The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tamasos0013, 2021-09-02 09:15:15

วิวัฒน์หรือวิบัติ ภาษาสื่อสารในสถานการณ์โควิด-๑๙

บอกกล่าวเล่าเรื่อง

บรรณาธกิ าร

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านที่สนับสนุน “วรรณสาร” ฉบับวันภาษาไทยแห่งชาติ มาอย่างต่อเนื่อง วรรณสาร
ฉบับนี้มุ่งนำเสนอในประเด็น “วิวัฒน์หรือวิบัติ ภาษาสื่อสารในสถานการณ์โควิด-๑๙” เพื่อให้สอดรับกับการ
เปลี่ยนแปลงในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ และการใช้ภาษาสื่อสารกันในสถานการณ์
ดงั กล่าว โดยยงั คงนำเสนอผลงานของนกั ศกึ ษาสาขาวิชาภาษาไทยท่ีหลากหลายเชน่ เดมิ

วรรณสารฉบับนม้ี ีการปรับเปลยี่ นเพอ่ื ความสะดวก และทันต่อการเผยแพรเ่ น่ืองในงานภาษาไทยรำลึก
ของคณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ ดังน้ันวรรณสารฉบบั น้จี งึ เป็นฉบบั พิเศษ ฉบบั ท่ี ๖๖ ประจำเดือน
มถิ นุ ายน - กรกฏาคม ๒๕๖๔

เนือ้ หาสาระของวรรณสารฉบับนี้ ประกอบดว้ ย คอลัมน์สืบเนือ่ งจากปก บทความสัมภาษณ์พิเศษ
ไขภาษากับไทยศิลปศาสตร์ กด Like วรรณกรรม ปลูกกล้านกั วจิ ัย เสรมิ สร้างประสบการณ์กบั โครงการดี ๆ
มุมคำร้องมองอย่างนักวจิ ารณ์ ชวนกนิ ชวนเท่ียว เจ้าบทเจ้ากลอน เกรด็ ความรู้ บันทกึ ภาพในความทรงจำ และ
ขา่ วสารประชาสัมพันธ์ เป็นการนำเสนอข้อมูล สาระ ความบันเทิงแกผ่ ู้อ่านทส่ี นใจ และหวังว่าจะนำไปปรบั ใช้
หรือเติมเต็มให้เกิดประโยชน์ต่อไป

สุดท้ายนก้ี องบรรณาธิการขอขอบคุณสมาชกิ ผจู้ ดั ทำวรรณสาร ที่ปรกึ ษาวรรณสาร รวมท้งั ผู้อ่าน
ทุกท่าน ท่ีให้การสนบั สนุนเป็นอย่างดเี สมอมา แล้วพบกนั ใหมฉ่ บบั หน้านะคะ

ทีป่ รกึ ษา บรรณาธกิ าร จดั พิมพ์

ผศ.ดร.รงุ่ รตั น์ ทองสกุล นางสาวชมพพู ันธ์ุทิพย์ สทุ ธโิ พธ์ิ นางสาวสุทธติ า ดิเสม็
ผศ.ดร.วรพงศ์ ไชยฤกษ์ กองบรรณาธกิ าร นายศหสั วรรษ คงทรัพย์
ผศ.ปรีดา เกื้อกอ่ อ่อน
ผศ.จุฬารตั น์ เสง่ียม ศิลปกรรมปก
อ.สุรยิ า ทองคำ
อ.พัชราภรณ์ คชินทร์

พสิ ูจนอ์ กั ษร

นางสาวรวินทรน์ ิภา นคิ ะ นางสาวอาทิตยา กาหรีมการ นายอาทติ ย์ นวลสมศรี
นายวฒั นชัย ดำเดช นางสาวจริ าภรณ์ คล่องแคล่ว

วรรณสารฉบบั ท่ี ๖๖

สารบัญ

วรรณสารฉบบั ท่ี ๖๖ ฉบับวนั ภาษาไทยแห่งชาติ
เดือนมถิ ุนายน - กรกฎาคม ๒๕๖๔

...........................................................................................................................................

เรอ่ื ง หนา้

สบื เนื่องจากปก ๑
น้อมรำลึกพระนวมราชา ๒
ววิ ัฒน์ วบิ ตั ิ เปดิ ใจ ตืน่ รู้ พฒั นา ๔
ทับศัพท์ ลขิ ติ โควดิ -๑๙ ๖
วรี บุรุษ ๘
โลกเปล่ยี น คนปรับ ให้สอดรับกับความปกตใิ หม่

บทความสมั ภาษณพ์ เิ ศษ ๑๐
เปลย่ี นวถิ ใี หม่ป้องกนั ภัยจากโควดิ -๑๙ ๑๓
มมุ มองของบุคลากรทางการแพทยใ์ นช่วงวกิ ฤตโควดิ -๑๙ ๑๕
ทนั ตสาธารณสุขกบั การแพร่ระบาดของโรคโควดิ -๑๙

ไขภาษากับไทยศลิ ปศาสตร์ ๑๗
ปญั หาการใชค้ ำลงทา้ ย ง่ายนิดเดยี ว ๒๐
คดิ ...เขียนสะกดคำให้ถกู ตอ้ ง

กด Like วรรณกรรม ๒๕
พลาด ๓๑
เก่งจรงิ ต้องไม่โกง

วรรณสารฉบับท่ี ๖๖

สารบญั (ต่อ) หนา้

เรือ่ ง ๓๖
๕๓
ปลกู กลา้ นกั วิจัย
การนำเสนอเอกลักษณ์ความเปน็ ไทย ในรายการเสนห่ ์ห้องเคร่อื ง ๖๔
ปรากฎการณ์ทางการเมอื งในวรรณกรรม เรอื่ งมลายูรำกรชิ ๖๖

เสริมสรา้ งประสบการณ์กับโครงการดี ๆ ๖๘
เรียนรภู้ าษา สอื่ และศลิ ปวฒั นธรรม ๗๑
เสริมสรา้ งคณุ ธรรมนกั ศึกษาไทยศลิ ปศาสตร์
๗๗
มมุ คำรอ้ ง มองอย่างนักวิจารณ์ ๘๔
เพลนิ เพลงส่งกำลังใจ สูว้ ิกฤตภัยโควิด-๑๙ ๘๘
คนดไี ม่มีวนั ตาย
๙๒
ชวนชิม ชวนเท่ยี ว ๙๒
เที่ยวคอน นอนเล แลนำ้ ตก ๙๓
๕ รา้ นมสุ ลมิ เด่นทต่ี อ้ งไปเยือนในภูเก็ต ๙๓
พาเทย่ี ววังเทพทาโร จังหวัดตรัง ๙๔
๙๔
เจ้าบท เจา้ กลอน
สงครามโรคโควิด-๑๙
พลดั ถ่นิ
กรง
ไพรพนาวนั
คลื่น
พศิ ชมสวุ คนธ์

วรรณสารฉบับท่ี ๖๖

สารบัญ (ต่อ) หนา้

เรื่อง ๙๕
๙๗
เกร็ดความรู้ ๙๙
ยาพารารักษาโควิด-๑๙ ? ๑๐๑
การกำจดั ขยะสำหรบั ผู้ปว่ ยติดเชอ้ื โควิด-๑๙
“กระชายขาว” มดี ีอยา่ งไร ๑๐๓
ยับย้ังโรคภัยกับสมนุ ไพร “ฟ้าทลายโจร” ๑๐๖
๑๐๗
บันทึกภาพในความทรงจำ
เยาวชนดีเดน่

ขา่ วประชาสัมพันธ์

ผูเ้ รยี บเรียง

วรรณสารฉบบั ที่ ๖๖

นอ้ มรำลกึ พระนวมราชา / ววิ ัฒน์ วบิ ตั ิ เปดิ ใจ
ตื่นรู้ พัฒนา / ทับศัพท์ ลิขติ โควิด-๑๙ / วรี บุรุษ /
โลกเปลีย่ น คนปรับ ให้สอดรับกบั ความปกตใิ หม่

สืบเนื่องจากปก

น้อมรำลึกพระนวมราชา

รำลึกพระคุณวรกษัตริย์ นวขัตติย์ราชา

สมเดจ็ พระบรมชนกา ธิเบศร์เจา้ พระทรงชัย

ดำรพิ ระองคจ์ ะอนรุ ักษ์ และพทิ ักษ์ภาษาไว้

จงึ กอ่ กำเนดิ วันภาษาไทย ประทับอยคู่ ู่ธานี

เวียนวาระรอบกาลสมยั ศิวิไลสง่าศรี

ภาษาววิ ฒั นจ์ รัสทวี สถิตคปู่ ระชาไทย

สุรยิ า ทองคำ
ผ้ปู ระพนั ธ์

วรรณสารฉบบั ท่ี ๖๖ หนา้ ๑

วิวัฒน์ วิบัติ เปดิ ใจ ตนื่ รู้ พัฒนา ชมพพู นั ธ์ทุ ิพย์ สุทธิโพธ์ิ

“...เรามีโชคดีทม่ี ีภาษาของตนเองแตโ่ บราณกาล จึงสมควรอยา่ งยิ่งทจี่ ะรกั ษาไว้ ปญั หา
เฉพาะในดา้ นรักษาภาษากม็ ีหลายประการ อยา่ งหนึ่งต้องรักษาให้บรสิ ุทธใ์ิ นทางออกเสยี ง
คือให้ออกเสยี งให้ถูกต้องชดั เจนอีกอย่างหนง่ึ ต้องรกั ษาให้บรสิ ทุ ธ์ิในวธิ ีใช้ หมายความว่า
วธิ ใี ช้คำมาประกอบประโยค นับเป็นปญั หาที่สำคัญ ปัญหาท่ีสามคือความรำ่ รวยในคำของ
ภาษาไทย ซึ่งพวกเรานึกวา่ ไม่ร่ำรวยพอ จึงต้องมีการบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช…้ ”

พระราชดำรัสของพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกานเิ บศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ในคร้ังเสด็จพระราชดำเนนิ เปน็ องค์ประธานการประชุมคณะกรรมการชุมนมุ ภาษาไทย ในการประชมุ ทางวิชาการชุมนมุ ภาษาไทย

คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย
วันท่ี ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๐๕

สังคมในปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นสังคมยุคโลกาภิวัตน์ อันเป็นผลมาจากการพัฒนาด้านการติดต่อสื่อสาร
การคมนาคมขนส่ง และเทคโนโลยสี ารสนเทศ สิ่งเหล่านีแ้ สดงใหเ้ ห็นถึงความเจริญกา้ วหนา้ ของบ้านเมือง เพราะ
การทบี่ ้านเมืองจะพฒั นากา้ วไปขา้ งหน้าต้องอาศยั ความสมั พนั ธ์ด้านตา่ ง ๆ กับท่ัวโลก ท้งั ด้านเศรษฐกจิ การเมือง
เทคโนโลยี หรือแม้แตว่ ฒั นธรรมทมี่ กี ารเชื่อมโยงถา่ ยทอดแลกเปลย่ี นกนั

นอกจากความเปลี่ยนแปลงข้างต้น สังคมยังต้องเดินหน้าไปให้ทันกับสิ่งต่าง ๆ รอบข้างที่เกิดขึ้น ซึ่งล้วน
แล้วแต่เป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ต้องเรียนรู้ ยอมรับและพัฒนาต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผชิญหน้ากับสถานการณ์
การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา (โควิด-๑๙) ท่ีส่งผลให้การใช้ชีวิตในยุคของโรคระบาดวิบัติใหม่นี้ต้อง
อาศัยการทำความเข้าใจ เฝ้าระวัง และติดตามความคืบหน้าเพื่อตั้งรับกับสิง่ ที่จะเกิดขึ้นรายวัน การสื่อสารจึงเปน็
สิง่ สำคญั และเพ่ิมความสำคัญมากขึ้นอย่างไม่อาจปฏเิ สธได้

การสร้างความเข้าใจในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงหรือเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา สิ่งสำคัญอย่างหน่ึง
คือการสื่อสารที่ใช้ “ภาษา” เป็นเครื่องมือส่งสารให้สังคมรับรู้รับทราบข้อมูล เพื่อความเข้าใจและเป็นการชี้แนะ
แนวทางปฏิบัติที่อาจแปรผันอยู่ตลอดเวลาให้เป็นไปในทางเดียวกัน โดยเรากำลังใช้ชีวิตอยู่ในรูปแบบ “ชีวิตวิถี
ใหม่” ซง่ึ บญั ญัตใิ ช้แทนคำวา่ New Normal หากมองในมิตทิ างภาษา นับเปน็ การ “วิวัฒน”์ ทางภาษาที่บัญญัติใช้
ขึ้นเพื่อสื่อสารให้เข้าใจในแก่นแท้ของเนื้อความที่ถูกถอดความให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในสถานการณ์ปัจจุบั น
ภาวะแบบนีเ้ รียกวา่ …การใช้ภาษาเป็นเครอื่ งมือสร้างชีวิต…เพือ่ ใหเ้ หมาะสมกบั ยุคปจั จุบัน

วรรณสารฉบบั ท่ี ๖๖ หนา้ ๒

ยกระดับมาตรการ หมายถงึ เพ่ิมข้อกำหนดหรอื กฎระเบียบใหม้ ากขนึ้ กวา่ เดมิ เพ่ือลดการแพร่ระบาด
ของเช้ือโควดิ -๑๙ ไม่ได้แปลวา่ ลอ็ กดาวน์

งด หมายถงึ หยุด ไมก่ ระทำและไม่ดำเนินการ ไมไ่ ดแ้ ปลวา่ ยังทำได้อยู่
เราชนะ หมายถึง แอปพลิเคชนั ชว่ ยเหลอื ประชาชนของทางภาครัฐ ไมไ่ ดแ้ ปลวา่ (ใคร) ชนะ

ตวั อยา่ งคำขา้ งตน้ แสดงให้เห็นว่าภาษาเปน็ เคร่อื งมือที่ใชใ้ นการสอ่ื สารอันเปน็ จุดเริ่มตน้ ของการสร้างสาร
สู่ผู้รับในรูปแบบภาษาท่ีต้องอาศัยการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา เข้าใจง่ายและให้เห็นเป็นภาพรวม แน่นอนว่า
สิ่งเหล่านี้ย่อมต้องอาศัยการตีความเพื่อทำความเข้าใจ จุดนี้คือส่วนสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าแต่ละคนก็ย่อมแปล
ความโดยใช้ความคิดเห็นส่วนตัวของตัวเองในการทำความเข้าใจ โดยอาศัยการยกตัวอย่างที่ไม่มีใครหรืออะไรมา
ตัดสินใหเ้ ปน็ บรรทัดฐานได้ว่ามันถกู หรือผิดประการใด หากแต่ผลลัพธ์ท่ีเกิดซึง่ เป็นจุดหมายปลายทางที่จะเป็นตัว
ตอบโจทย์ในการสอื่ สารว่า การส่ือสารคร้ังนั้นประสบความสำเรจ็ หรือพบเจอกบั ความล้มเหลว และทา้ ยที่สุดก็สาย
เกนิ ไปจากการทำความเข้าใจ อันจะเป็นบอ่ เกิดแห่งความ “วิบัติ” ของภาษา

หากคิดให้ง่ายขึ้น แน่นอนว่าความวิบัติของภาษาอยู่ที่การสื่อสารที่ยึดความคิดตัวเองเป็นหลัก หากทำ
ความเขา้ ใจปญั หา ก็อาจพบวา่ การสื่อสารอาศยั การตีความโดยใช้ความเปน็ ตวั เองเข้าไปทำความเข้าใจความหมาย
ของคำ แน่นอนว่าจุดเริ่มต้นของปัญหาอาจเกิดระหว่างการสื่อสาร การที่จะไปซื่อสัตย์ในความบริสุทธิ์ของคำ ฟังแล้ว
เปน็ สิง่ ทีเ่ ข้าถงึ ได้ยากน้นั กใ็ หย้ กไว้ในกลมุ่ คนทม่ี คี วามสามารถทีจ่ ะทำได้ แต่อย่างไรกต็ าม ถา้ มองปัญหานีเ้ ป็นส่ิงท่ี
ต้องช่วยกนั แก้ไขและทำความเข้าใจ ทางหน่งึ ท่ีช่วยใหห้ ลาย ๆ อยา่ งคล่ีคลายไดโ้ ดยง่าย นนั่ ก็คอื การเปิดใจรับฟัง
กล้าคิด และถ่ายทอดให้อยู่บนพื้นฐานของความใจกว้างไว้ก่อน อย่าตีโพยตีพาย หรือให้น้ำหนักของความผิดถูก
เปน็ ตวั ต้งั แตใ่ ห้ทำความเขา้ ใจโดยอาศัยปญั หาทีเ่ กิดขึน้ จบั เข่า ลอ้ มวงเล่า ถกแต่ไม่เถียง ให้ไดเ้ ปดิ ใจกว้าง ๆ นอ้ ม
รบั คำวิจารณ์ สเู่ ป้าหมายเดยี วกัน คือ “เข้าใจ เขา้ ถงึ และพฒั นา”

ความเปราะบางของสังคมที่มีอยู่ในปัจจุบัน มีปัญหาหลาย ๆ อย่างเข้ามารุมเร้าทั้งด้านร่างกาย สุขภาพ
อารมณ์ และจติ ใจ ปฏเิ สธไมไ่ ด้ว่าส่วนหน่ึงย่อมมาจากการไม่เขา้ ใจกนั ส่ิงเหลา่ น้อี าจหมดไปหากมีคำว่า “เปิดใจ”
ของทุก ๆ คน เริ่มต้นด้วยการสื่อสารทีใ่ ช้ภาษามาแก้ไข ทำความเข้าใจบนพืน้ ฐานของใจทีน่ ้อมรับ ให้เกียรติซ่งึ กนั
และกนั และจะไม่มีคำว่าถูกผิดมาเป็นตวั กรอบกัน้ ให้เหน็ เปน็ ความชังหรือความชอบ สร้างสรรค์สังคมให้สวยงามได้
ดว้ ยจุดเริ่มตน้ ทางภาษาทดี่ ี ให้ “ภาษาววิ ฒั น์ อย่าได้วิบัติ เพอื่ ก้าวสกู่ ารพฒั นา” ท่ียง่ั ยืน ต่อไป

อา้ งอิง
วันภาษาไทย แห่งชาติ. (๒๕๖๑). [ออนไลน์], เขา้ ถึงได้จาก https://today.line.me/th/v๒/article/.

เข้าถงึ เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔.

วรรณสารฉบบั ที่ ๖๖ หนา้ ๓

ทบั ศัพท์ ลิขติ โควดิ -๑๙

อาทติ ยา กาหรีมการ

คำทับศัพท์ เป็นการรับคำจากภาษาหนึ่งมาใช้ในอีกภาษาหนึ่ง โดยวิธีถ่ายทอดเสียงและอักษร ในส่วนของ
ประเทศไทยได้มีการรบั ภาษาต่างประเทศมาใชม้ ากมายหลายภาษา โดยการถา่ ยทอดเสียงจากภาษาต่างประเทศ
มาเป็นภาษาไทยโดยให้มีความใกล้เคียงกับภาษาเดิม เพื่อให้เป็นไปตามรูปแบบของการออกเสียงภาษาไทยท่ี
ถูกตอ้ งอย่างชัดเจน

คำทับศัพท์หรือคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย อาจเกิดขึ้นได้หลากหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือ
ความเปลย่ี นแปลงทางสังคม การใช้ภาษาเพ่ือสื่อใหส้ ังคมไดท้ ราบ และปัจจบุ นั ก็เกิดเปล่ยี นแปลงทางสังคมอย่าง
ใหญ่หลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดสถานการณ์โควิด-๑๙ โรคระบาดที่สร้างผลกระทบอย่างมากในทุกมุมโลก
และยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ใครหลายคนเกิดความวิตกกังวลอย่างมากในสถานการณ์ช่วงน้ี จึงต้องคอยติดตาม
ข่าวสาร และเรียนรู้ท่ีจะป้องกันตนเองอยู่ตลอดเวลา

นอกจากปัญหาในการใช้ชีวิตที่ยุ่งยากขึ้นเพราะต้องปฏิบัติตัวตามมาตรการที่เกิดขึ้นเพื่อป้องกันการ
แพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ แล้ว การสื่อสารก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญในช่วงนี้ เพราะเนื่องจากสถานการณ์
ดังกล่าว ทำให้สังคมไทยเกิดคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่เราอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน หลายคนไม่เข้าใจในความหมายของ
คำ ๆ นัน้ ทำให้เกิดความสับสนในการสอ่ื สารซงึ่ อาจส่งผลกระทบตามมา คือ วิกฤตการสอ่ื สาร ซ่ึงถือเปน็ เรื่องท่ี
ต้องตระหนักและต้องแก้ปัญหาอย่างเรง่ ดว่ น เพอื่ สรา้ งความเชอื่ มน่ั และป้องกนั ไม่ใหเ้ กดิ ความตนื่ กระหนกและ
ความสับสน สิ่งหนึ่งที่คนไทยควรให้ความสำคัญ คือ “เราไม่ควรสับสนระหว่างการทับศัพท์กับการแปล ซึ่งมี
ความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงคำหรือการเลือกคำในภาษา เพื่อสงวนความหมายของภาษาไทยดั้งเดิม
เอาไว้ ในขณะทกี่ ารทบั ศพั ท์เป็นเพียงการแปลงตวั อักษรเท่านน้ั ” และเนอื่ งด้วยสถานการณท์ ่ีเกิดขน้ึ สังคมไทย
จึงมีศัพท์ใหม่ ๆ ที่นำเสนอผ่านการสื่อสารในทุก ๆ ช่องทาง เมื่อสำรวจถ้อยคำที่พบแล้ว สามารถยกตัวอย่าง
คำทับศัพท์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ มาให้ลองทำความเข้าใจและ
นำไปใช้ไดอ้ ย่างเหมาะสม ดังนี้

วรรณสารฉบบั ที่ ๖๖ หนา้ ๔

ลำดับที่ คำศพั ท์ ความหมาย
๑ Social distancing การรกั ษาระยะหา่ งทางสงั คม
๒ State quarantine การกกั กนั โรคท่ีศูนย์ควบคุมโรคซึง่ หน่วยงานของรฐั จดั ตงั้ ขึ้น
๓ Self quarantine การกกั กนั ตัวที่บา้ น สำหรบั กลุม่ เสยี่ งติดเชื้อ

๕ New normal ความปกตใิ นรปู แบบใหม่
๖ Lockdown การปดิ ประเทศ หรอื ปดิ เมือง
๗ Fake news
๘ Outbreak ขา่ วปลอม/ข่าวลวง
๙ Curfew การแพร่ระบาด
๑๐ Cluster การประกาศหา้ มประชาชนออกจากเคหสถานตามเวลาทีก่ ำหนด
ผ้ตู ดิ เช้อื เปน็ กลุม่ ก้อน
Swab เกบ็ ตัวอย่างส่งตรวจ

การใช้คำทับศัพท์ในการสื่อสาร อย่างหนึ่งที่ควรคำนึงถึง คือ การเข้าใจความหมายของคำอย่างถูกต้อง

เพื่อนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากบางเหตุการณ์ในการสื่อสาร การไม่เข้าใจคำหรือความหมาย

แน่นอนว่ามักมีเนื้อความหรือบริบทของความที่ผู้ฟังจะต้องตีความของคำนั้น ๆ อาจทำให้สารหรือแก่นแท้ใน

ความหมายของคำเปล่ียนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยงิ่ คำทบั ศัพท์ท่เี รามกั ไม่ค่อยคุ้นชินในความหมายมากนัก

แมว้ า่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในปจั จุบันยังคงไมม่ วี ่ีแววทจ่ี ะดีขน้ึ อย่างถาวร และส่ิงท่ีตามมา
คือ ผลกระทบอย่างมหาศาล สิ่งหนึ่งที่จะช่วยลดความวุ่นวายทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้
ไปได้ คือ การช่วยลดปัญหา ซึ่งนอกจากการปฏิบัติตามมาตรการ “หยุดเชื้อ เพ่ือชาติ” หรืออะไรก็ตามที่ออกมา
เพื่อส่งเสริมสิ่งเหล่านี้แล้ว อย่างหนึ่งคือการสื่อสารที่ทุกคนควรเข้าใจ ผ่านการเลือกใช้ถ้อยคำผนวกกับ
ความหมายหรอื การอธบิ ายเพ่ือให้ทราบกนั อย่างทวั่ ถงึ ท่ามกลางสถานการณอ์ ันแปรปรวนในปัจจุบัน การสื่อสาร
ยอ่ มเปน็ สิง่ สำคัญท่ีจะชว่ ยผลกั ดันสกู่ ารทำความเขา้ ใจและแก้ไขปัญหาได้อยา่ งดีย่ิงข้นึ

อย่างไรก็ตาม ประชาชนในสังคมไทยและทว่ั โลกยงั คงรอคอยการกลับมาใช้ชีวติ อยา่ งปกติสุข ซ่ึงแน่นอน
ว่าย่อมเกิดขึ้นได้ในเร็ววัน และแนวทางสำคัญส่วนหนึ่งที่จะนำพาไปถึงวันนั้น คือ การสื่อสารอย่างถูกต้อง
“ตระหนักสักนดิ เพ่ือชวี ติ ที่ดีกว่า” ผ่านการใชภ้ าษาและถ้อยคำอย่างเขา้ ใจ “ทบั ศัพท์ ลขิ ติ โควดิ -๑๙” ให้ภาษา
ลขิ ิตสงิ่ เลวรา้ ยผา่ นพ้นไปในเรว็ วนั

อา้ งอิง
คำทับศัพท์. (๒๕๕๖). [ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก http://www.digitalschool.club/digitalschool/thai.

เข้าถงึ เมอ่ื วนั ที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔.
รวมคำศพั ทต์ ้องรู้ ยคุ ‘โควิด-๑๙’. (๒๕๖๔). [ออนไลน์], เขา้ ถงึ ไดจ้ าก www.bangkokbiznews.com.

เข้าถงึ เม่ือวันท่ี ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔.

วรรณสารฉบบั ท่ี ๖๖ หนา้ ๕

วรี บรุ ษุ

ศรัณญา พรหมหอ้ ง

อดีตกาลผา่ นมาเนน่ิ นานนกั เห็นประจกั ษช์ ดั แจ้งแถลงไข
บรรพบรุ ุษนกั สู้กู้แดนไทย กวาดแกว่งไกวหอกดาบปราบศตั รู
ทหารกลา้ สละสิน้ แม้ชวี ติ มเิ คยคิดสละแดนแผน่ ดินอยู่
อนาคตถ่นิ สยามต้องเฟอ่ื งฟู อดทนส้เู พอ่ื ลูกหลานนานสบื ไป
มาบรรจบปัจจบุ นั ทฝ่ี ันใฝ่
วนั เวลาเลือ่ นผ่านจนพานพบ กลบั เลอื นหายลบั ไปกบั สายลม
แดนรงุ่ เรืองเมอื งสงบวาดหวังไว้ วันน้พี ลาดพลง้ั คิดพิษถาถม
บรรยากาศทีเ่ คยแสนสะอาด อยากสูดดมอากาศจะขาดใจ
ตอ้ งปิดปากปดิ จมูกสุดระทม คนเกรงขลาดแรงพษิ จติ หวนั่ ไหว
เหตุไฉนโรควบิ ตั อิ ึดอัดครัน
ประชาชนข้นแคน้ ระแวงหวาด รา่ งโทรมทรุดไรเ้ รย่ี วแรงแสนโศกศัลย์
จะหนั ซา้ ยไปขวาก็มภี ยั ต้องอดกล้นั กลำ้ กลนื ฝนื ชวี า
โควิดร้ายกลืนกินวิญญาณมนุษย์ เรง่ ระดมคิดค้นยารักษา
ฤาจะต้องสญู เสยี จนสูญพนั ธ์ุ พฒั นาวัคซีนในเร็ววัน
ก่รี ะลอกทีผ่ ่านมาใช่ความฝัน
อกี ไมน่ านคงจะพบความสุขสม ตอ้ งจากกนั เท่าไรจงึ จะพอ
วอนผ้รู ู้ผู้ปราดเปร่ืองในวชิ า
กว่าจะค้นกว่าจะพบซ่งึ ทางออก
ต้องสญู เสียชีวติ ก่ีหมนื่ พัน

วรรณสารฉบบั ที่ ๖๖ หน้า ๖

โรคระบาดกลาดเกลือ่ นแดนแสนหดหู่ ตอ้ งทนสู้โรครา้ ยกายสกึ หรอ
วัคซีนมจี ำกดั ไมเ่ พียงพอ แมม้ ที ้อแต่ไม่ถอยในโชคชะตา
วีรบุรุษยคุ ใหม่ในชดุ ขาว ใส่เสอื้ กาวน์เตรยี มพร้อมเผชญิ หน้า
เสยี สละเพื่อส่วนรวมสยู้ บิ ตา สร้างพลังสรา้ งศรทั ธาอย่างมากมาย
ไมเ่ คยคดิ ทงิ้ ผ้ปู ว่ ยชว่ ยให้หาย
ทุกย่างก้าวเดิมพนั ดว้ ยชวี ิต แมน้ ชีพวายก็พร้อมยอมผจญ
ทมุ่ สดุ ตวั เหนื่อยลา้ ท้ังใจกาย แก้ปัญหาโรคร้ายไดผ้ า่ นพน้
วอนสงิ่ ศกั ด์สิ ิทธ์ิอวยชยั ให้ดา่ นหนา้ บงั เกิดผลรอดปลอดภยั ทัง้ ส้ินเทอญ
เปน็ แรงใจแดเ่ ธอเขาเราทกุ คน

วรรณสารฉบับท่ี ๖๖ หนา้ ๗

โลกเปลยี่ น คนปรับ ใหส้ อดรับกบั ความปกติใหม่

สราวุฒิ เดชอรัญ

โลกเปลี่ยนคืออะไร ในสถานการณ์ ณ ตอนนี้ ผมคิดว่าสิ่งที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญคงหนี
ไม่พ้นการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือโควิด-๑๙ ทำไม เพราะอะไร เป็นคำถามที่ผมอยากชวนทุกคนย้อน
เวลาไปหาคำตอบครบั ลองคิดไปพรอ้ มกบั ผมนะครบั

เมื่อ ๒ ปีที่แล้ว เรามองคนท่ีสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วยแววตาแห่งความสงสัย เขาใส่ไปทำไม ใส่ไป
เพราะความเท่? หายใจมันก็ลำบาก เอ๊ะ หรือเขาไม่สบาย เป็นไข้ เป็นหวัด แล้วคนที่พกเจลแอลกอฮอล์ หรือ
สเปรย์แอลกอฮอล์ เขาเป็นอะไร จะเยอะไปทำไม เหล่านี้ล้วนเป็นคำถาม เป็นข้อสงสัย ที่ค่อย ๆ ได้รับการ
คลี่คลายเมื่อเวลาผ่านไป เพราะภาพเหล่านั้นที่เคยมองว่าแปลกตา ดูแปลกแยก กลับกลายเป็นภาพคุ้นตาใน
ปจั จุบัน

การแพร่เชื้อของโควิด-๑๙ เกิดขึ้นมาจากละอองของระบบหายใจ เมื่อติดเชื้อเข้าไปแล้วจะมีอาการ
ตัวร้อนจากไข้ ไอ และอ่อนเพลีย หรือบางคนมีอาการปวดเมื่อย คัดจมูก น้ำมูกไหล และยังมีอาการอื่น ๆ อีก
หลากหลายอาการแตกต่างกนั ไปตามภูมิคุ้มกัน รวมถงึ ธรรมชาตขิ องร่างกายแตล่ ะคน

ตอนน้ีผตู้ ิดเช้ือในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึน้ เชน่ เดยี วกับอีกหลายประเทศท่ีตกอยู่ในสถานการณ์ท่ีไม่
ต่างกัน พวกเขาต้องรับชะตากรรมจากเชื้อไวรัสร้ายชนิดที่ไม่มีทางหลบหลีกได้ ณ ตอนนี้ ผมเชื่อว่า ทุกคนไม่
เพียงแค่กังวลเรื่องสุขภาพ ว่าจะติดเชื้อแล้วจะใช้ชีวิตอย่างไร แต่หลายคนยังกังวลไปถึงผลกระทบในด้าน
เศรษฐกิจที่ตามมาด้วย เพราะฉะนั้น เราไม่ควรนิ่งนอนใจ ทุกมาตรการที่รัฐบาลรณรงค์ เราจำเป็นต้องทำตาม
อย่างเคร่งครดั สำหรับวันนผ้ี มมีเทคนคิ งา่ ย ๆ กับสไตล์การใชช้ วี ติ แบบ New normal มาให้ปฏบิ ตั ิกัน

๑. Screening คือ การตรวจวัดอุณหภูมิ เมื่อต้องเข้าร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร หรือ
สถานที่ต่าง ๆ จะตอ้ งมกี ารตรวจวัดอณุ หภูมิ เพื่อคัดกรองบุคคลที่จะสามารถเข้าไปยังสถานท่ีน้ัน พี่ ๆ เขาจะแค่
หยบิ เครอ่ื งตรวจวดั อุณหภมู ิมาเลง็ ตรงศีรษะ เสียงดัง ต๊ีด ผู้ทม่ี ีอณุ หภมู ิ ๓๗.๕ องศาข้นึ ไป ก็ไม่ควรลังเลที่จะกลับ
บา้ น เพ่อื เฝ้าระวัง แต่การเฝ้าระวงั กบั การกกั ตวั ไมเ่ หมือนกันนะครบั การเฝา้ ระวงั คอื การกลับไปบา้ น เพ่ือเฝ้าดู
อาการ ส่วนการกักตัว คอื การทเ่ี ราไมอ่ อกไปในพนื้ ทส่ี มุ่ เสย่ี ง ตอ้ งกกั ตัวเองให้อย่แู ตเ่ พียงในบ้านเท่านัน้

๒. Social distancing คอื การเวน้ ระยะห่าง ๑-๒ เมตร ตอนนี้ไมว่ า่ สถานท่ใี ด ก็จะมีการเว้นระยะห่าง
หากจะตง้ั คำถามว่าทำไมต้องเว้นระยะหา่ ง? ก็เพราะในการที่ผู้คนพูดคุยส่ือสารกันจะมีน้ำลายกระเด็นออกมาใน
ระยะประมาณ ๑ เมตรกว่า ๆ ซงึ่ นำ้ ลายอาจกระเด็นมาโดนส่วนใดสว่ นหน่ึงของรา่ งกายคนขา้ งเคียงได้

๓. Cleaning คอื การทำความสะอาดมือ ดว้ ยเจลแอลกอฮอล์ สงิ่ แรกทีอ่ ยากแนะนำเลยกค็ ือ ก่อนออก
จากบ้านหรือเมื่อกลับเข้าบ้านแล้วก็ควรล้างมือทุกครั้ง ในการล้างมือนั้น ไม่ใช่แค่ว่าจะล้าง ๆ ไป ถู ๆ ไปแล้ว
เสรจ็ เลย ทกุ คนควรท่ีจะล้างมอื อย่างนอ้ ย ๒๐ วินาทีข้ึนไป เพราะเช้อื โรคมันอาจจอ้ งทำรา้ ยอยู่ ดงั นั้น ทุกคนควร
ต้งั ใจลา้ งมือ ล้างใหถ้ ูกต้อง และถกู วิธี

วรรณสารฉบบั ที่ ๖๖ หน้า ๘

๔. Cashless ออกจากบา้ นแต่ละคร้งั ก็มักจะมีค่าใชจ้ ่ายอยู่เสมอ แตใ่ นสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
เชื้อโรค การจ่ายเงินผา่ นแอปพลิเคชั่นของธนาคารก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการป้องกันตัวเองจากการสมั ผสั เงิน
สดโดยตรง เราไม่มีทางรู้เลยว่าธนบัตรที่เราสัมผัส ผ่านมือใครมาแล้วบ้าง บางครั้งจึงอาจมีเชื้อโรคแฝงตัวอยู่ใน
ธนบัตรนั้นก็เป็นไปได้ ดังนั้นการหลีกเลี่ยงที่จะสัมผัสธนบัตรจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อยู่บ้านจ่ายเงินผ่าน
แอปพลเิ คช่นั ปลอดภยั ท่สี ุด

๕. Tracking การเช็คอิน-เช็คเอาท์ ทุกสถานที่ จะมี QR Code ให้ผู้ที่เข้าใช้บริการสแกนก่อนเข้าไปใน
สถานทน่ี ้นั เพื่อใหส้ ะดวกตอ่ การติดตาม และเพื่อลดการเป็นภาระของสังคม

เพียงแค่ ๕ เทคนิคง่าย ๆ สบาย ๆ แค่นี้ ก็สามารถช่วยใหเ้ ราและครอบครวั ปลอดภัยจากเช้ือโรครา้ ยได้
ในระดับหนึ่ง และการป้องกันตัวเองเป็นสิ่งแรกที่ทุกคนควรช่วยกันปฏิบัติ สุดท้ายนี้อยากฝากถึงทุกคนว่า เม่ือ
โลกเปลี่ยน เราก็จำเป็นต้องปรับ เพื่อให้สอดรับกับวิถีชีวิตแบบใหม่ ทั้งนี้ก็เพื่อความสุขของตัวเอง คนรอบข้าง
และสังคม อย่าลืมรว่ มด้วยชว่ ยกัน...สวัสดีครับ

อ้างอิง
รวมคำศัพทต์ ้องรู้ ยคุ ‘โควดิ -๑๙’. (๒๕๖๔). [ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก www.bangkokbiznews.com.

เข้าถึงเม่ือวนั ที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔.

บทความเรื่องน้เี ป็นส่วนหน่งึ ของการแขง่ ขันพูดโนม้ นา้ วใจ ในวันภาษาไทยรำลกึ ประจำปี ๒๕๖๓

วรรณสารฉบับท่ี ๖๖ หน้า ๙

เปล่ยี นวถิ ใี หม่ป้องกนั ภยั จากโควิด-๑๙ / มมุ มอง
ของบคุ ลากรทางการแพทย์ในช่วงวกิ ฤตโควิด-๑๙ /
ทนั ตสาธารณสขุ กบั การแพร่ระบาดของโรคโควดิ -๑๙

บทความสัมภาษณพ์ ิเศษ

เปลีย่ นวิถใี หมป่ ้องกันภยั จากโควดิ -๑๙ อาทติ ย์ นวลสมศรี

นางสาวพรทพิ ย์ ศรีเทพ
ผู้ชว่ ยแพทย์แผนก ER

สถานการณ์ในประเทศไทยขณะนี้ เป็นช่วงที่เชื้อไวรัส โควิด-๑๙ กำลังแพร่ระบาดอย่างรุนแรง โดยพบ
ผู้ติดเชื้อมากถึงวนั ละประมาณ ๑๐,๐๐๐-๒๐,๐๐๐ คนต่อวัน ซึ่งเรียกว่าเป็นช่วงที่หนกั ที่สดุ ตั้งแต่โรครา้ ยชนิดน้ี
ได้เขา้ มาแพรร่ ะบาดในประเทศไทย ในขณะที่เราตา่ งคอยลุ้น คอยให้กำลังใจผู้ป่วยและครอบครัวอยู่น้ัน กลุ่มคน
ที่กำลังแบกรับหน้าที่อย่างหนัก คือ แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ จะทำอย่างไรดีหากต้องการแบ่งเบาภาระ
ของฮีโร่เหล่านี้ หนทางหนึ่งที่เราทุกคนจะช่วยพวกเขาได้ คือ การป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อ ส่วนจะทำอย่างไร
น้ัน…วันนี้ผเู้ ขียนมคี ำแนะนำจากพเ่ี จา้ หนา้ ทมี่ านำเสนอ

วรรณสารฉบับท่ี ๖๖ หนา้ ๑๐

เทคนิคงา่ ย ๆ สำหรบั การปฏบิ ัตติ วั ของนักศึกษาในยคุ โควิด-๑๙
เทคนคิ งา่ ย ๆ สำหรับการปฏบิ ตั ติ วั ในยุคโควดิ -๑๙ ซง่ึ แตล่ ะวธิ ลี ว้ นมคี วามสำคญั ไมค่ วรละเลย เร่ิมจาก

การสวมหน้ากากอนามัยซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่ควรปฏิบัติให้เป็นนิสัยในช่วงโควิด-๑๙ หรือการเว้นระยะห่างจากคน
รอบข้าง ก็นับเป็นการปฏิบัติตัวที่มีความสำคัญเพราะการเว้นระยะห่างถือว่าเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันการติดเช้ือ
โควิด-๑๙ ได้ หรือการล้างมือด้วยน้ำสบู่หรือการใช้เจลแอลกอฮอล์ก็เป็นอีกหนึ่งข้อปฏิบัติที่ควรทำให้สม่ำเสมอ
เพราะจะช่วยป้องกันเชื้อโรคที่มาจากมือของเรา และยังช่วยในเรื่องของความสะอาดในการจับต้องสิ่งของด้วย
และอีกขอ้ ที่พึงปฏิบัติให้เป็นนิสัย คือ ไม่ใช้ส่ิงของร่วมกับคนอ่ืน เพราะการใชส้ ง่ิ ของร่วมกันเปน็ พฤติกรรมท่ีเส่ียง
ตอ่ การตดิ เชือ้ โรคและทำใหเ้ กิดการติดเช้ือโควดิ -๑๙ ได้งา่ ย

ข้อปฏิบตั ิในการสวมและถอดหนา้ กากอนามัยให้ปลอดภยั มากที่สุด
ก่อนอื่นเลยควรเลือกหนา้ กากที่ใสแ่ ลว้ กระชบั ใบหน้า ครอบได้ทง้ั ปากและจมูก กอ่ นจบั หน้ากากควรล้าง

มือให้สะอาดเพ่ือจะช่วยฆ่าเช้ือโรคทตี่ ิดมากับมอื หลงั จากนน้ั ขนั้ ตอนในการใสห่ นา้ กาก คือ ควรหันด้านท่ีมีสีเข้ม
ออกด้านนอก และดา้ นทีม่ ีสขี าวเข้าด้านใน ข้อปฏบิ ตั ใิ นสว่ นน้ีจะช่วยในการสวมใสห่ น้ากากท่ีถูกวิธี และเป็นวิธีที่
ช่วยป้องกันไม่ให้ติดเชื้อโรค สำหรับวิธีใส่ คือ ควรจับที่สายทั้งสองขา้ งคล้องหู เพราะการจับที่สายทั้งสองข้างจะ
เป็นวิธีที่ช่วยให้หน้ากากอนามัยยังคงสะอาดมากกวา่ การจับตรงตัวหน้ากากอนามัยโดยตรง หลังจากนั้นกดแกน
โลหะด้านบนให้แนบกับจมูกและใบหน้า เพื่อช่วยให้หน้ากากอนามัยอยู่ในทรงที่พอดีกับจมูก ไม่รัดจมูกมาก
เกนิ ไป และขนั้ ตอนสดุ ทา้ ย คอื ควรดงึ หนา้ กากดา้ นล่างใหถ้ งึ คาง เพื่อช่วยให้ปิดจมกู และปากได้อย่างมิดชดิ

ในขณะเดยี วกนั การถอดหน้ากากอนามยั เก็บ กค็ วรใชม้ ือสะอาดดึงสายหนา้ กากอนามยั ออกพร้อมกันใน
แนวตรง และควรพับหนา้ กากโดยใหส้ ่วนทีส่ มั ผสั ใบหน้าอยู่ด้านใน หลงั จากนั้นควรท่จี ะพับหนา้ กากอนามัยใส่ถุง
ผ้าหรือถุงซิปล็อค เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก ข้อปฏิบัติในการสวมและถอดหน้ากากอนามัยนี้ เป็นข้อปฏิบัติที่ถือว่า
เป็นสิ่งท่ีช่วยให้เราทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีและสามารถป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ

วรรณสารฉบบั ท่ี ๖๖ หนา้ ๑๑

ความสำคญั ของการใช้เจลล้างมือ
ในยุคปัจจุบันการใช้เจลล้างมือนับเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการใช้ชีวิตประจำวันของเรามีโอกาสสูงท่ี

อาจจะสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ รอบตัว ซึ่งบางสิ่งที่เราไปสัมผัส เราไม่รู้เลยว่าสิ่งของเหล่านั้นมีเชื้อโรคมากน้อยแค่
ไหน เพราะฉะนัน้ การใชเ้ จลลา้ งมือทำความสะอาดจึงมคี วามสำคัญต่อการใช้ชวี ิตประจำวัน ซึง่ การใชเ้ จลลา้ งมือก็
ควรจะมีข้นั ตอนในการใช้และควรคำนงึ ถงึ ความปลอดภยั ในการใช้ และในการพกพาเจลล้างมือเราก็สามารถท่ีจะ
พกไปได้ทกุ ที่ ทกุ เวลา หรือหากเราไมไ่ ด้พกเจลล้างมือไปดว้ ย ก็สามารถใชส้ บูห่ รอื น้ำล้างมือแทนก็ได้

ผลกระทบของโควดิ -๑๙ ตอ่ การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์
ในสถานการณ์โควิด-๑๙ การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์มีความยากลำบากกว่าปกติ อีกทั้งยัง

ขาดแคลนอุปกรณ์ในการทำงานบางส่วน และยังส่งผลต่อการดำรงชีวิตประจำวันอีกด้วย ในความเห็นของ
บุคลากรทางการแพทย์คิดว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมีทั้งผลดีและผลเสีย การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เราเรียนรู้
วิธีการใช้ชีวิตในภาวะวิกฤต และเรียนรู้วิธีการป้องกันตัวเองจากเชื้อโรค การดำรงชีวิตเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
แตใ่ นขณะเดียวกนั สถานการณ์โควิด-๑๙ ก็ทำใหเ้ ศรษฐกิจย่ำแยล่ ง ประชาชนก็ตกงานมากขึน้ กวา่ เดมิ

ผใู้ ห้สมั ภาษณ์ : นางสาวพรทิพย์ ศรเี ทพ
ผู้สัมภาษณ์ : นายอาทติ ย์ นวลสมศรี

วรรณสารฉบับท่ี ๖๖ หนา้ ๑๒

มมุ มองของบคุ ลากรทางการแพทย์ อภสิ รา คงแกว้
ในชว่ งวกิ ฤตโควดิ -๑๙

นางสาววาทินี ศรบี วรววิ ัฒน์
เจ้าหนา้ ท่พี ยาบาลโรงพยาบาลกันตัง

เชื้อไวรัสโคโรนาหรือที่เราเรียกกันทั่วไปว่า โรคโควิด-๑๙ นั้นเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดจากเช้ือ
ไวรัสโคโรนาซาร์สโควี-๒ ที่มีการแพร่เชื้อจากคนสู่คน โดยแพร่เชื้อจากละอองฝอยที่มาจากการไอหรือจาม
และการสมั ผสั ซ่ึงเหน็ ไดว้ ่าไวรัสชนดิ น้ีมอี ยูใ่ นชวี ิตประจำวนั และอยูใ่ กลต้ ัวเราเปน็ อยา่ งมาก

บุคคลด่านหน้าที่มีบทบาทในช่วงสถานการณ์โควิด-๑๙ นอกจากผู้ที่ติดเชื้อหรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง
กับโรคแล้ว ยังมบี คุ คลอีกกลุม่ หน่ึงที่อยใู่ นกลมุ่ เสี่ยงไมย่ ิง่ หย่อนไปกว่ากัน นน่ั คือ บคุ ลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าเป็น
หมอ พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ล้วนเป็นบุคคลด่านหน้าที่จัดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเช่นกัน เนื่องจากต้อง
สมั ผัสโดยตรงกบั ผูท้ ่ีติดเช้ือหรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเส่ียง วรรณสารฉบบั นี้จึงมบี ทสมั ภาษณ์ นางสาววาทินี ศรีบวรวิวัฒน์
บุคลากรทางการแพทย์ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่พยาบาลประจำโรงพยาบาลกันตัง จังหวัดตรัง เกี่ยวกับมุมมองหรือ
วธิ ีการปฏิบตั ติ นในช่วงสถานการณ์โควดิ -๑๙

มคี วามเห็นอย่างไรกบั สถานการณโ์ ควิด-๑๙ ทกี่ ำลังแพรร่ ะบาดอยใู่ นตอนนี้
ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลถือได้ว่าเป็นสิ่งที่หนักและเสี่ยงมาก ๆ เนื่องจากไม่คิดว่า

สถานการณ์จะยืดเยื้อกินระยะเวลายาวนานขนาดนี้ ซึ่งนับวันยิ่งแย่ลง เจ้าหน้าที่จึงต้องรับมือกับการทำงานกัน
อย่างหนกั และไมม่ ีวนั หยุด และทสี่ ำคัญเจ้าหนา้ ทีถ่ ือว่าเป็นบุคลากรด่านหนา้ ที่ต้องพบเจอกับผู้ปว่ ยและสัมผัสกับ
เชือ้ โดยตรง จนทำให้เขา้ ใจและมีประสบการณ์ตรงกับสถานการณท์ เ่ี กดิ ข้นึ

วรรณสารฉบบั ท่ี ๖๖ หนา้ ๑๓

หน้ากากอนามัยชว่ ยป้องกนั เช้ือโควดิ -๑๙ ได้ ๑๐๐% หรือไม่
ไวรัสโคโรนาเป็นกลุ่มเชื้อหวัดสายพันธุ์ใหม่ที่ยากจะคาดเดากับอาการได้ จึงทำให้มีอัตราการเสียชีวิต

เพิ่มขึ้น ซึ่งการติดต่อของโรคนั้นเหมือนกับการเป็นโรคไข้หวัดทั่วไป คือ มีการติดต่อผ่านลมหายใจ และติดต่อ
จากการสัมผัส ด้วยโรคนี้ติดต่อผ่านทางลมหายใจ หน้ากากอนามัยจึงสำคัญเพราะสามารถป้องกันการติดเช้ือได้
ในระดับหนึ่ง ดังนั้น จึงควรใช้หน้ากากอนามัยร่วมกับวิธีอื่น ๆ เช่น ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และสิ่งสำคัญ
ท่สี ดุ คอื การสรา้ งจติ สำนกึ ร่วมกันในสังคม รว่ มกนั รับผิดชอบต่อสงั คม ไมแ่ พรเ่ ช้อื ใหค้ นในสงั คม

วธิ กี ารรกั ษาโรคโควดิ -๑๙ ตา่ งจากโรคไขห้ วดั อื่น ๆ หรอื ไม่
แม้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ๒๐๑๙ จะเป็นเชื้อในกลุ่มไข้หวัด แต่ไม่ใช่ไข้หวัดธรรมดาเนื่องจาก

เป็นสายพันธ์ุใหม่ มีอาการที่รุนแรงมากกว่าไข้หวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อไวรัสจะทำใหป้ อดอักเสบ ดังนั้น กลุ่ม
เสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว และเด็กทารก รวมถึงเด็กที่อายุไม่ถึง ๓ ขวบ ถ้าได้รับเชื้ออาจมีอาการ
รนุ แรงถงึ ขั้นเสียชีวิตได้

โรคโควิด-๑๙ รักษาหายได้จริงหรือไม่
การติดเชื้อไวรัสโคโรนาสามารถรักษาหายได้ ยาที่ใช้ในตอนนี้ยังไม่มีตัวยาที่คิดค้นมาเพื่อรักษาโรคนี้

โดยตรง การรักษาจึงเป็นการรกั ษาแบบประคับประคองตามอาการ โดยอาการของแต่ละคนอาจแตกต่างกนั บาง
คนรุนแรงไม่มาก ลักษณะอาการคล้ายกับไข้หวัดทั่วไป แต่บางคนรุนแรงมากทำให้เกิดปอดอักเสบได้ จึงต้อง
สงั เกตอาการอยา่ งใกลช้ ดิ ร่วมกบั การรักษาด้วยยา ซึง่ ยาทใี่ ชใ้ นตอนนีย้ ังอยใู่ นช่วงทดลอง ดังนัน้ ยาท่ีใช้รักษาจึง
เปน็ ยาชนดิ เดียวกนั กับไวรสั อื่น ๆ เช่น เอดส์ ไขห้ วัดใหญ่ เป็นตน้

มวี ิธกี ารปฏบิ ตั ติ วั และการป้องกนั ตนเองอยา่ งไรกับสถานการณใ์ นตอนนี้
การปฏบิ ตั ิตนท่ีดีทสี่ ุดในสถานการณ์คับขันแบบน้ี แนะนำวา่ ให้อยู่บ้าน พยายามไม่ออกไปยังสถานท่ีที่มี

คนพลุกพล่าน เพราะอาจมโี อกาสเสย่ี งต่อการได้รบั เชื้อ ที่สำคัญต้องหม่นั สังเกตอาการตวั เอง หากมีอาการคล้าย
กับไข้หวัด ก็ควรจะตรวจหาเชื้อ และปฏิบัติตามวิธีที่แพทย์แนะนำ ถ้าปฏิบัติได้อย่างที่กล่าวมาข้างต้น เชื่อว่า
ทกุ คนสามารถผา่ นวิกฤตน้ีไปได้

ผู้ให้สัมภาษณ์ : นางสาววาทินี ศรีบวรวิวัฒน์
ผ้สู ัมภาษณ์ : นางสาวอภิสรา คงแกว้

วรรณสารฉบับท่ี ๖๖ หน้า ๑๔

ทันตสาธารณสขุ อาทติ ยา กาหรีมการ
กบั การแพร่ระบาดของโรคโควดิ -๑๙

นางธดิ ารตั น์ โอมณี
เจา้ พนกั งานทนั ตสาธารณสขุ ปฏิบตั ิงาน
โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตำบลเกาะแกว้

ขณะนี้ในประเทศไทยมียอดผู้ติดเชื้อโรคโควิด-๑๙ เพิ่มสูงขึ้น นั่นหมายความว่าทุกที่ที่เราไปมีความเสี่ยงสูง
และอาจมผี ู้ติดเช้ือทยี่ ังไมแ่ สดงอาการแฝงอยู่ เพราะฉะน้นั ภาครฐั จึงได้มีมาตรการควบคุมโรคติดต่อที่บังคับใช้ให้
ประชาชนปฏิบัติตนตามหลักการควบคุม แต่ทุกคนเคยสงสัยกันหรือไม่ว่าทันตแพทย์ ผู้ที่มีหน้าที่ดูแลช่องปาก
ของประชาชน พวกเขามีมาตรการในปฏบิ ตั ิตนอยา่ งไร วรรณสารฉบบั น้มี คี ำตอบคะ่

มีความกังวลในการปฏิบัติหน้าท่ีบา้ งหรือไม่
ไม่กังวลค่ะ เพราะทางเราให้บริการตามแนวทางบริการทางทันตกรรมวิถีใหม่ นั่นก็คือ การรักษาแบบ

NEW NORMAL DENTAL SERVICES และคำนึงถงึ ความปลอดภยั ของผู้ป่วยเปน็ สำคัญ

มีการปรับเปลยี่ นวธิ กี ารตรวจอย่างไรให้เขา้ กับสถานการณ์
สำหรบั วธิ ีการแก้ปัญหาโดยปรับเปล่ยี นการให้บรกิ ารทันตกรรมตามแนวทางบริการทนั ตกรรมวิถใี หม่

มวี ิธกี ารดงั นี้
๑. ให้บรกิ ารผูป้ ่วยภาวะฉกุ เฉนิ (EMERGENCY) ในกรณที ผ่ี ู้ปว่ ยมภี าวะเลอื ดออกทคี่ วบคุมไมไ่ ด้

การอักเสบติดเชื้อที่ก่อให้เกิดการบวมของเนื้อเยื้ออ่อนทั้งในหรือนอกช่องปาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต
และการได้รับอบุ ตั ิเหตุกระแทกบรเิ วณใบหน้าที่มคี วามเสี่ยงตอ่ การขัดขวางการหายใจ

วรรณสารฉบับที่ ๖๖ หนา้ ๑๕

๒. ภาวะเร่งด่วน (UREGENCY) ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการ ปวดฟันจากการอักเสบของเนื้อเยื่อในโพรง
ประสาทฟันและเนื้อเยื่อรอบปลายรากฟัน ภาวะกระดูกเบ้าฟันอักเสบหลังการถอนฟัน มีเลือดออกในช่องปาก
อย่างต่อเนื่อง ปวดหรือเสียวอย่างรุนแรงจากเหงือก หรือฟัน อาการปวด ส่งผลให้ไม่สามาร ถเคี้ยวอาหารได้
อาการอ้าปากไม่ขึ้น หรือหุบไม่ลง เนื้อเยื้ออ่อนในช่องปากบวมโตอย่างเร็ว อาจมีอาการปวด หรือมีไข้ร่วมด้วย
เคร่ืองมอื ทันตกรรมคมก็อาจทำให้เกิดแผลในช่องปาก ครอบฟันหนา้ หลุด หรือฟันหนา้ แตก ทำให้มีปัญหาในการ
เข้าสังคม ฟันหลุดออกจากเบ้า หรือฟันเคลื่อนจากตำแหน่งเดิมเนื่องด้วยอุบัติเหตุ ซึ่งการที่จะเตรียมรักษาช่อง
ปากกอ่ นทำการรกั ษาอน่ื ๆ ท่เี ร่งดว่ น เช่น การฉายรังสี การผา่ ตดั เปน็ ต้น

๓. ภาวะไมเ่ ร่งดว่ น (ELECITIVE CASE) ท่ีมกี ารนดั รักษาอย่างต่อเนือ่ ง

ผู้ใช้บรกิ ารมปี ญั หาในการมาพบแพทย์บ้างหรอื ไม่
ผู้รับบริการที่ไม่สะดวกมาที่สถานพยาบาล สามารถโทรศัพท์เลื่อนนัด หรือนัดก่อนล่วงหน้าก่อนเข้าพบ

หมอได้ หรือสามารถติดต่อสื่อสารทางแอพพลิเคชัน คือ FACEBOOK, LINE เพื่อความสะดวกรวดเร็วใน
การตดิ ต่อ

มกี ารปฏเิ สธผู้รบั บรกิ ารหรือไม่ ในชว่ งสถานการณ์โควิด-๑๙
ไม่มคี ่ะ ใน case ผู้รับบรกิ ารท่ีเข้ามาจะมกี ารตรวจและวางแผนการรกั ษาทุก case ถา้ หาก case ผู้ป่วย

ที่มีความซับซ้อนจะมีการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลท่ีมีทนั ตแพทย์เฉพาะทาง

ในทุก ๆ ปัญหาย่อมมีทางแก้ไขเสมอ แม้ในช่วงวกิ ฤตที่ร้ายแรงท่ีสุด ทุกคนยังต้องต่อสู้ดิ้นรน แก้ปัญหา
เพื่อทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด บนโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน คนที่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ คือคนที่สามารถ
ปรับตัวให้เขา้ กับทกุ ๆ สถานการณไ์ ด้ และในสถานการณแ์ บบนี้ไมว่ ่าจะประกอบอาชีพอะไร ต่างก็ต้องปฏิบัติตน
ตามมาตรการควบคมุ โรค และตอ้ งรบั ผิดชอบตอ่ สังคม

วรรณสารฉบบั ท่ี ๖๖ ผ้ใู ห้สมั ภาษณ์ : นางธิดารัตน์ โอมณี
ผสู้ มั ภาษณ์ : นางสาวอาทิตยา กาหรมี การ

หนา้ ๑๖

ปญั หาการใชค้ ำลงทา้ ย งา่ ยนดิ เดียว / คิด...เขยี น
สะกดคำให้ถกู ต้อง

ไขภาษา
กบั ไทยศลิ ปศาสตร์

ปัญหาการใช้คำลงทา้ ย ง่ายนิดเดียว วัฒนชัย ดำเดช

การสื่อสารกับมนุษย์ถือเป็นภาวะปกติที่ต้องคู่กัน เพราะการสื่อสารทำให้มนุษย์เข้าใจความรู้สึกนึกคิด
ของกันและกันได้ ปัจจุบันการสื่อสารมีหลากหลายรูปแบบทั้งการพูดปากต่อปาก การส่งข้อความ การใช้
แอพพลิเคชัน และอีกหลากหลายวิธี แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน เกิดการแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโควิด-๑๙ ขึ้น
การสื่อสารแบบการพูดปากต่อปากจึงเป็นวิธีที่ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากทุกคนต้องมีระยะห่างทางสังคมเพื่อให้
ตัวเอง และคนรอบข้างปลอดภัย ผู้คนสมัยใหม่จึงหยิบยกการสื่อสารแบบการพิมพ์ข้อความผ่านระบบออนไล น์
มาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เมื่อมีการสื่อสารแบบนี้เกิดขึ้น จะเห็นได้ว่าคนบางกลุ่มมีการใช้ภาษาไปในทางที่ผิด
เนื่องจากความเคยชิน หรือการไม่เอาใจใส่กับตัวอักษรท่ีได้เขียนลงไป ทำให้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนไปตาม ๆ
กนั โดยเฉพาะทีส่ ามารถพบเหน็ ได้ บอ่ ย ๆ น่ันกค็ อื การใชค้ ำลงท้าย คะ คะ่ ละ ล่ะ จ๊ะ จา้ และอกี หลาย ๆ คำ

ผู้เขียนจึงเห็นความสำคัญที่จะนำเรื่องราว และคำลงท้ายเหล่านี้มานำเสนอแก่ผู้อ่าน เพื่อประโยชน์ใน
การใชภ้ าษาต่อไป

คำลงท้าย เป็นจำพวกคำที่คนมักใช้ผิดกันบ่อย ๆ โดยพบเห็นได้จากแอพพลิเคชันต่าง ๆ เนื่องจากคำ
เหล่านี้มีวิธีการเขียนที่คล้ายคลึงกัน บวกกับภาษาไทยเป็นภาษาที่มีเสียงวรรณยุกต์ หากใช้เสียงวรรณยุกต์ผิด
ความหมายก็อาจเปลี่ยนไป เช่น คำว่า “คะ” ที่ใช้ในการลงท้ายประโยคคำถาม กับคำว่า “ค่ะ” ที่ใช้ในประโยค
บอกเล่า การตอบรับ หรอื การตอบคำถาม สงิ่ เหล่านเี้ ปน็ สิง่ เล็ก ๆ ทีค่ นบางส่วนมองขา้ มความสำคัญ จนลืมไปว่า
ตัวเองกำลังทำลายภาษาที่กำลังใช้อยู่ ผู้เขียนจึงนำคำลงท้ายที่ใช้ผิดและพบเห็นในชีวิตประจำวันมาให้เห็นเป็น
ตัวอย่าง

วรรณสารฉบบั ที่ ๖๖ หน้า ๑๗

๑. คะ ค่ะ นะคะ ค่ะ นะคะ

คะ ใช้ลงท้ายประโยคทเี่ ปน็ ประโยค ใช้ในประโยคบอกเล่า หรอื
บอกเลา่ หรอื ตอบรบั ตอบคำถาม การตอบรบั – ตอบคำถาม เช่น
ใชล้ งทา้ ยประโยคที่เปน็ ประโยค รวมถึงการทักทายท่เี ราใช้กัน ขอตัวลาไปก่อนนะคะ
คำถาม หรือ เรยี กด้วยความ ทกุ วนั เชน่ สวัสดีคะ่ ทราบแลว้ สบายดนี ะคะ เปน็ ต้น
สภุ าพ เชน่ แม่คะ ทำอะไรอยู่คะ ค่ะ ได้คะ่ ตกลงค่ะ เปน็ ต้น
ดหู นงั สนกุ ไหมคะ

๒. จะ๊ จะ้ นะจ๊ะ จ้ะ นะจ๊ะ

จ๊ะ เป็นการตอบรบั บอกเลา่ หรอื ใชเ้ พอื่ ถาม บอกเลา่ หรอื

เปน็ การเรียกช่ือ หรือ ใช้ถาม ตอบคำถาม เช่น ทำการบา้ นเสรจ็ ตอบคำถาม เช่น อะไรนะจะ๊
เชน่ คณุ นอ้ งจ๊ะ ตัวเองจ๊ะ
อาหารอร่อยรึปา่ วจ๊ะ แลว้ จะ้ ยินดีดว้ ยจะ้ เพลงเพราะ แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ
ไปเทย่ี วมาสนกุ มย้ั จะ๊ เป็นตน้
มากจะ้ เป็นต้น ชดุ คุณผู้หญิงสวยจังเลยนะจะ๊

เปน็ ตน้

๓. วะ ว่ะ

วะ วะ่

ใช้เพ่ือถาม เชน่ เปน็ ไงบ้างวะ เมอ่ื ยปา่ ววะ เปน็ การใช้เพ่ือตอบคำถาม หรือ บอกเล่า เช่น
นา่ รกั ปา่ ววะ สนกุ ปา่ วะ เป็นตน้ ไม่ร้วู ะ่ ใชว่ ่ะ ฝนตกหนักวะ่ ข้อสอบยากมากเลยว่ะ
เป็นตน้

๔. ยะ ย่ะ ยะ่
ยะ
ใชเ้ พอ่ื ตอบคำถาม หรือ บอกเลา่ เชน่ ใชแ่ ลว้ ย่ะ
ใชเ้ พอ่ื ถาม เชน่ คิดวา่ ตัวเองดีมากหรือยะ สวยมากย่ะ นางแบบคนนนั้ หน้าเกม๋ ากเลยยะ่
คิดว่าสวยมากหรอื ยะ เป็นต้น เปน็ ต้น

วรรณสารฉบับที่ ๖๖ หนา้ ๑๘

๕. ละ ล่ะ ละ่
ละ
ใช้เพอ่ื บอกเล่า และถาม เช่น ดอกไมส้ วยมากเลยละ่
ใชเ้ พือ่ บอกเล่า และ คำถาม ไม่ไปละ โอเคละ ไปไหนล่ะ โรงเรียนอยไู่ กลม้ัยล่ะ เป็นตน้
กโี่ มงละ ถึงไหนละ เปน็ ต้น

๖. ปะ ป้ะ ป้ะ
ปะ
ใชใ้ นรูปประโยคคำถาม เช่น ขอ้ สอบยากป้ะ
ใชใ้ นรูปประโยคคำถาม เรียนยากปะ สบายปะ ทำได้ป้ะ ตกุ๊ ตาตัวใหญ่ปะ้ หนังผนี า่ กลวั ป้ะ
เหนื่อยปะ อร่อยปะ เป็นต้น เป็นตน้

๗. มงั่ ม้งั มงั้
มง่ั
เป็นภาษาปาก ทสี่ ื่อถึงความไม่แน่ใจ เช่น
เป็นคำวเิ ศษณ์ท่ีเปน็ ภาษาปาก ท่แี ปลวา่ บา้ ง เช่น ไมเ่ ปน็ ไรมั้ง ไมไ่ หวหรอกม้งั หลอ่ นสวยมากมง้ั
ขอมั่ง กนิ มั่งสิ เปน็ ตน้ ไมไ่ กลม้งั เปน็ ตน้

ดังนั้น ผู้เขียนจึงควรให้ความสำคัญกับการเขียนคำเหล่านี้ เนื่องจากแต่ละคำมีการใช้ที่แตกต่างกัน หาก
เขยี นผิดไปอาจทำให้การสื่อสารไมส่ มบูรณ์แบบ และเพอื่ ผลลัพธ์ในการสื่อสารท่ีดจี งึ ควรมีสติในการใช้คำให้มาก ๆ
หากตง้ั ใจดู ต้งั ใจออกเสยี ง ก็จะแยกแยะคำเหล่านี้ได้ และนำไปใช้ไดอ้ ย่างถกู ต้อง

อา้ งอิง
การใช้คำลงทา้ ย. (๒๕๖๔). [ออนไลน์], เขา้ ถึงไดจ้ าก www.sanook.com. เขา้ ถึงเมอ่ื วนั ท่ี ๑๖ มถิ ุนายน ๒๕๖๔.
รู้หรือไม่คำไทยทีใ่ ช่ผิด. (๒๕๖๔). [ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก www.tunwalai.com. เข้าถึงเมื่อวันท่ี ๑๖ มิถุนายน

๒๕๖๔.

วรรณสารฉบับท่ี ๖๖ หนา้ ๑๙

คิด...เขยี นสะกดคำให้ถกู ต้อง

พรศริ ิ เกษีสม

การเขยี นคำผิดทพ่ี บเห็นบ่อย ๆ นน้ั ส่วนใหญ่เป็นคำเดิม ๆ แต่ทว่าเหตุใดจงึ มีผู้นำมาใช้ผดิ ถึงแม้ว่าจะมี
เว็บไซต์ และใบปลวิ ต่าง ๆ ที่ใหค้ วามรู้เกีย่ วกับคำเหล่านี้ แต่ก็ยังมคี นเขยี นผดิ หรอื อาจเป็นเพราะความไม่เอาใจ
ใส่ เพิกเฉย และคิดว่าเป็นเรื่องปกติท่ีทุกคนสามารถผิดพลาดกันได้ แต่หากใช้ผิดกันบ่อย ๆ ก็ก่อให้เกิดความ
เคยชิน และหากยงั คงใชผ้ ิดแบบน้ีตอ่ ไปก็จะไมร่ ูว้ ่าศัพท์ทถี่ ูกต้องแทจ้ ริงนั้นเปน็ อยา่ งไร วรรณสารฉบบั น้ีผู้เขยี นจึง
หยบิ ยกตัวอยา่ งคำบางคำที่เขียนผิดซึ่งพบเหน็ ในสถานที่ต่าง ๆ

คำผิด คำถูก
นำ้ แข็งใส นำ้ แข็งไส

คำผดิ คำถกู
สติก๊ เกอร์ สติกเกอร์

คำผดิ คำถกู
อพารต์ เม้นท์ อพาร์ตเมนต์

วรรณสารฉบับท่ี ๖๖ หนา้ ๒๐

คำผิด คำถูก
อนิ เตอรเ์ น็ต อนิ เทอรเ์ น็ต

คำผดิ คำถกู
กระเพรา กะเพรา

คำผดิ คำถกู
สับประรด สับปะรด

คำผดิ คำถูก
บวิ ต้ี บวิ ตี

วรรณสารฉบบั ที่ ๖๖ หนา้ ๒๑

คำผิด คำถูก
กาฬสนิ ธ์ กาฬสนิ ธุ์

คำผดิ คำถกู
ทาน์ว ทาวน์

คำผดิ คำถกู
ไอศครมี ไอศกรีม

คำผิด คำถกู หนา้ ๒๒
นะค่ะ นะคะ

วรรณสารฉบบั ท่ี ๖๖

คำผิด คำถูก
ล็อตเตอร่ี ลอตเตอร่ี

คำผดิ คำถกู
เตน้ ท์ เตน็ ท์

คำผิด คำถกู
ขนมเค๊ก ขนมเค้ก

คำผดิ คำถกู
อเิ ลคทรอนิคส์ อิเล็กทรอนิกส์

วรรณสารฉบบั ท่ี ๖๖ หนา้ ๒๓

จะเหน็ ไดว้ ่าคำเหล่านเี้ ปน็ คำทเ่ี ราใช้บอ่ ย และเห็นวา่ มกี ารใช้ผดิ บ่อยดว้ ยเช่นกัน ดงั น้ัน ทกุ ๆ คนควรให้
ความสำคญั กับการเขียน หากเขียนผดิ กค็ วรแกไ้ ข เพื่อไมใ่ ห้เกิดเปน็ ความเคยชิน

อ้างอิง
ราชบณั ฑิตยสถาน. (๒๕๕๖). พจนานุกรมฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ.๒๕๕๔. กรุงเทพฯ : นามมบี คุ๊ ส์

พับบลิเคชัน.
ระบบฐานข้อมลู คำทบั ศพั ท์ของสำนกั งานราชบณั ฑิตยสภา. (๒๕๖๔). [ออนไลน์], เข้าถึงไดจ้ าก

https://transliteration.orst.go.th. เข้าถงึ เม่อื วนั ที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๔.

วรรณสารฉบับที่ ๖๖ หน้า ๒๔

พลาด / เก่งจรงิ ต้องไมโ่ กง

กด Like วรรณกรรม

พลาด วฒั นชยั ดำเดช

“หลงไฟ” เป็นนวนิยายที่ประพันธ์โดยกฤษณา อโศกสิน นามปากกาของ สุกัญญา ชลศึกษ์ เป็น
นกั เขียน นวนิยายท่ีประสบความสำเร็จ จนได้รบั การประกาศยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี พ.ศ.
๒๕๓๑ และได้รับรางวัลตามมามากมาย จนเมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๒ ท่านได้รับรางวัล “นักเขียนอมตะ” เพราะด้วย
ระยะเวลาในการทำงานของท่านที่ได้สร้างผลงานที่น่าสนใจ และเป็นที่นิยมกว่า ๒๐๐ เรื่อง อาทิ กระเช้าสีดา,
น้ำเซาะทราย, เนือ้ ใน, หนงึ่ ฟา้ ดินเดยี ว, ขุนหอคำ, เวยี งแว่นฟ้า, เนอ้ื นาง รวมไปถงึ นวนยิ ายเรื่องหลงไฟด้วย หลง
ไฟเปน็ นวนิยายท่ไี ดร้ บั การตอบรับดีมาก จนไดน้ ำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ และเข้าฉายในปี พ.ศ.๒๕๓๓ ต่อมาเม่ือ
ปี พ.ศ.๒๕๔๔ ได้นำมาเขียนเป็นบทละครโทรทัศน์แต่ไม่ได้เข้าฉาย และเมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๐ ที่ผ่านมานวนิยาย
หลงไฟกไ็ ดน้ ำกลบั มาสร้างเป็นละครข้ึนอีกครัง้ ออกอากาศทางช่อง GMM ๒๕ เป็นละครทไ่ี ดร้ บั การตอบรับจาก
คนดคู อ่ นข้างสงู

นวนิยายเรื่องนีส้ ะทอ้ นให้เหน็ ถงึ ความไม่พอใจในสิ่งที่ตนมี ทะเยอทะยาน มีความอยากได้ อยากมี และ
อยากเปน็ จนกระทง่ั ทำในสิง่ ที่ผิด ๆ เพอ่ื ให้ได้ในสิ่งท่ตี นเองต้องการ ถงึ แมจ้ ะรวู้ ่าเสน้ ทางท่ีตนกระทำอยู่น้ันไม่ใช่
เส้นทางที่ถูกต้อง จนกระทั่งมีเรื่องราวบานปลายเกิดขึ้นเป็นเหตุให้ชีวิตต้องพังพินาศด้วยน้ำมือของตัวเอง แม้
คนเราเลือกเกดิ ไม่ได้แตเ่ ราสามารถที่จะเลือกเดนิ ในเส้นทางที่ถกู ตอ้ งได้และถ้าเราเดนิ ไปในเส้นทางท่ีถูกต้อง ชีวิต
ของเราก็จะมีแตส่ ่ิงดี ๆ ตามมา

นอกจากนีน้ วนยิ ายเร่ือง หลงไฟ ยังสะท้อนให้เห็นถงึ สังคมที่มีการใช้ความรนุ แรงทางเพศ ความเหลื่อมล้ำ
ทางสังคม และการค้าประเวณี เหตุการณ์เหล่านีส้ มควรได้รับการแก้ไข ถึงแม้ว่าการค้าประเวณีจะเป็นอาชีพที่ผดิ
กฎหมาย แต่ควรมีหน่วยงานท่ใี หก้ ารช่วยเหลอื ในบางกรณี เช่น ในนวนยิ ายมีหญิงสาวหลายรายทีถ่ กู หลอก จึงต้อง
จำใจมาเป็นโสเภณี หญิงสาวหลายคนประกอบอาชีพนี้เพื่อความอยู่รอดของปากท้อง ซึ่งหากมีหน่วยงานบาง
หน่วยงานเข้ามาดแู ลชีวติ ของพวกเธอเหล่าน้ี อาจทำให้มีเส้นทางทดี่ ีกว่าเพอื่ นำไปสกู่ ารหลดุ พ้นจากการเป็นโสเภณี

วรรณสารฉบับท่ี ๖๖ หน้า ๒๕

๑. โครงเร่อื ง

นวนิยายเร่ืองหลงไฟ เป็นเรือ่ งราวของหญิงสาวทม่ี ีความทะเยอทะยานทำทุกสิ่งทุกอย่างเพ่ือให้ตนมีชีวิต
ที่สขุ สบายกว่าเกา่ เน่ืองจากครอบครวั มีฐานะยากจน เธออยากใช้ชีวิตแบบคนมีอนั จะกนิ จงึ ได้เลือกทางเดนิ ผดิ ๆ
ด้วยการไปเป็นสาว เอสคอร์ท เป็นเพื่อนเที่ยวชายหนุ่มชายแก่ที่กระเป๋าหนกั เพียงเพื่อให้ได้เงินมาสรา้ งความสุข
และให้ได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างว่าเป็นคนมีเงิน แต่เส้นทางชีวิตการเป็นสาวเอสคอร์ทของเธอไม่ได้จบ
เพียงแค่นั้น เกิดบานปลายเนื่องจากเส้นทางที่เธอเดินนั้นเป็นเส้นทางที่มีแต่คนเหยียบย่ำซ้ำเติม ดูหมิ่นเหยียด
หยามทำให้เธอตกระกำลำบาก และใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง เจ็บปวดทรมาน เพราะถูกหลอกไปขายบริการ จน
กลายเป็นโสเภณีไปในทสี่ ดุ

1.1 การเปดิ เรอ่ื ง
นวนยิ ายเร่ืองหลงไฟมีการเปิดเรื่องโดยมุ่งประเดน็ ไปยังตัวละครหลัก คือ กา้ นแก้ว ผูเ้ ขยี นต้องการสื่อให้
เห็นถึงอาชพี สาวเอสคอร์ท ซ่งึ เป็นอาชีพที่เธอต้องไปเปน็ เพ่ือนกนิ เพื่อนเทย่ี วของคนรวย ดังข้อความต่อไปน้ี

“ผู้หญิงผิวสีน้ำตาลอมแดงคนนั้นนอนเหยียดขาอย่างสบายอารมณ์บนเก้าอี้ผ้าใบ...แขนสองข้างยกข้ึน
ไขว้ไว้เหนือศีรษะ หล่อนสวมแว่นกันแดดอันใหญ่บดบังส่วนหนึ่งของดวงหน้า หากผมที่รวบขึ้นไปมุ่นลวก ๆ ไว้
กลางกระหม่อมก็เปิดหน้าผากเปิดคางเดน่ ชัด ให้ทะเลเขยี วอ่อนสดใสที่แลดเู หมือนหยกผืนกว้าง...ให้ดวงตะวันที่
กำลงั จะลับลา พรอ้ มทั้งใหห้ นุม่ วยั เลยสามสบิ ตรงหนา้ รู้แจ้งถงึ ความเกลย้ี งเกลาของสาวท่เี ขาเลือกมาเปน็ เพ่ือน”

(หนา้ ๔)

ข้อความข้างต้น ผู้เขียนต้องการสะท้อนให้เห็นว่าหญิงสาวที่มีรูปร่างสะสวย สะอาดตาเป็นที่หมายปอง
ของชายหนุ่ม ก้านแก้วหญิงสาวที่ถูกผู้ชายคนหนึ่งเลือกมานั้น เป็นหญิงสาวที่ได้รับงาน โดยทำหน้าที่เป็นแค่
เพือ่ นเทยี่ วเพือ่ นกนิ เพียงเพื่อสร้างความสนกุ สนาน ความรนื่ รมย์ให้แก่ผู้ชาย

1.2 การดำเนนิ เรือ่ ง
มีการดำเนินเรื่องตั้งแต่การเปิดเรื่องผ่านการเล่าเหตุการณ์โดยผ่านตัวละครที่ชื่อ ก้านแก้ว ซึ่งเป็นตัว
ละครหลักในเรื่อง “หลงไฟ” เธอเป็นหญิงสาวที่มีครอบครัวฐานะยากจน เธอเป็นนักศึกษาปริญญาตรีปีสุดท้าย
เธออยากให้คนรอบข้างของเธอมองว่ามีเงิน และเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต เธอจึงเลือกสมัครเป็นสาว
เอสคอร์ท บรกิ ารชายหนุ่มดว้ ยการเปน็ เพอ่ื นกินเพ่อื นเท่ยี วในสถานทตี่ า่ ง ๆ แม้วา่ เธอจะบริการชายหนุ่มเหลา่ น้ัน
เกินกว่าหน้าท่ีของเธอ แต่เธอก็ยังไม่ยอมรับว่าเป็นหญิงขายบริการ เนื่องจากชายหนุ่มที่มาติดพันเธอมีฐานะทำ
ให้เธอมองว่าเธอเหนือกว่าหญิงสาวโสเภณีคนอื่น ๆ ความทะเยอทะยานของเธอไม่สิ้นสุด เธอไม่พอใจกับสิ่งที่มี
จนในทสี่ ุดเรอ่ื งราวการใช้ชีวติ ของเธอพลกิ ผันโดนหลอกไปทำร้าย จนกลายเป็นโสเภณีในซ่องทไ่ี ม่มีทางออกมาได้
ในทสี่ ดุ

วรรณสารฉบบั ที่ ๖๖ หน้า ๒๖

1.3 การปิดเรอื่ ง
มีการปิดเรื่องแบบโศกนาฏกรรม เพราะก้านแก้วถูกหลอกให้ไปขายบริการทางเพศ เป็นโสเภณีที่เมือง
นอก ซ่องทเ่ี ธออยู่เป็นซอ่ งทีไ่ ม่มหี ญิงโสเภณคี นใดหนีออกมาได้ เธอพยายามหนีออกมาหลายคร้ังแต่ก็โดนทำร้าย
เธอเจ็บปวดทรมานทั้งกายและใจ ทุกข์ทรมานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชะตาชีวิตของตัวเองที่กำลังเผชิญอยู่
สุดทา้ ยเธอเสยี สตจิ ากเรือ่ งรุมเร้า และกลายเปน็ คนบา้ ในท่ีสดุ

๒. ตัวละคร

นวนยิ ายเร่อื งหลงไฟ มตี วั ละครทสี่ ำคัญหลายตวั ตัวละครแตล่ ะตัวมคี วามแตกตา่ งกัน ท้ังบคุ ลกิ ภาพ และ
นสิ ัยใจคอ ทำใหน้ วนยิ ายเรือ่ งน้เี ป็นทส่ี นใจ ชวนให้ผอู้ ่านตดิ ตาม ตวั ละครทีส่ ำคญั เชน่

๒.๑ กา้ นแกว้
ก้านแก้วเกิดในครอบครัวทีย่ ากจน เธอเป็นคนท่ีมรี ูปร่างหน้าตาสวย และเก่ง แต่ด้วยความยากจนท่เี ธอ
ต้องพบเจอตั้งแต่เด็กเป็นปมที่ทำให้เธอพยายามลบล้างสิ่งเหล่านั้นออกจากชีวิตของเธอให้ได้ ก้านแก้วเป็นตัว
ละครหลักในเรื่อง มีบทบาทสำคัญในการดำเนินเรื่อง ผ่านการนำเสนอชีวิตที่ต้องพบเจอกับความผิดพลาดของ
เธอ ทำให้เรื่องราวมคี วามสนกุ ไมเ่ บอ่ื หน่าย ทำใหผ้ อู้ า่ นอยากอ่านตอ่ และรู้จดุ จบของเธอวา่ เป็นเช่นไร

๒.๒ ชาลา
ชาลาเป็นหญงิ สาวผูม้ จี ิตใจดี มานะบากบั่น รกั ครอบครวั และเพอ่ื น เธออาศัยอยู่กับแม่และน้องในแฟลต
ของผู้มีรายได้น้อย ชาลารู้จักกับก้านแก้วในสมัยที่ก้านแก้วมาอาศัยอยู่กับป้าจนได้เป็นเพื่อนสนิทกัน ชาลาเรียน
จบ และได้มาทำงานในโรงแรมแห่งหน่ึง เธอมีความพอใจกับเงินเดือน อาชีพ และท่ีอยู่อาศัยของเธอ ในที่สุดเธอ
สามารถเก็บหอมรอมริบจนมีบ้านเป็นของตัวเองได้ ชาลามีบทบาทสำคัญเพราะเป็นเพื่อนสนิทของก้านแก้ว ที่
คอยเตือนเวลาก้านแกว้ ทำอะไรผิด ๆ แต่ก้านแก้วก็ไมเ่ ชื่อคำพูดของเพื่อน จนเป็นเหตุให้ตอ้ งผดิ ใจกัน ภายหลัง
กา้ นแก้วก็รบั ร้ไู ด้วา่ คนทีห่ วังดีกับกา้ นแก้วทส่ี ุดคอื ชาลา

๒.๓ กุญชร
กุญชร เป็นหนุ่มข้าราชการ ที่หลงรักก้านแก้วตั้งแต่สมัยเรียน และฝันอยากจะแต่งงานกับก้านแก้วแต่
สุดท้ายก็ผิดหวังเพราะก้านแก้วต้องการเพียงแค่เงิน เพื่อทำให้ตัวเองดูสูงกว่าเก่า กุญชรมีบทบาทสำคัญตรงท่ี
กุญชรเป็นผู้ชายท่ีถูกก้านแก้วทิ้ง แต่มีคนที่แอบชอบอยู่ คือ ชาลาเพื่อนสนิทของก้านแก้ว ทำให้เรื่องราวมีความ
สนกุ สนาน ไม่น่าเบ่ือ

๒.๔ โชน
โชน เป็นลูกชายของนักธุรกิจ เพียบพร้อมไปด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา และเงินที่พ่อแม่ให้ใช้เป็นจำนวน
มาก โชนถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจ ทำให้มีนิสัยไม่ดี เจ้าชู้ เอาแต่ใจตัวเอง โชนคบก้านแก้ว แต่ทางครอบครัวไม่
เห็นด้วย จึงไม่ให้เงินมาใช้อกี จึงเลือกขอเงินก้านแก้วใช้แทน แต่เพราะการใช้เงนิ ฟุม่ เฟอื ย ไม่รู้จักคุณคา่ ของเงนิ
ทำให้ก้านแกว้ มีไมพ่ อท่ีจะให้ จนท้งั สองเลกิ กนั และโชนได้กลับไปอยูบ่ า้ นตามเดิมในภายหลัง

วรรณสารฉบบั ท่ี ๖๖ หน้า ๒๗

โชนมีบทบาทสำคัญ คือ ความเป็นลูกคุณหนูที่มีฐานะร่ำรวย มาชอบพอและคบหากับแก้ว แต่เมื่อพ่อแม่ที่บ้าน
ไมไ่ ด้สง่ เงนิ ให้ใช้ กา้ นแกว้ กข็ อเลกิ เหตุการณ์เหลา่ นีส้ ะท้อนใหเ้ ห็นถงึ พฤติกรรมและอุปนิสัยใจคอของก้านแก้วว่า
คบผูช้ ายเพราะเงนิ จรงิ ๆ

๒.๕ อาวธุ
อาวธุ เปน็ หนุ่มโสดหน้าตาดีท่ีหลงรักก้านแก้ว มตี ำแหนง่ เปน็ รองผูจ้ ัดการฝ่ายของบริษัทแห่งหนึ่งท่ีก้าน
แก้วทำงานอยู่ อาวุธพยายามขอก้านแก้วแต่งงานหลายครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธ เพราะอาวุธเป็นคนที่มีภาระที่ต้อง
เลี้ยงดูทั้งแม่ พี่สะใภ้ น้องสาว และหลาน ถึงแม้ว่าเขาพยายามจะหาสิ่งของต่าง ๆ มาปรนเปรอก้านแก้วบ่อย ๆ
แต่มันก็ยังไม่พอกับสิ่งที่ก้านแก้วต้องการอยู่ดี อาวุธจึงมีบทบาทสำคัญที่ทำให้เห็นว่า จริง ๆ แล้วก้านแก้วไม่มี
ความพอใจในสง่ิ ทม่ี อี ย่เู ลย มคี วามต้องการเงนิ และวัตถมุ ากเกินไป

๒.๖ เขียว
เขยี ว ดัทสัน เอเยนต์จดั หาผู้หญิงให้กับผู้ชายท่ตี ้องการซอ้ื บรกิ าร เขาเปน็ สามีอีกคนหน่งึ ของก้านแกว้ ที่
ต่างแสวงหาผลประโยชนซ์ ง่ึ กันและกัน แตส่ ดุ ท้ายเขียวคดิ ไม่ซ่อื กับก้านแกว้ ทำให้ก้านแกว้ ตกระกำลำบาก ต้องทำ
ทกุ อย่างทเ่ี ขยี วต้องการ มเิ ช่นนน้ั ก้านแกว้ จะถกู ทำร้าย และสุดท้ายกา้ นแกว้ ก็กลายเปน็ เคร่อื งมือในการทำมาหา
กนิ ของเขียว เขียวมีบทบาทสำคัญมากเพราะเปน็ จดุ เปลยี่ นท่ีเลวรา้ ยในชีวติ ของก้านแก้ว

ตัวละครที่กล่าวมานั้นมีอุปนิสัยที่แตกต่างกัน ทำให้เรื่องราวสามารถขับเคล่ือนผ่านไปได้อย่างไม่น่าเบอื่
ความแตกต่างเหล่านี้ทำให้บทบาทของตัวละครไม่หนืดยืดยาว มีความแปลกใหม่ชวนให้สนุก ตื่นเต้นอยู่ตลอด
และสามารถเขา้ ถงึ ตัวละครไดด้ ีด้วย

๓. แกน่ เรื่อง

ผู้เขียนต้องการสะท้อนให้เห็นถึงการไม่พึงพอใจในสิ่งที่ตนมี ก้านแก้วหญิงสาวสวย ที่มีหนุ่มน้อยหนุ่ม
ใหญ่ตกหลุมรัก และพร้อมที่จะสร้างอนาคตไปด้วยกัน แต่ทว่าชายหนุ่มเหล่านั้นดูไม่เป็นที่พึงพอใจของเธอ เธอ
พยายามลบปมดอ้ ยในสมัยเด็กท่ีครอบครวั ยากจนด้วยการแสวงหาวถิ ีทางที่จะได้เงนิ มาเพื่อลบปมด้อยน้ันให้หมด
ไป ถึงแม้ว่าเธอจะเรียนจบ และหางานดี ๆ ทำได้แต่มันต้องใช้ระยะเวลานานในการสร้างเงินสร้างฐานะที่เธอ
ต้องการ เธอจึงเลอื กเดินทางลดั เพื่อกอบโกยเงินทองให้มากที่สดุ และเร็วที่สดุ แตท่ างทเี่ ธอเลือกนนั้ ผิดพลาด จึง
สร้างความทุกขท์ รมานจนทำให้ชวี ติ ของเธอต้องพังทลายดว้ ยเสน้ ทางท่เี ธอเลือกเอง

๔. บทสนทนา

บทสนทนาของนวนิยายเรื่องหลงไฟ ผู้เขียนต้องการสื่อใหเ้ ห็นถึงบุคลิกภาพ นิสัยใจคอ การพูดการจาท่มี ี
ความแตกต่างกนั ของตวั ละครเพ่ือสามารถเข้าถึงตวั ละคร เสมอื นเป็นดั่งตัวละครในนวนิยายจริง ๆ รวมถึงสะท้อน
การใชช้ ีวิต และบทบาทของตวั ละครได้ดีดว้ ย ตัวอยา่ งเชน่

วรรณสารฉบับที่ ๖๖ หนา้ ๒๘

“ฮลั โหล กา้ นหรือจ๊ะ กลบั แล้วหรือ”
“ค่ะ...พแ่ี วว ถึงตะกีเ้ อง”
“มีลกู คา้ ตดิ ตอ่ มาเดีย๋ วน้ี พ่บี อกว่าอาจจะไม่วา่ ง ใหเ้ อาคนอนื่ ไปกอ่ นได้หรือเปลา่ เขาไม่ยอมแน่ะ”
พี่แววผจู้ ัดการศนู ย์ตอบ “เขาวา่ เพอ่ื นแนะนำมา”
ความหงุดหงดิ ที่ไม่ไดท้ ิปจุใจ ทำให้กา้ นแก้วตอบวา่
“รอเดย๋ี วได้มย้ั คะ ขอเวลาแต่งตวั เดยี๋ ว”
“อยา่ ชา้ นะจ๊ะ”
“ไทยหรือฝรงั่ คะ”
“ฝร่งั ”

(หน้า ๓)

บทสนทนาข้างต้น สะท้อนให้เห็นถึงความผิดพลาดในการเลือกอาชีพของเธอ เธอทำอาชีพขายบริการ
ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัว รับแขกหรือลูกค้าที่เป็นผู้ชายเพื่อให้ได้เงินมา รวมถึงความผิดพลาดด้านความคิด และ
ทัศนคตทิ มี่ คี วามตอ้ งการเงนิ มากเกินไป จนไม่รอู้ ะไรผดิ ชอบช่ัวดี

“คณุ นี่ มีอารมณ์ขนั ดนี ะ”
“ไม่งั้น พแ่ี ววจะส่งฉันมาหรือคะ”
“ผมไมร่ ูจ้ ริง ๆ ให้ตายซิ ไมร่ ้เู ลยวา่ คุณคยุ เป็น”
“เปน็ ยังไงคะทวี่ ่าคุยเปน็ น่ะ”
“อ้าว! กพ็ ดู อะไรที่มนั ไมน่ ่าเบื่อไงล่ะ หยกิ ม่ัง เย้ายั่วอะไรแซบ ๆ ม่ัง” เขาตอบ
“ท่ที ำให้คนเหนื่อยงานอยา่ งผมร้สู ึกบนั เทิงขน้ึ มานะ มานผ้ี มถอื ว่าโชคดที ่ีสุดเลย ถา้ คุณเป็นคนพดู มาก
หวานจนเอียน หรอื นัวเนยี ผมจนเหนอ่ื ย ผมอาจจะเซ็งแล้วบนิ กลับกรงุ เทพไปแล้วกไ็ ด้”
“แต่นี่ไมเ่ ซ็งใช่ไหมคะ”
“ไม่เลย”

(หนา้ ๔)

บทสนทนาข้างต้น เป็นบทสนทนาระหว่างก้านแก้ว และลูกค้าวัยสามสิบของเธอ จะเห็นได้ว่าผู้เขียน
ต้องการสะท้อนให้เห็นบุคลิกของก้านแก้ว ที่เป็นคนพูดจาเอาอกเอาใจ ทำให้ลูกค้ารู้สึกดีที่ได้เลือกเธอมาเป็น
เพอ่ื นเทีย่ วด้วย

วรรณสารฉบับท่ี ๖๖ หนา้ ๒๙

๕. น้ำเสยี งในการแต่ง

น้ำเสียงในการแต่งเรื่องหลงไฟ ผู้เขียนต้องการสะท้อนให้ถึงความผิดพลาดในชีวิต ทางเดินชีวิตของ
คนเรานั้นสามารถเดินไดห้ ลายทางเพียงแต่ว่าเราจะเลือกแบบไหน ซึ่งหากได้ตัดสินใจเลือกแล้วเส้นทางเหล่านน้ั
จะเป็นตัวกำหนดชีวิตของเรา จึงต้องมีสติในการใช้ชีวิตให้มาก ๆ เพราะหากพลาดไปคนที่เสียหายไม่ใช่ใครแต่
เป็นตัวเราเอง ความพอใจในสิ่งที่ตนมีก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราควรจดจำ และควรนำไปใช้ จงอย่าทะเยอทะยาน
เกินไปเพราะในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ และความสุขที่แท้จริงของคนเรานั้น จริง ๆ แล้วคือความพึงพอใจใน
สงิ่ ทีต่ นมีอยแู่ ลว้ ต่างหาก

จะเห็นว่า องค์ประกอบของวรรณกรรมเรื่องหลงไฟผู้เขียนนำเสนอได้น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นโครงเรื่อง
แก่นเรื่อง บทสนทนา ตัวละคร น้ำเสียง วรรณกรรมเรื่องน้ีจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะ
สนุก ชวนให้คล้อยตามไปกับเรื่องราวแล้ว ยังสะท้อนอะไรได้หลาย ๆ อย่าง ที่เห็นได้ชัดเลยคือความผิดพลาดใน
การเลือกทางเดินชีวิต เมื่อได้อ่านแล้วคงจะทำให้ผู้อ่านมีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น เลือกทางเดินที่ดีที่สุดให้กับ
ตัวเอง และมองเหน็ ถึงความโหดรา้ ยของสังคมไดอ้ ยา่ งแท้จริง

อ้างองิ
กฤษณา อโศกสนิ . (๒๕๓๘). หลงไฟ. กรงุ เทพฯ : ดอกหญ้า.

วรรณสารฉบับท่ี ๖๖ หนา้ ๓๐

เก่งจรงิ ต้องไม่โกง

วทนั ยา มากราช

นวนิยายเรื่องฉลาดเกมส์โกง ประพันธโ์ ดย ร. เรอื ในมหาสมุทร นามปากกาของ จดิ านนั ท์ เหลืองเพียรสมุทร
นักเขียนหน้าใหมท่ ีเ่ คยได้รับรางวัลซีไรตป์ ระจำปี ๒๕๖๐ จากเรื่อง “สิงโตนอกคอก” นอกจากนั้นเธอมีผลงานที่
ได้รับรางวัลอีกมากมาย อาทิ หนังสือเข้ารอบรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์)
ปี ๒๕๖๐ นวนยิ ายรางวลั ดเี ด่น Young Thai Artist Award ๒๐๑๖ เป็นตน้

ร. เรือในมหาสมุทร เป็นนักเขียนที่นิยมสร้างผลงานแนวชายรักชายเป็นส่วนใหญ่ ผลงานที่มีชื่อเสียง
อาทิ ตายตะแคง, ล่าอรพิษ, จดหมายเหตุความคิดถึง, Gabriel in Love, ปากของแม่เป็นวงกลม, Insomniac
Rabbit, God Bless You, House of Death บนบานศาลผี เปน็ ตน้

ฉลาดเกมส์โกง เป็นนวนิยายที่สะท้อนสังคมได้หลากหลายแง่มุม ทั้งเรื่องสังคมธุรกิจของสถานศึกษา
สถาบันครอบครัวที่กดดันหรือตั้งความหวังกับเด็กมากเกินไป รวมถึงค่านิยมต่าง ๆ ที่อยู่ในสังคม สิ่งเหล่านี้
กอ่ ใหเ้ กิดความเหล่ือมลำ้ ทางการศึกษา และนำไปสู่การทุจริต เพราะบางคร้ังความกดดนั ของครอบครวั และสังคม
ที่ต้องการแต่เด็กเก่ง ๆ ทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองต้องมีตัวตนทั้งในครอบครัวและสังคมเพื่อให้เป็นที่ยอมรับให้ได้
ถึงแม้บางคนจะมีขีดจำกัดความสามารถไม่ถึง แต่เพราะมีสิ่งเร้าที่ทำให้พวกเขาต้องการไขว่คว้ามาให้ได้ ทางออก
หนึ่งท่สี ามารถพบไดบ้ อ่ ยที่สุด และแทรกซมึ อยู่ในสงั คมมาอย่างชา้ นานนัน่ ก็คือการโกง

นวนิยายเรื่องนี้น่าสนใจอย่างมาก นอกจากสะท้อนสังคมปัจจุบันได้ดีแล้ว โครงเรื่อง ตัวละคร
บทสนทนา น้ำเสียงในการแตง่ รวมไปถึงฉากที่มีความโดดเด่น ทำให้นวนิยายมีความนา่ ตื่นเต้นเร้าใจ ผู้ศึกษาจึง
นำประเดน็ ดังกลา่ วมานำเสนอตามลำดับตอ่ ไปนี้

๑. โครงเรื่อง

นวนิยายเรือ่ งฉลาดเกมส์โกง เปน็ นวนิยายท่ีลำดบั เหตุการณ์ต่าง ๆ ได้เปน็ อย่างดี เน้อื หามกี ารลำดบั ให้มี
ความสอดคลอ้ ง สมเหตสุ มผลกนั และเข้าใจงา่ ยตั้งแตต่ น้ เร่อื งกระทัง่ จบเรื่อง ดงั รายละเอียดตอ่ ไปนี้

๑.๑ การเปิดเรื่อง
เปิดเรอื่ งดว้ ยการนำเสนอวตั ถนุ ิยม คอื เหรียญทอง เกียรตบิ ัตร และโล่รางวลั ตา่ ง ๆ ส่ือให้เห็นความเก่ง
ความฉลาดของเด็กนักเรียนหญิงที่กำลังเดินทางไปสอบเข้าเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง เธอมี
ผลงานโดดเดน่ ทร่ี ับรู้ไดว้ า่ เป็นคนทม่ี ีความสามารถ และเพยี บพร้อมไปดว้ ยสตปิ ัญญาอนั เฉียบแหลม ซง่ึ การันตีได้
ด้วยรางวลั มากมายท่ีเคยไดร้ บั มา ดังข้อความทว่ี า่

วรรณสารฉบบั ที่ ๖๖ หนา้ ๓๑

“คณิตศาสตร์เหรยี ญทองนะ่ ครบั ” ในบ้านของเธอมเี ปยี โนอยหู่ ลังหนึ่ง
หกโมงเช้า แดดแรกของวันทอแสงลงบนเปยี โนหลังน้นั พอ่ กำลังหยบิ ถ้วยรางวลั ใส่ในลังกระดาษ
"เอาแฟ้มใส่เกียรติบัตรมาให้พ่อที" พ่อกล่าว มือหยิบถ้วยรางวัลจากการแข่งขันตอบปัญหาวิชา
คณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษเรียงลงในลังสีน้ำตาล ลินหยิบแฟ้มสีดำหนาบรรจุเกียรติบัตรเรียนดี
มากมายยื่นให้พ่อ ดวงตาสีดำเรียวเล็กของเธอจับจ้องถ้วยรางวัลถ้วยสุดท้ายที่ยังอยู่บนชั้นวางของ
ไมไ่ ดล้ งไปอยใู่ นกล่องรวมกบั ถ้วยรางวลั อ่ืน ๆ
"พ่อ ถ้วยรางวลั ทช่ี นะเลิศประกวดเปียโนตอน ป.หนึง่ ล่ะ ไมเ่ อาไปเหรอ"
"เราไปสมัครเขา้ เรียน ม.ปลาย เอาไปแคผ่ ลงานตอน ม.ตน้ กับประถมปลายบางส่วนก็พอแล้วล่ะ อันน้ัน
มนั เกา่ นานไปแล้ว"

(หน้า ๙)

ข้อความข้างต้น ผู้เขียนบรรยายให้เห็นภาพโล่รางวัล เกียรติบัตร และเหรียญทองของลิน ซึ่งได้มาจาก
การแข่งขันมากมาย ในขณะที่ลินกับพ่อช่วยกันเก็บรวบรวมรางวัลเหล่านี้ไปใชใ้ นการสอบเข้ามัธยมปลาย ทำให้
ผู้อา่ นรบั รู้วา่ ลินเปน็ หญิงสาวทมี่ คี วามเก่ง และฉลาดจนอยากตดิ ตามเรอ่ื งราวของเธอตอ่ ไป

๑.๒ การดำเนนิ เร่ือง
เป็นการเล่าเรื่องผ่านตัวละครหลักจำนวน ๔ ตัว โดยตัวละครทั้ง ๔ เป็นเด็กมัธยมปลายซึ่งเรียนอยู่
ช่วงชั้นเดียวกัน โรงเรียนเดียวกัน ลินเป็นเด็กเก่งที่สามารถสอบชิงทุนได้เสมอ ๆ แต่เธอมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อ
“เกรซ” เกรซเปน็ คนที่ชอบทำกิจกรรม แตเ่ พราะดว้ ยกจิ กรรมทีเ่ กรซอยากทำนนั้ ตอ้ งใชเ้ กรดเฉล่ียสงู ๆ เพ่ือเข้า
ร่วมทำกิจกรรมนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เกินความสามารถของตัวเกรซเอง เธอจึงขอให้ลินช่วย “พัฒน์” ลูกชายนักธุรกจิ
แฟนหนุ่มรูปหล่อของเกรซเพือ่ นสนิท ลิน โดนกดดันจากครอบครวั เพราะพ่อคาดหวังในตัวเขามาก แต่เขาเรียน
ไมด่ จี งึ ใหล้ ินช่วย ตอนแรกลนิ ไม่อยากชว่ ยเพราะรู้วา่ มันไม่ดี แตเ่ มอ่ื ลินรวู้ ่าพ่อของเธอกำลังมีปัญหาเร่ืองการเงิน
ลินถึงตัดสินใจทำ หลังจากนั้น ลินจึงเริ่มกระบวนการโกง ทุจริตข้อสอบจากในห้องเรียน บานปลายสู่การสอบ
ระดับประเทศ แตก่ ารสอบระดับประเทศเปน็ เร่อื งใหญ่ และยากเกินท่ีจะทำคนเดยี วได้ ลนิ จึงชวน แบงค์ เดก็ ชาย
ที่เรียนดอี ีกคนมาช่วย

๑.๓ การปดิ เรือ่ ง
เป็นการจบหรือปิดเรอ่ื งด้วยความน่าตื่นเต้น เน่อื งจากตวั ละครทั้ง ๔ ซ่งึ มคี วามสนิทสนมกัน คดิ แผนการ
การทุจริตข้อสอบ ต่างล่วงรู้ความลับกันเองจนเป็นบ่อเกิดของความแตกหักกัน และเกิดขึ้นขณะที่มีการสอบใน
ระดับประเทศ เรื่องราวการโกงท่ีเกิดขนึ้ ดำเนินมาถึงจุดเปล่ยี น เพยี งเพราะความสนิทสนมจนเกิดเป็นความร้าวฉานใน
กลมุ่ เพื่อนเพียงไมก่ ี่คน แต่ผลที่ได้กระทบตอ่ คนรอบข้าง ทัง้ สงั คมเพอ่ื น ครอบครวั และสงิ่ เกยี่ วขอ้ งอีกมากมาย

วรรณสารฉบบั ท่ี ๖๖ หน้า ๓๒

๒. ตัวละคร

ผู้เขียนพยายามสื่อให้ตัวละครทุกตัวให้มีความสำคัญและสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน ด้วยปัญหาและ
ส่งิ แวดลอ้ มทตี่ วั ละครพบเจอมาในสังคมซ่ึงมีความหลากหลาย สงิ่ เหลา่ นท้ี ำให้ตวั ละครมีอปุ นิสยั บุคลิกภาพ และ
อารมณ์ที่แตกต่างกัน ผู้เขียนสามารถถ่ายทอดความเป็นตัวละครได้ดี และมีความน่าสนใจ ทำให้เรื่องราว
สนกุ สนาน น่าติดตาม โดยนวนยิ ายเรอ่ื งน้ีมตี ัวละครทีน่ ่าสนใจ ดังตอ่ ไปน้ี

๒.๑ ลนิ
“ลิน” นักเรียนหญิงที่มีทักษะการเรียนเป็นเลิศ มีความสามารถในการสอบชิงทุนได้เกือบทุก ๆ สนาม
เธอเพียบพรอ้ มไปดว้ ยความรแู้ ละสตปิ ัญญา ลนิ อาศัยอยกู่ ับพ่อสองคน บา้ นเธอมฐี านะท่ีไมด่ นี ัก ในชีวิตวัยเรียน
ของเธอเมื่อเธอพบกับปัญหาในรั้วโรงเรียนที่ไม่ควรเกิดขึ้นร่วมกับการสงสารเพื่อน เธอจึงนำความเฉลียวฉลาด
ทีเ่ ธอมมี าตอบโตแ้ ละช่วยเหลอื เพื่อนด้วยวธิ ีการของเธอเอง ลินเป็นตวั ละครที่มีความสำคญั มาก เน่ืองจากลินเป็น
คนที่ขับเคลอ่ื นเร่อื งราวทงั้ หมด

๒.๒ แบงค์
“แบงค์” เด็กหนุ่มที่เรียนอยู่ชั้นเดียวกับลิน แบงค์เป็น “เด็กดี” ตามกรอบมาตรฐานที่ผู้ใหญ่อยากให้
เป็น เขาประพฤตติ วั เรียบร้อย ตั้งใจเรยี น อยู่ในกฎระเบยี บอยา่ งเคร่งครัด ฐานะทางบ้านของแบงค์ไม่ดีนัก แบงค์
จึงต้องช่วยงานที่บ้านซึ่งเปิดเป็นร้านซักรีด เขาเชื่อว่าการเรียนจะช่วยยกระดับชีวิตของเขาและแม่ได้ ความฝัน
สูงสดุ ของเขา คอื การเป็นหมอ เพ่ือทว่ี นั หนึง่ เขาจะได้มีเงินมาดูแลรักษาแม่ แบงคม์ คี วามสำคญั เน่ืองจากเค้าเป็น
คนท่เี กง่ พอ ๆ กบั ลิน มบี ทบาททสี่ ร้างความนา่ สนใจเปน็ อกี ตัวละครท่ีผอู้ ่านเดาความคิดไมไ่ ด้ ทำให้เร่ืองราวสนุก
มากขึ้น

๒.๓ พฒั น์
“พัฒน์” หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ ลูกชายเจ้าของนักธุรกิจท่ีเป็นความหวังของครอบครัว แต่เขาเป็นคนที่เรียน
ไมค่ อ่ ยดีนัก เขาจงึ ใชว้ ธิ กี ารติดสนิ บนลินในการส่งคำตอบให้เขาขณะอยู่ในห้องสอบ เหมือนกับคร้ังที่พ่อเขาเคยทำ
กับพัฒน์ และคนอื่น ๆ เพื่อให้พัฒน์เรียนดี และมีหน้ามีตาในสังคม พัฒน์ มีความสำคัญตรงที่เขาเป็นตัวละคร
ที่นำมาซ่ึงการโกงของเรื่องราวทั้งหมด ถอื วา่ เป็นละครอกี หนงึ่ ตัวทม่ี ีบทบาทสำคญั มากเช่นกัน

๒.๔ เกรซ
“เกรซ” หญิงสาวทชี่ ่นื ชอบการทำกิจกรรม แตท่ ว่าการทำกิจกรรมของเธอในครั้งนี้ไม่ง่ายเลย เพราะผู้มี
เกรดเฉลย่ี สูง ๆ เทา่ นัน้ ทสี่ ามารถเขา้ รว่ มทำกิจกรรมน้ัน ๆ ได้ เธอเป็นหญิงสาวทมี่ หี น้าตาน่ารัก และมีความฝันที่
จะเป็นนางเอกละครเวที เธอโชคดีที่เป็นเพื่อนกับลินและได้รับความช่วยเหลือมาโดยตลอด ซึ่งก็เป็ นวิธีการ
เดียวกันกับเพื่อนของลินทุก ๆ คน เกรซมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเพื่อนกับลินซึ่งเธอเป็น
จุดเริม่ ต้นของการโกงข้อสอบทัง้ หมดของลนิ และเพอ่ื น ๆ

วรรณสารฉบบั ที่ ๖๖ หนา้ ๓๓

๓. บทสนทนา

บทสนทนาในนวนิยายเร่อื ง ฉลาดเกมสโ์ กง สะท้อนความเปน็ ตัวละครได้เป็นอย่างดี เพราะคำพูดของตัว
ละครแตล่ ะตวั บ่งบอกให้เห็นถึงบทบาท และความเป็นตวั ละครเหล่าน้นั ออกมาได้โดยงา่ ย ดังตวั อย่างบทสนทนา
ต่อไปนี้

"ไม่ใช่วา่ หนไู มอ่ ยากเรยี นที่น่นี ะคะ" ลนิ รบี พดู
"แค่คิดว่าที่เดิมอาจจะเหมาะกับหนูมากกว่าอ่ะค่ะ เพราะว่าถ้าย้ายมาที่นี่ เรียนหนึ่งปี พ่อต้องจ่าย
เกอื บปลี ะแสนห้าอ่ะค่ะ"
หญงิ ผู้อำนวยการแลดูประหลาดใจ เธอกลา่ ววา่
"แสนหา้ ไดย้ งั ไงคะ คา่ เทอมท่นี ่เี ทอมละหกหมน่ื ก็ปีละแสนสองส"ิ
ลนิ กลนื น้ำลาย แสดงสหี น้ากงั วลก่อนอธิบายออกไปวา่
"ก็ใช่ค่ะ แต่โรงเรียนเดิมที่หนูเรียนเป็นโรงเรียนที่พ่อสอนอยู่ หนูเลย ไปเรียนพร้อมพ่อได้ทุกเช้า แต่ถ้า
มาทน่ี ่ี หนูตอ้ งนัง่ BTS รวมคา่ มอเตอร์ไซค์ เข้าซอยก็ตกวันละ ๘๐ บาท ไปกลบั ๘ เดือน ๑๗๐ วัน บวก
ลบวันหยดุ ราชการ แล้วดว้ ยเนี่ย คดิ เป็นเงิน ๑๓,๖๐๐ บาทตอ่ ป"ี

(หน้า ๑๓)

บทสนทนาข้างต้น เป็นบทสนทนาระหว่างลินกับผู้อำนวยการโรงเรียน ในขณะที่เธอไปสมัครเรียน ลิน
ร้สู ึกวา่ หากมาเรยี นโรงเรยี นใหมพ่ ่อของตนตอ้ งหาคา่ ใชจ้ ่ายเยอะกวา่ เกา่ ด้วยความที่ลินเปน็ เดก็ ฉลาด จึงสามารถ
คดิ คำนวนคา่ ใชจ้ า่ ยเปน็ ตวั เลขออกมาได้อยา่ งน่าอัศจรรย์ จะเหน็ ไดว้ ่าเธอเปน็ คนท่ีกล้าคิด กลา้ พดู กลา้ แสดงออก
อะไรท่เี ธอไมเ่ หน็ ดว้ ยเธอก็พดู ออกมาตรง ๆ บทสนทนานี้สามารถสะท้อนตัวละคร ลิน ออกมาได้อย่างชดั เจน จึง
เป็นเอกลักษณข์ องตวั ละครที่ทำให้เข้าใจไดอ้ ย่างงา่ ยดายว่าลนิ เป็นคนเก่ง ความเก่งของเธอเป็นส่ิงทีใ่ ครหลาย ๆ
คนไม่มี ทำให้เปน็ จุดเริ่มตน้ ของเหตกุ ารณห์ ลาย ๆ อยา่ งในเรื่อง

๔. ฉาก

ผู้เขียนบรรยายฉากได้เป็นอย่างดี ผู้อ่านสามารถจินตนาการ และมองเห็นภาพได้ชัดเจนครบถ้วน
เนื่องจากเรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็นการเล่าถึงสภาพการณ์ในสังคมปัจจุบัน ประกอบกับสถานที่ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นใน
เรื่อง เป็นสถานทีท่ ีม่ ีความคุ้นเคย เข้าถึงได้ง่ายในชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วไป เช่น โรงเรียน ร้านซักรีด เป็นตน้
ผู้เขียนพยายามสื่อให้เห็นถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสังคมใกล้ตัว ทำให้ผู้อ่านรับรู้และรับทราบถึงเรื่องราวที่ผู้เขียน
ต้องการสื่อถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านไปยังองค์ประกอบที่เรียกว่า ฉาก ซึ่งช่วยให้ผู้อ่านเกิดอรรถรสในการอ่าน
มากยง่ิ ขน้ึ

วรรณสารฉบบั ที่ ๖๖ หน้า ๓๔

“ในห้องโถงของโรงเรียนมีเก้าอี้ถูกจัดไว้เป็นแถวยาว แต่ละแถวมีเก้าอี้ สามตัวสำหรับให้นักเรียนที่รอ
เข้าคิวสัมภาษณ์ได้นั่งกับผู้ปกครองของตน พัฒน์นั่งกระดิกเท้ารอโดยมีพ่อแม่นั่งขนาบข้าง เขาหันไปรอบ ๆ
มองนักเรียนคนอนื่ ด้วยความสนใจ จนกระทัง่ แมส่ ง่ เสียงปราม”

(หน้า ๑๑)

น้ำเสียงในการแต่งนวนิยายเรื่อง ฉลาดเกมส์โกง ผู้เขียนต้องการสะท้อนให้เห็นถึงนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่
ต้องการมีเกรดเฉลี่ยสูง ๆ พวกเขาเหล่านั้นมีวิธีการในการให้ได้มาซึ่งเกรดเฉลี่ยที่น่าพึงพอใจ โดยใช้การทุจริต
คอรัปชันมาเป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหาคร้ังนี้ ตลอดระยะเวลาในการทำข้อสอบ เรื่องราวมีความน่าตื่นเต้น
เรา้ อารมณค์ วามร้สู ึก ชวนใหล้ ุ้นอยตู่ ลอดเวลาวา่ จะเกิดอะไรขน้ึ บ้าง รวมท้ังชวนใหค้ ิดถงึ สาเหตุท่ที ำใหเ้ ดก็ เหล่านี้
ต้องมาดิ้นรนกับความคิดที่ถูกปลูกฝังมาแล้วตีโจทย์หรือเข้าใจอะไรในแบบที่ผิดไปเช่นกัน ด้วยเพราะเรื่องราว
และเหตุการณท์ ่ีเกดิ ขึน้ ทงั้ ตวั ละคร เหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ ส่งสะท้อนให้รบั รถู้ งึ ความรูส้ กึ นึกคดิ ของสงิ่ ทีเ่ กิดขน้ึ สง่ ผ่าน
มายงั ผอู้ ่านซ่ึงให้จนิ ตนาการถึงนำ้ เสยี งของตวั ละคร กับเหตุการณห์ รอื บทบาทสมมติที่กำลังสร้างขนึ้ ซึ่งส่วนใหญ่
มักมีอารมณ์ลุ้น พะวง ตื่นเต้น และตื่นตัวไปกับบทบาท และเรื่องราวของตัวละคร ประกอบกับความมั่นใจ และ
ความเป็นเอกลักษณ์ของตัวละครนั้น ๆ ย่งิ ทำให้รับทราบได้ถึงอรรถรสในน้ำเสียงทส่ี ื่อผ่านอักษรมายังผู้รับสารได้
อยา่ งลงตัว

นวนิยายเรื่อง ฉลาดเกมส์โกง เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวจากผู้เขียนสู่ผู้อ่าน ที่จะถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด
ทัศนคติ มุมมองของผู้ส่งสารผ่านสังคมที่ประสบพบเจอในปัจจุบัน เล่าเรื่องให้ได้เห็นถึงอีกมุมหนึ่งของสังคม
ที่อาจจะเกิดขึ้นจริง ซึ่งหากว่าถ้าเกิดขึ้นจริงดังในเรื่องราวที่ใส่เอาความสมมติ ไปในตัวนั้น บังเกิดให้เห็นเป็น
สถานการณ์ทางสังคมขึ้น ให้ได้ฉุกคิดและหาแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อการเป็นอยู่ของผู้ที่ได้รับผลกระทบ
สู่การดูแล รักษา และสรรค์สร้างสังคมให้นา่ อยูม่ ากย่ิงขึ้น หรือในทางกลับกนั หากมีบางอย่างเกิดความไมส่ มดุล
จนเกิดเป็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ทำให้สิ่งที่มักประสงค์จะให้เกิดกลับไม่ได้อย่างใจหวัง จนเกิดเป็นปัญหาต่าง ๆ
ตามมาซึ่งย่อมไม่เหน็ ถึงความสุขท่ีตอ้ งการ สังคมจะทำอย่างไร หากเป็นเช่นน้ัน หรือปล่อยให้สิง่ เหล่านั้นเกิดขน้ึ
อย่างเคยชนิ และเปน็ ปกติ เฉกเชน่ เดยี วกับเร่ืองราวของ ฉลาดเกมส์โกง

อ้างองิ
ร เรือในมหาสมุทร. (๒๕๖๑). ฉลาดเกมส์โกง. กรงุ เทพฯ : สำนกั พิมพแ์ จ่มใส.

วรรณสารฉบบั ที่ ๖๖ หนา้ ๓๕

การนำเสนอเอกลักษณ์ความเปน็ ไทย ในรายการเสน่ห์
ห้องเครือ่ ง / ปรากฎการณ์ทางการเมอื งในวรรณกรรม
เรื่องมลายูรำกรชิ

เร่อื งมลายรู ำกริช

ปลูกกล้านกั วิจยั

การนำเสนอเอกลักษณค์ วามเป็นไทย วานสิ า คาวจิ ิตร
ในรายการเสนห่ ห์ ้องเครอ่ื ง

บทคัดยอ่
งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการนำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นไทยในรายการเสน่ห์ห้องเครื่อง

ผู้วิจัยปรับกรอบแนวคิดการนำเสนอเอกลักษณ์ "ความเป็นไทย" จากงานวิจัยของ จันทนา เพชรพรหม (๒๕๔๘)
โดยเปน็ การศึกษาผ่านคลิปวดี ทิ ัศน์ท่เี ผยแพรท่ างยทู ปู ระหว่างวันท่ี ๒๐ เมษายน ๒๕๖๒ - ๕ ตุลาคม ๒๕๖๓ รวม
๒๒ ตอน ผลการศึกษาพบว่ามีการนำเสนอเอกลักษณ์ "ความเป็นไทย" ๘ ด้าน ได้แก่ ๑) ด้านอาหาร มีการ
นำเสนอประวัติและการปรุงอาหารของคนไทย ๒) ด้านสถาบันศาสนา มีการนำเสนอความเชื่อ และศาสนา ๓)
ด้านสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการนำเสนอประวัติความเป็นมาของบุคคลสำคัญ ๔) ด้านภาษาและวรรณกรรม
มกี ารนำเสนอเสน่ห์ของภาษาไทย ๕) ดา้ นศิลปกรรม มีการนำเสนอความวิจติ รที่เป็นเอกลักษณเ์ ฉพาะตัว ๖) ด้าน
สมนุ ไพร มกี ารนำเสนอภมู ิปญั ญาการใชป้ ระโยชน์จากพืชพรรณและสิ่งต่าง ๆ มอี ย่ตู ามธรรมชาติมาใช้เปน็ ยารักษา
โรค ๗) ด้านการละเล่นพื้นบ้าน มีการนำเสนอวิธีการละเล่นประเภทต่าง ๆ และนำเสนอการใช้สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่
รอบตัวมาประดิษฐ์เป็นของเล่น ๘) ด้านประเพณี นำเสนอ ๔ ประเพณีย่อย คือ ประเพณีที่เกี่ยวข้องกับศาสนา
ประเพณีที่เกี่ยวข้องกับชีวิต ประเพณีเกี่ยวกับความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน และประเพณีที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล
๙) ด้านลักษณะนสิ ัย และคา่ นยิ มแบบไทย มกี ารนำเสนอการดำเนินชวี ิตในอดีตจนถงึ ปจั จุบัน

คำสำคญั : เอกลักษณ์ ความเปน็ ไทย เสนห่ ์ห้องเครอ่ื ง

บทนำ
วฒั นธรรมเป็นสิง่ สำคญั อยา่ งหนึ่ง ดงั ท่ี นิตยา บุญสงิ ห์ (๒๕๕๖, หนา้ ๙๕) กล่าวถงึ วฒั นธรรมวา่ เป็น

เครื่องมือท่ีบง่ บอกถึงลักษณะเฉพาะของชาติทแ่ี สดงความรู้สกึ นกึ คิด ยอมรบั ปฏบิ ัตริ ่วมกัน และสืบทอดกนั มา
จนถงึ ปัจจบุ นั โดยยดึ ถือปฏบิ ัตกิ ันไปในทางทิศทางทดี่ งี ามจนนำไปสูก่ ารพัฒนาคุณภาพชีวติ ของคนในสงั คม

วรรณสารฉบับที่ ๖๖ หนา้ ๓๖

ดงั นัน้ วัฒนธรรมจงึ เป็นเอกลักษณ์ทีส่ ื่อถงึ ความดีงาม และเป็นตัวกำหนดรูปแบบของสถาบัน รูปแบบ
พฤติกรรมของมนุษย์ และรปู แบบของสงั คมใหล้ ักษณะท่ีแตกตา่ งกัน ซึง่ สามารถรับรูไ้ ด้ดว้ ยความรู้พืน้ ฐาน
ประสบการณ์ที่ตกทอดกนั มาแบบรนุ่ สรู่ ุ่น

ความเป็นไทยเป็นสิ่งที่คนไทยได้รับจากบรรพบุรุษที่ช่วยกันสั่งสม และสืบทอดต่อกันมาหลายยุคหลาย
สมัย ดังที่ เพิ่มศักดิ์ วรรลยางกูร (๒๕๕๘, หน้า ๑๐๖) กล่าวถึง ความเป็นไทยไว้ว่า ชาติไทยถือได้ว่าเป็นชาติ
ที่เก่าแก่ และมีความเจริญรุ่งเรืองมาเป็นเวลาช้านานแล้ว โดยที่มีบรรพบุรุษที่ช่วยกันสร้างบ้านเมืองให้มีความ
เจริญก้าวหน้า อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมความเป็นไทย ที่มีแก่นของแนวคิดความจงรักภักดี การนับถือศาสนา
ขนบธรรมเนียมประเพณี รวมถงึ วิถีชวี ิตของคนไทยแตล่ ะสังคมท่สี บื ทอดต่อกนั มาจนถงึ ลูกหลานในปัจจุบัน ซ่ึงเป็น
เอกลักษณท์ ี่แสดงถึงความเป็นชาติไทยอย่างสมบูรณ์ กล่าวคือความเป็นไทย เป็นส่งิ ที่บง่ บอกถึงการสั่งสม สืบทอด
ของบรรพบุรุษ โดยสงิ่ เหล่านั้นเก่ียวเนื่องกับทุกอย่างที่หลอมรวมให้กลายเปน็ ประเทศไทย สังคมไทย และคนไทย
ทั้งในด้านวัฒนธรรมความเป็นไทยที่มีแก่นของความเป็นไทยด้านวิถีชีวิตของคนไทย ด้านอาหาร ด้าน
ขนบธรรมเนยี ม ดา้ นวัฒนธรรม ด้านประเพณี รวมท้งั การแต่งกาย ซึง่ ปัจจบุ ันมวี ิธกี ารสบื ทอดความเปน็ ไทยที่ทำให้
ทุกคนสามารถรบั รูแ้ ละเข้าใจพร้อมกันในระยะเวลาที่ใกล้เคียง โดยใช้เทคโนโลยที างการสื่อสารมีทัง้ ภาพและเสียง
อย่างรายการโทรทัศน์ เช่น รายการข่าว รายการบันเทิง รายการอาหาร เป็นต้น โดยเฉพาะรายการอาหารอย่าง
รายการเสนห่ ห์ อ้ งเครอ่ื ง

รายการเสน่ห์ห้องเครื่องเป็นรายการที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการปรุงอาหารในแต่ละยุคสมัย ซึ่งมีพิธีกร
ดำเนินรายการ คือ กอล์ฟ : กิตติพัทธ์ ชลารักษ์ รับหน้าที่เป็นคนปรุงอาหาร และเต : ตะวัน วิหครัตน์ เป็นลูกมือ
ในการปรุงอาหารโดยทั้ง ๒ คน จะมีสรรพนามที่เรียกต่างกันทุกตอน เช่น ย่า หลาน พ่อ แม่ นายหญิง ชวด เป็น
ต้น ซึ่งในบางตอนจะมีแขกรับเชิญที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการปรุงอาหาร เช่น หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล
ชานนท์ เรืองศรี จากรายการมาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ เป็นต้น โดยที่ในแต่ละตอนพิธีกรจะแต่งกาย มีวิธีการพูด
การใชภ้ าษา การละเลน่ และวธิ กี ารนำเสนอวฒั นธรรมความเปน็ ไทยในยคุ ตา่ ง ๆ ตามเมนูอาหารท่ที ำในแตล่ ะตอน
เช่น เมนูแกงเหงาหงอด ที่เป็นอาหารในยุคสมัยพระนารายณ์ โดยมีพิธีกร กอล์ฟ : กิตติพัทธ์ จะแต่งตัวเป็นท้าว
ทองกีบม้าที่ปรุงอาหารหวานในยุคนั้นเพื่อบง่ บอกวา่ เมนูแกงเหงาหงอดมคี วามเปน็ มาอย่างไรบ้างแล้วจึงเชื่อมโยง
เขา้ เนอ้ื หาวิธกี ารทำแกงเหงาหงอด

แม่กอล์ฟ : สำรับนน้ี ะคะ เราจะมาลองทำกว๋ ยเต๋ียวผดั ไทยกันอ่ะค่ะ เตรยี มของมาซพิ ่อ
พ่อเต : ได้ครับ ครบแลว้ ครับ
(ตอนที่ ๒ เผยแพร่เม่ือวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒)

วรรณสารฉบบั ท่ี ๖๖ หน้า ๓๗

ตัวอย่างสถานการณ์ในรายการเสน์ห้องเคร่ืองตอนที่ ๒ เมนูผัดไทย กล่าวคือทัง้ สองคนแม่กอล์ฟกับพ่อเต
ตกลงกันปรุงเมนูผัดไทย แม่กอล์ฟก็ได้สัง่ ให้พ่อเตไปเตรยี มวัตถุดิบในการปรุงเมนผู ัดซึ่งเมนูผัดไทยเปน็ อาหารเส้น
ที่คล้ายกับก๋วยเตี๋ยวผัดของไทย ผัดไทยยังเป็นอาหารที่หารับประทานได้ทั่วไป มีลักษณะที่คล้ายกับอาหารจีน
เนื่องจากชาวจีนมักจะนิยมทานอาหารที่เป็นเส้นเพียงแต่ผัดไทยนำมาปรงุ รสชาติแบบไทยจึงมีความเปลีย่ นแปลง
ไปจากดั้งเดิมบ้าง เพื่อให้มีความเป็นอาหารไทยมากยิ่งขึ้นอีกทั้งยังยืนยันด้วยการเขียนให้เห็นว่า เมนูผัดไทยเป็น
เมนอู าหารของไทยเอง ดงั น้ันคำว่าผัดไทยทีถ่ กู ต้อง คือ ตอ้ งมี ย. ยักษ์ (ผดั ไทย) เพราะฉะน้นั เมนผู ัดไทยในปัจจุบัน
ไดก้ ลายเปน็ อาหารประจำชาติไทยทีไ่ ด้รบั ความนิยมจากชาวต่างชาติทวั่ ทกุ มุมโลก

จากตัวอย่างข้างต้นเห็นได้ว่ารายการเสนห่ ์ห้องเครื่องไม่ได้เป็นรายการทีน่ ำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการปรุง
อาหารในแต่ละยุคสมัยเท่านั้น แต่ยังมีการนำเสนอข้อมูลและความรู้ที่เกี่ยวเน่ืองกับความเป็นไทยในด้านต่าง ๆ
ด้วย ดังนั้น ผู้วิจัยจึงสนใจและมุ่งศึกษาเพื่อค้นหาว่ารายการเสน่ห์ห้องเครื่องมีการนำเสนอความเป็นไทยอย่างไร
และปรากฏความเป็นไทยในด้านใดบา้ ง

วตั ถปุ ระสงคข์ องการวจิ ัย
เพื่อศกึ ษาการนำเสนอเอกลกั ษณค์ วามเป็นไทยในรายการเสน่หห์ ้องเคร่ือง

แนวคิด ทฤษฏี กรอบแนวคิด
เอกสารท่ีเกี่ยวกับเอกลกั ษณ์ความเป็นไทย
จากการศึกษาพบว่ามีผู้ให้ความหมายของเอกลักษณ์ความเป็นไทย ไว้หลายท่าน เช่น ทิสวัส ธำรงสานต์

(๒๕๕๖, หน้า ๙๘) มุกหอม วงศ์เทศ (๒๕๕๕, หน้า ๕๙) อภิเดช พิมพ์การ (๒๕๖๐, หน้า ๔๕) ได้กล่าวถึง
ความหมายของเอกลักษณ์ความเป็นไทย สรุปได้ว่า ความเป็นไทยที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน เป็นพื้นฐานสังคมไทย
ที่ก่อให้เกิดความหวงแหน ความเหนียวแน่น และจงรักภักดีต่อสิ่งที่ยึดถือ อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ควรอนุรักษ์ ควร
ทำนุบำรงุ ซ่ึงความเปน็ ไทยจะเกิดการหยบิ ยืมผสมผสานกับหลายวฒั นธรรมจนเกิดเปน็ ประเพณีทีป่ รากฏให้เห็นใน
แต่ละภูมิภาค มีทั้งลักษณะร่วม และลักษณะเฉพาะที่อาจมีความคล้ายคลึง ดังนั้นความเป็นไทย จึงเป็นสิ่งที่
บ่งบอกถึงการสั่งสม สืบทอด ของบรรพบุรุษ โดยสิ่งเหล่านั้นเกี่ยวเนื่องกับทุกอย่างที่หลอมรวมให้กลายเป็น
ประเทศไทย สังคมไทย และคนไทย ซึ่งนักวิชาการหลายท่านอย่าง กนกวรรณ อุปลา (๒๕๕๕,
หน้า ๒๓) พรรัตน์ ศรีจันทร์ (๒๕๕๐, หน้า๘๑) ได้กล่าวถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยในลักษณะที่สอดคล้องกันว่า
ประเภทของความเป็นไทยหมายถึงลักษณะเด่นของสังคมที่เป็นลักษณะเฉพาะของตนเองสังคมไทยมีที่มาจาก
สังคมชนบท จากชุมชนแบบที่มีจติ ใจโอบอ้อมอารี จนได้รับสมญานามวา่ “สยามเมืองยิ้ม” ซึ่งชาวตา่ งชาติตา่ งชื่น
ชมในความมีนำ้ ใจไมตรีของคนไทย ท่ีเราไดร้ ับจากบรรพบุรษุ ซงึ่ ตกทอดกนั มา

ท้ังน้ี จันทนา เพชรพรหม และพัชนี เชยจรรยา (๒๕๔๘, หนา้ ๓๒) ได้แบ่งประเภทความเป็นไทยออกเป็น
ด้านต่าง ๆ ทั้งหมด ๑๐ ด้าน ดังนี้ สถาบันพระพุทธศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ ภาษาและวรรณกรรม
ศิลปกรรม ดนตรีไทยการละเล่นพื้นบ้าน ประเพณีลักษณะนิสัยและค่านิยมแบบไทย กีฬาไทย และความเป็นไทย
ในแงม่ มุ อืน่ ๆ

วรรณสารฉบับท่ี ๖๖ หนา้ ๓๘

อีกด้านหนึ่ง มีนักวิชาการบางท่านกล่าวว่า ความเป็นไทยนั้นมีความเกี่ยวเนื่องและผสมผสานอยู่กับ
ความเป็นวัฒนธรรมไทย ดังนั้นในงานวิจัยชิน้ นี้จึงขอกล่าวถึงข้อมูลวัฒนธรรมไทยอย่างคร่าวไว้ร่วมด้วย ซึ่งจาก
การศึกษาพบว่า มีผู้กล่าวถึงความหมายของวัฒนธรรมไทยไว้หลายท่าน เช่น เสาวภา ไพทยวัฒน์ (๒๕๕๖,
หน้า ๑๑๒) นิตยา บุญสิงห์ (๒๕๕๖, หน้า ๗๕) เบญจมาศ พลอินทร์ (๒๕๕๘, หน้า ๔๓) ได้กล่าวถึงความหมาย
ของวัฒนธรรมไทย สรุปได้ว่า วัฒนธรรม หมายถึง สิ่งที่มนุษย์ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสืบทอดกันมายาวนานแบบ
ร่นุ สรู่ ุ่น เปน็ การแสดงให้เห็นถงึ ความเชอื่ ศาสนา แบง่ ปนั ความคิดเห็น ความรสู้ ึกรว่ มกัน ซ่งึ ในแต่ละชว่ งจะมีการ
ผสมผสานกับวฒั นธรรมอื่นบ้างตามความเจรญิ รุง่ เรืองของยคุ สมยั ท่ีเปลีย่ นแปลงไป แต่ยังคงรกั ษาวัฒนธรรมไทย
ที่แสดงถึงความเปน็ ไทยอยา่ งชดั เจนท่สี ุด

นอกจากน้ีเพ่ิมศักดิ์ วรรลยางกรู (๒๕๕๘, หน้า ๕๐) นติ ยา บญุ สิงห์ (๒๕๕๖, หนา้ ๕๙) ได้กล่าวถึงการ
แบ่งประเภทของวัฒนธรรมไทยไว้อย่างน่าสนใจว่า วัฒนธรรมสามารถแบ่งออกได้เป็น ๓ ประเภท ได้แก่
๑. วัฒนธรรมทางวัตถุ เช่น อุปกรณ์การเรียนการสอน โบราณวัตถุ ศิลปะวัตถุ สถาปัตยกรรม เป็นต้น
๒. วัฒนธรรมทางดา้ นความคิด เช่น ความเชื่อเรือ่ งพระเจ้า วรรณคดี สุภาษิต เป็นต้น ๓. วัฒนธรรมทางบรรทัด
ฐาน ได้แก่ ระเบียบแบบแผน หรอื ประเพณีที่บคุ คลในสงั คมยดึ ถอื และปฏบิ ตั ิร่วมกนั

สำหรับการศึกษาเรื่องความเป็นไทยและวัฒนธรรมไทยนั้นมีผู้ศึกษาไว้บางส่วนแล้ว ซึ่งล้วนน่าสนใจ เชน่
จันทนา เพชรพรหม และพัชนี เชยจรรยา (๒๕๔๘) ศึกษาเรื่อง “การนำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นไทยในรายการ
คุณพระช่วย” การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเอกลักษณ์และความเป็นไทย โดยพบว่า ๑. ความเป็นไทย
ที่นำเสนอในรายการคุณพระช่วย เพื่อศึกษาความคิดเห็นและความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อรายการ
คณุ พระชว่ ยแบง่ เปน็ ๒ สว่ น ส่วนแรก คอื การวจิ ยั เชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก สว่ นท่ี ๒. การวิจัย
เชิงทดลอง โดยการแบง่ เป็นกลมุ่ ทดลอง

จารุณี สุขชัย (๒๕๕๕) ศึกษาเรื่อง “มิติในหนังสือการ์ตูนความเป็นไทย” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึง
ลักษณะการปรับตัวจากอดีตจนถึงปัจจุบันและตัดสินใจของผู้ผลิตหนังสือการ์ตูนไทย โดยพบว่าการปรับตัวของ
การ์ตูนไทยแบ่งออกเป็น ๓ ช่วง ดังนี้ ช่วงที่ ๑ ยุคแรกของการ์ตูนไทย ๒ ยุคการ์ตูนญี่ปุ่นเข้ามาในประเทศไทย
และ ๓ ยุคปัจจุบนั

พิสิทธิ์ ศรีประเสริฐ (๒๕๖๐) ศึกษาเรื่อง “อาหารไทย : การนำเสนออัตลักษณ์อุดมการณ์ความเป็นไทย
และวาทกรรมเชิงอำนาจ” มีวัตถุประสงค์เพื่อวเิ คราะห์เนื้อหาว่าความเป็นไทยถูกนำเสนออย่างไรภายใต้กรอบคิด
ของทฤษฎีการวิเคราะห์เชิงวิพากษ์โดยพบว่า อัตลักษณ์สังคมทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับอาหารเป็นเครื่องมือทาง
การเมอื งที่มคี ุณค่าทางเศรษฐกิจเป็นอยา่ งย่งิ ในขณะเดยี วกันอาหารไทยยงั เป็นเคร่ืองมือในการสร้างตวั ตนของผู้กิน
เพ่อื บ่งบอกระดับของอาหารไทยในข้ันท่สี ูงข้นึ และบ่งบอกรสนิยมของผกู้ นิ

สทุ ธิพร บุญมาก (๒๕๕๖) ศกึ ษาเร่ือง “รา้ นอาหารไทยในประเทศออสเตรเลยี : ภาพสะท้อนความเป็นไทย
และการปรับตวั ” มวี ัตถปุ ระสงค์เพ่ือมงุ่ อธิบายภาพสะท้อนความเป็นไทยผา่ นรา้ นอาหารไทยโดยพบวา่ รา้ นอาหาร
ไทยมีจำนวนมากขึ้นในออสเตรเลีย ด้วยวิธีการนําเสนอทางวัฒนธรรมอาหารไทยไม่ว่าจะเป็น ด้านรสชาติ
การต้อนรบั ดว้ ยการไหว้มารยาทแบบไทย ทำใหร้ ้านอาหารไทยมจี ำนวนเพม่ิ ขึน้ ในออสเตรเลยี อยา่ งเหน็ ได้ชัด

วรรณสารฉบับท่ี ๖๖ หนา้ ๓๙

วิธีการดำเนนิ วิจยั
ผู้วิจัยเก็บรวบรวมเอกสารที่ให้ความรู้พื้นฐานในการวิเคราะห์ ได้แก่ เอกสารที่เกี่ยวกับความเป็นไทย

วัฒนธรรมไทย และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง จากนั้นรวบรวมข้อมูลแบบเจาะจงจากจากรายการเสน่ห์ห้องเครื่อง
ที่เผยแพร่ผ่านช่องทางยูทูป ตั้งแต่ตอนแรกที่ออกอากาศ คือ วันที่ ๒๐ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒ จนถึง
วนั ท่ี ๕ เดือนตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๓ รวมจำนวน ๒๒ ตอน นำมาถอดเทปและจดบันทึกตัวบทสนทนาภายในรายการ
จากน้นั จงึ นำขอ้ มลู ทั้งหมดมาวเิ คราะห์ตามประเด็นท่ีกำหนดไว้ โดยผู้วจิ ัยปรับกรอบแนวคิดจากงานวิจัยของจันทนา
เพชรพรหม และพัชนี เชยจรรยา (๒๕๔๘) เรื่อง การนำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นไทยในรายการคุณพระช่วย
ในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ ๑. ด้านอาหาร ๒. ด้านสถาบันศาสนา ๓. ด้านสถาบันพระมหากษัตริย์ ๔. ด้านภาษาและ
วรรณกรรม ๕. ด้านศิลปกรรม ๖. ด้านสมุนไพร ๗. ด้านการละเล่นพื้นบ้าน ๘. ด้านประเพณี (แบ่งย่อยเป็น ๔
ประเภท คือ ๘.๑ ประเพณีทีเ่ ก่ียวข้องกับศาสนา ๘.๒ ประเพณีท่เี กีย่ วข้องกับชีวิต ๘.๓ ประเพณขี องความเป็นอยู่
ในชีวิตประจำวัน และ ๘.๔ ประเพณีที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล) และ ๙. ด้านลักษณะนิสัย วิถีชีวิต และค่านิยม
แบบไทย

สรปุ ผลการวจิ ัย
การศึกษา “การนำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นไทยในรายการเสน่ห์ห้องเครื่อง” ผลการศึกษาวิเคราะห์ใน

รูปแบบพรรณนาวิเคราะห์ และนับความถี่เป็นจำนวนครั้งที่ปรากฏในแต่ละตอน ตามประเด็นที่กำหนดไว้
ดังต่อไปน้ี

๑. ด้านอาหาร เป็นเอกลักษณ์สามารถบ่งบอกให้เห็นถึงการปรุงอาหารทัง้ อาหารและอาหารหวานในแต่
ละช่วงยุคสมัย มีความนิยมปรุงหรือรับประทานอาหารประเภทใด และสาเหตุที่อาหารแต่ละชนิดเป็นที่นิยม
เนื่องมาจากสาเหตุใด จนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก เช่น ขนมโค ข้าวต้มมัด เช่น ปลาแห้งแตงโม แกงเนื้อนาง
ลอย แกงรัญจวน เปน็ ตน้ จากการศกึ ษาพบจำนวน ๓๘ ครั้ง ปรากฏดงั ตวั อยา่ งต่อไปน้ี

แม่กอลฟ์ : แกงรญั จวนเน่ยี เขามกั ทำอาหารเล้ยี ง
พอ่ เต : เหมือนทผี่ มเคยอ่านก็แกงนะ เนีย่ พวกเเกงโผะ เเกงสำรวมทเ่ี ขาเอาพวกของเหลอื ๆ มารวมกันใช่ไหมครับ

(ตอนท่ี ๘ เผยแพรเ่ ม่ือวนั ท่ี ๒๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๒)

วรรณสารฉบับที่ ๖๖ หน้า ๔๐

จากเนื้อหาข้างต้นอยู่ในสถานการณต์ อนที่ ๘ เมนูแกงรัญจวน เป็นตอนที่กล่าวถึงการปรุงอาหารเมนูแกง
รัญจวน ซึ่งเมนูแกงรัญจวนเป็นเมนโู บราณมีที่มาจาก หม่อมเจ้าหญิงแย้มเยือ้ น สิงหรา ซึ่งเป็นคนคิดค้นสูตรแกง
รัญจวน และตั้งชื่อให้เมนูแกงไทยโบราณ สูตรชาววังจานนี้ว่าแกงรัญจวน สมัยก่อนเจ้านายพระองค์ต่าง ๆ มัก
จะเสวยอาหารอย่างละนิดละหนอ่ ยเทา่ น้นั ทำใหก้ บั ข้าว ซ่ึงสว่ นมากจะเปน็ เนื้อหลงเหลืออยเู่ ยอะ ฝ่ายห้องครัวจึง
นำเนอื้ ทเี่ หลือจากสำรบั เสวยมาปรุงรสเปน็ แกงสูตรใหมท่ ี่มีชื่อวา่ แกงรญั จวน ธญั ชนก ศรยี านนท์ (๒๕๖๒) ท้ังนี้แม่
กอล์ฟได้ลงมือปรุงอาหารเมนแู กงรญั จวนให้พ่อเตได้ลิ้มลองอาหารโบราณ เพ่ือปลูกฝังใหม้ ีความรู้สึกช่ืนชอบ และ
รักในเอกลักษณ์ความเป็นไทย ภายในตอนช่วงหน่ึงมีการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับลักษณะของเมนูแกงรัญจวน โดย
กล่าวว่าเป็นอาหารโบราณที่ได้รับการเปลี่ยนจากอาหารเหลือมาเป็นเมนูอาหารอีกเมนูหนึ่ง ซึ่ง บ่งบอกให้เห็นว่า
อาหารหรือสิ่งของที่ทิ้งแล้ว ทุกสิ่งอย่างย่อมมีค่าอยู่ในตัวเสมอ เพียงแค่รู้จักเลือกใช้มันให้เกิดประโยชน์ตาม
ความเหมาะสม ให้รจู้ กั พอประมาณ และนำส่งิ เหลือใชม้ าปรบั ใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์มากท่ีสุด

๒. ดา้ นสถาบันศาสนา เป็นสถาบนั หมายรวมทุกศาสนาที่ปรากฏบนโลกนี้ และเป็นทย่ี ึดเหน่ียวทางจิตใจ
ของผู้คนทั้งที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม เช่น การนำดอกไม้ไปไหว้พระที่วัด การกล่าวถึงศาสนสถาน จาก
การศึกษาพบจำนวน ๓ ครงั้ ปรากฏดงั ตัวอยา่ งต่อไปน้ี

เเมก่ อลฟ์ : มีปรากฏในจดหมายเหตคุ ำบอกเล่าทส่ี ำหรับในงานสมโภชพระพุทธมณรี ัตนปฏมิ ากร
พ่อเต : พระแก้วมรกตน่ันเอง
(ตอนท่ี ๑ เผยแพรเ่ มื่อวนั ที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๖๒)

จากเนื้อหาข้างต้นอยู่ในสถานการณต์ อนที่ ๑ เมนูปลาแห้งแตงโม เป็นตอนที่กล่าวถึงการปรุงเมนุอาหาร
ปลาแห้งแตงโมถือว่าเป็นอาหารโบราณชนิดหนึ่งที่นิยมรับประทาน เพื่อคลายร้อน และยังสามารถจัดเป็นสำรับ
เพื่อนำไปทำบุญ หรือในงานพิธี ต่าง ๆ ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน ภายในตอนช่วงหน่ึงมีการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับงาน
สมโภชพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรซึ่งย่ากอล์ฟได้จัดเตรียมอุปกรณ์การปรุงอาหารสำหรับงานสมโภชนี้ และ
ได้ถามหลานเตว่ารู้จักงานสมโภชพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือไม่ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือเป็น
ที่รู้จักในชื่อพระแก้วมรกตสร้างจากวัสดุมีค่า เช่น เงิน ทอง เป็นต้น ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมา
เป็นเวลาช้านานในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงแสดงสิทธิธรรมของพระองค์ในการ
ครองราชสมบตั ิ และทรงพระราชนพิ นธเ์ รื่องตำนานพระแก้วมรกตฯ ฉบบั พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยูห่ ัว

วรรณสารฉบับที่ ๖๖ หน้า ๔๑

๓. ด้านสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสถาบันสูงสุดในประเทศไทยมาเป็นเวลามาช้านาน ซึ่งมีหน้าท่ี
ทำการปกครองให้ประเทศมีความสงบสุข เจริญก้าวหน้าไปในทิศทางท่ีดี เชน่ กรมหลวงนรนิ ทรเทวี เจา้ จอมหม่อม
ราชวงศ์สดับ สุนทรภู่ท้าวทองกีบม้า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจา้ อยู่หัว จากการศึกษาพบจำนวน ๑๑ คร้ัง
ปรากฏดังตวั อย่างตอ่ ไปน้ี

แมก่ อลฟ์ : คนเรามันต้องรูจ้ ักปรบั ประยุกต์บ้างไม่ใช่วา่ รแู้ ต่เร่ืองของตวั เอง ตอ้ งรู้ในเร่ืองของคนอ่ืนบา้ ง
เหมือนพระราชดำรสั ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั ไง
(ตอนท่ี๑๐ เผยแพรเ่ ม่ือวนั ที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๓)

จากเนื้อหาขา้ งต้นอยู่ในสถานการณต์ อนที่ ๑๐ เมนแู กงเหงาหงอด เป็นตอนท่ีกลา่ วถึงเมนแู กงเหงาหงอด
เพือ่ จดั เป็นสำรบั อาหารเย็น ซึ่งเมนูแกงเป็นเมนูท่นี ิยมในช่วง รัชกาลท่ี ๕ ภายในตอนช่วงหนึ่งมีการนำเสนอเน้ือหา
เกี่ยวกับราชวงศ์กษัตริย์ที่มีการปกครองบ้านเมืองสืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านานประเทศไทยเป็นประเทศที่มี
กษัตริย์คอยปกครองมาช้านาน โดยการปกครอง เพื่อพัฒนาประเทศ และราษฎรให้อยู่ดีมีสขุ ส่งเสริมด้านความรู้
ให้สามารถเล้ียงดูครอบครัวตัวเองได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการขึ้นครองราชย์ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
และต้องเป็นท่ียอมรบั ของประชาชาติ กษตั รยิ ์เป็นผ้ปู กครองประเทศที่มีความรู้ความปรีชาสามารถในการปกครอง
ประเทศให้ไปในทิศทางที่ดีขึ้นเมื่อพระกษัตริย์ยังใส่ใจในเรื่องของการเรียนรู้ ดังนั้นประชากรไทยทุกคนก็ควรเห็น
ความสำคัญของการศกึ ษาให้มากท่ีสดุ เชน่ เดียวกนั

๔. ดา้ นภาษาและวรรณกรรม เปน็ เอกลักษณท์ ่มี คี วามสวยงามในด้านของการใชศ้ ัพท์ รวมทัง้ วรรณกรรม
เรื่องเลา่ ต่าง ๆ ของแต่ละยุค เช่น นำเสนอถอ้ ยคำสำนวนว่า “เอาขเ้ี ถา้ ยัดปากชักแม่นำ้ ท้งั ห้า” นำเสนอปริศนาคำ
ทายว่า “อะไรเอ่ยต้นเท่าขา ใบวาเดียว” นำเสนอคำประพันธ์ “กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน” เป็นต้น จาก
การศึกษาพบจำนวน ๑๔ คร้ัง ปรากฏดังตวั อย่างตอ่ ไปน้ี

วรรณสารฉบับที่ ๖๖ หนา้ ๔๒

พ่อเต : มัสมน่ั แกงแกว้ ตา หอมยห่ี ร่ารสร้อนแรง ชายใดไดก้ ลนื แกง แรงอยากให้ใฝฝ่ ันหา ยาํ ใหญ่ใส่สารพัด
วางจานจดั หลายเหลอื ตรา รสดดี ว้ ยน้ำปลา ญปี่ นุ่ ลำ้ ยำยวนใจ
(ตอนที่ ๑๔ เผยแพร่เมื่อวันท่ี ๙ มนี าคม ๒๕๖๓)

จากเนอื้ หาขา้ งต้นอยู่ในสถานการณต์ อนท่ี ๑๔ เมนูยำใหญ่ เป็นตอนทีก่ ลา่ วถึงการปรุงอาหารเมนูยำใหญ่
โดยมีย่าใหญ่เป็นคนลงมือปรุง ซึ่งพ่อเตเป็นคนที่ชอบรับประทานอาหารชาววังสนใจศึกษาเกี่ยวกับอาหารชาววัง
เป็นพิเศษ ทำให้มีความรู้ว่าเมนูยำใหญ่เป็นเมนูที่ปรากฏอยู่ในคำประพันธ์กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน ดัง
ที่ พิสิทธิ์ ศรีประเสริฐ (๒๕๖๐) กล่าวถึงเมนูยำใหญ่ ซึ่งเป็นบทประพันธ์ในสมัยสมัยรัชกาลที่ ๒ ที่ได้รับความ
เจริญรุ่งเรืองจากต่างชาติ จนได้รับอิทธิพลหลากหลายด้านเข้ามาเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นด้านการเมืองการ
ปกครอง หรือด้านอาหารการกินที่กล่าวถึงอาหารหลากหลายชนิดที่เป็นอาหารไทยแท้ และอาหารไทยที่ได้รับ
อิทธิพลเข้ามา โดยเนื้อหาในบทประพันธ์เมื่อกล่าวถึงแกงชนิดใดก็จะเชื่อมโยงไปถึงหญิงอันเป็นที่รัก เช่นแกง
มัสมั่น เชื่อมโยงไปถึงหญิงอันเป็นที่รักว่าทำกับข้าวชนิดนี้ได้อย่างมีกลิ่นหอม รสร้อนแรงหากมีชายคนใดได้ลอง
รับประทานคงจะหลงรัก ยำใหญ่ เชื่อมโยงไปถึงหญิงอันเป็นที่รักกับอาหารชนิดนี้ว่ามีเครื่องมากมายครบถ้วน
จัดวางในจานได้สวยงามเหมาะสม อกี ทั้งรสชาติก็กลมกล่อมด้วยน้ำปลาทีผ่ ลติ จากตา่ งชาตทิ ำให้กลายเป็นส่ิงท่ีมีค่า
ในสมัยนั้น

๕. ด้านศิลปกรรม เป็นเอกลักษณ์ที่มีความละเอียดประณีต มีความวิจิตรสวยงามเฉพาะตัวและเป็นสิ่ง
หนึ่งที่สมควรแก่การอนรุ ักษ์ไว้ให้คงอยู่คู่ไทยสืบไป ได้แก่ จัดจานอาหาร และการแกะสลักฟักทอง จากการศึกษา
พบจำนวน ๒ คร้งั ปรากฏดงั ตัวอยา่ งตอ่ ไปน้ี

ชานนท์ : ใช่แลว้ ครับผม แกะเป็นทรงผอบลายข้างเปน็ ดอกขา่ ครับ
(ตอนท่ี ๘ เผยแพรเ่ ม่ือวนั ท่ี ๒๐ มกราคม ๒๕๖๒)

วรรณสารฉบบั ท่ี ๖๖ หนา้ ๔๓

จากเนื้อหาข้างต้นอยู่ในสถานการณ์ตอนที่ ๘ เมนูแกงรัญจวน กล่าวคือ เป็นตอนที่กล่าวถึงการปรุง
เมนอู าหารแกงรญั จวน ที่เปน็ อาหารโบราณ โดยมีเชฟชานนท์เปน็ คนลงมือปรุง และเมอ่ื ปรงุ อาหารเสรจ็ ถงึ ขัน้ ตอน
การตกั ใส่ภาชนะ แตภ่ าชนะในคร้งั น้เี ปน็ ภาชนะพเิ ศษทเ่ี ป็นงานฝีมือของเชฟชานนท์ด้วยการแกะสลักฟักทองเป็น
ภาชนะใสเ่ มนูแกงรญั จวนได้อย่างสวยงาม โดยการแกะสลกั เป็นงานศิลปะอย่างหน่ึงทีถ่ ือเป็นมรดกทางวัฒนธรรม
ของไทย เพราะเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความถนัด สมาธิ ความสามารถเฉพาะตัว และความละเอียดอ่อน ในการ
บรรจงจับมีดแกะให้ผักและผลไม้ออกมามีลวดลายที่สวยงาม โดยการแกะสลักผักผลไม้ของไทยได้ถูกบรรจุ
เป็นหนึ่งในศาสตร์ของ “ช่างสิบหมู่” จัดอยู่ในงานของช่างแกะ ประเภทงานแกะ เครื่องสด ณัฐชา ตะวันนาโชติ
(๒๕๖๒) ซึ่งภายในตอนช่วงหนึ่งมีการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีการแกะสลักฟักทองเป็นทรงผอบ โดยมีลาย
ดา้ นขา้ งเปน็ “ลายดอกข่า” ซ่ึงเปน็ ลายพ้นื ฐานทเี่ หมาะสำหรับผ้ทู ่สี นใจอยากฝกึ แกะสลกั

๖. ด้านสมุนไพร เป็นภูมิปัญญาของคนในสมัยก่อนที่คิดค้นการนำสิ่งแวดล้อม จำพวก พืช ผลไม้ ใน
ธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากทีส่ ุด เช่น ลำไย งา นำ้ ข้าว มะเขอื พวง ขมน้ิ กระชาย เป็นต้น จากการศกึ ษา
พบจำนวน ๑๐ ครง้ั ปรากฏดังตัวอย่างต่อไปน้ี

พ่อเต : เพราะฉะน้ันขมิน้ มันจะโดดเด่นเรือ่ งลำสงลำไส้ บำรงุ ผวิ พรรณในขณะที่กระชายของหญิงย่าเน่ีย
บำรุงสมรรถภาพทางเพศ กระชายมันมีความคล้าย ๆ โสม อยใู่ ช่ไหมครบั คือโสมประเทศไทยดี ๆ น่ีเอง

(ตอนที่ ๑๐ เผยแพร่เมอื่ วนั ท่ี ๒๐ มกราคม ๒๕๖๓)

จากเนื้อหาข้างต้นอยู่ในสถานการณ์ตอนที่ ๑๐ เมนูแกงเหงาหงอดและแกงส้ม เป็นตอนที่กล่าวถึง
การประชันฝีมือการปรุงอาหารของแม่กอล์ฟและพ่อเต ที่ทั้งสองคนได้ปรุงเมนูอาหารโดยมีส่วนผสมของวัตถุดิบ
สมุนไพรเป็นสรรพคุณทางยานั่นก็คือ เมนูแกงเหงาหงอดมีส่วนผสมของกระชาย และแกงส้มมีส่วนผสมของขม้ิน
ภายในตอนช่วงหนึ่งมีการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับอาหารไทยว่านิยมใช้วัตถุดิบที่มีสรรพคุณเป็นประโยชน์ต่อ
ร่างกาย สังเกตได้จากกระชายที่มีกลิ่นหอม มีความเผ็ดร้อน และยังช่วยดับกล่ินคาว และแกงส้มที่มีส่วนผสมของ
ขมน้ิ ขม้ินเปน็ สมนุ ไพรที่มีสรรพคุณแกท้ ้องอืด ท้องรว่ ง ขับลม ช่วยบำรงุ ผิวพรรณ ชว่ ยสมานแผลทั้งภายนอกและ
ภายใน แต่อย่างไรก็ตามควรเลือกรับประทานให้เหมาะสมตามความต้องการของร่างกาย

วรรณสารฉบบั ท่ี ๖๖ หน้า ๔๔

๗. ด้านการละเล่น เป็นการดำเนินชีวิตของคนในสมัยก่อนที่มีความเรียบง่ายไม่มีค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
ประดิษฐ์ของเล่นจากธรรมชาติขึ้นมาเอง ได้แก่ หมากขุม และม้าก้านกล้วย จากการศึกษาพบจำนวน ๒ คร้ัง
ปรากฏดงั ตัวอย่างต่อไปน้ี

พอ่ เต : นมี่ นั ทำมา้ ก้านกลว้ ยได้นีน่ า ย้อย
พ่อเต : ทำม้าก้านกลว้ ยใหข้ า้ ซิ

นมยอ้ ย : ไม่มีปัญหาค่ะคุณเตนมจัดให้ นี่เลยคณุ เต ไม่มีอะไรเกินความสามารถนม
(ตอนท่ี ๑๑ เผยแพรเ่ ม่ือวนั ท่ี ๒๗ มกราคม ๒๕๖๓)

จากเนื้อหาข้างต้นอยู่ในสถานการณ์ตอนที่ ๑๑ เมนูบุหลันดั้นเมฆ เป็นตอนที่กล่าวถึงการทำขนมบุหลัน
ดั้นเมฆที่ใช้ใบตองเป็นภาชนะในการใส่ขนม เมื่อใช้ในส่วนของใบตองแล้ว ยังมีส่วนของก้านที่เหลืออยู่ ในอดีต
ผู้ใหญ่มักนำก้านกล้วยที่เหลือนี้มาประดิษฐ์เป็นม้าก้านกลว้ ยให้เด็ก โดยม้าก้านกล้วยจัดเป็นการละเล่นท่ีแสดงถึง
ความเป็นไทย เนื่องจากเป็นของเล่นที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นจากองค์ประกอบของพืชพรรณพื้นถิ่นของไทยอย่าง
“กล้วย” ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป จากนั้นนำมาเชื่อมโยงกับจินตนาการของเด็กที่เคยเห็นการใช้ม้าเป็น
ยานพาหนะเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังแสดงถึงภูมิปัญญาของคนไทยในอดีตที่สามารถนำสิ่งต่าง ๆ
รอบตัวมาใช้ประโยชนไ์ ด้อย่างสูงสุด

๘. ด้านประเพณี
๘.๑ ประเพณที ่ีเกย่ี วข้องกบั ศาสนา เป็นประเพณที ่เี กิดขนึ้ ในวันสำคัญทเี่ กีย่ วเนอ่ื งกับทางศาสนารว่ ม

ด้วยกับความเชือ่ ทางศาสนาท่ีสบื ทอดกนั มารุ่นต่อรนุ่ ซงึ่ ประชาชนมารวมตวั กนั เพ่ือปฏิบัตสิ ิ่งทีด่ งี าม ไดแ้ ก่ งานฝงั
ลูกนมิ ติ และทำบญุ ทอดกฐนิ จากการศึกษาพบจำนวน ๒ คร้ัง ปรากฏดงั ตัวอยา่ งต่อไปนี้

วรรณสารฉบบั ท่ี ๖๖ หนา้ ๔๕


Click to View FlipBook Version