วิจัย

92 กลุ่มสีเขียว ใช้เห็ดเข็ม 2 ดอก เห็ดชิเมจิ 2 ดอก เห็ดนางรมหลวง 2 ดอก และมีดพลาสติก 6 ด้าม บิ๊กไบค์ : เห็ดผ่ามาแล้วสีสีขาว ครู : ตรงไหนเรียกว่าสีขาว ลีวาย : นี่ มีสีขาวข้างในไม่มีไม้ จอม : ผ่าแล้วมีสีขาวทุกอันเลย ต้นเงิน : หนูหยิบมาดมไม่มีกลิ่นเลย ครู : เห็ดพอเราผ่าออกมาแล้ว ข้างในเหมือนกันไหม หมวย /อิง : เหมือนกัน 0 ครูให้เด็กแต่ละกลุ่มเล่าว่า เมื่อผ่าเห็ดออกมาแล้ว ข้างในเห็ดมีอะไร และครูช่วยสรุปให้เด็ก ๆ ฟังอีกครั้งหนึ่ง วันที่ 12 เด็กและครู ร่วมกันทบทวนถึงส่วนต่าง ๆ ของเห็ด เมื่อผ่าเห็ดออกมา ข้างในเห็ดจะมีเส้นใย เหมือนกัน แต่เห็ดจะมีสีไม่เหมือนกัน ครูถามเด็กๆ ว่า แล้วเราจะเอาเห็ดที่ผ่าเมื่อวานไปทำอะไรดี น้องออกัส น้องอิง และน้องนิ่ม บอกว่าเอาไปทอด น้องเอิร์ธ บอกว่า แม่เอิร์ธเคยผัดเห็ดให้กิน เราเลย ตกลงกันว่า สัปดาห์หน้า เราจะทอดเห็ด และผัดเห็ดกัน แล้วครูถามถึงอุปกรณ์ว่า ถ้าเราทอดเห็ด เรา จะต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง อ๋อมแอ๋ม : ต้องใส่น้ำมัน แนน : ต้องทอดในกระทะ ครู : แล้วเราจะให้ใครทอด เด็กทุกคน : ต้องให้ผู้ใหญ่ทอด ออกัส : ให้คุณครูทอดก็ได้ กล้วยหอม : เด็กทอดไม่ได้ ครู : ทำไมเด็ก ๆ ถึงทอดไม่ได้ ศร : กระทะมันร้อน ชินจัง : เดี๋ยวมันกระเด็น จากนั้น ครูอธิบายกิจกรรมที่ครูเตรียมไว้ให้ และให้เด็ก ๆ นั่งตามกลุ่ม และร่วมกันทำ กิจกรรม โดยครูเข้าไปคอยสังเกตการณ์ กระตุ้นโดยใช้คำถาม และให้ความช่วยเหลือเมื่อเด็กต้องการ

93 วันที่ 13 ครูนำหนังสือสำหรับเด็กเรื่อง เห็ดเกิดจากอะไร สายพันธ์ของเห็ด เห็ดพิษ และส่วนประกอบ ของเห็ด มาเล่าให้เด็กฟัง จากนั้นครูนำอุปกรณ์ที่เตรียมมา แล้วถามเด็ก ๆ ว่า อุปกรณ์แต่ละอย่างคือ อะไร และใช้ทำอะไร เด็ก : กระทะ โชค : เอาไว้ทอด บิ๊กไบค์ : ต้องให้ผู้ใหญ่ทอด ครู : แล้วเราจะทอดตอนไหน ปังปัง : ต้องจุดไฟก่อนถึงจะทอดได้ เฟอร์ : ต้องใส่น้ำมัน ครู : ที่ครูเอามาเรียกว่า กระทะไฟฟ้า ไม่ต้องจุดเตาแก๊ส แต่มีสายไฟ แล้วเราจะทำอย่างไรกระทะถึงจะร้อน คิว : เสียบปลั๊ก ครู : วันนี้เราจะเอาเห็ดมาทำอาการอะไร เด็กทุกคน : เห็ดทอด ครู : ถามวิธีการทอดว่า “เมื่อเราตั้งกระทะร้อนแล้ว เราต้องใส่อะไร ลงไปก่อน” เจน : ใส่น้ำมันก่อน โชค : ใส่เห็ด อ๋อมแอ๋ม : ต้องหั่นเห็ดก่อน ต้นเงิน : ต้องหั่นเห็ดก่อน ถึงจะทอดได้ ครู : ถามเด็ก ๆ ว่า แล้วเราจะให้ใครออกมาเอาเห็ดชุบแป้งทอด หมวย : ครู หนูทำไม่เป็น ครู : บอกน้องหมวยว่า ไม่เป็นไร แล้วถามเด็กคนอื่นว่าใครกล้าออกมา กล้วยหอม : เป็นตัวแทนออกมาชุบเห็ดกับแป้ง และเทลงไปในกระทะ ครู : ให้เด็ก ๆ ช่วยกันสังเกตว่า เวลากระทะร้อนจะมีอะไรลอยออกมา ตาม /ป๊อบ : ควัน ครู : ให้เด็ก ๆ ช่วยกันสังเกตว่า เมื่อเห็ดโดนความร้อน แล้วเป็นสีอะไร เด็กทุกคน : เป็นสีเหลือง และเด็ก ๆ บอกว่า เห็ดทอดมีกลิ่นหอม

94 ครูบอกเด็ก ๆ ว่า “เราจะได้ทอดเห็ดกันทุกกลุ่มเลยดีไหม” เด็ก ๆ เห็นด้วย ครูให้เด็ก ๆ ทุก คนเข้ากลุ่ม และแจกอุปกรณ์สำหรับเตรียมทอดเห็ด เด็กแต่ละกลุ่มเลือกว่าจะหั่นเห็ดอะไรและกี่ดอก และกลุ่มไหนหั่นเสร็จแล้วให้ยกมือบอกครู แล้วครูจะให้เด็ก ๆ มาทอดทีละกลุ่ม กลุ่มสีแดง ผ่าเห็ดนางรมหลวง 6 ดอก ชุบแป้ง แล้วเอามาเทลงในกระทะ นิ่ม : สุกแล้วน่ากิน เจน /คิว : หอมน่ากิน โชค /ชินจัง : มีฟองด้วย เฟอร์ : กินได้แล้ว สุกแล้ว กลุ่มสีเหลือง หั่นเห็ดเข็ม 5 กำเล็ก ชุบแป้ง แล้วเอามาเทลงในกระทะ อ๋อมแอ๋ม : ต้องรอกระทะร้อนก่อน ศร : มันร้อนแล้วจะเห็นควัน ครู : เด็ก ๆ ว่าเห็ดสุกแล้วหรือยัง ข้าวฟ่าง /แนน : เป็นสีเหลืองแล้ว กล้วยหอม : หอมแล้วแสดงว่าสุกแล้ว กลุ่มสีฟ้า หั่นเห็ดเข็ม 5 กำเล็ก ชุบแป้ง แล้วเอามาเทลงในกระทะ เอิร์ธ : เปลี่ยนสีแล้ว ครู : ตรงไหนเปลี่ยนสี ออกัส /ตาม : เห็ดจากสีขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ปังปัง : สุกแล้ว ป๊อบ : ระวังนะ เดี๋ยวร้อน ตาม : มันกระเด็นด้วย ครู : อะไรกระเด็น ตาม : น้ำมันกระเด็น กลุ่มสีเขียว ผ่าเห็ดนางฟ้า 6 ดอก ชุบแป้ง แล้วเอามาเทลงในกระทะ บิ๊กไบค์ : มันเริ่มมีควันแล้ว ลีวาย : แสดงว่ามันร้อน เอาลงได้

95 จอม /หมวย : หอมน่ากิน อิง : มีสีเหลืองด้วย ต้นเงิน : กินได้แล้ว สุกแล้ว เด็กและครูร่วมกันสรุปวิธีการทอดเห็ดและชิมเห็ดทอดของกลุ่มตนเอง โดยครูเขย่าเห็ดกับผง ปาปริก้าให้เด็ก ๆ ด้วย ซึ่งแต่ละกลุ่มจะบอกว่าตักกี่ช้อน และเด็ก ๆ ทุกคนบอกว่า เห็ดทอดอร่อย วันที่ 14 ครูทบทวนเกี่ยวกับวิธีการทอดเห็ด และนำอุปกรณ์มาแนะนำเด็ก ๆ แล้วถามเด็ก ๆ ว่า เรามี อุปกรณ์ กระทะไฟฟ้า เห็ดชิเมจิ เห็ดหอม เห็ดเข็ม และเครื่องปรุง เราจะเอาเห็ดมาทำอาหารอะไรดี เจน : ผัดเห็ด ครู : ถ้าเราทำผัดเห็ด เราต้องทำอย่างไร อ๋อมแอ๋ม : ต้องเสียบปลั๊กกระทะก่อน ต้นเงิน : ต้องผัดก่อน ถึงจะกินได้ ครู : เราต้องทำอย่างไร ต้องชุบแป้งเหมือนที่เราทอดเห็ดหรือเปล่า หมวย /อิง : ไม่ใช่ ต้องหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วผัด ครู : แล้วเพื่อนคนอื่น ๆ ล่ะ เราต้องผัดอย่างไร เด็กทุกคน : เอาเห็ดใส่กระทะ ผัดให้สุก และปรุง ครู : ถามเด็ก ๆ ว่า แล้วเราจะใส่เห็ดตอนไหน เจน : ต้องให้น้ำมันร้อนก่อน ศร /ตาม : ต้องรอให้ควันในกระทะขึ้น ครูเอากระทะเสียบปลั๊ก จากนั้นครูผัดเห็ดให้เด็ก ๆ ดู แล้วให้เด็กเข้ากลุ่ม และออกมาผัดเห็ด เมื่อทุกกลุ่มหมุนเวียนกันออกมาทำผัดเห็ดแล้ว ครูให้เด็ก ๆ ชิมเห็ดที่เด็ก ๆ ผัด จากนั้นถามเด็ก ๆ ว่า มีรสชาติอย่างไร เด็ก ๆ บอกว่าอร่อย หลังจากที่ทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ครูนำก้อนเชื้อเห็ดมาให้เด็กดูแล้วถามเด็ก ๆ ว่านี้เรียกว่า อะไร เด็ก ๆบอกว่าก้อนเชื้อเห็ด ครูจึงเชิญชวนเด็ก ๆ ว่าอยากลองเพาะเห็ดไหม เด็ก ๆ บอกว่าอยาก ทำ ครูจึงบอกว่า เดี๋ยววันพรุ่งนี้เราจะมาคุยเรื่องเพาะเห็ดกัน วันที่ 15 เด็กและครูสนทนาทบทวนถึงการทอดเห็ดและผัดเห็ด บันทึกการเรียนรู้ลงในกระดาษชาร์ท (อาหารที่ทำจากเห็ด) จากนั้นครูเชิญชวนเด็ก ๆ อภิปรายเกี่ยวกับการเพาะเห็ด โดยใช้คำถาม

96 ครู : เด็ก ๆ อยากทำโรงเพาะเห็ดไหมคะ เด็กทุกคน : อยากทำ ครู : เราจะนำอะไรมาทำโรงเพาะเห็ดดี เอิร์ธ : เอากล่องกระดาษลังมาทำ ออกัส : หนูว่ากระดาษลังมันจะไม่แข็งแรง เพราะเห็ดมันชอบที่ชื้น ๆ ครู : เด็ก ๆ คิดว่าเราจะเอาอะไรมาทำโรงเพาะเห็ดได้อีก โชค : ฟิวเจอร์บอร์ด ครู : แล้วเพื่อน ๆ คิดว่าอย่างไร กล้วยหอม : ก้อนเชื้อเห็ดมันหนัก ศร : เอากล่องโฟม ครู : ครูให้เด็ก ๆ ลงความเห็นโดยการยกมือโหวตเลือกวัสดุมาทำ โรงเพาะเห็ด ผลสรุปว่าเด็ก ๆ เลือกกล่องโฟมมาทำ ครูจึงถาม เหตุผลของเด็ก ๆ ว่าทำไมถึงเลือกกล่องโฟมมาทำโรงเพาะเห็ด คิว : เพราะว่ากล่องโฟมมันเก็บความเย็นได้ นิ่ม : เพราะว่ากล่องโฟมมันเก็บความชื้นได้ ครูให้เด็ก ๆ แบ่งกลุ่ม แล้ววางแผนว่า เราจะทำโรงเพาะเห็ดกันอย่างไรดีแล้วออกมานำเสนอ ให้เพื่อน ๆ ฟัง กลุ่มสีเหลือง ศร : ต้องมีกล่องโฟม อ๋อมแอ๋ม : เอาเห็ดใส่ในกล่องโฟม ครู : แล้วเราจะเอาก้อนเชื้อเห็ดใส่ไว้ในกล่องยังไงดี ข้าวฟ่าง : วางตั้งขึ้นเหมือนกับปลูกต้นไม้ แนน : วางซ้อนกัน ตั้งขึ้นเดี๋ยวเห็ดจะพัง ครู : แล้วต้องทำอะไรอีกไหม เด็กทุกคน : ไม่ทำแล้ว ครู : แล้วเราจะวางทิ้งไว้กี่วันดี เห็ดถึงจะเกิด กล้วยหอม : ต้องทิ้งไว้นาน ๆ ครู : นานกี่วัน เด็กทุกคน : 5 วัน

97 กลุ่มสีแดง คิว : ต้องใส่กล่องโฟม โชค : ใส่กล่องพลาสติก ครู : แล้วเราจะใส่กล่องโฟมหรือกล่องพลาสติก ชินจัง : กล่องโฟม ครู : แล้วเราจะทิ้งไว้นานกี่วัน เห็ดถึงจะเกิด เฟอร์ : ชูนิ้ว 5 นิ้ว เจน : ต้องหลาย ๆ วัน นิ่ม : 10 วัน ครู : สรุปให้เด็ก ๆ กลุ่มสีแดงว่า เราจะทิ้งเห็ดไว้ 10 วัน กลุ่มสีฟ้า เอิร์ธ : ใส่กล่องโฟม ครู : แล้วใส่อะไรอีกไหม ออกัส ; ไม่ใส่แล้ว ครู : แล้วเราจะวางเห็ดไว้กี่วันดี เห็ดถึงจะเกิด ตาม /ปังปัง /ป๊อบ : 10 วัน กลุ่มสีเขียว ต้นเงิน /อิง : ต้องใส่กล่องโฟม ครู : แล้วเราจะทิ้งไว้นานกี่วัน เห็ดถึงจะเกิด หมวย : ชูนิ้ว 10 นิ้ว จอม : ต้องหลาย ๆ วัน ลีวาย /บิ๊กไบค์ : 5 วัน ครู : สรุปให้เด็ก ๆ กลุ่มสีเขียวว่า เราจะทิ้งเห็ดไว้ 10 วัน ครูให้เด็ก ๆ แต่ละกลุ่มนำเสนอการทำโรงเพาะเห็ด จากนั้นครูสรุปการนำเสนอของเด็ก แต่ละกลุ่มให้เด็กๆ ฟัง และครูบอกว่า พรุ่งนี้เราจะมาทำบ้านเห็ดกัน เด็กๆ จะได้ทำกันทุกคน ซึ่ง เด็ก ๆ ทุกคนเห็นด้วย

98 วันที่ 16 ครูแนะนำอุปกรณ์ให้กับเด็ก ๆ โดยมีจานกระดาษ แก้วกระดาษ กรรไกร กาว กระดาษสี อุปกรณ์วาดภาพระบายสี ครูแนะนำวิธีการใช้กรรไกร และแนะนำวิธีการทำบ้านเห็ด จากนั้นครูให้ เด็ก ๆ เข้ากลุ่ม แล้วมารับอุปกรณ์ไปทีละกลุ่ม และเริ่มทำบ้านเห็ด โดยครูจะเข้าไปสังเกต จดบันทึก และคอยให้คำแนะนำช่วยเหลือ หลังจากเด็กทำกิจกรรมเสร็จแล้วให้เด็กเก็บวัสดุอุปกรณ์ แล้วออกมา นำเสนอทีละกลุ่มที่หน้าชั้นเรียน วันที่ 17 ครูทบทวนการทำกิจกรรมการทำบ้านเห็ดในครั้งที่แล้ว บันทึกการเรียนรู้ลงในกระดาษชาร์ท ครูสังเกตเห็นว่า เด็ก ๆ เริ่มหมดความสนใจในการทำโครงการเรื่อง เห็ด แล้ว จากนั้นครูสนทนาเชิญ ชวนกับเด็กว่า “เด็ก ๆ เบื่อเรียนเรื่องเห็ดแล้วหรือยัง” เด็กทุกคนบอกว่า “เบื่อแล้ว” ครูจึงเชิญชวน เด็ก ๆ ว่า “เด็ก ๆ อยากให้คุณพ่อคุณแม่ พี่ประถมกับน้อง ๆ ห้องอื่น มาดูผลงานที่เด็ก ๆ ได้ทำ ศิลปะไว้ไหม” เด็กทุกคนอยากอวดผลงานกับคุณพ่อคุณแม่ จึงเห็นด้วยกับข้อเสนอของครู ลีวาย : เราก็เอาศิลปะกลับไปอวดคุณพ่อคุณแม่ ครู : ถ้าเราเอากลับบ้าน เพื่อน ๆ กับน้อง ๆ ก็ไม่ได้ดู หมวย : แล้วเราจะทำอย่างไรล่ะ ออกัส : ติดงานในห้อง ครู : เราจะติดที่ห้องไหนดี ติดในห้องนี้ หรือหน้าห้อง เด็กทุกคน : ติดในห้อง ครู : แล้วถ้าเป็นของที่เราปั้น เราจะเอาไปไว้ตรงไหนดี เจน : วางบนโต๊ะ ครู : เดี๋ยวเรามาช่วยกันวางแผนว่า เราจะเอาผลงานอะไรติดตรงไหนดี เด็กทุกคน : พยักหน้าเห็นด้วย ครูบอกกับเด็ก ๆ ว่า ก่อนที่เราจะมาวางแผ่นติดแสดงผลงานกันเรามาทบทวนเรื่องเห็ดกันว่า เราเรียนอะไรกันมาบ้าง โดยครูนำเอาผลงานที่ผ่านมาของเด็ก ๆ มาทบทวนข้อความรู้กัน และถาม เด็ก ๆ ว่ามีใครอยากวาดภาพ ระบายสีหรือตกแต่งผลงานเพิ่มเติมให้มาบอกครู สรุปการเรียนรู้ระยะที่ 2 เด็กได้แลกเปลี่ยนข้อมูลใหม่เกี่ยวกับโครงการกับเพื่อน โดยร่วมกันแสดงความคิดเห็นจาก การที่เด็กได้กลับไปสนทนากับผู้ปกครอง เด็กบางคนได้ข้อมูลความรู้จากการดูโทรทัศน์แล้วนำมาเล่า ให้เพื่อนและครูฟัง ครูจึงกระตุ้นความสนใจเด็กโดยการตั้งคำถามจากข้อมูลที่เด็กนำมาเล่าและกำลัง

99 เป็นที่สนใจในขณะนั้นเพื่อต้นหาคำตอบจากนั้นครูกระตุ้นให้เด็กช่วยกันคิดว่าจะหาคำตอบได้จากไหน ซึ่งเด็กส่วนใหญ่บอกว่าให้ไปถามครูในโรงเรียน ดังนั้น เด็กจึงช่วยกันเลือกตัวแทนห้องเพื่อไปถามแล้ว นำคำตอบมาเล่าให้เพื่อนฟัง จากนั้นเด็กได้เรียนรู้และเพิ่มพูนประสบการณ์โดยครูเป็นผู้จัดเตรียม กิจกรรมที่สอดคล้องและเหมาะสมกับความสนใจและพัฒนาการของเด็ก ซึ่งได้บูรณาการทักษะการ เรียนรู้ต่าง ๆ มาให้เด็กได้ปฏิบัติและฝึกฝนผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ขณะที่เด็กเรียนรู้ผ่านกิจกรรม นั้นเด็กได้ร่วมกันวางแผนกิจกรรมเพื่อหาคำตอบว่า "ข้างในเห็ด" มีอะไรอยู่ ซึ่งเด็กหลายคนบอกว่ามี ไม้นิ่ม ๆ อยู่ข้างใน บางคนบอกว่าไม่มีแต่เคยกิน ครูจึงกระตุ้นเด็กว่าเราจะรู้ได้อย่างไร เด็กเริ่มเสนอ วิธีการหาคำตอบว่าต้องผ่าดูถึงจะเห็นว่ามีอะไรอยู่ บทบาทครู ครูเป็นผู้วางแผนและจัดเตรียมกิจกรรมให้สอดคล้องและส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก ดอยดูแล เอาใจใส่ ให้กำลังใจเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กอยู่ตลอดเวลา และร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกับเด็ก ครูต้อง เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก ทั้งคำพูดและการกระทำ ให้เวลาและให้โอกาสเด็กในการเรียนรู้ตาม ความสามารถของแต่ละบุคคลดามความสมัครใจ เมื่อเด็กแสดงความคิดเห็นครูจะต้องรับฟัง ยอมรับ ความคิดเห็นและคอยอำนวยความสะดวกให้เด็ก กิจกรรมที่เด็กร่วมกันวางแผนเพื่อเรียนรู้เป็นไปอย่าง ราบรื่น โดยครูจะต้องเป็น ผู้จัดเตรียมสื่อ วัสดุอุปกรณ์ บรรยากาศ และติดต่อประสานงานกับ แหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้เด็กได้ศึกษาคันคว้าจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย อีกทั้งเป็นการตอบสนอง ความต้องการของเด็ก นอกจากนี้ครูจะต้องสังเกต บันทึกสาระการเรียนรู้ ข้อมูลในด้านต่าง ๆ ทบทวนการเรียนรู้ที่ผ่านมา รวมทั้งเชื่อมโยง ประสบการณ์ต่าง ๆ ให้เด็กเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ระยะที่ 3 ระยะสรุปผล และจัดแสดงนิทรรศการ วันที่ 18 เด็กและครูร่วมกันสรุปการเรียนรู้ที่ได้จากโครงการ และการทำกิจกรรมบ้านเห็ดไว้ จากนั้น ครูเชิญชวนเด็ก ๆ ร่วมกันวางแผนการจัดแสดงผลงาน โดยครูถามเด็ก ๆ ถึงผลงานที่เด็กได้ทำว่า มี อะไรบ้าง เด็กๆ ช่วยกันบอก และครูเป็นผู้จดรายชื่อผลงานว่ามีกี่อย่างอะไรบ้าง ครูถามเด็กๆ ว่าเรา จะสำรวจห้องเรียนกันก่อนว่า จะติดผลงานตรงไหน หรือว่าจะไปติดผลงานกันเลย เด็กๆ ร่วมกัน แสดงความคิดเห็นทั้ง 2 อย่าง ครูบอกเด็ก ๆ ว่า ถ้าเราสำรวจห้องเรียนก่อน เราจะได้รู้ว่า จะติด ผลงานที่ไหนบ้าง จะติดที่หน้าต่างก็ได้ หรือจะติดที่ผนังห้องก็ได้ ถ้าเด็ก ๆ ติดผลงานเลย แล้วไม่สวย อยากจะเปลี่ยนที่อีก ผลงานของเด็ก ๆ อาจจะหลุดหรือขาดก็ได้เด็กทุกคนจึงตกลงว่า จะสำรวจ ห้องเรียนก่อน ครูและเด็กจึงพากันสำรวจห้องเรียน ครูถามคำถามว่า “เด็กๆ ลองสังเกตดูซิว่า ของ เล่นในห้องวางเป็นอย่างไร”

100 เจน : วางเกะกะ ออกัส /ปังปัง : เด็กเล่นของเล่นแล้วไม่เก็บ ป๊อบ : เสื้อผ้าไม่เก็บเลย ต้นเงิน : ครู หนังสือขาดหมดเลย ครู : แล้วเราจะทำอย่างไร ห้องถึงจะสวย เด็กทุกคน : ต้องเก็บของก่อนถึงจะสวย ครู : แล้วเราจะเก็บกันอย่างไรดี เอิร์ธ : ต้องช่วยกันเก็บ ครู : แล้วเราจะเก็บกันอย่างไรดี จะเก็บเป็นกลุ่มหรือจะช่วยกันเก็บ ทั้งห้อง จอม /ลีวาย : เก็บเป็นกลุ่ม ครู : ถามแล้วคนอื่นล่ะ จะเก็บอย่างไร เด็ก ๆ คนอื่น : ไม่มีใครตอบ ครู : ถามเด็ก ๆ ว่า มีใครไม่อยากเก็บกับเพื่อนเป็นกลุ่มบ้าง เด็กทุกคน : ไม่มีใครตอบ ครู : สรุปกับเด็ก ๆ ว่า ถ้าอย่างนั้นเราจะเก็บของในห้องกันเป็นกลุ่ม แล้วเราจะเก็บของเล่นให้เรียบร้อยก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาคุยกันว่า เราจะติดผลงานกันตรงไหนดี ตกลงไหมคะ เด็กทุกคน : ตอบตกลงเห็นด้วยกับความคิดของครู ดังนั้น ครูจึงให้เด็ก ๆ แบ่งกลุ่มและแบ่งพื้นที่กันเก็บของเล่นเข้ามุมต่าง ๆ โดยแบ่งเก็บเป็น มุมต่าง ๆ คือ กลุ่มสีแดง เก็บมุมของเล่นสัมผัส กลุ่มสีเขียว เก็บมุมวิทยาศาสตร์ กลุ่มสีเหลือง เก็บมุม ขายของ กลุ่มสีฟ้า เก็บมุมบ้าน และมุมหนังสือ โดยครูเป็นผู้ดูแลและคอยให้ความช่วยเหลือ วันที่ 19 เด็กและครูอยู่ที่ห้องเรียน จากนั้นช่วยกันวางแผนว่า กลุ่มไหนจะติดผลงานอะไร และอยาก ติดตรงไหน โดยครูช่วยแนะนำว่า แต่ละกลุ่มจะแบ่งผลงานไปติด หรือว่าจะติดผลงานพร้อมกัน แต่ ผลัดกันติด เด็กส่วนใหญ่บอกว่า จะติดพร้อมกันทีละผลงาน แต่ผลัดกันติด และเด็กส่วนที่เหลือไม่ ออกความคิดเห็น ครูจึงสรุปว่า เราจะช่วยกันติดกทีละผลงาน เช่น ติดภาพฉีกปะเห็ด ทีละกลุ่ม เมื่อ ติดเสร็จแล้ว ค่อยไปคิดภาพระบายสีเห็ด และงานอื่น ๆ ครูถามเด็กๆ ว่า เราจะต้องใช้อุปกรณ์ อะไรบ้าง

101 ป๊อบ : ใช้สก๊อตเทป ชินจัง : ใช้กรรไกร ศร /อิง /โชค : ใช้กาว ครู : ถามเด็ก ๆ ว่า แล้วเราจะเอางานไหนติดที่ไหนดี โดยนำชิ้นงาน ขึ้นมาถามเด็ก ๆ ทีละงานแล้วจดใส่กระดาษ – ภาพระบายสีเห็ดจากสีน้ำ ห้อยบนกระดาน – ภาพ ฉีก ปะ ติดเห็ด ห้อยบนกระดาน – ภาพระบายสีรูปเห็ด ห้อยบนกระดาน – โมบายเห็ด ติดห้อยที่หน้าประตู – บ้านเห็ด วางที่มุมวิทยาศาสตร์ – เห็ดที่ปั้นจากดินน้ำมัน วางบนตู้มุมวิทยาศาสตร์ – ก้อนเชื้อเห็ด วางในชั้นที่มุมวิทยาศาสตร์ (ครูเสนอแนะ) จากนั้น เด็กๆ แต่ละกลุ่มร่วมกันดำเนินกิจกรรมตามที่ร่วมกันวางแผนเอาไว้ โดยมีครูเป็นผู้ คอยอำนวยความสะดวก และให้การช่วยเหลือ วันที่ 20 ครูเชิญชวนเด็ก ๆ ร่วมกันสนทนาเรื่องจัดแสดงผลงานว่า เราจะแสดงผลงานกี่วันดี 1 วัน หรือ 2 วันดีเด็กๆ บอกว่า 2 วัน ครูถามต่อว่า แล้วเราจะจัดกันวันไหนดี น้องกล้วยหอม บอกว่า จัด ห้องเสร็จก็จัดงานเลย เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ เห็นด้วย ครูจึงตกลงกับเด็ก ๆ ว่า เราจะจัดงานกันใน ระยะเวลา 2 วันนี้ แล้วใครจะเป็นตัวแทนไปบอกเพื่อน ๆ ห้องอื่นกับน้อง ๆ ล่ะ อ๋อมแอ๋มบอกว่า ต้อง ช่วยกันบอก ครูจึงบอกกับเด็ก ๆ ว่า ถ้าอย่างนั้นเราไปบอกกันเป็นกลุ่มดีไหม เด็ก ๆ บอกว่าเห็นด้วย ครูจึงถามว่า แล้วกลุ่มสีอะไรจะไปบอกห้องไหน จากนั้นครูสรุปให้เด็ก ๆ ฟังว่า กลุ่มสีแดง จะไปบอก ห้องครูเพชร กลุ่มสีเหลืองจะไปบอกห้องครูพี่ ป.1 และกลุ่มสีเขียว จะไปบอกห้องครูพี่ ป.2 และกลุ่ม สีฟ้า จะไปบอกห้องครูพี่ ป.3 และเมื่อกลับไปที่บ้าน ให้เด็ก ๆ ชวนคุณพ่อคุณแม่ มาดูการแสดง ผลงานของเด็ก ๆ ด้วย จากนั้นครูเชิญชวนเด็ก ๆ ร่วมกันสนทนาเรื่องการเพาะเห็ด และเด็ก ๆ ช่วยกันนับระยะเวลาที่เพาะเห็ดได้ 8 วัน ถ้ารวมวันเสาร์เป็น 9 วัน และนับวันอาทิตย์ ก็จะครบ 10 วัน เมื่อสรุปกันเสร็จแล้วครูจึงเชิญชวนเด็ก ๆ ไปทำกิจกรรมจัดเตรียมห้องแสดงผลงานต่อให้เสร็จ

102 วันที่ 21 – 23 เด็ก ๆ ดำเนินกิจกรรมการจัดแสดงผลงานตามที่ได้วางแผนกันเอาไว้ คือ คอยดูแลน้อง ๆ และอธิบายถึงผลงานของตนเองให้เพื่อนที่สนใจฟัง และพาผู้ปกครองชมผลงานของตนเองและ เพื่อน ๆ (การชมผลงานของผู้ปกครองจะเป็นการพาชมในช่วงเช้าและเย็น คือ ตอนที่ผู้ปกครองมาส่ง หรือมารับ) ผู้ปกครองที่มาดูการแสดงผลงานของเด็ก ๆ ได้ถามถึงการบ้านว่า ไม่เห็นคุณครูมีการบ้านให้ เด็ก ๆ บ้าง และในเรื่องที่เด็ก ๆ เรียน ผู้ปกครองไม่ทราบว่าจะหาข้อมูลอะไรมาเล่าให้เด็กฟัง ได้แต่ ตอบคำถามให้เด็ก ๆ ได้บ้างเท่าที่ทราบ แต่พอจะจัดหาสื่อหรืออุปกรณ์มาให้ได้ ถ้าสื่อหรืออุปกรณ์หา ไม่ยาก และอยากให้คุณครูมีการบ้านกลับไปให้เด็ก ๆ ทำบ้าง วันที่ 24 เด็กและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการจัดแสดงผลงาน การทำโครงการ โดยครูถามเด็ก ๆ ว่า เด็ก ๆ รู้สึกอย่างไรที่ได้จัดแสดงผลงาน ครู : เด็กชอบกิจกรรมวันงานแสดงผลงานไหม เด็กทุกคน : ชอบ สนุก ได้เล่น ครู : ชอบกิจกรรมไหนมากที่สุด เด็กทุกคน : ชอบทอดเห็ด ครู : แล้วทำไมถึงชอบวันแสดงผลงาน เด็กทุกคน : สนุกดี ได้เล่นของเล่นนาน คุณพ่อคุณแม่ และคุณครูห้องอื่นชม ออกัส : เพื่อนห้องอื่น กับน้อง ๆ ไม่แบ่งของเล่น ครู : แล้วเมื่อหมดเวลาเล่นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง แนน /คิว : เพื่อนไม่ช่วยเก็บของ ครู : แล้วเราจะทำอย่างไรดี ลีวาย : ต้องบอกคุณครู ครู : แล้วเพื่อน ๆ ชอบผลงานชิ้นไหนบ้าง ข้าวฟ่าง /อิง : แม่ชอบระบายสีเห็ด กับภาพเห็ดสายรุ้งที่ติดกระจก ครู : แล้วเพื่อนห้องอื่นชอบอะไร อ่อมแอ๋ม : เพื่อนห้องอื่น เขาชอบเล่น ไม่ค่อยดูผลงาน ครูบอกกับเด็ก ๆ ว่า คุณพ่อคุณแม่ของเด็ก ๆ ถามถึงการบ้าน ครูถามความเห็นเด็ก ๆ ว่า อยากได้การบ้านไหม เด็ก ๆ อยากได้ ครูจึงแจกชีทให้เด็กกลับไปทำเป็นการบ้าน จากนั้นครูจึงเชิญ

103 ชวนเด็ก ๆ ช่วยกันเก็บผลงาน ซึ่งเด็ก ๆ บอกว่า ไม่อยากเก็บเพราะทำให้ห้องสวย ครูจึงให้เด็กๆ ช่วยกัน จัดมุมต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบ และเก็บกระดาษชาร์จร่องรอยการเรียนรู้เพียงอย่างเดียว สรุปการเรียนรู้ระยะที่ 3 หลังจากที่เด็ก ๆ ได้ลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงการในระยะที่ 2 เพื่อนหาคำตอบของแต่ ละข้อคำถามที่เด็กสนใจแล้ว ครูสังเกตเห็นว่าเด็ก ๆ เริ่มหมดความสนใจในหัวเรื่องของโครงการที่ เรียน ครูจึงซักชวนเด็ก ๆ ให้ร่วมกันสรุปการเรียนรู้โดยร่วมกันอภิปรายถึงข้อมูลความรู้ต่าง ๆ ของเด็ก ที่ได้เรียนรู้จากการทำกิจกรรมของโครงการ จากนั้นครูเชิญชวนเด็ก ๆ ให้ร่วมกันวางแผนที่จะจัดแสดง นิทรรศการโดยนำ ผลงานที่เด็กทำโครงการมาแสดง เด็กแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าที่ในการจัดตกแต่ง สถานที่และจัดแสดงผลงานให้เพื่อนและน้อง ๆ ที่สนใจรวมทั้งผู้ปกครองเข้าชม บทบาทครู ครูร่วมทบทวนและสรุปการเรียนรู้กับเด็ก ร่วมวางแผน อำนวยความสะดวก และแจ้งข่าวสาร กับผู้ปกครองในการจัดแสดงนิทรรศการ ครูร่วมประเมินผลการทำโครงการกับเด็กและสังเกตความ สนใจของเด็กเพื่อเตรียมหาหัวเรื่องในการทำโครงการใหม่ต่อไป – ปิดโครงการ –

104 สรุปการจัดประสบการณ์แบบโครงการ โครงการ เห็ด ระยะที่ 1 ระยะเริ่มต้น 1. สร้างสถานการณ์ให้เด็กเกิดความสนใจ 2. สังเกตความสนใจเด็ก 3. นำเสนอหัวข้อที่สังเกตเห็นว่าเด็กสนใจที่จะเรียนรู้ 4. เด็กร่วมกันอภิปรายประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับหัวเรื่องที่จะเรียนรู้ 5. แจ้งข่าวสารถึงผู้ปกครอง 6. นำเสนอประสบการณ์เดิมในรูปแบบต่าง ๆ เกี่ยวกับหัวข้อโครงการ 7. ร่วมกันตั้งคำถามที่ต้องการหาคำตอบจากโครงการ ระยะที่ 2 ระยะพัฒนา และค้นหาคำตอบ 1. สรุปประเด็นคำถามที่จะศึกษาในโครงการ 2. คาดคะเนคำตอบเพื่อตอบคำถามจากโครงการ 3. วางแผนกิจกรรมเพื่อค้นหาคำตอบจากการทำโครงการ 4. ลงมือปฏิบัติตามแผนที่วางไว้เพื่อค้นหาคำตอบจากข้อคำถาม 5. ทบทวนและสรุปความรู้ที่ได้จากการศึกษา ระยะที่ 3 ระยะสรุปผล และจัดแสดงนิทรรศการ 1. วางแผนเพื่อเตรียมจัดแสดงผลงานที่ได้จากการทำโครงการ 2. เตรียมการนำเสนอและจัดแสดงผลงานที่ได้จากการทำโครงการ 3. ทบทวนและประเมินโครงการทั้งหมด 4. สังเกตและค้นหาความสนใจเพื่อเริ่มทำโครงการใหม่

105 ภาคผนวก ค บัญชีรายชื่อผู้เชี่ยวชาญ

106 บัญชีรายชื่อผู้เชี่ยวชาญ 1. ผู้เชี่ยวชาญตรวจแบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์มีรายนามดังนี้ 1. นางจารุวรรณ สมพะยอม ครูชำนาญการ โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี 2. นางพวงเพชร พัชรภิญโญภาคย์ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านโคกลาด 3. นายนฤดล มัฆนาโส ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านโคกลาด 2. ผู้เชี่ยวชาญตรวจแผนการจัดประสบการณ์แบบโครงการ เรื่อง เห็ด มีรายนามดังนี้ 1. นางจารุวรรณ สมพะยอม ครูชำนาญการ โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี 2. นางพวงเพชร พัชรภิญโญภาคย์ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านโคกลาด 3. นายนฤดล มัฆนาโส ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านโคกลาด

107 บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนบ้านโคกลาด . ที่ ศธ. ๐๔๑๗๖.๐๒๓ /พิเศษ วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๖ . เรื่อง ขอเรียนเชิญเป็นผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบเครื่องมือวิจัย . เรียน นางพวงเพชร พัชรภิญโญภาคย์ สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. แบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ จำนวน ๑ ชุด 2. แผนการจัดประสบการณ์แบบโครงการ เรื่อง เห็ด จำนวน ๑ ชุด ด้วยข้าพเจ้า นางสาวชมพู่ ปัตถาวะโร นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู โรงเรียนบ้าน โคกลาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีปีการศึกษา ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นนักศึกษาจากสาขาวิชาการศึกษา ปฐมวัย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้จัดทำวิจัย เรื่อง “ผลการจัดประสบการณ์ แบบโครงการ เรื่อง เห็ด ที่มีต่อทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย” ในการนี้ ผู้จัดทำวิจัยได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าท่านเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในด้าน การจัดการศึกษาปฐมวัย จึงใคร่ขอเรียนเชิญท่านเป็นผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบเครื่องมือวิจัยดังกล่าว และให้คำปรึกษาแนะนำ ตามรายละเอียดที่แนบมาพร้อมนี้ เพื่อให้การจัดทำผลงานวิจัยในชั้นเรียน ดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์ ถูกต้อง โดยจะขอรับเครื่องมือกลับคืนภายในวันที่ ๑๒ เดือน ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความอนุเคราะห์จากท่านด้วยดี ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง มา ณ โอกาสนี้ ทั้งนี้ หากมีข้อความใดที่ขาดความชัดเจนกรุณาติดต่อ นางสาวชมพู่ ปัตถาวะโร ผู้วิจัย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๙ ๕๔๕๖ ๑๐๘๖ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ความอนุเคราะห์ (นางสาวชมพู่ ปัตถาวะโร) นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี

108 บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนบ้านโคกลาด . ที่ ศธ. ๐๔๑๗๖.๐๒๓ /พิเศษ วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๖ . เรื่อง ขอเรียนเชิญเป็นผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบเครื่องมือวิจัย . เรียน นายนฤดล มัฆนาโส สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. แบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ จำนวน ๑ ชุด 2. แผนการจัดประสบการณ์แบบโครงการ เรื่อง เห็ด จำนวน ๑ ชุด ด้วยข้าพเจ้า นางสาวชมพู่ ปัตถาวะโร นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู โรงเรียนบ้าน โคกลาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีปีการศึกษา ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นนักศึกษาจากสาขาวิชาการศึกษา ปฐมวัย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้จัดทำวิจัย เรื่อง “ผลการจัดประสบการณ์ แบบโครงการ เรื่อง เห็ด ที่มีต่อทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย” ในการนี้ ผู้จัดทำวิจัยได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าท่านเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในด้าน การจัดการศึกษาปฐมวัย จึงใคร่ขอเรียนเชิญท่านเป็นผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบเครื่องมือวิจัยดังกล่าว และให้คำปรึกษาแนะนำ ตามรายละเอียดที่แนบมาพร้อมนี้ เพื่อให้การจัดทำผลงานวิจัยในชั้นเรียน ดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์ ถูกต้อง โดยจะขอรับเครื่องมือกลับคืนภายในวันที่ ๑๒ เดือน ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความอนุเคราะห์จากท่านด้วยดี ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง มา ณ โอกาสนี้ ทั้งนี้ หากมีข้อความใดที่ขาดความชัดเจนกรุณาติดต่อ นางสาวชมพู่ ปัตถาวะโร ผู้วิจัย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๙ ๕๔๕๖ ๑๐๘๖ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ความอนุเคราะห์ (นางสาวชมพู่ ปัตถาวะโร) นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี

109 ที่ ศธ. ๐๔๑๗๖.๐๒๓ /ว๑๓๔ โรงเรียนบ้านโคกลาด หมู่ที่ ๘ ตำบลหนองไฮ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ๔๑๐๐๐ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๖ เรื่อง ขอเรียนเชิญเป็นผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบเครื่องมือวิจัย เรียน นางจารุวรรณ สมพะยอม สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑. แบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ จำนวน ๑ ชุด ๒. แผนการจัดประสบการณ์แบบโครงการ เรื่อง เห็ด จำนวน ๑ ชุด ด้วย นางสาวชมพู่ ปัตถาวะโร นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู โรงเรียนบ้านโคกลาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นนักศึกษาจากสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้จัดทำวิจัย เรื่อง “ผลการจัดประสบการณ์แบบ โครงการ เรื่อง เห็ด ที่มีต่อทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย” ในการนี้ ผู้จัดทำวิจัยได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าท่านเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในด้าน การจัดการศึกษาปฐมวัย จึงใคร่ขอเรียนเชิญท่านเป็นผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบเครื่องมือวิจัยดังกล่าว และให้คำปรึกษาแนะนำ ตามรายละเอียดที่แนบมาพร้อมนี้ เพื่อให้การจัดทำผลงานวิจัยในชั้นเรียน ดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์ ถูกต้อง โดยจะขอรับเครื่องมือกลับคืนภายในวันที่ ๑๒ เดือน ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความอนุเคราะห์จากท่านด้วยดี ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง มา ณ โอกาสนี้ ทั้งนี้ หากมีข้อความใดที่ขาดความชัดเจนกรุณาติดต่อ นางสาวชมพู่ ปัตถาวะโร ผู้วิจัย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๙ ๕๔๕๖ ๑๐๘๖ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ความอนุเคราะห์ ขอแสดงความนับถือ (นางฑิฆัมพร บุญมาก) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโคกลาด โรงเรียนบ้านโคกลาด โทรศัพท์ ๐๙ ๘๙๔๐ ๔๕๙๑

110 ภาคผนวก ง การวิเคราะห์ความสอดคล้องของแบบทดสอบ และแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

111 แบบประเมินความสอดคล้อง แบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ คำชี้แจง 1. ผู้เชี่ยวชาญโปรดพิจารณาข้อคำถามในแบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของ เด็กปฐมวัยแต่ละข้อว่ามีความสอดคล้องกับดัชนีชี้วัดหรือไม่โดยใช้เกณฑ์การพิจารณา ดังนี้ เห็นว่ามีความสอดคล้อง โปรดทำเครื่องหมาย ✓ ที่ช่อง +1 ไม่แน่ใจว่ามีความสอดคล้อง โปรดทำเครื่องหมาย ✓ ที่ช่อง 0 แน่ใจว่าไม่มีความสอดคล้อง โปรดทำเครื่องหมาย ✓ ที่ช่อง -1 2. ถ้าผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่าข้อความใดควรแก้ไข กรุณาให้คำแนะนำเพื่อการแก้ไข แบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยในช่องข้อเสนอแนะ นิยามปฏิบัติการ ทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ หมายถึง ความสามารถเบื้องต้นที่เป็นพื้นฐานทักษะทาง วิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบทดสอบที่ ผู้วิจัยสร้างขึ้น ซึ่งในการศึกษาครั้งนี้ ศึกษาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ 4 ด้านคือ 1. ทักษะการสังเกต หมายถึง ความสามารถในการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เข้าไปสัมผัส โดยตรงกับวัตถุสิ่งแวดล้อม สามารถตอบข้อมูลหรือรายละเอียดของสิ่งต่าง ๆ ได้อธิบายว่าสิ่งที่สังเกต ได้เป็นอย่างไร บอกความเหมือนความต่างว่าสิ่งที่สังเกตได้เป็นอย่างไร 2. ทักษะการจำแนกประเภท หมายถึง ความสามารถในการเปรียบเทียบและบอกข้อ แตกต่างของคุณสมบัติ โดยมีเกณฑ์ในการจัดแบ่ง มี 3 ประการคือ ความเหมือน ความแตกต่างและ ความสัมพันธ์ 3. ทักษะการสื่อความหมาย หมายถึง ความสามารถในการนำข้อมูลที่ได้จากการสังเกต การทดลอง หรือจากแหล่งอื่นที่มีข้อมูลอยู่ แล้วมาจัดทำใหม่โดยอาศัยวิธีการต่าง ๆ คือ การสังเกต การวัด การทดลอง และจากแหล่งอื่น ๆ มาจัดกระทำเสียใหม่ โดยมุ่งสื่อให้ผู้อื่นเข้าใจความหมาย ได้ดีขึ้น 4. ทักษะการลงความเห็นข้อมูล หมายถึง ความสามารถในการอธิบายหรือแสดงความ คิดเห็นให้กับข้อมูลที่ได้จากการสังเกตอย่างมีเหตุผล ในการอธิบาย หรือสรุปผลจากข้อมูลที่ได้จาก การสังเกต การวัด การสัมผัส โดยใช้ความรู้หรือประสบการณ์เดิม

112 ข้อ ข้อทดสอบ ระดับความ สอดคล้อง +1 0 -1 ชุดที่ 1 ทักษะการสังเกต 1 ให้เด็กชิมน้ำส้มคั้น 2 ให้เด็กดมกลิ่นดอกไม้ 3 ให้เด็กสังเกตอุปกรณ์การเขียน 4 ให้เด็กเขย่าลูกไข่พลาสติก 5 ให้เด็กสัมผัสสิ่งของในกล่องปริศนา ชุดที่ 2 ทักษะการจำแนกประเภท 6 ให้เด็กเด็กจำแนกมะนาวตามขนาด 7 ให้เด็กบอกว่าผลไม้ใดทานได้ทั้งเปลือกและที่ต้องปอกเปลือกก่อนทาน 8 ให้เด็กจัดกลุ่มรูปเรขาคณิต ตั้งแต่ 2 ลักษณะขึ้นไปโดยไม่ให้ซ้ำกัน 9 ให้เด็กสังเกตผลไม้และสิ่งของแล้วบอกว่าสิ่งใดเป็นพวกเดียวกัน 10 ให้เด็กสังเกตผักแล้วบอกว่าผักชนิดใดที่ทานใบและทานราก ชุดที่ 3 ทักษะการสื่อความหมาย 11 ภาพเด็กช่วยงานบ้านพ่อและแม่ 12 ภาพเด็กให้อาหารสัตว์ 13 ภาพกระต่ายกำลังปีนต้นไม้หนีสัตว์ดุร้าย 14 ให้เด็กบอกว่า ส่วนประกอบที่อยู่ในจานสลัดผักว่ามีอะไรบ้าง 15 ให้เด็กมองในกล่องกระดาษทึบแสงว่ามีอะไรบ้าง ชุดที่ 4 ทักษะการลงความเห็นข้อมูล 16 ให้เด็กบอกชื่อผลไม้ที่เห็นอย่างน้อย 3 ชื่อ 17 ให้เด็กบอกว่าน้ำหวานที่มีสีแดง คือน้ำอะไร 18 ให้เด็กบอกว่าใบไม้ที่คลำคือใบไม้ที่อยู่ในจานหมายเลขใด 19 ให้เด็กตอบว่าแก้วไหนเป็นน้ำส้ม 20 ให้เด็กดมกลิ่นใบกระเพราสดแล้วตอบว่าคือจานใด

113 ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมรายทักษะหรือรายข้อ 1. ทักษะการสังเกต ................................................................................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... 2. ทักษะการจำแนกประเภท ………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... 3. ทักษะการสื่อความหมาย ………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... 4. ทักษะการลงความเห็นข้อมูล …………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ลงชื่อ ผู้เชี่ยวชาญ (.....................................................) ตำแหน่ง ....................................................................... ........../.............................../..........

114 ผลการประเมินความสอดคล้องของแบบทดสอบ ชุดที่ 1 ทักษะการสังเกต ข้อ ข้อทดสอบ ความคิดเห็น ของผู้เชี่ยวชาญ ∑R IOC 1 2 3 1 ให้เด็กชิมน้ำส้มคั้น +1 +1 +1 +3 1 2 ให้เด็กดมกลิ่นดอกไม้ +1 +1 +1 +3 1 3 ให้เด็กสังเกตอุปกรณ์การเขียน +1 +1 +1 +3 1 4 ให้เด็กเขย่าลูกไข่พลาสติก +1 +1 +1 +3 1 5 ให้เด็กสัมผัสสิ่งของในกล่องปริศนา +1 +1 +1 +3 1 ผลการประเมินความสอดคล้องของแบบทดสอบ ชุดที่ 2 ทักษะการจำแนกประเภท ข้อ ข้อทดสอบ ความคิดเห็น ของผู้เชี่ยวชาญ ∑R IOC 1 2 3 6 ให้เด็กเด็กจำแนกมะนาวตามขนาด +1 +1 +1 +3 1 7 ให้เด็กบอกผลไม้ใดทานทั้งเปลือกและต้องปอกเปลือกก่อน +1 +1 +1 +3 1 8 ให้เด็กจัดกลุ่มรูปเรขาคณิต ตั้งแต่ 2 ลักษณะขึ้นไปโดย ไม่ให้ซ้ำกัน +1 +1 +1 +3 1 9 ให้เด็กสังเกตผลไม้และสิ่งของแล้วบอกว่าสิ่งใดเป็นพวก เดียวกัน +1 +1 +1 +3 1 10 ให้เด็กสังเกตผักแล้วบอกว่าผักชนิดใดทานใบทานราก +1 +1 +1 +3 1

115 ผลการประเมินความสอดคล้องของแบบทดสอบ ชุดที่ 3 ทักษะการสื่อความหมาย ข้อ ข้อทดสอบ ความคิดเห็น ของผู้เชี่ยวชาญ ∑R IOC 1 2 3 11 ภาพเด็กช่วยงานบ้านพ่อและแม่ +1 +1 +1 +3 1 12 ภาพเด็กให้อาหารสัตว์ +1 +1 +1 +3 1 13 ภาพกระต่ายกำลังปีนต้นไม้หนีสัตว์ดุร้าย +1 +1 +1 +3 1 14 ให้เด็กบอกว่า ส่วนประกอบที่อยู่ในจานสลัดผักว่ามี อะไรบ้าง +1 +1 +1 +3 1 15 ให้เด็กมองในกล่องกระดาษทึบแสงว่ามีอะไรบ้าง +1 +1 +1 +3 1 ผลการประเมินความสอดคล้องของแบบทดสอบ ชุดที่ 4 ทักษะการลงความเห็นข้อมูล ข้อ ข้อทดสอบ ความคิดเห็น ของผู้เชี่ยวชาญ ∑R IOC 1 2 3 16 ให้เด็กบอกชื่อผลไม้ที่เห็นอย่างน้อย 3 ชื่อ +1 +1 +1 +3 1 17 ให้เด็กบอกว่าน้ำหวานที่มีสีแดง คือน้ำอะไร +1 +1 +1 +3 1 18 ให้เด็กบอกว่าใบไม้ที่คลำคือใบไม้ที่อยู่ในจาน หมายเลขใด +1 +1 +1 +3 1 19 ให้เด็กตอบว่าแก้วไหนเป็นน้ำส้ม +1 +1 +1 +3 1 20 ให้เด็กดมกลิ่นใบกระเพราสดแล้วตอบว่าคือจานใด +1 +1 +1 +3 1

116 ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ 1. ข้อความในแบบทดสอบ การสื่อสารควรใช้คำถามปลายเปิด เพื่อกระตุ้นให้เด็กแสดงความ คิดเห็นจากภาพ โดยการเล่าเรื่อง การสนทนา การทายปัญหา การคิดวิเคราะห์ การสังเกต การใช้ กระบวนการคิดในการเปิดโอกาสให้เด็กซักถามจากสิ่งที่เห็น 2. ปรับปรุงการใช้ภาษาในคำถามแต่ละข้อให้มีความชัดเจนและเข้าใจง่าย 3. อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบต้องมีคุณภาพตลอดการทดสอบ คือ สด และสะอาด 4. ปรับเนื้อหาที่มีความคล้ายคลึงกันในบางข้อให้เป็นข้อเดียวกัน 5. ปรับปรุงการประเมินค่าคะแนนในด้านจำแนกและด้านสื่อความหมายข้อมูลให้ชัดเจน เช่น ควรกำหนดคำตอบให้มีคำตอบเดียว 6. ปรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบให้มีความเหมาะสมและมีความปลอดภัยสำหรับเด็ก เช่น ในการให้เด็กชิมรสชาติของน้ำส้มควรใช้ช้อนตักใส่ถ้วยชิม หรือหลอดที่ใช้ 1 หลอดต่อคน 7. น้ำที่ชิมควรเป็นน้ำผลไม้ ที่คั้นจากผลไม้จริง เพราะเป็นน้ำผลไม้ที่ได้จากธรรมชาติ สะอาด และไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก

117 แบบประเมินความสอดคล้อง แผนการจัดประสบการณ์แบบโครงการ คำชี้แจง 1. ผู้เชี่ยวชาญโปรดพิจารณาข้อคำถามในการจัดประสบการณ์แบบโครงการว่ามีความ สอดคล้องกับดัชนีชี้วัดหรือไม่โดยใช้เกณฑ์ในการพิจารณา ดังนี้ เห็นว่ามีความสอดคล้อง โปรดทำเครื่องหมาย ✓ ที่ช่อง +1 ไม่แน่ใจว่ามีความสอดคล้อง โปรดทำเครื่องหมาย ✓ ที่ช่อง 0 แน่ใจว่าไม่มีความสอดคล้อง โปรดทำเครื่องหมาย ✓ ที่ช่อง -1 2. ถ้าผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่าข้อความใดควรแก้ไข กรุณาให้คำแนะนำเพื่อการแก้ไข แผนการจัดประสบการณ์แบบโครงการในช่องข้อเสนอแนะ นิยามปฏิบัติการ การจัดประสบการณ์แบบโครงการ หมายถึง การศึกษาหาความรู้อย่างลุ่มลึกในเรื่องใดเรื่อง หนึ่งที่เด็กสนใจ หรืออยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งนั้น โดยมีครูเป็นผู้ให้การสนับสนุน และช่วยเหลือเมื่อ เด็กต้องการ ซึ่งกำหนดขั้นตอนการดำเนินการเป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ระยะเริ่มต้น 1.1 สร้าง /สังเกตความสนใจของเด็ก 1.2 เด็กกำหนดหัวข้อโครงการ ระยะที่ 2 ระยะพัฒนา และค้นหาคำตอบ 2.1 เด็กกำหนดปัญหาที่จะศึกษา 2.2 เด็กตั้งสมมติฐานเบื้องต้น 2.3 เด็กทดสอบสมมติฐานเบื้องต้น 2.4 เด็กตรวจสอบสมมติฐาน ระยะที่ 3 ระยะสรุปผล และจัดแสดงนิทรรศการ 3.1 สิ้นสุดความสนใจ 3.2 นำเสนอผลงาน 3.3 สิ้นสุดโครงการและกำหนดโครงการใหม่

118 ข้อ ข้อประเมิน ระดับความ สอดคล้อง +1 0 -1 1 ความสอดคล้องเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 2 เหมาะสมต่อกระบวนการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน 3 ความเหมาะสมของเนื้อหา 4 การชี้แจงวัตถุประสงค์ระยะเวลาชัดเจน 5 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลายเหมาะสมกับผู้เรียน 6 กิจกรรมการสอนเน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม 7 สื่อ/นวัตกรรมการสอนหลากหลายเหมาะสมกับเนื้อหา 8 ความเหมาะสมกับความสนใจของผู้เรียน 9 แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ช่วยให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทักษะ พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้ง 4 ด้านตามที่ผู้วิจัยกำหนด 10 ความเหมาะสมของรูปแบบการจัดประสบการณ์ ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ลงชื่อ ผู้เชี่ยวชาญ (.....................................................) ตำแหน่ง ....................................................................... ........../.............................../..........

119 ผลการประเมินความสอดคล้องของแผนการจัดประสบการณ์แบบโครงการ ข้อ ข้อประเมิน ความคิดเห็น ของผู้เชี่ยวชาญ ∑R IOC 1 2 3 1 ความสอดคล้องเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน +1 +1 +1 +3 1 2 เหมาะสมต่อกระบวนการพัฒนาการเรียนรู้ของ ผู้เรียน +1 +1 +1 +3 1 3 ความเหมาะสมของเนื้อหา +1 +1 +1 +3 1 4 การชี้แจงวัตถุประสงค์ระยะเวลาชัดเจน +1 +1 +1 +3 1 5 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลายเหมาะสมกับผู้เรียน +1 +1 +1 +3 1 6 กิจกรรมการสอนเน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม +1 +1 +1 +3 1 7 สื่อ/นวัตกรรมการสอนหลากหลายเหมาะสมกับ เนื้อหา +1 +1 +1 +3 1 8 ความเหมาะสมกับความสนใจของผู้เรียน +1 +1 +1 +3 1 9 แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ช่วยให้ผู้เรียน ได้รับการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้ง 4 ด้านตามที่ผู้วิจัยกำหนด +1 +1 +1 +3 1 10 ความเหมาะสมของรูปแบบการจัดประสบการณ์ +1 +1 +1 +3 1 ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ 1. ปรับปรุงในเรื่องของระยะเวลาดำเนินการ สื่ออุปกรณ์ และรูปแบบการจัดกิจกรรม 2. ปรับปรุงการใช้ภาษาในการเขียนแผนการจัดประสบการณ์แบบโครงการให้มีความชัดเจน เหมาะสม สอดคล้องกับวัยของเด็ก 3. ศึกษาการจัดประสบการณ์แบบโครงการของโรงเรียนเกษมพิทยา หรือโรงเรียนอื่น ๆ จาก คลิปในยูทูบ (YouTube) ช่องทางเฟซบุ๊ก (Facebook) หรือช่องทางอื่น ๆ ที่สามารถสืบค้นได้

120 ภาคผนวก จ ภาพถ่าย

121 โครงการระยะที่ 1 ระยะเริ่มต้น ครูเล่านิทานเรื่อง “ตุ๊กตากับเทวดาเห็ด” ให้เด็กฟังเพื่อกระตุ้นให้เด็กเสนอหัวเรื่องโครงการ ครูให้เด็กร่วมกันโหวตหัวข้อโครงการที่อยากจะเรียน

122 ผลการโหวตหัวข้อโครงการที่อยากจะเรียนผลปรากฏว่าเด็กสนใจกับเรื่อง เห็ด เด็กและครูสนทนาเกี่ยวกับประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับเห็ด

123 ประสบการณ์เดิมที่เกี่ยวกับเห็ด

124 โครงการระยะที่ 2 ระยะพัฒนา และค้นหาคำตอบ เด็กและครูสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่อยากรู้เกี่ยวกับเห็ด สิ่งที่เด็กๆอยากรู้เกี่ยวกับเห็ด

125 ครูสรุปให้เด็กฟังว่ามีเห็ดหลายชนิดที่มีสีแตกต่างกัน และมีสีเหมือนกัน เห็ดชนิดต่างๆ

126 เด็กและครูร่วมกันสนทนาถึงเห็ดพิษว่ามีลักษณะอย่างไร ลักษณะของเห็ดพิษ

127 เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของเห็ด การเจริญเติบโตของเห็ด

128 เด็กทำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ “เห็ดจำลอง” เด็กทำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ “ปะติดภาพเห็ด”

129 เด็กทำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ “เห็ดจากสีน้ำ” เด็กทำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ “ปั้นเห้ด”

130 เด็กเล่าเกี่ยวกับผลงานตนเอง

131 เด็กดูคลิปวิดีโอฟาร์มเห็ด จำลองการไปทัศนศึกษาที่ฟาร์มเห็ด

132 เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับระยะเวลาการเพาะเห็ดนางฟ้า ระยะเวลาการเพาะเห็ดนางฟ้า

133 เด็กและครูร่วมกันเพาะเห็ด

134 เด็กทดลองผ่าเห็ด เพื่อค้นหาคำตอบตามที่ได้ตั้งสมมติฐานไว้

135 เด็กและครูร่วมกันประกอบอาหารจากเห็ด

136 เด็กและครูร่วมกันประกอบอาหารจากเห็ด

137 ขั้นตอนการทำเห็ดเข็มทอด

138 โครงการระยะที่ 3 ระยะสรุปผล และจัดแสดงนิทรรศการ ผู้ปกครองและน้องร่วมชมนิทรรศการ และร่องรอยพัฒนาการเด็กจากการทำโครงการเรื่อง เห็ด

139 การทดสอบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย

140 การทดสอบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย

141 ผลงานเด็ก และร่องรอยการเรียนรู้จากการทำโครงการเรื่อง เห็ด ร่องรอยการเรียนรู้จากการทำโครงการเรื่อง เห็ด ผลงานศิลปะ “เห็ดจำลอง”