นจบั ใจความจากสื่อต่างๆ
เสวก ม.๑/๓, ม.๑/๔, -การเขยี นผังความคดิ เพอ่ื แสดงความเข้าใจ
ม.๑/๗, ม.๑/๙ ในบทเรียนต่างๆ ทอี่ า่ น
ท ๓.๑ ม.๑/๑, -การอา่ นตามความสนใจ
ม.๑/๒, ม.๑/๓, -มารยาทในการอ่าน
ม.๑/๕, ม.๑/๖ -การเขยี นบรรยายและพรรณนา
-การเขียนย่อความ
ท ๔.๑ ม.๑/๑, -การพดู วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์จากเร่ืองทีฟ่ งั
ม.๑/๒, ม.๑/๔,
ม.๑/๖
และดู
ท ๕.๑ ม.๑/๑, -มารยาทในการฟัง การดู และการพดู
ม.๑/๒, ม.๑/๓, -การเขยี นเรยี งความ
ม.๑/๔, ม.๑/๕ - การวิเคราะหว์ รรณกรรม
-การแต่งคำประพันธ์
-การท่องจำคำประพันธ์
๔ ศลิ าจารึก หลักท่ี ท ๑.๑ ม.๒/๑, -การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง ๑๓
1 ม.๒/๒, ม.๒/๓, -การอ่านจับใจความจากสื่อต่างๆ
ม.๒/๕, ม.๒/๘
ท ๒.๑ ม.๒/๑, -มารยาทในการอ่าน
ม.๒/๓, ม.๒/๘ -การอภิปรายแสดงความคิดเหน็ และ
ท ๓.๑ ม.๒/๑, ข้อโต้แยง้ เก่ียวกบั เร่ืองที่อ่าน
ม.๒/๒, ม.๒/๓, -การเขยี นย่อความ
ม.๒/๔, ม.๒/๖ -การเขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้า
-การพูดและการเขยี นโดยใช้ระดบั ภาษา
ท ๔.๑ ม.๒/๔, และรูปแบบที่ถูกต้อง
ม.๒/๕ -ลกั ษณะของประโยคในภาษาไทย
-การวิเคราะหค์ ุณคา่ และข้อคิดจากวรรณคดี
ท ๕.๑ ม.๒/๑,
ม.๒/๒, ม.๒/๓,
ม.๒/๔, ม.๒/๕
วรรณกรรม
๕ กลอนดอกสร้อย ท ๑.๑ ม.๒/๑ -การแต่งกลอนสุภาพ ๘
รำพงึ ในปา่ ชา้ ม.๒/๒ ม.๒/๕ -มารยาทในการเขยี น
ม.๒/๗ ม.๒/๘ -การพูดสรปุ ความจากเร่ืองที่ฟงั และดู
ท ๒.๑ ม.๒/๑ -การพดู วเิ คราะห์และวจิ ารณ์จากเร่อื งท่ี
ม.๒/๓ ม.๒/๗ ฟังและดู
ม.๒/๘ -การศึกษาคำท่ีมาจากภาษาต่างประเทศที่
ท ๓.๑ ม.๒/๑ ใช้ในภาษาไทย
ม.๒/๒ -การอา่ นวรรณคดแี ละบทความ
ท ๔.๑ ม.๒/๓ -การนำขอ้ คดิ มาปรับใช้ในการดำเนินชวี ิต
ม.๒/๕ -การวิเคราะหค์ ุณค่าและการโน้มน้าวใจ
ท ๕.๑ ม.๒/๑
ม.๒/๒ ม.๒/๓
ม.๒/๔ ม.๒/๕
๖๐
คะแนนรวมระหวา่ งปี/ภาคเรียน ๗๐
สอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ๓๐
รวม ๑๒๐ ๑๐๐
โครงสร้างรายวชิ า
รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ (ภาคเรยี นที่ ๒) ปีการศึกษา ๒๕๖๕ จำนวน ๖๐ ชั่วโมง ๓ หน่วยกติ
หนว่ ย ชื่อหน่วย มาตรฐานการ สาระการเรียนรู้ ช่ัวโมง นำ้ หนัก
การเรียนรู้ เรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด คะแนน
๑ บทละครเร่ือง ท ๑.๑ ม.๒/๑ -การอา่ นจบั ใจความ สรุปความ วเิ คราะห์
รามเกียรต์ิ ม.๒/๒ ม.๒/๕ และวิจารณว์ รรณคดี และวรรณกรรม
ตอนนารายณ์ ม.๒/๗ -วเิ คราะห์และจำแนกข้อเทจ็ จรงิ ขอ้ มูล
ปราบนนทก ท ๒.๑ ม.๒/๑ สนับสนนุ และขอ้ คิดเหน็ จากบทความที่
อา่ น
ม.๒/๗ -การเขียนวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดง
ท ๓.๑ ม.๒/๑ ความรู้ ความคิดเหน็ หรือโตแ้ ย้งจากสอ่ื
ม.๒/๒ ตา่ งๆ
ท ๔.๑ ม.๒/๔ -การอา่ นหนงั สือ บทความ หรอื คำประพันธ์
ม.๒/๕ อยา่ งหลากหลาย
ท ๕.๑ ม.๒/๑ -การคัดลายมือตวั บรรจงครึ่งบรรทดั ตาม
ม.๒/๒ ม.๒/๓ รูปแบบการเขยี น ตัวอกั ษรไทย
-การพดู สรปุ ความจากเรื่องที่ฟังและดู
ม.๒/๔ ม.๒/๕ -การพูดวเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์จากเรอื่ งที่ฟัง
และดู
-คำราชาศัพท์
-คำทม่ี าจากภาษาตา่ งประเทศ
บทละครเรื่อง -การวเิ คราะหค์ ุณค่าและขอ้ คิดจากวรรณคดี
รามเกยี รต์ิ วรรณกรรม และวรรณกรรม
ตอนนารายณ์ ทอ้ งถิ่น
ปราบนนทก
๒ กาพย์ห่อโคลง ท ๑.๑ ม.๒/๑ -การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง
ประพาสธาร ม.๒/๒ ม.๒/๗ -การอ่านจับใจความจากส่ือต่างๆ
ทองแดง
ท ๒.๑ ม.๒/๑ -การอ่านตามความสนใจ
ม.๒/๓ ม.๒/๖ -การคดั ลายมือตัวบรรจงครงึ่ บรรทดั ตาม
ม.๒/๗ รูปแบบการเขียน ตวั อกั ษรไทย
ท ๓.๑ ม.๒/๑
ม.๒/๒ ม.๒/๓ -การเขียนเรยี งความเกยี่ วกับประสบการณ์
ม.๒/๔ ม.๒/๖
ท ๒/๓ ม.๒/๕ -การเขียนจดหมายกจิ ธุระ
-การเขียนวิเคราะห์ วจิ ารณ์ และแสดง
ความรู้ ความคดิ เหน็ หรือโต้แยง้ จากสื่อ
ต่างๆ
ท ๕.๑ ม.๒/๑ -การพดู สรปุ ความจากเร่ืองที่ฟงั และดู
ม.๒/๒ ม.๒/๓ -การพดู วเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์จากเรอ่ื งที่ฟัง
ม.๒/๔ ม.๒/๕ และดู
-การพดู ในโอกาสต่างๆ
กาพย์ห่อโคลง -มารยาทในการฟงั การดู และการพดู
ประพาสธาร -การสรา้ งคำสมาส
-คำทม่ี าจากภาษาตา่ งประเทศ
ทองแดง -กาพย์ห่อโคลง-การวเิ คราะห์คุณค่าและ
ขอ้ คิดจากวรรณคดี วรรณกรรม และ
๓ โคลงสภุ าษิตพระ ท ๑.๑ ม.๒/๑ วรรณกรรมท้องถิน่
-การอา่ นบทร้อยกรอง
ราชนิพนธ์ ม.๒/๒ ม.๒/๕ -การอา่ นเพอื่ อ่านจบั ใจความและสรุปความ
พระบาทสมเด็จ -การเหน็ คณุ คา่ และข้อคิดจากวรรณคดี
วรรณกรรม
พระจุลจอมเกล้า ม.๒/๗ -การวิเคราะห์ และวจิ ารณเ์ รื่องท่ีอ่าน
–มารยาทการอ่าน
พระเจ้าอยูห่ ัว ท ๒.๑ ม.๒/๑ -การคดั ลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทดั ตาม
รูปแบบการเขยี น ตวั อกั ษรไทย
ม.๒/๓ ม.๒/๗ -การเขยี นเรียงความ
-การเขียนวิเคราะห์ วจิ ารณ์ และแสดง
ท ๓.๑ ม.๒/๑ ความรู้ ความคดิ เห็น หรือโต้แยง้ จากสอ่ื
ต่างๆ
ม.๒/๒ ม.๒/๓ -การพูดสรุปความจากเร่ืองที่ฟงั และดู
-การพดู วิเคราะห์และวจิ ารณ์จากเรอื่ งที่
ท ๔.๑ ม.๒/๑ ฟังและดู
ม.๒/๓ ม.๒/๔
ม.๒/๕
ท ๕.๑ ม.๒/๑
ม.๒/๒ ม.๒/๓
ม.๒/๔ ม.๒/๕
โคลงสภุ าษิตพระ -การสร้างคำในภาษาไทย
ราชนิพนธ์ -การแตง่ บทร้อยกรอง
- คำราชาศพั ท์
พระบาทสมเดจ็ -คำที่มาจากภาษาต่างประเทศ
พระจลุ จอมเกลา้ -การวเิ คราะห์คุณคา่ และข้อคิดจาก
วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรม
พระเจา้ อยหู่ ัว ทอ้ งถน่ิ
-บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทีม่ คี ุณค่า
คะแนนรวมระหวา่ งปี/ภาคเรียน ๖๐
สอบปลายภาคเรียนท่ี ๒ ๗๐
รวม
๓๐
๑๒๐ ๑๐๐
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง การอา่ นรอ้ ยแก้ว
กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ หลกั การอา่ นวรรณคดีและวรรณกรรม เวลา ๒ ชั่วโมง
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน
การดำเนนิ ชวี ติ และมนี สิ ยั รกั การอ่าน
ท ๑.๑ ม.๒/๑ อ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ และร้อยกรองได้ถกู ตอ้ ง
๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้สู่ตัวชวี้ ัด
๑. บอกความหมายการอ่านออกเสียงรอ้ ยแกว้ (k)
๒. บอกหลกั เกณฑใ์ นการอ่านบทร้อยแกว้ ได้ถูกตอ้ ง (P)
๓. อา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ ได้ถูกตอ้ งและสอดคล้องกบั เนอ้ื เร่อื งที่อ่าน (A)
๓. สาระสำคญั
การอ่านออกเสียงเป็นการสื่อสารที่สำคัญ เพราะเป็นการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึก และอารมณ์
ของผอู้ ่านไปยังผู้ฟัง ผทู้ อ่ี า่ นออกเสียงได้ดี ยอ่ มตอ้ งรหู้ ลักในการอ่าน และมีทักษะในการอ่าน จึงจะสามารถอ่านได้
ถูกต้อง คล่องแคล่วและน่าฟัง ดังนั้นหากรู้หลักการอ่านและมีทักษะในการอ่าน ย่อมจะทำให้การสื่อสารเกิด
สมั ฤทธิ์ผล
๔. สาระการเรยี นรู้ ๔) ทักษะการตัง้ เกณฑ์
๔.๑.ความรู้ (K) ๕) ทกั ษะการประเมนิ
- ความหมายของร้อยแก้ว ๖) ทักษะการนำความรไู้ ปใช้
- หลักการอา่ นออกเสยี งร้อยแก้ว
- การอ่านออกเสียงร้อยแกว้
๔.๒.ทกั ษะ/กระบวนการ(P)
๑) ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ
๒) ทักษะการวเิ คราะห์
๓) ทักษะการจำแนกประเภท
๔.๓ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
๑) มีวินยั
๒) รักความเปน็ ไทย
๕. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ความสามารถในการส่อื สาร
- มที ักษะในการอ่านรอ้ ยแกว้
ความสามารถในการคิด
- ทักษะการคิดวเิ คราะห์
ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
- กระบวนการปฏิบตั ิ
๖. สาระการเรียนรู้สู่การบรู ณาการ
การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วต้องอ่านให้ชัดเจน และเหมาะสมกับประเภทของสารที่อ่านนั้น
รวมถึงเนื้อเรือ่ งด้วย ไม่ว่าจะเปน็ บทความหรือบทโฆษณาต้องอ่านให้ถูกต้องตามอักขรวิธี มีจังหวะในการอ่านใช้
นำ้ เสยี งสอดคล้องกับลักษณะของสินคา้ บริการ และกลุ่มเป้าหมายท่เี ปน็ ผ้ฟู งั
๗. การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน (ช่ัวโมงท่ี ๑)
ขัน้ นำ
๑. ครูสนทนากับนักเรียนเรอ่ื งการอ่านออกเสยี งในชวี ติ ประจำวนั ว่า สว่ นใหญ่จะไม่อา่ นออกเสียง
มีแต่อ่านในใจ เพ่อื ความรวดเร็ว แตถ่ า้ อา่ นออกเสียงกเ็ ป็นในบางคร้ัง บางโอกาสเท่านนั้ เชน่ อ่านนิทานให้น้องฟัง
อ่านเพื่อสอบเอาคะแนน เป็นตน้
ข้ันสอน
๒. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว เพื่อจะได้ทราบพ้ืน
ฐานความรู้เดิมของนักเรียนในการเรียนเรื่องการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว ซึ่งใช้แบบทดสอบปรนัย ชนิดเลือกตอบ
๔ ตัวเลือก จำนวน ๒๐ ข้อ
๓. เสร็จแล้วส่งครตู รวจแจ้งคะแนนไม่ตอ้ งเฉลย
๔. นักเรียนอ่านออกเสียงร้อยแก้วเรื่องสร้างวัฒนธรรมคนรุ่นใหมใ่ หเ้ ป็นนักอ่าน พร้อมๆ กันจาก
กิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ ๑ (ข้อความทย่ี ังไม่ไดแ้ บง่ วรรคตอน)
ขัน้ สรปุ
๕. ให้นักเรยี นแสดงความคดิ เห็นในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี
- ความแตกตา่ งในด้านความไพเราะ
- ความแตกตา่ งในด้านความถกู ต้อง
- ความแตกตา่ งในดา้ นความคลอ่ งแคล่ว
(ช่วั โมงที่ ๒)
ขั้นนำ
๖. นักเรียนศึกษา ใบความรู้ ที่ ๑ เรอ่ื ง หลักการอ่านออกเสียง ความหมายรอ้ ยแก้ว หลักการอ่าน
ออกเสยี งรอ้ ยแก้ว สรปุ ใจความสำคญั ลงสมดุ จดงาน
ขัน้ สอน
๗. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายความจำเป็นของการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว แล้วสรุปหลักการ
โดยครูเพิ่มเติมข้อสรุปของนักเรียนซึ่งพิจารณาในด้านจังหวะ วรรคตอน การใช้สายตา น้ำเสียง อารมณ์ และ
บุคลกิ ภาพ
๘. นักเรียนจับคู่กันอ่านออกเสียงร้อยแก้วเรื่องสร้างวัฒนธรรมคนรุ่นใหม่ให้เป็นนักอ่าน พร้อมๆ
กันจากกจิ กรรมการเรยี นรู้ท่๑ี ซึ่งครูได้ทำเคร่อื งหมายการเวน้ วรรคแลว้
๙. นักเรียนเลือกบทร้อยแก้วจาก กิจกรรมที่ ๒ และกิจกรรมที่ ๓ และเลือก เพียงกิจกรรมเดียว
เพื่อฝกึ อ่านนอกเวลา
๑๐. นักเรียนอ่านออกเสียงร้อยแก้วหน้าชั้นเรียน เพื่อนๆ ช่วยกันประเมินผลโดยใช้ แบบ
ประเมินผลการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว สลับกันให้คะแนน นักเรียนจะได้รู้ถึงความสามารถของตนเองในการอ่าน
ออกเสียงร้อยแก้ว นำไปปรับปรุงแกไ้ ขใหด้ ีขึ้นต่อไป
ข้ันสรปุ
๑๑. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น เรอ่ื งการอ่านออกเสยี งร้อยแก้ว เพ่อื จะได้ทราบว่านักเรียน
ได้รับความรู้จากการเรียนเรื่องการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว ใช้แบบทดสอบปรนัย ชนิดเลือกตอบ ๔ ตัวเลือก
จำนวน ๒๐ ขอ้
๘. การจัดบรรยากาศเชิงบวก
ให้นักเรียนได้แสดงความสามารถในการอ่านออกเสียง เรียนรู้และสังเกตการอ่านของผู้อื่น แล้วนำมา
ประยกุ ต์ใชก้ บั ตนเอง
๙. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
สือ่ การเรียนรู้
- แบบทดสอบก่อนเรียน
- ใบความรู้
- กจิ กรรมการเรยี นรูท้ ี่ ๑,๒,๓
แหล่งการเรยี นรู้
- สือ่ ตา่ ง ๆ เชน่ วิทยุ โทรทศั น์ อนิ เทอร์เนต็
๑๐. การวัดและการประเมนิ ผล
จุดประสงค์การเรียนรู้ ช ิ ้ น ง า น / วธิ ีการประเมนิ เครื่องมือการ ผู้ประเมนิ เกณฑ์การ
ประเมิน
ส่ตู ัวชวี้ ดั ภาระงาน ประเมิน ร้อยละ ๖๐
ผา่ นเกณฑ์
บอกความหมายการ - นักเรยี นทำ แบบทดสอบ ครูผสู้ อน
ระดบั คุณภาพ
อ่านออกเสยี งรอ้ ยแกว้ แบบทดสอบกอ่ น ก่อนเรยี น ๙-๑๒ ผา่ น
เกณฑ์
เรยี น
ร้อยละ ๖๐
อ่านออกเสียงบทร้อย - นกั เรยี นอา่ นออก แบบประเมนิ การ ครูผู้สอน ผา่ นเกณฑ์
แก้วได้ถูกต้องและ เสยี งบทรอ้ ยแกว้ อ่านบทร้อยแก้ว
สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง
ที่อา่ น
บอกหลักเกณฑ์ในการ - นักเรยี นทำ แบบทดสอบ ครผู ้สู อน
อ ่ า น บ ท ร ้ อ ย แ ก ้ ว ไ ด้ แบบทดสอบ หลงั เรียน
ถกู ต้อง หลงั เรียนเรยี น
แบบทดสอบก่อนเรยี น – หลังเรียน
เรอื่ งการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว
คำชี้แจง ให้นกั เรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่สี ดุ เพยี งคำตอบเดียว
๑. ขอ้ ใดหมายถึงการอา่ นออกเสยี ง ๙. ขอ้ ใดอ่านถกู ต้องตามความหมายกระดูกมนษุ ย์
ก. การเปล่งเสยี งตามตัวหนังสือ
ข. การออกเสยี งใหด้ งั ก.โครง (โคง) ข. โคลง(โค-ลง)
ค. การอา่ นหนงั สือ
ง. การใชเ้ สียงในการอา่ นหนงั สือ ก. โคง (โคง) ข. โคลง(โคง)
๒. องคป์ ระกอบของการอา่ นออกเสยี งมีอะไรบา้ ง ๑๐. เตมิ คำใดจึงจะถกู ต้อง “ห้ามติดปา้ ยประ...........
ก. ผูส้ ง่ สาร ข. สาร ค. ผรู้ บั สาร ง. ถกู ทกุ ขอ้
ก. ประกาศ ข. ประกาส
๓. “สาร” คอื ขอ้ ใด
ก. ขอ้ ความท่ีอ่าน ข. ผอู้ ่าน ค. ผู้ฟัง ง. การอา่ น ค. ประกาด ง. ประกาจ
๔. หลักในการอ่านออกเสียงข้อใดไมใ่ ช่ ๑๑. งานเขียนรอ้ ยแก้วประเภทใดมุ่งเนน้ เสนอเนื้อหา
ก. ความเข้าใจบทอา่ น ข. การยืนหรอื การนงั่
ค. การถือบทอา่ น ง. สมาธิ ข้อเทจ็ จรงิ ทกุ ขอ้
๕. หลกั ในการอา่ นออกเสยี งข้อใดไมใ่ ช่ ก. นทิ าน เรอ่ื งส้ัน
ก. การใชน้ ้ำเสยี ง ข. การเวน้ วรรคใหถ้ กู ต้อง
ค. พยญั ชนะ ร และ ล ง. การหายใจ ข. บทความ นวนิยาย
๖. ขอ้ ใดไมค่ วรปฏบิ ตั ิในการอ่านหนังสือ ค. บทความ คมั ภรี ์ศาสนา
ก. ไมค่ วรอ่านหนงั สอื ก้มหน้า
ข. สบตาผู้ฟังเปน็ ระยะ ๆ ง. จดหมายเหตุ นยิ ายองิ พงศาวดาร
ค. ควรเปลย่ี นสายตาขา้ งซา้ ยบา้ ง ขวาบา้ ง
ง. เคยี้ วหมากฝรัง่ ๑๒. การอ่านใหเ้ กิดจินตภาพ ควรปฏิบัตอิ ย่างไร
๗. การเวน้ วรรคตอนมคี วามสำคัญอยา่ งไร ก. อา่ นเน้นคำทสี่ ำคัญและคำท่ีตอ้ งการให้เกิดจนิ ตภาพ
ก. เว้นวรรคผิด ความหมายจะเปลี่ยน
ข. เว้นวรรคผดิ ความหมายไมเ่ ปลีย่ น ข. อา่ นใหถ้ กู ต้องตามอกั ขรในภาษาไทย
ค. การเวน้ วรรคไม่มีความสำคญั
ง. ไมม่ ขี ้อใดถูก ค. อ่านจากพจนานกุ รมบัณฑิตยสถาน
๘. ขอ้ ใดอา่ นเว้นวรรคถูก มีความหมายถึงฐานะ “รวย” ง. อา่ นออกเสียงให้ดังกังวานจนผ้ฟู ังเกดิ จนิ ตภาพ
ก. อาจารย์ฟอง/สนานสวมแว่นตา/กรอบทองเหลืองวาววับ
๑๓. การอา่ นออกเสยี งต้องการเนน้ หรือเพม่ิ น้ำหนักของเสียง
ควรใชเ้ ครอ่ื งหมายใดกำกบั
ก. เคร่อื งหมาย / ข. เครอ่ื งหมาย //
ค. เครื่องหมาย _ ง. เคร่ืองหมาย /_
๑๔. ขอ้ ใดเป็นลักษณะเด่นของการอา่ นแบบพรรณนา
ก. การอ่านทีเ่ น้นน้ำหนกั ของเสยี ง
ข. การอ่านทีท่ ำให้ผู้ฟงั เกิดอารมณ์คลอ้ ยตาม
ค. การอ่านท่ลี ากเสียงช้าๆ และไว้หางเสยี ง
ง. การอ่านทที่ ำใหเ้ กิดเสยี งโศกเศร้ากลบั เป็นเสียงปกติ
ข. อาจารยฟ์ องสนาน/สวมแว่นตากรอบทอง/ เหลืองวาววับ ๑๕. การอา่ นคำให้เอื้อสัมผัสในเพือ่ เพิ่มความไพเราะเปน็ การ
ค. อาจารย/์ ฟองสนาน/สวมแวน่ ตากรอบทองเหลืองวาววบั อ่านในข้อใด
ง. อาจารย์ฟองสนาน/สวมแวน่ ตากรอบทองเหลอื ง/วาววบั
ก. ไม่มีกษัตรยิ ค์ รองปฐพี อ่านวา่ ปะ-ถะ-พี
ข. ขา้ อุตส่าห์มาเคารพอภิวันท์ อา่ นวา่ อะ-พ-ิ วัน
ค. บญุ บันดาลดวงจติ พระธดิ า อ่านว่า พระ-ท-ิ ดา
ง. คิดถึงบาทบพิตรอดิศร อา่ นว่า อะ-ดิด-สอน
๑๖. กาพยย์ านี ๑๑ ข้อใดแบ่งการอ่านวรรคตอนในการอ่านได้ ๑๘. การอ่านดว้ ยน้ำเสียงหนักแนน่ ส้นั กระชบั เหมาะ
การอ่านเน้ือความในลักษณะใด
ถกู ต้อง
ก. เนอื้ ความประเภทสงั่ สอน
ก. นาวา/แน่นเป็นขนัด// ล้วนรูปสัตว์/แสนยากร// ข. เนือ้ ความประเภทตดั พอ้ ต่อว่า
ค. เนอ้ื ความประเภทแสดงอารมณก์ ลัว
เรือริ้ว/ทวิ ธงสลอน// สาครลัน่ /คร่ันครื้นฟอง// ง. เน้ือความประเภทแสดงอารมณโ์ กรธ
๑๙. การอ่านคำประพันธ์ประเภทใด สามารถฝกึ อ่านได้
ข. พระเสด็จโดย/แดนชล ทรงเรือต้น/งามเฉิดฉาย งา่ ยมากทีส่ ดุ
ก. อา่ นบทเจรจา
กง่ิ แกว้ /แพรว้ พรรณราย พายอ่อนหยับ/จับงามงอน ข. อา่ นร้อยแกว้
ค. อา่ นกลอนสวด
ค. ตบั เหลก็ /ลวกหล่อนต้ม// เจอื นำ้ สม้ /โรยพริกไทย ง. อา่ นทำนองเสนาะ
๒๐. เสยี งของกลอนจะไพเราะขนึ้ อยกู่ ับขอ้ ใด
โอชา/จะหาไหน// ไม่ม/ี เทียบเปรยี บ/มือนาง// ก. สัมผัสใน
ข. สัมผสั นอก
ง. เห็นนวลครวญ/คร่นุ คดิ // กำเริบจิต/วาบหวน่ั ไหว// ค. จำนวนคำ
ง. การใชภ้ าพจน์
ไปไดก้ ็/จะไป// โอบเอวอุ้ม/พุ่มพวงพยงุ /
๑๗. การอา่ นร้อยกรองประเภทใดทม่ี ีการแบง่ วรรคตอนแตกต่าง
จากข้ออื่น
ก. โคลงกระทู้
ข. กลอนสักวา
ค. กลอนสภุ าพ
ง. กลอนหก
เฉลย
๑. ก ๒. ง ๓. ก ๔. ง ๕. ง ๖. ง ๗. ก ๘. ข ๙. ก ๑๐. ก
๑๑. ง ๑๒. ก ๑๓. ค ๑๔. ข ๑๕. ง ๑๖.ก ๑๗. ก ๑๘.ง ๑๙.ข ๒๐. ก
กจิ กรรมท่ี ๑
ตัวอยา่ งข้อความอ่านออกเสียงรอ้ ยแก้ว
สร้างวฒั นธรรมคนร่นุ ใหม่ให้เป็นนกั อา่ น
ในปัจจุบันกล่าวกันว่าเรากำลังอยู่ในยุคโลกาภิวัฒน์ หรือเรียกอีกอย่างว่าโลกไร้ พรมแดน แต่จะเรียก
อย่างไรก็ตามเถิด การอ่าน ก็เป็นกระบวนการสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาคนในทศวรรษนี้ เพราะโลกของ
การศึกษา มิได้จำกัดอยู่ภายในห้องเรียน ที่มีลักษณะรูปทรงสี่เหลี่ยมเเคบๆ เท่านั้น เเต่ข้อมูลข้าวสารสารสนเทศ
ต่างๆ ได้ย่อโลกให้เล็กลงเท่าที่เราอยากรู้ได้รวดเร็ว ในชั่วลัดนิ้วมือเดียวอย่างที่คนโบราณกล่าวไว้ จะมีสื่อให้อ่าน
อย่างหลากหลายให้เลือก ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ที่เราคุ้นเคย ไปจนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า "อินเทอร์เน็ต" เพราะการ
ต่อสรู้ ุกรานกันของมนุษย์ยุคใหม่ จะใชข้ อ้ มูล สติ ปัญญา และคุณภาพของคนในชาติ มากกวา่ การใชก้ ำลังอาวุธเข้า
ประหัตประหารกัน หากคนในชาติด้อยคุณภาพ ขาดการเรียนรู้ จะถูกครอบงำทางปัญญาได้ง่ายๆ จากสื่อต่างๆ
จากชาติทพ่ี ัฒนาเเลว้ หากคนไม่อา่ นหนังสือ กย็ ากทีจ่ ะพัฒนาสติปัญญา และความร้ไู ด้ โดยเฉพาะประเทศท่ีกำลัง
พฒั นา จะตอ้ งทุ่มเทให้คนมนี ิสัยรกั การอ่าน มที ักษะในการอา่ น และพัฒนาวิธีการอ่านใหเ้ ป็นนักอา่ นที่ดี นักอ่านที่
ดีจะมีภูมิคุ้มกันการครอบงำทางปัญญาได้เป็นอย่าง รู้เท่ากันคน และสามารถแก้ปัญหาได้ดี
ชาติกา้ วไกลด้วยคนไทยรักการอา่ น : มานพ ศรเี ทียม
สร้างวฒั นธรรมคนรนุ่ ใหมใ่ ห้เป็นนกั อ่าน
ในปัจจุบันกลา่ วกนั วา่ / เรากำลงั อยใู่ นยุคโลกาภวิ ัฒน์ หรอื เรยี กอกี อยา่ งวา่ โลกไร้พรมแดน// แต่จะเรียก
อย่างไรก็ตามเถิด/ การอ่าน/ ก็เป็นกระบวนการสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาคนในทศวรรษนี้/ เพราะโลกขอ
การศึกษา/ มิไดจ้ ำกดั อยู่ภายในหอ้ งเรียน/ ทม่ี ีลักษณะรปู ทรงสเี่ หลย่ี มเเคบๆ เทา่ น้ัน/ เเต่ข้อมูลขา้ วสารสารสนเทศ
ตา่ งๆ /ไดย้ อ่ โลกใหเ้ ลก็ ลงเท่าทเ่ี ราอยากรไู้ ด้รวดเรว็ / ในชัว่ ลัดนวิ้ มอื เดยี วอยา่ งทคี่ นโบราณกล่าวไว/้ จะมีสอื่ ให้อา่ น
อย่าหลากหลายให้เลือก/ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ที่เราคุ้นเคย/ ไปจนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า "อินเทอร์เน็ต" เพราะการ
ต่อสู้รุกรานกันของมนุษย์ยุคใหม่/ จะใช้ข้อมูล/ สติ/ ปัญญา/ และคุณภาพของคนในชาติ/ มากกว่าการใช้กำลัง
อาวุธเข้าประหัตประหารกัน// หากคนในชาติด้อยคุณภาพ/ ขาดการเรียนรู้/ จะถูกครอบงำทางปัญญาได้ง่ายๆ /
จากสื่อตา่ งๆ จากชาติทพ่ี ฒั นาเเล้ว หากคนไมอ่ า่ นหนังสือ/ ก็ยากท่ีจะพัฒนาสตปิ ัญญา และความรไู้ ด้/ โดยเฉพาะ
ประเทศที่กำลังพัฒนา/ จะต้องทุ่มเทให้คนมีนิสัยรักการอ่าน/ มีทักษะในการอ่าน/ และพัฒนาวิธีการอ่านให้เป็น
นกั อ่านท่ีด/ี / นักอา่ นท่ีดจี ะมีภมู คิ ุ้มกันการครอบงำทางปัญญาได้เป็นอย่าง/ รู้เทา่ กนั คน และสามารถแก้ปัญหาได้ดี
ชาตกิ ้าวไกลดว้ ยคนไทยรกั การอา่ น : มานพ ศรีเทียม
เคร่ืองหมาย / หมายถึง การหยดุ เว้นช่วงจงั หวะสน้ั ๆ
เครื่องหมาย // หมายถึง การหยุดเว้นช่วงจงั หวะทย่ี าวกว่าเคร่อื งหมาย /
เคร่อื งหมาย ____ หมายถึง การเน้น การเพิ่มน้ำหนักของเสยี ง
แบบประเมนิ การอ่านออกเสียงร้อยแกว้
ถกู ตอ้ ง การแบง่ วรรค ออกเสยี ง การใช้นำ้ เสยี ง จังหวะลีลาใน รวม ๒๐
เลขที่ ช่อื -สกลุ ตามอักขรวิธี ตอน ชดั เจน การอ่าน คะแนน
๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๒๐
๑
๒
๓
๔
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
...
เกณฑก์ ารคดั สินระดบั คุณภาพ ระดบั คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ดมี าก
๑๗-๒๐ ดี
๑๓-๑๖ พอใช้
๙-๑๒
๕-๘ ปรบั ปรุง
ลงชื่อ นางสาวอรนสิ า กาใจใส ผู้ประเมนิ
.........../................./.............
เกณฑก์ ารคัดสินระดับคณุ ภาพ ระดับคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ดีมาก
๑๗-๒๐ ดี
๑๓-๑๖ พอใช้
๙-๑๒
๕-๘ ปรับปรุง
๑๑. บนั ทึกผลหลังการสอน
๑๑.๑สรุปผลการเรียนการสอน
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
๑๑.๒ ปญั หา/อุปสรรค
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
๑๑.๓ แนวทางแก้ไข /แนวทางการพัฒนา
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
ลงช่อื นางสาวอรนิสา กาใจใส
(.....................................................)
ครูผสู้ อน
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ เรอื่ ง การอ่านรอ้ ยกรอง
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวชิ าภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑ หลักการอ่านวรรณคดแี ละวรรณกรรม เวลา ๑ ชวั่ โมง
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน
การดำเนนิ ชีวิต และมีนิสยั รกั การอา่ น
ท ๑.๑ ม.๒/๑ อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและร้อยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง
๒. จุดประสงค์การเรียนรูส้ ูต่ วั ชีว้ ัด
๑. บอกความหมายการอา่ นออกเสยี งรอ้ ยกรอง (k)
๒. บอกหลักเกณฑใ์ นการอา่ นบทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ต้อง (P)
๓. อ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ต้องและสอดคลอ้ งกบั เน้อื เร่ืองที่อ่าน(A)
๓. สาระสำคัญ
การอ่านออกเสียงเป็นการสื่อสารที่สำคัญ เพราะเป็นการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึก และอารมณ์
ของผ้อู ่านไปยังผู้ฟัง ผู้ทอี่ ่านออกเสียงไดด้ ี ยอ่ มต้องรหู้ ลักในการอ่าน และมีทักษะในการอ่าน จึงจะสามารถอ่านได้
ถูกต้อง คล่องแคล่วและน่าฟัง ดังนั้นหากรู้หลักการอ่านและมีทักษะในการอ่าน ย่อมจะทำให้การสื่อสารเกิด
สัมฤทธ์ิผล
๔. สาระการเรยี นรู้ ๔) ทกั ษะการตั้งเกณฑ์
๔.๑.ความรู้ (K) ๕) ทักษะการประเมนิ
- ความหมายของรอ้ ยกรอง ๖) ทักษะการนำความรู้ไปใช้
- หลักการอ่านออกเสียงร้อยกรอง
- การอา่ นออกเสยี งรอ้ ยกรอง
๔.๒.ทักษะ/กระบวนการ(P)
๑) ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ
๒) ทักษะการวิเคราะห์
๓) ทักษะการจำแนกประเภท
๔.๓ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
๑) มวี นิ ยั
๒) รกั ความเป็น
๕. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ความสามารถในการสือ่ สาร
- มที กั ษะในการอา่ นรอ้ ยแกว้
ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์
ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
- กระบวนการปฏบิ ัติ
๖. สาระการเรยี นรู้สู่การบูรณาการ
การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วต้องอ่านให้ชัดเจน และเหมาะสมกับประเภทของสารที่อ่านนั้น
รวมถึงเนื้อเรือ่ งด้วย ไม่ว่าจะเป็นบทความหรือบทโฆษณาต้องอา่ นให้ถูกต้องตามอักขรวิธี มีจังหวะในการอ่านใช้
นำ้ เสียงสอดคล้องกับลักษณะของสนิ ค้า บรกิ าร และกลุ่มเป้าหมายทเ่ี ป็นผ้ฟู ัง
คำถามท้าทาย
- ถ้าอ่านออกเสยี งคำ หรอื ประโยค จากพยัญชนะ“ร” เป็น “ล” จะเป็นอย่างไร
- และหากนกั เรียนอา่ นบทรอ้ ยกรองแบบไม่แบง่ วรรคหรือจงั หวะจะเปน็ อยา่ งไร
ช้นิ งาน/ภาระงาน
- เขยี นแสดงความคิดเห็นหลักการอา่ นออกเสยี งรอ้ ยกรอง
๗. การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน
ขนั้ สอน
๑. ครสู นทนากบั นักเรยี นเร่ืองการอ่านออกเสยี งในชีวติ ประจำวนั ว่า ประเภทของการอ่านมีหลาย
ประเภททั้งการอ่านแบบร้อยแกว้ และการอา่ นแบบรอ้ ย แต่ถ้าอา่ นออกเสียงแบบร้อยกรองจะต้องมีหลักการใดบ้าง
๒. ครูเปิดส่อื วดิ ีโอการขับรอ้ งทำนองเสนาะ บทเสภาสามัคคีเสวก ตอนวศิ วกรรมา ใหน้ ักเรยี นฟัง
ขัน้ สอน
๓. นักเรียนเปิดหนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรม หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ บทเสภาสามัคคี
เสวก
อาขยานบทหลกั
บทเสภาสามัคคเี สวก
ตอน วศิ วกรรมา
อันชาติใดไรช้ า่ งชำนาญศิลป์ เหมอื นนารนิ ไรโ้ ฉมบรรโลมสง่า
ใครใครเหน็ ไม่เป็นทจ่ี ำเริญตา เขาจะพากันเย้ยใหอ้ บั อาย
ศิลปกรรมนำใจให้สร่างโศก ช่วยบรรเทาทุกขใ์ นโลกใหเ้ หือดหาย
จำเริญตาพาใจใหส้ บาย อกี ร่างกายกจ็ ะพลอยสุขสราญ
แมผ้ ู้ใดไมน่ ิยมชมสิ่งงาม เมอื่ ถึงยามเศร้าอุราน่าสงสาร
เพราะขาดเคร่ืองระงับดบั รำคาญ โอสถใดจะสมานซ่งึ ดวงใจ
เพราะการชา่ งนสี้ ำคญั อนั วเิ ศษ ทุกประเทศนานาท้งั น้อยใหญ่
จงึ ยกย่องศลิ ปกรรมน์ น้ั ทว่ั ไป ศรีวิไลวลิ าศดีเปน็ ศรีเมือง
พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยหู่ วั
๔. นักเรยี นอา่ นออกเสียงรอ้ ยแกว้ พรอ้ มกับแบง่ วรรคตอนตามแบบของฉนั ทลักษณ์
๕. นกั เรยี นอ่านออกเสียงร้อยกรองพรอ้ มๆกันและครูอธบิ ายความหมายของบทอาขยาน
ขนั้ สรุป
๖. ให้นกั เรยี นแสดงความคดิ เห็นในประเดน็ ต่อไปน้ี
- หากเราไมม่ ีการแบ่งวรรคตอนจะไมม่ ีความไพเราะ
- ความแตกต่างการอ่านรอ้ ยแกว้ และรอ้ ยกรอง
- ประโยชนข์ องการอา่ นแบบร้อยกรอง
๘. การจดั บรรยากาศเชิงบวก
ใหน้ ักเรยี นได้แสดงความสามารถในการอ่านออกเสียง เรียนรแู้ ละสงั เกตการอ่านของผอู้ ่ืน แลว้ นำมา
ประยกุ ต์ใช้กับตนเอง
๙. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
สอ่ื การเรยี นรู้
- สอ่ื วดิ ีโอการอ่านออกเสียงบทเสภาสามัคคเี สวก
แหลง่ การเรยี นรู้
- ส่ือตา่ ง ๆ เชน่ วทิ ยุ โทรทศั น์ อนิ เทอร์เนต็
๑๐. การวดั และการประเมินผล
จุดประสงค์การเรยี นรู้ ชิ้นงาน/ วธิ ีการประเมิน เครื่องมอื การ ผู้ประเมิน เกณฑก์ าร
ส่ตู วั ชี้วดั ภาระงาน ประเมนิ ประเมนิ
อ่านออกเสียงบทร้อย นักเรยี นอา่ นออก แบบประเมินการ ระดับคุณภาพ
กรองได้ถูกตอ้ งและ เสยี งบทร้อยกรอง อา่ นบทร้อยกรอง ๙-๑๒ ผา่ นเกณฑ์
สอดคลอ้ งกับเนื้อเรอ่ื ง
ทอี่ า่ น
บอกความหมายการ สงั เกต แบบสังเกต ครูผู้สอน ผ่าน ๒ รายการ
อ่านออกเสียงร้อย พฤติกรรมของ พฤติกรรมการ ถอื วา่ ผา่ น
กรอง นักเรียนในการ เข้าร่วมกจิ กรรม ผา่ น ๑ รายการ
เขา้ รว่ มกิจกรรม รายบคุ คล ถอื วา่ ไม่ผ่าน
บคุ คล
บอกหลักเกณฑ์ในการ นักเรียนอา่ นออก แบบประเมินการ ระดบั คุณภาพ
อา่ นบทร้อยกรองได้ เสียงบทร้อยกรอง อา่ นบทร้อยกรอง ๙-๑๒ ผ่าน
ถกู ต้อง เกณฑ์
แบบประเมนิ การอ่านรอ้ ยกรอง
ถูกต้อง การแบง่ วรรค ออกเสยี ง การใชน้ ้ำเสยี ง จังหวะลลี าใน รวม ๒๐
เลขที่ ชอ่ื -สกลุ ตามอักขรวธิ ี ตอน ชัดเจน การอ่าน คะแนน
๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๒๐
๑
๒
๓
๔
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
...
ลงชอ่ื นางสาวอรนสิ า กาใจใส ผู้ประเมิน
.........../................./.............
เกณฑก์ ารคัดสินระดบั คณุ ภาพ ระดบั คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ดมี าก
๑๗-๒๐ ดี
๑๓-๑๖ พอใช้
๙-๑๒
๕-๘ ปรบั ปรุง
แบบสงั เกตพฤติกรรมการมสี ่วนรว่ มในชน้ั เรียนรายบคุ คล
คำชี้แจง : แบบสังเกตพฤติกรรมการมสี ว่ นร่วมในชี้นเรยี น/การตอบคำถามในชั้นเรยี นสร้างขน้ึ เพ่ือให้ครผู ้สู อน
ประเมนิ พฤติกรรมนักเรยี นเป็นรายบุคคล โดยทำเครื่องหมาย
พฤติกรรม พฤติกรรมและระดับคะแนน
เลขท่ี
ความมีวนิ ยั ความตั้งใจและมุ่งมั่น การตอบคำถามใน รวม
รายชอ่ื ตรงตอ่ เวลา ความ ในการเรียน ช้ันเรยี น
๑ รบั ผดิ ชอบ
๒
๓ ๓๒ ๑ ๓ ๒๑๓ ๒ ๑
๔
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
ลงช่ือ นางสาวอรนิสา กาใจใส ผู้ประเมนิ
.........../................./.............
๑๑. บนั ทึกผลหลังการสอน
๑๑.๑สรุปผลการเรยี นการสอน
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
๑๑.๒ ปญั หา/อุปสรรค
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
๑๑.๓ แนวทางแก้ไข /แนวทางการพัฒนา
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
ลงช่ือ นางสาวอรนสิ า กาใจใส
(.....................................................)
ครูผูส้ อน
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓ เรอื่ ง การอา่ นจบั ใจความสำคญั
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ หลักการอ่านวรรณคดแี ละวรรณกรรม เวลา ๑ ชัว่ โมง
๑.มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคิดเพื่อนำไปใชต้ ัดสนิ ใจแก้ปญั หาในการ
ดำเนนิ ชีวิต และมีนสิ ยั รักการอา่ น
ท ๑.๑ ม. ๒/๒ จบั ใจความสำคัญ สรปุ ความ และอธบิ ายรายละเอยี ดจากเร่ืองที่อา่ น
ท ๑.๑ ม. ๒/๘ มมี ารยาทในการอา่ น
๒.จุดประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ตู่ ัวชีว้ ดั
๑. อธบิ ายหลกั การอ่านจับใจความ การสรุปความ และการอธบิ ายรายละเอียดจากเร่ืองที่อา่ น (K)
๒. จบั ใจความ สรปุ ความ และอธิบายรายละเอียดจากเรื่องทอ่ี ่าน (P)
๓. เห็นความสำคญั ของการอ่านและมมี ารยาทในการอ่าน (A)
๓.สาระสำคญั
การอ่านจับใจความ สรุปความ และอธบิ ายรายละเอยี ดจากเรอื่ งท่อี ่าน เป็นส่ิงสำคัญท่ีจะทำให้การอ่านมี
ประสทิ ธิภาพและเป็นพ้ืนฐานการอ่านในระดับทยี่ ากขึ้น
๔.สาระการเรยี นรู้
๑.ความรู้ (K)
- หลกั การอา่ นออกเสยี งร้อยแกว้
- มารยาทการอ่าน
๒ ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P)
- การอ่านออกเสยี งร้อยแกว้
- การทำงานกลุ่ม
๓ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
-ใฝ่เรยี นรู้
-มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
๕.สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
- ทักษะการอา่ น
- ทักษะการเขยี น
- ทกั ษะการฟงั การดู และการพดู
๒. ความสามารถในการคิด
- การจำแนก
- การวิเคราะห์
- การสังเคราะห์
- การสรปุ ความรู้
๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
๖. สาระการเรยี นรู้สู่การบรู ณาการ
การอ่านจบั ใจความ สรุปความ และอธิบายรายละเอยี ดจากเรือ่ งท่ีอ่าน เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การอา่ นมี
ประสิทธิภาพและเป็นพ้ืนฐานการอ่านในระดับทย่ี ากข้ึน
๗. การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน
ขนั้ นำ
๑. ให้นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครูใชค้ ำถามท้าทาย ดงั น้ี
นกั เรยี นคดิ ว่าระหวา่ งการอา่ นกบั การฟัง ทักษะใดให้ความรมู้ ากกวา่ กนั เพราะเหตุใด
๒. ให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม ๓ กลุ่ม โดยให้นับ ๑ - ๓ ตอ่ เนอื่ งกันจนครบทุกคน
นกั เรยี นทีน่ บั ๑ ให้ศึกษาความรู้ เรือ่ ง การอ่านจับใจความ
นกั เรียนทนี่ บั ๒ ให้ศกึ ษาความรู้ เรื่อง การสรปุ ความ
นกั เรียนทีน่ ับ ๓ ให้ศึกษาความรู้ เร่อื ง การอธิบายรายละเอยี ดจากเร่ืองท่ีอา่ น
๓. ครเู ลือกนกั เรียนกลุ่มละ ๒ - ๓ คน ออกมาสรุปความรู้ให้เพือ่ น ๆ ฟัง
ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติม
๔. ใหน้ กั เรยี นศึกษาตัวอยา่ งการจบั ใจความสำคญั การสรุปความ และการอธบิ ายรายละเอยี ดจากเร่ือง
ครูไหวใจรา้ ย ตอน ผู้บอกเวลา แลว้ ร่วมกันแลกเปลีย่ นความรู้ ความเขา้ ใจ
๕. ให้นักเรยี นอา่ นแถบข้อความที่ ๑
แม่จากไปเมื่อฉันเป็นเณรได้สองพรรษา ฉันคิดว่าความตายกรุณาแม่ช่วยปลดเปลื้องความทุกข์
ทรมานให้แม่ แต่ฉันก็ต้องร้องไห้อย่างมากมายพยายามระงับดับปลงอย่างไรก็ไม่ไหว พลอยให้ญาติหญิง
คนหน่งึ สะอนื้ ไห้ และเผลอตวั เขา้ มาโอบประคอง ฉนั รอ้ งไหด้ ว้ ยคดิ ว่า ตอ่ แต่นฉี้ ันจะตอ้ ง
อยเู่ พียงลำพงั หรือไม่ก็ถูกทอดทิ้งให้อยู่กบั คนแปลกหน้าไปชว่ั ชวี ิต
แพร เยือ่ ไม้
แล้วชว่ ยกนั ระดมความคดิ ในประเดน็ ต่อไปนี้
ใจความสำคญั ของเรื่องคืออะไร (แมจ่ ากไปเมอ่ื ฉันเปน็ เณรได้สองพรรษา)
สรุปความไดว้ า่ อย่างไร (แม่เขาเสียชีวิตขณะท่เี ขาเปน็ เณร เขาเสยี ใจมากและคิดวา่
เขาต้องอยู่เพยี งลำพงั )
รายละเอียดของเร่ืองเปน็ อยา่ งไร (แมจ่ ากไปเมอื่ เขาเป็นเณรไดส้ องพรรษา เขาร้องไห้เสียใจมาก
ญาติผ้หู ญงิ คนหนึ่งมากอดเขาไว้ เขาคิดวา่ ตอ่ จากนี้เขาต้องอยคู่ นเดยี วหรอื อยู่กบั
คนแปลกหน้าไปตลอดชีวติ )
๖. ใหน้ กั เรยี นอ่านแถบข้อความที่ ๒
ตอนกลางคืนหนา้ รอ้ นท่ีตน้ ลาพมู ีห่ิงหอ้ ยบินว่อนอย่เู ต็มทุกตน้ ห่ิงหอ้ ยนีเ้ ป็นแมลงตวั เล็ก ๆ
ท่ีมีแสงในตัวเอง เวลามันบินแลดู วิบแว๊บ วิบแว๊บ สวยมากบริเวณอ่ืนมืดหมด ยกเวน้ ตน้ ลาพทู ่ีมี
หิ่งหอ้ ยส่องแสงสว่างอย่รู ะยิบระยับราวกบั งานวนั เฉลิมฯ สวยน่าดมู าก โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
ขา้ งแรมท่มี ีเดอื นมืด ตน้ ลาพจู ะสวา่ งดมี าก
ทิพยว์ าณี สนิทวงศ์ ณ อยธุ ยา
แลว้ ชว่ ยกันระดมความคิดในประเดน็ ต่อไปน้ี
ใจความสำคญั ของเร่ืองคืออะไร (ตอนกลางคนื หน้าร้อนทีต่ ้นลำพมู ีหิ่งห้อยบนิ วอ่ นอยเู่ ตม็ ทุกตน้ )
สรปุ ความได้วา่ อย่างไร (ในหน้าร้อนตอนกลางคนื จะมีหง่ิ ห้อยซึง่ เป็นแมลงเลก็ ๆ ที่มีแสงสวา่ งใน
ตวั เองมาบนิ อยบู่ รเิ วณตน้ ลำพสู วยงามมาก)
รายละเอยี ดของเร่ืองเปน็ อยา่ งไร (ตอนกลางคนื หนา้ ร้อนต้นลำพจู ะสวา่ งไปด้วยหิ่งห้อย ซง่ึ เป็น
แมลงตวั เลก็ ๆ มแี สงสวา่ งในตัวเอง ดูระยบิ ระยับราวกับไฟวันเฉลิม ฯ สวยงามมาก
โดยเฉพาะในคนื เดอื นมืดจะยิ่งสว่างมาก)
๗. ครูเฉลยคำตอบพร้อมทัง้ อธิบายเพิ่มเติม
๘. ให้นักเรยี นและครูร่วมกันสรปุ ความรู้ ดังนี้
การอา่ นจบั ใจความ สรปุ ความ และอธบิ ายรายละเอียดจากเร่อื งท่ีอ่าน เป็นส่ิงสำคญั ท่ีจะทำให้การ
อา่ นมีประสทิ ธภิ าพและเปน็ พื้นฐานการอ่านในระดบั ท่ียากข้ึน
๘.การจัดบรรยากาศเชิงบวก
ใหน้ ักเรียนตอบตามความเข้าใจของแตล่ ะคน ได้แลกเปลี่ยนความคดิ กันอย่างอสิ ระ จากน้นั ครูจงึ ช่วย
แนะนำให้นักเรยี นจบั ใจความไดถ้ ูกตอ้ ง
๙. สือ่ /แหล่งเรียนรู้
- แถบขอ้ ความ
๑๐. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ชนิ้ งาน/ วธิ ีการประเมิน เครื่องมือการ ผู้ประเมนิ เกณฑ์การประเมิน
ครูผ้สู อน
สูต่ ัวช้ีวดั ภาระงาน ประเมนิ ผ่านต้ังแต่ ๒
ครผู ู้สอน รายการ ถอื ว่า
อธิบายหลักการอ่าน สังเกตพฤตกิ รรมของ แบบสังเกต ครผู ู้สอน ผ่าน
ผา่ น ๑ รายการ
จ ั บ ใ จ ค ว า ม ก า ร ส รุ ป นักเรียนในการเขา้ ร่วมพฤติกรรมการ ถือว่า ไมผ่ ่าน
ผ่าน ๒ รายการ ถือ
ความและการอธิบาย กจิ กรรม เข้ารว่ ม วา่ ผ่าน
ผ่าน ๑ รายการ
รายละเอียดจากเรื่องที่ กิจกรรม ถือว่า ไมผ่ า่ น
ผ่านต้ังแต่ ๒
อ่าน (K) รายการ ถือว่า
ผ่าน
จับใจความ สรปุ ความ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกต ผ่าน ๑ รายการ
ถอื วา่ ไมผ่ า่ น
และอธบิ ารายละเอยี ด ของนักเรียนใน พฤติกรรมการ
จากเรือ่ งทีอ่ า่ น (P) การเขา้ รว่ ม เข้ารว่ ม
กิจกรรม กิจกรรม
เห็นความสำคัญของการ สงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกต
อา่ นและมมี ารยาทใน ของนักเรียนใน พฤติกรรมการ
การอา่ น (A) การเข้ารว่ มกิจกรรม เขา้ ร่วม
กจิ กรรม
แบบสงั เกตพฤติกรรมการมสี ่วนรว่ มในชน้ั เรียนรายบคุ คล
คำชี้แจง : แบบสังเกตพฤติกรรมการมสี ว่ นร่วมในชี้นเรยี น/การตอบคำถามในชั้นเรยี นสร้างขน้ึ เพ่ือให้ครผู ้สู อน
ประเมนิ พฤติกรรมนักเรยี นเป็นรายบุคคล โดยทำเครื่องหมาย
พฤติกรรม พฤติกรรมและระดับคะแนน
เลขท่ี
ความมีวนิ ยั ความตั้งใจและมุ่งมั่น การตอบคำถามใน รวม
รายชอ่ื ตรงตอ่ เวลา ความ ในการเรียน ช้ันเรยี น
๑ รบั ผดิ ชอบ
๒
๓ ๓๒ ๑ ๓ ๒๑๓ ๒ ๑
๔
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
ลงช่ือ นางสาวอรนิสา กาใจใส ผู้ประเมนิ
.........../................./.............
๑๑. บนั ทึกผลหลังการสอน
๑๑.๑สรุปผลการเรียนการสอน
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
๑๑.๒ ปญั หา/อุปสรรค
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
๑๑.๓ แนวทางแก้ไข /แนวทางการพัฒนา
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
ลงช่อื นางสาวอรนิสา กาใจใส
(.....................................................)
ครูผสู้ อน
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๔ เรอ่ื ง การเขยี นผังความคดิ
กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวชิ าภาษาไทย
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ หลกั การอ่านวรรณคดีและวรรณกรรม เวลา ๒ ช่วั โมง
๑.มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพ่อื นำไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปญั หาในการ
ดำเนินชีวิต และมีนิสยั รกั การอา่ น
ท ๒.๑ ม ๒/๓ เขยี นแผนผงั ความคดิ เพ่อื แสดงความเข้าใจในบทเรยี นต่างๆ ทีอ่ ่าน
๒.จุดประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ่ตู วั ชวี้ ดั
๑. อธิบายรูปแบบและการใชแ้ ผนภาพโครงเรอื่ ง (K)
๒. เขียนแผนภาพโครงเรื่องจากวรรณกรรมทอ่ี า่ น (P)
๓. เขยี นผงั ความคดิ เพอ่ื สรปุ เนอื้ หาจากการอ่านบทเสภาสามคั คีเสวก (P)
๔. เห็นความสำคัญของการเขียนผังความคิดเพือ่ สรุปความเรอื่ งท่ีอ่าน (A)
๓.สาระสำคัญ
ผังความคดิ มหี ลายรปู แบบ แตล่ ะรปู แบบเหมาะสำหรบั จดั ข้อมูลแตกตา่ งกัน ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกบั
ขอ้ มูลจะทำให้จัดความคิดได้เปน็ ระบบท่ีชดั เจนขนึ้
๔.สาระการเรยี นรู้
๔.๑.ความรู้ (K)
๑) รูปแบบเขียนแผนผังความคดิ
๔.๒ ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ (P)
- การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว
- การเขยี นผังความคดิ จากเรื่องท่ีอ่าน
๔.๓ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
-ใฝ่เรียนรู้
-มุง่ มัน่ ในการทำงาน
-รกั ความเปน็ ไทย
๕.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
- ทกั ษะการอ่าน
- ทักษะการเขียน
- ทักษะการฟัง การดู และการพูด
๒. ความสามารถในการคดิ
- การจำแนก
- การวิเคราะห์
- การสงั เคราะห์
- การสรปุ ความรู้
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
๖.สาระการเรยี นรู้บูรณาการ
การบูรณาการความรู้ทางภาษาไทยกับกระบวนการเรียนรู้ การนำสาระความร้ทู างภาษาไทยเปน็ แกนและ
สอดแทรกกระบวนการเรียนรู้ตา่ ง ๆ เชน่ กระบวนการสืบค้นความรู้ กระบวนการทางภาษา และการนำเข้าสู่
กิจกรรมการเรยี นรู้
๗.การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
(ชัว่ โมงที่ ๑)
ขน้ั นำ
๑. ให้นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นว่าปัจจยั ใดทำใหล้ ะครเรื่องนน้ั ๆ สนุก นา่ ติดตาม
ขั้นสอน
๒. ให้นักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับละครยอดนิยม ๑ เรื่องที่เพิ่งจบไป โดยครูใช้คำถามเพื่อกำหนด
ประเด็นในการสนทนา ดงั นี้
• ตวั ละครสำคญั มใี ครบา้ ง
• ฉากสำคญั ของเร่อื งมีก่ีฉาก ฉากใดบ้าง
• แนวคดิ หลักของเรอ่ื งนี้คืออะไร
• ปญั หาสำคญั ทผ่ี ลกั ดนั ให้เร่ืองราวต่าง ๆ ดำเนินไปคอื อะไร
• เหตุการณส์ ำคญั ดำเนนิ ไปตามลำดับอยา่ งไร
• จุดจบของเร่อื งเป็นอยา่ งไร
๒. ครูอธิบายพร้อมยกตัวอย่างและร่วมกันเขียนแผนผังความคิดบนกระดานให้นักเรียนเข้าใจว่า
องค์ประกอบต่าง ๆ ท่ีไดส้ นทนาร่วมกันนี้เปน็ ลักษณะของโครงเร่ือง
๓. ให้นักเรียนศึกษารูปแบบของแผนภาพโครงเรื่อง จากนั้นช่วยกันเขียนแผนภาพโครงเรือ่ งจากละครที่
ไดส้ นทนาร่วมกนั และแลกเปลี่ยนความรกู้ ัน
(ชว่ั โมงท่ี ๒)
ขั้นนำ
๔.ครูทบทวนความรู้เดิมพรอ้ มทั้งนำรูปแบบการเขียนแผนผังความคิดรปู แบบต่างๆและเล่าเรื่องย่อนิทาน
เรอ่ื งหมาหมากบั พวงองุ่น แลว้ ให้นักเรียนลองแยกหวั ห้องว่าได้หวั ขอ้ อะไรบา้ ง
ขัน้ สอน
๕. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๓-๕ คน นำวรรณกรรมที่ครูมอบหมายในชั่วโมงที่แล้วมาแลกกันอ่าน
หรอื ผลัดกันเล่าให้สมาชิกในกลุ่มฟงั จากนัน้ คดั เลอื ก ๑ เร่ือง ช่วยกันเขยี นแผนภาพโครงเรื่องโดยใช้กระดาษชาร์ต
และปากกาเคมที ีค่ รูแจกให้
๖. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอแผนภาพโครงเรื่องพร้อมทั้งเล่าเรื่องประกอบ นักเรียนกลุ่มอื่น
สามารถซกั ถามและแสดงความคดิ เห็นไดเ้ มื่อเพื่อนนำเสนอจบ ครูชว่ ยอธบิ ายเพิ่มเติม
๗. ใหน้ กั เรยี นทำชิ้นงานท่ี ๔ เรอ่ื ง การเขยี นผังความคิดสรุปเน้ือหาจากบทเสภาสามัคคีเสวก แล้วร่วมกัน
ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนั้นครูประเมนิ ผลงานของนักเรยี นเป็นรายบุคคล
ขั้นสรปุ
๘. ใหน้ ักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดังน้ี
•ผังความคิดมีหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบเหมาะสำหรับจดั ข้อมูลแตกต่างกัน ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับ
ข้อมลู จะทำใหจ้ ัดความคดิ ไดเ้ ปน็ ระบบทชี่ ัดเจนยิง่ ขึ้น
๙. ให้นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครูใช้คำถามทา้ ทาย ดงั น้ี
•นกั เรียนจะใช้ผงั ความคิดในชีวิตประจำวันไดห้ รอื ไม่ อยา่ งไร
๘.การจดั บรรยากาศเชงิ บวก
-ชมเชยนกั เรยี นที่ตอบคำถามไดถ้ ูกตอ้ ง
-เปดิ โอกาสให้นักเรยี นไดแ้ สดงความคดิ เหน็ ร่วมกัน
๙. ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้
๙.๑ สื่อแผนผังความคดิ
๑๐. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
จุดประสงคก์ าร ชน้ิ งาน/ วธิ ีการประเมนิ เครอ่ื งมอื การ ผู้ประเมิน เกณฑ์การประเมนิ
เรียนรสู้ ตู่ ัวช้วี ัด ภาระงาน ประเมนิ ครูผสู้ อน
อธบิ ายรูปแบบและ สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกต ครูผ้สู อน ๙ผ่าน ๒ รายการ ถือ
การใช้แผนภาพ - การทำงาน ว่า ผ่าน
โครงเร่ือง (K) พฤติกรรมการ ครูผู้สอน ผา่ น ๑ รายการ ถอื
ทำงาน วา่ ไม่ผา่ น
๑๓ – ๑๔ คะแนน
เขียนแผนภาพโครง เขียนแผนภาพ ประเมนิ ใบ ประเมินใบ หมายถงึ ดีมาก
กิจกรรมการ ๙ – ๑๒ คะแนน
เรื่องจาวรรณกรรม โครงเร่อื ง กิจกรรมการ เขียนแผนผัง หมายถงึ ดี
ความคิด ๕ – ๘ คะแนน
ทอี่ ่าน (P) เขยี นแผนผงั หมายถงึ พอใช้
๑ – ๔ คะแนน
ความคดิ หมายถงึ ปรับปรงุ
ผ่านตัง้ แต่ ๒
เห็นความสำคญั - สังเกต แบบสังเกต รายการ ถอื วา่ ผ่าน
ของการเขียนผัง พฤติกรรมของ พฤติกรรมการ ผา่ น ๑ รายการ
ความคิดเพอ่ื สรปุ นักเรยี นในการ เข้าร่วมกจิ กรรม ถือว่า ไม่ผา่ น
ความเรอื่ งทอ่ี ่าน เข้ารว่ มกิจกรรม
(A)
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการมสี ่วนรว่ มกิจกรรม
คำชแ้ี จง : แบบสังเกตพฤติกรรมการมีส่วนรว่ มในชน้ี เรยี น/การตอบคำถามในชน้ั เรยี นสรา้ งข้นึ เพื่อให้ครผู สู้ อน
ประเมินพฤติกรรมนกั เรยี นเป็นรายบุคคล โดยทำเครื่องหมาย
พฤติกรรม พฤตกิ รรมและระดับคะแนน
เลขท่ี
ความมีวนิ ัย ความตั้งใจและม่งุ มัน่ การตอบคำถามใน รวม
รายช่ือ ตรงต่อเวลา ความ ในการเรียน ชัน้ เรียน
๑ รบั ผดิ ชอบ
๒
๓ ๓๒ ๑ ๓ ๒๑๓ ๒ ๑
๔
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
ลงชอื่ นางสาวอรนิสา กาใจใส ผู้ประเมนิ
.........../................./.............
๑๑. บนั ทึกผลหลังการสอน
๑๑.๑สรปุ ผลการเรียนการสอน
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
๑๑.๒ ปัญหา/อุปสรรค
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
๑๑.๓ แนวทางแก้ไข /แนวทางการพฒั นา
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ นางสาวอรนสิ า กาใจใส
(.....................................................)
ครูผสู้ อน
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๕ เร่อื ง โวหารและภาพพจนใ์ นวรรณคดี
กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย รายวิชาภาษาไทย
ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ หลกั การอา่ นวรรณคดแี ละวรรณกรรม เวลา ๑ ชว่ั โมง
๑.มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ดั
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คุณค่า
และนำมาประยุกตใ์ ช้ในชีวติ จริง
ท ๕.๑ ม.๒/๓ อธบิ ายคณุ ค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน
ท ๕.๑ ม. ๒/๔ สรปุ ความร้แู ละขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากการอา่ นไปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตจริง
๒.จุดประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ตู่ วั ชวี้ ัด
๑. นกั เรียนบอกรปู แบบการประพนั ธ์ของวรรณคดี วรรณกรรมได้
๒. นักเรียนอธิบายความหมายของคุณค่าในวรรณคดี วรรณกรรม
๓. นักเรียนบอกคุณคา่ ของวรรณคดี วรรณกรรมได้ (ดา้ นวรรณศลิ ป์)
๓.สาระสำคญั
การใช้โวหารภาพพจน์ คือ การใช้คำให้เกิดภาพโดยวิธีการ เปรียบเทียบคำอย่างมีศิลปะ ทำเกิด
จนิ ตนาการตาม
๔.สาระการเรียนรู้
๔.๑.ความรู้ (K)
- รูปแบบการประพันธ์ของวรรณคดี
- มารยาทการอา่ น
๔.๒ ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ (P)
- อธบิ ายความหมายของคุณค่าในวรรณคดี