๑๐๐
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๐๑
กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น
โรงเรยี นบ้านสำโรงประชารัฐได้จดั กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี นโดยมุ่งให้ผเู้ รียนเกิดการเรยี นรูจ้ ากประสบการณ์
ตรง ได้ฝึกปฏิบัติจริงและค้นพบความถนัดของตนเอง สามารถค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมตามความสนใจจาก
แหลง่ เรยี นรู้ที่หลากหลาย บำเพญ็ ประโยชน์เพื่อสงั คม มที กั ษะในการดำเนนิ งาน ส่งเสรมิ ใหม้ วี ฒุ ภิ าวะทางอารมณ์
สงั คม ศีลธรรม จรยิ ธรรม ให้ผู้เรยี นรู้จกั และเข้าใจตนเอง สามารถวางแผนชวี ิตและอาชีพไดอ้ ย่างเหมาะสม
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นกิจกรรมที่มุง่ ให้ผู้เรียนพัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาการเรียนรู้อย่างรอบ
ด้านเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มีศีลธรรม
จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังให้สร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคม สามรถจัดการตนเองได้และอยู่
รว่ มกับผู้อืน่ อย่างมคี วามสขุ โรงเรยี นบา้ นสำโรงประชารัฐได้จดั กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน โดยแบ่งออกเป็น ๓ ลกั ษณะ
ดงั นี้
๑. กจิ กรรมแนะแนว เป็นกจิ กรรมที่สง่ เสรมิ และพฒั นาผู้เรยี นให้รู้จกั ตนเอง รรู้ ักษส์ ิ่งแวดลอ้ ม สามารถ
ตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียน และอาชีพ สามารถปรับตนได้อย่าง
เหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่
ผู้ปกครองในการมีส่วนร่วมพัฒนาผู้เรียน โดยนักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว ๔๐ ชั่วโมงต่อปี
การศกึ ษา
๒. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี ความรับผิดชอบ
การทำงานร่วมกัน รู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจท่ีเหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือแบ่งปนั เอื้ออาทรและ
สมานฉันท์ โดยจดั ให้สอดคล้องกบั ความสามารถ ความถนดั และความสนใจของผ้เู รียน ใหไ้ ดป้ ฏิบตั ิด้วยตนเอง
ในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผนประเมินและปรับปรุงการทำงานเน้นการ
ทำงานรวมกันเป็นกลุ่มตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียนและบริบทของสถานศึกษาและ
ท้องถิ่น กิจกรรมนักเรียน ประกอบด้วย กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่ วม กิจกรรม
ลูกเสือ เนตรนารี ๓๐ ชั่งโมงตอ่ ปีการศึกษา กิจกรรมชุมนุม นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรม ชุมนุม ๔๐
ชั่งโมงตอ่ ปีการศกึ ษา
๓. กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เปน็ กจิ กรรมทส่ี ่งเสริมให้ผเู้ รยี นบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์
ตอ่ สังคมชุมชนและท้องถิ่นตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพอื่ แสดงถึงความรบั ผดิ ชอบ ความดงี าม ความ
เสียสละการมีจิตสาธารณะ เช่น กิจกรรมอาสาพัฒนาต่างๆ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม นักเรียนทุกคนต้องเข้า
ร่วมกิจกรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ชั่วโมงตอ่ ปีการศึกษา
โครงสรา้ งและอตั ราเวลาการจัดกจิ กรรม
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น ระดบั ประถมศึกษา
ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖
๑. กจิ กรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
๒. กิจกรรมนักเรียน
๒.๑ ลกู เสือ-เนตรนารี ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐
๒.๒ กิจกรรมชุมนมุ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
๓. กิจกรรมเพอ่ื สงั คม ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๐๒
และสาธารณประโยชน์
เวลาเรียนรวม ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
๑. กจิ กรรมแนะแนว
วตั ถปุ ระสงค์
๑. เพ่อื ผเู้ รยี นค้นพบความถนัดความสามารถ ความสนใจของตนเอง รกั ละเห็นคณุ คา่ ในตนเองและผูอ้ ืน่
๒. เพื่อให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้จากข้อมูล ข่าวสาร แหล่งเรียนรู้ ทั้งด้านการศึกษา อาชีพส่วนตัวสงั คม
เพื่อนำไปใช้ในการวางแผน เลือกแนวทางการศึกษาอาชีพได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับศักยภาพ
ของตนเอง
๓. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นไดพ้ ัฒนาบุคลิกภาพ และปรบั ตัวอยใู่ นสังคมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ
๔. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมคี วามรู้ มที ักษะ มีความคดิ สร้างสรรค์ ในงานอาชีพและมีเจตคติทดี่ ีต่ออาชีพสุจริต
๕. เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนมคี ่านิยมที่ดงี ามในการดำเนนิ ชวี ติ สร้างเสรมิ วินยั คุณธรรมและจรยิ ธรรมแกน่ กั เรยี น
๖. เพอ่ื ให้ผเู้ รียนมีจติ สำนึกในการรับผิดชอบตอ่ ตนเอง ครอบครัว สงั คม และประเทศชาติ
แนวการจัดกิจกรรม โรงเรียนบ้านสำโรงประชารัฐได้จัดกิจกรรมแนะแนวเพื่อช่วยเหลือและพัฒนา
ผ้เู รยี น ดงั น้ี
๑. จัดกิจกรรมเพื่อให้ครูได้รู้จักและช่วยเหลือผู้เรียนมากขึ้น โดยใช้กระบวนการทางจิตวิทยา การ
จัดบริการสนเทศ โดยให้มีเอกสารเพื่อใช้ในการสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้เรียน ด้วยการสังเกต
สัมภาษณ์ การใช้แบบสอบถาม การเขียนประวัติ การพบผู้ปกครองก่อนและระหว่างเรียน การ
เยย่ี มบ้านนักเรียน การให้ความชว่ ยเหลอื ผู้เรียนเรื่องสขุ ภาพจติ เศรษฐกจิ การจัดทำระเบยี นสะสม
สมดุ รายงานประจำตวั นักเรียน และบัตรสขุ ภาพ
๒. การจัดกิจกรรมพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ โดยทำแบบทดสอบเพื่อรู้จักและเขา้ ใจตนเอง มีทักษะ
ในการตัดสินใจ การปรับตัว การวางแผนเพื่อเลอื กศกึ ษาต่อ เลอื กอาชีพ
๓. การจดั บรกิ ารใหค้ ำปรึกษาแก่ผูเ้ รยี นรายบุคคล และรายกล่มุ ในด้านการศกึ ษา อาชีพ และส่วนตัว
โดยมีผู้ให้คำปรึกษาที่มีคุณวุฒิ และมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการให้คำปรึกษา ตลอดจนมีห้องให้
คำปรึกษาท่เี หมาะสม
๓.๑ ชว่ ยเหลอื ผู้เรยี นทปี่ ระสบปญั หาดา้ นการเงินโดยการให้ทุนการศกึ ษาแก่ผู้เรียน
๓.๒ ตดิ ตามเก็บขอ้ มลู ของนักเรยี นทสี่ ำเรจ็ การศึกษา
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๐๓
๒. กจิ กรรมนักเรยี น
๑. กิจกรรมลูกเสอื
กิจกรรมลูกเสือ - เนตรนารี
ผู้เรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ ทุกคน ได้ฝึกอบรมวิชาลูกเสือ - เนตรนารี เพื่อส่งเสริม
หลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ส่งเสริมความสามัคคี มีวินัย และ
บำเพญ็ ประโยชนต์ ่อสังคม โดยดำเนินการจัดกจิ กรรมตามขอ้ กำหนดของคณะกรรมการลกู เสอื แหง่ ชาติ
วตั ถุประสงค์
พระราชบัญญัติลูกเสือ พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๘ ได้กำหนดวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม เพื่อพัฒนา
ลูกเสอื ท้ังทางกาย สติปญั ญา จิตใจ และศีลธรรมให้เปน็ พลเมอื งดี มคี วามรับผดิ ชอบ และช่วยสรา้ งสรรค์สังคม
เพื่อให้เกิดความสามัคคี และความเจริญก้าวหน้า ทั้งนี้เพื่อความสงบสุข และความมั่งคงของประเทศชาติตาม
แนวทางดงั ต่อไปนี้
๑. ใหม้ ีนิสยั ในการสังเกต จดจำ เช่ือฟงั และพงึ่ ตนเอง
๒. ให้มีความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ มรี ะเบียบวินยั และเหน็ อกเหน็ ใจผูอ้ ื่น
๓. ให้รูจ้ กั บำเพญ็ ตนเพอื่ สาธารณประโยชน์
๔. ให้ร้จู กั ทำการฝมี ือและฝึกฝนการทำกิจกรรมต่างๆตามความเหมาะสม
๕. ใหร้ ้จู ักรักษาและส่งเสรมิ จารตี ประเพณี วฒั นธรรม และความม่ังคงชองชาติ
แนวการจดั กิจกรรม
กิจกรรมลูกเสอื เนตรนารี ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑-๓
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบานการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษาวิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัตกิ ิจกรรมตามมาตรฐาน โดยเนน้ ระบบหมู่ สรปุ ผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ปิดประชมุ กอง โดยให้ผเู้ รียนศึกษา
และฝกึ ปฏบิ ัตดิ งั นี้
๑. เตรียมลูกเสือสำรอง นยิ ายเรื่อเมาคลี ประวตั ิการเร่มิ กจิ กรรมลกู เสอื สำรอง การทำความ
เคารพเป็นหมู่(แกรนด์ฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบ
แถวเบ้อื งตน้ คำปฏญิ าณ กฎ และคติพจน์ของลูกเสอื สำรอง
๒. ลกู เสือสำรองดาวดวงท่ี ๑ , ๒ และ ๓ อนามยั ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การ
ค้นหาธรรมชาติ ความปลอดภัย บริการ ธง และประเทศต่างๆ การฝีมือ กิจกรรม
กลางแจง้ การบนั เทิง การผกู เงอื่ น คำปฏญิ าณ และกฎของลกู เสือสำรองโดยใช้กระบาน
การทำงาน กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการจัดการ กระบวนการ
คิดริเริ่ม สร้างสรรค์ กระบวนการฝึกปฏิบัติ ทางลูกเสือ กระบวนการทางเทคโนโลยี
และภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ได้อย่างเหมาะสม
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ
ลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง ซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอก
เห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือ พัฒนากาย จิตใจ และศีลธรรม ทั้งนี้โดยไม่
เกยี่ วขอ้ งกับลทั ธทิ างการเมืองใดๆ สนใจและอนุรักษธ์ รรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้อย่าง
มปี ระสทิ ธิภาพ
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๐๔
กิจกรรมลูกเสอื - เนตรนารี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔-๖
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัติกิจกรรมตามมาตรฐาน โดยเน้นระบบหมู่ สรุปการปฏิบัติกิจกรรม ปิดประชุมกอง โดยให้ผู้เรียนศึกษา
และปฏบิ ัติในเรื่อง
๑. ลูกเสือตรี ความรู้เกี่ยวกับขบวนการลูกเสือ คำปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามัญ กิจกรรม
กลางแจ้ง ระเบียบแถว
๒. ลกู เสอื โท การรูจ้ กั ดูแลตนเอง การชว่ ยเหลือผอู้ นื่ การเดนิ ทางไปยงั สถานทต่ี ่างๆ ทกั ษะทางวิชา
ลกู เสอื งานอดเิ รกและเรื่อทนี่ า่ สนใจ คำปฏิญาณ และกฎของลูกเสือ ระเบียบแถว
๓. ลูกเสอื เอก การพ่งึ พาตนเอง การบริการ การผจญภัย วชิ าการของลูกเสือ ระเบยี บแถว โดยใช้
กระบวนการทำงาน กระบวนการแก้ปัญหา ระบวนการกลุ่ม กระบวนการจัดการ กระบวนการ
คิดริเริ่ม สร้างสรรค์ กระบวนการฝึกปฏิบัติทางลูกเสือ กระบวนการทางเทคโนโลยี และภูมิ
ปัญญาทอ้ งถน่ิ ได้อยา่ งเหมาะสม
เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ
ลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง ซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอก
เห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสารธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือ พัฒนากาย จิตใจ และศีลธรรม ทั้งนี้โดยไม่
เกี่ยวข้องกับลัทธิทางการเมืองใดๆ สนใจและอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ได้
อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
หมายเหตุ ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรม และผ่านการทดสอบแล้ว จะได้รับเครื่องหมายลูกเสือตรี ลูกเสือโท
และลกู เสอื เอก
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๐๕
๒. กจิ กรรมชมุ นุม
วตั ถปุ ระสงค์
๑. เพื่อให้ผูเ้ รยี นไดป้ ฏิบัติกจิ กรรมตามความสนใจ ความถนัด และความต้องการของตน
๒. เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิด
ประสบการณ์ทง้ั ทางวชิ าการและวิชาชีพตามศักยภาพ
๓. เพอื่ ส่งเสริมให้ผ้เู รยี นใช้เวลาให้เกิดประโยชนต์ ่อตนเองและส่วนรวม
๔. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นทำงานร่วมกบั ผู้อนื่ ได้ตามวิถีประชาธปิ ไตย
แนวการจดั กิจกรรม
การจดั กิจกรรมตามความสนใจ(ชุมนุม) ผูเ้ รียนสามารถเลือกเข้าเปน็ สมาชิกชมรม วางแผนการดำเนิน
กิจกรรมรว่ มกัน โดยมชี มรมทห่ี ลากหลาย เหมาะสมกบั เพศ วยั และความสนใจของผู้เรยี น ประกอบด้วยกิจกรรม
ด้านคุณธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งเสริมประชาธิปไตย ส่งเสริมการเรียนรู้ ส่งเสริมการมี
งานทำ และคา่ ยวชิ าการ การศกึ ษาดงู าน การฝกึ ปฏบิ ตั ิ การบรรยายพเิ ศษดังตัวอยา่ งพอสงั เขปต่อไปน้ี
๑. กิจกรรมพฒั นาวุฒิภาวะทางอารมณ์ ศีลธรรมและจรยิ ธรรม จัดสอนจรยิ ธรรมในหอ้ งเรยี น จดั ให้
มกี ารปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเนอ่ื งในวันสำคญั ทง้ั ทางชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ โดยผู้เรียนมสี ว่ นร่วมในการจัดกิจกรรม
ทง้ั ในดา้ นวัฒนธรรม ประเพณี กฬี า และศีลปะ
๒. กจิ กรรมพฒั นาทกั ษะชีวิต จัดกิจกรรมแขง่ ขนั กีฬาสที กุ ชว่ งช้นั กิจกรรมการวา่ ยน้ำ โดยผู้เรยี นได้
ฝกึ ทักษะการทำงาน และการแกป้ ญั หาทุกขั้นตอน
๓. กิจกรรมส่งเสรมิ นิสัยรักการทำงาน จัดกิจกรรมวันวิชาการโดยผู้เรยี นมีโอกาสปฏิบัติจริง และฝกึ
ทักษะการจัดการ กิจกรรมการมีงานทำ (การประดิษฐ์ดอกไม้ใบตองพานพุ่มสักการะ การจัดดอกไม้ การจัดผ้า )
การแปรรูปอาหาร (ปลารา้ อนิ เตอร์ )
๔. กิจกรรมเพอ่ื อนรุ ักษส์ ่ิงแวดลอ้ มและวฒั นธรรม โดยจดั กจิ กรรมสืบสานวฒั นธรรมไทย เชน่
ประเพณีไหวค้ รู ประเพณลี อยกระทง
๕. กิจกรรมส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย จดั ให้มีการเลือกคณะกรรมการนกั เรียน โดย
ให้นำกระบวนการประชาธปิ ไตยไปใชใ้ นการร่วมวางแผนดำเนนิ งานพฒั นาโรงเรยี น
๖. กิจกรรมคนดีของสังคม จัดใหม้ กี ารบรรยายใหค้ วามรู้ เพอ่ื ป้องกันปัญหาโรคติดต่อรา้ ยแรง
ปญั หายาเสพตดิ ปัญหาวัยรุน่ ใหค้ วามรเู้ พื่อปลกู ฝงั ใหเ้ ปน็ สุภาพบุรุษ สภุ าพสตรี
๗. กจิ กรรมส่งเสรมิ การเรียนรู้ โดยจัดแหลง่ เรียนรู้ ไดแ้ ก่ ห้องสมุด หอ้ งปฏิบัติการทางภาษา
ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ห้องเทคโนโลยสี ารสนเทศ
๘. กิจกรรมส่งเสริมสขุ ภาพและอนามยั ใหบ้ รกิ ารหอ้ งพยาบาล มีบรกิ ารใหค้ วามรู้แกผ่ เู้ รยี น เพื่อ
ป้องกนั โรคระบาดอย่างทนั เหตุการณ์
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๐๖
๓. กจิ กรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์
วัตถปุ ระสงค์
๑. เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนบำเพญ็ ตนใหเ้ ปน็ ประโยชนต์ อ่ ครอบครวั โรงเรียน ชุมชน และประเทศชาติ
๒. เพื่อให้ผู้เรียนออกแบบกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตามความถนัด
และความสนใจในลกั ษณะอาสาสมคั ร
๓. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาศักยภาพในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ
๔. เพื่อให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรมตาม
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๕. เพื่อใหผ้ เู้ รยี นมีจติ สาธารณะและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
แนวการจดั กจิ กรรม
การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ทำประโยชน์
ตามความสามารถ ความถนัดและความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม
ความเสียสละต่อสงั คม มีจิตใจม่งุ ทำประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชนและสงั คมกจิ กรรมสำคัญได้แก่ กิจกรรมบำเพ็ญ
ประโยชน์ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม กิจกรรมดำรงรักษา สืบสาน ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม กิจกรรมพัฒนา
นวตั กรรมและเทคโนโลยี
เวลาเรียนสำหรับกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ในส่วนกิจกรรมเพื่อสังคมและ
สาธารณประโยชน์ จดั สรรเวลาใหผ้ ูเ้ รียนระดบั ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖ รวม ๖ ปี จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง(เฉลยี่ ปีละ ๑๐
ชว่ั โมง)
การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ในระดบั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑-๖ เปน็ การจัดกจิ กรรม
ภายในเวลาเรียน โดยให้ผู้เรียนรายงานแสดงกรเข้าร่วมกิจกรรมลงในสมุดบันทึก และมีผู้รับรองผลการเข้าร่วม
กิจกรรมทกุ ครั้ง
แนวทางการประเมินกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน
โรงเรียนบ้านสำโรงประชารฐั กำหนดแนวทางในการประเมินกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี นดงั น้ี
๑. การประเมินกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนรายกิจกรรม มแี นวทางปฏิบัตดิ งั น้ี
๑.๑ การตรวจสอบเวลาเข้าร่วมกิจกรรมของผู้เรยี น ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนตลอด
ปีการศกึ ษา
๑.๒ ประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจากการปฏิบตั ิกิจกรรมและผลงาน/ชิ้นงานของผูเ้ รียน ผู้เรียน
ต้องไดร้ บั การประเมินทุกผลการเรยี นรู้ และผ่านทุกผลการเรียนรู้ โดยแต่ละผลการเรียนรู้ผา่ นไม่น้อยกว่าร้อยละ
๕๐ หรอื มคี ณุ ภาพในระดบั ๑ ข้นึ ไป
๑.๓ ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/ชิ้นงานของผู้เรียนตามเกณฑ์
ข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ถือว่าผู้เรียนมีผลการเรียน “ผ” ผ่านการประเมินกิจกรรมและนำผลการประเมินไป
บันทกึ ในระเบียนแสดงผลการเรียน
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๐๗
๑.๔ ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การปฏิบัติกิจกรรมและผลงานไม่เป็นไปตาม
เกณฑ์ ข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ถือว่าผู้เรียนมีผลการเรียน “มผ” โรงเรียนต้องจัดซ่อมเสริมให้ผู้เรียนทำ
กจิ กรรมในสว่ นท่ผี ู้เรียนไม่ได้เข้าร่วมหรือไม่ได้ทำจนครบถว้ น แลว้ จึงเปล่ียนผลการเรียนจาก “มผ” เป็น “ผ”
และนำผลการประเมินไปบันทกึ ในระเบียนแสดงผลการเรียน
๒. การประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี นเพื่อการตดั สิน มแี นวปฏิบตั ิดังน้ี
๒.๑ กำหนดให้ผู้รบั ผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลเกีย่ วกับการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นของผู้เรียน
ทกุ คนตลอดระดบั การศกึ ษา
๒.๒ ผู้รับผดิ ชอบสรปุ และตดั สินการร่วมกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนของผู้เรียนเปน็ รายบคุ คลตามเกณฑ์
ที่โรงเรียนกำหนด ผเู้ รียนจะต้องผา่ นกจิ กรรม ๓ กิจกรรมสำคญั ดงั นี้
๒.๒.๑ กิจกรรมแนะแนว
๒.๒.๒ กิจกรรมนกั เรียน ได้แก่
๑. กิจกรรมลูกเสอื เนตรนารี
๒. กิจกรรมชุมนมุ
๒.๒.๓ กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์
๒.๓ การนำเสนอผลการประเมินตอ่ คณะกรรมการกล่มุ สาระการเรยี นรู้และกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน
๒.๔ เสนอผู้บริหารโรงเรียนพจิ ารณาอนุมัติผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนผา่ นเกณฑ์การจบ
แต่ละระดับการศกึ ษา
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๐๘
คำอธิบายรายวิชา
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๐๙
คำอธิบายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กจิ กรรมแนะแนว
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที ๑ - ๖ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
ร้จู กั และเข้าใจตนเอง รักและเหน็ คุณค่าในตนเองและผู้อื่น มีวุฒภิ าวะทางอารมณ์ มีเจตคตทิ ดี่ ีต่อการมี
ชีวิตที่ดีมีคุณภาพ มีทักษะในการดำเนินชีวิต สามารถปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข รู้จัก
ตนเองในทุกด้าน รู้ความถนัด ความสนใจ และบุคลิกภาพของตนเอง รู้และเข้าใจโลกของงานอาชีพอย่าง
หลากหลาย มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพสุจริต รู้ข้อมูลอาชีพ สามารถเลือกตนแนวทางในการประกอบอาชีพได้อย่าง
เหมาะสม มีการเตรียมตัวสู่อาชีพ สามารถวางแผนเพื่อประกอบอาชีพตามที่ตนเองมีความถนัดและสนใจ มี
คุณลักษณะพื้นฐานที่จำเป็นในการประกอบอาชีพและพัฒนางานให้ประสบความสำเร็จเพื่อสร้างฐานะทาง
เศรษฐกิจให้กับตนเอง ครอบครวั ชมุ ชนและประเทศชาติ
พฒั นาตนเองในดา้ นการเรยี นอยา่ งเต็มศกั ยภาพ ร้จู กั แสวงหาความร้ใู ฝร่ ู้ใฝเ่ รียนให้เป็นคนดีมีความรู้และ
ทักษะทางวิชาการ รู้จักแสวงหาและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ มีวิธกี ารเรยี นรู้ มที ักษะการคิด แกป้ ญั หาอย่างสรา้ งสรรค์ คิดเปน็ ทำเปน็ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม
เอือ้ อาทรและสมานฉนั ท์ เพ่ือดำรงชวี ิตอยรู่ วมกนั อยา่ งสงบสุขตามวถิ ชี ีวติ เศรษฐกิจพอเพียง
เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ รู้จัก เข้าใจ รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น เกิดการเรียนรู้
สามารถวางแผนการเรียนรู้ อาชีพ รวมทั้งการดำเนินชีวิตและมีทักษะทางสังคม เกิดการเรียนรู้สามารถปรับตัว
ได้อย่างเหมาะสม อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข พึ่งตนเองได้มีทักษะในการเลือกแนวทางการศึกษา การ
งานและอาชีพ ชีวิตและสังคม มีสุขภาพจิตที่ดีและจิตสำนึกในการทำประโยชน์ต่อครอบครัว สังคมและ
ประเทศชาตติ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ผลการเรยี นรู้
๑. เพ่ือให้ผู้เรยี นเกดิ การเรียนรู้ รูจ้ ัก เขา้ ใจ รัก และเห็นคุณคา่ ในตนเองและผู้อนื่
๒. เพื่อให้ผ้เู รยี นเกิดการเรยี นรู้ สามารถวางแผนการเรยี น การศึกษาตอ่ อาชพี รวมท้ังการดำเนนิ
ชวี ติ และมีทกั ษะทางสังคม
๓. เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ สามารถปรับตวั ได้อย่างเหมาะสม และอยู่รว่ มกบั ผู้อ่นื ได้อยา่ ง
เหมาะสม
๔. สามารถประยุกต์ใช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงได้
รวม ๔ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๑๐
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น
ชน้ั ประถมศึกษาปีที ๑ กจิ กรรมนกั เรยี น (เตรียมลกู เสือสำรองและลกู เสือสำรองดาวดวงท่ี ๑)
เวลา ๓๐ ชัว่ โมง/ปี
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือและจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่และปฏิบัติกิจกรรมตามคำปฏิญาณและกฎของ
ลูกเสือสำรอง เรียนรูจ้ ากการคิดและปฏบิ ัติจริงใชส้ ญั ลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความเปน็ เอกลักษณร์ ่วมกนั
ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม
ปดิ ประชมุ กอง ในเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี
๑. เตรียมลูกเสือสำรอง นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่
(แกรนด์ฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว เบื้องต้น คำ
ปฏญิ าณ กฎและคตพิ จน์ของลูกเสือสำรอง
๒. ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติ
ความปลอดภยั บริการ ธงและประเทศต่าง ๆ การฝมี ือ กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทงิ การผูก
เง่ือน คำปฏิญาณและกฎของลกู เสอื สำรอง
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ
กฎ และคติ
พจนข์ องลกู เสอื สำรอง มีนสิ ยั ในการสงั เกต จดจำ เช่อื ฟังและพึง่ ตนเอง มคี วามซอ่ื สัตย์ สุจรติ มีระเบียบวินัย
และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รู้จักบำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรม
ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมัน่ คงของชาติ และสามารถ
ประยกุ ต์ใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ผลการเรยี นรู้
๑. มนี สิ ยั ในการสังเกต จดจำ เชอ่ื ฟงั และพงึ่ พาตนเองได้
๒. มคี วามซ่ือสัตย์ สุจริต มรี ะเบยี บวนิ ยั และเหน็ อกเหน็ ใจผู้อนื่
๓. บำเพ็ญตนเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์
๔. ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รักษาและสง่ เสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมประเพณี ภมู ิปัญญาท้องถิน่ และ ความมัน่ คง
๖. อนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ ส่งิ แวดลอ้ มและลดภาวะโลกรอ้ น
๗. สามารถประยุกตใ์ ช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้
รวม ๗ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๑๑
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที ๒ กิจกรรมนกั เรียน (ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๒)
เวลา ๓๐ ช่ัวโมง/ปี
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์และกฎของลูกเสือ
สำรอง ศึกษาเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน
ศกึ ษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจใฝ่รู้ตามวิถเี ศรษฐกจิ พอเพียง สรุปผลและปฏบิ ัติกิจกรรม ปิดประชุมกอง
ในเรอื่ งต่อไปน้ี
ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๒ นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่
(แกรนฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจบั มือซ้าย ระเบียบแถว คำปฏญิ าณ กฎ และคติพจน์ของ
ลูกเสือสำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติการอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชน
ท้องถิ่น ความปลอดภัย บริการ การผูกเงื่อน ธง และประเทศต่าง ๆ การฝีมือที่ใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถ่ิน
กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงที่ส่งเสริมสุขภาพกายสุขภาพจิตและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดลอ้ มลดภาวะโลกร้อน
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๒ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ
และคติพจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต
มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจ รู้จักบำเพ็ญเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำ
กิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดลอ้ ม ความมัน่ คงของชาติ และสามารถประยกุ ต์ใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
ผลการเรยี นรู้
1. มนี ิสัยในการสงั เกต จดจำ เชือ่ ฟงั และพ่ึงตนเองได้
2. มคี วามซื่อสัตย์ สจุ รติ มีระเบียบวินยั และเห็นอกเหน็ ใจผู้อน่ื
3. บำเพญ็ ตนเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์
4. ทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม
5. รกั ษาและสง่ เสริมจารตี ประเพณี วฒั นธรรมภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ และความมน่ั คงของชาติ
6. อนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม ลดภาวะโลกรอ้ น สามารถประยกุ ต์ใชห้ ลักปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงได้
รวม ๖ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๑๒
กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน คำอธิบายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี ๓ กจิ กรรมนักเรยี น (ลูกเสอื สำรองดาวดวงที่ ๓)
เวลา ๓๐ ช่ัวโมง/ปี
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์และกฎของลูกเสือ
สำรอง ศึกษาเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน
ศกึ ษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจใฝ่รู้ตามวิถเี ศรษฐกจิ พอเพียง สรุปผลและปฏบิ ัติกจิ กรรม ปิดประชุมกอง
ในเรื่องตอ่ ไปนี้
ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๓ นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่
(แกรนฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจบั มือซ้าย ระเบียบแถว คำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ
ลูกเสือสำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติการอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชน
ท้องถิ่น ความปลอดภัย บริการ การผูกเงื่อน ธง และประเทศต่าง ๆ การฝีมือที่ใช้วัส ดุเหลือใช้ในท้องถ่ิน
กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงที่ส่งเสริมสุขภาพกายสุขภาพจิตและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์
ทรพั ยากรธรรมชาติสิ่งแวดลอ้ มลดภาวะโลกรอ้ น
เพ่อื ใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจในกจิ กรรมลูกเสือสำรองดาวดวงท่ี ๓ สามารถปฏบิ ัตติ ามคำปฏิญาณ กฎและ
คติพจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย
และเห็นอกเห็นใจ รู้จักบำเพ็ญเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ
ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
สงิ่ แวดลอ้ ม ความมน่ั คงของชาติ และสามารถประยุกต์ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
ผลการเรยี นรู้
๑. มนี ิสยั ในการสังเกต จดจำ เช่ือฟงั และพ่งึ ตนเองได้
๒. มคี วามซ่ือสตั ย์ สุจรติ มรี ะเบียบวินยั และเหน็ อกเห็นใจผู้อื่น
๓. บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
๔. ทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รักษาและสง่ เสรมิ จารตี ประเพณี วฒั นธรรมภมู ิปัญญาท้องถน่ิ และความม่ันคงของชาติ
๖. อนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน สามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี งได้
รวม ๖ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๑๓
กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น คำอธบิ ายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน
ชั้นประถมศึกษาปที ี ๔ กจิ กรรมนกั เรียน (ลูกเสือสามัญ (ลกู เสือตร)ี )
เวลา ๓๐ ช่ัวโมง/ปี
เปดิ ประชุมกอง ดำเนนิ การตามกระบวนการของลูกเสือ และจดั กิจกรรมโดยให้ศึกษา วเิ คราะห์ วางแผน
ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของ
ลกู เสอื สามัญ เรยี นรจู้ ากการคิดและปฏิบตั ิจริง ใชส้ ัญลักษณ์สมาชกิ ลูกเสือสามัญท่ีมีความเปน็ เอกลักษณ์ร่วมกัน
ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้และมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม
ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ลดภาวะโลกร้อนและประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความรู้เกี่ยวกับ
กระบวนการลูกเสือ ประวัติของ Load Baden Powell พระราชประวัติสังเขปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎ
เกลา้ เจา้ อยูห่ วั ววิ ฒั นาการของกระบวนการ ลกู เสอื ไทยและลกู เสือโลก การทำความเคารพ การแสดงรหัส การ
จับมอื ซ้าย กจิ กรรมกลางแจง้ ระเบียบแถวทา่ มือเปลา่ ท่ามอื ไมพ้ ลวง การใชส้ ญั ญามือและนกหวดี การต้ังแถว
และการเรยี นแถว
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์
ของลกู เสือสามัญ มนี ิสัยในการสงั เกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มคี วามซื่อสัตย์ สุจรติ มรี ะเบียบวนิ ยั และ
เห็นอกเหน็ ใจผ้อู นื่ บำเพ็ญตนเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมอื และฝึกฝนการทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ตาม
ความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคง
ประโยชน์และสามารถประยุกตใ์ ช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ผลการเรียนรู้
1. มนี ิสยั ในการสังเกต จดจำ เช่ือฟังและพึ่งตนเองได้
2. มีความซื่อสตั ย์สจุ รติ มีระเบียบ วินยั และเห็นอกเห็นใจผู้อืน่
3. บำเพญ็ ตนเพอ่ื ส่งเสริมและสาธารณะประโยชน์
4. ทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ
5. รักษาและส่งเสรมิ จารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น และความมัน่ คงของชาติ
6. อนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน
7. สามารถประยุกตใ์ ชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
รวม ๗ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๑๔
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น คำอธบิ ายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน
ชน้ั ประถมศึกษาปีที ๕ กิจกรรมนักเรียน ( กิจกรรมลูกเสือสามญั (ลูกเสือโท) )
เวลา ๓๐ ชวั่ โมง/ปี
เปิดประชุมกองดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเนน้ ระบบหมู่ และปฏิบตั ิกจิ กรรมตามคำปฏิญาณ คติพจนแ์ ละ
กฎของลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญที่มีความเป็นเอกลักษณ์
ร่วมกนั ศึกษาธรรมชาติในชุมชนดว้ ยความสนใจ ใฝ่รู้ มจี ิตสำนึกในการอนรุ ักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ วฒั นธรรม
ภูมิปัญญาท้องถิ่น ลดภาวะโลกร้อนและการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ทักษะในทางวิชา
ลกู เสือ การรู้จักดแู ลตนเอง การชว่ ยเหลอื ผอู้ ่ืน การเดินทางไปยงั สถานท่ีตา่ ง ๆ ทำงานอดเิ รก และเรอ่ื งทสี่ นใจ
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์
ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย
และเหน็ อกเหน็ ใจผ้อู ื่น บำเพ็ญตนเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมอื และฝึกฝนการทำกิจกรรมต่าง ๆ
ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคง
ประโยชนแ์ ละสามารถประยกุ ต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ผลการเรยี นรู้
1. มีนสิ ัยในการสงั เกต จดจำ เช่ือฟังและพ่ึงตนเองได้
2. มีความซื่อสัตย์สจุ รติ มีระเบียบ วนิ ยั และเหน็ อกเหน็ ใจผอู้ ่ืน
3. บำเพญ็ ตนเพ่ือส่งเสรมิ และสาธารณะประโยชน์
4. ทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ
5. รกั ษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ และความม่นั คงของชาติ
6. อนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน
7. สามารถประยุกต์ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
รวม ๗ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๑๕
กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น คำอธิบายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
ช้ันประถมศึกษาปที ี ๖ กิจกรรมนักเรยี น ( กิจกรรมลูกเสือสามัญ (ลกู เสือเอก) )
เวลา ๓๐ ชว่ั โมง/ปี
เปิดประชุมกองดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของลูกเสือ
สามัญ วิชาการของลูกเสือ ระเบียบแถว การพง่ึ ตนเอง การผจญภยั การใชส้ ญั ลกั ษณ์ สมาชกิ ลกู เสือสามัญ ท่ี
มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ศึกษาธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญา
ท้องถิ่นด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ และประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการปฏิบัติกิจกรรมเพื่อการ
อนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาติและลดภาวะโลกรอ้ น
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ
ลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และ
เห็นอกเห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกิจกรรม
ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความ
ม่นั คง ประโยชนแ์ ละสามารถประยุกต์ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ผลการเรยี นรู้
1. มนี สิ ัยในการสังเกต จดจำ เชือ่ ฟงั และพ่ึงตนเองได้
2. มคี วามซื่อสัตยส์ จุ ริต มรี ะเบียบ วนิ ัยและเห็นอกเห็นใจผอู้ ื่น
3. บำเพ็ญตนเพอ่ื ส่งเสริมและสาธารณะประโยชน์
4. ทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความถนดั และความสนใจ
5. รักษาและสง่ เสริมจารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ และความม่นั คงของชาติ
6. อนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน
7. สามารถประยุกต์ใชป้ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
รวม ๗ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๑๖
กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี ๑ - ๖ กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์
เวลา ๑๐ ชัว่ โมง/ปี
ฝึกปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสมัครใจผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ฝึกการทำงานที่สอดคล้องกับชีวิตจริง
ตลอดจนสะท้อนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ สำรวจและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนอย่างเป็นระบบ
เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ และใช้ความคิดสร้างสรรค์ การบริการด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและ
ส่วนรวม เสริมสร้างความมีน้ำใจ เอื้ออาทร ความเป็นพลเมืองดีและความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัวและ
สังคม คิดออกแบบกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ในลักษณะอาสาสมัคร จิตอาสา เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อ
สงั คมตามแนวทางวถิ ชี วี ิตเศรษฐกิจพอเพยี ง
เพื่อให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคมและประเทศชาติ
สามารถออกแบบการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตามความถนัดและความสนใจ
ในลักษณะอาสาสมัคร พัฒนาศักยภาพตนเองในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์
มีจติ สาธารณะและใช้เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ และสามารถประยุกตใ์ ช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้
ผลการเรียนรู้
1. บำเพ็ญตนให้เปน็ ประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรยี น ชุมชน สงั คมและประเทศชาติ
2. ออกแบบการจัดกจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชนอ์ ยา่ งสร้างสรรค์ ตามความถนัดและ
ความสนใจในลกั ษณะอาสาสมคั ร
3. สามารถพัฒนาศกั ยภาพในการจัดกิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชนไ์ ดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ
4. ปฏบิ ตั ิกิจการเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรมตามคุณลกั ษณะอันพึง
ประสงค์
5. สามารถประยุกตใ์ ชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงได้
รวม ๕ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๑๗
กิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี ๑ - ๖ กจิ กรรมนกั เรียน (กิจกรรมชมุ นุม)
เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี
ปฏบิ ัติกิจกรรมตามความสนใจ ความถนดั และความต้องการ เพ่อื พฒั นาความรู้ ความสามารถดา้ นการ
คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ให้เกิดประสบการณ์ทั้งด้านวิชาการ และพื้นฐานอาชีพ ทักษะชีวิตและสังคมตาม
ศักยภาพอยา่ งรอบด้าน เพือ่ ความเป็นมนุษย์ที่สมบรู ณ์ มคี วามสามารถในการสื่อสาร มที กั ษะการคิด แก้ปัญหา
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี พัฒนาทักษะในการทำงานและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอ่ื สัตย์สจุ ริต มีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง มุ่งมัน่ ในการทำงานรกั ความเป็นไทย
มีจิตสาธารณะ
เพื่อให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัด และความต้องการของตน ได้พัฒนาความรู้
ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิดประสบการณ์ทั้งทกั ษะทางวิชาการ ทักษะอาชีพ ทักษะ
ชีวิตและสังคมตามศักยภาพ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ตอ่ ตนเองและส่วนรวม คิดเป็น ทำได้ ทำงานร่วมกับ
ผ้อู น่ื ไดต้ ามวิถีประชาธปิ ไตย และประยุกต์หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างเหมาะสม
ผลการเรียนรู้
1. ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามความสนใจ ความถนัดและความต้องการของตน
2. มีความรู้ ความสามารถด้านการคิดวเิ คราะห์ สังเคราะหใ์ ห้เกดิ ประสบการณ์ ท้งั ทางวิชาการและ
วชิ าชพี ตามศักยภาพ
3. ใชเ้ วลาวา่ งให้เกดประโยชนต์ ่อตนเองและสว่ นรวม
4. มงุ่ ม่ันในการทำงานและทำงานรว่ มกับผอู้ น่ื ได้ตามวถิ ีประชาธิปไตย
5. ประยกุ ต์ใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
รวม ๕ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๑๘
คำอธิบายรายวิชา
กิจกรรมชุมนุม
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๑๙
กจิ กรรมชมุ นมุ ภาษาองั กฤษ คำอธิบายรายวิชากจิ กรรมชุมนมุ
ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖
หลกั การและเหตุผล
จัดขึ้นเพื่อให้สมาชิกมีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ เรียนรู้คำศัพท์พื้นฐานภาษาอังกฤษ เข้าใจคำสั่งคำ
ขอร้องภาษาท่าทางและประโยคทใ่ี ช้ในชีวิตประจำวันและหลักการใช้อักษรได้ถูกต้องสามารถอ่านออกเสียงอักษร
กลุ่มคำและประโยคสั้นๆได้ถูกต้องชัดเจนตามหลักการออกเสียงเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลโดยใช้สื่อ
นวัตกรรมในการส่ือสารเพื่อแสดงความต้องการของตนและสิง่ ต่างๆรอบตวั ใช้ถ้อยคำง่ายๆในการปฏิสัมพันธ์การ
เข้าใจความแตกต่างระหว่างเสียงสระพยัญชนะคำวลีประโยคและข้อความระหว่างวัฒนธรรม อังกฤษและ
วฒั นธรรมไทยเห็นประโยชน์ของการรภู้ าษาอังกฤษสามารถนำความรู้ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชนโ์ ดยใช้หลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียงไปประยุกตใ์ นกับชวี ิตประจำวันได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม
ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั
๑. นักเรยี นสามารถอ่านเขียนและออกเสียงอกั ษรได้
๒. ใชค้ ำศัพทภ์ าษาองั กฤษเบ้ืองตน้ ในการส่ือสาร การฟงั การพดู การอา่ นและการเขยี นได้
๓. รูแ้ ละเขา้ ใจความแตกต่างและเหมือนวฒั นธรรมไทยองั กฤษ
รวมทั้งหมด 3 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๒๐
กิจกรรมชุมนุมภาษาไทย คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมชุมนุม
ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑-๖
หลกั การและเหตผุ ล
ประเทศไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติ อันเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของชาติ สมควรจะ
ไดร้ บั การทำนบุ ำรุงส่งเสริม และอนรุ กั ษไ์ วใ้ ห้ย่ังยืนตลอดไป
ท้ังนี้ในยุคปัจจุบันวิชาการและเทคโนโลยีต่างๆ ได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วเกิดเทคนิคใหม่ๆ ในการ
ติดต่อสื่อสาร ทม่ี งุ่ เน้นความสะดวกรวดเร็ว ส่งผลใหภ้ าษาไทยซ่งึ เปน็ สื่อกลางสำคัญในการติดต่อและผกู พันต่อการ
ดำรงชีวิตประจำวันของคนไทยได้รับผลกระทบ ทั้งภาษาพูดและภาษาเขยี น ทำให้ภาษาไทยเกดิ การเปลี่ยนแปลง
ไปจากเดิมอย่างน่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง สภาพการณ์เช่นนี้หากไม่เร่งรีบหาทางแก้ไขและป้องกันเสียแต่เนิ่นๆ การใช้
ภาษาไทยของเราก็จะยิ่งเสื่อมลง จะส่งผลเสียหายต่อเอกลักษณ์และคุณค่าของภาษาไทยเป็นทวีคูณ อ่านและ
เขา้ ใจความหมายของคำ ประโยค ข้อความและจัดทำแบบฝึกเปน็ รูปเลม่ จัดทำพจนานกุ รมฉบับจวิ๋ ศึกษา ค้นควา้
เกี่ยวกบั ข่าว บทความจากสง่ิ ตพี ิมพป์ ระเภทตา่ งๆ และประดษิ ฐท์ คี่ ั่นหนงั สือประเภทตา่ งๆ
เพื่อให้สมาชิกมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักค้นคว้า และแก้ปัญหาในการทำงานอย่างมีระบบ เพื่อให้
สมาชิกเป็นผู้มีระเบียบวินัยเพื่อให้สมาชิกมีความเข้าใจและเลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์เป็นประมุขเพื่อให้สมาชิกมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่และสิทธิภายในขอบเขตของ
กฎหมายเพื่อให้สมาชิกมีความสงบซาบซึ้งในคุณค่า ดำรงไว้และส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมอันดีงามของชาติ
ไทยเพ่อื ใหส้ มาชกิ เกิดความรกั และสามัคคีในหมคู่ ณะเพื่อให้สมาชิกได้รับการส่งเสริมการพัฒนาทางรา่ งกาย จติ ใจ
และรู้จักใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์เพ่ือใหส้ มาชิกรู้จักบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และสร้างเสริมความมั่นคงของ
ชาติเพื่อให้สมาชิกมีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้สมาชิกพัฒนาตนเองตามวัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษา
สามารถนำความรู้ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์โดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับ
ชวี ิตประจำวนั ได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑.ปฏิบตั กิ ิจกรรมตามความสนใจ ความถนัดและความต้องการของตน
๒.อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ ร้อยกรองไดอ้ ย่างถูกต้องตามอกั ขระวิธี
๓. เขยี น ได้ถูกตอ้ งตามหลกั ภาษาไทย
๔.ใช้เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม
๕.นักเรียนมคี วามตระหนกั และเห็นคณุ ค่าของภาษาไทย ในฐานะภาษาประจำชาติ
๖.นักเรียนสามารถเปน็ ตวั แทนเขา้ ร่วมแข่งขนั กิจกรรมทางคณติ ศาสตร์
รวม ๕ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๒๑
กิจกรรมชมุ นุมคณติ ศาสตร์ คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมชุมนมุ
ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖
หลักการและเหตผุ ล
คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่อยู่รอบตัวและชวี ิตของเราคณิตศาสตร์สามารถอธิบายสง่ิ
ต่างๆนานาที่อยูร่ อบตวั เราได้ถงึ แม้ว่าคนสว่ นใหญ่จะมองคณิตศาสตร์นั้น ยากซบั ซอ้ นน่าเวียนหวั ทำ
ใหเ้ กิดความเครียดและความวติ กกังวลในการเรยี น
ชมุ นมุ น้ีจงึ จดั ข้ึนมาเพ่ือให้นกั เรียนในชุมนมุ ไดม้ องเหน็ มุมมองอีกดา้ นหนึ่งของคณติ ศาสตรโ์ ดยการ
รวบรวมด้านสนุกสนานของคณิตศาสตร์ตลอดจนเกร็ดน่ารู้ต่างๆมากมายรวมถึงเกร็ดแปลกๆเกี่ยวกับตัวเลขท่ี
อาจจะทำให้นักเรียนเกิดหลงรักตัวเลขขึ้นมาก็ได้และนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยในหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกตใ์ นกับชีวิตประจำวนั ได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม
ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวงั
๑. เพอื่ ใหน้ กั เรยี นมองเหน็ ความสำคัญของคณิตศาสตร์ในชีวติ ประจำวัน
๒. เพือ่ ใหน้ ักเรียนมีความรู้ความเขา้ ใจ มคี วามสุขและความสนุกสนานในการเข้ารว่ มกิจกรรมในวชิ า
คณิตศาสตร์
๓. เพ่อื ให้นักเรียนไดป้ ฏิบตั ิกจิ กรรมตามท่ตี นเองถนัดและสนใจ
๔. เพื่อส่งเสรมิ นักเรยี นให้มีทัศนคตทิ ดี่ ีต่อวชิ าคณิตศาสตร์
๕. เพื่อใหน้ กั เรียนสามารถนำความรู้ไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้เปน็ และได้ใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์
๖. นักเรียนสามารถเป็นตัวแทนเข้ารว่ มแขง่ ขันกิจกรรมทางคณิตศาสตร์
รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๒๒
คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมชุมนุม
กิจกรรมชุมนุมสรา้ งสรรคด์ ้วยลีลามือ ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖
หลักการและเหตุผล
รู้จักชื่อ และบอกลักษณะของเส้นต่าง ๆ ซึ่งมาประกอบเป็นพยัญชนะ ตัวเลขและเป็นภาพต่างๆ ที่ใช้ใน
ชีวิตประจำวันได้ เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทางด้าน ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา สามารถ
นำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้
เพื่อให้สมาชิกมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักค้นคว้า และแก้ปัญหาในการทำงานอย่างมีระบบ เพื่อให้
สมาชิกเป็นผู้มีระเบียบวินัยเพื่อให้สมาชิกมีความเข้าใจและเลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์เป็นประมุขเพื่อให้สมาชิกมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่และสิทธิภายในขอบเขตของ
กฎหมายเพื่อให้สมาชิกมีความสงบซาบซึ้งในคุณค่า ดำรงไว้และส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมอันดีงามของชาติ
ไทยเพ่ือให้สมาชิกเกดิ ความรักและสามัคคีในหมู่คณะเพื่อให้สมาชกิ ไดร้ ับการส่งเสริมการพฒั นาทางรา่ งกาย จติ ใจ
และรจู้ กั ใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์เพ่ือให้สมาชิกรจู้ ักบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และสร้างเสริมความม่ันคงของ
ชาติเพื่อให้สมาชิกมีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้สมาชิกพัฒนาตนเองตามวัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษา
สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชนโ์ ดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับ
ชีวติ ประจำวนั ไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑.ปฏบิ ัติกจิ กรรมตามความสนใจ ความถนดั และความต้องการของตน
๒.มคี วามรู้ ความสามารถด้านการคดิ วิเคราะห์ สังเคราะห์ให้เกดิ ประสบการณ์ ท้งั ทางวิชาการและ
วิชาชพี ตามศักยภาพ
๓.ใช้เวลาว่างให้เกดิ ประโยชนต์ ่อตนเองและส่วนรวม
๔.มุง่ มน่ั ในการทำงานและทำงานร่วมกับผูอ้ นื่ ไดต้ ามวถิ ีประชาธิปไตย
๕.ประยกุ ต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไดอ้ ย่างเหมาะสม
รวม ๕ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๒๓
กิจกรรมชมุ นมุ คอมพวิ เตอร์ คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมชุมนมุ
ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑-๖
หลักการและเหตผุ ล
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วในหลากหลายสาขาวิชาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การพฒั นาดา้ นการสื่อสารและด้านข้อมูล ดงั นั้นจงึ จำเปน็ อย่างยิ่งท่สี ถานศึกษาให้ความสำคญั ต่อการเปลี่ยนแปลง
ของเทคโนโลยเี พื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ เกิดความตระหนักและเท่าทันเทคโนโลยีในปจั จุบันเพ่ือสนับสนุนให้ผู้เรียนมี
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนในยุคศตวรรษที่ 21 ได้แก่ เป็นนักคิดวิเคราะห์ เป็นนักแก้ปัญหา เป็นนัก
สร้างสรรค์ เป็นนักประสานความร่วมมือ รู้จักใช้ข้อมูลและข่าวสาร เป็นผู้เรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นนักสื่อสาร และ
ตระหนักรับรู้สภาวการณ์ของโลกปจั จุบันและอนาคตกิจกรรมชุมนมุ คอมพิวเตอร์ จึงเป็นกิจกรรมกลุม่ เสริมทักษะ
ด้านวิชาการ ในกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยีเพื่อพัฒนานักเรียนให้เต็มศักยภาพ เพื่อตอบสนอง
ศักยภาพของนักเรียนได้หลากหลายวิชาสามารถตอบสนองความต้องการของสังคมสร้างองค์ ความรู้และเพิ่มพูน
ทักษะคอมพิวเตอร์ให้แก่นักเรียนเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ตรงกับสภาพแวดล้อม และ
เทคโนโลยใี หมๆ่ และนำมาปรบั ใช้ในชวี ิตประจำวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม
ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั
๑. นกั เรียนเกิดทักษะในการใชเ้ ทคโนโลยใี นชวี ติ ประจำวนั
๒. นักเรยี นมีความรู้ทางดา้ นคอมพวิ เตอร์ นำมาใช้ในงานต่างๆ
๓. นกั เรียนพฒั นาความรคู้ วามสามารถดา้ นการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์
๔. นกั เรยี นมีคุณธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ มท่ีพึงประสงค์
๕. นกั เรยี นมมี นุษยสัมพันธใ์ นการทำกจิ กรรมร่วมกันกับผู้อ่ืน
รวมทั้งหมด๕ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๒๔
คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมชุมนุม
กิจกรรมชุมนมุ ขนมไทยสรา้ งรายได้ ระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๑-๖
หลกั การและเหตผุ ล
ศกึ ษาวิเคราะห์ประเภทของขนมไทย การเลือกใชเ้ ก็บรกั ษาวสั ดุ อปุ กรณ์ การคำนวณราคาจำหนา่ ย
การวางแผนการจัดการ
ฝกึ ทักษะการชงั ตวง เตรียมวัสดอุ ปุ กรณใ์ ห้ถกู ต้องเหมาะสม วางแผนการทำงาน ทำบัญชรี บั -จ่าย จด
บันทกึ การปฏิบัติงานและประเมินผล โดยใชท้ รพั ยากรอย่างประหยัดคุ้มคา่
เพอ่ื ใหม้ ีความรู้ความเข้าใจและมที ักษะในการทำขนมไทย และ สามารถนำไปใชใ้ นการดำเนนิ ชีวติ ได้
อย่างมสี นั ติสขุ ในความเป็นไทยและสังคมโลก มีคุณธรรมจริยธรรม มีคณุ ลกั ษณะ
อันพึงประสงค์ในการรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซ่ือสตั ย์สจุ รติ มวี ินัยใฝร่ ูร้ กั ความเปน็ ไทยและมจี ติ สาธารณะ
ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั
๑. อธิบายความหมายของขนมไทยได้
๒. อธบิ ายประโยชน์และความสำคัญของขนมไทยได้
๓. จัดกลมุ่ ขนมไทยได้
๔. เลือกใชเ้ ก็บรักษาวสั ดุอุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการผลิตขนมไทยได้
๕. วางแผนการทำงานผลิตขนมไทยตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้
๖. ผลติ อาหารวา่ งได้ตามแผนการทำงาน
๗. คำนวณคา่ ใชจ้ ่ายและกำหนดราคาขายได้
๘. ประเมนิ ผลและรายงานผลได้
รวม ๕ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๒๕
คำอธบิ ายรายวิชากิจกรรมชุมนมุ
กจิ กรรมชมุ นมุ เศรษฐกิจพอเพียง ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑-๖
หลกั การและเหตผุ ล
ฝึกทักษะนักเรียนเรียนรู้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงใน 3 หลักการ คือ ความพอประมาณ ความมี
เหตุผล และการสรา้ งภูมคิ ุ้มกันในตวั ที่ดี และ 2 เง่ือนไข คือ คุณธรรมและความรู้โดยนักเรยี นฝึกเรียนเกษตร
พอเพียง ได้แก่ การเพาะเห็ดนางฟ้า การเล้ยี งไก้พื้นเมือง การเลี้ยงปลาดกุ ในบ่อซเี มนต์ และการปลกู พืชผัก
สวนครวั เพ่อื สามารถนำความรูไ้ ปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั และส่งเสริมอาชีพในอนาคต
ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั
๑. เพื่อฝึกทักษะการเรียนรู้เศรษฐกจิ พอเพยี ง ได้แก่ การเพาะเหด็ นางฟา้ การเลย้ี งไก้พนื้ เมือง การ
เลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์ และการปลูกพชื ผักสวนครัว
๒. เพือ่ ฝึกนิสัยรักการทำงาน อยู่อย่างพอเพยี ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๓. เพอ่ื สง่ เสรมิ และปลูกฝงั วธิ ีการคิดในการปฏบิ ตั ติ นตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
รวม ๓ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๒๖
กิจกรรมชุมนุมรักการอ่าน คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมชุมนมุ
ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑-๖
หลกั การและเหตผุ ล
อ่านและเข้าใจความหมายของคำ ประโยค ข้อความและจดั ทำแบบฝึกเปน็ รูปเล่ม จดั ทำพจนานุกรมฉบับ
จ๋ิว ศกึ ษา ค้นควา้ เก่ยี วกับ ข่าว บทความจากสิ่งตพี มิ พ์ประเภทตา่ งๆ และประดษิ ฐท์ คี่ นั่ หนงั สือประเภทตา่ งๆ
เพอื่ ใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจและเหน็ คุณค่าเกี่ยวกับการจัดทำแบบฝึกเปน็ รูปเลม่ จัดทำพจนานุกรมฉบับจิ๋ว
และประดิษฐ์ท่ีคนั่ หนงั สือประเภทตา่ งๆ สามารถนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้
เพื่อให้สมาชิกมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักค้นคว้า และแก้ปัญหาในการทำงานอย่างมีระบบ เพื่อให้
สมาชิกเป็นผู้มีระเบียบวินัยเพื่อให้สมาชิกมีความเข้าใจและเลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์เป็นประมุขเพื่อให้สมาชิกมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่และสิทธิภายในขอบเขตของ
กฎหมายเพื่อให้สมาชิกมีความสงบซาบซึ้งในคุณค่า ดำรงไว้และส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมอันดีงามของชาติ
ไทยเพอื่ ให้สมาชิกเกิดความรกั และสามัคคีในหมคู่ ณะเพ่ือใหส้ มาชกิ ไดร้ ับการสง่ เสริมการพฒั นาทางรา่ งกาย จติ ใจ
และรจู้ กั ใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชนเ์ พ่ือใหส้ มาชิกรู้จักบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และสร้างเสริมความม่ันคงของ
ชาติเพื่อให้สมาชิกมีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้สมาชิกพัฒนาตนเองตามวัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษา
สามารถนำความรู้ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชนโ์ ดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับ
ชีวิตประจำวันได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑ ปฏิบตั กิ จิ กรรมตามความสนใจ ความถนัดและความต้องการของตน
๒มคี วามรู้ ความสามารถดา้ นการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ใหเ้ กดิ ประสบการณ์ ท้ังทางวิชาการและ
วิชาชพี ตามศักยภาพ
๒ ใชเ้ วลาวา่ งให้เกิดประโยชนต์ ่อตนเองและส่วนรวม
๔ มุ่งมนั่ ในการทำงานและทำงานร่วมกบั ผู้อ่ืนได้ตามวถิ ีประชาธปิ ไตย
๕ประยุกตใ์ ช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
รวม ๕ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๒๗
คำอธิบายรายวชิ ากิจกรรมชุมนุม
กจิ กรรมชุมนมุ กีฬาวอลเลย์บอล ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑-๖
หลกั การและเหตผุ ล
มีความรู้ ความเข้าใจและมีทักษะข้นั พนื้ ฐานในการเล่นกีฬาวอลเลยบ์ อล ในเรอ่ื งการส่งลกู การรบั
ลูก การเสิรฟ์ การตบบอล การสกดั กน้ั การบริหารร่างกาย การเล่นทีม กฎกติกาการแขง่ ขันตลอดจน
เขา้ ร่วมกจิ กรรมนนั ทนาการ การใหค้ วามรว่ มมือในการเล่น การแขง่ ขัน มสี มรรถภาพทางกาย มคี ณุ ธรรม
มคี ุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ มีระเบยี บวนิ ยั มที ัศนคติทีด่ ีต่อการเลน่ กีฬา เห็นคณุ ค่าของการออกกำลงั กาย
นำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวนั
ผลการเรียนรู้
๑. มสี มรรถภาพทางรา่ งกายทดี่ ี
๒. มคี วามรู้ความเข้าใจและทักษะเบอ้ื งตน้ ในการเลน่ กีฬาวอลเลย์บอล
๓. มีทกั ษะในการเล่นทีมฝ่ายรุก - รบั
๔. มคี ุณธรรมจรยิ ธรรมและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
๕. มเี จตคตทิ ี่ดี
รวม ๕ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๒๘
เกณฑ์การจบการศกึ ษา
หลักสตู รโรงเรียนบ้านสำโรงประชารัฐ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน
พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ กำหนดเกณฑ์สำหรบั การจบการศึกษาดงั น้ี
เกณฑ์การจบระดับประถมศึกษา
๑. ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน จำนวน ๘๐๐ ชั่วโมง และรายวิชาเพิ่มเติมจำนวน ๘๐ ชั่วโมง และมี
ผลการประเมินรายวชิ าพืน้ ฐานผา่ นทุกรายวชิ า
๒. ผเู้ รยี นตอ้ งมีผลการประเมินการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียน ระดับ “ผ่าน” ขึน้ ไป
๓. ผู้เรียนมผี ลการประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับ “ผา่ น” ข้นึ ไป
๔. ผู้เรียนต้องเขา้ รว่ มกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี นและได้รบั การตดั สินผลการเรยี น “ผ่าน” ทุกกจิ กรรม
การจัดการเรยี นรู้
การจดั การเรียนรู้เป็นกระบวนการสำคัญในการนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติ หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐาน เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เป็น
เปา้ หมายสำหรับพัฒนาเดก็ และเยาวชน
ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลักสูตร ผู้สอนพยายามคัดสรรกระบวนการเรียนรู้
จัดการเรียนรู้โดยช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านสาระที่กำหนดไว้ในหลักสูตร ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมทั้งปลูกฝัง
เสรมิ สร้างคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ พฒั นาทกั ษะตา่ งๆ อนั เป็นสมรรถนะสำคญั ให้ผู้เรียนบรรลุตามเป้าหมาย
๑. หลักการจัดการเรยี นรู้
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้สมรรถนะสำคัญและ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยยึดหลักว่า ผู้เรียนมี
ความสำคัญที่สุด เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน
กระบวนการจดั การเรียนรูต้ อ้ งส่งเสริมให้ผเู้ รียน สามารถพฒั นาตามธรรมชาติและเตม็ ตามศกั ยภาพ คำนึงถึงความ
แตกต่างระหว่างบคุ คลและพฒั นาการทางสมองเนน้ ให้ความสำคญั ทง้ั ความรู้ และคุณธรรม
๒. กระบวนการเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย เป็น
เคร่อื งมอื ท่จี ะนำพาตนเองไปสูเ่ ป้าหมายของหลักสตู รกระบวนการเรียนรทู้ ีจ่ ำเปน็ สำหรับผู้เรียน อาทิ กระบวนการ
เรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญ
สถานการณ์และแกป้ ัญหา กระบวนการเรยี นรจู้ ากประสบการณ์จรงิ กระบวนการปฏิบัติ ลงมอื ทำจรงิ กระบวนการ
จัดการ กระบวนการวจิ ยั กระบวนการเรียนรู้การเรียนรูข้ องตนเอง กระบวนการพฒั นาลักษณะนิสัย
กระบวนการเหล่านี้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝน พัฒนา เพราะจะ
สามารถชว่ ยใหผ้ ูเ้ รยี นเกดิ การเรียนรู้ได้ดี บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ดังนั้น ผู้สอน จงึ จำเป็นตอ้ งศึกษาทำความ
เข้าใจในกระบวนการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ เพอ่ื ให้สามารถเลือกใช้ในการจดั กระบวนการเรียนรูไ้ ด้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
๓. การออกแบบการจดั การเรยี นรู้
ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญของ
ผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึงพิจารณาออกแบบการ
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๒๙
จัดการเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เพื่อให้ผู้เรียนได้
พฒั นาเตม็ ตามศักยภาพและบรรลตุ ามเปา้ หมายท่ีกำหนด
๔. บทบาทของผสู้ อนและผเู้ รยี น
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ทั้งผู้สอนและผู้เรียนควรมีบทบาท
ดงั น้ี
๔.๑ บทบาทของผู้สอน
๑) ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล แล้วนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการจัดการเรียนรู้ ที่
ทา้ ทความสามารถของผูเ้ รยี น
๒) กำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะกระบวนการ ที่เป็น
ความคดิ รวบยอด หลักการ และความสมั พนั ธ์ รวมท้ังคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและ
พัฒนาการทางสมอง เพอ่ื นำผู้เรยี นไปสู่เป้าหมาย
๔) จดั บรรยากาศท่เี อ้ือตอ่ การเรยี นรู้ และดแู ลช่วยเหลือผู้เรียนใหเ้ กดิ การเรยี นรู้
๕) จดั เตรียมและเลอื กใช้สื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรม นำภมู ิปัญญาทอ้ งถ่นิ เทคโนโลยที ่ีเหมาะสม
มาประยกุ ตใ์ ช้ในการจัดการเรียนการสอน
๖) ประเมินความก้าวหนา้ ของผเู้ รยี นด้วยวธิ กี ารทหี่ ลากหลาย เหมาะสมกบั ธรรมชาติของวิชา
และระดับพฒั นาการของผเู้ รียน
๗) วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสริมและพัฒนาผูเ้ รียน รวมทั้งปรับปรงุ การจัดการ
เรียนการสอนของตนเอง
๔.๒ บทบาทของผเู้ รยี น
๑) กำหนดเป้าหมายวางแผนและรบั ผดิ ชอบการเรียนรู้ของตนเอง
๒)เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ตั้งคำถาม คิดหา
คำตอบหรอื หาแนวทางแก้ปัญหาด้วยวธิ กี ารตา่ งๆ
๓) ลงมือปฏบิ ตั ิจริง สรปุ สงิ่ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้ดว้ ยตนเอง และนำความรูไ้ ปประยกุ ต์ใช้ในสถานการณต์ า่ งๆ
๔) มีปฏสิ ัมพันธ์ ทำงาน ทำกิจกรรมรว่ มกบั กลุม่ และครู
๕) ประเมนิ และพัฒนากระบวนการเรยี นรู้ของตนเองอยา่ งตอ่ เน่ือง
ส่อื การเรียนรู้
สื่อการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้
ทกั ษะกระบวนการ และคุณลกั ษณะตามมาตรฐานของหลักสตู รได้อย่างมีประสิทธภิ าพส่ือการเรียนรู้มีหลากหลาย
ประเภท ทัง้ สอื่ ธรรมชาติสื่อสิ่งพมิ พ์ส่ือเทคโนโลยี และเครือข่ายการเรยี นรู้ต่างๆ ที่มีในท้องถ่ินการเลือกใช้สื่อควร
เลอื กใหม้ คี วามเหมาะสมกบั ระดับพฒั นาการ และลีลาการเรียนรทู้ ห่ี ลากหลายของผเู้ รียน
การจัดหาสื่อการเรียนรู้ ผู้เรียนและผู้สอนสามารถจัดทำและพัฒนาขึ้นเองหรือปรับปรุงเลือกใช้อย่างมี
คุณภาพจากสื่อต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมและสื่อสารให้
ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง
สถานศกึ ษาเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษา หนว่ ยงานทีเ่ กีย่ วขอ้ งและผ้มู ีหนา้ ที่จัดการศึกษาขนั้ พน้ื ฐานควรดำเนินการดงั น้ี
๑.จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ศูนย์สื่อการเรียนรู้ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่าย
การเรียนรูท้ ี่มีประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชนเพื่อการศึกษาคน้ ควา้ และการแลกเปล่ียนประสบการณ์
การเรยี นรู้ ระหว่างสถานศกึ ษาท้องถิน่ ชุมชน สังคมโลก
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๓๐
๒.จัดทำและจัดหาสือ่ การเรียนรู้สำหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรยี นเสริมความรูใ้ ห้ผู้สอนรวมท้ังจัดหาส่งิ
ทมี่ อี ยใู่ นทอ้ งถน่ิ มาประยกุ ตใ์ ชเ้ ปน็ สอื่ การเรยี นรู้
๓.เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพมีความเหมาะสมมีความหลากหลาย สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้
ธรรมชาตขิ องสาระการเรยี นรู้ และความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคลของผูเ้ รยี น
๔.ประเมินคณุ ภาพของส่อื การเรียนรทู้ ่ีเลือกใช้อย่างเปน็ ระบบ
๕.ศกึ ษาค้นคว้า วจิ ยั เพ่ือพัฒนาส่ือการเรียนรูใ้ หส้ อดคลอ้ งกับกระบวนการเรียนรูข้ องผเู้ รียน
๖ . จ ั ด ใ ห ้ ม ี ก า ร ก ำ ก ั บ ต ิ ด ต า ม ป ร ะ เ ม ิ น ค ุ ณ ภ า พ แ ล ะ ป ร ะ ส ิ ท ธ ิ ภ า พ เ ก ี ่ ย ว ก ั บ ส ื ่ อ แ ล ะ ก า ร ใ ช ้ ส่ื อ
การเรยี นรเู้ ป็นระยะๆ และสม่ำเสมอ
ในการจดั ทำ การเลอื กใช้ และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ที่ใชใ้ นสถานศึกษาควรคำนึงถึงหลักการ
สำคัญของส่ือการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตรวัตถุประสงค์การเรียนรู้การออกแบบกจิ กรรมการเรียนรู้
การจดั ประสบการณใ์ ห้ผ้เู รียนเนื้อหามีความถกู ต้องและทันสมัยไม่กระทบความมน่ั คงของชาติ ไม่ขัดต่อศีลธรรมมี
การใช้ภาษาทถ่ี ูกต้องรปู แบบการนำเสนอทเี่ ข้าใจงา่ ยและน่าสนใจ
การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพื้นฐานสองประการคือการประเมินเพื่อ
พฒั นาผ้เู รียนและเพ่อื ตัดสินผลการเรียนในการพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นร้ขู องผ้เู รยี นใหป้ ระสบผลสำเรจ็ น้ัน ผเู้ รียน
จะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะสำคัญ
และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผลการเรียนรูใ้ นทุกระดบั ไม่
ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียนระดับสถานศึกษาระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ การวัดและประเมินผลการ
เรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและสารสนเทศที่แสดงพัฒนาการ
ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรยี น ตลอดจนข้อมูลทีเ่ ป็นประโยชน์ต่อการสง่ เสริมให้ผู้เรยี น
เกดิ การพฒั นาและเรียนร้อู ยา่ งเตม็ ตามศกั ยภาพ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับ
เขตพ้นื ท่ีการศึกษา และระดับชาติ มีรายละเอียด ดงั น้ี
๑. การประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอน
ดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น การ
ซกั ถาม การสงั เกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน แฟม้ สะสมงาน การ
ใช้แบบทดสอบฯลฯโดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพื่อนประเมินเพื่อน
ผู้ปกครองรว่ มประเมิน ในกรณีทไี่ ม่ผา่ นตัวช้วี ดั ให้มีการสอนซ่อมเสรมิ
การประเมินระดับชั้นเรียนเป็นการตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้อัน
เป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีส่ิงที่จะต้องได้รับการพัฒนา
ปรับปรุงและสง่ เสริมในด้านใดนอกจากนี้ยังเป็นข้อมูลให้ผู้สอนใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนของตนด้วย ทั้งนี้โดย
สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวดั
๒. การประเมินระดับสถานศึกษา เปน็ การประเมินท่ีสถานศึกษาดำเนินการเพ่ือตัดสินผลการเรียนของ
ผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ
กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น นอกจากน้เี พ่ือให้ไดข้ อ้ มลู เกีย่ วกบั การจัดการศึกษาของสถานศึกษา ว่าสง่ ผลต่อการเรียนรู้
ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมทั้งสามารถนำผลการเรียนของผู้เรียนใน
สถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศเพ่ือ
การปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทำแผนพัฒนา
คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงานผลการจัด
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๓๑
การศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ัน
พ้ืนฐาน ผูป้ กครองและชุมชน
๓. การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษาเป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษา
ตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนา
คุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษาตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดยประเมินคุณภาพ
ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานที่จัดทำและดำเนินการโดยเขตพื้นที่การศึกษา หรือด้วยความร่วมมือ
กบั หนว่ ยงานต้นสงั กดั ในการดำเนินการจัดสอบ นอกจากน้ียงั ไดจ้ ากการตรวจสอบทบทวนข้อมูลจากการประเมิน
ระดบั สถานศกึ ษาในเขตพื้นทีก่ ารศึกษา
๔. การประเมนิ ระดบั ชาติเป็นการประเมินคุณภาพผเู้ รียนในระดบั ชาตติ ามมาตรฐานการเรียนรตู้ าม
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐานสถานศึกษาต้องจัดใหผ้ เู้ รียนทกุ คนท่ีเรยี น ในชัน้ ประถมศกึ ษาปที ๓่ี ช้ัน
ประถมศกึ ษาปที ๖ี่ เข้ารับการประเมนิ ผลจากการประเมนิ ใช้เปน็ ขอ้ มูลในการเทยี บเคยี งคุณภาพการศึกษาใน
ระดบั ตา่ ง ๆ เพอ่ื นำไปใช้ในการวางแผนยกระดบั คุณภาพการจดั การศึกษาตลอดจนเป็นข้อมูลสนับสนนุ การ
ตดั สนิ ใจในระดบั นโยบายของประเทศ
ข้อมูลการประเมินในระดับต่างๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวนพัฒนา
คุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข
ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลที่จำแนกตาม
สภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษกลุ่มผู้เรียนที่มี
ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นต่ำ กลุ่มผเู้ รียนที่มีปัญหาดา้ นวนิ ัยและพฤติกรรมกลุ่มผู้เรียนท่ีปฏิเสธโรงเรียน กลุ่มผู้เรียน
ที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูลจากการประเมินจึงเป็น
หัวใจของสถานศึกษาในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที ปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาและ
ประสบความสำเร็จในการเรยี น
สถานศกึ ษาในฐานะผ้รู ับผดิ ชอบจดั การศกึ ษาจะต้องจัดทำระเบยี บว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรียน
ของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่เป็นข้อกำหนดของหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขัน้ พื้นฐาน เพ่อื ใหบ้ ุคลากรทเ่ี กีย่ วข้องทุกฝา่ ยถอื ปฏิบัตริ ว่ มกนั
เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผลการเรยี น
๑. การตดั สิน การให้ระดบั และการรายงานผลการเรียน
๑.๑ การตัดสนิ ผลการเรยี น
ในการตัดสนิ ผลการเรียนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น คุณลกั ษณะ
อันพงึ ประสงค์ และกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียนนัน้ ผู้สอนตอ้ งคำนึงถึงการพัฒนาผูเ้ รียนแตล่ ะคนเปน็ หลกั และต้องเกบ็
ขอ้ มลู ของผเู้ รยี นทุกด้านอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในแต่ละภาคเรียน รวมทง้ั สอนซ่อมเสริมผู้เรียนใหพ้ ฒั นาจนเตม็
ตามศกั ยภาพ
ระดบั ประถมศกึ ษา
(๑) ผเู้ รียนต้องมีเวลาเรียนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นทั้งหมด
(๒) ผูเ้ รียนตอ้ งได้รับการประเมนิ ทกุ ตวั ช้ีวัด และผา่ นตามเกณฑ์ทีส่ ถานศึกษากำหนด
(๓) ผู้เรียนต้องไดร้ ับการตัดสนิ ผลการเรยี นทุกรายวชิ า
(๔) ผู้เรียนต้องได้รบั การประเมนิ และมผี ลการประเมนิ ผา่ นตามเกณฑ์ทส่ี ถานศึกษากำหนด ใน
การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๓๒
การพิจารณาเลื่อนชั้น ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่า
สามารถพฒั นาและสอนซ่อมเสริมได้ ใหอ้ ยู่ในดลุ พินจิ ของสถานศึกษาที่จะผ่อนผันให้เล่ือนช้ันได้ แต่หากผู้เรียนไม่
ผ่านรายวิชาจำนวนมาก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น สถานศึกษาอาจต้ัง
คณะกรรมการพจิ ารณาให้เรยี นซำ้ ช้ันได้ ทงั้ น้ีใหค้ ำนงึ ถงึ วฒุ ภิ าวะและความรคู้ วามสามารถของผ้เู รียนเป็นสำคัญ
๑.๒ การให้ระดบั ผลการเรียน
ระดับประถมศึกษาในการตัดสินเพื่อให้ระดับผลการเรียนรายวิชาสถานศึกษาสามารถให้ระดับผล
การเรยี นหรือระดับคุณภาพการปฏิบัตขิ องผู้เรียน เป็นระบบตัวเลข ระบบตัวอกั ษรระบบร้อยละ และระบบท่ีใช้
คำสำคญั สะท้อนมาตรฐาน
การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผล การ
ประเมนิ เปน็ ดเี ยีย่ ม ดี และผ่าน
การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรม
และผลงานของผู้เรียน ตามเกณฑ์ท่สี ถานศึกษากำหนด และใหผ้ ลการเขา้ รว่ มกจิ กรรมเป็นผา่ น และไมผ่ ่าน
๑.๓ การรายงานผลการเรยี น
การรายงานผลการเรียนเป็นการสื่อสารให้ผู้ปกครองและผู้เรียนทราบความก้าวหน้าในการเรียนรู้
ของผู้เรียน ซึ่งสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินและจัดทำเอกสารรายงานให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะๆ หรือ
อย่างน้อยภาคเรยี นละ ๑ ครงั้
การรายงานผลการเรยี นสามารถรายงานเป็นระดับคุณภาพการปฏิบัตขิ องผเู้ รยี นทสี่ ะทอ้ นมาตรฐาน
การเรยี นรู้กลุม่ สาระการเรียนรู้
๒. เกณฑ์การจบการศกึ ษา
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดเกณฑ์กลางสำหรับการจบการศึกษาเป็น ๑ระดับ คือ
ระดับประถมศึกษา
๒.๑ เกณฑก์ ารจบระดับประถมศกึ ษา
(๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน และรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติมตามโครงสร้างเวลาเรียนท่ี
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐานกำหนด
(๒) ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐาน ผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษา
กำหนด
(๓) ผ้เู รียนมีผลการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นในระดบั ผ่านเกณฑ์การประเมนิ
ตามทส่ี ถานศกึ ษากำหนด
(๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่
สถานศึกษากำหนด
(๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่
สถานศกึ ษากำหนด
สำหรับการจบการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น การศึกษาเฉพาะทาง การศึกษาสำหรับผู้มี
ความสามารถพิเศษ การศึกษาทางเลือก การศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส การศึกษาตามอัธยาศัยให้คณะกรรมการ
ของสถานศึกษาเขตพื้นที่การศึกษาและผู้ที่เก่ียวข้อง ดำเนินการวัดและประเมินผล การเรียนรู้ตามหลักเกณฑ์ใน
แนวปฏิบัตกิ ารวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานสำหรับกลุ่มเป้าหมาย
เฉพาะ
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๓๓
เอกสารหลักฐานการศึกษา
เอกสารหลักฐานการศึกษาเป็นเอกสารสำคัญที่บันทึกผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับ
พัฒนาการของผเู้ รยี นในด้านต่าง ๆ แบง่ ออกเป็น ๒ ประเภท ดงั นี้
๑. เอกสารหลักฐานการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด
๑.๑ ระเบียนแสดงผลการเรียน เป็นเอกสารแสดงผลการเรียนและรับรองผลการเรียนของ
ผู้เรียนตามรายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น ผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของ
สถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้องบันทึกข้อมูลและออกเอกสารนี้ให้
ผเู้ รยี นเป็นรายบคุ คล เม่อื ผเู้ รียนจบการศกึ ษาระดับประถมศึกษา (ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๖)
๑.๓ แบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา เป็นเอกสารอนุมัติการจบหลักสูตรโดยบันทึกรายชื่อและ
ขอ้ มูลของผ้จู บการศึกษาระดบั ประถมศึกษา (ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖)
๒. เอกสารหลักฐานการศึกษาทีส่ ถานศกึ ษากำหนด
เป็นเอกสารที่สถานศกึ ษาจัดทำข้ึนเพื่อบนั ทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลสำคัญ เกี่ยวกับผู้เรยี น
เชน่ แบบรายงานประจำตวั นกั เรยี น แบบบนั ทึกผลการเรยี นประจำรายวิชา ระเบยี นสะสม ใบรับรองผลการเรียน
และ เอกสารอื่นๆ ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการนำเอกสารไปใช้
การเทียบโอนผลการเรยี น
สถานศกึ ษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของผูเ้ รียนในกรณตี ่างๆได้แก่ การยา้ ยสถานศึกษา การเปล่ียน
รูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การออกกลางคันและขอกลบั เข้ารับการศกึ ษาต่อ การศึกษาจากต่างประเทศ
และขอเขา้ ศึกษาต่อในประเทศ นอกจากน้ี ยงั สามารถเทียบโอนความรู้ ทกั ษะ ประสบการณจ์ ากแหล่งการเรียนรู้
อน่ื ๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบนั ศาสนา สถาบนั การฝึกอบรมอาชพี การจดั การศึกษาโดยครอบครวั
การเทยี บโอนผลการเรยี นควรดำเนนิ การในชว่ งก่อนเปิดภาคเรียนแรก หรอื ต้นภาคเรียนแรกที่
สถานศกึ ษารบั ผู้ขอเทยี บโอนเปน็ ผู้เรยี น ทง้ั นี้ ผ้เู รยี นทไ่ี ดร้ บั การเทยี บโอนผลการเรียนต้องศึกษาตอ่ เนื่องใน
สถานศึกษาทีร่ ับเทียบโอนอย่างนอ้ ย ๑ ภาคเรียน โดยสถานศึกษาท่รี ับผเู้ รยี นจาก
การเทียบโอนควรกำหนดรายวชิ า/จำนวนหนว่ ยกิตท่จี ะรบั เทียบโอนตามความเหมาะสม
การพิจารณาการเทยี บโอน สามารถดำเนนิ การได้ ดงั นี้
๑. พจิ ารณาจากหลักฐานการศึกษา และเอกสารอน่ื ๆ ที่ให้ข้อมูลแสดงความรู้ ความสามารถของผู้เรยี น
๒. พจิ ารณาจากความรู้ ความสามารถของผู้เรียนโดยการทดสอบด้วยวิธีการตา่ งๆ ท้ังภาคความรู้และ
ภาคปฏิบตั ิ
๓. พิจารณาจากความสามารถและการปฏบิ ัตใิ นสภาพจริง
การเทยี บโอนผลการเรยี นใหเ้ ป็นไปตาม ประกาศ หรือ แนวปฏบิ ตั ิ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ
การบริหารจัดการหลกั สตู ร
ในระบบการศึกษาที่มีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นและสถานศึกษามีบทบาทในการพัฒนาหลักสูตรนั้น
หนว่ ยงานตา่ งๆ ท่เี ก่ียวขอ้ งในแตล่ ะระดบั ตง้ั แตร่ ะดบั ชาติ ระดับท้องถ่นิ จนถึงระดบั สถานศึกษา มบี ทบาทหน้าที่
และความรับผิดชอบในการพัฒนาสนับสนุนส่งเสริม การใช้และพัฒนาหลักสูตรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้การดำเนินการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาและการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษามี ประสิทธิภาพ
สูงสดุ อนั จะส่งผลให้การพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี นบรรลตุ ามมาตรฐานการเรียนรูท้ กี่ ำหนดไวใ้ นระดับชาติ
ระดับท้องถิ่น ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานต้นสังกดั อื่น ๆ เป็นหน่วยงานท่ีมีบทบาทใน
การขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา เป็นตัวกลางที่จะเชื่อมโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานที่
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๓๔
กำหนดในระดับชาติให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่การจัดทำหลักสูตรของ
สถานศึกษา ส่งเสริมการใช้และพัฒนาหลักสูตรในระดับสถานศึกษา ให้ประสบความสำเร็จ โดยมีภารกิจสำคัญ
คอื กำหนดเปา้ หมายและจุดเนน้ การพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน ในระดับท้องถิ่นโดยพจิ ารณาใหส้ อดคล้องกับส่ิงที่เป็น
ความต้องการในระดับชาติ พัฒนาสาระการเรียนรู้ท้องถิ่นประเมินคุณภาพการศึกษาในระดับท้องถิ่น รวมทั้ง
เพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนาการพัฒนาบุคลากร สนับสนุน ส่งเสริมติดตามผล
ประเมินผล วเิ คราะห์ และรายงานผลคุณภาพของผู้เรียน
สถานศกึ ษามหี นา้ ทีส่ ำคญั ในการพัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษาการวางแผนและดำเนนิ การใชห้ ลักสูตร การ
เพ่ิมพูนคณุ ภาพการใช้หลักสูตรดว้ ยการวิจยั และพัฒนาการปรบั ปรุงและพัฒนาหลักสูตรจัดทำระเบียบการวัดและ
ประเมินผลในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พ้ืนฐาน และรายละเอยี ดท่เี ขตพน้ื ท่ีการศึกษา หรือหน่วยงานสังกัดอนื่ ๆ ในระดบั ทอ้ งถิ่นได้จัดทำเพิ่มเติม รวมทั้ง
สถานศึกษาสามารถเพิม่ เตมิ ในสว่ นทเ่ี กยี่ วกับสภาพปญั หาในชมุ ชนและสังคมภมู ิปญั ญาทอ้ งถน่ิ และความต้องการ
ของผเู้ รยี น โดยทกุ ภาคสว่ นเขา้ มามสี ่วนร่วมในการพัฒนาหลักสตู รสถานศึกษา
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๓๕
คำสงั่ โรงเรียน บา้ นสำโรงประชารัฐ
ท่ี / ๒๕๖๓
เรอื่ ง แตง่ ต้งั คณะกรรมการบริหารหลักสตู รและงานวิชาการสถานศึกษาข้นั พน้ื ฐาน
*********************************
เพื่อให้การบริหารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สอดคลอ้ งกบั พระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ หมวด ๔ มาตรา ๒๗ ทีก่ ำหนดให้สถานศึกษาข้ัน
พื้นฐานมีหน้าท่ีจัดทำสาระของหลักสูตรเพ่ือความเปน็ ไทย ความเป็นพลเมอื งทด่ี ีของชาติ การดำรงชวี ิต และการ
ประกอบอาชีพ ตลอดจนเพื่อการศึกษาต่อ ในส่วนที่เกี่ยวกับสภาพของปัญหาในชุมชน และสังคม ภูมิปัญญา
ท้องถิ่น คุณลักษณะอันพึงประสงค์เพื่อเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชาติ และ
สอดคล้องกับระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษาข้ัน
พืน้ ฐาน พ.ศ.๒๕๔๔
อาศัยอำนาจตามมาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.
๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารหลักสูตร และงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
โรงเรียน บา้ นสำโรงประชารัฐ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ดงั นี้
๑. นางสาวเพญ็ ศริ ิ แสนสขุ ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นบ้านสำโรงประชารัฐ ประธานกรรมการ
๒. นางมณกี ุล นอบน้อม หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย กรรมการ
๓. นายวชิ ิต ยนื หาญ หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กรรมการ
๔. นายพงศธร ชาญศรี หัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรูส้ ขุ ศกึ ษาพลศึกษา กรรมการ
๕. นางสาวมารสิ า ฤทธริ น หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ กรรมการ
๖. นางสาวอลิสา วฒุ ยิ า หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ กรรมการ
๗. นางสมุ าลี มีสะอาด หวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ กรรมการ
๘. นางสุจติ รา กะการดี หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ กรรมการ
๙. นางสาวอารยา โลนะลุ หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ กรรมการ
๑๐. นายวชิ ติ ยืนหาญ หัวหนา้ ฝ่ายวิชาการ กรรมการและเลขานุการ
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๓๖
คณะกรรมการดำเนนิ การ มีหน้าทีแ่ ละดำเนนิ การจดั การตามขั้นตอนท่กี ำหนด ดงั น้ี
๑. วางแผนการดำเนินงานวิชาการ กำหนดสาระรายละเอียดของหลักสูตรระดับสถานศึกษาและแนว
ทางการจัดสัดส่วนสาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของสถานศึกษา ให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง
การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ และสภาพเศรษฐกจิ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน
๒. จัดทำคู่มือการบริหารหลกั สูตร และงานวิชาการของสถานศึกษา นิเทศ กำกับ ติดตาม ให้คำปรึกษา
เกย่ี วกับการพฒั นาหลักสูตร การจดั กระบวนการเรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผลและการแนะแนวใหส้ อดคล้องและ
เป็นไปตามหลกั สูตรการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน
๓. ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตร การจัดกระบวน การเรียนรู้ การวัด
และประเมินผลและการแนะแนวให้เป็นไปตามจดุ หมายและแนวทางการดำเนินการของหลักสูตร
๔. ประสานความร่วมมือจากบุคคล หน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ และชุมชน เพื่อให้การใช้หลักสูตรเป็นไป
อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพและมคี ุณภาพ
๕. ประชาสัมพันธ์หลักสูตรและการใช้หลักสูตรแก่นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและผู้เกี่ยวข้องและนำ
ข้อมูลปอ้ นกลบั จากฝ่ายต่าง ๆ มาพจิ ารณาเพ่อื ปรับปรุงและพัฒนาหลกั สตู รของสถานศึกษา
๖. ส่งเสรมิ สนับสนุนการวจิ ัยเกยี่ วกบั การพฒั นาหลักสตู ร และกระบวนการเรยี นรู้
๗. ติดตามผลการเรียนของนักเรียนเป็นรายบุคคล ระดบั ชนั้ และช่วงชัน้ ระดบั วิชา กลุ่มวิชา ในแต่ละปี
การศึกษา เพอ่ื ปรบั ปรุงแก้ไข และพฒั นาการดำเนนิ งานดา้ นตา่ ง ๆ ของสถานศึกษา
๘. ตรวจสอบทบทวน ประเมินมาตรฐาน การปฏิบัติงานของครู และการบริหารหลักสูตรระดับ
สถานศึกษาในรอบปีที่ผ่านมา แล้ว ใช้ผลการประเมิน เพื่อวางแผนพัฒนาการปฏิบัติงานของครูและการบริหาร
หลักสูตรปกี ารศกึ ษาตอ่ ไป
๙. รายงานผลการปฏบิ ตั ิงานและผลการบริหารหลกั สตู รของสถานศกึ ษา โดยเนน้ ผลการพฒั นาคุณภาพ
นักเรียนต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการบริหารหลักสูตรระดับเหนื อสถานศึกษา
สาธารณชน และผู้เกยี่ วขอ้ ง
๑๐. ใหด้ ำเนินการประชุมคณะกรรมการอย่างนอ้ ยภาคเรยี นละ ๒ ครงั้
ท้ังนี้ให้ผไู้ ดร้ ับการแต่งตั้งปฏบิ ัตหิ น้าที่ท่ีไดร้ ับมอบหมายอย่างมีประสิทธภิ าพ และบรรลุตามวัตถุประสงค์
ท่ตี ้งั ไว้ ต้งั แตบ่ ัดนี้เป็นตน้ ไป
ส่งั ณ วนั ที่ เดือน มนี าคม พ.ศ. ๒๕๖๓
(ลงชอื่ )
(นางสาวเพ็ญศิริ แสนสขุ )
ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นบา้ นสำโรงประชารฐั
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๑๓๗
หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสาโรง (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑